The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pichet101srikomart, 2023-05-18 23:20:20

แผนการสอนงานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน

งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน

ใบความรู้ วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 7 เรื่อง ลูกสูบและแหวน เวลา 7 ชั่วโมง /สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน สลักลูกสูบ (Piston pin) สลักลูกสูบเป็นตัวจับยึดระหว่างลูกสูบ กับ ก้านสูบ สลักลูกสูบได้รับการออกแบบให้สามารถปรับมุมได้ ตลอดเวลา เมื่อลูกสูบเคลื่อนที่ รูปที่ 10 – 7 แสดงส่วนประกอบของชุดลูกสูบและการติดตายของสลักลูกสูบ ที่มา: Auto Service and Repair : 284 A B รูป A เมื่อลูกสูบร้อนสลักลูกสูบจะหลุด ออกจากบูช รูป B เมื่อลูกสูบเย็นสลักลูกสูบจะ ยึดแน่นและสวมอยู่ในบูช เมื่อสลักหลุด หรือติดตาย เคลื่อนที่ไม่ได้ ท าให้ลูกสูบแตก ช ารุด


ใบความรู้ วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 7 เรื่อง ลูกสูบและแหวน เวลา 7 ชั่วโมง /สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน แหวนลูกสูบ (Piston Ring) แหวนลูกสูบ เป็นชิ้นส่วนที่จะต้องประกอบเกี่ยวเนื่องกับลูกสูบ จะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ จะต้องนำมาใช้ ร่วมกัน ลักษณะของแหวนเป็นวงกลมปลายเปิด (ไม่ต่อเชื่อมกัน) ประกอบติดตั้งในร่องแหวนลูกสูบ ประมาณ 3 – 4 ตัว แหวนลูกสูบได้รับการออกแบบและสร้างด้วยโลหะพิเศษ ทนต่ออุณหภูมิสูง ทนต่อการเสียดสี แต่เปราะหักได้ง่าย รูปที่ 11 – 7 แหวนลูกสูบ ที่มา : Automotive Encyclopedia 70 ความสำคัญของแหวนลูกสูบ แหวนลูกสูบ ทำหน้าที่เป็นซีล (Seal) ป้องกันการรั่วของแก๊สร้อนภายในกระบอกสูบ นอกจากนั้นแหวนลูกสูบยัง ทำหน้าที่เป็นช่องทางให้น้ำมันหล่อลื่นไหลเข้ามาหล่อลื่นผนังกระบอกสูบเพื่อลดความฝืดระหว่างแหวนลูกสูบ กับผนัง กระบอกสูบ และพร้อมกันนั้นยังเป็นซีลป้องกันไม่ให้น้ำมันหล่อลื่น รั่วเข้าไปภายในห้องเผาไหม้อีกด้วย แหวนลูกสูบแบ่งออกเป็น 2 ชนิด 1 แหวนอัด (Compression Ring) 2 แหวนน้ำมัน (Oil Ring) แหวนอัด (Compression Ring) ป้องกนัการรั่วของแก๊สร้อน แหวนน้า มนั (Oil Ring) ให้น้า มนัไหลเขา้หล่อลื่นผนงักระบอกสูบ


ใบความรู้ วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 7 เรื่อง ลูกสูบและแหวน เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน แหวนอัด (Compression Ring) ทำหน้าที่ป้องกันการรั่วของไอดีที่อัดตัวอยู่ภายในห้องเผาไหม้ โดยปกติแหวนอัด จะติดตั้งอยู่ ในร่องแหวนลูกสูบด้านบน ประมาณ 1 – 2 อัน แล้วแต่ขนาดของลูกสูบ รูปที่ 12 – 7 แสดงแหวนอัดและแหวนน้ำมัน รูปที่ 13 – 7 แสดงหน้าที่ของแหวนลูกสูบ ที่มา : Automotive Encyclopedia : 67 แหวนลูกสูบที่ดี จะต้องป้องกันการรั่วได้ 100 % การออกแบบจะต้องให้พื้นที่ด้านข้างของแหวนสัมผัสกับผนังกระบอก สูบได้พอดี โดยมีพื้นที่สัมผัสน้อยที่สุด เพื่อลดความฝืดเมื่อลูกสูบเคลื่อนที่ขึ้น-ลงภายในกระบอกสูบ รูปที่ 13 – 7 แสดงหน้าสัมผัสของแหวน กับผนังกระบอกสูบ ที่มา : Automotive Encyclopedia : 69 1 2 1 แหวนอัด 2 แหวนน้า มนั การเคลื่อนที่ข้ึน –ลงของลูกสูบแหวนเป็นซีลกนัรั่ว


ใบความรู้ วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 7 เรื่อง ลูกสูบและแหวน เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน รูปที่ 14 – 7 แสดงลักษณะภาพตัดของแหวนลูกสูบชนิดต่างๆ ที่มา: Auto Service and Repair : 286 ปากแหวนลูกสูบ มีอยู่ 3 แบบ 1 แบบปากเสมอ (Butt joint) 2 แบบประกบ (Lab joint) 3 แบบปากฉลาม (Angle joint) ที่มา : Auto Service Technology : 28 แบบปากเสมอ แบบประกบ แบบปากฉลาม


ใบความรู้ วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 7 เรื่อง ลูกสูบและแหวน เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน การชำรุดเสียหายของแหวนลูกสูบ เกิดจากสาเหตุหลายประการ แต่สามารถสรุปสาเหตุที่สำคัญได้ดังนี้ 1 การหล่อลื่นไม่สมบูรณ์ อันเนื่องมาจากปัญหาในระบบหล่อลื่น 2 การเกิดความร้อนสูง (Over heat) เนื่องมาจากปัญหาในระบบระบายความร้อน 3 วัสดุที่นำมาสร้างแหวนลูกสูบ ไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสม รูปที่ 15 -7 แสดงการติดตายของแหวนเนื่องจาการหล่อลื่นไม่สมบูรณ์ ที่มา : musclecarthailand . com จากภาพที่ 15 - 7 แสดงให้เห็น การติดตายและหลอมละลายของแหวนลูกสูบ อันเนื่องมาจากปัญหาเกี่ยวกับการ หล่อลื่นไม่สมบูรณ์ ทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัด (Over heat) โลหะขยายตัวติดตายในร่องแหวนลูกสูบ การหล่อลื่น ระหว่างแหวนและผนังกระบอกสูบ ที่ไม่สมบูรณ์ จะท าให้ลูกสูบติด ความร้อนท าให้ แหวนเปลี่ยนรูปร่าง และติดตายอยู่ในร่องแหวน • ถ้าเป็ นรถจักรยานยนต์ที่ลูกสูบติด จะ เป็ นอันตรายต่อผู้ขับขี่ โดยปกติการออกแบบลูกสูบ แหวนลูกสูบ สามารถทนต่อความร้อนได้สูงถึง 1600 c. โดยไม่หลอมละลาย แต่ในปัจจุบันปรากฏว่า การสร้างลูกสูบ แหวนลูกสูบไม่ได้ มาตรฐาน บริษทัผสู้ร้างนา เอาโลหะที่ดอ้ยคุณภาพมาสร้างชิ้นส่วน ทา ให้ชิ้นส่วนที่ผลิต ออกมาไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กา หนด ก่อให้เกิดอนัตรายต่อผใู้ชเ้ป็นอยา่งยิ่ง


รายการประกอบใบงาน วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 7 เรื่อง ลูกสูบและแหวน เวลา 7 ชั่วโมง /สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม 9 ผู้เรียนวัดระยะห่างปากแหวนและร่องแหวนลูกสูบได้ 10 ผู้เรียนถอดประกอบแหวนลูกสูบได้ 11 ผู้เรียนได้ปฏิบัติตามระเบียบเกี่ยวกับ 4.1 การใช้พื้นที่ 4.2 การใช้เครื่องมือ/อุปกรณ์ 4.3 การมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ขอบเขตของงาน 11 การวัดปากแหวนและร่องแหวนลูกสูบ 12 การประกอบแหวนเข้ากับลูกสูบ วิธีการสอนและสื่อประกอบการสอน 1 สาธิตการวัดปากแหวนและร่องแหวน 2 ทดลอง/ แสดงให้เห็นการหล่อลื่นที่มีผลต่อลูกสูบ 3 บรรยายให้เห็นโทษ และภัย ในการปฏิบัติงาน เครื่องมือและอุปกรณ์ 14 กระบอกสูบพร้อมลูกสูบ 2 ชุด 15 ฟิลเลอร์เกจ 2 ชุด 16 เครื่องมือถ่างแหวนลูกสูบ 2 ชุด 17 ปลอกรัดแหวน 2 ชุด 18 ค้อนพลาสติก 2 อัน 19 เหล็กตอกนำศูนย์ 2 อัน 20 ประแจกระบอก 2 ชุด และประแจปอนด์ 2 ชุด 21 ปลอกพลาสติกสวมเกลียว (Hoses) 22 เครื่องมือประจำตัว และกาหยอดน้ำมันหล่อลื่น


