ใบความรู้ วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 3 เรื่องวัฏจักรการทำงาน เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน รูปที่ 3 – 3 แสดงวัฏจักรการทำงานของเครื่องยนต์ ที่มา: Automotive encyclopedia : 47 TDC. (Top Dead Center) ตำแหน่งศูนย์ตายบน เป็นตำแหน่งที่ลูกสูบขึ้นสูงสุด BDC. (Bottom Dead Center) ตำแหน่งศูนย์ตายล่าง เป็นตำแหน่งลูกสูบลงต่ำสุด 1 จังหวะดูด (Intake Stroke) จังหวะดูด ลูกสูบเลื่อนลงจากตำแหน่งศูนย์ตายบน (TDC.) มายังศูนย์ตายล่าง (BDC.) ลิ้นไอดีเปิด(Intake Valve open) และลิ้นไอเสียปิด (Exhaust Valve closed) ทำให้ส่วนผสมระหว่างน้ำมันกับอากาศเข้ามาภายในกระบอกสูบผ่าน ลิ้นไอดี ดังรูป รูปที่ 4 – 3 แสดงจังหวะดูดของเครื่องยนต์ ที่มา : ฟิสิกส์ราชมงคล ต าแหน่ง BDC TDC BDC ต าแหน่งTDC ลิ้นไอดีเปิด ลูกสูบ
ใบความรู้ วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 3 เรื่องวัฏจักรการทำงาน เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน 2 จังหวะอัด (Compression Stroke) จังหวะอัด ลูกสูบเลื่อนขึ้นจากตำแหน่งศูนย์ตายล่าง (BDC.) ไปยังศูนย์ตายบน (TDC.) ลิ้นไอดี และ ลิ้นไอ เสียปิดสนิท (Both valves closed) ทำให้ไอดีภายในกระบอกสูบเกิดการอัดตัว ความดันและความร้อนสูง รูปที่ 5 – 3 แสดงจังหวะอัดของเครื่องยนต์ ที่มา : ฟิสิกส์ราชมงคล 3 จังหวะระเบิด (Power Stroke) จังหวะระเบิด ก่อนที่ลูกสูบจะถึงตำแหน่งศูนย์ตายบนเล็กน้อย (B.TDC. 5 – 7 องศาที่ 600-650RPM. ) หัวเทียนจะเกิดประกายไฟ ทำให้เกิดการเผาไหม้น้ำมันกับอากาศภายในห้องเผาไหม้ (Combustion chamber) จนเกิด แรงระเบิด (Explosion) ผลักดันลูกสูบให้เลื่อนลง และเกิดการหมุนด้วยความเร็วรอบต่างๆ รูปที่ 6 -3 แสดงจังหวะระเบิดของเครื่องยนต์ ที่มา : ฟิสิกส์ราชมงคล ลิ้นไอดีปิด ลิ้นไอเสียปิ ด องศาการจุดระเบิดข้นึอยกับการออกแบบู่ เครื่องยนต์ดงัน้นัแต่ละเครื่องจึงไม่เท่ากนั ท้งัน้ีเนื่องจากมีองค์ประกอบอื่นๆ มาเกี่ยว ข้อง เช่น ความเร็วรอบ , เช้ือเพลิงและการ ออกแบบห้องเผาไหม้ฯลฯ
ใบความรู้ วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 3 เรื่องวัฏจักรการทำงาน เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน 4 จังหวะคาย (Exhaust Stroke) จังหวะคาย ลูกสูบเลื่อนขึ้นจากตำแหน่งศูนย์ตายล่าง (BDC.) ไปยังศูนย์ตายบน (TDC.) ลิ้นไอเสียเปิด (Exhaust valve open) ลิ้นไอดีปิด (Inlet valve closed) ทำให้ไอเสียซึ่งมีความร้อน และความดันสูงภายในห้องเผา ไหม้ ถูกระบายออกทางท่อไอเสีย ดังรูป รูปที่ 7 -3 แสดงจังหวะคายของเครื่องยนต์ ที่มา : ฟิสิกส์ราชมงคล 1 กลวัตรของเครื่องยนต์4 จังหวะ ประกอบด้วย จังหวะดูด (Intake Stroke) จังหวะอัด (Compression Stroke) จังหวะระเบิด (Power Stroke) และ จังหวะคาย (Exhaust Stroke) เกิดขึ้นได้เมื่อเครื่องยนต์หมุนครบ 2 รอบ รูปที่ 8 – 3 แสดงการทำงานของเครื่องยนต์ 6 สูบ ที่มา: Automotive encyclopedia : 46 ลิ้นไอเสียเปิด โดยปกติการออกแบบลิน้ ไอ เสียจะมีขนาดเลก็กว่าลิ้นไอ ดีท้งัน้ีเนื่องจากไอเสียมี ความร้อนและความดันสูง มาก จึงสามารถระบายออก ด้วยความรวดเร็ว ล าดับการจุดระเบิด เครื่องยนต์ 6 สูบ 1 5 3 6 2 4
ใบความรู้ วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 3 เรื่องวัฏจักรการทำงาน เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน การทำงานของเครื่องยนต์ 2 จังหวะ (2 Stroke Cycle Engine) เครื่องยนต์ 2 จังหวะทำงาน 1 กลวัตรประกอบด้วย จังหวะดูด (Intake Stroke) จังหวะอัด (Compression Stroke) จังหวะระเบิด (Power Stroke) และ จังหวะคาย (Exhaust Stroke) เช่นเดียวกับ เครื่องยนต์ 4 จังหวะ แต่เกิดขึ้นภายใน 1 รอบการหมุนของเพลาข้อเหวี่ยงสาเหตุที่เรียกว่า “เครื่องยนต์2 จังหวะ” เพราะจังหวะดูด และจังหวะอัด เกิดขึ้นต่อเนื่องกันเมื่อเครื่องยนต์หมุนได้ ½ รอบนับรวมเป็นจังหวะที่ 1 จังหวะระเบิด และ จังหวะคายเกิดขึ้นต่อเนื่องกันเมื่อเครื่องยนต์หมุนได้ ½ รอบนับรวมเป็นจังหวะที่ 2 เพราะฉะนั้น 1 กลวัฎของ เครื่องยนต์ 2 จังหวะ เพลาข้อเหวี่ยงหมุน 1 รอบ รูปที่ 9 – 3 แสดงกลวัตรของเครื่องยนต์ 2 จังหวะ ที่มา : rmutphyssics.com จากรูป A แสดงให้เห็นว่า ขณะที่ลูกสูบเลื่อนขึ้นจากตำแหน่งศูนย์ตายล่าง (BDC.) ไปยังตำแหน่งศูนย์ ตายบน(TDC.) ช่องไอดีเปิด ช่องไอเสียปิด ไอดีจะถูกดูดเข้ามาแทนที่ เป็นจังหวะดูด และขณะเดียวกันเมื่อลูกสูบเลื่อน ขึ้นจะเป็นจังหวะอัด จากรูป B เมื่อลูกสูบเลื่อนขึ้นก่อนถึงศูนย์ตายบนเพียงเล็กน้อย(B. TDC.)หัวเทียนจะจุดประกายไฟทำให้ เกิดจังหวะระเบิด จากรูป C เมื่อลูกสูบเลื่อนลงทำให้ช่องไอเสียเปิด ไอดีปิด ไอเสียความดันสูงจะถูกปล่อยออกผ่านท่อไอ เสีย เป็นจังหวะคาย จากรูป D เมื่อลูกสูบเลื่อนลงมายังตำแหน่งศูนย์ตายล่าง(B.D.C.)ทำให้ความดันภายในห้องเพลาข้อ เหวี่ยงสูงขึ้น ไอดีที่เก็บไว้จะไหลเข้าไปบรรจุในห้องเผาไหม้และเป็นการไล่ไอเสียที่ตกค้างอยู่ให้ออกอีกด้วย ทำให้ไอดี บางส่วนผสมออกมากับไอเสียด้วย และเมื่อครบ 1 กลวัตรแล้วจะเริ่มกลวัฎใหม่ตามลำดับต่อไปจะเห็นได้ว่า 1 กลวัฎ เกิดขึ้นจะมีทั้ง ดูด อัด ระเบิด และคาย เมื่อเครื่องยนต์หมุน 1 รอบเท่านั้น จังหวะที่1 = ดูด กับ อัด จังหวะที่2 = ระเบิด กับ คาย เกิดข้ึนเมื่อเครื่องหมุน 1 รอบ ดูดไอดี จุดระเบิด คายไอเสีย ประจุไอดี
ใบความรู้ วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 3 เรื่องวัฏจักรการทำงาน เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน จากรูป แสดงให้เห็นว่าในขณะที่ไอดีเกิดการอัดตัวภายในห้องเผาไหม้ ทำให้ภายใน ห้องเพลาข้อเหวี่ยงเป็นสุญญากาศ ช่องไอดีเปิด ช่องไอเสียปิด ไอดีจะไหลเข้ามา แทนที่ทันที เป็นจังหวะ ดูด และจังหวะอัด เมื่อการหมุนของเพลาข้อเหวี่ยง 1/2 รอบ จากรูป แสดงให้เห็นว่า เมื่อลูกสูบเลื่อนถึงตำแหน่งก่อนศูนย์ตายบนเพียงเล็กน้อย (B.TDC.) หัวเทียนจุดประกายไฟ เป็นจังหวะระเบิด ลูกสูบเลื่อนลง ทำให้เกิด จังหวะกำลังหมุนเพลาข้อเหวี่ยง รูปที่ 10 – 3 แสดงให้เห็นจังหวะดูด และ อดัที่เกิดข้ึนในเวลาต่อเนื่องกนั ที่มา : งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน: 6 รูปที่ 11 – 3 แสดงให้เห็นจังหวะระเบิด และจังหวะคายไอเสีย ต่อเนื่องกัน ที่มา : งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน : 7
ใบความรู้ วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 3 เรื่องวัฏจักรการทำงาน เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน จากรูป เมื่อลูกสูบเลื่อนลงจาก ตำแหน่งศูนย์ตายบน(T.D.C.) ช่องไอเสียจะเปิดให้ไอเสียความดันสูงและความร้อนสูง ไหลออกผ่านช่องไอเสีย(Exhaust port) เป็นจังหวะคาย ขณะเดียวกันไอดีที่เก็บอยู่ด้านล่างจะไหลเข้าห้องเผาไหม้เป็น การกวาดล้างไอเสีย และเริ่มกลวัตรใหม่ต่อไป จังหวะระเบิด และจังหวะคาย เกิดขึ้นเมื่อเพลาข้อเหวี่ยงหมุน ½ รอบ ดังนั้นด้วยเหตุตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น จึงเรียกเครื่องยนต์ 2 จังหวะเนื่องมาจาก จังหวะดูด และอัด เกิดต่อเนื่องกัน เมื่อเครื่องยนต์หมุน ½ รอบ เรียกรวมเป็นจังหวะที่ 1 จังหวะ ระเบิด และ คาย เกิดต่อเนื่องกัน เมื่อเครื่องยนต์หมุน ½ รอบ เรียกรวมเป็นจังหวะที่ 2 เพราะฉะนั้น 1 กลวัตรของเครื่องยนต์ 2 จังหวะเพลาข้อเหวี่ยงหมุน 1 รอบ รูปที่ 12 – 3แสดงให้เห็นจังหวะคายไอเสีย ที่มา : งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน: 7 การกวาดล้างไอเสียของเครื่องยนต์ 2 จังหวะจะมีละออง น้า มนัที่ไม่ไดเ้ผาไหม้ออกมาด้วย ท าให้เกิดมลพิษทาง อากาศ สร้างปัญหากบัสิ่งมีชีวิต
ใบความรู้ วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 3 เรื่องวัฏจักรการทำงาน เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน ความแตกต่างของเครื่องยนต์ 4 จังหวะ และ 2 จังหวะ ความแตกต่างของเครื่องยนต์ 4 จังหวะ และ 2 จังหวะ มีความแตกต่างกันในหลายด้านซึ่งอาจสรุปให้เห็นได้ดังนี้ เครื่องยนต์ 2 จังหวะ เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 1) เครื่องยนต์หมุน 1 รอบเท่ากับ 1 กลวัตร 1) เครื่องยนต์หมุน 2 รอบเท่ากับ 1 กลวัตร 2) เพลาข้อเหวี่ยงหมุน 1 รอบจุดระเบิด 1 ครั้ง 2) เพลาข้อเหวี่ยงหมุน 2 รอบจุดระเบิด 1 ครั้ง 3) 1 รอบดูดน้ำมันเชื้อเพลิง 1 ครั้ง 3) 2 รอบดูดน้ำมันเชื้อเพลิง 1 ครั้ง 4) สามารถให้ความเร็วรอบได้สูงถึง 15,000 rpm 4) สามารถให้ความเร็วรอบได้สูง 8,000 rpm 5) ชิ้นส่วนเคลื่อนไหวมีน้อย 5) ชิ้นส่วนเคลื่อนไหวมีมาก 6) ให้พลังงานความร้อนได้มาก 6) ให้พลังงานความร้อนได้น้อย 7) ใช้ลูกสูบปิด เปิด ไอดี และ ไอเสีย 7) ใช้ลิ้นไอดี ไอเสีย ปิด เปิด ไอดีและไอเสีย 8) การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ส่งผลกระทบ ต่อสิ่งมีชีวิต 8) การเผาไหม้(ค่อนข้าง)สมบูรณ์ ลดมลพิษ ในอากาศช่วยให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น เครื่องยนต์ลูกสูบหมุน (Rotary engine) เครื่องยนต์ลูกสูบหมุน หรือเครื่องยนต์โรตารี่ เครื่องยนต์ดังกล่าวบางครั้งเรียกตามชื่อของนักประดิษฐ์ ว่า เครื่องยนต์ “แวงเกิล” (Felix Wankel ) เป็นเครื่องยนต์สันดาปภายใน (Internal combustion Engine) เช่นเดียวกับ เครื่องยนต์4 จังหวะทั่วไป ใน 1 กลวัฎประกอบด้วยจังหวะ ดูด อัด ระเบิด และคาย รูปที่ 13 – 3 แสดงวัฏจักรการทำงานของเครื่องยนต์โรตารี ที่มา : 9engineer.com รูปที่ 1 เป็ นจังหวะดูด ไอดีจะถูกดูดเข้าทางช่องไอดี (A) รูปที่ 2 เป็ นจังหวะอัด ช่องไอดี และช่องไอเสียจะปิ ด ปริมาตรของไอดีจะมีขนาดเล็กลง รูปที่ 3 เป็ นจังหวะระเบิด หัวเทียนจะจุดประกายไฟ ท าให้ เกิดการจุดระเบิดผลักดันให้ลูกสูบหมุน รูปที่ 4 เป็ นจังหวะคายไอเสีย ช่องไอเสียจะเปิ ด(E) ให้ ไอเสียท้งัหมดออกจากห้องเผาไหม้
