- ลูกเสอื คิดวา หัวใจสาํ คัญของความเปน สภุ าพบรุ ุษและความเปน สภุ าพสตรี คือ
อะไร (เชน สภุ าพบุรษุ - ความเสยี สละ เปน ผูน ํา ออนโยนแตไ มอ อนแอ /
สุภาพสตร-ี เมตตา จริงใจ สภุ าพ เรยี บรอ ย)
- ไดขอ คิดอะไรบา งและจะนาํ ไปปฏิบตั ิในชวี ิตประจําวันอยางไร
(3) ผูกาํ กบั ลูกเสอื เพ่มิ เตมิ “มีคาํ กลาววา แกน แทข องความเปน สภุ าพบรุ ษุ และ
สภุ าพสตรอี ยทู ค่ี วามภูมิใจในคุณคา ของความเปนมนุษยและเพศของตน
ซึ่งขนึ้ กบั วาตนเองไดส รางคุณคา ไวม ากนอ ยแคไหน คุณคา ท่ีสาํ คัญ
ประกอบดวย การรจู กั เอาใจเขามาใสเรา การใหเ กียรตผิ ูอืน่ และรกั ษาเกียรติ
ตนเอง ความเสียสละ ความซื่อสตั ยแ ละมคี วามรบั ผิดชอบ”
4) ผกู ํากับลกู เสือเลา เร่อื งทีเ่ ปน ประโยชน
5) พธิ ีปด ประชมุ กอง(นัดหมาย ตรวจเคร่ืองแบบ ชักธง เลกิ )
5. การประเมินผล
ลกู เสือเขา ใจคุณลกั ษณะของสภุ าพบรุ ุษ สภุ าพสตรที ส่ี อดคลอ งกับกฎลูกเสือ
ขอ 4 ลูกเสอื เปนมติ รของคนทกุ คน และเปน พ่นี อ งกับลูกเสอื อน่ื ทัว่ โลก
ขอ 5 ลูกเสือเปนผูสภุ าพเรยี บรอ ย
ขอ 10 ลูกเสอื ประพฤติชอบดว ยกาย วาจาใจ
6. องคประกอบทักษะชวี ติ สําคญั ทเี่ กดิ จากกิจกรรม
คอื ความคิดวเิ คราะห ความคดิ สรางสรรค เขาใจตนเอง เห็นคณุ คาและภมู ิใจตนเอง
ความรับผดิ ชอบตอตนเองและผอู ่นื
ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมท่ี 19
เพลง
B.P.Spirit
I’ve got that B.P. Spirit right in my head (3)
I’ve got that B.P. Spirit right in my head (2) to stay
I’ve got that B.P. Spirit deep in my heart (3)
I’ve got that B.P. Spirit deep in my heart (2) to stay
I’ve got that B.P. Spirit all round my feet (3)
I’ve got that B.P. Spirit all round my feet (2) to stay
I’ve got that B.P. Spirit all over me (3)
I’ve got that B.P. Spirit all over me (2) to stay
96 คูมอื การจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสริมสรางทักษะชวี ิต ชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 3
รว มใจ
(สรอย) รวมใจเราพรอมใจ (3 คร้ัง) งานนอยใหญพ รอมใจกนั ทาํ
พวกเราลูกเสอื ไทยตา งพรอ มใจสามคั คี นํ้าใจเรากลา ผจญ บากบั่นอดทนหมั่นทําความดี
ผกู มติ รและมไี มตรี เหมอื นดังนอ งพ่รี ับความช่ืนบาน (สรอ ย)
พวกเราลกู เสอื ไทย บุกปา ไปลุยน้ําเอง แมเ ราจะฝา ภยั พาล แตจ ติ เบิกบานเพราะความ
ปรองดอง ชมฟาและนา้ํ ลาํ คลอง เสียงคกึ คะนอง รองเพลงเพลินใจ (สรอ ย)
ใบงาน
ใหลูกเสือแตละหมู ไปคนหาพฤติกรรมท่ีแสดงถึงความไมเปนสุภาพบุรุษของชาย หรือ
พฤตกิ รรมท่ีแสดงถึงความไมเปนสุภาพสตรีของหญิง หมูละ 1 พฤติกรรม รวมกันอภิปรายใหได
ขอสรปุ ในประเดน็
1. ทําไมพฤตกิ รรมน้ันจึงไมเปนสุภาพบุรษุ /สภุ าพตรี
2. ถา จะใหเ ปน สภุ าพบุรษุ /สุภาพสตรี จะตอ งปรับปรุงพฤตกิ รรมอยา งไร
สรุปผลการอภิปรายเพื่อรายงาน โดยการเลนบทบาทสมมติ 2 รอบท้ังพฤติกรรมที่ไมเปน
สุภาพบุรุษ/สุภาพสตรี และพฤติกรรมท่ีปรับใหเปนสุภาพบุรุษ / สุภาพสตรี แลวเตรียมนําเสนอใน
กองลูกเสือ คาบตอไป ใชเวลานําเสนอหมูละไมเกนิ 8 นาที
เรื่องทเ่ี ปนประโยชน
หญิงชรากบั หมอรักษาตา
หญิงคนหนึ่งเปนผูมีฐานะรํ่ารวย แตเม่ือเขาสูวัยชราดวงตากลับมืดมัวจนมองอะไรไมเห็น
นางจึงจางหมอมารักษาโดยทําสัญญาไววา ถาหมอรักษาใหนางสามารถมองเห็นไดเหมือนเดิมจะ
จายคา รักษาเปนเงนิ กอนใหญ แตหากรกั ษาไมห ายหมอจะไมไ ดร ับคาตอบแทน
ทุกวันหมอจะนํายาหยอดตามาใหแกหญิงชราท่ีบาน แตขากลับหมอไดขโมยทรัพยสินมีคา
ติดมือกลับไปดวยเสมอโดยที่หญิงชราไมรู เม่ือขโมยของตาง ๆ ไปจนหมดแลวหมอก็รักษาตาของ
หญงิ ชราหายพอดี แตเมอ่ื เอยปากทวงคา รกั ษา หญงิ ชรากลบั ไมย อมจา ยให หมอจึงนําเรอ่ื งไปฟอ งศาล
“หมอทําผิดสัญญา” หญิงชราใหการตอศาลเมื่อถูกเชิญตัวมาสอบปากคํา“เพราะเมื่อกอน
ขาพเจามองเหน็ ทรพั ยสนิ ทกุ ชนิ้ ในบา น แตบดั น้ีขาพเจามองไมเ ห็นมนั เลยแมแตช ิ้นเดียว”
ดวยเหตุนี้หญิงชราจึงไดรับการตัดสินใจใหพนผิดเมื่อผูพิพากษาส่ังใหสอบสวนอยางถี่ถวน
หมอจอมขโมยไดร บั สารภาพ ยอมคนื ทรัพยส ินใหแ กห ญงิ ชรา และไดรบั การลงโทษ
เรอ่ื งนี้สอนใหรูว า ผทู ่คี ดโกงคนอ่ืน ยอมตองไดรบั ผลกรรมท่ีกระทาํ ไว
คูมอื การจัดกิจกรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสริมสรางทักษะชวี ติ ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 3 97
หมาจ้ิงจอกกบั แพะ
หมาจิง้ จอกตัวหนึง่ หิวน้ํามาก มนั เดินซอกซอนหาน้ําดมื่ ไปท่ัว เมอื่ เจอบอนา้ํ บอหนึ่งจึงรบี
ตรงไปทันที โดยไมระมดั ระวงั จนลืน่ ตกลงไป ไมว า จะตะเกยี กตะกายปน ขน้ึ มาดว ยวธิ ีใดกไ็ มสาํ เร็จ
แพะตวั หน่งึ เดนิ มาทบี่ อนํ้า เห็นหมาจงิ้ จอกลอยคออยูในบอ จึงรองถามขึน้ วา “เจา ลงไป
ทําไมนะ” หมาจ้ิงจอกไดฟงดังนนั้ กค็ ิดอบุ ายข้ึน “ก็เพราะนา้ํ ในบอ นรี้ สอรอยมากนะสิ อรอยจนขาคดิ ที่
จะดม่ื ใหห มดเลย”
“อยางนนั้ เชียวร”ึ เจาแพะผโู งเขลารอ งถาม และดวยความซอื่ มันจงึ กระโดดลงไปในบอน้ัน
โดยไมยงั้ คิดอะไรเลย หมาจิง้ จอกไดโ อกาสกระโดดเหยยี บบนหลงั แพะ แลว ปนขึน้ มาจากบอนํา้ ไดใน
ท่ีสุด ปลอยใหเจาแพะโงล อยคออยูในบอนํ้านนั้
“เจา หลอกขา” แพะกลาว“เจาหวังประโยชนจ ากขาเทา นน้ั ”
“กใ็ ช” หมาจิง้ จอกโตต อบ “แตกเ็ พราะความโงของเจา เอง ขา เชอ่ื วา เคราบนคางของเจา คงมี
มากกวา มนั สมองของเจา เสียอกี
เร่อื งนี้สอนใหรูวา คนโงมักเปนเหยื่อของคนฉลาดเสมอ
98 คูมือการจดั กจิ กรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรางทกั ษะชีวติ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที่ 3
แผนการจัดกิจกรรมลูกเสอื สามัญรนุ ใหญ เครื่องหมายลูกเสือหลวง ชัน้ มธั ยมศึกษาปท่ี 3
หนว ยที่ 7 ทกั ษะชวี ิต เวลา 1 ช่วั โมง
แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 20 เปน ลกู เสือทง้ั ตวั และหัวใจ
1. จดุ ประสงคการเรยี นรู
ลูกเสือสามัญรนุ ใหญไดแ สดงออกถึงการเปนลกู เสือรนุ พ่ที ่ี “มองไกล” และเปน ประโยชนต อ
กองลูกเสอื และชมุ ชน
2. เน้ือหา
กิจกรรมบริการทลี่ กู เสอื สามญั รุนใหญส นใจเปนพเิ ศษ
3. สือ่ การเรียนรู
3.1 แผนภมู เิ พลง
3.1 แบบรายงานผลการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมทสี่ นใจเปน พเิ ศษ
3.3 เรือ่ งทเ่ี ปนประโยชน
4. กิจกรรม
4.1 พธิ ีเปด ประชุมกอง(ชักธง สวดมนต สงบนงิ่ ตรวจ แยก)
4.2 เพลง หรอื เกม
4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก ารเรยี นรู
1) ผูก าํ กบั ลกู เสืออธบิ ายใหล ูกเสือเขา ใจเกีย่ วกับกจิ กรรมทีล่ กู เสอื สนใจเปน พิเศษ และ
จะตองปฏบิ ตั พิ รอมรายงานเม่อื ครบกาํ หนดเวลา
กิจกรรมทีส่ นใจสาํ หรับลกู เสอื มีมากมายหลายประเภททล่ี ูกเสือสามารถเลอื กปฏิบัติ
ได และปฏบิ ตั อิ ยา งตอ เนอ่ื งตามความสนใจซึง่ มีอยู 3 ประเภทคอื
(1) กิจกรรมทใี่ ชกาํ ลงั กาย ไดแก กจิ กรรมกีฬาหรือกจิ กรรมผจญภัยตาง ๆ
(2) กิจกรรมท่ใี ชส ติปญ ญาหรือการใชค วามมานะอุตสาหะ เชน การเลย้ี งตนไม
การเลีย้ งสัตว ปลูกผกั ซอ มวทิ ยุ
(3) กจิ กรรมทใ่ี ชจ ติ สาํ นึก ความเสียสละ และการเผยแพรความรทู างการลูกเสือให
กวา งขวางขึน้ เชน กิจกรรมการบรกิ าร (การเกบ็ เศษวสั ดทุ ี่มีคมจากที่สาธารณะ)
การสอนลกู เสอื สาํ รอง (ทาํ แกรนดฮ าวล ระเบยี บแถว และการเลานทิ านเมาคลแี ก
ลูกเสอื สํารอง)เง่ือนไขของการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมที่ลกู เสือสนใจเปน พเิ ศษ จะตอง
บันทกึ และรายงานผลการปฏิบตั ิกิจกรรม
2)ลกู เสือแตล ะหมูรว มกนั คดิ สาํ รวจความสนใจเปนพเิ ศษโดยคํานึงถงึ ประโยชน
ท่ีคมุ คาและปน สิ่งบงบอกถงึ อุดมคตลิ ูกเสือแลวจงึ เลือกกิจกรรมทจี่ ะปฏบิ ตั ริ ว มกนั
3)หมูลกู เสือ/ลกู เสือแตล ะนายวางแผนการปฏิบตั กิ ิจกรรมแสดงออกถงึ การเปน ลูกเสอื
ท้งั ตัวและหวั ใจ พรอมกาํ หนดเวลาการเรมิ่ ตนและเวลาสนิ้ สุดกจิ กรรม โดยมผี กู ํากับ
ชวยใหข อเสนอแนะ และคาํ ปรกึ ษา
คูมอื การจัดกจิ กรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสริมสรา งทักษะชีวติ ชั้นมัธยมศกึ ษาปท่ี 3 99
4.4 ผกู ํากับลกู เสือเลา เร่ืองที่เปน ประโยชน
4.5 พธิ ีปดประชุมกอง(นัดหมาย ตรวจเครอื่ งแบบชกั ธง เลิก)
นดั หมายหมลู กู เสือทจ่ี ะชว ยบริการเปนผูชว ยผฝู กระเบยี บแถว แกรนดฮ าวล และชว ยสอน
เลานิทานเร่ืองเมาคลี แกกองลกู เสอื สํารอง
5. การประเมินผล
5.1 ลกู เสือสามัญรุน ใหญ เลอื กกจิ กรรมและปฏบิ ตั กิ ิจกรรมที่สนใจเปน พิเศษไดสาํ เร็จ
5.2 มีลูกเสือสมคั รใจฝกตนเองเปนผูฝก สอน ระเบยี บแถว และแกรนดฮาวสล กู เสอื สํารอง
5.3 มีลกู เสือสมคั รใจฝก ตนเองเปน ผชู วยสอน “เลาเรื่องนิทานเมาคล”ี ใหกับกองลกู เสือสํารอง
6.องคประกอบทักษะชวี ติ สาํ คญั ทเี่ กดิ จากกจิ กรรม
คือ ความคิดวเิ คราะห ความคดิ สรางสรรค รับผิดชอบตอ ตนเองและสวนรวม สราง
สมั พนั ธภาพและการส่อื สาร
ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกจิ กรรมท่ี20
เพลง ลกู เสอื ธีรราช
เหลาลูกเสอื ของธรี ราช ทะนงองอาจสืบชาตเิ ช้ือพงศพ นั ธ
สมัครสมานโดยมสี ามัคคีมั่น พวกเราจะรักรว มกนั จะผูกสัมพนั ธตลอดกาล
มีจรรยา รักษาชื่อ สรางเกียรติระบอื เลือ่ งลอื ตอไปชา นาน
ราเรงิ แจม ใสใฝใ จรักใหยืนนาน พวกเราลว นชนื่ บานเพราะกจิ การลูกเสอื ไทย
100 คมู อื การจัดกจิ กรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรางทกั ษะชวี ติ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท่ี 3
แบบรายงานผลการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมทสี่ นใจเปน พเิ ศษ
แบบรายงานผลการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม
การบรกิ าร / การทํางานตามความสนใจเปน พิเศษ
ชื่อ ................................................................................................. เลขท่ี ............. หมู .................
ผลงาน .........................................................................................................................................
เริ่มปฏบิ ตั งิ าน ..............................................................................................................................
สิ้นสดุ ..........................................................................................................................................
วันที่ เดือน ป กจิ กรรมท่ปี ฏบิ ัติ หมายเหตุ
ขอรับรองวาเปนความจรงิ ทุกประการ
ลงช่อื ...................................................
ผูปฏิบัติงาน
................./............/.............
ความเห็นของผกู าํ กับลกู เสือ
.............................................................................
..............................................................................
ลงชื่อ .................................................ผูกํากับลกู เสือ
(..........................................)
