The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การศึกษาและพัฒนาด้านความคิดสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้การจัดการเรียนการสอนโดยรูปแบบซิปปา (CIPPA MODEL)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

การศึกษาและพัฒนาด้านความคิดสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้การจัดการเรียนการสอนโดยรูปแบบซิปปา<br>(CIPPA MODEL)

การศึกษาและพัฒนาด้านความคิดสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้การจัดการเรียนการสอนโดยรูปแบบซิปปา (CIPPA MODEL)

41 การวิเคราะห์ข้อมูล ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูล ดังนี้ 1. ผู้วิจัยได้นำข้อมูลไปหาค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) 2. ผู้วิจัยได้นำข้อมูลทักษะการออกแบบของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มาเปรียบเทียบ กันระหว่างก่อนและหลัง การทดลองโดยใช้การทดสอบทีแบบไม่อิสระ (t-test for Dependent Sample) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยเลือกใช้สถิติ ดังนี้ 1. สถิติที่ใช้ในการหาคุณภาพเครื่องมือ 1.1 หาค่าความเที่ยงตรง (Validity) โดยการหาค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างเนื้อหา ข้อคำถามกับจุดประสงค์ (Index of Item-Objective Congruence: IOC) คำนวณจากสูตร (สมชาย วรกิจเกษมสกุล. 2552: 140) สูตร IOC = ∑ เมื่อ IOC = ดัชนีความสอดคล้อง ∑R = ผลรวมคะแนนความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ N = จำนวนผู้เชี่ยวชาญ 1.2 ค่าความยากง่าย (p) ค่าอำนาจจำแนก (rtt) ของแบบทดสอบทักษะการวาดเส้น คำนวณผลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ 1.3 ค่าความเชื่อมั่น ของแบบทดสอบทักษะการวาดเส้น โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทาง สถิติ 2. สถิติพื้นฐานที่ใช้ในการบรรยายข้อมูล สถิติพื้นฐานที่ใช้ในการบรรยายข้อมูล คำนวณโดยโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ ประกอบด้วย 2.1 ค่าเฉลี่ย (Mean)


42 2.2 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) 3. สถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐาน สถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐาน คำนวณโดยโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ เปรียบเทียบทักษะการออกแบบและสร้างสรรค์ชิ้นงาน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัด อุดรธานี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 20 จำนวน 1 ห้อง จำนวนนักเรียนทั้งหมด 41 คน ก่อนและหลังการเรียนด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์ โดยใช้การทดสอบทีแบบไม่ อิสระ (t-test for Dependent Sample)


43 บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล ในการวิจัยครั้งนี้ มุ่งการศึกษาและพัฒนาด้านความคิดสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้การจัดการเรียนการสอนโดยรูปแบบซิปปา (CIPPA MODEL) ศึกษาได้ ดำเนินการศึกษาและเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลตามลำดับหัวข้อ ดังนี้ 1. สัญลักษณ์ที่ใช้ในการนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล 2. ลำดับขั้นตอนในการเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล 3. ผลการวิเคราะห์ข้อมูล สัญลักษณ์ที่ใช้ในการนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล N แทน จำนวนกลุ่มตัวอย่าง ̅แทน ค่าเฉลี่ย S.D. แทน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ∑x แทน คะแนนรวม E1 แทน ประสิทธิภาพของกระบวนการ E2 แทน ประสิทธิภาพของผลลัพธ์ T-Test แทน การทดสอบค่าเฉลี่ยของสมมติฐานทางสถิติ ลำดับขั้นตอนในการเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล ตอนที่ 1 การพัฒนาการเรียนรู้โดยวิธีการสอนแบบรูปแบบซิปปา วิชาทัศนศิลป์ เรื่อง ประวัติศาสตร์ทัศนศิลป์ตะวันออกและตะวันตก สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มี ประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ 75/75 ตอนที่ 2 ศึกษาคะแนนผลงานก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสถิติทดสอบที และระดับนัยสำคัญทางสถิติของการทดสอบเปรียบเทียบ คะแนนที่ 6 (n = 30)


44 ตอนที่ 3 การเปรียบเทียบทักษะกระบวนการวิเคราะห์ของ นักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 1 โรงเรียน อุดรพิทยานุกูล เรื่อง ประวัติศาสตร์ทัศนศิลป์ตะวันออกและตะวันตก หลังเรียนกับเกณฑ์ร้อยละ 75 ตอนที่ 4 การศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อ การพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยวิธีการสอนโมเดลซิป ปา วิชาทัศนศิลป์ เรื่อง ประวัติศาสตร์ทัศนศิลป์ตะวันออกและตะวันตก สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 6 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล การศึกษาและพัฒนาด้านความคิดสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้การจัดการเรียนการสอนโดยรูปแบบซิปปา (CIPPA MODEL) ผู้วิจัยได้ดำเนินการดังนี้ ตารางที่ 4.1 การพัฒนาการเรียนรู้โดยวิธีการสอนแบบรูปแบบซิปปา วิชาทัศนศิลป์ เรื่อง ประวัติศาสตร์ทัศนศิลป์ตะวันตก สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ 75/75 รายการประเมิน จำนวน นักเรียน คะแนน เต็ม คะแนน รวม คะแนน เฉลี่ย ประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ 75/75 คะแนนก่อนเรียน (E1) 30 600 492 16.40 82 คะแนนหลังเรียน (E2) 30 600 532 17.73 88.67 จากตารางที่ 4.1 พบว่า การพัฒนาการเรียนรู้โดยวิธีการสอนแบบรูปแบบซิปปา วิชาทัศนศิลป์เรื่อง ประวัติศาสตร์ทัศนศิลป์ตะวันออกและตะวันตก สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 82/88.67 สูงกว่าเกณฑ์75/75


45 ตารางที่ 4.2 คะแนนผลงานก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีค่าเฉลี่ย ส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสถิติทดสอบที และระดับนัยสำคัญทางสถิติของการทดสอบเปรียบเทียบคะแนนที่ 6 (n = 30) การทดสอบ ̅ . .. ̅. . . () ก่อนเรียน 16.40 1.43 1.33 0.48 15.23 * 0.0000 หลังเรียน 17.73 1.46 จากตารางที่ 4.2 พบว่า การทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีคะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 16.40 คะแนน และ 17.73 คะแนนตามลำดับ และเมื่อเปรียบเทียบระหว่าง คะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน พบว่า คะแนนสอบหลังเรียนของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมี นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ตารางที่ 4.3 การเปรียบเทียบทักษะกระบวนการวิเคราะห์ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล เรื่อง ประวัติศาสตร์ทัศนศิลป์ตะวันออกและตะวันตก หลังเรียนกับเกณฑ์ร้อยละ 75 (n=30) จากตารางที่ 4.3 ทักษะกระบวนการคิดสร้างสรรค์ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีค่าเฉลี่ย 17.73 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 88.67 และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างเกณฑ์กับคะแนนหลังเรียนของนักเรียน พบว่า ทักษะกระบวนการสร้างสรรค์ หลังเรียนของนักเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 75 อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .05 การทดสอบ คะแนนเต็ม ̅ S.D. ร้อยละ t Sig.(2ttailed) หลังเรียน 20 17.73 1.46 88.67 15.23 0.0000


46 ตารางที่ 4.4 การศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยวิธีการสอนโมเดล ซิปปา วิชาทัศนศิลป์ เรื่อง ประวัติศาสตร์ทัศนศิลป์ตะวันออกและตะวันตก สำหรับนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 รายการประเมิน ระดับความพึงพอใจ ค่าเฉลี่ย (̅) ส่วนเบี่ยงเบน S.D. แปลผล ด้านที่ 1 รูปแบบการสอน 1.รูปแบบการสอนเหมาะสมกับพื้นฐานความรู้ของ ผู้เรียน 3.97 1.07 มาก 2.รูปแบบการสอนมีสาระและประโยชน์ สามารถนำไป ประยุกต์ใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน 3.67 1.06 มาก 3.รูปแบบการสอนสามารถเรียนรู้และเข้าใจง่าย 3.50 1.11 ปานกลาง 4.รูปแบบการสอนมีความเหมาะสมกับเนื้อหา 3.83 0.91 มาก 5.รูปแบบการสอนมีความทันสมัย 4.10 0.99 มากที่สุด ด้านที่ 2 ประโยชน์ 1. สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในการเรียน และปฏิบัติงานในครั้งต่อไป 4.03 0.93 มากที่สุด 2. สามารถนำทักษะไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ 3.87 0.82 มาก 3. สามารถนำความรู้ไปเผยแพร่/ถ่ายทอดได้ 3.67 0.76 มาก 4. สามารถนำความรู้ไปสู่การพัฒนาตนเอง 3.63 0.72 ปานกลาง 5. สามารถนำความรู้ไปสร้างผลงานและงานวิจัยได้ 3.73 0.91 มาก ด้านที่ 3 กิจกรรมการเรียนการสอน 1.กิจกรรมการเรียนรู้สนุกและน่าสนใจ 4.03 0.96 มากที่สุด 2.กิจกรรมเข้าใจง่าย 3.93 1.05 มาก 3.กิจกรรมสอดคล้องเนื้อหา 3.57 0.86 ปานกลาง 4.เวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม 3.60 1.25 ปานกลาง 5.กิจกรรมมีสื่อที่น่าสนใจ 3.70 0.99 มาก รวม 3.79 0.96 มาก


