๕๑
๖. อดทนต่ออาการเจบ็ ป่วย จดั เป็นความอดทนในเร่ืองใด ?
ก. ความลําบาก ข. ทุกขเวทนา
ค. ความเจ็บใจ ง. อํานาจกิเลส
๗. บุพพการีชน หมายถึงใคร ?
ก. พระมหากษตั รยิ ์ ข. มารดาบิดา
ค. ครอู าจารย์ ง. ถกู ทุกขอ้
๘. รู้บุญคุณผู้อ่นื แล้วตอบแทน เป็นความหมายของขอ้ ใด ?
ก. บุพพการี ข. กตัญญู
ค. กตเวที ง. กตญั ญูกตเวที
๙. ผทู้ ี่สอนให้ประพฤติชอบดว้ ยกาย วาจา ใจ หมายถงึ ใคร ?
ก. พระพุทธ ข. พระธรรม
ค. พระสงฆ์ ง. ถกู ทกุ ข้อ
๑๐. สมมติสงฆ์ในทางพระวินยั หมายถึงภิกษุจํานวนกี่รูป ?
ก. ๑ รูป ข. ๒ รูป
ค. ๓ รูป ง. ๔ รปู
๑๑. พระพุทธเจ้าทุกพระองคส์ อนตรงกันในเร่ืองใด ?
ก. ละชั่ว ข. ทําดี
ค. ทําใจให้ผ่องใส ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๒. การโพสต์ขอ้ ความเทจ็ ให้ผู้อ่ืนเขา้ ใจผดิ จัดเป็นทุจริตใด ?
ก. กายทุจรติ ข. วจที ุจริต
ค. มโนทจุ ริต ง. ถกู ทุกข้อ
๑๓. สจุ ริต เรยี กอีกอย่างหนึ่งว่าอะไร ?
ก. กุศลกรรมบถ ข. กศุ ลกรรม
ค. กัลยาณธรรม ง. ความดี
๑๔. อกุศลใด เป็นเหตุประทุษร้ายผู้อื่น ?
ก. โลภะ ข. โทสะ
ค. โมหะ ง. ราคะ
๕๒
๑๕. อโลภะ แกป้ ญั หาในเรื่องใด ?
ก. คอรร์ ัปชัน ข. ทะเลาะวิวาท
ค. ครอบครัว ง. ถกู ใส่ความ
๑๖. บนั ใดขน้ั ทส่ี ามในการสร้างบญุ คือข้อใด ?
ก. ปตั ติทานมัย ข. ทานมัย
ค. สีลมัย ง. ภาวนามยั
๑๗. ปฏบิ ัตหิ น้าทตี่ ามความรู้ความสามารถของตน จัดเข้าในวุฑฒิใด ?
ก. สัปปุริสงั เสวะ ข. สัทธัมมสั สวนะ
ค. โยนิโสมนสกิ าร ง. ธมั มานุธัมมปฏิปัตติ
๑๘. ประเทศไทยจัดเปน็ ปฏริ ปู เทสวาสะ เพราะมอี งค์ประกอบใด ?
ก. ดนิ ฟ้าอากาศดี ข. อาหารอดุ มสมบูรณ์
ค. มีประเพณีที่ดี ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๙. การสัง่ ไมฟ่ ้องในคดีทคี่ วรส่งั ฟ้อง จัดว่ามีอคติใด ?
ก. ฉันทาคติ ข. โทสาคติ
ค. ภยาคติ ง. ถูกทกุ ขอ้
๒๐. ภาวนาปธาน ทําหน้าท่อี ะไร ?
ก. ป้องกันอกุศล ข. เจริญกศุ ล
ค. ละอกุศล ง. รักษากุศล
๒๑. จินตามยปัญญาในอธิษฐานธรรม หมายถงึ ปญั ญาท่ีเกิดจากเรอื่ งใด ?
ก. การศึกษา ข. การลงมือปฏบิ ตั ิ
ค. การคดิ พิจารณา ง. พรสวรรค์
๒๒. จะทําอะไรตอ้ งมีใจรักในสง่ิ นั้นก่อน เป็นการกล่าวถงึ อทิ ธิบาทใด ?
ก. ฉันทะ ข. วริ ิยะ
ค. จิตตะ ง. วมิ งั สา
๒๓. ความสงสารคดิ จะช่วยเพื่อนมนษุ ย์ใหพ้ น้ ทุกข์ จดั เป็นพรหมวิหารใด ?
ก. เมตตา ข. กรุณา
ค. มุทิตา ง. อุเบกขา
๕๓
๒๔. เห็นคนอืน่ ได้ดมี ีสุข ควรเจริญพรหมวิหารใด ?
ก. เมตตา ข. กรุณา
ค. มุทิตา ง. อุเบกขา
๒๕. ในหลักของอริยสัจ เม่ือเกดิ ความทกุ ข์ ต้องทําอย่างไร ?
ก. ควรกําหนดรู้ ข. ควรละ
ค. ควรทําใหแ้ จ้ง ง. ควรเจริญ
๒๖. อนันตริยกรรม กรรมหนักทสี่ ดุ ไดแ้ ก่ข้อใด ?
ก. ฆ่ามารดา ข. ฆ่าบดิ า
ค. ฆ่าพระอรหันต์ ง. ถูกทกุ ขอ้
๒๗. ปัญญาในเวสารัชชกรณธรรม หมายถึงข้อใด?
ก. รู้ทกุ ๆ เร่ือง ข. รูส้ ่งิ ที่ควรรู้
ค. รู้เรื่องตนเอง ง. รู้เรือ่ งคนอื่น
๒๘. ข้อใด เป็นการพสิ ูจนไ์ ดว้ ่าผ้ฟู ังธรรมไดร้ บั อานิสงสจ์ ากการฟัง ?
ก. บรรเทาความสงสัย ข. มคี วามเหน็ ถกู ตอ้ ง
ค. จิตผ่องใส ง. ถกู ทุกข้อ
๒๙. กําลังกายเสริมไดด้ ้วยอาหาร กาํ ลงั ใจเสริมไดด้ ้วยพลธรรมใด ?
ก. สัทธา ข. วิริยะ
ค. สติ ง. ถกู ทุกข้อ
๓๐. รูปกับนาม รวมเรียกว่าอะไร ?
ก. เบญจขันธ์ ข. ธาตุ
ค. อายตนะ ง. อินทรีย์
๓๑. สงั ขารในขันธ์ ๕ หมายถงึ ข้อใด ?
ก. การรบั ร้อู ารมณ์ ข. ความคดิ ปรงุ แตง่
ค. สิ่งที่มีใจครอง ง. ส่ิงท่มี องเห็นได้
๓๒. ข้อใด เป็นพุทธคารวตา ?
ก. ศรัทธาเลือ่ มใส ข. กราบไหว้
ค. ปฏิบตั ติ ามคําสอน ง. ถกู ทุกข้อ
๕๔
๓๓. คนมีธรรมใด ไดช้ อ่ื ว่าเคารพในความไม่ประมาท ?
ก. สติ ข. สัจจะ
ค. ทมะ ง. ขันติ
๓๔. สาราณิยธรรมใด ป้องกันความเห็นต่างในสังคม ?
ก. เมตตาวจีกรรม ข. สาธารณโภคี
ค. สีลสามญั ญตา ง. ทิฏฐิสามญั ญตา
๓๕. ตูป้ ันสขุ บรรเทาทกุ ขผ์ ู้ประสบภัย จัดเข้าในสาราณิยธรรมขอ้ ใด ?
ก. เมตตาวจีกรรม ข. สาธารณโภคี
ค. สีลสามญั ญตา ง. ทิฏฐิสามญั ญตา
๓๖. อริยทรัพย์ใด จดั เข้าในไตรสิกขา?
ก. โอตตปั ปะ ข. พาหุสจั จะ
ค. จาคะ ง. ปัญญา
๓๗. ศรัทธา ถกู จัดไว้ในหมวดธรรมต่างๆ เพราะต้องการให้เชือ่ อย่างไร ?
ก. เชอ่ื สง่ิ ท่ีควรเชื่อ ข. เชื่อสง่ิ ที่รู้
ค. เช่ือตนเอง ง. เช่ือตามคนส่วนใหญ่
๓๘. ข้อใด จัดเปน็ อริยทรัพย์ ?
ก. มีทรัพย์สมบตั ิ ข. มียศศกั ดิ์
ค. มีอํานาจ ง. มคี ุณธรรม
๓๙. คนทรี่ ู้ว่าความดีเปน็ เหตใุ ห้เกิดความสขุ จัดว่ามสี ัปปรุ ิสธรรมใด ?
ก. ธัมมญั ญุตา ข. อตั ถญั ญุตา
ค. อัตตญั ญตุ า ง. มัตตัญญตุ า
๔๐. คนทร่ี ู้ว่าความทุกข์เป็นผลมาจากการทําช่ัว จดั ว่ามีสัปปรุ ิสธรรมใด ?
ก. ธัมมญั ญตุ า ข. อตั ถัญญุตา
ค. อตั ตัญญตุ า ง. มัตตญั ญุตา
๔๑. คนท่ีปรับตัวเข้ากับสังคมไมไ่ ด้ เพราะขาดสัปปุริสธรรมใด?
ก. อตั ถัญญตุ า ข. มัตตัญญุตา
ค. กาลัญญตุ า ง. ปรสิ ญั ญุตา
๕๕
๔๒. สัตวโ์ ลกย่อมเป็นไปตามโลกธรรมอย่างไร ?
ก. มีลาภเส่ือมลาภ ข. มียศเส่ือมยศ
ค. มนี ินทาสรรเสรญิ ง. ถูกทุกข้อ
๔๓. คนประเภทใด ไมม่ ีในโลก ?
ก. คนมียศ ข. คนมคี วามสุข
ค. คนประสบทกุ ข์ ง. คนไม่ถูกนินทา
๔๔. การจัดลําดับองค์มรรค บ่งบอกถงึ ความสําคัญในเร่ืองใด ?
ก. ความคดิ เหน็ ข. คําพูด
ค. การกระทํา ง. ความพยายาม
๔๕. สัมมาอาชีวะ ป้องกันกรรมกิเลสใดได้ ?
ก. ปาณาติบาต ข. อทินนาทาน
ค. กาเมสุ มิจฉาจาร ง. มุสาวาท
๔๖. สอ่ื สังคมโซเชียลในปัจจบุ ัน เศร้าหมองด้วยกรรมกิเลสใดมาก ?
ก. ปาณาตบิ าต ข. อทนิ นาทาน
ค. กาเมสุ มิจฉาจาร ง. มุสาวาท
๔๗. คบพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตพาไปหาผล จดั เข้าในข้อใด ?
ก. อุฏฐานสมั ปทา ข. อารกั ขสัมปทา
ค. กลั ยาณมติ ตตา ง. สมชีวติ า
๔๘. คนชวนในทางฉิบหาย มลี กั ษณะเชน่ ใด ?
ก. ชวนดื่มสุรา ข. ชวนเท่ียวกลางคืน
ค. ชวนเล่นการพนัน ง. ถูกทุกขอ้
๔๙. คนพูดจาหยาบคายไม่สุภาพ ควรปฏิบตั ิสังคหวตั ถุข้อใด ?
ก. ทาน ข. ปิยวาจา
ค. อตั ถจริยา ง. สมานัตตตา
๕๐. อบายมุขข้อใด เป็นเหตุแหง่ ความหายนะมากทีส่ ุด ?
ก. ดม่ื สุรา ข. เท่ียวราตรี
ค. เล่นการพนัน ง. เกียจคร้านการทํางาน
๕๖
ปัญหาและเฉลยวชิ าพทุ ธประวัติ ธรรมศกึ ษาชน้ั ตรี
ระดบั ชัน้ อดุ มศึกษาและประชาชนทวั่ ไป
สอบในสนามหลวง
วนั ศุกร์ ที่ ๕ มนี าคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๔
๑. ทศิ เหนอื ของปัจจันตชนบทมีเขตแดนตดิ กับสถานทีใ่ ด ?
