The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต 2565
นายจิรพงศ์ ไมตรีจิตร นักศึกษาปริญญาโท สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยหาดใหญ่

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by จิรพงศ์ ไมตรีจิตร, 2022-04-10 11:42:21

การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา

การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต 2565
นายจิรพงศ์ ไมตรีจิตร นักศึกษาปริญญาโท สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยหาดใหญ่

88

จากตารางที่ 4 พบว่า การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต ด้านหลักสูตรและการนำหลักสูตรไปใช้ ในภาพรวม
อยู่ในระดับอยู่ในระดับมาก ( X = 4.34, S.D. = .46) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ทุกข้ออยู่ใน
ระดับมาก มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ สถานศึกษามีการจัดทำโครงสร้างหลักสูตรและกลุ่ม
สาระการเรียนรู้ใหส้ อดคล้องกับสภาพปัญหา ( X = 4.41, S.D. = .67) กับสถานศึกษามีการวางแผน
ปรับปรุง พัฒนาหลักสูตรอย่างต่อเนื่องอย่างเป็นระบบ ( X = 4.41, S.D. = .55) รองลงมา คือ
สถานศึกษามีการจดั ทำเครื่องมือทีใ่ ชใ้ นการประเมินติดตามการใช้หลักสูตร ( X = 4.39, S.D. = .58)
กับสถานศึกษามีการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมของโรงเรียนเพื่อประเมินความพร้อมในการบริหาร
หลักสูตร ( X = 4.39, S.D. = .66) และสถานศึกษามีการศึกษาวิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางเพ่ือ
จัดทำหลกั สูตรสถานศึกษา หลักสูตร ( X = 4.37, S.D. = .62) ตามลำดบั

ตารางที่ 5 ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต โดยภาพรวมและจำแนกเป็นราย
ขอ้ ดา้ นการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน

ดา้ นการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน ระดับความคิดเห็น
X S.D. ระดบั
1.สถานศึกษาส่งเสริมให้ครูจัดทำแผนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็น 4.54 .55 มาก
สำคัญ โดยจัดกระบวนการเรียนรู้ทุกกลุ่มสาระ และหน่วย การ
เรียนรู้ ท่ีสดุ
2.สถานศึกษา ส่งเสริมให้ครูจัดสาระการเรียนรู้และกิจกรรม การ
เรยี นรใู้ หส้ อดคลอ้ งกบั ความสนใจความถนัดของผู้เรียน 4.46 .62 มาก
3.สถานศึกษา ส่งเสริมให้ครูได้รับการพัฒนาวิธีการจัดการเรียนรู้
อย่างหลากหลายและต่อเนื่อง เช่น จัดอบรม ศึกษาดูงาน ประชุม 4.41 .65 มาก
ปฏิบัติ
4.สถานศึกษาส่งเสริมให้ครูจัดบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อ 4.61 .49 มาก
การเรยี นของผูเ้ รียน ทส่ี ุด
5.สถานศึกษาจัดให้มีแบบเรยี น อุปกรณ์การเรียนการสอน เพียงพอ
กบั ความตอ้ งการในการเรยี นการสอน 4.38 .71 มาก

89

ตารางที่ 5 (ต่อ) ระดับความคดิ เห็น
X S.D. ระดับ
ดา้ นการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน 4.39 .76 มาก
4.40 .59 มาก
6.สถานศึกษาส่งเสริมให้ครูผู้สอนนำวิธีสอนแบบต่าง ๆ เทคนิค
การสอนท่เี น้นผเู้ รียนเป็นสำคญั มาใชใ้ ห้เหมาะสมกับเน้ือหาวชิ า 4.45 .48 มาก
7.สถานศึกษาส่งเสริมให้ครูดำเนินการฝึกให้นักเรียนคิดเป็น
แก้ปัญหาเป็น ให้ครูจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการคิดเป็นและ
แกป้ ัญหาเป็นของผ้เู รยี น

รวม

จากตารางที่ 5 พบว่า การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด
สำนักงานเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาภเู ก็ต ดา้ นการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน ในภาพรวมอยู่
ในระดับมาก ( X = 4.45, S.D. = .48) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่าข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 ลำดับ
แรก ได้แก่ สถานศึกษาส่งเสริมให้ครูจัดบรรยากาศและส่ิงแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนของผู้เรียน
( X = 4.61, S.D. = .49) รองลงมา คือ สถานศึกษาส่งเสริมให้ครูจัดทำแผนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียน
เป็นสำคัญ โดยจัดกระบวนการเรียนรู้ทุกกลุ่มสาระ และหน่วยการเรียนรู้ ( X = 4.54, S.D. = .55)
และสถานศึกษาส่งเสริมให้ครูจัดสาระการเรียนรู้และกิจกรรมการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับความสนใจ
ความถนดั ของผ้เู รียน ( X = 4.46, S.D. = .62) ตามลำดับ

ตารางที่ 6 ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต โดยภาพรวมและจำแนกเป็นราย
ข้อด้านการพัฒนาสอื่ และการนำไปใช้

ด้านการพัฒนาส่ือและการนำไปใช้ ระดบั ความคดิ เหน็
X S.D. ระดับ
1.สถานศึกษาส่งเสริมให้ครู พัฒนาและใช้สื่อ นวัตกรรมเทคโนโลยี 4.44 .57 มาก
กบั กจิ กรรมการเรยี นรทู้ ่เี หมาะสมสำหรบั กบั ผู้เรียน
2.สถานศึกษามีการจัดหา จัดทำสื่อ และเทคโนโลยีเพื่อใช้ในการ 4.42 .70 มาก
จัดการเรียนการสอนและการพฒั นางานดา้ นวิชาการ

90

ตารางท่ี 6 (ต่อ) ระดับความคิดเห็น
X S.D. ระดบั
ดา้ นการพัฒนาสอื่ และการนำไปใช้ 4.40 .68 มาก

3. สถานศึกษาส่งเสริมให้ครูใช้สื่อในการจัดกิจกรรมเรียนรู้เพื่อ 4.45 .67 มาก
พฒั นาคณุ ภาพของผเู้ รยี น
4.สถานศึกษามีการประเมินผลการพัฒนา การใช้สื่อนวัตกรรมและ 4.28 .69 มาก
เทคโนโลยเี พือ่ การศึกษา
5.สถานศกึ ษามกี ารประสานขอความรว่ มมือกับชุมชนในการผลิตส่ือ 4.27 .67 มาก
การเรียนการสอน
6.สถานศึกษามีการติดตามประเมินผลการพัฒนาการใช้สื่อ 4.37 .57 มาก
นวตั กรรมและเทคโนโลยที างการศึกษา

รวม

จากตารางที่ 6 พบว่า การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกดั สำนกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาภเู ก็ต ด้านการพฒั นาส่ือและการนำไปใช้ ในภาพรวม
อยู่ในระดับมาก ( X = 4.37, S.D. = .57) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ทุกข้ออยู่ในระดับมาก
โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ สถานศึกษามีการประเมินผลการพัฒนาการใช้สื่อ
นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ( X = 4.45, S.D. = .67) รองลงมา คือ สถานศึกษาส่งเสริม
ให้ครู พัฒนาและใช้สื่อ นวัตกรรมเทคโนโลยีกับกิจกรรมการเรียนรู้ที่เหมาะสมสำหรับกับผู้เรียน
( X = 4.44, S.D. = .57) และสถานศึกษามีการจัดหา จัดทำสื่อและเทคโนโลยีเพื่อใช้ในการจัดการ
เรยี นการสอนและการพฒั นางานด้านวชิ าการ ( X = 4.42, S.D. = .70) ตามลำดับ

ตารางที่ 7 ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศึกษาภูเก็ต โดยภาพรวมและจำแนกเป็นราย
ขอ้ ดา้ นการวัดผลและประเมินผล

ดา้ นการวัดผลและประเมินผล ระดบั ความคิดเหน็

1.สถานศึกษามีการจัดทำเอกสารหลักฐานการศึกษาให้เป็นไปตาม X S.D. ระดบั
ระเบยี บการวัดผลและประเมินผลการเรียน 4.55 .51 มาก

ทสี่ ุด

91

ตารางที่ 7 (ต่อ) ระดบั ความคิดเหน็
X S.D. ระดบั
ดา้ นการวัดผลและประเมินผล 4.61 .52 มาก

2.สถานศึกษามีการกำหนดระเบียบ แนวการปฏิบัติที่เกี่ยวกับ การ ท่สี ดุ
วดั ผลและประเมินผลการเรียนของโรงเรียนอยา่ งชัดเจน 4.55 .52 มาก
3.สถานศึกษามีการวางแผนการคุมสอบ การจัดห้องสอบการจัดหา
วัสดุอุปกรณ์ท่ีใชใ้ นการสอบ ทสี่ ุด
4. ส ถานศึกษามีการวางแผ นการสร้างและปรับปรุงเครื่ องมือท่ี 4.35 .52 มาก
หลากหลาย เพ่ือวัดและประเมินผลการเรียนรู้นกั เรยี น
5.สถานศึกษามีการสร้างเครื่องมือการวัดและประเมินผลท่ี 4.45 .52 มาก
สอดคล้องกับการเรยี นรขู้ องนกั เรียนในแตล่ ะรายวชิ า
6.สถานศึกษามีการนำผลประเมินการเรียนรู้มาปรับปรุงการเรียน 4.37 .53 มาก
การสอนใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพมากยง่ิ ขึน้
4.48 .41 มาก
รวม

จากตารางที่ 7 พบว่า การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขต
พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต ด้านการวัดผลและประเมินผล ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก
( X = 4.48, S.D. = .41) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 ลำดับแรก ได้แก่
สถานศึกษามีการกำหนดระเบียบ แนวการปฏิบัติที่เกี่ยวกับการวัดผลและประเมินผลการเรียนของ
โรงเรียนอย่างชัดเจน ( X = 4.61, S.D. = .52) รองลงมา คือ สถานศึกษามีการจัดทำเอกสาร
หลักฐานการศึกษาให้เป็นไปตามระเบียบการวัดผลและประเมนิ ผลการเรยี น ( X = 4.55, S.D. = .51)
กับสถานศึกษามีการวางแผนการคุมสอบ การจัดห้องสอบการจัดหาวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการสอบ
( X = 4.55, S.D. = .51) และสถานศึกษามีการสร้างเครื่องมือการวัดและประเมินผลที่สอดคล้องกับ
การเรียนรู้ของนักเรียนในแต่ละรายวิชา ( X = 4.45, S.D. = .52) ตามลำดบั

92

ตารางที่ 8 ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต โดยภาพรวมและจำแนกเป็นราย
ขอ้ ด้านการนเิ ทศการศกึ ษา

ดา้ นการนเิ ทศการศึกษา ระดับความคิดเห็น
X S.D. ระดบั
1.สถานศึกษามีการวางแผนจัดทำโครงการนิเทศตามลักษณะงาน 4.49 .66 มาก
ภายในโรงเรียน
2.สถานศึกษามีการสำรวจ วิเคราะห์ สภาพปัญหาและความ 4.37 .64 มาก
ต้องการในการนเิ ทศการเรยี นการสอน
3.สถานศึกษามีการนิเทศการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนอย่าง 4.30 .65 มาก
เปน็ ระบบและต่อเนื่อง
4.สถานศึกษามกี ารประเมนิ ผลการนิเทศภายในโรงเรยี น 4.43 .65 มาก
5.สถานศึกษามีการนำผลการนิเทศมาพัฒนาและปรับปรุงการเรยี น 4.31 .66 มาก
การสอน
6.สถานศึกษาการจัดกิจกรรมการนิเทศการเรียนการสอนภายใน 4.23 .75 มาก
โรงเรยี นด้วยวิธกี ารท่ีหลากหลายเหมาะสมกบั ผ้เู รยี น
4.35 .60 มาก
รวม

จากตารางที่ 8 พบว่า การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด
สำนักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาภเู ก็ต ด้านการนเิ ทศการศึกษา ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก
( X = 4.35, S.D. = .60) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ทุกข้ออยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉล่ีย
สูงสุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ สถานศึกษามีการวางแผนจัดทำโครงการนิเทศตามลักษณะงานภายใน
โรงเรียน ( X = 4.49, S.D. = .66) รองลงมา คือ สถานศึกษามีการประเมินผลการนิเทศภายใน
โรงเรียน ( X = 4.43, S.D. = .65) และสถานศึกษามีการสำรวจ วิเคราะห์ สภาพปัญหาและความ
ตอ้ งการในการนิเทศการเรยี นการสอน ( X = 4.37, S.D. = .64) ตามลำดบั

93

ตอนที่ 3 ข้อมูลเปรียบเทียบการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตามเพศ วุฒิการศึกษา
ประสบการณ์ในการทำงานและขนาดโรงเรียน

ผลการเปรยี บเทยี บการบรหิ ารงานวิชาการของผบู้ รหิ ารสถานศึกษา สังกดั สำนกั งาน
เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตามตัวแปรเพศ วุฒิการศึกษา ประสบการณ์ใน
การทำงานและขนาดโรงเรยี น รายละเอียดดังตารางท่ี 9 – 19

ตารางท่ี 9 การเปรยี บเทยี บการบริหารงานวชิ าการของผบู้ รหิ ารสถานศึกษา สงั กัดสำนักงานเขตพื้นที่

การศึกษาประถมศึกษาภเู กต็ ในภาพรวมและรายด้าน จำแนกตามเพศ

(n = 260)

การบริหารงานวิชาการของผูบ้ ริหาร ชาย หญิง t p
สถานศกึ ษา (n = 53) (n = 207)
X S.D. X S.D.

1. หลกั สตู รและการนำหลักสตู รไปใช้ 4.42 .44 4.32 .47 1.34 .205

2. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน 4.36 .66 4.47 .42 -1.20*** .000

3. การพัฒนาสื่อและการนำไปใช้ 4.39 .66 4.37 .55 .20 .426

4. การวดั ผลและประเมนิ ผล 4.51 .35 4.47 .42 .64* .034

5. การนเิ ทศการศกึ ษา 4.51 .49 3.31 .63 2.16 .108

รวม 4.44 .46 4.39 .44 .69 .670

* มนี ัยสำคญั ทางสถิ ติ ทิ ี่ระดบั .05

** มีนยั สำคัญทางสถิ ิติทร่ี ะดับ .01

*** มนี ัยสำคัญทางสิถิติที่ระดบั .001

จากตารางท่ี 9 พบว่า ครูผูส้ อนทมี่ ีเพศแตกตา่ งกัน มคี วามคิดเหน็ ตอ่ การบริหารงาน
วชิ าการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกดั สำนกั งานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาภูเก็ต โดยภาพรวม
ไม่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนมีความคิดเห็น
แตกตา่ งกันทน่ี ัยสำคัญทางสถิติระดบั .001 และด้านการวดั ผลและประเมนิ ผลมีความคดิ เห็นแตกต่าง
กันท่ีนัยสำคัญทางสถิตริ ะดบั .05

94

ตารางที่ 10 การเปรียบเทียบการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขต

พืน้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาภเู ก็ต ในภาพรวมและรายด้านจำแนกตามวุฒกิ ารศกึ ษา

(n = 260)

การบรหิ ารงานวชิ าการของผู้บริหาร ปรญิ ญาตรี สูงกว่าปริญญาตรี
สถานศึกษา
(n = 194) (n = 66) t p
1. หลักสตู รและการนำหลกั สูตรไปใช้ -3.74** .002
X S.D. X S.D.
4.29 .48 4.51 .38

2. การจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน 4.40 .51 4.60 .34 -3.46*** .000

3. การพัฒนาสื่อและการนำไปใช้ 4.31 .61 4.55 .40 -3.55*** .000

4. การวัดผลและประเมินผล 4.47 .42 4.51 .38 -.63** .002

5. การนิเทศการศกึ ษา 4.28 .63 4.57 .45 -3.93** .005

รวม 4.35 .46 4.54 .36 -3.51*** .000

* มนี ยั สำคัญทางสถิ ิตทิ ี่ระดับ .05

** มนี ยั สำคัญทางสถิ ิตทิ ี่ระดับ .01

*** มีนยั สำคัญทางสถิ ิตทิ ่รี ะดบั .001

จากตารางที่ 10 พบว่า ครูผู้สอนที่มีวุฒิการศึกษาแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อ
การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
ภูเก็ต โดยภาพรวมแตกต่างกัน เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
ด้านการพัฒนาสื่อและการนำไปใช้และด้านการนิเทศการศึกษามีความคิดเห็นแตกต่างกนั ที่นัยสำคัญ
ทางสถติ ิ ทรี่ ะดับ .001 และดา้ นหลกั สูตรและการนำหลักสูตรไปใช้และด้านการวัดผลและประเมินผล
มคี วามคิดเหน็ แตกต่างกนั ทนี่ ยั สำคญั ทางสถติ ิ ทร่ี ะดับ .01

95

ตารางที่ 11 การเปรียบเทียบการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขต

พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต ในภาพรวมและรายด้านจำแนกตามประสบการณ์

ในการทำงาน

(n = 260)

ประสบการณใ์ นการทำงาน

การบริหารงานวชิ าการของผู้บริหาร ต่ำกว่า 5 ปี ตั้งแต่ 5–10 ปี สูงกว่า 10 ปี

สถานศึกษา (n = 55) (n = 122) (n = 83)

1. หลกั สูตรและการนำหลักสูตรไปใช้ X S.D. X S.D. X S.D.
4.43 .43 4.14 .42 4.58 .41

2. การจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน 4.31 .71 4.39 .36 4.63 .39

3. การพัฒนาสอื่ และการนำไปใช้ 4.21 .69 4.28 .56 4.62 .43

4. การวดั ผลและประเมนิ ผล 4.48 .45 4.41 .36 4.57 .43

5. การนเิ ทศการศกึ ษา 4.44 .51 4.15 .66 4.59 .47

รวม 4.37 .49 4.27 .40 4.60 .39

จากตารางที่ 11 เมื่อพิจารณาการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต โดยจำแนกตามประสบการณ์ในการทำงาน
พบวา่

