The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by khwanjao, 2022-12-28 07:20:13

รวมเล่ม Weekly Mail ปี 65

Weekly mail ปี 2565

รวมเล่ม

Weekly Mail
ป� 2565

รณดล นุ่มนนท์

Scan QR code
เพื�ออา่ น e-book



รวมเลม่

Weekly Mail
ป� 2565



สารบญั หนา้
1
จัดการอยา่ งไรกบั ความวิตกกังวลท่ีเกินพอดี 3
ไคลฟ์ เดวิส: บทเพลงแหง่ ชีวติ 6
คิดใหม:่ พลังของการยอมรับในความไม่รู้ 9
คิดใหม:่ พลังของการยอมรับในความไม่รู้ (ตอนจบ) 11
ว่ิงมาราธอน: บททดสอบ พลงั อดึ พลงั ฮดึ พลังสู้ 13
แม่-แถมสุข นุ่มนนท์: ผ้เู ตม็ เป่ียมไปด้วยความรกั และอบอุ่น 15
แม่-แถมสุข นุ่มนนท์: ผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยความรกั และอบอนุ่ (ตอนจบ) 17
ทมี รองบ่อน: เหตผุ ลทเ่ี ทใจให้ 20
วลิ เล่ยี ม คัมแควมบ้า: ผู้สร้างกงั หันลมแหง่ ความหวัง 23
Total Recall: ความจาเหนือมนษุ ย์ 25
Total Recal: ความจาเหนือมนุษย์ (ตอนจบ) 28
นกิ เซน: ฝนั กลางวันอยา่ งสร้างสรรค์ 30
บรษิ ัทฟอร์แคร์: บทพิสจู น์การเตบิ โตอยา่ งยงั่ ยนื 33
บริษัทฟอรแ์ คร์: บทพิสูจน์การเติบโตอยา่ งย่งั ยืน (ตอนจบ) 35
ริชารด์ วลิ เลียมส์: พ่อผู้อยู่เบ้ืองหลังความสาเรจ็ 38
รชิ าร์ด วิลเลียมส์: พ่อผู้อยู่เบอ้ื งหลงั ความสาเร็จ (ตอนจบ) 40
ข้าวแชแ่ ถมสุข 43
วิตกกงั วล: ทุกข์กบั เร่ืองไม่ทุกข์ 45
การซอื้ ขายของออนไลน์: โลกธรุ กจิ ท่ีฉุดไมอ่ ยู่ 48
บรหิ ารเงนิ ด้วยจิตวิทยา 51
บรหิ ารเงนิ ด้วยจติ วทิ ยา (ตอนจบ) 53
ประวัติ (ศาสตร)์ อันแสนสขุ ของแถมสุข 55
ตอ่ สชู้ ีวิตอยา่ งไร้ขอ้ จากัด 58
ต่อสู้ชีวิตอย่างไร้ข้อจากดั (ตอนจบ) 60
Gumpun ไอติมโฮมเมดสายหวานรสละมนุ 63
Empathy: ทักษะจากหวั ใจและความรสู้ กึ 66
BOT Policy Hackathon: เสยี งสะท้อนที่มองขา้ มไมไ่ ด้

สารบัญ หน้า
69
ศิลปนิ แบงกช์ าติ: 3+1 MEN: Stepping on Art 72
Spelling Bee: สะกดคา สะกดคน 75
บอรด์ เกมท่ีไม่ใชแ่ ค่เกม 78
วะบิ ซะบ:ิ ความไม่สมบูรณแ์ บบของชวี ติ 80
ผใู้ ห้ ผู้รบั : ใครคอื ผู้ประสบความสาเร็จทแี่ ท้จริง? 82
ผูใ้ ห้ ผรู้ บั : ใครคือผูป้ ระสบความสาเร็จทีแ่ ทจ้ รงิ ? (ตอนจบ) 85
ไมต้ไี มต์ส: บทเรียนท่ีทรงพลัง 88
ไอศกรมี ปา้ อ้วน: จุดประกายให้ชวี ิต 90
พป่ี รัชญา อศั วเดชกาจร: พ่ีประเสริฐของน้อง 93
พเ่ี กตุสดุ า พยาบาลหวั ใจแบงก์ชาติ 96
ผลไม้แกะสลกั กับลูกเปด็ น้อยฝอยทอง 99
ผลไมแ้ กะสลกั กับลูกเป็ดนอ้ ยฝอยทอง (ตอนจบ) 101
ปฐมพยาบาลเจ็บป่วยทางจิตใจ 103
ปฐมพยาบาลเจ็บป่วยทางจิตใจ (ตอนจบ) 105
มกี ินฟาร์ม: ยิ่งอยู่กบั ธรรมชาติ ยิง่ ปล่อยวาง 108
ทาใหง้ ่ายดาย: ทัศนคติในการทางานอย่างสร้างสรรค์ 112
โมเตล็ พาเทล: ผู้พักคือพระเจา้ 115
นักลงเสียง: อาชีพทไ่ี มค่ าดฝัน 118
นกั ว่ิงสู้โควดิ : ทุกอย่างอย่ทู ่ใี จ 121
ฟตุ บอล: ศาสนาของชาวบราซิล 123
ความท้อแท้: อุปสรรคทตี่ อ้ งสลดั ออกจากชีวติ 126
เส้นทางชีวิต 80 ปขี องแบงก์ชาติ 129
เสน้ ทางชีวิต 80 ปขี องแบงก์ชาติ (ตอนจบ) 132
ปีเสือ 2565: ช่วงเวลาของการปรับเปล่ียนและปรับตัว

จดั การอยา่ งไรกบั ความวติ กกงั วลท่เี กินพอดี

สวสั ดีครบั
ผู้คนคาดว่าปีเสือ 2565 คงจะดุสมชื่อ เพราะเพียงช่วง 3 วันแรก แต่ละคนใจระทึกเฝ้าลุ้นตัวเลขผู้ติดเชื้อ

โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ว่าจะสูงขึ้นมากน้อยแค่ไหน และคาพูดฮิตที่ใช้ปลอบใจกันก็คือ “เราต้องอยู่กับ
เจา้ วายร้ายตวั น้ใี ห้ได้” แมใ้ นใจลกึ ๆ ทุกคนจะมีความวติ กกงั วลอยโู่ ดยธรรมชาติ

ความวิตกของมนุษย์มีสารพัด ท้ังเร่ืองการครองชีพ สุขภาพ การใช้ชีวิตประจาวัน ปัญหาสัตว์เลี้ยง และ
อาจจะมีเรื่องเลยเถิดที่จินตนาการไปเอง เช่น กลัวว่าไฝที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดตรงต้นแขน อาจจะเป็นเนื้อร้าย
กลวั ลูกจะถกู ลักพาตวั ระหวา่ งเดนิ ทางไปเรียนหนังสือ กลวั ขโมยจะเข้าบา้ นเพราะลืมลอ็ คประตู กลวั ผู้ก่อการร้าย
จะบุกโจมตสี นามฟตุ บอล และยังมเี รอ่ื งที่กลวั อีกรอ้ ยแปด

มเี รื่องเล่าถึงความกังวลของลกู พ่ลี กู น้อง มนุษยย์ คุ หนิ สองคนท่ีอาศัยอยใู่ นถา้ เดียวกัน คนแรกวิตกไปทุกเรื่อง
เชน่ วติ กวา่ กองไฟทกี่ ่อไวจ้ ะลุกลามเขา้ ไปในถา้ ลกู ชายท่ีไปลา่ สัตว์จะกลับมาปลอดภัยหรือไม่ เสือที่เดินป้วนเป้ียน

อยู่จะเข้ามาในถ้าไหม กลัวแม้กระทั่งว่า เห็ดที่เก็บมาแถวใกล้ ๆ ถ้า
จะเป็นเห็ดมีพิษ ขณะที่อีกคนกลับคิดตรงกันข้าม คือคิดว่ากองไฟคง
จะดับมอดไปเอง ลูกชายที่ออกไปล่าสัตว์คงกลับมาอย่างปลอดภัย
เหมือนทุก ๆ วัน เจ้าเสือตัวร้ายไม่เข้ามาในถ้าแน่ ๆ เพราะไม่เคยมี
เหตุการณ์อย่างน้ตี ลอด 10 ปที ่ีผา่ นมา ส่วนเห็ดทีก่ นิ อยู่ทกุ วนั ไม่เห็น
จะมีพษิ เลย อยา่ งไรก็ตาม แม้วา่ ความวติ กกังวลของคนแรกจะดเู พ้อเจ้อ
และทัศนะของคนหลังจะมเี หตุมีผลมากกว่า แตป่ รากฏว่าด้วยสัญชาตญาณ
ในการเอาตัวรอดของมนุษย์ ผคู้ นสว่ นใหญค่ ลอ้ ยตามความคิดของคนแรก1/
แดน กรูเป้ (Dan Grupe) นักจิตวิทยาของ Center for Healthy Minds มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-แมดิสนั
สหรฐั อเมริกา กล่าวไว้ว่า “สมองของคนเราพยายามใช้ประสบการณ์จากอดีตมาจัดระเบียบความคิดเพ่ือคาดการณ์
อนาคต” อย่างไรก็ดี โลกใบนี้ไม่มีอะไรแน่นอน ความไม่แน่นอน
ทาให้สมองต้องใช้พลังงานมากเป็นพิเศษเพื่อทาความเข้าใจกับการ
คาดการณ์อนาคต และส่วนใหญ่มนุษย์มีแนวโน้มคาดการณ์ในทาง
ด้านลบมากกว่าดา้ นบวก ทาให้เพ่ิมระดับความเครียดข้ึน เกิดความรู้สึก
ไม่สบายทั้งทางร่างกายและจิตใจ กลายเป็นความกังวล2/ บางคน
ถึงกับเป็นโรค “ความวิตกกังวลผิดปกติ” หรือ Generalized
Anxiety Disorder (GAD) ซึ่งในสหรฐั ฯ มีจานวนประชากรที่เป็นโรคนี้
สูงกวา่ 10 ลา้ นคน3/

ในความเป็นจริง ความวิตกกังวลเป็นเรื่องดี เพราะทาให้เราได้ตระหนักว่า ความไม่แน่นอนเป็นสัจธรรม
ทห่ี ลกี ไม่พน้ อยา่ งไรก็ตาม เราตอ้ งรจู้ กั แยกแยะให้ไดว้ า่ อะไรคอื ปญั หาทีแ่ ท้จริง อะไรคอื ปญั หาทเี่ กดิ จากการมโน
เชน่ สถานการณโ์ ควิด-19 ท่ยี าวนานกวา่ 2 ปี เตอื นเราวา่ ทกุ อย่างในโลกใบนีเ้ ปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ถ้าเราคิด
แต่เพียงว่าสามารถจะหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยการล้างมือ การใส่หน้ากากอนามัย การเว้น

1

ระยะห่างในสังคม ก็คงจะเพียงพอแล้ว แต่ถ้าเราเกดิ มโนว่าสถานการณจ์ ะต้องเลวรา้ ยจนถึงขัน้ ล้างโลก จะทาให้
เราเกิดภาวะเจ็บปวดทางจิตใจอย่างรุนแรง ในขณะที่วิธีการคลายความวิตกกังวลด้วยการเบี่ยงเบนความกลัว
ของตัวเอง เช่น การไปทางานอดิเรก ดูหนัง ฟังเพลง ไปงานเลี้ยงสังสรรค์ หรือหลีกเลี่ยงการดูข่าวใน LINE นนั้
เป็นเพียงการประวงิ เวลาหรือยารักษาชั่วคร้ังช่ัวคราว เพราะในท่ีสดุ ความวติ กกังวลก็ยังอยใู่ นความคดิ ของพวกเรา
อยดู่ ี

โม บราวน์ (Moe Brown) นักบาบัดจิตวิทยาชาวสหรัฐฯ จึงได้กล่าวว่า “ความไม่แน่นอนได้รับการ
ตีความหมายว่า เป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ เป็นที่มาของความกลัวและความวิตกกังวล แต่หากเราสามารถเปลี่ยน
มุมมองว่า ความไม่แน่นอนทาให้เราเกดิ ความตระหนักและทาวิกฤติให้เป็นโอกาสด้วยการใช้ความไม่แน่นอนนน้ั
เป็นพลงั เพือ่ เปลย่ี นแปลงชวี ิตในทางท่ดี ขี ึ้น รวมทั้ง ใช้ให้เกิดเป็นปัญญาเตมิ เต็มความสุขให้กบั ชีวิต”2/

หากเราสามารถที่จะแก้ไขความวิตกกังวลที่เกินพอดี เราจะใช้ชีวิตอยู่กับเจ้าอสรพิษ โควิด-19 ได้ ผมขอ
เปน็ กาลงั ใจให้กับพวกเราทกุ คน และหวงั ว่าจะดาเนินชวี ติ ไดอ้ ย่างรู้เทา่ ทนั รับกบั ปีเสือทย่ี อมถอดเข้ียวเล็บแล้ว

รณดล นุม่ นนท์
4 มกราคม 2565

แหลง่ ที่มา:
1/ Psychology Today. 2022. Why People Worry All the Time (A Tale of Bernie and Charlie).
[online] Available at: <https://www.psychologytoday.com/us/blog/fighting-fear/201206/why-
people-worry-all-the-time-tale-bernie-and-charlie> [Accessed 2 January 2022].
2/ Discover Magazine. 2022. Uncertainty is Uncomfortable. Here's How We Can Learn to Live
With It. [online] Available at: <https://www.discovermagazine.com/mind/uncertainty-is-
uncomfortable-heres-how-we-can-learn-to-live-with-it> [Accessed 2 January 2022].
3/ Adaa.org. 2022. Generalized Anxiety Disorder (GAD) | Anxiety and Depression Association
of America, ADAA. [online] Available at: <https://adaa.org/understanding-
anxiety/generalized-anxiety-disorder-gad>
[Accessed 2 January 2022].

2

ไคลฟ์ เดวสิ : บทเพลงแหง่ ชวี ติ

สวสั ดีครบั
มองย้อนหลังกลับไปถึงวันเก่า ๆ เมื่อ 50 กว่าปีก่อน ในช่วงฤดูร้อนอบอ้าวเดือนสิงหาคม 1967 ที่บริเวณ

ถนนไฮต์-แอสบวิ รี (Haight-Ashbury) กลางเมืองซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ซึ่งดูบรรยากาศจะร้อนอบอา้ ว
ยิ่งกว่า เมื่อหนุ่มสาวชาวบุปผาชน หรือฮิปปี้นับแสนคนมาชุมนุมกันเรียกร้องหาอิสรเสรีภาพความเป็นตัวตน
ในโลกที่เปลี่ยนไป ด้วยการจัดดนตรีแนวร็อกแอนด์โรลที่คนอเมริกันส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรู้ จัก ในงานดังกล่าว
ชายหนุ่มวัย 35 ปี มาดผู้ดี ในชุดกางเกงขายาวสีขาว เสื้อสเวตเตอร์ ราวกับมางานเลี้ยงสังสรรค์ จึงดูโดดเด่น
สะดุดตา

ทุกเรอ่ื งไปสุด เสียงกีตาร์ไฟฟ้ากึกก้อง เสียงกลองรัวเร็ว นักร้องตะเบ็งร้องสดุ เสียง เนอ้ื ทานองเพลงฉีกกรอบ
เดิมจากเพลงคลาสสิกผสมผสานกับแฟชั่นการแต่งตัว สีผมแหวกยุค ทุกคนสนุก เคลิบเคลิ้มเข้าถึงอารมณ์
ต่างลุกขึ้นเต้นไปตามจังหวะเพลง บรรยากาศสุดมันแปลกใหม่ไม่เคยปรากฏ และเมื่อถึงคิวของวงบิ๊กบราเธอร์
และเดอะโฮลดิ้งคอมพานี เจนสิ จอปลิน (Janis Joplin) ดาวร่งุ ของมวลบุปผาชน ขึน้ มาร้องเพลง “ชายหนุ่มผู้ดี
คนนั้น” รับรู้ทันทีว่า เสียงเพลงที่เร้าใจของเจนิส จอปลิน กระตุกต่อมความสุข บ่งบอกว่า แม้ในโลกนี้ จะมีคน
ร้องเพลงเปน็ ร้อยล้านคน แต่ “เอกลกั ษณ์” เฉพาะตัวต่างหากท่แี ยกโดดเด่นออกมา

ในคืนนั้น เขาจึงตัดสินใจเซ็นสัญญาวงบิ๊กบราเธอร์ฯ ด้วยมูลค่า 2 แสนเหรียญ นับเป็นสัญญาแรกในฐานะ
ผู้จัดการของ บริษัท Columbia Records นี่คือจุดเริ่มต้นของชายที่ชื่อ Clive Davis (ไคลฟ์ เดวิส) ผู้ผลักดัน

ให้อุตสาหกรรมดนตรีโลดแล่นมากว่าครึ่งศตวรรษ พร้อมเปลี่ยน
ภาพลักษณ์ของบริษัท CBS (Columbia Broadcasting System)
ที่เหนียวแน่นกับการผลิตศิลปิน และเพลงแนวคลาสสิกมาโดยตลอด
นับจากนั้นมา ไคลฟ์ได้ปลุกปั้นศิลปินนักร้องให้เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก
ไม่เพียงเจนิส จอปลิน ที่เพลง Me and Bobby McGee ของเธอติดชาร์ต
อันดับ 1 ในปี 1971 โดยมียอดขายอัลบั้มกว่า 15.5 ล้านชุด และ
นติ ยสารโรลลงิ สโตนจัดให้อยู่อันดับ 26 ของรายช่ือ 100 ศลิ ปนิ ยอดเยี่ยม
ตลอดกาล ศิลปินนักร้องก้องโลกฝีมือแบบไคลฟ์มีอีกนับไม่ถ้วน
เช่น Bruce Springsteen, Rod Stewart, Billy Joel, Carlos Santana, Barry Manilow, Alicia Keys, Sly
Stone, Aretha Franklin และ Whitney Houston ที่น่าทึ่งก็คือ ไคลฟ์ผู้นี้ไม่เคยมีแรงบันดาลใจทาธุรกิจเพลง
ใด ๆ มาก่อน ไม่มีพรสวรรค์หรือรู้เรื่องดนตรี และยังมีไฟที่จนทุกวันนี้ยังไม่พร้อมเกษียณตัวเอง1/ ไคลฟ์ เดวิส
ได้เขียนอัตชีวประวัติ The Soundtrack of My Life เมื่อ 4 ปีก่อน และ Netflix เพิ่งมาทาเป็นภาพยนตร์
สารคดีเมื่อไม่นานมานี้ เป็นผลงานที่คนคอดนตรีจะต้องหลงรักเพราะมีเรื่องราวดนตรีและศิลปินหลากหลายที่
ไคลฟ์ เดวสิ มีส่วนในการสรา้ งสรรค์
ไคลฟ์ เดวิสเกิดเม่ือวนั ท่ี 4 เมษายน 1932 ปจั จุบันอายุยา่ ง 90 ปี เตบิ โตในครอบครัวชาวยิวเขต Brooklyn
เมอื งนวิ ยอรก์ ครอบครวั เช่ือวา่ การเรยี นสงู ๆ เพอ่ื ประกอบอาชีพแพทย์หรือทนายความคือหนทางสูค่ วามสาเร็จ
ในชีวิต ไคลฟ์ไม่ได้ทาให้พ่อแม่ผิดหวัง เป็นเด็กขยัน เรียนหนังสือเก่ง ได้เข้าเรียนระดับปรญิ ญาตรีท่ี New York

3

University (NYU) จบพร้อมด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 สาขารัฐประศาสนศาสตร์ ได้ทุนเรียนต่อด้านกฎหมายท่ี
Harvard Law School เป็นเนติบัณฑิตในปี 1956 ด้วยวัยเพียง 24 ปี น่าเสียดายที่พ่อแม่เสียชีวิตไปก่อนจะ
ไดเ้ ห็น ความสาเร็จของลูกชาย

ไคลฟ์ เดวิสเข้าทางานในสานักงานทนายความแหง่ หน่ึงในนิวยอรก์ อยู่ระยะหน่ึง2/ และหนึ่งในลกู คา้ คอื บริษัท
CBS ได้ว่าจา้ งให้มาทางานฝา่ ยกฎหมาย ในช่วง 5 ปีแรกคดิ ใฝฝ่ นั เพียงว่าคงจะได้เป็นผูอ้ านวยการฝ่ายกฎหมาย
ของบรษิ ทั CBS แต่แลว้ เหตกุ ารณก์ ไ็ มค่ าดฝนั เม่ือมกี ารปรับโครงสร้างของบริษัท และท่านประธานเสนอให้ไคลฟ์
รับหน้าที่ผู้อานวยการฝ่ายผลิตเคร่ืองดนตรี ซึ่งไคลฟ์ปฏิเสธเป็นพัลวันเพราะไม่เคยรู้เร่ืองเครื่องดนตรี ไม่ว่าจะเป็น
กีตาร์หรือแกรนด์เปียโน อย่างไรก็ตาม ในวันรุ่งขึ้นก็มีการประกาศแต่งตั้งให้เขาเป็นผู้อานวยการ CBS Records
รับผิดชอบดูแลศิลปินนักร้องในสังกัดอย่างเป็นทางการ นับเป็นจุดกาเนิดของชายผู้พลิกโฉมวงการดนตรีมา
ตราบเทา่ ทุกวนั น้ี

ความสาเร็จของไคลฟ์ เดวิส เกิดจากความแน่วแน่ที่จะทาสิ่งดีที่สุด ให้ความใส่ใจลงไปในรายละเอียดของ
ความเป็นตัวตนของศิลปินแต่ละคน สิ่งแรกที่ไคลฟ์ทาหลังจาก
เซ็นสัญญาคือ การศึกษาให้ทะลุว่านักร้องแต่ละคน มีพรสวรรค์
จุดแข็ง จุดอ่อนอะไร เพื่อจะวางกลยุทธ์และเติมเต็มสร้างพลังให้มี
อะไรใหม่ ๆ ทั้งเนื้อเพลง เสียงเพลง บุคลิกภาพ และอัตลักษณ์ที่
ถูกยุคถูกสมัย เช่น ไคลฟ์เลือก Alicia Keys แสดงในรายการ Talk
Show ของโอปราห์ วินฟรีย์ เพราะมั่นใจว่าผู้ชมจะตะลึงกับสีหน้า
ท่วงที และ อารมณ์ของเธอขณะเล่นเปียโน หรือวางอัลบั้มของ
Rod Stewart จาหน่ายตามร้านในย่านคนมีสตางค์ของแฟนคลับ

Rod Stewart อย่างไรก็ตาม เอกลักษณ์โดดเด่นของไคลฟ์คือ การพร้อมรับฟังและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ โดยเฉพาะ
แนวทางดนตรีหลากหลาย ทัง้ คลาสสิก แจ๊ส ร็อก ฮปิ ฮอป แร็ป อารแ์ อนดบ์ ี และคันทร่ี3/

ทุกวันนี้ ไคลฟ์ยังคงทางานผลิตศิลปินนักร้องด้วยความหลงใหล ทุ่มเท ทั้งนี้ Patti Smith ศิลปิน นักแต่งเพลง
ผลผลิตของไคลฟ์ ได้กล่าวคาสรรเสริญไว้ในหนังสือ The Soundtrack of My Life ว่า “ความพิเศษของไคลฟ์
คือ การเป็น “มนษุ ยห์ ูทองคา” ตามสมญานาม ทไี่ ดร้ ับ และเปน็ คนมคี วามสขุ ไดก้ ับเรอื่ งเล็ก ๆ น้อย ๆ”

รณดล นมุ่ นนท์
10 มกราคม 2565

แหล่งที่มา:
1/ Npr.org. 2022. NPR Cookie Consent and Choices. [online] Available at:
<https://www.npr.org/sections/therecord/2013/02/23/172719492/clive-davis-a-life-with-a-
soundtrack> [Accessed 9 January 2022].
2/ En.wikipedia.org. 2022. Clive Davis - Wikipedia. [online] Available at:
<https://en.wikipedia.org/wiki/Clive_Davis> [Accessed 9 January 2022].

