140 จากตารางที่ 22 การประเมินคุณภาพของระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจ ราชการที่ 15 ด้านความทันต่อเวลา (Timeliness) โดยภาพรวม พบว่าระบบข้อมูลสารสนเทศด้าน การศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 มีคุณภาพอยู่ในระดับดีมาก (x̅=4.80, S.D.=0.41) เมื่อพิจารณา เป็นรายข้อ พบว่า มีคุณภาพอยู่ในระดับดีมาก (x̅=4.80, S.D.=0.45) เท่ากันทุกข้อ ตารางที่ 23 ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเกี่ยวกับการประเมินคุณภาพของระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ด้านความสมบูรณ์ครบถ้วน (Complete) คุณภาพของระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ด้านความสมบูรณ์ครบถ้วน ผลการประเมิน (N=5) การแปลผล x̅ S.D. 1. ระบบมีการจัดเก็บข้อมูล ถูกต้อง ครบถ้วน 4.40 0.55 ดี ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน 2. ระบบสามารถแสดงข้อมูลได้อย่างถูกต้องครบถ้วน 4.20 0.45 ดี ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน 3. ระบบมีการประมวลผลข้อมูลอย่างถูกต้อง 4.40 0.55 ดี สมบูรณ์ครบถ้วน 4. ระบบข้อมูลสารสนเทศมีความครอบคลุม 4.40 0.55 ดี ครบถ้วนในภาพรวม รวม 4.35 0.49 ดี จากตารางที่ 23 การประเมินคุณภาพของระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจ ราชการที่ 15 ด้านความสมบูรณ์ครบถ้วน (Complete) โดยภาพรวม พบว่าระบบข้อมูลสารสนเทศ ด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 มีคุณภาพอยู่ในระดับดี(x̅=4.35, S.D.=0.49) เมื่อพิจารณา เป็นรายข้อ พบว่า มีคุณภาพอยู่ในระดับดี(x̅=4.40, S.D.=0.55) เท่ากัน ยกเว้นระบบสามารถแสดง ข้อมูลได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วนตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน (x̅=4.20, S.D.=0.45)
141 ตารางที่ 24 ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเกี่ยวกับการประเมินคุณภาพของระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ด้านความสอดคล้องกับความ ต้องการ (Relevance) คุณภาพของระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ด้านความสอดคล้องกับความต้องการ ผลการประเมิน (N=5) การแปลผล x̅ S.D. 1. การออกแบบหน้าจอของระบบง่ายต่อการใช้งาน 4.20 0.45 ดี 2. ระบบสามารถเข้าใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน 4.20 0.45 ดี 3. มีการจัดระบบข้อมูลเป็นหมวดหมู่ 4.40 0.55 ดี 4. ระบบมีประโยชน์ต่อการนำไปใช้ 4.40 0.55 ดี รวม 4.30 0.47 ดี จากตารางที่ 24 การประเมินคุณภาพของระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจ ราชการที่ 15 ด้านความสอดคล้องกับความต้องการ (Relevance) โดยภาพรวม พบว่าระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 มีคุณภาพอยู่ในระดับดี (x̅=4.30, S.D.=0.47) เมื่อ พิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีคุณภาพอยู่ในระดับดีทุกข้อ คือ มีการจัดระบบข้อมูลเป็นหมวดหมู่ และ ระบบมีประโยชน์ต่อการนำไปใช้ (x̅=4.40, S.D.=0.55) การออกแบบหน้าจอของระบบง่ายต่อการใช้ งาน และระบบสามารถเข้าใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน (x̅=4.20, S.D.=0.45) ตารางที่ 25 ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเกี่ยวกับการประเมินคุณภาพของระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ด้านการตรวจสอบได้ (Verifiable) คุณภาพของระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ด้านการตรวจสอบได้ ผลการประเมิน (N=5) การแปลผล x̅ S.D. 1. ระบบนำเสนอข้อมูลที่สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้ 4.00 0.71 ดี 2. ระบบมีการตรวจสอบรหัสผู้ใช้ และรหัสผ่านให้ 3.20 1.10 ปานกลาง ถูกต้องก่อนการเข้าใช้ระบบ 3. ระบบมีการตรวจสอบสิทธิ์การใช้งานของผู้ใช้ 3.40 1.34 ปานกลาง 4. ระบบมีการควบคุมให้ใช้งานตามสิทธิ์ของผู้ใช้ 3.40 1.34 ปานกลาง ได้อย่างถูกต้อง รวม 3.50 1.10 ปานกลาง
142 จากตารางที่ 25 การประเมินคุณภาพของระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจ ราชการที่ 15 ด้านการตรวจสอบได้ (Verifiable) โดยภาพรวม พบว่าระบบข้อมูลสารสนเทศด้าน การศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 มีคุณภาพอยู่ในระดับปานกลาง (x̅=3.50, S.D.=1.10) เมื่อ พิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีคุณภาพสูงสุดคือระบบนำเสนอข้อมูลที่สามารถตรวจสอบ แหล่งที่มาได้(x̅=4.00, S.D.=0.71) อยู่ในระดับดี รองลงมาได้แก่ ระบบมีการตรวจสอบสิทธิ์การใช้ งานของผู้ใช้และระบบมีการควบคุมให้ใช้งานตามสิทธิ์ของผู้ใช้ได้อย่างถูกต้อง (x̅=3.40, S.D.=1.34) อยู่ในระดับปานกลาง ส่วน ระบบมีการตรวจสอบรหัสผู้ใช้ และรหัสผ่านให้ถูกต้องก่อนการเข้าใช้ ระบบ มีคุณภาพน้อยสุด (x̅=3.20, S.D.=1.10) อยู่ในระดับปานกลาง ตอนที่ 3 ผลการศึกษาประสิทธิภาพของการใช้งานระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขต ตรวจราชการที่ 15 1. ผลการศึกษาประสิทธิภาพของการใช้งานระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขต ตรวจราชการที่ 15 ที่พัฒนาขึ้น โดยใช้วิธีการแบบ Black Box Testing ที่มีการทดสอบการทำงาน ของระบบตามฟังก์ชันการทำงาน ในด้านการตรงตามความต้องการของผู้ใช้ระบบ (Functional Requirement Test) ด้านการทำงานได้ตามฟังก์ชันงานของระบบ (Functional Test) ด้านความ ง่ายต่อการใช้งานระบบ (Usability Test) และด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในระบบ (Security Test) ปรากฏผลการวิเคราะห์ข้อมูลตามตารางที่ 26-30 ดังนี้ ตารางที่ 26 ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เกี่ยวกับประสิทธิภาพของการใช้งานระบบ ข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 โดยภาพรวม ประสิทธิภาพของการใช้งาน ผลการประเมิน (N=35) การแปลผล x̅ S.D. 1. ด้านการตรงตามความต้องการของผู้ใช้ระบบ 4.28 0.50 มาก (Functional Requirement Test) 2. ด้านการทำงานได้ตามฟังก์ชันงานของระบบ 4.25 0.55 มาก (Functional Test) 3. ด้านความง่ายต่อการใช้งานระบบ (Usability Test) 4.30 0.56 มาก 4. ด้านรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในระบบ 3.95 0.87 มาก (Security Test) รวม 4.20 0.55 มาก
143 จากตารางที่ 26 ประสิทธิภาพของการใช้งานระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขต ตรวจราชการที่ 15 โดยภาพรวม พบว่า มีประสิทธิภาพอยู่ในระดับมาก (x̅=4.20, S.D.=0.55) เมื่อ พิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า มีประสิทธิภาพอยู่ในระดับมากทุกรายการ โดยด้านความง่ายต่อการใช้ งานระบบ (Usability Test) มีประสิทธิภาพมากเป็นอันดับที่ 1 (x̅=4.30, S.D.=0.56) รองลงมาได้แก่ ด้านการตรงตามความต้องการของผู้ใช้ระบบ (Functional Requirement Test) (x̅=4.28, S.D.=0.50) ด้านการทำงานได้ตามฟังก์ชันงานของระบบ (Functional Test) (x̅=4.25, S.D.=0.55) และด้านรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในระบบ (Security Test) (x̅=3.95, S.D.=0.87) ตารางที่ 27 ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการใช้งานระบบ ข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ด้านการตรงตามความ ต้องการของผู้ใช้ระบบ (Functional Requirement Test) ประสิทธิภาพของการใช้งาน ด้านการตรงตามความต้องการของผู้ใช้ระบบ ผลการประเมิน (N=35) การแปลผล x̅ S.D. 1. ความสามารถของระบบในการเขาใชงาน 4.23 0.73 มาก ของผู้ใช้ระบบ 2. ความสามารถของระบบในการแสดงรายละเอียด 4.37 0.60 มาก ของข้อมูล 3. ความสามารถของระบบในการค้นหาสถานศึกษา 4.26 0.70 มาก 4. ความสามารถของระบบในการแสดงแผนที่ 4.37 0.60 มาก สถานศึกษา 5. ความสามารถของระบบในการโต้ตอบกับผู้ใช้งาน 3.97 0.75 มาก 6. ผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลของระบบ 4.49 0.56 มาก มีประโยชน์ต่อการนำไปใช้ รวม 4.28 0.50 มาก จากตารางที่ 27 ประสิทธิภาพของการใช้งานระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขต ตรวจราชการที่ 15 ด้านการตรงตามความต้องการของผู้ใช้ระบบ (Functional Requirement Test) พบว่า มีประสิทธิภาพการใช้งานในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (x̅=4.28, S.D.=0.50) เมื่อพิจารณาเป็น รายข้อ พบว่า มีประสิทธิภาพของการใช้งานอยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลของระบบมีประโยชน์ต่อการนำไปใช้(x̅=4.49, S.D.=0.56) รองลงมา
144 ได้แก่ ความสามารถของระบบในการแสดงรายละเอียดของข้อมูล (x̅=4.37, S.D.=0.60) และ ความสามารถของระบบในการแสดงแผนที่สถานศึกษา (x̅=4.37, S.D.=0.60) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อย ที่สุด คือ ความสามารถของระบบในการโต้ตอบกับผู้ใช้งาน (x̅=3.97, S.D.=0.75) ตารางที่ 28 ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการใช้งานระบบ ข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ด้านการทำงานได้ตาม ฟังก์ชันงานของระบบ (Functional Test) ประสิทธิภาพของการใช้งาน ด้านการทำงานได้ตามฟังก์ชันงานของระบบ ผลการประเมิน (N=35) การแปลผล x̅ S.D. 1. ความถูกต้องในการจัดเก็บข้อมูลนำเข้า 4.20 0.63 มาก 2. ความถูกต้องในการบันทึกข้อมูลลงในระบบ 4.23 0.60 มาก 3. ความถูกต้องในการเชื่อมโยงข้อมูลในแต่ละเมนู 4.20 0.68 มาก 4. ความถูกต้องต่อการแสดงข้อมูลในการสืบค้น 4.26 0.61 มาก 5. ความถูกต้องของข้อมูลในการแสดงรายงาน 4.31 0.68 มาก บนหน้าจอ 6. ความถูกต้องและน่าเชื่อถือได้ของระบบ 4.31 0.58 มาก รวม 4.25 0.55 มาก จากตารางที่ 28 ประสิทธิภาพของการใช้งานระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขต ตรวจราชการที่ 15 ด้านการทำงานได้ตามฟังก์ชันงานของระบบ (Functional Test) พบว่า มี ประสิทธิภาพการใช้งานในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (x̅=4.25, S.D.=0.55) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีประสิทธิภาพการใช้งานอยู่ในระดับมากทุกข้อ (x̅=4.04, S.D.=0.85) โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยมาก ที่สุด คือ ความถูกต้องของข้อมูลในการแสดงรายงานบนหน้าจอ (x̅=4.31, S.D.=0.68) รองลงมา ได้แก่ ความถูกต้องและน่าเชื่อถือได้ของระบบ (x̅=4.31, S.D.=0.58) ความถูกต้องต่อการแสดงข้อมูล ในการสืบค้น (x̅=4.26, S.D.=0.61) และ ความถูกต้องในการบันทึกข้อมูลลงในระบบ (x̅=4.23, S.D.=0.60) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ความถูกต้องในการเชื่อมโยงข้อมูลในแต่ละเมนู (x̅=4.20, S.D.=0.68)
