The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกสารรับการตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่8 จังหวัดนครพนม วันที่ 29 มกราคม 2567 จัดทำโดยคณะกรรมการประสานงานสาธารณสุขอำเภอ (คป.สอ.) ธาตุพนม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

เอกสารรับตรวจราชการรอปที่1-2567 คป.สอ.ธาตุพนม

เอกสารรับการตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่8 จังหวัดนครพนม วันที่ 29 มกราคม 2567 จัดทำโดยคณะกรรมการประสานงานสาธารณสุขอำเภอ (คป.สอ.) ธาตุพนม

Keywords: ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข,คป.สอ.ธาตุพนม,โรงพยาบาลสม,เด็จพระยุพราชธาตุพนม

97 ตัวชี้วัด 35 : ร้อยละผู้ปวย CKD ที่มี eGFR ลดลงน้อยกว่ำ 5 ml/min/1.73m2/yr เป้ำหมำย : ผู้ปวย CKD ที่มี eGFR ลดลงน้อยกว่ำ 5 ml/min/1.73m2/yr ร้อยละ ≥ 66 ผลกำรด ำเนินงำน : ผลงาน 3 เดือนที่ผ่านมาร้อยละ 67.24 (ข้อมูล ณ 12/01/2567) กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก งานผู้ป่วยนอก สถำนกำรณ์ จ านวนผู้ป่วยโรคไต Stage 3 – 4 สัญชาติไทยที่มารับบริการที่โรงพยาบาลได้รับการตรวจ Creatinine / มีผล eGFR ≥ 2 ค่า และค่าทั้งสองห่างกันไม่น้อยกว่า 3 เดือนโดยพิจารณาค่าของ eGFR ตั้งแต่ย้อนหลัง 1 ปีงบประมาณมีค่าเฉลี่ยเปลี่ยนแปลง < 5 ผลงานมนเขตพื้นที่รับผิดชอบ อ าเภอ ธาตุพนม ในปีงบประมาณ 2565 ร้อยละ 61.19 ปีงบประมาณ 2566 ร้อยละ 58.35 ปีงบประมาณ 2567 ร้อยละ 67.24 (ข้อมูล ณ 12/01/2567) มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน ตรวจสอบรายชื่อผู้ป่วย CKD stage 3-4 เพื่อตรวจหาค่า e GFR ทุก 3 เดือน 2 ครั้ง ผลกำรด ำเนินงำน ผลงานย้อนหลัง 2 ปีที่ผ่านมา ปี2565 = 61.19 ปี 2566 =58.35 ไม่ผ่านเป้าหมาย ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) - ปัญหำอุปสรรค ผู้ป่วยไม่มีอาการแสดงของโรคไตวายเรื้อรังจึงไม่มาตรวจตามนัด แนวทำงกำรพัฒนำ 1.ให้ความรู้แก่ผู้ป่วยโรคไต โดยให้ความรู้เกี่ยวกับการลดเค็ม อาการแทรกซ้อน การรับประทานยาและการ มาตรวจตามนัด ผู้รำยงำน นางจิราพร ดาทุมมา ต าแหน่ง พยาบาลวิชาชีพช านาญการ วัน/เดือน/ปี…12/1/2567 โทร.0898402758 E-Mail jiraporn.da1978@ gmail.com


98 6.12 แผนพัฒนำ พัฒนำระบบบริกำรโรคติดเชื้อในกระแสเลือด ตัวชี้วัด 36 ตัวชี้วัด 36 อัตรำตำยผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือดแบบรุนแรงชนิด community-acquired เป้ำหมำย < ร้อยละ 26 ผลกำรด ำเนินงำน 3.76 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก กลุ่มงานการพยาบาล สถำนกำรณ์ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม ได้พัฒนาแนวทางการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือดด้วยระบบ Fast track ส่งผลให้สามารถลดอัตราการเสียชีวิตผู้ป่วยลงได้ มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน ได้ก าหนดแนวทางการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือดโดยยึดตามหลัก Sepsis Resuscitation โดยมุ่งเน้น กระบวนการให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่รวดเร็วตามเวลาที่ก าหนด รวมถึงการพัฒนาเฝ้าระวังอการผู้ป่วยในหอผู้ป่วย ในเพื่อลดการเกิดภาวะติดเชื้อรุนแรง ผลกำรด ำเนินงำน จากการพัฒนาสามารถลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยติดเชื้อลงได้น้อยกว่าเกณฑ์ที่ก าหนดในทุกปี ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) - การพัฒนาแนวทางการดูแลอย่างต่อเนื่อง ปัญหำอุปสรรค - ICU ไม่เพียงพอต่อการรับผู้ป่วย Septic shock แนวทำงกำรพัฒนำ - เพิ่มเตียง ICU และพัฒนาศักยภาพพยาบาลวิชาชีพในหอผู้ป่วยสามัญในการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อในกระแส เลือดที่มีอาการรุนแรง สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน - ผู้รำยงำน นายสุทธิชัย แก้วหาวงค์ ต าแหน่ง พยาบาลวิชาชีพช านาญการ วัน/เดือน/ปี…15 ม.ค. 2567 โทร. 064-5597166 E-Mail lak [email protected]


99 6.13 แผนพัฒนำ พัฒนำระบบบริกำรโรควัณโรค ตัวชี้วัด 38-39 ตัวชี้วัด 38 อัตรำควำมส ำเร็จกำรรักษำผู้ป่วยวัณโรคปอดรำยใหม่ เป้ำหมำย ร้อยละ 88 ผลกำรด ำเนินงำน 2.63 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก งำนสุขำภิบำลและป้องกันโรค ตัวชี้วัด 39 อัตรำควำมคลอบคลุมกำรขึ้นทะเบียนของผู้ป่วยวัณโรครำยใหม่และกลับเป็นซ้ ำ เป้ำหมำย ≥ ร้อยละ 85 ผลกำรด ำเนินงำน 29.68 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก งำนสุขำภิบำลและป้องกันโรค สถำนกำรณ์ อ าเภอธาตุพนมอัตราป่วยวัณโรครายใหม่ ปี 2565 และปี 2566 ดังนี้ 72.0 และ 76.45 ต่อ แสนประชากร ตามล าดับส่วนผลการรักษาผู้ป่วยวัณโรคเสมหะบวกรายใหม่ของประเทศไทยพบว่ามีอัตราการรักษาส าเร็จ (Success Rate) ยังไม่บรรลุเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกก าหนดไว้ (ไม่ต่ ากว่าร้อยละ๘๘ ) จังหวัดนครพนมมีอัตรา การรักษาส าเร็จปี2564 ร้อยละ 85.0 ปี 2565 ร้อยละ 80.8 ส าหรับอ าเภอธาตุพนมมีอัตราการรักษาส าเร็จปี 2566 ร้อยละ (60.47 ยังรักษาอยู่ ร้อยละ 25.58ซึ่งยังไม่บรรลุเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกก าหนดไว้ อย่างไรก็ตามยังพบว่า ปัจจุบันมีแนวโน้มผู้ป่วยวัณโรคที่อาศัยอยู่ในครอบครัวหรือชุมชนเดียวกันพบผู้ป่วยวัณโรคเสมหะบวกในช่วงเวลา เดียวกันซึ่งบ่งบอกได้ว่ามีการแพร่กระจายเชื้อวัณโรคในชุมชนและขาดการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกในพื้นที่อย่างเข้มข้น มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน 1.จัดท าแผนงานแก้ไขปัญหาโครงการชุมชนร่วมใจหยุดยั้งการแพร่กระจายเชื้อวัณโรค (STOP TB) อ าเภอธาตุพนมอ าเภอธาตุพนมจังหวัดนครพนม”ปี25657 2.เร่งรัดการค้นหา วินิจฉัย และรายงานให้มีความครอบคลุมการรักษา (Treatment Coverage) ร้อยละ 85 การตรวจคัดกรอง ประเมินภาวะสุขภาพ และการค้นหาผู้มีภาวะเสี่ยงในกลุ่ม ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย HT DM และ (ผู้ สัมผัสโรคร่วมบ้านผู้ป่วยวัณโรค) โดยการ CXR และ เก็บ เสมหะส่งตรวจ Gene X-pert 3.ดูแลรักษาผู้ป่วยวัณโรคที่ตรวจพบทุกรายด้วยแนวทางการดูแลผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง (Patient center care) ให้มีความส าเร็จการรักษาไม่ต่ ากว่าร้อยละ 88 4.สรุปผลการด าเนินงานทุก 3 เดือน


100 ผลกำรด ำเนินงำน ตาราง การคลอบคลุมการขึ้นทะเบียนรักษาผู้ป่วยวัณโรคและกลับเป็นซ้ํา ป2564-2567 ล ำดับ ปีงบประมำณ TB New/Re All forms จ ำนวน อัตรำ/ ปชก.แสนคน จ ำนวน อัตรำ/ ปชก.แสนคน 1 2564 (143) 61 81.26 74 62.18 2 2565 (143) 86 72.26 96 80.76 3 2566 (143) 70 58.82 93 78.15 4 2567 (ตค-ธค) (155) 38 29.68 40 31.25 ตาราง ผลการรักษาวัณโรค (Treatment Outcome) ปี 2564-2567 ปีงบประมำณ จ ำนวน ทีน ำมำ ประเมิน (รำย) รักษำหำย รักษำครบ ล้มเหลว ตำย ยัง รักษำ อยู่ % อัตรำ รักษำ ส ำเร็จ % จ านวน % จ านวน % จ านวน % จ านวน % 2564 74 53 80.29 6 9.10 0 0 5 7.528 0 89.39 2565 96 64 70.32 7 7.69 3 3.30 16 17.58 0 72.09 2566 93 50 57.71 2 2.32 1 1.16 7 8.14 25.58 58.14 2567 (ตค-ธค) 38 0 0 1 2.63 0 0 1 2.63 81.58 2.63 ข้อมูลใน NTIP ณ วันที่ 11 มกราคม 25657 อัตรำผลส ำเร็จกำรรักษำผู้ป่วยวัณโรคทุกประเภท Cohort ที่ 1/2567 อ ำเภอ %Success %Failure %Died %LTF %TO %No Eva ธาตุพนม 2.63 0 2.63 0 13.16 81.58


101 ผลกำรด ำเนินกำรค้นหำผู้ป่วยวัณโรคเชิงรุก ปี 2567 กลุ่มเป้ำหมำย เป้ำหมำย คัดกรอง (รำย) ส่งตรวจ เสมหะ (รำย) พบเชื้อ (รำย) x-ray (รำย) พบ เป็น TB 1. ผู้สัมผัสวัณโรค 789 149 74 5 139 2 2. ผู้ติดเชื้อ/ผูปวยเอดส 212 11 7 3 11 2 3. ผูปวยโรคเบาหวาน A1c>14 362 86 19 3 85 1 4. ผูสูงอายุ (>60 ป)ที่ปวยโรคเรื้อรัง, เบาหวาน COPD สูบบุหรี่ 2,002 278 103 3 278 3 5. ผู้ใช้สารเสพติด/ติดสุรา 373 45 4 2 33 2 6.ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง 92.8 34 7 0 0 0 7.บุคลากรสาธารณสุข 269 11 2 0 0 0 รวม 4,812 614 222 16 ๕๔๖ 10 ปัญหำอุปสรรค 1.คนไข้ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและมีภาวะแทรกซ้อนเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูง จากผลการศึกษาการเสียชีวิตของ ผู้ป่วยวัณโรคระหว่างรักษา ในพื้นที่อ าเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ปี งบประมาณ2564-2567 พบว่ามีจ านวน คนไข้ผู้สูงอายุส่วนใหญ่เสียชีวิตระหว่างการรักษาคิดเป็นร้อยละ 12.65 2.คนไข้มีฐานะยากจนยากต่อการเดินทางในคนไข้ที่อยู่ไกลโรงพยาบาล เสี่ยงต่อการไม่มาตามนัด ขาดยา แนวทำงกำรพัฒนำ 1.เร่งค้นหาคัดกรองโดยการ X-ray ในกลุ่มประชาการกลุ่มเป้าหมาย 7 กลุ่มและเร่งขึ้นทะเบียนรักษา 2.ติดตามอัตราความคลอบคลุมการขึ้นทะเบียนของผู้ป่วยวัณโรครายใหม่และกลับเป็นซ้ าให้ได้ตามเป้าหมายร้อย ละ 85 และอัตราความส าเร็จการรักษาผู้ป่วยวัณโรคปอดรายใหม่ มากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 88 สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน ไม่มี ผู้รำยงำน นางสาววริศรา รักษาภักดี ต าแหน่ง/หน่วยงาน นักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติการ เบอร์ติดต่อ 08-2119-2529 E-mail [email protected] วัน/เดือน/ปี 11 มกราคม 2567


102 6.14 แผนพัฒนำ พัฒนำระบบกำรป้องกันและควบคุมกำรดื้อยำต้ำนจุลชีพและกำรใช้ยำอย่ำงสมเหตุสมผล ตัวชี้วัด40-41 ตัวชี้วัด 40 ร้อยละของจังหวัดที่ผ่ำนตำมเกณฑ์พัฒนำสู่จังหวัดใช้ยำอย่ำงสมเหตุผล (RDU province) ที่ ก ำหนด เป้ำหมำย ร้อยละ 65 ผลกำรด ำเนินงำน 100 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก เภสัชกรรมและคุ้มครองผู้บริโภค สถำนกำรณ์ ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคม 2566 พบว่า RDU hospital โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชผ่าน เกณฑ์โรงพยาบาลส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล ทั้ง 12 ตัวชี้วัด RDU PCU รพ.สต.และหน่วยบริการปฐมภูมิใน เครือข่ายที่มีอัตราการใช้ยาปฏิชีวนะในโรค RI และ AD ≤ ร้อยละ 20 ทั้ง 2 โรค ผ่าน 15 แห่ง ใน 16 แห่ง คิดเป็น ร้อยละ 93.75 ที่ไม่ผ่าน 1 แห่งคือ ศสช.ธาตุพนม ที่มีอัตราการใช้ยาปฏิชีวนะในโรค AD RDU Community พบว่า การตรวจร้านค้าไม่พบการจ าหน่ายยาผิดกฎหมาย ส่วน RDU ในคลินิกเอกชน และ RDU ในร้านขายยา อยู่ใน ระหว่างด าเนินการ มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน ด าเนินการตามนโยบาย ตามแนวคิดการพัฒนาจังหวัดใช้ยาอย่างสมเหตุผล ผลกำรด ำเนินงำน ปี 2565 ผ่านเกณฑ์ RDU hospital และ RDU PCU ปี 2566 ผ่านเกณฑ์ RDU hospital RDU PCU RDU community RDU คลินิก RDU ร้านยา ขย. 1 ปี 2567 ผ่าน RDU hospital RDU PCU RDU ส่วนที่เหลืออยู่ ในระหว่างการประเมิน ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) ความร่วมมือของภาคีเครือข่ายสุขภาพทั้งภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชน ปัญหำอุปสรรค ยังพบการใช้ยาปฏิชีวนะในศูนย์สุขภาพชุมชน แนวทำงกำรพัฒนำ ส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับการใช้ยาที่สมเหตุผลในแพทย์ในการรักษากลุ่มผู้ป่วย AD สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน ไม่มี ผู้รำยงำน นายณัฐพล ผลโยน ต าแหน่งเภสัชกรช านาญการ วัน/เดือน/ปี 17 มกราคม 2567. โทร.0867138801 .E-Mail [email protected]