ก. ภเู ขาอุสลี ธชะ ข. แมน่ ้ําสลั ลวดี
ค. หมบู่ า้ นถูนคาม ง. มหาศาลนคร
๒. อาณาเขตท่ตี งั้ แห่งพระนครใหญๆ่ ในชมพูทวปี เรียกว่าอะไร ?
ก. มหาชนบท ข. มัชฌิมชนบท
ค. ปจั จนั ตชนบท ง. ทักขิณาคีรีชนบท
๓. ชาวอรยิ กะไดอ้ พยพเข้าสชู่ มพทู วีป จากดินแดนทางตอนใด?
ก. เหนอื ข. ใต้
ค. ตะวนั ออก ง. ตะวนั ตก
๔. ชนวรรณะใด มีหน้าทศ่ี ึกษาคัมภีรพ์ ระเวท ?
ก. กษตั รยิ ์ ข. พราหมณ์
ค. แพศย์ ง. ศทู ร
๕. ราชธดิ าองค์โตของพระเจา้ โอกกากราช ทรงอภิเษกสมรสกบั กษัตริยเ์ มอื งใด?
ก. ราชคฤห์ ข. สาวัตถี
ค. อุชเชนี ง. เทวทหะ
๖. พระนางมายา ประสูตใิ นราชวงศใ์ ด ?
ก. ศากยวงศ์ ข. โกลยิ วงศ์
๕๗
ค. พทุ ธวงศ์ ง. โมรยิ วงศ์
๗. ธรรมเนียมสตรที ีต่ ้ังครรภต์ ้องกลบั ไปคลอดที่สกลุ เดิม เป็นของวรรณะใด ?
ก. กษัตริย์ ข. พราหมณ์
ค. แพทย์ ง. ศทู ร
๘. พระโพธสิ ัตวท์ รงเปลง่ วาจาว่า อคโฺ คหมสมฺ ิ โลกสฺส... ในกาลใด ?
ก. ประสตู ิ ข. ตรสั รู้
ค. แสดงปฐมเทศนา ง. ปรนิ พิ พาน
๙. พระนางสริ ิมหามายาสิ้นพระชนม์ เม่ือประสูตพิ ระโอรสไดก้ วี่ ัน ?
ก. ๓ วนั ข. ๕ วนั
ค. ๗ วัน ง. ๙ วัน
๑๐. พระนา้ นางผู้ทรงทาํ หนา้ ทีเ่ ลีย้ งดสู ทิ ธัตถราชกมุ าร พระนามวา่ อะไร ?
ก. สิรมิ หามายา ข. ปชาบดีโคตมี
ค. ยโสธรา ง. ปมิตา
๑๑. ในวันแรกนาขวญั สิทธตั ถราชกุมารประทับน่ังเจรญิ อานาปานสติ ณ ที่ใด ?
ก. ใตต้ ้นสาละ ข. ใตต้ ้นโพธิ์
ค. ใต้ตน้ ไทร ง. ใตต้ น้ หว้า
๑๒. พระนางพิมพา เปน็ ราชธดิ าของกษัตรยิ เ์ มอื งใด ?
ก. กบลิ พสั ดุ์ ข. เทวทหะ
ค. พาราณสี ง. สาวัตถี
๑๓. สทิ ธัตถราชกมุ าร อยู่ครองเพศฆราวาสเป็นเวลากป่ี ี ?
ก. ๗ ปี ข. ๑๖ ปี
ค. ๒๙ ปี ง. ๓๕ ปี
๑๔. เม่อื สิทธัตถราชกมุ ารทรงตดั พระเมาลแี ล้ว พระเมาลนี ้นั ยังเหลือยาวกอ่ี งคลุ ี ?
ก. ๑ องคุลี ข. ๒ องคลุ ี
ค. ๓ องคุลี ง. ๔ องคลุ ี
๑๕. สิทธัตถราชกมุ ารทรงอธิษฐานเพศเป็นบรรพชิต ณ ฝั่งแม่นํา้ ใด ?
ก. คงคา ข. ยมนุ า
ค. สรภู ง. อโนมา
๕๘
๑๖. หลังผนวชแล้ว พระมหาบุรษุ ประทับแรมคร้งั แรกทีแ่ ควน้ ใด ?
ก. แคว้นมัลละ ข. แคว้นเจตี
ค. แคว้นวงั สะ ง. แควน้ กรุ ุ
๑๗. หลังผนวชแลว้ พระมหาบรุ ษุ ทรงประทับแรมท่ีอนุปยิ อมั พวนั กีว่ นั ?
ก. ๔ วัน ข. ๕ วัน
ค. ๖ วนั ง. ๗ วัน
๑๘. เมื่อพระมหาบุรษุ เสดจ็ ไปถึงเมอื งราชคฤห์ ทรงพบกับกษตั รยิ ์พระองค์ใด?
ก. สุทโธทนะ ข. พมิ พสิ าร
ค. ปเสนทิโกศล ง. อุเทน
๑๙. พระมหาบรุ ษุ ทรงฝึกจติ จนสําเรจ็ สมาบัติ ๗ ในสํานักอาจารยท์ ่านใด ?
ก. อาฬารดาบส ข. อทุ ทกดาบส
ค. อสติ ดาบส ง. กาลเทวนิ ดาบส
๒๐. พระมหาบรุ ษุ ทรงบําเพ็ญทกุ รกริ ยิ าเพราะดํารวิ ่าจะเป็นไปเพอื่ หนทางใด?
ก. การรูอ้ ดีต ข. การรอู้ นาคต
ค. การตรสั รู้ ง. การถึงสคุ ติ
๒๑. พระมหาบรุ ุษทรงเลิกบําเพญ็ ทกุ รกริ ิยา เพราะทรงเห็นว่าอยา่ งไร ?
ก. ไม่ใชท่ างตรัสรู้ ข. ไม่ใช่ทางร้อู ดีต
ค. ไม่ใช่ทางรู้อนาคต ง. ไม่ใชท่ างถึงสุคติ
๒๒. อริยมรรค ท่ีพระมหาบุรษุ ทรงเลือกปฏิบัติเพ่ือบําเพญ็ เพยี รทางจิตมีกข่ี อ้ ?
ก. ๖ ขอ้ ข. ๗ ข้อ
ค. ๘ ขอ้ ง. ๙ ขอ้
๒๓. เชา้ ของวนั ตรสั รู้ พระมหาบรุ ุษทรงรบั ข้าวมธปุ ายาสจากใคร ?
ก. นางสชุ าดา ข. นางวสิ าขา
ค. นายโสตถยิ ะ ง. อปุ กาชีวก
๒๔. ใคร คอยตามขดั ขวางการสําเร็จมรรคผลตง้ั แต่เสด็จออกทรงผนวช?
ก. พระอนิ ทร์ ข. พระพรหม
ค. พญายม ง. พญามาร
๕๙
๒๕. พระมหาบุรษุ ตรัสรู้พระสมั มาสัมโพธญิ าณ ขณะมีพระชนมายกุ ี่ปี ?
ก. ๒๙ ปี ข. ๓๕ ปี
ค. ๔๕ ปี ง. ๘๐ ปี
๒๖. สัปดาหท์ ่ี ๑ พระพทุ ธเจา้ เสวยวมิ ุตตสิ ุข ณ ท่ีใด ?
ก. ใตต้ น้ โพธิ์ ข. ใต้ตน้ ไทร
ค. ใต้ตน้ จิก ง. ใต้ต้นสาละ
๒๗. พระพทุ ธเจา้ แสดงปฐมเทศนาแก่ใคร ?
ก. ปญั จวคั คยี ์ ข. ยสกุลบตุ ร
ค. ชฎิล ๓ พ่นี อ้ ง ง. ปปิ ผลมิ าณพ
๒๘. พระพทุ ธเจา้ ทรงแสดงอาทติ ตปริยายสูตรโปรดใคร ?
ก. ชฎิล ๓ พนี่ อ้ ง ข. ปิปผลมิ าณพ
ค. อุปตสิ สมาณพ ง. โกลิตมาณพ
๒๙. กษัตริยพ์ ระองคใ์ ด ทรงอุปถัมภก์ ารเผยแผ่พระศาสนาที่แควน้ มคธ?
ก. สทุ โธทนะ ข. พมิ พสิ าร
ค. ปเสนทิโกศล ง. จณั ฑปัชโชต
๓๐. “เราจักไมช่ ูงวงเข้าไปสู่ตระกลู ”พระพทุ ธเจ้าตรัสสอนพระเถระใด ?
ก. พระอสั สชิ ข. พระสารบี ตุ ร
ค. พระโมคคลั ลานะ ง. พระอานนท์
๓๑. พระพทุ ธเจ้าประทานอปุ สมบทแก่ปิปผลมิ าณพ ด้วยวิธใี ด ?
ก. เอหิภิกขุ ข. รบั โอวาท ๓
ค. รับไตรสรณคมน์ ง. รบั ครธุ รรม
๓๒. พระสงฆ์สาวก ๑๒๕๐ องค์ มาประชุมกนั หลังพระพุทธเจา้ ตรัสรไู้ ด้กี่เดือน ?
ก. ๖ เดอื น ข. ๗ เดอื น
ค. ๘ เดอื น ง. ๙ เดือน
๓๓. พระพทุ ธเจ้าทรงอนุญาตให้ภกิ ษพุ ักอาศัยในเสนาสนะ ได้กี่ชนิด?
ก. ๕ ชนดิ ข. ๖ ชนิด
ค. ๗ ชนดิ ง. ๘ ชนิด
๖๐
๓๔. พระพุทธเจ้าทรงแสดงทศิ ๖ โปรดมาณพใด ?
ก. ปิปผลมิ าณพ ข. อุปติสสมาณพ
ค. โกลิตมาณพ ง. สงิ คาลกมาณพ
๓๕. พระพทุ ธเจา้ ทรงแนะนําสุนิธพราหมณ์และวสั สการพราหมณ์ ใหท้ าํ พลีใด?
ก. ญาติพลี ข. อตถิ พิ ลี
ค. ราชพลี ง. เทวตาพลี
๓๖. อารามใด ทีเ่ หลา่ พระประยรุ ญาตริ ่วมกันสร้างถวายแด่พระพุทธเจ้า ?
ก. เวฬุวนาราม ข. เชตวนาราม
ค. นโิ ครธาราม ง. บุพพาราม
๓๗. “การออกบิณฑบาตน้ีเปน็ พทุ ธประเพณี” พระพทุ ธเจ้าตรสั กับใคร ?
ก. พระบดิ า ข. พระมารดา
ค. พระน้านาง ง. พระสหาย
๓๘. วดั ใด ที่พระพทุ ธเจ้าทรงอย่จู ําพรรษานานที่สุด ?
ก. วัดเวฬุวนั ข. วดั เชตวัน
ค. วัดนโิ ครธาราม ง. วัดบพุ พาราม
๓๙. พระเถระองค์ใด พระพทุ ธเจ้าตรสั วา่ เป็นพุทธอุปฏั ฐากที่ดีท่ีสุด ?
ก. พระอปุ วาณะ ข. พระอานนท์
ค. พระเมฆิยะ ง. พระเรวตะ
๔๐. พระพุทธเจา้ เสด็จดับขนั ธปรนิ พิ พาน ณ เมอื งใด?
ก. ราชคฤห์ ข. สาวัตถี
ค. พาราณสี ง. กุสนิ ารา
๔๑. การแสดงตนเป็นพทุ ธมามกะในประเทศไทย เริ่มขนึ้ ในรัชสมยั ใด ?