47 จากตารางที่ 4.4 พบว่า การศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการ เรียนรู้โดยวิธีการสอนโมเดลซิปปา วิชาทัศนศิลป์ เรื่อง ประวัติศาสตร์ทัศนศิลป์ตะวันออกและตะวันตก สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยรวมอยู่ในระดับ มาก (x̅ = 3.79)


48 บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ การศึกษาและพัฒนาด้านความคิดสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้การจัดการเรียนการสอนโดยรูปแบบซิปปา (CIPPA MODEL) ผู้วิจัยนำเสนอสรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะได้ดังนี้ 1. วัตถุประสงค์ของการวิจัย 2. สมมติฐานของการวิจัย 3. วิธีการดำเนินการวิจัย 4. สรุปผลการวิจัย 5. อภิปรายผลการวิจัย 6. ข้อเสนอแนะของการวิจัย วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1. เพื่อศึกษาด้านความคิดสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ของนักเรียนที่ใช้การจัดการเรียนรู้โดยใช้ รูปแบบซิปปา (CIPPA MODEL) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 2. เพื่อพัฒนาด้านความคิดสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ของนักเรียนที่ใช้การจัดการเรียนรู้โดยใช้ รูปแบบซิปปา (CIPPA MODEL) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สมมตฐานของการวิจัย 1. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาทัศนศิลป์ ที่เรียนการจัดการ เรียนรู้โดยใช้รูปแบบซิปปา (CIPPA MODEL) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ระหว่างก่อนเรียนกับหลัง เรียน 2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอุบลรัตน์พิทยาคม มีทักษะความคิดสร้างสรรค์ในการ ออกแบบชิ้นงาน โดยจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบซิปปา (CIPPA MODEL) หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน หลัง เรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 80


49 วิธีดำเนินการวิจัย ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ประชากรในการวิจัยครั้งนี้ เป็นเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่กำลังศึกษาใน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานีจำนวน นักเรียนทั้งหมด 247 คน ซึ่งกลุ่มตัวอย่างได้จาการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เป็นเด็ก นักเรียน ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/11 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล อำเภอเมืองอุดรธานีจังหวัดอุดรธานีจำนวนนักเรียนทั้งหมด 30 คน เพื่อเป็น กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยในครั้งนี้ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 1. ประเภทของเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ศึกษาและสร้างเครื่องมือที่สอดคล้องกับ วัตถุประสงค์การวิจัย ดังนี้ 1.1 แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการสอนตามการจัดการเรียนรู้รูปแบบซิปปา จำนวน 4 แผน แผนละ 1 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 1 ครั้ง รวม 4 สัปดาห์ 1.2 แบบประเมินทักษะ เรื่อง ประวัติศาสตร์ทัศนศิลป์ตะวันตก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เป็นแบบมาตราส่วนประเมินค่า 4 ระดับ โดยใช้เกณฑ์การประเมิน (Rubric Score) ประเมินความคิด สร้างสรรค์ในการออกแบบชิ้นงาน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล 1.3 แบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยวิธีการสอน โมเดลซิปปา วิชาทัศนศิลป์ เรื่อง ประวัติศาสตร์ทัศนศิลป์ตะวันออกและตะวันตก สำหรับนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 การเก็บรวบรวมข้อมูล ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่กำลัง ศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ดังนี้


50 1. เตรียมนักเรียนก่อนดำเนินการสอน โดยแนะนำวิธีการสอนโดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้ รูปแบบซิปปา ให้นักเรียนมีความรู้การสร้างข้อตกลงเบื้องต้นเกี่ยวกับการเรียน ขั้นตอนกการเรียน และ บทบาทวิธีการปฏิบัติตนในรายวิชา ศิลปะ 5 (ทัศนศิลป์-ดนตรี) ใช้เวลา 1 ชั่วโมงก่อนทำการทดลอง 2. นำแบบฝึกทักษะ เรื่อง ประวัติศาสตร์ทัศนศิลป์ตะวันตกเรื่องที่ผ่านเกณฑ์คุณภาพมาทำ การทดสอบก่อนเรียนกับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง 3. ดำเนินการจัดการเรียนการสอนด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้รูปแบบซิปปา จำนวน 2 แผน แผนละ 2 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 1 ครั้ง จำนวน 4 สัปดาห์ 4. นำแบบฝึกทักษะ เรื่อง ประวัติศาสตร์ทัศนศิลป์ตะวันตกจำนวน 2 เรื่อง ที่ผ่านเกณฑ์ คุณภาพมาทำการทดสอบกับหลังเรียนกับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง 5. นำคะแนนที่ได้ไปวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ และสรุปผลการวิจัย สรุปผลการวิจัย จากการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อตรวจสอบสมมติฐานการวิจัยพบว่า 1. การพัฒนาการเรียนรู้โดยวิธีการสอนแบบรูปแบบซิปปาวิชาทัศนศิลป์ เรื่อง ประวัติศาสตร์ทัศนศิลป์ตะวันออกและตะวันตก สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพตาม เกณฑ์ 82/88.67 สูงกว่าเกณฑ์75/75 2. การทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีคะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 16.40 คะแนน และ 17.73 คะแนนตามลำดับ และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างคะแนนก่อนเรียนและ หลังเรียน พบว่า คะแนนสอบหลังเรียนของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3. ทักษะกระบวนการคิดสร้างสรรค์ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีค่าเฉลี่ย 17.73 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 88.67 และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างเกณฑ์กับคะแนนหลังเรียนของนักเรียน พบว่า ทักษะกระบวนการสร้างสรรค์หลังเรียนของนักเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 75 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ .05 4. การศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยวิธีการ สอนโมเดลซิปปา วิชาทัศนศิลป์ เรื่อง ประวัติศาสตร์ทัศนศิลป์ตะวันออกและตะวันตก สำหรับนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยรวมอยู่ในระดับ มาก (x̅ = 3.79)


51 อภิปรายผล 1. การพัฒนาการเรียนรู้โดยวิธีการสอนแบบรูปแบบซิปปา วิชาทัศนศิลป์เรื่อง ประวัติศาสตร์ ทัศนศิลป์ตะวันออกและตะวันตก สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 82/88.67 สูงกว่าเกณฑ์75/75 ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัย ดอกแก้ว สิงห์เผ่น (พรพิทักษ์ หมู่หัวนา 2561 : 61 อ้างอิงจาก ดอกแก้ว สิงห์เผ่น 2550, น. 64) ได้ศึกษาผลการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องทฤษฎีกราฟเบื้อต้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบชิปปากลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้เป็น นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2549 ของโรงเรียนพรเจริญวิทยา สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหนองคายเขต 3จำนวน 47 คนจาก 1 ห้องเรียนได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าประกอบด้วย1) แผนการจัดการเรียนรู้ ตามรูปแบบชิปปาเรื่องทฤษฎีกราฟเบื้องต้น 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจำนวน 1 ฉบับเป็น แบบปรนัย 4 ตัวเลือกจำนวน 30 ข้อมีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.20 ถึง 1.00 และค่าความเชื่อมั่นของ แบบทดสอบทั้งฉบับ เท่ากับ 0.85 จุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์เรื่องทฤษฎีกราฟเบื้องตันชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบชิปปาให้มี ประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์เรื่องทฤษฎีกราฟเบื้องต้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบชิปปาและศึกษา ความคงทนในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์เรื่องทฤษฎีกราฟเบื้องต้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้กิจกรรมการ เรียนรู้แบบชิปปาสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ร้อยละค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและทดสอบ สมมุติฐานโดยใช้ t-test (Dependent Sample) ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า 1) แผนการจัดการเรียกรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์เรื่องทฤษฎีกราฟเบื้องตันชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้ แบบชิปปามีประสิทธิภาพเท่ากับ83.97/75.16 2) ดัชนีประสิทธิ ผลของการจัดการเรียนรู้ด้วยแผนการ จัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์เรื่องทฤษฎีกราฟเบื้องตันชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้ กิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปามีค่าเท่ากับ 0.6650 3) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนวิชา คณิตศาสตร์เรื่องทฤษฎีกราฟเบื้องตันโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบชิปปามีความคงทนในการเรียนรู้ 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาทัศนศิลป์ การพัฒนาการเรียนรู้โดยวิธีการสอนแบบรูปแบบซิป ปา วิชาทัศนศิลป์ เรื่อง ประวัติศาสตร์ทัศนศิลป์ตะวันออกและตะวันตก สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 6 มีค่าเฉลี่ย 12.25 คะแนน และ 13.58 คะแนน ตามลำดับ และเปรียบเทียบระหว่างคะแนนก่อนเรียน และหลังเรียน พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทาง สถิติที่ระดับ .05 4. การศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยวิธีการสอน โมเดลซิปปา วิชาทัศนศิลป์ เรื่อง ประวัติศาสตร์ทัศนศิลป์ตะวันออกและตะวันตก สำหรับนักเรียนชั้น


