The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลากหลายแนวคิด เล่ม 5
โดย ศาสตราจารย์ ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by พีระยา นาวิน, 2021-12-23 22:30:23

หลากหลายแนวคิด เล่ม 5

หลากหลายแนวคิด เล่ม 5
โดย ศาสตราจารย์ ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน

อกุ ฤษหลมากงหคลลายนแานววนิคดิ

51ก�ำ เนดิ คณะกรรมการ

ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ
และประพฤติมิชอบในวงราชการ

หอลกุากฤหษลายมแงนควคลดิ นาวิน

52 กำ�เนิดคณะกรรมการ
ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ
และประพฤติมิชอบในวงราชการ

อกุ ฤษหลมากงหคลลายนแานววนิคดิ

53ก�ำ เนดิ คณะกรรมการ

ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ
และประพฤติมิชอบในวงราชการ

หอลุกากฤหษลายมแงนควคลิดนาวนิ

*
* พลตำ� รวจตรอี รรถสทิ ธ์ิ สทิ ธสิ ุนทร

54 กำ�เนิดคณะกรรมการ
ปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจรติ
และประพฤติมิชอบในวงราชการ

อกุ ฤษหลมากงหคลลายนแานววนิคดิ

55ก�ำ เนดิ คณะกรรมการ

ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ
และประพฤติมิชอบในวงราชการ

หอลกุากฤหษลายมแงนควคลดิ นาวิน

56 กำ�เนิดคณะกรรมการ
ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ
และประพฤติมิชอบในวงราชการ

อกุ ฤษหลมากงหคลลายนแานววนิคดิ

57ก�ำ เนดิ คณะกรรมการ

ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ
และประพฤติมิชอบในวงราชการ

หอลกุากฤหษลายมแงนควคลดิ นาวิน

58 กำ�เนิดคณะกรรมการ
ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ
และประพฤติมิชอบในวงราชการ

อกุ ฤษหลมากงหคลลายนแานววนิคดิ

59ก�ำ เนดิ คณะกรรมการ

ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ
และประพฤติมิชอบในวงราชการ

หอลกุากฤหษลายมแงนควคลดิ นาวิน

60 กำ�เนิดคณะกรรมการ
ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ
และประพฤติมิชอบในวงราชการ

อกุ ฤษหลมากงหคลลายนแานววนิคดิ

61ก�ำ เนดิ คณะกรรมการ

ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ
และประพฤติมิชอบในวงราชการ

หอลกุากฤหษลายมแงนควคลดิ นาวิน

62 กำ�เนิดคณะกรรมการ
ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ
และประพฤติมิชอบในวงราชการ

อกุ ฤษหลมากงหคลลายนแานววนิคดิ

63ก�ำ เนดิ คณะกรรมการ

ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ
และประพฤติมิชอบในวงราชการ

หอลกุากฤหษลายมแงนควคลดิ นาวิน

64 กำ�เนิดคณะกรรมการ
ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ
และประพฤติมิชอบในวงราชการ

อกุ ฤษหลมากงหคลลายนแานววนิคดิ

65ก�ำ เนดิ คณะกรรมการ

ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ
และประพฤติมิชอบในวงราชการ

หอลกุากฤหษลายมแงนควคลดิ นาวิน

66 กำ�เนิดคณะกรรมการ
ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ
และประพฤติมิชอบในวงราชการ

อกุ ฤษหลมากงหคลลายนแานววนิคดิ

67ก�ำ เนดิ คณะกรรมการ

ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ
และประพฤติมิชอบในวงราชการ

หอลกุากฤหษลายมแงนควคลดิ นาวิน

68 กำ�เนิดคณะกรรมการ
ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ
และประพฤติมิชอบในวงราชการ

อกุ ฤษหลมากงหคลลายนแานววนิคดิ

69ก�ำ เนดิ คณะกรรมการ

ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ
และประพฤติมิชอบในวงราชการ

หอลกุากฤหษลายมแงนควคลดิ นาวิน

70 กำ�เนิดคณะกรรมการ
ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ
และประพฤติมิชอบในวงราชการ

อกุ ฤษหลมากงหคลลายนแานววนิคดิ

71ก�ำ เนดิ คณะกรรมการ

ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ
และประพฤติมิชอบในวงราชการ

หอลกุากฤหษลายมแงนควคลดิ นาวิน

72 กำ�เนิดคณะกรรมการ
ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ
และประพฤติมิชอบในวงราชการ

อกุ ฤษหลมากงหคลลายนแานววนิคดิ

73ก�ำ เนดิ คณะกรรมการ

ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ
และประพฤติมิชอบในวงราชการ

หอลกุากฤหษลายมแงนควคลดิ นาวิน

74 กำ�เนิดคณะกรรมการ
ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ
และประพฤติมิชอบในวงราชการ

อกุ ฤษหลมากงหคลลายนแานววนิคดิ

75ก�ำ เนดิ คณะกรรมการ

ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ
และประพฤติมิชอบในวงราชการ

หอลกุากฤหษลายมแงนควคลดิ นาวิน

76 กำ�เนิดคณะกรรมการ
ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ
และประพฤติมิชอบในวงราชการ

อกุ ฤษหลมากงหคลลายนแานววินคิด

*
* ได้เสนอให้มีการปรับปรงุ แก้ไขตามรายละเอียดในหัวขอ้ ท่ี ๔
ของหนังสอื หลากหลายแนวคิด เลม่ ๕ พ.ศ. ๒๕๖๔

77กำ�เนดิ คณะกรรมการ

ปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจริต
และประพฤติมชิ อบในวงราชการ

หอลกุากฤหษลายมแงนควคลดิ นาวิน

78 กำ�เนิดคณะกรรมการ
ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ
และประพฤติมิชอบในวงราชการ

อกุ ฤษหลมากงหคลลายนแานววนิคดิ

79ก�ำ เนดิ คณะกรรมการ

ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ
และประพฤติมิชอบในวงราชการ

หอลกุากฤหษลายมแงนควคลดิ นาวิน

80 กำ�เนิดคณะกรรมการ
ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ
และประพฤติมิชอบในวงราชการ

การปฏริ ปู การเมือง

โดยการจัดระบบและวิธีการ
เลอื กตั้งใหม่

หอลุกากฤหษลายมแงนควคลิดนาวิน

การปฏริ ูปการเมือง
โดยการจัดระบบและวธิ ีการเลือกต้งั ใหม่

๑. ความจําเป็นในการจัดระบบการเลือกต้ังใหม่
เนอื่ งจากระบบการเลอื กตง้ั ผแู้ ทนราษฎรปจั จบุ นั ไมเ่ หมาะสม