ก. รชั กาลที่ ๔ ข. รัชกาลที่ ๕
ค. รชั กาลท่ี ๖ ง. รชั กาลท่ี ๗
๔๒. ผู้แสดงตนเปน็ พทุ ธมามกะ ตอ้ งสมาทานศลี ใด ?
ก. ศลี ๕ ข. ศลี ๘
ค. ศีลอุโบสถ ง. ศีล ๑๐
๖๑
๔๓. จาตรุ งคสันนิบาต เกิดขน้ึ ในวันใด ?
ก. มาฆบชู า ข. วิสาขบชู า
ค. อฏั ฐมีบูชา ง. อาสาฬหบูชา
๔๔. พระพทุ ธเจ้า ประสตู ิ ตรสั รู้ ปรินิพพาน ในวนั ใด ?
ก. มาฆบูชา ข. วิสาขบูชา
ค. อฏั ฐมบี ชู า ง. อาสาฬหบูชา
๔๕. พระพุทธเจา้ ทรงแสดงปฐมเทศนา ในวันใด ?
ก. มาฆบชู า ข. วสิ าขบชู า
ค. อัฏฐมีบชู า ง. อาสาฬหบูชา
๔๖. ในวนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนา ชาวพทุ ธควรปฏบิ ัตติ นเชน่ ใด ?
ก. ถวายทาน ข. รักษาศลี
ค. เจริญจติ ภาวนา ง. ถูกทุกขอ้
๔๗. เสสงั มงั คะลงั ยาจามิ ... เปน็ คํากล่าวอะไร ?
ก. ถวายสงั ฆทาน ข. บูชาข้าวพระพทุ ธ
ค. ลาข้าวพระพทุ ธ ง. นมิ นตพ์ ระ
๔๘. อามสิ ทาน หมายถงึ การให้อะไร?
ก. ให้สิง่ ของ ข. ให้ความรู้
ค. ใหอ้ ภยั ง. ให้โอกาส
๔๙. พรัหมา จะ โลกาธปิ ะตี สะหมั ปะติ.... เป็นคําอาราธนาอะไร ?
ก. ศลี ๕ ข. ศีล ๘
ค. พระปริตร ง. พระธรรม
๕๐.การกรวดนา้ํ เร่มิ เทนํ้าขณะเมือ่ พระสงฆ์กลา่ วคําอนุโมทนาว่าอย่างไร?
ก. ยะถา วารวิ ะหา... ข. สัพพตี โิ ย...
ค. ภะวะตสุ ัพพะ... ง. มะณโิ ชตริ ะโส ยะถา .
๖๒
ปัญหาและเฉลยวิชาเบญจศีลเบญจธรรม (วนิ ัย) ธรรมศึกษาช้ันตรี
ระดบั ช้นั อุดมศึกษาและประชาชนทวั่ ไป
สอบในสนามหลวง
วนั ศุกร์ ที่ ๕ มนี าคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๔
๑. ขอ้ ใด เปน็ หลกั ธรรมพ้ืนฐานใหม้ นุษย์อยู่รว่ มกนั เปน็ สุข ?
ก. ทาน ข. ศลี
ค. ภาวนา ง. เมตตา
๒. การปฏบิ ัตติ นเช่นไร เรียกวา่ รักษาศีล ?
ก. ให้ทาน ข. งดเวน้ ข้อห้าม
ค. เจรญิ ภาวนา ง. แผ่เมตตา
๓. ใครไดร้ ับประโยชนจ์ ากการรกั ษาศลี ?
ก. ตนเอง ข. ครอบครวั
ค. สงั คม ง. ถูกทุกขอ้
๔. วตั ถปุ ระสงคข์ องการรักษาศลี ตรงกบั ข้อใด ?
ก. ทําใจให้สงบ ข. ละกิเลส
ค. ฝึกกายวาจา ง. ดบั ทุกข์
๕. เบญจศลี เบญจธรรม เป็นข้อปฏิบัตเิ บื้องต้นสําหรบั ใคร ?
ก. เดก็ ข. วยั รนุ่
ค. ผใู้ หญ่ ง. ถกู ทุกข้อ
๖. ศลี ขอ้ ๑ บัญญตั ไิ วเ้ พื่อไม่ใหเ้ บยี ดเบยี นกันในเร่ืองใด ?
ก. ชวี ิต ข. ทรพั ย์สนิ
๖๓
ค. ค่คู รอง ง. คําพดู
๗. ข้อใด เป็นการทําผดิ ศลี ขอ้ ๑ ?
ก. ฆา่ สตั ว์ ข. ลกั ทรพั ย์
ค. เสพยาบ้า ง. พดู โกหก
๘. คําว่า ฆา่ ในศีลข้อ ๑ หมายถงึ การกระทําใด ?
ก. ทําใหบ้ าดเจบ็ ข. ทาํ ใหพ้ ิการ
ค. ทําให้ลาํ บาก ง. ทาํ ใหต้ าย
๙. ข้อใด อนุโลมเข้าในการทําปาณาตบิ าต ?
ก. ทําให้บาดเจ็บ ข. ทําใหพ้ ิการ
ค. ทําใหเ้ สยี โฉม ง. ถกู ทุกข้อ
๑๐. ข้อใด เปน็ ทรกรรมสัตวใ์ ห้ได้รบั ความลาํ บาก ?
ก. ใช้งานเกินกําลงั ข. กกั ขังในท่ีแคบ
ค. เลน่ สนกุ ง. ถกู ทุกขอ้
๑๑. ศลี ข้อ ๒ บญั ญตั ขิ นึ้ เพื่อวัตถุประสงค์ใด ?
ก. ใหม้ เี มตตา ข. ใหท้ ํางานสุจริต
ค. ใหร้ ักษาสัตย์ ง. ให้มสี ตริ อบคอบ
๑๒. คนทจุ รติ คอรปั ชน่ั แสดงว่าทาํ ผิดศีลขอ้ ใด ?
ก. ศลี ข้อ ๑ ข. ศีลข้อ ๒
ค. ศลี ขอ้ ๓ ง. ศีลข้อ ๔
๑๓. ขายสนิ ค้าลอกเลียนแบบ เปน็ โจรกรรมประเภทใด ?
ก. ปลอม ข. ลวง
ค. หลอก ง. ตู่
๑๔. ว่ิงราวทรัพยผ์ ู้อนื่ เป็นโจรกรรมประเภทใด ?
ก. ลกั ข. ฉก
ค. กรรโชก ง. ปลน้
๑๕. แอบนําเข้าสินค้าโดยไมเ่ สียภาษีให้รัฐ เป็นโจรกรรมประเภทใด ?
ก. เบียดบัง ข. สับเปลย่ี น
ค. ลกั ลอบ ง. ยักยอก
๖๔
๑๖. สามภี รรยาจะมีความไวว้ างใจตอ่ กนั ด้วยศีลขอ้ ใด ?
ก. ศีลขอ้ ๑ ข. ศีลขอ้ ๒
ค. ศลี ขอ้ ๓ ง. ศีลขอ้ ๔
๑๗. การกระทาํ ใด ผดิ ศีลขอ้ ๓ และผิดกฎหมายบา้ นเมอื งดว้ ย ?
ก. ค้าอาวุธ ข. คา้ ประเวณี
ค. คา้ ยาบา้ ง. ค้าของเถอื่ น
๑๘. หญิงผ้เู ปน็ เทือกเถาเหล่ากอของตน ตรงกบั ข้อใด ?
ก. ลูกเลี้ยง ข. ลูกบุญธรรม
ค. หลานสาว ง. ลกู สะใภ้
๑๙. หญิงผ้อู ยู่ในพทิ กั ษ์รักษาของบดิ ามารดา ตรงกับขอ้ ใด ?
ก. ลกู สาว ข. หลานสาว
ค. ลูกสะใภ้ ง. แม่ชี
๒๐. การเผยแพรข่ ้อมลู อันเปน็ เทจ็ ทางเอกสารทําผิดศลี ขอ้ ใด ?
ก. ศลี ข้อ ๑ ข. ศีลขอ้ ๒
ค. ศลี ขอ้ ๓ ง. ศีลขอ้ ๔
๒๑. คาํ พูดท่ีไมน่ ับเขา้ ในขอ้ หา้ มและไม่ผิดศีลข้อ ๔ ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. โวหาร ข. อําความ
ค. เสรมิ ความ ง. สับปลบั
๒๒. คําพูดประเภทใด ตรงกบั คาํ ว่า กลบั คํา ?
ก. พดู คาํ หยาบ ข. พดู เพ้อเจอ้
ค. พดู หลีกเลีย่ ง ง. พดู สอ่ เสียด
๒๓. ปว่ ยนอ้ ยแกล้งเป็นป่วยมาก เป็นมุสาประเภทใด ?
ก. ปด ข. ทนสาบาน
ค. มารยา ง. ทําเลศ
๒๔. ศีลขอ้ ใด ช้ใี ห้เหน็ โทษของสิง่ เสพติด ?
ก. ศลี ขอ้ ๑ ข. ศลี ขอ้ ๒
ค. ศีลข้อ ๓ ง. ศีลขอ้ ๕
๖๕
๒๕. ข้อใด เป็นความเสียหายเกิดจากการเสพของมึนเมา ?
ก. ทําลายข้าวของ ข. ทุบตีผู้อน่ื
ค. ทะเลาะววิ าท ง. ถูกทกุ ข้อ
๒๖. ปัญหาสังคมใด สะท้อนการมองข้ามความสาํ คัญของศีลข้อ ๕ ?
ก. พนนั บอล ข. อาชญากรรม
ค. ยาเสพติด ง. ทุจรติ คอรปั ช่ัน
๒๗. ข้อใด เป็นขอ้ หา้ มของศลี ข้อ ๕ ?
ก. ของผิดกฎหมาย ข. ของคนอืน่
ค. ค่คู รองคนอ่นื ง. ของมนึ เมา
๒๘. การต้ังใจงดเวน้ จากข้อหา้ ม เรียกวา่ อะไร ?
ก. ศีล ข. วริ ัติ
ค. ปฏิบตั ิ ง. พฤติกรรม
๒๙. สมจุ เฉทวิรตั ิ เป็นการรักษาศีลของใคร ?
ก. คนท่ัวไป ข. คนสมาทานศีล
ค. อริยบุคคล ง. ถูกทุกข้อ
๓๐. การรักษาศลี อโุ บสถของอุบาสกอุบาสิกา เปน็ วิรัติใด ?
ก. สัมปัตตวิรัติ ข. สมาทานวิรตั ิ
ค. สมจุ เฉทวิรัติ ง. ถูกทกุ ขอ้
๓๑. หลักธรรมใด ควรปฏิบัตคิ วบค่กู ับการรักษาศลี ๕ ?
ก. พรหมวิหาร ข. เบญจธรรม
ค. สังคหวตั ถุ ง. ฆราวาสธรรม
๓๒. กลั ยาณธรรมใด ทําให้มนุษย์มเี มตตากรณุ าต่อกนั ?
ก. ขอ้ ๑ ข. ข้อ ๒
ค. ข้อ ๓ ง. ข้อ ๔
๓๓. คุณนกแก้วบริจาคสง่ิ ของใสต่ ู้ปนั สุข จัดเขา้ ในกัลยาณธรรมใด ?
ก. เมตตากรณุ า ข. สัมมาอาชีวะ
ค. ความกตญั ญู ง. กามสังวร
๖๖
๓๔. การกระทําใด เปน็ พฤติกรรมของคนขาดเมตตาจติ ?
ก. เลีย้ งปลา ข. ให้อาหารปลา
ค. ปลอ่ ยปลา ง. ตกปลา
๓๕. มนษุ ยจ์ ะรักษาศลี ขอ้ ๒ ได้มัน่ คงย่งิ ข้นึ ควรประพฤติกลั ยาณธรรมใด ?