4

3/ Linkedin.com. 2022. Lessons from Clive Davis: The Soundtrack of Our Lives. [online]
Available at: <https://www.linkedin.com/pulse/lessons-from-clive-davis-soundtrack-our-lives-
sim-ling-ku?trk=public_profile_article_view> [Accessed 9 January 2022].

5

คดิ ใหม:่ พลงั ของการยอมรบั ในความไมร่ ู้

สวสั ดีครบั
“ความเช่อื ” เป็นธรรมชาตแิ ละวฒั นธรรมของมนุษย์ท่ีเกดิ จากการเรียนรแู้ ละการปลกู ฝังอบรมมาต้ังแต่ลืมตา

ดูโลก เป็นความเชื่อที่ยึดมั่นติดอยู่ในใจ โดยไม่เคยต้องสนใจว่าเรื่องที่เราเคยเชื่อนั้น เมื่อวันเวลาผ่านไปอาจจะ
ไม่เปน็ เหมือนเดิม ทง้ั นี้ เพราะมนุษย์เปน็ สิ่งมีชีวิตที่มีมนั สมองสุดขเ้ี กียจ พอใจชื่นชอบวา่ ส่ิงท่ีตนเองเห็นและเช่ือ
ถกู ต้องแล้ว เช่นเมื่อเร็ว ๆ น้ี ในเวลาที่กระบวนการจกั รวาลนฤมิตหรือ Metaverse กาลังเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์
จู่ ๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งโพสต์คลิปว่า เกิดมีรอยเท้าคนปรากฏบนเตียงนอนภายในโรงแรมที่พัก โดยอธิบายว่า
เมอื่ ตอนเขา้ ห้องพักได้ถ่ายรูปห้องไว้ทุกมุม ทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่หลังจากไปเข้าห้องน้า กลับออกมา
สังเกตเห็นรอยเท้าคนขนาดใหญ่ 2 รอยอยบู่ นกลางทน่ี อนบนเตียง
ไม่มรี อยเท้าอย่ตู ามหรือที่อนื่ ๆ เลย เธอตกใจกลัวมาก ไม่รู้ว่าเป็น
รอยเท้าใคร เพราะในห้องมีเพียงเธอคนเดียว ประตูห้องก็ล็อก
ทง้ั หมด หลงั จากแชร์คลิปดังกล่าวออกไปเพียงไม่ก่ีนาที มีคนเข้ามา
ให้ความเหน็ อยา่ งลน้ หลามกวา่ 2.3 ล้านคร้งั แบ่งออกเปน็ 2 พวก
มีไม่น้อยที่เชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องอาถรรพ์ลี้ลับทางไสยศาสตร์
อาจจะเป็นภูตผีปีศาจหรือของผีสางนางไม้ เจ้าที่เจ้าทาง ขณะที่
อีกกลุ่มหนึ่งซึ่งมากพอ ๆ กัน เห็นว่า เป็นเพียงรอยเป้ือนธรรมดา ๆ ที่ผู้หญิงคนนั้นหวาดระแวงหรือตื่นตระหนก
ไปเอง1/ ท้งั สองฝ่ายต่างโต้แยง้ ไปตาม “ความเชื่อ” ไมม่ ีใครยอมใครและคงจะเปลีย่ นใจฝา่ ยหนึ่งฝา่ ยใดไม่ได้

เรื่องไม่เป็นเรื่องที่ไม่ควรจะมาเสียเวลาทานองนี้มีอยู่มากในแต่ละวัน แม้กระทั่งเรื่องที่ควรจะยุติไปนานนับ
พันปีแล้วก็ยังเป็นปัญหาโต้แย้งไม่รู้จบ เช่นเรื่องโลกกลม โลกแบน ที่ผู้คนส่วนหนึ่งยังค้างคาใจ ประชากรชาว
บราซิลกว่า 11 ล้านคนยังคงเชื่อว่าโลกแบน แม้ว่า เมอ่ื 500 ปกี ่อนคริสตกาล พที าโกรัส นักวิทยาศาสตร์คนแรก

ได้สร้างทฤษฎีเกี่ยวกับโลกกลมหมุนรอบตัวเอง และต่อมา
นกั ดาราศาสตรอ์ ย่างโคเปอรน์ คิ สั และกาลเิ ลโอ ต่างยืนยนั วา่
เป็นทฤษฎีที่ถูกต้อง มิพักต้องกล่าวถึงลูกเรือยานอวกาศ
อะพอลโล 17 ที่ถ่ายภาพรูปโลกให้เห็นโลกกลมทั้งใบเป็น
ครั้งแรกตั้งแต่ปี 1972 และยังไว้ใจไม่ได้ว่า หากมีการชุมนุม
ยืนยันว่าโลกกลม ในบางท้องที่อาจจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมคงออกมา
ต่อต้านจนต้องแตกกระเจิง ไม่มีที่ยืนในสังคม เหมือนกับ
ในช่วงศตวรรษที่ 16 ที่นักบวชในศาสนาคริสต์เมื่อไปพูดที่ไหนต้องยืนยันว่าโลกแบน คนไหนพูดว่าโลกกลม
จะเปน็ อนั ตราย2/
ในปัจจุบัน เครื่องมือการสื่อสารในโลกโซเชียลมีเดียไม่ได้ให้ความสาคัญกับ “การพูดคยุ ” อาวุธที่มีพลงั ทีส่ ดุ
ในการสร้างทักษะการโต้เถียงเพื่อตามล่าหาความจริง จึงเป็นเรื่องน่ายินดีเมื่ออดัม แกรนต์ (Adam Grant)
ศาสตราจารย์หนุ่มนักจิตวิทยา สาขาจิตวิทยาองค์กร แห่ง Wharton School มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย
สหรัฐอเมริกา เจ้าของหนังสือที่โด่งดังเรื่อง Originals และ Give and Take ได้เขียนหนังสือออกมาใหม่

6

เมื่อปีกลาย (ปี 2021) เรื่อง Think Again: The Power of Knowing What You Don’t Know เรียกร้องว่า
“อย่าเชื่อมั่นในความรู้ที่เรามี แต่จงเชื่อมั่นในความรู้ที่เราได้มาใหม่” โลกเปลี่ยนไปมากแล้ว มนุษย์ในปี 2021

ต้องรบั ขอ้ มลู และองค์ความรู้ใหม่ ๆ มากกวา่ มนษุ ย์ในเวลากอ่ นหน้านี้
เพียง 25 ปีถึง 5 เท่า เพราะฉะนั้น เราต้องรู้จักเปลี่ยนความคิด
(rethink) ทิ้งความรู้เดิม ๆ (unlearn) ซึ่งคนที่จะทาให้เราเปลีย่ นได้
ก็มีแค่เราเท่านั้นแหละ เริ่มต้นจากตนเอง เรียนรู้สิ่งรอบตัวมากยิ่งข้ึน
เปิดรับ และตระหนักถึงอานาจของความถ่อมตัว ความสงสัย และ
ความยืดหยุ่น ยอมรับในสิ่งที่เราไม่รู้ เห็นจุดบอดที่อาจนามาสู่
สิ่งไม่พึงประสงค์ ที่สาคัญต้องทาอะไรก็ได้ให้คนรอบข้างเข้าใจ
กระบวนการใหเ้ กิดความเชือ่ และความศรทั ธาในตวั เรา3/
ศาสตราจารย์แกรนท์ กล่าวว่า คนส่วนใหญ่มักจะเชื่อในความรู้สึกว่า “ถูกต้อง” แทนที่จะเป็น “ถูกจริง ๆ”
และไม่คิดจะเปลี่ยนความเชื่อที่เคยเชื่อตาม ๆ กันมา อ้างว่าไม่ได้มีการทักท้วง ทาไมจึงต้องมาเสียเวลาเปลี่ยน
ความเชื่อนั้น ทั้งนี้ ความเชื่อของมนุษย์มีอยู่ 3 ประเภท คือ
ความเชื่อแบบนักเทศน์ แบบทนายความ และแบบนักการเมือง
นักเทศน์ จะเน้นความเชื่อของตัวเองว่าเป็นความจริงสูงสุด
ทนายความจะเน้นการโจมตีความคิดเห็นของผู้อื่นที่แตกต่าง
กับตัวเองเพื่อให้ชนะคดี ขณะที่นักการเมืองจะทาทุกวิถีทาง
ให้ได้รับการเลือกตั้ง ความเชื่อทั้งสามลักษณะนี้ไม่ได้เอื้อต่อ
ความคิดสร้างสรรค์ ไม่เปิดใจรับสิ่งใหม่ ๆ ศาสตราจารย์แกรนต์
จึงขอให้ทุกคนไดก้ ลับมามองตนเอง ทบทวนว่าสิ่งที่เราเข้าใจ สิ่งท่ีเราเชื่อ หรือสิ่งที่เรารู้นั้น ยังถูกต้องอยู่หรือไม่
และยังสามารถใช้ได้อยู่หรือเปล่า แล้วดึงสติให้หลุดออกจากกรอบความเชื่อผิด ๆ เข้าสู่การค้นหาความจริง
เร่ิมด้วยตัง้ คาถามในเรอ่ื งทร่ี ู้ สงสัยในเร่อื งทยี่ ังไมร่ ู้ เติมความรู้ใหม่ ๆ เป็นการเข้าสโู่ หมด “นกั วทิ ยาศาสตร”์ เน้น
การตั้งสมมติฐานและหาคาตอบ เพราะการทบทวนความคิดของตนเองอยู่เป็นระยะ ๆ นั้น คือหนทางสร้างชีวิต
ให้สมบูรณ์4/
อย่างไรก็ตาม เพียงความตั้งใจจะผันตัวเองให้เป็นนักคิดใหม่อาจไม่ตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงความเชื่อ
ทั้งระบบ ยังต้องมี ปัจจัยอื่น ๆ มาเสริม โดยเฉพาะคุณสมบัติที่ศาสตราจารย์แกรนต์เรียกว่า “confident
humility” หรือการผสมผสานระหว่างการยอมรับในความไม่รู้กับความมุ่งมั่นในความสามารถที่จะเรียนรู้
ซ่งึ ผมจะขอขยายความใน Weekly Mail สัปดาห์หน้าครบั

รณดล นมุ่ นนท์
17 มกราคม 2565

7

แหลง่ ท่ีมา:
1/ คมชัดลกึ ออนไลน.์ 2022. “สาวพกั โรงแรม” เจอรอยเท้าปริศนาโผลก่ ลางเตยี ง ทาหลอนแทบไม่ไหว (คลปิ ).
[online] Available at: <https://www.komchadluek.net/hot-social/500951> [Accessed 16
January 2022].
2/ Youtube.com. 2022. [online] Available at:
<https://www.youtube.com/watch?v=K2rxEcZWNus> [Accessed 16 January 2022].
3/ Panasm.com. 2022. [สรปุ หนังสือ] Think Again: The Power of Knowing What You Don’t Know –
Panasm's Blog. [online] Available at:
<https://www.panasm.com/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%
AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD-think-again/> [Accessed 16 January 2022].
4/ THE ZEPIA WORLD. 2022. สรุปหนังสือ Think Again: เมือ่ สิ่งทเี่ ราเคยเชื่อมนั เปลีย่ นไปแล้ว. [online]
Available at: <https://thezepiaworld.com/2021/07/24/think-again/> [Accessed 16 January
2022].

8

คดิ ใหม:่ พลงั ของการยอมรับในความไมร่ ู้ (ตอนจบ)

สวสั ดีครบั
Weekly Mail สัปดาห์ที่แล้ว ผมเขียนถึง “ความเชื่อ” ว่าถ้าเราเชื่อแบบหัวปักหัวปาแล้ว ก็ยากจะเปลี่ยนแปลง

ศาสตราจารย์อดัม แกรนต์ (Adam Grant) ผู้เขียนหนังสือ Think Again: The Power of Knowing What
You Don’t Know จึงขอให้เราทบทวนความเชื่อของตนเองอยู่เป็นระยะ ๆ เพื่อจะได้หลุดพ้นจาก “ความเชื่อ
ที่ฝังใจ” ผันตัวเองเข้าสู่โหมด “นักวิทยาศาสตร์” เริ่มจากการเลือกใช้เหตุผลที่ปัง ๆ เพียง 2-3 เหตุผล ตั้งสมมติฐาน
เพื่อแสวงหาคาตอบ อย่างไรก็ดี กระบวนการคิดใหม่ เรียนรู้ใหม่ ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีปัจจัยอื่น ๆ เข้ามาเสริม
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราจะต้องละทิ้งความคิดที่เพียงให้มองเห็นแค่อะไรก็ได้ที่คาดหวังจะเห็น จะต้องพึงเข้าใจว่า
มนุษย์เรามีระดับความเชื่อมั่นแบ่งออกได้เปน็ 2 กลุ่มใหญ่ ๆ กลุ่มแรกมีความเชื่อมั่นในตนเองสูง เช่น แฟนกีฬา
ที่ชอบวิพากษ์วิจารณ์และดูจะเก่งกว่าโค้ชและนักกีฬาเสยี อกี
พวกนี้จัดว่าเป็น “ยอดฝีมือบนเก้าอี้นวม” (The Armchair
Quarterback) คือ “ดีแตพ่ ดู เล่นไมเ่ ปน็ ” ส่วนกลุ่มทส่ี องถ่อมตัว
แบบเตี้ยติดดินไปอีกสุดขั้วหนึ่ง แม้จะมีความรู้ความสามารถ
แต่กลับไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเอง ถือเป็นกลุ่ม “คนไร้ตัวตน”
(Impostor Syndrome) คิดเพียงว่าทาไม่เป็น ทาไม่ได้ ไม่กล้า
แสดงความคิดเห็นอะไรเลย คนทั้ง 2 จาพวกนี้ ต่างต้องจมอยู่ใน
หลุมพรางของตัวเองและคนอื่นตลอดไป ไม่สามารถเปลี่ยน
ความคิด (rethink) และทิ้งความรู้เดิม ๆ (unlearn) ให้เข้ามาอยู่ในโลกของความเป็นจริงได้ และวิธีแก้พฤติกรรม
ตา่ งข้วั ของ 2 กลุ่มนคี้ ือ การทาให้เกิดความพอดีระหวา่ งความเชอื่ มั่นกับความถ่อมตวั (Confident Humility)1/

นอกเหนือจากความยากที่จะเปลี่ยนความเชื่อของตนเองแล้ว การจะเปลี่ยนแปลงความเชื่อของผู้อื่นยังเป็น
ความท้าทาย ที่ยิ่งกว่า ศาสตราจารย์แกรนท์ได้ยกตัวอย่างเรื่องราวของการพบกันเมื่อปี 1983 ระหว่างแดริล
เดวิส (Daryl Davis) นักดนตรีผิวสี กับชายอเมริกันผิวขาว สมาชิกลัทธิคูคลักซ์แคลน (Ku Klux Klan: KKK)
กลุ่มชาตินิยมขวาสุดโต่งที่ดูถูกเหยียดหยามคนผิวสี หลังจากเดวิสเล่นเปียโนเพลงคันทรี่ที่ชายผิวขาวคนนั้น

ชื่นชอบ และออกจะแปลกใจที่เดวิสสามารถเล่นเพลงคันทรี่ได้ และ
แปลกใจเป็นคารบสอง เมื่อเดวิสเดินลงจากเวทีเข้ามาคุยด้วย ชายผิวขาว
รู้สึกตื่นเต้นเพราะในชั่วชีวิตยังไม่เคยได้พูดคุยกับคนผิวสีมาก่อนเลย
เขาบอกเดวิสอย่างไม่อ้อมค้อมว่าเขาอยู่ในกลุ่ม KKK ซึ่งแทนที่
เดวิสจะเดินหนี กลับป้อนคาถามอย่างสุภาพว่า “ผมขอถามตรง ๆ
เถอะครับว่า ทาไมคณุ มองผมอย่างดถู ูกและรังเกียจ ทั้ง ๆ ที่เราไมเ่ คย
รู้จักกันมาก่อนครับ” เป็นคาถามที่กินใจก่อให้เกิดจุดเริ่มต้นของการ
เปลี่ยนมุมมองในเรื่องเชื้อชาติตั้งแต่วินาทีนั้น และทั้งสองเริ่มสร้าง
สัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ชายผิวขาวได้ลาออกจากสมาชิกภาพกลุ่ม KKK

9

แถมยงั ขอร้องให้เดวสิ ไปเกลี้ยกล่อมเพื่อน ๆ ให้ออกจากสมาชกิ ของกลุ่ม และที่ลกึ ซ้งึ ไปกว่านน้ั คือ เขาได้ขอร้อง
ใหเ้ ดวสิ เปน็ พอ่ ทูนหัวของลูกสาวอีกด้วย2/

เรื่องราวข้างต้นแสดงให้เห็นว่า ความเชื่อเดิมของแต่ละคนอาจจะถูกปลูกฝังมาแบบผิด ๆ ทาให้เกิดอคติ
อย่างไร้เหตุผล เมื่อสมาชิกลัทธิ KKK ได้สัมผัสกับคนผิวสีอย่างเดวิส ทาให้ได้รู้จักกับโลกของความเป็นจริง และ
ตระหนกั ว่า ไมว่ า่ จะเป็นคนเชือ้ ชาตใิ ด สีผิวใด ตา่ งก็เป็นมนุษยบ์ นโลกใบเดียวกนั จะต้องอยรู่ ่วมกนั ให้ได้

ดังนั้น เมื่อเรามีโอกาสจะโน้มน้าวผู้อื่นให้คิดใหม่และเรียนรู้ใหม่ เราจาเป็นต้องหัดตั้งคาถามที่ถูกต้อง
เป็นคาถามที่เกิดจากความสงสัย ไม่ควรใช้คาถามว่า “ทาไม” ที่เต็มไปด้วยความลาเอียง แต่ควรใช้คาถามว่า
“อย่างไร” เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคดิ ต่อกันหมือนกบั การเต้นราไปด้วยกัน ในบางครั้งเรานา ในบางครั้ง
เขานา ไม่ใช่เหมือนการชกมวยที่หวังจะเอาแพ้เอาชนะ รวมทั้งต้องเป็นผู้ฟังที่ดี คือฟังอย่างไตร่ตรอง ทาให้เกิด
แรงจูงใจให้ผู้ฟังคิดทบทวนตนเองว่าทาไมจึงควรเปลี่ยนความเชื่อนั้น การคิดใหม่ การเรียนรู้ใหม่ ไม่ควรจากัด
แค่ตนเอง แตค่ วรจะทาให้เกดิ เปน็ วฒั นธรรมในองคก์ รด้วย เพ่ือเราจะไดเ้ กิดกระบวนการคดิ ใหมต่ ลอดเวลาในโลก
ยุค new normal ศาสตราจารย์แกรนท์ได้สรุปเนื้อหาของหนังสือด้วยวลีทองว่า “เมื่อไหร่ที่คุณรู้ตัวว่าคุณไม่รู้
แปลวา่ คณุ ฉลาดข้นึ แล้ว”

รณดล นุ่มนนท์
24 มกราคม 2565

แหลง่ ที่มา
1/ Panasm.com. 2022. [สรุปหนังสอื ] Think Again : The Power of Knowing What You Don’t Know
– Panasm's Blog. [online] Available at:
<https://www.panasm.com/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%
AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD-think-again/>
[Accessed 16 January 2022].
2/ Redeemer Church. 2022. Think Again by Adam Grant | Redeemer Church. [online]
Available at: <https://redeemerjackson.com/2021/03/think-again-by-adam-grant/>
[Accessed 23 January 2022].

10

วิง่ มาราธอน: บททดสอบ พลังอดึ พลงั ฮดึ พลังสู้

สวสั ดคี รบั
นับจากเริ่มปีเสือ ผมต้องปรับพฤติกรรมด้วยการมาวิ่งรอบแบงก์ในช่วงเช้าก่อนเข้าทางานเหมือนเช่นเคย

เพราะการ work from home ทาให้ไม่คอ่ ยมีวนิ ัยให้เวลากบั การออกกาลังกาย บรรยากาศโดยรวมค่อนขา้ งเงยี บ
เหงาเพราะคนเข้ามาทางานไม่มากนัก ผมได้พบน้องพัฐสุดา วิทยานนท์เอกทวี (น้องพัด) และน้องธิติ กองประเสริฐ

(น้องบิ๊ก) หลังจากไม่ได้เจอกันบนลานวิ่งมาร่วมปีแล้ว ผมพยายาม
สังเกตความแตกต่างระหว่างเราทั้งสองในเรื่องของความถี่ ความเร็ว
และระยะเวลาที่ใช้ในการวิ่ง ตัวผมเองจะวิ่ง ๆ เดิน ๆ แบบสบาย ๆ
(fun run) ไม่เกิน 30 นาที ขณะที่น้องทั้งสองวิ่งแบบนักวิ่งอาชีพ
แมว้ า่ ผมจะเข้าไปจบิ กาแฟในสโมสรแล้วกลับออกมาก็ยังเห็นทั้งสองคน
ไม่ยอมหยุด ด้วยความสงสัย ผมจึงเดินเข้าไปถามว่า “ทาไมถึงได้ว่ิง
อย่างเอาจริงเอาจังขนาดนี้?” ซึ่งคาตอบก็คือว่า “เราสองคนกาลังเตรียมตัวไปวิ่งที่ชิคาโกมาราธอนในเดือน
ตุลาคมนี้ค่ะ/ครับ” และนี่เป็นจุดเริ่มต้นของการสนทนาถึงความเป็นมาของความหลงใหลในการวิ่งของน้อง
ทงั้ สอง
น้องบิ๊กเริ่มต้นเล่าว่า เพิ่งวิ่งเป็นครั้งแรกในกิจกรรมวิ่ง 10 กิโลเมตรขณะเรียนปริญญาตรีปีสุดท้ายตามคา
ชักชวน ของเพื่อน แม้จะไม่เคยฝึกซ้อมหรือมีประสบการณ์วิ่งบนท้องถนนมาก่อน แต่ด้วยความเป็นนักกีฬา
แบดมนิ ตันมาต้ังแต่เด็กจึงวิ่งเข้าเส้นชัยได้สบาย ๆ และตดั สินใจฝึกออกกาลังกายด้วยการว่ิงนับแต่นั้นมา ในขณะท่ี
นอ้ งพดั บอกว่า ตนเองไม่เคยสนใจกีฬาหรือออกกาลังกายเลย จนกระท่งั เร่ิมเข้าทางาน งานหนกั มาก ทาแบบหามรุ่ง
หามค่า อดหลับอดนอน 3 วันเต็ม อยู่ในสภาพหมดแรงหมดไฟ (burn out) จึงไปฟื้นฟูร่างกายดว้ ยการออกกาลัง
ท่ีฟติ เนส แตต่ อ่ มา หันกลับมาเลือกวธิ วี ิง่ เพราะสะดวก ไม่ยุง่ ยาก ไมต่ ้องเสยี เงนิ แพง ลงทนุ เพียงรองเทา้ วิง่ คูเ่ ดียว
ก็พอแลว้
ทั้งสองคนร่วมกันเล่าว่า ช่วงแรกเป็นการวิ่งไปเรื่อย ๆ ไม่จริงจังอะไร จนกระทั่งเข้ามาทางานที่แบงก์ชาติ
ได้สมัครเป็นสมาชิกชมรมวิ่งของแบงก์ มีโอกาสไปวิ่งตามที่ต่าง ๆ
ทุกสุดสัปดาห์ เริ่มจากมินิมาราธอนที่ 10 กม. ฮาล์ฟมาราธอน 21 กม.
ไปจนถึงมาราธอนเต็มรูปแบบ 42 กม. ต้องมีการเตรียมตัว ฝึกซ้อม
เป็นระบบ วิ่งทุกเย็นหลังเลิกงาน และนี่เป็นจุดเริ่มต้นของการพบรกั
กลายเป็น “คู่รักนักวิ่งแบงก์ชาติ” ตานานรักหวานชื่นให้ผู้คนอิจฉา
จนถึงทกุ วนั น้ี
น้องบิ๊กเล่าต่อว่า การได้รับโอกาสไปวิ่งที่ชิคาโกมาราธอนที่นักวิ่งทุกคนใฝ่ฝัน มาจากการสมัครและต้องลุ้น
จับฉลาก โชคดีจับฉลากได้ไปวิ่งด้วยกัน การวิ่งชิคาโกมาราธอน เป็นรายการวิ่งมาราธอนระดับโลกแบ่งออกเปน็
6 เมเจอร์ด้วยกัน ประกอบด้วยบอสตัน มาราธอน ลอนดอน มาราธอน เบอร์ลิน มาราธอน ชิคาโก มาราธอน
นิวยอร์ก ซิตี้ มาราธอน และโตเกียว มาราธอน มีผู้คนเข้าร่วมหลายหมื่นคนในแต่ละรายการ คู่รักนักวิ่งทั้งสอง