กับการพัฒนา ความมั่นคงทางการเมือง ทําให้รัฐบาลขาดเสถียรภาพ
และภาพพจนข์ องผแู้ ทนราษฎรสว่ นใหญเ่ สยี หาย เนอื่ งจากระบบ
การใช้เงินซ้ือเสียงเพื่อให้ได้รับการเลือกตั้งมีอัตราสูงขึ้น และ
ผู้สมัครเกือบทุกคนต้องใช้เงินจํานวนมาก ทําให้ต้องพยายาม
แสวงหาเงินเพื่อชดเชยในการท่ีลงทุนไป วิธีการหาเงินท่ีสําคัญ
ทส่ี ดุ คอื ความพยายามเขา้ รว่ มรฐั บาล เพอื่ จะไดม้ โี อกาสแสวงหา
ผลประโยชน์เพ่ือตัวเอง เพ่ือพรรคพวก และเพ่ือพรรคการเมืองท่ี
สังกัด เพ่ือช่วยเหลือค่าใช้จ่ายของพรรคในการจ่ายเงินช่วยเหลือ
ผแู้ ทนสงั กดั พรรคเดยี วกนั และชว่ ยเหลอื คา่ ใชจ้ า่ ยของพรรค โดย
เฉพาะคา่ ใชจ้ า่ ยในการเลอื กตงั้ ซงึ่ จะตอ้ งใชจ้ า่ ยเงนิ สงู มาก ทาํ ให้
ต้องแก่งแย่งกันเข้าร่วมรัฐบาล และแย่งกันเป็นรัฐมนตรี เพื่อ
แสวงหาผลประโยชนใ์ นทางมชิ อบเปน็ การถอนทุน

นอกจากนั้น ผู้แทนราษฎรยังต้องตอบแทนบุญคุณ
และเลยี้ งดบู รรดาหวั คะแนนทง้ั หลายทง้ั กอ่ นและหลงั การเลอื กตงั้
ซง่ึ ตอ้ งใชเ้ งนิ ทงั้ สนิ้ ทาํ ใหผ้ แู้ ทนราษฎรสว่ นใหญซ่ งึ่ ตกอยใู่ นสภาพ
เช่นนี้ แม้พื้นฐานจะเป็นคนดีมีอุดมคติสูงก็ไม่อาจหลุดพ้นจาก
สภาพการณด์ ังกลา่ วมาแลว้

82 การปฏิรปู การเมอื ง
โดยการจัดระบบและวธิ กี ารเลอื กต้ังใหม่

อกุ ฤษหลมากงหคลลายนแานววินคดิ

ประชาชนโดยทว่ั ไปเกดิ ความเบอ่ื หนา่ ยและรงั เกยี จผแู้ ทน
ราษฎรส่วนใหญ่ เพราะเห็นว่าเลือกเข้าไปแล้วมีแต่เร่ืองทะเลาะ
เบาะแว้ง เร่ืองแสวงหาเงินและผลประโยชน์ เร่ืองแก่งแย่งกัน
เปน็ รฐั มนตรี เร่ืองใชอ้ าํ นาจโดยไมเ่ ปน็ ธรรมกับข้าราชการประจาํ
ฯลฯ โดยเฉพาะอยา่ งยิ่ง ประชาชนทวั่ ไปเรม่ิ รู้สกึ วา่ ผแู้ ทนราษฎร
ไม่มีความหมาย บุคคลดี ๆ จํานวนไม่น้อยท่ีเสียสละสมัครรับ
เลือกต้ังเป็นผู้แทนราษฎร กลับกลายเป็นคนที่ประชาชนเช่ือถือ
ไว้วางใจน้อยลง ท้ัง ๆ ท่ีเป็นผู้มีความต้ังใจเสียสละเพื่อประเทศ
ชาติอย่างสูง
๒. ความจาํ เปน็ ในการแกไ้ ขวิธกี ารเลือกต้ังใหม่

เหตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ น้นี ่าจะสรปุ ได้ว่า สาเหตุสาํ คัญประการ
หนึ่งได้แก่ ระบบและ วิธีการเลือกต้ังท่ีใช้อยู่ในปัจจุบันมีข้อเสีย
หรอื ไมเ่ หมาะสมกบั วถิ ชี วี ติ ของคนไทย ซง่ึ มคี ณุ ธรรมในดา้ นความ
ซื่อสัตย์และตอบแทนบุญคุณผู้สมัครรับเลือกต้ังที่ให้เงินหรือให้
ประโยชน์ โดยไม่ทราบถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้นแก่ประเทศชาติและ
ส่วนรวม จึงจําเป็นต้องมีการจัดระบบและแก้ไขวิธีการเลือกต้ัง
ใหม่ โดยการศกึ ษาระบบการเลอื กตง้ั ในประเทศตา่ ง ๆ ในปจั จบุ นั
ซง่ึ มรี ะบบใหญ่ ๆ แตกต่างกนั ดงั ต่อไปนี้ :

๒.๑ ระบบการเลอื กตงั้ แบบเสยี งขา้ งมาก(TheMajority
Electoral System)

83การปฏิรูปการเมอื ง

โดยการจดั ระบบและวธิ กี ารเลอื กต้ังใหม่

หอลุกากฤหษลายมแงนควคลดิ นาวนิ

การเลือกต้ังระบบนี้ถือว่าผู้ได้รับคะแนนเสียงสูงสุดใน
การเลือกต้ังเป็นผู้ได้รับการเลือกต้ัง โดยระบบน้ียังแบ่งออกเป็น
๒ วิธี คอื

๒.๑.๑ วิธีเลือกต้ังแบบเสียงข้างมากรอบเดียว
(The Majority Electoral System with One Ballot)

วิธีน้ีถือว่าผู้สมัครรับเลือกต้ังที่ได้รับคะแนนเสียงสูงสุดใน
การเลือกต้ัง เป็นผู้ได้รับเลือกต้ัง ถึงแม้ว่าจะได้รับคะแนนเสียง
มากกว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งลําดับถัดไปเพียงคะแนนเดียวก็ตาม
วิธีน้ีเป็นวิธีที่ประเทศไทยใช้อยู่ตลอดระยะเวลาท่ีมีการปกครอง
ระบบรฐั สภา โดยถอื ตามแบบอยา่ งของประเทศองั กฤษ ปจั จบุ นั นี้
มีประเทศในเครือจักรภพยังคงใช้ระบบนี้อยู่ ได้แก่ แคนาดา,
ศรีลังกา, กานา, อินเดีย, นิวซีแลนด์, ไนจีเรีย และเซียราเลโอน
ประเทศนอกเครือจักรภพ เช่น ลิเบีย, บราซิล และสมาชิกสภา
ซเี นทของสหรัฐอเมรกิ า

๒.๑.๒วธิ เี ลอื กตง้ั แบบเสยี งขา้ งมากสองรอบ(The
Majority Electoral System with Two Ballots)

วธิ นี ใ้ี ชส้ าํ หรบั การเลอื กตงั้ แบบแบง่ เขต แตล่ ะเขตมผี แู้ ทน
ไดห้ นงึ่ คน ผทู้ จ่ี ะไดร้ บั เลอื กตงั้ จะตอ้ งไดค้ ะแนนเสยี งขา้ งมากเดด็
ขาด (Absolute Majority) ในการเลอื กตงั้ รอบแรก เชน่ ในเขตเลอื ก
ต้งั มีผมู้ ีสทิ ธอิ อกเสียง ๑๐๐,๐๐๐ คน ผไู้ ดร้ ับเลอื กตง้ั ในรอบแรก
จะต้องได้คะแนนเสียงเกิน ๕๐,๐๐๐ คะแนน จึงจะได้รับเลือก