ใบความรู้ วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 3 เรื่องวัฏจักรการทำงาน เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน ลักษณะโครงสร้างของเครื่องยนต์โรตารี่ 1 กระบอกลูกสูบ หรือเรือนของโรเตอร์ ลักษณะของกระบอกสูบเป็นรูปวงรี คล้ายรูปไข่ ผนังด้านในของเสื้อสูบจะมีน้ำระบายความร้อน ไหลผ่านอยู่ตลอดเวลา 2 ตัวโรเตอร์ มีส่วนโค้งอยู่ 3 หน้า แต่ละ หน้าทำหน้าที่ได้เหมือนกับลูกสูบ ดังนั้นจึงต้อง เซาะเป็นร่องไว้ เพื่อเพิ่มความจุของแก๊ส ให้เกิด การเผาไหม้ได้มากพอ 3.เพลาข้อเหวี่ยง มีลักษณะของ ลูกเบี้ยวทำให้โร เตอร์หมุนออกจากจุดศูนย์กลางอย่างไม่ สม่ำเสมอ (ไม่ได้หมุนเป็นวงกลม) รูปที่ : 14 -3 ตัวเรือนโรเตอร์ ที่มา :9engineer.com รูปที่ 15 -3 ตัวโรเตอร์ ที่มา :9engineer.com รูปที่ 16 -3 เพลาข้อเหวี่ยง ที่มา :9engineer.com
ใบความรู้ วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 3 เรื่องวัฏจักรการทำงาน เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน รูปที่ 17 - 3 เพลาข้อเหวี่ยง ที่มา: 9 engineer.com ลักษณะเด่นของเครื่องยนต์ลูกสูบหมุน 1 ความเร็วรอบสูงมาก สามารถให้ความเร็วได้สูงถึง 8,000 – 12,000 รอบต่อนาที เหมาะกับเครื่องต้นกำลังที่ ต้องการความเร็วรอบสูง เช่น เรือเล็กความเร็วสูง รถยนต์ เครื่องอากาศยานขนาดเล็ก ฯลฯ 2 มีน้ำหนักเบา เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์แบบลูกสูบชักที่มีกำลังม้าเท่ากันถึง 3 เท่า 3 ชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวมีเพียง 3 ชิ้นขณะที่เครื่องยนต์แบบลูกสูบชักมีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวจำนวนมาก ทำให้ เครื่องยนต์ลูกสูบหมุนมีความฝืดลดลง ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์สูง ข้อจำกัดของเครื่องยนต์ ลูกสูบหมุน 1 มีแรงบิดต่ำ ไม่เหมาะกับเครื่องต้นกำลังประเภทงานหนัก เช่นในเรือเดินทะเล เครื่องปั่นกระแสไฟฟ้า ฯลฯ 2 สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง เนื่องจากเผาไหม้ทุกรอบความเร็ว 3 เกิดการสึกหรอมาก บริเวณปลายสุดของโรเตอร์ เมื่อใช้งานไประยะหนึ่งทำให้เกิดการรั่วของไอดี และไอเสีย ในปัจจุบันเครื่องยนต์ลูกสูบหมุน ได้รับความนิยมน้อยมาก ทั้งนี้เนื่องจากมีข้อจำกัดหลายประการดังที่ได้กล่าวแล้ว ทำ ให้ไม่เป็นที่รู้จักของคนทั่วๆไป แต่อย่างไรก็ตามเครื่องยนต์ลูกสูบหมุนถือเป็นนวัตกรรมทางด้านเครื่องยนต์ ที่ยังให้ ประโยชน์ในเครื่องต้นกำลังบางอย่างอยู่ และสามารถพัฒนาให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพจนถึงทุกวันนี้ องค์ประกอบของเครื่องยนต์ลูกสูบหมุน ขณะ ท างานโรเตอร์จะหมุนเยื้องศูนย์โดยมีมุมของ โรเตอร์สัมผัสกับผนังกระบอกสูบเป็ นรูปวงรี ไป เรื่อยๆ จากรูปเป็ นจังหวะคายไอเสีย รูปที่ 18 -3 แสดงเครื่องยนต์ลูกสูบหมุนที่ บริษทัมาสดา้นา มาติดต้งัและใชก้บัรถยนต์ มาสด้าโรตารี(Mazda Rotary) ที่มา : Magazine-word news :10/9/53
รายการประกอบใบงาน วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 3 เรื่องวัฏจักรการทำงาน เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน ใบการปฏิบัติงาน วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม 1 เขียนคำอธิบายการทำงานของวัฏจักรเครื่องยนต์ได้ถูกต้อง 2 ผู้เรียนได้ปฏิบัติตามระเบียบเกี่ยวกับ 2.1 การใช้พื้นที่ 2.2 การใช้เครื่องมือ/อุปกรณ์ 2.3 การมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ขอบเขตของการปฏิบัติงาน 3 ศึกษาวัฏจักรการทำงานของเครื่องยนต์ 4 จังหวะและ 2 จังหวะ 4 ศึกษาการทำงานของเครื่องยนต์แบบลูกสูบหมุน (Rotary Engine) วิธีการสอน 1 บรรยายวัฏจักรการทำงานโดยใช้สื่อเพาเวอร์พอยนต์(PowerPoint) นำเสนอ 2 สาธิตโดยการหมุนเครื่องยนต์4 จังหวะและ 2 จังหวะให้เห็นการทำงาน 3 ทดลอง ให้เห็นผลที่เกิดจากความสัมพันธ์ของระบบต่างๆ โดยใช้เครื่องยนต์ผ่า เครื่องมือและอุปกรณ์ 1 เครื่องยนต์4 จังหวะ และ 2 จังหวะ ผ่าให้เห็นส่วนประกอบภายใน 2 แบบจำลองเครื่องยนต์(Simulator)
ใบงาน วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 ใบงานที่ 2 - 3 เรื่องอธิบายการทำงาน เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน ให้นักเรียนเขียนคำบรรยายการทำงานของเครื่องยนต์ จากรูปข้างล่างนี้ ............................................................................................. ............................................................................................ ........................................................................................... ............................................................................................. ............................................................................................ ........................................................................................... ............................................................................................. ............................................................................................ ........................................................................................... ............................................................................................. ............................................................................................ ........................................................................................... ............................................................................................. ............................................................................................ ........................................................................................... ............................................................................................. ............................................................................................ ...........................................................................................
วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 ใบงานที่ 2 - 3 เรื่อง อธิบายการทำงาน เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน ให้นักเรียนเขียนคำบรรยายการทำงานของเครื่องยนต์ จากรูปข้างล่างนี้ ............................................................................................. ............................................................................................ ........................................................................................... ............................................................................................. ............................................................................................ ........................................................................................... ............................................................................................. ............................................................................................ ........................................................................................... ............................................................................................. ............................................................................................ ........................................................................................... ............................................................................................. ............................................................................................ ........................................................................................... ............................................................................................. ............................................................................................ ...........................................................................................
