สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น
ตัวอยา่ งบทเรียนการจดั การเรยี นรู้ตามแนวพระราชดำร
ิ
สำนักงานเลขาธิการสภาการศกึ ษา
กระทรวงศึกษาธกิ าร
๓๗๑.๓๙ สำนักงานเลขาธกิ ารสภาการศึกษา
ส๖๙๑ส สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน “ตวั อย่างบทเรียนการจัดการเรียนรู้
ตามแนวพระราชดำริ อพ.สธ.” กรุงเทพฯ : ๒๕๖๒
๑๒๘ หนา้
ISBN : ๙๗๘-๖๑๖-๒๗๐-๒๑๘-๑
๑. สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ๒. ถอดบทเรยี น ๓. ชอ่ื เรอ่ื ง
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน
ตัวอย่างบทเรยี นการจัดการเรยี นรูต้ ามแนวพระราชดำร
ิ
ส่งิ พมิ พ ์ สกศ. อันดบั ท ่ี ๑๑ / ๒๕๖๒
พิมพ์ครัง้ ที่ ๑ กันยายน ๒๕๖๒
จำนวนพมิ พ ์ ๒,๐๐๐ เล่ม
ISBN ๙๗๘-๖๑๖-๒๗๐-๒๑๘-๑
จดั พิมพ์และเผยแพร ่ สำนกั มาตรฐานการศึกษาและพัฒนาการเรยี นร้
ู
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา
กระทรวงศึกษาธกิ าร
ถนนสุโขทัย เขตดุสติ กรงุ เทพ ฯ ๑๐๓๐๐
โทร. ๐-๒๖๖๘-๗๑๒๓ ตอ่ ๒๔๕๙
โทรสาร ๐-๒๒๔๑-๕๑๕๒
Web Site : http://www.onec.go.th
พมิ พ์ท ี่ บริษัท พรกิ หวานกราฟฟคิ จำกดั
๙๐/๖ ซอยจรญั สนิทวงศ์ ๓ ถนนจรัญสนิทวงศ ์
แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ๑๐๗๐๐
โทรศพั ท์ ๐๒-๔๒๔-๓๒๔๙
โทรสาร ๐๒-๔๒๔-๓๒๕๒
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น
ตวั อย่างบทเรยี นการจดั การเรยี นรตู้ ามแนวพระราชดำริ
“เคยแนะนำโรงเรยี นตา่ ง ๆ นอกจากพชื พรรณแลว้
สิ่งที่มีในธรรมชาติ ส่ิงท่ีหาได้ง่าย อาจเป็นอุปกรณ์สอนได้
หลายอยา่ ง แม้แต่วิชาศลิ ปะก็ให้มาวาด รปู ตน้ ไม้ ก็ไม่ต้อง
หาของอ่ืนมาเป็นแบบหรือเรื่องภาษาไทย การเรียงความ
กอ็ าจทำใหเ้ รอ่ื งของการเขยี นรายงาน ทำใหห้ ดั เขยี นหนงั สอื
หรืออาจแต่งคำประพันธ์ ในเร่ืองพืชเหล่าน้ี เป็นตัวอย่าง
งานศกึ ษา งานวทิ ยาศาสตร์ และวชิ าอนื่ ๆ ดงั ทไี่ ดก้ ลา่ วมา
นอกจากน้ันในวิชาพฤกษศาสตร์โดยเฉพาะ ซึ่งอาจช่วยได้
ในท่ีน้ียังไม่เคยกล่าว คือเร่ืองวิชาการท้องถิ่น ซึ่งก็เป็น
นโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ การอนุรักษ์ทรัพยากร
ไม่ใช่เฉพาะให้นักเรียนปลูกป่าหรือให้อนุรักษ์ดิน ปลูก
หญา้ แฝกอยา่ งเดยี ว กพ็ ยายามจะใหอ้ อกไปดขู า้ ง ๆ โรงเรยี น
ว่าที่นนั่ มีอะไรอยู่ และต้นไมช้ ่ืออะไร เปน็ อะไร”
พระราโชวาท สมเดจ็ พระกนิษฐาธริ าชเจา้
กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมาร
ี
วนั ท่ี ๑๔ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๔๐ ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
ตวั อย่างบทเรยี นการจดั การเรยี นรูต้ ามแนวพระราชดำริ
คำนำ
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ได้เข้าร่วมสนองพระราชดำริ
ในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จ
พระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี นับต้ังแต่ปีพุทธศักราช
๒๕๔๙ และในปีงบประมาณ ๒๕๖๑-๒๕๖๒ สำนักงานเลขาธิการ
สภาการศึกษา (สกศ.) ได้ดำเนินโครงการถอดบทเรียนสวนพฤกษศาสตร์
โรงเรียน ซึง่ เป็นการดำเนินการตามแผนแมบ่ ทระยะ ๕ ปีท่ีหก (๑ ตลุ าคม
๒๕๕๙ – ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔) กลุ่ม G2 กลุ่มสร้างจิตสำนึกในการ
อนุรักษ์ทรัพยากร เพื่อถอดบทเรียนความสำเร็จในการดำเนินงาน
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน
เอกสารฉบับน้ีเป็นผลของการถอดบทเรียนการจัดการเรียนรู้
ตามแนวพระราชดำริ “สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน” ซ่ึงเป็นการดำเนินงาน
ท่ีอิงรูปแบบ “สวนพฤกษศาสตร์” และสนองพระราชดำริในการสร้าง
จติ สำนกึ ดา้ นการอนรุ กั ษท์ รพั ยากร โดยใหเ้ ยาวชนไดใ้ กลช้ ดิ กบั พชื พรรณไม้
เห็นคุณค่าและประโยชน์ซึ่งเกิดจากการเรียนรู้ สัมผัส เสริมสร้างปัญญา
และปลูกฝังคุณธรรมบนฐานปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีนักเรียน
เป็นผู้ดำเนินการ มีครูอาจารย์เป็นผู้ให้คำแนะนำ ผู้บริหารเป็นหลักและ
ผลักดัน และสามารถใช้สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนเป็นแหล่งเรียนร
ู้
ในการเรยี นการสอนในรายวชิ าตา่ ง ๆ อยา่ งบรู ณาการ โดยการถอดบทเรยี น
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนในครั้งนี้ได้เลือกกรณีศึกษาจากสมาชิก
ส ว น พ ฤ ก ษ ศ า ส ต ร์ โ ร ง เ รี ย น ท่ี ไ ด้ รั บ พ ร ะ ร า ช ท า น เ กี ย ร ติ บั ต ร ง า น
ก
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
ตัวอยา่ งบทเรยี นการจดั การเรยี นรตู้ ามแนวพระราชดำร
ิ
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ขั้นที่ ๑ หรือเกียรติบัตรงานสวนพฤกษศาสตร์
โรงเรยี น ขน้ั ที่ ๒ ในพืน้ ทกี่ รุงเทพมหานคร ปรมิ ณฑล และจังหวดั ใกล้เคียง
๕ แห่ง ในหลากหลายสังกัด หลากหลายระดับ และพืชพรรณที่ศึกษา
ได้แก่ โรงเรียนพิชญศึกษา จังหวัดนนทบุรี โรงเรียนไทยนิยมสงเคราะห์
กรงุ เทพมหานคร โรงเรยี นปากเกรด็ จงั หวดั นนทบรุ ี โรงเรยี นวดั บญุ สมั พนั ธ์
จังหวดั ชลบุรี และโรงเรยี นวดั ประชาระบอื ธรรม กรุงเทพมหานคร
สำนกั งานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา ขอขอบคณุ ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา
คณะครู นกั เรียน และชุมชนทใ่ี หข้ ้อมูลในการศกึ ษาครงั้ น้ี หวงั เป็นอยา่ งย่งิ
วา่ บทเรยี นการจดั การเรยี นรสู้ วนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี นทไี่ ดน้ ำมาถา่ ยทอดน้ี
จะเป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้อันจะเป็นประโยชน์แก่ผู้บริหาร
นักวิชาการ ครูอาจารย์ ตลอดจนผู้ท่ีเก่ียวข้องในการพัฒนาการศึกษา
ของชาตินำไปประยุกต์ใช้ประโยชน์เพ่ือสืบสานพระราชปณิธานและสนอง
แนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล
อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า
กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารีสบื ไป
(ดร.สุภทั ร จำปาทอง)
เลขาธิการสภาการศึกษา
ข
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน
ตัวอยา่ งบทเรียนการจดั การเรยี นรตู้ ามแนวพระราชดำร
ิ
สารบญั
หนา้
คำนำ ก
สารบญั ค
๑. บทนำ ๑
๑.๑ ความเป็นมาของการดำเนนิ งาน ๑
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน
๑.๒ ความหมายของงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น ๓
๑.๓ นโยบาย เป้าหมาย และทิศทางการดำเนินงาน ๔
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
๑.๔ องคป์ ระกอบของงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ๗
๑.๕ สาระการเรียนรขู้ องงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ๑๐
๑.๖ การถอดบทเรียนสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ๑๑
๒. บทเรียนการจดั การเรียนรสู้ วนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ๑๔
กรณศี ึกษาโรงเรยี น ๕ แหง่
๒.๑ บทเรียนจากโรงเรยี นพชิ ญศึกษา จงั หวัดนนทบุรี ๑๕
๒.๑.๑ ข้อมลู โรงเรยี น ๑๕
๒.๑.๒ การดำเนินงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ๑๖
๒.๑.๓ ผลทเ่ี กดิ ขน้ึ ๒๗
ค
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน
ตัวอย่างบทเรยี นการจัดการเรียนรูต้ ามแนวพระราชดำริ
สารบัญ (ต่อ)
หนา้
๒.๒ บทเรียนจากโรงเรยี นไทยนิยมสงเคราะห ์ ๓๐
กรุงเทพมหานคร
๒.๒.๑ ข้อมลู โรงเรียน ๓๐
๒.๒.๒ การดำเนินงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ๓๓
๒.๒.๓ ผลท่เี กดิ ข้ึน ๔๖
๒.๓ บทเรียนจากโรงเรยี นปากเกรด็ จงั หวดั นนทบรุ ี ๔๙
๒.๓.๑ ขอ้ มูลโรงเรยี น ๔๙
๒.๓.๒ การดำเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น ๕๐
๒.๓.๓ ผลทเ่ี กิดขน้ึ ๖๒
๒.๔ บทเรยี นจากโรงเรียนวัดบญุ สัมพนั ธ์ จังหวดั ชลบรุ ี ๖๖
๒.๔.๑ ขอ้ มูลโรงเรียน ๖๖
๒.๔.๒ การดำเนนิ งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ๖๗
๒.๔.๓ ผลท่เี กิดขน้ึ ๗๘
๒.๕ บทเรียนจากโรงเรียนวัดประชาระบือธรรม ๘๐
กรงุ เทพมหานคร
๒.๕.๑ ข้อมูลโรงเรยี น ๘๐
๒.๕.๒ การดำเนินงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ๘๑
๒.๕.๓ ผลที่เกิดขึ้น ๙๐
๓. สรุปบทเรยี นการจัดการเรียนร้สู วนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ๙๓
ภาคผนวก ๑๑๓
คณะผจู้ ดั ทำ ๑๑๕
ง
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น
ตวั อยา่ งบทเรียนการจดั การเรียนรู้ตามแนวพระราชดำร
ิ
บทนำ
๑.๑ ความเปน็ มาของการดำเนนิ งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
ตามทส่ี มเดจ็ พระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ
สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชดำริบางประการเก่ียวกับการอนุรักษ์
พันธกุ รรมพืชวา่
“การสอนและอบรมให้เด็กมี
จิตสำนึกในการอนุรักษ์พืชพรรณน้ัน
ค ว ร ใ ช้ วิ ธี ก า ร ป ลู ก ฝั ง ใ ห้ เ ด็ ก เ ห็ น
ความงดงาม ความน่าสนใจ และเกิด
ความปิติที่จะทำการศึกษาและอนุรักษ์
พืชพรรณต่อไป การใช้วิธีการสอน
การอบรมท่ีให้เกิดความรู้สึกกลัวว่า
ห า ก ไ ม่ อ นุ รั ก ษ์ แ ล้ ว จ ะ เ กิ ด ผ ล เ สี ย
เกิดอันตรายแก่ตนเองจะทำให้เด็ก
เกิดความเครียด ซ่ึงจะเป็นผลเสีย
ต่อประเทศระยะยาว”
(วันท่ี ๘ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๓๖ อาคารท่ปี ระทบั
ในสำนักงานชลประทาน เขต ๑ จงั หวดั เชยี งใหม)่
1
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน
ตัวอย่างบทเรียนการจัดการเรยี นรูต้ ามแนวพระราชดำริ
โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จ
พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ไดจ้ ดั ตงั้ งานสวนพฤกษศาสตร์
โรงเรียนขึ้นเพ่ือสนองพระราชดำริดังกล่าวข้างต้น มีวัตถุประสงค์เพ่ือสร้าง
จิตสำนึกในการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช และทรัพยากร ท้ังน้ี เพ่ือให้โรงเรียน
ใช้สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนเป็นสื่อในการสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์
พันธุกรรมพืชแก่นักเรียน ตลอดจนเสริมสร้างความตระหนักในคุณค่า
ความสำคัญ และประโยชน์ของทรัพยากรกายภาพ ชีวภาพ วัฒนธรรม
และภูมิปัญญาของชาติ รู้จักหวงแหน อนุรักษ์ พัฒนา และใช้ประโยชน์
อยา่ งยั่งยืน
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนเป็นการดำเนินงานโดยอิงรูปแบบของ
“สวนพฤกษศาสตร”์ กลา่ วคือ มกี ารรวบรวมพันธ์ไุ มท้ ม่ี ชี ีวิต มแี หล่งข้อมลู
พรรณไม้ มกี ารศกึ ษาตอ่ เนอ่ื ง มกี ารเกบ็ ตวั อยา่ งพรรณไมแ้ หง้ พรรณไมด้ อง
มีการรวบรวมพันธุ์ไม้ท้องถ่ินเข้าปลูกไว้ในโรงเรียน มีการบันทึกรายงาน
และข้อมูลเก่ียวกับผู้ทรงภูมิปัญญาด้านพันธ์ุไม้ในชุมชนและมีมุมสำหรับ
ศึกษาค้นคว้าและมีการนำไปใช้ประโยชน์เป็นส่ือการเรียนการสอนใน
วิชาต่าง ๆ เป็นการดำเนินการให้สอดคล้องกับบริบทและสภาพท้องถิ่น
ไม่ฝนื ธรรมชาติ เปน็ ไปตามความสมคั รใจ ความสนใจ และความพรอ้ มของ
โรงเรียน ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน จำนวนทั้งส้ิน
๓,๙๕๔ แห่ง (ข้อมลู ณ วนั ที่ ๒ มกราคม ๒๕๖๒)
การจัดการเรียนรู้บนฐานของสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนนั้น มุ่งให้
ผบู้ รหิ าร ครู อาจารยใ์ นสถานศกึ ษาปฏบิ ตั งิ านเปน็ ทมี แบบสรา้ งเสรมิ เตมิ เตม็
กันและกัน นำทุกส่ิงทุกอย่างท่ีมีอยู่ในโรงเรียนมาใช้เพ่ือจัดการจัดเรียนร
ู้
แก่นักเรียน โดยมีพืชเป็นปัจจัยหลัก ชีวภาพอ่ืนเป็นปัจจัยรอง กายภาพ
เป็นปจั จัยเสรมิ และวัสดุอปุ กรณเ์ ป็นปจั จยั ประกอบ ขณะเดยี วกนั คณะครู
ยงั ไดว้ เิ คราะหส์ าระการเรยี นรู้ ๘ กลมุ่ สาระของหลกั สตู รการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน
2
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
ตัวอยา่ งบทเรยี นการจดั การเรยี นรูต้ ามแนวพระราชดำร
ิ
พุทธศักราช ๒๕๕๑ วิเคราะห์สาระการเรียนรู้และองค์ประกอบของงาน
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน เพื่อจัดทำหลักสูตรบูรณาการและแผนการจัด
การเรียนรู้ เพื่อนำไปใช้จัดการเรียนการสอนตามปกติในการจัดการเรียนรู้
และเสริมสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ท่ีให้นักเรียนได้เรียนรู้ ใกล้ชิดกับพืช
พรรณไม้ เหน็ คุณคา่ ประโยชน์ ความสวยงามของพืชพรรณเหล่าน้นั ซึง่ จะ
เป็นปัจจัยสำคัญท่ีทำให้นักเรียนเกิดความคิดที่จะอนุรักษ์พืชพรรณต่อไป
ในอนาคต
๑.๒ ความหมายของงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน
สวนพฤกษศาสตร์ (Botanic Garden) คือ แหล่งที่รวบรวม
พนั ธพ์ุ ชื ชนดิ ตา่ ง ๆ ทมี่ ชี วี ติ จดั ปลกู ตามความเหมาะสมกบั สภาพถน่ิ อาศยั เดมิ
มีห้องสมุด สถานที่เก็บรวบรวมตัวอย่างพรรณไม้ รักษาสภาพ อาจเป็น
ตัวอย่างแห้ง ตัวอย่างดอง หรอื เกบ็ รักษาโดยวิธีอ่นื ๆ พนั ธ์พุ ชื ทที่ ำการเก็บ
รวบรวมไว้น้ัน จะเป็นแหล่งข้อมูลและเผยแพร่ความรู้ นอกจากน้ีสามารถ
ใชเ้ ป็นแหลง่ พักผอ่ นหยอ่ นใจ
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน (School Botanical Garden) คือ
ทุกสิ่งทุกอย่างท่ีมีอยู่ในโรงเรียนที่ใช้เพ่ือการเรียนรู้โดยมีพืชเป็นปัจจัยหลัก
ชีวภาพอื่นเป็นปัจจัยรอง กายภาพเป็นปัจจัยเสริม และวัสดุอุปกรณ์เป็น
ปจั จัยประกอบ
งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน คือ งานสร้างจิตสำนึกในการ
อนุรักษ์พันธุกรรมพืช ทรัพยากรชีวภาพและกายภาพ โดยมีการสัมผัส
การเรียนรู้ การสร้างและปลูกฝังคุณธรรม การเสริมสร้างปัญญาและ
ภมู ปิ ัญญา
3
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
ตัวอยา่ งบทเรียนการจดั การเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ
งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
จิตสำนึกในการอนรุ กั ษ์
ผล
เหตุ
ปัจจัย
๑. การเรยี นร
ู้ ๑. กายภาพ
๒. คุณธรรม
๒. ชวี ภาพ
๓. ภูมปิ ญั ญา
๓. วฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญา
ภาพท่ี ๑ แสดงแผนภาพสรปุ การเรียนร้งู านสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน
๑.๓ นโยบาย เป้าหมาย และทิศทางการดำเนนิ งาน
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน
นโยบายระยะ ๕ ปที ี่หก (พ.ศ. ๒๕๕๙ - ๒๕๖๔)
ให้โรงเรียนสถาบันการศึกษาได้มีสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนเป็น
ฐานการเรยี นรู้ เพอื่ เขา้ ถงึ วทิ ยาการ ปญั ญาและภมู ปิ ญั ญาแหง่ ตน ปฏบิ ตั ติ น
เป็นผู้อนุรักษ์พัฒนาสรรพชีวิต สรรพส่ิง ด้วยคุณธรรม มาตรฐานและ
การรักษามาตรฐาน ผู้บริหาร ครูอาจารย์เข้าถึงสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
(ปรัชญา บรรยากาศ) ปฏบิ ัตงิ านเป็นหนง่ึ
4
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน
ตัวอยา่ งบทเรียนการจดั การเรยี นรู้ตามแนวพระราชดำร
ิ
เปา้ หมายระยะ ๕ ปที ี่หก (พ.ศ. ๒๕๕๙ - ๒๕๖๔)
การดำเนนิ งานมงุ่ สปู่ ระโยชนแ์ ทแ้ กม่ หาชน มงุ่ สสู่ ถานอบรมสง่ั สอน
เบด็ เสรจ็ บนฐานงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
ทศิ ทางระยะ ๕ ปที หี่ ก (พ.ศ. ๒๕๕๙ - ๒๕๖๔)
การดำเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนมีเป้าหมายมุ่งสู่การสร้าง
ประโยชน์แท้แก่มหาชนและการเป็นสถานอบรมส่ังสอนเบ็ดเสร็จบนฐาน
งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โดยแผนแม่บทดังกล่าวมีทิศทางในการ
ดำเนนิ งาน ดงั นี
้
๑. นักเรียนระดับอนุบาล และระดับประถมศึกษา เนื้อหา
การเรยี นรู้ให้มีการเล่น รู้ ธรรมชาติแห่งชีวติ สรรพสง่ิ ล้วนพันเกยี่ ว โดยให้
นักเรียนเล็ก ๆ มีการเล่นแบบสนุกสนานสมวัยไปพร้อมกับการเรียนรู้
พืชศึกษา ในสาระธรรมชาติแห่งชีวิต สรรพส่ิงล้วนพันเก่ียว (ใช้วิธีการ
ทเี่ หมาะกบั วัย เกิดจินตนาการ เน้นการสัมผัสส่ิงรอบตวั )
ภาพที่ ๒ แสดงการเรียนรู้บรู ณาการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนของนกั เรียนระดับชั้นอนบุ าล
5
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน
ตวั อย่างบทเรยี นการจดั การเรียนรตู้ ามแนวพระราชดำริ
๒. นักเรียนระดับมัธยมศึกษา เนื้อหาการเรียนรู้ให้การเรียนรู้
โดยตน มีวิทยาการของตนโดยธรรมชาติแห่งชีวิต สรรพสิ่งล้วนพันเกี่ยว
ประโยชน์แท้แก่มหาชน โดยให้นักเรียนโตมีการเรียนรู้ท่ีใช้ภูมิปัญญา
วิทยาการของตนเองในการเรียนรู้พืชศึกษาในสาระธรรมชาติแห่งชีวิต
สรรพสิ่งล้วนพันเก่ียว ประโยชน์แท้แก่มหาชน (ใช้วิธีการที่เหมาะกับวัย
สร้างองคค์ วามรู้ พึ่งตนเองในการปรบั ตวั กบั สิง่ รอบตัว)
๓. นักศึกษาระดับอาชีวศึกษา เนื้อหาการเรียนรู้ให้มีการเรียนรู้
โดยตน ในปัจจัย เหตุ และส่งผลแปรเปล่ียน ธรรมชาติแห่งชีวิตสรรพสิ่ง
ล้วนพันเก่ียว ประโยชน์แท้แก่มหาชน โดยให้นักศึกษามีการเรียนรู้ที่ใช้ส่ิง
วิธีการ และผลท่ีเกิดด้วยตนเองในการเรียนรู้พืชศึกษาในสาระธรรมชาติ
แหง่ ชีวติ สรรพสิง่ ลว้ นพนั เกย่ี ว ประโยชนแ์ ท้แก่มหาชน (ใชว้ ธิ ีการท่ีเหมาะ
กับวยั เกดิ การคิดวิเคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์)
๔. นักศึกษาระดับอุดมศึกษา เนื้อหาการเรียนรู้ให้มีการเรียนร
ู้
โดยตน ในปัจจัย เหตุ และส่งผลแปรเปล่ียน ธรรมชาติแห่งชีวิตสรรพส่ิง
ล้วนพันเกี่ยว ประโยชน์แท้แก่มหาชน โดยให้นักศึกษามีการเรียนรู้ท่ีใช้สิ่ง
วิธีการของตนเองที่ส่งผลต่อพืชศึกษาในสาระธรรมชาติแห่งชีวิต สรรพส่ิง
ลว้ นพนั เกยี่ ว ประโยชนแ์ ทแ้ กม่ หาชน (ใชว้ ธิ กี ารทเ่ี หมาะกบั วยั เกดิ การวจิ ยั
และพัฒนาใช้ประโยชนแ์ กม่ หาชน)
๕. สถานศึกษาทุกระดับที่เป็นสมาชิกสวนพฤกษศาสตร์
โรงเรียน ให้เป็นแบบอย่างของการมีการใช้ศักยภาพสวนพฤกษศาสตร์
โรงเรียนอย่างเหมาะสม ให้นักเรียน นักศึกษาได้เรียนรู้ทุกสาขาวิชา
ในลักษณะบูรณาการวิทยาการและบูรณาการชีวิตจากปัจจัยศักยภาพ
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น
6
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
ตวั อย่างบทเรียนการจดั การเรียนรตู้ ามแนวพระราชดำริ
๑.๔ องคป์ ระกอบของงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
การจัดการเรียนรู้ของงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน จะให้
นักเรยี นได้ศึกษา เรียนรู้ และมสี ว่ นรว่ ม ตามองค์ประกอบในการเรียนรู้ ๕
องคป์ ระกอบ คอื การจดั ทำปา้ ยชอ่ื พรรณไม้ การรวบรวมพรรณไมเ้ ขา้ ปลกู
ในโรงเรียน การศึกษาข้อมูลด้านต่าง ๆ การรายงานผลการเรียนรู้ และ
การนำไปใช้ประโยชน์ทางการศึกษา สาระสำคัญของแต่ละองค์ประกอบ
สรุปได้ ดังนี้
องคป์ ระกอบท่ี ๑ การจัดทำปา้ ยช่ือพรรณไม้
การจัดการเรียนรู้ตามองค์ประกอบนี้ยึดหลักการ “รู้ช่ือ รลู้ กั ษณ์
รจู้ กั ” มงุ่ ใหน้ กั เรยี นรจู้ กั ชอื่ พรรณไม้ รลู้ กั ษณะตา่ ง ๆ ของพรรณไม้ และรู้จกั
ประโยชน์ของพรรณไม้ท่ีมีอยู่ในพ้ืนท่ีท่ีสำรวจ โดยกำหนดขอบเขตพื้นท่ี
ศกึ ษา สำรวจพรรณไมท้ กุ ชนดิ ในพื้นทศ่ี ึกษา ทำและติดปา้ ยรหสั ประจำต้น
ตั้งช่ือ/สอบถามชื่อพื้นบ้านของพรรณไม้ ทำผังแสดงตำแหน่งพรรณไม้
ศึกษาโครงสร้าง ส่วนประกอบลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของพรรณไม้
บันทึกภาพ/วาดภาพทางพฤกษศาสตร์ ทำตัวอย่างพรรณไม้ (แบบแห้ง/
ดอง/เฉพาะส่วน) เปรียบเทียบข้อมูลท่ีสรุปกับข้อมูลท่ีสืบค้นจากเอกสาร
แลว้ บนั ทกึ ลงในแบบบนั ทกึ จดั ทำระบบขอ้ มลู ทะเบยี นพรรณไม้ (ก.๗ - ๐๐๕)
ทำรา่ งปา้ ยชอื่ พรรณไม้ ตรวจสอบความถกู ตอ้ งทางวชิ าการดา้ นพฤกษศาสตร์
ของพรรณไม้ และจดั ทำปา้ ยชอื่ พรรณไมส้ มบรู ณ์ (ประกอบดว้ ยรหสั พรรณไม้
