โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 83 82 คนเดียว อาศัยเพื่อนบ้านที่ให้อยู่ไม่คิดค่าเช่า ช่วยกันท าความสะอาด เป็นการรวมตัวของภาคประชาชน โดย เทศบาลสนับสนุน” ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 4 “รัฐบาลก่อนให้ทุน SME โครงการตลาดชุมชน ท าจนถึงวันนี้ เอา รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายมาเป็นทุนสงเคราะห์ในชุมชน ทุกกรณีที่คนในชุมชนเสีย ให้ค่าท าศพ 2,000 จาก กองทุนแม่ของแผ่นดิน พบคนติดยาต้องบ าบัด ให้ค่ารถ ค่าอาหาร ผู้สูงอายุที่มีความเดือดร้อนช่วยเหลือเป็น ครั้งคราว ตอนนี้ยังมีเงินพอใช้จ่าย การศึกษาของเด็กล าบาก พ่อแม่ยากจน เดือดร้อนจริงๆ เป็นประธาน สหกรณ์ พยายามจะมองทุกมิติที่ช่วยได้ คนที่จนจริงเซ็นต์สละหนี้ให้ได้” ขณะเดียวกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการด าเนินกิจกรรมในการสนับสนุนให้ผู้สูงอายุมี คุณภาพชีวิตที่ดีควบคู่กันไป โดยบทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นคือ การให้ข้อมูลข่าวสารส าคัญที่ ผู้สูงอายุควรรับรู้เพื่อการปรับตัวและรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ได้แก่ สถานการณ์การแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) การอบรมพัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆ การส่งเสริมอาชีพ/การรวมกลุ่มอาชีพ การเก็บรวบรวมข้อมูลผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาความยากล าบาก เช่น ผู้สูงอายุพิการ ผู้สูงอายุป่วยติดเตียง และ ผู้สูงอายุที่บุตรหลานไม่ให้การดูแลเอาใจใส่เท่าที่ควร เพื่อเป็นฐานข้อมูลส าหรับด าเนินการให้ความช่วยเหลือ โดยความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ การจัดตั้งกลุ่มสัจจะออมทรัพย์เพื่อให้มีทุนส าหรับจัดซื้ออุปกรณ์ที่จ าเป็น ส าหรับผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาด้านสุขภาพในครอบครัวที่ไม่มีความพร้อมด้านค่าใช้จ่าย การช่วยเหลือดูแล ปรับสภาพห้องน้ าบ้านผู้สูงอายุให้ถูกสุขลักษณะตามค าแนะน าของหน่วยงานด้านสาธารณสุข โดยผู้น าชุมชน อสม. และคนในชุมชนจะเป็นผู้ให้ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายที่ประสบปัญหาแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งจะมี การขึ้นทะเบียนและให้ความช่วยเหลือตามล าดับ การประสานงานกับส านักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุในด้านการปรับสภาพที่อยู่อาศัย และการสอบข้อเท็จจริงเพื่อ ช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาในชุมชน การประสานงานกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขเพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้สูงอายุ พิการ นอนติดเตียง การขึ้นทะเบียนคนพิการเพื่อให้ได้รับสวัสดิการด้านเบี้ยยังชีพ และหน่วยงานด้าน สาธารณสุขยังมีกลุ่ม CG และบริบาล ท าหน้าที่ช่วยเหลือผู้แลผู้สูงอายุที่ป่วยติดเตียงในเรื่องสุขลักษณะ การท า ความสะอาดร่างกาย และการรักษาบาดแผล โดยบริบาลจะมาให้บริการผู้สูงอายุที่บ้าน การจัดหาแว่นตา ส าหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านสายตาจากการสนับสนุนงบประมาณของ สปสช. โดยเป็นลักษณะความร่วมมือ ระหว่างหน่วยงาน นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนให้ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่บ้านตามล าพังในช่วงเวลากลางวันเข้า ร่วมกิจกรรมโดยมีรถรับ-ส่งตามเส้นทางต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคมและ ป้องกันไม่ให้กลายเป็นผู้สูงอายุติดบ้าน ซึ่งอาจน าไปสู่การเกิดภาวะซึมเศร้า รวมทั้งการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับ วัฒนธรรมประเพณีที่ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีส่วนร่วมอย่างสม่ าเสมอ หน่วยงาน กศน. มีการด าเนินกิจกรรมที่เน้น ในด้านของการพัฒนาให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งในด้านร่างกาย จิตใจ และความคิด ในลักษณะของการ ให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลรามาธิบดี การส่งเสริมการศึกษา ต่อเนื่องเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต การพัฒนาทักษะในการด าเนินชีวิต การพัฒนาทักษะอาชีพระยะสั้นที่ มีความยืดหยุ่นและเหมาะสมกับลักษณะความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุ เช่น การท ายาสมุนไพร อาชีพที่ผู้สูงอายุ สามารถท าได้ที่บ้าน เป็นต้น ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 9 “มีการ update ข้อมูล อาชีพ โควิด ส่งเสริมเรื่องรวมกลุ่มอาชีพ อบรม”
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 84 83 ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 4 “เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ ให้ผู้น าชุมชนส่งปัญหา เทศบาลจะเก็บข้อมูล ทั้ง เรื่องยากจน ที่อยู่อาศัย ผู้สูงอายุติดเตียง เก็บไว้ในทะเบียน จ าแนกตามสภาพปัญหา” ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 1 “มีฐานข้อมูลผู้สูงอายุที่ล าบากมากๆ ผู้พิการ ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุที่ ลูกหลานไม่ค่อยดูแล พอมีหน่วยงานติดต่อมาจะช่วยเหลือกลุ่มนี้” ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 9 “กลุ่มสัจจะวันละบาท สงเคราะห์เครื่องช่วยความพิการให้ผู้สูงอายุที่ พิการ ผู้ป่วย ในครอบครัวที่ไม่มีความพร้อมขอรับได้ มีการปรับสภาพบ้านให้ผู้สูงอายุ สาธารณสุขประสานงาน กับอนามัยให้ช่วยผู้สูงอายุนอนติดเตียง ประเมินความพิการ ขึ้นทะเบียนคนพิการ ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 4 “เรื่องสภาพบ้าน ขอรับการสนับสนุนจาก พมจ. ประสานงาน ท าบ้าน ให้ผู้สูงอายุ” ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 9 “การให้ความช่วยเหลือมีหลายหน่วยงาน เช่น กาชาด พมจ. ถ้าเจอ เคสที่ประสบปัญหา จะมีการประสานงาน พมจ. ท าแบบสอบเคส ลงมาช่วยเหลือ” ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 4 “สาธารณสุขแนะน าห้องน้ าให้มีราวจับ ชุมชนจะเป็นคนเสนอว่า เป้าหมายเป็นคนไหน เทศบาลท าตามระเบียบไปตามล าดับ ผู้น าชุมชน อสม. จะแจ้งมาที่กองสาธารณสุข กอง สวัสดิ์ฯ รวบรวมข้อมูล” ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 9 “CG บริบาล ช่วยผู้ป่วยติดเตียง อาบน้ าสระผม ท าแผล บริบาลมาท า ให้ที่บ้าน” ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 6 “ศพอส. กับเทศบาลใช้งบ สปสช. ในการจัดหาแว่นให้ผู้สูงอายุ” ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 9 “เทศบาลมีข้อมูลผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียวตอนกลางวัน จะมีรถไปรับ มาร่วมกิจกรรมผู้สูงอายุ มีรถเวียนไปรับ-ส่งตามเส้นทาง ช่วยบรรเทาความเหงา ให้เข้าสู่สังคม งบสนับสนุน จากบ้านท้องถิ่นไทยของเทศบาล ช่วยผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียว เอากิจกรรมไปจับเพื่อให้ออกสู่สังคม” ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 2 “กิจกรรมด้านวัฒนธรรม ปีใหม่ สงกรานต์ เข้าพรรษา ผู้สูงอายุเข้าร่วม สม่ าเสมอ” ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 6 “กศน. ส่งเสริมอาชีพ การศึกษาต่อเนื่อง อาชีพระยะสั้น ครูลงพื้นที่ ไปหาชาวบ้าน พูดคุยกัน การลงพื้นที่ท าให้ทราบว่าแต่ละบ้านแตกต่างกัน มีการพัฒนาทักษะคุณภาพชีวิต พัฒนาอาชีพ เช่น ท ายาสมุนไพร อาชีพที่ผู้สูงอายุท าได้ที่บ้าน มีกิจกรรมท าให้ไม่ฟุ้งซ่าน เน้นพัฒนา กาย จิต สมองผู้สูงอายุ มีการอบรมออนไลน์ที่มีคุณหมอของรามาธิบดีมาให้ความรู้เรื่องสุขภาพผู้สูงอายุ ความรู้สึก ปัญหาของผู้สูงอายุ” นอกจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งท างานในระดับพื้นที่แล้ว ยังมีหน่วยงานภาคเอกชนที่มีส่วนร่วมในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ เช่น สโมสร Lion และมูลนิธิอื่นๆ โดยการประสานงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชนจะมีการช่วยเหลือสนับสนุนด้านสิ่งของที่ จ าเป็นส าหรับการด าเนินชีวิต รวมทั้งสิ่งจ าเป็นส าหรับผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาความพิการ เช่น ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ (แพมเพิร์ส) กายอุปกรณ์ เป็นต้น ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 6 “มี Lion มูลนิธิต่างๆ ร่วมบริจาคสิ่งของ แพมเพิร์ส กายอุปกรณ์” ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 6 “ภาคสังคม Lion ต้องไปคุยรายละเอียด ภาครัฐช่วยได้ไม่เพียงพอ ต้อง หาจากข้างนอกมาช่วย”
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 85 84 4) ปัจจัยที ่ช่วยหนุนเสริมและปัจจัยที่เป็นปัญหาอุปสรรคต่อการด าเนินงานด้านการส่งเสริม คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ปัจจัยส าคัญในการสนับสนุนให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี ประกอบด้วย (1) การด าเนินงานของกลไกภาคีเครือข่ายในชุมชนท้องถิ่น เช่น โรงเรียนผู้สูงอายุที่มีการ สนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ส าหรับผู้สูงอายุ การให้ความช่วยเหลือสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ กลไกของ เครือข่าย และจิตอาสาในชุมชนท้องถิ่นที่มีความพร้อมในการช่วยเหลือสนับสนุนให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี (2) หน่วยงานที่มีบทบาทส าคัญและมีความใกล้ชิดกับผู้สูงอายุมากที่สุดคือ องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นที่มีการสนับสนุนงบประมาณส าหรับการด าเนินกิจกรรมต่างๆ อย่างหลากหลาย และมีการ ประสานงานกับหน่วยงานภายนอกเพื่อสนับสนุนกิจกรรม รวมทั้งให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาใน การด ารงชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจให้กับผู้สูงอายุ สร้างความรู้สึกมี คุณค่าและมีความสุข (3) หน่วยงานภาครัฐที่มีภารกิจเกี่ยวข้องกับการด าเนินงานในพื้นที่ซึ่งมีบทบาทส าคัญในการ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุผ่านการด าเนินกิจกรรมต่างๆ (4) การด าเนินงานของหน่วยงาน ภาคีเครือข่าย และจิตอาสาต่างๆ ที่เป็นไปอย่างประสานสอดคล้อง สนับสนุนซึ่งกันและกัน ท าให้การส่งเสริมคุณภาพชีวิต ของผู้สูงอายุในชุมชนท้องถิ่นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 3 “การให้ขวัญก าลังใจ ผู้สูงอายุต้องการมาก ได้รับความช่วยเหลือจาก หน่วยงานต่างๆ เทศบาลสนับสนุนงบ กศน.ช่วยเหลือ ท าให้ผู้สูงอายุมีกิจกรรม ช่วยเรื่องสุขภาพกาย สุขภาพจิต ท าให้มีความสุข โรงเรียนผู้สูงอายุมีนักเรียนเยอะ มีกิจกรรมเยอะ งบเยอะ ผู้สูงอายุต้องการท า กิจกรรม เทศบาลให้ก าลังใจ เยี่ยมเยียน” ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 1 “งบประมาณ เทศบาลมีงบสนับสนุนให้ความช่วยเหลือ ส่วนใหญ่ได้ จาก สปสช. ภาษีต่างๆ ไม่ค่อยเข้า” ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 9 “เครือข่าย สัมพันธ์กันหมด กศน.ท ากิจกรรม ต้องประสานเทศบาลให้ ช่วยเลือกพื้นที่ เลือกกลุ่มเป้าหมาย มีข้อมูลก าลังคน กลุ่มไหน ร่วมกิจกรรมแบบไหน” ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 5 “ไม่มีอุปสรรค การช่วยเหลือหลากหลายอาชีพ จิตอาสามีความพร้อม และต้องการช่วยเหลือผู้สูงอายุ” อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุจะด าเนินไปได้อย่างมี ประสิทธิภาพ โดยช่วยให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพร่างกาย จิตใจที่ดี และมีความสุขในการด าเนินชีวิต แต่ยังมีปัจจัย บางประการที่เป็นข้อจ ากัด/อุปสรรคที่ท าให้การช่วยเหลือดูแลและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุยังไม่ ครอบคลุมทั่วถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย จ าเป็นต้องมีการปรับปรุง/พัฒนา เพื่อให้การช่วยเหลือ แก้ไขปัญหา และ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุเป็นไปอย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ปัจจัยที่เป็นข้อจ ากัด/อุปสรรคในการด าเนินงาน ได้แก่ (1) จ านวนบุคลากรที่มีทักษะความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะในการดูแลผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือ ตนเองไม่ได้ ป่วยติดเตียง มีจ านวนน้อย ไม่เพียงพอต่อจ านวนผู้สูงอายุที่ประสบปัญหา ท าให้การดูแลไม่ สามารถท าได้อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะในกลุ่มที่ประสบปัญหาซ้ าซ้อน ต้องใช้ระยะเวลานานในการบ าบัดดูแล
