๑๕๑
ก. เทวดา ข. เปรต
ค. ปลา ง. นก
๗. คนทาํ บาปในชาตินีช้ าตหิ นา้ ไปเกดิ ท่ีไหน ?
ก. ดวงจันทร์ ข. ดาวอังคาร
ค. สวรรค์ ง. นรก
๘. ฆ่าสตั ว์ตดั ชีวิตเรียกว่าอะไร ?
ก. ปาณาติบาต ข. อทินนาทาน
ค. กาเมสมุ จิ ฉาจาร ง. มุสาวาท
๙. การฆ่าสตั วต์ ัดชวี ิต ในพระพุทธศาสนากล่าวไว้อย่างไร ?
ก. เป็นบาป ข. เป็นบุญ
ค. เป็นความดี ง. มีเมตตา
๑๐. คนฆา่ สตั วต์ ดั ชีวิตไดร้ ับผลกรรมเช่นใด ?
ก. ตกนรก ข. มโี รคมาก
ค. อายสุ ้ัน ง. ถูกทุกข้อ
๑๑. ลักขโมยของพอ่ แม่เรียกว่าอะไร ?
ก. ปาณาติบาต ข. อทินนาทาน
ค. กาเมสุมิจฉาจาร ง. มสุ าวาท
๑๒. คนท่วั ไปเรียกคนลักทรพั ย์ว่าอะไร ?
ก. ฆาตกร ข. หวั ขโมย
ค. คนเจ้าชู้ ง. นกั เลง
๑๓. คนลักขโมยของคนอ่ืนไดร้ บั ผลกรรมเชน่ ใด ?
ก. ติดคุก ข. ถกู ทําโทษ
ค. ตกนรก ง. ถกู ทุกขอ้
๑๔. การล่วงละเมดิ ทางเพศเรยี กว่าอะไร?
ก. ปาณาติบาต ข. อทินนาทาน
ค. กาเมสมุ ิจฉาจาร จ. มสุ าวาท
๑๕. รักเดียวใจเดยี วเกี่ยวข้องกบั กรรมบถใด ?
๑๕๒
ก. ปาณาติบาต ข. อทินนาทาน
ค. กาเมสมุ ิจฉาจาร ง. พยาบาท
๑๖. ชายต้องห้ามในอกุศลกรรมบถขอ้ ๓ หมายถึงใคร ?
ก. สามคี นอ่ืน ข. ภกิ ษุ
ค. สามเณร ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๗. คําพดู ในข้อใดตรงกับมุสาวาท ?
ก. คําโกหก ข. คํายอ
ค. คาํ หยาบ ง. คําไรส้ าระ
๑๘. คําพดู ในข้อใด ตรงกับปิสณุ วาจา ?
ก. คําสาบาน ข. คําส่อเสียด
ค. คาํ หยาบ ง. คาํ อธิษฐาน
๑๙. คําพูดในข้อใด ตรงผรุสวาจา ?
ก. คาํ ด่า ข. คําสาปแชง่
ค. คาํ หยาบ ง. ถกู ทกุ ข้อ
๒๐. คาํ พดู ในข้อใด ตรงกับสัมผัปปลาปะ ?
ก. คําหวาน ข. คําไพเราะ
ค. คําหยาบ ง. คําเพ้อเจอ้
๒๑. มสุ าวาทเป็นบาป เพราะเหตุใด?
ก. ให้เขาเจบ็ ใจ ข. ให้เขาหวาดกลัว
ค. ให้เขาแตกแยก ง. ใหเ้ ขาเข้าใจผิด
๒๒. ปิสุณวาจาเปน็ บาป เพราะเหตุใด?
ก. ให้เขาอบั อาย ข. ให้เขาหวาดกลวั
ค. ให้เขาแตกแยก ง. ให้เขาเขา้ ใจผิด
๒๓. ผรสุ วาจาเป็นบาป เพราะเหตุใด?
ก. ใหเ้ ขาเจ็บใจ ข. ให้เขางมงาย
ค. ให้เขาเห็นใจ ง. ให้เขาหลงใหล
๒๔. สัมผัปปลาปะเป็นบาป เพราะเหตุใด?
๑๕๓
ก. ไร้สาระ ข. ไร้ประโยชน์
ค. ทําใหเ้ สียเวลา ง. ถกู ทกุ ข้อ
๒๕. โคนันทวิศาลไมย่ อมลากเกวียน เพราะคําพดู ประเภทใด ?
ก. คาํ เทจ็ ข. คําหยาบ
ค. คาํ สอ่ เสยี ด ง. คําเพ้อเจ้อ
๒๖. คนพูดโกหก คนพูดคําหยาบ เมอ่ื ตายไป ย่อมได้รบั ผลกรรมใด ?
ก. ตกนรก ข. เปน็ เปรต
ค. เป็นอสรุ กาย ง. ถกู ทุกข้อ
๒๗. ข้อใดเป็นเศษกรรมของคนพูดมุสาวาท?
ก. โรคมาก ข. ยากจน
ค. อายุส้ัน ง. ไมน่ า่ เชื่อถอื
๒๘. ข้อใด เป็นเศษกรรมของคนพดู ส่อเสียด ?
ก. โรคมาก ข. แตกจากมิตร
ค. ถกู ฉ้อโกง ง. ถูกลอบทาํ ร้าย
๒๙. อภิชฌา คอื อะไร ?
ก. ความโลภอยากได้ ข. ความอาฆาต
ค. ความเหน็ ผิด ง. ความเห็นถูก
๓๐. พยาบาท คอื อะไร ?
ก. ความปองร้าย ข. ความอาฆาต
ค. ความโกรธแคน้ ง. ถูกทุกขอ้
๓๑. มจิ ฉาทิฏฐิ คอื อะไร ?
ก. ความดุร้าย ข. ความฉุนเฉยี ว
ค. ความเห็นผิด ง. ความเหน็ ถกู
๓๒. คนเราไม่เชอ่ื เรอื่ งบญุ บาป เพราะอกศุ ลกรรมบถใด ?
ก. อภิชฌา ข. พยาบาท
ค. มิจฉาทฏิ ฐิ ง. ถูกทกุ ขอ้
๓๓. คนมิจฉาทิฏฐมิ ีลกั ษณะเช่นไร ?
๑๕๔
ก. โลภมาก ข. ฉนุ เฉยี ว
ค. เห็นผดิ เปน็ ชอบ ง. อาฆาตมาดรา้ ย
๓๔. อกุศลกรรมบถใด มโี ทษมากท่ีสุด ?
ก. อภชิ ฌา ข. พยาบาท
ค. มจิ ฉาทิฏฐิ ง. มสุ าวาท
๓๕. ข้อใด เปน็ โทษของอกศุ ลกรรมบถ?
ก. ใหต้ กนรก ข. ให้เกดิ เป็นเปรต
ค. ใหเ้ กดิ เป็นสตั ว์ดิรัจฉาน ง. ถกู ทกุ ขอ้
๓๖. กรรมนําสัตวไ์ ปส่ภู พภูมทิ ่ดี ี เช่น เกิดเป็นมนุษย์หรอื เทวดา คือข้อใด ?
ก. กรรมบถ ข. กุศลกรรม
ค. กุศลกรรมบถ ง. อกุศลกรรมบถ
๓๗. การทําความดีของมนุษยเ์ รา ในวิชากรรมบถนก้ี ล่าวไวก้ ่อี ย่าง?
ก. ๕ อยา่ ง ข. ๘ อย่าง
ค. ๑๐ อย่าง ง. ๑๒ อยา่ ง
๓๘. กศุ ลกรรมบถใด ทาํ ใหม้ นษุ ยเ์ รามีเมตตาปรารถนาดีต่อกัน ?
ก. เวน้ ปาณาติบาต ข. เว้นอทินนาทาน
ค. เว้นมุสาวาท ง. เว้นผรสุ วาจา
๓๙. คนไม่ฆ่าสตั ว์ตัดชวี ิต จะไดร้ บั ผลกรรมใด ?
ก. มอี ายยุ ืน ข. มที รัพย์
ค. มีคนเชือ่ ถือ ง. มปี ัญญาดี
๔๐. คนซือ่ สตั ย์สจุ รติ ไม่ทุจริตคอรปั ช่ัน ชื่อว่าประพฤติกรรมบถใด ?
ก. เวน้ ปาณาตบิ าต ข. เว้นอทนิ นาทาน
ค. เวน้ มุสาวาท ง. เว้นปิสุณวาจา
๔๑. กรรมบถใด สามารถแก้ปัญหาการมั่วสุมทางเพศของวัยรนุ่ ได้ ?
ก. เวน้ ปาณาตบิ าต ข. เว้นกาเมสุมิจฉาจาร
ค. เว้นมุสาวาท ง. เวน้ ปิสณุ วาจา
๔๒. ไม่ฆา่ สตั ว์ ไมล่ กั ทรัพย์ ไมป่ ระพฤตผิ ดิ ในกาม จัดเขา้ ในข้อใด ?
๑๕๕
ก. กรรมบถ ข. กุศลกรรมบถ
ค. อกุศลกรรมบถ ง. ถูกทกุ ข้อ
๔๓. ผูจ้ ะงดเวน้ จากผรุสวาจา ควรใช้คําพูดเชน่ ไร ?
ก. คาํ ไพเราะ ข. คาํ สภุ าพ
ค. คําออ่ นโยน ง. ถูกทุกข้อ
๔๔. ผจู้ ะงดเวน้ จากสมั ผัปปลาปะ ควรใชค้ ําพดู เชน่ ไร ?
ก. คําจรงิ ข. คําสุภาพ
ค. คํามีสาระ ง. คาํ ไพเราะ
๔๕. บคุ คลประพฤตติ นเช่นไร เรียกว่าไม่ละโมบโลภมาก ?
ก. ไม่ทําร้ายใคร ข. ไมป่ ้ายสีใคร
ค. ไมด่ า่ ใคร ง. ไมอ่ ยากไดข้ องใคร
๔๖. ความคดิ ใด ไม่จัดเปน็ พยาบาท ?
ก. รแู้ พ้ ข. ร้ชู นะ
ค. รู้อภัย ง. ถูกทกุ ขอ้
๔๗. ความคดิ ใด เปน็ สมั มาทฏิ ฐิ ?
ก. กรรมให้ผลจรงิ ข. นรกสวรรค์มีจรงิ
ค. บญุ บาปมีจรงิ ง. ถูกทกุ ขอ้
๔๘. เหน็ ว่าพ่อแม่ครบู าอาจารยม์ ีบุญคณุ ต่อเรา ตรงกบั ขอ้ ใด ?
ก. อภชิ ฌา ข. พยาบาท
ค. สัมมาทิฏฐิ ง. มิจฉาทฏิ ฐิ
๔๙. ในวิชากรรมบถกลา่ ววา่ คนจะดหี รือเลว พิจารณาจากอะไร ?
ก. การกระทํา ข. คําพูด
ค. ความคดิ ง. ถูกทกุ ขอ้
๕๐. คนอยากไปเกิดบนสวรรคค์ วรตัง้ ตนอยใู่ นขอ้ ใด ?
ก. กศุ ลกรรมบถ ข. อกุศลกรรมบถ
ค. ทุจริต ง. บาปกรรม
๑๕๖
๑๕๗
ปัญหาและเฉลยข้อสอบ ธรรมศึกษาชน้ั เอก
ระดับชัน้ มัธยมศึกษา
๑๕๘
๑๕๙
๑๖๐
ปญั หาและเฉลยวชิ าธรรมวจิ ารณ์ ธรรมศึกษาชน้ั เอก
ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษา
สอบในสนามหลวง
วันศุกร์ ท่ี ๕ มนี าคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๔
๑. พุทธพจน์ว่า “จติ เฺ ตอสงฺกิลฏิ เฐสุคติ ปาฏิกงขฺ า” ยนื ยันเรือ่ งใด ?