ช่อื พ้นื เมือง ช่อื วิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ชอื่ สามัญ และประโยชน์)
7
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น
ตวั อยา่ งบทเรยี นการจดั การเรียนรู้ตามแนวพระราชดำร
ิ
องคป์ ระกอบท่ี ๒ การรวบรวมพรรณไม้เข้าปลกู ในโรงเรียน
ยึดหลักการ “คลุกคลี เห็นคุณ สุนทรีย์” เป็นการนำพรรณไม้
ต่าง ๆ มาปลูกเพ่ิมจากเดิมท่ีโรงเรียนมีอยู่แล้ว ซึ่งต้องทำการศึกษาข้อมูล
จากผังพรรณไม้เดิมและศึกษาธรรมชาติของพรรณไม้ สำรวจ ศึกษา
วิเคราะหส์ ภาพพน้ื ท่ี พิจารณาคุณประโยชน์ และสุนทรยี ภาพของพรรณไม้
กำหนดการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ กำหนดชนิดพรรณไม้ท่ีจะปลูกเพิ่ม
ทำผังภูมิทัศน์ จัดหาพรรณไม้และวัสดุปลูก ทำการปลูกและดูแลรักษา
จากน้ันทำการศึกษาพรรณไม้หลังการปลูก ทั้งนี้ ในการเลือกพรรณไม
้
เขา้ ปลกู เพมิ่ เตมิ ในโรงเรยี นแตล่ ะแหง่ ขนึ้ อยกู่ บั ความสนใจในแตล่ ะพน้ื ที่ เชน่
พรรณไม้ท้องถ่ินที่หายากเส่ียงต่อการสูญพันธ์ุ พรรณไม้ท่ีมีคุณประโยชน์
และสุนทรยี ภาพ มีความเหมาะสมกับระบบนเิ วศและสภาพพ้ืนท่ี เป็นต้น
องคป์ ระกอบที่ ๓ การศกึ ษาขอ้ มูลดา้ นตา่ ง ๆ
การจัดการเรียนรู้ตามองค์ประกอบนี้เป็นการศึกษาพรรณไม้ที่มีอยู่
ในสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี นครบตามทะเบยี นพรรณไม้ และศกึ ษาพรรณไม้
ที่สนใจและกำหนดเป็น “พืชศึกษา” บนพ้ืนฐานความสมัครใจของ
ประชาคมในโรงเรียน ในการจัดการเรียนรู้ยึดหลักการ “รู้การวิเคราะห์
เหน็ ความต่าง รู้ความหลายหลาก” โดยใหน้ ักเรียนศึกษาข้อมูลด้านตา่ ง ๆ
ทางด้านข้อมูลพ้ืนบ้าน ข้อมูลพรรณไม้ และสืบค้นข้อมูลด้านพฤกษศาสตร์
ของพรรณไมท้ ่มี อี ยู่ในสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ขณะเดียวกนั กใ็ หน้ กั เรยี น
ศึกษาพรรณไม้ที่เป็นพืชศึกษาอย่างละเอียด ท้ังโครงสร้างภายนอก
โครงสร้างภายใน และองค์ประกอบส่วนย่อยของพืชศึกษา นำข้อมูลมา
เปรียบเทียบความต่างแต่ละเร่ืองกับพืชชนิดเดียวกัน โดยมีการตรวจสอบ
ผลงานเป็นระยะ
8
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
ตัวอย่างบทเรยี นการจดั การเรยี นรตู้ ามแนวพระราชดำริ
องคป์ ระกอบที่ ๔ การรายงานผลการเรยี นร
ู้
การจัดการเรียนรู้ตามองค์ประกอบน้ียึดหลักการ “รู้สาระ รู้สรุป
รู้ส่ือ” โดยให้นักเรียนรวบรวมผลจากที่เกิดจากการศึกษา ค้นคว้า และ
เรียนรู้ในองค์ประกอบงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนของตน เช่น
การศึกษาพรรณไม้ที่สนใจหรือพืชศึกษา การศึกษาข้อมูลพรรณไม้ใน
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน การทำตัวอย่างพรรณไม้ การปลูกและ
การขยายพันธ์ุ การดูแลรักษาพรรณไม้ เป็นต้น แล้วคัดแยกสาระสำคัญ
จากการศึกษา คน้ ควา้ และเรยี นรู้ จัดให้เป็นหมวดหมู่ จากนั้นทำการสรุป
หรือเรียบเรียงเป็นรายงานและเผยแพร่ ซึ่งการรายงานผลอาจทำเป็น
เอกสาร การบรรยาย การอภิปราย การเล่านิทานศิลปะและนิทรรศการ
โดยใหพ้ ิจารณาถึงความสนใจศกั ยภาพ ความพร้อม และความสามารถของ
นักเรยี นในแต่ละช่วงวยั
องคป์ ระกอบท่ี ๕ การนำไปใชป้ ระโยชน์ทางการศึกษา
การจัดการเรียนรู้ตามองค์ประกอบนี้ยึดหลักการ “นำองค์ความรู้
ที่เป็นวิทยาการ เผยแพร่เพ่ือให้เกิดองค์ความรู้ใหม่” เป็นการนำ
งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนไปใช้ประโยชน์ทางการศึกษาโดย
การบูรณาการสู่การเรียนการสอน ใช้สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนเป็น
แหล่งเรียนรู้ บันทึกข้อมูล เผยแพร่องค์ความรู้ รวบรวมเป็นพิพิธภัณฑ์
เฉพาะเรื่อง พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา และพัฒนาสวนพฤกษศาสตร์
โรงเรียนอย่างต่อเนื่องเพ่ือประโยชน์ทางการศึกษาแลกเปล่ียนเรียนรู้
ของประชาคมภายในโรงเรียนและชุมชน ตลอดจนสถานศึกษาอื่นและ
หนว่ ยงานเครอื ขา่ ยดา้ นการอนุรักษ์พนั ธกุ รรมพืช
9
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
ตัวอย่างบทเรยี นการจัดการเรยี นรูต้ ามแนวพระราชดำริ
๑.๕ สาระการเรียนรขู้ องงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
สาระการเรียนรู้ของงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ประกอบด้วย
๓ สาระ สรุปได้ ดงั น้ี
๑. สาระการเรียนรู้ “ธรรมชาติแห่งชีวิต” การจัดการเรียนรู้น้ี
ยึดหลักการ “รู้การเปลี่ยนแปลง รู้ความแตกต่าง รู้ชีวิต” มีขอบข่าย
ครอบคลุมการเรียนรู้วงจรชีวิตของชีวภาพ ได้ข้อมูลการเปล่ียนแปลงและ
ความแตกต่างด้านรูปลักษณ์ คุณสมบัติ และพฤติกรรมของชีวภาพแล้ว
เปรียบเทียบตนเองและผู้อื่นกับชีวภาพรอบกาย เพื่อประยุกต์ใช้ในการ
ดำเนินชีวิต การจัดการเรียนรู้เริ่มต้นจากการให้นักเรียนสัมผัสเรียนรู้วงจร
ชีวิตของชีวภาพที่ศึกษาเพ่ือให้ได้ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงและความแตกต่าง
ด้านรูปลักษณ์ ดา้ นคุณสมบัติ ด้านพฤตกิ รรม จากนัน้ นำมาเปรียบเทียบกบั
การเปลยี่ นแปลงและความแตกตา่ งดา้ นรปู ลกั ษณก์ บั รปู กาย ดา้ นคณุ สมบตั ิ
กับสมรรถภาพ และด้านพฤติกรรมกับจิต อารมณ์ และพฤติกรรมของ
นักเรียน แล้วสรุปองค์ความรู้ที่ได้จากการศึกษาธรรมชาติแห่งชีวิต
และสรุปแนวทางเพื่อนำไปสูก่ ารประยุกตใ์ ช้ในการดำเนนิ ชีวิต
๒. สาระการเรยี นรู้ “สรรพสง่ิ ลว้ นพนั เกย่ี ว” การจดั การเรยี นรนู้ ี้
ยดึ หลักการ “ร้สู ัมพันธ์ รู้ผูกพนั รดู้ ลุ ยภาพ” โดยมงุ่ ใหน้ กั เรยี นวเิ คราะห์
องค์ความรู้ธรรมชาติของพืชที่ศึกษา เรียนรู้ธรรมชาติของปัจจัยท่ีเข้ามา
เก่ียวข้อง เรียนรู้ธรรมชาติของความพันเกี่ยวระหว่างปัจจัย วิเคราะห์
สัมพันธภาพระหว่างปัจจัย ท้ังน้ี เพ่ือให้นักเรียนเข้าใจถึงดุลยภาพหรือ
ความสมดุล ความพันเกี่ยวกันและกันของสรรพสิ่ง โดยเริ่มต้นจากการให้
นักเรียนรวบรวมองค์ความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้สาระการเรียนรู้ธรรมชาติ
แห่งชีวิต ต่อมาให้ทำการศึกษา เรียนรู้ธรรมชาติด้านรูปลักษณ์ คุณสมบัติ
พฤติกรรมของพืช สัตว์ จุลินทรีย์ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับพืชศึกษา เรียนร้
ู
10
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
ตัวอยา่ งบทเรียนการจัดการเรียนรตู้ ามแนวพระราชดำริ
รูปลักษณ์ คุณสมบัติของปัจจัยกายภาพ (ดิน น้ำ แสง อากาศ) เรียนรู้
ธรรมชาติของปัจจัยประกอบ (วัสดุอุปกรณ์ อาคารสถานที่) เรียนร
ู้
ความพันเกี่ยวระหวา่ งปจั จยั ทกี่ ล่าวมาแลว้ ทงั้ หมด จากน้ันวิเคราะห์ใหเ้ หน็
ความสัมพันธ์และสัมพันธภาพ ความผูกพัน แล้วให้สรุปผลการเรียนรู้
ความสมดุลหรอื ดลุ ยภาพของความพันเกยี่ วกันและกันของสรรพสง่ิ
๓. สาระการเรยี นรู้ “ประโยชนแ์ ทแ้ กม่ หาชน” การจดั การเรยี นรนู้ ี้
ยึดหลักการ “รู้ศักยภาพ รู้จินตนาการ รู้ประโยชน์” มุ่งให้นักเรียน
วิเคราะห์ศักยภาพของพืชที่ศึกษา จินตนาการเห็นคุณของพืช เลือกสรร
และสรา้ งวธิ กี ารทจ่ี ะนำมาใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ โดยเรมิ่ ตน้ จากการใหน้ กั เรยี น
เรยี นรู้ วิเคราะห์ศักยภาพของพืชท่ศี ึกษาทัง้ ด้านรปู ลกั ษณ์ คณุ สมบตั ิ และ
พฤตกิ รรม จากน้นั เรียนร้แู ละจินตนาการถงึ คุณคา่ ของรปู ลกั ษณ์ คุณสมบัติ
และพฤติกรรมของพืชที่ศึกษาแล้วพิจารณาเลือกสรรและสร้างวิธีการที่จะ
นำมาใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนแ์ ก่ตนเอง บุคคลอนื่ และสังคมโดยรวมอยา่ งยง่ั ยนื
๑.๖ การถอดบทเรยี นสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน
การถอดบทเรียนสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนในคร้ังนี้ได้คัดเลือก
กลุ่มเป้าหมายจากสมาชิกสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนท่ีได้รับพระราชทาน
เกยี รตบิ ตั รงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ขน้ั ท่ี ๑ หรอื ขนั้ ที่ ๒ จำนวน ๕ แหง่
ในพื้นท่กี รุงเทพมหานคร ปริมณฑล และจังหวดั ใกลเ้ คียง โดยพจิ ารณาจาก
ประเภท สังกัด ระดับช้ันที่จัดการเรียนการสอน และเป็นโรงเรียนที่อยู่ใน
ชุมชนเมือง ภายใต้แนวคิด “โรงเรียนในเมืองก็ทำงานสวนพฤกษศาสตร์
โรงเรียนได้” ประกอบด้วย ๑) โรงเรียนพิชญศึกษา จังหวัดนนทบุร
ี
๒) โรงเรียนไทยนิยมสงเคราะห์ กรุงเทพมหานคร ๓) โรงเรียนปากเกร็ด
จงั หวัดนนทบุรี ๔) โรงเรยี นวดั บุญสมั พันธ์ จังหวดั ชลบรุ ี และ ๕) โรงเรียน
วดั ประชาระบอื ธรรม กรุงเทพมหานคร
11
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น
ตวั อย่างบทเรียนการจัดการเรียนรู้ตามแนวพระราชดำร
ิ
ภาพท่ี ๓ แสดงการเข้าร่วมประชมุ วิชาการและนิทรรศการสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี นฯ คร้งั ที่ ๕
และเกบ็ ขอ้ มลู ของนักวิชาการสำนกั งานเลขาธิการสภาการศกึ ษา
การเก็บรวบรวมข้อมูลดำเนินการระหว่างเดือนกรกฎาคม –
สิงหาคม ๒๕๖๑ โดยศึกษาจากเอกสาร คู่มือ รายงาน ภาพถ่าย
ภาพเคล่ือนไหวท่ีเก่ียวข้องกับการดำเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
และการไปเยี่ยมสถานศึกษา (school visits) แต่ละแห่ง เพ่ือสัมภาษณ์
สนทนากลมุ่ (focus group) กบั ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา คณะครทู ร่ี บั ผดิ ชอบ
งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน สังเกตการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
กจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรียนรเู้ กย่ี วกับสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น และเยย่ี มชม
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
12
กลมุ่ เปา้ หมายงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น
ลำดับ ชอ่ื สถานศกึ ษา จังหวัด ลำดบั เกียรตบิ ตั ร๑ พืชศกึ ษา ระดบั การสอน สังกดั /ขนาด
๑ โรงเรยี นพชิ ญศึกษา นนทบุรี เกียรติบัตรงานสวน หนอ่ กะลา อนุบาล ๑ – สช.
