143 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. มุ่งมั่นในการทำงาน ภาระงาน/ชิ้นงาน ใบงาน คำถามสำคัญ นักเรียนรู้ไหมว่าความหมายของเสียงประสานมีว่าอย่างไร กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำ 1. ครูเปิดวีดีโอการ้องประสานเสียงให้นักเรียนดู จากนั้นครูถามนักเรียนว่า วิดีโอข้างต้น เกี่ยวกับอะไร ชื่อวงว่าอะไร จากนั้นครูเปิดโอกาสให้นักเรียนตอบคำถาม 2. ครูพูดเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียน ขั้นสอน 1. ครูแจกใบความรู้เรื่อง บทเพลงประสานเสียง 2 แนว ให้นักเรียน 2. นักเรียนศึกษาความหมายของ กาiร้องประสานเสียง 2 แนวและเสียงประสานในใบความรู้ 3 นาที ครูสุ่มถามนักเรียน 4 คน อธิบายเกี่ยวกับความหมายของการร้องประสานเสียง 2 แนว และ เสียงประสานตามความเข้าใจของนักเรียน และครูอธิบายเพิ่มเติม เกี่ยวกับความหมายและยกตัวอย่างเกี่ยวกับ เพลงประสานเสียง 2 ชั้นคือบทเพลงหนูมาลี 3. จากนั้นครูเขียนโน้ตเพลงหนูมาลี 2 แนว พร้อมเนื้อร้องลงบนกระดาน ครูร้องให้ฟังทีละท่อน จากนั้นครูให้นักเรียนร้องตามพอประมาณ จากนั้นครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถาม 4. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มกลุ่มละ 4 คน จากนั้นให้สามชิกในกลุ่มไปฝึกร้องด้วยกันโดยให้แบ่งเป็น แนว 1 สองคน แนว 2 สองคน โดยใช้เวลาฝึก 10 นาที 5. จากนั้นครูให้สอบร้องบทเพลงหนูมาลี2 แนวทีละกลุ่ม ตามความพร้อมของนักเรียน ขั้นสรุป หลังจากที่นักเรียนสอบเสร็จครบทุกกลุ่มแล้ว ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปทบทวนเนื้อหาเกี่ยวกับ การร้องประสานเสียง 2 แนว โดยครูจะใช้คำถาม ถามนักเรียนว่า การร้องประสานเสียง 2 แนวหมายถึงอะไร และเสียงประสานหมายถึงอะไร
144 สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ใบความรู้เรื่อง บทเพลงประสานเสียง 2 แนว 2. วีดีโอการร้องประสานเสียง 3. ห้องเรียน กระบวนการวัดและการประเมินผล เครื่องมือ 1. แบบประเมินการร้องเพลงประสานเสียง 2 แนว เพลงหนูมาลี 2. แบบสังเกตพฤติกรรมการร่วมกิจกรรมรายบุคคล วิธีการ 1. ให้นักเรียนร้องเพลงประสานเสียง 2 แนว เพลงหนูมาลี 2. สังเกตพฤติกรรมการร่วมกิจกรรมรายบุคคล เกณฑ์ 1. ผ่านเกณฑ์ 50 % 2. ผ่านเกณฑ์ 60 %
145
146
147 ใบความรู้ เรื่อง บทเพลงประสานเสียง 2 แนว เสียงประสาน คือ กลุ่มเสียงตั้งแต่สองขึ้นไปเกิดขึ้นพร้อม ๆ กันทำให้เสียงกลมกลืนฟังสนิทหู การขับร้องประสานเสียง 2 แนว คือ การขับร้องที่ต้องมีทำนองเพลง 2 ทำนอง ร้องไปพร้อม ๆ กัน โดยมีทำนองหลักทำนองหนึ่ง ส่วนอีกทำนองหนึ่งเป็นทำนองประสาน ตัวอย่าง บทเพลงประสานเสียง 2 แนว
148 ใบงาน เรื่อง เสียงประสาน คำชี้แจง : จงตอบคำถามต่อไปนี้ 1. ความหมายของเสียงประสาน คือ ตอบ 2. นักเรียนเข้าใจว่าเสียงประสาน 2 แนว มีลักษณะอย่างไร ตอบ ชื่อ……………………………………...............……………………... ชั้น………………… เลขที่……………….
149 แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล คำชี้แจง ให้ทำเครื่องหมาย / ลงในช่องรายการสังเกตพฤติกรรมที่นักเรียนปฏิบัติ เลขที่ ชื่อ - สกุล รายการ รวม หมายเหตุ มีความกระตือรือร้น (2 คะแนน) ให้ความร่วมมือในการทำ กิจกรรม (2 คะแนน) ตอบคำถามได้ถูกต้อง (2 คะแนน) ตั้งใจฟังครูอธิบาย (2 คะแนน) แสดงความคิดเห็น (2 คะแนน) เกณฑ์การประเมิน คะแนน 9-10 ระดับ ดีมาก ลงชื่อ…………......………………………. คะแนน 7-8 ระดับ ดี (…………………………………...) คะแนน 5-6 ระดับ พอใช้ ผู้ประเมิน คะแนน 0-4 ระดับ ปรับปรุง ………./………../……….
150 แบบวัดการร้องร้องเพลงประสานเสียง 2 แนวเพลงหนูมาลี คำชี้แจง ให้ทำเครื่องหมาย / ลงในช่องรายการสังเกตพฤติกรรมที่นักเรียนปฏิบัติ กลุ่ม ที่ ชื่อ - สกุล รายการ รวม หมายเหตุ เนื้อร้องถูกต้อง (2 คะแนน) ทำนองถูกต้อง (2 คะแนน) ความพร้อมเพียง (2 คะแนน) ความกระตือรือร้น (2 คะแนน) แสดงความคิดเห็น (2 คะแนน) เกณฑ์การประเมิน คะแนน 9-10 ระดับ ดีมาก ลงชื่อ……….......…………………………. คะแนน 7-8 ระดับ ดี (…………...………………………...) คะแนน 5-6 ระดับ พอใช้ ผู้ประเมิน คะแนน 0-4 ระดับ ปรับปรุง ………./………../……….