ก. ตายแล้วเกิด ข. ตายแล้วสญู
ค. ตายแลว้ ฟน้ื ง. ถกู ทกุ ข้อ
๒. ภมู เิ ป็นท่ไี ปดีเรยี กว่าอะไร ?
ก. สุคติ ข. ทคุ ติ
ค. ภพ ง. คติ
๓. คาํ ตอบในข้อใด จดั เป็นทุคติ ?
ก. นิรยะ ข. ตริ จั ฉานโยนิ
ค. ปิตติวสิ ยะ ง. ถูกทุกข้อ
๔. เทวทตู หมายถึงใคร ?
ก. คนแก่ ข. คนเจบ็
ค. คนตาย ง. ถกู ทกุ ขอ้
๕. เทวทูตเปน็ สญั ญาณเตือนมนษุ ยใ์ ห้ตระหนกั ในเร่ืองใด ?
ก. ความไมโ่ ลภ ข. ความไม่โกรธ
ค. ความไม่หลง ง. ความไมป่ ระมาท
๑๖๑
๖. ในพาลปัณฑิตสูตร จัดสัตวด์ ิรจั ฉานไว้กปี่ ระเภท ?
ก. ๒ ข. ๓
ค. ๔ ง. ๕
๗. คาํ ว่า “เปตะ” หรือ เปรต มีความหมายกปี่ ระการ ?
ก. ๒ ข. ๓
ค. ๔ ง. ๕
๘. เทพที่อยใู่ ต้ปกครองของทา้ วเวปจิตติไดช้ อ่ื วา่ อสูร เพราะอะไร ?
ก. ไม่อาจหาญ ข. ไม่มอี สิ ระ
ค. ไม่เจรญิ รุ่งเรอื ง ง. ถกู ทุกข้อ
๙. สวรรคช์ ้นั ใด เป็นท่ีอยู่ของเทวดาสหาย ๓๓ องค์ ?
ก. ดาวดึงส์ ข. ยามา
ค. ดสุ ติ ง. นิมมานรดี
๑๐. กรรมมีกีป่ ระเภท ?
ก. ๘ ข. ๙
ค. ๑๐ ง. ๑๒
๑๑. กรรมใด ใหผ้ ลทันตาเห็น ?
ก. อโหสิกรรม ข. ชนกกรรม
ค. ทิฏฐธรรมเวทนยี กรรม ง. อุปฆาตกกรรม
๑๒. อปราปรเวทนยี กรรมหมายถึงกรรมที่ใหผ้ ลในเวลาใด ?
ก. ชาติน้ี ข. ชาตหิ น้า
ค. ชาตติ ่อๆไป ง. ถกู ทุกข้อ
๑๓. กรรมใด เปรยี บเหมือนพชื ส้นิ ยางแล้วเพาะปลูกไม่ขน้ึ ?
ก. ชนกกรรม ข. อโหสิกรรม
ค. พหุลกรรม ง. อาสนั นกรรม
๑๔. ชนกกรรม ทาํ หน้าท่ีอะไร ?
ก. แตง่ ให้เกดิ ข. สนับสนุน
ค. บบี ค้นั ง. ตัดรอน
๑๖๒
๑๕. อุปปฬี กกรรม ทําหน้าที่อะไร ? ข. สนับสนุน
ก. แต่งให้เกิด
ค. บบี คนั้ ง. ตัดรอน
๑๖. การถูกตดั สินประหารชีวติ จดั เป็นกรรมอะไร ?
ก. อโหสิกรรม ข. ชนกกรรม
ค. พหลุ กรรม ง. ทฏิ ฐธรรมเวทนยี กรรม
๑๗. กรรมท่ีทาํ บ่อย ๆ เรียกกว่าอะไร ?
ก. ครกุ รรม ข. พหลุ กรรม
ค. อาสันนกรรม ง. กตตั ตากรรม
๑๘. วิปสั สนากัมมัฏฐาน ท่านสอนให้พิจารณาเรอ่ื งอะไร ?
ก. ขนั ธ์ ๕ ข. อายตนะ ๑๒
ค. อินทรีย์ ๒๒ ง. ถูกทกุ ขอ้
๑๙. หัวใจสมถกัมมฏั ฐาน มีเท่าไร ?
ก. ๓ ข. ๔
ค. ๕ ง. ๖
๒๐. การพิจารณาร่างกายตนเองให้เหน็ ว่าไม่สวยไม่งามจดั เปน็ กมั มฏั ฐานใด ?
ก. กายคตาสติ ข. เมตตา
ค. กสณิ ง. จตธุ าตวุ วัตถาน
๒๑. พิจารณาว่า เรารักสขุ เกลียดทกุ ข์ฉนั ใด... เปน็ การเจริญกมั มัฏฐานใด ?
ก. กายคตาสติ ข. เมตตา
ค. กสิณ ง. พุทธานสุ สติ
๒๒. วธิ เี จริญกสิณ ต้องเจริญดว้ ยอาการอยา่ งไร ?
ก. เพ่ง ข. ยนื
ค. เดนิ ง. นงั่
๒๓. ธรรมโอสถขนานใด ใช้แก้กามฉันท์ ?
ก. พทุ ธานุสสติ ข. กายคตาสติ
ค. เมตตา ง. กสิณ
๑๖๓
๒๔. การเจรญิ พุทธานุสสติ แกน้ วิ รณ์ใด ? ข. พยาบาท
ก. กามฉันทะ
ค. ถีนมิทธะ ง. อุทธจั จกกุ กจุ จะ
๒๕. การเจริญกสณิ แก้นิวรณใ์ ด ?
ก. กามฉนั ทะ ข. พยาบาท
ค. ถีนมิทธะ ง. อุทธัจจกุกกุจจะ
๒๖. คนไมเ่ ช่อื ผลของบุญและบาป ควรเจรญิ กัมมัฏฐานใด ?
ก. กายคตาสติ ข. เมตตา
ค. กสณิ ง. จตธุ าตุววัตถาน
๒๗. ปีติ ความอ่มิ ใจ เป็นคู่ปรับกบั นิวรณใ์ ด ?
ก. กามฉนั ทะ ข. พยาบาท
ค. ถนี มิทธะ ง. อุทธัจจกุกกจุ จะ
๒๘. ผู้ที่ประมาทในวยั ควรพจิ ารณาเรือ่ งใดบอ่ ย ๆ ?
ก. ความเจ็บปว่ ย ข. ความแก่
ค. ความตาย ง. ความพลัดพราก
๒๙. ผู้ที่ประมาทในชีวิต ควรพจิ ารณาเรอื่ งใดบอ่ ย ๆ ?
ก. ความเจ็บป่วย ข. ความแก่
ค. ความตาย ง. ความพลัดพราก
๓๐. สติปฏั ฐาน เป็นการต้ังสติพจิ ารณาเรอ่ื งของใคร ?
ก. ตนเอง ข. บุคคลอนื่
ค. เพอ่ื น ง. ญาตพิ ่นี อ้ ง
๓๑. การเจรญิ สตปิ ัฏฐาน เหมาะกับคนวัยใด ?
ก. วยั รู้เดยี งสา ข. วัยกลางคน
ค. วัยชรา ง. ถกู ทุกขอ้
๓๒. ธรรมทเ่ี ป็นอารมณ์ของสมถกัมมัฏฐาน ตามนยั อรรถกถามีก่ีอย่าง ?
ก. ๑๐ ข. ๒๐
ค. ๓๐ ง. ๔๐
๑๖๔
๓๓. จะเจรญิ กสิณกมั มัฏฐานตอ้ งเพ่งอะไรให้จิตเป็นสมาธิ ?
ก. ดิน ข. นาํ้
ค. ไฟ ง. ถูกทกุ ขอ้
๓๔. การพิจารณาซากศพเพ่อื ให้จติ เป็นสมาธิ เป็นกัมมัฏฐานใด ?
ก. กสณิ ข. อสุภะ
ค. อนสุ สติ ง. จตธุ าตุววตั ถาน
๓๕. พุทธานุสสติ มีวิธีเจริญด้วยอาการอย่างไร ?
ก. สาธยาย ข. น้อมราํ ลึก
ค. พิจารณา ง. ถกู ทุกขอ้
๓๖. สตกิ ําหนดลมหายใจเข้าออก เรียกว่าอะไร ?
ก. สีลานุสสติ ข. อานาปานัสสติ
ค. เทวตานุสสติ ง. อปุ สมานุสสติ
๓๗. กายคตาสติ หมายถงึ การพิจารณาในเรือ่ งใด ?
ก. ผม ข. ขน
ค. เล็บ ง. ถกู ทุกข้อ
๓๘. การเจรญิ เมตตาพรหมวหิ าร ท่านสอนใหเ้ ริ่มทใี่ ครกอ่ น ?
ก. พอ่ แม่ ข. ครูอาจารย์
ค. สรรพสตั ว์ ง. ตนเอง
๓๙. ร่างกายบุคคลเคลอ่ื นไหวได้ เพราะอาศยั ธาตุใดเป็นสําคญั ?
ก. ปฐวธี าตุ ข. อาโปธาตุ
ค. เตโชธาตุ ง. วาโยธาตุ
๔๐. อากาสานัญจายตนะ มีคาํ บริกรรมวา่ อย่างไร ?
ก. อนนโฺ ต อากาโส ข. อนนฺตวํ ิญฺญาณํ
ค. นตถฺ ิกิญจฺ ิ ง. สนตฺ เมตํ ฯ
๔๑. คนมีลักษณะติดสวยตดิ งาม เป็นคนจรติ ใด ?
ก. ราคจริต ข. โทสจริต
ค. โมหจรติ ง. สัทธาจรติ
๑๖๕
๔๒. คนจรติ ดงั กล่าวในขอ้ ๔๑ ควรเจริญกมั มัฏฐานใด ?
ก. อสุภะ ข. อานาปานัสสติ
ค. จตุธาตุววัตถาน ง. อุปสมานสุ สติ
๔๓. คนท่ีมีความเชอ่ื งมงายขาดเหตผุ ล เป็นคนจริตใด ?
ก. ราคจริต ข. โมหจริต
ค. สัทธาจรติ ง. วติ กจริต
๔๔. คนจริตดงั กลา่ วในข้อ ๔๓ ควรเจริญกมั มฏั ฐานใด ?
ก. อสุภะ ข. อานาปานัสสติ
ค. จตุธาตุววตั ถาน ง. อปุ สมานสุ สติ
๔๕. การเจริญสมาธถิ ึงข้ันไหน จึงจะได้บรรลุปฐมฌาน ?
ก. บริกรรมภาวนา ข. อุปจารภาวนา
ค. อัปปนาภาวนา ง. ถกู ทกุ ขอ้
๔๖. ความในข้อใด เป็นความหมายของพุทธคณุ บทว่า สมฺมาสมพฺ ทุ ฺโธ ?
ก. เป็นพระอรหนั ต์ ข. ตรสั รู้เองโดยชอบ
ค. เสดจ็ ไปดี ง. รู้แจ้งโลก
๔๗. ความในขอ้ ใด เป็นความหมายของพุทธคณุ บทว่า พทุ โฺ ธ ?