พฤกษศาสตรโ์ รงเรียน มว่ งเทพรัตน ์ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๖ ขนาดใหญ่พเิ ศษ
ขนั้ ท่ี ๒
๒ โรงเรียน กรุงเทพมหานคร เกียรตบิ ตั รงานสวน มะกรูด อนบุ าล ๑ – สพฐ.
ไทยนยิ มสงเคราะห์ พฤกษศาสตร์โรงเรยี น พริกขี้หนู มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓ ขนาดใหญพ่ เิ ศษ
ขน้ั ท่ี ๑
๓ โรงเรยี นปากเกร็ด นนทบุรี เกยี รตบิ ตั รงานสวน อัญชนั มธั ยมศึกษาปีที่ ๑ - สพฐ.
พฤกษศาสตร์โรงเรยี น ลกู ใต้ใบ มัธยมศึกษาปที ี่ ๖ ขนาดใหญ่พเิ ศษ
ขั้นท่ี ๑
๔ โรงเรยี น ชลบุรี เกียรตบิ ัตรงานสวน ผักบุง้ ทะเล มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑ - สพฐ.
(ขยายโอกาส)
ขนาดใหญ่
วัดบญุ สมั พนั ธ ์ สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
พฤกษศาสตรโ์ รงเรียน มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓
ตัวอย่างบทเรยี นการจัดการเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ
ขน้ั ที่ ๑
13 กทม.
๕ โรงเรียน กรุงเทพมหานคร เกยี รตบิ ัตรงานสวน มะเขือเทศ อนบุ าล ๑ – ขนาดกลาง
วดั ประชาระบอื ธรรม พฤกษศาสตร์โรงเรยี น ถวั่ ฝกั ยาว ประถมศึกษาปที ี่ ๖
ข้ันท่ี ๑
๑ เกยี รตบิ ตั รงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น มี ๓ ขน้ั ไดแ้ ก่
๑. เกยี รตบิ ตั รงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี นขนั้ ท่ี ๑ เปน็ เกยี รตบิ ตั รขนั้ ตน้ เกยี รตบิ ตั รแหง่ ความมงุ่ มน่ั อนรุ กั ษ์ สรรพสงิ่ สรรพชวี ติ ดว้ ยจติ สำนกึ ของครแู ละเยาวชน
๒. เกยี รตบิ ตั รงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี นขน้ั ที่ ๒ เปน็ เกยี รตบิ ตั รขนั้ กลาง เกยี รตบิ ตั รแหง่ การเขา้ สสู่ ถานภาพสถานศกึ ษาอบรมสง่ั สอนเบด็ เสรจ็ บนฐาน
งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
๓. เกยี รตบิ ตั รงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี นขนั้ ท่ี ๓ เปน็ เกยี รตบิ ตั รขนั้ สงู เกยี รตบิ ตั รแหง่ การเปน็ สถานศกึ ษาอบรมสงั่ สอนเบด็ เสรจ็ บนฐานงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
บทเรียนการจดั การเรียนรสู้ วนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
กรณีศึกษาโรงเรียน ๕ แหง่
“โรงเรยี นในเมอื งกท็ ำงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี นได้”
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
ตวั อยา่ งบทเรียนการจัดการเรยี นรตู้ ามแนวพระราชดำริ
โรงเรยี นพชิ ญศกึ ษา
ข้อมลู โรงเรยี น
โรงเรียนพิชญศึกษา เป็นโรงเรียนเอกชนขนาดใหญ่พิเศษ จัดการ
ศึกษาในระบบประเภทสามัญศึกษา ตามหลักสตู รของกระทรวงศึกษาธกิ าร
(หลักสูตรการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑) ในระดับก่อนประถม
ศกึ ษา (เตรียมอนบุ าล อนบุ าล) ระดบั ประถมศกึ ษา และระดับมธั ยมศึกษา
(มัธยมศกึ ษาตอนตน้ มัธยมศึกษาตอนปลาย) ต้ังอยู่ เลขท่ี ๙๔/๑ หมู่ท่ี ๘
ซอยสุขาประชาสรรค์ ๓ ถนนติวานนท์ ตำบลบางพูด อำเภอปากเกร็ด
จงั หวดั นนทบรุ ี บนพนื้ ท่รี าว ๓๓ ไร่ ก่อตัง้ ในปี พ.ศ. ๒๕๓๒ ด้วยปณธิ าน
15
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน
ตวั อย่างบทเรียนการจัดการเรยี นร้ตู ามแนวพระราชดำร
ิ
“มุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนเป็นคนดี มีปัญญา มีความเป็นไทย มีความรู้อันเป็น
สากลและอย่รู ว่ มกับผู้อ่ืนอยา่ งมีความสุข”
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ
สยามบรมราชกมุ ารี โปรดเกล้า ฯ พระราชทานนาม “โรงเรยี นพชิ ญศกึ ษา”
เมื่อวันที่ ๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๒ โรงเรียนเปิดดำเนินการสอนเมื่อวันที่
๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๓ มีนกั เรียนจำนวน ๕๘ คน ครูจำนวน ๑๙ คน
ในปีการศึกษา ๒๕๕๘ มีนักเรียนจำนวนทั้งสิ้น ๑,๕๒๔ คน ปีการศึกษา
ปัจจุบนั (๒๕๖๐) มนี กั เรียนจำนวนทง้ั ส้ิน ๑,๖๓๒ คน โรงเรียนพชิ ญศกึ ษา
ได้รับพระราชทานเกียรติบัตรงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ข้ันที่ ๒
“เกยี รตบิ ัตรแหง่ การเขา้ สสู่ ถานภาพสถานศึกษาอบรมส่ังสอนเบ็ดเสร็จบน
ฐานงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น” ในปี พ.ศ. ๒๕๕๒ ปจั จบุ นั มพี รรณไมใ้ น
โรงเรยี นทข่ี น้ึ ทะเบยี นแลว้ จำนวน ๔๑๕ ชนิด
การดำเนนิ งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น
โรงเรยี นพชิ ญศกึ ษาไดส้ นองพระราชดำริ ฯ โดยเขา้ รว่ มเปน็ สมาชกิ
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ในปี พ.ศ. ๒๕๔๑ จากนน้ั ไดเ้ ตรียมความพรอ้ ม
ด้านบุคลากร พัฒนาพ้ืนที่ โครงสร้างพ้ืนฐานจนมีความพร้อม สามารถ
ดำเนินการตามแนวทางของงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน และได้รับป้าย
สนองพระราชดำริ ฯ ในปี พ.ศ. ๒๕๔๓ ด้วยความมุ่งม่ันตั้งใจจะจัด
การเรียนรู้เพื่อปลูกฝังนักเรียนต้ังแต่วัยเด็กให้รัก หวงแหน เห็นคุณค่าและ
ประโยชนข์ องพรรณไมแ้ ละทรพั ยากร เกดิ จติ สำนกึ ในการอนรุ กั ษพ์ รรณพชื
และทรัพยากรของชาติ ส่งเสริมให้นักเรียนเป็นคนดี มีระเบียบ
มีความอดทน รู้รักสามัคคี อยู่ร่วมกันเป็นหมู่คณะอย่างมีความสุข โดยใช้
งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี นเป็นเคร่อื งมือ
16
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น
ตัวอยา่ งบทเรียนการจดั การเรียนรตู้ ามแนวพระราชดำริ
ภาพที่ ๔ แสดงสมเดจ็ พระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ าร
ี
เสดจ็ ทรงปลกู ตน้ ไม้ ณ โรงเรยี นพชิ ญศกึ ษา เมอ่ื ปี พ.ศ. ๒๕๔๓
17
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน
ตวั อย่างบทเรียนการจัดการเรียนรตู้ ามแนวพระราชดำริ
การเตรียมการด้านการบริหารและการจัดการ การมอบหมาย
หนา้ ท่ีรับผดิ ชอบแก่คณะคร
ู
ผู้บริหารโรงเรียนอธิบายและแนะนำว่า จุดเร่ิมต้นที่สำคัญ คือ
การปรับความรู้ สร้างความเข้าใจกับบุคลากรทุกฝ่ายของโรงเรียน เพื่อให้
คณะครูและบุคลากรทุกคนมีตระหนักในความสำคัญและมีความเข้าใจใน
แนวพระราชดำริ ฯ และเขา้ ใจเปา้ หมาย แนวคดิ แนวทางการบรหิ ารจดั การ
และการดำเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ทั้งน้ี เพ่ือให้บุคลากรของ
โรงเรียนมีความพร้อม ร่วมแรงร่วมใจที่จะปฏิบัติงานในหน้าที่ท่ีได้รับมอบ
หมายใหบ้ รรลผุ ลลัพธ์ท่ีตอ้ งการ
โรงเรียนไดแ้ ตง่ ตงั้ คณะกรรมการ ๔ คณะ ตามคู่มอื การดำเนินงาน
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช ฯ (อพ.สธ.)
