1
ประกาศโรงเรียนวดั ม่วง (สานกั งานสลากกินแบ่งรฐั บาลสมทบสร้าง๓๖๗)
เรอ่ื ง ใหใ้ ช้หลักสูตรโรงเรียนวัดมว่ ง (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕64)
ตามหลักสตู รการศึกษาปฐมวยั ปีการศึกษา ๒๕๖๐
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………….……
.
ตามท่ีโรงเรียนวัดม่วง ได้ประกาศใช้หลักสูตรโรงเรียนวัดม่วง (สานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลสมทบ
สร้าง๓๖๗) พุทธศักราช ๒๕๖๐ โดยเริ่มใชห้ ลกั สูตรดงั กลา่ วกับนกั เรยี นระดบั ช้ันอนบุ าลในปีการศกึ ษา ๒๕๖๑
ซึ่งทางโรงเรียนวัดม่วง(สานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลสมทบสร้าง๓๖๗) ได้มีการจัดทาหลักสูตรเพื่อให้
สอดคล้องรับกับนโยบายของรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศกึ ษาธิการ เพ่อื ใหก้ ารจดั การศึกษาปฐมวัยที่ต้องพัฒนา
เด็กต้ังแต่แรกเกิด- ๖ ปีให้มีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ และสติปัญญา ท่ีเหมาะสมกับวัย
ความสามารถและความแตกต่างระหว่างบุคคล เปน็ การเตรียมความพรอ้ มที่จะเรียนรแู้ ละสร้างรากฐานชีวิตให้
พฒั นาเด็กปฐมวยั ไปสู่ความเปน็ มนุษยท์ ี่สมบูรณ์ เปน็ คนดี มวี ินยั ภูมิใจในชาตแิ ละมีความรับผดิ ชอบตอ่ ตนเอง
ครอบครัว ชมุ ชน สังคม และประเทศชาติ ตามเจตนารมณข์ องรฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช
๒๕๖๐ มาตรา ๕๔ ได้ดำเนินกำรจัดทำหลักสูตรโรงเรียนวัดม่วง (ฉบับปรับปรุง พุทธศักรำช ๒๕๖4) ตำม
หลักสูตรกำรศึกษำปฐมวัย พุทธศักรำช ๒๕๖๐ เพ่ือให้กำรจัดกำรศึกษำสอดคล้องกับกำรเปลี่ยนแปลงทำง
เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม สภำพแวดล้อม และควำมรู้ทำงวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยีที่เจริญก้ำวหน้ำอย่ำง
รวดเร็ว และปรับมำตรฐำนและตัวช้ีวัด สอดคล้องกับ คำสั่งสพฐ. ท่ี ๑๒๒๓/๖๐ และประกำศ สพฐ.ลงวันท่ี
๓ สงิ หำคม ๒๕๖๐ เป็นทเี่ รยี บร้อยแลว้
ทั้งน้ีหลักสูตรโรงเรียนได้รับควำมเห็นชอบจำกคณะกรรมกำรสถำนศึกษำขั้นพ้ืนฐำน เม่ือวันท่ี 4
พฤษภำคม ๒๕๖4 จึงประกำศใหใ้ ช้หลักสูตรโรงเรียนต้ังแตบ่ ดั นเ้ี ปน็ ต้นไป
ประกำศ ณ วนั ท่ี 4 เดือน พฤษภำคม พ.ศ. ๒๕๖4
ลงชื่อ ลงช่ือ
(นำยขจร ม่วงงำม ) (นำงวีรวรรณ เข็มทอง)
ประธำนคณะกรรมกำรสถำนศกึ ษำข้นั พ้ืนฐำน ผู้อำนวยกำรโรงเรียนวัดมว่ ง
(สำนักงำนสลำกกนิ แบ่งรฐั บำลสมทบสร้ำง๓๖๗)
โรงเรยี นวดั ม่วง
(สำนักงำนสลำกกินแบ่งรัฐบำลสมทบสร้ำง๓๖
ก
คำนำ
สภำพกำรเปลี่ยนแปลงด้ำนเศรษฐกจิ สังคม และควำมก้ำวหน้ำทำงเทคโนโลยีสำรสนเทศประกอบกับ
รัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พุทธศักรำช ๒๕๖๐ รวมทั้งกรอบยุทธศำสตร์ชำติ ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ.
๒๕๖๐-๒๕๗๙) แผนพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ ฉบับท่ี ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) แผนกำรศึกษำ
แห่งชำติ (พ.ศ.๒๕๕๒-๒๕๖๑) แผนยุทธศำสตร์ชำติด้ำนเด็กปฐมวัย (พ.ศ.๒๕๖๐-๒๕๖๔) นำไปสู่กำรกำหนด
ทักษะสำคญั สำหรบั เด็กในศตวรรษท่ี ๒๑ ทีม่ คี วำมสำคัญในกำรกำหนดเป้ำหมำยในกำรพัฒนำเด็กปฐมวัยให้มี
ควำมสอดคลอ้ งและทันต่อกำรเปลี่ยนแปลงทุกดำ้ น
กระทรวงศึกษำธิกำรมนี โยบำยให้มีกำรพัฒนำกำรศึกษำปฐมวัยอย่ำงจริงจังและต่อเน่ืองโดยได้แต่งต้ัง
คณะทำงำนพิจำรณำหลักสูตรกำรศึกษำปฐมวัย เพื่อปรับปรุงให้สอดคล้องกับสภำพ กำรเปล่ียนแปลงดังกลำ่ ว
หลักสูตรกำรศึกษำปฐมวัย พุทธศักรำช ๒๕๖๐ เป็นหลักสูตรสถำนศึกษำ สถำบันพัฒนำเด็กปฐมวัยและ
หน่วยงำนท่ีเก่ียวข้อง นำไปใช้เป็นกรอบและทิศทำงในกำรพัฒนำหลักสูตรสถำนศึกษำอย่ำงมีประสิทธิภำพ
และได้มำตรฐำนตำมจดุ หมำยหลักสตู รกำรศึกษำปฐมวยั พทุ ธศักรำช ๒๕๖๐ ทก่ี ำหนดเป้ำหมำยในกำรพัฒนำ
เด็กปฐมวัยให้มีพัฒนำกำรด้ำนร่ำงกำย อำรมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญำ ครอบครัว ชุมชน สังคม และ
ประเทศชำติในอนำคต
โรงเรียนวดั ม่วง
(สำนักงำนสลำกกินแบ่งรัฐบำลสมทบสรำ้ ง 367 )
สำรบัญ ข
เรื่อง
หนำ้
1. ปรัชญำกำรศึกษำปฐมวัย 1
2. ปรัชญำกำรศึกษำปฐมวยั โรงเรียนวัดม่วง 1
3. หลักกำร 1
4. วิสัยทัศนห์ ลกั สตู รกำรศึกษำปฐมวยั 2
5. วิสัยทัศนห์ ลักสูตรกำรศึกษำปฐมวัยโรงเรยี นวัดม่วง 2
6. พนั ธกจิ 2
7. เป้ำหมำย 2
8. จดุ หมำย 2
9. พฒั นำกำรเด็กปฐมวัย 3
10.มำตรฐำนคณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์ 4
11.ตัวบง่ ช้ี 5
12.สภำพทีพ่ งึ ประสงค์ 5
13.ระยะเวลำเรยี น 5
14.หลกั สูตรต้ำนทจุ ริตศึกษำ 6
15.โครงสร้ำงของหลักสตู รกำรศึกษำปฐมวยั 8
16.กำรวเิ ครำะห์ภำพท่ีพงึ ประสงคต์ ำมมำตรฐำนคุณลักษณะที่พงึ ประสงค์ 9
17.ตำรำงวิเครำะหส์ ำระกำรเรียนรูช้ ว่ งอำยุ 4-5ปี 16
18.ตำรำงวเิ ครำะหส์ ำระกำรเรียนรู้ชว่ งอำยุ 5-6ปี 29
19.สำระกำรเรยี นรู้ 42
20.สำระที่ควรเรยี นรู้ 56
21.กรอบสำระกำรเรียนรทู้ ้องถ่ิน 57
22.หลักปรัชญำเศรษฐกจิ พอเพยี ง 59
23.กำรจัดประสบกำรณ์ 61
24.แนวทำงกำรจัดกจิ กรรมประจำวัน 65
25.ส่ือกจิ กรรมกำรเล่นตำมมมุ 72
26.กำรจัดสภำพแวดลอ้ ม สอ่ื และแหลง่ เรยี นรู้ 78
27.ตำรำงกิจกรรมประจำวัน 84
28.กำรกำหนดหน่วยกำรจดั ประสบกำรณ์สำหรับเดก็ ปฐมวัย อำยุ 3-6 ปี 85
29.กำรประเมินพัฒนำกำร 93
30.บทบำทหนำ้ ท่ีของผู้เกย่ี วข้องในกำรดำเนนิ งำนประเมนิ พฒั นำกำร 95
31.แนวปฏบิ ตั ิกำรประเมินพัฒนำกำร 97
32.กำรจดั ทำหลกั สตู รสถำนศกึ ษำ 108
33.กำรกำกับ ตดิ ตำม ประเมนิ และรำยงำน 111
34.ภำคผนวก ค
- แบบตรวจสอบหลกั สูตรสถำนศกึ ษำระดับปฐมวัยก่อนกำรนำหลักสตู รไปใช้ 112
- กำรประเมนิ พัฒนำกำรเด็กปฐมวยั
- แบบบันทกึ พฤติกรรมแบบรำยวนั
- แบบสำรวจรำยกำรพฒั นำกำรทัง้ 4ดำ้ น
- แบบบันทกึ กำรสนทนำ
- กำรสรุปผลกำรประเมินพัฒนำกำรเดก็ ด้ำนสติปัญญำ
๑
ปรชั ญำกำรศกึ ษำปฐมวยั
กำรศึกษำปฐมวัย เป็นกำรพัฒนำเด็กต้ังแต่แรกเกิดถึง ๖ ปีบริบูรณ์อย่ำงเป็นองค์รวม บนพ้ืนฐำนกำร
อบรมเล้ียงดูและกำรส่งเสริมกระบวนกำรเรียนรู้ท่ีสนองต่อธรรมชำติ และพัฒนำกำรตำมวัยของเด็กแต่ละคน
ให้เต็มตำมศักยภำพ ภำยใต้บริบทสังคมและวฒั นธรรมท่ีเด็กอำศัยอยู่ ด้วยควำมรัก ควำมเอื้ออำทร และควำม
เข้ำใจของทุกคน เพ่ือสร้ำงรำกฐำนคุณภำพชีวิตให้เด็กพัฒนำไปสู่ควำมเป็นมนุษย์ที่สมบรูณ์ เกิดคุณค่ำต่อ
ตนเอง ครอบครัว ชุมชน สงั คม และประเทศชำติ
ปรชั ญำกำรศึกษำปฐมวยั โรงเรียนวัดม่วง
โรงเรียนวัดม่วง ได้จัดกำรศึกษำระดับปฐมวัย พัฒนำเด็กตั้งแต่ ๓-๖ ปีอย่ำงเต็มตำมศักยภำพ
สอดคล้องกับพัฒนำกำรทำงด้ำนร่ำงกำย ด้ำนอำรมณ์ - จิตใจ ด้ำนสังคม ด้ำนสติปัญญำ เป็นไปโดยธรรมชำติ
ภำยใต้ส่ิงแวดล้อมท่ีอบอุ่น ปลอดภัยเป็นอิสระ บนพื้นฐำนของกำรอบรมเล้ียงดูด้วยควำมรัก ควำมเอื้ออำทร
และควำมเอำใจใส่เด็ก ลงมือปฏิบัติผ่ำนกระบวนกำรเล่น ส่งเสริมให้มีคุณธรรม จริยธรรม มีจิตสำนึกในควำม
เปน็ ไทยผสมผสำนศิลปวัฒนธรรมมอญ
หลักกำร
เด็กทุกคนมีสิทธ์ิที่จะได้รับกำรอบรมเล้ียงดูและส่งเสริมพัฒนำกำรตำมอนุสัญญำว่ำด้วยสิทธิเด็ก
ตลอดจนไดรับกำรจัดประสบกำรณ์กำรเรียนรู้อย่ำงเหมำะสม ดว้ ยปฏสิ มั พันธท์ ด่ี ีระหว่ำงเด็กกับพ่อแม่ เดก็ กับ
ผู้สอน เด็กกับผู้เลี้ยงดูหรือผทู้ ี่เก่ียวข้องในกำรอบรมเล้ียงดู กำรพัฒนำ และให้กำรศึกษำแก่เด็กปฐมวัย เพ่ือให้
เด็กมีโอกำสพัฒนำตนเองตำมลำดับขั้นของพัฒนำกำรทุกด้ำน อย่ำงเป็นองค์รวม มีคุณภำพ และเต็มตำม
ศกั ยภำพโดยมีหลักกำรดงั นี้
๑. สง่ เสรมิ กระบวนกำรเรียนรูแ้ ละพัฒนำกำรทค่ี รอบคลุมเด็กปฐมวัยทุกคน
๒. ยึดหลักกำรอบรมเล้ียงดูและให้กำรศึกษำท่ีเน้นเด็กเป็นสำคัญ โดยคำนึงถึงควำมแตกต่ำงระหว่ำง
บคุ คลและวถิ ีชีวิตของเดก็ ตำมบริบทของชมุ ชน สงั คม และวฒั นธรรมไทย
๓. ยึดพัฒนำกำรและกำรพัฒนำเด็กโดยองค์รวมผ่ำนกำรเล่นอย่ำงมีควำมหมำยและมีกิจกรรมท่ี
หลำกหลำย ได้ลงมอื กระทำในสภำพแวดล้อมทีเ่ อ้ือต่อกำรเรียนรู้ เหมำะสมกับวยั และมีกำรพักผอ่ นท่ีเพยี งพอ
๔. จัดประสบกำรณ์กำรเรียนรู้ให้เด็กมีทักษะชีวิต และสำมำรถปฏิบัติตนตำมหลักปรัชญำของ
เศรษฐกิจพอเพยี ง เปน็ คนดี มีวินัย และมีควำมสขุ
๕. สร้ำงควำมรู้ ควำมเข้ำใจและประสำนควำมร่วมมือในกำรพัฒนำเด็กระหว่ำงสถำนศึกษำกับพ่อแม่
ครอบครวั ชมุ ชน และทุกฝ่ำยทีเ่ ก่ยี วข้องกบั กำรพัฒนำเดก็ ปฐมวยั
๒
วสิ ัยทศั นห์ ลักสูตรกำรศกึ ษำปฐมวยั
หลักสูตรกำรศึกษำปฐมวัยมุ่งพัฒนำเด็กทุกคนให้ได้รับกำรพัฒนำด้ำนร่ำงกำย อำรมณ์ จิตใจ สังคม
และสติปัญญำอย่ำงมีคุณภำพและต่อเนื่อง ได้รับกำรจัดประสบกำรณ์กำรเรียนรู้อย่ำงมีควำมสุขและเหมำะสม
ตำมวยั มที ักษะชวี ติ และปฏบิ ัตติ นตำมหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพยี ง เปน็ คนดี มีวินัย และสำนกึ ควำมเป็น
ไทย โดยควำมร่วมมอื ระหวำ่ งสถำนศึกษำ พ่อแม่ ครอบครวั ชมุ ชน และทกุ ฝำ่ ยท่เี ก่ียวข้องกบั กำรพฒั นำเดก็
วิสยั ทศั นก์ ำรศกึ ษำระดับปฐมวยั โรงเรียนวดั ม่วง
ภำยในปี ๒๕๖๓ โรงเรียนวัดม่วงจะมุ่งพัฒนำเด็กอำยุ ๓-๖ ปีให้ได้รับกำรพัฒนำด้ำนร่ำงกำย อำรมณ์
จิตใจ สังคม และสติปัญญำอย่ำงมีคุณภำพและต่อเนื่อง ได้รับกำรจัดประสบกำรณ์ กำรเรียนรู้อย่ำงมีควำมสขุ
และเหมำะสมตำมวัย มีทักษะชีวิตและปฏิบัติตนตำมปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียง เป็นคนดีมีวินัย และสำนึก
ควำมเป็นไทย โดยควำมร่วมมือระหว่ำงสถำนศึกษำ พ่อแม่ ครอบครัว ชุมชนและทุกฝ่ำยที่เกี่ยวข้องกับกำร
พฒั นำเดก็ โรงเรยี นวดั มว่ งรว่ มสบื สำนวัฒนธรรมมอญ สร้ำงผเู้ รยี นท่มี คี ุณธรรมนอ้ มนำหลักปรชั ญำเศรษฐกิจ
พอเพยี งคเู่ คียงทักษะวชิ ำกำร มจี ิตวญิ ญำณประชำธปิ ไตย
พันธกิจ
๑. พัฒนำเด็กปฐมวัยให้มีพัฒนำกำรด้ำนร่ำงกำย อำรมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญำอย่ำงสมดุลและ
เตม็ ศกั ยภำพ
๒. จัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนโดยยึดเด็กเป็นสำคัญเน้นให้นักเรียนได้ฝึกคิด ปฏิบัติจริง แสวงหำ
ควำมร้แู ละเรยี นรู้รว่ มกันกับควำมตอ้ งกำรของชุมชน
๓. ส่งเสริมสนับสนุนครูแสวงหำควำมรู้ เพื่อพัฒนำทักษะกระบวนกำรกำรเรียนกำรสอนตำมแนวทำง
ปฏริ ปู กำรศึกษำตำมศักยภำพของแตล่ ะบคุ คล
๔. ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ จัดกำรเรียนกำรสอนตำมหลักปรัชญำ
ของเศรษฐกจิ พอเพียงโดยชมุ ชนมสี ว่ นรว่ ม
เปำ้ หมำย
๑. เด็กปฐมวัยทุกคนได้รับกำรพัฒนำด้ำนร่ำงกำย อำรมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญำเป็นองค์รวม
อยำ่ งสมดลุ มีเจตคติทดี่ ตี อ่ ท้องถ่นิ สนใจใฝ่รู้ และเรียนรอู้ ย่ำงมคี วำมสุข
๒. ครูมีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ และสำมำรถจัดประสบกำรณ์ที่ส่งเสริมกำรเรียนรู้ผ่ำนกำรเล่นโดยใช้
กระบวนกำรวำงแผน กำรปฏบิ ตั ิ เพ่อื พัฒนำเดก็ ปฐมวัยรอบดำ้ น
๓. มีสภำพแวดล้อม สื่อ เทคโนโลยี และแหล่งเรียนรู้ท่ีเอื้อต่อกำรส่งเสริมพัฒนำกำรเด็กปฐมวัยอย่ำง
พอเพียง
๔. ครูน้อมนำหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงและแหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญำท้องถ่ิน มำใช้ในกำรจัด
ประสบกำรณใ์ หก้ บั เดก็ อยำ่ งเหมำะสมกับวัยและบริบทของสถำนศึกษำ
๕. มีเครือข่ำย พ่อแม่ ผู้ปกครอง ชุมชน และหน่วยงำนท่ีเกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในกำรพัฒนำเด็กปฐมวัย
ดว้ ยวธิ ีหลำกหลำยและมคี วำมต่อเน่ืองในทศิ ทำงเดียวกนั กบั สถำนศกึ ษำ
๓
จดุ หมำย
หลักสูตรสถำนศึกษำปฐมวัย มุ่งให้เด็กมีพัฒนำกำรตำมวัยเต็มตำมศักยภำพ และเมื่อมีควำมพร้อมใน
กำรเรียนรู้ต่อไป จึงกำหนดจดุ หมำยเพอื่ ให้เกดิ กบั เดก็ จบกำรศึกษำระดบั ปฐมวัย ดงั นี้
๑. มรี ำ่ งกำยเจรญิ เติบโตตำมวยั แข็งแรง และมสี ขุ นสิ ัยที่ดี
๒. มีสุขภำพจิตดี มีสนุ ทรียภำพ มคี ุณธรรม จริยธรรมและจติ ใจทีด่ ีงำม
๓. มีทักษะมีชีวิตและปฏิบัติตนตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง มีวินัย และอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนได้
อย่ำงมีควำมสขุ
๔. มีทักษะกำรคดิ กำรใชภ้ ำษำส่อื สำร และกำรแสวงหำควำมรู้ไดเ้ หมำะสมกับวัย
พัฒนำกำรเดก็ ปฐมวัย
พัฒนำกำรของเด็กปฐมวัยด้ำนร่ำงกำย จิตใจ สังคม และสติปัญญำแสดงให้เห็นถึงกำรเปลี่ยนแปลงท่ี
เกดิ ขน้ึ ตำมวุฒภิ ำวะและสภำพแวดล้อมทเี่ ด็กไดร้ บั พฒั นำกำรเดก็ ในแต่ละช่วงวัยอำจเรว็ หรือชำ้ แตกตำ่ งกันไป
ในเดก็ แตล่ ะคน มรี ำยละเอียด ดงั น้ี
๑. พัฒนำกำรด้ำนร่ำงกำย
เปน็ พัฒนำกำรที่เป็นผลมำจำกกำรเปลย่ี นแปลงในทำงทด่ี ีขึ้นของรำ่ งกำยในด้ำนโครงสรำ้ งของร่ำงกำย
ด้ำนควำมสำมำรถในกำรเคล่ือนไหว และด้ำนกำรมีสุขภำพอนำมัยท่ีดี รวมถึงกำรใช้สัมผัสรับรู้ กำรใช้ตำและ
มอื ประสำนกันในกำรทำกจิ กรรมต่ำงๆ เด็กอำยุ ๓-๕ ปีมีกำรเจรญิ เติบโตรวดเรว็ โดยเฉพำะในเรอื่ งน้ำหนักและ
ส่วนสูง กล้ำมเนื้อใหญ่จะมีควำมก้ำวหนำ้ มำกกว่ำกลำ้ มเนื้อเลก็ สำมำรถบังคับกำรเคลือ่ นไหวของร่ำงกำยไดด้ ี
มีควำมคล่องแคล่ววอ่ งไวในกำรเดิน สำมำรถวิ่ง กระโดด ควบคุมและบังคับกำรทรงตัวได้ดี จึงชอบเคล่ือนไหว
ไมห่ ยุดนิ่ง พรอ้ มท่จี ะออกกำลังและเคลื่อนไหวในลักษณะต่ำงๆส่วนกลำ้ มเนื้อเล็กและควำมสัมพันธ์ระหว่ำงตำ
