The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกสารรับการตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่8 จังหวัดนครพนม วันที่ 29 มกราคม 2567 จัดทำโดยคณะกรรมการประสานงานสาธารณสุขอำเภอ (คป.สอ.) ธาตุพนม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

เอกสารรับตรวจราชการรอปที่1-2567 คป.สอ.ธาตุพนม

เอกสารรับการตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่8 จังหวัดนครพนม วันที่ 29 มกราคม 2567 จัดทำโดยคณะกรรมการประสานงานสาธารณสุขอำเภอ (คป.สอ.) ธาตุพนม

Keywords: ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข,คป.สอ.ธาตุพนม,โรงพยาบาลสม,เด็จพระยุพราชธาตุพนม

47 ตัวชี้วัด 6.2 ทำรกแรกเกิดได้รับกำรคัดกรอง IEM (40 โรค) เป้ำหมำย ร้อยละ 50 ผลกำรด ำเนินงำน ร้อยละ 100 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก งานส่งเสริมสุขภาพ กลุ่มงานบริการด้านปฐมภูมิและองค์รวม สถำนกำรณ์ สถานการณ์การด าเนินงานคัดกรองโรคหายาก IEM ( 40 โรค)และ ไทรอยด์ ในทารกแรกเกิดอ าเภอธาตุ พนมพบว่า เด็กเกิดมีชีพตั้งแต่ปีงบประมาณ 2565-2567(ต.ค.-ธ.ค.66) มีจ านวนทารกเกิดมีชีพ 1069 ,1057 , 302 รายตามล าดับ และ ได้รับการตรวจคัดกรองทุกรายคิดเป็นร้อยละ 100 ยังไม่พบเด็กที่ป่วยเป็นโรคหายาก รวมทั้งมี การตรวจคัดกรองอื่น ๆ เช่นการคัดกรอง congenital Heart Disease 100 % และตรวจคัดกรองการได้ยินในทารก แรกเกิด 100% ผลการคัดกรองยังไม่พบความผิดปกติ มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน 1.เจ้าหน้าที่ตึกเด็ก หลังคลอด และตึกพิเศษเจาะเลือดเด็กทารกแรกเกิดเพื่อตรวจคัดกรองภายใน 48-72 ชั่วโมงหลังคลอดทุกราย ในกรณีทารกกลุ่มเสี่ยง ออกบัตรนัดมารับการตรวจเมื่ออายุ 14 -21 วันที่รพ.ใกล้บ้าน 2.เจ้าหน้าที่งานส่งเสริมสุขภาพเก็บรวบรวมตัวอย่างส่งรพ.ศรีนครินทร์ ทางไปรษณีย์ 3.กรณีเคสที่มีผลการตรวจผิดปกติทางรพ.ศรีนครินทร์ จะโทรประสานมาที่ผู้ประสานงานเพื่อติดตามมา รับการตรวจซ้ าหรือรับการรักษาต่อไป 4.การบันทึกข้อมูลและรายงานผลผ่านทางเว็บไซต์ Newborn Screening Test System ผลกำรด ำเนินงำน ตัวชี้วัด หน่วยนับ ผลกำรด ำเนินงำน(ต.ค.-ธ.ค.2566) เป้ำหมำย ผลกำรด ำเนินงำน ทารกแรกเกิดได้รับการคัดกรอง IEM (40 โรค) ร้อยละ ร้อยละ 50 100 ทารกที่ผลผิดปกติจ านวน 5 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.47 ทารกที่ผลผิดปกติได้รับการติดตาม ร้อยละ100 ติดตามส่งต่อด่วนไปที่รพ.ศรีนครินทร์จ านวน 1 ราย ไม่มีเด็กที่เป็นโรค ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) - ระบบภาคีเครือข่ายให้ความร่วมมือในการด าเนินงาน การติดตามเด็กให้มารับบริการได้อย่างต่อเนื่อง - เจ้าหน้าที่มีความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติงาน ปัญหำอุปสรรค 1. ขาดแคลนเครื่องตรวจคัดกรองการได้ยิน(OAE) ปัจจุบันมี 1 เครื่อง ,ขาดเครื่อง monitor NIBP 2.ระยะเวลาการขนส่งตัวอย่างใช้เวลานาน กรณีติดวันหยุดและวันนักขัตฤกษ์ 3.เด็กไม่อยู่ในพื้นที่โทรติดต่อไม่ได้ท าให้เด็กกลุ่มเสี่ยงบางคนไม่ได้รับการตรวจซ้ าครั้งที่ 2 4. ขาดการเก็บข้อมูลการนัดเด็กมาตรวจในครั้งที่ 2


48 แนวทำงกำรพัฒนำ -ขั้นตอนการให้บริการตรวจคัดกรองโรค metabolic 40 กลุ่มโรค ครั้งที่ 2 ในทารกกลุ่มเสี่ยง (หลังจ าหน่ายออกจากโรงพยาบาล) -ระบบการส่งต่อเด็กกลุ่มเสี่ยงไปรับการตรวจคัดกรองครั้งที่ 2 ตอนอายุ 14 – 21 วันใน รพ.ลูกข่าย ผู้รำยงำน นางสาวปาริชาต ลี้พล ต าแหน่ง พยาบาลวิชาชีพช านาญการ วัน/เดือน/ปี 16 มกราคม 2567 โทร. 0991687119 E-Mail : [email protected]


49 ตัวชี้วัด 7. อัตรำตำยทำรกแรกเกิดอำยุน้อยกว่ำหรือเท่ำกับ 28 วัน เป้ำหมำย < 3.60 ต่อ 1,000 ทำรกแรกเกิดมีชีพ ผลกำรด ำเนินงำน อัตราตายทารกแรกเกิดอายุน้อยกว่าหรือเท่ากับ 28 วัน มี 1 คน จากคลอดทั้งหมด 302 คน คิดเป็นอัตรา 3.31 ต่อ 1000 ทารกแรกเกิด กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก ส่งเสริมสุขภาพ กลุ่มงานบริการด้านปฐมภูมิและองค์รวม สถำนกำรณ์ สถานการอนามัยแม่และเด็ก(ด้านทารก)อ าเภอธาตุพนมช่วงปีงบประมาณ 2564 – 2567(ต.ค.66-ธ.ค. 66) พบจ านวนทารกเกิดมีชีพ 965,1069 ,1057 , 302 ราย มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากอ าเภอธาตุพนมเป็น โรงพยาบาลแม่ข่ายที่รับส่งต่อมารดาคลอดจากโรงพยาบาลลูกข่ายโซนใต้ อ าเภอเรณูนคร, นาแก, วังยาง รวมทั้ง อ าเภออื่นในเขตจังหวัดนครพนม และ สปป.ลาว เพราะเป็นโรงพยาบาลชายแดน อัตราตายทารกแรกเกิดอายุน้อยกว่าหรือเท่ากับ 28 วันช่วงปีงบประมาณ 2564 – 2566 ไม่พบทารกตาย แต่มาพบในปีงบประมาณ 2567 จ านวน 1 ราย จากเกิดมีชีพจ านวน 302 ราย คิดเป็นอัตราตาย 3.31 ต่อ1000 การเกิดมีชีพ ซึ่งเมื่อเทียบกับเกณฑ์ คือ น้อยกว่า 3.60 ต่อการเกิดมีชีพ 1,000 คน ถือว่าผ่านเกณฑ์ สาเหตุการ เสียชีวิตเนื่องจากความผิดปกติของทารกตั้งแต่แรกเกิด วินิจฉัย hydrocepharus with cardiomegary และประวัติ มารดาเป็นธาลัสซีเมีย ซึ่งคัดกรองพบความผิดปกติตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ตอนมาฝากครรภ์แต่มารดาปฏิเสธการยุติการ ตั้งครรภ์ มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน 1.ด าเนินการตามมาตรฐาน MCH board โซนใต้ 2.ดูแลตามมาตรฐาน service plan สาขาทารกแรกเกิด เขต 8 3.พัฒนาสมรรถนะบุคคลากรในการดูแลทารกแรกเกิด โดยมีการจัดอบรมกู้ชีพในการช่วยกู้ชีพทารกแรก เกิด (NCPR) ทุกปี 4.ขยายบริการเตียง sick จาก 6 เตียงเป็น 10 เตียง 5.ประชุมทบทวนเคสเมื่อมีอุบัติการ 6.บูรณาการความร่วมมือระหว่าภาคีเครือข่ายในเขต อ าเภอธาตุพนมและลูกข่ายเพื่อให้ผู้รับบริการเข้าถึง บริการได้มากขึ้นและรวดเร็ว เช่น อสม.ค้นหาหญิงตั้งครรภ์ในชุมชน ให้เข้ารับบริการฝากครรภ์เร็วก่อน 12 สัปดาห์ เพื่อค้นหาความผิดปกติได้เร็ว และยุติการตั้งครรภ์ได้ทันเวลา 7.ให้บริการฝากครรภ์ 8 ครั้งคุณภาพ ห้องคลอดคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานงานอนามัยแม่และเด็ก 8.จัดท าป้ายสัญญาณเตือนที่ต้องมาพบแพทย์ให้ภาคีเครือข่ายในชุมชน (อสม)น าไปติดที่บ้านหญิงตั้งครรภ์ ทุกราย เพื่อป้องกันการคลอดก่อนก าหนด 9.จัดท าแนวทางปฏิบัติและ Standing order ในการดูแลทารกแรกเกิดกลุ่มเสี่ยงทุกกรณี


50 ผลกำรด ำเนินงำน ตัวชี้วัด หน่วยนับ ผลกำรด ำเนินงำน(ต.ค.-ธ.ค.2566) เป้ำหมำย ผลกำรด ำเนินงำน อัตราตายทารกแรกเกิดอายุ น้อยกว่าหรือเท่ากับ 28 วัน ต่อพันทารกแรกเกิดมีชีพ < 3.60 ต่อ 1,000 ทารกแรก เกิดมีชีพ 3.31 ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) 1.ด าเนินงานโดยทีม MCH board 2.มีการพัฒนาวิเคราะห์ทบทวนปัญหาอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง 3.ระบบภาคีเครือข่ายให้ความร่วมมือในการด าเนินงานอย่างต่อเนื่อง 4.ช่องทางการติดต่อออนไลน์ Official Line Account “ฝากครรภ์รพร.ธาตุพนม”ใช้เป็นที่ปรึกษาให้กับ หญิงตั้งครรภ์ท าให้หญิงตั้งเข้าถึงบริการได้เร็ว ปัญหำอุปสรรค 1. ขาดแคลนทุนสนับสนุนการอบรมหลังสูตรการพยาบาลทารกและเด็กวิกฤต ( 4 เดือน) 2. ขาดอุปกรณ์ทางการแพทย์ในการดูแลทารกแรกเกิด เช่น Incubator, Infusion pump, Ventilator, Monitor, เครื่องตรวจคัดกรองการได้ยิน (OAE), Microbillubin Meter, Haematocrit ฯลฯ 3. ขาดแคลนอัตราก าลังพยาบาลที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการดูแลทารกแรกเกิดและเด็ก แนวทำงกำรพัฒนำ 1. วางแผนเปิด NICU ขนาด 2 เตียง ในกลางปี 2567 เนื่องจากจะมีกุมารแพทย์เพิ่มอีก 1 คน (เดิมมี 2 คน) และผู้รับบริการมีจ านวนมากขึ้น เพื่อให้บริการร่วมกับ Sick newborn 2. วางแผนพัฒนาศึกษาดูงานโรงพยาบาลแม่ข่ายแผนกทารกแรกเกิดป่วย NICU หลังคลอด 3. พัฒนาระบบส่งต่อทารกแรกเกิดเครือข่ายโซนใต้ สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน 1. งบประมาณในการพัฒนาบุคลากรในการอบรมทั้งภายในและภายนอกอย่างต่อเนื่อง 2. จัดสรรอุปกรณ์การแพทย์ที่จ าเป็นและขาดแคลนในการดูแลทารกแรกเกิดให้สอดคล้องกับการขยาย บริการ 3. เครื่องตรวจคัดกรองการได้ยินในทารกแรกเกิด,เครื่อง monitor NIBP, Transport Incubator ผู้รำยงำน นางสาวปาริชาต ลี้พล ต าแหน่ง พยาบาลวิชาชีพช านาญการ วัน/เดือน/ปี 16 มกราคม 2567 โทร. 099-1687119 E-Mail : [email protected]


51 6.2 แผนพัฒนำ กำรป้องกันและแก้ไขปัญหำกำรตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ตัวชี้วัดที่ 8 ตัวชี้วัด 8. อัตรำกำรคลอดมีชีพในหญิงอำยุ 15-19 ปี ต่อประชำกรหญิงอำยุ 15-19 ปี 1,000 คน เป้ำหมำย ไม่เกิน 21 ผลกำรด ำเนินงำน 4.65 (ต.ค.2566-ปัจจุบัน) กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก งานส่งเสริมสุขภาพ กลุ่มงานบริการด้านปฐมภูมิและองค์รวม สถำนกำรณ์ จากสถานการณ์ย้อนหลัง 3 ปี ตั้งแต่ปี 2564 - 2566 อัตราการคลอดมีชีพในหญิงอายุ 15-19 ปี ต่อ ประชากรหญิงอายุ 15-19 ปี 1,000 คน เท่ากับ 22.08, 14.63, 17.34 ตามล าดับ มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน - ให้ความรู้เรื่องป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร และวิธีการคุมก าเนิดในสถานศึกษา - เปิดให้บริการคลินิกวัยรุ่น ทุกวันพุธ – พฤหัสบดี เวลา 13.00 น – 16.00 น. - จัดท า Line Official Account เพื่อเปิดช่องทางในการให้ค าปรึกษารายบุคคล - ส่งเสริมให้หญิงวัยรุ่นหลังคลอดคุมก าเนิดด้วยยาฝังก่อนออกจากโรงพยาบาล ผลกำรด ำเนินงำน ปี 2567 (ต.ค.2566-ปัจจุบัน) พบอัตราการคลอดมีชีพในหญิงอายุ 15-19 ปี ต่อประชากรหญิงอายุ 15-19 ปี 1,000 คน เท่ากับ 4.65 ซึ่งไม่เกินเป้าหมายที่ก าหนด ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) การพัฒนารูปแบบการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ซ้ าในหญิงวัยรุ่นอายุน้อยกว่า 20 ปี ที่มาคลอดใน โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม ปัญหำอุปสรรค หญิงอายุ 15-19 ปี ส่วนใหญ่ตั้งครรภ์ไม่พร้อม เนื่องจากมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ไม่มีความรู้เรื่อง วิธีการคุมก าเนิด และคุมก าเนิดไม่สม่ าเสมอ หรือเลือกวิธีการคุมก าเนิดที่ไม่มีประสิทธิภาพสูง แนวทำงกำรพัฒนำ การให้สุขศึกษาเรื่องป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร และวิธีการคุมก าเนิดในสถานศึกษาให้ ครอบคลุม ผู้รำยงำน นางสาวปาริชาต ลี้พล ต าแหน่ง พยาบาลวิชาชีพช านาญการ วัน/เดือน/ปี 15 มกราคม 2567 โทร 0991687119 E-Mail : [email protected]


52 6.3 แผนพัฒนำ กำรเฝ้ำระวัง ป้องกันควบคุมโรคและลดปัจจัยเสี่ยงด้ำนสุขภำพ ตังชี้วัดที่ 9-14 ตัวชี้วัด 9 ร้อยละของวัยท ำงำนอำยุ 19 - 59 ปี มีดัชนีมวลกำยปกติ และรอบเอวปกติ (ไม่เกินส่วนสูง/2) เป้ำหมำย ดัชนีมวลกำยปกติ≥ 53 รอบเอวปกติ≥ 57 ผลกำรด ำเนินงำนดัชนีมวลกายปกติ46.53 รอบเอวปกติ.50.60 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก งานส่งเสริมสุขภาพ กลุ่มงานบริการด้านปฐมภูมิและองค์รวม สถำนกำรณ์ คป.สอ.ธาตุพนม ได้ด าเนินงานส่งเสริมสุขภาพวัยท างานอายุ 19 -59 ปี โดยใช้กลยุทธ์ตามแผนปฏิบัติ งานยุทธศาสตร์จังหวัดนครพนม บูรณาการร่วมกับแผนพัฒนาจังหวัดนครพนม โดยติดตามผลลัพธ์ทางสุขภาพผ่าน ตัวชี้วัด 19 - 59 ปี มีค่าดัชนีมวลกายปกติ ซึ่งมีแนวโน้มลดลงในปีงบประมาณ 2564 - 2567 ร้อยละ 56.88, 48.03, 49.30 และ 46.52 ตามล าดับ และค่ารอบเอวมีแนวโน้มลดลง ดังนี้ ร้อยละ 54.35, 48.81, 52.66 และ 50.60 ตามล าดับ ทั้งๆ ที่มีมาตรการการด าเนินงานส่งเสริมสุขภาพ สร้างความรอบรู้สุขภาพด้านกิจกรรม ทางกาย ด้านอาหาร ในองค์กร สถานประกอบการ ครอบครัวและชุมชน มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน 1. จัดให้มีนโยบายชุมชนไร้พุง องค์กรไร้พุง 2. ของบสนับสนุนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 3. จัดท าโครงการชุมชนไร้พุง โครงการองค์กรไร้พุง โดยมีการอบรมเพื่อให้ทราบค่าดัชนีมวลกาย รอบเอว และปัจจัยเสี่ยงของตนเอง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยใช้หลัก 3อ 2ส 1ฟ 4. จัดกิจกรรมรณรงค์ออกก าลังกาย สนับสนุนให้มีการตั้งชมรมออกก าลังกายในหมู่บ้าน สนับสนุน ให้มีการออกก าลังกายในที่ท างาน ผลกำรด ำเนินงำน แผนภูมิที่ 1 สรุปแนวโน้มค่าดัชนีมวลกายปกติและรอบเอวปกติ ปี2564 - 2567