145 ตารางที่ 29 ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการใช้งานระบบ ข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ด้านความง่ายต่อการใช้งาน ระบบ (Usability Test) ประสิทธิภาพของการใช้งาน ด้านความง่ายต่อการใช้งานระบบ ผลการประเมิน (N=35) การแปลผล x̅ S.D. 1. ความสะดวกและความง่ายในการเข้าใช้งานระบบ 4.14 0.77 มาก 2. ระบบมีการออกแบบให้ใช้งานง่าย เมนูไม่ซับซ้อน 4.37 0.73 มาก 3. ข้อความที่แสดงบนหน้าจอสื่อความหมายได้ชัดเจน 4.46 0.56 มาก และเข้าใจได้ง่าย 4. ความเป็นมาตรฐานเดียวกันในการออกแบบ 4.26 0.66 มาก หน้าจอภาพ ทำให้ง่ายต่อการใช้งาน 5. ความเหมาะสมในการใช้สัญลักษณ์หรือรูปภาพของ 4.26 0.66 มาก เมนูในการสื่อความหมายทำให้ง่ายต่อการใช้งาน 6. ความรวดเร็วในการประมวลผลทำให้ง่าย 4.31 0.72 มาก ต่อการสืบค้น รวม 4.30 0.56 มาก จากตารางที่ 29 ประสิทธิภาพของการใช้งานระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขต ตรวจราชการที่ 15 ด้านความง่ายต่อการใช้งานระบบ (Usability Test) พบว่า มีประสิทธิภาพการใช้ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (x̅=4.30, S.D.=0.56) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีประสิทธิภาพการ ใช้งานอยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ ข้อความที่แสดงบนหน้าจอสื่อ ความหมายได้ชัดเจนและเข้าใจได้ง่าย (x̅=4.46, S.D.=0.56) รองลงมาได้แก่ ระบบมีการออกแบบให้ ใช้งานง่าย เมนูไม่ซับซ้อน (x̅=4.37, S.D.=0.73) ความรวดเร็วในการประมวลผลทำให้ง่ายต่อการ สืบค้น (x̅=4.31, S.D.=0.72) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ความสะดวกและความง่ายในการเข้าใช้ งานระบบ (x̅=4.14, S.D.=0.77)
146 ตารางที่ 30 ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการใช้งานระบบ ข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ด้านการรักษาความ ปลอดภัยของข้อมูลในระบบ (Security Test) ประสิทธิภาพของการใช้งาน ด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในระบบ ผลการประเมิน (N=35) การแปลผล x̅ S.D. 1. การตรวจสอบรหัสผู้ใช้งานและรหัสผ่าน เมื่อมีการ 4.03 0.86 มาก ลงทะเบียนเข้าใช้งานระบบ 2. การตรวจสอบสิทธิ์ของผู้ใช้งานเพื่อเข้าถึงข้อมูล 3.89 0.93 มาก ในระดับต่าง ๆ 3. การควบคุมการใช้งานตามสิทธิ์ของผู้ใช้งาน 3.94 0.94 มาก ได้อย่างถูกต้อง รวม 3.95 0.87 มาก จากตารางที่ 30 ประสิทธิภาพของการใช้งานระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขต ตรวจราชการที่ 15 ด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในระบบ (Security Test) พบว่า มีประสิทธิภาพการใช้งานในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (x̅=3.95, S.D.=0.87) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีประสิทธิภาพการใช้งานอยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ การตรวจสอบ รหัสผู้ใช้งานและรหัสผ่าน เมื่อมีการลงทะเบียนเข้าใช้งานระบบ (x̅=4.03, S.D.=0.86) รองลงมาได้แก่ การควบคุมการใช้งานตามสิทธิ์ของผู้ใช้งานได้อย่างถูกต้อง (x̅=3.94, S.D.=0.94) และการตรวจสอบ สิทธิ์ของผู้ใช้งานเพื่อเข้าถึงข้อมูลในระดับต่าง ๆ (x̅=3.89, S.D.=0.93)
147 บทที่ 5 สรุป อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ การวิจัยเรื่อง การศึกษาวิเคราะห์เพื่อพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา ในพื้นที่ เขตตรวจราชการที่ 15 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการพัฒนาระบบ ข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 2) พัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้าน การศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 และ 3) ศึกษาประสิทธิภาพของการใช้งานระบบข้อมูลสารสนเทศ ด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ผู้วิจัยได้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยและพัฒนา (Research and Development) เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบบันทึกเอกสาร แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ ด้วยค่าสถิติ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วย การวิเคราะห์เนื้อหาและเขียนบรรยายเชิงพรรณนา ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. สรุปผล 1. ผลการศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้าน การศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 สรุปได้ดังนี้ 1.1 สภาพปัจจุบันในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจ ราชการที่ 15 โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าอยู่ในระดับ ปานกลางทุกด้าน โดยด้านการวิเคราะห์ระบบ มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด และด้านการพัฒนาระบบ มี ค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด ส่วนความต้องการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่าอยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน โดย ด้านการพัฒนาระบบ มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด และด้านการนำระบบไปใช้ มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด เมื่อพิจารณา เป็นรายด้าน ปรากฏผลดังนี้ 1.1.1 ด้านการวิเคราะห์ระบบ มีสภาพปัจจุบันในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานกลาง โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ มีการ จัดเก็บข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาที่มีความถูกต้องและตรวจสอบได้ ส่วนความต้องการใน ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ มีการนำผลการประเมินการวิเคราะห์ ระบบมาหาสาเหตุที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงแก้ไข 1.1.2 ด้านการออกแบบระบบ มีสภาพปัจจุบันในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานกลาง โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ มีการ มอบหมายทีมงานหรือผู้รับผิดชอบดำเนินการตามแผนการออกแบบระบบข้อมูลสารสนเทศด้าน
148 การศึกษา ส่วนความต้องการในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ใน ระดับมากที่สุดทุกข้อ โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ มีการกำหนดคุณสมบัติของระบบให้สามารถใช้ งานได้หลากหลายอุปกรณ์ เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ 1.2.3 ด้านการพัฒนาระบบ มีสภาพปัจจุบันในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อ พิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานกลาง โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ มีการ มอบหมายทีมงานหรือผู้รับผิดชอบในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา ส่วนความ ต้องการในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุดทุกข้อ โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ มีการพัฒนาระบบให้สามารถใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็วและ เหมาะสมกับการใช้งานในปัจจุบัน เช่น แอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ 1.2.4 ด้านการทดสอบระบบ มีสภาพปัจจุบันในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานกลาง โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ มีการ มอบหมายทีมงานหรือผู้รับผิดชอบในการทดสอบระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา ส่วนความ ต้องการในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุดทุกข้อ โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ การทดสอบระบบให้มีความสมบูรณ์ ถูกต้อง ตรงตามความต้องการ ของผู้ใช้ 1.2.5 ด้านการนำระบบไปใช้ มีสภาพปัจจุบันในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับปานกลางทุกข้อ โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ มีการ ประชุมอบรมและมอบหมายผู้รับผิดชอบในการนำระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาไปใช้ ส่วน ความต้องการในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด ทุกข้อ โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ มีการรายงานและนำผลการประเมินการนำระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษาไปใช้มาวิเคราะห์ปัญหาและสาเหตุที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงแก้ไข 1.2.6 ด้านการบำรุงรักษาระบบ มีสภาพปัจจุบันในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับปานกลางทุกข้อ โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ มีการ มอบหมายทีมงานหรือผู้รับผิดชอบในการบำรุงรักษาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา ส่วนความ ต้องการในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุดทุกข้อ โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษามีการปรับปรุงแก้ไขตามการ ปรับเปลี่ยนของเทคโนโลยีที่มีการพัฒนา 2. ผลการศึกษากระบวนการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจ ราชการที่ 15 สรุปได้ดังนี้ 2.1 กระบวนการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ประกอบด้วย 6 ขั้นตอน คือ 1) การวิเคราะห์ระบบ (Analysis) 2) การออกแบบระบบ (Design)
149 3) การพัฒนาระบบ (Development) 4) การทดสอบระบบ (Testing) 5) การนำระบบไปใช้ (Implementation) และ 6) การบำรุงรักษาระบบ (Maintenance) 2.2 ผลการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 สรุป ได้ดังนี้ ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 พัฒนาขึ้นในรูปแบบโมบายแอป พลิเคชัน ภายใต้ชื่อ DataApp V.1 สำหรับจัดเก็บ ประมวลผล รายงานผลและบริการข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ประกอบด้วย ข้อมูลสารสนเทศพื้นฐานด้าน การศึกษา ได้แก่ ข้อมูลสถานศึกษา, ข้อมูลจำนวนนักเรียน/นักศึกษา, ข้อมูลจำนวนครู/บุคลากร ทางการศึกษา, ข้อมูลสารสนเทศด้านคุณภาพการศึกษา ได้แก่ ข้อมูลคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทาง การศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6, ข้อมูลคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้าน อาชีวศึกษา (V-NET) ระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และข้อมูลคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบ ทางการศึกษาระดับชาติด้านการศึกษานอกระบบโรงเรียน (N-NET) ระดับประถมศึกษา ระดับ มัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ของนักเรียนในสถานศึกษาในพื้นที่เขตตรวจ ราชการที่ 15, ข้อมูลประชากรวัยเรียนอายุ 3-17 ปี, ข้อมูลสภาพทั่วไปพื้นที่เขตตรวจราชการที่ 15 และข้อมูลหน่วยงานทางการศึกษาในเขตตรวจราชการที่ 15 และมีผลการประเมินคุณภาพจาก ผู้เชี่ยวชาญในภาพรวมอยู่ในระดับดีเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านความทันต่อเวลา มีคุณภาพ สูงสุดอยู่ในระดับดีมากรองลงมาได้แก่ ด้านความครบถ้วนสมบูรณ์ ด้านความสอดคล้องกับความ ต้องการ และด้านความถูกต้อง มีคุณภาพ อยู่ในระดับดี ส่วนด้านการตรวจสอบได้มีคุณภาพน้อยสุด อยู่ในระดับปานกลาง 3. ผลการศึกษาประสิทธิภาพของการใช้งานระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขต ตรวจราชการที่ 15 โดยใช้วิธีการแบบ Black Box Testing โดยผู้ใช้งานซึ่งเป็นทั้งผู้บริหารและ บุคลากรผู้ปฏิบัติงาน จำนวน 35 คน สรุปผลได้ดังนี้ 3.1 ประสิทธิภาพของการใช้งานระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจ ราชการที่ 15 โดยภาพรวม พบว่ามีประสิทธิภาพอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า มีประสิทธิภาพอยู่ในระดับมากทุกรายการ โดยด้านความง่ายต่อการใช้งานระบบ (Usability Test) มีประสิทธิภาพมากเป็นอันดับที่ 1 รองลงมาได้แก่ ด้านการตรงตามความต้องการของผู้ใช้ระบบ (Functional Requirement Test) ด้านการทำงานได้ตามฟังก์ชันงานของระบบ (Functional Test) และด้านรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในระบบ (Security Test) 3.2 ประสิทธิภาพของการใช้งานระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจ ราชการที่ 15 ด้านการตรงตามความต้องการของผู้ใช้ระบบ (Functional Requirement Test) โดย ภาพรวมมีประสิทธิภาพอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีประสิทธิภาพของการใช้
150 งานอยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลของระบบ มีประโยชน์ต่อการนำไปใช้รองลงมาได้แก่ ความสามารถของระบบในการแสดงรายละเอียดของข้อมูล และความสามารถของระบบในการแสดงแผนที่สถานศึกษา ส่วนความสามารถของระบบในการ โต้ตอบกับผู้ใช้งานมีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด 3.3 ประสิทธิภาพของการใช้งานระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจ ราชการที่ 15 ด้านการทำงานได้ตามฟังก์ชันงานของระบบ (Functional Test) โดยภาพรวมมี ประสิทธิภาพอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีประสิทธิภาพการใช้งานอยู่ในระดับ มากทุกข้อ โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ความถูกต้องของข้อมูลในการแสดงรายงานบนหน้าจอ รองลงมาได้แก่ ความถูกต้องและน่าเชื่อถือได้ของระบบ ความถูกต้องต่อการแสดงข้อมูลในการสืบค้น และ ความถูกต้องในการบันทึกข้อมูลลงในระบบ ส่วนความถูกต้องในการเชื่อมโยงข้อมูลในแต่ละเมนู มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด 3.4 ประสิทธิภาพของการใช้งานระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจ ราชการที่ 15 ด้านความง่ายต่อการใช้งานระบบ (Usability Test) โดยภาพรวมมีประสิทธิภาพอยู่ใน ระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีประสิทธิภาพการใช้งานอยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยข้อที่ มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ ข้อความที่แสดงบนหน้าจอสื่อความหมายได้ชัดเจนและเข้าใจได้ง่าย รองลงมา ได้แก่ ระบบมีการออกแบบให้ใช้งานง่าย เมนูไม่ซับซ้อน ความรวดเร็วในการประมวลผลทำให้ง่ายต่อ การสืบค้น ส่วน ความสะดวกและความง่ายในการเข้าใช้งานระบบมีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด 3.5 ประสิทธิภาพของการใช้งานระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจ ราชการที่ 15 ด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในระบบ (Security Test) โดยภาพรวม มีประสิทธิภาพอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีประสิทธิภาพการใช้งานอยู่ในระดับ มากทุกข้อ โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ การตรวจสอบรหัสผู้ใช้งานและรหัสผ่าน เมื่อมีการ ลงทะเบียนเข้าใช้งานระบบ รองลงมาได้แก่ การควบคุมการใช้งานตามสิทธิ์ของผู้ใช้งานได้อย่าง ถูกต้อง และการตรวจสอบสิทธิ์ของผู้ใช้งานเพื่อเข้าถึงข้อมูลในระดับต่าง ๆ มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด 2. อภิปรายผลการวิจัย จากผลการศึกษาวิเคราะห์เพื่อพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา ในพื้นที่เขต ตรวจราชการที่ 15 มีข้อค้นพบที่สามารถนำเสนอเพื่อการอภิปรายผล ดังนี้ 1. การศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจ ราชการที่ 15 โดยการศึกษาเอกสาร แนวคิด ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 พบว่า กระบวนการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ ด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ประกอบไปด้วย 6 ขั้นตอน ได้แก่ 1) การวิเคราะห์ระบบ
151 (Analysis) 2) การออกแบบระบบ (Design) 3) การพัฒนาระบบ (Development) 4) การทดสอบ ระบบ (Testing) 5) การนำระบบไปใช้(Implementation) และ 6) การบำรุงรักษาระบบ (Maintenance) ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของ พรเทพ รู้แผน (2546), โอกาส เอี่ยมสิริวงศ์ (2554), ประสงค์ ปราณีตพลกรัง และคณะ (2541), ฉันทวิท กุลไพศาล (2551), ศรีไพร ศักดิ์รุ่งพงศากุล และ เจษฎาพร ยุทธนวิบูลย์ชัย (2549), ณัฎฐพันธ์ เขจรนันทน์ (2551) และ Mcleod (1995) 2. การศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 พบว่า สภาพปัจจุบันการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขต ตรวจราชการที่ 15 ภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง อาจเป็นเพราะว่าระบบข้อมูลสารสนเทศยังไม่ สามารถใช้งานได้ในหลากหลายอุปกรณ์ทำให้ไม่สะดวกในการสืบค้นข้อมูล ส่วนความต้องการพัฒนา ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อ พิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านการพัฒนาระบบมีความต้องการมากที่สุด ที่เป็นเช่นนี้อาจเป็น เพราะว่าผู้บริหารและบุคลากรมีความต้องการระบบข้อมูลสารสนเทศที่สามารถใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็วและเหมาะสมกับการใช้งานในปัจจุบันผ่านอุปกรณ์เทคโนโลยีได้อย่างหลากหลาย สอดคล้อง กับงานวิจัยของ วรยุทธ วงศประเสริฐ (2565) ได้ทำการศึกษา การพัฒนาระบบสารสนเทศในการ บริหารงานงบประมาณของโรงเรียนมัธยมศึกษาในจังหวัดพังงา โดยมีวัตถุประสงคเพื่อ 1) ศึกษา ความตองการของระบบสารสนเทศในการบริหารงานงบประมาณของโรงเรียนมัธยมศึกษาในจังหวัด พังงา 2) พัฒนาระบบสารสนเทศในการบริหารงานงบประมาณของโรงเรียนมัธยมศึกษาในจังหวัด พังงา และ 3) ประเมินประสิทธิภาพของระบบสารสนเทศ ในการบริหารงานงบประมาณของโรงเรียน มัธยมศึกษาในจังหวัดพังงา ผลการวิจัยพบวา ความตองการการพัฒนาระบบสารสนเทศในการ บริหารงานงบประมาณโดยรวมอยู่ในระดับความตองการมากที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ ประพาพร มั่นคง (2558) ได้ทำการศึกษาเรื่อง การพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อติดตามวิทยานิพนธ์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยสำรวจสภาพปัญหา และความต้องการใช้งานระบบ สารสนเทศ จากประชากร จำนวน 1,097 คน ได้แก่อาจารย์ จำนวน 82 คน เจ้าหน้าที่จำนวน 15 คน และนิสิตบัณฑิตศึกษา จำนวน 1,000 คน ที่กำลังปฏิบัติงานและศึกษาอยู่ในคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม พบว่า สภาพปัญหาและความต้องการใช้งานระบบสารสนเทศพบว่า อาจารย์ เจ้าหน้าที่ และนิสิต มีระดับความคิดเห็นต่อสภาพปัญหาและความต้องการใช้งานระบบ สารสนเทศในระดับมาก และสอดคล้องกับงานวิจัยของ อธิป ศรีบรรเทา (2560) ได้ทำการศึกษาการ พัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิผลในวิทยาลัยเทคนิค โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสารสนเทศเพื่อการบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิผลในวิทยาลัยเทคนิค 2) ศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์เกี่ยวกับสารสนเทศเพื่อการบริหารงานวิชาการที่มี ประสิทธิผลในวิทยาลัยเทคนิค 3) พัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิผล
152 ในวิทยาลัยเทคนิค และ 4) ศึกษาผลของการนำระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารงานวิชาการที่มี ประสิทธิผลในวิทยาลัยเทคนิคที่พัฒนาขึ้นไปใช้ ผลการวิจัยพบว่า สภาพปัจจุบันและสภาพที่พึง ประสงค์เกี่ยวกับสารสนเทศเพื่อการบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิผลในวิทยาลัยเทคนิค พบว่า สภาพปัจจุบันสารสนเทศเพื่อการบริหารงานวิชาการในวิทยาลัยเทคนิค โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนในด้านสภาพที่พึงประสงค์ของสารสนเทศเพื่อการบริหารงานวิชาการในวิทยาลัยเทคนิคโดยรวม อยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด 3. ผลการประเมินคุณภาพของระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 แบ่งการประเมินเป็น 5 ด้าน คือ ด้านความถูกต้อง ด้านความทันต่อเวลา ด้านความสมบูรณ์ ครบถ้วน ด้านความสอดคล้องกับความต้องการ และด้านการตรวจสอบได้ พบว่า ระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 พบว่า ระบบสามารถแสดงข้อมูลได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วนตรงกับความต้องการของผู้ใช้ มีความเร็วในการติดต่อกับฐานข้อมูล และระบบสามารถเข้าใช้ งานง่าย ไม่ซับซ้อน โดยภาพรวมระดับคุณภาพอยู่ในระดับดี โดยด้านความทันต่อเวลามีคุณภาพสูงสุด ที่เป็นเช่นนี้อาจเป็นเพราะว่า ระบบมีความเร็วในการบันทึก ปรับปรุงข้อมูล มีการประมวลผลและ นำเสนอข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว สอดคล้องกับงานวิจัยของ สุประภาดา แสนสุข (2562) ที่ได้ ทำการศึกษา การพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการข้อมูลนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร โดยพัฒนาระบบตามแนวความคิดเกี่ยวกับวงจรการพัฒนาระบบ (System Development Life Cycle : SDLC) ประกอบด้วย การศึกษาระบบ การวิเคราะห์ระบบ การ ออกแบบระบบ การพัฒนาระบบ การติดตั้งระบบ และการเปลี่ยนเข้าสู่ระบบงานใหม่ พบว่า คุณภาพ ของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการข้อมูลนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านคำชะอี โดยภาพรวมมีคุณภาพ อยู่ในระดับคุณภาพดีและด้านความทันเวลาในการใช้งานมีคุณภาพสูงสุด ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัย ของ ชิตชนก ทิพย์โสดา (2564) ได้ศึกษาเรื่อง การพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการ ประเมินผลการปฏิบัติราชการของบุคลากรสายวิชาการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย มหาสารคาม มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาองค์ประกอบและขั้นตอนของระบบสารสนเทศเพื่อสนับสนุน การประเมินผลการปฏิบัติราชการของบุคลากรสายวิชาการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย มหาสารคาม เพื่อสร้างและพัฒนาระบบสารสนเทศฯ เพื่อประเมินคุณภาพของระบบสารสนเทศฯ และเพื่อศึกษาความพึงพอใจในการใช้ระบบสารสนเทศฯ โดยนำขั้นตอนในการพัฒนาระบบตาม แนวคิดในการพัฒนาระบบ ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ได้แก่ การศึกษา การวิเคราะห์ระบบ การ ออกแบบระบบ การพัฒนาระบบ การนำระบบไปใช้ มาใช้ในการพัฒนาระบบสารสนเทศฯ ผลการ ประเมินคุณภาพของระบบสารสนเทศฯ พบว่า ผู้ประเมินมีความคิดเห็นต่อระบบสารสนเทศอยู่ใน ระดับมากทุกด้าน