151 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 17 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ดนตรี) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การขับร้องและบรรเลงเครื่องดนตรี เวลา 8 ชั่วโมง เรื่อง การร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เวลา 2 ชั่วโมง วันจันทร์ ที่ 18 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2566 โรงเรียนเทศบาล 5 สีหรักษ์วิทยา มาตรฐานการเรียนรู้ ศ 2.1 เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์วิพากษ์วิจารณ์คุณค่าดนตรีถ่ายทอด ความรู้สึก ความคิดต่อดนตรีอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ตัวชี้วัด ม.1 (1/3) ร้องเพลงและใช้เครื่องดนตรีบรรเลงประกอบการร้องเพลงด้วยบทเพลงที่หลากหลายรูปแบบ สาระสำคัญ เพลงสรรเสริญพระบารมี เป็นบทเพลงที่ประพันธ์ขึ้นมาเพื่อยอเกียรติพระมหากษัตริย์ ใช้บรรเลงในงานพิธี ที่เป็นทางการ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถรู้เนื้อเพลงสรรเสริญพระบารมีได้ (K) 2. นักเรียนสามารถเขียนเนื้อร้องและร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีได้ (P) 3. นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อการร้องเพลงในพิธี(A) สาระการเรียนรู้ บทเพลงสรรเสริญพระบารมี สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
152 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. มุ่งมั่นในการทำงาน ภาระงาน/ชิ้นงาน ใบงาน คำถามสำคัญ นักเรียนรู้ไหมว่าความหมายเพลงสรรเสริญพระบารมี มีว่าอย่างไร กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำ 1. ครูถามนักเรียนว่า นักเรียนเคยประกอบพิธีการ เพลงอะไรบ้าง จากนั้นครูเปิดโอกาสให้ นักเรียนตอบคำถาม 2. ครูพูดเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียน ขั้นสอน 1. ครูแจกใบความรู้บทเพลงสรรเสริญพระบารมี 2. ครูเปิดวีดิโอเพลงสรรเสริญพระบารมีให้นักเรียนดูไปพร้อมกับครูเขียนเนื้อร้องเพลง สรรเสริญพระบารมีบนหน้ากระดาน 3. จากนั้นครูสาธิตการร้องเพลงสรรเสริญให้นักเรียนฟัง 1 รอบ แล้วให้นักเรียนร้องตามทีละท่อน จนจบ ในการฝึกครูพานักเรียนร้องไปพร้อมกัน และให้นักเรียนร้องพร้อมกันเอง 4. ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็นกลุ่มละ 6 คน แล้วให้นักเรียนไปฝึกร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี โดยใช้เวลา 10 นาที จากนั้นครูให้นักเรียนมาสอบทีละกลุ่ม 5. จากนั้นครูให้นักเรียนทำใบงานที่ 17 เรื่อง บทเพลงสรรเสริญพระบารมี และให้นักเรียนนำส่ง ภายในคาบเรียน ขั้นสรุป หลังจากที่นักเรียนส่งใบงานแล้ว ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปทบทวนเนื้อหาเกี่ยวกับการร้อง เพลงสรรเสริญพระบารมี โดยครูจะให้นักเรียนร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีพร้อมกันทั้งห้อง 2 รอบ
153 สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ใบความรู้เรื่อง บทเพลงสรรเสริญพระบารมี 2. วีดิโอการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี 3. ห้องเรียน กระบวนการวัดและการประเมินผล เครื่องมือ 1. ใบงาน เรื่อง เนื้อร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี 2. แบบประเมินการปฏิบัติการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี 3. แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล วิธีการ 1. ให้นักเรียนทำใบงาน เรื่อง เนื้อร้องบทเพลงสรรเสริญพระบารมี 2. ประเมินการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี 3. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล เกณฑ์ 1. ผ่านเกณฑ์ 60 % 2. ผ่านเกณฑ์60 % 3. ผ่านเกณฑ์60 %
154
155
156 ใบความรู้ เรื่อง บทเพลงสรรเสริญพระบารมี เนื้อเพลง สรรเสริญพระบารมี ข้า ว ร พุท ธ เจ้า. เอา ม โน และ ศิ ร กานต์ นบ พระ ภู มิ บาล บุญ ดิเรก เอก บ รม จัก รินทร์ พระ สยา มินทร์ พระ ยศ ยิ่ง ยง เย็น ศิระ เพราะพระบริบาล ผล พระคุณ ธ รัก ษา ปวง ประชาเป็น สุข ศานด์ ขอ บันดาล พระ ประสงค์ ใด จง สฤษดิ์ ดัง หวัง ว ร ห ฤ ทัย ดุจ ถวาย ชัย ช โย
157 ใบงาน เรื่อง บทเพลงสรรเสริญพระบารมี คำชี้แจง ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง (10 คะแนน) 1. ให้นักเรียนเขียนเนื้อร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีมาให้ถูกต้อง ชื่อ…………………………………..สกุล………………………………….ชั้น……………………….เลขที่……………
158 แบบประเมินการปฏิบัติร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี คำชี้แจง ให้ทำเครื่องหมาย / ลงในช่องรายการสังเกตพฤติกรรมที่นักเรียนปฏิบัติ กลุ่ม ที่ ชื่อ - สกุล รายการ รวม หมายเหตุ เนื้อร้องถูกต้อง (2 คะแนน) ทำนองถูกต้อง (2 คะแนน) ความพร้อมเพียง (2 คะแนน) ความกระตือรือร้น (2 คะแนน) ความตั้งใจ (2 คะแนน) เกณฑ์การประเมิน คะแนน 9-10 ระดับ ดีมาก ลงชื่อ…......………………………………. คะแนน 7-8 ระดับ ดี (…………………………………...) คะแนน 5-6 ระดับ พอใช้ ผู้ประเมิน คะแนน 0-4 ระดับ ปรับปรุง ………./………../……….
159 แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรายบุคคล คำชี้แจง : ให้ผู้ประเมินสังเกตพฤติกรรมการทำงานและการเรียนของนักเรียนเป็นรายบุคคลตามเกณฑ์การให้ คะแนนข้างล่างแล้วบันทึกคะแนนลงในตารางให้ตรงช่องคะแนนนั้น ๆ เกณฑ์การให้คะแนน 2 คะแนน หมายถึง ปฏิบัติบ่อยครั้ง สังเกตเห็นได้ชัดเจน 1 คะแนน หมายถึง ปฏิบัติเป็นบางครั้ง 0 คะแนน หมายถึง ไม่ได้ปฏิบัติ สังเกตเห็นได้ไม่ชัดเจน พฤติกรรม เลขที่-ชื่อ ความสนใจใน การเรียนและ การตรงต่อเวลา ความร่วมมือใน การทำงานตาม ขั้นตอน ยอมรับฟัง ความคิดเห็น ของเพื่อน มีน้ำใจ ช่วยเหลือเพื่อน ในการทำงาน มีความ รับผิดชอบงานที่ ได้รับมอบหมาย คะแนนรวม ผลการประเมิน ระดับ 2 1 0 2 1 0 2 1 0 2 1 0 2 1 0 10 เกณฑ์การประเมินรายบุคคล [ ] ระดับ ดี ได้คะแนน 8-10 คะแนน ลงชื่อ…........……………………. [ ] ระดับ พอใช้ ได้คะแนน 5-7 คะแนน (…......…………………..) [ ] ระดับ ปรับปรุง ได้คะแนน 0-4 คะแนน ผู้ประเมิน ………./………/…….
