The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Penporn Paradee, 2024-02-16 08:39:59

การศึกษาวิเคราะห์เพื่อพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15

เอกสารรายงานการวิจัย

90 หลังจากนั้นนำระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ในรูปแบบโมบายแอป พลิเคชัน ภายใต้ชื่อ DataApp V.1 ที่พัฒนาขึ้นไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจประเมินคุณภาพ ภาพที่ 9 สัญลักษณ์ AppSheet ภาพที่ 10 ตัวอย่างขั้นตอนการพัฒนาระบบการออกแบบตารางข้อมูลใน google sheet ภาพที่ 11 ตัวอย่างขั้นตอนการพัฒนาระบบการนำเข้าตารางข้อมูล


91 ภาพที่ 12 ตัวอย่างขั้นตอนการพัฒนาระบบการออกแบบส่วนติดต่อกับผู้ใช้ ภาพที่ 13 ตัวอย่างขั้นตอนการพัฒนาระบบการออกแบบรายงน 4.4 การทดสอบระบบ (Testing) การทดสอบระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 เป็นการทดสอบความถูกต้องของผลลัพธ์ที่ได้ และทดสอบว่าระบบที่พัฒนา ตรงตามความต้องการของผู้ใช้หรือไม่ ระบบมีความสมบูรณ์ ถูกต้อง และครอบคลุมตามวัตถุประสงค์ ของการพัฒนาระบบมากน้อยเพียงใด ผู้วิจัยได้มีการดำเนินการทดสอบระบบ 2 ครั้ง โดยได้มีการ อธิบายถึงคุณลักษณะโดยรวมของระบบ พร้อมทั้งอธิบายวิธีการเข้าใช้งานระบบให้กับผู้ทดสอบได้ ลองใช้แบบเผชิญหน้า โดยในครั้งที ่ 1 ผู้วิจัยได้นำต้นแบบระบบไปทดลองใช้กับผู้ปฏิบัติงานใน


92 สำนักงานศึกษาธิการภาค 15 จำนวน 5 คน เพื ่อทดสอบว ่าสามารถเข้าใช้งานระบบผ ่าน โทรศัพท์มือถือของตนเองได้หรือไม่ และระบบมีการประมวลผลและนำเสนอข้อมูลได้ครบถ้วนและ ถูกต้องตรงตามความต้องการหรือไม่ ซึ่งจากการทดลองใช้พบว่า การบันทึกข้อมูลยังมีความผิดพลาด ในบางเมนู และผู้ทดลองใช้ให้ข้อเสนอแนะว่าควรมีข้อมูลแผนที่ของสถานศึกษาทุกแห่ง และสามารถ ใช้เป็นแผนที ่นำทางไปยังสถานศึกษานั้น ๆ ได้ด้วย ผู้วิจัยจึงได้มีการปรับปรุงแก้ไขระบบตาม คำแนะนำ จากนั้นนำระบบไปทดสอบครั้งที ่ 2 กับผู้อำนวยการกลุ่มทั้ง 5 กลุ ่ม จำนวน 5 คน ใน สำนักงานศึกษาธิการภาค 15 ซึ ่งได้รับข้อเสนอแนะว ่า ระบบควรมีเมนูหรือช ่องทางให้ผู้ใช้งาน สามารถติดต ่อกับผู้ดูแลระบบได้ และควรมีการแจ้งหรือประกาศให้ผู้ใช้งานระบบครั้งแรกได้ ลงทะเบียนเพื ่อกำหนด user และ password เพื ่อใช้Login เข้าใช้งานระบบ ผู้วิจัยจึงได้มีการ ปรับปรุงแก้ไขตามคำแนะนำอีกครั้ง เพื่อให้ระบบใช้งานตามความต้องการได้ดียิ่งขึ้น 4.5 การนำระบบไปใช้ (Implementation) การนำระบบข้อมูลสารสนเทศด้าน การศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ที่พัฒนาขึ้นไปใช้ในสถานการณ์จริง โดยนำไปใช้กับผู้ใช้งานซึ่งเป็น ผู้บริหารและบุคลากรในสำนักงานศึกษาธิการภาค 15 และสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดในเขตตรวจ ราชการที่ 15 จำนวน 35 คน ผู้วิจัยได้จัดประชุมพร้อมกับอธิบายถึงวัตถุประสงค์ของการพัฒนาระบบ และวิธีใช้งานระบบ ให้ผู้ใช้งานศึกษาคู่มือการใช้งานระบบพร้อมกับการเข้าใช้งานระบบ จากนั้นให้ ผู้ใช้งานทำการประเมินผลการใช้งานระบบจากเกณฑ์ที ่กำหนดขึ้น ผู้วิจัยนำผลมาวิเคราะห์ ประเมินผลการปฏิบัติงานโดยรวมของระบบ เพื่อให้ทราบถึงประสิทธิภาพของการใช้งานระบบ ตาม วิธีดำเนินการวิจัยในขั้นตอนที่ 3 4.6 การบำรุงรักษาระบบ (Maintenance) การบำรุงรักษาระบบข้อมูลสารสนเทศ ด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 มีการปรับปรุงแก้ไขระบบซึ่งเกิดจากความต้องการของผู้ใช้งาน เพิ่มขึ้นหรือมีปัญหาภายหลัง รวมทั้งการเพิ่มคุณสมบัติใหม่ ๆ ของระบบตามความต้องการของผู้ใช้ จึงได้มีการมอบหมายผู้รับผิดชอบในการบำรุงรักษาและดูแลระบบให้มีความถูกต้องอยู่ตลอดเวลา 5. การตรวจสอบคุณภาพของระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น นำเสนอให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจประเมินคุณภาพของระบบ ตามกรอบการประเมิน ประกอบด้วย 5 ด้าน คือ 1) ด้านความถูกต้อง (Accurate) 2) ด้านความทันต่อเวลา (Timeliness) 3) ด้านความสมบูรณ์ครบถ้วน (Complete) 4) ด้านความสอดคล้องกับความต้องการ (Relevance) และ 5) ด้านการตรวจสอบได้ (Verifiable) ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน ผู้วิจัยกำหนดเกณฑ์การประเมินออกเป็น 5 ระดับ และเกณฑ์การให้คะแนนและการ แปลผล (บุญชม ศรีสะอาด. 2545 : 103) ดังนี้ 5 หมายถึง มีคุณภาพภาพในระดับ ดีมาก 4 หมายถึง มีคุณภาพภาพในระดับ ดี


93 3 หมายถึง มีคุณภาพภาพในระดับ ปานกลาง 2 หมายถึง มีคุณภาพภาพในระดับ พอใช้ 1 หมายถึง มีคุณภาพภาพในระดับ ปรับปรุง เกณฑ์ในการแปลผล ค่าเฉลี่ย ระดับ ความหมาย 4.51 – 5.00 ดีมาก ระบบมีคุณภาพภาพในระดับ ดีมาก 3.51 – 4.50 ดี ระบบมีคุณภาพภาพในระดับ ดี 2.51 – 3.50 ปานกลาง ระบบมีคุณภาพในระดับ ปานกลาง 1.51 – 2.50 พอใช้ ระบบมีคุณภาพในระดับ พอใช้ 1.00 – 1.50 ปรับปรุง ระบบมีคุณภาพในระดับ ปรับปรุง ขั้นตอนที่ 3 การศึกษาประสิทธิภาพของการใช้งานระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 1. การประเมินระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ที่พัฒนาขึ้น โดยใช้วิธีการแบบ Black Box Testing (โอภาส เอี่ยมสิริวงศ์, 2560) โดยมีการศึกษาประสิทธิภาพ ด้านการตรงตามความต้องการของผู้ใช้ระบบ (Functional Requirement Test) ด้านการทำงานได้ ตามฟังก์ชันงานของระบบ (Functional Test) ด้านความง่ายต่อการใช้งานระบบ (Usability Test) และ ด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในระบบ (Security Test) 2. สร้างแบบประเมินประสิทธิภาพการใช้งานระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขต ตรวจราชการที่ 15 โดยผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน 3. นำระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ที่พัฒนาขึ้น ไปให้ ผู้ใช้งานซึ ่งเป็นผู้บริหารและบุคลากรในสำนักงานศึกษาธิการภาค 15 และสำนักงานศึกษาธิการ จังหวัดในเขตตรวจราชการที ่ 15 จำนวน 35 คน โดยการคัดเลือกแบบเจาะจง ทำการจัดประชุม ผู้ใช้งานระบบเพื่อทำการประเมินประสิทธิภาพของระบบ ผู้วิจัยกำหนดเกณฑ์การประเมินออกเป็น 5 ระดับ และเกณฑ์การให้คะแนนและการแปลผล (บุญชม ศรีสะอาด. 2545 : 103) ดังนี้ 5 หมายถึง มีประสิทธิภาพมากที่สุด 4 หมายถึง มีประสิทธิภาพมาก 3 หมายถึง มีประสิทธิภาพปานกลาง 2 หมายถึง มีประสิทธิภาพน้อย 1 หมายถึง มีประสิทธิภาพน้อยที่สุด


94 เกณฑ์ในการแปลผล ค่าเฉลี่ย ระดับ ความหมาย 4.51 – 5.00 มากที่สุด ระบบมีประสิทธิภาพในระดับมากที่สุด 3.51 – 4.50 มาก ระบบมีประสิทธิภาพในระดับมาก 2.51 – 3.50 ปานกลาง ระบบมีประสิทธิภาพในระดับปานกลาง 1.51 – 2.50 น้อย ระบบมีประสิทธิภาพในระดับน้อย 1.00 – 1.50 น้อยที่สุด ระบบมีประสิทธิภาพในระดับน้อยที่สุด 3.4 สถิติที่ใช้ในการวิจัย ผู้วิจัยได้ใช้สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล ดังนี้ 3.4.1 ค่าเฉลี่ย ( x̅) สูตร x̅ = เมื่อ x̅ แทน ค่าเฉลี่ยเลขคณิต แทน ผลรวมทั้งหมดของคะแนน แทน จำนวนของข้อมูลทั้งหมด 3.4.2 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) สูตร S.D = เมื่อ S.D แทน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน X แทน ข้อมูล (ตัวที่ 1,2,3, ... n) x̅ แทน ค่าเฉลี่ยเลขคณิต n แทน จำนวนข้อมูลทั้งหมด n


95 บทที่ 4 ผลการวิจัย การวิจัยเรื่อง การศึกษาวิเคราะห์เพื่อพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา ในพื้นที่ เขตตรวจราชการที่ 15 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการพัฒนาระบบ ข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 2) พัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้าน การศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 และ 3) ศึกษาประสิทธิภาพของการใช้งานระบบข้อมูลสารสนเทศ ด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ผู้วิจัยได้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยและพัฒนา (Research and Development) เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบบันทึกเอกสาร แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ ด้วยค่าสถิติ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วย การวิเคราะห์เนื้อหาและเขียนบรรยายเชิงพรรณนา แบ่งการนำเสนอผลวิจัย ออกเป็น 3 ตอน ดังนี้ ตอนที่ 1 ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้าน การศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ตอนที่ 2 ผลการศึกษากระบวนการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขต ตรวจราชการที่ 15 ตอนที่ 3 ผลการศึกษาประสิทธิภาพของการใช้งานระบบข้อมูลสารสนเทศด้าน การศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ตอนที่ 1 ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจ ราชการที่ 15 1. ผลการศึกษา วิเคราะห์แนวคิด ทฤษฎี เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ผู้วิจัยได้สังเคราะห์เป็น กระบวนการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ประกอบไปด้วย 6 ขั้นตอน ดังนี้ 1) การวิเคราะห์ระบบ (Analysis) 2) การออกแบบระบบ (Design) 3) การพัฒนาระบบ (Development) 4) การทดสอบระบบ (Testing) 5) การนำระบบไปใช้(Implementation) และ 6) การบำรุงรักษาระบบ (Maintenance) โดยมีรายละเอียดตามตารางที่ 10 ดังนี้


