125
หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น 126
เปา้ หมายการเรยี นรู้
ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น
สงั คมศกึ ษา
1. วิเคราะห์ความเชื่อมโยงของภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครองใน
การดำเนนิ ชีวิต
2. จัดระบบความเช่ือมโยงของภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครองใน
การดำรงชีวติ
3. จัดทำโครงงานความเชอ่ื มโยงของภมู ศิ าสตร์ ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื ง การปกครองใน
การดำเนินชวี ิต
ศาสนา วฒั นธรรม ประเพณี
1. วิเคราะหห์ ลกั ศาสนา วฒั นธรรม ประเพณี เพื่อการอย่รู ว่ มกันอย่างสันติสุข
2. จดั ระบบคณุ ค่าเกยี่ วกบั ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี เพ่ือการอยรู่ ว่ มกนั อยา่ งสนั ติสุข
3. ปฏิบัตติ นตามหลัก ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี อยา่ งถกู ตอ้ งเพอื่ การอยรู่ ว่ มกันอย่างสันติสุข
หนา้ ท่พี ลเมอื ง
1. วเิ คราะห์ ตัดสิน จัดระบบความเป็นพลเมอื งดี ตามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย
2. วเิ คราะหล์ ักษณะของคนมจี ติ สาธารณะ เพอ่ื ความสงบสุขของสังคม
3. ปฏิบัติตนตามกฎ กติกาของสงั คม และกฎหมายอยา่ งถูกตอ้ ง
การพัฒนาตนเอง
1. วเิ คราะห์หลักการพัฒนาชมุ ชน สังคมและการสร้างครอบครัวอบอนุ่
2. จัดระบบของครอบครวั อบอนุ่ ชมุ ชนเข้มแขง็
3. เขา้ ร่วมกจิ กรรมประชาคมหมบู่ ้านอยา่ งถูกตอ้ งและเปน็ ผ้นู ำ ผตู้ ามในการเขา้ รว่ มประชาพิจารณ์
ปัญหาของชมุ ชน
4. จดั ทำแผนชุมชนไดถ้ ูกตอ้ งตามขัน้ ตอน
หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น 127
มาตรฐานการเรียนร้รู ะดับผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวงั
มาตรฐานที่ 5.1 มีความรู้ ความเขา้ ใจ ตระหนักถงึ ความสำคญั เกี่ยวกับภมู ิศาสตร์ ประวตั ิศาสตร์
เศรษฐศาสตร์ การเมอื งการปกครอง สามารถนำมาปรบั ใชใ้ นการดำรงชีวติ
ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น
มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวัง
มคี วามรู้ ความเข้าใจตระหนักเกีย่ วกบั ภมู ศิ าสตร์ 1.อธบิ ายขอ้ มลู เกย่ี วกบั ภูมศิ าสตร์ ประวตั ศิ าสตร์
ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื ง การปกครอง เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครอง ท่เี กย่ี วข้องกับ
ในทวีปเอเชีย และนำมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิต เพอ่ื ประเทศในทวีปเอเชีย
ความม่นั คงของชาติ 2.นำเสนอผลการเปรยี บเทยี บสภาพภมู ศิ าสตร์
ประวตั ิศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื ง การปกครอง
ของประเทศในทวีปเอเชีย
3.ตระหนักและวิเคราะหถ์ ึงการเปลยี่ นแปลงทเ่ี กิดข้นึ กับ
ประเทศในทวปี เอเชยี ท่มี ีผลกระทบต่อประเทศไทย
มาตรฐานท่ี 5.2 มีความรู้ ความเขา้ ใจ เหน็ คุณคา่ และสืบทอดศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี เพอ่ื การอยู่
ร่วมกนั อยา่ งสนั ติสขุ
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น
มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรูท้ คี่ าดหวัง
มีความรู้ ความเข้าใจ เหน็ คุณคา่ และสืบทอดศาสนา 1.อธบิ าย ประวตั ิ ความสำคญั หลักคำสอน ศาสนา
วฒั นธรรม ประเพณีของประเทศในทวปี เอเชยี วัฒนธรรม ประเพณีของประเทศในทวีปเอเชยี
2.ยอมรบั และปฏบิ ัติตนเพื่อการอย่รู ่วมกันอยา่ งสันติสุข
ในสงั คมทม่ี คี วามหลากหลายทางศาสนา วัฒนธรรม
ประเพณี
หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ระดับ มัธยมศกึ ษาตอนต้น 128
มาตรฐานท่ี 5.3 ปฏิบัตติ นเป็นพลเมืองดตี ามวถิ ีประชาธิปไตย มีจิตสาธารณะ เพ่อื ความสงบสขุ
ของสังคม
มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวัง
มคี วามรู้ ความเข้าใจดำเนินชีวิตตามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย 1.อธบิ ายสาระสำคญั ของรฐั ธรรมนูญ และการปกครองใน
ระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั ริยท์ รงเปน็
กฎระเบยี บของประเทศเพือ่ นบ้าน ประมุข
2.ตระหนกั ในปัญหาการไมป่ ฏบิ ตั ติ ามกฎหมาย
3.มีส่วนร่วมสง่ เสรมิ และสนบั สนุน ทางการเมืองการ
ปกครองในระบอบประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษตั ริย์
ทรงเปน็ ประมุข
มาตรฐานท่ี 5.4 มีความรู้ ความเขา้ ใจ เหน็ ความสำคญั ของหลกั การพฒั นา และสามารถพัฒนาตนเอง
ครอบครัว ชมุ ชน/สงั คม
มาตรฐานการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวัง
มีความรู้ ความเข้าใจ หลักการพฒั นาชมุ ชน สงั คม 1.มีความรู้ ความเข้าใจหลักการพฒั นาชมุ ชน สังคม
สามารถวเิ คราะหข์ อ้ มูล และกำหนดแนวทางการ 2.มีความรู้ ความเข้าใจและเหน็ ความสำคัญของข้อมูล
พัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม ใหส้ อดคล้องกบั ตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม
สภาพการเปลีย่ นแปลงของเหตุการณ์ปัจจบุ ัน 3.วเิ คราะห์ขอ้ มูล ตนเอง ครอบครวั ชุมชน สังคม เพ่อื ใช้
ในการจัดทำแผนชีวติ และชมุ ชน สงั คม
4.เกดิ ความตระหนกั และมีสว่ นรว่ มในการจดั ทำ
ประชาคมของชมุ ชน
5.นำผลท่ีได้จากการประชาคมไปเพื่อใชใ้ นชีวิตประจำวัน
ได้
6.สามารถพฒั นาการจดั การทำแผนชวี ิตชมุ ชน/สงั คมให้
สอดคลอ้ งกบั สภาพการเปล่ียนแปลงของชุมชนสงั คม
หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดับ มัธยมศึกษาตอนต้น 129
คำอธิบายรายวชิ าบงั คบั
รายวิชาบังคับ
สาระการพัฒนาสังคม
ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น
มาตรฐานท่ี รหัสรายวิชา รายวิชา หน่วยกติ
5.1 3
สค21001 สังคมศกึ ษา
5.2 และ 5.3 2
สค21002 ศาสนา และหนา้ ทพ่ี ลเมอื ง
5.4 1
สค21003 การพัฒนาตนเองชมุ ชน สังคม
หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น 130
คำอธบิ ายรายวิชา สค21001 สังคมศกึ ษาจำนวน 3 หนว่ ยกิต
ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้
มาตรฐานการเรียนร้รู ะดบั
มีความรู้ ความเขา้ ใจตระหนกั เก่ยี วกบั ภูมศิ าสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์การเมอื ง การปกครอง
ในทวปี เอเชยี และนำมาปรบั ใช้ในการดำเนินชีวิต เพื่อความมั่นคงของชาติ
ศึกษาและฝกึ ทกั ษะเกย่ี วกบั เรือ่ งดังตอ่ ไปนี้
1. ลักษณะทางภูมิศาสตร์กายภาพ การเปล่ียนแปลงสภาพภูมิศาสตร์กายภาพ และความสัมพันธ์ทาง
ภูมิศาสตร์กายภาพ ที่ส่งผลกระทบถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชากร ต ลอดจนการเกิด
ทรพั ยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดล้อมของประเทศต่างๆ ในทวีปเอเชีย
2. ความเปน็ มาของประวัติศาสตร์ประเทศต่างๆ ในทวีปเอเชยี
3. ความหมาย และความสำคัญของเศรษฐศาสตร์ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และทรัพย์สินทางปัญญา ระบบ
เศรษฐกิจ และกลมุ่ ของเศรษฐกจิ ในทวีปเอเชยี
4. การเมอื ง การปกครอง และการเปรยี บเทียบรูปแบบการเมอื ง การปกครองของประเทศต่างๆ ในทวปี เอเชีย
การจัดประสบการณ์การเรยี นรู้
1. จดั ให้มีการสำรวจสภาพภูมศิ าสตร์กายภาพประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครองของ
ชมุ ชน จัดกลุ่มอภิปรายแลกเปล่ียนเรียนรู้ สบื ค้นขอ้ มลู ทางกายภาพ จากแหลง่ เรียนรู้ภูมิปัญญา แผน
ท่ี Website ฯลฯ และสรปุ ผลการเรียนรู้ นำเสนอในรปู แบบตา่ งๆ
2. จัดให้มีการศกึ ษาจากสอื่ การเรียนรู้ เชน่ เอกสาร ตำรา CD แหลง่ การเรียนรู้ ภูมปิ ญั ญา สถานท่ีสำคัญ
3. จดั ให้มีการสืบคน้ รวบรวมขอ้ มูล โดยวิธีการตา่ งๆ เช่น การศึกษาดูงาน การเกบ็ ขอ้ มูล จากองคก์ ร ฟัง
การบรรยายจากผ้รู ู้ จัดกลุ่มอภปิ ราย การวิเคราะห์ เสนอแนวคดิ ทางเลอื ก
4. จัดกจิ กรรมการศกึ ษาจากสภาพจริง การเลา่ ประสบการณ์ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การค้นคว้าจากผูร้ ู้
แหลง่ การเรียนรู้ ส่ือเทคโนโลยี สื่อเอกสาร การจำลองเหตุการณ์ การอภปิ ราย การวเิ คราะห์ สรปุ ผล
การเรียนรู้ และนำเสนอ ในรูปแบบท่หี ลากหลาย
การวัดและประเมินผล
ประเมินจากการทดสอบ การสังเกต การประเมินการมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมและการตรวจ
ผลงาน ฯลฯ
หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับ มัธยมศกึ ษาตอนต้น 131
รายละเอียดคำอธิบายรายวิชา สค21001 สังคมศึกษา จำนวน 3 หน่วยกิต
ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้
มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดบั
มคี วามรู้ ความเข้าใจตระหนักเก่ียวกบั ภมู ิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื ง การ
ปกครอง ในทวีปเอเชีย และนำมาปรับใช้ในการดำเนนิ ชวี ิต เพื่อความมั่นคงของชาติ
ท่ี หวั เรอื่ ง ตัวชวี้ ัด เนือ้ หา จำนวน
1. ลกั ษณะทางภูมิศาสตร์ (ชั่วโมง)
1. ภมู ศิ าสตรก์ ายภาพทวีป 1. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ลักษณะ
20
เอเชีย ภมู ิศาสตร์กายภาพของประเทศตา่ งๆ กายภาพของประเทศตา่ งๆ
ในทวีปเอเชีย ในทวีปเอเชยี
- ทต่ี ้ังอาณาเขตของ
ประเทศตา่ งๆ ในทวปี เอเชยี
- ภมู ิประเทศของ
ประเทศตา่ งๆ ในทวปี เอเชีย
- ภมู อิ ากาศของ
ประเทศต่างๆ ในทวปี เอเชยี
2. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ การ 2.1 หลกั การเปล่ียนแปลง
เปลยี่ นแปลงสภาพภูมศิ าสตร์ สภาพภมู ิศาสตรก์ ายภาพ
กายภาพทีส่ ่งผลกระทบต่อวถิ ชี ีวิต 2.2 กรณตี วั อย่างการ
ความเป็นอย่ขู องประชากรไทย และ เปลยี่ นแปลงสภาพ
ประเทศต่างๆ ในทวปี เอเชยี ภูมศิ าสตร์กายภาพท่สี ่งผล
กระทบต่อวิถีชีวติ ความ
เป็นอยขู่ องประชากรไทย
และทวีปเอเชยี
3. วธิ ใี ช้เครอ่ื งมือทาง
3. มีทกั ษะในการใช้เครอื่ งมือทาง ภูมิศาสตร์ แผนที่ ลูกโลก
ภมู ศิ าสตร์ เชน่ แผนท่ี ลูกโลก Website ดาวเทยี ม GIS
Website ดาวเทียม GIS GPRS ฯลฯ GPRS ฯลฯ
4. มคี วามรู้ ความเข้าใจ เก่ียวกับ 4. สภาพภมู ศิ าสตร์กายภาพ 20