153 4. ประสิทธิภาพของการใช้งานระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ที่พัฒนาขึ้น โดยใช้วิธีการแบบ Black Box Testing (โอภาส เอี่ยมสิริวงศ์, 2560) พบว่า โดย ภาพรวมมีประสิทธิภาพอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าอยู่ในระดับมากทุกด้าน โดย ด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ ด้านความง่ายต่อการใช้งานระบบ ที่เป็นเช่นนี้อาจเนื่องมาจาก ข้อความ ที่แสดงบนหน้าจอระบบสามารถสื่อความหมายได้ชัดเจนและเข้าใจง่าย มีการออกแบบระบบให้ใช้งาน ง่าย เมนูไม่ซับซ้อน ระบบมีความรวดเร็วในการประมวลผลทำให้ง่ายต่อการสืบค้น และการใช้ สัญลักษณ์หรือรูปภาพของเมนูในการสื่อความหมายมีความเหมาะสมทำให้ง่ายต่อการใช้งาน ด้วยเหตุ นี้จึงทำให้ประสิทธิภาพการใช้งานระบบอยู่ในระดับมากดังกล่าว สอดคล้องกับงานวิจัยของ ไกรทพนธ์ เติมวิทย์ขจร และคณะ (2559) ได้ศึกษาการพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการหลักสูตร มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ระยะที่ 1 มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ หลักสูตร มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ระยะที่ 1 และเพื่อประเมินประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และความ พึงพอใจของผู้ใช้ที่มีต่อระบบสารสนเทศ เพื่อการจัดการหลักสูตร มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ระยะที่ 1 ทำการประเมินประสิทธิภาพระบบด้วยเทคนิคแบล็คบ็อกซ์ (Black Box Testing) โดยผู้เชี่ยวชาญ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจากหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา จำนวน 5 คน ผลการวิจัยพบว่า ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการหลักสูตรมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ระยะที่ 1 ประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ มีประสิทธิภาพอยู่ในระดับดีโดยด้านความง่ายต่อ การใช้งาน มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ ชัยรัตน์ รอดเคราะห์ (2555) ได้ศึกษาการพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการงานปริญญานิพนธ์และสารนิพนธ์ บัณฑิต วิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โดยนำหลักการพัฒนาระบบแบบ SDLC (System development Life Cycle) มาใช้ในการพัฒนาระบบ พบว่า ระบบสารสนเทศที่พัฒนาขึ้นในลักษณะ เว็บแอปลิเคชัน (Web Application) มีประสิทธิภาพการทำงานของระบบอยู่ในเกณฑ์ดี 3. ข้อเสนอแนะ 3.1 ข้อเสนอแนะในการนำผลการวิจัยไปใช้ 3.1.1 ผู้บริหารทั้งในและนอกกระทรวงศึกษาธิการ ครูและบุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนนักเรียน/นิสิต/นักศึกษาและประชาชนทั่วไป สามารถนำแอปพลิเคชัน DataApp V.1 ไปใช้ เพื่อสืบค้นข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาตามความต้องการได้ 3.1.2 หน่วยงานทางการศึกษา สถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษา นักเรียน/ นักศึกษาตลอดจนผู้สนใจที่ต้องการการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ สามารถนำรูปแบบ กระบวนการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 (ADDTIM) เป็น แนวทางในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศตามความต้องการได้
154 3.2 ข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งต่อไป 3.2.1 ควรมีการศึกษาวิจัยและพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจ ราชการที่ 15 อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากรายงานในการนำเสนอข้อมูลที่สร้างขึ้นต้องได้รับการปรับปรุง แก้ไข และพัฒนาให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ต่อไป 3.2.2 ควรมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลต่อการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ ด้านการศึกษา 3.2.3 ควรมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษา 4. ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย 4.1 กระทรวงศึกษาธิการโดยสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ควรใหความสำคัญกับ การพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาเพื่อการบริหารและการจัดการ โดยการกำหนดเป็น กรอบนโยบายและยุทธศาสตร์สำหรับการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศอย่างต่อเนื่อง โดยการสงเสริม และสนับสนุนให้หน่วยงานและสถานศึกษามีการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ เพื่อเป็นเครื่องมือใน การวางแผน บริหารจัดการ ติดตามประเมินและรายงานผลด้านการศึกษาได้อย่างรวดเร็ว 4.2 สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ควรจัดสรรอัตรากำลังตำแหน่งนักวิชาการ คอมพิวเตอร์ให้กับสำนักงานศึกษาธิการภาค เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ ระบบการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูล และสนับสนุนการปฏิบัติงานด้านข้อมูลสารสนเทศให้กับ หน่วยงาน ตลอดจนการพัฒนาสื่อ นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา เพื่อก่อให้เกิดการ พัฒนาคุณภาพการศึกษาในพื้นที่ต่อไป 4.3 สำนักงานศึกษาธิการภาค 15 ควรสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ และทักษะ ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เพื่อให้สามารถดูแลแก้ไข และวางแนวทาง ในการพัฒนาระบบในอนาคตรวมถึงการจัดให้มีเจ้าหน้าที่ดูแลในส่วนของข้อมูลสารสนเทศของระบบ โดยตรง เพื่อให้ข้อมูลของระบบมีความเป็นปัจจุบัน และสามารถนำสารสนเทศที่ได้จากการ ประมวลผลของระบบมาใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
155 บรรณานุกรม กรมสามัญศึกษา. (2538). การจัดระบบสารสนเทศของโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดกรมสามัญ ศึกษา. กรุงเทพฯ : คอมพิวเทคไมโครซีสเต็ม. กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการบริหารข้อมูลสารสนเทศ ด้านการศึกษา พ.ศ. 2560. กรุงเทพ : กระทรวงศึกษาธิการ. กิตติ ภักดีวัฒนะกุล. (2550). วิศวกรรมซอฟต์แวร์. กรุงเทพฯ : เคทีพี คอมพ์ แอนด์ คอนซัลท์. เกรียงศักดิ์ พราวศรี. (2544). การจัดระบบสารสนเทศในการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เพื่อการประกันคุณภาพการศึกษา. กรุงเทพฯ : บุ๊คพอยท์. โกวัฒน์ เทศบุตร. (2545). เอกสารประกอบการสอนวิชา 50187. มหาสารคาม : คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. _______. (2552). เอกสารประกอบการสอนวิชาการวิเคราะห์และพัฒนาระบบงานใน สถาบันการศึกษา. มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. _______. (2554). คู่มือการจัดการศึกษา เอกสารประกอบการสอนรายวิชา 0511902 การประยุกต์ทฤษฎีระบบในการบริหารและพัฒนาการศึกษา. มหาสารคาม: ภาควิชา การบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. ไกรทพนธ์ เติมวิทย์ขจร และคณะ. (2559). การพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการหลักสูตร มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ระยะที่ 1. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ. มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา. เขมนิจ ปรีเปรม. (2554). สมรรถนะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศกับการบริหารระบบสารสนเทศของ ผู้บริหารสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 1. วิทยานิพนธ์ กศ.ม.นครปฐม : มหาวิทยาลัยศิลปากร, 2554. คนึงนิจ พรหมเนตร. (2554). การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารสถานศึกษา วิทยาลัยการอาชีพเชียงราย. วิทยานิพนธปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สถาบันราชภัฏ เชียงราย. จันทรานี สงวนนาม. (2545). การฝึกอบรมบุคลากรทางการศึกษา. มหาสารคาม : มหาวิทยาลัย มหาสารคาม. _______. (2551). ทฤษฎีและแนวปฏิบัติในการบริหารสถานศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: บุคพอยท์.
156 จิรพัฒน์ เทียมศักดิ์. (2548). การพัฒนาระบบการควบคุมพัสดุโรงเรียนบ้านเกียรติเจริญ อำเภอประโคนชัย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2. งานศึกษาค้นคว้าอิสระ มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. จิราวรรณ คุ้มปลี. (2558). การศึกษาปัญหาและแนวทางการพัฒนาการจัดระบบสารสนเทศ เพื่อการบริหารโรงเรียน อำเภอคลองใหญ่สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาตราด. งานนิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, มหาวิทยาลัยบูรพา. ฉันทวิท กุลไพศาล. (2551). การวิเคราะห์และพัฒนาระบบงาน. กรุงเทพฯ : อินฟอร์เมติก บิซิเนสพับลิเคชั่น. ชัยรัตน์ รอดเคราะห์. (2555). การพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการปริญญานิพนธ์ และสารนิพนธ์. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. ชิตชนก ทิพย์โสดา. (2564). การพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการประเมินผลการปฏิบัติ ราชการของบุคลากรสายวิชาการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. วิทยานิพนธ์ กศ.ม. สาขาวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. ณรงค์แก้วกัญญา. (2555). การพัฒนาระบบสารสนเทศงานกจิการนักเรียน โรงเรียนโนนไทยคุรุ อุปถัมภ์อำเภอโนนไทยจังหวัดนครราชสีมา. การค้นคว้าอิสระการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. ณัฎฐพันธ์เขจรนันท์และไพบูลย์เกียรติโกมล. (2551). ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ. กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น. _______. (2551). การวิเคราะหและออกแบบระบบสารสนเทศ. กรุงเทพฯ: ซีเอ็ตยูเคชั่น. _______. (2546). กลยุทธ์การสร้างองค์การคุณภาพ. กรุงเทพฯ : ธรรมกมลการพิมพ์. ดิเรก วรชัยสวัสดิ์. (2557). การนําเสนอแนวทางการจัดการระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารงาน กิจการนักเรียนของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา พระนครศรีอยุธยา เขต 1. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหาร การศึกษา, มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา. ทศพร เบ็ญจพงษ์และคณะ. (2546). ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์. กรุงเทพฯ : ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิมพ์อักษร. ทิศนา แขมมณี. (2551). ศาสตร์การสอน : องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มี ประสิทธิภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ทิพวรรณ หล่อสุวรรณรัตน์. (2545). ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ. พิมพ์ครั้งที่ 3 กรุงเทพฯ : เอสแอนด์จีกราฟฟิค.