ให้แนวทางไว้ ประกอบด้วย ๑) คณะกรรมการด้านการบริหารและการ
จัดการ ๒) คณะกรรมการดา้ นการดำเนนิ งาน ๓) คณะกรรมการดา้ นผลการ
ดำเนนิ งาน ๔) คณะกรรมการด้านความถูกต้องทางวิชาการ ขณะเดียวกัน
โรงเรียนได้กำหนดให้มี “งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน” เป็นงานหน่ึง
ในโครงสร้างการบรหิ ารงานของโรงเรยี น
ผู้บริหารโรงเรียนได้แต่งตั้งและมอบหมายให้คณะครูจำนวนหนึ่ง
เป็นบุคลากรประจำงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน มีหน้าท่ีรับผิดชอบงาน
ภาพรวมของงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ช่วยผู้บริหารขับเคล่ือนงาน
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ส่งเสริมสนับสนุนและประสานงานกับคณะครู
และคณะกรรมการทกุ ฝา่ ย ขณะเดียวกัน ผูบ้ รหิ ารได้มอบหมายใหบ้ คุ ลากร
ท่ีมีความเชี่ยวชาญด้านพรรณพืชและพฤกษศาสตร์ให้มีส่วนสำคัญ
ในการวางแผนพัฒนาภูมิทัศน์ พัฒนาพื้นที่สีเขียว และพ้ืนท่ีเพ่ือการเรียนรู้
อ่ืน ๆ ของโรงเรียนให้มีความเหมาะสมแก่การใช้ประโยชน์ในการศึกษา
เรียนรู้ และมคี วามร่มรืน่ รม่ เย็น เปน็ ระเบียบ สวยงาม
18
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น
ตัวอย่างบทเรยี นการจัดการเรียนร้ตู ามแนวพระราชดำร
ิ
การพฒั นาคร
ู
ในช่วงเร่ิมต้น คณะครูงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ได้ไปเข้า
อบรมแนวทางการจัดการเรียนรู้ตามองค์ประกอบและสาระการเรียนรู้ของ
งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น หลักสูตรการอบรมระยะเวลา ๔ วัน โดยมี
วิทยากรจากโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเน่ืองมาจากพระราชดำริ ฯ
เป็นผู้ให้การอบรม แล้วกลับมาอบรม ประชุมชี้แจง ขยายผล ต่อมาผู้แทน
คณะครูจำนวนหน่ึงได้ไปเข้าประชุมและอบรมเพ่ิมเติมเก่ียวกับการจัด
การเรียนรู้ในองค์ประกอบที่เกี่ยวข้อง ตามฐานอบรมโรงเรียนเครือข่าย
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนอยา่ งตอ่ เนอื่ ง ตามทโ่ี ครงการอนรุ กั ษพ์ นั ธกุ รรมพชื
อนั เนอื่ งมาจากพระราชดำริ ฯ จดั ประชมุ และอบรมขน้ึ ขณะเดยี วกนั ยงั สง่ เสรมิ
สนับสนุนให้ครูใหม่เป็นคู่งานและเรียนรู้จากครูรุ่นพี่ เพื่อให้พัฒนาความรู้
ความเข้าใจ เห็นวิธีการปฏิบัติ สามารถยกระดับคุณภาพในด้านการสอน
และการจดั การเรยี นรขู้ องตนเองไดร้ วดเรว็ ขนึ้ และเพอื่ เปน็ การสรา้ งสำนกึ รกั
หวงแหนพรรณไม้ให้แก่คณะครู ผู้บริหารได้มอบหมายให้คณะครูและ
บคุ ลากรทกุ คน บำรงุ รกั ษา ดแู ล รบั ผดิ ชอบตน้ ไม้ คนละ ๑ ตน้ เปรยี บเสมอื น
ตน้ ไมป้ ระจำตวั ทำใหค้ ณะครแู ละบคุ ลากรมคี วามผกู พนั กบั พชื และพรรณไม้
ไดศ้ กึ ษา เรยี นรู้ เขา้ ใจ เหน็ คณุ คา่ ของพชื พรรณไม้ เฉกเชน่ เดยี วกบั ทน่ี กั เรยี น
ได้เรียนรู้ เกดิ การเพม่ิ พูนความรู้ความเขา้ ใจเรื่องพืชพรรณไม้ สามารถทำได้
สอนเป็น ถ่ายทอดได้
คณะครูในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้จะมีการประชุมในทุกวัน
พฤหัสบดี เพ่ือปรึกษาหารือ แลกเปลี่ยนเรียนรู้เก่ียวกับการจัดการเรียนรู้
ในกลมุ่ สาระการเรยี นรแู้ ละระดบั ชนั้ ทร่ี บั ผดิ ชอบ ระดมความคดิ และแสวงหา
แนวทางพฒั นาการจดั การเรยี นรทู้ จ่ี ะทำใหน้ กั เรยี นสามารถเพมิ่ พนู ศกั ยภาพ
และผลการเรียนรู้เป็นไปตามเป้าหมายและทิศทางที่พึงประสงค์ และ
มีคุณลกั ษณะ คณุ สมบตั ิ สอดคลอ้ งกบั ปณธิ านของโรงเรยี น
19
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน
ตวั อย่างบทเรยี นการจัดการเรียนรตู้ ามแนวพระราชดำร
ิ
การบูรณาการการเรียนรู้งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนกับ
หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน
ในการบูรณาการการเรียนรู้งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนกับ
การจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรแกนกลาง (หลักสูตรการศึกษา
ขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑) โรงเรยี นได้พิจารณาทม่ี าขององคป์ ระกอบ
ในการบรู ณาการจาก ๓ สว่ น คอื ๑) ตวั ชวี้ ดั และสาระการเรยี นรู้ จาก ๘ กลมุ่
สาระการเรยี นร้หู ลักสูตรแกนกลาง ๒) องคป์ ระกอบการจัดการเรียนรขู้ อง
งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน (การจัดทำป้ายช่ือพรรณไม้ การรวบรวม
พรรณไม้เข้าปลูกในโรงเรียน การศึกษาข้อมูลด้านต่าง ๆ การรายงานผล
การเรียนรู้ การนำไปใช้ประโยชน์ทางการศึกษา) และ ๓) สาระการเรียนรู้
ของงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน (ธรรมชาติแห่งชีวิต สรรพสิ่งล้วน
พนั เก่ียว ประโยชน์แท้แกม่ หาชน)
โรงเรียนได้จัดการประชุมปฏิบัติการให้คณะครูจากงาน
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน และคณะครูจากกลุ่มสาระการเรียนร
ู้
หลักสูตรแกนกลางร่วมกันวิเคราะห์ความสอดคล้องระหว่างตัวช้ีวัดและ
สาระการเรียนรู้ ๘ กลุ่มสาระกับสาระการเรียนรู้ องค์ประกอบและลำดับ
การเรียนรู้ของงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนแล้วจัดทำผังมโนทัศน
์
(mind map) การบูรณาการ เพ่ือให้เห็นภาพรวมการบูรณาการ จากนั้น
คณะครูจากงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนและคณะครูจากแต่ละกลุ่มสาระ
การเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางได้ร่วมกันจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้
จากน้นั พัฒนาสอ่ื ใบความรู้ ใบงาน คำอธิบายรายวชิ าทแี่ สดงใหเ้ หน็ วิธกี าร
จัดการเรียนรู้ในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้อย่างชัดเจนในทุกระดับชั้น
เพอื่ ใหค้ รทู กุ คนนำไปใชเ้ ปน็ เครอื่ งมอื ในการจดั การเรยี นการสอนในระดบั ชนั้
และกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ตนเองรับผิดชอบ และท่ีน่าสังเกตประการหน่ึง
20
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น
ตวั อย่างบทเรียนการจัดการเรยี นรตู้ ามแนวพระราชดำร
ิ
คือ โรงเรียนได้กำหนดให้มี “รายวิชาสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน”
ในการเรียนตามหลกั สูตรสถานศึกษาของโรงเรยี นด้วย
จุดประสงค์การเรียนรู้ ขอบข่ายเนื้อหาสาระ กิจกรรมการเรียน
การสอน ใบงาน ปริมาณงานที่นักเรียนระดับปฐมวัยไปจนถึงระดับ
มัธยมศึกษาได้รับมอบหมาย และการประเมินผลการเรียนรู้ มีความ
แตกต่างกันตามวัยและช่วงช้ันของนักเรียน เนื้อหาสาระการเรียนรู้และ
วิธีการเรียนรู้จะมีรายละเอียดเพ่ิมขึ้น ซับซ้อนข้ึน แบบค่อยเป็นค่อยไป
(gradually) จำนวนปริมาณงานและลักษณะงานท่ีมอบหมายจะมีความ
ท้าทายต่อการเรียนรู้ของนักเรียนเพ่ิมข้ึนทีละเล็กละน้อย โดยคำนึงถึง
พัฒนาการและศักยภาพการเรยี นรขู้ องนักเรยี นเปน็ หลกั
การจัดการเรียนรู้ตามองค์ประกอบของงานสวนพฤกษศาสตร์
โรงเรยี น
ภาพที่ ๕ แสดงพ้ืนท่ศี ึกษาสวนพฤกษศาสตร์ ภาพท่ี ๖ แสดงถงึ ความร่มรนื่ และพรรณไม
้
โรงเรยี นของโรงเรยี นพชิ ญศึกษา
ตา่ ง ๆ ภายในสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
ภายในพ้ืนท่ีของโรงเรียนกว่า ๓๓ ไร่ ได้กำหนดพ้ืนที่ศึกษาสร้าง
เป็นสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนที่มีความร่มรื่น หลากหลายด้วยพรรณไม้
นานาชนิด ทั้งพรรณไม้ท้องถ่ิน พรรณไม้หายาก ต้นไม้ประจำโรงเรียน
21
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
ตวั อย่างบทเรยี นการจัดการเรยี นร้ตู ามแนวพระราชดำร
ิ
พืชสมุนไพร ไมด้ อกไม้ประดบั มพี ้นื ทีแ่ หลง่ น้ำ บึงบวั บ่อปลา นาขา้ ว ฯลฯ
ที่เอื้ออำนวยให้มีความหลากหลายชีวภาพ ขณะเดียวกันยังมีไม้ในสวน
สวนหยอ่ ม พ้ืนท่ีสีเขยี วในบรเิ วณอ่นื กระจายอยู่ท่ัวท้ังบรเิ วณโรงเรยี น
โรงเรียนกำหนดพ้ืนท่ีศึกษาพรรณไม้ของนักเรียน ออกเป็น ๑๐
พื้นที่ แบ่งกลุ่มนักเรียนแบบคละช้ันเข้าศึกษาเรียนรู้พรรณไม้ในพ้ืนที่ศึกษา
ที่ได้รับมอบหมาย แบบพ่ีสอนน้อง และให้มี “Buddy” เพ่ือนช่วยเพ่ือน
ในแตล่ ะพนื้ ทศี่ กึ ษาจะมนี กั เรยี นหลายระดบั ชน้ั เขา้ ศกึ ษา โดยใชเ้ วลาเรยี นปกติ
ที่ครูผู้สอนในระดับชั้นแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้มอบหมาย ครั้งละ
ประมาณ ๔๐-๕๐ นาที
แต่ละปีการศึกษา คณะครูจะให้นักเรียนเปลี่ยนพื้นที่ศึกษา
หมุนเวียนไป และทุกเช้าหลังการเข้าแถวเคารพธงชาติ นักเรียนจะใช้เวลา
กอ่ นเข้าเรยี น ไปดูแล บำรุงรกั ษา ต้นไม้ของตนเองและตน้ ไมข้ องกลมุ่ ทง้ั น้ี
กอ่ นการเขา้ พนื้ ทศี่ กึ ษา บำรงุ รกั ษาตน้ ไมข้ องนกั เรยี น คณะครจู ะตรวจตรา
ดูแลความเรียบร้อยของพื้นที่ต่าง ๆ โดยรอบ เพ่ือป้องกันเฝ้าระวัง
ความปลอดภัยแก่นักเรียน โดยเฉพาะเร่ืองสัตว์มีพิษและกายภาพอ่ืน
ท่ีอาจเป็นอันตรายต่อนักเรียน ขณะเดียวกัน คณะครูจะให้คำแนะนำ
เก่ียวกบั การระมดั ระวัง ดูแลความปลอดภยั ของตนเองและเพ่อื น
การศึกษาเรียนรู้ตามองค์ประกอบของงานสวนพฤกษศาสตร์
โรงเรียน นักเรียนจะเรียนรู้จากทุกประสาทสัมผัส โดยให้นักเรียนสำรวจ
พรรณไม้ในพื้นท่ีศึกษา ทำป้ายรหัสประจำต้น ทำผังพรรณไม้ ศึกษา
ถา่ ยภาพ เกบ็ ตวั อยา่ งพรรณไม้ เปรยี บเทยี บขอ้ มลู กบั เอกสาร จดั ระบบขอ้ มลู
ทะเบยี นพรรณไม้ ออกแบบและทำรา่ งปา้ ยชอื่ พรรณไมส้ มบรู ณข์ องพรรณไม้