96 ตารางที่10 ผลการสังเคราะห์กระบวนการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจ ราชการที่ 15 ขั้นตอนการพัฒนา สาระสำคัญ 1. การวิเคราะห์ระบบ การวางแผน การกำหนดเป้าหมายและแนวทางการดำเนินงานการ (Analysis) วิเคราะห์ระบบ การวิเคราะห์สภาพปัจจุบันของระบบที่มีอยู่เดิมและ สภาพความต้องการของระบบที่จะพัฒนา การมอบหมายทีมงาน หรือบุคลากรผู้รับผิดชอบในการดำเนินการ การรวบรวมความต้องการ ข้อมูลสารสนเทศที่จะนำเข้าสู่ระบบที่ต้องการพัฒนา การติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลจากการดำเนินงาน การรายงานผลหากพบ ปัญหาเพื่อปรับปรุงแก้ไข ซึ่งสามารถดำเนินการได้จากการรวบรวม เอกสารการออกแบบสอบถาม และการสังเกตการณ์บนสภาพแวดล้อม การทำงานจริง 2. การออกแบบระบบ การวางแผน การกำหนดเป้าหมายและแนวทางการดำเนินงานในการ (Design) ออกแบบระบบ การมอบหมายทีมงานหรือผู้รับผิดชอบในการออกแบบ ระบบเพื่อกำหนดคุณสมบัติของโปรแกรมหรือคุณสมบัติของระบบ ได้แก่ การออกแบบรายงาน (Output Design) และการออกแบบจอภาพส่วน ติดต่อกับผู้ใช้ (User Interface) ซึ่งจะเป็นการออกแบบระบบให้ เหมาะสมกับการใช้งานและสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้รวมทั้ง การติดตามตรวจสอบและประเมินผลจากการดำเนินงานการรายงานผล หากพบปัญหาเพื่อปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมี ประสิทธิภาพ 3. การพัฒนาระบบ การกำหนดแผนงาน การกำหนดเป้าหมายและแนวทางในการ (Development) ดำเนินงานพัฒนาระบบ การมอบหมายทีมงานหรือผู้รับผิดชอบใน การพัฒนา การพัฒนาโปรแกรมด้วยการสร้างชุดคําสั่งหรือเขียน โปรแกรมเพื่อสร้างระบบงาน โดยโปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนาจะต้อง พิจารณาถึงความเหมาะสมกับเทคโนโลยีที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน พัฒนาระบบให้สามารถใช้งานง่าย สะดวก และรวดเร็วผ่านอุปกรณ์ เทคโนโลยีได้อย่างหลากหลาย มีการติดตามตรวจสอบและประเมินผล การพัฒนาระบบเป็นระยะ มีการรายงานผลหากพบปัญหาเพื่อปรับปรุง แก้ไขให้การพัฒนาระบบเป็นไปตามที่ได้ออกแบบไว้


97 ตารางที่10 (ต่อ) ขั้นตอนการพัฒนา สาระสำคัญ 4. การทดสอบระบบ การวางแผน กำหนดเป้าหมาย แนวทางในการทดสอบระบบก่อนที่ (Testing) จะนำไปใช้งานจริง มีการมอบหมายผู้รับผิดชอบทดสอบความ ถูกต้องของผลลัพธ์ที่ได้ และทดสอบว่าระบบที่พัฒนาตรงตามความ ต้องการของผู้ใช้หรือไม่ ระบบมีความสมบูรณ์ ถูกต้อง และ ครอบคลุมตามวัตถุประสงค์ของการพัฒนาระบบมากน้อยเพียงใด โดยการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลหากพบปัญหาให้รายงาน เพื่อปรับปรุงแก้ไขระบบใด้ดียิ่งขึ้น 5. การนำระบบไปใช้ การวางแผน กำหนดเป้าหมายและแนวทางการนำระบบที่พัฒนาขึ้น (Implementation) ไปใช้ในสถานการณ์จริง การประชุมอบรมและมอบหมาย ผู้รับผิดชอบในการนำระบบไปใช้ การติดตามและประเมินผลการใช้ ระบบจากเกณฑ์ที่กำหนดขึ้น ทำการประเมินผลการปฏิบัติงาน โดยรวมของระบบ การรายงานผลและหากพบปัญหาให้รายงานเพื่อ เพื่อปรับปรุงแก้ไขระบบ จนมีความมั่นใจว่าระบบสามารถทำงาน ได้จริงและตรงกับความต้องการของผู้ใช้ 6. การบำรุงรักษาระบบ การกำหนดแผนงาน กำหนดเป้าหมายและแนวทางการบำรุงรักษา (Maintenance) ระบบที่พัฒนาขึ้น การมอบหมายทีมงานหรือผู้รับผิดชอบในการ บำรุงรักษาระบบ การตรวจสอบประเมินการบำรุงรักษาระบบและ ปรับปรุงแก้ไขระบบให้ถูกต้องหากพบข้อผิดพลาดทั้งที่เกิดจาก ระบบเอง หรือมีการปรับเปลี่ยนระบบตามเทคโนโลยีที่มีการพัฒนา รวมทั้งการเพิ่มคุณสมบัติใหม่ ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อระบบและ ความต้องการของผู้ใช้ว่าต้องการระบบแบบใดและข้อมูลสารสนเทศ อะไร จากตารางที่ 10 ผลการสังเคราะห์กระบวนการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้าน การศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 พบว่า สาระสำคัญที่ได้และสามารถนำไปใช้เป็นกรอบแนวคิด ในการพัฒนาระบบ ประกอบด้วย 6 ขั้นตอน คือ 1) การวิเคราะห์ระบบ (Analysis) 2) การออกแบบ ระบบ (Design) 3) การพัฒนาระบบ (Development) 4) การทดสอบระบบ (Testing) 5) การนำ ระบบไปใช้(Implementation) และ 6) การบำรุงรักษาระบบ (Maintenance)


98 2. สรุปผลการวิเคราะห์กระบวนการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขต ตรวจราชการที่ 15 เพื่อสรุปสังเคราะห์เป็นตัวแปร แล้วนำมาสร้างเป็นข้อคำถามของแบบสอบถาม ซึ่งได้ตัวแปรที่เป็นขั้นตอนกระบวนการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการ ที่ 15 จำนวน 6 ขั้นตอน คือ 1) การวิเคราะห์ระบบ (Analysis)2) การออกแบบระบบ (Design)3) การพัฒนา ระบบ (Development) 4) การทดสอบระบบ (Testing) 5) การนำระบบไปใช้(Implementation) และ 6) การบำรุงรักษาระบบ (Maintenance) มีรายละเอียดตามตารางที่ 11 ดังนี้ ตารางที่11 รายละเอียดของกระบวนการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจ ราชการที่ 15 ขั้นตอนการพัฒนา รายละเอียด 1. การวิเคราะห์ระบบ 1. มีการวางแผน กำหนดเป้าหมาย แนวทางในการวิเคราะห์ระบบ (Analysis) ข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา 2. มีการวิเคราะห์สภาพปัจจุบันของระบบเดิมและสภาพความ ต้องการระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาที่จะพัฒนาใหม่ 3. มีการมอบหมายทีมงานหรือผู้รับผิดชอบดำเนินการตามแผนการ วิเคราะห์ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา 4. มีการวิเคราะห์รวบรวมความต้องการข้อมูลสารสนเทศ ด้านการศึกษาก่อนที่จะดำเนินการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ ด้านการศึกษา 5. มีการจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาที่มีความถูกต้อง และตรวจสอบได้ 6. มีการวิเคราะห์การนำเสนอระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการ ศึกษาในรูปแบบแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ 7. มีการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการวิเคราะห์ระบบ ข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาเป็นประจำ 8. มีการนำผลการประเมินการวิเคราะห์ระบบมาหาสาเหตุ ที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงแก่ไข 2. การออกแบบระบบ 1. มีการวางแผน กำหนดเป้าหมาย แนวทางในการออกแบบระบบ (Design) ข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา 2. มีการมอบหมายทีมงานหรือผู้รับผิดชอบดำเนินการตามแผน


99 ตารางที่ 11 (ต่อ) ขั้นตอนการพัฒนา รายละเอียด การออกแบบระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา 3. มีการกำหนดคุณสมบัติของระบบให้สามารถใช้งานได้ หลากหลายอุปกรณ์ เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ 4. มีการสอบถามความต้องการของผู้ใช้งานก่อนการออกแบบ ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา 5. มีการออกแบบส่วนติดต่อกับผู้ใช้ (User Interface) ที่มี ความเหมาะสมและใช้งานง่าย 6. มีการออกแบบระบบให้เข้าถึงได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก และไม่ซับซ้อน 7. มีการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการออกแบบระบบ ข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา 8. มีการนำผลการประเมินการออกแบบระบบมาวิเคราะห์ปัญหา และสาเหตุที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงแก้ไข 3. การพัฒนาระบบ 1. มีการวางแผน กำหนดเป้าหมาย แนวทางในการดำเนินงาน (Development) พัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา 2. มีการมอบหมายทีมงานหรือผู้รับผิดชอบในการพัฒนาระบบ ข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา 3. มีการพัฒนาระบบด้วยโปรแกรมที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย ระบบปฏิบัติการ 4. มีการพัฒนาระบบให้สามารถใช้งานผ่านอุปกรณ์เทคโนโลยี ได้อย่างหลากหลาย เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ 5. มีการพัฒนาระบบให้สามารถใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็วและ เหมาะสมกับการใช้งานในปัจจุบัน เช่น แอปพลิเคชันบน โทรศัพท์มือถือ 6. มีการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการพัฒนาระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษา 7. มีการนำผลการประเมินการพัฒนาระบบมาวิเคราะห์ปัญหา และสาเหตุที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงแก่ไช


100 ตารางที่ 11 (ต่อ) ขั้นตอนการพัฒนา รายละเอียด 4. การทดสอบระบบ 1. มีการวางแผน กำหนดเป้าหมาย แนวทางในการทดสอบระบบ (Testing) ข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา 2. มีการมอบหมายทีมงานหรือผู้รับผิดชอบในการทดสอบระบบ ข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา 3. มีการทดสอบความถูกต้องของผลลัพธ์ที่ได้จากระบบข้อมูล สารสนเทศที่พัฒนาขึ้น 4. มีการทดสอบระบบให้มีความสมบูรณ์ ถูกต้อง ตรงตาม ความต้องการของผู้ใช้ 5. มีการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการทดสอบระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษา 6. มีการนำผลการประเมินการทดสอบระบบมาวิเคราะห์ปัญหา และสาเหตุที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงแก้ไข 5. การนำระบบไปใช้ 1. มีการวางแผน กำหนดเป้าหมาย แนวทางในการนำระบบข้อมูล (Implementation) สารสนเทศด้านการศึกษาไปใช้ 2. มีการประชุมอบรมและมอบหมายผู้รับผิดชอบในการนำระบบ ข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาไปใช้ 3. มีการนำระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาที่พัฒนาขึ้นไปใช้ ในสถานการณ์จริง 4. มีการอบรมให้ความรู้แก่ผู้ใช้งานระบบข้อมูลสารสนเทศ ด้านการศึกษา 5. มีการกำหนดเกณฑ์ในการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผล การใช้งานระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา 6. มีการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการนำระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษาไปใช้ตามเกณฑ์ที่กำหนด 7. มีการรายงานและนำผลการประเมินการนำระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษาไปใช้มาวิเคราะห์ปัญหาและสาเหตุ ที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงแก้ไข