…………../………./…………
คูม ือการจัดกิจกรรมลูกเสือสามัญรุนใหญเสริมสรา งทกั ษะชวี ติ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที่ 3 101
แผนการจดั กิจกรรมลูกเสือสามัญรุนใหญ เคร่อื งหมายลกู เสอื หลวง ชนั้ มธั ยมศึกษาปท ่ี 3
หนว ยท่ี 7 ทักษะชวี ิต เวลา 2 ช่ัวโมง
แผนการจดั กิจกรรมท่ี 21 รูเ ทาทันสอ่ื โฆษณา
1. จดุ ประสงคการเรยี นรู
รูเทาทันสือ่ โฆษณา ในเรอื่ งท่เี กีย่ วกบั ความสวย ความงาม และสขุ ภาพ
2. เน้ือหา
วัยรุน สว นใหญม ักนิยมใชผลติ ภณั ฑเสรมิ สุขภาพและความสวยงาม จงึ ควรรูเทา ทนั และพิจารณา
อยา งถองแทวา ผลิตภณั ฑทเี่ ลอื กใชน น้ั มคี ณุ คา สมราคา จริงหรอื ไม และไมเ กดิ ผลเสยี ใด ๆ ตามมา
(เตรียมการสอน ผกู ํากบั มอบหมายงานใหล กู เสือแตล ะหมู ทําการศกึ ษาโฆษณาทาง
โทรทัศน และเคเบล้ิ ทวี ี หมูละ 1 เรอ่ื งทเ่ี ปนผลิตภณั ฑเ กีย่ วกับความสวยความงามและสขุ ภาพ)
3. ส่อื การเรียนรู
3.1 แผนภูมิเพลง,เกม
3.2 เรอ่ื งทเ่ี ปน ประโยชน
4. กจิ กรรม
4.1 กิจกรรมครงั้ ท่ี 1
1) พิธีเปดประชุมกอง(ชกั ธง สวดมนต สงบน่งิ ตรวจ แยก)
2) เพลง หรอื เกม
3) กจิ กรรมตามจุดประสงคการเรยี นรู
(1) ผกู าํ กบั ลกู เสอื ถามแตละหมวู าไดเลือกโฆษณาผลติ ภณั ฑอะไรมาบาง
(2) ใหแตละหมซู อมการแสดงละครสัน้ เลยี นแบบโฆษณาน้ัน และให สมาชิกในหมู
รวมกันวิเคราะหว า
- โฆษณาน้ัน ตอ งการบอกอะไรแกเ รา
- โฆษณานั้น มีวิธกี ารใหข อ มูลและใชเ ทคนิคเขาชว ยอยา งไรบาง
- พยายามหาขอโตแ ยงวา ส่งิ ทสี่ อ่ื บอกเรานนั้ มีความเปน ไปไดแ คไหน เพราะอะไร
(3) ผกู าํ กับลกู เสือนัดหมายใหห มลู ูกเสอื ทําการแสดงละครสัน้ และรายงานผล
การอภิปรายในคร้งั ตอ ไป
4) ผูกํากับลกู เสอื เลาเร่อื งทเ่ี ปนประโยชน
5) พิธปี ดประชมุ กอง(นดั หมาย ตรวจเครือ่ งแบบชกั ธง เลกิ )
4.2 กจิ กรรมครง้ั ท่ี 2
1) พิธเี ปด ประชุมกอง(ชักธง สวดมนต สงบนงิ่ ตรวจ แยก)
2) เพลง หรือเกม
102 คมู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรา งทักษะชีวิต ช้ันมัธยมศกึ ษาปท่ี 3
3) กิจกรรมตามจดุ ประสงคก ารเรยี นรู
(1) ลูกเสอื เลน ละครสน้ั และรายงานผลการอภิปรายทลี ะหมจู นครบ
(2) ผูก ํากบั ลกู เสือนําอภปิ รายและเพิม่ เตมิ ในประเดน็ ขอ คิดท่ไี ดจากการทํากิจกรรม
และแนวทางการรูทนั ส่ือ(1. ส่อื ทุกชนิด เชน โทรทัศน วิทยุหนังสอื พิมพ นิตยสาร
ฯลฯ เปนธรุ กจิ ทลี่ งทนุ สงู มรี ายไดจากการโฆษณา2. โฆษณาเปน ส่งิ ทท่ี าํ ข้ึน
เพื่อกระตนุ ใหค นซ้ือสินคามากๆ 3. กระบวนการผลติ โฆษณา มักใหแ ตข อ มลู
ดานดี หรือเนน ภาพลกั ษณแ ตไมใ หข อ มลู ใชเทคโนโลยีชว ยทาํ ใหดเู สมอื นจริง
แตไ มจรงิ จึงมีผลตอ พฤตกิ รรมของผูซื้ออยางมาก 4. การรทู ันส่ือก็คือการรูทันสิ่ง
ท่สี ่ือนาํ เสนอ ดังน้นั ลกู เสือควรฝกฝนการ วิพากษ วิจารณ และคดิ เชงิ วิเคราะห
หาเหตผุ ล ตงั้ ขอ สงสยั รวมทงั้ เปน ผบู ริโภคท่กี ระตือรอื รน แสวงหาขอ มลู
เพม่ิ เตมิ อยเู สมอ )
4) ผูกํากับลกู เสือเลาเรอ่ื งท่มี ีประโยชน
5) พธิ ปี ด ประชุมกอง(นดั หมาย ตรวจเคร่ืองแบบ ชกั ธง เลิก)
5. การประเมินผล
สงั เกต การมสี ว นรว มในการทํากจิ กรรม การแสดงออก และการใหข อ คดิ เหน็ ในหมูและ
ในกองลูกเสือ
6. องคประกอบทกั ษะชวี ติ สาํ คัญทเ่ี กดิ จากกจิ กรรม
คือ ความคิดวเิ คราะห ความคดิ สรางสรรค ตระหนักและรูเทา ทันอิทธพิ ลของสื่อโฆษณา
ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกจิ กรรมท่ี 21
เพลง
โฮกก้ี โพกก้ี
ย่ืนแขนขา งซา ยเขาไป ยน่ื แขนขางซา ยออกมา
ยนื่ แขนขา งซา ยเขาไป แลว ก็สั่นใหม ันแรง ๆ
เราเตน โฮกกีโ้ พกกี้ แลวเรากห็ มนุ ตัวไปรอบ ๆ ทาํ ใหเ ราสบายใจ
ย่ืนแขนขางซา ยเขาไป ยื่นแขนขา งซา ยออกมา
ยืน่ แขนขางซา ยเขา ไป แลวก็ส่นั ใหมนั แรง ๆ
เราเตนโฮกก้โี พกกี้ แลว เรากห็ มนุ ตัวไปรอบ ๆ ทําใหเราสบายใจ
คมู อื การจัดกจิ กรรมลูกเสือสามัญรุนใหญเสริมสรา งทกั ษะชวี ิต ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท ่ี 3 103
เกม
เจาแหงสงั เวยี น
วิธเี ลน
1. ขีดวงกลมใหญ 1 วง สาํ หรบั ลกู เสอื จํานวน 2 หมู
2. ใหลกู เสือ 2 หมู เขา ไปอยใู นวงกลม จบั คกู ัน ยกเทา หน่งึ งอไวข า งหลงั สองมอื จบั เทาท่ีงอไว
3. เม่ือไดยินสัญญาณ ใหต อ สูกันโดยกระโดดชนดว ยบา จนคตู อสอู อกไปนอกวงหรือเทา ถูกพื้น
4. หมใู ดเหลือคนอยใู นวงกลมมาก เปนฝา ยชนะ
เรอ่ื งท่ีเปนประโยชน
ทม่ี าของสํานวนไทย “หมาเหา ใบตองแหง ”
หมาเหาใบตองแหง เปน สํานวน มีความหมายวา พดู เอะอะแสดงวาจาวาเปนคนเกง กลาไม
กลวั ใคร แตจ ริง ๆ แลว ขข้ี ลาดและไมกลา จรงิ
หมาเหาใบตองแหง เปนสาํ นวนท่เี ปรยี บเทยี บกับสนุ ขั ทช่ี อบเหาใบตองแหงคือเหาใบกลว ยท่ี
แหงติดอยูกับตน เวลาลมพดั ใบกลว ยแหง จะแกวงหรอื เสียดสีกัน มีเสยี งแกรกกรากสนุ ัขเหน็ อะไรไหว
ๆ หรือไดยนิ เสียงแกรกกรากก็จะเหา ข้นึ แตก เ็ หาไปอยางน้นั เอง ไมก ลา ไปกดั ใบตองแหง กริ ยิ า
ของสนุ ัขนจี้ ึงนํามาเปรียบกบั คนทชี่ อบพดู จาเอะอะในลักษณะทอ่ี วดตัววาเกงกลา แตท ีจ่ รงิ แลว ก็
ไมไดก ลาสมกบั คาํ พดู เชน พวกน้หี มาเหาใบตองแหงทง้ั นนั้ ไดแตตะโกนดาเขาลับหลังถาเขาเอาจริง
ก็ข้ีครา นจะว่ิงหนไี มท ัน
ที่มา เรือ่ งดี ๆ มีไวแบง ปน http://pbmath.exteen.com/20090325/entry-3
เร่อื งนส้ี อนใหรูวา เราไมค วรทาํ ตัวเปน หมาเหา ใบตองแหง ควรเปน ผทู ่มี คี วามกลา หาญอยา งมี
เหตผุ ล
104 คูมอื การจดั กจิ กรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรา งทกั ษะชวี ิต ช้ันมธั ยมศึกษาปท่ี 3
ชอนยาวหนง่ึ เมตร
ชายคนหน่ึงนอนหลับอยทู บ่ี านในคนื วันหน่ึง มนี างฟามาหาเขาแลว ชวนใหไ ปเทย่ี วสวรรค
กับนรกเขาไดก ็ตกลงไปดว ยนางฟา จึงพาไปยงั ที่แหง หนึง่ แลว บอกวา"ถงึ นรกแลว "
ท่ีนั้นเปนหองใหญม าก มโี ตะตวั ยาววางอาหารทสี่ ุดแสนอรอยทุกประเภทมีคนตวั ผอมเหลอื ง
นา สงสารน่ังอยรู อบโตะ หลายคนนางฟาชไ้ี ปท่คี นเหลา นน้ั แลว บอกวา "น่ีสตั วน รกที่นอ่ี นญุ าตใหกนิ
อาหารดี ๆแตม เี ง่อื นไขวา หา มใชมือหยบิ ตองใชช อนที่ยาวหนงึ่ เมตรตักอาการกนิ เทา นนั้
จงึ ผอมโซเพราะอดอาหารทั้งท่อี ยใู กลช ิดอาหารที่อรอ ยและมคี ณุ คา แตไมส ามารถเอาอาหารเขา ปาก
ของตนเองได”
นางฟาพาไปอีกหองหนง่ึ บอกวา "ถงึ สวรรคแ ลว"มีลักษณะเหมอื นกบั หองแรก นางฟา ช้มี อื ไป
ยังคนที่นั่งเกา อ้ีรอบโตะบอกวา" นเี่ ทวดาบนสวรรค" แตแ ปลกท่คี นเหลา นนั้ ย้มิ แยมแจม ใสอว นทว น
สมบรู ณส บายทงั้ ๆที่เขากต็ อ งใชชอ นยาวหน่งึ เมตรเหมือนกับทีน่ รก นางฟา อธิบายตอวา
“วิธขี องชาวสวรรคคือคนขา งหนึง่ ของโตะเขาตกั อาหารปอนใสป ากของคนตรงขา มคนอีกขา งกต็ กั
อาหารมาใสป ากของคนขา งนก้ี ็เลยไดกนิ กันทกุ คนอยอู ยางสุขสบาย”
ท่ีมา ธรรมะดลิ ิเวอรร ่ี
เร่ืองนีส้ อนใหร ูวา คนท่คี ดิ แตเ รอ่ื งความสุขของตวั เองโดยไมค ดิ ถงึ คนอน่ื จะไมมีความสุขเทาคนที่
รจู ักแบงปนชว ยเหลอื และคาํ นงึ ถึงความสขุ ของคนอ่นื ดว ยอยา ถามวาจะไดอะไร
จากสังคมแตจงถามตวั เองวาจะใหอะไรกับสงั คม
คมู อื การจัดกจิ กรรมลูกเสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรางทักษะชวี ิต ช้ันมัธยมศกึ ษาปท่ี 3 105
แผนการจดั กิจกรรมลกู เสอื สามญั รนุ ใหญ เครื่องหมายลูกเสอื หลวง ช้ันมธั ยมศึกษาปที่ 3
หนว ยที่ 7 ทักษะชวี ิต เวลา 1 ชวั่ โมง
แผนการจดั กจิ กรรมที่ 22 ลวนลามทางเพศ
1. จดุ ประสงคการเรียนรู
มีแนวทางปอ งกัน และชว ยเหลอื ผถู กู ลวนลามทางเพศ
2. เน้อื หา
การปอ งกนั และชว ยเหลือผถู ูกลวนลามทางเพศ
3. สอื่ การเรียนรู
3.1 แผนภูมิเพลง
3.2 กรณีศกึ ษา
3.3 เร่ืองทีเ่ ปนประโยชน
4. กิจกรรม
4.1 พธิ ีเปด (ชักธง สวดมนต สงบน่ิง ตรวจ แยก)
4.2 เพลง หรอื เกม
4.3 กิจกรรมตามจดุ ประสงคก ารเรียนรู
1) ผกู ํากับลกู เสอื ตง้ั คําถามในกองลูกเสอื “ มีสถานการณใดบางท่ีมกี ารลวนลามทาง
เพศตอเดก็ ผหู ญิงเกดิ ขน้ึ ”(เชน บนรถเมล เดินเขา ซอยเปลยี่ ว อยูคนเดยี วในบาน ฯลฯ)
2) ผูกํากับลกู เสอื เลา กรณศี ึกษาการถกู ลวนลามทางเพศของเด็กหญงิ (กรณีศึกษา)
3) หมูลูกเสอื รว มกนั อภิปรายหาแนวทางปอ งกันการถูกลวนลามทางเพศในเด็กผหู ญงิ
และแสดงบทบาทสมมตุ ิกรณพี บเห็นเดก็ ผูหญงิ ถกู ลวนลามทางเพศ ในฐานะลกู เสอื
สามญั รุนใหญ คดิ วา จะตัดสนิ ใจชว ยเหลอื อยา งไร
4) รวมกอง ลูกเสอื นาํ เสนอบทบาทสมมตุ ทิ ลี ะหมู
5) ผกู าํ กับลูกเสอื และลูกเสอื รว มกนั สรุปวธิ ีการชว ยเหลอื ท่เี หมาะสม แนวทาง
การปองกนั การถกู ลวนลามทางเพศ และสรปุ ขอคิดทไ่ี ดจากกจิ กรรม
4.4 ผกู ํากับลกู เสอื เลา เร่ืองท่มี ปี ระโยชน
4.5 พธิ ีปดประชุมกอง(นดั หมาย ตรวจเครื่องแบบ ชักธง เลกิ )
5. การประเมนิ ผล
สังเกต การมสี ว นรว มในการทาํ กิจกรรม การแสดงออก และการใหค วามคดิ เห็นในหมแู ละใน
กองลูกเสอื
6. องคป ระกอบทกั ษะชวี ติ สาํ คัญทเ่ี กดิ จากกจิ กรรม
คอื ความคิดวเิ คราะห ความคิดสรา งสรรค การตัดสินใจและการแกไ ขปญ หา
106 คูมือการจดั กจิ กรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสริมสรางทักษะชวี ติ ชั้นมัธยมศกึ ษาปท่ี 3
ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมที่ 22
เพลง
สวรรคบนั ดาล
สวรรคบ นั ดาลดลใหเรามา ใหเราสองมาพบกนั วนั ใหม
อบรมวนั นดี้ อี กดีใจ เริงรน่ื กันไปไมรูโรยรา จะอยแู หง ไหนเตอื นใจเตอื นตา
จะอยเู มอื งฟา เตอื นตา เตือนใจ สวรรคบ นั ดาล
กรณีศกึ ษา
สมชายเปนลกู เสือสามญั รนุ ใหญ ชน้ั มธั ยมศึกษาปท ี่ 3 ของโรงเรียนแหงหน่งึ ทุกวันเขาตอง
พยายามเบียดข้นึ รถเมลทแี่ นน มากไปโรงเรยี น วันนี้ขณะยนื อยบู นรถ เขามองเห็นชายคนหนง่ึ กาํ ลงั
เอาอวัยวะเพศถูไถรางกายเด็กนกั เรียนหญงิ ทยี่ นื อยตู ดิ กบั เขาสมชายคดิ วา เขาจะชวยนักเรยี นหญิง
คนนอ้ี ยางไรด.ี ......
เร่อื งทเ่ี ปนประโยชน
กบกับกระตา ย
กระตายปาฝูงหน่ึง ไมพอใจกับสภาพชีวิตท่ีตองเผชิญอยูดวยความหวาดหวัดจากอันตราย
ตาง ๆ มาตลอด เจากระตายปาตัวหน่ึงจึงเอยข้ึน “ไมวาจะเปนมนุษย หมาปา นกอินทรีย และ
สัตวทั้งปวงท่ีชอบไลล า พวกเราเปนอาหาร ขาจึงมีความเห็นวา พวกเราท้ังหมดควรตายเสียดีกวาที่
จะมีชีวิตอยดู วยความหวาดกลวั กบั ภัยทจ่ี ะมาถึงไมชาก็เร็ว”
กระตายปาท้ังฝูงจึงตัดสินใจที่จะกระโดดน้ําตายไปพรอม ๆ กัน พวกมันว่ิงกรูไปท่ีริมธาร
ซงึ่ มีกบอาศัยอยู เมอื่ ฝงู กบเห็นกระตา ยปา แหม ากนั มากมาย ก็เกดิ ความกลัวจึงกระโดดหนีไปในน้ํา
จนหมด
“ชากอน” กระตายตัวหนึ่งพูดขึ้น “ขา คิดวา พวกเราควรจะมีความอดทนใหมากกวา น้ี ชีวติ
ก็ไมไ ดเ ลวรา ยอยางท่คี ดิ กนั หรอก ดพู วกกบตวั กระจอ ยรอ ยเหลานั้นสิ พวกมนั ไมไดม ีชวี ิตทเ่ี ต็มไป
ดว ยอนั ตรายมากไปกวา พวกเราหรอกหรอื ”
เรอ่ื งน้ีสอนใหร ูวา ในโลกน้ีอาจยงั มผี ูอ่นื ทมี่ คี วามทกุ ขร อนกวาเราอยูมากมายนัก เราควรจะยนื
หยัดตอสกู ับชวี ติ อยา ไดท อ เปน อนั ขาด
คมู ือการจัดกิจกรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรา งทกั ษะชวี ิต ช้ันมัธยมศกึ ษาปท่ี 3 107
แผนการจัดกจิ กรรมลูกเสือสามญั รนุ ใหญ เครือ่ งหมายลูกเสอื หลวง ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที่ 3
หนวยที่ 7 ทักษะชวี ติ
แผนการจัดกจิ กรรมที่ 23 การชวยเหลือผอู ื่น เวลา 1 ชว่ั โมง
1. จุดประสงคก ารเรียนรู
ลกู เสือไดปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเสริมสรา งคณุ ธรรมจรยิ ธรรมตามคําปฏิญาณตน “ขา จะชว ยเหลอื
ผอู น่ื ทุกเม่อื ”
2. เนอ้ื หา
กจิ กรรมเสริมสรางคณุ ธรรมจริยธรรมตามคาํ ปฏิญาณตน “ขา จะชว ยเหลอื ผอู น่ื ทุกเม่อื ”
3. สื่อการเรียนรู
3.1 แผนภมู ิเพลง
3.2 สอ่ื เกี่ยวกบั ผูประสบภยั จากเหตกุ ารณส ําคญั (เรอ่ื งทีเ่ พิ่งเกิด เปนที่รับรูก นั ทว่ั ไป)
3.3 เรอ่ื งทเ่ี ปนประโยชน
4. กจิ กรรม
4.1 พิธเี ปด ประชุมกอง(ชักธง สวดมนต สงบนิง่ ตรวจ แยก)
4.2 เพลง หรือเกม
4.3 กจิ กรรมตามจุดประสงคการเรยี นรู
1) ผกู าํ กับลูกเสอื ใหก องลกู เสือดูสื่อประกอบการเลา เรื่อง ผปู ระสบภยั จากเหตกุ ารณ.