ใบมอบหมายงาน วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 1 เรื่อง นักประดิษฐ์ เครื่องยนต์แก๊สโซลีน เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน ใบมอบหมายงาน (Assignment sheet) ให้นักศึกษาจัดแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มๆละเท่าๆกัน แล้วทำการจับฉลากแบ่งหัวข้อ เพื่อทำการ ศึกษาค้นคว้า ในหัวเรื่องที่ได้กำหนดไว้ โดยให้ทุกกลุ่มออกมานำเสนอผลงาน กลุ่มละประมาณ 5-7 นาที ในวันที่มีการเรียนสัปดาห์หน้า 1. เครื่องยนต์ 2 จังหวะและ เครื่องยนต์ 4 จังหวะมีจุดเด่น และข้อจำกัดอย่างไร 2. จากรูปให้อธิบายการทำงานของเครื่องยนต์ลูกสูบหมุน 3. การนำเครื่องยนต์ไปใช้งานเป็นเครื่องต้นกำลังจะต้องคำนึงสิ่งใดบ้าง 4. การเผาไหม้ของเครื่องยนต์ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มีวิธีการป้องกันและแก้ไขอย่างไร
แบบทดสอบหลังเรียน วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 3 เรื่องวัฏจักรการทำงาน เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง วัฏจักรการทำงานของเครื่องยนต์ คำสั่ง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย กากบาท (×) ทับตัวเลือกที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว 1. เครื่องยนต์ 2 จังหวะทำลายสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรงเพราะเหตุใด ก. เพราะเสียงดังมาก ทำให้ประสาทหูเสื่อม ข. เพราะการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ มีละอองน้ำมันฟุ้งอยู่ในบรรยากาศ ค. เพราะการทำงานต้องใช้อากาศปริมาณมาก ทำให้ความหนาแน่นของอากาศลดลง ง. เพราะความเร็วรอบสูงมาก ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณส่งผลให้เกิดเคลื่อนแม่เหล็กรบกวน สัญญาณภาพและสัญญาณเสียง 2. จุดเด่นของเครื่องยนต์ 2 จังหวะคืออะไร ก. ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ข. การเผาไหม้สมบูรณ์ ค. การสึกหรอน้อย ง. ให้ความเร็วรอบสูง 3. เครื่องยนต์ลูกสูบหมุน (Rotary engine) จัดอยู่ในประเภทเครื่องยนต์ใด ก. เครื่องยนต์สันดาปภายใน ข. เครื่องยนต์สันดาปภายนอก ค. เครื่องยนต์กังหันแก๊ส ง. เครื่องยนต์ความร้อนร่วม 4. “โรเตอร์” ของเครื่องยนต์ลูกสูบหมุนถ้าจะเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์ทั่วไปคือชิ้นส่วนใด. ก. เพลาข้อเหวี่ยง ข. เสื้อสูบ ค. ลูกสูบ ง. ลิ้นไอดี ไอเสีย 5. เพราะสาเหตุใด ? เครื่องยนต์ลูกสูบหมุนไม่ได้รับความนิยมในปัจจุบันนี้ ก. ความเร็วรอบต่ำ แรงบิดต่ำ ข. การบำรุงรักษายุ่งยากมาก ค. เสียงดังมาก การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ง. ความเร็วรอบสูง สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมาก
แบบทดสอบหลังเรียน วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 3 เรื่องวัฏจักรการทำงาน เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง วัฏจักรการทำงานของเครื่องยนต์ คำสั่ง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย กากบาท (×) ทับตัวเลือกที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว 6. เครื่องยนต์หมายถึงอะไร ก. เครื่องมือกลที่ให้พลังงานสามารถทำงานได้ ข. เครื่องจักรที่สามารถทำงานได้ด้วยพลังงานกล ค. เครื่องเปลี่ยนพลังงานกลเป็นพลังงานความร้อน ง. เครื่องเปลี่ยนพลังงานความร้อนเป็นพลังงานกล 7. จังหวะดูด ตรงกับความหมายข้อใด ก. ลูกสูบเลื่อนลง ลิ้นไอดี ลิ้นไอเสียปิด ข. ลูกสูบเลื่อนขึ้นลิ้นไอดีเปิด ลิ้นไอเสียปิด ค. ลูกลูบเลื่อนลงลิ้นไอเสียเปิด ลิ้นไอดีปิด ง. ลูกลูบเลื่อนลง ลิ้นไอดีเปิด ลิ้นไอเสียปิด 8. ลูกสูบเลื่อนขึ้นในตำแหน่งก่อนศูนย์ตายบนเล็กน้อย ประมาณ 5 องศา หัวเทียนจุดประกายไฟ เป็นจังหวะใด ของเครื่องยนต์ ก. จังหวะอัด ข. จังหวะคาย ค. จังหวะระเบิด ง. จังหวะดูด 9. “1 กลวัตร” เพลาข้อเหวี่ยงของเครื่องยนต์ 4 จังหวะหมุนกี่รอบ ก. 2 รอบ ข. 3 รอบ ค. 4 รอบ ง. 5 รอบ 10. เพราะสาเหตุใดจึงเรียกเครื่องยนต์ 2 จังหวะ ก. เพราะ จังหวะดูด และจังหวะอัด จะทำงานคู่กับ จังหวะระเบิด และจังหวะคาย ข. เพราะจังหวะคาย และจังหวะดูด จะทำงานคู่กับ จังหวะระเบิด และ จังหวะอัด ค. เพราะการทำงานของเครื่องยนต์มีเพียงจังหวะ ดูด และระเบิด ง. เพราะการทำงานของเครื่องยนต์มีเพียงจังหวะดูด และ คาย
แบบเฉลย ชุดทดสอบ ก่อนเรียน วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 3 เรื่องวัฏจักรการทำงาน เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน แบบเฉลย ชุดทดสอบ ก่อนเรียน เรื่อง วัฏจักรการทำงานของเครื่องยนต์ ------------------------------------------------------------------------------------------------ ข้อ ก ข ค ง 1 (×) 2 (×) 3 (×) 4 (×) 5 (×) 6 (×) 7 (×) 8 (×) 9 (×) 10 (×)
แบบเฉลย ชุดทดสอบ หลังเรียน วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 3 เรื่องวัฏจักรการทำงาน เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน แบบเฉลย ชุดทดสอบ หลังเรียน เรื่อง วัฏจักรการทำงานของเครื่องยนต์ ------------------------------------------------------------------------------------------------ ข้อ ก ข ค ง 1 (×) 2 (×) 3 (×) 4 (×) 5 (×) 6 (×) 7 (×) 8 (×) 9 (×) 10 (×)
ใบประเมินผล วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 3 เรื่องวัฏจักรการทำงาน เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน ใบประเมินผล ชื่อ – สกุล ....................................................................ห้อง ................................ เลขที่............. ลำดับที่ รายละเอียด 5 4 3 2 1 1 การเตรียมเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ 2 ความถูกต้องในการใช้เครื่องมือ 3 ขั้นตอนการปฏิบัติงาน 4 ความตั้งใจในการปฏิบัติงาน 5 ความมีระเบียบวินัย 6 การแต่งกาย 7 ทำงานร่วมกับผู้อื่น 8 การเก็บรักษาเครื่องมือ 9 ความสะอาดเรียบร้อย 10 ความสำเร็จของงาน รวม *เกณฑ์ 5 = ดีมาก 4 = ดี 3 = ปานกลาง 2 = พอใช้ 1 = ต้องปรับปรุง การวิเคราะห์ผลการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน การสอบ คะแนนเต็ม คะแนนที่ได้ เปอร์เซ็นต์% ก่อนเรียน หลังเรียน รวม ผลการวิเคราะห์ ผ่าน . ไม่ผ่าน ***เกณฑ์การวิเคราะห์ มากกว่า 70 % ผ่านเกณฑ์การประเมิน ต่ำกว่า 70 % ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน นักศึกษาจะต้องศึกษาเพิ่มเติมและทำการทดสอบใหม่
ใบประเมินผล วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 3 เรื่องวัฏจักรการทำงาน เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน ใบประเมินผล (การนำเสนอผลงาน) ชื่อ-สกุล.................................................................................................ห้อง............................ เลขที่.............................. ลำดับที่ รายละเอียด 5 4 3 2 1 1 ความพร้อมของสมาชิกในกลุ่ม 2 การเตรียม และการใช้สื่อประกอบการนำเสนอผลงาน 3 ขั้นตอนการนำเสนอผลงาน 4 ความชัดเจนของเนื้อหา 5 การสรุปสาระที่สำคัญ 6 การตอบคำถาม 7 การบริหารเวลา 8 ความมุ่งมั่นสู่ความสำเร็จ 9 พฤติกรรมอันพึงประสงค์ รวม ***เกณฑ์ 5 = ดีมาก 4 = ดี 3 = ปานกลาง 2 = พอใช้ 1 = ต้องปรับปรุง การวิเคราะห์ผลการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน การสอบ คะแนนเต็ม คะแนนที่ได้ เปอร์เซ็นต์% ก่อนเรียน หลังเรียน รวม ผลการวิเคราะห์ ผ่าน ไม่ผ่าน ***เกณฑ์การประเมิน มากกว่า 70 % ผ่านเกณฑ์การประเมิน ต่ำกว่า 70 % ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน นักศึกษาจะต้องศึกษาเพิ่มเติมและทำการทดสอบใหม่