ความสมั พันธ์ของสภาพภมู ศิ าสตร์ ของไทยท่ีสง่ ผลตอ่
กายภาพที่มตี ่อการเกดิ ทรัพยากรต่างๆ และ
ทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดล้อม สิ่งแวดลอ้ มต่างๆคอื สภาพ
ในทวปี เอเชีย ปา่ ไม้ ดนิ หิน แร่ แม่น้ำ
หลักสตู รการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น 132
ท่ี หวั เรื่อง ตวั ชีว้ ัด เนือ้ หา จำนวน
2 ประวัติศาสตร์ทวีปเอเชีย (ชั่วโมง)
5. สามารถนำความรู้เก่ียวกบั ภูเขา ลำคลอง หนอง บึง
ทรพั ยากรธรรมชาตขิ องประเทศไทย ทะเล ชายฝัง่ สัตว์ปา่ สัตว์ 20
และทวปี เอเชียมาปรบั ใช้ในการ ทะเล สัตวน์ ้ำจดื เปลือก
ดำรงชวี ิต และความมนั่ คงของชาติ หอย แนวปะการงั และอืน่ ๆ
ส่งผลต่อทรัพยากร และ
1. อธิบายความเปน็ มาของ สงิ่ แวดลอ้ มตา่ งๆ คือ สภาพ
ประวัติศาสตร์ประเทศในทวีปเอเชยี ป่าไม้ ดนิ หนิ แร่ ภูเขา
แม่นำ้ ลำคลอง หนอง บึง
ทะเล ชายฝัง่ สัตวป์ ่า สัตว์
ทะเล สัตวน์ ำ้ จดื เปลอื ก
หอย แนวปะการงั และอืน่ ๆ
5.1 ความสำคัญในการ
ดำรงชีวิต ให้สอดคลอ้ งกับ
สภาพทรพั ยากรในประเทศ
ไทย และประเทศต่างๆใน
ทวีปเอเชีย
5.2 กรณีตวั อยา่ งการ
ปรับตวั ในการดำรงชวี ิตที่
สอดคลอ้ งกับสภาพ
ทรพั ยากรในประเทศไทย
และประเทศต่างๆในทวีป
เอเชีย
1.ประวัตศิ าสตร์สังเขปของ
ประเทศในทวีปเอเชยี
- จนี
- อินเดยี
- เขมร
- ลาว
- มาเลเซีย
- พม่า
- อินโดนเี ซยี
- ฟลิ ปิ ปนิ ส์
หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับ มัธยมศึกษาตอนต้น 133
ท่ี หวั เรอื่ ง ตัวช้ีวัด เน้อื หา จำนวน
3. เศรษฐศาสตร์ (ช่วั โมง)
- ญี่ปนุ่ ฯลฯ
10
2. สามารถนำเหตกุ ารณ์ใน 2. เหตุการณ์สำคัญทาง 15
ประวตั ิศาสตรม์ าวิเคราะหใ์ หเ้ หน็ ประวัตศิ าสตร์ท่ีเกิดข้นึ ใน 15
ความเปลย่ี นแปลงท่ีเกิดขน้ึ กับ ประเทศไทยและประเทศใน
ประเทศไทย และประเทศในทวีป ทวปี เอเชยี
เอเชยี - ยคุ ล่าอาณานิคม
- ยคุ สงครามเย็น
- ฯลฯ
1.เข้าใจความหมาย ความสำคัญ 1.1 ความหมาย
ของเศรษฐศาสตรแ์ ละระบบ ความสำคญั ของ
เศรษฐกิจ เศรษฐศาสตร์มหภาคและ
เศรษฐศาสตร์ จุลภาค
1.2 ความหมาย
ความสำคัญ และหลักการ
ของเศรษฐกจิ สร้างสรรค์
และทรพั ยส์ นิ ทางปญั ญา
1.3 ระบบเศรษฐกิจใน
ประเทศไทย
2.เข้าใจหลักการ และวธิ ีการตดั สินใจ 2.หลกั การ และวิธีการ
เลือกใช้ทรพั ยากร เพ่ือการผลิต เลือกใช้ทรพั ยากรเพ่อื การ
สินค้า และบริการ ผลิต
3.เลือกวธิ กี ารทม่ี ีประสทิ ธภิ าพมาใช้ 3.คณุ ธรรมในการผลิต
ในการผลิตสินคา้ และบริการได้
4.รู้และเขา้ ใจการใชก้ ฎหมาย 4.กฎหมาย และข้อมูลการ
คุ้มครองผบู้ ริโภค ค้มุ ครองผู้บริโภค
5.บอกแหล่งขอ้ มูล การคุ้มครอง 5.1 หนว่ ยงานทใี่ ห้ความ
ผู้บริโภค และกฎหมายคมุ้ ครอง คุ้มครองผบู้ ริโภค
ผบู้ ริโภค 5.2 การพิทกั ษส์ ทิ ธิ และ
ผลประโยชน์ของผูบ้ รโิ ภค
6.ตระหนักในบทบาท และ 6.1 ความสำคัญของกล่มุ
ความสำคญั ของการรวมกลุ่มทาง ทางเศรษฐกิจในทวีปเอเชยี
เศรษฐกจิ ในทวีปเอเชยี 6.2 กลุ่มทางเศรษฐกจิ ตา่ งๆ
หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดับ มัธยมศึกษาตอนต้น 134
ท่ี หวั เรือ่ ง ตัวชว้ี ัด เน้ือหา จำนวน
4. การเมืองการปกครอง (ชวั่ โมง)
ในทวีปเอเชยี
20
7.วเิ คราะห์ความสมั พันธท์ าง 7.1 สภาพเศรษฐกจิ ของ
เศรษฐกจิ ของประเทศไทยกับ ประเทศไทยและประเทศ
ประเทศตา่ งๆในทวีปเอเชยี ตา่ งๆในทวปี เอเชยี
7.2 ระบบเศรษฐกจิ ของ
ประเทศต่างๆในทวีปเอเชยี
8.ลกั ษณะ ประเภท
สนิ ค้าเข้า และสนิ คา้
ออก ของประเทศตา่ งๆใน
ทวีปเอเชีย
1.รู้และเขา้ ใจระบอบการเมอื งการ 1.การปกครอง ระบอบ
ปกครองตา่ งๆ ที่ใชอ้ ยู่ในปจั จุบนั ประชาธิปไตย และอื่นๆ
2.วเิ คราะห์ความแตกต่าง ของ 2.เปรียบเทยี บรปู แบบ
รปู แบบการปกครองระบอบ การเมอื งการปกครอง
ประชาธปิ ไตย และระบอบอ่นื ๆ ระบอบประชาธิปไตย และ
3.ตระหนกั ในคุณคา่ ของการปกครอง ระบอบอ่ืนๆ ของประเทศ
ระบอบประชาธปิ ไตย ต่างๆ ในทวปี เอเชยี
หลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น 135
คำอธิบายรายวชิ า สค21002 ศาสนา และหน้าทพ่ี ลเมือง จำนวน 2 หน่วยกติ
ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น
มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดบั
1. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ เหน็ คุณค่าและสืบทอดศาสนา วฒั นธรรม ประเพณีของ ประเทศในทวปี
เอเชยี
2. มคี วามรู้ ความเข้าใจดำเนินชีวิตตามวิถปี ระชาธิปไตย กฎระเบยี บของประเทศเพ่อื นบา้ น
ศึกษาและฝึกทกั ษะเกย่ี วกบั เร่ืองดังตอ่ ไปนี้
1. ประวัติความเปน็ มาของศาสนาในประเทศไทย และประเทศในทวีปเอเชยี
2. หลกั ธรรมสำคัญ ของการปฏบิ ตั ิตนใหอ้ ยู่ร่วมกนั อย่างสนั ตสิ ุข
3. การบริหารจิต ตามหลกั ศาสนา
4. การปฏบิ ัติตนเป็นคนดีตามหลักคำสอนของแต่ละศาสนา (พุทธ คริสต์ อสิ ลาม)
5. วัฒนธรรม ประเพณี ทส่ี ำคญั ของประเทศไทยและทวปี เอเชีย
6. การอนุรักษ์ สืบสาน วัฒนธรรม ประเพณี และค่านิยม จริยธรรมทางสังคม ที่พึงประสงค์ของ
สังคมไทย
7. โครงสรา้ งและสาระสำคญั ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย ที่เก่ยี วขอ้ งกับสิทธิเสรีภาพ
หนา้ ทขี่ องประชาชน
8. การปฏริ ปู การเมืองและจดุ เด่นของรัฐธรรมนูญท่ีเกย่ี วข้องกับสิทธิเสรภี าพหนา้ ทขี่ องประชาชน
9. หลกั การอยรู่ ว่ มกนั ตามวถิ ที างประชาธิปไตยบนพนื้ ฐานของคุณธรรมจริยธรรม
10. สถานการณแ์ ละ การมสี ่วนร่วมทางการเมืองการปกครองในสังคมไทย
11. สทิ ธมิ นุษยชน พน้ื ฐาน
การจดั ประสบการณ์การเรียนรู้
จดั ให้มีการค้นคว้าหาความรู้ จากสื่อเอกสาร ตำรา ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ ภูมิปัญญา สถาบันทางศาสนา
การฝึกปฏิบัติ การทำโครงงาน การจัดกลุ่มอภิปรายแลกเปลยี่ นเรียนรู้ การวิเคราะห์ สถานการณ์จำลอง การสรุปผล
การเรียนรู้ และนำเสนอในรูปแบบตา่ งๆ
การวัดและประเมนิ ผล
ประเมนิ จากการทดสอบ การสังเกต การประเมนิ การมสี ว่ นร่วมในการทำกจิ กรรมและการตรวจผลงาน ฯลฯ
หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น 136
รายละเอียดคำอธิบายรายวิชา สค21002 ศาสนาและหน้าที่พลเมือง จำนวน 2 หน่วยกติ
ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้
มาตรฐานการเรยี นรูร้ ะดับ
1. มีความรู้ ความเขา้ ใจ เห็นคุณค่าและสืบทอดศาสนา วัฒนธรรม ประเพณีของประเทศในทวปี เอเชยี
2. มคี วามรู้ ความเข้าใจดำเนนิ ชีวติ ตามวิถีประชาธิปไตย กฎระเบยี บของประเทศเพื่อนบ้าน
ท่ี หัวเร่ือง ตัวช้ีวัด เนือ้ หา จำนวน
1. ศาสนา วัฒนธรรม 1.มคี วามรู้ ความเข้าใจ 1.ความเปน็ มาของศาสนาใน (ชว่ั โมง)
20
ประเพณี เกย่ี วกับความเปน็ มาของ ประเทศไทย
ศาสนาต่างๆ ในประเทศไทย - พุทธ
และประเทศในทวปี เอเชยี - คริสต์
- อิสลาม
- ฮนิ ดู
2.นำหลักธรรมสำคัญๆ ใน 2.ความเปน็ มาของศาสนาในทวปี
ศาสนาของตน มาประพฤติ เอเชีย
ปฏบิ ัตใิ ห้สามารถอย่รู ว่ มกัน - พุทธ
กับศาสนาอนื่ ได้อยา่ งสนั ติสขุ - ครสิ ต์
- อิสลาม
- ฮนิ ดู
3.เห็นประโยชนใ์ นการนำ 3.หลักธรรมในแตล่ ะศาสนาที่ทำให้
หลกั ธรรมคำสอนในศาสนาที่ อยู่รว่ มกบั ศาสนาอนื่ ไดอ้ ยา่ งมี
ตนนบั ถอื มาประพฤติปฏบิ ัติ ความสขุ
ตน เพ่อื ให้เปน็ คนดีในสงั คม - ศาสนาพุทธ คอื
พรหมวิหาร4
ฆราวาสธรรม ฯลฯ
- ศาสนาคริสต์
- ศาสนาอสิ ลาม
- ศาสนาฮนิ ดู
4.นำขอ้ ปฏบิ ตั ิของบคุ คล 4. หลกั ธรรมในแต่ละศาสนาทที่ ำ
ตวั อยา่ งท่ีใชห้ ลกั ธรรมทาง ให้ผู้นำมาประพฤตปิ ฏบิ ัตเิ ป็นคนดี
ศาสนามาปฏบิ ัติใน ในศาสนาพุทธคือ เบญจศีล เบญจ
ชวี ิตประจำวนั มาใช้ให้ ธรรม พรหมวิหารธรรมทท่ี ำให้งาม
เหมาะสมกับวิถีชวี ิตของ ศาสนาครสิ ต์
หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น 137
ท่ี หัวเรอ่ื ง ตัวชีว้ ัด เนื้อหา จำนวน
2 หนา้ ทพี่ ลเมอื ง (ช่วั โมง)
ตนเอง ศาสนาอิสลาม
20
ศาสนาฮนิ ดู
20
4.1กรณตี ัวอยา่ งบุคคลตัวอย่างใน
แตล่ ะศาสนา
5.มคี วามรู้ ความเข้าใจใน 5.วัฒนธรรมประเพณใี นประเทศ
วัฒนธรรมประเพณขี อง ไทยและประเทศในเอเชีย
ประเทศไทยและประเทศใน - ภาษา
เอเชีย - การแต่งกาย
- อาหาร
- ประเพณี
ฯลฯ
6.ตระหนักถงึ ความสำคัญ ใน 6.การอนรุ กั ษ์ และสืบสาน
วัฒนธรรมประเพณขี อง วฒั นธรรมประเพณี ของประเทศ
ประเทศไทยและประเทศใน ไทย และประเทศในเอเชีย(กรณี
เอเชีย ตัวอย่าง)
7.มีสว่ นร่วมในการปฏิบตั ิตน 7.การประพฤตปิ ฏิบัติตน เพอื่ การ
ตามวัฒนธรรมประเพณี ของ อนรุ ักษ์ และสืบสาน วัฒนธรรม
สงั คมไทย ประเพณขี องประเทศไทยและ
ประเทศในเอเชยี
8.ประพฤติตนตามค่านิยม 8.คา่ นิยมทพี่ ึงประสงคข์ องประเทศ
จริยธรรมทพ่ี งึ ประสงคข์ อง ไทยและประเทศตา่ งๆในเอเชยี
สังคมไทย
1.รู้และเขา้ ใจความสำคญั ของ 1.1 ความเปน็ มา หลกั การ
รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักร เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
ไทย 1.2 โครงสร้าง และสาระสำคญั ของ
รฐั ธรรมนูญ
1. 3 การปฏิรูปการเมอื ง และ
จุดเดน่ ของรฐั ธรรมนูญทเี่ ก่ยี วกบั
สิทธเิ สรภี าพหน้าทขี่ องประชาชน
หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ระดับ มัธยมศกึ ษาตอนต้น 138
ท่ี หวั เร่ือง ตวั ชว้ี ัด เน้อื หา จำนวน
(ช่วั โมง)
2.ร้แู ละเข้าใจหลกั คุณธรรม 2. หลกั การอยรู่ ว่ มกนั ตามวิถีทาง
จริยธรรมของการอย่รู ่วมกัน ประชาธปิ ไตยบนพน้ื ฐานของ
คณุ ธรรมจริยธรรม
3.มสี ว่ นร่วมทางการเมืองการ 3.สถานการณ์ และการมสี ่วนร่วม
ปกครองตามระบอบ ทางการเมอื งการปกครองตาม
ประชาธปิ ไตยอนั มี ระบอบประชาธิปไตยอนั มี
พระมหากษัตริยเ์ ป็นประมุข พระมหากษตั รยิ เ์ ป็นประมุข
4.รู้และเขา้ ใจหลักสิทธิมนษุ ยชน 4.หลักสิทธิมนษุ ยชน 20
5.การมสี ว่ นร่วมในการ 5.การมสี ว่ นรว่ มในการคุ้มครอง
คมุ้ ครองปกปอ้ งตนเอง และ ตนเอง และผูอ้ ืน่ ตามหลักสทิ ธิ
ผ้อู นื่ ตามหลักสิทธมิ นษุ ยชน6. มนษุ ยชน
ตระหนักถึงประโยชนข์ องการ 6.ประโยชนข์ องการมสี ่วนร่วมใน
มสี ่วนรว่ มในการคุ้มครอง การคุ้มครองฯ (ยกตัวอยา่ ง)
ปกปอ้ งตนเอง และผอู้ ่ืนตาม
