2. เก็บกด (Repression) บางครั้งการคิดถึงประสบการณอันเลวรา ย ความทรงจำ หรือ ความคิดแย ๆ ก็ทำใหเรา
อารมณเ สียใจได เราจึงเลอื กที่จะซอนมันไว เพื่อจะลมื ความเจบ็ ปวดเหลา นัน้ ไดใ นวนั หนึง่
3. ฉายความรูสึก (Projection) บางครั้งความคิดหรือความรูสึกที่เรามีตอคนอื่นก็ทำใหเรารูสึกไมสบายใจได
เหมอื นกันเราจงึ โยนความรูส กึ นัน้ ไปใหค นอ่ืนแทน
4. ระบายกบั ส่งิ อ่นื (Displacement) เม่อื เราเจอกบั เหตกุ ารณท ่ที ำใหอารมณเ สยี เราอาจใชวธิ รี ะบายอารมณนั้นใส
บุคคลหรือวัตถแุ ทน เพ่ือใหเรารูส กึ ดขี ึ้น วิธีนีย้ ังชว ยลดความเสี่ยงจากการเผชญิ หนากบั ตน ตอของปญหาตรง ๆ ดวย
5. ถอยหนี (Regression) การเจอกับเหตุการณท ่ที ำใหเรารูส ึกกังวลเครยี ด หรอื ไมส บายใจ ทำใหเ ราพยายามหนีจากมัน
6. หาเหตุผลเขาขางตัวเอง (Rationalization) บางคนพยายามอธิบายพฤติกรรมที่ตนเองไมชอบ ดวยเหตุผลท่ี
เขา ขา งตวั เอง เพราะการหลอกตัวเองชว ยใหเกดิ ความสบายใจมากกวาการยอมรบั ความจริง
7. เปลย่ี นความรสู กึ ใหกลายเปนสง่ิ ทดี่ ี (Sublimation) กลไกนีจ้ ะมีความคลา ยกับ Displacement แตต างกันตรงที่
เราจะเอาความรสู ึกไมสบายใจมาใสในกิจกรรมหรือสิง่ ทเี่ หมาะสม และไมเปน อนั ตรายกับคนอืน่
8. ทำในสิ่งที่ตรงขามกับความรูสึก (Reaction formation) คนที่ถูกความทุกขมากโดยไมตั้งตัว ๆ อาจทำในส่ิง
ตรงกันขา ม เพือ่ หกั ลา งความรูสึกแยๆท่ีเกดิ ขึน้
9. แยกสวนชีวิต (Compartmentalization) การแบงชีวิตออกเปน คนละสวน เชน แยกบุคลิกตอนทำงานออกจาก
ตอนอยูกับครอบครวั อาจทำใหบ างคนรูส ึกปลอดภัยมากขน้ึ
10. สนใจเหตุผลมากกวาอารมณ (Intellectualization) บางคนเวลาแกปญหาท่ที ำใหเกิดความรูสึกไมดีอาจหันมา
แกป ญหาดว ยวธิ กี ำจัดอารมณ และทุมเทความสนใจไปทีข่ อมูลและเหตผุ ลอยา งเดียว (Mcleod, S. A. 2019, April 10)
การคิดหรือเขาขางตัวเองอาจจะชวยใหเราปลอดภัย จากความเครียด ความกังวล และความรูสึกแยอื่น ๆ แต
บางครั้งกลไกทางความคดิ ก็มขี อเสยี เพราะมันทำใหเราคิดอยูในภาวะหลอกตัวเอง (Selfdecption) ไมสามารถยอมรับความ
จริงได และไมสามารถแกไ ขปญหาชวี ิตไดอยางมีประสิทธิภาพ ดังนั้นเราจึงตองรูเ ทาทันกลไกทางความคิด โดยการหันมาทำ
ความเขาใจตวั เอง ยอมรับ ความเปนจริงใหม ากขึน้ หรือลองพูดคยุ กบั คนอื่นเพ่ือขอคำปรกึ ษาเกี่ยวกับปญ หาดู สิ่งเหลานีจ้ ะ
เปนกาวแรกที่ทำใหเรารบั มอื กับจิตใจของตนเองไดดแี ละอาจสงผลใหช วี ติ ดีข้นึ
อิทธิพลจากประสบการณต รงที่ไดร บั จากความเชอ่ื และมุมมองทศั นคติของสงั คม
ผูส รางสรรคไ ดเ คยผา นการประสบปญหา ทีก่ ระทบกระเทอื นจิตใจ และสงผลกับการดำเนินชีวิต ซ่ึงปญหาดังกลาว
ไดฝงรากลกึ อยูในจิตใตสำนึก และทุกครั้งท่ีผูสรางสรรคไดพบเห็น สถานที่หรือวัตถุท่ีเคยเปนสวนหนึ่งในความทรงจำที่เปน
ปญ หา ภาพเหตกุ ารณหรอื เรือ่ งราวตา ง ๆ ก็จะผุดขน้ึ มาในความคิด โดยสงิ่ เหลานีเ้ ปน อปุ สรรคในการดำเนินชวี ิตและสงผลเสีย
ตอ ภาพลกั ษณของผูสรางสรรค
อิทธพิ ลจากส่ิงแวดลอมภายในเรอื นจำ
จากสภาพแวดลอมที่สรางสรรคไดใชชีวิตอยูภายในเรือนจำเปนเวลา 5 ป 6 เดือน ตัวผูสรางสรรคเองตองพบกับ
สภาพแวดลอ มท่เี สื่อมโทรม ความเปน อยทู ีโ่ หดรา ย อยูใ นหอ งสี่เหลยี่ ม ๆ ขนาดเลก็ และแออัดไปดว ยจำนวนคน 200 ถงึ 300
141
คน ขนาดหอง 8x10 เมตร ตอ หอง ตองใชส ่งิ ของรวมกัน ใชผ า หม ผา ปูนอนผืนเดิม หอ งน้ำแบบไมมีประตูกั้น ไมมีความเปน
สว นตัว มบี ล็อกสขุ าที่สกปรกมาก และคบั แคบ ถกู จำกัดสทิ ธลิ ดิ รอนทำใหความรูถึงสภาพแวดลอมเหลานี้ มีผลกับความรูสึก
เปน ภาพจำที่ทำใหต ัวผูส รา งสรรคเ อง เกิดสภาวะกลวั ทแี่ คบ จนมผี ลกับการดำเนนิ ชวี ติ ในหลายๆ ดานจนถึงปจจบุ นั
จากการศึกษาอิทธิพลในสภาพแวดลอมตางๆ จากที่กลาวมานั้นการจะสรางสรรคผลงานที่มีลักษณะตรงตาม
แนวความคิด จึงมีความจำเปนตองศึกษาถึงลักษณะของศิลปะจัดวาง เนื่องดวยตัวผูสรางสรรคเองตองการสรางบรรยากาศ
แทนความรูสกึ ความอดึ อัด ความกดดัน จนขาดอสิ รภาพ จงึ ความจำเปน ตองศกึ ษาศิลปะจัดวาง รว มกับการศึกษาลัทธศิ ลิ ปะ
ดาดา อันแสดงออกโดยการใชสญั ลกั ษณเ พอ่ื เสียดสี ประชดประชนั สงั คม ในมมุ มองท่นี าสนใจ
อิทธิพลจากศลิ ปะลัทธดิ าดา (DADAISM)
ลัทธิดาดา (DADAISM) เปนศิลปะ ที่แสดงการตอตาน ถากถาง ประชดประชนั เสียดสีสงครามและสภาพแวดลอม
ทางสังคม ท้งั การเกลียดชังตวั บคุ คล อีกทงั้ ขนบธรรมเนยี มประเพณี และบรบิ ทตน เหตทุ ้งั หมดท่อี าจนำพาไปสกู ารเกิดสงคราม
ซึ่งหยิบยกขออางตางๆและความเหลื่อมล้ำ ตอตานแนวคิดของพวกทุนนิยมที่นำพาไปสูการขัดแยงและการเกิดสงคราม ซ่ึง
แสดงออกดวยการประชดประชัน เยาะเยย ถากถาง และทำใหมนั กลายเปนเร่ืองไรสาระ ดูตลก หรอื จงใจเสียดสีดว ยความดิบ
เถ่อื น เหลวไหล ทำลายความสมบูรณแบบลง ใชเทคนคิ ในการสรา งสรรคด วยวิธีทีผ่ ดิ ปกตซิ ึง่ ทำใหง านออกมามีลักษณะที่แปลก
ใหมไปจากงานศิลปะดั้งเดิม อีกทั้งการแสดงออกทางความคิดเพื่อเสียดสีความดัดจริตและสิ่งเลวรายที่พบเห็นไดจริงใน
ชวี ติ ประจำวัน พรอมทง้ั ทงิ้ คำถามใหกับสังคม ผานทางงานศิลปะทสี่ ราง อีกหนึง่ วิธีสรา งสรรคผ ลงานท่ีนาสนใจของดาดาอิสม
คือการนำเอา “วัตถุประกอบสำเร็จ” (READY MADE) มาปรับแตง หรือเพิ่มเติมรายละเอียด เพื่อใหสามารถสัมผัสกับอีก
มุมมองหนึ่งทางศลิ ปะ ซึ่งมีแนวคดิ ทีว่ า วัตถุแวดลอมที่เราพบเห็นกันอยูเ ปนสามัญธรรมดาทุกสิ่งลวนแลว แตมีคุณคา ในทาง
ความคิดในแงของการผลติ และใชส อย โดยการพบเหน็ ธรรมดาอาจไมส ามารถพบคุณคาทางศิลปะไดอยางเต็มท่ี หากมีการจัด
วางดัดแปลงเติมแตงแนวคิดใหมีลักษณะแปลกแยกออกไปจะสามารถบังเกิดเปนศิลปะที่สุดแสนวิเศษได (ARKAT
VINYAPIROATH)
ผลงานศิลปน ท่ีทำการศกึ ษา
มักดาแลนา อบาคาโนวิช (Magdalena Abakanowicz) เกิดเมื่อ 20 มิถุนายน พ.ศ.2473 Falenty โปแลนด
เสียชีวิตเมื่อ 20 เมษายน พ.ศ. 2560 วอรซอ,โปแลนด มักดาแลเปนประติมากร และศิลปนเสนใยชาวโปแลนดเชื้อสายทาร
ทาร เธอเปนที่รูจักจากการใชสิ่งทอ เปนสื่อประติมากรรม ผากระสอบหยาบเย็บผูกมัดดวยเรซินสังเคราะหและการติดต้ัง
กลางแจง เธอไดร ับการยอมรบั การยกยอ งอยางกวางขวาง วา เปนศลิ ปนทีไ่ ดรบั การยกยอ งในระดับนานาชาติท่สี ุดคนหนึ่งของ
โปแลนด งานของเธอพูดถึงเรื่องวัฒนธรรม และธรรมชาติของมนุษยตลอดจนสถานะ และตำแหนงในสังคมสมัยใหม ความ
หลากหลายของรูปแบบมนุษย แสดงถึงความสับสน และการไมเปดเผยตัวตน การวิเคราะหการปรากฏตวั ของบุคคลในมวล
มนษุ ยชาติ
142
สง่ิ ท่ีผูส รางสรรคไ ดรบั อทิ ธพิ ลจากศิลปน ในเรอ่ื งของตัวเนอ้ื เร่อื งราว แนวคดิ ในการนำเสนอผลงาน ทพ่ี ดู ถงึ เรอ่ื งของ
สังคม ความเปนอยู อดีตที่สงผลตอปจจุบัน การใชชีวิต แนวคิดและการสรา งสรรคงานศิลปะ โดยใชแรงขบั เคลื่อนจากอดีต
แปลผลของความคดิ ถา ยทอดลงเปน งานศลิ ปะ ทต่ี องการสื่อใหผชู มเขาถงึ สาระสำคญั ของผลงานที่นำเสนอ
ช่ือ: Cage,1986,Sculpture,180×140×185 cm.
ที่มา: www.szepmuveszeti.hu/rights_and_reproducti, (2564, ออนไลน, https://th.m.wikipedia.org)
สิง่ ท่ผี สู รา งสรรคไดร บั จากศิลปน
ดว ยการหาขอมูลแนวคิด และรปู แบบในการทำงานของศลิ ปน ที่ตวั ของผสู รางสรรคไ ดค นควา และศกึ ษาหลักปฏิบัติ
ในการทำงานศิลปะของศิลปนในแตละทาน ที่ตัวผูสรางสรรคนำมาเปน แบบอยางในการพัฒนาแนวความคิดสรางสรรค และ
รูปแบบ เทคนิควิธีการนำเสนอ ทสี่ อดคลองกบั แนวคดิ มากท่สี ุด
วธิ ีการสรางสรรคผ ลงาน
การสรางสรรคผลงานวิทยานิพนธชุด "สภาวะความกดดันจากปมปญหาชีวิต" ตัวผูสรางสรรคเองไดผาน
ประสบการณช ีวติ ทเี่ ลวรา ย และยงั ฝงอยูในความทรงจำท่ีไมอ าจลบเลือนไปจากความคดิ สงิ่ เหลา น้สี งผลกระทบตอความรูสึก
และภาพลักษณของตัวผูสรางสรรค จึงนำไปสูแรงบันดาลใจในการสรางสรรคผลงาน ที่แสดงออกโดยการถายทอด
กระบวนการทางความคิด ความรสู ึก ท่จี ะนำเสนอดวยกระบวนการทางเทคนคิ งานประติมากรรมสอ่ื ผสม
แนวคิดในการสรางสรรค
ผสู รา งสรรคเคยผา นประสบการณท่ีเลวรายทีส่ ุดในชีวิต เปน ความทรงจำท่ียงั ติดอยูในจิตใตส ำนึกยากท่ีจะลบเลือน
ไปจากความคิด โดยตวั ผสู รา งสรรคเ องเคยถูกตองขังภายในเรือนจำเปนเวลา 5 ป 6 เดอื น ซึ่งเปน ประสบการณตรงของตัวผู
สรางสรรคเอง จึงอยากถายทอดเรื่องราวของความเปนอยู การกิน การนอน การใชชีวิตประจำวัน สภาวะความอึดอัด ความ
กดดัน จากการถกู คุมขงั โดยถายทอดเรอ่ื งราวผา นชนิ้ งานศิลปะ เพ่อื ปลดปลอยความรสู กึ และตีแผประสบการณความเปนอยู
ภายในเรือนจำ เพื่อเปนสิ่งกระตุน เตือนใจใหผูคนตระหนักถึงคุณคาแหง อิสรภาพ และไมกระทำผิดจนนำไปสูบทลงโทษท่ี
แสนเจบ็ ปวดและเปนบาดแผลรายของชวี ติ
143
ขอ มูลจากประสบการณต รงของผสู รางสรรค
ผูสรางสรรคตองการสื่อถึงประสบการณที่เลวรายในชีวิตและเปนปมท่ียังสงผลกับชวี ิตของตัวผูสรางสรรค เสมือน
ของแหลมมีคมที่ยังคงทิ่มแทง เวลาคิด หรือไดพบเห็นสิ่งของที่เคยอยูในความทรงจำ ซึ่งเปนประสบการณตรงของตัวผู
สรา งสรรคเอง และเกดิ เปน แรงบนั ดาลใจสกู ารสรา งสรรคผลงานทางนี้จงึ ทำการเก็บขอมูลดังตอ ไปน้ี
ภาพการใชชีวติ ท่ีแออัดภายในหองขงั (เรอื นนอน)
ทมี่ า: khaosod.co.th (2564, ออนไลน, https://:khaosod.co.th)
สภาพความเปน อยภู ายในเรือนจำ
การหาขอ มูลสำหรับทำงานสรางสรรคงานวทิ ยานิพนธชุด “สภาวะความกดดันจากปมปญหาชีวิต” ตัวผูสรางสรรค
เองไดเคยใชช ีวิตอยูภายในเรอื นจำ ซ่งึ เนือ้ หาและขอ มูลจากประสบการณต รงของตัวผูส รางสรรคเอง ท่ีจะถายทอดสภาพความ
เปนอยู ความแออดั และส่ิงท่เี กี่ยวขอ ง กับการสรา งสรรคงานวทิ ยานพิ นธ เพอื่ ใชเ ปน ขอ มูลในการสรา งสรรคผลงาน
(ก) (ข)
สภาพการใชช ีวติ และส่ิงแวดลอมภายในเรอื นจำ
(ก) ภาพแผนผงั การนอนทใี่ ชป ระชาสมั พนั ธของเรือนจำ
(ข) ภาพความเปนจรงิ กับการนอนที่แออดั ภายในหอ งขัง
ทม่ี า: Matichon.co.th, khaosod.co.th (2564, ออนไลน, https://Matichon.co.th,khaosod.co.th)
144
จากท่ีกลาวมานั้นประสบการณในชวงเวลาท่ีเคยไดเ ขาไปใชชีวิตอยใู นเรอื นจำ เปน ระยะเวลายาวนานน้ัน ทำใหชวง
ชีวิตหนึ่งที่ควรมีอิสระหายไป ประสบการณที่ไดรับจากครอบครัว เพื่อน พี่ นอง ญาติ สิ่งที่เคยคิดจะทำก็ไมไดทำ ที่เคยมี
รวมกันก็ไมมี เปนการสูญเสียโอกาสท่ีแสนมีคาในชีวิตไป อยางยากที่จะเรียกคืนมาได เพียงแคการเลือกและตัดสนิ ใจเดินผิด
ทางไปเพียงชั่ววูบแตกลับกลายเปนการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญของชีวิต และจะเปนครั้งที่ไมสามารถเปลี่ยนแปลงอดีตได
เพราะอดีตยังคงตามติด จนผูสรางสรรคแมปจจุบันจะไดรับการปลอยตัวใหไดรับอิสรภาพแลว ทางกายถูกปลดปลอย แต
ภายในจติ ใจกลบั ยังคงถูกกกั ขงั ยดึ ตดิ อยกู ับอดตี ท่แี สนเจบ็ ปวด หนทางเดียวท่จี ะหลดุ พนจากปมปญ หาชวี ิตน้ใี หเบาบางลงได
คงมีเพยี งการไดทำศลิ ปะที่ตนรักและเสมือนเปนการพสิ จู นวา ตนเองยงั มคี ณุ คา และยังตอ งการการยอมรบั จากสงั คม
การสรางสรรคผลงาน
ผลงานช้ินท่ี 1 เปนผลงานประตมิ ากรรมสื่อผสม การจัดวางแบบพ้นื ระนาบ มลี กั ษณะเปน โครงสราง รูปทรงมนุษย
ที่หอหุมดวยผาโบตั๋น และมีตะปูปกอยูทั่วรูปทรงรางกาย การสรางสรรคผลงานไดแรงบรรดาลใจมาจากเรื่องราวของผู
สรา งสรรคเ อง ทไ่ี ดเ คยถูกคุมขงั อยูภายในเรือนจำ โดยตัวชนิ้ งานมีรปู แบบของทานอนขด ใบหนาทวี่ างเปลา แสดงถงึ ความเปน
คนที่ไรต วั ตนในสงั คม และถูกตอกย้ำดวยตะปูทม่ี ีลกั ษณะแหลมคมบง บอกใหเ ห็นถึงความเจ็บปวด จากสภาพสังคมที่มองขาม
การมตี ัวตนของคนที่เคยจะทำผิด และถูกคมุ ขงั ในเรอื นจำ
ชือ่ ศลิ ปน นายมนูญ วฒุ ิพงษ
ชื่อผลงาน สภาวะความเจ็บปวดจากปมปญหาในอดีต
เทคนคิ ประติมากรรมส่อื ผสม
ขนาด 180x45x60 cm.