103 ตัวชี้วัด 41 อุบัติกำรณ์ผู้ป่วยติดเชื้อดื้อยำในกระแสเลือด เป้ำหมำย อัตรำรติดเชื้อดื้อยำในกระแสเลือด3รำยกำร ไม่เพิ่มขึ้นจำกปีปฏิทิน 65 ผลงำน พบอุบัติการณ์ทั้งปี2566 รวม 707 ลดลงจากปี 2565 2,505 ราย กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก งานป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ สถำนกำรณ์ เนื่องจากการติดเชื้อดื้อยามีแนวโน้มสูงขึ้น ท าให้ผู้ป่วยนอนโรงพยาบาลนานขึ้น และท าให้เสียค่าใช้จ่าย ในการรักษาเพิ่มมากขึ้น การติดเชื้อดื้อยาที่เป็นhospital origin ซึ่งเป็นการติดเชื้อดื้อยาภายหลังการเข้านอน โรงพยาบาลมากกว่า2 วันปฏิทิน คือเชื้อดังต่อไปนี้ 1. Acinetobacter baumannii ดื้อต่อยา carbapenem (CRAB) 2. Klebsiella pneumonia ดื้อต่อยา carbapenem (CRKP) 3. Escherichia coli ดื้อต่อยา carbapenem (CREC) มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน คัดกรองผู้ป่วยที่ติดเชื้อดื้อยาในกระแสเลือดหลังจากเข้านอนในโรงพยาบาลมากกว่า2 วันปฏิทิน โดยการ เก็บรายงานผลการตรวจเพาะเชื้อตามการเก็บแบบฟอร์มผู้ป่วยที่ติดเชื้อดื้อยา ผลกำรด ำเนินงำน (ตุลำคม 2566 – 18 มกรำคม 2567) 1.ไม่พบผู้ป่วยที่ติดเชื้อดื้อยา CRAB ในกระแสเลือดในโรงพยาบาล 2.พบผู้ป่วยติดเชื้อดื้อยา CRKP ในกระแสเลือดในโรงพยาบาล 1ราย จากจ านวนผู้ป่วยที่ได้รับการ ตรวจ hemoculture ทั้งหมด 795 ราย คิดเป็นอุบัติการณ์ 126 3.ไม่พบผู้ป่วยที่ติดเชื้อดื้อยา CREC ในกระแสเลือดในโรงพยาบาล ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) อยู่ในช่วงด าเนินการ ปัญหำอุปสรรค เจ้าหน้าที่ขาดการตระหนักในการป้องกันและลดการแพร่กระจายเชื้อดื้อยา แนวทำงกำรพัฒนำ 1.เพิ่มความตระหนักในการดูแลและป้องกันการแพร่กระจายเชื้อในโรงพยาบาล 2.ให้ความรู้แก่ผู้ป่วยและญาติในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อดื้อยาในโรงพยาบาล 3.การท าความสะอาดอุปกรณ์ทางการแพทย์และการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างเหมาะสมในการป้องกันการ แพร่กระจายเชื้อดื้อยา 4.มีการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างสมเหตุสมผล โดยมีอายุรแพทย์ควบคุมการใช้ยาอย่างเหมาะสม สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน งบประมาณในการด าเนินงาน ผู้รำยงำน นางสาวเอื้อมพร ประมาชิด ต าแหน่ง พยาบาลวิชาชีพช านาญการ 18 มกราคม 2567 โทร.089861153 E-Mail [email protected]


104 4.15 แผนพัฒนำ พัฒนำระบบบริกำรสุขภำพ สำขำโรคมะเร็ง ตัวชี้วัด 42 – 46 ตัวชี้วัด 43. ร้อยละของผู้ที่ได้รับกำรคัดกรองมะเร็งล ำไส้ใหญ่และไส้ตรง และได้รับกำรส่องกล้อง Colonoscopy (2 KPIs) ตัวชี้วัด 43.1 ร้อยละของผู้ที่ได้รับกำรคัดกรองมะเร็งล ำไส้ใหญ่และไส้ตรง เป้ำหมำย ≥ ร้อยละ 50 ผลกำรด ำเนินงำน 0 ตัวชี้วัด 43.2 ร้อยละของผู้ที่มีผลผิดปกติ (มะเร็งล ำไส้ใหญ่และไส้ตรงผิดปกติ) ได้รับกำรส่องกล้อง Colonoscopy เป้ำหมำย ≥ ร้อยละ 50 ผลกำรด ำเนินงำน 0 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก กลุ่มงานการพยาบาล สถำนกำรณ์ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนมได้พัฒนาศักยภาพในการให้บริการตรวจคัดกรองมะเร็งล าไส้ใหญ่ ด้วยวิธีการส่องกล้อง Colonoscopy ในปี 2566 ซึ่งมีผู้ป่วยที่มีผล Fit test positive และผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง ได้รับการส่องกล้อง จ านวน 747 ราย มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน ตรวจคัดกรอง Fit test ประชาชนที่มีอายุ 50 – 70 พี่คัดกรองประชาชนที่มีความเสี่ยงสูงและวางแผนการ จัดคิวในการส่องกล้อง Colonoscopy ผลกำรด ำเนินงำน ในปี 2567 ก าลังอยู่ในขั้นการด าเนินงานตรวจคัดกรอง Fit test ปัญหำอุปสรรค - แนวทำงกำรพัฒนำ - พัฒนาแนวทางการส่องกล้องด้วยระบบผ่าตัดแบบวันเดียวกลับ เพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาล สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน 1. กล้อง Colonoscopy ผู้รำยงำน นายสุทธิชัย แก้วหาวงค์ ต าแหน่ง พยาบาลวิชาชีพช านาญการ วัน/เดือน/ปี…15 ม.ค. 2567 โทร. 064-5597166 E-Mail lak [email protected]


105 ตัวชี้วัด 44. กำรจัดบริกำรมะเร็งครบวงจร ในมะเร็งส ำคัญ 5 โรค ( 8 KPIs) ตัวชี้วัด 44.2 ประชำกรหญิงอำยุ 11-20 ปี ได้รับวัคซีนป้องกันมะเร็งปำกมดลูก ใน 1 ปี เป้ำหมำย ≥ ร้อยละ ๙๙ ผลกำรด ำเนินงำน ๙๗.๙๔ กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก สสอ.ธาตุพนม สถำนกำรณ์ อ าเภอธาตุพนมได้ด าเนินการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ประชากรหญิงอายุ 11-20 ปี จ านวน ๑,๔๓๖ คน จากกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด ๑,๔๗๓ คน มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน รณรงค์ประชาสัมพันธ์และให้ความรู้ถึงประโยชน์และความส าคัญในการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ประชากรหญิงอายุ 11-20 ปี ปัญหำอุปสรรค - แนวทำงกำรพัฒนำ ค้นหากลุ่มเป้าหมายเพิ่มเติมและด าเนินการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก เข็ม ๒ เมื่อครบเกณฑ์ สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน - ผู้รำยงำน นายอดิศักดิ์ พรหมอารักษ์ ต าแหน่ง นักวิชาการสาธารณสุขช านาญการ วัน/เดือน/ปี 15 ม.ค. 2567 โทร. ๐๘๑-๓๙๑๒๑๙๘ E-Mail [email protected]


106 ตัวชี้วัด 44.3 ประชำกรกลุ่มเสี่ยงอำยุ 15 ปีขึ้นไป ใน 30 จังหวัด ได้รับกำรคัดกรองพยำธิใบไม้ตับ เป้ำหมำย ร้อยละ 100 ผลกำรด ำเนินงำน เป้า100 ราย ผลงาน 100 ราย ร้อยละ 100 ตัวชี้วัด 44.4 ประชำกรกลุ่มเสี่ยงอำยุ 40 ปีขึ้นไป ใน 30 จังหวัด ได้รับกำรคัดกรองมะเร็งท่อน้ ำดี เป้ำหมำย ร้อยละ 100 ผลกำรด ำเนินงำน เป้าหมาย 180 ผลงาน 180 ราย ร้อยละ 100 ตัวชี้วัด 46 ร้อยละกำรคัดกรองพยำธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ ำดีในกลุ่มเป้ำหมำย เป้ำหมำย ร้อยละ 95 ผลกำรด ำเนินงำน เป้าหมาย 280 ผลงาน 280 ราย ร้อยละ 100 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก งานสุขาภิบาลและป้องกันโรค สถำนกำรณ์ ปี 2567 ต าบลฝั่งแดง เป็นพื้นที่เป้าหมายด าเนินการกิจกรรมการคัดกรองพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ าดี คัดกรองพยาธิใบไม้ตับเป้าหมายประชากรกลุ่มเสี่ยงอายุ 15 ปีขึ้นไป จ านวน 100 ราย โดยการตรวจการติดเชื้อไข่ หนอนพยาธิในอุจจาระ และอัลตร้าซาวด์ช่องท้องมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ าดี เป้าหมายประชากรกลุ่มเสี่ยงอายุ 40 ปีขึ้นไป จ านวน 180 ราย โดยการอัลตร้าซาวด์ช่องท้อง เพื่อคัดกรองมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ าดี มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน - คัดกรองพยาธิใบไม้ตับในประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไป - คัดกรองมะเร็งท่อน้ าดี ในประชาชนอายุ 40 ปีขึ้นไป - มีระบบการรับ-ส่งต่อ ผู้ป่วยสงสัยมะเร็งท่อน้ าดีอย่างเป็นระบบ - มีการรายงานผลการด าเนินงานผ่านระบบ รง.506 ผลกำรด ำเนินงำน - ด าเนินกิจกรรมตรวจไข่หนอนพยาธิใบไม้ตับ วันที่ 6 ธันวาคม 2566 ณ รพ.สต.ฝั่งแดง ประชากร กลุ่มเป้าหมายได้รับการตรวจไข่หนอนพยาธิในอุจจาระ จ านวน 120 ราย ตรวจพบไข่หนอนพยาธิใบไม้ตับใน อุจจาระ จ านวน 5 ราย (ร้อยละ 4.16) - อัลตร้าซาวด์ช่องท้องคัดกรองมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ าดี เป้าหมายประชากรกลุ่มเสี่ยงอายุ 40 ปีขึ้นไป จ านวน 180 ราย ด าเนินการ วันที่ 14-19 มกราคม 2567 ก าหนดจัดกิจกรรม 14 มกราคม 2567 ณ พื้นที่ต าบลฝั่ง แดง ปัจจัยควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) - อบรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในกลุ่มเสี่ยง การสร้างครอบรู้ให้กับแกนน าในพื้นที่ - มีระบบการรับ-ส่งต่อ ผู้ป่วยสงสัยมะเร็งท่อน้ าดีอย่างเป็นระบบ ท าให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการ ดูแลรักษาได้ทันที - มีการรายงานผลการด าเนินงานการคัดกรองพยาธิใบไม้ตับ ผ่านระบบ รง.506


107 ปัญหำอุปสรรค - ประชาชนยังขาดความตระหนักในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินปลาดิบ - การจัดการสิ่งปฏิกูลในชุมชนยังไม่ครอบคลุมในพื้นที่อ าเภอธาตุพนม แนวทำงกำรพัฒนำ - อบรมผู้ปฏิบัติงานด้านการจัดการก าจัดสิ่งปฏิกูลในชุมชน - อบรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกลุ่มเสี่ยง สร้างความรอบรู้ให้แกนน าสุขภาพในพื้นที่ สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน - ชุดตรวจ OV-RDT ในการคัดกรองพยาธิใบไม้ตับในปัสสาวะ ผู้รำยงำน นางสาวดาวประกาย หญ้างาม ต าแหน่ง นักวิชาการสาธารณสุขช านาญการ วัน/เดือน/ปี 18 ม.ค. 2567 โทร. 042-532141 ต่อ 125 E-mail [email protected]


108 ตัวชี้วัด 44.5 ประชำกรที่เกิดก่อน พ.ศ. 2535 ได้รับกำรคัดกรอง HBV และ HCV ≥ ร้อยละ 70 เป้ำหมำย ≥ ร้อยละ 70 ผลกำรด ำเนินงำน 100 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก สสอ.ธาตุพนม สถำนกำรณ์ อ าเภอธาตุพนมได้ด าเนินการคัดกรอง HBV และ HCV จ านวน 1,758 คน พบเชื้อ HBVจ านวน 50 คน และ HCV จ านวน 16 คน จากกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด 1,738 คน มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน รณรงค์ประชาสัมพันธ์และให้ความรู้ถึงประโยชน์และความส าคัญของการการคัดกรอง HBV และ HCV ปัญหำอุปสรรค - แนวทำงกำรพัฒนำ ด าเนินการคัดกรองเฝ้าระวังอย่าต่อเนื่องในกลุ่มเสี่ยง ปีละ 1 ครั้ง สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน - ผู้รำยงำน นายอดิศักดิ์ พรหมอารักษ์ ต าแหน่ง นักวิชาการสาธารณสุขช านาญการ วัน/เดือน/ปี 18 ม.ค. 2567 โทร. 081 3912198 E-Mail [email protected]


109 ตัวชี้วัด 44.6 ประชำกรหญิงไทย อำยุ 30-60 ปี ได้รับกำรคัดกรองมะเร็งปำกมดลูก ผลกำรด ำเนินงำน ร้อยละ 16.97 แผนพัฒนำ พัฒนาระบบบริการสุขภาพ สาขาโรคมะเร็ง กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก สสอ.ธาตุพนม สถำนกำรณ์ เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายประชากรหญิงไทย บางส่วนยังไม่ได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน - ประชุมผู้รับผิดชอบงาน ชี้แจงแนวทางการตรวจคัดกรอง - คัดกรองกลุ่มเป้าหมายหญิงไทย ตรวจสอบสิทธิ์และประวัติการตรวจคัดกรองภายใน 5 ปี ผลกำรด ำเนินงำน - เป้าหมาย 2,400 ราย ด าเนินการคัดกรองตามกลุ่มเป้าหมายแล้วจ านวน 567 ราย ณวันที่ 19 มกราคม 2567 ปัจจัยควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) - การประสานงานและความร่วมมือของ คปสอ. - การประชาสัมพันธ์และให้ความรู้แก่กลุ่มเป้าหมาย - การเบิกชุดตรวจได้รวดเร็วและครอบคลุม ปัญหำอุปสรรค - กลุ่มประชากรเป้าหมายบางรายปฏิเสธการตรวจคัดกรอง - เปลี่ยนการจับคู่แลปใหม่ มีการเบิกชุดตรวจล่าช้า - การคัดกรองความซ้ าซ้อนในการตรวจของกลุ่มเป้าหมาย บางรายมีประวัติบางรายไม่พบประวัติ แนวทำงกำรพัฒนำ - การคัดกรองกลุ่มเป้าหมายล่วงหน้าและก าหนดแผนการตรวจคัดกรอง สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน - ผู้รำยงำน นางสาวธิดารัตน์ รักษาพล ต าแหน่ง พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ วันที่ 19 มกราคม 2567 โทร. 093-2262589 E-mail [email protected]


110 ตัวชี้วัด 44.7 ประชำกรไทย อำยุ 50-70 ปี ได้รับกำรคัดกรองมะเร็งล ำไส้ใหญ่และไส้ตรง เป้ำหมำย ร้อยละ 55 ผลกำรด ำเนินงำน ร้อยละ 6.61 (ข้อมูล ณ วันที่ 19 มกราคม 2567) กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก ส านักงานสาธารณสุขอ าเภอ สถำนกำรณ์ กลุ่มเป้าหมายประชากรอายุ 50 – 70ปี ส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งล าไส้ใหญ่และไส้ตรง จนบางรายเกิดแสดงอาการเจ็บป่วยและได้รับการตรวจรักษาเมื่อเข้าสู่ระยะโรครุนแรงแล้ว มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน - ประชุมผู้รับผิดชอบงาน - คัดกรองกลุ่มเป้าหมายรอตรวจ - เบิกชุดตรวจ Fit test ผลกำรด ำเนินงำน ประชากร 15,838 ราย เป้าหมาย 1,270 ราย ตรวจคัดกรอง 84 ราย ( ร้อยละ 6.61) (ข้อมูล ณ วันที่ 19 มกราคม 2567) ไตรมาสแรก (ต.ค.-ธ.ค. 2566) เป้าหมาย 254 ราย ตรวจแล้ว 65 ราย คิดเป็นร้อยละ 25.59 ปัจจัยควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) - การประสานงานและความร่วมมือของ คปสอ. - การประชาสัมพันธ์และให้ความรู้แก่กลุ่มเป้าหมาย - การเบิกชุดตรวจได้รวดเร็วและครอบคลุม ปัญหำอุปสรรค - กลุ่มประชากรเป้าหมายบางคนปฏิเสธการตรวจคัดกรอง แนวทำงกำรพัฒนำ - การคัดกรองกลุ่มเป้าหมายล่วงหน้าและก าหนดแผนการตรวจคัดกรอง สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน - ผู้รำยงำน นางสาวธิดารัตน์ รักษาพล ต าแหน่ง พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ วันที่ 19 มกราคม 2567 โทร. 093-2262589 E-mail [email protected]