ท่ียังไม่มีป้ายชื่อ ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทางพฤกษศาสตร
์
ทำป้ายช่ือพรรณไม้สมบูรณ์ ศึกษาสภาพภูมิศาสตร์ภายในโรงเรียน ท้ังดิน
นำ้ ทศิ ทางลม แสง และปจั จยั ทางกายภาพอนื่ ๆ เพอื่ นำพรรณไมท้ เ่ี หมาะสม
22
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน
ตัวอย่างบทเรียนการจัดการเรยี นรตู้ ามแนวพระราชดำริ
เขา้ มาปลกู เพม่ิ ศกึ ษาพรรณไมใ้ นสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี นและพนื้ ทศี่ กึ ษา
สังเกตวงจรชีวติ ของพชื ตั้งแตเ่ ริม่ ปลูก จนเตบิ โต ผลิดอก ออกผล ทิง้ ดอก
ทิ้งใบ และสิ้นไป แล้วรายงานผลการเรียนรู้จากการศึกษาพรรณไม้และ
การเรยี นรพู้ ชื ศกึ ษาในรปู แบบตา่ ง ๆ และวเิ คราะหศ์ กั ยภาพ คณุ สมบตั ขิ องพชื
เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ แนวทางการทำเป็นชิ้นงาน และทำการเรียนร
ู้
ต่อเน่อื งตามความสมัครใจ
ท่ีน่าสังเกต คือ โรงเรียนได้นำพืชพรรณไม้ท่ีน่าสนใจหลายอย่าง
เข้าปลูกเพ่ิมเติมโดยตลอด เช่น พิลังกาสา พระเจ้าห้าพระองค์ พู่จอมพล
(พู่ชุมพล) และอื่น ๆ นักเรียนได้เรียนรู้วิธีการนำเคร่ืองมือ อุปกรณ์ และ
นวัตกรรม เพ่ือใช้ศึกษาสภาพภูมิศาสตร์ภายในโรงเรียน เช่น การใช
้
เคร่ืองวัดความชื้น อุณหภูมิ และแสง (Moisture Temperature and
Light Meter: MTL) เพื่อวิเคราะห์กายภาพและศักยภาพของพื้นท่ีต่าง ๆ
ภายในโรงเรยี น
ท่ีน่าสนใจ คือ โรงเรียนได้จัดทำห้องสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
สำหรบั เกบ็ รวบรวมตวั อยา่ งพรรณไม้ ทง้ั แบบแหง้ แบบดอง และเฉพาะสว่ น
มีแผนภาพแสดงพ้ืนที่ศึกษา และได้รวบรวมเอกสารวิชาการและส่ือต่าง ๆ
ที่เก่ียวข้องกับการดำเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนและการอนุรักษ์พืช
เพ่อื การศึกษาคน้ คว้า รวมทงั้ มตี ัวอยา่ งช้นิ งาน และรายงานการดำเนินงาน
โครงการ
การเรียนรพู้ ืชศกึ ษา
“หน่อกะลา” เป็นหนึ่งในพืชท่ีโรงเรียนพิชญศึกษาเลือกเป็นพืช
ศึกษา หน่อกะลาเป็นพืชตระกูลเดียวกับข่า มีลักษณะเหมือนต้นข่าท้ังใบ
และลำต้น แต่จะมขี นาดเล็กกวา่ มีเหง้าท่ีเปน็ ลำตน้ อยูใ่ ต้ดนิ มีลำตน้ บนดนิ
เป็นต้นเทียม ต้นโตสูงประมาณ ๓ เมตร ลักษณะเป็นกอแน่น หน่อกะลา
เปน็ ผักพ้นื บ้านของเกาะเกรด็ นำมาประกอบเปน็ อาหารได้หลากหลาย และ
23
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น
ตวั อย่างบทเรียนการจดั การเรียนร้ตู ามแนวพระราชดำริ
มีสรรพคุณทางยา ช่วยแกอ้ าการทอ้ งอดื แน่นเฟ้อ จุกเสยี ด และช่วยไลล่ ม
ในร่างกาย ปัจจุบันการปรับเปล่ียนการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อรองรับการ
ขยายตัวของชุมชนเมืองในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ทำให้ต้นหน่อกะลา
จำนวนมากท่ีเคยมีอยู่ในชุมชนใกล้เคียงกับท่ีต้ังโรงเรียนลดน้อยลงมาก
โรงเรียนจงึ ตอ้ งการอนุรักษ์พชื ชนิดน้ีไวใ้ หค้ งอยกู่ บั ทอ้ งถิ่น
สว่ นพชื อกี ชนดิ หนง่ึ ทโ่ี รงเรยี นเลอื กเปน็ พชื ศกึ ษา คอื “มว่ งเทพรตั น”์
เป็นไม้ล้มลุก ตระกูลพืชท้องถ่ินของเกาะ Socotra หมู่เกาะ Yemen
ในมหาสมุทรอินเดีย เป็นพืชท่ีมีมงคลนาม และเป็นไม้ประดับที่เป็น
สมนุ ไพรดว้ ย สมเดจ็ พระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ
สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานนามว่า “ม่วงเทพรัตน์” เม่ือวันที่
๒๙ กันยายน ๒๕๕๒ ในเร็ว ๆ นี้ โรงเรียนพิชญศึกษาจะเพิ่มพืชศึกษา
อีกหนึ่งชนิด คือ “บัวหลวงขาว” ซึ่งเป็นบัวพ้ืนเมือง ดอกสีขาว มีกล่ิน
หอมอ่อน ๆ สามารถนำมาใชป้ ระโยชน์ไดห้ ลายอย่าง
ในการศึกษาพืชศึกษาของนักเรียนนั้น เน่ืองจากโรงเรียนเปิดรับ
เด็กหลายวัยเข้าศึกษา นับตั้งแต่ระดับปฐมวัย ระดับประถมศึกษา จนถึง
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ดังน้ัน กิจกรรมการเรียนรู้และความลุ่มลึก
ของเน้ือหาจึงมีความแตกตา่ งกนั ไปตามช่วงวัยของนักเรยี น
กลุ่มเดก็ เลก็ มีกิจกรรมที่เริม่ จากเรื่องกว้าง ๆ กอ่ น โดยเรมิ่ จากครู
แนะนำให้รู้จักชื่อ แล้วให้นักเรียนได้เรียนรู้จากสัมผัส เช่น การจับ การดู
การดม เป็นต้น เพ่ือให้นักเรียนจดจำลักษณะ ส่วนประกอบย่อยของ
พืชศึกษา แล้วให้นักเรียนบอกเล่า อธิบาย ลักษณะผิวสัมผัสของพืช
ท่ีตนเองได้สัมผัส วาดภาพ และเลือกระบายสีส่วนประกอบของพืชใน
สมุดภาพที่มีลักษณะเดียวกับส่ิงท่ีตนเห็น จากน้ันให้ดูความเปล่ียนแปลง
ในการเจริญเติบโตของพืชศึกษา รู้จักชีวภาพและกายภาพท่ีเป็นประโยชน์
และไมเ่ ป็นประโยชน์ต่อการเจรญิ เตบิ โตของพชื ศกึ ษา
24
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น
ตวั อยา่ งบทเรยี นการจดั การเรียนรู้ตามแนวพระราชดำร
ิ
ภาพที่ ๗ แสดงการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรใู้ นกลุ่มเด็กเล็กของโรงเรียนพิชญศกึ ษา
ส่วนกลุ่มชั้นประถมศึกษาท่ีเป็นเด็กโต นอกจากจะศึกษาลักษณะ
พืช วงจรชีวิตและความเปล่ียนแปลงในการเจริญเติบโตของพืชศึกษา (เช่น
รปู รา่ ง รปู ทรง สี ผวิ เนอื้ ขนาดของราก ลำตน้ ใบ ดอก ผล เมล็ด) ศึกษา
ชีวภาพ กายภาพท่ีเป็นประโยชน์และไม่เป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโต
ของพืชศึกษาแล้ว นักเรียนยังจะได้เรียนรู้เก่ียวกับการขยายพันธุ์พืช (ขณะ
เกบ็ ข้อมลู โรงเรียนสอนการขยายพนั ธ์ตุ ้นพลิ งั กาสาแบบตา่ ง ๆ) ดว้ ย
ภาพที่ ๘ แสดงการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนร้ใู นกลุ่มประถมศกึ ษา
ขณะท่ีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา หรือกลุ่มนักเรียนวัยรุ่น จะศึกษา
เรยี นรู้ขน้ั สงู ดว้ ยการศกึ ษา คน้ ควา้ วจิ ัย ทดลอง โดยใชอ้ ปุ กรณ์ เทคโนโลยี
และนวัตกรรมมาใช้ เพ่ือยกระดับการเรียนรู้ให้เข้าถึงวิชาการด้าน
พฤกษศาสตร์เพิ่มขึ้น และก้าวสู่การเป็นผู้เช่ียวชาญที่รอบรู้เรื่องพืชและ
25
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
ตัวอย่างบทเรยี นการจัดการเรยี นรูต้ ามแนวพระราชดำริ
พนั ธ์พุ ชื เช่น การศกึ ษาลักษณะเนือ้ เยื่อ การเพาะเลีย้ ง การขยายพันธ์ดุ ว้ ย
วิธีการต่าง ๆ การทดลองนำส่วนประกอบย่อยของพืชมาทำเป็นผลิตภัณฑ์
เพ่ือใช้ประโยชน์ เป็นต้น ตลอดเวลาของการศึกษาเรียนรู้ของนักเรียน
ทุกระดับช้ันท่ีกล่าวมา จะมีคณะครูคอยให้คำแนะนำ ช่วยเหลือ สาธิต
อธิบาย ให้กำลังใจ ป้องกันและเฝ้าระวังเรื่องความปลอดภัยแก่นักเรียน
และอำนวยความสะดวกในดา้ นการศึกษาและการเรยี นรู้
คณะครูและนักเรียนได้ศึกษา ค้นคว้า ทดลองทำผลิตภัณฑ์หลาย
ชนิดจากพืชศึกษาและพืชในฐานทรัพยากร
ท้องถิ่นชุมชนบางพูด เช่น ถ่านไฟฉายจาก
ใบกะลา ครีมทาผิวบำรุงผิวจากกุหลาบ
มอญ (Damask Rose) สบู่น้ำนมข้าว
เป็นต้น ทั้งน้ี ผู้บริหารได้นำคณะครูและ
นักเรียนไปจัดแสดงและนำเสนอผลงานใน
ง า น ป ร ะ ชุ ม วิ ช า ก า ร แ ล ะ นิ ท ร ร ศ ก า ร
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนระดับภูมิภาค
อย่างตอ่ เนื่อง
การมีส่วนรว่ มของชุมชน
ภาพท่ี ๙ แสดงการมีสว่ นร่วมของชมุ ชน และผู้ปกครอง
ท่ีมสี ่วนชว่ ยสนับสนนุ การดำเนนิ งานของโรงเรียน
26
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน
ตวั อยา่ งบทเรยี นการจัดการเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ
ในงานท่ีเก่ียวเน่ืองกับงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนน้ัน โรงเรียน
พิชญศึกษาได้นำนักเรียนไปสำรวจและจัดทำฐานทรัพยากรท้องถิ่นชุมชน
บางพูด โดยเกบ็ รวบรวมข้อมูลทางด้านกายภาพ ชวี ภาพ รวมทั้งวัฒนธรรม
และภูมิปัญญาของชุมชนบางพูด ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน หลังจากท่
ี
คณะทำงานดำเนินการมาระยะหนึ่งได้พบข้อมูลที่น่าสนใจ คือ ในพื้นที่
ตำบลบางพูดยังคงมีพ้ืนที่สวนและพรรณไม้ท้องถิ่นเป็นจำนวนมากและมี
วัดเก่าแก่ที่มากคุณค่าสมควรแก่การอนุรักษ์ ผลจากการดำเนินการสำรวจ
และจัดทำฐานทรัพยากรท้องถ่ินชุมชน ทำให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือกัน
ระหว่างโรงเรียน หน่วยงานภายนอก และชุมชน ผู้นำชุมชน คนท้องถ่ิน
มีส่วนสนับสนุนการดำเนินงานของโรงเรียนในมิติต่าง ๆ โดยเฉพาะ
ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ ดา้ นตา่ ง ๆ อาทิ ดา้ นพชื พรรณและสมนุ ไพร ดา้ นวฒั นธรรม
ด้านหัตถกรรม ได้อนุเคราะห์ให้นักเรียนและครูใช้พื้นที่ของตนและชุมชน
เป็นแหล่งเรียนรู้ มอบพืชพรรณไม้หายากให้โรงเรียนนำมาปลูก และให้
ข้อมูลความรู้เก่ียวกับฐานทรัพยากรท้องถิ่น ทำให้นักเรียนได้เรียนรู้วิถีชีวิต
และวฒั นธรรมของคนในทอ้ งถ่ินชมุ ชน
ผลท่เี กดิ ขนึ้
๑. ด้านวิชาการ การดำเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนส่งผล
ให้นักเรียนเกิดความรู้ด้านพฤกษศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาและศิลปะ
มีทักษะในการในการสืบค้นความรู้ด้วยตนเอง ซึมซาบองค์ความรู้ จดจำ
และคดิ วเิ คราะหอ์ ยา่ งเปน็ ระบบ พรอ้ มนำไปใชใ้ นปจั จบุ นั และอนาคต สง่ ผล
ให้มีนักเรียนจำนวนหนึ่งเป็นนักเรียนรางวัลพระราชทานสร้างชื่อเสียงให้
โรงเรียนอย่างต่อเนื่อง ด้านคณะครูได้ทบทวนความรู้ ความเข้าใจ เทคนิค
วิธีสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง การบูรณาการ การใช้ทฤษฎีพหุปัญญา
27
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน
ตวั อย่างบทเรยี นการจัดการเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ
การสอนโดยกระตุ้นให้เกิดองค์ความรู้ ได้พัฒนาความรู้ และความสามารถ
ในการสอนอย่างตอ่ เนื่อง
๒. ด้านภูมิปัญญา นักเรียนมีการเรียนรู้ท่ีมีพืชเป็นปัจจัย มีการ
จัดการและคิดอย่างเป็นข้ันตอน รวมทั้งประยุกต์ใช้วัสดุอุปกรณ์ และ
เทคโนโลยีต่าง ๆ ตลอดจนนำนวัตกรรมมาใช้ในการศึกษาพันธุกรรมพืช
เชน่ การเพาะเลี้ยงเน้อื เยอ่ื การขยายพนั ธดุ์ ว้ ยวิธีตา่ ง ๆ การทดลองนำสว่ น
ประกอบของพชื มาทำเป็นผลติ ภณั ฑ์ เพ่อื ใชป้ ระโยชน์ในชวี ติ ประจำวัน
๓. ด้านคุณธรรมและจริยธรรม นักเรียนเกิดความสุขเม่ือได้
ศกึ ษาสงิ่ ทร่ี กั ทำส่งิ ท่ีชอบ ค้นคว้าสิง่ ที่สนใจ เกิดคุณธรรมจากกระบวนการ
เรียนรู้ เช่น ความเพียร ความอดทน ความรับผิดชอบ ความสามัคคี และ
ความมเี มตตา เกดิ ประสบการณ์ ครไู ดพ้ ฒั นาบทบาทและหนา้ ทคี่ วามเปน็ ครู
ในการปลูกฝัง ส่ังสอนความรู้คู่คุณธรรมแก่ศิษย์ โรงเรียนเกิดกระบวนการ
ร่วมแรงร่วมใจของผู้เก่ียวข้องในการพัฒนากระบวนวิธี ท้ังการบริหาร
จัดการการเรียนการสอน และการดำเนินการตามภารกิจขององค์กร
บนฐานงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนเกิดกระบวนการพัฒนาด้านวิชาการ
ดา้ นบคุ ลากร ดา้ นอาคารสถานท่ี และด้านงบประมาณอยา่ งตอ่ เน่อื ง
บทสรปุ ความสำเร็จ นอกจากผลสำเร็จทเ่ี กดิ ข้นึ ทั้ง ๓ ดา้ นทก่ี ล่าว
มาแล้ว โรงเรียนยังได้รับเชิญให้ไปจัดแสดงและนำเสนอผลงาน ถ่ายทอด
ประสบการณ์ในงานประชุมวิชาการและนิทรรศการสวนพฤกษศาสตร์
โรงเรยี น งานประชมุ และนทิ รรศการเกยี่ วกบั การอนรุ กั ษพ์ ชื พรรณทรพั ยากร
และส่ิงแวดล้อม ตลอดจนได้รับรางวัลที่เก่ียวข้องกับการดำเนินงาน
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน เช่น
28
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
ตวั อย่างบทเรยี นการจัดการเรยี นรู้ตามแนวพระราชดำร
ิ
ภาพที่ ๑๐ แสดงการเข้ารว่ มจดั นทิ รรศการในงานประชมุ วชิ าการและนิทรรศการ ประจำปีตา่ ง ๆ
● รับพระราชทาน เกียรติบัตรงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
ขั้นที่ ๒ “เกียรติบัตรแห่งการเข้าสู่สถานภาพสถานศึกษาอบรมสั่งสอน
เบ็ดเสร็จ บนฐานงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน” เมือ่ ปี พ.ศ. ๒๕๕๒
● รับโล่และปา้ ย “โรงเรียนสีเขียว” ในโครงการยกระดบั หอ้ งเรยี น
สีเขียวมุ่งสู่โรงเรียนสีเขียว เพ่ือสร้างเครือข่ายรักษ์พลังงาน ประจำป
ี
พ.ศ. ๒๕๕๒ โดยการไฟฟา้ ฝา่ ยผลิตแหง่ ประเทศไทย
● รับโล่รางวัล มาตรฐานสถานศึกษาดีเด่นด้านพลังงาน ๕ ดาว
(ENERGY MIND AWARD) ตามโครงการคืนโลกสดใส ลดใช้พลังงาน
ประจำปี ๒๕๕๒ – ๒๕๕๓
● พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ
ประทานโล่รางวัล มาตรฐานสถานศึกษาดีเด่นด้านพลังงาน ๕ ดาว ตาม
โครงการคนื โลกสดใส ลดใช้พลงั งาน ระยะที่ ๒ ประจำปี ๒๕๕๕ – ๒๕๕๖
29
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน
ตัวอย่างบทเรียนการจดั การเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ
โรงเรียนไทยนิยมสงเคราะห
์
ข้อมูลโรงเรยี น
โรงเรียนไทยนิยมสงเคราะห์ เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ ตั้งอยู่
เลขท่ี ๔๘ ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
ก่อตั้งเม่ือวันท่ี ๒๔ มิถุนายน ๒๔๘๔ โดยความอนุเคราะห์จากบริษัท
30
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
ตวั อยา่ งบทเรียนการจัดการเรยี นรตู้ ามแนวพระราชดำร
ิ
ไทยนยิ มพานิช จำกัด เป็นผใู้ ห้ทุนในการกอ่ สร้าง เริ่มแรกสงั กัดกรมสามัญ
ศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ต่อมาโอนเข้าสังกัดกรุงเทพมหานคร ตาม
ประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๓๓๕ ลงวันที่ ๑๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๕
ปัจจุบันเปิดสอนตั้งแต่ระดับช้ันอนุบาลถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๓
มีห้องเรียนทั้งสิ้น ๙๐ ห้องเรียน จากสารสนเทศปีการศึกษา ๒๕๖๐
มีนักเรียนทั้งสิ้น จำนวน ๒,๙๓๖ คน ข้าราชการครูจำนวน ๑๒๙ คน
พี่เลย้ี งเด็ก ๑๒ คน เจ้าหนา้ ท่แี ละพนกั งานอน่ื รวม ๑๔ คน โรงเรียนมพี ้นื ที่
จำนวน ๑๓ ไร่ ๒ งาน ๕๑ ตารางวา สภาพชุมชนรอบบริเวณโรงเรียน
ระยะทางไม่เกิน ๕ กิโลเมตรเป็นชุมชนเมือง ประชากรอาศัยอยู่ค่อนข้าง
หนาแน่น ฐานะทางเศรษฐกิจของประชากรมีตั้งแต่ระดับค่อนข้าง
ขาดแคลนไปจนถึงระดับปานกลาง นักเรียนมาจากครอบครัวท่ีแตกต่างกัน
ท้ังทางเศรษฐกิจและพ้ืนฐานการศึกษาของผู้ปกครอง ครอบครัวส่วนใหญ่
ประกอบอาชีพรบั จา้ ง รองลงมา คือ นักธุรกจิ และคา้ ขาย
โรงเรียนไทยนิยมสงเคราะห์เข้าร่วมเป็นสมาชิกสวนพฤกษศาสตร์
โรงเรียนิ ต้ังแต่ปีการศึกษา ๒๕๕๐ ได้รับป้ายสนองพระราชดำริใน
งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๓ และได้รบั พระราชทาน
เกียรติบัตรงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ขั้นที่ ๑ เม่ือปี พ.ศ. ๒๕๕๕
นอกจากนี้ พรรณไมใ้ นโรงเรียนท่ีข้นึ ทะเบยี นแล้ว จำนวน ๑๕๐ ชนดิ
31
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน
ตัวอยา่ งบทเรียนการจดั การเรียนรตู้ ามแนวพระราชดำร
ิ
ถ.พหลโยธิน
กรมทหารขนสง่
รกั ษาพระองค์
สน.บางเขน
อาคารพาณิชย
์
หมู่บ้านอมั รนิ ทร
์ 1 : 500
ภาพท่ี ๑๑ แสดงผงั พน้ื ที่ศกึ ษาของโรงเรียนไทยนยิ มสงเคราะห
์
32
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
ตัวอยา่ งบทเรียนการจัดการเรียนรตู้ ามแนวพระราชดำร
ิ
การดำเนินงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน
จากปรัชญาการสร้างนักอนุรักษ์ ตามแนวทางการดำเนินงาน
ของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเน่ืองมาจากพระราชดำริ สมเด็จ
พระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ความว่า
“การใหส้ มั ผัสในสงิ่ ทีไ่ มเ่ คยได้สัมผัส การรูจ้ ริงในส่ิงที่ไม่เคยได้รู้จริง
เปน็
ปัจจัยสูจ่ ินตนาการ
เปน็
เหตุแห่งความอาทร การุณย์ สรรพชีวิต สรรพส่ิง”
ทำให้ผู้บริหารและคณะครูโรงเรียนไทยนิยมสงเคราะห์เกิดแนวคิด
ท่ีจะสนองพระราชดำริ และเข้าร่วมเป็นสมาชิกสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
ตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๕๐ โดยมุ่งหวังให้นักเรียนได้เรียนรู้โดยการสัมผัส
ของจรงิ จนรทู้ กุ สง่ิ ทกุ อยา่ ง สามารถสรา้ งจนิ ตนาการ เกดิ ความคดิ สรา้ งสรรค์
เกิดความรักความผูกพัน มีสุนทรียภาพ ความเอ้ืออาทรจนตระหนัก
ในความรับผิดชอบต่อชีวิตทุกชีวิต เห็นความสำคัญของการอนุรักษ
์
พันธุกรรมพืช เรียนรู้ทรัพยากรใกล้ตัวอย่างถ่องแท้ จริงจัง เพ่ือให้เกิด
จติ สำนกึ รกั หวงแหน และอยรู่ ว่ มกนั กบั ธรรมชาตอิ ยา่ งพงึ่ พาอาศยั กนั และกนั
การดำเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนของโรงเรียนไทยนิยม
สงเคราะห์ได้กำหนดแนวทางการปฏิบัติไว้ ๔ ประการ ประกอบด้วย
๑) เน้นให้นักเรียนเรียนรู้โดยการปฏิบัติจริง มีส่วนร่วมทุกข้ันตอน ๒) จัด
กระบวนการเรียนรู้โดยใช้งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนเป็นสื่อการเรียนรู้
๓) จัดการเรียนการสอนโดยบูรณาการงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนเข้า
กับทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ของหลักสูตรแกนกลาง และ ๔) ให้ครูเป็น
พ่ีเลี้ยงคอยให้คำแนะนำ กระตุ้น ให้นักเรียนทำกิจกรรมให้ครบสมบูรณ
์
ตามแผน
33
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
ตวั อย่างบทเรียนการจัดการเรียนรูต้ ามแนวพระราชดำริ
การเตรียมการดา้ นการบริหารและการจดั การ
ผู้บริหารโรงเรียนได้ชี้แจงสร้างความเข้าใจแก่คณะครู และนำ
แนวทางการบรหิ ารจดั การสถานศกึ ษาตามพระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษาแหง่ ชาติ
ท้ัง ๔ ภารกิจ คือ ด้านวิชาการ ด้านงบประมาณ ด้านบริหารบุคคล
และด้านบริหารทั่วไปมาประยุกต์ใช้เพ่ือเสริมการบริหารจัดการงาน
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โดยมอบหมายให้คณะผ้บู รหิ าร ซงึ่ ประกอบด้วย
รองผู้อำนวยการ ผู้ช่วยผู้อำนวยการในแต่ละด้านมีหน้าที่กำกับ ดูแล และ
ใหก้ ารสนับสนนุ การดำเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน พร้อมทงั้ กำหนด
ให้บรรจุงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนไว้ในแผนปฏิบัติการประจำปีของ
โรงเรียน แต่งตั้งคณะกรรมการในแต่ละองค์ประกอบและสาระการเรียนรู้
ของงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน แต่งต้ังคณะกรรมการฝ่ายวิชาการเป็น
แกนกลางในการขับเคลื่อนภารกิจด้านการจัดการเรียนรู้แก่นักเรียน และ
แต่งตั้งให้คณะครูจากกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เป็นผู้ประสานงาน
งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
คณะกรรมการฝา่ ยวิชาการ คณะผู้ประสานงานโครงการไดร้ ่วมกับ
ฝ่ายอาคารสถานที่ของโรงเรยี นทำการสำรวจพืน้ ที่ พชื ศกึ ษา และพรรณไม้