หน่วยที่ 7 ลูกสูบและแหวนลูกสูบ วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 ใบงานที่ 6 - 7 เรื่องการวัดปากแหวน และร่องแหวนลูกสูบ เวลา 7 ชั่วโมง /สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน ลำดับขั้นการปฏิบัติงาน 1 การวัดปากแหวน ให้นำแหวนลูกสูบ (ที่ได้ถอดแหวนออกแล้ว) ใส่ลงไปในกระบอกสูบของเครื่องยนต์เครื่องนั้น โดยใช้ลูกสูบอัดตามลงไปเพื่อให้แหวนวางอยู่ในตำแหน่งที่เท่ากัน ไม่เอียง ไปด้านใดด้านหนึ่ง หมายเหตุ • การนำแหวนใส่ลงในกระบอกสูบ ให้เอาด้านบนขึ้นซึ่งสามารถดูได้จาก หมายเลข หรือตัวอักษรที่ปรากฏอยู่ที่ แหวน • แหวนที่ใส่ลงไปควรอยู่ลึกจากขอบบนไม่น้อยกว่า 50 มิลลิเมตร • เมื่อนำแหวนใส่ลงในระยะที่ถูกต้องแล้ว ให้นำหัวลูกสูบ ใส่ตามลงไปเพื่อให้แหวน อยู่ในระดับ ข้อสังเกต 1 ปากแหวนจะต้องไม่ชนกัน โดยจะต้องมี ระยะห่างมาตรฐาน (piston ring end gap) แหวนชุดที่ 1 0.25 – 0.35 มิลลิเมตร (0.0098 – 0.0138 นิ้ว) แหวนชุดที่ 2 0.15 – 0.30 มิลลิเมตร (0.0059 – 0.0118 นิ้ว) แหวนน้ำมัน 0.10 – 0.60 มิลลิเมตร (0.0039 – 0.0236 นิ้ว) 2 ถ้าหากว่าปากแหวนชนกัน ให้เปลี่ยนใหม่ หรือใช้ ตะใบละเอียดแต่งปากแหวนให้มีระยะห่างตาม มาตรฐานที่กำหนด 3 ใช้ฟิลเลอร์เกจ สอดวัดระยะห่าง แล้วบันทึกค่า เพื่อนำมาเปรียบเทียบว่าสมควรแก้ไขวิธีใด ฟิ ลเลอร์เกจ ที่น ามาวัดระยะห่างปาก แหวน ต้องเลือกขนาดให้พอดีกับ ระยะห่าง เพราะจะได้ค่าที่ถูกต้อง ฟิ ลเลอร์เกจ


หน่วยที่ 7 ลูกสูบและแหวนลูกสูบ วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 ใบงานที่ 6 – 7 เรื่อง การวัดปากแหวน และร่องแหวนลูกสูบ เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน 1 การวัดระยะห่างร่องแหวนลูกสูบ นำแหวนชุดที่ผ่านการวัดปากแหวนมาทำการวัดร่องแหวนอีกครั้งหนึ่ง โดย นำแหวนมาเสียบลงในร่องแหวนลูกสูบแล้วหมุนไปรอบๆ ลูกสูบ ข้อสังเกต • ระยะห่างร่องแหวนจะต้องเสียบแหวนลงได้พอดี ไม่คับแน่น หรือหลวมจนเกินไป ระยะห่างมาตรฐาน (Piston ring groove clearance) แหวนชุดที่ 1 0.04 – 0.08 มิลลิเมตร (0.0016 – 0.0031 นิ้ว) แหวนชุดที่ 2 0.03 – 0.07 มิลลิเมตร (0.0012 – 0.0028 นิ้ว) • หากปรากฏร่องแหวนมีระยะห่างไม่เพียงพอ ให้เปลี่ยนแหวนใหม่ • ให้ใช้ฟิลเลอร์เกจวัดระยะห่างระหว่างแหวนและร่องแหวน ค่าที่ได้ให้บันทึกลงในแบบฟอร์ม 2 ทำการประกอบแหวนลูกสูบเข้ากับชุดลูกลูบ โดยประกอบแหวนน้ำมันเข้าไปก่อน 3 ประกอบแหวนชุดที่ 2 และ 1 ตามลำดับโดยใช้เครื่องมือพิเศษ (เครื่องถ่างแหวนลูกสูบ) ข้อควรระวัง แหวนลูกสูบเปราะหักง่าย การประกอบแหวนต้อง ระมัดระวังเป็ นพิเศษ แหวนน ้ามัน ใช้มือประกอบจะสะดวกกว่า ดังรูป วัดระยะห่างร่องแหวน โดยการน าแหวนหมุนลงในร่อง แหวนโดยรอบ แหวนต้องลงอยู่ ในร่องพอดี ไม่คับแน่น


หน่วยที่ 7 ลูกสูบและแหวนลูกสูบ วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 ใบงานที่ 6 - 7 เรื่อง การวัดปากแหวน และร่องแหวนลูกสูบ เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน เมื่อ ประกอบแหวนเข้าที่ เรียบร้อยแล้ว ให้ใช้ มือหมุนแหวนไปรอบๆ เพื่อตรวจสอบร่องแหวน อีกครั้งหนึ่ง หมายเหตุ ให้ใช้กาน้ำมันหล่อลื่นฉีดชโลม บริเวณร่องแหวน การจัดปากแหวนลูกสูบ เช่น เมื่อมีแหวน 3 ชุด = 120 องศา เพราะฉะนั้น ตำแหน่งของปากแหวนของชุดที่ 1, 2 และ 3 เท่ากับ 120 องศา ไม่ควรจัดปากแหวนตรงกับแนวสลักลูกสูบ เพราะบริเวณแนวสลักลูกสูบ อาจทำให้เกิดการรั่วของแก๊สได้ง่าย เพราะ บริเวณสลักลูกสูบได้รับแรงกระแทก เมื่อจัดปากแหวนเสร็จแล้ว ก่อนนา ไปใส่ในกระบอกสูบ ให้สังเกต มาร์ค(Mark) บนหัวลูกสูบว่าลูกสูบควรวาง ในต าแหน่งใด ปกติ Mark จะแสดงต าแหน่งหน้าเครื่องยนต์ Mark Mark การประกอบแหวน โดยใช้เครื่องถ่าง ปากแหวน ป้องกันแหวนหักช ารุดได้ดี


หน่วยที่ 7 ลูกสูบและแหวนลูกสูบ วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 ใบงานที่ 6 – 7 เรื่อง การวัดปากแหวน และร่องแหวนลูกสูบ เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน แบบบันทึกผลการปฏิบัติงาน แหวนชุดที่ ระยะห่างปาก แหวน ระยะห่างร่อง แหวน ปกติ/ไม่ปกติ หมายเหตุ 1 2 แหวนน้ำมัน ปัญหาและอุปสรรค ........................................................................................................................... ................................................................. ............................................................................................................................. ............................................................... ................................................................................................................................... ......................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................... ............................................. ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... ........................................................................................................................................................... ................................. ............................................................................................................................................................................................


หน่วยที่ 7 ลูกสูบและแหวนลูกสูบ วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 ใบงานที่ 6 – 7 เรื่องการถอดประกอบ ลูกสูบ เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน การถอดประกอบลูกสูบ 1. ถ่ายน้ำมันหล่อลื่น และถ่ายน้ำระบายความร้อน ออกจากเครื่องยนต์ 2. ถอดฝาสูบออกจากเครื่องยนต์ ข้อควรระวัง 1 การใช้ไขควง หรือวัสดุอื่นงัดฝาสูบ ควรท าด้วยความระมัดระวัง เพราะอาจจะท าให้ฝาสูบ ช ารุด แตกร้าว 2 ฝาสูบมีน้า หนกัมาก อาจจะหล่นเป็นอนัตรายต่อร่างกายได้


หน่วยที่ 7 ลูกสูบและแหวนลูกสูบ วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 ใบงานที่ 6 - 7 เรื่อง การถอด ประกอบลูกสูบ เวลา 7 ชั่วโมง /สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน การถอดประกอบปะกับล็อกเพลาข้อเหวี่ยง 1. ถอดอ่างน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ออก 2. ทำเครื่องหมาย (Mark) ที่ฝาครอบแบริ่ง โดยใช้เหล็กนำศูนย์ตอก 3. ใช้ประแจกระบอกถอดนอตฝาครอบแบริ่ง ออก แล้วจัดวางอย่างมีระเบียบ 4. ใช้ปลอกพลาสติกสวมที่เกลียวของโบลต์ก้าน สูบเพื่อป้องกันเกลียวชำรุด Hoses : พลาสติกสำหรับสวมเกลียว ป้องกัน เกลียวชำรุด ขณะถอด ประกอบ 5 ใช้ค้อนพลาสติกเคาะโบลต์ก้านสูบเบาๆ เพื่อเตรียมถอดชุดลูกสูบของแต่ละสูบ 6 หมุนเครื่องยนต์ให้สูบที่ต้องการถอดอยู่ใน ตำแหน่งศูนย์ตายบน หลังจากนั้นใช้ ด้ามค้อนหรือไม้เนื้อแข็งดันฝาครอบแบริ่ง ตัวบน เพื่อนำลูกสูบออกมา จนครบทุกสูบ ข้อควรปฏิบัติ 1 ต้องบันทึกช่วยจ า เช่น ต าแหน่ง L,R หรือ F , R 2 ศึกษาคู่มือ ในการถอด ประกอบ 3 ตรวจเพื่อหาความผิดปกติโดยละเอียด


หน่วยที่ 7 ลูกสูบและแหวนลูกสูบ วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 ใบงานที่ 6 - 7 เรื่อง การถอดประกอบ ลูกสูบ เวลา 7 ชั่วโมง /สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน ข้อสังเกต เมื่อถอดลูกสูบออกมาแล้วให้พิจารณาการสึกหรอของแบริ่ง และแหวนลูกสูบ แต่ละชุด ปกติ ไม่ปกติ เพราะ................................................................. 7 จัดวางลูกสูบให้มีระเบียบและเรียงตามลำดับ 8. ใช้ประแจปอนด์ขันยึดก้านสูบด้วยแรงบิด (ตามคู่มือ) ค่ามาตรฐานทั่วไปสำหรับเครื่องยนต์ 4 สูบ ไม่เกิน 2000 ลูกบาศก์เซนติเมตร (CC) ค่าแรงขัน 500 กิโลกรัม- เซนติเมตร (36 ฟุต – ปอนด์) หมายเหตุ ในกรณีเครื่องยนต์เก่าเมื่อใช้เครื่องยนต์ไปนานๆ ขอบด้านบนของกระบอกสูบอาจจะมีสัน (Cylinder ridge) เกิดขึ้นสามารถคว้านออกโดยใช้เครื่องมือพิเศษ การใช้ประแจปอนด์ 1 ดูแรงขันจากคู่มือของแต่ละรุ่น 2 พิจารณาหน่วยวัดด้วยความรอบคอบ เช่น Nm. กิโลกรัม - เซนติเมตร


