แบบประเมนิ พฤตกิ รรมทักษะชวี ิตของลูกเสอื สําหรับผกู าํ กบั ลูกเสอื
คาํ ชแี้ จง ใหผ ตู อบทาํ แบบประเมนิ ทุกขอ โดยแตละขอใหท าํ เครือ่ งหมาย/ ลงในชองที่ตรงกับความ
เปน จรงิ
2.1 พฤติกรรมลกู เสือสํารองท่คี าดหวัง
รายการประเมนิ ใช ไมใ ช
1. ลูกเสือมีทักษะในการสังเกตและจดจาํ
2. ลกู เสือสามารถพ่ึงตนเองและดูแลตนเองได
3. ลูกเสอื สาํ รองปฏบิ ตั กิ จิ กรรมบําเพ็ญประโยชนร ักษาส่งิ แวดลอ ม
และอนรุ กั ษทรพั ยากรธรรมชาติ
4. ลกู เสอื ไมม ปี ญ หาทนั ตสุขภาพและไมเ จบ็ ปว ยดว ยโรคตดิ ตอ
ตามฤดกู าล
5. ลูกเสอื รูจ ักรกั ษาสุขภาพและปฏเิ สธสง่ิ เสพติด
6. ลูกเสือรจู กั แกป ญ หาเฉพาะหนาหรอื ใหการชวยเหลอื / แจง เหตุเม่ือประสบเหตุ
วิกฤต
7. ลูกเสอื มสี วนสูงและนาํ้ หนกั ตามเกณฑม าตรฐาน
8. ลกู เสอื มที ักษะในการสื่อสารไดถ ูกกาลเทศะและไมกา วรา วรนุ แรง
สรุปแบบการประเมนิ ตนเอง
ฉนั มที กั ษะชีวติ ฉันจะมีทกั ษะชวี ติ ฉนั ตองพัฒนาตนเองอกี มาก
ถาแกไ ขปรับปรงุ พฤตกิ รรม
146 คูมอื การจัดกิจกรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรางทักษะชวี ิต ชั้นมธั ยมศึกษาปท ่ี 3
2.2 พฤติกรรมลูกเสอื สามญั ท่คี าดหวงั
รายการประเมิน ใช ไมใช
1. ลกู เสือมีทักษะในการปฏิบัติกจิ กรรมกลางแจง
2. ลูกเสือรว มกจิ กรรมบาํ เพ็ญประโยชน
3. ลกู เสือชวยตนเองและครอบครวั ได
4. ลูกเสอื ไมมีปญ หาทันตสขุ ภาพ ไมด ืม่ น้ําอดั ลมขนมกรุบกรอบ
ไมร ับประทานขนมหวานเปนประจาํ
5. ลกู เสือรูจกั ใชเ วลาวางใหเ ปนประโยชนแ ละไมติดเกม
6. ลูกเสอื ประพฤตติ นเหมาะสมกบั เพศและวยั มีทกั ษะการสราง
สมั พันธภาพและการสอื่ สารไมก าวรา วรนุ แรง
7. ลูกเสอื แสดงออกถึงความซอื่ สัตย รูจกั แกปญหา หรือใหความ
ชว ยเหลือผูอ ่ืน
8. ลกู เสอื มีนาํ้ หนักและสวนสูงตามเกณฑม าตรฐาน
สรุปแบบการประเมนิ ตนเอง
มีทักษะชวี ติ จะมที ักษะชวี ติ ตองพัฒนาตนเอง ไมแนใจชวี ิต
พรอมเผชญิ แกไขปรบั ปรงุ อีกมาก (มีปญหาแลว )
อยางรอดปลอดภัย
พฤติกรรม (เส่ยี งนะเนย่ี )
เร่อื งทีฉ่ ันจะตอ งปรบั ปรุง
1)..................................................................................................................................................
2)..................................................................................................................................................
3)..................................................................................................................................................
4)..................................................................................................................................................
คมู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรา งทกั ษะชีวิต ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 3 147
2.3 พฤติกรรมลกู เสอื สามญั รนุ ใหญท ค่ี าดหวงั
รายการประเมิน 12
1. ลูกเสอื พฒั นาตนเองใหมีทกั ษะในการทํากจิ กรรมลกู เสือ
ตามความสนใจและไดร ับเคร่อื งหมายวิชาพเิ ศษ
2. ลกู เสือทาํ กิจกรรมบาํ เพญ็ ประโยชนตอ ครอบครวั
สถานศึกษา ชมุ ชน และสงั คม
3. ลูกเสอื ใชเ วลาวางท่เี ปน ประโยชนทํากิจกรรม อนรุ ักษสง เสริมจารีตประเพณี
ศิลปวัฒนธรรมไทย
4. ลกู เสือรเู ทา ทันสื่อโฆษณาและรจู ักใชป ระโยชนจาก Internet
5. ลกู เสือเปลย่ี นแปลงพฤตกิ รรมหรือปรบั ปรงุ และพฒั นาตนเองได
เหมาะสมกับเพศวยั ไมกา วราวรุนแรง
6. ลกู เสือทํากจิ กรรมหรอื โครงการประหยัดพลังงาน/ทรพั ยากร
7. ลกู เสือมกี ารออม หรือทําบญั ชีรายรับ รายจายอยางตอ เนอ่ื ง
8. ลูกเสอื ไมเคยประสบอบุ ตั เิ หตุจากการใชยานพาหนะ
สรุปแบบการประเมินตนเอง
มีทักษะชวี ติ จะมีทกั ษะชวี ติ ตอ งพฒั นาตนเอง ไมแนใ จชวี ิต
พรอมเผชญิ แกไขปรบั ปรงุ อกี มาก (มีปญ หาแลว)
อยา งรอดปลอดภัย
พฤติกรรม (เส่ียงนะเนีย่ )
เรอ่ื งที่ฉันจะตองปรับปรุง
1)..................................................................................................................................................
2)..................................................................................................................................................
3)..................................................................................................................................................
4)..................................................................................................................................................
148 คูม ือการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสริมสรางทกั ษะชวี ติ ช้ันมธั ยมศึกษาปท ่ี 3
2.4 พฤตกิ รรมลูกเสือวสิ ามัญท่ีคาดหวงั
รายการประเมิน ใช ไมใ ช
1. ลกู เสอื ทาํ กิจกรรม/โครงการ ตามความถนดั และความสนใจ
2. ลูกเสอื บรกิ ารผอู น่ื ชว ยเหลือชมุ ชน สังคม และประเทศชาติ
3. ลูกเสือรจู ักวิธปี อ งกนั ความเสีย่ งทางเพศ
4. ลูกเสือใชเวลากบั ส่ือไอทไี ดอยางเหมาะสม
5. ลูกเสอื ตระหนักถึงพิษภยั และหลีกเลยี่ งจากส่ิงยาเสพตดิ
6. ลกู เสือมคี านยิ มสขุ ภาพ ดา นอาหาร และความงามที่เหมาะสม
7. ลกู เสือทาํ งานหารายไดระหวางเรยี น
8. ลูกเสือไมม ีพฤตกิ รรมกา วราวและไมกอ เหตรุ ุนแรง
สรปุ แบบการประเมนิ ตนเอง
มที ักษะชวี ติ จะมีทักษะชวี ติ ตอ งพัฒนาตนเอง ไมแ นใ จชีวิต
พรอ มเผชิญ แกไขปรับปรงุ อีกมาก (มีปญ หาแลว)
อยา งรอดปลอดภัย
พฤตกิ รรม (เสยี่ งนะเนี่ย)
เรื่องทีฉ่ นั จะตอ งปรับปรุง
1)..................................................................................................................................................
2)..................................................................................................................................................
3)..................................................................................................................................................
4)..................................................................................................................................................