160 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 18 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ดนตรี) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ประเภทของเครื่องดนตรีสากลและวงดนตรี เวลา 3 ชั่วโมง เรื่อง ประเภทเครื่องสาย เวลา 2 ชั่วโมง วันที่สอน วันจันทร์ ที่ 25 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2566 โรงเรียนเทศบาล 5 สีหรักษ์วิทยา มาตรฐานการเรียนรู้ ศ 2.1 เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่าดนตรีถ่ายทอด ความรู้สึก ความคิดต่อดนตรีอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ตัวชี้วัด ม.1 (1/4) จัดประเภทของวงดนตรีไทยและวงดนตรีที่มาจากวัฒนธรรมต่าง ๆ สาระสำคัญ เครื่องดนตรีที่ทำให้เกิดเสียงโดยการสั่นสะเทือนของสายลวด เชือก เอ็น หรือไนลอน และมีตัวกำธรเสียง ทำหน้าที่ขยายเสียงให้ดังมากขึ้น คุณภาพของเสียงขึ้นอยู่กับรูปร่าง และวัตถุที่ใช้ทำ การสั่นสะเทือ นของสาย อาจทำได้โดยการสี หรือดีดโดยอาจกระทำโดยตรง หรือเพิ่มกลไกให้ยุ่งยากขึ้น เครื่องสายที่พบเห็นในปัจจุบัน นิยมใช้วิธีทำให้เกิดเสียงได้ 2 วิธี คือ วิธีสี และวิธีดีด จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถบอกลักษณะเครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องสายได้ (K) 2. นักเรียนสามารถเขียนบอกลักษณะเครื่องสายประเภทสีและดีดได้(P) 3. นักเรียนมีความสนใจในเนื้อหาที่สอน (A) สาระการเรียนรู้ ลักษณะเครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องสาย
161 สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. มุ่งมั่นในการทำงาน ภาระงาน/ชิ้นงาน ใบงาน คำถามสำคัญ นักเรียนรู้ไหมว่าลักษณะเครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องสายเป็นอย่างไร กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำ 1. ครูถามนักเรียน ว่านักเรียนรู้จักเครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องสายไหม 2. แล้วถามต่อว่าเครื่องอะไรบ้าง ขั้นสอน 1. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม 2 กลุ่ม เท่าๆ กัน 2. ครูแจกใบความรู้เรื่องเครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องสาย 3. โดยกลุ่มที่ 1 ศึกษาเรื่องเครื่องสายประเภทดีด กลุ่มที่ 2 ศึกษาเรื่องวงเครื่องสายประเภท ใช้คันชักสี เป็นเวลา 30 นาที 4. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน พร้อมกับสุ่มถามให้เพื่อนตอบ 5. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดที่ 18 เรื่องเครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องสาย ขั้นสรุป 1. ครูสรุปเรื่องเครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องสาย พร้อมกับเปิดโอกาสให้นักเรียนสอบถาม ในสิ่งที่อยากรู้เพิ่มเติมเกี่บวกับเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสาย 2. ครูฝากให้นักเรียนทบทวนความรู้ที่ครูสอนวันนี้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจมากยิ่งขึ้น
162 สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ใบความรู้ 2. ห้องเรียน กระบวนการวัดและการประเมินผล เครื่องมือ 1. แบบประเมินพฤติกรรม 2. แบบฝึกหัด วิธีการ 1. ประเมินพฤติกรรมนักเรียน 2. นักเรียนทำแบบฝึกหัด เกณฑ์ 1. ผ่านร้อยละ 60 2. ผ่านร้อยละ 70
163
164
165 ใบความรู้ เรื่อง เครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องสาย เครื่องสาย (string instrument) เป็นการจัดประเภทของเครื่องดนตรีสากล โดยเครื่องดนตรีสากล ประเภทเครื่องสายนี้ หมายถึง เครื่องดนตรีที่ทำให้เกิดเสียงโดยการสั่นสะเทือนของสายลวด เชือก เอ็น หรือ ไนลอน และมีตัวกำธรเสียง ทำหน้าที่ขยายเสียงให้ดังมากขึ้น คุณภาพของเสียงขึ้นอยู่กับรูปร่าง และวัตถุที่ใช้ทำ การสั่นสะเทือนของสายอาจทำได้โดยการสี หรือดีดโดยอาจกระทำโดยตรง หรือเพิ่มกลไกให้ยุ่งยากขึ้นเครื่องสาย ที่พบเห็นในปัจจุบัน นิยมใช้วิธีทำให้เกิดเสียงได้ 2 วิธีคือ วิธี สีและวิธีดีดเครื่องสายประเภทใช้คันสีเครื่องดนตรี กลุ่มนี้ ได้แก่ 1. ไวโอลิน (Violin) เครื่องดนตรีที่ใช้เล่นท่วงทำนอง ประกอบด้วยสาย 4 สาย แต่ละสายเทียบเสียง ห่างกันคู่ 5 เพอร์เฟค คือ เสียง G-D-A-E 2. วิโอลา (Viola) มีรูปร่างเหมือนไวโอลินทุกประการ แต่มีขนาดใหญ่กว่าไวโอลิน ตั้งเสียงต่ำกว่าไวโอลิน ลงไปอีกคู่ 5 เพอร์เฟค คือ C-G-D-A มีเสียงทุ้มและนุ่มนวลกว่าไวโอลิน
166 3. เชลโล (Cello) มีรูปร่างเหมือนไวโอลินและวิโอลา แต่มีขนาดโตกว่ามาก ขณะเล่นต้องนั่งเก้าอี้ เอาเครื่องไว้ระหว่างขาทั้งสองข้าง เสียงต่ำกว่าวิโอลา 1 ช่วงคู่ 8 คือ C-G-D-A 4. ดับเบิลเบส (Double Bass) เป็นเครื่องที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตระกูลไวโอลิน ผู้บรรเลงต้องยืนเล่น เสียงของดับเบิลเบส ต่ำสุดแสดงถึงความมีอำนาจ ความกลัว ความลึกลับ สายทั้งสี่ตั้งเสียงห่างกันเป็นคู่ 4 เพอร์เฟค คือ E-A-D-G
