The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ปี65

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by TPSO 11, 2023-02-27 08:27:38

โครงการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ปี65

โครงการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ปี65

โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 33 32 ส่วนที่ 1 ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สูงอายุ 1) จ านวนกลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุจ าแนกตามเพศ จ านวนของผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มตัวอย่างจ าแนกได้เป็นเพศชาย 119 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 29.80 ส่วนเพศหญิงจ านวน 281 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 70.20 จากข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ากลุ่มตัวอย่าง ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุเพศหญิง 2) จ านวนกลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุจ าแนกตามช่วงอายุ จ านวนของผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มตัวอย่างจ าแนกตามช่วงอายุเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 อายุระหว่าง 60 – 70 ปี มีจ านวน 216 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 54.00 กลุ่มที่ 2 อายุระหว่าง 71 – 80 ปี มี จ านวน 130 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 32.50 กลุ่มที่ 3 อายุระหว่าง 81 – 90 ปี มีจ านวน 44 คน หรือคิดเป็นร้อย 119 281 แผนภาพที่ 4.1 จ านวนของผู้สูงอายุจ าแนกตามเพศ (คน) เพศชาย เพศหญิง 216 130 44 10 0 50 100 150 200 250 60-70 ปี 71-80 ปี 81-90 ปี 91-100 ปี แผนภาพที่ 4.2 จ านวนของผู้สูงอายุจ าแนกตามช่วงอายุ


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 34 33 ละ 11.00 และกลุ่มที่ 4 อายุระหว่าง 91 – 100 ปี มีจ านวน 10 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 2.50 จากข้อมูลช่วงอายุ ของผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มตัวอย่างพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คือกลุ่มผู้สูงอายุวัยต้นที่มีอายุระหว่าง 60 – 70 ปี 3) จ านวนกลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุจ าแนกตามระดับการศึกษา จ านวนของผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มตัวอย่างจ าแนกตามระดับการศึกษาเป็น 5 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มที่ ไม่ได้เรียนหนังสือ กลุ่มที่เรียนจบระดับประถมศึกษา กลุ่มที่เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น กลุ่มที่เรียนจบชั้น มัธยมศึกษาตอนปลาย/ปวช. กลุ่มที่เรียนจบชั้นอนุปริญญา/ปวส. และกลุ่มที่เรียนจบระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่า ในกลุ่มตัวอย่างดังกล่าว ผู้สูงอายุส่วนใหญ่จบการศึกษาในระดับประถมศึกษา มีจ านวน 217 คน หรือคิดเป็นร้อย ละ 54.25 รองลงมาคือไม่ได้เรียนหนังสือ มีจ านวน 93 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 23.25 กลุ่มที่เรียนจบระดับปริญญา ตรีหรือสูงกว่า มีจ านวน 28 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 7.00 กลุ่มที่เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย/ปวช. มีจ านวน 26 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 6.50 และกลุ่มที่เรียนจบในระดับอนุปริญญา/ปวส. มีจ านวนน้อยที่สุดเท่ากับ 11 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 2.80 จากข้อมูลเกี่ยวกับระดับการศึกษาของผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มตัวอย่างแสดงให้เห็นว่า กลุ่ม ตัวอย่างผู้สูงอายุส่วนใหญ่เรียนจบในระดับประถมศึกษาและไม่ได้เรียนหนังสือซึ่งมีอัตราส่วนรวมกันเท่ากับ 77.50 4) จ านวนกลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุจ าแนกตามอาชีพ 93 217 25 26 11 28 0 50 100 150 200 250 แผนภาพที่ 4.3 จ านวนผู้สูงอายุจ าแนกตามระดับการศึกษา


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 35 34 จ านวนของผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มตัวอย่างจ าแนกตามอาชีพออกเป็น 5 กลุ่ม ประกอบด้วย เกษตรกรรม รับจ้างทั่วไป ธุรกิจส่วนตัว/ค้าขาย ไม่ได้ประกอบอาชีพ และอื่นๆ ในกลุ่มตัวอย่างดังกล่าว ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ อยู่ในกลุ่มที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและไม่ได้ประกอบอาชีพในจ านวนที่เท่ากันคือกลุ่มละ 150 คน หรือคิด เป็นร้อยละ 37.50 รองลงมาประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป จ านวน 40 คน คิดเป็นร้อยละ 10.00 ประกอบธุรกิจ ส่วนตัว/ค้าขาย จ านวน 36คน คิดเป็นร้อยละ 9.00 และกลุ่มอื่นๆ มีจ านวนน้อยที่สุดเท่ากับ 24 คน หรือคิดเป็น ร้อยละ 6.00 จากข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพของผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มตัวอย่างแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุส่วน ใหญ่ไม่ได้มีการประกอบอาชีพเพื่อหารายได้ และในกลุ่มที่ยังประกอบอาชีพส่วนใหญ่เป็นอาชีพเกษตรกรรมซึ่งมี รายได้ไม่แน่นอน โดยผู้สูงอายุทั้งสองกลุ่มมีอัตราส่วนรวมกันเท่ากับร้อยละ 75.00 5) จ านวนกลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุจ าแนกตามรายได้ 150 40 36 150 24 0 20 40 60 80 100 120 140 160 เกษตรกรรม รับจ้างทั่วไป ธุรกิจส่วนตัว/ค้าขาย ไม่ได้ประกอบอาชีพ อื่นๆ แผนภาพที่ 4.4 จ านวนผู้สูงอายุจ าแนกตามอาชีพ 1 341 41 5 4 3 4 0 1 0 50 100 150 200 250 300 350 400 แผนภาพที่ 4.5 จ านวนผู้สูงอายุจ าแนกตามรายได้


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 36 35 จ านวนของผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มตัวอย่างจ าแนกตามรายได้ออกเป็น 9 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 รายได้0 – 1,000 บาท กลุ่มที่ 2 รายได้ 1,001 –100,000 บาท กลุ่มที่ 3 รายได้ 100,001 –200,000 บาท กลุ่มที่ 4 รายได้ 200,001 – 300,000 บาท กลุ่มที่ 5 รายได้ 300,001 – 400,000 บาท กลุ่มที่ 6 รายได้ 400,001 – 500,000 บาท กลุ่มที่ 7 รายได้ 500,001 – 600,000 บาท กลุ่มที่ 8 รายได้ 600,001 –700,000 บาท และกลุ่มที่ 9 รายได้ 700,001 – 800,000 บาท ในกลุ่มตัวอย่างดังกล่าว ผู้สูงอายุส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มที่มีรายได้ระหว่าง 1,001 – 100,000 บาท โดยมีจ านวนเท่ากับ 341 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 85.30 รองลงมาเป็นกลุ่มที่มีรายได้ระหว่าง 100,001 – 200,000 บาท มีจ านวน 41 คน คิดเป็นร้อยละ 10.30 และอันดับ 3 เป็นกลุ่มที่มีรายได้ระหว่าง 200,001 – 300,000 บาท มีจ านวน 5 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 1.30 จากข้อมูลเกี่ยวกับรายได้ของผู้สูงอายุที่เป็น กลุ่มตัวอย่างแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุส่วนใหญ่คือกลุ่มที่มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาท/ปี หรือเฉลี่ยไม่ เกิน 8,333 บาท/เดือน 6) จ านวนกลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุจ าแนกตามแหล่งรายได้หลัก จ านวนของผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มตัวอย่างจ าแนกตามแหล่งรายได้ออกเป็น 4กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มที่ ได้รับเบี้ยยังชีพจากรัฐ กลุ่มที่ได้รับเงินจากบุตร กลุ่มที่มีรายได้จากบ านาญ/เงินสะสมของตนเอง และกลุ่มที่มีรายได้ จากแหล่งอื่นๆ ในกลุ่มตัวอย่างดังกล่าว ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีแหล่งรายได้หลักมาจากเบี้ยยังชีพของรัฐ โดยมี จ านวนเท่ากับ 309 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 77.30 รองลงมาคือมีรายได้หลักจากแหล่งอื่นๆ มีจ านวน 50 คน คิด เป็นร้อยละ 12.50 มีแหล่งรายได้หลักจากเงินบ านาญ/เงินสะสมของตนเอง จ านวน 27 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 6.80 และมีแหล่งรายได้หลักจากบุตร มีจ านวนน้อยที่สุดเท่ากับ 14 คน คิดเป็นร้อยละ 3.50 จากข้อมูลเกี่ยวกับ แหล่งรายได้หลักของผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มตัวอย่างแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีรายได้หลัก เป็นเบี้ยยังชีพที่ได้รับจากภาครัฐมากกว่ารายได้จากแหล่งอื่นๆ โดยมีอัตราสูงถึงร้อยละ 77.30 7) จ านวนกลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุจ าแนกตามการมีเงินออม 309 14 27 50 0 50 100 150 200 250 300 350 เบี้ยยังชีพจากรัฐ บุตร บ านาญ/เงินสะสมของตนเอง อื่นๆ แผนภาพที่ 4.6 จ านวนผู้สูงอายุจ าแนกตามแหล่งรายได้หลัก


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 37 36 จ านวนของผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มตัวอย่างจ าแนกตามการมีเงินออมออกเป็น 2 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่ม ที่มีเงินออม และกลุ่มที่ไม่มีเงินออม โดยผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีเงินเก็บออม โดยมีจ านวนเท่ากับ 218 คน หรือคิด เป็นร้อยละ 54.50 ส่วนกลุ่มที่ไม่มีเงินออม มีจ านวนเท่ากับ 182 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 45.50 จากข้อมูล เกี่ยวกับการมีเงินออมของผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มตัวอย่างแสดงให้เห็นว่า แม้กลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะมีเงิน เก็บออม แต่มีอัตราส่วนเกินกว่าร้อยละ 50 มาเพียงเล็กน้อย และมีความแตกต่างจากกลุ่มที่ไม่มีเงินเก็บออมไม่ถึง ร้อยละ 10 8) จ านวนกลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุจ าแนกตามจ านวนสมาชิกในครอบครัว จ านวนของผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มตัวอย่างจ าแนกตามจ านวนสมาชิกในครอบครัวออกเป็น 10 กลุ่ม ประกอบด้วย ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ตามล าพังมีจ านวนสมาชิก 1 คน ผู้สูงอายุในครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 2 คน ผู้สูงอายุในครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 3 คน ผู้สูงอายุในครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 4 คน ผู้สูงอายุในครอบครัวที่มี สมาชิกรวม 5 คน ผู้สูงอายุในครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 6 คน ผู้สูงอายุในครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 7 คน ผู้สูงอายุใน 218 182 แผนภาพที่ 4.7 จ านวนผู้สูงอายุจ าแนกตามการมีเงินออม มีเงินออม ไม่มีเงินออม 16 67 94 106 62 33 14 2 3 3 0 20 40 60 80 100 120 1 คน 2 คน 3 คน 4 คน 5 คน 6 คน 7 คน 8 คน 9 คน 10 คน แผนภาพที่ 4.8 จ านวนผู้สูงอายุจ าแนกตามจ านวนสมาชิกในครอบครัว


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 38 37 ครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 8 คน ผู้สูงอายุในครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 9 คน และผู้สูงอายุในครอบครัวที่มีสมาชิก รวม 10 คน ในกลุ่มตัวอย่างดังกล่าว ผู้สูงอายุส่วนใหญ่อยู่ในครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 4 คน โดยมีจ านวนเท่ากับ 106 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 26.50 รองลงมาคือผู้สูงอายุที่อยู่ในครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 2 คน มีจ านวน 67 คน คิดเป็นร้อยละ 16.80 และอันดับสามคือผู้สูงอายุที่อยู่ในครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 5 คน คิดเป็นร้อยละ 15.50 จากข้อมูลเกี่ยวกับจ านวนสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มตัวอย่างแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่าง ผู้สูงอายุส่วนใหญ่อาศัยอยู่ร่วมกับสมาชิกช่วงวัยอื่นในครอบครัว แต่มีประเด็นที่น่าสนใจคือ มีผู้สูงอายุจ านวน หนึ่งที่อาศัยอยู่ตามล าพังซึ่งมีจ านวน 16 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 4.00 ส่วนที่ 2 การประเมินคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ข้อมูลในส่วนนี้เป็นการประเมินคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโดยตัวของผู้สูงอายุเองตามประเด็น ค าถามที่ประยุกต์มาจากแบบประเมินคุณภาพชีวิตของ WHO โดยมีระดับคะแนน 1 – 5 คะแนน คะแนนเท่ากับ 1 หมายถึง ไม่พึงพอใจ/ไม่เห็นด้วย คะแนนเท่ากับ 2 หมายถึง พึงพอใจ/เห็นด้วยเล็กน้อย คะแนนเท่ากับ 3 หมายถึง พึงพอใจ/เห็นด้วยระดับปานกลาง คะแนนเท่ากับ 4 หมายถึง พึงพอใจ/เห็นด้วยระดับมาก คะแนนเท่ากับ 5 หมายถึง พึงพอใจ/เห็นด้วยระดับมากที่สุด 1) ความพึงพอใจกับสุขภาพในปัจจุบันของผู้สูงอายุ ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีความพึงพอใจกับสุขภาพใน ปัจจุบันอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีจ านวนเท่ากับ 204 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 51.00 รองลงมาคือพึงพอใจระดับ มาก มีจ านวน 125 คน คิดเป็นร้อยละ 31.30 พึงพอใจเล็กน้อยจ านวน 50 คน คิดเป็นร้อยละ 12.50 พึงพอใจมาก ที่สุดจ านวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 3.00 และรู้สึกไม่พึงพอใจเลยมีจ านวนน้อยที่สุดเท่ากับ 9 คน หรือคิดเป็น ร้อยละ 2.30 2) การเจ็บป่วยตามร่างกาย หรือโรคประจ าตัว ท าให้ผู้สูงอายุไม่สามารถท าในสิ่งที่ต้องการได้ 9 50 204 125 12 0 50 100 150 200 250 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.9 ความพึงพอใจกับสุขภาพในปัจจุบันของผู้สูงอายุ


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 39 38 ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีความคิดเห็นว่าการเจ็บป่วย ตามร่างกายหรือโรคประจ าตัวส่งผลให้ไม่สามารถท าในสิ่งที่ต้องการได้อยู่ในระดับปานกลาง โดยมีจ านวนเท่ากับ 160 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 40.00 รองลงมามีความคิดเห็นว่าส่งผลในระดับเล็กน้อย มีจ านวน 138 คน คิดเป็น ร้อยละ 34.50 มีความคิดเห็นว่าส่งผลในระดับมาก จ านวน 64 คน คิดเป็นร้อยละ 16.00 มีความคิดเห็นว่าไม่ส่งผลเลย จ านวน 34 คน คิดเป็นร้อยละ 8.50 และมีความคิดเห็นว่าส่งผลมากที่สุดจ านวน 4 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 1.00 3) การมีก าลังเพียงพอในการท าสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจ าวันของผู้สูงอายุ (ทั้งเรื่องงาน และการ ด าเนินชีวิตประจ าวัน) ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีความคิดเห็นว่าตนเองมีก าลัง เพียงพอในการท าสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจ าวัน (ทั้งเรื่องงาน และการด าเนินชีวิตประจ าวัน) อยู่ในระดับปานกลาง โดยมีจ านวนเท่ากับ 193 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 48.30 รองลงมามีความคิดเห็นว่าตนเองมีก าลังเพียงพอใน ระดับมาก จ านวน 128 คน คิดเป็นร้อยละ 32.00 มีความคิดเห็นว่าตนเองมีก าลังเพียงพอในระดับเล็กน้อย 34 138 160 64 4 0 20 40 60 80 100 120 140 160 180 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.10 การเจ็บป่วยตามร่างกาย หรือโรคประจ าตัว ท าให้ผู้สูงอายุไม่สามารถ ท าสิ่งที่ต้องการได้ 8 63 193 128 8 0 50 100 150 200 250 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.11 การมีก าลังเพียงพอในการท าสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจ าวันของ ผู้สูงอายุ


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 40 39 จ านวน 63 คน คิดเป็นร้อยละ 15.80 และในส่วนของกลุ่มที่คิดว่าตนเองไม่มีก าลังเพียงพอเลย กับกลุ่มที่คิดว่า ตนเองมีก าลังเพียงพอในระดับมากที่สุด มีจ านวนเท่ากันคือเท่ากับกลุ่มละ 8 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 2.00 4) ความพึงพอใจในการนอนหลับของผู้สูงอายุ ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในการนอน หลับของตนเองอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีจ านวนเท่ากับ 196 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 49.00 รองลงมามีความ พึงพอใจในการนอนหลับในระดับมาก มีจ านวน 130 คน คิดเป็นร้อยละ 32.50 มีความพึงพอใจในระดับเล็กน้อย จ านวน 49คน คิดเป็นร้อยละ 12.30 มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด จ านวน 20คน คิดเป็นร้อยละ 5.00 และ ไม่พึงพอใจเลย จ านวน 5 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 1.30 5) ความพึงพอใจในชีวิต (มีความสุข ความสงบ มีความหวัง) ของผู้สูงอายุ ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในชีวิต (มี ความสุข ความสงบ มีความหวัง) อยู่ในระดับปานกลาง โดยมีจ านวนเท่ากับ 184 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 46.00 รองลงมามีความพึงพอใจในชีวิตอยู่ในระดับมาก มีจ านวน 141 คน คิดเป็นร้อยละ 35.30 มีความพึงพอใจใน 5 49 196 130 20 0 50 100 150 200 250 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.12 ความพึงพอใจในการนอนหลับของผู้สูงอายุ 6 50 184 141 19 0 20 40 60 80 100 120 140 160 180 200 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.13 ความพึงพอใจในชีวิต (มีความสุข ความสงบ มีความหวัง) ของ ผู้สูงอายุ