และมือยังไม่สมบูรณ์ กำรสัมผัสหรือกำรใช้มือมีควำมละเอียดข้ึน ใช้มือหยิบจับส่ิงของต่ำงๆได้มำกขึ้น ถ้ำเด็ก
ไมเ่ ครียดหรอื กังวลจะสำมำรถทำกิจกรรมที่พัฒนำกล้ำมเน้ือเลก็ ไดด้ ีและนำนขึน้
๒. พัฒนำกำรดำ้ นอำรมณ์ จิตใจ
เป็นควำมสำมำรถในกำรรู้สึกและแสดงควำมรู้สึกของเด็กเช่นพอใจ ไม่พอใจ รัก ชอบ สนใจ เกียด
โดยท่ีเด็กรู้จักควบคุมกำรแสดงออกอย่ำงเหมำะสมกับวัยและสถำนกำรณ์ เผชิญกับเหตุกำรณ์ต่ำงๆ ตลอดจน
กำรสร้ำงควำมรู้สึกท่ีดีและกำรนับถือตนเอง เด็กอำยุ ๓-๕ ปีจะแสดงควำมรู้สึกอย่ำงเต็มที่ไม่ปิดบัง ซ่อนเร้น
เชน่ ดีใจ เสยี ใจ โกรธแตจ่ ะเกดิ เพยี งชวั่ ครแู่ ลว้ หำยไปกำรท่เี ดก็ เปลี่ยนแปลงอำรมณ์ง่ำยเพรำะมชี ว่ งควำมสนใจ
ระยะส้ัน เม่ือมีส่ิงใดน่ำสนใจก็จะเปล่ียนควำมสนใจไปตำมส่งิ น้ัน เด็กวันน้ีมักหวำดกลัวส่ิงต่ำงๆ เช่น ควำมมืด
หรอื สัตวต์ ่ำงๆ ควำมกลัวของเดก็ เกิดจำกจินตนำกำร ซ่ึงเดก็ วำ่ เป็นเรอ่ื งจริงสำหรับตน เพรำะยงั สับสนระหว่ำง
เรอ่ื งปรุงแตง่ และเร่ืองจรงิ ควำมสำมำรถแสดงอำรมณ์ไดส้ อดคล้องกับสถำนกำรณ์อยำ่ งเหมำะสมกบั วยั รวมถึง
ช่ืนชมควำมสำมำรถและผลงำนของตนเองและผู้อ่ืน เพรำะยึดตัวเองเป็นศูนย์กลำงน้อยลงและต้องกำรควำม
สนใจจำกผอู้ ื่นมำกข้นึ
๓. พัฒนำกำรด้ำนสังคม
เป็นควำมสำมำรถในกำรสร้ำงควำมสัมพันธ์ทำงสังคมครั้งแรกในครอบครัวโดยมีปฏิสัมพันธ์กับพ่อแม่
และพี่น้อง เมื่อโตขึ้นต้องไปสถำนศึกษำ เด็กเริ่มเรียนรู้กำรติดต่อและกำรมีสัมพันธ์กับบุคคลนอกครอบครัว
๔
โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งเด็กในวัยเดียวกัน เด็กได้เรียนรู้กำรปรับตัวให้เข้ำสังคมกับเด็กอ่ืนพร้อมๆกับรู้จักร่วมมือใน
กำรเล่นกับกลุ่มเพ่ือน จัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนเพ่ือปลูกฝังและสร้ำงวัฒนธรรมต่อต้ำนกำรทุจริตให้แก่
นักเรียนสร้ำงควำมตระหนักให้นักเรียน ยึดถือประโยชน์ส่วนรวมมำกกว่ำประโยชน์ส่วนตน มีจิตพอเพียงต้ำน
ทุจริต ละอำยและเกรงกลัวที่จะไม่ทุจริตและไม่ทนต่อกำรทุจริตทุกรูปแบบ เจตคติและพฤติกรรมทำงสังคม
ของเด็กจะก่อขึ้นในวัยนี้และจะแฝงแน่นยำกที่จะเปลี่ยนแปลงในวัยต่อมำ ดังน้ัน จึงอำจกล่ำวได้ว่ำพฤติกรรม
ทำงสังคมของเด็กวัยนี้ มี ๒ ลักษณะ คือลักษณะแรกนั้น เป็นควำมสัมพันธ์กับผู้ใหญ่และลักษณะท่ีสองเป็น
ควำมสัมพันธก์ ับเดก็ ในวยั ใกล้เคียงกนั
๔. ด้ำนสติปญั ญำ
ควำมคดิ ของเดก็ วัยน้มี ีลักษณะยึดตนเองเปน็ ศนู ย์กลำง ยังไม่สำมำรถเข้ำใจควำมรู้สึกของคนอ่ืน เด็กมี
ควำมคิดเพียงแต่ว่ำทุกคนมองส่ิงต่ำงๆรอบตัว และรู้สึกต่อสิ่งต่ำงๆเหมือนตนเอง ควำมคิดของตนเองเป็นใหญ่
ท่สี ดุ เมือ่ อำยุ ๔-๕ ปี เด็กสำมำรถโตต้ อบหรือมปี ฏิสัมพนั ธ์กบั วัตถุสง่ิ ของท่ีอยูร่ อบตวั ได้ สำมำรถจำสง่ิ ต่ำงๆ ท่ี
ได้กระทำซ้ำกันบ่อยๆ ได้ดี เรียนรู้ส่ิงต่ำงๆ ได้ดีข้ึนแต่ยังอำศัยกำรรับรู้เป็นส่วนใหญ่ แก้ปัญหำกำรลองผิดลอง
ถูกจำกกำรรับรู้มำกกว่ำกำรใช้เหตุผลควำมคิดรวบยอดเกี่ยวกับสิ่งต่ำงๆ ท่ีอยู่รอบตัวพัฒนำอย่ำงรวดเร็วตำม
อำยุท่ีเพิ่มขึ้น ในสว่ นของพัฒนำกำรทำงภำษำ เดก็ วัยนี้เปน็ ระยะเวลำของกำรพฒั นำภำษำอย่ำงรวดเรว็ โดยมี
กำรฝกึ ฝนกำรใชภ้ ำษำจำกกำรทำกจิ กรรมตำ่ ง ๆ ในรูปของกำรพดู คยุ กำรตอบคำถำม กำรเลำ่ เร่ือง กำร
เล่ำนิทำนและกำรทำกิจกรรมต่ำง ๆ ท่ีเก่ียวข้องกับกำรใช้ภำษำในสถำนศึกษำ เด็กปฐมวัยสำมำรถ ใช้ภำษำ
แทนควำมคิดของตนและใช้ภำษำในกำรติดต่อสัมพันธ์กับคนอ่ืนได้คำพูดของเด็กวัยนี้ อำจจะทำให้ผู้ใหญ่บำง
คนเขำ้ ใจว่ำเดก็ ร้มู ำกแลว้ แตท่ จี่ ริงเด็กยงั ไมเ่ ขำ้ ใจควำมหมำยของคำและเรือ่ งรำวลึกซงึ้ นัก
มำตรฐำนคุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์
หลกั สูตรกำรศกึ ษำปฐมวยั กำหนดมำตรฐำนคณุ ลักษณะที่พึงประสงคจ์ ำนวน ๑๒ มำตรฐำน ประกอบด้วย
๑.พฒั นำกำรด้ำนร่ำงกำย ประกอบดว้ ย ๒ มำตรฐำนคือ
มำตรฐำนท่ี ๑ รำ่ งกำยเจรญิ เติบโตตำมวัยและมีสขุ นิสยั ท่ีดี
ตัวบง่ ชที้ ่ี ๑.๑ น้ำหนกั และส่วนสงู ตำมเกณฑ์
ตัวบง่ ชี้ท่ี ๑.๒ มสี ขุ ภำพอนำมัย สขุ นิสัยทีด่ ี
ตัวบ่งชท้ี ี่ ๑.๓ รักษำควำมปลอดภัยของตนเองและผูอ้ ืน่
มำตรฐำนที่ ๒ กล้ำมเน้ือใหญ่และกล้ำมเนอ้ื เลก็ แขง็ แรง ใช้ไดอ้ ยำ่ งคลอ่ งแคล่วประสำนสัมพันธก์ นั
ตัวบง่ ชีท้ ี่ ๒.๑ เคลื่อนไหวร่ำงกำยอยำ่ งคลอ่ งแคล่ว ประสำนสมั พันธแ์ ละทรงตัวได้
ตัวบง่ ชี้ท่ี ๒.๒ ใช้มอื -ตำประสำนสัมพนั ธ์กัน
๒.พัฒนำกำรด้ำนอำรมณ์ จติ ใจ ประกอบด้วย ๓ มำตรฐำน คือ
มำตรฐำนท่ี ๓ มสี ขุ ภำพจิตดแี ละมีควำมสุข
ตวั บง่ ชท้ี ี่ ๓.๑ แสดงออกทำงอำรมณ์ได้อยำ่ งเหมำะสม
ตัวบ่งชท้ี ่ี ๓.๒ มีควำมร้สู ึกทีด่ ีต่อตนเองและผอู้ ่นื
มำตรฐำนที่ ๔ ชืน่ ชมและแสดงออกทำงศิลปะ ดนตรี และกำรเคลือ่ นไหว
ตัวบ่งชี้ที่ ๔.๑ สนใจ มีควำมสุขและแสดงออกผำ่ นงำนศิลปะ ดนตรี และกำรเคล่ือนไหว
มำตรฐำนที่ ๕ มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม และมีจิตใจทีด่ ีงำม
ตวั บง่ ชท้ี ี่ ๕.๑ ซ่อื สัตยส์ จุ ริต
ตัวบ่งชีท้ ี่ ๕.๒ มีควำมเมตตำกรณุ ำ มนี ้ำใจและช่วยเหลือแบ่งปัน
๕
ตวั บง่ ชที้ ่ี ๕.๓ มคี วำมเห็นอกเหน็ ใจผอู้ ่ืน
ตัวบ่งช้ีที่ ๕.๕ มีควำมรบั ผิดชอบ
๓.พฒั นำกำรดำ้ นสังคม ประกอบดว้ ย ๓ มำตรฐำนคือ
มำตรฐำนที่ ๖ มีทกั ษะชีวติ และปฏิบตั ิตนตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง
ตัวบง่ ช้ที ี่ ๖.๑ชว่ ยเหลือตนเองในกำรปฏิบตั ิกจิ วตั รประจำวัน
ตวั บง่ ชท้ี ี่ ๖.๒ มวี นิ ัยในตนเอง
ตวั บง่ ชท้ี ี่ ๖.๓ ประหยดั และพอเพยี ง
มำตรฐำนที่ ๗ รักธรรมชำติ สิ่งแวดล้อม วฒั นธรรม และควำมเปน็ ไทย
ตวั บ่งช้ที ่ี ๗.๑ ดูแลรักษำธรรมชำติและส่งิ แวดล้อม
ตัวบง่ ชที้ ่ี ๗.๒ มมี ำรยำทตำมวฒั นธรรมไทย และรกั ควำมเปน็ ไทย
มำตรฐำนท่ี ๘ อยู่ร่วมกับผู้อ่ืนได้อย่ำงมีควำมสุขและปฏิบัติตนเป็นสมำชิกท่ีดีของสังคมในระบอบ
ประชำธิปไตย อันมพี ระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ตวั บ่งชท้ี ี่ ๘.๑ ยอมรับควำมเหมือนและควำมแตกต่ำงระหวำ่ งบุคคล
ตวั บ่งชีท้ ่ี ๘.๒ มีปฏสิ ัมพันธ์ที่ดกี ับผ้อู ื่น
ตัวบ่งชี้ที่ ๘.๓ ปฏบิ ัติตนเบ้อื งต้นในกำรเปน็ สมำชกิ ท่ีดีของสังคม
๔.พัฒนำกำรด้ำนสตปิ ญั ญำ ประกอบดว้ ย ๔ มำตรฐำนคอื
มำตรฐำนที่ ๙ ใชภ้ ำษำสื่อสำรได้เหมำะสมกบั วยั
ตวั บ่งชท้ี ี่ ๙.๑ สนทนำโตต้ อบและเลำ่ เรือ่ งใหผ้ ู้อ่ืนเข้ำใจ
ตวั บง่ ช้ที ่ี ๙.๒ อำ่ น เขยี นภำพและสญั ลกั ษณ์ได้
มำตรฐำนท่ี ๑๐ มีควำมสำมำรถในกำรคิดทเ่ี ปน็ พ้ืนฐำนในกำรเรียนรู้
ตัวบง่ ชี้ท่ี ๑๐.๑ มีควำมสำมำรถในกำรคิดรวบยอด
ตัวบง่ ชที้ ่ี ๑๐.๒ มคี วำมสำมำรถในกำรคดิ เชิงเหตุผล
ตัวบ่งชท้ี ่ี ๑๐.๓ มคี วำมสำมำรถในกำรคิดแกป้ ญั หำและตัดสนิ ใจ
มำตรฐำนท่ี ๑๑ มจี ิตนำกำรและควำมคดิ สรำ้ งสรรค์
ตวั บง่ ชี้ท่ี ๑๑.๑ ทำงำนศลิ ปะตำมจนิ ตนำกำรและควำมคิดสร้ำงสรรค์
ตวั บง่ ชี้ที่ ๑๑.๒ แสดงท่ำทำงเคลอ่ื นไหวตำมจินตนำกำรอยำ่ งสร้ำงสรรค์
มำตรฐำนท่ี ๑๒ มีเจตคติที่ดีตอ่ กำรเรียนรู้และมีควำมสำมำรถในกำรแสวงหำควำมร้ไู ดเ้ หมำะสมกับ
ตวั บง่ ช้ีท่ี ๑๒.๑ มเี จตคติท่ีดีต่อกำรเรียนรู้
ตัวบง่ ชี้ที่ ๑๒.๒ มคี วำมสำมำรถในกำรแสวงหำควำมรู้
ตวั บง่ ช้ี
ตวั บง่ ชเี้ ปน็ เป้ำหมำยในกำรพฒั นำเดก็ ที่มคี วำมสมั พนั ธส์ อดคล้องกบั มำตรฐำนคณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์
สภำพที่พงึ ประสงค์
สภำพที่พึงประสงค์เป็นพฤติกรรมหรือควำมสำมำรถตำมวัยที่คำดหวังให้เด็กเกิด บนพื้นฐำนพัฒนำกำร
ตำมวัยหรือควำมสำมำรถตำมธรรมชำติในแต่ละระดับอำยุเพื่อนำไปใช้ในกำรกำหนดสำระเรียนรู้ใน กำรจัด
ประสบกำรณ์ กิจกรรมและประเมินพฒั นำกำรเดก็
๖
ระยะเวลำเรียน
โรงเรียนวัดม่วง กำหนดกรอบโครงสร้ำงเวลำในกำรจัดประสบกำรณ์ให้กับเด็ก ๑ ปีกำรศึกษำ
ปีกำรศึกษำละ ๒ ภำคเรียน โดยมีเวลำเรยี นสำหรับเด็กปฐมวัยไม่น้อยกว่ำ ๑๘๐ วัน ต่อ ๑ ปีกำรศึกษำ ในแต่
ละวันจะใช้เวลำไมน่ อ้ ยกว่ำ ๕ ชว่ั โมง โดยสำมำรถปรบั เปลีย่ นให้เหมำะสมตำมบรบิ ทและสถำนกำรณ์
หลักสตู รต้ำนทจุ รติ ศกึ ษำ (Anti-Corruption Education)
กรอบกำรจัดทำหลักสูตรหรือชุดกำรเรียนรู้และสื่อประกอบกำรเรียนรู้ ด้ำนกำรป้องกันกำรทุจริต โดยท่ี
ประชมุ ได้เห็นชอบร่วมกนั ในกำรจดั ทำหลกั สูตรหรือชุดกำรเรยี นรแู้ ละสื่อประกอบกำรเรียนรู้ ดำ้ นกำรป้องกัน
กำทจุ ริต หัวข้อวชิ ำ 4 วชิ ำ ประกอบดว้ ย
1) กำรคดิ แยกแยะระหวำ่ งผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม
2) ควำมอำยและควำมไมท่ นตอ่ กำรทจุ ริต
3) STRONG : จิตพอเพยี งต้ำนทุจรติ
4) พลเมอื งและควำมรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม
หลักสตู รตำ้ นทุจริตศึกษำ ระดบั ปฐมวัย จะใช้เวลำเรยี นทั้งปี จำนวน 40 ชว่ั โมง จัดทำเนอื้ หำและ
กจิ กรรมกำรเรียนกำรสอน ตำมควำมเหมำะสมและกำรเรียนรใู้ นชว่ งวัย โดยมรี ำยละเอยี ดดงั น้ี
หลักสูตรตำ้ นทจุ รติ ศกึ ษำ ระดบั หลักสตู รกำรศกึ ษำขนั้ พ้ืนฐำน
1. ชื่อหลักสูตร “รำยวิชำเพมิ่ เติม กำรปอ้ งกันกำรทุจรติ ”
ตำมที่สำนักงำนคณะกรรมกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริตแห่งชำติ ร่วมกับสำนักงำน
คณะกรรมกำรกำรศึกษำข้ันพื้นฐำน และหน่วยงำนท่ีเกี่ยวข้อง ดำเนินกำรจัดทำหลักสูตรหรือชุดกำรเรียนรู้
และส่ือประกอบกำรเรียนรู้ ด้ำนกำรป้องกันกำรทจุ ริต สำหรับใช้เปน็ เนอื้ หำมำตรฐำนกลำงใหส้ ถำบันกำรศึกษำ
หรือหน่วยงำนที่เกี่ยวข้องนำไปใช้ในกำรเรียนกำรสอนให้กับกลุ่มเป้ำหมำยในระดับปฐมวัย เพื่อปลูกฝัง
จิตสำนึกในกำรแยกประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม จิตพอเพียง กำรไม่ยอมรับและไม่ทนต่อกำร
ทุจรติ โดยใชช้ ่อื วำ่ หลักสูตรตำ้ นทุจริตศึกษำ (Anti-CorruptionEducation) หลกั สตู รที่ ๑ หลกั สูตรกำรศึกษำ
ขั้นพ้ืนฐำน โดยมีแนวทำงกำรนำไปใช้ตำมควำมเหมำะสมของแต่ละโรงเรยี น ดงั นี้
๑.1 นำไปจดั เปน็ รำยวิชำเพิม่ เตมิ ของโรงเรียน
1.๒ นำไปจดั ในชวั่ โมงลดเวลำเรียนเพิ่มเวลำรู้
1.๓ นำไปบูรณำกำรกับกำรจัดกำรเรียนกำรสอนในกลุ่มสำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำและ
วัฒนธรรม (สำระหน้ำท่ีพลเมือง) หรอื นำไปบูรณำกำรกบั กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้อนื่ ๆ
๒. จุดมุ่งหมำยของรำยวชิ ำ เพือ่ ให้นกั เรยี นปฐมวยั
๒.๑ มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจเกี่ยวกบั กำรแยกแยะระหวำ่ งผลประโยชน์สว่ นตนกับผลประโยชน์
ส่วนรวม
๒.๒ มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจเก่ยี วกบั ควำมละอำยและควำมไม่ทนตอ่ กำรทจุ ริต
๒.๓ มคี วำมรู้ ควำมเข้ำใจเกี่ยวกับ STRONG / จิตพอเพียงตอ่ ต้ำนกำรทจุ ริต
๒.๔ มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจเกี่ยวกบั พลเมืองและมคี วำมรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม
๒.๕ สำมำรถคิดแยกแยะระหวำ่ งผลประโยชนส์ ่วนตนกบั ผลประโยชน์สว่ นรวมได้
๗
๒.๖ ปฏบิ ัติตนเปน็ ผลู้ ะอำยและไม่ทนตอ่ กำรทจุ รติ ทกุ รูปแบบ
๒.๗ ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผ้ทู ี่ STRONG / จิตพอเพียงต่อตำ้ นกำรทุจริต
๒.๘ ปฏิบัตติ นตำมหนำ้ ทพ่ี ลเมืองและมคี วำมรับผดิ ชอบต่อสงั คม
๓. คำอธิบำยรำยวิชำ
ศึกษำเกี่ยวกับกำรแยกแยะระหว่ำงผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม ควำมละอำยและ
ควำมไม่ทนต่อกำรทุจริต STRONG / จิตพอเพียงต่อต้ำนกำรทุจริต รู้หน้ำที่ของพลเมืองและรับผิดชอบต่อ
สงั คมในกำรตอ่ ต้ำนกำรทุจรติ
โดยใช้กระบวนกำรคิด วิเครำะห์ จำแนก แยกแยะ กำรฝึกปฏิบัติจริง กำรทำโครงงำนกระบวนกำร
เรียนรู้ ๕ ข้ันตอน (๕ STEPs) กำรอภิปรำย กำรสืบสอบ กำรแก้ปัญหำ ทักษะกำรอ่ำนและกำรเขียน เพ่ือให้มี
ควำมตระหนักและเหน็ ควำมสำคัญของกำรต่อตำ้ นและกำรป้องกันกำรทุจรติ
๔.ผลกำรเรียนรู้
๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจเกีย่ วกบั กำรแยกแยะระหว่ำงผลประโยชนส์ ่วนตน กับผลประโยชน์
ส่วนรวม
๒. มีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจเกย่ี วกบั ควำมละอำยและควำมไม่ทนตอ่ กำรทุจริต
๓. มคี วำมรู้ ควำมเขำ้ ใจเกี่ยวกับ STRONG / จติ พอเพยี งต่อตำ้ นกำรทุจรติ
๔. มีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจเกยี่ วกบั พลเมืองและมีควำมรับผดิ ชอบตอ่ สังคม
๕. สำมำรถคิดแยกแยะระหวำ่ งผลประโยชนส์ ่วนตน กบั ผลประโยชนส์ ว่ นรวมได้
๖. ปฏบิ ตั ิตนเป็นผูล้ ะอำยและไม่ทนต่อกำรทุจริตทุกรปู แบบ
๗. ปฏิบัติตนเปน็ ผทู้ ี่ STRONG / จติ พอเพียงต่อตำ้ นกำรทุจริต
๘. ปฏิบัตติ นตำมหน้ำที่พลเมืองและมีควำมรับผิดชอบตอ่ สังคม
๙. ตระหนักและเหน็ ควำมสำคญั ของกำรต่อต้ำนและป้องกันกำรทจุ รติ รวมทง้ั หมด ๙ ผลกำรเรียนรู้
๘
โครงสร้ำงของหลกั สูตรกำรศึกษำปฐมวยั
เพื่อให้กำรจดั กำรศึกษำเป็นไปตำมหลักกำร จุดหมำยที่กำหนดไว้ใหส้ ถำนศึกษำ และผูเ้ กยี่ วขอ้ งกับกำร
เลยี้ งดูเด็กปฏบิ ัติ ในกำรจัดทำหลกั สตู รสถำนศึกษำจงึ กำหนดโครงสร้ำงของหลักสูตรกำรศึกษำปฐมวยั ของ
โรงเรียนวดั มว่ ง ดงั น้ี
โครงสรำ้ งของหลกั สูตรกำรศึกษำปฐมวัย พุทธศกั รำช ๒๕๖๐
ช่วงอำยุ อำยุ ๓ – ๖ ปี
สำระกำรเรียนรู้ ประสบกำรณส์ ำคญั สำระที่ควรเรียนรู้
