81
คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ ทร02011 ทกั ษะกำรพูด จำนวน 1 หนว่ ยกิต
ระดับประถมศกึ ษำ มธั ยมศกึ ษำตอนต้น และมัธยมศกึ ษำตอนปลำย
มำตรฐำนที่ 1.1 มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคติท่ีดีตอ่ การเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง
ศกึ ษำและฝึกทักษะเก่ียวกบั เร่อื งตอ่ ไปนี้
ความหมายและความสาคัญของทักษะการพดู วัตถปุ ระสงค์ในการพูด การพูดเพ่ือให้ความรู้
การพดู เพื่อค้นหาคาตอบ (การตัง้ คาถาม) ทักษะการพดู และการนาเสนอ
กำรจดั ประสบกำรณก์ ำรเรยี นรู้
ควรจัดในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณ์
ในการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ เพ่ือฝึกให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะการพูด และมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้
ดว้ ยตนเองทีท่ าใหก้ ารเรยี นรู้ด้วยตนเองประสบความสาเร็จ และนาความรู้ไปใช้ในวิถีชีวิตให้เหมาะสม
กบั ตนเอง และชมุ ชน สังคม
กำรวัดและประเมนิ ผล
ใช้การประเมินจากสภาพจริงของผ้เู รยี นท่ีแสดงออกเก่ยี วกับทักษะการพดู
เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา สาระทักษะการเรยี นรู้
82
รำยละเอียดคำอธบิ ำยรำยวชิ ำ ทร02011 ทกั ษะกำรพูด จำนวน 1 หน่วยกติ
ระดับประถมศึกษำ มธั ยมศกึ ษำตอนต้น และมธั ยมศึกษำตอนปลำย
มำตรฐำนท่ี 1.1 มคี วามร้คู วามเข้าใจ ทักษะ และเจตคติทีด่ ีตอ่ การเรยี นร้ดู ้วยตนเอง
ท่ี หัวเรือ่ ง ตัวชี้วดั เนือ้ หำ จำนวน
(ชวั่ โมง)
11 ทกั ษะกำรพูด 1. ตระหนกั และเห็น 1. ความหมาย และความสาคัญ 40
ความสาคญั ของทกั ษะ ของทกั ษะและการนาเสนอ
การพูด 2. วัตถุประสงคใ์ นการพูด
และการนาเสนอ 2.1 การพดู เพอื่ ให้ความรู้
2. รูแ้ ละเข้าใจแนวคดิ 2.2 การพูดเพ่ือค้นหาคาตอบ
และวัตถปุ ระสงค์ (การต้ังคาถาม)
ของการพดู 2.3 ทักษะการพูด
และการนาเสนอ และการนาเสนอ
3. ร้ทู ักษะการพดู
ทชี่ ว่ ยสื่อสารใหผ้ ูอ้ น่ื
เข้าใจ และเพื่อคน้ หา
คาตอบ
4. มที กั ษะการพูดและ
การนาเสนอ
เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา สาระทักษะการเรยี นรู้
83
คำอธิบำยรำยวชิ ำ ทร02012 ทกั ษะกำรคิดหลำยดำ้ น จำนวน 1 หน่วยกิต
ระดบั ประถมศกึ ษำ มธั ยมศกึ ษำตอนต้น และมธั ยมศึกษำตอนปลำย
มำตรฐำนท่ี 1.1 มีความรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติทดี่ ตี อ่ การเรยี นรดู้ ้วยตนเอง
ศกึ ษำและฝกึ ทกั ษะเก่ยี วกบั เร่ืองต่อไปน้ี
ความสาคัญของเร่ืองการคิดและการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิด ทฤษฎี หลักการ
และแนวคดิ เก่ยี วกับการคดิ ( ตา่ งประเทศ/ ไทย) กระบวนการคิดของ “การคิด” ลักษณะของการคิด
คาท่เี กย่ี วข้องกับการคิด และปฏิบัตกิ ารพัฒนากระบวนการคดิ ตามประเด็นหรอื กรณีศึกษา
กำรจัดประสบกำรณ์กำรเรียนรู้
ควรจัดในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณ์
ในการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ เพื่อฝึกให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะการคิด และมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้
ดว้ ยตนเองทีท่ าใหก้ ารเรียนรู้ดว้ ยตนเองประสบความสาเร็จ และนาความรู้ไปใช้ในวิถีชีวิตให้เหมาะสม
กบั ตนเอง และชุมชน สงั คม
กำรวดั และประเมนิ ผล
ใชก้ ารประเมนิ จากสภาพจริงของผ้เู รยี นท่ีแสดงออกเกี่ยวกับทกั ษะการคิด
เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา สาระทักษะการเรียนรู้
84
รำยละเอยี ดคำอธบิ ำยรำยวชิ ำ ทร02012 ทกั ษะกำรคิดหลำยด้ำน
จำนวน 1 หน่วยกิต
ระดับประถมศึกษำ มัธยมศึกษำตอนต้น และมธั ยมศึกษำตอนปลำย
มำตรฐำนที่ 1.1 มีความร้คู วามเข้าใจ ทักษะ และเจตคติท่ีดีต่อการเรยี นร้ดู ้วยตนเอง
ที่ หวั เร่ือง ตวั ชว้ี ดั เนอื้ หำ จำนวน
(ชว่ั โมง)
12 ทักษะกำรคดิ 1. ตระหนัก 1. ความสาคญั ของเรอื่ งการ
40
หลำยด้ำน และเห็นความสาคัญ คิดและการเรยี นรูเ้ พ่ือพฒั นา
ของการคดิ กระบวนการคดิ
และกระบวนการคิด 2. ทฤษฎี หลกั การ
2. รู้เข้าใจหลกั การ และแนวคดิ เกย่ี วกับการคิด
และแนวคดิ เก่ียว ( ตา่ งประเทศ / ไทย)
กบั กระบวนการคิด 3. กระบวนการคิด
3. บอกหรือยกตวั อย่าง ของ “การคดิ ”
ของมิตกิ ารคิด 4. ลกั ษณะของการคดิ
4. แสดงหรอื อธิบาย 5. คาท่เี กยี่ วข้องกับการคิด
กระบวนการคิด 6. ปฏบิ ัตกิ ารพฒั นา
ของตนเองได้ กระบวนการคิดตามประเดน็
หรอื กรณีศึกษา
เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา สาระทกั ษะการเรยี นรู้
85
คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ ทร02013 กำรเรยี นรวู้ ธิ กี ำรกระบวนกำรกล่มุ
จำนวน 1 หนว่ ยกติ
ระดบั ประถมศกึ ษำ มธั ยมศึกษำตอนต้น และมธั ยมศึกษำตอนปลำย
มำตรฐำนท่ี 1.1 มคี วามรู้ความเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคติท่ดี ีตอ่ การเรยี นรดู้ ้วยตนเอง
ศกึ ษำและฝึกทกั ษะเกย่ี วกบั เรอื่ งตอ่ ไปน้ี
ความหมายและความสาคัญของการเรยี นรวู้ ธิ ีการกระบวนการกลมุ่ ข้นั ตอนและการเรียนรู้
โดยวิธีกระบวนการกลุ่ม ข้ันวางแผน ขั้นลงมือปฏิบัติ ข้อค้นพบ ขั้นวิเคราะห์ ข้ันประเมินผล
(ทฤษฎีและปฏิบัติ) ข้อดี ข้อเสียของการเรียนรู้วิธีกระบวนการกลุ่ม และประโยชน์ของการเรียนรู้
กระบวนการกลมุ่
กำรจัดประสบกำรณ์กำรเรยี นรู้
ควรจัดในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณ์
ในการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ เพ่ือฝึกให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะการเรียนรู้วิธีการกระบวนการกลุ่ม
แ ล ะมี เ จ ต ค ติ ที่ ดี ต่ อก า ร เ รี ย น รู้ ด้ ว ย ต น เ อง ท่ี ท า ใ ห้ ก า ร เ รี ย น รู้ ด้ ว ย ต น เ อ ง ป ร ะส บ ค ว า ม ส า เ ร็ จ
และนาความรไู้ ปใชใ้ นวถิ ชี วี ติ ใหเ้ หมาะสมกับตนเอง และชมุ ชน สงั คม
กำรวดั และประเมินผล
ใช้การประเมินจากสภาพจริงของผู้เรียนท่ีแสดงออกเกี่ยวกับก ารเรียนรู้วิธีการกระบวน
การกลมุ่
เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา สาระทกั ษะการเรยี นรู้
86
รำยละเอียดคำอธบิ ำยรำยวิชำ ทร02013 กำรเรยี นรูว้ ธิ กี ำรกระบวนกำรกลุ่ม
จำนวน 1 หนว่ ยกิต
ระดับประถมศกึ ษำ มธั ยมศกึ ษำตอนต้น และมธั ยมศกึ ษำตอนปลำย
มำตรฐำนที่ 1.1 มคี วามรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติทด่ี ีต่อการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง
ที่ หวั เร่อื ง ตวั ชวี้ ัด เนอื้ หำ จำนวน
(ชว่ั โมง)
13 กำรเรียนรู้วธิ กี ำร 1. รเู้ ข้าใจความหมาย 1. ความหมาย / 40
กระบวนกำรกลุ่ม ความสาคญั ของวิธีการ ความสาคญั ของวธิ กี าร
เรียนรูก้ ระบวนการกลุ่ม เรยี นรู้กระบวนการกลุม่
2. บอกและสามารถใช้ 2. ขน้ั ตอนและการเรยี นรู้
ขน้ั ตอนการเรยี นรู้วิธี โดยวธิ ีกระบวนการกลุ่ม
กระบวนการกลมุ่ 2.1 ขน้ั วางแผน
3. บอกหรืออธิบายข้อดี 2.2 ข้ันลงมือปฏบิ ตั ิ
และข้อเสีย 2.3 ขอ้ คน้ พบ
ของการเรยี นรู้ 2.4 ข้นั วเิ คราะห์
วิธีกระบวนการกลุ่ม 2.5 ข้ันประเมนิ ผล
4. รเู้ ข้าใจ ประโยชน์และ (ทฤษฎแี ละปฏบิ ัต)ิ
สามารถ 3. ขอ้ ดี และข้อเสยี
ใชก้ ารเรยี นรู้ ของการเรยี นรวู้ ธิ ี
วิธกี ารกระบวนการกลมุ่ กระบวนการกลุม่
ในการเรยี นรู้ 4. ประโยชน์
ของการเรียนรู้
กระบวนการกลุ่ม
เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา สาระทักษะการเรยี นรู้
87
คำอธบิ ำยรำยวิชำ ทร02014 ทกั ษะกำรจำ จำนวน 1 หนว่ ยกติ
ระดับประถมศกึ ษำ มัธยมศึกษำตอนตน้ และมัธยมศึกษำตอนปลำย
มำตรฐำนท่ี 1.1 มีความร้คู วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคติที่ดีตอ่ การเรียนรู้ด้วยตนเอง
ศึกษำและฝึกทกั ษะเกยี่ วกบั เรื่องต่อไปนี้
ความหมายและความสาคญั ของการจา
เทคนคิ ชว่ ยจา
ขั้นที่ 1 จัดเรียงข้อมูลใหเ้ ป็นลาดบั
ขน้ั ท่ี 2 คดิ และไตร่ตรองข้อมูลอยา่ งละเอยี ด
ขัน้ ที่ 3 นาข้อมลู น้นั ไปสมั พันธ์กบั ส่งิ ท่ีแปลกออกไป
ข้นั ที่ 4 ทบทวนบ่อย ๆ
ตัวอย่างเทคนคิ ช่วยจา
1. จัดคาเปน็ กล่มุ (Word grouping)
2. สงั เกตความสมั พนั ธ์ (Making connection)
3. อกั ษรยอ่ (Acronym)
4. กลเมด็ จาศพั ท์ (Gimmicks)