อบุ ตั ภิ ัยสําคญั ทีเ่ พ่งิ เกิดขนึ้ และเปนท่รี บั รูกันทัว่ ไป เชน อุทกภยั ในภาคใต
แผน ดนิ ไหวในญ่ีปนุ และจนี ภยั หนาวและ ภัยแลงในภาคอีสาน เปนตน
2)ลกู เสอื รวมกนั แสดงความเหน็ ในเรื่องผลกระทบจากอุบัติภยั และปญหาทเี่ กดิ ข้ึนกบั
ผปู ระสบภัยเชน ความอดอยาก การขาดแคลนอาหาร ทอ่ี ยอู าศยั การเสียชวี ติ
โรคระบาดฯลฯ
3) ลกู เสือวางแผนรว มกัน ในการจดั ทําโครงการสรา งคณุ ธรรมจริยธรรมตาม
คําปฏญิ าณตนขอ 2“ขา จะชว ยเหลือผอู น่ื ทกุ เมอื่ ” และแบงงานกนั รับผดิ ชอบ
4)ลกู เสือดาํ เนนิ การตามโครงการ เชน การขอรับบริจาคเงนิ สิง่ ของ เพอื่ มอบใหกบั
ผูท ่ีประสบภยั การออกไปชว ยเหลือผขู าดแคลน ตามโอกาสอนั ควร เปนตน
5)ผกู าํ กบั ใหค ําแนะนําในการวางแผนโครงการเพ่อื ใหลูกเสอื ไดน าํ ไปดําเนนิ การอยา ง
รอบคอบ
4.4ผกู ํากบั ลูกเสือเลา เรอื่ งทเี่ ปนประโยชน
4.5พธิ ปี ดประชมุ กอง(นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธง เลิก)
5. การประเมนิ ผล
สงั เกต การมสี ว นรว มในการทํากจิ กรรม และการแสดงความคดิ เหน็ ในกลุม
108 คูม อื การจัดกจิ กรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสริมสรางทกั ษะชวี ิต ช้ันมัธยมศึกษาปท ่ี 3
6. องคป ระกอบทักษะชีวติ สําคัญทเี่ กดิ จากกิจกรรม
คือ ความคิดวเิ คราะห ความคิดสรา งสรรค ความรบั ผิดชอบตอตนเองและสงั คม
ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กจิ กรรมที่ 23
เพลง
เกดิ มาพงึ่ กัน
เกดิ เปนคนอยาเห็นแกต นแหละดี ถึงจะมี รํา่ รวยสุขสนั ต
จนหรอื มไี มเ ปน ท่สี ําคญั แมรกั กนั พ่งึ พาอยา ไปตัดไมตรี
เกดิ มาพงึ่ กันผิวพรรณ ใชแบงศกั ด์ิศรี วนั นเ้ี ราอยู คดิ ดใู หด ี
ถงึ จะจนจะมอี ยา ไปสรา งเวรกรรม ขืนทําชว่ั ไปอาจตอ งใชก รรมเวร
อยางมงายโลภหลงเพราะคงจะเกิดลาํ เคญ็ สรางบุญพระทา นคงเหน็
รมเยน็ พนความกงั วล ถงึ วิบตั ขิ ัดสน ผลบญุ นําให
ศีลธรรมมัน่ ใจไมต อ งไปกังวล ถึงจะมจี ะจนเกดิ กุศลดลใจ
อกี กุญชรอนั ปลดปลง
พฤษภเกสร สําคัญหมายในกายมี
โททนตเ สนค ง มลายสิน้ ทัง้ อินทรยี
นรชาติวางวาย ประดับไวใ นโลกา
สถติ ทวั่ แตชว่ั ดี
คูมอื การจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสริมสรา งทกั ษะชีวิต ช้ันมธั ยมศึกษาปท ่ี 3 109
เร่อื งท่ีเปนประโยชน
เทพธิดากบั ชาวประมง
หนุมชาวประมงคนหนึ่ง อาศัยอยูกับแมของเขา ท้ังสองคนแมลูกประพฤติตนเปนคนดี มีใจ
เมตตาปราณตี อ เพื่อนบานและคนท่วั ไปตลอดมา
วันหน่ึง หนุมชาวประมงผูนี้ออกไปทอดแหหาปลา แตวันน้ันไมไดปลาสักตัว กอนจะกลับ
บาน พบวามีหอยตัวหน่ึงมาติดแห เขาก็เลยนําหอยตัวนั้นใสเรือเอากลับบานดวย ในขณะท่ีเดินทาง
กลับบานนั้น หอยตัวน้ีมีขนาดใหญขึ้นทุกที ในท่ีสุดก็มีหญิงสาวสวยคนนึงออกมาจากหอย ชายหนุม
ก็พาหญิงสาวกลับบานแลวเลาเร่ืองนี้ใหแมฟง แมของเขาก็ยินดีใหหญิงสาวสวยผูนี้อาศัยอยูในบาน
มชี าวบานมากมายขอดูหญิงสาวสวยพรอมทั้งมอบเสนไหมอยางดีให หญิงสาวก็เอาเสนไหม
น้ันมาทอเปนผาไหมสวยงามมาก แลวจึงใหชายหนุมนําไปขาย แตเน่ืองจากราคาแพงมาก จึงไมมี
ใครซอ้ื ตอมาไดพ บชายชราคนหน่งึ มลี ักษณะเปนผดู ี ไดรับซื้อไหมนีไ้ วโดยไมเ กีย่ งเร่อื งราคา
เมื่อชายหนุมกลับถึงบานพรอมดวยเงินท่ีขายผาไหมได หญิงสาวก็มอบเงินท้ังหมดใหชาย
หนมุ และแมของเขาไวใ ชจ าย กอนทีห่ ญงิ สาวจะจากไปก็กลาวกบั สองคนแมลกู วา
“เทพเจาไดส่ังใหขามาเพ่ือนําความสุขและโชคลาภมาใหทานทั้งสอง เพราะทานทั้งสองเปน
คนดี มีใจโอบออมอารีเสมอมา”
เรอ่ื งน้ีสอนใหร ูว า คนดีนั้น แมจ ะไดรับความยากลําบาก ก็มักจะมคี นคอยชวยเหลือ
110 คูมือการจัดกิจกรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรางทกั ษะชีวติ ช้ันมัธยมศกึ ษาปท่ี 3
แผนการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั รนุ ใหญ เคร่ืองหมายลกู เสอื หลวง ช้ันมธั ยมศกึ ษาปท ี่ 3
หนวยที่ 8 เศรษฐกจิ พอเพียง เวลา 1 ชว่ั โมง
แผนการจดั กิจกรรมที่ 24 การประหยดั
1. จุดประสงคก ารเรียนรู
ลกู เสือไดม ีโอกาสทบทวนตนเองในเร่ืองการใชเงนิ ซงึ่ นาํ ไปสกู ารวเิ คราะหและปรบั ปรงุ ตนเอง
2. เนอื้ หา
การวางแผนสรางความประหยดั
3. สอ่ื การเรียนรู
3.1 แผนภูมิเพลง
3.2 ใบงาน
3.3 เรือ่ งที่เปน ประโยชน
4. กจิ กรรม
4.1 พธิ เี ปด ประชมุ กอง(ชกั ธง สวดมนต สงบน่ิง ตรวจ แยก)
4.2 เพลง หรอื เกม
4.3 กจิ กรรมตามจุดประสงคก ารเรียนรู
1) หมลู ูกเสอื นงั่ ลอมวง นายหมใู หแ ตล ะคนคิดสิ่งท่ีตนเองอยากได 3 อยาง พรอ ม
เหตุผลแลวเลา ใหเ พื่อน ๆในหมฟู ง เมือ่ เลาจบนายหมขู อใหเลอื กส่ิงทอี่ ยากไดมาก
ทีส่ ดุ เพยี งคนละ 1 อยาง พรอ มเหตผุ ล
2) นายหมูใหส มาชกิ ทุกคน แปลงสิ่งท่อี ยากไดเ ปน จาํ นวนเงนิ เพ่ือใชซ้อื ของสง่ิ นนั้
เขียนลงในใบงาน
3) ลกู เสอื ทบทวนการใชเ งินของตนเองในแตละวัน ตามตารางที่ 1 ในใบงาน
4) ลกู เสือตง้ั เปา หมายการใชเงนิ ใหมต ามตารางท่ี 2 ในใบงาน วาจะลดคา ใชจา ย
ตรงไหนไดบ างโดยกาํ หนดระยะเวลาตามความเหมาะสมเพอ่ื ใหม ีเงนิ เหลือพอท่จี ะ
ซ้อื ของทต่ี อ งการ
5) ลูกเสอื ผลดั กนั เลาใหเพ่อื นฟง ถึงผลการทบทวนรายจา ยเดมิ และการปรบั ตาราง
การใชเ งนิ ใหมโ ดยจะลดรายจา ยในเรือ่ งใดบาง ใชเ วลานานเทา ใดจึงจะมเี งนิ พอท่ี
จะนําไปซอื้ ของทตี่ องการ
6)รวมกอง ผกู ํากับนาํ อภิปราย และสรปุ ในประเด็นตอ ไปนี้
(1) อะไรบางทแ่ี ตละหมคู ดิ วา ประหยดั ไดม ากท่ีสดุ
(2) สรปุ ขอคดิ ทไ่ี ดจากการทํากิจกรรม และการนําไปใชในชวี ติ ประจําวัน
4.4 ผูกํากับเลา เร่ืองทีเ่ ปนประโยชน
4.5 พิธีปด ประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอื่ งแบบ ชกั ธง เลกิ )
คูม ือการจัดกจิ กรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสริมสรา งทักษะชีวิต ช้ันมัธยมศึกษาปท ี่ 3 111
5. การประเมินผล
สงั เกต การมีสว นรว มทํากจิ กรรม การแสดงออก และการแสดงความคิดเห็นในกลมุ รวมทัง้
พฤติกรรมการใชเงนิ ที่เปลยี่ นไป
6. องคป ระกอบทกั ษะชวี ติ สาํ คญั ทเี่ กดิ จากกิจกรรม
คอื ความคิดวเิ คาะห ความคดิ สรา งสรรค ความตระหนกั รใู นเร่ืองรายจายที่ไมจําเปน และ
เหน็ ความสาํ คญั ของการประหยดั
เพลง ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมท่ี 24
ใบงาน
ลูกเสือจับมอื
จบั มือกันไวใหมนั่ คง เพือ่ ความยนื ยงสามัคคี
รกั กันปรองดองเหมือนนอ งพ่ี ผกู ความสามคั ครี ว มกัน
โกรธกันมนั รายเปนสงิ่ เลว เปรียบดังเปนเปลวรอ นไฟนั่น
เผาใจใหมีความไหวหวน่ั จับมอื ยม้ิ ใหกนั เปน สิ่งดี
ส่งิ ที่ฉันอยากไดมากทสี่ ดุ ...................................................................... ราคา.....................บาท
ตารางท่ี 1
รายจา ยใน 1 วนั จาํ นวนเงนิ
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
112 คูมือการจดั กจิ กรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรางทกั ษะชวี ติ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปท่ี 3
ตารางท่ี 2 จํานวนเงนิ
รายจายทปี่ รบั ใหมใ น 1 วัน
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
ฉันจะประหยดั เงินไดว ันละ .............. บาท
ใชเ วลา.................. วัน ฉนั จะซอ้ื ของทฉ่ี นั ตอ งการได
เรอ่ื งที่เปนประโยชน
ขอคดิ จากหญิงชรา........ความจริงท่อี ยูใกลๆ ตวั
กลางดึกคืนวนั หนง่ึ หญิงชราคนหน่ึงกาํ ลังคลาํ หาอะไรอยูสักอยางบรเิ วณรอบๆเสาไฟฟา ขางถนน
หนุม สาวกลุมหน่ึงเดนิ ผา นมาจงึ ถามขึ้นวา "ยาย..กาํ ลงั หาอะไรอยูเหรอ ใหพ วกเราชวยไหม?"หญิง
ชราตอบวา "ยายกาํ ลงั หาเหรยี ญ 10 บาท ยายทาํ ตกหายไป ชว ยยายหาหนอ ยซ"ิ หนุมสาวกลมุ น้นั จึง
ชว ยกันหาจนทัว่ แตก็หาไมเ จอ พวกเขาจงึ ถามอีกวา “ยาย...ยายทาํ เหรียญตกตรงไหนเหรอ"
ยายจงึ ตอบวา "ยายเปลยี่ นเส้อื ผาอยใู นหอ ง อยู ๆ เหรียญมันกห็ ลน ออกไปจากกระเปา ของ
ยาย แตใ นหอ งยายมันมืด มองไมค อ ยเห็น ก็เลยออกมาหาตรงน้แี ทนเพราะมันสวา งดี " .
หนมุ สาวกลมุ น้ัน “.....?????” พากนั หัวเราะแลว เดินหนีไป
เรื่องน้ีสอนใหรูวา เม่อื ของหายกต็ องหาในท่ๆี เราทาํ หาย เชนเดยี วกันเม่อื ความสุขหายไป เราก็
ตอ งหาในจดุ ท่ีเราไดสญู เสยี ความสุขไป ความสขุ มักสญู หายไปตรงไหน? ...