52 มัธยมศึกษาปีที่ 6โดยรวมอยู่ในระดับ มาก (x̅ = 3.79) ซึ่งใกล้เคียงกับงานวิจัยของ มานิตย์ ลังก้า (มานิตย์ ลังก้า 2564 ; 32 อ้างอิงจาก กนกพรรณ ภูกองพลอย:2552) ได้ศึกษาการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนการคิดวิเคราะห์และความพึงพอใจในการเรียนรู้ กลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยีเรื่อง ธุรกิจ ในชีวิตประจำวันของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่จัดการเรียนรู้แบบ CIPPA กับการจัดการเรียนรู้ แบบปกติ พบว่านักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง ธุรกิจในชีวิตประจำวันด้วยวิธีการเรียนรู้แบบ CIPPA และที่เรียนรู้แบบปกติมีค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และ นักเรียนที่เรียนด้วย วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ CIPPA มีคะแนนค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียน การคิดวิเคราะห์ และความพึงพอใจในการเรียนสูงกว่านักเรียนที่เรียนด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้แบบปกติอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติทีระดับ .01 ข้อเสนอแนะ 1. ข้อเสนอแนะที่พบในงานวิจัยครั้งนี้ 1.1 การศึกษาและพัฒนาด้านความคิดสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 6 โดยใช้การจัดการเรียนการสอนโดยรูปแบบซิปปา (CIPPA MODEL) ก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 12.25 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 81.67 และมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 13.58 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 90.5 และเมื่อ เปรียบเทียบระหว่างเกณฑ์กับคะแนน ควรเน้นการจัดการเรียนรู้ที่สนับสนุนให้นักเรียนสามารถนำไป ประยุกต์ใช้ได้ 1.2 การศึกษาและพัฒนาด้านความคิดสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 6 โดยใช้การจัดการเรียนการสอนโดยรูปแบบซิปปา (CIPPA MODEL) ก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 12.25 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 81.67 และมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 13.58 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 90.5 และเมื่อ เปรียบเทียบระหว่างเกณฑ์กับคะแนน ควรมีการเชื่อมโยงความรู้เดิมกับความรู้ใหม่ที่นักเรียนสามารถ เข้าใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น 2. ข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งต่อไป 2.การศึกษาและพัฒนาด้านความคิดสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 6 โดยใช้การจัดการเรียนการสอนโดยรูปแบบซิปปา (CIPPA MODEL) ในครั้งต่อไป ควรมีกระบวนการ ที่สนับสนุนให้นักเรียนได้ใช้ทักษะการออกแบบอย่างเต็มที่


53 2.2 การศึกษาและพัฒนาด้านความคิดสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 6 โดยใช้การจัดการเรียนการสอนโดยรูปแบบซิปปา (CIPPA MODEL) ควรเน้นให้นักเรียนได้ใช้ ความสามารถของตนเอง ทั้งทางด้านอารมณ์ สติ ปัญญา และสังคม


54 บรรณานุกรม กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). ตัวชี้วัดและหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตร แห่งประเทศไทย กนกรัตน์ นาครัชตะอมร 2549. (2449). การพัฒนาผลการเรียนรู้เรื่องเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย รูปแบบซิปปา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. (วิทยานิพนธ์). มหาวิทยาลัยศิลปากร. สืบค้นเมื่อ 14 สิงหาคม 2566 จาก http://www.thapra.lib.su.ac.th กมลวรรณ บุญสาย. (2562). ผลของการใช้ตัวแบบที่มีต่อการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในการ ออกแบบ ผลิตภัณฑ์รายวิชาโครงการระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงปีที่ 2 สาขาวิชาการตลาด วิทยาลัย เทคโนโลยีอรรถวิทย์พณิชยการ. (วิจัยการพัฒนาการศึกษา). วิทยาลัยเทคโนโลยี อรรถวิทย์พณิชยการ กรุงเทพมหานคร. สืบค้นเมื่อ 16 ตุลาคม 2565 จาก http://www.atc.ac.th กองบริการการศึกษามหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ. (2527). การออกแบบ. พิมพ์ครั้งที่ 2. (มปพ.). ชลธิชา ชิวปรีชา. (2544). ความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัยที่ทำกิจกรรมศิลปะด้วยใบตอง. ปริญญา นิพนธ์การศึกษา มหาบัณฑิต. (การวิจัยและพัฒนาหลักสูตร) บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรี นครินทร์วิโรฒ. ชาญณรงค์ พรรุ่งโรงน์. (2543). การวิจัยทางศิลปะ. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย. ทน เขตกัน. (2550). เทคนิคสอนศิลปะอย่างสร้างสรรค์โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ. พิมพ์ครั้งที่2. กรุงเทพฯ: ธารอักอักษร. ทำนอง จันทิมา (2537). การออกแบบ. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพมหานคร: ไทยวัฒนาพานิช ทิศนา แขมมณี. (2548). การจัดเรียนรู้รูปแบบซิปปา (CIPPA MODEL). --กรุงเทพฯ : พัฒนา คุณภาพ วิชาการ ธูปทอง ศรีทองท้วม. (2539). ความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์ กิจกรรมการเคลื่อนไหวและจังหวะ โดยใช้กิจกรรมทักษะดนตรี. ปริญญานิพนธ์การศึกษา มหาบัณฑิต. (การวิจัยและพัฒนาหลักสูตร) บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ. นวลน้อย บุญวงษ์ (2542). หลักการออกแบบ. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.


55 ป.มหาขันธ์. (2539). สอนเด็กให้มีความสร้างสรรค์. กรุงเทพมหานคร: โอ.เอส.พริ้นติ้ง เฮ้าส์ ประเสริฐ ศิลรัตนา. (2538). การออกแบบลวดลาย. กรุงเทพมหานคร: โอ.เอส. พริ้นติ้ง เฮาส์. ผู้ช่วยศาสตราจารย์สิริพรรณ ตันติรัตนไพศาล. (2543). ศิลปะสำหรับเด็กปฐมวัย. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น. พรพิทักษ์ หมู่หัวนา. (2561). การพัฒนาการจัดการเรียนรู้รูปแบบซิปปา กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ เรื่อง เงิน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. . (วิทยานิพนธ์). มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม. สืบค้นเมื่อ 14 สิงหาคม 2566 จาก http://.rmu.ac.th/Pornpithak พาศนา ตัณฑลักษณ์. (2526). หลักการออกแบบ. กรุงเทพมหานคร: พิทักษ์อักษร. มานิตย์ ลังก้า. (2564). ผลการจัดการเรียนรู้ด้วยซิปปาโมเดล ในรายวิชางานบริการซ่อม เครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับนักศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่2 สาขาไฟฟ้ากำลัง วิทยาลัย เทคโนโลยีอุตรดิตถ์. (วิทยานิพนธ์). วิทยาลัยเทคโนโลยีอุตรดิตถ์. สืบค้นเมื่อ 13 สิงหาคม 2566 จาก http://202.29.52.112/dspace/bitstream/.pdf รองศาสตรจารย์เกษม สุดหอม, อาจารย์บำรุง กลัดเจริญ และอาจารย์ทองเรียน อมรัชกุล. (ม.ป.ท). ระเบียบวิธีการสอนทั่วไป (General Methods of Teaching). เอกสารประกอบการเรียน วิชาการศึกษา, (ม.ป.พ). (อัดสำเนา). รชดา บัวไพร. การศึกษาการจัดการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนแบบโมเดลซิปปา ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเจตคติทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1. (สารนิพนธ์). มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. สืบค้นเมื่อ 13 สิงหาคม 2566 จาก http://thesis.swu.ac.th/swuthesis/Sec_Ed/Rachada_B.pdf วรพงศ์ วรชาติอุดมพงศ์. (2535). ออกแบบกราฟิค (Graphic Design). กรุงเทพ:ศิลปาบรรณาคาร วิรุณ ตั้งเจริญ. (2526). การออกแบบ. กรุงเทพมหานคร: โอ.เอส. พริ้นติ้ง เฮาส์. วิรุณ ตั้งเจริญ. (2545). ออกแบบกราฟฟิค (Graphic Design). พิมพ์ครั้งที่ 2, กรุงเทพมหานคร: อีแอนด์ไอคิว วัฒนะ กตะวิกาด. (2527). การออกแบบ. กรุงเทพมหานคร: ปรารถนา. วัฒนะ จูฑะวิภาต. (2545). การออกแบบเครื่องประดับ. กรุงเทพฯ:สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย อาบีดะฮ์ คงสิเหร่. (2562). ผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้โมเดลซิปปาร่วมกับเกมที่มีต่อความสามารถ ในการอ่านและเขียนสะกดคำภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2. (วิทยานิพนธ์). มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา. สืบค้นเมื่อ 13 สิงหาคม 2566 จาก http://www.ska2.go.th


56 เกษร ธิตะจารี. (2535). ศิลปศึกษา ศึกษาศิลปะ. สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. เลิศ อานันทนะ. (2535). เทคนิควิธีการสอนศิลปะเด็ก. สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.