ท่ีมา: ผูส รา งสรรค ปท สี่ รา งสรรค พ.ศ. 2565
145
ผลงานชนิ้ ท่ี 2 เปนผลงานประตมิ ากรรมส่ือผสม เปน การจดั วางแบบติดตัง้ กับพ้ืนมีลกั ษณะเปน โครงสรางมนุษย มี
ผาโบต๋นั หอ หมุ รางกายดานนอก ดานในโครงสรางเปนโฟมและเหลก็ ซึง่ ชนิ้ นีม้ ีลกั ษณะเปนทายืนลำตัวลอยจากสวนขา โดยใช
โซเปนตัวรบั น้ำหนกั จากดานบน สวนขามีโซตรวนคลองพันธนาการไว ชิ้นนี้จะสื่อถึงการถูกจองจำทางความคิดจากครั้งอดตี
แมเหตุการณจ ากลวงเลยผาน แตภ าพจำจากอดตี ยังคงไมลบเลือน ทำใหปจจบุ นั คอ ยๆเลือนลางจางหายไปจากความเปนจริง
เหมอื นมชี พี จรแตก ลบั ไรต วั ตน และมีโซตรวนทเ่ี ปนภาพตวั แทนจากอดตี มาเปนวสั ดนุ ำเรือ่ งราวผลงานในชนิ้ น้ี
ชอื่ ศิลปน นายมนูญ วุฒิพงษ
ชอ่ื ผลงาน ลมหายใจท่ีไรตัวตน
เทคนคิ ประตมิ ากรรมส่อื ผสม
ขนาด 50x180x50 cm.
ท่มี า: ผสู รางสรรค ปที่สรา งสรรค พ.ศ. 2565
146
สรุปการสรา งสรรคผ ลงานชดุ “สภาวะความกดดนั จากปมปญ หาชวี ิต”
จากการสรา งสรรคผลงานชดุ “สภาวะความกดดนั จากปมปญ หาชีวิต” ไดค น หาแนวคิดที่ไดรบั มาจากประสบการณ
ตรงที่เคยเกดิ ขน้ึ กับตนเอง คือการถูกตัดสนิ ใหจ ำคุกเปนระยะเวลานาน 5 ป 6 เดือน จากการที่ตองสญู เสยี อิสรภาพในคุกน้ัน
ทำใหต วั ผูสรางสรรคต อ งประสบกับชะตากรรมในหลายรูปแบบท่ีกดดัน โหดรายตอความรูส ึกหลายดาน จากท่ีกลาวมาน้ันผ
ทำใหผ สู รางสรรคตอ งการแสดงออกถึงภาวะกดดัน บีบคน้ั โดยเลือกใชเ ทคนิคทางประตมิ ากรรมลอยตัว รวมกับการวิเคราห
แนวคิดในการสรางสรรคผานกรอบทฤษฎีทางศิลปะ และศิลปนกรณีศึกษา โดยการสรางสรรครูปทรงมนุษยแทนตัวผู
สรางสรรคเอง อันเปนสัญลักษณที่แสดงออกถึงการไรอิสระภาพ จากการถูกจองจำ ดวยโซตรวน การใชตะปูมาแทน
สัญลักษณของปญหาที่ถาโถมเขามาในชีวิต เปรียบไดกับ การถูกคุกคามดวยความคิด แววตา ของผูคนที่เหยียดหยาม ดูถูก
กดดนั ใหผูสรางสรรคตอ งพยายามพฒั นาตนเองใหห ลุดพนจากปมปญหาในชีวิต การสรางสรรคผลงานในคร้ังนจ้ี ึงเปนการสราง
สัญลักษณเพื่อบอกเลาดวยเทคนิคที่มีการพัฒนา แกปญหาในทุกกระบวนการเพื่อใหผลงานมีคุณภาพและตรงตามแนวคิด
สรางสรรคใ หม ากท่ีสดุ
เอกสารอางอิง
ทฤษฎีจติ วเิ คราะห. [ออนไลน] . สบื คนเม่ือ 19 สงิ หาคม 2564
จาก https://www.kroobannok.com/99
ลั ท ธิ ด า ด า ห ยุ ด ดั ด จ ริ ต โ ล ก ส ว ย แ ล ว เ ผ ชิ ญ ค ว า ม จ ริ ง บ น โ ล ก ท่ี ไ ม ส ม บู ร ณ แ บ บ .
[ออนไลน] . สืบคนเม่ือ 27 ตุลาคม 2564. จ า ก https://moontonerecords.weebly.com/articles/dada
Cage,1986, Sculpture. [ออนไลน] . สบื คน เมื่อ 10 กันยายน 2564
จาก https://www.szepmuveszeti.hu/rights_and_reproducti/th.m.wikipedia.org
หองขังนกั โทษไทย. [ออนไลน] . สบื คนเม่ือ 27 ตุลาคม 2564
จาก https://:khaosod.co.th
สภาพการใชช ีวติ และสงิ่ แวดลอ มภายในเรอื นจำ. [ออนไลน] . สืบคนเม่ือ 27 ตุลาคม 2564
จาก https://Matichon.co.th,khaosod.co.th
147
รูปลกั ษณแ์ หง่ สายสัมพันธร์ ักจากแมว
THE APPEARANCE OF RELATIONSHIP FROM CAT
ภาพตะวัน คยุ่ กล่ิน* (ศป.ม.ทัศนศลิ ป)์ 1
2 อาจารย์ทีป่ รึกษาหลัก ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.เมตตา สวุ รรณศร
3 อาจารยท์ ป่ี รกึ ษารว่ ม รองศาสตราจารย์ศุภชัย สุกขีโชติ
นักศกึ ษาหลักสตู รศลิ ปมหาบณั ฑติ สาขาวิชาทัศนศิลป์ บัณฑติ ศึกษา สถาบนั บณั ฑติ พัฒนศลิ ป์
E-mail [email protected]
บทคดั ย่อ
ความรกั ความอบอนุ่ ในคอบครวั เปน็ ส่งิ สาคัญที่ทาให้มนุษยด์ ารงชวี ิตไดอ้ ย่างมีความสุข หากปราศจากความรกั ความ
อบอุ่น มนุษย์ย่อมแสวงหาส่ิงต่างๆ มาทดแทนความรู้สึกที่ขาดหายไป เช่นเดียวกับผู้สร้างสรรคท์ ี่ไดพ้ บกับสตั วเ์ ล้ียงท่ีน่ารักคือ
แมว ทาให้ได้รู้จักกับความรัก ความอบอุ่น เปรียบเสมือนแมวเป็นสมาชิกในครอบครัวคนหน่ึง และทาให้ผู้สร้างสรรค์ได้มี
ความสขุ อกี ครงั้
ผลการศึกษาพบวา่ ความรัก ความอบอุ่น ความผกู พนั ทีเ่ กิดข้ึนระหว่างคนกับสัตวเ์ ลยี้ ง เช่น แมวทมี่ ขี นนุ่มนวลอบอุ่น นา่ รกั
ขอี้ อ้ น ที่สามารถบาบัดความเครยี ดของมนุษยไ์ ด้อยา่ งมาก การได้เล่นกบั แมวด้วยความรกั ได้สัมผัส กอด ลูบไล้ขนของแมว หรือการ
มองเห็นทา่ ทาง ลักษณะนิสัย ความนา่ รักสดใสของแมวนั้น ช่วยบรรเทาความทุกข์ในจิตใจลงได้ สอดคล้องกบั ทฤษฎีสตั ว์เลี้ยงบาบัด
ทฤษฎีการบาบดั ด้วยการกอด ทชี่ ว่ ยคลายความเครียด คลายเหงา ความเหน่ือยล้า โดยการใชเ้ ทคนิคประติมากรรมนุ่มโดยการใช้วัสดุ
ผา้ ขนสัตว์ ร่วมกับเส้นใยสังเคราะห์พบว่า ทาให้รูปทรงเกิดความรู้สึกอ่อนนุ่ม ฟูตัว คล้ายแมว การสร้างรูปทรงโดยใช้แนวคิดทฤษฎี
สัญลักษณ์นิยมน้ันทาให้พบวา่ เกิดรูปทรงท่หี ลดุ พ้นจากความเป็นจริงเกิดเป็นสญั ลักษณ์แทนความหมายที่ส่ือถึงความรู้สึกของแมวที่
นา่ รัก น่ากอดและเปน็ ท่ีรกั จากที่กล่าวมานั้นแมวจึงเปรียบเสมือนบุคคลในครอบครัวท่จี ะไม่มีวนั ท้ิงกัน และจะอยู่ในใจผู้สร้างสรรค์
ตลอดไป
คาสาคัญ: รูปลักษณ์, ความนุ่มนวล, อบอ่นุ , สายสมั พนั ธร์ ัก, แมว
Abstrac
Love, warmth, and warmth are important for humans to live happily. Some may have been given
a human to replace lost feelings, just like the creator who met a cat. He has come to know the term love
bond of family
The study found that love, warmth, and the bond between people and animals such as cats with
soft fur, warm and cute. It can greatly treat human stress. playing with cats with love, touching, hugging and
petting their fur or seeing beautiful gestures Get to know the cuteness of that cat's bright personality. help
alleviate the suffering in the mind. This is in line with the theory of hug therapy Hugging helps relieve stress,
fatigue, and loneliness. By using soft sculpture techniques using wool material. together with synthetic
fibers. found that it makes the shape feel soft, fluffy, like a cat. constructing shapes using symbolism theory.
It was found that the shape that came out of reality was born. the symbol represents the sentiments of a
cute cat. cuddly and loving with that said, cats are like family members who will never leave each other
and will be in the hearts of creators forever.
148
Keywords: appearance, softness, warmth, love, cat
บทนา
การสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ชุดนี้ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความรัก ความผูกพันท่ีผู้สร้างสรรค์ได้รับจากแมว ซ่ึง
แมวเป็นสัตว์เล้ียงที่มคี วามน่ารัก น่าเอ็นดู ที่ผู้สร้างสรรค์ได้พบเห็นผ่านรูปลักษณ์ ลักษะของแมวที่นุ่มนวล อ่อนโยน นิสัยท่ีข้ี
อ้อนประจบประแจงของแมว สร้างความรู้สึกอยากสัมผัส ลูบไล้ และโอบกอด ดังน้ันเพ่ือถ่ายทอดความรู้สึก ที่ได้รับจากการ
เล้ียงแมว ผู้สร้างสรรค์จึงต้องการสร้างสรรค์ผลงานชุดนี้ข้ึน อีกท้ังยังหวังเพื่อกระตุ้นเตือนให้สังคมเห็นถึงสายสัมพันธ์รักที่
มนุษยม์ ตี ่อสตั ว์เลี้ยงเช่นแมว ซึง่ เปรยี บเสมือนเพอ่ื นทค่ี อยเยียวยาความเหงา ความเดยี วดาย และความร้สู ึกจากการกอดสัมผสั
รักแมวน้ัน สามารถชว่ ยผ่อนคลายปญั หาในชวี ติ ใหเ้ บาบางลงได้บา้ ง ไม่มากกน็ อ้ ย
ความเปน็ มาและความสาคัญของปญั หา
สภาพสงั คมในปัจจุบัน มนุษย์ต้องดิ้นรนเอาตัวรอดจากสภาวะวกิ ฤตตา่ ง ไม่ว่าจะเป็นเศษฐกิจ การเมอื ง โรคระบาด
ค่านยิ ม และวัฒนธรรมท่ีเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็ว เป็นสาเหตทุ ี่ทาให้เกิดความเครียด และส่งผลเสียถึงสถาบันครอบครัว ใน
ปัจจุบันปัญหาครอบครัว ท้ังการใช้ความรุนแรง การขาดการรับผิดชอบต่อครอบครัว การการหย่าร้างมีเพ่ิมสูงข้ึน ซ่ึงผู้
สร้างสรรค์เอง ก็เป็นผู้ที่ประสบกับปัญหาการหย่าร้างของบิดามารดาในขณะที่ยังเยาว์วัย ทาให้ชีวิตในวัยเด็กขาดความรัก
ความอบอุ่นท่ีเด็กคนนึงควรจะได้รับ จนมีความเศร้า ความเหงาและการขาดความรักเกิดข้ึนในจิตใจ แต่มีสิ่งหน่ึงที่ช่วยให้ผู้
สรา้ งสรรคผ์ ่านช่วงเวลาทีย่ ากลาบากนั้นมาไดค้ อื การเลี้ยงแมว แมวเปน็ สตั ว์เล้ยี งท่ีมีความน่ารัก น่าเอ็นดู มนี ิสัยขี้เล่น ข้อี อ้ นใน
บางครั้งชอบเข้ามาคลอเคลียกับมนุษย์ แมวเป็นผู้ให้ความรักที่ไม่มีเง่ือนไขแก่เจ้าของ เป็น "เพื่อนส่ีขา" ที่สร้างความอบอุ่น
ความสุข และเสียงหวั เราะได้ตลอดเวลาได้อยูด่ ้วยกัน เป็นเหมอื นกาลังใจเยยี วยาความเหงาเดียวดาย จนเกิดเปน็ สายสัมพันธ์
แห่งรัก
ความรักและความผูกพันที่ผู้สร้างสรรค์มีต่อสัตว์เล้ียงคือแมว ได้ทดแทนความรู้สึกรักและอบอุ่นท่ีขาดหายไปในวัย
เด็กและหล่อหลอมเป็นตัวตนในปัจจุบัน ผู้สร้างสรรค์จึงต้องการถ่ายทอดความรู้สึกรัก ความอบอุ่น ความประทับใจที่ผู้
สรา้ งสรรคไ์ ด้รับจากการเล้ียงแมวสสู่ งั คม
วัตถปุ ระสงคข์ องการสรา้ งสรรค์
1. เพื่อสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ในหัวข้อ “รูปลักษณ์แห่งสายสัมพันธ์รักจากแมว” เพ่ือแสดงให้เห็นถึงความรัก
ความผูกพันระหวา่ งมนุษย์และแมว
2. เพ่ือสรา้ งสรรคผ์ ลงานในเทคนิคงานประตมิ ากรรมนุ่ม ด้วยวสั ดุ ที่น่มุ นวล
3. เพอื่ แสดงให้เห็นถึงคณุ ค่าของความรัก ความผูกพัน ความอบอนุ่ ทไี่ ดร้ บั จากการเลย้ี งแมว
ข้ันตอนในการสรา้ งสรรค์
การสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ในหัวข้อ “รูปลักษณ์แห่งสายสัมพันธ์รักจากแมว” ประกอบด้วยการศึกษาค้นคว้า
ข้อมูลทางวิชาการ ท้ังจากตาราและศึกษาดูผลงานท่ีเกี่ยวข้องกับเรื่องที่มีเน้ือหาด้านความรัก ความอบอุ่น ความผูกพันใน
ครอบครัว ระหวา่ งมนุษย์กับสัตว์เลี้ยง การกอดสัมผัส การที่มนษุ ย์มองว่าแมวเปรียบเสมือนสมาชกิ บคุ คลหน่งึ ในครอบครวั ท่ี
ทดแทนความรักความอบอุ่นในครอบครัวที่ขาดหายไป รวบรวมและสรุปเป็นภาพรวมของข้อมูลพื้นฐาน การศึกษาหนังสือ
149
ตารา อนิ เตอรเ์ น็ต และการศึกษาดูงานจากสถานทจ่ี ริง รวมถึงการศึกษาจากผลงานและแนวคดิ จากศิลปินท่ีสรา้ งสรรคผ์ ลงาน
ลักษณะดังกล่าว ข้ันตอนของการศึกษาและการสร้างสรรค์จะเร่ิมข้ึนจากการศึกษาเพื่อการนาเสนอผลงานทัศนศิลป์ชุด
“รปู ลกั ษณแ์ หง่ สายสัมพันธ์รักจากแมว”
วิธีการศกึ ษา
ศึกษาเอกสารทางวชิ าการ แนวคดิ กรอบทฤษฎที ี่เกย่ี วขอ้ ง ได้แก่