แบบทดสอบหลังเรียน วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 7 เรื่อง ลูกสูบและแหวน ลูกสูบ เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง ลูกสูบและแหวน คำสั่ง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย กากบาท (×) ทับตัวเลือกที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว 1. จากรูปเป็นบริการแหวนลูกสูบ เรียกวิธีดังกล่าวว่าอะไร ก. วัดปากแหวน ข. วัดความหนาแหวน ค. วัดร่องแหวน ง. วัดการบิดเบี้ยวของแหวน 2. ลูกสูบมีหน้าที่อย่างไร ก. เปลี่ยนพลังงานความร้อน เป็นพลังงานกล ข. เปลี่ยนพลังงานกล เป็นพลังงานความร้อน ค. เปลี่ยนแรงในแนวตั้งให้เป็นแรงในแนวเส้นรอบวง ง. เปลี่ยนแรงขึ้นลงให้เป็นแนวแรงหมุนรอบเพลาข้อเหวี่ยง 3 จุดประสงค์หลักที่จะต้องออกแบบหัวลูกสูบมีลักษณะต่างๆ เช่นหัวลูกสูบเว้า นูนฯลฯ เพื่ออะไร ก. เพื่อให้รับแรงกระแทกได้ดีเมื่อเกิดการจุดระเบิดในห้องเผาไหม้ ข. เพื่อให้อากาศเกิดการหมุนวนคลุกเคล้าระหว่างอากาศ และน้ำมัน ค. เพื่อให้สามารถรองรับปริมาณของอากาศที่เข้าห้องเผาไหม้ได้อย่างเพียงพอ ง. เพื่อลดการสั่นสะเทือนเมื่อเครื่องยนต์ทำงานที่ความเร็วรอบสูงตั้งแต่ 2000 รอบขึ้นไป 4. จากรูป จะเห็นได้ว่ามีรอยถลอกด้านข้างของลูกสูบเพียงด้านเดียว ลักษณะที่เห็นนี้ ช่าง เรียกอาการที่เกิดขึ้นว่า อะไร ก. ไฟแก่ ข ไฟอ่อน ค. ตบข้าง ง. รันอิน รูปตอบค าถามข้อ 4 ตอบค าถามข้อ 1


แบบทดสอบหลังเรียน วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 7 เรื่อง ลูกสูบและแหวน ลูกสูบ เวลา 7 ชั่วโมง /สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง ลูกสูบและแหวนลูกสูบ คำสั่ง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย กากบาท (×) ทับตัวเลือกที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว 5 ปากแหวนลูกสูบที่ถูกต้องควรเป็นอย่างไร ก. ปากแหวนจะต้องชนกันพอดีประมาณ 0.00 มม. ข. ปากแหวนจะต้องล้ำกันอยู่เล็กน้อยประมาณ 0.50 มม. ค. ปากแหวนจะต้องมีระยะห่างกันเล็กน้อยประมาณ 0.20 มม. ง. ปากแหวนจะชนกัน หรือห่างกันก็ได้ขึ้นอยู่กับบริษัทผู้ผลิตแต่ละรุ่น 6. การออกแบบลูกสูบจะต้องคำนึงถึงเรื่องใด ก. ทนต่อแรงกระแทกและการเสียดสี ข. มีการขยายตัวน้อยที่สุด ค. ทนความร้อนได้สูง ง. ถูกทุกข้อ 7. การเซาะร่องของลูกสูบ โดยการผ่าเป็นแนวยาวไว้ด้านข้าง ไม่ให้เนื้อโลหะเชื่อมต่อกันจะเกิดผลดีต่อลูกสูบ อย่างไร ก. ลูกสูบจะมีการหล่อลื่นได้ดี เนื่องจากมีการเซาะร่องไว้ ข. ลูกสูบจะไม่ร้อนจนเกินไป ทำให้สามารถทำงานติดต่อเป็นเวลานานได้ ค. เนื้อโลหะที่นำมาทำลูกสูบสามารถขยายตัวได้ โดยไม่ทำให้ลูกสูบติดตาย ง. โลหะที่นำมาทำลูกสูบจะมีนำหนักเบา ทำให้ปรับเปลี่ยนความเร็วรอบเป็นไปอย่างฉับพลัน 8 แหวนลูกสูบแบ่งออกเป็นกี่ชนิด ก. 2 ชนิด ข. 3 ชนิด ค. 4 ชนิด ง. ยังสรุปแน่นอนไม่ได้


แบบทดสอบหลังเรียน วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 7 เรื่อง ลูกสูบและแหวน ลูกสูบ เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง ลูกสูบและแหวนลูกสูบ คำสั่ง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย กากบาท (×) ทับตัวเลือกที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว 9 แหวนลูกสูบได้รับการออกแบบและสร้างด้วยโลหะพิเศษ ทนต่ออุณหภูมิสูง ทนต่อการเสียดสี แต่มีข้อด้อยที่สมควร ระมัดระวังคือ ก. อ่อนตัวเมื่อได้รับความร้อนสูง ข. เปราะและหักได้ง่าย ค. ขึ้นสนิมเมื่อทิ้งไว้เป็นเวลานาน ง. เก็บความร้อนได้ดีถ่ายเทความร้อนยาก 10 แหวนลูกสูบที่อยู่ด้านล่างสุดของลูกสูบเรียกว่าแหวนอะไร ก. แหวนอัด ข. แหวนน้ำมัน ค. แหวนล็อก ง. แหวนโอริง


แบบเฉลยชุดทดสอบ วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 7 เรื่อง ลูกสูบและ แหวนลูกสูบ เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน แบบเฉลย ชุดทดสอบ ก่อนเรียน เรื่อง ลูกสูบและแหวนลูกสูบ ------------------------------------------------------------------------------------------------ ข้อ ก ข ค ง 1 (×) 2 (×) 3 (×) 4 (×) 5 (×) 6 (×) 7 (×) 8 (×) 9 (×) 10 (×)


แบบเฉลยชุดทดสอบหลังเรียน วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 7 เรื่อง ลูกสูบและแหวน ลูกสูบ เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน แบบเฉลย ชุดทดสอบ หลังเรียน เรื่องลูกสูบและแหวนลูกสูบ ------------------------------------------------------------------------------------------------ ข้อ ก ข ค ง 1 (×) 2 (×) 3 (×) 4 (×) 5 (×) 6 (×) 7 (×) 8 (×) 9 (×) 10 (×)


ใบประเมินผล วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 7 เรื่องลูกสูบและแหวน ลูกสูบ เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน ใบประเมินผล ชื่อ - สกุล.....................................................................................ห้อง........................เลขที่........... ลำดับที่ รายละเอียด 5 4 3 2 1 1 การเตรียมเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ 2 ความถูกต้องในการใช้เครื่องมือ 3 ขั้นตอนการปฏิบัติงาน 4 ความตั้งใจในการปฏิบัติงาน 5 ความมีระเบียบวินัย 6 การแต่งกาย 7 ทำงานร่วมกับผู้อื่น 8 การเก็บรักษาเครื่องมือ 9 ความสะอาดเรียบร้อย 10 ความสำเร็จของงาน รวม *เกณฑ์ 5 = ดีมาก 4 = ดี 3 = ปานกลาง 2 = พอใช้ 1 = ต้องปรับปรุง การวิเคราะห์ผลการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน การสอบ คะแนนเต็ม คะแนนที่ได้ เปอร์เซ็นต์% ก่อนเรียน หลังเรียน รวม ผลการวิเคราะห์ ผ่าน ไม่ผ่าน *เกณฑ์การประเมิน มากกว่า 70 % ผ่านเกณฑ์การประเมิน ต่ำกว่า 70 % ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน นักศึกษาจะต้องศึกษาเพิ่มเติมและทำการทดสอบใหม่


วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 8 เรื่อง เพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน เรื่อง เพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง (Crankshaft & Bearing) วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. อธิบายความสำคัญของเพลาข้อเหวี่ยงเครื่องยนต์ได้ถูกต้อง 2. บอกคุณลักษณะเฉพาะของเพลาข้อเหวี่ยงได้ถูกต้อง 3. อธิบายความสำคัญของแบริ่งเพลาข้อเหวี่ยงและแบริ่งก้านสูบได้ถูกต้อง 4. บอกคุณลักษณะของแบริ่งเพลาข้อเหวี่ยงและแบริ่งก้านสูบได้ถูกต้อง 5. อธิบายให้เห็นความสำคัญของประโยชน์แผ่นกันรุนได้ถูกต้อง 6. อธิบายความสำคัญของพิกัดมาตรฐานและพิกัดซ่อมได้ถูกต้อง ขอบเขตของการสอน 11. เพลาข้อเหวี่ยงและแบริ่ง 12. หน้าที่ และการทำงานของเพลาข้อเหวี่ยงและแบริ่ง 13. ทำการตรวจวัด เพลาข้อเหวี่ยงและแบริ่ง วิธีการสอน 1 บรรยายถึง โครงสร้าง การทำงาน โดยใช้สื่อเพาเวอร์พอยนต์( Power Point) นำเสนอ 2 สาธิตและแสดงให้เห็นการทำงานจาก แบบจำลอง (Simulator) 2 ระดมสมอง /สรุป/ ถามตอบ สื่อประกอบการสอน 12. เครื่องยนต์ 4 สูบ 4 จังหวะ 2-3 เครื่อง 13.ชุดบล็อก 2 ชุด 14. ฟิลเลอร์เกจ 2 ชุด 15. ไมโครมิเตอร์ 1 ชุด 16.ค้อนพลาสติก 2 อัน 17. ประแจปอนด์ 2 ชุด 18. เครื่องมือประจำตัว 19.ผ้าเช็ดมือ


