สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น
ตัวอย่างบทเรยี นการจัดการเรียนรตู้ ามแนวพระราชดำริ
ผบู้ ริหารและคณะครูมีการทำงานเป็นทมี และแลกเปล่ยี นเรยี นร้จู น
เป็นกิจวัตร มีความเอื้ออาทรและมีความสุขในการจัดการเรียนการสอน
และพัฒนาศักยภาพของนักเรียน มีความชำนาญในการจัดทำหลักสูตรและ
พัฒนาหลักสูตรบูรณาการ การเขียนแผนการสอนแบบบูรณาการ การจัด
กระบวนการเรียนการสอนแบบบูรณาการ และการสร้างบรรยากาศที่เอื้อ
ต่อการเรยี นร้ขู องนักเรียน
บทสรุปความสำเร็จ จากการท่ีโรงเรียนวัดประชาระบือธรรม
สมัครเข้าเป็นสมาชิกงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน เม่ือปี พ.ศ. ๒๕๔๙
และใช้เวลากว่าสิบปีจึงผ่านการประเมินได้เข้ารับพระราชทานเกียรติบัตร
งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น ขนั้ ท่ี ๑ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ ซึง่ จะเห็นไดว้ ่า
ผู้บริหาร คณะครู และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องท้ังภายในและภายนอกโรงเรียนได้
ร่วมกันเพียรพยายามดำเนินการจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้าง
จิตสำนึกการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ
ผบู้ รหิ ารและคณะครูเล่าวา่
“การดำเนินงานที่ผ่านมาเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ค่อย ๆ
เรียนรู้ ในเร่ืองที่ยังไม่รู้ ในบางครั้ง บางเรื่อง คุณครูก็เรียนรู้
ไปพร้อม ๆ กับเด็ก หากทำได้แต่ผลยังไม่ดี ก็จะพยายาม
ค้นคว้า ทดลอง กลั่นกรอง ปรับปรุงไปเร่ือย ๆ ปรับการเรียน
เปลี่ยนการสอนงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนเข้ากับครรลอง
ของชีวิตในโรงเรียนก็ทำให้งานเดินหน้าไปไนทางท่ีดีข้ึน
บางคร้ังก็มีเหนื่อยบ้าง แต่เม่ือเห็นว่าเกิดผลลงสู่เด็ก (นักเรียน
มีความสุข มีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้เร่ืองพรรณพืช)
จงึ ทำใหฮ้ ดึ ส”ู้
92
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น
ตวั อยา่ งบทเรยี นการจดั การเรียนรตู้ ามแนวพระราชดำร
ิ
ภาพท่ี ๓๕ ผแู้ ทนโรงเรียนวัดประชาระบือธรรม
เขา้ รบั พระราชทานเกียรตบิ ตั รงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ขัน้ ท่ี ๑
การได้มีส่วนร่วมดำเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ทำให
้
คณะครูและผู้เก่ียวข้องเกิดการเรียนรู้จากการปฏิบัติ มีความเข้าใจ
อยา่ งแทจ้ รงิ ในเรอื่ งการจดั การเรยี นรแู้ บบบรู ณาการ สว่ นการรบั การประเมนิ
มีส่วนสำคัญทำให้คณะครูและผู้เก่ียวข้องทุกฝ่ายได้รับข้อมูลย้อนกลับ
(feedback) ว่าการดำเนินงานท่ีผ่านมาของโรงเรียนเป็นไปในทิศทางที่
สอดคล้องกับหลักการดำเนินงานของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช
อนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำริ ฯ และบรรลผุ ลลพั ธท์ พ่ี งึ ประสงคห์ รอื ไม่ เพยี งใด
ขณะเดียวกันยังได้รับคำชี้แนะเก่ียวกับแนวทางการปรับปรุง พัฒนางาน
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน นำไปสู่การยกระดับความเชี่ยวชาญและ
การเรียนร้ขู องแต่ละคน แตล่ ะฝา่ ยให้มีประสิทธภิ าพมากยิง่ ขนึ้
93
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
ตวั อยา่ งบทเรยี นการจดั การเรียนรตู้ ามแนวพระราชดำริ
สรุปบทเรยี น
การจัดการเรยี นรู้สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น
จากการถอดบทเรียนการดำเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
ท้ัง ๕ แห่งท่ีเป็นกรณีศึกษา แม้จะเป็นโรงเรียนท่ีอยู่ในชุมชนเมือง แต่ก็
สามารถดำเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนให้เกิดข้ึนได้ในพื้นที่ท่ีมีบริบท
โดยรอบแตกต่างกัน วัยของนักเรียนแตกต่างกัน ระดับชั้นที่จัดการเรียน
การสอนแตกต่างกัน มีต้ังแต่ระดับปฐมวัย ระดับประถมศึกษา และระดับ
มัธยมศึกษา และต้นสังกัดของโรงเรียนท่ีเป็นกรณีศึกษาก็แตกต่างกัน มีท้ัง
ที่สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ สังกัดกรุงเทพมหานคร และเป็นสถานศึกษา
เอกชน ซึ่งโครงสร้างการบริหารงานและการกำกับดูแลแตกต่างกัน โดย
สามารถสรุปการดำเนนิ งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียนได้ ดงั นี้
94
ตารางสรุปการดำเนินงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ๕ แห่ง
หัวข้อ/โ รงเรียน โรงเรยี น โรงเรยี น โรงเรยี น โรงเรียน โรงเรียน
พชิ ญศกึ ษา ไทยนยิ มสงเคราะห์ ปากเกรด็ วัดบุญสมั พันธ์ วดั ประชาระบอื ธรรม
๑. ข้อมลู โรงเรยี น โรงเรยี นขนาดใหญ ่ โรงเรียนขนาดใหญพ่ ิเศษ โรงเรยี นขนาดใหญพ่ ิเศษ โรงเรียนขยายโอกาส โรงเรยี นขนาดกลาง
สังกัดสำนกั งาน สงั กัดสำนักงาน สงั กดั สำนักงาน ขนาดใหญ ่ สงั กัดกรงุ เทพมหานคร
คณะกรรมการ คณะกรรมการการศกึ ษา คณะกรรมการการศกึ ษา สงั กัดสำนักงาน
การศกึ ษาเอกชน (สช.) ขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ขัน้ พื้นฐาน (สพฐ.) คณะกรรมการการศึกษา
ขัน้ พื้นฐาน (สพฐ.)