คูมอื การจัดกิจกรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสริมสรางทักษะชีวติ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท่ี 3 149
ใบความรู
*การประเมินกจิ กรรมลกู เสือ
1. การประเมินผลการเรยี นรตู ามแนวทางหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน 2551
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน กําหนดใหกิจกรรมลูกเสือเปนกิจกรรมที่มุงปลูกฝง
ระเบียบวินัยและกฎเกณฑเพ่ือการอยูรวมกัน รูจักการเสียสละ บําเพ็ญประโยชนแกสังคมและ
ดําเนินวิถีชีวิตในระบอบประชาธิปไตย ตลอดจนมีทักษะชีวิตเปนภูมิคุมกันปญหาสังคมตามชวงวัย
ของลูกเสอื
การจัดกิจกรรมลูกเสือยังตองเปนไปตามขอบังคับของสํานักงานลูกเสือแหงชาติและ
สอดคลอ งกบั หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐานอีกดว ย
แนวทางการประเมินผลกจิ กรรมลูกเสอื
กิจกรรมลูกเสือเปนกิจกรรมนักเรียนท่ีลูกเสือทุกคนตองเขารวมกิจกรรมลูกเสือ 40 ช่ัวโมง
ตอปการศกึ ษาในระดับประถมศกึ ษาและมธั ยมศึกษา
การประเมินการจัดกิจกรรมลูกเสือตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐานมีประเด็น/ส่ิง
ทตี่ อ งประเมนิ ดงั น้ี
1. เวลาในการเขารวมกจิ กรรม ผูเรียนตอ งมเี วลาเขารว มกิจกรรมตามที่สถานศกึ ษากาํ หนด
2. การเรียนรูผานกิจกรรมหรือการปฏิบัติกิจกรรมอยางตอเน่ือง มุงเนนการพัฒนาศักยภาพ
ของตนและการทาํ งานกลมุ
3. ผลงาน / ช้ินงาน / พฤติกรรม / คุณลักษณะของผูเรียน ท่ีปรากฏจากการเรียนรูหรือการ
เปลี่ยนแปลงตนเอง
*การประเมินผลอาจเขยี นแยกการประเมินผลแตละกิจกรรม หรอื เขยี นรวมในภาพรวมของกจิ กรรมลูกเสอื ก็ได
เอกสารอางอิงกระทรวงศึกษาธิการ. หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551.กรงุ เทพมหานคร :
โรงพิมพชมุ นมุ สหกรณก ารเกษตรแหงประเทศไทย จาํ กัด. 2551
150 คูมอื การจัดกจิ กรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรา งทักษะชีวติ ช้ันมธั ยมศึกษาปท ี่ 3
แนวทางการประเมินผลการเรียนรูกจิ กรรมลกู เสือ
แผนการจัดกิจกรรมลกู เสือ
จดั กจิ กรรมลกู เสอื เกณฑการประเมนิ
ตามคูมอื การจดั กิจการลูกเสือที่ 1. เวลาเขารว มกจิ กรรม
2. การปฏิบตั กิ จิ กรรม
เสรมิ สรางทกั ษะชวี ติ 3. ผลงาน / ชิ้นงาน
4. พฤตกิ รรม/คุณลักษณะ
ประเมนิ ผลการเรียนรู ของลูกเสอื
ผลการประเมนิ ไมผ า น
ซอมเสรมิ
ผา น
ผาน
สรปุ ผลการประเมิน/
ตดั สินผลการเรยี นรู
รายงาน / สารสนเทศ
จดั พธิ ีประดับเคร่อื งหมายลกู เสอื
ตามประเภทลกู เสือ
การประเมนิ กจิ กรรมลูกเสือ มี 2 แนวทาง คือ
1. การประเมินกจิ กรรมลูกเสือรายกจิ กรรมมีแนวปฏบิ ตั ิดงั นี้
1.1 ตรวจสอบเวลาเขารวมกิจกรรมของลูกเสือใหเปนไปตามเกณฑท่ีสถานศึกษา
กาํ หนด
1.2 ประเมินกิจกรรมการเรียนรูจากการปฏิบัติกิจกรรมและผลงาน / ช้ินงาน /
คุณลักษณะของผูเรียนตามเกณฑที่สถานศึกษากําหนดดวยวิธีการท่ีหลากหลาย เนนการมีสวนรวม
ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม
คมู ือการจัดกิจกรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสริมสรา งทักษะชวี ิต ชั้นมธั ยมศึกษาปที่ 3 151
1.3 ลูกเสือที่มีเวลาการเขารวมกิจกรรม มีการปฏิบัติกิจกรรมและผลงาน / ชิ้นงาน /
คุณลักษณะตามเกณฑท่ีสถานศึกษากําหนดเปนผูผานการประเมินรายกิจกรรมและนําผลการ
ประเมนิ ไปบนั ทกึ ในระเบียนแสดงผลการเรยี น
1.4 ลูกเสือท่ีมีผลการประเมินไมผานในเกณฑเวลาการเขารวมกิจกรรม การปฏิบัติ
กิจกรรมและผลงาน / ชิ้นงาน / คุณลักษณะตามที่สถานศึกษากําหนด ผูกํากับลูกเสือตองดําเนินการ
ซอมเสริมและประเมินจนผาน ทั้งน้ีควรดําเนินการใหเสร็จส้ินในปการศึกษาน้ัน ๆ ยกเวนมีเหตุ
สดุ วสิ ัยใหอยูในดลุ พนิ จิ ของสถานศึกษา
2. การประเมินกจิ กรรมลกู เสือเพื่อการตัดสินใจ
การประเมินกิจกรรมลูกเสือเพ่ือตัดสินควรไดรับเครื่องหมายและเล่ือนระดับทาง
ลูกเสือและจบการศึกษาเปนการประเมินการผานกิจกรรมลูกเสือเปนรายป / รายภาค / เพ่ือสรุปผล
การผานในแตล ะกิจกรรม สรุปผลรวมเพ่อื สรุปผลการผา นในแตล ะกิจกรรม สรปุ ผลรวมเพือ่ เล่อื นช้ัน
ระดับลูกเสือและประมวลผลรวมในปสุดทายเพ่ือการจบแตละระดับการศึกษา โดยการดําเนินการ
ดงั กลา วมีแนวทางปฏิบัติ ดงั น้ี
2.1 กําหนดใหมีผูรับผิดชอบในการรวบรวมขอมูลเก่ียวกับการเขารวมกิจกรรม
ลกู เสอื ของลกู เสือทกุ คนตลอดระดบั การศึกษา
2.2 ผูรับผิดชอบสรุปและตัดสินใจผลการรวมกิจกรรมลูกเสือของลูกเสือเปน
รายบุคคล รายหมู ตามเกณฑท สี่ ถานศึกษากําหนด
เกณฑก ารตดั สนิ
1. กําหนดเกณฑการประเมินตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐานกําหนดไว
2 ระดับ คือผาน และ ไมผ า น
2. เกณฑการตัดสินผลการประเมนิ รายกจิ กรรม
ผาน หมายถงึ ลกู เสือมเี วลาเขารวมกจิ กรรมครบตามเกณฑ ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมและมีผลงาน
/ ชนิ้ งาน / คณุ ลักษณะตามเกณฑท ่สี ถานศกึ ษากําหนด
ไมผาน หมายถึง ลูกเสือมีเวลาเขารวมกิจกรรมไมครบตามเกณฑ ไมผานการปฏิบัติ
กจิ กรรมหรอื มีผลงาน / ชน้ิ งาน / คณุ ลักษณะไมเ ปน ไปตามเกณฑท ีส่ ถานศึกษากําหนด
3. เกณฑก ารตัดสินผลการประเมนิ กิจกรรมลกู เสอื รายป / รายภาค
ผาน หมายถึง ลูกเสือมีผลการประเมินระดับ “ผาน” ในกิจกรรมสําคัญตามหลักสูตร
ลูกเสือแตล ะประเภทกาํ หนด รวมถงึ หลักสตู รลูกเสอื ทักษะชวี ิต
ไมผาน หมายถึง ลูกเสือมีผลการประเมินระดับ “ไมผาน” ในกิจกรรมสําคัญท่ีหลักสูตร
ลูกเสอื แตละประเภทกาํ หนดและลกู เสือทกั ษะชีวิต
4. เกณฑก ารตดั สินผลการประเมินกิจกรรมลูกเสือเพ่ือจบหลักสูตรลูกเสือแตละประเภทเปน
รายชัน้ ป
ผาน หมายถึง ลูกเสือมีผลการประเมินระดับ “ผาน” ทุกช้ันปในระดับการศึกษานั้น
ไมผาน หมายถงึ ลูกเสือมผี ลการประเมินระดบั “ไมผา น” บางชั้นปใ นระดบั การศกึ ษาน้นั
152 คูม อื การจัดกจิ กรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสริมสรางทักษะชวี ติ ชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 3
2. การประเมนิ พฤติกรรมทกั ษะชวี ติ และคุณลกั ษณะทางลกู เสอื
2.1 ความสามารถท่คี าดหวังใหเกิดขึ้นกบั ลกู เสือโดยรวม คอื
1) ความสามารถในการคดิ วเิ คราะห
2) ความสามารถในการคดิ สรางสรรค
3) ความสามารถในการเหน็ ใจผอู น่ื
4) เห็นคุณคา ตนเอง