ครูที่มีประสบการณ์การทำงานสูงกว่า 10 ปี ( X = 4.60) การบริหารงานวิชาการ
ของผูบ้ รหิ ารสถานศึกษา สังกดั สำนกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาภเู ก็ต มคี า่ เฉลี่ยสงู กว่าครูที่
มีประสบการณ์การทำงานต่ำกว่า 5 ปี ( X = 4.37) และครูที่มีประสบการณ์การทำงานตั้งแต่
5 - 10 ปี ( X = 4.27) เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า การบริหารงานวิชาการ ด้านการจัดกิจกรรม
การเรียนการสอน ( X = 4.63) มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมา คือ ด้านการพัฒนาส่ือและการนำไปใช้
( X = 4.62) ส่วนด้านท่มี ีค่าเฉล่ยี ตำ่ สุด คอื ด้านการวดั ผลและประเมนิ ผล ( X = 4.57)

ครูที่มปี ระสบการณก์ ารทำงานตำ่ กวา่ 5 ปี ( X = 4.37) การบริหารงานวิชาการของ
ผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าครูที่มี
ประสบการณ์การทำงานตั้งแต่ 5 - 10 ปี ( X = 4.27) และค่าเฉลี่ยต่ำกว่าครูที่มีประสบการณ์
การทำงานสูงกว่า 10 ปี ( X = 4.60) เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า การบริหารงานวิชาการ
ด้านการวัดผลและประเมินผล ( X = 4.48) มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมา คือ ด้านการนิเทศการศึกษา
( X = 4.44) สว่ นดา้ นท่มี ีค่าเฉลยี่ ต่ำสุด คอื ด้านการพฒั นาสอื่ และการนำไปใช้ ( X = 4.21)

96

ครูทีม่ ปี ระสบการณก์ ารทำงานตัง้ แต่ 5 - 10 ปี ( X = 4.27) การบริหารงานวชิ าการ
ของผูบ้ ริหารสถานศกึ ษา สังกดั สำนักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาภูเกต็ มีค่าเฉลย่ี ตำ่ กว่าครูท่ี
มีประสบการณ์การทำงานสูงกว่า 10 ปี ( X = 4.60) และครูที่มีประสบการณ์การทำงานต่ำกว่า 5 ปี
( X = 4.37) เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า การบริหารงานวิชาการ ด้านการวัดผลและประเมินผล
( X = 4.41) มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมา คือ ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ( X = 4.39)
สว่ นด้านทม่ี ีค่าเฉลยี่ ต่ำสุด คือ ดา้ นหลกั สตู รและการนำหลักสตู รไปใช้ ( X = 4.14)

ตารางที่ 12 การเปรียบเทียบการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขต
พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต ในภาพรวมตามประสบการณ์ในการทำงาน
โดยการวิเคราะห์ค่าความแปรปรวนทางเดียว (One – Way Anova) จำแนกรายด้าน

การบรหิ ารงานวชิ าการ แหล่งความ df SS MS F P
ของผู้บรหิ ารสถานศึกษา แปรปรวน
1. หลักสูตรและการนำ ระหว่างกลมุ่ 2 10.40 5.20 28.83*** .000
หลกั สูตรไปใช้ ภายในกลมุ่ 257 46.36 .18
259 56.76
2. การจัดกิจกรรมการเรียน รวม 2 4.06 2.03 9.13*** .000
การสอน ระหว่างกลุ่ม 257 57.12 .22
ภายในกล่มุ 259 61.19
3. การพฒั นาสอ่ื และการ 2 7.79 3.89 12.64*** .000
นำไปใช้ รวม 257 79.24 .30
ระหวา่ งกลุ่ม 259 87.04
4. การวดั ผลและ ภายในกลุ่ม 2 1.24 .62 3.68* .026
ประเมินผล 257 43.45 .16
รวม 259 44.70
5. การนเิ ทศการศกึ ษา ระหว่างกลุ่ม 2 10.20 5.10 15.24*** .000
ภายในกลุม่ 257 86.04 .33
โดยภาพรวม 259 96.25
รวม 2 5.29 2.64 14.72*** .000
ระหว่างกลุ่ม 257 46.17 .18
ภายในกลุ่ม 259 51.46

รวม
ระหวา่ งกลุม่
ภายในกลุ่ม

รวม

97

* มีนัยสำคัญทางสิถิตทิ ี่ระดบั .05
** มนี ยั สำคญั ทางสิถิติทรี่ ะดบั .01
*** มีนยั สำคญั ทางสถิ ิติท่รี ะดับ .001

จากตารางที่ 12 พบว่า ครูที่มีประสบการณ์การทำงานแตกต่างกัน มีความคิดเห็น
ต่อการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
ภูเก็ต โดยภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .001 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน
พบว่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .001 ทุกด้าน ยกเว้น ด้านการวัดผลและ
ประเมินผล แตกต่างกันอย่างมีนยั สำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 เพื่อให้เห็นความแตกตา่ ง ผู้วิจัยได้ทำ
การเปรยี บเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่ ตามวิธกี ารของ Scheffe’ ผลปรากฏดงั ตารางท่ี 13 – 18

ตารางที่ 13 เปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตามประสบการณ์
ในการทำงานในภาพรวม

ประสบการณ์ในการทำงาน

ประสบการณ์ในการทำงาน ต่ำกว่า 5 ปี ต้งั แต่ 5-10 ปี สูงกว่า 10 ปี

ตำ่ กวา่ 5 ปี X 4.37 4.27 4.60
ตัง้ แต่ 5 – 10 ปี
สูงกวา่ 10 ปี 4.37 - .10 .23*
* มีนยั สำคัญทางสถิ ติ ทิ ร่ี ะดบั .05
4.27 - - .33*

4.60 - --

จากตารางที่ 13 เมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูต่อการบริหารงานวิชาการ
ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตาม
ประสบการณ์การทำงานเป็นรายคู่ในภาพรวม พบว่า มีความแตกต่างรายคู่จำนวน 2 คู่ และไม่
แตกต่างกันจำนวน 1 คู่ คือ ครูที่มีประสบการณ์การทำงานต่ำกว่า 5 ปี มีความคิดเห็นแตกต่างกับครู
ที่มีประสบการณ์การทำงานสูงกว่า 10 ปี อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 ส่วนครูที่มี
ประสบการณ์การทำงานตั้งแต่ 5 - 10 ปี มีความคิดเห็นแตกต่างกับครูที่มีประสบการณ์การทำงาน

98

ทำงานสูงกวา่ 10 ปี อย่างมีนัยสำคัญทางสถติ ิ ท่ีระดับ .05 และครทู ่ีมีประสบการณ์การทำงานต่ำกว่า
5 ปี มคี วามคดิ เหน็ ไม่แตกต่างกับครูท่ีมปี ระสบการณ์การทำงานต้ังแต่ 5 - 10 ปี

ตารางที่ 14 เปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตามประสบการณ์
ในการทำงาน ดา้ นหลกั สตู รและการนำหลักสูตรไปใช้

ประสบการณ์ในการทำงาน

ประสบการณ์ในการทำงาน ต่ำกว่า 5 ปี ตงั้ แต่ 5-10 ปี สงู กวา่ 10 ปี

ตำ่ กวา่ 5 ปี X 4.43 4.14 4.58
ตัง้ แต่ 5 – 10 ปี
สูงกวา่ 10 ปี 4.43 - .29* .15
* มนี ยั สำคัญทางสถิ ติ ิท่ีระดับ .05
4.14 - - .44*

4.58 - --

จากตารางที่ 14 เมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูต่อการบริหารงานวิชาการ
ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตาม
ประสบการณ์การทำงานเป็นรายคู่ ด้านหลักสูตรและการนำหลักสูตรไปใช้ พบว่า มีความแตกต่าง
รายคู่จำนวน 2 คู่ และไม่แตกต่างกันจำนวน 1 คู่ คือ ครูที่มีประสบการณ์การทำงานต่ำกว่า 5 ปี
มีความคิดเห็นแตกต่างกับครูที่มีประสบการณ์การทำงานตั้งแต่ 5 - 10 ปี อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ที่ระดับ .05 ส่วนครูที่มีประสบการณ์การทำงานตั้งแต่ 5 - 10 ปี มีความคิดเห็นแตกต่างกับครูที่มี
ประสบการณ์การทำงานทำงานสูงกว่า 10 ปี อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 และครูที่มี
ประสบการณ์การทำงานต่ำกว่า 5 ปี มีความคิดเห็นไม่แตกต่างกับครูที่มีประสบการณ์การทำงานสูง
กวา่ 10 ปี

99

ตารางที่ 15 เปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตามประสบการณ์
ในการทำงาน ด้านการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน

ประสบการณใ์ นการทำงาน

ประสบการณใ์ นการทำงาน ต่ำกว่า 5 ปี ตง้ั แต่ 5-10 ปี สงู กว่า 10 ปี

ตำ่ กว่า 5 ปี X 4.31 4.39 4.63
ตง้ั แต่ 5 – 10 ปี
สงู กวา่ 10 ปี 4.31 - .08 .31*
* มนี ยั สำคญั ทางสิถติ ทิ ี่ระดบั .05
4.39 - - .24*

4.63 - --

จากตารางที่ 15 เมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูต่อการบริหารงานวิชาการ
ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตาม
ประสบการณ์การทำงานเป็นรายคู่ ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนพบว่า มีความแตกต่างราย
ค่จู ำนวน 2 คู่ และไม่แตกต่างกันจำนวน 1 คู่ คอื ครูท่ีมปี ระสบการณ์การทำงานต่ำกว่า 5 ปี มีความ
คิดเห็นแตกต่างกับครูที่มีประสบการณ์การทำงานสูงกว่า 10 ปี อยา่ งมีนัยสำคญั ทางสถิติ ท่รี ะดับ .05
ส่วนครทู ี่มปี ระสบการณ์การทำงานตงั้ แต่ 5 - 10 ปี มคี วามคดิ เห็นแตกต่างกับครูท่ีมปี ระสบการณ์การ
ทำงานทำงานสูงกว่า 10 ปี อย่างมีนยั สำคญั ทางสถิติ ทร่ี ะดบั .05 และครูที่มีประสบการณ์การทำงาน
ตำ่ กว่า 5 ปี มคี วามคดิ เห็นไม่แตกต่างกบั ครูทม่ี ปี ระสบการณก์ ารทำงานตงั้ แต่ 5 - 10 ปี

ตารางที่ 16 เปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตามประสบการณ์
ในการทำงาน ดา้ นการพฒั นาสอ่ื และการนำไปใช้

ประสบการณ์ในการทำงาน

ประสบการณ์ในการทำงาน ตำ่ กวา่ 5 ปี ต้ังแต่ 5-10 ปี สูงกว่า 10 ปี
ต่ำกว่า 5 ปี
X 4.21 4.28 4.62

4.21 - .07 .42*

100

ตารางที่ 16 (ต่อ) ประสบการณใ์ นการทำงาน

ประสบการณใ์ นการทำงาน ต่ำกวา่ 5 ปี ตง้ั แต่ 5-10 ปี สูงกวา่ 10 ปี

ต้ังแต่ 5 – 10 ปี X 4.21 4.28 4.62
สูงกว่า 10 ปี
* มนี ยั สำคญั ทางสิถิตทิ รี่ ะดบั .05 4.28 - - .34*

4.62 - --

จากตารางที่ 16 เมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูต่อการบริหารงานวิชาการ
ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตาม
ประสบการณ์การทำงานเป็นรายคู่ ด้านการพัฒนาสื่อและการนำไปใช้ พบว่า มีความแตกต่างรายคู่
จำนวน 2 คู่ และไม่แตกต่างกันจำนวน 1 คู่ คือ ครูที่มีประสบการณ์การทำงานต่ำกว่า 5 ปี มีความ
คิดเห็นแตกตา่ งกับครูท่มี ีประสบการณ์การทำงานสูงกว่า 10 ปี อย่างมนี ัยสำคญั ทางสถติ ิ ท่รี ะดับ .05
ส่วนครูทมี่ ีประสบการณก์ ารทำงานตั้งแต่ 5 - 10 ปี มีความคิดเห็นแตกตา่ งกบั ครทู ่ีมปี ระสบการณ์การ
ทำงานทำงานสงู กวา่ 10 ปี อยา่ งมีนัยสำคญั ทางสถิติ ทีร่ ะดบั .05 และครูทมี่ ีประสบการณ์การทำงาน
ต่ำกวา่ 5 ปี มคี วามคดิ เหน็ ไมแ่ ตกต่างกับครทู มี่ ีประสบการณก์ ารทำงานตัง้ แต่ 5 - 10 ปี

ตารางที่ 17 เปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตามประสบการณ์
ในการทำงาน ดา้ นการวัดผลและประเมินผล

ประสบการณ์ในการทำงาน

ประสบการณใ์ นการทำงาน ตำ่ กวา่ 5 ปี ต้งั แต่ 5-10 ปี สงู กว่า 10 ปี

ตำ่ กวา่ 5 ปี X 4.48 4.41 4.57
ตั้งแต่ 5 – 10 ปี
สูงกว่า 10 ปี 4.48 - .06 .10
* มนี ยั สำคัญทางสถิ ติ ิทร่ี ะดบั .05
4.41 - - .16*

4.57 - --

101

จากตารางที่ 17 เมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูต่อการบริหารงานวิชาการ
ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตาม
ประสบการณ์การทำงานเป็นรายคู่ ด้านการวัดผลและประเมินผล พบว่า มีความแตกต่างรายคู่
จำนวน 1 คู่ และไม่แตกต่างกันจำนวน 2 คู่ คือ ครูที่มีประสบการณ์การทำงานตั้งแต่ 5 - 10 ปี
มีความคิดเห็นแตกต่างกับครูที่มีประสบการณ์การทำงานสูงกว่า 10 ปี อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ที่ระดับ .05 ส่วนครูที่มีประสบการณ์การทำงานต่ำกว่า 5 ปี มีความคิดเห็นไม่แตกต่างกับครูที่มี
ประสบการณ์การทำงานตั้งแต่ 5 - 10 ปี และครูที่มีประสบการณ์การทำงานต่ำกว่า 5 ปี มีความ
คิดเหน็ ไมแ่ ตกตา่ งกบั ครทู ่ีมีประสบการณ์การทำงานสูงกว่า 10 ปี

ตารางท่ี 18 เปรียบเทยี บความแตกตา่ งเป็นรายคู่การบรหิ ารงานวิชาการของผบู้ ริหารสถานศกึ ษ สงั กดั
สำนกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศึกษาภเู กต็ จำแนกตามประสบการณใ์ นการทำงาน
ด้านการนิเทศการศึกษา

ประสบการณ์ในการทำงาน

ประสบการณ์ในการทำงาน ต่ำกวา่ 5 ปี ตง้ั แต่ 5-10 ปี สูงกว่า 10 ปี

ตำ่ กว่า 5 ปี X 4.44 4.15 4.59
ต้ังแต่ 5 – 10 ปี
สูงกวา่ 10 ปี 4.44 - .29* .15
* มนี ัยสำคัญทางสถิ ิตทิ ร่ี ะดับ .05
4.15 - - .44*

4.59 - --

จากตารางที่ 18 เมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูต่อการบริหารงานวิชาการ
ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตาม
ประสบการณ์การทำงานเป็นรายคู่ ดา้ นการนเิ ทศการศึกษา พบวา่ มคี วามแตกตา่ งรายค่จู ำนวน 2 คู่
และไม่แตกตา่ งกนั จำนวน 1 คู่ คอื ครูทมี่ ปี ระสบการณ์การทำงานต่ำกว่า 5 ปี มคี วามคดิ เห็นแตกต่าง
กับครูที่มีประสบการณ์การทำงานตั้งแต่ 5 - 10 ปี อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 ส่วนครูที่มี
ประสบการณ์การทำงานตั้งแต่ 5 - 10 ปี มีความคิดเห็นแตกต่างกับครูที่มีประสบการณ์การทำงาน
ทำงานสูงกวา่ 10 ปี อย่างมนี ยั สำคัญทางสถิติ ทร่ี ะดบั .05 และครูทมี่ ีประสบการณ์การทำงานต่ำกว่า
5 ปี มีความคิดเหน็ ไม่แตกตา่ งกับครูท่ีมปี ระสบการณ์การทำงานสูงกวา่ 10 ปี

102

ตารางที่ 19 การเปรียบเทียบการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขต
พื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต ในภาพรวมและรายดา้ นจำแนกตามขนาดโรงเรยี น

ขนาดโรงเรยี น (n = 260)

การบรหิ ารงานวิชาการ ขนาดลก็ ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ ขนาดใหญ่
ของผู้บรหิ าร (n = 80) พเิ ศษ
สถานศึกษา (n = 82) (n = 72) (n = 26)

1. ด้านหลักสูตรและการ X S.D. X S.D. X S.D. X S.D.
นำหลักสตู รไปใช้ .39 4.29 .43 4.52 .48 4.63 .41
2. ด้านการจัดกิจกรรม 4.14 .31
การเรียนการสอน 4.39 .56 4.30 .61 4.61 .41 4.70 .45
3. ด้านการพัฒนาส่ือ 4.16 .25
และการนำไปใช้ 4.41 .72 4.32 .63 4.59 .43 4.61 .51
4. ด้านการวัดผลและ 4.12 .40
ประเมินผล 4.24 4.38 .43 4.63 .44 4.59 .55
5. ด้านการนิเทศ
การศึกษา 4.34 .55 4.54 .46 4.58 .50

รวม 4.32 .45 4.58 .39 4.63 .43

จากตารางที่ 19 เมื่อพิจารณาการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สงั กดั สำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาภูเกต็ โดยจำแนกตามขนาดโรงเรยี น พบวา่

ครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนทีม่ ีขนาดโรงเรียนใหญ่พิเศษ ( X = 4.63) การบริหารงาน
วิชาการของผูบ้ ริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภเู ก็ต มีค่าเฉลี่ยสงู
กว่าครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนเล็ก ( X = 4.24) ครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาด
โรงเรียนกลาง ( X = 4.32) และครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนใหญ่ ( X = 4.58)
เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านการวัดผลและประเมินผล ( X = 4.63) มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมา

103

คือ ด้านหลักสูตรและการนำหลักสูตรไปใช้ ( X = 4.63) ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ
ดา้ นการนเิ ทศการศกึ ษา ( X = 4.58)

ครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนใหญ่ ( X = 4.58) การบริหารงาน
วิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกดั สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาภเู ก็ต มีค่าเฉล่ียสูง
กว่าครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนเล็ก ( X = 4.24) ครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาด
โรงเรยี นกลาง ( X = 4.32) และคา่ เฉล่ียต่ำกว่าครูผู้สอนทสี่ ังกัดโรงเรยี นท่มี ีขนาดโรงเรียนใหญ่พิเศษ
( X = 4.63) เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า การบริหารงานวิชาการ ด้านการจัดกิจกรรมการเรียน
การสอน ( X = 4.70) มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมา คือ ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
( X = 4.61) สว่ นดา้ นทม่ี ีค่าเฉลีย่ ต่ำสดุ คอื ด้านการพฒั นาสอ่ื และการนำไปใช้ ( X = 4.59)

ครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนกลาง ( X = 4.32) การบริหารงาน
วิชาการของผูบ้ ริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศึกษาภูเก็ต มีค่าเฉลี่ยสงู
กว่าครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรยี นทีม่ ีขนาดโรงเรยี นเล็ก ( X = 4.24) และค่าเฉล่ียต่ำกว่าครูผูส้ อนท่ีสังกดั
โรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนใหญ่ ( X = 4.58) ครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนใหญ่พิเศษ
( X = 4.63) เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า การบริหารงานวิชาการ ด้านการวัดผลและประเมินผล
( X = 4.38) มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมา คือ ด้านการพัฒนาสื่อและการนำไปใช้ ( X = 4.32)
สว่ นดา้ นท่มี คี า่ เฉล่ียต่ำสดุ คือ ดา้ นหลักสตู รและการนำหลกั สูตรไปใช้ ( X = 4.29)

ครผู ้สู อนทส่ี งั กัดโรงเรียนทีม่ ขี นาดโรงเรียนเล็ก ( X = 4.24) การบรหิ ารงานวิชาการ
ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต มีค่าเฉลี่ยต่ำกว่า
ครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนกลาง ( X = 4.32) ครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาด
โรงเรียนใหญ่ ( X = 4.58) และครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนใหญ่พิเศษ ( X = 4.63)
เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า การบริหารงานวิชาการ ด้านการวัดผลและประเมินผล ( X = 4.41)
มีคา่ เฉลยี่ สูงสุด รองลงมา คือ ดา้ นด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ( X = 4.39) ส่วนด้านท่ีมี
ค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ด้านการนิเทศการศึกษา ( X = 4.12)

104

ตารางที่ 20 การเปรียบเทียบการบรหิ ารงานวิชาการของผ้บู ริหารสถานศกึ ษา สงั กดั สำนักงานเขตพื้น
ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาภูเก็ต ในภาพรวมตามขนาดโรงเรยี น โดยการการวิเคราะห์คา่
ความแปรปรวนทางเดยี ว (One – Way Anova) จำแนกรายดา้ น

การบริหารงานวชิ าการ แหลง่ ความ df SS MS F P

ของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา แปรปรวน 3 8.02 2.67 14.04*** .000
256 48.74 .19
1. ดา้ นหลกั สตู รและการนำ ระหวา่ งกลมุ่ 259 56.76
3 5.67 1.89 8.71*** .000
หลักสตู รไปใช้ ภายในกลุม่ 256 55.51 .21
259 61.19
รวม 3 8.60 2.86 9.35*** .000
256 78.44 .30
2. ดา้ นการจดั กจิ กรรมการ ระหวา่ งกลุ่ม 259 87.04
3 3.20 1.06 6.58*** .000
เรยี นการสอน ภายในกลุ่ม 256 41.50 .16
259 44.70
รวม 3 8.22 2.74 7.97*** .000
256 88.03 .34
3. ดา้ นการพฒั นาส่ือและ ระหว่างกลมุ่ 259 96.25
3 5.96 1.98 11.18*** .000
การนำไปใช้ ภายในกลมุ่ 256 45.50 .17
259 51.46
รวม

4. ดา้ นการวดั ผลและ ระหวา่ งกลุ่ม

ประเมินผล ภายในกลมุ่

รวม

5. ด้านการนิเทศการศึกษา ระหว่างกลมุ่

ภายในกลุ่ม

รวม

ระหว่างกลุ่ม

โดยภาพรวม ภายในกลุ่ม

รวม

* มีนัยสำคญั ทางสิถิตทิ ร่ี ะดบั .05

** มนี ยั สำคัญทางสิถิติทีร่ ะดบั .01

*** มีนยั สำคัญทางสถิ ติ ิทีร่ ะดบั .001

จากตารางที่ 20 พบว่า ครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนเแตกต่างกัน
มีความคดิ เหน็ ต่อการบรหิ ารงานวชิ าการของผู้บริหารสถานศึกษา สงั กดั สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา
ประถมศึกษาภูเก็ต โดยภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .001 เม่ือพิจารณา

105

เป็นรายด้าน พบว่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .001 ทุกด้าน เพื่อ ให้เห็น
ความแตกต่าง ผู้วิจัยได้ทำการเปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่ ตามวิธีการของ Scheffe’
ผลปรากฏดังตารางที่ 21 – 26

ตารางที่ 21 เปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตามขนาดโรงเรียน
ในภาพรวม

ขนาดโรงเรยี น ขนาดเล็ก ขนาดโรงเรยี น ขนาดใหญ่
ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ พิเศษ
X 4.24 4.63
4.32 4.58
ขนาดเลก็ 4.24 - .08 .33* .38*
- - .25* .30*
ขนาดกลาง 4.32 - -- .04
- -- -
ขนาดใหญ่ 4.58

ขนาดใหญพ่ เิ ศษ 4.63

* มีนัยสำคญั ทางสถิ ิตทิ ่ีระดับ .05

จากตารางที่ 21 เมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูต่อการบริหารงานวิชาการ
ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตามขนาด
โรงเรยี นเป็นรายคู่ในภาพรวม พบวา่ มีความแตกต่างรายคู่จำนวน 4 คู่ และไม่แตกต่างกันจำนวน 2 คู่
คือ ครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนเล็ก มีความคิดเห็นแตกต่างกับครูผู้สอนที่สังกัด
โรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนใหญ่ อย่างมนี ัยสำคญั ทางสถติ ิ ทร่ี ะดบั .05 และครผู ู้สอนที่สังกัดโรงเรียนท่ี
มีขนาดโรงเรียนเล็ก มีความคิดเห็นแตกต่างกับครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรยี นที่มีขนาดโรงเรยี นใหญพ่ ิเศษ
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 ส่วนครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนกลาง มีความ
คิดเห็นแตกต่างกับครูผู้สอนที่สงั กัดโรงเรียนท่ีมีขนาดโรงเรยี นใหญ่ อย่างมีนัยสำคัญทางสถติ ิ ที่ระดับ
.05 และครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนกลาง มีความคิดเห็นแตกต่างกับครูผู้สอนที่สังกัด
โรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนใหญ่พิเศษ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 ส่วนครูผู้สอนที่สังกัด
โรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนเล็ก มีความคิดเห็นไม่แตกต่างกับครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาด

106

โรงเรียนกลางและครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนใหญ่ มีความคิดเห็นไม่แตกต่างกับ
ครผู ้สู อนทสี่ งั กดั โรงเรียนท่มี ีขนาดโรงเรียนใหญพ่ ิเศษ

ตารางที่ 22 เปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตามขนาดโรงเรียน
ดา้ นหลักสตู รและการนำหลักสูตรไปใช้

ขนาดโรงเรียน ขนาดเลก็ ขนาดโรงเรยี น ขนาดใหญ่
ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ พิเศษ
X 4.14 4.63
4.29 4.52
ขนาดเล็ก 4.14 - .15 .38* .48*
- - .23* .34*
ขนาดกลาง 4.29 - -- .10
- -- -
ขนาดใหญ่ 4.52

ขนาดใหญ่พเิ ศษ 4.63

* มนี ัยสำคัญทางสิถติ ิทร่ี ะดบั .05

จากตารางที่ 22 เมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูต่อการบริหารงานวิชาการ
ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตามขนาด
โรงเรียนเป็นรายคู่ ด้านหลักสูตรและการนำหลักสูตรไปใช้ พบว่า มีความแตกต่างรายคู่จำนวน 4 คู่
และไม่แตกต่างกันจำนวน 2 คู่ คือ ครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนเล็ก มีความคิดเห็น
แตกต่างกับครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนใหญ่ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05
และครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนเล็ก มีความคิดเห็นแตกต่างกับครูผู้สอนที่สังกัด
โรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนใหญ่พิเศษ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 ส่วนครูผู้สอนที่สังกัด
โรงเรยี นทม่ี ขี นาดโรงเรียนกลาง มีความคดิ เหน็ แตกตา่ งกับครูผ้สู อนทสี่ ังกดั โรงเรียนท่ีมีขนาดโรงเรียน
ใหญ่ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 และครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนกลาง
มีความคิดเห็นแตกต่างกับครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนใหญ่พิเศษ อย่างมีนัยสำคัญ
ทางสถิติ ที่ระดับ .05 ส่วนครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรยี นเลก็ มีความคิดเห็นไม่แตกต่าง
กับครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนท่ีมีขนาดโรงเรียนกลาง และครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียน
ใหญ่ มีความคิดเห็นไม่แตกตา่ งกับครูผูส้ อนทีส่ งั กัดโรงเรียนท่ีมีขนาดโรงเรียนใหญ่พิเศษ

107

ตารางที่ 23 เปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตามขนาดโรงเรียน
ดา้ นการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน

ขนาดโรงเรยี น ขนาดเลก็ ขนาดโรงเรียน ขนาดใหญ่
ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ พิเศษ
X 4.39 4.70
4.30 4.61
ขนาดเลก็ 4.39 - .09 .22* .31*
- - .31* .40*
ขนาดกลาง 4.30 - -- .97
- -- -
ขนาดใหญ่ 4.61

ขนาดใหญ่พเิ ศษ 4.70

* มีนยั สำคัญทางสิถติ ิท่รี ะดับ .05

จากตารางที่ 23 เมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูต่อการบริหารงานวิชาการ
ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตามขนาด
โรงเรียนเป็นรายคู่ ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน พบว่า มีความแตกต่างรายคู่จำนวน 4 คู่
และไม่แตกต่างกันจำนวน 2 คู่ คือ ครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนเล็ก มีความคิดเห็น
แตกต่างกับครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนใหญ่ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05
และครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนเล็ก มีความคิดเห็นแตกต่างกับครูผู้สอนที่สังกัด
โรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนใหญ่พิเศษ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 ส่วนครูผู้สอนที่สังกัด
โรงเรียนที่มขี นาดโรงเรียนกลาง มีความคิดเหน็ แตกต่างกับครผู ้สู อนท่ีสังกัดโรงเรียนท่ีมีขนาดโรงเรียน
ใหญ่ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 และครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนกลาง
มีความคิดเห็นแตกต่างกับครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนใหญ่พิเศษ อย่างมีนัยสำคัญ
ทางสถิติ ที่ระดับ .05 ส่วนครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรยี นเล็ก มีความคิดเห็นไม่แตกต่าง
กับครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนกลาง และครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียน
ใหญ่ มีความคิดเหน็ ไม่แตกต่างกบั ครูผู้สอนที่สงั กดั โรงเรียนทีม่ ีขนาดโรงเรียนใหญ่พิเศษ

108

ตารางที่ 24 เปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตามขนาดโรงเรียน
ดา้ นการพัฒนาสอื่ และการนำไปใช้

ขนาดโรงเรียน ขนาดเล็ก ขนาดโรงเรียน ขนาดใหญ่
ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ พิเศษ
X 4.16 4.61
4.32 4.59
ขนาดเล็ก 4.16 - .15 .42* .44*
- - .27* .29
ขนาดกลาง 4.32 - -- .02
- -- -
ขนาดใหญ่ 4.59

ขนาดใหญ่พิเศษ 4.61

* มีนัยสำคัญทางสิถิตทิ ่รี ะดับ .05

จากตารางที่ 24 เมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูต่อการบริหารงานวิชาการ
ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตามขนาด
โรงเรียนเป็นรายคู่ ด้านการพัฒนาสื่อและการนำไปใช้ พบว่า มีความแตกต่างรายคู่จำนวน 3 คู่
และไม่แตกต่างกันจำนวน 3 คู่ คือ ครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนเล็ก มีความคิดเห็น
แตกต่างกับครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนใหญ่ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05
และครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนเล็ก มีความคิดเห็นแตกต่างกับครูผู้สอนที่สังกัด
โรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนใหญ่พิเศษ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 ส่วนครูผู้สอนที่สังกัด
โรงเรยี นท่ีมีขนาดโรงเรียนกลาง มคี วามคิดเห็นแตกต่างกับครูผสู้ อนท่ีสงั กดั โรงเรียนท่ีมีขนาดโรงเรียน
ใหญ่ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 ส่วนครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนเล็ก
มีความคิดเห็นไม่แตกต่างกับครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนกลาง ครูผู้สอนที่สังกัด
โรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนกลาง มีความคิดเห็นไม่แตกต่างกับครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาด
โรงเรียนใหญพ่ ิเศษและครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนใหญ่ มีความคิดเห็นไม่แตกต่างกับ
ครูผูส้ อนทสี่ งั กัดโรงเรยี นที่มขี นาดโรงเรยี นใหญ่พิเศษ

109

ตารางที่ 25 เปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตามขนาดโรงเรียน
ด้านการวัดผลและประเมินผล

ขนาดโรงเรยี น ขนาดเลก็ ขนาดโรงเรยี น ขนาดใหญ่
ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ พเิ ศษ
X 4.16 4.59
4.38 4.63
ขนาดเล็ก 4.41 - .03 .21* .17
- - .25* .21
ขนาดกลาง 4.38 - -- .04
- -- -
ขนาดใหญ่ 4.63

ขนาดใหญ่พิเศษ 4.59

* มีนยั สำคัญทางสิถติ ิท่รี ะดบั .05

จากตารางที่ 25 เมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูต่อการบริหารงานวิชาการ
ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตามขนาด
โรงเรียนเป็นรายคู่ ด้านการวัดผลและประเมินผล พบว่า มีความแตกต่างรายคู่จำนวน 2 คู่ และไม่
แตกตา่ งกนั จำนวน 4 คู่ คือ ครูผสู้ อนทส่ี งั กดั โรงเรยี นท่ีมีขนาดโรงเรยี นเล็ก มคี วามคิดเหน็ แตกต่างกับ
ครผู ้สู อนที่สงั กดั โรงเรยี นท่มี ีขนาดโรงเรียนใหญ่ อยา่ งมีนยั สำคญั ทางสถติ ิ ทีร่ ะดับ .05 และครผู สู้ อนที่
สังกัดโรงเรียนท่ีมีขนาดโรงเรียนกลาง มีความคิดเห็นแตกต่างกับครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาด
โรงเรียนใหญ่ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 ส่วนครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียน
เล็ก มีความคิดเห็นไม่แตกต่างกับครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนกลาง ครูผู้สอนที่สังกัด
โรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนเล็ก มีความคิดเห็นไม่แตกต่างกับครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาด
โรงเรยี นใหญพ่ ิเศษ ส่วนครูผสู้ อนท่ีสังกดั โรงเรยี นทมี่ ขี นาดโรงเรยี นกลาง มีความคดิ เหน็ ไม่แตกต่างกับ
ครผู ูส้ อนทส่ี ังกัดโรงเรียนทีม่ ีขนาดโรงเรียนใหญ่พเิ ศษ สว่ นครผู สู้ อนท่ีสงั กดั โรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียน
ใหญ่ มคี วามคดิ เหน็ ไมแ่ ตกต่างกบั ครูผสู้ อนที่สงั กดั โรงเรยี นทมี่ ีขนาดโรงเรยี นใหญ่พิเศษ

110

ตารางที่ 26 เปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตามขนาดโรงเรียน
ดา้ นการนเิ ทศการศกึ ษา

ขนาดโรงเรียน ขนาดเล็ก ขนาดโรงเรยี น ขนาดใหญ่
ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ พิเศษ
X 4.12 4.58
4.34 4.54
ขนาดเล็ก 4.12 - .22 .42* .45
- - .20 .23
ขนาดกลาง 4.34 - -- .04
- -- -
ขนาดใหญ่ 4.54

ขนาดใหญพ่ เิ ศษ 4.58

* มนี ยั สำคญั ทางสิถิตทิ ีร่ ะดบั .05

จากตารางที่ 26 เมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูต่อการบริหารงานวิชาการ
ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตามขนาด
โรงเรียนเป็นรายคู่ ดา้ นการนิเทศการศึกษา พบว่า มีความแตกต่างรายคู่จำนวน 1 คู่ และไมแ่ ตกต่าง
กันจำนวน 5 คู่ คือ ครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนเล็ก มีความคิดเห็นแตกต่างกับ
ครูผ้สู อนทสี่ ังกดั โรงเรยี นที่มีขนาดโรงเรยี นใหญ่ อย่างมีนยั สำคัญทางสถติ ิ ทร่ี ะดับ .05 สว่ นครูผูส้ อนท่ี
สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนเล็ก มีความคิดเห็นไม่แตกต่างกับครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาด
โรงเรียนกลาง ครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนเล็ก มีความคิดเห็นไม่แตกต่างกับครูผู้สอน
ท่ี สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนใหญ่พิเศษ ส่วนครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนกลาง
มีความคดิ เห็นไม่แตกตา่ งกับครผู ู้สอนทสี่ ังกดั โรงเรียนท่มี ีขนาดโรงเรยี นใหญ่ ครผู ูส้ อนท่ีสงั กัดโรงเรียน
ที่มีขนาดโรงเรียนกลาง มีความคิดเห็นไม่แตกต่างกับครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนใหญ่
พิเศษ ส่วนครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนใหญ่ มีความคิดเห็นไม่แตกต่างกับครูผู้สอน
ทสี่ ังกดั โรงเรียนทีม่ ขี นาดโรงเรยี นใหญพ่ เิ ศษ