11

ดูออกจะต่นื เตน้ มาก เตรยี มตัวเต็มท่ถี ึงกบั ว่าจา้ งผู้ฝึกสอน (trainer) มาคอยแนะนา จัดตารางฝึกซ้อม ดคู อ่ นข้าง
ยงุ่ ยาก แตเ่ ราสนกุ กบั มัน เพราะเมือ่ เรามีเปา้ หมายอะไรหากทาสาเร็จจะรู้สกึ “ฟนิ ”

น้องสองคนกระซิบบอกถึงความหวังลึก ๆ ว่า ตั้งเป้าหมายจะไปร่วมวิ่งบอสตันมาราธอน ในเดือนเมษายน
ปีถัดไป เพราะหลงเสน่ห์ความขลังและความเก่าแก่ที่สุดในโลกอายุ 124 ปีของบอสตันมาราธอน ที่สุดยอดก็คือ
ไม่เพียงแต่จะต้องสุ่มจับฉลากให้ไดแ้ ล้ว ยังเป็นมาราธอนระดับโลกแห่งเดียวที่ผู้ว่ิงจะต้องพิสจู น์ว่าสามารถวิ่งได้
ตามเวลาที่กาหนด ซึ่งน้องทั้งสอง ยังต้องวิ่งให้ได้เร็วกวา่ เวลาที่ทาในปัจจบุ ันถึง 30 นาที และยังหวั่นอยู่เหมอื นกนั วา่
จะทาไดห้ รือไม่เพราะขนาด พี่ตูน อาทิวราห์ คงมาลัย ร็อกเกอร์หนุม่ หัวใจนักวิ่ง ยังทาเวลาเกินไปแค่ 29 วินาทีในการ
แข่งขันชิคาโกมาราธอนในปี 2019 ทาให้อดไปต่อที่บอสตันมาราธอน อย่างไรก็ดี การยิงนกสองตัวด้วยกระสุน
นดั เดียวในครงั้ น้ี คงต้องใชพ้ ลังอึด พลงั ฮึด และพลังสู้ จนใจขาด

ผมแกล้งหยอกถามว่า “มีคนสงสัยว่า เราสองคนตั้งหน้าต้ังตาวิ่งเพื่ออะไรกัน?” ได้รับคาตอบว่า การวิ่งสอน
อะไรหลาย ๆ อย่างให้กับชีวิต ที่สาคัญเราจะได้รับ 3 สิ่งที่ทุกคนมองหา นั่นคือ ความหวัง แรงบันดาลใจ และ
กาลังใจจากคนรอบตวั การวิ่งยังทาให้เกิดความอดทนท่ีค่อย ๆ สะสม จากการ
วางเป้าหมายเป็นขั้นเป็นตอนเพื่อไปสู่เส้นชัย เหมือนกับการทางานที่มีทั้ง
เปา้ หมายระยะสั้นและระยะยาว ฝกึ ให้เราวางแผนและแก้ไขปัญหาไปพร้อม ๆ กัน
เพราะการวิ่งระยะยาวต้องคานวณความเร็วในแต่ละช่วง ต้องรู้จังหวะเวลา
เติมอาหารว่างและน้าดื่มลงในกระเพาะ หากมีปัญหาฉุกละหุก เช่น เกิดเป็น
ตะคริวต้องรู้ว่าจะแก้อย่างไร ถือเป็นการเรียนรู้ที่นามาประยุกต์ใช้กับการ
ทางานและการดาเนนิ ชีวติ ประจาวนั ไดเ้ ป็นอยา่ งดี

น้องพัดกล่าวเสริมว่า กีฬาทาให้รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย หากเราแพ้ ก็ต้องหา
สาเหตุว่าเพราะอะไร เพื่อนามาแก้ไข หากเราชนะ ก็ต้องรู้จักให้รางวัลตนเอง
ชื่นชมตัวเองบ้าง จะได้รู้สึกสดชื่น มีกาลังใจทางาน สาหรับการรู้อภัยก็คือ
รจู้ ักอภัยผ้อู นื่ และตนเอง เพ่ือกา้ วตอ่ ไป

น้องบิ๊กกับน้องพัดขอเชิญชวนเพื่อนพนักงานให้แบ่งเวลามาออกกาลังกายกันบ้าง จะเป็นรูปแบบไหนก็ได้
ไม่จาเปน็ ตอ้ งเป็นแบบเหมือนของท้ังสองคน เพราะลักษณะงานท่ีเราทาอย่นู ัน้ เปน็ งานนง่ั อยู่หนา้ จอคอมพิวเตอร์
ประชุมแบบออนไลน์แทบทั้งวัน ถ้าเราไดข้ ยบั เขยื้อน ยืดเส้นยืดสายบ้าง เราจะมีชีวิตชวี ามากข้ึน แม้ผลการออก
กาลังกายจะไม่ไดร้ บั ทันตาทันใจ แต่จะเป็นผลดใี นระยะยาว เราจะกลายเปน็ อกี คนทด่ี ดู ที ั้งภายในและภายนอก

การเข้าร่วมวิ่งชิคาโกมาราธอนเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ทาให้ทั้งสองคนได้มีโอกาสใช้ชีวิตที่คุ้มค่า มีวินัยด้วย
micro habit จากเปา้ หมายเลก็ ๆ นาไปสูเ่ ปา้ หมายใหญท่ ีค่ อยเผชิญหนา้ ในอนาคต

รณดล น่มุ นนท์
31 มกราคม 2565

12

แม่-แถมสขุ นุ่มนนท:์ ผเู้ ต็มเป่ยี มไปดว้ ยความรักและอบอนุ่

สวัสดคี รบั
แม่รักและผูกพันกับ Weekly Mail มาโดยตลอด ทุกช่วงปลายสัปดาห์

จะโทรศัพทม์ าถามผมว่า สัปดาห์น้ีจะเขียนเรือ่ งอะไร เพื่อว่าแม่จะได้ไปค้นควา้
หาขอ้ มูลเพิ่มเติม และเมอ่ื ผมส่งรา่ งบทความที่เขยี นไปใหเ้ ยน็ วันเสาร์แม่จะอ่านทันที
เพ่ือรอแก้ไขกันทางโทรศัพทใ์ นเช้าวันอาทิตย์ พรอ้ มกับขอให้ส่งมาอีกรอบ ก่อนจะแก้ไข
อีกคารบหนึ่งหลังรับประทานอาหารกลางวัน สรุปว่าเรา ใช้เวลามากกว่า 3 ช่ัวโมง
ในการร่วมกนั เขยี น Weekly Mail แต่ละฉบับ นับเปน็ ช่วงเวลาแหง่ ความรักและ
ผูกพันระหว่างแม่กับลูกที่เหนือคาบรรยาย โดยแม่จะตั้งหน้าตั้งตารออ่านฉบับสมบูรณ์เมื่อส่งให้ผู้อ่านในทุกเช้า
วันจันทร์ ถึงแม้ว่าต่อจากนี้ไป แม่จะไม่ได้มาช่วยเกลาภาษาให้สละสลวยขึ้นแล้ว แต่แม่คงจะปรารถนาให้ผม
ยังเขียน Weekly Mail ต่อไปเรอื่ ย ๆ ผมขอนา Weekly Mail ท่ไี ดเ้ ขียนถึงแม่ในหัวข้อ “คุณแม่แถมสุข” เมือ่ วนั ท่ี 15
สงิ หาคม 2554 มาให้พวกเราไดอ้ ่านอีกครง้ั หนงึ่ เพ่อื น้อมราลึกถึงพระคุณแมค่ รับ
-----------------------------------------------

ในชว่ งสดุ สัปดาห์ท่ผี ่านมา ผมไดม้ ีโอกาสพาครอบครัวไปเที่ยวและคา้ งคืนทจ่ี ังหวัดนครนายก ซ่ึงยังคงมีความ
เป็นธรรมชาติที่ห้อมล้อมดว้ ยภูเขาที่เขยี วขจีไวอ้ ย่างดี พร้อมกับไดส้ ูดอากาศบริสุทธิ์จากธรรมชาติอยา่ งเตม็ ปอด
ทาให้ผมได้ผ่อนคลายและมีโอกาสได้อ่านชีวประวัติของคุณแม่ท่านหนึ่ง ที่เกิดมาเนื้อตัวเขียว ปากเขียว ไม่มี
ลมหายใจเพราะคลอดก่อนกาหนด แต่คณุ หมอได้กลบั ฟนื้ ชวี ติ ข้ึนเมือ่ 76 ปีกอ่ น1/

ชีวิตของแม่ท่านนี้โลดโผนมาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากคุณพ่อได้รับเลือกให้เป็นผู้แทนราษฎรจังหวัดพัทลุง
ทาให้ชีวิตในช่วงแรก ๆ ไม่ได้ยากลาบากนัก แม้ว่าจะต้องย้ายตามครอบครัวไปเรียนที่จังหวัดพัทลุงในช่วง
สงครามโลกครั้งที่ 2 แต่จุดพลิกผันเกิดขึ้นเมื่อพ่อเสียชีวิตอย่างกะทันหันเมื่อเรียนจบ ป.2 ทาให้ท่านต้องช่วย

ครอบครัวด้วยการหั่นหยวกกล้วย คลุกราเลี้ยงแม่หมู แต่ด้วยความเป็นคนขยัน
มุมานะ และใฝ่รู้ตั้งแต่เด็กจึงเป็นเด็กที่เรียนหนังสือเก่ง มรดกที่พ่อเหลือไว้คือ
หนังสอื ผู้ใหญ่ มที ้ังหนังสือพงศาวดาร นวนิยาย และหนงั สอื แปล ท่านจะหยิบคว้า
มาอา่ นเล่มแล้วเล่มเล่า ซ้าแล้วซ้าเล่าจนจาขึ้นใจ จึงไม่นา่ แปลกใจที่ท่านสอบได้ที่ 1
ทุกปี และสอบได้ที่หนึ่งของจังหวัดจนได้รับทุนมูลนิธิฟุลไบร้ท์ เข้ามาเรียนต่อถึง
ม.8 ที่วัฒนาวิทยาลัย เพื่อสานความฝันที่จะเป็นอักษรศาสตร์บัณฑิต ซึ่งสามารถ
สอบได้เป็นที่ 9 ของประเทศเข้าเรียนที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ตามที่ตั้งใจไว้ และได้บรรจุเป็นอาจารย์สอนวิชา
ประวัติศาสตร์ภายหลังที่จบเป็นบัณฑิตใหม่ ๆ ก่อนได้รับทุนไปเรียนต่อปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยฮ่องกงจนจบ
ปรญิ ญาเอกสาขาวิชาประวตั ศิ าสตร์จากมหาวิทยาลัยลอนดอน2/
ทา่ นได้กลับมาเป็นอาจารยส์ อนหนังสือท่ีแผนกวิชาประวตั ศิ าสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย และย้ายไปสอน
หนังสือที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก่อนเกษียณอายุราชการที่มหาวิทยาลัยศิลปากร โดยมีผลงานเขียนหนังสือ
ประวตั ศิ าสตรไ์ ว้หลายเล่ม และเป็นท่ปี รากฏในตาราวชิ าประวัตศิ าสตร์จนถงึ ปจั จบุ ัน

13

แม่พบพ่อในช่วงศึกษาปริญญาเอกที่อังกฤษ และมีบุตร 2 คน ซึ่งในช่วงที่แม่
เลยี้ งดบู ุตรท้ังสอง ท่านได้ใหก้ ารศกึ ษาที่ดีแก่ลูก และไดป้ ลกู จติ ใตส้ านึกให้กับลูก ๆ
ที่ต้องตอบแทนสังคม แม่ไม่ทิ้งโอกาสให้กับลูก ๆ เมื่อได้รับเชิญให้ไปทาวิจัยและ
สอนหนังสือที่อเมริกาทั้งสองครั้ง ครั้งแรกหอบหิ้วลูกสองคนไปอยู่ที่มหาวิทยาลัย
คอร์เนลเป็นเวลา 1 ปี และครง้ั ที่สองไปทีม่ หาวิทยาลัยแคลิฟอรเ์ นีย เบิร์กลยี ์อกี 1 ปี
นาลูกชายคนโตไปเรียนต่อจบเกรด 12 จนสามารถศึกษาจบปริญญาตรที ่อี เมริกา

ลกู ชายคนโตได้เขยี นถึงแมใ่ นหนงั สือท่ีคุณแมเ่ ขียนขึ้นว่า “ชวี ิตเมืองนอก ผมไมเ่ คยร้สู กึ วา่ หา่ งไกลเมอื งไทย
ท้งั พ่อและแม่จะเขียนจดหมายถึงผมทกุ สัปดาห์ ผมก็มีหน้าทีเ่ ขียนตอบทุกสัปดาหเ์ ช่นกัน รวมความแล้ว สิ่งทีแ่ มใ่ ห้
เปน็ เสมือนมหาวิทยาลัยท่ีเต็มไปด้วยความอบอุน่ ท่ีผมและนอ้ งมีโอกาสไดเ้ รียนรู้และถ่ายทอดประสบการณ์เรื่องราว
ตา่ ง ๆ จากประสบการณ์อนั มีค่าของแม่ “Thamsook University”

ชีวประวัติข้างต้น เป็นเรื่องราวของแม่ผมเองครับ แม่แถมสุข นุ่มนนท์ ซึ่งผมได้สรุปเขียนไว้ในท้าย
หนังสือเล่มดังกล่าวว่า ผมช่างโชคดีเหลือเกินที่เกิดมาเป็นลูกของแม่แถมสุข และการดูแลทดแทนบุญคุณให้
ในช่วงที่ผ่านมา คงไม่สามารถทดแทนกับสิ่งที่แม่ได้ให้กับผมมาทั้งชีวิต ขอบคุณครับสาหรับของขวัญล้าค่าที่แม่
มอบให้ผม “ผมรกั แมค่ รบั ”

รณดล นมุ่ นนท์
7 กมุ ภาพันธ์ 2565
หมายเหตุ:
1/ Weekly Mail เร่อื ง “คุณแมแ่ ถมสุข” วนั ท่ี 15 สงิ หาคม 2554
2/ “แถมสุขวัยรุน่ และ แถมสุขวัยสาว”, แถมสขุ นุ่มนนท์ จดั พิมพใ์ นโอกาสวนั เกดิ เมอ่ื วนั ที่ 21 มิถนุ ายน 2538
และวนั ที่ 21 มถิ ุนายน 2540

14

แม่-แถมสขุ นมุ่ นนท์ : ผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและอบอุ่น (ตอนจบ)

สวัสดีครับ
การจากไปของแม่อย่างกะทนั หันเม่ือวนั ที่ 1 กมุ ภาพันธ์ท่ีผ่านมา ทาให้ยงั เป็นช่วงเวลาที่ทาใจลาบากและคง

ตอ้ งใชเ้ วลาอีกนานพอสมควรเพื่อปรับเปลี่ยนวิถีการใช้ชวี ติ ประจาวัน เพราะทผี่ า่ นมา ผมไดม้ ีโอกาสพูดคุยกับแม่
ทกุ เย็นหลังเลิกงาน เป็นชว่ งเวลาท่เี ราสองแม่ลูกได้พูดคุยถึงข่าวสาร ตัง้ แตเ่ ศรษฐกิจ สงั คม ไปจนถึงข่าวการเมือง
เรียกว่าผมแทบไม่ต้องฟังข่าวสารจากแหล่งอื่นใด เพราะแม่สามารถเล่าเหตุการณ์ในแต่ละวันได้อย่างครบถ้วน
แถมมีเกร็ดความรู้เพิ่มเติม ข่าวสารที่แม่นามาเล่าให้ฟังนั้น แม่จะกลั่นกรองมาก่อนเสมอ ไม่เคยพึ่งพาโซเชียล
มเี ดีย เพราะมคี วามเหน็ วา่ ข่าวสารทสี่ ง่ ตอ่ กนั ผา่ นช่องทางดังกลา่ วมกั มคี วามบิดเบือน การสนทนามักจบลงด้วย
ความเคลือ่ นไหวของวงการกฬี า โดยเฉพาะกีฬาเทนนิสและแบดมนิ ตนั ที่แม่โปรดปรานเปน็ พิเศษ ดงั น้ัน การไมไ่ ด้
พูดคุยกับแม่ทุกวันเช่นเคย ย่อมเป็นสิ่งที่ขาดหายไปจากการใช้ชีวิตประจาวัน ยากจะหาสิ่งอื่นใดมาทดแทนได้
อย่างไรก็ดี เมื่อย้อนระลึกถึงสิ่งที่แม่ได้ให้ไว้กับลูก ๆ มีบทเรียนอันล้าค่าหลายเรื่อง ทาให้ผมได้นามาใช้กับการ
ดารงชวี ติ จนถึงทุกวนั นี้

แม่เป็นผู้ที่มีความละเอียด จัดเก็บเอกสารทุกอย่างเป็นระเบยี บครบถ้วน ทุกอย่างในบ้านถูกจัดไว้อย่างเป็นที่
เปน็ ทาง ไม่มีสง่ิ ของรกรุงรัง แมจ่ าไดอ้ ยา่ งแม่นยาว่าสิ่งใดอยู่ที่ไหนในบา้ น แม่บอกว่า การจัดการให้ทุกอย่างเป็น

ระเบียบจะช่วยให้เราจัดการชวี ิตในแตล่ ะวันได้เป็นอย่างดี ที่สาคัญ แม่มีความ
จาเป็นเลิศนอกจากเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่สามารถเล่าได้เป็นฉาก ๆ
ราวกับเคยอยู่ร่วมสมัย แม่ยังเล่าถึงประวัติวงศ์ตระกูลได้แทบทุกตระกูล
เหมือนกับว่าเป็นเครือญาติกัน ทั้งนี้ แม่มีพรสวรรค์ในการเล่าเรื่องต่าง ๆ ได้
อย่างชวนฟัง สนุกสนาน น่าติดตาม นอกจากนั้น แม่ทราบดีว่า ชีวิตของคนเรา
ทุกคนต้องเดินมาถึงจุดสิ้นสุดจึงได้เตรียมการทุกเรื่องไว้อย่างดี โดยได้เขียน
รายละเอียดทุกขั้นตอนที่ลูกจะต้องดาเนินการ ตั้งแต่รายชื่อที่ต้องโทรศัพท์ไป
แจ้ง ขั้นตอนของทางราชการ รายละเอียดพินัยกรรม ไปจนถึงรูปที่จะไว้ใช้ในงาน
แม่สร้างความสุขให้กับตัวเองด้วยการอ่านหนังสือทุกเล่มที่ได้รับ และแม่จะมีจดหมายตอบกลับไปถึงผู้ส่งทุกคร้งั
เชน่ เมอ่ื คุณสาโรจน์ มณรี ตั น์ คอลมั นิสต์และนักเขียนวรรณกรรมเร่อื งส้นั ซง่ึ เป็นเพ่ือนสนิทสมัยเด็กของผมได้ส่ง
เรื่องสั้นที่ตนเองเขียนไปให้แม่อ่าน แม่ก็มีจดหมายตอบกลับไปว่า “เรื่องสั้นของคุณสาโรจน์ดีมาก อ่านด้วยความ

15

ตน่ื เตน้ คณุ สาโรจน์ภาษากระชบั สวยงาม วางพลอ็ ตเรอื่ งดี ใช้ความรู้ประวัติศาสตร์ ศิลปะ ศาสนา อธิบายให้ผู้อ่าน
มองเห็นภาพเหตุการณ์สมจริงสมจัง….อย่างไรก็ตาม นิยายก็คงเป็นนิยายที่เกินความจริงไปบ้าง แม่เองไม่เชื่อเรื่อง
นิยายอิงประวัติศาสตร์ เพราะประวัติศาสตร์ก็คือ ประวัติศาสตร์ (ที่ผู้เขียนปรุงแต่งให้คนเชื่อ) ส่วนนิยายคือ เรื่องท่ี
ผู้เขียนปรุงแต่งขึ้น โดยใช้ประวัติศาสตร์เป็นฉากข้อมูล...” เวลาที่เหลือ แม่จะเพลิดเพลินไปกับการติดตามกีฬา
ทางโทรทัศน์ พูดคุยทางโทรศัพท์กับเพื่อน ๆ ลกู ศษิ ย์ และญาติ เรียกวา่ วนั หนึ่ง ๆ หมดไปอย่างคุ้มค่า แม้ว่าแม่จะมี
โรคประจาตัวคือโรคหอบหืด และเคยป่วยหนักถึงขนั้ ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลนานกวา่ 3 เดอื น เมื่อต้นปี 2562
จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่สามารถหายจากการเจ็บป่วยและกลับมาแข็งแรงได้ราวปาฏิหาริย์ หลังจากนั้นแม่จึง
ระมัดระวังตัวเองมากขึ้น ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี กินยาและไปหาหมอตามเวลานัดเพราะไม่ต้องการให้ลูกหลานเป็น
ห่วง แม่เคยถามตัวเองว่า “มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร? แม่ได้ผ่านวิกฤติครั้งนั้นได้ก็บุญโขแล้ว โชคดีที่มีชีวิตยาวนานพอ
ไดเ้ หน็ ในสง่ิ ทไี่ ม่เคยเหน็ ไดพ้ บในสิง่ ท่ีไมเ่ คยพบ”

แม่ใหเ้ กียรตกิ ับทุกคน แสดงความรักและหว่ งใย เขียนจดหมายอวยพรใหก้ บั ทกุ คนในทุกเทศกาล เวลาทราบว่ามีใคร
เจ็บป่วย แม่จะเขียนจดหมายไปให้กาลังใจ เช่น เมื่อทราบว่าเพื่อนที่ทางานแบงก์ชาติต้องเข้ารับการผ่าตัด ด้วย
โรคหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท จะรีบเขียนจดหมายส่งไปให้กาลังใจว่า
“รับทราบข่าวด้วยความไม่สบายใจแต่เมื่อเห็นรูปทางไลน์ผ่านดล ก็ใจชื้น เพราะดู
จะชนะความเจ็บปวด และทาใจรับความทรมานที่จะต้องประสบ ขอให้ถือว่าเป็น
ประสบการณ์มีเรื่องเล่าให้ใคร ๆ ฟังได้ว่า เป็นคนทันสมัยที่นอนโรงพยาบาลในช่วง
โควิดระบาด แต่เราไม่เป็นโควิด!!” และเมื่อได้รับของขวัญปีใหม่จากคนใกล้ชิดก็
จะมีการ์ดส่งกลับไปขอบคุณว่า “ขอบคุณมากสาหรับของรับประทาน ผลไม้ และ
ผา้ คลมุ ไหล่ พรอ้ มความปรารถนาดีในวาระคลา้ ยวนั เกิด ทาให้คนอายุ 82 สดช่ืนขึ้น
ทันตาเหน็ ขอให้ใช้ชีวิตทีบ่ ้านและงานด้วยความรสู้ ึกภาคภูมใิ จและเข้มแข็ง และมองทุกอย่างรอบตัวด้วย “ความสุข”
เทา่ นี้กพ็ อเพยี งแลว้ ” ภาษาเขยี นท่แี มใ่ ชอ้ อกมาจากความรสู้ ึกทบ่ี ่งบอกถึงตัวตนของแม่ “แถมสขุ ” ที่พร้อมสร้าง
ความสุขให้กับคนรอบขา้ ง และเป็นที่รกั ของทุกคน