๒. ขอ้ มูลสมาชิก ปีทีเ่ ขา้ เป็นสมาชิก ปีทีเ่ ข้าเป็นสมาชกิ ปที ี่เข้าเปน็ สมาชกิ ปีท่เี ข้าเปน็ สมาชกิ ปีทเ่ี ข้าเป็นสมาชกิ
สวนพฤกษศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๔๑ พ.ศ. ๒๕๕๐ พ.ศ. ๒๕๕๔ พ.ศ. ๒๕๕๕ พ.ศ. ๒๕๔๙
โรงเรยี น ปที ่ีได้รบั พระราชทาน ปีท่ีไดร้ บั พระราชทาน ปที ีไ่ ดร้ บั พระราชทาน ปที ่ีไดร้ ับพระราชทาน ปที ่ีไดร้ บั พระราชทาน
เกยี รตบิ ัตร ขั้นที่ ๒ เกียรติบตั ร ขั้นที่ ๑ เกียรติบตั ร ขั้นที่ ๑ เกียรตบิ ัตร ขน้ั ที่ ๑ เกยี รตบิ ตั ร ขนั้ ที่ ๑
พ.ศ. ๒๕๕๒ พ.ศ. ๒๕๕๕ พ.ศ. ๒๕๕๘ พ.ศ. ๒๕๕๙ พ.ศ. ๒๕๕๙
๓. การบริหารจัดการ - ปรับความรู้ สร้างความ - ชแ้ี จง สร้างความเข้าใจ - บริหารจัดการบน - แต่งตัง้ คณะกรรมการ - ประชุมปรับความเข้าใจ
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
ตัวอย่างบทเรยี นการจัดการเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ
95
เขา้ ใจแก่บคุ ลากรของ แก่บุคลากร หลกั การมีส่วนรว่ ม ตามคู่มือสวน และแบง่ หน้าท่
ี
โรงเรยี น - บรรจุโครงการงานสวน ภายใต้แนวคิด “การ พฤกษศาสตร์โรงเรียน - แตง่ ตัง้ คณะกรรมการ
- ต้ังคณะกรรมการ ๔ คณะ พฤกษศาสตร์โรงเรยี น บรหิ ารและการจัดการ - จัดประชุมบุคลากร ตามค่มู ือสวน
ตามคมู่ ือสวน ไวใ้ นแผนปฏิบัติการ แบบ ๗ สรา้ ง” ท่เี กีย่ วข้อง พฤกษศาสตรโ์ รงเรียน
พฤกษศาสตร์โรงเรยี น ประจำป ี - ประชุมช้แี จงให้แก ่ - มอบหมายครูรบั ผิดชอบ
- แตง่ ตั้ง/มอบหมายครู - แต่งตงั้ คณะกรรมการ บคุ ลากรของโรงเรียน เปน็ แกนหลักในแต่ละ
ในการดำเนินงาน ฝา่ ยวชิ าการเปน็ แกนกลาง - แต่งตั้งคณะกรรมการ องคป์ ระกอบ อย่างน้อย
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น ในการขบั เคล่ือน ตามคู่มือสวน ๒ คน
- แตง่ ตัง้ ครูในกลมุ่ สาระ พฤกษศาสตรโ์ รงเรียน - แบ่งกลุม่ สายชน้ั
การเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร ์ - กำหนดงานสวน ออกเป็น โรงเรยี นเล็ก
เป็นผปู้ ระสานงาน พฤกษศาสตรไ์ วใ้ น ในโรงเรียนใหญ”่
โครงสร้าง คอื กล่มุ งาน
บรหิ ารวชิ าการและ
แผนงาน
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
ตัวอยา่ งบทเรยี นการจัดการเรยี นรตู้ ามแนวพระราชดำร
ิ
96
ตารางสรปุ การดำเนินงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ๕ แห่ง (ตอ่ )
หัวขอ้ /โ รงเรยี น โรงเรยี น โรงเรียน โรงเรยี น โรงเรียน โรงเรียน
พิชญศึกษา ไทยนิยมสงเคราะห์ ปากเกร็ด วดั บญุ สมั พันธ ์ วัดประชาระบอื ธรรม
๔. การพัฒนาคร ู - เข้าอบรมตามหลักสูตร - เข้าอบรมตามหลักสูตร - เขา้ อบรมตามหลักสตู ร - เขา้ อบรมเครือข่าย - เข้าอบรมเครอื ข่าย
งานสวนพฤกษศาสตร ์ งานสวนพฤกษศาสตร์ งานสวนพฤกษศาสตร์ สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
โรงเรยี น โรงเรยี น/อบรมเครือข่าย โรงเรยี น - กำหนดแนวปฏิบตั ิ - ประชมุ ปรึกษาหารอื
- มอบหมายครูดแู ลต้นไม ้ สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น - มกี ารพัฒนาบคุ ลากร “ครูหน่งึ คนรู้ หลงั เลิกเรียนทกุ วนั
คนละ ๑ ตน้ เปน็ ตน้ ไม ้ - ครูเสวนาและ/ประชุม สกู่ ารเป็นวทิ ยากรงาน ครูทกุ คนตอ้ งร้”ู และประชุมประจำเดือน
ประจำตวั ปรึกษาหารือแลกเปลย่ี น สวนพฤกษศาสตร
์
- ประชุมครุทุกกลมุ่ สาระ ตอนเช้าทกุ วนั
การเรียนรู้ทุกวันพฤหสั บดี
- สนับสนุนครู ค่งู าน/เรียนร
ู้
กบั ครรู นุ่ พ่ี
๕. การบรู ณาการ - จัดประชมุ รว่ มกนั วเิ คราะห ์ - คณะกรรมการ - จัดทำแผนการจดั การ - จัดประชุมร่วมกนั - วิเคราะหต์ วั ชว้ี ัดร่วมกนั
การจดั การเรยี นร ู้ หลักสตู ร+งานสวน ฝา่ ยวิชาการร่วมกัน เรยี นรู้งาน วิเคราะหห์ ลกั สูตร+ - จัดทำผังมโนทศั น
์
พฤกษศาสตรโ์ รงเรียน วเิ คราะหห์ ลักสตู ร/ตัวช้วี ดั สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น/ งานสวนพฤกษศาสตร ์ แนวทางการบูรณาการ/
- จดั ทำผังมโนทัศน์ - จดั ทำผงั มโนทัศน ์ หลักสูตรแกนกลาง โรงเรยี น แผนการจัดการเรยี นรู
้
การบรู ณาการ แนวทางการบรู ณาการ/ - วเิ คราะห์หลกั สตู ร/ตัวชีว้ ดั - จัดทำผงั มโนทศั นแ์ นวทาง
ทุกกลุ่มสาระฯ แผนการจดั การเรียนรู้ และจดั ทำผังมโนทัศน์ การบูรณาการ/
- มีการกำหนดใหม้ ี - ประชุมชแี้ จง แนวทางการบูรณาการ แผนการจัดการเรยี นรู้
รายวชิ าสวนพฤกษศาสตร ์ ทำความเขา้ ใจใหแ้ กค่ ร ู - จดั ทำสื่อการเรียนร ู้ - มอบหมายงานช้นิ เดยี ว
โรงเรยี น แลว้ นำไปใช ้ บูรณาการทุกวชิ า
ในการจดั การเรียนร
ู้
ตารางสรปุ การดำเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ๕ แหง่ (ตอ่ )
หัวขอ้ /โ รงเรยี น โรงเรยี น โรงเรียน โรงเรยี น โรงเรียน โรงเรยี น
พิชญศกึ ษา ไทยนยิ มสงเคราะห ์ ปากเกร็ด วดั บญุ สัมพันธ์ วัดประชาระบอื ธรรม
๖. การจดั การเรียนร ู้ - กำหนดพืน้ ทศี่ กึ ษา - กำหนดพื้นทศ่ี ึกษา - กำหนดพืน้ ท่ีศึกษา - กำหนดพนื้ ทศี่ กึ ษา - กำหนดพ้นื ท่ศี ึกษา
๑๐ พน้ื ท่ี ๖ พ้นื ที ่ ๖ พื้นที่ ๔ พ้นื ท ี่ ๓ พ้นื ที่
- แบง่ กลุม่ นักเรยี น - หมนุ เวยี นศกึ ษา - แบง่ กลุ่มนักเรียน - จัดอบรมเชงิ ปฏิบตั ิการ - แบง่ กลุ่มนกั เรียน
แบบคละชนั้ พี่สอนนอ้ ง โดยใชเ้ วลาเรยี นปกต ิ กลมุ่ ละ ๑๐ คน ในแต่ละ เพือ่ จดุ ประกายความคิด ออกเปน็ ๖๓ กลุ่ม
- นำพรรณไมเ้ ขา้ ปลกู เพมิ่ เตมิ และชว่ งลดเวลาเรียน ระดับชนั้ เปน็ คณะสี ๖ ส ี แก่ครูและนักเรียนแกนนำ - การจัดการเรียนรแู้ บบ
- จัดทำหอ้ ง เพมิ่ เวลาร้ ู - ใชเ้ วลาในคาบเรียนปกต ิ - “การคละกลุม่ แนวตัง้ ” “พี่ชว่ ยนอ้ ง” และสรา้ ง