111

ตอนที่ 4 ข้อเสนอแนะการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สงั กัดสำนักงานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต

ผลจากการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากผู้ตอบแบบสอบถามตอนที่ 3 ของครูผู้สอนที่
ปฏิบัติหน้าที่ในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต ปีการศึกษา 2564
เพื่อหาแนวทางการพัฒนาการบริหารงานวชิ าการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นท่ี
การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต ผู้วิจัยได้นำข้อมูลมาวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) ในแต่ละ
ประเด็น เพื่อแยกแยะแนวคิดสรุปรวบรวมและนำเสนอเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาการบริหารงาน
วิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต ใน 5 ด้าน
ได้แก่ ด้านหลักสูตรและการนำหลักสูตรไปใช้ ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ด้านการพัฒนา
ส่อื และการนำไปใช้ ด้านการวัดผลและประเมินผลและด้านนิเทศการศึกษา พบว่าผูต้ อบแบบสอบถาม
ได้ให้แนวทางการพัฒนาการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่
การศึกษาประถมศกึ ษาภูเกต็ ไดด้ งั น้ี

1. ด้านหลักสตู รและการนำหลักสตู รไปใช้
โรงเรียนมกี ารจัดสัมมนา อบรมเชิงปฏิบตั กิ ารให้กบั ครผู สู้ อนอยา่ งต่อเน่ือง เพื่อเป็น
การพัฒนาครูให้มคี วามสามารถในการวเิ คราะห์หลักสูตรเพือ่ จัดทำแผนการจัดการเรยี นรู้ที่มีคุณภาพ
และถูกต้อง มีการนิเทศ ติดตาม การนำหลักสูตรไปใช้ให้สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของหลักสูตร
และการจัดให้มกี ารประชุมหลักสตู รภายในกลุ่มสาระการเรยี นรู้ เพื่อวิเคราะห์ปญั หา อุปสรรคก่อนนำ
หลักสตู รของแต่ละกลุ่มสาระการเรยี นรไู้ ปใช้สอนจรงิ
2. ดา้ นการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน
โรงเรียนมีการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการให้กับครูผู้สอน เพื่อเป็นการส่งเสริม
การจัดการเรียนการสอนทีค่ ำนึงถงึ ความแตกต่างระหว่างบุคคล ในส่วนของสถานศึกษาสง่ เสริมใหค้ รู
จัดบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของแต่ละกิจกรรมที่เหมาะสมกับผู้เรียนและ
สถานการณป์ จั จุบนั การจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนนน้ั ควรมีการสอดแทรกด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม
เพื่อให้ผู้เรียนได้รับรู้ เห็นคุณค่าและพัฒนาอย่างต่อเน่ือง จนเป็นลักษณะนิสัยที่ดี โดยเน้นทักษะ
กระบวนการการเรยี นรูอ้ ยา่ งเตม็ ศกั ยภาพและเนน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญด้วยกจิ กรรมหลากหลาย
3. ด้านการพัฒนาส่ือและการนำไปใช้
โรงเรียนมีการจัดทำสื่อและนวัตกรรมที่ทันสมัย ผู้เรียนสามารถเรียนรู้และเข้าใจ
เนื้อหานั้น ๆ ได้เข้าใจมากขึ้น โดยในแต่ละชิ้นที่สร้างต้องให้สอดคล้องกับเนื้อหา การพัฒนาของ
ผู้เรียน และเป็นการส่งเสริมให้ครูผู้สอนได้พัฒนาตนเองในการใช้ส่ือและเทคโนโลยี ด้าน IT โดยให้มี
การจัดอบรมเพื่อพัฒนาความรู้ ความสามารถในการผลิตสื่อการเรียนการสอนให้กับครูผู้สอน

112

อย่างต่อเนื่อง เพื่อได้นำความรู้ความสามารถมาใช้ในการพัฒนากระบวนการเรียนการสอนได้
อย่างเหมาะสม มีผู้เชี่ยวชาญค่อยแนะนำ ผู้สอนให้สามารถผลิตสื่อได้อย่างมีคุณภาพ เพื่อพัฒนา
การศกึ ษาให้มีความหลากหลายและเหมาะสมกับผู้เรยี น

4. ดา้ นการวดั ผลและประเมนิ ผล
โรงเรยี นมกี ระบวนการวัดผลและประเมนิ ผล โดยมงุ่ วดั ผลตามตวั ช้ีวัดของแตล่ ะกลุ่ม
สาระการเรียนรู้ ครอบคลุมเนื้อหาสาระที่ครบถ้วน และมุ่งเน้นการประเมินผลตามสภาพจริง โดยใช้
เครื่องมือที่หลากหลาย มีการวัดผลและประเมินผลอยา่ งตอ่ เนือ่ ง ตามขั้นตอนของกระบวนการวัดผล
และประเมินผล การวัดและประเมินผลจะต้องมีมาตรฐานเท่าเทียมกันในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้
โดยใหส้ อดคล้องกับนโยบาย หรอื ตามแนวทางท่ีโรงเรยี นกำหนด
5. ด้านนเิ ทศการศกึ ษา
โรงเรียนควรมีการจัดทำแผนปฏิบัติการนิเทศภายในและกำหนดปฏิทินการ
ดำเนินการนิเทศโดยกำหนดผู้รับผิดชอบให้ชัดเจน และสม่ำเสมอ เพื่อนำผลที่ได้มาปรับปรุง พัฒนา
และเปน็ การมุง่ เนน้ การนิเทศแบบกัลยาณมิตร ทกุ คนมีสว่ นร่วม ร่วมมอื ชว่ ยเหลอื กนั ทางด้านวิชาการ
และหากมีข้อบกพร่องส่วนใดก็จะจัดให้มีการนำข้อมูลดังกล่าวมาปรับปรุงแก้ไขเพื่อพัฒนาการสอน
ของครูผู้สอนและเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน และควรส่งเสริมการนิเทศให้มีผู้เข้า
นเิ ทศ ติดตามทุกระดบั เชน่ ระดบั ผบู้ รหิ าร ระดบั หวั หน้าวิชาการ ระดับหวั หนา้ กลุ่มสาระ

113

บทที่ 5

สรุป อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ

สรปุ ผลการวิจยั

การวิจัยเรื่อง การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงาน
เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบการบริหารงาน
วิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตาม
เพศ วุฒิการศึกษา ประสบการณ์ในการทำงานและขนาดของโรงเรียน มีสมมติฐาน คือครูที่มีเพศ
ต่างกัน ครูที่มีวุฒิการศึกษาต่างกัน ครูที่มีประสบการณ์การทำงานต่างกันและครูที่มีขนาดโรงเรียน
ต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นท่ี
การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ตต่างกัน ประชากร (Population) ได้แก่ ครูผู้สอนที่ปฏิบัติหน้าที่ใน
โรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต ปีการศึกษา 2564 จำนวน 834 คน
จาก 49 โรงเรียน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยเทียบตารางสำเร็จรูปของเครจซี่และมอร์แกน
(Krejcie & Morgan, 1970, pp. 607 – 610) ได้ขนาดกลุ่มตัวอย่าง 260 คน จากนั้นทำการสุ่ม
ตัวอย่างแบบแบ่งชั้น (Stratified Random Sampling) ตามขนาดของโรงเรียน โดยนำมาเทียบ
สัดส่วนและกำหนดผู้ให้ข้อมูลแต่ละระดับโดยการสุ่มแบบอย่างง่าย (Simple Ramdom Sampling)
ด้วยวิธีการจับสลากแบบไม่ใส่คืน เครื่องมือการวิจัยเป็นแบบสอบถาม แบ่งเป็น 3 ตอน ตอนที่ 1
เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม มีลักษณะเป็นแบบสำรวจรายการ
(Check List) โดยถามเกีย่ วกับเพศ วฒุ กิ ารศึกษา ประสบการณใ์ นการทำงานและขนาดของโรงเรียน
ตอนที่ 2 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงาน
เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต ในประเด็น 5 ด้าน จำนวน 32 ข้อ เป็นแบบมาตราส่วน
ประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ มีค่าความเชอ่ื ม่ันท้ังฉบับ .971 สถติ ิทใ่ี ชใ้ นการวิเคราะห์ข้อมูล
คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบค่าที (t - test) และ
การทดสอบค่าเอฟ (F - test) เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยแบบรายคู่โดยใช้วิธีของ Scheffe’ และ
การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) ผลการศึกษาการบริหารงานวิชาการของผู้บริหาร
สถานศกึ ษา สงั กดั สำนักงานเขตพนื้ ท่ีการศึกษาประถมศึกษาภเู กต็ สรุปผลได้ดงั น้ี

ครผู ู้สอนท่ปี ฏิบัติหน้าที่ในโรงเรยี น สังกดั สำนกั งานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
ภูเก็ต ปีการศกึ ษา 2564 สว่ นใหญเ่ ป็นเพศหญงิ 207 คน คิดเป็นร้อยละ 79.62 ครทู วี่ ุฒิการศึกษา
ปริญญาตรี จำนวน 194 คน คิดเป็นร้อยละ 74.62 ครูมีประสบการณก์ ารทำงาน 5 - 10 ปี จำนวน

113

114

122 คน คิดเป็นร้อยละ 46.92 และครูที่ปฏิบัติงานในโรงเรียนขนาดกลาง จำนวน 82 คน คิดเป็น
รอ้ ยละ 31.54

1. ผลการวิเคราะห์การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกดั สำนกั งานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาภเู กต็ โดยภาพรวมและรายดา้ นสรปุ ผลดังนี้

1.1 ผลการวิเคราะห์การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเปน็
รายด้านพบว่าครูมีความคิดเห็นต่อการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงาน
เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต อยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยเรียงลำดับจากค่าเฉลี่ยมากไปหา
น้อยได้ดังนี้ คือ การวัดผลและประเมินผล รองลงมาคือการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน การพัฒนา
สื่อและการนำไปใช้ นิการเทศการศึกษาและด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ หลักสูตรและการนำหลักสูตร
ไปใช้

1.2 ผลการวิเคราะห์การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต ด้านหลักสูตรและการนำหลักสูตรไปใช้ใน
ภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ทุกข้ออยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยสูงสุด
3 ลำดับแรก ได้แก่ สถานศึกษามีการจัดทำโครงสร้างหลักสูตรและกลุ่มสาระการเรียนรู้ให้สอดคล้อง
กบั สภาพปัญหา คือ สถานศกึ ษามีการวางแผนปรับปรงุ พัฒนาหลักสตู รอย่างต่อเนื่องอย่างเป็นระบบ
รองลงมาคือ สถานศึกษามีการจัดทำเครื่องมือที่ใช้ในการประเมินติดตามการใช้หลักสูตร
กับสถานศึกษามีการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมของโรงเรียนเพื่อประเมินความพร้อมในการบริหาร
หลักสูตร และสถานศึกษามีการศึกษาวิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางเพื่อจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา
ตามลำดับ

1.3 ผลการวิเคราะห์การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่าข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 ลำดับแรก ได้แก่
สถานศึกษาส่งเสริมให้ครูจัดบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนของผู้เรียน รองลงมาคือ
สถานศึกษาส่งเสริมให้ครูจัดทำแผนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยจัดกระบวนการเรียนรู้
ทุกกลุ่มสาระ และหน่วยการเรียนรู้และสถานศึกษา ส่งเสริมให้ครูจัดสาระการเรียนรู้และกิจกรรม
การเรียนรู้ให้สอดคล้องกับความสนใจความถนัดของผเู้ รยี นตามลำดบั

115

1.4 ผลการวิเคราะห์การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สงั กัดสำนกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาภูเก็ต ดา้ นการพฒั นาสื่อและการนำไปใช้ ในภาพรวม
อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ทุกข้ออยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด
3 ลำดับแรก ได้แก่ สถานศึกษามีการประเมินผลการพัฒนา การใช้สื่อนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อ
การศึกษา รองลงมาคือ สถานศึกษาส่งเสริมให้ครู พัฒนาและใช้สื่อ นวัตกรรมเทคโนโลยีกับกิจกรรม
การเรียนรู้ที่เหมาะสมสำหรับกับผู้เรียน และสถานศึกษามีการจัดหา จัดทำสื่อ และเทคโนโลยี
เพื่อใชใ้ นการจัดการเรยี นการสอนและการพัฒนางานดา้ นวชิ าการตามลำดบั

1.5 ผลการวิเคราะห์การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกัดสำนกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาภูเก็ต ด้านการวัดผลและประเมนิ ผล ในภาพรวมอยู่
ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่าข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ สถานศึกษามี
การกำหนดระเบียบ แนวการปฏิบัติที่เก่ียวกับการวัดผลและประเมินผลการเรียนของโรงเรียนอย่าง
ชัดเจน รองลงมาสถานศึกษามีการจัดทำเอกสารหลักฐานการศึกษาให้เป็นไปตามระเบียบการวัดผล
และประเมินผลการเรียนกับสถานศึกษามีการวางแผนการคุมสอบ การจัดห้องสอบการจัดหาวัสดุ
อุปกรณ์ที่ใช้ในการสอบและสถานศึกษามีการสร้างเครื่องมอื การวัดผลและประเมินผลที่สอดคล้องกบั
การเรียนรขู้ องนักเรยี นในแตล่ ะรายวิชาตามลำดับ

1.6 ผลการวิเคราะห์การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต ด้านการนิเทศการศึกษา ในภาพรวมอยู่ใน
ระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ทุกข้ออยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 ลำดับ
แรก ได้แก่ สถานศึกษามีการวางแผนจัดทำโครงการนิเทศตามลักษณะงานภายในโรงเรียน รองลงมา
คือ สถานศึกษามีการประเมินผลการนิเทศภายในโรงเรียนและสถานศึกษามีการสำรวจ วิเคราะห์
สภาพปญั หาและความต้องการในการนิเทศการเรยี นการสอนตามลำดบั

2. ผลการเปรียบเทียบการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สงั กัดสำนกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาภูเกต็

2.1 ผลการเปรียบเทียบการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตามเพศในภาพรวมไม่แตกต่างกัน
เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนมีความคิดเห็นแตกต่างกัน
ที่นัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .001 และด้านการวัดผลและประเมินผลมีความคิดเห็นแตกต่างกันที่
นัยสำคญั ทางสถติ ิ ทรี่ ะดับ .05

116

2.2 ผลการเปรียบเทียบการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สงั กดั สำนักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศึกษาภเู ก็ต จำแนกตามวุฒิการศึกษาโดยภาพรวมแตกต่าง
กัน เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านหลักสูตรและการนำหลักสูตรไปใช้ ด้านการจัดกิจกรรมการ
เรียนการสอน ดา้ นการพัฒนาส่ือและการนำไปใชแ้ ละด้านการนิเทศการศึกษามีความคิดเห็นแตกต่าง
กันที่นัยสำคัญทางสถิติ ท่ีระดับ .001 และด้านการวัดผลและประเมินผลมีความคิดเห็นแตกต่างกัน
ทน่ี ัยสำคญั ทางสถติ ิ ทรี่ ะดับ .05

2.3 ผลการเปรียบเทียบการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตามประสบการณ์ในการทำงาน
โดยภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .001 เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า
ด้านหลักสูตรและการนำหลักสูตรไปใช้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .001
ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .001 ด้านการ
พัฒนาสื่อและการนำไปใช้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .001 ด้านการวัดผลและ
ประเมินผล แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 และด้านการนิเทศการศึกษาแตกต่าง
กันอย่างมนี ัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดบั .001 ครูทมี่ ีประสบการณ์การทำงานแตกต่างกัน มีความคิดเห็น
ต่อการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
ภูเก็ต แตกตา่ งกัน

ผลการเปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่ ตามวิธีการของ Scheffe’
พบว่า การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตามประสบการณ์ในการทำงาน พบว่า ด้านหลักสูตรและการนำหลกั สูตร
ไปใช้ มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 จำนวน 2 คู่ คือ ครูที่มีประสบการณ์
การทำงานต่ำกว่า 5 ปี มีความคิดเห็นแตกต่างกับครูที่มีประสบการณ์การทำงานตั้งแต่ 5 - 10 ปี
ส่วนครูที่มีประสบการณก์ ารทำงานตั้งแต่ 5 - 10 ปี มคี วามคดิ เห็นแตกตา่ งกับครูท่ีมีประสบการณ์การ
ทำงานทำงานสูงกว่า 10 ปี และด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน มีความแตกต่างกันอย่างมี
นัยสำคัญทางสถิติ ท่รี ะดับ .05 มคี วามแตกตา่ งรายคูจ่ ำนวน 2 คู่ คอื ครทู ่ีมปี ระสบการณก์ ารทำงาน
ต่ำกว่า 5 ปี มีความคิดเห็นแตกต่างกับครูที่มีประสบการณ์การทำงานสูงกว่า 10 ปี ส่วนครูที่มี
ประสบการณ์การทำงานตั้งแต่ 5 - 10 ปี มีความคิดเห็นแตกต่างกับครูที่มีประสบการณ์การทำงาน
ทำงานสูงกว่า 10 ปี และด้านการพัฒนาสื่อและการนำไปใช้ มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทาง
สถิติ ท่รี ะดับ .05 มีความแตกตา่ งรายคู่จำนวน 2 คู่ คอื ครูท่ีมีประสบการณก์ ารทำงานตำ่ กว่า 5 ปี มี
ความคิดเห็นแตกต่างกับครูที่มีประสบการณ์การทำงานสูงกว่า 10 ปี ส่วนครูที่มีประสบการณ์การ
ทำงานตั้งแต่ 5 - 10 ปี มีความคิดเห็นแตกต่างกบั ครูท่ีมปี ระสบการณก์ ารทำงานทำงานสูงกวา่ 10 ปี