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 86 85 (2) ระบบสาธารณสุข กระบวนการในการคัดกรองและส่งต่อผู้สูงอายุที่เจ็บป่วยไม่มีความชัดเจน ขาดการบูรณาการอย่างเป็นระบบ ส่งผลต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในระดับปฏิบัติ ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 9 “จ านวนบุคลากรที่รับผิดชอบไม่เพียงพอ เช่น บริบาลผู้สูงอายุ ดูแลได้ ไม่ทั่วถึง” ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 9 “ผู้สูงอายุในเขตเทศบาลติดเตียง ติดบ้านเยอะ บริบาลมีแค่ 2 คน ไม่ พอ คนติดเตียงมีมาก ช่วยเหลือไม่ไหว บางรายมีปัญหาซ้ าซ้อน ต้องใช้เวลาดูแลเยอะ ถ้าติดเตียงปกติ แค่ออก ก าลังกาย ใช้เวลาไม่เยอะ ประมาณ 1 ชั่วโมงต่อคน” ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 4 “การคัดกรองในตอนนี้ยังไม่เป็นระบบเท่าที่ควร ไม่แน่ใจว่าต้องส่งต่อไปที่ ไหน กรมสุขภาพจิตต้องดูแล สาธารณสุขยังไม่ชัดเจน ไม่แจ้งมายังพื้นที่ พื้นที่ต้องท ายังไง การท างานยังไม่บูฯ กัน” 5) ข้อเสนอแนะแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัย การมีส่วนร่วมของครอบครัวและชุมชนท้องถิ่น ข้อเสนอแนะแนวทางเพิ่มเติมในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุให้เป็นไปอย่างมี ประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการสนับสนุนของหน่วยงานภาครัฐระดับสูง หรือภาคส่วนอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อหนุน เสริมให้ครอบครัวของผู้สูงอายุและชุมชนท้องถิ่นสามารถช่วยเหลือดูแล ตลอดจนส่งเสริมให้ผู้สูงอายุในพื้นที่มี คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ได้แก่ (1) การให้ความช่วยเหลือครอบครัวที่มีผู้สูงอายุป่วยติดเตียง แต่บุตรหลานไม่สามารถดูแล ได้ด้วยตนเอง และไม่มีก าลังความสามารถในการรับภาระค่าใช้จ่ายเพื่อจ้างพยาบาล หรือบริบาลมาให้การ ช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุ และในครอบครัวอีกประเภทคือ ผู้สูงอายุที่อายุมากต้องดูแลบุตรที่มีความพิการทาง สติปัญญา ซึ่งบางครอบครัวบุตรอยู่ในวัยสูงอายุเช่นกัน ผู้สูงอายุจะประสบปัญหาความยากล าบากในการดูแล บุตรที่มีสภาพร่างกายไม่ปกติ และมีภาระค่าใช้จ่ายสูงกว่ารายได้ในครอบครัว หน่วยงานภาครัฐควรมีมาตรการ ในการช่วยเหลือดูแลครอบครัวที่ประสบปัญหาดังกล่าว (2) ผู้สูงอายุที่ต้องอยู่ตามล าพัง/อยู่กับคู่สมรส/ไม่มีลูกหลาน หรือคนดูแลแม้ว่าอาจจะมีส่วน น้อยในปัจจุบัน แต่ในอนาคตหากผู้สูงอายุกลุ่มนี้เพิ่มจ านวนมากขึ้น และอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถช่วยเหลือ ตนเองได้ หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องจ าเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมด้านมาตรการรองรับ ทั้งในส่วนของ สถานรองรับและดูแลผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ โดยมีเจ้าหน้าที่ที่มีทักษะความรู้ท าหน้าที่ดูแล ผู้สูงอายุอย่างเพียงพอและเหมาะสม (3) การสนับสนุนงบประมาณในการจัดตั้งศูนย์ดูแลผู้สูงอายุระดับอ าเภอๆ ละ 1 แห่ง เพื่อ บรรเทาปัญหาและกระจายการช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุสู่ระดับพื้นที่ (4) สนับสนุนให้มีการจัดตั้งศูนย์ดูแลผู้สูงอายุช่วงเวลากลางวัน (Day Care) อยู่ในทุกๆ ชุมชน โดยมีพยาบาลหรือจิตอาสาท าหน้าที่ในการดูแล (5) การจัดรถรับส่งผู้สูงอายุแบบเช้าไปเย็นกลับเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม (6) การจัดสรรงบประมาณด้านการช่วยเหลือดูแลและส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุให้เพิ่ม มากขึ้น โดยเฉพาะงบประมาณด้านการดูแลสุขภาพ การจัดสรรยารักษาโรคที่จ าเป็นและมีคุณภาพให้เป็น สวัสดิการส าหรับผู้สูงอายุแบบไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม รวมทั้งมีกระบวนการขั้นตอนในการเบิกจ่ายยาที่ไม่ยุ่งยาก ซับซ้อน ผู้สูงอายุสามารถเข้าถึงยารักษาโรคและได้รับการรักษาโดยเร็ว
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 87 86 ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 6 “กลุ่มคนที่พิการ ผู้สูงอายุติดเตียง คนที่พิการทางสติปัญญาที่พ่อแม่ สูงอายุต้องดูแล อยากให้หน่วยงานรัฐให้ความช่วยเหลือ ผู้สูงอายุติดเตียง ถ้าลูกหลานไม่มีก าลังจ้างพยาบาล บริบาล” ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 9 “ผู้สูงอายุที่ไม่มีคนดูแลมีส่วนน้อย เราเข้าไปดูแลบ้าง พร้อมเบี้ย ถ้า ดูแลตัวเองไม่ได้ ภาครัฐช่วยอย่างไร สถานสงเคราะห์มีเงื่อนไขผู้สูงอายุต้องช่วยตัวเองได้ ถ้าไม่มีลูกหลานท า อย่างไร ภาระตกอยู่กับใคร บางทีอยู่ที่โรงพยาบาลจนหมดลมหายใจ อยากให้มีภาคส่วนในการสนับสนุน” ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 9 “เรื่องถูกกระท าในครอบครัวไม่มี ในระยะยาวต่อไปถ้าต้องอยู่ตามล าพัง หรืออยู่ 2 คน ไม่มีลูกหลาน สังคมต้องช่วยกัน ไม่มีหน่วยงานรองรับ สถานรองรับที่มีอยู่ก็มีเงื่อนไขว่าผู้สูงอายุ ต้องช่วยเหลือตัวเองได้ มีเคสที่คนอายุ 50 กว่าพิการไม่มีคนเลี้ยงดู เพราะคนที่เลี้ยงดูอยู่เดิมคือพ่อแม่อายุ 80 กว่าก็ดูแลไม่ไหว ท้องถิ่นยังไม่มีสถานที่ ไม่มีงบรองรับ” ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 1 “ผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น สังคมผู้สูงอายุ รัฐควรจัดสรรงบตั้งศูนย์ดูแล ผู้สูงอายุอ าเภอละแห่ง บรรเทาปัญหา” ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 2 “อยากให้มีศูนย์ day care ทุกชุมชน ดูแลผู้สูงอายุที่ไม่มีคนดูแลตอน กลางวัน จ้างพยาบาลหรือจิตอาสาคอยดูแล มีรถรับส่ง” ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 9 “มีปัญหาเคยจะจัดตั้ง แต่ไม่ได้ด าเนินการ งบไม่พอ เปลี่ยนตาม นโยบาย พอผู้บริหารเปลี่ยนก็หยุดชะงัก นโยบายไม่ต่อเนื่อง” ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 8 “งบด้านสุขภาพยังไม่เพียงพอ ยาที่จ าเป็นต้องใช้ ต้องจ่ายเอง งบมี ขอบเขตจ ากัด เบิกยาก กว่าจะถึงผู้สูงอายุ อยากให้ถึงผู้สูงอายุง่ายๆ หน่อย” ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมส าหรับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโดยการมีส่วนร่วมของ ชุมชนท้องถิ่นคือ การสร้างอาชีพ สร้างรายได้เพิ่มให้คนในชุมชน เพื่อให้มีเงินเป็นกองทุนชุมชนในการ สงเคราะห์ช่วยเหลือผู้สูงอายุ รวมทั้งผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีอื่นๆ เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตัวแทนผู้เกี่ยวข้อง 4 “ทุกๆ ชุมชนมีแนวคิดในการสร้างรายได้ให้ชุมชน ช่วยให้คน ประกอบอาชีพ มีรายได้ ช่วยเหลือผู้สูงอายุ คนพิการ ทุกๆ วันศุกร์จะให้ผู้สูงอายุฟังธรรม (ก่อนโควิด) ช่วยให้มี ความสุขกับชีวิต” 4.2.3 ข้อมูลจำกกำรสนทนำกลุ่มกับกลุ่มเป้ำหมำยทั้ง 2 กลุ่มใน 2 พื้นที่ สำมำรถประมวลผล วิเครำะห์ ข้อมูล และสรุปประเด็นได้ดังนี้ 1) สถานการณ์ สภาพปัญหา ลักษณะความเป็นอยู่และความสัมพันธ์ในครอบครัวระหว่าง ผู้สูงอายุกับสมาชิกในครอบครัวและชุมชน ลักษณะความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุ : สัดส่วนของประชากรสูงอายุในชุมชนท้องถิ่นมีแนวโน้ม ที่เพิ่มสูงขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของประชากร ลักษณะความเป็นอยู่ส่วนใหญ่ผู้สูงอายุจะอาศัยอยู่ ร่วมกับสมาชิกในครอบครัว โดยบางส่วนอยู่ร่วมกันในบ้านหลังเดียวกัน ขณะที่บางส่วนซึ่งน่าจะนับได้ว่าเป็น ส่วนใหญ่มีการแยกที่อยู่อาศัยออกมา แต่ยังคงอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับบ้านของบุตรหลาน ลักษณะความสัมพันธ์ภายในครอบครัว : ความสัมพันธ์ระหว่างผู้สูงอายุกับสมาชิกใน ครอบครัวค่อนข้างมีความผูกพันใกล้ชิด และผู้สูงอายุได้รับการดูแลเอาใจใส่จากบุตรหลานเป็นอย่างดีทั้งใน ด้านของชีวิตความเป็นอยู่ เช่น การดูแลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการด าเนินชีวิต การดูแลด้านสุขภาพ/ตรวจตาม
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 88 87 แพทย์นัด/ตรวจสุขภาพประจ าปี/เข้ารับการรักษาพยาบาล ตลอดจนการดูแลด้านสภาพจิตใจที่ส่งผลต่อภาวะ สุขภาพของผู้สูงอายุส าหรับผู้สูงอายุที่ไม่มีบุตรหลานคอยช่วยเหลือดูแล จะมีญาติ หรือเพื่อนบ้านท าหน้าที่ให้ ความช่วยเหลือตามความจ าเป็นในชีวิตโดยไม่ถูกทอดทิ้งให้อยู่อย่างโดดเดี่ยว ลักษณะความสัมพันธ์ดังกล่าวมี ความคล้ายคลึงกันทั้ง 2 พื้นที่ สถานการณ์ด้านผู้สูงอายุในชุมชนท้องถิ่น : สถานการณ์ด้านผู้สูงอายุเกี่ยวข้องกับการด าเนิน ชีวิตประจ าวัน ฐานะความเป็นอยู่ และการประกอบอาชีพมีความแตกต่างกันระหว่างพื้นที่องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นขนาดใหญ่ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดเล็ก โดยในเขตการปกครองขนาดใหญ่ คือ พื้นที่ เทศบาลเมืองสะเดา อ าเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ผู้สูงอายุจะมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคมค่อนข้างมากจาก กิจกรรมที่มีความหลากหลายในชุมชนท้องถิ่น เป็นผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพฤฒพลัง (Active Aging) สูง ส่วนใหญ่ มีฐานะความเป็นอยู่ค่อนข้างดีจากการประกอบอาชีพที่มีทั้งการท าสวนยางพารา และการประกอบธุรกิจ รวมทั้งการรับผิดชอบดูแลโดยบุตรหลานที่มีฐานะดีจากการประกอบธุรกิจส่วนตัว ส่วนผู้สูงอายุที่อยู่ในพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดเล็กคือ องค์การบริหารส่วนต าบลรัตภูมิ อ าเภอควนเนียง จังหวัดสงขลา ผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะท าหน้าที่ดูแลบ้าน เลี้ยงดูหลานในช่วงเวลากลางวันที่บุตรไปท างาน มีฐานะความเป็นอยู่ ในระดับปานกลางโดยมีรายได้หลักจากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และจากการประกอบอาชีพที่สร้างรายได้เล็กๆ น้อยๆ ได้แก่ ท าสวนยางพารา ประมง ปลูกพืชผักสวนครัว เป็นต้น สภาพปัญหาของผู้สูงอายุ : การเข้าสู่วัยสูงอายุท าให้หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยกับปัญหาสุขภาพที่ จะตามมาจากการเสื่อมสภาพของร่างกายที่เป็นไปตามวัย โดยผู้สูงอายุทั้ง 2 พื้นที่ส่วนใหญ่ประสบปัญหาด้าน สุขภาพจากการมีโรคประจ าตัว เช่น โรคเบาหวาน ความดัน ไขมัน เส้นเลือดตีบ มีบางส่วนที่ป่วยติดเตียง เป็น อัมพฤกษ์ อัมพาต แต่โรคชนิดหนึ่งที่น่าสนใจและพบมากขึ้นในกลุ่มผู้สูงอายุที่อยู่ในเขตเมืองคือ โรคอัลไซเมอร์ ที่ส่งผลต่อการด าเนินชีวิตของผู้สูงอายุ และยังไม่มีระบบการคัดกรองที่มีคุณภาพ ในจ านวนผู้สูงอายุที่มีปัญหา สุขภาพดังกล่าวนี้ ผู้ที่มีอาการป่วยหนักจนไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้นั้นมีจ านวนที่ค่อนข้างน้อย และมีผู้ท า หน้าที่คอยดูแลคือบุตรหลาน ญาติ รวมทั้งอาสาสมัครสาธารณสุขประจ าหมู่บ้าน (อสม.) แต่ยังมีผู้สูงอายุบาง รายที่อยู่ในเขตเมืองเป็นผู้สูงอายุพิการ ที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับรายได้ที่ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย แม้จะมีเพื่อน บ้านให้การช่วยเหลือดูแล และมีหน่วยงานให้การสนับสนุน แต่การให้ความช่วยเหลือสนับสนุนของหน่วยงาน ไม่สามารถด าเนินการได้อย่างต่อเนื่อง ผู้สูงอายุบางส่วนดังกล่าวนี้จึงประสบปัญหาความยากล าบากในการ ด าเนินชีวิต ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพของผู้สูงอายุสะท้อนให้เห็นถึงความเหมือนและความแตกต่างระหว่าง ผู้สูงอายุในเขตเมืองและเขตที่มีความเป็นชนบท โดยความเหมือนคือการเจ็บป่วยด้วยโรคประจ าตัวที่เป็นไป ตามวัย แต่ความแตกต่างคือโรคอัลไซเมอร์ที่เป็นปัญหาสุขภาพของผู้สูงอายุในเขตเมือง มีสาเหตุมาจากทั้ง ความเครียดและอายุ รวมทั้งผู้สูงอายุพิการที่ไม่มีความสามารถในการช่วยเหลือตนเอง แม้จะได้รับการ ช่วยเหลือดูแลจากเพื่อนบ้านและการสนับสนุนจากหน่วยงานแต่ยังไม่เพียงพอที่จะท าให้ผู้สูงอายุดังกล่าวนี้ หลุดพ้นจากความยากล าบากและมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้อย่างเหมาะสมเพียงพอตามความจ าเป็นขั้นพื้นฐาน ปัญหาด้านการมีรายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายพบเป็นส่วนน้อยในกลุ่มผู้สูงอายุที่ประสบ ปัญหาความพิการไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ที่อาศัยอยู่ในเขตเมือง ส่วนผู้สูงอายุในเขตชนบทบางส่วนประสบ ปัญหาด้านความไม่เพียงพอของรายได้เช่นเดียวกัน แต่มีสาเหตุส าคัญมาจากการกู้ยืมเงินให้กับบุตรจนมีปัญหา ด้านหนี้สิน