ก. ผรู้ แู้ จง้ โลก ข. ผูเ้ สด็จไปดีแลว้
ค. ผ้มู โี ชค ง. ผ้รู ู้ ผู้ต่นื ผู้เบกิ บาน
๔๘. ผูท้ รงจาํ แนกพระธรรม เป็นความหมายของพุทธคุณบทใด ?
ก. อรหํ ข. สตถฺ า เทวมนุสฺสานํ
ค. พทุ ฺโธ ง. ภควา
๔๙. ปญั ญารูเ้ ห็นสภาวธรรมโดยอาการอย่างไร จดั เปน็ วิปสั สนากัมมฏั ฐาน ?
ก. ไม่เทีย่ ง ข. เป็นทุกข์
ค. เปน็ อนัตตา ง. ถูกทุกข้อ
๕๐. วิปัสสนูปกิเลสทที่ ําให้บคุ คลสาํ คัญตนว่าบรรลุมรรคผล คือข้อใด ?
ก. ญาณ ข. ปตี ิ
ค. อุเบกขา ง. ถูกทกุ ขอ้
๑๖๖
ปญั หาและเฉลยวชิ าพทุ ธานุพุทธประวตั ิ ธรรมศึกษาช้ันเอก
ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษา
สอบในสนามหลวง
วนั ศุกร์ ที่ ๕ มนี าคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
๑. พระเวสสันดรครน้ั ทิวงคตแล้ว ไปอุบัติในสวรรค์ชั้นใด ?
ก. ดาวดึงส์ ข. ยามา
ค. ดสุ ิต ง. นิมมานรดี
๒. เหตทุ ี่ทําให้เทวดาจุติจากเทวโลก มกี ่ีประการ ?
ก. ๒ ประการ ข. ๓ ประการ
ค. ๔ ประการ ง. ๕ ประการ
๓. ในปัจจบุ นั ชมพูทวีปคือดนิ แดนประเทศใด ?
ก. อินเดีย ข. จีน
ค. อินโดนีเซีย ง. เวยี ดนาม
๔. ชมพูทวีป แบง่ การปกครองออกเป็นก่ีส่วน ?
ก. ๑ ส่วน ข. ๒ สว่ น
ค. ๓ ส่วน ง. ๔ ส่วน
๕. ทิฏฐคิ อื ความเหน็ ของคนในชมพูทวีป แบ่งออกเป็นก่อี ย่าง ?
ก. ๒ อย่าง ข. ๓ อย่าง
ค. ๔ อย่าง ง. ๕ อย่าง
๑๖๗
๖. เมอื งกบิลพัสดุ์ ตั้งตามช่ือของดาบสใด ?
ก. กบลิ ดาบส ข. อสติ ดาบส
ค. อุททกดาบส ง. อาฬารดาบส
๗. สุทโธทนราชกุมารอภิเษกสมรสกับสตรีพระนางใด?
ก. พระนางปมติ า ข. พระนางอมติ า
ค. พระนางมายา ง. พระนางยโสธรา
๘. พระนางสริ ิมหามายา ประสตู ิพระโอรส ณ ภายใตต้ น้ ไมใ้ ด?
ก. ตน้ หว้า ข. ต้นสาละ
ค. ต้นโพธิ์ ง. ต้นไทร
๙. ตน้ ไม้ใด อบุ ตั ิข้ึนมาพร้อมกับพระโพธิสตั ว์ ?
ก. ต้นหว้า ข. ตน้ สาละ
ค. ต้นไทร ง. ตน้ โพธ์ิ
๑๐. พระโพธิสตั ว์ ได้รับการขนานพระนามว่าอย่างไร ?
ก. สิทธตั ถะ ข. นันทะ
ค. อานนั ทะ ง. อนุรุทธะ
๑๑. พระมารดาทวิ งคตขณะสทิ ธัตถราชกุมารประสูตไิ ด้ก่ีวัน?
ก. ๓ วัน ข. ๕ วนั
ค. ๗ วนั ง. ๙ วัน
๑๒. สิทธัตถราชกุมาร อภิเษกสมรสกับสตรพี ระนางใด ?
ก. พระนางปมิตา ข. พระนางอมติ า
ค. พระนางพมิ พา ง. พระนางรูปนันทา
๑๓. “ราหลุ ํ ชาตํ ...”สทิ ธตั ถราชกุมารตรสั ขณะทราบการประสตู ขิ องพระกุมารใด ?
ก. นันทกุมาร ข. อานันทกมุ าร
ค. อนรุ ุทธกุมาร ง. ราหุลกมุ าร
๑๔. สิทธัตถราชกุมาร ทรงตดั พระเมาลีด้วยสิ่งใด ?
ก. พระแสงกรรบิด ข. พระขรรค์
ค. พระแสงดาบ ง. พระแสงกริช
๑๖๘
๑๕. สมเดจ็ อมรินทราธริ าช นําพระเมาลไี ปไวท้ ่ีสวรรค์ช้ันใด ?
ก. ดาวดงึ ส์ ข. ยามา
ค. ดสุ ติ ง. นิมมานรดี
๑๖. พระมหาบรุ ษุ ทรงบําเพญ็ ทุกรกริ ิยาก่ีวาระ ?
ก. ๑ วาระ ข. ๒ วาระ
ค. ๓ วาระ ง. ๔ วาระ
๑๗. กลุ่มบคุ คลใด ออกบวชตามพระมหาบรุ ษุ ?
ก. ปัญจวัคคยี ์ ข. ภัททวคั คีย์
ค. ยสะและสหาย ง. ชฎลิ ๓ พี่น้อง
๑๘. พระมหาบรุ ษุ ทรงบําเพญ็ ทกุ รกริ ิยากี่ปี ?
ก. ๓ ปี ข. ๔ ปี
ค. ๕ ปี ง. ๖ ปี
๑๙. ส่ิงใด ทีน่ างสุชาดาถวายแด่พระมหาบุรุษ ?
ก. ข้าวมธุปายาส ข. ขนมคลุกงา
ค. ขนมกุมมาส ง. ขนมเบ้อื ง
๒๐. พระมหาบุรษุ ทรงอธิษฐานลอยถาด ทีแ่ ม่น้ําใด?
ก. คงคา ข. ยมุนา
ค. สรภู ง. เนรัญชรา
๒๑. พระมหาบุรุษทรงรับหญ้าคา ๘ กําจากผูใ้ ด ?
ก. กบลิ ดาบส ข. โสตถยิ พราหมณ์
ค. อุปกาชีวก ง. พาณิช ๒ พน่ี ้อง
๒๒. พระมหาบรุ ุษทรงอธษิ ฐานจะไมล่ ุกจากทน่ี ง่ั หากยงั ไมต่ รสั รู้ ภายใต้ตน้ ไม้ใด ?
ก. ต้นหว้า ข. ต้นสาละ
ค. ต้นโพธ์ิ ง. ต้นไทร
๒๓. พระมหาบุรษุ ได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในเวลาใด?
ก. เวลาเย็น ข. เวลาย่ําค่ํา
ค. เวลาเที่ยงคืน ง. เวลารุ่งเช้า
๑๖๙
๒๔. พระสมั มาสัมพุทธเจ้าทรงเสวยวมิ ตุ ติสขุ ในทตี่ า่ งๆทง้ั หมดกีส่ ปั ดาห์ ?
ก. ๕ สัปดาห์ ข. ๖ สัปดาห์
ค. ๗ สปั ดาห์ ง. ๘ สัปดาห์
๒๕. ระหว่างเสดจ็ ไปป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ทรงพบกบั ผู้ใด ?
ก. กบิลดาบส ข. โสตถิยพราหมณ์
ค. พาณิช ๒ พ่ีน้อง ง. อปุ กาชีวก
๒๖. พระพุทธเจ้าเสดจ็ ไปป่าอสิ ิปตนมฤคทายวัน เพ่ือโปรดใคร ?
ก. ปัญจวัคคีย์ ข. ภัททวัคคีย์
ค. ชฎิล ๓ พี่นอ้ ง ง. ปปิ ผลิมาณพ
๒๗. ฤษที ่านใด ได้ดวงตาเห็นธรรมเป็นคนแรก?
ก. โกณฑญั ญะ ข. วัปปะ
ค. ภัททิยะ ง. มหานามะ
๒๘. ผู้ใด ไดฟ้ ังธรรมจากพระพุทธเจ้าทป่ี ่าอิสิปตนมฤคทายวัน ?
ก. ยสกลุ บุตร ข. โกลิตปรพิ าชก
ค. อุปตสิ สปริพาชก ง. ปิปผลิมาณพ
๒๙. พระอรุ ุเวลกสั สปะ เคยเป็นนักบวชในลัทธิใด ?
ก. นิครนถ์ ข. เดียรถีย์
ค. ปริพาชก ง. ชฎิล
๓๐. พระพุทธเจ้าเสดจ็ ไปเมอื งราชคฤห์ เพื่อโปรดกษตั ริยพ์ ระองค์ใด?
ก. พิมพิสาร ข. สุทโธทนะ
ค. ปเสนทิโกศล ง. จัณฑปัชโชต
๓๑. กษตั รยิ ์พระองค์ใดทรงให้สร้างวดั ถวายในพระพุทธศาสนาเป็นองค์แรก?
ก. สุทโธทนะ ข. พิมพิสาร
ค. ปเสนทิโกศล ง. จัณฑปัชโชต
๓๒. พระสารบี ุตรบรรลุพระอรหัตตผล ขณะฟังธรรมที่พระพุทธเจา้ แสดงแก่ใคร?
ก. อุปกาชีวก ข. ทีฆนขปริพาชก
ค. ปิปผลมิ าณพ ง. ยสกุลบุตร
๑๗๐
๓๓. พระพุทธเจ้าทรงแสดงอุบายระงับความง่วงแก่พระเถระใด ?
ก. พระยสะ ข. พระสารีบุตร
ค. พระโมคคัลลานะ ง. พระมหากัสสปะ
๓๔. มาณพก่ีคน ทพี่ ราหมณ์พาวรสี ่งไปทูลถามปัญหากบั พระพุทธเจ้า?
ก. ๑๖ คน ข. ๑๗ คน
ค. ๑๘ คน ง. ๑๙ คน
๓๕. ราธพราหมณ์ได้บวชเป็นพระภกิ ษุ เพราะความกตญั ญูของพระเถระใด?
ก. พระมหากัสสปะ ข. พระโมคคัลลานะ
ค. พระสารบี ุตร ง. พระอานนท์
๓๖. พระพุทธเจ้าเสดจ็ ไปทรงโปรดพระพุทธบิดา ณ สถานที่ใด ?
ก. สวรรคช์ ้ันดาวดึงส์ ข. เมอื งกบิลพัสดุ์
ค. เมืองเทวทหะ ง. เมืองอุชเชนี
๓๗. วดั ใด ที่พระประยูรญาตสิ ร้างถวายเปน็ ที่ประทับของพระพุทธเจ้า ?
ก. เวฬุวนาราม ข. เชตวนาราม
ค. บุพพาราม ง. นิโครธาราม
๓๘. พระพุทธเจ้าทรงแสดงจันทกนิ นรชาดก เพ่ือละความโศกเศร้าของใคร ?
ก. พระพุทธบดิ า ข. พระพุทธมารดา
ค. พระนางพมิ พา ง. พระนางรูปนันทา
๓๙. ราหุลกมุ ารทรงไดร้ ับการบรรพชาดว้ ยวิธีใด ?