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น - มีการจดั ทำสมดุ - นักเรียนบันทึกขอ้ มลู แบ่งนกั เรยี นออกเป็น “ทายาทนักเรียนแกนนำ
จดบนั ทกึ ข้อมูล ลงในแบบบันทึก ๗๗ กล่มุ กลุ่มละประมาณ
“การศึกษาพรรณไม้ “การศึกษาพรรณไม้ ๑๒-๑๕ คน
ในสวนพฤกษศาสตร์ ในสวนพฤกษศาสตร์ - จดั ทำห้อง
โรงเรียน” โรงเรียน” สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
- มีการจัดการเรียนร้
ู
แบบพ่ชี ว่ ยน้อง
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
เพ่อื นชว่ ยเพือ่ น
ตัวอย่างบทเรยี นการจัดการเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ
97
๗. การเรียนรพู้ ชื ศกึ ษา - พืชศึกษา คือ หนอ่ กะลา - พืชศกึ ษา คือ มะกรูด - พืชศกึ ษา คือ อญั ชนั - พชื ศึกษา คอื ผักบุง้ ทะเล - พืชศึกษา ถั่วฝักยาว
และ มว่ งเทพรตั น์ และพรกิ ข้ีหน ู และลูกใตใ้ บ - การเขา้ คา่ ยสัปดาห ์ และมะเขอื เทศ
บวั หลวงขาว (เพ่มิ เตมิ ) - มกี ารสรา้ งผลติ ภณั ฑ์ เชน่ - จดั กิจกรรมคา่ ยปฏบิ ตั กิ าร สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น - จดบันทึก ถ่ายภาพ
- กจิ กรรมการเรยี นร้ ู สติกเกอร์กันยงุ จาก - สรา้ งผลิตภณั ฑ์ อาทิ - จดั ทำ “หลักสตู ร วาดภาพ รายงาน
แตกตา่ งไปตามช่วงวยั น้ำมนั มะกรดู เจลล้างมือ นำ้ ยาซักผา้ การเรยี นรผู้ กั บงุ้ ทะเล” การเรยี นรู้ตามใบงาน
- มกี ารสร้างผลติ ภัณฑ์ เช่น - จัดการเรียนรสู้ ืบค้น นำ้ ยาถพู ื้น ฯลฯ
ถ่านไฟฉายจากใบกะลา บนั ทกึ ลงสมุดบนั ทึกขอ้ มลู - จัดห้องสวนพฤกษศาสตร์
ครมี ทาผิวบำรุงผวิ - จดั การเรยี นรใู้ นลกั ษณะอน่ื โรงเรยี น
จากกหุ ลาบมอญ เชน่ การจดั ค่ายปฏิบัตกิ าร - ส่งเสรมิ กิจกรรมอื่น ๆ คือ
สบู่น้ำนมขา้ ว งานสวนพฤกษศาสตร์ ชมรมถา่ ยภาพ PK photo
การจัดนิทรรศการ - จัดนำเสนอผลงาน
เขา้ รว่ มประชมุ วิชาการ
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
ตัวอยา่ งบทเรยี นการจัดการเรยี นรตู้ ามแนวพระราชดำร
ิ
98
ตารางสรปุ การดำเนินงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ๕ แหง่ (ตอ่ )
หวั ขอ้ /โ รงเรยี น โรงเรียน โรงเรียน โรงเรยี น โรงเรยี น โรงเรียน
พิชญศึกษา ไทยนยิ มสงเคราะห์ ปากเกร็ด วดั บุญสัมพันธ์ วัดประชาระบือธรรม
๘. การมสี ่วนร่วม - ศกึ ษากับฐานทรพั ยากร - จดั ทำฐานทรพั ยากรทอ้ งถนิ่ - ผู้ปกครอง ศษิ ย์เก่า - ร่วมกบั มหาวิทยาลัยบรู พา - เรียนรู้ต้นไมห้ ายากภายใน
ของชมุ ชน ท้องถ่นิ ชมุ ชนบางพดู - มีความร่วมมอื กบั มคี วามรเู้ ร่ืองพืชสมนุ ไพร ทำวิจยั เร่ืองผักบงุ้ ทะเล วดั ประชาระบือธรรม
- นำปราชญ/์ ภมู ปิ ญั ญา กรุงเทพมหานคร - ผู้นำชุมชนและภมู ิปัญญา นำไปสกัด แปรรูป - สำรวจโบราณสถาน
ทอ้ งถนิ่ มาให้ความรู้ เช่น ผู้ปกครอง ศษิ ย์เกา่ ทอ้ งถ่ินมาให้ความรู้ เปน็ ผลิตภัณฑ์ ยาหมอ่ ง โบราณวัตถุในชมุ ชน
ดา้ นพชื พรรณและสมนุ ไพร, กรมทหารขนสง่ เป็นต้น การทำธงตะขาบ - มอี าสาสมัครผู้ปกครอง
ดา้ นวัฒนธรรม, - การนำนกั เรียนไปศกึ ษา ๑๐ คน
ด้านหัตถกรรม ข้อมูลชุมชน
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
ตัวอย่างบทเรยี นการจดั การเรยี นรู้ตามแนวพระราชดำริ
จากการวิเคราะห์ความสอดคล้องแนวการปฏิบัติงานที่ดีของทั้ง ๕
โรงเรียน พบว่า มีข้อค้นพบและข้อสังเกตที่น่าสนใจหลายประการ พอจะ
สรปุ บทเรยี นจากการดำเนินงานได้ ดงั น้ี
การเตรยี มการก่อนจดั การเรียนร
ู้
ในระยะเตรยี มการเพอื่ ใหโ้ รงเรยี นมคี วามพรอ้ มในการจดั การเรยี นรู้
แกน่ กั เรยี น โรงเรยี นตอ้ งเตรยี มความพรอ้ มหลายประการ เชน่ การมอบหมาย
หน้าทค่ี วามรับผิดชอบ การสร้างความร้คู วามเข้าใจแกค่ ณะครแู ละบคุ ลากร
การวางแผนการใช้พ้ืนที่ กำหนดเขตพื้นที่ศึกษา การพัฒนาอาคารสถานที่
การปรับปรุงโครงสร้างพ้นื ฐาน การจัดทำแผนการเรียนรู้ เปน็ ตน้
การวางแผนการใช้พ้ืนที่ การพัฒนาอาคารสถานที่ การปรับปรุง
โครงสร้างพ้ืนฐาน เปน็ ข้อแนะนำทคี่ ณะครทู ใ่ี หข้ ้อมูลเหน็ วา่ ควรดำเนินการ
ใหร้ อบคอบ โดยควรดำเนินการ ดงั น้
ี
(๑) กำหนดเขตพื้นที่เพื่อพัฒนาให้เป็นพื้นที่สีเขียว เป็น
สวนพฤกษศาสตร์สาธิต หรือเป็นพื้นที่ศึกษา โดยคำนึงถึงภูมิศาสตร์และ
ศักยภาพของแต่ละพ้นื ท
ี่
(๒) สำรวจ ศึกษา วิเคราะห์ศักยภาพทางภูมิศาสตร์ เพื่อนำไป
ประกอบการพิจารณาเลือกพืชพรรณที่เหมาะสมกับสภาพพื้นท่ีเข้ามาปลูก
เสรมิ ปลกู แซมพชื พรรณไม้ที่มอี ยู่เดิม
(๓) นำพืชที่กำหนดเป็นศึกษามาปลูกเพ่ิมเติม เพ่ือให้มีจำนวน
เพียงพอสำหรบั การศึกษาของนกั เรยี น
(๔) จดั หาวสั ดอุ ปุ กรณ์ที่ต้องใช้ในการเรียนร้ตู ามองคป์ ระกอบของ
งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน
99
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
ตัวอย่างบทเรยี นการจดั การเรยี นรู้ตามแนวพระราชดำริ
(๕) ปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคข้ันพื้นฐานภายในโรงเรียน
หลายอยา่ ง เชน่ ปรบั ปรงุ ระบบไฟฟา้ ระบบอนิ เทอรเ์ นต็ ระบบนำ้ ปรบั ปรงุ
ซ่อมแซมส่ิงก่อสร้างเดิมให้มีความพร้อมในการใช้งาน มีความปลอดภัย
สำหรบั การใชง้ านของนักเรยี นและคร
ู
(๖) ยดึ หลกั “นำทกุ สง่ิ ทกุ อยา่ งทมี่ อี ยใู่ นโรงเรยี นมาใชเ้ พอ่ื การเรยี นร”ู้
หมายถึงเร่ิมตน้ พัฒนาจากพชื ชวี ภาพ ที่มีอยูเ่ ดิม ลักษณะกายภาพ อาคาร
สถานทเี่ ดิมของโรงเรียน และแสวงหาการสง่ เสรมิ สนบั สนุน และความร่วม
มือจากชุมชน หนว่ ยงานและองคก์ รเครอื ขา่ ยทเี่ กีย่ วข้องทุกฝา่ ย ทุกระดับ
หลกั การและแนวทางการบรหิ ารและการจัดการ
จุดเร่ิมต้นท่ีสำคัญที่ผู้บริหารของโรงเรียนที่เป็นกรณีศึกษามี