ก. เมตตากรุณา ข. สมั มาอาชีวะ
ค. ความกตญั ญู ง. กามสังวร
๓๖. ลูกจ้างเข้าทาํ งานตรงเวลา ช่อื วา่ ประพฤติเป็นธรรมในอะไร ?
ก. กิจการ ข. บุคคล
ค. วัตถุ ง. ถกู ทกุ ข้อ
๓๗. ลกู จ้างตัง้ ใจทํางานตามคาํ สั่งนายจ้าง ชื่อว่าประพฤติเปน็ ธรรมในอะไร ?
ก. กิจการ ข. บคุ คล
ค. วตั ถุ ง. ถกู ทุกขอ้
๓๘. ผลู้ ักลอบปลอมแปลงสินคา้ ช่ือว่าประพฤตไิ ม่เป็นธรรมในอะไร ?
ก. กิจการ ข. บุคคล
ค. วตั ถุ ง. ถกู ทุกข้อ
๓๙. ความสํารวมในกาม เป็นอุปการะแก่การรกั ษาศีลขอ้ ใด ?
ก. ศีลข้อ ๑ ข. ศีลข้อ ๒
ค. ศีลข้อ ๓ ง. ศลี ข้อ ๔
๔๐. สามไี ม่นอกใจภรรยา เปน็ การประพฤตกิ ลั ยาณธรรมใด ?
ก. สมั มาอาชวี ะ ข. กามสังวร
ค. ความมีสัตย์ ง. ความมีสติ
๔๑. ค่คู รองประพฤติกัลยาณธรรมขอ้ ๓ ย่อมเกิดผลตามข้อใด ?
ก. เมตตาต่อกนั ข. ไวว้ างใจกัน
ค. กตัญญูต่อกัน ง. ภกั ดตี อ่ กัน
๔๒. การใหย้ ศศกั ดดิ์ ว้ ยความยุติธรรม ปราศจากอคติ เปน็ ความมีสัตย์ขอ้ ใด ?
ก. ความเท่ียงธรรม ข. ความซื่อตรง
ค. ความกตญั ญู ง. สวามภิ กั ด์ิ
๖๗
๔๓. การไม่หลอกลวงเพ่ือนทง้ั ต่อหน้าและลับหลัง เป็นความมีสตั ยข์ อ้ ใด ?
ก. ความเท่ียงธรรม ข. ความซือ่ ตรง
ค. ความกตัญญู ง. สวามภิ กั ดิ์
๔๔. การรู้จักบญุ คุณบดิ ามารดา เป็นความมีสตั ยข์ อ้ ใด ?
ก. ความเที่ยงธรรม ข. ความซื่อตรง
ค. ความกตญั ญู ง. สวามิภักดิ์
๔๕. การทาํ ผิดศีลข้อ ๕ เป็นปฏปิ ักษโ์ ดยตรงตอ่ คณุ ธรรมใด ?
ก. เมตตากรุณา ข. กามสังวร
ค. ความมีสตั ย์ ง. ความมสี ติรอบคอบ
๔๖. ความมีสติรอบคอบ เปน็ อุปการะแก่การรกั ษาศีลขอ้ ใด ?
ก. ขอ้ ๑ ข. ขอ้ ๒
ค. ขอ้ ๔ ง. ขอ้ ๕
๔๗. การทํางานแบบดนิ พอกหางหมู ขาดความรอบคอบในเรอ่ื งใด ?
ก. การบริโภค ข. การศกึ ษา
ค. การทาํ งาน ง. การปฏบิ ัตธิ รรม
๔๘. การใช้จ่ายแตพ่ อเพยี ง มีความรอบคอบในเรอ่ื งใด ?
ก. การบริโภค ข. การศกึ ษา
ค. การทํางาน ง. การปฏิบตั ิธรรม
๔๙. ข้อใด ชอ่ื วา่ ไม่เลินเล่อในการงาน ?
ก. ขยันทาํ กนิ ข. หมนิ่ เงนิ น้อย
ค. คอยวาสนา ง. ลางานบ่อย
๕๐. เบญจศีลเบญจธรรม มปี ระโยชน์กับใคร ?
ก. ตนเอง ข. ครอบครัว
ค. ประเทศชาติ ง. ถกู ทุกขอ้
๖๘
๖๙
ปัญหาและเฉลยข้อสอบ ธรรมศึกษาช้นั โท
ระดับชน้ั ประถมศึกษา
๗๐
๗๑
๗๒
ปญั หาและเฉลยวชิ าธรรมวภิ าค
ธรรมศกึ ษาช้ันโท ระดับประถมศึกษา
สอบในสนามหลวง
วันศกุ ร์ ท่ี ๕ มนี าคม พทุ ธศักราช ๒๕๖๔
๑. ในบูชา ๒ การบูชาประเภทใด มผี ลสงู สุดทําให้เกิดในสคุ ติโลกสวรรค์?
ก. มาฆบูชา ข. วสิ าขบชู า
ค. ปฏิปัตตบิ ูชา ง. อามสิ บชู า
๒. การรักษาศีล จัดเป็นการบชู าประเภทใด ?
ก. ปฏิปตั ติบชู า ข. อามิสบูชา
ค. ธรรมบชู า ง. สังฆบชู า
๓. ปฏสิ นั ถาร แปลว่าอะไร ?
ก. การปฏิเสธ ข. การตอ้ นรับ
ค. การช่วยเหลือ ง. การพ่ึงพา
๔. ข้อใด จัดเปน็ ธัมมปฏสิ ันถาร ?
ก. สนทนาธรรม ข. ตอ้ นรบั ตามฐานะ
ค. ให้น้ําดื่ม ง. ถามถงึ ธรุ ะ
๕. อกุศลวติ ก หมายถึงการนึกคดิ ในเร่ืองใด ?
ก. หมกมนุ่ ในกาม ข. ความพยาบาท
ค. ความเบียดเบียน ง. ถูกทุกข้อ
๗๓
๖. พยาบาทวิตก มีลกั ษณะเชน่ ไร ?
ก. คดิ โลภ ข. คิดโกรธ
ค. คิดหลง ง. คิดอาฆาต
๗. ผถู้ กู วิหิงสาวิตกครอบงํา มกั มีพฤตกิ รรมเช่นไร ?
ก. หมกมุน่ ในกาม ข. ปองร้าย
ค. คดโกง ง. ทาํ รา้ ยสตั ว์
๘. ความนกึ คดิ ในเรื่องความดี เรียกว่าอะไร ?
ก. กศุ ลวติ ก ข. อกุศลวิตก
ค. กศุ ลมูล ง. อกุศลมูล
๙. ความนกึ คิดที่ไมป่ องรา้ ยใครจดั เป็นกศุ ลวิตกใด ?
ก. เนกขมั มวิตก ข. อพยาบาทวติ ก
ค. อวิหิงสาวิตก ง. ถูกทกุ ข้อ
๑๐. คัมภีร์รวบรวมคาํ สอนของพระพุทธเจา้ เรยี กว่าอะไร ?
ก. ไตรสกิ ขา ข. ไตรลกั ษณ์
ค. ไตรปิฎก ง. ไตรภูมิ
๑๑. ศีล ๕ มาในปิฎกใด ?
ก. วนิ ยั ปฎิ ก ข. สตุ ตันตปิฎก
ค. อภิธรรมปิฎก ง. ถูกทกุ ข้อ
๑๒. พระพทุ ธเจ้าทรงบําเพ็ญประโยชนแ์ ก่ชาวโลก เปน็ เวลากี่ปี ?
ก. ๑๕ปี ข. ๒๕ปี
ค. ๓๕ปี ง. ๔๕ ปี
๑๓. พระพทุ ธเจา้ ทรงบําเพ็ญประโยชนแ์ ก่ชาวโลกอยา่ งไรบา้ ง?
ก. บิณฑบาต ข. แสดงธรรม
ค. ประทานโอวาท ง. ถกู ทุกขอ้
๑๔. พระพทุ ธเจา้ ทรงหา้ มพระญาตทิ ะเลาะวิวาทกันจดั เป็นจรยิ าใด ?
ก. โลกตั ถจรยิ า ข. ญาตัตถจริยา
ค. พุทธัตถจริยา ง. ถูกทกุ ข้อ
๗๔
๑๕. สกิ ขาใด ฝึกอบรมกาย?
ก. อธสิ ีลสกิ ขา ข. อธิจิตตสิกขา
ค. อธิปัญญาสิกขา ง. ถูกทกุ ข้อ
๑๖. การฝึกอบรมจิตใหเ้ ป็นสมาธิ จัดเป็นสิกขาใด ?
ก. อธิสลี สกิ ขา ข. อธจิ ติ ตสิกขา
ค. อธปิ ญั ญาสิกขา ง. ถูกทกุ ขอ้
๑๗. ความรอบรูต้ ามความเปน็ จริงอย่างยง่ิ ยวด จัดเป็นสกิ ขาใด ?
ก. อธิสลี สิกขา ข. อธิจติ ตสิกขา
ค. อธปิ ัญญาสิกขา ง. ถกู ทุกข้อ
๑๘. ลกั ษณะทม่ี เี หมอื นกันทกุ คน หมายถงึ ข้อใด ?
ก. อนจิ จลกั ษณะ ข. ทุกขลักษณะ
ค. อนตั ตลักษณะ ง. สามัญญลกั ษณะ
๑๙. อาการปรวนแปร เปล่ียนแปลงเรียกว่าอะไร ?
ก. อนจิ จตา ข. ทุกขตา
ค. อนตั ตตา ง. ถกู ทุกขอ้
๒๐. สภาวะทบี่ งั คับควบคุมใหเ้ ป็นไปดงั ใจตอ้ งการไมไ่ ด้เรยี กว่าอะไร ?
ก. อนจิ จตา ข. ทุกขตา
ค. อนัตตตา ง. ถูกทุกขอ้
๒๑. พระอรยิ บุคคล มกี ่ลี ําดับชนั้ ?
ก. ๒ ข. ๔
ค. ๖ ง. ๘
๒๒. พระอริยบุคคลผกู้ ลบั มาเกดิ ในโลกมนษุ ยอ์ ีกชาตเิ ดยี ว หมายถึงขอ้ ใด ?
ก. พระโสดาบนั ข. พระสกทาคามี
ค. พระอนาคามี ง. พระอรหันต์
๒๓. ผู้ไกลจากกิเลสโดยสิ้นเชิง หมายถึงพระอรยิ บคุ คลในขอ้ ใด ?
ก. พระโสดาบัน ข. พระสกทาคามี
ค. พระอนาคามี ง. พระอรหนั ต์
๗๕
๒๔. รักษากายวาจาเรยี บร้อยดี จัดเป็นสัมปรายกิ ตั ถประโยชน์ใด ?
ก. สัทธาสัมปทา ข. สีลสมั ปทา
ค. จาคสัมปทา ง. ปัญญาสมั ปทา
๒๕. การชว่ ยเหลอื ผ้อู ื่นจัดเปน็ สมั ปรายกิ ัตถประโยชนใ์ ด ?
ก. สทั ธาสัมปทา ข. สีลสัมปทา
ค. จาคสมั ปทา ง. ปัญญาสัมปทา
๒๖. ธรรมทซ่ี กั ฟอกจิตให้หมดจดเปน็ ชั้นๆ เรยี กวา่ อะไร ?
ก. อนุปพุ พีกถา ข. อริยสจั
ค. ไตรสิกขา ง. อัปปมัญญา
๒๗. สีลกถาเหมาะแกค่ นประเภทใด ?
ก. คนริษยา ข. คนโหดรา้ ย
ค. คนลุ่มหลง ง. คนตระหนี่
๒๘. กามาทนี วกถา เหมาะแก่คนประเภทใด ?