ก. เอหภิ ิกขุ ข. รับโอวาท ๓
ค. รับไตรสรณคมน์ ง. ญัตติจตุตถกรรม
๔๐. ราชกุมารพระองค์ใด มิได้ประสตู ิในศากยวงศ์ ?
ก. เทวทตั ข. อนุรุทธะ
ค. ภัคคุ ง. กิมพลิ ะ
๔๑. พระอานนท์บรรลุเป็นพระโสดาบัน เพราะไดฟ้ ังโอวาทจากพระเถระใด ?
ก. พระสารีบตุ ร ข. พระอุบาลี
ค. พระสิวลี ง. พระปุณณมนั ตานีบุตร
๑๗๑
๔๒. พระพุทธเจ้าเสดจ็ จําพรรษาท่ีสวรรค์ช้ันดาวดึงส์ เพ่อื โปรดใคร?
ก. พระพุทธบิดา ข. พระพุทธมารดา
ค. พระน้านาง ง. ชาวสวรรค์
๔๓. โสณโกฬวิ ิสกลุ บุตร ทูลขอบวชกับพระพุทธเจ้า ณ สถานทีใ่ ด ?
ก. ถํ้าสกุ รขาตา ข. ถ้ําสัตตบรรณคูหา
ค. เขาคิชฌกฏู ง. เขาเวภาระ
๔๔. พระรัฐบาล ไดส้ ําเร็จเปน็ พระอริยบคุ คลชั้นใด ?
ก. พระโสดาบัน ข. พระสกทาคามี
ค. พระอนาคามี ง. พระอรหนั ต์
๔๕. พญามารมาเข้าเฝ้าทูลอาราธนาพระพุทธเจ้าให้ทําอะไร ?
ก. ประสตู ิ ข. ตรัสรู้
ค. แสดงปฐมเทศนา ง. ปรินิพพาน
๔๖. พระพุทธเจ้า ทรงรับบิณฑบาตคร้ังสุดท้ายจากใคร ?
ก. นางสุชาดา ข. นางวิสาขา
ค. อนาถบณิ ฑิกะ ง. นายจุนทกัมมารบตุ ร
๔๗. พระพุทธเจ้าเสดจ็ ดับขันธปรินิพพานในราตรีดิถีเพ็ญเดือนใด ?
ก. เดือน ๓ ข. เดือน ๖
ค. เดือน ๘ ง. เดอื น ๑๒
๔๘. สถานท่ีใด เป็นที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพพระพุทธเจ้า ?
ก. มกฏุ พันธนเจดีย์ ข. ปวาลเจดีย์
ค. รัตนฆรเจดีย์ ง. อานนั ทเจดยี ์
๔๙. ผใู้ ด ทําหน้าทแ่ี บ่งพระบรมสารรี ิกธาตุ ?
ก. วังคนั ตพราหมณ์ ข. โทณพราหมณ์
ค. ราธพราหมณ์ ง. พาวรีพราหมณ์
๕๐. พระนางปชาบดีโคตมี ทรงได้รับบรรพชาอุปสมบทด้วยวิธีใด ?
ก. เอหิภกิ ขุ ข. รับโอวาท ๓
ค. รับไตรสรณคมน์ ง. รับครธุ รรม ๘
๑๗๒
ปญั หาและเฉลยวิชากรรมบถ (วนิ ยั ) ธรรมศกึ ษาชั้นเอก
ระดับชนั้ มัธยมศึกษา
สอบในสนามหลวง
วันศกุ ร์ ท่ี ๕ มีนาคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๔
๑. พระพุทธศาสนาสอนใหเ้ ชอ่ื เรือ่ งใด ?
ก. กรรม ข. ปาฏิหาริย์
ค. โหราศาสตร์ ง. ไสยศาสตร์
๒. สัตว์โลกมีท้งั สขุ และทุกขด์ ้วยอาํ นาจอะไร ?
ก. บุญ ข. บาป
ค. กรรม ง. บาปเคราะห์
๓. กรรมเป็นเหตนุ ําสัตว์ไปสู่สุคติและทคุ ตเิ รยี กว่าอะไร ?
ก. กรรมลขิ ิต ข. กรรมบถ
ค. กรรมฐาน ง. กรรมกิเลส
๔. กรรมบถ มคี วามหมายตรงกับขอ้ ใด?
ก. ทางทาํ กรรม ข. ผลของกรรม
ค. เร่อื งของกรรม ง. การชดใช้กรรม
๕. ขอ้ ใด กล่าวเรือ่ งกรรมในพระพทุ ธศาสนาได้ถูกตอ้ ง ?
ก. ตดั กรรมได้ ข. ถอนกรรมได้
ค. แกก้ รรมได้ ง. รบั ผลกรรม
๑๗๓
๖. ขอ้ ใด เป็นความหมายของกศุ ลกรรมบถ ?
ก. ทางแห่งความดี ข. ทางแห่งกรรม
ค. ทางแหง่ อบาย ง. ทางก้าวหน้า
๗. อกศุ ลกรรม นาํ สตั ว์ให้ไปเกดิ เปน็ อะไร?
ก. มนษุ ย์ ข. เทวดา
ค. พรหม ง. สัตว์ดิรจั ฉาน
๘. ขอ้ ใด เป็นเหตจุ ูงใจให้บคุ คลประพฤติอกศุ ลกรรมบถ ?
ก. โลภะ ข. โทสะ
ค. โมหะ ง. ถกู ทกุ ขอ้
๙. เมื่อโทสะเกดิ ขึ้นหากระงับไม่ได้จะทาํ ให้คนเราทาํ ความผิดใด ?
ก. ฆ่ากนั ข. ลกั ขโมยกัน
ค. นอกใจกนั ง. โกหกกัน
๑๐. คําวา่ มือเป้ือนเลือด มีความหมายตรงกับอกศุ ลกรรมบถใด ?
ก. ปาณาตบิ าต ข. อทินนาทาน
ค. มุสาวาท ง. สมั ผัปปลาปะ
๑๑. ฆา่ โดยอาการใดมีโทษมากที่สดุ ?
ก. เพือ่ ป้องกันตวั ข. ไตร่ตรองไวก้ อ่ น
ค. บันดาลโทสะ ง. ป้องกนั โรค
๑๒. ปาณาตบิ าต เป็นกรรมประเภทใด?
ก. กายกรรม ข. วจีกรรม
ค. มโนกรรม ง. ถูกทุกข้อ
๑๓. การทจุ รติ ทรพั ย์สนิ ของชาติ เปน็ อกุศลกรรมบถใด ?
ก. ปาณาติบาต ข. อทินนาทาน
ค. มุสาวาท ง. พยาบาท
๑๔. ความละโมบโลภมาก เป็นเหตุใหค้ นเราทําอกุศลกรรมบถใด ?
ก. อทินนาทาน ข. กาเมสมุ จิ ฉาจาร
ค. ผรุสวาจา ง. มุสาวาท
๑๗๔
๑๕. ยกั ยอกทรพั ยป์ ระเภทใดเปน็ อทนิ นาทาน ?
ก. เงินชดเชยโควิด ข. เงินผสู้ ูงอายุ
ค. เงินประกันสงั คม ง. ถูกทุกขอ้
๑๖. ข้อใด เปน็ หญงิ ตอ้ งห้ามในอกศุ ลกรรมบถขอ้ ๓ ?
ก. หญงิ มสี ามี ข. หญิงมญี าติรกั ษา
ค. หญงิ มธี รรมรักษา ง. ถกู ทกุ ขอ้
๑๗. กาเมสมุ ิจฉาจารหมายถงึ ข้อใด ?
ก. ไมเ่ คารพพอ่ แม่ ข. ไม่เชอ่ื ฟงั ผ้ใู หญ่
ค. นอกใจคู่ครอง ง. ไม่ทาํ ตามกตกิ า
๑๘. การคบซ้อน มคี วามหมายสอดคลอ้ งกบั อกศุ ลกรรมบถใด?
ก. อทนิ นาทาน ข. กาเมสมุ จิ ฉาจาร
ค. มสุ าวาท ง. ผรสุ วาจา
๑๙. ขอ้ ใด เปน็ ผลกระทบเกิดจากกาเมสมุ จิ ฉาจาร ?
ก. เสพยาเสพตดิ ข. ทาํ ร้ายพอ่ แม่
ค. ละเมดิ ทางเพศ ง. ทุจริตคอรัปชั่น
๒๐. ขอ้ ใด เป็นมุสาวาทเกิดข้ึนทางกาย ?
ก. พดู เท็จ ข. สงั่ ให้พดู เทจ็
ค. ให้การเทจ็ ง. ปลอมลายเซ็น
๒๑. มุสาวาทเกิดผลเสยี แกค่ นอื่นอย่างไร ?
ก. ให้เสียประโยชน์ ข. ใหเ้ จบ็ ใจ
ค. ให้แตกแยก ง. ใหง้ มงาย
๒๒. โทษเบาท่ีสดุ ในการพูดมสุ าวาท คือขอ้ ใด ?
ก. ขาดความนับถอื ข. ขัดสนเงนิ ทอง
ค. วิกลจริต ง. อายุสั้น
๒๓. คําพดู สอ่ เสียดเกดิ ผลเสียแกค่ นอน่ื อย่างไร?
ก. ให้เสียประโยชน์ ข. ใหเ้ จบ็ ใจ
ค. ให้แตกแยก ง. ให้งมงาย
๑๗๕
๒๔. คําพดู ประเภทใด ผพู้ ูดมีเจตนามุ่งทาํ ลายจติ ใจผู้ฟงั ?
ก. มสุ าวาท ข. ผรสุ วาจา
ค. ปสิ ณุ วาจา ง. สมั ผัปปลาปะ
๒๕. เมือ่ ต้องการให้เกดิ ความสามคั คใี นสงั คม ควรเวน้ คําพดู เชน่ ใด ?
ก. คําสัตย์ ข. คาํ ไพเราะ
ค. คาํ ยยุ ง ง. คาํ หยาบ
๒๖. เจตนาเป็นเหตใุ ห้พูดคาํ หยาบ เรียกวา่ อะไร ?
ก. มสุ าวาท ข. ปสิ ณุ วาจา
ค. ผรสุ วาจา ง. สัมผัปปลาปะ
๒๗. ถอ้ ยคําที่ไรป้ ระโยชนส์ ําหรับผฟู้ ัง เรียกว่าอะไร ?
ก. มุสาวาท ข. ปสิ ุณวาจา
ค. ผรสุ วาจา ง. สัมผปั ปลาปะ
๒๘. พูดเอาดใี สต่ ัว เอาช่ัวใสผ่ ู้อ่ืน เป็นอกุศลกรรมบถใด ?
ก. มสุ าวาท ข. ปสิ ุณวาจา
ค. ผรสุ วาจา ง. สัมผปั ปลาปะ
๒๙. ขอ้ ใด เปน็ กศุ ลกรรมบถท่เี กิดข้นึ ทางกาย ?
ก. ไมล่ กั ทรพั ย์ ข. ไม่ละโมบ
ค. ไมพ่ ยาบาท ง. เหน็ ชอบ
๓๐. กรรมท่ีเกดิ ข้นึ ทางใจ เรยี กว่าอะไร ?
ก. กายกรรม ข. วจีกรรม
ค. มโนกรรม ง. ถกู ทุกขอ้
๓๑. ข้อใดเป็นมโนกรรมฝ่ายอกุศล ?
ก. อภิชฌา ข. พยาบาท
ค. มจิ ฉาทิฏฐิ ง. ถูกทุกขอ้
๓๒. ความเพ่งเลง็ อยากได้ของผอู้ ่นื เป็นอกุศลกรรมบถใด ?