5) รับผิดชอบตอ สังคม
6) ความสามารถในการสื่อสารเพอื่ สรา งสมั พันธภาพ
7) ความสามารถในการตดั สินใจ
8) ความสามารถในการจัดการแกไ ขปญ หา
9) ความสามารถในการจดั การกบั อารมณ
10) ความสามารถในการจดั การกับความเครยี ด
2.2 พฤตกิ รรมทค่ี าดหวงั ใหเ กิดขน้ึ กบั ลกู เสอื โดยรวม คอื
1) ลูกเสอื สาํ รอง
(1) มีทกั ษะในการสังเกตและจดจาํ
(2) พ่ึงตนเอง ดูแลตนเองได
(3) รูจกั รักษาสิ่งแวดลอม
(4) ไมเ จ็บปวยดวยโรคตดิ ตอ ตามฤดกู าล
(5) ปฏิเสธสิ่งเสพติดทุกชนดิ
(6) พดู จาส่อื สารเชิงบวก ไมก าวรา วรนุ แรง
(7) แกป ญ หาเฉพาะหนา ได
(8) ใหค วามชว ยเหลือเพ่ือนในภาวะวกิ ฤติ
2) ลูกเสอื สามัญ
(1) มที ักษะในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมกลางแจง
(2) รว มกจิ กรรมบาํ เพ็ญประโยชนดว ยจติ อาสา
(3) พึ่งตนเองและชว ยเหลอื ครอบครวั
(4) ไมดมื่ นํา้ อัดลม
(5) ไมรบั ประทานขนมหวานและขนมกรบุ กรอบ
(6) ใชเวลาวางใหเ ปน ประโยชน
(7) รูจกั พูดเชิงบวก ไมพูดกาวราวรุนแรง
(8) มีความซ่อื สตั ย ไมโกหก
(9) รูจ กั แกปญ หาดวยสนั ตวิ ิธี
(10) มีนาํ้ หนักสวนสงู ตามเกณฑมาตรฐาน
คูมือการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรางทักษะชวี ติ ช้ันมธั ยมศึกษาปท ่ี 3 153
3) ลกู เสือสามญั รุนใหญ
(1) มีทักษะในการทํากิจกรรมตามความสนใจ
(2) มีจิตอาสาทาํ ประโยชน/ ไมกอความเดอื ดรอ น ใหก ับครอบครวั
สถานศกึ ษา ชุมชน สังคม
(3) ใชเวลาวา งใหเ ปน ประโยชน
(4) รว มกิจกรรมสง เสริมอนุรกั ษประเพณี ศิลปวัฒนธรรมไทย
(5) มีทกั ษะการคิดวิเคราะห การยับยง้ั ไมเปน ทาสของส่อื โฆษณา
(6) มที กั ษะการใชประโยชนจ าก Internet
(7) มผี ลงาน/ โครงการการประหยัดพลงั งาน/ ทรัพยากร
(8) มกี ารออมหรอื ทาํ บัญชีรายรบั รายจายของตนเองอยา งตอเน่ือง
(9) มที กั ษะการหลกี เลยี่ ง ลอดพน และไมเกดิ อบุ ัติเหตุจากการใช
ยานพาหนะ
(10) ไมเ ก่ยี วขอ งกบั สิ่งเสพติดทุกประเภท
4) ลกู เสือวิสามัญ
(1) มผี ลงาน/ โครงการเฉพาะทเี่ ปนประโยชนตอตวั เอง/ สังคม
(2) มจี ิตอาสาและบรกิ าร
(3) รูวิธปี องกนั / และหลีกเลย่ี งความเสี่ยงทางเพศ
(4) ใชเ วลากบั สือ่ IT อยา งเหมาะสม ไมเกิดความเสยี หายตอวถิ ีชวี ติ ปกติ
ของตนเอง
(5) ไมเกี่ยวขอ งกบั ส่ิงเสพตดิ
(6) มีคา นิยมดานสขุ ภาพอยา งเหมาะสม ไมเ กดิ ผลเสยี ตามมา
(7) มคี านยิ มดานการรบั ประทานอาหารท่เี หมาะสม ไมเ กดิ ผลเสียหาย
ตามมา
(8) มคี านิยมดานความงามที่เหมาะสมไมเ กิดผลเสียหายตามมา
(9) ไมม พี ฤตกิ รรมกาวราวและกอ เหตุรุนแรง
อางองิ จากผลลัพธก ารจดั กิจกรรมลกู เสอื คมู อื Bench Marking
154 คูมือการจัดกิจกรรมลูกเสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรางทกั ษะชีวติ ช้ันมธั ยมศึกษาปท่ี 3
แผนการจดั กจิ กรรมลกู เสือสามัญรุนใหญ เคร่อื งหมายลูกเสอื หลวง ชั้นมธั ยมศึกษาปท ี่ 3
หนวยที่ 11 พธิ กี าร ประดับเคร่ืองหมายลูกเสอื หลวง เวลา 1 ช่ัวโมง
แผนการจดั กจิ กรรมที่ 30 และเคร่อื งหมายวิชาพิเศษ
1. จดุ ประสงคการเรียนรู
เพอ่ื ใหล ูกเสอื เกดิ ความภาคภมู ิใจในตนเอง และศรทั ธาในการเปนลูกเสอื
2. เนอื้ หา
เครือ่ งหมายลกู เสือหลวง
3. ส่ือการเรียนรู
3.1 เครอ่ื งหมายลูกเสือหลวง
3.2 เครื่องหมายวชิ าพิเศษ
4. กจิ กรรม
4.1 ผูกํากับลกู เสือและลูกเสอื พรอมกันในหอ งประชมุ
4.2 ผูก ํากับลกู เสือเปน ประธานจุดธูปเทยี นบูชาพระรตั นตรัย และถวายสกั การะแดพ ระรูป
รชั กาลที่ 6 ผกู ํากับลกู เสือและลกู เสือรว มกนั ถวายราชสดดุ ี
4.3 ผกู ํากับลกู เสือกลาวถึงการไดรบั อนมุ ัติใหมีสิทธป์ิ ระดับ เครื่องหมายลกู เสอื หลวง
เครือ่ งหมายวชิ าพิเศษ พรอ มทง้ั ใหโ อวาทกับลกู เสอื
4.4 ผกู าํ กบั ลกู เสอื มอบ เครอื่ งหมายลูกเสอื หลวง เครอ่ื งหมายวิชาพิเศษใหกบั ลกู เสอื และ
แสดงความชน่ื ชมยินดกี บั ลกู เสือทุกคน
4.5 ผูกาํ กบั ลกู เสอื และลกู เสือรวมกันทบทวนคําปฏญิ าณ
5. การประเมินผล
สังเกตพฤตกิ รรมจากการเขา รว มกจิ กรรม
คูมือการจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสริมสรา งทกั ษะชวี ิต ช้ันมัธยมศกึ ษาปท่ี 3 155
ภาคผนวก
คมู ือการจัดกจิ กรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสริมสรางทกั ษะชีวิต ชนั้ มัธยมศกึ ษาปท่ี 3 156
ภาคผนวก ก
แนวคดิ เร่ืองทักษะชีวติ
ความหมายและองคป ระกอบทักษะชีวิต
ทักษะชวี ิต เปนความสามารถของบคุ คล ทจ่ี าํ เปนตอ การปรบั ตวั ในการเผชิญปญ หาตาง ๆ
และสามารถดาํ เนินชวี ติ ทา มกลางสภาพสังคมทีม่ กี ารเปลย่ี นแปลงทงั้ ในปจจุบัน และเตรียมพรอม
สาํ หรบั การเผชิญปญหาในอนาคต
องคประกอบทักษะชีวิต มี 12 องคประกอบ จัดเปน 6 คู โดยแบงตามพฤติกรรมการเรียนรู
3 ดา น ดงั น้ี
อhงgคhjป hgรfะgjกjhอgfบf jทhhักgfษfdะsdชsdวี sติ6คู 3 ดาน
ความตระหนกั การสราง
สมั พันธภาพและ
รูในตน
การสือ่ สาร
ความเห็นใจ ความคดิ การ
ผูอ่ืน สรา งสรรค ตัดสินใจ
พุทธิพสิ ยั
จติ พสิ ัย และแกไ ข ทกั ษะพสิ ัย
ปญ หา
ความ ความคิดวเิ คราะห
วิจารณ
ภาคภมู ใิ จ
ในตัวเอง ความ การจัดการกับ
อารมณและ
รับผดิ ชอบ ความเครียด
ตอสงั คม
แผนภาพที่ 1 องคป ระกอบของทักษะชวี ติ
1. ดา นพุทธิพิสัย จดั ไวตรงกลางของแผนภาพ เพราะเปน องคประกอบรว มและเปน พน้ื ฐาน
ของทกุ องคประกอบ ไดแก
- ความคดิ วเิ คราะหว จิ ารณ เปนความสามารถทจ่ี ะวเิ คราะห สงั เคราะห ประเมนิ
ขอ มูล ขา วสาร ปญ หา และสถานการณต า ง ๆ รอบตัว
- ความคิดสรา งสรรค เปนความสามารถในการคิดออกไปอยา งกวางขวางโดยไม
ยดึ ตดิ อยูในกรอบ และการสรางสรรคส ิง่ ใหม
157 คูมือการจัดกิจกรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรา งทักษะชวี ติ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ี่ 3
2. ดา นจติ พิสัย หรอื เจตคติ มี 2 คู คือ
คทู ่ี 1 ความตระหนักรใู นตนเอง และ ความเขา ใจ/เหน็ ใจผอู ่นื
คทู ี่ 2 เหน็ คุณคา/ภมู ิใจตนเอง และ ความรบั ผดิ ชอบตอสงั คม
- ความตระหนักรูในตนเอง เปนความสามารถในการคนหาและเขาใจในจุดดีจุด
ดอยของตนเอง ยอมรับความแตกตางของตนเองกับบุคคลอ่ืน ไมวาจะในแงความสามารถ เพศ วัย
อาชีพ ระดบั การศกึ ษา ฐานะทางเศรษฐกจิ ฐานะทางสังคม ศาสนา สีผวิ ทอ งถิ่น สขุ ภาพ ฯลฯ
- ความเขาใจ/เห็นใจผูอ่ืน เปนความสามารถในการเขาใจความรูสึกของผูอื่น เห็น