ผมและน้องชายโชคดีทีม่ ีแม่คอยปลูกฝังทั้งด้านความคิด และการดาเนินชวี ิต ให้พวกเรารู้ว่า “ความสาเร็จ”
ไม่ไดเ้ กิดจากโชคลาภ แตเ่ กดิ จากความขยัน ความอดทน และการวางแผนทดี่ ี และที่สาคัญคอื ตอ้ งใหส้ ุขและสนุก
ในแต่ละวันพร้อม ๆ กับการสร้างความรักและความผูกพัน (love & caring) ต่อคนรอบข้าง เพื่อให้ใช้ชีวิตได้
อยา่ งสมบูรณแ์ บบ

รณดล นมุ่ นนท์
14 กุมภาพนั ธ์ 2565

16

ทีมรองบอ่ น: เหตผุ ลที่เทใจให้

สวัสดคี รับ
มนุษย์มีความคิดที่ย้อนแย้งในตัวเองหลายเรื่อง ที่เห็นได้เด่นชดั ที่สุดคือ เราทุกคนต่างมีเป้าหมายสู่ความสาเร็จ

ในชีวิต แต่เม่อื เห็นคนอน่ื ทาสาเร็จ ใจลกึ ๆ เรากลับทาใจไม่ได้ จนทาให้เกดิ ความรู้สึกเทใจไปอยู่ข้างฝ่ายที่ตกอยู่
ในภาวะเสียเปรียบทั้งนี้ ในวงการกีฬา ทีมที่ประสบความสาเร็จ มีชื่อเสียง มักจะมีผู้ติดตามและเชียรเ์ ป็นจานวน
มาก อย่างไรก็ตาม มีแฟนกีฬาจานวนไม่นอ้ ยที่ส่งเสียงเชียร์ทีมรองบ่อนหรือถูกขนานนามว่าทีม “อันเดอร์ด็อก”
ดว้ ยความเหน็ อกเหน็ ใจ อยากเหน็ ทมี เหลา่ น้นั ประสบความสาเร็จบ้าง

ทีมเบสบอลโรงเรียนมัธยมคานาอาชิ โนเกยี ว ในจังหวัดอาคิตะ ถือเป็นเรื่องราวตัวอย่างของทีมรองบ่อนทีมหน่ึง
เพราะสามารถสร้างปาฏิหาริย์ทะลเุ ข้าถึงรอบชิงชนะเลศิ ในการแข่งขันเบสบอลระดับมธั ยมปลาย ชิงแชมป์ประจาปี
ของญ่ปี ่นุ หรือทเ่ี รยี กว่า “โคชเิ อง็ ”

การแขง่ ขนั รายการน้ถี อื เป็นความฝันของเดก็ นับหม่นื คนจากโรงเรยี นมัธยมกว่า 3 พนั แห่งทัว่ เกาะญ่ปี ่นุ ที่ต้องการ
เข้าร่วมแข่งขนั ที่สาคัญ การแข่งขันครั้งนีเ้ ป็นการแข่งขันครั้งที่ 100 พอดิบพอดี ทีมโรงเรยี นคานาอาชิฯ เข้าไป
ชิงชนะเลิศ กับทีมโรงเรียนโอซาก้า โทอิน อดีตแชมป์ 4 สมัย เป็นสถาบัน
การศึกษาที่ปนั้ นักเบสบอลให้เป็นนกั เบสบอลอาชีพได้หลายคน เรียกได้ว่า
ทีมมัธยมคานาอาชิฯ เป็นรองหลายขุม ทั้งคุณภาพของนักกีฬา ทุนทรัพย์
และการเตรียมทีม แต่เมื่อแฟนชาวญี่ปุ่น รับทราบว่า พื้นเพนักเบสบอล
ของทีมคานาอาชิฯ มาจากครอบครัวเกษตรกรที่ต้องการสานฝันตนเอง
รวมทั้งโรงเรียนไม่ได้มุ่งเน้นในด้านกีฬา แต่ส่งเสริมการเรียนเกษตร
ทันสมัยเพื่อนาไปเลี้ยงชีพในอนาคต พร้อมทั้งมีกฎน่ารัก ๆ เช่น หาก
นักเรียนขโมยแอปเปิ้ลและสาลี่ที่โรงเรียนปลูกไว้จะโดนพักการเรียน
อย่างไรก็ดี งบประมาณประจาทีมไม่เพียงพอเพราะไม่คาดคิดว่าจะ
เขา้ ถงึ รอบลึก ๆ ได้ ต้องขอรบั บริจาคจากผคู้ นในเมือง ทาให้แฟนชาวญี่ปุ่น
ต่างเทใจหันมาเชียร์ทีมคานาอาชิฯ ทีมรองจึงกลายเป็นพระเอกโดย
ไมร่ ตู้ วั และแมว้ ่าผลการแข่งขันทมี โอซาก้า โทอนิ จะคว้าแชมป์ได้เป็น
สมัยที่ 5 แต่เสียงชื่นชมจากแฟนชาวญี่ปุ่นยังคงไม่จบสิ้น กลายเป็น
ทมี ขวัญใจที่อยู่ในใจของชาวญี่ปุน่ จนถงึ ทุกวนั น้ี1/

ไม่เพียงแค่ในแวดวงกีฬาแตใ่ นแวดวงอ่ืน ไม่ว่าจะเป็นวงการการเมือง ธุรกิจ หรือสถานศึกษา ผู้เสียเปรียบ
หรือตกอยู่ในภาวะรองบ่อนมักจะมีผู้เทใจให้เสมอ เช่น ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 1980 เมื่อผล
การหยั่งเสียงพบว่า ประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ มีคะแนนนา โรนัลด์ เรแกน ผู้ท้าชิง ปรากฏว่า ผ่านไปไม่ถึง
1 สัปดาห์ คะแนนเสยี งกลบั สวงิ มาทางโรนัดล์ เรแกน จนได้รับเลือกตั้งเปน็ ประธานาธบิ ดีคนท่ี 40 ซึ่งผู้ลงคะแนน
สว่ นหนึง่ ยอมรับวา่ เหตุผลทลี่ งคะแนนให้กับประธานาธบิ ดเี รแกน เพราะความสงสาร เหน็ อกเห็นใจ และตอ้ งการ
ให้ผู้ทตี่ กเปน็ รองได้รบั ชยั ชนะ2/

17

เหตุใดเราจะมักเลือกที่จะเชียร์ทีมรองบ่อนหรือผู้ที่อยู่ในภาวะ
เสียเปรียบหรือด้อยในสังคม ศาสตราจารย์อาซิม ชาห์ (Asim Shah)
นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยเบย์เลอร์ อธิบายว่า มนุษย์มักเลือก
เชียร์ทีมรองบ่อนเพราะสามารถนาชีวิตตนเองไปเปรียบเทียบ ทาให้
เกิดแรงบันดาลใจ ฟันฝ่าปัญหาอุปสรรคเพื่อให้ประสบความสาเร็จ
ในชวี ติ 3/

เหตผุ ลท่สี อง ท่ีคนชอบเชยี รท์ ีมรองบ่อนคงเปน็ เพราะ “ความสะใจ”
ที่เรามีความสุขบนความทุกขข์ องผู้อื่น เป็นอารมณ์ที่ทางจิตวิทยาเรียกวา่ “ชาเดนฟรอยด์” (schadenfreude)
มาจากภาษาเยอรมัน 2 คารวมกัน ประกอบด้วย schaden (ความเสียหาย) และ Freude (ความสุข) หมายถึง
“รู้สึกมีความสุขเมือ่ เห็นคนอื่นผิดพลาด ล้มเหลว และรู้สึกเป็นทุกข์เมื่อเห็นคนอื่นได้ดกี ว่า” ตัวอย่างที่เห็นไดช้ ัด
คือ การที่ดาราหรือผู้มีชื่อเสียงต่าง ๆ ถูกนิตยสารนาเร่ืองมาซุบซิบ นายแพทยส์ มิธและเคธี โบรชวั ร์ (Dr. Smith
and Katie Boucher) ได้วิเคราะห์ข่าวในนิตยสาร National
Enquirer เป็นเวลา 10 สัปดาห์ พบว่า “ยิ่งดารามีชื่อเสียงมาก
เทา่ ไหร่ บทความต่าง ๆ ยิ่งจะไดร้ บั ความสนใจเร่ืองโชคร้ายของพวกเขา
มากขึ้นเท่านั้น” ถือเป็นช่วงอารมณ์ Schadenfreude ที่เราจะยิ่ง
พงึ พอใจมากขึ้น เมื่อเห็นคนมีชื่อเสียงเหลา่ นั้นกาลังทาลายภาพลักษณ์
ตวั เอง4/

เหตุผลสุดท้าย มาจากผลวิจัยของนาดาฟ โกลด์ชิมิด (Nadav Goldschmied) แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย
แซนดเี อโก และ โจเซฟ แวนเดลโล่ (Joseph Vandello) แห่งมหาวิทยาลัยเซาท์ฟลอริดา คน้ พบวา่ คนส่วนใหญ่
มักจะมีความสุขเมือ่ ได้เห็นความสาเรจ็ จากเร่ืองที่ไม่ได้คาดหวังมาก่อน และในทางกลับกนั มนุษยจ์ ะเจ็บปวดเป็น
ทวีคูณเมื่อผิดหวังจากสิ่งที่คาดหวังไว้ จึงทาให้เราเชียร์ทีมที่เป็นรองโดยไม่รู้ตัว เพราะหากทีมที่เป็นรองชนะ
เราจะเปี่ยมไปด้วยความสุข แต่หากพวกเขาพ่ายแพ้ เราก็แทบจะไม่รู้สึกผิดหวัง และยอมรับได้เพราะเป็นเรื่อง
ทคี่ าดเดาไวแ้ ลว้ เรยี กวา่ เลอื กเชยี ร์ทมี รองบอ่ นไม่มอี ะไรจะสญู เสีย

อย่างไรก็ดี การเชียร์ทีมรองบ่อนย่อมมีขอบเขตจากัด สก็อต อลิสซัน (Scott Allison) แห่งมหาวิทยาลัย
ริชมอนด์ สรุปไว้ว่า ในชีวิตจริง หากการเชียร์ทีมรองบ่อนกระทบกับตัวเราโดยตรง การสนับสนุนย่อมจะลด
น้อยลง เช่น ในเหตุการณ์การประมูลทดสอบน้าเสียของเมืองบอยซี ในมลรัฐไอดาโฮ ประเทศสหรัฐอเมริกา
ในตอนแรก ชาวเมืองเทใจให้กับบริษัทจัดต้ังใหมไ่ ด้สัมปทานแทนบริษัทเดิมท่ีก่อตั้งมายาวนานหลายสิบปี เพราะ
เห็นว่าบริษทั ใหม่แห่งนั้นมีผู้บริหารรุ่นใหม่ที่มีความมุ่งมั่น แม้ว่าเงินทุนและประสบการณ์จะสู้ไม่ไดก้ ็ตาม แต่เมอ่ื
ค้นพบว่าการทดสอบน้าเสียจะครอบคลุมการค้นหาสารเคมีที่อาจะก่อให้เกิดโรคมะเร็ง จาเป็นต้องเป็นบริษัทที่มี
ประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญ ทาให้ชาวเมืองบอยซีเปลี่ยนใจหันกลับมาสนับสนุนให้บริษัทเดิมชนะ
การประมูล2/

การหันมาเชียร์ทีมรองบ่อนสามารถเกิดได้จากทั้ง 3 เหตุผลข้างต้น แต่สาหรับผมแล้ว การเชียร์ทีมรองบ่อน
ช่วยให้เราได้เรียนรู้ว่า เราเริ่มต้นด้วยต้นทุนที่ไม่เท่ากัน แต่หากเรามุมานะ สู้ไม่ถอย ไม่เกรงกลัวต่ออุปสรรค

18

ข้างหน้า เราจะก้าวเดินไปถึงจุดเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ และแม้ว่าผลลัพธ์ที่ได้รับอาจจะไม่ได้เป็นอย่างท่ี ตั้งใจไว้
แตเ่ ราสามารถพดู ได้อย่างภาคภูมใิ จวา่ “ได้ทาเตม็ ท่แี ล้ว และจะสตู้ ่อไปโดยไม่ทอ้ แท้”
รณดล นมุ่ นนท์
21 กุมภาพันธ์ 2565
แหล่งที่มา:
1/ Mainstand.co.th. 2022. สะใจ หรอื เหน็ ใจ?: ทาไมแฟนกีฬามักชอบเชียร์ทีมรองบ่อน | Main Stand.
[online] Available at: <https://www.mainstand.co.th/214> [Accessed 20 February 2022].
2/ Vox. 2022. The science of why we love to root for underdogs. [online] Available at:
<https://www.vox.com/2015/3/20/8260445/underdogs-psychology> [Accessed 20 February
2022].
3/ Baylor College of Medicine. 2022. Why do we root for the underdog?. [online] Available at:
<https://www.bcm.edu/news/why-we-root-for-underdog> [Accessed 20 February 2022].
4/ Mission To The Moon Media. 2022. “Schadenfreude”, ผดิ ไหมท่ีมคี วามสุขเมอ่ื เหน็ คนอ่นื ทุกข์? -
Mission To The Moon Media. [online] Available at:
<https://missiontothemoon.co/psychology-schadenfreude/> [Accessed 20 February 2022].

19

วลิ เลยี ม คัมแควมบ้า: ผูส้ ร้างกังหันลมแห่งความหวงั

สวัสดีครบั
หากกล่าวถึง “สาธารณรัฐมาลาวี” พวกเราอาจจะไม่สามารถชี้ตาแหน่งที่ตั้งของประเทศนี้บนแผนที่โลกได้

เนื่องจากเป็นประเทศเล็ก ๆ ไม่ได้มีความโดดเด่นมากนัก ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปแอฟริกา ไม่มี
ดินแดนติดทะเล แต่เป็นที่ตั้งของ “ทะเลสาบนยาซา”
(Lake Nyasa) ทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของทวีป
แอฟริกา และมีความงดงามมาก จนได้รับสมญานามวา่
ทะเลสาบแห่งดวงดาว อย่างไรก็ตาม มาลาวีถือเป็น
ประเทศที่ระดับรายได้ยากจนที่สุดประเทศหนึ่ง มีปัญหา
ด้านการศึกษา สาธารณสุข และสิ่งแวดล้อม ชาวมาลาวี
มีอายุขัยสั้นเฉลี่ยเพียง 50 ปี มีประชากรราว 20 ล้านคน
ร้อยละ 80 ประกอบอาชีพเกษตรกร ปลกู ขา้ วโพด ถ่วั เหลอื ง และมันหวาน ในขณะทรี่ ะบบสาธารณูปโภคและระบบ
ชลประทานยังไม่พัฒนา ทาให้การเพาะปลูกต้องพึ่งพาน้าฝน จากธรรมชาติ และในปี 2001 เกิดปัญหาฝนแล้งที่
เลวร้ายที่สุดในรอบ 50 ปี ทาให้พืชพันธุ์การเกษตรเพาะปลูกไม่ได้ สง่ ผลใหเ้ กิดภาวะขาดแคลนอาหารรุนแรง มีการ
เสียชวี ติ จากภาวะอดอยากกลายเปน็ ภาวะวกิ ฤตทิ ่ีมดื มน1/

ครอบครัวของวิลเลียม คัมแควมบ้า (William Kamkwamba) เด็กชายวัย 14 ปี พ่อแม่เป็นเกษตรกรปลูก
ข้าวโพด มีพี่น้อง 7 คน อาศัยอยู่ในเมืองคาซังกู ตอนกลางของประเทศ ต้องเผชิญกับวิกฤติฝนแล้งนี้เช่นกัน
การรอฝนเสมือนรอระเบิดเวลาที่จะปะทุจากความหิวโหย ดังนั้น แทนที่วิลเลียม ลูกชายคนเดียวของครอบครัว

จะรอหวังพึ่งปาฏิหาริย์ให้ฝนตก ก้มหน้าก้มตาจับจอบ
ช่วยพ่อพรวนดินเหมือนชาวบ้านคนอื่น ๆ วิลเลียมกลับใช้
เวลาแอบไปเขา้ หอ้ งเรยี นวิทยาศาสตร์ทโี่ รงเรียนมัธยมประจา
หมบู่ า้ น ซง่ึ ต้องออกจากโรงเรียนกลางคนั เนอ่ื งด้วยพ่อแม่ไม่มี
เงนิ จา่ ยคา่ เล่าเรียน วลิ เลียมสนใจด้านวทิ ยาศาสตร์ โดยเฉพาะ
เครื่องประดิษฐ์ที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้า เพราะในหมู่บ้านไม่มี
ไฟฟา้ ใช้ และต้องอาศัยตะเกียงน้ามันในการดารงชีวิตตอน
กลางคืน วิลเลียมชอบแกะอุปกรณ์ภายในวิทยุออกมา
ศึกษากลไกการทางาน จนทาให้เขากลายเป็นช่างซ่อมวิทยุประจาหมู่บ้าน นอกจากนั้น เขายังขออาจารย์เข้า
หอ้ งสมุดอกี ด้วย และได้มโี อกาสอา่ นหนงั สอื “Using Energy” ซ่งึ ไดเ้ ปล่ียนแปลงชวี ติ วลิ เลยี มตลอดไป2/
หนังสือเล่มน้ี ทาให้วิลเลียมได้พบกับสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ ก่อให้เกิดพลังงาน โดยเฉพาะกังหันลม จนเป็นแรง
บันดาลใจให้เขาคดิ ท่ีจะทากังหันลมเล็ก ๆ เพือ่ ผลิตไฟฟา้ ในการป๊ัมนา้ ขนึ้ จากในบ่อ แตด่ ้วยวตั ถุดิบทมี่ ีอยู่ไม่พร้อม
รวมทั้งขาดทุนทรัพย์ ทาให้วิลเลียมเริ่มต้นด้วยการไปขุดคุ้ยกองขยะข้างโรงเรยี น ซึ่งโรงงานทาพรมที่ปิดกิจการ
ได้นาชิ้นส่วนต่าง ๆ มาทิ้งไว้ ทาให้คนในหมู่บา้ นนึกว่า ครอบครัวอดอยากถึงกับต้องมาหาเศษอาหารเพื่อประทัง
ชีวิต รวมทั้ง สติอาจจะไม่ดีที่มาเล่นบนกองขยะทั้ง ๆ ที่ควรจะไปช่วยพ่อปลูกข้าวโพด วิลเลียมนาท่อพีวีซีมา

20

ดัดแปลงเป็นใบพัดที่เสริมด้วยโครงไม้ไผ่ ทาโครงใบพัดจากพัดลมเก่า ๆ และใช้ไดนาโมของรถจักรยานมาเป็น
ตัวปั่นไฟ นาโครงจักรยานของพ่อมาเป็นตัวหมุนกังหันลม ซึ่งตอนแรกพ่อไม่ยินยอมเพราะเป็นพาหนะหลักของ
ครอบครัว ซึ่งกว่าพ่อจะยอมใจอ่อนต้องใช้เวลานาน ต้อง
อธิบายวา่ กังหันลมทส่ี ร้างข้นึ มาน้จี ะมีประโยชน์อย่างไร

วิลเลียมใช้เวลากว่า 2 เดือนในประกอบชิ้นส่วนหลายอย่าง
เข้าด้วยกัน และทาให้กังหันลมนี้กลายเป็นเครื่องปั่นไฟ
ขนาด 12 วัตต์ สร้างแสงสว่างภายในบ้านด้วยหลอดไฟดวง
เล็ก ๆ 4 หลอด และที่สาคัญ ทาให้เครื่องสูบน้าสามารถปั๊ม
น้าจากบอ่ บาดาลขึ้นมาปลูกข้าวโพดได้ จดุ ประกายความหวังใหก้ ับครอบครวั และชุมชน

การคิดคน้ สรา้ งกังหนั ลมท่ีเร่ิมจากศูนย์ ทาให้วิลเลียมได้ทนุ การศึกษาไปเรียนต่อที่ African Academy และ
เขา้ เรียนต่อท่ี Dartmouth College ในสหรฐั อเมริกาจนจบปรญิ ญาตรีในปี 2014 พรอ้ มไดร้ ับโอกาสร่วมงานกับ

สถาบันวิจัยเพื่อพัฒนาพลังงานทดแทนแก้ไขปัญหาพลังงาน
ขาดแคลนให้กับประเทศที่กาลังพัฒนา รวมทั้งยังกลับไป
ช่วยเหลือชุมชนในหมู่บ้านของเขา ด้วยการพัฒนาระบบ
ชลประทานจนสามารถปลูกพืชได้ 2-3 ครั้งต่อปี และริเริ่ม
ระบบสหกรณ์การเกษตรภายในหมู่บ้านเพื่อตอบโจทย์อย่าง
ครบวงจร3/
ในปี 2013 นิตยสาร TIME ยกย่องให้วิลเลียม คัมแควมบ้า เป็น 1 ใน 30 คน ที่อายุไม่เกนิ 30 ปีแต่สามารถ
สร้างปรากฏการณ์เปล่ียนแปลงโลก และเรือ่ งราวของเขาถูกถา่ ยทอดในหนงั สือช่อื The Boy Who Harnessed
the Wind และนามาสรา้ งเป็นภาพยนตร์ชอื่ เดียวกันที่เขา้ ฉายทาง Netflix

วิลเลียมได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ TED
TALK ตอนหนึ่งว่า “ฉันนอนหลับและฝันถึง
อนาคตของประเทศมาลาวีตลอดเวลา แต่ความฝัน
จะกลายเป็นจริงได้นัน้ จะต้องมาจากใจ ผมอยากให้
คนอื่น ๆ รู้ว่า ผมทาอย่างไร ในสถานการณ์ท่ี
ยากลาบากนั้น มีความท้าทายมากมาย และผม
ได้พิสูจน์ว่า หากเราทุ่มเททางานอะไรในชีวิต
ทุกอย่างเป็นไปได้เสมอ ความท้าทายตรงหน้า ที่คอยขัดขวางไม่ให้เราไปถึง
จุดหมาย เป็นบททดสอบที่เราต้องก้าวข้ามไปให้ได้ ผู้ที่ประสบความสาเร็จ
ตอ้ งเคยผา่ นจดุ น้ีมาแลว้ ทุกคน”1/

รณดล นมุ่ นนท์
28 กุมภาพันธ์ 2565

21

แหลง่ ท่ีมา:
1/ ผดงุ กาญจน์, ก., 2022. วิลเลียม คัมแควมบา้ ผู้สรา้ งกังหนั ลมจากขยะให้นอ้ งสาวได้อ่านหนังสอื . [online]
The People.
Available at: <https://thepeople.co/william-kamkwamba-the-boy-who-harnessed-the-wind/>
[Accessed 27 February 2022].
2/ Medium. 2022. The Boy Who Harnessed The Wind. [online] Available at:
<https://medium.com/@Lifes_ChapterTH/the-boy-who-harnessed-the-wind-2e646bffbc79>
[Accessed 27 February 2022].
3/ ความสุขประเทศไทย. 2022. ชีวติ เปล่ยี นไปเพราะใฝ่เรียนรู้. [online] Available at:
<https://www.happinessisthailand.com/2016/06/09/%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7
%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%
88%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8
%B0%E0%B9%83%E0%B8%9D%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%A3/> [Accessed 27
February 2022].