117

และด้านการวัดผลและประเมินผล มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 มีความ
แตกตา่ งรายคจู่ ำนวน 1 คู่ คือ ครทู ีม่ ีประสบการณก์ ารทำงานต้งั แต่ 5 - 10 ปี มคี วามคดิ เหน็ แตกต่าง
กับครทู มี่ ปี ระสบการณ์การทำงานสูงกว่า 10 ปี และด้านการนเิ ทศการศึกษา มีความแตกต่างกันอย่าง
มนี ยั สำคญั ทางสถติ ิ ท่รี ะดบั .05 มีความแตกต่างรายคจู่ ำนวน 2 คู่ คือ ครูทมี่ ีประสบการณก์ ารทำงาน
ต่ำกว่า 5 ปี มีความคิดเห็นแตกต่างกับครูที่มีประสบการณ์การทำงานตั้งแต่ 5 - 10 ปี ส่วนครูที่มี
ประสบการณ์การทำงานตั้งแต่ 5 - 10 ปี มีความคิดเห็นแตกต่างกับครูที่มีประสบการณ์การทำงาน
ทำงานสงู กว่า 10 ปี อาจจะเกิดจากคา่ ความแปรปรวนตำ่

2.5 ผลการเปรียบเทียบการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตามขนาดโรงเรียน โดยภาพรวม
แตกตา่ งกนั อยา่ งมีนยั สำคัญทางสถิติ ทร่ี ะดับ .001 เมอื่ พจิ ารณารายดา้ น พบว่าด้านหลักสตู รและการ
นำหลักสูตรไปใช้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .001 ด้านการจัดกิจกรรมการเรียน
การสอนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .001 ด้านการพัฒนาสื่อและการนำไปใช้
แตกตา่ งกันอยา่ งมีนัยสำคญั ทางสถติ ิ ท่รี ะดับ .001 ดา้ นการวดั ผลและประเมินผล แตกตา่ งกัน อยา่ งมี
นัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 และด้านการนิเทศการศึกษาแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ที่ระดับ .001 ครูแบ่งตามขนาดโรงเรียนแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการบริหารงานวิชาการของ
ผบู้ ริหารสถานศึกษา สงั กดั สำนักงานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาภูเกต็ แตกต่างกนั

ผลการเปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่ ตามวิธีการของ Scheffe’
พบว่าการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศกึ ษาภูเกต็ จำแนกตามประสบการณ์ในการทำงาน พบวา่ ดา้ นหลักสูตรและการนำหลักสตู รไป
ใช้ มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 มีความแตกต่างรายคู่จำนวน 4 คู่ คือ
ครผู ู้สอนทีส่ ังกดั โรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนเล็ก มคี วามคิดเห็นแตกตา่ งกบั ครูผู้สอนทสี่ ังกดั โรงเรียนที่มี
ขนาดโรงเรียนใหญ่ และครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนเล็ก มีความคิดเห็นแตกต่างกับ
ครผู ู้สอนทีส่ ังกัดโรงเรยี นที่มีขนาดโรงเรียนใหญ่พิเศษ สว่ นครผู ู้สอนทีส่ ังกดั โรงเรยี นท่ีมีขนาดโรงเรียน
กลาง มคี วามคิดเห็นแตกตา่ งกับครูผู้สอนทีส่ ังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรยี นใหญ่ และครูผู้สอนท่ีสังกัด
โรงเรยี นทมี่ ขี นาดโรงเรียนกลาง มคี วามคดิ เหน็ แตกตา่ งกับครูผสู้ อนท่ีสงั กัดโรงเรียนท่ีมีขนาดโรงเรียน
ใหญ่พิเศษ และด้านการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน มีความแตกต่างกนั อย่างมนี ยั สำคัญทางสถิติ ที่
ระดับ .05 มีความแตกต่างรายคู่จำนวน 4 คู่ คือ ครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนเล็ก มี
ความคดิ เห็นแตกต่างกับครผู สู้ อนทสี่ ังกัดโรงเรียนทม่ี ีขนาดโรงเรียนใหญ่และครูผสู้ อนท่ีสังกัดโรงเรียน
ทีม่ ีขนาดโรงเรยี นเล็ก มคี วามคดิ เหน็ แตกตา่ งกับครูผู้สอนทส่ี ังกัดโรงเรียนที่มขี นาดโรงเรยี นใหญ่พิเศษ
ส่วนครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนกลางมีความคิดเห็นแตกต่างกับครูผู้สอนที่สังกัด

118

โรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนใหญ่ และครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนกลาง มีความคิดเห็น
แตกต่างกับครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนใหญ่พิเศษ และด้านการพัฒนาสื่อและการ
นำไปใช้ มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 มีความแตกต่างรายคู่จำนวน 3 คู่
คือ ครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนเล็ก มีความคิดเห็นแตกต่างกับครูผู้สอนที่สังกัด
โรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนใหญ่ และครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนเล็ก มีความคิดเห็น
แตกต่างกับครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนใหญ่พิเศษ ส่วนครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มี
ขนาดโรงเรียนกลาง มีความคิดเห็นแตกต่างกับครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนใหญ่ และ
ด้านการวัดผลและประเมินผล มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 มีความ
แตกตา่ งรายคจู่ ำนวน 2 คู่ คือ ครผู ู้สอนท่สี งั กัดโรงเรยี นทมี่ ีขนาดโรงเรียนเลก็ มีความคิดเห็นแตกต่าง
กับครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนใหญ่ และครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียน
กลาง มีความคิดเห็นแตกต่างกับครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนใหญ่ และด้านการนิเทศ
การศกึ ษา มคี วามแตกตา่ งกนั อย่างมนี ัยสำคญั ทางสถติ ิ ทรี่ ะดบั .05 มีความแตกตา่ งรายคู่จำนวน 1 คู่
คือ ครูผู้สอนที่สังกัดโรงเรียนที่มีขนาดโรงเรียนเล็ก มีความคิดเห็นแตกต่างกับครูผู้สอนที่สังกัด
โรงเรยี นท่มี ีขนาดโรงเรียนใหญ่ อาจจะเกิดจากค่าความแปรปรวนตำ่

3. ข้อเสนอแนะการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด
สำนักงานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาภเู กต็

โรงเรียนมกี ารอบรมครูผู้สอนอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาครูในการวิเคราะห์หลักสูตร
มีการนิเทศ ติดตาม การนำเสนอหลักสูตรไปใช้ให้สอดคล้องกับจุดมุ่งหมาย เพื่อวิเคราะห์ปัญหาและ
อุปสรรคของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ในการใช้สอนจริง ส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนท่ีคำนึงถึง
ความแตกต่างระหว่างบุคคลให้เหมาะสมกับผู้เรียนและสถานการณ์ปัจจุบันสอดแทรกคุณธรรม
จริยธรรมให้เกิดลักษณะนิสัยที่ดีมีทักษะกระบวนการเรียนรู้อย่างเต็มศั กยภาพด้วยกิจกรรมที่
หลากหลาย จัดทำสื่อและนวัตกรรมที่ทันสมัย โดยมีเนื้อหาให้สอดคล้องกับผู้เรียน ให้เกิดความรู้
ความเข้าใจมากยิ่งข้ึนส่งเสริมให้ครูผู้สอนมีการพัฒนาตนเองด้านเทคโนโลยี สามารถผลติ สื่อการสอน
ได้อย่างเหมาะสมนำไปพฒั นาให้มีความหลากหลายเหมาะสมกบั ผู้เรยี น การวดั และประเมินผลมุ่งตาม
ตัวชี้วัดของแต่ละกลุ่มสาระให้ครอบคลุมกับเนื้อหามีการประเมินผลตามสภาพจริง มีเครื่องมือใน
การวัดผลตามขึ้นตอน และกระบวนการประเมินผลอยา่ งต่อเนื่อง มีมาตรฐานเท่าเทียมกันในทุกกลุ่ม
สาระให้สอดคล้องกับนโยบายตามแนวทางที่โรงเรียนกำหนด จัดทำแผนปฏิบัติการภายในกำหนด
ปฏิทินการนิเทศมีผู้รบั ผิดชอบทีช่ ัดเจน เพ่อื นำผลที่ไดม้ าปรับปรุงและพฒั นาแก้ไขให้เกดิ ประสิทธิภาพ
ทงั้ ครผู สู้ อนและผ้เู รยี นส่งเสริมให้ผบู้ รหิ ารในแต่ละระดับ เขา้ นเิ ทศติดตาม

119

อภปิ รายผลการวจิ ยั

จากการวิเคราะห์ข้อมูลการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกดั สำนักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาภเู ก็ต อภปิ รายผลไดด้ งั น้ี

1. การศึกษาบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่
การศกึ ษาประถมศกึ ษาภเู กต็ พบวา่ ความคดิ เหน็ ของครผู ู้สอนตอ่ การบรหิ ารงานวิชาการของผู้บริหาร
สถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก
เรียงลำดับจากมากไปน้อยได้ คือ ด้านการวัดผลและประเมินผล ด้านการจัดกิจกรรมการเรียน
การสอน ด้านการพัฒนาสื่อและการนำไปใช้ ด้านการนิเทศการศึกษา ด้านหลักสูตรและการนำ
หลักสูตรไปใช้ ทั้งนี้เนื่องจากผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
ภูเก็ต ได้จัดให้มีการประชุมอบรมครูและผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้หลักสูตรการ
มีการส่งเสริมให้ครูจัดทำแผนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยจัดกระบวนการเรียนรู้
มีการส่งเสริมให้ครูใช้สื่อในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ มีการวางแผนการคุมสอบ การจัดห้องสอบ
การจดั หาวัสดอุ ุปกรณท์ ี่ใช้ในการสอบและมีการวางแผนจัดทำ โครงการนเิ ทศตามลักษณะงานภายใน
โรงเรียน ซึ่งสอดคล้องกับผลวิจัยของ จันทรานี สงวนนาม (2553, น. 148) ทฤษฎีและแนวปฏิบัติใน
การบริหารสถานศึกษา ไดใ้ ห้ความหมายของการบรหิ ารงานวชิ าการไว้ว่า การบริหารงานวิชาการเป็น
หวั ใจสำคัญของการบริหารสถานศึกษาและเปน็ ส่วนหนึ่งของการบริหารการศึกษาทีผ่ ้บู ริหารจะต้องให้
ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งส่วนการบริหารงานดา้ นอื่น ๆ นั้น แม้จะมีความสำคัญเช่นเดยี วกัน แต่ก็เป็น
เพียงสว่ นสง่ เสริมสนับสนุนใหง้ านวิชาการดำเนินไปได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพ ผบู้ รหิ ารสถานศึกษาซึ่งมี
บทบาทหน้าที่ในการบริหาร จะต้องสนับสนุนให้ครูจัด กิจกรรมการเรียนการสอนให้บรรลุจุดหมาย
ของหลักสตู ร สอดคล้องกบั ผลวิจัยของ สชุ าดา ศิริสุวรรณ (2553) ไดท้ ำการวจิ ยั เรื่อง การบริหารงาน
วิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานระดับมัธยมศึกษา อำเภอเบตง สำนักงานเขตพื้น
การศึกษามัธยมศึกษา เขต 15 ผลการศึกษา พบว่า ระดับการบริหารงานวิชาการของผู้บริหาร
สถานศึกษาขั้นพื้นฐานระดับมัธยมศึกษา อำเภอเบตง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา
เขต 15 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก สอดคล้องกับผลวิจัยของ ดอกฝ่าย ทัศเกตุ (2553, น. 102)
ได้ทำการวิจัยเรื่อง แนวทางการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนขยายโอกาส อำเภอแม่อาย
จงั หวดั เชยี งใหม่ ผลการวิจัยพบวา่ ในการบริหารงานวชิ าการของโรงเรียนขยายโอกาส อำเภอแม่อาย
จังหวัดเชียงใหม่ โดยภาพรวมมีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก สอดคล้องกับผลวิจัยของ ทิพวรรณ
ถนอมจิตพงษ์ (2554, น. 105) ได้ทำการวิจัยเรื่อง สภาพและการบริหารงานวิชาการในโรงเรียน

120

เอกชน กรณีศึกษาโรงเรียนกรงุ เทพพิทยา กรุงเทพมหานคร พบว่า สภาพการบริหารงานวิชาการโดย
ภาพรวม มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก สอดคล้องกับผลวิจัยของ วรรณภา สาลี (2558, น. 149)
ไดท้ ำการวจิ ยั เรื่อง การบรหิ ารงานวชิ าการของผบู้ รหิ ารสถานศึกษาตามทัศนะของครู สงั กดั สำนักงาน
เขตพนื้ ท่ีการศึกษามธั ยมศึกษาเขต 5 ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก สอดคลอ้ งกับผลวจิ ัยของ พนารัตน์
ยาพันธ์ (2560, น. 104) ได้ทำการวิจัยเรื่อง บทบาทการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 1 พบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก
สอดคล้องกับผลวิจัยของ กัญญ์ณพัชร์ เพิ่มพูน (2561, น. 123) ได้ทำการวิจัยเรื่อง สมรรถนะการ
บรหิ ารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรยี นจุฬาภรณราชวทิ ยาลัย ภาคใต้ พบว่า ในภาพรวม
อยู่ในระดับมาก และสอดคล้องกับผลวิจัยของ นุชรี เนียมรัตน์ (2562, น. 75) ได้ทำการวิจัยเรื่อง
ความคิดเห็นของครูผู้สอนต่อการบริหารงานวิชาการของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ โรงเรียนสังกัด
เทศบาลนครหาดใหญ่ ในภาพรวมอยใู่ นระดับมาก

1.1 การบริหารงานวิชาการ ด้านหลักสูตรและการนำหลักสูตรไปใช้ พบว่า
การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
ภูเก็ต ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ผลการวิจัยปรากฏเช่นนี้อาจเป็นเพราะหลักสูตรเป็นอีกหนึ่งด้าน
ของงานวิชาการที่เป็นหัวใจหลักของการจัดการเรียนการสอน และยังเป็นปัจจัยในการบริหารงาน
วิชาการของสถานศกึ ษา ซ่ึงในปจั จุบันการปรบั เปลยี่ นระบบการศกึ ษา ซึ่งจะสง่ ผลต่อการเปลีย่ นแปลง
หลักสูตรเพื่อให้ทันตอ่ สถานการณ์ปัจจุบันที่ส่งผลต่อการนำหลักสูตรไปใช้ ทั้งนี้ ผู้บริหารสถานศึกษา
จึงได้เปิดโอกาสให้คณะกรรมการสถานศึกษา ครู ผู้ปกครองและชุมชนมีส่วนร่วมในการกำหนด
แนวทางพฒั นาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ตลอดจนรบั ฟังความคิดเห็น และขอ้ เสนอแนะจาก
บุคคลทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา เพื่อเปิดโอกาสให้บุคลากรในสถานศึกษามีส่วนร่วมในการ
ตัดสินใจในปัญหาสำคัญของสถานศึกษา ซึ่งสอดคล้องกับผลวิจัยของ กิตติ สุรวิทย์และคณะ (2551,
น. 82 - 85) ได้ทำการวิจัยเรื่อง การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษา
สังกัดกรุงเทพมหานคร พบว่า การบริหารงานวิชาการ ด้านหลักสูตรและการนำหลักสูตรไปใช้ของ
ผู้บริหารสถานศึกษาอยู่ในระดับมาก สอดคล้องกับผลวิจัยของ สุพัตรา บุญปาน (2553, น. 101 -
105) ได้ทำการวิจัยเรื่อง การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนัก
บริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนเขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 3
พบว่าความคิดของผู้บริหารและครูผู้สอนที่ต่อการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารโรงเรี ยน
ประถมศึกษาด้านการนำหลักสูตรไปใช้อยู่ในระดับมาก สอดคล้องกับผลวิจัยของ วรรณเพ็ญ
พิสุทธิพงษ์ (2553, น. 69 - 72) ได้ทำการวิจัยเรื่อง การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารโรงเรียน
ประถมศึกษาในอำเภอเขาฉกรรจ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสระแก้วเขต 1 พบว่า

121

การบริหารงานวิชาการของผูบ้ ริหารโรงเรียนประถมศึกษา ด้านการพัฒนาหลักสูตรสถานศกึ ษาอย่ใู น
ระดับมาก สอดคล้องกับผลวิจัยของ วรรณภา สาลี (2558, น. 149) ได้ทำการวิจัยเรื่อง
การบรหิ ารงานวิชาการของผ้บู ริหารสถานศึกษาตามทัศนะของครู สงั กัดสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา
มัธยมศึกษาเขต 5 ด้านการพัฒนาหลกั สูตรสถานศึกษา ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก สอดคล้องกับผล
วิจัยของ กัญญ์ณพัชร์ เพิ่มพูน (2561, น. 125) ได้ทำการวิจัยเรื่อง สมรรถนะการบริหารงานวิชาการ
ของผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ภาคใต้ ด้านพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ใน
ภาพรวมอยูใ่ นระดบั มาก และสอดคล้องกบั ผลวจิ ัยของ นชุ รี เนยี มรตั น์ (2562, น. 76) ได้ทำการวิจัย
เรื่อง ความคิดเห็นของครูผู้สอนต่อการบริหารงานวิชาการของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ โรงเรียน
สังกัดเทศบาลนครหาดใหญ่ พบว่าการบริหารงานวิชาการของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้
ดา้ นหลักสูตรและการนำหลักสูตรไปใช้ มีการบริหารงานวชิ าการ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก

1.2 การบริหารงานวิชาการ ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน พบว่า
การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
ภูเก็ต ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ผลการวิจัยปรากฏเช่นนี้อาจเป็นเพราะ ผู้บริหารสถานศึกษา
ส่งเสริมให้ครูจัดทำแผนการเรียนรู้และการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
โดยจัดกระบวนการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับศักยภาพและความต้องการของผู้เรียนตามกลุ่มสาระการ
เรียนรู้ ที่ครูต้องยึดผู้เรียนเป็นสำคัญและจำเป็นต้องมีกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้
ทักษะตามจุดมุ่งหมานที่ตั้งเป้าหมายไว้ อีกทั้งยังส่งเสริมให้ ครูจัดเนื้อหา สาระและกิจกรรมให้
สอดคล้องกับความสนใจ ความถนัดของผู้เรียน มีการจัดบรรยากาศ สิ่งแวดล้อมให้เอื้อต่อการเรีย น
และอีกทั้งยังส่งเสริมให้ครูได้รับการพัฒนาวิธีการจัดการเรียนรู้อย่าง หลากหลายอย่างต่อเนื่อง เช่น
จัดอบรม ศึกษาดูงาน เป็นแนวทางให้ครูดำเนินการฝึกให้ นักเรียนคิดเป็นทำเป็น แก้ปัญหาเป็นและ
ให้มีกรรมสนับสนุนการเรียนสอนโดยเน้นเด็กเป็นสำคัญ ที่ใช้ในการจัดการเรียนการสอน
ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสอดคล้องกับผลวิจัยของ สังคม สมฤทธิ์ (2552, น. 72 - 82) ได้ทำการวิจัยเรื่อง
การบริหารงานวิชาการของโรงเรียนภูซางวิทยาคม อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา พบว่า ด้านการจัด
กระบวนการเรียนรู้ มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก สอดคล้องกับผลวิจัยของ สุพัตรา บุญปาน (2553,
น. 101 - 105) ได้ทำการวิจัยเรื่อง การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษา
สังกัดสำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนเขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานคร
เขต 3 พบว่า การบริหารงานวิชาการของผู้บริหาร โรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักบริหารงาน
คณะกรรมการสง่ เสริมการศึกษาเอกชน เขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษากรุงเทพมหานคร เขต 3 ตามความคิดเห็น
ของผู้บริหารและครูผู้สอน ด้านการเรียนการสอนอยู่ในระดับมาก สอดคล้องกับผลวิจัยของ ไกรวัลย์
รัตนะ (2557, น. 76 - 86) ได้ทำการวิจัยเรื่อง บทบาทการบริหารงานวิชาการของผู้บริหาร

122

สถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา พบว่า ผู้บริหารสถานศึกษาและ
ครูผู้สอนมีความคิดเห็นต่อบทบาทการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา ด้านการจัด
กิจกรรมการเรียนการสอนอยู่ในระดับมาก และสอดคล้องกับผลวิจัยของ นุชรี เนียมรัตน์ (2562,
น. 77) ไดท้ ำการวจิ ยั เร่ือง ความคดิ เห็นของครผู ู้สอนต่อการบรหิ ารงานวิชาการของหัวหน้ากลุ่มสาระ
การเรียนรู้โรงเรียนสังกัดเทศบาลนครหาดใหญ่ พบว่า การบริหารงานวิชาการของหัวหน้ากลุ่มสาระ
การเรียนรู้ ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน มีการบริหารงานวิชาการ ในภาพรวมอยู่
ในระดับมาก

1.3 การบริหารงานวิชาการ ด้านการพัฒนาสื่อและการนำไปใช้ พบว่า
การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
ภูเก็ต ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ผลการวิจัยปรากฏเช่นนี้อาจเป็นเพราะผู้บริหารสถานศึกษา
ได้ส่งเสริม สนับสนนุ ให้ครผู ู้สอนมีการใชส้ ื่อในการประกอบการสอน เพอื่ เป็นการพัฒนาทางการเรียน
ของผู้เรียนเปน็ การส่งเสริมให้ผู้เรียนเกดิ การพัฒนาอยา่ งต่อเนื่องและเตม็ ศกั ยภาพ ซง่ึ สอดคลอ้ งกับผล
วจิ ัยของ กติ ติ สรุ วทิ ย์ และคณะ (2551, น. 82 - 85) ไดท้ ำการวจิ ัยเร่ือง การบริหารงานวิชาการของ
ผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร พบว่า การบริหารงานวิชาการด้านการพัฒนา
สื่อและการนำไปใช้ของผู้บริหารสถานศึกษาอยูใ่ นระดับมาก สอดคล้องกับผลวจิ ยั ของ สังคม สมฤทธิ์
(2552, น. 72 - 82) ได้ทำการวิจัยเรื่อง การบริหารงานวิชาการของโรงเรียนภูซางวิทยาคม อำเภอ
ภูซาง จังหวัดพะเยา พบว่า ด้านการพัฒนาแหล่งเรียนรูม้ ีการปฏิบัตอิ ยู่ในระดับมาก สอดคล้องกับผล
วิจัยของ วรรณเพ็ญ พิสุทธิพงษ์ (2553, น. 69 - 72) ได้ทำการวิจัยเรื่อง การบริหารงานวิชาการของ
ผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษาในอำเภอเขาฉกรรจ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสระแก้วเขต 1
พบว่า การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษาด้าน การพัฒนาสื่อ นวัตกรรมและ
เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาอยู่ในระดับมาก สอดคล้องกับผลวิจัยของ วรรณภา สาลี (2558, น. 150)
ได้ทำการวิจยั เร่อื ง การบริหารงานวิชาการของผ้บู รหิ ารสถานศึกษาตามทัศนะของครู สังกัดสำนักงาน
เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 5 ด้านการพัฒนาสื่อ นวัตกรรม และเทคโนโลยีทางการศึกษา
ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก และสอดคล้องกับผลวิจัยของ นุชรี เนียมรัตน์ (2562, น. 78) ได้ทำการ
วิจัยเรื่อง ความคิดเห็นของครูผู้สอนต่อการบริหารงานวิชาการของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้
โรงเรียนสังกัดเทศบาลนครหาดใหญ่ พบว่า การบริหารงานวิชาการของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้
ด้านการพัฒนำสอื่ และการนาไปใช้ มกี ารบรหิ ารงานวชิ าการในภาพรวมอยใู่ นระดับมาก

1.4 การบริหารงานวิชาการ ด้านการวัดผลและประเมินผล พบว่า
การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
ภูเก็ต ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ผลการวิจัยปรากฏเช่นนี้อาจเป็นเพราะผู้บริหารสถานศึกษาให้

123

ความสำคัญด้านการวัดผล ประเมินผลและการเทียบโอนผลการเรียนรู้ เป็นหน้าที่ของครูผู้สอนก่อน
การสอน ระหวา่ งสอนและ หลังสอนก็ต้องมกี ารวดั ผลและประเมนิ ผลการเรยี นของนกั เรยี น ให้เป็นไป
ตามระเบียบการวัดผล ประเมินผลตามหลักสูตรประกอบกับการวัดผลประเมินผลการเรียนรู้เป็น
กระบวนการท่ีใหค้ รูผู้สอน ใช้พัฒนาคุณภาพผูเ้ รียน และความสำเร็จทางการเรียนของผู้เรียนเป็นการ
ส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการ พัฒนาอย่างต่อเนื่องและเต็มศักยภาพ สถานศึกษาต้องจัดการเรียนให้เป็น
ตามเกณฑ์ ซง่ึ สอดคลอ้ งกบั ผลวจิ ยั ของ กติ ติ สุรวทิ ยแ์ ละคณะ (2551, น. 82 - 85) ไดท้ ำการวจิ ัยเร่ือง
การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร พบว่า
การบริหารงานวิชาการด้านการวัดผลและประเมินผลของผู้บริหารสถานศึกษา ในภาพรวมและราย
ดา้ นอยู่ในระดับมาก สอดคลอ้ งกับผลวจิ ัยของ สงั คม สมฤทธิ์ (2552, น. 72 - 82) ไดท้ ำการวิจัยเรื่อง
การบริหารงานวิชาการของโรงเรยี นภูซางวิทยาคม อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา เมื่อพิจารณาเป็นราย
ด้าน พบว่า ด้านการวัดผลและประเมินผลและเทียบโอนผลการเรียน มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก
สอดคลอ้ งกับผลวิจัยของ สพุ ัตรา บุญปาน (2553, น. 101 - 105) ไดท้ ำการวิจยั เร่อื ง การบริหารงาน
วิชาการของผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษา
เอกชนเขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 3 พบว่าความคิดของผู้บริหารและครูผู้สอนท่ีต่อการ
บริหารงานวิชาการของผู้บรหิ ารโรงเรียนประถมศึกษาด้านการวัดผลและประเมินผล อยู่ในระดบั มาก
สอดคล้องกบั ผลวจิ ัยของ วรรณภา สาลี (2558, น. 150) ได้ทำการวิจยั เร่ือง การบรหิ ารงานวิชาการ
ของผู้บริหารสถานศึกษาตามทัศนะของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 5
ดา้ นดา้ นการวัดผล ประเมินผล และเทยี บโอนผลการเรียน ในภาพรวมอยใู่ นระดบั มาก และสอดคล้อง
กับผลวิจัยของ นุชรี เนียมรัตน์ (2562, น. 78) ได้ทำการวิจัยเรื่อง ความคิดเห็นของครูผู้สอน
ต่อการบริหารงานวิชาการของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ โรงเรียนสังกัดเทศบาลนครหาดใหญ่
พบว่า การบริหารงานวิชาการของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ด้านการวัดผลและประเมินผล
มีการบริหารงานวิชาการ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก

1.5 การบรหิ ารงานวชิ าการ ดา้ นการนเิ ทศการศึกษา พบว่า การบริหารงาน
วิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต ในภาพรวม
อย่ใู นระดับมาก ผลการวจิ ัยปรากฏเชน่ นอี้ าจเป็นเพราะ ผบู้ ริหารสถานศกึ ษาได้เล็งเหน็ ถึงความสำคัญ
ของการนเิ ทศการศึกษา ซึ่งเป็นการแสวงหาความสามารถพิเศษของแตล่ ะบคุ คล โดยมกี ารสำรวจและ
วิเคราะห์ สภาพปัญหา ความต้องการในการวางแผนการนิเทศงานวิชาการ การจัดกิจกรรมการเรียน
การสอน การประเมินผลการดำเนินการนิเทศภายใน การวางแผนจัดทำโครงการนิเทศตามลักษณะ
งานภายในโรงเรียน การจัดกิจกรรมการนิเทศงานวิชาการและการเรียนการสอนในโรงเรียน แบบ
หลากหลายและเหมาะสมกับโรงเรียน ให้ดำเนินไปตามเป้าประสงค์ของสถานศึกษา ซึ่งสอดคล้องกับ

124

ผลวิจัยของ ถาวร ดอนจันทร์โคตร (2550, น. 81 - 82) ได้ทำการวิจัยเรือ่ ง การศึกษาการบริหารงาน
วิชาการของโรงเรียนประถมศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหนองคาย พบว่า
การบริหารงานวิชาการการนิเทศการศึกษาของผู้บริหาร สถานศึกษาในภาพรวมและรายด้าน อยู่ใน
ระดับมาก สอดคล้องกับผลวิจัยของ กิตติ สุรวิทย์และคณะ (2551, น. 82 - 85) ได้ทำการวิจัยเรื่อง
การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร พบว่า
การบริหารงานวิชาการของผู้บริหาร โรงเรียนประถมศึกษา ด้านนิเทศการศึกษาอยู่ในระดับมาก
สอดคล้องกับผลวิจัยของ วรรณเพ็ญ พิสุทธิพงษ์ (2553, น. 69 - 72) ได้ทำการวิจัยเรื่อง
การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษาในอำเภอเขาฉกรรจ์ สังกัดสำนักงานเขต
พื้นที่การศึกษาสระแก้วเขต 1 พบว่า การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษา
ดา้ นการนเิ ทศ การศกึ ษาอยู่ในระดับมาก สอดคล้องกับผลวิจยั ของ สพุ ัตรา บญุ ปาน (2553, น. 101 -
105) ได้ทำการวิจัยเรื่อง การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนัก
บริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนเขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 3
พบว่า ความคิดของผู้บริหารและครูผู้สอนที่ต่อการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารโรงเรียน
ประถมศึกษา ด้านการนิเทศการศึกษาอยู่ในระดับมาก สอดคล้องกับผลวิจัยของ พัฒน์ชินี ขันทศกร
(2560) ได้ทำการวิจัยเร่ือง การบริหารงานวชิ าการของผู้บริหารสถานศึกษาตามความคิดเหน็ ของครู
สังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดนราธิวาส
ด้านการนิเทศการศึกษา พบว่า ครูที่มีความคิดเห็นต่อการบริหารงานวิชาการในด้านการนิเทศ
การศึกษาโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก สอดคล้องกับผลวิจัยของ วรรณภา สาลี (2558, น. 151)
ไดท้ ำการวจิ ยั เรือ่ ง การบรหิ ารงานวิชาการของผบู้ ริหารสถานศึกษาตามทัศนะของครู สังกดั สานักงาน
เขตพืน้ ทก่ี ารศึกษามธั ยมศกึ ษาเขต 5 ดา้ นการนเิ ทศการศึกษา ในภาพรวมอยใู่ นระดบั มาก สอดคล้อง
กับผลวิจัยของ กัญญ์ณพัชร์ เพิ่มพูน (2561, น. 125) ได้ทำการวิจัยเรื่อง สมรรถนะการบริหารงาน
วิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ภาคใต้ ด้านนิเทศการจัดการเรียนรู้
ในสถานศึกษาในภาพรวมอยู่ในระดับมาก และสอดคล้องกับผลวิจัยของ นุชรี เนียมรัตน์ (2562,
น. 79) ได้ทำการวิจัยเร่ือง ความคดิ เห็นของครูผู้สอนต่อการบริหารงานวชิ าการของหัวหน้ากลุ่มสาระ
การเรียนรู้ โรงเรียนสังกัดเทศบาลนครหาดใหญ่ พบว่า การบริหารงานวิชาการของหัวหน้ากลุ่มสาระ
การเรียนรู้ ด้านการนเิ ทศการศกึ ษามีการบรหิ ารงานวิชาการ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก

125

2. ผลการเปรียบเทียบการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตามเพศ วุฒิการศึกษา
ประสบการณ์ทำงานและขนาดของโรงเรียน อภิปรายได้ดังน้ี

2.1 ผลการเปรียบเทียบการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตามเพศ ในภาพรวมไม่แตกต่างกัน
ไม่เป็นไปตามสมมตฐิ านที่ต้ังไว้ ครูผู้สอนสงั กัดสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาภูเก็ตท่ีมีเพศ
แตกต่างกัน โดยที่ครูที่เป็นเพศหญิงมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าครูที่เป็นเพศชาย การที่ผลเป็นเช่นนี้
อาจเนื่องมาจาก ครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต ทั้งเพศชายและ
เพศหญิงมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินงาน การบริหารงานวิชาการ ในทิศทางเดียว กัน
ได้รับการฝึกอบรมพัฒนาทางด้านงานวิชาการโดยเชื่อมโยงไปสู่การดำเนินงานในด้านต่าง ๆ เช่น
ดา้ นหลกั สูตรและการนำหลักสูตรไปใช้ ด้านการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน ด้านการพัฒนาส่ือและ
การนำไปใช้ ด้านการวดั ผลและประเมนิ ผล ดา้ นการนเิ ทศการศึกษา เป็นต้น ทำใหม้ คี วามเห็นต่อการ
ดำเนินการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา ไม่แตกต่างกัน ซึ่งสอดคล้องกับผลวิจัยของ
นิรมล กติ ตเิ รอื งชาญ (2555) ไดท้ ำการวจิ ยั เรื่อง ความคิดเห็นของมหาบัณฑิตท่ีมีความคิดเห็นต่อการ
บริหารงานวชิ าการบัณฑติ วิทยาลยั มหาวิทยาลัยรามคำแหง พบวา่ มหาบณั ฑติ มคี วามคิดเห็นต่อการ
บริหารงานวิชาการของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยภาพรวมและรายด้านอยู่ใน
ระดับมาก และมหาบัณฑิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง เพศชายและเพศหญิง มีความคิดเห็นต่อการ
บริหารงานวิชาการของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยภาพรวมไม่แตกต่างกัน แต่
พบว่า มีความเห็นต่อกิจกรรมเสริมหลักสูตรแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05
สอดคล้องกับผลวิจัยของ สุภารัตน์ อึ้งถาวรดี (2558) ได้ทำการวิจัยเรื่อง ปัญหาการบริหารงาน
วิชาการตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
มัธยมศึกษา เขต 5 พบว่า การบริหารงานวิชาการตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและครู
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 5 จำแนกตามเพศ ในภาพรวมไม่แตกต่างกัน
สอดคล้องกับผลวิจัยของ วรรณภา สาลี (2558) ได้ทำการวิจัยเรื่อง การบริหารงานวิชาการของ
ผู้บริหารสถานศึกษาตามทัศนะของครู สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 5 พบว่า
ครูซึ่งมีเพศแตกต่างกัน มีทัศนะเกี่ยวกับการบรหิ ารงานวิชาการในโรงเรียน ในภาพรวมไม่แตกต่างกนั
และสอดคล้องกับผลวิจัยของ อัมภาพร ราชนิแพน (2560) ได้ทำการวิจัยเรื่อง การบริหารงาน
วิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาตามความคิดเห็นของครูในส ำนักงานเขตห้วยขวาง
สังกัดกรุงเทพมหานคร พบว่า ครูที่มีเพศต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการบริหารงานวิชาการของ
ผู้บริหารสถานศึกษา โดยภาพรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน ยกเว้นด้านการพัฒนาหลักสูตร