5. สรา้ งภาพของคาศัพท์ (Visualizing)
แบบฝกึ เทคนิคการจา
กำรจัดประสบกำรณก์ ำรเรยี นรู้
ควรจัดในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณ์
ในการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ เพื่อฝึกให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะการจา และมีเจตคติท่ีดีต่อการเรียนรู้
ดว้ ยตนเองที่ทาให้การเรียนรูด้ ้วยตนเองประสบความสาเรจ็ และนาความรู้ไปใช้ในวิถีชีวิตให้เหมาะสม
กับตนเอง และชมุ ชน สังคม
กำรวัดและประเมินผล
ใช้การประเมนิ จากสภาพจริงของผเู้ รยี นที่แสดงออกเก่ียวกับทักษะการจา
เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา สาระทักษะการเรียนรู้
88
รำยละเอียดคำอธบิ ำยรำยวิชำ ทร02014 ทกั ษะกำรจำ จำนวน 1 หนว่ ยกิต
ระดับประถมศกึ ษำ มัธยมศกึ ษำตอนต้น และมธั ยมศกึ ษำตอนปลำย
มำตรฐำนที่ 1.1 มีความรคู้ วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคติทดี่ ีตอ่ การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง
ที่ หัวเรอ่ื ง ตวั ช้วี ัด เนอื้ หำ จำนวน
14 ทกั ษะกำรจำ (ช่วั โมง)
1. รเู้ ขา้ ใจความหมาย
และความสาคัญ 1. ความหมาย ความสาคัญ 40
ของทกั ษะการจา
2. รเู้ ข้าใจและสามารถ 2. เทคนิคชว่ ยจา
บอกเทคนิคข้นั ตอน
การจา ขน้ั ท่ี 1 จดั เรียงข้อมูล
3. สามารถสร้างเทคนิค
การจาของตนเอง ใหเ้ ปน็ ลาดับ
4. สามารถใชเ้ ทคนิค
การจาเพ่ือพัฒนา ขั้นท่ี 2 คดิ
การเรียนรู้ของตนเอง
และไตรต่ รองข้อมูล
อยา่ งละเอียด
ขน้ั ท่ี 3 นาข้อมูลนั้นไป
สมั พันธ์กบั ส่งิ ที่แปลกออกไป
ขัน้ ท่ี 4 ทบทวน
บอ่ ย ๆ
3. ตัวอย่างเทคนิคชว่ ยจา
3.1 จัดคาเปน็ กลมุ่
(Word grouping)
3.2 สังเกตความสมั พันธ์
(Making connection)
3.3 อักษรย่อ(Acronym)
3.4 กลเมด็ จาศัพท์
(Gimmicks)
3.5 สร้างภาพ
ของคาศัพท์ (Visualizing)
4. แบบฝกึ เทคนิคการจา
เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา สาระทกั ษะการเรียนรู้
89
คำอธบิ ำยรำยวิชำ ทร02015 แฟ้มสะสมงำน จำนวน 1 หนว่ ยกติ
ระดบั ประถมศกึ ษำ มธั ยมศกึ ษำตอนต้น และมัธยมศึกษำตอนปลำย
มำตรฐำนท่ี 1.1 มีความร้คู วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคติท่ดี ตี อ่ การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง
ศกึ ษำและฝกึ ทกั ษะเกย่ี วกบั เรอื่ งต่อไปน้ี
ความหมาย ความสาคัญและประโยชนข์ องแฟม้ สะสมงาน
องค์ประกอบของแฟ้มสะสมงาน
สว่ นที่ 1 คานา/สารบญั /ประวัตสิ ่วนตวั /ผลงาน / ชนิ้ งานทคี่ ัดเลอื ก
ส่วนที่ 2 แบบรายงานแสดงรายละเอียดของงาน/หลกั ฐานขอ้ มูลประกอบการเรียนรู้
บนั ทึกประจาวัน เวลาทใี่ ช้
ส่วนท่ี 3 เกณฑก์ ารประเมนิ แฟ้มสะสมงาน รวมทั้งภาคผนวก (ถ้ามี)
การแสดงความคดิ เห็น หรือความรสู้ กึ ต่องาน
การตรวจสอบ/ความสามารถของตน
การแลกเปล่ยี นประสบการณ์เกีย่ วกบั ผลงาน
การนาเสนอผลงาน
กำรจัดประสบกำรณ์กำรเรยี นรู้
ควรจัดในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณ์
ในการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ เพื่อฝึกให้ผู้เรียนได้ฝึกการทาแฟ้มสะสมงาน และมีเจตคติที่ดี
ต่อการเรียนรู้ด้วยตนเองท่ีทาให้การเรียนรู้ด้วยตนเองประสบความสาเร็จ และนาความรู้ไปใช้
ในวิถีชวี ติ ให้เหมาะสมกับตนเอง และชมุ ชน สงั คม
กำรวดั และประเมินผล
ใชก้ ารประเมนิ จากสภาพจรงิ ของผเู้ รียนท่ีแสดงออกเกย่ี วกับการทาแฟ้มสะสมงาน
เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา สาระทกั ษะการเรยี นรู้
90
รำยละเอียดคำอธิบำยรำยวชิ ำ ทร02015 แฟม้ สะสมงำน
จำนวน 1 หน่วยกติ
ระดับประถมศึกษำ มัธยมศกึ ษำตอนต้น และมัธยมศึกษำตอนปลำย
มำตรฐำนท่ี 1.1 มีความรคู้ วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคติที่ดตี ่อการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง
ท่ี หวั เร่อื ง ตัวชี้วัด เนอื้ หำ จำนวน
15 แฟม้ สะสมงำน (ชัว่ โมง)
1. รู้เข้าใจความหมาย 1. ความหมาย ความสาคัญ
และความสาคญั และประโยชน์ 40
ของแฟ้มสะสมงาน 2. องคป์ ระกอบของแฟ้ม
2. บอกหรอื อธบิ าย สะสมงาน
องค์ประกอบ ส่วนท่ี 1 คานา / สารบัญ
ของแฟม้ สะสมงาน ประวัตสิ ว่ นตวั / ผลงาน /
3. สามารถจัดเก็บ ชนิ้ งานท่คี ดั เลือก
รวบรวม คดั เลือก สว่ นท่ี 2 แบบรายงานแสดง
ผลงานได้ รายละเอยี ดของงาน /หลักฐาน
อย่างเป็นระบบ ขอ้ มลู ประกอบ
4. สามารถนาเสนอ การเรียนรู้บนั ทกึ ประจาวนั
แฟ้มสะสมงาน เวลาทใี่ ช้
ของตนเองได้ สว่ นท่ี 3 เกณฑก์ ารประเมิน
แฟม้ สะสมงาน รวมทั้ง
ภาคผนวก (ถ้าม)ี
1) การแสดงความคดิ เห็น
หรอื ความรสู้ ึกต่องาน
2) การตรวจสอบ /
ความสามารถของตน
3) การแลกเปล่ียน
ประสบการณเ์ กี่ยวกับผลงาน
4) การนาเสนอผลงาน
เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา สาระทักษะการเรยี นรู้
91
คำอธบิ ำยรำยวิชำ ทร02016 กำรสร้ำงวินยั ตนเอง จำนวน 1 หนว่ ยกิต
ระดบั ประถมศกึ ษำ มัธยมศึกษำตอนต้น และมัธยมศกึ ษำตอนปลำย
มำตรฐำนที่ 1.1 มีความรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติท่ดี ตี อ่ การเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง
ศึกษำและฝกึ ทักษะเก่ียวกบั เรอ่ื งต่อไปนี้
ความหมายและความสาคัญของการสร้างวินัยในการเรียนรู้ตนเอง การสร้างวินัยตนเอง
ข้อเสียของการไม่สร้างวินัยตนเอง ประโยชน์ของการสร้างวินัยตนเอง ตัวอย่างของผู้ที่ประสบ
ความสาเร็จจากการเป็นผู้มีวินัยในการเรียนรู้ด้วยตนเอง และวิธีสร้างความเช่ือมั่นในตนเอง
เพื่อสรา้ งวินัยตนเอง
กำรจดั ประสบกำรณก์ ำรเรยี นรู้
ควรจัดในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณ์
ในการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ เพ่ือฝึกให้ผู้เรียนได้ฝึกการสร้างวินัยตนเอง และมีเจตคติที่ดี
ต่อการเรียนรู้ด้วยตนเองที่ทาให้การเรียนรู้ด้วยตนเองประสบความสาเร็จ และนาความรู้ไปใช้
ในวถิ ีชวี ิตให้เหมาะสมกบั ตนเอง และชุมชน สังคม
กำรวดั และประเมนิ ผล
ใชก้ ารประเมนิ จากสภาพจริงของผู้เรยี นที่แสดงออกเกย่ี วกับการสร้างวนิ ยั ตนเอง
เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา สาระทักษะการเรียนรู้
92
รำยละเอียดคำอธิบำยรำยวชิ ำ ทร02016 กำรสรำ้ งวินยั ตนเอง
จำนวน 1 หน่วยกิต
ระดับประถมศึกษำ มธั ยมศกึ ษำตอนต้น และมัธยมศกึ ษำตอนปลำย
มำตรฐำนที่ 1.1 มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคติท่ดี ตี อ่ การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง
ท่ี หวั เรือ่ ง ตัวช้วี ดั เน้อื หำ จำนวน
(ช่วั โมง)
16 กำรสรำ้ งวนิ ยั 1. ตระหนักและเห็น 1. ความหมาย /
ตนเอง ความสาคญั ของการสรา้ ง ความสาคญั ของการสร้าง 40
วินัยในการเรียนรู้ วินัยในการเรียนรตู้ นเอง
2. รู้เข้าใจและสามารถ 2. การสร้างวนิ ยั ตนเอง
บอกเก่ียวกับการสร้างวินัย 3. ขอ้ เสียของการ
ในการเรยี นรู้ ไม่สรา้ งวินยั ตนเอง
3. อธบิ ายหรอื แสดง 4. ประโยชนข์ องการสร้าง
ความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั วินยั ตนเอง
ประโยชน์ การสรา้ งวนิ ยั ใน 5. ตัวอยา่ งของผู้ทปี่ ระสบ
การเรียนรู้ ความสาเรจ็
4. เป็นผู้มีวนิ ัย จากการเปน็ ผูม้ ีวนิ ัย
ในการเรยี นร้ดู ว้ ยตนเอง ในการเรียนรู้ด้วยตนเอง
6. วธิ ีสร้างความเชอื่ มั่น
ในตนเองเพื่อสร้างวนิ ัย
ตนเอง
เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา สาระทักษะการเรยี นรู้
93
คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ ทร02017 Internet กบั กำรเรียนร้ไู รพ้ รมแดน
จำนวน 1 หนว่ ยกติ
ระดบั ประถมศกึ ษำ มัธยมศึกษำตอนตน้ และมัธยมศึกษำตอนปลำย
มำตรฐำนท่ี 1.2 มีความรคู้ วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ี่ดีตอ่ การใช้แหลง่ เรยี นรู้
ศึกษำและฝกึ ทักษะเก่ียวกับเรอ่ื งตอ่ ไปน้ี
ความหมายและความสาคัญของ Internet มารยาทการใช้ Internet ความรู้เบ้ืองต้น
ด้านการใช้คอมพิวเตอร์ และวิธีการสืบค้นข้อมูลบน Internet ลักษณะของ Website ของบริษัท
องค์กร หน่วยงานต่าง ๆ เช่น .com, .or.th, .go.th ฯลฯ วิธีการค้นหาข้อมูลจาก Website
ของหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ของหน่วยงานสถานศึกษาของสานักงาน กศน. ทั้งส่วนกลาง