แบบทดสอบก่อนเรียน วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 8 เรื่อง เพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง เวลา 7 ชั่วโมง /สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง เพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง คำสั่ง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย กากบาท (×) ทับตัวเลือกที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว 1 เพลาข้อเหวี่ยง มีหน้าที่อย่างไร ก. ส่งกำลังไปขับล้อช่วยแรงให้หมุนเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้ ข. ส่งกำลังไปขับให้เครื่องยนต์ทำงานได้โดยการรับแรงกระแทกจากลูกสูบของเครื่องยนต์ ค. รับแรงจากการเคลื่อนที่ขึ้นลง เปลี่ยนเป็นการหมุน เพื่อส่งต่อไปยังล้อช่วยแรงของเครื่องยนต์ ง. รับแรงบิดที่เกิดจากการระเบิดภายในห้องเผาไหม้ โดยส่งต่อกำลังไปยังเพลางานของเครื่องยนต์ 2 คุณลักษณะที่สำคัญของเพลาข้อเหวี่ยงคือ ก. มีความสมดุลขณะอยู่กับที่ (Static Balance) ข. มีความสมดุลขณะเคลื่อนที่ (Dynamic Balance) ค. มีแนวระดับเสมอกัน (Alignment) ง. ที่กล่าวแล้วถูกต้อง 3 ความสมดุลของเพลาข้อเหวี่ยงเกิดผลดีอย่างไร ก. ความเร็วจะสูงขึ้น ข. ลดการสั่นสะเทือน ค. เพิ่มแรงบิดขณะที่หมุน ง. ลดการสึกหรอของแบริ่ง 4 ล้อช่วยแรง (Flywheel) มีประโยชน์อย่างไร ก. เพิ่มกำลังของเครื่องยนต์ให้มากขึ้น ข. รักษาระดับความเร็วให้คงที่ขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน ค. เก็บและสะสมพลังงานให้เครื่องยนต์สามารถทำงานต่อไปได้ ง. ลดการสั่นสะเทือน ทำให้เครื่องยนต์เดินเรียบในทุกความเร็วรอบ


แบบทดสอบก่อนเรียน วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 8 เรื่อง เพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง เพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง คำสั่ง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย กากบาท (×) ทับตัวเลือกที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว 5 ข้อใดไม่ใช่...โครงสร้างของเพลาข้อเหวี่ยงเครื่องยนต์ ก. น้ำหนักถ่วง (Courter weight) ข. รูน้ำมันหล่อลื่น (Oil passage) ค. สลักข้อเพลา (Crank journal) ง. ล้อช่วยแรง (Fly wheel) 6 เพลาข้อเหวี่ยงชำรุด มีรอยสึก ขูดขีด โดยปกติมีการซ่อมบำรุงอย่างไร ก. นำไปเจียรนัย ข. นำไปขัดด้วยกระดาษทราย ค. นำไปบดด้วยกากเพชร ง. นำไปล้างด้วยผงโซดาไฟ 7 คุณลักษณะของแบริ่งเป็นโลหะแบนโค้งครึ่งวงกลม ทำด้วยโลหะผสมผิวสัมผัสด้านในทำด้วยวัสดุชนิดใด ก. โครเมียมและนิเกิล ข. เหล็กกล้าและทองแดง ค. ตะกั่ว และทองแดง ง. เหล็กหล่อแข็ง และทังสเตน 8 “พลาสติกเกจ” หมายถึง อะไร ก. แผ่นรองเพื่อเพิ่มความหนาของชิ้นงาน ข. เครื่องมือพิเศษ ใช้ในการร่างแบบในการทำชิ้นส่วน ค. แผ่นวัดค่าความเป็นกรด และเป็นด่างของสารเคมีชนิดเหลว ง. เครื่องมือพิเศษ ใช้ในการวัดหาค่าระยะห่างระหว่างแบริ่งกับเพลา


แบบทดสอบก่อนเรียน วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 8 เรื่อง เพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง เวลา 7 ชั่วโมง /สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง เพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง คำสั่ง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย กากบาท (×) ทับตัวเลือกที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว 9 แผ่นกันรุน (Thrust washers) โดยปกติติดตั้งอยู่ที่ส่วนใด ก. บูชก้านสูบ กับสลักลูกสูบ ข. ล้อช่วยแรง กับ เพลาข้อเหวี่ยง ค. แบริ่ง กับ ล้อช่วยแรง ง. เพลาข้อเหวี่ยง กับ ฝาครอบแบริ่ง 10 มีด 3 เหลี่ยมใช้ประโยชน์อย่างไร ก. ตัดปะเก็น ข. แต่งผิวแบริ่ง ค. คว้านรูให้โตขึ้น รูปตอบคำถามข้อที่ 11 ง. เจาะแผ่นโลหะและตัดขึ้นรูป 11 จากรูป จะเห็น รู และร่อง ของแบริ่ง มีไว้เพื่อประโยชน์ด้านใด ก. หล่อลื่น ข. ระบายความร้อน ค. ลดความฝืดของผิวที่สัมผัส ง. ป้องกันการกระแทกของก้านสูบ 12 เครื่องมือที่สำคัญและจะต้องนำมาใช้ในการประกอบเพลาข้อเหวี่ยง คือ ก. ประแจกระบอก ข. ประแจแหวน ค. ประแจปอนด์ ง. ประแจปากตาย


ใบความรู้ วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 8 เรื่อง เพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง เวลา 7 ชั่วโมง /สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน เรื่อง เพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง (Crankshaft & Bearing) ความสำคัญของเพลาข้อเหวี่ยง เพลาข้อเหวี่ยง มีหน้าที่รับแรงระเบิดภายในห้องเผาไหม้ ผ่านชุดลูกสูบ ก้านสูบ จนถึงเพลาข้อเหวี่ยง จากแรง ในแนวการเคลื่อนที่ขึ้นลง (Reciprocating motion) เปลี่ยนเป็นการหมุน (Rotation) เพื่อส่งต่อไปยังล้อช่วยแรงของ เครื่องยนต์ รูปที่ 1 – 8 แสดงเพลาข้อเหวี่ยง ที่มา : Automotive Encyclopedia : 73 รูปที่ 2 – 8 แสดงชุดของลูกสูบและก้านสูบ ที่มา : Automotive Technology : 46 ล้อช่วยแรง ลูกสูบ ก้านสูบ แหวนลูกสูบ แบริ่งกา้นสูบ


ใบความรู้ วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 8 เรื่อง เพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน คุณลักษณะของเพลาข้อเหวี่ยง คุณลักษณะของเพลาข้อเหวี่ยงได้รับการออกแบบและสร้าง เพื่อให้รับแรงได้สูงสุดจากก้านสูบของเครื่องยนต์ สร้างจากเหล็กหล่อชนิดพิเศษ มีความแข็งแรงทนทานต่ออุณหภูมิและความเค้นอัด นอกจากนั้นที่ผิวสัมผัสกับแบริ่งมีการ เคลือบผิวให้แข็งด้วยโลหะพิเศษระหว่างเหล็กกล้า กับนิเกิล คุณลักษณะที่สำคัญของเพลาข้อเหวี่ยงคือ 1 มีความสมดุลขณะอยู่กับที่ (Static Balance) 2 มีความสมดุลขณะเคลื่อนที่ (Dynamic Balance) 3 มีแนวระดับเสมอกัน (Alignment) รูปที่ 3 – 8 แสดงส่วนประกอบหลักเพลาข้อเหวี่ยง ที่มา : Automotive Service Technology : 53 จากความสมดุลทั้ง 2 แบบจะช่วยให้เครื่องยนต์เดินเรียบ ลดการสั่นสะเทือน (Flywheel) แต่ อย่างไรก็ตามการออกแบบเพลาข้อเหวี่ยงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องติดตั้งล้อช่วยแรง ควบคู่กันไปอีกด้วย เพราะการ หมุนของเพลาข้อเหวี่ยงเพียงอย่างเดียวไม่อาจทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ เนื่องจากไม่มีพลังงานสะสมที่จะทำให้เพลาข้อ เหวี่ยงหมุนอย่างสมดุลและต่อเนื่องไปสู่รอบต่างๆ การติดตั้งล้อช่วยแรง (Flywheel) จะช่วยให้เครื่องยนต์มีพลังงาน สะสมและสามารถนำไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ น้า หนกัถ่วง ข้อก้านสูบ ข้อหลัก ลิ่มปลายเพลา ส่วนประกอบโดยมาตรฐานในการสร้างเพลาข้อเหวี่ยง 1 Carbon 0.40 – 0.50 % 2 Manganese 0.60 – 0.90 % 3 Sulphur ไม่เกิน 0.055 % 4 Phosphorus ไม่เกิน 0.045 %


ใบความรู้ วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 8 เรื่อง เพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน คุณลักษณะของเพลาข้อเหวี่ยง รูปที่ 4 – 8 แสดงความสมดุลและลักษณะของเพลาข้อเหวี่ยงและก้านสูบ ที่มา : Automotive Service Technology :49 รูปที่ 5 – 8 แสดงส่วนประกอบของเพลาข้อเหวี่ยง ที่มา : tpa.or.th การออกแบบและสร้างเพลาข้อเหวี่ยง 1 น้า หนกัตอ้งสมดุล ป้องกนัการสั่นสะเทือน 2 มีแนวระดับเสมอกัน (Alignment) 3 แข็งแรง ทนต่อการกระแทกได้ดี รูที่เจาะเพื่อลดน้า หนกัของโลหะ ส่วนเกิน ท าให้มีความสมดุลขณะ หมุน (Dynamic Balance) ก้านสูบ เพลาข้อเหวี่ยง