อกเห็นใจและยอมรับตัวตนของบุคคลอ่ืนที่แตกตางกับเรา ไมวาจะในแงความสามารถ เพศ วัย
อาชีพ ระดับการศึกษา ฐานะทางเศรษฐกิจ ฐานะทางสงั คม ศาสนา สผี ิว ทองถ่ิน สุขภาพ ฯลฯ
- เห็นคุณคา/ภูมิใจตนเอง เปนการคนพบ คุณสมบัติเฉพาะตัวของตนเอง รูสึกวา
ตนเองมีคุณคา เชน เปนคนมีน้ําใจ ซ่ือสัตย ยุติธรรม และภูมิใจในความสามารถดานตาง ๆ ของ
ตนเอง เชน ดานสงั คม ดนตรี กีฬา ศิลปะ การเรยี น ฯลฯ
- ความรับผิดชอบตอสังคม เปนความรูสึกวาตนเองเปนสวนหน่ึงของสังคมและมี
สว นรับผิดชอบในความเจริญหรือเส่ือมของสังคมน้ัน คนที่เห็นคุณคาตนเองจะมีแรงจูงใจที่จะทําดีกับ
ผอู ืน่ และสังคมสวนรวมมากขึ้น จึงจัดเขาคกู บั ความรับผดิ ชอบตอ สงั คม
3. ดา นทักษะพิสัยหรือทกั ษะ ประกอบดวย 3 คู คอื
คทู ี่ 1 การส่ือสารและการสรา งสมั พนั ธภาพ
คูที่ 2 การตดั สินใจและการแกไขปญหา
คทู ่ี 3 การจดั การกับอารมณและความเครียด
- ทักษะการการส่ือสารและการสรางสมั พันธภาพ เปนความสามารถในการใช
คําพูดและภาษาทา ทาง เพื่อสอื่ สารความรสู กึ นึกคดิ ของตนเอง และสามารถรบั รคู วามรูส ึกนึกคดิ
ความตอ งการ ของอกี ฝายหน่งึ มกี ารตอบสนองอยางเหมาะสมและเกดิ สมั พันธภาพที่ดีตอ กัน
- ทักษะการตัดสินใจและการแกไ ขปญ หา การตัดสินใจใชในกรณที ี่มีทางเลอื กอยู
แลว จงึ เร่ิมตน ดวยการวิเคราะหข อ ดีขอเสียของแตล ะทางเลอื กเพือ่ หาทางเลือกทด่ี ีท่ีสดุ และนาํ ไป
ปฏบิ ตั ิ สว นการแกไขปญหาเปนความสามารถในการรบั รูปญ หาและสาเหตุของปญ หา หาทางเลือก
ไดห ลากหลาย วิเคราะหข อดขี อ เสียของแตล ะทางเลอื ก ตดั สินใจเลือกทางเลอื กในการแกปญ หาท่ี
เหมาะสมที่สดุ และนําไปปฏิบตั ิ
- ทกั ษะการจัดการกับอารมณแ ละความเครียด เปน ความสามารถในการรับรู
อารมณตนเอง ประเมินและรเู ทาทนั วา อารมณจ ะมีอทิ ธพิ ลตอ พฤตกิ รรมของตนอยา งไร และเลอื กใช
วธิ จี ัดการกบั อารมณท ่ีเกดิ ข้ึนไดอ ยางเหมาะสม สว นการจดั การความเครียดเปน ความสามารถในการ
รบั รูระดับความเครยี ดของตนเอง รสู าเหตุ หาทางแกไ ข และมีวธิ ผี อนคลายความเครยี ดของตนเอง
อยางเหมาะสม
คูมอื การจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรางทกั ษะชีวติ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปท ่ี 3 158
ความแตกตา งระหวา งทักษะชวี ิตทว่ั ไปและทกั ษะชีวิตเฉพาะ
ทักษะชีวิตท่ัวไป เปนการสรางภูมิคุมกันทางสังคม สําหรับปญหาท่ัว ๆ ไปใน
ชวี ิตประจาํ วัน ดว ยทกั ษะชีวติ 12 องคประกอบ ใหกบั เด็กทกุ คน
ทักษะชีวิตเฉพาะ เปนการประยุกตใชทักษะชีวิต 12 องคประกอบ ท่ีมีเนื้อหา
เก่ียวกับการปองกันปญหาเฉพาะเร่ืองสําหรับเด็กกลุมเส่ียง โดยมีครูท่ีปรึกษาและระบบดูแล
ชว ยเหลอื นักเรยี นรองรับ
ทักษะชวี ติ กับการพัฒนาเยาวชน
เม่ือแบงเยาวชนออกเปน 3 กลุม คือเด็กปกติ เด็กกลุมเส่ียง และเด็กท่ีมีปญหา
ทักษะชีวิตจะเปนกลยุทธสําคัญในการสงเสริมภูมิคุมกันทางสังคม ใหกับเด็กปกติ และเด็กทุกคน
สําหรับเด็กกลุมเส่ียงตองมีการสอนทักษะชีวิตเฉพาะในแตละปญหา มีครูท่ีปรึกษาและระบบดูแล
ชวยเหลือนักเรียนรองรับ สวนเด็กท่ีมีปญหาแลวใชการดูแลใกลชิดเพื่อหาทางแกปญหาท่ีเหมาะสม
เปนรายบคุ คล และมรี ะบบสงตอยังวิชาชพี เฉพาะทเ่ี กยี่ วขอ ง
159 คูมอื การจดั กิจกรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรางทกั ษะชวี ิต ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท ่ี 3
ตวั อยา งทักษะชวี ิตเฉพาะ
คูม ือการจดั กจิ กรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรา งทกั ษะชวี ติ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท่ี 3 160
ความแตกตา งระหวางทักษะชีวิต และทกั ษะการดาํ รงชวี ติ
ทักษะชวี ติ (Life Skills) เปนความสามารถทางจิตสงั คม อันประกอบ ดวย ความรู เจตคติ
และทักษะ ทจ่ี ําเปน ในการดําเนินชวี ิตทามกลางสภาพสังคมทเ่ี ปลีย่ นแปลงอยา งรวดเร็วในปจ จุบนั
และเตรียมพรอ มสาํ หรับการเผชญิ ปญหาในอนาคต มี 6 คู 12 องคป ระกอบ
ทักษะการดํารงชวี ติ (Living Skills) เปน ทกั ษะทใ่ี ชใ นกิจวัตรประจําวนั ในเรอ่ื งพ้ืนฐาน
ของชวี ิต มักเปน ทักษะทางกายภาพ เชน อาบนํ้า แตงตวั ซักเสอื้ ผา ปรุงอาหาร
ข่ีจักรยาน วา ยนาํ้ ผูกเงอื่ นเชอื ก การจดั กระเปา เดนิ ทาง การใชแผนทเ่ี ข็มทศิ ฯลฯ
ความเชือ่ มโยงระหวา งทกั ษะชีวติ และทกั ษะการดาํ รงชีวติ
ทกั ษะชวี ติ และทกั ษะการดํารงชวี ติ มักถกู ใชผ สมผสาน เช่อื มโยงกัน ทั้งในกิจวตั รประจาํ วนั
ปกติ และในสถานการณต า ง ๆ ท่เี กิดขน้ึ ไมแยกสวน โดยทกั ษะชวี ติ จะเปนตัวชวยในการเลอื กและ
ใชท กั ษะการดาํ รงชีวิตไดอยางเหมาะสม ถูกที่ ถกู เวลา และเกิดผลลพั ธท ด่ี ี
สถานการณทางจติ สงั คม มักใชท กั ษะชวี ติ เปน หลัก ตัวอยา ง เชน
การจดั การกับอารมณโกรธ ความขดั แยง และ ความรนุ แรง
ตระหนกั รแู ละหลกี เลย่ี งพฤตกิ รรมเส่ียงตา ง ๆ รวมถึงการปองกันอุบตั ิเหตุ
การชว ยเหลือผูอน่ื และรบั ผดิ ชอบตอ สวนรวม
การสือ่ สารเชงิ บวกและสรางสัมพนั ธภาพทีด่ ี
กจิ วัตรทท่ี าํ เปน ประจาํ ใชท กั ษะการดํารงชีวติ เปน หลกั เชน อาบนา้ํ แตง ตวั แปรงฟน ซัก
เส้ือผา ปรุงอาหาร ขีจ่ กั รยาน วา ยนา้ํ ผกู เงือ่ นเชือก ใชแ ผนทีเ่ ข็มทศิ ฯลฯ
161 คูมอื การจดั กิจกรรมลูกเสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรางทกั ษะชวี ิต ชัน้ มัธยมศึกษาปท ่ี 3
ทกั ษะชีวิตสรา งไดอ ยา งไร
สรางดวย 2 วธิ กี ารใหญ ๆ คอื
1. เรยี นรเู องตามธรรมชาติ ซ่งึ ข้ึนกบั ประสบการณแ ละการมีแบบอยางทดี่ ี จึงไมมที ศิ ทางท่ี
แนน อน และกวาจะเรียนรกู ็อาจชาเกินไป
2. สรางโดยกระบวนการเรยี นการสอนทยี่ ดึ ผเู รยี นเปน ศูนยกลาง ใหเด็กเรียนรรู วมกันใน
กลมุ ผา นกิจกรรมรูปแบบตา ง ๆ ทเี่ ด็กตอ งมสี ว นรวมทัง้ ทางรางกายคือลงมอื ปฏิบัติ และทาง
ความคดิ คอื การอภปิ รายแลกเปล่ยี นความคดิ และประสบการณ เพือ่ สรา งองคค วามรูใหมรว มกัน
การสอนทยี่ ดึ ผูเรยี นเปนศูนยก ลาง
• สรา งความรู (Construction) กิจกรรมที่ใหผ ูเรยี นมีสวนรว มทาง
สติปญญา คนพบความรดู วยตนเอง
• ปฏสิ มั พันธ (Interaction) กิจกรรมตองสง เสริมปฏสิ มั พันธก บั
ผูอื่นและแหลง ความรูท่หี ลากหลาย
• เปนกระบวนการ (Process Learning)