57 ภาคผนวก ก แผนกรจัดการเรียนรู้


58 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 การจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนการสอนตามรูปแบบซิปปา โมเดล (CIPPA MODEL) 1. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ 1.1 สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระ ชื่น ชม และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ตัวชี้วัด ศ 1.1 ม.4-6/6 ออกแบบงานทัศนศิลป์ได้เหมาะสมกับโอกาสและสถานที่ 2. สาระสำคัญ ทัศนศิลป์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถบอกความหมายงานจิตรกรรมฝาผนังจำลองที่ตนเองออกแบบและอธิบาย แนวความคิดได้(K) 2. นักเรียนสามารถนำเอาความรู้ในเรื่องทํสนศิลป์ยุคก่อนประวัติศาสตร์มาต่อยอดและ ประยุกต์ใช้ในชีวิตได้(P) 3. นักเรียนมีความรับผิดชอบ ตรงต่อเวลา มีระเบียบวินัย และเจตคติที่ดีต่อรายวิชาและสามารถ นำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ได้(A) โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สัปดาห์ที่ 3 สาระที่ 1 สาระทัศนศิลป์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 รูปแบบยุคสมัยทัศนศิลป์ตะวันตกและ ตะวันออก เวลา 1 ชั่วโมง เรื่อง หากเราเกิดในยุคนั้น (ยุคก่อนประวัติศาสตร์) (ทฤษฎี) เวลา 1 คาบ ผู้สอน นายกฤษศณกันต์ สิงห์น้อย วันที่สอน 30 เดือนตุลาคม – 2 เดือนพฤศจิกายน 2566 (ม.6/11 ห้อง 234)


59 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 การออกแบบ การออกแบบ คือ กิจกรรมการแก้ปัญหาเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายหรือจุดประสงค์ที่ตั้ง ไว้ (Design is a goal-directed problem-solving) เป็นการกระทำของมนุษย์ ด้วยจุดประสงค์ที่ ต้องการแจ้งผลเป็นสิ่งใหม่ๆ มีทั้งที่ออกแบบเพื่อสร้างขึ้นใหม่ให้แตกต่างจากของเดิมหรือปรับปรุงตกแต่ง ของเดิม ความสำคัญของออกแบบเป็นขั้นตอนเบื้องต้นที่จะทำให้กระบวนการในการผลิตสินค้าหรือ ผลิตภัณฑ์ประสบผลสำเร็จในตลาดและตรงตามเป้าหมาย งานออกแบบ คือ สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นโดยการเลือกนำเอาองค์ประกอบมาจัดเรียงให้เกิด รูปทรงใหม่ที่สามารถสนองความต้องการตามจุดประสงค์ของผู้สร้าง และสามารถผลิตได้ด้วยวัสดุและ กรรมวิธีการผลิตที่มีอยู่ในขณะนั้น 4.2 ทัศนศิลป์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ คืองานศิลปะที่ได้เริ่มทำก่อนกันมาก่อนที่มนุษย์จะรู้จักการบันทึกเรื่องราวที่เรียกว่ายุค ก่อนประวัติศาสตร์ โดยนับตั้งแต่ ยุคหินเก่าตอนปลาย ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาประมาณ 30,000-10,000 ปี มาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 15,000-10,000 มานั้น มนุษย์ได้เขียนภาพสี และขูดขีดบนผนังถ้ำและ เพิงผา เป็นภาพสัตว์ การล่าสัตว์และภาพลวดลายเรขาคณิต โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงออกเกี่ยวกับวิถี ชีวิตประจำวัน และแสดงความสามารถในการล่าสัตว์ภาพเหล่านี้มักระบายด้วยถ่านไม้ และสีที่ผสมกับ ไขมันสัตว์ พบได้ทั่วไปในประเทศฝรั่งเศสและภาคเหนือของสเปน ที่มีชื่อเสียงมากได้แก่ ถ้ำลาสโกซ์ ใน ฝรั่งเศส ถ้ำอัลตามิรา ในสเปน งานศิลปะในยุคเก่าไม่มีเพียงแต่การเขียนภาพเท่านั้น ยังมีการปั้นรูปด้วย ดินเหนียว หรือแกะสลักบนกระดูก เขาสัตว์ และงาช้าง เรื่องราวที่นิยมทำกันได้แก่เรื่อง การล่าสัตว์ หรือ บางก็มีรูปคน เป็นรูปสตรี ซึ่งอาจมีความหมายถึงการให้กำเนิดเป็นการเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับชนเผ่า 5. กระบวนการจัดการเรียนรู้ จัดกระบวนการเรียนรู้ ด้วยกระบวนการเรียนการสอนตามรูปแบบซิปปา (CIPPA MODEL) ขั้นที่ 1 การทบทวนความรู้เดิม - ครูและนักเรียนเรียนกล่าวทักทายกัน ครูสอบถามนักเรียนว่าเคยเรียน หรือรู้จัก ประวัติศาสตร์ศิลปะหรือไม่ ให้นักเรียนอธิบายตามคาเข้าใจเดิมของนักเรียนที่มีอยู่ ขั้นที่ 2 การแสวงหาความรู้ใหม่ - ครูอธิบายและให้นักเรียนทำความรู้จักการแบ่งยุคสมัยของศิลปะ โดยให้นักเรียนดู คร่าว ๆ ในแต่ละยุค และลองทายว่าผลงานชิ้นนี้อยู่ในยุคอะไร


60 ขั้นที่ 3 การศึกษาทำความเข้าใจข้อมูลความรู้ใหม่ และเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิม - นักเรียนศึกษาเนื้อหา เรื่อง ยุคสมัยก่อนประวิศาสตร์ จากสื่อที่ครูได้จัดเตรียมมา ขั้นที่ 4 การแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจ (เวลา 5 นาที) - นักเรียนแต่ละคนร่วมกันสนทนาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความรู้ที่ได้ศึกษา จากสื่อการเรียนรู้ เพื่อตรวจสอบความเข้าใจของตนเองและผู้อื่น โดยทำความเข้าใจพร้อมทั้งแลกเปลี่ยน มุมมองของแต่ละคน ขั้นที่ 5 การสรุปและจัดระเบียบความรู้ - นักเรียนช่วยกันสรุปองค์ความรู้ที่แต่ละคนมี และกลั่นกรองระหว่างความรู้เดิมกับ ความรู้ใหม่ที่ได้รับ เพื่อจัดระเบียบองค์ความรู้ให้ตนเองและเพื่อนในห้องเกิดความเข้าใจ - ครูแจ้งเกณฑ์การให้คะแนน - นักเรียนซักถามข้อสงสัยก่อนลงมือปฏิบัติงาน ขั้นที่ 6 การปฏิบัติ - ครูทบทวนกิจกรรมเดิม เรื่อง หากเกิดในยุคนั้น ให้นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์ว่าเกิด ปัญหาอะไรขึ้นบ้างในการทำงาน - ครูเชื่อมโยงเข้าเรื่องที่จะสอนโดยนำเกม “ทายซิ ยุคไหนเอ่ย” คือ ให้นักเรียนลองทาย ภาพแต่ละยุค นักเรียนคนใดตอบได้ ก็จะได้คะแนนส่วนนี้เป็นคะแนนเสริม - ครูนำตัวอย่างฝาผนังถ้ำแบบต่าง ๆ มาให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์ - ครูเดินดูนักเรียนปฏิบัติงานรอบ ๆ ห้อง พร้อมทั้งคอยให้คำแนะนำ ขั้นที่ 7 นำไปประยุกต์ใช้ - นักเรียนร่วมสรุปความรู้จากการปฏิบัติงาน ว่ามีข้อดี ข้อบกพร่องและแนวทางแก้ไข อย่างไร - นักเรียนร่วมกันสรุปบทเรียน/ถอดบทเรียนในภาพรวม และสุ่มถามผู้เรียน 2-3 คน ให้ บอกถึงความรู้ที่ได้รับ ทักษะ และการนำไปประยุกต์ใช้ จากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ - ครูผู้สอนสรุปกิจกรรมการเรียนรู้เพิ่มเติมว่า ผู้เรียนสามารถสรุปองค์ความรู้ในเรื่อง ยุค สมัยก่อนประวิศาสตร์ ได้เข้าใจมากน้อยแค่ไหน เพื่อที่จะนำไปประยุกต์ใช้ครั้งต่อไปได้ พร้อมทั้งสรุป ประเด็นของข้อดี ข้อบกพร่อง และวิธีแก้ไข - นักเรียนร่วมกันทำความสะอาดห้องเรียน เก็บวัสดุ-อุปกรณ์ ที่ใช้ในการทำกิจกรรม 6. สื่อและแหล่งเรียนรู้ 6.1 สื่อ 1. เกม “ทายซิยุคไหน” 2. สื่อการสอนเรื่อง “ประวัติศาสตร์ศิลป์ ช่วงสมัยก่อนประวัติศาสตร์”