ก. คนรษิ ยา ข. คนตระหน่ี
ค. คนโหดร้าย ง. คนหมกมุ่นในกาม
๒๙. มาร หมายถงึ ขอ้ ใด ?
ก. เบญจขนั ธ์ ข. กิเลส
ค. ความตาย ง. ถูกทกุ ขอ้
๓๐. กิเลสมาร มารคอื กิเลส ทําร้ายบคุ คลอย่างไร ?
ก. ใหพ้ ูดผิด ข. ใหท้ ําผดิ
ค. ให้คดิ ผิด ง. ถกู ทุกข้อ
๓๑. ความตายไดช้ อ่ื ว่ามาร เพราะตัดโอกาสในเรื่องใด ?
ก. คุณความดี ข. ยศศักด์ิ
ค. การศึกษา ง. ตาํ แหน่งหนา้ ท่ี
๓๒. ข้อใด ไมจ่ ดั อยใู่ นขนั ธ์ ๕ ?
ก. รปู ข. เวทนา
ค. สญั ญา ง. ฌาน
๗๖
๓๓. ธาตุ ๔ คอื ดิน น้ํา ไฟ ลม รวมกันเปน็ กาย เรียกว่าอะไร ?
ก. รปู ข. เวทนา
ค. สัญญา ง. วญิ ญาณ
๓๔. ความรู้สึกไม่สบายกายไม่สบายใจเรียกว่าอะไร ?
ก. เวทนา ข. สญั ญา
ค. สังขาร ง. วญิ ญาณ
๓๕. ขอ้ ใด เปน็ คุณลักษณะของธรรมคณุ ?
ก. ผบู้ รรลุเห็นได้เอง ข. ไม่ลา้ สมยั
ค. พิสจู นไ์ ด้ ง. ถกู ทกุ ขอ้
๓๖. ข้อใด เป็นความหมายของ เอหปิ สฺสิโก ?
ก. ผู้บรรลเุ หน็ ไดเ้ อง ข. ไมล่ า้ สมัย
ค. พิสจู น์ได้ ง. ควรนอ้ มมาปฏบิ ตั ิ
๓๗. ขอ้ ใด เป็นความหมายของ โอปนยิโก ?
ก. ผูบ้ รรลเุ หน็ ได้เอง ข. ไม่ล้าสมยั
ค. พสิ จู น์ได้ ง. ควรนอ้ มมาปฏิบัติ
๓๘. อิติปโิ ส ภควา เป็นคาํ ขน้ึ ต้นของบทสวดใด?
ก. พทุ ธคุณ ข. ธรรมคุณ
ค. สงั ฆคุณ ง. ยถา... สัพพี...
๓๙. ผู้ทาํ ลายกิเลสและบาปธรรมโดยสิ้นเชิงเป็นความหมายของบทใด ?
ก. อรหํ ข. สคุ โต
ค. โลกวทิ ู ง. พทุ โฺ ธ
๔๐. พุทธคุณบทวา่ โลกวิทู แปลว่าอะไร ?
ก. ผเู้ สดจ็ ไปดี ข. ผ้รู แู้ จ้งโลก
ค. ผู้ตื่น ง. ผ้มู โี ชค
๔๑. พุทธคุณบทวา่ พุทโธ แปลว่าอะไร ?
ก. ผเู้ สด็จไปดี ข. ผู้รู้แจ้งโลก
ค. ผูร้ ู้ ง. ผมู้ ีโชค
๗๗
๔๒. สิง่ เปน็ ทต่ี ัง้ แหง่ การทําบญุ เรียกว่าอะไร ?
ก. บญุ กริ ยิ าวัตถุ ข. บญุ กศุ ล
ค. บญุ บารมี ง. บุญวาสนา
๔๓. ความตระหน่ีกาํ จัดได้ด้วยอะไร ?
ก. ทานมัย ข. สลี มัย
ค. ภาวนามัย ง. อปจายนมยั
๔๔. สลี มยั ป้องกนั อาชญากรรมในเร่อื งใด ?
ก. ชีวติ ข. ทรัพย์สนิ
ค. ยาเสพตดิ ง. ถกู ทุกขอ้
๔๕. ภาวนามยั บรรเทาลดละอะไร ?
ก. โลภะ ข. โทสะ
ค. โมหะ ง. ราคะ
๔๖. การประพฤติออ่ นน้อมถอ่ มตนตอ่ ผ้ใู หญ่ เปน็ การทําบญุ ในขอ้ ใด ?
ก. ทานมัย ข. อปจายนมยั
ค. เวยยาวจั จมัย ง. ปตั ตทิ านมัย
๔๗. การบําเพญ็ สาธารณประโยชน์ เปน็ การทาํ บุญในขอ้ ใด ?
ก. ทานมัย ข. อปจายนมัย
ค. เวยยาวัจจมัย ง. ปัตติทานมัย
๔๘. ปัตติทานมยั เปน็ การทําบุญในเร่อื งใด ?
ก. วันเกิด ข. ขนึ้ บ้านใหม่
ค. งานแต่ง ง. อทุ ศิ กศุ ล
๔๙. ปัตตานโุ มทนามัย หมายถึงการทาํ บุญในข้อใด ?
ก. ทําบญุ เอง ข. อทุ ศิ บุญ
ค. อนุโมทนาบุญ ง. แสวงบญุ
๕๐. การทเี่ ห็นว่า ทําดไี ดด้ ี ทาํ ชั่วไดช้ ว่ั จดั เข้าในบุญกริ ิยาวัตถุใด ?
ก. ทานมัย ข. อปจายนมัย
ค. เวยยาวจั จมยั ง. ทฏิ ฐชุ ุกมั ม์
๗๘
ปัญหาและเฉลยวชิ าพุทธประวัติ
ธรรมศกึ ษาช้นั โท ระดบั ประถมศึกษา
สอบในสนามหลวง
วนั ศุกร์ ที่ ๕ มีนาคม พทุ ธศักราช ๒๕๖๔
๑. บ้านเกดิ ของพระอญั ญาโกณฑญั ญะ ต้งั อยใู่ กลเ้ มืองใด ?
ก. พาราณสี ข. สาวัตถี
ค. เทวทหะ ง. กบิลพสั ดุ์
๒. พระอญั ญาโกณฑญั ญะมชี อื่ เดิมว่าอย่างไร ?
ก. โกณฑัญญะ ข. ปปิ ผลิ
ค. อปุ ตสิ สะ ง. โกลิตะ
๓. พระอัญญาโกณฑญั ญะ เคยเปน็ ผู้ทาํ นายลักษณะของเจ้าชายพระองคใ์ ด ?
ก. เจา้ ชายสทิ ธัตถะ ข. เจา้ ชายนันทะ
ค. เจ้าชายอานนท์ ง. เจ้าชายอนุรทุ ธ์
๔. พระอญั ญาโกณฑัญญะ ได้รบั ยกย่องวา่ เป็นผู้เลศิ ในด้านใด ?
ก. มีฤทธิม์ าก ข. มปี ัญญามาก
ค. รู้ราตรีนาน ง. มีบริวารมาก
๕. พระสารีบตุ ร เกดิ ในหมู่บา้ นใด?
ก. โทณวัตถุ ข. นาลันทา
ค. โกลิตคาม ง. ถูนคาม
๗๙
๖. บ้านเกดิ พระสารีบุตร ตัง้ อยู่ใกล้เมอื งใด ?
ก. ราชคฤห์ ข. พาราณสี
ค. สาวัตถี ง. กบิลพัสดุ์
๗. พระสารบี ตุ ร เดมิ มชี อ่ื วา่ อะไร ?
ก. ปปิ ผลิ ข. โกลิตะ
ค. อุปตสิ สะ ง. สทุ ตั ตะ
๘. อปุ ติสสมาณพ เป็นเพอื่ นสนิทกับใคร?
ก. วมิ ละ ข. สุพาหุ
ค. ควัมปติ ง. โกลติ ะ
๙. อปุ ติสสมาณพออกบวชครง้ั แรก ในลทั ธิใด ?
ก. ปริพาชก ข. เดียรถีย์
ค. อาชีวก ง. นิครนถ์
๑๐. อุปตสิ สปริพาชกพบพระอัสสชิ ขณะที่ท่านกําลงั ทํากิจใด ?
ก. เทย่ี วบณิ ฑบาต ข. เดินจงกรม
ค. นั่งสมาธิ ง. แสดงธรรม
๑๑. อุปตสิ สปริพาชก ฟงั ธรรมจากพระอสั สชแิ ลว้ ไปบอกตอ่ แกใ่ คร ?
ก. วิมละ ข. สุพาหุ
ค. ปปิ ผลิ ง. โกลติ ะ
๑๒. คุณธรรมใด ของพระสารีบุตรทคี่ วรถอื เปน็ แบบอย่าง?
ก. ความกตญั ญู ข. ความมีหริ ิ
ค. ความมีสติ ง. ความมขี ันติ
๑๓. พระสาวกองค์ใด เกดิ ทโ่ี กลิตคาม ?
ก. พระยสะ ข. พระสารบี ตุ ร
ค. พระโมคคัลลานะ ง. พระอุบาลี
๑๔. โกลติ ะ เปน็ ช่อื เดิมของพระสาวกองคใ์ ด ?
ก. พระควมั ปติ ข. พระมหากสั สปะ
ค. พระสารีบตุ ร ง. พระโมคคัลลานะ
๘๐
๑๕. พระโมคคลั ลานะได้ฟงั อบุ ายแกค้ วามโงกงว่ งก่ขี ้อ ?
ก. ๘ ขอ้ ข. ๙ ขอ้
ค. ๑๐ ข้อ ง. ๑๑ ข้อ
๑๖. พระโมคคลั ลานะได้รบั ยกยอ่ งว่าเปน็ ผู้เลิศในด้านใด ?
ก. ถือธุดงค์ ข. ทรงผ้าเศรา้ หมอง
ค. มีปัญญามาก ง. มีฤทธ์ิมาก
๑๗. พระโมคคัลลานะ ดแู ลการกอ่ สร้างพระอารามใด ?
ก. เวฬุวนาราม ข. เชตวนาราม
ค. บุพพาราม ง. นโิ ครธาราม
๑๘. พระเจา้ สุกโกธนะเป็นพระราชบดิ าของพระสาวกองค์ใด?
ก. พระนนั ทะ ข. พระอานนท์
ค. พระอนรุ ทุ ธ์ ง. พระราหุล
๑๙. พระมารดาของพระอานนท์ มพี ระนามว่าอย่างไร ?
ก. สิริมหามายา ข. ปชาบดีโคตมี
ค. กสี าโคตมี ง. รูปนันทา
๒๐. พระอานนท์ ประสตู ใิ นราชวงศ์ใด ?
ก. ศากยวงศ์ ข. โกลิยวงศ์
ค. ลังกาวงศ์ ง. สยามวงศ์
๒๑. พระเถระใด มิไดป้ ระสูตใิ นฝ่ายศากยวงศ์ ?
ก. พระอานนท์ ข. พระอนุรทุ ธ์
ค. พระกิมพิละ ง. พระเทวทัต
๒๒. พระอานนทไ์ ดร้ บั การบรรพชาอุปสมบท ณ สถานท่ีใด?
ก. อนปุ ิยอมั พวนั ข. ลฏั ฐวิ ัน
ค. เวฬุวัน ง. สาลวนั
๒๓. พระอานนท์ทรงฟงั ธรรมจากพระปุณณมนั ตานีบุตรแลว้ ได้บรรลผุ ลใด?
ก. โสดาปัตติผล ข. สกทาคามผิ ล
ค. อนาคามิผล ง. อรหัตตผล
๘๑
๒๔. ช้างใด ทพี่ ระอานนท์ไปยืนขวางหนา้ เพ่ือมิใหท้ ํารา้ ยพระพุทธเจ้า ?