และส่ว นภูมิภาค และเว็บไซด์ที่ได้รับคว ามนิยม เช่น google. com, sanook.com ฯลฯ
และ Website ความรู้สาขาต่าง ๆ การอ้างอิงข้อมูลท่ีค้นคว้าจาก Website การส่ง e-mail, SMS,
MMS ฯลฯ
กำรจัดประสบกำรณ์กำรเรยี นรู้
ควรจัดในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณ์
ในการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ เพ่ือฝึกให้ผู้เรียนได้ฝึกการใช้ Internet และมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้
ด้วยตนเองที่ทาให้การเรยี นร้ดู ้วยตนเองประสบความสาเรจ็ และนาความรู้ไปใช้ในวิถีชีวิตให้เหมาะสม
กับตนเอง และชมุ ชน สงั คม
กำรวดั และประเมนิ ผล
ใช้การประเมนิ จากสภาพจรงิ ของผเู้ รียนที่แสดงออกเก่ยี วกับการใช้ Internet
เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา สาระทกั ษะการเรียนรู้
94
รำยละเอียดคำอธิบำยรำยวชิ ำ ทร02017 Internet กับกำรเรียนรไู้ รพ้ รมแดน
จำนวน 1 หนว่ ยกติ
ระดับประถมศึกษำ มัธยมศกึ ษำตอนตน้ และมธั ยมศกึ ษำตอนปลำย
มำตรฐำนที่ 1.2 มีความรูค้ วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคติทดี่ ตี ่อการใชแ้ หลง่ เรียนรู้
ที่ หัวเรื่อง ตวั ชว้ี ดั เนอื้ หำ จำนวน
(ช่ัวโมง)
17 Internet
กับกำรเรยี นรู้ 1. สามารถบอก 1. ความหมาย / ความสาคัญ 40
ไรพ้ รมแดน
ความหมาย ของ Internet และมารยาทการใช้
ความสาคัญ ประโยชน์ Internet
ของ Internet 2. ความรู้เบอื้ งต้นด้านการใช้
2. มีมารยาท คอมพวิ เตอร์ และวธิ กี าร
ในการใช้ Internet สืบคน้ ข้อมูลบน Internet
3. สามารถสืบค้น 3. ลกั ษณะของ Website
ข้อมลู จาก Internet ของบริษัท องคก์ ร หนว่ ยงานต่าง
ๆ เช่น .com , .or.th, .go.th
ฯลฯ
4. วิธีการค้นหาข้อมูลจาก
Website ของ หน่วยงานตา่ ง ๆ
ไดแ้ ก่ ของหน่วยงานสถานศึกษา
ของสานักงาน กศน. ทงั้ สว่ นกลาง
และส่วนภูมิภาค และเว็บไซด์ที่
ได้รับความนิยม เชน่
google.com, sanook.com ฯลฯ
และ Website ความรู้สาขาต่าง ๆ
5. การอ้างองิ ข้อมูลท่ีค้นคว้าจาก
Website
6. การสง่ e-mail, SMS, MMS
ฯลฯ
เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา สาระทักษะการเรยี นรู้
95
คำอธิบำยรำยวิชำ ทร02018 มำเรยี นรู้กบั ภมู ปิ ัญญำกนั เถอะ
จำนวน 1 หน่วยกิต
ระดบั ประถมศกึ ษำ มธั ยมศกึ ษำตอนตน้ และมธั ยมศึกษำตอนปลำย
มำตรฐำนท่ี 1.2 มคี วามรูค้ วามเข้าใจ ทักษะ และเจตคตทิ ดี่ ตี อ่ การใช้แหล่งเรยี นรู้
ศกึ ษำและฝกึ ทกั ษะเก่ยี วกับเร่อื งตอ่ ไปน้ี
ความหมายและความสาคญั ของภูมปิ ัญญา
ประวัตศิ าสตร์
พิธกี รรม
ความเชื่อ
ฐานชวี ิตและภูมิปญั ญา
องค์ความรู้
การถา่ ยทอดความรู้
การใชป้ ระโยชนท์ างตรงและทางอ้อม
กำรจัดประสบกำรณ์กำรเรยี นรู้
ควรจัดในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณ์
ในการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ เพื่อฝึกให้ผู้เรียนได้ฝึกการเรียนรู้กับภูมิปัญญา และมีเจตคติท่ีดี
ต่อการเรียนรู้ด้วยตนเองที่ทาให้การเรียนรู้ด้วยตนเองประสบความสาเร็จ และนาความรู้ไปใช้
ในวิถชี วี ิตใหเ้ หมาะสมกับตนเอง และชมุ ชน สังคม
กำรวัดและประเมนิ ผล
ใช้การประเมนิ จากสภาพจริงของผู้เรียนที่แสดงออกเกี่ยวกับการเรียนรกู้ ับภมู ปิ ญั ญา
เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา สาระทักษะการเรยี นรู้
96
รำยละเอยี ดคำอธบิ ำยรำยวิชำ ทร02018 มำเรยี นร้กู ับภูมิปญั ญำกนั เถอะ
จำนวน 1 หนว่ ยกติ
ระดบั ประถมศึกษำ มัธยมศกึ ษำตอนต้น และมัธยมศึกษำตอนปลำย
มำตรฐำนท่ี 1.2 มีความรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคตทิ ่ดี ีตอ่ การใชแ้ หล่งเรยี นรู้
ท่ี หวั เรอ่ื ง ตัวช้ีวัด เน้อื หำ จำนวน
(ชวั่ โมง)
18 มำเรยี นรู้กบั 1. มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ 1. ความหมายและความ
ภูมิปญั ญำ เห็นความสาคญั สาคัญของภมู ปิ ัญญา 40
กนั เถอะ ของภูมิปญั ญา
ตามความจริง ความดี 1.1 ประวตั ิศาสตร์
ความงามทเ่ี หมาะสม 1.2 พิธีกรรม
กบั ท้องถ่ิน 1.3 ความเชอื่
2. มกี ารนาองค์ความรู้ 2. ฐานชวี ิตและภมู ปิ ัญญา
จากการถ่ายทอด 2.1 องค์ความรู้
องค์ความรู้ และนามา 2.2 การถ่ายทอดความรู้
ประยุกตใ์ ช้กับตนเองและ 2.3 การใชป้ ระโยชน์
สังคมได้
อย่างสมดุล 2.3.1 ทางตรง
2.3.2 ทางออ้ ม
เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา สาระทกั ษะการเรยี นรู้
97
คำอธิบำยรำยวิชำ ทร02019 เทคนิคกำรใช้หอ้ งสมดุ ประชำชน
จำนวน 1 หน่วยกิต
ระดบั ประถมศึกษำ มธั ยมศกึ ษำตอนต้น และมธั ยมศึกษำตอนปลำย
มำตรฐำนที่ 1.2 มคี วามรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติทดี่ ีตอ่ การใช้แหลง่ เรยี นรู้
ศึกษำและฝึกทักษะเก่ียวกับเรอ่ื งต่อไปน้ี
ความหมาย ความสาคญั และประโยชน์ของห้องสมดุ ประชาชน และห้องสมุดประเภทอื่น ๆ
บรกิ ารของห้องสมดุ ประชาชนและระเบยี บ มารยาทการใช้ห้องสมดุ ประชาชน สิ่งอานวยความสะดวก
ในการค้นคว้าเพื่อการเข้าถึงความรู้จากส่ือประเภทต่าง ๆ ทั้งการค้นคว้าโดยใช้คอมพิวเตอร์
บัตรราชการ (ถ้ามี) บัตรดัชนี (ถ้ามี) ท้ังโดยหัวเร่ือง โดยชื่อเร่ือง และโดยช่ือผู้แต่งการจัดระบบ
หมวดหม่สู ื่อในหอ้ งสมดุ ประชาชน และหอ้ งสมุดอน่ื ๆ และการเรียงสื่อ การใช้เทคโนโลยีในการค้นหา
ความรู้จาก Internet, e-library, e-learning และฐานข้อมูลต่าง ๆ การบันทึกความรู้ การนาเสนอ
ข้อมูลในรูปแบบรายงานและรปู แบบอื่น ๆ
กำรจดั ประสบกำรณ์กำรเรียนรู้
ควรจัดในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณ์
ในการเรยี นรู้อย่างสร้างสรรค์ เพอ่ื ฝึกใหผ้ เู้ รยี นไดฝ้ กึ เทคนิคการใชห้ อ้ งสมดุ ประชาชน และมีเจตคติท่ีดี
ต่อการเรียนรู้ด้วยตนเองท่ีทาให้การเรียนรู้ด้วยตนเองประสบความสาเร็จ และนาความรู้ไปใช้
ในวิถชี วี ติ ใหเ้ หมาะสมกบั ตนเอง และชุมชน สงั คม
กำรวดั และประเมินผล
ใช้การประเมินจากสภาพจริงของผู้เรียนที่แสดงออกเกี่ยวกับเทคนิคการใช้ห้องสมุด
ประชาชน
เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา สาระทักษะการเรียนรู้
98
รำยละเอียดคำอธบิ ำยรำยวิชำ ทร02019 เทคนคิ กำรใช้หอ้ งสมุดประชำชน
จำนวน 1 หน่วยกติ
ระดับประถมศึกษำ มัธยมศกึ ษำตอนตน้ และมธั ยมศึกษำตอนปลำย
มำตรฐำนที่ 1.2 มคี วามร้คู วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ีด่ ตี ่อการใช้แหลง่ เรียนรู้
ท่ี หัวเรือ่ ง ตัวช้วี ดั เนอ้ื หำ จำนวน
(ช่ัวโมง)
19 เทคนิคกำรใช้ 1. มีความรู้ ความเข้าใจ 1. ความหมาย ความสาคญั 40
ห้องสมุด ในความหมาย ความสาคญั และประโยชน์ของหอ้ งสมุดประชาชน
ประชำชน ประโยชนข์ องห้องสมุด และห้องสมดุ ประเภทอ่นื ๆ
ประชาชน และห้องสมุด 2. บรกิ ารของห้องสมดุ ประชาชน
ประเภทตา่ ง ๆ และระเบยี บ และมารยาทการใช้
2. มีมารยาทในการใช้ หอ้ งสมดุ ประชาชน
ห้องสมุดประชาชน 3. สง่ิ อานวยความสะดวก
และหอ้ งสมดุ ประเภทตา่ ง ๆ ในการคน้ ควา้ เพื่อการเขา้ ถงึ ความรู้
ไดอ้ ย่างเหมาะสม จากสอ่ื ประเภทตา่ ง ๆ
3. มีความรู้ ความเขา้ ใจ ทงั้ การคน้ คว้าโดยใช้คอมพิวเตอร์
ในกระบวนการบริหาร บตั รราชการ (ถา้ มี) บัตรดัชนี
ของห้องสมดุ ประชาชน (ถ้ามี) ท้งั โดยหัวเร่ือง โดยชอื่ เรอื่ ง
4. มีทกั ษะการคน้ คว้า และโดยชอื่ ผแู้ ต่ง
จากสื่ออานวยความสะดวก 4. การจัดระบบหมวดหมูส่ ่ือ
ท้งั สื่อเทคโนโลยีและสือ่ ในห้องสมดุ ประชาชน และห้องสมุด
อื่น ๆ เพ่ือการเข้าถงึ ข้อมลู อื่น ๆ และการเรียงสือ่
และปฏบิ ัตไิ ด้จรงิ 5. การใช้เทคโนโลยีในการค้นหา
5. การยืม-คนื สือ่ ความร้จู าก Internet, e-library,
6. สามารถนาเสนอข้อมูล e-learning และฐานข้อมลู ตา่ ง ๆ
จากการคน้ ควา้ ได้ 6. การบันทึกความรู้
7. การนาเสนอข้อมูลในรูปแบบ
รายงานและรปู แบบอ่ืน ๆ
เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา สาระทักษะการเรียนรู้
99
คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ ทร02020 เรยี นรู้กับปรำชญ์ / ผรู้ ู้ / ภมู ปิ ัญญำทอ้ งถนิ่
จำนวน 1 หน่วยกติ
ระดับประถมศึกษำ มธั ยมศึกษำตอนต้น และมัธยมศกึ ษำตอนปลำย
มำตรฐำนท่ี 1.2 มคี วามรคู้ วามเข้าใจ ทักษะ และเจตคตทิ ด่ี ตี อ่ การใช้แหล่งเรยี นรู้
ศึกษำและฝึกทกั ษะเก่ยี วกบั เรื่องต่อไปน้ี