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 41 40 ระดับเล็กน้อย จ านวน 50 คน คิดเป็นร้อยละ 12.50 มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด จ านวน 19 คน คิดเป็น ร้อยละ 4.80 และไม่พึงพอใจเลย จ านวน 6 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 1.50 6) การมีความจ าและมีสมาธิในการท าสิ่งต่างๆ ของผู้สูงอายุ ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีความคิดเห็นว่าตนเองมี ความจ าและมีสมาธิในการท าสิ่งต่างๆ อยู่ในระดับปานกลาง โดยมีจ านวนเท่ากับ 177 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 44.30 รองลงมามีความคิดเห็นว่าตนเองมีความจ าและมีสมาธิในการท าสิ่งต่างๆ อยู่ในระดับมาก มีจ านวน 158 คน คิดเป็นร้อยละ 39.50 มีความคิดเห็นว่ามีความจ าและสมาธิในระดับเล็กน้อย จ านวน 51 คน คิดเป็นร้อยละ 12.80 มีความคิดเห็นว่าตนเองมีความจ าและมีสมาธิในระดับมากที่สุด จ านวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 2.30 และ คิดเห็นว่าตนเองไม่มีความจ าและมีสมาธิในการท าสิ่งต่างๆ เลย จ านวน 5 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 1.30 7) ความรู้สึกพอใจในตนเองของผู้สูงอายุ ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ ่มตัวอย ่างผู้สูงอายุส่วนใหญ ่มีความคิดเห็นว่าตนเองมี ความพึงพอใจในตนเองอยู่ในระดับมาก โดยมีจ านวนเท่ากับ 170 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 42.50 รองลงมามี 5 51 177 158 9 0 20 40 60 80 100 120 140 160 180 200 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.14 การมีความจ าและมีสมาธิในการท าสิ่งต่างๆ ของผู้สูงอายุ 4 35 166 170 25 0 20 40 60 80 100 120 140 160 180 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.15 ความรู้สึกพอใจในตนเองของผู้สูงอายุ


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 42 41 ความพึงพอใจอยู ่ในระดับปานกลาง มีจ านวน 166 คน คิดเป็นร้อยละ 41.50 มีความพึงพอใจในระดับ เล็กน้อย จ านวน 35 คน คิดเป็นร้อยละ 8.80 มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด จ านวน 25 คน คิดเป็นร้อยละ 6.30 และไม่พึงพอใจเลย จ านวน 4 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 1.00 8) การมีความรู้สึกที่ไม่ดี เช่น รู้สึกเหงา เศร้า หดหู่ สิ้นหวัง วิตกกังวล ของผู้สูงอายุ ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีความรู้สึกที่ไม่ดี เช่น รู้สึก เหงา เศร้า หดหู่ สิ้นหวัง วิตกกังวล อยู่ในระดับเล็กน้อย โดยมีจ านวนเท่ากับ 162 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 40.50 รองลงมามีความรู้สึกที ่ไม ่ดีอยู ่ในระดับปานกลาง มีจ านวน 115 คน คิดเป็นร้อยละ 28.70 ไม ่มี ความรู้สึกที่ไม่ดีต่อตนเองเลย จ านวน 89 คน คิดเป็นร้อยละ 22.30 มีความรู้สึกที่ไม่ดีอยู่ในระดับมาก จ านวน 27 คน คิดเป็นร้อยละ 6.80 และมีความรู้สึกที่ไม่ดีอยู่ในระดับมากที่สุด จ านวน 7 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 1.80 9) ความรู้สึกพึงพอใจที่สามารถท าอะไรๆ ให้ผ่านไปได้ในแต่ละวันของผู้สูงอายุ ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีความรู้สึกพึงพอใจที่สามารถ ท าอะไรๆ ให้ผ่านไปได้ในแต่ละวัน อยู่ในระดับปานกลาง โดยมีจ านวนเท่ากับ 194 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 48.50 รองลงมามีความรู้สึกพึงพอใจอยู่ในระดับมาก มีจ านวน 144 คน คิดเป็นร้อยละ 36.00 มีความรู้สึกพึง 89 162 115 27 7 0 20 40 60 80 100 120 140 160 180 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.16 การมีความรู้สึกที่ไม่ดี เช่น เหงา เศร้า หดหู่ สิ้นหวัง ของผู้สูงอายุ 7 43 194 144 12 0 50 100 150 200 250 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.17 ความรู้สึกพึงพอใจที่สามารถท าอะไรๆ ให้ผ่านไปได้ในแต่ละวันของ ผู้สูงอายุ


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 43 42 พอใจในระดับเล็กน้อย จ านวน 43 คน คิดเป็นร้อยละ 10.80 มีความรู้สึกพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด จ านวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 3.00 และมีความรู้สึกไม่พึงพอใจเลย จ านวน 7 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 1.80 10) ความจ าเป็นในการเข้ารับการรักษาพยาบาลของผู้สูงอายุ ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีความจ าเป็นต้องเข้ารับการ รักษาพยาบาล อยู่ในระดับปานกลาง โดยมีจ านวนเท่ากับ 165 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 41.30 รองลงมามีความ จ าเป็นในระดับเล็กน้อย มีจ านวน 121 คน คิดเป็นร้อยละ 30.30 มีความจ าเป็นในระดับมาก จ านวน 81 คน คิด เป็นร้อยละ 20.30 ไม่มีความจ าเป็นต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลเลย จ านวน 24 คน คิดเป็นร้อยละ 6.00 และ มีความจ าเป็นมากที่สุด จ านวน 9 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 2.30 11) ความพึงพอใจกับความสามารถในการท างานได้ หรือความสามารถในการช่วยเหลือตนเอง ของผู้สูงอายุ ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีความพึงพอใจกับ ความสามารถในการท างานได้ หรือความสามารถในการช่วยเหลือตนเอง อยู่ในระดับปานกลาง โดยมีจ านวน เท่ากับ 165 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 41.30 รองลงมามีความพึงพอใจในระดับมาก มีจ านวน 121 คน คิดเป็น 24 121 165 81 9 0 20 40 60 80 100 120 140 160 180 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.18 ความจ าเป็นในการเข้ารับการรักษาพยาบาลของผู้สูงอายุ 9 81 165 121 24 0 20 40 60 80 100 120 140 160 180 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.19 ความพึงพอใจกับความสามารถในการท างาน/การช่วยเหลือตนเอง ของผู้สูงอายุ


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 44 43 ร้อยละ 30.30 มีความพึงพอใจในระดับเล็กน้อย จ านวน 81 คน คิดเป็นร้อยละ 20.30 มีความพึงพอใจในระดับ มากที่สุด จ านวน 24 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 6.00 และรู้สึกไม่พึงพอใจเลย จ านวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 2.30 12) ความพึงพอใจต่อความสัมพันธ์ที่มีกับคนรอบข้างของผู้สูงอายุ ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีความพึงพอใจต ่อ ความสัมพันธ์ที ่มีกับคนรอบข้าง อยู่ในระดับมาก โดยมีจ านวนเท่ากับ 227 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 56.80 รองลงมามีความพึงพอใจในระดับปานกลาง มีจ านวน 124 คน คิดเป็นร้อยละ 31.00 มีความพึงพอใจในระดับ มากที่สุด จ านวน 27 คน คิดเป็นร้อยละ 6.80 มีความพึงพอใจในระดับเล็กน้อย จ านวน 21 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 5.30 และรู้สึกไม่พึงพอใจเลย จ านวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 0.30 13) ความพึงพอใจกับความช่วยเหลือที่ได้รับจากคนในครอบครัวและคนในชุมชนของผู้สูงอายุ ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีความพึงพอใจกับความ ช่วยเหลือที่ได้รับจากคนในครอบครัวและคนในชุมชน อยู่ในระดับปานกลาง โดยมีจ านวนเท่ากับ 212 คน หรือ คิดเป็นร้อยละ 53.00 รองลงมามีความพึงพอใจในระดับเล็กน้อย มีจ านวน 122 คน คิดเป็นร้อยละ 30.50 มี 1 21 124 227 27 0 50 100 150 200 250 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.20 ความพึงพอใจต่อความสัมพันธ์ที่มีกับคนรอบข้างของผู้สูงอายุ 35 122 212 31 35 0 50 100 150 200 250 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.21 ความพึงพอใจกับความช่วยเหลือที่ได้รับจากคนในครอบครัวและคนใน ชุมชนของผู้สูงอายุ


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 45 44 ความพึงพอใจในระดับมากที่สุดและรู้สึกไม่พึงพอใจเลยมีจ านวนที่เท่ากัน โดยมีจ านวนเท่ากับ 35 คน หรือคิด เป็นร้อยละ 8.80 และมีความพึงพอใจในระดับมาก จ านวน 31 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 5.30 14) ความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยในการด าเนินชีวิตแต่ละวันของผู้สูงอายุ ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยใน การด าเนินชีวิตแต่ละวัน อยู่ในระดับมาก โดยมีจ านวนเท่ากับ 200 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 50.00 รองลงมามี ความพึงพอใจในระดับปานกลาง มีจ านวน 141 คน คิดเป็นร้อยละ 35.30 มีความพึงพอใจในระดับเล็กน้อย จ านวน 30 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 7.50 มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด จ านวน 28 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 7.00 และรู้สึกไม่พึงพอใจเลย จ านวน 1 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 0.30 15) ความพึงพอใจกับสภาพบ้านเรือนที่อยู่อาศัยในปัจจุบันของผู้สูงอายุ ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีความรู้สึกพึงพอใจกับสภาพ บ้านเรือนที ่อยู ่อาศัยในปัจจุบัน อยู่ในระดับมาก โดยมีจ านวนเท่ากับ 214 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 53.50 รองลงมามีความพึงพอใจในระดับปานกลาง มีจ านวน 106 คน คิดเป็นร้อยละ 26.50 มีความพึงพอใจในระดับ 1 30 141 200 28 0 50 100 150 200 250 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.22ความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยในการด าเนินชีวิตแต่ละวันของผู้สูงอายุ 1 17 106 214 62 0 50 100 150 200 250 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.23 ความพึงพอใจกับสภาพบ้านเรือนที่อยู่อาศัยในปัจจุบันของผู้สูงอายุ


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 46 45 มากที่สุด จ านวน 62 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 15.50 มีความพึงพอใจในระดับเล็กน้อย จ านวน 17 คน หรือคิด เป็นร้อยละ 4.30 และรู้สึกไม่พึงพอใจเลย จ านวน 1 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 0.30 16) การมีเงินเพียงพอต่อการใช้จ่ายตามความจ าเป็นของผู้สูงอายุ ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีเงินเพียงพอต่อการใช้จ่าย ตามความจ าเป็นในชีวิตประจ าวัน อยู่ในระดับปานกลาง โดยมีจ านวนเท่ากับ 214 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 53.50 รองลงมามีความเพียงพอในระดับเล็กน้อย มีจ านวน 86 คน คิดเป็นร้อยละ 21.50 มีความเพียงพอใน ระดับมาก จ านวน 85 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 21.30 มีความเพียงพอในระดับมากที่สุด จ านวน 8 คน หรือคิด เป็นร้อยละ 2.00 และรู้สึกไม่เพียงพอเลย จ านวน 7 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 1.80 17) ความพึงพอใจในการที่สามารถใช้บริการสาธารณสุขได้ตามความจ าเป็นของผู้สูงอายุ ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในการที่ สามารถใช้บริการสาธารณสุขได้ตามความจ าเป็น อยู่ในระดับปานกลาง โดยมีจ านวนเท่ากับ 172 คน หรือคิด เป็นร้อยละ 43.00 รองลงมามีความพึงพอใจในระดับมาก มีจ านวน 137 คน คิดเป็นร้อยละ 34.30 มีความพึง 7 86 214 85 8 0 50 100 150 200 250 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.24 การมีเงินเพียงพอต่อการใช้จ่ายตามความจ าเป็นของผู้สูงอายุ 6 82 172 137 3 0 20 40 60 80 100 120 140 160 180 200 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.25 ความพึงพอใจในการที่จะสามารถใช้บริการสาธารณสุขได้ตามความ จ าเป็นของผู้สูงอายุ


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 47 46 พอใจในระดับเล็กน้อย จ านวน 82 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 20.50 รู้สึกไม่พึงพอใจเลย จ านวน 6 คน หรือคิดเป็น ร้อยละ 1.50 และรู้สึกพึงพอใจมากที่สุด จ านวน 3 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 0.80 18) การรับรู้เรื่องราวข่าวสารที่จ าเป็นในชีวิตประจ าวันของผู้สูงอายุ ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีโอกาสในการรับรู้ข้อมูล ข่าวสารที่จ าเป็นในชีวิตประจ าวัน อยู่ในระดับปานกลาง โดยมีจ านวนเท่ากับ 164 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 41.00 รองลงมามีการรับรู้ข้อมูลข่าวสารในระดับมาก มีจ านวน 136 คน คิดเป็นร้อยละ 34.00 มีการรับรู้ในระดับ เล็กน้อย จ านวน 74 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 18.50 มีการรับรู้มากที่สุด จ านวน 24 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 6.00 และไม่ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารที่จ าเป็นเลย จ านวน 2 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 0.50 19) การมีโอกาสพักผ่อนคลายเครียดของผู้สูงอายุ ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีโอกาสพักผ่อนคลายเครียด อยู่ในระดับปานกลาง โดยมีจ านวนเท่ากับ 226 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 56.50 รองลงมามีโอกาสพักผ่อนคลาย เครียดในระดับมาก มีจ านวน 108 คน คิดเป็นร้อยละ 27.00 มีโอกาสพักผ่อนคลายเครียดในระดับเล็กน้อย 2 74 164 136 24 0 20 40 60 80 100 120 140 160 180 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.26 การรับรู้เรื่องราวข่าวสารที่จ าเป็นในชีวิตประจ าวันของผู้สูงอายุ 6 48 226 108 12 0 50 100 150 200 250 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.27 การมีโอกาสพักผ่อนคลายเครียดของผู้สูงอายุ


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 48 47 จ านวน 48 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 12.00 มีโอกาสพักผ่อนคลายเครียดมากที่สุด จ านวน 12 คน หรือคิดเป็น ร้อยละ 3.00 และไม่มีโอกาสพักผ่อนคลายเครียดเลย จ านวน 6 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 1.50 20) ความเหมาะสมของสภาพแวดล้อมต่อสุขภาพของผู้สูงอายุ ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีความคิดเห็นว่า สภาพแวดล้อมมีความเหมาะสม/ส่งผลดีต่อสุขภาพ อยู่ในระดับมาก โดยมีจ านวนเท่ากับ 181 คน หรือคิดเป็น ร้อยละ 45.30 รองลงมาคิดว่ามีความเหมาะสมในระดับปานกลาง มีจ านวน 172 คน คิดเป็นร้อยละ 43.00 มี ความเหมาะสมในระดับเล็กน้อย จ านวน 28 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 7.00 มีความเหมาะสมมากที่สุด จ านวน 17 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 4.30 และไม่มีความเหมาะสมเลย จ านวน 2 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 0.50 21) ความพึงพอใจต่อการเดินทางโดยการคมนาคมของผู้สูงอายุ ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีความพึงพอใจต่อการ เดินทางโดยการคมนาคมของผู้สูงอายุอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีจ านวนเท่ากับ 166 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 2 28 172 181 17 0 20 40 60 80 100 120 140 160 180 200 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.28 ความเหมาะสมของสภาพแวดล้อมต่อสุขภาพของผู้สูงอายุ 13 83 166 123 15 0 20 40 60 80 100 120 140 160 180 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.29 ความพึงพอใจต่อการเดินทางโดยการคมนาคมของผู้สูงอายุ


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 49 48 41.50 รองลงมามีความพึงพอใจในระดับมาก มีจ านวน 123 คน คิดเป็นร้อยละ 30.80 มีความพึงพอใจในระดับ เล็กน้อย จ านวน 83 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 20.80 มีความพึงพอใจมากที่สุด จ านวน 15 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 3.80 และรู้สึกไม่พึงพอใจเลย จ านวน 13 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 3.30 22) ความรู้สึกว่าชีวิตมีความหมายของผู้สูงอายุ ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุส่วนใหญ่รู้สึกว่าชีวิตมีความหมาย อยู่ ในระดับมาก โดยมีจ านวนเท่ากับ 220 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 55.00 รองลงมารู้สึกว่าชีวิตมีความหมายในระดับ ปานกลาง มีจ านวน 119 คน คิดเป็นร้อยละ 29.80 รู้สึกว่าชีวิตมีความหมายในระดับมากที่สุด จ านวน 30 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 7.50 รู้สึกว่าชีวิตมีความหมายเพียงเล็กน้อย จ านวน 26 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 6.50 และ รู้สึกว่าชีวิตไม่มีความหมายเลย จ านวน 5 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 1.30 23) ความสามารถในการไปไหนมาไหนด้วยตนเองของผู้สูงอายุ ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีความสามารถในการไปไหน มาไหนด้วยตนเอง อยู่ในระดับมาก โดยมีจ านวนเท่ากับ 181 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 45.30 รองลงมามี 5 26 119 220 30 0 50 100 150 200 250 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.30 ความรู้สึกว่าชีวิตมีความหมายของผู้สูงอายุ 21 55 113 181 30 0 20 40 60 80 100 120 140 160 180 200 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.31 ความสามารถในการไปไหนมาไหนด้วยตนเองของผู้สูงอายุ