ก. ช้างอโุ บสถ ข. ช้างปาลิไลยกะ
ค. ชา้ งนาฬาคริ ี ง. ช้างฉทั ทนั ต์
๒๕. พระอานนทท์ รงได้รบั ยกย่องวา่ เปน็ ผเู้ ลศิ กอ่ี ยา่ ง ?
ก. ๒ อย่าง ข. ๓ อย่าง
ค. ๔ อยา่ ง ง. ๕ อย่าง
๒๖. พระอานนทน์ พิ พาน ในทา่ มกลางแม่นา้ํ ใด ?
ก. โรหณิ ี ข. อโนมา
ค. คงคา ง. ยมุนา
๒๗. ราหุลกุมาร ประสตู ใิ นเมอื งใด ?
ก. กบลิ พัสดุ์ ข. เทวทหะ
ค. พาราณสี ง. สาวตั ถี
๒๘. ราหุลกมุ ารไปพบพระพุทธเจ้า ขณะประทับอยู่ที่อารามใด?
ก. เวฬุวนาราม ข. เชตวนาราม
ค. บุพพาราม ง. นโิ ครธาราม
๒๙. สามเณรใด บรรพชาด้วยตสิ รณคมนูปสมั ปทาเป็นรูปแรก ?
ก. สามเณรราหุล ข. สามเณรสมุ นะ
ค. สามเณรสงั กิจจะ ง. สามเณรบณั ฑติ
๓๐. พระสาวกองคใ์ ด อุปสมบทด้วยญตั ตจิ ตุตถกรรมวาจา ?
ก. พระสารีบุตร ข. พระโมคคลั ลานะ
ค. พระอานนท์ ง. พระราหลุ
๓๑. พระราหลุ เถระ ได้รับยกยอ่ งว่าเป็นผเู้ ลิศในด้านใด ?
ก. ใครใ่ นการศึกษา ข. มีปัญญามาก
ค. มีฤทธ์ิมาก ง. ทรงธุดงค์
๓๒. พระมหาปชาบดโี คตมเี ถรี เป็นพระธิดาของกษัตรยิ ผ์ คู้ รองนครใด ?
ก. พาราณสี ข. ราชคฤห์
ค. กบิลพัสดุ์ ง. เทวทหะ
๘๒
๓๓. พระมหาปชาบดโี คตมเี ถรี เปน็ กนิษฐภคินีของสตรีพระนางใด ?
ก. สริ มิ หามายา ข. กสี าโคตมี
ค. ปมติ า ง. อมติ า
๓๔. พระมหาปชาบดีโคตมเี ถรี เกย่ี วขอ้ งกบั พระพทุ ธเจา้ ในฐานะใด ?
ก. เป็นพระมารดา ข. เปน็ พระน้านาง
ค. เปน็ พระมาตุลา ง. เปน็ พระกนิษฐา
๓๕. พระมหาปชาบดโี คตมีเถรที รงไดร้ บั ยกยอ่ งวา่ เปน็ ผเู้ ลศิ ในด้านใด ?
ก. ร้รู าตรนี าน ข. มปี ญั ญามาก
ค. มฤี ทธิ์มาก ง. ทรงพระวินัย
๓๖. อนาถบณิ ฑิกเศรษฐี เกดิ ในเมืองใด ?
ก. ราชคฤห์ ข. พาราณสี
ค. สาวตั ถี ง. กบลิ พสั ดุ์
๓๗. อนาถบณิ ฑิกะ หมายถึง ผูม้ กี ้อนขา้ วเพอ่ื ใคร ?
ก. คนรวย ข. คนค้าขาย
ค. คนรบั จ้าง ง. คนอนาถา
๓๘. อนาถบิณฑิกเศรษฐีได้ฟังคําว่าพระพุทธเจา้ จากบคุ คลใด ?
ก. ราชคหกเศรษฐี ข. นางวสิ าขา
ค. ธัมมกิ อบุ าสก ง. จิตตคฤหบดี
๓๙. นางวิสาขา เกดิ ในเมืองใด?
ก. พาราณสี ข. สาวัตถี
ค. กบลิ พัสด์ุ ง. ภทั ทยิ ะ
๔๐. นางวสิ าขามหาอุบาสิกา ได้รบั ยกยอ่ งว่าเป็นผู้เลิศในดา้ นใด ?
ก. มีฤทธิ์มาก ข. มีบริวารมาก
ค. ให้ทาน ง. มปี ัญญามาก
๔๑. พระภกิ ษุสงฆ์อธษิ ฐานเขา้ จาํ พรรษา ในช่วงฤดูใด ?
ก. ฤดรู ้อน ข. ฤดูฝน
ค. ฤดหู นาว ง. ฤดแู ลง้
๘๓
๔๒. การอธิษฐานจาํ พรรษาของพระภิกษสุ งฆ์ มีเท่าไหร่ ?
ก. ๑ ข. ๒
ค. ๓ ง. ๔
๔๓. วนั เทโวโรหณะ เป็นวันทีพ่ ระพทุ ธเจา้ เสด็จลงจากสวรรค์ชั้นใด?
ก. ดาวดึงส์ ข. ยามา
ค. ดสุ ติ ง. นมิ มานรดี
๔๔. วันธรรมสวนะ แปลวา่ อะไร ?
ก. วนั เข้าพรรษา ข. วันออกพรรษา
ค. วนั สาธยายธรรม ง. วันฟงั ธรรม
๔๕. การทาํ บุญฉลองอายุ เริ่มมีในรชั กาลใด ?
ก. รัชกาลท่ี ๒ ข. รัชกาลท่ี ๓
ค. รชั กาลที่ ๔ ง. รชั กาลท่ี ๕
๔๖. งานพิธีใด นมิ นตพ์ ระสงฆส์ วดพระอภธิ รรม?
ก. งานวันเกดิ ข. งานขึน้ ปใี หม่
ค. งานฉลองอัฐิ ง. งานศพ
๔๗. ประเพณีใด จดั ใหม้ ขี ึ้นในวันเพญ็ เดือน ๑๒ ?
ก. ทอดผ้าป่า ข. เทศนม์ หาชาติ
ค. ถวายสลากภัตร ง. ลอยกระทง
๔๘. พิธีลอยกระทงบูชารอยพระพทุ ธบาท เกดิ ขึ้นคร้ังแรก ณ ริมฝั่งแม่น้ําใด ?
ก. แมน่ าํ้ นัมมทา ข. แมน่ า้ํ คงคา
ค. แม่น้าํ อโนมา ง. แมน่ าํ้ อิรวดี
๔๙. ผ้าบงั สกุ ุล แปลว่าอะไร ?
ก. ผา้ เปื้อนฝนุ่ ข. ผ้าสะอาด
ค. ผา้ สบง ง. ผา้ จีวร
๕๐. ผูจ้ ะอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ตอ้ งมอี ายุครบกปี่ ี ?
ก. ๑๗ปี ข. ๑๘ ปี
ค. ๑๙ ปี ง. ๒๐ ปี
๘๔
ปญั หาและเฉลยวิชาเบญจศลี เบญจธรรม (วนิ ยั )
ธรรมศึกษาชั้นโท ระดบั ประถมศึกษา
สอบในสนามหลวง
วันศุกร์ ที่ ๕ มีนาคม พทุ ธศักราช ๒๕๖๔
๑. คาํ วา่ อโุ บสถ หมายถงึ ขอ้ ใด ?
ก. การถอื ศีล ข. การจําพรรษา
ค. การสวดมนต์ ง. การฟังธรรม
๒. การรกั ษาอโุ บสถ จัดเข้าในพธิ ใี ด ?
ก. บญุ พธิ ี ข. กุศลพธิ ี
ค. ทานพธิ ี ง. ปกณิ ณกพิธี
๓. การถืออโุ บสถศลี เพ่ือประโยชน์อะไร ?
ก. หยดุ พักผอ่ น ข. ขอโชคลาภ
ค. สะเดาะเคราะห์ ง. ขดั เกลากเิ ลส
๔. ผู้สมาทานรกั ษาอุโบสถศลี พึงปฏบิ ัติตนอยา่ งไร ?
ก. ใหท้ าน ข. รกั ษาศลี
ค. ฟงั ธรรม ง. ถกู ทกุ ข้อ
๕. ข้อใด ไม่ปรากฏในอุโบสถนอกพทุ ธกาล ?
ก. อดอาหาร ข. บาํ เพญ็ ตบะ
ค. ถือสรณคมน์ ง. วันรกั ษา
๘๕
๖. พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตใหร้ ักษาปกติอโุ บสถในวนั ใด ?
ก. วนั ข้ึนปีใหม่ ข. วนั สงกรานต์
ค. วันเด็ก ง. วนั พระ
๗. อุโบสถศลี ในพระพุทธศาสนา ทรงบัญญตั ิไวก้ ่ีสิกขาบท ?
ก. ๕ สิกขาบท ข. ๘ สิกขาบท
ค. ๑๐ สกิ ขาบท ง. ๑๒ สิกขาบท
๘. เม่ือถงึ วันอโุ บสถ ใครสมาทานรักษาอุโบสถศีล ?
ก. ภกิ ษุ ข. สามเณร
ค. อบุ าสก อบุ าสิกา ง. คนทั่วไป
๙. ผู้รกั ษาอุโบสถศีล ควรระลกึ ถงึ สิ่งใด ?
ก. พระรัตนตรัย ข. ลกู หลาน
ค. หน้าท่กี ารงาน ง. ทรพั ยส์ มบัติ
๑๐. คาํ ว่า ไตรสรณคมน์ หมายถงึ ขอ้ ใด ?
ก. รัตนะ ๓ ข. โอวาท ๓
ค. กศุ ลมูล ๓ ง. บญุ กิริยาวัตถุ ๓
๑๑. การถงึ สรณคมน์ เพื่อประโยชน์อะไร ?
ก. ความขลงั ข. กําจัดทุกข์
ค. ความศกั ด์สิ ทิ ธ์ิ ง. มโี ชคลาภ
๑๒. เพราะเหตใุ ด พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ จงึ ได้ชื่อวา่ สรณะ ?
ก. เปน็ ที่พ่ึงทร่ี ะลึก ข. เป็นสิง่ ศักด์สิ ิทธ์ิ
ค. เปน็ ท่ขี อพร ง. ถูกทุกขอ้
๑๓. พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ รวมกันเรียกว่าอะไร ?
ก. พระไตรปฎิ ก ข. พระรัตนตรยั
ค. พระพรหม ง. พระภมู เิ จา้ ที่
๑๔. นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ กล่าวนอบนอ้ มใคร ?
ก. พระรตั นตรัย ข. พระพุทธเจา้
ค. พระธรรม ง. พระสงฆ์
๘๖
๑๕. คาํ ว่า เอหิปัสสโิ ก กลา่ วถึงสรณคมนใ์ ด ?ข. พระธรรม
ก. พระพุทธเจ้า
ค. พระสงฆ์ ง. ถกู ทกุ ข้อ
๑๖. คาํ ว่า อุชปุ ฏปิ ันโน กล่าวถึงสรณคมนใ์ ด ?
ก. พระพุทธเจา้ ข. พระธรรม
ค. พระสงฆ์ ง. ถกู ทกุ ข้อ
๑๗. คําวา่ พทุ ธัง สะระณัง คัจฉามิ หมายถงึ การเข้าถงึ สรณคมนใ์ ด ?
ก. พระพทุ ธเจา้ ข. พระธรรม
ค. พระสงฆ์ ง. ถกู ทุกขอ้
๑๘. คาํ ว่า ธัมมัง สะระณัง คจั ฉามิ หมายถึงการเข้าถงึ สรณคมนใ์ ด ?