- ด้ำนร่ำงกำย - เร่ืองรำวเกย่ี วกับตัวเดก็
- ด้ำนอำรมณ์ จติ ใจ - เร่ืองรำวเก่ียวกับบุคคล
- ดำ้ นสงั คม และสถำนทแ่ี วดลอ้ มเด็ก
- ด้ำนสติปญั ญำ - ธรรมชำตริ อบตวั
- ส่ิงต่ำงๆรอบตัวเด็ก
จดั กำรศกึ ษำ ๒ ภำคเรยี น : ๑ ปกี ำรศกึ ษำ
ระยะเวลำเรียน ชนั้ อนบุ ำลปที ี่ ๒ อำยุระหว่ำง ๔-๕ ปี
ชัน้ อนบุ ำลปที ี่ ๓ อำยรุ ะหวำ่ ง ๕-๖ ปี
ไมน่ อ้ ยกว่ำ ๑๘๐ วนั : ๑ ปี ใช้เวลำ ๕-๖ ชว่ั โมง : ๑ วนั
๒๕-๓๐ ชว่ั โมง/สปั ดำห์
หมำยเหตุ ๓-๔ ปี มคี วำมสนใจ ๘ - ๑๒ นำที
๔-๕ ปี มีควำมสนใจ ๑๒ - ๑๕ นำที
๕-๖ ปี มีควำมสนใจ ๑๕ - ๒๐ นำที
* กจิ กรรมที่ต้องใช้ควำมคดิ ในกลุม่ เลก็ และกลมุ่ ใหญ่ ไม่ควรใช้เวลำต่อเน่อื งนำนเกินกวำ่ ๒๐ นำที
* กจิ กรรมท่ีเด็กมีอสิ ระเลือกเลน่ เสรี เชน่ กำรเล่นตำมมุม กำรเลน่ กลำงแจ้ง ใชเ้ วลำ ๔๐ – ๖๐ นำที
๙
กำรวเิ ครำะห์ภำพทีพ่ ึงประสงคต์ ำมมำตรฐำนคุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์
มำตรฐำนคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์
๑.พฒั นำกำรดำ้ นรำ่ งกำย
มำตรฐำนที่ ๑ ร่ำงกำยเจรญิ เติบโตตำมวยั เด็กมีสุขนิสยั ท่ีดี
ตวั บ่งชี้ สภำพทพี่ งึ ประสงค์
อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี
๑.๑นำ้ หนกั และสว่ นสงู ตำมเกณฑ์ ๑.๑.๑น้ำหนักและส่วนสูงตำม ๑.๑.๑น้ำหนักและส่วนสูงตำม
เกณฑ์ของกรมอนำมัย เกณฑ์ของกรมอนำมัย
๑.๒มสี ขุ ภำพอนำมัยสขุ นิสยั ทีด่ ี ๑.๒.๑รับประทำนอำหำรที่มี ๑.๒.๑รับประทำนอำหำรที่มี
ประโยชน์และดื่มน้ำสะอำดด้วย ประโยชน์ได้หลำยชนิดและด่ืมน้ำ
ตนเอง สะอำดไดด้ ้วยตนเอง
๑.๒.๒ล้ำงมือก่อนรับประทำน ๑.๒.๒ล้ำงมือก่อนรับประทำน
อำหำรและหลังจำกใช้หอ้ งนำ้ ห้อง อำหำรและหลังจำกใชห้ อ้ งน้ำห้อง
สว้ มดว้ ยตนเอง สว้ มดว้ ยตนเอง
๑.๒.๓นอนพักผอ่ นเป็นเวลำ ๑.๒.๓นอนพักผ่อนเป็นเวลำ
๑.๒.๔ออกกำลงั กำยเป็นเวลำ ๑.๒.๔ออกกำลงั กำยเป็นเวลำ
๑.๓รักษำควำมปลอดภัยของตนเอง ๑.๓.๑เล่นและทำกิจกรรมอย่ำง ๑.๓.๑เล่นและทำกิจกรรมและ
และผอู้ ื่น ปลอดภยั ดว้ ยตนเอง ปฏิบัติตนตอ่ ผู้อนื่ อย่ำงปลอดภัย
มำตรฐำนที่ ๒ กลำ้ มเน้ือใหญแ่ ละกลำ้ มเน้ือเลก็ แข็งแรงใช้ได้อย่ำงคล่องแคล่ว
และประสำนสัมพันธ์กนั
ตัวบง่ ช้ี สภำพท่ีพึงประสงค์
อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี
๒ . ๑ เ ค ลื่ อ น ไ ห ว ร่ ำ ง ก ำ ย อ ย่ ำ ง ๒.๑.๑เดินต่อเท้ำไปข้ำงหน้ำเป็น ๒.๑.๑ดินต่อเท้ำถอนหลังเป็น
คล่องแคล่วประสำนสัมพันธ์และทรง เสน้ ตรงไดโ้ ดยไม่ตอ้ งกำงแขน เสน้ ตรงไดโดยไมต่ อ้ งกำงแขน
ตวั ได้ ๒.๑.๒กระโดดขำเดียวอยู่กับท่ีได้ ๒.๑.๒กระโดดขำเดยี วไปข้ำงหน้ำ
โดยไม่เสยี กำรทรงตัว ได้อย่ำงต่อเน่ืองโดยไม่เสียกำร
ทรงตวั
๒.๑.๓วง่ิ หลบหลกี ส่งิ กีดขวำงได้ ๒.๑.๓ว่ิงหลบหลีกส่ิงกีดขวำงได้
อย่ำงคลอ่ งแคลว่
๒.๑.๔รบั ลกู บอลมอื ท้งั สองขำ้ ง ๒.๑.๔รับลูกบอลที่กระดอนขึ้น
จำกพน้ื ได้
๒.๒ใชม้ อื –ตำประสำนสมั พนั ธก์ นั ๒.๒.๑ใช้กรรไกรตัดกระดำษตำม ๒.๒.๑ใช้กรรไกรตัดกระดำษตำม
แนวเส้นตรงได้ แนวเส้นโค้งได้
๒.๒.๒เขียนรูปสี่เหลี่ยมตำมแบบ ๒.๒.๒เขียนรูปสำมเหล่ียมตำม
ได้อยำ่ งมีมุมชดั เจน แบบไดอ้ ยำ่ งมมี มุ ชัดเจน
๑๐
ตัวบ่งช้ี สภำพท่ีพงึ ประสงค์
อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี
๒.๒.๓ร้อยวัสดุที่มีรูขนำดเส้น ๒.๒.๓ร้อยวัสดุท่ีมีรูขนำดเส้น
ผ่ำนศูนยก์ ลำง ๐.๕ ซม.ได้ ผำ่ นศนู ยก์ ลำง๐.๐๕ซม.ได้
๒.พัฒนำกำรดำ้ นอำรมณ์ จติ ใจ
มำตรฐำนที่ ๓ มสี ขุ ภำพจิตดีและมีควำมสุข
ตวั บง่ ช้ี สภำพทพี่ ึงประสงค์
อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี
๓.๑แสดงออกทำงอำรมณ์ได้อย่ำง ๓.๑.๑แสดงอำรมณ์ควำมรู้สึกได้ ๓.๑.๑แสดงอำรมณ์ควำมรู้สึกได้
เหมำะสม ตำมสถำนกำรณ์ สอดคล้องกับสถำนกำรณ์อย่ำง
เหมำะสม
๓.๒มีควำมรสู้ ึกท่ดี ตี ่อตนเองและ ๓.๒.๑กล้ำพดู กล้ำแสดงออกอย่ำง ๓.๒.๑กล้ำพูดกล้ำแสดงออก
ผอู้ ืน่ เหมำะสมกบั บำงสถำนกำรณ์ อย่ำงเหมำะสมตำมสถำนกำรณ์
๓.๒.๒แสดงควำมพอใจในผลงำน ๓.๒.๒แสดงควำมพอใจในผลงำน
และควำมสำมำรถของตนเอง และควำมสำมำรถของตนเองและ
ผู้อ่นื
มำตรฐำนที่ ๔ ช่ืนชมและแสดงออกทำงศลิ ปะ ดนตรี และกำรเคลื่อนไหว
ตัวบง่ ชี้ สภำพทพี่ งึ ประสงค์
อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี
๔.๑สนใจ มคี วำมสขุ และแสดงออก ๔.๑.๑สนใจมีควำมสุขและ ๔ . ๑ . ๑ สนใ จ มี ค ว ำ มสุ ขและ
ผ่ำนงำนศลิ ปะ ดนตรีและกำร แสดงออกผ่ำนงำนศลิ ปะ แสดงออกผ่ำนงำนศลิ ปะ
เคล่ือนไหว ๔.๑.๒สนใจมีควำมสุขและ ๔ . ๑ . ๒ สนใ จ มี ค ว ำ มสุ ขและ
แสดงออกผ่ำนเสยี งเพลงดนตรี แสดงออกผำ่ นเสียงเพลงดนตรี
๔.๑.๓สนใจมีควำมสุข และ ๔.๑.๓สนใจ มีควำมสุข และ
แ ส ด ง ท่ ำ ท ำ ง / เ ค ลื่ อ น ไ ห ว แสดงท่ำทำง/เคลื่อนไหวประกอบ
ประกอบเพลง จงั หวะและดนตรี เพลง จงั หวะและดนตรี
มำตรฐำนท่ี ๕ มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและมจี ิตใจท่ดี งี ำม
ตัวบ่งช้ี สภำพที่พึงประสงค์
อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี
๕.๑ซ่ือสตั ยส์ จุ รติ ๕.๑.๑ขออนุญำตหรือรอคอย ๕.๑.๑ขออนุญำตหรือรอคอยเม่ือ
เมื่อต้องกำรส่ิงของของผู้อื่นเม่ือ ต้องกำรส่ิงของของผู้อื่นด้วย
มผี ู้ชแ้ี นะ ตนเอง
๕.๒มคี วำมเมตตำ กรุณำ ๕.๒.๑แสดงควำมรักเพ่ือนและ ๕.๒.๑แสดงควำมรักเพื่อนและ
มีน้ำใจและช่วยเหลอื แบ่งปนั
เมตตำสัตว์เลย้ี ง เมตตำสตั วเ์ ลีย้ ง
๑๑
ตวั บง่ ชี้ สภำพท่พี งึ ประสงค์
อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี
๕.๒.๒ชว่ ยเหลอื และแบ่งปนั ผู้อืน่ ๕.๒.๒ชว่ ยเหลือและแบ่งปนั ผู้อนื่
ไดเ้ ม่ือมผี ชู้ แ้ี นะ ได้ดว้ ยตนเอง
๕.๓มีควำมเห็นอกเหน็ ใจผู้อื่น ๕.๓.๑แสดงสีหน้ำหรือท่ำทำง ๕.๓.๑แสดงสหี น้ำและทำ่ ทำง
๕.๔มคี วำมรับผิดชอบ รบั รู้ควำมร้สู ึกผูอ้ ื่น รับร้คู วำมรู้สกึ ผอู้ น่ื อย่ำง
สอดคลอ้ งกับสถำนกำรณ์
๕.๔.๑ทำงำนท่ไี ด้รับมอบหมำย ๕.๔.๑ทำงำนท่ไี ดร้ บั มอบหมำย
จนสำเรจ็ เมื่อมีผู้ชี้แนะ สำเรจ็ ดว้ ยตนเอง
๓.พฒั นำกำรด้ำนสังคม
มำตรฐำนที่ ๖ มที ักษะชีวิตและปฏิบตั ติ นตำมหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียง
ตัวบ่งชี้ สภำพทพี่ งึ ประสงค์
อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี
๖.๑ช่วยเหลอื ตนเองในกำรปฏบิ ัติ ๖.๑.๑แตง่ ตวั ด้วยตนเอง ๖.๑.๑แต่งตัวด้วยตนเองได้อย่ำง
กจิ วตั รประจำวนั
คลอ่ งแคลว่
๖.๒มวี นิ ยั ในตนเอง
๖.๑.๒รับประทำนอำหำรด้วย ๖.๑.๒รับประทำนอำหำรด้วย
ตนเอง ตนเองอย่ำงถูกวิธี
๖.๑.๓ใช้ห้องน้ำห้องส้วมด้วย ๖.๑.๓ใช้และทำควำมสะอำดหลงั
ตนเอง ใชห้ อ้ งน้ำหอ้ งส้วมดว้ ยตนเอง
๖.๒.๑เก็บของเล่นของใช้เข้ำท่ี ๖.๒.๑เก็บของเล่นของใช้เข้ำท่ี
ดว้ ยตนเอง อย่ำงเรยี บรอ้ ยดว้ ยตนเอง
๖.๒.๒เข้ำแถวตำมลำดับก่อนหลัง ๖.๒.๒เขำ้ แถวตำมลำดบั ก่อนหลัง
ได้ดว้ ยตนเอง ไดด้ ้วยตนเอง
๖.๓ประหยดั และพอเพยี ง ๖.๓.๑ใช้สิง่ ของเคร่ืองใช้อยำ่ ง ๖.๓.๑ใช้สิง่ ของเครอื่ งใช้อย่ำง
ประหยดั และพอเพียงเมอื่ ผู้ช้ีแนะ ประหยัดและพอเพียงดว้ ยตนเอง
๑๒
มำตรฐำนท่ี ๗ รักธรรมชำติ สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และควำมเปน็ ไทย
ตวั บ่งชี้ สภำพที่พึงประสงค์
อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี
๗.๑ดูแลรกั ษำธรรมชำตแิ ละ ๗.๑.๑มีส่วนร่วมดูแลรักษำ ๗.๑.๑ดูแลรักษำธรรมชำติและ
สงิ่ แวดล้อม ธรรมชำติและส่ิงแวดล้อมเม่ือมีผู้ สิ่งแวดลอ้ มดว้ ยตนเอง
ชีแ้ นะ
๗.๑.๒ทงิ้ ขยะได้ถกู ที่ ๗.๑.๒ทิ้งขยะไดถ้ ูกที่
๗.๒มมี ำรยำทตำมวฒั นธรรมไทย ๗.๒.๑ปฏบิ ตั ิตนตำมมำรยำทไทย ๗.๒.๑ปฏิบตั ิตนตำมมำรยำทไทย
และรกั ควำมเปน็ ไทย ไดด้ ้วยตนเอง
๗.๒.๒กล่ำวคำขอบคุณและขอ ๗.๒.๒กล่ำวคำขอบคุณและขอ
โทษดว้ ยตนเอง โทษด้วยตนเอง
๗.๒.๓ยืนตรงเมื่อได้ยินเพลงชำติ ๗.๒.๓ยืนตรงและร่วมร้องเพลง
ไทยและเพลงสรรเสริญพระ ชำติไทยและเพลงสรรเสริญพระ
บำรมี บำรมี
มำตรฐำนที่ ๘ อยู่ร่วมกับผู้อ่ืนได้อย่ำงมีควำมสุขและปฏิบัติตนเป็นสมำชิกที่ดีของสังคมในระบอบ
ประชำธปิ ไตยอนั มีพระมหำกษตั ริย์ทรงเป็นประมุข
ตัวบ่งช้ี สภำพที่พงึ ประสงค์
อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี
๘.๑ยอมรบั ควำมเหมอื นและควำม ๘.๑.๑เล่นและทำกิจกรรมร่วมกับเด็ก ๘.๑.๑เล่นและทำกิจกรรมร่วมกับเด็ก
แตกต่ำงระหว่ำงบคุ คล ท่ีแตกตำ่ งไปจำกตน ทแ่ี ตกตำ่ งไปจำกตน
๘.๒มปี ฏสิ ัมพนั ธท์ ี่ดีกับผ้อู ่นื ๘.๒.๑เล่นหรือทำงำนร่วมกับเพ่ือน ๘.๒.๑เลน่ หรือทำงำนร่วมมือกับเพอื่ น
เปน็ กลุ่ม อยำ่ งมเี ปำ้ หมำย
๘.๒.๒ยมิ้ ทักทำยหรือพูดคุยกับผู้ใหญ่ ๘.๒.๒ยม้ิ ทักทำยและพูดคุยกบั ผใู้ หญ่
และบคุ คลทคี่ ุ้นเคยได้ด้วยตนเอง และบุคคลท่ีคุ้นเคยได้เหมำะสมกับ
สถำนกำรณ์
๘.๓ปฏบิ ตั ติ นเบ้อื งต้นในกำรเป็นสมำชกิ ท่ี ๘.๓.๑มีส่วนร่วมสร้ำงข้อตกลงและ ๘.๓.๑มีส่วนร่วมสร้ำงข้อตกลงและ
ดีของสงั คม ปฏิบตั ติ ำมข้อตกลงเมื่อมีผชู้ ีแ้ นะ ปฏิบัตติ ำมข้อตกลงดว้ ยตนเอง
๘.๓.๒ปฏิบัติตนเป็นผู้นำและผู้ตำมได้ ๘.๓.๒ปฏิบัติตนเป็นผู้นำและผู้ตำมได้
ด้วยตนเอง เหมำะสมกับสถำนกำรณ์
๘.๓.๓ประนีประนอมแก้ไขปัญหำโดย ๘.๓.๓ประนีประนอมแก้ไขปัญหำโดย
ปรำศจำกกำรใช้ควำมรุนแรงเม่ือมีผู้ ปรำศจำกควำมรนุ แรงด้วยตนเอง
ชี้แนะ
-คิดแยกแยะระหว่ำงผลประโยชน์สว่ น -คิดแยกแยะระหวำ่ งผลประโยชน์
ตน กบั ผลประโยชนส์ ่วนรวมควำมอำย สว่ นตน กับผลประโยชนส์ ่วนรวม
แ ล ะ ค ว ำ ม ไ ม่ ท น ต่ อ ก ำ ร ทุ จ ริ ต ควำมอำยและควำมไมท่ นต่อกำร
STRONG : จิตพอเพียงต้ำนทุจริตและ ทุจริต STRONG : จติ พอเพยี งต้ำน
ผลเมอื งกบั ควำมรบั ผดิ ชอบ ทุจรติ และพลเมอื ง กับควำม
รบั ผิดชอบตอ่ สงั คม
๑๓
๔.พฒั นำกำรดำ้ นสตปิ ญั ญำ
มำตรฐำนท่ี ๙ ใชภ้ ำษำสือ่ สำรไดเ้ หมำะสมกับวัย
ตวั บ่งช้ี สภำพทพี่ งึ ประสงค์
อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี
๙.๑สนทนำโตต้ อบและเลำ่ เร่ืองใหผ้ ูอ้ นื่ ๙.๑.๑ฟังผู้อ่ืนพูดจนจบและสนทนำ ๙.๑.๑ฟังผู้อ่ืนพูดจนจบและสนทนำ
เขำ้ ใจ โต้ตอบสอดคล้องกบั เร่อื งทฟ่ี งั โต้ตอบอย่ำงต่อเน่ืองเชื่อมโยงกับเรื่อง
ทฟ่ี ัง
๙.๑.๒เล่ำเร่ืองเป็นประโยคอย่ำง ๙.๑.๒เล่ำเปน็ เรือ่ งรำวตอ่ เนอื่ งได้
ตอ่ เนือ่ ง
๙.๒อ่ำน เขยี นภำพ และสญั ลักษณไ์ ด้ ๙.๒.๑อ่ำนภำพสัญลักษณ์ คำพร้อม ๙.๒.๑อ่ำนภำพสญั ลักษณ์ คำด้วยกำร
ท้ังชี้หรือกวำดตำมองข้อควำมตำม ชี้หรือกวำดตำมองจุดเร่ิมต้นและจุด
บรรทัด จบของขอ้ ควำม
๙.๒.๒เขียนคลำ้ ยตวั อักษร ๙.๒.๒เขียนช่ือของตนเองตำมแบบ
เขียนขอ้ ควำมดว้ ยวธิ ที ีค่ ดิ ขึน้ เอง
มำตรฐำนท่ี ๑๐ มคี วำมสำมรถในกำรคิดที่เป็นพืน้ ฐำนในกำรเรียนรู้
ตวั บ่งช้ี สภำพทพ่ี งึ ประสงค์
อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี
๑๐.๑มีควำมสำมำรถในกำรคดิ รวบยอด ๑ ๐ . ๑ . ๑ บ อ ก ลั ก ษ ณ ะ แ ล ะ ๑๐.๑.๑บอกลักษณะส่วนประกอบ
ส่วนประกอบของสิ่งต่ำงๆจำกกำร กำรเปล่ียนแปลงหรือควำมสัมพันธ์
สังเกตโดยใชป้ ระสำทสมั ผัส ของสิ่งต่ำงๆจำกกำรสังเกตโดยใช้
ประสำทสมั ผัส
๑๐.๑.๒จับคู่และเปรียบเทียบควำม ๑๐.๑.๒จับคู่และเปรียบเทียบควำม
แตกตำ่ งหรือควำมเหมือนของส่ิงต่ำงๆ แตกต่ำงและควำมเหมือนของสิง่ ต่ำงๆ
โดยใช้ลักษณะที่สังเกตพบเพียง โ ด ย ใช้ ลั กษณ ะ ท่ีสั งเ กต พบ ส อง
ลกั ษณะเดียว ลกั ษณะขึน้ ไป
๑๐.๑.๓จำแนกและจัดกลุ่มว่ิงต่ำงๆ ๑๐.๑.๓จำแนกและจัดกลุ่มส่ิงต่ำงๆ
โดยใช้อย่ำงน้อยหนึ่งลักษณะเป็น โดยใช้ตั้งแต่สองลักษณะขึ้นไปเป็น
เกณฑ์ เกณฑ์
๑๐.๑.๔ เรียงลำดับสิ่งของหรือ ๑ ๐ . ๑ . ๔ เ รีย งลำ ดั บส่ิ งของและ
เหตุกำรณ์อยำ่ งน้อง๔ลำดับ เหตกุ ำรณอ์ ยำ่ งนอ้ ง๕ลำดับ
๑๐.๒มคี วำมสำมำรถในกำรคิดเชงิ เหตุผล ๑๐.๒.๑ระบสุ ำเหตุหรอื ผลทเี่ กิดขน้ึ ใน ๑๐.๒.๑อธิบำยเช่อื มโยงสำเหตแุ ละ
เหตกุ ำรณห์ รอื กำรกระทำเมื่อมผี ู้ ผลที่เกดิ ขนึ้ ในเหตกุ ำรณห์ รอื กำร
ช้แี นะ กระทำด้วยตนเอง
๑๐.๒.๒คำดเดำ หรอื คำดคะเนส่งิ ที่ ๑๐.๒.๒คำดคะเนสิง่ ที่อำจจะเกดิ ขึน้
อำจจะเกดิ ข้ึนหรอื มสี ่วนร่วมในกำรลง และมสี ว่ นรว่ มในกำรลงควำมเหน็ จำก
ควำมเหน็ จำกข้อมลู ขอ้ มูลอยำ่ งมีเหตุผล
๑๐.๓มคี วำมสำมำรถในกำรคิดแกป้ ญั หำ ๑๐.๓.๑ตดั สินใจในเรอ่ื งง่ำยๆและเรม่ิ ๑๐.๓.๑ตดั สินใจในเรือ่ งง่ำยๆและ
และตดั สนิ ใจ เรียนรผู้ ลทีเ่ กดิ ข้นึ ยอมรับผลทีเ่ กดิ ขึ้น
๑๐.๓.๒ระบปุ ญั หำและแกป้ ญั หำโดย ๑๐.๓.๒ระบปุ ัญหำสร้ำงทำงเลอื กและ
ลองผิดลองถกู เลือกวิธแี ก้ปัญหำ
๑๔
มำตรฐำนที่ ๑๑ มีจินตนำกำรและควำมคิดสรำ้ งสรรค์
ตวั บ่งช้ี สภำพท่พี งึ ประสงค์
อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี
๑๑.๑ทำงำนศิลปะตำมจนิ ตนำกำร ๑๑.๑.๑สร้ำงผลงำนศิลปะเพื่อ ๑๑.๑.๑สร้ำงผลงำนศิลปะเพื่อ
และควำมคดิ สรำ้ งสรรค์ ส่ือสำรควำมคิดควำมรู้สกึ ของ สอื่ สำรควำมคดิ ควำมรู้สึกของ
ตนเองโดยมีกำรดดั แปลงและ ตนเองโดยมีกำรดัดแปลงแปลก
แปลกใหมจ่ ำกเดมิ หรือมี ใหมจ่ ำกเดิมและมรี ำยละเอียด
รำยละเอยี ดเพ่ิมข้นึ เพมิ่ ข้นึ
๑๑.๒แสดงท่ำทำง/เคล่ือนไหวตำม ๑๑.๒.๑เคลือ่ นไหวท่ำทำงเพ่ือ ๑๑.๒.๑เคล่อื นไหวทำ่ ทำงเพ่ือส่ือ
จนิ ตนำกำรอย่ำงสรำ้ งสรรค์ สือ่ สำรควำมคิดควำมรู้สกึ ของ สสำรควำมคดิ ควำมรู้สึกของ
ตนเองอยำ่ งหลำกหลำยหรือ ตนเองอย่ำงหลำกหลำยและ
แปลกใหม่ แปลกใหม่