ความคิดเห็นสอดคล้องกัน คือ การปรับความรู้ สร้างความเข้าใจกับ
บุคลากรทุกฝ่ายของโรงเรียน เพื่อให้คณะครูและบุคลากรทุกคนมีตระหนัก
ในความสำคัญและมคี วามเขา้ ใจในแนวพระราชดำริ ฯ และเขา้ ใจเป้าหมาย
แนวคิด แนวทางการบริหารจัดการ และการดำเนินงานสวนพฤกษศาสตร์
โรงเรียน เพ่ือให้มีความพร้อม ร่วมแรงร่วมใจที่จะปฏิบัติงานในหน้าท่
ี
ทไี่ ด้รับมอบหมายให้บรรลุผลลพั ธท์ ่ตี อ้ งการ
100
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
ภาพ ่ีท ๓๖ แสดงการบ ิรหารและการ ัจดการแบบ ๗ ส ้ราง
ตัวอย่างบทเรยี นการจัดการเรยี นร้ตู ามแนวพระราชดำริ
101
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
ตวั อยา่ งบทเรยี นการจัดการเรยี นร้ตู ามแนวพระราชดำร
ิ
หลักการที่ผู้คณะผู้บริหารนำมาใช้ ประยุกต์ใช้ คือ “หลักการมี
ส่วนรว่ ม” (อาทิ “การบรหิ ารและการจดั การแบบ ๗ สรา้ ง” การใช้แนวคิด
“โรงเรียนเล็กในโรงเรียนใหญ่” เพื่อให้คณะครูมีส่วนร่วม สามารถส่ือสาร
แลกเปล่ียนเรียนรู้กันได้อย่างทั่วถึง) ให้คณะครู บุคลากร ที่เก่ียวข้องกับ
ประชาคมของโรงเรียนมีส่วนร่วมในทุกข้ันตอน คือ ร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ
รว่ มทำ ร่วมประเมนิ รว่ มภาคภมู ิใจ กลยทุ ธก์ ารบรหิ ารทผ่ี ้บู รหิ ารหลีกเลย่ี ง
คือ กลยุทธ์แบบใช้พลังอำนาจบังคับ (Power-coercive strategies) แต่
เน้นกลยุทธ์ในเชิงให้พลัง (Empower) และเสริมพลัง (Empowerment)
ให้กับคณะครูและนกั เรยี นอยา่ งเหมาะสม
ผู้บริหารโรงเรียนนำแนวทางการบริหารจัดการสถานศึกษาตาม
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ทั้ง ๔ ภารกิจ คือ ด้านวิชาการ
ด้านงบประมาณ ด้านบริหารบุคคล และด้านบริหารทั่วไป มาประยุกต์ใช้
เช่น มอบหมายให้ฝ่ายอาคารสถานที่ของโรงเรียน (งานบริหารทั่วไป)
มีส่วนสำคัญในการสำรวจพื้นที่แล้ววางแผนการใช้พื้นท่ี กำหนดเขต
พ้ืนท่ีศึกษา พัฒนาสภาพพ้ืนที่ บรรยากาศ ส่ิงแวดล้อมให้เอ้ืออำนวย
ต่อการจัดการเรียนรู้ให้งานบริหารบุคคลสนับสนุนการพัฒนาบุคลากร
ให้ด้านวิชาการ เป็นหลักรับผิดชอบการจัดการเรียนรู้ เป็นต้น ทั้งนี้
เพ่ือเสริมการบริหารและการจัดการที่โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช
อันเน่ืองมาจากพระราชดำริ ฯ ให้แนวทางไว้ ทำให้การมอบหมายงาน
สอดคลอ้ งกบั หนา้ ทค่ี วามรบั ผดิ ชอบของคณะครู เออื้ อำนวยใหเ้ กดิ การทำงาน
เป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถบูรณาการงานสวนพฤกษศาสตร์
โรงเรียนเข้ากับการบริหารจัดการปกติของสถานศึกษา โดยได้กำหนดให้
งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนไว้ในโครงสร้าง จัดทำแผนการดำเนินงาน
ด้านการบริหารงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน บรรจุไว้ในแผนปฏิบัติ
ราชการประจำปีงบประมาณทุกปี
102
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
ตวั อย่างบทเรยี นการจัดการเรียนรตู้ ามแนวพระราชดำริ
การพฒั นาบุคลากรและทมี งาน
วิธีการพัฒนาครูและบุคลากรท้ังก่อนและระหว่างการปฏิบัติงาน
ท่ีโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ฯ นำมาใช้มี
ข้อดี จุดเด่นแตกต่างกัน กล่าวคือ การเข้าอบรมกับวิทยากรจากโครงการ
อนรุ กั ษพ์ นั ธกุ รรมพชื อนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำริ ฯ ทำใหไ้ ดร้ บั สาระความรู้
ด้านวิชาการท่ีละเอียด เหน็ ภาพรวมของการดำเนนิ งาน สว่ นการอบรมกบั
ครูของโรงเรียนเครือข่ายสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน จะสามารถเข้าถึง
วิทยากรได้ง่ายกว่าเพราะเป็นการประชุมอบรมกลุ่มไม่ใหญ่เกินไป ทำให้
มองเห็นลำดับ ขั้นตอน วิธีการปฏิบัติ ได้รับคำแนะนำข้อควรหลีกเลี่ยง
ข้อควรปฏิบัติเก่ียวกับการจัดกระบวนการเรียนรู้แก่นักเรียน ดังนั้นจึงควร
ใช้ควบคู่กันไป ขณะเดียวกัน ยังมีแนวทางการพัฒนาครูและสร้างทีมงาน
ทค่ี วรพจิ ารณานำมาใช้ หรอื ประยุกตใ์ ช้ ดงั น
้ี
● การมอบหมายให้คณะครูและบุคลากรทุกคน บำรุงรักษา
ดูแล รับผิดชอบต้นไม้ คนละ ๑ ต้น เป็นเสมือนต้นไม้ประจำตัว ถือเป็น
กุศโลบายหนึ่งที่ส่งเสริมให้คณะครูและบุคลากรมีความผูกพันกับพืชและ
พรรณไม้ ได้ศึกษา เรียนรู้ เข้าใจ เห็นคุณค่าของพืชพรรณไม้ ช่วยให้
สามารถทำได้ สอนเปน็ ถ่ายทอดได้ อย่างมน่ั ใจ
● การพัฒนาบุคลากรสู่การเป็นวิทยากรงานสวนพฤกษศาสตร์
โรงเรียน ด้วยการส่งเสริม สนับสนุนให้ครูท่ีมาบรรจุหรือย้ายมาใหม่ได
้
เข้าอบรมเพื่อพัฒนาความรู้ความเข้าใจ ให้ฝึกปฏิบัติงานกับครูวิทยากร
ภายในโรงเรียน เพ่ือก้าวสู่การเป็นวิทยากรผู้ช่วยของครูวิทยากร และเป็น
วิทยากรเอง เป็นการสร้างทายาทครูวิทยากร ทำให้โรงเรียนมีบุคคลที่จะ
เป็นแกนหลักในด้านการจัดการเรียนรู้งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
อยา่ งต่อเน่อื ง
103
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น
ตวั อยา่ งบทเรียนการจัดการเรียนรตู้ ามแนวพระราชดำริ
● การพูดคุยสนทนา เสวนา ปรึกษาหารือ แลกเปลี่ยนเรียนรู้
ท้ังแบบไม่เป็นทางการและเป็นทางการอย่างสม่ำเสมอ เช่น ในตอนเช้า
ช่วงเวลาก่อนการเข้าแถวเคารพธงชาติ ช่วงเวลาหลังเลิกเรียนการประชุม
กันประจำสัปดาห์ เป็นต้น เป็นช่องทางและวิธีการที่เหมาะแก่การนำมาใช้
เพอื่ ประโยชน์ในการพฒั นาทีมงาน สื่อสารสร้างความรูค้ วามเข้าใจ เปน็ เวที
สำหรับการถอดบทเรียนหลงั การปฏิบตั ิ (After Action Review) ตลอดจน
เป็นเวทีให้ “เพ่ือนช่วยเพ่ือน” (Peer Assist) สำหรับครูใช้แลกเปลี่ยน