111 6.16 แผนพัฒนำ พัฒนำกำรดูแลผู้ป่วยระยะท้ำยแบบประคับประคองและกำรดูแลผู้ป่วยกึ่งเฉียบพลันตัวชี้วัด 47-48 ตัวชี้วัด : 47. ร้อยละกำรให้กำรดูแลตำมแผนกำรดูแลล่วงหน้ำ (Advance Care Planning) ในผู้ป่วยประคับ ประคองอย่ำงมีคุณภำพ ร้อยละ 70 เป้ำหมำย : มำกกว่ำร้อยละ 70 ผลกำรด ำเนินงำน ร้อยละ 96.55 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก งานการพยาบาลในชุมชน สถำนกำรณ์ ปัจจุบันผู้ป่วยระยะท้ายในเขตอ าเภอธาตุพนมมีแนวโน้นสูงขึ้นเรื่อยๆ ได้แก่ กลุ่มโรคเรื้อรัง (NCD) โดยเฉพาะผู้ป่วยไตวาย ผู้ป่วยหลอดเลือดสมอง (Stroke) และกลุ่มโรคมะเร็ง ซึ่งในผู้ป่วยกลุ่มนี้มีความประสงค์ ขอรับ การดูแลรักษาแบบประคับประคอง ในอ าเภอธาตุพนมพบผู้ป่วยระยะท้ายที่ได้รับการดูแลแบบ ประคับประคอง ปี 2564- 2567 จ านวน 150, 159, 121 และ 19 คนตามล าดับ โดยในปี 2564- 2567 พบว่า ผู้ป่วยระยะท้ายที่ได้รับการดูแลแบบประคับประคองและได้รับการวางแผนการดูแลล่วงหน้า (Advance Care Planning) อย่างมีคุณภาพ จ านวน 84 ,133 ,96 และ 19 คนตามล าดับ คิดเป็นร้อยละ 56.38 ,83.65 , 80 และ 100 ตามล าดับ มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน 1. จัดตั้งคณะกรรมการ/คณะด าเนินงานระดับอ าเภอ 2. พัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยระยะท้ายแบบประคับประคองและการดูแลผู้ป่วยกึ่งเฉียบพลันอย่างมี คุณภาพ 3. มีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว เป็นแพทย์ประจ าคลินิกและรับผิดชอบดูแลผู้ป่วยระยะท้ายแบบ ประคับประคองในหอผู้ป่วยใน ตลอด 24 ชั่วโมง 4. มีทีม Palliative care ที่เข็มแข็งและพยาบาลที่ผ่านการอบรมระยะสั้นหลักสูตร 1 เดือน ปฏิบัติงานใน การดูแลทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก 5. มีแนวทางการดูแลผู้ป่วยระยะท้ายแบบประคับประคองในโรงพยาบาลที่ชัดเจน ผู้ป่วยประคับประคอง ได้รับการจัดการอาการรบกวนอย่างเหมาะสม โดยการใช้ Strong opioid ในการบรรเทาอาการรบกวน 6. ผู้ป่วยระยะท้ายได้รับการดูแลตามมาตรฐานการจัดท า Family meeting และมีการ Advance Care Planning (ACP) ร่วมกับผู้ป่วยและครอบครัว ในคลินิกประคับประคองและหอผู้ป่วยใน 7. มีการติดตามเยี่ยมบ้านและมีเครือข่ายในการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน


112 ผลกำรด ำเนินงำน ตัวชี้วัด/ปีงบประมำณ ปี 2564 ปี 2565 ปี 2566 จ ำนวนผู้ป่วยระยะ ท้ำย ประคับประคองที่ วินิจฉัย(Z515) (คน) จ ำนวนผู้ป่วยได้รับ กำร Advance Care Planning (Z718) ปี 2567 (ต.ค. 2566- 3. ม.ค.67) ผู้ป่วยประคับประคอง ได้รับการดูแลตาม แผนการดูแลล่วงหน้า (Advance Care Planning) อย่างมีคุณภาพ 56.38 83.65 80 29 28 96.55 ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) - มีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว เป็นแพทย์ประจ าคลินิกและรับผิดชอบดูแลผู้ป่วยระยะท้ายแบบ ประคับประคองในหอผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก - มีทีม Palliative care ที่เข้มแข็งและระบบแนวทางการดูแลที่ชัดเจน - มีระบบให้ค าปรึกษาผู้ป่วยในรพ.สต. ในเขตอ าเภอธาตุพนม และสามารถให้ค าปรึกษาได้ตลอด 24 ชั่วโมง ปัญหำอุปสรรค - ยังขาดพยาบาลประคับประคองที่ผ่านการอบรมหลักสูตร 4 เดือน - มีการวางแผนการดูแลล่วงหน้า (Advance Care Planning) แต่ไม่มีการลงข้อมูลใน Hosxp ท าให้การประมวลผลมีการคลาดเคลื่อน แนวทำงกำรพัฒนำ - ส่งพยาบาลอมรบเฉพาะทางการดูแลผู้ป่วยประคับประคองหลักสูตร 4 เดือน - จัดให้มีการอมรบเจ้าหน้าที่ Palliative care ทั้งในโรงพยาบาลและ รพ.สต. ในการวางแผนการดูแล ล่วงหน้า (Advance Care Planning) เป็นระยะอย่างต่อเนื่อง ให้มีความช านาญและเชี่ยวชาญมากยิ่งขึ้น สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน - ต้องการอัตราก าลังเพิ่ม - อุปกรณ์เครื่องการสอน การให้ค าปรึกษา การดูแลในผู้ป่วยระยะท้ายแบบประคับประคอง - อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จ าเป็น เพื่อให้ผู้ป่วยยืมใช้ที่บ้าน เช่น ออกซิเจน เตียง syringe Driver เป็นต้น ผู้รำยงำน นางกรรธิมา ฝาระมี ต าแหน่ง พยาบาลวิชาชีพช านาญ วัน/เดือน/ปี 12 มกราคม 2567


113 โทร 087-949-5380 E-Mail [email protected] ตัวชี้วัดที่ 48: สถำนชีวำภิบำล จังหวัดละ 1 แห่ง (3 KPIs) เป้ำหมำย: 48.1 ให้บริกำรในสถำนชีวำภิบำล จังหวัดละ 1 แห่ง (ร้อยละ 80) ผลกำรด ำเนินงำน ร้อยละ 100 เป้ำหมำย: 48.2 มีบริกำร Hospital at Home / Home ward จังหวัดละ 1 แห่ง (ร้อยละ 80) ผลกำรด ำเนินงำน ร้อยละ 100 เป้ำหมำย: 48.3 มีบริกำรคลินิกผู้สูงอำยุในโรงพยำบำลทุกระดับ (ร้อยละ 95) ผลกำรด ำเนินงำน ร้อยละ 100 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก: งานการพยาบาลในชุมชน กลุ่มงานการบริการปฐมภูมิและองค์รวม สถำนกำรณ์ ด้วยโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม ได้จัดตั้งศูนย์ชีวาภิบาลตามนโยบายการด าเนินงาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ยกระดับ 30 บาท พลัส เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประขาชนในทุกมิติต้านสุขภาพ โดยเฉพาะการส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรค รวมถึงการดูแลรักษา ตลอดจนการฟื้นฟูสภาพร่างกาย เพื่อ เป้าหมาย "ประชาชนคนไทยสุขภาพดี ประเทศไทยสุขภาพดี" การจัดตั้งสถานชีวาภิบาล เป็นหนึ่งในนโยบายมุ่งเน้น เพื่อการดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะพี่งพิง ผู้ป่วยระยะท้าย รวมถึงผู้สูงอายุติดบ้าน ติดเตียง ให้ได้รับการดูแลอย่างเป็นองค์ รวมครอบคลุมทั้ง 4 มิติ คือ กาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และจิตวิญญาณ อย่างต่อเนื่องจากโรงพยาบาลสู่บ้าน ชุมชน โดยไม่ถูกทอดทิ้งไว้เพียงล าพัง ลูกหลานสามารถท ามาหาเลี้ยงชีพได้ตามปกติ เป็นการสร้างเสริมคุณภาพชีวิตผู้ป่วย จนวาระสุดท้ายของชีวิต มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน 1. จัดตั้งศูนย์ชีวาภิบาลในโรงพยาบาล ณ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนมและโรงพยาบาลส่งเสริม สุขภาพต าบลทุกแห่ง เป็นศูนย์การดูแลผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยระยะท้าย มีระบบบริการและให้ค าปรึกษา ในการดูแลผู้ป่วยที่บ้านและชุมชน ตลอดทั้งเป็นศูนย์ยืม อุปกรณ์เครื่องมือที่จ าเป็นให้ผู้ป่วยไปใช้ที่บ้าน 2. ก าลังด าเนินการจัดตั้งกุฎิชีวาภิบาลในชุมชน ณ วัดพระธาตุพนม ฯ โดยมีพระคิลานุปัฏฐาก (ที่ผ่านการ อบรมเชิง ปฏิบัติ 35 ชม.) มีพระบริบาลภิกษุไข้ มีศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพ วิถีพุทธวัดพระธาตุพนม วรมหาวิหารและมีศูนย์อโรคยา ของวัดพระธาตุพนมในการดูแล แบบไม่พักค้างคืน 3. มีศูนย์ชีวาภิบาลเอกชน คือ บ้านสบายใจธาตุพนมเปิดให้บริการ มา 3 ปี ประกอบธุรกิจประเภท กิจกรรมด้านสุขภาพและงานสังคมสงเคราะห์ โดยให้บริการด้านกิจกรรมการดูแลรักษาในสถานที่ที่มีที่พักและมีคน ดูแลประจ าส าหรับผู้สูงอายุ 4. มีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว พยาบาล ประจ าศูนย์ชีวาภิบาลในโรงพยาบาลและชุมชน 5. จัดบริการคลินิกผู้สูงอายุ ตั้งแต่ปี 2564 และด าเนินอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เปิดให้บริการวันอังคาร ช่วงบ่าย เวลา 13.00-16.00น. ในเวลาราชการ


114 6. มีการให้บริการ Hospital at Home / Home ward ในผู้ป่วยในชุมชนที่อยู่ในเขตบริการการ ให้เข้าถึง บริการสุขภาพ ได้อย่างเป็นธรรม เป็นทางเลือกให้กับผู้ป่วยในการรับบริการแบบผู้ป่วยใน เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิต ระหว่างการรักษา ลดภาวะแทรกซ้อนในการนอนโรงพยาบาล และลดค่าใช้จ่ายในการเฝ้าผู้ป่วยที่โรงพยาบาล และ ลดอัตราการครองเตียง ลดความความแออัด โดยมีความร่วมมือของญาติหรือผู้ดูแล (care giver) ในการช่วยประเมิน อาการผู้ป่วย และสื่อสารกับทีมแพทย์มีการติดตามเยี่ยมผ่านระบบ Telemedicine และ LINE OA ผลกำรด ำเนินงำน ตัวชี้วัด/เป้ำหมำย/ปีงบประมำณ 2565 2566 ผลกำรด ำเนินงำน 2567 ร้อยละ 1.ให้บริการในสถานชีวาภิบาล จังหวัดละ 1 แห่ง (ร้อยละ 80) NA NA 1.บ้านสบายใจธาตุพนม(บริษัทเอกชน) 2.กุฏิชีวาภิบาล วัดพระธาตุพนม ฯ อยู่ ระหว่างการด าเนินการ 3. มีศูนย์ชีวาภิบาลในโรงพยาบาล จัดพิธี เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 12/12/2566 100 2.มีบริการ Hospital at Home / Home ward จังหวัดละ 1 แห่ง (ร้อยละ 80) NA NA มีการด าเนินงานHome ward ตั้งแต่ เดือน ตุลาคม 2566 จ านวน 20 คน 100 3. มีบริการคลินิกผู้สูงอายุใน โรงพยาบาลทุกระดับ (ร้อยละ 95) 100 100 มีคลินิกผู้สูงอายุใน รพ. 100 ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) - มีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว เป็นแพทย์ประจ าคลินิกคลินิกผู้สูงอายุ คลินิกประคับประคอง และดูแลให้ ค าปรึกษาในศูนย์ชีวาภิบาลในโรงพยาบาลและชุมชน - มีทีมที่ให้บริการ Hospital at Home / Home ward ที่เข้มแข็งและระบบแนวทางการดูแลตามกลุ่มโรคที่ ชัดเจน มีแพทย์รับผิดชอบดูแลผู้ป่วย Home ward - มีระบบให้ค าปรึกษาผู้ป่วยในรพ.สต.และเจ้าหน้าที่รพ.สต.ในการดูแลผู้ป่วย ในเขตอ าเภอธาตุพนม และ สามารถให้ค าปรึกษาได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านระบบ LINE OA ปัญหำอุปสรรค - ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนสถานบริการ Hospital at Home / Home ward กลุ่มโรคทางจิต ท าให้ไม่สามารถ เบิกเคลมค่าบริการในผู้ป่วยกลุ่มโรคทางจิตได้


115 - บางครอบครัวไม่มีอินเตอร์เนต และไม่มีโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟนท าให้เป็นอุปสรรคในการ ติดต่อสื่อสาร แนวทำงกำรพัฒนำ - ส่งพยาบาลอมรบเฉพาะทางการดูแลผู้สูงอายุ หลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุ 4 เดือน - ส่งพยาบาลที่ดูแลบริการ Hospital at Home / Home ward เข้าอบรมเพิ่มทักษะความรู้อย่างต่อเนื่อง - อบรม ให้ความรู้แก่ อสม.และเจ้าหน้าที่ในการดูแลผู้ป่วยในขุมชน สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน - ต้องการอัตราก าลังเพิ่ม - อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จ าเป็น เพื่อให้ผู้ป่วยยืมใช้ที่บ้านเพื่อติดตามอาการส าหรับผู้ป่วย Home ward เช่น เครื่องวัดความดัน เครื่องเจาะน้ าตาล อุปกรณ์ท าแผล เป็นต้น ผู้รำยงำน นางกรรธิมา ฝาระมี ต าแหน่ง พยาบาลวิชาชีพช านาญ วัน/เดือน/ปี 12 มกราคม 2567 โทร 087-949-5380 E-Mail [email protected]


116 6.17 แผนพัฒนำ พัฒนำระบบบริกำรสุขภำพ สำขำสุขภำพจิตและยำเสพติด ตัวชี้วัด 49-55 ตัวชี้วัด 49.1 ร้อยละของผู้ป่วยโรคซึมเศร้ำมีอำกำรทุเลำในกำรติดตำม 6 เดือน เป้ำหมำย ≥ ร้อยละ 55 ผลงำน ยังไม่ถึงรอบประเมิน กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก งานจิตเวช กลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติด สถำนกำรณ์ ปัจจุบันผู้ป่วยโรคซึมเศร้าในอ าเภอธาตุพนม มีจ านวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในปีงบประมาณ 2564-2566 มี จ านวนผู้ป่วยโรคซึมเศร้า 914 , 974 และ 955 ตามล าดับ การดูแลเฝ้าระวังผู้ป่วยผู้ป่วยโรคซึมเศร้า มีการให้บริการ ตรวจรักษาด้วยยาต้านเศร้า โดยแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว ให้บริการปรึกษาจิตบ าบัด โดยพยาบาลจิตเวชและ นักจิตวิทยา ออกติดตามเยี่ยมบ้านเพื่อช่วยเหลือประเมินอาการและเสริมพลังใจ มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน 1. แนวทางการดูแลผู้ป่วยโรคซึมเศร้า 2. การคัดกรอง ค้นหาผู้ป่วยโรคซึมเศร้าในประชาชน อายุ 15 ปีขึ้นไป ปีละ 1 ครั้ง 3. การติดตามประเมินผู้ป่วยโรคซึมเศร้าอาการทุเลา 6 เดือน ด้วยแบบประเมิน 2Q ,9Q, 8Q 4. แนวทางการส่งต่อโรงพยาบาลจิตเวช ในรายที่มีอาการรุนแรง ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) 1. มีการคัดกรอง ค้นหาผู้ป่วยโรคซึมเศร้าในประชาชน อายุ 15 ปีขึ้นไป เพื่อน าเข้าสู่การรักษาได้เร็ว 2. มีภาคีเครือข่ายบูรณาการดูแลช่วยเหลือติดตามเยี่ยม การเสริมสร้างพลังใจ 3. มีโรงพยาบาลจิตเวชนครพนมราชนครินทร์ เป็นโรงพยาบาลแม่ขาย รับส่งต่อผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง 4.ญาติผู้ป่วยเข้าใจและช่วยดูแลใกล้ชิด สามารถรับรู้ สัญญาณเตือนเสี่ยงฆ่าตัวตาย ในผู้ป่วยโรคซึมเศร้า และสามารถส่งต่อไปยังหน่วยบริการสาธารณสุขใกล้บ้านได้อย่างรวดเร็ว แนวทำงกำรพัฒนำ 1. เพิ่มการคัดกรอง ค้นหาผู้ป่วยโรคซึมเศร้าในประชาชน อายุ 15 ปีขึ้นไป ให้ครอบคลุม มากขึ้น 2. อบรมให้ความรู้ญาติหรือผู้ดูแลใกล้ชิด ในการเฝ้าระวัง “สัญญาณเตือนเสี่ยงฆ่าตัวตาย” ในผู้ป่วยโรค ซึมเศร้า สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน งบประมาณในการด าเนินงาน ผู้รำยงำน นางพนารรณ์ ไมตรี ต าแหน่ง พยาบาลวิชาชีพช านาญการ วัน/เดือน/ปี 17 มกราคม 2567 โทร 0952255591 E-Mail : [email protected]