มำตรฐำนที่ ๑๒ มเี จตคตทิ ี่ดตี ่อกำรเรยี นรู้ และมีควำมสำมำรถในกำรแสวงหำควำมรไู้ ด้เหมำะสมกับวัย
ตัวบ่งชี้ สภำพท่ีพึงประสงค์
อำยุ ๔-๕ ปี อำยุ ๕-๖ ปี
๑๒.๑มเี จตคตทิ ดี่ ตี ่อกำรเรยี นรู้ ๑ ๒ . ๑ . ๑ ส น ใ จ ซั ก ถ ำ ม เ ก่ี ย ว กั บ ๑๒.๑.๑สนใจหยิบหนังสือมำอ่ำนและ
สัญลักษณห์ รือตัวหนงั สือท่พี บเห็น เขียนสื่อควำมคิดด้วยตนเองเป็น
ประจำอยำ่ งต่อเนือ่ ง
๑๒.๑.๒กระตือรือร้นในกำรเข้ำร่วม ๑๒.๑.๒กระตือรือร้นในกำรร่วม
กิจกรรม กจิ กรรมตง้ั แตต่ นจนจบ
๑๒.๒มคี วำมสำมำรถในกำรแสวงหำ ๑๒.๒.๑ค้นหำคำตอบของข้อสงสัย ๑๒.๒.๑ค้นหำคำตอบของข้อสงสัย
ควำมรู้
ต่ำงๆตมวธิ ีกำรของตนเอง ต่ำงๆโดยใช้วิธีกำรท่ีหลำกหลำยด้วย
ตนเอง
๑๒.๒.๒ใช้ประโยคคำถำมว่ำ “ท่ไี หน” ๑ ๒ . ๒ . ๒ ใ ช้ ป ร ะ โ ย ค ค ำ ถ ำ ม ว่ ำ
“ทำไม” ในกำรคน้ หำคำตอบ “เมื่อไหร่” “อย่ำงไร” ในกำรค้นหำ
คำตอบ
๑๕
ตำรำงวิเครำะห์สำระกำรเรยี นรู้รำยปี ช่วง 4-5 ปี
1.พัฒนำกำรดำ้ นรำ่ งกำย
มำตรฐำนที่ 1 รำ่ งกำยเจริญเติบโตตำมวัย และมีสุขนสิ ัยท่ีดี
ตัวบง่ ช้ี สภำพที่พงึ ประสงค์ สำระกำรเรียนรรู้ ำยปี
ชน้ั อนบุ ำลปที ี่ 2 (3-4 ปี ) ประสบกำรณส์ ำคญั สำระทีค่ วรเรียนรู้
๑.๑ มนี ำ้ หนักและ - นำ้ หนักและส่วนสงู ตำม เกณฑ์ ๑.กำรปฏิบัตตนตำม สุขอนำมัย ๑. กำรปฏบิ ตั กิ จิ วตั รประจำวนั
สว่ นสูงตำมเกณฑ์ ของกรมอนำมัย สขุ นิสยั ทีด่ ีใน กิจวัตรประจำวนั - กำรเปลีย่ นแปลงของร่ำงกำย
๑ . ๒ มี สุ ข ภ ำ พ - รบั ประทำนอำหำรทมี่ ี ๑.กำรปฏิบัตติ นตำม ส่งิ ต่ำงๆรอบตวั
อนำมยั สขุ นิสยั ท่ีดี ประโยชนแ์ ละดม่ื นำ้ สะอำด สุขอนำมัย สขุ นสิ ยั ท่ีดีใน ๑. กำรปฏบิ ตั กิ จิ วตั รประจำวนั
ดว้ ยตนเอง กจิ วตั รประจำวนั - สุ ข นิ สั ย ท่ี ดี ใ น ก ำ ร
๒. กำรประกอบอำหำรไทย รบั ประทำน
อำหำร
- ล้ำงมือก่อนรับประทำนอำหำร ๑.กำรปฏบิ ตั ติ นตำม ๑. กำรปฏิบตั ิกจิ วตั รประจำวนั
และหลังจำกใช้ห้องน้ำ ห้องส้วม สุขอนำมัย สุขนสิ ัยท่ีดีใน - กำรทำควำมสะอำดรำ่ งกำย
ดว้ ยตนเอง กจิ วตั รประจำวนั
๒. กำรช่วยเหลือตนเองในกำร
ปฏบิ ตั กิ จิ กวัตรประจำวนั
๓. กำรปฏบิ ตั ติ นให้ปลอดภัย
ในกจิ วัตรประจำวนั
๔. กำรฟังนทิ ำน เรอ่ื งรำว
เหตกุ ำรณ์เก่ียวกับกำรปูองกัน
และรกั ษำควำมปลอดภยั
-ลำ้ งหน้ำและแปรงฟันถูกวธิ ี ๑.กำรปฏิบตั ิตนตำม ๑. กำรปฏิบัติกิจวัตรประจำวนั
หลงั รบั ประทำนอำหำร สุขอนำมัย สุขนิสยั ที่ดีใน - กำรทำควำมสะอำดรำ่ งกำย
กจิ วตั รประจำวัน
๒. กำรช่วยเหลือตนเองในกำร
ปฏิบตั กิ ิจวัตรประจำวัน
๓. กำรปฏิบตั ิตนใหป้ ลอดภัย
ในกิจวัตรประจำวนั
๔ . ก ำ ร ฟั ง นิ ท ำ น เ ร่ื อ ง ร ำ ว
เหตกุ ำรณ์เก่ียวกบั กำรปอ้ งกัน
และรกั ษำควำมปลอดภยั
- นอนพักผ่อนเป็นเวลำ - กำรปฏบิ ัติตนตำมสุขอนำมยั - กำรพักผ่อน
สุขนสิ ัยทีด่ ใี นกจิ วัตรประจำวนั
-ออกกำลังกำยเปน็ เวลำ ๑. กำรเล่นอิสระ - กำรออกกำลงั กำย
๒. กำรเคลือ่ นไหวขำ้ มส่งิ กดี - กำรเลน่ ในหอ้ งเรยี นและนอก
ขวำง หอ้ งเรียน
๓. กำรเล่นเคร่ืองเลน่ อย่ำง
ปลอดภัย
๔. กำรละเลน่ พนื้ บำ้ นไทย
๕. กำรเล่นนอกห้องเรียน
๖. กำรเลน่ เครื่องเล่นสนำม
อยำ่ งอิสระ
๑๖
ตัวบง่ ช้ี สภำพทพ่ี งึ ประสงค์ สำระกำรเรียนรรู้ ำยปี
ชนั้ อนบุ ำลปที ี่ 2 (3-4 ปี ) ประสบกำรณส์ ำคญั สำระทีค่ วรเรยี นรู้
๑.๓ รักษำควำม -เล่นและทำกิจกรรมอยำ่ ง ๑.กำรปฏบิ ัตติ นให้ปลอดภัย
ป ล อ ด ภั ย ข อ ง ปลอดภยั ดว้ ยตนเอง
ตนเองและผอู้ ่ืน ใน กจิ วัตรประจำวัน
๒ . ก ำ ร ฟั ง นิ ท ำ น เ ร่ื อ ง ร ำ ว
เหตุกำรณ์เกี่ยวกับกำรปูองกัน
และรกั ษำควำมปลอดภัย
๓. กำรเลน่ บทบำทสมมตุ ิ
เหตุกำรณต์ ่ำงๆ
๔ . ก ำ ร พู ด กั บ ผู้ อื่ น เ ก่ี ย ว กั บ
ประสบกำรณ์ของตนเองหรือพูด
เรอ่ื งรำวเกี่ยวกบั ตนเอง
๕ . กำ ร เ ล่ นเค รื่องเ ล่นอย่ำง
ปลอดภยั
๖. กำรเลน่ และทำงำนร่วมกับผู้อื่น
มำตรฐำนท่ี 2 กล้ำมเนอื้ ใหญ่และกล้ำมเลก็ แข็งแรงใชไ้ ด้อย่ำงคล่องแคล่วและประสำนสัมพันธ์กนั
ตวั บ่งช้ี สภำพทีพ่ งึ ประสงค์ สำระกำรเรยี นรรู้ ำยปี
๒.๑ เคลื่อนไหว ชน้ั อนุบำลปที ่ี 2 (3-4 ปี )
ร่ ำ ง ก ำ ย อ ย่ ำ ง - เดินต่อเท้ำไปข้ำงหน้ำเปน็ ประสบกำรณส์ ำคัญ สำระท่ีควรเรยี นรู้
ค ล่ อ ง แ ค ล่ ว เสน้ ตรงไดโ้ ดยไมต่ ้องกำงแขน
ประสำนสัมพันธ์ - กระโดดขำเดียวอยกู่ ับทไี่ ดโ้ ดย ๑. กำรเคล่อื นไหวอยกู่ ับท่ี ๑. กำรเคลอื่ นไหวรำ่ งกำยใน
และทรงตวั ได้ ไม่เสียกำรทรงตวั
- ว่งิ หลบหลกี ส่งิ กดี ขวำงได้ ๒. กำรเคลอ่ื นไหวเคล่ือนท่ี ลกั ษณะตำ่ ง ๆ
๒ .๒ ใช้ มือ-ต ำ - โยนรบั ลูกบอลได้ดว้ ยมอื ทั้ง
ป ร ะสำนสัมพันธ์ สองข้ำง ๓. กำรเคล่อื นไหวพรอ้ ม ๒. กำรใชม้ อื ทำส่ิงต่ำง ๆ
กัน
- ใช้กรรไกรตดั กระดำษตำม อปุ กรณ์
แนวเสน้ ตรงได้
- เขยี นรปู สีเ่ หลี่ยมตำมแบบได้ ๔. กำรเคล่ือนไหวที่ใช้กำร
อย่ำงมมี มุ ชดั เจน
- รอ้ ยวัสดทุ ่มี รี ูขนำดเสน้ ผำ่ น ประสำนสัมพันธข์ องกลำ้ มเน้ือ
ศนู ย์ กลำง ๐.๕ ซม.ได้
ใหญใ่ นกำรขว้ำง กำรจบั กำรโยน
กำรเตะ
๕. กำรเล่นเคร่อื งเล่นสนำมอยำ่ ง
อิสระ
๖. กำรเคลื่อนไหวขำ้ มส่งิ กีดขวำง
๗. กำรเคลอ่ื นไหวโดยควบคุม
ตนเองไปในทิศทำงระดบั และพ้ืนท่ี
๑. กำรเล่นเคร่อื งเลน่ สัมผัส - กำรใชม้ ือทำส่งิ ตำ่ ง ๆ
และกำรสรำ้ งสิง่ ตำ่ งๆ จำก
แท่งไม้บลอ็ ก
๒.กำรเขียนภำพและกำรเล่น
กับสี
๓. กำรประดิษฐส์ ิ่งต่ำงๆ ดว้ ย
เศษวัสดุ
๔. กำรหยบิ จบั กำรใช้กรรไกร
กำรฉกี กำรตดั กำรปะ กำร
ร้อยวสั ดุ
๑๗
๒.พัฒนำกำรด้ำนอำรมณ์ จติ ใจ
มำตรฐำนท่ี ๓ มสี ขุ ภำพจติ ดีและมคี วำมสุข
ตัวบ่งช้ี สภำพท่ีพึงประสงค์ สำระกำรเรียนรรู้ ำยปี
ชัน้ อนบุ ำลปที ี่ 2 (3-4 ปี ) ประสบกำรณส์ ำคญั สำระท่ีควรเรยี นรู้
๓.๑ แสดงออก - แสดงอำรมณ์ ควำมรสู้ ึกได้ ๑. กำรพูดสะท้อนควำมรสู้ กึ ๑. อำรมณ์และควำมรสู้ กึ
ทำงอำรมณ์ ตำมสถำนกำรณ์ ของตนเองและผอู้ ่นื - กำรแสดงออกทำงอำรมณ์ท่ี
อยำ่ งเหมำะสม ๒. กำรเล่นบทบำทสมมุติ เหมำะสมกับสถำนกำรณ์ต่ำง
๓. กำรเคล่ือนไหวตำม ๆ
เสยี งเพลง ดนตรี - ควำมตอ้ งกำรทำง
๔. กำรร้องเพลง ร่ำงกำยและกำรตอบสนอง
๕. กำรทำงำนศลิ ปะ - ควำมต้องกำรทำงจิตใจและ
กำรตอบสนอง
๓.๒ มีควำมรู้สึกที่ - กล้ำพูดกล้ำแสดงออกอย่ำง - กำรพูดแสดงควำม
ดีต่อตนเองและ เหมำะสมบำงสถำนกำรณ์ คิดเหน็
ผู้อื่น - แสดงควำมพอใจในผลงำน - กำรประสบควำมสำเร็จใน
และควำมสำมำรถของตนเอง สิ่งตำ่ งๆ ท่ที ำ
มำตรฐำนท่ี 4 ช่ืนชมและแสดงออกทำงศลิ ปะ ดนตรี และกำรเคล่อื นไหว
ตวั บง่ ชี้ สภำพที่พงึ ประสงค์ สำระกำรเรยี นรรู้ ำยปี
ชัน้ อนบุ ำลปีที่ 2 (3-4 ปี )
ประสบกำรณส์ ำคญั สำระทค่ี วรเรยี นรู้
๔.๑ สนใจและมี - สนใจและมคี วำมสุขและ
ค ว ำ ม สุ ข แ ล ะ แสดงออกผ่ำนงำนศลิ ปะ ๑. กำรทำกิจกรรมศลิ ปะต่ำงๆ - กำรทำกจิ กรรมศิลปะ
แสดงออกผ่ำนงำน
ศิลปะ ดนตรีและ ๒. กำรสร้ำงสรรคส์ ิ่งสวยงำม สรำ้ งสรรค์
กำรเคลือ่ นไหว
๓. กำรรบั รูแ้ ละแสดงควำมคดิ
- สนใจ มคี วำมสุขและ
แสดงออกผำ่ นเสยี งเพลง ควำมรสู้ ึกผำ่ นสือ่ วัสดุ ของ
ดนตรี
เล่น และชิน้ งำน
- สนใจ มคี วำมสขุ และแสดง
ทำ่ ทำง/เคล่ือนไหวประกอบ ๔. กำรปฏบิ ัติกจิ กรรมต่ำงๆ
เพลง จงั หวะและ ดนตรี
ตำมควำมสำมำรถขอตนเอง
๑. กำรฟังเพลง กำรร้องเพลงและ - กำรฟัง กำรรอ้ งเพลง
ก ำ ร แ ส ด ง ป ฏิ กิ ริ ย ำ โ ต้ ต อ บ
เสียงดนตรี
๒. กำรเลน่ เครอื่ งดนตรี
ประกอบจงั หวะ
๔. กำรปฏบิ ตั ิกิจกรรมตำ่ งๆ
ตำมควำมสำมำรถขอตนเอง
๑. กำรฟังเพลง กำรร้องเพลงและ - กำรแสดงท่ำทำง
ก ำ ร แ ส ด ง ป ฏิ กิ ริ ย ำ โ ต้ ต อ บ เคล่อื นไหวประกอบเพลง
เสียงดนตรี จงั หวะและดนตรี
๒. กำรเคล่อื นไหวตำม
เสียงเพลง ดนตรี
๔. กำรปฏิบตั ิกิจกรรมตำ่ งๆ
ตำมควำมสำมำรถของตนเอง
๕. กำรเลน่ เครื่องดนตรี
ประกอบจังหวะ
๑๘
มำตรฐำนท่ี 5 มีคุณธรรม จริยธรรมและมจี ติ ใจทีด่ งี ำม
ตวั บง่ ช้ี สภำพทพ่ี ึงประสงค์ สำระกำรเรยี นรรู้ ำยปี
๕.๑ ซื่อสตั ย์ ชั้นอนุบำลปที ่ี 2 (3-4 ปี ) ประสบกำรณส์ ำคญั สำระที่ควรเรยี นรู้
สุจรติ
- ขออนญุ ำตหรือรอคอยเม่อื ๑. ปฏบิ ัตติ นเปน็ สมำชิกทด่ี ี สง่ิ ต่ำงๆรอบตวั เดก็
ต้องกำรสงิ่ ของของผู้อื่นเมอ่ื มี
ผู้ชแ้ี นะ ของห้องเรียน ๑. คุณธรรมจรยิ ธรรม
๒. กำรฟงั นทิ ำนเกี่ยวกบั - ควำมซ่อื สตั ย์ สจุ รติ
คณุ ธรรม จรยิ ธรรม - ควำมเกรงใจ
๓. กำรร่วมสนทนำและ ๒. กำรเคำรพสทิ ธขิ อง
แลกเปลย่ี นควำมคดิ เหน็ เชิง ตนเองและผู้อ่ืน
จริยธรรม
๔. เล่นบทบำทสมมุติ
๕. กำรเล่นและทำงำนร่วมกบั ผอู้ น่ื
๖. กำรปฏิบัติตนตำมหลัก
ศำสนำท่ีนับถอื
๕.๒ มีควำมเมตตำ - แสดงควำมรักเพอ่ื นและมี ๑. กำรฟังนิทำนเกย่ี วกบั ๑. คณุ ธรรมจรยิ ธรรม
กรุณำมีน้ำใจและ เมตตำสัตวเ์ ล้ยี ง
ชว่ ยเหลือแบ่งปัน คุณธรรม จรยิ ธรรม - ควำมเมตตำกรณุ ำ
- ชว่ ยเหลอื และแบ่งปันผูอ้ ื่น ๒. เลน่ บทบำทสมมตุ ิ
ได้เมอื่ มีผชู้ ีแ้ นะ
๓. กำรเล้ยี งสตั ว์
๑. กำรฟงั นิทำนเก่ยี วกับ ๑. คณุ ธรรมจริยธรรม
คุณธรรม จรยิ ธรรม - ควำมมนี ำ้ ใจ ช่วยเหลือ
๒. เลน่ บทบำทสมมตุ ิ แบ่งปัน
1.กำรฟงั นทิ ำนเกี่ยวกับ ๑. คณุ ธรรมจรยิ ธรรม
คณุ ธรรม จรยิ ธรรม - ควำมมีนำ้ ใจ ช่วยเหลือ
๒. เลน่ บทบำทสมมุติ แบง่ ปัน
๓. ปฏิบตั ติ นเป็นสมำชกิ ท่ดี ี - ควำมกตญั ญู
ของหอ้ งเรยี น
๔. กำรเลน่ รำยบคุ คล กลมุ่
ยอ่ ย และกลุ่มใหญ่
๕. กำรเล่นตำมมุม
ประสบกำรณ์/มมุ เลน่ ตำ่ งๆ
๑๙
3.พัฒนำกำรด้ำนสงั คม
มำตรฐำนท่ี 6 มที กั ษะชีวิตและปฏบิ ตั ติ นตำมหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียง
ตวั บ่งช้ี สภำพที่พึงประสงค์ สำระกำรเรียนรรู้ ำยปี
ช้นั อนุบำลปีท่ี 2 (3-4 ปี ) ประสบกำรณส์ ำคัญ สำระท่ีควรเรยี นรู้
๖ . ๑ ช่ วย เ ห ลื อ - แตง่ ตัวด้วยตนเอง ๑. กำรชว่ ยเหลือตนเองใน ๑. กำรชว่ ยเหลอื ตนเอง
ต น เ อ ง ใ น ก ำ ร - รับประทำนอำหำรด้วยตนเอง กจิ วตั รประจำวนั ๒. มำรยำทในกำร
ป ฏิ บั ติ กิ จ วั ต ร - ใช้หอ้ งน้ำหอ้ งส้วมดว้ ย ๒. กำรให้ควำมรว่ มมอื ในกำร รับประทำนอำหำร
ประจำวัน ตนเอง ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตำ่ งๆ
๓. กำรปฏบิ ตั ิกิจกรรมตำ่ งๆ
ตำมควำมสำมำรถของตนเอง
๖.๒ มีวนิ ยั ในตน - เกบ็ ของเล่นของใช้เข้ำท่ีด้วย ๑. กำรร่วมกำหนดข้อตกลง ๑. กำรเล่นและกำรเกบ็
อง ของหอ้ งเรียน สง่ิ ของ
ตนเอง ๒. กำรปฏิบตั ติ นเปน็ สมำชกิ
- เขำ้ แถวตำมลำดบั กอ่ นหลัง ท่ีดขี องหอ้ งเรียน ๑. กำรรอคอยตำมลำดบั
๓. กำรใหค้ วำมร่วมมอื ในกำร กอ่ นหลัง
ได้ด้วยตนเอง ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตำ่ งๆ
๔. กำรดูแลห้องเรยี นร่วมกัน ๒. กำรเข้ำแถว
๖.๓ ประหยดั และ - ใช้สง่ิ ของเคร่ืองใช้อยำ่ ง ๑. กำรปฏบิ ตั ิตนตำมแนวทำง ๑. กำรเลอื กใชส้ ง่ิ ของ
พอเพยี ง ประหยัดและพอเพยี งเมอื่ มีผู้ หลักปรชั ญำของเศรษฐกจิ เครอ่ื งใช้อยำ่ งประหยัด
ชี้แนะ พอเพียง
๒. กำรใช้วสั ดแุ ละส่ิง
ของเครอ่ื งใชอ้ ยำ่ งคุม้ คำ่
มำตรฐำนที่ 7 รกั ชำตธิ รรมชำติ ส่งิ แวดล้อม และควำมเป็นไทย
ตัวบง่ ชี้ สภำพท่พี ึงประสงค์ สำระกำรเรยี นรรู้ ำยปี
๗.๑ ดูแลรกั ษำ ช้นั อนบุ ำลปีท่ี 2 (3-4 ปี ) ประสบกำรณส์ ำคัญ สำระทค่ี วรเรียนรู้
ธรรมชำติ
และสิ่งแวดล้อม - มีส่วนรว่ มในกำรดูแลรกั ษำ ๑. กำรมสี ่วนรว่ มในกำรดแู ล ๑. สงิ่ แวดลอ้ มในโรงเรียน
ธรรมชำติและส่ิงแวดลอ้ มเมอื่
มีผชู้ ีแ้ นะ รกั ษำสงิ่ แวดลอ้ มทัง้ ภำยใน และกำรดูแลรักษำ
และภำยนอกหอ้ งเรยี น ๒. สง่ิ แวดลอ้ มตำม
๒.กำรสนทนำข่ำวและ ธรรมชำติและกำรอนุรกั ษ์
เหตุกำรณท์ เ่ี ก่ยี วกับธรรมชำติ สิ่งแวดลอ้ ม
และส่งิ แวดล้อมในชวี ติ ประจำวัน ๓. กำรรักษำสำธำรณสมบตั ิ
๓. กำรเพำะปลกู และดูแล ในห้องเรยี น
ต้นไม้
๔. กำรอธิบำยเชือ่ มโยงสำเหตุ
และผลท่เี กดิ ข้ึนในเหตกุ ำรณ์
หรอื กำรกระทำ
๕. กำรตดั สินใจและมีส่วนร่วม
ในกระบวนกำรแก้ปญั หำ
๒๐
ตัวบง่ ช้ี สภำพท่พี ึงประสงค์ สำระกำรเรียนรรู้ ำยปี
ชั้นอนุบำลปที ่ี 2 (3-4 ปี )
๗.๒ มมี ำรยำท - ทิ้งขยะได้ถูกท่ี ประสบกำรณส์ ำคัญ สำระทค่ี วรเรียนรู้
ตำม
วฒั นธรรมไทย - ปฏิบตั ิตนตำมมำรยำทไทย ๑. กำรคัดแยก กำรจดั กลมุ่ ๑. ขยะและกำรคัดแยกขยะ
และรักควำม ได้ดว้ ยตนเอง
เป็นไทย - ปฏบิ ัตติ นตำมมำรยำทไทย และจำแนกสง่ิ ต่ำงๆตำม ๒. กำรดูแลรกั ษำ
ไดด้ ้วยตนเอง
ลักษณะและรปู ร่ำง รปู ทรง สิง่ แวดล้อม
- หยุดเมื่อได้ยินเพลงชำตไิ ทย
และเพลงสรรเสริญพระบำรมี ๒. กำรใช้วสั ดุและสิ่งของ
เคร่ืองใช้อยำ่ งคุ้มคำ่
๓. กำรทำงำนศิลปะท่ีนำวัสดุ
หรือส่ิงของเคร่ืองใชท้ ่ีใชแ้ ลว้
มำใชซ้ ้ำหรือแปรรูปแลว้ นำ
กลบั มำใช้ใหม่
๔. กำรสรำ้ งสรรคช์ น้ิ งำนโดย
ใช้รปู รำ่ งรูปทรงจำกวัสดทุ ี่
หลำกหลำย
๕. กำรปฏบิ ตั ติ นเป็นสมำชิกที่
ดขี องห้องเรียน
๑. กำรปฏิบัตติ นตำม ๑ . ก ำ ร ป ฏิ บั ติ ต น
วฒั นธรรมท้องถิน่ ทอ่ี ำศัยและ ตำมมำรยำทและ
ประเพณีไทย วัฒนธรรมไทย
๒. กำรเลน่ บทบำทสมมุตกิ ำร - กำรแสดงควำมเคำรพ
ปฏิบตั ติ นในควำมเปน็ คนไทย
๑. กำรปฏบิ ตั ิตนตำม ๑. กำรปฏบิ ัตติ นตำม
วฒั นธรรมท้องถน่ิ ท่ีอำศัยและ มำรยำทและวฒั นธรรมไทย
ประเพณีไทย - กำรพูดสภุ ำพ
๒. กำรเลน่ บทบำทสมมตุ กิ ำร - กำรกล่ำวคำขอบคณุ และ
ปฏิบตั ิตนในควำมเป็นไทย ขอโทษ
๓. กำรพูดสะทอ้ นควำมรสู้ ึก
ของตนเองและผ้อู ่ืน
๑. กำรปฏบิ ตั ติ นตำม - กำรแสดงออกทเ่ี หมำะสม
วัฒนธรรมท้องถิ่นที่อำศัยและ กบั สถำนกำรณ์
