The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Klen Boonyanant, 2022-07-30 10:35:43

Saxophone book - Durongrit

Text book

Keywords: Saxophone

ชดุ การสอน

เรอื่ ง การฝกึ ทกั ษะการปฏบิ ตั แิ ซกโซโฟนตามแนวคดิ ของเดวีส์ สำหรบั นกั เรยี นชมุ นมุ ดนตรีสากล
ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 โรงเรยี นพรหมพริ ามวทิ ยา อำเภอพรหมพริ าม จังหวดั พิษณโุ ลก

นางสาวนพิ าพรรณ แกว้ ดวงใหญ่ รหสั 6113109032
นายชยพล สทุ ธิ รหสั 6113109037
นายดรุ งคฤ์ ทธิ์ เปน็ พมุ่ รหสั 6113109039
นายสทุ ธริ กั ษ์ ปน่ิ ทอง รหสั 6113109051
นายเอกบรุ ษุ เพาะปลกู รหสั 6113109052

นกั ศกึ ษาชน้ั ปที ่ี 4 หลกั สูตรครศุ าสตรบ์ ณั ฑติ สาขาวชิ าดนตรศี กึ ษา
คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั พบิ ลู สงคราม ประจำปกี ารศกึ ษา 2564



คำนำ

ชุดการสอน เรื่องการฝึกทักษะการปฏิบัติแซกโซโฟนตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรียนชุมนุม
ดนตรสี ากล ระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 โรงเรยี นพรหมพริ ามวิทยา อำเภอพรหมพริ าม จังหวัดพษิ ณุโลก โดยมี
เนื้อหาความรู้ทีส่ อดคล้องกับสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ตามหลักสูตรของสถานศึกษา จัดทำขึ้นเพื่อเป็น
พื้นฐานในการเรียนรู้เกี่ยวกับความรู้ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการอ่านโน้ตและการฝึกทักษะการปฏิบัติแซกโซโฟน
เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนเกิดทกั ษะการอ่านโน้ต และการปฏบิ ัตแิ ซกโซโฟนที่ดีข้ึน สามารถทีจ่ ะนำทักษะไปใช้ในระดับชั้น
ตอ่ ไป สง่ เสรมิ ให้ผู้เรยี นเกิดความสนใจในดนตรีสากลมากขน้ึ และเป็นการสร้างพ้ืนฐานการปฏิบัติดนตรีสากล
ได้ดีที่สุดเพราะการอ่านโน้ต ถือเป็นพื้นฐานที่มีความสำคัญที่จะช่วยพัฒนาศักยภาพและพัฒนาผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนได้ดีอีกด้วย ซึ่งผู้เรียนได้ศึกษาและเรียนรู้โดยมีครูเป็นผู้คอยให้คำแนะนำส่งเสริมพัฒนาด้าน
ความรู้ เจตคติ และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคข์ องผู้เรยี น เพ่ือใหผ้ ู้เรียนไดพ้ ฒั นาตนเองอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ

คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างย่ิงวา่ ชุดการสอนเรื่องการฝึกทักษะการปฏิบัติแซกโซโฟนตามแนวคดิ ของ
เดวีส์ สำหรับนักเรียนชมุ นุมดนตรีสากล ระดับชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 1 โรงเรียนพรหมพิรามวิทยา อำเภอพรหม
พิราม จังหวัดพิษณุโลก ชุดนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาผู้เรียน ส่งผลให้ผู้เรียนตระหนักถึงคุณค่าและ
ความสำคญั ของการเรียนดนตรสี ากล สามารถนำความรูไ้ ปประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจำวนั ไดแ้ ละส่งเสริมให้ครูจัด
กจิ กรรมการเรยี นรู้ได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ

คณะผจู้ ดั ทำ

สารบญั ข

เรอื่ ง หนา้

คำนำ ก

สารบญั 1
1
คำช้แี จงสำหรบั ครู 2
2
คำชแี้ จงสำหรบั นกั เรยี น 3
5
วตั ถปุ ระสงคโ์ ดยรวมชดุ การสอน 12
14
รายชอ่ื หนว่ ยการสอน 28
37
Flowchart โดยรวมชดุ การสอน 38
40
แบบทดสอบกอ่ นการใช้ชดุ การสอน 44
53
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 54
ประมวลสาระ เนอื้ หาบทเรยี น 56
กจิ กรรม 57
Flowchart หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 62
63
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 65
ประมวลสาระ เนอ้ื หาบทเรียน 71
กิจกรรม 79
Flowchart หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3
ประมวลสาระ เนื้อหาบทเรียน
กจิ กรรม
Flowchart หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 3

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 4
ประมวลสาระ เน้อื หาบทเรียน
กิจกรรม
Flowchart หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4

สารบญั (ตอ่ ) ค

เรอื่ ง หนา้

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 5 80
ประมวลสาระ เนือ้ หาบทเรยี น 82
กิจกรรม 88
Flowchart หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 96

แบบทดสอบหลงั การใชช้ ดุ การสอน 97

1

คำชแ้ี จงในการใช้ชดุ การสอน

คำชี้แจงในการใช้ชุดการสอน เรื่องการฝึกทกั ษะการปฏิบัติแซกโซโฟนตามแนวคิดของเดวสี ์ สำหรับ
นักเรียนชมุ นุมดนตรีสากล ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนพรหมพริ ามวิทยา อำเภอพรหมพิราม จังหวัด
พิษณุโลก ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ ประมวลเนื้อหาสาระ แบบฝึกทักษะ แบบทดสอบก่อนเรียน
และแบบทดสอบหลังเรียน รวมถึงเกณฑ์การประเมนิ ในการใช้แบบฝกึ ทกั ษะชุดน้ี

คำชแี้ จงสำหรบั ครู

1. ผู้ใช้ควรศึกษาชดุ การสอน การฝึกทักษะการปฏิบตั ิแซกโซโฟนตามแนวคิดของเดวีส์ สำหรับนักเรยี น
ชุมนมุ ดนตรีสากล ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 โรงเรียนพรหมพิรามวิทยา อำเภอพรหมพริ าม จังหวัด
พิษณโุ ลกให้เขา้ ใจ

2. ศึกษาแผนการจัดการเรียนรู้ จัดเตรียมสื่ออุปกรณ์ที่ใช้ในการเรียนการสอน โดยใช้รูปแบบการเรียน
การสอนแบบชัดแจง้ เข้าไปในการเรียนรู้

3. ชี้แจงขั้นตอนการเรียนโดยใช้ ชุดการสอนการฝึกทักษะการปฏิบัติแซกโซโฟนตามแนวคิดของเดวีส์
สำหรับนักเรียนชุมนุมดนตรีสากล ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนพรหมพิรามวิทยา อำเภอ
พรหมพริ าม จังหวัดพิษณโุ ลกให้นักเรียนเขา้ ใจ

4. ชแ้ี จงหวั ขอ้ ประวตั ิและความรพู้ ้ืนฐานเก่ยี วกับแซกโซโฟน ทฤษฎีดนตรีสากลเบอื้ งตน้ พ้นื ฐานการเปา่
แบบฝึกการเป่าเบื้องต้น บทเพลงฝึกหัดเบ้ืองตน้ โดยใช้เป็นทักษะย่อยตา่ ง ๆ นำมาประกอบกันเปน็
ทกั ษะการปฏบิ ตั แิ ซกโซโฟน

5. ดำเนินการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนตามทกี่ ำหนดไวใ้ นชุดการสอน
6. ครูสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน ความตั้งใจในการฝึกซ้อมของนักเรียน ถ้านักเรียนมีปัญหาหรือขอ้

สงสัย ครูคอยใหค้ ำแนะนำและชว่ ยเหลือ
7. ให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียนและการปฏิบตั ิแซกโซโฟนในบทเพลงทีค่ รูกำหนดให้

คำชแ้ี จงสำหรบั นกั เรยี น

ผสู้ อนต้องช้ีแจงให้ผเู้ รยี นทราบถึงบทบาทของผู้เรียน ดงั ตอ่ ไปนี้
1. ศึกษาเน้อื หาของบทเรียนให้ละเอยี ด วเิ คราะหแ์ ละทำความเข้าใจให้ชัดเจน หากจำเป็นใหม้ กี ารบนั ทึก
ความจำ เพอื่ การเรียนรูแ้ ละการจดจำทค่ี งทน
2. ทำความเข้าใจในแต่ละแบบฝึกเสริมทักษะดนตรี และตอบคำถามตามความรู้ความเข้าใจที่ได้รับ
จากการเรียนร้จู ากชดุ การสอนใหค้ รบถ้วน

2

3. พยายามตอบคำถามอย่างสุดความสามารถ คำถามที่มีอยู่ในแบบฝึกเสริมทักษะดนตรี ไม่ใช่ข้อสอบ
แต่เปน็ ส่วนหนึง่ ของการเรียนรู้

4. ผูเ้ รียนตอ้ งตง้ั ใจปฏบิ ตั ิงาน และรว่ มกนั สรุปเนอ้ื หาอย่างจริงจงั
5. ทำกิจกรรมตอบคำถามในแบบฝึก หากไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด ให้ศึกษาทบทวนบทเรียนใหม่อีกคร้ัง

หนึ่ง ตามเวลาที่กำหนด หากไม่สามารถทบทวนในเวลาได้ทัน ให้ขออนุญาตผู้สอนทบทวนนอกเวลา
เรยี น จนกว่าจะผ่านเกณฑข์ องแบบฝกึ เสรมิ ทักษะดนตรีนัน้
6. เมื่อปฏิบัติกิจกรรมแตล่ ะกิจกรรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะจบการเรียนบทเรียนแต่ละชดุ การสอน
ใหส้ ำรวจวัสดุ อปุ กรณ์ตา่ ง ๆ ถ้าหากมอี ะไรชำรดุ เสียหายต้องแจง้ ใหผ้ สู้ อนทราบทันที
7. ผเู้ รียนต้องใชส้ อ่ื อปุ กรณป์ ระกอบชุดการสอนอยา่ งระมัดระวงั

วตั ถปุ ระสงคโ์ ดยรวมชดุ การสอน

1. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายถงึ ประวัติและความรพู้ ้นื ฐานเกย่ี วกบั แซกโซโฟนได้
2. นักเรยี นสามารถอธบิ ายถงึ ทฤษฎีดนตรีสากลเบอื้ งต้น
3. นกั เรียนมีพนื้ ฐานในการเป่าแซกโซโฟนท่ีถกู ตอ้ ง
4. นกั เรียนสามารถปฏิบัตแิ ซกโซโฟนตามแบบฝึกการเป่าเบื้องตน้ ได้
5. นกั เรยี นสามารถปฏบิ ตั ิแซกโซโฟนตามบทเพลงฝึกหัดเบอ้ื งตน้ ได้