ความหมายและความสาคัญของปราชญ์ / ผู้รู้ / ภูมิปัญญาท้องถิ่น ประโยชน์ที่ผู้เรียน
จะไดร้ ับจากการศึกษาเรียนร้จู ากปราชญ์ / ผู้รู้ / ภูมิปัญญาท้องถนิ่ วธิ ีการศึกษา / เรียนรู้จากปราชญ์
/ ผู้รู้ / ภูมิปัญญาท้องถิ่น (เช่น การสังเกต การพูดคุย สัมภาษณ์ การฝึกปฏิบัติ ฯลฯ) สารวจรายชื่อ
ปราชญ์ / ผู้รู้ ภูมิปัญญาท้องถ่ิน เป็นต้น การกาหนดเนื้อหาสาระท่ีตนสนใจและดาเนินการศึกษา
เรยี นรูจ้ ากปราชญ์ / ผูร้ ู้ / ภูมิปัญญาท้องถ่ิน
กำรจัดประสบกำรณ์กำรเรียนรู้
ควรจัดในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณ์
ในการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ เพ่ือฝึกให้ผู้เรียนได้ฝึกปราชญ์/ผู้รู้/ภูมิปัญญาท้องถ่ิน และมีเจตคติท่ีดี
ต่อการเรียนรู้ด้วยตนเองท่ีทาให้การเรียนรู้ด้วยตนเองประสบความสาเร็จ และนาความรู้ไปใช้
ในวถิ ชี วี ติ ใหเ้ หมาะสมกับตนเอง และชมุ ชน สังคม
กำรวัดและประเมินผล
ใช้การประเมินจากสภาพจริงของผู้เรียนที่แสดงออกเก่ียวกับการเรียนรู้กับปราชญ์ / ผู้รู้
/ ภูมิปัญญาท้องถ่ิน ประชาชน
เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา สาระทักษะการเรยี นรู้
100
รำยละเอียดคำอธิบำยรำยวชิ ำ ทร02020 เรยี นรู้กบั ปรำชญ์ / ผู้รู้
/ ภมู ปิ ัญญำท้องถิ่น จำนวน 1 หน่วยกิต
ระดับประถมศึกษำ มัธยมศกึ ษำตอนต้น และมธั ยมศึกษำตอนปลำย
มำตรฐำนท่ี 1.2 มีความรคู้ วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคติท่ีดตี ่อการใชแ้ หล่งเรยี นรู้
ท่ี หวั เรื่อง ตัวชี้วดั เนือ้ หำ จำนวน
(ชวั่ โมง)
20 เรยี นรกู้ ับปรำชญ์ 1. มีความร้คู วามเขา้ ใจ 1. ความหมาย 40
/ ผูร้ ู้ / ภูมปิ ญั ญำ ความหมาย และความสาคัญ
ท้องถิน่ ความสาคญั ของปราชญ์ / ผ้รู ู้ /
ของปราชญ์ / ผรู้ ู้ / ภมู ิปญั ญาท้องถน่ิ
ภูมปิ ญั ญาท้องถน่ิ 2. ประโยชนท์ ผ่ี ูเ้ รยี น
2. มคี วามรู้ จะไดร้ ับจากการศึกษา เรยี นรู้
และตระหนัก จากปราชญ์ / ผรู้ ู้ / ภมู ิปญั ญา
ในความสาคญั ท้องถิ่น
ของการเรียนรู้ 3. วธิ ีการศกึ ษา / เรียนรู้
จากปราชญ/์ ผู้รู้/ จากปราชญ์ / ผรู้ ู้ /
ภูมิปัญญาท้องถน่ิ ภมู ิปญั ญาท้องถน่ิ
3. ดาเนนิ การศกึ ษา (เช่น การสังเกต การพดู คุย
สารวจและรวบรวม สัมภาษณ์ การฝกึ ปฏบิ ัติ ฯลฯ)
รายชอ่ื ของปราชญ์ / 4. สารวจรายชอื่ ปราชญ์ /ผู้รู้ /
ผู้รู้ / ภูมปิ ญั ญาท้องถ่นิ ภูมิปัญญาท้องถ่ิน เปน็ ต้น
โดยระบอุ งค์ความรู้ 5. การกาหนดเนื้อหาสาระ
และเน้ือหาสาระทีจ่ ะ ท่ีตนสนใจและดาเนินการ
ไดร้ บั ในแต่ละแหล่ง ศึกษา เรียนร้จู ากปราชญ์ /ผรู้ ู้
/ ภมู ิปญั ญาท้องถิ่น
5 กลมุ่ เนอ้ื หาจาก 5 แหลง่
เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา สาระทักษะการเรยี นรู้
101
คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ ทร02021 แหล่งเรียนรใู้ นชมุ ชน จำนวน 1 หนว่ ยกติ
ระดบั ประถมศกึ ษำ มัธยมศกึ ษำตอนตน้ และมธั ยมศึกษำตอนปลำย
มำตรฐำนที่ 1.2 มีความร้คู วามเข้าใจ ทักษะ และเจตคตทิ ี่ดีต่อการใช้แหล่งเรยี นรู้
ศึกษำและฝึกทกั ษะเกีย่ วกบั เรอ่ื งตอ่ ไปนี้
ความหมาย ความสาคญั และประโยชน์ของแหล่งเรียนรู้ ประเภทของแหล่งเรียนรู้ในชุมชน
และแหลง่ เรยี นรูใ้ กล้ตัว
การให้บริการ (1) กลมุ่ บรกิ ารขอ้ มูล (2) กลุ่มศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ (3) กลุ่มข้อมูล
ท้องถิน่ (4) กลมุ่ ส่อื และ (5) กลุม่ สันทนาการ
การศึกษาสารวจแหลง่ เรียนรใู้ นชุมชน / ใกลต้ ัว
การกาหนดเนื้อหาสาระท่ีตนสนใจและปฏิบัติการศึกษาค้นคว้า รวบรวมข้อมูล / ความรู้
จากแหลง่ เรยี นรู้ 5 กลมุ่ เน้ือหาจาก 5 แหลง่ เรยี นรู้
กำรจดั ประสบกำรณก์ ำรเรยี นรู้
ควรจัดในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณ์
ในการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ เพื่อฝึกให้ผู้เรียนได้ฝึกเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ในชุมชนใกล้ตัว
และมีเจตคติท่ีดีต่อการเรียนรู้ด้วยตนเองท่ีทาให้การเรียนรู้ด้วยตนเองประสบความสาเร็จ
และนาความรู้ไปใช้ในวถิ ชี ีวิตใหเ้ หมาะสมกบั ตนเอง และชุมชน สังคม
กำรวัดและประเมินผล
ใช้การประเมินจากสภาพจริงของผู้เรียนท่ีแสดงออกเก่ียวกับการเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้
ในชมุ ชนใกล้ตวั
เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา สาระทกั ษะการเรยี นรู้
102
รำยละเอยี ดคำอธิบำยรำยวิชำ ทร02021 แหลง่ เรยี นรใู้ นชมุ ชน
จำนวน 1 หน่วยกิต
ระดบั ประถมศึกษำ มัธยมศึกษำตอนต้น และมธั ยมศึกษำตอนปลำย
มำตรฐำนที่ 1.2 มคี วามรคู้ วามเข้าใจ ทักษะ และเจตคติทด่ี ีต่อการใช้แหล่งเรยี นรู้
ที่ หัวเรื่อง ตวั ช้วี ัด เนื้อหำ จำนวน
(ชั่วโมง)
21 แหล่งเรียนรู้ 1. มีความรูค้ วามเขา้ ใจ 1. ความหมาย ความสาคัญ
ในชมุ ชน / เกีย่ วกบั แหล่งเรยี นรู้ และประโยชน์ 40
ใกล้ตวั ในชุมชน / ใกลต้ ัว ของแหล่งเรียนรู้
ความสาคญั 2. ประเภทของแหล่งเรียนรู้
และประโยชน์ที่จะไดร้ บั ในชุมชนและแหลง่ เรยี นรู้
2. สารวจแหลง่ เรยี นรู้ ใกล้ตวั การใหบ้ รกิ าร
ในชุมชน / ใกลต้ วั ใหไ้ ด้
มากที่สุด เขยี นคาอธบิ าย (1) กล่มุ บรกิ ารขอ้ มูล
บทบาทหนา้ ที่ (2) กลุ่มศิลปวัฒนธรรม
และการให้บริการ ประวัตศิ าสตร์
ตลอดจน กฎ กติกา (3) กลมุ่ ข้อมลู ท้องถิน่
เง่อื นไขของแต่ละแหลง่ (4) กล่มุ ส่อื
เรียนรู้ (5) กลมุ่ สันทนาการ
3. ดาเนนิ การศึกษา / 3. การศกึ ษาสารวจแหลง่
ค้นคว้า / รวบรวมขอ้ มูล เรียนรใู้ นชุมชน / ใกลต้ วั
ความรู้ตามที่ตนเองสนใจ 4. การกาหนดเน้ือหาสาระ
อย่างน้อย 5 กลุม่ เน้ือหา ทต่ี นสนใจและปฏบิ ตั ิ
โดยใช้แหล่งเรยี นร้ตู า่ ง ๆ การศึกษาค้นคว้า รวบรวม
เหลา่ นนั้ อย่างน้อย ข้อมลู / ความรู้
5 แหล่งเรียนรู้ จากแหลง่ เรยี นรู้ 5 กลุ่ม
เน้อื หา
5 แหล่งเรียนรู้
เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา สาระทกั ษะการเรยี นรู้
103
คำอธิบำยรำยวชิ ำ ทร02022 กำรทำหนงั สอื ดว้ ยสองมอื เรำ
จำนวน 1 หน่วยกติ
ระดับประถมศกึ ษำ มัธยมศึกษำตอนตน้ และมัธยมศกึ ษำตอนปลำย
มำตรฐำนท่ี 1.2 มีความรคู้ วามเข้าใจ ทักษะ และเจตคตทิ ีด่ ตี อ่ การใชแ้ หล่งเรียนรู้
ศกึ ษำและฝึกทักษะเก่ยี วกบั เรื่องตอ่ ไปน้ี
ความหมายและความสาคัญของหนังสือทามือ ประโยชน์ของหนังสือทามือ วิธีการรวบรวม
เน้ือหาของหนังสือทามือ เทคนิคการเรียบเรียงเนื้อหา การออกแบบ สร้างสรรค์ จัดหาภาพประกอบ
ของหนงั สือทามือ และการจดั ทารูปเลม่ ของหนังสือทามือให้สมบรู ณ์
กำรจัดประสบกำรณ์กำรเรียนรู้
ควรจัดในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณ์
ในการเรยี นร้อู ย่างสร้างสรรค์ เพ่อื ฝึกให้ผูเ้ รยี นได้ฝึกเรยี นรกู้ ารทาหนังสือด้วยสองมือเรา และมีเจตคติ
ท่ีดีต่อการเรียนรู้ด้วยตนเองที่ทาให้การเรียนรู้ด้วยตนเองประสบความสาเร็จ และนาความรู้ไปใช้
ในวิถีชีวติ ให้เหมาะสมกบั ตนเอง และชุมชน สงั คม
กำรวดั และประเมินผล
ใชก้ ารประเมนิ จากสภาพจริงของผ้เู รียนท่ีแสดงออกเกย่ี วกับการทาหนงั สือด้วยสองมือเรา
เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา สาระทักษะการเรียนรู้
104
รำยละเอยี ดคำอธบิ ำยรำยวชิ ำ ทร02022 กำรทำหนังสือด้วยสองมอื เรำ
จำนวน 1 หนว่ ยกิต
ระดบั ประถมศกึ ษำ มัธยมศกึ ษำตอนต้น และมธั ยมศกึ ษำตอนปลำย
มำตรฐำนที่ 1.2 มคี วามรู้ความเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ดี่ ตี อ่ การใช้แหลง่ เรียนรู้
ที่ หวั เร่ือง ตวั ช้วี ัด เนือ้ หำ จำนวน
(ชวั่ โมง)
22 กำรทำหนงั สอื
ดว้ ยสองมือเรำ 1. บอกความหมาย 1. ความหมาย 40
และความสาคญั และความสาคัญ
ของหนังสือทามอื ของหนงั สือทามือ
2. อธบิ ายประโยชน์ 2. ประโยชนข์ องหนงั สือทา
และรู้ถงึ คุณค่า มอื
ของหนงั สือทาจากมือ 3. วธิ กี ารรวบรวมเน้อื หา
3. รขู้ ้ันตอน วิธีการ ของหนังสือทามือ
ของการทาหนังสือ 4. เทคนคิ การเรยี บเรียง
และนาเทคโนโลยี เนื้อหา
มาปรับใช้ 5. การออกแบบ
4. สามารถฝกึ ปฏิบตั ิ สรา้ งสรรค์ จัดหา
การออกแบบสรา้ งสรรค์ ภาพประกอบของหนังสอื ทา
และจัดหาภาพประกอบ มือ
เนอ้ื หาในหนงั สือ 6. การจัดทารูปเล่ม
5. สามารถจัดทาหนังสือ ของหนังสือทามอื ให้
เปน็ รปู เลม่ ได้ สมบรู ณ์
เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา สาระทกั ษะการเรยี นรู้
105
คำอธิบำยรำยวิชำ ทร02023 เทคนิคกำรจัดเวทชี ำวบำ้ น จำนวน 1 หน่วยกิต
ระดบั ประถมศึกษำ มัธยมศึกษำตอนตน้ และมธั ยมศกึ ษำตอนปลำย
มำตรฐำนท่ี 1.2 มีความรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคตทิ ด่ี ีตอ่ การใชแ้ หลง่ เรียนรู้
ศึกษำและฝกึ ทกั ษะเกี่ยวกบั เรื่องต่อไปนี้
ศกึ ษาความหมาย ความสาคัญ ประโยชน์ บทบาทหน้าท่ีและเทคนิคของการจัดการความรู้
เพื่อการนาไปสู่การเขา้ ร่วมจัดกระบวนการของเวทีชาวบ้าน วิธีการรวมกลุ่ม การส่วนร่วมและการจับ
ประเดน็ ความคดิ เหน็ สรปุ องค์ความรู้ของกลุ่ม
กำรจัดประสบกำรณก์ ำรเรยี นรู้
ศึกษาค้นคว้า ความหมาย ความสาคัญ ประโยชน์ และกระบวนการของการจัดเวที
ของชาวบ้าน การฝึกปฏิบัติจริงโดยการรวมกลุ่มเชิงปฏิบัติการ การมีส่วนร่วมในการแลกเปล่ียน
เรียนรู้ เทคนิควิธีการเรียนรู้กันในกลุ่มท่ีกาหนดหรือในชุมชน และมีการสรุปองค์ความรู้ จับประเด็น
อภิปรายในการจัดเวทีชาวบ้านตลอดจนจัดทาเอกสารรายงานผลการจัดเวทีชาวบ้านออกมานาเสนอ
เผยแพรค่ วามรู้
กำรวัดและประเมนิ ผล
จากการสังเกตแบบมสี ่วนรว่ ม การประเมนิ แบบมสี ว่ นร่วมและการสรุปผล รายงานผล
เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา สาระทักษะการเรียนรู้
106
รำยละเอยี ดคำอธิบำยรำยวชิ ำ ทร02023 เทคนคิ กำรจดั เวทีชำวบ้ำน
จำนวน 1 หนว่ ยกติ
ระดบั ประถมศึกษำ มธั ยมศึกษำตอนต้น และมธั ยมศกึ ษำตอนปลำย
มำตรฐำนท่ี 1.2 มีความรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคตทิ ด่ี ตี อ่ การใช้แหล่งเรยี นรู้
ที่ หวั เร่อื ง ตวั ชว้ี ัด เน้อื หำ จำนวน
(ช่วั โมง)
23 เทคนิคกำรจดั 1. มีความรู้ความเขา้ ใจ
เวทีชำวบ้ำน กระบวนการ เทคนิค 1. ความหมาย ความสาคัญ 40
การจดั เวทีชาวบา้ น กฎ
กตกิ า มารยาท และประโยชน์ของเวที
ในการร่วมเวทีชาวบา้ น
ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ชาวบา้ น
2. มีความรคู้ วามเขา้ ใจ
มที กั ษะสามารถเขยี น 2. บทบาทของผู้ร่วม
แผนท่คี วามคิดได้
3. สามารถรว่ มจัดทา กระบวนการเวทีชาวบ้าน
แผนการจัดเวทชี าวบา้ น
ได้ กฎกตกิ า มารยาท
ในการรว่ มเวทชี าวบา้ น
3. กระบวนการเทคนคิ
การจดั เวทชี าวบา้ น
4. เครื่องมือทช่ี ่วยให้
เทคนิคการเรียนรรู้ ่วมกัน
(แผนพฒั นาความคิด
และอ่ืน ๆ)
เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา สาระทักษะการเรยี นรู้
107
คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ ทร02024 ชมุ ชนนกั ปฏบิ ัติ จำนวน 1 หนว่ ยกติ
ระดับประถมศึกษำ มัธยมศึกษำตอนต้น และมัธยมศกึ ษำตอนปลำย
มำตรฐำนที่ 1.3 มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ่ีดตี ่อการจัดการความรู้
ศึกษำและฝกึ ทกั ษะเกยี่ วกบั เรอ่ื งตอ่ ไปน้ี
ศึกษาความสาคัญของการใช้ประสบการณ์ หรือการนาศักยภาพของคนกลุ่มท่ีมีอยู่นามาใช้
ในการทางานให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ต่อกลุ่ม ต่อชุมชน สังคมและต่อหน่วยงาน เทคนิค
การรวมกลมุ่ ปฏิบตั กิ ารในชุมชน และการหลอมรวม สรุปองคค์ วามรู้
ฝึกทักษะการรวมกลุ่ม เทคนิคการดึงศักยภาพ ประสบการณ์ของคนในกลุ่มแนวคิดของคน
ในกลุ่มออกมาเพ่ือการแลกเปล่ียนเรียนรู้และการต่อยอดการนาความรู้ไปใช้ในการพัฒนาตนเอง
กลุ่ม ชุมชน ฝกึ ทักษะการสรุปองค์ความรู้ และการจดั ทาระบบสารสนเทศ
กำรจัดประสบกำรณก์ ำรเรยี นรู้
ศึกษาค้นคว้า หลักการ และกระบวนการของการจัดการความรู้ โดยรวมกลุ่ม ฝึกทักษะ
การปฏิบัติจริง จัดประเด็นปัญหาและฝึกเทคนิคการดึงศักยภาพของคนในกลุ่มให้มีการแลกเปล่ียน
เรียนรู้ ฝกึ การสรุปองคค์ วามรู้และการนาเสนอผลการประชุมของกล่มุ ฝึกการปฏิบัติจริงในชมุ ชน
กำรวัดและประเมินผล
จากการสงั เกต สอบถาม และพฤติกรรมทีแ่ สดงออก จากการรายงานผล การสรุปผล
เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา สาระทกั ษะการเรียนรู้
108
รำยละเอียดคำอธบิ ำยรำยวิชำ ทร02024 ชมุ ชนนักปฏิบตั ิ
จำนวน 1 หน่วยกิต
ระดับประถมศกึ ษำ มัธยมศึกษำตอนต้น และมัธยมศกึ ษำตอนปลำย
มำตรฐำนท่ี 1.3 มีความรู้ความเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคติท่ีดีตอ่ การจดั การความรู้
ท่ี หวั เรอ่ื ง ตวั ช้วี ัด เนอื้ หำ จำนวน
(ชวั่ โมง)
24 ชมุ ชนนัก 1. สามารถจัดการ 1. ความสาคญั ของการใช้ความรู้
ปฏิบตั ิ ความรโู้ ดยการรวมกล่มุ และประสบการณท์ ่ีมีอยู่ในตวั คนให้ 40
ปฏิบตั ิการเพ่ือสรา้ ง เกดิ ประโยชน์สงู สดุ ต่อตนเอง ต่อกลุ่ม
ความรู้ ยกระดบั ความรู้ / ตอ่ ชุมชนสังคม/ ต่อหนว่ ยงาน
และจดั ทาสารสนเทศ 2. การทางานแบบต่อยอดความรู้
เผยแพร่องค์ความรู้ 3. วิธีการ ขนั้ ตอน การทา COP
2. สามารถใชค้ วามรู้ เพอื่ การจดั การความรขู้ องกลมุ่
และประสบการณท์ ่ีมี
อยู่ในตวั คนใหเ้ กิด 3.1 วธิ ีรวมกลมุ่ แบบเป็น
ประโยชน์สงู สดุ ต่อกล่มุ ทางการและไม่เป็นทางการ
/ ต่อชุมชน ตง้ั เปา้ หมายของการจัดการความรวู้ า่
ต่อหน่วยงาน จะทาเพ่ืออะไร
3.2 แลกเปล่ียนเรียนรู้ดว้ ยการ
ใช้เทคนคิ การเล่าเรือ่ งจาก
ประสบการณ์ ท่ีได้ลงมอื ทา
3.3 บันทกึ คลังความรู้
3.4 สรุปหลอมรวมเปน็
แก่นความรู้
3.5 พฒั นาต่อยอดความรู้
สรา้ งความรูใ้ หม่
3.6 สรุปองคค์ วามรู้
3.7 จัดทาสารสนเทศเผยแพร่
องค์ความรแู้ ลกเปล่ยี นเรยี นรู้ด้วยวธิ ี
ตา่ ง ๆ
เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา สาระทักษะการเรยี นรู้
109
คำอธบิ ำยรำยวิชำ ทร02025 กำรจัดกำรควำมรูใ้ นกำรเรียนรู้ด้วยตนเอง
จำนวน 1 หนว่ ยกิต
ระดบั ประถมศกึ ษำ มธั ยมศึกษำตอนต้น และมธั ยมศกึ ษำตอนปลำย
มำตรฐำนที่ 1.3 มคี วามร้คู วามเข้าใจ ทักษะ และเจตคตทิ ีด่ ีต่อการจดั การความรู้
ศกึ ษำและฝกึ ทกั ษะเกย่ี วกบั เรอ่ื งต่อไปน้ี
ศึกษาความหมาย ความสาคญั และประโยชนข์ องการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเอง ศึกษาแหล่ง
เรียนรู้ท่ีสาคัญที่ใกล้ตัว รวบรวมแสวงหาแหล่งเรียนรู้ และผู้รู้ ปราชญ์ ภูมิปัญญาท้องถ่ินที่มีอยู่
และเข้าถึงภูมิปัญญา นอกจากน้ี ฝึกทักษะ ปฏิบัติสร้างนิสัยใฝ่รู้ และศึกษาการจัดระบบการเรียนรู้
ด้วยตนเอง
กำรจดั ประสบกำรณ์กำรเรยี นรู้
ฝึกทักษะ การแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง จากแหล่งเรียนรู้ใกล้ตัว ปราชญ์ ผู้รู้ ภูมิปัญญา
ท้องถ่ินที่มีอยู่ในชุมชน หรือจากคอมพิวเตอร์ ห้องสมุด และนาความรู้ท่ีได้มาจัดระบบการเรียนรู้
ด้วยตนเอง ฝึกการสรุปผลองค์ความรู้ที่ศึกษาออกมาเป็นรายงานผล สรุปผลและฝึกการนาเสนอ
องค์ความรู้ที่มอี ยู่ตอ่ กล่มุ ต่อองคก์ ร
กำรวัดและประเมนิ ผล
จากแบบฝึกหัด หรือจากใบงานท่ีมอบหมาย และสังเกตจากการนาเสนอผลการศึกษา
ความร้ดู ว้ ยตนเองตอ่ กลมุ่
เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา สาระทกั ษะการเรยี นรู้
110
รำยละเอียดคำอธิบำยรำยวชิ ำ ทร02025 กำรจดั กำรควำมรู้ในกำรเรียนรู้ด้วย
ตนเอง จำนวน 1 หน่วยกติ
ระดบั ประถมศึกษำ มธั ยมศึกษำตอนต้น และมธั ยมศกึ ษำตอนปลำย
มำตรฐำนท่ี 1.3 มีความรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติท่ีดตี อ่ การจดั การความรู้
ท่ี หัวเร่ือง ตวั ชี้วัด เน้ือหำ จำนวน
(ชว่ั โมง)
25 กำรจัดกำรควำมรู้ สามารถเรียนรู้
ในกำรเรียนรู้ ดว้ ยตนเอง 1. ความหมาย ความสาคญั 40
ดว้ ยตนเอง โดยใชว้ ธิ ีการจดั การ
ความรู้ ประโยชนข์ องการจัดการ
ความรู้
2. สารวจแหลง่ เรียนรู้ คน้ คว้า
รวบรวมองค์ความรู้ทต่ี อ้ งการใช้
3. แสวงหาผู้รู้ / ปราชญ์ /
ภูมปิ ญั ญา เพ่ือถอดองค์ความรู้
รวมทงั้ การศึกษาคน้ คว้าจากสอื่
ทกุ ประเภท
4. แลกเปล่ยี นความรู้
และประยุกต์ใช้ความรู้ ส่ือและ
ใชส้ ่อื ได้อยา่ งถูกต้อง
5. การฝึกตนเองให้มีนสิ ัยใฝร่ ู้
การวิจัย ค้นคว้าความรใู้ หม่ ๆ
6. สรา้ งลกั ษณะนสิ ยั พืน้ ฐาน
การเรียนรู้ รจู้ ักฟัง รจู้ ักคิด
รู้จกั ซกั ถาม รูจ้ ักเขียน สามารถ
สรปุ ความรู้ใช้ประโยชน์จาก
ความรมู้ าพฒั นาตนเอง
พฒั นางาน
เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา สาระทกั ษะการเรยี นรู้
111
คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ ทร02026 ไดอำรี่ออนไลน์ จำนวน 1 หนว่ ยกติ