ก. อภชิ ฌา ข. พยาบาท
ค. มิจฉาทิฏฐิ ง. ถกู ทุกข้อ
๑๗๖
๓๓. ความเห็นผดิ จากคลองธรรม เรยี กว่าอะไร ?
ก. สัมมาทิฏฐิ ข. อภิชฌา
ค. อวิชชา ง. มจิ ฉาทิฏฐิ
๓๔. ข้อใดเพียงแต่คดิ ในใจก็สําเรจ็ เป็นกรรมบถแล้ว?
ก. ปาณาติบาต ข. อทินนาทาน
ค. สมั ผปั ปลาปะ ง. มจิ ฉาทิฏฐิ
๓๕. การกระทําทางกาย วาจา ใจ จะสาํ เรจ็ เปน็ กรรมบถได้ ขึน้ อย่กู บั อะไร?
ก. เจตนา ข. อารมณ์
ค. ความประมาท ง. ขาดสติ
๓๖. เม่ือไม่คิดโลภอยากได้ของใคร เปน็ เหตุใหป้ ระพฤติกุศลกรรมบถใด ?
ก. เวน้ ฆา่ สัตว์ ข. เว้นลักทรัพย์
ค. เว้นประพฤติผิดในกาม ง. ถกู ทกุ ข้อ
๓๗. ความไม่เพง่ เล็งอยากไดข้ องผอู้ ื่น เรียกว่าอะไร ?
ก. อภิชฌา ข. อนภิชฌา
ค. มจิ ฉาทิฏฐิ ง. สัมมาทิฏฐิ
๓๘. เวรย่อมระงับดว้ ยการไมจ่ องเวร หมายถงึ กุศลกรรมบถใด ?
ก. อภชิ ฌา ข. อนภิชฌา
ค. พยาบาท ง. อพยาบาท
๓๙. คนเช่นไร ไดช้ ื่อว่าต้ังตนอยูค่ วามไมพ่ ยาบาท?
ก. ไมค่ ดิ โลภ ข. ไม่ผกู โกรธ
ค. ไมง่ มงาย ง. ไมน่ อกใจ
๔๐. กุศลกรรมบถขอ้ ที่ ๑ ช่วยลดพฤติกรรมใด ?
ก. ความโหดรา้ ย ข. ความเหน็ แก่ตัว
ค. ความมกั มากในกาม ง. ความไมซ่ อ่ื ตรง
๔๑. กศุ ลกรรมบถขอ้ ที่ ๓ ส่งเสรมิ ความซ่อื สัตยร์ ะหว่างใคร ?
ก. นายกับบ่าว ข. มติ รสหาย
ค. สามีภรรยา ง. พ่ีน้อง
๑๗๗
๔๒. กศุ ลกรรมบถข้อ ๔ มุ่งให้คนเราพูดคาํ เช่นไร ?
ก. คําจรงิ ข. คาํ ไพเราะ
ค. คาํ อ่อนหวาน ง. คาํ คม
๔๓. ความเห็นใด ปฏิเสธกรรมและผลกรรมอย่างสิน้ เชิง ?
ก. สัมมาทิฏฐิ ข. มจิ ฉาทฏิ ฐิ
ค. สกั กายทฏิ ฐิ ง. สสั สตทฏิ ฐิ
๔๔. ความคิดเช่นใด เป็นกุศลกรรมบถ ?
ก. ทําชัว่ ไดด้ ี ข. ทาํ ดไี ดช้ ัว่
ค. ทาํ ดีไมไ่ ดช้ ่ัว ง. ถกู ทกุ ขอ้
๔๕. กรรมบถใด จดั เขา้ ในอริยมรรคมีองค์ ๘?
ก. อนภิชฌา ข. อพยาบาท
ค. สมั มาทฏิ ฐิ ง. ถกู ทกุ ข้อ
๔๖. ความเหน็ วา่ พอ่ แม่เป็นผู้มพี ระคุณ เป็นทิฏฐิใด ?
ก. สมั มาทิฏฐิ ข. นัตถกิ ทฏิ ฐิ
ค. อเหตกุ ทฏิ ฐิ ง. อกิริยทิฏฐิ
๔๗. มีใจฝักใฝ่ในการเจรญิ กรรมฐาน ตรงกับอุปนิสัยใด ?
ก. ทานปู นิสยั ข. สลี ูปนิสัย
ค. ภาวนูปนิสยั ง. ถูกทกุ ข้อ
๔๘. การไมเ่ บียดเบียนกนั ในโลก ตรงกับอปุ นสิ ยั ใด ?
ก. ทานูปนสิ ยั ข. สลี ปู นสิ ัย
ค. ภาวนปู นิสัย ง. ถูกทกุ ขอ้
๔๙. กศุ ลกรรมบถ ๑๐ ประการจัดเขา้ ในหลักธรรมใด ?
ก. ทาน ข. ศีล
ค. สมาธิ ง. ปัญญา
๕๐. กศุ ลกรรมบถ ๑๐ ประการ ใหผ้ ลแกผ่ ู้ปฏิบตั ิตามอยา่ งไร ?
ก. ได้บุญ ข. เป็นคนดี
ค. เกดิ ในสคุ ติ ง. ถูกทกุ ข้อ
๑๗๘
๑๗๙
ปัญหาและเฉลยข้อสอบ ธรรมศึกษาช้ันเอก
ระดับชัน้ อดุ มศึกษาและประชาชนท่ัวไป
๑๘๐
๑๘๑
๑๘๒
ปัญหาและเฉลยวิชาธรรมวจิ ารณ์ ธรรมศกึ ษาช้ันเอก
ระดบั อุดมศึกษาและประชาชาชนท่วั ไป
สอบในสนามหลวง
วันศุกร์ ที่ ๕ มีนาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๔
๑. นพิ พิทา ความหน่าย เกดิ จากปัญญาพจิ ารณาเห็นสังขารอยา่ งไร ?
ก. ไมเ่ ทย่ี ง ข. เป็นทกุ ข์
ค. เปน็ อนตั ตา ง. ถกู ทุกข้อ
๒. ในคําว่า “เอถ ปสฺสถิมํ โลก”ํ โลกโดยอ้อม หมายถงึ อะไร ?
ก. หมสู่ ตั ว์ ข. แผ่นดนิ ที่อาศยั
ค. มหาสมุทร ง. จกั รวาล
๓. ขอ้ ใด เปน็ อาการสํารวมจติ ?
ก. สํารวมอนิ ทรยี ์ ข. มนสกิ ารกัมมัฏฐาน
ค. เจรญิ วิปสั สนา ง. ถูกทุกข้อ
๔. ตัณหา ราคะ จดั ว่าเปน็ มาร เพราะเหตุใด ?
ก. ทาํ ใหเ้ สียคน ข. ทําให้เสียงาน
ค. ทําให้เสียการเรยี น ง. ทําให้เสียชวี ิต
๕. วัตถุกาม จดั ว่าเป็นบว่ งแห่งมาร เพราะเหตใุ ด ?
ก. ผูกมดั กาย ข. ผกู มดั วาจา
ค. ผูกมดั จติ ใจ ง. ถูกทกุ ขอ้
๑๘๓
๖. เหน็ สงั ขารไม่เทีย่ งเปน็ ทกุ ขด์ ว้ ยอะไร จึงหนา่ ยในทุกข์ ?
ก. สติ ข. ปญั ญา
ค. สมาธิ ง. ฌาน
๗. เหน็ สังขารอยา่ งไร เปน็ ทางแห่งวิสุทธิ ?
ก. ไม่เทย่ี ง ข. เปน็ ทกุ ข์
ค. เปน็ อนัตตา ง. ถกู ทุกข้อ
๘. คาํ ว่า “สงั ขาร”ในปฏปิ ทาแห่งนพิ พทิ า หมายถงึ อะไร ?
ก. ขันธ์ ๑ ข. ขันธ์ ๔
ค. ขันธ์ ๕ ง. ขนั ธ์ ๘
๙. ระยะกาลระหว่างเกิดและดบั แหง่ สังขารมนษุ ย์ ท่านกําหนดเกณฑไ์ ว้กปี่ ี ?
ก. ๘๐ ปี ข. ๙๐ ปี
ค. ๑๐๐ ปี ง. ๑๒๐ ปี
๑๐. ทุกขตา กาํ หนดเห็นไดด้ ว้ ยทกุ ข์ก่ีอย่าง ?
ก. ๔ ข. ๖
ค. ๘ ง. ๑๐
๑๑. สภาวทุกข์ คอื ทกุ ข์ประจาํ สงั ขาร หมายถงึ ทุกข์ในขอ้ ใด?
ก. เกิดแก่ตาย ข. หนาวรอ้ นหวิ
ค. เศร้าโศกเสยี ใจ ง. เจ็บป่วยไข้
๑๒. ปกณิ ณกทุกข์ คอื ทกุ ข์จรหมายถึงทกุ ข์ในขอ้ ใด ?
ก. ความเศรา้ โศก ข. ความหิว
ค. ความร้อนใจ ง. การทะเลาะวิวาท
๑๓. นพิ ัทธทกุ ข์ คือทุกขเ์ นอื งนิตย์ หมายถงึ ทกุ ข์ในข้อใด ?
ก. ความเศร้าโศก ข. ความหิว
ค. ความร้อนใจ ง. การทะเลาะวิวาท
๑๔. ทกุ ข์เพราะถูกไฟกิเลสเผา หมายถงึ ขอ้ ใด?
ก. สภาวทุกข์ ข. พยาธิทุกข์
ค. วิปากทกุ ข์ ง. สนั ตาปทกุ ข์
๑๘๔
๑๕. อนตั ตตา กาํ หนดรูไ้ ด้ดว้ ยอาการอย่างไร ?ข. หาเจ้าของมิได้
ก. ไมอ่ ยู่ในอํานาจ
ค. เป็นสภาพสญู ง. ถกู ทุกข้อ
๑๖. เนโสหมสมฺ ิ นัน่ มิใชเ่ รา เปน็ ลักษณะของสังขารท่ีเรียกวา่ อะไร ?
ก. อนิจจัง ข. ทุกขงั
ค. อนัตตา ง. ถูกทุกขอ้
๑๗. ภาวะท่ีจติ ปราศจากความกําหนดั ยินดีในกาม เรียกว่าอะไร ?
ก. นพิ พทิ า ข. วริ าคะ
ค. วสิ ุทธิ ง. วมิ ตุ ติ
๑๘. ความกระหายในคําว่า ปิปาสวินโยมสี าเหตมุ าจากอะไร ?
ก. ตัณหา ข. ราคะ
ค. โทสะ ง. โมหะ
๑๙. วฏั ฏะ ในคาํ ว่า วฏฏฺ ูปจเฺ ฉโท หมายถึงความเวียนเกดิ ในภมู ใิ ด ?
ก. กามาวจรภมู ิ ข. รูปาวจรภมู ิ
ค. อรปู าวจรภูมิ ง. ถูกทุกข้อ
๒๐. การระงบั อกศุ ลที่เกิดขนึ้ ในจิตไดเ้ ปน็ คราว ๆ จัดเปน็ วิมุตตใิ ด ?
ก. ตทงั ควมิ ุตติ ข. วิกขัมภนวมิ ตุ ติ
ค. สมุจเฉทวมิ ตุ ติ ง. นสิ สรณวมิ ตุ ติ
๒๑. วสิ ทุ ธิ ความหมดจดจะเกดิ ขึน้ ไดด้ ้วยอาศัยธรรมใด ?