ใบความรู้ วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 4 เรื่องลิ้นและกลไกของ ลิ้น เครื่องยนต์ เวลา 7 ชั่วโมง /สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน เรื่อง ลิ้นและกลไกของลิ้น เครื่องยนต์(Valve & Mechanical valve) วัตถุประสงค์ เชิงพฤติกรรม 1. อธิบายความสำคัญของลิ้นไอดี ไอเสียได้อย่างถูกต้อง 2. บอกคุณลักษณะของลิ้นเครื่องยนต์ได้ถูกต้อง 3. บอกองค์ประกอบของกลไกควบคุมลิ้นได้ครบถ้วน 4. อธิบายการทำงานของลิ้นและกลไกควบคุมลิ้นได้ถูกต้อง 5. บอกค่ามาตรฐานการตั้งระยะห่างของลิ้นได้ถูกต้อง ขอบเขตของการสอน 8. ทำการถอดประกอบลิ้นไอดีและลิ้นไอเสีย 9. ทำการศึกษาส่วนประกอบและกลไกการทำงานของลิ้นไอดีและลิ้นไอเสีย 10. ทำการตรวจวัดและปรับตั้งองศาการเปิดปิดของไอดีและไอเสีย วิธีสอน 1. ใช้การสอนแบบบรรยายประกอบเพาเวอร์พอยนต์( Power point) 2. บรรยายประกอบของจริง อุปกรณ์ประกอบการสอน 1. เพาเวอร์พอยนต์( Power point) เรื่องลิ้น และกลไกของลิ้น 2. ชุดลิ้น ไอดี ไอเสีย 3. ชุดประลอง แสดงการทำงานของลิ้นไอดี - ไอเสีย (Simulator)
แบบทดสอบก่อนเรียน วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 4 เรื่อง ลิ้นและกลไกของ ลิ้น เครื่องยนต์ เวลา 7 ชั่วโมง /สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง ลิ้นและกลไกของลิ้นเครื่องยนต์(Valve & Mechanical valve) คำสั่ง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย กากบาท (×) ทับตัวเลือกที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว 1 ลิ้นของเครื่องยนต์มีหน้าที่ ก. ควบคุมการปิด เปิด ของไอดี และ ไอเสีย ข. อัดอากาศให้มีแรงดันเพิ่มมากขึ้น ค. เป็นช่องทางทำให้อากาศหมุนวนภายในห้องเผาไหม้ ง. ควบคุมปริมาณอากาศที่ไหลเข้าห้องเผาไหม้ให้มีปริมาณพอเหมาะ 2 การบรรจุโซเดียม (Metallic Sodium)ไว้ภายในก้านลิ้นเพื่อประโยชน์อย่างไร ก. เพื่อช่วยในการหล่อลื่น ข. เพื่อช่วยในการระบายความร้อน ค. เพื่อช่วยให้ผิวของก้านลิ้นแข็ง ง. เพื่อให้ก้านลิ้นขยายตัวได้เมื่อเกิดความร้อนสูง 3 เครื่องยนต์ที่ใช้ก้านกระทุ้งลิ้น (Push Rod) ได้มีการออกแบบให้วางเพลาลูกเบี้ยวไว้ที่ตำแหน่งใด ก. ตำแหน่งบนฝาสูบ ข. ตำแหน่งด้านข้างฝาสูบ ค. ตำแหน่งด้านล่างขนานกับเพลาข้อเหวี่ยง ง. ตำแหน่งหน้าเครื่องชิดกับล้อช่วยแรง 4 เครื่องยนต์ “DOHC” มีลักษณะเป็นอย่างไร ก. เครื่องยนต์ 2 จังหวะระบายความร้อนด้วยอากาศ ข. เครื่องยนต์ที่ออกแบบให้สามารถใช้เชื้อเพลิงได้ 2 ชนิด ค. เครื่องยนต์ที่วางเพลาลูกเบี้ยวไว้บนฝาสูบ ง. เครื่องยนต์ที่มีเพลาลูกเบี้ยวคู่ วางบนฝาสูบ
แบบทดสอบก่อนเรียน วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 4 เรื่องลิ้นและกลไกของ ลิ้นเครื่องยนต์ เวลา 7 ชั่วโมง /สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง ลิ้นและกลไกของลิ้นเครื่องยนต์(Valve & Mechanical valve) คำสั่ง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย กากบาท (×) ทับตัวเลือกที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว 5 ลูกถ้วยกดลิ้น เป็นชิ้นส่วนที่ติดตั้งอยู่กับส่วนใด ก. เพลาลูกเบี้ยว ข. ปลายสุดของก้านลิ้น ค. ฝาสูบด้านบน ง. หน้าสัมผัสของลิ้น 6 การส่งกำลังโดยใช้เฟืองขับ (Timing gear)ระหว่างเพลาข้อเหวี่ยง และเพลาลูกเบี้ยว มีจุดอ่อนเกี่ยวกับเรื่อง อะไร ก. เสียงดัง ข. มีความร้อนสูง ค. การสึกหรอมาก ง. สั่นสะเทือน 7 ในปัจจุบันการส่งกำลังระหว่างเพลาข้อเหวี่ยงและเพลาลูกเบี้ยว นิยมใช้แบบใด ก. เฟือง ข. โซ่ ค. สายพาน ง. เพลา 8 ไดอะแกรมแสดงการปิดเปิดของลิ้น (Valve Timing Diagram) บอกสิ่งสำคัญเกี่ยวกับเรื่องใด ก. องศาการปิดเปิดของลิ้น ข. จำนวนครั้งที่ลิ้นปิด เปิด ค. เวลาที่ลิ้นปิด เปิด ง. อุณหภูมิของลิ้น
แบบทดสอบก่อนเรียน วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 4 เรื่อง ลิ้นและกลไก ของลิ้นเครื่องยนต์ เวลา 7 ชั่วโมง /สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง ลิ้นและกลไกของลิ้นเครื่องยนต์(Valve & Mechanical valve) คำสั่ง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย กากบาท (×) ทับตัวเลือกที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว 9. ระบบแปรผันการปิด เปิดของลิ้นที่เรียกว่าระบบ VVT-I นอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์แล้ว ยังให้ประโยชน์เกี่ยวกับอะไร a. ลดเสียงดังของลิ้นลงได้ถึง 25 % b. ลดควันพิษของไอเสียลงได้มาก c. เพิ่มความเร็วรอบให้มากขึ้น d. เพิ่มอายุการใช้งานของน้ำมันหล่อลื่น จงตอบคำถาม ข้อ 10 - 11 10. ถ้าต้องการตั้งลิ้น ไอดี เมื่อเครื่องเย็นจะต้องตั้ง ให้ระยะห่างเท่าไร ก. 0.27 mm ข. 0.38 mm ค. 0.20 mm ง. 0.30 mm 11. ถ้าต้องการตั้งลิ้น เมื่อเครื่องร้อน ให้ตั้งระยะห่างเท่าไร ก. ลิ้นไอดี 0.27 mm ลิ้นไอเสีย 0.38 mm ข. ลิ้นไอดี 0.20 mm ลิ้นไอเสีย 0.30 mm ค. ลิ้นไอดี 0.25 mm ลิ้นไอเสีย 0.32 mm ง. ลิ้นไอดี 0.28 mm ลิ้นไอเสีย 0.39 mm 12. เครื่องยนต์ที่มีการปรับระยะห่างของลิ้นโดยการรองแผ่น “ชิม” ใช้กับกลไกของลิ้นแบบใด ก. แบบกระเดื่องกดลิ้น ข. แบบไฮดรอลิก ค. แบบลูกถ้วย ง. แบบกระแทก จากหนงัสือคู่มือกา หนดไวด้งัน้ี Cold Inlet Valve Clearance 0.27 mm. Exhaust Valve Clearance 0.38 mm. Hot Inlet Valve Clearance 0.20 mm. Exhaust Valve Clearance 0.30 mm.
ใบความรู้ วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 4 เรื่อง ลิ้นและกลไกของ ลิ้นเครื่องยนต์ เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน ความสำคัญของลิ้นไอดี ลิ้นไอเสีย เครื่องยนต์ ลิ้น (Valve) เป็นชิ้นส่วนที่มีความสำคัญ ของเครื่องยนต์ มีหน้าที่ ปิด เปิดการไหลเข้า ไหลออกของไอดี (Air – fuel mixture) และไอเสีย (Exhaust gas) ลิ้นขอเครื่องยนต์ แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ 1 ลิ้นไอดี (Inlet Valve) มีหน้าที่ ปิด เปิด การไหลเข้าของไอดี(Air – fuel mixture) 2 ลิ้นไอเสีย (Exhaust Valve) มีหน้าที่ ปิด เปิดการไหลของไอเสีย (Exhaust gas) นอกจากนั้น ลิ้นยังทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์อีกด้วย รูปที่ 1 – 4 ก้านลิ้น ที่มา : Automotive encyclopedia : 181 คุณลักษณะที่สำคัญของลิ้น เครื่องยนต์ เนื่องจากลิ้นของเครื่องยนต์ติดตั้งบริเวณฝาสูบของเครื่องยนต์ และเป็นส่วนหนึ่งของห้องเผาไหม้ การออกแบบ และสร้างลิ้น จึงต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้อง เช่น อุณหภูมิห้องเผาไหม้ ความดันในห้องเผาไหม้ แรงกระแทก และการสั่นสะเทือน ดังนั้นคุณลักษณะที่สำคัญของลิ้นมีดังนี้ 1 ลิ้นไอดี จะต้องทนต่อความร้อนได้ไม่ต่ำกว่า 250. องศาเซลเซียส (C : Celsius) 2 ลิ้นไอเสีย จะต้องทนต่อความร้อนได้ไม่ต่ำกว่า 800. องศาเซลเซียส (C ) 3 ลิ้นจะต้องทนต่อแรงกระแทกเนื่องจากการระเบิดได้ไม่ต่ำกว่า 600 ปอนด์/ครั้ง (270 ก.ก./ครั้ง) 4 เมื่ออุณหภูมิสูงที่สุด โลหะจะต้องมีการขยายตัวน้อยที่สุด 5 โลหะที่นำมาสร้างลิ้นจะต้องมีการถ่ายเทความร้อนได้ดีผิวแข็ง มีการบรรจุโซเดียม (Metallic Sodium) ไว้- ภายในกา้นลิ้นดว้ย โซเดียมเป็ นสารเหลว ที่ ช่วยให้การน าความร้อน ออกจากเรือนลิ้นไดเ้ร็ว บ่าลิ้น ร่องปะกับ กา้นลิ้น
ใบความรู้ วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 4 เรื่องลิ้นและกลไกของ ลิ้นเครื่องยนต์ เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน คุณลักษณะที่สำคัญอย่างหนึ่งของลิ้นคือ การระบายความร้อนที่ดี โดยการออกแบบและสร้างลิ้น ได้กำหนด ช่องทางในการระบายความร้อนของลิ้นไว้ดังนี้ 1 หน้าสัมผัสระหว่าง ลิ้น กับ บ่าลิ้นจะต้องมีหน้าสัมผัสที่แนบชิดกันมากที่สุด 2 หน้าสัมผัสระหว่างก้านลิ้น กับ ปลอกนำลิ้น หน้าสัมผัสดังกล่าวจะมีน้ำมันหล่อลื่นช่วยในการหล่อลื่นและ ระบายความร้อน นอกจากนั้นภายในก้านลิ้นจะมีการบรรจุโซเดียม(Metallic Sodium) ไว้ด้วย โซเดียมเป็น สารเหลว ที่ช่วยให้การนำความร้อนออกจากเรือนลิ้นได้เร็วที่สุด รูปที่ 2 – 4 ลิ้นและกลไกของลิ้น ที่มา : Automotive encyclopedia : 192 เพลาลูกเบ้ียว กา้นกระทุง้ลิ้น ลิ้น นอตปรับต้งัระยะห่างลิ้น กระเดื่องกดลิน้ ลูกถ้วยก้านกระทุ้ง กลไกลิ้น แบบใชก้า้นกระทุง้ลิ้น และมีกระเดื่องกดลิ้น โดยปกติเพลา ลูกเบ้ียวจะวางไวใ้นตา แหน่งดา้นล่างคู่ขนานกบัเพลาขอ้เหวี่ยง