หลักสทิ ธิมนุษยชน
หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น 139
คำอธบิ ายรายวิชา สค21003 การพฒั นาตนเองชุมชน สงั คม จำนวน 1 หน่วยกติ
ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้
มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ
มคี วามรู้ ความเข้าใจ หลกั การพฒั นาชมุ ชน สงั คม สามารถวเิ คราะห์ ขอ้ มูล และกำหนดแนวทางการ
พฒั นาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม ให้สอดคล้องกบั สภาพการเปลยี่ นแปลงของเหตกุ ารณ์ปจั จุบัน
ศกึ ษาและฝกึ ทกั ษะเกี่ยวกับเรือ่ งดงั ตอ่ ไปนี้
1. ความหมาย ความสำคญั ของข้อมูล ประโยชน์ของข้อมูลตนเอง ชมุ ชน สังคม
2. เทคนิคและวิธีการจดั เกบ็ ขอ้ มูล เช่น การจัดเวทีประชาคม การสำรวจขอ้ มูลการ
ประชาพิจารณ์ โดยใช้แบบสอบถาม การสบื คน้ ขอ้ มูลจากแหล่งต่างๆ ฯลฯ
3. การวเิ คราะหข์ อ้ มูลเพื่อการจัดทำแผนพัฒนาตนเอง ชุมชน สงั คม
4. การจดั ทำแผนพฒั นาตนเอง ชุมชน สงั คมและการนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน
การจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้
จัดให้ผู้เรียนฝึกทักษะจากการปฏิบัติจริงการเก็บข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล การจัดทำแผนพัฒนา
ตนเอง ชุมชน สังคม โดยการเข้าร่วมสังเกตการณ์ สร้างสถานการณ์จำลอง จัดทำเวทีประชาคม และการศึกษาดูงาน
เปรยี บเทยี บการจดั ทำแผนพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม ระหวา่ งกลุม่ ระหวา่ งชมุ ชน
การวดั และประเมนิ ผล
จากผลงาน และการมีสว่ นรว่ มในการจดั ทำแผนพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคม
หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ระดับ มัธยมศกึ ษาตอนต้น 140
รายละเอยี ดคำอธบิ ายรายวชิ า สค21003 การพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม จำนวน 1 หนว่ ยกิต
ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น
มาตรฐานการเรียนรู้ระดบั
มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ หลกั การพัฒนาชุมชน สังคม สามารถวิเคราะห์ ข้อมูล และกำหนดแนวทางการ
พัฒนา ตนเอง ครอบครัว ชุมชน สงั คม ให้สอดคล้องกบั สภาพการเปลย่ี นแปลงของเหตุการณ์ปัจจุบัน
ท่ี หัวเรื่อง ตวั ชวี้ ัด เน้อื หา จำนวน
1. พัฒนาชุมชน สังคม 1.มคี วามรู้ ความเข้าใจ 1.หลักการพัฒนาตนเอง ชุมชน (ชวั่ โมง)
20
หลักการพฒั นา ชุมชน สงั คม สงั คม
2.มีความรู้ ความเข้าใจ และ 2.ความหมาย ความสำคัญ
เหน็ ความสำคญั ของข้อมูล ประโยชน์ ของขอ้ มูลด้าน
ตนเอง ครอบครวั ชุมชน - ภมู ศิ าสตร์
สังคม - ประวตั ิศาสตร์
- เศรษฐศาสตร์
- การเมือง
การปกครอง
- ศาสนา วฒั นธรรม ประเพณี
- หนา้ ทพี่ ลเมอื ง
- ทรพั ยากร สง่ิ แวดล้อม
- สาธารณสุข
- การศึกษา
3.วเิ คราะหแ์ ละอธบิ ายข้อมูล 3.วิธกี ารจดั เก็บ วเิ คราะหข์ อ้ มูล
ด้วยวธิ กี ารทห่ี ลากหลาย และ
เผยแพร่ข้อมูล
4.เกิดความตระหนัก และมี 4.การมีสว่ นรว่ มในการวางแผน
สว่ นรว่ มในการจดั ทำ พัฒนาตนเอง ครอบครวั ชุมชน
แผนพฒั นาชมุ ชน สังคม สังคม
5. สามารถกำหนดแนว 5.1 เทคนิคการมีส่วนร่วมในการ 20
ทางการพฒั นาตนเอง จดั ทำแผน เชน่
ครอบครัว ชมุ ชน สังคม - การจัดทำเวทีประชาคม
- การประชมุ กลมุ่ ย่อย
- การสัมมนา
- การสำรวจประชามติ
- การประชาพจิ ารณ์
หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดับ มัธยมศกึ ษาตอนต้น 141
ท่ี หัวเรอ่ื ง ตัวชี้วัด เนื้อหา จำนวน
(ชวั่ โมง)
ฯลฯ
5.2 การจัดทำแผน
-ทิศทาง นโยบาย
- โครงการ
- ผู้รับผดิ ชอบ
- จดั ลำดบั ความสำคัญ
ฯลฯ
5.3 การเผยแพร่สกู่ ารปฏิบัติ
- การเขียนรายงาน
- การเขียนโครงงาน
ฯลฯ
หลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ระดับ มัธยมศึกษาตอนต้น 142
คำอธบิ ายรายวิชาวชิ าเลอื ก
รายวิชาเลือก
สาระการพฒั นาสังคม
มาตรฐานที่ รหสั วชิ า ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น หนว่ ยกิต
สค22004 รายวิชา 2
5.2 สค22016 3
5.1 สค23031 การพฒั นาจิตและปัญญา 3
5.2 และ5.3
5.1 สค การเงนิ เพ่ือชีวิต 2 3
5.1 สค23019 3
สค คุณธรรมในการดำเนนิ ชีวติ 3
การจดั การภัยพบิ ตั ทิ างธรรมชาติ
แหลง่ ทอ่ งเทยี่ วท่ีสำคญั ของจงั หวัดสโุ ขทัย
วัสดศุ าสตร์
หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น 143
คำอธิบายรายวิชา สค22004 การพฒั นาจิตและปัญญา จำนวน 2 หนว่ ยกิต
ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้
มาตรฐานการเรียนรู้ระดบั
มคี วามรู้ ความเข้าใจ เหน็ คุณคา่ และสืบทอดศาสนา วัฒนธรรม ประเพณีของประเทศในทวีปเอเชยี
ศกึ ษาและฝึกทักษะเกยี่ วกบั เร่ืองต่อไปนี้
1. วิวัฒนาการดา้ นเทคโนโลยี และส่ิงแวดลอ้ มท่ีมีผลกระทบตอ่ การดำเนนิ ชีวติ และ
การอยู่ร่วมกันอย่างสันตสิ ขุ
2. จดุ ประสงคก์ ารทำสมาธิเพอื่ พฒั นาจิตและปญั ญา
3. อริ ยิ าบถสำหรับการทำสมาธิ
4. ขน้ั ตอนการทำสมาธิอย่างง่าย
5. สมาธกิ ับการเรยี นและการทำงาน
6. ลกั ษณะต่อต้านสมาธิ
7. ประโยชนก์ ารทำสมาธิ
8. การเจรญิ สติด้วยการพิจารณาอนจิ จา ทุกขข์ ัง อนัตตา
9. วธิ กี ารทำสมาธิพฒั นาจิตและปญั ญาในชวี ติ ประจำวันอย่างตอ่ เน่อื ง
การจัดประสบการณ์การเรียนรู้
จัดกิจกรรมการศึกษาความรู้จากส่ือ เอกสาร สื่อเทคโนโลยี ภูมิปัญญา องค์กร สถาบันสถานศึกษา
จดั ให้ผู้เรยี นฝึกปฏิบัติการทำสมาธเิ ป็นหมคู่ ณะและเด่ยี ว ร่วมกิจกรรมทางศาสนาการเดนิ ธดุ งค์ปฏิบัติธรรมนอกสถานที่
จดั กลุ่มอภปิ ราย แลกเปลี่ยนเรยี นรู้ เผยแพรแ่ ละจัดปฏบิ ัติการเรียนรู้ การทำสติใหก้ ับกลมุ่ /ชุมชนในพน้ื ท่ี
การวัดและประเมนิ ผล
ประเมนิ จากการทดสอบภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ ประเมินการมีสว่ นร่วมในการจัดกจิ กรรมและ
ตรวจสอบผลการปฏบิ ัติ การทำสมาธิเด่ียว
หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น 144
รายละเอียดคำอธบิ ายรายวชิ า สค22004 การพัฒนาจติ และปญั ญา จำนวน 2 หนว่ ยกติ
ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้
มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดับ
มีความรู้ ความเข้าใจ เหน็ คุณค่า และสืบทอดศาสนา วฒั นธรรม ประเพณีของประเทศในทวีปเอเชีย
ท่ี หวั เรื่อง ตวั ชี้วัด เนอ้ื หา จำนวน
1 การพัฒนาจติ และ 1. อธบิ ายเกย่ี วกบั การ (ชวั่ โมง)
1. การววิ ฒั นาการด้านเทคโนโลยี 80
ปญั ญา ววิ ัฒนาการดา้ นเทคโนโลยี และสิง่ แวดล้อม
และสง่ิ แวดลอ้ มทีม่ ี ยุคโลกาภิวตั น์
ผลกระทบตอ่ การดำรงชีวิต 2. จุดประสงค์การทำสมาธิ
และการอยรู่ ่วมกนั อยา่ งสันติ เพื่อพัฒนาจติ และปญั ญา
สขุ ได้ 2.1 สมาธติ ้ืนและสมาธลิ กึ
2. อธิบายและเหน็ คุณคา่ 3. อิริยาบถสำหรบั การทำสมาธิ
จดุ ประสงค์การทำสมาธิเพ่อื 4. ขั้นตอนการทำสมาธิอยา่ งงา่ ย
พัฒนาจติ ใจและปญั ญาได้ 5. สมาธิกบั การเรียน และ
3. อธบิ ายเกีย่ วกับอิริยาบถ การทำงาน
สำหรบั การทำสมาธไิ ด้ 6. ลกั ษณะต่อต้านสมาธิ
4. อธิบายเก่ยี วกบั ขนั้ ตอน 7. การทำสมาธอิ ย่างงา่ ย
การทำสมาธิอยา่ งง่ายและ 8. การเจรญิ สติตามหลกั ไตร
สามารถปฏิบตั ิได้ ลกั ษณ์อนิจจัง ทกุ ข์ขงั
5. อธิบายและเหน็ คุณคา่ อนัตตา
ประโยชน์การทำสมาธิ เพื่อ 8.1 การพจิ ารณาธาตุ 4
การอย่รู ว่ มกนั อย่างสนั ตสิ ขุ 8.2 การละขันธ์ 5
6. อธบิ ายและตระหนักการ 8.3 จิต-วมิ ตุ ติ-พระนพิ พาน
เจรญิ สติด้วยการพิจารณา 9. วธิ ีการทำสมาธพิ ัฒนาจิต และ
อนิจจงั ทกุ ข์ขัง อนัตตา ปญั ญาในชวี ติ อย่างต่อเน่ือง
7. นำความรูเ้ ก่ยี วกับการ 9.1 จติ พระอรหนั ต์
พัฒนาจิตและปัญญามา 9.2 อยู่ด้วยวิหารธรรม
ปรบั ใช้ในการดำรงชีวิตและ
การอยู่รว่ มกันอย่างสนั ตสิ ขุ
และสามารถแนะนำการทำ
สมาธิอยา่ งงา่ ยใหก้ ับกล่มุ /
ชมุ ชนได้
หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ระดับ มัธยมศกึ ษาตอนต้น 145
คำอธบิ ายรายวชิ าวิชาเลอื ก
รายวชิ าเลือก
สาระการพัฒนาสงั คม
มาตรฐานที่ ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้
5.1
รหัสวิชา รายวิชา หนว่ ยกิต
3
สค22016 การเงนิ เพื่อชีวติ 2
หลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดับ มัธยมศกึ ษาตอนต้น 146
คำอธิบายรายวชิ า สค22016 การเงินเพอื่ ชีวิต 2
ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น
จำนวน 3 หนว่ ยกิต (120 ชั่วโมง)
มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดับ
มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง
การปกครองในทวีปเอเชีย และนำมาปรับใชใ้ นการดำเนนิ ชีวิต เพื่อความม่นั คงของชาติ
ศึกษาและฝึกทักษะเก่ยี วกบั เรือ่ งดังต่อไปน้ี
1. วา่ ดว้ ยเรอ่ื งของเงิน
ความ หม ายและป ระ โยชน์ ป ระ เภ ท ขอ งเงิน เงิน ฝาก และ ก ารป ระ กั น ภั ย ก ารชำระ เงิน
ทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ โครงสร้างระบบสถาบนั การเงินของประเทศไทย
2. การวางแผนทางการเงิน
การรู้จักฐานะการเงนิ ของตนเอง บันทึกรายรบั -รายจา่ ย เป้าหมายการเงินในชีวิต การออม
3. สินเช่อื
ความหมายของสนิ เชื่อ ลักษณะของสินเชื่อรายยอ่ ย ประเภทและการคำนวณดอกเบยี้ เงินกวู้ ธิ ีการป้องกัน
ปัญหาหนี้ เครดติ บูโร วิธกี ารแก้ไขปัญหาหนี้ หน่วยงานท่ใี ห้คำปรึกษาเร่ืองวธิ แี กไ้ ขปัญหาหนี้
4. สิทธิและหนา้ ทีข่ องผ้ใู ช้บรกิ ารทางการเงนิ
สิทธิของผู้ใช้บริการทางการเงิน 4 ประการ หน้าที่ของผู้ใช้บริการทางการเงิน 5 ประการ รู้จักศูนย์
คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) และหน่วยงานท่ีรับที่รับเร่ืองร้องเรียนอื่น ๆ การเขียนหนังสือร้องเรียนและ
ขัน้ ตอนทเ่ี กย่ี วขอ้ ง
5. ภัยทางการเงิน
ลกั ษณะ การป้องกันตนเอง และการแกป้ ัญหาภัยทางการเงิน
การจัดประสบการณ์การเรียนรู้
1. จดั กล่มุ อภปิ รายในเนอื้ หาท่ีเกย่ี วข้อง
2. ศึกษาจากเอกสารและสื่อทุกประเภทท่ีเก่ียวข้อง เว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย และเว็บไซต์ของ
ศคง.