ก. สติ ข. ขันติ
ค. ปัญญา ง. สจั จะ
๒๒. พดู ดีทําดี จดั เปน็ วิสทุ ธิใด ?
ก. สีลวสิ ทุ ธิ ข. จิตตวิสทุ ธิ
ค. ทิฏฐิวสิ ุทธิ ง. กงั ขาวติ รณวสิ ุทธิ
๒๓. ผมู้ ุ่งสันติ ควรละอะไร ?
ก. ลาภ ข. ยศ
ค. สรรเสริญ ง. โลกามิส
๑๘๕
๒๔. นิพพาน มีกปี่ ระเภท ?
ก. ๑ ข. ๒
ค. ๓ ง. ๕
๒๕. ธรรมทเ่ี ป็นทางไมต่ าย หมายถงึ ข้อใด?
ก. ความไม่โกรธ ข. ความไม่ประมาท
ค. ความไม่ริษยา ง. ความไม่โลภ
๒๖. คําตอบในข้อใด เป็นความหมายของอนุปาทิเสสนิพพาน?
ก. สนิ้ กเิ ลส ข. ส้นิ ชีวิต
ค. ส้นิ กเิ ลสชีวิตยงั ง. ส้นิ กิเลสสิ้นชีวติ
๒๗. คําว่า “เรอื ” ในพระพุทธดํารัสว่า ภกิ ษุเธอจงวิดเรอื น้ี... หมายถึงอะไร ?
ก. อตั ภาพ ข. สงั คม
ค. โลก ง. หมสู่ ัตว์
๒๘. ภมู ิเปน็ ทไี่ ปเกดิ ของผู้ประกอบอกุศลกรรม โดยรวมเรียกวา่ อะไร ?
ก. ทุคติ ข. อบาย
ค. นิรยะ ง. วินบิ าต
๒๙. เปรตทไี่ ด้เสวยสุขเพียงช่ัวครแู่ ลว้ เสวยทุกข์สลับกันไป เรียกว่าอะไร ?
ก. วนั ตาสเปรต ข. เวมานกิ เปรต
ค. สจุ มิ ขุ เปรต ง. ปรทตั ตูปชีวีเปรต
๓๐. ในเทวทตู สูตร เด็กวัยใดจดั เปน็ เทวทูต ?
ก. เดก็ แรกเกิด ข. เดก็ ๒ ขวบ
ค. เด็ก ๓ ขวบ ง. เด็ก ๗ ขวบ
๓๑. กามาพจรสวรรค์ มกี ่ีชนั้ ?
ก. ๕ ข. ๖
ค. ๗ ง. ๘
๓๒. พรหมโลก มีกชี่ นั้ ?
ก. ๑๖ ข. ๒๐
ค. ๓๐ ง. ๔๐
๑๘๖
๓๓. พระอนาคามีละสังขารแลว้ ไปเกดิ ในพรหมโลกช้ันใด ?
ก. มหาพรหมา ข. อาภสั สรา
ค. ปริตตสุภา ง. สทุ ธาวาส
๓๔. การถกู ตัดสินประหารชวี ติ ตายตกตามกัน จดั เป็นกรรมอะไร ?
ก. ทิฏฐธรรมเวทนยี กรรม ข. อโหสิกรรม
ค. ชนกกรรม ง. พหุลกรรม
๓๕. กรรมท่ีจะต้องไดร้ บั เมื่อไปเกิดในภพหนา้ เรยี กว่าอะไร ?
ก. อโหสกิ รรม ข. อปุ ปชั ชเวทนียกรรม
ค. ชนกกรรม ง. พหุลกรรม
๓๖. กรรมดที น่ี ําไปสู่สุคติ เรียกว่าอะไร ?
ก. อโหสกิ รรม ข. ครุกรรม
ค. ชนกกรรม ง. พหุลกรรม
๓๗. อนันตริยกรรมและสมาบตั ิ ๘ จดั เป็นกรรมประเภทใด?
ก. ชนกกรรม ข. ครุกรรม
ค. อุปปีฬกกรรม ง. อุปฆาตกรรม
๓๘. ความในขอ้ ใด เปน็ ความหมายของกตตั ตากรรม ?
ก. กรรมหนกั ข. กรรมสนับสนนุ
ค. กรรมบีบค้ัน ง. กรรมสกั วา่ ทาํ
๓๙. กายคตาสติกมั มฏั ฐานคอื การพิจารณาอะไร ?
ก. อาการ ๓๒ ข. กสิณ ๑๐
ค. อสภุ ะ ๑๐ ง. ธาตุ ๔
๔๐. ขอ้ ใด เป็นอานสิ งส์ของการเจรญิ เมตตากมั มฏั ฐาน ?
ก. ศตั ราวธุ ไมก่ ลาํ้ กราย ข. จติ สงบเร็ว
ค. เทวดารักษา ง. ถูกทกุ ข้อ
๔๑. ผู้บรรลุจตตุ ถฌาน ต้องมีองคธ์ รรมใด ?
ก. วิจาร ข. ปตี ิ
ค. สขุ ง. อุเบกขา
๑๘๗
๔๒. คนมคี วามประมาทในวัย ควรพิจารณาถงึ เรื่องใดบ่อยๆ ?
ก. ความแก่ ข. ความเจบ็ ป่วย
ค. ความตาย ง. ความพลัดพราก
๔๓. การพจิ ารณาอะไร ไมจ่ ัดเปน็ สติปฏั ฐาน ?
ก. กาย ข. เวทนา
ค. จติ ง. โลก
๔๔. การเพง่ ดิน นํา้ ไฟ ลม เปน็ อารมณก์ ัมมฏั ฐาน เรยี กอะไร ?
ก. กสณิ ข. อสุภะ
ค. อานาปานัสสติ ง. จตุธาตุววัตถาน
๔๕. การพจิ ารณาซากศพ เป็นอารมณก์ มั มฏั ฐาน เรียกอะไร ?
ก. กสณิ ข. อสุภะ
ค. อานาปานัสสติ ง. จตธุ าตุววตั ถาน
๔๖. การระลึกถงึ ความตายโดยอบุ ายทีช่ อบ ควรประกอบดว้ ยองคธ์ รรมใด ?
ก. สติ ข. ญาณ
ค. เกดิ สังเวช ง. ถูกทกุ ข้อ
๔๗. บริกรรมวา่ สัตว์ทัง้ หลายมีกรรมเป็นของตน... เปน็ การเจริญกมั มฏั ฐานใด ?
ก. เมตตา ข. กรณุ า
ค. มทุ ติ า ง. อุเบกขา
๔๘. คนมนี ิสยั เชอ่ื ง่าย จัดเปน็ คนจรติ ใด ?
ก. โทสจรติ ข. โมหจรติ
ค. สทั ธาจริต ง. วติ ักกจรติ
๔๙. พุทธคุณบทใด เป็นปรหิตคุณ ?
ก. อรหํ ข. สุคโต
ค. โลกวิทู ง. สตถฺ า เทวมนสุ ฺสานํ
๕๐. อะไรเป็นตน้ สายแห่งปฏจิ จสมปุ บาท ?
ก. อวิชชา ข. ตณั หา
ค. อปุ าทาน ง. ชาติ
๑๘๘
ปญั หาและเฉลยวิชาพุทธานุพทุ ธประวตั ิ ธรรมศึกษาช้นั เอก
ระดบั อดุ มศึกษาและประชาชาชนทั่วไป
สอบในสนามหลวง
วันศุกร์ ที่ ๕ มีนาคม พทุ ธศักราช ๒๕๖๔
๑. ความหมายของคําว่า “ ผู้มีความประสงคส์ ําเร็จแล้ว ” ตรงกับข้อใด ?
ก. สิทธตั ถะ ข. อุปติสสะ
ค. โกลติ ะ ง. ปปิ ผลิ
๒. เมื่อปญั จบพุ พนมิ ติ ปรากฏแก่เทวดา เป็นเหตุให้เทวดาน้นั จตุ จิ ากที่ใด?
ก. มนษุ ยภูมิ ข. เทวภูมิ
ค. พรหมภูมิ ง. อบายภมู ิ
๓. เหตทุ ่ที ําใหพ้ รหมโลกเกิดโกลาหล มีก่ีอย่าง?
ก. ๒ อย่าง ข. ๓ อย่าง
ค. ๔ อย่าง ง. ๕ อย่าง
๔. ความเหน็ ของคนในชมพูทวปี โดยสงั เขปมกี ่ีอยา่ ง ?
ก. ๑ อย่าง ข. ๒ อยา่ ง
ค. ๓ อยา่ ง ง. ๔ อย่าง
๕. สิ่งใด ทีค่ นในชมพทู วีปยดึ ถืออย่างแรงกล้า?
ก. ถือทิฏฐิ ข. ถือมานะ
ค. ถือมัจฉรยิ ะ ง. ถอื วิริยะ
๑๘๙
๖. ราชบุตรและราชบุตรขี องพระเจ้าโอกกากราช สร้างพระนครใหม่ชื่อว่าอะไร?
ก. พาราณสี ข. สาวตั ถี
ค. อุชเชนี ง. กบลิ พัสด์ุ
๗. สทุ โธทนราชกมุ าร เป็นพระราชโอรสของกษัตริยพ์ ระองค์ใด ?
ก. โอกกากราช ข. สีหหนุ
ค. ชยเสนะ ง. อญั ชนะ
๘. สุทโธทนราชกมุ าร ทรงอภเิ ษกสมรสกับราชธดิ าของกษัตริยเ์ มอื งใด?
ก. เทวทหะ ข. กบลิ พสั ด์ุ
ค. พาราณสี ง. สาวตั ถี
๙. พระนางสิริมหามายา ประสูติพระโอรสภายใต้ตน้ ไม้ใด?
ก. ต้นปาริฉัตร ข. ต้นโพธ์ิ
ค. ต้นไทร ง. ต้นสาละ
๑๐. ดาบสใด ได้ทํานายลักษณะพระมหาบรุ ุษเปน็ คนแรก?
ก. กบิลดาบส ข. กาฬเทวิลดาบส
ค. อทุ ทกดาบส ง. อาฬารดาบส
๑๑. สทิ ธัตถราชกมุ ารมีพระนามเรียกอกี อย่างหน่ึงว่าอะไร ?
ก. อังครี ส ข. ปปิ ผลิ
ค. อุปตสิ สะ ง. โกลติ ะ
๑๒. พราหมณก์ ่คี นทถ่ี กู เลือกใหเ้ ข้ามาทาํ นายลกั ษณะพระโพธิสัตว์?
ก. ๘ คน ข. ๖๐ คน
ค. ๑๐๘ คน ง. ๑๐๐๓ ท่าน
๑๓. พราหมณ์ใด ทาํ นายสิทธัตถราชกุมารวา่ จะต้องออกผนวชแน่นอน ?
ก. โกณฑัญญพราหมณ์ ข. รามพราหมณ์
ค. ธุรพราหมณ์ ง. ยญั ญพราหมณ์
๑๔. พระโพธิสตั ว์ ได้รบั การขนานพระนามว่าอย่างไร ?
ก. สิทธตั ถะ ข. อุปตสิ สะ
ค. โกลิตะ ง. กัญจนะ
๑๙๐
๑๕. พระนางสิริมหามายาทวิ งคตแลว้ ไปบงั เกิดในสวรรคช์ ัน้ ใด ?