- จติ วิทยาความรัก
- การบาบัดด้วยการกอด
- ขอ้ มูลทางวิชาการในเร่อื ง สตั วเ์ ล้ียงบาบัด
- ข้อมลู อิทธพิ ลจากรูปลกั ษณ์ และพฤติกรรมของแมว
- แนวคิดประติมากรรมนมุ่
- ทฤษฎสี ญั ลกั ษณ์นยิ ม
ศกึ ษาข้อมูลศิลปินที่ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ชุด “รูปลักษณแ์ ห่งสายสัมพันธ์รักจากแมว”
ท้ังจากศิลปินไทยประ กอบด้วย สุกัญญา เม าราษี , และศิลปินต่า งประเทศ ได้แก่ Ernesto Neto Studio,
Roosmeerman&KunstLAB, Selynn, เคนจิ ยาโนเบะ
ศกึ ษาเทคนิคในการสร้างสรรค์และการติดตั้งผลงาน
- ศึกษาเรื่องการตัดเย็บผ้า การสร้างสรรค์ประติมากรรมนุม่ ดว้ ยวัสดทุ น่ี ุม่ นวล
- ศกึ ษาเทคนิคการปกั (Needle Felting) การปักขนสตั ว์เทียม
ศึกษาและทดลองการตดิ ตงั้ ดว้ ยเทคนคิ วิธกี าร ดงั ต่อไปน้ี
- ติดต้ังแบบห้อยแขวน
- ตดิ ตัง้ กบั พนื้ ระนาบ
- ติดตั้งบนฐาน
- ตดิ ตัง้ กับผนงั
- ศกึ ษารูปแบบและวิธกี ารนาเสนอ
ทฤษฎแี ละกรอบแนวความคดิ ในการสรา้ งสรรค์
ปั ญ ห า ส ภ า พ จิ ต ใ จ ท่ี ต้ อ ง ก า ร - ทฤษฎจี ติ วทิ ยาความรกั ผลงานประติมากรรมนุ่ม ชุด
ความรักความอบอุ่น การหาส่ิง - ทฤษฎสี ตั ว์เลย้ี งบาบดั “รูปลักษณ์แห่งสายสัมพันธ์รัก
ใ ด ๆ ม า ท ด แ ท น เ ติ ม เ ต็ ม - ทฤษฎีการบาบดั ดว้ ยการกอด
ความรสู้ กึ ทว่ี า่ งเปล่า จนไดพ้ บกับ - ข้อมูลอิทธิพลจากรูปลักษณ์ และ จากแมว”
พฤติกรรมของแมว
แมว ทีเ่ ยียวยาจติ ใจผู้สรา้ งสรรค์ - เทคนคิ ประติมากรรมนุม่
- ทฤษฎีสญั ลักษณน์ ิยม
150
แสดงความรกั ความผกู พนั ของ
มนุษยแ์ ละแมวท่สี ามารถเตมิ เตม็
ความรกั ความอบอุ่นท่ีขาดหายไป
ในชวี ติ
ทมี่ า: ผสู้ ร้างสรรค์
จติ วทิ ยาความรกั (psychology of love)
ความรักเป็นสิ่งท่ีมนุษย์ทุกคนต้องการ เริ่มตั้งแต่เกิดมา มีช่วงชีวิต วัยเด็ก ความผูกพันกับพ่อแม่ ผู้ใกล้ชิด ซ่ึงใน
อารมณ์นั้นเองยังคงฝังแน่นติดตรึงใจเราเสมอมา โดยประสบการณ์ และความรู้สึกจากวัยเด็ก (ลัญฉน์ศักดิ์ อรรมยากรม,
2565)” สอดคล้องกับแนวคิดในเรื่องความรัก อันเป็นแรงขับเคล่ือนของทุกรูปแบบความสัมพันธ์ให้เดินหน้าไปในทิศทาง
เดียวกัน (บญุ โสภา, 2565)
จากท่ีกล่าวมานั้นยังมีนักจิตวิทยา (Stemberg, 1986) ซึ่งได้เสนอทฤษฎีสามเหลี่ยมของความรัก ซึ่งอธิบายถึง
ธรรมชาติและรูปแบบของความรักว่าประกอบด้วย 3 องค์ประกอบสาคัญ คือ ความใกล้ชิด (Intimacy) ความเสน่หา
(Passion) และความผกู มัด (Commitment) ซึง่ องค์ประกอบมคี วามเกีย่ วขอ้ งเช่ือมโยงซึ่งกนั และกัน
ภาพท่ี 1 สามเหลยี่ มของความรกั
ที่มา: สามเหลยี่ มของความรัก. [ออนไลน]์ เข้าถึงขอ้ มลู เมอ่ื วันที่ 1 เมษายน 2565
เขา้ ถงึ ได้จาก : https://www.gotoknow.org/posts/618576
กรอบทฤษฎสี ัตวเ์ ลีย้ งบาบัด (pet therapy)
สถานบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐ ทาการศกึ ษาเร่ือง The Benefit of Pet and Animal-Assisted Therapy to the
Health of Older Individuals โดยการศกึ ษามวี ัตถปุ ระสงค์เพอ่ื วดั ประสิทธภิ าพการรกั ษาโรคซึมเศรา้ และจติ เภท ด้วยการใช้
สตั วเ์ ลี้ยงบาบดั เปน็ ท่ีทราบกันดวี ่า สัตว์เล้ียง นั้นช่วยให้ภาวะสุขภาพจิตดีขึ้น อาทเิ ช่น บาบัดความเหงา ความโดดเดี่ยว การ
แยกตัวจากสังคม (Chemiack, 2557)
ผลการศึกษา pets therapy ได้ทาการศึกษากลุ่มตัวอย่างจานวน 144 ราย ท่ีมีปัญหาทางด้านอารมณ์ในผู้สูงอายุ
โดยแบ่งกลุ่มตวั อย่างเพื่อควบคุม ประเมินผลโดยใช้แบบประเมินทางจิตใจ พบว่า ในกล่มุ ที่ได้รับการบาบัดด้วยสัตวเ์ ลี้ยงมีค่า
คะแนนกลุ่มอาหารทางจติ ใจ (psychological symptoms) ดีกว่ากลมุ่ ท่ีไมไ่ ด้รับการบาบดั อยา่ งชัดเจน มีผูม้ ีป่วยโรคซึมเศร้า
151
กว่า 28 รายทีไ่ ด้รับการประเมนิ จากแบบประเมินภาวะซมึ เศร้า มอี าการของโรคซึมเศรา้ ลดลงอย่างชดั เจน ขณะท่กี ารบาบดั ใน
ผู้ปว่ ยโรคจติ เภท กวา่ 20 ราย ท่ีได้รับการบาบดั ด้วยสัตว์เล้ยี งจากสนุ ัขและแมวในระยะเวลา 3 ชม.ต่อสปั ดาห์
จากการศึกษาพบว่าสัตว์เล้ียงมีส่งผลต่อสภาพอารมณ์และจิตใจของมนุษย์ ดังนั้นการจะพัฒนาผลงานให้ตรงตาม
แนวคิดน้ันจาเป็นต้องศึกษาแนวคิด สัตว์เล้ียงบาบัดเพื่อช่วยให้เข้าใจว่าการเลี้ยงแมวส่งผลต่อสภาพจิตใจของผู้เลี้ยงอย่างไร
และนามาขอ้ มลู มาใชใ้ นการสร้างสรรคผ์ ลงาน
การบาบดั ด้วยการกอด (Hug Therapy)
Dolores Krieger R.N. Ph.D.ศาสตราจารย์ทางการพยาบาลท่ี New York University และเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขา
การบาบัดดว้ ยการสัมผัส กล่าววา่ บุคคลทไ่ี ดร้ บั การกอด หรอื กอดผอู้ ืน่ จะทาให้เกดิ การกระตุ้นการทางานของ Hemoglobin
ทาให้การลาเลียงของ oxygen ไปเล้ียงเน้ือเย่ือต่างๆ ทางานได้อย่างท่ัวถึง ทาให้บุคคลเกิดความรู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวามี
งานวิจัยเก่ียวกับการใช้วิธีกอดในผู้ป่วยสูงอายุ70 ปีข้ึนไปพบว่า เม่ือใช้การกอดบาบัด ทาให้ผู้สูงอายุ มีภาวะสุขภาพที่ดีขึ้น มี
ความกระตอื รือร้น มีความตอ้ งการทอ่ี ยากจะมีชีวิตอยตู่ ่อไป และมีความสามารถในการแกไ้ ขปัญหาตา่ งๆมากขึ้น นอกจากนั้น
การสัมผัสยังชว่ ยบรรเทาความเจ็บปวด ซึมเศรา้ และความวิตกกังวล ที่ทาใหผ้ ู้ป่วยมีความต้ังใจท่ีจะมีชีวิตอยู่ต่อไป การสัมผัส
ยงั ชว่ ยใหเ้ ดก็ คลอดก่อนกาหนด ได้รับการชดเชยเหมอื นอยใู่ นต้อู บ ทาใหเ้ ด็กเติบโต มที กั ษะในการดาเนินชวี ติ
จากการศกึ ษาผลดีของการกอดยังทาใหเ้ กิดความรู้สึกดี ลดความตงึ เครยี ด ตอ่ สู้อาการนอนไมห่ ลับ คลายความรสู้ กึ
เหงา เดียวดาย จากข้อมูลทศี่ ึกษาแสดงให้เห็นความการกอดสมั ผัสมคี วามสาคัญต่อการเยียวยาสภาพจิตใจของมนษุ ย์ได้อย่าง
มาก ดงั น้ันผู้สร้างสรรค์จงึ นาแนวคดิ การกอดสมั ผัส การได้รบั ความอบอุ่น และนุ่มนวลแห่งการกอดแมวมาเป็นแรงบันดาลใจ
ในการสร้างสรรคผ์ ลงาน
ขอ้ มูลอทิ ธิพลจากรปู ลกั ษณ์ และพฤติกรรมของแมว
ข้อมูลจากหนังสือ แมว (cat) เหมพันธ์ เหมวรนันท์ (ม.ป.ป., น. 24) แมวเป็นสัตว์เลี้ยงเก่าแก่ไม่แพ้พวกสุนัข เป็น
สัตว์เลี้ยงโปรดปรานของคนทุกขั้น เช่นประธานาธิบดี Theodore Roosevelt เป็นเจ้าของแมวชื่อ Slippers และมักจะพา
Slippers ตัวโปรดไปยังทาเนยี บขาว เพื่อร่วมรับประทานอาหารเยน็ ด้วยเสมอ ประธานาธบิ ดี Winton Churchill มแี มวตัวผู้
ชอื่ Ginger tomมกั จะพาแมวตวั โปรดนี้ไปประชมุ ทส่ี ภาของประเทศองั กฤษ
ภาพที่ 2 กายวิภาคแมว
ทีม่ า: เหมพันธ์ เหมวรนันท์ (ม.ป.ป., น. 19)
แมวเป็นสัตวท์ ม่ี ีการเคล่อื นไหวตัวโดยน้าหนักทกุ ส่วนอยบู่ รเิ วณอุ้งฝา่ เท้า เพอ่ื ใหก้ ารทรงตัวเกดิ ความสมดลุ ไดอ้ ยา่ งมี
ประสิทธิภาพ ข้อเท้า ขา นอกจากน้ีบริเวณศีรษะก็สามารถหมุนพลิกไปด้านหลังได้ดีอีกด้วย องค์ประกอบโครงสร้างของ
กระดูกสันหลังจะเชื่อมโยงสู่ส่วนต่างๆ ของกล้ามเน้ือ กลายเป็นแหล่งกาลังสะสมไว้จึงนับว่าแมวมีความสามารถกระโดดได้
อยา่ งวิเศษสุดในบรรดาสตั ว์สเี่ ทา้ ดว้ ยกัน ช่วงคอและไหลข่ องแมวจะมีกล้ามเนื้อชว่ ยใหม้ นั ลา่ จับเหยอ่ื ไดอ้ ยา่ งแม่นยา
152
แมวเป็นสตั ว์เลีย้ งทมี่ ีความเปน็ นกั ล่าสงู มาก จากการศึกษาพบวา่ แมวในบ้านสามารถล่าสัตวข์ นาดเลก็ ภายในบ้านได้
ทั้งแมลง สตั วเ์ ลอ่ื ยคลานที่ขนาดเลก็ กว่าตวั แมว พฤติกรรมการล่าของแมวมกั จะนาเหยื่อจับได้มาอวดมนุษย์ โดยจะคาบมาเลน่
บริเวณใกล้ๆกับเจา้ ของ ซงึ่ เป็นพฤติกรรมการอวดความสามารถของแมว นอกจากการเป็นนักลา่ แลว้ แมวยงั มนี ิสัยข้อี อ้ น ชอบ
มาคลอเคลียกบั มนุษย์ โดยลักษณะของการถูไถกับตวั เจา้ ของเพื่อฝากกล่นิ ประจากล่มุ ไวก้ ับร่างกายของเจ้าของ เสอ้ื ผา้ เคร่อื ง
นอนภายในบ้าน ซึ่งปกตแิ ล้วแมวจะมี สญั ชาตญาณการระวงั ตัวค่อนข้างสูงมาก จึงจะไมเ่ ปิดเผยจุดที่อ่อนแอเชน่ ช่วงล่าง หรือ
ท้องแมว แต่หากแมวและเจ้าของมีความสัมพันธ์ท่ีดี สนิทสนม ไว้ใจ จะพบว่าแมว สามารถนอนหงาย หยอกล้อกับเจ้าของ
หรืออ้อนให้เกาพงุ หรอื หน้าทอ้ งในบางคร้งั
จากการศึกษาข้อมูลอิทธิพลจากรูปลักษณ์ และพฤติกรรมของแมวน้ัน ผู้สร้างสรรค์ได้นาลักษณะทางกายภาพ
พฤติกรรม และความน่ารักของแมว มาวเิ คราะหเ์ พ่ือเชือ่ มโดยไปสู่การสร้างสรรค์ผลงานประติมากรรมนมุ่ ท่แี สดงความรู้สึกถึง
สายสมั พันธร์ กั จากแมวถงึ มนษุ ย์
ภาพที่ 3 ภาพแมวของผสู้ รา้ งสรรค์ขณะนอนในลักษณะกาลงั หยอกล้อกบั เจา้ ของ
ที่มา: ผู้สร้างสรรค์
ประตมิ ากรรมนมุ่ (Soft sculpture)
ประติมากรรมน่มุ หมายถึง ผลงานประตมิ ากรรมนุ่มในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1960เปน็ การสารวจของศิลปีน ในเรื่องการใช้วัสดุซ่ึง
ยังไม่เป็นท่ียอมรับในงานประติมากรรมโดยใช้วัสดุจาพวกผ้าขนสัตว์ เชือก ยาง กระดาย หนัง ไวนิล พลาสติก และอื่นๆ เพ่ือสร้างเป็น
รูปทรงตา่ งๆ ซ่ึงแสดงให้เหน็ ถึงวิธีการอันหลากหลาย และความกล้าหาญของศิลปินที่ใช้วสั ดตุ ่างๆ เหลา่ นนั้ ในการสร้างงานประติมากรรม
(กรุงเทพฯ: ราชบณั ฑิตยสถาน, 2541)
จากการศึกษาเทคนิคประตมิ ากรรมน่มุ พบวา่ สามารถถ่ายทอดความนมุ่ นวล ความอบอนุ่ ซง่ึ ตรงตามแนวคิดในการ
สร้างสรรคผ์ ลงานและสามารถใหผ้ ู้ชมเข้ามามีปฏสิ มั พันธก์ บั ผลงานได้
ภาพท่ี 4 Small Mollington Knot Cushion 1973
ทมี่ า: Ann Sutton . [ออนไลน์] เข้าถึงข้อมูลเมื่อวันท่ี 1 เมษายน 2565
153
เขา้ ถึงได้จาก : https://artuk.org/discover/art-terms/soft-sculpture
ทฤษฎีสญั ลักษณน์ ยิ มหลักนยิ ม (Symbolism)
เปน็ ขบวนการทางศิลปะในช่วงปลายศตวรรษที่ 19ทีม่ ีตน้ กาเนดิ จากฝร่ังเศสรสั เซยี และเบลเยยี มในกวีนิพนธแ์ ละศลิ ปะอื่นๆ
ท่พี ยายามจะนาเสนอความจริงอย่างแท้จริงด้วยสัญลักษณ์ผ่านภาษาและภาพเชิงเปรียบเทียบ โดยส่วนใหญ่เป็นปฏิกิริยาต่อต้านลัทธิ
นยิ มนยิ มและความ สมจริงคาว่า "symbolist" ถูกใชค้ ร้งั แรกโดยนักวจิ ารณ์Jean Moréas ผคู้ ดิ ค้นคาศัพทเ์ พื่อแยกแยะ Symbolists ออก
จาก Decadents ทเี่ กยี่ วข้องของวรรณคดีและศิลปะ (y molsymbolic, 2011)
ภาพที่ 5 April Maurice Denis
ท่มี า: : maurice-denis. [ออนไลน]์ เข้าถงึ ข้อมลู เมือ่ วนั ท่ี 1 เมษายน 2565
เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://www.wikiart.org/en/maurice-denis/april-1892
ในเดือนเมษายนของ Maurice Denis ภมู ิทศั นแ์ ละรูปรา่ งต่างๆ จะถูกลดทอนให้เหลือรูปทรงที่เรียบงา่ ย สแี ละรูปทรงแสดง