ระดบั ประถมศกึ ษำ มัธยมศึกษำตอนต้น และมธั ยมศึกษำตอนปลำย
มำตรฐำนท่ี 1.3 มีความรู้ความเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคติที่ดตี อ่ การจัดการความรู้
ศกึ ษำและฝกึ ทักษะเกี่ยวกบั เรื่องตอ่ ไปน้ี
ศึกษาความหมาย ความสาคัญและประโยชน์ของไดอารี่ออนไลน์ (Web Blog) ศึกษาวิธี
การเรียนรูจ้ าก ไดอาร่ีออนไลน์ (Web Blog)
ฝึกทักษะการพิจารณาข้อมูลจาก ไดอาร่ีออนไลน์ (Web Blog) และวิธีการคัดกรองเลือก
ขอ้ มลู จากไดอารี่ออนไลน์ (Web Blog) มาใช้ประโยชน์
กำรจัดประสบกำรณก์ ำรเรียนรู้
ศึกษา ค้นคว้า ความหมาย ความสาคัญ ประโย ชน์ และการรู้จักไดอาร่ีออนไลน์
(Web Blog) ฝกึ อา่ นพจิ ารณากลั่นกรองขอ้ มลู จากไดอาร่ีออนไลน์ (Web Blog)
ฝึกทักษะการใช้งานไดอารี่ออนไลน์ (WebBlog) ฝึกเทคนิคการจัดทาไดอาร่ีออนไลน์ (Web Blog)
การสร้างไดอาร่ีออนไลน์ (Web Blog) และวิธีการถ่ายทอดประสบการณ์ความรู้โดยไดอาร่ี
ออนไลน์ (Web Blog)
บนั ทึกองค์ความร้ทู ีไ่ ดร้ ับจากไดอารี่ออนไลน์ (Web Blog)
กำรวดั และประเมินผล
จากผลงาน ชิ้นงาน แฟ้มสะสมงาน จากการสังเกต สอบถาม จากการปฏิบัติจริง
เก่ียวกบั ไดอารี่ออนไลน์ (web blog)
เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา สาระทักษะการเรยี นรู้
112
รำยละเอยี ดคำอธบิ ำยรำยวิชำ ทร02026 ไดอำร่อี อนไลน์
จำนวน 1 หนว่ ยกิต
ระดับประถมศึกษำ มัธยมศึกษำตอนตน้ และมธั ยมศกึ ษำตอนปลำย
มำตรฐำนที่ 1.3 มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคติท่ดี ตี ่อการจัดการความรู้
ท่ี หวั เรือ่ ง ตวั ชวี้ ัด เนื้อหำ จำนวน
26 ไดอำรอี่ อนไลน์ (ชวั่ โมง)
1. มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจ
เกี่ยวกบั ไดอาร่ีออนไลน์ 1. Blog คอื อะไร 40
(Web Blog)
2. มที ศั นคตทิ ่ีดี / 2. ประโยชน์ของไดอาร่ี
จิตสาธารณะ
ต่อการเผยแพรข่ ้อมลู ออนไลน์ (Web Blog) ใน
3. รูเ้ ทคนิคการทาไดอารี่
ออนไลน์ (Web Blog) แง่มุมตา่ ง ๆ
4. สามารถสรา้ งไดอาร่ี
ออนไลน์ (Web Blog) 2.1 เปดิ ตัวเองใหโ้ ลกรู้
และใช้ประโยชน์
จาก ไดอาร่อี อนไลน์ 2.2 ทนั ข่าวเหตุการณ์
(Web Blog)
เพอื่ การเรยี นรู้ 2.3 กลนั่ กรองข้อมูล
ต่าง ๆ
2.4 รายงานการท่อง
เวบ็
2.5 การแสดงความ
คดิ เห็น
2.6 ถ่ายทอด
ประสบการณ์
3. วิธีการใชง้ าน Blog
4. เทคนิคสาหรับการ
เรมิ่ ต้น ทา Blog
5. การทาไดอาร่ีออนไลน์
(Web Blog) ทีส่ รา้ งสรรค์
และรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม
เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา สาระทกั ษะการเรยี นรู้
113
คำอธบิ ำยรำยวิชำ ทร02027 ตลำดควำมรู้ จำนวน 1 หน่วยกิต
ระดับประถมศึกษำ มธั ยมศกึ ษำตอนตน้ และมธั ยมศกึ ษำตอนปลำย
มำตรฐำนที่ 1.3 มคี วามรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติท่ดี ีต่อการจัดการความรู้
ศึกษำและฝกึ ทกั ษะเก่ยี วกับเร่ืองต่อไปน้ี
ศึกษาความหมาย ความสาคัญของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การสร้างเครือข่ายการทางาน
รว่ มกัน
ฝึกทักษะกระบวนการจัดสร้างบรรยากาศ การควบคุมประเด็น การจัดเวทีของการประชุม
สัมมนา และให้เกดิ เวทีแหง่ การแลกเปล่ียนเรยี นรู้ร่วมกนั
กำรจัดประสบกำรณ์กำรเรยี นรู้
ศึกษา ค้นคว้า ความหมาย ความสาคัญ และบทบาทการแลกเปล่ียนเรียนรู้ ประโยชน์
ของการสรา้ งเครือข่ายการเรยี นรู้ หรอื การทางานร่วมกัน
ฝึกทักษะการปฏิบัติจริง โดยการรวมกลุ่ม สนทนา ฝึกใช้เทคนิคการดึงความรู้
การประสานงาน การถา่ ยทอดความรู้ และการสรปุ องค์ความรู้
กำรวัดและประเมินผล
จากการสังเกต การมสี ่วนร่วม การนาเสนอผลของการจดั เวทีแลกเปล่ียนเรียนรู้
เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา สาระทักษะการเรยี นรู้
114
รำยละเอียดคำอธบิ ำยรำยวิชำ ทร02027 ตลำดควำมรู้ จำนวน 1 หน่วยกติ
ระดบั ประถมศึกษำ มัธยมศกึ ษำตอนตน้ และมัธยมศึกษำตอนปลำย
มำตรฐำนท่ี 1.3 มคี วามร้คู วามเข้าใจ ทักษะ และเจตคติท่ดี ีตอ่ การจดั การความรู้
ท่ี หวั เรื่อง ตวั ชวี้ ัด เนอ้ื หำ จำนวน
27 ตลำดควำมรู้ (ช่วั โมง)
สามารถใชก้ ระบวนการ 1. ความหมาย
40
แลกเปลย่ี นเรียนรู้ และความสาคัญ
เพือ่ ดึงความรู้ ของการแลกเปล่ียนเรียนรู้
และประสบการณ์ 2. การจดั และสร้าง
ของแต่ละบคุ คล / ของ บรรยากาศท่ีเอื้อตอ่
ผู้รู้แตล่ ะทา่ นมาใช้ การแลกเปล่ยี นเรยี นรู้
ประโยชน์ 2.1 การจัดเวลา เวที
ตอ่ การเรียนรู้ และสรา้ งไมตรตี อ่ กนั
ต่อการดารงชีวติ 2.2 การจดั ทาเวที
ตอ่ การพฒั นาอาชพี ชาวบา้ น/เวทีประชาคม
การทางาน 2.3 การถอดบทเรียน
และการสรา้ ง ถอดองค์ความรู้
องค์ความรู้ และ ประสบการณจ์ ากผู้รู้
ปราชญ์ และภมู ปิ ญั ญา
2.4 การสนทนากลมุ่
2.5 การสร้างทัศนคติ
เชงิ บวก การคดิ เชิงบวก
3. การใชเ้ ทคนคิ
การดึงความรู้
4. การใช้เทคนิค
การประสานความรู้
5. เทคนคิ การถ่ายทอด
ความรู้
6. เทคนิคการสรุปความรู้
เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา สาระทักษะการเรยี นรู้
115
คำอธิบำยรำยวชิ ำ ทร02028 กำรบริหำรเวลำ จำนวน 1 หน่วยกิต
ระดับประถมศกึ ษำ มัธยมศึกษำตอนตน้ และมัธยมศกึ ษำตอนปลำย
มำตรฐำนที่ 1.3 มคี วามร้คู วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคติทดี่ ีต่อการจัดการความรู้
ศึกษำและฝึกทกั ษะเกีย่ วกบั เรื่องต่อไปนี้
ศึกษาความสาคัญ ประโยชน์ของการบริหารเวลา วิธีการบริหารเวลา การต้ังเป้าหมาย
การวางแผน การควบคุม การจัดการเร่ืองของเวลา
ฝึกทักษะกระบวนการจัดการ การบริหารเวลาท่ีใช้ให้เกิดประสิทธิภาพทันต่อกาหนด
เปน็ ไปตามแผนงานทีว่ างไว้
กำรจัดประสบกำรณ์กำรเรียนรู้
ศึกษา คน้ คว้า ประโยชนข์ องการบริหารเวลา วิธีการบริหารเวลา การจัดการเร่ืองของเวลา
ฝึกทักษะปฏิบัติ
การต้ังเป้าหมาย การวางแผน การกาหนดเวลา การควบคุม และการบริหารจัดการเวลา
สรา้ งเครอื ข่ายการเรยี นรู้ หรอื การทางานรว่ มกนั
ฝึกปฏิบัติภายในกลุ่ม โดยครูและผู้เรียนเป็นผู้ร่วมกาหนดงานภายในกลุ่มและกาหนด
ระยะเวลาที่ปฏบิ ัตริ ว่ มกนั ของคนในกลมุ่ และสรปุ ผลรว่ มกัน
ฝึกปฏิบัติจริงด้วยตนเองจากงานท่ีกาหนด โดยการต้ังเป้าหมาย วางแผน กาหนดเวลา
ตารางเวลาและผลงานสรปุ องคค์ วามรแู้ ละรายงานผล
กำรวัดและประเมินผล
จากการสังเกต และการรายงานผลจากตารางกาหนดการส่วนของผู้เรียน
เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา สาระทักษะการเรียนรู้
116
รำยละเอยี ดคำอธบิ ำยรำยวชิ ำ ทร02028 กำรบริหำรเวลำ
จำนวน 1 หนว่ ยกิต
ระดบั ประถมศึกษำ มธั ยมศกึ ษำตอนต้น และมัธยมศึกษำตอนปลำย
มำตรฐำนที่ 1.3 มคี วามรคู้ วามเข้าใจ ทักษะ และเจตคตทิ ่ีดตี อ่ การจดั การความรู้
ท่ี หวั เรือ่ ง ตัวช้วี ดั เนอื้ หำ จำนวน
28 กำรบรหิ ำรเวลำ (ช่วั โมง)
สามารถปฏิบัตงิ าน 1. ความสาคัญ
ปฏบิ ตั ภิ ารกิจให้สาเรจ็ และประโยชน์ 40
ลุล่วงไดต้ ามแผน ของการบรหิ ารเวลา
และเวลาท่ีกาหนดไว้ 2. วิธบี รหิ ารเวลา
2.1 ต้ังเปา้ หมาย
ให้ชัดเจนท้งั ระยะสน้ั
และระยะยาว
2.2 เขยี นสิง่ ทต่ี ้องทา
ทั้งหมด
2.3 เรยี งลาดับ
ความสาคัญก่อนหลัง
2.4 กาหนดความถ่ี
ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม
2.5 เขยี นตารางเวลา
2.6 ควบคมุ
ตารางเวลา
2.7 ประเมนิ ผล
และปรับปรงุ แผนการใช้
เวลา
3. แบบฝึกการเขยี นแผน
บรหิ ารเวลาใน 1 สัปดาห์
เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา สาระทกั ษะการเรยี นรู้
117
คำอธบิ ำยรำยวิชำ ทร02029 คิดเปน็ กบั ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพยี ง
จำนวน 1 หนว่ ยกติ
ระดบั ประถมศึกษำ มธั ยมศกึ ษำตอนตน้ และมธั ยมศกึ ษำตอนปลำย
มำตรฐำนที่ 1.4 มีความรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคตทิ ี่ดตี ่อการคดิ เปน็
ศึกษำและฝึกทักษะเกยี่ วกับเร่อื งต่อไปนี้
หลักการและปรัชญาคดิ เป็น
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ความพอประมาณ
ความมเี หตมุ ีผล
การมภี ูมคิ ุ้มกนั ท่ีดี
ความรูท้ ีจ่ าเป็น เช่น วิธีการวิเคราะห์ รายรบั -รายจา่ ย รู้วธิ กี ารประหยัด
คุณธรรม เช่น มวี นิ ยั ในการใช้จ่าย ซอ่ื สตั ย์สุจริต ประหยดั ฯลฯ
คดิ เปน็ แบบพอเพียงจากกรณีตัวอยา่ งผปู้ ระสบความสาเร็จดา้ นเศรษฐกิจพอเพยี ง