84 การปฏิรูปการเมือง
โดยการจดั ระบบและวธิ กี ารเลอื กตงั้ ใหม่

อกุ ฤษหลมากงหคลลายนแานววินคดิ

ถ้ารอบแรกนไี้ มม่ ีผ้ใู ดไดค้ ะแนนเสียงเกินกวา่ ก่ึงหนงึ่ ดงั กล่าว จะ
ตอ้ งเลอื กต้ังอกี รอบหนง่ึ เป็นรอบท่สี อง โดยเว้นระยะเวลาหา่ งกัน
หนึ่งหรือสองสปั ดาห์ โดยตดั ผู้ทีไ่ ดค้ ะแนนลําดับทา้ ย ๆ ออก ให้
เหลอื เพยี งสองลําดับแรก การลงคะแนนในรอบสองนี้ เป็นการลง
คะแนนแบบเสียงข้างมากธรรมดา ผู้สมัครคนใดได้คะแนนเสียง
สงู สดุ ผนู้ นั้ เปน็ ผไู้ ดร้ บั เลอื กตงั้ แมค้ ะแนนเสยี งสงู สดุ นน้ั จะตำ�่ เพยี ง
ใดกต็ าม วธิ นี ใ้ี ชอ้ ยใู่ นประเทศฝรงั่ เศส และอกี บางประเทศ รวมทงั้
การเลือกตง้ั ประธานาธบิ ดขี องประเทศรัสเซยี

วิธีดังกล่าวน้ี สามารถนํามาใช้กับการเลือกต้ังแบบรวม
เขต โดยแตล่ ะเขตมผี แู้ ทนราษฎรไดห้ ลายคน เชน่ การเลอื กตง้ั ใน
คาเมรนู , โปแลนด์ และเลบานอน

๒.๒ ระบบการเลือกต้ังแบบอัตราส่วน (Proportional
Representation Electoral System)

การเลือกตงั้ ระบบนน้ี ยิ มใชก้ นั แพร่หลายในประเทศต่าง ๆ
ในยุโรปตะวันตก หลังจากท่ีใช้ระบบการเลือกต้ังแบบเสียงข้าง
มากรอบเดียวแบบอังกฤษ (แบบที่ใช้อยู่ในประเทศไทย) แล้ว
ไมป่ ระสบความสําเร็จ จงึ ต้องพฒั นาการเลอื กต้งั เปน็ ระบบใหม่

ประเทศตา่ งๆทใี่ ชร้ ะบบน้ีไดแ้ ก่เดนมารค์ ,นอรเวย,์ สวเี ดน
ฟินแลนด์, ไอซ์แลนด์, เบลเย่ียม, ลักเซมเบอร์ก, เนเธอร์แลนด์,
ออสเตรีย, กรีก, อิตาลี และ สวติ เซอร์แลนด์ นอกทวีปยุโรปได้แก่
อิสราเอล, ตุรกี, อียปิ ต์ และ อีกหลาย ๆ ประเทศ

85การปฏริ ูปการเมอื ง

โดยการจดั ระบบและวิธกี ารเลือกตงั้ ใหม่

หอลุกากฤหษลายมแงนควคลดิ นาวนิ

๒.๓ ระบบเลอื กตง้ั แบบผสม
สําหรับประเทศเยอรมันตะวันตกใช้ระบบเลือกต้ังผสม
กันท้ังสองระบบ กล่าวคือ ในสภาผู้แทนราษฎร (Bundestag)
มีจํานวนผู้แทนราษฎร ๔๙๖ คน จะแบ่งจํานวนผู้แทนออกเป็น
สองสว่ นเทา่ ๆ กนั สว่ นละ ๒๔๘ คน แลว้ จดั ใหม้ กี าร เลอื กตงั้ แบบ
แบง่ เขต ๆ ละ ๑ คน โดยใชว้ ิธีเลอื กต้งั แบบเสยี งข้างมากธรรมดา
ส่วนอีก ๒๔๘ คน ใช้วิธีเลือกตั้งตามอัตราส่วน โดยผู้ออกเสียง
เลือกตัง้ จะลงคะแนนตามบัญชรี ายชอ่ื ผูส้ มคั รของพรรคการเมือง
ท่สี ง่ สมคั รในเขตปกครอง (มีการแบง่ การปกครองเปน็ หลายเขต)
โดยผอู้ อกเสยี งเลอื กตง้ั จะมบี ตั รลงคะแนน ๒ ใบ ใบหนงึ่ ลงคะแนน
ใหผ้ สู้ มคั รในเขตเลอื กตงั้ เขตละหนง่ึ คน สว่ นอกี ใบหนง่ึ ลงคะแนน
ตามบญั ชรี ายชอื่ ผสู้ มคั รในเขตปกครอง โดยการคดิ คะแนนจะคดิ
ตามอัตราส่วนของผู้มาใช้สิทธิลงคะแนน ซ่ึงการคิดคะแนนแบบ
เยอรมันค่อนข้างจะยุ่งยาก ซึ่งจะเสนอวิธีการคิดคะแนนที่ง่าย
และสะดวกกว่า
เมื่อเดือนตุลาคม ๒๕๓๙ น้ีเอง ประเทศญ่ีปุ่นซ่ึงประสบ
ปัญหาประชาชน เสื่อมความนิยมในนักการเมือง ได้แก้ไขวิธี
การเลือกต้ังใหม่เป็นแบบผสมเช่นเดียวกับประเทศเยอรมัน โดย
เลือกผู้แทนในระบบอัตราส่วนตามบัญชีรายช่ือผู้สมัครของ
พรรคการเมือง จํานวน ๒๐๐ คน โดยแบ่งออกเป็นเขตเลือกตั้ง
ใหญ่ ๑๑ เขต และ เขตเลือกตงั้ เล็กอีก ๓๐๐ เขต แต่ละเขตเลอื ก
ผูแ้ ทนราษฎรได้ ๑ คน รวมเปน็ ผ้แู ทนราษฎร ๕๐๐ คน

86 การปฏริ ปู การเมือง
โดยการจัดระบบและวิธีการเลือกตั้งใหม่

อุกฤษหลมากงหคลลายนแานววินคดิ

๓. การเปรยี บเทยี บการเลอื กตงั้ แบบเสยี งขา้ งมาก และ
แบบอตั ราสว่ น เพอ่ื การนาํ การเลอื กตัง้ แบบอตั ราส่วนมาใช้
ในประเทศไทย