ในระดับระนาบ เน้นย้าพน้ื ผิวของระนาบภาพเพ่ิมเติมด้วยการวาดภาพเนินเขาท่ีอยหู่ ่างไกลออกไปด้วยโทนสแี ดง แทนทจ่ี ะเปน็ สนี า้ เงนิ
ทซี่ ีดจางเพ่ือแสดงถึงผลกระทบของทัศนียภาพในผลงาน (maurice-denis, 1982) จากการศึกษาพบว่าการสร้างสัญลักษณ์อันเกิด
จากการแปรสภาพความจรงิ โดยใช้จินตนาการเปน็ การสร้างและแปรสภาพรปู ทรงใหเ้ กดิ เป็นสง่ิ แทน เพื่อสอ่ื ความหมาย ผู้สรา้ งสรรคจ์ งึ
นาแนวคิดตามทฤษฎีสัญลักษณน์ ยิ มมาสร้างสรรค์ผลงานโดยการตัดทง้ิ ซึง่ ความเปน็ จรงิ คงไวเ้ พยี งอารมณค์ วามรสู้ กึ ทไี่ ดร้ บั แรงบนั ดาล
ใจจากแมวโดยใช้จนิ ตนาการให้เกิดเปน็ รปู ทรงทต่ี รงตามแนวคิดมากที่สดุ
ศึกษาผลงานศลิ ปนิ ท่ีเกย่ี วข้อง
ผลงานจากศิลปินที่ให้แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ ทั้งทางแนวความคิด เนื้อหาสาระทางศิลปะประกอบด้วย
ศิลปิน Selynn (เชรีน) , Ernesto Neto (เออเนสโต้ เนสโต้), Studio Roos Meerman & KunstLAB , สุกัญญา เมาราษี ,
เคนจิ ยาโนเบะ
Selynn (เชรนี )
ผลงานของศลิ ปินท่ีนาความใฝฝ่ นั ของตนเองทต่ี อ้ งการใหแ้ มวสวมผ้าโพกหวั ซงึ่ ปกตแิ ลว้ แมวเปน็ สัตวท์ ีไ่ มช่ อบการใส่
หมวกหรือผา้ โพกหัว จะต้องการแต่งตัวแมวอย่างไรก็ตาม แมวมักจะปฏิเสธการโพกหัวเนื่องจากการที่มีอะไรบางอย่างมาติด
อยู่ท่ีหวั จะทาให้แมวไมพ่ ร้อมท่ีจะโจมตี หรือเอาตัวรอดได้อย่างรวดเร็ว ศิลปินใช้จุดนี้ สร้างสรรค์เป็นผลงานศิลปะ ภาพวาด
แมวท่ีกาลังสวมผ้าโพกหัว babushka (บาบูช'คะ) มีลวดลายดอกไม้ และผลไม้ และพิซซ่าทาให้ผลงานดูน่ารักน่าเอ็นดูตาม
แบบของศิลปินเองผลงานยงั ดสู ร้างเป็นไฟล์ดิจิทัล ขนาดใหญ่อีกดว้ ย ซ่ึงผู้สร้างสรรค์เองน้ันก็รกั แมวและเลือกใช้แมวเป็นแรง
บันดาลใจในการนาความน่ารัก ข้อี ้อน อบอุ่นมานาเสนอสอดคลอ้ งกบั ศลิ ปินกรณีศกึ ษา
154
ภาพที่ 6 Cats Are Wrapped in Colorful Babushkas
ท่มี า: : Cats Are Wrapped in Colorful Babushkas. [ออนไลน์] เข้าถึงขอ้ มูลเม่อื วันท่ี 2 เมษายน 2565
เข้าถงึ ได้จาก : https://www.brwnpaperbag.com/2021/05/10/selynn-cat-paintings/
Ernesto Neto (เออเนสโต้ เนสโต)้
เออเนสโต้ เนสโต้ เป็นศิลปินในแนวความคิดที่งานของเขา สามารถให้ผู้ชมได้เข้าสัมผัส รูป กล่ินและการเข้าสัมผัส
ผลงานศิลปะของเนสโต้ สร้างประสบการณ์เร่ืองของประสาทสัมผัส ผลงานประติมากรรมนุ่มของเขามักสร้างเป็น
ประติมากรรมนุ่มท่ีให้ผู้คนมีปฏิสัมพันธ์ แนวความคิดของเขาคือเพื่อนาพ้ืนท่ีทางธรรมชาติกลับเข้าไปเป็นส่วนหนึ่ง ในการ
ดาเนินชีวติ ของมนุษย์ นาเสนอดว้ ยรูปทรงทเี่ รยี บง่าย ขนาดของผลงานในบางช้ินงานมีขนาดใหญ่จัดเต็มห้องนทิ รรศการ ผู้เข้า
ชมผลงานสามารถแบ่งเปน็ สองกลุ่ม กลุ่มแรกเปน็ กลุ่มที่ต้องการเดินชมรอบ ๆ แคส่ มั ผสั ทางสายตา ส่วนกล่มุ ท่สี องตอ้ งการเข้า
ไปภายเกิดสมั ผัสทลี่ ึกซ้ึงซึมซับความรู้สกึ ที่ศลิ ปนี ตอ้ งการถา่ ยทอด รูปทรงทเี่ รียบง่าย ประทะความรู้สึก กล่นิ สี และความนุ่ม
ดึงดูดให้ผู้คนเข้าสัมผัสภายในผลงาน วัสดุสีอ่อน เบา เรียบ ยึดหยุ่น มีความละมุนละไมของคู่สีอ่อน วัสดุจากธรรมชาติและ
กลิ่นเครื่องเทศต่าง ๆ เช้อื เชิญให้ผู้คนเข้าสัมผัสผลงานของเขา และเกิดประสบการณ์ของกายสัมผัสผา่ นสู่ทางใจไดอ้ ย่างสีกซ้ึง
ทาให้เกดิ ความเข้าใจในแนวความคิดของศิลปินได้มากยิง่ ข้นึ
Ernesto Neto เป็นหน่ึงในศิลปินชาวบราซิลท่ไี ด้รบั การยอมรับในระดบั นานาชาติมากที่สุดและท่ีทางานของเขาได้
กล่าวถงึ ประเด็นต่าง ๆ ที่เกย่ี วกบั จติ วิญญาณ humanism(มนุษยนยิ ม) และ ecology(นเิ วศวทิ ยา) อิทธิพลของการเคลอ่ื นไหว
ยคุ ใหม่ของยคุ 60 ศลิ ปะแบบเรียบง่ายและแนวความคดิ การผลติ ของเนโตเป็นลักษณะของการใชว้ ัสดุและเทคนิคท่ไี ม่ธรรมดา
สาหรับศิลปะ จากวัตถุอินทรีย์จนถึงความรู้และฝีมือของชนเผ่าพ้ืนเมือง งานของ Neto ได้ชื่อว่า"เหนือกว่าความเรียบง่าย
แบบนามธรรม" การติดต้ังของเขามีขนาดใหญแ่ ละนุ่มนวล ซ่ึงผู้สรา้ งสรรค์สนใจในการสร้างรูปทรงอสิ ระสอดรับกบั รา่ งกายให้
ความอบอุ่นคล้ายการสวมกอด ทาห็ผู้สร้างสรรค์ได้แนวทางท่ีจะพัฒนาผลงานโดยการให้ผิวสัมผัสที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่ม น่า
กอด เช่นเดยี วกบั แมว
155
ภาพท่ี 7 O tempo lento do corpo que é pele
ทีม่ า: : Cats Are Wrapped in Colorful Babushkas. [ออนไลน์] เขา้ ถงึ ข้อมูลเมื่อวนั ที่ 3 เมษายน 2565
เข้าถงึ ได้จาก : Ernesto Neto: Rio Superstar
Studio Roos Meerman (สตูดโิ อ รูด เมียแมน)
ผลงานของ Studio Roos Meerman และ KunstLAB ผนงั บุขนสัตว์สีดาความยาว 6 เมตร ทันทีทเ่ี ราเข้าไปจบั ลูบ คลา ขยา
และแนบกอดลงบนผนังนมุ่ ๆ จะไดย้ ินเสยี งเพลงดงั ข้นึ การกอดแตล่ ะจุดก็ใหท้ านองท่ีแตกตา่ งกนั ด้วย เม่อื หลายคนเข้าไปกอดผนงั พร้อม
กันเสียงท่ีออกมาจึงสอดประสานกันไม่ต่างจากเครื่องดนตรีของวงออร์เคสตราท่ีสอดประสานเป็นท่วงทานอง จุดประสงค์ของ Tactile
Orchestra คือผ้ชู มสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับศิลปะดว้ ยการใชร้ ่างกายและผัสสะอื่นๆ นอกเหนือจากการมองเห็น ผู้ชมสามารถสวมกอด
ขนนุ่มๆ จากการศกึ ษาผลงานของศิลปิน กรณศี ึกษาพบวา่ ผวิ สัมผสั มผี ลต่อความร้สู ึกของผู้ชมผลงาน การใชเ้ สยี ง นามาประกอบ ทาให้
ความ ทาใหผ้ ลงานเกดิ ความนา่ สนใจ ผสู้ รา้ งสรรคจ์ งึ ไดแ้ นวคิด สอดคล้องกับศลิ ปินกรณีศึกษา เพราะช่วงเวลาทีผ่ ู้สร้างสรรค์ ได้กอดแมว
น้ันเม่ือเวลาทม่ี ันมคี วามสุขแมวจะส่งเสยี งเพอร์ จากการศกึ ษาศิลปินกรณีศึกษานั้นเป็นการแสดงออกถึงความสุขที่แมวมีต่อผูส้ รา้ งสรรค์
แนวคิดนี้ จึงเป็นส่วนหน่งึ ในการนาไปพัฒนาผลงาน ในอนาคต ลาดับตอ่ ไป
ภาพท่ี 8 Tactile Orchestra,
ท่มี า: : Tactile Orchestra,. [ออนไลน]์ เขา้ ถึงขอ้ มูลเมอ่ื วันที่ 4 เมษายน 2565
เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://www.fillipstudios.com/project/tactileorchestra/
สกุ ัญญา เมาราศี
ศิลปินสรา้ งสรรคผ์ ลงานปกั ใยขนแกะ (Needle Felting) รูปแบบเหมือนจริง โดยใชส้ ัตว์เลย้ี งเป็นต้นแบบ ท้ังสุนัขและ
แมว ผา่ นรปู ลกั ษณ์แห่งความทรงจาทีม่ ตี อ่ สัตว์ ซึง่ ผลงานบางชน้ิ สรา้ งสรรคเ์ พอื่ ราลึกถึงสตั วเ์ ลย้ี งที่ได้ลาจากโลกน้ไี ปแลว้ บางตัว
ถูกสร้างสรรค์เป็นผลงานขนาดเล็กที่สามารถพกพาติดตัวไปได้ทุกท่ี สร้างสรรค์ด้วยเทคนิคการปักใยขนแกะจากธรรมชาติทา
ใหผ้ ลงานมีความนุน่ นวล สมจรงิ ราวกับได้สัมผสั ขนสัตวจ์ รงิ ๆ จากการศกึ ษา ศิลปนิ กรณศี ึกษา พบว่า การสรา้ งสรรค์ผลงานโดย
การใช้ผิวสัมผัส ด้วยเทคนิคการปักใยขนแกะน้ัน ให้ความรู้สึก ที่อ่อนโยน นุ่มนวล สอดคล้องกับผู้สร้างสรรค์ ที่ใช้เทคนิคนี้ ใน
การสรา้ งผลงานในช่วงแรก ทาให้ผลงานเกิดความรสู้ กึ คล้ายกอดสัมผัสแมวท่ีเปน็ สตั ว์เลีย้ งของผ้สู ร้างสรรค์
156
ภาพท่ี 9 Memwa
ที่มา: : Memwa, needle felting,. [ออนไลน]์ เข้าถึงข้อมลู เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2565
เขา้ ถงึ ได้จาก : https://www.facebook.com/memwa.handmade/
Kenji Yanobe (เคนจิ ยาโนเบะ)
ศิลปินใช้แนวความคดิ เรื่องการเอาชีวิตรอดสภาพแวดล้อม สังคมในปัจจุบัน สร้างสรรค์ผลงานประติมากรรมขนาด
ใหญ่ โดยผลงาน SHIP’S CAT ผสมผสานประเด็นเรื่องยุคสมัยแห่งนิวเคลียร์ ปัญหาความเดือดร้อนท่ีชาวบ้านต้องเผชิญจาก
กัมมันตรงั สโี รงไฟฟา้ ฟุดกชิมะ ไดอิจิ ปญั หาคล่นื สนึ ามิที่ประเทศตอ้ งเผชญิ ซ่ึงเป็นการสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้ความรูส้ กึ ด้าน
ลบมาทาให้เกิดเปน็ ประตมิ ากรรมท่ีแสดงมุมมองท่ีนา่ รักไดอ้ ีกมมุ หนึ่ง
ภาพท่ี 10 SHIP’S CAT
ที่มา: yanobe, SHIP’S CAT. [ออนไลน]์ เขา้ ถึงข้อมลู เมอ่ื วันที่ 1 เมษายน 2565
เข้าถึงได้จาก : https://www.yanobe.com/artworks/shipscat.html
157
ผลงานทศั นศิลป์ประตมิ ากรรมนมุ่ ชดุ รูปลกั ษณ์แหง่ สายสัมพนั ธร์ ักจากแมว
ภาพท่ี 11 ภาพผลงานชดุ รปู ลกั ษณ์แห่งสายสมั พันธร์ กั จากแมว ผลงานชิน้ ท่ี 1
ที่มา : ผู้สรา้ งสรรค์
ชื่อศลิ ปิน นายภาพตะวนั คุ่ยกล่นิ
ชือ่ ผลงาน ความอบอ่นุ ในออ้ มกอด
เทคนิค ตดั เยบ็ ผา้ ขนสตั ว์ ปกั ใยขนแกะ
ขนาด แปรผนั ตามพนื้ ท่ี
ความอบอุ่นในออ้ มกอด เป็นงานประติมากรรมนมุ่ แสดงออกถงึ ความนุม่ นวล ความอบอุ่น ทไ่ี ด้รับแรงบนั ดาลใจจาก
การกอดแมว ซึ่งขณะท่ีกอดแมวนน้ั มกั มีความรู้สึกอบอุ่นและน่มุ นวลรบั รไู้ ด้ถงึ ความรกั ความไวใ้ จ ทีแ่ มวมีใหเ้ จ้าของ
การวเิ คราะห์ผลงาน ชุด รปู ลักษณ์แหง่ สายสัมพนั ธร์ ักจากแมว ชิ้นที่ 1 ช่อื ความอบอุ่นในอ้อมกอด
ผลงานความอบอุ่นในอ้อมกอด ในชุดรูปลักษณ์แห่งสายสัมพันธ์รักจากแมวน้ัน ผู้สร้างสรรค์ใช้แรงบันดาลใจจาก
การศึกษาแมว ประกอบกับประสบการณ์ที่ได้เล้ียงแมวและกอดสัมผัสกับแมว ซ่ึงเกิดเป็นความรู้สึกอบอุ่นและนุ่มนวล ผ่อน
คลายจากความเหงา ความกังวลต่างๆในชีวิต ผลงานมีลักษณะเปน็ ก้อนกลม ท่มี ีขนาดพอเหมาะกับอ้อมกอดของมนษุ ย์ทว่ั ไป
และเน่อื งจากผลงานมคี วามยืดหยุ่นทางด้านรูปทรงสูง ทาให้ผู้ชมงานไดร้ บั ความรู้สกึ ท่แี ตกตา่ งกันตามประสบการณ์ทต่ี นได้รับ
หรือได้สมั ผัส การเขา้ ไดไ้ ปกอดรัดผลงานซงึ่ มีลกั ษณะเป็นกอ้ นกลมและนุ่มนวลเช่นน้ีน้นั ทาให้ผู้ท่มี ปี ระสบการณ์การกอดแมว
หวนนกึ ถงึ ความรู้สึกทค่ี ุ้นเคยได้ในทันที แมผ้ ู้ชมที่ไม่เคยเลย้ี งแมว หรือไมเ่ คยเล่นกับแมวมาก่อนก็จะได้รับประสบการณค์ วาม
นุ่มนวลท่ีผูส้ ร้างสรรค์ถ่ายทอดผ่านผลงานได้ ดังนั้นผลงานดังกล่าวเมื่อนามาวิเคราะห์ทางทัศนธาตุ เชน่ เส้น รูปทรง น้าหนัก
พนื้ ผวิ สัมผัสแลว้ สามารถใหค้ วามรูส้ กึ ที่อบอ่นุ นุ่มนวลของแมว ตรงตามแนวความคิดของผูส้ รา้ งสรรค์ตอ้ งการถา่ ยทอด
158
ลักษณะการใช้สีของผลงานน้ัน มีลักษณะเป็นโทนขาวสว่างเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งให้ความรู้สึกท่ีผ่อนคลาย สงบ อบอุ่น
จรงิ ใจและเป็นมิตร สอดคลอ้ งกับแนวความวคิดในการสร้างสรรคผ์ ลงานดังเช่น แมวเปน็ เพ่อื น เปน็ สมาชิกในครอบครัวที่มอบ
ความรักความสขุ ให้แก่กันอย่างไมม่ ีเงอ่ื นไข
รายละเอียดของผลงานน้ัน ผู้สร้างสรรค์ใช้ลักษณะของอุ้งเท้าแมวที่อวบอ่ิม สดใส น่าจับสัมผัส ลูบไล้ โดยมี