61 3. คำชี้แจงเรื่องการออกแบบแบบฝาผนังถ้ำ 4. อุปกรณ์ที่ใช้ในการวาดภาพ เช่น ดินสอน ยางลบ สีไม้ 6.2 แหล่งเรียนรู้ 1. ห้องสมุด 2. อินเตอร์เน็ต/เว็บไซต์ต่าง ๆ 7. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ จุดประสงค์ เครื่องมือ/วิธีการวัด เกณฑ์ความสำเร็จ 1. นักเรียนสามารถบอก ความหมายงานจิตรกรรมฝา ผนังจำลองที่ตนเองออกแบบ และอธิบายแนวความคิดได้ (K) แบบประเมินการตอบคำถาม และอภิปรายในชั้นเรียน ผ่านเกณฑ์การประเมินที่ระดับ คุณภาพ 80% ขึ้นไป 2. นักเรียนสามารถนำเอา ความรู้ในเรื่อง ทัศนศิลป์ยุค ก่อนประวัติศาสตร์มาต่อยอด และประยุกต์ใช้ในชีวิตได้(P) แบบประเมินการตอบคำถาม และอภิปรายในชั้นเรียน ผ่านเกณฑ์การประเมินที่ระดับ คุณภาพ 80% ขึ้นไป 3. นักเรียนมีความรับผิดชอบ ตรงต่อเวลา มีระเบียบวินัย และเจตคติที่ดีต่อรายวิชาและ สามารถนำความรู้ที่ได้รับไป ประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ (A) 1. แบบประเมินชิ้นงาน 2. แบบประเมินการนำเสนอ ผ่านเกณฑ์การประเมินที่ระดับ คุณภาพ 80% ขึ้นไป


62 8. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ 8.1 ความสำเร็จในการจัดการเรียนรู้ ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 8.2 แนวทางการพัฒนา ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 8.3 ปัญหา/อุปสรรคในการจัดการเรียนรู้ ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ลงชื่อ................................................. (นายกฤษศณกันต์ สิงห์น้อย) ผู้สอน .............../.........................../................. ความเห็นของครูพี่เลี้ยง ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ลงชื่อ......................................................... (นายสราวุธ ใจแจ้ง) ครูพี่เลี้ยง .............../.........................../.................


63 ความเห็นผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ลงชื่อ......................................................... (นายพัฒนะ นรินทร์) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ .............../.........................../.................


64 แบบประเมินการตอบคำถามและอภิปรายในชั้นเรียน รายวิชา...................................................รหัสวิชา................................ชั้นมัธยมศึกษาปีที่.................... คำชี้แจง ให้ครูทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนตามเกณฑ์การประเมิน เลข ที่ ชื่อ - สกุล ตอบคำถามได้ ถูกต้อง เสนอตนเอง ในการตอบ คำถาม ช่วยผู้อื่น ในการตอบ คำถาม รวม 5 4 3 2 1 5 4 3 2 1 5 4 3 2 1 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22


65 23 24 25 26 27 28 29 30 .ลงชื่อ......................................................... (นายกฤษศณกันต์ สิงห์น้อย) ผู้ประเมิน .............../.........................../.................


66 เกณฑ์การประเมินการตอบคำถามและอภิปรายในชั้นเรียน ประเด็น การประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน / ระดับคุณภาพ ดีมาก (5) ดี (4) ปานกลาง (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1.ตอบ คำถามได้ ถูกต้องเสนอ ตนเองใน การตอบ คำถามช่วย ผู้อื่นในการ ตอบคำถาม ตอบคำถาม ได้ถูกต้อง สมบูรณ์ ตรงประเด็น ละเอียดชัดเจน และมีการ ขยายความ ตอบคำถามได้ ถูกต้อง 100% ตรงประเด็น ตอบคำถาม ได้ถูกต้อง 80% ยังไม่ตรง ประเด็นทั้งหมด ตอบคำถามได้ ถูกต้อง 50% ยังไม่ตรง ประเด็นทั้งหมด ตอบคำถามได้ ถูกต้องต่ำกว่า 50% หรือตอบ ไม่ถูกเลย 2.เสนอ ตนเองใน การตอบ คำถาม รีบยกมือเสนอ ตนเองในการ ตอบคำถาม เป็นคนแรกเป็น ประจำ ยกมือเสนอ ตนเอง ในการตอบ คำถาม เป็นประจำ ยกมือเสนอ ตนเอง ในการตอบ คำถาม บ่อยครั้ง แต่ไม่ เป็นประจำ หมายถึง ยกมือ เสนอตนเองใน การตอบคำถาม บ้าง ไม่เสนอตนเอง ในการตอบ คำถามเลย 3.ช่วยผู้อื่น ในการตอบ คำถาม ให้ความ ช่วยเหลือผู้อื่น ได้ดี ให้ คำแนะนำ และเป็นที่พึ่ง ของเพื่อน ๆทุก คนได้เป็นอย่าง ดี ให้ความ ช่วยเหลือผู้อื่น ได้ ให้คำแนะนำ และเป็นที่พึ่ง ของเพื่อน ๆ ได้ ให้ความ ช่วยเหลือผู้อื่น ได้ดี ในบาง เวลา ให้ความ ช่วยเหลือผู้อื่น อย่างไม่ค่อย เต็มใจ ทำงานเพียง ลำพังผู้เดียว


67 เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 13-15 ดีมาก 10-12 ดี 7-9 ปานกลาง 4-6 พอใช้ 1-3 ควรปรับปรุง


68 แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เลขที่.................เรื่อง............................................................................................................................... รายวิชา...................................................รหัสวิชา..............................ชั้นมัธยมศึกษาปีที่...................... คำชี้แจง ให้ครูทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนตามเกณฑ์การประเมิน ประเด็นการประเมิน ระดับคะแนน รวม หมายเหตุ 5 4 3 2 1 1. เข้าเรียนและส่งงานตรงเวลา ปฏิบัติตาม ข้อตกลงในชั้นเรียน 2. แสวงหาความรู้เพิ่มเติมทั้งด้วยตนเองและ จากห้องเรียน 3. ตั้งใจเรียน มีความใส่ใจในการทำงานและ การทำกิจกรรม คะแนนรวม ลงชื่อ......................................................... (นายกฤษศณกันต์ สิงห์น้อย) ผู้ประเมิน .............../.........................../.................


69 เกณฑ์การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ประเด็น การประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน / ระดับคุณภาพ ดีมาก (5) ดี (4) ปานกลาง (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1.เข้าเรียน และส่งงาน ตรงเวลา ปฏิบัติตาม ข้อตกลงใน ชั้นเรียน นักเรียนร้อย ละ 71 ขึ้นไป เข้าเรียนและ ส่งงานตรง เวลา ปฏิบัติ ตามข้อตกลง ในชั้นเรียน นักเรียนร้อยละ 51- 70 เข้า เรียนและส่งงาน ตรงเวลา ปฏิบัติ ตามข้อตกลงใน ชั้นเรียน นักเรียนเข้า เรียนและ ส่งงานตรงเวลา ปฏิบัติตาม ข้อตกลงในชั้น เรียนร้อยละ 50 นักเรียนเข้าเรียน และ ส่งงานตรงเวลา ปฏิบัติตาม ข้อตกลงในชั้น เรียนต่ำกว่าร้อยละ 40 นักเรียนเข้าเรียน และส่งงานไม่ ตรงเวลา และไม่ ปฏิบัติตาม ข้อตกลงในชั้น เรียน 2. แสวงหา ความรู้ เพิ่มเติมทั้ง ด้วยตนเอง และจาก ห้องเรียน นักเรียนร้อย ละ 71 ขึ้นไป แสวงหาความรู้ เพิ่มเติมทั้งด้วย ตนเองและจาก ห้องเรียน นักเรียนร้อยละ 51- 70 แสวงหา ความรู้เพิ่มเติม ทั้งด้วยตนเอง และจาก ห้องเรียน นักเรียน แสวงหาความรู้ เพิ่มเติมทั้งด้วย ตนเองและจาก ห้องเรียน ต่ำกว่าร้อยละ 50 นักเรียนแสวงหา ความรู้เพิ่มเติมทั้ง ด้วยตนเองและ จากห้องเรียน ต่ำกว่าร้อยละ 40 นักเรียนไม่ แสวงหาความรู้ เพิ่มเติมทั้งด้วย ตนเองและจาก ห้องเรียน 3. ตั้งใจเรียน มีความใส่ใจ ในการทำงาน และการทำ กิจกรรม นักเรียนร้อย ละ 71 ขึ้นไป ตั้งใจเรียน มี ความใส่ใจใน การทำงาน และการทำ กิจกรรม นักเรียนร้อยละ 51- 70 ตั้งใจ เรียน มีความใส่ ใจในการทำงาน และการทำ กิจกรรม นักเรียนตั้งใจ เรียน มีความใส่ใจใน การทำงานและ การทำกิจกรรม ต่ำกว่าร้อยละ 50 นักเรียนตั้งใจ เรียน มีความใส่ใจในการ ทำงานและการทำ กิจกรรมต่ำกว่า ร้อยละ 30 นักเรียนขาดการ ตั้งใจเรียน ไม่มีความใส่ใจใน การทำงานและ การทำกิจกรรม