ประเพณไี ทย
๒. กำรเลน่ บทบำทสมมุติกำร
ปฏิบัตติ นในควำมเปน็ ไทย
๓. กำรรว่ มกิจกรรมวันสำคญั
๒๑
มำตรฐำนที่ 8 อยรู่ ่วมกบั ผู้อื่นไดอ้ ย่ำงมีควำมสุขและปฏิบตั ติ นเป็นสมำชิกที่ดีของสงั คมในระบอบ
ประชำธปิ ไตยอันมีพระมหำกษตั รยิ ์ทรงเป็นประมขุ
ตัวบ่งชี้ สภำพทพี่ ึงประสงค์ สำระกำรเรยี นรรู้ ำยปี
ชั้นอนุบำลปีที่ 2 (3-4 ปี )
๘.๑ ยอมรบั ควำม - เล่นและทำกิจกรรมรว่ มกับ ประสบกำรณส์ ำคัญ สำระทค่ี วรเรยี นรู้
เหมอื นและควำม กลมุ่ เด็กที่แตกต่ำงไปจำกตน
แตกตำ่ งระหวำ่ ง ๑.กำรเลน่ และทำงำนรว่ มกบั - กำรเล่นและกำรทำ
บคุ คล - เลน่ หรอื ทำงำนรว่ มกบั เพ่อื น
๘.๒ มปี ฏิสมั พนั ธ์ เป็นกลมุ่ ผ้อู ่นื กิจกรรมรว่ มกบั ผอู้ ่นื
ที่ดีกับผู้อ่นื
- ยม้ิ หรือทักทำยหรอื พดู คยุ ๒. กำรเลน่ พืน้ บำ้ นของไทย - กำรเลน่ และทำกจิ กรรม
กับผใู้ หญแ่ ละบุคคลทคี่ นุ้ เคย
๓. กำรศึกษำนอกสถำนที่ กลมุ่ ใหญ่
ได้ด้วยตนเอง
๔. กำรเล่นและทำกจิ กรรม - กำรปฏิบตั ติ ำมวัฒนธรรม
รว่ มกบั กลมุ่ เพือ่ น ท้องถนิ่ และควำมเปน็ ไทย
๕. กำรทำศลิ ปะแบบร่วมมอื
๖. กำรรว่ มสนทนำและ
แลกเปลย่ี นควำมคดิ เหน็
๗. กำรเลน่ รำยบุคคล กลุ่ม
ย่อยและกลมุ่ ใหญ่
๘ . ๓ ป ฏิ บั ติ ต น - มสี ว่ นร่วมสรำ้ งข้อตกลงและ ๑. กำรร่วมกำหนดขอ้ ตกลง - กำรปฏบิ ัติตำมกฎระเบยี บ
เบื้องต้นในกำ ร ปฏบิ ตั ิตำมขอ้ ตกลงเม่อื มีผู้ ของห้องเรยี น และข้อตกลง
เ ป็ น ส ม ำ ชิ ก ที่ ดี ชแี้ นะ ๒.กำรปฏบิ ัตติ นเปน็ สมำชิกที่ - ผู้นำผูต้ ำม
ของสังคม - ปฏิบัติตนเปน็ ผู้นำและผู้ ดีของหอ้ งเรยี น - กำรแสดงออกทำงอำรมณ์
ตำมท่ดี ไี ดด้ ว้ ยตนเอง ๓. กำรใหค้ วำมร่วมมอื ในกำร และควำมรู้สกึ อยำ่ งเหมำะสม
- ประนปี ระนอมแกไ้ ขปัญหำ ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมต่ำงๆ
โดยปรำศจำกกำรใช้ควำม ๔. กำรร่วมกิจกรรมวนั สำคญั
รุนแรงเมอื่ มผี ชู้ ้แี นะ ๕. กำรมสี ว่ นร่วมในกำรเลือก
วิธีกำรแก้ปญั หำ
๖. กำรมสี ่วนรว่ มในกำร
แกป้ ญั หำควำมขดั แยง้
๒๒
4.ดำ้ นสติปัญญำ
มำตรฐำนท่ี 9 ใชภ้ ำษำส่อื สำรได้เหมำะสมกบั วัย
ตัวบ่งชี้ สภำพทพ่ี งึ ประสงค์ สำระกำรเรียนรรู้ ำยปี
๙.๑ สนทนำ ชนั้ อนบุ ำลปที ่ี 2 (3-4 ปี ) ประสบกำรณส์ ำคัญ สำระท่คี วรเรียนรู้
โต้ตอบและเล่ำ
เร่ืองใหผ้ ูอ้ ่ืนเขำ้ ใจ - ฟังผู้อื่นพูดจนจบและ ๑. กำรฟังเสยี งตำ่ งๆ มำรยำทในกำรฟัง
สนทนำโตต้ อบสอดคล้องกบั
เร่อื งท่ฟี งั ในส่ิงแวดล้อม - กำรรับฟงั
๒. กำรฟังและปฏบิ ัตติ ำม
คำแนะนำ
๓. กำรฟังเพลง นิทำน คำ
คลอ้ งจอง บทรอ้ ยกรอง หรอื
เรอ่ื งรำวต่ำงๆ
๔. กำรเล่นเกมทำงภำษำ
- เลำ่ เรอื่ งเป็นประโยคอยำ่ ง ๑. กำรพูดแสดงควำมคิด - กำรเลำ่ เรื่องรำวหรือนทิ ำน
ต่อเนื่อง
ควำมรสู้ กึ และควำมตอ้ งกำร
๒. กำรพูดเกยี่ วกับ
ประสบกำรณข์ องตนเอง หรือ
พูดเรอ่ื งรำวเกย่ี วกบั ตนเอง
๓. กำรพูดอธบิ ำยเกี่ยวกบั
ส่งิ ของ เหตกุ ำรณ์ และ
ควำมสมั พันธข์ องสง่ิ ตำ่ งๆ
๔. กำรพูดอยำ่ งสร้ำงสรรค์ใน
กำรเล่นและกำรกระทำต่ำงๆ
๕. กำรรอจังหวะท่เี หมำะสม
ในกำรพดู
๖. กำรพดู เรียงลำดบั เพือ่ ใช้ใน
กำรสอื่ สำร
๗. กำรเล่นเกมทำงภำษำ
๙.๒ อำ่ น เขยี น - อำ่ นภำพ สัญลกั ษณ์ คำ ๑. กำรอ่ำนหนังสือภำพ - กำรอำ่ นภำพ สัญลักษณ์
ภำพ และ พร้อมทงั้ ชี้ หรอื กวำดตำมอง
สัญลักษณไ์ ด้ ข้อควำมตำมบรรทดั นิทำนหลำกหลำยประเภท/ นทิ ำน
รปู แบบ
๒. กำรอ่ำนอย่ำงอสิ ระตำม
ลำพงั กำรอ่ำนรว่ มกนั กำร
อำ่ นโดยมผี ูช้ ้ีแนะ
๓. กำรเหน็ แบบอยำ่ งของกำร
อ่ำนทถ่ี ูกต้อง
๔. กำรสงั เกตทศิ ทำงกำรอ่ำน
ตวั อักษร คำ และข้อควำม
๒๓
ตวั บง่ ชี้ สภำพทพี่ งึ ประสงค์ สำระกำรเรยี นรรู้ ำยปี
ชนั้ อนบุ ำลปีท่ี 2 (3-4 ปี )
๙.๒ อ่ำน เขยี น ประสบกำรณส์ ำคญั สำระทคี่ วรเรยี นรู้
ภำพ และ - เขยี นคล้ำยตัวอักษร
สญั ลักษณไ์ ด้ ๕. กำรอ่ำนและชี้ขอ้ ควำม
โดยกวำดสำยตำตำมบรรทัด
จำกซ้ำยไปขวำ จำกบนลงลำ่ ง
๖. กำรสังเกตตัวอกั ษรในชื่อ
ของตน หรือคำคุน้ เคย
๗. กำรสงั เกตตัวอกั ษรท่ี
ประกอบเปน็ คำผำ่ นกำรอำ่ น
หรอื เขยี นของผู้ใหญ่
๘. กำรคำดเดำคำ วลี หรอื
ประโยคทมี่ ีโครงสรำ้ งํซำ้ ๆกนั
จำกนิทำน เพลง คำคล้องจอง
๙. กำรเลน่ เกมทำงภำษำ
๑๐. กำรเหน็ แบบอยำ่ งของ
กำรเขยี นที่ถูกต้อง
๑. กำรเขยี นร่วมกนั ตำม ๑. กำรใชภ้ ำษำในกำรสอ่ื สำร
โอกำส และกำรเขยี นอสิ ระ - กำรเขยี นภำพ สญั ลกั ษณ์
๒. กำรเขยี นคำท่มี คี วำมหมำย
กบั ตัวเดก็ /คำคุ้นเคย
๓. กำรคดิ สะกดคำและเขยี น
เพอ่ื สือ่ ควำมหมำยดว้ ยตนเอง
อย่ำงอิสระ
5.กำรเลน่ เกมทำงภำษำ
๒๔
มำตรฐำนท่ี 10 มคี วำมสำมำรถในกำรคดิ ทีเ่ ปน็ พ้นื ฐำนในกำรเรียนรู้
ตวั บ่งช้ี สภำพทพ่ี ึงประสงค์ สำระกำรเรยี นรรู้ ำยปี
๑๐.๑ มีควำม ชั้นอนบุ ำลปีท่ี 2 (3-4 ปี ) ประสบกำรณส์ ำคญั สำระทค่ี วรเรยี นรู้
สำมำรถในกำรคิด
รวบยอด - บอกลกั ษณะของสง่ิ ของ ๑. กำรสังเกตลกั ษณะ ส่ิงต่ำงๆรอบตวั
ตำ่ ง ๆ จำกกำรสงั เกตโดยใช้ ส่วนประกอบ กำร ๑. กำรคดิ
ประสำทสัมผัส เปลีย่ นแปลง และ - ประสำทสมั ผสั
ควำมสัมพันธ์ของส่งิ ต่ำงๆโดย - กำรสงั เกต
ใชป้ ระสำทสมั ผสั อยำ่ ง
เหมำะสม
๒. กำรสงั เกตส่ิงต่ำงๆแลละ
สถำนทจ่ี ำกมุมมองท่ตี ำ่ งกัน
๓. กำรเล่นกับส่ือตำ่ งๆท่ีเปน็
ทรงกลม ทรงสเ่ี หลีย่ มมุมฉำก
ทรงกระบอก ทรงกรวย
๔. กำรใชภ้ ำษำทำง
คณติ ศำสตรก์ ับเหตกุ ำรณ์ใน
ชีวติ ประจำวัน
-จับคู่หรอื เปรยี บเทยี บส่ิงตำ่ งๆ ๑. กำรคดั แยก กำรจดั กลมุ่ ๑. กำรคดิ
โดยใช้ลักษณะหรือหนำ้ ทกี่ ำร และกำรจำแนกส่ิงต่ำงๆตำม - กำรจบั คู่
ใชง้ ำนเพียงลักษณะเดยี ว ลกั ษณะและรูปรำ่ ง รปู ทรง - กำรเปรยี บเทยี บ
๒. กำรต่อของชนิ้ เล็กเตมิ ใน
ชิ้นใหญ่ให้สมบรู ณ์ และกำร
แยกชิ้นส่วน
๓. กำรจับคู่ กำรเปรยี บเทยี บ
และกำรเรียงลำดับสงิ่ ต่ำงๆ
ตำมลักษณะควำมยำว/ควำม
สูง นำ้ หนกั ปริมำตร
๔. กำรใช้ภำษำทำง
คณติ ศำสตรก์ ับเหตกุ ำรณ์ใน
ชีวิตประจำวัน
-จำแนกและจดั กล่มุ สิง่ ต่ำงๆ ๑. กำรคดั แยก กำรจดั กลมุ่ ๑. กำรคดิ
โดยใชอ้ ยำ่ งนอ้ ยหนงึ่ ลักษณะ และกำรจำแนกสิ่งตำ่ งๆตำม - กำรจำแนก
เปน็ เกณฑ์ ลักษณะและรูปรำ่ ง รูปทรง - กำรจัดกลมุ่ สง่ิ ของหน่ึง
๒. กำรทำซ้ำ กำรตอ่ เติม และ ลักษณะ
กำรสร้ำงแบบรปู
๓. กำรรวมและกำรแยกสิ่ง
ตำ่ งๆ
๔. กำรใช้ภำษำทำง
คณิตศำสตร์กบั เหตกุ ำรณ์ใน
ชีวิตประจำวัน
๒๕
ตัวบง่ ชี้ สภำพทพี่ งึ ประสงค์ สำระกำรเรียนรรู้ ำยปี
๑๐.๑ มคี วำม
สำมำรถในกำรคิด ชน้ั อนบุ ำลปที ี่ 2 (3-4 ปี ) ประสบกำรณส์ ำคัญ สำระท่ีควรเรียนรู้
รวบยอด
- จับคู่และเปรียบเทียบควำม ๑. กำรคัดแยก กำรจัดกลุ่มและ ๑. กำรคดิ
๑๐.๑ มคี วำม
สำมำรถในกำรคิด แตกต่ำงหรือควำมเหมือนของ กำรจำแนกส่ิงต่ำงๆตำมลกั ษณะ - กำรจบั คู่
รวบยอด
ส่ิ งต่ ำ งๆ โด ยใช้ ลักษณะท่ี และรปู ร่ำง รปู ทรง - กำรเปรียบเทยี บควำม
สงั เกตพบเพียงลกั ษณะเดยี ว ๒. กำรตอ่ ของชิ้นเลก็ เติมใน เหมอื นควำมตำ่ ง
ช้ินใหญ่ให้สมบรู ณ์ และกำร
แยกช้ินส่วน
๓. กำรจับคู่ กำรเปรียบเทียบ
และกำรเรียงลำดับส่ิงต่ำงๆตำม
ลั ก ษ ณ ะ ค ว ำ ม ย ำ ว / ค ว ำ ม สู ง
น้ำหนัก ปรมิ ำตร
๔. กำรใช้ภำษำทำงคณิตศำสตร์
กบั เหตุกำรณใ์ นชวี ติ ประจำวัน
- จำแนกและจดั กลุม่ สิง่ ต่ำงๆ ๑. กำรคัดแยก กำรจดั กลุม่ ๑. กำรคดิ
โดยใชอ้ ยำ่ งนอ้ ยหน่ึงลักษณะ และกำรจำแนกส่ิงต่ำงๆตำม - กำรจำแนก
เป็นเกณฑ์ ลักษณะและรปู ร่ำง รูปทรง - กำรจัดกลมุ่ สง่ิ ของหนึง่
๒. กำรทำซ้ำ กำรต่อเตมิ และ ลักษณะ
กำรสร้ำงแบบรปู
๓. กำรรวมและกำรแยกสงิ่
ต่ำงๆ
๔.กำรใช้ภำษำทำงคณิตศำสตร์
กบั เหตุกำรณใ์ นชวี ิตประจำวนั
- เรยี งลำดับสิง่ ของหรอื ๑. กำรนับและแสดงจำนวน ๑. กำรคดิ
เหตุกำรณอ์ ยำ่ งน้อย ๔ ลำดับ ของส่ิงต่ำงๆในชีวติ ประจำวนั - กำรเรยี งลำดบั เหตุกำรณ์
๒. กำรเปรยี บเทยี บและ ๔ ลำดบั
เรยี งลำดบั จำนวนของ - จำนวนและตัวเลข
ส่งิ ต่ำง ๆ
๓. กำรบอกและแสดงอันดับที่
ของสิง่ ตำ่ ง ๆ
- เรยี งลำดบั ส่งิ ของหรอื ๔. กำรบอกและเรยี งลำดบั
เหตุกำรณ์อย่ำงนอ้ ย ๔ ลำดับ กิจกรรมหรือเหตุกำรณต์ ำม
ช่วงหรอื เวลำ
๕. กำรใช้ภำษำทำง
คณิตศำสตร์กับเหตุกำรณ์ใน
ชวี ิตประจำวัน
๖. กำรบอกและแสดง
ตำแหน่ง ทิศทำง และระยะทำง
ของส่ิงต่ำงด้วยกำ รกระทำ
ภำพวำด ภำพถำ่ ยและรปู ภำพ
๒๖
ตัวบ่งช้ี สภำพท่พี ึงประสงค์ สำระกำรเรียนรรู้ ำยปี
ชัน้ อนุบำลปที ี่ 2 (3-4 ปี ) ประสบกำรณส์ ำคัญ สำระทคี่ วรเรยี นรู้
๑๐.๒ มี - ระบสุ ำเหตหุ รอื ผลทเ่ี กิดขน้ึ ๑. กำรชั่ง ตวง วัดสงิ่ ตำ่ งๆโดย ๑. กำรแสดงควำมคดิ เห็น
ควำมสำมำรถใน ในเหตกุ ำรณห์ รอื กำรกระทำ ใช้เคร่ืองมือและหนว่ ยทไ่ี มใ่ ช่ - กำรชงั่
กำรคดิ เชิงเหตผุ ล เม่ือมีผู้ช้แี นะ หน่วยมำตรฐำน - กำรตวง
๒. กำรอธบิ ำยเช่อื มโยง - กำรวัด
สำเหตุและผลท่เี กิดขนึ้ ใน
เหตกุ ำรณห์ รือกำรกระทำ
- คำดเดำ หรอื คำดคะเนสงิ่ ท่ี ๑. กำรคำดเดำหรือกำร - กำรหำควำมสัมพันธ์ และ
อำจจะเกดิ ข้นึ หรือมสี ่วนรว่ ม คำดคะเนส่ิงที่อำจจะเกดิ ข้นึ แสดงควำมคดิ เหน็
ในกำรลงควำมเหน็ จำกข้อมลู อยำ่ งมีเหตผุ ล
๒. กำรมสี ่วนรว่ มในกำรลง
ควำมเหน็ จำกข้อมลู อยำ่ งมี
เหตผุ ล
๑๐.๓ มี - ตัดสนิ ใจในเร่ืองงำ่ ยๆ และ ๑. กำรตดั สนิ ใจและมสี ว่ นร่วม ๑. กำรตดั สินใจสิ่งต่ำงๆ
ควำมสำมำรถใน เรมิ่ เรียนรู้ผลทเ่ี กิดข้นึ ในกระบวนกำรแกป้ ัญหำ ดว้ ยตนเอง
กำรคดิ แก้ปญั หำ ๒. กำรอธิบำยเชอื่ มโยง
และตดั สินใจ สำเหตุและผลทเี่ กดิ ข้นึ ใน
เหตุกำรณ์หรอื กำรกระทำ
๑๑.๑ เล่น/ทำงำน - สร้ำงผลงำนศลิ ปะเพื่อ ๑. กำรสังเกตลกั ษณะ กำรทำงำนศิลปะ
ศิ ล ป ะ ต ำ ม สื่อสำรควำมคดิ ควำมรสู้ กึ ของ ส่วนประกอบ กำรเปลี่ยนแปลง - วิธีกำรใชเ้ ครื่องมอื
จนิ ตนำกำรและ ตนเองโดยมีกำรดดั แปลงและ และควำมสัมพนั ธข์ องส่งิ ตำ่ งๆ เครอื่ งใชใ้ นกำรทำงำนศิลปะ
ควำมคิดสร้ำงสรรค์ แปลกใหมจ่ ำกเดิมหรอื มี โดยใช้ประสำทสมั ผัสอย่ำง อย่ำงถูกวิธีและปลอดภยั
รำยละเอยี ดเพ่ิมขน้ึ เหมำะสม
๒. กำรสงั เกตสง่ิ ต่ำงๆ และ
สถำนทจ่ี ำกมุมมองทต่ี ำ่ งกนั
๓. กำรเล่นกบั สือ่ ตำ่ งๆ ทเี่ ป็น
ทรงกลม ทรงสเ่ี หลี่ยมมมุ ฉำก
ทรงกระบอก ทรงกรวย
๔. กำรใช้ภำษำทำงคณิตศำสตร์
กบั เหตุกำรณใ์ นชวี ติ ประจำวัน
๑๑.๒ แสดงทำ่ ทำง/ - เคล่ือนไหวทำ่ ทำงเพือ่ สอื่ สำร ๑. กำรเคลอ่ื นไหวอยู่กับท่ี ๑. กำรเคลอ่ื นไหวรำ่ งกำยใน
เ ค ลื่ อ น ไ ห ว ต ำ ม ควำมคิด ควำมรู้สกึ ของตนเอง ๒. กำรเคล่อื นไหวเคล่ือนท่ี ทศิ ทำงระดับและพ้ืนทีต่ ่ำงๆ
จินตนำกำรอย่ำง อยำ่ งหลำกหลำยหรือแปลก ๓. กำรเคลื่อนไหวพร้อมวัสดุ- ๒. กำรแสดงท่ำทำงอย่ำง
สรำ้ งสรรค์ ใหม่ อุปกรณ์ อสิ ระ
๔. กำรแสดงควำมคดิ
สร้ำงสรรค์ผ่ำนภำษำท่ำทำงกำร
เคลือ่ นไหวและศิลปะ
๕. กำรเคลื่อนไหวโดยควบคุม
ตนเองไปในทิศทำง ระดับและ
พน้ื ท่ี
๖. กำรเคลื่อนไหวตำม
เสียงเพลง/ดนตรี
๒๗
ตวั บ่งชี้ สภำพทพี่ ึงประสงค์ สำระกำรเรียนรรู้ ำยปี
ชั้นอนบุ ำลปีท่ี 2 (3-4 ปี )
๑๒.๑ มีเจตคติที่ดี ประสบกำรณส์ ำคญั สำระที่ควรเรยี นรู้
ตอ่ กำรเรียนรู้ - สนใจซักถำมเกยี่ วกับ
สญั ลกั ษณห์ รอื ตัวหนงั สือทพ่ี บ ๗. กำรฟังเพลง กำรร้องเพลง
๑๒.๒ มี เห็น
ควำมสำมำรถใน - กระตอื รอื ร้นในกำรเขำ้ รว่ ม และกำรแสดงปฏิกิริยำโต้ตอบ
กำรแสวงหำควำมรู้ กจิ กรรม
เสยี งดนตรี
- ค้นหำคำตอบของขอ้ สงสัย
ตำ่ งๆ ตำมวธิ กี ำรของตนเอง ๑. กำรสำรวจสิง่ ต่ำงๆ และ - ควำมรู้พ้ืนฐำนเก่ยี วกับกำรใช้
- ใช้ประโยคคำถำมวำ่ “ท่ี แหลง่ เรียนรูร้ อบตัว หนังสอื และตัวหนงั สอื
ไหน” “ทำไม” ในกำรคน้ หำ
คำตอบ ๒. กำรต้งั คำถำมในเร่อื งที่
สนใจ
๑. กำรให้ควำมรว่ มมือในกำร ๑.กำรแสดงออกทำงอำรมณ์
ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมต่ำงๆ และควำมรู้สกึ อยำ่ ง เหมำะสม
๒. กำรตง้ั คำถำมในเร่ืองท่ี ๒. ควำมสนใจในกำรทำ
สนใจ กจิ กรรม
๓. กำรมสี ่วนร่วมในกำร
รวบรวมข้อมลู และนำเสนอ
ขอ้ มลู จำกกำรสืบเสำะหำ
ควำมรใู้ นรูปแบบต่ำงๆและ
แผนภูมิอยำ่ งง่ำย
๑. กำรสำรวจสิง่ ตำ่ งๆ และ - กำรเรยี นรทู้ จ่ี ะเลน่ และทำส่ิง
แหลง่ เรียนรู้รอบตวั ต่ำงๆ
๒. กำรตง้ั คำถำมในเร่อื งท่ี
สนใจ
๓. กำรสืบเสำะหำควำมรเู้ พื่อ
ค้นหำคำตอบของข้อสงสยั ต่ำงๆ
๔. กำรมสี ่วนรว่ มในกำร
รวบรวมข้อมลู และนำเสนอ
ข้อมลู จำกกำรสบื เสำะหำ
ควำมร้ใู นรปู แบบตำ่ งๆและ
แผนภูมอิ ยำ่ งง่ำย
๑. กำรตั้งคำถำมในเรื่องที่ - กำรสนใจซกั ถำมคำถำม
สนใจ เพือ่ คน้ หำคำตอบ
๒. กำรสบื เสำะหำควำมรเู้ พื่อ
ค้นหำคำตอบของขอ้ สงสยั ตำ่ งๆ
๒๘
ตำรำงวิเครำะหส์ ำระกำรเรียนรู้รำยปี ชว่ งอำยุ 5-6 ปี
1. พฒั นำกำรดำ้ นร่ำงกำย
มำตรฐำนท่ี 1 ร่ำงกำยเจรญิ เตบิ โตตำมวัยเดก็ มสี ุขนิสัยทีด่ ี
ตัวบ่งช้ี สภำพทพ่ี งึ ประสงค์ สำระกำรเรียนรรู้ ำยปี
๑.๑ มนี ำ้ หนักและ ช้นั อนบุ ำลปีท่ี 3 (5-6ปี )
สว่ นสงู ตำมเกณฑ์ - น้ำหนกั และสว่ นสงู ตำม ประสบกำรณส์ ำคญั สำระทีค่ วรเรียนรู้
๑.๒ มสี ุขภำพ เกณฑข์ องกรมอนำมัย
อนำมยั สุขนิสยั - รับประทำนอำหำรท่ีมี ๑.กำรปฏิบตั ติ นตำมสขุ อนำมัย กำรปฏิบตั กิ จิ วตั รประจำวัน
ทดี่ ี ประโยชนไ์ ด้หลำยชนิดและ
ดมื่ นำ้ สะอำดได้ด้วยตนเอง สุขนิสัยที่ดีในกจิ วตั รประจำวนั - กำรเจริญเติบโตของรำ่ งกำย
๑.๒ มสี ขุ ภำพ
อนำมยั สขุ นิสยั - ล้ำงมือก่อนรับประทำน ๑.กำรปฏิบตั ติ นตำมสขุ อนำมยั กำรปฏบิ ตั กิ จิ วตั รประจำวัน