การเลือกตัง้ แบบเสียงขา้ งมาก การเลือกตงั้ แบบอัตราสว่ น

๑. มีความเป็นประชาธิปไตย ๑. มี ค ว า ม เ ป ็ น ป ร ะ ช า -
น้อย เพราะหากเอาคะแนน ธิปไตยเพราะผู้ที่จะได้
ของผู้สมัครอ่ืน ๆ ท่ีไม่ได้ รับเลือก จะเฉลี่ยกัน
รับเลือกต้ังทั้งหมดมารวม ระหว่างพรรคการเมือง
กัน คะแนนเสียงท้ังหมดน้ี ท่ีได้รับความนิยมสูง
มักจะมากกว่าคะแนนเสียง โดยจะมีผู้แทนราษฎร
ของผู้ได้รับเลือกต้ัง เช่น ต า ม อั ต ร า ส ่ ว น ข อ ง
ในเขตเลือกต้ังหน่ึง มีผู้แทน คะแนนนิยม ซ่งึ คิดตาม
ได้ ๓ คน มพี รรคการเมืองสง่ อตั ราสว่ นแลว้ พรรค ก.,
ผู้สมัคร ๕ พรรค ๆ ละ ๓ คน พรรค ข. และ พรรค ค.
มี ผู ้ อ อ ก เ สี ย ง ล ง ค ะ แ น น จะได้รับเลือกตั้งพรรค
๑๐๐,๐๐๐ คน ผลการ ล ะ ๑ ค น ทํ า ใ ห ้
ลงคะแนนปรากฏวา่ พรรค ก. ประชาชน ๙๐,๐๐๐ คน
ได้ ๔๐,๐๐๐ คะแนน, มีผู้แทน ได้รับเลือก
พรรคข.ได้๓๕,๐๐๐คะแนน, เข้าสภา แทนท่ีพรรค
พรรคค.ได้๑๕,๐๐๐คะแนน, ก. จะได้รับเลือกต้ังไป
พรรค ง. ได้ ๘,๐๐๐ คะแนน ท้งั ๓ คน
และ พรรค จ. ได้ ๒,๐๐๐
คะแนน ทาํ ให้ พรรค ก. ไดร้ บั

87การปฏิรปู การเมอื ง

โดยการจัดระบบและวธิ กี ารเลือกตง้ั ใหม่

หอลุกากฤหษลายมแงนควคลดิ นาวิน

การเลือกตง้ั แบบเสียงขา้ งมาก การเลอื กต้งั แบบอัตราสว่ น

เลือกตั้งท้ัง ๓ คน ส่วน พรรค
ข., ค., ง., และ จ. ไม่ได้รับ
เลือกเลย ท้ัง ๆ ท่ีมีคะแนน
เสียงรวมกันถึง ๖๐,๐๐๐
คะแนน มากกว่า พรรค ก.
ซึ่ ง มี ค ะ แ น น เ สี ย ง เ พี ย ง
๔๐,๐๐๐ คะแนน

๒. มีการกล่าวว่าผู้ได้รับเลือก ๒. ผู ้ รั บ เ ลื อ ก ตั้ ง ถื อ ว ่ า
ต้ังระบบนี้มักเป็นผู้แทน เ ป ็ น ตั ว แ ท น ข อ ง
ของประชาชนส่วนนอ้ ย ประชาชนทุกกลุ่ม ซึ่ง
รวมกันเป็นประชาชน
๓. เป็นระบบแพ้คัดออก ทํา สว่ นใหญ่
ให้ผู้สมัครที่มีคุณสมบัติสูง
แต่บังเอิญได้รับคะแนน ๓. เป็นระบบเฉลี่ยคะแนน
เสียง น้อยกว่าผู้สมัครอื่น เสียง โดยพรรคใดได้
เ พี ย ง เ ล็ ก น ้ อ ย จ ะ ไ ม ่ ไ ด ้ คะแนนเสียงเป็นอัตรา
รับเลือก และไม่มีโอกาส ส่วนเท่าใด บุคคลที่มี
ทาํ งานในสภาผแู้ ทนราษฎร รายชื่อในบัญชีผู้สมัคร
เลย จึงต้องแข่งขนั แบบเอา รับเลือกตั้งของพรรค
เป็นเอาตาย จนถึงการทุ่ม จะได้เป็นผู้แทนเรียง
เงินซื้อเสียงเพราะถือคติว่า ตามลําดับ ทําให้ คน
“แพ้ไม่ได”้ ดีที่อยู่ต่างพรรคกันมี
โอกาสทํางานร่วมกัน

88 การปฏริ ปู การเมอื ง
โดยการจดั ระบบและวธิ กี ารเลอื กตั้งใหม่

อกุ ฤษหลมากงหคลลายนแานววินคิด

การเลือกตัง้ แบบเสยี งขา้ งมาก การเลอื กตัง้ แบบอัตราส่วน

๔. เ ป ็ น ก า ร เ ลื อ ก ต้ั ง ท่ี เ น ้ น ๔. เป็นการเลือกต้ังที่เน้น
ความสําคัญของตัวบุคคล ความสําคัญของพรรค
ทสี่ มคั รรบั เลอื กตงั้ มากกวา่ ต ร ง กั บ เ จ ต น า ร ม ณ ์
ความสาํ คญั ของพรรค และ ของรัฐธรรมนูญฉบับ
นโยบายของพรรค ปัจจุบันท่ีว่า “พรรค
เลือกคน ประชาชน
เลอื กพรรค”

๕. เปน็ การเลอื กตงั้ ทเี่ ปดิ โอกาส ๕. เป็นการเลือกตั้งพรรค
ใหม้ กี ารทจุ รติ โดยการทมุ่ เงนิ โ ด ย ตั ว บุ ค ค ล ที่ อ ยู ่
ซ้ือเสียง ซึ่งนับวันจะขยาย ในบัญชีรายชื่อผู้รับ
วงกว้างขึ้น โดยเฉพาะใน เ ลื อ ก ต้ั ง ข อ ง พ ร ร ค
ต่างจังหวัด ผู้มีเงินจะเป็น ไม่มีความจําเป็นต้อง
ผู้ได้รับเลือกต้ัง ส่วนผู้มี ทุ่มเงิน เพราะผู้มีชื่อ
คุณงามความดีและได้รับ ลาํ ดับต้น ๆ ตามบญั ชี
การนับหนา้ ถือตา จะไมไ่ ด้ รายชอื่ ของพรรคมสี ทิ ธิ
รบั เลอื กตง้ั เพราะประชาชน ได้เป็นผู้แทนอยู่แล้ว
ไ ม ่ ไ ด ้ รั บ เ งิ น ห รื อ ไ ด ้ รั บ ส่วนผู้มีช่ือในลําดับ
ผลประโยชน์ ทา้ ย ๆ กค็ งไมใ่ ชว้ ธิ กี าร
ทุ่มเงินเพื่อซ้ือคะแนน
เสียง เพราะการทุ่ม
เงินจะไม่ให้ประโยชน์
โดยตรงแกผ่ ทู้ มุ่ เงนิ แต่
ผทู้ ่ีได้ประโยชน์ จะเป็น