3. จัดทำโครงการนทิ รรศการฐานการเรยี นรู้
4. เชญิ วิทยากรผรู้ มู้ าใหค้ วามร้เู กย่ี วกับการกอ่ หนีอ้ ยา่ งเหมาะสม และการวางแผนการเงินในชวี ิต
การวดั และประเมินผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมระหวา่ งการเรียนรู้
2. วดั ความรจู้ ากการทำกจิ กรรมใบงาน
3. การวดั ผลสมั ฤทธป์ิ ลายภาค
หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น 147
คำอธิบายรายวิชา สค22016 การเงนิ เพ่อื ชวี ิต 2
ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้
จำนวน 3 หนว่ ยกติ (120 ชั่วโมง)
มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดับ
มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ตระหนักเก่ียวกับภูมิศาสตร์ ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมืองการปกครอง
ในทวปี เอเชยี และนำมาปรบั ใชใ้ นการดำเนนิ ชีวติ เพ่อื ความมนั่ คงของชาติ
ที่ หัวเรอื่ ง ตัวชี้วดั เนอื้ หา จำนวน
1. วา่ ด้วยเรอื่ งของเงิน ชั่วโมง
24 ชม.
1.1 ความหมายและ
ประโยชน์ 1. อธบิ ายความหมาย และประโยชนข์ อง 1. ความหมายและประโยชน์ของ
1.2 ประเภทของเงนิ เงิน เงนิ
2. บอกความหมายและความแตกต่างของ 2. ความหมาย ความแตกต่างของ
1.3 เงินฝาก และการ การใหเ้ งนิ และการใหย้ ืมเงนิ การใหเ้ งินและการใหย้ มื เงิน
ประกันภัย 1. บอกประเภทและลักษณะของเงนิ ไทย 1. เงินไทย
2. อธบิ ายวิธีการตรวจสอบธนบตั ร
3. บอกสกุลเงินของประเทศในทวปี เอเชยี - ธนบัตร
4. คำนวณอัตราแลกเปลย่ี นเงินตรา - เหรียญกษาปณ์
ต่างประเทศ
5. บอกช่องทางการแลกเปลีย่ นเงินตรา 2. เงินตราต่างประเทศ
ตา่ งประเทศ - สกุลเงินของประเทศในทวปี
1. บอกลกั ษณะบัญชีเงนิ ฝากแตล่ ะ เอเชีย
ประเภท - อตั ราการแลกเปลย่ี น และ
วธิ กี ารคำนวณอัตราแลกเปลีย่ น
เงินตราต่างประเทศ
- ชอ่ งทางการแลกเปลีย่ น
เงนิ ตราตา่ งประเทศ
1. ประเภท ลักษณะ ประโยชน์
ขอ้ จำกัด ของการฝากเงิน
- บัญชเี งนิ ฝากออมทรพั ย์
- บญั ชเี งินฝากประจำ
- บญั ชีเงนิ ฝากประจำ ราย
เดอื นปลอดภาษี
- สลากออมทรพั ย์/สลากออม
สนิ
หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับ มัธยมศึกษาตอนต้น 148
ที่ หวั เรอื่ ง ตวั ชี้วัด เน้ือหา จำนวน
ช่วั โมง
1.4 การชำระเงนิ ทาง
อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 2. บอกประโยชนแ์ ละข้อจำกดั การฝากเงิน 2. ความหมายและวธิ ีการคำนวณ
1.5 โครงสรา้ งระบบ ประเภทตา่ ง ๆ ดอกเบี้ยเงนิ ฝาก
สถาบันการเงินของ
ประเทศไทย 3. บอกความหมายของดอกเบ้ยี เงินฝาก 3. การคุ้มครองเงนิ ฝาก
4. คำนวณดอกเบี้ยเงนิ ฝากอย่างง่าย
5. บอกความหมายของการคุ้มครองเงนิ 4. การประกนั ภยั
ฝาก
6. บอกประเภทของเงนิ ฝากทไี่ ด้รับการ
ค้มุ ครอง
7. อธิบายความหมายและประโยชน์ของ
การประกนั ภยั
8. บอกประเภท และลักษณะการ
ประกนั ภัยแตล่ ะประเภท
1. บอกความหมาย และประโยชนข์ องการ 1. ความหมาย และประโยชน์ของ
ชำระเงินทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ การชำระเงินทางอิเล็กทรอนกิ ส์
2. บอกลกั ษณะของบตั ร ATM บตั รเด 2. ลักษณะของบตั ร ATM บตั ร
บติ บัตรเครดติ เดบิต บตั รเครดติ
3. เปรยี บเทียบความแตกต่างบัตร ATM
บัตรเดบติ บัตรเครดิต
1. บอกโครงสรา้ งระบบสถาบนั การเงนิ 1. โครงสร้างระบบสถาบนั การเงนิ
ของประเทศไทย ของประเทศไทย
2. บอกประเภทของสถาบันการเงนิ และ 2. สถาบันการเงนิ และหนว่ ยงาน
หน่วยงานอ่ืนภายใต้การกำกบั ของธนาคาร อ่นื ภายใต้การกำกับของธนาคาร
แหง่ ประเทศไทย แห่งประเทศไทย
- ประเภท
3. อธบิ ายบทบาทหนา้ ท่ีของสถาบัน - บทบาทหน้าท่ี
การเงินและหนว่ ยงานอื่นภายใตก้ ารกำกับ
ของธนาคารแห่งประเทศไทย
หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ระดับ มัธยมศึกษาตอนต้น 149
ท่ี หวั เรอ่ื ง ตัวชว้ี ัด เนอ้ื หา จำนวน
ช่ัวโมง
2. การวางแผนการเงนิ 2.1 35 ชม.
การรจู้ กั ฐานะการเงนิ ของ 1. อธิบายหลักการประเมินฐานะการเงิน 1. หลักการประเมินฐานะทาง
ตนเอง การเงินของตนเองโดยคำนวณ
จำนวนและอัตราส่วนดงั นี้
- ความมง่ั คัง่ สุทธิ
- อตั ราส่วนภาระหนสี้ ินต่อ
รายได้ (ต่อเดือน)
- จำนวนเงินออมเผอื่ ฉุกเฉนิ
- อตั ราสว่ นเงินออมตอ่ รายได้
(ตอ่ เดือน)
2. คำนวณฐานะการเงนิ ของตนเอง 2. การมสี ุขภาพการเงินท่ีดี
- ความหมาย
- ลักษณะการมีสุขภาพการเงนิ
ท่ีดี ไดแ้ ก่
- มภี าระชำระหน้ไี มเ่ กิน 1
ใน 3 ของรายได้ต่อเดือน
- ออมอย่างน้อย 1 ใน 4 ของ
รายได้ต่อเดือน
- มีเงนิ ออมเผอ่ื ฉกุ เฉิน
ประมาณ 6 เทา่ ของรายจ่าย
3. อธิบายลกั ษณะของการมีสขุ ภาพ จำเป็นตอ่ เดือน
การเงนิ ที่ดี
4. ประเมินสุขภาพการเงินของตนเอง
2.2 บันทึกรายรบั - 1. บอกความแตกต่างของ “ความจำเป็น” 1. ความหมายของความจำเปน็
รายจ่าย และ “ความต้องการ” และความต้องการ
2. จดั ลำดบั ความสำคญั ของรายจา่ ย
3. บอกลักษณะของการบันทึกรายรับ- 2. การจัดลำดับความสำคัญของ
รายจา่ ย รายจา่ ย
4. บอกประโยชน์ของการบันทกึ รายรบั - 3. ลกั ษณะและประโยชน์ของ
รายจ่าย บนั ทึกรายรบั -รายจา่ ย
5. จดบนั ทึกรายรับ-รายจา่ ย
หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับ มัธยมศึกษาตอนต้น 150
ท่ี หวั เรอื่ ง ตัวชวี้ ัด เนือ้ หา จำนวน
4. วิธบี ันทึกรายรบั -รายจ่าย ชั่วโมง
1. ประโยชนข์ องการมเี ป้าหมาย
การเงนิ ในชีวติ
2.3 เปา้ หมายการเงินใน 1. บอกประโยชน์ของการมเี ป้าหมาย 2. เป้าหมายการเงินทค่ี วรมใี นชีวิต
ชวี ิต การเงนิ ในชวี ติ 3. ประเภทของเปา้ หมายการเงนิ
2. บอกเป้าหมายการเงินทค่ี วรมใี นชีวิต
- ระยะส้ัน (ไม่เกิน 1 ป)ี
3. อธบิ ายวิธกี ารตัง้ เป้าหมายการเงินตาม - ระยะกลาง (1 – 3 ปี)
หลัก SMART - ระยะยาว (มากกว่า 3 ป)ี
4. วางแผนการเงนิ ตามเปา้ หมายท่ีต้งั ไว้ 4. วิธีการตัง้ เปา้ หมายการเงนิ ตาม
หลกั SMART
5. การวางแผนการเงินให้
เปน็ ไปตามเป้าหมายทต่ี ั้งไว้
2.4 การออม 1. อธิบายความหมาย และประโยชน์ของ 1. ความหมาย และประโยชนข์ อง 36 ชม.
3. สนิ เชอ่ื การออม การออม 10 ชม.
2. ต้งั เปา้ หมายการออม 2. เป้าหมายการออม
4. สิทธิและหน้าที่ของ 3. บอกหลักการออมใหส้ ำเรจ็ 3. หลกั การออมใหส้ ำเร็จ
ผใู้ ชบ้ ริการทางการเงิน 4. อธิบายบทบาทหน้าที่และหลักการของ 4. ความร้เู บือ้ งต้นเก่ียวกบั กองทุน
กองทนุ การออมแห่งชาติ (กอช.) การออมแห่งชาติ (กอช.)
1. บอกความหมายของ “หนด้ี ”ี และ 1. การประเมินความเหมาะสม
“หนีพ้ ึงระวงั ” ก่อนตดั สินใจกอ่ หน้ี
2. บอกลกั ษณะของสนิ เชอ่ื รายย่อย 2. ลักษณะของสนิ เชอ่ื รายยอ่ ย
3. บอกประเภทดอกเบย้ี เงินกู้ และการคำนวณดอกเบย้ี
4. คำนวณดอกเบย้ี เงินกู้ 3. เครดติ บโู ร
5. บอกความหมาย และบทบาทหน้าท่ี 4. วิธีการป้องกนั ปัญหาหน้ี
ของเครดติ บูโร 5. วิธกี ารแก้ไขปัญหาหน้ี
6. บอกวิธกี ารตรวจสอบข้อมูลเครดิตของ
ตนเอง 6. หน่วยงานทใี่ หค้ ำปรกึ ษา
7. บอกวิธีการปอ้ งกนั ปญั หาหนี้ เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหน้ี
8. บอกวิธีการแก้ไขปัญหาหนี้
9. บอกหน่วยงานทใี่ ห้คำปรึกษาเรอ่ื ง 1. สิทธิของผใู้ ชบ้ ริการทางการเงนิ
วธิ ีแก้ไขปญั หาหน้ี - ไดร้ บั ข้อมูลที่ถกู ตอ้ ง
1. บอกสทิ ธิของผู้ใช้บริการทางการเงนิ - เลือกใชผ้ ลติ ภัณฑแ์ ละบรกิ าร
ไดอ้ ย่างอสิ ระ
หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 ระดับ มัธยมศึกษาตอนต้น 151
ที่ หวั เรอ่ื ง ตัวช้วี ัด เน้อื หา จำนวน
5. ภัยทางการเงิน ชั่วโมง
2. บอกหน้าท่ีของผู้ใช้บริการทางการเงิน - รอ้ งเรียนเพือ่ ความเป็นธรรม
- ไดร้ ับการพิจารณาคา่ ชดเชย 15 ชม.
3. บอกบทบาทหน้าท่ีของศูนยค์ ุ้มครอง หากเกิดความเสียหาย
ผู้ใชบ้ รกิ ารทางการเงนิ (ศคง.) และ 2. หนา้ ที่ของผ้ใู ชบ้ ริการทาง
หน่วยงานทร่ี ับเรื่องรอ้ งเรยี นอน่ื ๆ การเงนิ
4. บอกขั้นตอนการร้องเรยี น - วางแผนการเงิน
5. บอกหลกั การเขียนหนังสือร้องเรียน - ตดิ ตามข้อมลู ข่าวสารทาง
1. บอกประเภทและลกั ษณะของภยั ทาง การเงนิ อยา่ งสมำ่ เสมอ
การเงนิ - เขา้ ใจรายละเอยี ด และ
2. บอกวิธีการป้องกันตนเองจากภยั ทาง เปรียบเทยี บข้อมลู ก่อนเลือกใช้
การเงิน - ตรวจทานความถูกต้องของ
3. บอกวิธกี ารแกป้ ญั หาที่เกิดจากภยั ทาง ธรุ กรรมทางการเงนิ ทุกคร้ัง
การเงิน - เมื่อเป็นหนีต้ อ้ งชำระหนี้
3. บทบาทศูนย์คุ้มครอง
ผใู้ ชบ้ รกิ ารทางการเงนิ (ศคง.)