117 ตัวชี้วัด 49.2 อัตรำกำรฆ่ำตัวตำยส ำเร็จ เป้ำหมำย ≤ 8.0 ต่อแสนประชำกร ผลงำน 1.25 ต่อแสนประชำกร กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก งาน OSCC กลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติด สถำนกำรณ์ การเฝ้าระวังผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย และดูแลผู้ป่วยฆ่าตัวตาย บริการให้ค าปรึกษา โดย นักจิตวิทยาให้ค าปรึกษา มีทีมเยียวยาด้านจิตใจ (MCATT: Mental health crisis Assessment & Treatment Team) ออกติดตามเยี่ยมบ้านเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบด้านจิตใจ มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน 1. แนวทางการดูแลผู้ป่วยฆ่าตัวตายและผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย 2. แนวทางการการปฏิบัติงานทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต ผลกำรด ำเนินงำน อัตราการฆ่าตัวตายส าเร็จ เท่ากับ 1.25 คนต่อแสนประชากร ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) 1. มีการสอบสวนโรคกรณีฆ่าตัวตายและกระท ารุนแรงต่อตนเองเพื่อค้นหาและรวบรวมข้อมูลปัจจัย กระตุ้น ปัจจัยเสี่ยง ปัจจัยปกป้อง และด่านกั้น รวมทั้งประเมินการเฝ้าระวังการฆ่าตัวตายในครอบครัวและชุมชนโดย ทีมสอบสวนโรคกรณีฆ่าตัวตายของอ าเภอ 2. สนับสนุนให้ภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกกระทรวงสาธารณสุขบูรณาการดูแลช่วยเหลือผู้มีความเสี่ยงต่อ การฆ่าตัวตายให้ได้รับการช่วยเหลือครอบคลุมทุกมิติ โดยเข้าถึงบริการด้านสิทธิ สวัสดิการทางสังคม และการ เสริมสร้างพลังใจรายบุคคล ปัญหำอุปสรรค ขาดบุคลากรทีมสหวิชาชีพ เช่น นักสังคมสงเคราะห์ แนวทำงกำรพัฒนำ 1. เพิ่มการคัดกรองความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายในประชากรกลุ่มเปราะบางทางเศรษฐกิจและสังคม 2. น าข้อมูลที่ได้จากการสอบสวนโรคกรณีฆ่าตัวตายและกระท ารุนแรงต่อตนเองขับเคลื่อนโครงการ “สัญญาณเตือนเสี่ยงฆ่าตัวตาย” ให้ญาติหรือผู้ดูแลใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยงได้รับการพัฒนาทักษะสังเกตสัญญาณเตือนเสี่ยง ฆ่าตัวตาย เพื่อสามารถส่งต่อไปยังหน่วยบริการสาธารณสุขใกล้บ้านได้อย่างรวดเร็ว สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน งบประมาณในการด าเนินงาน ผู้รำยงำน นางสาวศษิ ปุญยวิไล ต าแหน่ง นักจิตวิทยาปฏิบัติการ วัน/เดือน/ปี 12 มกราคม 2567 โทร 0830415148 E-Mail [email protected]


118 ตัวชี้วัด 49.3 ร้อยละของผู้พยำยำมฆ่ำตัวตำยไม่กลับมำท ำร้ำยตัวเองซ้ ำในระยะเวลำ 1 ปี เป้ำหมำย ร้อยละ 90 ผลงำน ร้อยละ 75 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก งาน OSCC กลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติด สถำนกำรณ์ ร้อยละของผู้พยายามฆ่าตัวตายไม่กลับมาท าร้ายตัวเองซ้ าในระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2564 – 2566 เท่ากับ ร้อยละ 100 , 93.33 และ 97.14 ตามล าดับ มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน 1. แนวทางการดูแลผู้ป่วยฆ่าตัวตายและผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย 2. แนวทางการเฝ้าระวังติดตามดูแลผู้ป่วยจิตเวชและผู้พยายามฆ่าตัวตายตามแนวทางในโปรแกรม dashboard ระดับอ าเภอ ผลกำรด ำเนินงำน ผู้พยายามฆ่าตัวตายไม่กลับมาท าร้ายตัวเองซ้ า เท่ากับร้อยละ 75 ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) อยู่ในช่วงด าเนินการ ปัญหำอุปสรรค 1. ปัญหาความทันเวลาและความครอบคลุมจ านวนครั้งในการเฝ้าระวังติดตามเยี่ยมดูแลผู้ป่วยจิตเวชและ ผู้พยายามฆ่าตัวตายในระบบ dashboard ระดับอ าเภอ 2. ญาติผู้ที่ยังไม่ได้รับสุขภาพจิตศึกษาและชุมชนขาดความตระหนักถึงสัญญาณเตือนหรือตัวกระตุ้นเสี่ยง ฆ่าตัวตาย แนวทำงกำรพัฒนำ 1. พัฒนาศักยภาพบุคลากรและทบทวนการเฝ้าระวังติดตามเยี่ยมดูแลผู้ป่วยจิตเวชและผู้พยายามฆ่าตัว ตายในระบบ dashboard ระดับอ าเภอ 2. ขับเคลื่อนโครงการ “สัญญาณเตือนเสี่ยงฆ่าตัวตาย” โดยการเพิ่มกลุ่มประชากรนอกเหนือจากญาติ ใกล้ชิดผู้พยายามฆ่าตัวตาย ให้ได้รับการพัฒนาทักษะสังเกตสัญญาณเตือนหรือตัวกระตุ้นเสี่ยงฆ่าตัวตาย รวมถึงการ ตระหนักถึงความส าคัญต่อการจัดเก็บ ควบคุมอุปกรณ์ที่ถูกน ามาใช้ฆ่าตัวตาย สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน งบประมาณในการด าเนินงาน ผู้รำยงำน นางสาวศษิ ปุญยวิไล ต าแหน่ง นักจิตวิทยาปฏิบัติการ วัน/เดือน/ปี 12 มกราคม 2567 โทร 0830415148 E-Mail [email protected]


119 ตัวชี้วัด 50 มินิธัญญำรักษ์ดูแลผู้ป่วยจิตเวชและยำเสพติดอย่ำงครบวงจรทุกจังหวัด (2 KPIs) 50.1 ร้อยละ 100 ของจังหวัดมีมินิธัญญารักษ์ดูแลผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติดอย่างครบวงจรตามเกณฑ์ที่กระทรวง สาธารณสุขก าหนด 50.2 ร้อยละ 100 ของจังหวัดที่เปิดมินิธัญญารักษ์ได้รับการติดตามและมีการประเมินรับรองคุณภาพมาตรฐาน เป็นไปตามเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขก าหนด ผลงำน ร้อยละ 100 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก งานยาเสพติด กลุ่มงานสุขภาพจิตและยาเสพติด สถำนกำรณ์ ในเขตพื้นที่อ าเภอธาตุพนม ผู้ป่วยยาเสพติดมีจ านวนเพิ่มมากขึ้นและผู้ป่วยเริ่มมีอาการก าเริบทางจิต ประสาทจากฤทธิ์ของยาเสพติด ที่เป็นอันตรายต่อตนเอง ผู้อื่น ทรัพย์สิน มีแนวโน้มที่สูงขึ้น โดยพบว่ากลุ่ม SMI-V มีพฤติกรรมก่อความรุนแรง มีการน าส่งโดยเจ้าหน้าที่ต ารวจ / ฝ่ายปกครอง เพื่อน าเข้ามารับการบ าบัดรักษา เฉลี่ย สัปดาห์ละ 2-3 ราย อีกทั้งสถานที่และรูปแบบในการบ าบัดรักษามีข้อจ ากัดในด้านการส่งต่อ สถานที่ให้การบ าบัดที่ เฉพาะด้าน บุคลากรในการดูแลที่เฉพาะเจาะจงในผู้ป่วยกลุ่มนี้ มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2566 โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม ได้จัดตั้ง เฮือนเมตตาธรรม “มินิ ธัญญารักษ์” สถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดระยะยาว ให้การบ าบัดรักษาและฟื้นฟูสภาพด้านกาย จิต สังคม ระยะเวลา 30 – 90 วัน ในกลุ่มผู้ป่วยยาเสพติดและผู้ป่วยจิตเวชที่อาการสงบ ผลกำรด ำเนินงำน 1. วันที่ 10 สิงหาคม 2566 – 20 ตุลาคม 2566 ให้การบ าบัดรักษาและฟื้นฟูสภาพด้านกาย จิต สังคม จ านวน 20 ราย 2. วันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 - ปัจจุบัน ให้การบ าบัดรักษาและฟื้นฟูสภาพด้านกาย จิต สังคม จ านวน 38 ราย ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) 1. การค้นหา คัดกรอง ของทีมภาคีเครือข่ายในชุมชน โดย ผู้น าชุมชน / อสม.บัดดี้ฟู 2. การส่งต่อเข้าสู่กระบวนการบ าบัดรักษาของฝ่ายปกครอง / ต ารวจ / ทหาร 3. การบ าบัดรักษา โดยการจัดตั้งสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดระยะยาว เฮือนเมตตาธรรม มินิธัญญารักษ์ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม ขึ้นในการดูแลกลุ่มผู้ป่วยยาเสพติดและจิตเวช 4. การติดตามประเมินผลและให้การดูแลช่วยเหลือผู้บ าบัดรักษาและครอบครัวอย่างต่อเนื่อง โดยการบูรณา การการท างานของทุกภาคส่วน ปัญหำอุปสรรค


120 1. สถานที่ให้การบ าบัดรักษาไม่เหมาะสม 2. งบประมาณไม่เพียงพอต่อการด าเนินงาน 3. บุคลากรไม่เพียงพอ 4. ขาดการร่วมมือของภาคีเครือข่ายในการด าเนินงาน 5. หลังครบกระบวนการบ าบัดรักษา ผู้ป่วยมีการกลับไปเสพซ้ า เนื่องจากกลับไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิม แนวทำงกำรพัฒนำ 1. การคัดกรอง ค้นหา เพื่อน าเข้าสุ่กระบวนการบ าบัดรักษา 2. การส่งต่อสถานพยาบาล อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย 3. การบ าบัดรักษา ด้านกาย จิต สังคม โดยมีสถานที่ที่เหมาะสม บุคลากรที่เพียงพอ กระบวนการจัดการ ปัญหาตามรายกรณี 4. การติดตามดูแล ช่วยเหลือ ทั้งผู้ป่วย ครอบครัว แบบบูรณาการทุกภาคส่วน สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน 1. งบประมาณในการด าเนินงาน 2. บุคลากรในการด าเนินงาน 3. อาคาร สถานที่ ที่เหมาะสมในการบ าบัดรักษา (มินิธัญญารักษ์) 4. ในรายที่ปฏิเสธการเป็นผู้ป่วย เช่น หลบหนี ไม่รับประทานยา ก่อความรุนแรงบ่อยครั้ง เสพยาเสพติด อย่างต่อเนื่อง ท้าทายต่ออ านาจกฎหมาย ควรมีกระบวนการ สถานที่ บุคลากร ในการให้การดูแลที่ เหมาะสม หรือ การลงโทษทางกฎหมายอย่างจริงจัง ผู้รำยงำน นายวัชชิระ หล้าค าแก้ว ต าแหน่ง พยาบาลวิชาชีพช านาญการ วัน/เดือน/ปี 22 มกราคม 2567 โทร 081-2634833 E-Mail [email protected]


121 ตัวชี้วัด 52. ร้อยละของโรงพยำบำลชุมชนที่มีกลุ่มงำนจิตเวชและยำเสพติด (2 KPIs) 52.1 รพช. ผ่ำนกำรประเมินและรับรองผลโดยคณะกรรมกำรประเมินผลระดับเขตสุขภำพ และด ำเนินกำรเสนอ ข้อมูลต่อกองบริหำรทรัพยำกรบุคคล ส ำนักงำนปลัดกระทรวงสำธำรณสุข เป้ำหมำย ร้อยละ 100 ผลกำรด ำเนินงำน ร้อยละ 100 52.2 5 รพช. มีกลุ่มงำนจิตเวชและยำเสพติด เป้ำหมำย ร้อยละ 100 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก กลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติด โดยแบ่งงานในกลุ่มงานฯออกเป็น 3 งานหลักดังนี้ 1.งานจิตเวลชและสุขภาพจิต 2.งานยาเสพติด 3.งานOSCC (ศูนย์พึ่งได้) สถำนกำรณ์ จากสถานการณ์ของผู้ป่วยด้านจิตเวชและยาเสพติดมีปริมาณที่เพิ่มขึ้นแต่การปฏิบัติงานในเชิงระบบงาน จิตเวชและยาเสพติด ยังไม่มีกลุ่มงานที่ชัดเจนและด้านการบริหารที่ต้องผ่านผู้บริหารหลายระดับ เกิดความยุ่งยากใน ขั้นตอนการปฏิบัติงานทั้งเชิงนโยบาย การสั่งการ และการปฏิบัติงานที่มีบทบาทเฉพาะด้าน จึงผลักดันและเตรียม ความพร้อมในการขอแยกกลุ่มงานที่มีความเฉพาะด้านจิตเวชและยาเสพติดขึ้นเพื่อรองรับกับปริมาณงาน ประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการด าเนินงาน มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน การจัดเตรียมทรัพยากรบุคคล การจัดเตรียมด้านการพัฒนาศักยภาพของบุคคล การแบ่งภาระงานหลัก และภาระงานรอง การก าหนดตารางการให้บริการ การให้ค าปรึกษา/การบ าบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ป่วยนอกและ ผู้ป่วยใน การท างานในรูปแบบสหวิชาชีพและภาคีเครือข่าย การพัฒนาคุณภาพด้านยาเสพติดให้ผ่านHA การ จัดเตรียมเอกสารตามเกณฑ์การประเมินแยกกลุ่มงาน ผลกำรด ำเนินงำน ด้านทรัพยากรบุคคลในกลุ่มงานฯปัจจุบันมี แพทย์ประจ าคลินิก 2 คน พยาบาล 5 คน นักจิตวิทยา 2 คน นวก. 1 คน ผู้ช่วยเหลือคนไข้ 1 คน พนักงานทั่วไป 1 คน และผู้ช่วยนักกิจกรรมบ าบัด 8 คน มีการก าหนดบทบาท หน้าที่ให้กับเจ้าหน้าที่ในกลุ่มงานในแต่ละงาน มีตารางการให้บริการเช่นวันพุธคลินิกจิตเวช เป็นต้น มีการให้ ค าปรึกษาดูแลทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน มีการท างานกับสหวิชาชีพและเครือข่ายเช่น แพทย์ พยาบาล ต ารวจ ทหาร โรงเรียน พม อบต.เป็นต้น มีการรับรองคุณภาพด้านยาเสพติดต่อเนื่องและRe Accredit ครั้งที่ 3 รอรับการ ประเมินช่วงปลายเดือนกุมภาสพันธุ์ 2567 และก่อนการประเมินได้จัดเตรียมเอกสารในการประเมินตนเองตาม เกณฑ์การจัดตั้งกลุ่มงาน แบบประเมินตนเองด้านจิตเวชและเอกสารอื่นที่ก าหนดตามเกณฑ์การประเมินแยกกลุ่ม งาน ผลการด าเนินงาน ร้อยละ 100 โดยกลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติด โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม ผ่าน การประเมินตนเองจากเขตสุขภาพที่ 8 และอกพ.สปได้อนุมัติค าสั่งจัดตั้งกลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติดครั้งที่ 3/2563 เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2563เป็นแห่งแรกของจังหวัดนครพนม