ความหมายเชิงสัญลักษณ์ถึงความไว้ใจ ความสนิทสนม สายสัมพันธ์แห่งรักระหว่างมนุษย์และแมว ท่ีท้ิง สัญชาตญาณการ
ปอ้ งกนั จดุ ที่อ่อนแอที่สดุ เผยใหเ้ ห็นอุ้งเทา้ ท่นี ่ารัก สอดคลอ้ งกบั ทฤษฎีสัญลักษณน์ ยิ มทผี่ สู้ ร้างสรรค์ไดท้ าการศกึ ษา
สรุป การวิเคราะห์ผลงานชุด รูปลักษณ์แห่งสายสัมพันธร์ ักจากแมว ชิ้นที่ 1 ช่ือ ความอบอุ่นในอ้อมกอด พบวา่ เป็น
การสร้างสรรค์ผลงานประติมากรรมนุ่มที่ให้ความรู้สึก อบอุ่น นุ่มนวล เชิงสัญลักษณ์ ท่ีมีเนื้อหาเรื่องราวสายสัมพันธ์แห่งรัก
จากแมว ซ่งึ ผ้ชู มสามารถปฏสิ ัมพนั ธ์กบั ผลงานได้ ดังทีต่ งั้ สมมุติฐาน สอดคล้องกบั ทฤษฎีจิตวทิ ยาความรกั สตั ว์เลี้ยงบาบัด การ
บาบดั ด้วยการกอด ทฤษฎีสญั ลกั ษณน์ ยิ ม ผ่านเทคนคิ ประตมิ ากรรมนมุ่
ภาพที่ 12 ภาพผลงานชุดรูปลกั ษณแ์ หง่ สายสัมพนั ธร์ ักจากแมว ผลงานช้ินท่ี 2
ที่มา : ผสู้ ร้างสรรค์
ชอ่ื ศิลปนิ นายภาพตะวนั คยุ่ กล่นิ
ชอ่ื ผลงาน กอดแมว
เทคนคิ ตัดเยบ็ ผา้ ขนสตั ว์
ขนาด แปรผันตามพน้ื ที่
กอดแมว เป็นงานประติมากรรมนุ่มที่ได้แรงบัลดาลใจจากการกอดแมวที่รัก แสดงความนุ่มนวล ความอบอุ่น ความรักท่ีผู้
สรา้ งสรรค์รสู้ ึกต่อแมว ผา่ นขนสัตวเ์ ทียมสดี าทท่ี าใหน้ ึกถึงแมวสาดาของไทย
การวิเคราะห์ผลงาน ชุด รูปลกั ษณ์แห่งสายสมั พนั ธ์รักจากแมว ชิ้นท่ี 2 ชอื่ กอดแมว
ผลงานในชน้ิ ที่ 2 นั้น ผ้สู รา้ งสรรค์ตอ้ งการถา่ ยทอดความรักความอบอุ่นจากแมวดา ซ่ึงเป็นแมวไทยท่ีพบได้โดยทวั่ ไป
ทง้ั ในเมืองและชนบท โดยปกติแลว้ แมวดามกั ไม่เป็นท่ีนิยมในไทยบางกลมุ่ ดว้ ยคงามเช่อื ความโชคร้าย ลางบอกเหตเุ ปน็ ลางร้าย
ด้วยเหตุน้จี ึงทาให้ผู้สร้างสรรค์พบแมวดาที่รอ่ นเร่ ไม่มีเจ้าของเป็นจานวนมาก ผสู้ ร้างสรรค์มองว่าการที่มนุษย์เลือกปฏิบตั ิกับ
แมวดาเป็นสิง่ ท่ีสะเทือนจิตใจอย่างมาก ด้วยทุกส่ิงมีชวี ิตต่างต้องการความรักความอบอุ่นจากครอบครวั แตค่ วามเชื่อ บางส่ิง
กลับมาลดทอนคุณค่าของส่ิงมชี ีวิตลง เช่นเดียวกับตวั ของผู้สร้างสรรค์ ซ่ึงไม่ได้รับความรักความอบอนุ่ จากครอบครวั ตั้งแต่ยัง
159
เยาว์วัย ถูกลดคุณค่าและดูน่าสงสารด้วยคาว่าเด็กขาดความอบอุ่น จึงเป็นความบันดาลใจการสร้างสรรค์ผลงงานชิ้นท่ี 2 ชุด
รปู ลกั ษณ์แห่งสายสมั พันธ์รกั จากแมว กอดแมว
การวิเคราะห์ผลงานช้ินท่ี 2 กอดแมวทางทัศนธาตุพบว่า ผลงานมีการใช้ เส้น รูปร่าง รูปทรง ท่ีลดทอนรูปลักษณ์
ของแมว ให้เหลือเพียงความรู้สกึ ถงึ แมว พ้ืนผิวและการสัมผัส ผู้สร้างสรรคใ์ ช้ผ้าขนสตั วท์ ี่มีขนาดจนสั้นประมาณ 1 เซนติเมตร
ทาให้ความรู้สึกเมื่อสัมผัสคล้ายกับการลูบไล้ไปยังขนแมวดาของไทย ซึ่งมีลักษณะไม่ยาว เรียบเตียน มีความมันแววเล็กน้อย
ซงึ่ เปน็ เอกลกั ษณ์ของแมวไทย เชน่ แมวโกญจา และแมวนลิ รตั น์เปน็ ต้น
รายละเอียดของผลงาน ผสู้ รา้ งสรรค์ใช้ลักษณะขององุ้ เทา้ สีมพูของแมวท่ีดูสดใสกว่าความเป็นจริง ซ่งึ ตอ้ งการขับเนน้
ให้เห็นมุมมองท่ีผู้สร้างสรรค์มองแมว ว่าแมวเป็นสิ่งมีชีวิตท่ีอ่อนหวาน นุ่มนวล เป็นความสุขของผู้สร้างสรรค์ โดยลดทอน
ลักษณะให้มีความน่ารักคล้ายการ์ตูน นอกจากน้ีผลงานช้ินท่ี 2 น้ี ยังสามารถให้ผู้ชมเข้ามามีปฏิสัมพันธ์ได้มากข้นึ ด้วยขนาดที่
ใหญ่ขนึ้ กว่าช้นิ ที่ 1 ความอบอุ่นในออ้ มกอด ซึ่งผลงานสามารถกอดรดั ตัวผ้ชู มไดด้ ว้ ยการใชว้ ัสดุทปี่ ระกบติดผลงานเข้าหากนั ได้
และผ้ชู มสามารถเข้าไปนอนคลุกคลีดึงมากอดปรับเปล่ยี นท่าทาง รูปทรงของผลงานได้ตามทต่ี อ้ งการ
สรุป การวิเคราะห์ผลงาน ชุดรูปลักษณ์แห่งสายสัมพันธ์รักจากแมว ช้ินท่ี 2 ช่ือกอดแมว พบว่าเป็นการสร้างสรรค์
ผลงานประติมากรรมนุ่มที่ให้ความรู้สึก อบอุ่น นุ่มนวล แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ท้ังความรัก ความไว้ใจ สายสัมพันธ์แห่งรัก
ความเชื่อ และความจริง ท่ีปรากฏข้ึนต่อผู้ชมงาน ซ่ึงอาจทาให้ผู้ชมได้เปล่ียนแปลงความคิด ทัศนคติท่ีมีต่อแมวดาไปอย่าง
ส้ินเชิง สอดคล้องกับทฤษฎีจิตวิทยาความรัก สัตว์เลี้ยงบาบัด การบาบัดด้วยการกอด ทฤษฎีสัญลักษณ์นิยม ผ่านเทคนิค
ประตมิ ากรรมนมุ่
160
บรรณานกุ รม
Helen Colton. (1983). The Gift of Touch .
Paul Chemiack. (2557). สตั ว์เลยี้ งบำบดั (Pets Therapy). เขา้ ถงึ ได้จาก https://www.nationalgeographic.com:
https://www.nationalgeographic.com.au/animals/therapy
Stemberg. (1986). Psychology CU. เขา้ ถึงได้จาก https://www.facebook.com/Psychology:
https://www.facebook.com/PsychologyChula/posts/2141923499255385:0.
กิตตศิ ัพท์ เลาหพันธ์ อาทติ ยย์ ามเชา้ . (2548). ข้ำวคลกุ ปลำท.ู
กรงุ เทพฯ: พรมี า พับบลชิ ช่ิง.
คาลอส บญุ โสภา. (1 3 2565). เข้าถงึ ได้จาก https://ledliml.wordpress.com:
https://ledliml.wordpress.com/2012/08/17/psychology-of-love/.
คิมจีวอน, ตรองสริ ิ ทองคาใส คิมพยองมก. (2559). Study on Cats เรยี นรคู้ ุณเหมียว.
อัมรนิ พรน้ิ ต้ิง แอนด์พบั ลิชชิง่ .
ชดั ยุงสนั เทียะ. (2553). กำรบำบัดด้วยกำรกอด. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก http://www.electron.rmutphysics.com:
http://www.electron.rmutphysics.com/news/index.php?option=com_content&task=view&id=2102
ทฤษฎสี ำมเหล่ยี มของควำมรกั (Triangular .
(ม.ป.ป.).
สรนิ นา วัฒนา วรรธนี จนั ทรมติ รี. (2558). Cat คำเฟ.่ นนทบรุ :ี
สานกั พิมพบ์ อลลูน.
เหมพันธ์ เหมวรนันท์. (ม.ป.ป.). แมว The Cat. กรุงเทพฯ: เทพพทิ กั ษ์การพมิ พ์.
LedLimL. (2012). "จิตวิทยาความรกั ( Psychology of love ) เข้าถึงได้จาก
|https://ledliml.wordpress.com/2012/08/17/psychology-of-love/.
Sternberg. (2564). สามเหลย่ี มแห่งความรัก สบื ค้นเมอ่ื 13 มนี าคม 2564 , จาก
https://sircr.blogspot.com/2019/11/psychology-of-love.html
Maurice Denis. (1982) April สืบคน้ เมอ่ื 19 มนี าคม 2565
จาก https://www.wikiart.org/en/maurice-denis/april-1892
Selynn (เชรนี ) (2564) Cats Are Wrapped in Colorful Babushkas สบื ค้นเมือ่ 19 มนี าคม 2565 จาก
https://www.brwnpaperbag.com/2021/05/10/selynn-cat-paintings/
Ernesto Neto (2004) O tempo lento do corpo que é pele สืบคน้ เมอ่ื 7 มีนาคม 2565 จาก
https://www.newcitybrazil.com/2015/10/01/fantastic-voyages-of-ernesto-neto-rio-superstar-takes-
vienna-this-fall/
Studio Roos Meerman & KunstLAB adaymagazine (2017) สืบค้นเม่อื 7 มนี าคม 2565 เขา้ ถงึ ได้จาก
https://adaymagazine.com/hugging-art-and-design
สกุ ญั ญา เมาราศี (2565) Memwa, needle felting สบื คน้ เม่อื 19 มีนาคม 2565 เขา้ ถึงไดจ้ าก
https://artofth.com/memwa-needlefelting/
KENJI YANOBE (1965) SHIP’S CAT สืบค้นเมือ่ 19 มีนาคม 2565 จาก
https://www.yanobe.com/publications/index.html
161
จนิ ตนาการสายใยรกั แหงครอบครวั
The Imagination of Love in the Family
กมลรส ชยั ศรี* (ศป.ม.ทัศนศลิ ป) 1
2 อาจารยท่ีปรึกษาหลัก รองศาสตราจารยส รรณรงค สิงหเสนี
3 อาจารยท่ีปรกึ ษารว ม ผูชว ยศาสตราจารย ดร.เมตตา สุวรรณศร
นักศึกษาหลกั สูตรศิลปมหาบณั ฑิต สาขาวชิ าทัศนศิลป บัณฑิตศกึ ษา สถาบันบัณฑติ พฒั นศลิ ป
E-mail [email protected]
บทคดั ยอ
บทความวิจัยฉบบั นม้ี ีวตั ถุประสงค ดังนี้ 1) เพ่ือสรา งสรรคผลงานวจิ ัยจติ รกรรม ในหวั ขอ “จนิ ตนาการสายใยรักแหง
ครอบครัว” ที่แสดงออกใหเห็นถึง ความรัก ความผูกพัน ความคิดถึง ความโหยหา ออมกอด อันอบอุน ภายใตกรอบทฤษฎี
ภาวะโหยหาอดีต ทฤษฎีความรักความผูกพัน ทฤษฎีเกี่ยวกับความฝนและจินตนาการ จิตวิทยาสีกับความรูสึก
2) เพือ่ สรางสรรคบ ทความวจิ ัย ในรปู แบบจติ รกรรม โดยใชเทคนคิ องิ คเจท็ สีน้ำ และสอี ะครลิ คิ บนผา ใบ โดยการสรางโลก
จำลอง ภาพเสมือนจากจินตนาการถึงคนในครอบครัวอันเปน ที่รกั โดยการศกึ ษาทฤษฎีความรัก ความผูกพัน 3) เพื่อกระตนุ
เตอื นใหเหน็ ถงึ คุณคาของความรกั ความผกู พนั ของสถาบันครอบครวั อนั เปน พื้นฐานสำคญั ของชีวติ มนุษย
ผลการศกึ ษาพบวาการสรางสรรคบ ทความวจิ ัยดวยเทคนคิ จิตรกรรมนั้น สามารถถา ยทอดความรสู กึ ไดดีเพราะการ
ใชสีนบั เปน สอื่ ทถี่ ายทอดอารมณไดตรงตามแนวคิด การศกึ ษาทฤษฎที ่มี คี วามสำคัญท่ีทำใหผูวิจัยเลือกนำเอาความรูสึกรักมา
ถายทอดดว ยสที ีอ่ อนเบา เปนการใชส ีหลายประเภทผสมผสานกนั จนเกิดเปนบรรยากาศคลา ยภาพฝนสอดคลองกบั จินตนาการ
ในการสื่อสารรูปทรงที่จัดวางแบบลอ งลอยไมคำนึงถึงความถูกตอง บทความวิจัยฉบับนี้ไดเปนการจำลองความรูสึกรักและ
คดิ ถงึ ไดอยางลงตัว พรอมกนั นนั้ ผลงานยงั เตอื นใหผ ูคนเหน็ ถงึ คณุ คา ของครอบครวั อนั เปนสง่ิ ที่มีคา ทสี่ ุดในชีวิตท่คี วรดแู ล
คำสำคัญ: ความรัก, ความผูกพนั , ครอบครวั , สายใยรกั , ความอบอุน
ABSTRACT
The main objectives of this thesis are: 1) to create painting artworks on the theme “The Imagination of
Love in the Family,” which expresses love, relationship, remembrance, yearning, and warmth based on the
theory of nostalgia, the theory of love and relationship, the theory of dream and imagination, and color
psychology; 2) to conduct a research on painting using inkjet, watercolor, and acrylic techniques on canvas and
recreate a picture of her beloved family in a virtual world based on the theories of love and relationship; 3) to
encourage people to realize the value of love and relationship in the family, which is a fundamental aspect
of human life.
Results of the thesis revealed that revealed that using painting techniques allows for a better expression
of feelings because colors can be manipulated to convey a diverse range of emotions. The theories of nostalgia,
love and relationship, led to the choice of soft colors. The theory of dream and imagination led to the idea of
freely – without regard for accuracy – combining colors in various hues and weights to create a dreamlike
162
atmosphere. This study perfectly simulates the feelings of love and nostalgia to remind everyone of the value
of family, the most valuable thing in life that should be preserved.