และหนว่ ยงานท่รี บั เรื่องรอ้ งเรยี น
อืน่ ๆ
4. ข้ันตอนการร้องเรียนและการ
เขียนหนังสอื รอ้ งเรยี น
1. ประเภท ลักษณะ การปอ้ งกนั
ตนเอง และการแกไ้ ขปัญหาของ
ภยั ทางการเงิน
- หนน้ี อกระบบ
- แชรล์ ูกโซ่
- ภยั ใกลต้ ัว เชน่ การ
หลอกลวงใหจ้ ่ายเบย้ี ประกนั งวด
สดุ ทา้ ย ตกทอง / ลอ็ ตเตอ
ร่ปี ลอม
- แกง๊ คอลเซ็นเตอร์
- ภัยออนไลน์ (ท่ีไม่ใชธ่ นาคาร
ออนไลน์) เช่น ภยั ท่มี าทางสื่อ
สงั คมออนไลน์
หลักสตู รการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น 152
คำอธิบายรายวชิ าวชิ าเลือก
รายวชิ าเลือก
สาระการพัฒนาสังคม
มาตรฐานท่ี ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้
5.2 และ 5.3
รหัสวิชา รายวชิ า หน่วยกิต
3
สค23031 คุณธรรมในการดำเนินชีวติ
หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น 153
คำอธบิ ายรายวิชา สค23031 คณุ ธรรมในการดำเนนิ ชีวติ
ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น
มาตรฐานการเรยี นรู้
มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักถงึ ความสำคัญของการอยูร่ ว่ มกนั ในสังคมนอกจากจะปฏิบตั ติ ามกฎระเบยี บ
และสทิ ธิและหน้าท่ขี องตนเองแลว้ สมาชิกในสงั คมควรดำเนินชวี ิตตามหลกั คณุ ธรรมและจรยิ ธรรมดว้ ย ซง่ึ จะสง่ ผลให้
แต่ละคนสามารถอย่รู ่วมกับผอู้ นื่ อย่างมีความสุข สงั คมกม็ คี วามสงบสุขและเจรญิ ก้าวหนา้ ไปด้วย คุณธรรมจรยิ ธรรม
คอื สงิ่ ทีเ่ ป็นคณุ งามความดที ีบ่ ุคคลควรประพฤตปิ ฏิบัติ เพอ่ื ความสุขความเจริญของตนเองและสงั คมสว่ นรวม บุคคลท่ี
ได้ชอ่ื วา่ เปน็ พลเมอื งดคี วรยดึ หลักคณุ ธรรมและจริยธรรมต่าง ๆ คุณธรรมและจริยธรรมในการทจ่ี ะอยรู่ ว่ มกนั ในสงั คม
ศึกษาและฝกึ ทักษะเก่ียวกับเรอ่ื งดังต่อไปนี้
1. ความหมายและหลักการของคณุ ธรรม
2. การดำเนินชีวติ ตามหลกั คุณธรรมและจรยิ ธรรม
3. เบญจศลี และคุณธรรม 9 ประการ
4. คณุ ธรรมในการครองเรือน
5. ทิศ 6 ปัจฉิมทิศ
การจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้
จดั ใหม้ กี ารค้นคว้าหาความรู้ จากสื่อเอกสาร ตำรา การระดมความคดิ สือ่ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ภมู ปิ ญั ญา แหลง่
วชิ าการ การทำโครงงาน การจดั กลุ่มอภิปรายแลกเปล่ียนเรยี นรู้ การวิเคราะห์ สถานการณ์จำลอง การสรปุ ผลการ
เรียนรู้และนำเสนอในรปู แบบตา่ ง ๆ
การวัดและประเมินผล
1.สังเกตการเข้ารว่ มกิจกรรม
2.ตรวจงานท่ีมอบหมาย
3.การสังเกตพฤติกรรมการประเมินการมีสว่ นร่วมในการทากจิ กรรมของผ้เู รยี น
5.การตรวจผลงานแบบทดสอบ
หลักสตู รการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ระดับ มัธยมศึกษาตอนต้น 154
รายละเอียดคำอธิบายรายวชิ า สค 23031 คุณธรรมในการดำเนนิ ชวี ติ
ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 3 หน่วยกติ
มาตรฐานการเรียนร้รู ะดับ
มีความรู้ ความเขา้ ใจ เห็นคุณคา่ และสืบทอดศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี และประเทศไทย
ท่ี หัวเร่ือง ตวั ชวี้ ัด เนอื้ หา จำนวน
1 ความหมายและ -มีความรู้ ความเข้าใจ บอก (ช่ัวโมง)
1. ความหมายของคุณธรรม จริยธรรม 18
หลักการของคณุ ธรรม ความหมายของคุณธรรม 2.ลักษณะของผู้ท่มี คี ุณธรรมจริยธรรม
จรยิ ธรรม จริยธรรมได้ 3.ปัญหาและสาเหตขุ องการขาด
คุณธรรม จรยิ ธรรม
4.ประโยชน์ของคุณธรรม จรยิ ธรรม
2 การดำเนินชวี ติ ตาม -มีความรู้ ความเขา้ ใจในการ 1.คุณธรรมเพ่อื การอยรู่ ว่ มกนั 24
หลกั คุณธรรมและ ดาเนนิ ชีวติ ตามหลักคณุ ธรรม 2.รูปแบบของการดาเนินชวี ติ
จริยธรรม และจริยธรรมและนาความรู้ 3.การดาเนนิ ชีวติ ตามแนวพทุ ธธรรม
ไปปรับใช้ในชวี ิตประจาวันได้
3 เบญจศีลและคณุ ธรรม -มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ 1. ความหมายความสำคญั ของเบญจ 24
9 ประการ ความสำคญั ของเบญจศีลและ ศีลและคุณธรรม 9 ประการ
คุณธรรม 9 ประการ 2.องคป์ ระกอบของคณุ ธรรม 9
ประการ
4 คุณธรรมในการครอง -มีความรู้ ความเขา้ ใจเรอ่ื ง 1.คุณธรรมในการครองเรือน 24
เรอื น คณุ ธรรมในการครองเรือน 2.สมชีวธิ รรม 4
และนำความรู้ไปปรับใชใ้ น 3.ฆราวาสธรรม 4
ชวี ติ ประจำวันได้
5 ทิศ 6 ปัจฉมิ ทศิ -มคี วามรู้ ความเข้าใจเรื่องทิศ 1.ทิศ 6 ปัจฉมิ ทิศ 30
6 ปัจฉมิ ทิศ 2.ความรบั ผิดชอบของสมาชกิ ใน
นำความรทู้ ไี่ ด้รบั มาปรบั ใชใ้ น ครอบครัว
ชีวติ ประจำวันได้ 3.การสรา้ งประชาธิปไตยในครอบครวั
4.การวางแผนเลย้ี งดูสมาชกิ ใน
ครอบครัว
4.คณุ ธรรมจริยธรรมเพ่ือการอยู่
รว่ มกัน
หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น 155
คำอธิบายรายวิชาวชิ าเลอื ก
รายวชิ าเลือก
สาระการพัฒนาสงั คม
มาตรฐานท่ี รหัสวชิ า ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น หนว่ ยกติ
5.1 3
รายวชิ า
การจัดการภยั พบิ ัติทางธรรมชาติ
หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับ มัธยมศกึ ษาตอนต้น 156
คำอธบิ ายรายวิชา สค…………………. การจัดการภัยพบิ ัติทางธรรมชาติ
สาระการพัฒนาสงั คม ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้
จำนวน 3 หนว่ ยกติ (120 ช่ัวโมง)
มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดับ
มคี วามรู้ ความเขา้ ใจตระหนัก เกย่ี วกบั ภูมศิ าสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง
การปกครองในโลกและนำมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตเพื่อความมน่ั คงของชาติ
ศึกษาและฝึกทักษะเกยี่ วกับเร่ืองตอ่ ไปนี้
ความหมายและความสำคญั ของภยั พิบตั ิ ประเภทของภัยพิบัตทิ ่เี กิดข้ึนในระดับโลก ประเทศ
จังหวัด/ชุมชน การจัดการภยั พิบัติที่เกิดขนึ้ ในโลก ประเทศ จังหวัด/ชุมชน การฝกึ ทักษะ
กระบวนการจดั การภัยพิบัติดว้ ยตนเอง การจดั ทำสารสนเทศเผยแพรค่ วามรูเ้ กยี่ วกบั ภัยพบิ ัติ
การจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้
1. ศึกษาคน้ คว้าความรู้เกยี่ วกบั ภยั พิบตั แิ ละการจดั การภัยพบิ ตั จิ ากสื่อตา่ ง ๆ
2. การฝึกปฏิบัติจริง
3. สรุปองคค์ วามรู้ท่ีไดจ้ ากการศกึ ษา
4. จัดทำสารสนเทศองค์ความรูใ้ หม่
5. เผยแพรค่ วามรู้
การวดั ผลประเมินผล
1. ประเมนิ ผลจากการทดสอบความรู้
2. ประเมินผลจากการฝึกทักษะในการปอ้ งกันและแก้ปัญหาภัยพบิ ัตดิ ้วยตนเอง
3. ประเมนิ ผลจากการเผยแพรอ่ งค์ความรู้ในชุมชน
หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น 157
คำอธิบายรายวชิ า สค………………. การจดั การภัยพบิ ตั ิทางธรรมชาติ
สาระการพฒั นาสงั คม ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น
จำนวน 3 หนว่ ยกิต (120 ช่ัวโมง)
มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ
มีความรู้ ความเขา้ ใจตระหนัก เกย่ี วกับภมู ศิ าสตรป์ ระวตั ศิ าสตร์เศรษฐศาสตร์การเมอื งการ
ปกครองในโลกและนำมาปรบั ใช้ในการดำเนนิ ชีวิตเพอ่ื ความมนั่ คงของชาติ
ท่ี หัวเรื่อง ตวั ชว้ี ัด เนื้อหา จำนวน
1. ความหมายและ 1. อธิบายความหมายและ 1. ความหมายของภัยพบิ ัติ (ชั่วโมง)
10
ความสำคญั ของภยั ความสำคญั ของภัยพบิ ตั ิได้ 2. ความสำคญั ของภัยพิบัติ
พบิ ัติ
2. ประเภทของภัย บอกประเภทของภยั พิบัตทิ ่ี ประเภทของภัยพิบัตทิ ี่ 10
พบิ ัติท่ีเกดิ ข้ึนใน เกิดขึน้ ในโลก ในประเทศ เกดิ ขน้ึ ในโลก ในประเทศ
ระดบั โลก ระดบั ไทยในจังหวดั และในชมุ ชน ไทยในจงั หวดั และในชุมชน
จังหวัด และระดับ
ชมุ ชน
3. การจัดการภยั พบิ ตั ิ 1. อธบิ ายสาเหตุของการ 1. สาเหตุของการเกดิ ภยั 30
ทีเ่ กดิ ขึน้ ในโลก เกิดภยั พิบตั ิแต่ละชนดิ พบิ ัตแิ ต่ละชนดิ
ประเทศ จังหวัด/ 2. อธิบายผลกระทบที่ 2. ผลกระทบที่เกดิ ข้ึนจาก
ชุมชน เกดิ ข้ึนจากภยั พิบัติ ภัยพิบัติ
3. อธบิ ายวิธีการเตรียม 3. วิธกี ารเตรยี มรบั มอื และ
รบั มือและป้องกนั ภัยพบิ ตั ิท่ี ป้องกนั ภัยพิบัติทีเ่ กิดขึ้นหรอื
เกดิ ขนึ้ หรืออาจเกดิ ขน้ึ ใน อาจเกิดขน้ึ ในจังหวัด/ชุมชน
จงั หวัด/ชมุ ชน 4. วธิ ีการหลกี เลี่ยงอันตราย
4. บอกวธิ ีการหลกี เล่ียง ทเี่ กิดขึน้ จากภยั พิบตั ิ
อนั ตรายที่เกดิ ขน้ึ จากภัย 5. การบรรเทาผลกระทบ
พบิ ตั ิ 6. การฟืน้ ฟูบรู ณะ และการ
5. อธบิ ายการบรรเทา พัฒนา
ผลกระทบ
6. บอกการฟน้ื ฟบู ูรณะและ
การพฒั นา
หลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น 158
จำนวน
ท่ี หวั เรื่อง ตวั ชว้ี ัด เน้อื หา (ช่วั โมง)
4. การฝกึ ทกั ษะ
1. ทักษะกระบวนการ 1. ทักษะกระบวนการจัดการ 50
กระบวนการจัดการ จดั การภยั พบิ ัติดว้ ยตนเอง ภยั พิบตั ดิ ้วยตนเอง
ภัยพบิ ัติด้วยตนเอง 2. จดั ทำแผนการจดั การภัย 1.1 การจัดทำแผนจัดการภัย 20
และการรวมกลมุ่ พิบตั ิในระดบั ชมุ ชนร่วมกนั พิบตั ริ ะดับชมุ ชน
ระหวา่ งสถานศึกษา 1.2 เครอื ข่ายจัดการภยั พบิ ตั ิ
5. การจัดทำ ภาคีเครอื ข่ายในชุมชน 2. การปฏิบตั กิ ารจัดการภยั
สารสนเทศ 3. สรุปผลการดำเนนิ งาน พบิ ัติภาคสนาม
เผยแพร่ความรู้ ปฏบิ ตั ิการจดั การภัยพิบัติ 3. องค์ความรู้ทไ่ี ด้จากการ
เกย่ี วกับภยั พบิ ัติ และองคค์ วามรู้ ฝึกปฏิบัติการจัดการภยั พิบตั ิ