101 ตารางที่11 (ต่อ) ขั้นตอนการพัฒนา รายละเอียด 6. การบำรุงรักษาระบบ 1. มีการกำหนดแผนงาน กำหนดเป้าหมาย และแนวทางในการ (Maintenance) บำรุงรักษาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา 2. มีการมอบหมายทีมงานหรือผู้รับผิดชอบในการบำรุงรักษาระบบ ข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา 3. มีการตรวจสอบหาข้อผิดพลาดของระบบข้อมูลสารสนเทศ ด้านการศึกษาที่อาจเกิดขึ้นจากตัวระบบเองเพื่อนำมา ปรับปรุงแก้ไข 4. ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษามีการปรับปรุงแก้ไข ตามการปรับเปลี่ยนของเทคโนโลยีที่มีการพัฒนา 5. ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษามีการปรับปรุงแก้ไข ตามความต้องการของผู้ใช้ 6. มีการติดตาม และประเมินผลการบำรุงรักษาระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษา 7. มีการรายงานและนำผลการประเมินการบำรุงรักษาระบบ มาวิเคราะห์ปัญหาและสาเหตุที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงแก้ไข จากตารางที่ 11 การวิเคราะห์กระบวนการพัฒนาระบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขต ตรวจราชการที่ 15 เพื่อนำไปใช้เป็นกรอบแนวคิดในการสร้างแบบสอบถามการวิจัย พบว่า กระบวนการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ประกอบด้วย 6 ขั้นตอน คือ 1) การวิเคราะห์ระบบ (Analysis) 2) การออกแบบระบบ (Design) 3) การพัฒนาระบบ (Development) 4) การทดสอบระบบ (Testing) 5) การนำระบบไปใช้(Implementation) และ 6) การบำรุงรักษาระบบ (Maintenance) 2. ผลการศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้าน การศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ผลการศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่ บุคลากรของสำนักงานศึกษาธิการภาค 15 และสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด ในพื้นที่เขตตรวจราชการที่ 15 จำนวนทั้งสิ้น 184 คน


102 กำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางของ Krejcie & Morgan ได้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 125 คน โดยใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามจัดส่ง ทางไปรษณีย์และแจกแบบสอบถามด้วยตนเอง ได้รับแบบสอบถามตอบกลับคืน จำนวน 98 คน คิดเป็นร้อยละ 78.40 นำมาวิเคราะห์และนำเสนอในรูปแบบของตารางประกอบผลการวิเคราะห์ท้าย ตาราง และการวิเคราะห์เนื้อหา แบ่งออกเป็น 3 ตอน ดังนี้ ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม มีรายละเอียดตามตารางที่ 12 ดังนี้ ตารางที่ 12 ค่าความถี่ และร้อยละของข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ข้อมูลทั่วไป จำนวน (คน) ร้อยละ ตำแหน่งหรือหน้าที่ของผู้ตอบแบบสอบถาม 1. ศึกษาธิการภาค 1 1.02 2. รองศึกษาธิการภาค - - 3. ศึกษาธิการจังหวัด 3 3.06 4. รองศึกษาธิการจังหวัด 4 4.08 5. ผู้อำนวยการกลุ่ม 37 37.76 6. เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงาน 53 54.08 รวม 98 100 จากตารางที่ 12 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงาน จำนวน 53 คน คิดเป็นร้อยละ 54.08 รองลงมาคือผู้อำนวยการกลุ่ม จำนวน 37 คน คิดเป็นร้อยละ 37.76 รองศึกษาธิการจังหวัด จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 4.08 ศึกษาธิการจังหวัด จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 3.06 และศึกษาธิการภาค จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 1.02 ตามลำดับ


103 ตอนที่ 2 สภาพปัจจุบันและความต้องการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 มีรายละเอียดตามตารางที่ 13- ตารางที่ 13 ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันและ ความต้องการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 โดยภาพรวมและรายด้าน สภาพปัจจุบันและความต้องการ พัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ ด้านการศึกษา เขตตรวจราชการ ที่ 15 สภาพปัจจุบัน อัน ดับ ที่ ความต้องการ อัน ดับ ที่ N = 98 N = 98 x̅ S.D. การ แปล ผล x̅ S.D. การ แปล ผล 1. ด้านการวิเคราะห์ระบบ 3.10 0.52 ปาน กลาง 1 4.78 0.29 มาก ที่สุด 5 2. ด้านการออกแบบระบบ 2.89 0.59 ปาน กลาง 4 4.82 0.29 มาก ที่สุด 4 3. ด้านการพัฒนาระบบ 2.79 0.67 ปาน กลาง 6 4.90 0.22 มาก ที่สุด 1 4. ด้านการทดสอบระบบ 2.97 0.64 ปาน กลาง 3 4.83 0.21 มาก ที่สุด 3 5. ด้านการนำระบบไปใช้ 3.05 0.54 ปาน กลาง 2 4.77 0.22 มาก ที่สุด 6 6. ด้านการบำรุงรักษาระบบ 2.83 0.73 ปาน กลาง 5 4.88 0.23 มาก ที่สุด 2 รวม 2.94 0.55 ปานกลาง 4.83 0.18 มากที่สุด จากตารางที่ 13 ความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ ด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง (x̅=2.94, S.D.=0.55) เมื่อ พิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับปานกลางทุกด้าน โดยด้านการวิเคราะห์ระบบ มีค่าเฉลี่ยมาก ที่สุด (x̅=3.10, S.D.=0.52) รองลงมาคือ ด้านการนำระบบไปใช้(x̅=3.05, S.D.=0.54) และด้านการ ทดสอบระบบ (x̅=2.97, S.D.=0.64 ) ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ด้านการพัฒนาระบบ (x̅=2.79, S.D.=0.67)


104 ความคิดเห็นเกี่ยวกับความต้องการในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 โดยภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด (x̅=4.83, S.D.=0.18) เมื่อพิจารณาเป็น รายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน โดยด้านการพัฒนาระบบ มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด (x̅=4.90, S.D.=0.22) รองลงมาคือด้านการบำรุงรักษาระบบ (x̅=4.88,S.D.=0.23) และด้านการทดสอบระบบ (x̅=4.83, S.D.=0.21) ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ด้านการนำระบบไปใช้(x̅=4.77, S.D.=0.22) ตารางที่ 14 ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันและ ความต้องการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ด้านการวิเคราะห์ระบบ โดยภาพรวมและรายข้อ สภาพปัจจุบันและความต้องการ ด้านการวิเคราะห์ระบบ สภาพปัจจุบัน อัน ดับ ที่ ความต้องการ อัน ดับ ที่ N = 98 N = 98 x̅ S.D. การ แปล ผล x̅ S.D. การ แปล ผล 1. มีการวางแผน กำหนดเป้าหมาย แนวทางในการวิเคราะห์ระบบ ข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา 3.06 0.64 ปาน กลาง 5 4.86 0.38 มาก ที่สุด 5 2. มีการวิเคราะห์สภาพปัจจุบัน ของระบบเดิมและสภาพความ ต้องการระบบข้อมูลสารสนเทศ ด้านการศึกษาที่จะพัฒนาใหม่ 3.33 0.74 ปาน กลาง 3 4.85 0.39 มาก ที่สุด 6 3. มีการมอบหมายทีมงานหรือ ผู้รับผิดชอบดำเนินการตาม แผนการวิเคราะห์ระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษา 3.47 0.61 ปาน กลาง 2 4.45 0.52 มาก 8 4. มีการวิเคราะห์รวบรวมความ ต้องการข้อมูลสารสนเทศด้าน การศึกษาก่อนที่จะดำเนินการ พัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ ด้านการศึกษา 3.16 0.60 ปาน กลาง 4 4.89 0.35 มาก ที่สุด 2


105 ตารางที่ 14 (ต่อ) สภาพปัจจุบันและความต้องการ ด้านการวิเคราะห์ระบบ สภาพปัจจุบัน อัน ดับ ที่ ความต้องการ อัน ดับ ที่ N = 98 N = 98 x̅ S.D. การ แปล ผล x̅ S.D. การ แปล ผล 5. มีการจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศ ด้านการศึกษาที่มีความถูกต้อง และตรวจสอบได้ 3.48 0.66 ปาน กลาง 1 4.88 0.36 มาก ที่สุด 3 6. มีการวิเคราะห์การนำเสนอ ระบบข้อมูลสารสนเทศด้าน การศึกษาในรูปแบบแอปพลิเคชัน บนโทรศัพท์มือถือ 2.46 1.02 น้อย 8 4.87 0.37 มาก ที่สุด 4 7. มีการติดตาม ตรวจสอบและ ประเมินผลการวิเคราะห์ระบบ ข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เป็นประจำ 2.96 0.70 ปาน กลาง 6 4.52 0.52 มาก ที่สุด 7 8. มีการนำผลการประเมินการ วิเคราะห์ระบบมาหาสาเหตุที่ เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงแก่ไข 2.90 0.72 ปาน กลาง 7 4.90 0.34 มาก ที่สุด 1 รวม 3.10 0.52 ปานกลาง 4.78 0.29 มากที่สุด จากตารางที่ 14 ความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ ด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ด้านการวิเคราะห์ระบบ โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง (x̅=3.10, S.D.=0.52) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับปานกลาง 7 ข้อ ระดับน้อย 1 ข้อ โดยประเด็นความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา ที่ มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ ข้อที่ 5 มีการจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาที่มีความถูกต้องและ ตรวจสอบได้ (x̅=3.48, S.D.=0.66) อยู่ในระดับปานกลาง รองลงมาได้แก่ ข้อที่ 3 มีการมอบหมาย ทีมงานหรือผู้รับผิดชอบดำเนินการตามแผนการวิเคราะห์ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา


106 (x̅=3.47, S.D.=0.61) อยู่ในระดับปานกลาง และข้อที่ 2 มีการวิเคราะห์สภาพปัจจุบันของระบบเดิม และสภาพความต้องการระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาที่จะพัฒนาใหม่ (x̅=3.33, S.D.=0.74) อยู่ในระดับปานกลาง ส่วนประเด็นความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันในการพัฒนาระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษา ที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ข้อที่ 6 มีการวิเคราะห์การนำเสนอระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษาในรูปแบบแอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ (x̅=2.46, S.D.=1.02) อยู่ใน ระดับน้อย ความคิดเห็นเกี่ยวกับความต้องการในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ด้านการวิเคราะห์ระบบ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̅=4.78, S.D.=0.29) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด 7 ข้อ ระดับมาก 1 ข้อ โดยประเด็น ความคิดเห็นเกี่ยวกับความต้องการในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา ที่มีค่าเฉลี่ย มากที่สุดคือ ข้อที่ 8 มีการนำผลการประเมินการวิเคราะห์ระบบมาหาสาเหตุที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุง แก้ไข (x̅=4.90, S.D.=0.34) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาได้แก่ ข้อที่ 4 มีการวิเคราะห์รวบรวม ความต้องการข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาก่อนที่จะดำเนินการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้าน การศึกษา (x̅=4.89, S.D.=0.35) อยู่ในระดับมากที่สุด และ ข้อที่ 5 มีการจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศ ด้านการศึกษาที่มีความถูกต้องและตรวจสอบได้(x̅=4.88, S.D.=0.36) อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วน ประเด็นความคิดเห็นเกี่ยวกับความต้องการในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา ที่มี ค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ข้อที่ 3 มีการมอบหมายทีมงานหรือผู้รับผิดชอบดำเนินการตามแผนการ วิเคราะห์ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา (x̅=4.45, S.D.=0.52) อยู่ในระดับมาก


107 ตารางที่ 15 ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันและความ ต้องการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ด้านการออกแบบระบบ โดยภาพรวมและรายข้อ สภาพปัจจุบันและความต้องการ ด้านการออกแบบระบบ สภาพปัจจุบัน อัน ดับ ที่ ความต้องการ อัน ดับ ที่ N = 98 N = 98 x̅ S.D. การ แปล ผล x̅ S.D. การ แปล ผล 1. มีการวางแผน กำหนด เป้าหมาย แนวทางในการ ออกแบบระบบข้อมูลสารสนเทศ ด้านการศึกษา 3.36 0.90 ปาน กลาง 2 4.85 0.39 มาก ที่สุด 4 2. มีการมอบหมายทีมงานหรือ ผู้รับผิดชอบดำเนินการตาม แผนการออกแบบระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษา 3.68 0.65 มาก 1 4.74 0.46 มาก ที่สุด 6 3. มีการกำหนดคุณสมบัติของ ระบบให้สามารถใช้งาน ไ ด้ ห ล า ก ห ล า ย อ ุ ป ก ร ณ ์ เ ช่ น โ ท ร ศ ั พ ท ์ ม ื อ ถ ื อ แ ท ็ บ เ ล็ ต คอมพิวเตอร์ 2.90 0.88 ปาน กลาง 3 4.96 0.28 มาก ที่สุด 1 4. มีการสอบถามความต้องการ ของผู้ใช้งานก่อนการออกแบบ ระบบข้อมูลสารสนเทศด้าน การศึกษา 2.74 0.63 ปาน กลาง 5 4.79 0.44 มาก ที่สุด 5 5. มีการออกแบบส่วนติดต่อกับ ผู้ใช้ (User Interface) ที่มีความ เหมาะสมและใช้งานง่าย 2.80 0.67 ปาน กลาง 4 4.70 0.50 มาก ที่สุด 7 6. มีการออกแบบระบบให้เข้าถึง ได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก และไม่ซับซ้อน 2.60 0.77 ปาน กลาง 6 4.90 0.37 มาก ที่สุด 3