ความรู้ก่อนลงมือจัดการเรียนรู้หรือทำกิจกรรม โดยเรียนรู้ หรือเรียนลัด
จากประสบการณ์ของเพ่ือนครูท่ีทำแล้วได้ผลดี ก่อให้เกิดสัมพันธภาพใน
หมคู่ ณะครูเป็นแบบสร้างเสริมเตมิ เต็มใหก้ นั และกัน
การบูรณาการการเรียนรู้งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนกับ
หลักสตู รแกนกลางขน้ั พน้ื ฐาน
การประชุมปฏิบัติการเป็นวิธีการหลักที่คณะครูของโรงเรียนที่เป็น
กรณีศึกษา ใช้เพื่อร่วมกันวางแผน และจัดทำผังมโนทัศน์ (Mind map)
แนวทางการบูรณาการ จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ ใบความรู้ ใบงาน
โดยร่วมกันทำไป และพัฒนาไปทีละกลุ่มสาระการเรียนรู้ เพ่ือให้ได้แผน
การจัดการเรียนรู้ที่เป็นแผนบูรณาการงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
ท่ีแสดงให้เห็นวิธีการจัดการเรียนรู้อย่างชัดเจนในทุกระดับช้ันและทุกกลุ่ม
สาระการเรียนรู้
การบูรณาการการเรียนรู้งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนกับ
การจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช
๒๕๕๑ (หลักสูตรแกนกลาง) เป็นการบูรณาการที่หลากหลายมิติ สรุปได้
ดงั น้ี
104
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
ตวั อยา่ งบทเรยี นการจดั การเรยี นรูต้ ามแนวพระราชดำร
ิ
● บูรณาการเนื้อหาการจัดการเรียนรู้ระหว่างสาระการเรียนรู้
ของงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนกับเนื้อหาสาระการเรียนรู้ของ
หลกั สตู รแกนกลาง เปน็ การบรู ณาการแบบพหวุ ทิ ยาการ (Multidisciplinary)
มีการบูรณาการระหว่างกลุ่มสาระการเรียนรู้ เช่ือมโยงเน้ือหาสาระใน
ลกั ษณะการหลอมรวมกัน โดยการต้งั หวั เรื่อง (Theme) หรอื หนว่ ย (Unit)
การเรียนรู้ โดยเฉพาะในช่วงช้ันท่ียังมีรายวิชาเรียนไม่มาก (ในโรงเรียนที่
เปน็ กรณศี กึ ษาสว่ นใหญ่ คณะครทู ำการสอนทง้ั แบบสอดแทรก (Infusion)๒
และแบบคู่ขนาน (Parallel)๓
● บูรณาการกิจกรรม วิธีการในการเรียนรู้ มีการผสมผสาน
กิจกรรม วิธีการเรียนการสอนแบบหลากหลายวิธีท้ังการเรียนในห้องเรียน
การศึกษานอกห้องเรียน การทำงานเด่ียว การทำงานกลุ่ม เพ่ือให้นักเรียน
พัฒนาทักษะของตนเอง ท้ังทักษะการฟัง การพูด การอ่าน การเขียน
การสรปุ การนำเสนอ
● บูรณาการการจัดการและกระบวนการในการเรียนการสอน
(Integrated by Learning process and management) โดย
ให้นักเรียนคละระดับช้ันทำการศึกษาเรียนรู้องค์ประกอบของงาน
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ๕ องค์ประกอบร่วมกัน และบูรณาการเนื้อหา
สาระการเรียนรู้กับกระบวนการเรียนรู้ โดยออกแบบให้นักเรียนเรียนรู้และ
ได้รับทั้งความรู้และกระบวนการไปพร้อมกัน เช่น กระบวนการแสวงหา
ความรู้ กระบวนการแกป้ ัญหา การทำงานเป็นกล่มุ เป็นทีม เปน็ ต้น
๒ สอนแบบสอดแทรก (Infusion) คือ ครูจะสอดแทรกสาระการเรียนรู้หรือเนื้อหาของสาระการเรียนรู้ของงาน
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี นกบั เนอ้ื หาในกลมุ่ สาระการเรยี นรหู้ ลกั สตู รแกนกลางทต่ี นเองรบั ผดิ ชอบ
๓ แบบคขู่ นาน (Parallel) คอื ครจู ากกลมุ่ สาระการเรยี นรขู้ นึ้ ไปวางแผนรว่ มกนั ทำมโนทศั นแ์ ละแผนการจดั การ
เรยี นรทู้ บ่ี รู ณาการการเรยี นรงู้ านสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี นกบั การจดั การเรยี นการสอนหลกั สตู รแกนกลางรว่ มกนั แลว้ นำ
ไปจดั การเรยี นการสอนแบบตา่ งคนตา่ งสอนในระดบั ชนั้ และกลมุ่ สาระการเรยี นรทู้ ต่ี นเองรบั ผดิ ชอบ โดยมเี ปา้ หมายรว่ มกนั
105
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
ตวั อยา่ งบทเรยี นการจัดการเรยี นร้ตู ามแนวพระราชดำริ
หลักสำคัญในการบูรณาการและการจัดการเรียนรู้ท่ีต้องคำนึงถึง
คอื ขอบขา่ ยเนือ้ หาสาระและการจดั ลำดับการเรียนรใู้ นหลกั สูตรบรู ณาการ
ทุกแบบต้องคำนึงถึงความยากง่ายตามระดับชั้นและวัย ความซับซ้อนจาก
น้อยไปหามาก เรียนรจู้ ากส่งิ ใกลต้ วั ไปสู่ส่งิ ไกลตัว พัฒนาจากทักษะพื้นฐาน
ไปสู่ทักษะข้นั สงู
การจัดการเรยี นรแู้ บบ “พ่ีชว่ ยนอ้ ง เพ่อื นชว่ ยเพอ่ื น”
การท่ีทุกโรงเรียนที่เป็นกรณีศึกษาแบ่งนักเรียนเพื่อเข้าศึกษาพื้นท่ี
ศึกษาเป็นกลุ่มย่อย ๆ โดยสมาชิกในแต่ละกลุ่มประกอบด้วยนักเรียนจาก
ทุกระดับช้ันเป็นการใช้กลวิธีการเรียนรู้แบบเพ่ือนช่วยเพื่อน (Peer -
assisted learning) ที่ผ่านมาส่งผลดีต่อการเรียนรู้ของนักเรียน ทำให้
นักเรียนช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการศึกษาเรียนรู้งานสวนพฤกษศาสตร์
โรงเรียน ทั้งแบบเพ่ือนช่วยเพ่ือน นักเรียนรุ่นพี่ช่วยนักเรียนรุ่นน้อง
เออื้ อำนวยใหโ้ รงเรยี นมี “ทายาทนกั เรยี นแกนนำเรยี นรงู้ านสวนพฤกษศาสตร์
โรงเรยี น” ในรนุ่ ตอ่ ๆ ไป การใชก้ ารเรยี นรูแ้ บบเพอ่ื นช่วยเพื่อนท้งั ในระดบั
นักเรียน และระดับคณะครู จะช่วยให้งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
สามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ได้รับผลกระทบ แม้จะมีนักเรียน
บางส่วนเรียนจบ หรือมีคณะครูย้ายออก หรือเกษียณอายุราชการ โดย
การให้นกั เรียนเปน็ เพ่อื นเรียนรู้ใหก้ นั และกนั ซึ่งทโ่ี รงเรยี นนำมาใชม้ ี ๒ แบบ
ดงั น
ี้
● แบบคละช้ัน หรือคละอายุ (Cross-age peer learning)
เป็นการจัดกลุ่มนักเรียนที่มีระดับอายุแตกต่างกัน ให้มีส่วนร่วมในการทำ
กิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกัน คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยให้นักเรียน
รุ่นพ่ีทำหน้าที่เป็นผู้ให้ความรู้ ช้ีแนะ แนะนำ นำพานักเรียนรุ่นน้อง ๆ ทำ