122 ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) มีอัตรก าลังเพิ่ม มีคลินิกพิเศษเช่น คลินิกเลิกสารเสพติด คลินิกเลิกบุหรี่/สุรา คลินิกวัยรุ่น คลินิกกระตุ้น พัฒนาการในกลุ่มเด็กพิเศษ ศูนยืใกล้บ้านใกล้ใจ และศูนย์พึ่งได้OSCC การบ าบัดผู้ติดยาเสพติดในระยะยาว 90 วัน (เฮือนเมตตาธรรม มินิธัญญารักษ์)แห่งแรกของจังหวัดนครพนมจากเดิม 20 เตียง ขยายเพิ่ม 30 เตียงโดยเริ่มเปิด ด าเนินการ 10 สิงหาคม 2566 และมีPsy Connerที่ตึก จาก 5 เตียงเพิ่ม เป็น 8 เตียงโดยเริ่มด าเนินการตั้งแต่ปี 2564 ปัญหำอุปสรรค ยังขาดแคลนอัตราก าลังในการบ าบัดรักษาดูแลผู้ติดยาเสพติด(มินิธัญญารักษ์)โดยยังขาดจิตแพทย์ พยาบาลวิชาชีพ และนักกิจกรรมบ าบัด และงบประมาณ แนวทำงกำรพัฒนำ การเพิ่มกรอบอัตราก าลังและการสนันสนุนงบประมาณในการด าเนินงานมินิธัญญา รักษ์ สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน ด้านทรัพยากรบุคคล จิตแพทย์ พยาบาล นักกิจกรรมบ าบัด ด้านสถานที่ การปรับปรุงสถานที่ /การ ก่อสร้างอาคารหอผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติด(เฉพาะ) ผู้รำยงำน นางพิมล สกลอินทร์ ต าแหน่งพยาบาลวิชาชีพช านาญการ วัน/เดือน/ปี 19 มกราคม 25677 โทร.0897101932 E-MaiL [email protected]


123 ตัวชี้วัด 53 ร้อยละของผู้ป่วยยำเสพติดเข้ำสู่กระบวนกำรบ ำบัดรักษำ ได้รับกำรดูแลอย่ำงมีคุณภำพต่อเนื่อง จนถึงกำรติดตำม (Retention Rate) เป้ำหมำย ร้อยละ 62 ผลกำรด ำเนินงำน ร้อยละ 52.94 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก งานยาเสพติด กลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติด สถำนกำรณ์ อ าเภอธาตุพนม มีพื้นที่อยู่ติดชายแดนไทยลาวเป็นพื้นที่สีแดงในการแพร่ระบาดของยาเสพติด ยาเสพติดที่ แพร่ระบาดในพื้นที่ยังคงเป็นตัวยาเสพติดหลัก คือ ยาบ้า กัญชา ยาไอซ์ กระท่อม (๔ คูณ ๑๐๐) และ ลีน (ยาทรา มาดอลผสมน้ าอัดลม) ส่วนใหญ่ผู้ใช้ยาเสพติดเป็นกลุ่มวัยรุ่นและวัยท างาน และมีเหตุผลในการเสพ คือ อยากรู้อยาก ลอง เพื่อนชักชวน และใช้เพื่อประกอบการท างานให้มีเรี่ยวแรงในการท างาน ยาเสพติดที่ระบาดอย่างหนักและเป็น ปัญหาในพื้นที่ คือ ยาบ้า เนื่องจากมีราคาถูก เฉลี่ยเม็ดละ ๒๐ - ๕๐ บาท และมีการเข้าถึงได้ง่าย มีผู้ค้ารายย่อย จ านวนมากในชุมชน ท าให้มีผู้เสพหน้าใหม่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และผู้เสพรายเก่าที่ก าลังเจ็บป่วยและมี อาการทางจิตก าเริบจากฤทธิ์ของยาเสพติดที่เสพ มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน 1. ระดับต้นน้ ำ - ค้นหา ค้นกรอง ผู้เสพในชุมชน โดยทีมภาคีเครือข่ายในระดับต าบล ในเขตอ าเภอธาตุพนม - ทีมภาคีเครือข่าย น าส่งผู้เสพที่ศูนย์คัดกรอง ในระดับต าบล เพื่อจ าแนกผู้ป่วยตามแบบ V2 - ศูนย์คัดกรองในระดับต าบล ส่งต่อผู้เสพเข้ารับการบ าบัดรักษาตามกระบวนการที่โรงพยาบาล 2. ระดับกลำงน้ ำ - งานยาเสพติด ประเมินการเสพติดและสุขภาพจิต - งานยาเสพติด ส่งต่อผู้เสพที่ตึกชาย เพื่อดูแลการถอนพิษยา ระยะเวลา 3 – 7 วัน - เฮือนเมตตาธรรม “มินิธัญญารักษ์” ให้การบ าบัดรักษาและฟื้นฟูสภาพด้านกาย จิต สังคม ระยะเวลา 30 – 90 วัน 3. ระดับปลำยน้ ำ - เมื่อครบกระบวนการบ าบัดรักษา ส่งต่อข้อมูลของผู้เสพ ให้ศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมอ าเภอธาตุพนม ใน การดูแลช่วยเหลือด้านอาชีพ รายได้ การศึกษา เป็นต้น - งานยาเสพติด ร่วมกับทีมภาคีเครือข่ายติดตามประเมินอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การดูแลช่วยเหลือตามราย กรณี


124 ผลกำรด ำเนินงำน แผนพัฒนำ ตัวชี้วัด เป้ำหมำย ผลงำน พัฒนาระบบบริการ สุขภาพสาขาสุขภาพจิต และยาเสพติด 53. ร้อยละของผู้ป่วยยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการ บ าบัดรักษา ได้รับการดูแลอย่างมีคุณภาพต่อเนื่องจนถึง การติดตาม (Retention Rate) ร้อยละ 62 ร้อยละ 52.94 ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) 1. การค้นหา คัดกรอง ของทีมภาคีเครือข่ายในชุมชน โดย ผู้น าชุมชน / อสม.บัดดี้ฟู 2. การส่งต่อเข้าสู่กระบวนการบ าบัดรักษาของฝ่ายปกครอง / ต ารวจ / ทหาร 3. การบ าบัดรักษา โดยการจัดตั้งสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดระยะยาว เฮือนเมตตาธรรม มินิธัญญารักษ์ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม ขึ้นในการดูแลกลุ่มผู้ป่วยยาเสพติดและจิตเวช 4. การติดตามประเมินผลและให้การดูแลช่วยเหลือผู้บ าบัดรักษาและครอบครัวอย่างต่อเนื่อง โดยการบูรณา การการท างานของทุกภาคส่วน ปัญหำอุปสรรค 1. ผู้ป่วย มีการกลับไปเสพซ้ า ส่งผลให้มีการก่อความรุนแรงในครอบครัว ชุมชน 2. ครอบครัว ไม่สามารถให้การดูแล ช่วยเหลือผู้ป่วยได้ 3. สิ่งแวดล้อม ที่เป็นตัวกระตุ้นในการกลับไปเสพซ้ าของผู้ป่วย 4. ยาและสารเสพติด ที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย มีราคาถูก และมีจ านวนมากในสังคมปัจจุบัน 5. ช่องทางของกฎหมายที่เอื้อต่อการเสพ (ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย) แนวทำงกำรพัฒนำ 1. การคัดกรอง ค้นหา ตามปัญหาและอาการของผู้ป่วย 2. การส่งต่อสถานพยาบาล อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย 3. การบ าบัดรักษา ด้านกาย จิต สังคม โดยมีสถานที่ที่เหมาะสม บุคลากรที่เพียงพอ กระบวนการจัดการ ปัญหาตามรายกรณี 4. การติดตามดูแล ช่วยเหลือ ทั้งผู้ป่วย ครอบครัว แบบบูรณาการทุกภาคส่วน สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน 1. งบประมาณอาคาร บุคลากร สถานที่ ที่เหมาะสมในการบ าบัดรักษา (มินิธัญญารักษ์) 2. ในรายที่ปฏิเสธการเป็นผู้ป่วย เช่น หลบหนี ไม่รับประทานยา ก่อความรุนแรงบ่อยครั้ง เสพยาเสพติด อย่างต่อเนื่อง ท้าทายต่ออ านาจกฎหมาย ควรมีกระบวนการ สถานที่ บุคลากร ในการให้การดูแลที่ เหมาะสม หรือ การลงโทษทางกฎหมายอย่างจริงจัง ผู้รำยงำน นายวัชชิระ หล้าค าแก้ว ต ำแหน่ง พยาบาลวิชาชีพช านาญการ วัน/เดือน/ปี 11 มกราคม 2567 โทร 081-2634833 E-Mail [email protected]


125 ตัวชี้วัด 54.ร้อยละของผู้ป่วยสมำธิสั้น (ADHD) เข้ำถึงบริกำรสุขภำพจิตที่ได้มำตรฐำน เป้ำหมำย ร้อยละ 38 ผลงำน ร้อยละ 25.06 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก งานจิตเวช กลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติด สถำนกำรณ์ ข้อมูลอ าเภอธาตุพนมจาก HDC ย้อนหลัง 3 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2564-2566 พบว่า ร้อยละของผู้ป่วย สมาธิสั้น(ADHD) เข้าถึงบริการสุขภาพจิตที่ได้มาตรฐาน 26.31, 26.93, 30.25 เพิ่มขึ้นตามล าดับ มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน คัดกรองกลุ่ม ๔ โรคหลักทางจิตเวช (สมาธิสั้น ออทิสติก เรียนรู้ช้า แอลดี ) ตามแบบสังเกตพฤติกรรมของ สถาบันราชานุกูล ในนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ผลกำรด ำเนินงำน (ตุลำคม 2566 – มกรำคม 2567) ผู้ป่วยสมาธิสั้น(ADHD) เข้าถึงบริการสุขภาพจิตที่ได้มาตรฐานร้อยละ 25.06 ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) อยู่ในช่วงด าเนินการ ปัญหำอุปสรรค ผู้ปกครองขาดความตระหนักถึงความส าคัญและความรู้ความเข้าใจของโรคสมาธิสั้น แนวทำงกำรพัฒนำ 1.เพิ่มการคัดกรองกลุ่ม ๔ โรคหลักทางจิตเวช (สมาธิสั้น ออทิสติก เรียนรู้ช้า แอลดี ) ตามแบบสังเกต พฤติกรรมของสถาบันราชานุกูล ในนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 -6 2.ขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมพัฒนาการและสุขภาพจิตเด็กและเยาวชนในชุมชนพื้นที่โรงพยาบาลสมเด็จ พระยุพราชตามโครงการพระราชด าริ ด้วยระบบ School Health Hero (ระบบสุขภาพจิตโรงเรียนวิถีใหม่) 3.ประชาสัมพันธ์และให้สุขภาพจิตศึกษาเรื่องโรคสมาธิสั้นแก่ผู้ปกครองนักเรียนในวันประชุมผู้ปกครอง สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน งบประมาณในการด าเนินงาน ผู้รำยงำน นางสาวผ่องแผ้ว กุลภา ต าแหน่ง พยาบาลวิชาชีพช านาญการ วัน/เดือน/ปี 12 มกราคม 2567 โทร 0925017860 E-Mail [email protected]


126 6.18 แผนพัฒนำ พัฒนำกำรบริบำลฟื้นสภำพระยะกลำง (IMC) ตัวชี้วัด 56 ตัวชี้วัด 56 ร้อยละผู้ป่วย intermediate care ได้รับกำรบริกำรฟื้นสภำพระยะกลำงและติดตำมจนครบ 6 เดือน หรือจน Barthel index = 20 ก่อนครบ 6 เดือน (3KPIs) เป้ำหมำย 1. ร้อยละของผู้ป่วย intermediate care ได้รับการบริการฟื้นสภาพระยะกลางและติดตามจนครบ 6 เดือน หรือจน Barthel index = 20 ก่อนครบ 6 เดือนมากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 85 2. ร้อยละของผู้ป่วย intermediate care (ผู้ป่วยใน) มีค่าคะแนน Barthel index เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2 คะแนน เมื่อได้รับการบริการฟื้นสภาพระยะกลางในหอผู้ป่วย IMC bed มากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 60 3. ร้อยละของผู้ป่วย intermediate care (ผู้ป่วยนอก) ได้รับการบริการฟื้นสภาพระยะกลางจ านวนมากกว่า หรือเท่ากับ 6 ครั้ง ภายในระยะเวลา 6 เดือน มากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 50 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก กลุ่มงานเวชกรรมฟื้นฟู สถำนกำรณ์ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนมได้ด าเนินการดูแลผู้ป่วยระยะกลาง (intermediate care) ในผุ้ ป่วย 4 กลุ่มโรคคือ โรคหลอดเลือดสมอง (stroke) การบาดเจ็บที่สมอง (Traumatic brain injury) การบาดเจ็บที่ กระดูกสันหลัง (spinl cord injury) และผู้ป่วยกระดูกสะโพกหักจากภยันตรายชนิดไม่รุนแรง (Fragility hip fracture) ที่มีอาการทางคลินิกผ่านพ้นภาวะวิกฤตและมีอาการคงที่ โดยให้บริการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ อย่างต่อเนื่องใน 6 เดือน (golden period) โดยทีมสหวิชาชีพ มีการให้บริการทั้ง IPD , OPD และการเยี่ยมบ้านใน ชุมชน ดูแลผู้ป่วยระยะกลางให้เข้าถึงบริการฟื้นฟูสภาพ ลดความพิการ ลดภาวะแทรกซ้อน เพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีใน ระยะทางทั้งต่อตนเองและครอบครัว มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน -จัดท าค าสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการ IMC ในโรงพยาบาล ประชุมชี้แจงแนวทางการด าเนินงานให้บรรลุ เป้าหมาย -มีการให้บริการผู้ป่วย IMC ทั้งใน OPD , IPD และให้บริการเยี่ยมบ้านเพื่อฟื้นฟูแลผู้ป่วยระยะกลางให้มี คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น -วางแผนเพิ่มอัตราก าลังนักกายภาพบ าบัด เพื่อให้การด าเนินงาน IMC เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ -มีการใช้ โปรแกรม Smart IMC ในการส่งต่อข้อมูลผู้ป่วยในจังหวัดนครพนม


127 ผลกำรด ำเนินงำน ตัวชี้วัด : ร้อยละผู้ป่วย intermediate care ได้รับกำรบริกำร ฟื้นสภำพระยะกลำงและติดตำมจนครบ 6 เดือน หรือจน Barthel index = 20 ก่อนครบ 6 เดือน ปีงบประมำณ ปี 2567 เป้ำหมำย 2566 เป้ำหมำย ผลงำน 1. ร้อยละของผู้ป่วย intermediate care ได้รับการบริการฟื้น สภาพระยะกลางและติดตามจนครบ 6 เดือน หรือจน Barthel index = 20 ก่อนครบ 6 เดือน 75 90.01 ≥85 90 2. ร้อยละของผู้ป่วย intermediate care (ผู้ป่วยใน) มีค่าคะแนน Barthel index เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2 คะแนน เมื่อได้รับการบริการ ฟื้นสภาพระยะกลางในหอผู้ป่วย IMC bed NA NA ≥60 0 3. ร้อยละของผู้ป่วย intermediate care (ผู้ป่วยนอก) ได้รับการ บริการฟื้นสภาพระยะกลางจ านวนมากกว่าหรือเท่ากับ 6 ครั้ง ภายในระยะเวลา 6 เดือน - 85.02 ≥50 85 ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) - ปัญหำอุปสรรค การติดตาม ดูแลให้บริการผู้ป่วย imc ยังเยี่ยมติดตามได้ไม่ครบตามเกณฑ์ , ขาดแคลนนักกายภาพบ าบัด มีไม่เพียงพอต่อการให้บริการIMC เปิดรับสมัครงานแต่ไม่มีผู้มาสมัคร) แนวทำงกำรพัฒนำ ท าแผนติดตามเยี่ยมบ้านในชุมชน , ส่งเสริมให้ความรู้ เจ้าหน้าที่ อสม , caregiver ในการดูแลผู้ป่วย เบื้องต้น , มีแผนอบรมพัฒนาบุคลากรทีมสหสาขาวิชาชีพ IMC , ควรมีการขยายกรอบอัตราก าลัง สวัสดิการหรือ ค่าตอบแทนพิเศษที่เป็นแรงจูงใจในการท างานด้าน IMC สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน รายการครุภัณฑ์ที่ขาด เช่นhand function training set , เตียง suspension , bycycle ergometry , balance board , para podium ผู้รำยงำน นางสาวจันทร์สุภางค์ จันทร์ลอม ต าแหน่ง นักกายภาพบ าบัดปฏิบัติการ วัน/เดือน/ปี 14 มกราคม 2567 โทร 042532141 ต่อ 113 E-Mail : [email protected]