108 ตารางที่ 15 (ต่อ) สภาพปัจจุบันและความต้องการ ด้านการออกแบบระบบ สภาพปัจจุบัน อัน ดับ ที่ ความต้องการ อัน ดับ ที่ N = 98 N = 98 x̅ S.D. การ แปล ผล x̅ S.D. การ แปล ผล 7. มีการติดตาม ตรวจสอบและ ประเมินผลการออกแบบระบบ ข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา 2.51 0.82 ปาน กลาง 7 4.93 0.33 มาก ที่สุด 2 8. มีการนำผลการประเมินการ ออกแบบระบบมาวิเคราะห์ปัญหา และสาเหตุที่เกี่ยวข้องเพื่อ ปรับปรุงแก้ไข 2.49 0.79 น้อย 8 4.67 0.51 มาก ที่สุด 8 รวม 2.89 0.59 ปานกลาง 4.82 0.29 มากที่สุด จากตารางที่ 15 ความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ ด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ด้านการออกแบบระบบ โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง (x̅=2.89, S.D.=0.59) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า อยู่ในระดับมาก 1 ข้อ ปานกลาง 6 ข้อ และ น้อย 1 ข้อ โดยประเด็นความคิดเป็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้าน การศึกษา ที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ ข้อที่ 2 มีการมอบหมายทีมงานหรือผู้รับผิดชอบดำเนินการตาม แผนการออกแบบระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา (x̅=3.68, S.D.=0.65) อยู่ในระดับมาก รองลงมาได้แก่ ข้อที่ 1 มีการวางแผน กำหนดเป้าหมาย แนวทางในการออกแบบระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษา (x̅=3.36, S.D.=0.90) อยู่ในระดับปานกลาง และข้อที่ 3 มีการกำหนด คุณสมบัติของระบบให้สามารถใช้งานได้หลากหลายอุปกรณ์ เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ (x̅=2.90, S.D.=0.88) อยู่ในระดับปานกลาง ส่วนประเด็นความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพ ปัจจุบันในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา ที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ข้อที่ 8 มีการนำ ผลการประเมินการออกแบบระบบมาวิเคราะห์ปัญหาและสาเหตุที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงแก้ไข (x̅=2.49, S.D.=0.79) อยู่ในระดับน้อย


109 ความคิดเห็นเกี่ยวกับความต้องการในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ด้านการออกแบบระบบ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̅=4.82, S.D.=0.29) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุดทุกข้อ โดยประเด็นความคิดเห็น เกี่ยวกับความต้องการในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ ข้อ ที่ 3 มีการกำหนดคุณสมบัติของระบบให้สามารถใช้งานได้หลากหลายอุปกรณ์ เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ (x̅=4.96, S.D.=0.28) รองลงมาได้แก่ ข้อที่ 7 มีการติดตาม ตรวจสอบและ ประเมินผลการออกแบบระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา (x̅=4.93, S.D.=0.33) และข้อที่ 6 มี การออกแบบระบบให้เข้าถึงได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก และไม่ซับซ้อน (x̅=4.90, S.D.=0.37) ส่วนประเด็น ความคิดเห็นเกี่ยวกับความต้องการในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาที่มีค่าเฉลี่ย น้อยที่สุดคือ ข้อที่ 8 มีการนำผลการประเมินการออกแบบระบบมาวิเคราะห์ปัญหาและสาเหตุที่ เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงแก้ไข (x̅=4.67, S.D.=0.51) ตารางที่ 16 ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันและความ ต้องการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ด้านการพัฒนาระบบ โดยภาพรวมและรายข้อ สภาพปัจจุบันและความต้องการ ด้านการพัฒนาระบบ สภาพปัจจุบัน อัน ดับ ที่ ความต้องการ อัน ดับ ที่ N = 98 N = 98 x̅ S.D. การ แปล ผล x̅ S.D. การ แปล ผล 1. มีการวางแผน กำหนด เป้าหมาย แนวทางในการ ดำเนินงานพัฒนาระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษา 3.14 0.59 ปาน กลาง 2 4.92 0.31 มาก ที่สุด 5 2. มีการมอบหมายทีมงานหรือ ผู้รับผิดชอบในการพัฒนาระบบ ข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา 3.23 0.61 ปาน กลาง 1 4.95 0.26 มาก ที่สุด 4 3. มีการพัฒนาระบบด้วย โปรแกรมที่สามารถใช้งานได้ หลากหลายระบบปฏิบัติการ 2.57 0.84 ปาน กลาง 6 4.97 0.22 มาก ที่สุด 2


110 ตารางที่ 16 (ต่อ) สภาพปัจจุบันและความต้องการ ด้านการพัฒนาระบบ สภาพปัจจุบัน อัน ดับ ที่ ความต้องการ อัน ดับ ที่ N = 98 N = 98 x̅ S.D. การ แปล ผล x̅ S.D. การ แปล ผล 4. มีการพัฒนาระบบให้สามารถ ใช้งานผ่านอุปกรณ์เทคโนโลยีได้ อย่างหลากหลาย เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ 2.38 0.95 น้อย 7 4.96 0.28 มาก ที่สุด 3 5. มีการพัฒนาระบบให้สามารถ ใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็วและ เหมาะสมกับการใช้งานในปัจจุบัน เช่น แอปพลิเคชันบน โทรศัพท์มือถือ 2.66 0.93 ปาน กลาง 4 4.98 0.20 มาก ที่สุด 1 6. มีการติดตาม ตรวจสอบและ ประเมินผลการพัฒนาระบบ ข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา 2.95 0.72 ปาน กลาง 3 4.60 0.49 มาก ที่สุด 7 7. มีการนำผลการประเมินการ พัฒนาระบบมาวิเคราะห์ปัญหา และสาเหตุที่เกี่ยวข้องเพื่อ ปรับปรุงแก่ไช 2.59 0.87 ปาน กลาง 5 4.91 0.29 มาก ที่สุด 6 รวม 2.79 0.67 ปานกลาง 4.90 0.22 มากที่สุด จากตารางที่ 16 ความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ ด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ด้านการพัฒนาระบบ โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง (x̅=2.79, S.D.=0.67) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับปานกลาง 6 ข้อ ระดับน้อย 1 ข้อ โดยประเด็นความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา ที่


111 มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ ข้อที่ 2 มีการมอบหมายทีมงานหรือผู้รับผิดชอบในการพัฒนาระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษา (x̅=3.23, S.D.=0.61) อยู่ในระดับปานกลาง รองลงมาได้แก่ ข้อที่ 1 มีการ วางแผน กำหนดเป้าหมาย แนวทางในการดำเนินงานพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา (x̅=3.14, S.D.=0.59) อยู่ในระดับปานกลาง และข้อที่ 6 มีการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการ พัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา (x̅=2.95, S.D.=0.72) อยู่ในระดับปานกลาง ส่วน ประเด็นความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา ที่มี ค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ข้อที่ 4 มีการพัฒนาระบบให้สามารถใช้งานผ่านอุปกรณ์เทคโนโลยีได้อย่าง หลากหลาย เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ (x̅=2.38, S.D.=0.95) อยู่ในระดับน้อย ความคิดเห็นเกี่ยวกับความต้องการในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ด้านการพัฒนาระบบ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̅=4.90, S.D.=0.22) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุดทุกข้อ โดยประเด็นความคิดเห็นเกี่ยวกับความ ต้องการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา ที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ ข้อที่ 5 มีการพัฒนา ระบบให้สามารถใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็วและเหมาะสมกับการใช้งานในปัจจุบัน เช่น แอปพลิเคชัน บนโทรศัพท์มือถือ (x̅=4.98, S.D.=0.20) รองลงมาได้แก่ ข้อที่ 3 มีการพัฒนาระบบด้วยโปรแกรมที่ สามารถใช้งานได้หลากหลายระบบปฏิบัติการ (x̅=4.97, S.D.=0.22) และข้อที่ 4 มีการพัฒนาระบบ ให้สามารถใช้งานผ่านอุปกรณ์เทคโนโลยีได้อย่างหลากหลาย เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ (x̅=4.96, S.D.=0.28) ส่วนประเด็นความคิดเห็นเกี่ยวกับความต้องการในการพัฒนา ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา ที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ข้อที่ 6 มีการติดตาม ตรวจสอบและ ประเมินผลการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา (x̅=4.60, S.D.=0.49)


112 ตารางที่ 17 ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันและความ ต้องการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ด้านการทดสอบระบบ โดยภาพรวมและรายข้อ สภาพปัจจุบันและความต้องการ ด้านการทดสอบระบบ สภาพปัจจุบัน อัน ดับ ที่ ความต้องการ อัน ดับ ที่ N = 98 N = 98 x̅ S.D. การ แปล ผล x̅ S.D. การ แปล ผล 1. มีการวางแผน กำหนด เป้าหมาย แนวทางในการทดสอบ ระบบข้อมูลสารสนเทศด้าน การศึกษา 3.16 0.57 ปาน กลาง 2 4.65 0.48 มาก ที่สุด 6 2. มีการมอบหมายทีมงานหรือ ผู้รับผิดชอบในการทดสอบระบบ ข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา 3.64 0.72 มาก 1 4.81 0.40 มาก ที่สุด 4 3. มีการทดสอบความถูกต้องของ ผลลัพธ์ที่ได้จากระบบข้อมูล สารสนเทศที่พัฒนาขึ้น 2.66 0.94 ปาน กลาง 5 4.97 0.17 มาก ที่สุด 2 4. มีการทดสอบระบบให้มีความ สมบูรณ์ ถูกต้อง ตรงตามความ ต้องการของผู้ใช้ 2.83 0.77 ปาน กลาง 4 4.98 0.14 มาก ที่สุด 1 5. มีการติดตาม ตรวจสอบและ ประเมินผลการทดสอบระบบ ข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา 2.57 0.84 ปาน กลาง 6 4.85 0.36 มาก ที่สุด 3 6. มีการนำผลการประเมินการ ทดสอบระบบมาวิเคราะห์ปัญหา และสาเหตุที่เกี่ยวข้องเพื่อ ปรับปรุงแก้ไข 2.93 0.93 ปาน กลาง 3 4.70 0.46 มาก ที่สุด 5 รวม 2.97 0.64 ปานกลาง 4.83 0.21 มากที่สุด