22

Total Recall: ความจาเหนอื มนุษย์

สวสั ดคี รบั
เมื่อวานผมนั่งคิดถึงรหัสผ่านเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนตัวเพื่อเขียน weekly mail ฉบับนี้นานเป็นพิเศษ

แสดงให้เห็นถึงความจาที่เริ่มเสื่อมลงตามวัย และทาให้คิดถึงเสน่ห์ในการจดจา ผมชื่นชมเสมอกับผู้ที่เข้ามา
ทักทายด้วยการเอ่ยชื่อแต่ละคนได้อย่างแม่นยา แม้ว่าจะไม่ได้เจอกันมานานแล้ว ความจาของมนุษย์มีข้อจากัด
หรือไม่? เราจะสามารถจดจาสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมากมายในแต่ละวันได้อย่างไร? คาถามเกี่ยวกับ “ความจา”
ที่กลายเปน็ “ความทรงจา” จงึ เป็นเรอ่ื งที่น่าสนใจจนตอ้ งนามาถา่ ยทอดเขียนลงในweekly mail ฉบับน้ี กอ่ นท่ผี ม
จะลมื จากหนว่ ยความจา

ความจาสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ระดับ ระดับแบบชั่ววูบจากภาพ เสียง และสิ่งสัมผัส ทาให้เราจดจา
ในช่วงที่สิ่งเร้านั้นยังอยู่ เรียกว่าจาเป็นเสี้ยววินาทีและจะลืมไปหากส่ิงเร้านั้นไม่มากระตุ้นเราอีก ระดับต่อมาคือ

ความจาต่อยอดที่มาจากสิ่งเร้านั้น ๆ เช่น ทะเบียนรถยนต์หรือผลการ
แข่งขันฟุตบอล ซึ่งจะจาได้ในระยะเวลาไม่นาน แต่หากข้อมูลดังกล่าว
ถกู นามาใช้บอ่ ย ๆ ความจานนั้ จะถูกถา่ ยโอนมาเป็นความจาระยะยาว1/

ในการจะวัดว่า ใครมีความจาดีกว่ากันสามารถทาได้ในหลายรูปแบบ
แต่สาหรับผู้ที่สามารถจดจาทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนั้น ๆ ทั้งเหตุการณ์
ที่เกิดขึ้นรอบตัวและกับตวั เอง ถือว่าเป็นเรื่องที่อัศจรรย์ยิ่งนัก จิลล์ ไพรซ์
(Jill Price) หญิงชาวอเมรกิ นั วยั 50 ปี ค้นพบว่าเธอสามารถจดจาเรอ่ื งราว
ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเธอทุกวันเมื่ออายุ 14 ปี ไม่เพียงแต่สามารถจะระบุได้
ว่าวันดังกล่าวเป็นวันใด แต่สามารถจดจาได้ว่าสภาพอากาศในวันนั้นเป็นอย่างไร มีเหตุการณ์อะไรที่เกิดขึ้นใน
โลกใบนี้ รวมถึงกิจกรรมทีเ่ ธอทาในวนั น้นั ซงึ่ เธอตกใจมากกับสง่ิ ทีเ่ กิดข้นึ ทเ่ี รยี กวา่ อยใู่ นภาวะ “Total Recall”
เธอตดั สนิ ใจขอคาปรึกษาจากศาสตราจารย์กิตติคณุ เจมส์ แมคกวา (James McGaugh) ผู้อานวยการสถาบันดา้ น
การเรียนรู้และประสาทวิทยา มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เออร์ไวน์ ซึ่งในเบื้องต้น ศจ.
แมคกวา คิดว่าเกิดจากการท่องจาเหตุการณ์เหล่านั้นมากกว่า แต่เมื่อได้ทาการ
ทดสอบด้วยการนาหนังสือสารานุกรม 20th Century Day by Day มาถามจิลล์
ความจริงก็ปรากฏ เพราะเธอสามารถตอบได้ทุกคาถาม เช่น “วันที่คนอเมริกันใน
สถานทูตสหรัฐในอินหร่านถูกจับคือวันไหน?” จิลล์ตอบได้ทันทีว่า 4 พฤศจิกายน
1971 หรือถามเธอว่า “วันที่ 20 ธันวาคม 1997 เป็นวันอะไร เธอใส่เสื้อสีอะไรไป
ทางาน ทานอะไรเป็นอาหารกลางวัน พบปะและพูดคุยกับใครบ้าง รายงานข่าว
โทรทัศน์มีข่าวสาคัญ ๆ อะไรบ้าง?” เธอสามารถเล่าเหตุการณ์ในวันนั้นได้อย่าง
ละเอยี ดราวกบั ว่า เหตุการณน์ น้ั เพิ่งเกดิ ขึน้ ไม่นาน2/3/
ความสามารถจดจาที่น่าอศั จรรย์ของจิลลน์ าไปสู่การวจิ ัยเพิ่มเติม จนคน้ พบว่า ความสามารถพิเศษของจิลล์
เกิดจากมีหน่วยความจาในสมองมากกว่าคนปกติทั่วไป ทาให้สามารถจดจารายละเอียดประสบการณ์ในชีวิตได้
อย่างมากมาย นามาสู่การตั้งชื่อภาวะความทรงจาแบบ Total Recall นี้ว่า ไฮเปอร์ธีมีเซีย (hyperthymesia)

23

พร้อมขยายผลจนพบว่า ผู้มีภาวะเช่นนี้มีเพียง 10 คนทั่วโลก และหนึ่งในนั้นคือ มาริลู เฮนเนอร์ (Marilu
Henner) นักแสดงและโปรดวิ เซอร์ ชาวอเมริกนั วัย 70 ปี ความทรงจาแรกสุดของเธอมีอายุยอ้ นไปเมื่ออายุเพียง
18 เดือน มาริลูสามารถเล่าเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในแต่ละวันของเธอได้อย่างละเอียด แม้แต่บทพูดหรือฉากที่เธอ
แสดงในหนังและละครในแต่ละเรื่อง เช่นในละครโทรทัศน์ ซิทคอมโด่งดังเรื่อง “TAXI” ที่ออกอากาศในช่วงปี
1978-1982 กว่า 112 ตอน เธอสามารถเลา่ ได้อย่างแม่นยาถึงเรื่องราว คาพูดของตัวละครทีโ่ ต้ตอบกัน แม้กระทั่ง
ชุดทเ่ี ธอสวมใส่สีอะไรในแต่ละตอน4/

พวกเราคงอยากมีความทรงจาแบบจิลล์และมาริลู แต่สาหรับเธอทั้งสอง การมีความจาเหนือมนุษย์ทั่วไป
ได้ส่งผลให้การใช้ชีวิตประจาวันของพวกเขาต่างกับคนอื่น ๆ เพราะต้องตื่นขึ้นมา
พร้อม ๆ กับความทรงจาเหล่านั้น ซึ่งบางเรื่องไม่ได้อยากจะจดจา จิลล์ได้เขียน
หนังสือเรื่อง “The Woman Who Can’t Forget” เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์
ของเธอ และทางเลือกระหว่างคน “ขี้ลืม” กับคน “ไม่มีวันลืมอะไรได้เลย”แม้ว่า
เราจะไม่อยู่ในภาวะ Total Recall เหมือนกับจิลล์และมาริลู แต่ความสามารถ
ในการจาถือเป็นสิ่งสาคัญที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิตของคนเรา เพราะความทรงจา
เป็นทั้งอดีตและอนาคตบ่งบอกถึงตัวตนของเรา (Memory is our past and
future. To know who you are as a person) ซึ่งผมจะได้ขยายความใน Weekly
Mail ในสัปดาหห์ น้าตอ่ ไป

รณดล นมุ่ นนท์
7 มนี าคม 2565

แหล่งที่มา:
1/ www.thairath.co.th. 2022. “ความจาดี” สรา้ งได!้ กอ่ นถงึ วัยสูงอายุ. [online] Available at:
<https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1900072> [Accessed 6 March 2022].
2/ Petmaya.com. 2022. นค่ี อื หญิงสาวผไู้ ม่เคยลืมทกุ สิ่งท่เี กิดขน้ึ ในชวี ติ ตงั้ แต่อายุ 12 ปี | เพชรมายา.
[online] Available at: <https://petmaya.com/best-memory> [Accessed 6 March 2022].
3/ 2022. [online] Available at: <https://www.blockdit.com/posts/5dd131c4d842c90d108e838f>
[Accessed 6 March 2022].
4/ Minikar.ru. 2022. หน่วยความจา Eidetic - ของขวัญอจั ฉรยิ ะหรอื ความผิดปกติทางจิต? ผู้ชายที่มคี วาม
ทรงจาทีม่ หัศจรรย์ ผู้ชายที่มีความทรงจาทม่ี หัศจรรย.์ [online] Available at: <https://minikar.ru/th/its-
interesting/eideticheskaya-pamyat-genialnyi-dar-ili-psihicheskoe-otklonenie-chelovek-s/>
[Accessed 6 March 2022].

24

Total Recall: ความจาเหนือมนษุ ย์ (ตอนจบ)

สวสั ดคี รบั
การจดจาแบบ Total Recall ของมารลิ ู เฮนเนอร์ (Marilu Henner) และ จลิ ล์ ไพรซ์ (Jill Price) ทส่ี ามารถจดจา

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นย้อนไปจนถึงสมัยวัยเด็ก ทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัวและกับตัวเอง ถือเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์
อย่างยิ่งความจาบ่งบอกให้เห็นตัวเราในอดีตและอนาคต และเกิดเป็นอัตลักษณ์ของแต่ละคน งานศึกษาเรื่อง
ความจามนุษย์มีมานานกว่า 2,000 ปี บทความชิ้นแรก ๆ เขียนโดยอริสโตเติล ชื่อ On the Soul เปรียบเทียบ
ใจมนุษย์กับแผ่นกระดานที่ขาวสะอาด พร้อมตั้งทฤษฎีว่า มนุษย์ทุกคนเกิดมาปราศจากความรู้ แต่ละคนจึง
ต่างกันโดยประสบการณ์ชีวิตของตนการได้เรียนรู้และจดจานาไปสู่ตัวตนของเรา1/ ในขณะที่ลุยส์ บุญญูเอล
ปอรโ์ ตเลส (Luis Buñuel Portolés) ผู้กากบั ภาพยนตร์ชื่อดงั ระดับโลกชาวสเปน ได้กลา่ วว่า “การสูญเสียความ
ทรงจา นาไปสกู่ ารขาดความเชือ่ มโยงว่าเราคือใคร”2/

ผมยังจาช่วงเวลาตอนเด็กเมื่อไปเรียนว่ายน้า ในวันแรกของการเรียนพลัดตกลงไปในสระน้าโดยครูที่สอน
ไม่ทันเห็น ต้องตะกุยตะกายช่วยเหลือตัวเองขึ้นมาแตะขอบสระ เป็นประสบการณ์ทาให้ขยาดกลัว จนว่ายน้า
ไม่เป็นจนถึงทุกวันนี้ ทั้งนี้ ความทรงจาแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ 1. ความจาอาศัยความหมาย (semantic
memory) เป็นความจาที่บันทึกความรู้เกี่ยวกับความเป็นจริงทั่ว ๆ ไป เป็นอิสระจากประสบการณ์ส่วนตัว
อย่างเช่น เมืองหลวงของประเทศต่าง ๆ หรือบุคคลในประวัติศาสตร์และ 2. ความจาเชิงอัตชีวประวัติ
(autobiographical memory) เป็นการระลึกถึงประสบการณ์ชีวิตที่ได้เกิดขึ้นกับตนเองโดยตรงหรืออาศัย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ในอดีต1/ มีงานวิจัยพบว่า เรื่องที่ทาให้เรานึกถึงอดีตได้ง่ายที่สุดมีอยู่สองเรื่องคือ
เหตกุ ารณท์ มี่ ีความสาคัญในอดีต และเหตุการณ์ทเ่ี ก่ียวข้องกบั บคุ คลทใ่ี กลช้ ิดกบั เรา จึงไม่แปลกใจทเ่ี รามกั เห็นอยู่
บ่อยครงั้ บนสื่อสงั คมออนไลนต์ ่าง ๆ ไม่ว่าจะเปน็ การเปล่ียนรูปโปรไฟล์ การแชรภ์ าพความหลังในอดีตครั้งวัยเด็ก
รูปถ่ายกับครอบครัว เพื่อนสนิท แฟน อย่างปรากฏการณ์ CU100 เมื่อใกล้ครบรอบ 100 ปีแห่งการสถาปนา
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่บรรดาชาวจุฬาฯ ต่างสรรหารูปเก่าสมัยเรียนหนังสือ รูปถ่ายชุดครุยวันรับปริญญา
พร้อมทั้งกรอบสญั ลักษณ์จุฬาฯ 100 ปีมาลงกันเตม็ โซเชียลมเี ดีย3/

การคิดถงึ หรอื ระลึกถงึ อดีตไม่ไดเ้ ป็นความผิดปกติของร่างกายและจติ ใจแต่อย่างใด แต่กลับพบว่า คนสว่ นใหญ่
มักจะคิดหรือระลึกถึงความหลังในอดีตประมาณสัปดาห์ละครั้ง
และมากกว่าครึ่งของคนที่สารวจจะคิดถึงอดีตสัปดาห์ละ 3-4 ครงั้
การคิดถึงอดีตนั้นมีขอ้ ดีต่อทางดา้ นจติ ใจมากมาย เพราะสิ่งที่เรา
นึกถึงมักจะเป็นความทรงจาที่ดี มีความสุข ทาให้อารมณ์ดี รู้สึกดี
กับชีวิต รู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าและมีความสาคัญในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ทาให้เกิดความเชื่อมโยงทางสังคม ช่วยลดความเครียด
และทาให้เกิดความรู้สึกที่ดีต่ออนาคต อย่างไรก็ดี เมื่อถามถึง

แต่ละคนเก่ยี วกบั ความจา สว่ นใหญค่ ิดว่าเปรียบเสมือนเครอื่ งบนั ทึกเสียงทีส่ ามารถยอ้ นกลับไปฟงั ในช่วงวันเวลา
ดังกล่าวได้ แต่ผิดถนัด ความทรงจาเกิดจากกระบวนการในสมองที่ต้องรื้อฟื้นย้อนเรื่องราวในอดีตจาก
หน่วยความจาที่ถูกจัดเก็บตามเซลล์สมองมาปะติดปะต่อกัน เหมือนกับการต่อจิ๊กซอว์จนสร้างภาพที่สมบูรณ์

25

ด้วยกระบวนการข้างต้น ทาให้การให้ข้อมูลที่บิดเบือนสามารถนามาสู่ความทรงจาที่ผิด ๆ ได้ เช่น ในการ
ทดลองของ คิม เวด (Kim Wade) นักจิตวิทยา มหาวิทยาลัย Warwick สหราชอาณาจักร ได้ทาการทดลองกับ
พ่อแม่นักศึกษาระดับปริญญาตรี โดยให้ข้อมูล ประกอบรูปภาพทีแ่ ต่งขึ้นมาว่า ในช่วงที่ลูกยังเล็ก พวกเขาได้ขน้ึ
ไปบนบอลลูนอากาศรอ้ น (hot-air balloon) ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเกดิ ข้ึน ผลปรากฏวา่ ผู้ปกครองกว่าครึ่งหอ้ งเคยคิด
พาลูกขึ้นไปบนบอลลูนจริง ดังนั้น ความแจ่มแจ้งอย่างกับตาเห็น เห็นจริงเห็นจัง ไม่ได้หมายความว่า เหตุการณ์
ในความทรงจานั้น ๆ เกิดขน้ึ จริงเสมอไป

อย่างไรก็ดี ความจาเหมือนสิ่งอื่น ๆ ในร่างกายที่เสื่อมถอยตามกาลเวลา หากไม่ดูแล เพราะปัจจัยทาง
กายภาพของสมองที่เปลี่ยนไป เมื่ออายุมากขึ้น รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ เช่น พันธุกรรม การใช้ยาบางชนดิ หรือได้รบั
สารพิษทสี่ ง่ ผลต่อสมอง หรอื การดม่ื แอลกอฮอลแ์ ละสบู บุหรีอ่ ยา่ งหนกั ไปจนถงึ ความเครียดและวิตกกังวล ส่งผล
ต่อการจดจาและการเรียนรู้ด้วยเช่นเดียวกัน หลายคน อาจจะเข้าใจว่า ความเสื่อมถอยของความจาเป็นสิ่งท่ี
อยา่ งไรก็ตอ้ งเกดิ ข้ึน ไมส่ ามารถหยดุ ยง้ั ได้ แตม่ งี านวจิ ยั วา่ ผใู้ หญอ่ ายุ 70 ปี สามารถทาแบบทดสอบความจาได้ดี
ไม่แพ้วยั รุ่นอายุ 20 ปี แสดงให้เหน็ วา่ อายุเป็นเพียงตวั เลข3/

การฝึกสมองให้จดจาได้ดีขึ้นต้องอาศัยสมาธิ สิ่งที่เป็นปัญหาด้านความจามักเป็นปัญหาด้านความสนใจ
จากรายงานของศาสตราจารย์อมิชิ จฮา (Amishi Jha) นกั ประสาทวิทยาและดา้ นจิตวิทยา มหาวทิ ยาลัยไมอามี
สหรัฐอเมริกา กล่าววา่ การจดจาอะไรบางอย่างไดด้ ีนนั้ ขึ้นอยู่กับ
ปัจจัย 3 อย่าง คือ 1. การฝึกฝน พยายามนึกถึงและความสนใจ
ต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพื่อนาข้อมูลที่เกี่ยวกับสิ่งนั้นออกมา เช่น ชื่อที่
เพิ่งไดย้ นิ เมอ่ื เพอื่ นร่วมงานใหม่แนะนาตัวเอง ขอ้ เท็จจริงที่สาคัญ
จากการฝึกงาน รายละเอียดของประสบการณ์สนุก ๆ ที่เพิ่งได้รับ
เช่น งานแต่งงานของครอบครัว 2. การขยายความ การน า
ประสบการณ์หรือความรู้เดิมที่มีอยู่แล้วไปเชื่อมโยงกับความรู้ใหม่
ช่วยทาให้จดจาสิ่งใหม่ ๆ ได้โดยไม่รู้ตัวด้วยการอธิบายรายละเอียด เช่น นึกภาพปลาหมึก พอมีเพื่อนบอกว่า
ปลาหมึกยักษ์มีสามหัวใจ ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ที่ไม่เคยรู้มาก่อน ทาให้ในครั้งต่อไปเมื่อได้เห็นปลาหมึก จะจาได้ว่า
ปลาหมกึ ยกั ษม์ ีหวั ใจสามดวงและ 3. การรวบรวม

กระบวนการที่กล่าวถึงข้างต้นสนับสนุนการสร้างหน่วยความจาเริ่มต้น แต่หากต้องการเปลี่ยนจากระยะ
เริ่มต้นเหล่าน้ี ไปสู่การเก็บความจาระยะยาวได้ดีขึ้น จาเป็นต้องมีการนึกซ้า ทาซ้าหลาย ๆ ครั้ง จึง จะทาให้
สามารถจดจาไดแ้ ม่นมากข้นึ เกิดเป็นความจาระยะยาวที่แขง็ แกรง่ ข้ึน นอกจากนี้ วธิ งี ่าย ๆ ก็คือ การทานอาหาร
ให้ครบ 5 หมู่ ดืม่ นา้ ให้เพยี งพอ พักผ่อนให้มาก ถือเป็นอีกหน่งึ วธิ ที ีด่ ตี ่อสมอง ชว่ ยใหจ้ าเกง่ และลมื ยากเชน่ กัน4/

ความทรงจามหัศจรรย์ไม่ใชน่ ิยายหรือตานาน แต่เป็นทักษะท่ีสามารถเกิดข้ึนได้ ชีวิตมีทง้ั น้าตา เสียงหัวเราะ
และความทรงจา นา้ ตาเหือดแห้งได้ เช่นเดียวกบั เสียงหวั เราะ แต่ความทรงจาอยู่กับเราช่วั นจิ นิรนั ดร (Life brings
tears, smiles & memories. The tears dry, the smiles fade, but the memories last forever.)

26

รณดล นุม่ นนท์
14 มนี าคม 2565
แหล่งที่มา
1/ Th.wikipedia.org. 2022. ความจาชัดแจง้ - วกิ ิพีเดีย. [online] Available at:
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8
%88%E0%B8%B3%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B
9%89%E0%B8%87 [Accessed 11 March 2022].
2/ the Guardian. 2022. Maximising your memory | Life and style | The Guardian. [online]
Available at: https://www.theguardian.com/lifeandstyle/series/maximising-your-memory
[Accessed 11 March 2022]. bangkokbiznews. 2022. ความทรงจาในอดีต กับ ความสุขในปัจจบุ นั .
[online] Available at: <https://www.bangkokbiznews.com/blogs/columnist/115524> [Accessed
11 March 2022].
3/ bangkokbiznews. 2022. ความทรงจาในอดีต กบั ความสุขในปัจจุบัน. [online] Available at:
https://www.bangkokbiznews.com/blogs/columnist/115524
[Accessed 11 March 2022].
4/ Www-cnbc-com.translate.goog. 2022. [online] Available at: https://www-cnbc-
com.translate.goog/2022/01/01/a-neuroscientist-shares-the-3-step-brain-exercise-she-does-
for-a-stronger-and-healthier-
memory.html?__source=iosappshare%7Cjp.naver.line.Share&_x_tr_sl=auto&_x_tr_tl=th&_x_t
r_hl=en-US&_x_tr_pto=wapp
[Accessed 11 March 2022].