128 6.19 แผนพัฒนำ พัฒนำระบบบริกำรกำรแพทย์แผนไทยและกำรแพทย์ทำงเลือก ตัวชี้วัด 57-58 ตัวชี้วัด 57 ร้อยละของจ ำนวนผู้ป่วยที่มีกำรวินิจฉัยโรคหลอดเลือดสมอง อัมพฤกษ์ อัมพำต ระยะกลำง (Intermediate Care) ที่ได้รับกำรดูแลด้วยกำรแพทย์แผนไทยและกำรแพทย์ทำงเลือก (Community base) เป้ำหมำย ร้อยละ 10 ผลกำรด ำเนินงำน ร้อยละ 17.43 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก กลุ่มงานการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สถำนกำรณ์ อ าเภอธาตุพนม มีการด าเนินงานการบริบาลและฟื้นฟูสภาพผู้ป่วยระยะกลาง (Intermediate Care) กลุ่ม ผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยโรคหลอดเลือดสมองหลังผู้ป่วยพ้นระยะวิกฤติจนถึงระยะ 6 เดือน (Golden Period) โดย ทีมสหวิชาชีพด้วยโปรแกรมการบริบาลและฟื้นฟูสภาพสภาพผู้ป่วยระยะกลางร่วมกับการแพทย์แผนไทยและ การแพทย์ทางเลือก (IMC-TTM) เพื่อเพิ่มสมรรถนะร่างกาย จิตใจ ในการปฏิบัติกิจวัตรประจ าวัน และลดความพิการ หรือภาวะทุพพลภาพ รวมทั้งกลับสู่สังคมได้อย่างเต็มศักยภาพ มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน การด าเนินงานการบริบาลและฟื้นฟูสภาพผู้ป่วยระยะกลาง (Intermediate Care) กลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับการ วินิจฉัยโรคหลอดเลือดสมองหลังผู้ป่วยพ้นระยะวิกฤติจนถึงระยะ 6 เดือน (Golden Period) โดย ทีมสหวิชาชีพตามโปรแกรมการบริบาลและฟื้นฟูสภาพสภาพผู้ป่วยระยะกลางร่วมกับการแพทย์แผนไทยและ การแพทย์ทางเลือก (IMC – TTM) ซึ่งมีการจัดบริการฟื้นฟูสภาพผู้ป่วยทั้งในหอผู้ป่วยใน (IPD) , การบริการผู้ป่วย นอก (OPD) และการดูแลต่อเนื่องในชุมชน ผลกำรด ำเนินงำน ผลการด าเนินงานการบริบาลและฟื้นฟูสภาพผู้ป่วยระยะกลางร่วมกับการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือกหลังพ้นระยะวิกฤติ (หอผู้ป่วยใน) จ านวน 73 ราย (Ischemic stroke จ านวน 61 ราย, Transient ischemic attack จ านวน 2 ราย, Fracture around the Hip จ านวน 10 ราย) และจากผู้ป่วย 73 รายเป็นกลุ่ม ผู้ป่วย Recurrent stroke จ านวน 6 ราย ผู้ป่วยได้รับบริการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก จ านวน 63 ราย คิด เป็นร้อยละ 86.30 ราย (เป้าหมาย ≥ร้อยละ 10) ที่มา : ฐานข้อมูลโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม ณ วันที่ 17 มกราคม 2567 ผลการด าเนินงานการบริบาลและฟื้นฟูสภาพผู้ป่วยระยะกลางร่วมกับการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือกหลังพ้นระยะวิกฤติในกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยโรคหลอดเลือดสมอง จ านวน 702 ราย ผู้ป่วยได้รับ บริการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก จ านวน 122 ราย คิดเป็นร้อยละ 17.38 (เป้าหมาย ≥ร้อยละ 10) ผู้ป่วย มารับบริการทั้งหมด 1,335 ครั้ง และผู้ป่วยได้รับบริการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก จ านวน 182 ครั้ง คิด เป็นร้อยละ 13.63 (เป้าหมาย ≥ร้อยละ 10) ที่มา : ฐานข้อมูล HDC ณ วันที่ 17 มกราคม 2567


129 ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) การด าเนินงานการบริบาลและฟื้นฟูสภาพผู้ป่วยระยะกลางร่วมกับการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือกหลังพ้นระยะวิกฤติในกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยโรคหลอดเลือดสมองโดยการมีส่วนร่วมของทีมสห วิชาชีพภายใต้การปฏิบัติตามแนวทางเวชปฏิบัติของโปรแกรมการบริบาลและฟื้นฟูสภาพผู้ป่วยระยะกลางร่วมกับ การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก (IMC-TTM), แนวทางเวชปฏิบัติของแต่ละวิชาชีพที่มีความชัดเจน, การ ก าหนด Activities protocol ชัดเจน, การมีระบบการติดต่อสื่อสารในทีมที่ดี การบันทึกและเก็บรวบรวมข้อมูลที่มี คุณภาพ และการให้ความส าคัญกับทีมสหวิชาชีพในการร่วมบริบาลและฟื้นฟูสภาพผู้ป่วยทุกวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง นอกจากนั้นยังมีระบบการส่งต่อผู้ป่วยที่ดีเพื่อการดูแลผู้ป่วยต่อเนื่องโดยทีมการดูแลต่อเนื่องและชุมชนจนครบระยะ 6 เดือน (Golden Period) หรือมีดัชนีความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจ าวันของผู้ป่วย Barthel Index (BI) = 20 คะแนน หรือ มากที่สุด ปัญหำอุปสรรค 1. ฐานข้อมูลผู้ป่วย IMC ในระบบ HDC ไม่ตรงกับฐานข้อมูลผู้ป่วยจริงในพื้นที่ 2. ช่องทางการค้นหาผู้ป่วย ในระบบ HDC ไม่เอื้อต่อการจัดบริการ 3. การตรวจสอบข้อมูลความถูกต้องของการบันทึกผลการให้บริการในระบบ HDC แนวทำงกำรพัฒนำ การด าเนินงานอย่างต่อเนื่องของทีมสหวิชาชีพในการดูแลผู้ป่วยกลุ่มโรคหลอดเลือดสมองที่ต้องได้รับการ ดูแลผู้ป่วยระยะกลาง ตามโปรแกรมการบริบาลและฟื้นฟูสภาพผู้ป่วยระยะกลางร่วมกับการแพทย์แผนไทยและ การแพทย์ทางเลือก (IMC-TTM) ทั้งในรูปแบบการดูแลผู้ป่วยใน (IPD) การดูแลผู้ป่วยนอก (OPD) การ ติดตามดูแลต่อเนื่อง (COC) และการดูแลผู้ป่วยที่บ้านหรือในชุมชน (Home visit), การพัฒนารูปแบบและความ ชัดเจนในการดูแลผู้ป่วยที่ได้รับการบาดเจ็บกรดูกหักและข้อเคลื่อนหลุดรอบข้อสะโพก (Fracture around the Hip) การพัฒนารูปแบบการบันทึกและเก็บรวบรวมข้อมูลรวมถึงระบบการรับ – ส่งต่อผู้ป่วยจากโรงพยาบาลที่มี ศักยภาพสูงกว่า โรงพยาบาลลูกข่าย และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบล รวมถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิง คุณภาพทางคลินิกอย่างเป็นระบบ สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน - งบประมาณสนับสนุน หรือค่าตอบแทนพิเศษในการจัดบริการการบริบาลและฟื้นฟูสภาพผู้ป่วยระยะ กลาง ร่วมกับการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก (IMC-TTM) ผู้รำยงำน พทป.ศุภฤกษ์ บัวชุม ต ำแหน่ง/หน่วยงำน แพทย์แผนไทยปฏิบัติการ วัน/เดือน/ปี17 มกราคม 2567 เบอร์ติดต่อ 096-9057216 E-mail [email protected]


130 ตัวชี้วัด 58. ร้อยละของประชำชนที่มำรับบริกำรในระดับปฐมภูมิที่ได้รับกำรรักษำด้วยกำรแพทย์แผนไทยและ กำรแพทย์ทำงเลือก เป้ำหมำย ร้อยละ 40 ผลกำรด ำเนินงำน ร้อยละ 54.54 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก กลุ่มงานการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สถำนกำรณ์ หน่วยบริการในระดับปฐมภูมิพื้นที่อ าเภอธาตุพนม ประกอบไปด้วย 16 หน่วยบริการ โดยมีบุคลากร ประกอบไปด้วย แพทย์แผนไทย จ านวน 2 คน, ผู้สั่งการรักษาด้านการแพทย์แผนไทย จ านวน 16 คน และผู้ช่วย แพทย์แผนไทยจ านวน 17 คน มีการให้บริการด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกครบทุกหน่วยบริการ มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน การด าเนินงานการบริการด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกในหน่วยบริการปฐมภูมิ รูปแบบ การให้บริการครอบคลุมทั้ง 4 มิติ ได้แก่ด้านการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกัน การรักษา การฟื้นฟูสมรรถภาพ รวมถึง การส่งเสริมการใช้ยาสมุนไพรอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ผลกำรด ำเนินงำน การด าเนินงานและการบริการด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกในหน่วยบริการปฐมภูมิ มี ผู้ป่วยนอกมารับบริการในหน่วยบริการปฐมภูมิ จ านวน 21,384ราย เป็นผู้ป่วยนอกที่ได้รับบริการด้านการแพทย์ แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จ านวน 11,644 ราย คิดเป็นร้อยละ 54.45 ซึ่งมีผลการด าเนินงานรายหน่วย บริการปฐมภูมิพบว่าผ่านเกณฑ์เป้าหมายจ านวน 7 หน่วยบริการ, ไม่ผ่านเกณฑ์เป้าหมาย จ านวน 7 หน่วยบริการ และเกินเกณฑ์เป้าหมาย จ านวน 2 หน่วย ดังตารางต่อไปนี้ หน่วยบริกำรปฐมภูมิ บริกำรผู้ป่วย นอก (ครั้ง) บริกำรแพทย์แผนไทย (ครั้ง) ร้อยละ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลบ้านโพนแพง 494 282 57.09 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลฝั่งแดง 617 155 25.12 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลบ้านดงยอ 628 10,66 169.75 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลบ้านตาลกุด 746 430 57.64 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลบ้านโคกสว่าง พัฒนา 831 395 47.53 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลนาหนาด 960 877 91.35 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลบ้านทรายมูล 887 451 50.85 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลนาถ่อน 1,000 353 35.30


131 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลบ้านทู้ 1,046 405 38.72 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลพระกลางทุ่ง 1,352 1,044 77.22 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลแสนพัน 1,476 526 35.64 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลกุดฉิม 1,624 871 53.63 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลดอนนางหงส์ 1,860 719 38.66 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลน้ าก่ า 1,874 2,612 139.38 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลบ้านอุ่มเหม้า 2,232 729 32.66 ศูนย์สุขภาพชุมชนเมืองธาตุพนม 3,757 729 19.40 ภำพรวม คป.สอ.ธำตุพนม 21,384 11,644 54.54 ********** ผ่ า น เ ก ณ ฑ์ เป้าหมาย ********** ไ ม่ ผ่ า น เ ก ณ ฑ์ เป้าหมาย ********** เกินเกณฑ์เป้าหมาย ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) หน่วยบริการในระดับปฐมภูมิมีการจัดบริการด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกในทุกมิติ ได้แก่ การส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การรักษา การฟื้นฟูสมรรถภาพ รวมถึงการส่งเสริมการใช้ยาสมุนไพร ทดแทนยาแผนปัจจุบันในกลุ่มโรคที่สามารถรักษาได้ด้วยยาสมุนไพร และการการใช้ยาสมุนไพรทดแทนกลุ่มยาต้าน จุลชีพในกลุ่มที่ทดแทนได้ตามนโยบายการใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล (RDU) นอกจากนั้นหน่วยบริการมีการด้าน การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกภายใต้มาตรฐานโรงพยาบาลส่งเสริและสนับสนุนการแพทย์แผนไทยและ การแพทย์ผสมผสาน (รพ.สส.พท.) รวมถึงการด าเนินงานโดยค าแนะน าของส านักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม, ส านักงานสาธารณสุขอ าเภอธาตุพนม และโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม ปัญหำอุปสรรค - ความผิดพลาดในด้านของข้อมูลการจัดบริการซึ่งเกิดจากการบันทึกข้อมูลของหน่วยบริการ - การประชาสัมพันธ์และการส่งเสริมการบริการของหน่วยบริการ แนวทำงกำรพัฒนำ - หน่วยบริการมีการประชาสัมพันธ์และการส่งเสริมการบริการด้านการแพทย์แผนไทยทั้งในหน่วยบริการ และเชิงรุกในชุมชน - การติดตาม ตรวจสอบ และอบรมพัฒนาศักยภาพการบันทึกข้อมูลของบุคลาที่เกี่ยวข้อง สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน - งบประมาณสนับสนุน และค่าตอบแทนพิเศษในการด าเนินงานการบริการด้านการแพทย์แผนไทยและ การแพทย์ทางเลือกในหน่วยบริการปฐมภูมิ - การพัฒนาบุคลากร (เพิ่ม) และพัฒนาศักยภาพบุคลากรที่ปฏิบัติงานด้านการแพทย์แผนไทย ผู้รำยงำน พทป.ศุภฤกษ์ บัวชุม ต ำแหน่ง/หน่วยงำน แพทย์แผนไทยปฏิบัติการ วัน/เดือน/ปี17 มกราคม 2567 เบอร์ติดต่อ 096-9057216 E-mail [email protected]


132 6.20 แผนพัฒนำ พัฒนำกำรจัดบริกำรคลินิกกัญชำทำงกำรแพทย์ ตัวชี้วัด 59 ตัวชี้วัด 59 ระดับควำมส ำเร็จของกำรจัดบริกำรคลินิกกัญชำทำงกำรแพทย์ (3 KPIs) ตัวชี้วัด 59.1 ร้อยละของผู้ป่วยที่มีกำรวินิจฉัยระยะประคับประคอง (Palliative care) ที่ได้รับกำรรักษำ ด้วยยำกัญชำทำงกำรแพทย์ เป้ำหมำย ร้อยละ 5 ของผู้ป่วยที่มีกำรวินิจฉัยระยะประคับประคอง (Palliative care) ที่ได้รับกำรรักษำ ด้วยยำกัญชำทำงกำรแพทย์ ผลกำรด ำเนินงำน ร้อยละ 13.18 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก กลุ่มงานการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สถำนกำรณ์ การจัดบริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์มีการจัดบริการบูรณาการทีมสหวิชาชีพ จ านวน 1 แห่ง คือ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม ให้บริการคัดกรอง ตรวจวินิจฉัย รักษาโรค จ่ายยา และ ให้ค าปรึกษาผู้ป่วย ที่มีความจ าเป็นต้อง และร้องขอในการใช้ยากัญชาด้วยแพทย์แผนปัจจุบัน และ/หรือแพทย์แผนไทย มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน การจัดบริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์มีการจัดบริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์แบบบูรณาการ ในวัน จันทร์ - วันศุกร์ เวลา 08.00-12.00 น. เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์, คลินิกกัญชาทางการแพทย์ ร่วมกับคลินิกระยะท้าย แบบประคับประคอง (คลินิกเมตตาธรรม) ทุกวันจันทร์ เวลา 13.00 – 16.00 น. และการให้ปรึกษาและการสั่งใช้ใน ผู้ป่วยที่มีความต้องการใช้กัญชาทางการแพทย์ ผลกำรด ำเนินงำน การจัดบริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์ ผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยผู้ป่วยระยะประคับประคอง จ านวน 129 คน ผู้ป่วยได้รับสารสกัดกัญชา น้ ามันกัญชา และต ารับยาแผนไทยที่มีกัญชาผสม จ านวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 13.39 (เป้าหมายร้อยละ 5) เป็นผู้ป่วยเข้ารับบริการทางการแพทย์ จ านวน 761 ครั้ง ผู้ป่วยได้รับกัญชาทาง การแพทย์ จ านวน 103 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 13.53 (เป้าหมายร้อยละ 5) ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) - การได้รับการสนับสนุนน้ ามันกัญชาจากเครือข่ายโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช - การบูรณาการของทีมสหวิชาชีพในการด าเนินงาน - แพทย์แผนปัจจุบันมีการส่งต่อแพทย์แผนไทยในรายที่ผู้ป่วยร้องขอในการใช้ หรือมีความจ าเป็นต้องใช้ยา กัญชาทางการแพทย์ (น้ ามันกัญชาและยาที่มีส่วนผสมของกัญชา)