70 เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14-15 ดีมาก 12-13 ดี 10-11 ปานกลาง 8-9 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ควรปรับปรุง


71 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 การจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนการสอนตามรูปแบบซิปปา โมเดล (CIPPA MODEL) 1. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ 1.1 สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระ ชื่น ชม และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ตัวชี้วัด ศ 1.1 ม.4-6/6 ออกแบบงานทัศนศิลป์ได้เหมาะสมกับโอกาสและสถานที่ 2. สาระสำคัญ ทัศนศิลป์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถบอกความหมายงานจิตรกรรมฝาผนังจำลองที่ตนเองออกแบบและอธิบาย แนวความคิดได้(K) 2. นักเรียนสามารถนำเอาความรู้ในเรื่องทํสนศิลป์ยุคก่อนประวัติศาสตร์มาต่อยอดและ ประยุกต์ใช้ในชีวิตได้(P) 3. นักเรียนมีความรับผิดชอบ ตรงต่อเวลา มีระเบียบวินัย และเจตคติที่ดีต่อรายวิชาและสามารถ นำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ได้(A) โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สัปดาห์ที่ 4 สาระที่ 1 สาระทัศนศิลป์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 รูปแบบยุคสมัยทัศนศิลป์ตะวันตกและ ตะวันออก เวลา 1 ชั่วโมง เรื่อง หากเราเกิดในยุคนั้น (ยุคก่อนประวัติศาสตร์) (ปฏิบัติ) เวลา 1 คาบ ผู้สอน นายกฤษศณกันต์ สิงห์น้อย วันที่สอน 6 - 9 เดือนพฤศจิกายน 2566 (ม.6/11 ห้อง 234)


72 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 การออกแบบ การออกแบบ คือ กิจกรรมการแก้ปัญหาเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายหรือจุดประสงค์ที่ตั้ง ไว้ (Design is a goal-directed problem-solving) เป็นการกระทำของมนุษย์ ด้วยจุดประสงค์ที่ ต้องการแจ้งผลเป็นสิ่งใหม่ๆ มีทั้งที่ออกแบบเพื่อสร้างขึ้นใหม่ให้แตกต่างจากของเดิมหรือปรับปรุงตกแต่ง ของเดิม ความสำคัญของออกแบบเป็นขั้นตอนเบื้องต้นที่จะทำให้กระบวนการในการผลิตสินค้าหรือ ผลิตภัณฑ์ประสบผลสำเร็จในตลาดและตรงตามเป้าหมาย งานออกแบบ คือ สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นโดยการเลือกนำเอาองค์ประกอบมาจัดเรียงให้เกิด รูปทรงใหม่ที่สามารถสนองความต้องการตามจุดประสงค์ของผู้สร้าง และสามารถผลิตได้ด้วยวัสดุและ กรรมวิธีการผลิตที่มีอยู่ในขณะนั้น 4.2 ทัศนศิลป์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ คืองานศิลปะที่ได้เริ่มทำก่อนกันมาก่อนที่มนุษย์จะรู้จักการบันทึกเรื่องราวที่เรียกว่ายุค ก่อนประวัติศาสตร์ โดยนับตั้งแต่ ยุคหินเก่าตอนปลาย ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาประมาณ 30,000-10,000 ปี มาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 15,000-10,000 มานั้น มนุษย์ได้เขียนภาพสี และขูดขีดบนผนังถ้ำและ เพิงผา เป็นภาพสัตว์ การล่าสัตว์และภาพลวดลายเรขาคณิต โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงออกเกี่ยวกับวิถี ชีวิตประจำวัน และแสดงความสามารถในการล่าสัตว์ ภาพเหล่านี้มักระบายด้วยถ่านไม้ และสีที่ผสมกับ ไขมันสัตว์ พบได้ทั่วไปในประเทศฝรั่งเศสและภาคเหนือของสเปน ที่มีชื่อเสียงมากได้แก่ ถ้ำลาสโกซ์ ใน ฝรั่งเศส ถ้ำอัลตามิรา ในสเปน งานศิลปะในยุคเก่าไม่มีเพียงแต่การเขียนภาพเท่านั้น ยังมีการปั้นรูปด้วย ดินเหนียว หรือแกะสลักบนกระดูก เขาสัตว์ และงาช้าง เรื่องราวที่นิยมทำกันได้แก่เรื่อง การล่าสัตว์ หรือ บางก็มีรูปคน เป็นรูปสตรีซึ่งอาจมีความหมายถึงการให้กำเนิดเป็นการเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับชนเผ่า 5. กระบวนการจัดการเรียนรู้ จัดกระบวนการเรียนรู้ ด้วยกระบวนการเรียนการสอนตามรูปแบบซิปปา (CIPPA MODEL) ขั้นที่ 1 การทบทวนความรู้เดิม - ครูและนักเรียนเรียนกล่าวทักทายกัน ครูสอบถามนักเรียนว่าเคยเรียน หรือรู้จัก ประวัติศาสตร์ศิลปะหรือไม่ ให้นักเรียนอธิบายตามคาเข้าใจเดิมของนักเรียนที่มีอยู่


73 ขั้นที่ 2 การแสวงหาความรู้ใหม่ - ครูอธิบายและให้นักเรียนทำความรู้จักการแบ่งยุคสมัยของศิลปะ โดยให้นักเรียนดู คร่าว ๆ ในแต่ละยุค และลองทายว่าผลงานชิ้นนี้อยู่ในยุคอะไร ขั้นที่ 3 การศึกษาทำความเข้าใจข้อมูลความรู้ใหม่ และเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิม - นักเรียนศึกษาเนื้อหา เรื่อง ยุคสมัยก่อนประวิศาสตร์ จากสื่อที่ครูได้จัดเตรียมมา ขั้นที่ 4 การแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจ (เวลา 5 นาที) - นักเรียนแต่ละคนร่วมกันสนทนาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความรู้ที่ได้ศึกษา จากสื่อการเรียนรู้ เพื่อตรวจสอบความเข้าใจของตนเองและผู้อื่น โดยทำความเข้าใจพร้อมทั้งแลกเปลี่ยน มุมมองของแต่ละคน ขั้นที่ 5 การสรุปและจัดระเบียบความรู้ - นักเรียนช่วยกันสรุปองค์ความรู้ที่แต่ละคนมี และกลั่นกรองระหว่างความรู้เดิมกับ ความรู้ใหม่ที่ได้รับ เพื่อจัดระเบียบองค์ความรู้ให้ตนเองและเพื่อนในห้องเกิดความเข้าใจ - ครูแจ้งเกณฑ์การให้คะแนน - นักเรียนซักถามข้อสงสัยก่อนลงมือปฏิบัติงาน ขั้นที่ 6 การปฏิบัติ - ครูทบทวนกิจกรรมเดิม เรื่อง หากเกิดในยุคนั้น ให้นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์ว่าเกิด ปัญหาอะไรขึ้นบ้างในการทำงาน - ครูเชื่อมโยงเข้าเรื่องที่จะสอนโดยนำเกม “ทายซิ ยุคไหนเอ่ย” คือ ให้นักเรียนลองทาย ภาพแต่ละยุค นักเรียนคนใดตอบได้ ก็จะได้คะแนนส่วนนี้เป็นคะแนนเสริม - ครูนำตัวอย่างฝาผนังถ้ำแบบต่าง ๆ มาให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์ และให้นักเรียน ออกแบบฝาผนังถ้ำของตัวเองโดยอิงเรื่องราวจากชีวิตประจำวันของนักเรียนเอง โดยมีกติกาคือ ต้องใช้ สี แดง สีดำ และสีน้ำตาลเท่านั้น - ครูเดินดูนักเรียนปฏิบัติงานรอบ ๆ ห้อง พร้อมทั้งคอยให้คำแนะนำ ขั้นที่ 7 นำไปประยุกต์ใช้ (เวลา 5 นาที) - นักเรียนร่วมสรุปความรู้จากการปฏิบัติงาน ว่ามีข้อดี ข้อบกพร่องและแนวทางแก้ไข อย่างไร - นักเรียนร่วมกันสรุปบทเรียน/ถอดบทเรียนในภาพรวม และสุ่มถามผู้เรียน 2-3 คน ให้ บอกถึงความรู้ที่ได้รับ ทักษะ และการนำไปประยุกต์ใช้ จากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ - ครูผู้สอนสรุปกิจกรรมการเรียนรู้เพิ่มเติมว่า ผู้เรียนสามารถสรุปองค์ความรู้ในเรื่อง ยุค สมัยก่อนประวิศาสตร์ ได้เข้าใจมากน้อยแค่ไหน เพื่อที่จะนำไปประยุกต์ใช้ครั้งต่อไปได้ พร้อมทั้งสรุป ประเด็นของข้อดี ข้อบกพร่อง และวิธีแก้ไข - นักเรียนร่วมกันทำความสะอาดห้องเรียน เก็บวัสดุ-อุปกรณ์ ที่ใช้ในการทำกิจกรรม