53 ตำรำงที่ 1 สรุปร้อยละค่ำดัชนีมวลกำยและรอบเอว อำยุ 19-59 ปี ปีงบประมำณ 2567 แยกรำย รพ.สต. ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับพื้นที่ ในการด าเนินโครงการชุมชนไร้พุง และได้รับงบประมาณสนับสนุนจากผู้บริหารในการท าโครงการองค์กรไร้พุง ปัญหำอุปสรรค 1. ความครอบคลุมของการบันทึกข้อมูลค่อนข้างน้อย 2. ผลลัพธ์ของการด าเนินงานส่งเสริมสุขภาพส่วนใหญ่ต้องบูรณาการหลายภาคส่วน และตัวบุคคลเป็น ส าคัญ จึงจ าเป็นต้องอาศัยความร่วมมือเป็นอย่างมาก รพ.สต ประชำกรในเขต รับผิดชอบอำยุ 19-59 ปี BMI ปกติ ร้อยละ รอบเอวปกติ ร้อยละ ฝั่งแดง 2,146 363 41.02 426 46.66 โพนแพง 1,164 347 54.73 452 65.04 ตาลกุด 648 166 42.24 214 46.93 พระกลางทุ่ง 1,688 713 62.82 953 77.92 นาถ่อน 1,729 411 38.66 457 41.74 ดงยอ 1,085 262 38.81 358 46.61 แสนพัน 1,143 285 41.01 342 46.15 ดอนนางหงส์ 2,643 254 37.97 312 40.63 น้ าก่ า 2,497 608 42.82 668 44.18 บ้านทู้ 1,822 711 64.46 665 58.8 ทรายมูล 754 248 53.45 173 35.6 อุ่มเหม้า 2,580 675 43.75 696 43.77 นาหนาด 2,622 775 51.39 678 43.86 กุดฉิม 1,191 361 47.13 534 57.3 รพร. ธาตุพนม 993 205 34.69 310 43.91 โคกสว่างพัฒนา 1,095 269 43.32 302 47.71 ศสช. ธาตุพนม 2,371 619 42.31 899 60.58 รวม 28,171 7,272 46.53 8,439 50.60


54 แนวทำงกำรพัฒนำ 1. จัดประชุมชี้แจงการด าเนินงานให้ อสม. ชุมชน และบุคลากรในโรงพยาบาลทราบ พร้อมทั้งติดตาม เก็บข้อมูลและบันทึกข้อมูลให้ครบถ้วนทันเวลา 2. สร้างความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน 1. งบประมาณเพื่อใช้ในการด าเนินโครงการ 2. เครื่องมือที่จะน ามาใช้ในการเก็บข้อมูล ผู้รำยงำน น.ส. สิรกันยา สิงห์ศรี ต าแหน่ง นักวิชาการสาธารณสุขช านาญการ วัน/เดือน/ปี19 มกราคม 2567 โทร088 – 5622372 E-Mai [email protected]


55 ตัวชี้วัด10 ร้อยละกำรตรวจติดตำมยืนยันวินิจฉัยกลุ่มสงสัยป่วยโรคเบำหวำนและ/หรือควำมดันโลหิตสูง ตัวชี้วัด 10.1 ร้อยละกำรตรวจติดตำมยืนยันวินิจฉัยกลุ่มสงสัยป่วยโรคเบำหวำน ปีงบประมำณ 2567 เป้ำหมำย : ร้อยละการตรวจติดตามยืนยันวินิจฉัยกลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวาน ≥ 72 ผลกำรด ำเนินงำน : ร้อยละ 84.80 (ข้อมูล ณ 20/01/2567) กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก งานผู้ป่วยนอก. สถำนกำรณ์ ปัจจุบันการคัดกรองโรคเบาหวาน ในประชากรอายุ 35 ปีขึ้นไป กระทรวง สาธารณสุขก าหนดว่าต้อง ตรวจคัดกรอง ประชากรอายุ 35 ปีขึ้นไปในเขตรับผิดชอบ ที่ได้รับการคัดกรองและยังไม่ได้รับการวินิจฉัยเป็นผู้ป่วย โรคเบาหวาน โดยวิธีการคัดกรอง มี2 วิธี ดังนี้ (1) การตรวจระดับน้ าตาลโดยวิธีเจาะปลายนิ้ว (FCBG) หรือการ ตรวจระดับพลาสมา กลูโคสในเลือดที่ เจาะจากหลอดเลือดด า (FPG) ตอน เช้าหลังอดอาหารมากกว่า 8 ชั่วโมง มีค่า ≥ 126 mg/dl (2) การตรวจระดับน้ าตาลโดยวิธีเจาะปลายนิ้ว (RCBG) หรือการตรวจระดับพลาสมา กลูโคส (RPG) จากการที่ไม่อดอาหาร มีค่า ≥ 110 mg/dl และตรวจคัดกรองซ้ าตั้งแต่ 1 วัน ถัดไป โดยวิธีเจาะปลายนิ้ว (FCBG) หรือการตรวจระดับพลาสมากลูโคสในเลือดที่เจาะจากหลอด เลือดด า (FPG) ตอนเช้าหลังอดอาหารมากกว่า 8 ชั่วโมง มีค่า ≥ 126 mg/dl จากตัวชี้วัดพบว่าร้อยละการตรวจติดตามยืนยันวินิจฉัยกลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวานใน เขตอ ำเภอธำตุพนม ปี 2565 ร้อยละ 82.75 ปี 2566 ร้อยละ 97.66 ปี 2567 3 เดือนที่ผ่านมาร้อยละ 84.80 (ข้อมูล ณ 12/01/2567) มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน ติดตามตามกลุ่มเสี่ยงเบาหวานเพื่อให้ได้รับการตรวจวินิจฉัย ผลกำรด ำเนินงำน ผลงานย้อนหลัง 2 ปีที่ผ่านมา ปี2565 =82.75 ปี 2566 =97.6 ผ่านเป้าหมาย ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) - มีความร่วมมือในเครือข่าย คปสอ. ปัญหำอุปสรรค กลุ่มเสี่ยงเบาหวานยังไม่ได้มารับการตรวจวินิจฉัยตามเป้า แนวทำงกำรพัฒนำ ประสาน รพสต ส่งกลุ่มเสี่ยงเบาหวาน ประชากรสงสัยป่วยโรคเบาหวานอายุ 35 ปีขึ้นไป ในเขตรับผิดชอบ ได้รับ การตรวจยืนยันวินิจฉัยโดยการตรวจระดับพลาสมากลูโคสหลังอดอาหารมากกว่า 8 ชั่วโมง (FPG) ทาง ห้องปฏิบัติการ ในสถานบริการสาธารณสุข โดยสามารถตรวจติดตามยืนยันวินิจฉัยได้ ตั้งแต่ 1 วันถัดไป หลังจาก วันที่คัดกรองและเป็นผู้สงสัยป่วยเบาหวาน ภายใน 1 - 180 วัน ก่อน สิ้นปีงบประมาณ ตามแนวทางเวชปฏิบัติ ส าหรับโรคเบาหวาน ผู้รำยงำน นางมยุรี ทนงหาญ ต าแหน่ง พยาบาลวิชาชีพช านาญการ วัน/เดือน/ปี…12/1/2567 โทร.0623949264 E-Mail unn_i @ hotmail.com


56 ตัวชี้วัด 10.2 ร้อยละกำรตรวจติดตำมยืนยันวินิจฉัยกลุ่มสงสัยป่วยโรคควำมดันโลหิตสูง ปีงบประมำณ 2567 เป้ำหมำย ร้อยละกำรตรวจติดตำมยืนยันวินิจฉัยกลุ่มสงสัยป่วยโรคควำมดันโลหิตสูง ≥ 85 ผลกำรด ำเนินงำน การตรวจติดตามยืนยันวินิจฉัยกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูง ร้อยละ 88.61 (ข้อมูล ณ 20/มกราคม/2567) กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก งานผู้ป่วยนอก สถำนกำรณ์ ประชากรอายุ 35 ปี ขึ้นไป ที่ได้รับ การคัดกรองความดันโลหิตสูงและมีค่าระดับความดันโลหิตตัวบนเฉลี่ย (SBP) ระหว่าง 140-179 mmHg และ/หรือ ค่าความดันโลหิตตัวล่างเฉลี่ย (DBP) ระหว่าง 90-109 mmHg ในเขต รับผิดชอบ ในปีงบประมาณ 2565 จ านวน 987 ได้รับการตรวจติดตามยืนยันวินิจฉัยกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดัน โลหิตสูง 932 ราย ในปีงบประมาณ 2566 จ านวน 987 ได้รับการตรวจติดตามยืนยันวินิจฉัยกลุ่มสงสัยป่วยโรคความ ดันโลหิตสูง 984 ราย ในปีงบประมาณ 2567 จ านวน 1,045 ได้รับการตรวจติดตามยืนยันวินิจฉัยกลุ่มสงสัยป่วย โรคความดันโลหิตสูง 885 ราย (ข้อมูล ณ 12/01/2567) มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน ติดตามกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูงเพื่อให้ได้รับการตรวจวินิจฉัย ตรวจวัดความดันโลหิต ซ้ าในสถาน บริการสาธารณสุขเดิม ภายใน 1-90 วัน ผลกำรด ำเนินงำน ผลงานย้อนหลัง 2 ปีที่ผ่านมา ปี2565 = 94.43 ปี 2566 =99.7 ผ่านเป้าหมาย ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) - ปัญหำอุปสรรค กลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูงยังไม่ได้มารับการตรวจวินิจฉัยครบตามเป้า แนวทำงกำรพัฒนำ ประสาน รพสต ส่งกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง เข้ารับการตรวจวินิจฉัยที่โรงพยาบาล สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน - ผู้รำยงำน นางภรณ์พิมุกต์ ดอนหล้า ต าแหน่ง พยาบาลวิชาชีพช านาญการ วัน/เดือน/ปี…12/1/2567 โทร.0803427899 E-Mail [email protected]


57 ตัวชี้วัด 12 อัตรำควำมรอบรู้ด้ำนสุขภำพของประชำชน เป้ำหมำยร้อยละ 71 ผลกำรด ำเนินงำน 95.50 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลักงานส่งเสริมสุขภาพ กลุ่มงานบริการด้านปฐมภูมิและองค์รวม สถำนกำรณ์ คป.สอ.ธาตุพนม ได้ด าเนินงานความรอบรู้ด้านสุขภาพของประชาชน ผ่านระบบปฏิบัติการสาสุขอุ่นใจ และได้รับความรู้โดยวิทยากรจากส่วนกลาง มีการลงพื้นที่คัดเลือกชุมชนรอบรู้สุขภาพ โดยชุมชนนาถ่อน ได้รับ คัดเลือกเป็นชุมชนรอบรู้สุขภาพ เขตสุขภาพที่ 8 และระดับดี ในระดับประเทศ ในงานประชุมวิชาการ HLO OF THE YEAR นอกจากนี้ยังก ากับติดตามใช้กลยุทธ์ตามแผนปฏิบัติงานยุทธศาสตร์จังหวัดนครพนม ในไตรมาสแรกนี้ ได้มีการส ารวจความรอบรู้สุขภาพประชาชน 6 รพ.สต. จากหน่วยบริการทั้งหมด 17 แห่ง มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน งานส่งเสริมสุขภาพวัยท างาน อ าเภอธาตุพนม ด าเนินงานภายใต้โครงการวัยท างาน ฉลาดรอบรู้ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยมีตัวชี้วัดของโครงการเป็นแนวทางก ากับติดตามผลลัพธ์ ดังนี้ 1) วัยท างานอายุ19-59 ปี มีค่าดัชนีมวลกายปกติ ร้อยละ 53 2) วัยท างานอายุ19-59 ปี มีรอบเอวปกติ ร้อยละ 57 3) อัตราความรอบรู้สุขภาพ ร้อยละ 80 4) วัยท างานมีพฤติกรรมที่พึงประสงค์ร้อยละ 47 โดยมีมาตรการครอบคลุมกิจกรรมทางกาย มาตรการด้านอาหาร การสร้างความรอบรู้ บูรณาการงาน ควบคุมโรคไม่ติดต่อ อนามัยสิ่งแวดล้อมและอาชีวอนามัย และภาคีเครือข่ายสุขภาพ ผลกำรด ำเนินงำน การด าเนินงานในปีงบประมาณ 2567 มีการก ากับติดตามผ่านตัวชี้วัดยุทธศาสตร์ระดับจังหวัด โดยมี รอบการประเมิน 12 เดือน ซึ่งทางพื้นที่ได้ด าเนินการเข้าร่วมสาสุขอุ่นใจชาเลนจ์บูรณาการอ าเภอสุขภาพดี ซึ่งมี หน่วยบริการด าเนินงานเข้าร่วม จ านวน 6 รพ.สต. และมีความรอบรู้สุขภาพ ดังนี้ แผนภูมิที่ 1 ความรอบรู้สุขภาพจังหวัดนครพนม จําแนกราย รพ.สต.


58 ควำมรอบรู้ด้ำนสุขภำพเฉลี่ย ล ำดับที่ ต ำบล จ ำนวนผู้ร่วมประเมิน (n) คะแนนเฉลี่ย 1 พระกลางทุ่ง 79 98.42 2 นาถ่อน 121 93.18 3 แสนพัน 34 100.00 4 ดอนนางหงส์ 52 94.23 5 น้ าก่ า 1 100.00 6 อุ่มเหม้า 174 95.26 รวม 461 95.50 ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) 1. ผู้รับผิดชอบวัยท างานระดับจังหวัดมีการจัดประชุมอบรมเกี่ยวกับการด าเนินงาน มีการก าหนดตัวชี้วัด และขับเคลื่อนผ่านกลยุทธ์ตามแผนปฏิบัติงานประเมินยุทธศาสตร์จังหวัดนครพนม เพื่อให้ประชาชนเกิดความรอบรู้ สุขภาพ 2. ผู้รับผิดชอบวัยท างานระดับอ าเภอด าเนินงานตามแผนปฏิบัติงาน 3. ภาคีเครือข่ายในพื้นที่มีความเข็มแข็ง และเห็นความส าคัญต่อปัญหาสุขภาพ ปัญหำอุปสรรค 1. โปรแกรมที่พัฒนาขึ้นใหม่ ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ 2. กิจกรรมในโปรแกรมค่อนข้างท าได้ยากและไม่เหมาะสมกับพื้นที่ชนบท 3. ต้องใช้สมาร์ทโฟนและอินเทอร์เนตเท่านั้น 4. การส่งลิ้งค์แบบสอบถามให้กลุ่มเป้าหมาย มีกลุ่มเป้าหมายบางส่วนไม่กล้าท าเนื่องจากกลัวว่าเป็น ลิ้งของมิจฉาชีพ แนวทำงกำรพัฒนำ จัดประชุมชี้แจงการด าเนินงานพร้อมทั้งก ากับติดตามการบันทึกข้อมูลทุกเดือน สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน - ผู้รำยงำน น.ส. สิรกันยา สิงห์ศรี ต าแหน่ง นักวิชาการสาธารณสุขช านาญการ วัน/เดือน/ปี19 มกราคม 2567 โทร088 – 5622372 E-Mai [email protected]