133 ปัญหำอุปสรรค - การจัดหาและการจัดซื้อลดลง เนื่องจากกัญชาทางการแพทย์มีราคาต้นทุนที่สูง - การส ารองยาลดลงเนื่องจากผู้ป่วยมีความต้องการใช้ลดลงและมีอายุของยาที่สั้น - หน่วยบริการไม่สามารถการเบิกจ่ายผลงานการบริการกัญชาทางการแพทย์เนื่องจากขาดความชัดเจน ของขั้นตอนและแนวทางในการเบิกจ่ายจากกองทุนต่างๆ แนวทำงกำรพัฒนำ - ค้นหาและออกเชิงรุกในการบริการกัญชาทางการแพทย์ส าหรับผู้ป่วยผู้ป่วย - การติดตามอาการอันไม่พึงประสงค์และข้อมูลทางคลินิกของการใช้ยากัญชาทางการแพทย์อย่างเป็น รูปธรรมและมีการส่งเสริมการใช้ยากัญชาแผนปัจจุบันในการรักษาผู้ป่วย Palliative care เพิ่มขึ้น สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน - การสนับสนุนน้ ามันกัญชาและยาต ารับต่างๆที่มีส่วนผสมของกัญชา ผู้รำยงำน พทป.ศุภฤกษ์ บัวชุม ต ำแหน่ง/หน่วยงำน แพทย์แผนไทยปฏิบัติการ วัน/เดือน/ปี17 มกราคม 2567 เบอร์ติดต่อ 096-9057216 E-mail [email protected]


134 ตัวชี้วัด 59.2 ร้อยละของผู้ป่วยทั้งหมดที่ได้รับกำรรักษำด้วยยำกัญชำทำงกำรแพทย์ เป้ำหมำย ร้อยละ 60 ของผู้ป่วยที่มีกำรวินิจฉัยระยะประคับประคอง (Palliative care) ที่ได้รับกำรรักษำ ด้วยยำกัญชำทำงกำรแพทย์ (เทียบกับปี 2566) ผลกำรด ำเนินงำน ลดลงร้อยละ 144.99 เมื่อเทียบกับปี 2566 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก กลุ่มงานการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สถำนกำรณ์ การจัดบริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์มีการจัดบริการบูรณาการทีมสหวิชาชีพ จ านวน 1 แห่ง คือ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม ให้บริการคัดกรอง ตรวจวินิจฉัย รักษาโรค จ่ายยา และ ให้ค าปรึกษาผู้ป่วย ที่มีความจ าเป็นต้อง และร้องขอในการใช้ยากัญชาด้วยแพทย์แผนปัจจุบัน และ/หรือแพทย์แผนไทย มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน การจัดบริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์มีการจัดบริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์แบบบูรณาการ ในวัน จันทร์ - วันศุกร์ เวลา 08.00-12.00 น. เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์, คลินิกกัญชาทางการแพทย์ ร่วมกับคลินิกระยะท้าย แบบประคับประคอง (คลินิกเมตตาธรรม) ทุกวันจันทร์ เวลา 13.00 – 16.00 น. และการให้ปรึกษาและการสั่งใช้ใน ผู้ป่วยที่มีความต้องการใช้กัญชาทางการแพทย์ ผลกำรด ำเนินงำน การจัดบริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์ ปีงบประมาณ 2566 ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษากัญชาทาง การแพทย์ จ านวน 145 คน และปีงบประมาณ 2567 ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษากัญชาทางการแพทย์ จ านวน 17 คน (ข้อมูลระหว่างเดือนตุลาคม 2566 - มกราคม 2567) การเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยคิดเป็นร้อยละ -144.99 (เป้าหมาย เพิ่มขึ้นร้อยละ 60) ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) - ไม่มี ปัญหำอุปสรรค - การจัดหาและการจัดซื้อลดลง เนื่องจากกัญชาทางการแพทย์มีราคาต้นทุนที่สูง - การส ารองยาลดลงเนื่องจากผู้ป่วยมีความต้องการใช้ลดลงและมีอายุของยาที่สั้น - หน่วยบริการไม่สามารถการเบิกจ่ายผลงานการบริการกัญชาทางการแพทย์เนื่องจากขาดความชัดเจน ของขั้นตอนและแนวทางในการเบิกจ่ายจากกองทุนต่างๆ แนวทำงกำรพัฒนำ - ค้นหาและออกเชิงรุกในการบริการกัญชาทางการแพทย์ส าหรับผู้ป่วยผู้ป่วย - การติดตามอาการอันไม่พึงประสงค์และข้อมูลทางคลินิกของการใช้ยากัญชาทางการแพทย์อย่างเป็น รูปธรรมและมีการส่งเสริมการใช้ยากัญชาแผนปัจจุบันในการรักษาผู้ป่วย Palliative care เพิ่มขึ้น - ประชุมวิชาการ และประชุม สรุปบทเรียนกัญชาทางการแพทย์/ กัญชง ของบุคลากรในพื้นที่ เพื่อ แลกเปลี่ยนเรียนรู้และน าไปพัฒนางานต่อไป


135 สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน - การสนับสนุนน้ ามันกัญชาและยาต ารับต่างๆที่มีส่วนผสมของกัญชา ผู้รำยงำน พทป.ศุภฤกษ์ บัวชุม ต ำแหน่ง/หน่วยงำน แพทย์แผนไทยปฏิบัติการ วัน/เดือน/ปี17 มกราคม 2567 เบอร์ติดต่อ 096-9057216 E-mail [email protected]


136 ตัวชี้วัด 59.3 จ ำนวนงำนวิจัยและกำรจัดกำรควำมรู้ด้ำนกัญชำทำงกำรแพทย์ของหน่วยงำนในสังกัดกระทรวง สำธำรณสุข เป้ำหมำย เขตสุขภำพละ 2 เรื่อง ผลกำรด ำเนินงำน จ านวน 1 เรื่อง กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก กลุ่มงานการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สถำนกำรณ์ ในปีงบประมาณ 2566 อ าเภอธาตุพนมมีการศึกษาวิจัยและการจัดการความรู้ด้านกัญชาทางการแพทย์ จ านวน 1 เรื่อง หัวข้อ “การพัฒนารูปแบบคลินิกกัญชาทางการแพทย์ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม จังหวัดนครพนม” เพื่อตอบสนองปัญหาด้านระบบการด าเนินงานคลินิกกัญชาทางการแพทย์ และในปีงบประมาณ 2567 มีการศึกษาวิจัยจ านวน 1 เรื่อง (อยู่ระหว่างด าเนินการ) ผลกำรด ำเนินงำน ปีงบประมาณ 2567 อ าเภอธาตุพนม มีการศึกษาวิจัยเรื่องกัญชาทางการแพทย์ เพื่อตอบสนองปัญหาการ ด าเนินและจ านวนผู้ป่วยคลินิกกัญชาทางการแพทย์ที่ลดน้อยลง จ านวน 1 เรื่อง หัวข้อวิจัย “ความรู้ ทัศนคติ และ ความคิดเห็นของบุคลากรทางการสาธารณสุขที่มีต่อนโยบายกัญชาทางการแพทย์ อ าเภอธาตุพนม จังหวัด นครพนม” (อยู่ระหว่างด าเนินการ) ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) - ไม่มี ปัญหำอุปสรรค - การศึกษาเรื่องกัญชาทางการแพทย์ (วิจัยทางคลินิก) ค่อนข้างยุ่งยากและหลายขั้นตอน - บุคลากรทางการแพทย์และ สาธารณสุข มีภาระงานมาก ท าให้มีเวลาในการให้ความส าคัญในการท าวิจัย ได้น้อยลง แนวทำงกำรพัฒนำ - การน างานประจ าทางคลินิกกัญชาทางการแพทย์พัฒนาเป็นงานประจ าสู่การวิจัย (R2R) สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน - การพัฒนาความรู้ด้านการวิจัยส าหรับบุคลากร ผู้รำยงำน พทป.ศุภฤกษ์ บัวชุม ต ำแหน่ง/หน่วยงำน แพทย์แผนไทยปฏิบัติการ วัน/เดือน/ปี17 มกราคม 2567 เบอร์ติดต่อ 096-9057216 E-mail [email protected]


137 6.21 แผนพัฒนำ พัฒนำระบบบริกำรกำรแพทย์ฉุกเฉินครบวงจรและระบบกำรส่งต่อ ตัวชี้วัด 60-64 ตัวชี้วัด 60 ระดับควำมส ำเร็จของกำรพัฒนำระบบกำรแพทย์ฉุกเฉินและกำรจัดกำรภำวะฉุกเฉินทำงด้ำน กำรแพทย์และสำธำรณสุข (Emergency Care System and Public Health Emergency Management เป้ำหมำย ร้อยละ70 ผลงำน ร้อยละ90 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก กลุ่มการพยาบาล สถำนกำรณ์ ในปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีว่า อุบัติเหตุ อุบัติภัยการให้ความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว และเหมาะสมจะช่วย ลดอัตราการทุพลภาพและอัตราการตายได้ ดังนั้นถ้าหากแต่ละต าบลมีกู้ชีพที่มีความรู้ความสามารถ พร้อมทั้ง อุปกรณ์ที่จ าเป็นในการให้ความช่วยเหลือ ผู้ป่วยอุบัติเหตุฉุกเฉินก็จะสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้อย่าง รวดเร็วและเหมาะสม ดังนั้นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามความพร้อม ความ เหมาะสม และความจ าเป็นของประชาชนในท้องถิ่นพื้นที่ ให้สามารถด าเนินงานและบริหารจัดการระบบการแพทย์ ฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพจึงมีความจ าเป็นอย่างมาก ซึ่งในเขตอ าเภอธาตุพนม มีทั้งหมด 11 ต าบล สามารถ จัดตั้งกู้ชีพทั้งหมดได้ 10 แห่ง คิดเป็นร้อยละ90 มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน - ประสานไปยังกู้ชีพที่ยังไม่มีการจัดตั้งกู้ชีพ เพื่อเป็นการกระตุ้นและรับทราบอุปสรรคในการจัดตั้งกู้ชีพ - จัดให้มีการอบรมฟื้นฟูกู้ชีพอย่างน้อยปีละ1ครั้ง ผลกำรด ำเนินงำน - มีการประสานไปยังองค์การบริหารส่วนต าบลที่ยังไม่มีกู้ชีพ - ออกให้ความรู้ และประชาสัมพันธ์บริการEMS 1669 ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) - ปัญหำอุปสรรค -องค์การบริหารส่วนต าบลที่ยังไม่มีกู้ชีพ ประสบปัญหาภายใน ในการจัดตั้งกู้ชีพ -ศูนย์ในการจัดอบรมเพื่อขึ้นทะเบียนชุดปฏิบัติการกู้ชีพเบื้องต้น (FR) ไม่เพียงพอ แนวทำงกำรพัฒนำ 1. มีการจัดอบรมฟื้นฟูกู้ชีพเพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพกู้ชีพให้มีความพร้อมและความสามารถ 2. พัฒนาระบบในการจัดเก็บข้อมูลและการวิเคราะห์ตัวชี้วัดเพื่อจัดท าแผนการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน แต่ละหน่วยกู้ชีพมีขาดอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานและไม่เพียงพอ ในการปฏิบัติงาน ผู้รำยงำน ประภากร วงษ์พันธุ์ ต าแหน่ง พยาบาลวาชีพช านาญการ วัน/เดือน/ปี 12/01/2567 โทร089-8121117 E-Mail [email protected]


138 ตัวชี้วัด 62. ร้อยละของประชำกรเข้ำถึงบริกำรกำรแพทย์ฉุกเฉิน เป้ำหมำย ร้อยละของประชำกรเข้ำถึงบริกำรกำรแพทย์ฉุกเฉินปี 2567 (ร้อยละ 50 ) ผลงำน ร้อยละ 43.16 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก งานอุบัติเหตุฉุกเฉินและนิติเวช กลุ่มการพยาบาล สถำนกำรณ์ ระบบการแพทย์ฉุกเฉิน รพร.ธาตุพนมร่วมกับภาคีเครือข่ายพบว่า ผลการปฏิบัติการตั้งแต่ปี 2566 มี จ านวนครั้งของการออกปฏิบัติการ 3,871 ครั้ง ถึงอย่างไรก็ยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ เนื่องมาจากแต่ละหน่วยต้อง ดูแลพื้นที่บริเวณกว้าง รวมทั้งหน่วยปฏิบัติการ ที่ขึ้นทะเบียนแล้วแต่ปฏิบัติงานจริง มีเพียงร้อยละ 80 ส่วน ประชาชนก็ยังรับรู้และตระหนักถึงภาวะฉุกเฉิน ทางการแพทย์และการเข้าถึงบริการที่เหมาะสมอย่างทันท่วงที มี สัดส่วนน้อยเมื่อเทียบกับผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ที่มารับบริการที่ห้องฉุกเฉินอยู่ระหว่างร้อยละ 15-20 มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน 1.ประชุมปรึกษาแนวทางการพัฒนาการแพทย์ฉุกเฉินภายในอ าเภอ 2.สนับสนุนให้ อปท.เข้ามา มีบทบาทในการด าเนินงาน การแพทย์ฉุกเฉินในพื้นที่ 3.ยื่นเรื่องขอขยายศูนย์ฝีกอบรมผู้ ปฏิบัติการระดับต่างๆ ให้ ครอบคลุมพื้นที่ 4.เปิดช่องทางให้ปรึกษาออนไลน์ 24 ชม. ทั้งผู้รับบริการและหน่วยบริการในความรับผิดชอบ ผลกำรด ำเนินงำน - มีหน่วยกู้ชีพขึ้นทะเบียน ร้อยละ 80 ของอ าเภอ - ประชากรเข้าถึงบริการการแพทย์ฉุกเฉินเพิ่มมากขึ้น ร่วมกับการพัฒนาการดูแลผู้ป่วย กลุ่มโรคฉุกเฉิน 3S ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) มีระบบการเข้าถึงกลุ่มโรค STROKE FASTTRACK By MSU ร่วมกับระบบ EMS ท าให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้ได้รับ ยา rtPA ได้เร็วขึ้น ลดความพิการ ปัญหำอุปสรรค -องค์การบริหารส่วนต าบลที่ยังไม่มีกู้ชีพ ประสบปัญหาภายใน ในการจัดตั้งกู้ชีพ - ศูนย์ในการจัดอบรมเพื่อขึ้นทะเบียนชุดปฏิบัติการกู้ชีพเบื้องต้น (FR) ไม่เพียงพอต่อความต้องเพื่อ ขึ้นทะเบียน - การประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนให้ความส าคัญกับโรคฉุกเฉิน ยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ - พื้นที่ห่างไกล ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงสัญญาณอินเตอร์เน็ต การสื่อสาร และเวลาออกรับผู้ป่วย ฉุกเฉินใช้เวลาในเข้าถึงเหตุนานกว่าปกติ ท าให้ผู้รับบริการไม่ต้องการรอคอย


139 แนวทำงกำรพัฒนำ 1. ศึกษาเพื่อหาแนวทางพัฒนาระบบในการระบุพิกัดเพื่อออกรับผู้ป่วย เพื่อลดระยะเวลารอคอย 2. ร่วมกับภาคีเครือข่ายในชุมชน ศึกษา เพื่อปรึกษาปัญหาและหาแนวทางการประชาสัมพันธ์ให้ ประชาชนตระหนักและให้ความส าคัญกับกลุ่มโรคฉุกเฉินมากขึ้น สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน -งบประมาณในการพัฒนาระบบเพื่อลดระยะเวลารอคอย -แหล่งอบรมเพื่อขึ้นทะเบียนหน่วยกู้ชีพ ผู้รำยงำน ประภากร วงษ์พันธุ์ ต าแหน่ง พยาบาลวาชีพช านาญการ วัน/เดือน/ปี 12/01/2567 โทร089-8121117 E-Mail [email protected]