ใบความรู้ วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 8 เรื่อง เพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน เพลาข้อเหวี่ยงและส่วนประกอบที่เกี่ยวข้อง รูปที่ 6 - 8 แสดงโครงสร้างและส่วนประกอบของชุดเพลาข้อเหวี่ยง ที่มา : Auto Service and Repair :243 เพลาข้อเหวี่ยง ล้อช่วยแรง ชุดฝาครอบเพลาข้อเหวี่ยง แบริ่งปลายเพลา แหวนกันรุน เส้ือสูบ แบริ่ง โบลท์ยึดเพลาข้อเหวี่ยง ซีลน้า มนั


ใบความรู้ วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 8 เรื่อง เพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน โครงสร้างของเพลาข้อเหวี่ยง โครงสร้างของเพลาข้อเหวี่ยงประกอบด้วยส่วนต่างๆ เช่น 1 นำหนักถ่วง (Courter weight) เพื่อสร้างความสมดุลให้กับเพลา ลดการสั่นสะเทือนขณะเพลาหมุน 2 รูน้ำมันหล่อลื่น (Oil passage) รูดังกล่าวจะเจาะให้น้ำมันหล่อลื่นไหล มาหล่อลื่นบริเวณแบริ่งของเพลา รูปที่ 7 – 8 แสดงเส้นทางการไหลของน้ำมันหล่อลื่น ที่มา : Automotive Service Technology : 52 การบริการเพลาข้อเหวี่ยง เพลาข้อเหวี่ยงเป็นชิ้นส่วนหลักและสำคัญของเครื่องยนต์ ที่จะต้องให้บริการตามสภาพและอายุการใช้งาน ซึ่งโดย ปกติอายุการใช้งานของเพลาข้อเหวี่ยงนานมากกว่า 30,000 ชั่วโมง ถ้ามีการดูแลบำรุงรักษาให้ถูกวิธีอาจจะใช้งานได้นาน กว่านี้ ข้อกำหนดในการถอด ประกอบ เพลาข้อเหวี่ยงมีดังนี้ 1 ให้สังเกต และจดบันทึกตำแหน่งหรือเครื่องหมาย (Mark) ที่ปรากฏอยู่บนชิ้นส่วน 2 ชิ้นส่วนใดที่ไม่ปรากฏเครื่องหมาย ให้ทำเครื่องหมายกำกับไว้ เช่นฝาครอบแบริ่งตัวที่ 1 ,2 , 3... 3 จัดวางชิ้นส่วนให้เป็นระเบียบ ก่อน – หลัง , บน- ล่าง โดยปกติควรวางไว้ในช่องที่จัดเตรียมไว้ รูปที่ 8 – 8 แสดงตำแหน่งมาร์คที่ปรากฏบนชิ้น ส่วนตัวจับยึดเพลาข้อเหวี่ยง ที่มา: Auto Service and Repair :229 Mark บอกต าแหน่ง รูที่เจาะไวส้า หรับน้า มนัหล่อลื่น


ใบความรู้ วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 8 เรื่อง เพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง เวลา 7 ชั่วโมง /สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน รูปที่ 9 – 8 จากรูป แสดงให้เห็นการบอกตำแหน่ง เพื่อประโยชน์ในการถอด ประกอบเพลาข้อเหวี่ยง ที่มา : Auto Service and Repair : 230 การถอด ประกอบชิ้นส่วน ชิ้นส่วนที่สา คญัเช่นฝาครอบจบัยึดเพลาขอ้เหวี่ยง (Cap) โบลต์(Bolts) แบริ่ง สลกัแหวนรอง (Washers) จะต้องจดบันทึกและจดัวางตามลา ดบัก่อนหลงัท้งัน้ีเนื่องจากชิ้นส่วนต่างๆเหล่าน้ีถา้ประกอบสับเปลี่ยน ต าแหน่ง เช่น ชุดด้านขวา น าไปไว้ด้านซ้าย ชุดด้านหน้าน าไปไว้ด้านหลัง จะส่งผลต่อความแข็งแรง การรั่วซึม และความฝื ดหรือหลวม


ใบความรู้ วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 8 เรื่อง เพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเพลาข้อเหวี่ยง ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเพลาข้อเหวี่ยงมีสาเหตุที่สำคัญดังนี้ 1 ขาดการหล่อลื่น เช่น น้ำมันหล่อลื่นไม่เพียงพอ หรือน้ำมันหล่อลื่นแห้ง ทำให้ระบบหล่อลื่นไม่สามารถทำงานได้ 2 แบริ่งรองรับเพลาเสื่อมสภาพ หรือหมดอายุการใช้งาน ทำให้แบริ่ง เสียดสีกับเพลาข้อเหวี่ยงโดยตรง เกิดรอยไหม้ หรือรอยขูดขีด 3 น้ำมันหล่อลื่นเสื่อมสภาพ เช่นมีน้ำรั่วเข้าไปผสมกับน้ำมันหล่อลื่น หรือใช้น้ำมันหล่อลื่นผิดประเภท รูปที่ 10 – 8 แสดงเพลาข้อเหวี่ยงเกิดรอยขูดขีด อันเนื่องมาจากแบริ่งชำรุด ที่มา: Auto Service and Repair: 231 ในการซ่อมบำรุงเพลาข้อเหวี่ยงมีอยู่ 2 วิธี 1 กรณีที่เพลาข้อเหวี่ยงไม่เกิดการสึกหรอมากจนเกินไป (ไม่เกิด รอยขูดขีด ) จะใช้วิธีการล้างทำความสะอาด แล้วใช้ลมเป่าให้แห้ง หลังจากนั้นให้ทำการตรวจวัดหาค่าการสึกหรอของเพลาโดยการใช้ ไมโครมิเตอร์ เพื่อนำไปพิจารณาซ่อมบำรุงต่อไป ถ้าการสึกหรอยัง อยู่ในค่ามาตรฐาน ก็ให้นำไปใช้งานตามปกติ


ใบความรู้ วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 8 เรื่อง เพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน 2. กรณีที่มีรอยขูดขีดเป็นริ้วรอยมาก จะใช้วิธีเจียระไน (Regrinding crankshaft) โดยการเปลี่ยนแบริ่งให้มีขนาดเล็กลง กว่าเดิม (Under side) การบริการลักษณะนี้ทำให้เพลาข้อเหวี่ยงมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเล็กลงกว่าเดิมเพียงเล็กน้อย รูปที่ 11 – 8 แสดงการเจียระไน เพลาข้อเหวี่ยง 3. กรณีที่เพลาข้อเหวี่ยงมีรอยขูดขีด เช่นเดียวกับกรณีที่ 2 มีการซ่อมและบริการโดยการเชื่อมไฟฟ้า ( Are welding) ให้ หนาขึ้นหรือมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเพิ่มมากขึ้น การเชื่อมจะต้องหาช่างที่ชำนาญการ เพื่อให้รอยเชื่อมติดแน่นเป็น เนื้อโลหะเดียวกัน หลังจากนั้นจึงนำเพลาข้อเหวี่ยงไปเจียระไนให้มีขนาดความโตเท่าเดิม (Standard) การซ่อมโดยวิธี ดังกล่าวนี้ นิยมใช้กับเพลาข้อเหวี่ยงของเครื่องยนต์ที่มีขนาดใหญ่ รูปที่ 12 - 8 แสดงรอยการเชื่อมเพาะ เพื่อการซ่อมบำรุง ที่มา 11-8 , 12 - 8: Auto Service and Repair: 233, 234 รอยเชื่อมเพาะ เพื่อ น าไปเจียระไน


ใบความรู้ วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 8 เรื่อง เพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน แบริ่งเพลา แ บ ริ่ ง (Bearing) มี ห น้ าที่ รองรับเพลาให้สามารถหมุนได้โดยอิสระ และช่วยลดความฝืดระหว่างโลหะที่ เคลื่อนไหว รูปที่ 13 – 8 แสดงแบริ่งเพลา ที่มา : Lannapoly.ac.th คุณลักษณะของแบริ่ง คุณลักษณะของแบริ่งเป็นโลหะแบนโค้งครึ่งวงกลม ทำด้วยโลหะผสมผิวสัมผัสด้านในทำด้วยโลหะอ่อน เช่นตะกั่ว และทองแดง ที่มีส่วนผสมของกราไฟต์ คุณลักษณะพิเศษของแบริ่งคือ 1 สร้างด้วยโลหะอ่อน เช่นตะกั่วผสม ทองแดง และกราไฟต์ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นวัสดุหล่อลื่น ดังนั้นเมื่อเสียดสีกับ เพลาข้อเหวี่ยง จะทำให้แบริ่งซึ่งเป็นโลหะอ่อนสึกกร่อน โดยไม่ทำให้เพลาข้อเหวี่ยงชำรุดเสียหาย เป็นการยืดอายุ การใช้งานของเพลาข้อเหวี่ยง 2 ช่องวางของเพลาข้อเหวี่ยง ที่สัมผัสกับแบริ่งจะต้องให้น้ำมันหล่อลื่นแทรกตัวไหลซึมเข้าไปได้ เมื่อเพลาข้อเหวี่ยง หมุนน้ำมันหล่อลื่นจะเข้าไปรองรับ ช่วยให้การเสียดสีระหว่างเพลาข้อเหวี่ยง กับแบริ่งน้อยลง รูปที่ 13 – 8 แสดงให้เห็นตำแหน่งที่ประกอบแบริ่ง ที่มา : Auto Service Technology : 157