59 ตัวชี้วัด 13 : ร้อยละผู้ป่วยโรคเบำหวำนที่ควบคุมระดับน้ ำตำลในเลือดได้ดี ปีงบประมำณ 2567 เป้ำหมำย : ร้อยละผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ าตาลในเลือดได้ดี ≥ 40 ผลกำรด ำเนินงำน ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ าตาลในเลือดได้ดี ร้อยละ 30.75 (ข้อมูล ณ 20/01/2567) กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก งานผู้ปวยนอก สถำนกำรณ์ ผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวาน และได้รับการขึ้นทะเบียน/ ผู้ป่วยโรคเบาหวานอาศัยอยู่ในพื้นที่ รับผิดชอบทั้งหมด จ านวน 4,582 รายที่ควบคุมระดับน้ าตาลในเลือดได้ดี ผู้ป่วยเบาหวานที่ไม่มีโรคร่วม ที่มีค่า ระดับ น้ าตาลในเลือด HbA1c ครั้งสุดท้ายน้อยกว่าร้อยละ 7 หรือ ผู้ป่วยเบาหวานที่มีโรคร่วม ที่มีค่า ระดับน้ าตาลในเลือด HbA1c ครั้งสุดท้ายน้อยกว่าร้อยละ 82 ปีงบประมาณที่ผ่านมา ปี2565 = 27.86 ปี 2566 = 32.8 ยังไม่ผ่าน ตัวชี้วัด มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน ตรวจสุขภาพประจ าปีในผู้ป่วยเบาหวานในเขตรับผิดชอบ จ านวน 4,582 ราย ผลกำรด ำเนินงำน ณ. วันที่ 12 มกราคม 2567 ตรวจสุขภาพประจ าปีในผู้ป่วยเบาหวานในเขตรับผิดชอบได้ จ านวน 3,651 ราย ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) - มีความร่วมมือในเครือข่าย คปสอ. - รพ.มีความพร้อมในการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ปัญหำอุปสรรค ผู้ป่วยบางรายไม่ได้อยู่ในพื้นที่ และขาดนัด แนวทำงกำรพัฒนำ -ตรวจสอบรายชื่อผู้ป่วยเบาหวานที่ยังไม่ได้รับการตรวจสุขภาพประจ าปีและประสาน รพสต.ติดตามให้ ผู้ป่วยเข้ารับการตรวจสุขภาพประจ าปี สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน อัตราก าลังคนในการตรวจสอบข้อมูลและติดตามผู้ป่วยในเขตรับผิดชอบ ผู้รำยงำน นางมยุรี ทนงหาญ ต าแหน่ง พยาบาลวิชาชีพช านาญการ วัน/เดือน/ปี…12/1/2567 โทร.0623949264 E-Mail unn_i @ hotmail.com


60 ตัวชี้วัด 14 : ร้อยละผู้ป่วยโรคควำมดันโลหิตสูงที่ควบคุมควำมดันโลหิตได้ดี ปีงบประมำณ 2567 เป้ำหมำย : ร้อยละผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมความดันโลหิตได้ดี ≥ 60 ผลกำรด ำเนินงำน ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมความดันโลหิตได้ดี ร้อยละ 72.64 (ข้อมูล ณ 20/01/2567) กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก งานผู้ป่วยนอก สถำนกำรณ์ ผู้ป่วยโรคความดัน โลหิตสูงที่มีระดับความดันโลหิตครั้งสุดท้าย < 140 และ < 90 mmHg จากการตรวจใน พื้นที่ รับผิดชอบจ านวนทั้งหมด 6,404 รายควบได้ดี 4,660 ราย ใน 3 เดือนที่ผ่านมผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุม ความดันโลหิตได้ดี ร้อยละ 72.93 มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน ให้ความรู้แก่ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง โดยให้ความรู้เกี่ยวกับการควบคุมความดัน อาการแทรกซ้อน การ รับประทานยาและการมาตรวจตามนัด ผลกำรด ำเนินงำน ผลงานย้อนหลัง 2 ปีที่ผ่านมา ปี2565 = 69.32 ปี 2566 =73.62 ปี2567= 72.93 (ไตรมาส1) ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) - ผู้ป่วยที่ควบคุมความดันได้ดี ส่งรับยาต่อเนื่องที่ รพสต ปัญหำอุปสรรค ผู้ป่วยขาดนัด ไม่เห็นความส าคัญของโรคความดันโลหิตสูงจึงไม่มาตามนัด แนวทำงกำรพัฒนำ มีCQI ติดตามผู้ป่วยขาดนัด สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน – ผู้รำยงำน นางภรณ์พิมุกต์ ดอนหล้า ต าแหน่ง พยาบาลวิชาช านาญการ วัน/เดือน/ปี…12/1/2567 โทร.0803427899 E-Mail [email protected]


61 6.4 แผนพัฒนำ พัฒนำระบบบริกำรผู้สูงอำยุ ตัวชี้วัดที่ 15-17 ตัวชี้วัด : 15. ร้อยละของผู้สูงอำยุที่ไม่มีภำวะพึ่งพิง เป้ำหมำย : ผู้สูงอำยุที่ไม่มีภำวะพึ่งพิง ร้อยละ96.75 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก งานการพยาบาลในชุมชน สถำนกำรณ์ แนวโน้มประชากรผู้สูงอายุมีจ านวนมากขึ้นทุกปี อ าเภอธาตุพนม ปี 2564 – 2566 มีจ านวนผู้สูงอายุ 11,035, 11,184 และ 11,493 คน ตามล าดับ และจากการคัดกรองสุขภาพผู้สูงอายุ ปี 2564 - 2566 พบผู้สูงอายุ ที่ไม่มีภาวะพึ่งพิง (ติดสังคมADL 12-20 คะแนน) จ านวน 10,161 , 10,436 และ10,665 คน ตามล าดับ คิดเป็นร้อย ละ 95.68, 96.74 และ94.47 ตามล าดับ และผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง (ติดบ้านและติดเตียง ADL 0-11 คะแนน) จ านวน 397 ,383 และ 192 คน ตามล าดับ คิดเป็นร้อยละ 3.59 , 3.42 และ1.67 ตามล าดับ จะเห็นได้ว่า ช่วง 4 ปีที่ผ่านมา มีจ านวนผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงลดลง เนื่องจากมีการส่งเสริมสุขภาพและมีระบบการบริการผู้สูงอายุที่ดี เพิ่มมากขึ้น ผู้สูงอายุได้รับการดูแลและเอาใจใส่มากขึ้น มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน 1. จัดตั้งคณะกรรมการด าเนินงานในโรงพยาบาลและระดับ คปสอ. 2. มีการขับเคลื่อนการด าเนินงานผู้สูงอายุร่วมกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น การคัดกรองสุขภาพ ผู้สูงอายุ10 โรค และคัดกรองสุขภาพ 9 ด้าน และจัดท าwellness plan ในผู้สูงอายุที่พบความเสี่ยง 3. มีแผนการให้บริการคลินิกผู้สูงอายุในแต่ละ รพ.สต. เมื่อพบผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยง ด้านต่างๆมีการส่ง ต่อดูแลในคลินิกผู้สูงอายุ 4. มีบริการคลินิกผู้สูงอายุในโรงพยาบาล เปิดให้บริการทุกวันอังคาร เวลา13.00-16.00น. มีทีมสหวิชาชีพ ร่วมให้การดูแล มีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวเป็นแพทย์ประจ าคลินิก และมีระบบให้ค าปรึกษาจาก รพ.สต.เชื่อมโยง ถึงโรงพยาบาล และส่งต่อการดูแลจากโรงพยาบาลต่อเนื่องถึงชุมชน 5. ผู้สูงอายุกลุ่มติดสังคมได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกชมรมผู้สูงอายุเพื่อสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ 6. อปท.และภาคีเครือข่าย มีการส่งเสริมจัดสถานที่การออกก าลังกายในหมู่บ้าน รวมทั้งสร้างแกนน าที่ เป็น Pre aging เป็นผู้น าด้านออกก าลังกาย เพื่อเตรียมเข้าสู่วัยผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ ในชมรมผู้สูงอายุ และใน ชุมชน 7. มีการด าเนินงานชมรมผู้สูงอายุ/โรงเรียนผู้สูงอายุตามโครงการชะลอชรา ชีวายืนยาว โดยดูแลส่งเสริม สุขภาพผู้สูงอายุตามแผนการดูแลสุขภาพรายบุบุคคล (Wellness Plan) 9 ด้าน


62 ผลกำรด ำเนินงำนในคลินิกผู้สูงอำยุ ตัวชี้วัด/ปีงบประมาณ เป้าหมาย ร้อยละ จ านวน ผู้สูงอายุที่ ได้รับการคัด กรอง (คน) จ านวน ผู้สูงอายุที่มี ภาวะพึ่งพิง (ADL0-11) ปี 2567 ร้อยละ จ านวน ผู้สูงอายุที่ไม่มี ภาวะพึ่งพิง ติดสังคม (ADL12-20) ปี 2567 (ต.ค. 2566- 15 ม.ค.67) ร้อยละ 15. ร้อยละของผู้สูงอายุที่ไม่มี ภาวะพึ่งพิง 96.75 9,317 229 2.45 9,088 97.54 ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) - ชมรมผู้สูงอายุด้านสุขภาพผ่านเกณฑ์ ทุกต าบล 12 แห่ง - การสนับสนุนจากผู้บริหาร ความร่วมมือจากทีมสหสาขาวิชาชีพ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและชุมชน - มีการด าเนินงานโรงเรียนผู้สูงอายุจ านวน 5 แห่ง คือ อบต.นาถ่อน อบต.ดอนนางหงส์ อบต.พระกลางทุ่ง อบต.แสนพัน และอบต.น้ าก่ า - มีการจัดตั้งคลินิกผู้สูงอายุในโรงยาบาล และมีแพทย์เวชศาตร์ครอบครัว เป็นแพทย์ประจ าคลินิก มีทีมสห สาขาวิชาชีพ เช่น แพทย์ พยาบาล นักกายภาพ พยาบาลสุขภาพจิต/นักจิตวิทยา นักโภชนาการ นักวิชาการสาธารณสุข ร่วมเป็นทีมดูแลและมีระบบให้ค าปรึกษาใน รพ.สต. ปัญหำอุปสรรค ยังมีผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้รับการคัดกรอง จ านวน 2,982 คน หรือได้รับการคัดกรองแล้วแต่ยังไม่สามารถลงใน ระบบข้อมูลได้ เนื่องจากภาระงานที่เพิ่มมากขึ้น แนวทำงกำรพัฒนำ 1. พัฒนาศักยภาพการดูแลผู้สูงอายุแก่ผู้สูงอายุในชุมชน และผู้ดูแล caregiver(CG) อสม. CM และ อาสาสมัครบริบาลท้องถิ่น อย่างต่อเนื่อง 2. จัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพในคลินิกผู้สูงอายุและออกเชิงรุกกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพในชุมชนอย่างต่อเนื่อง 3.จัดท าแผนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพดี ในผู้สูงอายุกลุ่มติดสังคมที่มีความเสี่ยงด้านสุขภาพ สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน - อุปกรณ์เครื่องมือ สื่อการสอนในการในการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ - ตู่มือความรู้ในการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ โฟล์ชาร์จ แผ่นพลิกหรือแผ่นพับ และคู่มือความรู้เกี่ยวกับ กิจกรรมบ าบัดต่างๆ ผู้รำยงำน นางผกาพรรณ อังคนาวราพันธุ์ ต าแหน่ง พยาบาลวิชาชีพช านาญ วัน/เดือน/ปี 12 มกราคม 2567 โทร 084-606-4999 E-Mail [email protected]


63 ตัวชี้วัด : 16. ร้อยละของผู้สูงอำยุที่ได้รับกำรคัดกรอง พบว่ำเสี่ยงต่อกำรเกิดภำวะสมองเสื่อม หรือภำวะหกล้ม และได้รับกำรดูแลรักษำในคลินิกผู้สูงอำยุ (2 KPIs) 16.1 ร้อยละของผู้สูงอำยุที่ได้รับกำรคัดกรอง พบว่ำเสี่ยงต่อกำรเกิดภำวะสมองเสื่อม และได้รับกำรดูแลรักษำใน คลินิกผู้สูงอำยุ เป้ำหมำย : มำกกว่ำหรือเท่ำกับ ร้อยละ 50 16.2 ร้อยละของผู้สูงอำยุที่ได้รับกำรคัดกรอง พบว่ำเสี่ยงต่อกำรเกิดภำวะหกล้มและได้รับกำร ดูแลรักษำในคลินิกผู้สูงอำยุ เป้ำหมำย : มำกกว่ำหรือเท่ำกับ ร้อยละ 60 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก งานการพยาบาลในชุมชน กลุ่มงานปฐมภูมิ สถำนกำรณ์ แนวโน้มประชากรผู้สูงอายุมีจ านวนมากขึ้นทุกปี อ าเภอธาตุพนม ปี 2564 – 2566 มีจ านวนผู้สูงอายุ 11,035, 11,184 และ 11,493 คน ตามล าดับ และจากการคัดกรองสุขภาพ10 โรคที่เป็นปัญหาและพบบ่อยใน ผู้สูงอายุ ปี 2564 - 2566 พบผู้สูงอายุที่ได้รับการคัดกรองภาวะสมองเสื่อม จ านวน 10,533 , 8,969 และ10,650 คน ตามล าดับ คิดเป็นร้อยละ 95.45, 80.19 และ92.67 ตามล าดับ และผู้สูงอายุได้รับการคัดกรองภาวะหกล้ม จ านวน 10,518 ,10,798 และ 11,361 คน ตามล าดับ คิดเป็นร้อยละ 95.31 , 96.55 และ98.85 ตามล าดับ ในปี 2564 - 2566 พบว่า มีความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อมจ านวน 81 คน, 59 คน และ334 คน คิดเป็นร้อยละ0.76 , 0.65 และ3.13 ตามล าดับ และพบว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหกล้ม จ านวน 267 คน 261คน และ 443 คน คิดเป็นร้อย 2.53 , 2.41 และ3.89 จากสถิติพบผู้สูงอายุมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นทุกปี มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน 1. จัดตั้งคณะกรรมการด าเนินงานในโรงพยาบาลและระดับคปสอ. 2. มีการขับเคลื่อนการด าเนินงานผู้สูงอายุร่วมกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น การคัดกรองสุขภาพ ผู้สูงอายุ10 โรค และคัดกรองสุขภาพ 9 ด้าน และจัดท าwellness plan ในผู้สูงอายุที่พบความเสี่ยง 3. มีแผนการให้บริการคลินิกผู้สูงอายุในแต่ละ รพ.สต. เมื่อพบผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยง โดยเฉพาะ ผู้สูงอายุ ที่มีความเสี่ยงด้านภาวะสมองเสื่อม และมีความเสี่ยงต่อภาวะหกล้ม มีการส่งต่อดูแลในคลินิกผู้สูงอายุ 4. มีบริการคลินิกผู้สูงอายุในโรงพยาบาล เปิดให้บริการทุกวันอังคาร เวลา13.00-16.00น. มีทีมสหวิชาชีพ ร่วมให้การดูแล มีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวเป็นแพทย์ประจ าคลินิก และมีระบบให้ค าปรึกษาจาก รพ.สต.เชื่อมโยง ถึงโรงพยาบาล และส่งต่อการดูแลจากโรงพยาบาลต่อเนื่องถึงชุมชน ๕. นิเทศติดตามการด าเนินงานส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุในรพ.สต.