คาํ ตอบก็คอื ทําหายไปจากใจของเรา ดังนนั้ เราจงึ ควรหาความสขุ ใหเ จอจากใจ
ของเรานัน่ เอง
คมู ือการจดั กจิ กรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสริมสรา งทักษะชวี ติ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที่ 3 113
แผนการจัดกจิ กรรมลูกเสือสามญั รนุ ใหญ เคร่ืองหมายลกู เสือหลวง ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที่ 3
หนว ยที่ 8 เศรษฐกจิ พอเพยี ง เวลา 2 ชว่ั โมง
แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 25 การจดั การกับเวลา
1. จุดประสงคก ารเรยี นรู
มีโอกาสทบทวนและปรับปรุงการใชเวลาของตนเองในแตละวันใหเกดิ ประโยชนส ูงสดุ
2. เน้อื หา
การวิเคราะหก จิ กรรมทีป่ ฏบิ ัตใิ นแตล ะวนั กับการใชเ วลาใน 24 ชวั่ โมงใหเ กดิ ประโยชนสูงสดุ
3. ส่อื การเรียนรู
3.1 แผนภูมเิ พลง
3.2 ใบงาน
3.3 ใบความรู
3.4 เร่ืองที่เปนประโยชน
4. กิจกรรม
4.1 กิจกรรมครัง้ ที่ 1
1) พิธเี ปดประชมุ กอง(ชกั ธง สวดมนต สงบน่งิ ตรวจ แยก)
2) เพลง หรอื เกม
3) กจิ กรรมตามจุดประสงคการเรยี นรู
(1) ผูกํากับลกู เสอื นาํ สนทนาถงึ ความสาํ คัญของการใชเ วลาในแตล ะวัน และ
การจดั การเวลาท่ดี ี (เปน การใชเ วลากบั เรื่องท่ีมคี วามสาํ คญั มคี ุณคาและนําไปสู
จุดหมายสาํ คญั ของชีวติ ) ซึ่งคนสวนมากมกั ไมมกี ารทบทวนตนเองวา ให
ความสาํ คญั กบั เรื่องใดบาง จงึ ใชเ วลาหมดไปกับเรื่องทไ่ี มสําคญั เมอ่ื แยกแยะ
ดจู ะพบวา ในแตล ะวันคนเรามเี รือ่ งทจ่ี ะตอ งทําอยู 4 ประเภท
- เรือ่ งสาํ คญั และเรงดว น
-เรอื่ งสาํ คญั แตไมเ รงดว น
- เรือ่ งไมส ําคัญแตเ รงดวน
-เร่ืองไมส ําคญั และไมเรง ดว น
(2) หมลู ูกเสอื นัง่ ลอมวง แจกใบงาน ใหแตล ะคนทบทวนกิจกรรมตาง ๆ ทตี่ นเองทาํ
ตลอดวนั ในชว ง 1 สปั ดาหท่ผี า นมา เขยี นกิจกรรมของตนเองที่ทําตลอด 24
ชวั่ โมงยกเวนในเวลาเรียนลงตารางที่ 1 พรอ มทั้งลงเวลาเฉลยี่ ของแตล ะกจิ กรรม
(3) แยกประเภทของแตละกิจกรรมเขียนลงในตารางที่ 2 (ตาราง 4 ชอ ง) พรอ มลง
เวลาท่ีใชใ นแตล ะกิจกรรม
(4) ลกู เสอื แตล ะคนวเิ คราะหการใชเวลาของตนเอง และเลาใหเ พ่อื นในหมฟู ง
(5) รวมกอง ผูกาํ กับนําอภิปรายสรุปขอ คดิ ที่ได
114 คูมือการจัดกิจกรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสริมสรา งทกั ษะชวี ิต ช้ันมัธยมศกึ ษาปที่ 3
4) ผูกาํ กับลกู เสอื เลา เรอ่ื งท่เี ปนประโยชน
5) พธิ ปี ด ประชมุ กอง(นดั หมาย ตรวจเครือ่ งแบบ ชกั ธง เลกิ )
4.2 กิจกรรมครัง้ ที่ 2
1) พธิ เี ปดประชุมกอง(ชกั ธง สวดมนต สงบนิง่ ตรวจ แยก)
2) เพลง หรือเกม
3) กิจกรรมตามจุดประสงคการเรียนรู
(1) หมูลูกเสอื น่งั ลอ มวง แจกใบงาน ใหล กู เสอื แตค นคดิ วา สงิ่ สาํ คญั ทีค่ วรทาํ แตย ัง
ไมไดท าํ ทง้ั เรง ดว นและไมเ รงดวน มีอะไรอีกบาง เขยี นลงตารางท่ี 3
(2) นาํ สิง่ ทต่ี อ งการทําเพ่มิ (ตารางที่ 3) มาพจิ ารณารวมกับตารางท่ี 2 เดมิ ทเี่ ขยี นไว
และวางแผนจดั การเวลาใหมว าควรตัดกจิ กรรมใดออกและลดเวลากจิ กรรม
ใดบาง เขียนลงในตารางที่ 4
(3) ลกู เสอื แตล ะคนนําตารางที่ 4 มาเลา ใหเพอ่ื นในหมฟู งวา ตนเองไดวางแผน
จดั การเวลาอยางไร พรอมบอกเหตุผล
(4) รวมหมู ผูกํากบั นาํ อภปิ รายสรปุ ขอ คดิ ที่ไดจ ากกจิ กรรมทง้ั 2 คร้ัง
(5) ลกู เสือกําหนดเปน พันธสญั ญา ท่ีจะปรับปรุงและพฒั นาตนเองตามคําขวญั ของ
ลูกเสอื “เสียชีพอยาเสียสตั ย” กฎลูกเสอื “ลกู เสอื มเี กียรติเชื่อถือได” และ
คติพจน “มองไกล”
4) ผูกํากับลกู เสือเลา เรือ่ งทเี่ ปน ประโยชน
5) พิธีปดประชมุ กอง(นัดหมาย ตรวจเครอื่ งแบบ ชักธง เลิก)
5. การประเมนิ ผล
สงั เกต การมสี วนรว มในการทํากจิ กรรม การแสดงความคิดเห็น และการวางแผนใชเ วลาใน
ชีวติ ประจําวนั ไดอ ยา งคมุ คา
6.องคประกอบทักษะชวี ติ สาํ คญั ทเ่ี กดิ จากกจิ กรรม
คอื ความคดิ วเิ คราะห ความคิดสรา งสรรค ตระหนักถึงความสาํ คัญของการใชเ วลาใหเ กิด
ประโยชนส งู สดุ
คมู อื การจัดกิจกรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสริมสรา งทักษะชวี ิต ช้ันมธั ยมศึกษาปท่ี 3 115
ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมท่ี 25
เพลง
นกพริ าบ
พลับพรึบพลบั พรึบพลบั ขยบั บิน (ซา้ํ )
ฝงู นกพริ าบ ดําและเทานารกั จริงนา
บินวนเวยี นอยบู นหลงั คา บนิ ไปเกาะตามก่งิ พฤกษา
ไซปก หางกันอยไู ปมา พอแสงแดดจาพากนั คนื รัง
เวลานาที
วันเวลานาทมี รี าคา มากยิ่งกวาสง่ิ ใดใด
หากวาใครไมเ สียดายเวลา ปลอ ยเวลาลว งเลยไป
วนั เวลาเรยี กคนื มาไมได เวลาส้นิ ไปขอใครกัน
116 คมู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรางทกั ษะชีวิต ช้ันมธั ยมศกึ ษาปท ี่ 3
ใบงาน
ใหล กู เสอื แตล ะคน เขียนกจิ กรรมของตนเองทที่ ําตลอด 24 ชวั่ โมง ยกเวน ในเวลาเรียน
พรอ มทง้ั ลงเวลาเฉลย่ี ของแตล ะกิจกรรมเขยี นลงตารางท่ี 1
ตารางที่ 1
ชว งเวลา กิจกรรม เวลาทใี่ ช (นาที)
คมู ือการจดั กจิ กรรมลูกเสือสามัญรุนใหญเสริมสรางทักษะชวี ิต ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท่ี 3 117
ตารางท่ี 2
นํากิจกรรมในตารางที่ 1 มาพจิ ารณาแยกประเภทจัดเขาในตาราง 4 ชอ ง
เรื่องสาํ คญั และเรง ดว น ใชเ วลา เรอ่ื งสําคญั แตไ มเ รงดว น ใชเ วลา
(นาที) (นาท)ี
เรอ่ื งไมส าํ คญั แตเ รง ดวน ใชเ วลา เร่อื งไมสาํ คญั และไมเ รง ดวน ใชเวลา
(นาท)ี (นาที)
118 คูมอื การจัดกจิ กรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสริมสรางทักษะชีวติ ช้ันมัธยมศึกษาปท่ี 3
ตารางที่ 3
สงิ่ สาํ คญั ที่ควรทาํ แตย ังไมไ ดท ํา
เรอ่ื งสําคญั และเรงดว น ใชเ วลา เรือ่ งสําคัญแตไ มเ รงดว น ใชเ วลา
(นาที) (นาที)
คมู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสริมสรางทกั ษะชวี ิต ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที่ 3 119
ตารางท่ี 4
วางแผนจดั การเวลาใหม โดยพจิ ารณาจากตารางท่ี 2 และ ตารางที่ 3
เรอ่ื งสาํ คญั และเรงดว น ใชเ วลา เร่อื งสําคัญแตไมเรง ดว น ใชเ วลา
(นาที) (นาท)ี
เรื่องไมสําคญั แตเรง ดว น ใชเวลา เรื่องไมสาํ คญั และไมเรง ดวน ใชเวลา
(นาที) (นาที)
120 คูมอื การจัดกิจกรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรางทกั ษะชวี ิต ช้ันมัธยมศกึ ษาปท่ี 3
ใบความรู
ขอคิดในการใชเวลาใหมีประสทิ ธิภาพ
1.เรม่ิ ตน ดีมชี ยั ไปกวา ครง่ึ จากผลสํารวจพฤติกรรมนกั เรียน พบวา นกั เรยี นทเ่ี รยี นเกงมี
ผลการเรยี นดี แตกตางจากนักเรยี นท่ัว ๆ ไปตรงทม่ี คี วามสามารถในการเริม่ ตน ลงมือทาํ งานทคี่ วร
ทาํ ไดเรว็ กวา โดยไมมวั แตคิดฝน ใจลอย หรือทําอะไรอยา งเร่ือยเปอ ยไรจดุ หมาย
2. จัดระเบยี บชีวติ สรา งนิสยั ความเคยชนิ ในการจดั ระเบียบชีวติ รูจ ักใชตารางเวลาชว ย
ปลดปลอยพลงั งานทมี่ อี ยอู ยางถกู ทิศทาง เชน ฝก ใหเ ปนนสิ ัยวาหลังรับประทานอาหารเยน็ เดนิ เลน
ยอ ยอาหารสักย่ีสบิ นาที จากนัน้ น่ังลงอา นหนังสือหรือทํากจิ กรรมท่ีมคี วามสําคญั เปนประจาํ
3. คิดกอนทาํ อยา ลมื วา ทุกคร้ังทีเ่ รารบั ปากจะทาํ อะไรกบั ใครก็ตาม เรากําลงั เสียโอกาสใน
การทาํ ส่ิงทม่ี ีความสาํ คญั ในชีวติ ของเราไปดว ยเชน กนั การรับปากคนอ่ืนหมายถงึ วา เราจะตอ งตัด
กจิ กรรมบางอยางทีเ่ ราอยากทําหรือใหความสาํ คัญออกไป ดงั นัน้ คดิ ชั่งนํ้าหนกั ใหด ี กอนตัดสินใจ
4. อยา ชะลาใจ อยา รับปากทาํ สิ่งใดเพยี งเพราะเหน็ วา ยงั เปนเร่ืองในอนาคต ระยะเวลาท่ี
ไกลออกไป อาจทําใหเ รารูสกึ ชะลาใจ บางคร้งั เปน งานช้ินใหญ แตเนอ่ื งจากเห็นวามเี วลานาน จึง
รับปากไปกอ น ครั้นพอใกลเ วลาจวนเจยี น กลบั เพ่ิงพบวาเปนงานที่ตองใชเ วลามากกวา ทีค่ ดิ
5.วางแผนกอ นทํา แบงงานทตี่ อ งทําออกเปน ช้ินเลก็ ๆ ท่ีสามารถทําใหส าํ เร็จไดทลี ะข้นั
6.ทําแตพ อดี อยา เนนความสมบูรณแบบจนเกินไป งานสว นใหญตองการความละเอยี ด
ประณตี ในระดับหนงึ่ หากเราใชเวลาและพลังงานมากเกินไป ก็ไมไ ดเ พ่ิมคุณคาของงานชิ้นนัน้ หรือ
แมจะเพิม่ แตก อ็ าจจะไมค ุม เมอื่ เทียบกับการใชเ วลาไปทํางานอน่ื ที่มคี วามสําคัญเชน กนั
7.ทําใหจบในคร้ังเดียว ฝกทําอะไรใหเสร็จในครั้งเดียว อยาทําอะไรคร่ึงๆ กลางๆ แลว
กลับมาทําตอ เพราะทุกคร้ังท่ีกลับมาทําตอ ตองเสียเวลาในการคิดทบทวน ศึกษาและตัดสินใจ
ทาํ ใหเสยี เวลามากข้ึนอกี ควรฝกนสิ ยั ลงมือทําใหเ สรจ็ ในคร้ังเดียว
8.วางแผนการนัดใหดี ในการนัดหมายกับใครก็ตาม นอกจากนัดเวลาท่ีจะพบกันหรือ
เร่ิมตนทํากิจกรรมแลว ยังควรนัดเวลาเลิกหรือจบการพบปะไวดวย เพื่อจะไดวางแผนใชเวลาชวง
ตอ ไปได ขณะเดยี วกัน การรเู วลาสนิ้ สดุ จะทําใหก ารใชเวลาเปน ไปอยา งมปี ระสิทธภิ าพมากข้ึน
9.มเี วลาสาํ หรบั การจดั เวลา เพอ่ื การวางแผนการใชเ วลา เชนอาจใชเวลาทกุ วนั ตอนเชา วาง
แผนการใชเวลาในวนั น้ันและใชเวลาสดุ สัปดาหวางแผนการใชเวลาทํากจิ กรรมสาํ คญั ในสปั ดาหตอ ไป
คูมอื การจัดกิจกรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรางทักษะชวี ติ ชั้นมธั ยมศึกษาปที่ 3 121
เร่ืองทีเ่ ปนประโยชน
ทาํ ไม.....จงึ สาํ คญั ท่สี ดุ
ปราชญผ หู นึ่งเคยตัง้ คําถามเหลา นีว้ า " ใครคือคนสาํ คญั ทสี่ ดุ งานใดคืองานที่สําคัญทส่ี ดุ
และเวลาใดคอื เวลาที่ดที ส่ี ดุ "
คําเฉลยมดี ังนี้ " คนสาํ คัญทส่ี ดุ ก็คือ คนทอี่ ยูเบอื้ งหนา เรา งานสาํ คญั ทส่ี ดุ กค็ อื งานท่เี รา
กาํ ลังทําอยใู นขณะน้ี และเวลาทีด่ ที ่สี ุด กค็ อื เวลาปจจบุ ันขณะ"
ทําไม คนทีอ่ ยเู บ้ืองหนาเราจงึ สําคญั ที่สดุ คําตอบกค็ อื ในชว่ั ชวี ิตอนั แสนส้ันน้ี เรากับเขาอาจ
มีโอกาสพบกนั ไดเพียงครั้งเดียว ดังนัน้ เราจงึ ควรทําใหก ารพบกนั ทุกครัง้ เปนการสรา งความทรงจาํ
แสนงามไวใหแ กก นั และกันมนุษยน น้ั รูเกลียดยาวนานกวารูร ัก ถาการพบกันครัง้ แรกนาํ มาซ่ึงความ
รักและเปนการพบกันเพยี งคร้ังเดียวของชวี ติ กน็ ับวา คุม คา ที่สุดแลว สําหรบั การพบกันของคนสองคน
ทําไม งานทเ่ี รากําลงั ทําอยูข ณะนี้ จงึ เปนงานสําคญั ที่สดุ คําตอบกค็ อื เพราะทนั ทที ่ีคุณปลอย
ใหง านหลดุ จากมือคุณไป งานก็จะกลายเปนของสาธารณะ หากคณุ ทาํ งานดีมันก็คืออนุสาวรยี แหง
ชีวติ และหากคณุ ทํางานไมด ีมันก็คือความอัปรยี แ หงชวี ติ ตอนแรกคณุ เปน ผูสรา งงาน แตเมอื่ ปลอ ย
งานหลุดจากมือไปแลว งานมันจะเปน ผยู อนกลบั มาสรางคณุ
ทําไม เวลาทด่ี ที ่สี ุด จงึ ควรเปน ปจจบุ นั ขณะ คําตอบกค็ ือ เพราะเวลาทุกวินาทีจะไหลผา น
ชวี ติ เราเพยี งครัง้ เดียว ไมว า คณุ จะหวงแหนเวลาขนาดไหน มีเงนิ มากเพยี งไร กไ็ มม ใี ครสามารถร้อื
ฟน เวลาท่ลี ว งไปแลวใหค ืนกลับมาได ทุกครัง้ ที่เวลาไหลผานเราไป หากเราไมใ ชเ วลาใหเกิด
ประโยชนสูงสดุ ชวี ติ ของคณุ ก็พรอ งไปแลวจากประโยชนมากมายทคี่ ุณควรไดจากหวงเวลา
คดั ยอจากเรอ่ื ง มายาแหงเสนดาย..... โดย ว. วชริ เมธี
เรอ่ื งนส้ี อนใหรูวา ควรทาํ ปจจบุ นั ใหดีท่สี ุด
ชา งไม
ชา งไมฝ มอื ดีตอ งการเกษียณเพราะอายมุ ากแลว นายจา งมีความเสียดายความสามารถของ
เขามาก จึงขอรอ งใหช างไมส รางบานหลงั สุดทา ยกอนเกษยี ณ
เม่ือบา นหลังสดุ ทา ยสรา งเสรจ็ ปรากฎวาบานหลงั นขี้ าดความปราณตี และใชว สั ดุท่ดี อ ย
คณุ ภาพ เพราะชางไมรบี ทาํ เพือ่ ใหง านผา นไปอยา งเรว็ เทา นน้ั เองนายจา งมาเห็นบานดงั กลาวก็รสู กึ
เศรา ใจเขาบอกกบั ชา งไมว า "นี่คอื บา นของคุณ ผมขอมอบใหเ ปน ของขวัญตอนเกษยี ณอายุ"
ชางไมไดย ินถงึ กับตกใจและอุทานวา “เสียดายจรงิ ๆถารวู ากําลงั สรางบา นของตัวเอง เราคง
จะทาํ ดวยความตัง้ ใจมากกวา น้ี”
เรอื่ งนส้ี อนใหรวู า "ชีวติ คอื สง่ิ ทีเ่ ราสรา งดวยตวั เราเอง"เราทุกคนกาํ ลงั สรา งชวี ติ ของเราอยแู ละ
เราก็ไมไดพยายามอยางถงึ ที่สดุ ในการสรางสรรคสิง่ ตา ง ๆในชีวติ ของเรา
เมื่อเวลาผา นไปแลว เราจึงมกั เสียดายและอยากยอนเวลากลับซึ่งเปน สงิ่ ท่เี ปนไป
ไมได จึงควรใชเ วลาแตละวันทาํ ทกุ อยางใหดีทีส่ ุด
122 คมู อื การจัดกิจกรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสริมสรางทักษะชวี ติ ช้ันมัธยมศกึ ษาปท่ี 3
แผนการจัดกิจกรรมลกู เสือสามญั รนุ ใหญ เครื่องหมายลูกเสือหลวง ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท ี่ 3
หนวยที่ 8 เศรษฐกิจพอเพยี ง เวลา 1 ช่วั โมง
แผนการจดั กจิ กรรมที่ 26 วยั รุนไทยหวั ใจเกาหลี
1. จุดประสงคการเรียนรู
เหน็ คุณคาของความเปนไทย
2. เน้ือหา
คุณคา ของความเปนไทย
3. ส่ือการเรียนรู
3.1 แผนภมู ิเพลง
3.2 เรอ่ื งทีเ่ ปน ประโยชน
4. กิจกรรม
4.1 พธิ ีเปด ประชมุ กอง(ชักธง สวดมนต สงบนงิ่ ตรวจ แยก)
4.2 เพลง หรอื เกม
4.3 กจิ กรรมตามจุดประสงคการเรยี นรู
1) ผกู ํากับลกู เสอื นําสนทนาถงึ คานิยมของวยั รนุ ในสงั คมไทย ทีน่ ยิ มไวท รงผมแบบ
เกาหลี แฟชน่ั เส้ือผา แบบเกาหลี อาหารเกาหลีและหนา ตา สวย หลอ ตี๋
แบบเกาหลี ทเี่ รียกวา “เกาหลีฟเ วอร” แลวตัง้ คําถาม
(1) คนเกาหลี ตางจากคนไทยอยา งไร ในดานวฒั นธรรม(ภาษา ความเปน อยู
ศิลปวฒั นธรรม คณุ ลักษณะนิสัย ความอดทน ความมีวนิ ัย)
(2) เพราะเหตใุ ด วัยรนุ ไทยจงึ นยิ มชมชอบ “ความเปน เกาหล”ี
2) มอบหมายใหก องลกู เสือจัดกิจกรรมโตวาทใี นญัติ “วัยรนุ ไทยหัวใจเกาหลี
เสียศักดศิ์ รีวัยรนุ ไทย”ประเด็นสนบั สนนุ หรือคัดคา นในเรือ่ ง “การหมกมุนเลียน
แบบวฒั นธรรมเกาหลขี องวยั รนุ ไทย” โดยจัดทมี โตวาทเี ปน 2ฝา ยคอื ฝา ยสนบั สนุน
และฝา ยคา น
(1) ฝา ยเสนอและฝา ยคานตา งมหี วั หนา 1 คน และมีผูสนบั สนนุ 3 คน
(2)ลกู เสอื เลือกผดู าํ เนนิ รายการ 1 คน
(3) หวั หนาฝา ยเสนอนําเสนอขอมูล 3 นาที และหัวหนาฝา ยคานนาํ เสนอขอ มูล 3 นาที
(4) ผสู นับสนนุ แตล ะฝายคนละ 2 นาที
(5) หวั หนา ฝายเสนอและฝา ยคานสรปุ คนละ1 นาที
3) เมอ่ื โตว าทจี บลกู เสือรวมกัน วเิ คราะหผลสรปุ จากการโตว าที
4) ผูกาํ กบั ใหข อ เสนอแนะและกลา วคําชมเชยลูกเสอื
5) ผูกาํ กบั มอบหมายใหจัดทําโปสเตอรร ณรงคส รางจิตสํานกึ รักความเปน ไทย
“เปน ไทยทง้ั ตวั และหวั ใจ” ทาํ อยางไรคอื ไทยแท
คมู อื การจัดกจิ กรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสริมสรางทักษะชวี ิต ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท่ี 3 123
4.4 ผูกํากบั เลา เรอ่ื งทม่ี ปี ระโยชน
4.5 พิธปี ด (นัดหมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธง เลกิ )
5. การประเมนิ ผล
ลูกเสือสามารถโตว าที ดวยเหตผุ ลคดั คา นโตแยง ทีช่ วนเช่ือใหเห็นคุณคาความเปนไทย
6. องคป ระกอบทกั ษะชวี ติ สาํ คัญทเ่ี กดิ จากกจิ กรรม
คือ ความคดิ วเิ คราะห ความคดิ สรางสรรค เขาใจ เห็นคุณคา และภมู ใิ จในความเปน ไทยของ
ตนเอง
ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกิจกรรมท่ี 26
เพลง
เมดอนิ ไทยแลนด
เมดอินไทยแลนด แดนดนิ ไทยเรา เก็บกันจนเกาเรามแี ตข องดีดี
มาตัง้ แตก อ นสุโขทยั มาลพบุรี อยธุ ยา ธนบุรี ยคุ สมยั นี้ เปน กทม.