ท่ดี ี อำหำรและหลงั จำกใช้
ห้องนำ้ หอ้ งสว้ มดว้ ยตนเอง สุขนิสยั ทีด่ ใี นกิจวตั รประจำวัน ๑. อำหำรที่มีประโยชน์และไม่มี
- ลำ้ งหน้ำและแปรงฟันถกู ๒. กำรประกอบอำหำรไทย ประโยชน์
วิธหี ลงั รับประทำนอำหำร
ดว้ ยตนเอง ๒. อำหำรหลัก๕ หมู่
- นอนพักผอ่ นเปน็ เวลำ ๓. กำรมเี จตคติท่ดี ตี อ่ กำร
- ออกกำลงั กำยเปน็ เวลำ
รับประทำนอำหำรทมี่ ีประโยชน์
๑.กำรปฏิบตั ติ นตำมสุขอนำมยั กำรปฏบิ ัตกิ จิ วัตรประจำวัน
สขุ นิสัยทดี่ ีในกิจวตั รประจำวัน ๑. อวยั วะตำ่ งๆของรำ่ งกำยและ
๒. กำรช่วยเหลอื ตนเองในกำร กำรรักษำควำมปลอดภัย
ปฏิบัตกิ ิจกวตั รประจำวัน ๒. วิธีรักษำรำ่ งกำยใหส้ ะอำด
๓. กำรปฏบิ ัตติ นให้ปลอดภัยใน และมสี ขุ อนำมัยทีด่ ี
กจิ วตั รประจำวนั
๔. กำรฟงั นิทำน เร่อื งรำว
เหตกุ ำรณ์เกย่ี วกับกำรปอ้ งกนั
และรักษำควำมปลอดภยั
๑.กำรปฏิบตั ติ นตำมสุขอนำมัย กำรปฏิบัตกิ จิ วตั รประจำวนั
สขุ นิสัยทีด่ ใี นกิจวตั รประจำวัน
๒. กำรชว่ ยเหลอื ตนเองในกำร กำรปฏบิ ัติกจิ วัตรประจำวัน
ปฏิบัติกจิ วตั รประจำวนั ๑. อวยั วะตำ่ งๆของรำ่ งกำยและ
๓. กำรปฏิบตั ติ นใหป้ ลอดภยั ใน กำรรักษำควำมปลอดภัย
กิจวตั รประจำวนั ๒. วิธีรักษำรำ่ งกำยใหส้ ะอำด
๔. กำรฟังนทิ ำน เร่อื งรำว และมสี ุขอนำมยั ทดี่ ี
เหตกุ ำรณเ์ กย่ี วกบั กำรปอู งกนั
และรักษำควำมปลอดภยั
- กำรปฏิบตั ิตนตำมสขุ อนำมัย -ประโยชนข์ องกำร
สุขนิสยั ที่ดีในกิจวตั รประจำวัน นอนหลบั พกั ผ่อน
๑. กำรเลน่ อิสระ ๑. ประโยชน์ของกำรออกกำลงั
๒. กำรเคลอื่ นไหวขำ้ มสงิ่ กดี กำย
ขวำง ๒. กำรเล่นเครื่องเล่นสนำม
๓. กำรเลน่ เคร่ืองเล่นอยำ่ ง อย่ำงถกู วธิ ี
ปลอดภยั
๔. กำรละเลน่ พ้ืนบำ้ นไทย
๕. กำรเลน่ นอกหอ้ งเรยี น
๖. กำรเลน่ เครื่องเล่นสนำม
อยำ่ งอสิ ระ
๒๙
ตวั บ่งชี้ สภำพที่พงึ ประสงค์ สำระกำรเรียนรรู้ ำยปี
ช้ันอนุบำลปีที่ 3 (5-6ปี ) ประสบกำรณส์ ำคัญ สำระท่คี วรเรยี นรู้
๑.๓ รกั ษำควำม -เลน่ และทำกิจกรรมร่วมกบั ๑.กำรปฏบิ ัตติ นให้ปลอดภยั ใน ๑. กำรรกั ษำควำมปลอดภยั ของ
ปลอดภยั ของตนเอง ผู้อนื่ ดว้ ยควำมระมดั ระวัง กจิ วัตรประจำวัน ตนเองและกำรปฏบิ ตั ิต่อผู้อ่ืน
และผอู้ น่ื อยำ่ งปลอดภยั ๒. กำรฟังนทิ ำน เรอื่ งรำว อย่ำงปลอดภัยในชีวติ ประจำวนั
เหตุกำรณเ์ กย่ี วกบั กำรปูองกนั ๒. กำรปฏิบตั ิตนอยำ่ งเหมำะสม
และรกั ษำควำมปลอดภัย เม่อื เจบ็ ปว่ ย
๓. กำรเลน่ บทบำทสมมตุ ิ ๓. กำรระวังภัยจำกคนแปลก
เหตกุ ำรณต์ ำ่ งๆ หนำ้ และอบุ ตั ิภัยต่ำงๆ
๔. กำรพูดกับผูอ้ น่ื เก่ยี วกบั
ประสบกำรณข์ องตนเองหรือพูด
เร่ืองรำวเกี่ยวกบั ตนเอง
๕. กำรเล่นเคร่ืองเลน่ อยำ่ ง
ปลอดภยั
๖. กำรเลน่ และทำงำนร่วมกบั
ผอู้ น่ื
มำตรฐำนท่ี ๒ กล้ำมเนื้อใหญ่และกลำ้ มเนอื้ เล็กแข็งแรงใชไ้ ดอ้ ยำ่ งคล่องแคล่วและประสำนสมั พนั ธ์กัน
ตัวบง่ ช้ี สภำพท่พี ึงประสงค์ สำระกำรเรียนรรู้ ำยปี
ชัน้ อนบุ ำลปีที่ 3 (5-6 ปี )
๒.๑ เคลอ่ื นไหว ประสบกำรณส์ ำคัญ สำระที่ควรเรยี นรู้
ร่ำงกำยอย่ำง - เดินตอ่ เทำ้ ถอยหลงั เป็น
คลอ่ งแคลว่ เสน้ ตรงได้อยำ่ งคลอ่ งแคลว่ ๑. กำรเคลอื่ นไหวอยูก่ บั ที่ ๑. กำรออกกำลังกำย
ประสำนสัมพนั ธ์ - กระโดดขำเดียว ไป ๒. กำรเคลอ่ื นไหวเคล่ือนที่ ๒. กำรเคลือ่ นไหวร่ำงกำย
และทรงตัวได้ ขำ้ งหนำ้ ได้อยำ่ งตอ่ เน่อื งโดย ๓. กำรเคลอ่ื นไหวพร้อมอปุ กรณ์
ไมเ่ สยี กำรทรงตวั ๔. กำรเคลอ่ื นไหวทใ่ี ชก้ ำร
- ว่ิงหลบหลีกสง่ิ กดี ขวำงได้ ประสำน
อย่ำงคลอ่ งแคล่ว สัมพนั ธข์ องกลำ้ มเนื้อใหญใ่ น
- โยนรับลกู บอลทกี่ ระดอน กำรขวำ้ ง
ขน้ึ จำกพื้นโดยใช้มือทัง้ ๒ กำรจับ กำรโยน กำรเตะ
ขำ้ งได้ ๕. กำรเล่นเครือ่ งเล่นสนำม
อยำ่ งอิสระ
๖. กำรเคลอ่ื นไหวขำ้ มสง่ิ กีด
ขวำง
๗. กำรเคลื่อนไหวโดยควบคุม
ตนเองไป
ในทิศทำง ระดบั และพ้ืนท่ี
๓๐
ตวั บ่งชี้ สภำพที่พึงประสงค์ สำระกำรเรียนรรู้ ำยปี
ช้ันอนบุ ำลปีท่ี 3 (5-6 ปี )
ประสบกำรณส์ ำคัญ สำระท่ีควรเรียนรู้
๒.๒ ใชม้ อื -ตำ - ใช้กรรไกรตัดกระดำษ ๑. กำรเล่นเคร่ืองเล่นสัมผัส ๑. กำรเล่นและกำรทำงำน
ประสำนสมั พนั ธ์ ตำมแนวเส้นโค้งได้ และกำรสรำ้ งสิง่ ต่ำงๆจำกแท่ง ร่วมกบั ผู้อ่นื
กนั - เขียนรูปสำมเหล่ียม ไมบ้ ล็อก ๒. กำรทำงำนศิลปะ
ตำม ๒.กำรเขียนภำพและกำรเล่น
กับสี
- รอ้ ยวสั ดทุ ่ีมรี ขู นำดเสน้ ๓. กำรประดิษฐ์ส่ิงต่ำงๆด้วย
ผ่ำนศนู ย์กลำง๐.๒๕ ซม. เศษวสั ดุ
ได้ ๔. กำรหยิบจับ กำรใชก้ รรไกร
กำรฉีก กำรตัด กำรปะ กำร
รอ้ ยวสั ดุ
2. พัฒนำกำรดำ้ นอำรมณ์ จติ ใจ
มำตรฐำนที่ 3 มีสขุ ภำพจติ ดีและมีควำมสุข
ตัวบง่ ช้ี สภำพที่พงึ ประสงค์ สำระกำรเรียนรรู้ ำยปี
ชน้ั อนบุ ำลปีท่ี 3 (5-6 ปี ) ประสบกำรณส์ ำคัญ สำระที่ควรเรยี นรู้
๓.๑ แสดงออก - แสดงอำรมณ์ ควำมรสู้ ึกได้ ๑. กำรพูดสะท้อนควำมรู้สึกของ - กำรแสดงทำงอำรมณแ์ ละ
ทำงอำรมณ์ สอดคล้องกบั สถำนกำรณ์ ตนเองและผ้อู ืน่ ควำมรสู้ ึกอยำ่ งเหมำะสมกบั
อย่ำงเหมำะสม สถำนกำรณ์
อย่ำงเหมำะสม ๒. กำรเลน่ บทบำทสมมตุ ิ
๓.๒ มีควำมรู้สกึ - กลำ้ พูดกล้ำแสดงออก ๓. กำรเคลื่อนไหวตำมเสียงเพลง - กำรรจู้ ักแสดงควำมคิดเห็น
ท่ดี ีต่อตนเอง อย่ำงเหมำะสมตำม ดนตรี อย่ำงเหมำะสมกับสถำนกำรณ์
และผอู้ ่ืน สถำนกำรณ์ ๔. กำรร้องเพลง
๕. กำรทำงำนศลิ ปะ - กำรประสบควำมสำเร็จในส่งิ
- แสดงควำมพอใจในผลงำน ตำ่ งๆทที่ ำดว้ ยตนเอง
และควำมสำมำรถของ
ตนเองและผอู้ ่ืน
มำตรฐำนท่ี ๔ ช่ืนชมและแสดงออกทำงศลิ ปะ ดนตรี และกำรเคลอ่ื นไหว
ตัวบง่ ช้ี สภำพท่ีพึงประสงค์ สำระกำรเรียนรรู้ ำยปี
ชน้ั อนุบำลปีท่ี 3 (5-6 ปี ) ประสบกำรณส์ ำคญั สำระทค่ี วรเรยี นรู้
๔.๑ สนใจและมี - สนใจและมคี วำมสขุ และ ๑. กำรทำกิจกรรมศลิ ปะต่ำงๆ - กำรทำกจิ กรรมศลิ ปะ
ค ว ำ ม สุ ข แ ล ะ แสดงออกผำ่ นงำนศิลปะ ๒. กำรสรำ้ งสรรคส์ ง่ิ สวยงำม สรำ้ งสรรค์
แสดงออกผำ่ น ๓. กำรรบั รู้และแสดงควำมคดิ
งำนศิลปะดนตรแี ละ ควำมรสู้ กึ ผำ่ นส่อื วัสดุ ของเลน่
กำร และชิน้ งำน
เคลื่อนไหว ๔. กำรปฏิบัติกิจกรรมตำ่ งๆ ตำม
ควำมสำมำรถของตนเอง
๓๑
ตัวบง่ ช้ี สภำพที่พึงประสงค์ สำระกำรเรียนรรู้ ำยปี
ชน้ั อนบุ ำลปที ี่ 3 (5-6 ปี )
ประสบกำรณส์ ำคัญ สำระทคี่ วรเรียนรู้
- สนใจ มคี วำมสขุ และ ๑. กำรฟงั เพลง กำรร้องเพลง และ - กำรฟงั กำรร้องเพลง
แสดงออกผำ่ นเสยี งเพลง กำรแสดงปฏิกิรยิ ำโตต้ อบ
ดนตรี เสียงดนตรี
๒. กำรเล่นเครอ่ื งดนตรปี ระกอบ
จังหวะ
๔. กำรปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตำ่ งๆ ตำม
ควำมสำมำรถของตนเอง
- สนใจ มีควำมสขุ และแสดง ๑. กำรฟงั เพลง กำรร้องเพลง และ - กำรแสดงท่ำทำงเคลอ่ื นไหว
ท่ำทำง/เคล่ือนไหวประกอบ กำรแสดงปฏิกิริยำโตต้ อบ ประกอบเพลง จังหวะและดนตรี
เพลง จังหวะและ ดนตรี เสียงดนตรี
๒. กำรเคลื่อนไหวตำมเสยี งเพลง
ดนตรี
๔. กำรปฏิบัตกิ ิจกรรมตำ่ งๆ ตำม
ควำมสำมำรถของตนเอง
๕. กำรเลน่ เครอ่ื งดนตรีประกอบ
จงั หวะ
มำตรฐำนท่ี ๕ มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรมและมีจิตใจที่ดงี ำม
ตัวบ่งชี้ สภำพท่ีพงึ ประสงค์ สำระกำรเรยี นรรู้ ำยปี
๕.๑ ซ่อื สัตยส์ จุ รติ ช้ันอนุบำลปที ี่ 3 (5-6 ปี )
ประสบกำรณส์ ำคญั สำระทค่ี วรเรยี นรู้
- ขออนุญำตหรอื รอคอยเมื่อ
ต้องกำรส่ิงของของผูอ้ ื่นด้วย ๑. ปฏบิ ตั ติ นเป็นสมำชกิ ทีด่ ีของ ๑. คณุ ธรรมจริยธรรม
ตนเอง
ห้องเรียน - ควำมซอ่ื สัตย์ สจุ รติ
๒. กำรฟงั นทิ ำนเกี่ยวกบั คณุ ธรรม - ควำมเกรงใจ
จรยิ ธรรม ๒. กำรเคำรพสิทธขิ องตนเอง
๓. กำรร่วมสนทนำและ และผู้อืน่
แลกเปลยี่ นควำมคดิ เห็นเชิง
จริยธรรม
๔. เล่นบทบำทสมมุติ
๕. กำรเล่นและทำงำนร่วมกับผ้อู นื่
๖. กำรปฏิบตั ิตนตำมหลักศำสนำ
ท่ีนบั ถอื
๓๒
ตวั บง่ ช้ี สภำพที่พึงประสงค์ สำระกำรเรยี นรรู้ ำยปี
๕.๒ มคี วำมเมตตำ ชัน้ อนบุ ำลปีท่ี 3 (5-6 ปี )
กรณุ ำ มีน้ำใจและ ประสบกำรณส์ ำคัญ สำระทคี่ วรเรียนรู้
ช่วยเหลอื แบ่งปนั
- แสดงควำมรักเพือ่ นและมี ๑. กำรฟงั นทิ ำนเก่ียวกบั คณุ ธรรม ๑. คุณธรรมจรยิ ธรรม
๕.๓ มคี วำมเห็นอก เมตตำสตั วเ์ ลย้ี ง จรยิ ธรรม - ควำมเมตตำกรณุ ำ
เหน็ ใจผ้อู ืน่ ๒. เลน่ บทบำทสมมุติ - ควำมมนี ำ้ ใจเออ้ื เฟื้อเผือ่ แผ่
- ช่วยเหลือและแบง่ ปันผ้อู ่นื ๓. กำรเล้ยี งสตั ว์
๕.๔ มคี วำม ได้ดว้ ยตนเอง ๑. คณุ ธรรมจริยธรรม
รบั ผดิ ชอบ ๑. กำรฟงั นทิ ำนเกย่ี วกบั คณุ ธรรม - ควำมมนี ำ้ ใจ ชว่ ยเหลือ
- แสดงสหี นำ้ หรือท่ำทำง จรยิ ธรรม แบ่งปนั
รบั รคู้ วำมรสู้ ึกผ้อู ่ืนอย่ำง ๒. เลน่ บทบำทสมมุติ - ควำมกตัญญู
สอดคล้องกบสถำนกำรณ์ ๓. ปฏิบตั ติ นเป็นสมำชิกทีด่ ีของ - ควำมมีนำ้ ใจเอือ้ เฟ้อื เผอ่ื แผ่
ห้องเรยี น
- ทำงำนท่ไี ด้รับมอบหมำย ๔. กำรเล่นรำยบคุ คล กลมุ่ ยอ่ ย ๑. คุณธรรมจรยิ ธรรม
จนสำเร็จดว้ ยตนเอง และกลมุ่ ใหญ่ - ควำมเห็นอกเห็นใจผ้อู ่นื
๕. กำรเล่นตำมมุประสบกำรณ์/ - ควำมมีน้ำใจเออื้ เฟอ้ื เผ่ือแผ่
มุมเล่นต่ำงๆ
๑. คุณธรรมจรยิ ธรรม
๑. กำรเลน่ และทำงำนรว่ มกบั ผอู้ น่ื - ควำมรบั ผดิ ชอบ
๒. กำรเล่นบทบำทสมมุติ - ควำมอดทน มงุ่ ม่นั
๓. กำรแสดงควำมยินดเี ม่อื ผู้อืน่ มี - ควำมเพียร
ควำมสุข เห็นใจเมื่อผู้อ่ืนเศรำ้ หรอื
เสียใจและกำรชว่ ยเหลอื
ปลอบโยนเมื่อผ้อู นื่
ได้รบั บำดเจบ็
๑. กำรทำกิจกรรมศลิ ปะตำ่ งๆ
๒. กำรดูแลหอ้ งเรยี นรว่ มกัน
๓. กำรมสี ่วนร่วมรบั ผิดชอบ ดูแล
รกั ษำสง่ิ แวดล้อมทัง้ ภำยในและ
ภำยนอกหอ้ งเรยี น
๔. กำรร่วมกำหนดข้อตกลงของ
ห้องเรยี น
๓๓
๓.พัฒนำกำรด้ำนสงั คม
มำตรฐำนท่ี ๖ มีทักษะชีวิตและปฏบิ ตั ิตนตำมหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียง
ตวั บ่งชี้ สภำพทพี่ ึงประสงค์ สำระกำรเรยี นรรู้ ำยปี
ชน้ั อนุบำลปีท่ี 3 (5-6 ปี ) ประสบกำรณ์สำคญั สำระท่คี วรเรยี นรู้
๖.๑ ช่วยเหลือ - แต่งตัวดว้ ยตนเองได้อย่ำง ๑. กำรช่วยเหลือตนเองในกจิ วัตร ๑. กำรช่วยเหลอื ตนเอง
ตนเองในกำร ๒. มำรยำทในกำรรบั ประทำน
ปฏบิ ัติกจิ วตั ร คลอ่ งแคล่ว ประจำวัน
ประจำวนั
- รับประทำนอำหำรด้วย ๒. กำรให้ควำมรว่ มมอื ในกำร
ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่ำงๆ
ตนเองอยำ่ งถูกวธิ ี
- ใชแ้ ละทำควำมสะอำดหลัง ๓. กำรปฏบิ ตั ิกิจกรรมตำ่ งๆตำม
ใชห้ อ้ งนำ้ หอ้ งส้วมด้วย ควำมสำมำรถของตนเอง
ตนเอง
๖.๒ มีวนิ ยั ในตนเอง - เกบ็ ของเล่นของใช้เขำ้ ท่ี ๑. กำรรว่ มกำหนดข้อตกลงของ ๑. กำรเลน่ และกำรเก็บส่ิงของ
อยำ่ งเรยี บร้อยดว้ ยตนเอง ห้องเรียน อยำ่ งถูกวิธี
๒. กำรปฏิบตั ิตนเป็นสมำชกิ ที่ดี
- เขำ้ แถวตำมลำดับ ของหอ้ งเรยี น ๑. กำรรอคอยตำมลำดบั
กอ่ นหลงั ไดด้ ้วยตนเอง ๓. กำรให้ควำมรว่ มมือในกำร กอ่ นหลัง
ปฏิบัตกิ จิ กรรมตำ่ งๆ ๒. กำรเขำ้ แถว
๔. กำรดูแลห้องเรยี นร่วมกัน
๖.๓ ประหยดั - ใช้สงิ่ ของเครอ่ื งใช้อยำ่ ง ๑. กำรปฏบิ ัตติ นตำมแนวทำงหลกั - กำรเลอื กใช้สิ่งของเครอ่ื งใช้นำ้
และพอเพยี ง ประหยดั และพอเพยี งดว้ ย ปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียง ไฟอย่ำงประหยัด
ตนเอง ๒. กำรใช้วัสดแุ ละสง่ิ
ของเครือ่ งใช้อยำ่ งคุ้มค่ำ
มำตรฐำนท่ี ๗ รกั ธรรมชำติ สงิ่ แวดล้อม วัฒนธรรม และควำมเป็นไทย
ตวั บ่งช้ี สภำพท่พี งึ ประสงค์ สำระกำรเรียนรรู้ ำยปี
ช้นั อนบุ ำลปีท่ี 3 (5-6ปี )
ประสบกำรณส์ ำคญั สำระท่คี วรเรยี นรู้
๗ . ๑ ดู แ ล รั ก ษ ำ - มี ส่ วนร่ วม ในกำ ร ดู แ ล ๑. กำรมสี ่วนรว่ มในกำรดูแล ๑. สงิ่ แวดล้อมในโรงเรียนและ
กำรดแู ลรกั ษำ
ธ ร ร ม ช ำ ติ แ ล ะ รั ก ษ ำ ธ ร ร ม ช ำ ติ แ ล ะ รกั ษำสิง่ แวดลอ้ มทงั้ ภำยในและ ๒. สง่ิ แวดล้อมตำมธรรมชำติ
และกำรอนุรกั ษส์ ่ิงแวดล้อม
สงิ่ แวดลอ้ ม ส่งิ แวดล้อมดว้ ยตนเอง ภำยนอกหอ้ งเรียน ๓. กำรรักษำสำธำรณสมบัติใน
หอ้ งเรยี น
๒.กำรสนทนำข่ำวและ เหตกุ ำรณ์
ทเ่ี ก่ยี วกบั ธรรมชำติ และ
ส่งิ แวดล้อมในชีวติ ประจำวัน
๓. กำรเพำะปลกู และดูแลต้นไม้
๔. กำรอธิบำยเช่อื มโยงสำเหตุ
และผลท่เี กดิ ขึ้นในเหตุกำรณ์หรือ
กำรกระทำ
๕. กำรตดั สนิ ใจและมีสว่ นรว่ มใน
กระบวนกำรแกป้ ญั หำ
๓๔
ตัวบง่ ชี้ สภำพทีพ่ งึ ประสงค์ สำระกำรเรยี นรรู้ ำยปี
ช้ันอนุบำลปีท่ี 3 (5-6ปี ) ประสบกำรณส์ ำคญั สำระทคี่ วรเรียนรู้
๗ . ๑ ดู แ ล รั ก ษ ำ - ทิ้งขยะได้ถูกที่ ๑. กำรคดั แยก กำรจดั กลมุ่ และ ๑. ขยะและกำรคดั แยกขยะ
ธ ร ร ม ช ำ ติ แ ล ะ จำแนกส่ิงต่ำงๆตำมลักษณะและ ๒. กำรดูแลรักษำสง่ิ แวดล้อม
สิ่งแวดลอ้ ม รูปรำ่ ง รปู ทรง
๒. กำรใช้วสั ดุและส่ิงของเครอ่ื งใช้
อย่ำงค้มุ ค่ำ
๓. กำรทำงำนศลิ ปะทีน่ ำวสั ดหุ รือ
ส่งิ ของ
เครือ่ งใชท้ ่ใี ช้แลว้ มำใช้ซ้ำหรอื แปร
รปู
แลว้ นำกลับมำใชใ้ หม่
๔. กำรสรำ้ งสรรค์ชิ้นงำนโดยใช้
รูปร่ำงรปู ทรงจำกวสั ดุที่
หลำกหลำย
๕. กำรปฏิบตั ติ นเป็นสมำชิกทีด่ ี
ของหอ้ งเรียน
๗.๒ มมี ำรยำทตำม -ปฏิบัติตนตำมมำรยำทไทย ๑. กำรปฏบิ ตั ติ นตำมวฒั นธรรม ๑. กำรปฏิบตั ิตนตำมมำรยำท
วฒั นธรรมไทยและ ได้ ตำมกำลเทศะ ท้องถ่ินทอี่ ำศัยและประเพณไี ทย และวัฒนธรรมไทย
รัก ๒. กำรเล่นบทบำทสมมตุ ิกำร - กำรแสดงควำมเคำรพ
ควำมเป็นไทย ปฏบิ ัตติ นในควำมเป็นคนไทย -กำรพูดสภุ ำพ
- กำรกล่ำวคำขอบคณุ และขอ
โทษ
มำตรฐำนท่ี ๘ อยูร่ ่วมกบั ผู้อื่นได้อยำ่ งมีควำมสขุ และปฏิบตั ิตนเปน็ สมำชิกทด่ี ีของสงั คมใน
ระบอบประชำธปิ ไตยอันมีพระมหำกษตั ริย์ทรงเป็นประมุข