64 ผลกำรด ำเนินงำนในคลินิกผู้สูงอำยุ ตัวชี้วัด/ปีงบประมำณ จ ำนวน ผู้สูงอำยุที่ ได้รับกำรคัด กรอง (คน) จ ำนวน ผู้สูงอำยุที่พบ ควำมเสี่ยง (คน) ร้อยละ (ผู้สูงอำยุ ที่ได้รับ กำรดูแล) ปี 2567 (ต.ค. 2566- 15 ม.ค.67) ร้อยละ 16. ร้อยละของผู้สูงอายุที่ได้รับการคัดกรอง พบว่าเสี่ยงต่อการเกิดภาวะสมองเสื่อม หรือ ภาวะหกล้มและได้รับการดูแลรักษาในคลินิก ผู้สูงอายุ (2 KPIs) 16.1 ร้อยละของผู้สูงอายุที่ได้รับการคัดกรอง พบว่าเสี่ยงต่อการเกิดภาวะสมองเสื่อม และ ได้รับการดูแลรักษาในคลินิกผู้สูงอายุ 40 2 5 2 100 16.2 ร้อยละของผู้สูงอายุที่ได้รับการคัดกรอง พบว่าเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหกล้มและได้รับการ ดูแลรักษาในคลินิกผู้สูงอายุ 40 36 90 36 100 ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) - มีการจัดบริการคลินิกผู้สูงอายุ แยกเป็นคลินิกที่ชัดเจน มีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว เป็นแพทย์ประจ า คลินิกและรับผิดชอบดูแลในคลินิกผู้สูงอายุ - มีระบบให้ค าปรึกษาและมีระบบการส่งต่อข้อมูลที่ชัดเจน มีแนวทางในการส่งต่อผู้ป่วยที่ชัดเจน ปัญหำอุปสรรค - ครอบครัวผู้ดูแล ยังไม่เห็นความส าคัญและความจ าเป็นของการป้องกันและการรักษาปัญหาสุขภาพ บางอย่างในผู้สูงอายุ เช่น ภาวะหกล้ม ภาวะสมองเสื่อม เป็นต้น ท าให้ไม่อยากพามาโรงพยาบาล เนื่องจาก ไม่มีเวลา - ผู้สูงอายุเดินทางเข้ามารับบริการที่โรงพยาบาลล าบาก ไม่มีคนพามา - มีการให้บริการดูแลผู้สูองอายุ แต่มีการลงข้อมูลรหัสวินิจฉัยไม่เป็นไปตามที่ก าหนด ท าให้บางครั้งการ ประมวลข้อมูลมีการคลาดเคลื่อน แนวทำงกำรพัฒนำ 1. พัฒนาศักยภาพการดูแลผู้สูงอายุแก่ผู้สูงอายุในชุมชน และผู้ดูแล caregiver(CG) อสม. CM และ อาสาสมัครบริบาลท้องถิ่น อย่างต่อเนื่อง 2. พัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ในการคัดกรองและกิจกรรมบ าบัดในผู้สูงอายุเสี่ยงภาวะสมองเสื่อม


65 3. พัฒนาคลินิกผู้สูงอายุให้เป็นคลินิกผู้สูงอายุระดับคุณภาพอย่างต่อเนื่อง 4. วางแผนส่งบุคลากรพยาบาลเข้ารับการอบรมด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุหลักสูตร 4 เดือน 5. จัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพในคลินิกผู้สูงอายุและออกเชิงรุกกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพในชุมชน (คลินิกผู้สูงอายุ เคลื่อนที่) สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน - อุปกรณ์เครื่องมือ สื่อการสอนในการป้องกันความเสี่ยงต่างๆ เช่น ความเสี่ยงสมองเสื่อม เสี่ยงต่อการเกิด ภาวะหกล้ม เป็นต้น - ตู่มือความรู้ในการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ โฟล์ชาร์จ แผ่นพลิกหรือแผ่นพับ และคู่มือความรู้เกี่ยวกับ กิจกรรมบ าบัดต่างๆ ผู้รำยงำน นางผกาพรรณ อังคนาวราพันธุ์ ต าแหน่ง พยาบาลวิชาชีพช านาญ วัน/เดือน/ปี 12 มกราคม 2567 โทร 084-606-4999 E-Mail [email protected]


66 ตัวชี้วัด : 17. ร้อยละของโรงพยำบำลที่มีคลินิกผู้สูงอำยุผ่ำนเกณฑ์คุณภำพกำรบริกำร เป้ำหมำย : มำกกว่ำเท่ำกับ ร้อยละ50 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก งานการพยาบาลในชุมชน สถำนกำรณ์ แนวโน้มประชากรผู้สูงอายุมีจ านวนมากขึ้นทุกปี อ าเภอธาตุพนม ปี 2564 – 2566 มีจ านวนผู้สูงอายุ 11,035, 11,184 และ 11,493 คน ตามล าดับ และจากการคัดกรองสุขภาพ10 โรคที่เป็นปัญหาและพบบ่อยใน ผู้สูงอายุ ปี 2564 - 2566 พบผู้สูงอายุที่ได้รับการคัดกรองภาวะสมองเสื่อม จ านวน 10,533 , 8,969 และ10,650 คน ตามล าดับ คิดเป็นร้อยละ 95.45, 80.19 และ92.67 ตามล าดับ และผู้สูงอายุได้รับการคัดกรองภาวะหกล้ม จ านวน 10,518 ,10,798 และ 11,361 คน ตามล าดับ คิดเป็นร้อยละ 95.31 , 96.55 และ98.85 ตามล าดับ ในปี 2564 - 2566 พบว่าผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อมจ านวน 81 คน, 59 คน และ334 คน คิดเป็นร้อยละ 0.76 , 0.65 และ3.13 ตามล าดับ และพบว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหกล้ม จ านวน 267 คน 261คน และ 443 คน คิดเป็นร้อย 2.53 , 2.41 และ3.89 จากสถิติพบผู้สูงอายุมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นทุกปี มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน 1. จัดตั้งคณะกรรมการด าเนินงานในโรงพยาบาลและระดับคปสอ. 2. มีการขับเคลื่อนการด าเนินงานผู้สูงอายุร่วมกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น การคัดกรองสุขภาพ ผู้สูงอายุ10 โรค และคัดกรองสุขภาพ 9 ด้าน และจัดท าwellness plan ในผู้สูงอายุที่พบความเสี่ยง 3. มีแผนการให้บริการคลินิกผู้สูงอายุในแต่ละ รพ.สต. เมื่อพบผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยง โดยเฉพาะ ผู้สูงอายุ ที่มีความเสี่ยงด้านภาวะสมองเสื่อม และมีความเสี่ยงต่อภาวะหกล้ม มีการส่งต่อดูแลในคลินิกผู้สูงอายุ 4. มีบริการคลินิกผู้สูงอายุในโรงพยาบาล เปิดให้บริการทุกวันอังคาร เวลา13.00-16.00น. มีทีมสหวิชาชีพ ร่วมให้การดูแล มีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวเป็นแพทย์ประจ าคลินิก และมีระบบให้ค าปรึกษาจาก รพ.สต.เชื่อมโยง ถึงโรงพยาบาล และส่งต่อการดูแลจากโรงพยาบาลต่อเนื่องถึงชุมชน ๕. นิเทศติดตามการด าเนินงานส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุในรพ.สต. ผลกำรด ำเนินงำน ตัวชี้วัด/ปีงบประมำณ จ ำนวน คลินิก คะแนนเกณฑ์ คุณภำพที่ได้ (รพ.ระดับM 71-84 คะแนน) ผลกำร ประเมิน ปี 2567 (ต.ค. 2566- 15 ม.ค.67) ร้อยละ 17 ร้อยละของโรงพยาบาลที่มีคลินิก ผู้สูงอายุผ่านเกณฑ์คุณภาพการบริการ 1 75 ผ่าน 100


67 ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) - มีการจัดบริการคลินิกผู้สูงอายุ แยกเป็นคลินิกที่ชัดเจน มีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว เป็นแพทย์ประจ า คลินิกและรับผิดชอบดูแลในคลินิกผู้สูงอายุ - มีระบบให้ค าปรึกษาและมีระบบการส่งต่อข้อมูลที่ชัดเจน มีแนวทางในการส่งต่อผู้ป่วยที่ชัดเจน ปัญหำอุปสรรค - ผู้รับบริการในคลินิกผู้สูงอายุมีจ านวนน้อย เนื่องจากความไม่สะดวกในการเดินทางและผู้ดูแลยังไม่ตระหนัก ถึงภาวะความเจ็บป่วยในระยะยาว - ผู้สูงอายุเดินทางเข้ามารับบริการที่โรงพยาบาลล าบาก ไม่มีคนพามา แนวทำงกำรพัฒนำ 1. พัฒนาศักยภาพการคัดกรองสุขภาพแก่เจ้าหน้าที่ อสม. และพัฒนาการดูแลผู้สูงอายุในชุมชนแก่ผู้ดูแล caregiver(CG) อสม. CM และอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่น อย่างต่อเนื่อง 2. พัฒนาคลินิกผู้สูงอายุให้เป็นคลินิกผู้สูงอายุระดับคุณภาพอย่างต่อเนื่อง 3. ส่งพยาบาลเข้ารับการอบรมด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุหลักสูตร 4 เดือน 4. จัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพในคลินิกผู้สูงอายุและออกเชิงรุกกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพในชุมชน (คลินิก ผู้สูงอายุเคลื่อนที่) สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน - อุปกรณ์เครื่องมือ สื่อการสอนในการป้องกันความเสี่ยงต่างๆ เช่น ความเสี่ยงสมองเสื่อม เสี่ยงต่อการเกิด ภาวะหกล้ม เป็นต้น - ตู่มือความรู้ในการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ โฟล์ชาร์จ แผ่นพลิกหรือแผ่นพับ และคู่มือความรู้เกี่ยวกับ กิจกรรมบ าบัดต่างๆ - แนวทางการดูแลผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านต่างๆที่ชัดเจน เช่น เสื่ยงต่อภาวะหกล้ม และเสี่ยงต่อภาวะสมอง เสื่อม และแนวทางการดูแลและการรักษาในผู้สูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อมที่ชัดเจน ผู้รำยงำน นางผกาพรรณ อังคนาวราพันธุ์ ต าแหน่ง พยาบาลวิชาชีพช านาญ วัน/เดือน/ปี 12 มกราคม 2567 โทร 084-606-4999 E-Mail [email protected]


68 6.5 แผนพัฒนำอนำมัยสิ่งแวดล้อมในโรงพยำบำล ตัวชี้วัดที่ 18 ตัวชี้วัด 18 ร้อยละของโรงพยำบำลที่พัฒนำอนำมัยสิ่งแวดล้อมได้ตำมเกณฑ์ GREEN & CLEAN Hospital Challenge (ระดับมำตรฐำนขึ้นไป) (3 KPIs) 18.1 ร้อยละของโรงพยำบำลผ่ำนเกณฑ์ GREEN & CLEAN Hospital Challenge ระดับมำตรฐำนขึ้นไป เป้ำหมำย ร้อยละ 60 ผลกำรด ำเนินงำน ร้อยละ 100 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก งานสุขาภิบาลและป้องกันโรค สถำนกำรณ์ การด าเนินงาน GREEN & CLEAN Hospital ด าเนินการตามเกณฑ์การประเมินมาตั้งแต่ปี 2559 จนถึง ปัจจุบัน มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน -ด าเนินงานตามตามเกณฑ์ GREEN & CLEAN Hospital (G : Garbage, R: Rest room, E: Energy, E: Environment, N: Nutrition) ผลกำรด ำเนินงำน โรงพยาบาลผ่านเกณฑ์ GREEN & CLEAN Hospital Challenge ระดับดีเยี่ยม ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) 1. มีการให้บริการตลาดสีเขียว (Green market) ต่อเนื่องมาตั้งแต่ ปี 2560 2. มีการผลิตและใช้ผลิตภัณฑ์ล้างจานจากน้ าหมักผลไม้อย่างต่อเนื่อง 3. มีความร่วมมือกับเกษตรอ าเภอให้ความรู้กับเกษตรกรในการผลิตพืชผักอินทรีย์ ในเขตอ าเภอธาตุพนม 4. สนับสนุนกลุ่มวิสาหกิจข้าวอินทรีย์ในเขตอ าเภอธาตุพนม 5. มีการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในโรงพยาบาล ปัญหำอุปสรรค 1. การด าเนินงานตามตัวชี้วัดที่มีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องท าให้มีปัญหาด้านการประสานงานในบางครั้ง 2. การติดตามตัวชี้วัดในแต่ละหน่วยงาน 3. งบประมาณในการปรับปรุงสิ่งแวดล้อมด้านกายภาพ แนวทำงกำรพัฒนำ -การสร้างเครือข่ายเพื่อให้หน่วยงานอื่นๆ ได้รับทราบนโยบาย GREEN & CLEAN Hospital Challenge เพื่อพัฒนาให้โรงยาบาลผ่านเกณฑ์ระดับ Challenge


69 สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน -ด้านงบประมาณในการด าเนินการพัฒนาด้านกายภาพ เช่น การปรับปรุงภูมิทัศน์ เป็นต้น ผู้รำยงำน นายสมศักดิ์ อินทมาต ต าแหน่ง นวก.สาธารณสุขช านาญการ วัน/เดือน/ปี 20/1/2567 โทร 0857387880 E-Mail [email protected]


70 6.6 แผนพัฒนำ พัฒนำกำรท่องเที่ยวเชิงสุขภำพและกำรแพทย์ 19-25 ตัวชี้วัด 19 ร้อยละผลิตภัณฑ์สุขภำพที่ได้รับกำรส่งเสริมและได้รับกำรอนุญำต เป้ำหมำย 100 ผลกำรด ำเนินงำน 100 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก กลุ่มงานเภสัชกรรมและคุ้มครองผู้บริโภค สถำนกำรณ์ ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา ผลงานผ่านตามเป้าหมาย มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน ส่งเสริมให้วิสาหกิจชุมชนในพื้นที่อ าเภอธาตุพนม ออกตรวจและให้ความรู้ในการพัฒนาสถานที่ผลิตอาหาร ให้ได้มาตรฐานและด าเนินการขออนุญาต จนได้รับการอนุญาตจากส านักงานสาธารณสุขจังหวัด ผลกำรด ำเนินงำน เป้าหมาย วิสาหกิจชุมชน 1 แห่ง ผลงาน 1 แห่งได้รับอนุญาต คิดเป็นร้อยละ 100 ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) การออกให้ค าแนะน าในการปรับปรุงหรือสร้างสถานที่ผลิตอาหาร จัดท ากลุ่มไลน์ผู้ประกอบการกับ เจ้าหน้าที่อ าเภอ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากพัฒนาชุมชน แนวทำงกำรพัฒนำ พัฒนาตามมาตรฐาน GMP ของกระทรวงสาธารณสุข สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน ไม่มี ผู้รำยงำน นายณัฐพล ผลโยน ต าแหน่งเภสัชกรช านาญการ วัน/เดือน/ปี 17 มกราคม 2567. โทร.0867138801 .E-Mail [email protected]


71 ตัวชี้วัด 20 ร้อยละสถำนที่จ ำหน่ำยอำหำรผ่ำนเกณฑ์มำตรฐำนตำมกฎหมำยก ำหนด เป้ำหมำย ร้อยละ 35 ผลกำรด ำเนินงำน ร้อยละ 100 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก กลุ่มงานเภสัชกรรมและคุ้มครองผู้บริโภค สถำนกำรณ์ ในรอบ 3 เดือนทีผ่านมา พบว่าสถานที่จ าหน่ายอาหารผ่านเกณฑ์มาตรฐานตามกฎหมายก าหนด GMP มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน ด าเนินการออกตรวจสถานที่ผลิตอาหารปีละ 2 ครั้ง อบรมให้ความรู้ผู้ประกอบการปีละ 1 ครั้ง ผู้ประกอบ กิจการน้ าดื่มมีผู้ควบคุมการผลิตทุกแห่ง และส่งตรวจวิเคราะห์ปีละ 1 ครั้ง จัดท าไลน์กลุ่มผู้ผลิตอาหารเพื่อสื่อสา ระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ผลิตอาหาร ผลกำรด ำเนินงำน ตรวจสถานที่ที่ต้องผ่านมาตรฐาน GMP จ านวน 45 แห่ง ผ่าน 45 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 100 ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) ความร่วมมือของผู้ประกอบกิจการผลิตอาหาร ปัญหำอุปสรรค ไม่มี แนวทำงกำรพัฒนำ -ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีความรู้เกี่ยวกับการผลิตอาหาร -มีการตรวจติดตามกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน ไม่มี ผู้รำยงำน นายณัฐพล ผลโยน ต าแหน่งเภสัชกรช านาญการ วัน/เดือน/ปี 17 มกราคม 2567. โทร.0867138801 .E-Mail [email protected]