89การปฏิรปู การเมอื ง

โดยการจัดระบบและวธิ ีการเลือกตง้ั ใหม่

หอลกุากฤหษลายมแงนควคลดิ นาวนิ

การเลือกตั้งแบบเสียงข้างมาก การเลือกต้งั แบบอตั ราสว่ น

๖. เป็นการเลือกตั้งท่ีมีการ ผู้ที่อยู่ในลําดับต้น ๆ
โ จ ม ตี ตั ว บุ ค ค ล ผู ้ ส มั ค ร ของบญั ชรี ายชอ่ื เทา่ นน้ั
รบั เลือกตง้ั เปน็ รายตัว ด้วย
ข้อความท่ีจริงบ้าง เท็จบ้าง ๖. ก า ร โ จ ม ตี ตั ว บุ ค ค ล
ส่วนมากมักเป็นการใส่ร้าย จะลดลง เพราะจะต้อง
ป้ายสีและสาดโคลนให้ เปล่ียนเป็นการโจมตี
เสยี หายทาํ ใหค้ นดีๆจาํ นวน ชื่อเสียงพรรค นโยบาย
ไม่น้อยไม่ต้องการลงสมัคร พรรค สําหรับตัวบุคคล
รบั เลอื กตง้ั เพราะไมต่ อ้ งการ ที่อาจถูกโจมตีได้มาก
ถูกสาดโคลน จะได้แก่หัวหน้าพรรค
หรือบุคคลสําคัญของ
๗. ผไู้ ดร้ บั เลอื กตงั้ มกั ไมม่ รี ะเบยี บ พรรค ซึ่งจะเป็นวิธีการ
วนิ ยั ไมส่ นใจและเคารพเชอ่ื ฟงั นําไปสู่ระบอบประชา-
พรรค เพราะถือว่าได้รับ ธิ ป ไ ต ย ที่ ถู ก ต ้ อ ง ไ ด ้
เลือกต้ังมาด้วยความสามารถ มากกว่า และคนดี ๆ
ส่วนตัว ถ้าไม่พอใจ อาจ จะลงสมัครรับเลือกตั้ง
เปล่ียนพรรคไปลงเลือกตั้ง มากขน้ึ

๗. ผู้ได้รับเลือกต้ังเป็นผู้
ไ ด ้ รั บ คั ด เ ลื อ ก ใ ห ้
มีชื่อในบัญชีผู้สมัคร
รับเลือกตั้งของพรรค
และเนอ่ื งดว้ ยประชาชน
เลือกพรรค ผู้ได้รับ

90 การปฏิรูปการเมอื ง
โดยการจดั ระบบและวิธกี ารเลอื กตัง้ ใหม่

อุกฤษหลมากงหคลลายนแานววินคิด

การเลือกตง้ั แบบเสียงข้างมาก การเลอื กต้ังแบบอัตราส่วน

ในสังกดั พรรคอื่น และมกั ได้ เลือกตั้ง จึงต้องเคารพ
รบั เลอื กตงั้ โดยเฉพาะในตา่ ง เช่ือฟังพรรค ผู้แทน
จังหวัด เพราะสามารถซ้ือ ราษฎรในระบบน้ีจงึ เปน็
เสยี งเข้ามาไดอ้ ีก ผมู้ รี ะเบียบวินัย
๘. ต้องมีการเลือกตั้งซ่อม ๘. ในระบบเลือกต้ังตาม
ในกรณผี ไู้ ดร้ บั เลอื กตงั้ ตาย อตั ราสว่ น ไมต่ อ้ งมกี าร
ลาออกหรือถูกพรรคไล่ออก เลือกตั้งซ่อม ในกรณี
ทำ� ใหส้ น้ิ เปลอื งงบประมาณ ผู้ได้รับเลือกตั้ง คนใด
แ ล ะ ท� ำ ใ ห ้ ป ร ะ ช า ช น ตาย ลาออกหรือถูก
เบ่อื หน่าย ไลอ่ อกใหเ้ ลอ่ื นคนทอี่ ยู่
ในลําดับถัดไปขึ้นไป
แทนท่ี(อาจมขี อ้ ทกั ทว้ ง
วา่ อาจมกี ารฆา่ กนั ตาย
เพ่ือได้เล่ือนอันดับเป็น
ผู้แทนแทนท่ีคนตาย
หรือจ่ายเงินจํานวนสูง
ให้ผู้แทนลาออกเพ่ือ
เข้าแทนท่ี ซึ่งกรณีน้ีใน
ทางปฏิบัติจะเกิดข้ึน
ยาก เพราะปัจจุบันนี้
จังหวัดท่ีมีผู้แทนคน
เดียวก็ไม่มีการฆ่ากัน

91การปฏิรูปการเมือง

โดยการจดั ระบบและวิธกี ารเลอื กตงั้ ใหม่

หอลกุากฤหษลายมแงนควคลดิ นาวนิ

การเลอื กตั้งแบบเสียงข้างมาก การเลือกต้ังแบบอัตราสว่ น

๙. การเลือกต้ังระบบน้ีตลอด ตาย เพื่อให้คนที่ได้
เวลา ๖๔ ปี ไมท่ าํ ใหพ้ รรคใด รั บ ค ว า ม นิ ย ม ใ ก ล ้
พรรคหน่ึงได้เสียงข้างมาก เคียงกันได้รับเลือก
เดด็ ขาดเพราะพรรคการเมอื ง ตั้งก่อนวันออกเสียง
มีมาก ท�ำให้การต้ังรัฐบาล ลงคะแนน หรอื ฆา่ คน
ต้องร่วมกันหลายพรรค ที่ได้รับเลือกต้ังแล้ว
เพ่ือจะให้มีโอกาสได้
เลือกตั้งใหม่)
๙. อาจสร้างระบบพรรค
การเมืองให้เข้มแข็ง
เ พ ร า ะ พ ร ร ค ที่ ไ ด ้ รั บ
ความนิยมมากอาจมี
เพยี งพรรคใหญ่ ๆ ไมก่ ี่
พรรค และอาจกําหนด
ให้พรรคการเมืองที่ได้
รบั คะแนนนยิ มตำ่� (เชน่
ต�่ำกว่าห้าเปอร์เซ็นต์
ข อ ง ผู ้ อ อ ก เ สี ย ง ล ง
คะแนน) ไม่มีโอกาส
มีผู้แทนในสภา เพราะ
ได้รับความนิยมน้อย
เกนิ ไป จะทาํ ใหเ้ หลอื แต่
พรรคการเมืองใหญ่ ๆ