ตัวบง่ ช้ี สภำพทพ่ี ึงประสงค์ สำระกำรเรยี นรรู้ ำยปี
ช้นั อนบุ ำลปที ี่ 3 (5-6 ปี )
๘.๑ ยอมรับควำม - เล่นและทำกิจกรรม ประสบกำรณส์ ำคัญ สำระทีค่ วรเรยี นรู้
เหมอื นและควำม ร่วมกบั เดก็ ทแี่ ตกตำ่ งไป
แตกต่ำงระหวำ่ ง จำกตน ๑.กำรเลน่ และทำงำนรว่ มกบั ผอู้ ื่น ๑. กำรเล่นและกำรทำกจิ กรรม
บคุ คล
๘.๒ มปี ฏิสมั พนั ธท์ ี่ - เลน่ หรือทำงำนรว่ มกบั ๒. กำรเล่นพ้ืนบ้ำนของไทย รว่ มกบั ผอู้ น่ื
ดีกับผูอ้ ื่น เพื่อนอย่ำงมีเปำ้ หมำย
- ยิม้ หรอื ทักทำยหรอื พูดคยุ ๓. กำรศึกษำนอกสถำนท่ี ๒. กำรปฏบิ ัตติ ำมวัฒนธรรม
กับผ้ใู หญแ่ ละบคุ คลท่ี
ค้นุ เคยได้เหมำะสมกับ ๔. กำรเลน่ และทำกจิ กรรมร่วมกับ ท้องถนิ่ และควำมเป็นไทย
สถำนกำรณ์
กลุ่มเพอ่ื น
๕. กำรทำศลิ ปะแบบร่วมมือ
๖. กำรรว่ มสนทนำและ
แลกเปลยี่ น
ควำมคดิ เหน็
๗. กำรเล่นรำยบุคคล กลุ่มย่อย
และกลมุ่ ใหญ่
๓๕
ตวั บ่งช้ี สภำพทีพ่ งึ ประสงค์ สำระกำรเรียนรรู้ ำยปี
ชัน้ อนบุ ำลปที ี่ 3 (5-6 ปี ) ประสบกำรณส์ ำคัญ สำระทีค่ วรเรยี นรู้
๘ . ๓ ป ฏิ บั ติ ต น - มสี ่วนรว่ มสรำ้ งขอ้ ตกลง ๑. กำรรว่ มกำหนดขอ้ ตกลงของ ๑. กำรปฏิบัติตำมกฎระเบยี บ
เบอื้ งตน้ ในกำร และปฏบิ ตั ติ ำมข้อตกลง ห้องเรียน และข้อตกลง
เป็นสมำชิกท่ีดีของ ดว้ ยตนเอง ๒.กำรปฏิบัตติ นเป็นสมำชกิ ที่ดี - ผ้นู ำผูต้ ำม
สงั คม - ปฏิบัติตนเป็นผู้นำและ ของห้องเรยี น ๒. กำรแสดงออกทำงอำรมณ์
ผูต้ ำมไดเ้ หมำะสมกับ ๓. กำรใหค้ วำมร่วมมอื ในกำร และควำมรสู้ ึกอยำ่ งเหมำะสม
ปฏบิ ัติกจิ กรรมต่ำงๆ ๓. กำรแสดงมำรยำททด่ี ี
สถำนกำรณ์ ๔. กำรร่วมกิจกรรมวันสำคญั
๕. กำรมสี ว่ นรว่ มในกำรเลอื ก
- ประนีประนอมแก้ไข วธิ กี ำรแก้ปัญหำ
ปัญหำโดยปรำศจำกกำร
ใ ช้ ค ว ำ ม รุ น แ ร ง ด้ ว ย ๖. กำรมสี ว่ นร่วมในกำรแกป้ ญั หำ
ตนเอง ควำมขัดแยง้
๔. ด้ำนสตปิ ัญญำ
มำตรฐำนท่ี ๙ ใช้ภำษำสอื่ สำรได้เหมำะสมกับวยั
ตวั บ่งช้ี สภำพที่พึงประสงค์ สำระกำรเรียนรรู้ ำยปี
ช้นั อนบุ ำลปีท่ี 3 (5-6 ปี ) ประสบกำรณส์ ำคัญ สำระทีค่ วรเรยี นรู้
๙.๑ สนทนำโต้ตอบ - ฟงั ผู้อืน่ พดู จนจบและ ๑. กำรฟงั เสยี งต่ำงๆในส่งิ แวดลอ้ ม มำรยำทในกำรฟัง
และเล่ำเรื่องให้ผู้อ่ืน สนทนำโตต้ อบอย่ำงต่อเน่ือง ๒ . ก ำ ร ฟั ง แ ล ะ ป ฏิ บั ติ ต ำ ม - กำรรบั ฟงั
เขำ้ ใจ เชอ่ื มโยงกับเร่ืองที่ คำแนะนำ - กำรสนทนำเชื่อมโยงสงิ่ ต่ำงๆ
ฟงั ๓. กำรฟังเพลง นทิ ำน
คำคล้องจอง บทร้อยกรอง หรือ
เร่ืองรำวต่ำงๆ
๔. กำรเลน่ เกมทำงภำษำ
- เลำ่ เปน็ เรื่องรำวต่อเน่อื ง ๑. กำรพูดแสดงควำมคดิ ๑. กำรใช้ภำษำในกำรส่อื
ได้ ควำมรสู้ กึ และควำมตอ้ งกำร ควำมหมำยในชวี ิตประจำวัน
๒. กำรพูดเก่ยี วกับประสบกำรณ์ ควำมรพู้ ้ืนฐำนเกยี่ วกบั กำรใช้
ของตนเอง หรือพดู เร่ืองรำว หนงั สอื และตัวหนงั สอื
เกี่ยวกบั ตนเอง
๓. กำรพดู อธิบำยเกี่ยวกับสง่ิ ของ
เหตกุ ำรณ์ และควำมสมั พันธ์ของ
ส่งิ ต่ำงๆ
๔. กำรพดู อย่ำงสรำ้ งสรรค์ในกำร
เล่นและกำรกระทำตำ่ งๆ
๕. กำรรอจงั หวะที่เหมำะสมใน
กำรพดู
๖. กำรพดู เรียงลำดบั เพ่ือใชใ้ นกำร
สือ่ สำร
๗. กำรเล่นเกมทำงภำษำ
๓๖
ตัวบ่งช้ี สภำพท่ีพึงประสงค์ สำระกำรเรียนรรู้ ำยปี
ช้ันอนบุ ำลปที ี่ 3 (5-6 ปี ) ประสบกำรณส์ ำคญั สำระท่ีควรเรียนรู้
๙.๒ อำ่ น เขียน - อ่ำนภำพ สัญลักษณ์ คำ ๑. กำรอำ่ นหนังสือภำพ นทิ ำน ๑. กำรใช้ภำษำในกำรส่อื
ภำพ และสัญลักษณ์ ด้วยกำรช้ี หรอื กวำดตำ หลำกหลำยประเภท/รปู แบบ ควำมหมำยในชีวิตประจำวัน
ได้ มองจุดเรมิ่ ต้นและจุดจบ ๒. กำรอ่ำนอย่ำงอิสระตำมลำพงั ควำมรู้พ้ืนฐำนเกี่ยวกับกำรใช้
ของขอ้ ควำม กำรอ่ำนร่วมกัน กำรอ่ำนโดยมผี ู้ หนังสอื และตัวหนังสือ
ช้ีแนะ - กำรอ่ำนภำพ สัญลกั ษณ์
๓. กำรเห็นแบบอยำ่ งของกำรอำ่ น นทิ ำน
ที่ถกู ต้อง
๔. กำรสังเกตทิศทำงกำรอำ่ น
ตัวอักษรคำ และขอ้ ควำม
๕. กำรอ่ำนและชีข้ อ้ ควำม โดย
กวำดสำยตำตำมบรรทัดจำกซ้ำย
ไปขวำ จำกบนลงลำ่ ง
๖. กำรสงั เกตตวั อักษรในชื่อของ
ตนหรอื คำคนุ้ เคย
๗. กำรสังเกตตวั อักษรที่ประกอบ
เป็นคำผ่ำนกำรอ่ำนหรือเขียนของ
ผูใ้ หญ่
๘. กำรคำดเดำคำ วลี หรือ
ประโยคทม่ี ีโครงสร้ำงซำ้ ๆกนั จำก
นทิ ำน เพลง คำคล้องจอง
๙. กำรเลน่ เกมทำงภำษำ
๑๐. กำรเห็นแบบอยำ่ งของกำร
เขยี นทถี่ ูกต้อง
๙.๒ อำ่ น เขยี น - เขียนช่ือของตนเอง ๑. กำรเขยี นร่วมกันตำมโอกำส ๑. กำรใชภ้ ำษำในกำรสอื่
ภ ำ พ แ ล ะ ตำมแบบเขียนข้อควำม และกำรเขยี นอสิ ระ
๒. กำรเขยี นคำที่มคี วำมหมำยกบั ควำมหมำยในชวี ิตประจำวัน
สญั ลักษณไ์ ด้ ดว้ ยวธิ ที ่ีคิดขึน้ เอง ตัวเดก็ /คำคนุ้ เคย ควำมร้พู น้ื ฐำนเกี่ยวกบั กำร
ใช้หนังสอื และตัวหนงั สือ
๓. กำรคดิ สะกดคำและเขียนเพ่อื - กำรเขียนภำพ สัญลักษณ์
ตัวอักษร ช่ือ- สกุลของ
สือ่ ควำมหมำยดว้ ยตนเองอย่ำง
อสิ ระ ตนเอง
๔. กำรเล่นเกมทำงภำษำ
๓๗
มำตรฐำนท่ี ๑๐ มคี วำมสำมำรถในกำรคิดท่ีเปน็ พื้นฐำนในกำรเรียนรู้
ตวั บง่ ชี้ สภำพทพ่ี งึ ประสงค์ สำระกำรเรยี นรรู้ ำยปี
ชน้ั อนบุ ำลปที ่ี 3 (5-6 ปี ) ประสบกำรณส์ ำคญั สำระทีค่ วรเรียนรู้
๑๐.๑ มีควำม - บอกลกั ษณะ ๑. กำรสังเกตลกั ษณะ ๑. กำรคิด
สำมำรถในกำรคดิ ส่วนประกอบ กำร สว่ นประกอบกำร - ประสำทสมั ผัส
รวบยอด เปลย่ี นแปลง หรือ เปลย่ี นแปลง และ - กำรสังเกต
ควำมสมั พนั ธข์ องสง่ิ ของ ควำมสมั พนั ธ์ของสงิ่ ตำ่ งๆโดย ๒. ก ำ รเปลี่ยนแปลงและ
ต่ำงๆจำกกำรสังเกตโดย ใช้ประสำทสัมผสั อย่ำง ควำมสัมพนั ธ์ ของสง่ิ ต่ำงๆ
ใช้ เหมำะสม รอบตวั
ประสำทสมั ผัส ๒. กำรสงั เกตสง่ิ ตำ่ งๆแลละ
สถำนทจ่ี ำกมมุ มองที่ตำ่ งกนั
๓. กำรเลน่ กับสื่อตำ่ งๆทีเ่ ป็น
ทรงกลมทรงสเี่ หลยี่ มมมุ ฉำก
ทรงกระบอก ทรงกรวย
๔. กำรใช้ภำษำทำง
คณติ ศำสตร์กบั
เหตกุ ำรณ์ในชีวติ ประจำวัน
- จำแนกและจดั กลมุ่ สง่ิ ๑. กำรคดั แยก กำรจดั กลมุ่ และ ๑. กำรคดิ
ตำ่ งๆโดยใช้ตงั้ แตส่ อง กำรจำแนกส่งิ ตำ่ งๆตำมลักษณะ - กำรจำแนกสง่ิ ของต้ังแต่ ๒.
ลักษณะขนึ้ ไปเปน็ เกณฑ์ และรูปร่ำงรูปทรง ลักษณะ
๒. กำรทำซ้ำ กำรตอ่ เตมิ และกำร - กำรจัดกลมุ่
สร้ำงแบบรปู
๓. กำรรวมและกำรแยกสิง่ ต่ำงๆ
๔. กำรใชภ้ ำษำทำคณิตศำสตรก์ ับ
เหตกุ ำรณใ์ นชีวิตประจำวัน
๑๐.๒ มี - อธบิ ำยเชอ่ื มโยงสำเหตุ ๑. กำรช่ัง ตวง วดั สงิ่ ต่ำงๆโดยใช้ ๑. กำรแสดงควำมคดิ เห็น
ควำมสำมำรถในกำร และผลท่ีเกดิ ขน้ึ ใน เคร่ืองมอื และหน่วยท่ีไมใ่ ชห่ นว่ ย - กำรชงั่
คดิ เชงิ เหตผุ ล เหตกุ ำรณ์หรอื กำรกระทำ มำตรฐำน - กำรตวง
ด้วยตนเอง ๒. กำรอธบิ ำยเชอื่ มโยง สำเหตุ - กำรวัด
และผลท่เี กดิ ข้นึ ในเหตุกำรณห์ รอื ๒. กำรเช่อื มโยงสง่ิ ต่ำงๆใน
กำรกระทำ ชวี ติ ประจำวนั
- คำดคะเนสิง่ ทีอ่ ำจจะ ๑. กำรคำดเดำหรือกำรคำดคะเน - กำรหำควำมสมั พนั ธ์อย่ำงมี
เกดิ ขนึ้ และมสี ่วนร่วมใน สิ่งท่อี ำจจะเกิดข้นึ อยำ่ งมเี หตผุ ล เหตุผล
กำรลงควำมเห็นจำกข้อมลู ๒. กำรมสี ่วนรว่ มในกำรลง
อยำ่ งมเี หตผุ ล ควำมเห็นจำกขอ้ มลู อย่ำงมเี หตผุ ล
๓๘
ตัวบ่งช้ี สภำพที่พึงประสงค์ สำระกำรเรียนรรู้ ำยปี
ชนั้ อนบุ ำลปีที่ 3 (5-6 ปี )
๑๐.๓ มีควำม - ตัดสินใจในเรอื่ งงำ่ ยๆ ประสบกำรณส์ ำคญั สำระทคี่ วรเรียนรู้
สำมำรถในกำรคดิ และยอมรับผลท่ีเกดิ ขนึ้
แ ก้ ปั ญ ห ำ แ ล ะ ๑. กำรตดั สนิ ใจและมีส่วนร่วมใน ๑. กำรตดั สินใจส่งิ ตำ่ งๆด้วย
ตดั สินใจ - ระบุปัญหำสรำ้ ง
ทำงเลือกและเลอื กวิธี กระบวนกำรแกป้ ญั หำ ตนเอง
แกป้ ญั หำ
๒. กำรอธบิ ำยเชื่อมโยง สำเหตุ
และผลท่เี กิดข้ึนในเหตุกำรณห์ รอื
กำรกระทำ
๑. กำรตดั สนิ ใจและมีสว่ นรว่ มใน ๑. กำรแก้ปญั หำด้วยตนเอง
กระบวนกำรแก้ปญั หำ อย่ำงมัน่ ใจ
๒. กำรคำดเดำหรอื กำรคำดคะเน
สง่ิ ท่ีอำจจะเกิดขนึ้ อยำ่ งมีเหตผุ ล
๓. กำรมสี ่วนรว่ มในกำรลง
ควำมเหน็ จำกข้อมลู อยำ่ งมเี หตผุ ล
มำตรฐำนท่ี ๑๑ มีจินตนำกำรและควำมคดิ สร้ำงสรรค์
ตวั บ่งช้ี สภำพทพ่ี ึงประสงค์ สำระกำรเรยี นรรู้ ำยปี
๑๑.๑ เล่น/ทำงำน ชน้ั อนบุ ำลปที ี่ 3 (5-6 ปี ) ประสบกำรณส์ ำคญั สำระทีค่ วรเรยี นรู้
ศิลปะตำจนิ ตนำกำร
แ ล ะ ค ว ำ ม คิ ด - สรำ้ งผลงำนศิลปะเพอ่ื ๑. กำรแสดงควำมคดิ สรำ้ งสรรค์ ๑.กำรทำงำนศลิ ปะที่แปลกใหม่
สร้ำงสรรค์ สื่อสำรควำมคดิ ควำมรสู้ ึก
ของตนเองโดยมีกำร ผ่ำนภำษำ ทำ่ ทำง กำรเคลอื่ นไหว ๒. วิธีกำรใชเ้ คร่ืองมือ เครื่องใช้
ดัดแปลงและแปลกใหม่
จำกเดมิ และมรี ำยละเอยี ด และศลิ ปะ ในกำรทำงำนศลิ ปะอย่ำงถูกวธิ ี
เพ่มิ ข้ึน
๒. กำรเขยี นภำพและกำรเลน่ กบั สี และปลอดภยั เช่นกรรไกร
๓. กำรป้๎น
๔. กำรประดษิ ฐส์ ิง่ ต่ำงๆดว้ ยเศษ
วสั ดุ
๕. กำรทำงำนศิลปะท่ีนำวัสดุหรือ
สิ่งของเครื่องใช้ท่ีใช้แล้วมำใช้ซ้ำ
หรือแปรรปู แลว้ นำกลบั มำใช้ใหม่
๖. กำรหยบิ จับ กำรใช้กรรไกร
กำรฉกี กำรตดั กำรปะและกำรร้อย
วัสดุ
๗.กำรแสดงควำมคิดสร้ำงสรรค์
ผำ่ นภำษำ ทำ่ ทำง กำรเคลอ่ื นไหว
และศลิ ปะ
๘. กำรทำงำนศลิ ปะ
๙. กำรสรำ้ งสรรค์ช้นิ งำนโดยใช้
รูปร่ำง รปู ทรง จำกวสั ดทุ ่ี
หลำกหลำย
๑๐. กำรรับรู้และแสดงควำมคิด
ควำมรสู้ ึกผ่ำนส่ือ วัสดุ ของเล่น
และช้ินงำน
๓๙
ตวั บ่งชี้ สภำพท่พี ึงประสงค์ สำระกำรเรยี นรรู้ ำยปี
ช้นั อนบุ ำลปที ี่ 3 (5-6 ปี ) ประสบกำรณส์ ำคัญ สำระทคี่ วรเรียนรู้
๑๑.๒ แสดง - เคล่ือนไหวท่ำทำงเพ่อื ๑. กำรเคล่ือนไหวอย่กู ับที่ ๑. กำรเคล่อื นไหวร่ำงกำยใน
ท่ำทำง/เคล่ือนไหว สื่อสำรควำมคดิ ควำมรสู้ กึ ๒. กำรเคลอ่ื นไหวเคล่ือนท่ี ทศิ ทำงระดับและพ้นื ที่ต่ำงๆ
ต ำ ม จิ น ต น ำ ก ำ ร ของตนเองอย่ำงหลำกหลำย ๓. กำรเคลื่อนไหวพร้อมวัสดุ ๒. กำรแสดงท่ำทำงต่ำงๆตำม
อยำ่ งสรำ้ งสรรค์ และแปลกใหม่ อุปกรณ์ ควำมคดิ ของตนเอง
๔. กำรแสดงควำมคดิ สรำ้ งสรรค์
ผ่ำนภำษำ ท่ำทำง กำรเคลอื่ นไหว
และศลิ ปะ
๕. กำรเคลื่อนไหวโดยควบคุม
ตนเองไปในทิศทำง ระดบั และ
พนื้ ที่
๖. กำรเคลอ่ื นไหวตำมเสียงเพลง/
ดนตรี
๗. กำรฟังเพลง กำรรอ้ งเพลงและ
กำรแสดงปฏกิ ริ ยิ ำโตต้ อบ
เสียงดนตรี
มำตรฐำนที่ ๑๒ มีเจตคติทดี่ ีตอ่ กำรเรียนรู้ และมีควำมสำมำรถในกำรแสวงหำควำมรู้ได้เหมำะสมกับวยั
ตัวบง่ ช้ี สภำพท่ีพึงประสงค์ สำระกำรเรียนรรู้ ำยปี
๑๒.๑ มเี จตคตทิ ด่ี ี ชัน้ อนบุ ำลปีที่ 3 (5-6 ปี )
ต่อกำรเรียนรู้ - หยบิ หนงั สือมำอ่ำนและ ประสบกำรณส์ ำคัญ สำระท่ีควรเรยี นรู้
เขยี นสื่อควำมคดิ ดว้ ย
๑๒.๒ มี ตนเองเป็นประจำอย่ำง ๑. กำรสำรวจส่ิงต่ำงๆ และแหลง่ ๑. ควำมรูพ้ ื้นฐำนเกย่ี วกบั กำรใช้
ควำมสำมำรถในกำร ตอ่ เน่อื ง
แสวงหำควำมรู้ - กระตือรือร้นในกำรรว่ ม เรยี นรรู้ อบตวั หนังสอื และตวั หนงั สอื อยำ่ ง
กจิ กรรมตั้งแต่ตน้ จนจบ
๒. กำรตงั้ คำถำมในเรอื่ งทส่ี นใจ อสิ ระ
- ค้นหำคำตอบของข้อ
สงสยั ตำ่ งๆ ตำมวิธีกำรท่ี ๑. กำรให้ควำมร่วมมือในกำร ๑. กำรแสดงออกทำงอำรมณ์
หลำกหลำยดว้ ยตนเอง
ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่ำงๆ และควำมรูส้ ึกอยำ่ งเหมำะสม
๒. กำรต้งั คำถำมในเรอ่ื งทสี่ นใจ ๒. ควำมสนใจในกำรทำกจิ กรรม
๓. กำรมีส่วนร่วมในกำรรวบรวม
ข้อมูลและนำเสนอข้อมูลจำกกำร
สืบเสำะหำควำมรู้ในรูปแบบต่ำงๆ
และแผนภูมิอย่ำงงำ่ ย
๑. กำรสำรวจสง่ิ ตำ่ งๆ และแหลง่ - กำรเรยี นรู้ทีจ่ ะเล่นและทำส่งิ
เรียนรรู้ อบตวั ต่ำงๆอย่ำงหลำกหลำยดว้ ย
๒. กำรต้งั คำถำมในเร่ืองทีส่ นใจ ตนเอง
๓. กำรสบื เสำะหำควำมรเู้ พอ่ื
คน้ หำคำตอบของขอ้ สงสยั ตำ่ งๆ
๔. กำรมีส่วนร่วมในกำรรวบรวม
ข้อมูลและนำเสนอข้อมูลจำกกำร
สืบเสำะหำควำมรู้ในรูปแบบต่ำงๆ
และแผนภูมิอยำ่ งง่ำย
๔๐
ตัวบ่งช้ี สภำพที่พงึ ประสงค์ สำระกำรเรยี นรรู้ ำยปี
ชัน้ อนบุ ำลปที ่ี 3 (5-6 ปี )
๑๒.๒ มี - ใช้ประโยคคำถำมวำ่ ประสบกำรณส์ ำคัญ สำระทีค่ วรเรียนรู้
ควำมสำมำรถในกำร
แสวงหำควำมรู้ “เมือ่ ไร” อย่ำงไร” ในกำร ๑. กำรตง้ั คำถำมในเรอื่ งทสี่ นใจ - กำรสนใจซกั ถำมคำถำมเพ่ือ
คน้ หำคำตอบ
๒. กำรสบื เสำะหำควำมรเู้ พ่ือ คน้ หำคำตอบด้วยตนเอง
ค้นหำคำตอบของขอ้ สงสัยต่ำงๆ
สำระกำรเรยี นรู้
สำระกำรเรียนรู้ใช้เป็นส่ือกลำงในกำรจัดประสบกำรณ์กำรเรียนรู้ให้กับเด็กเพ่ือส่งเสริมพัฒนำกำรทุก
ด้ำน ให้เป็นไปตำมจุดหมำยของหลักสูตรท่ีกำหนด ประกอบด้วย ประสบกำรณ์สำคัญและสำระท่ีควรเรียนรู้
ดังนี้
๑. ประสบกำรณส์ ำคัญ
ประสบกำรณ์สำคัญเปน็ แนวทำงสำหรบั ผ้สู อนนำไปใชใ้ นกำรออกแบบกำรจดั ประสบกำรณ์ให้
เด็กปฐมวัยเรียนรู้ ลงมือปฏบิ ัติ และได้รับกำรสง่ เสริมพัฒนำครอบคลมุ พัฒนำกำรทั้ง ๔ด้ำน ดังน้ี
๑.๑ ประสบกำรณ์สำคัญทสี่ ง่ เสรมิ พฒั นำกำรดำ้ นร่ำงกำย เปน็ กำรสนับสนุนใหเ้ ดก็ ไดม้ โี อกำส
พัฒนำกำรใช้กล้ำมเนื้อใหญ่ กล้ำมเนื้อเล็ก กำรประสำนสัมพันธ์ระหว่ำงกล้ำมเน้ือและระบบประสำท ในกำร
ทำกิจวัตรประจำวันหรือทำกิจกรรมต่ำงๆ และสนับสนุนให้เด็กรู้จักดูแลสุขภำพและสุขอนำมัย สุขนิสัย กำร
รักษำควำมปลอดภัย และกำรตระหนกั รเู้ ก่ยี วกบั รำ่ งกำยตนเอง ดงั น้ี
ประสบกำรณส์ ำคัญ(ดำ้ นร่ำงกำย) ตัวอย่ำงประสบกำรณ์
๑.๑.๑กำรใช้กลำ้ มเน้ือใหญ่
(๑) กำรเคลื่อนไหวอยกู่ ับท่ี ตบมือ ผงกศีรษะ เคล่อื นไหวไหล่ เอว มอื และแขน มือ
และนิ้วมอื เคำะเทำ้ เท้ำและปลำยเท้ำอยู่กบั ที่
(๒) กำรเคลื่อนไหวเคลื่อนที่ คลำน คบื เดิน วิง่ กระโดด สไลด์ ควบมำ้ ก้ำวกระโดด
เคลือ่ นที่ไปข้ำงหนำ้ ข้ำงหลัง ขำ้ งซ้ำย ขำ้ งขวำ หมนุ ตัว
(๓) กำรเคลื่อนไหวพร้อมวสั ดุอุปกรณ์ เคล่อื นไหวร่ำงกำยพร้อมเชือก ผ้ำแพร รบิ บิ้น วสั ดอุ ืน่ ๆ