126

สถานศึกษาแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 โดยครูผู้ชายมีความคิดเห็นต่อ
การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สำนักงานเขตห้วยขวาง สังกัดกรุงเทพมหานครสูง
กว่าครเู พศหญงิ

2.2 ผลการเปรียบเทียบการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตามวุฒิการศึกษาแตกต่างกัน
มีความคิดเห็นต่อการบรหิ ารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สงั กัดสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา
ประถมศึกษาภูเก็ต โดยภาพรวมแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .001 ซึ่งเป็นไปตาม
สมมติฐาน ผลการวิจัยปรากฏเช่นนี้อาจเป็นเพราะครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษาภูเก็ต ที่มีวุฒิการศึกษาปริญญาตรีและสูงกว่าปริญญาตรี แสดงให้เห็นถึงคุณวุฒิที่
แตกตา่ งกนั ซึ่งสอ่ื ถงึ ความสามารถ ในการเรยี นรู้เชิงวิชาการในระดับสูงกวา่ มีแนวโน้มของการมีภูมิรู้
และองค์ความรู้มากกวา่ เมื่อวัดกันด้วยวุฒิการศึกษา ทำให้พ้นื ฐานและกรอบความคิดของแต่ละบุคคล
แตกตา่ งกัน โดยครทู ม่ี วี ุฒกิ ารศกึ ษาสูงกวา่ ปรญิ ญาตรี มีแนวโนม้ จะมีเกณฑ์มาตรฐานต่าง ๆ สงู กวา่ ครู
ที่มีวุฒิการศึกษาปริญญาตรี ทำให้ครูที่มีวุฒิการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี ประเมินการบริหารงาน
วิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต ต่ำกว่าเม่ือ
เทียบกับครูที่มีวุฒิการศึกษาปริญญาตรี ซึ่งสอดคล้องกับผลวิจัยของ ไกลวัลย์ รัตนะ (2557, น. 76 -
86) ได้ทำการวิจัยเรื่อง บทบาทการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขต
พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา พบว่า ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอนมีความคิดเห็นต่อ
บทบาทการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาแตกต่างกันตามวุฒิการศึกษา อย่างมี
นัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01 สอดคล้องกับผลวจิ ัยของ สุลัดดาวัลย์ อัฐนาค (2557) ได้ทำการวิจัย
เร่ือง สภาพและปัญหาการบริหารงานวชิ าการในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงาน
เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 3 พบว่า ครูผู้สอนที่มีวุฒิการศึกษาแตกต่างกัน
มีความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพ การบริหารวิชาการในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศกึ ษา โดยภาพรวม
แตกต่างกัน อยา่ งมนี ยั สำคญั ทางสถิติ ท่รี ะดับ .05 สอดคล้องกับผลวิจัยของ สถิตย์ เทศาราช (2562)
ได้ทำการวิจัยเรื่อง การศึกษาสภาพและแนวทางการพัฒนางานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
ในศตวรรษที่ 21 สังกัดสำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดอุบลราชธานี จำแนกตามวุฒิการศึกษา
โดยภาพรวม พบว่า วุฒิการศึกษาปริญญาตรีและสูงกว่าปริญญาตรีมีความแตกต่างกัน
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 และสอดคล้องกับผลวิจัยของ นุชรี เนียมรัตน์ (2562, น. 80)
ได้ทำการวิจัยเรื่อง ความคิดเห็นของครูผู้สอนต่อการบริหารงานวิชาการของหัวหน้ากลุ่มสาระการ
เรียนรู้ โรงเรียนสังกัดเทศบาลนครหาดใหญ่ โดยภาพรวมครูผู้สอนของโรงเรียนสังกัดเทศบาลนคร
หาดใหญ่ ทม่ี วี ฒุ ิการศึกษาแตกต่างกัน มคี วามคดิ เหน็ ตอ่ การบริหารงานวชิ าการของหัวหนา้ กลุ่มสาระ

127

การเรียนรู้ โรงเรียนสังกัดเทศบาล นครหาดใหญ่ โดยภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ที่ระดับ .01

2.3 ผลการเปรียบเทียบการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกดั สำนกั งานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จำแนกตามประสบการณ์ในการทำงานแตกต่าง
กัน มีความคิดเห็นต่อการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่
การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต โดยภาพรวมแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .001
ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐาน ผลการวิจัยปรากฏเช่นนี้อาจเป็นเพราะประสบการณ์ของครูผู้สอน
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต เป็นภูมิหลัง ส่วนบุคคลที่บ่งชี้ถึงการมี
วิจารณญาณในการตัดสินใจต่อส่ิงต่าง ๆ ด้วยความรอบคอบ รอบรแู้ ละเน้นตามประสบการณ์ชีวิตที่มี
มา กล่าวคือ ผู้ที่มีประสบการณม์ ากกว่า เช่น มีประสบการณ์ในการสอน 10 ปีขึ้นไป ย่อมมีแนวคิดที่
ยืดหย่นุ ผ่อนปรนและสขุ มุ รอบคอบมากกวา่ ผูท้ ่ีมปี ระสบการณ์การสอนต่ำกว่า 5 ปี ซง่ึ อาจจะมองโลก
โดยยึดตามแนวคิดของตัวเองเป็นหลัก จึงทำให้มีความคิดเห็นต่อของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด
สำนกั งานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภเู ก็ต โดยภาพรวมแตกต่างกนั ซง่ึ สอดคลอ้ งกับผลวิจัยของ
สกุลรัตน์ กมุทมาศ (2551, น. 90 - 92) ได้ทำการวิจัยเรื่อง การบริหารงานตามแนวคิดเศรษฐกิจ
พอเพียง ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุบลราชธานี เขต 3 พบว่า
ประสบการณ์การทำงานต่างกันมีการบริหารงานตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง โดยภาพรวมแตกต่าง
กัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติท่ี ระดับ .05 สอดคล้องกับผลวิจัยของ สุดาศรี สิงห์ทอง (2556) ได้ทำ
การวิจัยเรื่อง การบริหารงานวิชาการของโรงเรยี นเอกชน เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร พบว่า ครูที่มี
ประสบการณ์ในการสอนต่างกัน มีการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนเอกชน เขตดินแดง
กรุงเทพมหานคร แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 สอดคล้องกับผลวิจัยของ
พีระพัฒน์ มะมิง (2559) ได้ทำการวิจัยเรื่อง การบริหารงานวิชาการแบบการมีส่วนร่วมของผู้บริหาร
โรงเรียนตามการรับรู้ของครูวชิ าการโรงเรียนในสำนักงานเขตมนี บรุ ี สงั กดั กรุงเทพมหานคร พบวา่ ครู
วิชาการที่มีประสบการณ์การทำงานต่างกัน มีการรับรู้เกี่ยวกับการบริหารงานวิชาการแบบการมสี ่วน
รว่ มของผู้บรหิ ารโรงเรียนในสำนักงานเขตมนี บุรี สังกัดกรุงเทพมหานคร โดยภาพรวมมคี วามแตกต่าง
กัน และสอดคลอ้ งกบั ผลวจิ ยั ของ นชุ รี เนยี มรตั น์ (2562, น. 81) ไดท้ ำการวิจยั เรอ่ื ง ความคดิ เหน็ ของ
ครูผู้สอนต่อการบริหารงานวิชาการของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ โรงเรียนสังกัดเทศบาลนคร
หาดใหญ่ โดยภาพรวม ครูผู้สอนของโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครหาดใหญ่ที่มีประสบการณ์ในการทา
งานแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการบริหารงานวิชาการของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ โรงเรียน
สังกดั เทศบาลนครหาดใหญ่ โดยภาพรวมแตกตา่ งกัน อยา่ งมนี ยั สำคญั ทางสถติ ิ ทรี่ ะดบั .01

128

2.4 ผลการเปรียบเทียบการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สงั กัดสำนักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาภูเกต็ จำแนกตามขนาดโรงเรยี น ในภาพรวมแตกต่าง
กัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .001 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐาน เนื่องจากงานวิชาการเป็นงาน
หลักของการบริหารสถานศึกษา ไม่ว่าสถานศึกษาจะมีขนาดใด มีมาตรฐานและคุณภาพของ
สถานศึกษาของตนเองเพื่อนำไปสู่การประสบความสำเร็จ ก็เพราะผู้บริหารสถานศึกษามีจุดมุ่งหมาย
ของการบริหารด้านวิชาการอย่างชัดเจน ซึ่งสอดคล้องกับผลวิจัยของ ปรีชา กระจ่างโพธิ์ (2551,
น. 106) ได้ทำการวิจัยเรื่อง การบริหารงานวิชาการของผูบ้ ริหารโรงเรียนในสงั กัดสำนักงานเขตพื้นท่ี
การศึกษาปราจีนบุรี พบว่า การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารโรงเรียนจำแนกตามขนาดโรงเรียน
แตกต่างกัน สอดคล้องกับผลวิจัยของ วราภรณ์ อริยธนพล (2552, น. 175) ได้ทำการวิจัยเรื่อง
การศึกษาสภาพ ปัญหาและแนวทางการแก้ไขปัญหาการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนเอกชนใน
จังหวัดนครราชสีมา พบว่า ผลการเปรียบเทียบด้านการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนเอกชนใน
จังหวัดนครราชสีมา ระว่างโรงเรียนขนาดเล็ก ขนาดกลางและขนาดใหญ่ โดยภาพรวมแตกต่างกัน
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 สอดคล้องกับผลวิจัยของ ธวัชชยั ธรรมคงทอง (2555, น. 81)
ที่ได้วิจัยเกี่ยวกับการศึกษาการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนประถมศึกษาในอำเภอแก่งหางแมว
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี เขต 1 พบว่า โรงเรียนที่มีขนาดต่างกัน
มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารงานวิชาการ แตกต่างกัน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05
สอดคล้องกบั ผลวิจัยของ สกุ ันยา คลสถิต (2556, น. 85) ทไ่ี ด้ทำการวจิ ัยเรื่อง การบริหารงานวิชาการ
ของครูในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร พบว่า โรงเรียนที่มีขนาดแตกต่างกัน
มีความคิดเห็นต่อการบริหารงานวิชาการ แตกต่างกัน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05
โดยโรงเรียนขนาดใหญ่ครูมีการบริหารงานวิชาการมากกว่าโรงเรียนขนาดกลาง และโรงเรียนขนาด
เล็ก เมอื่ พจิ ารณาเปน็ รายคู่ พบวา่ โรงเรยี นขนาดเล็กมีสภาพการบรหิ ารงาน วชิ าการมากกว่าโรงเรียน
ขนาดกลาง โรงเรยี นขนาดเลก็ มีสภาพการบริหารงานวชิ าการมากกวา่ โรงเรยี นขนาดใหญ่และโรงเรียน
ขนาดกลางมีสภาพการบริหารงานวิชาการมากกว่าโรงเรียนขนาดใหญ่ และสอดคล้องกับผลวิจัยของ
พงค์ศักด์ิ จติ สะอาด (2560) ทไ่ี ด้ทำการวจิ ัยเร่ือง ปัญหาการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนในสังกัด
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 - 2 จำแนกตามขนาดโรงเรียน
โดยภาพรวม พบวา่ แตกตา่ งกนั อยา่ งมนี ยั สำคัญทางสถติ ิ ทรี่ ะดับ .01

129

ข้อเสนอแนะ

จากผลการวิจัยเกี่ยวกับการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด
สำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศึกษาประถมศึกษาภเู ก็ต

ข้อเสนอแนะโดยการนำผลการวิจยั ไปใช้ประโยชน์
1. สถานศึกษาควรมุ่งเน้นในการส่งเสริมและสนับสนุนงานวิชาการ โดยเฉพาะ
การจดั ความรู้ เสรมิ สรา้ งความคิดและเทคนคิ ทักษะทางวิชาการเพ่อื พัฒนาทักษะวชิ าชีพและคุณภาพ
ชีวิต ของประชาชนในชุมชน และท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้สถานศึกษาเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับ
ชุมชน
2. ผู้บริหารสถานศึกษา และครูผู้สอน ควรศึกษาหาความรู้และทำความเข้าใจ
เกยี่ วกบั การพฒั นาส่ือ นวตั กรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษา โดยเฉพาะการให้ความสำคัญเกี่ยวกับ
เรื่องของภูมิปัญญาท้องถิ่นและเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา เพื่อให้สามารถบริหารจัดการด้านการเรียน
การสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสมกบั ความต้องการเรยี นรู้ของผูเ้ รียน

ขอ้ เสนอแนะในการวิจยั ครง้ั ตอ่ ไป
1. ควรศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้แบบสัมภาษณ์เชิงลึกเป็นเครื่องมือ ในการเก็บ
รวบรวมข้อมูล เพื่อสอบถามความคิดเห็นของครูผู้สอนต่อการบริหารงานวิชาการของผู้บริหาร
สถานศึกษา ในลักษณะของการแสดงความคิดเห็นแบบปลายเปิด มีอิสระในการตอบ โดยไม่มีกรอบ
ของคำตอบเป็นตวั ปดิ กัน้ เพือ่ ให้ได้ความคิดเหน็ ท่ชี ัดเจนและแท้จรงิ
2. จากผลการวิจัยพบว่าการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ตอยู่ในระดับมาก จึงควรศึกษาปัจจัยที่ส่งผล
การบรหิ ารงานวิชาการของโรงเรียนทุกสังกัดของจงั หวดั ภูเกต็ นำไปสู่การพัฒนาอย่างตอ่ เนอื่ ง

130

บรรณานุกรม

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ึ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551. กรุงเทพฯ
: ชุมชนสหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย.

กระทรวงศึกษาธิการ. (2552). คู่มือครูการปฏิบัติงานข้าราชการครู. กรุงเทพฯ : ชุมชนสหกรณ์
การเกษตรแห่งประเทศไทย.

กระทรวงศึกษาธิการ. (2553). แนวปฏิบัติการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. (พิมพ์ครั้งที่ 2) กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์
การเกษตรแห่งประเทศไทย.

กระทรวงศกึ ษาธิการ. (2553). หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551. (พิมพ์คร้ัง
ที่ 3) กรงุ เทพฯ : โรงพิมพช์ มุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย.

กฤษฎา กัลปดี. (2559). การพัฒนาระบบการบริหารผลการปฏิบัติงานทางวิชาการของโรงเรียน
ประถมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร
ดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารและพัฒนาการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม,
มหาสารคาม.

กญั ญณ์ พัชร์ เพม่ิ พนู . (2561). สมรรถนะการบริหารงานวชิ าการของผ้บู ริหารสถานศึกษาโรงเรียนจุฬา
ภรณราชวิทยาลัย ภาคใต้. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหาร
การศกึ ษา มหาวิทยาลยั หาดใหญ่, สงขลา.

กมั พล ขนั ทะวงษ์. (2555). แนวทางการบริหารงานวชิ าการในสถานศึกษา สหวทิ ยาเขตปราสาทพญา
ไผ่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต25. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตร
มหาบณั ฑิต สาขาวิชาการบรหิ ารการศึกษา มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ , ขอนแกน่ .

กิ่งแก้ว เฟื่องศิลา. (2558). การบริหารงานวิชาการโรงเรียนวัดโพรงมะเดื่อ(ศรีวิทยากร). การค้นคว้า
อิสระศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร,
นครปฐม.

กิตติ สุรวิทย์, คมกฤช พุ่มทอง และเรณู วงศ์แก้ว. (2551). การบริหารงานวิชาการของผู้บริหาร
โรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร กลุ่มตากสินและกลุ่มมหาสวัสดิ์. การศึกษา
ค้นคว้าด้วยตนเองการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัย
นเรศวร, พษิ ณโุ ลก.

130

131

บรรณานกุ รม (ต่อ)

กติ ตภิ พ ถาวร. (2559). การพฒั นารปู แบบการบรหิ ารงานวิชาการแบบทมี งานในการพัฒนามาตรฐาน
การศึกษาของโรงเรียนชุมชนเทศบาล 3 (พินิจพิทยานุสรณ์) สังกัดเทศบาลนครพนม.
วิทยานพิ นธก์ ารศกึ ษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบรหิ ารการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม,
มหาสารคาม.

เกจ็ กนก เออ้ื วงศ.์ (2555). การนิเทศในสถานศึกษา. มหาวิทยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธริ าช, นนทบรุ ี.
เกษร ทาสีแก้ว. (2554). ปัญหาและแนวทางการพัฒนาการบริหารงานวิชาการของโรงเรยี นกลุ่มสอย

คาวบูรพา สังเกดสำนักงานเขตพื้นที่จันทบุรี เขต 2. งานนิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต
สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยบูรพา, ชลบรุ ี.
ไกรวลั ย์ รตั นะ. (2557). บทบาทการบริหารงานวิชาการของผบู้ ริหารสถานศึกษา สังกดั สำนักงานเขต
พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวชิ าการบริหาการศึกษา มหาวทิ ยาลยั หาดใหญ,่ สงขลา.
ลิขิต เศรษฐบุตร. (2551). บทบาทผู้บริหารสถานศึกษาต่อการบริหารงานวิชาการในสถานศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศกึ ษาศรสี ะเกษ เขต 1. วทิ ยานพิ นธ์ครศุ าสตรมหา
บัณฑติ สาขาวิชาการบริหาการศึกษา มหาวทิ ยาลัยราชภัฎสรุ นิ ทร์, สรุ นิ ทร์

เขษมสร โข่งศรี. (2557). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการบริหารงานวิชาการของสถานศึกษาขนาดใหญ่ สังกัด
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 41. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏกำแพงเพชร, กำแพงเพชร.