167 เครื่องสายประเภทเครื่องดีด (Plucked String) เครื่องดนตรีกลุ่มนี้ ได้แก่ 1. ฮาร์พ (Harp) เป็นพิณโบราณขนาดใหญ่ มีประวัติเก่าแก่มาก มีสายขึงอยู่ทั้งหมด 47 สาย ช่วงเสียง กว้าง 6 Octaves ใช้บรรเลงในวงดนตรีประเภทออร์เคสตรา 2. กีตาร์ (Guitar) กีตาร์ประกอบด้วยสาย 6 สาย โดยตั้งระดับเสียงต่ำไปหาสูง ในแต่ละสายดังนี้ E,A,D,G,B,E
168 3. ลูท (Lute) เป็นพิณชนิดหนึ่งที่เป็นต้นกำเนิดของเครื่องสายประเภทดีด มีรูปทรงเหมือนผลส้มผ่าซีก มีสะพานวางนิ้วที่มีช่องปรากฏอยู่ เช่นเดียวกับกีตาร์ แบนโจ แมนโดลิน ฯลฯ ชาวอาหรับโบราณนิยมกัน มาก แต่ปัจจุบันนี้ไม่ได้รับความนิยม 4. แมนโดลิน (Mandolin) เป็นเครื่องดนตรีตระกูลลูท มีสาย 4 คู่ (8สาย) หรือ 6 คู่ (12สาย) ตั้งเสียง เท่ากันเป็นคู่ มีลูกบิดคล้ายกีตาร์ใช้ในการตั้งเสียง และมีนม (Feat) รองรับสาย เวลาเล่นจะใช้นิ้วมือซ้ายจับ ตัวแมนโดลินและใช้มือขวาดีด
169 5. แบนโจ () เป็นเครื่องดนตรีในตระกูลลูท จุดเริ่มต้นที่มีผู้นำมาเล่นอยู่ในแถบแอฟริกาตะวันตก (Western Africa) เป็นเครื่องดนตรีพื้นบ้านของพวกนิโกร ต่อมาจึงเป็นที่แพร่หลายในหมู่อเมริกันนิโกร วิธีการเล่น คล้ายกับกีตาร์
170 ใบงาน เครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องสาย คำชี้แจง : ให้นักเรียนเติมชื่อเครื่องดนตรีให้ถูกต้อง 1. .......................................................................... 2. ............................................................................. 3. ................................................................................. 4. .................................................................................
171 แบบสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1 แบบสังเกตพฤติกรรมในชั้นเรียน เกณฑ์การประเมิน คะแนน 9-10 ระดับ ดีมาก ลงชื่อ…………………......……......…………. คะแนน 7-8 ระดับ ดี (…………………………………...) คะแนน 5-6 ระดับ พอใช้ ผู้ประเมิน คะแนน 0-4 ระดับ ปรับปรุง ………./………../………. ลำ ดับ ชื่อ-สกุล (นักเรียน) พฤติกรรม เข้าเรียน รวม หมายเหตุ (1) ส่งงาน (1) มีส่วนร่วม (1) ความสนใจ /ตั้งใจ (1) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 19 20
172 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 19 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ดนตรี) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ประเภทของเครื่องดนตรีสากลและวงดนตรี เวลา 3 ชั่วโมง เรื่อง ประเภทเครื่องเป่าลมไม้ เวลา 2 ชั่วโมง วันที่สอน วันจันทร์ ที่ 1 เดือนมกราคม พ.ศ. 2567 โรงเรียนเทศบาล 5 สีหรักษ์วิทยา มาตรฐานการเรียนรู้ ศ 2.1 เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่าดนตรีถ่ายทอด ความรู้สึก ความคิดต่อดนตรีอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ตัวชี้วัด ม.1 (1/3) ร้องเพลงและใช้เครื่องดนตรีบรรเลงประกอบการร้องเพลงด้วยบทเพลงที่หลากหลาย สาระสำคัญ เครื่องดนตรีประเภทเครื่องลมไม้แบ่งออกเป็น 2 พวก คือพวกขลุ่ยและปี่ ถ้าเป็นประเภทขลุ่ยจะไม่มีลิ้น เป่าลมผ่านท่อในลักษณะของการผิวสาระการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถบอกชื่อเครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องเป่าลมไม้ได้(K) 2. นักเรียนสมารถอธิบายเครื่องดนตรีประเภทเครื่องเป่าลมไม้ได้ (P) 3. นักเรียนตั้งใจเรียนขณะครูสอน (A) สาระการเรียนรู้ ลักษณะเครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องลมไม้ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
173 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. มุ่งมั่นในการทำงาน ภาระงาน/ชิ้นงาน ใบงาน คำถามสำคัญ นักเรียนรู้ไหมว่าเครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องเป่าลมไม้มีอะไรบ้าง กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำ 1. ครูถามนักเรียนว่ารู้จักเครื่องดนตรีสากลหรือไม่ มีลักษณะอย่างไรบ้าง 2. จากนั้นครูโยงเข้าสู่เนื้อหาที่จะสอนเรื่อง ประเภทของเครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องเป่าลม ไม้ ขั้นสอน 1. ครูแจกใบความรู้ให้นักเรียนแล้วอธิบายใบงานและสอนในเนื้อหา ประเภทของเครื่องดนตรี สากลประเภทเครื่องเป่าลมไม้ 2. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสอบถามข้อสงสัยและร่วมกันวิเคราะห์เนื้อหาประเภทของ เครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องเป่าลม 3. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มเท่า ๆกันกลุ่มละประมาณกลุ่มละ 4-5 คน ศึกษาเครื่องเป่าลมไม้ กลุ่มละ 3 เครื่อง โดยการจับสลาก ในหัวข้อส่วนประกอบและวิธีบรรเลงเครื่อง โดยสืบค้นในอินเตอร์เน็ต 4. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาอธิบายเครื่องดนตรีประเภทเครื่องเป่าลมไม้ ที่กลุ่มได้รับผิดชอบ ขั้นสรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่องประเภทของเครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องเป่าลมไม้ โดยสรุปได้ว่าเครื่องดนตรีประเภทเครื่องลมไม้แบ่งออกเป็น 2 พวก คือพวกขลุ่ยและปี่ ถ้าเป็นประเภทขลุ่ย จะไม่มีลิ้น เป่าลมผ่านท่อในลักษณะของการผิวสาระการเรียนรู้ และบอกเรื่องที่จะสอนในคาบต่อไป