92 การปฏริ ปู การเมือง
โดยการจัดระบบและวธิ กี ารเลอื กตั้งใหม่

อกุ ฤษหลมากงหคลลายนแานววินคิด

การเลอื กตั้งแบบเสยี งขา้ งมาก การเลอื กตั้งแบบอตั ราส่วน

๑๐. เปน็ การเลอื กตงั้ ทม่ี ปี ญั หา เท่าน้ัน ซ่ึงการจัดตั้ง
ความไมย่ ตุ ธิ รรมในการแบง่ รัฐบาลโดยพรรคเดียว
เขตเลือกต้ังเป็นเขตละ ๓ อาจเกิดขึ้นได้ หรือ
คน หรอื ๒ คน เพราะมกี าร อาจจัดตั้งรัฐบาลผสม
ก ล ่ า ว ห า เ จ ้ า ห น ้ า ท่ี ผู ้ จากน้อยพรรค เช่น ๒
รบั ผดิ ชอบในบางครงั้ วา่ แบง่ หรือ ๓ พรรคเท่าน้ัน
เขตเลือกตั้งโดยมีเจตนา อันจะทําให้รัฐบาลมี
ชว่ ยเหลอื ผสู้ มคั รบางพรรค เสถียรภาพ
๑๐. ไม่มีปัญหาเร่ืองการ
แบ่งเขต เพราะมีเขต
เลือกตั้งท่ีแน่นอนอยู่
แล้ว โดยถือประเทศ
เป็นเขตเลือกตั้ง

๑๑. เป็นการเลือกต้ังท่ีมีความ ๑๑. ไม่มีความสับสนใน
สับสนในการจําช่ือผู้สมัคร การลงคะแนน เพราะ
รับเลือกตั้ง เพราะจะต้อง ประชาชนเลือกพรรค
กาบัตรเลือกต้ัง ให้ถูก โดย เท่านนั้ เช่น เลือกพรรค
ต ้ อ ง จํ า ทั้ ง ชื่ อ พ ร ร ค แ ล ะ ก.กาบตั รเบอร์๑,เลอื ก
ช่ือคน ทําให้เกิดความเบ่ือ พรรค ข. กาบตั รเบอร์ ๒

93การปฏริ ปู การเมอื ง

โดยการจัดระบบและวิธกี ารเลือกต้ังใหม่

หอลุกากฤหษลายมแงนควคลดิ นาวิน

การเลือกตง้ั แบบเสยี งขา้ งมาก การเลือกต้งั แบบอัตราสว่ น

หน่ายในการจําชื่อ แม้ เลือกพรรค ค. กาบัตร
กระทั่ง เลือกต้ังไปแล้วยัง เบอร์ ๓ เป็นตน้ โดยกา
จําไม่ได้ว่าผู้ใดเป็นผู้แทน บัตร เพียงเบอร์เดียว
ร า ษ ฎ ร ใ น เ ข ต เ ลื อ ก ตั้ ง และจําเพียงช่ือพรรค
ของตน เท่านั้นไม่ต้องจําช่ือตัว
บุคคล ทําให้ไม่ยุ่งยาก
และบัตรเสียจะมนี ้อย

๑๒. ไม่เปิดโอกาสให้ใช้ระบบ ๑๒. เปิดโอกาสให้มีการ
แ บ ่ ง แ ย ก ก า ร ทํ า ห น ้ า ที่ แบ่งแยกการทําหน้าท่ี
ระหวา่ งฝา่ ยนติ บิ ญั ญตั ิและ ได้ง่ายข้ึน โดยผู้แทน
ฝ่ายบริหาร เพราะถ้าให้ ราษฎรท่ีไปทําหน้าท่ี
ผู้แทนราษฎรต้องพ้นจาก ฝ่ายบริหาร ให้พ้นจาก
หน้าที่ เมื่อไปทําหน้าที่ใน ก า ร ทํ า ห น ้ า ท่ี ฝ ่ า ย
ฝ่ายบริหาร จะต้องมีการ นิติบัญญัติ และให้ทํา
เลือกตั้งซ่อม ซ่ึงจะทําให้ หนา้ ทฝี่ า่ ยบรหิ าร เพยี ง
ประชาชนเกิดความ เบ่ือ อย่างเดียว โดยเลื่อน
หน่าย และต้องจัดเลือกต้ัง ผู้ท่ีอยู่ถัดไปในบัญชี
บอ่ ย ๆ ทําใหย้ ่งุ ยากและสิ้น รายชื่อเดียวกันขึ้นมา
เปลืองงบประมาณ แทนที่ โดย ไม่ตอ้ งมี
การเลือกต้ังซอ่ ม

94 การปฏริ ปู การเมือง
โดยการจดั ระบบและวิธกี ารเลือกต้ังใหม่

อุกฤษหลมากงหคลลายนแานววนิคดิ

๔. การนาํ ระบบเลอื กตงั้ ตามอตั ราสว่ นมาใชใ้ นรฐั สภา
ของไทย

กอ่ นการใชร้ ฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ.๒๕๒๑
ผไู้ ดร้ บั เลอื กตง้ั เปน็ กรรมาธกิ ารสามญั ในสภาผแู้ ทนราษฎร ไดแ้ ก่
สมาชิกฝ่ายรฐั บาลเปน็ สว่ นใหญ่ ซ่งึ ฝา่ ยค้านจะไม่ยนิ ยอม จะขอ
ให้มีการออกเสียงลงคะแนนทุกคร้ังและทุกรูปแบบ ซ่ึงทําให้เสีย
เวลามาก และในท่ีสุด ฝ่ายค้านซึ่งมีเสียงน้อยกว่าจะพ่ายแพ้ไป
โดยไม่ได้รับเลือกต้ังเป็นกรรมาธิการ โดยเฉพาะการรับเลือกเข้า
เป็นกรรมาธิการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจําปีซ่ึงถือว่า
มีความสาํ คญั มาก ปรากฏวา่ ผแู้ ทนราษฎรฝ่ายค้านรายใด ถ้าได้
รับเลือกต้ังเป็นกรรมาธิการฯ มักจะเป็นผู้แทนราษฎรซึ่งมีความ
สัมพันธ์ทางส่วนตวั กบั ฝ่ายรฐั บาลเป็นพเิ ศษเท่านนั้

แต่ตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ให้ความคุ้มครองสิทธิ
ของผแู้ ทนราษฎรฝา่ ยข้างนอ้ ย และตอ้ งการใหฝ้ า่ ยเสียงขา้ งมาก
และฝ่ายเสียงข้างน้อยมีโอกาสทํางานสําคัญของสภาผู้แทนฯ
ร่วมกัน โดยเริ่มนําระบบนี้มาใช้ในรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ.๒๕๒๑
และไดใ้ ชร้ ะบบนี้ต่อเน่อื งมาจนถึงรัฐธรรมนญู ฉบับปัจจบุ นั ซง่ึ ได้
บัญญัตไิ วใ้ น มาตรา ๑๕๘ วรรคสาม ว่า “กรรมาธกิ ารสามัญท่ีตงั้
จากผู้ท่ีเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด ต้องมีจํานวนตาม
หรือใกล้เคียงกับอัตราส่วนของจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ของแต่ละพรรคการเมือง หรือกลุ่มพรรคการเมืองที่มีอยู่ในสภา
ผู้แทนราษฎร”