ใบความรู้ วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 8 เรื่อง เพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน รูปที่ 15 – 8 แบริ่งที่มีการหล่อลื่นไม่สมบูรณ์ผิวโลหะที่ฉาบไว้จะ สึกกร่อน ที่มา : Automotive Service Technology : 48 รูปที่ 14 -8 แสดงช่องว่างภายในแบริ่ง ทา ให้มีสิ่งสกปรกเขา้ไป ทา ให้การถ่ายเทความร้อนระหว่างแบริ่งกบัฝาครอบแบริ่งไม่สะดวก ที่มา : Automotive Service Technology : 46 ช่องว่างระหว่างแบริ่งกบัฝาครอบจบัยึดเพลา แบริ่ง เป็นชิ้นส่วนที่รองรับแรงกระแทก และส่งแรงให้กับเพลาข้อเหวี่ยง สร้างด้วยโลหะที่ทนต่อแรง กระแทกได้ดี ผิวหน้าสัมผัสฉาบด้วยโลหะอ่อน สึกหรอได้ง่าย ช่องว่างระหว่างเพลาขอ้เหวี่ยงและแบริ่งมีค่ามาตรฐาน ไม่เกิน 0.001 - 0.004 นิ้ว ช่องว่างดังกล่าว น้ีมีน้า มนัหล่อลื่นข้นัอยู่การเลือกใชน้ ้า มนัหล่อลื่นที่มีคุณภาพสูง จะช่วยยืดอายกุารใชง้านของแบริ่ง


รายการประกอบใบงาน วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 8 เรื่อง เพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง เวลา 7 ชั่วโมง /สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. ผู้เรียนถอดประกอบเพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง ได้ถูกต้อง 2. ผู้เรียนวิเคราะห์ความเสียหายที่เกิดจากเพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง เครื่องยนต์ได้ 3. นักเรียนมีความเป็นระเบียบในการปฏิบัติงาน 4. ผู้เรียนได้ปฏิบัติตามระเบียบเกี่ยวกับ 4.1 การใช้พื้นที่ 4.2 การใช้เครื่องมือ/อุปกรณ์ 4.3 การมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ขอบเขตการปฏิบัติงาน 1. ทำการถอดประกอบเพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง 2. ทำการตรวจสอบเพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง เครื่องยนต์ได้ 3. สามารถวิเคราะห์ความผิดปกติของเพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง เครื่องยนต์ได้ วิธีการสอนและสื่อประกอบการสอน 1. บรรยายการถึงขั้นตอนการถอดและการประกอบโดยใช้สื่อ PowerPoint นำเสนอ 2. สาธิตการถอดประกอบและให้นักศึกษาทำการปฏิบัติ 3. บรรยายถึงข้อผิดพลาดในการปฏิบัติ อุปกรณ์ในการปฏิบัติงาน 1. เครื่องยนต์ 4 สูบ 4 จังหวะ 2 - 4 เครื่อง 2. ประแจกระบอก 2 ชุด 3. เครื่องมือประจำตัว 4. ประแจปอนด์ 2 ชุด 5. ฟิลเลอร์เกจ 6. ไดอัลเกจ 7. ถาดรองน้ำมัน กาน้ำมัน 8. มีดสามเหลี่ยม พลาสติกเกจ


หน่วยที่ 8 เพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน ใบงานที่ 7 - 8 เรื่องการบริการเพลาข้อ เหวี่ยงและแบริ่ง เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน ใบการปฏิบัติงาน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน 1. ทำการถอดและทำการศึกษาส่วนประกอบต่างๆของเพลาข้อเหวี่ยงและแบริ่ง 2. นำเพลาข้อเหวี่ยงมาตรวจสภาพโดยการดูสภาพภายนอกด้วยตาเปล่าแล้วบันทึกผล ปกติ . ไม่ปกติ เพราะ.......................................................................................................... 3. นำเสื้อสูบพร้อมเพลาข้อเหวี่ยงมาทำการถอด ทำการตรวจสอบระยะรุนของเพลาข้อเหวี่ยง ค่ามาตรฐานที่กำหนด 0.15 - 0.25 มิลลิเมตร ระยะรุนสูงสุดที่ยอมรับ 0.30 มิลลิเมตร วัดและทำการบันทึกผลลงในตาราง ทำการตอกมาร์คของปะกับเพลาข้อเหวี่ยงแต่ละชุด เพื่อให้ง่ายต่อการประกอบ ข้อควรปฏิบัติ 1 ติดต้งั Dial indicator ให้แน่นระวงัตกและตรวจสอบเครื่องมือก่อน ใช้งาน (เครื่องมือเที่ยง ตรงอ่านค่าได้) 2 ปรับต้งั Dial indicator โดยให้เขม็ช้ีที่เลข0 3 ใช้เหล็กงัดเพลาข้อเหวี่ยงในทิศทางขนานกับเพลา 4 อ่านค่าบนหน้าปัดแล้วบันทึกไว้ เพื่อเปรียบเทียบกับค่ามาตรฐาน


หน่วยที่ 8 เพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน ใบงานที่ 7 - 8 เรื่องการบริการเพลาข้อ เหวี่ยงและแบริ่ง เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน 4 ทำการถอดประกับโดยเรียงตามลำดับ 5 ใช้ค้อนพลาสติกทำการเคาะปะกับล็อกเพลาข้อเหวี่ยง ออก ระวัง เกลียวของก้านสูบชำรุดควรใช้ปลอกหรือท่อ พลาสติกหุ้มก่อนที่จะการตอกออกทุกครั้ง 6 ทำการตรวจสอบระยะห่างของแบริ่งโดย ใช้ พลาสติกเกจในการวัดใช้พลาสติกเกจ วางทาบในแนวขวางตามความกว้างของแบ ริ่งให้ตำแหน่งของพลาสติกเกจตรงกับ กึ่งกลางของเพลาข้อเหวี่ยง พลาสติกเกจ เป็ นเครื่องมือวัดระยะห่าง(Clearance) โดยการน าไปวางขวางตามแนวกว้าง หลังจากน้นันา เอาประกบัแบริ่งเข้า ประกอบ แล้วขันน๊อตยึดตามค่าแรงขันที่กา หนด หลงัจากน้นั ใหถ้อดออกจะ เห็นได้ว่าพลาสติกเกจแบนราบกับเพลา น าพลาสติกกิจไปเทียบกับค่ามาตรฐาน ในคู่มือ เพื่อหาระยะห่าง พลาสติกส์เกจ


หน่วยที่ 8 เพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน ใบงานที่ 7 - 8 เรื่องการบริการเพลาข้อ เหวี่ยงและแบริ่ง เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน ใบการปฏิบัติงาน 7 ทำการประกอบปะกับล็อกเพลาข้อเหวี่ยงทับกับพลาสติกเกจแล้วใช้ประแจปอนด์ขันตามค่าแรงที่ กำหนดไว้ในคู่มือของเครื่องยนต์หรือตามค่ามาตรฐานทั่วไป 500 kg – cm ( 36 ft –lb ) ทำการใช้ประแจปอนด์ในการขันปะกับล็อกเพลาข้อ เหวี่ยง ค่ามาตรฐานทั่วไป 500 kg – cm ( 36 ft –lb ) 8. ทำการขันประกับล็อกเพลาข้อเหวี่ยงออกตามขั้นตอนที่ 3 แล้วทำการตรวจสอบพลาสติกเกจ บันทึกผลและ ทำการวิเคราะห์ผลที่ได้ จำนวนสูบ สูบ 1 สูบ 2 สูบ 3 สูบ 4 ระยะห่าง ผลการวิเคราะห์ ค่า มาตรฐาน ระยะห่างไม่ควรเกิน 0.08 มิลลิเมตร (0.0031 นิ้ว) ถ้ามากกว่าให้ทำการเปลี่ยนแบริ่ง เมื่อทำการถอดเสร็จเรียบร้อยให้นำแผ่นพลาสติกเกจมา เปรียบเทียบกับแผ่นมาตรฐานเพื่อทำการวิเคราะห์ระยะ ห่าง ระยะห่างไม่ควรเกิน 0.08 มิลลิเมตร (0.0031 นิ้ว)


หน่วยที่ 8 เพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน ใบงานที่ 7 - 8 เรื่องการบริการเพลา ข้อเหวี่ยงและแบริ่ง เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน ใบการปฏิบัติงาน 9 ถ้าในกรณีที่ทำการเปลี่ยนแบริ่งแต่ระยะห่างน้อยให้ทำการใช้มีดสามเหลี่ยมขูดผิวหน้าสัมผัสของ แบริ่ง หลังจากนั้นใช้กระดาษทรายละเอียดขัดเบาๆ เพื่อให้ผิวเรียบ ข้อควรระวัง ในการใช้มีดสามเหลี่ยมขูดหน้าสัมผัสให้กระทำด้วยความระมัดระวัง เพราะอาจจะทำให้ผิวสัมผัส เสียหาย แบริ่งที่ใช้ในปัจจุบันมี 3 ขนาด ให้เลือกขนาดความหนามาตรฐานดังนี้ ขนาดที่ 1 1.486 – 1.490 มิลลิเมตร ขนาดที่ 2 1.490 – 1.494 มิลลิเมตร มาตรฐานของเครื่องยนต์รุ่น 4A-FE /TOYOTA ขนาดที่ 3 1.494 – 1.498 มิลลิเมตร แสดง ผิวสัมผัสของแบริ่งกับปะกับล็อกจะต้องเรียบและ เป็นมันตำแหน่งของมารค์จะต้องตรงกันกับประกับล็อก เพลาข้อเหวี่ยง 1. ทำการประกอบเพลาข้อเหวี่ยงเข้ากับเสื้อสูบ 2. ทำการตรวจสอบระยะรุน ของหน้าสัมผัสแบริ่งอีกครั้งหนึ่ง นำไขควงปากแบนทำการตรวจสอบระยะรุนของ เพลาของเหวี่ยงกับแบริ่งโดยการเสียบเข้าช่องว่าง ระหว่างขอบแบริ่งกับผนังของเพลาข้อเหวี่ยงแล้วทำ การงัดไปมาเพื่อสำรวจระยะคลอน ค่ามาตรฐาน 0.02 – 0.22 มิลลิเมตร ค่าสูงสุดที่ยอมรับได้ 0.30 มิลลิเมตร