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 50 49 ความสามารถในการไปไหนมาไหนด้วยตนเองในระดับปานกลาง มีจ านวน 113 คน คิดเป็นร้อยละ 28.20 มี ความสามารถในการไปไหนมาไหนเพียงเล็กน้อย จ านวน 55 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 13.80 มีความสามารถใน การไปไหนมาไหนในระดับมากที่สุด จ านวน 30 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 7.50 และไม่มีความสามารถในการไป ไหนมาไหนด้วยตนเอง จ านวน 21 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 5.30 24) การมีคุณภาพชีวิตที่ดี (ในภาพรวม) ของผู้สูงอายุ ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีความคิดเห็นว่าตนเองมี คุณภาพชีวิตที่ดีอยู่ในระดับมาก โดยมีจ านวนเท่ากับ 181 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 45.30 รองลงมาคิดว่ามี คุณภาพชีวิตที่ดีในระดับปานกลาง มีจ านวน 113 คน คิดเป็นร้อยละ 28.20 คิดว่ามีคุณภาพชีวิตที่ดีในระดับ เล็กน้อย จ านวน 55 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 13.80 คิดว่ามีคุณภาพชีวิตที่ดีในระดับมากที่สุด จ านวน 30 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 7.50 และคิดว่าตนเองมีคุณภาพชีวิตที่ไม่ดีจ านวน 21 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 5.30 ข้อมูลจากการประเมินคุณภาพชีวิตของกลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุส่วนใหญ่ พบว่า ผลการประเมินอยู่ใน ระดับปานกลาง โดยมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 3.36 มีเพียงบางความคิดเห็นและความรู้สึกที่อยู่ในระดับมาก ได้แก่ ความรู้สึกว่าชีวิตมีความหมาย, ความพอใจกับสภาพบ้านเรือนที่อยู่อาศัยปัจจุบัน, ความพอใจต่อความสัมพันธ์ที่มี กับคนรอบข้าง, ความรู้สึกถึงความมั่นคงปลอดภัยในในการด าเนินชีวิตประจ าวัน, ความคิดเห็นว่าสภาพแวดล้อมดี ต่อสุขภาพ, ความสามารถในการไปไหนมาไหนด้วยตนเอง, การมีคุณภาพชีวิตชีวิตที่ดีและความรู้สึกพอใจใน ตนเอง รวมทั้งการมีความรู้สึกไม่ดี เช่น รู้สึกเหงา เศร้า หดหู่สิ้นหวัง วิตกกังวล บ่อยครั้ง อยู่ในระดับมาก โดยคิด เป็นร้อยละ 55.00, 53.50, 51.80, 50.00, 45.30, 45.30, 45.30, 42.50, และ 40.50 ตามล าดับ ตารางที่ 4.1 แสดงค่าเฉลี่ยจากผลการประเมินคุณภาพชีวิตของกลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุ กำรประเมินคุณภำพชีวิต × S.D กำรแปลผล ความพอใจกับสุขภาพของผู้สูงอายุในปัจจุบัน 3.20 .780 ปานกลาง การเจ็บปวดตามร่างกายที่ส่งผลให้ผู้สูงอายุไม่สามารถท าสิ่งที่ต้องการได้ 3.33 .880 ปานกลาง การมีก าลังเพียงพอที่จะท าสิ่งต่างในชีวิตประจ าวันได้ด้วยตนเองของผู้สูงอายุ 3.16 .783 ปานกลาง ความพอใจกับการนอนหลับของผู้สูงอายุ 3.28 .789 ปานกลาง ความรู้สึกพึงพอใจในชีวิต (เช่น มีความสุข ความสงบ มีความหวัง) ของผู้สูงอายุ 3.29 .802 ปานกลาง 21 55 113 181 30 0 20 40 60 80 100 120 140 160 180 200 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.32 การมีคุณภาพชีวิตที่ดี (ในภาพรวม) ของผู้สูงอายุ


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 51 50 การมีความจ าและมีสมาธิในการสิ่งต่าง ๆ ของผู้สูงอายุ 3.29 .762 ปานกลาง ความรู้สึกพอใจในตนเองของผู้สูงอายุ 3.44 .780 ปานกลาง ความรู้สึกไม่ดี เช่น รู้สึกเหงา เศร้า หดหู่ สิ้นหวัง วิตกกังวล ของผู้สูงอายุ 3.75 .936 มาก ความรู้สึกพอใจที่สามารถท าอะไร ๆ ผ่านไปได้ในแต่ละวันของผู้สูงอายุ 3.28 .763 ปานกลาง ความจ าเป็นต้องในการเข้ารับการรักษาพยาบาลของผู้สูงอายุ 3.17 .898 ปานกลาง ความพอใจกับความสามารถในการท างาน/การช่วยเหลือตนเองของผู้สูงอายุ 3.35 .808 ปานกลาง ความพอใจต่อความสัมพันธ์ที่มีกับคนรอบข้างของผู้สูงอายุ 3.64 .697 มาก ความพอใจกับความช่วยเหลือที่ได้รับจากครอบครัวและชุมชนของผู้สูงอายุ 3.60 .756 มาก ความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยในชีวิตประจ าวันของผู้สูงอายุ 3.56 .743 มาก ความพอใจกับสภาพบ้านเรือนที่อยู่อาศัยปัจจุบันของผู้สูงอายุ 3.80 .757 มาก การมีเงินเพียงพอต่อการใช้จ่ายตามความจ าเป็นของผู้สูงอายุ 3.00 .761 ปานกลาง ความพอใจที่จะสามารถไปใช้บริการสาธารณสุขได้ตามความจ าเป็นของผู้สูงอายุ 3.12 .790 ปานกลาง การได้รับรู้เรื่องราวข่าวสารที่จ าเป็นในชีวิตประจ าวันของผู้สูงอายุ 3.26 .847 ปานกลาง การมีโอกาสได้พักผ่อนคลายเครียดของผู้สูงอายุ 3.18 .734 ปานกลาง การมีสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพของผู้สูงอายุ 3.46 .710 ปานกลาง ความพอใจกับการเดินทางไปไหนมาไหนโดยการคมนาคมของผู้สูงอายุ 3.11 .886 ปานกลาง ความรู้สึกว่าชีวิตมีความหมายของผู้สูงอายุ 3.61 .771 มาก ความสามารถในการไปไหนมาไหนด้วยตนเองของผู้สูงอายุ 3.36 .986 ปานกลาง การมีคุณภาพชีวิตที่ดี(ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี) ของผู้สูงอายุ 3.48 .715 ปานกลาง รวม 3.36 .454 ปำนกลำง ข้อมูลจากการประเมินคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในแต่ละประเด็นข้างต้น สามารถจ าแนกตาม องค์ประกอบได้เป็น องค์ประกอบด้านสุขภาพกาย องค์ประกอบด้านจิตใจ องค์ประกอบด้านสัมพันธภาพทาง สังคม องค์ประกอบด้านสิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตโดยรวม โดยมีร้อยละของการประเมินคุณภาพชีวิตในแต่ ละด้าน ดังนี้


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 52 51 จากข้อมูลร้อยละของการประเมินคุณภาพชีวิตตามองค์ประกอบในแต่ละด้านแสดงให้เห็นว่า คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในทุกองค์ประกอบส่วนใหญ่อยู่ในระดับกลางๆ โดยเฉพาะองค์ประกอบด้านสุขภาพ กายที่มีร้อยละของคุณภาพชีวิตในระดับกลางๆ มากที่สุดอยู่ที่ร้อยละ 81.80 และมีประเด็นที่น่าสนใจคือ ผู้สูงอายุได้สะท้อนถึงการมีคุณภาพชีวิตที่ไม่ดีในส่วนขององค์ประกอบด้านสิ่งแวดล้อมที่มีค่าร้อยละสูงกว่า องค์ประกอบด้านอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด โดยมีค่าเท่ากับร้อยละ 18.50 ขณ่ะที่องค์ประกอบด้านจิตใจมีร้อยละ ของคุณภาพชีวิตที่ดีมากที่สุดเท่ากับร้อยละ 28.20 ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ผู้สูงอายุมีความคิดเห็นว่า ตนเองมีความสามารถในการดูแลตนเอง/พึ่งพาตนเองทางด้านร่างกายในระดับปานกลางไปจนถึงค่อนข้างดี และผู้สูงอายุมากกว่า 1 ใน 4 ที่เป็นกลุ่มตัวอย่างมีองค์ประกอบทางด้านจิตใจ/สภาพจิตใจที่ดี แต่สิ่งที่ควรมี การปรับปรุงเพื่อให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นคือการปรับปรุงองค์ประกอบด้านสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับ การด าเนินชีวิตของผู้สูงอายุ 4.1.2) การประเมินคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโดยสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุ กลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุจากการเก็บรวบรวมข้อมูลในพื้นที่เป้าหมาย 4 พื้นที่ ในจังหวัดสงขลา ประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนต าบลคลองหรัง อ าเภอนาหม่อม, องค์การบริหารส่วนต าบล รัตภูมิ อ าเภอควนเนียง, เทศบาลต าบลควนลัง อ าเภอหาดใหญ่ และเทศบาลเมืองสะเดา อ าเภอสะเดา โดยมี กลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุพื้นที่ละ 150 คน รวมจ านวนกลุ่มตัวอย่างสมาชิกทั้งหมด 600 คน ส่วนที่ 1 ข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกในครอบครัวผู้สูงอายุ 1) จ านวนกลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุจ าแนกตามเพศ 3.8 3 1.8 18.5 1.3 81.8 68.8 77.5 78.5 77.3 14.5 28.2 20.8 3 21.5 0 10 20 30 40 50 60 70 80 90 แผนภาพที่ 4.33 การประเมินคุณภาพชีวิตรายองค์ประกอบ (ร้อยละ) คุณภาพชีวิตที่ไม่ดี คุณภาพชีวิตระดับกลางๆ คุณภาพชีวิตที่ดี


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 53 52 จ านวนสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มตัวอย่างจ าแนกได้เป็นเพศชาย 190 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 31.70 ส่วนเพศหญิงจ านวน 410 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 68.30 จากข้อมูลดังกล่าวแสดง ให้เห็นว่ากลุ่มตัวอย่างที่เป็นสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง 2) จ านวนกลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุจ าแนกตามช่วงอายุ จ านวนของสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มตัวอย่างจ าแนกตามช่วงอายุเป็น 5 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 อายุระหว่าง 10 – 20 ปี มีจ านวน 21 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 3.50 กลุ่มที่ 2 อายุ ระหว่าง 21 – 30 ปี มีจ านวน 78 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 13.00 กลุ่มที่ 3 อายุระหว่าง 31 – 40 ปี มีจ านวน 132 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 22.00 กลุ่มที่ 4 อายุระหว่าง 41 – 50 ปี มีจ านวน 202 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 33.70 และกลุ่มที่ 5 อายุระหว่าง 51 – 59 ปี มีจ านวน 167 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 27.90 จากข้อมูลช่วงอายุ ของสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มตัวอย่างพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีอายุระหว่าง 41 – 50 ปี 3) จ านวนกลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุจ าแนกตามระดับการศึกษา 190 410 แผนภาพที่ 4.34 จ านวนสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุจ าแนกตามเพศ (คน) เพศชาย เพศหญิง 21 78 132 202 167 0 50 100 150 200 250 10 - 20 ปี 21 - 30 ปี 31 - 40 ปี 41 - 50 ปี 51 - 59 ปี แผนภาพที่ 4.35 จ านวนกลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุจ าแนกตามช่วง อายุ


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 54 53 จ านวนสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มตัวอย่างจ าแนกตามระดับการศึกษาเป็น 6 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มที่ไม่ได้เรียนหนังสือ กลุ่มที่เรียนจบระดับประถมศึกษา กลุ่มที่เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น กลุ่มที่เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย/ปวช. กลุ่มที่เรียนจบชั้นอนุปริญญา/ปวส. และกลุ่มที่เรียนจบระดับ ปริญญาตรีหรือสูงกว่า ในกลุ่มตัวอย่างดังกล่าว สมาชิกในครอบครัวส่วนใหญ่จบการศึกษาในระดับประถมศึกษา มี จ านวน 142คน หรือคิดเป็นร้อยละ 23.70รองลงมาคือเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย/ปวช. มีจ านวน 128คน หรือคิดเป็นร้อยละ 21.30กลุ่มที่เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น มีจ านวน 114คน หรือคิดเป็นร้อยละ 19.00 กลุ่ม ที่เรียนจบระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่า มีจ านวน 110คน หรือคิดเป็นร้อยละ 18.30 และกลุ่มที่ไม่ได้เรียนหนังสือ มีจ านวนน้อยที่สุดเท่ากับ 24 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 4.00 จากข้อมูลเกี่ยวกับระดับการศึกษาของสมาชิกใน ครอบครัวผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มตัวอย่างแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างที่เป็นสมาชิกในครอบครัวส่วนใหญ่เรียนจบใน ระดับประถมศึกษาซึ่งมีอัตราส่วนร้อยละ23.70 แต่มีจ านวนไม่น้อยที่เรียนจบในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และ มัธยมศึกษาตอนปลาย/ปวช. ซึ่งมีอัตราส่วนรวมกันเท่ากับ 40.30 4) จ านวนกลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุจ าแนกตามอาชีพ 24 142 114 128 82 110 0 20 40 60 80 100 120 140 160 ไม่ได้เรียน ประถมศึกษา มัธยมต้น มัธยมปลาย/ปวช. อนุปริญญา/ปวส. ปริญญาตรีหรือสูงกว่า แผนภาพที่ 4.36 จ านวนกลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุจ าแนกตาม ระดับการศึกษา


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 55 54 จ านวนกลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มตัวอย่างจ าแนกตามอาชีพ ออกเป็น 8 กลุ่ม ประกอบด้วย ราชการ/รัฐวิสาหกิจ พนักงานเอกชน ธุรกิจส่วนตัว/ค้าขาย เกษตรกรรม รับจ้างทั่วไป นักเรียน/นักศึกษา ว่างงาน และอื่นๆ ในกลุ่มตัวอย่างดังกล่าว สมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มที่ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป โดยมีจ านวนเท่ากับ 184 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 30.70 รองลงมาประกอบอาชีพเกษตรกรรม จ านวน 146 คน คิดเป็นร้อยละ 24.30 ประกอบธุรกิจส่วนตัว/ค้าขาย จ านวน 82 คน คิดเป็นร้อยละ 13.70 ว่างงาน จ านวน 60 คน คิดเป็นร้อยละ 10.00 เป็นพนักงานเอกชน จ านวน 44 คน คิดเป็นร้อยละ 7.30 ประกอบอาชีพเกี่ยวกับรับราชการ/รัฐวิสาหกิจ จ านวน 37 คน คิดเป็น ร้อยละ 6.20 กลุ่มอื่นๆ จ านวน 29 คน คิดเป็นร้อยละ 4.80 และกลุ่มที่เป็นนักเรียน/นักศึกษา มีจ านวนน้อย ที่สุดเท่ากับ 18 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 3.00 จากข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพของสมาชิกในครอบครัวผู้สูงอายุที่เป็น กลุ่มตัวอย่างแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป และอาชีพ เกษตรกรรมซึ่งเป็นอาชีพที่มีรายได้ไม่แน่นอน โดยสมาชิกในครอบครัวทั้งสองกลุ่มมีอัตราส่วนรวมกันเท่ากับ ร้อยละ 55.00 5) จ านวนกลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุจ าแนกตามรายได้ 37 44 82 146 184 18 60 29 0 20 40 60 80 100 120 140 160 180 200 แผนภาพที่ 4.37 จ านวนกลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุจ าแนกตามอาชีพ


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 56 55 จ านวนสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มตัวอย่างจ าแนกตามรายได้ออกเป็น 10 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 รายได้ 0 – 10,000 บาท กลุ่มที่ 2 รายได้ 10,001 – 100,000 บาท กลุ่มที่ 3 รายได้ 100,001 – 200,000 บาท กลุ่มที่ 4 รายได้ 200,001 – 300,000 บาท กลุ่มที่ 5 รายได้ 300,001 – 400,000 บาท กลุ่มที่ 6รายได้ 400,001 – 500,000 บาท กลุ่มที่ 7 รายได้ 500,001 – 600,000 บาท กลุ่มที่ 8 รายได้ 600,001 – 700,000 บาท กลุ่มที่ 9 รายได้ 700,001 – 800,000 บาท และกลุ่มที่ 10 รายได้ 800,001 – 900,000 บาท ใน กลุ่มตัวอย่างดังกล่าว สมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มที่มีรายได้ระหว่าง 10,001 –100,000 บาท โดยมีจ านวนเท่ากับ 282 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 47.00 รองลงมาเป็นกลุ่มที่มีรายได้ระหว่าง 100,001 – 200,000 บาท มีจ านวน 149 คน คิดเป็นร้อยละ 24.80 และอันดับ 3 เป็นกลุ่มที่มีรายได้ระหว่าง 0 – 10,000 บาท มีจ านวน 133คน หรือคิดเป็นร้อยละ 22.20 จากข้อมูลเกี่ยวกับรายได้ของสมาชิกในครอบครัวผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่ม ตัวอย่างแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวส่วนใหญ่คือกลุ่มที่มีรายได้อยู่ระหว่าง 10,001 – 200,000 บาท/ปี โดยมีอัตราส่วนรวมกันเท่ากับร้อยละ 71.80 6) จ านวนกลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวผู้สูงอายุจ าแนกตามแหล่งรายได้หลัก 133 282 149 21 7 3 3 1 0 1 0 50 100 150 200 250 300 แผนภาพที่ 4.38 จ านวนกลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุจ าแนกตามรายได้


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 57 56 จ านวนกลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มตัวอย่างจ าแนกตามแหล่งรายได้หลัก ออกเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มที่มีรายได้จากการท างาน กลุ่มที่ได้รับเงินจากบิดา/มารดา และกลุ่มที่มีรายได้ จากแหล่งอื่นๆ ในกลุ่มตัวอย่างดังกล่าว สมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีแหล่งรายได้หลักจากการ ท างาน โดยมีจ านวนเท่ากับ 506 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 84.30 รองลงมาคือมีรายได้หลักจากแหล่งอื่นๆ มีจ านวน 68 คน คิดเป็นร้อยละ 11.30 และมีแหล่งรายได้หลักจากบิดา/มารดา มีจ านวนน้อยที่สุดเท่ากับ 26 คน คิดเป็นร้อยละ 4.30 จากข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งรายได้หลักของสมาชิกในครอบครัวผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มตัวอย่างแสดงให้เห็นว่า กลุ่ม ตัวอย่างที่เป็นสมาชิกในครอบครัวส่วนใหญ่มีรายได้หลักจากการประกอบอาชีพและมีรายได้เป็นของตนเอง 7) จ านวนกลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุจ าแนกตามการมีเงินออม จ านวนสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มตัวอย่างจ าแนกตามการมีเงินออมออกเป็น 2 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มที่มีเงินออม และกลุ่มที่ไม่มีเงินออม โดยสมาชิกในครอบครัวส่วนใหญ่มีเงินเก็บออม โดยมี จ านวนเท่ากับ 319 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 53.20 ส่วนกลุ่มที่ไม่มีเงินออม มีจ านวนเท่ากับ 281 คน หรือคิดเป็น ร้อยละ 46.80 จากข้อมูลเกี่ยวกับการมีเงินออมของสมาชิกในครอบครัวผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มตัวอย่างแสดงให้ 506 26 68 0 100 200 300 400 500 600 การท างาน บิดา/มารดา อื่นๆ แผนภาพที่ 4.39 จ านวนกลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุจ าแนกตาม แหล่งรายได้หลัก 319 281 แผนภาพที่ 4.40 จ านวนกลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุจ าแนก ตามการมีเงินออม มีเงินออม ไม่มีเงินออม