27

นิกเซน: ฝันกลางวนั อย่างสรา้ งสรรค์

สวสั ดีครับ
ในยุคสังคมสมัยนี้ ทุกอย่างดูยุ่งเหยิงวุ่นวาย ชีวิตต้องวิ่งแบบไม่หยุดยั้งกับกิจกรรมทั้งเรื่องงานและเรื่อง

ส่วนตัว ทาให้ชีวิตไม่ได้หยุดนิ่งแม้แต่วินาทีเดียว แม้กระทั่งอยู่ในลิฟต์ขึ้นไปเพียงไม่กี่ชั้น หลายคนยังอดใจไม่ได้
ต้องหยิบมือถือขึ้นมาอ่านข้อความ มีความรู้สึกว่า หากไม่ได้ทาอะไรจะรู้สึกผิด จนทาให้รู้สึกเครียด มีอาการ
เหน่อื ยลา้ จนกระทัง่ มีภาวะหมดไฟ (burnt out) ในทา้ ยทสี่ ดุ

สาหรับชาวดัตช์ที่ถูกปลูกฝังให้ทางานอย่างขยันขันแข็ง และเชื่อในการทางานหนัก จึงไม่ค่อยเข้าใจต่อการ
ใช้ชีวิตแบบชิล ๆ อย่างสุขสบายของชาวสแกนดิเนเวีย ที่เรียกว่า “ฮุกกะ” (Hygge) สาหรับชาวเดนมาร์ก และ
“ลากอม” (Lagom) สาหรบั ชาวสวีเดน เช่น การรวมตวั ของเพอ่ื นสนิทพรอ้ มจบิ กาแฟและกินขนมเคก้ อร่อย ๆ1/

อย่างไรก็ดี ความคิดของชาวดัตช์ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาเริ่มเปลี่ยนไป พวกเขาโหยหาความสมดุลในชีวิต
มากขึ้น จนเป็นที่มาของแนวคิดนี้เรียกว่า “นิกเซน” (Niksen) หรือพลังของการไม่ทาอะไรเลย การนั่งเฉย ๆ

มองออกไปนอกหน้าต่าง สังเกตลมฟ้าอากาศที่เปลี่ยนไป หรือการ
พกั บนเกา้ อส้ี ักตัว น่งั เหม่อลอยไปโดยไม่ต้องคุยกับใคร เป็นการทา
ตัวค้านสายตาตัวเองเพราะพวกเราคงรู้สึกว่า กาลังทาตัวไม่มี
คุณค่า ไม่ “productive” และเป็นบาปที่ไม่น่าให้อภัย แต่สาหรับ
แอนเนท ลาฟไรห์เซน (Annette Lavrijsen) ผู้เขียนหนังสือ
“NIKSEN” (ศิลปะของการไม่ทาอะไรเลย) กลับมีความเห็นว่า
“หากเราปล่อยตัวเองให้อยู่เฉย ๆ และลดความสนใจต่อโลก
ภายนอกให้มากขึ้น เราจะอยู่ในภาวะที่ “นิ่ง” และ “เงียบสงบ” ภาวะทางอารมณ์แบบนี้ จะช่วยให้เราสามารถ
เคลียร์เรื่องราวที่ว้าวุ่นจิตใจ และกระตุ้นให้ได้ใช้เวลาทางานอย่างมีประสิทธิภาพและมีเวลาว่างที่จะทาอะไรได้
มากขึน้ ”2/
ปัจจุบัน ชาวดัตช์ทางานเพียง 29.3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ นอนเฉลี่ย 8 ชั่วโมง 5 นาทีต่อคืน2/ แต่เนเธอรแ์ ลนด์
กลับเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 17 ของโลก มีรายได้ต่อประชากรสูงเป็นอันดับที่ 11 และ
ถูกจัดให้เป็นประเทศที่มีความสมดุลด้านการทางานและการใช้ชีวิต ประชากรมีความสุขที่สุดเป็นอันดับที่ 5
ของโลก แนน่ อน สว่ นหน่ึงเกดิ จากนานกิ เซนมาใชก้ บั ชวี ิตประจาวนั มากขึน้ 3/
การเสาะหาเวลาที่จะ “ไม่ทาอะไรเลย” ดูเหมือนว่าง่าย
ผมจึงแปลกใจว่าทาไมลาฟไรห์เซนจึงสามารถเขียนอธิบายแนวคิดน้ี
ออกเปน็ ตวั หนงั สอื ไดห้ นาถึง 140 หนา้ แตเ่ มอ่ื ไดอ้ า่ นหนังสือจนจบเล่ม
พบวา่ ในทางปฏิบตั ิ นิกเซนไมง่ ่ายอยา่ งทค่ี ิด การขอใหพ้ วกเราไม่ทา
อะไรเลย หาช่วงเวลาอยู่เฉย ๆ โดยไม่มีจุดประสงค์ใด ๆ เข้าสู่โหมด
คล้าย ๆ กับฝันกลางวัน เป็นเรอื่ งยากมาก เพราะจิตใตส้ านึกของเรา
คงจะปฏิเสธ ไม่เชื่อเราลองนั่งเฉย ๆ ผมเช่ือมั่นว่าไม่เกิน 1 นาที
พวกเราจะรู้สึกกระวนกระวายใจไม่สบายใจกลวั คนอ่ืนจะหาวา่ เปน็ คนเฉือ่ ย

28

ลาฟไรห์เซนเสริมว่า การจะทาให้เกิดนิกเซนนั้น เราต้องกล้าปฏิเสธพร้อมทิ้งความเชื่อที่ว่าต้อง “ยุ่ง”
ตลอดเวลา การอยู่เฉย ๆ ไม่ได้แปลว่าขี้เกียจ หรือการพักเป็นเรื่องท่ีไม่ดี รวมทั้งสลัดความกลัวว่าคนอื่นจะผิดหวัง
คิดว่าเราเห็นแก่ตัว ลาฟไรห์เซนแนะนาว่าควรเริ่มต้นฝึกนิกเซนวันละ 2-3 นาที ฝึกให้เป็นนิสัย และค่อย ๆ เพ่ิม
เวลาไปเรื่อย ๆ ซึ่งการ “ไม่ทาอะไรเลย” ไม่ได้หมายความว่า การใช้เวลากับโทรศัพท์เล่นไลน์ เล่นวิดีโอเกมส์
หรอื การดูหนัง ดูหนงั ซีรยี ์ แตเ่ ป็นช่วงที่อทุ ิศเวลาให้กับตัวเราคนเดยี ว เชน่ การเดินเล่นในสวนโดยไม่พกโทรศัพท์
ติดตัว หรือเก็บของที่รกรุงรังบนโต๊ะทางาน ซึ่งนอกจากจะช่วยให้เราเข้าสู่โหมดนิกเซนแล้ว ยังจะทาให้เราได้จัด
ระเบยี บการทางานไปในตัวดว้ ย

อีฟ เอ็กแมน (Eve Ekman) ผู้อานวยการฝ่ายฝึกอบรม ประจาศูนย์สุขภาวะด้านจิตวิทยา สังคมวิทยา และ
ประสาทวิทยา “Greater Good Science Center” มหาวทิ ยาลัยแคลิฟอรเ์ นีย-เบิรก์ ลีย์ กล่าวถงึ ประโยชน์ของ
การผ่อนคลายทางอารมณ์ ว่าจะช่วยให้สุขภาพดีขึ้น ที่สาคัญ ช่วยให้เราเกิดความคิดใหม่ ๆ เพราะในเวลาที่เรา
กาลัง “ไม่ทาอะไร” นน้ั สมองเรายังคงประมวลผล ข้อมูลตา่ ง ๆ แก้ไขปัญหาท่ยี ังค้างคา รวมท้งั ยังสามารถเพ่ิม
ความตระหนกั รใู้ นตนเอง มเี วลาวางแผนเป้าหมายให้ชีวิตในระยะยาวมากข้ึน2/

ลาฟไรห์เซนทิ้งท้ายไวว้ ่า “นิกเซนเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ในชีวิตที่เรากดปุ่มพักชั่วคราวและถอนตวั ออกมาจาก
งานและกิจกรรมสังคมในชีวิตประจาวัน ปล่อยให้ตัวเองเฉื่อยชาโดยไม่ต้องรู้สึกผิดหรือคิดถึงสิ่งต่าง ๆ ที่ควรทา
ในช่วงเวลาดังกล่าว” เรามาลองมาพิสูจน์ด้วยตนเองกันง่าย ๆ ด้วยการอยู่เฉย ๆ ไม่ทาอะไรเลย แบบหลบหลีก
ไปสู่พ้นื ที่ปราศจากความวนุ่ วาย นิกเซนอาจเป็นพลงั ชว่ ยให้เราไดค้ น้ พบกบั การใชช้ วี ิตท่ีสมบรู ณแ์ บบมากข้นึ

รณดล นุ่มนนท์
21 มีนาคม 2565

แหลง่ ท่ีมา:
1/ workpointTODAY. 2022. รจู้ ักแนวคดิ "Niksen" เมื่อการ "ไมท่ าอะไร" อาจช่วยใหเ้ ราเอาชนะความเครียด
ในช่วง work from home ได.้ [online]
Available at: <https://workpointtoday.com/niksen-covid19/> [Accessed 20 March 2022].
2/ แอนเนท ลาฟไรหเ์ ชน NIKSEN ศิลปะของการไม่ทาอะไรเลย อณรรขวีร์ เติมสบิ สุข แปล
พิมพค์ รงั้ ที่ 2 กรุงเทพฯ อมรินทรฮ์ าวทู อมรนิ ทร์พร้นิ ติง้ แอนด์ พบั ลชิ ช่ิง 2565
3/ Th.wikipedia.org. 2022. ประเทศเนเธอร์แลนด์ - วิกพิ ีเดยี . [online] Available at:
<https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8
%97%E0%B8%A8%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%AD%E0%
B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%8C>
[Accessed 20 March 2022].

29

บริษัทฟอร์แคร:์ บทพสิ ูจน์การเติบโตอย่างยงั่ ยืน

สวัสดคี รบั
ในช่วงพิธีมอบรางวัลธรรมาภิบาลดีเด่น ด้านการปฏิบัติต่อพนักงาน แห่งปี 2563 โดยแบงก์ชาติ ร่วมกับ

สถาบันป๋วย อึ๊งภากรณ์ สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และสมาคมธนาคารไทย เมื่อวันที่ 9
มนี าคม ทีผ่ ่านมา หน่งึ ในผ้กู ่อตง้ั บริษัท ได้ข้นึ ไปรบั รางวัล พรอ้ มกลา่ วถงึ ความรู้สกึ ว่า “…ดฉิ ัน ภริ มณ ชูประภาวรรณ
และคุณรวมวดี เลขะกุล ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ฟอร์แคร์ จากัด ได้ตั้งปณธิ านและมีขอ้ ตกลงร่วมกันว่า จะมุ่งมั่นดาเนิน
ธรุ กิจโดยยึดถอื เร่ืองของความซอ่ื สัตย์สจุ รติ ไม่ดาเนินธุรกจิ เพยี งเพื่อแสวงหาผลกาไร เราต้องการเป็นบริษัทท่ีได้
ทาสิ่งดี ๆ ให้กับสังคม พันธมิตร คู่ค้า ลูกค้า และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เราปรารถนาที่จะดูแลพนักงานอย่างเต็มที่
รวมถึงสง่ เสรมิ แนวคดิ เรื่องธรรมาภิบาลและการทางานอย่างซอ่ื สตั ย์จริงใจใหแ้ ก่พนกั งาน…”1/

คากล่าวข้างต้นได้รับเสียงปรบมืออย่างกึงก้อง
จากผู้เข้าร่วมงาน จนทาให้ผมต้องเพ่งมองไปบนเวที
และฟังด้วยความตั้งใจ จนทราบว่าบริษัทฟอร์แคร์
(4Care) เป็นบริษัทผลิตอาหารและเครื่องดื่มสุขภาพ
ที่เกิดจากผู้หญิง 2 คนที่ฟ้าลิขิตให้มาเจอกันด้วย
อุดมการณ์และความตัง้ ใจที่แน่วแน่เหมอื นกัน

ผมได้นัดคุณภิรมณ (คุณหลิง) และคุณรวมวดี
(คุณอ๊อด) เพื่อพูดคุยผ่านระบบออนไลน์เมื่อเย็นวันศุกร์
ทีผ่ า่ นมา ใชเ้ วลารว่ มช่ัวโมงทาใหส้ ัมผัสไดถ้ ึงความมุ่งมัน่ และความจรงิ ใจของทั้งสองในการเดนิ ตามความฝันของ
ตัวเอง ดว้ ยการมอบผลิตภัณฑท์ ี่ตอบโจทยใ์ ห้กับผู้บริโภคพร้อมทาธุรกจิ ด้วยหลักธรรมาภิบาล
คุณหลิงเริ่มต้นเล่าให้ฟังว่า ครอบครัวทาธุรกิจขายวัสดุก่อสร้าง คุณพ่อ
ต้องการให้เรียนด้านบัญชี เพื่อมาช่วย ธุรกิจกงสีของครอบครัว แต่ด้วยตนเอง
เป็นคนชอบคิดประดิษฐ์ ใฝ่ฝันอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ จึงตัดสินใจเข้าเรียนท่ี
คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาเทคโนโลยีทางการอาหาร ถือเป็นรุ่น
แรกของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในขณะที่คุณอ๊อดมีใจรักวิชาวิทยาศาสตร์
เช่นกัน เรียนจบอุตสาหกรรมเกษตร ที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณ
ทหารลาดกระบัง พร้อมเรียนต่อด้านเทคโนโลยีการบรรจุและวัสดุ (Packaging
Technology) ก่อนที่ทั้งสองได้มาพบกันเมื่อทางานที่บริษัทเนสท์เล่ โดยที่คุณ
หลิงได้ใช้ชีวิตในการทางานเสริมสร้างประสบการณ์ที่บริษัทนี้กว่า 6 ปี ก่อนท่ี
จะลาออกมาชว่ ยงานท่ีบ้านตามที่สัญญากับคณุ พ่อไว้
จุดเปลี่ยนผันชีวิตของทั้งสองเกิดขึน้ เมือ่ ได้พบกับรุน่ พี่ท่ีสามีเพิ่งผ่าตัดบายพาสหัวใจทั้ง 4 เส้น และคุณหมอ
ให้งดรับประทานอาหารที่ผลิตจากกะทิมะพร้าว จึงได้ตั้งโจทย์ให้ทั้งสองไปช่วยหาหนทางออก เพราะหากสามี
ไม่ได้กินแกงเผ็ดเป็ดย่าง คุณภาพชวี ิตจะยิ่งแย่ลง ทาให้ทั้งสองตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางชวี ิตมาทางานที่ตนเองรัก
เพื่อค้นหาคาตอบอย่างจริงจังสาหรับผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่ได้รับการสนองตอบ (unmet demand) ทาการศึกษา

30

ร่วมกันแบบเต็มเวลา แปลงห้องครัวที่บ้านเป็นห้องทดลองวิจัย จนพบว่า คาตอบอยู่ใกล้ตัว นั่นคือน้ามันราข้าว
ทสี่ กัดจากเมล็ดข้าว พืชเศรษฐกิจหลกั ของประเทศ ดว้ ยน้ามนั ราข้าวมีองค์ประกอบของกรดไขมนั ดี

แม้ว่าจะค้นพบคาตอบและได้จดสิทธิบัตรไว้ แต่กว่าที่จะสามารถนามาประกอบอาหาร ให้ได้รส กลิ่น และ
อรอ่ ย เทียบเท่ากับกะทิมะพร้าวนนั้ ต้องใชเ้ วลาร่วม 2 ปี ลองผดิ ลองถูก ตอ้ งเปล่ยี นเครื่องป่ันอาหารไปหลายตัว
พร้อมกับเครื่องแกงร้านปากซอยที่ขายดิบขายดี เพราะทั้งสองนากะทิประดิษฐ์มาทดลองปรุงอาหาร และเมื่อ
นาไปใหผ้ ู้บรโิ ภคไดท้ ดลอง ก็ยังไม่เข้าที่ ต้องปรับสูตรตลอดเวลา รวมทั้งการนาสูตรไปหารือกบั นกั โภชนาการวา่
ตอบโจทย์หรือไม่ แต่ด้วยความไม่ท้อและความคิดที่ว่า “ทุกอย่างเป็นไปได้ ค้นหาเส้นทางให้เจอและลงมือทา
ทนั ท”ี ทาให้ในที่สดุ ได้ท่พี ร้อมนาเสนอสผู่ ู้บริโภค เริ่มตน้ ด้วยการสง่ ไปตามโรงพยาบาลให้ทดลอง

ในที่สุดความฝันได้กลายเป็นความจริง เมื่อมีคาสั่งซื้อกะทิธัญพืชเข้ามา 30 กิโลกรัม มูลค่า 2,100 บาท
คุณหลิงยังจาวันนั้นได้อย่างแม่นยาว่า เป็นคาสั่งซื้อสินค้าชิ้นแรก
ท่ีเข้ามาทางเครื่องโทรสาร (fax) ทั้งบ้านดีใจมาก คุณพ่อถึงกับ
อุทานว่า จะทาได้ทันหรือ! พร้อมกับจัดรถไปส่งถึงที่ และนั่นคือ
ทม่ี าของการก่อต้งั บรษิ ทั 4Care ในปี 2546 คณุ หลิงและคุณออ๊ ด
ยอมรับว่าช่วงแรกธุรกิจยังลุ่ม ๆ ดอน ๆ ประสบปัญหาขาดทุน
กว่าจะเริ่มอยู่ตัวและ “เทสตี้ฟิต กะทิธัญพืช” เป็นที่รู้จักของ
ลูกค้าต้องใช้เวลาอีกกว่า 6 ปี พร้อมกับนาผลิตภัณฑ์มาตอบ
โจทย์ผู้บริโภคเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น ซีเรียล ดริ๊งค์ น้านมข้าว ไปจนถึงขนมข้าวออร์แกนิอบกรอบ รวมทั้งมีการ
สง่ ออกไปยงั ตา่ งประเทศ

ท้งั สองกลา่ ววา่ การค้นคิดอาหารและเคร่อื งดม่ื สขุ ภาพที่มาจากวัตถุดิบท่ีผลิตในประเทศได้สร้างมูลค่าเพ่ิมให้
ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เป็นความตั้งใจและความภาคภมู ิใจ เพราะที่ผ่านมา ไทยส่งพืชผลทางการเกษตรไปยงั
ต่างประเทศ ถูกนาไปแปรรูปและนากลับเข้ามาขายในไทย ทั้ง ๆ ที่เรามีขีดความสามารถที่จะทาได้ ที่สาคัญ
เปน็ การช่วยเกษตรกรให้หาทางออกจากวัฏจกั รการปลูกขา้ วแบบดั้งเดิม ด้วยการรณรงค์ให้หนั มา ปลกู ข้าวกล้อง
อินทรยี ์ (Organic Rice) เพื่อเพ่มิ รายได้ ทั้งนี้ บรษิ ัท 4Care จะซือ้ วตั ถุดิบจากเกษตรกรโดยตรง โดยเฉพาะจาก
แหล่งพ้นื ท่ปี ลูกขา้ วในภาคอีสาน และรับซือ้ ข้าวในราคาเตม็ แมว้ า่ จะเปน็ ข้าวหกั

31

คณุ ออ๊ ดและคุณหลิงเสริมวา่ เราท้ังสองเปน็ นักวิทยาศาสตร์ แต่มีความถนดั กันคนละเรื่อง ทาให้การทาธุรกิจ
เติมเต็มซึ่งกันและกัน คุณอ๊อดถนัดด้านการตลาด ในขณะที่คุณหลิงชอบคิดค้นและมีประสบการณ์ในการบริหาร
ธุรกิจ ท่สี าคัญมอี ุดมการณ์ที่เหมือนกัน จนเป็นที่มาของช่ือบริษัท 4Care สะทอ้ นค่านิยมในเรื่องความคิดสร้างสรรค์
(C = Creative) ความรับผิดชอบ (A = Accountability) ความเคารพ (R = Respect) และความดีเลิศ (E =
Excellent) แม้ว่าบริษัท 4CARE เป็นบริษัทขนาดเล็ก มีพนักงานเพียง 70 คน แต่ต้องการเป็นแบบอย่างที่ดี
ใหก้ บั ผปู้ ระกอบการรายอ่ืนในดา้ นธรรมาภบิ าลทด่ี ี รับผดิ ชอบต่อลูกค้า สังคม และสิง่ แวดล้อม2/

ทั้งสองกล่าวว่า การนาบริษัทไปสู่ค่านิยมข้างต้น หัวใจสาคัญคือ การหล่อหลอมและปลูกฝังให้พนักงาน
มีอุดมการณ์เดียวกัน ดังนั้น พนักงานจะมีความคิดเช่นนี้ได้ “พวกเขาต้องได้รับความรักจากบริษัทฯ มีความสุข
และความภมู ใิ จในงานท่ีรบั ผดิ ชอบ” เปน็ ที่มาของการไดร้ บั รางวลั ธรรมาภบิ าลดเี ด่น แห่งปี 2563 ด้านการปฏบิ ตั ิ
ตอ่ พนกั งาน

แนวทางการบริหารคน ตลอดจนเป้าหมายชีวิตของคุณอ๊อดและคุณหลิงเป็นอย่างไร ผมจะได้ขยายความ
ใน weekly mail สัปดาหห์ นา้ ครับ

รณดล นมุ่ นนท์
28 มนี าคม 2565

แหลง่ ท่ีมา
1/ 2022. [online] Available at: <https://www.marketthink.co/24149> [Accessed 27 March 2022].
2/ Team, T., Team, T., หัตถโกศล, ผ., อรณุ ไพโรจน์, ต. and ดามาพงษ์, อ., 2022. ธุรกิจทท่ี าดว้ ยหัวใจ -
Good Governance • The District. [online] The District. Available at:
<https://thedistrictweb.com/cover/issue30-cover-good-
governance/#:~:text=18%20%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9
%89%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%
B8%B4%E0%B8%A9%E0%B8%B1%E0%B8%97,%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0
%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%
E0%B8%9E%20%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%A2%E0%B8
%B1%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99> [Accessed 27
March 2022].

หมายเหตุ
ขอขอบคณุ น้องทชั ชา ตรเี นตร ทีร่ ่วมสัมภาษณแ์ ละให้ข้อมลู ในการเขยี น weekly mail ฉบับนี้

32

บรษิ ทั ฟอรแ์ คร:์ บทพิสูจน์การเตบิ โตอยา่ งยง่ั ยนื (ตอนจบ)

สวสั ดีครับ
นับตั้งแต่บริษัท ฟอร์แคร์ (4CARE) ก่อตั้งในปี 2546 ได้ดาเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับนวัตกรรมอาหารและ

เครื่องดื่มสุขภาพ โดยเฉพาะ “เทสตี้ฟิต กะทิธัญพืช” ที่ผลิตจากน้ามันราข้าวแทนมะพร้าว พร้อมค้นคิด
ผลิตภัณฑ์ทีต่ อบโจทยผ์ ู้บริโภคอยา่ งต่อเนื่อง จึงไม่แปลกใจ ที่บริษทั ไดร้ ับรางวัลนับไมถ่ ้วนในดา้ นนวัตกรรมดีเด่น
แตส่ าหรบั คณุ ภิรมณ ชปู ระภาวรรณ (คณุ หลงิ ) และ คณุ รวมวดี เลขะกุล (คุณอ๊อด) การไดร้ ับรางวัลธรรมาภบิ าล
ด้านการปฏิบัติต่อพนักงานดีเด่น แห่งปี 2563 จากสถาบันป๋วย อึ้งภากรณ์ และสถาบันพันธมิตร ถือเป็นรางวัล
ทีส่ รา้ งความภาคภมู ใิ จให้กบั 4CARE เปน็ อยา่ งมาก

ด้วย 4CARE เป็นบริษัทที่ยึดมั่นในการดาเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใสและเปน็ ธรรม
ผนวกกับความท้าทายต้องค้นคว้าวิจัยผลิตภัณฑ์ สร้างสรรค์สินค้าใหม่ ๆ เพื่อช่วยตอบโจทย์และสร้างสังคม
สุขภาพอย่างต่อเนื่อง1/ ดังนั้น การหล่อหลอมให้พนักงานมีค่านิยมเดียวกันเป็นเร่ืองที่สาคญั คุณอ๊อดและคุณหลงิ
จงึ ให้เวลาของการทางานหลักในแตล่ ะวนั ด้วยการดแู ล “พนกั งาน” เร่ิมตง้ั แตก่ ารคดั สรรพนกั งานเขา้ ใหม่ เพราะ
เชื่อมั่นว่าคนที่เก่งงานนั้นสามารถสร้างได้ แต่ทัศนคติหรือความคิดของแต่ละคนสร้างไม่ได้และไม่เหมือนกัน
ดังนั้น เพื่อให้แน่ใจว่าพนักงานที่รับเข้ามาใหม่มีอุดมการณ์และแนวคิดที่ตรงกับค่านิยมของ 4CARE ทั้งสอง
จงึ ลงทุนสมั ภาษณพ์ นักงานดว้ ยตนเองแทบทกุ ตาแหนง่

คุณหลิงกลา่ ววา่ ธรรมชาตขิ องแต่ละคนต้องเหมาะกบั งานที่ได้รบั มอบหมาย คาตอบจากการสัมภาษณ์ หรือ
แม้แต่ไอดอลของผู้สมัครทาให้พอทราบว่าแต่ละคนให้คุณค่า (value) กับสิ่งใด อาทิเช่น ในตาแหน่งพนักงาน
บัญชี หากผู้สัมภาษณ์ให้คุณค่ากับ “ความร่ารวย” หรือ “ความถูกต้อง” ก็สามารถบ่งบอกความแตกต่าง
ในความคิดแล้ว คุณหลิงเสริมว่า “ถ้าพนักงานได้ทาในสิ่งที่ชอบและถนัด จะสามารถสร้างงานที่ดีออกมาได้
และเมื่ออยูน่ านก็จะย่ิงเก่งข้ึนด้วยประสบการณ์ที่มากข้นึ ”2/