หน่วยที่ 8 เพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน ใบงานที่ 7 – 8 เรื่องการบริการเพลาข้อ เหวี่ยงและแบริ่ง เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาค เรียน 10 ทำการประกอบชิ้นส่วนโดยใช้ประแจปอนด์ในการขันโดยกำหนดค่าของการขันตามมาตรฐานที่กำหนดตาม คู่มือ แสดงการขันนอตล็อตเพลาข้อเหวี่ยงโดยใช้ประแจปอนด์ มาตรฐานเครื่องยนต์ 4 สูบขนาด ไม่เกิน 2500 CC ค่าแรงในการขันโบลท์ 44 ft – lb (60 N ∙ m) 11 ทำการประกอบเครื่องยนต์และหมุนเพลาข้อเหวี่ยงด้วยมือเปล่าแล้วบันทึกผลการ ปฏิบัติ ผลของการปฏิบัติ 1 ระยะกันรุนของเพลาข้อเหวี่ยง ..................................... ..................................................................................... ………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………… 2 ผลการตรวจสอบระยะห่างแบริ่ง ………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………… 3. หมุนเพลาข้อเหวี่ยงด้วยมือเปล่า ปกติ ไม่ปกติ เพราะ ......................................................................................... ........................................................................................ 4 . สภาพโดยรวมของเพลาข้อเหวี่ยง ปกติ ไม่ปกติ เพราะ ......................................................................................... ........................................................................................


แบบทดสอบหลังเรียน วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 8 เรื่อง เพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง เพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง คำสั่ง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย กากบาท (×) ทับตัวเลือกที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว 1. คุณลักษณะที่สำคัญของเพลาข้อเหวี่ยงคือ ก. มีความสมดุลขณะอยู่กับที่ (Static Balance) ข. มีความสมดุลขณะเคลื่อนที่ (Dynamic Balance) ค. มีแนวระดับเสมอกัน (Alignment) ง. ที่กล่าวแล้วถูกต้อง 2. ล้อช่วยแรง (Flywheel) มีประโยชน์อย่างไร ก. เพิ่มกำลังของเครื่องยนต์ให้มากขึ้น ข. รักษาระดับความเร็วให้คงที่ขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน ค. เก็บและสะสมพลังงานให้เครื่องยนต์สามารถทำงานต่อไปได้ ง. ลดการสั่นสะเทือน ทำให้เครื่องยนต์เดินเรียบในทุกความเร็วรอบ 3. เพลาข้อเหวี่ยงชำรุด มีรอยสึก ขูดขีด โดยปกติมีการซ่อมบำรุงอย่างไร ก. นำไปเจียรนัย ข. นำไปขัดด้วยกระดาษทราย ค. นำไปบดด้วยกากเพชร ง. นำไปล้างด้วยผงโซดาไฟ 4. “พลาสติกเกจ” หมายถึง อะไร ก. แผ่นรองเพื่อเพิ่มความหนาของชิ้นงาน ข. เครื่องมือพิเศษ ใช้ในการร่างแบบในการทำชิ้นส่วน ค. แผ่นวัดค่าความเป็นกรด และเป็นด่างของสารเคมีชนิดเหลว ง. เครื่องมือพิเศษ ใช้ในการวัดหาค่าระยะห่างระหว่างแบริ่งกับเพลา


แบบทดสอบหลังเรียน วิชางานเครื่องยนต์ แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 8 เรื่อง เพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง เวลา 7 ชั่วโมง /สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง เพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง คำสั่ง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย กากบาท (×) ทับตัวเลือกที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว 5. ข้อใดไม่ใช่ ?โครงสร้างของเพลาข้อเหวี่ยงเครื่องยนต์ ก. น้ำหนักถ่วง (Courter weight) ข. รูน้ำมันหล่อลื่น (Oil passage) ค. สลักข้อเพลา (Crank journal) ง. ล้อช่วยแรง (Fly wheel) 6 แผ่นกันรุน (Thrust washers) โดยปกติติดตั้งอยู่ที่ส่วนใด ก. บูชก้านสูบ กับสลักลูกสูบ ข. ล้อช่วยแรง กับ เพลาข้อเหวี่ยง ค. แบริ่ง กับ ล้อช่วยแรง ง. เพลาข้อเหวี่ยง กับ ฝาครอบแบริ่ง 7 จากรูป จะเห็น รู และร่อง ของแบริ่ง มีไว้เพื่อประโยชน์ด้านใด ก. หล่อลื่น ข. ระบายความร้อน ค. ลดความฝืดของผิวที่สัมผัส ง. ป้องกันการกระแทกของก้านสูบ 8. คุณลักษณะของแบริ่งเป็นโลหะแบนโค้งครึ่งวงกลม ทำด้วยโลหะผสมผิวสัมผัสด้านในทำด้วยวัสดุชนิดใด ก. โครเมียมและนิเกิล ข. เหล็กกล้าและทองแดง ค. ตะกั่ว และทองแดง ง. เหล็กหล่อแข็ง และทังสเตน รูป ตอบข้อ 7


แบบทดสอบหลังเรียน วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 8 เรื่อง เพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง เวลา 7 ชั่วโมง /สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง เพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง คำสั่ง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย กากบาท (×) ทับตัวเลือกที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว 9. มีด 3 เหลี่ยมใช้ประโยชน์อย่างไร ก. ตัดปะเก็น ข. แต่งผิวแบริ่ง ค. คว้านรูให้โตขึ้น ง. เจาะแผ่นโลหะและตัดขึ้นรูป 10. เครื่องมือที่สำคัญและจะต้องนำมาใช้ในการประกอบเพลาข้อเหวี่ยงคือ ก. ประแจกระบอก ข. ประแจแหวน ค. ประแจปอนด์ ง. ประแจปากตาย 11. เพลาข้อเหวี่ยง มีหน้าที่อย่างไร ก. ส่งกำลังไปขับล้อช่วยแรงให้หมุนเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้ ข. ส่งกำลังไปขับให้เครื่องยนต์ทำงานได้โดยการรับแรงกระแทกจากลูกสูบของเครื่องยนต์ ค. รับแรงจากการเคลื่อนที่ขึ้นลง เปลี่ยนเป็นการหมุน เพื่อส่งต่อไปยังล้อช่วยแรงของเครื่องยนต์ ง. รับแรงบิดที่เกิดจากการระเบิดภายในห้องเผาไหม้ โดยส่งต่อกำลังไปยังเพลางานของเครื่องยนต์ 12. ความสมดุลของเพลาข้อเหวี่ยงเกิดผลดีอย่างไร ก. ความเร็วจะสูงขึ้น ข. ลดการสั่นสะเทือน ค. เพิ่มแรงบิดขณะที่หมุน ง. ลดการสึกหรอของแบริ่ง


เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 8 เรื่อง เพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน แบบเฉลย ชุดทดสอบ ก่อนเรียน เรื่อง เพลาข้อเหวี่ยงและแบริ่ง ------------------------------------------------------------------------------------------------ ข้อ ก ข ค ง 1 (×) 2 (×) 3 (×) 4 (×) 5 (×) 6 (×) 7 (×) 8 (×) 9 (×) 10 (×) 11 (×) 12 (×)


เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 8 เรื่อง เพลาข้อเหวี่ยง และแบริ่ง เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน แบบเฉลย ชุดทดสอบ หลังเรียน เรื่อง เพลาข้อเหวี่ยง ------------------------------------------------------------------------------------------------ ข้อ ก ข ค ง 1 (×) 2 (×) 3 (×) 4 (×) 5 (×) 6 (×) 7 (×) 8 (×) 9 (×) 10 (×) 11 (×) 12 (×)


ใบประเมินผล วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 8 เรื่อง เพลาข้อเหวี่ยง เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน ใบประเมินผล ชื่อ - สกุล .....................................................................................................ห้อง..............................เลขที่.......... ลำดับที่ รายละเอียด 5 4 3 2 1 1 การเตรียมเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ 2 ความถูกต้องในการใช้เครื่องมือ 3 ขั้นตอนการปฏิบัติงาน 4 ความตั้งใจในการปฏิบัติงาน 5 ความมีระเบียบวินัย 6 การแต่งกาย 7 ทำงานร่วมกับผู้อื่น 8 การเก็บรักษาเครื่องมือ 9 ความสะอาดเรียบร้อย 10 ความสำเร็จของงาน รวม ***เกณฑ์ 5 = ดีมาก 4 = ดี 3 = ปานกลาง 2 = พอใช้ 1 = ต้องปรับปรุง การวิเคราะห์ผลการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน การสอบ คะแนนเต็ม คะแนนที่ได้ เปอร์เซ็นต์% ก่อนเรียน หลังเรียน รวม ผลการประเมิน ผ่าน ไม่ผ่าน ***เกณฑ์การประเมิน มากกว่า 70 % ผ่านเกณฑ์การประเมิน ต่ำกว่า 70 % ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน นักศึกษาจะต้องศึกษาเพิ่มเติมและทำการทดสอบใหม่


วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 9 เรื่อง เฟือง โซ่ สายพานไทม์มิ่ง เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน เรื่อง เฟือง โซ่ สายพานไทม์มิ่ง (Gear , Chain , Belt Timing) วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. บอกความสำคัญของเฟือง โซ่ และสายพานไทม์มิ่งได้ถูกต้อง 2. อธิบายคุณลักษณะของเฟือง โซ่ และสายพานไทม์มิ่งได้ถูกต้อง 3. อธิบายการ ประกอบและตั้งมาร์ก ของเฟือง โซ่ และสายพานไทม์มิ่งได้ถูกต้อง ขอบเขตการสอน 1. การทำงานของเฟือง โซ่ สายพานไทม์มิ่ง (Gear , Chain , Belt Timing) 2. การตรวจสอบเฟือง โซ่ สายพานไทม์มิ่ง (Gear , Chain , Belt Timing) 3. การปรับตั้งเฟือง โซ่ สายพานไทม์มิ่ง (Gear , Chain , Belt Timing) 4. ตรวจสอบความผิดปกติของเฟือง โซ่ สายพานไทม์มิ่ง (Gear , Chain , Belt Timing) วิธีสอน 1 ใช้การสอนแบบบรรยายประกอบเพาเวอร์พอยนต์(Power point) และมีสื่อของจริง ประกอบ 2 สาธิตให้เห็นการทำงานจากแบบจำลอง 3 อภิปรายกลุ่ม การวิวัฒนาการของการใช้เฟือง โซ่ สายพานไทม์มิ่ง สื่อประกอบการสอน 1 เพาเวอร์พอยนต์(Power point) เรื่องเฟือง โซ่ สายพานไทม์มิ่ง (Gear , Chain , Belt Timing) 2 ชิ้นส่วน เช่น เฟือง เพลาลูกเบี้ยว โซ่ และสายพานไทม์มิ่ง 3 แบบจำลอง (Simulator) 4 เครื่องยนต์ที่ใช้ เฟือง โซ่ และสายพานไทม์มิ่ง


แบบทดสอบก่อนเรียน วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 9 เรื่อง เฟือง โซ่ สายพานไทม์มิ่ง เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง เฟือง โซ่ สายพานไทม์มิ่ง (Gear , Chain , Belt Timing) คำสั่ง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย กากบาท (×) ทับตัวเลือกที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว 1.เฟืองไทม์มิ่ง (Timing Gear) คำว่า ไทม์มิ่ง (Timing ) ตรงกับคำใด ? มากที่สุด ก. จังหวะ ข. เวลา ค. ความพอดี ง. ความเหมาะสม 2.เมื่อเฟืองของเพลาข้อเหวี่ยงมีจำนวน 30 ฟัน เฟืองของเพลาลูกเบี้ยวจะมี 60 ฟันอัตราทดของเฟืองเป็นเท่าไร ก. 1 : 2 ข. 2 : 6 ค. 3 : 8 ง. 4 : 10 3. เครื่องยนต์ที่ใช้เฟืองไทม์มิ่งในปัจจุบัน หาดูได้ยาก ทั้งนี้เนื่องจากการใช้เฟืองไทม์มิ่งมีข้อจำกัด ข้อจำกัดดังกล่าว นี้คืออะไร ก. ราคาแพง อายุการใช้งานน้อย ข. เสียงดัง ไม่เหมาะกับเครื่องความเร็วสูง ค. การหล่อลื่นไม่สมบูรณ์ความร้อนสูง ง. ทนต่อแรงกระแทกได้น้อย เมื่อใช้ไประยะหนึ่งฟันเฟืองจะหัก 4. การประกอบเฟืองไทม์มิ่งให้ถูกต้องจะต้องปฏิบัติอย่างไร ก. ประกอบให้ฟันเฟืองตรงกันทุกตัว ข. ประกอบให้เฟืองทั้ง 2 ตัวมีมาร์กตรงกัน ค. ให้ประกอบเฟืองตัวเล็กลงก่อน แล้วจึงประกอบเฟืองตัวใหญ่ ง. ประกอบโดยวิธีใดก็ได้ แต่เมื่อหมุนเครื่องยนต์แล้วจะต้องมีอัตราทด 1 ต่อ 3


แบบทดสอบก่อนเรียน วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 9 เรื่อง เฟือง โซ่ สายพานไทม์มิ่ง เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง เฟือง โซ่ สายพานไทม์มิ่ง (Gear , Chain , Belt Timing) คำสั่ง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย กากบาท (×) ทับตัวเลือกที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว 5. เครื่องหมาย (Mark) ที่เฟืองจะมีเครื่องหมายปรากฏอยู่ ในลักษณะใดต่อไปนี้ ก. จุด ข. ขีด ค. ตัวอักษร ง. ที่กล่าวแล้วถูกต้อง 6 จากรูป การตั้งมาร์กควรมีเครื่องมือตัวใดมาประกอบใช้งาน ก. เวอร์เนียร์ ข. ไดอัลเกจ ค. ฟิลเลอร์เกจ ง. ฟุตเหล็กยาว 7 สายพานไทม์มิ่งได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน เนื่องจากมีจุดเด่นอย่างไร ก. เสียงไม่ดัง ข. อายุการใช้งานยาวนาน ค. องศาในการปิด เปิดถูกต้อง ง. การปรับเปลี่ยนความเร็วได้รวดเร็ว 8 การเปลี่ยนสายพานไทม์มิ่งทุกครั้ง จะต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนใด? ควบคู่กันไปด้วย ก. เฟืองเพลาลูกเบี้ยว ข. ลูกกลิ้ง และสปริง ค. เฟืองเพลาข้อเหวี่ยง ง. สลักยึดเฟืองทั้งตัวบน และตัวล่า รูป ตอบข้อ 6


แบบทดสอบก่อนเรียน วิชางานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 9 เรื่อง เฟือง โซ่ สายพานไทม์มิ่ง เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง เฟือง โซ่ สายพานไทม์มิ่ง (Gear , Chain , Belt Timing) คำสั่ง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย กากบาท (×) ทับตัวเลือกที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว 9 เพื่อให้การปิด เปิดของลิ้นไอดี และลิ้นไอเสียถูกต้องตามกลวัตรของเครื่องยนต์ในการประกอบสายพานไทม์มิ่งให้ คำนึงถึงเรื่องใด ? เป็นสำคัญ ก. ความตึงของสายพาน ข. มาร์กหน้าเครื่องยนต์ ค. ความโตของลูกกลิ้ง และความแข็งของสปริง ง. ขนาดความกว้างและความยาวของสายพานไทม์มิ่ง 10 ข้อใดกล่าวผิด ก. ห้ามล้างทำความสะอาดสายพานไทม์มิ่ง ข. อายุการใช้งานของสายพานไทม์มิ่งไม่ต่ำกว่า 1 แสนกิโลเมตร ค. โซ่ไทม์มิ่งในปัจจุบันไม่นำมาใช้กับเครื่องยนต์แล้วเนื่องจากมีเสียงดัง ง. การประกอบเฟือง โซ่ และสายพานไทม์มิ่งจะต้องคำนึงถึงมาร์กเป็นสำคัญ


ใบความรู้ วิชา งานเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รหัส 20101 - 2001 หน่วยที่ 9 เรื่อง เฟือง โซ่ สายพานไทม์มิ่ง เวลา 7 ชั่วโมง / สัปดาห์ 18 สัปดาห์/ภาคเรียน เฟืองไทม์มิ่ง (Timing Gear) เฟืองไทม์มิ่ง (Timing Gear) หรือเฟืองกำหนดเวลา มีหน้าที่ควบคุมการทำงานของลิ้นไอดี ไอเสีย ให้ปิด เปิด ตรงตามกลวัฏ ของเครื่องยนต์ รูปที่ 1 – 9 แสดงเฟืองไทม์มิ่ง ที่มา : Auto Service and Repair : 249 ความสำคัญของเฟืองไทม์มิ่ง เฟืองไทม์มิ่ง เป็นเฟืองที่ได้รับกำลังโดยตรงจากเฟืองของเพลาข้อเหวี่ยง จำนวนฟันของเฟืองจะเป็นสัดส่วน ต่อกันคือ 1 : 2 ตัวอย่างเช่น เมื่อเฟืองของเพลาข้อเหวี่ยงมีจำนวน 30 ฟัน เฟืองของเพลาลูกเบี้ยวจะมี 60 ฟัน หรือถ้าเฟืองเพลาข้อเหวี่ยงมี 40 ฟัน เฟืองของเพลาลูกเบี้ยวจะมี 80 ฟัน ฯลฯ ทำให้เพลาทั้ง 2 มีความเร็วรอบที่ เป็นสัดส่วนต่อกันด้วย เช่น เพลาลูกเบี้ยวหมุน 500 รอบต่อนาที เพลาข้อเหวี่ยงจะมีความเร็วรอบ 1,000 รอบต่อ นาที เพื่อให้การควบคุมการปิด เปิดลิ้นเป็นไปตามกลวัตรที่ถูกต้อง การออกแบบเฟืองทั้ง 2 จะต้องทำเครื่องหมาย (Mark) ไว้ที่เฟือง เพื่อให้การประกอบเฟืองทั้งสองถูกต้อง ตรงตามกลวัตรที่กำหนดไว้ คุณลักษณะของเฟืองไทม์มิ่ง เครื่องยนต์ที่ใช้เฟืองไทม์มิ่งในปัจจุบัน หาดูได้ยาก ทั้งนี้เนื่องจากการใช้เฟืองไทม์มิ่งมีข้อจำกัดหลายประการ เช่น มีเสียงดัง ไม่เหมาะกับเครื่องยนต์ที่มีความเร็วรอบสูง แต่ยังคงมีใช้อยู่บ้างเฉพาะเครื่องยนต์เล็กขนาด 3-7 แรงม้า มาร์ก(Marks ) เฟื องเพลาข้อเหวี่ยง เฟื องเพลาลูกเบ้ียว


Click to View FlipBook Version