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 89 88 2) การด าเนินงานโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ การส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโดยชุมชนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีทั้งใน ลักษณะของการช่วยเหลือดูแลแก้ไขปัญหา และพัฒนา อาศัยกลไกต่างๆ เป็นกุญแจส าคัญในการขับเคลื่อนการ ด าเนินงาน โดยกลไกและการท างานของกลไกแต่ละส่วน มีรายละเอียด ดังนี้ (1) บุตรหลานที่เป็นสมาชิกในครอบครัว จะท าหน้าที่เกี่ยวกับการดูแลค่าใช้จ่ายและการ ด าเนินชีวิตประจ าวันของผู้สูงอายุ (2) อาสาสมัครสาธารณสุขประจ าหมู่บ้าน (อสม.) และผู้น าชุมชนท้องถิ่นที่ท าหน้าที่ในการให้ ข้อมูลข่าวสาร ความรู้ที่จ าเป็นต่างๆ ส าหรับผู้สูงอายุ นอกจากนี้ อาสาสมัครสาธารณสุขประจ าหมู่บ้าน (อสม.) ยังนับเป็นกลไกส าคัญในการช่วยเหลือ ประสานงาน และส่งเสริมการด าเนินกิจกรรมที่เอื้อต่อการส่งเสริม คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาสาสมัครสาธารณสุขประจ าหมู่บ้าน (อสม.) จะท าหน้าที่ในการรับผิดชอบดูแล ผู้สูงอายุ 4 – 5 คน/อสม. 1 คน ในการด าเนินงานจะมีการลงพื้นที่เพื่อส ารวจสภาพปัญหาและให้การช่วยเหลือ ผู้สูงอายุเบื้องต้นตามลักษณะปัญหาที่สามารถช่วยเหลือได้ โดยมีการประสานงานผ่านช่องทางไลน์และร่วมมือ กันเพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ ในกรณีตัวอย่างของพื้นที่เขตเมือง อาสาสมัครสาธารณสุขประจ าหมู่บ้าน (อสม.) จะ มีการร่วมมือกันท าความสะอาดพร้อมปรับสภาพบ้านให้ถูกสุขลักษณะมากขึ้นส าหรับผู้สูงอายุที่ไม่มีก าลัง ความสามารถจะจัดการได้เอง และในกรณีที่ไม่สามารถช่วยเหลือได้อาสาสมัครสาธารณสุขประจ าหมู่บ้าน (อส ม.) จะท าหน้าที่ในการประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การ ช่วยเหลือแก้ไขเป็นไปอย่างสอดคล้องกับสภาพปัญหาของผู้สูงอายุ ส าหรับในกรณีของพื้นที่ขนาดเล็กที่มีความ เป็นชนบท อาสาสมัครสาธารณสุขประจ าหมู่บ้าน (อสม.) จะท าหน้าที่ส ารวจและเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ สภาพปัญหาด้านสุขภาพของผู้สูงอายุโดยมีพิกัดต าแหน่งที่อยู่ของผู้สูงอายุอย่างชัดเจน มีการเยี่ยมเยียน ผู้สูงอายุเป็นประจ าทุกเดือน พร้อมทั้งลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับต าบล (รพ สต.) ในการเยี่ยมเยียนกลุ่มผู้สูงอายุที่ป่วยติดเตียงซึ่งยังมีบุตรหลานคอยดูแล นอกจากนี้ยังร่วมกับชมรม ผู้สูงอายุในพื้นที่จัดท าข้อเสนอโครงการเกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณจาก สปสช. ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณอย่างต่อเนื่อง นับได้ว่าเป็นปัจจัยส าคัญในการส่งเสริมการขับเคลื่อน กิจกรรมของชมรมผู้สูงอายุในพื้นที่ (3) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นอีกหนึ่งกลไกหลักที่มีบทบาทในการช่วยเหลือ ดูแล ส่งเสริม และสนับสนุนประชากรทุกกลุ่มเป้าหมายในชุมชนท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชากรสูงอายุที่มี แนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะมีการด าเนินกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อให้ความ ช่วยเหลือและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ในการก าหนดกิจกรรมต่างๆ จะมีจุดเริ่มต้นมาจากการจัดเวที ประชาคมเพื่อส ารวจสภาพปัญหา ความต้องการ พร้อมทั้งให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ต่างๆ โครงการ/กิจกรรมที่มีการขับเคลื่อนส าหรับในพื้นที่ขนาดเล็กคือ โครงการให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ส าหรับผู้สูงอายุโดยวิทยากรที่เป็นเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข โครงการส่งเสริมการออกก าลังกายส าหรับ ผู้สูงอายุ โครงการพัฒนาทักษะความรู้เพื่อการส่งเสริมอาชีพที่เหมาะสมสอดคล้องกับลักษณะความเป็นอยู่และ สุขภาพของผู้สูงอายุ ขณะที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ขนาดใหญ่มีการขับเคลื่อนการด าเนินงานใน ลักษณะที่คล้ายคลึงกัน แต่จะมีความแตกต่างในส่วนของกิจกรรมที่มีความหลากหลายมากกว่า ได้แก่ การ จัดเก็บข้อมูลผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาความยากล าบากในการด าเนินชีวิตซึ่งแม้จะมีจ านวนไม่มาก แต่การมี
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 90 89 ฐานข้อมูลจะท าให้มีความเข้าใจในสภาพปัญหาและสามารถติดตามให้ความช่วยเหลือได้อย่างเหมาะสม การ จัดตั้งกลุ่มสัจจะออมทรัพย์เพื่อให้มีทุนส าหรับจัดซื้ออุปกรณ์ในการช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาสุขภาพ และครอบครัวอยู่ในภาวะยากล าบาก การปรับสภาพห้องน้ าให้ถูกสุขลักษณะเหมาะสมส าหรับผู้สูงอายุ การจัด รถรับส่งผู้สูงอายุที่ต้องอยู่บ้านตามล าพังเพื่อให้เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมในลักษณะที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมระหว่างสมาชิกในครอบครัว ได้แก่ กิจกรรมการท าบุญตามประเพณี กิจกรรมกีฬาสัมพันธ์ที่มีการจัดประเภทของกีฬาในลักษณะที่คนทุกช่วงวัย สามารถมีส่วนร่วมได้ การส่งเสริมอาชีพที่นอกจากผู้สูงอายุแล้ว คนในช่วงวัยอื่นสามารถมีส่วนร่วมได้ เช่นเดียวกัน เช่น การปลูกพืชผักสวนครัว ท าปุ๋ยหมัก และกิจกรรมเฉพาะส าหรับพื้นที่ขนาดเล็กที่คนทุกช่วงวัย แม้บุตรหลานที่อยู่ต่างถิ่นก็จะเดินทางมาร่วมกิจกรรมคือ การท าบุญป่าช้าที่จัดขึ้นในเดือนเมษายนของทุกปี การด าเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่เพียงแต่มุ่งเน้นในการช่วยเหลือ และ ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่ยังมีการพัฒนาศักยภาพเพื่อผลักดันให้ผู้สูงอายุมีความสามารถใน การพึ่งพาตนเองผ่านการขับเคลื่อนของชมรม/กลุ่ม/องค์กรผู้สูงอายุในชุมชน โดยเฉพาะชมรมผู้สูงอายุที่มีการ ด าเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องแต่มีการงดเว้นไปในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในส่วนของพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่ ชมรม/กลุ่ม/องค์กรผู้สูงอายุดังกล่าวนี้มีบทบาทและมี กิจกรรมที่หลากหลายในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้กับผู้สูงอายุ ทั้งการอบรมให้ความรู้ด้านสุขภาพอย่าง ครอบคลุมทุกมิติโดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ การท่องเที่ยวและกีฬา การใช้กลไกของผู้สูงอายุที่มีศักยภาพในการ ช่วยเหลือผู้สูงอายุด้วยกันในลักษณะ “เพื่อนช่วยเพื่อน” ในส่วนของโรงเรียนผู้สูงอายุมีการเปิดรับสมาชิกอายุ ตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่วัยสูงอายุ พร้อมกับท าหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงในการช่วยเหลือ ดูแลผู้สูงอายุ นอกจากนี้ยังมีกลุ่ม/องค์กรในชุมชนอีกกลุ่มหนึ่งที่มีบทบาทส าคัญคือ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับ งบประมาณสนับสนุนจากกองทุน SME ของรัฐบาล และมีการด าเนินงานอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน กลุ ่มวิสาหกิจดังกล่าวนี้ได้มีการจัดตั้งกองทุนที่มีชื่อว่า “กองทุนแม่ของแผ่นดิน” เพื่อให้เงินสงเคราะห์ ช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาเป็นครั้งคราวตามสภาพปัญหา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยแก้ไขปัญหาและบรรเทา ความเดือดร้อนให้กับคนในชุมชนท้องถิ่น (4) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีบทบาทในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตประกอบด้วยหลาย หน่วยงานเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ ส านักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) ที่มีการสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมที่พักอาศัยให้กับผู้สูงอายุ และการช่วยเหลือ ผู้ประสบปัญหาทางสังคมในชุมชน หน่วยงานด้านสาธารณสุขทั้งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับต าบลและ โรงพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียงจะมีการตรวจสุขภาพให้กับผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาพิการ ป่วยติดเตียง เพื่อช่วยให้ ได้รับการขึ้นทะเบียนและมีสิทธิรับเบี้ยยังชีพคนพิการ รวมทั้งมีกลุ่ม CG และบริบาลท าหน้าที่ดูแลด้าน สุขลักษณะให้กับผู้สูงอายุที่ป่วยติดเตียง ส านักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) มีการส่งเสริมกิจกรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับผู้สูงอายุ ทั้งในลักษณะของการให้ความรู้เกี่ยวกับ การดูแลสุขภาพ การพัฒนาทักษะทางด้านอาชีพระยะสั้นที่มีความยืดหยุ่นและเหมาะสมกับผู้สูงอายุเพื่อเป็น การสร้างรายได้เสริมและใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ส านักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีการ อนุมัติงบประมาณสนับสนุนโครงการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุที่ชุมชนท้องถิ่นร่วมกันเขียนโครงการเพื่อขอรับ
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 91 90 ทุนสนับสนุนการด าเนินกิจกรรม และการสนับสนุนงบประมาณในการจัดหาแว่นตาส าหรับผู้สูงอายุที่ประสบ ปัญหาทางสายตา (5) การส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในชุมชนท้องถิ่นยังได้รับการสนับสนุนจาก หน่วยงานภาคเอกชน ได้แก่ สโมสร Lion และมูลนิธิต่างๆ ในเขตพื้นที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาด ใหญ่ ซึ่งมีการประสานความร่วมมือและได้รับการสนับสนุนเกี่ยวกับสิ่งของเครื่องใช้ที่จ าเป็นในชีวิตประจ าวัน รวมทั้งสิ่งของเครื่องใช้ส าหรับผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาความพิการ เช่น ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ กายอุปกรณ์ 3) ปัจจัยในการหนุนเสริมในการด าเนินงานด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในชุมชน ท้องถิ่น ข้อมูลจากการสนทนากลุ่มกับกลุ่มตัวแทนสมาชิกกลุ่ม/ชมรม/องค์กรชุมชน สะท้อนให้เห็นถึง ปัจจัยส าคัญที่ช่วยหนุนเสริมการด าเนินงานด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุคือ กลไกเครือข่ายทุก ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ๆ ท างานประสานเชื่อมโยงกัน ประกอบด้วย (1) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่มีบทบาทหน้าที่ทั้งในด้านของการช่วยเหลือดูแล กลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาความเดือดร้อน/ต้องการความช่วยเหลือ รวมทั้งการประสานงานกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การช่วยเหลือสนับสนุนผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาเฉพาะด้าน เช่น การปรับปรุง ซ่อมแซมสภาพที่อยู่อาศัยและสภาพห้องน้ าให้ถูกสุขลักษณะ การสนับสนุนสิ่งของเครื่องใช้/อุปกรณ์ที่จ าเป็น ส าหรับผู้สูงอายุ ตลอดจนการด าเนินกิจกรรมในลักษณะของการพัฒนาทักษะและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของ ผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นการด าเนินงานเชิงรุกในลักษณะของการพัฒนาศักยภาพ (2) อาสาสมัครสาธารณสุขประจ าหมู่บ้าน (อสม.) ท าหน้าที่เป็นกลไกในการเชื่อมประสาน ระหว่างหน่วยงานกับกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่เพื่อส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้รับการช่วยเหลือแก้ไขปัญหา และมีส่วน ร่วมในการขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ (3) กลุ่ม/ชมรม/องค์กรชุมชน เป็นอีกหนึ่งพลังในการขับเคลื่อนการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของ ผู้สูงอายุ โดยมีการด าเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้สูงอายุยังคงมีภาวะพฤฒพลังและมีส่วนร่วมในกิจกรรม ทางสังคม (4) หน่วยงานภาครัฐที่มีบทบาทภารกิจเกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนของหน่วยงานด้านสาธารณสุขที่ ให้การดูแลเกี่ยวกับสุขภาวะของผู้สูงอายุ หน่วยงานด้านการศึกษาที่มีการพัฒนาทักษะความรู้ในการใช้ชีวิต และทักษะด้านอาชีพ ส านักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดที่มีการสนับสนุนงบประมาณใน การซ่อมแซมบ้านให้กับผู้สูงอายุ และส านักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่สนับสนุนงบประมาณ ในการด าเนินงานโครงการ/กิจกรรมส าหรับผู้สูงอายุ (5) หน่วยงานภาคเอกชนที่มีส่วนร่วมในการสนับสนุนสิ่งของเครื่องใช้ที่จ าเป็นส าหรับผู้สูงอายุ ที่ประสบปัญหา โดยเป็นการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมที่นอกเหนือจากหน่วยงานภาครัฐ เช่น สโมสร Lion อย่างไรก็ตาม แม้จะมีกลไกเครือข่ายที่ท างานประสานเชื่อมโยงกันในการด าเนินงานด้านการ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ แต่ในการด าเนินงานดังกล่าวยังมีข้อจ ากัด/ปัญหาอุปสรรคในประเด็นด้าน สุขภาพที่เป็นปัญหาส าคัญในกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งท าให้การช่วยเหลือสนับสนุนอาจยังไม่ครอบคลุมทั่วถึงทุก กลุ่มเป้าหมาย