รายชอ่ื หนว่ ยการสอน

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 ประวัตแิ ละความรู้พ้นื ฐานเก่ยี วกับแซกโซโฟน
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ทฤษฎดี นตรสี ากลเบอ้ื งตน้
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 พ้นื ฐานการฝึกเป่าแซกโซโฟน
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 แบบฝกึ เป่าตวั โน้ตเบอ้ื งตน้
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 แบบฝึกบนั ไดเสียงและบทเพลงฝึกหดั

3

Flowchart ชุดการสอน

4

5

แบบทดสอบกอ่ นการใชช้ ดุ การสอน

คำสั่ง จงทำเคร่ืองหมายวงกลมรอบคำตอบท่ีถูกต้อง

1. ชอื่ จรงิ หรือช่อื ดัง้ เดมิ ของแซกโซโฟนคือช่ือใด

ก. Wood wind ข. Alto saxophone

ค. Aldophe sax ง. Alto

2. แซกโซโฟนแบ่งออกเป็นกป่ี ระเภท
ก. 4 ข. 5
ค. 6 ง. 7

3. แซกประเภทใดเป็นแซกตระกลู เสยี งสงู

ก. Soprano sax ข. Tenor sax

ค. Baritone sax ง. Bass sax

4. ข้อใดต่อไปนีเ้ ปน็ แซกทม่ี ขี นาดใหญท่ ่ีสดุ

ก. Subcontrabass sax ข. Tenor sax

ค. Baritone sax ง. Bass sax

5. สว่ นประกอบของแซกโซโฟน แบง่ ออกเป็นก่ีส่วน
ก. 1 ข. 2
ค. 3 ง. 4

6. Mouthpiece ซ่งึ เป็นสว่ นของเม้าท์จะแบ่งออกเปน็ ก่สี ่วน
ก. 1 ข. 2
ค. 3 ง. 4

7. ลิน้ แซกโซโฟนทเี่ หมาะกบั มือใหมม่ ขี นาดเท่าไหร่บ้าง

ก. 1.5 , 2 , 2.5 ข. 3 , 3.5 , 4

ค 3.5, 2 , 1.5 ง. 3, 2, 1

6

8. ส่วนประกอบของแซกโซโฟนมอี ะไรบา้ ง
ก. Mouthpiece Neck Body
ข. Neck Body Arm
ค. Body Mouthpiece String
ง. Body String Arm

9. ขอ้ ใดต่อไปนเ้ี ปน็ วิธกี ารล้าง Mouthpiece ท่ีถูกตอ้ ง
ก.ลา้ งดว้ ยน้ำเปลา่ สะอาด
ข.ลา้ งด้วยแอลกอฮอล์
ค.เช็ดดว้ ยน้ำมันจักร
ง.เชด็ ดว้ ยแอลกอฮอล์

10. ขอ้ ใดตอ่ ไปน้ีเปน็ การดแู ละแซกโซโฟนทถี่ ูกต้อง
ก.เช็ดด้วยน้ำเปล่าสะอาดที่บิดหมาดๆ
ข. เช็ดดว้ ยผา้ แหง้ ทกุ คร้งั หลงั เปา่ เสรจ็
ค.เช็ดดว้ ยแอลกอฮอล์
ง.เชด็ ด้วยน้ำมันจกั ร

11. โนต้ ตวั กลม มอี ีกช่อื หนงึ่ เรียกวา่ อะไร
ก. Whole note ข.half note
ค. Quarter note ง.Eight note

12. โน้ตตัวขาว มีอีกชือ่ หนึง่ เรียกวา่ อะไร
ก. Whole note ข. half note
ค. Quarter note ง. Eight note

13. โน้ตตัวดำ มอี กี ช่ือหนง่ึ เรียกว่าอะไร
ก. Whole note ข. half note
ค. Quarter note ง. Eight note

7

14-15 จงบอกกญุ แจประหลกั ตอ่ ไปนพ้ี รอ้ มโนต้ ใหถ้ กู ตอ้ ง

14.
ก. กญุ แจโด เสยี ง ฟา
ข. กุญแจซอล เสียง โซล
ค. กญุ แจฟา เสียง มี
ง. กญุ แจฟา เสยี ง ที

15.
ก. กญุ แจซอล เสยี ง ที
ข. กญุ แจโด เสียง มี
ค. กุญแจฟา เสียง ลา
ง. กุญแจฟา เสียง ฟา

16. เสน้ ที่ 5 ของกญุ แจซอลคือเสียงใด
ก.ฟา ข.ซอล
ค.ลา ง.มี

17. เส้นที่ 1 ของกญุ แจซอลคือเสยี งใด
ก.ฟา ข.ซอล
ค.ลา ง.มี

18. เสน้ ที่ 3 ของกุญแจฟาคอื เสยี งใด
ก.โด ข.มี
ค.เร ง.ฟา

8

19-20 จงบอกชอ่ื ตวั โนต้ ตอ่ ไปน้ใี หถ้ กู ตอ้ ง

19. A คือตวั โน้ตใดต่อไปน้ี
ก.ฟา ข.มี
ค.ซอล ง.ลา

20. B คอื ตัวโน้ตใดต่อไปนี้
ก.โด ข.ที
ค.ฟา ง.มี

21. ข้อใดตอ่ ไปนเ้ี ป็นวิธีการนง่ั เป่าแซกโซโฟนท่ีถกู ตอ้ ง
ก. นง่ั หอ่ ไหลพ่ งิ เกา้ อี้
ข. นง่ั ตวั เกรง็ พงิ เก้าอี้
ค. น่ังตัวตรงไม่เกรง็ ไม่พงิ เกา้ อีข้ าขวาไปขา้ งหลงั เล็กน้อย
ง. น่งั ตัวตรงไมเ่ กรง็ ไม่พงิ เกา้ อขี้ าขวาไปขา้ งหน้าเล็กนอ้ ย

22. ขอ้ ใดตอ่ ไปน้เี ป็นการเป่าแซกโซโฟนทถี่ ูกตอ้ ง
ก. นง่ั ตัวตรงยืดอกหลังพงิ เก้าอี้
ข. นั่งตวั ตรงยืดอกหลังไม่พงิ เก้าอี้
ค. นั่งหลงคอ่ มหลังไม่พิงเกา้ อี้
ง. น่งั หลังค่อมหลงั พงิ เกา้ อี้

23. ข้อใดต่อไปนี้เปน็ วิธกี ารนำแซกโซโฟนไปใช้ได้เหมาะสมท่ีสดุ
ก. เดก็ ชายแชมปน์ ำแซกโซโฟนไปเป่าเสียงดังและไมเ่ ป็นเสียงโนต้
ข. เด็กหญิงใบหมอ่ นฝกึ การเป่าแซกอยา่ งสมำ่ เสมอและสามารถต่อเพลงไดด้ ว้ ยตนเอง
ค. เด็กหญงิ น้ำนำแซกไปเป่าแลว้ นำมาเกบ็ เข้าท่ีเดิมทกุ ครั้ง
ง. เด็กชายครามนำแซกโซโฟนไปเป่าแล้วให้เพอื่ นเก็บเขา้ ทีเ่ ดมิ แทนตนเอง

9

24. กลมุ่ โน้ตในขอ้ ใดต่อไปน้ไี ม่อยใู่ นบนั ไดเสยี ง G major
ก. G A B C D E F#
ข. A B C D E F#
ค. C D E F# G A B
ง. F G A B C D E

25. สัญลักษณ์ # เปน็ สญั ลกั ษณ์ท่ีทำหนา้ ท่ีอะไรในทางดนตรี
ก. เพ่มิ เสยี งข้นึ 1 เสยี ง
ข. เพม่ิ เสียงขน้ึ ครึง่ เสียง
ค. ลดเสียงเสียงลง 1 เสยี ง
ง. ลดเสยี งลงครึง่ เสียง

26. สญั ลักษณ์ b เป็นสญั ลกั ษณ์ท่ที ำหน้าท่ีอะไรในทางดนตรี
ก. เพิ่มเสียงขึ้น 1 เสียง
ข. เพม่ิ เสียงขน้ึ ครึ่งเสียง
ค. ลดเสยี งเสยี งลง 1 เสยี ง
ง. ลดเสยี งลงครง่ึ เสยี ง

27. คำว่า Rest ในทางดนตรตี รงกับตัวโนต้ ใด
ก. ตวั กลม ข. ตัวขาว
ค. ตวั ดำ ง. ตวั หยุด

28. ข้อใดตอ่ ไปนี้เปน็ การนำแบบฝกึ หดั มาใชใ้ นการเป่าไดถ้ กู ตอ้ งและเหมาะสมท่สี ดุ
ก. เด็กชายจุ้นเป่าแซกโดยการใช้วธิ ีลองโทน
ข. เด็กชายสยามเป่าโดยการเรมิ่ จากตัวกลมไปจนถึงตัวดำโดยเปดิ เมโทรนอมทุกครั้งท่เี ปา่
ค. เดก็ หญิงซเี ป่าตวั โน้ตโดยท่ีไมเ่ ปิดเมโทรนอม
ง. เด็กหญงิ ฟา้ เปา่ ตัวโน้ตโดยการจำแบบฝึกหดั เพยี งคร้งั เดียว

10

29. ขอ้ ใดตอ่ ไปนถี้ ูกตอ้ งทีส่ ุดเกย่ี วการเป่าแบบฝกึ หัดแซกโซโฟน
ก. กอ่ นเปา่ ทกุ ครั้งควรวอรม์ ปาก
ข. ก่อนเป่าทกุ ครงั้ ควรดื่มน้ำหรอื แปรงฟันทกุ ครั้ง
ค. หลงั เป่าเสรจ็ ควรเก็บเคร่ืองไว้ท่ีเดมิ
ง. หลงั เปา่ เสร็จนำเครื่องไปตากแดดไวเ้ พือ่ ฆ่าเช้อื

30. คำว่า Double bar ในทางดนตรีคอื ขอ้ ใด
ก. ใช้แสดงทอ่ นเริ่มเพลง
ข. ใช้แสดงทอ่ น Solo
ค. ใช้แสดงท่อน Intro
ง. ใช้แสดงทอ่ นจบของเพลง

เฉลย 1. ค 2. ง 3. ก 4. ก 5. ค 6. ค 7. ก 8. ก 9. ก 10. ข
11. ก 12. ข 13. ค 14. ข 15. ง 16. ก 17. ง 18. ค 19. ง 20. ข
21. ง 22. ข 23. ข 24. ง 25. ข 26. ค 27. ง 28. ข 29. ก 30. ง