72 ตัวชี้วัด 21 ร้อยละของวัยท ำงำนอำยุ 25-59 ปี ที่มีกำรเตรียมกำรเพื่อยำมสูงอำยุด้ำนสุขภำพโดยกำรมี พฤติกรรมที่พึงประสงค์ เป้ำหมำย ร้อยละ 47 ผลกำรด ำเนินงำน ร้อยละ 38.41 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก งานส่งเสริมสุขภาพ กลุ่มงานบริการด้านปฐมภูมิและองค์รวม สถำนกำรณ์ ผู้รับผิดชอบวัยท างาน คณะกรรมการประสานงานสาธารณสุขระดับอ าเภอธาตุพนม ได้ด าเนินการ ส่งเสริมสุขภาพควบคู่ไปกับการสร้างความรอบรู้สุขภาพ โดยเน้นการเข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม ทั้งในองค์กร ชุมชน และสถานประกอบการ โดยมีการส ารวจพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์ของวัยท างานประกอบด้วยพฤติกรรม 4 ด้าน ได้แก่ พฤติกรรมการกิน พฤติกรรมการเคลื่อนไหวออกแรง พฤติกรรมการนอน และพฤติกรรมการดูแลช่อง ปาก โดยแบ่งการการเก็บข้อมูลตามช่วงอายุของวัยท างาน ดังนี้ ซึ่งประกอบไปด้วย วัยท างานตอนต้น (อายุ 15-29 ปี) วัยท างานตอนกลาง (อายุ 30-44 ปี) วัยท างานตอนปลาย (อายุ 45-59 ปี) ในปี 2564 - 2566 ได้ผลดังนี้ ร้อย ละ 8.82, 20.42, และ 38.41 ตามล าดับ จากการวิเคราะห์พบว่า ช่วงวัยที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นวัย ท างานตอนปลาย ซึ่งจะอยู่ในช่วงที่ค่อนข้างมีพฤติกรรมเนือยนิ่ง การรับรู้ข่าวสารทางเทคโนโลยีช้ากว่าช่วงวัยอื่นๆ ท าให้ผลงานพฤติกรรมที่พึงประสงค์ค่อนข้างต่ ากว่าเป้าหมาย แต่ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน งานส่งเสริมสุขภาพวัยท างาน อ าเภอธาตุพนม ด าเนินงานภายใต้โครงการวัยท างาน ฉลาดรอบรู้ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยมีตัวชี้วัดของโครงการเป็นแนวทางก ากับติดตามผลลัพธ์ ดังนี้ 1) วัยท างานอายุ19-59 ปี มีค่าดัชนีมวลกายปกติ ร้อยละ 53 2) วัยท างานอายุ19-59 ปี มีรอบเอวปกติ ร้อยละ 57 3) อัตราความรอบรู้สุขภาพ ร้อยละ 80 4) วัยท างานมีพฤติกรรมที่พึงประสงค์ร้อยละ 47 โดยมีมาตรการครอบคลุมกิจกรรมทางกาย มาตรการด้านอาหาร การสร้างความรอบรู้ บูรณาการงาน ควบคุมโรคไม่ติดต่อ อนามัยสิ่งแวดล้อมและอาชีวอนามัย และภาคีเครือข่ายสุขภาพ ผลกำรด ำเนินงำน ผลการด าเนินงานในปีงบประมาณ 2564 - 2566 โดยเริ่มส ารวจพฤติกรรมดังกล่าวในเดือนมกราคม - กรกฎาคม ของทุกปี ซึ่งอ าเภอธาตุพนมได้เข้าร่วมประชุมชี้แจงและด าเนินการตามเป้าหมาย มีการติดตามเก็บและ บันทึกข้อมูล โดยมีผลการส ารวจพฤติกรรมที่พึงประสงค์วัยท างาน 25 - 59 ปี ในปี 2564 - 2566 ได้ผลดังนี้ ร้อยละ 8.82, 6.94, และ 38.41 ตามล าดับ ส าหรับการด าเนินงาน ปี 2567 ยังไม่ได้รับการคืนข้อมูลผ่านเว็ป ไซต์


73 ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) 1. ผู้รับผิดชอบวัยท างานระดับจังหวัดมีการจัดประชุมอบรมการด าเนินงาน มีการก าหนดตัวชี้วัดและ ขับเคลื่อนผ่านแผนปฏิบัติงานประเมินยุทธศาสตร์จังหวัดนครพนม เพื่อให้ประชาชนเกิดความรอบรู้สุขภาพ 2. ผู้รับผิดชอบวัยท างานระดับอ าเภอด าเนินงานตามแผนปฏิบัติงาน 3. ภาคีเครือข่ายในพื้นที่มีความเข็มแข็ง และเห็นความส าคัญต่อปัญหาสุขภาพ ปัญหำอุปสรรค 1. การส ารวจในกลุ่มสถานประกอบการยังค่อนข้างน้อย 2. ความเข้าใจในข้อค าถามไม่เหมือนกัน 3. ต้องใช้สมาร์ทโฟนและอินเทอร์เนตเท่านั้น 4. การส่งลิ้งค์แบบสอบถามให้กลุ่มเป้าหมาย มีกลุ่มเป้าหมายบางส่วนไม่กล้าท าเนื่องจากกลัวว่าเป็น ลิ้งของมิจฉาชีพ แนวทำงกำรพัฒนำ ก ากับติดตามการบันทึกข้อมูลทุกเดือน สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน - ผู้รำยงำน น.ส. สิรกันยา สิงห์ศรี ต าแหน่ง นักวิชาการสาธารณสุขช านาญการ วัน/เดือน/ปี19 มกราคม 2567 โทร088 – 5622372 E-Mai [email protected]


74 ตัวชี้วัด 23 จ ำนวนศูนย์เวลเนส (Wellness Center) / แหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภำพที่ได้รับกำรยกระดับแบบ มีส่วนร่วมและสร้ำงสรรค์ด้ำนภูมิปัญญำกำรแพทย์แผนไทย กำรแพทย์ทำงเลือก และสมุนไพรให้มีคุณค่ำมูลค่ำสูง เป้ำหมำย สถำนประกอบกำรที่ผ่ำนกำรรับรอง Wellness center จ ำนวน 1 แห่ง ผลกำรด ำเนินงำน สถานประกอบการขึ้นทะเบียนและผ่านการรับรอง Wellness center จ านวน 5 แห่ง กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก กลุ่มงานการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สถำนกำรณ์ ปีงบประมาณ 2567 อ าเภอธาตุพนมมีการด าเนินการยกระดับสถานประกอบการที่ผ่านการประเมินเป็น ศูนย์เวลเนส (Wellness Center) ตามยุทธศาสตร์สาธารณสุขจังหวัดนครพนมในการคัดเลือกสถานประกอบการที่มี ความพร้อมจากทั้ง 5 ประเภท อย่างน้อยอ าเภอละ 1 แห่ง และการคัดเลือกชุมชนซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่ ได้รับการรับรองเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพภูมิปัญญาไทยและสมุนไพร มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน อ าเภอธาตุพนม มีการด าเนินการลงพื้นที่เพื่อประชาสัมพันธ์และแนะน าการขึ้นทะเบียนเพื่อยกระดับ สถานประกอบการในพื้นที่ ทั้ง 5 ประเภท ได้แก่ ประเภทที่พักนักท่องเที่ยว, ประเภทภัตตาคาร ร้า อาหาร, ประเภทนวดเพื่อสุขภาพ, ประเภทสปาเพื่อสุขภาพ และประเภทสถานพยาบาล เพื่อประเมินและขึ้น ทะเบียนเป็นศูนย์เวลเนส (Wellness Center) และลงพื้นที่ส ารวจและประเมินแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพภูมิปัญญา ไทยและสมุนไพร ผลกำรด ำเนินงำน อ าเภอธาตุพนม มีการด าเนินการในการขึ้นทะเบียนและยกระดับสถานประกอบการประเมินเป็นศูนย์เวล เนส (Wellness Center) และผ่านการรับรองโดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จ านวน 5 แห่ง (เป้าหมาย 1 แห่ง) สถานประกอบการผ่านการรับรองประเภทที่พักนักท่องเที่ยว จ านวน 3 แห่ง ได้แก่ ไพลินโฮมสเตย์, โรงแรมตาฮักยาย และโรงแรมธาตุพนมริเวอร์วิว สถานประกอบการผ่านการรับรองประเภทภัตตาคาร ร้านอาหาร จ านวน 2 แห่ง ได้แก่ ดาวทองอาหาร เวียดนาม และตาฮักยายภัตตาคาร การประเมินแหล่งท่องเที่ยวชุมชนเพื่อการรับรองเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพภูมิปัญญาไทยและ สมุนไพร ร่วมกับส านักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม จ านวน 2 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนท่องเที่ยวบ้านดงป่ายูง และ ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมชนเผ่าไทกวนบ้านนาถ่อน (อยู่ระหว่างรวบรวมเอกสารส่งกรมการแพทย์แผนไทยและ การแพทย์ทางเลือก) ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี(ถ้ำมี) - ต้นทุนการเป็นแหล่งท่องเที่ยวเดิมของพื้นที่อ าเภอธาตุพนม - ความร่วมมือของผู้ประกอบการในพื้นที่


75 ปัญหำอุปสรรค ผู้ประกอบการยังไม่เห็นความส าคัญ/ประโยชน์ของการเข้าร่วม ขาดแรงจูงใจ หรือสิ่งที่ผู้ประกอบการจะ ได้รับที่เป็นรูปธรรมชัดเจน จากการยกระดับมาตรฐานให้เป็นศูนย์เวลเนส (Wellness Center) และขาดงบประมาณ สนับสนุนการด าเนินงานในพื้นที่ แนวทำงกำรพัฒนำ มีการพัฒนาสถานประกอบการที่มีความพร้อมผ่านการประเมิน Wellness Center ต่อยอดเป็น Thainess Wellness center เพื่อเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจ พัฒนาต่อยอดอัตลักษณ์ของอ าเภอธาตุพนม เพื่อดึงดูด นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติเพิ่มมากขึ้น และออกด าเนินการเชิงรุก ก ากับ ติดตาม ประเมินผลในสถาน ประกอบการที่มีความพร้อมในการขอขึ้นทะเบียนต่อเนื่อง สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน - สื่อประชาสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับการยกระดับสถานประกอบการในการประเมินเป็นศูนย์เวลเนส (Wellness Center) - สื่อประชาสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับการยกระดับสถานประกอบการในการประเมินเป็นศูนย์เวลเนส (Wellness Center) ต่อยอดเป็น Thainess Wellness center - ความส าคัญ ประโยชน์ แรงจูงใจ และสิ่งตอบแทนที่สถานประกอบการได้รับเมื่อขึ้นทะเบียนเป็นศูนย์ เวลเนส (Wellness Center) ผู้รำยงำน พทป.ศุภฤกษ์ บัวชุม ต ำแหน่ง/หน่วยงำน แพทย์แผนไทยปฏิบัติการ วัน/เดือน/ปี17 มกราคม 2567 เบอร์ติดต่อ 096-9057216 E-mail [email protected]


76 ตัวชี้วัด 24 เศรษฐกิจสุขภำพ 24.1 Healthy cities model เป้ำหมำย 1 แห่ง/เขตสุขภำพ ผลกำรด ำเนินงำน อยู่ระหว่างการด าเนินงาน กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก กลุ่มงานการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สถำนกำรณ์ กระทรวงสาธารณสุขมุ่งเน้นการพัฒนาความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนแบบองค์รวมให้ทุกคนสามารถมีชีวิต ที่ยืนยาวและมีสุขภาพดีในสภาพแวดล้อมชุมชนที่ตนอาศัย โดยมีองค์ประกอบ 7 ประการ ได้แก่ กินดี (อาหาร ปลอดภัย), อยู่ดี (ออกก าลังกาย), อารมณ์ดี (สุขภาพจิตดี), สติปัญญาดี, สังคมดี, สิ่งแวดล้อมดี และ ระบบบริการสุขภาพดี ซึ่งเป็นพื้นฐานส าหรับการประเมินสุขภาพของประชากรในทุกเมือง ตามความหมายของ Healthy City Model มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน 1.บูรณาการกลุ่มงานที่รับผิดชอบเพื่อขับเคลื่อนตามนโยบายให้สอดคล้องทั้ง 7 องค์ประกอบ 2. การประชุมร่วมกันของกลุ่มงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแผนการด าเนินงานในพื้นที่ 3.ลงพื้นที่เป้าหมายเพื่อเตรียมความพร้อมและประเมินตามองค์ประกอบ 7 ประการ ผลกำรด ำเนินงำน อยู่ระหว่างการด าเนินงาน (ต าบลนาถ่อนหรือต าบลอุ่มเหม้า) ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) - ไม่มี (อยู่ระหว่างการด าเนินงาน) ปัญหำอุปสรรค - ขาดความชัดเจนในการชี้แจง/ถ่ายทอดนโยบาย สู่การปฏิบัติ - ขาดงบประมาณสนับสนุนการด าเนินงานในระดับจังหวัด แนวทำงกำรพัฒนำ - เกิดเป็นชุมชนสุขภาพต้นแบบน าอัตลักษณ์ของชุมชนผสมผสานเกิดการสร้างรายได้ให้กับชุมชน - เกิดชุมชนสุขภาพดีวิถีชุมชน คนอายุยืน และสามารถรองรับผู้มาเยือนหรือนักท่องเที่ยวได้ สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน - งบประมาณสนับสนุนการด าเนินงาน ผู้รำยงำน พทป.ศุภฤกษ์ บัวชุม ต ำแหน่ง/หน่วยงำน แพทย์แผนไทยปฏิบัติการ วัน/เดือน/ปี17 มกราคม 2567 เบอร์ติดต่อ 096-9057216E-mail [email protected]


77 ตัวชี้วัด 24.2 รับรอง Wellness Center เป้ำหมำย สถำนประกอบกำรที่ผ่ำนกำรรับรอง Wellness center ผลกำรด ำเนินงำน สถานประกอบการขึ้นทะเบียนและผ่านการรับรอง Wellness center จ านวน 5 แห่ง กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก กลุ่มงานการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สถำนกำรณ์ ปีงบประมาณ 2567 อ าเภอธาตุพนมมีการด าเนินการยกระดับสถานประกอบการที่ผ่านการประเมินเป็น ศูนย์เวลเนส (Wellness Center) ตามยุทธศาสตร์สาธารณสุขจังหวัดนครพนมในการคัดเลือกสถานประกอบการที่มี ความพร้อมจากทั้ง 5 ประเภท อย่างน้อยอ าเภอละ 1 แห่ง และการคัดเลือกชุมชนซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่ ได้รับการรับรองเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพภูมิปัญญาไทยและสมุนไพร มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน อ าเภอธาตุพนม มีการด าเนินการลงพื้นที่เพื่อประชาสัมพันธ์และแนะน าการขึ้นทะเบียนเพื่อยกระดับ สถานประกอบการในพื้นที่ ทั้ง 5 ประเภท ได้แก่ ประเภทที่พักนักท่องเที่ยว, ประเภทภัตตาคาร ร้า อาหาร, ประเภทนวดเพื่อสุขภาพ, ประเภทสปาเพื่อสุขภาพ และประเภทสถานพยาบาล เพื่อประเมินและขึ้น ทะเบียนเป็นศูนย์เวลเนส (Wellness Center) และลงพื้นที่ส ารวจและประเมินแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพภูมิปัญญา ไทยและสมุนไพร ผลกำรด ำเนินงำน อ.ธาตุพนม มีการด าเนินการในการขึ้นทะเบียนและยกระดับสถานประกอบการประเมินเป็นศูนย์เวลเนส (Wellness Center) และผ่านการรับรองโดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จ านวน 5 แห่ง สถานประกอบการผ่านการรับรองประเภทที่พักนักท่องเที่ยว จ านวน 3 แห่ง ได้แก่ ไพลินโฮมสเตย์, โรงแรมตาฮักยาย และโรงแรมธาตุพนมริเวอร์วิว สถานประกอบการผ่านการรับรองประเภทภัตตาคาร ร้านอาหาร จ านวน 2 แห่ง ได้แก่ ดาวทองอาหาร เวียดนาม และตาฮักยายภัตตาคาร การประเมินแหล่งท่องเที่ยวชุมชนเพื่อการรับรองเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพภูมิปัญญาไทยและ สมุนไพร ร่วมกับส านักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม จ านวน 2 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนท่องเที่ยวบ้านดงป่ายูง และ ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมชนเผ่าไทกวนบ้านนาถ่อน (อยู่ระหว่างรวบรวมเอกสารส่งกรมการแพทย์แผนไทยและ การแพทย์ทางเลือก) ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) - ต้นทุนการเป็นแหล่งท่องเที่ยวเดิมของพื้นที่อ าเภอธาตุพนม - ความร่วมมือของผู้ประกอบการในพื้นที่


78 ปัญหำอุปสรรค ผู้ประกอบการยังไม่เห็นความส าคัญ/ประโยชน์ของการเข้าร่วม ขาดแรงจูงใจ หรือสิ่งที่ผู้ประกอบการจะ ได้รับที่เป็นรูปธรรมชัดเจน จากการยกระดับมาตรฐานให้เป็นศูนย์เวลเนส (Wellness Center) และขาดงบประมาณ สนับสนุนการด าเนินงานในพื้นที่ แนวทำงกำรพัฒนำ มีการพัฒนาสถานประกอบการที่มีความพร้อมผ่านการประเมิน Wellness Center ต่อยอดเป็น Thainess Wellness center เพื่อเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจ พัฒนาต่อยอดอัตลักษณ์ของอ าเภอธาตุพนม เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาว ไทยและต่างชาติเพิ่มมากขึ้น และออกด าเนินการเชิงรุก ก ากับ ติดตาม ประเมินผลในสถานประกอบการที่มีความ พร้อมในการขอขึ้นทะเบียนต่อเนื่อง สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน - สื่อประชาสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับการยกระดับสถานประกอบการในการประเมินเป็นศูนย์เวลเนส (Wellness Center) - สื่อประชาสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับการยกระดับสถานประกอบการในการประเมินเป็นศูนย์เวลเนส (Wellness Center) ต่อยอดเป็น Thainess Wellness center - ความส าคัญ ประโยชน์ แรงจูงใจ และสิ่งตอบแทนที่สถานประกอบการได้รับเมื่อขึ้นทะเบียนเป็นศูนย์ เวลเนส (Wellness Center) ผู้รำยงำน พทป.ศุภฤกษ์ บัวชุม ต ำแหน่ง/หน่วยงำน แพทย์แผนไทยปฏิบัติการ วัน/เดือน/ปี17 มกราคม 2567 เบอร์ติดต่อ 096-9057216 E-mail [email protected]