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 58 57 เห็นว่า แม้กลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวส่วนใหญ่จะมีเงินเก็บออม แต่มีอัตราส่วนเกินกว่าร้อยละ 50 มา เพียงเล็กน้อย และมีความแตกต่างจากกลุ่มที่ไม่มีเงินเก็บออมเพียงร้อยละ 6.4 8) จ านวนกลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุจ าแนกตามจ านวนสมาชิกในครอบครัว จ านวนสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มตัวอย่างจ าแนกตามจ านวนสมาชิกในครอบครัว ออกเป็น 8 กลุ่ม ประกอบด้วย ครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 2 คน ครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 3 คน ครอบครัวที่มี สมาชิกรวม 4 คน ครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 5 คน ครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 6 คน ครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 7 คน ครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 8 คน และครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 9 คน ในกลุ่มตัวอย่างดังกล่าว สมาชิกในครอบครัว ของผู้สูงอายุส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 4 คน โดยมีจ านวนเท่ากับ 157 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 26.20 รองลงมาคือสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุที่อยู่ในครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 3 คน มีจ านวน 144 คน คิดเป็นร้อยละ 24.00 และอันดับสามคือผู้สูงอายุที่อยู่ในครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 5 คน มีจ านวน 115 คน คิดเป็น ร้อยละ 19.20 จากข้อมูลเกี่ยวกับจ านวนสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มตัวอย่างแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างที่เป็นสมาชิกส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในครอบครัวที่มีจ านวนสมาชิกระหว่าง 3 – 5 คน โดยมีจ านวน รวมเท่ากับ 416 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 69.30 ส่วนที่ 2 การประเมินคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโดยสมาชิกในครอบครัว ข้อมูลในส่วนนี้เป็นการประเมินคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุจากความคิดเห็นของสมาชิกในครอบครัว ตามประเด็นค าถามที่ประยุกต์มาจากแบบประเมินคุณภาพชีวิตของ WHO โดยมีระดับคะแนน 1 – 5 คะแนน คะแนนเท่ากับ 1 หมายถึง ไม่พึงพอใจ/ไม่เห็นด้วย คะแนนเท่ากับ 2 หมายถึง พึงพอใจ/เห็นด้วยเล็กน้อย คะแนน เท่ากับ 3 หมายถึง พึงพอใจ/เห็นด้วยระดับปานกลาง คะแนนเท่ากับ 4 หมายถึง พึงพอใจ/เห็นด้วยระดับมาก คะแนนเท่ากับ 5 หมายถึง พึงพอใจ/เห็นด้วยระดับมากที่สุด 78 144 157 115 75 22 7 2 0 20 40 60 80 100 120 140 160 180 2 คน 3 คน 4 คน 5 คน 6 คน 7 คน 8 คน 9 คน แผนภาพที่ 4.41 จ านวนกลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุจ าแนกตามจ านวน สมาชิกในครอบครัว 57 เห็นว่า แม้กลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวส่วนใหญ่จะมีเงินเก็บออม แต่มีอัตราส่วนเกินกว่าร้อยละ 50 มา เพียงเล็กน้อย และมีความแตกต่างจากกลุ่มที่ไม่มีเงินเก็บออมเพียงร้อยละ 6.4 8) จ านวนกลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุจ าแนกตามจ านวนสมาชิกในครอบครัว จ านวนสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มตัวอย่างจ าแนกตามจ านวนสมาชิกในครอบครัว ออกเป็น 8 กลุ่ม ประกอบด้วย ครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 2 คน ครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 3 คน ครอบครัวที่มี สมาชิกรวม 4 คน ครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 5 คน ครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 6 คน ครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 7 คน ครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 8 คน และครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 9 คน ในกลุ่มตัวอย่างดังกล่าว สมาชิกในครอบครัว ของผู้สูงอายุส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 4 คน โดยมีจ านวนเท่ากับ 157 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 26.20 รองลงมาคือสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุที่อยู่ในครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 3 คน มีจ านวน 144 คน คิดเป็นร้อยละ 24.00 และอันดับสามคือผู้สูงอายุที่อยู่ในครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 5 คน มีจ านวน 115 คน คิดเป็น ร้อยละ 19.20 จากข้อมูลเกี่ยวกับจ านวนสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มตัวอย่างแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างที่เป็นสมาชิกส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในครอบครัวที่มีจ านวนสมาชิกระหว่าง 3 – 5 คน โดยมีจ านวน รวมเท่ากับ 416 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 69.30 ส่วนที่ 2 การประเมินคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโดยสมาชิกในครอบครัว ข้อมูลในส่วนนี้เป็นการประเมินคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุจากความคิดเห็นของสมาชิกในครอบครัว ตามประเด็นค าถามที่ประยุกต์มาจากแบบประเมินคุณภาพชีวิตของ WHO โดยมีระดับคะแนน 1 – 5 คะแนน คะแนนเท่ากับ 1 หมายถึง ไม่พึงพอใจ/ไม่เห็นด้วย คะแนนเท่ากับ 2 หมายถึง พึงพอใจ/เห็นด้วยเล็กน้อย คะแนน เท่ากับ 3 หมายถึง พึงพอใจ/เห็นด้วยระดับปานกลาง คะแนนเท่ากับ 4 หมายถึง พึงพอใจ/เห็นด้วยระดับมาก คะแนนเท่ากับ 5 หมายถึง พึงพอใจ/เห็นด้วยระดับมากที่สุด 78 144 157 115 75 22 7 2 0 20 40 60 80 100 120 140 160 180 2 คน 3 คน 4 คน 5 คน 6 คน 7 คน 8 คน 9 คน แผนภาพที่ 4.41 จ านวนกลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุจ าแนกตามจ านวน สมาชิกในครอบครัว 57 เห็นว่า แม้กลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวส่วนใหญ่จะมีเงินเก็บออม แต่มีอัตราส่วนเกินกว่าร้อยละ 50 มา เพียงเล็กน้อย และมีความแตกต่างจากกลุ่มที่ไม่มีเงินเก็บออมเพียงร้อยละ 6.4 8) จ านวนกลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุจ าแนกตามจ านวนสมาชิกในครอบครัว จ านวนสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มตัวอย่างจ าแนกตามจ านวนสมาชิกในครอบครัว ออกเป็น 8 กลุ่ม ประกอบด้วย ครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 2 คน ครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 3 คน ครอบครัวที่มี สมาชิกรวม 4 คน ครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 5 คน ครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 6 คน ครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 7 คน ครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 8 คน และครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 9 คน ในกลุ่มตัวอย่างดังกล่าว สมาชิกในครอบครัว ของผู้สูงอายุส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 4 คน โดยมีจ านวนเท่ากับ 157 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 26.20 รองลงมาคือสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุที่อยู่ในครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 3 คน มีจ านวน 144 คน คิดเป็นร้อยละ 24.00 และอันดับสามคือผู้สูงอายุที่อยู่ในครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 5 คน มีจ านวน 115 คน คิดเป็น ร้อยละ 19.20 จากข้อมูลเกี่ยวกับจ านวนสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มตัวอย่างแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างที่เป็นสมาชิกส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในครอบครัวที่มีจ านวนสมาชิกระหว่าง 3 – 5 คน โดยมีจ านวน รวมเท่ากับ 416 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 69.30 ส่วนที่ 2 การประเมินคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโดยสมาชิกในครอบครัว ข้อมูลในส่วนนี้เป็นการประเมินคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุจากความคิดเห็นของสมาชิกในครอบครัว ตามประเด็นค าถามที่ประยุกต์มาจากแบบประเมินคุณภาพชีวิตของ WHO โดยมีระดับคะแนน 1 – 5 คะแนน คะแนนเท่ากับ 1 หมายถึง ไม่พึงพอใจ/ไม่เห็นด้วย คะแนนเท่ากับ 2 หมายถึง พึงพอใจ/เห็นด้วยเล็กน้อย คะแนน เท่ากับ 3 หมายถึง พึงพอใจ/เห็นด้วยระดับปานกลาง คะแนนเท่ากับ 4 หมายถึง พึงพอใจ/เห็นด้วยระดับมาก คะแนนเท่ากับ 5 หมายถึง พึงพอใจ/เห็นด้วยระดับมากที่สุด 78 144 157 115 75 22 7 2 0 20 40 60 80 100 120 140 160 180 2 คน 3 คน 4 คน 5 คน 6 คน 7 คน 8 คน 9 คน แผนภาพที่ 4.41 จ านวนกลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุจ าแนกตามจ านวน สมาชิกในครอบครัว


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 59 58 1) ความพึงพอใจกับสุขภาพในปัจจุบันของผู้สูงอายุตามความคิดเห็นของสมาชิกในครอบครัว ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีความ คิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพึงพอใจกับสุขภาพในปัจจุบันอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีจ านวนเท่ากับ 341 คน หรือคิด เป็นร้อยละ 56.80 รองลงมาคิดว่าพึงพอใจระดับมาก มีจ านวน 173 คน หรือเท่ากับร้อยละ 28.80 คิดว่าพึงพอใจ เล็กน้อยจ านวน 72 คน หรือเท่ากับร้อยละ 12.00 คิดว่าพึงพอใจมากที่สุดจ านวน 8 คน หรือเท่ากับร้อยละ 1.30 และคิดว่าไม่พึงพอใจเลยมีจ านวนน้อยที่สุดเท่ากับ 6 คน หรือเท่ากับร้อยละ 1.00 2) การเจ็บป่วยตามร่างกาย หรือโรคประจ าตัว ท าให้ผู้สูงอายุไม่สามารถท าในสิ่งที่ต้องการได้ตาม ความคิดเห็นของสมาชิกในครอบครัว 6 72 341 173 8 0 50 100 150 200 250 300 350 400 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.42 ความพึงพอใจกับสุขภาพในปัจจุบันของผู้สูงอายุตามความคิดเห็นของสมาชิก ในครอบครัว 21 189 260 116 14 0 50 100 150 200 250 300 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.43 การเจ็บป่วยตามร่างกาย หรือโรคประจ าตัว ท าให้ผู้สูงอายุไม่สามารถท าใน สิ่งที่ต้องการได้ ตามความคิดเห็นของสมาชิกในครอบครัว


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 60 59 ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีความ คิดเห็นว่าการเจ็บป่วยตามร่างกายหรือโรคประจ าตัวส่งผลให้ผู้สูงอายุไม่สามารถท าในสิ่งที่ต้องการได้อยู่ในระดับ ปานกลาง โดยมีจ านวนเท่ากับ 260 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 43.30 รองลงมามีความคิดเห็นว่าการเจ็บป่วยตาม ร่างกายส่งผลต่อความสามารถในการท าสิ่งต่างๆ ของผู้สูงอายุเพียงเล็กน้อย มีจ านวน 189 คน หรือเท่ากับร้อยละ 31.50 มีความคิดเห็นว่าส่งผลในระดับมาก จ านวน 116 คน หรือเท่ากับร้อยละ 19.30 มีความคิดเห็นว่าไม่ส่งผลเลย จ านวน 21 คน หรือเท่ากับร้อยละ 3.50 และมีความคิดเห็นว่าส่งผลมากที่สุดจ านวน 14 คน หรือเท่ากับร้อยละ 2.30 3) การมีก าลังเพียงพอในการท าสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจ าวันของผู้สูงอายุ (ทั้งเรื่องงาน และการ ด าเนินชีวิตประจ าวัน) ตามความคิดเห็นของสมาชิกในครอบครัว ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีความ คิดเห็นว่าผู้สูงอายุมีก าลังเพียงพอในการท าสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจ าวัน (ทั้งเรื่องงาน และการด าเนินชีวิตประจ าวัน) อยู่ในระดับปานกลาง โดยมีจ านวนเท่ากับ 312 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 52.00 รองลงมามีความคิดเห็นว่า ผู้สูงอายุมีก าลังเพียงพอในระดับมาก มีจ านวน 166 คน คิดเป็นร้อยละ 27.70 มีความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุมีก าลัง เพียงพอในระดับเล็กน้อย จ านวน 101คน หรือเท่ากับร้อยละ 16.80 มีความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุมีก าลังเพียงพอใน ระดับมากที่สุด จ านวน 12 คน หรือเท่ากับร้อยละ 2.00 และคิดว่าผู้สูงอายุไม่มีก าลังเพียงพอเลย จ านวน 9 คน หรือเท่ากับร้อยละ 1.50 9 101 312 166 12 0 50 100 150 200 250 300 350 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.44 การมีก าลังเพียงพอในการท าสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจ าวันของผู้สูงอายุ ตาม ความคิดเห็นของสมาชิกในครอบครัว


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 61 60 4) ความพึงพอใจในการนอนหลับของผู้สูงอายุตามความคิดเห็นของสมาชิกในครอบครัว ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุส่วนใหญ่คิดว่า ผู้สูงอายุรู้สึกพึงพอใจในการนอนหลับของตนเองอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีจ านวนเท่ากับ 325 คน หรือคิดเป็น ร้อยละ 54.20 รองลงมาคิดว่ารู้สึกพึงพอใจในระดับมาก มีจ านวน 181 คน หรือเท่ากับร้อยละ 30.20 คิดว่าพึง พอใจในระดับเล็กน้อย จ านวน 69 คน หรือเท่ากับร้อยละ 11.50 คิดว่าพึงพอใจมากที่สุด จ านวน 19 คน หรือ เท่ากับร้อยละ 3.20 และคิดว่าไม่พึงพอใจเลย จ านวน 6 คน หรือเท่ากับร้อยละ 1.00 5) ความพึงพอใจในชีวิต (มีความสุข ความสงบ มีความหวัง) ของผู้สูงอายุตามความคิดเห็นของ สมาชิกในครอบครัว 6 69 325 181 19 0 50 100 150 200 250 300 350 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.45 ความพึงพอใจในการนอนหลับของผู้สูงอายุ ตามความคิดเห็นของสมาชิกใน ครอบครัว 3 68 309 197 23 0 50 100 150 200 250 300 350 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.46 ความพึงพอใจในชีวิตของผู้สูงอายุ ตามความคิดเห็นของสมาชิกใน ครอบครัว


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 62 61 ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุส่วนใหญ่คิดว่า ผู้สูงอายุมีความพึงพอใจในชีวิต (มีความสุข ความสงบ มีความหวัง) อยู่ในระดับปานกลาง โดยมีจ านวนเท่ากับ 309 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 51.50 รองลงมาคิดว่ารู้สึกพึงพอใจในระดับมาก มีจ านวน 197 คน หรือเท่ากับร้อยละ 32.80 คิดว่ารู้สึกพึงพอใจในระดับเล็กน้อย จ านวน 68 คน หรือเท่ากับร้อยละ 11.30 คิดว่าพึงพอใจในระดับมาก ที่สุด จ านวน 23 คน หรือเท่ากับร้อยละ 3.80 และคิดว่าไม่พึงพอใจเลย จ านวน 3 คน หรือเท่ากับร้อยละ 0.50 6) การมีความจ าและมีสมาธิในการท าสิ่งต่างๆ ของผู้สูงอายุตามความคิดเห็นของสมาชิกใน ครอบครัว ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีความ คิดเห็นว่าผู้สูงอายุมีความจ าและมีสมาธิในการท าสิ่งต่างๆ อยู่ในระดับปานกลาง โดยมีจ านวนเท่ากับ 303 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 50.50 รองลงมามีความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุมีความจ าและมีสมาธิในการท าสิ่งต่างๆ อยู่ใน ระดับมาก มีจ านวน 172 คน หรือเท่ากับร้อยละ 28.70 มีความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุมีความจ าและสมาธิในระดับ เล็กน้อย จ านวน 106 คน หรือเท่ากับร้อยละ 17.70 มีความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุมีความจ าและมีสมาธิในระดับมาก ที่สุด จ านวน 17 คน หรือเท่ากับร้อยละ 2.80 และคิดเห็นว่าผู้สูงอายุไม่มีความจ าและมีสมาธิในการท าสิ่งต่างๆ เลย จ านวน 2 คน หรือเท่ากับร้อยละ 0.30 2 106 303 172 17 0 50 100 150 200 250 300 350 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.47 การมีความจ าและมีสมาธิในการท าสิ่งต่างๆ ของผู้สูงอายุ ตามความคิดเห็น ของสมาชิกในครอบครัว


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 63 62 7) ความรู้สึกพอใจในตนเองของผู้สูงอายุตามความคิดเห็นของสมาชิกในครอบครัว ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุส่วนใหญ ่มี ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุมีความพึงพอใจในตนเองอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีจ านวนเท่ากับ 315 คน หรือคิดเป็น ร้อยละ 52.50 รองลงมาคิดว่าพึงพอใจในระดับมาก มีจ านวน 219 คน หรือเท่ากับร้อยละ 36.50 คิดว่าพึงพอใจ ในระดับเล็กน้อย จ านวน 49 คน หรือเท่ากับร้อยละ 8.20 คิดว่าพึงพอใจมากที่สุด จ านวน 15 คน หรือเท่ากับ ร้อยละ 2.50 และคิดว่าไม่พึงพอใจเลย จ านวน 2 คน หรือเท่ากับร้อยละ 0.30 8) การมีความรู้สึกที่ไม่ดี เช่น รู้สึกเหงา เศร้า หดหู่ สิ้นหวัง วิตกกังวล ของผู้สูงอายุตามความ คิดเห็นของสมาชิกในครอบครัว ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุส่วนใหญ ่มี ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุมีความรู้สึกที่ไม่ดี เช่น รู้สึกเหงา เศร้า หดหู่ สิ้นหวัง วิตกกังวล อยู่ในระดับปานกลาง โดยมีจ านวนเท่ากับ 238 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 39.70 รองลงมาคิดว่ามีความรู้สึกที่ไม่ดีเพียงเล็กน้อย มี จ านวน 197 คน หรือเท่ากับร้อยละ 32.80 คิดว่าผู้สูงอายุไม่มีความรู้สึกที่ไม่ดีต่อตนเองเลย จ านวน 84 คน 2 49 315 219 15 0 50 100 150 200 250 300 350 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.48 ความรู้สึกพอใจในตนเองของผู้สูงอายุ ตามความคิดเห็นของสมาชิกใน ครอบครัว 84 197 238 70 11 0 50 100 150 200 250 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.49 การมีความรู้สึกที่ไม่ดีของผู้สูงอายุ ตามความคิดเห็นของสมาชิกใน ครอบครัว