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 92 91 4) ปัจจัยที่เป็นปัญหาอุปสรรคในการด าเนินงานด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในชุมชน ท้องถิ่น (1) การขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะความรู้ความเชี่ยวชาญในการดูแลผู้สูงอายุที่ประสบ ปัญหาสุขภาพและไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ หรือมีจ านวนบุคลากรไม่เพียงพอ (2) กระบวนการในการช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุในด้านสุขภาพยังไม่มีความชัดเจนและเป็น ระบบ ขาดการท างานในเชิงบูรณาการที่เชื่อมโยงถึงผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ 5) ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาแนวทางในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ข้อเสนอแนะจากเวทีการสนทนากลุ่มที่ผู้ให้ข้อมูลเป็นตัวแทนกลุ่ม/ชมรม/องค์กร และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการด าเนินงานด้านผู้สูงอายุในระดับชุมชนท้องถิ่น เป็นข้อเสนอแนะเพื่อการแก้ไขสิ่งที่ ก าลังเป็นปัญหาและคาดว่าก าลังจะกลายเป็นปัญหาในอนาคต ทั้งในส่วนที่สามารถด าเนินการได้โดยชุมชน ท้องถิ่น และในส่วนที่เกินความสามารถในการจัดการ/แก้ไขปัญหาโดยชุมชนท้องถิ่น โดยเฉพาะการส่งเสริม คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง/จ าเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือดูแล ข้อเสนอแนะดังกล่าว ประกอบด้วย (1) ชุมชนท้องถิ่นทุกพื้นที่ควรสนับสนุนด้านการส่งเสริมอาชีพ และการมีรายได้ให้กับคนใน ชุมชน เมื่อคนในชุมชนมีรายได้เพียงพอ และสามารถจัดสรรรายได้ส่วนหนึ่งส าหรับเป็นกองทุนในการ สงเคราะห์ช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ประสบปัญหาทางสังคมในชุมชนท้องถิ่น ซึ่งเป็นการบริหารจัดการ และส่งเสริมการพึ่งพาตนเองของชุมชนท้องถิ่น (2) การสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงานภาครัฐในครอบครัวที่ประสบปัญหาด้านค่าใช้จ่าย ในการดูแลผู้สูงอายุป่วยติดเตียง พิการ หรือไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ และครอบครัวที่ผู้สูงอายุต้องดูแล บุตรหลานที่มีปัญหาความพิการ จ าเป็นต้องได้รับการดูแล ในขณะที่มีรายได้ไม่เพียงพอ โดยเป็นการช่วยเหลือ เพื่อให้ครอบครัวของผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่อยู่ในภาวะที่ยากล าบากมากเกินไป (3) ภาครัฐควรสนับสนุนงบประมาณเพื่อเป็นสวัสดิการด้านการส่งเสริมสุขภาพส าหรับ ผู้สูงอายุ มีบริการด้านยารักษาโรคที่มีคุณภาพ และมีระบบ/ขั้นตอนการให้บริการที่เอื้อต่อการเข้าถึงระบบการ รักษาพยาบาลของผู้สูงอายุได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว (4) ภาครัฐควรมีการสนับสนุนงบประมาณในการจัดตั้งศูนย์ดูแลผู้สูงอายุระดับอ าเภอๆ ละ 1 แห่ง เพื่อกระจายการช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุให้เป็นไปอย่างทั่วถึง พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์ดูแลผู้สูงอายุช่วงเวลากลางวัน (Day Care) ในระดับชุมชน โดยมีผู้ดูแลที่มีทักษะความรู้ความเชี่ยวชาญในการดูแลผู้สูงอายุ (5) การก าหนดมาตรการรองรับผู้สูงอายุที่ต้องอยู่ตามล าพัง/ขาดผู้ดูแล/ไม่สามารถช่วยเหลือ ตนเองได้ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต หน่วยงานภาครัฐต้องมีการเตรียมความพร้อมในด้านของ สถานที่รองรับ เจ้าหน้าที่ที่มีทักษะความรู้ในการดูแลผู้สูงอายุ รวมทั้งงบประมาณสนับสนุน 4.3 ข้อเสนอแนะแนวทำงกำรส่งเสริมคุณภำพชีวิตของผู้สูงอำยุโดยอำศัยกำรขับเคลื่อนในระดับชุมชน ท้องถิ่น รวมถึงหน่วยงำนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนข้อเสนอแนะในระดับนโยบำย ข้อเสนอแนะแนวทางในการขับเคลื่อนการด าเนินงานเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโดยการมีส่วน ร่วมของครอบครัวและชุมชนท้องถิ่น รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อให้
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 93 92 การส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นข้อมูลที่ได้จากการเก็บรวบรวมโดยวิธีการ สัมภาษณ์เชิงลึก (Indept Interview) ผู้เชี่ยวชาญจ านวน 3 ท่าน ตามรายละเอียด ดังนี้ 4.3.1 แนวทำงในกำรส่งเสริมให้ผู้สูงอำยุมีคุณภำพชีวิตที่ดี ด ำรงชีวิตอย่ำงมีควำมสุขและรู้สึกมีคุณค่ำ การส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีจะต้องส่งเสริมทั้งในส่วนของผู้สูงอายุเอง โดยในกลุ่มของ ผู้สูงอายุที่มีความพร้อมด้านปัจจัยพื้นฐานในการด ารงชีวิตควรมุ่งเน้นในด้านของการสร้างความรู้สึกมีคุณค่า ท าให้ ผู้สูงอายุมีมุมมอง แนวคิด ทัศนคติที่ดีต่อตนเอง มีเป้าหมายการใช้ชีวิตในช่วงบั้นปลายที่สอดคล้องกับแนวคิด เป้าหมายชีวิต ในการตระหนักถึงสิ่งที่ตนเองให้ความส าคัญ เพื่อให้มีแรงจูงใจในการใช้ชีวิตอย่างมีความหวังและมี เป้าหมายในการด ารงชีวิตอย่างมีความสุข การมีชีวิตอยู่เพื่อคนในครอบครัวอันเป็นที่รักโดยไม่รู้สึกว่าตนเองเป็น ภาระ ซึ่งจะท าให้ผู้สูงอายุมีความตั้งใจในการดูแลตนเองให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยเฉพาะในเรื่องของการดูแล สุขภาพ และการเลือกสรรสิ่งดีๆ ที่เหมาะสมกับตนเอง ส่วนในกลุ่มของผู้สูงอายุที่ไม่มีความพร้อมด้าน ปัจจัยพื้นฐานในการด ารงชีวิต ควรมีการช่วยเหลือสนับสนุนโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามสภาพปัญหาและความ ต้องการของผู้สูงอายุ ที่ส าคัญคือควรมีการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารหรือบริการส าหรับผู้สูงอายุผ่าน ช่องทางที่ผู้สูงอายุสามารถเข้าถึงได้ เนื่องจากมีผู้สูงอายุจ านวนไม่น้อยที่ไม่ทราบข้อมูลว่าหากมีปัญหา หรือ ต้องการได้รับความช่วยเหลือ/บริการ สามารถขอรับความช่วยเหลือ/บริการนั้นๆ ได้จากหน่วยงานใด ผู้เชี่ยวชาญ 1 “โดยหลักการ ส่งเสริมให้บรรลุถึงการมีคุณภาพชีวิตที่ดีถึงพร้อมด้วยปัจจัยที่จ าเป็น เช่น เรื่อง need ต่างๆ ปัจจัยพื้นฐาน มีแนวทางส่งเสริมให้มั่นคง ตามหลักแนวคิดของมาสโลว์ พอมีความพร้อม ด้านปัจจัยพื้นฐานแล้ว ก็ท าให้ผู้สูงอายุรู้สึกมีคุณค่าต่อสังคม contribute เป็นที่ต้องการของสังคม” ผู้เชี่ยวชาญ 2 “ท าให้ผู้สูงอายุทราบถึงแนวคิด เป้าหมายของตัวเอง ถ้าคนที่มีเป้าหมายชีวิตจะ รู้สึกมีคุณค่า มีความสุข รู้ว่าอยู่เพื่ออะไร เพื่อใคร อยู่เพื่อคนที่เค้ารัก ไม่เป็นภาระ การตัดสินใจดูแลตัวเองจะ เป็นไปในทางที่ดี เช่น การดูแลสุขภาพ เลือกสรรสิ่งดีๆ ส าหรับตัวเอง ในกรณีของคนที่พร้อม ส่วนคนที่ไม่ พร้อม หน่วยงานที่สนับสนุนน่าจะช่วยให้ความรู้ตามความต้องการของผู้สูงอายุว่ามีความต้องการด้านไหน ต้อง เข้าหาใคร ผู้สูงอายุหลายคนไม่ทราบว่าต้องขอความช่วยเหลือ หรือได้ความช่วยเหลือจากใคร” นอกจากนี้ บุคคลที่อาจกล่าวได้ว่า เป็นกลไกส าคัญที่มีความใกล้ชิดและสามารถส่งเสริมให้ ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีคือบุตรหลานที่เป็นเยาวชนคนรุ่นใหม่ มีโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาทักษะในด้าน ต่างๆ สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร โดยเฉพาะที่ผ่านช่องทางเทคโนโลยี ควรส่งเสริมให้ท าหน้าที่เป็นผู้ ช่วยเหลือสนับสนุน ให้ค าแนะน าแก่ผู้สูงอายุ แจ้งข้อมูลข่าวสารต่างๆ หรือหน่วยงานอาจมีการให้ข้อมูล เกี่ยวกับบริการต่างๆ ผ่านเด็กและเยาวชนเพื่อเป็นสื่อกลางในการส่งต่อข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับบริการ/ สวัสดิการต่างๆ ไปยังผู้สูงอายุ ส าหรับผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ตามล าพังหรือไม่มีบุตรหลาน อาจอาศัยกลไกของ เยาวชนที่อยู่ในโรงเรียน โดยมีการจัดโครงการ/กิจกรรมต่างๆ ที่ให้เยาวชนในสถานศึกษาท าหน้าที่ในการ ช่วยเหลือสนับสนุนผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในชุมชนท้องถิ่น “สิ่งที่จะช่วยสนับสนุนคือลูกหลาน เยาวชนคนรุ่นใหม่ ฝึกให้ช่วยเหลือผู้สูงอายุ เช่น ผู้สูงอายุที่ไม่ คล่องเรื่องเทคโนโลยี ก็มีการให้ข้อมูลข่าวสารผ่านทางเด็กๆ ที่เข้าถึงข้อมูลมากกว่า กรณีที่ไม่มีลูกหลาน อีกทางหนึ่ง คือให้มีโครงการ/กิจกรรมสู่โรงเรียน ให้เยาวชนในโรงเรียนคอยช่วยเหลือผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ ใกล้เคียงในชุมชน หมู่บ้าน”
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 94 93 4.3.2 กำรใช้ประโยชน์จำกทักษะ/ควำมเชี่ยวชำญ และประสบกำรณ์ที่สั่งสมจำกกำรท ำงำนของ ผู้สูงอำยุ การส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น ปราชญ์ชาวบ้าน ปราชญ์พื้นบ้านในกลุ่มผู้สูงอายุ เป็นการส่งเสริม ให้มีการถ่ายทอดทักษะความรู้/ภูมิปัญญา/ประสบการณ์ และเป็นการสร้างความรู้สึกมีคุณค่าให้กับผู้สูงอาย โดยสามารถเริ่มต้นจากการส ารวจข้อมูลของผู้สูงอายุทั้งในส่วนของสภาพปัญหา/ความต้องการ ตลอดจน ทักษะความเชี่ยวชาญและความสามารถพิเศษของผู้สูงอายุ ซึ่งคนในชุมชนท้องถิ่นสามารถที่จะช่วยให้ข้อมูลได้ ว่าใครที่เป็นผู้มีองค์ความรู้เหมาะสมกับการเป็นปราชญ์ชาวบ้าน/ผู้มีภูมิปัญญาท้องถิ่นตามบริบทของชุมชน จากนั้นจึงมีการน าข้อมูลมาจัดหมวดหมู่/จัดประเภทของภูมิปัญญาท้องถิ่นและผู้สูงอายุที่มีทักษะ ประสบการณ์/เป็นปราชญ์ชาวบ้านในเรื่องนั้นๆ ส่งเสริมให้มีการถ่ายทอดทักษะความรู้/ประสบการณ์/ภูมิ ปัญญาท้องถิ่นอย่างเป็นระบบ ทั้งในรูปแบบของการส่งเสริมการเป็นแกนน า/ผู้น า หรือการเป็นวิทยากรผ่าน การด าเนินกิจกรรมเพื่อเป็นการถ่ายทอดภูมิปัญญา/ทักษะความรู้ความเชี่ยวชาญ ส าหรับผู้สูงอายุที่มีลักษณะ ของความเป็นผู้น า มีความมั่นใจและกล้าแสดงออก ในส่วนของผู้สูงอายุที่มีทักษะความรู้/ประสบการณ์/ภูมิ ปัญญา แต่ขาดทักษะด้านการสื่อสารในการถ่ายทอดความรู้/ประสบการณ์/ภูมิปัญญาท้องถิ่น ผู้สูงอายุในกลุ่ม นี้สามารถใช้วิธีการถอดบทเรียนที่เป็นองค์ความรู้ภายในตัวบุคคล (Tacit Knowlegde) เพื่อน าองค์ความรู้มา ถ่ายทอดสู่คนรุ่นต่อไป ซึ่งคนที่ได้รับการถ่ายทอดความรู้สามารถท าหน้าที่ในการเป็นวิทยากร/ผู้ถ่ายทอดความรู้ ให้ขยายวงกว้างออกไป ในลักษณะดังกล่าวจึงเรียกได้ว่าเป็นการถ่ายทอดความรู้ควบคู่กับการพัฒนาศักยภาพ บุคคล โดยหน่วยงานที่ควรมีบทบาทในการค้นหาผู้สูงอายุที่มีภูมิปัญญาท้องถิ่น/มีทักษะประสบการณ์/เป็น ปราชญ์ชาวบ้าน มีการจัดหมวดหมู่ของภูมิปัญญาท้องถิ่น จัดตั้งคลังสมอง และส่งเสริมการถ่ายทอดภูมิปัญญา คือกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ผู้เชี่ยวชาญ 3 “ตอนที่ส ารวจความต้องการ ควรส ารวจ Competency ส ารวจทั้งสุขภาพ โรคประจ าตัว การศึกษา talent expert ถ้าเรามี Competency ในมือ จะรู้ว่าใครที่จะเป็นแกนน า บางคน เป็น model ด้าน exercise ใครที่เก่ง social แนะน าผู้สูงอายุได้ แล้วน า Competency มาใช้ประโยชน์ เรื่อง ออกก าลังกาย เค้ามีส่วนช่วยตัวเองให้มีสุขภาพดี มาเป็นแกนน าออกก าลังกายได้ สื่อ Social คนที่เล่น it เก่ง สอนวิธีการใช้ it ของมือถือให้เกิดประโยชน์ หรือให้ความรู้ด้านการรู้เท่าทันสื่อ Social ขึ้นอยู่กับชุมชนแต่ละที่ ขึ้นอยู่กับว่าความต้องการของชุมชนเป็นอย่างไร ต้องมีการวิเคราะห์ผู้สูงอายุว่าเค้ามีดีอะไรอยู่บ้าง ข้อดีนั้นท า ให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนได้มั้ย สูงกว่านั้นได้มั้ย คนที่จะใช้ผู้สูงอายุต้องรู้วิธีการใช้ที่เหมาะสม” ผู้เชี่ยวชาญ 2 “คนที่มีศักยภาพมักจะอยู่เป็นกลุ่มก้อน ชมรม กลุ่มอาสาให้ความช่วยเหลือ กลุ่มนี้ หาตัวได้ไม่ยาก จะมีบทบาทเป็นผู้น ากลุ่ม ผู้น าชุมชน ชมรมผู้สูงอายุ อาจจะให้เป็นวิทยากรในการสอน เป็น บุคคลต้นแบบ ในกลุ่มของผู้สูงอายุที่ไม่ชอบ present ไม่ช่างพูด ช่างคุย จะเป็นชาวบ้านที่มีภูมิปัญญา เรื่องจัก สาน ท าขนม โนราห์ บางคนมีทักษะการค านวณปฏิทิน 100 ปี ต้องหาให้เจอ แล้วถอดบทเรียนความรู้ หา แนวทางที่เหมาะสมในการถ่ายทอด” ผู้เชี่ยวชาญ 1 “ค้นหาปราชญ์ชุมชน ปราชญ์ชาวบ้าน ในชุมชนรู้กันเอง มีการให้รางวัล หน่วยงาน พม.น่าจะท าหน้าที่ค้นหา จัดหมวดหมู่ ท าให้มีการยอมรับ จังตั้งคลังสมอง ถอดบทเรียน โดยเฉพาะ Tacit Knowlegde จากในตัวคน สู่คนรุ่นต่อไป ภูมิปัญญามีหลายด้าน เช่น ด้านอาหาร ส่งเสริมให้มีการสืบสานเป็น หมวดๆ จัดระบบของการถ่ายทอด”