กิจกรรมการเรียนรูท้ ี่กลุ่มได้รบั มอบหมาย
106
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น
ตัวอย่างบทเรียนการจดั การเรยี นรูต้ ามแนวพระราชดำริ
● แบบจับคู่ (One-to-one peer learning หรือ Learning
buddy) เป็นการให้นักเรียนเลือกจับคู่กับเพ่ือนนักเรียนในระดับช้ัน
เดียวกัน แต่มีความสามารถทางการเรียน มีความถนัดหรือมีความรู้เฉพาะ
เร่ืองแตกต่างกนั ให้ผลัดเปลีย่ นกันเป็นผู้สอนและผเู้ รยี น
การนำวิธีการจัดการเรียนรู้น้ีมาใช้น้ันมีข้อควรพิจารณา คือ
ครูผู้สอนยังคงมีบทบาทหน้าที่สำคัญในการวางแผน ให้คำแนะนำแนวทาง
จัดกิจกรรมการเรียนรู้ มีการสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนหน้าที่กัน และ
ควรสร้างแรงจงู ใจแกน่ ักเรียนรุน่ พ่ี/เพือ่ นนกั เรียนทช่ี ว่ ยสอนอยา่ งเหมาะสม
การประเมนิ ผลการดำเนินงาน
การประเมินการดำเนินงานของโรงเรียนกรณีตัวอย่าง แบ่งออก
เป็น ๒ ระดับ คือ การประเมินการเรียนรู้ของนักเรียน และการประเมิน
สถานศึกษา
การประเมนิ การเรยี นร้ขู องนักเรียน
ในการประเมินการเรียนรู้ของนักเรียนเกี่ยวกับการศึกษาเรียนรู้
งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนน้ัน ทุกโรงเรียนจะจัดทำสมุดบันทึกข้อมูล
หรอื แบบบนั ทกึ ขอ้ มลู “การศกึ ษาพรรณไมใ้ นสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น” ขน้ึ
เพื่อให้นักเรียนใช้บันทึกการเรียนรู้ เช่น ตอบแบบสอบถาม เขียนแผนผัง
ภาพวาด บนั ทกึ เปน็ ขอ้ ความ เขยี นสรปุ ผลการเรยี นรู้ เขยี นความประทบั ใจ
เป็นต้น ซ่ึงเป็นเสมือนเครื่องมือของครูในการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อ
การประเมินนกั เรยี น
โรงเรียนยึดหลักในการประเมินนักเรียนแบบ “ประเมินเพื่อ
พัฒนา” แนวคิดท่ีนำมาใช้ในการประเมิน คือ การประเมินการทำงาน
(Performance Assessment) และการประเมนิ ตามสภาพจรงิ (Authentic
107
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
ตัวอย่างบทเรยี นการจดั การเรียนรูต้ ามแนวพระราชดำริ
Assessment) ทั้งพิจารณาสมุดบันทึก พิจารณาโครงงาน ช้ินงาน/ผลงาน
ท่ีเกิดจากการปฏิบัติ๔ สังเกตพฤติกรรมและทักษะที่พึงประสงค์ขณะ
กำลังปฏิบัติ การนำเสนอผลงาน การตอบคำถามท่ีชัดเจนมีข้อมูล
และเหตุผลสนับสนุน แล้วสะท้อนกลับ ให้กำลังใจ ให้คำแนะนำเพ่ิมเติม
เสริมแรง และชี้แนะแนวทางการศึกษาเรียนรู้ในข้ันต่อไปของแต่ละ
ปัจเจกบุคคล และระดบั กลุ่ม
ส่วนการประเมินผลลัพธ์หรือผลกระทบจากการเรียนรู้ของ
นักเรียนยังไม่ปรากฏชัดมากนัก แต่จากการถอดบทเรียน ผู้ให้ข้อมูลของ
โรงเรยี นทเี่ ปน็ กรณศี กึ ษามขี อ้ แนะนำในการพฒั นาตวั ชวี้ ดั โดยพจิ ารณาจาก
● การรู้คุณค่าพันธุกรรมพืชและทรัพยากร และตระหนักถึง
ผลกระทบท่ีเกิดจากความเสยี หาย หรอื การสญู พันธข์ุ องพืชและทรพั ยากร
● การเข้าร่วมและการมีส่วนร่วมในการดูแลรักษา พัฒนา
อนุรักษ์พันธุกรรมพืชและทรัพยากรอย่างต่อเนื่อง สมัครใจ ทั้งในโรงเรียน
และนอกโรงเรียน
● ลำดบั ข้นั ของการปฏิบตั ิต่อเนื่อง เชน่ ข้ันแสวงหาโอกาสในการ
มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ฯ ข้ันกระตุ้นและสร้างแรงจูงใจให้ผู้อื่นเห็น
ความสำคัญประโยชน์ของกิจกรรมอนุรักษ์ เป็นแบบอย่างท่ีดี (Role
Model) เปน็ ผ้นู ำทม่ี ีบทบาทสำคัญในงานเพื่ออนุรกั ษ์
๔ ขอ้ สงั เกตจากการเยยี่ มโรงเรยี น: โรงเรยี นวดั บญุ สมั พนั ธ์ โรงเรยี นกำหนดใหน้ กั เรยี นสรา้ งผลงานแบบบรู ณาการ
ตามความชอบและความถนดั ของตน และสง่ ผลงานเพยี งชนิ้ เดยี วเพอ่ื รบั การประเมนิ จากหลายวชิ า
108
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น
ตัวอยา่ งบทเรยี นการจดั การเรียนรูต้ ามแนวพระราชดำร
ิ
การประเมินสถานศกึ ษา
การประเมินระดับสถานศึกษา โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช
อนั เนอื่ งมาจากพระราชดำริ ฯ กำหนดตวั ชว้ี ดั และมาตรฐานเปน็ แบบขน้ั บนั ได
ใช้วิธีการประเมินแบบพิจารณาจากหลักฐาน ร่องรอยการปฏิบัติงาน
(Evidence-based evaluation) และการพิจารณาผลการดำเนินงาน
(Performance assessment) มีเป้าหมายเพ่ือให้โรงเรียนสมาชิก
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี นพฒั นาการดำเนนิ งานของตนอยา่ งตอ่ เนอื่ ง ยกระดบั
ผลการดำเนนิ งานให้ไดม้ าตรฐานลำดับขน้ั สูงข้นึ เพ่ือก้าวสคู่ วามยัง่ ยนื
มาตรฐานและคู่มือการประเมินการดำเนินงานสวนพฤกษศาสตร์
โรงเรียน ฐานเทียบเคียงเป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญและมีประโยชน์มาก
ทท่ี กุ โรงเรยี นใชเ้ ปน็ ฐานเทยี บเคยี ง (Benchmarking) เพอ่ื ใหก้ ารดำเนนิ งาน
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนดำเนินไปอย่างถูกทิศทาง มุ่งสู่ผลการปฏิบัติที่ดี
สอดคล้องกบั มาตรฐาน
การเลือกพชื พรรณเข้าปลูกในโรงเรียน
โรงเรียนที่เป็นกรณีศึกษานำพืชพรรณไม้เข้าปลูกเพิ่มเติมจาก
พชื พรรณไมเ้ ดมิ ทโี่ รงเรยี นมอี ยแู่ ลว้ ใน ๒ ชว่ งเวลา คอื ชว่ งเตรยี มการขน้ั ตน้
ก่อนจะจัดการเรียนรู้แก่นักเรียน โดยพัฒนาสภาพ บรรยากาศและ
ส่ิงแวดล้อมให้เอ้ืออำนวยต่อการจัดการเรียนรู้ และช่วงการจัดการเรียนรู้
นอกจากจะยึดหลักการ “คลุกคลี เห็นคุณ สุนทรีย์” มีการสำรวจสภาพ
ภูมิศาสตร์ของพ้ืนที่ วางแผนการใช้พ้ืนที่ วางแผนการปลูก แล้ว สามารถ
สรุปหลักคดิ ในการเลอื กพืชพรรณไมเ้ ข้าปลกู เพม่ิ เติมของโรงเรียน ดังนี้
109
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น
ตัวอยา่ งบทเรียนการจัดการเรียนร้ตู ามแนวพระราชดำริ