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 64 63 หรือเท่ากับร้อยละ 14.00 คิดว่าผู้สูงอายุมีความรู้สึกที่ไม่ดีอยู่ในระดับมาก จ านวน 70 คน หรือเท่ากับร้อยละ 11.70 และคิดว่ามีความรู้สึกที่ไม่ดีต่อตนเองมากที่สุด จ านวน 11 คน หรือเท่ากับร้อยละ 1.80 9) ความรู้สึกพึงพอใจที ่สามารถท าอะไรๆ ให้ผ ่านไปได้ในแต ่ละวันของผู้สูงอายุตามความ คิดเห็นของสมาชิกในครอบครัว ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีความ คิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพึงพอใจที่สามารถท าอะไรๆ ให้ผ่านไปได้ในแต่ละวัน อยู่ในระดับปานกลาง โดยมีจ านวน เท่ากับ 322 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 53.70 รองลงมาคิดว่าพึงพอใจในระดับมาก มีจ านวน 199 คน หรือเท่ากับ ร้อยละ 33.20 คิดว่าพึงพอใจเพียงเล็กน้อย จ านวน 64 คน หรือเท่ากับร้อยละ 10.70 คิดว่าพึงพอใจมากที่สุด จ านวน 12 คน หรือเท่ากับร้อยละ 2.00 และคิดว่าไม่พึงพอใจเลย จ านวน 3 คน หรือเท่ากับร้อยละ 0.50 10) ความจ าเป็นในการเข้ารับการรักษาพยาบาลของผู้สูงอายุตามความคิดเห็นของสมาชิกใน ครอบครัว 3 64 322 199 12 0 50 100 150 200 250 300 350 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.50 ความรู้สึกพึงพอใจที่สามารถท าอะไรๆ ให้ผ่านไปได้ในแต่ละวันของผู้สูงอายุ ตามความคิดเห็นของสมาชิกในครอบครัว 23 158 255 154 10 0 50 100 150 200 250 300 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.51 ความจ าเป็นในการเข้ารับการรักษาพยาบาลของผู้สูงอายุ ตามความคิดเห็น ของสมาชิกในครอบครัว


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 65 64 ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีความ คิดเห็นว่าผู้สูงอายุมีความจ าเป็นในการเข้ารับการรักษาพยาบาล อยู่ในระดับปานกลาง โดยมีจ านวนเท่ากับ 255 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 42.50 รองลงมาคิดว่ามีความจ าเป็นในระดับเล็กน้อย มีจ านวน 158 คน หรือเท่ากับร้อยละ 26.30 คิดว่ามีความจ าเป็นในระดับมาก จ านวน 154 คน หรือเท่ากับร้อยละ 25.70 คิดว่าไม่มีความจ าเป็นต้อง เข้ารับการรักษาพยาบาลเลย จ านวน 23 คน หรือเท่ากับร้อยละ 3.80 และคิดว่ามีความจ าเป็นมากที่สุด จ านวน 10 คน หรือเท่ากับร้อยละ 1.70 11) ความพึงพอใจกับความสามารถในการท างานได้ หรือความสามารถในการช่วยเหลือตนเอง ของผู้สูงอายุตามความคิดเห็นของสมาชิกในครอบครัว ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุส่วนใหญ่มี ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพึงพอใจกับความสามารถในการท างานได้ หรือความสามารถในการช่วยเหลือ ตนเอง อยู่ในระดับปานกลาง โดยมีจ านวนเท่ากับ 296 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 49.30 รองลงมาคิดว่ามีความพึง พอใจในระดับมาก มีจ านวน 216 คน หรือเท่ากับร้อยละ 36.00 คิดว่ามีความพึงพอใจเพียงเล็กน้อย จ านวน 68 คน หรือเท่ากับร้อยละ 11.30 คิดว่ามีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด จ านวน 16 คน หรือเท่ากับร้อยละ 2.70 และคิดว่ารู้สึกไม่พึงพอใจเลย จ านวน 4 คน หรือเท่ากับร้อยละ 0.70 4 68 296 216 16 0 50 100 150 200 250 300 350 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.52 ความพึงพอใจกับความสามารถในการท างาน/ความสามารถในการ ช่วยเหลือตนเองของผู้สูงอายุ ตามความคิดเห็นของสมาชิกในครอบครัว


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 66 65 12) ความพึงพอใจต่อความสัมพันธ์ที่มีกับคนรอบข้างของผู้สูงอายุตามความคิดของสมาชิกใน ครอบครัว ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีความ คิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพึงพอใจต่อความสัมพันธ์ที่มีกับคนรอบข้าง อยู่ในระดับมาก โดยมีจ านวนเท่ากับ 262 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 43.70 รองลงมาคิดว่ารู้สึกพึงพอใจในระดับปานกลาง มีจ านวน 240 คน หรือเท่ากับร้อยละ 40.00 คิดว่ารู้สึกพึงพอใจมากที่สุด จ านวน 56 คน หรือเท่ากับร้อยละ 9.30 คิดว่ารู้สึกพึงพอใจเพียงเล็กน้อย จ านวน 38 คน หรือเท่ากับร้อยละ 6.30 และคิดว่าผู้สูงอายุรู้สึกไม่พึงพอใจเลย จ านวน 4 คน หรือเท่ากับร้อยละ 0.70 13) ความพึงพอใจกับความช่วยเหลือที่ได้รับจากคนในครอบครัวและคนในชุมชนของผู้สูงอายุ ตามความคิดเห็นของสมาชิกในครอบครัว 4 38 240 262 56 0 50 100 150 200 250 300 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.53 ความพึงพอใจต่อความสัมพันธ์ที่มีกับคนรอบข้างของผู้สูงอายุ ตามความ คิดเห็นของสมาชิกในครอบครัว 1 49 226 273 51 0 50 100 150 200 250 300 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.54 ความพึงพอใจกับความช่วยเหลือที่ได้รับจากคนในครอบครัวและชุมชนของ ผู้สูงอายุ ตามความคิดเห็นของสมาชิกในครอบครัว


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 67 66 ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีความ คิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพึงพอใจกับความช่วยเหลือที่ได้รับจากคนในครอบครัวและคนในชุมชน อยู่ในระดับมาก โดยมีจ านวนเท่ากับ 273 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 45.50 รองลงมาคิดว่ารู้สึกพึงพอใจในระดับปานกลาง มีจ านวน 226 คน หรือเท่ากับร้อยละ 37.70 คิดว่ารู้สึกพึงพอใจมากที่สุด จ านวน 51 คน หรือเท่ากับร้อยละ 8.50 และคิด ว่าผู้สูงอายุรู้สึกไม่พึงพอใจเลยมีจ านวนเพียง 1 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 0.20 14) ความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยในการด าเนินชีวิตแต่ละวันของผู้สูงอายุตามความคิดเห็นของ สมาชิกในครอบครัว ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีความ คิดเห็นว่าผู้สูงอายุมีความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยในการด าเนินชีวิตแต่ละวัน อยู่ในระดับปานกลาง โดยมีจ านวนเท่ากับ 273 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 45.50 รองลงมาคิดว่าผู้สูงอายุมีความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยอยู่ในระดับมาก มีจ านวน 254 คน คิดเป็นร้อยละ 42.30 คิดว่าผู้สูงอายุรู้สึกมั่นคงปลอดภัยในระดับเล็กน้อย จ านวน 44 คน หรือเท่ากับร้อย ละ 7.30 และคิดว่าผู้สูงอายุรู้สึกมั่นคงปลอดภัยมากที่สุด จ านวน 29 คน หรือเท่ากับร้อยละ 4.80 โดยไม่มีสมาชิก ในครอบครัวของผู้สูงอายุแม้แต่เพียงคนเดียวที่คิดว่าผู้สูงอายุรู้สึกไม่มั่นคงปลอดภัยในการด าเนินชีวิตประจ าวัน 0 44 273 254 29 0 50 100 150 200 250 300 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.55 ความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยในการด าเนินชีวิตแต่ละวันของผู้สูงอายุ ตามความ คิดเห็นของสมาชิกในครอบครัว


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 68 67 15) ความพึงพอใจกับสภาพบ้านเรือนที่อยู่อาศัยในปัจจุบันของผู้สูงอายุตามความคิดเห็นของ สมาชิกในครอบครัว ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุส่วนใหญ่มี ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพึงพอใจกับสภาพบ้านเรือนที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน อยู่ในระดับมาก โดยมีจ านวน เท่ากับ 276 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 46.00 รองลงมาคิดว่ารู้สึกพึงพอใจในระดับปานกลาง มีจ านวน 217 คน คิดเป็นร้อยละ 36.20 คิดว่ารู้สึกพึงพอใจมากที่สุด จ านวน 66 คน หรือเท่ากับร้อยละ 11.00 คิดว่ารู้สึกพึง พอใจในระดับเล็กน้อย จ านวน 38 คน หรือเท่ากับร้อยละ 6.30 และคิดว่าผู้สูงอายุรู้สึกไม่พึงพอใจเลย จ านวน 3 คน หรือเท่ากับร้อยละ 0.50 16) การมีเงินเพียงพอต่อการใช้จ่ายตามความจ าเป็นของผู้สูงอายุตามความคิดเห็นของสมาชิก ในครอบครัว 3 38 217 276 66 0 50 100 150 200 250 300 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.56 ความพึงพอใจกับสภาพบ้านเรือนที่อยู่อาศัยในปัจจุบันของผู้สูงอายุ ตาม ความคิดเห็นของสมาชิกในครอบครัว 22 103 332 124 19 0 50 100 150 200 250 300 350 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.57 การมีเงินเพียงพอต่อการใช้จ่ายตามความจ าเป็นของผู้สูงอายุ ตามความ คิดเห็นของสมาชิกในครอบครัว


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 69 68 ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุส่วนใหญ่มี ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุมีเงินเพียงพอต่อการใช้จ่ายตามความจ าเป็นในชีวิตประจ าวัน อยู่ในระดับปานกลาง โดยมีจ านวนเท่ากับ 332 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 55.30 รองลงมาคิดว่ามีเงินเพียงพออยู่ในระดับมาก มี จ านวน 124 คน คิดเป็นร้อยละ 20.70 คิดว ่าผู้สูงอายุมีเงินเพียงพอเพียงเล็กน้อย จ านวน 103 คน หรือ เท่ากับร้อยละ 17.20 คิดว่าผู้สูงอายุมีเงินไม่เพียงพอต่อการใช้จ่าย จ านวน 22 คน หรือเท่ากับร้อยละ 3.70 และคิดว่าผู้สูงอายุมีเงินเพียงพอต่อการใช้จ่ายมากที่สุด จ านวน 19 คน หรือเท่ากับร้อยละ 3.20 17) ความพึงพอใจในการที่สามารถใช้บริการสาธารณสุขได้ตามความจ าเป็นของผู้สูงอายุตาม ความคิดเห็นของสมาชิกในครอบครัว ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุส่วนใหญ่มี ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพึงพอใจในการที่สามารถใช้บริการสาธารณสุขได้ตามความจ าเป็น อยู่ในระดับ ปานกลาง โดยมีจ านวนเท่ากับ 277 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 46.20 รองลงมามีความคิดเห็นว่ารู้สึกพึงพอใจใน ระดับมาก มีจ านวน 157 คน คิดเป็นร้อยละ 34.30 คิดว่ารู้สึกพึงพอใจในระดับเล็กน้อย จ านวน 132 คน หรือ เท่ากับร้อยละ 22.00 คิดว่ารู้สึกพึงพอใจมากที่สุด จ านวน 23 คน หรือเท่ากับร้อยละ 3.80 และคิดว่าผู้สูงอายุ รู้สึกไม่พึงพึงพอใจเลย จ านวน 11 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 1.80 11 132 277 157 23 0 50 100 150 200 250 300 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.58 ความพึงพอใจในการที่สามารถใช้บริการสาธารณสุขได้ตามความจ าเป็น ของผู้สูงอายุ ตามความคิดเห็นของสมาชิกในครอบครัว


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 70 69 18) การรับรู้เรื ่องราวข ่าวสารที ่จ าเป็นในชีวิตประจ าวันของผู้สูงอายุตามความคิดเห็นของ สมาชิกในครอบครัว ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุส่วนใหญ่มี ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุมีโอกาสในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่จ าเป็นในชีวิตประจ าวัน อยู่ในระดับปานกลาง โดยมี จ านวนเท่ากับ 281 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 46.80 รองลงมาคิดว่าผู้สูงอายุมีการรับรู้ข้อมูลข่าวสารในระดับมาก มีจ านวน 185 คน คิดเป็นร้อยละ 30.80 คิดว่ามีการรับรู้เพียงเล็กน้อย จ านวน 97 คน หรือเท่ากับร้อยละ 16.20 คิดว่ามีการรับรู้มากที่สุด จ านวน 25 คน หรือเท่ากับร้อยละ 4.30 และคิดว่าไม่ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารที่จ าเป็นเลย จ านวน 11 คน หรือเท่ากับร้อยละ 1.80 19) การมีโอกาสพักผ่อนคลายเครียดของผู้สูงอายุตามความคิดเห็นของสมาชิกในครอบครัว 11 97 281 185 25 0 50 100 150 200 250 300 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.59 การรับรู้เรื่องราวข่าวสารที่จ าเป็นในชีวิตประจ าวันของผู้สูงอายุ ตามความ คิดเห็นของสมาชิกในครอบครัว 3 78 336 162 21 0 50 100 150 200 250 300 350 400 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.60 การมีโอกาสพักผ่อนคลายเครียดของผู้สูงอายุตามความคิดเห็นของสมาชิก ในครอบครัว


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 71 70 ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุส่วนใหญ่มี ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุมีโอกาสพักผ่อนคลายเครียด อยู่ในระดับปานกลาง โดยมีจ านวนเท่ากับ 336 คน หรือ คิดเป็นร้อยละ 56.00 รองลงมาคิดว่าผู้สูงอายุมีโอกาสพักผ่อนคลายเครียดในระดับมาก มีจ านวน 162 คน คิด เป็นร้อยละ 27.00 คิดว่ามีโอกาสพักผ่อนคลายเครียดเพียงเล็กน้อย จ านวน 78 คน หรือเท่ากับร้อยละ 13.00 คิดว่ามีโอกาสพักผ่อนคลายเครียดมากที่สุด จ านวน 21 คน หรือเท่ากับร้อยละ 3.50 และคิดว่าผู้สูงอายุไม่มี โอกาสพักผ่อนคลายเครียดเลย จ านวน 3 คน หรือเท่ากับร้อยละ 0.50 20) ความเหมาะสมของสภาพแวดล้อมต่อสุขภาพของผู้สูงอายุตามความคิดเห็นของสมาชิกใน ครอบครัว ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุส่วนใหญ่มี ความคิดเห็นว่าสภาพแวดล้อมมีความเหมาะสม/ส่งผลดีต่อสุขภาพของผู้สูงอายุ อยู่ในระดับปานกลาง โดยมี จ านวนเท่ากับ 296 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 49.30 รองลงมาคิดว่ามีความเหมาะสมในระดับมาก มีจ านวน 237 คน คิดเป็นร้อยละ 39.50 มีความเหมาะสมมากที่สุดจ านวน 34คน หรือเท่ากับร้อยละ 5.70 และมีความเหมาะสม เพียงเล็กน้อยจ านวน 33คน หรือเท่ากับร้อยละ 5.50 โดยกลุ่มตัวอย่างไม่มีใครมีความคิดเห็นว่าสภาพแวดล้อม ไม่มีความเหมาะสมเลยหรือส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้สูงอายุ 0 33 296 237 34 0 50 100 150 200 250 300 350 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.61 ความเหมาะสมของสภาพแวดล้อมต่อสุขภาพของผู้สูงอายุตามความคิดเห็น ของสมาชิกในครอบครัว


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 72 71 21) ความพึงพอใจต่อการเดินทางโดยการคมนาคมของผู้สูงอายุตามความคิดเห็นของสมาชิก ในครอบครัว ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีความ คิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพึงพอใจต่อการเดินทางโดยการคมนาคม อยู่ในระดับปานกลาง โดยมีจ านวนเท่ากับ 318 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 53.00 รองลงมาคิดว่าผู้สูงอายุรู้สึกพึงพอใจเพียงเล็กน้อย มีจ านวน 126 คน คิดเป็นร้อย ละ 21.00 คิดว่าพึงพอใจในระดับมาก จ านวน 122 คน หรือเท่ากับร้อยละ 20.30 คิดว่าไม่พึงพอใจเลย จ านวน 19 คน หรือเท่ากับร้อยละ 3.20 และคิดว่ารู้สึกพึงพอใจมากที่สุด จ านวน 15 คน หรือเท่ากับร้อยละ 2.50 22) ความรู้สึกว่าชีวิตมีความหมายของผู้สูงอายุตามความคิดเห็นของสมาชิกในครอบครัว ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุส่วนใหญ่มี ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกว่าชีวิตตนเองมีความหมาย อยู่ในระดับมาก โดยมีจ านวนเท่ากับ 284 คน หรือคิด เป็นร้อยละ 47.30 รองลงมาคิดว่าผู้สูงอายุรู้สึกถึงการมีความหมายของชีวิตในระดับปานกลาง มีจ านวน 219 คน 19 126 318 122 15 0 50 100 150 200 250 300 350 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.62 ความพึงพอใจต่อการเดินทางโดยการคมนาคมของผู้สูงอายุตามความ คิดเห็นของสมาชิกในครอบครัว 4 41 219 284 52 0 50 100 150 200 250 300 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.63 ความรู้สึกว่าชีวิตมีความหมายของผู้สูงอายุตามความคิดเห็นของสมาชิกใน ครอบครัว