74 6. สื่อและแหล่งเรียนรู้ 6.1 สื่อ 1. เกม “ทายซิยุคไหน” 2. สื่อการสอนเรื่อง “ประวัติศาสตร์ศิลป์ ช่วงสมัยก่อนประวัติศาสตร์” 3. คำชี้แจงเรื่องการออกแบบแบบฝาผนังถ้ำ 4. อุปกรณ์ที่ใช้ในการวาดภาพ เช่น ดินสอน ยางลบ สีไม้ 6.2 แหล่งเรียนรู้ 1. ห้องสมุด 2. อินเตอร์เน็ต/เว็บไซต์ต่าง ๆ 7. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ จุดประสงค์ เครื่องมือ/วิธีการวัด เกณฑ์ความสำเร็จ 1. นักเรียนสามารถบอก ความหมายงานจิตรกรรมฝา ผนังจำลองที่ตนเองออกแบบ และอธิบายแนวความคิดได้ (K) แบบประเมินการตอบคำถาม และอภิปรายในชั้นเรียน ผ่านเกณฑ์การประเมินที่ระดับ คุณภาพ 80% ขึ้นไป 2. นักเรียนสามารถนำเอา ความรู้ในเรื่อง ทัศนศิลป์ยุค ก่อนประวัติศาสตร์มาต่อยอด และประยุกต์ใช้ในชีวิตได้(P) แบบประเมินการตอบคำถาม และอภิปรายในชั้นเรียน ผ่านเกณฑ์การประเมินที่ระดับ คุณภาพ 80% ขึ้นไป 3. นักเรียนมีความรับผิดชอบ ตรงต่อเวลา มีระเบียบวินัย และเจตคติที่ดีต่อรายวิชาและ สามารถนำความรู้ที่ได้รับไป ประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ (A) 1. แบบประเมินชิ้นงาน 2. แบบประเมินการนำเสนอ ผ่านเกณฑ์การประเมินที่ระดับ คุณภาพ 80% ขึ้นไป


75 8. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ 8.1 ความสำเร็จในการจัดการเรียนรู้ ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 8.2 แนวทางการพัฒนา ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... 8.3 ปัญหา/อุปสรรคในการจัดการเรียนรู้ ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ลงชื่อ............................................................. (นายกฤษศณกันต์ สิงห์น้อย) ผู้สอน .............../.........................../................. ความเห็นของครูพี่เลี้ยง ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ลงชื่อ......................................................... (นายสราวุธ ใจแจ้ง) ครูพี่เลี้ยง .............../.........................../.................


76 ความเห็นผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................... ลงชื่อ......................................................... (นายพัฒนะ นรินทร์) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ .............../.........................../.................


77 แบบประเมินการตอบคำถามและอภิปรายในชั้นเรียน รายวิชา...................................................รหัสวิชา................................ชั้นมัธยมศึกษาปีที่.................... คำชี้แจง ให้ครูทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนตามเกณฑ์การประเมิน เลข ที่ ชื่อ - สกุล ตอบคำถามได้ ถูกต้อง เสนอตนเอง ในการตอบ คำถาม ช่วยผู้อื่น ในการตอบ คำถาม รวม 5 4 3 2 1 5 4 3 2 1 5 4 3 2 1 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22


78 23 24 25 26 27 28 29 30 ลงชื่อ......................................................... (นายกฤษศณกันต์ สิงห์น้อย) ผู้ประเมิน .............../.........................../.................


79 เกณฑ์การประเมินการตอบคำถามและอภิปรายในชั้นเรียน ประเด็น การประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน / ระดับคุณภาพ ดีมาก (5) ดี (4) ปานกลาง (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1.ตอบ คำถามได้ ถูกต้องเสนอ ตนเองใน การตอบ คำถามช่วย ผู้อื่นในการ ตอบคำถาม ตอบคำถาม ได้ถูกต้อง สมบูรณ์ ตรงประเด็น ละเอียดชัดเจน และมีการ ขยายความ ตอบคำถามได้ ถูกต้อง 100% ตรงประเด็น ตอบคำถาม ได้ถูกต้อง 80% ยังไม่ตรง ประเด็นทั้งหมด ตอบคำถามได้ ถูกต้อง 50% ยังไม่ตรง ประเด็นทั้งหมด ตอบคำถามได้ ถูกต้องต่ำกว่า 50% หรือตอบ ไม่ถูกเลย 2.เสนอ ตนเองใน การตอบ คำถาม รีบยกมือเสนอ ตนเองในการ ตอบคำถาม เป็นคนแรกเป็น ประจำ ยกมือเสนอ ตนเอง ในการตอบ คำถาม เป็นประจำ ยกมือเสนอ ตนเอง ในการตอบ คำถาม บ่อยครั้ง แต่ไม่ เป็นประจำ หมายถึง ยกมือ เสนอตนเองใน การตอบคำถาม บ้าง ไม่เสนอตนเอง ในการตอบ คำถามเลย 3.ช่วยผู้อื่น ในการตอบ คำถาม ให้ความ ช่วยเหลือผู้อื่น ได้ดี ให้ คำแนะนำ และเป็นที่พึ่ง ของเพื่อน ๆทุก คนได้เป็นอย่าง ดี ให้ความ ช่วยเหลือผู้อื่น ได้ ให้คำแนะนำ และเป็นที่พึ่ง ของเพื่อน ๆ ได้ ให้ความ ช่วยเหลือผู้อื่น ได้ดี ในบาง เวลา ให้ความ ช่วยเหลือผู้อื่น อย่างไม่ค่อย เต็มใจ ทำงานเพียง ลำพังผู้เดียว


80 เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 13-15 ดีมาก 10-12 ดี 7-9 ปานกลาง 4-6 พอใช้ 1-3 ควรปรับปรุง


81 แบบประเมินชิ้นงาน เลขที่.................เรื่อง.................................................................................................................... รายวิชา...................................................รหัสวิชา.....................ชั้นมัธยมศึกษาปีที่...................... คำชี้แจง ให้ครูทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนตามเกณฑ์การประเมิน ประเด็นการประเมิน ระดับคะแนน รวม หมายเหตุ 5 4 3 2 1 1. รูปแบบของใบงาน/ชิ้นงาน 2. ความถูกต้องของข้อมูล/เนื้อหาสาระ 3. ความตรงต่อเวลา คะแนนรวม ลงชื่อ......................................................... (นายกฤษศณกันต์ สิงห์น้อย) ผู้ประเมิน .............../.........................../.................


82 เกณฑ์การประเมินชิ้นงาน ประเด็น การประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน / ระดับคุณภาพ ดีมาก (5) ดี (4) ปานกลาง (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1.รูปแบบ ของ ชิ้นงาน รูปแบบของ งานถูกต้อง ตามกำหนด มี ความเป็น ระเบียบ เรียบร้อย ตกแต่งอย่าง สวยงาม แสดง ถึงความคิด ริเริ่ม สร้างสรรค์ รูปแบบของงาน ถูกต้องตาม กำหนด มีความเป็น ระเบียบ เรียบร้อย แสดง ถึงความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ รูปแบบของงาน ถูกต้องตาม กำหนด มีความเป็น ระเบียบ เรียบร้อย รูปแบบของงาน ถูกต้องตามกำหนด บางส่วน รูปแบบของงาน ไม่ถูกต้องตาม กำหนด 2.ความ ถูกต้องของ ข้อมูล/ เนื้อหาสาระ เนื้อหาสาระ ถูกต้อง ตรง ตามหัวข้อ ครบถ้วน ละเอียดชัดเจน และมีการ สืบค้นข้อมูล เพิ่มเติม นอกเหนือ จากบทเรียน ตรงตามหัวข้อ เนื้อหาสาระ ถูกต้องครบถ้วน ละเอียดชัดเจน ตรงตามหัวข้อ เนื้อหาสาระ ส่วนมากถูกต้อง ตรงตามหัวข้อ เนื้อหาสาระ ถูกต้องเพียง บางส่วน เนื้อหาสาระไม่ ถูกต้อง 3.ความตรง ต่อเวลา ส่งงานภายใน ระยะเวลาที่ กำหนด ส่งงานช้ากว่า กำหนด 1 วัน ส่งงานช้ากว่า กำหนด 2 วัน ส่งงานช้ากว่า กำหนด 3 วัน ส่งงานช้ากว่า กำหนดเกิน 4 วัน ขึ้นไป


83 เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14-15 ดีมาก 12-13 ดี 10-11 ปานกลาง 8-9 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ควรปรับปรุง


84 แบบประเมินการนำเสนอหน้าชั้นเรียน เลขที่.................เรื่อง............................................................................................................................. รายวิชา...................................................รหัสวิชา............................ชั้นมัธยมศึกษาปีที่...................... คำชี้แจง ให้ครูทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนตามเกณฑ์การประเมิน ประเด็นการประเมิน ระดับคะแนน รวม หมายเหตุ 5 4 3 2 1 1. มีความพร้อมในการนำเสนอ 2. ความถูกต้องของข้อมูล เนื้อหาสาระ 3. การใช้ภาษาในการสื่อสาร คะแนนรวม ลงชื่อ......................................................... (นายกฤษศณกันต์ สิงห์น้อย) ผู้ประเมิน .............../.........................../.................