113 จากตารางที่ 17 ความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ ด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ด้านการทดสอบระบบ โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง (x̅=2.97, S.D.=0.64) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า อยู่ในระดับมาก 1 ข้อ ระดับปานกลาง 5 ข้อ โดยประเด็นความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา ที่ มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ข้อที่ 2 มีการมอบหมายทีมงานหรือผู้รับผิดชอบในการทดสอบระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษา (x̅=3.64, S.D.=0.72) อยู่ในระดับมาก รองลงมาได้แก่ ข้อที่ 1 มีการ วางแผน กำหนดเป้าหมาย แนวทางในการทดสอบระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา (x̅=3.16, S.D.=0.57) อยู่ในระดับปานกลาง และข้อที่ 6 มีการนำผลการประเมินการทดสอบระบบมาวิเคราะห์ ปัญหาและสาเหตุที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงแก้ไข (x̅=3.16, S.D.=0.57) อยู่ในระดับปานกลาง ส่วน ประเด็นความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา ที่มี ค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ข้อที่ 5 มีการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการทดสอบระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษา (x̅=2.57, S.D.=0.84) ความคิดเห็นเกี่ยวกับความต้องการในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขต ตรวจราชการที่ 15 ด้านการทดสอบระบบ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̅=4.83, S.D.=0.21) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุดทุกข้อ โดยประเด็นความคิดเห็นเกี่ยวกับความ ต้องการในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา ที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ ข้อที่ 4 มีการ ทดสอบระบบให้มีความสมบูรณ์ ถูกต้อง ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ (x̅=4.98, S.D.=0.14) รองลงมาได้แก่ ข้อที่ 3 มีการทดสอบความถูกต้องของผลลัพธ์ที่ได้จากระบบข้อมูลสารสนเทศที่ พัฒนาขึ้น (x̅=4.97, S.D.=0.17) และข้อที่ 5 มีการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการทดสอบ ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา (x̅=4.85, S.D.=0.36) ส่วนประเด็นความคิดเห็นเกี่ยวกับความ ต้องการในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา ที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ข้อที่ 1 มีการ วางแผน กำหนดเป้าหมาย แนวทางในการทดสอบระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา (x̅=4.65, S.D.=0.48)


114 ตารางที่ 18 ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันและความ ต้องการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ด้านการนำระบบไปใช้โดยภาพรวมและรายข้อ สภาพปัจจุบันและความต้องการ ด้านการนำระบบไปใช้ สภาพปัจจุบัน อัน ดับ ที่ ความต้องการ อัน ดับ ที่ N = 98 N = 98 x̅ S.D. การ แปล ผล x̅ S.D. การ แปล ผล 1. มีการวางแผน กำหนด เป้าหมาย แนวทางในการนำ ระบบข้อมูลสารสนเทศด้าน การศึกษาไปใช้ 3.36 0.58 ปาน กลาง 2 4.58 0.50 มาก ที่สุด 7 2. มีการประชุมอบร มแล ะ มอบหมายผู้รับผิดชอบในการนำ ระบบข้อมูลสารสนเทศด้าน การศึกษาไปใช้ 3.45 0.75 ปาน กลาง 1 4.78 0.42 มาก ที่สุด 5 3 . ม ี ก า ร น ำ ร ะ บ บ ข ้ อ มู ล สารสนเทศด้านการศึกษาที่ พัฒนาขึ้นไปใช้ในสถานการณ์จริง 2.63 1.13 ปาน กลาง 7 4.84 0.47 มาก ที่สุด 3 4. มีการอบรมให้ความรู้แก่ ผู้ใช้งานระบบข้อมูลสารสนเทศ ด้านการศึกษา 3.14 0.93 ปาน กลาง 4 4.79 0.41 มาก ที่สุด 4 5. มีการกำหนดเกณฑ์ในการ ติดตาม ตรวจสอบและประเมินผล การใช้งานระบบข้อมูลสารสนเทศ ด้านการศึกษา 2.67 0.78 ปาน กลาง 6 4.85 0.52 มาก ที่สุด 2 6. มีการติดตาม ตรวจสอบและ ประเมินผลการนำระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษาไปใช้ ตามเกณฑ์ที่กำหนด 2.88 0.72 ปาน กลาง 5 4.70 0.46 มาก ที่สุด 6


115 ตารางที่ 18 (ต่อ) สภาพปัจจุบันและความต้องการ ด้านการนำระบบไปใช้ สภาพปัจจุบัน อัน ดับ ที่ ความต้องการ อัน ดับ ที่ N = 98 N = 98 x̅ S.D. การ แปล ผล x̅ S.D. การ แปล ผล 7. มีการรายงานและนำผลการ ประเมินการนำระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษาไปใช้มา วิเคราะห์ปัญหาและสาเหตุที่ เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงแก้ไข 3.21 0.91 ปาน กลาง 3 4.87 0.45 มาก ที่สุด 1 รวม 3.05 0.54 ปานกลาง 4.77 0.22 มากที่สุด จากตารางที่ 18 ความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ ด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ด้านการนำระบบไปใช้โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง (x̅=3.05, S.D.=0.54) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า อยู่ในระดับปานกลางทุกข้อ โดยประเด็นความ คิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา ที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ข้อที่ 2 มีการประชุมอบรมและมอบหมายผู้รับผิดชอบในการนำระบบข้อมูลสารสนเทศด้าน การศึกษาไปใช้ (x̅=3.45, S.D.=0.75) รองลงมาได้แก่ ข้อที่ 1 มีการวางแผน กำหนดเป้าหมาย แนวทางในการนำระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาไปใช้ (x̅=3.36, S.D.=0.58) และข้อที่ 7 มี การรายงานและนำผลการประเมินการนำระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาไปใช้มาวิเคราะห์ ปัญหาและสาเหตุที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงแก้ไข (x̅=3.21, S.D.=0.91) ส่วนประเด็นความคิดเห็น เกี่ยวกับสภาพปัจจุบันในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา ที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ข้อ ที่ 3 มีการนำระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาที่พัฒนาขึ้นไปใช้ในสถานการณ์จริง (x̅=2.63, S.D.=1.13) ความคิดเห็นเกี่ยวกับความต้องการในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ด้านการนำระบบไปใช้โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̅=4.77, S.D.=0.22) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุดทุกข้อ โดยประเด็นความคิดเห็น เกี่ยวกับความต้องการในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา ที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ ข้อ ที่ 7 มีการรายงานและนำผลการประเมินการนำระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาไปใช้มา


116 วิเคราะห์ปัญหาและสาเหตุที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงแก้ไข (x̅=4.87, S.D.=0.45) รองลงมาได้แก่ ข้อที่ 5 มีการกำหนดเกณฑ์ในการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการใช้งานระบบข้อมูลสารสนเทศด้าน การศึกษา (x̅=4.85, S.D.=0.52) และข้อที่ 3 มีการนำระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาที่ พัฒนาขึ้นไปใช้ในสถานการณ์จริง (x̅=4.84, S.D.=0.47) ส่วนประเด็นความคิดเห็นเกี่ยวกับความ ต้องการในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา ที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ข้อที่ 1 มีการ วางแผน กำหนดเป้าหมาย แนวทางในการนำระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาไปใช้ (x̅=4.58, S.D.=0.50) ตารางที่ 19 ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันและความ ต้องการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ด้านการบำรุงรักษาระบบ โดยภาพรวมและรายข้อ สภาพปัจจุบันและความต้องการ ด้านการบำรุงรักษาระบบ สภาพปัจจุบัน อัน ดับ ที่ ความต้องการ อัน ดับ ที่ N = 98 N = 98 x̅ S.D. การ แปล ผล x̅ S.D. การ แปล ผล 1. มีการกำหนดแผนงาน กำหนด เป้าหมาย และแนวทางในการ บำรุงรักษาระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษา 2.62 1.11 ปาน กลาง 6 4.87 0.34 มาก ที่สุด 6 2. มีการมอบหมายทีมงานหรือ ผู้รับผิดชอบในการบำรุงรักษา ระบบข้อมูลสารสนเทศด้าน การศึกษา 3.21 0.54 ปาน กลาง 1 4.94 0.24 มาก ที่สุด 2 3. มีการตรวจสอบหาข้อผิดพลาด ของระบบข้อมูลสารสนเทศด้าน การศึกษาที่อาจเกิดขึ้นจากตัว ระบบเองเพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไข 2.70 0.74 ปาน กลาง 4 4.91 0.29 มาก ที่สุด 4


117 ตารางที่ 19 (ต่อ) สภาพปัจจุบันและความต้องการ ด้านการบำรุงรักษาระบบ สภาพปัจจุบัน อัน ดับ ที่ ความต้องการ อัน ดับ ที่ N = 98 N = 98 x̅ S.D. การ แปล ผล x̅ S.D. การ แปล ผล 4. ระบบข้อมูลสารสนเทศด้าน การศึกษามีการปรับปรุงแก้ไขตาม การปรับเปลี่ยนของเทคโนโลยีที่มี การพัฒนา 2.98 0.96 ปาน กลาง 3 4.95 0.22 มาก ที่สุด 1 5. ระบบข้อมูลสารสนเทศด้าน การศึกษามีการปรับปรุงแก้ไขตาม ความต้องการของผู้ใช้ 2.65 0.86 ปาน กลาง 5 4.92 0.28 มาก ที่สุด 3 6. มีการติดตาม และประเมินผล การบำรุงรักษาระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษา 3.12 0.60 ปาน กลาง 2 4.89 0.35 มาก ที่สุด 5 7. มีการรายงานและนำผลการ ประเมินการบำรุงรักษาระบบมา วิเคราะห์ปัญหาและสาเหตุที่ เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงแก้ไข 2.54 1.16 ปาน กลาง 7 4.71 0.45 มาก ที่สุด 7 รวม 2.83 0.73 ปานกลาง 4.88 0.23 มากที่สุด จากตารางที่ 19 ความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ ด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ด้านการบำรุงรักษาระบบ โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง (x̅=2.83, S.D.=0.73) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า อยู่ในระดับปานกลางทุกข้อ โดยประเด็นความ คิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา ที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ข้อที่ 2 มีการมอบหมายทีมงานหรือผู้รับผิดชอบในการบำรุงรักษาระบบข้อมูลสารสนเทศด้าน การศึกษา (x̅=3.21, S.D.=0.54) รองลงมาได้แก่ ข้อที่ 6 มีการติดตาม และประเมินผลการบำรุงรักษา ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา (x̅=3.12, S.D.=0.60) และข้อที่ 4 ระบบข้อมูลสารสนเทศด้าน


118 การศึกษามีการปรับปรุงแก้ไขตามการปรับเปลี่ยนของเทคโนโลยีที่มีการพัฒนา (x̅=2.98, S.D.=0.96) ส่วนประเด็นความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา ที่ มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ข้อที่ 7 มีการรายงานและนำผลการประเมินการบำรุงรักษาระบบมาวิเคราะห์ ปัญหาและสาเหตุที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงแก้ไข (x̅=2.54, S.D.=1.16) ความคิดเห็นเกี่ยวกับความต้องการในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ด้านการบำรุงรักษาระบบ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̅=4.88, S.D.=0.23) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุดทุกข้อ โดยประเด็นความคิดเห็น เกี่ยวกับความต้องการในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา ที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ข้อที่ 4 ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษามีการปรับปรุงแก้ไขตามการปรับเปลี่ยนของเทคโนโลยีที่ มีการพัฒนา (x̅=4.95, S.D.=0.23) รองลงมาได้แก่ ข้อที่ 2 มีการมอบหมายทีมงานหรือผู้รับผิดชอบ ในการบำรุงรักษาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา (x̅=4.94, S.D.=0.24) และข้อที่ 5 ระบบ ข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษามีการปรับปรุงแก้ไขตามความต้องการของผู้ใช้(x̅=4.92, S.D.=0.28) ส่วนประเด็นความคิดเห็นเกี่ยวกับความต้องการในการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา ที่ มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ข้อที่ 7 มีการรายงานและนำผลการประเมินการบำรุงรักษาระบบมาวิเคราะห์ ปัญหาและสาเหตุที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงแก้ไข (x̅=4.91, S.D.=0.29) ตอนที่ 3 ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติม จากการศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้าน การศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ผู้วิจัยใช้หลักการวิเคราะห์เนื้อหาความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ เพิ่มเติม ดังนี้ 1. หน่วยงานควรมีการพัฒนาระบบข้อมูลที่สามารถใช้งานในรูปแบบ Mobile Application เพื่อความสะดวกต่อการใช้งาน และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี 2. โปรแกรมระบบข้อมูลที่พัฒนาควรให้สามารถใช้งานได้ในหลากหลายอุปกรณ์ เช่น สามารถใช้งานบนโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หรือ เครื่องคอมพิวเตอร์ 3. ควรมีการพัฒนาระบบสารสนเทศที่สามารถนำมาใช้งานได้จริงแบบ real time และมี ระบบการจัดเก็บข้อมูลที่ไม่ซ้ำซ้อน 4. ควรมีการออกแบบระบบที่ให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่าย ไม่ซับซ้อน 5. ควรมีการแนะนำวิธีการใช้ข้อมูลอย่างถูกต้องให้ครบทุกส่วนงาน เพื่อใช้ข้อมูลให้เกิด ประโยชน์สูงสุดต่อการนำข้อมูลไปใช้ในการบริการการศึกษา 6. ควรมีการสร้างความตระหนัก ส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรด้านการพัฒนาระบบข้อมูล สารสนเทศอย่างต่อเนื่อง