• มสี วนรวม (Physical Participation) มีสวนรวมดา นรา งกาย ลง
มือกระทาํ กจิ กรรมในลักษณะตาง ๆ
• มกี ารประยกุ ตใ ช (Application)
การมีสว นรว มทางสติปญ ญาทาํ ใหเ กดิ ทกั ษะชีวติ 2 องคประกอบแกนหลกั คือความคดิ วเิ คราะห
และความคิดวจิ ารณ
ปฏิสมั พนั ธใ นกลุมเพ่อื ทาํ กิจกรรมรวมกนั ทาํ ใหเดก็ ไดฝ ก องคประกอบทกั ษะชวี ติ ดา นทกั ษะทั้ง
3 คู คอื การสรางสัมพันธภาพและการสอื่ สาร การตัดสินใจและการแกไ ขปญ หา การจัดการอารมณและ
ความเครยี ด
การรับฟง ความคดิ เห็นของคนอนื่ ทาํ ใหเกดิ ความเขาใจคนอ่ืนมากขึ้น ขณะเดียวกนั ก็เกิดการ
ไตรตรองทาํ ความเขาใจและตรวจสอบตนเอง จัดเปนองคประกอบทกั ษะชวี ติ ดานเจตคตคิ ือ การเขาใจ
ตนเอง และเขา ใจ/เห็นใจผอู ่ืน
การไดรับการยอมรับจากกลุม การทํางานสําเร็จไดรับคําชม ทําใหเกิดความภูมิใจและเห็น
คณุ คาตนเอง นาํ ไปสูค วามรับผดิ ชอบมากข้นึ ทง้ั ตอ ตนเองและสังคม
กระบวนการและการมีสวนรวม ชวยใหกิจกรรมสนุกสนานนาสนใจ และนําไปสูจุดประสงค
ทตี่ ้ังไว รวมทั้งการประยุกตใ ชเ ปนการเปดโอกาสใหผูเรียนไดเช่ือมองคความรูใหมท่ีเกิดข้ึนเขาสูชีวิต
จริง วาไดเกิดการเรียนรูอ ะไรและนําไปใชใ นชีวิตประจําวันอยางไร
คมู อื การจดั กจิ กรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรางทักษะชีวิต ชนั้ มัธยมศกึ ษาปท ี่ 3 162
การสอนทกั ษะชวี ติ
8 กลมุ สาระ กจิ กรรมพฒั นา
การเรยี นรู ผเู รยี น
กจิ กรรม กจิ กรรมเพอ่ื สงั คม
แนะแนว และ
สาธารณประโยชน
กจิ กรรม
นกั เรยี น
กจิ กรรม ลกู เสอื / เนตรนารี /
ชุมนมุ บาํ เพ็ญประโยชน /
ชมรม
นศ.วชิ าทหาร
ความหมายของกระบวนการลูกเสือ (Scout movement)
ตามคํานิยามของลูกเสือโลก หมายถึง กระบวนการเรียนรูและพัฒนาตนเองอยางตอเน่ือง
สําหรับเยาวชน เพื่อสรางเยาวชนที่มีจิตใจเสียสละ รับผิดชอบ และอุทิศตนแกสังคม ดวยวิธีการ
ลูกเสอื
ตามแนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาผูเรียน 2522 (สพฐ.) หมายถึงกระบวนการทาง
การศึกษาสวนหนึ่ง ซึ่งมุงพัฒนาสมรรถภาพของบุคคล ท้ังทางสมอง รางกาย จิตใจ และศีลธรรม
เพื่อใหเปนบุคคลที่มีความประพฤติดีงาม ไมกระทําตนเปนปญหาสังคม และดํารงชีวิตอยางมี
ความหมาย และสุขสบาย
หลักการลูกเสือ (Scout principle)
หลกั การลูกเสอื โลกเนนทีห่ นา ทีห่ ลัก 3 ประการ คือ
1.หนาท่ีตอพระเจา/ศาสนา ไดแก การแสวงหาและดําเนินชีวิตอยางมีคุณคาและ
ความหมาย
2.หนาท่ีตอผูอื่น ไดแก การเคารพ ใหเกียรติ ชวยเหลือผูอ่ืน รวมถึงการดูแลสังคมและ
สง่ิ แวดลอ ม
3.หนาท่ีตอตนเอง ไดแก พัฒนาตนเองท้ังดานรางกาย จิตใจ อารมณ สังคม และ
จิตวญิ ญาณ
163 คูมอื การจัดกิจกรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรางทกั ษะชวี ิต ชนั้ มัธยมศกึ ษาปท ี่ 3
หลักการลูกเสือไทย มี 5 ขอ คือ
1. มีศาสนาเปนหลักยดึ ทางใจ
2. จงรกั ภักดีตอ พระมหากษัตรยิ แ ละประเทศชาติ
3. เขารวมพัฒนาสังคม ยอมรับ เคารพในเกียรติและศักดิ์ศรีผูอ่ืนและเพื่อนมนุษยทุกคน
รวมท้งั ธรรมชาติ และสรรพสิ่งทง้ั หลายในโลก
4. รบั ผิดชอบตอการพฒั นาตนเองอยา งตอ เนือ่ ง
5. ยดึ มน่ั ในคําปฏญิ าณและกฎของลกู เสือ
วิธีการลูกเสอื (Scout method)
วิธีการลกู เสอื โลก มี 8 องคประกอบ โดยแบง ออกเปน 3 กลมุ คือ
กลมุ ท่ี 1 ผใู หญม หี นาท่ชี วยเหลอื และสง เสริมเยาวชนใหเ กดิ การเรยี นรูในกลุม
กลมุ ท่ี 2 มกี จิ กรรมที่บรรลวุ ตั ถปุ ระสงคในการพัฒนาเยาวชนอยางตอ เนื่องและเปน ระบบ
กลุมที่ 3 เปนลกั ษณะกิจกรรมท่ีใช มี 6 องคป ระกอบ
1. ยดึ มั่นในคําปฏญิ าณและกฎของลกู เสือ
2. ใชระบบสญั ลกั ษณเปนแรงกระตนุ ไปสเู ปาหมายในการพฒั นาตนเอง
3. ระบบหมู (กลุมเรยี นรรู ว มกนั )
4. เรียนรใู กลช ิดธรรมชาติ
5. เรยี นรจู ากการลงมือปฏิบตั ิ / เกม
6. เรยี นรจู ากการบริการผูอื่น
วธิ กี ารลูกเสอื ไทย ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน 2551 มี 7 องคประกอบ
คือ
1. ความกาวหนา ในการเขา รวมกจิ กรรม
2. การสนับสนุนโดยผใู หญ
3. ยดึ มัน่ ในคาํ ปฏิญาณและกฎ
4. การใชสัญลักษณรว มกนั
5. ระบบหมู
6. การศกึ ษาธรรมชาติ
7. เรยี นรจู ากการกระทํา
คมู ือการจัดกจิ กรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรา งทกั ษะชวี ิต ช้นั มธั ยมศึกษาปท ี่ 3 164
วิธกี ารลกู เสอื สรา งทักษะชวี ิตไดอ ยางไร
วิธีการลูกเสือ มีองคประกอบครบทั้ง 5 ประการ ของกระบวนการเรียนการสอนที่ยึดผูเรียน
เปน ศูนยกลาง การสรา งทกั ษะชีวติ ทงั้ 12 องคป ระกอบ เกิดขนึ้ ดว ยกิจกรรมดงั ตารางตอไปนี้
วธิ กี ารลูกเสือสรา งทกั ษะชวี ิตไดอยางไร
องคประกอบ กิจกรรม
คิดวิเคราะห อภปิ รายแลกเปลีย่ นความคดิ เห็นที่ตอ ง
คิดสรา งสรรค คิดวิเคราะห/สงั เคราะห ตลอดเวลา
จดั กจิ กรรมใหค ิดนอกกรอบ งานศิลป การแสดง
ตระหนักรูใ นตน งานฝมอื ฯลฯ
เขา ใจ/เหน็ ใจผอู ่นื การเรยี นรูทพี่ ัฒนาขึน้ จากภายในตวั เด็ก เปนผล
จากปฏสิ มั พันธ แลกเปลี่ยนความคิด ความเชื่อ
เห็นคณุ คา ตนเอง/ ในกลมุ ไดท าํ ความเขา ใจตนเองและผอู น่ื ฝก ทจี่ ะ
รับผดิ ชอบสงั คม ยอมรับและเคารพในสทิ ธิและความคิดเหน็ ของผอู นื่
การยอมรับจากเพ่ือน ทาํ ชน้ิ งานสําเรจ็ คําชมเชย
สอื่ สารและสราง จากเพ่ือนและผใู หญ การเคารพใหเ กยี รตซิ ึ่งกันและ
สมั พันธภาพ กันสงผลใหมวี นิ ยั และความรับผดิ ชอบตอตนเอง
ตดั สินใจและแกไขปญหา และสว นรวมมากขึ้น
จัดการอารมณ
และความเครยี ด ประสบการณ ปฏสิ มั พนั ธใ นกลมุ การทาํ งานรว มกัน
การเรยี นรแู ละการฝกฝน
วตั ถปุ ระสงคคณะลกู เสอื แหง ชาติ (พระราชบญั ญตั ิลกู เสือ พ.ศ. 2551 มาตรา 8)
เพื่อพัฒนาลูกเสือทั้งทางกาย สติปญญา จิตใจ และศีลธรรม ใหเปนพลเมืองดี มีความ
รับผิดชอบ และชวยสรางสรรคสังคมใหเกิดความสามัคคี และมีความเจริญกาวหนา ท้ังน้ีเพื่อความ
สงบสขุ และความมั่นคงของประเทศชาติ ตามแนวทางดังตอไปน้ี
1. ใหมีนิสยั ชางสังเกต จดจาํ เช่อื ฟง และพึ่งตนเอง
2. ใหซ อื่ สัตยสุจริต มรี ะเบยี บวนิ ัยและเหน็ อกเหน็ ใจผอู ื่น
3. ใหรจู กั บําเพ็ญตนเพอื่ สาธารณประโยชน
4. ใหรูจ กั ทาํ การฝมือ และฝก ฝนใหทํากจิ การตา ง ๆ ตามความเหมาะสม
5. ใหร ูจ กั รกั ษาและสง เสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม และความมน่ั คงของประเทศชาติ