11

ตารางวเิ คราะห์แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรยี น

วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรยี นรู้ ระดบั ขนั้ การเรยี นรดู้ า้ นพทุ ธพิ สิ ยั รวม
วตั ถุ
1.1 นกั เรียนมีความรู้ รจู้ ำ เขา้ ใจ นำไปใช้ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ประเมนิ คา่ ประสงค์
และกล่าวถึงประวตั ิ กอ่ นเรยี น
ความเปน็ มาของแซก 1), 2), 3), 2), 3), 4), 2), 3), 4), 8 ขอ้
โซโฟนได้ (K) 4), 5), 6), 5), 6), 7), 7),
1.2 นกั เรยี นสามารถ 7), 8) 8) กอ่ นเรยี น
อธบิ ายการดแู ลรกั ษา 2 ขอ้
แซกโซโฟนได้ (P) 9), 10) 9), 10) 9), 10)
2.1 นักเรียนมคี วามรู้ ก่อนเรยี น
ความเขา้ ใจ และบอก 11), 12), 11), 12), 11), 12), 15 ขอ้
สัญลักษณ์ที่ใชบ้ ันทึก 13), 14), 13), 14), 13), 14),
แทนเสียงดนตรีสากล 15), 16), 15), 16), 15), 16), ก่อนเรียน
เบอ้ื งตน้ ได้ (K) 17), 18), 17), 18), 17), 18), 3 ขอ้
19), 20), 19), 20), 19), 20),
3.1 นักเรยี นมีความรู้ 24), 25), 24), 25), 24), 25), ก่อนเรียน
ความเขา้ ใจ และอธิบาย 26), 27), 26), 27), 26), 27), 2 ขอ้
พ้ืนฐานการฝึกเปา่ แซก 30) 30) 30)
โซโฟนเบอ้ื งต้นได้ (K) 21), 22), 21), 22), 21), 22), กอ่ นเรยี น
4.1 นักเรียนมีความรู้ 23) 23) 23) 0 ขอ้
ความเข้าใจ ในแบบฝึก
เป่าตวั โนต้ เบอ้ื งตน้ (K) 28), 29) 28), 29) 28), 29)

รวม กอ่ นเรยี น กอ่ นเรยี น กอ่ นเรยี น กอ่ นเรยี น กอ่ นเรยี น
ลำดบั ขน้ั การเรยี นรู้ 30 ขอ้ 29 ขอ้ 26 ขอ้ 0 ขอ้ 0 ขอ้

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 12

เรอื่ ง “บทท่ี 1 ประวตั แิ ละความรพู้ น้ื ฐานเก่ียวกับแซกโซโฟน”

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ศิลปะ ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 1 เวลา 60 นาที

*****************************************************************************
หวั เรอื่ ง

1. ประวัตคิ วามเป็นมาของแซกโซโฟน
2. ชนิดของแซกโซโฟน
3. สว่ นประกอบแซกโซโฟน
4. วธิ ีการประกอบเครือ่ ง
5. การดูแลรักษาแซกโซโฟน

5.1 การดแู ลรักษาภายใน
5.2 การดแู ลรกั ษาภายนอก

แนวคิด
1. ประวัติความเป็นมาของแซกโซโฟน แซกโซโฟนเป็นเครื่องดนตรีที่ก้ำกึ่งระหว่างเครื่องลมไม้กับเครื่องลม
ทองเหลือง ซึ่งปราชญ์ทางดนตรีได้จัดให้อยู่ในประเภทเครื่องลมไม้ เพราะแม้ลำจะทำด้วยโลหะแต่เสียง
กระเดียดไปทางเครื่องลมไม้ ส่วนปากเป่าประกอบด้วยลิ้นปี่ที่ทำด้วยไม้ แซกโซโฟนเป็นเครื่องดนตรีที่ถูก
ประดษิ ฐโ์ ดย อดอล์ฟ แซก็ (Adolphe Sax) เขาได้ประดษิ ฐ์แซกโซโฟนและไดน้ ำออกแสดงในงานนิทรรศการ
เครอ่ื งดนตรที กี่ รุงบรสั เซลส์ในปี ค.ศ.1841
2. ชนดิ ของแซกโซโฟน ตระกลู แซกโซโฟนเปน็ ตระกลู ใหญเ่ ช่นเดียวกับคลาริเน็ต แซกโซโฟนมีขนาดต่าง ๆ ถงึ 7
ขนาดด้วยกัน ดังน้ี 1) โซปราโนแซกโซโฟน 2) อัลโต้แซกโซโฟน 3) เทเนอร์แซกโซโฟน 4) บาริโทนแซก
โซโฟน 5) เบสแซกโซโฟน 6) คอนทรา่ เบส แซกโซโฟน 7) ซับคอนทร่าเบส แซกโซโฟน
3. ส่วนประกอบแซกโซโฟน แซกโซโฟนจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนที่ 1 Mouthpiece หรือเมาท์ ส่วนที่ 2
Neck หรอื คอแซกโซโฟน ส่วนที่ 3 Body ตัวเครอื่ ง
4. วิธกี ารประกอบเครื่อง มอี ยู่ดว้ ยกนั 3 วธิ ีการ 1) ประกอบคอปากเป่าเข้ากับตวั เครื่องแล้วขนั นอ็ ต 2) ประกอบ
ลิ้นเข้ากับปากเปา่ 3) ประกอบปากเปา่ เข้ากบั คอปากเปา่
5. การดูแลรกั ษาแซกโซโฟน มีวิธีการดูแลรกั ษาด้วยกัน 2 ส่วน คือ 1) การดูแลรักษาภายใน 2) การดูแลรกั ษา
ภายนอก

วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรยี นรู้
1. นักเรียนมคี วามรแู้ ละกล่าวถงึ ประวัติความเปน็ มาของแซกโซโฟนได้ (K)
2. นกั เรยี นสามารถอธิบายการดแู ลรักษาแซกโซโฟนได้ (P)
3. นักเรียนมคี วามกระตอื รอื รน้ และให้ความรว่ มมอื ในการทำกจิ กรรม (A)

ตารางแผนการจดั การการเรยี นรู้ 13

ลำดับท่ี ขนั้ ตอนกจิ กรรม วธิ กี าร รปู แบบการสอน สอ่ื การสอน ระยะเวลา
1. ทดสอบกอ่ นเรียน ทดสอบ
2. นำเขา้ สู่การเรียน บรรยาย/พูดคุย SDL แบบทดสอบก่อนเรียน 5 นาที
3. ประกอบกิจกรรมการเรียน บรรยาย
3.1 นกั เรยี นศึกษาใบความรู้ สาธติ TDL/SDL ใบความรูท้ ่ี 1 3 นาที
เรือ่ งบทท่ี 1ประวตั ิและ
ความร้พู ้นื ฐานเกย่ี วกับแซก บรรยาย TDL ใบความรู้ที่ 1 / แซก 40 นาที
โซโฟน โดยครผู สู้ อนอธบิ าย ทดสอบ
เนอื้ หาเพอ่ื สร้างเขา้ ใจให้กบั โซโฟน
นักเรยี นทีละขอ้
4. สรปุ เนอ้ื หา TDL/SDL ใบความรทู้ ่ี 1 2 นาที
5. ทดสอบหลงั เรยี น
SDL แบบทดสอบหลงั เรียน 10 นาที

สอื่ ท่ใี ช้
1. ใบความรูท้ ี่ 1
2. แซกโซโฟน

การประเมนิ ผล
1. ประเมนิ ผลสมั ฤทธิ์จากแบบทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรียน
2. ประเมนิ ผลสัมฤทธิ์จากการสังเกตพฤตกิ รรม

14

ประมวลสาระ เนอื้ หาบทเรยี น
เรอ่ื ง บทที่ 1 ประวัตแิ ละความรูพ้ ้นื ฐานเกี่ยวกับแซกโซโฟน

ใบความรทู้ ี่ 1

เรอ่ื ง ประวตั แิ ละความรพู้ น้ื ฐานเกย่ี วกบั แซกโซโฟน
แซกโซโฟนเป็นเครื่องดนตรีทีก่ ำ้ กึง่ ระหวา่ งเครื่องลมไมก้ ับเครื่องลมทองเหลือง ซึ่งปราชญ์ทางดนตรี

ได้จัดให้อยู่ในประเภทเครือ่ งลมไม้ เพราะแม้ลำตัวจะทำด้วยโลหะแต่เสียงกระเดียดไปทางเครื่องลมไม้ ส่วน
ปากเป่าประกอบด้วยลิ้นปี่ท่ีทำด้วยไม้ เสียงของแซกโซโฟนจึงเจิดจา้ และสร้างความรูส้ ึกแปลกหู เหมือนกับ
การผสมผสานระหว่างเชลโลคอร์อังแกลส์และคลาริเน็ต ทำให้บรรเลงเสียงได้กระซิบกระซาบ อ่อนหวาน
นุ่มนวล และไม่แผดจนแสบโสตประสาท จึงเหมาะสมที่จะใช้เป็นเครื่องดนตรีบรรเลงเดี่ยว จากวงโยธวาทิต
เดนิ ทางไปสวู่ งแจส๊ ในที่สุดแซกโซโฟนจึงกลายเป็นเครอ่ื งดนตรีทว่ี งแจ๊สจะขาดเสียมิได้ ทงั้ ยังเป็นท่ีนิยมในการ
บรรเลงบทเพลงคลาสสกิ สมยั ใหมอ่ ีกดว้ ย (อาคม ทฆี วาทนิ , 2552 หน้า 3)

ประวตั ิความเปน็ มาของแซกโซโฟน
แซกโซโฟนเป็นเครื่องดนตรีท่ีถูกประดิษฐโ์ ดย อดอลฟ์ แซก็ (Adolphe Sax) ซ่ึงมชี อ่ื จรงิ วา่ Antoine

– Joseph Sax แตค่ นท่ัวไปเรยี กเขาว่า Adolphe Sax เขาเป็นชาวเบลเยยี ม เกิดทเี่ มอื งดนิ านท์ (Dinant) เมื่อ
วันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1814 บิดาเขาชื่อ ชาร์ล โจเซฟแซ็ก (Charles Joseph Sax) เป็นนักดนตรีเปา่ ฟลตุ
และคลาริเน็ต นอกจากนแี้ ล้วบิดาของเขายงั มีโรงงานประดิษฐเ์ ครอ่ื งดนตรี โดยเฉพาะเครอื่ งลมไม้และเครื่อง
ลมทองเหลืองอยู่ท่ีเมืองดินานท์อีกด้วย ประมาณ ปี ค.ศ. 1815 บิดาเขาได้ย้ายโรงงานไปอยู่ท่ีกรุงบรสั เซลล์
อดอล์ฟ แซ็ก ได้เรียนรู้และได้รับการถ่ายทอดวิชาซ่อมและประดิษฐ์เครื่องดนตรีจากบิดา ในขณะเดียวกัน
อดอล์ฟ แซ็ก ยังได้ศกึ ษาดนตรีที่สถาบนั ดนตรแี ห่งกรงุ บรัสเซลล์ โดยเรยี นเป่าฟลุตและคลารเิ นต็