174 สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ใบความรู้เรื่อง ประเภทของเครื่องดนตรีสากลเครื่องเป่าลมไม้ 2. ห้องเรียน กระบวนการวัดและการประเมินผล เครื่องมือ 1. แบบสังเกตพฤติกรรมการมีส่วนร่วมและสนใจในการทำงาน 2. แบบฝึกหัด วิธีการ 1. สังเกตพฤติกรรม 2. นักเรียนทำแบบฝึกหัด เกณฑ์ 1. ผ่านเกณฑ์ 70 % 2. ผ่านเกณฑ์ 70 %
175
176
177 ใบความรู้ เรื่อง ประเภทของเครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องเป่าลมไม้ เครื่องเป่าลมไม้ (อังกฤษ: Woodwind Instruments)เป็นการจัดประเภทเครื่องดนตรีสากล โดย เครื่องดนตรีประเภทเครื่องเป่าลมไม้นี้ แม้ตัวของเครื่องดนตรี อาจทำจากวัสดุต่าง ๆ มากมายแต่ส่วนสำคัญ ที่ทำให้เกิดเสียงคือ ลิ้น (Reed) ซึ่งทำมาจากไม้ จึงได้ชื่อว่า เครื่องเป่าลมไม้นั่นเองเครื่องเป่าลมไม้แบ่งได้ อย่างกว้าง ๆ เป็น 2 ประเภทคือ 1. ประเภทเป่าลมเข้าไปในรูเป่า (Blowing into a tube) 1.1 ประเภทเป่าตรงปลาย 1. ขลุ่ยรีคอร์เดอร์ (Recorder) เป็นเครื่องเป่าดนตรีสากลจัดอยู่ในประเภทเครื่องเป่าลมไม้ ชนิดไม่มีลิ้น เป็นเครื่องดนตรีที่มีขนาดเล็ก โครงสร้างที่ไม่ซับซ้อน 1.2 ประเภทเป่าลมเข้าทางด้านข้าง 1. ฟลุต (Flute) เป็นเครื่องดนตรีที่เก่าแก่ที่สุดชนิดหนึ่งที่มีพัฒนาการมาจากมนุษย์ก่อน ประวัติศาสตร์ที่คิดใช้กระดูกสัตว์หรือเขาของสัตว์ที่เป็นท่อกลวงหรือไม่ก็ใช้ปล้องไม้ไผ่มาเจาะรูแล้วเป่า ให้เกิด เสียงต่าง ๆ วัตถุนั้นจึงเป็นต้นกำเนิดของเครื่องดนตรีประเภทขลุ่ย ฟลูตเป็นขลุ่ยเป่าด้านข้าง มีความยาว 26 นิ้ว มีช่วงเสียงตั้งแต่ C กลางจนถึง C สูงขึ้นไปอีก 3 ออคเทฟ เสียงแจ่มใสจึงเหมาะสำหรับเป็นเครื่องดนตรี ประเภทเล่นทำนองใช้เลียนเสียงนกเล็ก ๆ ได้ดีและเสียงต่ำของฟลูตจะให้เสียงที่ นุ่มนวล
178 2. ปิคโคโล (Piccolo) เป็นขลุ่ยขนาดเล็กมีลักษณะเช่นเดียวกับฟลูตแต่เล็กกว่าทำมาจากไม้ หรืออีบอร์ไนท์ แต่ปัจจุบันทำด้วยโลหะ ยาวประมาณ 12 นิ้ว เสียงเล็กแหลมชัดเจน แม้ว่าจะเป่าเพียง เครื่องเดียว พิคโคโลเล่นได้ดีเป็นพิเศษโดยเฉพาะการทำเสียงรัว (Trillo) และการบรรเลงเดี่ยว (Solo) 2. ประเภทเป่าลมให้ผ่านลิ้นของเครื่องดนตรี (Blowing through a reed) 2.1 ประเภทลิ้นเดี่ยว (Single reed) 1. คลาริเนต เป็นเครื่องดนตรีที่รู้จักกันแพร่หลายกว่าเครื่องอื่น ๆ ในบรรดาเครื่องลมไม้ ด้วยกัน คลาริเนตเป็นเครื่องดนตรีที่ใช้ได้ในวงดนตรีเกือบทุกประเภท และเป็นเครื่องดนตรีที่ำสำคัญในวง ออร์เคสตรา วงโยธวาทิต และวงแจ๊ส 2. แซกโซโฟน เป็นเครื่องดนตรีในตระกูลเครื่องลมไม้ ใช้ลิ้นเดี่ยวเหมือนของคลาริเนต แม้ว่า ตัวเครื่องมักจะทำด้วยโลหะแต่สุ้มเสียงก็กระเดียดมาทางเครื่องลมไม้ แซกโซโฟนจึงได้รับฉายาว่า “คลาริเนต ทองเหลือง” (brass clarinet)
179 2.2 ประเภทปี่ลิ้นคู่ (Double reed) 1. โอโบ ที่ใช้ในปัจจุบันนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ใช้ในการแสดงโอเปร่าฝรั่งเศส เรียกว่า “Hautbois” หรือ “Hoboy” ในศตวรรษที่ 18 โอโบใช้เป็นเครื่องดนตรีหลักในวงออร์เคสตร้า เป็นเครื่อง ดนตรีเสียงสูงในกลุ่มเครื่องลมไม้ ซองในขณะนั้นมีรูปิดเปิดเพียง 2- 3 รูเท่านั้น ในศตวรรษที่ 19 โอโบได้พัฒนา ในเรื่องระบบกลไก คีย์ กระเดื่อง สำหรับปิดเปิดรู เพื่อเปลี่ยนระดับเสียงให้เล่นสะดวกมากขึ้น จนในที่สุดโอโบ คือ เครื่องดนตรีหลักที่จะต้องมีใน วงออร์เคสตร้า 2. คอร์ แองเกลส์ (Cor Anglais or English horn) เป็นปี่ตระกูลเดียวกับโอโบแต่มีขนาด ใหญ่กว่า และมีรูปร่างที่แตกต่างไปจากโอโบ ระดับเสียงต่ำกว่าโอโบและเวลาเล่นจะต้องมีสายติดกับลำตัวปี่ โยงไปคล้องคอผู้เล่นเพื่อพยุงน้ำหนักของปี่ ปี่ชนิดนี้มีลำตัวยาวกว่าปี่โอโบ ดังนั้นเพื่อง่ายต่อการเป่า ส่วนที่ ต่อจากที่เป่า (ลิ้น) กับลำตัวปี่จึงต้องงอโค้งเป็นมุมและเกิดคำว่า “อองเกล (Angle)” ขึ้น ต่อมาคำนี้ได้เพี้ยนไป กลายเป็นอองแกลส์ (Anglais) ในภาษาฝรั่งเศส ซึ่งตรงกับภาษาอังกฤษว่า English ส่วนคำว่า “คอร์” (Cor) ในภาษาฝรั่งเศส ซึ่งตรงกับภาษาอังกฤษว่า ฮอร์น (Horn) 3. บาสซูน เป็นปี่ขนาดใหญ่ใช้ลิ้นคู่เช่นเดียวกับโอโบ รูปร่างของบาสซูนค่อนข้างจะ ประหลาดกว่าปี่ชนิดอื่น ๆ ได้รับฉายาว่าเป็น “ตัวตลกของวงออร์เคสตรา” (The Clown of the Orchestra) ทั้งนี้เพราะเวลาบรรเลงเสียงสั้น ๆ ห้วน ๆ (Staccato) อย่างเร็ว ๆ จะมีเสียงดัง ปูด…ปู๊ด… คล้ายลักษณะ ท่าทางของตัวตลกที่มีอากัปกริยากระโดดเต้นหยอง ๆ ในโรงละครสัตว์
180 ใบงาน เครื่องดนตรีประเภทเครื่องเป่าลมไม้ คำชี้แจง : จงบอกชื่อเครื่องดนตรีต่อไปนี้ พร้อมบอกประเภทของการเป่าเช่น ประเภทเป่าลมเข้าไปในรูเป่า ลิ้นเดี่ยว ลิ้นคู่ เป็นต้น 1………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 2………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 3………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 4………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ชื่อ-สกุล.............................................................................................ชั้น...............เลขที่..................