หลักสูตรลูกเสอื เสริมสรางทกั ษะชีวิต
หลกั สูตรลกู เสอื เสริมสรางทกั ษะชวี ิตไดใ ชขอบังคับคณะลูกเสือแหงชาติวาดวยการปกครอง
หลักสูตรและวชิ าชีพพิเศษลูกเสือสํารอง สามัญ สามัญรุนใหญ และวิสามัญ เปนหลัก และเพ่ิมเนื้อหา
ที่สอดคลองกับปญหาตามวัยและพัฒนาการดานตาง ๆ ของลูกเสือ โดยจัดหนวยกิจกรรมตามที่ระบุ
165 คูมือการจัดกจิ กรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรางทักษะชวี ติ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที่ 3
ในหลักสูตรของลูกเสือแตละประเภท ดังน้ัน ชื่อหนวยกิจกรรม และจํานวนหนวยกิจกรรมของลูกเสือ
แตละประเภทจงึ แตกตา งกัน
แผนการจัดกิจกรรมลูกเสือเสริมสรางทักษะชีวิตในคูมือชุดนี้ ไดออกแบบโดยบูรณาการ
กิจกรรมที่เสริมสรางทักษะชีวิตเขากับวิธีการลูกเสือ คือการใชระบบหมูหรือกลุมยอย โดยใหเด็กเปน
ศูนยกลาง และมีผูใหญทําหนาท่ีชวยเหลือและสงเสริมใหเกิดกระบวนการเรียนรูในกลุม แนะนํา สั่ง
สอน และฝกอบรมใหสามารถพ่ึงตนเองได มีจิตอาสา รับผิดชอบตอสวนรวม ยึดม่ันในคําปฏิญาณ
และกฎของลูกเสือ เสริมสรางคุณคาในตนเอง รวมทั้งใชระบบเคร่ืองหมายหรือสัญลักษณทางลูกเสือ
และเคร่อื งหมายวิชาพเิ ศษ เปนแรงกระตนุ ไปสูเ ปาหมายในการพฒั นาตนเอง
องคประกอบในการประชุมกอง เนนการใชชีวิตกลางแจง นอกหองเรียน ใกลชิดธรรมชาติ
เรียนรูจากการลงมือปฏิบัติดวยตนเอง เกม และการบริการผูอ่ืน ซึ่งถือเปนหัวใจของกิจกรรมลูกเสือ
ทุกประเภท โดยกิจกรรมท่ีใช แบงออกเปน 5 ประเภท คอื การแสดงออก การรายงานและการสํารวจ
การวิเคราะหและการประเมิน เกมและการแขงขัน การบําเพ็ญประโยชน การออกแบบกิจกรรม
เพ่ือใหลูกเสือใชกระบวนการกลุมในการแลกเปล่ียนประสบการณ แลกเปล่ียนความคิดความเช่ือ
สรางองคความรูและสรุปความคิดรวบยอด รวมท้ังเปดโอกาสใหลูกเสือไดประยุกตใชส่ิงที่ไดเรียนรู
อีกดวย
เนอื้ หาสาระในแผนการจดั กิจกรรมแบง ออกไดเปน 3 กลมุ ประกอบดว ย
1.กิจกรรมตามขอบังคับของคณะลูกเสือแหงชาติ (ไมรวมกิจกรรมทดสอบเพ่ือรับ
เครอื่ งหมายหรอื สญั ลักษณท างลูกเสอื และเครื่องหมายวิชาพิเศษ)
2. กิจกรรมตามขอบังคับของคณะลูกเสือแหงชาติที่ชวยเสริมสรางทักษะชีวิตดานคุณธรรม
จรยิ ธรรม ความภาคภมู ใิ จในตนเอง ความรับผดิ ชอบตอ สวนรวม
3.กิจกรรมเสริมสรางทักษะชีวิต เพื่อสรางภูมิคุมกันทางสังคมตอเหตุการณและสภาพ
ปญ หาของเดก็ แตล ะวยั
สําหรับกิจกรรมลูกเสือตามขอบังคับ เพื่อการขอรับเครื่องหมายลูกเสือช้ันพิเศษ และ
เคร่อื งหมายลูกเสอื หลวง ไมไ ดน าํ มารวบรวมไวในคมู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือชดุ นี้
คูมือมีจํานวน 11 เลม ตามชั้นปของลูกเสือ 4 ประเภท แตละเลม ไดจัดทําตารางหนวย
กิจกรรม และแผนการจัดกิจกรรมครบ 40 ชั่วโมง เพื่อใหเห็นภาพรวมของการจัดกิจกรรมลูกเสือ
เสริมสรา งทักษะชีวติ ของลกู เสอื ในแตล ะระดบั ช้ัน และมีหมายเหตุบอกไวในตารางชองขวาสุด วาเปน
แผนการจดั กิจกรรมเสรมิ สรางทกั ษะชวี ิต
แผนการจัดกิจกรรมประกอบดวย จุดประสงคการเรียนรู เนื้อหา สื่อการเรียนรู กิจกรรม
การประเมินผล องคประกอบทักษะชีวิตสําคัญท่ีเกิดจากกิจกรรม และภาคผนวกประกอบแผนการจัด
กิจกรรม (เพลง เกม ใบงาน ใบความรู เรื่องท่เี ปนประโยชน)
คมู อื การจดั กจิ กรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสริมสรา งทักษะชีวติ ช้ันมัธยมศึกษาปท ่ี 3 166
ภาพรวมการพฒั นาหลกั สูตรลูกเสือเสรมิ สรางทักษะชวี ติ
1. เริ่มจากการศึกษาเอกสาร งานวิจัย หลักสูตรลูกเสือไทยและตางประเทศ รวมท้ัง
สมั ภาษณ ผูเชยี่ วชาญดา นลกู เสือ
2. สัมนาครู ผูปกครอง นักพัฒนาเยาวชน และผูเชี่ยวชาญดานกิจกรรมเด็กและเยาวชน
เพอ่ื รว มกนั คน หาปญ หาจริงของเด็กแตละวยั และออกแบบกจิ กรรมท่ีเหมาะสม
3. จัดทําคูมือการจัดกิจกรรมลูกเสือเสริมสรางทักษะชีวิต 4 ประเภท ไดแก ลูกเสือสํารอง
ลูกเสือสามัญ ลูกเสือสามัญรุนใหญและลูกเสือวิสามัญ รวมทั้งสิ้น 11 เลม โดยผานการประเมิน
ปรบั ปรุงและพัฒนา จนเปน ทย่ี อมรบั และนาํ ไปใชใ นสถานศึกษาจํานวนมาก
4. จดั ทําหลักสตู รการฝก อบรมผูกํากับลกู เสือสาํ รอง ลูกเสอื สามญั ลูกเสอื สามญั รนุ ใหญแ ละ
ลูกเสือวิสามัญ ขั้นความรูเบื้องตน และข้ันความรูช้ันสูง รวม 8 ประเภท โดยไดรับการอนุมัติจาก
คณะกรรมการบริหารลูกเสือแหงชาติ ในการประชุม ครั้งที่ 2/2557 เมื่อวันท่ี 22 กันยายน 2557 ให
ใชเปนหลกั สูตรการฝก อบรมผกู ํากับลูกเสือของสํานักงานลูกเสอื แหง ชาติ
5. จัดทํา คูมือฝกอบรมวิทยากรลูกเสือเสริมสรางทักษะชีวิต เพื่อขยายผลในการสราง
วทิ ยากรและฝกอบรมผูกํากบั ลูกเสอื ในสถานศึกษาท่ัวประเทศ
167 คมู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรา งทกั ษะชวี ติ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที่ 3
ภาคผนวก ข
กิจกรรมลูกเสอื เสริมสรา งทักษะชวี ิต
การจัดกิจกรรมลูกเสือเสริมสรางทักษะชีวิตน้ัน ยังคงหลักการ และวิธีการของลูกเสือไว ทุก
ประการ แตเนนการสอดแทรกการเรียนรูทักษะชีวิตเพ่ิมเขาไปดวยเพื่อตอบสนองวัตถุประสงคที่รอบ
ดา น และครอบคลมุ การดาํ รงชวี ิตในปจ จุบัน
คุณคาของส่ือการเรียนการสอนประเภทกจิ กรรม
สื่อการเรียนการสอนประเภทกิจกรรม เปนกระบวนการเรียนการสอนที่ใหผูเรียนได มีโอกาส
เรียนรูประสบการณตางๆ ดวยตนเอง ผานการทํากิจกรรมรวมกัน ผูเรียนไดเรียนรูจากประสบการณ
ของเพื่อนในกลุม ทําใหสามารถเรียนรูไดมากขึ้นโดยใชเวลานอยลง การออกแบบกิจกรรมจะตอง
กระตุนใหผูเรียนเกิดความสนใจ และรวมมือในการทํากิจกรรมที่กําหนดใหอยางเต็มที่ จึงจะ เกิดการ
เรยี นรูไ ดอ ยา งมปี ระสิทธิภาพ ผลท่เี กดิ ขนึ้ ตอผูเ รยี นมีดังนี้
1. สงเสรมิ ใหผ ูเรยี นกลาแสดงออกและทํางานรวมกบั ผอู ืน่ ได
2. เกิดความสนกุ สนานเพลิดเพลิน ซึง่ เปน ลักษณะเฉพาะของสอ่ื การสอนประเภทกิจกรรม
3. เปด โอกาสใหผเู รียนมีสว นรว มในการกําหนดขอบขา ย เนอ้ื หา และวตั ถปุ ระสงค
4. ผเู รียนไดฝ ก ฝน พฤตกิ รรมการเรียนรูทัง้ ทางดา นความรู เจตคติ และทักษะ รวมทั้งความคิด
สรางสรรค และจนิ ตนาการดวย
ประเภทของกจิ กรรมลกู เสือเสริมสรา งทกั ษะชีวติ
เม่อื จัดประเภทตามทักษะ/ความสามารถ ในการปฏบิ ตั ิกิจกรรม แบงออกไดเปน 5 ประเภท คอื
1. กิจกรรมการแสดงออก เปนกิจกรรมที่เปดโอกาสใหลูกเสือไดใชความสามารถในการ