ในปี ค.ศ.1830 อดอล์ฟ แซ็ก ได้ประดิษฐ์เคร่ืองดนตรีของเขาเป็นครัง้ แรก โดยมีฟลุตและคลาริเนต็
ซง่ึ ทำด้วยงาช้าง แสดงในงานนทิ รรศการเครือ่ งดนตรีที่กรุงบรสั เซลล์ ในปี ค.ศ.1838 เขาไดจ้ ดทะเบยี นลิขสิทธ์ิ
ในการประดิษฐเ์ บสคลารเิ นต็ ระหว่างปี ค.ศ.1840-1841 เขาไดป้ ระดษิ ฐแ์ ซกโซโฟนและไดน้ ำออกแสดงในงาน
นทิ รรศการเคร่ืองดนตรีที่กรงุ บรัสเซลส์ในปี ค.ศ.1841 แต่คณะกรรมการไมไ่ ด้มอบรางวลั ให้แกเ่ ขาเลยโดยอ้าง
ว่าอายุยังน้อย ในที่สุดเขาได้ยา้ ยไปตั้งร้านซ่อมและประดิษฐเ์ ครื่องดนตรีที่กรุงปารีสในปี ค.ศ.1842 ร้านของ
เขาไดร้ ับความนิยมมากที่สุดในยุโรปโดยเฉพาะเคร่อื งลมไม้และเครือ่ งทองเหลืองในสมัยนั้น ในระหวา่ งปี ค.ศ.
1842-1845เขาได้ประดษิ ฐ์เครอื่ งดนตรีตระกูลทองเหลือง เรียกว่า แซ็กฮอร์น และได้จดทะเบยี นลิขสิทธิ์ที่กรุง
ปารสี ในปี ค.ศ.1845 ในขณะเดียวกนั เขาพยายามพฒั นาแซกโซโฟนจนสมบรู ณ์และได้จดทะเบียนลิขสิทธ์ในปี
ค.ศ.1846 ท่ีกรุงปารีส

15

อดอล์ฟ แซ็ก ได้ชื่อว่าเป็นครูสอนแซกโซโฟนคนแรกของโลก โดยเริ่มสอนที่สถาบันดนตรีแห่งกรุง
ปารีสในปี ค.ศ.1857 เป็นเวลา 13 ปี เขาเสยี ชีวิตในวนั ท่ี 4 กุมภาพนั ธ์ ค.ศ.1894 ทกี่ รงุ ปารีส เมอื่ มอี ายุ 80 ปี
(สกุ รีเจรญิ สขุ , 2545 หน้า 1-2)

ภาพท่ี 1 อดอลฟ์ แซก็
ทีม่ า : กำจร กาญจนถาวร, 2558

แซกโซโฟนของ อดอลฟ์ แซก็
อดอลฟ์ แซก็ ได้มคี วามต้ังใจทจ่ี ะประดิษฐ์เคร่ืองดนตรีชนิดใหม่ใหม้ ีเสียงประสมระหว่างเคร่ืองลมไม้

และเครื่องทองเหลือง เขาทดลองประดษิ ฐแ์ ป้นน้ิวประกอบนวมใส่กบั เครื่องทองเหลอื ง เรียกว่า อัฟฟิคคลาย
โดยยังคงใช้กำพวดรูปถ้วยของเครื่องทองเหลือง แล้วได้เปลี่ยนเป็นกำพวดแบบคลาริเน็ตแทน ในที่สุดความ
พยายามของเขาในการผสมลักษณะของเครื่องดนตรี ระหว่างเครื่องลมไม้และเครือ่ งทองเหลือง ให้ออกเป็น
เสียงประสมเปน็ ผลสำเรจ็ เรียกวา่ แซกโซโฟน โดยลำตัวของแซกโซโฟนมลี ักษณะเหมือนเคร่อื งทองเหลอื ง คือ
ทำด้วยโลหะทรงกระบอก ลำตัวเป็นรูปกรวยโค้งคล้ายเบสคลาริเน็ต ระบบนิ้วและแป้นมีส่วนคล้ายโอโบ
กำพวดใช้กำพวดคลาริเน็ตคือมีลักษณะเปน็ ลิ้นเด่ียว (Single Reed) เป็นที่เชื่อกันว่า อดอล์ฟ แซ็ก ประดิษฐ์
แซกบารโิ ทนเป็นคนั แรกกอ่ นทจี่ ะพัฒนาไปสู่ตระกลู อ่ืนๆ

บทเพลงชิน้ แรกท่ีมที างเพลงสำหรบั แซกโซโฟนรวมอยู่ดว้ ยประพนั ธ์โดย Berlioz โดยมี อดอล์ฟ แซ็ก
เปน็ คนเปา่ แซกโซโฟนเอง บรรเลงครัง้ แรกในปี ค.ศ.1844 หลังจากนั้นความนิยมของแซกโซโฟนได้แพร่ขยาย
ไปทั่วยโุ รปและอเมริกา ดรุ ยิ กวีสำคัญๆ หลายคนได้ประพันธ์ ดรุ ิยวรรณกรรมใหม้ ีแซกโซโฟนรวมอยู่ด้วย เช่น

16

Berlioz, Meyerbee, Saint – Saens, Bizet, Richard Strauss, Milhaud, Debussy, Ibert, Hindemith
เปน็ ตน้ โดยเฉพาะดนตรแี จ๊สในอเมรกิ า แซกโซโฟนกลายเปน็ เครื่องดนตรเี อกช้ินหนง่ึ

เนื่องจากความนิยมของแซกโซโฟนมีอยู่สูง การผลิตเครื่องด้วยมือทำให้ไม่ทันกับความต้องการในปี
ค.ศ.1885 ซีจีคอนน์ ได้ตั้งโรงงานผลิตแซกโซโฟนในอเมริกา ในระยะต้นของคริสศตวรรษที่ 20 บริษัทเฮนร่ี
เซลเมอร์ (Selmer) แห่งปารีสได้ซื้อร้านของอดอล์ฟ แซ็ก จากลูกชายของเขามาดำเนนิ การแทน และได้ผลิต
แซกโซโฟนยีห่ อ้ เซลเมอร์ (Selmer) คร้งั แรกในปี ค.ศ.1920 (สกุ รเี จรญิ สขุ , 2545 หน้า 2)

ชนิดของแซกโซโฟน
ตระกูลแซกโซโฟนเป็นตระกูลใหญ่เช่นเดียวกับคลาริเน็ต แซกโซโฟนมีขนาดต่าง ๆ ถึง 7 ขนาด

ดว้ ยกนั ดงั น้ี
1. โซปราโนแซกโซโฟน (Soprano Saxophone)
เป็นแซกโซโฟนที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบาและมีความถี่ยังไม่สูงที่สุด มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา จึง

สามารถถือไว้ในมือได้ง่ายโดยไม่จำเป็นต้องใช้สายสะพายแซกโซโฟนก็ได้ โซปราโนแซกโซโฟนไม่เหมาะสม
สำหรับผทู้ ีต่ ้องการหัดเลน่ แซกโซโฟนใหม่ๆ เนือ่ งจากมคี วามยากในการคุมเสียงมากกว่าอัลโต้แซกโซโฟนและ
เทเนอร์แซกโซโฟน ถือเป็นเครื่องที่ใช้แทนไวโอลินในช่วงโพสิชัน่ ที่หนึ่ง (1st) ในวงประเภทเครือ่ งเป่า ระดับ
เสียง Bb เท่ากับเครือ่ งดนตรีคลารเิ นต็ และทรัมเปต็ ในปัจจบุ นั โซปราโนแซกโซโฟนจะมีรปู ทรงให้เลอื ก 2 แบบ
คือแบบตรง และแบบโคง้ กจ็ ะมลี ักษณะเหมือนกับอัลโตแ้ ซกโซโฟนแต่มขี นาดเลก็ กวา่ (วิกพิ ีเดียสารานุกรมเสรี,
2558)

ภาพท่ี 2 โซปราโนแซกโซโฟน
ทมี่ า : ศุภชา พริ ภิ ณั ฑ์, 2558

17

2. อลั โตแ้ ซกโซโฟน (Alto Saxophone)
เป็นแซกโซโฟนที่ค่อนข้างเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น เนื่องจากเป็นแซกโซโฟนที่เป่าง่ายกวา่ โซปราแซก

โซโฟนและมีน้ำหนกั เบากว่าเทเนอร์แซกโซโฟน อัลโต้แซกโซโฟนสามารถเป่าได้ในดนตรีหลายๆ สไตล์ไม่ว่าจะ
เป็นสไตลค์ ลาสสิก, ป็อป, แจ๊ส แตน่ ักดนตรีคลาสสิกจะนิยมใช้อัลโตแ้ ซกโซโฟนในการเลน่ มากกว่าการใช้แซก
โซโฟนชนิดอื่นๆ รวมถึงการเล่นดนตรีแบบแตรวง คอนเสิร์ตหรือมาร์ชช่ิงแบรนด์ก็เช่นกนั ถือเป็นเครื่องทีใ่ ช้
แทนไวโอลิน วิโอล่าในวงประเภทเครื่องเป่า อัลโต้แซกโซโฟนจึงเป็นแซกโซโฟนที่ได้รับความนิยมมาก
ทีส่ ดุ ในเอเชยี (วิกิพีเดียสารานกุ รมเสรี,2558)

ภาพท่ี 3 อลั โต้แซกโซโฟน
ท่มี า : ศุภชา พริ ภิ ัณฑ์, 2558
3. เทเนอร์แซกโซโฟน (Tenor Saxophone)
เป็นแซกโซโฟนที่ถูกใช้มากในการเล่นดนตรีแนวแจ๊ส แต่ก็สามารถเห็นเทเนอร์แซกโซโฟนได้ในการ
เล่นดนตรแี บบอื่นๆ เสียงของเทเนอร์แซกโซโฟนจะมีลักษณะแบบนุ่มๆ ระดับเสียง Bb และต่ำกว่าอัลโต้แซก
โซโฟนและโซปราโนแซกโซโฟน รองจากอัลโต้แซกโซโฟน (โทนเสียงที่เล่นได้จะอยู่ในโทนอัลโต้เทเนอร์) ถือ
เป็นเครอ่ื งท่ใี ชแ้ ทนวโิ อล่าในวงประเภทเคร่ืองเป่า และเทเนอรแ์ ซกโซโฟนกน็ า่ จะเปน็ ตัวเลอื กที่มือใหม่ควรจะ
ใช้ในการเริ่มต้น (วกิ ิพีเดยี สารานกุ รมเสรี, 2558)