ใบความรู้ วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 4 เรื่อง ลิ้นและกลไกของ ลิ้นเครื่องยนต์ เวลา 7 ชั่วโมง /สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน การวางตำแหน่งในลักษณะดังกล่าว มีกลไกควบคุมลิ้นดังนี้ 1 เพลาลูกเบี้ยว (Camshaft) 2 ก้านกระทุ้งลิ้น (Push Rod) 3 กระเดื่องกดลิ้น (Rock Arm) 4 สปริงลิ้น (Spring) 5 เฟือง (Gear) หรือโซ่ (Chain) รูปที่ 3 – 4 แสดงการวางตำแหน่งของเพลาลูกเบี้ยว ที่มา : carmaintenence. blogspot . com ก้านกระทุ้งลิ้น เพลาลูกเบ้ียว สปริงลิ้น กระเดื่องกดลิน้ เฟื องไทม์มิ่ง เพลาข้อเหวี่ยง
ใบความรู้ วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 4 เรื่อง ลิ้นและกลไกของ ลิ้น เครื่องยนต์ เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน 2 การวางตำแหน่งเพลาลูกเบี้ยวไว้ด้านบนฝาสูบ (Over head Camshaft = OHC) ในกรณีที่มีการวางเพลาลูก เบี้ยว 2 ชุด (Double Over head Camshaft = DOHC) คือเพลาลูกเบี้ยวควบคุมการปิดเปิดของลิ้นไอดี และเพลา ลูกเบี้ยวควบคุมการปิด เปิด ลิ้นไอเสีย การวางตำแหน่งในลักษณะนี้เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากกลไกการปิด เปิดของลิ้นสามารถทำงานได้รวดเร็ว ฉับไว เหมาะกับเครื่องยนต์ที่มีความเร็วรอบสูง และนอกจากนั้นในปัจจุบันการ ติดตั้งลิ้นไอดี และลิ้นไอเสียเพิ่มจำนวนมากขึ้น ซึ่งโดยปกติ 1 สูบจะมีลิ้นเพียง 2 ลิ้น แต่ในปัจจุบัน 1 ลูบจะมีถึง 4 ลิ้นทำให้ประสิทธิภาพการดูดไอดี และคายไอเสียมีเพิ่มมากขึ้นจะเห็นได้ว่ารถยนต์นั่งในปัจจุบันมีถึง16ลิ้น(16 Valve) รูปที่ 4 – 4 แสดงการขับลิ้นโดยใช้โซ่ไทม์มิ่ง ที่มา : justinketterer.com รูปที่ 5 - 4 แสดงการขับลิ้นโดยใช้ สายพานไทม์มิ่ง ที่มา : fag.hio.no เพราะฉะนั้นการวางตำแหน่งเพลาลูกเบี้ยวในลักษณะนี้จะมีกลไกควบคุมลิ้นดังนี้ 1 เพลาลูกเบี้ยว(Camshaft) 2 ลูกถ้วยกดลิ้น (Cup) หรือกระเดื่องกดลิ้น (Rocker arm) 3 สปริงลิ้น (Spring) 4 สายพานไทม์มิ่ง (Timing belt) รูปที่ 6 – 4 แสดงส่วนประกอบของลิ้นแบบใช้ถ้วยกดลิ้น ที่มา: Sites.google.com / mazdaclub.net
ใบความรู้ วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 4 เรื่องลิ้นและกลไกของ ลิ้น เครื่องยนต์ เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน การวางตำแหน่งของลิ้น ตำแหน่งการวางจะเกี่ยวข้องกับการออกแบบห้องเผาไหม้(Combustion Chamber) ทั้งนี้เนื่องมาจากลิ้นเป็นส่วนหนึ่งของห้องเผาไหม้ การวางตำแหน่งลิ้นแบ่งออกได้ 2 แบบคือ 1 การวางตำแหน่งลิ้นบริเวณฝาสูบ บางครั้งเรียกว่าชนิดลิ้นอยู่บนฝาสูบ (Over head Valve = OHV ) การ วางตำแหน่งในลักษณะนี้ ได้รับความนิยมมากที่สุด 2 การวางตำแหน่งไว้ที่บริเวณเสื้อสูบ บางครั้งเรียกว่าชนิดลิ้นด้านข้าง (Side Valve) นิยมใช้กับเครื่องยนต์ เล็ก เพราะ สะดวกในการ ออกแบบฝาสูบ และสะดวกในการ วางตำแหน่ง เพลาลูกเบี้ยว รูปที่ 7 – 4 แสดงตำแหน่งของลิ้นด้านข้าง ที่มา : orconhosting.net.nz การทำงานของลิ้นและกลไกลิ้น การทำงานของลิ้น จะต้องอาศัยกลไก(Mechanism) ที่ทำงานร่วมกัน ตั้งแต่ต้นกำลังคือการหมุนของเพลาข้อ เหวี่ยง ส่งกำลังมาขับเพลาลูกเบี้ยว และเมื่อเพลาลูกเบี้ยวหมุนจะมีกลไกต่อเนื่องไปกดให้ลิ้นเปิด ปิดตามจังหวะ ลิ้นดา้นขา้ง รูปที่ 8 – 4 แสดงเปรียบเทียบข้อแตกต่างในการออกแบบกลไกควบคุมลิ้น ที่มา : phithan-toyota . com แบบ OHC ใช้ลูกถ้วย แบบใชก้ระเดื่องกดลิน้
ใบความรู้ วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 4 เรื่อง ลิ้นและกลไกของ ลิ้นเครื่องยนต์ เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน การส่งกำลังจากเพลาข้อเหวี่ยง ไปขับเพลาลูกเบี้ยว โดยอาศัยการส่งกำลังใน 3 ลักษณะดังนี้ 1 ส่งกำลังโดยใช้เฟือง (Timing gear) สองตัวขบกัน ทำให้ทิศทางการหมุนของเพลาข้อเหวี่ยงและเพลาลูกเบี้ยว หมุนไปในทิศทางตรงกันข้าม นั่นคือเมื่อเพลาข้อเหวี่ยงหมุนตามเข็มนาฬิกา เพลาลูกเบี้ยวจะหมุนทวนเข็ม นาฬิกา การส่งกำลังโดยใช้เฟืองจะมีเสียงดัง นิยมกับเครื่องที่มีความเร็วรอบต่ำ แต่อายุการใช้งานนาน รูปที่ 9 – 4 แสดงลักษณะมาร์คเฟืองไทม์มิ่ง ที่มา : Automotive Encyclopedia : 86 2. ส่งกำลังโดยใช้โซ่ (Timing chain)คล้องระหว่างเฟืองเพลาข้อเหวี่ยง และเฟืองของเพลาลูกเบี้ยว ทำให้ ทิศทางการหมุนของเพลาทั้งสอง หมุนทิศทางเดียวกันคือหมุนตามเข็มนาฬิกา การส่งกำลังโดยใช่โซ่มี เสียงดัง อายุการใช้งานจำกัด เมื่อหมดอายุการใช้งานจะต้องนำไปซ่อมบำรุงรักษาทันที รูปที่ 10 – 4 แสดงการใช้โซ่ไทม์มิ่ง ที่มา : Auto Service and Repair เฟื องเพลาข้อเหวี่ยง เฟืองขบัเพลาลูกเบ้ียว
ใบความรู้ วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 4 เรื่องลิ้นและกลไกของ ลิ้นเครื่องยนต์ เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน 2. ส่งกำลังโดยใช้สายพาน (Timing belt) คล้องระหว่างพูลเล่ย์(Pulley) ของเพลาทั้งสอง ทำให้ทิศทางการหมุน ของเพลาทั้งสอง หมุนทิศทางเดียวกันคือหมุนตามเข็มนาฬิกา การส่งกำลังโดยใช้สายพานได้รับความนิยมมาก เนื่องจากลดเสียงดัง แต่มีอายุการใช้งานจำกัด เมื่อหมดอายุการใช้งาน จะต้องนำไปซ่อมบำรุงรักษาทันที รูปที่ 11 - 4 แสดงเครื่องยนต์ที่ส่งกำลังขับเพลาลูกเบี้ยวโดยสายพานไทม์มิ่ง อัตราทด (Ratio) อัตราทดระหว่างเพลาข้อเหวี่ยง และเพลาลูกเบี้ยว เท่ากับ 2 : 1 กล่าวคือเพลาข้อเหวี่ยงหมุน 2 รอบเพลาลูกเบี้ยว หมุน 1 รอบ เช่นขณะที่เครื่องยนต์หมุน 3,000 รอบ/นาที (Revolutions per minute = RPM.) เพลาลูกเบี้ยวหมุน 1,500 รอบ/นาที(RPM) ไดอะแกรมการ ปิด เปิดของลิ้น (Valve Timing Diagram) ไดอะแกรมแสดงความสัมพันธ์ของลิ้นไอดี ไอเสีย โดยบอกองศาการปิด – เปิด ของลิ้นอย่างละเอียดในแต่ละ ช่วงจังหวะการทำงานของเครื่องยนต์ ค่าที่ได้สามารถนำไปคำนวณหา เวลาการปิด เปิดของลิ้นได้อย่างละเอียด รูปที่ 12 – 4 เครื่องยนต์ เพลาลูกเบี้ยวคู่อยู่บนฝาสูบ (DOHC) ลิ้นและกลไกของลิ้น แบบที่มีเพลาลูกเบ้ียวคู่อยู่ บนฝาสูบ “ DOHC”
ใบความรู้ วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 4 เรื่อง ลิ้นและกลไกของ ลิ้น เครื่องยนต์ เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน รูปที่ 13 – 4 แสดงองศาของการเปิดปิดลิ้นไอดีและลิ้นไอเสีย ที่มา : Automotive Encyclopedia : 90 จากไดอะแกรมการปิดเปิดของลิ้น (Valve Timing Diagram) จะแสดงให้เห็นรายละเอียดดังนี้ 1 บอกองศาการ ปิด เปิด ของลิ้นไอดี และ ลิ้นไอเสีย 2 คำนวณหาค่า เวลา ปิด เปิดของลิ้นไอดี และไอเสีย 3 บอกความสัมพันธ์ระหว่างการทำงานของลิ้น และการทำงานของลูกสูบ จากรูป 13-4 ในจังหวะดูด ลิ้นไอดีเปิด (Intake open) เมื่อลูกสูบอยู่ในตำแหน่งก่อนศูนย์ตายบน 3 องศา และ ปิด (Intake closes) หลังที่ลูกสูบอยู่ศูนย์ตายล่าง 35 องศา รวมทั้งหมด 218 องศา (3+180+35 = 218 องศา ) ใน จังหวะคาย ลิ้นไอเสียเปิด (Exhaust open) ก่อนลูกสูบถึงศูนย์ตายล่าง 46 องศา และลิ้นไอเสียปิด(Exhaust closes) เมื่อลูกสูบอยู่หลังศูนย์ตายบน 5 องศา รวมทั้งหมด ที่ลิ้นไอเสียเปิด 231 องศา (46+180+5 = 231 องศา ) การเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์และการปรับองศาการปิด เปิดลิ้นโดยอัตโนมัติ ตามที่ได้ศึกษาจากเนื้อหาเกี่ยวกับการปิด เปิดของลิ้นที่ผ่านมา จะเห็นว่า องศาการปิด เปิดของลิ้นจะคงที่ เช่น (สมมุติ) ถ้าลิ้นไอดี เปิดก่อนศูนย์ตายบน 3 องศา และปิดหลังศูนย์ตายล่าง 35 องศา การปิด เปิดจะคงที่ที่ 3 องศา และ 35 องศาไม่เปลี่ยนแปลง นั่นคือจะคงที่ตลอดเวลา จากผลการศึกษาทราบว่าถ้าสามารถทำให้ การปิด เปิดของ ลิ้นไอดี และ ลิ้นไอเสีย เปลี่ยนแปลงองศาได้ตามภาระงาน และความเร็วรอบของเครื่องยนต์ จะทำให้ประสิทธิภาพ ของเครื่องยนต์มีเพิ่มมากขึ้น และยังช่วยลดมลพิษจากไอเสียให้ต่ำลงอีกด้วย ไอเสียปิ ด ไอเสียเปิ ด ไอดีปิด ไอดีเปิ ด T D C ไอเสียเปิ ด 231 องศา ไอดีเปิ ด 218 องศา