157 ธงชัย สันติวงษ์. (2539). การบริหารเชิงกลยุทธ์. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช. ธนา นนทพทธุ. วงจรการบริหารงานคุณภาพ. (2555). [ออนไลน์]. [สืบค้นวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566]. จาก https://www.gotoknow.org/posts/458284 ธีระ รุญเจริญ. (2546). การบริหารโรงเรียนยุคปฏิรูปการศึกษา. กรุงเทพฯ : ข้าวฟ่าง. นันทนา ธรรมบุศย์. (2540). การพัฒนาตน. กรุงเทพฯ : คณะครุศาสตร์สถาบันราชภัฏจันทรเกษม. นันทา อมรสิน และคณะ. (2548). การจัดการระบบสารสนเทศของสถานศึกษาในอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่. การค้นคว้าอิสระ บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต เชียงใหม่ : หาวิทยาลัยเชียงใหม่. นิตยา เงินประเสริฐศรี. (2555). การบริหารคุณภาพ. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. นิภาภรณ์ คำเจริญ. (2545). ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ. กรุงเทพมหานคร : เอส.พี.ซี.บุ๊คส์. บังอร มธุรสสุวรรณ. (2542). การบริหารงานวิชาการระดับประถมศึกษาของโรงเรียน ในเครือคณะภคินีพระหฤทัยของพระเยซูเจ้ากรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการนิเทศ มหาวิทยาลัยศิลปากร. บัลลังก์ จารย์คุณ. (2563). การพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารงานวิชาการในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 2. วิทยานิพนธ์ปริญญา การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารและพัฒนาการศึกษา มหาวิทยาลัย มหาสารคาม. บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น. ประกายวรรณ ธรรมสังวาล. (2551). การพัฒนาระบบสารสนเทศของวิทยาลัยเทคนิคบูรพา ปราจีน. วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาการศึกษาวิทยาศาสตร์ (คอมพิวเตอร์), สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง. ประชุม รอดประเสริฐ. (2547). นโยบายและการวางแผน : หลักการและทฤษฎี. (พิมพ์ครั้งที่ 8). เนติกุลการพิมพ์. ประพาพร มั่นคง. (2558). การพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อติดตามวิทยานิพนธ์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต. มหาสารคาม : มหาวิทยาลัย มหาสารคาม. ประยูร เทพพิทักษศักดิ์. (2555). พัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารสำนักงานคณบดี มหาวิทยาลัยนครพนม. วิทยานิพนธปริญญาการศึกษาดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัย มหาสารคาม.
158 ประเวศน์ มหารัตน์กุล. (2542). การบริหารทรัพยากรมนุษย์แนวใหม่. กรุงเทพฯ : สมาคมส่งเสริม เทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น). ประสงค์ ปราณีตพลกรัง และคณะ. (2541). ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ. กรุงเทพฯ : ธีระฟิล์ม และไซเท็กซ์. ปิยะรัตน์ วงศ์เติง. (2551). การดําเนินงานระบบสารสนเทศของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ในเขตพื้นที่การศึกษาเชียงใหม่ เขต 1. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต เชียงใหม่ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. พงษ์ศักดิ์ ผกามาศ. (2553). ระบบไอซีทีและการจัดการยุคใหม่ (ICT System and Modern Management). กรุงเทพฯ : วิตตี้กรุ๊ป. พรเทพ รู้แผน. (2546). การพัฒนาระบบการประเมินผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. วิทยานิพนธ์ ครุศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย. พิทยา บวรวัฒนา. (2552). รัฐประศาสนศาสตร์ ทฤษฎีและแนวการศึกษา. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย. ภาคภูมิ ขลังธรรมเนียม. (2559). การศึกษาสภาพและปัญหาการจัดการระบบสารสนเทศใน การบริหารงานของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยในเขตภาค กลาง. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, มหาวิทยาลัย ราชภัฏพระนครศรีอยุธยา. ภูดิท ไชยผล. (2556). การประเมินประสิทธิผลการควบคุมภายในกระบวนการวางแผนเชิงกลยุทธ์ ของวิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการสยาม ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอเจ้าฟ้า เพชรรัตนราชสุดาสิริโสภาพัณณวดี. การศึกษาค้นคว้าอิสระมหาบัณฑิต สาขาวิชาการ ตรวจสอบภายใน บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย. มหาวิทยาลัยรามคำแหง. (2545). ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. (2543). เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา. นนทบุรี : มหาวิทยาลัย สุโขทัยธรรมาธิราช. รัตพีรพัฒน์ ทะมานนท์. (2561). ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารสถานศึกษา. วารสารมหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์. ปีที่ 2 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม-ธันวาคม. ราชบัณฑิตยสถาน. (2546). พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542. กรุงเทพฯ : นานมีบุ๊คส์พับลิชั่น.
159 ราชบัณฑิตยสถาน. (2554). พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554. [ออนไลน์]. สืบค้นได้จาก https://dictionary.orst.go.th/ รุ่งรัศมี บุญดาว. (2559). ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการธุรกิจในยุคดิจิทัล. นนทบุรี : ลัคกี้บุ๊ค. เรืองวิทย์ เกษสุวรรณ. (2545). การจัดการคุณภาพ : จาก TQC ถึง TQM, ISO 9000 และการ ประกันคุณภาพ. พิมพครั้งที่ 2 กรุงเทพมหานคร. บพิธการพิมพ์. ลาวัณย์ คาขาย. (2554). การใชสารสนเทศเพื่อการศึกษาคนควาของนักศึกษาระดับปริญญาตรี คณะครุศาสตรอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกลาพระนครเหนือ. วิทยานิพนธศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสารสนเทศศาสตร, หาวิทยาลัยสุโขทัย ธรรมาธิราช. วรยุทธ วงศประเสริฐ. (2565). การพัฒนาระบบสารสนเทศในการบริหารงานงบประมาณของ โรงเรียนมัธยมศึกษาในจังหวัดพังงา. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการ บริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย. มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎรธานี. วรรัตน์ อภินันท์กูล. (2551). แนวคิดและทฤษฎีน่ารู้ทางการศึกษานอกระบบโรงเรียน. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. วิชชุดา ไชยศิวามงคล. (2541). ระบบฐานข้อมูลและการออกแบบ. กรุงเทพฯ : พิทักษ์อักษร. วิฑูรย์ สิมะโชคดี. (2545). คุณภาพคือการบูรณาการ. กรุงเทพฯ : สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี. วิสูตร วรสง่าศิลป์. (2552). คอมพิวเตอร์เบื้องต้นและเทคโนโลยีสารสนเทศ. นครปฐม : มหาวิทยาลัยศิลปากร. วีรยุทธ ชาตะกาญจน์. (2555). เทคนิคการบริหารสำหรับนักเรียนบริหารการศึกษามือ อาชีพ. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ : จุฬาลงการณ์มหาวิทยาลัย. วีระ สุภากิจ. (2539). ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ : จากทฤษฎีสู่การปฏิบัติในโรงเรียน. กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาสน. วีระ สุภากิจ. (2550). ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ : จากทฤษฎีการปฏิบัติในโรงเรียน. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. ศรีไพร ศักดิ์รุ่งพงศากุล และเจษฎาพร ยุทธนวิบูลย์ชัย. (2549). ระบบสารสนเทศและเทคโนโลยี การจัดการความรู้. กรุงเทพฯ : ซีเอ็ดยูเคชัน. ศรีสมรัก อินทุจันทร์ยง. (2549). ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ. กรุงเทพฯ : พิมพ์ดี. ศิริพงษ์ เศาภายน. (2556). การบริหารทรัพยากรและการจัดการทางการศึกษา. กรุงเทพฯ: มิตรภาพการพิมพ์และสติวดิโอ.