18

ภาพท่ี 4 เทเนอร์แซกโซโฟน
ทม่ี า : ศภุ ชา พริ ภิ ณั ฑ์, 2558
4. บาริโทนแซกโซโฟน (Baritone Saxophone)
เปน็ แซกโซโฟนทมี่ ีขนาดใหญ่และมีความถ่ีเสียงต่ำ แต่ยังสามารถท่ีจะบรรเลงเดย่ี วได้เพราะโทนเสียง
อยใู่ นชว่ งโทนเทเนอร์-เบส ถอื เปน็ เครือ่ งที่ใชแ้ ทนเชลโล่ในวงประเภทเคร่ืองเป่า แตม่ รี าคาคอ่ นข้างแพง และมี
น้ำหนัก ดังน้ันบาริโทนแซกโซโฟนจึงไมเ่ หมาะแก่นักแซกโซโฟนมอื ใหม่ท้งั หลาย ความยาวท่อของบาริโทนแซก
โซโฟนจะอยู่ประมาณ 7 ฟุต (วกิ พิ เี ดียสารานกุ รมเสรี, 2558)

ภาพท่ี 5 บารโิ ทนแซกโซโฟน
ท่มี า : ศุภชา พริ ิภัณฑ์, 2558

19

5. เบสแซกโซโฟน (Bass Saxophone)
ระดบั เสียงของเบสแซกโซโฟนเปน็ ระดับเสยี ง Bb เป็นแซกโซโฟนท่มี ีขนาดคอ่ นขา้ งใหญ่ มีเสียงต่ำกวา่

เทเนอร์แซกโซโฟน 1 ช่วงเสียงหรือคู่แปดและต่ำกว่าบาริโทนแซกโซโฟน เป็นคู่ 4 เล่นโทนเสียงเบสเป็นหลกั
ถือเป็นเครอื่ งที่ใช้แทนเสยี งคอนทรา่ เบสในวงประเภทเคร่ืองเปา่ (วกิ ิพเี ดยี สารานกุ รมเสรี, 2558)

ภาพท่ี 6 เบสแซกโซโฟน
ทีม่ า : กาญจนาวดี โคตรเสนา, 2558
6. คอนทรา่ เบส แซกโซโฟน (Contrabass Saxophone) (Eb)
เปน็ เครื่องท่มี ขี นาดเกอื บทจ่ี ะใหญท่ สี่ ดุ มคี วามยาวเป็นสองเท่าของบารโิ ทนแซกโซโฟน มีความสูงของ
เครอ่ื งมากกว่าคนเล็กน้อย มีช่วงเสยี งต่ำกวา่ บารโิ ทนแซกโซโฟน 1 ช่วงเสียงหรือค่แู ปด เปน็ เครื่องดนตรีที่พบ
เหน็ ไดย้ าก และมีการผลิตอยู่ไม่มาก ลักษณะเสียงจะเป็นลักษณะเสยี งตำ่ (วิกิพเี ดยี สารานกุ รมเสรี, 2558)

20

ภาพที่ 7 คอนทรา่ เบส แซกโซโฟน
ที่มา : กาญจนาวดี โคตรเสนา, 2558
7. ซับคอนทร่าเบส แซกโซโฟน (Subcontrabass Saxophone)
เป็นแซกโซโฟนที่มขี นาดทใ่ี หญ่ที่สุดในปัจจุบัน (วกิ พิ เี ดยี สารานกุ รมเสรี, 2558)

ภาพที่ 8 ซับคอนทร่าเบส แซกโซโฟน
ทมี่ า : ณฐั วุฒ ต้นแพง, 2558

21

สว่ นประกอบแซกโซโฟน
ส่วนที่ 1 Mouthpiece ซึ่งเป็นส่วนของเมา้ ทจ์ ะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน
1. ที่รัดลิ้น จะทำหน้าที่รัดลิ้นเข้ากับตัว Mouthpiece เพื่อให้เกิดการสั่นสะเทือนกับตัว
เมา้ ทแ์ ละเกดิ เสียงข้ึน
2. ลน้ิ ล้ินทำดว้ ยวัสดุไม้ไผ่ส่วนปลายตัดเปน็ รปู โค้งมนส่วนทางโคนจะแข็ง เพื่อรัดล้ินให้เข้า
กบั ตัว Mouthpiece
3. Mouthpiece มีทั้งทีท่ ำจากพลาสติกและโลหะซ่งึ จะมผี ลในเร่ืองของเสยี ง โดยปากโลหะ
จะใหเ้ สียงท่ีดงั กังวานแตไ่ ม่อ่อนหวาน สว่ นที่ท าจากพลาสตกิ มีความน่มุ นวลกวา่ แต่เสียง
จะไม่กระดา้ งและส่วนจะทำใหเ้ สียงทีก่ ระด้างและไม่กระด้างกข็ น้ึ อยู่กบั การฝกึ ซอ้ ม
สว่ นท่ี 2 Neck หรอื คอแซกโซโฟน
ส่วนคอ ส่วนนี้จะสามารถถอดได้เชน่ เดียวกับเม้าท์ ใช้ประกอบเข้ากับตวั เครื่องเพ่ือจะเป็นส่วน

โค้งของแซกโซโฟนและเป็นทีป่ ระกอบเสียบเม้าท์และจะมกี ระเดือ่ งซ่ึงเป็นตวั ปิดเปิดรูในการเปล่ียนเสียง
ส่วนท่ี 3 Body ตวั เครือ่ ง
คอื ส่วนประกอบหลักของเคร่ืองดนตรี จะมีส่วนประกอบมากมายในตวั เครือ่ งซ่ึงผู้ฝึกหัดต้องให้

ความสำคญั กับรายละเอยี ดของตัวเครอื่ งให้มาก เน่ืองจากจะต้องสมั ผสั กบั ตวั เครือ่ งตลอดเวลาขณะเป่าและจะ
เป็นทไี่ ว้สำหรับจบั และกำเนดิ เสยี งตวั โนต้ ต่าง ๆ

สว่ นประกอบแซกโซโฟนทัง้ 3 ส่วนนีส้ ามารถแยกออกจากกนั ได้ สำหรับสว่ นหัวแซกโซโฟนจะมี
ลน้ิ ประกอบอยู่ ซง่ึ ล้ินสามารถเปลย่ี นไดแ้ ละมีหมายเลขต่างกนั เชน่ 1.5, 2, 2.5 เหมาะสำหรบั ผ้ฝู กึ ใหม่ เพราะ
ล้นิ จะมลี ักษณะออ่ น สว่ นลิ้นหมายเลข 3, 3.5 และ 4 เหมาะสำหรับผทู้ ม่ี คี วามชำนาญหรือนกั ดนตรีอาชีพ

สว่ นท่เี ปน็ ลำตัวของแซกโซโฟนจะมสี ว่ นประกอบต่างๆ ที่มีลักษณะคล้ายกระเดื่อง ซึง่ จะแยกออกเป็น
จดุ ตา่ งๆ ผู้ฝกึ จะตอ้ งใช้น้ิวมอื ซ้ายและนิ้วมือขวากดลงไปพร้อมกัน แลว้ เป่าลมเข้าไปยังปากเป่า เสียงท่ีเกิดข้ึน
จะมีระดบั ต่างกันไป (อาคม ทีฆวาทนิ , 2552 หน้า 5)

แซกโซโฟนมสี ่วนประกอบท่ีสำคญั 3 ส่วน ได้แก่ 22

ส่วนที่ 1 Mouthpiece
สว่ นที่ 2 Neck คอแซกโซโฟน

ส่วนที่ 3 Body ตัวเครอื่ ง

ภาพที่ 10 ส่วนประกอบของแซกโซโฟน
ท่ีมา : ศุภชา พริ ภิ ณั ฑ์, 2558

23

วธิ กี ารประกอบเครอ่ื ง
1. ประกอบคอปากเป่าเข้ากับตัวเครื่องแล้วขันน็อต ยึดคอปากเป่าให้แน่น อาจจะทา Slide
Grease บาง ๆ ทค่ี อปากเปา่ ดว้ ยก็ได้

ภาพที่ 11 วธิ ีประกอบเครอื่ ง
ทีม่ า : สกุ รีย์ อดุ คนดี, 2558
2. ประกอบลนิ้ เข้ากบั ปากเป่าโดยให้ปากเป่าเหลือ่ มออกมาเลก็ นอ้ ย

ภาพท่ี 12 การประกอบล้ินเข้ากับปากเป่า
ที่มา : สกุ รยี ์ อดุ คนดี, 2558

24

3. ประกอบปากเป่าเข้ากับคอปากเปา่ โดยทาขี้ผงึ้ Cork grease ท่ีปลายคอปากเปา่ เล็กนอ้ ย แลว้ คอ่ ย ๆ
หมุนปากเปา่ สวมเขา้ ไป

ภาพที่ 13 การประกอบปากเป่าเข้ากับคอปากเป่า
ท่ีมา : สกุ รยี ์ อดุ คนดี, 2558

การดแู ลรกั ษาแซกโซโฟน
การดูแลรักษาแซกโซโฟน เป็นเร่อื งทีไ่ มใ่ ช่เร่อื งยาก แตต่ อ้ งอาศัยการปฏบิ ัติจนเปน็ นิสยั
การดแู ลรกั ษาภายใน

ภาพที่ 14 การดูแลรกั ษาแซกโซโฟน
ทีม่ า : สุกรีย์ อดุ คนดี, 2558

25

การดแู ลรกั ษาภายใน ควรทำดงั น้ี
1. เช็ดทำความสะอาดปากเปา่ และคอปากเป่าด้วยผ้าทำความสะอาด (Cleaning Swab) สำหรบั
Baritone Saxophone ใหป้ ล่อยน้ำลายทค่ี อปากเปา่ ออกใหห้ มด
2. ใชอ้ ุปกรณจ์ ากชดุ ทำความสะอาด Saxophone ทำความสะอาดภายใน ตามรปู
3. ควรทำอย่างน้อยเดอื นละ 1 ครงั้ และควรทำความสะอาดคอปากเป่าตามขั้นตอนตอ่ ไปน้ี
3.1 ผสมนำ้ สบู่ (Brass Soap) กบั น้ำอ่นุ (30 - 40 องศา ) ในอตั ราสว่ น น้ำสบู่ 1 ส่วน ต่อนำ้ อุ่น 10-
15 ส่วน
3.2 ปิดรูเสยี งทคี่ อปากเปา่ เพ่อื ไม่ใหน้ ำ้ ไหลออกทางรู
3.3 ใชแ้ ส้ล้างแตรจุ่มน้ำสบู่ทำความสะอาดภายในคอปากเปา่ ให้ทั่ว
3.4 ล้างน้ำสบู่และคราบสกปรกออกให้หมดดว้ ยน้ำสะอาด
3.5 เชด็ คอปากเปา่ ใหแ้ ห้งด้วยผ้าทำความสะอาด (Cleaning Swab)