แสดงออก แสดงความคิดสรางสรรค จินตนาการในรูปแบบตาง ๆ ซึ่งมักจะเปนการจําลองประสบการณ
ตาง ๆ มาเพื่อการเรียนรูไดงายและสะดวกขึ้น หรือเปนส่ิงท่ีใชแทนประสบการณจริง เพราะศาสตร
ตางๆ ในโลก มีมากเกินกวาที่จะเรียนรูไดหมดสิ้นจากประสบการณตรงในชีวิต และบางกรณีก็อยูใน
อดตี หรือซับซอนเรนลบั หรือเปนอนั ตราย ไมส ะดวกตอการเรยี นรจู ากประสบการณจ ริง
ตัวอยา งกจิ กรรม เชน
1.1 สถานการณจําลอง เปนการจัดสภาพแวดลอมใหใกลเคียงกับสภาพความเปนจริงมากท่ีสุด
เพ่อื ใหผูเรยี นไดฝก ฝน แกปญหาและตัดสินใจจากสภาพการณที่กําลังเผชิญอยูน้ันแลวนําประสบการณ
แหง ความสาํ เรจ็ ไปเปนแนวทางในการแกป ญ หา
1.2 การสาธิต กระบวนการที่ผูสอนชวยใหผูเรียนไดเกิดการเรียนรูตามวัตถุประสงค โดยการ
แสดงหรือกระทําใหดูเปนตัวอยาง ใหความสําคัญกับกระบวนการท้ังหมดท่ีผูเรียนจะตองเฝาสังเกตอยู
โดยตลอด
1.3 เลา นิทาน
คมู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสริมสรางทกั ษะชวี ติ ชนั้ มธั ยมศึกษาปท ่ี 3 168
1.4 ละคร หุน จําลอง
1.5 เพลง ดนตรี การเคลื่อนไหวตามจังหวะดนตรี หมายถึง กิจกรรมที่เนนการใชดนตรีเปนสื่อ
ในการเรยี นรูท ั้งในแงเน้ือหาและความบนั เทิง ผอ นคลาย และเขา ถึงวฒั นธรรมตา ง ๆ
1.6 ศิลปะ แขนงอน่ื ๆ เชน การวาดรปู การปน ดนิ เหนียว งานหัตถกรรม การรอ ยดอกไม
1.7 การโตว าที
ฯลฯ
2. กจิ กรรมการการสาํ รวจและการรายงาน เปนกิจกรรมที่เนนใหลูกเสือไดเรียนรูจากความเปน
จริง /เหตุการณจริง ในชีวิตประจําวัน ผานประสบการณตรงดวยตนเอง ซ่ึงเปนรากฐานสําคัญของ
การศึกษา เชน การทําแผนที่ การสํารวจ หมายถึง การเรียนรูผานสถานการณจริงดวยการลงพ้ืนที่
สํารวจ และจําลองสิ่งท่ีไดเรียนรูสูแผนที่ ภาพ หรือสัญลักษณ เพื่อแสดงความคิดรวบยอดของส่ิงท่ีได
เรียนรนู ั้น
ตัวอยา งกิจกรรม เชน
การสัมภาษณ การเปนผูสื่อขาว การทาํ สารคดี การศึกษานอกสถานท่ี ชุมชนศึกษา การผลิตส่ือ การทํา
ปูมชีวิตบุคคลตัวอยาง การจัดนิทรรศการ การสอดแนม การสํารวจ การทําแผนที่ การเขียนเรียงความ
การเลา เรอื่ ง ฯลฯ
3. กจิ กรรมการวเิ คราะหแ ละการประเมิน เปนการเรียนรูที่เกิดจากการแลกเปล่ียนความคิดเห็น
และรวมกันวิเคราะห/ประเมิน สิ่งตา งๆที่เกิดข้ึน
ตัวอยางกจิ กรรม เชน
การเปรยี บเทียบคุณคา การประเมินความเส่ยี ง การทําแผนทคี่ วามคดิ ฯลฯ
4. การเลน เกมและการแขงขัน
4.1 เกม เปน กิจกรรมท่ีมีกฎกติกา และลําดับขั้นตอน ท่ีเอ้ือใหลูกเสือเกิดการเรียนรู
ผา นการเลน เกม ใหข อคดิ ทส่ี อดคลองกบั ผลการเรยี นรทู ีต่ อ งการ เชน เกมกระซบิ เปน ตน
4.2 การแขงขัน เปนกิจกรรมที่มีกติกาในการแขงขัน และมีการตัดสินหาผูชนะ เชน
การตอบปญหาในเรอื่ งตา ง ๆ เพอ่ื กระตนุ ใหเ กิดความสนใจใฝรมู ากข้ึน ฯลฯ
5. กิจกรรมบําเพ็ญประโยชน เปนกิจกรรมสรางสรรคท่ีเนนการฝกความเสียสละของลูกเสือ
ไดแก การจัดกิจกรรมการกุศล การซอมของเลนใหนอง การดูแลทําความสะอาดสถานท่ี การปลูกและ
ดแู ลตนไม การเกบ็ ผักจากแปลงไปประกอบอาหารเลย้ี งนอง ฯลฯ
หลักการออกแบบกจิ กรรม
1. การเลือกประเภทของกิจกรรม ตอ งสอดคลองกบั ผลการเรยี นรทู ตี่ อ งการ เชน
ผลการเรียนรูดานพุทธิพิสัย มักเลือกใช กิจกรรมการวิเคราะหและการประเมิน การรายงาน
และการแขง ขันตอบปญ หาในเร่ืองเน้อื หาที่ตอ งการใหเรียนรู เปนตน
ผลการเรียนรูดานจิตพิสัย มักเลือกกิจกรรมท่ีสรางความรูสึกท่ีสอดคลองกับผลการเรียนรูท่ี
ตองการ เชน กจิ กรรมการแสดงออก เกม กิจกรรมบําเพ็ญประโยชน เปน ตน
169 คูมือการจัดกิจกรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสริมสรางทักษะชวี ติ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท ี่ 3
ผลการเรียนรูดานทักษะพิสัย ถาเปนทักษะทางสติปญญานิยมใชกิจกรรมการวิเคราะห และ
ประเมินสว นทกั ษะทางกายภาพ เลอื กไดเกือบทุกประเภท
2. การตั้งประเด็นอภิปราย เพื่อใหลูกเสือไดรวมอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ในเร่ืองที่
สอดคลองกบั ผลการเรยี นรูทต่ี อ งการ เชน
ผลการเรียนรูดานพทุ ธิพสิ ยั ตงั้ ประเดน็ ให วเิ คราะห /สังเคราะห /ประเมิน เนื้อหาท่ีตองการ
ใหผูเรียนเกิดความเขาใจอยางถองแท เกิดความคิดรวบยอดที่ชัดเจน และสามารถนําไปประยุกตใชได
จรงิ
ผลการเรยี นรดู านจิตพิสัย ตง้ั ประเด็นใหเกดิ การโตแยง กนั ดว ยเหตผุ ลในเรือ่ งความคดิ ความ
เชื่อ ทเี่ กย่ี วของกับเจตคตทิ ต่ี องการ เพอ่ื ใหส มาชิกแตละคนไดมีโอกาสตรวจสอบความคดิ ความเช่อื ของ
ตนเอง ท่ีแตกตางจากคนอ่ืน ทําใหเกิดการปรับเปล่ียนความคิดความเชื่อจากการโตแยงกันดวยเหตุผล
ในกระบวนการกลุม
ผลการเรียนรูดานทักษะพิสัย ตั้งประเด็นใหเกิดความเขาใจอยางถองแทในข้ันตอนการทํา
ทักษะ น้ัน ๆ เชนการวิเคราะหความครบถวนในการทําตามข้ันตอนของทักษะ การวิเคราะหจุดออน
ทีม่ กั จะทาํ ทกั ษะนั้น ๆ ไมสาํ เรจ็ เปน ตน
3. การสรุปความคิดรวบยอดและประยุกตใช ทุกกิจกรรมควรมีการสรุปความคิดรวบยอดท่ี
เกิดข้ึนใหช ดั เจน และเปด โอกาสใหไดลองประยุกตใ ช ไดแ ก
ผลการเรียนรูดานพุทธิพิสัย ความคิดรวบยอดคือเน้ือหา องคความรูท่ีตองการใหเกิดข้ึน
ประยกุ ตใชโดยผลิตซา้ํ ความคดิ รวบยอดในรูปแบบทตี่ างจากเดมิ เชน การทาํ รายงาน ทาํ สรุปยอ ฯลฯ
ผลการเรียนรูดานจิตพิสัย ความคิดรวบยอดไมมีเน้ือหา แตเปนความรูสึกและความคิด
ความเชื่อที่เกิดข้ึนภายในตัวผูเรียน ประยุกตโดยการแสดงออกที่สอดคลองกับเจตคติที่เกิด เชน การ
กระทําที่แสดงออกถงึ ความซอ่ื สตั ย การกระทําทแ่ี สดงออกถงึ ความเปนสภุ าพบรุ ษุ สุภาพสตรี เปนตน
ผลการเรียนรูดานทักษะพิสัย ความคิดรวบยอดท่ีเกิดคือ ความเขาใจขั้นตอนและทําทักษะ
นนั้ ๆ ได ประยกุ ตโดยการฝก ฝนทกั ษะนั้นจนชํานาญ
คูม ือการจัดกจิ กรรมลูกเสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรา งทักษะชวี ติ ชัน้ มธั ยมศึกษาปท ่ี 3 170
บรรณานุกรม
สาํ นกั งานคณะกรรมการบรหิ ารลูกเสอื แหงชาติ. ขอบังคบั คณะลกู เสอื แหงชาติ วาดวยการ
ปกครอง หลกั สตู รและวชิ าพิเศษลูกเสอื สาํ รอง (ฉบบั ท่ี 10). โรงพมิ พ คุรสุ ภาลาดพรา ว,
2522.
สํานักงานคณะกรรมการบรหิ ารลกู เสือแหงชาติ. ขอบงั คับคณะลกู เสอื แหงชาติ วา ดว ยการ
ปกครอง หลักสตู รและวิชาพิเศษลกู เสอื สามัญ (ฉบบั ท่ี 13). โรงพิมพ คุรสุ ภาลาดพรา ว,
2525.