ก. พระพุทธเจ้า ข. พระธรรม
ค. พระสงฆ์ ง. ถกู ทกุ ข้อ
๑๙. คาํ ว่า สังฆัง สะระณัง คจั ฉามิ หมายถึงการเข้าถงึ สรณคมนใ์ ด ?
ก. พระพุทธเจา้ ข. พระธรรม
ค. พระสงฆ์ ง. ถูกทกุ ขอ้
๒๐. ในไตรสรณคมน์ พระธรรม หมายถงึ ขอ้ ใด ?
ก. คําสอน ข. ผ้ปู ระกาศคําสอน
ค. ผฟู้ งั คําสอน ง. ผปู้ ฏิบัติตามคําสอน
๒๑. คาํ วา่ รักษาผู้ปฏบิ ัติไม่ให้ตกไปส่ทู ชี่ วั่ เป็นคุณของสรณคมนใ์ ด ?
ก. พระพทุ ธ ข. พระธรรม
ค. พระสงฆ์ ง. ถูกทุกข้อ
๒๒. ข้อใด เป็นคณุ ของพระสงฆ์ ?
ก. ปฏิบัตดิ ี ข. ปฏบิ ตั ติ รง
ค. ปฏบิ ัตชิ อบ ง. ถูกทุกข้อ
๒๓. ใครนําคาํ สอนของพระพุทธเจ้าไปประกาศให้เรารู้จักบาปบุญคณุ โทษ ?
ก. อาชวี ก ข. นิครนถ์
ค. ปริพาชก ง. พระสงฆส์ าวก
๘๗
๒๔. สงสยั วา่ พระพุทธเจ้ามจี ริงหรือไม่ จะทําใหไ้ ตรสรณคมนเ์ ป็นอยา่ งไร ?
ก. เศรา้ หมอง ข. บกพรอ่ ง
ค. ดา่ งพรอ้ ย ง. ขาดลงทันที
๒๕. ขอ้ ใด ทําใหไ้ ตรสรณคมน์ขาด ?
ก. เกดิ ข. แก่
ค. เจ็บ ง. ตาย
๒๖. บคุ คลประเภทใด อาจเลิกนบั ถอื พระรัตนตรยั เปน็ สรณะได้ ?
ก. พระโสดาบัน ข. พระอนาคามี
ค. พระอรหนั ต์ ง. ปถุ ุชนทว่ั ไป
๒๗. ข้อใด ไมม่ ีโทษเพราะทาํ ให้สรณคมน์ขาด ?
ก. เสียชีวติ ข. ทาํ ร้ายพระศาสดา
ค. นบั ถอื ศาสดาอืน่ ง. ถกู ทกุ ข้อ
๒๘. อโุ บสถศลี ขอ้ ๑ ให้ผู้สมาทานรักษางดเว้นเรอ่ื งใด ?
ก. ฆา่ สัตว์ ข. ลกั ทรัพย์
ค. เสพกาม ง. พดู เท็จ
๒๙. อุโบสถศลี ข้อ ๒ ให้ผู้สมาทานรักษางดเว้นเรือ่ งใด ?
ก. ฆา่ สตั ว์ ข. ลักทรพั ย์
ค. ล่วงประเวณี ง. พูดเท็จ
๓๐. อโุ บสถศลี ข้อใด ขาดเพราะขโมยของคนอ่ืน ?
ก. ข้อ ๑ ข. ขอ้ ๒
ค. ขอ้ ๔ ง. ขอ้ ๕
๓๑. อโุ บสถศีลขอ้ ๓ ให้งดเวน้ การทําความผิดเร่ืองใด ?
ก. ฆ่าสตั ว์ ข. ลกั ทรพั ย์
ค. เสพกาม ง. ด่ืมนา้ํ เมา
๓๒. อโุ บสถศลี ขอ้ ๔ บัญญตั ขิ ้นึ เพอ่ื ให้ระมดั ระวงั เรื่องใด ?
ก. การขาดเรยี น ข. การเคารพครู
ค. การพดู จา ง. การเล่น
๘๘
๓๓. พูดใหค้ ลาดเคลอ่ื นจากความเปน็ จรงิ เปน็ ความผดิ อุโบสถศลี ข้อใด ?
ก. ข้อ ๑ ข. ข้อ ๓
ค. ขอ้ ๔ ง. ขอ้ ๘
๓๔. ผู้สมาทานอโุ บสถศีล ไมค่ วรพดู ถ้อยคาํ เช่นใด ?
ก. คาํ หยาบ ข. คาํ ส่อเสียด
ค. คาํ เพ้อเจอ้ ง. ถูกทกุ ข้อ
๓๕. ขอ้ ใด ผรู้ กั ษาศีล ๕ และผรู้ กั ษาอุโบสถศลี ตา่ งก็ต้องงดเวน้ เหมือนกนั ?
ก. กินอาหารค่าํ ข. ดื่มสุรา
ค. ร้องเพลง ง. เตน้ รํา
๓๖. ขอ้ ใด เปน็ สาเหตใุ นการทําความผดิ อโุ บสถศลี ข้อ ๕ ?
ก. เครอ่ื งประดบั ข. อาหาร
ค. บุหร่ี ง. สรุ า
๓๗. คําว่า วิกาล ในอโุ บสถศีลข้อ ๖ หมายถงึ เวลาใด ?
ก. เช้า ข. สาย
ค. ก่อนเทยี่ ง ง. หลงั เทยี่ งถงึ อรณุ ขึน้
๓๘. ผสู้ มาทานรักษาอุโบสถศีล พงึ รับประทานอาหารใหเ้ สรจ็ ก่อนเวลาใด ?
ก. เท่ียงวนั ข. บ่ายโมง
ค. มดื คาํ่ ง. เทย่ี งคืน
๓๙. ขอ้ ใด ผ้สู มาทานอโุ บสถศลี บรโิ ภคในเวลาวกิ าลไม่ได้ ?
ก. น้ําพริกเผา ข. นํา้ ผึง้
ค. เนยข้น ง. นํา้ ออ้ ย
๔๐. ข้อใด กล่าวถงึ ประโยชนข์ องการรักษาอโุ บสถศลี ข้อ ๖ ได้ถูกตอ้ ง ?
ก. ทรมานกิเลส ข. ทรมานกาย
ค. ตดั กงั วล ง. ลดค่าใชจ้ ่าย
๔๑. อุโบสถศีลข้อ ๗ ให้ผู้สมาทานรักษางดเวน้ เรอ่ื งใด ?
ก. เสพกาม ข. กนิ ขา้ วเย็น
ค. เสรมิ สวย ง. นนิ ทาคนอน่ื
๘๙
๔๒. อโุ บสถศลี ขอ้ ๘ มีความเกี่ยวข้องกับอิรยิ าบถใด ?
ก. ยนื เดิน ข. เดนิ นัง่
ค. นงั่ นอน ง. นอน ยนื
๔๓. ผู้รักษาอุโบสถศีลขอ้ ๘ ให้งดเว้นกิริยาใด ?
ก. เดนิ ลุยไฟ ข. เหยยี บผา้ ขาว
ค. นอนบนเหลก็ แหลม ง. นอนบนเตยี งสงู
๔๔. การรักษาอุโบสถศลี ข้อ ๘ เพ่อื ตัดความกงั วลเร่ืองใด ?
ก. การนงั่ นอน ข. การด่ืม
ค. การกิน ง. การพดู คยุ
๔๕. ขณะรกั ษาอโุ บสถศลี ควรสนทนากันถงึ เรอ่ื งอะไร ?
ก. ครอบครัว ข. การเมือง
ค. การทาํ มาหากนิ ง. การทาํ บญุ
๔๖. ขอ้ ใด ไม่ควรทําในขณะรกั ษาอโุ บสถศลี ?
ก. นบั อายแุ ละวัย ข. เล่นเกมส์
ค. ฟังธรรม ง. เล่าพทุ ธประวตั ิ
๔๗. ผูร้ กั ษาอุโบสถศีล ยอ่ มไดร้ บั อานิสงส์อยา่ งไร ?
ก. บังเกิดในสวรรค์ ข. มคี วามสขุ
ค. ปลอดภัยในชีวิต ง. ถูกทกุ ขอ้
๔๘. การถอื อโุ บสถศลี จะได้รับผลมากหรือน้อยข้นึ อยกู่ ับอะไร ?
ก. มีสขุ ภาพดี ข. มอี ายุมาก
ค. มีความตงั้ ใจ ง. มวี าสนาบารมี
๔๙. ผู้รักษาอุโบสถศลี เป็นเหตุใหเ้ กิดความบรสิ ุทธ์ิทางใด ?
ก. กาย วาจา ข. กาย ใจ
ค. วาจา ใจ ง. กาย วาจา ใจ
๕๐. อะไรเปน็ อุปสรรคในการรกั ษาอุโบสถศลี ?
ก. ความพิการ ข. ความแก่ชรา
ค. ความเจ็บปว่ ย ง. ความไมก่ ลวั บาป
๙๐
๙๑
ปัญหาและเฉลยข้อสอบ ธรรมศึกษาช้นั โท
ระดับชน้ั มัธยมศึกษา
๙๒
๙๓
๙๔
ปัญหาและเฉลยวิชาธรรมวิภาค
ธรรมศกึ ษาชน้ั โท ระดบั มธั ยมศึกษา
สอบในสนามหลวง
วันศุกร์ ที่ ๕ มนี าคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๔
๑. ความปรารถนาสง่ิ ที่น่าใคร่นา่ ชอบใจ เรียกว่าอะไร?
ก. กาม ข. โลภะ
ค. โทสะ ง. โมหะ
๒. กเิ ลสกามหมายถึงข้อใด ?
ก. รูปสวย ข. เสียงเพราะ
ค. กลนิ่ หอม ง. ความโลภ
๓. ไมม่ โี รคภัยเบียดเบยี น จัดเปน็ สขุ ประเภทใด ?
ก. กายิกสุข ข. เจตสิกสขุ
ค. สามิสสุข ง. นริ ามสิ สขุ
๔. ปราศจากอะไร จัดเป็นเจตสิกสุข ?
ก. โรค ข. ภยั
ค. อันตราย ง. กิเลส
๕. ไฟราคะเกิดขึ้นอาจทําใหล้ ะเมดิ ศลี ขอ้ ใดได้ ?
ก. ปาณาตบิ าต ข. อทนิ นาทาน
ค. กาเมสุมิจฉาจาร ง. มุสาวาท
๙๕
๖. รู้จกั ยบั ยงั้ ช่ังใจไมโ่ กรธ ชื่อว่าดับเสยี ได้ซ่ึงไฟใด ?
ก. ไฟคอื ราคะ ข. ไฟคือโทสะ
ค. ไฟคอื โมหะ ง. ถูกทุกข้อ
๗. คนทถี่ ูกไฟคอื โมหะครอบงํา มลี ักษณะเชน่ ใด ?
ก. ลมุ่ หลงงมงาย ข. เช่ืองา่ ย
ค. ไร้เหตผุ ล ง. ถูกทกุ ข้อ
๘. การถือตนเป็นใหญ่ เรียกวา่ อะไร ?
ก. อัตตาธิปไตย ข. โลกาธปิ ไตย
ค. ธมั มาธิปไตย ง. ประชาธปิ ไตย
๙. การลงมติถือเสียงข้างมากเปน็ ใหญ่ เรียกวา่ อะไร ?
ก. อตั ตาธิปไตย ข. โลกาธปิ ไตย
ค. ธมั มาธิปไตย ง. ถูกทุกข้อ
๑๐. การยดึ ถือความถูกต้องเปน็ ใหญ่ เรียกว่าอะไร ?
ก. อัตตาธปิ ไตย ข. โลกาธปิ ไตย
ค. ธัมมาธปิ ไตย ง. ประชาธปิ ไตย
๑๑. สงั คมแตกแยกตา่ งความเหน็ กัน เพราะถืออะไรเปน็ ใหญ่ ?