KEYWORDS: Love, Relationship, Family, Bond of Love, Warmth
บทนำ (Introduction)
1. ความเปนมาและความสำคญั ของปญหา
จากสภาวการณในปจจุบัน สังคมมคี วามเปลีย่ นแปลงไปมาก ตามกระแสการเคลื่อนตัวของเทคโนโลยี ท่ีมีความ
เจรญิ รุดหนาอยางไมห ยดุ นง่ิ เมืองหลวงกลายเปน เมืองแหง การเก็บเก่ยี วเพ่อื หาผลประโยชน และเปนลทู างในการหาเงิน หา
อาชพี ซ่งึ ผวู จิ ยั เองนนั้ กเ็ ปนคนหนง่ึ ทมี่ คี วามจำเปนที่ตองจากบานอันเปนที่รักในจังหวัดจันทบรุ ี เพื่อเขามาทำงานหาเลี้ยงชีพ
ในเมอื งกรุง เมอื งทีเ่ ตม็ ไปดวยผคู นมากหนา หลายตา ตา งคนตา งใชชวี ิต เรงรีบ พบและรูจกั กันแบบฉาบฉวย ไมมีความลึกซึ้ง
และผูกพนั ทางใจกัน จากปญหาดงั กลา วทำใหผ ูว จิ ยั เกิดความรูส กึ เหงา เควง ควาง ทา มกลางผคู นมากมาย แตก ็ยงั รูสกึ เหงาทกุ
ครง้ั ที่กลับมาถงึ หอ งเลก็ ๆ ท่ใี ชช วี ติ อยเู พียงลำพงั ความเหงากป็ รากฏตวั ข้ึน ภาพอดีตตาง ๆ เสยี งหวั เราะ รอยยม้ิ ของพอ แม
พี่ นอง กล็ อ งลอยขน้ึ มาในความทรงจำ หลายครั้งเฝา ถามตัวเองวา ฉนั มาทำอะไรทน่ี ่ี ทีน่ ่ไี มใชบ านของฉัน เมื่อเกิดความทุกข
ในทุก ๆ ครั้ง ทางออกเดียวที่จะปลดปลอยความเหงา เศรา คือการหลับตา และหวนคำนึงถึงชวงเวลาที่ไดอยูกับครอบครัว
สอดคลองกับแนวคิดของซกิ มันด ฟรอยด (ลัญฉนศักดิ์ อรรฆยากร, 2551 : 221) ที่กลาวไววา เมื่อใดมีความทุกขมนุษยจะ
คนหากลไกปองกันทางจิต เพื่อปกปองตนเองจากความเจ็บปวด กลไกนั้นคือ การสรางฝนในอากาศ โดยชองทางผาน
จินตนาการผสานกบั ความทรงจำก็จะเกิดเปน ภาพ ที่สามารถเยียวยาความคิดถึง ความโหยหา และกอเกดิ เปน กำลังใจไดอกี
ทางหนึ่ง บทความวิจยั ฉบับน้ีเปนการกระตุนเตือนใหผูคนเหน็ ถงึ คณุ คา ของความรกั ความอบอนุ ของสถาบันครอบครัว อันเปน
พน้ื ฐานสำคญั ของชีวติ มนุษย
1.1 วัตถปุ ระสงคข องบทความวจิ ัย
1.1.1 เพื่อสรางบทความวิจยั ในหวั ขอ “จนิ ตนาการสายใยรกั แหงครอบครัว” ที่แสดงออกใหเ ห็นถึง ความ
รัก ความผกู พนั ความคดิ ถงึ ความโหยหา ออ มกอดอันอบอุน
1.1.2 เพื่อสรางบทความวิจัย ในเทคนิคจิตรกรรม อิงคเจ็ท สีน้ำ และสีอะคริลิคบนผาใบ โดยการ
สรา งโลกจำลอง ภาพเสมือนจากจินตนาการถึงคนในครอบครวั อันเปนทีร่ กั โดยการศกึ ษาทฤษฎีความรัก ความผูกพัน
1.1.3 เพื่อกระตุนเตือนใหเห็นถึงคุณคาของความรักความผูกพันของสถาบันครอบครัวอันเปนพื้นฐาน
สำคญั ของชีวิตมนษุ ย
1.2 คำถามในการสรางสรรค
การสรางสรรคบ ทความวจิ ยั ทีแ่ สดงใหเห็นถึงจินตนาการสายใยรักแหงครอบครวั ในเทคนคิ จติ รกรรม ใหเ ห็นถึง
คุณคา ของความรกั ความผูกพนั ของสถาบนั ในครอบครวั ไดห รอื ไม
1.3 ขอบเขตการสรางสรรค
เพื่อดำเนินการสรางสรรคผลงานจิตรกรรม หัวขอ “จินตนาการสายใยรักแหงครอบครัว” เปนเรื่องราวจาก
จินตนาการแหง โลกท่เี ต็มไปดวยความอบอุน โดยเลอื กใชส ัญลักษณของผาหม ทีม่ าหอ หุม รางกาย ภาพถา ยครอบครวั และของ
ใชตา ง ๆ เชน กานำ้ ชา แกวนำ้ ชา ถุงชงกาแฟ ฯลฯ ใหเ กดิ ความรูส ึกอบอุนใจคิดถึงเร่ืองราวประทับใจในอดีต ดังรายละเอียด
ตอ ไปนี้
163
1.3.1 เพื่อสรางสรรคบทความวิจัยหัวขอ “จินตนาการสายใยรักแหงครอบครวั ” สาเหตุมาจากการทีเ่ รา
ตางสูญเสยี ศรัทธาตอ ความเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตในกระแสหลักจนอยากถอยหลงั ยอนเวลากลบั ไปหาอดีตทีส่ ุขสงบ ครอบครัว
พอ แม
1.3.2 เพื่อสรางสรรคเทคนิคในรูปแบบจิตรกรรม เปนการใชเทคนิครวมกันของ อิงคเจ็ท สีน้ำ และสี
อะคริลิค
1.3.3 ตองการสรางบทความวิจัยและผลงานเพื่อแสดงใหถึงมุมมอง ความคิดถึง โหยหาความรักความ
อบอุน จากครอบครัว ทคี่ นในสังคมอาจหลงลืมและมองไมเหน็ ถึงความสำคญั ตอคนในครอบครวั
นอกจากนี้บทความวิจัยชุด จินตนาการสายใยรักแหงครอบครัว จะนำเสนอผลงานออกสูสาธารณะเพื่อ
เปน การสรางสรรคความเคลื่อนไหวใหแกวงการศลิ ปะรวมสมัยโดยมีจุดประสงคเพื่อกระตุนเตือนใหผคู นหันกลับมาสนใจ และ
เอาใจใสครอบครัวใหมากขึ้น กิจกรรมที่คาดวาจะดำเนินการ ไดแก จัดนิทรรศการศิลปะออนไลน และนิทรรศการ 3D
ของสถาบัน การศึกษาทางดานศิลปะ นำเสนอผลงานผา นสื่อสาธารณะตาง ๆ นำเสนอในรูปแบบของวิทยานิพนธ บทความ
วชิ าการในฐาน TCI ในระดับชาติ
1.4 ข้ันตอนการสรางสรรค
การสรางสรรคบทความวิจัยผลงานทัศนศิลปในหัวขอ “จินตนาการสายใยรักแหงครอบครัว” ประกอบดวย
การศึกษาคนควา ขอมูลทางวิชาการทัง้ จากตำราและศึกษาดูผลงานท่ีเกี่ยวของที่มีเนือ้ หาจินตนาการสายใยรกั แหงครอบครวั
เพอื่ รวบรวมเปนภาพรวมของขอมลู พื้นฐานเรื่องเหตกุ ารณที่ทำใหเกิดความสุข ทง้ั จากอดีตถงึ ปจจบุ ัน จากการศึกษาหนังสือ
ตำรา อินเตอรเนต็ และการศกึ ษาดูงานจากผูเชี่ยวชาญ รวมถึงศึกษาจากผลงานและแนวคิดจากศลิ ปนที่สรางผลงานดังกลาว
ข้ันตอนการศึกษาและการสรางสรรคจะเร่มิ ข้ึนจากการศกึ ษา เพ่ือนำเสนอผลงานหัวขอ “จนิ ตนาการสายใยรักแหง ครอบครัว”
ทีส่ มบรู ณใ นฐานะผลงาน บทความวจิ ัย โดยสามารถจดั แบง ขั้นตอนการศึกษาและสรางสรรคไ ดดังตอไปนี้
1.4.1 ศึกษาเอกสารทางวชิ าการ
1.4.1.1 ทฤษฎีภาวะโหยหาอดีต
1.4.1.2 ทฤษฎีความรกั ความผูกพัน ทฤษฎีความรู
1.4.1.3 ทฤษฎีเกย่ี วกับความฝน และจินตนาการ
1.4.1.4 ขอมูลทางวิชาการเรือ่ ง “ศิลปะแฟนตาซ”ี (Fantasy Art)
1.4.1.5 ขอ มูลทางการสรา งสรรค เรื่อง “จติ วทิ ยาสีกบั ความรสู ึก”
1.4.2 เกบ็ ขอ มูลจากศิลปนทีไ่ ดรับแรงบันดาลใจทัง้ จากศิลปน ไทยประกอบดว ย ดวงหทัย พงศประสทิ ธ์ิ,
สุวรรณี สารคณา และศลิ ปนตา งประเทศ ไดแก มารก ชากาล (Marc Chagall), กุสตาฟ คลิมต (Gustav Klimt), อายานา โอ
ตาเกะ (Ayana Otake) ,โชอจิ ิ โอคมุ รู ะ(Shoichi Okumura)
1.4.3 เรยี นรเู ทคนคิ ในการสรางสรรค
1.4.3.1 ศกึ ษาเทคนคิ ทางจติ รกรรม องิ คเจท็ สนี ำ้ และสอี ะคริลิคบนผา ใบ
1.4.3.2 ศกึ ษาเทคนคิ การจัดองคประกอบศลิ ป
1.4.3.3 ศกึ ษาจติ วทิ ยาของสี
1.4.4 ศึกษาและทดลองการตดิ ตงั้ ดวยเทคนิควิธกี ารดังตอไปน้ี
1.4.4.1 ตดิ ตั้งกบั ฝาผนงั
1.4.4.2 รูปแบบและวธิ กี ารนำเสนอ
164
1.4.5 วเิ คราะหขอมูลอยา งเปนระบบเพ่ือนำมาวิเคราะหเปนภาพรา งของผลงานทต่ี รงตามวตั ถุประสงคใน
การสรางสรรค
1.4.6 สรางสรรคผลงานจรงิ ตามภาพรา งในแบบเทคนิคจิตรกรรม
1.4.7 เสนอเรยี บเรียงผลงานการคนควา ในรูปแบบของงานวจิ ยั สรา งสรรค
1.4.8 นำเสนอบทความวจิ ัย “จินตนาการสายใยรักแหง ครอบครวั ” ในพื้นทีส่ าธารณะ หอศิลป
1.5 วธิ ดี ำเนินการสรา งสรรคบทความวิจัย
1.5.1 ศึกษาขอมลู ที่ไดจ ากประสบการณจ ากสภาพแวดลอมนำมาวเิ คราะหจนเกดิ เปนแนวคิดสุนทรียภาพ
ของ จนิ ตนาการสายใยรักแหงครอบครัว การสรา งภาพรา งผลงาน ในการสรา งสรรคผ ลงานบทความวจิ ัย
1.5.2 ศึกษาขอมูลจากศิลปนที่ทำการศึกษา ประกอบไปดวย ศิลปนไทยประกอบดวย
ดวงหทัย พงศป ระสทิ ธิ์, สวุ รรณี สารคณา และศิลปน ตางประเทศ ไดแ ก มารก ชากาล(Marc Chagall), กุสตาฟ คลิมต
(Gustav Klimt), อายานา โอตาเกะ (Ayana Otake) ,โชอจิ ิ โอคมุ ูระ(Shoichi Okumura)
1.5.3 ศึกษาทฤษฎี กำหนดกรอบทฤษฎี เพื่อใชในการวิเคราะหผลงานใหตรงตามแนวคิดมากที่สุด ตาม
ทฤษฎีดังตอไปนี้ ขอมูลศิลปะ ทฤษฎีภาวะโหยหาอดีต, ทฤษฎีความรักความ ผูกพัน ,ความฝนและจินตนาการ ,ขอมูลทาง
วิชาการเรื่อง “การกอด” ,ขอมูลทางวิชาการเรื่อง “ศิลปะแฟนตาซี” (Fantasy Art) ,ขอมูลทางการสรางสรรค เรื่อง
“จิตวิทยาสีกบั ความรูสึก”และนกั ทฤษฎรี วมถึงนกั ปรัชญาระดับโลกท่ีไดรับการยอมรับ เพือ่ นำมาพัฒนา ตอยอดความคิดให
เกดิ เปนผลงานทม่ี ลี กั ษณะเฉพาะตัว
1.5.4 สรางภาพรา ง (Sketch) ใหตรงตามแนวความคดิ สนุ ทรียภาพ
1.5.5 นำภาพรางมาวิเคราะหวิจารณ โดยคณาจารยผูทรงคุณวุฒิทางดานทัศนศิลปเพือ่ ใหผลงานมีการ
พัฒนาการ ในการสรา งสรรคผ ลงานใหม คี ณุ ภาพ
1.5.6 ทำการสรางสรรคบทความวิจัยผลงานจริงดวย กระบวนการเทคนิคจิตรกรรม เปนเรื่องราวจาก
จินตนาการสายใยรักแหง ครอบครวั
1.5.7 นำผลงานเขารบั การประเมิน จากผูทรงคณุ วุฒิดานทัศนศิลป และผลงานมคี ณุ ภาพในระดบั ทีน่ า พอใจ
1.5.8 ทำการวิเคราะหกระบวนการสรา งสรรคผลงานอยางเปนระบบขั้นตอนในรูปแบบเอกสาร บทความ
วจิ ัย และผลงานสรางสรรค
1.5.9 เพือ่ นำผลงานที่เสร็จสมบูรณ เผยแพรออกสสู าธารณะชนในรูปแบบของนิทรรศการ สจู ิบตั ร ส่ือ
ส่งิ พมิ พ และสื่อออนไลน
1.6 สมมตุ ิฐานบทความวจิ ัย
สามารถสรางสรรคบทความวิจัยผลงานที่แสดงออกถึงจินตนาการสายใยรักแหงครอบครัว อันแสดงออกถึง
ความอบอุน ความรกั ความผกู พนั ของครอบครัว ผานเทคนิคจติ รกรรม ไดหรือไม
บทความวิจัยในชุด “จินตนาการสายใยรักแหงครอบครัว” นั้นเปนการสรางสรรคที่จำเปนตองการศึกษา
ทางดานแนวคดิ เทคนคิ วธิ นี ำเสนอ รวมท้งั แนวความคดิ ทฤษฎที างสนุ ทรียศาสตรแ ละนกั ปรัชญาทม่ี ีแนวคิดสอดคลอง กบั การ
สรางสรรคบ ทความวจิ ยั ผลงานในชุดน้ี และจำเปน ตอ งทำการศึกษา ผลงานของผวู ิจัยท่ีสรา งสรรคผลงานในรปู แบบและวธิ กี าร
ตางๆ นำมาวิเคราะห เพ่ือใหเปน ลกั ษณะเฉพาะของศลิ ปน รวมทัง้ เทคนิคท่มี คี วามนาสนใจ และสามารถนำมาตอยอดพัฒนา
ทางความคดิ ใหกบั ผูวิจยั ดงั ตอไปน้ี
“ครอบครวั ” เปนพน้ื ฐานทส่ี ำคญั ท่สี ดุ อนั ดับแรกของชีวติ มนุษย เพราะครอบครัวเปนที่ หลอ หลอม กลอ มเกลา
อบรม ดวยความรกั ความเอาใจใส ใหอยูใ นกรอบแหงศลี ธรรมในบรบิ ทของสงั คม จากสภาวการณในปจจบุ ัน ครอบครัวขยาย
165
กลายเปนครอบครัวเดีย่ ว ที่มีเพียง พอ แม ลูก และไมมีเวลาใหกัน จนทายที่สดุ เกิดชองวางระหวางคนในครอบครวั จากที่
กลาวมานัน้ ตัวผูสรางสรรคเอง ก็เปนบุคคลหน่ึงที่ตองจากบานมาใชชวี ิตอยูเพียงลำพังในเมืองใหญ ทำใหเกิดความคิดถึง
บานคิดถึง พอแม พี่นอง ที่เคยใชชีวิตรวมกันมา แมความจำเปนจะบีบคั้นใหตองจากบานมา แตผูวิจัยก็พยายามปลอบใจ
ตนเองดว ยการหลับตาหวนคิดคำนงึ ถึงชว งเวลาทแ่ี สนสขุ อบอุนในออ มกอดของพอ และแม เพอื่ เตมิ เต็มความคิดถงึ ความโหย
หาออ มกอดของครอบครวั จากสง่ิ ท่ีกลา วมา จึงมคี วามจำเปน ท่ตี องทำการศกึ ษาขอ มลู ท่ีเกย่ี วขอ งดังตอ ไปน้ี
- ทฤษฎภี าวะโหยหาอดตี (Nostalgia)
- ทฤษฎีความรกั ความผูกพัน
- ทฤษฎเี กี่ยวกบั ความฝน และจนิ ตนาการ
- ขอ มูลทางวชิ าการเร่อื ง
“ศิลปะแฟนตาซี” (Fantacy Art)
- ขอมลู ทางการสรางสรรค เรือ่ ง
“จติ วทิ ยาสกี บั ความรสู กึ ”
ศิลปนศึกษา ดวงหทัย พงศประสิทธิ์, สุวรรณี สารคณา ,มารก ชากาล (Marc Chagall) ,กุสตาฟ คลิมต
(Gustav Klimt) ,อายานา โอตาเกะ (Ayana Otake) ,โชอจิ ิ โอคมุ ูระ(Shoichi Okumura)
เนือ้ หา (Content)
วธิ กี ารศกึ ษา
บทความวิจัยชุด “จินตนาการสายใยรักแหงครอบครัว” ผูวิจัยไดรับความรักความอบอุนในวัยเยาว ที่มีทั้งสุขและ
ทุกขมาจากครอบครัว แตใ นปจจุบันท่ีผูสรา งสรรคต อ งออกมาใชช ีวิตในเมืองใหญทำใหก ารแสวงหาความสุขจากสังคมน้ันเปน
เรอ่ื งยาก ทุกวันตอ งเผชญิ กับความกลัวทจ่ี ะไมม ีคนยอมรับ ความไมม ตี วั ตอ สงั คม ทำใหผูวิจัยตอ งการหลกี หนีสภาวะท่ีตนเอง
ตองแบกรับปญญาหาตางๆ มากมายที่ไมสามารถหลีกหนีได ทำใหผูวิจัยตองการแสวงหาความสุขแบบที่เคยไดรับมาจาก
ครอบครัวที่อยูหางไกล การที่ไมสามารถกลับบานไปหาครอบครัวอันเปนที่รักได ทำใหเกิดการคิดถึง และอยากยอนเวลา
กลบั ไปในชวงเวลาอันแสนอบอุนนนั้ การหลบั ตาและจนิ ตนาการนึกถึงภาพความทรงจำในอดีตอาจเปนหนทางท่ีทำใหจิตใจมี
ความสุขกับการอยใู นความทรงจำแมเพยี งชั่วปจจุบันขณะ กส็ ามารถเยียวยาจิตใจใหห ลุดพนจากความเศราความคิดถึงไดไม
มากก็นอย สอดคลอ งกบั แนวคิดของ ทฤษฎีภาวะโหยหาอดีต (Nostalgia) ท่ีกลาวไวว าความรูส กึ คิดถงึ และโหยหาบรรยากาศ
เดิมหรือความคุนเคยแบบในอดีต รวมถึงความรูสึกเหงา เศรา เซื่องซึม การรำลึกถึงความทรงจำในอดีตนั้นที่เกี่ยวพันกับ