ภาพที่ 15 การทำความสะอาดคอปากเปา่
ที่มา : สกุ รยี ์ อดุ คนดี, 2558

26

การดแู ลรกั ษาภายนอก

ภาพที่ 16 การดูแลรกั ษาภายนอก
ทม่ี า : สุกรีย์ อดุ คนดี, 2558

การดแู ลรกั ษาภายนอก ควรทำดงั น้ี
1. เช็ดทำความสะอาดตัวเครื่องภายนอกด้วยผ้า Polishing Cloth โดยอาจจะชุบด้วยน้ำยา
Lacquer Polish สักเล็กน้อยเช็ดบริเวณที่สกปรกมาก สำหรับเครื่องที่เคลือบด้วยแลคเกอร์
พเิ ศษ ห้ามใช้น้ำยาเชด็ นิเกิล (Metal Polish) เพราะจะทำให้แลคเกอร์ท่ีเคลือบอยู่หลุดออกได้
สว่ นเครอื่ งทีช่ บุ ด้วยเงนิ ให้ใช้น้ำยาขัดเงิน (Silver Polish) แทน
2. การใช้น้ำยาขัดเครื่องควรกระทำเฉพาะบริเวณที่เป็นตัวเครื่องเท่านั้น การทำความสะอาด
กระเด่ืองนนั้ ควรนำผ้ามาพบั เป็นแถบเลก็ แล้วสอดเข้ากับร่องต่างๆ ของกระเดือ่ งเช็ดเพียงเบาๆ
หากเป็นซอกทีผ่ า้ เขา้ ไมถ่ งึ กใ็ หใ้ ช้ลวดสักหลาด

27

การดแู ลรกั ษานวม
น้ำและของเหลวทุกชนิดเป็นสิ่งไม่พึงประสงค์ต่อนวม จึงห้ามนำเครื่องไปล้างน้ำหรือโดนฝนและ

ภายหลังการใช้เครื่องทุกครั้งจะต้องซับความชื้นออกจากนวมด้วยกระดาษซับนวม (Cleaning Paper) โดย
สอดกระดาษซับนวมเข้าไประหว่างรูเสียงกับนวม แล้วกดแป้นหรือกระเด่ืองของนวมน้ันหลายๆ ครั้ง จนนวม
แห้ง รูเสียงของ Octave Key ก็มีความสำคัญไม่น้อยเมื่อมีฝุ่นหรือคราบสกปรกเกาะติดมากๆ อาจจะทำให้
เสียงทเ่ี ป่าออกมาเพย้ี นไมส่ มบรู ณ์ ควรทำความสะอาดด้วยลวดสกั หลาด (Tone hole cleaner) และกระดาษ
ซบั นวมเป็นประจำ

*******************************************************************

28

กจิ กรรมท่ี 1 แบบทดสอบกอ่ นเรยี นบทท่ี 1

คำสั่ง จงทำเครือ่ งหมายวงกลมรอบคำตอบที่ถกู ต้อง

1. ชอ่ื จริงหรอื ชอ่ื ดง้ั เดิมของแซกโซโฟนคอื ชือ่ ใด

ก. Wood wind ข. Alto saxophone

ค. Aldophe sax ง. Alto

2. แซกโซโฟนแบง่ ออกเป็นกป่ี ระเภท
ก. 4 ข. 5
ค. 6 ง. 7

3. แซกประเภทใดเปน็ แซกตระกูลเสยี งสงู

ก. Soprano sax ข. Tenor sax

ค. Baritone sax ง. Bass sax

4. ข้อใดตอ่ ไปน้ีเป็นแซกทีม่ ีขนาดใหญ่ที่สดุ

ก. Subcontrabass sax ข. Tenor sax

ค. Baritone sax ง. Bass sax

5. ส่วนประกอบของแซกโซโฟน แบ่งออกเปน็ ก่สี ว่ น
ก. 1 ข. 2
ค. 3 ง. 4

6. Mouthpiece ซง่ึ เป็นส่วนของเมา้ ทจ์ ะแบ่งออกเป็นกี่สว่ น
ก. 1 ข. 2
ค. 3 ง. 4

7. ลิน้ แซกโซโฟนทเ่ี หมาะกับมอื ใหม่มขี นาดเท่าไหร่บ้าง

ก. 1.5 , 2 , 2.5 ข. 3 , 3.5 , 4

ค 3.5, 2 , 1.5 ง. 3, 2, 1

29

8. สว่ นประกอบของแซกโซโฟนมอี ะไรบา้ ง
ก. Mouthpiece Neck Body
ข. Neck Body Arm
ค. Body Mouthpiece String
ง. Body String Arm

9. ข้อใดตอ่ ไปน้ีเปน็ วธิ กี ารลา้ ง Mouthpiece ที่ถูกต้อง
ก. ล้างด้วยน้ำเปล่าสะอาด
ข. ล้างด้วยแอลกอฮอล์
ค. เช็ดด้วยนำ้ มันจักร
ง. ถกู ทกุ ข้อ

10. ขอ้ ใดต่อไปนเ้ี ปน็ การดแู ละแซกโซโฟนที่ถูกตอ้ ง
ก. เช็ดดว้ ยน้ำเปลา่ สะอาดท่ีบิดหมาดๆ
ข. เชด็ ดว้ ยผา้ แหง้ ทกุ คร้งั หลงั เปา่ เสร็จ
ค. เช็ดดว้ ยแอลกอฮอล์
ง. เชด็ ดว้ ยน้ำมนั จกั ร

กจิ กรรมท่ี 2 นำเขา้ สบู่ ทเรยี น

ลำดับที่ รายละเอยี ดกจิ กรรม
1. นักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียนเพอ่ื ประเมนิ ความรู้
2. นักเรียนร่วมกันแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในเรื่องของแซกโซโฟน โดยแสดงความคิดเห็นอย่าง
อสิ ระ

30

กจิ กรรมท่ี 3 ประกอบกจิ กรรมการเรยี น

ลำดบั ท่ี รายละเอยี ดกิจกรรม

1. นักเรยี นศึกษาใบความรู้ เร่ือง บทท่ี 1 ประวัตแิ ละความรู้พ้นื ฐานเกี่ยวกบั แซกโซโฟน
โดยครผู ู้สอนอธิบายเนื้อหาเพอ่ื สรา้ งเขา้ ใจใหก้ บั นกั เรยี นทีละขอ้ ดังนี้
ประวัติและความร้พู ้นื ฐานเกย่ี วกับแซกโซโฟน
แซกโซโฟนเป็นเครื่องดนตรีที่ก้ำกึ่งระหว่างเครื่องลมไม้กับเครื่องลมทองเหลือง ซึ่ง
ปราชญ์ทางดนตรีได้ จัดให้อยู่ในประเภทเคร่ืองลมไม้ เพราะแม้ลำตัวจะทำด้วยโลหะแต่เสียง
กระเดียดไปทางเคร่อื งลมไม้ ส่วนปากเป่าประกอบดว้ ยลน้ิ ป่ีที่ทำด้วยไม้ เสียงของแซกโซโฟนจึง
เจดิ จ้า และสรา้ งความรู้สกึ แปลกหู
ประวัติความเปน็ มาของแซกโซโฟน
แซกโซโฟนเป็นเครื่องดนตรีที่ถูกประดิษฐ์โดย อดอล์ฟ แซ็ก (Adolphe Sax) ซึ่งมีชื่อจริงว่า
Antoine – Joseph Sax แต่คนทั่วไปเรียกเขาว่า Adolphe Sax เขาเป็นชาวเบลเยียม เกิดท่ี
เมืองดินานท์ (Dinant) เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1814 ระหว่างปี ค.ศ.1840-1841 เขาได้
ประดิษฐแ์ ซกโซโฟนและได้นำออกแสดงในงานนทิ รรศการเครื่องดนตรีทกี่ รงุ บรสั เซลส์ในปี ค.ศ.
1841 ในขณะเดียวกนั เขาพยายามพัฒนาแซกโซโฟนจนสมบูรณแ์ ละไดจ้ ดทะเบยี นลขิ สิทธใ์ นปี
ค.ศ.1846 ที่กรุงปารีส อดอล์ฟ แซ็ก ได้ชื่อว่าเป็นครูสอนแซกโซโฟนคนแรกของโลก โดยเร่ิม
สอนที่สถาบันดนตรีแห่งกรุงปารีสในปี ค.ศ.1857 เป็นเวลา 13 ปี เขาเสียชีวิตในวันที่ 4
กุมภาพันธ์ ค.ศ.1894 ท่กี รุงปารสี เมือ่ มีอายุ 80 ปี

31

ชนิดของแซกโซโฟน
ตระกลู แซกโซโฟนเป็นตระกูลใหญเ่ ชน่ เดียวกับคลาริเน็ต แซกโซโฟนมีขนาดต่าง ๆ ถึง

7 ขนาดด้วยกนั ดังน้ี
1. โซปราโนแซกโซโฟน (Soprano Saxophone)
2. อลั โตแ้ ซกโซโฟน (Alto Saxophone)
3. เทเนอร์แซกโซโฟน (Tenor Saxophone)
4. บาริโทนแซกโซโฟน (Baritone Saxophone)
5. เบสแซกโซโฟน (Bass Saxophone)
6. คอนทรา่ เบส แซกโซโฟน (Contrabass Saxophone) (Eb)
7. ซบั คอนทร่าเบส แซกโซโฟน (Subcontrabass Saxophone)

สว่ นประกอบแซกโซโฟน
ส่วนท่ี 1 Mouthpiece ซ่ึงเปน็ ส่วนของเมา้ ท์จะแบง่ ออกเปน็ 3 สว่ น

1. ที่รัดลิ้น จะทำหน้าที่รัดลิ้นเข้ากับตัว Mouthpiece เพื่อให้เกิดการสั่นสะเทือนกับตัวเม้าท์
และเกดิ เสยี งขน้ึ
2. ลิ้น ลิ้นทำด้วยวัสดไุ มไ้ ผ่ส่วนปลายตดั เปน็ รปู โค้งมนสว่ นทางโคนจะแข็ง เพื่อรัดลิน้ ให้เข้ากบั
ตวั Mouthpiece
3. Mouthpiece มีทั้งที่ทำจากพลาสติกและโลหะซึ่งจะมีผลในเรื่องของเสียง โดยปากโลหะจะ
ให้เสียงที่ดังกังวานแต่ไม่อ่อนหวาน ส่วนที่ท าจากพลาสติกมีความนุ่มนวลกว่าแต่เสียงจะไม่
กระดา้ งและส่วนจะทำให้เสยี งทกี่ ระดา้ งและไมก่ ระด้างก็ขน้ึ อยูก่ ับการฝกึ ซอ้ ม