ทเี่ หมำะสมตำมจินตนำกำร เพลงบรรเลง คำบรรยำย
(๔) กำรเคล่ือนไหวท่ีใชก้ ำรประสำนสัมพนั ธ์ของกำรใช้ ของผู้สอน
กล้ำมเน้ือใหญ่ ในกำรขว้ำง กำรจับ กำรโยน กำรเตะ
เล่นเกมกลำงแจ้ง เชน่ ลงิ ชิงบอล ขว้ำงลกู บอล ถงุ ทรำย
โยนลกู บอลหรอื วสั ดุอืน่ ลงตะกร้ำ เตะบอล
(๕) กำรเล่นเคร่ืองเล่นสนำมอย่ำงอิสระ เล่นอสิ ระ เลน่ เคร่ืองเล่นสนำม เล่นปนี ปำ่ ย โหน ป่นั
จกั รยำน
๑.๑.๒ กำรใชก้ ลำ้ มเนื้อเล็ก
(๑) กำรเลน่ เคร่ืองเล่นสัมผสั และกำรสรำ้ งสิง่ ต่ำงๆ จำก ต่อเลโก้ น็อตปักหมุด กระดำนตะปู บลอ็ กไม้หรือ
แทง่ ไม้ บล็อก พลำสตกิ
๔๑
ประสบกำรณส์ ำคัญ(ด้ำนร่ำงกำย) ตวั อย่ำงประสบกำรณ์
(๒) กำรเขยี นภำพและกำรเล่นกับสี
เขียนภำพดว้ ยสเี ทียน สีไม้ สีจำกวสั ดุธรรมชำติ เลน่ กบั
(๓) กำรป้นั สนี ำ้ เช่น เป่ำสี ทบั สี หยดสี ละเลงสี กลงิ่ สี
(๔) กำรประดิษฐ์สงิ่ ต่ำงๆ ดว้ ยเศษวัสดุ
(๕) กำรหยิบจับ กำรใชก้ รรไกร กำรฉกี กำรตัด กำรปะ ปั้นดินเหนียว ดินนำมัน ปั้นแป้งโดว์
และกำรร้อยวสั ดุ สร้ำงชน้ิ งำนจำกวัสดุธรรมชำตหิ รือวัสดทุ ่เี หลอื ใช้
ใช้กรรไกรปลำยมนตดั กระดำษหรอื ตดั ใบไม้ ร้อยดอกไม้
และวสั ดตุ ำ่ งๆ ฉีก ตัด ปะกระดำษหรือวัสดธุ รรมชำติ
๑.๑.๓ กำรรกั ษำสขุ ภำพอนำมัยสว่ นตน ลำ้ งมือก่อนรับประทำนอำหำร ทำควำมสะอำดหลังจำก
(๑) กำรปฏิบัตติ นตำมสขุ อนำมัย สุขนิสยั ท่ีดี ในกจิ วตั ร เขำ้ ห้องน้ำห้องส้วม รบั ประทำนอำหำรกลำงวันครบหำ้
ประจำวนั หมู่ นอนกลำงวนั ออกกำลงั กำย ดูแลรักษำควำม
สะอำด ของใชส้ ว่ นตัว
๑.๑.๔ กำรรักษำควำมปลอดภัย
(๑) กำรปฏบิ ัติตนให้ปลอดภัยในกจิ วตั รประจำวัน เลน่ เคร่ืองเล่นที่ถูกวิธี ลำ้ งมอื ทุกครั้งเม่ือสนิ้ สดุ กำรเลน่
ระวังรกั ษำและดแู ลตนเองขณะเจ็บป่วย เชน่ ปดิ ปำกไอ
(๒) กำรฟังนทิ ำน เร่ืองรำว เหตุกำรณเ์ ก่ยี วกบั กำร ในขณะเป็นหวดั ไม่ขย้ตี ำขณะตำแดง
ปอ้ งกนั และรกั ษำควำมปลอดภัย ฟงั นิทำน เร่ืองรำว เหตุกำรณ์ทม่ี เี นอ้ื หำเก่ยี วกับกำร
ปอ้ งกนั และรักษำควำมปลอดภยั เชน่ กำรข้ำมถนน
(๓) กำรเล่นเครื่องเลน่ อย่ำงปลอดภัย กำรรบั ของ จำกคนแปลกหน้ำ ของมีคม สัตวม์ ีพิษ และ
อนั ตรำยจำก สำรพษิ
(๔) กำรเล่นบทบำทสมมตเิ หตกุ ำรณ์ตำ่ งๆ เล่นเคร่อื งเล่นสนำมตำมข้อตกลงอย่ำงถกู วิธี เชน่ ปีน
ปำ่ ย โหน ลอด มุด คลำน ดว้ ยควำมระมัดระวงั รอคอย
๑.๑.๕ กำรตระหนักรูเ้ ก่ยี วกบั ร่ำงกำยตนเอง ไม่แย่งกันในกำรเล่น
(๑) กำรเคลื่อนไหวโดยควบคุมตนเองไปในทศิ ทำง เลน่ บทบำทสมมติกำรปฏิบตั ิตำมกฎจรำจร เชน่ กำร
ระดบั และพ้นื ท่ี ขำ้ มถนน กำรซ้อนท้ำยรถจักรยำนยนต์กำรคำดเขม็ ขัด
นิรภัย และ กำรปฏิบัติตนเม่ือเกดิ เหตฉุ ุกเฉนิ เช่น ไฟ
(๒) กำรเคล่ือนไหวข้ำมส่ิงกีดขวำง ไหม้แผน่ ดินไหว พำยุ ฯลฯ และสรุปผลท่ีเกิดจำกกำร
เลน่ บทบำทสมมติ
เคลื่อนไหวรำ่ งกำยไปในทิศทำงต่ำงๆ เชน่ ซำ้ ย ขวำ
หน้ำ หลงั ทัว่ บริเวณท่ีกำหนดในระดับสงู กลำง และตำ่
มกี ำรเคล่ือนไหวท่หี ลำกหลำย เช่น มุด ลอด คลำน กล้ิง
กระโดด
กำรเดนิ วิ่ง กระโดดหลบหลกี หรือขำ้ มสิ่งกดี ขวำงตำ่ งๆ
เชน่ ล้อรถยนต์ ถงั นำ้ มนั ที่กั้นจรำจร ห่วงฮลู ำฮูป
สิ่งของ บล็อกไมh
๔๒
๑.๒ ประสบกำรณ์สำคญั ท่ีส่งเสรมิ พัฒนำกำรดำ้ นอำรมณ์ จิตใจ เป็นกำรสนบั สนุนใหเ้ ดก็ ไดแ้ สดงออก
ทำงอำรมณ์และควำมร้สู ึกของตนเองที่เหมำะสมกบั วัย ตระหนักถึงลักษณะพเิ ศษเฉพำะ ท่ีเปน็ อัตลักษณ์
ควำมเป็นตัวของตัวเอง มคี วำมสุข รำ่ เริงแจม่ ใส กำรเห็นอกเห็นใจผ้อู น่ื ได้พัฒนำคุณธรรมจริยธรรม
สุนทรียภำพ ควำมรู้สกึ ที่ดีต่อตนเอง และควำมเช่อื มัน่ ในตนเองขณะปฏิบตั ิกจิ กรรมต่ำงๆ ดังนี้
ประสบกำรณ์สำคัญ(อำรมณ์ จิตใจ) ตวั อยำ่ งประสบกำรณ์
๑.๒.๑ สนุ ทรียภำพ ดนตรี
(๑) กำรฟังเพลง กำรรอ้ งเพลง และกำรแสดงปฏกิ ิริยำ ทำทำ่ ทำงเคลือ่ นไหวรำ่ งกำยในลักษณะต่ำงๆ เช่น โยก
โตต้ อบเสียงดนตรี ตวั สำ่ ยสะโพก ตบมือ ย่ำเทำ้ ตำมจังหวะและเสยี งเพลง
เชน่ เพลงบรรเลง เพลงตำมสมยั นิยม เพลงทส่ี นใจ เพลง
(๒) กำรเล่นเครื่องดนตรปี ระกอบจังหวะ ตำมหน่วยกำรจดั ประสบกำรณ์ เพลงประจำโรงเรียน
(๓) กำรเคลื่อนไหวตำมเสยี งเพลง/ดนตรี และเพลงพ้นื บ้ำน
(๔) กำรเลน่ บทบำทสมมติ เลน่ เครอ่ื งดนตรีประเภทตำ่ งๆ หรือวัสดอุ ื่นๆ ประกอบ
(๕) กำรทำกิจกรรมศิลปะต่ำงๆ จงั หวะ เชน่ เคำะ เขยำ่ ตี
(๖) กำรสร้ำงสรรค์สง่ิ สวยงำม แสดงท่ำทำงเคลอ่ื นไหวประกอบเสยี งเพลง เสียงดนตรี
หรอื จงั หวะชำ้ และเร็ว
๑.๒.๒ กำรเล่น เลน่ และแสดงบทบำทสมมตเิ ป็นตัวละครตำม หนว่ ย
(๑) กำรเลน่ อิสระ กำรจัดประสบกำรณ์หรือนิทำน
(๒) กำรเล่นรำยบคุ คล กลุม่ ย่อย และกลุม่ ใหญ่ ทำกจิ กรรมศลิ ปะ เช่น วำดภำพระบำยสี ปน้ั ร้อย ฉีก
ตัด ปะ พับ เล่นกบั สีน้ำ ประดิษฐเ์ ศษวสั ดุ
(๓) กำรเลน่ ตำมมมุ ประสบกำรณ์/มมุ เล่นต่ำงๆ สร้ำงงำนศลิ ปะตำมควำมคิดสรำ้ งสรรคใ์ นรูปแบบต่ำงๆ
(๔) กำรเล่นนอกห้องเรยี น เช่น วำดภำพระบำยสี ป้ัน รอ้ ย ฉกี ตัด ปะ พับ เลน่ กบั
๑.๒.๓ คุณธรรม จริยธรรม สนี ำ้ ประดษิ ฐ์เศษวสั ดุ กำรทำสวนถำด และ แสดง
(๑) กำรปฏบิ ตั ิตนตำมหลกั ศำสนำท่ีนบั ถือ ควำมคดิ เหน็ ต่อผลงำนศิลปะ
เลน่ อิสระ กำรเลน่ ท่ีใช้จินตนำกำร เล่นสมมติ กำรเล่น
ของเล่นในห้องเรยี น บริเวณสนำมกลำงแจง้
เลน่ เสรี เลน่ อสิ ระในมุมเล่นรำยบุคคล กลุ่มย่อย และ
กลุ่มใหญ่ เลน่ รวมกับเพ่ือน เลน่ แบบร่วมมือ และ เล่น
แบบสร้ำงสรรค์
เลน่ ตำมมุมเล่นในห้องเรยี น เลน่ สมมติ
เลน่ กลำงแจ้ง เช่น เลน่ เครอื่ งเลน่ สนำมรูปแบบต่ำงๆ
เลน่ นำ้ เลน่ ทรำย กำรละเล่นพ้ืนบำ้ น
ทำกจิ กรรมทำงศำสนำทวี่ ัด มัสยดิ โบสถ์ ปฏบิ ัตติ นตำม
คำสอนของศำสนำทีน่ ับถือ
๔๓
ประสบกำรณ์สำคญั (อำรมณ์ จิตใจ) ตัวอยำ่ งประสบกำรณ์
(๒) กำรฟังนิทำนเกย่ี วกบั คุณธรรม จริยธรรม
ฟังนิทำน เร่ืองรำว เหตุกำรณ์เกี่ยวกับควำมซื่อสัตย์
(๓) กำรร่วมสนทนำและแลกเปลี่ยนควำมคิดเห็น เชิง ควำมเมตตำกรณุ ำ มีน้ำใจชว่ ยเหลอื แบ่งปนั ควำมเหน็
จรยิ ธรรม อกเหน็ ใจ ควำมรับผิดชอบ ประหยดั พอเพยี ง และควำม
มีวินยั
รว่ มสนทนำและแสดงควำมคิดเห็นเกย่ี วกับขำ่ ว
เร่ืองรำว เหตกุ ำรณ์ นิทำนเกี่ยวกับคณุ ธรรม จริยธรรม
ตำมบริบท ของชมุ ชนหรือกลุ่มเป้ำหมำยเฉพำะ
๑.๒.๔ กำรแสดงออกทำงอำรมณ์
(๑) กำรพูดสะท้อนควำมรสู้ กึ ของตนเองและผอู้ ื่น บอกเลำ่ ทำท่ำทำง ที่เก่ยี วข้องกบั ควำมรู้สึกของตนเอง
และผู้อน่ื ปรบั เปลย่ี นควำมคิดหรือกำรกระทำเมื่อมี
สถำนกำรณ์ท่เี ปน็ ปัญหำ พูดแสดงควำมรสู้ กึ หลงั กำรทำ
กจิ กรรมศิลปะ แสดงสหี นำ้ ท่ำทำง บทบำทตำมตวั
ละคร
(๒) กำรเลน่ บทบำทสมมติ เล่นและแสดงบทบำทสมมติเปน็ ตวั ละครตำม หนว่ ย
กำรจดั ประสบกำรณห์ รือนิทำน
(๓) กำรเคล่ือนไหวตำมเสยี งเพลง/ดนตรี แสดงท่ำทำง เคล่อื นไหวประกอบเสยี งเพลง เสยี งดนตรี
หรอื จงั หวะชำ้ และเร็ว
(๔) กำรรอ้ งเพลง รอ้ งเพลงประกอบหน่วยกำรจัดประสบกำรณห์ รือ เพลง
ที่สนใจอยำ่ งสนุกสนำน
(๕) กำรทำงำนศิลปะ ทำกิจกรรมศลิ ปะ เช่น วำดภำพระบำยสี ปัน้ ร้อย ฉีก
ตดั ปะ พับ เลน่ กับสีน้ำ ประดษิ ฐเ์ ศษวสั ดุ
๑.๒.๕ กำรมีอตั ลักษณเ์ ฉพำะตนและเชอื่ ว่ำตนเองมีควำมสำมำรถ
(๑) กำรปฏิบัติกจิ กรรมต่ำงๆ ตำมควำมสำมำรถ ของ เล่น/ทำงำนอย่ำงอิสระตำมควำมถนดั ควำมสนใจ และ
ตนเอง ควำมสำมำรถของตนเอง เชน่ กิจกรรมศิลปะ กิจกรรม
กำรเคลอ่ื นไหว กิจกรรมในกจิ วัตรประจำวัน (โดยเปดิ
โอกำสใหเ้ ด็กมสี ่วนร่วมในกำรตดั สินใจเลือก ทำ
กิจกรรมเอง บอกได้วำ่ ตนเองเปน็ อย่ำงไร ทำอะไร ได้
บำ้ ง บอกควำมเหมือน ควำมแตกต่ำงของตนเองและ
ผู้อน่ื และบอกควำมคิดของตนเองไดว้ ำ่ “อยำกเปน็
อะไร เมื่อหนูโตข้นึ ”)
๑.๒.๖ กำรเห็นอกเหน็ ใจผู้อ่ืน
(๑) กำรแสดงควำมยินดีเมื่อผู้อนื่ มคี วำมสุข เหน็ ใจเมื่อ แสดงควำมยินดีกบั เพ่ือนเมื่อเพือ่ นมคี วำมสุข เช่น วัน
ผ้อู ืน่ เศรำ้ หรือเสยี ใจ และกำรช่วยเหลือปลอบโยนเมื่อ เกดิ และแสดงควำมเหน็ ใจเพ่ือนหรือผู้อื่น เชน่
ผูอ้ น่ื ไดร้ บั บำดเจ็บ ชว่ ยเหลอื ปลอบโยนเม่อื เพื่อนร้องไห้หรือบำดเจ็บ
๔๔
๑.๓ ประสบกำรณ์สำคัญที่ส่งเสริมพัฒนำกำรด้ำนสังคม เป็นกำรสนับสนุนให้เด็กได้มีโอกำส ปฏิสัมพันธ์กับ
บุคคลและส่ิงแวดล้อมต่ำงๆ รอบตัวจำกกำรปฏิบัติกิจกรรมต่ำงๆ ผ่ำนกำรเรียนรู้ทำงสังคม เช่น กำรเล่น กำร
ทำงำนกับผู้อื่น กำรปฏิบัติกิจวัตรประจำวนั กำรดูแลรักษำธรรมชำติและส่ิงแวดลอ้ ม กำรแก้ปัญหำ ข้อขัดแย่ง
ต่ำงๆ ดงั นี้
ประสบกำรณ์สำคัญ(ดำ้ นสงั คม) ตวั อย่ำงประสบกำรณ์
๑.๓.๑ กำรปฏิบัตกิ จิ วัตรประจำวัน
(๑) กำรช่วยเหลอื ตนเองในกิจวตั รประจำวนั ทำกจิ วัตรประจำวนั ดว้ ยตนเอง เช่น แตง่ ตวั ลำ้ งมอื
รับประทำนอำหำร เขำ้ ห้องส้วม
(๒) กำรปฏบิ ัตติ นตำมแนวทำงหลักปรัชญำของ นำวสั ดเุ หลอื ใช้มำสรำ้ งชน้ิ งำน ใช้สิ่งของเครื่องใช้อย่ำง
เศรษฐกิจ พอเพียง ประหยดั และพอเพียง เช่น ยำสีฟัน นำ้ วสั ดทุ ำงำน
ศลิ ปะ
๑.๓.๒ กำรดูแลรักษำธรรมชำติและสงิ่ แวดล้อม
(๑) กำรมสี ว่ นรว่ มรับผิดชอบดูแลรกั ษำสิ่งแวดล้อม ทง้ั - รับผิดชอบหนำ้ ท่ที ีไ่ ดร้ ับมอบหมำย เช่น ดแู ลรกั ษำ
ภำยในและภำยนอกห้องเรยี น ควำมสะอำดห้องเรยี น รดน้ำต้นไมเ้ กบ็ ขยะ
- นำวัสดุท้องถิ่น วัสดุเหลอื ใชม้ ำสร้ำงชนิ้ งำน
(๒) กำรใช้วัสดแุ ละสง่ิ ของเครื่องใชอ้ ยำ่ งคุ้มคำ่ - ใชน้ ้ำ สิ่งของเครื่องใช้อย่ำงประหยัด คุ้มคำ่ เชน่
(๓) กำรทำงำนศิลปะทน่ี ำวสั ดุหรอื ส่ิงของเคร่ืองใช้ ทใ่ี ช้ ดนิ สอ สี กระดำษสี
แลว้ มำใชซ้ ้ำ หรือแปรรูปแล้วนำกลับมำใช้ใหม่
(๔) กำรเพำะปลูกและดูแลต้นไม้ นำวสั ดุเหลือใช้มำสรำ้ งชน้ิ งำน ใชส้ งิ่ ของอย่ำงประหยัด
(๕) กำรเลีย้ งสตั ว์ เชน่ ดินสอ สี กำว กระดำษสี
ประดิษฐส์ ่ิงตำ่ งๆ จำกวสั ดเุ หลอื ใช้ เชน่ ขวดนำ้
พลำสตกิ กลอ่ ง เศษผ้ำ แกนกระดำษ กระดำษสี ไม้
ไอศกรีม
ปลกู ตน้ ไม้ ไม้ดอกไมป้ ระดับ ผกั สวนครวั ดูแลรดนำ้
พรวนดิน เช่น เพำะถัว่ งอก ปลูกผักบ้งุ ต้นหอม
เลย้ี งและดแู ลให้อำหำรสัตว์ เช่น ปลำ ไก่ นก
(๖) กำรสนทนำขำ่ วและเหตุกำรณ์ทีเ่ กย่ี วกับธรรมชำติ สนทนำเกีย่ วกับเหตุกำรณ์ ผลกระทบที่เกิดจำก ควำม
และสิ่งแวดล้อมในชีวติ ประจำวนั เปล่ยี นแปลงทำงธรรมชำตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม เช่น ฝนตก
น้ำทว่ ม ฝนแลง้ ลมพำยุ
๑.๓.๓ กำรปฏบิ ัตติ ำมวัฒนธรรมท้องถนิ่ และควำมเปน็ ไทย
(๑) กำรเลน่ บทบำทสมมติกำรปฏิบัติตนในควำมเป็น - เลน่ บทบำทสมมติเกยี่ วกับกำรไหว้ กำรทักทำย และ -
คนไทย กำรปฏบิ ัตติ นในวันสำคญั ของไทยและวนั สำคัญของ
ทอ้ งถิน่
(๒) กำรปฏิบัติตนตำมวฒั นธรรมท้องถ่ินท่ีอำศัยและ ทำกจิ กรรมในวนั สำคัญและประเพณีในท้องถ่ินของตน
ประเพณไี ทย
(๓) กำรประกอบอำหำรไทย ทำอำหำรง่ำยๆ ตำมหน่วยกำรจัดประสบกำรณ์อำหำร
ในท้องถนิ่ หรืออำหำรประจำภำคของตนเอง
๔๕
ประสบกำรณ์สำคญั (ด้ำนสังคม) ตัวอยำ่ งประสบกำรณ์
(๔) กำรศึกษำนอกสถำนท่ี วำงแผน สำรวจ ศกึ ษำแหล่งเรียนรูน้ อกสถำนท่ี
สมั ภำษณบ์ คุ คลตำ่ งๆ บนั ทึกข้อมลู และนำเสนอข้อมลู
(๕) กำรละเลน่ พ้นื บ้ำนของไทย กำรละเล่นไทย เช่น มอญซ่อนผำ้ งกู ินหำง รรี ีขำ้ วสำร
โพงพำง
๑.๓.๔ กำรมีปฏสิ มั พนั ธ์ มีวนิ ยั มีส่วนร่วมและบทบำทสมำชิกของสงั คม
(๑) กำรรว่ มกำหนดข้อตกลงของห้องเรียน มีส่วนรว่ มในกำรกำหนดและจัดทำข้อตกลงของ
(๒) กำรปฏบิ ตั ติ นเป็นสมำชิกที่ดขี องหอ้ งเรียน หอ้ งเรียน
(๓) กำรให้ควำมร่วมมือในกำรปฏิบตั กิ ิจกรรมตำ่ งๆ
(๔) กำรดูแลห้องเรยี นรว่ มกนั ปฏบิ ตั ติ ำมข้อตกลงของห้องเรยี นที่รว่ มกันกำหนด เช่น
(๕) กำรรว่ มกจิ กรรมวนั สำคัญ กำรเก็บของเลน่ ของใชเ้ ข้ำท่ี กำรเข้ำแถวรับของ
๑.๓.๕ กำรเล่นและทำงำนแบบร่วมมือรว่ มใจ เขำ้ รว่ มกจิ กรรมด้วยควำมเต็มใจท้ังรำยบุคคล กลมุ่ ย่อย
และกลุ่มใหญ่
ดูแลควำมสะอำดเรยี บร้อยของห้องเรียน เช่น จัดของ
เลน่ ของใช้เข้ำที่ เทขยะ รดน้ำตน้ ไม
ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมเกย่ี วกับวนั สำคญั ในสถำนกำรณ์จรงิ
หรือสถำนกำรณจ์ ำลองตำมควำมเหมำะสมและ บรบิ ท
ของแต่ละสถำนศึกษำ
(๑) กำรร่วมสนทนำและแลกเปลีย่ นควำมคิดเหน็ สนทนำแลกเปล่ยี นแสดงควำมคิดเห็นเกย่ี วกับ
(๒) กำรเลน่ และทำงำนรว่ มกับผอู้ นื่ เหตุกำรณ์ ในนทิ ำน เรื่องรำว และรบั ฟังควำมคิดเหน็
ของผู้อื่น
เล่นและทำงำนร่วมกันเปน็ คู่ กลุม่ เล็ก หรือกลมุ่ ใหญ่
(๓) กำรทำศลิ ปะแบบรว่ มมือ ทำงำนศิลปะรว่ มกันเปน็ กลมุ่ อยำ่ งมเี ป้ำหมำยร่วมกนั
๑.๓.๖ กำรแกป้ ญั หำควำมขดั แยง้ เช่น ปั้นดินน้ำมัน วำดภำพ ฉีก ตัด ปะ งำนประดิษฐ
(๑) กำรมสี ่วนรว่ มในกำรเลอื กวิธีกำรแก้ปญั หำ รว่ มกันแสดงควำมคิดเห็นและนำเสนอควำมคิด และ
ตดั สินใจเลอื กวิธแี กป้ ัญหำเกย่ี วกับเร่ืองรำว เหตกุ ำรณ์
ต่ำงๆ
(๒) กำรมสี ่วนร่วมในกำรแกป้ ัญหำควำมขดั แยง้ มสี ่วนรว่ มในกำรเสนอควำมคิด ตดั สินใจเลอื กวิธี
แกป้ ัญหำตำ่ งๆ ท่ีเกิดขนึ้ อย่ำงสันตวิ ิธีในสถำนกำรณ์ ท่ี
มีควำมขัดแยง่
๑.๓.๗ กำรยอมรบั ในควำมเหมือนและควำมแตกตำ่ งระหว่ำงบุคคล
(๑) กำรเล่นหรอื ทำกจิ กรรมร่วมกบั กลมุ่ เพ่อื น เลน่ หรือทำกิจกรรมต่ำงๆ ร่วมกับเพื่อน เช่น กิจกรรม
ศลิ ปะสร้ำงสรรค์ กิจกรรมกำรเล่นตำมมุมเล่น/มุม
ประสบกำรณ์ ตำ่ งๆ กิจกรรมเลน่ นำ้ เลน่ ทรำย และ
ยอมรบั ควำมคดิ ของเพือ่ นท่ีตำ่ งไปจำกตน