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 95 94 4.3.3 แนวทำงในกำรพัฒนำศักยภำพและควำมสำมำรถในกำรพึ่งตนเองของผู้สูงอำยุ การพัฒนาศักยภาพเพื่อให้ผู้สูงอายุมีความสามารถในการพึ่งพาตนเองและมีคุณภาพชีวิตที่ดี จะต้องประกอบด้วย 1) การพัฒนาอย่างเป็นองค์รวมทั้งในมิติด้านสุขภาพร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม 2) การพัฒนาอย่างเหมาะสมตามลักษณะของผู้สูงอายุ โดยผู้สูงอายุกลุ่มติดสังคม ควรสนับสนุน ให้มีการท ากิจกรรมร่วมกัน และส าหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะท าให้เกิด ความไม่สะดวกในการรวมตัวเพื่อท ากิจกรรม แต่ผู้สูงอายุกลุ่มนี้สามารถติดต่อสื่อสารกันผ่านช่องทางโซเชียล มีเดียต่างๆ เช่น Line Official ซึ่งเป็นสื่อที่สามารถให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ตลอดจนการ พัฒนาตนเองส าหรับผู้สูงอายุ โดยสื่อที่น าเสนอควรเป็นลักษณะของคลิปที่มีความยาวไม่มากหรือเป็นรูปภาพที่ ผู้สูงอายุสามารถเข้าใจได้ แต่สิ่งที่ควรระวังคือ การส่งข้อมูลจ านวนมากผ่านสื่อดังกล่าวมีทั้งข้อมูลที่เป็นความ จริง และข้อมูลที่เป็นเท็จหรือเป็นข่าวปลอม ซึ่งอาจน าไปสู่ความเข้าใจผิดและการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้นจึง ควรมีการให้ค าแนะน าเกี่ยวกับการรับรู้ข้อมูลข่าวสารอย่างมีวิจารณญาณโดยวิธีการบรรยาย การจัดท าสื่อให้ ค าแนะน าวิธีการรับข้อมูลข่าวสารอย่างถูกวิธี จากแหล่งข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือ มีการระบุถึงที่มาที่สามารถ อ้างอิงได้ วันเวลา และชื่อผู้เขียน ซึ่งมีความน่าเชื่อถือระดับหนึ่ง อาจจะต้องพิจารณาเทียบข้อมูลจากหลายๆ แหล่ง รวมทั้งมีการปรึกษาและขอค าแนะน าจากบุตรหลาน โดยก่อนที่จะมีการส่งต่อข้อมูลจะต้องตรวจสอบว่า ข้อมูลนั้นถูกต้องตามความเป็นจริง 3) ผู้สูงอายุที่ประสบปัญหา อาจใช้ความสามารถหรือทักษะเฉพาะส่วนบุคคลในการแก้ไขปัญหา เพื่อเพิ่มความสามารถในการพึ่งพาตนเอง เช่น ผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจ แต่มีทักษะความรู้/ ภูมิปัญญาสามารถส่งเสริมให้มีการรวมกลุ่มประกอบอาชีพเพื่อให้มีรายได้เพียงพอต่อค่าใช่จ่ายมากขึ้น 4) การพัฒนาศักยภาพของผู้สูงอายุผ่านการด าเนินกิจกรรมต่างๆ ควรมีเจ้าหน้าที่ๆ คอยก ากับ ดูแล ให้ความช่วยเหลือสนับสนุน และวิเคราะห์เพื่อประเมินศักยภาพของผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่มีทักษะการ เรียนรู้สามารถพัฒนาให้เป็นแกนน าในการด าเนินกิจกรรม หรือถ่ายทอดความรู้ได้ นอกจากนี้ควรส่งเสริม กิจกรรมที่คนทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมได้ไม่เฉพาะผู้สูงอายุ เพื่อเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้และความสัมพันธ์ อันดีระหว่างคนต่างช่วงวัย 5) ผู้สูงอายุที่ยังคงมีความเป็นอยู่แบบพึ่งพิงตามรากฐานของวัฒนธรรมในการพึ่งพาบุตรหลาน การที่จะปรับเปลี่ยนให้ผู้สูงอายุมีการพึ่งพาตนเองเป็นหลักมีความเกี่ยวพันกับเรื่องสังคมวัฒนธรรมซึ่งอาจจะต้อง ค่อยๆ ปรับเปลี่ยน เป็นเป้าหมายระยะยาว โดยในอนาคตข้างหน้ามีความเป็นไปได้ที่จะมีความเปลี่ยนแปลง ในคนรุ่นต่อไปที่เข้าสู่วัยสูงอายุโดยอาศัยการพึ่งตนเอง (Self-care) เป็นหลัก เนื่องจากในปัจจุบันคนนิยมมีบุตร น้อยลง การเปลี่ยนแปลงทางสังคมวัฒนธรรมอาจจะเริ่มต้นจากการปรับทัศนคติให้มีความเข้าใจ สามารถ ปรับตัวและพึ่งตนเองได้อย่างรู้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง รายละเอียดตามข้อมูลการให้สัมภาษณ์ของผู้เชี่ยวชาญ ดังนี้ ผู้เชี่ยวชาญ 2 “ผู้สูงอายุ อยากให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งสุขภาพร่างกาย จิตใจ จิตสังคม เป็นองค์ รวม ในกลุ่มที่ติดสังคม สนับสนุนให้เค้าได้ท ากิจกรรมร่วมกัน สถานการณ์โควิดตอนนี้ท าให้มีการท ากิจกรรม น้อยลง อาจใช้ Line Official ให้ข้อมูลด้านการดูแลตัวเองในด้านต่างๆ ให้ผู้สูงอายุ ในลักษณะที่เป็นคลิปสั้น หรือเน้นรูปภาพ เพราะผู้สูงอายุจะชอบฟัง เรื่อง fake news เป็นปัญหาส าหรับผู้สูงอายุที่เอาไปปฏิบัติไม่
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 96 95 ถูกต้อง ต้องมีการกลั่นกรองข่าวสาร มีการแนะน าในการรับข้อมูลข่าวสารที่เหมาะสมโดยการจัดบรรยาย จัดท าสื่อให้ค าแนะน า การดูว่าข่าวสารจากแหล่งใดเหมาะสม ข่าวที่ไม่มีที่มาที่ไปความน่าเชื่อถือน้อย ข่าวที่ ระบุแหล่งที่มา วันที่ เวลา ผู้เขียน เชื่อถือได้ระดับหนึ่ง ถ้ามีแค่รูปภาพอาจเป็นข้อมูลปลอม มีการแนะน า แหล่งข้อมูล ให้ลูกหลานช่วยดู ช่วยแนะน าได้ check – sure – share” ผู้เชี่ยวชาญ 3 “เราเห็น talent ของผู้สูงอายุ ถ้าเค้ามีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ส่งเสริมให้รวมกลุ่มท า SME หรือ OTOP ช่วยผู้สูงอายุให้มีค่าใช้จ่ายเข้าบ้าน ส่งเสริมให้คนที่มีศักยภาพมีศักยภาพสูงขึ้น การออก ก าลังกายที่สอนคนอื่น มีคนเรียนที่สามารถท าหน้าที่ผู้น าออกก าลังกายได้ ช่วยเพิ่มจ านวนวิทยากร” ผู้เชี่ยวชาญ 3 “ระหว่างผู้สูงอายุท ากิจกรรม ให้มีแมวมองคอยมอง เป็นตัวของเจ้าหน้าที่ เช่น คน ดูแลผู้สูงอายุต้องคอยดูแล ประเมินศักยภาพ ระแวดระวังไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ การออกก าลังกายมีความเสี่ยงอยู่ บ้าง แล้วก็ดูว่าจะมีใครท าหน้าที่เป็นแกนน าเพิ่มท าหน้าที่ในด้านนี้แทน เพื่อให้การท ากิจกรรมเป็นไปอย่าง ต่อเนื่อง” ผู้เชี่ยวชาญ 3 “การร่วมมือกับคนวัยอื่น ดูกิจกรรมที่คนวัยอื่นมาร่วมได้ เช่น การส่งเสริมให้เห็น ประโยชน์ของการออกก าลังกายที่คนทุกวัยสามารถท าได้ อย่าปล่อยให้กิจกรรมนั้นมีแต่ผู้สูงอายุ ชมรมผู้สูงอายุ เองสามารถรับคนวัยอื่นเข้าร่วมในชมรมได้ ให้มีคนเป็นก าลังส าคัญต่อเนื่อง อย่างอาชีพของกลุ่มแม่บ้าน คนวัย อื่นร่วมกับผู้สูงอายุได้ เกิดความสัมพันธ์ การเรียนรู้ร่วมกัน ใช้กิจกรรมเป็นตัวตั้ง เน้นกิจกรรมที่ท าร่วมกัน ได้ ประโยชน์ร่วมกัน” ผู้เชี่ยวชาญ 1 “บ้านเรา สังคมวัฒนธรรม เป็น Interdependent เป็นสังคมของการพึ่งพากัน ผู้สูงอายุจะพึ่งพาลูกหลานมากกว่าพึ่งพาตนเอง รากวัฒนธรรมท าให้คนคาดหวังว่าจะมีคนมาดูแล ต้องเป็นการ ปรับในเรื่องของวัฒนธรรมความเป็นอยู่ แต่อาจจะขัดกับวัฒนธรรมไทยที่ว่าลูกหลานต้องดูแลผู้ใหญ่ การดูแล ตนเอง (self-care) ต้องอยู ่ภายใต้ระบบสนับสนุนของคนในครอบครัว ผู้สูงอายุในยุคปัจจุบันอยู ่ใน วัฒนธรรมแบบพึ่งพา การเปลี่ยนแปลงต้องอาศัยการปูพื้น เป็น campaign ระยะยาว ปรับทัศนคติ ตอนนี้เทรนด์ การมีลูกก็ลดน้อยลง” 4.3.4 กลไกส ำคัญในชุมชนท้องถิ่นในกำรส่งเสริมคุณภำพชีวิตของผู้สูงอำยุ การส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุจะต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของกลไกทุกระดับ ทั้งโดยตัว ของผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ครอบครัวที่มีความใกล้ชิดกับผู้สูงอายุควรเป็นกลไกหลักในการช่วยเหลือดูแล เป็นแหล่งพึ่งพิงให้กับผู้สูงอายุ ผู้น าชุมชนท้องถิ่นที่ควรมีการก าหนดนโยบาย แผนงาน และการก ากับติดตาม การด าเนินงานด้านผู้สูงอายุอย่างชัดเจน ตลอดจนการมีส่วนร่วมของผู้น ากลุ่ม/องค์กรต่างๆ หน่วยงานที่ เกี่ยวข้องในพื้นที่ และคนในชุมชนท้องถิ่น ในการก าหนดแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุอย่าง เหมาะสมตามบริบทของแต่ละพื้นที่ ซึ่งกลไกทุกระดับที่เกี่ยวข้องจะต้องตระหนักถึงความส าคัญ มีความเข้าใจ สถานการณ์อย่างถูกต้องชัดเจน และมีการประสานความร่วมมือในเชิงปฏิบัติอย่างเต็มก าลังความสามารถ ผู้สูงอายุที่ได้รับการช่วยเหลือและพัฒนามีโอกาสที่จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ผู้เชี่ยวชาญ 2 “ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหลายต้องร่วมมือกัน คนที่เกี่ยวข้องทุกระดับ ผู้สูงอายุ ครอบครัว ชุมชน ผู้น าในพื้นที่ ผู้น าผู้สูงอายุ หน่วยงาน องค์กร ต้องเห็นความส าคัญ ให้ความร่วมมือพัฒนาผู้สูงอายุที่ เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ ถ้าผู้เกี่ยวข้องเข้าใจชัดเจน ช่วยเหลือเต็มที่ ก็ช่วยให้เป็นไปได้”
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 97 96 ผู้เชี่ยวชาญ 1 “ครอบครัวส าคัญที่สุด เป็นฟันเฟืองหลักในการดูแล เป็นแหล่งพักพิงที่ส าคัญ การดูแลโดยหน่วยงานยังไม่มีกระทรวงหลักรับผิดชอบโดยตรง ควรตั้งสถาบันในการดูแลผู้สูงอายุโดยเป็น ความร่วมมือของหลายหน่วยงาน เพื่อให้เกิดการ change มีความร่วมมือระหว่างนักสังคมสงเคราะห์ กับ ทีมสหสาขาในการดูแลผู้สูงอายุ มีหน่วยงานหลักในการเป็นเจ้าภาพ” ผู้เชี่ยวชาญ 3 “ถ้าหัวขยับ หางขยับด้วย ท่านนายก (อปท.) ปลัด ถ้า 2 คนนี้ให้นโยบายเรื่อง ผู้สูงอายุชัดเจน คนท างานต้องปฏิบัติตาม ใช้ทั้งพระเดช พระคุณ ท าให้คนท างาน run งานได้ ท างานแบบ ตั้งใจ มีเป้าหมาย ให้นโยบาย แล้วมีการก ากับติดตาม มีรายงานแต่ละเดือน ผลการด าเนินงานด้านผู้สูงอายุเป็น อย่างไร การพิจารณาคนรับผิดชอบ เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบถ้าท างานเกื้อกูลกัน ไม่มีปัญหา แบ่งหน้าที่การ ท างานได้ ไม่ต้องใช้เจ้าหน้าที่เยอะ แต่ถ้าท างานแบบไม่เกื้อกูลกัน ต้องดูอีกทีว่าคนที่มาท างานด้านผู้สูงอายุ ควรมีกี่คน” การมีส่วนร่วมของกลไกทุกระดับในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุนั้น จะต้องเริ่มต้นตั้งแต่ ขั้นตอนการวิเคราะห์สภาพปัญหา โดยเชิญตัวแทนของผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้สูงอายุ ตัวแทนของผู้ใหญ่วัยแรงงาน ตัวแทนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาถึงสภาพปัญหาและความต้องการของ ผู้สูงอายุในชุมชน มีการประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุหรือแนวทางความเป็นไป ได้ในการช่วยเหลือสนับสนุน ก าหนดแนวทาง/วิธีการในการช่วยเหลือ/แก้ไขปัญหา/พัฒนา รวมทั้ง ประสานงานกับภาคีเครือข่ายที่เป็นหน่วยงานใกล้เคียงในพื้นที่เพื่อสร้างความร่วมมือ/หาแหล่งสนับสนุน เช่น การประสานงานกับสถาบันการศึกษาให้มีการถ่ายทอดความรู้เพื่อเป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้กับผู้สูงอายุ การประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) เพื่อพัฒนาอาชีพที่เหมาะสมกับความต้องการและก าลังความสามารถของผู้สูงอายุ ตลอดจนการมีส่วนร่วมใน การช่วยเหลือ/แก้ไขปัญหาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ผู้เชี่ยวชาญ 2 “ขั้นตอนเป็นการมีส่วนร่วมตั้งแต่การวิเคราะห์สภาพปัญหา ให้เป็นตัวแทนของ ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุมากเท่าไหร่ยิ่งดี มาคุยหารือร่วมกัน จะมีแกนน า พวก อบต. ที่รับดูแลโรงเรียนผู้สูงอายุ เชิญ ผู้สูงอายุมาคุยหารือกัน ในชุมชนดูว่ามีความต้องการ ปัญหาอะไรบ้าง ประมวลปัญหา วิเคราะห์สาเหตุ หาวิธีการ หาแหล่งสนับสนุน ภาคีเครือข่ายที่มีส่วนร่วม เช่น ถ้าอยู่ใกล้สถานศึกษา contact ได้ ต้องการความรู้เรื่องไหน ขอค าแนะน า หรือ กศน. ก็เป็นแหล่งข้อมูลวิชาชีพตามความต้องการ ร่วมถึงขั้นตอนการแก้ไขปัญหา” 4.3.5 กำรพัฒนำระบบ/กลไกในกำรส่งเสริมคุณภำพชีวิตที่ดีให้กับผู้สูงอำยุ การพัฒนาระบบ/กลไกในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้กับผู้สูงอายุจะต้องเริ่มต้นจากระดับ ครอบครัว โดยการสนับสนุนเงินอุดหนุนเยียวยาให้กับครอบครัวที่สมาชิกในครอบครัวต้องดูแลผู้สูงอายุ เป็น การประเมินมูลค่าจากการสละเวลา สูญเสียโอกาส และรายได้ โดยอาจมีการจัดล าดับความส าคัญตามระดับ ของความล าบากในการดูแลผู้สูงอายุที่อยู่ในครอบครัว เพื่อก าหนดแนวทางในการให้ความช่วยเหลือ รูปแบบ การสนับสนุนในลักษณะดังกล่าวเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัว สร้างสายสัมพันธ์เพื่อไม่ให้ผู้สูงอายุ ถูกทอดทิ้ง เป็นการจัดสรรงบประมาณส าหรับการเยียวยาครอบครัวโดยตรง และมีระบบการติดตามตรวจสอบ ที่ชัดเจน และส าหรับครอบครัวที่สมาชิกในครอบครัวไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุได้ด้วยตนเอง อาจต้องมีการจ้าง คนดูแลผู้สูงอายุ งบประมาณในส่วนนี้จะเป็นค่าใช้จ่ายสนับสนุนการดูแลผู้สูงอายุ นอกจากนี้ควรมีระบบการ ลดหย่อนค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสาธารณูปโภคต่างๆ และมีระบบการดูแลผู้สูงอายุระยะยาวในชุมชนท้องถิ่น
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 98 97 ผู้เชี่ยวชาญ 1 “ยังไม่มี model มูลค่าที่สูญเสีย เงิน เวลา ส าหรับคนที่ดูแลผู้สูงอายุในครอบครัว ควรมีการจัดล าดับความล าบาก เป็นแนวทางการให้ความช่วยเหลือแบบสร้างสายสัมพันธ์ไม่ให้ผู้สูงอายุถูก ทอดทิ้ง มีเงินเยียวยาตรงไปที่ครอบครัว และมีระบบตรวจสอบ” ผู้เชี่ยวชาญ 1 “ครอบครัวที่ไม่มีคนดูแลผู้สูงอายุต้องมีการจ้าง Informal care giver ซึ่งควรมี เงินในการสนับสนุน เพราะในไทยยังไม่มีระบบ Long term care เหมือนในต่างประเทศ อาจจะมีระบบ ลดหย่อนภาษีในการเลี้ยงดูบิดามารดา แต่น่าจะมีการช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายด้วยการลดค่าน้ าค่าไฟในครอบครัวที่มี ผู้สูงอายุ มีระบบการดูแลโดยเทศบาล นักพัฒนาชุมชน” การพัฒนากลไกในระดับพื้นที่ ควรมีการพัฒนาโดยการคัดเลือกบุคคลส าคัญ (key person) ที่มี ศักยภาพ สามารถพัฒนาได้ รวมทั้งเป็นกลไกที่สร้างการมีส่วนร่วมให้เกิดขึ้นในพื้นที่ การพัฒนากลไกเครือข่าย ของกลุ่ม/องค์กรชุมชนให้มีส่วนร่วมในการการช่วยเหลือ แก้ไขปัญหา และส่งเสริมการด าเนินงานด้านผู้สูงอายุ อย่างเข้มแข็งโดยการสนับสนุนงบประมาณจากท้องถิ่น ตลอดจนมีการจัดตั้งกลไกที่เป็นหน่วยงานกลางท า หน้าที่ในการให้ค าแนะน าปรึกษาและสนับสนุนแนวทาง/วิธีการในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ เป็น หน่วยงานกลางในการเชื่อมโยงและประสานงานระหว่างผู้สูงอายุกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตอบสนองความ ต้องการและส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี ผู้เชี่ยวชาญ 2 “หน่วยงานที่รับผิดชอบด้านผู้สูงอายุมีองค์ความรู้อยู่แล้ว ให้เค้ามองหา key person ว่าใครคือคนที่สามารถดึงการมีส่วนร่วมหรือดึงศักยภาพออกมา มีหน่วยงานกลางที่ผู้เกี่ยวข้อง สามารถขอรับการสนับสนุนได้บ้าง ขอค าแนะน าในด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ มีการประชาสัมพันธ์ ข้อมูลของหน่วยงานกลาง หน่วยงานกลางท าหน้าที่เป็นตัวกลางที่ตอบสนองความต้องการของผู้สูงอายุ และ ประสานกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง” ผู้เชี่ยวชาญ 3“ตัวของประชาคมเป็นกลไกระดับรากหญ้า ถ้ามีเครือข่ายแก้ได้หมด ถ้าเครือข่าย ท างานอย่างแข็งแรง เรื่องอะไรท าได้หมด ให้ทุกคนภาคภูมิใจในกลุ่มของตนเอง ท้องถิ่นควรมีงบสนับสนุนการ ท างานในระดับเครือข่าย ควรมีการพัฒนากลไกเครือข่ายของกลุ่มแกนน าเครือข่ายต่างๆ ให้แข็งแรง ถ้ามีเรื่อง อะไรสามารถมาช่วยได้ ส่งไปที่เครือข่าย” 4.3.6 แนวทำง/รูปแบบที่เหมำะสมในกำรส่งเสริมคุณภำพชีวิตของผู้สูงอำยุโดยกำรมีส่วนร่วมของ คนทุกช่วงวัย การส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุภายใต้สังคมสูงอายุที่มีสัดส่วนของผู้สูงอายุเพิ่มสูงขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง ควรมีแนวทาง/รูปแบบที่เหมาะสม ดังนี้ (1) การส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ สิ่งส าคัญคือการส่งเสริมสุขภาพร่างกายและจิตใจ อย่างเหมาะสมสอดคล้องกับภาวะสุขภาพและความต้องการของผู้สูงอายุ สร้างความรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง ให้กับผู้สูงอายุ รวมทั้งสร้างความตระหนักถึงคุณค่าความส าคัญของผู้สูงอายุให้กับคนช่วงวัยอื่นๆ เพื่อส่งเสริม การอยู่ร่วมกันในสังคมสูงวัยอย่างมีคุณภาพ โดยการปลูกฝัง การเตรียมความพร้อม และการปรับตัว ของคน ทุกช่วงวัย - คนในช่วงวัยเด็กและเยาวชนควรมีการปลูกฝังเกี่ยวกับความกตัญญู และการให้ ความส าคัญเกี่ยวกับการช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุในด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านสุขภาพ และการที่เด็กเยาวชนส่วน ใหญ่อยู่ในระบบการศึกษา หลักสูตรการศึกษาจึงควรมีรายวิชาที่เกี่ยวข้องกับการปลูกฝังแนวความคิดเรื่อง