1. ผลิตสอ่ื เอกสารที่ใช้ ความรู้เกี่ยวกบั การจดั การ
เผยแพรค่ วามร้เู กย่ี วกบั ภยั ภัยพิบัตใิ นระดับจังหวัดและ
พบิ ตั ิ ชมุ ชน
2. อธิบายให้บุคคลอน่ื หรอื ผู้
ท่อี ยู่นอกพ้ืนที่เข้าใจปัญหา
ภยั พบิ ตั ิในจงั หวัด /ชุมชน
หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น 159
คำอธบิ ายรายวชิ าวิชาเลือก
รายวิชาเลอื ก
สาระการพฒั นาสังคม
มาตรฐานที่ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น
5.1
รหัสวิชา รายวิชา หน่วยกติ
3
สค23019 แหลง่ ท่องเทยี่ วท่ีสำคญั ของจงั หวดั สุโขทัย
หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ระดับ มัธยมศกึ ษาตอนต้น 160
คำอธิบายรายวิชา สค23019 แหลง่ ท่องเทย่ี วท่ีสำคญั ของจงั หวัดสโุ ขทยั
ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้
จำนวน 3 หนว่ ยกิต (120 ชั่วโมง)
มาตรฐานการเรียนรู้ระดับ
มีความรู้ ความเขา้ ใจตระหนักเหน็ คุณคา่ เก่ยี วกบั แหลง่ ทอ่ งเทย่ี วที่สำคญั ของจงั หวดั สโุ ขทัย และนำมาปรับใช้
ในการดำเนินชีวิต
ศึกษาและฝึกทักษะเกยี่ วกบั เรือ่ งต่อไปนี้
1. แหล่งทอ่ งเทยี่ วเชงิ ประวตั ศิ าสตรจ์ ังหวัดสโุ ขทัย
2. แหล่งทอ่ งเท่ยี วเชงิ อนุรกั ษธ์ รรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม
การจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้
ให้ผเู้ รยี นไปศึกษาเอกสาร ค้นคว้า ทางอินเตอรเ์ น็ต ศึกษาจากหน่วยงาน แหลง่ วิชาการทเี่ กย่ี วข้อง จัดกลมุ่
อภปิ รายแลกเปลย่ี นเรียนรใู้ นประเด็น ทเ่ี กยี่ วกับแหล่งท่องเที่ยวสำคญั ในจังหวดั สโุ ขทัย
การวดั และประเมนิ ผล
จากรายงาน การปฏิบัติงานกลุ่ม การมีส่วนร่วมนำเสนอ อธิบายกลุ่ม ถา่ ยทอดความรู้ซ่งึ กันและกนั
หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ระดับ มัธยมศกึ ษาตอนต้น 161
รายละเอยี ดคำอธิบายรายวิชา สค23019 แหล่งทอ่ งเทยี่ วท่ีสำคัญของจังหวัดสโุ ขทัย
ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น
จำนวน 3 หนว่ ยกิต (120 ช่ัวโมง)
มาตรฐานการเรียนรู้ระดบั
มีความรู้ ความเขา้ ใจตระหนัก เกี่ยวกบั แหลง่ ท่องเท่ียวทสี่ ำคญั ของจงั หวัดสุโขทัย และนำมาปรบั ใช้ในการ
ดำเนนิ ชวี ติ
ท่ี หวั เรื่อง ตัวชวี้ ัด เนื้อหา จำนวน
1 แหล่งท่องเทย่ี วเชิง
1. อธิบายประวตั ิศาสตรส์ มยั 1. ประวตั ศิ าสตรจ์ ังหวดั สุโขทัย (ชัว่ โมง)
80
ประวัติศาสตร์ สุโขทยั ได้ 2. อทุ ยานประวตั ิศาสตร์สโุ ขทยั
จังหวดั สโุ ขทัย 2. อธบิ ายลักษณะสำคัญของ 3. อทุ ยานประวัติศาสตรศ์ รสี ัชนาลยั
แหลง่ ทอ่ งเทีย่ วในจงั หวดั
สุโขทยั ได้
3. ปฏิบตั ิตนเตรยี มความพร้อม
ในการทอ่ งเทยี่ วเชิง
ประวตั ิศาสตรไ์ ดอ้ ย่างถกู ต้อง
2 แหล่งทอ่ งเท่ยี วเชงิ 1. อธิบายลักษณะของแหล่ง 40
อนรุ กั ษ์ธรรมชาติและ
ส่งิ แวดลอ้ ม ท่องเท่ยี วเชงิ อนุรกั ษ์
ธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม 1 อุทยานแห่งชาตริ ามคำแหง
ของจงั หวัดสุโขทัยได้ 2 อทุ ยานแหง่ ชาติศรีสัชนาลัย
2. ปฏิบัติตนเตรยี มความพรอ้ ม 3 วนอทุ ยานถำ้ ลม ถ้ำวัง
ในการท่องเทีย่ วเชิงอนุรกั ษ์ 4 เขตรกั ษาพนั ธส์ุ ัตวป์ า่ ถ้ำเจ้าราม
ธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มได้ 5 เขอ่ื นสรดี ภงส์
อย่างถกู ตอ้ ง
3. อธบิ ายทีม่ าและความหมาย
ของชื่อสถานทท่ี อ่ งเทย่ี วเชิง
อนุรักษ์ธรรมชารติและ
สง่ิ แวดล้อมได้
4. อธิบายลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ
พรรณไม้และสัตว์ป่าในแหลง่
ทอ่ งเที่ยวไดอ้ ย่างถกู ต้อง
หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น 162
กิจกรรมพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ
กิจกรรม พฒั นาคณุ ภาพชวี ติ หรือ กพช. เป็นกจิ กรรมทส่ี ง่ เสรมิ สนับสนนุ ใหน้ ักศึกษาเปน็ ผรู้ ูจ้ ักคดิ รูจ้ ัก
ทำ เป็นผคู้ ิดเป็น ทำเป็น และแก้ปญั หาเป็น โดยนกั ศกึ ษาสามารถเลือกทำกิจกรรมพฒั นาคณุ ภาพชีวติ ได้ตามความ
สนใจ หรือความถนัด เนน้ การนำความรู้ ทักษะ และประสบการณท์ ี่ไดจ้ ากการศึกษาเรยี นรูไ้ ปสกู่ ารปฏบิ ตั ิที่
สอดคลอ้ งกับวถิ ี ชวี ติ เพือ่ พฒั นาตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน สงั คม และส่งิ แวดลอ้ ม รวมถึงมีการปลูกฝงั คุณลักษณะ
อันพงึ ประสงค์ ในแตล่ ะระดบั การศึกษาจะต้องปฏบิ ัตกิ ิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวติ รวมแลว้ ไม่น้อย กวา่ 200 ช่วั โมง
โดยมีขอบข่ายเน้อื หาท้งั ในภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ
องคป์ ระกอบกิจกรรมพฒั นาคณุ ภาพชีวติ ประกอบด้วย
1. ความรูพ้ ืน้ ฐาน เป็นกจิ กรรมการเรยี นรู้ทมี่ ขี อบขา่ ยเนื้อหาเกยี่ วกับ
- โครงสรา้ งและประโยชนข์ อง กพช.
- แนวทางการพัฒนาตนเอง ครอบครวั ชุมชน สังคม
- กระบวนการกลุ่ม
- กระบวนการคิดเปน็ ทำเป็น แกป้ ญั หาเป็น และการนำไปใช้ในการดำเนินชีวิต
- การประสานเครอื ข่าย
- การเปน็ ผนู้ ำ ผูต้ าม
- การวางแผน และประโยชน์ของการวางแผน
- มนุษยสัมพนั ธ์
- การเขียนโครงการ
2. กิจกรรมโครงการ เป็นกจิ กรรมการเรยี นรทู้ ี่ใหผ้ ้เู รยี นไดล้ งมือปฏิบัตจิ ริงในการทำกจิ กรรม โครงการท่เี กี่ยวกับการ
พัฒนาตนเอง ครอบครวั ชุมชน และสงั คม
ลกั ษณะกจิ กรรมพฒั นาคุณภาพชวี ติ แบ่งเปน็ 2 ประเภท ดงั น้ี
1. กจิ กรรมการเรยี นร้ทู ี่มุง่ เน้นการพัฒนาทกั ษะชวี ิตของตนเองและครอบครวั โดยใชก้ ระบวนการเรยี นรู้แบบ
มสี ่วนร่วมของผเู้ รียน และต้องพิจารณาในประเดน็ สำคัญๆ ดงั น้ี
- ประโยชนท์ ่ตี นเอง ครอบครวั ไดร้ บั ซง่ึ เปน็ กิจกรรมท่สี ามารถสร้าง/พฒั นาทักษะการดำเนนิ ชีวติ ใหต้ นเอง /
ครอบครัวอยู่ไดอ้ ย่างมีความสขุ
- การมสี ่วนรว่ มของผู้เรยี นและครอบครัว เป็นกจิ กรรมที่ดำเนนิ การแลว้ ผเู้ รยี นและครอบครัวเห็นความสำคัญ
และให้ความร่วมมอื
- การใช้กระบวนการกล่มุ เปน็ กิจกรรมทีท่ ำใหเ้ กิดความร่วมมอื ในการดำเนนิ งาน มีการประสานงาน ความ
รบั ผิดชอบ เสยี สละ และจิตบรกิ าร
หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น 163
- ความเหมาะสมในการใชร้ ะยะเวลาในการปฏิบตั ิงานตามโครงการ
- ปจั จยั ท่ีเออ้ื ตอ่ ความสำเร็จ ไดแ้ ก่ ความรู้ แหลง่ ข้อมูล วัสดุ งบประมาณและการเลือกใชท้ รัพยากรได้อย่าง
เหมาะสม ประหยัด
- ความคิดรเิ ร่มิ สร้างสรรค์ เป็นการคดิ สงิ่ ใหมๆ่ ท่เี ปน็ ประโยชนต์ ่อการพฒั นาตนเองและครอบครวั
2. กิจกรรมการเรียนร้ทู ี่มุ่งเนน้ การพฒั นาชุมชนและสังคม โดยใช้กระบวนการมีสว่ นรว่ มของชมุ ชน และพิจารณา
ในประเดน็ สำคญั ๆ ดงั น้ี
- ประโยชนท์ ชี่ มุ ชนและสังคมจะได้รบั หรอื บรกิ ารทชี่ ่วยเสรมิ หรอื พัฒนาคุณภาพชีวติ ทางด้านเศรษฐกจิ สังคม
การเมือง การปกครอง ตลอดจนสนับสนุนการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั และอ่นื ๆ ทีต่ อบสนอง
นโยบายการพฒั นาประเทศ
- การมีส่วนรว่ มของคนในชมุ ชน เปน็ กิจกรรมที่ดำเนินการแลว้ คนในชมุ ชนเหน็ ความสำคัญและให้ความรว่ มมอื
ทงั้ ด้านความคิด แรงงาน วัสดอุ ปุ กรณ์ และอ่ืนๆท่ีเกย่ี วขอ้ ง
- การใช้กระบวนกลุ่ม เปน็ กจิ กรรมทีท่ ำให้เกดิ ความร่วมมอื ในการทำงาน เสยี สละ จิตบรกิ ารตามวิถี
ประชาธปิ ไตย
- การใช้ระยะเวลาในการปฏบิ ตั งิ าน เปน็ กิจกรรมท่ใี ช้ระยะเวลาในการปฏบิ ตั ิงานให้มีความเหมาะสมกบั
กจิ กรรมโครงงานทีน่ ำเสนอ
- ปจั จยั ทเ่ี อ้ือตอ่ ความสำเร็จในการจัดกิจกรรม เช่น บุคคลากร วัสดุ งบประมาณ และการใชท้ รพั ยากรทีม่ อี ยู่
ในชุมชนให้เปน็ ไปอย่างประหยดั และประยกุ ตใ์ ช้อยา่ งเหมาะสม
- มีความคดิ ริเรมิ่ สร้างสรรค์ เปน็ การคดิ ส่งิ ใหมๆ่ ทเี่ ปน็ ประโยชนแ์ ละทำให้เกดิ การพฒั นาไดอ้ ย่างต่อเน่ืองและ
อย่างยง่ั ยนื
ขั้นตอนการดำเนนิ กจิ กรรมพฒั นาคุณภาพชีวิต มีข้ันตอนดงั นี้
1. ผู้เรยี นลงทะเบียนกจิ กรรมพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ (แบบ กพช 1)
2. ผ้เู รียนดำเนนิ การตามโครงการ พร้อมท้ังบันทกึ กิจกรรม หรอื การปฏิบัตงิ านเป็นรายบุคคล
3. ผู้เรยี นจดั ทำเอกสารรายงานผลการดำเนนิ งานตามโครงการส่งเมอ่ื สน้ิ สดุ โครงการ
เกณฑ์การผ่านกิจกรรมพฒั นาคุณภาพชีวิต
1. ผู้เรียนตอ้ งเขา้ ร่วมกจิ กรรมพฒั นาคุณภาพชวี ิตและปฏิบตั ิโครงการไม่นอ้ ยกว่า 200 ช่ัวโมง
2. โครงการต้องบรรลุวัตถุประสงค์ โดยมีช้ินงาน ร่องรอย และหรือเอกสารรายงาน
3. เกณฑ์การพิจารณาตดั สินการประเมนิ โครงการพฒั นาคุณภาพชวี ิตผ้เู รียนต้องได้คะแนนรวมไมน่ อ้ ยกวา่
70 จึงจะถอื ว่า “ผา่ น”
หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ระดับ มัธยมศึกษาตอนต้น 164
การจดั หลักสูตรสถานศึกษาของกศน. อำเภอสวรรคโลก
การจัดหลกั สตู รสถานศกึ ษาของกศน.อำเภอสวรรคโลก ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ สอดคลอ้ งกบั ปรัชญา
วิสัยทัศน์ พันธกจิ ของสถานศกึ ษา และปรชั ญา วิสัยทศั น์ พนั ธกจิ ของหลักสูตรมัธยมศกึ ษาตอนต้น ของ
หลักสูตรสถานศกึ ษา เพื่อตอบสนองความตอ้ งการของผูเ้ รยี น ชุมชน สงั คม ซึง่ โครงสร้างของหลกั สูตรมคี วาม