● เน้นการปลูกพรรณไม้ท้องถิ่น เพ่ือเข้าปลูกเสริม ปลูกแซม
พชื พันธ์ุไม้ดง้ั เดิม
● คำนึงถงึ ประโยชน์ คณุ ค่า สรรพคณุ ของพืชพรรณไม
้
● พิจารณาความสวยงาม ความเหมาะสมของโครงสร้างและ
ลำดับช้ันของต้นไม้ในสวนหรือพ้ืนท่ีสีเขียว มีชั้นเรือนยอด ท้ังชั้นบน
ชั้นกลาง ช้ันล่าง
● พิจารณาปฏิสัมพันธ์ในเชิงสนับสนุนเกื้อกูลกันระหว่างพืช
กับพืช และประโยชน์ต่อความสมดุลของระบบนิเวศชั้นบน ช้ันกลาง
ช้ันลา่ งและชน้ั ใต้ดิน
● ในกรณีต้องการนำพรรณไม้แปลก หรือมาจากต่างพันธ์ุต่างถ่ิน
เข้ามาปลูก ต้องทดลองปลูกในพื้นที่เฉพาะและศึกษาความเหมาะสม
อยา่ งละเอียด
● พ้ืนที่ใดท่ีพืชพรรณไม้มีความหลากหลาย เหมาะสมดีแล้ว
จะทำเฉพาะการบำรุงรักษาท่ัวไป และปล่อยให้พืชที่นำเข้าปลูกในพื้นท่ี
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนเจริญเติบโตตามนิเวศวิทยาพืชและชีวภาพน้ัน ๆ
ตามหลักการวฏั ธรรมชาติ (Natural Reforestation)๕
๕ ขอ้ สงั เกตจากการเยยี่ มโรงเรยี น: กรณแี บบอยา่ งสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี นของโรงเรยี นพชิ ญศกึ ษา ไดป้ ลกู พชื
หลากชนดิ ปะปนกนั บนพนื้ ทเ่ี ดยี วกนั อยา่ งเหมาะสม พอดแี ละนา่ จะเปน็ ทงั้ ตวั ปอ้ งกนั ภยั ตามธรรมชาตเิ ปน็ ทอ่ี ยอู่ าศยั ของ
ศัตรูธรรมชาติของศัตรูพืช มีท้ังชนิดและปริมาณที่มีความสมดุลเสริมสร้างความหลากหลายของส่ิงมีชีวิต ในบริเวณม
ี
ความอดุ มสมบรู ณข์ ององคป์ ระกอบโดยเฉพาะทรพั ยากรดนิ นำ้ และสงิ่ แวดลอ้ ม
110
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
ตวั อยา่ งบทเรยี นการจดั การเรียนรู้ตามแนวพระราชดำร
ิ
แผนภาพสรปุ บทเรยี นการดำเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น
การเลือกพชื พรรณเขา้ ปลกู
การเตรยี มการ
หลกั การและแนวทาง
● เนน้ พรรณไมท้ ้องถิน่
กอ่ นจดั การเรยี นร
ู้ การบรกิ ารจดั การ
● คำนึงถงึ ประโยชน/์ คุณคา่ /
● กำหนดพืน้ ท
ี่ ● ปรบั ความรูค้ วามเข้าใจครู/บุคลากร
ความสวยงาม
● สำรวจ ศกึ ษา วิเคราะหภ์ มู ิศาสตร์
● ใชห้ ลักการมีสว่ นร่วม
● พิจารณาปฏิสมั พันธ/์ การเก้ือกลู กนั
● นำพืชทศ่ี ึกษามาปลกู
● บริหารจัดการ ๔ ภารกจิ ไดแ้ ก่
ระหวา่ งพชื -ระบบนเิ วศ
● จดั หาวัสด/ุ ปรับปรุงสาธารณปู โภค
วชิ าการ งบประมาณ บรหิ ารบุคคล
บรหิ ารท่ัวไป
บทเรยี นการดำเนินงาน
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
การจัดการเรียนร้
ู การพฒั นาบคุ ลากร
แบบพ่ีช่วยน้อง
โครงการอนรุ กั ษพ์ ันธกุ รรมพืช
และทมี งาน
● สรา้ งทายาทนกั เรียนแกนนำ
อนั เน่ืองมาจากพระราชดำริ ฯ
● ใหน้ กั เรยี นเป็นเพอื่ นเรยี นร
ู้ ● มอบหมายดแู ลต้นไม้คนละ ๑ ตน้
ใหแ้ กก่ นั และกนั
● พฒั นาบุคลากรสูก่ ารเป็นวทิ ยากร
● แลกเปล่ยี นเรยี นรู้ “เพื่อนชว่ ยเพ่ือน”
การประเมนิ ผลการ
การบูรณาการเข้ากับ
ดำเนินงาน
หลักสูตรแกนกลาง
● บรู ณาการเน้ือหาแบบพหุวทิ ยาการ
● การประเมินการเรียนร้ขู องนักเรียน
(Multidispinary)
● การประเมินสถานศึกษา
● บรู ณาการกจิ กรรม/วธิ กี ารในการเรยี นร
ู้
● บูรณาการการจัดการเรียนร้/ู
กระบวนการในการเรียนการสอน
(Integrated by Learning process
and management)
111
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน
ตัวอย่างบทเรียนการจัดการเรยี นรตู้ ามแนวพระราชดำริ
แนวทางการนำสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนบูรณาการในการ
จัดการเรยี นร
ู้
การจัดการเรียนรู้สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนเป็นนวัตกรรม
การจัดการเรียนรู้ที่เป็นระบบ เน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของนักเรียน
ครูอาจารย์ ผู้บริหาร และชุมชน ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ในการออกแบบ
นวตั กรรมในการจดั การเรยี นรใู้ นโรงเรยี น โดยการนำแนวคดิ สวนพฤกษศาสตร์
โรงเรียนบูรณาการเข้าสู่การเรียนการสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบ
บรู ณาการ (Learning integration) โดยดำเนนิ การดงั นี้
(๑) วิเคราะห์หลักสูตรการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
(หลักสูตรแกนกลาง)
(๒) นำแนวคิดเรื่องสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ประกอบด้วย ๕
องค์ประกอบ ๓ สาระการเรียนรู้ มาออกแบบหน่วยการเรียนรู้ที่เหมาะสม
กับบริบทโรงเรียนโดยเช่ือมโยงกับรายวิชาต่าง ๆ ร่วมกันจัดทำแผน
การจดั การเรียนรู้ ใบความรู้ ใบงาน เปน็ ตน้
(๓) นำไปปรบั ใชแ้ ละบรู ณาการในการจดั การเรยี นรใู้ นรายวชิ าตา่ ง ๆ
โดยบูรณาการท้ังด้านเน้ือหาและบูรณาการกิจกรรมการจัดการเรียนรู้
ระหว่างสาระการเรียนรู้ของงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนกับเน้ือหาสาระ
การเรียนรขู้ องหลกั สตู รแกนกลางทกุ กลุ่มสาระ ฯ
(๔) นำพรรณไม้ท่ีมีอยู่ในโรงเรียนหรือชุมชนมาเป็นสื่อในการเรียน
การสอนในวิชาต่าง ๆ หรือนำนักเรียนออกไปเรียนรู้พืช พรรณไม้ในชุมชน
และฐานทรัพยากรท้องถิน่ ของชุมชน
112
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น
ตวั อย่างบทเรยี นการจัดการเรียนรู้ตามแนวพระราชดำร
ิ
แผนภาพสรุปบทเรียนการดำเนนิ งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
หลัก+สตูงารนแกสนวนกล
าง
บรู ณาการ
กระบจวดั น
การ
พฤกษศาสตร
์ จัดการเรยี นร้
ู เรยี นรู้
ทกุ กลุ่มสาระ ฯ
วิเคราะห์
ออกแบบ
หลกั สตู ร/
หน่วย
ตัวช้ีวดั
การเรยี นรู
้
113
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
ตัวอยา่ งบทเรยี นการจัดการเรียนรตู้ ามแนวพระราชดำริ
ภาคผนวก
ประมวลภาพการลงพ้นื ทีว่ จิ ัยภาคสนาม