160 ศุภนิจ ศรีรักษ. (2555). พฤติกรรมการแสวงหาสารสนเทศเพื่อการทำวิทยานิพนธ์ของนักศึกษา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. กรุงเทพฯ : สำนักบรรณสารการพัฒนาสถาบัน บัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร. สมจิตร อาจอินทร์ และงามนิจ อาจอินทร์. (2540). ระบบฐานข้อมูล. พิมพ์ครั้งที่3. ขอนแก่น: หนังสือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. สมศักดิ์ สินธุระเวชญ์. (2542). มุ่งสู่คุณภาพการศึกษา. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช. สวัสดิ์ กาญจนสุวรรณ. (2542). หลักการบริหารการศึกษาโครงการตำราวิชาการสถาบันราชภัฏ เฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ. สงขลา : คณะครุศาสตร์ สถาบันราชภัฏสงขลา. สัลยุทธ์ สว่างวรรณ. (2545). ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ. กรุงเทพฯ : เพียร์สัน เอ็ดดูเคชัน. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2554). การจัดระบบบริหารและสารสนเทศภายใน สถานศึกษาตามกฎกระทรวงว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์และวิธีการประกันคุณภาพ การศึกษา พ.ศ.2553. กรุงเทพฯ. สำนักงานบริหารการศึกษาพิเศษ. (2555). รายงานผลการนิเทศการจัดการศึกษาของ สถานศึกษาสังกัดสำนักงานบริหารการศึกษาพิเศษ. กรุงเทพฯ : สำนัก บริหารงานการศึกษาพิเศษ. สำนักงานศึกษาธิการภาค 15. (2565). ข้อมูลสารสนเทศพื้นฐานด้านการศึกษา ปีการศึกษา 2565 เขตตรวจราชการที่ 15 (เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน). กลุ่มยุทธศาสตร์ การศึกษา : สำนักงานศึกษาธิการภาค 15. ________. (2565). รายงานการวิเคราะห์ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ปีการศึกษา 2564 เขตตรวจราชการที่ 15 ของนักเรียนระดับชั้น ป.6, ม.3, ม.6. กลุ่มยุทธศาสตร์การศึกษา : สำนักงานศึกษาธิการภาค 15. สำนักทดสอบทางการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2553). การจัดระบบ บริหารและสารสนเทศภายในสถานศึกษา ตามกฎกระทรวงว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2553. กรุงเทพฯ : สำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน. สุนทร คล้ายสุบรรณ์ และคณะ. (2561). การพัฒนาระบบสารสนเทศด้านการวิจัยของสำนักงาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (รายงานผลการวิจัย). กรุงเทพฯ: สำนักนโยบายและ ยุทธศาสตร์
161 สุประภาดา แสนสุข. (2562). การพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการข้อมูลนักเรียน โรงเรียนชุมชนบ้านคำชะอีจังหวัดมุกดาหาร. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต. สาขาการศึกษาวิทยาศาสตร์(คอมพิวเตอร์). สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง. โสภิษฐ์ อ่อนแก้ว. (2555). ออกแบบและพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการความรู้สำหรับ องค์กรภาครัฐ. วิทยานิพนธ์ ปร.ด. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร, 2555. อธิป ศรีบรรเทา. (2560). การพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิผล ในวิทยาลัยเทคนิค. ปริญญาการศึกษาดุษฎีบัณฑิต. สาขาวิชาการบริหารและพัฒนา การศึกษา. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. อนันท์งามสะอาด.(2551). การพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิค เดชอุดม ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้เชิงบูรณาการ. กรุงเทพฯ : อรุณการพิมพ์. อรนุช มหฤทัยนนท์. (2545). ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ=Management information systems. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยรามคำแหง. อรยา ปรีชาพานิช. (2557). การวิเคราะห์และออกแบบระบบ (System Analysis and Design). นนทบุรี : ไอดีซี พรีเมียร์. อังคณา แวซอเหาะ. (2554). รายงานการวิจัยการใชสารสารเทศเพื่อการศึกษาคนควาของ นักศึกษาคณะศิลปศาสตรมหาวิทยาลยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร. โอภาส เอี่ยมสิริวงศ์. (2554). ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ (Management Information System : MIS). กรุงเพมหานคร : ซีเอ็ด ยูเคชัน. _______. (2560). ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ ฉบับปรับปรุงเพิ่มเติม. กรุงเทพมหานคร : ซีเอ็ด ยูเคชัน. _______. (2551). การวิเคราะห์และออกแบบระบบ. กรุงเทพมหานคร : ซีเอ็ด ยูเคชั่น. _______. (2555). การวิเคราะห์และออกแบบระบบ. กรุงเทพมหานคร : ซีเอ็ด ยูเคชั่น. Barrett, D. Scott. (2001). “Factors and Their Effect in the Principal : Utilization of a Management Information System”. Dissertation Abstracts International. 61(08) : 3002-A ; February 2001. Krajewski, J. Lee & Ritzman, P. Larry. (1999). Operations Management Strategy and Analysis. New York : Addison-Westley Publishing. Ludwig Von Bertalanffy. (1968). General System Theory. Prentice Hall : Englewood Cliff.
162 McLeod, R.J. (1995). Management Information Systems. 6 thed. Prentice Hall : Englewood Cliff. Paul, Gray. (1994). Decision Support and Executive Information Systems. New Jersey : Prentice-Hall. Wu, M. (2004). Continuous Evaluation of Information System Development : A Reference Model. Dissertation Abstracts International.
163 ภาคผนวก
164 ภาคผนวก ก: รายชื่อผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเครื่องมือวิจัย
165 รายชื่อผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือ 1. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จักรปรุฬห์ วิชาอัครวิทย์ สาขาวิชาการบริหารการศึกษาและภาวะผู้นำ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ 2. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พงศ์กร จันทราช คณบดีคณะนวัตกรรม เทคโนโลยีและการสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น 3. ดร.ทัศนีย์ อารมย์เกลี้ยง ภาควิชาหลักสูตรและการสอน คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ 4. ดร.พิรุฬห์ แก้วฟุ้งรังสี หัวหน้าภาควิชาคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ 5. ดร.อโณทัย สุขเจริญโกศล นักวิชาการศึกษาชำนาญการ กลุ่มยุทธศาสตร์การศึกษา สำนักงานศึกษาธิการภาค 15
166 รายนามผู้เชี่ยวชาญในการประเมินคุณภาพของระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ภายใต้ชื่อ DataApp V.1 1. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พงศ์กร จันทราช คณบดีคณะนวัตกรรม เทคโนโลยีและการสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น 2. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สาโรช สอาดเอี่ยม คณะนวัตกรรม เทคโนโลยีและการสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น 3. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ อนันท์ ทับเกิด สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา 4. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ กิตตินันท์ น้อยมณี สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา 5. ดร.พิรุฬห์ แก้วฟุ้งรังษี หัวหน้าภาควิชาคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
167 ภาคผนวก ข: เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
168 แบบสอบถาม เรื่อง การศึกษาวิเคราะห์เพื่อพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 คำชี้แจง แบบสอบถามเพื่อการวิจัยฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการจัดเก็บรวบรวมข้อมูล ในการศึกษา เรื่อง “การศึกษาวิเคราะห์เพื่อพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15” โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการพัฒนา ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ซึ่งเป็นการสำรวจความคิดเห็น ของผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานของสำนักงานศึกษาธิการภาค 15 และสำนักงาน ศึกษาธิการจังหวัด ในพื้นที่เขตตรวจราชการที่ 15 โดยแบ่งออกเป็น 3 ตอน ประกอบด้วย ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ตอนที่ 2 ระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันและความต้องการพัฒนา ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ตอนที่ 3 ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ขอความกรุณาตอบข้อคำถามทุกข้อตามความเป็นจริง ที่ตรงกับความเห็นของ ท่านมากที่สุดและครอบคลุมในทุกประเด็น เนื่องจากข้อมูลที่ได้จะนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการ ศึกษาวิจัยโดยจะดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลในลักษณะภาพรวม และจะถือเป็นความลับโดยจะ ไม่มีการเปิดเผยหรือนำไปใช้ประโยชน์อื่นใด ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ให้ข้อมูลหรือหน่วยงาน ในทางลบแต่อย่างใด ขอขอบพระคุณทุกท่านที่กรุณาตอบแบบสอบถามเพื่อการวิจัยในครั้งนี้ นางสาวเพ็ญพร ปะระดี นักวิชาการศึกษาชำนาญการพิเศษ รักษาการในตำแหน่ง ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการศึกษา ผู้วิจัย
169 ตอนที่1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม คำชี้แจง : โปรดเขียนเครื่องหมาย ลงใน □ หน้าข้อความที่ตรงกับข้อมูลส่วนตัวของท่าน ตำแหน่งหรือหน้าที่ของผู้ตอบแบบสอบถาม □ 1. ศึกษาธิการภาค □ 2. รองศึกษาธิการภาค □ 3. ศึกษาธิการจังหวัด □ 4. รองศึกษาธิการจังหวัด □ 5. ผู้อำนวยการกลุ่ม □ 6. เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงาน ตอนที่2 ระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันและความต้องการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ ด้านการศึกษาเขตตรวจราชการที่ 15 คำชี้แจง : โปรดพิจารณาสภาพปัจจุบันและความต้องการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา ตามประเด็น คำถามที่กำหนด โดยทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับความคิดเห็นที่ตรงกับความคิดเห็น ของท่าน ซึ่งมี 5 ระดับ ดังนี้ 5 หมายถึง มีสภาพปัจจุบัน/ความต้องการ อยู่ในระดับมากที่สุด 4 หมายถึง มีสภาพปัจจุบัน/ความต้องการ อยู่ในระดับมาก 3 หมายถึง มีสภาพปัจจุบัน/ความต้องการ อยู่ในระดับปานกลาง 2 หมายถึง มีสภาพปัจจุบัน/ความต้องการ อยู่ในระดับน้อย 1 หมายถึง มีสภาพปัจจุบัน/ความต้องการ อยู่ในระดับน้อยที่สุด ประเด็นคำถาม ระดับความคิดเห็น สภาพปัจจุบัน ความต้องการ 5 4 3 2 1 5 4 3 2 1 1. การวิเคราะห์ระบบ (Analysis) 1.1 มีการวางแผน กำหนดเป้าหมาย แนวทางในการ วิเคราะห์ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา 1.2 มีการวิเคราะห์สภาพปัจจุบันของระบบเดิมและสภาพ ความต้องการระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาที่จะ พัฒนาใหม่