เมืองทค่ี นตกทอ (ไมเ อาอยาไปวา เขานา ) เมดอินไทยแลนดแดนไทยทาํ เอง
จะรอ งรําทาํ เพลงก็ล้ําลึกลลี า ฝร่งั แอบชอบใจแตค นไทยไมเห็นคา
กลัวนอ ยหนา วาคณุ คานิยมไมทนั สมยั เมดอินเมอื งไทยแลว ใครจะรับประกนั ฮะ
(ฉันวา มันนาจะมคี นรบั ผิดชอบบา ง) เมดอินไทยแลนดแ ฟนแฟนเขา ใจ
ผลติ ผลคนไทยใชเ องทาํ เอง ตดั เย็บเสอ้ื ผา กางโกงกางเกง
กางเกงยนี ส (ชะหนอยแน) แลวขนึ้ เครือ่ งบนิ ไปสงเขา มา
คนไทยไดหนา (ฝรงั่ มังคา ไดเงิน) เมดอนิ ไทยแลนดพ อแขวนตามรานคา
มาติดปา ยติดตราวาเมดอินเจแปน กข็ ายดบิ ขายดมี รี าคา
คุยกันไดว ามนั มาตา งแดน ทงั้ ทันสมัยมาจากแม็กกาซีน
เขาไมไ ดหลอกเรากนิ หลอกเรานั่นหลอกตัวเอง...เอย
124 คูม ือการจดั กจิ กรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสริมสรา งทกั ษะชวี ติ ช้ันมัธยมศกึ ษาปท่ี 3
เรอื่ งทเ่ี ปนประโยชน
โหรคนหนง่ึ
โหรคนหน่ึงหมกมุนในเรื่องการดูดวงดาวจนไมเปนอันทําอะไร วันๆเอาแตศึกษาความ
เปนไปของดวงดาวบนทองฟา จนรูวาดวงดาวดวงใดโคจรไปทางไหน คํ่าวันหน่ึงขณะท่ีโหรเดิน
แหงนหนามองดูดวงดาวไปตามถนนนอกเมือง จนเผลอพลัดตกไปในบอขางทาง เนื่องจากไดรับ
บาดเจ็บจึงไมสามารถปนขึ้นมาไดเอง ตองนอนรองครวญครางอยูตามลําพัง จนมีผูมาพบและให
ความชว ยเหลอื พรอ มสอบถามถึงเรือ่ งราวความเปนมา
“เออหนอพอโหรผรู อบร”ู ผูใหความชว ยเหลือรําพึงออกมาดัง ๆ “ทา นศกึ ษาจนรวู า ดาวดวง
ไหนบนทองฟาโคจรไปทางใด แตตวั เองจะเดนิ ตกบอหารูไม”
เรอ่ื งนีส้ อนใหรูวา ความรทู วมหวั แตเ อาตัวไมร อด(เปนผูทม่ี สี ติปญ ญาดี แตกลบั ชวยตนเองไมได)
คูม อื การจดั กิจกรรมลูกเสือสามัญรุนใหญเสริมสรา งทกั ษะชีวติ ช้ันมธั ยมศึกษาปที่ 3 125
แผนการจัดกิจกรรมลกู เสือสามัญรนุ ใหญ เครอ่ื งหมายลูกเสอื หลวง ชน้ั มธั ยมศึกษาปท ี่ 3
หนว ยท่ี 8 เศรษฐกจิ พอเพียง เวลา 2 ชวั่ โมง
แผนการจดั กจิ กรรมที่ 27 ชุมชนเรานี้ดจี งั
1. จดุ ประสงคก ารเรียนรู
เพ่ือใหล กู เสอื นําหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง มาใชในการพัฒนาชุมชนได
2. เน้อื หา
ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง เปน ปรชั ญาท่ีพระบาทสมเด็จพระเจา อยูหวั ทรงมีพระราชดํารสั
ชแ้ี นะแนวทาง การดาํ เนนิ ชวี ติ แกพสกนกิ รชาวไทย เปนปรชั ญาช้ถี งึ แนวการดํารงอยู และปฏบิ ตั ติ น
ของประชาชนในทกุ ระดับตั้งแตระดับครอบครวั ระดบั ชุมชนจนถงึ ระดับรฐั ทงั้ ในการพัฒนา และ
บริหารประเทศใหด ําเนนิ ไปใน ทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกจิ เพือ่ ใหกา วทนั ตอ โลก
ยคุ โลกาภวิ ฒั น ชแ้ี นะแนวทางการดํารงอยแู ละปฏิบตั ติ นในทางทค่ี วรจะเปน โดยมพี น้ื ฐานมาจากวิถี
ชวี ติ ดั้งเดิมของสงั คมไทย สามารถนํามาประยกุ ตใ ชไดต ลอดเวลา
3. สือ่ การเรียนรู
3.1 แผนภูมิเพลง
3.2 ใบงาน
3.3 ใบความรู
3.4 กระดาษ
3.5 เร่อื งที่เปน ประโยชน
4. กิจกรรม
4.1 กจิ กรรมครั้งท่ี 1
1) พธิ เี ปด ประชุมกอง(ชักธง สวดมนต สงบนง่ิ ตรวจ แยก)
2)เพลง หรอื เกม
3) กิจกรรมตามจุดประสงคการเรียนรู
(1) ผูก าํ กับลกู เสอื นําลูกเสอื ในกองสนทนาถงึ หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา อยูหวั
(2) ลกู เสือแตล ะหมสู ง ตวั แทนมารับใบความรูไปศกึ ษา และใหล ูกเสอื แตล ะหมรู ะดม
ความคิดในการจัดทาํ โครงการเพ่ือพฒั นา บา น / โรงเรยี น / ชุมชน ตามหลกั ปรชั ญา
ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ตามใบงานทีไ่ ดร บั
(3) ผกู าํ กับลกู เสือใหล ูกเสอื ไปดําเนินการตามโครงการทลี่ กู เสอื ไดค ดิ ไว
4) ผูกํากับลูกเสือเลา เรอื่ งทเ่ี ปน ประโยชน
5) พธิ ีปดประชุมกอง(นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธง เลิก)
- ผกู าํ กับลกู เสอื นัดหมายใหลกู เสอื นาํ เสนอผลการปฏิบตั งิ านตามโครงการใน
รปู แบบของการจัดบอรด ในอกี 1 เดือนขางหนา
126 คมู อื การจดั กจิ กรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสริมสรางทักษะชวี ิต ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที่ 3
4.2 กิจกรรมครงั้ ที่ 2
1) พธิ เี ปด ประชุมกอง (ชกั ธง สวดมนต สงบน่งิ ตรวจ แยก)
2) เพลงหรือเกม
3) กจิ กรรมตามจุดประสงคก ารเรยี นรู
(1) ใหลูกเสือแตล ะหมูนําบอรด มาจัดแสดงผลการปฏิบตั ติ ามโครงการพัฒนาบาน /
โรงเรยี น/ชุมชน ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จ
พระเจาอยหู วั
(2) ใหล ูกเสือทุกคนไดเยย่ี มชม พูดคุยแลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ และขอ เสนอแนะ
4) ผูกาํ กบั ลกู เสอื เลาเรอ่ื งทเี่ ปนประโยชน
5) พิธีปด ประชุมกอง(นัดหมาย ตรวจเคร่ืองแบบ ชักธง เลิก)
5. การประเมินผล
สงั เกต การมสี วนรวมทํากจิ กรรม การแสดงออก และผลงานของลกู เสอื
คูมือการจดั กจิ กรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรางทกั ษะชีวติ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปท ่ี 3 127
ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกจิ กรรมที่ 27
เพลง
เกียรตศิ กั ดล์ิ กู เสอื
ลูกเสอื ลกู เสอื ไวเ กียรตซิ ลิ ูกเสือชาย ลกู เสอื ลกู เสือ ไวล ายซลิ ูกเสอื ไทย
รักเกยี รติ รกั วินัย แข็งแรง และอดทน เราจะบําเพญ็ ตน ใหเ ปน ประโยชนตอผูอืน่
รวม
มาเถิดเร็วไว รว มใจสนกุ เฮฮา อยามัวเศรา เลยหนา รีบมาเรงิ รา รวมกัน รว มกนิ รวมนอน
รวมพักผอ น รว มทาํ พักผอ นสุขสันต รว มคิดจงชวยกนั รว มเรียนสรางสรรค รว มกนั เฮฮา
เกม
ข่มี า โยนบอล
วธิ เี ลน
1. แบง ผเู ลน ออกเปน 2 พวก จดั ใหเปนคมู ขี นาดไลเลี่ยกนั พวกหนึ่งเปนมา อกี พวกหน่ึงเปน
คนขี่ ใหย นื เปน รปู วงกลม สว นใครจะเปน คนขีก่ อนนั้นจะทําไดโ ดยการเสีย่ งหวั -กอย
2. เรม่ิ เลนโดยใหคนข่คี นหนึ่งรบั ลกู บอล ใหสง ตอๆ ไปตามลาํ ดับจะโยนขามไมได ระวังอยา
ใหลูกบอลตกพื้น มาตองพยายามใหค นขร่ี บั ลกู บอลพลาด ดว ยการพยศ เชน ยอตวั ลงต่ํา
เอยี งซาย ขาว กระโดด หรอื หมนุ ไปรอบๆ แตไ มใชประสงคจ ะใหคนขตี่ ก แตต องการใหคน
บนหลงั รับลกู บอลไมไ ด
3. หากลกู บอลตกดนิ คนข่ีทกุ คนตอ งรบี เปลี่ยนมาเปนมา ใหคนเปน มา ขึ้นบนหลังสลบั กันไป
วิง่ กระโดดเทา เดยี ว
วิธีเลน
ใหผ เู ลน วงิ่ ไปออมเครอื่ งหมายดวยการกระโดยเทา เดยี ว เมอ่ื ถึงเครื่องหมายกลบั ตวั ใหวิง่
กลับดวย
การเปล่ียนเทา อกี ขางหนึ่ง แถวใดหมดกอ นเปนแถวชนะ
128 คมู ือการจัดกิจกรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรา งทักษะชีวติ ช้ันมัธยมศึกษาปท ี่ 3
ใบงาน
โครงการพัฒนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
คาํ ส่ัง ตอนท1ี่
ใหล ูกเสอื แตล ะคนในหมูเ สนอแนวคดิ ในการพัฒนา บาน / โรงเรียน / ชุมชน เลือกอยา งใดอยาง
หน่งึ มาอยางนอ ยคนละ 1 เรือ่ ง โดยใหร องนายหมเู ปนผูจ ดบันทกึ
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
คําส่ัง ตอนท่ี 2
ใหลูกเสือในหมรู วมกันพจิ ารณาและอภปิ รายเพอื่ คดั เลือกแนวทางในการพฒั นา บา น / โรงเรียน /
ชมุ ชน ตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
คาํ สงั่ ตอนที่ 3
ใหล ูกเสือแตล ะหมูนาํ แนวทางในพัฒนาท่ไี ดค ัดเลอื กแลว (จากตอนท2่ี ) มาจดั ทําโครงการใน
การพฒั นา โดยตอ งปฏิบตั ิอยา งนอ ย 3 ครัง้ ภายในระยะเวลา 30 วนั
ใบความรู
คูม อื การจดั กจิ กรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสริมสรา งทักษะชวี ิต ช้ันมธั ยมศึกษาปที่ 3 129
ใบความรู
หลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง
ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง เปนปรชั ญาทีพ่ ระบาทสมเดจ็ พระเจา อยูหวั ทรงมพี ระราชดํารัสช้ีแนะแนวทาง
การดเํารเอ่ืนงินนชีส้วติอแนกใพหสร กูวานิกรชาวไทย เปน ปรชั ญาชี้ถึงแนวการดํารงอยู และปฏบิ ตั ติ นของประชาชนในทกุ ระดับต้งั แต
ระดับคควราอมบขคยรันวพราะกดเับพชยี ุมรชสนามจนารถถงึ กระอ ดใหับเรกฐั ิดทท้งั รใพั นยก ารพัฒนา และบรหิ ารประเทศใหด าํ เนินไปใน ทางสาย
กลาง โดยเฉพาะการพฒั นาเศรษฐกิจเพอื่ ใหกาวทันตอ โลกยคุ โลกาภวิ ฒั น ช้แี นะแนวทางการดาํ รงอยูและปฏบิ ตั ติ น
ในทางทีค่ วรจะเปน โดยมพี ื้นฐานมาจากวถิ ีชวี ติ ดง้ั เดมิ ของสงั คมไทย สามารถนาํ มาประยุกตใ ชไ ดต ลอดเวลา และเปน
การมองโลกเชงิ ระบบท่มี กี ารเปล่ียนแปลงอยูตลอดเวลา มงุ เนนการรอดพน จากภยั และวกิ ฤติ เพอื่ ความมนั่ คงและ
ความยงั่ ยืนของการพฒั นา ความพอเพียงหมายถงึ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจาํ เปนท่จี ะตองมี
ระบบภูมิคุมกนั ในตวั ท่ดี ี และตองประกอบไปดว ยสองเงือ่ นไข คือ เง่ือนไขความรู เง่ือนไขคณุ ธรรม
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ประกอบไปดวย 5 สว น ดงั นี้
ขอ ท่ี 1. กรอบแนวคดิ เปน ปรัชญาทีช่ ี้แนะแนวทางการดาํ รงอยู และปฏบิ ัตติ นในทางทค่ี วรจะเปน โดยมีพ้นื ฐาน
มาจากวถิ ชี ีวติ ดัง้ เดมิ ของสังคมไทย สามารถนํามาประยุกตใชไ ดตลอดเวลา และเปนการมองโลกเชงิ ระบบที่มกี าร
เปลี่ยนแปลงอยตู ลอดเวลา และเปนการมองโลกเชิงระบบท่ีมกี ารเปลีย่ นแปลงอยูต ลอดเวลา มงุ เนน การรอดพนจากภัย
และวิกฤต เพอื่ ความมัน่ คง และความย่งั ยนื ของการพฒั นา
ขอท่ี 2. คณุ ลักษณะ เศรษฐกจิ พอเพยี ง สามารถนาํ มาประยกุ ตใชก ับการปฏบิ ตั ติ นไดใ นทุกระดบั โดยเนน การ
ปฏิบตั บิ นทางสายกลาง และการพฒั นาอยา งเปน ขน้ั ตอน
ขอ ท่ี 3. คํานิยาม ความพอเพียงจะตอ งประกอบดว ย 3 คุณลักษณะ ดังนี้
1. ความพอประมาณ หมายถงึ ความพอดีท่ไี มน อยเกินไป และไมม ากเกนิ ไปโดยไมเ บยี ดเบียนตนเอง และ
ผูอ ืน่ เชนการผลติ และการบรโิ ภคทอ่ี ยูในระดบั พอประมาณ
2. ความมเี หตุผล หมายถงึ การตัดสินใจเก่ยี วกบั ระดบั ของความพอเพียงนัน้ จะตอ งเปน ไปอยา งมีเหตุผล
โดยพิจารณาจากเหตปุ จ จยั ท่เี กี่ยวของตลอดจนคาํ นงึ ถึงผลทค่ี าดวา จะเกดิ ข้นึ จากการกระทํานน้ั ๆ อยางรอบคอบ
3. การมีภูมิคุมกันทดี่ ใี นตวั หมายถึง การเตรียมตวั ใหพ รอ มรบั ผลกระทบ และการเปลย่ี นแปลงดา นตางๆ