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 99 98 ความกตัญญูต่อญาติผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุในครอบครัว การช่วยเหลือและบ าเพ็ญประโยชน์ให้กับผู้สูงอายุ หรืออาจมี การสอดแทรกความรู้ในช่วงเวลาของการให้ความรู้โดยครูประจ าชั้น (home room) - วัยแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานที่เป็นวัยกลางคนควรมีการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ วัยสูงอายุ เพื่อเป็นวัยสูงอายุที่มีคุณภาพ มีการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ทั้งในด้านสุขภาพที่มุ่งเน้นการ ส่งเสริมการดูแลตนเองเพื่อชะลอวัย เลือกรับประทานอาหารที่มีคุณภาพ และออกก าลังกายสม่ าเสมอเพื่อ ป้องกันการเกิดโรคเรื้อรังที่ท าให้ต้องอยู่ในภาวะพึ่งพา การเตรียมความพร้อมด้านเศรษฐกิจ เช่น การวางแผน ทางการเงิน การออม เพื่อการพึ่งพาตนเองด้านเศรษฐกิจในอนาคต การเตรียมความพร้อมของวัยแรงงาน นอกจากจะท าให้เข้าสู่วัยสูงอายุอย่างมีคุณภาพในอนาคตแล้ว ยังเป็นก าลังส าคัญในการท างานเพื่อช่วยเหลือ สนับสนุนด้านเศรษฐกิจให้กับผู้สูงอายุในครอบครัว - วัยสูงอายุต้องมีการปรับตัวเพื่อให้ด ารงชีวิตอยู่ได้อย่างมีคุณภาพและมีความสามารถใน การพึ่งพาตนเองมากขึ้น การปรับตัวของผู้สูงอายุจะมีความแตกต่างกันไปตามประเภทของผู้สูงอายุ โดยในกลุ่ม ของผู้สูงอายุติดเตียงต้องมีการดูแลตนเอง ระมัดระวังไม่ให้มีการติดเชื้อหรือเสียชีวิต กลุ่มผู้สูงอายุติดบ้าน ควรมีการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาติดเตียง และในกลุ่มของผู้สูงอายุ ติดสังคมควรมุ่งเน้นการส่งเสริมกิจกรรมให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง มีการเรียนรู้เรื่องการบริหารการเงินและ การออม รวมทั้งการดูแลสภาพจิตใจให้มีความสุขและรู้สึกมีคุณค่า (2) กลไก/เครือข่ายที่ท างานเกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ ได้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) จะต้องมีความเข้าใจในสภาพปัญหาและความ ต้องการของผู้สูงอายุ มีการจัดบริการ สิ่งอ านวยความสะดวก และกิจกรรมที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ รวมทั้ง ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้รับประโยชน์จากบริการ สิ่งอ านวยความสะดวก และกิจกรรมต่างๆ ดังกล่าว โดยเฉพาะ กิจกรรมที่ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างผู้สูงอายุกับสมาชิกช่วงวัยอื่นในครอบครัวและชุมชน การส่งเสริมให้ ผู้สูงอายุเข้าถึงข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้อง ตลอดจนการประสานความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อ ขับเคลื่อนการด าเนินงานด้านผู้สูงอายุ (3) การส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโดยอาศัยการมีส่วนร่วมโดยคนทุกช่วงวัยในทุก ขั้นตอน เริ่มต้นตั้งแต่การระดมความคิดเห็น โดยเชิญตัวแทนของคนแต่ละช่วงวัยให้มาร่วมคิดวิเคราะห์ เกี่ยวกับสถานการณ์ปัญหาและความต้องการของผู้สูงอายุในครอบครัว ชุมชน ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน ร่วม วิเคราะห์แนวทางการแก้ไขปัญหา/ช่วยเหลือ/พัฒนา จัดท าข้อสรุปเป็นประชามติ และขับเคลื่อนการ ด าเนินงานร่วมกัน ซึ่งการมีส่วนร่วมในลักษณะดังกล่าวอาจน าไปสู่การก าหนดเป็นธรรมนูญขององค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น อันเป็นข้อตกลงในการอยู่ร่วมกันอย่างเคารพ และให้เกียรติผู้สูงอายุ รวมทั้งอาจมีการ ก าหนดเป็นระเบียบ หรือข้อบังคับในการอยู่ร่วมกัน นอกจากนี้ควรมีการก าหนดบทบาทหน้าที่ของผู้มีส่วนร่วม แต่ละกลุ่ม/ภาคส่วนให้มีความชัดเจน โดยในส่วนของภาคีเครือข่ายที่เป็นกลไกส าคัญในการส่งเสริมคุณภาพ ชีวิตของผู้สูงอายุควรได้รับการพัฒนาอย่างคู่ขนานควบคู่ไปกับการพัฒนาผู้สูงอายุ เพื่อให้เป็นพลังที่เข้มแข็งใน การสนับสนุนให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ผู้เชี่ยวชาญ 2 “ควรมีการปลูกฝังในระบบการศึกษาตั้งแต่วัยเด็ก ในกลุ่มเด็กและเยาวชน ปลูกฝัง ให้ดูแลผู้สูงอายุเรื่องอะไรบ้าง เช่น เรื่องสุขภาพไม่ให้หกล้ม ให้บ้านมีแสงสว่างเพียงพอ รู้ว่าควรช่วยเหลือดูแล
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 100 99 ยังไง เด็กและเยาวชนส่วนใหญ่จะอยู่ในสถานศึกษา สถานศึกษาจึงควรมีการปลูกฝังเพิ่มเติมเรื่องความกตัญญู การบ าเพ็ญประโยชน์ เป็นหัวข้อในชั่วโมง home room” ผู้เชี่ยวชาญ 2 “วัยกลางคน มีการให้ข้อมูลในการเตรียมตัว ส่งเสริมการดูแลตัวเองเพื่อชะลอวัย เตรียมตัวตั้งแต่ก่อนเข้าสู่วัยสูงอายุ ทั้งด้านสุขภาพ ด้านเศรษฐกิจ เช่น การวางแผนทางการเงิน เตรียมความ พร้อมคน เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ อยู่ได้อย่างไรด้านเศรษฐกิจ การออม สุขภาพ อาหารชะลอวัย ออกก าลังกาย การเกิดโรคเรื้อรังที่ท าให้เกิดภาวะพึ่งพา คนวัยกลางคนอยู่ในช่วงวัยของการท างานที่ต้องออกไปท างานข้าง นอกมากกว่าที่จะอยู่ดูแลผู้สูงอายุ เน้นให้เค้าดูแลตัวเองเพื่อสนับสนุนผู้สูงอายุ ด้วยภาระหน้าที่ต้องแบกรับ ผู้สูงอายุจะหนักอยู่แล้ว เน้นที่การดูแลตัวเอง ดูแลคุณภาพชีวิตทั่วไป เพื่อให้เข้าสู่วัยสูงอายุอย่างมีคุณภาพ” ผู้เชี่ยวชาญ 3 “ท ากับผู้สูงอายุด้วย ความต้องการได้มาจากใคร ได้มาจากตัวเอง มีการเสริมพลัง ให้แล้วต้องดูแลตัวเอง ไม่หวังพึ่งจากคนอื่นอย่างเดียว” ผู้เชี่ยวชาญ 2 “วัยสูงอายุ ผู้สูงอายุติดเตียงระวังไม่ให้ติดเชื้อเสียชีวิต ผู้สูงอายุติดบ้าน หา กิจกรรมไม่ให้ติดเตียง ผู้สูงอายุติดสังคม เน้นเรื่องกิจกรรม การบริหารการเงิน ดูแลจิตใจ” ผู้เชี่ยวชาญ 3 “สิ่งแวดล้อม อปท. ช่วยได้อย่างมาก เรื่องสิ่งอ านวยความสะดวกส าหรับผู้สูงอายุ เข่น ห้องน้ า ทางเดินสาธารณะ การมีกิจกรรมให้ผู้สูงอายุเข้าถึงตลาดนัด วัด มัสยิด เข้าถึงการใช้ชีวิตประจ าวัน ของเค้าได้อปท.มีเจ้าหน้าที่ดูแลด้านผู้สูงอายุอยู่แล้ว ถ้าผู้สูงอายุสามารถเข้าถึงบริการของ อปท.ได้ง่าย ก็ สามารถส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุได้” ผู้เชี่ยวชาญ 3 “ใช้ line ในการส ารวจผู้สูงอายุว่าใช้โซเชียลได้กี่ราย สร้าง line กลุ่มส าหรับคนที่ มี Line ส่วนคนที่ไม่มีต้องมีคนที่ให้ข้อมูลได้ เช่น อพม.ในพื้นที่ ที่ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง check ให้ชัวร์ ก่อนแชร์” ผู้เชี่ยวชาญ 3 “คนที่ท างานด้านผู้สูงอายุ ต้องเข้าใจในส่วนของการเปลี่ยนแปลง ปัญหา/ความ ต้องการ สิ่งที่ควรจะมีคือเครือข่ายคนที่ท างานด้านผู้สูงอายุ ต้องไม่ Pround ในตัวเอง ต้องหาข้อมูลจากคนที่ ท างานด้านผู้สูงอายุโดยตรงได้ เป็นคนที่ไม่โยนงาน มีความมุ่งมั่นในการท างาน” ผู้เชี่ยวชาญ 1 “อาจจะมีการจัดกิจกรรมร่วมระหว่างผู้สูงอายุกับคนช่วงวัยอื่น ตัวอย่างเช่น ใน ต่างประเทศ บางโรงพยาบาลมีการน าผู้สูงอายุมาเป็นอาสาสมัครดูแลเด็กในโรงพยาบาลที่เป็น new born เพราะเชื่อในเรื่องสายสัมพันธ์ การดูแลเอาใจใส่ สัมผัส ใกล้ชิด ท าให้เด็กรู้สึกอบอุ่น ผู้สูงอายุเองก็รู้สึกมีคุณค่า มีความสุขที่ได้ดูแลผู้อื่น และมีการน าผู้สูงอายุไปเล่านิทานให้เด็กฟัง” ผู้เชี่ยวชาญ 3 “คนในครอบครัวท ามาหากิน ต้องมีกิจกรรมเป็นตัวท าให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดี เช่น วันผู้สูงอายุ วังสงกรานต์ เน้นกิจกรรมที่ท าในวันอาทิตย์ วันที่เป็นวันหยุด เป็นโอกาสในการท างานกับ ครอบครัว สร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว เปลี่ยนทัศนคติของคนในครอบครัว” ผู้เชี่ยวชาญ 1 “คนทุกช่วงวัยมีส่วนร่วมมองได้หลายระดับ มีส่วนร่วมในระดับชุมชน อาจจะมี การจัดเวที เอาตัวแทนคนแต่ละช่วงวัยมาร่วมระดมสมอง วิเคราะห์ร่วมกันว่าปัญหาของผู้สูงอายุในชุมชน หลักๆ เป็นเรื่องอะไร แล้วช่วยกันคิดด้วยว่าจะท าอย่างไร ช่วยกันแก้ไขได้ยังไง ท าเป็นธรรมนูญแต่ละ อบต. ของการอยู่ร่วมกันแบบเคารพ ให้เกียรติผู้สูงอายุ อาจท าเป็นระเบียบ หรือข้อบังคับ ตัวแทนแต่ละช่วงวัยมีการ คิดร่วมกัน แล้วท าประชามติเพื่อให้ได้ข้อสรุป” ผู้เชี่ยวชาญ 3 “เรามีความรู้ด้านทฤษฎีอยู่แล้ว แต่พอมาอยู่ในชุมชนเราต้องส ารวจความต้องการ/ ปัญหา ในทฤษฎีอาจมีปัญหา/ความต้องการบางส่วน แต่สภาพปัญหาตามความเป็นจริงในปัจจุบันควรมีการ
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 101 100 ส ารวจร่วมกัน วิเคราะห์ร่วมกัน ใครจะท าอะไร ยังไง บทบาทของแต่ละกลุ่ม ต้องมีเครือข่ายที่เข้มแข็ง พัฒนา กลไกเครือข่ายเป็นอันดับแรก ถ้าเครือข่ายไม่เข้มแข็งให้ท าคู่ขนาน เช่น พม. หากด าเนินการด้านผู้สูงอายุต้อง พัฒนาเครือข่ายไปด้วย” 4.3.7 นโยบำยของภำครัฐในกำรส่งเสริมคุณภำพชีวิตของผู้สูงอำยุในระยะ 3 ปี 5 ปี 10 ปี การก าหนดนโยบายในภาพรวมอาจจะต้องพิจารณาจากสถานการณ์ของผู้สูงอายุทั้งหมดที่ เปลี่ยนแปลงไปตามการเปลี่ยนแปลงทางสังคมซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้สูงอายุ โดยเป็นการน าข้อมูลในภาพรวม ขนาดใหญ่ (Big data) มาวิเคราะห์และจัดล าดับความส าคัญเพื่อก าหนดนโยบายให้มีความเหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์ ในการได้มาซึ่งข้อมูลส าคัญควรมีการเก็บรวบรวมตั้งแต่ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพปัญหา/ ความต้องการของผู้สูงอายุในระดับพื้นที่ โดยส านักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร่วมกับ ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมีการเก็บรวบรวมข้อมูลในระดับจังหวัด จัดท าแผนเสนอขึ้นไปยังหน่วยงานต้นสังกัดคือ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งจะน าข้อมูลดังกล่าวมาจัดท านโยบายและแผน ระดับประเทศเสนอต่อรัฐบาล ทั้งนี้ หากประเมินจากสถานการณ์โดยรวมในปัจจุบันนโยบายเพื่อส่งเสริม คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุระยะสั้นภายในช่วงเวลา 3 ปี ควรมุ่งเน้นการช่วยเหลือดูแลตามลักษณะของผู้สูงอายุ แต่ละกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุติดบ้าน ติดเตียง หรือติดสังคม มีแนวทางในการเฝ้าระวังและป้องกันไม่ให้ ผู้สูงอายุติดสังคมกลายเป็นผู้สูงอายุติดบ้าน ติดเตียง การส่งเสริมให้ผู้สูงอายุรับรู้ข้อมูลข่าวสารและเข้าถึงสิทธิ สวัสดิการต่างๆ ผ่านการประชาสัมพันธ์และแหล่งข้อมูลที่ผู้สูงอายุสามารถเข้าถึงได้ รวมทั้งมีสวัสดิการด้านการ ตรวจสุขภาพประจ าปีส าหรับผู้สูงอายุโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นการประเมินและคัดกรองสุขภาพในเบี้องต้น ซึ่งจะช่วยป้องกันปัญหาการเกิดโรคที่ผิดปกติ/ยากต่อการรักษาส าหรับกลุ่มผู้สูงอายุ โดยการด าเนินงานใน ลักษณะดังกล่าวต้องอาศัยการขับเคลื่อนในเชิงรุกร่วมกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นอกจากนี้ในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโดยการขับเคลื่อนใน ระดับพื้นที่ควรอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยควรมีการก าหนดกิจกรรมที่เสริมสร้างการมีส่วนร่วมของ คนต่างช่วงวัย ทั้งเด็ก เยาวชน ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายเป็นไปอย่างยั่งยืน ผู้เชี่ยวชาญ 1 “การก าหนดนโยบายจะต้องเริ่มจากการส ารวจข้อมูล ณ ปัจจุบันก่อนว่าในสังคม ผู้สูงอายุที่เป็นอยู่ในปัจจุบันปัญหาที่ส าคัญคือเรื่องอะไร ต้องมอง data ในภาพรวมที่เป็น Big data เกี่ยวกับ ปัญหาของผู้สูงอายุทั้งหมด” ผู้เชี่ยวชาญ 3 “คนที่รับผิดชอบผู้สูงอายุคือ กรมผู้สูงอายุ กระทรวง พม. ต้องท าทั้งนโยบายและ แผนน าเสนอระดับสูง ใช้ข้อมูลจากการส ารวจสภาพปัญหา/ความต้องการระดับรากหญ้า เก็บเป็นข้อมูล ภาพรวมในระดับจังหวัดโดย พมจ. ใช้ไลน์ในการติดต่อประสานงาน ท าเป็นแผนเสนอขึ้นไป ระดับจังหวัดมีการ เก็บข้อมูลจากทุกภาคส่วนให้เค้ามีส่วนร่วม ส่งข้อมูลต่อไประดับประเทศ งบประมาณด้านผู้สูงอายุควรมีมาก ขึ้น งบพัฒนาค่อนข้างน้อย กระทรวง พม. ควรท าให้รัฐบาลตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นถ้าไม่มีเม็ดเงินมาให้ ควรจะมีเงินมาขับเคลื่อนโครงการมากขึ้น กระทรวง พม. กับ อปท. มีการท า MOU ในการพัฒนาผู้สูงอายุไป ด้วยกัน วางเงินด้วยกัน” ผู้เชี่ยวชาญ 2 “ระยะสั้นๆ 3 ปี เป็นการดูแลตามสภาพ ติดบ้าน ติดเตียง ติดสังคม ป้องกันกลุ่ม ติดสังคมไม่ให้กลายเป็นคนติดบ้าน ติดเตียง โดยกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวง พม. ท าเป็นเชิงรุก”