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 73 72 คิดเป็นร้อยละ 36.50 คิดว่าผู้สูงอายุรู้สึกถึงการมีความหมายของชีวิตในระดับมากที่สุด จ านวน 52 คน หรือ เท่ากับร้อยละ 8.70 คิดว่าผู้สูงอายุรู้สึกถึงการมีความหมายของชีวิตเพียงเล็กน้อย จ านวน 41 คน หรือเท่ากับ ร้อยละ 6.80 และคิดว่าผู้สูงอายุรู้สึกว่าชีวิตไม่มีความหมายเลย จ านวน 4 คน หรือเท่ากับร้อยละ 0.70 23) ความสามารถในการไปไหนมาไหนด้วยตนเองของผู้สูงอายุตามความคิดเห็นของสมาชิกในครอบครัว ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุส่วนใหญ่มี ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุสามารถไปไหนมาไหนได้ด้วยตนเอง อยู่ในระดับปานกลาง โดยมีจ านวนเท่ากับ 247 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 41.20 รองลงมาคิดว่าผู้สูงอายุสามารถไปไหนมาไหนได้ด้วยตนเองในระดับมาก มีจ านวน 183 คน คิดเป็นร้อยละ 30.50 คิดว่ามีความสามารถในการไปไหนมาไหนเพียงเล็กน้อย จ านวน 117 คน หรือ เท่ากับร้อยละ 19.50 คิดว่าไม่มีความสามารถในการไปไหนมาไหนด้วยตนเอง จ านวน 31 คน หรือเท่ากับร้อย ละ 5.20 และคิดว่าสามารถในการไปไหนมาไหนได้ด้วยตนเองมากที่สุด จ านวน 22 คน หรือเท่ากับร้อยละ 3.70 24) การมีคุณภาพชีวิตที่ดี (ในภาพรวม) ของผู้สูงอายุตามความคิดเห็นของสมาชิกในครอบครัว 31 117 247 183 22 0 50 100 150 200 250 300 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.64 ความสามารถในการไปไหนมาไหนด้วยตนเองของผู้สูงอายุตามความคิดเห็น ของสมาชิกในครอบครัว 1 48 278 225 48 0 50 100 150 200 250 300 ไม่เลย เล็กน้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด แผนภาพที่ 4.65 การมีคุณภาพชีวิตที่ดี (ในภาพรวม) ของผู้สูงอายุตามความคิดเห็นของ สมาชิกในครอบครัว


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 74 73 ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างที่เป็นสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุส่วนใหญ่มี ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีจ านวนเท่ากับ 278 คน หรือคิดเป็นร้อย ละ 46.30 รองลงมาคิดว่าผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีในระดับมาก มีจ านวน 225 คน คิดเป็นร้อยละ 37.50 กลุ่ม ที่คิดว่ามีคุณภาพชีวิตที่ดีมากที่สุดและกลุ่มที่คิดว่ามีคุณภาพชีวิตที่ดีเพียงเล็กน้อยมีจ านวนที่เท่ากันคือกลุ่มละ 48 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 8.00 และคิดว่าผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ไม่ดีจ านวน 1 คน หรือเท่ากับร้อยละ 0.20 ข้อมูลจากการประเมินคุณภาพชีวิตของกลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุส่วนใหญ่ พบว่า ผลการประเมินอยู่ ในระดับปานกลาง โดยมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 3.28 มีเพียงบางความคิดเห็นและความรู้สึกที่อยู่ในระดับมาก ได้แก่ ความคิดเห็นว่าผู้อายุรู้สึกว่าชีวิตมีความหมาย, ความคิดเห็นว่าสภาพบ้านเรือนที่อยู่อาศัยปัจจุบันมีความ เหมาะสมกับผู้สูงอายุ, ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพอใจกับความช่วยเหลือที่ได้รับจากคนในครอบครัวและ คนในชุมชน รวมทั้งความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพอใจต่อความสัมพันธ์ที่มีกับคนรอบข้าง โดยคิดเป็นร้อยละ 47.30, 46.0, 45.50, และ 43.70 ตามล าดับ ตารางที่ 4.2 แสดงค่าเฉลี่ยจากผลการประเมินคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโดยกลุ่มตัวอย่างสมาชิก ในครอบครัว กำรประเมินคุณภำพชีวิต × S.D กำรแปลผล ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพอใจกับสุขภาพของตนเองในปัจจุบัน 3.17 .689 ปานกลาง ความคิดเห็นว่าการเจ็บปวดตามร่างกายส่งผลให้ผู้สูงอายุไม่สามารถท าสิ่งที่ ต้องการได้ 3.15 .850 ปานกลาง ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุมีก าลังเพียงพอที่จะท าสิ่งต่างในชีวิตประจ าวันได้ด้วย ตนเอง 3.12 .756 ปานกลาง ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพอใจกับคุณภาพการนอนหลับของตนเอง 3.23 .729 ปานกลาง ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพึงพอใจในชีวิต (มีความสุข ความสงบ มีความหวัง) 3.28 .733 ปานกลาง ความคิดเห็นเกี่ยวกับระบบความจ าและการมีสมาธิในการท าสิ่งต่าง ๆ ของผู้สูงอายุ 3.16 .752 ปานกลาง ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพอใจในชีวิตของตนเอง 3.33 .780 ปานกลาง ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุมีความรู้สึกไม่ดี (เหงา เศร้า หดหู่ สิ้นหวัง วิตกกังวล) 3.45 .934 ปานกลาง ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพอใจที่สามารถท าอะไร ๆ ผ่านไปได้ในแต่ละวัน 3.26 .689 ปานกลาง ความคิดเห็นถึงความจ าเป็นในการเข้ารับการรักษาพยาบาลของผู้สูงอายุ 3.05 .859 ปานกลาง ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพอใจกับความสามารถในการท างาน/การ ช่วยเหลือตนเอง 3.29 .725 ปานกลาง ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพอใจต่อความสัมพันธ์ที่มีกับคนรอบข้าง 3.55 .776 มาก ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพอใจกับความช่วยเหลือที่ได้รับจากครอบครัว ชุมชน 3.54 .770 มาก ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุมีความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยในชีวิตประจ าวัน 3.45 .701 ปานกลาง ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพอใจกับสภาพบ้านเรือนที่อยู่อาศัยปัจจุบัน 3.61 .785 มาก ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุการมีเงินเพียงพอต่อการใช้จ่ายตามความจ าเป็น 3.03 .761 ปานกลาง ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพอใจที่จะสามารถไปใช้บริการสาธารณสุขได้ตาม ความจ าเป็น 3.12 .808 ปานกลาง 73 ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างที่เป็นสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุส่วนใหญ่มี ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีจ านวนเท่ากับ 278 คน หรือคิดเป็นร้อย ละ 46.30 รองลงมาคิดว่าผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีในระดับมาก มีจ านวน 225 คน คิดเป็นร้อยละ 37.50 กลุ่ม ที่คิดว่ามีคุณภาพชีวิตที่ดีมากที่สุดและกลุ่มที่คิดว่ามีคุณภาพชีวิตที่ดีเพียงเล็กน้อยมีจ านวนที่เท่ากันคือกลุ่มละ 48 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 8.00 และคิดว่าผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ไม่ดีจ านวน 1 คน หรือเท่ากับร้อยละ 0.20 ข้อมูลจากการประเมินคุณภาพชีวิตของกลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุส่วนใหญ่ พบว่า ผลการประเมินอยู่ ในระดับปานกลาง โดยมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 3.28 มีเพียงบางความคิดเห็นและความรู้สึกที่อยู่ในระดับมาก ได้แก่ ความคิดเห็นว่าผู้อายุรู้สึกว่าชีวิตมีความหมาย, ความคิดเห็นว่าสภาพบ้านเรือนที่อยู่อาศัยปัจจุบันมีความ เหมาะสมกับผู้สูงอายุ, ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพอใจกับความช่วยเหลือที่ได้รับจากคนในครอบครัวและ คนในชุมชน รวมทั้งความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพอใจต่อความสัมพันธ์ที่มีกับคนรอบข้าง โดยคิดเป็นร้อยละ 47.30, 46.0, 45.50, และ 43.70 ตามล าดับ ตารางที่ 4.2 แสดงค่าเฉลี่ยจากผลการประเมินคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโดยกลุ่มตัวอย่างสมาชิก ในครอบครัว กำรประเมินคุณภำพชีวิต × S.D กำรแปลผล ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพอใจกับสุขภาพของตนเองในปัจจุบัน 3.17 .689 ปานกลาง ความคิดเห็นว่าการเจ็บปวดตามร่างกายส่งผลให้ผู้สูงอายุไม่สามารถท าสิ่งที่ ต้องการได้ 3.15 .850 ปานกลาง ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุมีก าลังเพียงพอที่จะท าสิ่งต่างในชีวิตประจ าวันได้ด้วย ตนเอง 3.12 .756 ปานกลาง ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพอใจกับคุณภาพการนอนหลับของตนเอง 3.23 .729 ปานกลาง ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพึงพอใจในชีวิต (มีความสุข ความสงบ มีความหวัง) 3.28 .733 ปานกลาง ความคิดเห็นเกี่ยวกับระบบความจ าและการมีสมาธิในการท าสิ่งต่าง ๆ ของผู้สูงอายุ 3.16 .752 ปานกลาง ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพอใจในชีวิตของตนเอง 3.33 .780 ปานกลาง ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุมีความรู้สึกไม่ดี (เหงา เศร้า หดหู่ สิ้นหวัง วิตกกังวล) 3.45 .934 ปานกลาง ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพอใจที่สามารถท าอะไร ๆ ผ่านไปได้ในแต่ละวัน 3.26 .689 ปานกลาง ความคิดเห็นถึงความจ าเป็นในการเข้ารับการรักษาพยาบาลของผู้สูงอายุ 3.05 .859 ปานกลาง ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพอใจกับความสามารถในการท างาน/การ ช่วยเหลือตนเอง 3.29 .725 ปานกลาง ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพอใจต่อความสัมพันธ์ที่มีกับคนรอบข้าง 3.55 .776 มาก ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพอใจกับความช่วยเหลือที่ได้รับจากครอบครัว ชุมชน 3.54 .770 มาก ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุมีความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยในชีวิตประจ าวัน 3.45 .701 ปานกลาง ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพอใจกับสภาพบ้านเรือนที่อยู่อาศัยปัจจุบัน 3.61 .785 มาก ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุการมีเงินเพียงพอต่อการใช้จ่ายตามความจ าเป็น 3.03 .761 ปานกลาง ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพอใจที่จะสามารถไปใช้บริการสาธารณสุขได้ตาม ความจ าเป็น 3.12 .808 ปานกลาง


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 75 74 ตารางที่ 4.2 แสดงค่าเฉลี่ยจากผลการประเมินคุณภาพชีวิตของกลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุ (ต่อ) กำรประเมินคุณภำพชีวิต × S.D กำรแปลผล ความคิดเห็นเกี่ยวกับการรับรู้เรื่องราวข่าวสารที่จ าเป็นในชีวิตประจ าวันของ ผู้สูงอายุ 3.20 .824 ปานกลาง ความคิดเห็นเกี่ยวกับการมีโอกาสได้พักผ่อนคลายเครียดของผู้สูงอายุ 3.18 .734 ปานกลาง ความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพของผู้สูงอายุ 3.45 .687 ปานกลาง ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพอใจกับการเดินทางไปไหนมาไหนโดยอาศัยการ คมนาคม 2.98 .800 ปานกลาง ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกว่าชีวิตตนเองมีความหมาย 3.56 .773 มาก ความคิดเห็นเกี่ยวกับความสามารถในการไปไหนมาไหนด้วยตนเองของผู้สูงอายุ 3.08 .921 ปานกลาง ความคิดเห็นเกี่ยวกับการมีคุณภาพชีวิตที่ดี(ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี) ของผู้สูงอายุ 3.45 .761 ปานกลาง รวม 3.28 .410 ปำนกลำง ข้อมูลจากการประเมินคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโดยสมาชิกในครอบครัวตามประเด็นข้างต้น สามารถจ าแนกตามองค์ประกอบได้เป็น องค์ประกอบด้านสุขภาพกาย องค์ประกอบด้านจิตใจ องค์ประกอบ ด้านสัมพันธภาพทางสังคม องค์ประกอบด้านสิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตโดยรวม โดยมีร้อยละของการ ประเมินคุณภาพชีวิตในแต่ละด้าน ดังนี้ 4.5 1.8 4.5 21.3 1.3 87.3 78 79.2 77 84.3 8.2 20.2 16.3 1.7 14.3 0 10 20 30 40 50 60 70 80 90 100 แผนภาพที่ 4.66 การประเมินคุณภาพชีวิตรายองค์ประกอบ (ร้อยละ) คุณภาพชีวิตที่ไม่ดี คุณภาพชีวิตระดับกลางๆ คุณภาพชีวิตที่ดี 74 ตารางที่ 4.2 แสดงค่าเฉลี่ยจากผลการประเมินคุณภาพชีวิตของกลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุ (ต่อ) กำรประเมินคุณภำพชีวิต × S.D กำรแปลผล ความคิดเห็นเกี่ยวกับการรับรู้เรื่องราวข่าวสารที่จ าเป็นในชีวิตประจ าวันของ ผู้สูงอายุ 3.20 .824 ปานกลาง ความคิดเห็นเกี่ยวกับการมีโอกาสได้พักผ่อนคลายเครียดของผู้สูงอายุ 3.18 .734 ปานกลาง ความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพของผู้สูงอายุ 3.45 .687 ปานกลาง ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพอใจกับการเดินทางไปไหนมาไหนโดยอาศัยการ คมนาคม 2.98 .800 ปานกลาง ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกว่าชีวิตตนเองมีความหมาย 3.56 .773 มาก ความคิดเห็นเกี่ยวกับความสามารถในการไปไหนมาไหนด้วยตนเองของผู้สูงอายุ 3.08 .921 ปานกลาง ความคิดเห็นเกี่ยวกับการมีคุณภาพชีวิตที่ดี(ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี) ของผู้สูงอายุ 3.45 .761 ปานกลาง รวม 3.28 .410 ปำนกลำง ข้อมูลจากการประเมินคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโดยสมาชิกในครอบครัวตามประเด็นข้างต้น สามารถจ าแนกตามองค์ประกอบได้เป็น องค์ประกอบด้านสุขภาพกาย องค์ประกอบด้านจิตใจ องค์ประกอบ ด้านสัมพันธภาพทางสังคม องค์ประกอบด้านสิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตโดยรวม โดยมีร้อยละของการ ประเมินคุณภาพชีวิตในแต่ละด้าน ดังนี้ 4.5 1.8 4.5 21.3 1.3 87.3 78 79.2 77 84.3 8.2 20.2 16.3 1.7 14.3 0 10 20 30 40 50 60 70 80 90 100 แผนภาพที่ 4.66 การประเมินคุณภาพชีวิตรายองค์ประกอบ (ร้อยละ) คุณภาพชีวิตที่ไม่ดี คุณภาพชีวิตระดับกลางๆ คุณภาพชีวิตที่ดี 74 ตารางที่ 4.2 แสดงค่าเฉลี่ยจากผลการประเมินคุณภาพชีวิตของกลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุ (ต่อ) กำรประเมินคุณภำพชีวิต × S.D กำรแปลผล ความคิดเห็นเกี่ยวกับการรับรู้เรื่องราวข่าวสารที่จ าเป็นในชีวิตประจ าวันของ ผู้สูงอายุ 3.20 .824 ปานกลาง ความคิดเห็นเกี่ยวกับการมีโอกาสได้พักผ่อนคลายเครียดของผู้สูงอายุ 3.18 .734 ปานกลาง ความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพของผู้สูงอายุ 3.45 .687 ปานกลาง ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพอใจกับการเดินทางไปไหนมาไหนโดยอาศัยการ คมนาคม 2.98 .800 ปานกลาง ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกว่าชีวิตตนเองมีความหมาย 3.56 .773 มาก ความคิดเห็นเกี่ยวกับความสามารถในการไปไหนมาไหนด้วยตนเองของผู้สูงอายุ 3.08 .921 ปานกลาง ความคิดเห็นเกี่ยวกับการมีคุณภาพชีวิตที่ดี(ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี) ของผู้สูงอายุ 3.45 .761 ปานกลาง รวม 3.28 .410 ปำนกลำง ข้อมูลจากการประเมินคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโดยสมาชิกในครอบครัวตามประเด็นข้างต้น สามารถจ าแนกตามองค์ประกอบได้เป็น องค์ประกอบด้านสุขภาพกาย องค์ประกอบด้านจิตใจ องค์ประกอบ ด้านสัมพันธภาพทางสังคม องค์ประกอบด้านสิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตโดยรวม โดยมีร้อยละของการ ประเมินคุณภาพชีวิตในแต่ละด้าน ดังนี้ 4.5 1.8 4.5 21.3 1.3 87.3 78 79.2 77 84.3 8.2 20.2 16.3 1.7 14.3 0 10 20 30 40 50 60 70 80 90 100 แผนภาพที่ 4.66 การประเมินคุณภาพชีวิตรายองค์ประกอบ (ร้อยละ) คุณภาพชีวิตที่ไม่ดี คุณภาพชีวิตระดับกลางๆ คุณภาพชีวิตที่ดี