ทีจ่ ะเกดิ ข้นึ โดยคาํ นงึ ถึงความเปนไปไดข องสถานการณ ตาง ๆ ทค่ี าดวาจะเกิดขนึ้ ในอนาคตทง้ั ใกล และไกล
ขอที่ 4. เงื่อนไข การตดั สนิ ใจและการดําเนินกิจกรรมตา ง ๆ ใหอ ยูในระดับพอเพยี งนัน้ ตอ งอาศยั ท้งั ความรู และ
คุณธรรมเปน พืน้ ฐาน 2 เงอื่ นไข ดังน้ี
1. เง่อื นไขความรู ประกอบดว ย ความรอบรเู กี่ยวกับวชิ าการตาง ๆ ท่เี กีย่ วขอ งอยา งรอบดาน ความ
รอบคอบทจี่ ะนําความรูเหลา นน้ั มาพจิ ารณาใหเชือ่ มโยงกนั เพอ่ื ประกอบการวางแผน และความระมัดระวงั ในขั้นปฏิบตั ิ
2. เง่ือนไขคุณธรรม ที่จะตอ งเสริมสรางประกอบดวย มีความตระหนักในคณุ ธรรม มีความซ่ือสัตยสจุ ริต
และมคี วามอดทน มคี วามเพยี ร ใชสตปิ ญ ญาในการดาํ เนินชีวติ
ขอท่ี 5. แนวทางปฏิบตั ิ / ผลทค่ี าดวาจะไดร บั จากการนาํ ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาประยกุ ตใ ช คอื
การพฒั นาทส่ี มดลุ และยง่ั ยนื พรอมรบั ตอ การเปล่ียนแปลงในทกุ ดา น ทั้งดา นเศรษฐกจิ สงั คม สิ่งแวดลอ ม ความรู
และเทค1โ3น0โลยนี คั่นูมคอื อื กาหรลจักดั แกนิจกวครรดิ มแลลูกะเสแือนสวาทมาญั งเรพุนือ่ใหกญารเปสรฏิมิบสตั ริาตงาทมักหษละักชีวปิตรัชญชาั้นเมศธั รยษมฐศกึกจิ ษพาอปเพที่ยี 3ง ซ่งึ ไมว า จะเปน
บุคคล หรอื องคกรตางๆ สามารถปฏิบตั ติ ามได
ตัวอยา ง โครงการตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
๑.ชือ่ โครงการสง เสรมิ การพฒั นาเศรษฐกิจเพอื่ ความมั่นคงของครอบครวั และพัฒนาอาชีพครอบครวั ตาม
หลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงเครอื ขายองคก รสตรหี มบู า น (กสพม.) ตําบลหนองโพ
๒. หลกั การและเหตุผล
เศรษฐกิจพอเพียง เปนปรัชญาชีถ้ งึ แนวการดํารงอยู และปฏบิ ตั ติ นของประชาชนในทกุ ระดับต้งั แตร ะดับ
ครอบครัว ระดบั ชุมชนจนถงึ ระดับรัฐ ทั้งในการพฒั นา และบรหิ ารประเทศใหดาํ เนนิ ไปใน ทางสายกลาง โดยเฉพาะ
การพัฒนาเศรษฐกจิ เพอ่ื ใหก าวทันตอโลกยุคโลกาภวิ ฒั น ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งน้ี เปนกรอบแนวความคดิ และทศิ
ทางการพัฒนาระบบเศรษฐกิจมหภาคของไทย เพื่อมงุ สกู ารพฒั นาทส่ี มดลุ ยง่ั ยืน และมีภูมคิ ุมกนั เพื่อความอยดู ีมีสุข
มงุ สูสงั คมทีม่ ีความสุขอยางยง่ั ยนื หลักแนวคดิ ของเศรษฐกิจพอเพยี งการพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คือ
การพฒั นาทตี่ งั้ อยบู นพนื้ ฐานของทางสายกลาง และความไมป ระมาท โดยคํานงึ ถงึ ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล
การสรา งภมู คิ มุ กันทีด่ ีในตวั ตลอดจนใชค วามรคู วามรอบคอบ และคณุ ธรรม ประกอบการวางแผน การตดั สนิ ใจ
ประกอบกบั การดําเนนิ ชวี ิตประจําวัน ยอมมรี ายรับ และรายจา ยตา ง ๆ ท่เี กดิ ขน้ึ รายรับไดมาจากการทาํ มาหาเลยี้ งชีพ
ทัง้ จากอาชพี หลัก และอาชพี รอง สว นรายจา ยก็ไดแ ก คาใชจ ายตาง ๆ ไดแกคา อปุ โภค และบรโิ ภคทจี่ าํ เปนตอการ
ดาํ รงชีวติ ซ่ึงคาใชจา ยเหลา นม้ี จี าํ นวนเพิม่ สงู ขน้ึ มาโดยตลอด และไมมแี นวโนมทีจ่ ะลดลง การทาํ บัญชีครัวเรือนเปน
บัญชีทใี่ ช สาํ หรับบันทึกรายได และรายจายท่ีเกดิ ขน้ึ ในชีวติ ประจําวนั ของเรา วา ในแตล ะวันเรามีรายไดเ ขามาแลวจาย
คาใชจ ายออกไปเทา ไร ปจ จบุ นั ยอดเงนิ คงเหลอื มีเทาไร ทาํ ใหเ กดิ การวางแผนการใชจ า ยตอไปอยางรอบคอบ ใชจ า ย
อยา งพอเพียงเทา ทมี่ ี อยางระมัดระวงั จึงสามารถลดคาใชจา ยที่ไมจ ําเปนทาํ ใหเ กดิ การประหยดั และการออม และหากมี
การใชจ ายเทา ท่มี กี ็จะไมกอ ใหเ กิดหนสี้ นิ จงึ สามารถแกไขปญหาหน้ีสนิ ไดอ ยา งยัง่ ยนื เปน ผลใหเ กดิ ภมู คิ ุม กนั ท่ดี ีใน
การรับการเปลี่ยนแปลงทางการเงนิ ท่อี าจเกดิ ขึ้นในอนาคต หากเกดิ การตกงานหรอื อบุ ตั ิเหตทุ ่ีทาํ ใหไ มส ามารถหา
รายไดมาเลย้ี งชพี ตนเองและครอบครวั ได
ตามพระราชบัญญตั กิ าํ หนดแผนและข้ันตอนการกระจายอํานาจใหแ กองคกรปกครองสว นทองถน่ิ
พ.ศ. ๒๕๔๒ ใหอ งคการบริหารสว นตําบลมีอาํ นาจและหนาทีใ่ นการจัดระบบการบรกิ ารสาธารณะเพือ่ ประโยชนข อง
ประชาชนในทองถิน่ ของตนเองดังน้ี (๖) การสง เสรมิ การฝกและการประกอบอาชีพ (๑๖) การสงเสรมิ การมีสว นรว ม
ของราษฎรในการพฒั นาทอ งถิ่น องคก ารบริหารสว นตาํ บลหนองโพจึงจดั โครงการกิจกรรมสง เสรมิ การพัฒนา
เศรษฐกจิ เพือ่ ความม่นั คงของครอบครวั เก่ียวกับการสง เสรมิ และพฒั นาอาชีพครอบครัวตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ
พอเพียงเครอื ขา ยองคกรสตรหี มูบา น (กสพม) ตําบลหนองโพ ขึ้น
๓. วัตถปุ ระสงค
๑.เพื่อใหเครือขา ยองคกรสตรหี มบู าน(กสพม.) ตําบลหนองโพเปนแกนนาํ แนวทางเศรษฐกิจพอเพยี งมา
ประยกุ ตใ ช เพ่อื การพฒั นาท่ีสมดลุ และยงั่ ยืน
๒.เพื่อใหร าษฎรรจู กั การทําบัญชคี รวั เรอื น ทําใหเกิดการวางแผนการใชจายอยา งรอบคอบ
๓. เพ่อื เปน ศูนยการเรยี นรเู ศรษฐกิจพอเพียง
๔. เพอ่ื เปนการสง เสริมอาชีพใหกับราษฎร เพ่อื เพม่ิ พูนรายได
๕. สง เสรมิ การมสี ว นรว มของราษฎรในการพฒั นาทอ งถ่นิ
๔. เปา หมาย คูมอื การจัดกิจกรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสริมสรางทักษะชีวติ ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ่ี 3 ๕๐131คน
เครือขายองคก รสตรหี มบู า นตาํ บลหนองโพ และประชาชนผูส นใจ หมทู ี่ ๑ – ๓, ๕ – ๑๐ จํานวน
ตวั อยา ง โครงการตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง
1. ชอื่ โครงการเศรษฐกิจพอเพยี ง
2. หลกั การและเหตุผล
จากแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหงชาติ ฉบับท่ี 11 ( พ.ศ. 2555- 2559 ) ยังคงอญั เชิญ ปรชั ญา
ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง มาเปนแนวทางปฎิบัตคิ วบคูไปกบั การพัฒนาแบบรู ณาการเปน องคร วมทม่ี คี นเปน
ศนู ยก ลางพฒั นาอยา งจรงิ จัง เพอ่ื ใชเปนแนวทางในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศใหเ กิดความสมดลุ เปนธรรม
และยงั่ ยืนมงุ สู สงั คมอยูเย็นเปนสุขรว มกัน อนั จะเปน การเสรมิ สรา งประโยชนส ูงสดุ ใหแ กประชาชนโดยถว นหนา
สมดังพระราชปณิธานของพระบาทสมเดจ็ พระเจาอยูหวั ภาวะการเจรญิ เติบโตทางดานเศรษฐกจิ ของประเทศไทยทํา
ใหก ารดํารงชีวิตของคน ในสงั คมไทยไดนําเอาสิง่ อํานวยความสะดวกในทกุ ๆดานเขา มาใชใ นชวี ิตประจาํ วัน
แมกระทงั่ สง่ิ อุปโภคและบรโิ ภคตางๆลว นอํานวยความสะดวกตอ คนไทยในสงั คมทั้งสน้ิ ดวยเหตผุ ลขา งตน
ทาํ ใหก ารใชชวี ติ ของคนไทยท่ีผานมาน้นั ถึงแมจะไดรบั ความสะดวกสบายในเบอื้ งตน แตส ่งิ ทตี่ ามมาโดยไมร ตู วั คือ
การดํารงชวี ติ ประจําวันที่ฟมุ เฟอยทําใหค นในสังคมตอ งประสบกบั ปญ หาการดาํ รงชวี ติ ตามมา ฉะนน้ั สิง่ ท่จี ะสามารถ
แกป ญหาการดํารงชวี ิตของคนในสังคมไทย เร่ืองการใชจ ายฟุมเฟอย โดยเฉพาะรายจายในครอบครัวใหม ีรายจาย
นอยลงได คอื การดาํ รงชวี ิตอยางพอเพยี งตามแนวพระราชดําริ
ดังน้นั โครงการเศรษฐกจิ พอเพยี ง จงึ เปน โครงการหนึง่ ทีเ่ ปน ประโยชนตอ นักเรียนโดยตรงเพราะไดฝ ก
ปฏบิ ตั จิ รงิ และสามารถนาํ ไปประกอบอาชีพแบบยัง่ ยนื ได อนั จะเปนประโยชนตอ ครอบครัว และชมุ ชน โรงเรยี น
บา นปา บงจงึ ไดจดั กจิ กรรมปลกู พชื ผกั สวนครวั และผกั พืน้ บา น การเพาะเหด็ ฟาง การทําไมก วาดทางมะพรา ว
การทาํ งานใบตองโดยการจัดทาํ โครงการนี้ขึ้น
3. วัตถุประสงค
3.1 เพื่อตองการศกึ ษากระบวนการพัฒนาตามแนวเศรษฐกจิ พอเพยี ง
3.2 เพ่ือฝกทกั ษะอาชพี และมีรายไดร ะหวางเรยี น
3.3 เพ่อื นําผลผลติ มาประกอบเปนอาหารกลางวนั ใหน ักเรยี น
3.4 เพ่อื ใหน ักเรียน รจู ักการใชช วี ติ ท่พี อเพยี งมีความรคู วามสามารถในกิจกรรมท่ตี นเองสนใจ
3. เปาหมาย
ดา นปริมาณ
- บุคลากรในโรงเรียนทกุ คนมีความรูค วามสามารถในการใชชวี ิตอยา งพอเพยี ง
- นักเรียนทกุ คนกลา แสดงออกตลอดจนไดฝ ก ทักษะอาชีพและมีรายไดระหวา งเรยี น
ดา นคุณภาพ
นกั เรยี นรูจกั การใชชวี ิตท่พี อเพยี งนาํ หลกั การไปปฏบิ ตั ิสามารถลดรายจา ยในครวั เรอื น
ไดร บั การฝก ทักษะอาชีพและกลาแสดงออก
132 คมู อื การจัดกจิ กรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสริมสรางทกั ษะชีวิต ชั้นมธั ยมศึกษาปท ่ี 3
เรอื่ งทเ่ี ปน ประโยชน
นกกระเรียนกบั หมาปา
นกกระเรยี นมองไปเห็นหมาปา นอนด้นิ อยางทุรนทุรายอยูทีก่ ลางปา จงึ เดินเขาไปถามไถ
อยางเวทนาวา
“เจาเปน อะไรหรือ”
“ขา กลนื ชิ้นเนอื้ เขาไป แลวกระดกู ติดคอของขา ขา จะทําอยา งไรกไ็ มออก”
หมาปา บอกเเลวกข็ อรอ งใหน กกระเรยี นชว ยตนเเลว ตน จะใหรางวลั เปน การตอบเเทน
นกกระเรยี นจงึ ยนื่ มดุ หัวของมนั เขา ไปในปากหมาปา เเละสามารถลว งเอากระดกู ออกมาไดสาํ เรจ็
เมอ่ื นกกระเรยี นทวงถามถงึ รางวัลของตน หมาปา กค็ าํ รามวา
“ขาไมงบั คอเจาก็ดีเเลว ยังจะมาเอาอะไรจากขา อีก เลา”
เร่ืองนีส้ อนใหรวู า คนเลวมักไมเ ห็นความดขี องผอู น่ื
นางแมวมีรัก
นางเเมววงิ วอนขอรอ งตอพระพรหมวา
“ขอใหท านชว ยเมตตา เสกใหหมอมฉนั กลายเปนหญิงสาวดวยเถดิ เพคะ หมอมฉนั หลงรักชายหนมุ ผู
น้นั เสียเหลือเกนิ ”
พระพรหมเกดิ ความสงสารเวทนาจึงเสกใหนางเเมวกลายเปนคน
“ถา อยากเปน คน กต็ องเปน ใหต ลอดนะ”
พระพรหมตรสั เเลว กค็ อยสอดสอ งทิพยเนตรดนู างเเมวตอไป
วนั หน่งึ นางเเมวในรางของหญิงสาวกาํ ลงั พรอดรักกบั ชายหนมุ อยางหวานชื่น คร้นั มหี นตู ัวหนง่ึ วิ่ง
ผา นเขา มา หญิงสาวกก็ ระโดดออกไปแลว ตะครบุ หนตู วั นนั้ มากนิ ในทนั ใด
พระพรหมจงึ ทรงใหห ญิงสาวกลับเปนนางเเมวดงั เดิม
เรอื่ งน้ีสอนใหรูวา ยากทผ่ี ูใดจะละทงิ้ สนั ดานเดมิ เปน เรือ่ งยาก
คูม ือการจัดกจิ กรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรา งทกั ษะชวี ติ ช้ันมัธยมศึกษาปที่ 3 133
แผนการจดั กจิ กรรมลูกเสือสามัญรุนใหญ เครอ่ื งหมายลกู เสือหลวง ชัน้ มธั ยมศึกษาปที่ 3
หนวยที่ 9 การฝก เปนผนู าํ เวลา 1 ช่วั โมง
แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 28 ผนู ําทดี่ ี
1. จดุ ประสงคการเรียนรู
ลูกเสือสามารถบอกความหมายและคณุ สมบตั ขิ องผนู ําได
2. เนือ้ หา