79 ตัวชี้วัด 24.3 ผลิตภัณฑ์สุขภำพชุมชนที่ได้รับอนุญำตใหม่ เป้ำหมำย 100 ผลกำรด ำเนินงำน 100 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก กลุ่มงานเภสัชกรรมและคุ้มครองผู้บริโภค สถำนกำรณ์ ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา ผลงานผ่านตามเป้าหมาย มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน ส่งเสริมให้วิสาหกิจชุมชนในพื้นที่อ าเภอธาตุพนม ออกตรวจและให้ความรู้ในการพัฒนาสถานที่ผลิตอาหาร ให้ได้มาตรฐานและด าเนินการขออนุญาต จนได้รับการอนุญาตจากส านักงานสาธารณสุขจังหวัด ผลกำรด ำเนินงำน เป้าหมาย วิสาหกิจชุมชน 1 แห่ง ผลงาน 1 แห่งได้รับอนุญาต คิดเป็นร้อยละ 100 ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) การออกให้ค าแนะน าในการปรับปรุงหรือสร้างสถานที่ผลิตอาหาร จัดท ากลุ่มไลน์ผู้ประกอบการกับ เจ้าหน้าที่อ าเภอ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากพัฒนาชุมชน ปัญหำอุปสรรค ไม่มี แนวทำงกำรพัฒนำ พัฒนาตามมาตรฐาน GMP ของกระทรวงสาธารณสุข ผู้รำยงำน นายณัฐพล ผลโยน ต าแหน่งเภสัชกรช านาญการ วัน/เดือน/ปี 17 มกราคม 2567. โทร.0867138801 .E-Mail [email protected]


80 ตัวชี้วัด : 24.4 Care giver เป้ำหมำย : - กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก งานการพยาบยาลชุมชน กลุ่มงานปฐมภูมิและองค์รวม สถำนกำรณ์ อ าเภอธาตุพนม ปี 2564 – 2566 มีจ านวนผู้สูงอายุ 11,035, 11,184 และ 11,493 คน ตามล าดับ เพื่อให้ผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่มีภาวะพึ่งพิงกลุ่มอื่นๆมีสิทธิได้รับการดูแลตามสิทธิประโยชน์ ส่งเสริมและสนับสนุนตาม กฎหมาย เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี โดยกระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายให้การสร้างเสริมสุขภาวะส าหรับผู้สูงอายุและผู้ อยู่ในภาวะพึ่งพิง เป็นนโยบายและให้ความส าคัญ โดยในอ าเภอธาตุพนม มีผู้จัดการการดูแลผู้สูงอายุ (Care manger :CM) จ านวน 24 คน และมีผู้ดูแลผู้สูงอายุ (Caregiver: CG) จ านวน 179 คน จากการส ารวจพบว่า ปัจจุบัน มี caregiver ที่ปฏิบัติงานจริงทั้งหมด 115 คน มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน 1. ระบบการดูแลระยะยาวผู้สูงอายุและผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในต าบล LTC เพื่อให้ผู้สูงอายุและผู้ที่มีภาวะพึงพิง ได้รับการดูแลตามชุดสิทธิประโยชน์ ตามแผนการดูแลรายบุคคล โดยการจัดบริการและด าเนินงานร่วมกับภาคี เครือข่าย อปท/อบต. อย่างต่อเนื่อง 2. พัฒนาบุคคลากรผู้รับผิดชอบงานและผู้เกี่ยวข้อง พัฒนาฟื้นฟูศักยภาพผู้จัดการผู้สูงอายุ CM และผู้ดูแล ผู้สูงอายุ care giver อย่างต่อเนื่อง ในระดับอ าเภอ ผลกำรด ำเนินงำน ตัวชี้วัด/ปีงบประมำณ จ ำนวนcaregiver ที่ ผ่ำนกำรอบรม (คน) จ ำนวนcaregiver ที่ผ่ำนกำรอบรม ที่ ปฏิบัติงำนจริง (คน) คิดเป็นร้อยละ 24.4 Care giver 179 115 64.24 ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) 1. การด าเนินการต าบลLong Term care ได้รับความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย 2. การสนับสนุนจากผู้บริหาร ความร่วมมือจากทีมสหสาขาวิชาชีพ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและชุมชน ปัญหำอุปสรรค - - บางพื้นที่ caregiver ที่ผ่านการอบรม มีจ านวนน้อย เนื่องจากไปท างานตางจังหวัด บางคนไม่มีเวลา - - caregiver บางคนที่ไม่ใช่ อสม. ที่ผ่านการอบรม มาจากครอบครัว สามารถดูแลเฉพาะผู้ป่วยในครอบครัว แต่ไม่สามารถไปดูแลผู้ป่วยคนอื่นได้ เนื่องจากไม่มีเวลาและมีภาวะ ต้องท างาน - - caregiver ไม่มีเวลาปฏิบัติงาน เนื่องจากมีงานประจ าที่ต้องท า


81 แนวทำงกำรพัฒนำ 1. พัฒนาศักยภาพการดูแลผู้สูงอายุแก่ผู้สูงอายุในชุมชน และผู้ดูแล caregiver(CG) อสม. CM และ อาสาสมัครบริบาลท้องถิ่น อย่างต่อเนื่อง 2. พัฒนา caregiver ที่เป็นผู้ดูแลผู้ป่วยในครอบครัวจริงให้สามารถดูแลผู้ป่วยที่บ้านได้ สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน - การจัดการอบรมของ caregiver โดยต้องการให้มีหน่วยงานที่รับผิดชอบช่วยด าเนินการจัดการดูแล ผู้รำยงำน นางผกาพรรณ อังคนาวราพันธุ์ ต าแหน่ง พยาบาลวิชาชีพช านาญ วัน/เดือน/ปี 12 มกราคม 2567 โทร 084-606-4999 E-Mail [email protected]


82 ตัวชี้วัด 24.5 นวดไทยเพื่อสุขภำพ เป้ำหมำย สร้ำงงำนสร้ำงอำชีพให้กับประชำชน นวดไทย 5,000 คน (65 คน/จังหวัด) ผลกำรด ำเนินงำน จ านวน 351 คน กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก กลุ่มงานการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สถำนกำรณ์ จังหวัดนครพนม สนับสนุนให้ประชาชนมีทักษะในการประกอบอาชีพ โดยเปิดให้บริการประชาชนผู้ที่ได้รับ วุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตรที่ได้รับจากสถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ ที่ได้รับการรับรองจาก คณะกรรมการตรวจและประเมินมาตรฐานสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สามารถยื่นค าขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ ให้บริการในสถานประกอบการนวดเพื่อสุขภาพ โดยได้เปิดให้บริการขึ้นทะเบียนตั้งแต่ ปี 2560 – 2567 (ต.ค. - ธ.ค. 2566) ผลกำรด ำเนินงำน จังหวัดนครพนมมีผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ขอขึ้นทะเบียนตั้งแต่ ปี 2560 – 2567 (ต.ค. - ธ.ค. 2566) จ านวน 351 คน (ที่มา: กลุ่มงงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข ทะเบียนผู้ให้บริการในสถาน ประกอบการนวดเพื่อสุขภาพ ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2566) ปัญหำอุปสรรค - ขาดงบประมาณในการสนับสนุนประชาชนที่สนใจเข้ารับการอบรมนวดเพื่อสุขภาพในภาพจังหวัด - จังหวัดไม่มีสถาบันจัดอบรมการอบรม และหลักสูตรที่ผ่านการรับรองจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ - ผู้ให้บ ริก า รนวดที่ม าขึ้นทะเบียนนวดแล้ วไม่ส าม า รถติดต ามได้ว่ าตอนนี้ยังท าง าน อยู่ใน สถานประกอบการในจังหวัดหรือต่างจังหวัด แนวทำงกำรพัฒนำ - จัดท าฐานขอมูลในภาพอ าเภอธาตุพนม - จัดอบรมการนวดไทย เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้รับความรู้เกิดการสร้างงานสร้างอาชีพ - พัฒนาหลักสูตรการนวดให้เกิดอัตลักษณ์การนวดเฉพาะถิ่น เพื่อสร้างแรงดึงดูดและกระตุ้นเศรษฐกิจ สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน - งบประมาณการจัดอบรมการนวดไทย - พัฒนาหลักสูตรการนวดไทยที่ผ่านการรับรอง ผู้รำยงำน พทป.ศุภฤกษ์ บัวชุม ต ำแหน่ง/หน่วยงำน แพทย์แผนไทยปฏิบัติการ วัน/เดือน/ปี17 มกราคม 2567 เบอร์ติดต่อ 096-9057216 E-mail [email protected]


83 6.7 แผนพัฒนำ พัฒนำคุณภำพชีวิตระดับอ ำเภอ (พชอ.) ตัวชี้วัดที่ 26 ตัวชี้วัด 26. ร้อยละของอ ำเภอผ่ำนเกณฑ์กำรประเมินกำรพัฒนำคุณภำพชีวิตที่มีคุณภำพ เป้ำหมำย ร้อยละ 87 ผลกำรด ำเนินงำน ร้อยละ100 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก การสาธารณสุขมูลฐานและระบบสุขภาพปฐมภูมิ อ าเภอธาตุพนม สถำนกำรณ์ หลักการด าเนินงานพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอ าเภอ (พชอ.) อ าเภอธาตุพนม คือใช้พื้นที่เป็นฐานประชาชน เป็นศูนย์กลาง ด้วยการท างานอย่างมีส่วนร่วมตามหลักการ “พื้นที่เป็นฐาน ประชาชนเป็น ศูนย์กลาง”ก าหนด ประเด็นการพัฒนาและแก้ไขปัญหาคุณภาพชีวิต จ านวน 2 ประเด็นหลักและ 1 ประเด็นการพัฒนา ได้แก่ 1.การ จัดการมูลฝอยชุมชน 2.การพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยยาเสพติดและจิตเวช 3.การป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 การขับเคลื่อนการด าเนินงานพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับ อ าเภอ (พชอ.) ได้ปรับให้เข้ากับสถานการณ์ปัญหาด้านสุขภาพที่เปลี่ยนแปลง และพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการ ระบบสุขภาพระดับอ าเภอที่เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ มีกิจกรรมความร่วมมือที่ต้องเกิดจากทุกภาคีเครือข่าย เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เดียวกัน การด าเนินงานพัฒนาชีวิตระดับอ าเภอจึงเป็นอีกกลไกที่จะน าไปสู่ความส าเร็จได้ โดย เป้าหมายในการดูแลประชาชนและส่งเสริมให้ประชาชนดูแลตนเอง ครอบครัวและชุมชนร่วมกัน โดยใช้ปัญหาของ ประชาชนในพื้นที่ระดับหมู่บ้าน ต าบล อ าเภอ เป็นเป้าหมายร่วมกันในการพัฒนาคุณภาพชีวิตภายใต้บริบทของพื้นที่ เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดชุมชนเข้มแข็งและยั่งยืน มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน ประชุมทบทวนข้อมูลแผน/ประเด็นพัฒนาคุณภาพชีวิต ประสานงานเพื่อวางแผนพัฒนา ด าเนินงานตาม แผนในแต่ละประเด็นพัฒนาคุณภาพชีวิต ประเมินตนเองตามแบบประเมิน UCCARE ขับเคลื่อนการด าเนินงาน บูรณาการทรัพยากร กิจกรรมตามแผนงานโครงการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกระดับ ติดตามผลการ ด าเนินงานและเสริมพลังความเข้มแข็งในทีมคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับต าบล สรุปถอดบทเรียนและ รายงานผลความก้าวหน้าของกิจกรรมในแผนงาน/โครงการในแต่ละหน่วยงานที่ขับเคลื่อนด าเนินการ ผลกำรด ำเนินงำน 1. มีการทบทวนคณะกรรมการ (พชอ.) และประเด็นพัฒนาคุณภาพชีวิต 2. มีค าสั่งคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอ าเภอ และค าสั่งคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องแต่ละ ประเด็นที่เป็นปัจจุบัน 3ประชุมคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอ าเภอ (พชอ.) อ าเภอธาตุพนม 4. มีการประเมินตนเองตามแบบประเมิน UCCARE ตามไตรมาส


84 ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) 1. การด าเนินงาน อสม.บัดดี้เพื่อติดตามงานยาเสพติด 2. การเปิดศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด มินิธัญญารักษ์ รุ่นที่ 2 3. มีการบ าบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ป่วยยาเสพติดโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน (COMMUNITY BASED TREATMENT AND REHABILITATION : CBTx) 4. มีการด าเนินโครงการจัดตั้งธนาคารขยะชุมชนอย่างต่อเนื่อง (พื้นที่ด าเนินการ ต.อุ่มเหม้า, นาหนาดและดอนนางหงส์) ปัญหำอุปสรรค 1. การสับเปลี่ยน/โยกย้ายต าแหน่งประธาน พชอ.หรือบุคลากรในหน่วยงาน/องค์กรที่เป็นหลักหรือเป็น ทีมคณะกรรมการ พชอ. 2. กิจกรรมตามแต่ละประเด็นปัญหาต้องอาศัยการบูรณาการจากหลายภาคส่วน จึงจ าเป็นต้องก าหนด บทบาทหน้าที่/เป้าหมายการด าเนินงานไว้อย่างชัดเจน 3. งบประมาณสนับสนุน แนวทำงกำรพัฒนำ พัฒนาความร่วมมือและสนับสนุนการด าเนินงานพัฒนาคุณภาพชีวิตในทุกระดับต าบล การจัดท าแผน และวิเคราะห์สภาพปัญหาที่สอดคล้องกับปัญหาพื้นที่มีความหลากหลาย ควรบูรณาการความร่วมมือในทุกระดับ ทุกกิจกรรม ให้สามารถสอดรับและขับเคลื่อนกิจกรรมการด าเนินงานไปด้วยกัน สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน งบประมาณ ผู้รำยงำน นางกนกกาญจน์ นาโสม ต าแหน่ง พยาบาลวิชาชีพช านาญการ วัน/เดือน/ปี10/ มกราคม/2567 โทร ๐๙๑๑๔๒๔๙๖๒ E-Mail [email protected]


85 6.8 แผนพัฒนำ พัฒนำระบบกำรแพทย์ปฐมภูมิ ตัวชี้วัด 27-30 ตัวชี้วัด 27. จ ำนวนกำรจัดตั้งหน่วยบริกำรปฐมภูมิและเครือข่ำยหน่วยบริกำรปฐมภูมิตำมพระรำชบัญญัติ ระบบสุขภำพปฐมภูมิ พ.ศ. 2562 เป้ำหมำย ร้อยละ 100 ผลกำรด ำเนินงำน ร้อยละ100 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก การสาธารณสุขมูลฐานและระบบสุขภาพปฐมภูมิ อ าเภอธาตุพนม สถำนกำรณ์ การจัดตั้งหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิตามพระราชบัญญัติระบบสุขภาพปฐม ภูมิปี พ.ศ.2562 อ าเภอธาตุพนมได้จัดท าแผน 10 ปีเพื่อเป็นแนวทางการด าเนินงานจัดตั้งหน่วยบริการปฐมภูมิและ เครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิ จากการด าเนินงานพัฒนาคุณภาพหน่วยบริการ ปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการ ปฐมภูมิ ส่งผลให้เกิดการพัฒนาระบบบริการและมีกระบวนการที่เปลี่ยนแปลง มีการพัฒนาระบบการให้บริการ สาธารณสุขทางไกล (Telemedicine) ในรายที่มีปัญหาซับซ้อนแพทย์ติดตามแบบ Two-way ระบบงานเภสัชกรรม มีช่องทางการให้ค าปรึกษาผ่านทาง smart phone ระบบบริการตามกลุ่มวัยได้วางรูปแบบการคัดกรองและ ให้บริการโดยพยาบาลเวชปฏิบัติ ในปัญหาสุขภาพที่ซับซ้อนหรือเกินขีดความสามารถจึงปรึกษาหรือพบแพทย์ ประจ า PCU/NPCU เพื่อวินิจฉัยและท าการรักษา ผู้ป่วยจึงได้รับการส่งต่อพบแพทย์เฉพาะทางตามความเหมาะสม ผลลัพธ์ 5 ลด ดังนี้ลดการแออัดในโรงพยาบาล เช่น การส่งผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ในกลุ่มที่ควบคุมระดับน้ าตาลและ ความดันโลหิตสูงได้ดี มารับยาใน รพ.สต. ลดการรอคอย การส่งผู้ป่วยกลุ่มโรคเรื้อรังที่รับยาในรพ.สต หรือ PCU/NPCU สามารถให้การดูแลรักษา ปรับการใช้ยาและให้ค าแนะน าได้อย่างรวดเร็ว โดยมีพยาบาลเวชปฏิบัติฯท า หน้าที่คัดกรองแยกกลุ่มผู้ป่วย (ระดับดี ปานกลางและรุนแรง) ก่อนพบแพทย์ ลดค่าใช้จ่าย แพทย์และทีมสหวิชาชีพ ออกให้บริการจึงท าให้ผู้ป่วยเข้าถึงบริการ ไม่เสียเวลาในการเดินทาง เกิดความพึงพอใจในระบบบริการ ได้ประเมิน การเจ็บป่วยและวางแผนการรักษาเพิ่มเติมจากสภาพแวดล้อมของผู้ป่วยและครอบครัวได้ด้วย ลดป่วย การพัฒนา ระบบการดูแลสุขภาพประชาชนทุกกลุ่มวัยตามบทบาทของทีมสหวิชาชีพ PCU/NPCU ส่งผลให้อัตราการเจ็บป่วย ลดลง ลดตาย การพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพประชาชนทุกกลุ่มวัยพัฒนาระบบรักษาส่งต่อ การติดตามเยี่ยมบ้าน และให้ค าแนะน าแก่ผู้ป่วยและญาติในการเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนที่ส าคัญ มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน 1. ทบทวนค าสั่งคณะท างานพัฒนาระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ อ าเภอธาตุพนม 2. ประชุมชี้แจงการด าเนินงานพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิ 3. พัฒนาศักยภาพบุคลากรในหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิ เกี่ยวกับโปรแกรมที่ เกี่ยวข้องในการด าเนินงานปฐมภูมิ เช่น สอน.บัดดี้, หมอพร้อม Station 4. พัฒนาระบบจัดบริการสาธารณสุขทางไกล ( Telemedicine ) ในพื้นที่หน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่าย 5. นิเทศติดตามการด าเนินงานปฐมภูมิให้เป็นไปตามมาตรฐานบริการ