181 แบบสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1 แบบสังเกตพฤติกรรมในชั้นเรียน เกณฑ์คะแนน 4 = ดีมาก อยู่ในเกณฑ์ 75 – 100% ลงชื่อ…………….......…………………… 3 = ดี อยู่ในเกณฑ์ 50 - 75% (…………..……………………...) 2 = ปานกลาง อยู่ในเกณฑ์ 25 - 50% ผู้ประเมิน 1 = ปรับปรุง อยู่ในเกณฑ์ 25% ………./………../………. ลำ ดับ ชื่อ-สกุล (นักเรียน) พฤติกรรม เข้าเรียน รวม หมายเหตุ (1) ส่งงาน (1) มีส่วนร่วม (1) ความสนใจ /ตั้งใจ (1) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 19 20
182 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 20 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ดนตรี) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ประเภทของเครื่องดนตรีสากลและวงดนตรี เวลา 3 ชั่วโมง เรื่อง ประเภทเครื่องเป่าลมทองเหลือง เวลา 2 ชั่วโมง วันที่สอน วันจันทร์ ที่ 8 เดือนมกราคม พ.ศ. 2567 โรงเรียนเทศบาล 5 สีหรักษ์วิทยา มาตรฐานการเรียนรู้ ศ 2.1 เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่าดนตรีถ่ายทอด ความรู้สึก ความคิดต่อดนตรีอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ตัวชี้วัด ม.1 (1/3) ร้องเพลงและใช้เครื่องดนตรีบรรเลงประกอบการร้องเพลงด้วยบทเพลงที่หลากหลาย สาระสำคัญ เครื่องดนตรีประเภทเครื่องลมทองเหลือง ทำด้วยโลหะผสมทองเหลือง เสียงของเครื่องดนตรีประเภทนี้ เกิดจากการเป่าลมผ่านท่อโลหะ ความยาวของท่อโลหะต่างกัน ทำให้ระดับเสียงเปลี่ยนไป การเปลี่ยนความยาว ของท่อโลหะจะใช้ลูกสูบเป็นตัวบังคับ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถบอกชื่อเครื่องดนตรีประเภทเครื่องลมทองเหลืองได้ (K) 2. นักเรียนสามารถอธิบายลักษณะเครื่องดนตรีประเภทเครื่องลมทองเหลืองได้(P) 3. นักเรียนตั้งใจเรียนขณะครูสอนในชั้นเรียน (A) สาระการเรียนรู้ ลักษณะเครื่องดนตรีประเภทเครื่องลมทองเหลือง สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
183 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. มุ่งมั่นในการทำงาน ภาระงาน/ชิ้นงาน ใบงาน คำถามสำคัญ นักเรียนรู้ไหมว่าลักษณะเครื่องดนตรีประเภทเครื่องลมทองเหลืองเป็นอย่างไร กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำ ครูกล่าวทักทายนักเรียนพร้อมกับถามนักเรียนว่า นักเรียนรู้จักเครื่องดนตรีสากลอะไรบ้าง ขั้นสอน 1. ครูแจกใบความรู้ให้นักเรียน 2. ครูอธิบายเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของเครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องลมทองเหลือง อธิบายลักษณะของเครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องลมทองเหลือง พร้อมมีบัตรภาพประกอบคำอธิบาย 3. ครูสุ่มนักเรียน 4-5 คน ออกมาหน้าห้องเพื่อตอบคำถามจากครู ยกตัวอย่างเช่น เครื่องดนตรี สากลประเภทเครื่องลมทองเหลืองที่มีลักษณะเป็นท่อยาว ลำโพงใหญ่ มีที่ชัก สไลด์ เข้า-ออก เพื่อเปลี่ยนระดับ เสียง คือเครื่องดนตรีที่มีชื่อว่าอะไร 4. ครูแจกแบบทดสอบ เรื่อง ลักษณะเครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องลมทองเหลือง ขั้นสรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยแบบทดสอบ พร้อมให้นักเรียนซักถามในข้อที่สงสัย 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ที่ได้เรียนจากเรื่อง ลักษณะตัวโน้ตและตัวหยุด พร้อมพูด เกี่ยวโยงเข้าสู่เรื่องที่จะได้เรียนในคาบต่อไป สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ใบความรู้เรื่อง เครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องเป่าลมทองเหลือง 2. ห้องสมุด
184 กระบวนการวัดและการประเมินผล เครื่องมือ 1. แบบทดสอบเรื่อง เครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องเป่าลมทองเปลือง 2. แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล วิธีการ 1. นักเรียนทำแบบทดสอบเรื่อง เครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องเป่าลมทองเปลือง 2. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล เกณฑ์ 1. ผ่านเกณฑ์ 60 % 2. ผ่านเกณฑ์ 60 %