85 เกณฑ์การประเมินการนำเสนอหน้าชั้นเรียน ประเด็น การประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน / ระดับคุณภาพ ดีมาก (5) ดี (4) ปานกลาง (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1. มี ความพร้อม ในการ นำเสนอ สมาชิกทุกคน ในกลุ่มมีส่วน ร่วม ในการนำเสนอ มีความพร้อม ในการนำเสนอ มีความ น่าสนใจ ในการนำเสนอ สมาชิกทุกคน ในกลุ่มมีส่วน ร่วม ในการนำเสนอ มีความพร้อมใน การนำเสนอ ขาดความมั่นใจ ในการนำเสนอ มีความพร้อม ในการนำเสนอ แต่บางช่วง สมาชิกบางคน ไม่มีส่วนร่วม และขาดความ มั่นใจในการ นำเสนอ สมาชิกในกลุ่ม ขาดความพร้อม ในการนำเสนอ ขาดความมั่นใจ ในการนำเสนอ สมาชิกไม่มี ความพร้อมใน การนำเสนอ และไม่มีความ มั่นใจในการ นำเสนอ 2.ความ ถูกต้องของ ข้อมูล เนื้อหา สาระ อธิบายเนื้อหา สาระได้ถูกต้อง ครบถ้วน ละเอียดชัดเจน อธิบายเนื้อหา สาระได้ถูกต้อง ครบถ้วนและ ชัดเจน อธิบายเนื้อหา สาระส่วนมากได้ ถูกต้อง อธิบายเนื้อหา สาระได้ถูกต้อง เพียงบางส่วน อธิบายเนื้อหา สาระได้เพียง เล็กน้อย ไม่ครบถ้วน 3.การใช้ ภาษาในการ สื่อสาร ใช้ภาษาที่ เข้าใจง่าย สื่อ ความหมายได้ ชัดเจน ชัดถ้อย ชัดคำ น้ำเสียง น่าสนใจ ใช้ภาษาที่เข้าใจ ง่าย สื่อ ความหมายได้ ชัดเจน ชัดถ้อย ชัดคำ ใช้ภาษาที่เข้าใจ ง่าย สื่อ ความหมายได้ ใช้ภาษาที่เข้าใจ ยาก แต่สามารถ สื่อความหมายได้ ใช้ภาษาที่เข้าใจ ยาก ไม่สามารถ สื่อความหมายได้


86 เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14-15 ดีมาก 12-13 ดี 10-11 ปานกลาง 8-9 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ควรปรับปรุง


87 แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เลขที่.................เรื่อง............................................................................................................................... รายวิชา...................................................รหัสวิชา..............................ชั้นมัธยมศึกษาปีที่...................... คำชี้แจง ให้ครูทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนตามเกณฑ์การประเมิน ประเด็นการประเมิน ระดับคะแนน รวม หมายเหตุ 5 4 3 2 1 1. เข้าเรียนและส่งงานตรงเวลา ปฏิบัติตาม ข้อตกลงในชั้นเรียน 2. แสวงหาความรู้เพิ่มเติมทั้งด้วยตนเองและ จากห้องเรียน 3. ตั้งใจเรียน มีความใส่ใจในการทำงานและ การทำกิจกรรม คะแนนรวม ลงชื่อ......................................................... (นายกฤษศณกันต์ สิงห์น้อย) ผู้ประเมิน .............../.........................../.................


88 เกณฑ์การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ประเด็น การประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน / ระดับคุณภาพ ดีมาก (5) ดี (4) ปานกลาง (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1.เข้าเรียน และส่งงาน ตรงเวลา ปฏิบัติตาม ข้อตกลงใน ชั้นเรียน นักเรียนร้อย ละ 71 ขึ้นไป เข้าเรียนและ ส่งงานตรง เวลา ปฏิบัติ ตามข้อตกลง ในชั้นเรียน นักเรียนร้อยละ 51- 70 เข้า เรียนและส่งงาน ตรงเวลา ปฏิบัติ ตามข้อตกลงใน ชั้นเรียน นักเรียนเข้า เรียนและ ส่งงานตรงเวลา ปฏิบัติตาม ข้อตกลงในชั้น เรียนร้อยละ 50 นักเรียนเข้าเรียน และ ส่งงานตรงเวลา ปฏิบัติตาม ข้อตกลงในชั้น เรียนต่ำกว่าร้อยละ 40 นักเรียนเข้าเรียน และส่งงานไม่ ตรงเวลา และไม่ ปฏิบัติตาม ข้อตกลงในชั้น เรียน 2. แสวงหา ความรู้ เพิ่มเติมทั้ง ด้วยตนเอง และจาก ห้องเรียน นักเรียนร้อย ละ 71 ขึ้นไป แสวงหาความรู้ เพิ่มเติมทั้งด้วย ตนเองและจาก ห้องเรียน นักเรียนร้อยละ 51- 70 แสวงหา ความรู้เพิ่มเติม ทั้งด้วยตนเอง และจาก ห้องเรียน นักเรียน แสวงหาความรู้ เพิ่มเติมทั้งด้วย ตนเองและจาก ห้องเรียน ต่ำกว่าร้อยละ 50 นักเรียนแสวงหา ความรู้เพิ่มเติมทั้ง ด้วยตนเองและ จากห้องเรียน ต่ำกว่าร้อยละ 40 นักเรียนไม่ แสวงหาความรู้ เพิ่มเติมทั้งด้วย ตนเองและจาก ห้องเรียน 3. ตั้งใจเรียน มีความใส่ใจ ในการทำงาน และการทำ กิจกรรม นักเรียนร้อย ละ 71 ขึ้นไป ตั้งใจเรียน มี ความใส่ใจใน การทำงาน และการทำ กิจกรรม นักเรียนร้อยละ 51- 70 ตั้งใจ เรียน มีความใส่ ใจในการทำงาน และการทำ กิจกรรม นักเรียนตั้งใจ เรียน มีความใส่ใจใน การทำงานและ การทำกิจกรรม ต่ำกว่าร้อยละ 50 นักเรียนตั้งใจ เรียน มีความใส่ใจในการ ทำงานและการทำ กิจกรรมต่ำกว่า ร้อยละ 30 นักเรียนขาดการ ตั้งใจเรียน ไม่มีความใส่ใจใน การทำงานและ การทำกิจกรรม


89 เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14-15 ดีมาก 12-13 ดี 10-11 ปานกลาง 8-9 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ควรปรับปรุง


90 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 การจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนการสอนตามรูปแบบซิปปา (CIPPA MODEL) 1. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ 1.2 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างทัศนศิลป์ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เห็นคุณค่างานทัศนศิลป์ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทยและสากล ตัวชี้วัด ศ 1.2 ม.4-6/4 มีทักษะและเทคนิคในการใช้วัสดุ อุปกรณ์ และกระบวนการที่สูงขึ้น ใน การสร้างงานทัศนศิลป์ 2. สาระสำคัญ ทัศนศิลป์ยุคกลาง 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถระบุผลงานทัศนศิลป์ที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงของยุคกลางได้(K) 2. นักเรียนสามารถนำความรู้ในเรื่องทัศนศิลป์ยุคกลางมาสร้างสรรค์เป็นผลงานขอตนเองได้(P) 3. นักเรียนมีความรับผิดชอบ ตรงต่อเวลา มีระเบียบวินัย และเจตคติที่ดีต่อรายวิชาและสามารถ นำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ได้(A) โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สัปดาห์ที่ 7 สาระที่ 1 สาระทัศนศิลป์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 รูปแบบยุคสมัยทัศนศิลป์ตะวันตกและ ตะวันออก เวลา 1 ชั่วโมง เรื่อง ทัศนศิลป์ยุคกลาง (ทฤษฎี) เวลา 1 คาบ ผู้สอน นายกฤษศณกันต์ สิงห์น้อย วันที่สอน 27 - 30 เดือนพฤศจิกายน 2566 (ม.6/11 ห้อง 234)


Click to View FlipBook Version