ผูนาํ (Leader)หมายถึง บุคคลทีม่ ีความสามารถในการทจ่ี ะทาํ ใหอ งคการดําเนนิ ไปอยา ง
กาวหนา และบรรลเุ ปา หมาย โดยการใชอิทธิพลเหนอื ทศั คตแิ ละการกระทาํ ของผอู ืน่
ภาวะผูนํา (Leadership) หมายถงึ กระบวนการในการแนะแนวและนําทางพฤติกรรมของ
คนในสภาพของการทํางาน ผูนาํ อาจจะเปนบคุ คลทมี่ ตี าํ แหนงอยา งเปนทางการหรือไมเปนทางการก็
ได ซงึ่ เรามักจะรับรูเกีย่ วกบั ผูนําท่ไี มเปน ทางการอยูเสมอ เนื่องจากบคุ คลนั้นมลี กั ษณะเดนเปนที่
ยอมรบั ของสมาชกิ ในกลมุ ทาํ ใหสมาชิกแสดงพฤติกรรมท่มี นี ้ําหนักและเปน เอกภาพ โดยเขาจะใช
ภาวะผนู าํ ในการปฏบิ ตั กิ ารและอํานวยการโดยใชกระบวนการตดิ ตอสัมพนั ธกัน เพือ่ มุงบรรลุ
เปา หมายของกลุม
3. ส่อื การเรียนรู
3.1 แผนภมู เิ พลง
3.2 ใบความรู
3.3 แบบทดสอบภาวะความเปน ผูนาํ
3.4 เร่อื งทีเ่ ปน ประโยชน
4. กจิ กรรม
4.1 พธิ เี ปด ประชุมกอง(ชกั ธง สวดมนต สงบน่งิ ตรวจ แยก)
4.2 เพลง หรอื เกม
4.3 กจิ กรรมตามจุดประสงคก ารเรยี นรู
1) ผูกาํ กบั ลกู เสอื ใหลูกเสอื แตล ะคนในกองทําแบบทดสอบภาวะความเปนผนู ํา ภายใน
เวลา 10 นาที
2) ผูกํากบั ลูกเสอื ใหลกู เสอื สาํ รวจคําตอบของตนเอง จากน้ันผกู ํากบั แปลคา ใหล กู เสอื ทราบ
3) ผูกาํ กบั ลกู เสอื ใหตวั แทนแตละหมมู ารับใบความรูเรอื่ ง ลกั ษณะของผนู าํ ทด่ี ี
4) ผกู าํ กบั ลูกเสอื นาํ ลกู เสอื สนทนา และสรปุ ในหวั เรอ่ื งของลักษณะของผูน าํ ทด่ี ี มีอยางไรบา ง
4.4 ผูก าํ กับลกู เสอื เลาเรอื่ งทเ่ี ปนประโยชน
4.5 พิธีปด ประชุมกอง(นัดหมาย ตรวจเคร่ืองแบบ ชกั ธง เลกิ )
5. การประเมนิ ผล
สังเกต การมีสวนรว มทํากจิ กรรม และการแสดงออก
134 คมู อื การจดั กจิ กรรมลูกเสือสามัญรุนใหญเสริมสรา งทักษะชวี ติ ชั้นมัธยมศกึ ษาปท่ี 3
ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมที่ 28
เพลง
จบั มอื
จับ มือกนั ไวใ หม ่นั คง เพื่อความยนื ยงสามคั คี รกั กนั ปรองดองเหมือนนองพี่
เพือ่ ความสามคั คมี รี วมกัน โกรธกนั มนั รายเปนสิ่งเลวเปรยี บดังเปลวเพลงิ รอ นไฟนั่น
เผาใจใหม คี วามไหวหวัน่ จับมอื ย้ิมใหกนั เปนส่ิงดี
เกม
นําทาง
วธิ ีเลน
1. ใหลูกเสอื คนหนึ่งปด ตาไวจ ากนั้นใหล กู เสอื อีกคนนาํ ของท่ีเตรยี มไวไ ปซอ นยังจุดๆหน่ึง
2. จากน้ันใหค นที่ปด ตานน้ั เปด ตาและออกคน หาวา ของนนั้ ซอนอยูท่ีไหน ลกู เสือคนอืน่ จะ
บอกทิศทางของสงิ่ ของนัน้ ไดโดยพูดเพียงวา ซา ยขวา หันหลัง บอกสง่ิ ของนนั้ ใหก ับผูคนหา
การตัดสนิ ผูคนหาจะตอ งเดนิ ไปตามทศิ ทางทีล่ กู เสือบอกจนกวาจะคนพบสงิ่ ของนนั้ แลวกเ็ ปลีย่ น
คนอืน่ เขา มาหาของบาง
คมู อื การจัดกจิ กรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสริมสรา งทักษะชวี ิต ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท่ี 3 135
ใบความรู
ลักษณะของผนู าํ ทด่ี ี
ผนู ํา (Leader)หมายถึง บุคคลท่มี คี วามสามารถในการทจ่ี ะทาํ ใหอ งคการดําเนนิ ไปอยางกาวหนาและบรรลุเปาหมาย
โดยการใชอทิ ธพิ ลเหนือทศั คตแิ ละการกระทาํ ของผอู น่ื
ภาวะผูนํา (Leadership) หมายถึง กระบวนการในการแนะแนวและนําทางพฤตกิ รรมของคนในสภาพของการทํางาน
ผนู ําอาจจะเปนบุคคลทม่ี ีตาํ แหนงอยางเปน ทางการหรือไมเปนทางการกไ็ ด ซึง่ เรามักจะรับรูเ กี่ยวกับผูน าํ ท่ีไมเปน
ทางการอยูเสมอ เนอื่ งจากบคุ คลนน้ั มลี กั ษณะเดนเปน ทยี่ อมรบั ของสมาชิกในกลมุ ทาํ ใหส มาชิกแสดงพฤตกิ รรมทม่ี ี
นํ้าหนักและเปนเอกภาพ โดยเขาจะใชภ าวะผูน าํ ในการปฏิบตั กิ ารและอํานวยการโดยใชก ระบวนการตดิ ตอ สมั พันธกนั
เพ่อื มุงบรรลเุ ปาหมายของกลมุ
คุณลักษณะของผนู ํา 10 ประการ
1. กลาเปล่ยี นแปลง
2.มีจิตวทิ ยา มมี นษุ ยสมั พนั ธ
3. จูงใจคนไดดี
4.มคี วามรับผดิ ชอบสูง
5. มีทั้งความยืดหยุนและเดด็ ขาด
6. มีทงั้ ความรอบรู มสี ังคม
7.เปน นกั ประสานงานท่ดี ี
8.มคี วามกระตือรอื รน
9.ทํางานเคยี งขางลูกนอ ง
10. มคี วามนานบั ถือ
ตอ ง สงั เกตการณทาํ งานของลูกนอ งแตละคนในทมี งานดว ยวามีใครกําลังเอาเปรียบเพอื่ นอยหู รอื ไม เพราะ
บางคนอาจชอบอู ทํางานนอยปลอยใหเ พ่อื นคนอ่ืนเหนือ่ ยมากกวา ซงึ่ กรณีอยา งน้ีหัวหนางานตองสงั เกตดว ย
ตนเองดว ย คนทํางานหนกั บางคนอาจจะไมใ ชค นทช่ี อบฟอ งแมเ มือ่ ถูกเอาเปรยี บ
อยา ใสใ จ ความผดิ เลก็ ๆ นอ ย ทเ่ี รารูดีวาเปน เรือ่ งการเมอื ง เชน ลูกนองลาปวยทงั้ ๆ ทีไ่ มไ ดปว ยจริง
เราก็ไมจ าํ เปน ตองไปสบื คน วา ทําไมเขาตอ งโกหกตราบใดท่เี ขายังคงต้งั ใจทาํ งาน เวนแตว า บคุ คลนนั้ มที าจะขายไอเดยี
ภายในองคกรใหบรษิ ทั อ่นื ๆ หรือมีพฤตกิ รรมสอใหเห็นมากอ นวาไมเอาใจใสใ นงาน กรณเี ชน น้นั จึงคอยตรวจสอบ
เขาอยางจรงิ จงั
พยายาม วางแผนงานลวงหนา เพอื่ จะไดม องเห็นแนวโนม ของการตดั สนิ ใจได เลย่ี งการตดั สนิ ใจอยา ง
เรง ดวนสําหรบั อุปสรรคท่ีเกดิ ข้ึนเพราะวางแผนงานผดิ พลาด
อยามงุ เนน แตก ารสรา งงาน ตอ งเรียนรเู รอ่ื งของกระแสความตอ งการของหนว ยงานอื่นและบรรดาคแู ขง อน่ื ๆ
ดวย โดยไมนกึ ถึงผลกระทบทจี่ ะตามมาวาจะเกิดผลอยางไร
136 คูมือการจดั กิจกรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสริมสรางทักษะชีวิต ช้ันมธั ยมศกึ ษาปท ่ี 3
หวั หนา คอื ผูจบั ผิดแทนองคก รวาบุคลากรคนใดทํางานดวยความรกั องคกร คนใดทาํ งานดว ยเพราะมีไฟ
แหงการสรางสรรค คนใดมงุ ม่ันเพ่ือผลประโยชนข ององคกร และคนใดทํางานเพียงเพือ่ ใหม งี านทํา
พิจารณา สงเสรมิ ลกู นอ งท่ีมคี วามขยัน และมีอุปนิสัยใจคอดี แมว า ฝมือการทํางานอาจจะไมโดดเดน
นกั ควรหาทางสง เขาไปฝก อบรมการสนบั สนุน คนนสิ ยั ดียอมเปนประโยชนแกองคกรมากกวาสนบั สนนุ คนที่ทาํ งาน
ไดดีแตม ไิ ดเ ปน ที่ชื่นชมของของทกุ คนนัก
ความโกรธ ความเสยี ใจ คนเปนหวั หนาทีมตอ งแสดงออกแตน อยหากอยูในทที่ ํางาน ไมมีลูกนอ งคนใดจะ
นบั ถือศรัทธาผูจดั การที่ออ นแอและออนไหวจนเกินไป
อยาปกปดความผิด ของลกู นอง เมือ่ งานผิดพลาดกต็ องชว ยกันรบั ผดิ ชอบและแกไ ข แตไ มใ ชชว ยกนั ปด ไว
ไมใหผ ูบรหิ ารระดับสูงรับรวู า เกดิ การผดิ พลาดในผลงาน ตอ งกลา จะรบั ผดิ ขณะเดียวกนั กต็ องแจงใหผ บู ริหาร ทราบถึง
แนวทางการปองกนั การเกิดปญหาเชนนที้ ไี่ ดวางแผนไวแลว
เปน หวั หนา งาน ที่เท่ยี งธรรมอยามอี คติกบั ลกู นอ งเพราะมันจะนําไปสูการตัดสินใจดวยอคติเมอ่ื มีปญหา
เกิดขนึ้ อยาลมุ หลงในการการยกยอปอปน หวั หนาทห่ี เู บายอมกํากับควบคมุ ทมี ใหส รางผลงานทดี่ ีไดยาก
แนะนํา ลูกนองคนใหมใหทกุ คนในทีมงานไดร จู ัก แลว ใหค นพาเขาไปดูสวนตางๆ ของบริษทั ใหท วั่ ถงึ มิวา
จะเปนหอ งน้าํ มมุ กาแฟ หรอื ทจี่ อดรถ ควรตอ นรับและดแู ลคนใหมอยางดี แมว า เขาจะอยใู นฐานะลกู จา งชวั่ คราว
หรอื เดก็ ฝกงานกต็ าม
พาทีมงาน ไปเล้ียงอาหารกลางวันหรืออาหารเยน็ “ เลี้ยงสง ” หรือ “ เล้ียงอาํ ลา ” ในยามทคี่ นในทมี งาน
ลาออก อยา ลมื รว มกันเขยี นอวยพร ในการด ใบเดยี วกัน หรือาจรวมกนั ซอื้ ของขวัญพเิ ศษสกั ชิน้ ใหเ ขา เพอ่ื ทกุ คน
จะไดส นทิ สนมรกั ใครก ันดี
ทําตวั เปนตวั อยาง ทดี่ ีกับลูกนองในทุกๆ ดา น ไมวาจะเปนการแตง ตวั การวางตวั ความเอาใจใสใน
การทาํ งาน ความมอี ารมณขนั การสรางสรรคบรรยากาศการทาํ งานใหมสี ีสนั และการทาํ งานโดยมุง หวงั ความ
เปนเลศิ ในผลของงาน
คนทาํ งาน ยอ มรถู ึงขน้ั ตอนการทํางานและปญหาตางๆ ไดเ ปน อยา งดผี ูเปน หวั หนา ควรหาโอกาสลงไป
รว มชวยงานของลูกนอ ง แตละคนบา งหากมีโอกาส เพื่อจะไดม องเหน็ ปญหาวาควรจะบรหิ ารงานน้ันอยา งไรใหถ กู
ทาง และควรเปดโอกาสใหพ วกเขาไดรว มเสนอแนะการปรบั ปรงุ แกไ ขวธิ กี ารทาํ งานบางประการที่พวกเขายอ มเขาใจ
ในสภาวะตา ง ๆ ไดด กี วา เรา
หัวหนางาน มหี นาทโ่ี ดยตรงที่จะคอยไกลเ กลยี่ ประนปี ระนอม คนในทมี งานทมี่ ีความขดั แยง กัน อยาปลอ ย
ใหเ ขาไมพอใจกันในขณะทตี่ อ งทํางานรว มกนั ถา มปี ญ หาของความขัดแยงคอนขางจะรนุ แรงเกินความสามรถของคุณ
กใ็ หนาํ ความไปปรึกษาผบู รหิ ารระดบั สูงเพ่อื ใหเ กิดการพจิ ารณานาหนทางแกไ ขอยางยุตธิ รรม ตอคกู รณีทัง้ สอง
เขา รว ม รบั การอบรมทักษะผูนาํ และศลิ ปะของการบรหิ ารงาน เพ่ือเพิม่ ศักยภาพใหกบั ตนเอง อยาคดิ วา
เวลามีนอ ยถาคณุ ไมส ามรถบรหิ ารเวลาของตนเองไดและไมเ หน็ ความสาํ คญั ของการพฒั นาตนเอง ก็แสดงวา คุณยงั
ไมใชผ ูนาํ ที่ดนี ัก
สรุปไดวา การที่จะเปน ผนู ําที่ดี จะตอ งยดึ ใน หลัก 10 ประการนี้ เพื่อการบรหิ ารในแตล ะหนว ยงาน แต
ละองคกรใหเกิดประสทิ ธภิ าพ พรอมทง้ั การไดร ับความรัก และความไวเน้อื เช่อื ใจจากผรู วมงาน และหวังเปน อยางยงิ่
วา จะเปน แนวทางดที ี่สาํ หรบั ผทู จ่ี ะกา วเปน ผบู ริหาร หรือผทู ี่เปน อยแู ลว นําไปปฏบิ ัตหิ รอื นําไปปรบั ใช เพื่อการ
บรหิ ารงานในหนวยงานใหป ระสบความสําเรจ็ ในอนาคต
คมู อื การจดั กจิ กรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรางทกั ษะชีวิต ช้ันมธั ยมศกึ ษาปท่ี 3 137
แบบทดสอบ ภาวะความเปน ผนู าํ
คําสั่ง ใหล กู เสอื เลอื กคําตอบเพยี งขอเดยี วทตี่ รงกับความคดิ ของลูกเสือทส่ี ดุ
1. “สถานภาพ”มีความสําคญั กับคุณอยา งไร?
a. สาํ คญั มาก คณุ ชอบทจ่ี ะรสู ึกวาตนเองอยูใ นลําดับสูงสุดของสงั คม
b. คอ นขา งสําคัญ คุณรูสกึ ดที ี่ไดอ ยูทามกลางฝูงชน
c. เปนเร่อื งคณุ ภาพของความสัมพันธมากกวาวา คุณอยูตรงไหนของความสมั พันธน ้ัน
d. ไมสําคญั เลย คุณแคตองการความกาวหนาและประสบความสําเรจ็
2. ในวยั เด็กคุณอยูลําดบั ไหนของกลุมเพอื่ น ?
a. ผูนํากลมุ ท่ีทกุ คนตา งกลวั
b. ผูม คี วามสนุกสนาน เปน ทีช่ น่ื ชอบของทุกคน
c. นักคดิ ที่ทกุ คนรบั ฟง
d. เงยี บขรึม ไมมใี ครสังเกตเห็นเลย
3. เมอ่ื อยูที่สาํ นักงาน คณุ เปน คนท่ีเสนอแนวคิดหรือคาํ แนะนาํ ใหมๆ หรือไม ?
a. ตลอดเวลา คุณตองการใหท ุกคนรูวา คณุ คดิ อยางไร
b. คอ นขางจะบอ ยครั้ง แตไ มไดต ลอดเวลาเพราะอาจทําใหใ ครบางคนไมพอใจ
c. บอ ยครง้ั แตมีความระมดั ระวังในบางประเด็นเรื่องความเปนสว นบุคคลและการเมอื ง
d. นาน ๆ ครง้ั เน่อื งจาก “หากสิง่ นน้ั เปน ส่งิ ผดิ หละ ?”