ใบความรู้ วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 4 เรื่อง ลิ้นและกลไก ของลิ้นเครื่องยนต์ เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน ด้วยเหตุผลดังกล่าว บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ จึงได้นำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาใช้กับเครื่องยนต์หลายรุ่น และเรียกระบบดังกล่าวว่าระบบวาล์วอัจฉริยะ( VVT-I : VARIABLE VALVE TIMING-INTELLIGENCE) หรือระบบแปร ผันการปิด เปิดของลิ้น ระบบวาล์วอัจฉริยะ จะรู้จักกันในชื่อ VVTI ระบบดังกล่าวนี้ใช้แรงดันของน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ที่มี อยู่เป็นปกติภายในเครื่องยนต์ มาผลักดันให้เพลาลูกเบี้ยวบิดตัว ทำให้องศาการปิดเปิดของลิ้นเปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อย การเปลี่ยนแปลงองศาดังกล่าวจะเกิดขึ้นตลอดเวลาที่เครื่องยนต์ปรับเปลี่ยนความเร็วตั้งแต่รอบเดินเบา (800 รอบ/นาที) ไปจนถึงความเร็วรอบสูง (5000-6000 รอบ/นาที) การที่ลิ้นสามารถปรับการปิด เปิดได้โดยอัตโนมัติ จะทำให้ เครื่องยนต์ตอบสนองการทำงานได้รวดเร็ว การทำงานของระบบวาล์วอัจฉริยะ เป็นเทคโนโลยีใหม่ ทำงานร่วมกันระหว่างกลไก (Mechanism) กับ อิเล็คทรอนิคส์ (Electronic) โดยการใช้กล่องควบคุม (Electronic Control System = ECU) เป็นตัวกำหนดสั่งการ ให้เกิดการบิดตัวของลูกเบี้ยวตามภาระของงาน โดยหลักการปิด เปิดลิ้นเครื่องยนต์ในระบบ วาล์วอัจฉริยะ(VVTI) เมื่อเครื่องยนต์มีความเร็วรอบต่ำ เวลาการ เปิดของลิ้นควรน้อย ทั้งนี้เนื่องจากในช่วงความเร็วดังกล่าวเครื่องยนต์ ดูดไอดี และปล่อยไอเสียในปริมาณน้อย แต่ใน กรณีที่เครื่องยนต์มีภาระงานมาก ความเร็วรอบสูง เครื่องยนต์ต้องการปริมาณไอดี และปล่อยไอเสียมาก ลิ้นก็ควร เปิดนานกว่าปกติซึ่งรายละเอียดในเรื่องดังกล่าวนักเรียนจะได้ศึกษาในรายวิชาแทคโนยานยนต์สมัยใหม่ต่อไป ค่ามาตรฐานในการตั้งระยะห่างของลิ้น (Standard Clearance ) การบริการลิ้นเครื่องยนต์ เป็นหน้าที่ของช่างที่จะต้องให้บริการ แต่เนื่องจากเครื่องยนต์มีอยู่มากมายหลาย ชนิด ทั้งผลิตในยุโรป อเมริกา และเอเชีย การที่จะให้บริการลิ้นได้ถูกต้องจะต้องอาศัยคู่มือของเครื่องยนต์(Manual ) ทั้งนี้เนื่องจากเครื่องยนต์ที่มีอยู่มีขนาด รูปแบบ และวัตถุประสงค์ ที่แตกต่างกัน ดังนั้นการบริการลิ้นโดยเฉพาะการตั้ง ระยะห่างของลิ้นจึงแตกต่างกัน กรณีที่ไม่มีคู่มือบริการลิ้น ก็สามารถนำค่ามาตรฐานมาปรับใช้บริการลิ้นได้ การปรับตั้งระยะห่างลิ้น (Adjusting Valve Clearance) เมื่อเครื่องเย็น (Cold) กำหนดลิ้นไอดีมีระยะห่าง (Inlet Clearance) 0.27 มิลลิเมตร (0.010 นิ้ว) กำหนดลิ้นไอเสียมีระยะห่าง (Exhaust Clearance) 0.38 มิลลิเมตร (0.015 นิ้ว) เมื่อเครื่องร้อน (Hot) กำหนดลิ้นไอดีมีระยะห่าง (Inlet Clearance) 0.20 มิลลิเมตร (0.008 นิ้ว) กำหนดลิ้นไอเสียมีระยะห่าง (Exhaust Clearance) 0.30 มิลลิเมตร (0.012 นิ้ว)
ใบความรู้ วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 4 เรื่อง ลิ้นและกลไกของ ลิ้นเครื่องยนต์ เวลา 7 ชั่วโมง /สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน รูปที่ 14 – 4 แสดงการปรับตั้งระยะห่างของลิ้น ที่มา : Auto Service and Repair : 222 สำหรับเครื่องยนต์ที่มีเพลาลูกเบี้ยวอยู่บนฝาสูบ ที่ไม่ใช้กระเดื่องกดลิ้น แต่จะใช้ลูกถ้วยกดลิ้นโดยตรง ซึ่งเป็น เครื่องยนต์รุ่นใหม่ การปรับตั้งระยะห่างของลิ้นไม่สามารถทำได้ แต่จะใช้การเปลี่ยนลูกถ้วยเมื่อถึงอายุการบริการ หรือเป็นการรองแผ่น “ชิม” (Valve Adjusting Disc) ค่ามาตรฐานระยะห่างระหว่างเพลาลูกเบี้ยว (Camshaft) กับ ลูกถ้วยกดลิ้น(Cam Follower) เป็นดังนี้ ค่ามาตรฐาน(Training Manual Gasoline Engine Vol.1 Step 2 , Toyota Motor) ลิ้นไอดี 0.030 - 0.085 มิลลิเมตร (0.0012 - 0.0033 นิ้ว) ลิ้นไอเสีย 0.035 - 0.090 มิลลิเมตร (0.0014 - 0.0035 นิ้ว) รูปที่ 15 – 4 แสดงการใช้ลูกถ้วยกดลิ้น ที่มา : Auto service and Repair : 224
รายการประกอบใบงาน วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 4 เรื่อง การบริการลิ้น เวลา 7 ชั่วโมง /สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม 5 ผู้เรียนถอดประกอบลิ้นไอดี ไอเสียได้ถูกต้อง 6 ผู้เรียนตรวจวัดหาการสึกหรอ และคดงอของลิ้นได้ถูกต้อง 7 ผู้เรียนปรับตั้งระยะห่างของลิ้นได้ถูกต้อง 8 ผู้เรียนได้ปฏิบัติตามระเบียบเกี่ยวกับ 4.1 การใช้พื้นที่ 4.2 การใช้เครื่องมือ/อุปกรณ์ 4.3 การมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ขอบเขตของงาน 5 การถอด ประกอบ และตรวจวัด 6 การปรับตั้งระยะห่างของลิ้น 7 ตรวจหาสาเหตุข้อขัดข้อง วิธีการสอน 1. สาธิตการถอดประกอบและให้นักศึกษาทำการปฏิบัติ 2. บรรยายถึงข้อผิดพลาดในการปฏิบัติ เครื่องมือและอุปกรณ์ 8 เครื่องยนต์ 4 สูบ 4 จังหวะ 2 เครื่อง 9 ฟิลเลอร์เกจ 10 เครื่องมือประจำตัว 11 เครื่องมือพิเศษในการกอดลิ้น 12 ไมโครมิเตอร์ 13 ผ้าเช็ดมือ
วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 2101 – 2101 ใบงานที่ 3 – 4 เรื่อง การบริการลิ้น ของเครื่องยนต์ เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน ใบการปฏิบัติงาน 1. ทำการถอดลิ้นไอดีและลิ้นไอเสีย 1.1ใช้เครื่องมือพิเศษในการกอดสปริงที่ดันลิ้นเพื่อปลดลิ่มออก 1.2 ทำการถอดแหวนรองสปริง สปริง ซีล ไอดี และไอเสีย และซีลน้ำมันออก 1.3 ทำการศึกษาส่วนประกอบต่างๆ บันทึกผล จงวาดชิ้นส่วนของระบบไอดีและไอเสีย 2. ล้างชิ้นส่วนต่างๆของระบบลิ้นไอดีและไอเสียและเช็ดทำความสะอาด 3. ทำความสะอาดลิ้นไอดีและไอเสียโดยใช้มีดขูดปะเก็น ทำการขูดเขม่าออก
วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 2101 – 2101 ใบงานที่ 3 – 4 เรื่อง การบริการลิ้น ของเครื่องยนต์ เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน ใบการปฏิบัติงาน 1. นำไมโครมิเตอร์มาวัดเส้นผ่านศูนย์กลางของก้านวาล์วแล้วบันทึกค่า ตารางบันทึกผล ลิ้นไอดี ค่าที่วัดได้(มิลลิเมตร) ลิ้นไอเสีย ค่าที่วัดได้(มิลลิเมตร) ลิ้นที่ 1 ลิ้นที่ 1 ลิ้นที่ 2 ลิ้นที่ 2 ลิ้นที่ 3 ลิ้นที่ 3 ลิ้นที่ 4 ลิ้นที่ 4 ลิ้นที่ 5 ลิ้นที่ 5 ลิ้นที่ 6 ลิ้นที่ 6 ลิ้นที่ 7 ลิ้นที่ 7 ลิ้นที่ 8 ลิ้นที่ 8 ผลของการวัด ปกติ ไม่ปกติ เพราะ.................................................................................................. หมายเหตุ ค่ามาตรฐานให้ดูจากคู่มือของเครื่องยนต์แต่ละรุ่น
วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 2101 – 2101 ใบงานที่ 3 – 4 เรื่อง การบริการลิ้น ของเครื่องยนต์ เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน ใบการปฏิบัติงาน 1. ตรวจสอบสปริงลิ้น 1.1ใช้เหล็กฉากตรวจความเอียงของสปริงลิ้นถ้าเอียงมากกว่าที่กำหนดให้เปลี่ยนสปริงใหม่ * ค่าความเอียงสูงสุด 2.0 มม. ( 0.079 นิ้ว) 1.2วัดความสูงอิสระของสปริงโดยใช้เวอร์เนียร์คาลิปเปอร์ * ค่าความสูงอิสระต่างกันไม่เกิน 47 มม. (1.85 นิ้ว) ตารางบันทึกผล ค่าความเอียงของสปริง (มิลลิเมตร) ค่าความสูงอิสระของสปริง(มิลลิเมตร) ลำดับ ไอดี ไอเสีย ลำดับ ไอดี ไอเสีย 1 1 2 2 3 3 4 4 5 5 6 6 7 7 8 8 ผลของการปฏิบัติ ปกติ ผิดปกติ เพราะ ............................................................................................
วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 2101 – 2101 ใบงานที่ 3 – 4 เรื่อง การบริการลิ้น ของเครื่องยนต์ เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน ใบการปฏิบัติงาน 1. การปรับตั้งลิ้นไอดีและลิ้นไอเสีย 1.1 ทำการประกอบชุดลิ้นไอดีและลิ้นไอเสีย 1.2 ทำการปรับตั้งเครื่องยนต์ให้ตรงตำแหน่งมาร์คหน้าเครื่อง ( TDC ) 1.3 ทำการปรับตั้งลิ้นโดยใช้ประแจแหวน คลายนอตล็อก และใช้ไขควงปรับตั้งระยะห่าง 1.4ใช้ฟิลเลอร์เกจสอดให้ได้ตามค่ามาตรฐาน ตามที่กำหนด * ค่ามาตรฐานทั่วไป (Training Manual Gasoline Engine Vol.1 Step 2 , Totota Motor) ลิ้นไอดี 0.030 - 0.085 มิลลิเมตร (0.0012 - 0.0033 นิ้ว) ลิ้นไอเสีย 0.035 - 0.090 มิลลิเมตร (0.0014 - 0.0035 นิ้ว) รูปแบบในการปรับตั้งให้ดูใบเนื้อหา 9.5 เมื่อทำการปรับตั้งระยะห่างถูกต้องแล้วให้ใช้ปะแจแหวนขันนอตล็อกให้แน่น *ให้ทำการปฏิบัติให้ครบทุกลิ้น ใช้ประแจแหวน คลายนอตล็อกให้หลวม และใช้ ไขควงแบน ปรับต้งัระยะห่างลิ้น ตามค่ามาตรฐาน ประแจแหวน ไขควงแบน
วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 2101 – 2101 ใบงานที่ 3 – 4 เรื่อง การบริการลิ้น ของเครื่องยนต์ เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน ใบการปฏิบัติงาน สรุปผลการปฏิบัติ 1. การปฏิบัติงานปรับตั้งลิ้น ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... 2. ปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงาน ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... 3. ผลที่ได้รับจากการปฏิบัติงาน ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... .
แบบทดสอบหลังเรียน วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 4 เรื่อง ลิ้นและกลไกของ ลิ้นเครื่องยนต์ เวลา 7 ชั่วโมง /สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน แบบทดสอบหลังเรียน เรื่องลิ้นและกลไกของลิ้นเครื่องยนต์(Valve & Mechanical valve) คำสั่ง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย กากบาท (×) ทับตัวเลือกที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว 1. ลูกถ้วยกดลิ้น เป็นชิ้นส่วนที่ติดตั้งอยู่กับส่วนใด ก. เพลาลูกเบี้ยว ข. ปลายสุดของก้านลิ้น ค. ฝาสูบด้านบน ง. หน้าสัมผัสของลิ้น 2. การส่งกำลังโดยใช้เฟืองขับ (Timing gear)ระหว่างเพลาข้อเหวี่ยง และเพลาลูกเบี้ยว มีจุดอ่อนเกี่ยวกับ เรื่องอะไร ก. เสียงดัง ข. มีความร้อนสูง ค. การสึกหรอมาก ง. สั่นสะเทือน 3. ในปัจจุบันการส่งกำลังระหว่างเพลาข้อเหวี่ยงและเพลาลูกเบี้ยว นิยมใช้แบบใด ก. เฟือง ข. โซ่ ค. สายพาน ง. เพลา 4. ไดอะแกรมแสดงการปิดเปิดของลิ้น (Valve Timing Diagram) บอกสิ่งสำคัญเกี่ยวกับเรื่องใด ก. องศาการปิดเปิดของลิ้น ข. จำนวนครั้งที่ลิ้นปิด เปิด ค. เวลาที่ลิ้นปิด เปิด ง. อุณหภูมิของลิ้น
แบบทดสอบหลังเรียน วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 4 เรื่อง ลิ้นและกลไกของ ลิ้นเครื่องยนต์ เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน แบบทดสอบหลังเรียน เรื่องลิ้นและกลไกของลิ้นเครื่องยนต์(Valve & Mechanical valve) คำสั่ง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย กากบาท (×) ทับตัวเลือกที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว 5. ลิ้นของเครื่องยนต์มีหน้าที่ ก. ควบคุมการปิด เปิด ของไอดี และ ไอเสีย ข. อัดอากาศให้มีแรงดันเพิ่มมากขึ้น ค. เป็นช่องทางทำให้อากาศหมุนวนภายในห้องเผาไหม้ ง. ควบคุมปริมาณอากาศที่ไหลเข้าห้องเผาไหม้ให้มีปริมาณพอเหมาะ 6. การบรรจุโซเดียม (Metallic Sodium)ไว้ภายในก้านลิ้นเพื่อประโยชน์อย่างไร ก. เพื่อช่วยในการหล่อลื่น ข. เพื่อช่วยในการระบายความร้อน ค. เพื่อช่วยให้ผิวของก้านลิ้นแข็ง ง. เพื่อให้ก้านลิ้นขยายตัวได้เมื่อเกิดความร้อนสูง 7. เครื่องยนต์ที่ใช้ก้านกระทุ้งลิ้น (Push Rod) ได้มีการออกแบบให้วางเพลาลูกเบี้ยวไว้ที่ตำแหน่งใด ก. ตำแหน่งบนฝาสูบ ข. ตำแหน่งด้านข้างฝาสูบ ค. ตำแหน่งด้านล่างขนานกับเพลาข้อเหวี่ยง ง. ตำแหน่งหน้าเครื่องชิดกับล้อช่วยแรง 8. เครื่องยนต์ “DOHC” มีลักษณะเป็นอย่างไร ก. เครื่องยนต์ 2 จังหวะระบายความร้อนด้วยอากาศ ข. เครื่องยนต์ที่ออกแบบให้สามารถใช้เชื้อเพลิงได้ 2 ชนิด ค. เครื่องยนต์ที่วางเพลาลูกเบี้ยวไว้บนฝาสูบ ง. เครื่องยนต์ที่มีเพลาลูกเบี้ยวคู่ วางบนฝาสูบ
แบบทดสอบหลังเรียน วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 4 เรื่อง ลิ้นและกลไกของ ลิ้นเครื่องยนต์ เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน แบบทดสอบหลังเรียน เรื่องลิ้นและกลไกของลิ้นเครื่องยนต์(Valve & Mechanical valve) คำสั่ง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย กากบาท (×) ทับตัวเลือกที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว 9.ระบบแปรผันการปิด เปิดของลิ้นที่เรียกว่าระบบ VVT-I นอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์แล้ว ยังให้ประโยชน์เกี่ยวกับอะไร ก. ลดเสียงดังของลิ้นลงได้ถึง 25 % ข. ลดควันพิษของไอเสียลงได้มาก ค. เพิ่มความเร็วรอบให้มากขึ้น ง. เพิ่มอายุการใช้งานของน้ำมันหล่อลื่น จงตอบคำถาม ข้อ 10 - 11 10 ถ้าต้องการตั้งลิ้น ไอดี เมื่อเครื่องเย็นจะต้องตั้งให้ระยะห่างเท่าไร ก. 0.27 mm ข. 0.38 mm ค. 0.20 mm ง. 0.30 mm 11 ถ้าต้องการตั้งลิ้น เมื่อเครื่องร้อน ให้ตั้งระยะห่างเท่าไร ก. ลิ้นไอดี 0.27 mm ลิ้นไอเสีย 0.38 mm ข. ลิ้นไอดี 0.20 mm ลิ้นไอเสีย 0.30 mm ค. ลิ้นไอดี 0.25 mm ลิ้นไอเสีย 0.32 mm ง. ลิ้นไอดี 0.28 mm ลิ้นไอเสีย 0.39 mm 12 เครื่องยนต์ที่มีการปรับระยะห่างของลิ้นโดยการรองแผ่น “ชิม” ใช้กับกลไกของลิ้นแบบใด ก. แบบกระเดื่องกดลิ้น ข. แบบไฮดรอลิก ค. แบบลูกถ้วย ง. แบบกระแทก จ. จากหนังสือคู่มือกา หนดไวด้งัน้ี Cold Inlet Valve Clearance 0.27 mm. Exhaust Valve Clearance 0.38 mm. Hot Inlet Valve Clearance 0.20 mm. Exhaust Valve Clearance 0.30 mm
ใบประเมินผล วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 4 เรื่อง ลิ้นและกลไกของ ลิ้นเครื่องยนต์ เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน ใบประเมินผล ชื่อ – สกุล..........................................................................................ห้อง ............................เลขที่...................................... ลำดับที่ รายละเอียด 5 4 3 2 1 1 การเตรียมเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ 2 ความถูกต้องในการใช้เครื่องมือ 3 ขั้นตอนการปฏิบัติงาน 4 ความตั้งใจในการปฏิบัติงาน 5 ความมีระเบียบวินัย 6 การแต่งกาย 7 ทำงานร่วมกับผู้อื่น 8 การเก็บรักษาเครื่องมือ 9 ความสะอาดเรียบร้อย 10 ความสำเร็จของงาน รวม ***เกณฑ์ 5 = ดีมาก 4 = ดี 3 = ปานกลาง 2 = พอใช้ 1 = ต้องปรับปรุง การวิเคราะห์ผลการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน การสอบ คะแนนเต็ม คะแนนที่ได้ เปอร์เซ็นต์% ก่อนเรียน หลังเรียน รวม ผลการวิเคราะห์ ผ่าน ไม่ผ่าน ***เกณฑ์การวิเคราะห์ มากกว่า 70 % ผ่านเกณฑ์การประเมิน ต่ำกว่า 70 % ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน นักศึกษาจะต้องศึกษาเพิ่มเติมและทำการทดสอบใหม่
วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 5 เรื่อง ฝาสูบเครื่องยนต์ เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน เรื่อง ฝาสูบเครื่องยนต์ (Cylinder Head) วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. อธิบายความสำคัญของฝาสูบได้ถูกต้อง 2. บอกขั้นตอนและวิธีการบริการฝาสูบเครื่องยนต์ 3. อธิบายความสำคัญของปะเก็นฝาสูบได้ 4. อธิบายถึงการตรวจสภาพของลิ้นและสปริงลิ้นและบ่าลิ้นได้ถูกต้อง ขอบเขตของการสอน 1. ส่วนประกอบและหน้าที่การทำงานของฝาสูบ 2. การบริการฝาสูบ 3. การบริการลิ้น วิธีสอน 1 ใช้การสอนแบบบรรยายประกอบเพาเวอร์พอยนต์ (Power point) 2 สาธิตให้ดูเป็นตัวอย่าง สื่อประกอบการสอน 4. ฝาสูบ 5. เหล็กฉากมาตรฐาน (Straightedge) 3 ประแจปอนด์(Torque wrench) 4 เพาเวอร์พอยนต์ (Power point) การบริการฝาสูบ