การเก็บรวบรวมข้อมลู และถอดบทเรียนสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
114
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
ตัวอย่างบทเรยี นการจัดการเรยี นร้ตู ามแนวพระราชดำริ
115
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น
ตัวอยา่ งบทเรียนการจัดการเรยี นรู้ตามแนวพระราชดำริ
คณะผ้จู ัดทำ
ท่ปี รกึ ษา
ดร.สภุ ทั ร จำปาทอง เลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา
(๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๑ - ปจั จบุ นั )
ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ ์ เลขาธิการสภาการศกึ ษา
(๔ กันยายน ๒๕๖๐ –
๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๑)
ดร.ชัยยศ อ่มิ สุวรรณ ์ รองเลขาธิการสภาการศกึ ษา
(๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๐ –
๓๐ กันยายน ๒๕๖๑)
ดร.วฒั นาพร ระงบั ทุกข ์ รองเลขาธิการสภาการศกึ ษา
(๑๐ ตลุ าคม ๒๕๖๑ – ปัจจบุ นั )
ดร.สมศกั ดิ์ ดลประสิทธ์ ิ รองเลขาธิการสภาการศึกษา
นายพรชยั จฑุ ามาศ รองผ้อู ำนวยการ
โครงการอนรุ กั ษ์พนั ธุกรรมพชื
อนั เน่ืองมาจากพระราชดำริ ฯ
ดร.ปยิ รัษฎ์ ปริญญาพงษ์ เจรญิ ทรัพย์ เลขานกุ ารคณะกรรมการ
โครงการอนุรกั ษพ์ ันธุกรรมพชื
อันเนอื่ งมาจากพระราชดำริ ฯ
116
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น
ตวั อย่างบทเรียนการจดั การเรียนรตู้ ามแนวพระราชดำร
ิ
นางเกอ้ื กูล ช่งั ใจ ผอู้ ำนวยการ
สำนักมาตรฐานการศกึ ษา
และพฒั นาการเรียนร
ู้
(๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๐ –
๓๐ กนั ยายน ๒๕๖๑)
นายสำเนา เน้ือทอง ผอู้ ำนวยการสำนักมาตรฐานการศกึ ษา
และพฒั นาการเรียนร
ู้
(๑๘ มีนาคม ๒๕๖๒ - ปจั จุบัน)
ผู้ทรงคณุ วฒุ ิพจิ ารณารายงาน
นายพรชัย จฑุ ามาศ รองผอู้ ำนวยการ
โครงการอนุรกั ษพ์ ันธกุ รรมพชื
อนั เนอื่ งมาจากพระราชดำริ
สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดา ฯ
สยามบรมราชกมุ ารี
ดร.ปยิ รษั ฎ์ ปริญญาพงษ์ เจริญทรัพย์ เลขานกุ ารคณะกรรมการ
โครงการอนุรกั ษพ์ นั ธุกรรมพืช
อนั เนื่องมาจากพระราชดำริ ฯ
นายมรกต วชั รมสุ ิก ผชู้ ่วยหัวหน้าสำนกั งาน ฝา่ ยวิชาการ
งานด้านกรอบการสรา้ งจิตสำนกึ
เจา้ หนา้ ทก่ี รอบการสร้างจิตสำนกึ
โครงการอนรุ ักษ์พันธุกรรมพชื
อนั เน่อื งมาจากพระราชดำริ ฯ
117
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
ตัวอย่างบทเรียนการจดั การเรียนร้ตู ามแนวพระราชดำร
ิ
นกั วิจัย
เลขาธกิ ารมลู นิธิการศึกษาไทย
นายมารตุ จาติเกตุ
นายร่วมมิตร คำผา ท่ีปรึกษามลู นธิ กิ ารศึกษาไทย
ผรู้ บั ผดิ ชอบโครงการ และบรรณาธิการ
ดร.ร่งุ นภา จิตรโรจนรักษ์ ผอู้ ำนวยการ
กลุ่มพฒั นานโยบายด้านการเพมิ่ โอกาส
การเรยี นรูต้ ลอดชีวิต
(๙ มกราคม ๒๕๖๑ – ๒๕ ตลุ าคม ๒๕๖๑)
ดร.วลั ภา เล็กวัฒนานนท์ ผู้อำนวยการ
กลมุ่ พฒั นานโยบายด้านการมีส่วนร่วม
และสมชั ชาการศึกษา
(๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๑ – ปจั จุบนั )
นายเอกพล ดวงศร ี นกั วชิ าการศึกษาปฏบิ ัตกิ าร
คณะนักวชิ าการลงพื้นทต่ี ดิ ตามโครงการ
ดร.รุง่ นภา จติ รโรจนรกั ษ์ ผู้อำนวยการ
กลุม่ พฒั นานโยบายด้านการเพ่ิมโอกาส
การเรียนรู้ตลอดชวี ติ
นายเอกพล ดวงศรี นักวชิ าการศึกษาปฏิบัตกิ าร
นางสาวนริศรา ใจคง นกั วชิ าการศึกษาปฏิบตั กิ าร
นายกฤษณะศกั ดิ์ พวงจนั ทร์ นกั วิชาการศึกษาปฏิบตั กิ าร
118
สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น
ตัวอยา่ งบทเรียนการจัดการเรียนรูต้ ามแนวพระราชดำร
ิ
คณะผรู้ บั ผดิ ชอบจัดการประชุม
กลมุ่ พฒั นานโยบายดา้ นการมีส่วนรว่ มและสมัชชาการศึกษา
สำนกั มาตรฐานการศึกษาและพัฒนาการเรยี นร
ู้
ดร.วัลภา เลก็ วัฒนานนท ์ ผูอ้ ำนวยการ
กลุ่มพัฒนานโยบายด้านการมสี ่วนรว่ ม
และสมัชชาการศกึ ษา
ดร.รุ่งนภา จิตรโรจนรกั ษ ์ ผอู้ ำนวยการ
กลุ่มพฒั นานโยบายดา้ นการเพิ่มโอกาส
การเรียนรตู้ ลอดชีวิต
ดร.ปยิ ะมาศ เมดิ ไธสง นักวิชาการศกึ ษาชำนาญการ
นายธีรพงศ์ วงศจ์ อม นักวชิ าการศกึ ษาปฏบิ ัตกิ าร
นางสาววรากร สายแกว้ นักจดั การงานทว่ั ไปปฏิบตั ิการ
นายเอกพล ดวงศรี นักวชิ าการศกึ ษาปฏิบัตกิ าร
นางสาวนริศรา ใจคง นักวชิ าการศึกษาปฏิบตั ิการ
นายกฤษณะศักด์ิ พวงจนั ทร์ นักวิชาการศึกษาปฏบิ ัตกิ าร
ผู้ประสานงานโครงการอนุรกั ษพ์ ันธกุ รรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ฯ
ดร.ปิยะมาศ เมดิ ไธสง นกั วชิ าการศกึ ษาชำนาญการ
นายเอกพล ดวงศร ี นักวชิ าการศกึ ษาปฏิบตั กิ าร
นางมนวุ ดี สมบูรณ์ทรพั ย ์ เจ้าหนา้ ท่ี ฝา่ ยวชิ าการ
โครงการอนุรกั ษ์พันธุกรรมพชื
อันเนอื่ งมาจากพระราชดำริ ฯ
นางสาวบศุ รา บญุ เกิด ผชู้ ว่ ยนักวิชาการ
119
สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น
ตัวอย่างบทเรยี นการจัดการเรยี นรตู้ ามแนวพระราชดำริ
จดั ทำตน้ ฉบับและประสานงานการพมิ พ
์
นายเอกพล ดวงศร ี นกั วชิ าการศกึ ษาปฏบิ ัตกิ าร
ผ้ใู ห้ข้อมลู และเจา้ ของบทเรียน
ผู้บริหาร คณะครู นักเรียน และผปู้ กครอง
โรงเรียนพิชญศึกษา จังหวัดนนทบรุ ี
ผู้บริหาร คณะครู นกั เรยี น และผปู้ กครอง
โรงเรยี นไทยนยิ มสงเคราะห์ กรงุ เทพมหานคร
ผู้บรหิ าร คณะครู นักเรียน และผปู้ กครอง
โรงเรยี นปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
ผ้บู ริหาร คณะครู นักเรียน และผู้ปกครอง
โรงเรียนวดั บุญสมั พันธ์ จังหวัดชลบรุ ี
ผู้บริหาร คณะครู นกั เรยี น และผ้ปู กครอง
โรงเรยี นวัดประชาระบอื ธรรม กรงุ เทพมหานคร
120