4. หากเพอ่ื รวมงานของคณุ โดนตําหนเิ รือ่ งรายงานทีไ่ มม ีคณุ ภาพ คุณจะทําอยา งไร ?
a. บอกพวกเขาในสงิ่ ทพ่ี วกเขาควรจะรมู ากขนึ้
b. พาพวกเขาออกไปสงั สรรคห ลงั เลกิ งาน
c. เสนอตวั ชว ยตรวจรายงานใหใ นครง้ั ตอ ไป
d. หลีกเลยี่ งพวกเขา เพราะคุณมีสง่ิ ท่ีตอ งทาํ มากอยูแลว
5. คุณไดร บั ความเห็นท่ีไมด กี ลบั มา คณุ จะตอบสนองอยา งไร ?
a. รสู ึกโกรธและปกปองตวั เอง
b. รับฟงอยา งต้ังใจแตม ีความรสู กึ ผดิ หวังออกมา
c. พจิ ารณาถงึ ส่งิ ท่ีคณุ จะตอ งเปลย่ี นแปลง และวธิ ีในการปรับปรุง
d. ถอนหายใจแลว คิดวา “นแี้ หละตวั คุณ”
138 คมู อื การจัดกจิ กรรมลูกเสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรา งทกั ษะชีวติ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที่ 3
6. “อีควิ ” หมายความอะไรกบั คุณ ?
a. ไมม ี เพราะเปนแคค วามนยิ มในการบริหารจดั การ และจะหายไปเม่อื ไมไ ดรับความนิยม
b. จะถือเปนความผิดหากมกี ารอนุญาตใหห ัวเราะไดในเวลาทาํ งาน
c. เปน ความใสใจถงึ ความรสู กึ ของเพอ่ื นรวมงาน
d. เปนส่ิงท่คี ณุ พยายามจะเขา ใจในอารมณของเจา นายคณุ
7. เมอื่ คณุ เผชิญหนากบั ปญ หาทีต่ องไดรับการแกไขคณุ จะทําอยางไร ?
a. เสนอวิธีแกไ ขวธิ ีเดียวและบอกวา เปนวธิ ีท่ถี ูกตองแลว
b. เสนอหากวธิ ีการแกไ ขทม่ี คี วามเปน ไปไดแ ละขอใหค นอ่นื ออกความคิดเห็น
c. ทําการระดมสมองกับเพอ่ื รวมงาน
d. ขอคาํ แนะนาํ จากผจู ัดการหรอื หวั หนา
8. หากเจา นายขอใหคุณทาํ บางสงิ่ ที่เกนิ ความสามารถคณุ จําทําอยางไร ?
a. รับมาดว ยความเต็มใจ เพราะคุณสามารถทาํ ไดทุกอยา ง
b. ทาํ อยางเตม็ ความสามารถ และไมตาํ หนิตวั เองหากเกิดผิดพลาด
c. รบั มา แตถามถึงวิธกี ารและความชวยเหลือที่มากกวา น้นั
d. รับมาและทาํ เงียบเฉย สดุ ทา ยถงึ สารภาพออกมาวาคุณไมค ิดวา จะสามารถจัดการได
9. การกระจายอาํ นาจหรือการแบง งานกนั ทาํ คืออะไร ?
a. การเสยี เวลา ไมมีใครสามารถทาํ ไดดีเทาคณุ ดงั นน้ั คณุ ตอ งทําดวยตวั คุณเอง
b. เปนวิธีที่งา ยในการแบงภาระงาน
c. เปน วธิ ีท่มี ปี ระสทิ ธภิ าพในการสรา งโอกาสในการเรยี นรใู หมสาํ หรับคนอ่ืน
d. เปน บางส่ิงท่คี ณุ ตอ งรบั เปน คนสดุ ทายเสมอ
10. “การเปล่ียนแปลง” มคี วามหมายอะไรกบั คณุ ?
a. บางส่งิ บางอยางที่สามารถควบคุมได
b. เปนโอกาสท่ีทุกส่งิ ทกุ อยา งสามารถเกิดข้นึ ได
c. เปน โอกาสในการสรา งความกา วหนา
d. บางสิ่งบางอยางที่จะตอ งไปกับมัน
คูมือการจัดกิจกรรมลูกเสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรางทักษะชีวติ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปท ี่ 3 139
เฉลยคาํ ตอบ
หากคาํ ตอบสวนใหญค อื ขอ a
คุณมีความเปน ผนู าํ โดยกาํ เนิด เพยี งแตรอใหถงึ งานที่เหมาะสมกบั คณุ เสยี กอน คุณมคี วามแขง็ แกรง กลา ตดั สินใจ
และเปน นกั ปกครองท่ีดี ทกุ คนท่ีอยรู อบตัวคณุ ใหค วามเคารพนบั ถอื คุณ หรอื อยางนอยนัน้ เปน สิง่ ทีค่ ณุ คิดอยูเสมอ
แตในโลกแหง ความเปนจรงิ สถานการณอาจแตกตางออกไป ความเยอ หย่ิง ความมุทะลดุ ดุ ันและความเปน
เอกาธิปไตยทค่ี ุณมี มนั เปน รูปแบบทลี่ าสมยั ไปแลว คณุ ควรฉลาดทจี่ ะไมล งโทษผคู นท่ไี มไดเ หน็ เหมือนกบั คณุ และ
ควรเป ดโอกาสใหก ับคนทม่ี คี วามรคู วามสามารถท่ีอยูรอบตวั คุณ
หากคําตอบสวนใหญคือ ขอ b
คุณมีศักยภาพที่ดีในการเปนผูนาํ คุณสนบั สนุนและรบั ฟง คนรอบขา ง คณุ เปน คนท่อี ยเู คียงขา งและมคี วามคดิ รเิ รม่ิ
สิง่ เหลานี้เปน สิง่ ทดี่ สี าํ หรับคณุ ในอนาคต แตค ณุ เอาชนะส่งิ ทอ่ี าจเปน ขอบกพรองหรือขอผดิ พลาดรา ยแรงในหนาที่
การทาํ งานเพยี งเพอ่ื ตอ งการเปน ทีช่ นื่ ชอบน้นั ก็ไมถ อื วาผิด แตหากคณุ ทาํ เพยี งเพือ่ ใหไดช อ่ื วาเปน เพอื่ นทด่ี ที สี่ ดุ
สําหรบั ทุกคน คุณกอ็ าจไดร ับความยากลาํ บาก ลองพยายามเผชิญหนาความขดั แยงดว ยความออ นไหวและซื่อสัตย
ผูคนรอบขางอาจนับถือและเคารพคุณมากขน้ึ
หากคําตอบสว นใหญคือ ขอ c
คุณเปน นักบรหิ ารจดั การ และคุณตองการขึ้นไปใหสงู กวาน้กี ็ตอ งมีความสามารถใหมากกวานี้ คณุ เปนคนทมี่ ี
ความคดิ สรา งสรรค เดด็ ขาด และใสใจ คณุ สามารถรวมกลมุ เขาดว ยกนั และสนกุ กบั การเปน หวั หนาพวกเขา คํามั่น
สัญญาสว นใหญเ ปนสง่ิ ทส่ี ําคญั สาํ หรบั คณุ ในการใชความสามารถของคนอนื่ คณุ มีความคาดหวงั ที่สงู กบั พวกเขา
และเปนไปไดวาสูงกวาทีพ่ วกเขาคิดถึงตวั คณุ เสยี อกี และดูเหมอื นวาคุณเตรียมตวั พรอมทีจ่ ะทาํ ในสิง่ ทค่ี ุณสามารถ
ชวยใหพ วกเขารถู งึ ศักยภาพของพวกเขาเอง ทกั ษะดา นการบรหิ ารจดั การทคี่ ณุ มที ้ังหมดนเ้ี ปนส่ิงที่องคกรสมยั ใหม
กาํ ลงั มองหามากท่สี ดุ
หากคําตอบสว นใหญคอื ขอ d
คณุ มีความฉลาดเพียงพอที่จะรวู า คณุ เหมาะกบั การเปน สมาชิกในทมี มากกวา การเปนผนู าํ หรอื หวั หนา ทีม คณุ ชอบ
ท่จี ะฟง แนวความคิดมากกวา การสั่ง และคณุ ชอบที่จะลงมอื ทํามากกวา ทําหารตดั สนิ ใจ สิ่งตา ง ๆ เหลานไ้ี มไ ดเปน
ส่ิงทีไ่ มดี เพราะในโลกแหงความเปน จริงแลวคงเปนไปไมไดท จ่ี ะมีแตผ ูนาํ และไมม ผี ูตามเลยนอกจากนีค้ ุณยงั เปน
สมาชกิ ในทมี ท่ีมคี วามหนกั แนน นาเชอื่ ถือ และซอื่ สัตย แตพ ึงระวงั ถงึ ความยินยอมของคณุ ตอผูอน่ื คณุ ไมไ ดเ ปน
คนท่ีชอบประจบสอพลอ และในตอนนค้ี ณุ ควรเตรียมพรอ มที่จะทาํ ในสิง่ ท่ีคุณตองการ
140 คมู อื การจัดกจิ กรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสริมสรางทักษะชวี ติ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที่ 3
เรือ่ งทเี่ ปน ประโยชน
นกขม้ินนอยผอู ารี
คร้งั หนึ่งนานมาแลว ในเมอื งพาราณสี มนี กขมน้ิ ตัวหนง่ึ อาศยั อยใู นปา ทํารงั อยบู นตนไม
ตน หนึ่ง โดยเลอื กเอาตรงงา มไมสูงๆ คุมแดดคมุ ฝนและคอ นขา งปลอดภัยจากอนั ตรายทจ่ี ะมาจาก
สัตวร า ยและคนรา ยเจา นกขมน้ิ เหลอื งออนนอนอยูบนรังอยางสงบสขุ เรือ่ ยมา
คราวหนง่ึ เกิดฝนตกชกุ ติดตอ กันมาหลายวัน จนนํา้ ฉาํ่ ฟา ชุมแผนดนิ ไมว าฝนจะตก
หนักหนาขนาดไหน กไ็ มทําใหเ จา นกขมนิ้ เดือดรอ นอะไรเลยเพราะรังของมัน คมุ ครอง ปอ งกันลม
และฝนไดเ ปน อยางดที ใี่ กล ๆ รังของนกขม้ิน มลี งิ ตัวหนงึ่ นง่ั หลบฝนอยแู ตกห็ ลบไมพ น มนั เปย ก
ปอนไปท้งั ตัว นงั่ สัน่ งันงกจนนกขม้ินอดสงสารไมไ ด จึงรอ งถามวา“พ่ีลิงจา.. ทา นพี่มลี กั ษณะเหมอื น
อยางมนุษยแตทาํ ไมจึงไมสรางบา นอยอู ยา งมนุษยล ะจะ มาทนตากฝนอยูทาํ ไม”ลิงตอบนกขมิ้นนอย
วา”เม่อื กอนนี้ฉันอาศัยอยใู นถ้ํา ซึง่ มีท้งั อาหารและน้ําอยูรอบ ๆ บริเวณถํ้า…แตตอนนี้ไดมลี งิ แมล ูก
ออนหลายตัวมาอาศัยอยู..ฉันสงสารแมล กู ออ นเหลา น้ันไมอ ยากแยง อาหาร…ฉนั กต็ อ งออกมาหาที่
อยใู หม แตยงั ไมท ันไดทําทอี่ ยูอาศยั เลย…ฝนกต็ กหนกั มาหลายวันแลว แตถ าฝนหยดุ …ฉนั อยากจะ
ทาํ ที่อยูใกลๆ กับเจา ไดไ หม!”นกขมิ้นนอ ยตอบวา
“ไดซ ิจะพี่ลงิ เพราะฉันกอ็ ยตู วั เดยี ว..จะไดมีเพือ่ น..พอกบั แมของฉันตายหมดแลว”ลงิ ดใี จ และลงมอื
ทําที่อยอู าศัยใกลก บั รงั ของนกขมิน้ จากนั้นมา ลิงกบั นกขมน้ิ กเ็ ปนเพอ่ื นที่ดีตอ กันชว ยกันคิด
แกปญหาหรือเม่อื มคี วามทกุ ข…ก็ปรกึ ษารวมกนั คิดแกปญ หา
นทิ านเรื่องนสี้ อนใหรวู า การมปี ญญาและมเี พ่ือนทดี่ ี สามารถแกป ญ หา…หรอื ทุกขท่ีเกดิ ขึ้นได
คมู ือการจัดกจิ กรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรา งทักษะชีวิต ช้ันมัธยมศกึ ษาปที่ 3 141
แผนการจดั กิจกรรมลูกเสือสามัญรุนใหญ เครอ่ื งหมายลูกเสอื หลวง ชนั้ มธั ยมศึกษาปท่ี 3
หนว ยที่ 10 ประเมินผล
แผนการจดั กิจกรรมท่ี 29 การประเมินผล เวลา 1 ช่วั โมง
1. จดุ ประสงคการเรียนรู
1.1 เพ่อื ใหลกู เสือเขา ใจการประเมนิ ผลเพอ่ื การตดั สนิ ผลการผา น ไมผา นกจิ กรรม
1.2 เพ่ือใหลกู เสือเขา ใจการประเมนิ พฤตกิ รรมทักษะชวี ิตทล่ี ูกเสือไดร บั การพัฒนา
1.3 เตรยี มความพรอ มรบั การประเมินตามวธิ ีการของผกู ํากบั กองลูกเสือ
2. เนือ้ หา
2.1 เกณฑก ารตัดสนิ กจิ กรรมพฒั นาผูเรียนตามหลักสตู รการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พ.ศ. 2551
2.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมทักษะชีวติ
3. ส่อื การเรยี นรู
3.1 Flow Chart การประเมนิ เพอื่ ตัดสนิ ผลการเลอื่ นช้นั ของลูกเสือและจบการศึกษา
3.2 แบบประเมนิ ทักษะชวี ติ ของลกู เสอื รายบคุ คลหรือรายหมลู ูกเสือ
3.3 แบบประเมนิ ตนเองของลูกเสือประจําปก ารศกึ ษา
3.4 ใบความรู
4. กิจกรรม
4.1 ผูกํากับลกู เสืออธิบายหลักเกณฑ วธิ กี ารประเมินผลการเรยี นรตู ามที่หลกั สตู รแกนกลาง
การศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พ.ศ. 2551 กําหนดเพ่ือตดั สนิ การจบการศึกษา
4.2 ผูกาํ กบั ลกู เสืออธิบายถงึ พฤติกรรมของลกู เสอื ที่ไดรับการเสรมิ สรา งทกั ษะชวี ติ ผา น
กจิ กรรมลกู เสอื
4.3 ลูกเสอื ประเมนิ ความพรอ มของตนเองเพื่อรบั การประเมนิ และวางแผนพัฒนาตนเอง
ในสวนทไี่ มม นั่ ใจ
4.4 ผกู ํากับลกู เสอื และลูกเสอื กําหนดขอ ตกลงรว มกันถึงชวงเวลาการประเมนิ
4.5 ผกู ํากับลกู เสอื นดั หมายและดําเนนิ การประเมนิ
5. การประเมนิ ผล
5.1 สังเกตจากผลการประเมินตนเองของลูกเสอื
5.2 สงั เกตความมนั่ ใจและการยนื ยนั ความพรอ มของลกู เสือ
142 คมู ือการจัดกิจกรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสรมิ สรางทกั ษะชีวติ ช้ันมธั ยมศึกษาปท ่ี 3
ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมท่ี 29
1. การประเมินผลตามเกณฑข องหลกั สตู รการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พ.ศ. 2551
Flow Chartกระบวนการประเมนิ ผลลูกเสอื
ลูกเสือเรียนรจู ากกิจกรรม เกณฑก ารประเมิน
ลกู เสอื เสรมิ สรางทกั ษะชวี ติ 1. เวลาเขา รว มกจิ กรรม
2. การปฏบิ ัตกิ จิ กรรม
ผกู าํ กับประเมนิ ผลเรียนของ 3. ผลงาน / ช้ินงาน
ลกู เสือทร่ี ว มกจิ กรรม 4. พฤตกิ รรม/คุณลกั ษณะ
ของลูกเสอื
ผลการประเมนิ
ผา น ไมผา น - ซอ มเสริม
- พฒั นาซา้ํ
ตดั สนิ ผลการเรยี นรูผ านเกณฑ
ผา น
รบั เคร่ืองหมายชัน้ ลกู เสอื
ตามประเภทลกู เสือ
คมู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือสามัญรุนใหญเสริมสรา งทักษะชวี ิต ชั้นมธั ยมศึกษาปท ี่ 3 143
แบบประเมนิ ตนเองของลูกเสอื
ชอื่ ..........................................................ประเภทลูกเสือ...........................ชน้ั ................................
เกณฑท ี่ การประเมินตนเอง ขอคิดเหน็
การพัฒนา
ท่ี รายการทร่ี ับการประเมิน สถานศกึ ษา ครบ/ ไมครบ/
กาํ หนด ผาน ไมผาน
1 1. เขา รวมกจิ กรรมลกู เสือ ไมนอยกวา
1.1 รว มกิจกรรมการฝกอบรม 24ชวั่ โมง/ ป
1.2 รวมกจิ กรรมวนั สาํ คญั
- วนั สถาปนาลกู เสอื 1 ครง้ั / ป
- วันถวายราชสดุดี 1 ครงั้ / ป
- วนั พอแหงชาติ 1 คร้งั / ป
- วันแมแหงชาติ 1 ครง้ั / ป
- วนั ตา นยาเสพติด 1 ครง้ั / ป
- กจิ กรรมบําเพ็ญประโยชนอน่ื ๆ 8ครั้ง/ ป
- กิจกรรมวฒั นธรรม/ ประเพณี 4คร้ัง/ ป
1.3 เดนิ ทางไกล/ อยูคายพักแรม 1 คร้ัง/ ป
2 2. มผี ลงาน/ ชนิ้ งานจากการเรยี นรู
กิจกรรมลูกเสอื ไมนอยกวา
2.1 ผลงานการบรกิ าร 6รายการ/ ป
2.2 ช้ินงาน/ งานท่ีคิดสรางสรรค 2รายการ/ ป
2.3 อน่ื ๆ เชน รายงานฯ 2รายการ/ ป
3 3. มคี วามพรอมเขา รบั การทดสอบเพอ่ื
เลือ่ นช้นั และรบั เคร่ืองหมายวิชาพเิ ศษ
ลกู เสอื วสิ ามญั
3.1.............................................
3.2.............................................
3.3.............................................
3.4.............................................
3.5.............................................
ผา นและพรอ ม
สรปุ ฉันมน่ั ใจวาผาน ฉนั มคี วามพรอ มใหป ระเมิน ฉันยงั ไมพ รอม
144 คูม ือการจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรา งทักษะชีวติ ช้ันมัธยมศึกษาปท ่ี 3
สรปุ ผลการประเมินตนเอง
1. ดา นทกั ษะลกู เสือ
มั่นใจมากวาจะ พรอ มแลว ไมแ นใ จ ตอ งขอความ งนุ งง
ผานการประเมิน ชว ยเหลอื จาก ไมเขาใจ
ผูกํากบั ลูกเสอื
มั่นใจมาก พรอมรบั การประเมนิ เครือ่ งหมายวิชาพิเศษ
พรอ มรับการประเมิน
ไมแนใจ
ยงั ตองพฒั นา/ ซอมเสริมบางเรอื่ ง
ตองการความชว ยเหลอื จากผกู ํากบั ลกู เสอื
ลงช่อื .......................................................ผปู ระเมนิ
คูมือการจัดกจิ กรรมลูกเสือสามญั รุนใหญเสรมิ สรา งทักษะชีวติ ช้ันมัธยมศึกษาปท่ี 3 145