86 ผลกำรด ำเนินงำน ปี 2562 - 2566 อ าเภอธาตุพนมได้ประกาศขึ้นทะเบียนหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการ ปฐมภูมิ (Primary care unit of network primary care unit) จ านวน7 ทีม แบ่งเป็น PCU จ านวน 1 หน่วย NPCU จ านวน 6 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 100 ครอบคลุมประชากรทั้งหมด 80,282 คน ตำรำงแสดง สรุปผลการขึ้นทะเบียนหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการสุขภาพปฐมภูมิ ตาม พระราชบัญญัติ ระบบสุขภาพปฐมภูมิ พ.ศ. 2562 อ ำเภอ กำรขึ้นทะเบียน PCU/NPCU ปี 2562 - 2566 ควำมครอบคลุมประชำกร แผน 10 ปี ขึ้น ทะเบียน รวม ร้อยละ ปชก. ทั้งหมด ครอบคลุม ร้อยละ ธาตุพนม 7 7 7 100 80,282 80,282 100 ตำรำงแสดง สัดส่วนผู้มารับบริการใน PCU-NPCU (OPD visit) ) เปรียบเทียบกับรพ.แม่ข่าย ปีงบประมาณ2567 อ ำเภอ ร้อยละ OPD visit ของ PCU เปรียบเทียบ รพ.แม่ข่ำย จ ำนวนครั้งของผู้มำรับบริกำร (OPD visit) ปี 2567 2564 2565 2566 PCU รพ.แม่ข่ำย ร้อยละ ธาตุพนม 46.96 46.10 51.01 67,296 48,777 57.98 ตำรำงแสดง จ านวนการให้บริการสาธารณสุขทางไกล (Telemedicine) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 อ ำเภอ จ ำนวนให้บริกำรlสำธำรณสุขทำงไกล (ครั้ง) กำร Claim ส ำเร็จ (ครั้ง) รพ.สต. รพ. รวม จ ำนวน ร้อยละ ธาตุพนม 73 314 387 528 136.43 ที่มา : ระบบ HDC สสจ.นครพนม ข้อมูล ณ วันที่ 12 มกราคม 2567 ปัญหำอุปสรรค 1. บุคลากรขาดความรู้และทักษะในบางสาขา 2. บุคลากรมีภาระงานหลายด้าน และความถนัดไม่ตรงกับที่ปฏิบัติงาน 3. งบประมาณล่าช้าและไม่เพียงพอ แนวทำงกำรพัฒนำ 1. วางแผนจัดสรรบุคลากรให้เหมาะสมกับงาน 2. พัฒนาศักยภาพบุคลากรให้สอดคล้องกับการจัดบริการตามแผนพัฒนา 3. สนับสนุนงบประมาณให้สอดคล้องกับการจัดบริการในสถานบริการ 4. จัดบริการในลักษณะเครือข่ายบริการ เพื่อความหมุนเวียนให้ความช่วยเหลือระหว่างหน่วยบริการทั้ง ด้านบริการ งบประมาณ วัสดุอุปกรณ์ ด้านการบริหารและวิชาการ ผู้รำยงำน นางกนกกาญจน์ นาโสม ต าแหน่ง พยาบาลวิชาชีพช านาญการ วัน/เดือน/ปี 10/ มกราคม/2567 โทร ๐๙๑๑๔๒๔๙๖๒ E-Mail [email protected]


87 ตัวชี้วัด 28. ร้อยละของชุมชนมีกำรด ำเนินกำรจัดกำรสุขภำพที่เหมำะสมกับประชำชน เป้ำหมำย ร้อยละ 84 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก การสาธารณสุขมูลฐานและระบบสุขภาพปฐมภูมิ อ าเภอธาตุพนม สถำนกำรณ์ ข้อมูลทั่วไปอ าเภอธาตุพนม มี 12 อ าเภอ 136 หมู่บ้าน เน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนโดยมีพื้นที่เป็น ฐานและประชาชนเป็นศูนย์กลางมีรูปแบบกระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนใช้หลัก TPAR ประกอบด้วย สร้างทีมงานและเครือข่ายความร่วมมือในชุมชน(Team) มีแผนการด าเนินการสร้างเสริมความรอบรู้ และพฤติกรรมสุขภาพ และการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพที่ดี (Plan) ด าเนินการโดยกระบวนการมี ส่วนร่วม(Action) และมีการประเมินผล (Result) โดยใช้รูปแบบการพัฒนาหมู่บ้านปรับเปลี่ยน พฤติกรรมสุขภาพและโรงเรียนส่งเสริมสุขบัญญัติแห่งชาติ ขับเคลื่อนผ่านทีมเครือข่ายสุขภาพในชุมชน ผลการ ประเมินตนเองการพัฒนาหมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพในโปรแกรม Health Gate พบว่ามีการด าเนินงาน จ านวน 55 หมู่บ้าน จ านวนหมู่บ้านทั้งหมด 136 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 40.44 มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน 1. จัดท าแผนปฏิบัติการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 2. เข้าร่วมการประชุมชี้แจงถ่ายทอดแผนและตัวชี้วัดแนวทางการขับเคลื่อนการด าเนินงาน ชุมชนจัดการสุขภาพ ปี 2567 3. สร้างความเข้าใจและพัฒนาศักยภาพผู้รับผิดชอบงาน สุขศึกษาของสถานบริการสุขภาพ 4. สร้างเสริมศักยภาพให้ชุมชนมีการด าเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยใช้หลัก TPAR 5. ประเมินตนเองการพัฒนาหมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพในโปรแกรม Health Gate 6. ส่งเสริมการด าเนินงานสุขศึกษาผ่านรูปแบบหมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพและโรงเรียนสุขบัญญัติ แห่งชาติ 5. สร้างทีมเครือข่ายในการด าเนินงานระดับพื้นที่ 6. ส่งเสริม สนับสนุน ให้ชุมชนเป้าหมาย มีการด าเนินงานพัฒนาชุมชนจัดการสุขภาพในพื้นที่ ผลกำรด ำเนินงำน ตำรำงแสดง หมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ปีงบประมาณ 2566 อ ำเภอ จ ำนวน หมู่บ้ำน ประเมิน เสร็จ ร้อยละ ผลกำรประเมิน ก ำลัง พัฒนำ 1 ระดับ พัฒนำ 2 ระดับ ดี 3 ระดับดี มำก 4 ระดับดี เยี่ยม ธาตุพนม 136 55 40.44 0 2 30 7 16 ที่มา : โปรแกรม Health Gate วันที่ 18 ม.ค. 2567


88 ตำรำงแสดง ผลการประเมินการพัฒนาโรงเรียนสุขบัญญัติแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2566 อ ำเภอ จ ำนวน โรงเรียน ทั้งหมด ประเมิน เสร็จ ร้อยละ ผลกำรประเมิน ก ำลัง พัฒนำ 1 ระดับ พัฒนำ 2 ระดับ ดี 3 ระดับดี มำก 4 ระดับดี เยี่ยม ธาตุพนม 73 21 28.77 0 1 12 2 6 ที่มา : โปรแกรม Health Gate วันที่ 18 ม.ค. 2567 อ าเภอธาตุพนม มีจ านวนทั้งหมด 12 ต าบล 136 หมู่บ้าน มีการด าเนินงานหมู่บ้านปรับเปลี่ยนสุขภาพ รายงานผ่านโปรแกรม Health Gate ของกองสุขศึกษา จ านวน 55 หมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 40.44 และชุมชน (หมู่บ้าน) ที่มีการด าเนินงานได้ระดับพัฒนาขึ้นไป จ านวน 136 หมู่บ้าน ชุมชนมีการด าเนินการจัดการสุขภาพ คิด เป็นร้อยละ 8.33 โรงเรียนในเขตรับผิดชอบมีจ านวนทั้งหมด 73 แห่ง ประเมินตนเอง 21 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 28.77 ผลการประเมินโรงเรียนสุขบัญญัติแห่งชาติ คิดเป็นร้อยละ 8.21 ปัญหำอุปสรรค 1. เป็นงานที่ต้องบูรณาการและการด าเนินงานต้องอาศัยความต่อเนื่อง จึงจ าเป็นต้องมีการบริหารจัดการและ การวางแผนในการด าเนินงานที่ดี แนวทำงกำรพัฒนำ 1. ส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่มีความตระหนัก ร่วมคิด ร่วมท า ส่งเสริมสุขภาพของบุคคลในชุมชน 2. พัฒนาทักษะการสื่อสารของผู้ประสานงานเพื่อถ่ายทอดแนวทางสู่พื้นที่และผู้ปฏิบัติได้อย่างชัดเจนและ ถูกต้อง 3. สร้างความเข้าใจและพัฒนาศักยภาพผู้รับผิดชอบงานสุขศึกษาของสถานบริการสุขภาพ 4. การใช้ข้อมูลผลการประเมินตนเองในโปรแกรม Health gate และการน าข้อมูลผลการประเมินความ รอบรู้และพฤติกรรมสุขภาพไปใช้ต่อยอดการด าเนินงานในพื้นที่ ผู้รำยงำน นางกนกกาญจน์ นาโสม ต าแหน่ง พยาบาลวิชาชีพช านาญการ วัน/เดือน/ปี 10/ มกราคม/2567 โทร ๐๙๑๑๔๒๔๙๖๒ E-Mail [email protected]


89 ตัวชี้วัด 29. จ ำนวนอ ำเภอสุขภำพดี เป้ำหมำย ร้อยละ 84 ผลกำรด ำเนินงำน ร้อยละ100 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก การสาธารณสุขมูลฐานและระบบสุขภาพปฐมภูมิ อ าเภอธาตุพนม สถำนกำรณ์ อ าเภอธาตุพนม มีการด าเนินงานสอดคล้องกับนโยบายกระทรวงสาธารณสุข มีการจัดตั้งหน่วยบริการปฐม ภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิ, การพัฒนาคุณชีวิตอย่างมีคุณภาพ (พชอ.), ชุมชนมีการด าเนินการจัดการ สุขภาพที่เหมาะสมกับประชาชน, การพัฒนาต าบลจัดการคุณภาพชีวิต และ อสม. มีศักยภาพในการจัดบริการปฐม ภูมิขั้นพื้นฐานโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล อ าเภอสุขภาพดีในส่วนของโมดูลที่ 1 กลไกขับเคลื่อนอ าเภอ อ าเภอธาตุพนมมีการทบทวนและแต่งตั้ง คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอ าเภอ (พชอ.) ธาตุพนม มีการประชุมพิจารณาคัดเลือกประเด็นปัญหา การ จัดท าแผนงาน/โครงการของ พชอ. และระบุงบประมาณ/แหล่งงบประมาณ พร้อมกับบันทึกข้อมูลในระบบออนไลน์ ตามแบบประเมิน UCCARE โมดูลที่ 2 Health station มีการคัดเลือก ศสมช.ต้นแบบ อ าเภอละ 1 แห่ง คือ ศสมช. บ้านแก่งโพธิ์ ต าบลน้ าก่ า เพื่อพัฒนาเป็นต้นแบบการจัดบริการเฝ้าระวังและคัดกรองภาวะสุขภาพในชุมชน โมดูลที่ 3 Healthy package ประชาชนเข้าถึงกิจกรรมบริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคใน 5 กิจกรรม ประกอบด้วย (1) กินดี มีเมนูชูสุขภาพ (2) จิตดี มีคลินิกวัคซีนใจ (3) ลดเนือยนิ่ง ก้าวท้าใจ (4) สัมพันธภาพดี สมัครเข้าร่วมสาสุข อุ่นใจชาเล็นจ์ และ (5) สิ่งแวดล้อมดี มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน 1. จัดท าแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาสุขภาพการสาธารณสุขมูลฐานและระบบสุขภาพปฐมภูมิฉบับปรับปรุง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 2. เข้าร่วมการประชุมชี้แจงถ่ายทอดแผนและตัวชี้วัด การจัดตั้งหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วย บริการปฐมภูมิ, การพัฒนาคุณชีวิตอย่างมีคุณภาพ (พชอ.), ชุมชนมีการด าเนินการจัดการสุขภาพที่เหมาะสมกับ ประชาชน, การพัฒนาต าบลจัดการคุณภาพชีวิต และ อสม. มีศักยภาพในการจัดบริการปฐมภูมิขั้นพื้นฐานโดยใช้ เทคโนโลยีดิจิทัล 3. ก าหนดพื้นที่เป้าหมายในการพัฒนา โดยใช้พื้นที่เดียวกันกับ ต าบล-หมู่บ้าน-ศสมช. จัดการคุณภาพชีวิต 4. ก ากับติดตามผลการด าเนินงานอ าเภอสุขภาพดี ผ่านแพลตฟอร์มระบบฐานข้อมูลกลาง กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข 5. นิเทศติดตามและประเมินผลการด าเนินงานในพื้นที่ปีละ 1 ครั้ง และบูรณาการกับการออกติดตามงาน 6. ขับเคลื่อนงาน โดยบูรณาการกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง 7. สรุปผลการด าเนินงาน


90 ผลกำรด ำเนินงำน ตำรำงแสดง ผลการด าเนินงานตามตัวชี้วัดอ าเภอสุขภาพดี ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 อ ำเภอ โมดูลที่ 1 กลไก ขับเคลื่อนอ ำเภอ (พชอ.) โมดูลที่ 2 Health Station (แห่ง) โมดูลที่ 3 Healthy Package กินดี (เมนูชู สุขภำพ) จิตดี (วัคซีน ใจ) ลดเนือย นิ่ง (ก้ำว ท้ำใจ) สัมพันธภำ พ (สำสุขอุ่นใจ ชำเล็นจ์) เมือง สุขภำพ ดี ธาตุพนม 1.ปัญหาฝุ่น PM2.5 2.ผู้ป่วยสารเสพติด และจิตเวช 3.มูลฝอยชุมชน 136 (1) 2 1 8,913 7 1 ตำรำงแสดงผล การประเมินตนเองในสมรรถนะของจุดบริการเพื่อจัดบริการสถานีสุขภาพในชุมชน อ ำเภอ พิกัด ผลคะแนนประเมินตนเอง ผ่ำนระดับ Health station ด้าน 1 ด้าน 2 ด้าน 3 ด้าน 4 รวม ธาตุพนม ศสมช.ม2 ต.น้ าก่ า 3 3 2 1 9 ดีเด่น ปัญหำอุปสรรค 1. การประเมินผลแต่ละมาตรการไม่ชัดเจน และล่าช้า ท าให้ส่งผลต่อการประสานและขับเคลื่อน งานในระดับพื้นที่ 2. ภาระงานมีปริมาณมากขึ้นจึงจ าเป็นต้องมีการจัดสรรบุคลากรให้เหมะสมกับงานนั้นๆ และน ามาบูรณา การกับงานอื่นๆเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ ลดเวลาและความเครียดที่เพิ่มขึ้นได้ 3. ทักษะการสื่อสารของผู้ประสานงาน แนวทำงกำรพัฒนำ 5. สนับสนุนเทคโนโลยีและฝึกอบรมอสม.ให้เข้าถึง เข้าใจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการ 6. พัฒนาทักษะการสื่อสารของผู้ประสานงานเพื่อถ่ายทอดแนวทางสู่พื้นที่และผู้ปฏิบัติได้อย่างชัดเจนและ ถูกต้อง ผู้รำยงำน นางกนกกาญจน์ นาโสม ต าแหน่ง พยาบาลวิชาชีพช านาญการ วัน/เดือน/ปี 10/ มกราคม/2567 โทร ๐๙๑๑๔๒๔๙๖๒ E-Mail [email protected]