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 102 101 ผู้เชี่ยวชาญ 3 “เน้นเรื่องสิทธิของผู้สูงอายุให้ชัดเจน อย่างในด้านสุขภาพ สุขภาพมีสิทธิอยู่แล้ว ผู้สูงอายุจะใช้สิทธิได้ต้องมีความรู้ ต้องมีการประชาสัมพันธ์บอกผู้สูงอายุให้รู้ทุกเรื่อง ขอให้เข้าถึงข้อมูลข่าวสาร มีแหล่งในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร” ผู้เชี่ยวชาญ 3 “ถ้าจะให้เพิ่ม น่าจะเพิ่มเรื่องการตรวจสุขภาพประจ าปีของ สปสช. ที่ไม่ต้องเสีย เงิน มีการประเมินสุขภาพฟรีตามเกณฑ์อายุ เพื่อเป็นการ Screening ป้องกันไม่ให้แย่ ถ้าผู้สูงอายุสามารถ ตรวจสุขภาพได้ปีละครั้ง เข้ารับการรักษาตามระบบ การเกิดโรคที่ผิดปกติจะไม่มากเท่าปัจจุบัน” ผู้เชี่ยวชาญ 2 “ควรมองขยายเพิ่มท ากิจกรรมระหว่างเด็ก เยาวชน และผู้ใหญ่ กับผู้สูงอายุ เพื่อให้ ยั่งยืน” ส่วนนโยบายระยะยาวที่มีขอบเขตของห้วงเวลาอยู่ในช่วง 5 ปี หรือ 10 ปี ควรมุ่งเน้นการเตรียม ความพร้อมให้กับประชากรวัยผู้ใหญ่ช่วงอายุระหว่าง 45 – 50 ปี ซึ่งก าลังจะเข้าสู่วัยสูงอายุ โดยก าหนด แผนงานด้านการเตรียมความพร้อมในทุกมิติ ทั้งมิติด้านเศรษฐกิจ เกี่ยวกับการบริหารจัดการด้านการเงิน การ ออม และแนวทางการใช้ชีวิตภายใต้ระบบเศรษฐกิจที่มีค่าครองชีพสูง หน่วยงานที่ควรมีบทบาทการด าเนินงาน ในด้านดังกล่าวคือ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และในมิติด้านสุขภาพ มุ่งเน้นในเรื่อง ของการมีสุขภาวะที่ดี ไม่เป็นโรคเรื้อรัง ลดภาวะการติดเตียง สามารถพึ่งพาตนเองและช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุ ด้วยกันได้ โดยในส่วนนี้กระทรวงสาธารณสุขก าลังอยู่ในระหว่างด าเนินการ และคาดว่าจะมีการจัดสรร งบประมาณสนับสนุนเพิ่มเติม ส าหรับในกลุ่มของผู้ที่ล่วงเข้าสู่วัยสูงอายุแล้วนั้น สิ่งส าคัญที่ไม่ควรละเลยคือ ปัญหาด้านสุขภาพ โดยเฉพาะปัญหาด้านการเสื่อมสภาพทางสมองที่สัมพันธ์กับกับอายุที่เพิ่มขึ้น ซึ่งพบมากขึ้น ในผู้สูงอายุปัจจุบัน และมีแนวโน้มว่าอาจจะเพิ่มมากขึ้นจากการตรวจผ่านเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในอนาคต ความเป็นเมืองที่ขยายตัวครอบคลุมอย่างทั่วถึงทุกพื้นที่ ย่อมส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายในการครอง ชีพ ผู้สูงอายุที่มีรายได้หลักจากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุอาจมีรายได้ไม่เพียงพอในการด ารงชีวิต ควรมีการพิจารณา เพื่อเพิ่มเบี้ยยังชีพของผู้สูงอายุให้เหมาะสมกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ผู้เชี่ยวชาญ 2 “ถ้าระยะ 5 ปี 10 ปี ช่วยวางแผนในกลุ่มวัยผู้ใหญ่ อย่าไปทุ่มงบกับผู้สูงอายุอย่าง เดียว เริ่มท าตั้งแต่อายุ 45 – 50 ปี วางแผนรอบด้าน ทั้งเศรษฐกิจ การเงิน แนะน าการใช้ชีวิตให้เป็น หน่วยงาน ที่วางแผนคือ กระทรวง พม. วางแผนเรื่องการเงินและอาชีพ ส่วนเรื่องสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุขก าลังท า อยู่แล้ว น่าจะมีการให้งบสนับสนุนเพิ่มเติม” ผู้เชี่ยวชาญ 1 “ส าหรับปัญหาระยะยาวที่เริ่มเห็นเด่นชัดคือ ปัญหาสมรรถภาพทางสมอง สมอง เสื่อมสัมพันธ์กับอายุที่เพิ่มขึ้น จากในอดีตที่ไม่พบปัญหานี้ในไทย เนื่องจากการตรวจที่ไม่ละเอียดเท่าใน ปัจจุบันที่มีเทคโนโลยีในการตรวจที่ละเอียดมากขึ้นและพบปัญหาด้านการเสื่อมสภาพทางสมองในผู้สูงอายุที่ เพิ่มสูงขึ้น” ผู้เชี่ยวชาญ 3 “สังคมเมืองขยายตัวไปเรื่อยๆ ของทุกอย่างต้องซื้อ เบี้ยผู้สูงอายุเพิ่มได้หรือไม่ มี เงินพอใช้ส าหรับการเลี้ยงชีพหรือไม่ ถ้าเค้ายังต้องท างาน ต้องกรีดยาง ให้มาร่วมกิจกรรมคงมาไม่ได้” 4.3.8 หน่วยงำนที่ควรเข้ำมำมีส่วนร่วมในกำรส่งเสริมคุณภำพชีวิตของผู้สูงอำยุ ในสังคมสูงอายุปัจจุบันที่มีจ านวนของผู้สูงอายุเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หน่วยงานภาครัฐทุก กระทรวงที่เกี่ยวข้องควรเข้ามามีบทบาทและมีส่วนร่วมในการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นสังคมสูงวัยที่มี
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 103 102 คุณภาพ ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกๆ ด้าน มีบริการ/สวัสดิการที่ครอบคลุมทุกมิติ ตามบทบาทภารกิจ ของแต่ละหน่วยงาน ดังนี้ 1) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ควรมีบทบาทด้านการจัดสวัสดิการทาง สังคมอย่างครอบคลุมและทั่วถึง 2) กระทรวงสาธารณสุขในมิติด้านสุขภาพ โดยการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและ บริการด้านสุขภาพผ่านระบบการให้บริการที่เป็นระบบ มีขั้นตอน/กระบวนการในการให้บริการที่ชัดเจนและมี ประสิทธิภาพ 3) กระทรวงศึกษาธิการในมิติด้านการพัฒนาทักษะ ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อให้ผู้สูงอายุ มีการเรียนรู้ในสิ่งต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และสามารถปรับตัวได้อย่างรู้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง 4) กระทรวงแรงงานในมิติของการจ้างงาน เพื่อให้ผู้สูงอายุที่มีแนวโน้มเพิ่มจ านวนสูงขึ้นอย่าง ต่อเนื่องมีความสามารถในการพึ่งพาตนเองด้านเศรษฐกิจและรายได้โดยส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาเกี่ยวกับ อาชีพใหม่ๆ เช่น การตลาดแบบออนไลน์ เป็นต้น ตลอดจนการก าหนดระบบการคุ้มครองทางสังคมส าหรับ ผู้สูงอายุที่เป็นแรงงานนอกระบบซึ่งไม่ได้รับสิทธิคุ้มครองใดๆ ต่างจากผู้สูงอายุที่เป็นข้าราชการวัยเกษียณที่มี สวัสดิการรองรับ และผู้สูงอายุที่ได้รับสิทธิประกันสังคมในรูปแบบของเบี้ยชราภาพ 5) การมีส่วนร่วมของหน่วยงานภาคเอกชนในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุดังนี้ - การส่งเสริมให้มีระบบ CSR ในการช่วยเหลือดูแลพนักงานที่เกษียณอายุไปเพื่อให้มี คุณภาพชีวิตที่ดีหลังเกษียณ ซึ่งแสดงถึงระบบการท างานแบบเกื้อกูลและไม่ทอดทิ้งกันของหน่วยงาน โดยเป็น การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและท าประโยชน์เพื่อสังคม การท า CSR สามารถสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วนใน การส่งเสริมกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อสังคม รวมถึงการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้ที่พ้นวัยเกษียณเพื่อให้มี ความพร้อมและสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการท าประโยชน์เพื่อสังคมได้เช่นเดียวกัน - หน่วยงานเอกชนที่ส่วนใหญ่มีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีควรมีการน าระบบเทคโนโลยี มาใช้ในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ - การให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ/ชุมชนท้องถิ่นในรูปแบบของการท า CSR เพื่อ ช่วยเหลือผู้สูงอายุทั้งในด้านของการด าเนินชีวิตประจ าวัน และการสนับสนุนการจ้างงานผู้สูงอายุที่ยังมีความ พร้อมด้านก าลังกาย มีศักยภาพ และมีความต้องการในการท างาน โดยก าหนดลักษณะงานที่มีความยืดหยุ่น และเหมาะสมส าหรับผู้สูงอายุรวมทั้งมีการก าหนดอาชีพเฉพาะเจาะจงไว้ส าหรับผู้สูงอายุเพื่อที่จะได้ไม่ต้องมี การแก่งแย่งแข่งขันเรื่องการท างานกับคนในช่วงวัยอื่น 6) หน่วยงานและภาคีเครือข่ายในระดับท้องถิ่นที่มีความใกล้ชิดกับผู้สูงอายุ ควรมีการวิเคราะห์ สถานการณ์ของผู้สูงอายุในพื้นที่ และภาคีเครือข่ายที่สามารถประสานความร่วมมือเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมใน การส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในชุมชนท้องถิ่น ทั้งมูลนิธิต่างๆ และองค์กรภาคเอกชน จากนั้นจึงมีการ ประสานความร่วมมือกับเครือข่ายดังกล่าว และขยายความร่วมมือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นวงกว้าง เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมที่เอื้อประโยชน์ได้มากขึ้น โดยในการประสานความร่วมมือนั้นควรแสดงให้เห็นถึง ประโยชน์ร่วมที่ภาคีเครือข่ายจะได้รับในลักษณะของ Social Enterprise หรือ win-win situation ผู้เชี่ยวชาญ 1 “ทุกกระทรวงควรมีส่วนร่วมตามบทบาทหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวง พม. กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน ในเรื่องของอาชีพใหม่ๆ เช่น online marketing
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 104 103 ที่ผู้สูงอายุควรเรียนรู้ หน่วยงานเอกชนก็ควรให้ความส าคัญ เพราะคนเกษียณอายุเร็วกว่าของรัฐบาล ควรมี ระบบ CSR มากขึ้น เพื่อช่วยเหลือพนักงานที่เกษียณอายุ โดยร่วมกันทุกภาคส่วน เพื่อให้คนเกษียณอายุที่ถูก มองว่าเป็น useless (หมดประโยชน์) กลับคืนสู่สังคม ท าประโยชน์เพื่อสังคม สิ่งนี้จะแสดงถึงการเกื้อกูลใน สังคม การดูแลที่ไม่ทอดทิ้งกัน ผู้เชี่ยวชาญ 2 “น่าจะเป็นกลุ่มก้อนเอกชนที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ มาสนับสนุน หาเอกชนในพื้นที่ที่ ท า CSR ดูว่ามาช่วยสนับสนุนส่วนไหน อาจจะเป็นอุปกรณ์ เช่น SCG ที่มีห้องน้ านวัตกรรมใหม่ๆ ส าหรับ ผู้สูงอายุ เอกชนในพื้นที่ๆ อยากช่วยผู้สูงอายุ คน 60 ปีที่ยังมีก าลัง บางคนยังต้องการท างาน สนับสนุนเรื่อง การจ้างงาน อาจไม่ใช่งานหลัก แต่เป็นงานเสริม งานที่ท าที่บ้าน มีเจ้าหน้าที่มารับของ ช่วยลดปัญหาเรื่องการ เดินทางของผู้สูงอายุ” ผู้เชี่ยวชาญ 1 “สวัสดิการ ส าหรับผู้ประกันตน ประกันสังคมจะมีเบี้ยชราภาพให้ แต่แรงงานนอก ระบบที่เป็นผู้สูงอายุจะไม่ได้รับการคุ้มครอง จึงควรมีระบบให้การดูแลคุ้มครองผู้สูงอายุ รวมทั้งมีการก าหนด อาชีพเฉพาะส าหรับผู้สูงอายุ เพื่อไม่ให้ถูกแย่งงานโดยคนวัยอื่น เช่น อาชีพไกด์ผู้สูงอายุ” ผู้เชี่ยวชาญ 3 “ท้องถิ่น เครือข่ายในท้องถิ่น ท้องถิ่นมีเครือข่ายอะไรบ้าง เอกชน CP เครือข่ายใน ท้องถิ่นทั้งหมด มีมูลนิธิชุมชน คนที่ท างานต้องมาตีแผ่องค์กรต่างๆ เข้าหาเพื่อเชื้อเชิญให้เค้ามามีส่วนร่วม เป็น ระลอกคลื่น จากเครือข่ายที่มีในชุมชน ขยายความร่วมมือออกไป การวิเคราะห์พื้นที่ของตนเอง มีหน่วยงานใน พื้นที่ที่มีศักยภาพ มีหน่วยงานที่จ้างงานผู้สูงอายุ เช่น พนักงานเก็บขยะ คนล้างจาน อย่างในญี่ปุ่น มีร้านกาแฟ ที่ให้ผู้สูงอายุเป็นพนักงาน ดึงเรื่องภาษีท้องถิ่น สร้าง Social Enterprise ถ้าท าเค้าได้อะไร ท าให้เป็น win-win situation” 4.3.9 กำรประมวลผล วิเครำะห์ข้อมูล และสรุปประเด็นจำกกำรสัมภำษณ์เชิงลึก 1) แนวทางในการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี ด ารงชีวิตอย่างมีความสุขและรู้สึกมี คุณค่า โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของครอบครัวและชุมชนท้องถิ่น การส่งเสริมในส่วนของผู้สูงอายุให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยอาจจ าแนกผู้สูงอายุได้เป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้สูงอายุที่ไม่มีความพร้อมในด้านของปัจจัยพื้นฐาน ควรได้รับการส่งเสริมสวัสดิการที่สอดคล้องกับ สภาพปัญหาและความต้องการตามความจ าเป็นและเหมาะสม มีช่องทางในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและ บริการต่างๆ โดยเฉพาะบริการทางด้านสุขภาพเพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ในระดับหนึ่ง ส่วนผู้สูงอายุที่มี ความพร้อมในด้านของปัจจัยพื้นฐาน ควรมีการส่งเสริมความตระหนักในคุณค่าของตนเอง การมีทัศนคติที่ดี มี เป้าหมายของการใช้ชีวิตในช่วงบั้นปลาย ซึ่งจะช่วยให้ผู้สูงอายุมีความพร้อมทั้งในด้านของสุขภาพร่างกายและ จิตใจ ตลอดจนเป็นกลุ่ม Active Aging ที่สามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ที่จะช่วยพัฒนาทักษะความรู้ เสริมความสามารถในการพึ่งพาตนเองในด้านต่างๆ การส่งเสริมให้สมาชิกในครอบครัวมีส่วนร่วมในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดย กลุ่มเยาวชนควรได้รับการปลูกฝังให้มีความกตัญญูและตระหนักถึงคุณค่าของผู้สูงอายุ มีการช่วยเหลือดูแลทั้ง ในส่วนของการด าเนินกิจวัตรประจ าวัน และการเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดข้อมูลข่าวสารความรู้ที่จ าเป็นและ เหมาะสมให้กับผู้สูงอายุ เพื่อส่งเสริมการปรับตัวและรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง นอกจากจะเป็นการช่วยเหลือ ผู้สูงอายุในครอบครัวแล้ว เยาวชนโดยเฉพาะที่อยู่ในสถานศึกษาสามารถให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุในชุมชน ท้องถิ่นที่ขาดผู้ดูแล