จตุภัทร ประทุม. (2559). ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นท่ี
การศึกษามัธยมศึกษา เขต 27. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหาร
การศกึ ษา มหาวทิ ยาลัยบูรพา, ชลบุร.ี

จรุณี เก้าเอี้ยน. (2556). เทคนิคการบริหารงานวิชาการในสถานศึกษา : กลยุทธ์และแนวทางการ
ปฏบิ ัติสำหรบั ผู้บรหิ ารมอื อาชีพ. คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั ยะลา, ยะลา.

จรุณี เก้าเอี้ยน. (2557). เทคนิคการบริหารงานวิชาการในสถานศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 2). สงขลา :
ชานเมอื งการพมิ พ์.

จันทรานี สงวนนาม. (2553). ทฤษฎีและแนวปฏิบัติในการบริหารการศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 3).
กรงุ เทพฯ : บุ๊คพอยท์.

132

บรรณานกุ รม (ตอ่ )

จิตติพร จิตตรี. (2557). ประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาสังกัด
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 3. วิทยานิพนธ์
ครุศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช,
นครศรีธรรมราช.

จิติมา วรรณศรี. (2557). การบริหารงานวิชาการในสถานศึกษา. พิษณุโลก : รัตนสุวรรณการพิมพ์ 3
(พิมพค์ รงั้ ท่ี 1).

ฉัตรสุดา อมรชาติ. (2558). การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาอำเภอสุคิริน สำนักงาน
เขตพ้ืนทก่ี ารศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2.วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครนิ ทร์
สาขามนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ ปีท่ี 2 ฉบบั ที่ 2. (กรกฎาคม - ธันวาคม).

ชฎาภรณ์ สนิมคล้ำ. (2553). ปญั หาการบริหารงานวิชาการของโรงเรยี นประถมศกึ ษา สงั กัดสำนกั งาน
เขตพื้นที่การศึกษาระยอง เขต 2. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหาร
การศึกษา มหาวิทยาลัยบูรพา, ชลบุร.ี

ซัลวานี ดังนามอ. (2556). การบริหารงานวิชาการเป็นผู้นำด้านการชี้แนะการสอน การบริหารงาน
บคุ คลเปน็ ผู้บริหารจดั การและการบริหารงานสถานศึกษากบั ชุมชนเปน็ ผสู้ ร้างมนุษย์สัมพันธ์.
การค้นคว้าอิสระครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏ
ยะลา, ยะลา.

ณัฐวุฒิ ชัยนอก. (2557). แนวทางการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขต
พื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 40. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบรหิ าร
การศึกษา มหาวิทยาลยั ราชภัฏนครสวรรค์, นครสวรรค์.

ดนัย วิริโย. (2556). การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารโรงเรียน สังกัดเทศบาลนครหาดใหญ่.
สารนิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหาการศึกษา มหาวิทยาลัยหาดใหญ่,
สงขลา.

ดวง สุวรรณเกิดผล, 2550). สภาพและปัญหาการบริหารงานวิชาการตามแนวปฏิรูปการศึกษา.
ของสถานศกึ ษาขัน้ พื้นฐานสงั กดั สานักงานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษาฉะเชงิ เทรา เขต 2. วทิ ยานิพนธ์
ครศุ าสตรมหาบัณฑติ สาขาวิชาการการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภฏั ราชนครินทร์,
ฉะเชงิ เทรา

133

บรรณานุกรม (ต่อ)

ดอกฝ้าย ทัศเกตุ. (2553). แนวทางการบริหารงานวิชาการโรงเรียนขยายโอกาส อำเภอแม่อาย
จังหวัดเชียงใหม่. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา
มหาวิทยาลัยราชภัฎเชยี งราย, เชียงราย.

ถวิล เกษสพุ รรณ์. (2552). การศกึ ษาสภาพการมีส่วนร่วมของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพืน้ ฐานใน
การบริหารงานโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุบล เขต 5.
วิทยานิพนธ์ครุศาตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏ
อบุ ลราชธานี, อุบลราชธานี.

ถาวร ดอนจันทร์โคตร. (2550). การศึกษาการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนประถมศึกษาใน
สังกัดสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาหนองคาย. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา
การบริหารศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏอดุ รธานี, อุดรธาน.ี

ทนงศักดิ์ คุ้มไข่น้ำ. (2550). เทคนิคการบริหารการศึกษา. สถานบันบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราช
ภัฏชยั ภูมิ, ชยั ภูมิ.

ทรงเพชร ใจทน. (2551). การบริหารงานวิชาการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานขนาดเล็กในอำเภอพาน
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชียงราย เขต 2. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวชิ าการบริหารการศึกษา มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏเชยี งราย, เชยี งราย.

ทวีศักดิ์ บังคม. (2550). ปัญหาและแนวทางการแก้ไขการบริหารงานวิชาการของโรงเรียน
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาชลบุรี เขต 1. งานนิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชา
การบริหารการศึกษา มหาวิทยาลยั บูรพา, ชลบรุ .ี

ทัศนยี ์ วงศย์ นื . (2553). การบริหารงานวชิ าการ. ศูนย์สอื่ เสริมกรงุ เทพฯ.
ทิพวรรณ ถนอมจิตพงษ์. (2554). สภาพและการบริหารงานวิชาการในโรงเรียนเอกชน กรณีศึกษา

โรงเรียนกรุงเทพพิทยา. งานนิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา
มหาวทิ ยาลัยนเรศวร, พษิ ณโุ ลก.
ธัญดา ยงยศยิ่ง. (2560). การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพ้ืน
การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 3. การค้นคว้าอิสระครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการ
บรหิ ารการศกึ ษา มหาวทิ ยาลัยราชภฏั ยะลา, ยะลา.
ธานินทร์ ศลิ ปจ์ ารุ. (2557). การวจิ ัยและวิเคราะหข์ ้อมูลทางสถติ ิดว้ ย SPSS และ AMOS. (พมิ พค์ ร้ังที่
15). กรงุ เทพฯ: หา้ งหุ้นสว่ นสามญั บสิ ซเิ นสอารแ์ อนด์ดี.

134

บรรณานกุ รม (ตอ่ )

นิตยา แสนสุข. (2556). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขต
พื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26.วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหาร
การศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, มหาสารคาม.

นิรมล กิตติเรืองชาญ. (2555). การบริหารงานวิชาการบัณฑิตวิทยาลัย. กรุงเทพ : มหาวิทยาลัย
รามคำแหง.

นุชรี เนียมรัตน์. (2562). การบริหารงานวิชาการของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ โรงเรียนสังกัด
เทศบาลนครหาดใหญ่. สารนิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา
มหาวทิ ยาลยั หาดใหญ่, สงขลา.

บุญชม ศรสี ะอาด. (2545). การวจิ ัยเบ้ืองต้น. (พิมพ์ครงั้ ที่ 7). กรุงเทพฯ : สวุ รี ยิ าสาส์น.
บุญชม ศรีสะอาด. (2556). วิธีการทางสถิติสำหรับการวิจัย เล่ม 1 (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพฯ :

สุวรี ยิ าสาสน์.
ปภาณยี ์ ดอกดวง. (2559). ปัจจัยท่สี ่งผลต่อประสิทธภิ าพการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนในกลุ่ม

เครือข่ายสถานศึกษาแก้งโนนกาเร็น สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
อุบลราชธานี เขต 5. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา
มหาวทิ ยาลยั ราชธานี, อุบลราชธาน.ี
ปรัชญา เวสารชั ช.์ (2554). หลักการจัดการศึกษา. กรุงเทพฯ : ภาพพิมพ.์
ปรีชา กระจ่างโพธ์ิ. (2551). การบริหารงานวชิ าการของผู้บรหิ ารโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่
การศึกษาปราจีนบุรี. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา
มหาวิทยาลัยราชภฏั วไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์, ปทมุ ธาน.ี
ปรีชา โล่ห์ชัย. (2552). การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานเขต
พื้นท่ีการศึกษายะลา เขต 2. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหาร
การศึกษา มหาวทิ ยาลัยราชภฏั ยะลา, ยะลา.
ปรียาพร วงศอ์ นตุ ร โรจน์. (2553). การบริหารงานวิชาการ กรงุ เทพฯ: ศนู ยส์ อื่ เสรมิ กรุงเทพฯ.
ปิยนุช ทองพรม. (2550). ปัญหาและแนวทางในการพัฒนาการบริหารงานวิชาการโรงเรียนในเขต
อำเภอหนองใหญ่ สำหนักงานเขตพื้นที่การศึกษาชลบุรี เขต 1. งานนิพนธ์การศึกษา
มหาบัณฑิต สาขาวชิ าการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยบูรพา, ชลบุรี.

135

บรรณานุกรม (ต่อ)

พนารัตน์ ยศพันธ์. (2561). บทบาทการบริหารงานวิชาการของผูบ้ รหิ ารสถานศึกษา สังกัดสำนักงาน
เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 1. สารนิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา
การบรหิ ารการศกึ ษา มหาวทิ ยาลัยหาดใหญ่, สงขลา.

พระราชบัญญตั กิ ารศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แกไ้ ขเพิม่ เตมิ ฉบับที่ 3, 2553, หนา้ 1 - 5
พัชรินทร์ สามะณี. (2556). สภาพปัญหาและแนวทางการพัฒนาการบริหารงานวิชาการของโรงเรียน

สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 27. วิทยานิพนธ์การศึกษา
มหาบณั ฑิต สาขาวิชาการบรหิ ารการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, มหาสารคาม.
พเิ ชษฐ์ สง่ สุข. (2552). ปัญหาและแนวทางการพฒั นาการบรหิ ารงานวชิ าการของโรงเรยี นมัธยมศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสระแก้ว เขต 1. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต
สาขาวิชาการการบรหิ ารการศึกษา มหาวิทยาลัยบรู พา, ชลบรุ ี.
พิมกานต์ สิงห์แก้ว. (2554). สภาพและแนวทางในการบริหารงานวิชาการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
สงั กัดสำนกั งานเขตพนื้ ทีก่ ารศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต 26. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวชิ าการบรหิ ารการศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั บูรพา, ชลบรุ .ี
พสิ ณุ ฟองศรี. (2550). วจิ ยั ทางการศกึ ษา (พิมพครง้ั ที่ 4). กรงุ เทพฯ : บรษิ ัทพอเพอรต์ ้ี จำกัด.
พีระพัฒน์ มะมิง. (2559). การบริหารงานวิชาการแบบการมีส่วนร่วมของผู้บริหารโรงเรียนตามการ
รับรู้ของครูวิชาการโรงเรียนในสำนักงานเขตมีนบุรีสังกัดกรุงเทพมหานคร. วารสารออนไลน์
บัณฑิตศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง, จาก : http://www.edu-
journal.ru.ac.th/AbstractPdf/2559-2-1_1475663257_14.5714470259.pdf
เพียงเพ็ญ เพียรสันเทียะ. (2553). ปัญหาและแนวทางการพัฒนาการบริหารงานวิชาการของ.
โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา อำเภอตาพระยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
สระแก้ว เขต 2. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการการบริหารการศึกษา
มหาวทิ ยาลยั บูรพา, ชลบุรี.
ภารดี อนันต์นาวี. (2552). หลักการ แนวคิด ทฤษฏีทางการบริหารการศึกษา ฉบับปรับปรุง. ชลบุรี :
มนตรี.
ภารดี อนนั ต์นาว.ี (2557). หลกั การ แนวคดิ ทฤษฎีทางการบรหิ ารการศกึ ษา. ชลบุรี: มนตรี.
ภาวดิ า ธาราศรสี ทุ ธิ และวิบูลย์ โตวณะบุตร. (2552). หลกั และทฤษฎกี ารบริหารการศกึ ษา. กรงุ เทพฯ
: มหาวิทยาลยั รามคำแหง.

136

บรรณานกุ รม (ต่อ)

ภูมิพัทธ เรืองแหล่. (2558). การพัฒนาระบบบริหารงานวิชาการศูนย์เครือข่ายพัฒนาคุณภาพ
การศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบณั ฑิต
สาขาวชิ าการบรหิ ารและพฒั นาการศกึ ษา มหาวทิ ยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, มหาสารคาม.

มกุ ดา อนกุ านนท์. (2555). การศกึ ษาพฤตกิ รรมตามหลักพรหมวหิ ารธรรม 4 ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา
ตามการรับรู้ของครูผู้สอนโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
มัธยมศึกษา เขต 17. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา
มหาวทิ ยาลยั บรู พา, ชลบรุ .ี

มูนา จารง. (2560). การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาตามทศันะครูผู้สอนในศูนย์
เครือข่ายตลิ่งชัน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 2. งานนิพนธ์
การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั บรู พา, ชลบุรี.

รัตนศักดิ์ มณีรัตน์. (2550). การบริหารงานวิชาการของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเครือคาธอลิกในกรุง
เทพหานคร. วทิ ยานพิ นธก์ ารศึกษามหาบัณฑิต สาขาวชิ าการบรหิ ารการศึกษา มหาวิทยาลัย
ศรนี ครนิ ทรวิโรฒประสานมติ ร, กรงุ เทพฯ.

ราตรี สอนดี (2559). ปัจจัยการบริหารที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพงานวิชาการของโรงเรียนใน สังกัด
องค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหาร
การศึกษา มหาวิทยาลัยบรู พา, ชลบรุ ี.

รงุ่ ชชั ดาพร เวหะชาติ. (2550). การบรหิ ารงานวชิ าการ. ภาควชิ าการบรหิ ารศึกษา คณะศึกษาศาสตร์
มหาวิทยาลัยทักษณิ , สงขลา.

รุ่งชัชดาพร เวหะชาติ. (2553). การบริหารงานวิชาการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. (พิมพครั้งที่4).
สงขลา : นำศลิ ปโ์ ฆษณา.

ละอองดาว ปะโพธิง. (2554). ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผ้นําทางวิชาการของผู้บริหาร สถานศึกษา
กับพฤติกรรมการสอนท่ีมีประสิทธิผลของครูในสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษา. วิทยานิพนธ์
การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช,
นนทบุรี.

วรรณเพ็ญ พิสุทธิพงษ์. (2553). การบริหารงานวิชาการของผู้บรหิ ารโรงเรียน ประถมศึกษาในอำเภอ
เขาฉกรรจ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสระแก้ว เขต 1. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตร
มหาบัณฑติ สาขาวชิ าการบรหิ ารการศกึ ษา มหาวิทยาลยั ปทุมธานี, ปทุมธาน.ี

137

บรรณานกุ รม (ต่อ)

วรรณภา สาลี. (2558). การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาตามทัศนะของครู สังกัด
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 5. สารนิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวิชาการบริหารการศกึ ษา มหาวิทยาลัยหาดใหญ่, สงขลา.

วราภรณ์ อริยธนพล. (2552). การศึกษาสภาพปัญหาและแนวทางการแก้ไขปัญหาการบริหารงาน
วิชาการของโรงเรียนเอกชนในจังหวัดนครราชสีมา. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวิชาการบรหิ ารการศึกษา มหาวิทยาลยั ราชภัฏนครราชสมี า, นครราชสมี า.

วิมล เดชะ. (2558). การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารโรงเรียนดีประจำตำบล สังกัดสำนักงานเขต
พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล. สารนิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา
การบริหารการศึกษา มหาวทิ ยาลัยหาดใหญ่, สงขลา.

วิสิษฐ์ ปิดกันภัย. (2550). ปัญหาและแนวทางพัฒนาการบริหารงานวิชาการของโรงเรียน
สังกัดสํานักงานการประถมศึกษา อําเภอเมืองระยอง. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวิชาการบรหิ ารการศึกษา มหาวทิ ยาลยั บูรพา, ชลบรุ ี

แวโรสณา เจ๊ะสมาแอ. (2554). การศึกษาทักษะการบริหารงานกับการปฏิบัติงานตามขอบข่ายการ
บริหารงานวิชาการของผ้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดกลุ่มการศึกษาท้องถิ่นที่ 2.
วิทยานพิ นธ์ครศุ าสตรมหาบณั ฑติ สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลยั ราชภัฎยะลา,
ยะลา.

ศิริพร ทับคล้าย. (2550). ศึกษาปัญหาการบริหารงานวชิ าการโรงเรยี นประถมศึกษา อำเภอบางใหญ่
จังหวดั นนทบุรี. งานนิพนธค์ รศุ าสตรหาบัณฑติ สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัย
ราชภฏั จันทรเกษม, กรงุ เทพฯ.

สกุลรัตน์ กมุทมาศ. (2551). การบริหารงานตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของผู้สถานศึกษา
สังกัด สํานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาอุบลราชธานี เขต 3. งานวิจัยหน่วยงานบัณฑิตวิทยาลัย
โปลีเทคนคิ ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื , อุบลราชธานี.

สถิตย์ เทศาราช. (2562). การศึกษาสภาพและแนวทางการพัฒนางานวิชาการของผู้บริหาร
สถานศกึ ษาในศตวรรษท่ี 21 สังกดั สำนักงานอาชวี ศึกษาจังหวัดอุบลราชธานี 1. วิทยานิพนธ์
ศกึ ษาศาสตรมหาบณั ฑติ สาขาวิชาการบรหิ ารการศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั ราชธานี, อุบลราชธานี.

สมเดช สาวันดี. (2553). การนำเสนอรูปแบบการบริหารการศึกษาปฐมวัยในการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ต้นแบบ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุบลราชธานี เขต 5. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหา
บัณฑิต สาขาวชิ าการบรหิ ารการศกึ ษา มหาวิทยาลยั ราชภฏั อุบลราชธานี, อบุ ลราชธานี.


Click to View FlipBook Version