หลากหลายสอดคล้องกบั กล่มุ เป้าหมาย
ผ้เู รยี นสามารถเลือกเรยี นวชิ าเลอื กไดต้ ามความต้องการ ซง่ึ ให้ครบตามจำนวนหนว่ ยกิตตามจำนวนท่ี
กำหนดในระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ โดยในระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ เรยี นไม่นอ้ ยกวา่ 76 หนว่ ยกติ แบ่งเป็นวชิ า
บงั คบั 44 หนว่ ยกิต และวชิ าเลือกไม่น้อยกวา่ 32 หนว่ ยกติ
ผเู้ รียนทกุ คนต้องเรียนใหค้ รบถ้วนตามโครงสรา้ งของหลกั สตู รการจัดการเรียนรู้ในระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้
ตอ้ งมีการจัดทำโครงงาน จากรายวชิ าเลือก อย่างนอ้ ย 3 หน่วยกติ และในการจัดการเรยี นรู้ สามารถัดได้ทั้ง
รายบุคคลหรอื รายกลมุ่ ทง้ั น้ี การวางแผนจัดการเรยี นร้ใู ห้ผเู้ รียนลงทะเบียนเรียนในแตล่ ะภาคเรยี น
วธิ กี ารจดั การเรยี นรู้
1. วิธีการจดั การเรยี นรู้
การศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาขนั้ พืน้ ฐานมีวิธีการจดั การเรียนร้ทู ่ีหลากหลายดังนี้
1) การเรยี นรู้ด้วยตนเอง เป็นวิธีการจัดการเรยี นรู้ทผ่ี ู้เรยี นกำหนดแผนการเรยี นรขู้ องตนเอง
ตามรายวชิ าท่ีลงทะเบยี นเรียน โดยมีครูเปน็ ท่ีปรึกษาและให้คำแนะนำในการการศึกษาหาความรดู้ ว้ ยตนเอง ภูมิ
ปัญญา ผรู้ ู้ และส่ือต่าง ๆ
2) การเรยี นร้แู บบพบกลุม่ เป็นวธิ กี ารจัดการเรียนร้ทู ี่กำหนดใหผ้ เู้ รียนมาพบกนั โดยมีครู
เป็นผ้ดู ำเนินการให้เกดิ กระบวนการกลุ่ม เพื่อใหม้ ีการอภปิ รายแลกเปล่ยี นเรียนรู้ และหาขอ้ สรุปร่วมกัน
3) การเรยี นร้แู บบทางไกล เป็นวธิ ีการจัดการเรยี นรู้จากสื่อต่าง ๆ โดยท่ผี ู้เรียนและครจู ะ
สือ่ สารกันทางส่ืออิเลก็ ทรอนกิ สเ์ ป็นส่วนใหญ่ หรือถา้ มคี วามจำเป็นอาจพบกันเปน็ คร้ังคราว
4 ) การเรียนรู้แบบชั้นเรียน เป็นวิธีการจัดการเรยี นร้ทู ี่สถานศกึ ษากำหนดรายวชิ า เวลาเรยี น
และสถานที่ ที่ชัดเจน ซงึ่ วิธกี ารจัดการเรยี นร้เู หมาะสำหรบั ผู้เรียนที่มเี วลามาเขา้ ชน้ั เรยี น
5 ) การเรยี นรู้ตามอัธยาศยั เป็นวธิ กี ารจัดการเรียนรู้ท่ผี เู้ รยี นสามารถเรยี นรไู้ ด้ตามความ
ต้องการ และความสนใจ จากสอ่ื เอกสาร สอื่ อิเลก็ ทรอนิกส์ หรือจากการฝึกปฏิบตั ติ ามแหล่งเรยี นรูต้ ่าง ๆ
แลว้ นำความรแู้ ละประสบการณม์ าเทยี บโอนเข้าสู่หลกั สตู รการศึกษานอกระบบ ระดบั การศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน
พุทธศักราช 2551
6 ) การเรยี นรู้จากการทำโครงงาน เปน็ วิธีการจดั การเรียนรูท้ ่ผี เู้ รียนกำหนดเร่อื งโดยสมคั รใจ
หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น 165
ตามความสนใจ ความต้องการ หรอื สภาพปญั หา ทจี่ ะนำไปส่กู ารศกึ ษาคน้ คว้า ทดลอง ลงมือปฏิบัตจิ ริง และมีการ
สรุปผลการดำเนินการตามโครงการ โดยมีครูเปน็ ผ้ใู ห้คำปรกึ ษา แนะนำ อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ และ
กระตุ้นเสริมแรงใหเ้ กดิ การเรียนรู้
7 ) การเรยี นรู้รูปแบบอนื่ ๆ สถานศกึ ษาสามารถออกแบบวิธกี ารจดั การเรยี นรใู้ นรูปแบบ
อื่นๆ ได้ตามความตอ้ งการของผเู้ รยี น
การจดั กระบวนการเรียนรู้
การจดั กระบวนการเรียนรตู้ ามหลักสตู รการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551
มุ่งพัฒนาใหผ้ เู้ รยี นส่คู วามเป็นคน “คดิ เป็น” โดยเน้นพัฒนาทกั ษะการแสวงหาความรู้ ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้ และสรา้ ง
องคก์ รความร้สู ำหรบั ตนเอง และชุมชน สังคม ซึง่ กำหนดการจดั กระบวนการเรียนรู้ กศน. หรอื ONIE MODEL ซ่งึ
เปน็ กระบวนการเรยี นรู้ทจ่ี ดั ข้ึนอยา่ งเป็นระบบตามปรัชญา “คดิ เปน็ ” ประกอบดว้ ย 4 ขน้ั ตอน ดงั น้ี
ขนั้ ที่ 1 กำหนดสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ (O: Orientation)
ขนั้ ท่ี 2 แสวงหาขอ้ มูลและจัดการเรียนรู้ (N: New ways of learning)
ขัน้ ที่ 3 ปฏบิ ัตแิ ละนำไปประยุกต์ใช้ (I: Implementation)
ขน้ั ท่ี 4 ประเมินผลการเรียนรู้ (E: Evaluation)
ขั้นที่ 1 กำหนดสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ (O: Orientation)
เปน็ การเรียนรูจ้ ากสภาพ ปญั หา หรือความต้องการของผู้เรียน และชุมชน สังคม โดยให้เชอ่ื มโยงกบั
ประสบการณ์เดิม และสอดคล้องกบั มาตรฐานการเรยี นรขู้ องหลกั สตู ร
ขัน้ ตอนการเรยี นรู้
1) ครูและผูเ้ รยี นรว่ มกันกำหนดสภาพ ปัญหา ความต้องการในการเรียนรู้ ซงึ่ อาจจะได้มาจากสถานการณ์
ในขณะนัน้ หรือเป็นเร่อื งทีเ่ กิดขนึ้ ในชวี ิตจรงิ หรือเป็นประเด็นทก่ี ำลังขัดแยง้ และกำลงั อย่ใู นความสนใจของชุมชน
ซงึ่ จะชว่ ยกระตนุ้ ใหผ้ ้เู รยี นกระตือรือรน้ ท่คี ิดจะหาทางออกของปัญหา หรือความตอ้ งการนนั้ ๆ
2) ทำความเขา้ ใจกับสภาพ ปัญหา ความต้องการในส่ิงท่ีตอ้ งการเรยี นรู้ โดยดึงความรู้และ
ประสบการณเ์ ดมิ ของผู้เรียน เน้นการมสี ว่ นรว่ ม มกี ารแลกเปล่ยี นเรยี นรสู้ ะทอ้ นความคิดและอภปิ รายโดยให้
เชอื่ มโยงกบั ความรู้ใหม่
3) วางแผนการเรยี นรทู้ ีเ่ หมาะสม โดยกจิ กรรมการเรียนรู้ท่กี ำหนดสามารถมองเห็นแนวทางในการ
คน้ พบความรูห้ รอื คำตอบไดด้ ้วยตนเอง
หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับ มัธยมศึกษาตอนต้น 166
ข้ันที่ 2 ข้นั แสวงหาข้อมูลและจัดการเรียนรู้ (N: New ways of learning)
การแสวงหาข้อมูล และจดั การเรยี นรู้ โดยศึกษา ค้นควา้ หาความรู้ และรวบรวมขอ้ มูลของตนเอง ข้อมูล
ของชมุ ชน สงั คม และขอ้ มูลทางวิชาการ จากสอ่ื และแหล่งเรียนร้ทู ีห่ ลากหลายมีการระดมความคิดเห็น วเิ คราะห์
สงั เคราะหข์ ้อมูล และสรปุ เปน็ ความรู้
ขนั้ ตอนการเรยี นรู้
1) ผู้เรียนแสวงหาความรู้ตามแผนการเรยี นรู้ท่ีกำหนดไว้ โดยเนน้ การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง การเรียนรผู้ า่ น
ประสบการณ์ กระบวนการกลุม่ ศกึ ษาจากผู้รู้ /ภูมปิ ัญญาและวิธีอนื่ ๆ ท่เี หมาะสม
2) ครูและผเู้ รยี นร่วมกนั แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และสรปุ ความรเู้ บ้อื งตน้ โดยใช้คำถามปลายเปดิ ในการชวน
คดิ ชวนคยุ เป็นเครื่องมือ ดว้ ยกระบวนการการระดมสมอง สะท้อนความคิดและอภิปราย
3) ผูเ้ รยี นนำความรู้ที่ไดไ้ ปตรวจสอบความถกู ต้อง เพ่อื ประเมนิ ความเปน็ ไปได้โดยวธิ ีต่าง ๆ เช่น การ
ทดลอง การทดสอบ การตรวจสอบกับผรู้ ู้
ขัน้ ท่ี 3 การปฏบิ ัตแิ ลละนำไปประยกุ ต์ใช้ ( I: Implementation)
นำความรู้ท่ีได้ไปปฏบิ ัติ และประยุกตใ์ ช้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เหมาะสมกับวฒั นธรรมและสงั คม
ข้ันตอนการเรียนรู้ ผู้เรยี นปฏบิ ตั ติ ามขัน้ ตอน โดยสังเกตปรากฏการณ์ จดบันทึก และสรปุ ผล เกบ็ รวบรวมไว้ในแฟม้
สะสมงาน ระหว่างดำเนนิ การตอ้ งมีการตรวจสอบหาขอ้ บกพร่อง และรวบรวมไว้ในแฟม้ สะสมงาน
ข้ันท่ี 4 การประเมินผลการเรยี นรู้ (E: Evaluation)
ประเมิน ทบทวน แกไ้ ขข้อบกพรอ่ ง ผลจากการนำความรู้ไปประยกุ ต์ใช้แลว้ สรุปเปน็ ความรใู้ หม่ พร้อมกับ
เผยแพรผ่ ลงานขั้นตอนการเรยี นรู้ ครู และผเู้ รยี นนำแฟ้มสะสมงาน และผลงานทไ่ี ดจ้ ากกการปฏิบัตมิ าใช้เป็น
สารสนเทศในการประเมนิ คณุ ภาพการเรียนรู้
1) ครแู ละผู้เรยี นรว่ มกันสรา้ งเกณฑ์การประเมินคุณภาพการเรยี นรู้
2) ครู ผเู้ รียนและผเู้ ก่ยี วข้องรว่ มกนั ประเมนิ พัฒนาการเรียนรใู้ หเ้ ป็นไปตามเกณฑค์ ุณภาพการเรยี นรู้
การจัดกระบวนการเรียนรู้ ท้งั 4 ข้นั ตอนเปน็ วงจรของกระบวนการเรียนรู้ ตามปรัชญาคดิ เปน็ ซ่งึ
สถานศกึ ษาสามารถปรับใช้ ข้นั ตอนการเรยี นรู้ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมตามสภาพของรายวิชา หรือเงอ่ื นไขอื่น ๆ ตามความ
ตอ้ งการของผเู้ รยี น
สอ่ื การเรยี นรู้
ในการจดั การเรยี นร้เู นน้ ใหผ้ ู้เรยี นแสวงหาความรไู้ ดด้ ว้ ยตนเอง โดยการใช้ส่อื การเรยี นรทู้ ่ี
หลากหลาย ได้แก่ ส่อื สงิ่ พิมพ์ ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ ส่อื บุคคล ภมู ิปัญญา แหลง่ เรยี นรู้ท่ีมอี ยู่ในท้องถิน่ ชุมชนและ
แหล่งเรยี นรู้อ่นื ๆ ผู้เรียน ครู สามารถพฒั นาสือ่ การเรียนร้ขู ้นึ เองหรอื นำสื่อต่าง ๆ ทม่ี อี ยูใ่ กล้ตัวและขอ้ มลู
สารสนเทศที่เกยี่ วขอ้ งมาใชใ้ นการเรียนรู้ โดยใชว้ ิจารณญาณในการเลอื กใช้ส่ือต่าง ๆ ซง่ึ จะช่วยส่งเสริมใหก้ ารเรยี นรู้
หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น 167
เปน็ ไปอย่างมคี ณุ ค่า น่าสนใจ ชวนคดิ ชวนติดตาม เข้าใจง่าย เป็นการากระตุน้ ใหผ้ เู้ รียนร้จู กั วิธกี ารแสวงหา
ความรู้ เกิดการเรียนรู้อยา่ งกวา้ งขวาง ลกึ ซงึ้ และต่อเนอื่ งตลอดเวลา
การเทยี บโอน
สถานศึกษาตอ้ งจัดใหม้ กี ารเทยี บโอนผลการเรียน หรือเทยี บโอนความรู้และประสบการณข์ องผเู้ รยี น ให้
เปน็ ส่วนหน่งึ ของผลการเรยี นตามหลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 โดย
สถานศกึ ษาตอ้ งจดั ทำระเบยี บหรอื แนวปฏบิ ัตกิ ารเทียบโอนให้สอดคลอ้ งกบั แนวทางการเทียบโอนที่สำนักงาน กศน.