การบูรณาการ ทกั ษะเศรษฐกิจพอเพยี งเพ่ือนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวัน
กำรจดั ประสบกำรณก์ ำรเรยี นรู้
ควรจัดในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณ์
ในการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ เพื่อฝึกให้ผู้เรียนได้ฝึกเรียนรู้เก่ียวกับการคิดเป็นกับปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง และมีเจตคติท่ีดีต่อการเรียนรู้ด้วยตนเองท่ีทาให้การเรียนรู้ด้วยตนเองประสบ
ความสาเรจ็ และนาความรไู้ ปใช้ในวิถชี ีวติ ใหเ้ หมาะสมกับตนเอง และชมุ ชน สังคม
กำรวัดและประเมินผล
ใช้การประเมินจากสภาพจริงของผู้เรียนที่แสดงออกเก่ียวกับการคิดเป็นกับปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพยี ง
เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา สาระทักษะการเรยี นรู้
118
รำยละเอยี ดคำอธิบำยรำยวชิ ำ ทร02029 คิดเปน็ กับปรชั ญำเศรษฐกิจ
พอเพยี ง จำนวน 1 หน่วยกิต
ระดบั ประถมศึกษำ มธั ยมศกึ ษำตอนต้น และมัธยมศึกษำตอนปลำย
มำตรฐำนที่ 1.4 มคี วามรู้ความเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ่ดี ีต่อการคดิ เป็น
ท่ี หัวเรอื่ ง ตัวชี้วดั เนื้อหำ จำนวน
(ชัว่ โมง)
29 คดิ เป็นกบั ปรัชญำ 1. สามารถสรปุ
ของเศรษฐกจิ หลกั การ 1. หลกั การและปรชั ญาคดิ เป็น 40
พอเพียง และปรชั ญาการคิด
เปน็ ได้ 2. ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
2. รแู้ ละเข้าใจ
ปรัชญาของ ความพอประมาณ
เศรษฐกจิ พอเพียง
3. สามารถ ความมเี หตมุ ีผล
บูรณาการทักษะ
การคิดกับปรัชญา การมภี มู คิ ุ้มกนั ท่ีดี
ของเศรษฐกจิ
พอเพยี ง เพื่อไปใช้ มีความรูท้ ีจ่ าเปน็ เช่น
ในชวี ติ ประจาวนั
4. มเี จตคตทิ ่ดี ี วิธีการวิเคราะห์
ตอ่ การดาเนินชวี ิต
แบบพอเพยี ง รายรับ-รายจา่ ย
รวู้ ิธกี ารประหยัด
มคี ุณธรรม เชน่ มวี ินยั
ในการใช้จา่ ย ซ่ือสัตย์สุจรติ
ประหยัด ฯลฯ
3. คดิ เปน็ แบบพอเพยี ง
จากกรณตี วั อยา่ งผู้ประสบ
ความสาเร็จดา้ นเศรษฐกิจ
พอเพียงการบรู ณาการ ทักษะ
เศรษฐกิจพอเพยี งเพือ่ นาไป
ใช้ในชีวติ ประจาวนั
เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา สาระทกั ษะการเรยี นรู้
119
คำอธบิ ำยรำยวิชำ ทร02030 ตอ่ ยอดงำนอำชพี จำนวน 1 หนว่ ยกิต
ระดบั ประถมศึกษำ มธั ยมศกึ ษำตอนตน้ และมัธยมศกึ ษำตอนปลำย
มำตรฐำนที่ 1.4 มีความร้คู วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ีด่ ีตอ่ การคิดเป็น
ศกึ ษำและฝึกทักษะเกี่ยวกับเรอ่ื งตอ่ ไปนี้
หลกั การและปรชั ญาคดิ เปน็
ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ความพอประมาณ
ความมเี หตุมีผล
การมภี ูมิคุ้มกันที่ดี
ความรู้ท่จี าเปน็ เช่น วิธีการวิเคราะห์ รายรับ-รายจา่ ย รวู้ ิธีการประหยัด
คณุ ธรรม เช่น มวี ินยั ในการใช้จ่าย ซอ่ื สัตย์สจุ รติ ประหยัด ฯลฯ
คิดเปน็ แบบพอเพยี งจากกรณีตัวอยา่ งผ้ปู ระสบความสาเรจ็ ดา้ นเศรษฐกิจพอเพยี ง
การบรู ณาการ ทักษะเศรษฐกิจพอเพยี งเพ่ือนาไปใช้ในชวี ิตประจาวัน
กำรจัดประสบกำรณก์ ำรเรยี นรู้
ควรจัดในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณ์
ในการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ เพื่อฝึกให้ผู้เรียนได้ฝึกเรียนรู้เก่ียวกับการคิดเป็นกับปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพียง และมีเจตคติท่ีดีต่อการเรียนรู้ด้วยตนเองที่ทาให้การเรียนรู้ด้วยตนเอง
ประสบความสาเรจ็ และนาความรู้ไปใชใ้ นวถิ ีชวี ติ ให้เหมาะสมกบั ตนเอง และชุมชน สังคม
กำรวดั และประเมินผล
ใช้การประเมินจากสภาพจริงของผู้เรียนที่แสดงออกเก่ียวกับการคิดเป็นกับปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพียง
เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา สาระทักษะการเรยี นรู้
120
รำยละเอียดคำอธิบำยรำยวิชำ ทร02030 ตอ่ ยอดงำนอำชพี
จำนวน 1 หน่วยกติ
ระดับประถมศึกษำ มัธยมศกึ ษำตอนต้น และมัธยมศกึ ษำตอนปลำย
มำตรฐำนที่ 1.4 มีความรู้ความเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคติทดี่ ตี ่อการคดิ เปน็
ที่ หัวเร่ือง ตัวชี้วัด เน้ือหำ จำนวน
30 ต่อยอดงำนอำชีพ (ช่ัวโมง)
1. รู้และเขา้ ใจ 1. ความสาคัญ
แนวทางการพัฒนา ของการพัฒนาอาชพี 40
2. เขา้ ใจวธิ ีการแก้ปญั หา 2. การแกป้ ญั หา
และพฒั นางานอาชีพ และพัฒนางานอาชีพ
โดยใชข้ อ้ มูล โดยใช้ขอ้ มูลดา้ นตนเอง
ดา้ นตนเอง ดา้ นวชิ าการ ด้านวชิ าการและด้านสงั คม
และด้านสังคมสง่ิ แวดลอ้ ม ส่งิ แวดล้อม
3. มที ักษะ การคิด 3. การฝกึ ทกั ษะการคิด
วเิ คราะหท์ ่ีเกีย่ วข้องกับ วเิ คราะห์ทเ่ี กี่ยวข้องกบั
การพฒั นาอาชีพ การพัฒนาอาชีพ
4. เข้าใจวิธีการคดิ 4. หลักและวิธีการคดิ
อย่างเปน็ ระบบ มเี หตุผล วเิ คราะห์อยา่ งเปน็ ระบบ
5. สามารถวเิ คราะห์ มเี หตผุ ลเพือ่ ความสาเร็จ
อาชีพท่ปี ระสบผลสาเรจ็ ในงานอาชีพ
บนพื้นฐานการคดิ เปน็ 5. ตัวอยา่ งการพัฒนา
อาชพี ทีป่ ระสบผลสาเรจ็ บน
พ้นื ฐานการคิดเปน็
เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา สาระทกั ษะการเรยี นรู้
121
คำอธิบำยรำยวิชำ ทร02031 คนคิดเป็น จำนวน 1 หนว่ ยกิต
ระดบั ประถมศึกษำ มัธยมศึกษำตอนตน้ และมธั ยมศึกษำตอนปลำย
มำตรฐำนท่ี 1.4 มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ด่ี ีตอ่ การคดิ เปน็
ศึกษำและฝกึ ทกั ษะเกยี่ วกับเรอ่ื งตอ่ ไปน้ี
คุณลักษณะของคนคิดเป็น สมรรถภาพของคนคิดเป็น วิธีการการพัฒนาบุคลิกภาพ
ให้เป็นคนคิดเป็น กิจกรรมสร้างเสริมบุคลิกภาพให้เป็นคนคิดเป็น วิธีการประเมินตนเ อง
เก่ียวกับเร่ืองคดิ เป็น
กำรจัดประสบกำรณ์กำรเรยี นรู้
ควรจัดในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณ์
ในการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ เพ่ือฝึกให้ผู้เรียนได้ฝึกเรียนรู้เก่ียวกับการคิดเป็นกับปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพียง และมีเจตคติท่ีดีต่อการเรียนรู้ด้วยตนเองที่ทาให้การเรียนรู้ด้วยตนเอง
ประสบความสาเร็จและนาความรไู้ ปใช้ในวิถชี วี ิตใหเ้ หมาะสมกับตนเอง และชมุ ชน สังคม
กำรวดั และประเมนิ ผล
ใชก้ ารประเมินจากสภาพจริงของผเู้ รยี นท่ีแสดงออกเกย่ี วกับการคิดเป็น
เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา สาระทกั ษะการเรียนรู้
122
รำยละเอียดคำอธบิ ำยรำยวชิ ำ ทร02031 คนคิดเปน็ จำนวน 1 หนว่ ยกติ
ระดบั ประถมศึกษำ มธั ยมศึกษำตอนต้น และมัธยมศกึ ษำตอนปลำย
มำตรฐำนที่ 1.4 มคี วามรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติทดี่ ีตอ่ การคิดเปน็
ท่ี หวั เรอ่ื ง ตวั ชีว้ ัด เน้อื หำ จำนวน
31 คนคิดเปน็ (ชัว่ โมง)
1. สามารถบอก 1. คณุ ลักษณะ
40
คุณลกั ษณะ ของคนคิดเป็น
ของคนคดิ เปน็ ได้ 2. สมรรถภาพ
2. เข้าใจสมรรถภาพ ของคนคิดเป็น
ของคนคิดเปน็ 3. วธิ ีการการพัฒนา
3. มคี วามรแู้ ละเข้าใจ บุคลกิ ภาพ
วิธีการพัฒนาบคุ ลกิ ภาพให้ ให้เป็นคนคิดเปน็
เปน็ คนคิดเป็น 4. กิจกรรมสรา้ งเสรมิ
4. สามารถปฏิบตั ิ บคุ ลิกภาพ
กจิ กรรมท่สี รา้ งเสริม ใหเ้ ป็นคนคิดเป็น
บุคลกิ ภาพ 5. วิธกี ารประเมนิ ตนเอง
ใหเ้ ป็นคนคดิ เป็น เก่ียวกับเร่ืองคดิ เป็น
5. สามารถประเมิน (ตนเอง วชิ าการ สังคม
การคดิ เป็นของตนเองได้ ส่ิงแวดล้อม)
เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา สาระทักษะการเรยี นรู้
123
คำอธบิ ำยรำยวิชำ ทร02032 คิดอย่ำงไรให้เปน็ สุข จำนวน 1 หนว่ ยกติ
ระดับประถมศกึ ษำ มัธยมศึกษำตอนตน้ และมัธยมศกึ ษำตอนปลำย
มำตรฐำนที่ 1.4 มคี วามรู้ความเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ด่ี ตี อ่ การคิดเป็น
ศกึ ษำและฝึกทกั ษะเก่ยี วกับเรื่องตอ่ ไปน้ี
ชีวิตเป็นสุข วิธีคิดให้ชีวิตเป็นสุข การจัดการกับความเครียดและความขัดแย้งในวิถีชีวิต
การดาเนนิ ชีวิตอยา่ งมีคุณค่าและสงบสุข กจิ กรรมฝกึ สมาธิและปญั ญา
กำรจดั ประสบกำรณ์กำรเรยี นรู้
ควรจัดในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณ์
ในการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ เพื่อฝึกให้ผู้เรียนได้ฝึกเรียนรู้เกี่ยวกับการคิด และมีเจตคติที่ดี
ต่อการเรียนรู้ด้วยตนเองที่ทาให้การเรียนรู้ด้วยตนเองประสบความสาเร็จ และนาความรู้ไปใช้