119 7. ระบบข้อมูลสารสนเทศควรสามารถเชื่อมโยงกับข้อมูลตามภารกิจของหน่วยงานที่ หลากหลาย เพื่อให้หน่วยงานสามารถใช้ข้อมูลอ้างอิงแหล่งข้อมูลแหล่งเดียวกัน 8. ควรมีช่องทางติดต่อให้ผู้ใช้ได้เสนอความต้องการข้อมูลสารสนเทศที่ทันสมัยขึ้น 9. ควรมีการวางแผนการทำงานในทุกกระบวนการของการพัฒนาระบบ 10. ระบบควรมีข้อมูลที่ครอบคลุมต่อการนำไปใช้งาน 11. ผู้ดูแลระบบควรมีการปรับปรุงข้อมูลสารสนเทศให้ทันสมัยเป็นปัจจุบัน 12. ควรมีการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่มีการจัดการศึกษา เพื่อให้ สามารถบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูล ตอนที่ 2 ผลการศึกษากระบวนการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการ ที่ 15 1. ผลการสร้างกระบวนการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการ ที่ 15 โดยผู้วิจัยนำผลจากสังเคราะห์กระบวนการในตอนที่ 1 มาสร้างเป็นรูปแบบกระบวนการพัฒนา ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ประกอบด้วย 6 ขั้นตอน ดังนี้ 1) การ วิเคราะห์ระบบ (Analysis) 2) การออกแบบระบบ (Design) 3) การพัฒนาระบบ (Development) 4) การทดสอบระบบ (Testing) 5) การนำระบบไปใช้(Implementation) และ 6) การบำรุงรักษา ระบบ (Maintenance) โดยมีรายละเอียดของแต่ละขั้นตอน ดังนี้ 1. การวิเคราะห์ระบบ (Analysis) ประกอบด้วย การวางแผน การกำหนดเป้าหมาย และแนวทางการดำเนินงานการวิเคราะห์ระบบ การวิเคราะห์สภาพปัจจุบันของระบบที่มีอยู่เดิมและ สภาพความต้องการของระบบที่จะพัฒนา การมอบหมายทีมงานหรือบุคลากรผู้รับผิดชอบในการ ดำเนินการการรวบรวมความต้องการข้อมูลสารสนเทศที่จะนำเข้าสู่ระบบที่ต้องการพัฒนา การติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลจากการดำเนินงาน การรายงานผลหากพบปัญหาเพื่อปรับปรุงแก้ไข 2. การออกแบบระบบ (Design) ประกอบด้วย การวางแผน การกำหนดเป้าหมายและ แนวทางการดำเนินงานในการออกแบบระบบ การมอบหมายทีมงานหรือผู้รับผิดชอบในการออกแบบ ระบบเพื่อกำหนดคุณสมบัติของโปรแกรมหรือคุณสมบัติของระบบ ได้แก่ การออกแบบรายงาน (Output Design) และการออกแบบจอภาพส่วนติดต่อกับผู้ใช้ (User Interface) ให้เหมาะสมกับการ ใช้งานและสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้การติดตามตรวจสอบและประเมินผลจากการ ดำเนินงาน การรายงานผลเพื่อปรับปรุงแก้ไข 3. การพัฒนาระบบ (Development) ประกอบด้วย การกำหนดแผนงาน การกำหนด เป้าหมายและแนวทางในการดำเนินงานพัฒนาระบบ การมอบหมายทีมงานหรือผู้รับผิดชอบในการ พัฒนา การพัฒนาโปรแกรมด้วยการสร้างชุดคําสั่งหรือเขียนโปรแกรมเพื่อสร้างระบบงาน โดย โปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนาจะต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมกับเทคโนโลยีที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน


120 พัฒนาระบบให้สามารถใช้งานง่าย สะดวก และรวดเร็วผ่านอุปกรณ์เทคโนโลยีได้อย่างหลากหลาย มี การติดตามตรวจสอบและประเมินผลการพัฒนาระบบเป็นระยะ มีการรายงานผลหากพบปัญหาเพื่อ ปรับปรุงแก้ไขให้การพัฒนาระบบเป็นไปตามที่ได้ออกแบบไว้ 4. การทดสอบระบบ (Testing) ประกอบด้วย การวางแผน กำหนดเป้าหมาย แนวทาง ในการทดสอบระบบก่อนที่จะนำไปใช้งานจริง มีการมอบหมายผู้รับผิดชอบทดสอบความถูกต้องของ ผลลัพธ์ที่ได้ และทดสอบว่าระบบที่พัฒนาตรงตามความต้องการของผู้ใช้หรือไม่ ระบบมีความสมบูรณ์ ถูกต้อง และครอบคลุมตามวัตถุประสงค์ของการพัฒนาระบบมากน้อยเพียงใด การติดตามตรวจสอบ และประเมินผลเพื่อปรับปรุงแก้ไขระบบใด้ดียิ่งขึ้น 5. การนำระบบไปใช้ (Implementation) ประกอบด้วย การวางแผน กำหนด เป้าหมายและแนวทางการนำระบบที่พัฒนาขึ้นไปใช้ในสถานการณ์จริง การประชุมอบรมและ มอบหมายผู้รับผิดชอบในการนำระบบไปใช้ การติดตามและประเมินผลการใช้ระบบจากเกณฑ์ที่ กำหนดขึ้น ทำการประเมินผลการปฏิบัติงานโดยรวมของระบบ การรายงานผลเพื่อปรับปรุงแก้ไข ระบบ จนมั่นใจว่าระบบสามารถทำงานได้จริงและตรงกับความต้องการของผู้ใช้ 6. การบำรุงรักษาระบบ (Maintenance) ประกอบด้วย การกำหนดแผนงาน กำหนด เป้าหมายและแนวทางการบำรุงรักษาระบบที่พัฒนาขึ้น การมอบหมายทีมงานหรือผู้รับผิดชอบในการ บำรุงรักษาระบบ การตรวจสอบประเมินการบำรุงรักษาระบบและปรับปรุงแก้ไขระบบให้ถูกต้องเป็น ปัจจุบัน 2. ผลการตรวจสอบคุณภาพของกระบวนการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น โดยการตรวจสอบความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (Content Validity) ความสอดคล้องของประเด็นคำถามของกระบวนการและความชัดเจนของภาษา ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน โดยใช้เทคนิค IOC (Index of Item-Objective Congruence) ผลการวิเคราะห์พบว่าได้คะแนนเท่ากับ 0.962 สรุปเป็นรูปแบบกระบวนการพัฒนาระบบ ดังภาพที่ 14


121 3. ผลการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ตาม กระบวนการพัฒนาที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเพื่อศึกษา วิเคราะห์และการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้าน การศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 มีเนื้อหาประกอบไปด้วย ข้อมูลสถานศึกษา ข้อมูลนักเรียน/ นักศึกษา ข้อมูลครูและบุคลากรทางการศึกษา ข้อมูลประชากรวัยเรียนอายุ 3-17 ปี ข้อมูลคะแนนผล การทดสอบ O-NET, V-NET, N-NET ข้อมูลหน่วยงานทางการศึกษา ข้อมูลสภาพทั่วไปเขตตรวจ ราชการที่ 15 และข้อมูลแผนที่สถานศึกษา ซึ่งผู้วิจัยได้ทำการพัฒนาระบบในรูปแบบโมบายแอปพลิเค ชัน โดยตั้งชื่อว่า DataApp V.1 ซึ่งทำการพัฒนาผ่านหน้าเว็บ https://appsheet.com ตาม กระบวนการพัฒนาระบบที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ประกอบด้วย 6 ขั้นตอน ได้แก่ 1) การวิเคราะห์ระบบ (Analysis) 2) การออกแบบระบบ (Design) 3) การพัฒนาระบบ (Development) 4) การทดสอบ ระบบ (Testing) 5) การนำระบบไปใช้(Implementation) และ 6) การบำรุงรักษาระบบ (Maintenance) ปรากฏผลการพัฒนาในแต่ละขั้นตอน ดังนี้ 1. การวิเคราะห์ระบบ (Analysis) ผู้วิจัยได้ดำเนินการศึกษาวิเคราะห์สภาพปัจจุบันของระบบที่มีอยู่เดิมและสภาพความ ต้องการของระบบที่จะพัฒนา รวมถึงการรวบรวมความต้องการข้อมูลสารสนเทศที่จะนำเข้าสู่ระบบที่ ภาพที่ 14 กระบวนการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ที่มา : ผู้วิจัย (2566) ฉฉ


122 ต้องการพัฒนา จากการออกแบบสอบถาม และการพูดคุยกับผู้บริหารอย่างไม่เป็นทางการ พบว่า ปัจจุบันยังไม่มีระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ในรูปแบบแอปพลิเคชัน บนโทรศัพท์มือถือ และในระบบเดิมส่วนใหญ่นำเสนอข้อมูลสถิติพื้นฐานด้านการศึกษา และยังไม่มี ข้อมูลด้านคุณภาพการศึกษา ข้อมูลเกี่ยวกับหน่วยงานทางการศึกษา รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะ สภาพทั่วไปของพื้นที่เขตตรวจราชการที่ 15 และให้มีการนำเสนอข้อมูลดังกล่าวเพิ่มเติมในระบบที่จะ พัฒนาด้วย นอกจากนั้นผู้บริหารยังมีความต้องการให้มีการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศที่สามารถใช้ งานได้ในหลากหลายอุปกรณ์ เช่น คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต โทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะในรูปแบบโมบาย แอปพลิเคชัน เพื่อให้สามารถใช้งานได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว และไม่ซับซ้อน 2. การออกแบบระบบ (Design) หลังจากได้ทำการวิเคราะห์ระบบแล้ว ผู้วิจัยได้ออกแบบระบบข้อมูลสารสนเทศด้าน การศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ในรูปแบบโมบายแอปพลิเคชัน ให้สอดคล้องกับความต้องการของ ผู้ใช้งาน สามารถใช้งานได้หลากหลายอุปกรณ์ ทั้งโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ ผู้วิจัย ได้ทำการออกแบบระบบโดยแผนภาพบริบท (Context Diagram) ดังภาพที่ 6 3. การพัฒนาระบบ (Development) หลังจากได้วิเคราะห์และออกแบบระบบแล้ว ผู้วิจัยได้ทำการพัฒนาระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ในรูปแบบโมบายแอปพลิเคชัน ภายใต้ชื่อ DataApp V.1 โดยทำการพัฒนาระบบบนหน้าเว็บ https://appsheet.com ผลปรากฏ ดังนี้ 3.1 รูปภาพไอคอนของระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ภายใต้ชื่อ DataApp V.1 ที่ติดตั้งบนโทรศัพท์มือถือ ภาพที่ 15 ไอคอนแอปพลิเคชัน DataApp V.1 บนโทรศัพท์มือถือ 3.2 หน้าแรกเมื่อเปิดแอปพลิเคชัน DataApp V.1 ขึ้นมาจะปรากฏหน้าจอ Login โดย มีการแจ้งให้ผู้ใช้งานครั้งแรกลงทะเบียนก่อน “เข้าสู่ระบบครั้งแรก โปรด Register ที่เมนู 3 ขีดบน หน้าจอ” เพื่อกำหนด user และ password ในการ login เข้าสู่ระบบ


123 ภาพที่ 16 หน้าจอ Login ของระบบ 3.3 หน้าจอสำหรับลงทะเบียนเข้าใช้งานระบบ โดยกำหนดให้ผู้ใช้กรอกข้อมูล ดังนี้ - Name คือ ชื่อผู้ใช้งานเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ได้ - Phone คือ หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ใช้งาน ซึ่งจะถูกกำหนดเป็น Phone Login สำหรับ login เข้าสู่ระบบ - Password คือ รหัสผ่านสำหรับเข้าใช้งาน เป็นตัวเลขหรือตัวอักษรกี่ตัวก็ได้ซึ่ง จะถูกกำหนดเป็น Password Login สำหรับ login เข้าสู่ระบบ ภาพที่ 17 หน้าจอลงทะเบียนใช้งานระบบ