95การปฏริ ปู การเมอื ง

โดยการจัดระบบและวิธกี ารเลือกต้ังใหม่

หอลกุากฤหษลายมแงนควคลดิ นาวนิ

กรรมาธิการสามัญท่ีตั้งจากผู้ท่ีเป็นสมาชิกสภา
ผู้แทนราษฎรท้ังหมด ต้องมีจํานวนตามหรือ
ใกล้เคียงกับอัตราส่วนของจํานวนสมาชิกสภา
ผแู้ ทนราษฎรของแตล่ ะพรรคการเมอื ง หรอื กลมุ่
พรรคการเมืองท่ีมอี ยู่ในสภาผู้แทนราษฎร
ปรากฏว่า วิธีการนี้ได้ผลเป็นท่ีพอใจอย่างย่ิง เพราะไม่มี
การขดั แยง้ ในการเลอื กตง้ั คณะกรรมาธกิ ารของสภาผแู้ ทนราษฎร
เลย กล่าวคือ ในวันเลือกต้ังกรรมาธิการ พรรคการเมืองแต่ละ
พรรคจะเสนอช่ือบุคคลซ่ึงพรรคคัดเลือกแล้วให้เป็นกรรมาธิการ
ตามอัตราส่วนที่แต่ละพรรคมีสิทธิ โดยไม่ต้องมีการออกเสียงลง
คะแนน นอกจากนนั้ ฝ่ายเสียงขา้ งนอ้ ยซง่ึ เป็นฝ่ายคา้ น นอกจาก
ได้รับเลือกให้มีส่วนร่วมในคณะกรรมาธิการตามอัตราส่วนโดย
ไม่ต้องว่ิงเต้นร้องขอจากฝ่ายเสียงข้างมากแล้ว บางคนยังได้รับ
เลอื กตงั้ ให้เป็นประธานคณะกรรมาธิการอกี ดว้ ย นบั วา่ เปน็ ระบบ
ประนีประนอมอย่างดีย่ิง ทําให้คณะกรรมาธิการได้คนดีและ
เหมาะสมมาทาํ งานรว่ มกนั โดยพรรคเลอื กคนเสนอใหส้ ภาผแู้ ทน
ราษฎรเหน็ ชอบโดยไมต่ ้องแข่งขันกันในสภา

96 การปฏิรูปการเมอื ง
โดยการจัดระบบและวธิ ีการเลอื กตัง้ ใหม่

อกุ ฤษหลมากงหคลลายนแานววินคดิ

๕. หวั ใจของการปฏิรูปการเมืองไทย
เหตุผลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
(ฉบับที่ ๖) พุทธศักราช ๒๕๓๙ ให้ไว้เมื่อวันที่ ๒๗ กันยายน
๒๕๓๙ ที่สําคัญที่สุดได้แก่การจัดต้ังองค์กรจัดทํารัฐธรรมนูญ

เพื่อปรับปรุงโครงสร้างทางการเมืองข้ึนใหม่ให้มี
เสถียรภาพ และประสิทธิภาพยง่ิ ข้ึน .......
เหตกุ ารณท์ างการเมอื งเชน่ นเ้ี คยเกดิ ขนึ้ ในประเทศฝรงั่ เศส
ในสาธารณรัฐท่ี ๔ ซงึ่ รฐั บาลไม่มีเสถยี รภาพ มกี ารเปลี่ยนรัฐบาล
โดยเฉลย่ี ทกุ ๆ หกเดอื น ทาํ ใหป้ ระเทศชาตเิ สยี หายมาก โดยเฉพาะ
ทางด้านเศรษฐกิจ ด้านความเป็นอยู่และปากท้องของประชาชน
เมื่อถูกกดดันอย่างมาก รัฐสภาจึงได้มอบอํานาจให้มีองค์กรจัด
ทาํ รัฐธรรมนญู ฉบบั ใหมข่ ึน้ เป็นรัฐธรรมนูญฉบับสาธารณรฐั ที่ ๕
ปี พ.ศ. ๒๕๐๑ ซ่งึ แกไ้ ขระบบเลือกตั้ง เปิดโอกาสให้คนที่เขา้ มา
ปกครองประเทศ ทาํ ให้ นายพลฯ ชาร์ล เดอโกลล์ ได้รบั เลอื กตงั้
เป็นประธานาธิบดีของประเทศฝร่ังเศสโดยการเลือกตั้งทางอ้อม
และแกไ้ ขรฐั ธรรมนญู เปน็ การเลอื กตงั้ โดยตรงในเวลาตอ่ มา และ
ทาํ ให้รฐั บาลมีเสถยี รภาพต่อมาจนถึงทุกวันน้ี
หวั ใจสาํ คญั ของการปฏริ ปู การเมอื งไทย จงึ ไดแ้ กก่ ารปฏริ ปู
ระบบและวธิ กี าร เลอื กตงั้ ใหม่ ซงึ่ ถา้ คนทไ่ี ดร้ บั เลอื กตงั้ เปน็ สมาชกิ
สภาผู้แทนราษฎรแล้ว คนดีเหล่านี้จะมีโอกาสเลือกผู้นําที่ดีมา
เปน็ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี บริหารราชการแผน่ ดนิ ใหเ้ จรญิ

97การปฏิรูปการเมือง

โดยการจัดระบบและวิธีการเลอื กต้ังใหม่

หอลุกากฤหษลายมแงนควคลดิ นาวิน

รุ่งเรือง สร้างศรัทธาให้แก่ประชาชน โดยบุคคลเหล่านี้จะต้อง
เป็นผู้มีอุดมการณ์ มีความซื่อสัตย์สุจริต เห็นแก่ประโยชน์ส่วน
รวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว และพรรคพวก ไม่ใช่คนประเภท
“คิดอย่างหนึ่ง พูดอย่างหน่ึง และทําอย่างหน่ึง” ไม่ใช่คนท่ีผ่าน
การเลือกตั้งโดยการซ้ือสิทธิซ้ือเสียง ต้องเป็นคนมีความรู้ความ
สามารถ มบี ารมี สามารถแก้ปญั หาต่าง ๆ ได้ถูกต้องและรวดเร็ว
เปน็ ทเ่ี คารพนบั ถอื ของข้าราชการ และประชาชน