185
186
187 ใบความรู้ เรื่อง เครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องลมทองเหลือง เครื่องดนตรีในกลุ่มเครื่องลมทองเหลืองนี้ เรียกรวม ๆ ว่ากลุ่มแตร ส่วนประกอบที่สำคัญของเครื่องดนตรี กลุ่มนี้ คือ ท่อลมทำด้วยโลหะขนาดต่าง ๆ กัน การเกิดเสียงเกิดจากการเป่าลมให้เกิดการสั่นสะเทือนที่ริมฝีปาก ของผู้เล่น ผ่านเข้าไปในที่เป่า (Mouth Piece) การเป่าเครื่องลมทองเหลือง จึงขึ้นอยู่กับริมฝีปากเป็นสำคัญ เครื่องดนตรีในกลุ่มเครื่องลมทองเหลืองที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมีดังนี้ 1) เฟรนช์ฮอร์น (France horn) ปัจจุบันเรียกว่า "ฮอร์น" ต้นกำเนิดของฮอร์นคือเขา สัตว์ ฮอร์นที่เก่าแก่ ที่สุดคือ โชฟาร์ (Shofar) ของชาวฮิบรู ทำด้วยเขาแกะ เฟรนช์ฮอร์น เป็นแตรที่มีช่วงเสียงกว้างถึง 3 ออคเทฟครึ่ง มีท่อยาวประมาณ 12-15 ฟุต แต่นำมาขดเป็นวงโค้งไปมา เพื่อให้สะดวกแก่ผู้เป่าจนเหลือความยาวจากปากเป่าถึง ปากลำโพงเพียง 20 นิ้ว เสียงของเฟรนซ์ ฮอร์น สดใส สง่า จัดว่าเป็นพระเอก ในบรรดาเครื่องลมทองเหลือง นักแต่งเพลงหลายคนใช้เสียงของเฟรนซ์ฮอร์นบรรยายความงามของธรรมชาติ เช่น ท้องทะเลครามอันกว้างใหญ่ ไพศาล และหุบเขาที่มีเสียงสะท้อนก้องกลับไปกลับมา เนื่องจากท่อลมมีขนาดยาวมากการบังคับริมฝีปากในการ เป่าจึงเป็นเรื่องยาก
188 2) ทรอมโบน (Trombone) เป็นแตรซึ่งใช้มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 15 ในพิธีศาสนา และพิธียุรยาตร ร่วมกับแตรโบราณ ทรอมโบนประกอบด้วย ท่อลมสวมซ้อนเลื่อนเข้า - ออกได้ (telescopic slide) ขนาดยาวโค้ง ได้สองทบสองในสามของท่อลมนี้เป็นท่อทรงกระบอก เช่นเดียวกับทรัมเป็ต ส่วนที่เหลือค่อย ๆ บานออกเป็นปาก ลำโพง ส่วนที่เป็นท่อลมทรงกระบอกจะเป็นท่อสองชั้นสวมกันไว้ในลักษณะรูปตัว U เลื่อนเข้าออกเพื่อปรับระดับ เสียง เมื่อเลื่อนออกจะยาวประมาณ 9 ฟุต แต่เมื่อเลื่อนเข้า จะเหลือเพียง 3 ฟุตเศษ ทรอมโบนมีเสียงทุ้ม ห้าว ไม่สดใส เหมือนทรัมเป็ต ปัจจุบันนิยมใช้แพร่หลายในวงดนตรีชนิดต่าง ๆ เช่นเดียวกันทรัมเป็ตประกอบ ด้วย เทเนอร์ทรอมโบน (Tenor Trombone)และ เบสทรอมโบน (Bass Trombone) 3) ทรัมเป็ต (Trumpet) ในสมัยโบราณชาวยุโรปถือว่าแตรทรัมเป็ตเป็นของคนชั้นสู้ผู้ ที่จะมีสิทธิเป็น เจ้าของแตรชนิดนี้ได้ต้องเป็นพระเจ้าแผ่นดิน หรือเจ้านายชั้นสูงหรือไม่ก็นักรบชั้นแม่ทัพ สามัญชนไม่มีสิทธิที่ จะเป็นเจ้าของแตรชนิดนี้ ทรัมเป็ตเป็นแตรที่มีท่อลมรูปทรงกระบอกขนาดของท่อลมมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 นิ้ว โค้งงอทบกันเป็นสามทบ ติดลูกสูบเพื่อใช้บังคับเสียง 3 อัน ( 3 valve) อยู่ตรงกลางลำตัว ผู้เป่าจะใช้นิ้ว บังคับลูกสูบทั้งสามโดยการกดลงหรือผ่อนให้ขึ้นแนวตั้ง กำพวด (Mouthpiece) ของทรัมเป็ตเป็น "กำพวดรูปถ้วย หรือระฆัง" ซึ่งทำให้แตรทรัมเป็ตสามารถเล่นเสียงสูงได้สดใสแผดกล้า ให้ความรู้สึกตื่นเต้นได้ดี แต่ถ้าเล่นเสียงต่ำ จะให้ความนุ่มนวล ลักษณะคล้ายเสียงกระซิบกระซาบได้ดีเช่นเดียวกัน บางครั้งผู้เป่าต้องการลดเสียงของแตร ให้เบาลงทำให้เกิดเสียงที่แปลกหูก็สามารถใช้ "มิวท์" (Mute) สวมเข้าไปในปากลำโพงของแตร ในปัจจุบันทรัมเป็ต เป็นแตรที่แพร่หลายและใช้ในวงดนตรีเกือบทุกประเภท
189 4) คอร์เน็ต (Cornet) คอร์เน็ต คือเครื่องเป่าทองเหลืองที่มีลักษณะคล้ายกับทรัมเป็ต แต่ลำตัวสั้นกว่า คุณภาพของเสียงมีความนุ่มนวล กลมกล่อม แต่ความสดใสของเสียงน้อยกว่าทรัมเป็ต คอร์เน็ตถูกนำมาใช้ในวง ออร์เคสตร้าครั้งแรกประมาณ ค.