ก. อตั ตาธปิ ไตย ข. โลกาธิปไตย
ค. ธมั มาธปิ ไตย ง. ถูกทกุ ขอ้
๑๒. ปญั ญาหย่งั ร้อู ะไร เรียกว่าญาณ ?
ก. อดตี ข. ปัจจุบัน
ค. อนาคต ง. เหตผุ ล
๑๓. ปรีชาหยงั่ รูอ้ ริยสจั เรียกว่าอะไร ?
ก. สจั จญาณ ข. กิจจญาณ
ค. กตญาณ ง. ถูกทุกขอ้
๑๔. ความทะยานอยากในวตั ถกุ าม จดั เปน็ ตณั หาใด ?
ก. กามตัณหา ข. ภวตัณหา
ค. วภิ วตณั หา ง. ถูกทกุ ขอ้
๙๖
๑๕. คนทต่ี ดิ ยึดในยศถาบรรดาศักด์ิ จัดได้ว่ามตี ัณหาใด ?
ก. กามตัณหา ข. ภวตณั หา
ค. วิภวตัณหา ง. ถูกทกุ ข้อ
๑๖. คําตอบในข้อใด เป็นความหมายของคําวา่ วัฏฏะ?
ก. เวียนตายเวยี นเกิด ข. ดับสูญ
ค. ปฏสิ นธิ ง. เกิด แก่ เจ็บ ตาย
๑๗. เพราะอะไร คนจึงตอ้ งเวียนว่ายตายเกิดในภพภูมติ า่ งๆ ?
ก. กิเลส กรรม วบิ าก ข. กิเลส ตัณหา
ค. กิเลส ผลกรรม ง. ตัณหา ผลกรรม
๑๘. จะตัดวัฏฏะใหข้ าด ตอ้ งตดั อะไรก่อน ?
ก. กรรม ข. กิเลส
ค. วิบาก ง. ถกู ทุกข้อ
๑๙. หลักอปสั เสนธรรม พิจารณาแลว้ ควรทาํ อย่างไร ?
ก. บรรเทา ข. อดกล้นั
ค. เวน้ ง. ถกู ทุกขอ้
๒๐. เจริญอัปปมญั ญาใด จงึ จะบรรเทาพยาบาทได้ ?
ก. เมตตา ข. กรณุ า
ค. มทุ ิตา ง. อเุ บกขา
๒๑. ความคดิ ทจ่ี ะช่วยผู้อ่ืนใหพ้ น้ ทกุ ข์ จัดเป็นอัปปมัญญาใด ?
ก. เมตตา ข. กรณุ า
ค. มุทติ า ง. อเุ บกขา
๒๒. ความพลอยยนิ ดี เมือ่ เห็นคนอื่นไดด้ ี จัดเป็นอัปปมญั ญาใด ?
ก. เมตตา ข. กรณุ า
ค. มุทิตา ง. อเุ บกขา
๒๓. อาวาสมัจฉริยะ หมายถงึ ความตระหนใี่ นเร่ืองใด ?
ก. เจ้าอาวาส ข. ถิ่นทีอ่ ยู่
ค. สกลุ ง. ลาภ
๙๗
๒๔. ลาภมัจฉริยะ หมายถงึ ความตระหน่ใี นเรอื่ งใด ?
ก. ถ่ินท่อี ยู่ ข. สกลุ
ค. ทรัพย์สมบตั ิ ง. วรรณะ
๒๕. หวงวิชาความรู้ จดั เป็นมจั ฉรยิ ะใด?
ก. กุลมจั ฉริยะ ข. ลาภมัจฉริยะ
ค. วัณณมัจฉริยะ ง. ธัมมมจั ฉริยะ
๒๖. พิจารณาร่างกายดว้ ยอาการอย่างไร จงึ จะไม่ถูกกามฉนั ท์ครอบงาํ ?
ก. ไม่งาม ข. นา่ เกลียด
ค. ปฏิกลู ง. ถกู ทกุ ข้อ
๒๗. คนท่คี ดิ จะฆ่าตัวตาย ควรแก้ด้วยการเจริญธรรมใด ?
ก. พทุ ธานุสสติ ข. ธมั มานสุ สติ
ค. สงั ฆานสุ สติ ง. ถูกทกุ ขอ้
๒๘. คนทีถ่ กู วจิ กิ จิ ฉานิวรณค์ รอบงํา มลี กั ษณะเชน่ ไร ?
ก. จองเวร ข. หดหู่
ค. ฟงุ้ ซา่ น ง. ลังเลสงสัย
๒๙. คนที่ถกู วจิ กิ ิจฉาครอบงํา ควรแก้ดว้ ยการเจรญิ ธรรมใด ?
ก. กสณิ ข. มรณสั สติ
ค. อสภุ ะ ง. วิปสั สนากมั มฏั ฐาน
๓๐. ความรู้สึกสบายใจ เรียกวา่ อะไร ?
ก. สุข ข. ทุกข์
ค. โสมนสั ง. โทมนสั
๓๑. ความรสู้ ึกเสยี ใจ เรียกวา่ อะไร ?
ก. สุข ข. ทกุ ข์
ค. โสมนสั ง. โทมนสั
๓๒. อุเบกขาเวทนา เกดิ ทางใด ?
ก. กาย ข. วาจา
ค. ใจ ง. กายกับใจ
๙๘
๓๓. เมอื่ สรุปรวม สุขกบั โสมนสั จดั เปน็ เวทนาใด ?
ก. สขุ เวทนา ข. ทุกขเวทนา
ค. โทมนัสเวทนา ง. อเุ บกขาเวทนา
๓๔. คนอารมณ์ฉนุ เฉยี วโกรธงา่ ยเป็นคนจรติ ใด ?
ก. ราคจรติ ข. โทสจรติ
ค. โมหจรติ ง. สัทธาจรติ
๓๕. คนอารมณ์ฉนุ เฉยี วโกรธงา่ ย ควรแกด้ ว้ ยการเจริญกมั มฏั ฐานใด ?
ก. พรหมวหิ าร ข. อานาปานสติ
ค. อสุภะ ง. จตุธาตุววตั ถาน
๓๖. คนทีเ่ ชื่อง่ายไร้เหตผุ ล จดั ได้ว่ามจี รติ ใด ?
ก. ราคจรติ ข. โทสจรติ
ค. โมหจริต ง. วติ ักกจริต
๓๗. คนทเ่ี ชือ่ ง่ายไรเ้ หตผุ ลควรแก้ดว้ ยการเจรญิ กัมมัฏฐานใด ?
ก. พรหมวหิ าร ข. กสิณ
ค. อสภุ ะ ง. จตธุ าตุววัตถาน
๓๘. คนย้ําคิดย้าํ ทาํ ขาดความม่นั ใจในตนเอง เป็นคนจรติ ใด ?
ก. ราคจรติ ข. โทสจริต
ค. โมหจริต ง. วิตักกจริต
๓๙. คนยา้ํ คิดย้าํ ทาํ ขาดความมัน่ ใจในตนเอง ควรเจริญกมั มฏั ฐานใด ?
ก. พรหมวิหาร ข. อานาปานสติ
ค. อสภุ ะ ง. จตธุ าตุววัตถาน
๔๐. คนจรติ ใด เน้นใช้ปญั ญามากกว่าอารมณ์ ?
ก. ราคจรติ ข. วิตักกจริต
ค. สัทธาจริต ง. พุทธจิ ริต
๔๑. อปรหิ านิยธรรม สง่ เสริมสงั คมในเรือ่ งใด ?
ก. สามัคคี ข. ความสงบ
ค. ความมั่นคง ง. ความร่าํ รวย
๙๙
๔๒. คําตอบในขอ้ ใด เป็นความหมายของสังฆคุณบทว่า สุปฏปิ นฺโน ?
ก. ปฏิบตั ดิ ี ข. ปฏบิ ัตติ รง
ค. ปฏิบตั ิเป็นธรรม ง. ปฏบิ ตั สิ มควร
๔๓. คําตอบในข้อใด เปน็ ความหมายของสงั ฆคณุ บทวา่ สามจี ปิ ฏปิ นโฺ น ?
ก. ปฏบิ ัตดิ ี ข. ปฏิบตั ติ รง
ค. ปฏิบัติเปน็ ธรรม ง. ปฏิบตั สิ มควร
๔๔. คําตอบในข้อใด เป็นความหมายของสงั ฆคุณบทว่า อาหุเนยฺโย ?
ก. ควรคาํ นบั ข. ควรต้อนรบั
ค. ควรของทําบญุ ง. ควรกราบไหว้
๔๕. คําตอบในข้อใด เปน็ ความหมายของสงั ฆคณุ บทว่า ทกขฺ ิเณยโฺ ย ?
ก. ควรคํานับ ข. ควรต้อนรบั
ค. ควรของทาํ บญุ ง. ควรกราบไหว้
๔๖. คําตอบในข้อใด เปน็ ความหมายของสงั ฆคุณบทว่า อญชฺ ลิกรณีโย ?
ก. ควรคาํ นับ ข. ควรต้อนรบั
ค. ควรของทําบญุ ง. ควรกราบไหว้
๔๗. บารมีข้อใด ไม่ใช่บารมี ๑๐ ?
ก. บญุ บารมี ข. ทานบารมี
ค. สีลบารมี ง. เนกขมั มบารมี
๔๘. คนทม่ี คี วามอดทนอดกลน้ั ไม่ลุอํานาจกิเลส จัดว่าบาํ เพ็ญบารมีใด?
ก. วิริยะ ข. ขนั ติ
ค. สัจจะ ง. อธิษฐาน
๔๙. คนทร่ี กั ษาสัจจะถงึ ขั้นยอมสละชีวติ ได้ชอื่ ว่าบาํ เพญ็ บารมรี ะดบั ใด ?
ก. สัจจบารมี ข. สจั จอปุ บารมี
ค. สัจจปรมัตถบารมี ง. ถูกทกุ ขอ้
๕๐.การตั้งใจแนว่ แนท่ ่ีจะละช่ัวทําดี จัดเปน็ การบําเพญ็ บารมใี ด ?
ก. เนกขัมมบารมี ข. วริ ิยบารมี
ค. อธษิ ฐานบารมี ง. เมตตาบารมี
๑๐๐
ปญั หาและเฉลยวชิ าพุทธประวตั ิ
ธรรมศกึ ษาชั้นโท ระดบั มัธยมศึกษา
สอบในสนามหลวง
วนั ศุกร์ ท่ี ๕ มนี าคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
๑. ผจู้ ุตมิ าจากที่ใด จะไมย่ นิ ดใี นกามารมณ์ ?
ก. เปตโลก ข. มนุษยโลก
ค. สวรรคโลก ง. พรหมโลก
๒. ปิปผลิมาณพ จตุ มิ าจากที่ใด ?
ก. เปตโลก ข. มนุษยโลก
ค. สวรรคโลก ง. พรหมโลก
๓. ปิปผลิมาณพ แต่งงานกบั สตรีใด ?
ก. นางภัททกาปลิ านี ข. นางสชุ าดา
ค. นางปฏาจารา ง. นางอุบลวรรณา
๔. ปิปผลิมาณพตัดสินใจออกบวช เพราะเห็นโทษในเร่อื งใด ?
ก. การครองศลี ข. การครองเรือน
ค. การครองธรรม ง. ถูกทกุ ข้อ
๕. ปิปผลมิ าณพ ได้พบกับพระพุทธเจ้า ณ ใต้ร่มไมใ้ ด?
ก. พหุปุตตกนโิ ครธ ข. อชปาลนิโครธ
ค. อสั สตั ถพฤกษ์ ง. มจุ ลินทร์