ปจ จุบนั และอดตี และเรม่ิ กลบั มาคดิ ถงึ สังคมอันเรยี บงาย อบอนุ ในชนบทอีกครัง้ ระลกึ ถงึ ความรักความผูกพัน เม่ือคร้ังยังวัย
เยาวท่อี ยกู ับครอบครวั ซ่ึงนำไปสคู วามมุงมน่ั พยายาม การแกป ญหาอยางมีประสิทธิภาพ การประสบความสำเร็จในดา นตา ง ๆ
ความเห็นคณุ คาตนเอง การมสี ขุ ภาพท่ีดี ไปจนถึงการมชี ีวิตท่ียนื ยาวและปราศจากความทุกขท างใจ จากท่ีกลาวมานั้นผูวิจัย
เปนผูที่มีความคิดอยากนำความทรงจำที่ไดรับมาจากประสบการณตาง ๆ ในชีวิตของตัวเอง มุมมองในแงดีมาสรางสรรคใน
บทความวิจัยที่แสดงถึงรูปลกั ษณล ักษณะของความคดิ ถึง หวงคำนงึ หาครอบครัว
1. ความเปนมาแนวคดิ แรงบันดาลใจ
จากสภาวการณในปจจบุ นั สังคมมีความเปลี่ยนแปลงไป จากครอบครัวขยายกลายเปนครอบครัวเดี่ยว พอ แม ลูก
ไมมีเวลาใหกัน อันเกิดจากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ภาระหนาที่ สภาพแวดลอม ลวนแตเปนปจจัยสำคัญที่กระตุนใหเกิด
ปญ หาสงั คมขาดรกั ความอยากได อยากมี ที่กอ เกดิ เปน ปญ หาสงั คม ในวงกวาง ปญหาดงั กลาวทำใหผ ูวิจัยตองการสรางสรรค
ผลงานบทความวิจัยทแี่ สดงออกใหเห็นถึงมมุ มองทผี่ ูวจิ ยั มีตอ ครอบครัว ความคิดถึง อนั เปน ผลมาจากการตองพลัดพรากจาก
166
บา นเกดิ เพอื่ มาใชช ีวิตทำงานเลีย้ งชพี ในกรุงเทพ ทเ่ี ต็มไปดวยสภาวะกดดัน เรง รีบ ซงึ่ ผดิ ไปจากวิถชี ีวติ เดิมที่ผูวิจัยเติบโตมา
ดงั นนั้ จากภาวะคดิ ถงึ บาน ความโหยหาออ มกอดของครอบครัว ตามทฤษฎขี องซกิ มนั ด ฟรอยด วา ดว ยเร่ืองการสรา งวมิ านใน
อากาศ จงึ มีสวนชว ยเตมิ เตม็ ชองวางทางความรูสกึ ใหผ ูส รา งสรรคเ ต็มอิม่ ข้นึ ทกุ ครัง้ ทีห่ ลบั ตาคดิ ถงึ บา นทีม่ ีแม มีครอบครัวที่รัก
และอบอุน จึงชวยเตมิ เต็มความรสู ึกใหก บั ตนเอง ในการใชผา หม รางกายเพอื่ ใหผ ูวิจัยเกิดความรสู ึกอบอุน ท้งั ทางรางกายทาง
จติ ใจ และนอนหลบั ฝนถึงความสขุ ความคิดถงึ จากครอบครัวดังน้ันจากแนวคดิ ดงั กลาวของผูวิจยั จงึ เลอื กทจ่ี ะบันทึกเรื่องราว
ท่ีประสบพบเจอที่มีท้ังสขุ และทุกขจ ากประสบการณชวี ิต ผวู จิ ยั จงึ เลือกหยิบประสบการณตาง ๆ นั้น มาสรา งสรรคบทความ
วิจัยใหเปนการจินตนาการที่มีทั้งความสุขใจ และสบายใจภายในประสบการณของผูวิจัยที่ไดรับผานกระบวนการเทคนิค
จิตรกรรม
1.2 ขอมลู ในการสรา งสรรคผ ลงานบทความวิจยั
1.2.1 ขอมลู จากประสบการณต รงของผวู ิจัย
1.2.1.1 แรงบันดาลใจจากครอบครัว
ครอบครัวคือสถาบัน เปนสถาบันแรกของพื้นฐานชีวิตมนุษย การสรางความสุขแรกเริ่มที่ไดรับจาก
ครอบครวั จึงมีความสำคัญมาก เพราะเปนรากฐานใหกบั การดำเนินชีวิต วธิ ีคิด ท่หี ลอ หลอมใหคนเปนคนดี จากการอบรมส่ัง
สอน เพื่อใหลูกเปนคนดีมคี ุณภาพออกสูสังคม ซึ่งในวัยเด็กของผูวิจัยนั้นก็มีความทรงจำที่ดี ที่ไดรับความสุขจากครอบครวั
ผวู ิจัยจึงแสดงออกถึงความรกั ความอบอุน ทเี่ ก็บบันทกึ ในความทรงจำ ดังจะเห็นไดจากภาพขอ มลู ตอไปนี้
1.2.2 การหาขอมลู จากเอกสาร
1.2.2.1 หอสมุดกลาง มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร
การหาขอมูลสำหรับทำงานสรางสรรคผลงานบทความวิจัยชุด “จินตนาการสายใยรักแหงครอบครัว”
ผูวิจยั ตองมีการคน ควาขอ มลู ทางทฤษฎตี าง ๆ จากตำราวชิ าการ ทง้ั หนังสอื ส่ิงพิมพ รวมท้งั ผลงานวทิ ยานิพนธงานวิจัยทาง
การแพทยเ ร่อื งตาง ๆ เพ่ือใชเปนตนแบบในการนำทฤษฎี มาพัฒนาเปน แนวความคิด และดังแปลงเปนบทความวจิ ยั
1.2.2.2 ขอมลู จากแหลงหนังสอื และเอกสารทางวิชาการ
ผวู จิ ยั ทำการศึกษาคน ควา ขอ มูลจากหนังสอื และเอกสารทางวิชาการตาง ๆ เพื่อนำขอมูลดังกลาวมาสรุป
องคความรู Sigmund Freud จิตวิทยาในความฝน ,ปรัชญาทั่วไป ,การรับรูและจินตภาพ ,องคประกอบของศิลปะ ,
สนุ ทรยี ศาสตร หลกั ปรัชญาศิลปะ ทฤษฎที ศั นศลิ ป ศิลปะวจิ ารณ
1.2.2.3 ขอ มูลจากอนิ เตอรเนต็
ผวู จิ ัยทำการศกึ ษาขอมลู ทางดา นทฤษฎี จากบทความทางวชิ าการ เอกสารออนไลนตาง ๆ ตลอดจนภาพ
ผลงานศิลปะ ศิลปน ไทย และศลิ ปน ตางประเทศ
จากการศึกษาและวเิ คราะหข อมลู ทีท่ ำการศึกษาเบื้องตน อนั ประกอบไปดว ยขอมลู ทางภาคทฤษฎี ขอมูล
ทางภาคปฏบิ ตั ิ และขอ มูลของศลิ ปน ท่ที ำการศึกษา ดงั คำกลา วขา งตน ผสู รางสรรคส ามารถพฒั นาแนวคดิ ท่มี ลี ักษณะเฉพาะตน
1.2.2.4 ขอมูลจากการศึกษาและดูงานที่หอศิลปวัฒนธรรมแหงกรุงเทพมหานคร และหางสรรพสินคา
พารากอน
ผูวจิ ยั ทำการศกึ ษาขอ มลู ทางดานทฤษฎเี กี่ยวกบั ศิลปะ จากการแสดงผลงานศิลปะ ณ หอศิลปวัฒนธรรม
แหง กรุงเทพมหานคร และหางสรรพสินคา พารากอน
1.2.3 การสรา งสรรคผ ลงานบทความวจิ ัย
ชือ่ งาน “My Dream”
การสรา งสรรคผลงานบทความวจิ ยั เรื่อง My Dream แนวคิดมาจากการที่ผูวิจัย เหนด็ เหนือ่ ยจากการทำงานใน
หนาที่ ทำใหเมื่อกลับมาถึงบานที่อยูคนเดียว ภาวะหนึ่ง ก็เกิดขึ้นคือ ภาวะคิดถึงบาน (Homesick) โหยหาความรัก ความ
167
อบอุนจากครอบครัว ทปี่ ระกอบไปดว ยพอ แม ลูก พ่ี นอง ผูวิจยั ไดจ นิ ตนาการถึงชว งเวลาแหง ความสขุ จากอดีต โดยใชผาหม
เปน ส่อื สญั ลักษณหม คลุมรา งกายเพื่อความอบอนุ แทนออ มกอดของพอ แม
เทคนิคในการสรางสรรคบทความวิจัย ผลงานจิตรกรรม อิงคเจ็ท, สีน้ำ, สีอะคริลิค บนผาใบซึ่งผูวิจัย มีความ
คิดเห็นวาผลงาน ยังลงสีบางเกินไปทำใหขาดความลงตัวในเรื่องการใชสี ผูวิจัยจึงจำเปนตองคนควา หากระบวนการทาง
เทคนิคในการระบายสีเพอื่ ใหสมี คี วามแนนและไดค วามรูสกึ ตรงตามแนวคิดมากที่สดุ รวมถงึ การออกแบบลวดลายของผาท่ียัง
ไมส อ่ื ความหมายได
ขั้นตอนการสรา งสรรคบทความวิจัย
1. ขั้นตอนการสรางสรรคผลงานบทความวิจัย ชื่อผลงาน “My Dream” การถายภาพผูวิจัยเปนแบบในลักษณะ
ทา นอน ทา ทางในอิรยิ าบถตา งๆ สำหรบั ทดลองการวางองคป ระกอบกอนการสรา งภาพรางชิ้นงานจรงิ เพือ่ แสดงถึงความเหงา
ความคดิ ถงึ บา น
2. การใชโ ปรแกรม AdobePhotoshopCC ในการแตง ภาพเพ่ือเปล่ยี นสีภาพดานหลงั ผลงาน และพมิ พอ งิ คเ จท็ บนผา ใบ
3. ขัน้ ตอนการรางภาพ(Sketch)เพือ่ หาลวดลายดองไมผ ลงานบทความวิจัย ช่อื ผลงาน “My Dream”
4. ขน้ั ตอนการสรางสรรค ผลงานบทความวิจัย ช่อื ผลงาน“My Dream”
- การรา งภาพ และการลงสบี นผาใบ
ผลการศกึ ษา/ทดลอง (Results)
บทความวิจัยชุด “จินตนาการสายใยรักแหงครอบครัว” ที่แสดงออกใหเห็นถึง ความรัก ความผูกพัน ความคิดถึง
ความโหยหา ออมกอดอันอบอุนนี้ ผูสรางสรรคไดสรางสรรคผลงานดวยเทคนิคจิตรกรรม สีน้ำ สีไม สีอะคริลิคบนผาใบ
โดยการสรางโลกจำลอง ภาพเสมอื นจากจนิ ตนาการถงึ คนในครอบครวั อันเปนท่ีรัก โดยการศึกษาทฤษฎีความรกั ความผูกพัน
เพื่อกระตุนเตือนใหเห็นถึงคุณคา ของความรักความผูกพันของสถาบนั ครอบครัวอันเปนพืน้ ฐานสำคญั ของชวี ติ มนษุ ย
จากที่กลาวมานัน้ ผูวิจัยไดทดลองคนควากระบวนการคิด กระบวนการสรางสรรคอยา งเปนระบบ เพื่อสรางสรรค
ผลงานบทความวจิ ัยข้ึนมาจากประสบการณ สงผลใหเกดิ บทความวจิ ัยทีม่ คี วามเฉพาะตัวตรงตามแนวคิดมากที่สุด รวมถึงการ
นำเสนอผลงานวิจัยที่แสดงออกถึงคุณคาความงามของ “ครอบครัว” เปนพื้นฐานที่สำคัญที่สุดอันดับแรกของชีวิตมนุษย
เพราะครอบครวั เปน ที่หลอหลอม กลอ มเลา อบรม ดว ยความรกั ความเอาใจใส ใหอยใู นกรอบแหงศีลธรรมในบริบทของสังคม
1. สรปุ แนวความคดิ ในการสรา งสรรคบ ทความวิจยั
ครอบครัวเปนที่หลอหลอม กลอมเลา อบรม ดวยความรักความเอาใจใส ใหอยูในกรอบแหงศีลธรรมในบริบทของ
สงั คม จากสภาวการณใ นปจจุบันผวู ิจัยเคยมวี ิถีชวี ิตท่ีเกดิ และเตบิ โตอยูใ นจงั หวดั จันทบุรีจำเปนตองเขา มาศกึ ษาตอในกรุงเทพ
ซึง่ เปนเมืองใหญ มผี ูค นมากมาย แออัดยดั เยยี ด แกงแยงแขงขนั จงึ นำมาซงึ่ ความเหงา โดดเดีย่ ว อา งวางเวลาเกดิ ปญหาในชีวิต
ไมสามารถหันหนาไปปรึกษาใครไดจึงเปนแรงบันดาลใจใหสรางสรรคผลงานที่แสดงออกถึงความคิดถึง โหยหาอดีต
อยากยอนกลับไปหาความอบอุนทีเ่ คยไดรับในวัยเด็ก โดยการสรางสรรคบทความวิจัยผลงานที่มีบรรยากาศสีออนบาง เบา
สบาย ดวยภาพความทรงจำที่เลอื นราง มีเพียงภาพคนในครอบครัวที่เปนทร่ี ักพรอมหนา เพียงรูสึกเทานี้ก็อ่ิมเอมใจและผาน
พนปญหาไปไดด ว ยใจทมี่ ีความหวัง หวังวา สักวนั จะไดก ลบั ไปสู ออมกอดครอบครัวอีกครง้ั
1.1 สรุปการสรา งสรรคตามกรอบทฤษฎี
การทำบทความวิจัยฉบับน้ีไดรับแรงบันดาลใจมาจากการที่ผูสรางสรรคมีวิถีชีวิตอาศัยอยูในเมืองใหญ ทำใหเกิด
ความเหงา คิดถงึ บาน ภาวะโหยหาอดีตนีส้ อดคลองกบั แนวคดิ ตามทฤษฎีภาวะโหยหาอดีต(Nostalgia) อันแสดงถึงความโหย
หาสิ่งท่ีผานเลยไปตามการเวลาทั้งยังเปนสิ่งที่ยงั คงอยูห รือส่ิงท่ีสูญหายไปแลว ก็ยังสามารถหวนคิดคำนึงถึงได ชองทางทีจ่ ะ
168
สอ่ื สารระหวางอดตี กับปจ จุบันคือจินตนาการเพราะมนุษยอ าศัยชอ งทางจนิ ตนาการในการปลดปลอยอารมณท่ีขางคางภายใน
จติ ใจอนั เกิดจากความคดิ ถงึ เกดิ จากความรกั สอดคลอ งจากทฤษฎีความรกั และความผกู พัน สัมผสั อยใู นหวงของความรูสึกเล็ก
ๆ นับเปนสายใยแรกที่หลอเลี้ยงจิตใจอันเปนพื้นฐานที่จะบมเพาะใหตัวผูสรางสรรคเกิดและเติบโตมาเปนบุคคลเชนใด
โดยพบวา การกอด การสัมผัสใหความอบอุน เปน สงิ่ จำเปน สำหรับรา งกาย และจติ ใจ การสัมผสั เปน ภาษากายพ้นื ฐานและเปน
สิ่งท่ีมนษุ ยส ามารถทำไดทกุ คนต้งั แตเกดิ หน่งึ ในน้นั คือการกอด จากการศกึ ษาพบวา ทฤษฎคี วามฝน เปนสวนหนึ่งของมนุษย
เราทุกคนมีความสามารถท่ีจะสรา งจนิ ตนาการ อาจจะตางกนั ที่สามารถท่ีจะสรางภาพในจินตนาการขึ้นมาไดช ดั เจนแคไหน
เทานั้น โดยจะสอดคลองกับ ศิลปะแฟนตาซี (Fantasy Art) เปนศิลปะที่มีองคประกอบเกี่ยวกับการสรางศิลปะ
ท่ีมแี นวความคิดในทางเพอ ฝน เปนการสรา งรูปทรงขึ้นมาใหเ หนอื ความเปนจรงิ ทำใหผวู จิ ัยเกิดความรูสึกชื่นชอบและเกิดมี
จินตนาการความคิดสรางสรรคจากความทรงจำในอดีต นำสูการศึกษาแนวคิดเทคนิคในการสรางสรรคผ ลงานบทความวิจยั
ดวยผลงานจิตรกรรมที่ผูวิจัยนำ“จิตวิทยาสีกับความรูสึก”สรางสรรคผลงานบทความวิจัยจึงเกิดเปนการศึกษาทฤษฎีสี
สอดคลอ งกบั ความรสู กึ และอารมณตา ง ๆ ของความรัก ความอบอุน จากความทรงจำในครอบครัวอนั เปนทีร่ ัก
อภปิ รายผลการสรา งสรรคบ ทความวิจยั
การเลือกศิลปนที่ทำการศึกษานั้น ผูวิจัยไดทำการศึกษาถึงแนวคิด เทคนิค และวิธีการสรางสรรคบทความวิจัย
ของศิลปนทีม่ กี ระบวนคดิ ท่สี อดคลองรวมถงึ มีรปู แบบและกระบวนการทีผ่ ูวิจัยใหความสนใจและทำการศึกษาศิลปน ดวงหทัย
พงศประสทิ ธิ์ เปนศิลปนประเภทสอื่ ผสม (Mixed Media) ซ่งึ ศลิ ปน ไดท ำการสรา งสรรคผลงานศิลปะทไี่ ดร ับแรงบนั ดาลใจจาก
ภาวะ ความคดิ ถงึ มารดา จากการสูญเสียบคุ คลอันเปนทร่ี กั ศิลปนเช่ือวา ผลงานดงั กลาวนั้น เปน ผลงานอนั เกดิ จากการสงตรง
ผา นจติ ใจ ทท่ี ำหนา ทแี่ สดงออกความรสู กึ นึกคดิ ภายในจิตใจออกมาผานภาพเชงิ สัญลักษณ โดยศลิ ปน ไดสรา งสรรคค ออกมาใน
ลักษณะเทคนิค (Mixed Media) ดิจิตอลปริ้นและการปก การรอยใหเกิดรูปทรง บาน ตนไม ดอกไม แบบไมเหมือนจริง ซ่ึง
เปนการแสดงออกถงึ ความรักความคดิ ถึง ของลูกทีม่ ตี อแมดว ยการใชสัญลักษณทีม่ ีความทรงจำรวมกัน การใชเวลา และมิติ
ทางอารมณเพื่อการรับรูทางความรสู ึกใหมท างความรสู ึกโดยการใชพ้ืนที่วาง,ระยะของรูปทรง ,จงั หวะในการวางรูปทรง และ
การซำ้ จากท่กี ลาวมาศลิ ปน ไดมีการสรา งสรรคผลงาน ทีแ่ สดงถงึ ความรักของลูกท่ีมีตอ แม ความคิดถงึ ผานภาพความทรงจำ
และสัญลักษณที่ทำใหนึกถึงบุคคลอันเปนที่รักที่จากไป ซึ่งสอดคลองกับผลงานของสุวรรณี สารคณา ไดทำการสรางสรรค
ผลงานศิลปะที่ไดรับแรงบันดาลใจจากผลงานจิตรกรรมของศลิ ปน ท่มี คี วามโดดเดนในการถายทอดเร่ืองราววิถีชีวิตคนชนบท
อสี านบานเกดิ ของผูวจิ ัยเอง การไดรับแรงบนั ดาลใจจากเรื่องใกลตัวแลว ถา ยทอดอยางตรงไปตรงมา ทำใหเกิดความรสู กึ อ่มิ ใจ
สะเทือนใจในคราวเดียวกัน ดวยรูปทรงของสมาชิกคนในครอบครัวหรือพอแมล กู นอนโอบกอดกันบนเสื่อ ประกอบกับผา หม