สาํ นกั งานคณะกรรมการบรหิ ารลูกเสอื แหง ชาติ. ขอ บังคับคณะลกู เสือแหง ชาติ วา ดว ยการ
ปกครอง หลักสูตรและวชิ าพิเศษลูกเสอื สามญั รนุ ใหญ (ฉบบั ท่ี 14). โรงพมิ พ คุรุสภา
ลาดพราว, 2528.
สํานกั งานคณะกรรมการบรหิ ารลูกเสอื แหงชาต.ิ ขอบงั คับคณะลกู เสอื แหงชาติ วา ดวยการ
ปกครอง หลกั สตู รและวชิ าพเิ ศษลูกเสอื วสิ ามัญ (ฉบับท่ี 15). โรงพิมพ สกสค.ลาดพรา ว
, 2529.
กรมวิชาการ กระทรวงศกึ ษาธิการ. คมู อื การจดั กจิ กรรมลูกเสือ – เนตรนารี ชนั้ ประถมศึกษาปท ี่
1 - 3 (ลูกเสือสาํ รอง). โรงพมิ พ ครุ สุ ภาลาดพราว, 2533.
กรมวชิ าการ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. คมู อื การจัดกิจกรรมลกู เสอื – เนตรนารี ชน้ั ประถมศึกษาปท่ี
4 – 6 (ลกู เสอื สามัญ) , 2533.
กรมวชิ าการ กระทรวงศึกษาธิการ. คูมอื การจัดกจิ กรรมลูกเสอื – เนตรนารี ชนั้ มัธยมศกึ ษาปท ี่
1 – 3 (ลกู เสอื สามญั รนุ ใหญ), (เอกสารอัดสาํ เนา)
กรมพลศกึ ษาประจาํ เขตการศึกษา 8. นทิ านทเ่ี ปนคตสิ อนใจ. (เอกสารอัดสําเนา) : มปท.,2537.
กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธรณสุข. คมู อื วทิ ยากรฝก อบรมทกั ษะชวี ติ เพือ่ การปอ งกนั เอดส
ดว ยการเรยี นรูแบบมีสว นรวม, ม.ป.ท.: พมิ พค รง้ั ท่ี 1 สงิ หาคม 2541.
กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธรณสุข. คูมอื การจดั กจิ กรรมเพอื่ พัฒนาเดก็ ดอ ยโอกาส. น.พ.อนันต
อนุ แกว บรรณาธกิ าร ม.ป.ท. : พมิ พคร้งั ที่ 1 มถิ ุนายน 2544
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร หลกั สตู รแกนกลาง. การศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551.
โรงพิมพ ชมุ นมุ สหกรณการเกษตรแหงประเทศไทย, 2551.
คณะกรรมการลกู เสือฝา ยพฒั นาบคุ ลากร สาํ นกั งานลูกเสอื แหง ชาต.ิ คมู อื การฝกอบรม
ผูบังคับบญั ชา ลกู เสือข้นั ผูชว ยผูใ หฝก อบรมวชิ าผใู หการฝกอบรมผูก ํากับลกู เสอื
(Assistant Leader Trainers course) (A .L.T.C). โรงพิมพ สกสค. : ลาดพรา ว, 2551.
จริ าวุช คุมจันทร. เกม/นนั ทนาการกลมุ สมั พันธ. เอกสารอดั สําเนา : มปท., 2547.
มณฑานี ตันติสุข, หนงั สอื ผหู ญิงอศั จรรย. http://www.nantbook.com/webboard/detail.php?qID=116.
คมู ือการจัดกิจกรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรา งทักษะชีวิต ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท ี่ 3 171
เปนแมเ หล็กดึงดดู ความรกั ดดี งี ายนดิ เดยี ว แคร จู กั ตัวเองดดี ,ี สืบคนเมอ่ื วันท่ี 24
มนี าคม 2553
มลู นิธิคณะลกู เสือแหงชาติ. กิจกรรมพฒั นาผเู รยี น กิจกรรมลกู เสอื – เนตรนารี ชวงชนั้ ที่ 3 ช้นั
มัธยมศกึ ษาปท ี่ 1 ตามหลกั สตู รการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2544, กรงุ เทพฯ :
อักษรเจริญทศั น, 2550.
มลู นธิ คิ ณะลกู เสือแหง ชาต.ิ กจิ กรรมพฒั นาผเู รยี น กจิ กรรมลูกเสือ – เนตรนารี ชว งชน้ั ท่ี 3 ชนั้
มธั ยมศึกษาปที่ 2 ตามหลกั สูตรการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2544, กรงุ เทพฯ :
อักษรเจรญิ ทศั น, 2551.
มูลนิธิคณะลกู เสือแหง ชาต.ิ กจิ กรรมพฒั นาผูเรียน กจิ กรรมลูกเสือ – เนตรนารี ชว งชน้ั ที่ 3 ชนั้
มธั ยมศกึ ษาปที่ 3 ตามหลกั สตู รการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2544,
อกั ษรเจรญิ ทศั น : กรุงเทพฯ, 2550.
สมาคมวางแผนครอบครวั แหงประเทศไทย. คมู อื อบรมวิทยากร การจัดกจิ กรรมลกู เสือทเี่ นน
ทักษะชวี ิต. สมาคมวางแผนครอบครัวแหง ประเทศไทย, 2553.
สํานักการลูกเสอื ยวุ กาชาด และกิจการนกั เรียน สาํ นกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ.
แนวทางการจดั กิจกรรมลูกเสือใหสอดคลอ งกับหลักสูตร การศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน
พทุ ธศกั ราช 2544. โรงพิมพครุ สุ ภาลาดพราว, 2549.
สาํ นักการลกู เสอื ยุวกาชาด และกจิ การนักเรียน สํานักงานปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการ.
แนวทางการพัฒนาหลักสตู ร การจัดกิจกรรมลกู เสอื ในสถานศกึ ษา พ.ศ. 2552.
องคก ารคาของ สกสค., 2552.
สาํ นักงานคณะกรรมการบรหิ ารลูกเสือแหงชาติ. ขอบังคับคณะลูกเสือแหง ชาตวิ าดว ยการ
ปกครอง หลกั สตู ร และวชิ าพเิ ศษลูกเสอื สามญั (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2525.
โรงพิมพค รุ สุ ภา : ลาดพรา ว, 2534.
สํานักงานคณะกรรมการบรหิ ารลกู เสือแหง ชาติ. ขอบังคับคณะลกู เสอื แหง ชาตวิ าดวยการ
ปกครอง หลกั สตู รและวชิ าพิเศษลกู เสอื สามัญรนุ ใหญ(ฉบบั ท่ี 14) พ.ศ. 2528
องคก ารคาของคุรสุ ภา : กรุงเทพฯ, 2537.
สํานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน. แนวทางการจัดกิจกรรมพฒั นาผเู รียน.
โรงพิมพครุ ุสภาลาดพรา ว, 2534.
อบุ ลวรรณ แสนมหายกั ษ. เพลงลูกเสอื . เอกสารประกอบการฝกอบรมผูบ งั คบั บญั ชาลกู เสอื
สํารอง สามญั สามัญรนุ ใหญ ขั้นความรูช ัน้ สูง : (เอกสารอดั สําเนา), 2539.
http://en.wikipedia.org/wiki/World_Scout_Jamboree
http://en.wikipedia.org/wiki/World_Organization_of_the_Scout_Movement
http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=0db802ca17a2e96f&clk=wttpcts
172 คูมอื การจดั กจิ กรรมลูกเสือสามัญรุนใหญเสริมสรา งทกั ษะชวี ติ ชัน้ มัธยมศึกษาปท ี่ 3
http://www.inspect2.moe.go.th/3%20SS.ATC/index.html
http://www.lovesquare.com http://mathafaps.tripod.com/gentleman.htm , อยางไรจึงเรยี กวา
เปน "สภุ าพบรุ ษุ ”, สืบคนเมื่อวนั ท่ี 23 มนี าคม 2553
http://www.navyscoutclub.org/index.php?lay=show&ac=article&Id=538687830
http://www.rdpb.go.th/RDPB/Front/Projects/RDPBImportantProject.aspx
http://www.scoutthailand.org/main/show_page.php?topic_id=56&auto_id=13&TopicPk=19
http://122.155.0.105/~scout/modules/news/article.php?storyid=7
คูมือการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรางทกั ษะชีวติ ชัน้ มัธยมศึกษาปท ี่ 3 173
โครงการลูกเสือเสริมสรางทักษะชวี ติ
ดาํ เนินการโดย
สํานกั งานลกู เสอื แหง ชาติ
154 ศาลาวชริ าวธุ แขวงวังใหม เขตปทุมวนั กรงุ เทพฯ 10330
โทรศพั ท 0-2219-2731 โทรสาร 0-2219-2108
website : http://www.scoutthailand.org
สาํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ถนนราชดําเนนิ นอก เขตดุสติ
กรุงเทพฯ 10300 โทรศพั ท 0-2288-5511
website : http://www.obec.go.th
สาํ นักงานกองทุนสนบั สนนุ การสรา งเสรมิ สขุ ภาพ
อาคารศูนยเรยี นรสู ขุ ภาวะ 99/8 ซอยงามดพู ลี แขวงทงุ มหาเมฆ
เขตสาทร กรงุ เทพฯ 10120 โทรศพั ท 0-2343-1500
โทรสาร 0-2343-1501 website : http://www.thaihealth.or.th
สมาคมวางแผนครอบครวั แหง ประเทศไทย
ในพระราชปู ถัมภสมเดจ็ พระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนี
8 ซอยวิภาวดรี งั สติ 44 ถนนวภิ าวดีรงั สติ แขวงลาดยาว เขตจตจุ ักร
กรงุ เทพฯ 10900 โทรศพั ท 0-941-2320 โทรสาร 0-2561-5130
website : http://www.ppat.or.th E-mail : [email protected]