ต่าง ๆ ในโรงเรียนท่ีมีอยู่เดิม แล้ววางแผนการใช้พ้ืนท่ี กำหนดเขตพ้ืนที่
ศึกษา พัฒนาสภาพ บรรยากาศและส่ิงแวดล้อมให้เอื้ออำนวยต่อการ
จัดการเรยี นรู้ จัดหาวัสดอุ ุปกรณ์ทจี่ ำเป็นต่อการจดั การเรยี นรู้ และนำพชื ท่ี
กำหนดเป็นศึกษามาปลูกเพิ่มเติมเพื่อให้มีจำนวนเพียงพอสำหรับการศึกษา
ของนกั เรยี น และเหมาะสม สอดคลอ้ งกบั การศกึ ษาแตล่ ะสว่ นประกอบยอ่ ย
34
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน
ตัวอย่างบทเรยี นการจัดการเรียนร้ตู ามแนวพระราชดำร
ิ
การมอบหมายหนา้ ทีร่ บั ผิดชอบแกค่ ณะครแู ละการพฒั นาคร
ู
โรงเรียนได้มอบหมายให้คณะครูรับผิดชอบงานเป็นทีมเพื่อ
ขับเคล่ือนภารกิจการบูรณาการงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนเข้าสู่การจัด
การเรียนรู้ตามองค์ประกอบ ๕ องค์ประกอบ (การจัดทำป้ายช่ือพรรณไม้
การรวบรวมพรรณไม้เข้าปลูกในโรงเรียน การศึกษาข้อมูลด้านต่าง ๆ
การรายงานผลการเรียนรู้ การนำไปใช้ประโยชน์ทางการศึกษา) และ
๓ สาระการเรยี นรู้ (ธรรมชาติแห่งชีวติ สรรพสง่ิ ล้วนพันเกย่ี ว ประโยชนแ์ ท้
แก่มหาชน) คณะกรรมการ คณะทำงานด้านต่าง ๆ ท้ังดา้ นการบริหารและ
การจัดการ ด้านการดำเนินงาน ด้านผลการดำเนินงาน ด้านความถูกต้อง
ทางวิชาการ หัวหน้าสายช้ัน และหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้หลักสูตร
แกนกลางไดป้ ระชมุ ปรกึ ษาหารอื ประสานงานและวางแผนการขบั เคลอื่ นงาน
ร่วมกนั
ภาพที่ ๑๒ แสดงการประชมุ มอบหมายหนา้ ทรี่ บั ผิดชอบ และปรกึ ษาหารือ
วางแผนการขับเคล่ือนการเรียนการสอนด้วยงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น
ในชว่ งเริ่มตน้ ผูบ้ ริหารและคณะครจู ำนวนหนง่ึ ท่เี ก่ียวขอ้ งในแต่ละ
องค์ประกอบ/สาระการเรียนรู้ได้เข้าอบรมแนวทางการจัดการเรียนรู้ตาม
องค์ประกอบและสาระการเรียนรู้ของงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
หลักสูตรการอบรม ๕ วัน โดยวิทยากรจากโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช
35
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น
ตัวอย่างบทเรียนการจัดการเรียนรตู้ ามแนวพระราชดำร
ิ
อนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำริ ฯ เป็นผู้ใหก้ ารอบรม จากนนั้ ได้กลับมาประชุม
ชี้แจงแนวทางการปฏิบัติแก่คณะครูท้ังโรงเรียน ต่อมาผู้แทนคณะคร
ู
ที่รับผิดชอบแต่ละองค์ประกอบได้ไปประชุมและเข้าอบรมเพิ่มเติมเกี่ยวกับ
การจดั การเรยี นรใู้ นองคป์ ระกอบทเ่ี กยี่ วขอ้ งตามฐานอบรมโรงเรยี นเครอื ขา่ ย
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนพ้ืนท่ีกรุงเทพมหานครที่โครงการอนุรักษ์
พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ฯ จัดการประชุมและอบรม
(จัดการประชุม อบรม ประมาณครั้งละ ๒ วัน) แล้วกลับมาขยายผล
แกค่ ณะครทู กุ คนทงั้ ครทู รี่ บั ผดิ ชอบองคป์ ระกอบเดยี วกนั และครทู รี่ บั ผดิ ชอบ
องค์ประกอบอ่นื เพื่อใหบ้ รรลเุ ปา้ หมายการพฒั นา
“ใหค้ รทู ุกคนรู้ลึกรู้จริง (ชำนาญในการปฏิบัติ) ในองคป์ ระกอบ
ท่ีรับผิดชอบ และเขา้ ใจภาพรวม ปฏบิ ตั ิได้ตามองค์ประกอบท้งั หมด”
ภาพท่ี ๑๓ แสดงการเขา้ ร่วมประชมุ วิชาการและจดั นทิ รรศการในแต่ละป
ี
36
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น
ตวั อย่างบทเรยี นการจดั การเรยี นรตู้ ามแนวพระราชดำริ
คณะครูและนักเรียนบางส่วนได้เข้าร่วมงานการประชุมวิชาการ
และนิทรรศการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนและฐานทรัพยากรท้องถิ่นระดับ
ภูมิภาค ขณะที่คณะครูผู้ประสานงานโครงการงานสวนพฤกษศาสตร์
โรงเรียนได้เข้าร่วมการประชุมกลุ่มที่จัดข้ึนเป็นระยะ ๆ ทำให้ทราบ
ข้อมูล แนวทางการดำเนินงาน และข้อมูลใหม่ ๆ จากโครงการอนุรักษ์
พันธุกรรมพืช ฯ และประสบการณ์จากโรงเรียนเครือข่ายที่สามารถนำมา
พัฒนางานได้
ในดา้ นการเตรยี มการด้านวชิ าการนนั้ คณะครเู ล่าวา่
“จะพูดคุยสนทนา เสวนากัน หรือประชุมปรึกษาหารือ
แลกเปลยี่ นเรยี นรกู้ นั ในตอนเชา้ ทกุ วนั ชว่ งเวลากอ่ นการเขา้ แถว
เคารพธงชาติ ทั้งเก่ียวกับการจัดทำแผนจัดการเรียนรู้
แบบบูรณาการของกลุ่มสาระการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลาง
การดำเนินงานด้านองค์ประกอบของงานสวนพฤกษศาสตร์
โรงเรียน และการดำเนินงานสาระการเรียนรู้พืชศึกษา ซ่ึงเป็น
ช่องทางและวิธีการสำคัญประการหน่ึงในการเสริมสร้างความรู้
ความสามารถแก่คณะครู และเป็นเวทีสำหรับส่ือสารสร้าง
ความรคู้ วามเขา้ ใจ สร้างกำลงั ใจในหมคู่ ณะของครู”
37
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
ตัวอยา่ งบทเรียนการจดั การเรียนร้ตู ามแนวพระราชดำร
ิ
ตัวอยา่ งผังมโนทศั น์การบูรณาการงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น
กบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้หลกั สตู รแกนกลาง
38
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
ตัวอย่างบทเรยี นการจัดการเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ
39
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
ตวั อยา่ งบทเรียนการจัดการเรียนร้ตู ามแนวพระราชดำร
ิ
การบูรณาการการเรียนรู้งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนกับ
หลักสตู รแกนกลาง
ในระยะเตรียมการ ฝ่ายวิชาการ โดยคณะครูจากกลุ่มสาระ
การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ หลักสูตรแกนกลาง (หลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑) ร่วมกับคณะครูที่รับผิดชอบในแต่ละ
องค์ประกอบของงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนได้ร่วมกันวิเคราะห
์
ความสอดคล้องระหว่างตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้ ๘ กลุ่มสาระในแต่ละ
ระดับชั้นของหลักสูตรแกนกลางกับสาระการเรียนรู้ องค์ประกอบและ
ลำดับการเรียนรู้ของแต่ละองค์ประกอบของงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
แล้วจัดทำผังมโนทัศน์แนวทางการบูรณาการ จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้
ใบความรู้ ใบงาน โดยรว่ มกนั ทำไป พฒั นาไปทลี ะกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ทงั้ น้ี
มที ง้ั ทไ่ี ดพ้ ฒั นาแผนการจดั การเรยี นรู้ พฒั นาสอ่ื ใบความรู้ ใบงานขนึ้ มาใหม่
และมีบางส่วนที่ได้ปรับ ประยุกต์ใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ใบความรู้
ใบงานท่ีโรงเรียนอ่ืนนำมาใช้หรือดำเนินการมาก่อน ทำให้ได้แผนการ
จดั การเรยี นรทู้ เี่ ปน็ แผนบรู ณาการงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี นทแ่ี สดงใหเ้ หน็
วิธีการจัดการเรียนรอู้ ย่างชัดเจนในทุกระดับชัน้ และทกุ กลุ่มสาระการเรียนรู้
จากน้ันได้ประชุมช้ีแจงทำความเข้าใจแก่คณะครูท้ังโรงเรียนถึงแนวทาง
การจัดการเรียนการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ การใช้สื่อ ใบความรู้
ใบงาน และวัสดุอุปกรณ์ท่ีเกี่ยวข้อง แล้วให้คณะครูนำไปใช้ในการจัด
การเรียนการสอนตอ่ ไป
40
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น
ตวั อยา่ งบทเรยี นการจดั การเรยี นรตู้ ามแนวพระราชดำร
ิ
การจดั การเรยี นรตู้ ามองคป์ ระกอบงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
นับตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๕๕ โรงเรียนได้แบ่งพ้ืนท่ีภายในโรงเรียน
เปน็ พนื้ ทศ่ี กึ ษาพรรณไมข้ องนักเรียน ออกเป็น ๖ พน้ื ท่ี ในการลงไปศึกษา
เรียนรู้พรรณไม้นักเรียนในพ้ืนท่ีศึกษาน้ัน นักเรียนจะหมุนเวียนกันลงไป
สำรวจ ศึกษา เรียนรู้พรรณไม้ในพื้นท่ีศึกษาท่ีได้รับมอบหมาย และศึกษา
พืชศึกษาของโรงเรียนอย่างละเอียด โดยใช้เวลาตามคาบเวลาเรียนปกติ
และเวลาในช่วง “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ตามที่ครูผู้สอนในระดับชั้น
แต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้มอบหมาย ในแต่ละพื้นที่ศึกษาพรรณไม้นั้น
ประกอบด้วยพรรณไม้หลากหลายชนิดทั้งไม้ต้น ไม้พุ่ม ไม้ล้มลุก ไม้เล้ือย
ไม้ดอก พชื สมนุ ไพร พืชอาหาร และอืน่ ๆ ในแตล่ ะพน้ื ท่ีศึกษาจะมีนกั เรียน
หลายระดับชัน้ เขา้ ศกึ ษา คณะครจู ะเปน็ ผู้เตรียมการสอน แนะนำการเรยี น
รแู้ กน่ ักเรียนและมอบแนวทางการเขา้ ศกึ ษา โดยให้ “พีช่ ่วยน้อง เพ่ือนช่วย
เพื่อน”
นักเรียนทุกคนจะได้รับสมุดบันทึกข้อมูล “การศึกษาพรรณไม้ใน
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน” ตามระดับชั้นที่ตนเองกำลังศึกษาอยู่
สมดุ บนั ทกึ ขอ้ มลู ดงั กลา่ วมี ๓ เล่ม คอื
๑) สมุดบันทึกข้อมูลการศึกษาพรรณไม้ในสวนพฤกษศาสตร์
โรงเรียน ระดับชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ - ๓
๒) สมุดบันทึกข้อมูลการศึกษาพรรณไม้ในสวนพฤกษศาสตร์
โรงเรยี น ระดับชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๔ - ๖
๓) สมุดบันทึกข้อมูลการศึกษาพรรณไม้ในสวนพฤกษศาสตร์
โรงเรียน ระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑ - ๓
สมุดบนั ทึกแต่ละเล่มมเี นือ้ หาสาระและกจิ กรรมทก่ี ำหนดให้ปฏบิ ัติ
โดยบรู ณาการระหวา่ งสาระการเรยี นรตู้ ามหลกั สตู รแกนกลางขน้ั พนื้ ฐานกบั
41