91 ตัวชี้วัด 30. อสม. มีศักยภำพในกำรจัดบริกำรปฐมภูมิขั้นพื้นฐำนโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เป้ำหมำย ร้อยละ 65 ผลกำรด ำเนินงำน ร้อยละ 62.46 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก การสาธารณสุขมูลฐานและระบบสุขภาพปฐมภูมิ อ าเภอธาตุพนม สถำนกำรณ์ ปี 2567 จังหวัดนครพนม มีเป้าหมายหญิงตั้งครรภ์ในระบบ 3 หมอ จ านวน 1,088 คน อสม. ติดตาม หญิงตั้งครรภ์ให้ได้รับยาเม็ดเสริมไอโอดีน จ านวน 26 คน คิดเป็นร้อยละ 2.38 (ข้อมูลจากระบบ 3 หมอรู้จักคุณวันที่ 18 มกราคม 2567) เป้าหมายผู้สูงอายุในระบบ 3 หมอ จ านวน 13,019 คน พบว่า อสม. คัดกรองภาวะถดถอย ผู้สูงอายุ 9 ด้าน จ านวน 9,577 คน คิดเป็นร้อยละ 73.56 (ข้อมูลจากระบบ 3 หมอรู้จักคุณ วันที่ 18 มกราคม 2567) เพื่อส่งเสริม สนับสนุนให้ประชาชนทุกช่วงวัยเข้าถึงบริการสุขภาพปฐมภูมิขั้นพื้นฐาน มีพฤติกรรมสุขภาพที่ ถูกต้องมีศักยภาพและมีส่วนร่วมในการจัดการสุขภาพตนเองและเพื่อลดค่าใช้จ่ายของประชาชนในการเดินทางไปพบ แพทย์ที่โรงพยาบาล ลดความแออัด ของโรงพยาบาล ลดการพึ่งพาโรงพยาบาลได้อย่างเป็นรูปธรรม มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน 1. ผู้รับผิดชอบงานเข้าร่วมประชุมชี้แจงการด าเนินงานสาธารณสุขมูลฐานและระบบสุขภาพปฐมภูมิ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ผ่านระบบออนไลน์ 2. วางแผนพัฒนาศักยภาพเพิ่มพูนทักษะให้แก่อาสาสมัครสาธารณสุข อ าเภอธาตุพนม 3. สนับสนุนการจัดบริการปฐมภูมิขั้นพื้นฐานของ อสม. และรายงานผลผ่าน smart อสม. , อสม. ออกติดตามเยี่ยมและดูแลผู้ป่วยกลุ่มเป้าหมาย ร่วมกับทีม 3 หมอและการจ่ายยาผู้ป่วย 4. ติดตามความก้าวหน้า และรายงานศักยภาพ อสม. ในการจัดบริการสุขภาพปฐมภูมิ ขั้นพื้นฐานโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Dashboard Smart อสม.) ทุกสิ้นเดือน 5. ติดตามความก้าวหน้า และรายงานผลการจัดบริการสุขภาพปฐมภูมิขั้นพื้นฐาน โดยใช้เทคโนโลยี ดิจิทัลจาก อสม. ในหญิงตั้งครรภ์ และผู้สูงอายุในชุมชน (ระบบ 3 หมอรู้จักคุณ และ thaiphc.net) ผลกำรด ำเนินงำน * ข้อมูลจาก Dashboard Smart อสม. วันที่ 25 ธันวาคม 2566 ** ข้อมูลจากระบบ 3 หมอรู้จักคุณ วันที่ 18 ม.ค. 2567


92 จากการรายงานผลการด าเนินงาน รายงาน อสม. 1 จ านวน 1,476คน คิดเป็นร้อยละ 99.19 อส ม. ติดตามหญิงตั้งครรภ์ให้ได้รับยาเม็ดเสริมไอโอดีน จ านวน 26 คน คิดเป็นร้อยละ 2.38 อสม. คัดกรองภาวะ ถดถอยผู้สูงอายุ 9 ด้าน จ านวน 9,577คน คิดเป็นร้อยละ 73.56 ผลการด าเนินงาน อสม.มีศักยภาพ ใน การจัดบริการสุขภาพปฐมภูมิขั้นพื้นฐานโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ร้อยละ 62.46 ซึงจากผลการด าเนินงาน กลุ่มเสี่ยงจากการคัดกรองสุขภาพผู้สูงอายุ และกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับการติดตามจาก อสม. และยังไม่ได้รับ ยา เม็ดเสริมไอโอดีน ทีม 3 หมอและเครือข่ายสุขภาพชุมชนในระดับพื้นมีแผนน าข้อมูลที่ได้จากรายงาน การปฏิบัติงานของ อสม.วางแผนในการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุและหญิงตั้งครรภ์ พร้อมทั้งพัฒนาศูนย์สาธารณสุข มูลฐานชุมชน (ศสมช.) เชื่อมโยง Health Station ในการจัด Telemedicine และการจัดการสุขภาพชุมชนต่อไป ปัญหำอุปสรรค 1. การเปลี่ยนแปลง อสม. (ลาออก และเสียชีวิต) ซึ่งจ าเป็นต้องมีการอบรม อสม.ใหม่ทดแทน จึงท าให้ การรายงานการจัดบริการปฐมภูมิผ่านแอปพลิเคชัน Smart อสม. ไม่ครบร้อยละ 100 2. เมื่อมีการอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ ควรมีการแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชั่น Smart อสม. เพื่อให้ อสม.อัพเดท 3. อสม. ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ การใช้งานงานแอปพลิเคชัน Smart อสม. ค่อนข้างล าบาก รวมถึง ข้อจ ากัดเรื่องโทรศัพท์ของ อสม.และอินเทอร์เน็ต 4. ควรมีการเชื่อมโยงข้อมูลผู้สูงอายุและหญิงตั้งครรภ์จาก รพ.สต. ในพื้นที่เพื่อ อสม. จะได้ออกติดตามได้ ผลงำนเด่น/สิ่งที่ภำคภูมิใจ 1. อาสาสมัครสาธารณสุขประจ าหมู่บ้านดีเด่น ระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ านวน 1 สาขา คือ สาขาทันตสุขภาพ 2. อาสาสมัครสาธารณสุขประจ าหมู่บ้านดีเด่น ระดับจังหวัดนครพนม จ านวน 1 สาขา คือ สาขาการ จัดการสุขภาพ ผู้รำยงำน นางกนกกาญจน์ นาโสม ต าแหน่ง พยาบาลวิชาชีพช านาญการ วัน/เดือน/ปี 10/ มกราคม/2567 โทร ๐๙๑๑๔๒๔๙๖๒ E-Mail [email protected]


93 6.9 แผนพัฒนำ พัฒนำระบบบริกำรสุขภำพ สำขำ โรคหลอดเลือดสมอง ตัวชี้วัด 31 ตัวชี้วัด 31. อัตรำตำยของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองและได้รับกำรรักษำใน Stroke unit (2 KPIs) ตัวชี้วัด 31.1 อัตรำตำยของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke: I60-I69) เป้ำหมำย < ร้อยละ 7 ผลกำรด ำเนินงำน ร้อยละ 2.27 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก กลุ่มงานการพยาบาล สถำนกำรณ์ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม ได้พัฒนาแนวทางการให้การดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง เฉียบพลันด้วยระบบ Fast track และในปี 2565 ได้ร่วมกับศูนย์โรคหลอดเลือดสมอง โรงพยาบาลศิริราชในการเปิด ให้บริการดูแลผู้ป่วย Stroke fast track ด้วยรถ Mobile stroke unit มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน ให้การดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันด้วยระบบ Fast track และในปี 2565 ได้ร่วมกับศูนย์ โรคหลอดเลือดสมอง โรงพยาบาลศิริราชในการเปิดให้บริการดูแลผู้ป่วย Stroke fast track ด้วยรถ Mobile stroke unit ทั้งในเขตอ าเภอธาตุพนมและเขตโรงพยาบาลลูกข่าย เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการของผู้ป่วยให้รวดเร็วขึ้น ได้รับ การรักษาที่ทันเวลาสามารถลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยลงได้ ผลกำรด ำเนินงำน จากการพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยด้วยระบบ Stroke fast track ด้วยรถ Mobile stroke unit สามารถ เพิ่มอัตราการเข้าถึงของผู้รับบริการได้มากขึ้นและมีผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยยาละลายลิ่มเลือด rtpa เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยได้ ตารางแสดงข้อมูลการดูแลผู้ป่วย Stroke ล ำดับ รำยกำรข้อมูล ผลงำนปี 2567(ต.ค.-ธ.ค.) 1. จ านวนผู้ป่วย Stroke ทั้งหมด (คน) 77 2. จ านวนผู้ป่วย Acute Stroke ที่รับบริการผ่านรถ MSU 40 3. จ านวนผู้ป่วย Ischemic Stroke ทั้งหมด (คน) 29 4. จ านวนผู้ป่วย Hemorrhagic Stroke ทั้งหมด (คน) 11 5. จ านวนผู้ป่วยได้รับยา rt-PA (คน) 14 6. จ านวนผู้ป่วย Ischemic Stroke ทั้งหมด ที่มีอาการ ภายใน 72 ชม. Admit รพร.ธาตุพนม (คน) 42 7. จ านวนผู้ป่วย Ischemic Stroke ทั้งหมด ที่มีอาการ ภายใน 72 ชม. Refer รพ.นครพนม (คน) 13 8. Door to Needle time (DTN) ค่าเฉลี่ยรวม (นาที) 31.21


94 ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) รถ Mobile stroke unit ปัญหำอุปสรรค 1. ผู้ป่วยเข้าถึงบริการช้าท าให้ไม่สามารถเข้าระบบการดูแลด้วย Fast track ได้ 2. โรงพยาบาลยังไม่มี Stroke unit 3. แนวทำงกำรพัฒนำ 1. พัฒนาการให้ความรู้แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงให้รับทราบอาการของโรคและเข้ารับบริการได้อย่างทันท่วงที 2. เปิดให้บริการหอผู้ป่วย Stroke Unit เพื่อให้สามารถรับให้การดูแลผู้ป่วยได้การดูแลอย่างครบวงจร สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน 1. วัสดุอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ส าหรับเปิด Stroke unit 2. พยาบาลวิชาชีพส าหรับปฏิบัติงานใน Stroke unit ผู้รำยงำน นายสุทธิชัย แก้วหาวงค์ ต าแหน่ง พยาบาลวิชาชีพช านาญการ วัน/เดือน/ปี…15 ม.ค. 2567 โทร. 064-5597166 E-Mail lak [email protected]


95 6.10 แผนพัฒนำ พัฒนำระบบบริกำรสุขภำพ สำขำโรคหัวใจ ตัวชี้วัด 32-33 ตัวชี้วัด 32 อัตรำตำยของผู้ป่วยโรคกล้ำมเนื้อหัวใจตำยเฉียบพลันชนิด STEMI เป้ำหมำย < ร้อยละ 9 ผลกำรด ำเนินงำน 0 ตัวชี้วัด 33 ร้อยละของผู้ป่วย STEMI ที่ได้รับยาละลายลิ่มเลือดได้ตามมาตรฐานเวลาที่ก าหนด เป้ำหมำย ≥ ร้อยละ 60 ผลกำรด ำเนินงำน 100 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก กลุ่มงานการพยาบาล สถำนกำรณ์ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนมได้พัฒนาแนวทางการดูแลผู้ป่วย STEMI โดยใช้ระบบ Fast track ท าให้ผู้ป่วยได้รับบริการที่รวดเร็วสามาให้ยาละลายลิ่มเลือดได้ มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน แนวทางการดูแลผู้ป่วย STEMI โดยใช้ระบบ Fast track มุ่งเน้นให้ผู้รับบริการเข้ารับบริการที่รวดเร็วและ สามารถให้การรักษาได้ทันท่วงที ทั้งการให้ยาละลายลิ่มเลือด Streptokinase ภายใน 30 นาทีและการส่งท า PCI ยังโรงพยาบาลศูนย์สกลนคร ผลกำรด ำเนินงำน จากการพัฒนาแนวทางอย่างต่อเนื่องท าให้ลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วย STEMI ลงได้ ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) การพัฒนาระบบการส่งต่อโรคเฉพาะด้านกับโรงพยาบาลศูนย์สกลนคร ปัญหำอุปสรรค ผู้รับบริการเข้ารับการรักษาที่ล่าช้าท าให้อาการรุนแรงและมีภาวะแรกซ้อนมาก เช่น Cardiogenic shock แนวทำงกำรพัฒนำ พัฒนาการให้ความรู้แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงให้รับทราบอาการของโรคและเข้ารับบริการได้อย่างทันท่วงที สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน อุปกรณ์ในการใช้ดูแลผู้ป่วยในรถ Refer เช่น Infusion pump ผู้รำยงำน นายสุทธิชัย แก้วหาวงค์ ต าแหน่ง พยาบาลวิชาชีพช านาญการ วัน/เดือน/ปี…15 ม.ค. 2567 โทร. 064-5597166 E-Mail lak [email protected]


96 6.11 แผนพัฒนำ พัฒนำระบบบริกำรสุขภำพ สำขำโรคไต ตัวชี้วัด 34-35 ตัวชี้วัด 34 จ านวนผู้ป่วยรายใหม่ที่เข้าสู่ไตวายเรื้อรังระยะที่ 5 น้อยกว่าร้อยละ 10 ของปีงบประมาณก่อน เป้ำหมำย จ ำนวนผู้ป่วยรำยใหม่ที่เข้ำสู่ไตวำยเรื้อรังระยะที่ 5 น้อยกว่ำร้อยละ 10 ของปีงบประมำณก่อน ≤ ร้อยละ10 ผลกำรด ำเนินงำน จ านวนผู้ป่วยรายใหม่ที่เข้าสู่ไตวายเรื้อรังระยะที่ 5 = 6.29 ปีงบ67 (ข้อมูล ณ 12/01/2567) กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก งานผู้ป่วยนอก สถำนกำรณ์ ผู้ป่วยโรคไตรายใหม่ที่เข้าสู่ไตวายเรื้อรังระยะที่ 5 2 ปีงบประมาณที่ผ่านมปี2565 =44ราย ปี 2566 = 39 ราย ปี2567 = 0 มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน 1.ผู้ป่วยโรคไตรายใหม่ stage 4 ที่ขาดนัดให้ตรวจสุขภาพประจ าปีและส่งเข้าคลินิกรักษ์ไต 2.ผู้ป่วยโรคไตรายใหม่ส่งพบแพทย์เฉพาะทางอายุรกรรมทุกราย ผลกำรด ำเนินงำน ผลงานย้อนหลัง 2 ปีที่ผ่านมา ปี2565 = 3.93 ปี 2566 = 4.95 ผ่านเป้าหมาย ปัจจัยแห่งความส าเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่างที่ดี (ถ้ามี) มีการส่งต่อข้อมูลผู้ป่วยไตรายใหม่แก่ รพสต. และมีการติดตามเยี่ยมผู้ป่วย ปัญหำอุปสรรค 1.ผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังเดินทางล าบากจึงไม่มาตรวจตามนัด 2.ผู้ป่วยสูงอายุขาดผู้ดูแล 3.ปัญหาด้านเศรษฐกิจ ของผู้ป่วยท าให้มาไม่ตรงนัด แนวทำงกำรพัฒนำ 1.ให้ความรู้แก่ผู้ป่วยโรคไต โดยให้ความรู้เกี่ยวกับการลดเค็ม อาการแทรกซ้อน การรับประทานยาและการมาตรวจ ตามนัด 2.ผู้ป่วยไตระยะ 5 ที่ไม่ได้รับการบ าบัดทดแทนไตส่งพบ COC สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน - ผู้รำยงำน นางจิราพร ดาทุมมา ต าแหน่ง พยาบาลวิชาชีพช านาญการ วัน/เดือน/ปี…12/1/2567 โทร.0898402758 E-Mail jiraporn.da1978@ gmail.com


Click to View FlipBook Version