ในวถิ ีชีวติ ใหเ้ หมาะสมกับตนเอง และชุมชน สังคม
กำรวัดและประเมนิ ผล
ใช้การประเมินจากสภาพจริงของผู้เรยี นท่ีแสดงออกเกย่ี วกับการคิด
เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา สาระทกั ษะการเรียนรู้
124
รำยละเอยี ดคำอธิบำยรำยวิชำ ทร02032 คิดอยำ่ งไรให้เปน็ สุข
จำนวน 1 หน่วยกิต
ระดับประถมศกึ ษำ มธั ยมศกึ ษำตอนตน้ และมัธยมศึกษำตอนปลำย
มำตรฐำนที่ 1.4 มคี วามรคู้ วามเข้าใจ ทักษะ และเจตคตทิ ่ีดตี ่อการคดิ เปน็
ที่ หวั เรือ่ ง ตวั ชวี้ ัด เนื้อหำ จำนวน
(ชั่วโมง)
32 คิดอยำ่ งไร 1. มคี วามรู้ 1. ชวี ิตเป็นสขุ
ให้เปน็ สุข 40
และความเข้าใจในวิธีคิด 2. วธิ คี ดิ ใหช้ วี ิตเปน็ สุข
ใหช้ วี ติ เป็นสขุ (คิดทางบวก/ไม่คิด
2. สามารถจดั การ ยอ้ นอดีต ฯลฯ)
กับความเครียด 3. การจดั การ
และความขัดแย้ง กับความเครยี ด
ในวถิ ชี วี ติ และความขดั แยง้ ในวิถีชวี ิต
3. มคี วามเข้าใจ 4. การดาเนินชวี ิต
ในวธิ กี ารดาเนินชวี ิตอยา่ ง อย่างมีคุณค่าและสงบสุข
มีคุณค่าและสงบสุข 5. กิจกรรมฝกึ สมาธิ
4. สามารถปฏิบัติ และปญั ญา
กจิ กรรมฝกึ สมาธิ
และปัญญา
เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา สาระทกั ษะการเรยี นรู้
125
คำอธิบำยรำยวชิ ำ ทร02033 ศำสนำพำใหค้ ิดเป็น จำนวน 1 หนว่ ยกติ
ระดบั ประถมศึกษำ มธั ยมศกึ ษำตอนต้น และมธั ยมศึกษำตอนปลำย
มำตรฐำนท่ี 1.4 มีความรคู้ วามเข้าใจ ทักษะ และเจตคติทดี่ ตี ่อการคดิ เปน็
ศกึ ษำและฝึกทักษะเก่ียวกับเรือ่ งตอ่ ไปนี้
หลักธรรมคาสอนของ พุทธ คริสต์ อิสลามที่เก่ียวข้องกับปรัชญาคิดเป็น ข้ันตอน
กระบวนการคิดหลักศาสนาท่ีตนนับถือ การนาหลักธรรมตามหลักศาสนาท่ีตนนับถือ ไปใช้
ในการดาเนินชวี ติ ตามแนวปรัชญาคิดเป็น
กำรจดั ประสบกำรณ์กำรเรียนรู้
ควรจัดในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณ์
ในการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ เพ่ือฝึกให้ผู้เรียนได้ฝึกเรียนรู้เกี่ยวกับศาสนาพาให้คิดเป็น และมีเจตคติ
ท่ีดีต่อการเรียนรู้ด้วยตนเองท่ีทาให้การเรียนรู้ด้วยตนเองประสบความสาเร็จ และนาความรู้ไปใช้
ในวิถีชวี ติ ให้เหมาะสมกบั ตนเอง และชุมชน สงั คม
กำรวัดและประเมนิ ผล
ใชก้ ารประเมินจากสภาพจริงของผูเ้ รียนท่ีแสดงออกเกย่ี วกับการศาสนาพาให้คิดเปน็
เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา สาระทักษะการเรียนรู้
126
รำยละเอยี ดคำอธิบำยรำยวชิ ำ ทร02033 ศำสนำพำใหค้ ดิ เปน็
จำนวน 1 หนว่ ยกิต
ระดับประถมศกึ ษำ มธั ยมศกึ ษำตอนต้น และมธั ยมศกึ ษำตอนปลำย
มำตรฐำนท่ี 1.4 มีความรูค้ วามเขา้ ใจ ทักษะ และเจตคตทิ ี่ดตี อ่ การคดิ เป็น
ท่ี หวั เรือ่ ง ตัวช้ีวัด เนอ้ื หำ จำนวน
(ชว่ั โมง)
33 ศำสนำ พำให้ 1. มีความรู้ 1. หลกั ธรรมคาสอน
คดิ เป็น ความเข้าใจในหลักธรรม ของ พุทธ ครสิ ต์ อสิ ลาม 40
คาสอนของศาสนา ทเ่ี กย่ี วข้องกับปรชั ญาคดิ เป็น
กับตนนบั ถือ 2. ขนั้ ตอนกระบวนการคิด
2. สามารถสรปุ ขั้นตอน หลักศาสนาทต่ี นนับถือ
กระบวนการคิดเป็น 3. การนาหลกั ธรรม
ตามหลักศาสนา ที่ตน ตามหลกั ศาสนาท่ีตนนับถือ
นบั ถือ ไปใช้ในการดาเนินชีวิต
3. สามารถดาเนินชวี ติ ตามแนวปรัชญาคิดเป็น
ตามปรชั ญาคดิ เป็น
ได้อยา่ งมคี ุณธรรม
จรยิ ธรรม
เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา สาระทักษะการเรยี นรู้
127
คำอธบิ ำยรำยวิชำ ทร02034 ปัญหำกอ่ ให้เกิดปญั ญำ จำนวน 1 หน่วยกติ
ระดบั ประถมศึกษำ มธั ยมศกึ ษำตอนตน้ และมัธยมศกึ ษำตอนปลำย
มำตรฐำนที่ 1.4 มคี วามรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคตทิ ี่ดตี ่อการคิดเป็น
ศกึ ษำและฝึกทกั ษะเกีย่ วกบั เร่ืองตอ่ ไปนี้
หลักการและกระบวนการคิดเปน็ ความหมาย การนาไปใช้ประโยชน์
การรวบรวมสภาพปัญหา การตั้งคาถามเพ่ือสืบค้น การกาหนดทางเลือกเพ่ือหา
แนวทางแก้ไข
กรณีศึกษาเพ่ือฝึกการแก้ไขปัญหา การวิเคราะห์จุดดี จุดเสีย การวิเคราะห์โอกาส
หรอื ทางเลือกทเ่ี ป็นไปได้จากข้อมูลดา้ นตนเอง ดา้ นวิชาการและดา้ นสังคม ข้อสรุปท่ีไดจ้ ากรณศี ึกษา
กำรจดั ประสบกำรณ์กำรเรียนรู้
ควรจัดในลักษณะของการบูรณาการทักษะต่าง ๆ ไปพร้อมกับการสร้างสถานการณ์
ในการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ เพื่อฝึกให้ผู้เรียนได้ฝึกเรียนรู้เก่ียวกับปัญหาก่อให้เกิดปัญญา
แ ล ะมี เ จ ต ค ติ ท่ี ดี ต่ อก า ร เ รี ย น รู้ ด้ ว ย ต น เ อง ที่ ท า ใ ห้ ก า ร เ รี ย น รู้ ด้ ว ย ต น เ อ ง ป ร ะส บ ค ว า ม ส า เ ร็ จ
และนาความรู้ไปใช้ในวถิ ชี วี ติ ให้เหมาะสมกับตนเอง และชมุ ชน สงั คม
กำรวดั และประเมินผล
ใชก้ ารประเมินจากสภาพจริงของผเู้ รียนที่แสดงออกเกยี่ วกับปญั หาก่อให้เกดิ ปัญญา
เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา สาระทักษะการเรยี นรู้
128
รำยละเอียดคำอธิบำยรำยวิชำ ทร02034 ปัญหำก่อใหเ้ กิดปญั ญำ
จำนวน 1 หนว่ ยกิต
ระดับประถมศกึ ษำ มธั ยมศึกษำตอนต้น และมธั ยมศึกษำตอนปลำย
มำตรฐำนท่ี 1.4 มคี วามร้คู วามเข้าใจ ทักษะ และเจตคตทิ ดี่ ตี ่อการคิดเป็น
ที่ หวั เร่ือง ตวั ชวี้ ดั เนอื้ หำ จำนวน
(ชัว่ โมง)
34 ปัญหำก่อให้เกดิ 1. มีความรู้ 1. หลกั การและกระบวน
ปญั ญำ ความเขา้ ใจในหลักการ การคดิ เป็น 40
และกระบวน
การคดิ เป็น 1.1 ความหมาย
2. มที ักษะ 1.2 การนาไปใช้ประโยชน์
ในการรวบรวมสภาพ 2. การรวบรวมสภาพปญั หา
ปญั หาทเ่ี กีย่ วข้อง 2.1 การตั้งคาถาม
กบั ตนเอง ครอบครัว เพื่อสบื คน้
และสงั คม 2.2 การกาหนดทางเลือก
3. มีทศั นคติที่ดี เพ่ือหาแนวทางแก้ไข
ต่อการแก้ปัญหา 3. กรณศี กึ ษา เพ่ือฝึกการ
สามารถสรา้ งโอกาส แก้ไขปญั หา
ในทกุ ปญั หาได้ 3.1 การวเิ คราะหจ์ ดุ ดี
ในชีวิตประจาวนั จุดเสีย
4. สามารถแก้ไข 3.2 การวิเคราะหโ์ อกาส
ปญั หาได้ หรอื ทางเลือกที่เปน็ ไปได้
อย่างเหมาะสม จากข้อมลู ดา้ นตนเอง
ดา้ นวิชาการและด้านสงั คม
3.3 ข้อสรุปทไ่ี ด้ จากกรณี
ศกึ ษา
เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา สาระทกั ษะการเรยี นรู้
129
คำอธบิ ำยรำยวิชำ ทร02035 สถติ งิ ำ่ ย ๆ เพอ่ื กำรวจิ ยั จำนวน 1 หนว่ ยกติ
ระดบั ประถมศกึ ษำ มัธยมศกึ ษำตอนตน้ และมธั ยมศึกษำตอนปลำย
มำตรฐำนท่ี 1.5 มีความร้คู วามเข้าใจ ทักษะ และเจตคตทิ ่ีดีตอ่ การวจิ ัยอย่างงา่ ย
ศึกษำและฝึกทกั ษะเกี่ยวกับเรอ่ื งตอ่ ไปน้ี
ศึกษาความหมาย ความสาคัญของสถิติเพื่อการวิจัย สถิติง่าย ๆ ที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่
การแจกแจงความถ่ี ร้อยละ คา่ เฉลย่ี สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน พิสัย
ฝกึ ทกั ษะการทาแบบฝกึ หัดการใชส้ ถิตงิ า่ ยทใ่ี ชใ้ นการวิจัย
กำรจัดประสบกำรณก์ ำรเรยี นรู้
จัดให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า เอกสารที่เก่ีย วข้อง การฝึกปฏิบัติทาแบบฝึกหัด
เกย่ี วกบั การแจกแจงความถี่ รอ้ ยละ คา่ เฉลย่ี สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน พิสยั
กำรวัดและประเมินผล
จากการสังเกตความสนใจ การซักถาม จากผลงาน/ชิ้นงานที่มอบหมายให้ค้นคว้า
และฝึกปฏิบตั ิในระหวา่ งเรยี นและการสอบปลายภาคเรยี น
เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา สาระทักษะการเรยี นรู้
130
รำยละเอียดคำอธบิ ำยรำยวิชำ ทร02035 สถติ งิ ำ่ ย ๆ เพื่อกำรวจิ ัย
จำนวน 1 หน่วยกิต
ระดับประถมศกึ ษำ มธั ยมศึกษำตอนตน้ และมธั ยมศึกษำตอนปลำย
มำตรฐำนท่ี 1.5 มคี วามรูค้ วามเข้าใจ ทักษะ และเจตคตทิ ีด่ ีตอ่ การวิจัยอยา่ งงา่ ย
ที่ หวั เร่ือง ตัวชี้วัด เนอ้ื หำ จำนวน
(ช่วั โมง)
35 สถิติงำ่ ย ๆ 1. ร้เู ข้าใจความหมาย 1. ความหมาย ความสาคญั
เพ่อื กำรวิจยั 40
และความสาคญั ของสถิตเิ พ่ือการวจิ ยั
ของสถิติเพ่ือการวิจยั 2. สถติ ิงา่ ย ๆ ที่ใช้
2. รเู้ ข้าใจและฝกึ ในการวจิ ัย
ปฏิบตั กิ ารใช้สถิติ 2.1 การแจกแจงความถี่
ต่าง ๆ การแจกแจง 2.2 ร้อยละ
ความถรี่ ้อยละ คา่ เฉล่ยี 2.3 คา่ เฉลยี่
และสว่ นเบี่ยงเบน 2.4 ส่วนเบี่ยงเบน
มาตรฐาน มาตรฐาน
3. นาสถิตงิ า่ ย ๆ ไปใช้ 2.5 พิสยั
ในการทาวิจยั ได้ 3. แบบฝกึ การใช้สถติ ิ
แบบงา่ ย ๆ
เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา สาระทกั ษะการเรยี นรู้