กำหนด
การวัดผลและประเมนิ ผล
กศน.อำเภอสวรรคโลก ไดจ้ ัดทำระเบียบวา่ ดว้ ยการประเมนิ ผลการเรียน โดยมแี นวคดิ หลกั การ
ดงั ตอ่ ไปนี้
แนวคดิ
การวัดผลและประเมนิ ผลผ้เู รียน กศน.อำเภอสวรรคโลก ตอ้ งให้มีการวดั ผลขณะจัดการเรยี นรู้โดยวิธีการ
วัดผลต้องหลากหลายวธิ ี เน้นการปฏบิ ตั จิ รงิ สอดคลอ้ งกบั ธรรมชาติรายวชิ า และผลการเรียนรทู้ คี่ าดหวัง ในแตล่ ะ
สาระการเรยี นรแู้ ละวัดผลรวมความสำเร็จเมือ่ เสรจ็ สน้ิ ในแตล่ ะภาคเรยี น โดยยดึ แนวทางตารางการวิเคราะหข์ อง
นักงาน กศน. ตลอดจนสอดคล้องกบั ระดบั การศึกษาของแตล่ ะสาระการเรียนรู้
หลกั การ
1. กศน.อำเภอสวรรคโลก เปน็ ผรู้ บั ผดิ ชอบการวดั และประเมนิ ผลการเรียนของผเู้ รยี น
2. เปดิ โอกาสให้ผู้เกย่ี วขอ้ งมสี ว่ นร่วมในการวดั และประเมนิ ผลการเรยี น
3. ใหม้ ีการประเมินผลการเรยี นเป็นรายวชิ าตามโครงสร้างหลักสตู ร
4. ใหด้ ำเนนิ การวัดผลและประเมินผลการเรยี นรคู้ วบคู่ไปกับกระบวนการจดั กิจกรรมการเรียนร้โู ดยต้อง
ดำเนินการด้วยวิธกี ารและเครือ่ งมอื ท่ีหลากหลาย ใหอ้ ดคล้องกับระดับการศกึ ษาและธรรมชาตริ ายวิชารวมทั้งผล
การเรียนรทู้ ค่ี าดหวัง
5. ต้องเปดิ โอกาสให้มกี ารเทียบโอนผลการเรียนระหวา่ งสถานศึกษาและรปู แบบการศึกษาต่างๆ
6. การวัดและประเมินผลต้องได้มาตรฐานและมคี ุณภาพตามท่หี นว่ ยงานตน้ สงั กัดกำหนด
กรอบการวัดและประเมนิ ผล
3.1 การวดั และประเมินผลรายวิชา กศน.อำเภอสวรรคโลก ตอ้ งดำเนินการวัดและประเมินผล เพ่ือดู
ความกา้ วหนา้ ท้ังด้านความรู้ ทักษะเจตคติ คุณธรรม จรยิ ธรรม ดว้ ยวิธีการท่ีหลากหลาย สอดคลอ้ งกบั ธรรมชาติ
ของรายวชิ า โดยสถานศึกษาหรอื ครเู ปน็ ผดู้ ำเนินการวัดผล นอกจากน้ี กศน.อำเภอสวรรคโลกต้องประเมินผลปลาย
ภาคหรือประเมนิ ผลรวมเป็นไปตามตารางการวเิ คราะห์หลกั สูตรที่สำนกั งาน กศน.กำหนด
หลักสตู รการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับ มัธยมศึกษาตอนต้น 168
เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผลรายวชิ า กำหนดเป็น 8 ระดับ ดังนี้
ใหค้ ะแนนร้อยละ 80 – 100 ใหร้ ะดับ 4 หมายถงึ ดีเย่ียม
ใหค้ ะแนนรอ้ ยละ 75 – 79 ใหร้ ะดับ 3.5 หมายถงึ ดีมาก
ใหค้ ะแนนรอ้ ยละ 70 – 74 ใหร้ ะดับ 3 หมายถึง ดี
ใหค้ ะแนนรอ้ ยละ 65 – 69 ใหร้ ะดบั 2.5 หมายถงึ คอ่ นข้างดี
ใหค้ ะแนนร้อยละ 60 – 64 ใหร้ ะดบั 2 หมายถึง ปานกลาง
ใหค้ ะแนนร้อยละ 55 – 59 ใหร้ ะดับ 1.5 หมายถึง พอใช้
ใหค้ ะแนนร้อยละ 50 – 54 ใหร้ ะดบั 1 หมายถงึ ผ่านเกณฑ์ขัน้ ต่ำทก่ี ำหนด
ใหค้ ะแนนรอ้ ยละ 0 – 49 ใหร้ ะดบั 0 หมายถงึ ตำ่ กว่าเกณฑ์ขนั้ ตำ่ ทก่ี ำหนด
การประเมนิ คณุ ธรรม
กศน.อำเภอสวรรคโลก ต้องแตง่ ตงั้ คณะกรรมการประเมนิ คณุ ธรรมเบ้ืองตน้ โดยยดึ หลักการกระตนุ้
จติ สำนึกและใหม้ กี ารปฏบิ ัตอิ ย่างยัง้ ยืน ด้วยวิธกี ารสอนในระดับรายวชิ าและกจิ กรรมพฒั นาคุณภาพชวี ติ คณุ ธรรม
เพอ่ื การพฒั นาคนที่สำคญั ไดแ้ ก่ ความสะอาด ความ สุภาพ ความกตญั ญกู ตเวที คุณธรรมเพื่อการพฒั นาการ
ทำงาน ไดแ้ ก่ ความขยนั ประหยัด ความซือ่ สัตย์ และคุณธรรมเพอ่ื การพัฒนาการอยรู่ ่วมกันในสงั คมได้แก่
ความสามัคคี ความมีนำ้ ใจ และความมวี ินยั
เกณฑก์ ารประเมนิ เกณฑ์การประเมนิ คุณธรรม มดี งั นี้
ดมี าก หมายถึง ผู้เรียนมพี ฤตกิ รรมตามตวั บ่งชี้ รอ้ ยละ 90 ข้นึ ไป ของพฤตกิ รรมบง่ ชีใ้ นแต่ละคณุ ธรรม
ดี หมายถึง ผเู้ รียนมีพฤติกรรมตามตวั บง่ ช้ี รอ้ ยละ 70-89 ของพฤตกิ รรมบง่ ช้ีในแต่ละคณุ ธรรม
พอใช้ หมายถึง ผเู้ รียนมีพฤตกิ รรมตามตวั บง่ ชี้ ร้อยละ 50-69 ของพฤตกิ รรมบง่ ช้ีในแตล่ ะคุณธรรม
ปรับปรุง หมายถึง ผเู้ รียนมีพฤติกรรมตามตวั บ่งชี้ ร้อยละ 0-49 ของพฤตกิ รรมบง่ ช้ใี นแต่ละคุณธรรม
ระยะเวลาการประเมนิ
ใหด้ ำเนินการประเมินนกั ศกึ ษาเป็นรายบุคคลในระหว่างภาคเรียนและให้สรปุ ผลการประเมนิ ในแต่ละภาค
นำผลการประเมนิ ไปใชใ้ นการพฒั นาคุณธรรมผ้เู รยี นในภาคเรยี นถัดไป และให้ใช้ผลการประเมนิ ในภาคเรียนสุดท้าย
ก่อนจบระดบั การศึกษา ในการนำไปประกอบการศึกษาตอ่ ในระดบั ท่ีสงู ขนึ้
ในกรณีท่นี กั ศกึ ษาย้ายสถานศกึ ษา ให้สถานศึกษาจัดทำรายละเอยี ดผลการประเมนิ ในแต่ละภาคเรยี นแนบ
พร้อมกบั ระเบียนแสดงผลการเรียน
สถานศึกษาพึงแจ้งผลการประเมินในระหวา่ งภาคเรยี นให้นกั ศึกษาทราบถึงระดบั ผลการประเมนิ ท่ตี นเอง
ได้รบั และมีขอ้ เสนอแนะหรอื จดั กิจกรรมใหน้ ักศึกษาได้พัฒนาตนเองใหบ้ รรลุตามเกณฑท์ กี่ ำหนด
หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น 169
การประเมนิ กจิ กรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต
กศน.อำเภอสวรรคโลกต้องประเมนิ กิจกรรมพฒั นาคณุ ภาพชวี ิตท่ีเกิดขึน้ ในผ้เู รียนดา้ นการพฒั นาตนเอง
และครอบครวั และการพัฒนาชุมชนและสงั คม จำนวนไมน่ ้อยกวา่ 200 ช่ัวโมง ในแต่ละระดับการศึกษา โดยผ่าน
การประเมินแบบมีสว่ นรว่ ม
การประเมนิ คุณภาพการศกึ ษานอกรระบบระดบั ชาติ
กศน.อำเภอสวรรคโลกต้องจัดให้ผู้เรียนทุกคน เข้ารบั การประเมินคณุ ภาพศึกษานอกระบบระดบั ชาติ ใน
ภาคเรียนสดุ ท้ายของการศกึ ษามธั ยมศึกษาตอนต้น โดยต้องนำผลการประเมินคณุ ภาพการศกึ ษานอกระบบ
ระดับชาตมิ าปรับปรงุ พัฒนาผเู้ รียน และปรับปรงุ การจัดการเรยี นรู้ของครู
เกณฑก์ ารจบหลกั สตู ร
งานทะเบียนจะออกหลกั ฐานการจบหลกั สตู รให้กับผ้เู รยี นตามเกณฑก์ ารจบหลกั สตู รโดยผเู้ รยี นเรียนครบ
ตามโครงสรา้ งของหลกั สูตรแต่ละระดบั ดงั นี้
1.ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ การเรยี นร้รู ายวิชาในแต่ละระดับการศกึ ษาตามโครงรา้ งหลกั สูตร คือ
1.1 ระดบั ประถมศกึ ษา ไมน่ อ้ ยกว่า 48 หน่วยกิต แบง่ เปน็ วชิ าบังคับ 36 หนว่ ยกติ และวชิ า
เลือก ไม่น้อยกวา่ 12 หนว่ ยกิต
1.2 ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น ไม่น้อยกวา่ 56 หน่วยกิต แบง่ เปน็ วชิ าบังคบั 40 หนว่ ยกิต
และวชิ าเลอื ก ไมน่ ้อยกว่า 16 หน่วยกติ
1.3 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น ไม่นอ้ ยกวา่ 76 หน่วยกติ แบ่งเป็นวิชาบังคบั 44 หน่วยกติ
และวชิ าเลือก ไมน่ อ้ ยกวา่ 32 หน่วยกติ
2. ผ่านเกณฑ์การประเมินกจิ กรรมพัฒนาคุณภาพชวี ิต (กพช.) ไมน่ ้อยกว่า 200 ช่ัวโมง
3. ผา่ นเกณฑ์การประเมินคณุ ธรรมในระดับพอใช้ขนึ้ ไป
4. เข้ารบั การประเมนิ คณุ ภาพการศึกษานอกระบบระดบั ชาติ
5. ผา่ นการทดสอบคอมเบอ้ื งต้น
6. ผ่านการเข้าคา่ ยฯ
7. ผา่ นการประเมินโครงการ
เอกสารหลักฐานการศกึ ษา
กศน.อำเภอสวรรคโลก ใชเ้ อกสารหลกั ฐานการศกึ ษา ได้แก่
1. ระเบียบแสดงผลการเรียน
2. หลกั ฐานแสดงวฒุ กิ ารศึกษา (ประกาศนยี บตั ร) และ
3. แบบรายงานผู้สำเร็จการศกึ ษา
หลักสตู รการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ระดับ มัธยมศกึ ษาตอนต้น 170
นอกจากนี้เอกสารหลักฐานการศกึ ษาอืน่ ๆ กศน.อำเภอสวรรคโลก ต้องจัดทใหส้ อดคล้องกับกิจกรรมหรือ
โครงการตามโครงสรา้ งหลกั สูตรสถานศกึ ษาของกศน.อำเภอสวรรคโลก เช่น
1. บันทึกผลการพฒั นาผเู้ รียน (กศน.4)
2. แบบรายงานสรปุ ผลการเรียน (กศน.5)
3. แบบอนุมัติการจบหลกั สูตร
4. แบบรายงานแสดงผลการเรียนเฉล่ีย (GPA) ของผู้เรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
5. แบบรับรองผลการเรียน (กศน.6)
6. อนื่ ๆ
การบริหารหลกั สูตรสถานศึกษา
กศน.อำเภอสวรรคโลก ต้องมแี ผนการบริหารหลักสูตรสถานศึกษาทเี่ นน้ การบรหิ ารแบบมีส่วนร่วมของ
ผู้เกีย่ วขอ้ งควบคู่กับการบริหารอย่างเป็นระบบ(PDCA) ดงั น้ี
1. ขน้ั วางแผน (Plan) มีกิจกรรมทร่ี ะบุไว้ในแผนดงั นี้
1.1 ระบบร่างหลกั สูตร
1.1.1 รวบรวมข้อมูลทเ่ี ป็นสงิ่ กำหนดหลกั สตู ร
1.1.2 จดั ทำรา่ งหลักสูตรสถานศึกษาภาพรวม
1.1.3 จดั ทำประชาพจิ ารณ์ และปรบั ปรงุ หลกั สูตร
1.1.4 ตรวจสอบคุณภาพหลกั สตู รโดยผเู้ ช่ียวชาญ
1.1.5 จดั ทำหลกั สูตรสถานศึกษาระดับชน้ั เรียน
1) หนว่ ยการเรียนรู้
2) แผนการจดั การเรยี นรู้
1.1.6 ตรวจสอบคุณภาพหลักสตู รสถานศึกษาระดับช้ันเรียน โดยคณะกรรมการ
ตรวจสอบคุณภาพสถานศกึ ษาพร้อมปรับปรุง
1.2 ระบบใชห้ ลักสตู ร
1.2.1 ขออนุมัติใช้หลักสูตรสถานศกึ ษาระดับชน้ั เรยี น
1) ผา่ นความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการสถานศกึ ษา
2) ไดร้ บั การอนมุ ัตจิ ากผู้บริหารสถานศกึ ษาประกาศให้ใช้หลักสูตรสถานศกึ ษา
1.2.2 ประชาสมั พนั ธห์ ลักสตู ร
1.2.3 พัฒนาบคุ ลากร
1.2.4 จัดสรรงบประมาณสนับสนนุ
1) กจิ กรรมในระบบร่างหลกั สตู ร
2) จัดสรรงบประมาณสนับสนุนกจิ กรรมในระบบใชห้ ลกั สูตร
หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น 171
3) จัดสรรงบประมาณสนบั สนนุ กจิ กรรมในระบบประเมนิ ผลหลกั สูตร
1.2.5 จัดเตรยี มวสั ดุ อุปกรณ์ อาคาร สถานที
1.2.6 จัดตารางการพบกลุ่มจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
1.2.7 ดำเนนิ การใชห้ ลกั สูตรสถานศึกษาตามแผน
1.2.8 นิเทศ ติดตาม ตรวจสอบการใชห้ ลักสูตรสถานศึกษา
1.3 ระบบประเมินหลักสตู ร
กิจกรรมในระบบประเมนิ ผลหลักสตู ร
1.3.1 ประเมินเอกสารหลกั สูตร
1) ประเมนิ เอกสารหลกั สูตรระดบั สถานศึกษา (ปีทื่ 3 ของการใช้หลักสูตร
สถานศกึ ษาได้แก่ ปกี ารศกึ ษา 2555)
2) ประเมนิ เอกสารหลกั สูตรระดับชนั้ เรยี น ทกุ ภาคการศึกษา
1.3.2 ประเมนิ ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นของผ้เู รยี นทกุ ภาคเรียน
1.3.3 ประเมินผลผู้สอนทกุ ภาคการศกึ ษา
1.3.4 ประเมนิ การบรหิ ารหลักสตู ร (ผูบ้ ริหารและเจ้าหนา้ ท่ีผรู้ บั ผิดชอบ)
1.3.5 ประเมนิ ติดตามผลเสร็จการศกึ ษาของผูเ้ รียนทีจ่ บไปแล้ว
1.3.6 เกบ็ รวบรวมข้อมูลของข้อ 1.3.1 – 1.3.5
1.3.7 วิเคราะห์ขอ้ มลู
1.3.8 รายงานผลการประเมนิ หลักสตู ร
(1) ประเมินเอกสารหลักสตู ร
(2) ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนของผูเ้ รยี น
(3) ประเมินครู
(4) ประเมินการบรหิ ารหลกั สูตร
(5) ประเมนิ ติดตามผลสำเร็จของผู้เรียนท่จี บไปแล้ว
2. ข้นั ปฏบิ ัติ (Do) ผูบ้ รหิ าร เจา้ หน้าทผี่ รู้ ับผิดชอบ และครู นำแผนและกจิ กรรมทีก่ ำหนดในร่างหลักสูตร
ปฏิบัตติ ามปฏิทนิ ท่กี ำหนดไว้
3.ขน้ั ตรวจสอบคุณภาพ (Chcek) ผู้บริหารหลกั สูตรตดิ ตามนเิ ทศกจิ กรรมทรี่ ะบไุ ว้
4.ขั้นตอนการปรบั ปรุงและพัฒนา (Act) นำขอ้ มลู จากการตรวจอบติดตามมาตรวจอบมาตรฐานการศึกษา