ในขณะที่ คุณอ๊อดเชื่อว่า การสร้างบรรยากาศการทางานให้พนักงาน “รักและสนุกกับงาน” เป็นสิ่งที่สาคญั
เพราะจะเกิดพลังที่มุ่งมั่นเพื่อให้งานออกมาอย่างมีคุณภาพอย่างเป็นธรรมชาติ ดังนั้น ทั้งสองจึงมีเวทีสื่อสารกับ
พนักงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งการประชุมหน่วยงานในแตล่ ะสปั ดาห์ ฝ่ายงานแต่ละเดือน ไปจนถึงการประชุม town
hall ในแต่ละปี เพื่อให้วัฒนธรรมองค์กรธารงไว้ด้วยค่านิยมของบริษัท เป็นการเปิดรับฟัง เข้าใจความรู้สึกและ
ความต้องการในมุมมองของพนักงาน หากใครไม่สบายใจ ไม่สนุกกับงาน คุณหลิงและคุณอ๊อดเปิดห้องทางาน
ตลอดเวลา ใหพ้ นกั งานสามารถเขา้ มาพดู คุยอย่างเปิดใจ และหาทางออกรว่ มกัน

ด้วย 4CARE เป็นบริษัทพึ่งพานวัตกรรม การสร้างบรรยากาศการทางานให้เกิดความคิดสร้างสรรค์จึงเป็น
กุญแจสาคัญ ทั้งสองจึงเปิดโอกาสให้พนักงานได้รับประสบการณ์จากการลงมือในงานที่ท้าทาย พร้อมเรียนรู้
ในทกั ษะที่ต้องการเพื่อเติมเต็มในสิ่งท่ีพนักงานยังขาดอยู่เสมอ ที่สาคญั คอื ใหค้ ดิ เปน็ “One 4CARE” ว่างานของตน
มีความเชื่อมโยงอย่างไรกับหน่วยงานอื่น ๆ เรียกว่า คิดให้ต่อยอดแบบครบวงจร ในขณะที่ บริษัทเกี่ยวข้องกับ
สุขภาพ ดังนั้น จึงให้ความสาคัญกับการดูแลสุขภาพของพนักงานเป็นพิเศษ มีกิจกรรมลดน้าหนักโดยจานวน
น้าหนักที่ลดลงจะแปรผันเป็นเงินโบนสั ทาให้พนักงานใส่ใจกับสุขภาพตนเองมากข้ึน คุณอ๊อดกล่าวว่า “4CARE
เป็นบรษิ ัททท่ี าเพือ่ สขุ ภาพทีด่ ีของผูบ้ ริโภค ดงั น้นั คนท่คี วรสุขภาพดที ีส่ ุดก็คอื ตวั เราและพนักงาน”

33

คุณรดา ปานะจานงค์ พนักงานฝ่ายดูแลบริการลูกค้า ให้สัมภาษณ์ว่า เธอประทับใจในความเป็นกันเองของ
ผบู้ ริหารทัง้ สอง สอนให้เรียนรูด้ ้านการออมเงิน สขุ ภาพ และคณุ ภาพชีวิต อีกทง้ั ใหข้ ้อคิดในชีวิตวา่ “ถ้าเราได้ทา
ในสิ่งที่เรารัก บางครั้งเราอาจท้อกับมัน แต่ถ้าเราถอยเราจะไม่มีวันประสบความสาเร็จในชีวิตเลย”2/ สะท้อนถึง
ความรู้สึกพอใจและภูมใิ จของพนักงาน 4CARE เป็นอย่างดี และไม่แปลกใจที่อัตราการลาออกคิดเปน็ เพียงรอ้ ยละ
0.5 เท่านั้น1/

คุณอ๊อดกับคุณหลิงได้กล่าวถึงเป้าหมายข้างหน้าว่า ในแต่ละวันต้องทาให้ดีขึ้น ต่อยอดจากสิ่งที่ทาอยู่แล้ว
อยากสร้างน้อง ๆ ขึ้นมาทดแทน พร้อมปลูกฝังแนวคิดว่า หากทาอะไร ต้องทาเพื่อประโยชน์ต่อผู้บริโภค สังคม
และประเทศ ด้วยความฝันว่า สักวันหนึ่งประเทศไทยจะมี “โครงการหุบเขาอาหาร” (Food Valley) พัฒนา
อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปและอาหารแบบครบวงจร เพราะเชื่อว่า ประเทศไทยเป็นครัวโลก สามารถนาวิชา
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มาผสมกับทักษะด้านการประดิษฐ์ที่คนไทยมีอยู่ติดตัว มาสร้าง Food Valley ที่ไม่
น้อยหนา้ นานาประเทศ

4CARE ยา่ งเขา้ สู่ปีที่ 19 ความสาเร็จไมไ่ ดเ้ กิดจากโชค แต่เกดิ จากความม่งุ ม่ันของคณุ ภริ มณ ชูประภาวรรณ
และคณุ รวมวดี เลขะกลุ รว่ มกบั พนักงานท้ังหมด ไม่หยุดย้ังพฒั นาศักยภาพของตนเอง เปน็ บริษัททเ่ี ตม็ เปี่ยมไปด้วย
ความรัก รกั ในงานทีท่ า รกั สุขภาพ รักพนกั งานและรกั ผู้บรโิ ภค2/
รณดล นมุ่ นนท์
4 เมษายน 2565
แหลง่ ที่มา:
1/ หนงั สือรางวลั ธรรมาภบิ าลดเี ดน่ แหง่ ปี 2563 จัดโดยสถาบนั ปว๋ ย องึ๊ ภากรณ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย สถาบนั
พฒั นาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และสมาคมธนาคารไทย
2/ Team, T., Team, T., หัตถโกศล, ผ., อรุณไพโรจน์, ต. and ดามาพงษ์, อ., 2022. ธรุ กิจท่ที าดว้ ยหัวใจ -
Good Governance • The District. [online] The District. Available at:
https://thedistrictweb.com/cover/issue30-cover-good-governance/ [Accessed 2 April 2022].

34

ริชาร์ด วิลเลยี มส์: พ่อผอู้ ยู่เบ้อื งหลงั ความสาเรจ็

สวสั ดีครบั
ในการประกาศผลรางวลั ออสการ์ คร้ังท่ี 94 ประจาปี 2022 เม่อื วันท่ี 27 มีนาคม ทผ่ี ่านมามีเหตุการณ์ฉากบู๊

นอกจอแบบไม่คาดฝันเกิดขึ้น เมื่อวิลล์ สมิธ (Will Smith) เดินขึ้นไปบนเวทีตบหน้า คริส ร็อก (Chris Rock)
ที่ขึ้นไปประกาศรางวัลหนังสารคดียอดเยี่ยมเข้าอย่างแรง ด้วยความ
โกรธที่คริสไปพูดล้อเลียนภรรยาของเขา ในเรื่องอาการป่วยจากโรค
ผมร่วง ท่ามกลางความตะลึงงันของผู้เข้าร่วมพิธีและผู้ชมผ่าน
หน้าจอโทรทัศน์ทั่วโลก อย่างไรก็ดี พิธีมอบรางวัลยังคงดาเนิน
ต่อไป ซึ่งหลายคนคาดเดาไม่ผิดถึงเหตุผลที่ฝ่ายจัดงานยังคง
ปลอ่ ยใหว้ ิลล์ สมิธ กลับไปนง่ั ตามเดิม เพราะในการประกาศรางวัล
ผแู้ สดงนาฝ่ายชายยอดเยี่ยม ปรากฏว่าวิลล์ สมิธ คว้ารางวัลนี้ไป
ครองจากการรับบทริชาร์ด วิลเลียมส์ (Richard Williams)
ในภาพยนตร์เรื่อง คิง ริชาร์ด (King Richard) หลังได้รับบทบาทเล่นหนังชีวิตจริง ๆ และเข้าชิงออสการ์ดารานาชาย
มาแล้วสองครง้ั จากภาพยนตร์ เรือ่ ง Ali และ The Pursuit of Happyness และครง้ั น้ีกลายเป็น “Third Time
Lucky” ของเขาในทีส่ ุด1/

แม้วา่ วิลล์ สมธิ ได้ออกมาโพสต์ขอโทษ คริส รอ็ ก พรอ้ มแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากการเป็นสมาชิก
ออสการ์ แตล่ า่ สุดสถาบนั ศิลปะและวิทยาการภาพยนตร์ของสหรัฐฯ ผู้จัดงานออสการ์ได้ตัดสนิ ลงโทษ วิลล์ สมิธ
ดว้ ยการห้ามร่วมงานเป็นเวลาถึง 10 ปี เพอ่ื ส่งสัญญาณต่อตา้ นความรุนแรง

จากเหตุการณ์ข้างต้น ทาให้ผมสนใจว่าหนังเร่ือง คงิ ริชาร์ด เปน็ เรือ่ งราวเก่ียวกับใคร ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นหนัง
พระราชประวตั พิ ระเจ้าริชารด์ แห่งอังกฤษ แต่คิดวา่ คงไม่ใชเ่ พราะวิลล์ สมธิ คงไม่รบั บทบาทนี้ และพอได้ค้นข้อมูล
ทาให้ทราบว่าภาพยนตร์เรื่องน้ีเป็นอัตชีวประวตั ิของ รชิ ารด์ วลิ เลยี มส์ ผอู้ ยู่เบอ้ื งหลังความสาเร็จของลูกสาว วีนัส
และเซเรนา่ วลิ เลียมส์ (Venus และ Serena Williams) พนี่ ้องนกั กีฬาเทนนสิ หญิงที่ถือวา่ ยิง่ ใหญ่ทีส่ ดุ ตลอดกาล

ริชาร์ดเกิดที่เมืองชรีฟพอร์ต มลรัฐหลุยเซียนา ในปี 1942 ในครอบครัวใหญ่ที่มีลูกถึง 5 คน โดยริชาร์ดเปน็
พี่ชายคนโต ที่เหลือเป็นน้องสาวทั้งหมด ตกเป็นเป้าหมายของ
การเหยยี ดผิว ในตอนเด็กถงึ ขนาดต้องว่ิงหนีพวกคูคลักซ์แคลน
โดยไม่มีคนมาคอยปกป้อง ทั้งนี้ ปูมหลังมีส่วนสาคัญต่อ
แนวคิดการเลี้ยงดูลูก ๆ ของเขา ภายหลังการหย่าขาดจาก
ภรรยาคนแรกพร้อมลูกติดถึง 6 คน เขาได้ย้ายมาตั้งรกราก
ในเมืองคอมป์ตัน รัฐแคลิฟอร์เนีย เมืองที่เต็มไปด้วยอาชญากรรม
และยาเสพติด พร้อมแต่งงานใหม่กับ ออราซีน ไพรซ์ (Oracene
Price) ในปี 1979 ริชาร์ดทางานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความ

ปลอดภัย ในขณะท่ีออราซีนเปน็ พยาบาล ท้ังสองตอ้ งทางานกนั หลายกะ เพื่อเล้ยี งดคู รอบครัว (ออราซีนเองมีลูก
ก่อนแต่งงานกับริชาร์ด 3 คน) จนวันหนึ่งริชาร์ดได้ดูการแข่งขัน เทนนิสหญิงทางโทรทัศน์ ผู้ชนะในรายการน้ัน

35

คือ เวอร์จิเนีย รูซิซี (Virginia Ruzici) จากโรมาเนียที่ได้เงินรางวัลถึง 30,000 ดอลลาร์ สรอ. จุดประกายให้
ริชาร์ดเห็นถงึ แสงสว่างปลายอุโมงค์ท่นี าพาชีวิตครอบครัวให้หลุดพ้นจากกับดักความโชครา้ ย ริชาร์ดเร่ิมต้นด้วย
การเขียนแผนสร้างลูกให้เป็นนักเทนนิสอาชีพ โดยการเขียนแผนอย่างละเอียดหนา 78 หน้าแล้วเสร็จก่อนวีนัส
ลืมตาดูโลกในปี 1980 และเซเรนา่ ในปีถดั ไป2/

แผนการปลุกปั้นลูกสาวทั้งสองเริ่มต้นขึ้นเมื่อวีนัสอายุเพียง 4 ขวบ ริชาร์ดได้เริ่มให้ลูกสาวจับไม้เทนนิส จัดตาราง
ฝึกซ้อมโดยอาศัยสนามเทนนิสสาธารณะข้างบ้าน เริ่มซ้อมตั้งแต่
6 โมงเช้าและซ้อมอีกครั้งหลังจากกลับจากโรงเรียนทุกวัน ไม่ว่า
สภาพอากาศจะเป็นอย่างไร อยู่ซ้อมจนกว่าจะวอลเลย์ลูกครบ
500 ครั้ง ทั้งนี้ โปรแกรมการฝึกซ้อมและเทคนิคต่าง ๆ ริชาร์ด
และภรรยาเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง อาศยั การอ่านนิตยสารเทนนสิ ทุกเล่ม
ท่พี ึงหาได้ ดวู ธิ กี ารเลน่ ของนักเทนนสิ ชื่อดังผ่านการถ่ายทอดทาง
โทรทัศน์และมองหาข้อมูลเชิงลึกเพื่อช่วยให้วีนัสและเซเรน่า
พฒั นาการเล่นใหส้ มบรู ณ์แบบขนึ้

ที่สาคัญ ริชาร์ดทราบดีว่า ส่วนผสมที่ทรงพลังที่สุด นอกเหนือจากการฝึกซ้อมที่หนักหน่วง คือความมุ่งมั่น
ทัศนคติที่ถูกต้อง และจิตใจที่เข้มแข็ง แม้ว่าริชาร์ดจะได้เห็นแววของลูกสาวในการเป็นนักเทนนิสระดับโลกแล้ว
แต่ริชาร์ดยังปลูกฝังความเชื่อมั่นให้กับลูกสาวตลอดเวลา เขาจะติดป้ายที่มีคติประจาใจนี้แขวนอยู่รอบสนามเทนนิส
เพอ่ื ให้ลกู ๆ ได้มองเห็นในช่วงฝกึ ซ้อม เชน่ ปา้ ยข้อความวา่ “หากคณุ ไม่มกี ารวางแผน กเ็ หมือนกับคุณได้วางแผน
ที่จะลม้ เหลวแล้ว” (You fail to plan, you plan to fail) ทัง้ น้ี เขาบอกวนี สั วา่ เธอจะเป็นนักเทนนิสอันดับหน่ึง
ของโลกในไม่ช้าและบอกกบั เซเรนา่ วา่ เธอจะเปน็ หน่ึงในนกั กีฬาที่ยิ่งใหญ่ท่ีสุดตลอดกาล ซ่งึ ตอนนี้พวกเราทราบ
แล้วว่าทุกอย่างเป็นจริงอย่างที่ริชาร์ดพดู 3/

แม้ว่ารชิ าร์ดจะทุ่มสดุ ตัวดว้ ยการเดมิ พนั ทุกอย่างไปกับการปั้นให้วีนสั และเซเรน่าเปน็ นกั กฬี าเทนนิสผเู้ ก่งกาจ
แต่เขายงั ใหค้ วามสาคัญกบั การศึกษา ให้ลกู สาวเขา้ เรียนหนงั สือตามปกติ แบง่ แยกหน้าทก่ี ับภรรยา โดยท่ีริชาร์ด
ทาให้แน่ใจว่า พวกเขามีแบ็คแฮนด์ที่สมบูรณ์แบบในสนามฝึก
ในขณะที่ภรรยาทาให้มั่นใจว่าลูกจะทาการบ้านส่งในวันเรียน
ถดั ไป สง่ ผลการเรยี นของลูกอยู่ในระดับต้น ๆ สามารถพูดได้ถึง
4 ภาษา กลายเป็นการสร้างมนต์เสน่ห์และความประทับใจ
ให้กบั แฟนเทนนสิ ท่ัวโลก เชน่ เมอ่ื ครงั้ เซเรน่ากล่าวขอบคณุ แฟน
เทนนิสเป็นภาษาฝรั่งเศสอย่างคล่องแคล่วเมื่อคว้ารางวัล
เฟรนช์โอเพ่นในปี 2015 ในสายตาหลายคน รชิ ารด์ อาจเป็นพ่อ
จอมบงการ วางแผนชีวิตลูก ๆ ที่ยังไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้
รวมถึง วิธีการเพื่อให้ลูกอยู่บนเส้นทางสู่ความสาเร็จ วางกฎระเบียบที่ผิดธรรมชาติ เช่น ห้ามไม่ให้ลูกคบกับผู้ชาย
อยา่ งไรกด็ ี รชิ าร์ด ถอื เป็นแบบอยา่ งในเรื่องการสร้างวนิ ัย ความพากเพียร ทางานหนักและไม่ยอมแพ้ พร้อม ๆ กับการ
สรา้ งทัศนคตทิ ี่ดใี หก้ ับลูก ๆ ซึ่งผมจะไดน้ ามาถ่ายทอดใน weekly mail ในสัปดาหห์ นา้ ครบั

36

รณดล นุ่มนนท์
11 เมษายน 2565
แหลง่ ที่มา:
1/ เร่อื งจริง เร่ืองเลา่ ในหนงั King Richard งานส่ง Will Smith ควา้ รางวลั ออสการ์ 2022
[online] Available at: < https://www.gqthailand.com/culture/article/king-richard-movie-
review> [Accessed 7 April 2022].
2/ ส่อง “อจั ฉริยะต้องสร้าง” หนังกอลฟ์ พีน่ ้องจุฑานุกาล ก่อน King Richard นาวลิ สมธิ ไดอ้ อสการ์.
[online] Available at: <https://www.silpa-mag.com/history/article_85031> [Accessed 7 April
2022].
3/ Brand Minds. 2022. 8 success lessons from "King Richard".
[online] Available at: <https://brandminds-ro.translate.goog/8-success-lessons-from-king-
richard-the-story-of-venus-and-serena-williams
/?_x_tr_sl=auto&_x_tr_tl=th&_x_tr_hl=en-US&_x_tr_pto=wapp> [Accessed 7 April 2022].

37

รชิ าร์ด วลิ เลยี มส:์ พ่อผอู้ ยูเ่ บือ้ งหลังความสาเร็จ (ตอนจบ)

สวสั ดีครับ
ภาพยนตรเ์ รอื่ ง คิง ริชาร์ด (King Richard) เปน็ ชีวประวตั ขิ อง รชิ าร์ด วิลเลยี มส์ ผ้อู ยู่เบอ้ื งหลังความสาเร็จ

ของลกู สาว วนี สั และเซเรนา่ วิลเลียมส์ (Venus และ Serena Williams) พ่ีนอ้ งนักกีฬาเทนนิสหญงิ ยง่ิ ใหญ่ท่ีสุด
ตลอดกาล หลายคนยังติดใจว่า ริชาร์ดเป็น “พ่อตัวอย่าง” จริงหรือไม่ เพราะตัวตนของริชาร์ดเป็นจอมวางแผน
และจอมบงการ จัดการชีวิตลูกสาวแบบเบ็ดเสร็จ อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ถ่ายทอดมุมมองที่สามารถ
นามาถอดแบบเป็นบทเรยี นให้กบั ชวี ติ จริงได้

ริชาร์ดเขียนแผนอย่างละเอียด 78 หน้า เพื่อสร้างลูกให้เป็นนักเทนนิสอาชีพก่อนที่วีนัสและเซเรน่าจะลืมตา
ดูโลกเสียอีก เขาเชื่อมั่นและเดินตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด อาทิเช่น จัดทาแผ่นพับแจกแจงความสามารถ
ของลูกสาวทั้งสองพร้อมอัดวิดีโอนาไปเสนอต่อโค้ชระดับอาชีพ แน่นอนว่า ริชาร์ดต้องตื้อสุดฤทธิ์ เพราะโค้ช
แต่ละคนไม่มีเวลาให้มากนัก และแม้ว่าโค้ชเหล่านั้นจะตอบปฏิเสธ พร้อมคาสบประมาท เช่น “ถ้าผมรับ 1 ดอลลาร์
จากพ่อแม่ทุกคนที่เพ้อว่าลูกตวั เองจะเปน็ อันดับหนึง่ ผมคงจะรวยไปนานแล้ว” แต่ด้วยความไม่ยอ่ ท้อและมุ่งมน่ั
ทาให้ริชาร์ดสามารถโนม้ น้าวให้โค้ชมืออาชีพมาสอนลูกสาวไดถ้ ึง 2 คน หนึ่งในนั้นคือ ริค แม็คซี่ (Rick Macci)
โคช้ ชอ่ื ดงั ผู้สามารถสร้างนักเทนนสิ อาชีพตดิ อันดับหน่งึ ของโลกได้ถึง 5 คน1/

นอกจากน้นั รชิ ารด์ ยังคิดทาสงิ่ ทด่ี ีท่ีสุดกับสิ่งที่มีอยู่ เช่น
เมอื่ พอล โคเฮน โค้ชมอื อาชีพคนแรกท่ตี อบตกลงที่จะฝึกสอนให้
แต่ตั้งเงื่อนไขว่าจะสอนเพียงวีนัส ลูกสาวคนโต ริชาร์ดไม่ได้
ต่อรองใด ๆ และทราบทันทีว่าจะต้องทาอย่างไร เขานากล้อง
วิดีโอมาบันทึกการฝึกซ้อมทุกครั้ง เพื่อให้ออราซีน ไพรซ์
ภรรยา นาไปใช้ในการฝึกซ้อมให้กับเซเรน่าลูกสาวคนเล็ก
ที่สนามเทนนิสสาธารณะใกล้บ้าน และนี่คือเส้นทางทาให้
เซเรนา่ ได้รบั การยอมรบั วา่ เปน็ หนึ่งในนักเทนนสิ ท่ยี ง่ิ ใหญ่ท่ีสุดตลอดกาลในเวลาต่อมา
ริชาร์ดวางแผนการสร้างนักเทนนิสอาชีพแบบฉบับตัวเอง ไม่เหมือนใคร ตัดสินใจไม่ให้ลูกแข่งขันในระดับ
เยาวชน ทั้ง ๆ ที่นักเทนนิสอาชีพส่วนใหญ่ต้องไต่เต้ามาจากระดับเยาวชนก่อน ด้วยเหตุผลว่าอยากให้ลูก
ได้เติบโตแบบคนปกติ ไม่ต้องเผชิญการแข่งขันแบบทรหดทุกสัปดาห์ รวมทั้งหลีกเลี่ยงความกดดันที่อาจทาให้
พวกเขาอยู่ในภาวะหมดไฟ เหมือนกับนักเทนนิสเยาวชนหลายคนที่ไปไม่ถึงฝัน และทีส่ าคญั ริชาร์ดตอ้ งการให้ลูกสาว
ได้ใชช้ วี ิตอยู่ในโรงเรียนและไดร้ ับการศึกษาเหมือนกับเดก็ ทั่วไป เป็นบทพิสูจน์ว่าเราไม่จาเปน็ ต้องไปตามเส้นทาง
เดียวกบั คนอน่ื ๆ ตราบใดท่ีเรามวี ินัย พากเพียร ทางานหนกั และไมย่ อมแพ้
ที่ประทับใจที่สุดคือ เหตุการณ์หลังจากที่วีนัสได้แชมป์รายการหนึ่ง และลูกสาวกาลังฉลองชัยชนะกันอย่าง
สุดเหวย่ี ง พดู จาดถู ูกคู่แขง่ พอถงึ บ้าน รชิ าร์ดเรียกทั้งครอบครัวมาน่ังล้อมวงดูหนังเรือ่ งซนิ เดอเรลลา่ และเม่ือดูจบ
ริชาร์ดถามลูก ๆ ว่าได้เรียนรู้อะไรบ้าง แต่ได้คาตอบที่ไม่พึงพอใจ ทาให้ริชาร์ดทาทีว่าจะให้ดูกันใหม่อีก 1 รอบ
จนทุกคนกระตือรือรน้ หาข้อสรุปร่วมกันไดว้ ่า การต์ ูนเร่อื งน้สี อนให้เราถ่อมตัว เหน็ อกเหน็ ใจและมีจิตใจที่บริสุทธิ์
(humble with pure of heart)