สว่ นท่ี 2 Neck หรือคอแซกโซโฟน
ส่วนคอ ส่วนนีจ้ ะสามารถถอดได้เช่นเดยี วกับเม้าท์ ใช้ประกอบเข้ากับตัวเคร่ืองเพื่อจะ
เป็นส่วนโค้งของแซกโซโฟนและเป็นที่ประกอบเสียบเม้าทแ์ ละจะมีกระเดือ่ งซึ่งเป็นตัวปิดเปิดรู
ในการเปลย่ี นเสยี ง
สว่ นที่ 3 Body ตวั เคร่ือง
คือ ส่วนประกอบหลักของเครื่องดนตรี จะมีส่วนประกอบมากมายในตัวเครื่องซึ่งผู้
ฝึกหัดต้องให้ความสำคัญกับรายละเอียดของตัวเครื่องให้มาก เนื่องจากจะต้องสัมผัสกับ
ตวั เครื่องตลอดเวลาขณะเปา่ และจะเป็นที่ไว้สำหรับจบั และกำเนดิ เสียงตัวโน้ตตา่ ง ๆ

คำถาม
1. ให้นักเรียนอธบิ ายประวัตคิ วามรพู้ ื้นฐานเกีย่ วกับแซกโซโฟนมาพอเขา้ ใจ

32

วธิ กี ารประกอบเครื่อง
4. ประกอบคอปากเป่าเข้ากับตัวเครื่องแล้วขันน็อต ยึดคอปากเป่าให้แน่น อาจจะทา
Slide Grease บาง ๆ ทค่ี อปากเป่าดว้ ยกไ็ ด้
5. ประกอบลน้ิ เข้ากบั ปากเปา่ โดยให้ปากเป่าเหลือ่ มออกมาเล็กนอ้ ย
6. ประกอบปากเป่าเข้ากับคอปากเป่า โดยทาขี้ผึ้ง Cork grease ที่ปลายคอปากเป่า
เลก็ นอ้ ย แลว้ ค่อย ๆ หมุนปากเป่าสวมเข้าไป

คำถาม
2. ให้นักเรียนบอกส่วนประกอบของแซกโซโฟนมาพอสังเขป

การดแู ลรักษาแซกโซโฟน
การดแู ลรักษาแซกโซโฟน เปน็ เรือ่ งท่ไี มใ่ ช่เร่ืองยาก แตต่ ้องอาศยั การปฏิบัติจนเป็นนิสัย

- การดูแลรักษาภายใน
- การดูแลรักษาภายนอก
- การดแู ลรักษานวม

คำถาม
3. ใหน้ กั เรยี นบอกวิธีการรักษาแซกโซโฟนตามความเข้าใจของนกั เรียน

กจิ กรรมท่ี 4 สรปุ เนอ้ื หา

ลำดบั ท่ี รายละเอยี ดกจิ กรรม
1. นักเรยี นและครูผู้สอนรว่ มกนั สรปุ ความรูท้ ีไ่ ด้จากการเรยี นในคาบนี้ ( เรือ่ ง บทที่ 1 ประวตั แิ ละ
ความรู้พื้นฐานเกีย่ วกบั แซกโซโฟน )

33

กจิ กรรมที่ 5 แบบทดสอบหลงั เรยี นบทท่ี 1

คำสั่ง จงทำเครือ่ งหมายวงกลมรอบคำตอบที่ถกู ต้อง

1. ชอ่ื จริงหรอื ชอ่ื ดง้ั เดิมของแซกโซโฟนคอื ช่ือใด

ก. Wood wind ข. Alto saxophone

ค. Aldophe sax ง. Alto

2. แซกโซโฟนแบง่ ออกเป็นกป่ี ระเภท
ก. 4 ข. 5
ค. 6 ง. 7

3. แซกประเภทใดเปน็ แซกตระกูลเสียงสงู

ก. Soprano sax ข. Tenor sax

ค. Baritone sax ง. Bass sax

4. ข้อใดตอ่ ไปน้ีเป็นแซกทีม่ ีขนาดใหญ่ท่ีสดุ

ก. Subcontrabass sax ข. Tenor sax

ค. Baritone sax ง. Bass sax

5. ส่วนประกอบของแซกโซโฟน แบ่งออกเป็นกี่ส่วน
ก. 1 ข. 2
ค. 3 ง. 4

6. Mouthpiece ซง่ึ เป็นส่วนของเมา้ ทจ์ ะแบ่งออกเปน็ ก่สี ว่ น
ก. 1 ข. 2
ค. 3 ง. 4

7. ลิน้ แซกโซโฟนทเ่ี หมาะกับมอื ใหม่มขี นาดเท่าไหร่บ้าง

ก. 1.5 , 2 , 2.5 ข. 3 , 3.5 , 4

ค 3.5, 2 , 1.5 ง. 3, 2, 1

34

8. ส่วนประกอบของแซกโซโฟนมีอะไรบ้าง
ก. Mouthpiece Neck Body
ข. Neck Body Arm
ค. Body Mouthpiece String
ง. Body String Arm

9. ขอ้ ใดต่อไปนีเ้ ป็นวธิ ีการล้าง Mouthpiece ที่ถูกต้อง
ก. ลา้ งดว้ ยน้ำเปล่าสะอาด
ข. ล้างดว้ ยแอลกอฮอล์
ค. เช็ดด้วยน้ำมันจกั ร
ง. ถกู ทุกขอ้

10. ขอ้ ใดตอ่ ไปนี้เปน็ การดแู ละแซกโซโฟนทีถ่ กู ตอ้ ง
ก. เช็ดด้วยน้ำเปลา่ สะอาดทีบ่ ิดหมาดๆ
ข. เชด็ ด้วยผ้าแห้งทุกครั้งหลังเป่าเสร็จ
ค. เช็ดด้วยแอลกอฮอล์
ง. เช็ดด้วยนำ้ มนั จักร

35

เฉลยแบบทดสอบ

กิจกรรมที่ 1 แบบทดสอบก่อนเรียน และกิจกรรมที่ 5 แบบทดสอบหลงั เรียน

กอ่ นเรยี น ข้อ 1) ค
ข้อ 2) ง
ขอ้ 3) ก
ขอ้ 4) ก
ขอ้ 5) ค
ขอ้ 6) ค
ขอ้ 7) ก
ข้อ 8) ก
ข้อ 9) ก
ข้อ 10) ข

หลังเรียน ขอ้ 1) ค
ขอ้ 2) ง
ขอ้ 3) ก
ขอ้ 4) ก
ขอ้ 5) ค
ข้อ 6) ค
ข้อ 7) ก
ข้อ 8) ก
ขอ้ 9) ก
ขอ้ 10) ข

36

ตารางวเิ คราะห์แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรยี น

วัตถุประสงค์การเรยี นรู้ ระดบั ข้นั การเรียนรดู้ ้านพทุ ธิพิสยั รวม
รู้จำ วตั ถุ

1. นกั เรยี นมีความรแู้ ละ 1), 2), 3), เขา้ ใจ นำไปใช้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมินค่า ประสงค์
กลา่ วถึงประวัตคิ วาม 4)
2), 3), 4) 2), 3), 4) ก่อนเรียน
เปน็ มาของแซกโซโฟนได้
(K) 1), 2), 3), 4 ขอ้

4) 2), 3), 4) 2), 3), 4) หลังเรยี น
4 ขอ้

2. นักเรียนสามารถ 5), 6), 7), 5), 6), 7), 7), กอ่ นเรยี น
8) 4 ข้อ
อธบิ ายการดแู ลรกั ษา 8) 5), 6), 7), 7), หลังเรียน
8) 4 ขอ้
แซกโซโฟนได้ (P) 5), 6), 7), 9), 10) 9), 10) กอ่ นเรียน
8) 2 ขอ้
9), 10) 9), 10) หลงั เรียน
3. นกั เรยี นมคี วาม 9), 10) 2 ขอ้
กอ่ นเรยี น กอ่ นเรยี น
กระตอื รอื รน้ และให้ 9 ขอ้ 6 ขอ้

ความรว่ มมอื ในการทำ 9), 10) หลงั เรยี น หลงั เรยี น
9 ขอ้ 6 ขอ้
กิจกรรม (A)

กอ่ นเรยี น กอ่ นเรยี น กอ่ นเรยี น กอ่ นเรยี น
0 ขอ้ 0 ขอ้ 0 ขอ้
รวม 10 ขอ้
หลงั เรยี น หลงั เรยี น หลงั เรยี น
ลำดับขนั้ การเรยี นรู้ หลงั เรยี น 0 ขอ้ 0 ขอ้ 0 ขอ้

10 ขอ้

37

Flowchart

****************************************************************************

แผนการเรยี น 38

เรอื่ ง “บทที่ 2 ทฤษฎดี นตรสี ากลเบือ้ งตน้ ”

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ศลิ ปะ ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 เวลา 60 นาที

*****************************************************************************
หวั เรอื่ ง

1. บรรทัด 5 เส้น (Staff)
2. ตวั โนต้ (Note)
3. คา่ ของตัวโนต้
4. ตวั หยดุ (Rest)
5. กญุ แจประจำหลัก (Clef)
6. การเรยี กช่อื ตวั โนต้ ในบรรทัด 5 เส้น

แนวคิด
1. บรรทัด 5 เสน้ (Staff) เปน็ สัญลักษณท์ ีม่ ีไวส้ ำหรบั บนั ทึก ตวั โนต้ และตวั หยดุ (Rest) เพ่ือให้รู้ระดบั เสียง
สงู – ตำ่ ของตวั โน้ต ประกอบดว้ ยเส้นขนานกนั 5 เสน้ และชอ่ งวา่ ง 4 ช่อง
2. ตัวโน้ต (Note) เป็นสัญลักษณ์ที่ใช้บันทึกแทนระดับเสียง และความยาวของเสียง ส่วนประกอบสำคัญ
ของตวั โนต้ ไดแ้ ก่ สว่ นหวั ตวั โนต้ และส่วนหางตวั โนต้ ซง่ึ ข้ึนอยู่กับลักษณะโน้ตต่าง ๆ
3. คา่ ของตัวโน้ต คา่ ของตวั โน้ตตัวโนต้ จะมคี า่ ออกเสยี งส้นั หรือยาวเท่าใดข้ึนอยู่กับวา่ เราจะกำหนดโน้ตตัว
ใดเป็นคา่ ออกเสียงจงั หวะเคาะ
4. ตวั หยดุ (Rest) คา่ ของตวั โนต้ ตัวโนต้ จะมคี า่ ออกเสยี งสนั้ หรือยาวเทา่ ใดข้นึ อยู่กับว่าเราจะกำหนดโน้ตตัว
ใดเป็นค่าออกเสียงจงั หวะเคาะ
5. กุญแจประจำหลัก (Clef) ถือว่าเป็นเครื่องหมายทางดนตรีที่สำคัญเพื่อใช้ในการกำหนดหรือบงชี้ว่าตัว
โน้ตแต่ละตัวมีชอ่ื เรียกว่าอย่างไร
6. การเรียกช่อื ตวั โนต้ ในบรรทดั 5 เส้น จะเรยี กตา่ งกนั หากใชก้ ญุ แจที่ไมเ่ หมอื นกัน

วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรยี นรู้
1. นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจ และบอกสัญลักษณท์ ีใ่ ช้บนั ทกึ แทนเสียงดนตรีสากลเบ้ืองตน้ ได้ (K)
2. นกั เรียนอ่านออกเสียงโน้ตสากลเบื้องต้นได้ (P)
3. นักเรยี นมคี วามกระตือรอื รน้ และใหค้ วามรว่ มมือในการทำกิจกรรม (A)

ตารางแผนการจดั การการเรยี นรู้ 39

ลำดบั ที่ ขนั้ ตอนกจิ กรรม วธิ กี าร รปู แบบการสอน สอื่ การสอน ระยะเวลา

1. ทดสอบก่อนเรยี น ทดสอบ SDL แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 5 นาที

2. นำเข้าส่กู ารเรียน บรรยาย/พดู คุย TDL/SDL ใบความรู้ที่ 2 3 นาที

3. ประกอบกิจกรรมการเรยี น บรรยาย TDL ใบความรทู้ ี่ 2 40 นาที

3.1 นักเรียนศึกษาใบความรู้ สาธติ

ที่ 2 โดยครูผู้สอนอธิบาย ฝึกปฏิบตั ิ

เนื้อหาเพื่อสร้างเข้าใจให้กับ

นกั เรียนทลี ะข้อดงั นี้

4. สรปุ เนอ้ื หา บรรยาย TDL/SDL ใบความรู้ท่ี 2 2 นาที

5. ทดสอบหลังเรยี น ทดสอบ SDL แบบทดสอบหลงั เรยี น 10 นาที

สอ่ื ทใ่ี ช้
1. ใบความรู้ท่ี 2

การประเมนิ ผล
1. ประเมินผลสัมฤทธ์ิจากแบบทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรียน
2. ประเมินผลสัมฤทธ์ิจากการสังเกตพฤติกรรม

40

ประมวลสาระ เนอ้ื หาบทเรยี น
เรอื่ ง บทท่ี 2 ทฤษฎีดนตรีสากลเบือ้ งต้น

ใบความรทู้ ี่ 2

เรอ่ื ง ทฤษฎีดนตรสี ากลเบอ้ื งตน้
ทฤษฎีดนตรีสากลเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องศึกษาเพื่อเป็นแนวทางพื้นฐานสู่การปฏิบัติเครื่องดนตรีโน้ต

ดนตรีสากลและเครื่องหมายต่างๆ คือสัญลักษณ์ที่ให้ปฏิบัติ ดังนั้นทฤษฎีดนตรีสากลจึงควรศึกษาและฝึก
เพอ่ื ใหเ้ กิดทกั ษะปฏบิ ัติจนเกดิ ความคล่องแคลว่ ดว้ ยความเข้าใจ

1. บรรทดั 5 เสน้ (Staff)
บรรทดั 5 เส้นเป็นสัญลกั ษณ์ทม่ี ไี ว้สำหรับบนั ทึก ตวั โน้ต และตวั หยดุ (Rest) เพอ่ื ให้รรู้ ะดับเสยี งสูง –

ต่ำของตวั โนต้ ประกอบด้วยเสน้ ขนานกนั 5 เสน้ และชอ่ งว่าง 4 ช่อง โดยนับจากเสน้ ล่างสุดเปน็ เส้นท่ี 1 และ
ช่องที่ 1 เรียงลำดับขึ้นไปจนครบ 5 เส้น และ 4 ช่อง โน้ตที่บันทึกบนบรรทัด 5 เส้น มี 2 ลักษณะ คือ โน้ต
คาบ เสน้ (On a Line) และ โน้ตในช่อง (In a Space)

2. ตวั โนต้ (Note)
ตวั โน้ต เปน็ สัญลกั ษณ์ท่ใี ช้บนั ทกึ แทนระดบั เสยี ง และความยาวของเสยี ง สว่ นประกอบสำคัญของตัว

โนต้ ไดแ้ ก่ ส่วนหัวตวั โนต้ และสว่ นหางตวั โนต้ ซงึ่ ขน้ึ อยูก่ บั ลักษณะโน้ตต่างๆ

41

3. คา่ ของตวั โนต้

แผนภมู เิ ปรยี บเทยี บคา่ ตวั โนต้

42

4. ตวั หยดุ (Rest)

5. กญุ แจประจำหลกั (Clef)
กุญแจประจำหลัก คอื สัญกรณ์ทางดนตรชี นิดหน่ึงท่ใี ช้แสดงถึงระดบั เสยี งของตัวโนต้ ทีบ่ นั ทึกกำกับไว้

ท่ตี ำแหนง่ เรม่ิ ต้นของบรรทดั หา้ เสน้ ซ่ึงจะเปน็ ตวั บง่ บอกชื่อและระดบั เสียงของตวั โนต้ ทีอ่ ยบู่ นเส้นนน้ั กุญแจ
ประจำหลกั ในการบนั ทกึ ดนตรสี มยั ใหม่มีใช้อยู่เพียง 3 ชนิดคือ กญุ แจซอล กญุ แจโด และกญุ แจฟา ซ่ึงกญุ แจ
แตล่ ะชนดิ จะอ้างถงึ เสียงซอล โด และฟา ตามลำดับ ตามตำแหน่งท่กี ุญแจนั้นไดไ้ ปคาบเกีย่ วไว้บนบรรทัดเส้น
และชอ่ งอืน่ ๆ ก็จะสมั พนั ธ์กับโน้ตบนเสน้ นั้น

5.1 กญุ แจซอล หรอื กญุ แจ G (G clef)

5.2 กญุ แจฟา หรอื กญุ แจ F (F clef

5.3 กญุ แจโด หรอื กญุ แจ C (C clef)

43

6. การเรยี กชอื่ ตวั โนต้ ในบรรทดั 5 เสน้

44

กจิ กรรมที่ 1 แบบทดสอบกอ่ นเรยี นบทท่ี 2

คำสั่ง จงทำเครื่องหมายวงกลมรอบคำตอบที่ถูกต้อง
1. โน้ตตวั กลม มอี ีกช่อื หน่งึ เรียกวา่ อะไร
ก. Whole note ข.half note
ค. Quarter note ง.Eight note

2. โนต้ ตวั ขาว มีอกี ชือ่ หน่งึ เรียกวา่ อะไร
ก. Whole note ข.half note
ค. Quarter note ง.Eight note

3. โน้ตตัวดำ มอี ีกช่ือหนงึ่ เรียกว่าอะไร
ก. Whole note ข.half note
ค. Quarter note ง.Eight note

4-6 จงบอกกญุ แจประจำหลกั ต่อไปน้พี ร้อมโนต้ ใหถ้ ูกตอ้ ง

4.
ก. กญุ แจโด เสยี ง ฟา
ข. กญุ แจซอล เสียง โซล
ค. กุญแจฟา เสียง มี
ง. กญุ แจฟา เสยี ง ที

5.
ก. กญุ แจซอล เสยี ง ที
ข. กญุ แจโด เสียง มี
ค. กุญแจฟา เสยี ง ลา
ง. กุญแจฟา เสียง ฟา

45

6.
ก. กุญแจซอล เสยี ง ฟา
ข. กญุ แจซอล เสียง โซล
ค. กุญแจโด เสียง โด
ง. กุญแจฟา เสียง ที

7. เส้นที่ 1 ของกุญแจซอลคอื เสียงใด
ก. ฟา ข. ซอล
ค. ลา ง. มี

8. เส้นท่ี 3 ของกญุ แจฟาคอื เสียงใด
ก. โด ข. มี
ค. เร ง. ฟา

9-10จงบอกชอ่ื ตวั โน้ตตอ่ ไปนใี้ หถ้ ูกต้อง
9. A คอื ตัวโนต้ ใดตอ่ ไปนี้
ก. ฟา ข. มี
ค. ซอล ง. ลา

10. B คือตวั โน้ตใดตอ่ ไปน้ี
ก. โด ข. ที
ค. ฟา ง. มี

*****************************************************************

46

กจิ กรรมท่ี 2 นำเขา้ สบู่ ทเรยี น

ลำดบั ที่ รายละเอยี ดกิจกรรม

1. นกั เรยี นและครูผสู้ อนรวมกนั สนทนาซกั ถามเกย่ี วกับการเรยี นร้โู นต้ สากลเบอื้ งต้น โดยให้
นักเรยี นรวมกนั ตอบคำถามเพ่อื ประเมนิ ความร้กู อ่ นเรียน และมคี ำถามดังต่อไปน้ี

2. ทฤษฎีดนตรสี ากลมคี วามจำเป็นอย่างไร
( แนวคำตอบของนักเรยี น คือ เรียนทฤษฎีดนตรสี ากลไปเพื่อเปน็ แนวทางสกู่ ารปฏิบัติเครอื่ ง
ดนตรี )

ลำดบั ท่ี กจิ กรรมท่ี 3 ประกอบกจิ กรรมการเรยี น
1.
รายละเอยี ดกิจกรรม

1. นกั เรียนศึกษาใบความรู้ที่ 2 โดยครผู สู้ อนอธบิ ายเนอื้ หาเพ่ือสรา้ งเขา้ ใจให้กับนักเรียน
ทีละข้อดังน้ี
1.1 บรรทดั 5 เสน้ ( ครผู สู้ อนอธบิ ายดงั นี้ บรรทัด 5 เส้นเปน็ สญั ลกั ษณ์ท่ีมไี วส้ ำหรับ
บันทึกตัวโน้ต และตัวหยุด (Rest) เพื่อให้รู้ระดับเสียงสูง – ต่ำของตัวโน้ต
ประกอบด้วยเส้นขนานกัน 5 เส้น และช่องว่าง 4 ช่อง โดยนับจากเส้นล่างสุด
เป็นเส้นที่ 1 และช่องที่ 1 เรียงลำดับขึ้นไปจนครบ 5 เส้น และ 4 ช่อง โน้ตท่ี
บันทึกบนบรรทัด 5 เส้นมี 2 ลักษณะ คือ โน้ตคาบ เส้น (On a Line) และ
โน้ตในช่อง (In a Space) )

1.1 ตัวโนต้ ( ครูผสู้ อนอธบิ ายดังน้ี ตวั โนต้ เปน็ สญั ลักษณ์ท่ีใช้บันทึกแทนระดับเสียง
และความยาวของเสียง ส่วนประกอบสำคัญของตัวโน้ต ได้แก่ ส่วนหัวตัวโน้ต
และสว่ นหางตัวโนต้ ซ่ึงขน้ึ อยูก่ บั ลกั ษณะโนต้ ตา่ งๆ )


Click to View FlipBook Version