124 3.4 การ Login เข้าสู่ระบบให้แตะเมนู 3 ขีด แตะคำว่า Login หรือแตะปุ่ม Login บนหน้าจอ Login ระบบจะพาเข้าสู่หน้าจอ Login เพื่อกรอกข้อมูล ภาพที่ 18 หน้าจอเมนูLogin เข้าสู่ระบบ เมื่อเข้าสู่หน้าจอ Login ให้พิมพ์ข้อมูลสำหรับ Login คือ - Phone Login : พิมพ์หมายเลขโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนไว้ - Password Login : พิมพ์รหัสผ่านที่กำหนดไว้ตอนลงทะเบียน จากนั้นแตะ save จะเข้าสู่หน้าจอเมนูหลัก ภาพที่ 19 การ Login เข้าสู่ระบบ Login เมนู3 ขีด Login พิมพ์ข้อมูล Login แตะ Save


125 หากกรอกข้อมูล Login ไม่ตรงกับที่ได้ลงทะเบียนไว้ ระบบจะแสดงผลลัพธ์การกรอกข้อมูล ให้ทราบว่า “ไม่ถูกต้อง กรุณากรอก Phone หรือ Password ใหม่อีกครั้ง” ภาพที่ 20 หน้าจอแสดงการกรอกข้อมูล Login ไม่ตรงกับที่ลงทะเบียนไว้ หากกรอกข้อมูล Login ถูกต้อง จะเข้าสู่หน้าจอเมนูหลัก ซึ่งจะมีเมนูที่ปรากฏบนแถบ เมนูด้านล่างของหน้าจอ 3 เมนู ได้แก่ เมนูหลัก สภาพทั่วไป และ Map ภาพที่ 21 หน้าจอเมนูหลักของระบบ DataApp V.1


126 3.5 เมนูหลัก ประกอบด้วยเมนู 11 เมนู ได้แก่ 3.5.1 เมนูสถานศึกษา : แสดงข้อมูลจำนวนสถานศึกษา ในภาพรวมเขตตรวจ ราชการที่ 15 ภาพรวมจังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน และแม่ฮ่องสอน จำแนกตามสังกัด ภาพที่ 22 หน้าจอเมนูสถานศึกษา และหน้าจอแสดงข้อมูลจำนวนสถานศึกษา 3.5.2 เมนูนักเรียน/นักศึกษา : แสดงข้อมูลจำนวนนักเรียน/นักศึกษา ในภาพรวม เขตตรวจราชการที่ 15 ภาพรวมจังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน และแม่ฮ่องสอน จำแนกตามสังกัด ภาพที่ 23 หน้าจอเมนูนักเรียน/นักศึกษา และหน้าจอแสดงข้อมูลจำนวนนักเรียน/นักศึกษา เมนูสถานศึกษา ข้อมูลจำนวนสถานศึกษา ข้อมูลจำนวน นักเรียน/นักศึกษา เมนูนักเรียน/นักศึกษา


127 3.5.3 เมนูครูและบุคลากรทางการศึกษา : แสดงข้อมูลจำนวนครูและบุคลากร ทางการศึกษา ในภาพรวมเขตตรวจราชการที่ 15 ภาพรวมจังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน และ แม่ฮ่องสอน จำแนกตามสังกัด ภาพที่ 24 หน้าจอเมนูครูและบุคลากรทางการศึกษา และหน้าจอ แสดงข้อมูลจำนวนครูและบุคลากรศึกษา 3.5.4 เมนูรายชื่อสถานศึกษา : แสดงข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับสถานศึกษาใน เขตตรวจราชการที่ 15 และสามารถทำการค้นหาสถานศึกษาต่าง ๆ ได้ ภาพที่ 25 หน้าจอเมนูรายชื่อสถานศึกษา และหน้าจอแสดงข้อมูลรายละเอียดสถานศึกษา เมนูครูและบุคลากร ทางการศึกษา ข้อมูลจำนวนครูและ บุคลากรทางการ ศึกษา เมนูรายชื่อสถานศึกษา ข้อมูลรายละเอียดสถานศึกษา


128 การค้นหาสถานศึกษา แตะที่รูปแว่นขยาย แล้วพิมพ์ข้อความในช่องค้นหาจะปรากฏ ข้อมูลตามที่ค้นหา และสามารถดูแผนที่ของสถานศึกษา และเปิดเป็นแผนที่นำทางได้ ภาพที่ 26 แสดงหน้าจอการค้นหาสถานศึกษา 3.5.5 เมนูหน่วยงานการศึกษา : แสดงข้อมูลรายละเอียดของหน่วยงานทาง การศึกษาที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตตรวจราชการที่ 15 ได้แก่ สำนักงานศึกษาธิการภาค 15 สำนักงาน ศึกษาธิการจังหวัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัด ภาพที่ 27 หน้าจอเมนูหน่วยงานการศึกษา และหน้าจอแสดงข้อมูลหน่วยงานการศึกษา เมนูหน่วยงานการศึกษา ข้อมูลหน่วยงานการศึกษา แตะรูปแว่นขยาย พิมพ์ข้อความค้นหา ปรากฏข้อมูลตามที่ค้นหา แตะดูแผนที่ ปรากฏแผนที่ เปิดเป็นแผนที่นำทาง


129 หากต้องการดูแผนที่ของหน่วยงานให้ แตะจุด 3 จุด แตะ View Map สามารถดูแผนที่ แตะ รูปรถยนต์ เพื่อเปิดเป็นแผนที่นำทางได้ ภาพที่ 28 หน้าจอการดูแผนที่หน่วยงาน และเปิดเป็นแผนที่นำทาง 3.5.6 เมนูประชากรวัยเรียนอายุ 3-17 ปี ประกอบด้วย เมนูย่อย 5 เมนู ได้แก่ 1. ประชากรเขตตรวจราชการที่ 15 : แสดงข้อมูลจำนวนประชากรวัยเรียน อายุ 3-17 ปี ในเขตตรวจราชการที่ 15 แยกชาย หญิง 2. เมนูประชากรเชียงใหม่ : แสดงข้อมูลจำนวนประชากรวัยเรียนอายุ 3-17 ปี ในจังหวัดเชียงใหม่ 3. เมนูประชากรลำพูน : แสดงข้อมูลจำนวนประชากรวัยเรียนอายุ 3-17 ปี ในจังหวัดลำพูน 4. เมนูประชากรลำปาง : แสดงข้อมูลจำนวนประชากรวัยเรียนอายุ 3-17 ปี ในจังหวัดลำปาง 5. เมนูประชากรแม่ฮ่องสอน : แสดงข้อมูลจำนวนประชากรวัยเรียนอายุ 3-17 ปี ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน จุด 3 จุด View Map ปรากฏแผนที่ หน่วยงาน เปิดเป็นแผนที่นำทาง


130 ภาพที่ 29 หน้าจอเมนูประชากรวัยเรียนอายุ 3-17 ปี หน้าจอเมนูย่อย 5 เมนู และหน้าจอแสดงข้อมูลจำนวนประชากรวัยเรียนอายุ 3-17 ปี 3.5.7 เมนูคะแนน O-NET ประกอบด้วย เมนูย่อย 3 เมนู ได้แก่ 1. เมนูประถมศึกษาปีที่ 6 : แสดงข้อมูลคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบระดับชาติ ขั้นพื้นฐาน (O-NET) ในระดับประเทศ ระดับเขตตรวจราชการที่ 15 ระดับจังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูน ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำแนกรายวิชา 2. เมนูมัธยมศึกษาปีที่ 3 : แสดงข้อมูลคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบระดับชาติขั้น พื้นฐาน (O-NET) ในระดับประเทศ ระดับเขตตรวจราชการที่ 15 ระดับจังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูน ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำแนกรายวิชา 3. เมนูมัธยมศึกษาปีที่ 6 : แสดงข้อมูลคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบระดับชาติขั้น พื้นฐาน (O-NET) ในระดับประเทศ ระดับเขตตรวจราชการที่ 15 ระดับจังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูน ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำแนกรายวิชา เมนูประชากรวัยเรียน อายุ 3-17 ปี เมนูย่อย 5 เมนู ข้อมูลจำนวนประชากร วัยเรียนอายุ 3-17 ปี


131 ภาพที่ 30 หน้าจอเมนูคะแนน O-NET หน้าจอเมนูย่อย 3 เมนู และหน้าจอแสดงข้อมูลคะแนนสอบ O-NET 3.5.8 เมนูคะแนน V-NET : แสดงข้อมูลคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบระดับชาติด้าน อาชีวศึกษา (V-NET) ในระดับประเทศ ระดับเขตตรวจราชการที่ 15 ระดับจังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูน ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 3 (ปวช.) เมนูคะแนน O-NET เมนูย่อย 3 เมนู คะแนน O-NET ป.6 คะแนน O-NET ม.3 คะแนน O-NET ม.6


132 ภาพที่ 31 หน้าจอเมนูคะแนน V-NET และหน้าจอแสดงข้อมูลคะแนน V-NET 3.5.9 เมนูคะแนน N-NET ประกอบด้วย เมนูย่อย 6 เมนู ได้แก่ 1. เมนูประถม สอบครั้งที่ 1 : แสดงข้อมูลคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบ ระดับชาติด้านการศึกษานอกระบบโรงเรียน (N-NET) ในระดับประเทศ ระดับเขตตรวจราชการที่ 15 ระดับจังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูน ของนักเรียนระดับประถมศึกษา จำแนกตาม สาระการเรียนรู้ ในการสอบครั้งที่ 1 2. เมนูประถม สอบครั้งที่ 2 : แสดงข้อมูลคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบ ระดับชาติด้านการศึกษานอกระบบโรงเรียน (N-NET) ในระดับประเทศ ระดับเขตตรวจราชการที่ 15 ระดับจังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูน ของนักเรียนระดับประถมศึกษา จำแนกตาม สาระการเรียนรู้ในการสอบครั้งที่ 2 3. เมนู ม.ต้น สอบครั้งที่ 1 : แสดงข้อมูลคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบ ระดับชาติด้านการศึกษานอกระบบโรงเรียน (N-NET) ในระดับประเทศ ระดับเขตตรวจราชการที่ 15 ระดับจังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูน ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จำแนก ตามสาระการเรียนรู้ ในการสอบครั้งที่ 1 4. เมนู ม.ต้น สอบครั้งที่ 2 : แสดงข้อมูลคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบ ระดับชาติด้านการศึกษานอกระบบโรงเรียน (N-NET) ในระดับประเทศ ระดับเขตตรวจราชการที่ 15 ระดับจังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูน ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จำแนก ตามสาระการเรียนรู้ ในการสอบครั้งที่ 2 5. เมนู ม.ปลาย สอบครั้งที่ 1 : แสดงข้อมูลคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบ ระดับชาติด้านการศึกษานอกระบบโรงเรียน (N-NET) ในระดับประเทศ ระดับเขตตรวจราชการที่ 15 เมนูคะแนน V-NET ข้อมูลคะแนน V-NET


133 ระดับจังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูน ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จำแนกตามสาระการเรียนรู้ ในการสอบครั้งที่ 1 6. เมนู ม.ปลาย สอบครั้งที่ 2 : แสดงข้อมูลคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบ ระดับชาติด้านการศึกษานอกระบบโรงเรียน (N-NET) ในระดับประเทศ ระดับเขตตรวจราชการที่ 15 ระดับจังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูน ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จำแนกตามสาระการเรียนรู้ ในการสอบครั้งที่ 2 ภาพที่ 32 หน้าจอเมนูคะแนน N-NET และหน้าจอเมนูย่อย 6 เมนู ภาพที่ 33 หน้าจอแสดงข้อมูลคะแนนสอบ N-NET 3.5.10 เมนูดาวน์โหลดข้อมูล : แสดงรายละเอียดข้อมูลสถานศึกษาให้ผู้ใช้ดาวน์ โหลดได้ เมนูคะแนน N-NET เมนูย่อย 6 เมนู