ก. ดาวดึงส์ ข. ยามา
ค. ดสุ ิต ง. นมิ มานรดี
๑๖. พระนางปชาบดีโคตมีทรงมคี วาม เกี่ยวข้องกับสิทธัตถราชกุมารอย่างไร ?
ก. เปน็ พระมารดา ข. เป็นพระนา้ นาง
ค. เปน็ พระพีน่ าง ง. เปน็ พระน้องนาง
๑๗. สทิ ธตั ถราชกมุ ารอภิเษกสมรสกับพระนางพิมพาขณะมพี ระชนมายกุ ป่ี ี ?
ก. ๑๖ ปี ข. ๑๗ ปี
ค. ๑๘ ปี ง. ๑๙ ปี
๑๘. สิทธตั ถราชกมุ ารอธษิ ฐานเพศบรรพชา ณ ริมฝงั่ แมน่ าํ้ ใด ?
ก. เนรัญชรา ข. คงคา
ค. ยมุนา ง. อโนมา
๑๙. ผใู้ ด ถวายอัฏฐบรขิ ารแกส่ ิทธัตถราชกุมารในวันเสด็จออกมหาภเิ นษกรมณ์ ?
ก. นายฉันนะ ข. ทา้ วมหาพรหม
ค. ฆฏิการพรหม ง. ท้าวอมรนิ ทราธริ าช
๒๐. ฆฏกิ ารพรหมนําพระภษู าผ้าทรงทั้งคู่ของสทิ ธตั ถราชกุมารไปไว้ ณ ที่ใด ?
ก. มนษุ ยโลก ข. เทวโลก
ค. พรหมโลก ง. เปตโลก
๒๑. พระโพธสิ ัตวศ์ กึ ษาสาํ เรจ็ สมาบัติ ๘ ในสาํ นักของดาบสใด?
ก. กบิลดาบส ข. กาฬเทวลิ ดาบส
ค. อาฬารดาบส ง. อทุ ทกดาบส
๒๒. กษัตริยพ์ ระองคใ์ ด ทูลขอใหพ้ ระโพธสิ ตั ว์กลบั มาโปรดหากตรสั รแู้ ล้ว ?
ก. พมิ พิสาร ข. สทุ โธทนะ
ค. ปเสนทิโกศล ง. โกรพั ยะ
๒๓. ขอ้ ใด มใิ ชก่ ารบําเพ็ญทุกรกริ ยิ า?
ก. ก้ันลมอัสสาสะ ข. ก้นั ลมปสั สาสะ
ค. อดกระยาหาร ง. เจรญิ อานาปานสติ
๑๙๑
๒๔. กลุ่มบคุ คลใด เป็นพวกแรกท่อี อกบวชตามพระโพธสิ ัตว์ ?
ก. ปญั จวัคคีย์ ข. ภัททวัคคีย์
ค. ยสะและสหาย ง. ชฎิล ๓ พี่น้อง
๒๕. พระโพธิสัตว์ บาํ เพ็ญทุกรกริ ยิ าเป็นเวลาก่ีปี?
ก. ๓ ปี ข. ๔ ปี
ค. ๕ ปี ง. ๖ ปี
๒๖. ปญั จวคั คยี ์ละทงิ้ พระโพธสิ ตั วไ์ ป เพราะเหน็ วา่ พระองคล์ ะทิ้งสิ่งใด ?
ก. ความเพยี ร ข. ความอดทน
ค. ความสันโดษ ง. ความขยัน
๒๗. สง่ิ ใด ทน่ี างสชุ าดาถวายแดพ่ ระโพธสิ ัตว์ ?
ก. ขนมเบ้อื ง ข. ขนมกุมมาส
ค. ขา้ วมธปุ ายาส ง. ข้าวยาคู
๒๘. พระโพธิสตั ว์ อธิษฐานลอยถาดท่ีริมฝ่งั แมน่ ํา้ ใด ?
ก. เนรัญชรา ข. อโนมา
ค. คงคา ง. สรภู
๒๙. พระโพธิสัตวไ์ ดต้ รัสรเู้ ป็นพระสมั มาสมั พทุ ธเจ้าในราตรดี ิถใี ด?
ก. มาฆบุรณมี ข. วิสาขบุรณมี
ค. อาสาฬหบุรณมี ง. ถกู ทกุ ข้อ
๓๐. ขอ้ ใด เปน็ พระคณุ นามของพระพทุ ธเจา้ ?
ก. อรหัง ข. สมั มาสัมพุทโธ
ค. ภควา ง. ถูกทุกข้อ
๓๑. สถานทีใ่ ดพระพุทธเจา้ ประทับยนื มองโดยมไิ ดก้ ระพรบิ พระเนตร เรียกวา่ อะไร?
ก. อนมิ สิ สเจดยี ์ ข. รัตนจงกรมเจดยี ์
ค. รัตนฆรเจดยี ์ ง. จุฬามณเี จดยี ์
๓๒. ส่งิ ใด ทพ่ี ระพทุ ธเจา้ ประทานแกพ่ าณชิ ๒ พน่ี ้อง ?
ก. พระเกศา ข. พระโลมา
ค. พระนขา ง. พระทนต์
๑๙๒
๓๓. เทววาจิกอบุ าสกไดแ้ กใ่ คร?
ก. โสตถิยพราหมณ์ ข. อุปกาชีวก
ค. พาณิช ๒ พน่ี อ้ ง ง. บดิ าพระยสะ
๓๔. เนยยบุคคลท่านอปุ มากับบวั ประเภทใด ?
ก. บัวพน้ นํ้า ข. บวั เสมอนา้ํ
ค. บวั ในนา้ํ ง. บวั ใต้โคลน
๓๕. พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา โปรดชนกลุ่มใด ?
ก. ปัญจวคั คีย์ ข. ยสะและสหาย
ค. ภทั ทวัคคีย์ ง. ชฎิล ๓ พ่ีน้อง
๓๖. ฤษีใด ได้ดวงตาเหน็ ธรรมเปน็ ท่านแรก ?
ก. โกณฑญั ญะ ข. วัปปะ
ค. ภัททิยะ ง. อัสสชิ
๓๗. พระพทุ ธเจา้ ตรสั เทศนาอนบุ ุพพกี ถา โปรดใคร ?
ก. กาฬเทวลิ ดาบส ข. อาฬารดาบส
ค. อทุ ทกดาบส ง. ยสกลุ บตุ ร
๓๘. ผใู้ ด เปน็ ปฐมอุบาสกผู้ถงึ พระรตั นตรยั เป็นทีพ่ ง่ึ ?
ก. อุปกาชีวก ข. พาณชิ ๒ พ่ีน้อง
ค. บิดาพระยสะ ง. พระเจ้าพมิ พสิ าร
๓๙. อุรุเวลกัสสปะมีทฏิ ฐิมานะอันแรงกล้า เพราะคดิ ว่าตนเป็นพระอริยะชั้นใด ?
ก. พระโสดาบนั ข. พระสกทาคามี
ค. พระอนาคามี ง. พระอรหันต์
๔๐. พระเจ้าพิมพสิ ารเสด็จไปเฝา้ พระพทุ ธเจ้า ณ ท่ีใด ?
ก. สวนไผ่ ข. สวนตาลหนุ่ม
ค. สวนมะม่วง ง. สวนสาละ
๔๑. อุปตสิ สะและโกลิตะบวชเป็นปรพิ าชก ในสาํ นักแห่งเจา้ ลทั ธิใด ?
ก. ปูรณกสั สปะ ข. อชติ เกสกมั พล
ค. มักขลโิ คศาล ง. สัญชยั เวลฏั ฐบตุ ร
๑๙๓
๔๒. พระสารีบุตรบรรลอุ รหตั ตผล เพราะฟงั ธรรมทีพ่ ระพุทธเจ้าแสดงแก่ใคร ?
ก. ยสกลุ บตุ ร ข. ทฆี นขปริพาชก
ค. โกลติ ปรพิ าชก ง. พระเจ้าพมิ พิสาร
๔๓. มาณพกค่ี น ท่พี ราหมณ์พาวรีส่งไปทูลถามปัญหากับพระพทุ ธเจ้า ?
ก. ๑๓ คน ข. ๑๔ คน
ค. ๑๕ คน ง. ๑๖ คน
๔๔. พระราธะเมอ่ื บวชแล้วมีลกั ษณะอุปนิสยั เป็นอย่างไร?
ก. วา่ งา่ ยสอนง่าย ข. เลยี้ งง่าย
ค. ขยนั ง. สันโดษ
๔๕. พระพุทธเจา้ เสด็จไปแสดงธรรมโปรดพระเจ้าสุทโธทนะ ที่เมืองใด?
ก. ราชคฤห์ ข. พาราณสี
ค. เทวทหะ ง. กบิลพสั ดุ์
๔๖. ราหุลกมุ าร ได้รบั บรรพชาจากพระเถระใด ?
ก. พระอัสสชิ ข. พระสารบี ตุ ร
ค. พระโมคคัลลานะ ง. พระอนุรุทธ์
๔๗. พระกมุ ารใด บวชดว้ ยความไมส่ มคั รใจ ?
ก. อนรุ ุทธกมุ าร ข. ภทั ทิยกมุ าร
ค. นันทกุมาร ง. ราหุลกุมาร
๔๘. พระเถระใด ทําความเพียรเดินจงกรมเกินขนาดไม่หยดุ จนเท้าแตก ?
ก. พระสิวลี ข. พระเมฆิยะ
ค. พระโสณโกฬิวสิ ะ ง. พระรัฐบาล
๔๙. ผใู้ ด ถวายเคร่อื งประดับมหาลดาประสาธน์คลมุ พระพทุ ธสรรี ะ ?
ก. รปู นนั ทาเทวี ข. พมิ พาเทวี
ค. สมุ นาเทวี ง. มลั ลกิ า
๕๐. พระนางพิมพาเถรพี ร้อมหญิงบริวาร ๕๐๐ ทรงผนวช ท่ีวดั ใด ?
ก. เวฬุวนาราม ข. เชตวนาราม
ค. บพุ พาราม ง. นโิ ครธาราม
๑๙๔
ปญั หาและเฉลยวชิ ากรรมบถ (วินัย) ธรรมศึกษาชั้นเอก
ระดับอุดมศกึ ษาและประชาชาชนทัว่ ไป
สอบในสนามหลวง
วนั ศกุ ร์ ที่ ๕ มนี าคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๔
๑. ทางทาํ กรรมดกี รรมช่ัวของคนทั้งหลาย เรียกวา่ อะไร ?
ก. กรรมบถ ข. กรรมฐาน
ค. กรรมสัทธา ง. กรรมลิขติ
๒. การทําความดคี วามช่ัวของคนเราเกิดจากอะไร?
ก. การกระทํา ข. คําพดู
ค. ความคดิ ง. ถกู ทุกขอ้
๓. วิชากรรมบถ ธรรมศกึ ษาชั้นเอก สอนเร่ืองอะไร?
ก. กรรมฐาน ข. ไตรสิกขา
ค. กรรม ง. ไตรลกั ษณ์
๔. กรรมนาํ สัตว์ให้ไปเกิดในทุคตภิ มู ิ คือข้อใด?
ก. กุศลกรรมบถ ข. อกุศลกรรมบถ
ค. อนสุ สติ ง. กสณิ
๕. กรรมบถเกดิ จากการกระทํา ตรงกบั ข้อใด?
ก. กายกรรม ข. วจีกรรม
ค. มโนกรรม ง. ถกู ทุกข้อ
๑๙๕
๖. ข้อใด เป็นองคป์ ระกอบสําคญั ในการทาํ กรรมดกี รรมช่ัว?