๖. ระบบและวธิ เี ลอื กตง้ั ทค่ี วรนาํ มาใชใ้ นประเทศไทย
ระบบเลือกต้ังในประเทศไทยควรใช้ระบบผสม คือ ใช้
ระบบเลอื กตง้ั ตามอตั ราสว่ น โดยพรรคการเมอื งจดั ทาํ บญั ชรี ายชอื่
ผู้สมัครรับเลือกต้ังเสนอต่อประชาชนในวันสมัครรับเลือกต้ัง
เพ่ือให้ประชาชนทั่วประเทศเลือกพรรคการเมือง โดยถือหลัก
“พรรคเลือกคน ประชาชนเลือกพรรค” ผสมกับระบบเลือกต้ัง
แบบเสียงข้างมากรอบเดียว โดยแบ่งเขตเลือกต้ังเป็นเขตเล็ก
มผี ู้แทนได้เขตละหนึง่ คน โดยอาจดาํ เนนิ การ ดังน้ี
๖.๑ อาจกําหนดจํานวนผู้แทนราษฎรไว้ตายตัวที่
๔๐๐ คน (ปัจจุบัน ๓๙๓ คน) ให้มีการเลือกต้ังตามอัตราส่วน
ตามบญั ชรี ายชอ่ื ของพรรคการเมอื ง จาํ นวน ๒๐๐ คน อกี ๒๐๐ คน
แบง่ เขตเลอื กตั้งเปน็ ๒๐๐ เขต มีผู้แทนราษฎรได้เขตละหนง่ึ คน
(สหรฐั อเมริกามผี ้แู ทนราษฎรตายตวั ๔๓๕ คน, ประเทศเยอรมนั
มีผูแ้ ทนราษฎรตายตัว ๔๙๖ คน เป็นตน้ )

98 การปฏริ ูปการเมือง
โดยการจดั ระบบและวธิ กี ารเลอื กตัง้ ใหม่

อกุ ฤษหลมากงหคลลายนแานววนิคิด

๖.๒ ประชาชนผู้เลือกต้ังทุกคนจะมีสิทธิเท่าเทียมกัน
โดยหยอ่ นบตั รเลอื กตง้ั ในวนั เดยี วกนั ๒ บตั ร บตั รแรกเลอื กพรรค,
บัตรทสี่ องเลอื กตัวบุคคลในเขตเลือกต้ัง ซ่ึงจะงา่ ยมากไม่มีความ
สบั สน

๖.๓ การคดิ คะแนนเสยี งในการเลอื กตงั้ ตามอตั ราสว่ น
จะคดิ ง่ายมาก เชน่ ผู้แทนราษฎรจาํ นวน ๒๐๐ คน ถ้าพรรค ก. ได้
รบั ความนยิ มทว่ั ประเทศ ๓๐% จะไดร้ บั เลอื กตง้ั เปน็ ผแู้ ทนราษฎร
๖๐ คน ได้แก่หมายเลข ๑ ถึง หมายเลข ๖๐, พรรค ข. ได้รบั ความ
นยิ มทว่ั ประเทศ ๒๐% จะมผี แู้ ทน ราษฎร ๔๐ คน ไดแ้ ก่ หมายเลข
๑ ถงึ หมายเลข ๔๐ สว่ นพรรคอนื่ ๆ จะมี จาํ นวนผแู้ ทนราษฎรเฉลยี่
กนั ไปตามอตั ราสว่ น สาํ หรบั พรรคการเมอื งทไี่ ดร้ บั ความนยิ มนอ้ ย
เช่น ต่�ำกว่า ๕% อาจถูกตัดออกจากบญั ชีเพื่อสง่ เสรมิ ใหม้ พี รรค
ใหญ่ ๆ น้อยพรรค จนถึงขนาดท่ีพรรคเดียวอาจจัดต้ังรัฐบาลได้
โดยไม่ต้องจดั ตั้งรฐั บาลผสม

๗. ผลดขี องระบบและวิธเี ลือกตั้งแบบใหม่
๗.๑ ขจัดปัญหาการซ้ือเสียง เพราะประเทศเป็นเขต
เลอื กตง้ั จะมจี าํ นวนผู้มสี ิทธอิ อกเสยี งเลือกตัง้ ประมาณ ๓๐ กวา่
ลา้ นคน จะทําใหก้ ารซอ้ื เสยี งเป็นไปไมไ่ ด้
๗.๒ ผู้นําของพรรคซ่ึงมักจะเป็นตัวการในการซื้อเสียง
ไมต่ อ้ งใช้เงินซือ้ เสยี ง เพราะย่อมถูกจดั ใหอ้ ยใู่ นลาํ ดบั ตน้ ๆ ของ
บญั ชรี ายช่ือผสู้ มัครของพรรค และมีโอกาสไดร้ บั เลือกอย่แู ลว้

99การปฏริ ูปการเมอื ง

โดยการจัดระบบและวิธีการเลอื กตง้ั ใหม่

หอลุกากฤหษลายมแงนควคลดิ นาวนิ

๗.๓ ผนู้ าํ ของพรรคไมต่ อ้ งหนไี ปลงสมคั รรบั เลอื กตงั้ ใน
ต่างจังหวัด ซึ่งทําให้เป็นผู้แทนของคนต่างจังหวัด แต่ระบบใหม่
ผู้นาํ ของพรรคจะเป็นผแู้ ทนของประชาชนท้งั ประเทศ

๗.๔ พรรคจะตอ้ งพถิ พี ถิ นั ในการเชญิ “คนด”ี เขา้ มาอยู่
ในบญั ชรี ายชอื่ ของพรรค และจะตอ้ งแขง่ ขนั ไปเชอ้ื เชญิ “คนด”ี มา
สังกัดพรรคของตน ซ่ึงประชาชนสามารถตัดสินใจมอบความไว้
วางใจใหพ้ รรคทีต่ นนิยมไดง้ า่ ยข้นึ โดยดจู ากบญั ชีรายช่อื ผสู้ มัคร
รับเลือกต้ัง ประกอบกับความเป็นผู้นํา ความรู้ ความสามารถ
ความซอ่ื สตั ย์ บารมีของหัวหนา้ พรรค และผนู้ าํ พรรค

๗.๕ คนดีของพรรค และคนดีของตา่ งพรรค สามารถมี
โอกาสได้เข้ามาทํางานการเมืองร่วมกันในสภาโดยความสนิทใจ
เพราะไม่เคยผ่านการหาเสียงโจมตี ด่าว่าอย่างรุนแรงซ่ึงกันและ
กันมาก่อน

๗.๖ การแบง่ แยกการทาํ หนา้ ทร่ี ะหวา่ งฝา่ ยนติ บิ ญั ญตั ิ
และฝา่ ยบรหิ าร สามารถ ทาํ ไดง้ า่ ย เชน่ อาจกาํ หนดใหผ้ ทู้ าํ หนา้ ที่
ฝา่ ยบรหิ าร(นายกรฐั มนตร,ี รฐั มนตร,ี ขา้ ราชการการเมอื งตาํ แหนง่
ตา่ ง ๆ) ตอ้ งไดร้ ับเลอื กเป็นผ้แู ทนราษฎรกอ่ น เมอื่ ไดร้ ับตําแหนง่
ทางฝ่ายบริหารแล้วให้พ้นจากตําแหน่งทางฝ่ายนิติบัญญัติ และ
เล่ือนผู้ที่อยู่ในลําดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรคเดียวกัน
ขึ้นมาแทนท่ี โดยไม่ต้องเลือกต้ังซ่อมและไม่เสียสัดส่วนผู้แทน
ราษฎรของพรรคในการให้การสนบั สนุนรัฐบาล

100 การปฏริ ูปการเมอื ง
โดยการจัดระบบและวิธกี ารเลอื กต้ังใหม่


Click to View FlipBook Version