38

รคิ แมค็ ซี่ ให้สมั ภาษณ์วา่ ในการฝึกซอ้ มแตล่ ะครง้ั วีนสั และเซเรน่าจะต้องฝึกตี
ลูกเทนนิสมากนับพันลกู ซงึ่ รชิ าร์ด ต้องคอยเก็บลูกเทนนิสทีก่ ระจัดกระจายไปท่ัว
สนาม เช้าวันหนึ่ง ริคได้เห็นเด็กหนุ่มมาทาหน้าที่นี้แทนภายหลังที่ริชาร์ดได้ขอ
ตัวมาจากสถานสงเคราะห์เด็กด้อยโอกาส โดยให้ค่าจ้างชั่วโมงละ 10 ดอลลาร์
สรอ. รคิ กล่าวว่า “ผมชน่ื ชมรชิ ารด์ ท่ีใหบ้ ทเรยี นชวี ิตกับลกู ๆ มากกวา่ แค่เปน็ นกั
เทนนิสที่ยิ่งใหญ่” ดังนั้น การได้รับชัยชนะไม่ได้ แปลว่าเราประสบความสาเร็จแล้ว
แตต่ ้องทาให้คนรอบขา้ งประสบความสาเร็จและเดินไปด้วยกัน2/

ปัจจุบัน ริชาร์ด วิลเลียมส์ อายุ 80 ปี อาศัยอยู่ในรัฐฟลอริด้า แม้ว่าจะมี
ปัญหาสุขภาพมีอาการอัมพฤกษ์จากโรคหลอดเลือด แต่ริชาร์ดได้รับการดูแล
อย่างใกล้ชิดจากลูก ๆ ทั้งนี้ เซเรน่าได้กล่าวถึงพ่อว่า “พ่อของฉันน่าทึ่งมาก เขาคิดอะไรล่วงหน้าและแตกต่างจาก
เพอ่ื นรว่ มรุ่น แม้กระท่งั วันนี้ เขายงั คดิ ไกลเกนิ กว่าคนอนื่ ๆ แนน่ อนวนั นี้จะไมม่ วี นี ัสและเซเรน่า หากไม่เป็นเพราะ
พ่อของฉัน ทั้งนี้ นักเทนนิสอาชีพสามารถเล่นอยู่ในวงการไม่เกิน 10-20 ปี แต่ความรักและความอบอุ่นจาก
ครอบครัวยาวนานช่ัวนิรันดร์”

รณดล นุ่นนนท์
18 เมษายน 2565

แหล่งที่มา:
1/ Brand Minds. 2022. 8 success lessons from "King Richard". [online] Available at:
<https://brandminds.ro/8-success-lessons-from-king-richard-the-story-of-venus-and-serena-
williams/> [Accessed 15 April 2022].
2 /EssentiallySports. 2022. ‘He Was More About Life Lessons’: Rick Macci Details an Untold
‘King Richard’ Story Featuring Venus and Serena Williams. [online] Available at:
<https://www.essentiallysports.com/wta-tennis-news-he-was-more-about-life-lessons-rick-
macci-details-an-untold-king-richard-story-featuring-venus-and-serena-williams/> [Accessed
15 April 2022].

39

ข้าวแชแ่ ถมสุข

สวสั ดีครับ
“Who wants mango and rice that is sticky?” ประโยคแร็ปท่อนสุดท้ายของมิลลิ (Milli) หรือ มิลลิ-

ดนุภา คณาธีรกุล แร็ปเปอร์สาวไทยวัย 19 ปี เมื่อขึ้นไปร่ายสดในเทศกาลดนตรีระดับโลก The Coachella
Valley Music and Arts Festival ที่เมืองอินดิโอ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 เมษายน
ที่ผ่านมา พร้อมนาข้าวเหนียวมะม่วงที่เตรียมมาตักกินบนเวที สร้างกระแสให้ “ข้าวเหนียวมะม่วงของไทย”
ดังกระฉ่อนไปทั่วโลกผ่าน soft power และทาให้ข้าวเหนียวมะม่วงกลับมาขายดิบขายดีมีคนรอคิวซื้อตามร้าน
ขายข้าวเหนียวมะมว่ งแบบไม่เคยปรากฏมาก่อน

อย่างไรก็ดี หากกล่าวถงึ อาหารและผลไม้ในฤดูร้อน ยังมีอกี มากมายทพี่ วกเราอดใจไมไ่ หว อดปากไม่ได้ ไม่ว่า
จะเป็น เงาะ ทุเรียน มังคุด ไปจนถึงลิ้นจ่ี นอกจากนี้ ยังมีอาหารคลายร้อนอีกอย่างหนึ่งที่มีคนรักและหลงใหลเมื่อ
ได้ลิ้มลอง โดยเฉพาะผู้ที่ได้ทานเป็นครั้งแรกคือ “ข้าวแช่” อาหารตารับชาววังที่นาข้าวหอมมะลิหุงสุกหอมกรุ่น
อยู่ในน้าอบควันเทียนลอยดอกมะลิ ใส่น้าแข็ง กลิ่นหอมเย็นฉ่าชื่นใจ ทานพร้อมกับเครื่องเคียงหลากหลายชนิด
ได้แก่ ลกู กะปิทอด ปลาแห้งผดั หวาน หวั ไชโป๊ผัดหวาน หอมแดงยัดไสป้ ลาแหง้ หมฝู อย เนื้อฝอย และท่ขี าดไมไ่ ด้
คือ พรกิ หยวกสอดไส้หมสู บั

ที่ผมหยิบยกเรื่องข้าวแช่ขึ้นมา เพราะมีความรักและผูกพันกับอาหารเมนูนีเ้ ปน็ พเิ ศษมาตั้งแต่เด็ก จากกิจกรรม
ที่พ่อ แม่ ผมและนอ้ งชายได้ใชเ้ วลาในช่วงวนั เสาร์อาทติ ย์ทาอาหารร่วมกัน เร่ิมตน้ ช่วงเชา้ วนั เสารจ์ ากการค้นคิด
เมนจู ากตาราอาหาร กอ่ นท่พี อ่ จะพาพวกเราไปจา่ ยตลาดสดซ้ือเคร่ืองปรุง
ต่าง ๆ จากนั้นจึงลงมือทา บางเมนูทาแล้วติดอกติดใจทาซ้า แต่บางเมนู
ลองทาแล้วไม่คิดทากันใหม่ แต่เมนูอาหารที่ถือได้ว่าเป็น signature dish
ของพวกเราคงหนีไม่พ้น “ข้าวแช่” พ่อในฐานะมีเชื้อสายมอญ ต้องการ
ทาข้ึนเองใหเ้ หมือนกบั รสชาติทเ่ี คยได้ลมิ้ รสฝีมอื จากญาตผิ ใู้ หญ่ ครอบครัว
เราเร่ิมหดั ทาขา้ วแช่เม่ือ 40 กว่าปกี ่อน สมยั นัน้ ยงั ไมม่ เี ครื่องมอื ทากับข้าว
สมัยใหม่ยังต้องอาศัยครกและหม้อกระทะโบราณ ผมกับน้องชายทาหน้าที่
โขลกเครื่องเทศต่าง ๆ ในครกให้ละเอียด ปั้นกะปิเป็นก้อนกลมเล็ก ๆ
พรอ้ มเดินไปทว่ั เมอื งนครปฐมเพื่อคน้ หาดอกมะลิและดอกกระดังงา แต่ที่ผม
อดภมู ิใจไม่ได้คอื ฝีมือตนเองในการใช้มือจุ่มไข่โรยในกระทะให้เสมือนทา
ฝอยทองเปน็ เสน้ สลบั ไปมาเปน็ ตาข่าย กอ่ นนามาหอ่ กับพริกหยวกท่ีนึ่งแล้ว
ถือเป็นกิจกรรมที่เหนื่อยแต่สนุก ทากันแบบลองผิดลองถูก ซื้อข้าวของ
และลงมือทาทั้งกลางวันและกลางคืน เรียกว่าทาแต่ละครั้งหมดแรงกันทั้งบ้าน ปีหนึ่ง ๆ จึงทาไม่กี่ครั้ง ทานกัน
เฉพาะญาติมิตร ลกู ศิษย์ของพอ่ แม่ และเพอื่ น ๆ ของลูก1/

ขา้ วแชถ่ อื เป็นหัวใจสาคัญของประเพณีสงกรานต์ของชาวมอญ เรยี กว่าเป็นอาหารงานประเพณีที่หนึ่งปีจะมี
ให้ได้กินก็เฉพาะงานบุญวันสงกรานต์ ภาษามอญเรียกข้าวแช่ว่า “เปิงด้าจก์” เชื่อกันว่าข้าวแช่เป็นอาหาร

40

ที่สะอาดกว่าอาหารชนิดอื่น ทั้งยังเป็นอาหารที่มีความเป็นสิริมงคล เพราะทาขึ้นเพื่อไหว้สังเวยเทพเทวดาและ
บรรพบรุ ษุ เช่ือกนั ว่าหากทาข้าวแช่ถวายพระ หรอื เทวดา หรือนางสงกรานต์แลว้ ตงั้ จติ อธิษฐานจะสมปรารถนา2/

ข้าวแชก่ ลายเป็นอาหารชาววัง เมอื่ เจา้ จอมมารดาซ่อนกล่นิ พระสนมเอกรชั กาลท่ี 4 ผู้มีเชือ้ สายมอญทาถวาย
มีการสนั นิษฐานวา่ รชั กาลท่ี 4 ทรงโปรด อาจเป็นเพราะมีการใส่นา้ แข็งช่วยคลายความร้อน ซ่งึ ในสมัยนั้นน้าแข็ง
เป็นของลา้ ค่าและแสดงถึงฐานันดรของผู้ครอบครอง เพราะตอ้ งนาเขา้ มาจากสงิ คโปร์ทางเรือกลไฟ ท้ังนี้ ข้าวแช่
ของเจ้าจอมมารดาซ่อนกลิ่นได้โอกาสขึ้นโต๊ะเสวยมาถึง 3 รัชกาลจนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า
เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ที่ยังคงเคารพรัก และติดรสมือของเจ้าจอมมารดาซ่อนกลิ่น ต้องเสด็จมาอวยพรและรดน้า
ทุกปมี เิ คยขาด3/

การทาขา้ วแช่มีความเป็นอัตลักษณ์ ตอ้ งใชค้ วามประณตี บรรจง มีวธิ ีการทาท่ีพถิ พี ิถัน ละเอียดลออในทุกขั้นตอน
ตง้ั แตก่ ารคัดข้าว วิธีการหงุ ขา้ ว การทาน้าเทียนอบดอกไม้ การเค่ยี วกะปิ ตลอดจนเทคนิคการน่ึงพริกหยวก สูตร
ขา้ วแชข่ องครอบครัวเราดัดแปลงมาจากตาราตา่ ง ๆ พรกิ หยวกจะใส่กงุ้ ผสมไปด้วย กะปจิ ะผสมกบั ปลาเนื้ออ่อน
ในขณะทน่ี า้ อบจะคลา้ ยสูตรวังบางขุนพรหม แต่มาเพมิ่ หญ้าฝร่ันและพิมเสน การปรับสูตรขา้ วแช่ทาต่อเน่ืองมากว่า
20 ปี และเปน็ ที่ตดิ อกตดิ ใจของผู้ที่ไดล้ ิ้มรส พ่อแมจ่ ึงตัดสินใจเขียนตารา “ขา้ วแช่แถมสุข” ถ่ายทอดประสบการณ์
วธิ ีทาและป้องกนั การลองผดิ ลองถูก (ตาราตาม link แนบ)

นอกเหนือจากการจดั สารับใหด้ ูสวยงามแล้ว
วธิ กี ารรบั ประทานขา้ วแช่ต้องทาให้ถูกวิธีเช่นกัน
ด้วยการตักข้าวใส่ถ้วย ตามด้วยน้าแข็ง ใส่น้า
เทยี นอบดอกไม้ จากนน้ั เลอื กเครื่องเคียงที่ชอบ
ใส่จานที่แยกต่างหาก รับประทานเครื่องเคียงก่อน
ตามดว้ ยข้าวและน้าลอยดอกไม้ ไมแ่ ช่เครื่องเคียง
ลงในชามข้าวเพราะจะทาให้เสียรสและขาด
ความขลังของการทานข้าวแช่อาหารชาววังไป
จนสิ้น เคล็ดลับเพิ่มความอร่อยคือ หากจะเปลี่ยน
เครื่องเคียงแนะนาให้รับประทานผักก่อน เพ่อื ลา้ งรสชาติเดิมออกไป และลกู กะปิควรรับประทานคู่กับมะม่วงรสเปรี้ยว
เพราะจะทาให้ไดร้ สชาติหวานเขา้ กันกาลังดี สว่ นกระชายอ่อนควรรับประทานค่กู ับพรกิ หยวกสอดไสเ้ พราะจะช่วย
เพม่ิ ความหอมของเครื่องเคียงหากใครยังไมเ่ คยได้ทานขา้ วแช่ เพราะอาจจะรสู้ ึกแปลก ๆ วา่ ทาไมจงึ นาข้าวมาใส่
ในน้าอบหอม ใสน่ า้ แขง็ และกนิ พรอ้ มกับเคร่ีองเคยี งหวานเคม็ กบั ผกั และผลไม้ แตห่ ากได้ลิ้มลองแลว้ จะตดิ ใจเป็น
อาหารโปรดอีกเมนูหนงึ่ โดยไม่รตู้ วั โดยเฉพาะในยามทีอ่ ากาศรอ้ น ๆ ไดท้ านขา้ วแชใ่ นนา้ ที่มกี ล่นิ หอม เยน็ ชื่นใจจริง ๆ
นะครับ

รณดล นุ่มนนท์
25 เมษายน 2565

41

แหล่งที่มา:
1/ สรุ ัตน นมุ่ นนท์ หนังสือ ข้าวแชแ่ ถมสขุ 2538
2/ “ข้าวสงกรานต”์ อาหารชาวมอญ (ข้าวแช)่ จากตานานสงกรานต์ท่ี ร.3 โปรดให้จารึกท่ีวดั โพธิ์. [online]
Available at: <https://www.silpa-mag.com/culture/article_48456> [Accessed 24 April 2022].
3/ facebook Sarakadee Lite. ประวัตศิ าสตร์ “ข้าวแช”่ จากสงกรานตม์ อญสู่เมนูฤดูรอ้ นไทย[online]
Available at:
<https://web.facebook.com/101455401298823/posts/726672242110466/?d=n&_rdc=1&_rdr>
[Accessed 24 April 2022].

42

วติ กกังวล: ทกุ ขก์ ับเรอื่ งไม่ทุกข์

สวัสดีครบั
แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะดีขึ้น แต่ในช่วงที่ผ่านมา ทุกคนคงปฏิเสธไม่ได้ว่ามี

ความเครียดและความวิตกกงั วล (anxiety) เพิม่ ขึ้น เพราะเมื่อทราบวา่ ไดส้ มั ผสั ใกล้ชิดกบั ผปู้ ่วยโควิด-19 จะเร่ิม
ระส่าระสาย จินตนาการไปต่าง ๆ นานา ตั้งแต่เริ่มคิดว่าเจ็บคอ (ทั้งที่ก่อนหน้าไม่มีอาการใด ๆ) ไปจนถึงค้นหา
โรงพยาบาลใกล้บ้านเพื่อเตรียมการรักษา จากตระหนักจึงกลายเป็นตระหนก ไม่ได้หลับไม่ได้นอน เรียกว่าไม่ได้
เจ็บปวดเพราะโควิด-19 แต่กลายเป็นสุขภาพจิตที่ถูกบั่นทอนความวิตกกังวลสามารถเกิดขึ้นได้ทุกช่วงเวลา
กังวลไปได้ทุกเรื่องทั้งเรื่องงาน ครอบครัว คนใกล้ชิด สุขภาพ ไปจนถึงการเรียน เพราะคนเรามักมองเหตุการณ์
ไปข้างหน้าพร้อมตั้งคาถามให้กับตัวเองเสมอ ๆ แบบยังหาคาตอบไม่ได้ “ถ้าเป็นอย่างนั้น ถ้าเป็นอย่างนี้ จะเกิด
อะไรขึ้น?” ส่วนใหญ่ก็จะมโนไปไกลจนสรุปกลายเป็นเรื่องร้าย ๆ และพอนาความกังวลทุกอย่างมารวมกัน
แยกแยะไม่ออกเหมือนกับการทาสมูทต้ีทนี่ าผลไม้ทุกอยา่ งมาปัน่ รวมเปน็ เนื้อเดียวกนั ก่อใหเ้ กดิ ความต่ืนตระหนก
(panic) เพราะย่ิงพยายามแก้ไขก็ย่ิงจะยุ่งเหยิง เหมือนกับความพยายามแกะปมสายหฟู ังทพี่ นั กนั ย่ิงแกะเท่าไหร่
กย็ ่ิงทาให้สายพวั พนั มากข้ึนเทา่ น้นั 1/

ในด้านจิตวิทยาได้ให้ความหมายของความวิตกกังวลไว้ว่า เป็นความไม่สบายใจ ความกระวนกระวายใจ
ความหวาดหวั่นพรั่นพรึง ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกับความคาดหวังหรือความคาดหมายถึงการที่จะได้ผลไม่ดีในอนาคต
อาจนาไปสู่โรควิตกกังวล (Anxiety Disorder) ส่งผลต่อการดาเนินชีวิต สาเหตุเกิดจากพันธุกรรม สภาพแวดล้อม
ภายใน เช่น พื้นฐานทางครอบครัว ความเจ็บป่วยทางกายและใจ ไปจนถึงปัจจัยภายนอก เช่น ภาวะเศรษฐกิจ
หรอื เหตกุ ารณ์โรคตดิ ตอ่ เป็นต้น2/

นอกเหนอื จากความวิตกกังวลท่ัวไปแบบขา้ งตน้ แล้ว ความวติ กกังวลยังมลี ักษณะอ่ืน ๆ ได้แก่ 1. โรคตื่นตระหนก
เกินเหตุ (panic disorder) มีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยก็กลับมีความกังวลเป็นทวีคูณ เช่น กลัวว่าจะเป็นโรคร้าย
2. โรคกลัวการเข้าสังคม (Social Phobia) ความวิตกกังวลที่จะต้องไปอยู่ในสถานการณ์ที่คดิ ว่าตอ้ งถูกจอ้ งมอง

ทาอะไรที่น่าอาย ต้องคอยหลบ รู้สึกประหม่า และมักคิดในแง่ลบ
ว่าคนอื่นจะนินทาลับหลัง 3. โรคความวิตกกังวลแบบเจาะจง
(phobia) เช่น กลัวเลือด กลัวที่แคบ เป็นต้น และ 4. ความวิตก
กังวลที่เกิดจากการคิดซ้าไปซ้ามา (Obsessive Compulsive
Disorder) ทาใหเ้ กดิ พฤตกิ รรมทีต่ อบสนองต่อเหตกุ ารณแ์ บบซ้า ๆ
ก่อให้เกิดความรู้สึกวิตกกังวลใจ เช่น คิดว่าลืมปิดไฟ ลืมล็อค
ประตูบา้ น ทาใหต้ ้องเดนิ กลับไปตรวจสอบอีกคร้งั ให้แน่ใจ3/
ความวิตกกังวลเหล่านี้ หากปล่อยให้เรื้อรังก็จะทาให้กลายเป็น “โรควิตกกังวล” ที่ส่งผลต่อสุขภาพกายและ
ใจได้ เช่น ปวดศีรษะเกิดความอ่อนเพลีย กระวนกระวาย ไม่มีสมาธิ หงุดหงิด นอนไม่หลับ คลื่นไส้ หัวใจเต้นเรว็
เป็นตน้ ซึง่ จากสถติ ิของกรมสุขภาพจิตพบวา่ คนไทยมากกวา่ หน่ึงแสนคนปว่ ยด้วยโรควติ กกังวล และผู้หญิงเป็น
มากกว่าผชู้ ายถึง 2 เทา่

43

เราจะจัดการกบั ความวติ กกังวลได้อย่างไร คงไมไ่ ด้มียาวเิ ศษทจ่ี ะรักษาได้ แต่ส่งิ ทส่ี าคัญคือ การเหยียบเบรก
ไม่ให้ความวิตกกังวลไปสร้างจินตนาการไปมากกว่านี้ ต้องหาจุดที่จะเปลี่ยนมุมมองความคิดให้ได้ วิธีการง่าย ๆ

คือการหายใจลึก ๆ เพือ่ ต้งั สตชิ วั่ ขณะพร้อมต้งั คาถามว่า
สิ่งที่เราวิตกกังวลนี้ จะเกิดขึ้นจริงหรือ และถึงแม้ว่า
จะเกิดขึ้น เราก็เคยผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาแล้ว
สามารถจัดการได้ และผ่านพ้นไปด้วยดี ซึ่งจะทาให้เรา
ปล่อยวาง กลับมาอยู่ในโลกปัจจุบัน ไม่เตลิดเปิดเปิงไป
มากกว่านี้ เหมือนกับการแก้ปมสายหูฟัง ถ้าเราตั้งสติได้
เราก็จะทราบว่าจะแก้ปมได้อย่างไร นอกจากนั้น การ
ออกกาลงั กายอย่างสมา่ เสมอ พักผอ่ นใหเ้ พยี งพอ หรอื หางานอดเิ รกทา กส็ ามารถลดความวิตกกังวลไดเ้ ชน่ กัน
อย่างไรก็ดี เราไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงความวิตกกังวลได้ แต่จะทาอย่างไรให้เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส การมี
ความวติ กกังวลในระดับหนึง่ ที่ควบคุมได้ จะชว่ ยกระตุ้นให้เราทางานได้สาเร็จอยา่ งมีประสิทธิภาพ ช่วยกดดันให้
เราต้องเขา้ สงั คม เข้าหาผ้อู นื่ พร้อมทีจ่ ะเผชิญกับเหตุการณต์ า่ ง ๆ ได้2/

รณดล นุ่มนนท์
3 พฤษภาคม 2565

แหลง่ ที่มา:
1/ ดุจดาว วัฒนปกรณ์ และกันตพร สวนศิลปพ์ งศ์ ปดิ บ่อความกังวล จัดการความวิตกกังวลกบั เรื่องทย่ี ังมาไมถ่ ึง
| R U OK EP.235 Jun 18, 2021 https://www.youtube.com/watch?v=i5BphbrLoLs
2/ ตฏลิ า จาปาวัลย์ ความวติ กกงั วลตามสถานการณ์ (State Anxiety) เผยแพร่ 30 มถิ นุ ายน 2561
file:///C:/Users/ronadoln/Downloads/sbinsri01,+%7B$userGroup%7D,+2%20(2).pdf
3/ Hospital, P., 2022. 5 โรควติ กกังวล ทพ่ี บได้บอ่ ยในวยั ทางาน. [online] Paolohospital.com. Available
at: https://www.paolohospital.com/th-
TH/phahol/Article/Details/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B
2%E0%B8%A1-
%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%
88%E0%B8%B4%E0%B8%95/5-
%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%
81%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%A5-
%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9E%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%9
4%E0%B9%89%E0%B8%9A%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8
%99%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%87%E0%
B8%B2%E0%B8%99 [Accessed 1 May 2022].

44


Click to View FlipBook Version