ศ. 1829 ในการแสดงโอเปร่าของ Rossini เรื่อง William Tell ในปัจจุบัน คอร์เน็ตเป็นเครื่องดนตรีสำคัญสำหรับวงโยธวาทิตและแตรวง 5) ฟลูเกิลฮอร์น (Flugelhorn)เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องเป่าทองเหลืองเช่นเดียว กับทรัมเป็ต มีลักษณะคล้ายกับแตรบิวเกิลปรกติจะมี 3 ลูกสูบ ท่อลมกลวงเป็นรูปกรวยปลายบานเป็นลำโพงรูปร่างค่อนข้าง จะใหญ่กว่าคอร์เน็ต ลักษณะของเสียงจะคล้ายกับฮอร์น แต่มีความห้าวมากกว่าฮอร์น 6) ยูโฟเนียม (Euphonium) ยูโฟเนียม คือเครื่องดนตรีประเภทเครื่องเป่าทองเหลืองคุณภาพเสียงของ ยูโฟเนียมจะนุ่มนวล ทุ้มลึก และมีความหนักแน่นมาก สามารถเล่นในระดับเสียงต่ำได้ดี บางครั้งนำไปใช้บรรเลง ในวงออร์เคสตร้าแทนทูบา คำว่ายูโฟเนียมมาจากภาษา กรีกหมายถึง "เสียงดี" ลักษณะทั่วไปของยูโฟเ นียม เหมือนกับเครื่องเป่าทองเหลืองทั่วไป จะมีลูกสูบ 3-4 สูบ มีกำพวดเป็นรูปถ้วย ท่อลมกลวงบานปลายเป็นลำโพง
190 7) ทูบา (Tuba) เป็นเครื่องดนตรีตระกูล แซ็กฮอร์น ซึ่งอดอล์ฟแซ็ก ได้ประดิษฐ์ขึ้นเมื่อ ปี 1845 แตรตระกูลแซกฮอร์น มีหลายขนาดเรียกชื่อต่าง ๆ กันตามขนาด เช่น บาริโทน ยูโฟเนียม การผลิตให้มีหลายขนาด ก็เพื่อจะให้มีแตรหลาย ๆ ระดับ เสียงเพื่อใช้ในวงแตรวง และวงโยธวาทิต ส่วนที่ใช้ในวงออร์เคสตร้า ซึ่งมีมาแต่เดิม และนิยมใช้มากที่สุดคือ ทูบา ทูบามีท่อลมขนาดใหญ่ และมีความยาวตั้งแต่ 9 ,12,14,16 และ 18 ฟุต แล้วแต่ขนาด มีช่วงเสียงกว้าง 3 ออคเทฟ เศษ ๆ ท่อลมเป็นทรงกรวย เช่นเดียวกับฮอร์น ส่วนกลางลำตัวติดลูกสูบ บังคับเสียง 3 อัน หรือ 4 อัน เสียงของทูบาต่ำ ลึกนุ่มนวล ไม่แตกพร่า เสียงต่ำมากที่เรียกว่า "พีเดิล โทน" (pedal tones) นั้นมีคุณสมบัติเฉพาะตัวปกติแตรทูบาทำหน้าที่เป็นแนวเบส ให้แก่กลุ่มเครื่องลมทองเหลือง 8) ซูซาโฟน (Sousaphone) เป็นเครื่องดนตรีที่ จอร์นฟิลิปซูซา (Johe Philip Sousa,1854 - 1932) ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อใช้แทนทูบา เพื่อให้ง่ายแก่การเดินสนาม สุ้มเสียงของซูซาโฟน มีเสียงแบบเดียวกับ ทูบา ฉะนั้น จึงใช้แทนกันได้
191 แบบทดสอบ เรื่อง เครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องลมทองเหลือง คำชี้แจง จงทำเครื่องมาย x ทับตัวอักษร ก ข ค หรือ ง หน้าคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว 1. เครื่องดนตรีประเภทเครื่องลมทองเหลือง มีวิวัฒนาการมาจากสิ่งใด ก. กระบอกไม้ไผ่ ข. เขาสัตว์ ค. งาช้าง ง. ขวดน้ำ 2. เครื่องดนตรีในข้อใดเป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องลมทองเหลืองทั้งหมด ก. ทรัมเปต ทรอมโบน ปิคโกโร ข. ทูบา วิโอลา คอร์เนต ค. เฟรนซ์ฮอร์น ยูโฟเนียม คาริเน็ท ง. ซูซาโฟนฟลูเกิลฮอร์น ทรอมโบน 3. เครื่องดนตรีในข้อใดจัดอยู่ในประเภท low brass ก. คอร์เนต ข. ทูบา ค. เฟรนซ์ฮอร์น ง. ฟลูเกิลฮอร์น 4. ข้อใดเป็นเครื่องลมทองเหลืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ก.ทรัมเปต ข.คอริเน็ท ค.ทูเบา ง.ทรอมโบน 5. เครื่องดนตรีประเภทเครื่องลมทองเหลืองชนิดใดที่มีระดับเสียงสูงสุด ก.ทูเบา ข.ทรอมโบน ค.คอริเน็ท ง.ทรัมเปต 6. เครื่องดนตรีประเภทเครื่องลมทองเหลืองชนิดใดที่มีระดับเสียงต่ำสุด ก.ทูเบา ข.ทรอมโบน ค.คอร์เน็ท ง.ทรัมเปต 7. เครื่องดนตรีในข้อใดนิยมใช้ในทางทหาร ก.บิวเกิล ข.บาริโทน ค.ซูซาโฟน ง.ฟลูเกิลฮอร์น 8. ในวงออเครสตรา เมื่อไม่มีทรัมเปต สามารถใช้ คอร์เนต แทนได้หรือไม่ เพราะอะไร ก.ได้ เพราะ มีจำนวนลูกสูบเท่ากัน ข. ได้ เพราะ อยู่ในกลุ่ม High brass เหมือนกัน ค. ไม่ได้ เพราะ มีขนาดไม่เท่ากัน ง.ไม่ได้เพราะ มีขนาดไม่เท่ากันวงออเครสตรามีแบบแผนจึงขาดเครื่องใดเครื่องหนึ่งไม่ได้
192 9. บุคคลในข้อใดปฏิบัติได้ถูกต้องในการดูแลรักษาเครื่องดนตรีประเภทเครื่องลมทองเหลือง ก.โจ้ ใช้ทรัมเปตเสร็จ แล้วนำไปวางไว้บนชั้นวางของ ข. จ๊ะ นำทูบาเก็บใส่กล่องทันทีเมื่อใช้เสร็จ ค.ต๋อง เก็บซูซาโฟนไว้บนตู้เก็บของชั้นสูงสุด ง.แต้ม ล้างกำพวดทันที หลังจากเป่าบาริโทนเสร็จ 10. ข้อใดเป็นการทำความสะอาดเครื่องลมทองเหลืองได้ถูกต้องที่สุด ก. ใช้ผ้าสะอาดเช็ดให้ทั่วเครื่อง ข. ใช้ผ้าชุบน้ำ บิดหมาดๆ เช็ดเครื่องให้สะอาดแล้วนำไปตากแดดให้แห้ง ค. ใช้ผ้าชุบน้ำยาขัดเงิน เช็ดแล้วล้างด้วยน้ำสะอาดและเช็ดให้แห้ง ง. แช่น้ำร้อนแล้วเช็ดให้แห้ง