134 ภาพที่ 34 หน้าจอเมนูดาวน์โหลด และหน้าจอแสดงข้อมูลรายละเอียดสถานศึกษา 3.5.11 เมนูติดต่อผู้ดูแลระบบ : แสดงฟอร์มให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลได้แก่ ชื่อ นามสกุล หน่วยงาน ที่อยู่ ตำบล อำเภอ จังหวัด โทรศัพท์ Email และกรอกข้อความที่ต้องการติดต่อผู้ดูแล ระบบ เมื่อกรอกข้อมูลครบทุกช่องแล้ว แตะ Save ภาพที่ 35 หน้าจอเมนูติดต่อผู้ดูแลระบบ และหน้าจอฟอร์มกรอกข้อมูลการติดต่อ 3.5.12 เมนูออกจากระบบ ผู้ใช้งานสามารถออกจากระบบโดย แตะ เมนูหลัก แตะ ออกจากระบบ แตะ Logout ให้สถานะ Logout เป็นสีส้ม แสดงว่าได้ออกจากระบบเรียบร้อยแล้ว เมนูดาวน์โหลดข้อมูล ปุ่มดาวน์โหลด เมนูติดต่อผู้ดูแลระบบ ฟอร์มกรอกข้อมูล แตะ Save


135 ภาพที่ 36 หน้าจอเมนูออกจากระบบ และหน้าจอแสดงสถานการณ์ออกจากระบบเรียบร้อย 3.6 เมนู สภาพทั่วไป : แสดงข้อมูลสภาพทั่วไปของเขตตรวจราชการที่ 15 ประกอบด้วย ข้อมูลลักษณะภูมิประเทศ ข้อมูลอาณาเขต ข้อมูลสังคมและการปกครอง ภาพที่ 37 หน้าจอเมนูสภาพทั่วไป และหน้าจอแสดงข้อมูลสภาพทั่วไป 3.7 เมนู Map : แสดงข้อมูลหมุดแผนที่ของสถานศึกษาที่สามารถเชื่อมโยงนำ ทางการเดินทางได้ เมนูสภาพทั่วไป ข้อมูลสภาพทั่วไป เมนูออกจากระบบ แตะที่ Logout ให้ สถานะ Logout เป็นสีส้ม


136 ภาพที่ 38 หน้าจอเมนู Map และหน้าจอแสดงข้อมูลหมุดแผนที่สถานศึกษาทั้งหมด 3.8 เมนูสำหรับผู้ดูแลระบบ หรือ Admin เท่านั้น 3.8.1 เมนู All User คือ เมนูสำหรับผู้ดูแลระบบในการลบ หรือ แก้ไข ข้อมูลผู้ใช้งาน 3.8.2 เมนู Admin คือ เมนูสำหรับผู้ดูแลระบบในการดูข้อมูลการติดต่อจากผู้ใช้งาน ภาพที่ 39 หน้าจอเมนู All User และ หน้าจอแสดงข้อมูลผู้ใช้งาน เมนู Map ข้อมูลหมุดแผนที่ สถานศึกษาทั้งหมด เมนู All User ข้อมูลผู้ใช้งาน


137 ภาพที่ 40 หน้าจอเมนู Admin และ หน้าจอแสดงข้อมูลการติดต่อจากผู้ใช้งาน 4. การทดสอบระบบ ผู้วิจัยดำเนินการทดสอบระบบ 2 ครั้ง โดยในครั้งที่ 1 ผู้วิจัยได้นำต้นแบบระบบไป ทดลองใช้กับผู้ปฏิบัติงานในสำนักงานศึกษาธิการภาค 15 จำนวน 5 คน เพื่อทดสอบว่าสามารถเข้าใช้ งานระบบผ่านโทรศัพท์มือถือของตนเองได้หรือไม่ และระบบมีการประมวลผลและนำเสนอข้อมูลได้ ครบถ้วนและถูกต้องตรงตามความต้องการหรือไม่ ซึ่งจากการทดลองใช้พบว่า การบันทึกข้อมูลยังมี ความผิดพลาดในบางเมนู และผู้ทดลองใช้ให้ข้อเสนอแนะว่าควรมีข้อมูลแผนที่ของสถานศึกษาทุกแห่ง และสามารถใช้เป็นแผนที่นำทางไปยังสถานศึกษานั้น ๆ ได้ด้วย ผู้วิจัยจึงได้มีการปรับปรุงแก้ไขระบบ ตามคำแนะนำ จากนั้นนำระบบไปทดสอบครั้งที่ 2 กับผู้อำนวยการกลุ่มทั้ง 5 กลุ่ม จำนวน 5 คน ใน สำนักงานศึกษาธิการภาค 15 ซึ่งได้รับข้อเสนอแนะว่า ระบบควรมีเมนูหรือช่องทางให้ผู้ใช้งาน สามารถติดต่อกับผู้ดูแลระบบได้ และควรมีการแจ้งหรือประกาศให้ผู้ใช้งานระบบครั้งแรกได้ ลงทะเบียนเพื่อกำหนด user และ password เพื่อใช้Login เข้าใช้งานระบบ ผู้วิจัยจึงได้มีการ ปรับปรุงแก้ไขตามคำแนะนำอีกครั้ง เพื่อให้ระบบใช้งานตามความต้องการได้ดียิ่งขึ้น 5. การนำระบบไปใช้ ผู้วิจัยนำระบบที่พัฒนาขึ้นไปใช้กับผู้ใช้งานซึ่งเป็นผู้บริหารและบุคลากรในสำนักงาน ศึกษาธิการภาค 15 และสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด ในเขตตรวจราชการที่ 15 จำนวน 35 คน ทำ การประเมินผลการใช้งานระบบจากเกณฑ์ที่กำหนดขึ้น รวมทั้งประเมินผลการปฏิบัติงานโดยรวมของ ระบบ เพื่อให้ทราบถึงประสิทธิภาพของการใช้งานระบบ พบว่าระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ในรูปแบบโมบายแอปพลิเคชัน ภายใต้ชื่อ DataApp V.1 มีประสิทธิภาพการ ใช้งานอยู่ในระดับมาก ดังผลการวิเคราะห์ข้อมูลตามตารางที่ 26-30 เมนู Admin ข้อมูลการติดต่อ จากผู้ใช้งาน


138 6. การบำรุงรักษาระบบ มีการมอบหมายให้บุคลากรผู้ปฏิบัติงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบงานข้อมูลสารสนเทศ ของสำนักงานศึกษาธิการภาค 15 เป็นผู้รับผิดชอบในการบำรุงรักษาและดูแลระบบให้มีความถูกต้อง อยู่ตลอดเวลา 4. ผลการประเมินคุณภาพของระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 แบ่งออกเป็น 5 ด้าน คือ ด้านความถูกต้อง (Accurate) ด้านความทันต่อเวลา (Timeliness) ด้าน ความสมบูรณ์ครบถ้วน (Complete) ด้านความสอดคล้องกับความต้องการ (Relevance) และ ด้าน การตรวจสอบได้ (Verifiable) โดยผู้เชี่ยวชาญ 5 ท่าน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาระบบ ปรากฎผลการวิเคราะห์ข้อมูลตามตารางที่ 20-25 ดังต่อไปนี้ ตารางที่ 20 ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเกี่ยวกับการประเมินคุณภาพของระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 โดยภาพรวม คุณภาพของระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ผลการประเมิน (N=5) การแปลผล x̅ S.D. 1. ด้านความถูกต้อง (Accurate) 3.90 1.37 ดี 2. ด้านความทันต่อเวลา (Timeliness) 4.80 0.41 ดีมาก 3. ด้านความสมบูรณ์ครบถ้วน (Complete) 4.35 0.49 ดี 4. ด้านความสอดคล้องกับความต้องการ (Relevance) 4.30 0.47 ดี 5. ด้านการตรวจสอบได้ (Verifiable) 3.50 1.10 ปานกลาง รวม 4.17 0.95 ดี จากตารางที่ 20 การประเมินคุณภาพของระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจ ราชการที่ 15 ที่แบ่งการประเมินเป็น 5 ด้าน คือ ด้านความถูกต้อง ด้านความทันต่อเวลา ด้านความ สมบูรณ์ครบถ้วน ด้านความสอดคล้องกับความต้องการ และด้านการตรวจสอบได้พบว่า ระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 มีคุณภาพในภาพรวมอยู่ในระดับดี(x̅=4.17, S.D.=0.95) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านความทันต่อเวลา มีคุณภาพสูงสุดอยู่ในระดับดีมาก (x̅=4.80, S.D.=0.41) รองลงมาได้แก่ ด้านความครบถ้วนสมบูรณ์ มีคุณภาพอยู่ในระดับดี (x̅=4.35, S.D.=0.49) ด้านความสอดคล้องกับความต้องการ มีคุณภาพอยู่ในระดับดี (x̅=4.30, S.D.=0.47) และด้านความถูกต้อง มีคุณภาพอยู่ในระดับดี(x̅=3.90, S.D.=1.37) ส่วนด้านการตรวจสอบได้มี คุณภาพน้อยสุดอยู่ในระดับปานกลาง (x̅=3.50, S.D.=1.10)


139 ตารางที่ 21 ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเกี่ยวกับการประเมินคุณภาพของระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ด้านความถูกต้อง (Accurate) คุณภาพของระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ด้านความถูกต้อง ผลการประเมิน (N=5) การแปลผล x̅ S.D. 1. ระบบสามารถจัดเก็บข้อมูลได้อย่างถูกต้อง 3.60 1.34 ดี 2. ระบบสามารถบันทึก แก้ไขข้อมูลได้อย่างถูกต้อง 3.20 2.05 ดี 3. ความถูกต้องของการเชื่อมโยงข้อมูลในระบบ 4.20 1.10 ดี 4. ระบบแสดงรายงานข้อมูลได้อย่างถูกต้อง 4.60 0.55 ดีมาก รวม 3.90 1.37 ดี จากตารางที่ 21 การประเมินคุณภาพของระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจ ราชการที่ 15 ด้านความถูกต้อง (Accurate) โดยภาพรวม พบว่าระบบข้อมูลสารสนเทศด้าน การศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 มีคุณภาพอยู่ในระดับดี(x̅=3.90, S.D.=1.37) เมื่อพิจารณาเป็น รายข้อ พบว่า ข้อที่มีคุณภาพสูงสุดคือระบบแสดงรายงานข้อมูลได้อย่างถูกต้อง (x̅=4.60, S.D.=0.55) มีคุณภาพอยู่ในระดับดีมาก รองลงมาได้แก่ ความถูกต้องของการเชื่อมโยงข้อมูลในระบบ (x̅=4.20, S.D.=1.10) มีคุณภาพอยู่ในระดับดี และระบบสามารถจัดเก็บข้อมูลได้อย่างถูกต้อง (x̅=3.60, S.D.=1.34) มีคุณภาพอยู่ในระดับดี ส่วนข้อที่มีคุณภาพน้อยที่สุดคือ ระบบสามารถบันทึก แก้ไขข้อมูล ได้อย่างถูกต้อง (x̅=3.20, S.D.=2.05) มีคุณภาพอยู่ในระดับดี ตารางที่ 22 ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเกี่ยวกับการประเมินคุณภาพของระบบข้อมูล สารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ด้านความทันต่อเวลา (Timeliness) คุณภาพของระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เขตตรวจราชการที่ 15 ด้านความทันต่อเวลา ผลการประเมิน (N=5) การแปลผล x̅ S.D. 1. ความเร็วในการแสดงผลจากการเชื่อมโยงเพจ 4.80 0.45 ดีมาก 2. ความเร็วในการนำเสนอข้อมูล 4.80 0.45 ดีมาก 3. ความเร็วในการบันทึก ปรับปรุงข้อมูล 4.80 0.45 ดีมาก 4. ความเร็วในการติดต่อกับฐานข้อมูล 4.80 0.45 ดีมาก รวม 4.80 0.41 ดีมาก


Click to View FlipBook Version