ก. เจตนา ข. วบิ ากกรรม
ค. สุคติ ง. ทุคติ
๗. ผลท่เี กดิ ขน้ึ จากการกระทาํ กรรม เรียกว่าอะไร ?
ก. กายกรรม ข. วจีกรรม
ค. มโนกรรม ง. วิบากกรรม
๘. ข้อใด ไม่ใช่วตั ถแุ ห่งปาณาติบาต?
ก. เงนิ ข. นก
ค. ปลา ง. มา้
๙. ขอ้ ใด เป็นบาปเกิดจากการกระทาํ ทางกาย?
ก. ปาณาติบาต ข. มสุ าวาท
ค. พยาบาท ง. มิจฉาทิฏฐิ
๑๐. ขอ้ ใด ไม่ใชก่ ริ ิยาทป่ี ระพฤตกิ า้ วล่วงตอ่ สตั ว์มีชวี ติ ?
ก. ฆา่ ข. ทาํ ร้ายร่างกาย
ค. ทรกรรม ง. โจรกรรม
๑๑. องค์ประกอบในการทําปาณาตบิ าตตรงกบั ข้อใด ?
ก. รู้ว่ามีชีวิต ข. คดิ จะฆา่
ค. พยายามฆ่า ง. ถกู ทกุ ข้อ
๑๒. ขอ้ ใด เปน็ โทษของการทาํ ปาณาตบิ าต?
ก. ยากจน ข. ถกู โรคเบยี ดเบยี น
ค. ถกู ใส่ร้าย ง. ขาดคนนบั ถอื
๑๓. ทรัพยส์ มบตั ิ โดยตรงเป็นส่วนประกอบในการทําอกุศลกรรมบถใด?
ก. ปาณาติบาต ข. อทินนาทาน
ค. กาเมสมุ ิจฉาจาร ง. มุสาวาท
๑๔. ทรัพย์ประเภทใด เป็นวัตถุแหง่ อทนิ นาทาน ?
ก. มีเจ้าของ ข. เขาหวงแหน
ค. เขายังไมใ่ ห้ ง. ถกู ทุกขอ้
๑๙๖
๑๕. ทรพั ยใ์ นข้อใด ถงึ ตง้ั ใจลักไป ก็ไมเ่ ปน็ อทินนาทาน ?
ก. ของหวง ข. ของท้งิ
ค. ของฝาก ง. ของยืม
๑๖. ไม่ลักทรัพยข์ องคนอื่น เปน็ ความดที างใด?
ก. กาย ข. วาจา
ค. ใจ ง. ถกู ทกุ ข้อ
๑๗. ทจุ ริตคอรปั ช่ัน เปน็ การกระทําผดิ อกุศลกรรมบถใด ?
ก. ปาณาติบาต ข. อทนิ นาทาน
ค. กาเมสุมจิ ฉาจาร ง. มุสาวาท
๑๘. การทาํ ผิดประเวณี เป็นอกุศลกรรมบถใด ?
ก. อทินนาทาน ข. กาเมสุมจิ ฉาจาร
ค. พยาบาท ง. มุสาวาท
๑๙. บคุ คลตอ้ งหา้ มในอกุศลกรรมบถข้อ ๓ ตรงกับขอ้ ใด ?
ก. หญงิ ต้องหา้ ม ข. ชายต้องห้าม
ค. นักบวช ง. ถูกทุกขอ้
๒๐. ปญั หาสังคมด้านใด เกิดจากการทาํ ผิดกาเมสุมิจฉาจาร?
ก. ยาเสพติด ข. การพนนั
ค. แตกสามคั คี ง. ทางเพศ
๒๑. ขอ้ ใด เปน็ ผลกระทบเกิดจากอกศุ ลกรรมบถข้อ ๓ ?
ก. ถูกกล่าวหา ข. อายสุ น้ั
ค. ทรัพยส์ ินสญู หาย ง. หย่ารา้ ง
๒๒. ข้อใด เปน็ มุสาวาทเกิดขน้ึ ทางกาย?
ก. โบกมือ ข. พยักหน้า
ค. เขียนหนังสอื ง. ถูกทกุ ขอ้
๒๓. เจตนาบดิ เบือนความจริง เปน็ อกุศลกรรมบถใด ?
ก. อภิชฌา ข. พยาบาท
ค. มุสาวาท ง. ปาณาติบาต
๑๙๗
๒๔. วจีกรรม ๔ มมี ุสาวาทเป็นตน้ เกดิ ขึ้นทางใด ?
ก. กาย วาจา ข. กาย ใจ
ค. วาจา ใจ ง. กาย วาจา ใจ
๒๕. คําพดู มุง่ ทาํ ลายคนอื่นให้แตกแยก เรยี กว่าอะไร?
ก. มุสาวาท ข. ปิสณุ วาจา
ค. ผรุสวาจา ง. สมั ผัปปลาปะ
๒๖. คําพูดมงุ่ ทาํ ลายเผาผลาญใจคนฟงั เรียกว่าอะไร ?
ก. มสุ าวาท ข. ปิสณุ วาจา
ค. ผรสุ วาจา ง. สัมผัปปลาปะ
๒๗. คนท่ีชอบพูดยุแหย่ให้ผู้อ่นื ทะเลาะกัน ทําผดิ อกุศลกรรมบถใด ?
ก. มสุ าวาท ข. ปิสุณวาจา
ค. ผรสุ วาจา ง. สมั ผัปปลาปะ
๒๘. อกุศลกรรมบถขอ้ ๔ ทาํ ใหส้ ังคมมนุษย์ขาดหลกั ธรรมใด?
ก. สจั จะ ข. เมตตากรณุ า
ค. ขนั ติ ง. สตสิ มั ปชัญญะ
๒๙. ขอ้ ใด เปน็ ผลกรรมเกิดจากอกุศลกรรมบถข้อ ๔ ?
ก. มอี ายสุ นั้ ข. มีชวี ติ ขดั สน
ค. เปน็ คนบ้า ง. ไม่นา่ เชอ่ื ถือ
๓๐. อภิชฌา พยาบาท มจิ ฉาทฏิ ฐิจัดเป็นกรรมชนิดใด ?
ก. กายกรรม ข. วจกี รรม
ค. มโนกรรม ง. ถกู ทกุ ข้อ
๓๑. ข้อใด มคี วามหมายตรงกับอภชิ ฌา ?
ก. อยากได้ ข. อยากดี
ค. อยากเด่น ง. อยากดัง
๓๒. อกุศลกรรมบถใด ทาํ ใหค้ นมักผูกโกรธฉนุ เฉยี วงา่ ย ?
ก. ปาณาตบิ าต ข. พยาบาท
ค. ผรุสวาจา ง. มจิ ฉาทิฏฐิ
๑๙๘
๓๓. อกศุ ลกรรมบถใด ทาํ ให้คนไมเ่ ชอ่ื เรอ่ื งบญุ บาป ?
ก. อภชิ ฌา ข. พยาบาท
ค. มิจฉาทิฏฐิ ง. มสุ าวาท
๓๔. เหน็ กงจกั รเป็นดอกบัว สอดคล้องกบั กรรมบถใด ?
ก. อภิชฌา ข. อนภชิ ฌา
ค. มิจฉาทฏิ ฐิ ง. สมั มาทิฏฐิ
๓๕. ความเห็นใด เปน็ มจิ ฉาทฏิ ฐิ?
ก. ทําบาปตกนรก ข. ทําบุญขึ้นสวรรค์
ค. ทําช่ัวไดด้ ี ง. ทําดีไดด้ ี
๓๖. กศุ ลกรรมบถขอ้ ๑ ทําให้คนมคี วามประพฤติเชน่ ไร ?
ก. ไมท่ าํ รา้ ยใคร ข. ไมห่ ลอกใคร
ค. ไมด่ า่ ใคร ง. ไมแ่ ค้นใคร
๓๗. กุศลกรรมบถข้อ ๑ ให้ผลกรรมแก่ผูป้ ฏิบัติอยา่ งไร ?
ก. มีโรคนอ้ ย ข. มงั่ มีศรสี ุข
ค. ผู้คนนับถือ ง. ปลอ่ ยวาง
๓๘. ข้อใด ขัดกบั หลักปฏบิ ตั ิกุศลกรรมบถขอ้ ๒ ?
ก. เบอ่ื ยาสุนขั ข. โกงท่ีดนิ
ค. ใหก้ ารเท็จ ง. ฆ่าเพราะหึงหวง
๓๙. กุศลกรรมบถข้อ ๓ ช่วยแก้พฤติกรรมใด ?
ก. โหดร้าย ข. มอื ไว
ค. ใจง่าย ง. ขายยาบา้
๔๐. กศุ ลกรรมบถข้อ ๓ ส่งผลดีแกค่ คู่ รองอย่างไร ?
ก. เข้าใจกัน ข. ไว้ใจกนั
ค. เชอื่ ใจกัน ง. ถูกทกุ ขอ้
๔๑. กุศลกรรมบถขอ้ ๔ ทําให้ผปู้ ฏิบัตเิ ปน็ คนเช่นไร ?
ก. มเี มตตา ข. มีศรทั ธา
ค. มสี ัจจะ ง. มีความกตัญญู
๑๙๙
๔๒. ขอ้ ใด เป็นความดเี กิดขึ้นทางวาจา ? ข. สวดมนต์
ก. กราบพระ
ค. ฟังเทศน์ ง. น่ังสมาธิ
๔๓. เกบ็ ของคนอ่นื ได้แลว้ นําคืนเจา้ ของได้ชอื่ ว่าประพฤติกรรมบถใด ?
ก. อภชิ ฌา ข. อนภชิ ฌา
ค. พยาบาท ง. อพยาบาท
๔๔. เวรระงบั ด้วยการไม่จองเวร สอดคลอ้ งกบั กรรมบถขอ้ ใด ?
ก. อนภชิ ฌา ข. อพยาบาท
ค. สมั มาทฏิ ฐิ ง. ถกู ทกุ ขอ้
๔๕. การไมเ่ บียดเบียนกันในโลก จดั เปน็ อปุ นสิ ัยใด ?
ก. ทานปู นสิ ัย ข. สีลปู นิสัย
ค. ภาวนปู นิสัย ง. ถกู ทกุ ข้อ
๔๖. ทานูปนิสัย เป็นธรรมกําจดั อะไร ?
ก. ความโลภ ข. ความโกรธ
ค. ความหลง ง. ความเบยี ดเบยี น
๔๗. กรรมบถใด จดั เปน็ มโนกรรมฝา่ ยกุศล ?
ก. อภชิ ฌา ข. พยาบาท
ค. สมั มาทฏิ ฐิ ง. ถกู ทุกข้อ
๔๘. กุศลกรรมบถ ๑๐ ประการเป็นหลกั ธรรมประเภทใด ?
ก. ควรงดเวน้ ข. ควรละ
ค. ควรหลกี เล่ยี ง ง. ควรประพฤติ
๔๙. กศุ ลกรรมบถ ๑๐ ประการ สงเคราะหเ์ ข้าในหลักธรรมใด ?
ก. ทาน ข. ศีล
ค. สมาธิ ง. ปญั ญา
๕๐.ผ้กู ระทํากรรมดีย่อมเกดิ ในภพที่ดี หมายถงึ ข้อใด ?
ก. มนษุ ยโลก ข. เทวโลก
ค. พรหมโลก ง. ถูกทกุ ข้อ
๒๐๐