แบบทดสอบก่อนเรียน วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 5 เรื่อง ฝาสูบเครื่องยนต์ เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง ฝาสูบเครื่องยนต์ คำสั่ง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย กากบาท (×) ทับตัวเลือกที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว 1 ข้อใดกล่าวถูก ก. ฝาสูบเป็นส่วนหนึ่งของห้องเผาไหม้ ข. ฝาสูบทำด้วยเหล็กหล่อที่ทนความร้อนได้สูง ค. ฝาสูบเป็นที่ติดตั้งกลไกของลิ้น ง. ที่กล่าวแล้วถูกต้อง 2 ฝาสูบที่ระบายความร้อนด้วยอากาศมีลักษณะพิเศษอย่างไร ก. ทำด้วยเหล็กหล่อเจาะรูเล็กจำนวนมาก ข. ทำด้วยอลูมิเนียมหล่อ มีครีบจำนวนมาก ค. ทำด้วยเหล็กไร้สนิม หล่อเป็นแผ่นเรียบ ง. ทำด้วยเหล็กหล่อแข็งผิวเรียบสลับซ้อนกลับไปกลับมา 2-3 ชั้น 3 ฝาสูบที่ทำด้วยเหล็กหล่อแข็ง ด้านในเจาะเป็นโพรงไปทั่ว เป็นฝาสูบที่ออกแบบเพื่อจุดประสงค์อะไร ก. ให้แข็งแรง ทนต่อการอัดตัว ข. ให้น้ำไหลผ่าน ระบายความร้อนด้วยน้ำ ค. ให้เกิดการขยายตัว เมื่อได้รับความร้อนสูง ง. ให้ปริมาณอากาศไหลผ่านเข้าไปภายในห้องเผาไหม้ 4 เครื่องมือที่สำคัญในการขันฝาสูบเครื่องยนต์คือ ก. ประแจแหวน ข. ประแจกระบอก ค. ประแจปากตาย ง. ประแจปอนด์ 5 การถอดฝาสูบเครื่องยนต์มีหลักเกณฑ์อย่างไร ก. ถอดโบลต์โดยเริ่มจากด้านนอก เข้ามาด้านในสลับกัน ข. ถอดโบลต์โดยเริ่มจากด้านใน ออกมาด้านนอกสลับกัน ค. ถอดโบลต์โดยเริ่มจากด้านบน มายังด้านล่างสลับกัน ง. ถอดโบลต์เริ่มจากด้านขวา ไปยังด้านซ้ายสลับกัน
แบบทดสอบก่อนเรียน วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 5 เรื่อง ฝาสูบเครื่องยนต์ เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง ฝาสูบเครื่องยนต์ คำสั่ง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย กากบาท (×) ทับตัวเลือกที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว 6 การวัดความโก่งของฝาสูบ จะต้องเตรียมเครื่องมืออะไรบ้าง ก. ไมโครมิเตอร์ และ ฟิลเลอร์เกจ ข. ไดอัลเกจ และ ไมโครมิเตอร์ ค. เหล็กฉากมาตรฐาน และฟิลเลอร์เกจ ง. ฟุตเหล็กยาว และ ไดอัลเกจ 7 การบดลิ้นเครื่องยนต์ เพื่อจุดประสงค์อะไร ก. ลดไม่ให้เสียงดังจนเกินไป ข. ป้องกันการกระแทกให้ต่ำลง ค. ให้เครื่องยนต์สามารถเดินเบาได้โดยไม่สดุด ง. ไม่ให้อากาศรั่ว ช่วยให้การเผาไหม้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น 8 คุณสมบัติของปะเก็นฝาสูบคือ ก. ทนต่อความร้อนได้สูง ข. ทนต่อกำลังอัดของอากาศได้สูง ค. เป็นซีลป้องกันการรั่ว ง. ถูกทุกข้อ จากรูปตอบคำถาม ข้อ 9 – 10 9 จากรูป เครื่องมือที่ใช้อยู่เรียกว่าอะไร ก. ไดอัลเกจ ข. ไมโครมิเตอร์ ค. มัลติมิเตอร์ ง. บาร์รอมิเตอร์ 10 จากรูป ต้องการวัดหาค่าอะไร ก. การสึกหรอของก้านลิ้น ข. การคด งอ ของก้านลิ้น ค. ความโตของก้านลิ้น ง. ความยาวตลอดแนวของก้านลิ้น ตอบค าถามข้อ9-10
แบบทดสอบก่อนเรียน วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 5 เรื่อง ฝาสูบเครื่องยนต์ เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง ฝาสูบเครื่องยนต์ คำสั่ง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย กากบาท (×) ทับตัวเลือกที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว 11 การใสฝาสูบเกิดผลกระทบอย่างไร ก. ลิ้นจะคดงอ และหักทันที ข. ลิ้นจะไหม้เนื่องจากความร้อนสูง ค. หน้าลิ้นจะแตก เกิดไฟลุกไหม้ได้ ง. ลิ้นจะยันเครื่องยนต์เดินไม่เรียบ 12 ปลอกก้านลิ้นโดยปกติแล้ว ติดตั้งอยู่ที่ชิ้นส่วนใด ก. กระบอกสูบ ข. เสื้อสูบ ค. ฝาสูบ ง. แบริ่งก้านสูบ 13 การเจียรนัยลิ้น หมายถึงอะไร ก. การนำลิ้นมาบดให้ผิวเรียบ ข. การล้างทำความสะอาดโดยการพ่นทรายแรงดันสูง ค. การนำลิ้นไปเผาให้ร้อนแล้วทำการชุบผิวให้แข็ง ง. การนำลิ้นมาขัดให้ผิวเรียบ โดยใช้หินขัด จากรูป ตอบคำถามข้อ 14 -15 14 จากรูป แสดงถึงการปฏิบัติงานเกี่ยวกับอะไร ก. บดลิ้น ข. ตรวจการโก่งของฝาสูบ ค. ถอดปลอกนำลิ้นออกจากฝาสูบ ง . ทำความสะอาดฝาสูบ 15 การปฏิบัติงานในข้อ 14 บรรลุวัตถุประสงค์ได้อย่างไร ก. บอกการโก่งของฝาสูบได้ ข. ถอดปลอกนำลิ้นออกมาได้ ค. ล้างคราบน้ำมันและเขม่าออกให้สะอาด ง. ลิ้นจะต้องไม่รั่ว ตอบค าถามข้อ 14-15
ใบความรู้ วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 5 เรื่อง ฝาสูบเครื่องยนต์ เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน ความสำคัญของฝาสูบเครื่องยนต์ ฝาสูบ (Cylinder Head) เป็นชิ้นส่วนหลักของเครื่องยนต์ ติดตั้งอยู่ตอนบนของกระบอกสูบ ฝาสูบ ประกอบด้วยกลไกของลิ้น ชุดลิ้น และหัวเทียน ด้านข้างจะมีช่องไอดี และไอเสีย ฝาสูบเป็นส่วนหนึ่งของห้องเผา ไหม้ ทำด้วยเหล็กหล่อแข็งที่สามารถทนความร้อนได้สูง รูปที่ 1-5 แสดงฝาสูบเครื่องยนต์ ที่มา Automotive Encyclopedia : 58 ฝาสูบเมื่อแบ่งตามลักษณะการระบายความร้อน แบ่งได้เป็น 2 แบบ 1 ฝาสูบที่ออกแบบเพื่อการระบายความร้อนด้วยอากาศ ฝาสูบลักษณะนี้นิยมทำด้วยอะลูมิเนียมหล่อ น้ำหนัก เบา ด้านบนจะทำเป็นครีบ (Fin) เพื่อให้อากาศไหลผ่านได้ ทำให้การระบายความร้อนเป็นไปได้รวดเร็ว นิยมใช้กับเครื่องยนต์เล็กโดยทั่วไป รูปที่ 2 – 5 แสดงรูปแบบการระบายความร้อนของเครื่องยนต์โดยมีครีบโดยรอบเสื้อสูบและฝาสูบ ที่มา Automotive Encyclopedia : 121 ข้อสังเกต ฝาสูบที่ระบายความร้อนด้วยอากาศจะมีครีบ (Fin) ท า ด้วยอะลูมิเนียม ทนความร้อนได้สูง ฝาสูบที่ระบายความร้อนดว้ยน้า ทา ดว้ยเหลก็หล่อ ภายใน เป็นโพรงน้า สามารถไหลถ่ายเทได้
ใบความรู้ วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 5 เรื่อง ฝาสูบเครื่องยนต์ เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน 1 ฝาสูบที่ออกแบบเพื่อการระบายความร้อนด้วยน้ำ ฝาสูบลักษณะนี้นิยมทำด้วยเหล็กหล่อแข็ง น้ำหนักมาก ภายในฝาสูบจะเจาะเป็นโพรงเพื่อให้น้ำสามารถไหลเข้า- ออก ระบายความร้อนได้ ใช้กับเครื่องยนต์ใหญ่ ทั่วๆไป รูปที่ 3 – 5 แสดงตำแหน่งโบลต์จับยึดฝาสูบ ที่มา : Automotive Service Technology : 6 การบริการฝาสูบเครื่องยนต์ การบริการฝาสูบเครื่องยนต์ เป็นงานที่ช่างทุกคนต้องเรียนรู้ให้เข้าใจ จนสามารถนำไปปฏิบัติงานบริการฝา สูบเครื่องยนต์ การบริการฝาสูบมีอยู่หลายลักษณะงานเช่น การขัน การถอด การวัดความโก่งงอ การบริการลิ้นฯ ทั้งนี้เพื่อให้ฝาสูบมีความสมบูรณ์ ทำให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพการทำงานอยู่เสมอ 1 การขันฝาสูบ โดยปกติเครื่องยนต์ใหม่ เมื่อใช้งานไประยะหนึ่งจะต้องขันฝาสูบ เพื่อป้องกันการคลายตัว ของโบลต์ฝาสูบ การขันโบลต์ฝาสูบเป็นวิธีการทางเทคนิคโดยเฉพาะ กล่าวคือก่อนจะทำการขันฝาสูบจะต้อง ดูคู่มือแรงขันของฝาสูบเครื่องยนต์ก่อนเสมอ รูปที่ 4– 5แสดงการถอด ประกอบ ฝาสูบ ที่มา : Auto Service and Repair 190
ใบความรู้ วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 5 เรื่อง ฝาสูบเครื่องยนต์ เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน ให้เริ่มขันนอตฝาสูบบริเวณส่วนกลาง ตั้งแต่นอต หมายเลข 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ตัวอย่าง สมมุติว่า คู่มือซ่อม ของเครื่องยนต์ NISSAN รุ่น J 15 แรงขันฝาสูบ 60 ปอนด์ – ฟุต การ ขันฝาสูบให้แบ่งแรงขันออกเป็น 3 - 4 ครั้ง ดังนี้ ครั้งที่ 1 ขันโบลต์หมายเลข 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ด้วยแรง 0 - 20 ปอนด์- ฟุต ครั้งที่ 2 ขัน โบลต์หมายเลข 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ด้วยแรง 20 - 40 ปอนด์- ฟุต ครั้งที่ 3 ขัน โบลต์หมายเลข 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ด้วยแรง 40 - 60 ปอนด์- ฟุต ครั้งที่ 4 ตรวจสอบความเรียบร้อยของ โบลต์ทุกตัว ว่ามีแรงขันเท่ากันหรือไม่ รูปที่ 5- 5 ลักษณะการขันฝาสูบ ที่มา :Auto Service and Repair : 56 2 การถอดฝาสูบออกจากเสื้อสูบ การถอดฝาสูบออกจากเสื้อสูบ ให้ถอดจากด้านนอกเข้ามาด้านในทแยงสลับกัน เช่น ถอด หมายเลข 6 5 4 3 2 1 ตามลำดับโดยแบ่งแรงถอดออกเป็น 3-4 ส่วนเช่นกัน ทั้งนี้เพื่อป้องกันฝาสูบชำรุด หมายเหตุ ข้อควรระวัง การขันโบลต์ฝาสูบจากด้านนอกเข้ามา เช่น (จากรูป) ขันโบลต์หมายเลข 1 2 3 4 5 6 จะทำให้ฝาสูบโก่ง แตกร้าวได้ รูปที่ 6 - 5 แสดงการโก่งของฝา สูบ ที่มา :Auto Service and Repair : 56