140 ตัวชี้วัด 63. อัตรำกำรเสียชีวิตของผู้ป่วยที่บำดเจ็บที่สมอง เป้ำหมำย น้อยกว่ำร้อยละ5 ผลงำน ร้อยละ 0.7 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก กลุ่มการพยาบาล สถำนกำรณ์ งานอุบัติเหตุฉุกเฉินเป็นงานตรวจรักษาพยาบาลที่มีเป้าหมายในการให้การดูแลผู้ป่วยฉุกเฉิน ทั้งทางด้าน อายุรกรรม ศัลยกรรม และด้านอื่นๆ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องได้รับการรักษาที่รวดเร็ว ถูกต้อง มีมาตรฐานเพื่อให้ผู้ป่วยพ้น จากภาวะคุกคามต่อชีวิต และจากสถานการณ์ปัจจุบัน ในปี2566 มีผู้บาดเจ็บทางสมองทั้งหมด1276 ราย เสียชีวิต 9 ราย คิดเป็นร้อยละ0.7 ดังนั้นเราควรมีการพัฒนาการดูแลผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บทางสมองอย่างต่อเนื่อง เน้นการให้ ความรู้แก่ประชาชน บุคคลทั่วไป ตลอดจนพัฒนาทักษะการประเมินอาการที่ผิดปกติทางสมองให้กับบุคลากรทาง การแพทย์ และมีการเตรียมความพร้อมเพื่อดูแลรักษาผู้ป่วยที่มีการบาดเจ็บทางสมองตลอดจนการส่งต่อผู้ป่วยทาง สมองอย่างมีประสิทธิ มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน -ให้ความรู้เชิงรุกจัดท าแผ่นป้าย ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ประชาชน บริการEMS เรียก1669 -พัฒนาระบบการเข้าถึงบริการส่งต่อ -มีแนวทางการดูแลผู้ป่วยบาดเจ็บศีรษะ -อบรมการดูแลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ -ซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่ ผลกำรด ำเนินงำน -ออกให้ความรู้ และประชาสัมพันธ์บริการEMS 1669 -มีการจัดตั้งคณะกรรมการและศูนย์ส่งต่อผู้ป่วย -มีการซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่ ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) - ปัญหำอุปสรรค 1.จ านวนบุคลากรที่ไม่เพียงพอ เช่นพยาบาลวิชาชีพ 2.พยาบาลวิชาชีพยังไม่มีการศึกษาต่อเฉพาะทางด้านเวชปฏิบัติฉุกเฉิน(ENP) 3.การเก็บข้อมูลในหน่วยงานยังไม่เป็นระบบที่ชัดเจนซึ่งท าให้การวิเคราะห์ข้อมูลเกิดความคาดเคลื่อน


141 แนวทำงกำรพัฒนำ 1. พัฒนาระบบในการจัดเก็บข้อมูลและการวิเคราะห์ตัวชี้วัดเพื่อจัดท าแผนการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง 4.จัดท าแผนพัฒนาบุคลากรในการส่งศึกษาต่อเฉพาะทางด้านเวชปฏิบัติฉุกเฉิน(ENP)อย่างน้อยปีละ 2 คน 5.พัฒนาศักยภาพในการเป็น Node ในการรับผู้ป่วยจากโซนใต้(โรงพยาบาลนาแก โรงพยาบาลเรณู โรงพยาบาลวังยาง) สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน จัดอัตราก าลัง เช่น พยาบาลวิชาชีพให้เพียงพอต่อภาระงาน ผู้รำยงำน ประภากร วงษ์พันธุ์ ต าแหน่ง พยาบาลวาชีพช านาญการ วัน/เดือน/ปี 12/01/2567 โทร089-8121117 E-Mail [email protected]


142 ตัวชี้วัด 64 จ ำนวนผู้เสียชีวิตจำกอุบัติเหตุทำงถนน ไม่เกิน 20 ต่อแสนประชำกร เป้ำหมำย ไม่เกิน ร้อยละ20 ผลงำน ร้อยละ 9.96 กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก งานการพยาบาลผู้ป่วยอุบัติเหตุฉุกเฉินและนิติเวช กลุ่มการพยาบาล สถำนกำรณ์ ในปัจจุบัน เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่า การจัดการปัญหาอุบัติเหตุทางถนนอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งใน ระดับการวางแผนเชิงนโยบายและระดับปฏิบัติ ควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงและองค์ความรู้เกี่ยวกับ สถานการณ์ของปัญหาที่เกิดขึ้น รวมไปถึงการเรียนรู้จากประสบการณ์และบทเรียนที่ได้รับเกี่ยวกับผลส าเร็จหรือ ความล้มเหลวของการด าเนินงานที่ผ่านมา อันก่อให้เกิดความสูญเสียต่อเศรษฐกิจของประเทศหลายแสนล้านบาท ซึ่งพบว่า จ านวนการเกิดอุบัติเหตุทางถนนยังคงมีจ านวนที่เพิ่มขึ้นในทุกๆปี ซึ่งสถานการณ์ในเขตพื้นที่อ าเภอธาตุ พนม จังหวัดนครพนมพบว่า ถึงแม้จ านวนผู้เสียชีวิตในปี 2566 จะลดลงจากปี 2565 แต่ยอดผู้บาดเจ็บยังคง เพิ่มขึ้น และพบว่าจ านวนผู้บาดเจ็บสาหัสยังคงเพิ่มขึ้นจากเดิม จากสถิติปี 2566 พบจ านวนผู้บาดเจ็บทางถนน ทั้งหมด 1,233 คน เสียชีวิต 11 คน คิดเป็นร้อยละ 0.89 ผู้ป่วยสีแดง(Resuscitate) 36 คน คิดเป็นร้อยละ 2.91 และผู้ป่วยสีชมพู(Emergency) 194 คน คิดเป็นร้อยละ 15.73 มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน - น าข้อมูลจากการเก็บสถิติ อุบัติเหตุทางถนน มาวิเคราะห์เพื่อหาปัญหาจากข้อเท็จจริง และร่วมหา แนวทางแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน - จัดให้มีการอบรมให้ความรู้ ประชาสัมพันธ์และจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ครอบคลุม สอดคล้อง และทั่วถึง ทุกกลุ่ม เพศ อายุ ตามบริบทพื้นที่ - ออกสอบสวนเหตุร่วมกับภาคีเครือข่ายเพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ - หาแนวทางเพื่อร่วมพัฒนา ให้เกิดความเข้มแข็งของ ศปถ.ระดับอ าเภอ ก่อนกระจายสู่ระดับต าบล และชุมชนต่อไป


143 ผลกำรด ำเนินงำน กิจกรรม วันที่จัดกิจกรรม จ ำนวนผู้เข้ำร่วม กิจกรรม (คน) 1. ประชุมก านัน ผู้ใหญ่บ้านอ าเภอธาตุพนม ประจ าเดือน มิถุนายน 2566 (2 มิ.ย.2566) 200 2. กิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ในเรื่องของการป้องกันและลดการ เกิดอุบัติเหตุทางถนนร่วมกับ ขนส่งอ าเภอธาตุพนม ณ โรงเรียน อุ่มเหม้าประชาสรรค์ 10 มิ.ย.2566 60 3. กิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ในเรื่องของการป้องกันและลดการ เกิดอุบัติเหตุทางถนนร่วมกับ ขนส่งอ าเภอธาตุพนม ณ โรงเรียน ธาตุพนม 18 มิ.ย.2566 60 4. กิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ในเรื่องของการป้องกันและลดการ เกิดอุบัติเหตุทางถนน กลุ่มแกนน าชุมชน รพสต.โพนแพง-ตาลกุด 10 ก.ค.2566 40 5. กิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ในเรื่องของการป้องกันและลดการ เกิดอุบัติเหตุทางถนน กลุ่มแกนน าชุมชน รพสต.ทรายมูล 18 ก.ค.2566 50 6.กิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ในเรื่องของการป้องกันและลดการ เกิดอุบัติเหตุทางถนน วิทยาลัยการอาชีพธาตุพนม มหาลัยนครพนม 19 ก.ค.2566 150 7. กิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ในเรื่องของการป้องกันและลดการ เกิดอุบัติเหตุทางถนน วิทยาลัยเทคโนโลยีธาตุพนม 11 ส.ค.2566 130 ปัจจัยแห่งควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) 1.สามารถให้ค าแนะน าในการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนแก่ประชาชนได้อย่างถูกต้อง 2.น าเสนอข้อมูลป้อนกลับเพื่อให้ชุมชนทราบถึงปัญหาและสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุทางท้องถนน ปัญหำอุปสรรค 1.ศปถ.ขาดความเชื่อมโยงและเข้มแข็ง แนวทำงกำรพัฒนำ 1.ประชุมเพื่อปรึกษาหรือถึงแนวทางการพัฒนา ศปถ.อ าเภอ 2.พัฒนาระบบในการจัดเก็บข้อมูลและการวิเคราะห์ปัญหาให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน - งบประมาณด าเนินการ ผู้รำยงำน ประภากร วงษ์พันธุ์ ต าแหน่ง พยาบาลวาชีพช านาญการ วัน/เดือน/ปี 12/01/2567 โทร089-8121117 E-Mail [email protected]


144 6.22 แผนพัฒนำ พัฒนำตำมตำมโครงกำรพระรำชด ำริ โครงกำรเฉลิมพระเกียรติ และพื้นที่เฉพำะ ตัวชี้วัด 65- 67 ตัวชี้วัด 65. ร้อยละของผู้ป่วยในพระบรมรำชำนุเครำะห์ และพระรำชำนุเครำะห์ ได้รับกำรดูแลอย่ำงมีคุณภำพ ผลกำรด ำเนินงำน ก าลังด าเนินการ แผนพัฒนำ พัฒนาตามตามโครงการพระราชด าริ โครงการเฉลิมพระเกียรติ และพื้นที่เฉพาะ กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก กลุ่มงานส่งเสริม สถำนกำรณ์ เนื่องจากมีผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์ และพระราชานุเคราะห์ในพื้นที่รับผิดชอบที่ต้องติดตามดูแล ต่อเนื่อง มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน - ประชุมผู้รับผิดชอบงาน - วางแผนการตรวจเยี่ยมบ้านและดูแลต่อเนื่อง ผลกำรด ำเนินงำน - ก าลังด าเนินการวางแผนร่วมกับพื้นที่รับผิดชอบในการออกเยี่ยมบ้าน ณวันที่ 19 มกราคม 2567 ปัจจัยควำมส ำเร็จ/นวัตกรรม/ตัวอย่ำงที่ดี (ถ้ำมี) - การประสานงานและความร่วมมือของ คปสอ. แนวทำงกำรพัฒนำ - วางแผนร่วมกับชุมชนพื้นที่ในการดูแลผู้ป่วย สิ่งที่ต้องกำรสนับสนุน - ผู้รายงาน นางสาวธิดารัตน์ รักษาพล ต าแหน่ง พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ วันที่ 19 มกราคม 2567 โทร. 093-2262589 E-mail [email protected]


145 ตัวชี้วัด 67 จ ำนวนผู้ที่ได้รับบริกำรใส่ฟันเทียม/รำกฟันเทียม (2 KPIs) ตัวชี้วัด 67.1 จ ำนวนผู้ที่ได้รับบริกำรใส่ฟันเทียมทั้งปำกหรือเกือบทั้งปำก เป้ำหมำย จ านวนผู้ที่ได้รับบริการใส่ฟันเทียมแก่กลุ่มก่อนสูงอายุและกลุ่มผู้สูงอายุ ในเขตอ าเภอธาตุพนมที่มีการ สูญเสียฟันมากกว่า 16 ซี่ขึ้นไปหรือทั้งปาก ได้รับการท าฟันปลอม จ านวน 45 ราย ตามยอดการจัดสรรของ สสจ. นครพนม กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก กลุ่มงานทันตกรรม สถำนกำรณ์ ในปีงบประมาณ 2567 อ าเภอธาตุพนม มีผู้มารับบริการใส่ฟันเทียม จ านวน 33 คน จากเป้าหมาย 45 คน มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน ให้บริการใส่ฟันเทียมกลุ่มก่อนสูงอายุและกลุ่มผู้สูงอายุที่มีการสูญเสียฟันทั้งปากหรือเกือบทั้งปาก ไม่มีฟัน ใช้เคี้ยวอาหาร ตาม “โครงการฟันเทียม รากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาส มหามงคล 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567” ผลกำรด ำเนินงำน เป้าหมาย small success 3 เดือน 19 ราย - ผลงาน (ต.ค.-ธ.ค.66) จ านวนที่ท าได้ 20 คน เป้าหมาย small success 6 เดือน 23 ราย - ผลงาน (ต.ค.-15 ม.ค.67) จ านวนที่ท าได้ 33 คน (ร้อยละ73.33 ) เป้าหมาย 12 เดือน 45 ราย ปัญหำอุปสรรค มีตัวชี้วัดยุทธศาสตร์จังหวัดที่มีผลต่อการท างานโดยตรงอีกหลายกิจกรรม ท าให้ต้องแบ่งอัตราก าลังและ สัดส่วนงานการให้บริการออกเป็นหลายด้าน ท าให้มีผลกระทบต่อการใส่ฟันเทียม โดยท าให้ระยะเวลาการนัดผู้ป่วย ใส่ฟันเทียมมารับบริการนานขึ้น ผู้รายงาน ทันตแพทย์นฤพนธ์ อึ้งอุปละชัย ต าแหน่งทันตแพทย์เชี่ยวชาญ หัวหน้ากลุ่มงานทันตกรรม วัน/เดือน/ปี15 ม.ค. 67 โทร 042-541255 ต่อ 127 Line ID Tongthatdent


146 6.23 แผนพัฒนำ พัฒนำระบบบริกำรโรคไข้เลือดออก ตัวชี้วัด 68 ตัวชี้วัด 68 อัตรำป่วยโรคไข้เลือดออกลดลงจำกค่ำมัธยฐำนย้อนหลัง 5 ปี เป้ำหมำย ลดลงร้อยละ 20 ผลกำรด ำเนินงำน อัตราป่วยปี 2566 (มกราคม-ธันวาคม) 545.81 ต่อประชากรแสนคน (เกินค่ามัธยฐาน 11.78 เท่า) แผนพัฒนำ พัฒนาระบบบริการโรคไข้เลือดออก กลุ่มงำนที่รับผิดชอบหลัก งานสุขาภิบาลและป้องกันโรค สถำนกำรณ์ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 ถึง 31 ธันวาคม 2566 อ าเภอธาตุพนม พบผู้ป่วยไข้เลือดออก จ านวน 55 ราย คิดเป็น 67.16 ต่อประชากรแสนคน ไม่พบผู้ป่วยเสียชีวิต กลุ่มอายุที่พบสูงสุดคือกลุ่มอายุ 10 - 14 ปี จ านวน 15 ราย รองลงมาคือกลุ่มอายุ 15 - 24 ปี, 65 ปี ขึ้นไป 25 - 34 ปี, 5 - 9 ปี, 45 - 54 ปี, 0 - 4 ปี,55 - 64 ปี และ 35 - 44 ปี จ านวน 12, 7, 7, 5, 3, 3, 2 และ 1 ราย ตามล าดับ พบผู้ป่วยกลุ่มเด็กในความปกครอง มากที่สุดจ านวน 21 ราย รองลงมาคือนักเรียน เกษตร รับจ้าง และต ารวจ จ านวน 21, 8, 4, 1 ราย ตามล าดับ มำตรกำรในกำรด ำเนินกำร/แนวทำงกำรด ำเนินงำน ด าเนินการตามมาตรการ 331 ในการควบคุมโรคในพื้นที่เกิดโรค ร่วมกับ ติดตามและประเมินผลการ ด าเนินงานตามมาตรการ 331 ในพื้นที่พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก ผลกำรด ำเนินงำน - วันที่ 1 ตุลาคม 2566 ถึง 31 ธันวาคม 2566 พบอัตราป่วยโรคไข้เลือดออก 67.16 ต่อประชากรแสนคน สูงเกินค่ามัฐยฐานย้อนหลัง 5 (6.08 ต่อประชากรแสนคน) 11.04 เท่า - วันที่ 21 ธันวาคม 2566 ร่วมกับ ติดตามและประเมินผลการด าเนินงานตามมาตรการ 331 ในพื้นที่ที่ยัง พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก


Click to View FlipBook Version