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 76 75 จากข้อมูลร้อยละของการประเมินคุณภาพชีวิตตามองค์ประกอบในแต่ละด้านตามความคิดเห็น ของสมาชิกในครอบครัวผู้สูงอายุแสดงให้เห็นว่า คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในทุกองค์ประกอบส่วนใหญ่อยู่ใน ระดับกลางๆ โดยเฉพาะองค์ประกอบด้านสุขภาพกายที่มีร้อยละของคุณภาพชีวิตในระดับกลางๆ มากที่สุดอยู่ ที่ร้อยละ 87.30 และมีประเด็นที่น่าสนใจคือ สมาชิกในครอบครัวได้สะท้อนถึงการมีคุณภาพชีวิตที่ไม่ดีในส่วน ขององค์ประกอบด้านสิ่งแวดล้อมที่มีค่าร้อยละสูงกว่าองค์ประกอบด้านอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด โดยมีค่าเท่ากับ ร้อยละ 21.30 ขณะที่องค์ประกอบด้านจิตใจมีร้อยละของคุณภาพชีวิตที่ดีมากที่สุดเท่ากับร้อยละ 20.20 ข้อมูลดังกล่าวมีความสอดคล้องกับความคิดเห็นของผู้สูงอายุที่มีคะแนนการประเมินองค์ประกอบทุกด้านอยู่ใน ระดับกลางๆ โดยเฉพาะองค์ประกอบทางด้านร่างกาย มีระดับคุณภาพชีวิตที่ดีในองค์ประกอบทางด้านจิตใจ มากกว่าด้านอื่นๆ ในขณะที่มีคุณภาพชีวิตที่ไม่ได้เกี่ยวกับองค์ประกอบด้านสิ่งแวดล้อมมากกว่าองค์ประกอบ ด้านอื่นๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ทั้งผู้สูงอายุและสมาชิกในครอบครัวมีความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุมีความสามารถใน การดูแลตนเอง/พึ่งพาตนเองทางด้านร่างกายในระดับปานกลางไปจนถึงค่อนข้างดี และผู้สูงอายุไม่ต่ ากว่าร้อยละ 20 ที่เป็นกลุ่มตัวอย่างมีองค์ประกอบทางด้านจิตใจ/สภาพจิตใจที่ดี แต่สิ่งที่ควรมีการปรับปรุงเพื่อให้ผู้สูงอายุมี คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นคือการปรับปรุงองค์ประกอบด้านสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับการด าเนินชีวิตของผู้สูงอายุ 4.2 ผลกำรวิจัยเชิงคุณภำพ การวิจัยเชิงคุณภาพเป็นการศึกษาเกี่ยวกับสถานการณ์ของผู้สูงอายุในพื้นที่ และการมีส่วนร่วมของ ครอบครัว ชุมชนท้องถิ่น กลไกของภาคีเครือข่ายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของ ผู้สูงอายุ โดยใช้กระบวนการสนทนากลุ่ม (Focus Group Discussion) ในการเก็บรวบรวมข้อมูล การด าเนินงานวิจัยก าหนดกระบวนการสนทนากลุ่มจ านวน 2 ครั้ง กับกลุ่มเป้าหมาย 2 กลุ่ม โดยกลุ่ม แรกประกอบด้วย ตัวแทนผู้สูงอายุและสมาชิกในครอบครัว/ผู้ท าหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุ กลุ่มที่ 2 ประกอบด้วย ตัวแทนองค์กร/หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการด าเนินงานด้านผู้สูงอายุในพื้นที่ ได้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.), ศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน (ศพค.), ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ (ศพอส.) และหน่วยงานด้านการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) เป็นต้น ข้อมูลส าคัญเกี่ยวกับสถานการณ์ของผู้สูงอายุและ ความสัมพันธ์ภายในครอบครัวผู้สูงอายุที่อยู่ในชุมชนท้องถิ่น สภาพปัญหา และความต้องการของผู้สูงอายุ การ ด าเนินงานด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโดยคนทุกช่วงวัยมีส่วนร่วม ข้อมูลจากการด าเนินการสนทนากลุ่มมี รายละเอียด ดังนี้ 4.2.1 กำรสนทนำกลุ่มโดยกลุ่มเป้ำหมำยเป็นตัวแทนผู้สูงอำยุและสมำชิกในครอบครัว/ผู้ท ำหน้ำที่ ดูแลผู้สูงอำยุด าเนินการในพื้นที่ต าบลรัตภูมิ อ าเภอควนเนียง จังหวัดสงขลา มีรายละเอียดส าคัญ ดังนี้ 1) สถานการณ์ สภาพปัญหา และความสัมพันธ์ระหว่างผู้สูงอายุกับสมาชิกในครอบครัวในปัจจุบัน สถานการณ์ด้านชีวิตความเป็นอยู่และความสัมพันธ์ระหว่างผู้สูงอายุกับสมาชิกในครอบครัว : ลักษณะความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 70 อาศัยอยู่กับคู่สมรส โดยมีที่อยู่อาศัยที่แยกออกมา อยู่ข้างๆ บ้านของบุตรหลาน หรืออยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน มีบางส่วนที่อาศัยอยู่ร่วมกันในบ้านหลังเดียวกัน ไม่มี ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ตามล าพังโดยไม่มีคนดูแล ลักษณะความสัมพันธ์ในครอบครัวจึงมีความใกล้ชิดผูกพัน และมี การดูแลซึ่งกันและกัน สภาพที่อยู่อาศัยโดยรวมอยู่ในระดับดี มีบ้านเป็นของตนเอง และมีสวน มีไร่ ของครอบครัว การด าเนินชีวิตของผู้สูงอายุในปัจจุบันยังคงมีการประกอบอาชีพที่สร้างรายได้เพียงเล็กน้อย ได้แก่ ท าสวน


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 77 76 ยางพารา ประมง ปลูกพืชผักสวนครัว แต่รายได้หลักยังคงมาจากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และมีบทบาทหน้าที่ในการ เลี้ยงดูหลานช่วงกลางวันในขณะที่บุตรไปท างาน โดยมีรายละเอียดจากผู้ให้ข้อมูล ดังนี้ สมาชิก 6 “ผู้สูงอายุส่วนใหญ่อยู่กับครอบครัว เป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่มีผู้สูงอายุอยู่ตาม ล าพัง มีบ้างประปรายไม่อยากอยู่กับลูกหลาน แยกตัวบ้านออกมา แต่น้อย ยังอยู่ในบริเวณเดียวกัน มีผู้ดูแล อยู่กันเป็นคู่ตายายประมาณ 70% แต่ยังอยู่ใกล้ๆ กันกับลูกหลาน” ผู้สูงอายุ 1 “สังคมชนบทมีความผูกพันกัน ผู้สูงอายุกับลูกหลาน ดูแลกันรุ่นต่อรุ่น ไม่ค่อยมี ปัญหา” ผู้สูงอายุ 1 “ที่อยู่อาศัยดี มีบ้าน มีสวน มีไร่” ผู้สูงอายุ 1 “อาชีพ ท างาน ท าสวนยาง ปลูกผักข้างบ้าน ประมง รายได้หลักเป็นเบี้ยยังชีพ ลูกหลานให้บ้าง เอาบ้าง นานๆ ที” ผู้สูงอายุ 3 “50% เลี้ยงหลาน เวลาพ่อแม่ไปท างานในพื้นที่” สภาพปัญหา : ลักษณะปัญหาที่พบในกลุ่มผู้สูงอายุในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นปัญหาสุขภาพตามวัย จากความเสื่อมสภาพของร่างกาย โดยปัญหาด้านสุขภาพหลักๆ จะเกี่ยวข้องกับโรคประจ าตัว เช่น โรคเบาหวาน ความดัน ไขมัน เส้นเลือดตีบ มีบางส่วนที่ป่วยติดเตียง แต่มีจ านวนไม่มาก ผู้ป่วยติดเตียงบางรายที่มีสาเหตุจาก โรคอ้วนท าให้ไม่สามารถขยับร่างกายได้ ปัจจุบันขยับตัวได้เป็นปกติจากการที่มีน้ าหนักลดลงในช่วงที่ไม่สบาย ประกอบกับการที่มีอาสาสมัครสาธารณสุขประจ าหมู่บ้าน (อสม.) ช่วยดูแลตามครัวเรือน นอกจากนี้มีปัญหา เรื่องหนี้สินจากการกู้ยืมเงินมาให้กับบุตร ตามรายละเอียดจากการให้ข้อมูล ดังนี้ สมาชิก 2 “ปัญหาสุขภาพ ปัญหาเบาหวาน ความดัน ไขมัน เส้นเลือดตีบ อสม.ดูแลตาม ครัวเรือน ติดเตียงไม่เยอะ ส่วนใหญ่ติดบ้านมากกว่า 80%” สมาชิก 5 “มีป่วยเป็นโรคอ้วน 2-3 คน เดินไม่ได้ ติดเตียง 6-7 เดือน ตอนนี้ขยับตัวได้แล้ว (ขยับได้เอง) ช่วงไม่สบายน้ าหนักลดเอง เค้ารู้ตัวเอง ควบคุมตัวเอง” สมาชิก 2 “มีปัญหาเรื่องหนี้สิน จากลูกหลาน ต้องช่วย กู้มากลบ” 2) บทบาทและความสัมพันธ์ของผู้สูงอายุในครอบครัว และในชุมชนท้องถิ่น บทบาทของผู้สูงอายุในครอบครัวส่วนใหญ่มีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยภายในบ้านและเลี้ยง ดูหลานขณะบุตรไปท างาน ความสัมพันธ์กับสมาชิกในครอบครัวมีความผูกพันใกล้ชิด บุตรมีการดูแลด้าน ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจ าวัน เช่น ค่าอาหาร การดูแลด้านสุขภาพโดยพาไปโรงพยาบาลเพื่อพบแพทย์ตามนัด ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่ดี มีความสุข และไม่มีอาการซึมเศร้า มีการท ากิจกรรมร่วมกัน ระหว่างคนต่างวัยในครอบครัว ได้แก่ การท ากับข้าว การปลูกพืชผักสวนครัว ส่วนความสัมพันธ์ระหว่าง ผู้สูงอายุกับสมาชิกในชุมชนท้องถิ ่นเป็นความสัมพันธ์ที่มีลักษณะใกล้ชิด ช ่วยเหลือเกี้อกูลซึ่งกันและกัน ตามรายละเอียดจากการให้ข้อมูล ดังนี้ ผู้สูงอายุ 1 “ลูกหลานดูแลดี อาหารการกิน ซื้อมาให้ อยากกินอะไร หามาให้ พาไปหาหมอ ให้เงินด้วย กับเพื่อนบ้านก็อยู่กันแบบเกื้อกูล คนอยู่ใกล้เคียงช่วยกันดูแล” ผู้สูงอายุ 4 “ลูกหลานเชื่อฟัง ที่ท าด้วยกันมีปลูกผักช่วยกัน ท ากับข้าวช่วยกัน ทั้งผู้สูงอายุทั้งลูก” สมาชิก 3 “ผู้สูงอายุอยู่ดีมีสุข ไม่มีปัญหา อยู่กับลูกหลาน สบายใจ ไม่ซึมเศร้า”


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 78 77 3) ความต้องการการช่วยเหลือเพิ่มเติมของผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุในพื้นที่ส่วนใหญ่ยังคงอาศัยอยู่ร่วมกับบุตรหลานโดยไม่มีปัญหาในครอบครัว สิ่งที่ ต้องการได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติมจะเกี่ยวข้องกับสุขภาพ เช่น ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ส าหรับผู้สูงอายุที่ป่วยติดเตียง กายอุปกรณ์ รถเข็น รถโยก ส าหรับผู้สูงอายุพิการ เพื่อเป็นตัวช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถที่จะเดินทางไปในพื้นที่ บริเวณใกล้เคียง เพื่อเยี่ยมบุตรหลาน หรือพบปะเพื่อนบ้านใกล้เคียง ซึ่งจะช่วยให้ผู้สูงอายุคลายความเหงา ลด การเกิดภาวะซึมเศร้า รวมทั้งการมีรถรับส่งไปโรงพยาบาลส าหรับผู้สูงอายุที่ป่วยติดเตียง นอกจากนี้ผู้สูงอายุ ต้องการความช่วยเหลือในรูปแบบของเงินสงเคราะห์เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคในชีวิตประจ าวัน สมาชิก 6 “พออยู่กับลูกหลาน ความรู้สึกไม่มีปัญหา ในเรื่องสุขภาพ ที่ติดเตียงต้องการแพม เพิร์ส ผู้สูงอายุพิการอยากได้กายอุปกรณ์ รถเข็นส าหรับคนพิการ รถโยก เพื่อจะได้เดินทางไปที่ใกล้ๆ เยี่ยม ลูกหลาน เพื่อนบ้าน ช่วยเรื่องภาวะจิตใจ ลดภาวะความซึมเศร้า” สมาชิก 1 “ช่วงโควิด มีผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง อยากได้รถรับส่ง วัคซีนมีเจ้าหน้าที่มา บริการฉีดวัคซีนถึงบ้าน” สมาชิก 2 “อยากให้เพิ่มเบี้ยยังชีพ ช่วยเรื่องค่าน้ าค่าไฟ” 4) การด าเนินงานเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโดยชุมชนท้องถิ่นและหน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง การช่วยเหลือดูแล และส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโดยชุมชนท้องถิ่นและหน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยกิจกรรมที่ส าคัญได้แก่ (1) การให้ข้อมูลข่าวสารผ่านทางบุคคลเนื่องจากการผู้สูงอายุมี ข้อจ ากัดด้านการใช้งานเทคโนโลยี การรับรู้ข่าวสารส่วนใหญ่จึงมาจากบุตรหลานในครอบครัว อสม. และผู้น า ชุมชนท้องถิ่น (2) การช่วยเหลือดูแล และพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโดยการขับเคลื่อนของกลไกในระดับ ท้องถิ่น ได้แก่การประสานงานเพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุโดย อสม. จากการลงพื้นที่และส ารวจข้อมูลในชุมชน ท าให้ ทราบถึงสถานการณ์ด้านสุขภาพของผู้สูงอายุ ต าแหน่งที่อยู่ของผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านสุขภาพ โดย อสม. 1 คน จะรับผิดชอบดูแลผู้สูงอายุ 4 – 5 คน มีการลงพื้นที่เยี่ยมผู้สูงอายุทุกเดือน รวมทั้งลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ รพสต.ในชุมชนส าหรับกลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุประสบปัญหาป่วยติดเตียงที่ยังมีบุตรหลานคอยดูแล นอกจากนี้ อสม. ยังร่วมกับชมรมผู้สูงอายุในการจัดท าข้อเสนอโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณจาก สปสช. ซึ่งได้รับงบประมาณสนับสนุนทุกปี เนื่องจากคณะกรรมการของ สปสช. ให้ความส าคัญและมีการอนุมัติ โครงการเกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพ การขับเคลื่อนการด าเนินกิจกรรมของชมรมผู้สูงอายุจึงด าเนินไปได้อย่าง ต่อเนื่อง แต่ต้องหยุดชะงักไปเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (3) การด าเนินงาน ด้านผู้สูงอายุโดยบทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งมีการด าเนินกิจกรรมการจัดประชาคมที่อาศัยการ มีส่วนร่วมของประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยมีการส ารวจสภาพปัญหา ความต้องการ พร้อมทั้งแจ้งข้อมูล สิทธิประโยชน์ส าหรับผู้สูงอายุ การขับเคลื่อนการด าเนินงานโครงการ/กิจกรรม เช่น โครงการเกี่ยวกับการ อบรมให้ความรู้ด้านสุขภาพ โดยวิทยากรที่เป็นเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการมีทั้ง ผู้สูงอายุ และผู้ที่ท าหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุ โครงการส่งเสริมการออกก าลังกายในกลุ่มผู้สูงอายุ กิจกรรมกีฬา สัมพันธ์ที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในการแข่งขันกีฬาร่วมกัน โครงการส่งเสริมอาชีพ เช่น การ ปลูกผักสวนครัว การท าปุ๋ยหมัก การท าดอกไม้จันทน์ กิจกรรมการท าบุญตามประเพณี เช่น ท าบุญเดือนสิบ และกิจกรรมเฉพาะของพื้นที่คือ การท าบุญป่าช้าในเดือนเมษายนของทุกปี


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 79 78 สมาชิก 4 “ผู้สูงอายุใช้ไลน์ได้ส่วนน้อย รู้ข่าวจากลูกหลาน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. อสม.” สมาชิก 6 “อสม. จะมีข้อมูลผู้สูงอายุอยู่บ้านหลังไหน เจ็บป่วยด้วยโรคอะไร อสม. 1 คน ดูแล ผู้สูงอายุ 4 – 5 คน ลงพื้นที่เยี่ยมทุกเดือน บางครั้ง อสม. ลงกับเจ้าหน้าที่อนามัยในกลุ่มที่ติดเตียง มีลูกหลานดูแล” สมาชิก 4 “ชมรมผู้สูงอายุ อสม. เขียนโครงการขอรับงบสนับสนุนจาก สปสช. ได้งบทุกปี คณะกรรมการจะอนุมัติเรื่องดูแลสุขภาพ” สมาชิก 4 “มีชมรมผู้สูงอายุ มีกิจกรรม แต่ตอนนี้ต้องหยุดเพราะโควิด” สมาชิก 3 “อบต. มีลงพื้นที่ จัดประชาคม แจ้งข้อมูลสิทธิประโยชน์ ดูว่าผู้สูงอายุมีปัญหา/ ความต้องการอะไร” สมาชิก 6 “อบต. มีโครงการส่งเสริมสุขภาพ เชิญเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาให้ความรู้ คนที่ เข้าร่วมมีทั้งผู้สูงอายุและผู้ดูแล” สมาชิก 4 “อบต. ท าเป็นโครงการ เช่น ฝึกอาชีพ ผู้สูงอายุปลูกผัก การออกก าลังกายของ ผู้สูงอายุ เช่น บาร์สโลป เคยมีบังคับให้ทุกหมู่บ้านส่งผักเข้าประกวด” สมาชิก 4 “ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุกับผู้ดูแล/คนในครอบครัว ท ากิจกรรมร่วมกัน อย่างส่งเสริม อาชีพ ท าปุ๋ยหมัก ดอกไม้จันทน์ ท าบุญ น าปิ่นโตไปวัด” สมาชิก 3 “อบต. มีจัดกีฬา ผู้สูงอายุร่วม มีคนหนุ่มสาว วัยเด็ก เช่น ชักเย่อ ไปวัด ท าบุญ เดือนสิบ ช่วงเดือนเมษาท าบุญป่าช้า ลูกหลานต่างพื้นที่มาพร้อมกัน” นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของ ผู้สูงอายุในด้านของการสนับสนุนงบประมาณเพื่อช่วยเหลือแก้ไขปัญหา อุปกรณ์ที่จ าเป็นส าหรับผู้สูงอายุที่ ประสบปัญหาด้านสุขภาพ และโครงการส่งเสริมสุขภาพส าหรับผู้สูงอายุ ได้แก่ ส านักงานพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ซึ่งสนับสนุนงบประมาณซ่อมแซมบ้านให้กับผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาด้านที่อยู่อาศัย มีสภาพไม่เหมาะสม โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะท าหน้าที่ในการส ารวจและเสนอข้อมูลไปยังส านักงาน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามล าดับ ในส่วนของ โรงพยาบาลจะมีการสนับสนุนอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาด้านสุขภาพและจ าเป็นต้องใช้อุปกรณ์ เช่น เครื่องให้ออกซิเจน เตียง และรถเข็นที่ส่วนหนึ่งได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์ โดยเป็นการให้ความช่วยเหลือแบบให้ยืมในครอบครัวที่บุตรหลานไม่มีก าลังในการ จัดหาให้กับผู้สูงอายุ ใช้เงินเป็นหลักทรัพย์ในการประกันและให้คืนเมื่อมีการคืนอุปกรณ์ เช่น เครื่องให้ ออกซิเจน มีการให้ยืมโดยช าระเงินประกัน 1,000 บาท และโรงพยาบาลเองยังมีการด าเนินงานโครงการ ที่ เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุ เช่น การออกก าลังกาย การเลือกรับประทานอาหารอย่างถูกหลัก โภชนาการและเหมาะสมกับวัยสูงอายุ สมาชิก 6 “อบต. ประสาน พมจ. ได้เงินซ่อมบ้านผู้สูงอายุ อบต.จะส ารวจ ส่งข้อมูลไป พมจ. ช่วยเหลือตามคิว ปี 64 บ้านคนพิการ 2 หลัง” สมาชิก 3 “โรงพยาบาลมีอุปกรณ์ช่วยเหลือ อสม.ไปแจ้ง มีครบ เตียง รถเข็น รถเข็น พม. ให้ ลูกหลานจัดให้เองที่มีก าลังซื้อ โรงพยาบาลมีให้ยืม เครื่องให้ออกซิเจน จ่ายเงินประกัน 1,000 เดียว คืนเงิน ให้เวลาส่งคืน”