170 ประเด็นคำถาม ระดับความคิดเห็น สภาพปัจจุบัน ความต้องการ 5 4 3 2 1 5 4 3 2 1 1.3 มีการมอบหมายทีมงานหรือผู้รับผิดชอบดำเนินการ ตามแผนการวิเคราะห์ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา 1.4 มีการวิเคราะห์รวบรวมความต้องการข้อมูลสารสนเทศ ด้านการศึกษาก่อนที่จะดำเนินการพัฒนาระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษา 1.5 มีการจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาที่มีความ ถูกต้องและตรวจสอบได้ 1.6 มีการวิเคราะห์การนำเสนอระบบข้อมูลสารสนเทศ ด้านการศึกษาในรูปแบบแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ 1.7 มีการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการวิเคราะห์ ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาเป็นประจำ 1.8 มีการนำผลการประเมินการวิเคราะห์ระบบมาหา สาเหตุที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงแก้ไข 2. การออกแบบระบบ (Design) 2.1 มีการวางแผน กำหนดเป้าหมาย แนวทางในการ ออกแบบระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา 2.2 มีการมอบหมายทีมงานหรือผู้รับผิดชอบดำเนินการ ตามแผนการออกแบบระบบข้อมูลสารสนเทศด้าน การศึกษา 2.3 มีการกำหนดคุณสมบัติของระบบให้สามารถใช้งานได้ หลากหลายอุปกรณ์เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ 2.4 มีการสอบถามความต้องการของผู้ใช้งานก่อนการ ออกแบบระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา 2.5 มีการออกแบบส่วนติดต่อกับผู้ใช้ (User Interface) ที่มีความเหมาะสมและใช้งานง่าย 2.6 มีการออกแบบระบบให้เข้าถึงได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก และไม่ซับซ้อน
171 ประเด็นคำถาม ระดับความคิดเห็น สภาพปัจจุบัน ความต้องการ 5 4 3 2 1 5 4 3 2 1 2. การออกแบบระบบ (Design) (ต่อ) 2.7 มีการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการออกแบบ ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา 2.8 มีการนำผลการประเมินการออกแบบระบบมา วิเคราะห์ปัญหาและสาเหตุที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงแก้ไข 3. การพัฒนาระบบ (Development) 3.1 มีการวางแผน กำหนดเป้าหมาย แนวทางในการ ดำเนินงานพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา 3.2 มีการมอบหมายทีมงานหรือผู้รับผิดชอบในการพัฒนา ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา 3.3 มีการพัฒนาระบบด้วยโปรแกรมที่สามารถใช้งานได้ หลากหลายระบบปฏิบัติการ 3.4 มีการพัฒนาระบบให้สามารถใช้งานผ่านอุปกรณ์ เทคโนโลยีได้อย่างหลากหลาย เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ 3.5 มีการพัฒนาระบบให้สามารถใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็วและเหมาะสม กับการใช้งานในปัจจุบัน เช่น แอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ 3.6 มีการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการพัฒนา ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา 3.7 มีการนำผลการประเมินการพัฒนาระบบมาวิเคราะห์ ปัญหาและสาเหตุที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงแก้ไข 4. การทดสอบระบบ (Testing) 4.1 มีการวางแผน กำหนดเป้าหมาย แนวทางในการ ทดสอบระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา 4.2 มีการมอบหมายทีมงานหรือผู้รับผิดชอบในการทดสอบ ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา
172 ประเด็นคำถาม ระดับความคิดเห็น สภาพปัจจุบัน ความต้องการ 5 4 3 2 1 5 4 3 2 1 4. การทดสอบระบบ (Testing) (ต่อ) 4.3 มีการทดสอบความถูกต้องของผลลัพธ์ที่ได้จากระบบ ข้อมูลสารสนเทศที่พัฒนาขึ้น 4.4 มีการทดสอบระบบให้มีความสมบูรณ์ ถูกต้อง ตรงตาม ความต้องการของผู้ใช้ 4.5 มีการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการทดสอบ ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา 4.6 มีการนำผลการประเมินการทดสอบระบบมาวิเคราะห์ ปัญหาและสาเหตุที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงแก้ไข 5. การนำระบบไปใช้ (Implementation) 5.1 มีการวางแผน กำหนดเป้าหมาย แนวทางในการนำ ระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษาไปใช้ 5.2 มีการประชุมอบรมและมอบหมายผู้รับผิดชอบในการ นำระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาไปใช้ 5.3 มีการนำระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาที่พัฒนาขึ้นไป ใช้ในสถานการณ์จริง 5.4 มีการอบรมให้ความรู้แก่ผู้ใช้งานระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษา 5.5 มีการกำหนดเกณฑ์ในการติดตาม ตรวจสอบและ ประเมินผลการใช้งานระบบข้อมูลสารสนเทศด้าน การศึกษา 5.6 มีการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการนำระบบ ข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาไปใช้ตามเกณฑ์ที่กำหนด 5.7 มีการรายงานและนำผลการประเมินการนำระบบ ข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาไปใช้มาวิเคราะห์ปัญหา และสาเหตุที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงแก้ไข
173 ประเด็นคำถาม ระดับความคิดเห็น สภาพปัจจุบัน ความต้องการ 5 4 3 2 1 5 4 3 2 1 6. การบำรุงรักษาระบบ (Maintenance) 6.1 มีการกำหนดแผนงาน กำหนดเป้าหมาย และแนวทาง ในการบำรุงรักษาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา 6.2 มีการมอบหมายทีมงานหรือผู้รับผิดชอบในการ บำรุงรักษาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา 6.3 มีการตรวจสอบหาข้อผิดพลาดของระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษาที่อาจเกิดขึ้นจากตัวระบบเองเพื่อ นำมาปรับปรุงแก้ไข 6.4 ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษามีการปรับปรุง แก้ไขตามการปรับเปลี่ยนของเทคโนโลยีที่มีการพัฒนา 6.5 ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษามีการปรับปรุง แก้ไขตามความต้องการของผู้ใช้ 6.6 มีการติดตาม และประเมินผลการบำรุงรักษาระบบ ข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา 6.8 มีการรายงานและนำผลการประเมินการบำรุงรักษา ระบบมาวิเคราะห์ปัญหาและสาเหตุที่เกี่ยวข้องเพื่อ ปรับปรุงแก้ไข ตอนที่ 3 ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ผู้วิจัยขอขอบพระคุณท่านเป็นอย่างสูง
174 แบบประเมินคุณภาพของระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 คำชี้แจง 1. แบบประเมินนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทราบคุณภาพของระบบข้อมูลสารสนเทศด้าน การศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ที่ใช้งานในรูปแบบโมบายแอปพลิเคชั่น ภายใต้ชื่อ DataApp V.1 เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาระบบให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น 2. แบบประเมินคุณภาพของระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ที่ใช้งานในรูปแบบโมบายแอปพลิเคชันภายใต้ชื่อ DataApp V.1 โดยแบ่งออกเป็น 5 ด้าน คือ 1) ด้าน ความถูกต้อง (Accurate) 2) ด้านความทันต่อเวลา (Timeliness) 3) ด้านความสมบูรณ์ครบถ้วน (Complete)4) ด้านความสอดคล้องกับความต้องการ (Relevance) และ 5) ด้านการตรวจสอบได้ (Verifiable) เกณฑ์การประเมิน แบ่งออกเป็น 5 ระดับ ดังนี้ 5 หมายถึง มีคุณภาพในระดับ ดีมาก 4 หมายถึง มีคุณภาพในระดับ ดี 3 หมายถึง มีคุณภาพในระดับ ปานกลาง 2 หมายถึง มีคุณภาพในระดับ พอใช้ 1 หมายถึง มีคุณภาพในระดับ ปรับปรุง ขอขอบพระคุณท่านที่ได้กรุณาเป็นผู้เชี่ยวชาญ ในการประเมินคุณภาพของระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ในครั้งนี้ นางสาวเพ็ญพร ปะระดี นักวิชาการศึกษาชำนาญการพิเศษ รักษาการในตำแหน่ง นักวิชาการศึกษาเชี่ยวชาญ ผู้วิจัย
175 ระดับคุณภาพ ข้อที่ รายการประเมิน 5 4 3 2 1 ดี มาก ดี ปาน กลาง พอ ใช้ ปรับ ปรุง 1. ด้านความถูกต้อง (Accurate) 1.1 ระบบสามารถจัดเก็บข้อมูลได้อย่างถูกต้อง 1.2 ระบบสามารถบันทึก แก้ไขข้อมูลได้อย่างถูกต้อง 1.3 ความถูกต้องของการเชื่อมโยงข้อมูลในระบบ 1.4 ระบบแสดงรายงานข้อมูลได้อย่างถูกต้อง 2. ด้านความทันต่อเวลา (Timeliness) 2.1 ความเร็วในการแสดงผลจากการเชื่อมโยงเพจ 2.2 ความเร็วในการนำเสนอข้อมูล 2.3 ความเร็วในการบันทึก ปรับปรุงข้อมูล 2.4 ความเร็วในการติดต่อกับฐานข้อมูล 3. ด้านความสมบูรณ์ครบถ้วน (Complete) 3.1 ระบบมีการจัดเก็บข้อมูล ถูกต้อง ครบถ้วน ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน 3.2 ระบบสามารถแสดงข้อมูลได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน 3.3 ระบบมีการประมวลผลข้อมูลอย่างถูกต้อง สมบูรณ์ครบถ้วน 3.4 ระบบข้อมูลสารสนเทศมีความครอบคลุม ครบถ้วนในภาพรวม 4. ด้านความสอดคล้องกับความต้องการ (Relevance) 4.1 การออกแบบหน้าจอของระบบง่ายต่อการใช้งาน 4.2 ระบบสามารถเข้าใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน 4.3 มีการจัดระบบข้อมูลเป็นหมวดหมู่ 4.4 ระบบมีประโยชน์ต่อการนำไปใช้
176 ระดับคุณภาพ ข้อที่ รายการประเมิน 5 4 3 2 1 ดี มาก ดี ปาน กลาง พอ ใช้ ปรับ ปรุง 5. ด้านการตรวจสอบได้ (Verifiable) 5.1 ระบบนำเสนอข้อมูลที่สามารถตรวจสอบ แหล่งที่มาได้ 5.2 ระบบมีการตรวจสอบรหัสผู้ใช้ และรหัสผ่าน ให้ถูกต้องก่อนการเข้าใช้ระบบ 5.3 ระบบมีการตรวจสอบสิทธิ์การใช้งานของผู้ใช้ 5.4 ระบบมีการควบคุมให้ใช้งานตามสิทธิ์ของผู้ใช้ ได้อย่างถูกต้อง ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ..................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ............................................................... (......................................................................) .............../........................../............................ ผู้ประเมิน
177 แบบประเมินประสิทธิภาพของระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 คำชี้แจง 1. แบบประเมินฉบับนี้เป็นแบบสอบถามเพื่อให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้งานระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ที่ใช้งานในรูปแบบ โมบายแอปพลิเคชัน ภายใต้ชื่อ DataApp V.1 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินประสิทธิภาพของระบบที่ใช้งานจริง โดยแบ่งการ ประเมินตามลักษณะการทดสอบระบบออกเป็น 4 ด้าน ดังต่อไปนี้ 1) ด้านการตรงตามความต้องการของผู้ใช้ระบบ (Functional Requirement Test) 2) ด้านการทำงานได้ตามฟังก์ชันงานของระบบ (Functional Test) 3) ด้านความง่ายต่อการใช้งานระบบ (Usability Test) 4) ด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในระบบ (Security Test) 2. การแสดงความคิดเห็นของท่านที่ทำการประเมินเกี่ยวกับประสิทธิภาพของระบบ ซึ่ง ประกอบด้วยส่วนของคำถามและระดับความคิดเห็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า โปรดทำเครื่องหมาย ลงในช่องที่ตรงกับความคิดเห็นของท่านมากที่สุด และได้โปรดให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมท้ายรายการ ประเมิน ทั้งนี้เพื่อจะเป็นประโยชน์ต่อผู้วิจัยในการปรับปรุง ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ให้มีประสิทธิภ าพสูงขึ้นต่อไป โดยมีเกณฑ์ในการพิจารณา ดังนี้ 5 หมายถึง มีประสิทธิภาพอยู่ในระดับ มากที่สุด 4 หมายถึง มีประสิทธิภาพอยู่ในระดับ มาก 3 หมายถึง มีประสิทธิภาพอยู่ในระดับ ปานกลาง 2 หมายถึง มีประสิทธิภาพอยู่ในระดับ น้อย 1 หมายถึง มีประสิทธิภาพอยู่ในระดับ น้อยที่สุด ขอขอบพระคุณท่านที่ได้กรุณาตอบแบบสอบถาม ในการประเมินประสิทธิภาพของระบบ ข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ในครั้งนี้ นางสาวเพ็ญพร ปะระดี นักวิชาการศึกษาชำนาญการพิเศษ รักษาการในตำแหน่ง นักวิชาการศึกษาเชี่ยวชาญ ผู้วิจัย
178 ระดับความคิดเห็น ข้อที่ รายการประเมิน 5 4 3 2 1 มาก ที่สุด มาก ปาน กลาง น้อย น้อย ที่สุด 1. ด้านการตรงตามความต้องการของผู้ใช้ระบบ (Functional Requirement Test) เป็นการทดสอบความสามารถของระบบว่าตรงตามความตองการมากน้อยเพียงใด 1.1 ความสามารถของระบบในการเขาใชงานของผู้ใช้ระบบ 1.2 ความสามารถของระบบในการแสดงรายละเอียด ของข้อมูล 1.3 ความสามารถของระบบในการค้นหาสถานศึกษา 1.4 ความสามารถของระบบในการแสดงแผนที่สถานศึกษา 1.5 ความสามารถของระบบในการโต้ตอบกับผู้ใช้งาน 1.6 ผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลของระบบมีประโยชน์ ต่อการนำไปใช้ 2. ด้านการทำงานได้ตามฟังก์ชันงานของระบบ (Functional Test) เป็นการทดสอบความถูกตองในการทำงานของระบบวาสามารถทำงานได้ตามหนาที่ได้มากน้อย เพียงใด 2.1 ความถูกต้องในการจัดเก็บข้อมูลนำเข้า 2.2 ความถูกต้องในการบันทึกข้อมูลลงในระบบ 2.3 ความถูกต้องในการเชื่อมโยงข้อมูลในแต่ละเมนู 2.4 ความถูกต้องต่อการแสดงข้อมูลในการสืบค้น 2.5 ความถูกต้องของข้อมูลในการแสดงรายงานบนหน้าจอ 2.6 ความถูกต้องและน่าเชื่อถือได้ของระบบ 3. ด้านความง่ายต่อการใช้งานระบบ (Usability Test) เป็นการทดสอบการใชงานของระบบวามีความง่ายตอการใชงานมากน้อยเพียงใด 3.1 ความสะดวกและความง่ายในการเข้าใช้งานระบบ 3.2 ระบบมีการออกแบบให้ใช้งานง่าย เมนูไม่ซับซ้อน 3.3 ข้อความที่แสดงบนหน้าจอสื่อความหมายได้ชัดเจน และเข้าใจง่าย 3.4 ความเป็นมาตรฐานเดียวกันในการออกแบบ หน้าจอภาพทำให้ง่ายต่อการใช้งาน
179 ระดับความคิดเห็น ข้อที่ รายการประเมิน 5 4 3 2 1 มาก ที่สุด มาก ปาน กลาง น้อย น้อย ที่สุด 3.5 ความเหมาะสมในการใช้สัญลักษณ์หรือรูปภาพของ เมนูในการสื่อความหมายทำให้ง่ายต่อการใช้งาน 3.6 ความรวดเร็วในการประมวลผลทำให้ง่าย ต่อการสืบค้น 4. ด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในระบบ (Security Test) เป็นการทดสอบการใชงานของระบบวามีความปลอดภัยมากน้อยเพียงใด 4.1 การตรวจสอบรหัสผู้ใช้งาน และรหัสผ่านเมื่อมีการ ลงทะเบียนเข้าใช้งานระบบ 4.2 การตรวจสอบสิทธิ์ของผู้ใช้งานเพื่อเข้าถึงข้อมูลใน ระดับต่าง ๆ 4.3 การควบคุมการใช้งานตามสิทธิ์ของผู้ใช้งานได้อย่าง ถูกต้อง ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม 1. ด้านการตรงตามความต้องการของผู้ใช้ระบบ (Functional Requirement Test) ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... 2. ด้านการทำงานได้ตามฟังก์ชันงานของระบบ (Functional Test) ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... 3. ด้านความง่ายต่อการใช้งานระบบ (Usability Test) ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... 4. ด้านรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในระบบ (Security Test) ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ให้ความคิดเห็น
180 ภาคผนวก ค : คู่มือการใช้งานระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ภายใต้ชื่อ DataApp V.1
181 คู่มือการใช้งาน ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ภายใต้ชื่อ DataApp V.1 ------------ การใช้งานระบบ ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ภายใต้ชื่อ DataApp V.1 นี้ สามารถทำงานได้ทั้งระบบ Android และ ระบบ IOS โดยไม่มีค่าใช้จ่าย มีขั้นตอนการใช้งานดังนี้ 1. ทำการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ชื่อ AppSheet มาติดตั้งบนโทรศัพท์ให้เรียบร้อย โดยดูได้ จากไอคอน AppSheet ที่ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ 1.1 ทำการดาวน์โหลด AppSheet โดย แตะ “ติดตั้ง” 1.2 รอจนติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว แตะ “เปิด” 1.3 จะเข้าสู่หน้าจอ Sing in with ของ AppSheet โดยอัตโนมัติ เพื่อให้เราทำการสมัครเป็น สมาชิกของ AppSheet ในขั้นตอนนี้ไม่ต้อง Sing in ให้ปิด AppSheet ได้เลย 1.4 จากนั้นให้ดูหน้าจอโทรศัพท์จะปรากฏไอคอน AppSheet ติดตั้ง เปิด 1.1 1.2
182 2. การเข้าสู่ DataApp V.1 บนโทรศัพท์มือถือ 2.1 ทำการสแกน QR Code 2.2 เข้าสู่หน้าจอ แตะที่ ACCEPT จะเข้าสู่หน้าจอ Login ของ DataApp V.1 2.2 สแกน QR Code แตะ ACCEPT ไอคอน AappSheet 1.4 ปิด AappSheet 1.3 2.1 หน้าจอ Sign in AappSheet
183 3. เมื่อเข้าสู่หน้าจอ Login ให้ทำการติดตั้ง ไอคอน DataApp V.1 บนโทรศัพท์มือ โดยทำได้ดังนี้ 3.1 แตะเมนู 3 ขีด 3.2 แตะที่ Add Shortcut 3.3 แตะที่ เพิ่ม 3.4 หน้าจอระบบแจ้งเตือน “เพิ่มทางลัดไปยัง DataApp V.1 บนหน้าจอหลักแล้ว” 3.5 ไอคอน DataApp V.1 ที่ติดตั้งบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ เพื่อเข้าสู่ระบบ เมนู 3 ขีด 3.1 Add Shortcut 3.2 แตะ เพิ่ม 3.3 3.4 หน้าจอแจ้งเพิ่มทางลัด ไอคอน DataApp V.1 3.5
184 4. หน้าจอ Login ของ DataApp V.1 ซึ่งระบบจะมีการแจ้งให้ผู้ใช้ “เข้าสู่ระบบครั้งแรก โปรด Register ที่เมนู 3 ขีดบนหน้าจอ” เพื่อกำหนด user และ password ในการ login เข้าสู่ระบบ 5. สำหรับผู้ใช้งานที่เข้าสู่ระบบครั้งแรก ให้ดำเนินการดังนี้ 5.1 แตะที่เมนู 3 ขีด ตรงมุมซ้ายบนหน้าจอ 5.2 แตะที่ Register เพื่อลงทะเบียนสำหรับผู้ใช้ที่ยังไม่เคยลงทะเบียน หน้าจอ Login DataAapp V.1 4 5.1 แตะเมนู 3 ขีด 5.2 แตะ Register
185 5.3 พิมพ์ข้อมูลเพื่อลงทะเบียน ดังนี้ - Name : พิมพ์ชื่อผู้ใช้งานเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ได้ - Phone : พิมพ์หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ใช้งาน - Password : พิมพ์รหัสผ่าน สำหรับเข้าใช้งาน เป็นตัวเลขหรือตัวอักษรกี่ตัวก็ได้ 5.4 แตะ save 6. การ Login เข้าสู่ระบบ แตะ เมนู 3 ขีด แตะ Login หรือแตะ Login บนหน้าจอ Login ป้อนข้อมูล 5.3 Save 5.4 ตัวอย่างการป้อนข้อมูล ลงทะเบียนในข้อ 5.3 หรือ แตะ Login แตะ Login แตะ เมนู 3 ขีด 6
186 6.1 พิมพ์ข้อมูลเพื่อทำการ Login ได้แก่ - Phone Login : พิมพ์หมายเลขโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนไว้ - Password Login : พิมพ์รหัสผ่านที่กำหนดไว้ตอนลงทะเบียน 6.2 แตะ save จะเข้าสู่หน้าจอเมนูหลัก หากกรอกข้อมูล Login ไม่ตรงกับที่ได้ลงทะเบียนไว้ ระบบจะแสดงผลลัพธ์การกรอกข้อมูลให้ ทราบว่า “ไม่ถูกต้อง กรุณากรอก Phone หรือ Password ใหม่อีกครั้ง” พิมพ์ข้อมูล Login แตะ Save 6.1 6.2 หน้าจอเมนูหลัก
187 7. เมนูหลัก สำหรับใช้งาน โดยผู้ใช้สามารถแตะที่เมนูเพื่อดูข้อมูล ดังนี้ 7.1 เมนูสถานศึกษา : แสดงข้อมูลจำนวนสถานศึกษา ในภาพรวมเขตตรวจราชการที่ 15 ภาพรวมจังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน และแม่ฮ่องสอน จำแนกตามสังกัด 7.2 เมนูนักเรียน/นักศึกษา : แสดงข้อมูลจำนวนนักเรียน/นักศึกษา ในภาพรวมเขตตรวจ ราชการที่ 15 ภาพรวมจังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน และแม่ฮ่องสอน จำแนกตามสังกัด เมนูสถานศึกษา ข้อมูลจำนวนสถานศึกษา 7.1 เมนูนักเรียน/นักศึกษา 7.2 ข้อมูลจำนวน นักเรียน/นักศึกษา
188 7.3 เมนูครูและบุคลากรทางการศึกษา : แสดงข้อมูลจำนวนครูและบุคลากรทางการ ศึกษา ในภาพรวมเขตตรวจราชการที่ 15 ภาพรวมจังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน และแม่ฮ่องสอน จำแนกตามสังกัด 7.4 เมนูรายชื่อสถานศึกษา : แสดงข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับสถานศึกษาในเขตตรวจ ราชการที่ 15 และสามารถทำการค้นหาสถานศึกษาต่าง ๆ ได้ เมนูครูและบุคลากรทางการศึกษา 7.3 ข้อมูลจำนวนครู และบุคลากร ทางการศึกษา เมนูรายชื่อสถานศึกษา 7.4 ข้อมูลรายละเอียด เกี่ยวกับสถานศึกษา
189 7.4.1 การค้นหาสถานศึกษา แตะที่รูปแว่นขยาย แล้วพิมพ์ข้อความในช่อง ค้นหาจะปรากฏข้อมูลตามที่ค้นหา และสามารถดูแผนที่ของสถานศึกษาได้ 7.5 เมนูหน่วยงานการศึกษา : แสดงข้อมูลรายละเอียดของหน่วยงานทางการศึกษาที่ ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตตรวจราชการที่ 15 ได้แก่ สำนักงานศึกษาธิการภาค 15 สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัด แตะรูปแว่นขยาย 7.4.1 ปรากฏข้อมูลตามที่ค้นหา เมนูหน่วยงานการศึกษา 7.5 ข้อมูลรายละเอียดของ หน่วยงานการศึกษา เปิดเป็นแผนที่นำทางได้