ลายทอมือที่หมอยางกระจัดกระจายหากแตมีชีวิตชีวา เชนเดียว ศิลปนฝรั่งเศส มารก ชากาล (Marc Chagall) เปนศิลปนที่
สรางสรรคผ ลงานทเี่ ต็มไปดวยการใชส ัญลกั ษณไ ดร ับแรงบนั ดาลใจจากเร่ืองราวอันชวนฝน ความรักทีม่ ตี อภรรยาและครอบครัว
ของเขา ทกี่ ำลงั ลอยละลอง โบยบนิ เหนอื เมืองวเี ต็บสค (Vitebsk) ไดเ ติบโตข้ึนมา ธรรมชาตริ อบตัวในการใชว ถิ ชี ีวิตคนชนบท
ในบานเกดิ ของศิลปน เอง และรวมถงึ สงครามทีเ่ กิดขนึ้ ไปพรอ มกับความรักของศลิ ปน ทำใหเ กิดความรูสึกสุขใจสะเทือนใจใน
คราวเดียวกัน เสมือนภาพแหงความทรงจำอนั งดงามของพวกเขา ผูวิจัยไดศึกษาผลงานของกุสตาฟ คลิมต (Gustav Klimt)
เปนศลิ ปน ชาวออสเตรยี ไดท ำการสรางสรรคผลงานศิลปะทไี่ ดรบั แรงบนั ดาลใจจากเรือ่ งราวความรักความสมั พันธท่ีมีตอหญิง
ทต่ี นเองรกั ในภาพ The Kiss มีการจัดองคประกอบศิลปที่แฝงไปดว ยความผกู พันของทั้งชายและหญงิ โดยการใชผ า คลุมทำให
เกดิ ความอบอุน โดยใชล ายเส้อื คลมุ ท่ีสวมใส มีสญั ลกั ษณบ นลวดลายตา งๆ ฝา ยชาย เปนสญั ลักษณทางเรขาคณิต ฝา ยหญิงใช
ลายดอกไมซึ่งเปนตนแบบของศิลปะแนวอารต นูโวที่มชี ือ่ เสียงของออสเตรีย และยงั ใชส ีนำ้ มันผสมทองคำเปลวในงานชิ้นน้ีอีก
ดวย ซึ่งทำใหผลงานมีความหนาหลงใหล ประทับใจพรอมทั้งตื่นตาตื่นใจกับสีทองอรามในเวลาเดียวกันอีกดวย สงผลให
ผูสรา งสรรคไ ดจัดองคประกอบในผลงานเชื่อมโยงรูปทรงตาง ๆ อาชีพของครอบครัวใหใ กลเคียงกับความรูสกึ โหยหาอดีตให
169
ไดม ากทส่ี ุด และศลิ ปนชาวญี่ปุน อายานา โอตาเกะ (Ayana Otake) โดยศลิ ปน วาดภาพท่ีแสดงถงึ รูปลักษณที่เปนความงาม
ภายในของผหู ญิง ในฐานะศิลปนทสี่ รางสรรคเ นน เรอื นรางของอสิ ตรที ่ีบอบบาง บริสุทธิ์ ดวยการใชส โี ทนออนมกี ารผสมผสาน
ของสีท่ีดูแลว ออ นหวาน เปน ศลิ ปนท่ีใชใจในการตีความความงามของสตรีทนี่ า หลงใหลสวยงามและมีเสนห ศิลปน จงใจเลือกใช
ชุดกิโมโนที่ผูหญิงสวมใสในภาพวาดเปนการแสดงออกถึงความงามและจิตวิญญาณของญี่ปุน จากที่กลาวมาศิลปน ไดมีการ
สรา งสรรคผลงาน แสดงถึงความงามของหญิงสาว ตามสรีระ รา งกาย อิรยิ าบถ ทา ทางในการนอนหลบั ในการจดั องคประกอบ
ทีย่ ังคงความงามของหญงิ สาวเอาไวอยา งนา สนใจ เทคนิครายละเอียดในการเขยี นภาพอยางสมบูรณแบบ และยังใชโทนสที แ่ี ฝง
ไปดว ยความนา หลงใหล ซึง่ ทำใหต รงกับผูวจิ ัยผลงานทต่ี อ งการแสดงออกทาทางการนอนหลบั ในการจติ นาการถึงครอบครัวอัน
เปนทีร่ กั และในขณะทโี่ ชอิจิ โอคมุ ูระ (Shoichi Okumura) ศลิ ปนชาวญี่ปุน เปนศลิ ปน ท่ีถนดั ใชเทคนิคสีหมึกจนี ลงบนผาไหม
ซงึ่ การจดั องคป ระกอบทีง่ ดงามของ Shoichi Okumura ไดผสมผสานองคประกอบที่เปน รูปทรงของดอกไม พืชพรรณ ผลไม
ตนไม ธรรมชาติรอบ ๆ ตัว มาใชในองคประกอบสำคญั ทำใหภ าพดูมมี ิตนิ าสนใจมากขึ้น โดยใชโทนสีออน ท่ีแฝงไปดวยความ
อบอุนและนาสนใจ จากที่กลาวมาทั้งหมดนั้นผูวิจัยเกิดความลงตัวทั้งความคิดและกระบวนการสรางสรรค และสามารถเปน
แนวทางที่จะใชพฒั นาผลงานในลำดบั ตอไป
ภาพประกอบ (Image)
ภาพที่ 1: “Memorie of Happiness 1”
ทมี่ า: ผูว ิจยั และป พ.ศ. 2564
170
ภาพท่ี 2 : “Memorie of Happiness 2”
ท่มี า: ผูวจิ ยั และป พ.ศ. 2564
วจิ ารณแ ละสรปุ ผล (Discussion and Conclusions)
ขอเสนอแนะในการนำไปใชป ระโยชน
ผลที่ไดจากการวิจัยชุด “จินตนาการสายใยรักแหงครอบครัว” สามารถนำไปพัฒนาการสรางสรรคผลงาน
บทความวิจัยเปนผลงานศิลปะรวมสมัย และนำไปใชเปนฐานขอมูลใหกับผูสนใจตอไป ผลงานสรางสรรคในบทความวิจัยนี้
สามารถนำไปชว ยเปนแนวทางในการพฒั นาผลงานศลิ ปะทใี่ ชสัญลกั ษณข องวัตถุ นำมาสรางสรรคใ หเกิดเปนผลงานจิตรกรรม
โดยแสดงออกถงึ ความเปนศิลปะ รวมทง้ั การพัฒนาผลงานที่สามารถเลือกใชเทคนคิ ท่ีหลากหลายแสดงออกเพือ่ ใหผูคนเห็นถึง
คุณคาความงาม และเทคนิคการใชสัญลักษณ ผสมผสานกับการควบคุมสี ใหแสดงถึงความรูสึกเพื่อสรางความนาสนใจใน
รูปแบบการสรา งสรรคใหต รงตามแนวคิดมากยิ่งขึ้น จัดแสดงเผยแพร ผลงานศิลปกรรม เพื่อเปนหนึ่งในการเคลือ่ นไหวของ
ศิลปกรรมรวมสมยั ไทย ขอ เสนอแนะสำหรับการทำบทความวจิ ัยคร้ังตอ ไป ผลงานบทความวจิ ยั ชดุ “จนิ ตนาการสายใยรักแหง
ครอบครัว” ผูวิจัยสามารถนำผลงานมาพัฒนาไดดังตอไปน้ี ควรศึกษาขอมูลจากผลงานของศิลปนทั้งในประเทศและ
171
ตา งประเทศในสาขาอ่ืนๆ ท่ไี มใชเ ฉพาะผลงานศลิ ปะจติ รกรรม เพอื่ ใหเกดิ ประสบการณท ่ีแปลกแตกตา งในการรับรู จนเกดิ เปน
แนวคดิ ที่มีความรวมสมัย ทันยคุ เชนการทดลองใชวสั ดใุ นประเภทอ่นื ๆ รวมถึงแนวทางศลิ ปะจัดวางเพอื่ นำมาสรา งสรรค
บทความวจิ ยั ใหเ กิดการพัฒนาในรูปแบบศิลปะรวมสมัยมากย่งิ ข้ึนตอ งการแสดงออกใหเห็นถึงคณุ คากระตุนเตือนใหผูคนเห็น
ถึงคุณคาของความรัก ความอบอุนของสถาบันครอบครัว อันเปนพื้นฐานสำคัญของชีวิตมนุษย เพื่อสืบคนกระบวนการทาง
เทคนิคใหม ีลักษณะเฉพาะรูปแบบจิตรกรรม และสามารถคน พบแนวทางการสรางสรรคบทความวิจัยใหมท่ีไมเ คยปรากฏมา
กอนในรูปแบบสื่อผสมในแนวทางศิลปะจัดวางในรูปแบบศิลปะรวมสมัย ผูวิจัยหวังวาจะเปนประโยชนและเปนแนวทางใน
การศึกษาตอผูที่มีความสนใจในลำดบั ตอไป
เอกสารอา งองิ (References)
- ผูวิจัยใชทฤษฎีของ ซิกมันด ฟรอยด ที่กลาวไววาเมื่อใดมีความทุกขมนุษยจะคนหากลไกปองกันทางจิต เพ่ือ
ปกปองตนเองจากความเจ็บปวด กลไกนั้นคือ การสรางฝน ในอากาศ โดยชองทางผานจินตนาการผสานกับความทรงจำก็จะ
เกิดเปนภาพ ทีส่ ามารถเยยี วยาความคดิ ถึง ความโหยหา และกอ เกดิ เปน กำลงั ใจไดอีกทางหน่ึง (ลญั ฉนศักดิ์ อรรฆยากร, 2551
: 221)
การเขยี นเอกสารอา งองิ ทา ยเรอ่ื ง
พฒั นา กิตอิ าษา. (2546). มนุษยวทิ ยากับการศกึ ษาปรากฏการณโ หยหาอดตี ในสังคมรว มสมยั .
กรงุ เทพฯ: แปลน พรน้ิ ตง้ิ .
Fredric Jemeson. (1991). Postmodernism or the Cultural Logic of Late Capitalism. North Carolina:
Duke University Press.
William Kelly. (1986). Rationalization And Nostalgia: Cultural Dynamics of New Middle-Class Japan.
American Ethnologist.
การเขยี นอางอิงจากปรญิ ญานิพนธ
กฤษฎา แสงสืบชาต.ิ (2544). การศึกษาผลงานออปอารต ของ วกิ เตอร วาซารลี และทฤษฎสี ีแสงของอลั เบริ ตเอช.มนั เซลล
เพอ่ื สรางงานศลิ ปะสรางสรรค. วิทยานพิ นธป รญิ ญามหาบณั ฑิต. มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวิโรฒ,กรุงเทพมหานคร.
เนธิมา สวุ รรณวงศ. (2557). จินตนาการสว นตนกับความสขุ ทป่ี รงุ แตง . วทิ ยานิพนธห ลักสตู รปรญิ ญาศิลปมหาบัณฑติ
สาขาทศั นศลิ ปศกึ ษา บัณฑิตวิทยาลยั . มหาวทิ ยาลัยศลิ ปากร.
รวติ า ระยานิล. (2553). อิทธพิ ลของรูปแบบความผูกพนั ตอ ลักษณะนสิ ยั การใหอ ภยั : ทวโิ มเดลแขงขนั โดยมตี ัวแปลการรูซ่งึ
ของถึงความรูสึกของผูอื่นและการหมกมุนครุนคิดเปนตัวแปรสงผาน. วิทยานิพนธหลักสูตรปริญญาศิลปศาสตร
มหาบัณฑิต สาขาวิชาการจติ วิทยาสงั คม คณะจติ วทิ ยา. จฬุ าลงกรณมหาวิทยาลยั .
สัตกร วงศส งคราม. (2552). การศกึ ษาความรกั ของวัยรนุ . สารนิพนธห ลกั สูตรปรญิ ญาการศกึ ษามหาบัณฑติ สาขาวิชา
จิตวทิ ยาการแนะแนว. มหาวิทยาลัยศรนี ครินทรวิโรฒ.
สุวรรณมาศ เหลก็ งาม. (2552). การประกอบสรา งภาพเพ่อื การโหยหาอดตี ในรายการ “วนั วานยงั หวานอยู” . วิทยานพิ นธ
หลักสูตรนิเทศศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสื่อสารมวลชน ภาควิชาการสื่อสารมวลชน คณะนิเทศศาสตร.
จฬุ าลงกรณมหาวิทยาลยั .
172
Chun Ting Yan.(2555).ความสมั พนั ธระหวา งความเปน จรงิ จิตนาการ และการสรางสรรค : จิตรกรรมลายเสน. วทิ ยานพิ นธ
ปรญิ ญามหาบณั ฑิต. มหาวิทยาลัยบูรพา,ชลบุร.ี
การเขยี นอางอิงบทความในวารสาร
ดวงเนตร ธรรมคณุ และเทยี มใจ ศิริวฒั นกลุ .“กอด : สมั ผสั รักพัฒนาการดูแลผูสูงอาย”ุ วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณะสุข
, 26 (3),S : น. 3-6.
รุงนภา ยรรยงเกษมสขุ . (2555). “การโหยหาอดีต : ความเปน อดีตในสงั คมสมัยใหม” วารสารการเมือง การบรหิ าร
และกฎหมาย, ปท ี่ 4 ฉบบั ท่ี 2 : น. 69.
ลัญฉนศ ักด์ิ อรรฆยากร. (2551). “จิตวทิ ยาความรกั (Psychology of Love)” วารสารสมาคมจติ แพทยแ หง ประเทศไทย,
ปท่ี 53 ฉบับท่ี 2 : น. 221 - 227.
อรอนงค ฤทธิ์ชยั , สญั ชยั สันติเวช และ นิธิวดี ทองปอ ง. (2560). “จิตวทิ ยาสกี บั หอ งเรยี น BBL” วารสารศึกษาศาสตร,
ปท่ี 40 ฉบบั ท่ี 1 : น. 8.
การเขยี นอา งอิงเอกสารการประชมุ วชิ าการหรือการสมั มนาทางวชิ าการ
สุภวรรณ พันธจุ นั ทร. สกี ับอารมณค วามรูสกึ . [ออนไลน] สืบคน เมือ่ 25 พฤษภาคม 2565 จาก
http://www.rmutphysics.com/news/index.php?option=com_content&task=view&id=1878&Itemid=
3&limit=1&limitstart=0
173
การพฒั นาแนวทางการสอนออกแบบผลติ ภณั ฑช ุมชน
โดยใชอตั ลักษณจิตรกรรมฝาผนัง “ฮปู แตม อสี าน”
Guideline of Community Product Design Teaching
Using Identity of Mural Paintings “Hoop Taem Isan"
พชร วงชัยวรรณ* (ค.บ.)1, อนิ ทิรา พรมพันธุ (ค.ด.)2
1 นิสติ มหาบัณฑติ สาขาวิชาศิลปศึกษา คณะครุศาสตร จฬุ าลงกรณมหาวทิ ยาลัย
เขตปทมุ วัน กรงุ เทพมหานคร 10330 E-mail [email protected]
2 ผูช ว ยศาสตราจารย สาขาวิชาศิลปศกึ ษา คณะครศุ าสตร จฬุ าลงกรณมหาวทิ ยาลัย
เขตปทุมวัน กรงุ เทพมหานคร 10330 E-mail [email protected]
บทคัดยอ
การวจิ ัยนี้มีวตั ถุประสงค 1) เพื่อศึกษารูปแบบและวเิ คราะหหาอัตลักษณฮูปแตมอสี าน 2) เพ่ือพัฒนาแนวทางการ
สอนออกแบบผลิตภัณฑชุมชนโดยใชอตั ลักษณจ ติ รกรรมฝาผนงั ฮูปแตม อีสาน วิธีการวิจยั แบงเปน 2 ระยะ คอื 1) ระยะศกึ ษา
สังเคราะหแนวคิดทฤษฎีประกอบกับการลงพื้นท่ีศึกษาภาคสนามและการสัมภาษณผูเชี่ยวชาญ 2)ระยะการพัฒนาแนว
ทางการสอนออกแบบผลติ ภัณฑชุมชน ขอบเขตของการวจิ ัย คอื ฮูปแตมอีสานกลุมพืน้ บานในจังหวดั ขอนแกน 4 แหง ดังน้ี 1)
วดั ไชยศรี 2) วัดสนวนวารีพัฒนาราม 3) วัดมชั ฌิมวิทยาราม และ4) วัดสระบวั แกว ผลการวิจัย พบวา ฮปู แตม ท้ัง 4 แหง ถูก
สรางข้ึนกอนพุทธศักราช 2500 ดานเน้ือหาปรากฏเร่อื งราวเก่ียวกับวรรณกรรมทางพุทธศาสนา วรรณกรรมพื้นบานยอดฮิต
เรื่องสินไซ (สังขศิลปชัย) และสอดแทรกดวยภาพวิถีชีวิตของคนอีสาน ในดานลักษณะทางทัศนธาตุจัดอยูในกลุมฮูปแตม
พน้ื บานซ่ึงฮูปแตมในแตล ะชุมชนจะมอี ัตลักษณท่ีแตกตางกันไปท้ังรูปราง สี ลายเสนที่มกี ารถายทอดอยางตรงไปตรงมาเนน
ความเรียบงาย และไมเครงครัดในการจัดวางองคประกอบ สวนแนวทางการสอนออกแบบผลิตภัณฑชมุ ชนโดยใชอัตลักษณ
จิตรกรรมฝาผนังฮูปแตม สามารถแบงกิจกรรมเปน 4 ระยะ ดังน้ี ระยะท่ี 1 ศึกษาสภาพปญหาและปรากฏการณปจจุบัน
ระยะที่ 2 ลงพื้นท่ีศึกษาและสกดั อัตลักษณชุมชน ระยะท่ี 3 การพัฒนาแบบรว มกัน และระยะท่ี 4 นำเสนอและประเมินผล
โดยแนวทางการสอนทั้ง 4 ระยะดังกลาวน้มี ีกระบวนการจดั การเรียนรูที่ใหค วามสำคญั กบั สภาพปญ หาเปนจุดเริ่มตน นำไปสู
การวเิ คราะห สบื คน และประยกุ ตใ ชข อ มลู ในการออกแบบตอ ไป
คำสำคญั : การออกแบบผลิตภณั ฑช มุ ชน, ฮูปแตมอสี าน, การสอนออกแบบ
ABSTRACT
The objectives of this research are 1) to study the pattern and analyze the identity of isan mural
paintings 2) to develop guideline of community product design teaching model using identity of isan
mural paintings. The research was divided into two phases: 1) Studying and synthesizing concepts,
theories, field trips and expert interviews. 2) develop guideline of community product design teaching.
The scope of research is traditional isan mural paintings in Khon kaen province 4 places as follows: Wat
174