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 80 79 สมาชิก 2 “โรงพยาบาลมีโครงการทุกปี โครงการดูแลผู้สูงอายุ เรื่องออกก าลังกาย เรื่อง อาหารส าหรับผู้สูงอายุ” 4.2.2 กำรสนทนำกลุ่มโดยกลุ่มเป้ำหมำยเป็นตัวแทนองค์กร/หน่วยงำนที่เกี่ยวข้องกับกำรด ำเนินงำน ด้ำนผู้สูงอำยุในพื้นที่ ได้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.), ศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน (ศพค.), ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ (ศพอส.) และหน่วยงานด้านการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ด าเนินการในพื้นที่เมืองสะเดา อ าเภอสะเดา จังหวัดสงขลา มีรายละเอียดส าคัญ ดังนี้ 1) สถานการณ์เกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ และสภาพปัญหาของผู้สูงอายุในชุมชนท้องถิ่นในปัจจุบัน สถานการณ์เกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุ : สัดส่วนของประชากรสูงอายุในพื้นที่ ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณร้อยละ 20 และคาดว่าในอนาคตมีแนวโน้มจะถึงร้อยละ 30 อาชีพหลักของผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่คือการท าสวนยางพารา บางส่วนประกอบธุรกิจ ลักษณะของครอบครัวส่วนใหญ่ผู้สูงอายุจะอาศัย อยู่ร่วมกับสมาชิกในครอบครัว มีส่วนน้อยที่ต้องอาศัยอยู่ตามล าพัง ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่กับครอบครัวจะได้รับ การดูแลจากบุตรหลานเป็นอย่างดีในเรื่องของชีวิตความเป็นอยู่ และสภาพจิตใจ โดยพบว่า ผู้สูงอายุที่อาศัย อยู่ร่วมกับบุตรหลานจะมีทัศนคติที่ดี และให้ความร่วมมือในกิจกรรมต่างๆ เป็นอย่างดี สภาพปัญหาของผู้สูงอายุ : สภาพปัญหาหลักของผู้สูงอายุในพื้นที่จะเกี่ยวข้องกับปัญหา สุขภาพจากการเสื่อมสภาพของร่างกายที่เป็นไปตามวัย ท าให้ผู้สูงอายุมีโรคประจ าตัว เช่น โรคเบาหวาน ความดัน อัมพฤกษ์ อัมพาต และโรคที่เริ่มเกิดขึ้นในกลุ่มผู้สูงอายุคือ โรคอัลไซเมอร์ ซึ่งควรมีการคัดกรองอย่างเป็นระบบ เพื่อป้องกันการเกิดโรคดังกล่าวในกลุ่มของผู้สูงอายุ ส าหรับผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยอย่างหนักมีจ านวนน้อยกว่า 10 คน คนที่ท าหน้าที่ดูแลคือบุตรหลาน และญาติ ในกลุ่มนี้มีผู้สูงอายุที่ควรได้รับความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน คือ ผู้สูงอายุพิการ ซึ่งประสบปัญหาความยากล าบากเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่ไม่เพียงพอ หน่วยงานสามารถที่จะให้ ความช่วยเหลือได้เพียงครั้งคราวแบบไม่ต่อเนื่อง และผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ตามล าพังจะประสบปัญหาเกี่ยวกับ ความเป็นอยู่ที่ยากล าบาก มีเพียงรายได้จากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุซึ่งไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย แต่ยังได้รับความ ช่วยเหลือดูแลจากเพื่อนบ้าน ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 2 “ผู้สูงอายุในพื้นที่ประมาณ 20% ต่อไปน่าจะเกือบๆ 30” “ส่วนใหญ่อยู่กับครอบครัว ที่อยู่โดดเดี่ยวไม่มาก” ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 4 “ผู้สูงอายุมีอาชีพหลักท าสวนยางพารา เจ้าของธุรกิจก็เยอะ ลูกหลาน มีคุณภาพ ดูแลดี มีฐานะ ที่รายได้ไม่เพียงพอมีบ้าง แต่ส่วนน้อย” ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 9 “คนที่ลูกหลานอยู่ด้วยมีทัศนคติที่ดี ให้ความร่วมมือดีในกิจกรรม ไม่ เกิดภาวะซึมเศร้า ไม่มีเอาปัญหาสังคมมาเป็นปมด้อย” ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 4 “ปัญหาสุขภาพ มีโรคประจ าตัว ความดัน เบาหวาน อัมพาต อัมพฤกษ์ อัลไซเมอร์เยอะช่วงนี้ สาเหตุจากอายุ ความเครียด การคัดกรองในตอนนี้ยังไม่เป็นระบบเท่าที่ควร ไม่แน่ใจว่าต้อง ส่งต่อไปที่ไหน กรมสุขภาพจิตต้องดูแล สาธารณสุขยังไม่ชัดเจน ไม่แจ้งมายังพื้นที่ พื้นที่ต้องท ายังไง การท างาน ยังไม่บูฯ กัน” ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 9 “คนที่ป่วยมากไม่ถึง 10 ราย มีลูกหลาน มีญาติดูแล” ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 4 “มีกลุ่มผู้สูงอายุที่ควรช่วยเหลือเร่งด่วน ไม่มากแต่พอมี เป็นผู้สูงอายุที่ พิการ การช่วยเหลือท าได้เป็นครั้งคราว น่าจะดูแลเค้าพิเศษ เบี้ยที่ให้ไม่พอ ค่าเช่าบ้านไม่มี”


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 81 80 ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 5 “จากที่ท ากิจกรรมอบรม ส่งเสริมอาชีพ พบผู้สูงอายุถูกทิ้งไว้ให้อยู่ถิ่น ก าเนิด มีแค่เบี้ยยังชีพ กับปลูกผักกินเอง มีเพื่อนบ้านคอยช่วยเหลือ ความเป็นอยู่ล าบาก” 2) บทบาทของผู้สูงอายุ และลักษณะความสัมพันธ์กับสมาชิกในครอบครัว ลักษณะของความสัมพันธ์ระหว่างผู้สูงอายุกับสมาชิกในครอบครัว : ความสัมพันธ์จะเป็นไป ในลักษณะที่ค่อนข้างมีความผูกพันใกล้ชิด โดยผู้สูงอายุจะมีบุตรหลานคอยดูแลเกี่ยวกับการด าเนิน ชีวิตประจ าวัน ขณะเดียวกันบุตรหลานจะได้รับการดูแลจากผู้สูงอายุเกี่ยวกับความเป็นอยู่ภายในบ้าน ผู้สูงอายุ บางส่วนที่อยู่ตามล าพังจะมีญาติคอยดูแล หรือหากเป็นผู้สูงอายุจากต่างถิ่นที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อย่างยาวนาน โดยไม่มีญาติพี่น้อง จะมีเพื่อนบ้านท าหน้าที่คอยช่วยเหลือดูแลตามความจ าเป็นในชีวิต ปัญหาความขัดแย้ง ในครอบครัวมีเพียงเล็กน้อยแต่ไม่ถึงระดับที ่เรียกว ่าเป็นปัญหาความรุนแรงในครอบครัว นอกจากนี้ สมาชิกทุกช่วงวัยในครอบครัวยังมีการท ากิจกรรมร่วมกัน ทั้งกิจกรรมสาธารณประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับการ พัฒนาชุมชนท้องถิ่น กีฬาชุมชนที่สนับสนุนให้คนทุกช่วงวัยมีส่วนร่วม กิจกรรมสานสัมพันธ์สายใยคนใน ครอบครัว การส่งเสริมครอบครัวต้นแบบ บทบาทของผู้สูงอายุ : ผู้สูงอายุจะมีบทบาทเกี่ยวกับการดูแลความเป็นอยู่ของสมาชิกภายใน บ้าน และในส่วนของผู้สูงอายุเองยังมีศักยภาพในการท ากิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม เช่น การเป็น อาสาสมัครสาธารณสุขประจ าหมู่บ้าน (อสม.) การเป็นคณะกรรมการของศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน (ศพค.) ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 3 “ความสัมพันธ์ในครอบครัวดี ลูกออกไปท างานหาเลี้ยงพ่อแม่ ลูกไป ท างาน แม่ท ากับข้าวรอ” ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 9 “มีความสัมพันธ์อันดี มีลูกหลานคอยดูแล คนที่อยู่คนเดียวมีญาติดูแล มีบ้างที่ลูกหลานติดยาแต่ไม่ถึงกับมีการทะเลาะขั้นรุนแรง คนที่อยู่ล าพังส่วนใหญ่มาจากต่างภาค อยู่ตั้งแต่ หนุ่มสาว อยู่ยาวจนเหลือตัวคนเดียว มีเพื่อนบ้านคอยดูแล พาไปตลาด ไป รพสต.” “กิจกรรมร่วมระหว่างคนในครอบครัว เป็นกิจกรรมสาธารณประโยชน์ การพัฒนา ร่วมปลูกต้นไม้ ออกก าลังกาย กีฬาชุมชนที่ผู้สูงอายุ เด็ก ร่วมได้ มีกิจกรรมที่เด็กต้องร่วมกับผู้สูงอายุ คือกิจกรรมสานสัมพันธ์ สายใยคนในครอบครัวที่คน 3 วัยเข้าร่วม ท ากิจกรรมเสริมสร้างครอบครัว คัดเลือกครอบครัวต้นแบบที่เป็น ครอบครัวตัวอย่างให้กับครอบครัวอื่นๆ ในชุมชน ผู้สูงอายุท าประโยชน์ เป็น อสม. ด้วยองค์ความรู้ ประสบการณ์ กรรมการ ศพค. แทบจะทุกกิจกรรมที่ผู้สูงอายุมีส่วนร่วม” 3) การด าเนินกิจกรรมเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การด าเนินกิจกรรมเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้กับผู้สูงอายุในชุมชนท้องถิ่นของหน่วยงาน ต่างๆ มีทั้งการสนับสนุนให้ผู้สูงอายุท าหน้าที่ในการขับเคลื่อนกิจกรรม ทั้งในรูปแบบของโรงเรียนผู้สูงอายุ ชมรมผู้สูงอายุ ซึ่งมีอยู่อย่างครอบคลุมเกือบทุกพื้นที่ โดยมีกิจกรรมที่ส าคัญ ประกอบด้วย การพัฒนาศักยภาพ ผู้สูงอายุผ่านการให้ความรู้จากวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อให้ผู้สูงอายุมีความรู้เกี่ยวกับการดูแลตนเอง อย่างครบถ้วนทุกมิติ กิจกรรมการออกก าลังกาย เช่น ไทเก๊ก แอโรบิก ขี่จักรยาน การท่องเที่ยวพบปะสังสรรค์ รวมถึงกิจกรรมในลักษณะ “เพื่อนช่วยเพื่อน” โดยผู้สูงอายุที่มีความพร้อมและมีศักยภาพ เช่น ข้าราชการที่ เกษียณอายุ จะท าหน้าที่เป็นจิตอาสาในการดูแลผู้สูงอายุที่ต้องการความช่วยเหลือ กิจกรรมต่างๆ ที่ก าหนดขึ้น ผู้ที่มีส่วนร่วมไม่ได้มีเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคนที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป เพื่อเป็นการเตรียมความ พร้อมก่อนเข้าสู่วัยสูงอายุ การด าเนินกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้หลายกิจกรรมมีการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง ส่งผล


โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 82 81 ให้ผู้สูงอายุมีความรู้เกี่ยวกับการดูแลตนเอง มีสุขภาวะที่ดีทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม นอกจากตัวของผู้สูงอายุเองแล้ว กลไกส าคัญที่เป็น “ผู้ช่วย” ในการดูแลช่วยเหลือผู้สูงอายุคือ อสม.ที่ รับผิดชอบดูแลพื้นที่ทั้ง 13 ชุมชน โดยมีการประสานงานผ่านช่องทางไลน์ กลุ่ม อสม. ในพื้นที่จะมีการส ารวจ สภาพปัญหาและให้การช่วยเหลือเบื้องต้นในกรณีที่สามารถรวมตัวกันช่วยเหลือแก้ไขปัญหาได้ เช่น การรวมตัว กันเพื่อช่วยท าความสะอาดบ้านให้กับผู้สูงอายุที่มีสภาพไม่เหมาะสมต่อการพักอาศัย เนื่องจากผู้สูงอายุมี ร่างกายไม่พร้อม ไม่สามารถที่จะจัดการเองได้ โดยมีการท าความสะอาดพร้อมปรับสภาพบ้านให้ถูกสุขลักษณะ มากขึ้น เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นต่อผู้สูงอายุ การรวมตัวกันของ อสม. ซึ่งเป็นภาคประชาชนดังกล่าว ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และในกรณีที่ อสม. ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับผู้สูงอายุ ได้ จะมีการประสานงานไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือประสานงานต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ความช่วยเหลือตามสภาพปัญหา กลุ่ม/องค์กรในชุมชนที่มีการรวมตัวเพื่อประกอบอาชีพเป็นอีกหนึ่ง กลไกที่มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้สูงอายุเช่นเดียวกัน โดยเป็นกลุ่ม/องค์กรที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ จากกองทุน SME ของรัฐบาล และมีการด าเนินงานอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน กลุ่ม/องค์กรดังกล่าวมีการ จัดสรรเงินรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายมาจัดตั้งกองทุนสงเคราะห์ช่วยเหลือคนในชุมชน ภายใต้ชื่อ “กองทุนแม่ของ แผ่นดิน” เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาในชุมชน โดยในส่วนของผู้สูงอายุจะมีการให้ความช่วยเหลือในรูปแบบ ของเงินสงเคราะห์เป็นครั้งคราวตามสภาพปัญหาความเดือดร้อน และการให้เงินค่าจัดการศพรายละ 2,000 บาท ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 2 “โรงเรียนผู้สูงอายุ อยู่ในส่วนหนึ่งของ ศพอส. ส่วนหนึ่งของเทศบาล มีพัฒนาศักยภาพ มีวิทยากรให้ความรู้ทั้ง 5 มิติ ทุกคนที่ยังไม่พัฒนาจะดีขึ้น มีความเข้มแข็งด้านร่างกายและ จิตใจมากขึ้น แต่พอมีโควิดเข้ามาก็หยุดไป เริ่มตั้งแต่ปี 60 คนที่เข้าร่วมอายุเริ่มตั้งแต่ 55 ปี เป็นการเตรียม ความพร้อม แล้วก็เป็นพี่เลี้ยงดูแลผู้สูงอายุ” ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 3 “โรงเรียนผู้สูงอายุ มีข้อมูลสมาชิก มีกิจกรรมสนับสนุนอาชีพของ นักเรียนในโรงเรียน” ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 3 “ผู้สูงอายุในพื้นที่ มีชมรมผู้สูงอายุเกือบทุกต าบล มีกิจกรรมที่ปฏิบัติ อย่างต่อเนื่อง ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 2 “ชมรมไทเก๊ก มีการออกก าลังกายทุกวันตอนเช้า โรงเรียนผู้สูงอายุเข้า ร่วมอาทิตย์ละครั้ง ต่อเนื่องมา 10 กว่าปี ผู้สูงอายุมีความสุข มีความสดใส ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 3 “กิจกรรมช่วยผู้สูงอายุได้เยอะ มีกิจกรรมกลุ่มออกก าลังกาย แอโรบิก ขี่จักรยานผู้สูงอายุ พบปะ ท่องเที่ยวบ้างเป็นบางโอกาส ผู้สูงอายุมีความสุข สดชื่น” ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 1 “ข้าราชการเกษียณ ครูเกษียณ มีจิตอาสาในการดูแลผู้สูงอายุ เป็นคน ที่มีความพร้อม มีความรู้ ครูเกษียณช่วยได้” ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 12 “มี อสม.ชุมชน ดูแลทั้ง 13 ชุมชนโดยเฉพาะ มี line ในการ ประสานงาน ถ้า อสม. แก้ไขปัญหาไม่ได้ เทศบาลลงไปดู ถ้าช่วยไม่ได้ ประสานโรงพยาบาล มีการลงพื้นที่ ชุมชน ฉีดวัคซีน” ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 9 “อสม.ชุมชนยังร่วมกันช่วยเหลือผู้สูงอายุที่สภาพบ้านรกรุงรัง เพราะ ร่างกายไม่พร้อม รวมตัวกันท าความสะอาดบ้าน 2 หลัง ชาวบ้านที่มีจิตอาสาตั้งกลุ่มกันเอง รวมตัวกันที่ เทศบาล 20 กว่าคน ปัดกวาดเช็ดถู ปรับสภาพบ้านให้ถูกสุขลักษณะมากขึ้น เดินไม่ชน ไม่ล้ม มีผู้สูงอายุที่อยู่


Click to View FlipBook Version