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 105 104 การมีส่วนร่วมของวัยแรงงานซึ่งเป็นก าลังส าคัญในการประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้จะ เป็นไปในลักษณะของการสนับสนุนด้านค่าใช้จ่ายที่จ าเป็นในการด ารงชีวิตของผู้สูงอายุ วัยแรงงานจึงควรมี ส่วนร่วมโดยการดูแลตนเองให้มีสุขภาพดี มีความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือสนับสนุนผู้สูงอายุ รวมทั้งเป็น การเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่วัยสูงอายุ เพื่อให้เป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสามารถในการ พึ่งพาตนเอง การส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโดยบทบาทของชุมชนท้องถิ่นซึ่งมีภารกิจส าคัญในการ ดูแลกลุ่มเป้าหมายในชุมชน ผู้น าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้น าชุมชน ควรตระหนักถึงความส าคัญของการ ช่วยเหลือดูแลและสนับสนุนผู้สูงอายุ โดยมีการก าหนดแนวทาง/นโยบายด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของ ผู้สูงอายุอย่างชัดเจน ผลักดันให้มีการขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติโดยกลไกต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่ของ หน่วยงาน ครอบครัว อาสาสมัคร/จิตอาสา รวมถึงสมาชิกในชุมชน ซึ่งโครงการ/กิจกรรมต่างๆ จะต้องมีความ สอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการของผู้สูงอายุ ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้รับประโยชน์จากข้อมูลข่าวสาร บริการ และสิ่งอ านวยความสะดวกต่างๆ ที่ส าคัญคือการจัดโครงการ/กิจกรรมที่เสริมสร้างการมีส่วนร่วม ระหว่างผู้สูงอายุกับคนช่วงวัยอื่นเพื่อเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้สูงอายุกับคนทุกช่วงวัย รวมทั้ง มีการก ากับติดตามและประเมินผลการด าเนินงานตามแนวทาง/นโยบายที่ก าหนด นอกจากนี้ควรมีการ ประสานความร่วมมือกับหน่วยงาน/ภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องที่สามารถให้การช่วยเหลือสนับสนุนการ ด าเนินงานด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ลักษณะของการมีส่วนร่วมในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุจะต้องอาศัยความร่วมมือ ของกลไกทุกภาคส่วนโดยคนทุกช่วงวัยในการระดมความคิดเห็นเพื่อวิเคราะห์สภาพปัญหาและความต้องการ ของผู้สูงอายุในชุมชนท้องถิ่นตามสถานการณ์ปัจจุบัน การวิเคราะห์ที่มาหรือสาเหตุของปัญหา การก าหนด แนวทาง/วิธีการ/นโยบายในการช่วยเหลือ แก้ไขปัญหา สนับสนุนและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ โดยอาจมี การจัดท าเป็นข้อสรุปประชามติจากการระดมความคิดเห็นหรือพัฒนาให้มีความชัดเจนและเป็นทางการโดย จัดท าเป็นธรรมนูญขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีระเบียบ ข้อบังคับในการอยู่ร่วมกันอย่างเคารพและให้ เกียรติซึ่งกันและกัน การขับเคลื่อนการด าเนินงานตามแนวทาง/นโยบาย/ข้อก าหนดต่างๆ ควรเป็นไปโดย อาศัยการมีส่วนร่วมของกลไกทั้งภายในชุมชนท้องถิ่น และกลไกที่เป็นภาคส่วน/ภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องซึ่งมี ภารกิจ หรือมีก าลังความพร้อมในการสนับสนุนให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยมีการก าหนดบทบาทหน้าที่ ของแต่ละภาคส่วนให้มีความชัดเจน เพื่อให้การด าเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายและมีความสอดประสาน เชื่อมโยงซึ่งกันและกัน 2) การส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยการส่งเสริมความสามารถในการพึ่งพาตนเอง การส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโดยอาศัยความสามารถในการพึ่งพาตนเองจะต้อง ค านึงถึงลักษณะส่วนบุคคลและความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุ โดยผู้สูงอายุบางส่วนตามพื้นฐานของครอบครัวและ สังคมวัฒนธรรมยังอยู่ร่วมกันในลักษณะของการพึ่งพา การส่งเสริมการพึ่งพาตนเองของผู้สูงอายุจึงยังคงต้อง อาศัยการสนับสนุนจากคนในครอบครัว ส่วนผู้สูงอายุอีกกลุ่มหนึ่งที่ยังมีความสามารถในการพึ่งพาตนเอง กลุ่มนี้ จะมีทั้งผู้สูงอายุที่เป็นปราชญ์ชาวบ้าน/ผู้มีภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สามารถถ่ายทอดสู่คนรุ่นหลังได้ กับผู้สูงอายุอีกกลุ่ม หนึ่งที่ไม่ได้มีทักษะความรู้/ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สามารถถ่ายทอดได้ แต่เป็นผู้สูงอายุที่มีลักษณะ “ติดสังคม” ซึ่ง สามารถส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 106 105 ผู้สูงอายุที่อยู่ภายใต้สังคมวัฒนธรรมและมีกรอบความคิดที่ยังยึดติดกับค าว่า “พึ่งพา” อาจ ต้องมีการปรับเปลี่ยนกระบวนความคิดในภาพรวมของทั้งสังคม โดยการสะท้อนแง่มุมของความเป็นจริงใน อนาคตที่คนมีบุตรลดน้อยลง และเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุผู้สูงอายุต้องพึ่งพาตนเองมากขึ้น ซึ่งการปรับเปลี่ยน ทัศนคติในลักษณะดังกล่าวอาจเป็นเป้าหมายระยะยาวที่ต้องด าเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส าหรับผู้สูงอายุที่ยังมีความสามารถในการพึ่งพาตนเองและเป็นผู้มีทักษะความรู้/ภูมิปัญญา ท้องถิ่น/เป็นปราชญ์ชาวบ้าน ควรมีการส่งเสริมให้มีการถ่ายทักษะความรู้/ภูมิปัญญาให้เป็นประโยชน์ ทั้งใน รูปแบบของการเสริมศักยภาพโดยสนับสนุนให้ผู้สูงอายุท าหน้าที่เป็นแกนน า/ผู้น า หรือการเป็นวิทยากรในการ ถ่ายทอดทักษะความรู้/ภูมิปัญญาท้องถิ่น/ความเชี่ยวชาญประสบการณ์เพื่อสืบสานสู่คนรุ่นถัดไป ซึ่งจะเป็นการ ส่งเสริมความรู้สึกมีคุณค่าและสร้างประโยชน์ต่อชุมชนท้องถิ่น หรือในกรณีของผู้สูงอายุที่มีทักษะความรู้/ ภูมิปัญญา/ประสบการณ์ แต่ขาดทักษะด้านการสื่อสาร/การถ่ายทอดความรู้ ควรใช้วิธีการถอดบทเรียนเพื่อ น าองค์ความรู้ภายในตัวบุคคล (Tacit Knowledge) มาถ่ายทอดสู่บุคคลอื่น/สู่สาธารณะซึ่งเป็นการขยายผล องค์ความรู้และส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับบุคคลอื่น รวมทั้งอาจมีการพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้/ภูมิปัญญา ดังกล่าวโดยการพัฒนาคนที่มีโอกาสเรียนรู้หรือได้รับองค์ความรู้จากการถอดบทเรียนหรือการถ่ายทอดความรู้ โดยตรงจากผู้สูงอายุซึ่งเป็นผู้ทรงภูมิปัญญาให้ท าหน้าที่เป็นวิทยากรในการถ่ายทอดองค์ความรู้/ภูมิปัญญาเพื่อ เป็นการขยายผลต่อไป นอกจากนี้ทักษะความรู้/ภูมิปัญญาท้องถิ่นยังสามารถใช้เป็นประโยชน์ในการแก้ไข ปัญหาและเพิ่มความสามารถในการพึ่งพาตนเองของผู้สูงอายุ เช่น การส่งเสริมให้ผู้สูงอายุที่มีทักษะความรู้/ ภูมิปัญญาเฉพาะด้านมีการรวมกลุ่มประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้ส าหรับในกลุ่มที่มีรายได้ไม่เพียงพอต่อ ค่าใช้จ่าย โดยหน่วยงานที่ควรมีบทบาทส าคัญในการส่งเสริมให้มีการถ่ายทอดทักษะความรู้/ภูมิปัญญาท้องถิ่น อันทรงคุณค่าคือกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งควรด าเนินการค้นหาผู้สูงอายุอันเป็น แหล่งคลังปัญญาของท้องถิ่น มีการจัดหมวดหมู่ทักษะความรู้/ภูมิปัญญาท้องถิ่น จัดตั้งเป็นคลังสมอง และ ส่งเสริมให้มีการถ่ายทอดองค์ความรู้/ภูมิปัญญา ส่วนในกลุ่มผู้สูงอายุที่ยังพึ่งพาตนเองได้ และมีลักษณะ “ติดสังคม” ควรมีการส่งเสริมความรู้ และพัฒนาทักษะผ่านการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ เช่น กิจกรรมของชมรมผู้สูงอายุ หรือโรงเรียนผู้สูงอายุ และในกิจกรรมดังกล่าวผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่จ าเป็นต้องมีเฉพาะผู้สูงอายุ แต่สามารถจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการมี ส่วนร่วมของคนช่วงวัยต่างๆ กับผู้สูงอายุเพื่อเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างคนต่างช่วงวัย นอกจากนี้ผู้สูงอายุที่ติดสังคมส่วนใหญ่จะมีการเข้าถึงเทคโนโลยีเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารในระดับหนึ่ง เช่น การ ติดต่อสื่อสารผ่านระบบ Line Official ซึ่งเป็นช่องทางที่สามารถให้ข้อมูลข่าวสารแก่ผู้สูงอายุได้ ทั้งข้อมูล ข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การพัฒนาตนเอง และความรู้ที่จ าเป็นเกี่ยวกับสถานการณ์ทางสังคมใน ปัจจุบัน โดยจัดท าในรูปแบบของสื่อที่เข้าใจได้ง่ายและมีเนื้อหาไม่มากเกินไป รวมทั้งมีการให้ค าแนะน าในการ เลือกรับข้อมูลข่าวสารที่มีความน่าเชื่อถือ 3) การส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยการสนับสนุน/พัฒนากลไกที่ท าหน้าที่ในการ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้กับผู้สูงอายุ การพัฒนากลไกที่มีบทบาทส าคัญในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุเป็นสิ่งจ าเป็นที่ไม่ควร ละเลยหรือมองข้ามเช่นกัน เพราะหากกลไกดังกล่าวมีความพร้อมจะเป็นแรงสนับสนุนส าคัญที่ช่วยส่งเสริมให้ ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยกลไกที่มีความใกล้ชิดกับผู้สูงอายุมากที่สุดคือครอบครัว ซึ่งควรมีการ
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 107 106 สนับสนุนในลักษณะของเงินอุดหนุนเยียวยาให้กับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอยู่ในภาวะพึ่งพิงและต้องได้รับการ ดูแลจากสมาชิกในครอบครัว อันเปรียบเสมือนมูลค่าจากการสละเวลาและโอกาสในการประกอบอาชีพเพื่อ สร้างรายได้เพื่อมาดูแลผู้สูงอายุ รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการดูแลผู้สูงอายุโดยครอบครัวและป้องกันปัญหา ผู้สูงอายุถูกทอดทิ้ง หรืออาจเป็นค่าใช้จ่ายส าหรับสนับสนุนครอบครัวที่ต้องมีการจ้างผู้ที่มีความรู้ท าหน้าที่ใน การดูแลผู้สูงอายุแทนสมาชิกในครอบครัว ตลอดจนมีระบบการลดหย่อนค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือนที่มีผู้สูงอายุอยู่ในภาวะพึ่งพา การพัฒนากลไกในระดับพื้นที่โดยการคัดเลือกบุคคลส าคัญ (Key Person) ซึ่งเป็นที่ยอมรับ ของชุมชนและสามารถสร้างความร่วมมือให้เกิดขึ้นในพื้นที่ได้ โดยมีการพัฒนาศักยภาพบุคคลส าคัญดังกล่าว และสนับสนุนให้มีบทบาทส าคัญในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ การส่งเสริมให้กลุ่ม/ชมรม/องค์กร/ภาคีเครือข่ายในชุมชนได้รับการพัฒนาศักยภาพให้มีความ เข้มแข็ง และเป็นก าลังส าคัญในการร่วมขับเคลื่อนการด าเนินงานด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุอย่าง เต็มรูปแบบ โดยการสนับสนุนงบประมาณจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกลุ่ม/ชมรม/องค์กร/ภาคีเครือข่าย ที่ได้รับการพัฒนาจนมีความเข้มแข็งดังกล่าวนี้สามารถสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก ไม่ว่าจะ เป็นมูลนิธิหรือองค์กรภาคเอกชนต่างๆ ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการด าเนินงาน ตลอดจนขยายความร่วมมือให้เกิด การมีส่วนร่วมอย่างเป็นวงกว้าง โดยแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ร่วมที่ทุกฝ่ายได้รับในลักษณะ win – win situation การจัดตั้งหน่วยงานกลางท าหน้าที่ในการให้ค าแนะน าปรึกษาและสนับสนุนการด าเนินงาน ด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ รวมทั้งประสานการด าเนินงานตามความต้องการของผู้สูงอายุกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การด าเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรมีการพัฒนาระบบการดูแลผู้สูงอายุระยะยาว (Long Term Care) เพื่อรองรับผู้สูงอายุที่จะเพิ่มจ านวนมากขึ้นในอนาคต 4) ทิศทางการก าหนดนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุระยะเวลา 3 ปี 5 ปี และ 10 ปี การก าหนดทิศทางการพัฒนา/นโยบายในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุจะต้องเริ่มต้น จากการการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ของผู้สูงอายุในภาพรวม (Big data) ซึ่งมาจากการเก็บรวมรวม ข้อมูลด้านสภาพปัญหาและความต้องการของผู้สูงอายุตั้งแต่ในระดับพื้นที่ ระดับจังหวัด และระดับเขต จากนั้น จึงน ามาวิเคราะห์และจัดล าดับความส าคัญเพื่อก าหนดนโยบายที่มีความเหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ โดยประเด็นสถานการณ์ที่ส าคัญและส่งผลกระทบต่อผู้สูงอายุมากที่สุดคงหลีกเลี่ยงไม่พ้นสถานการณ์ปัญหา ด้านสุขภาพที่มีความเสื่อมถอยตามวัย ดังนั้นนโยบายในระยะ 3 ปี จึงควรให้ความส าคัญกับการส่งเสริมด้าน สุขภาพของผู้สูงอายุโดยมุ่งเน้นการด าเนินงานในเชิงรุกที่อาศัยความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลและจ าแนกประเภทของผู้สูงอายุ ตามคุณลักษณะและความสามารถในการพึ่งพาตนเอง ซึ่งจ าแนกได้เป็นผู้สูงอายุติดเตียง ติดบ้าน ติดสังคม โดย ให้ความส าคัญกับการด าเนินงานในเชิงรุกกับกลุ่มเป้าหมายที่ติดสังคมเพื่อไม่ให้กลายเป็นผู้สูงอายุติดเตียง หรือ ติดบ้าน ผ่านการด าเนินงานโดยการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารและช่องทางในการเข้าถึงสิทธิ สวัสดิการ และบริการต่างๆ มีสวัสดิการด้านการตรวจสุขภาพประจ าปีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายส าหรับผู้สูงอายุ เพื่อ เป็นการประเมินและคัดกรองสุขภาพเบื้องต้น ซึ่งจะช่วยป้องกันปัญหาการเกิดโรคที่ยากต่อการรักษา ส าหรับ
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 108 107 ผู้สูงอายุติดบ้านควรมีการก าหนดนโยบายในการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคมเพื่อป้องกัน ปัญหาการเป็นโรคซึมเศร้าหรือกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ส่วนผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาป่วยติดเตียงควรมี นโยบายด้านการจัดระบบการรักษาดูแลและฟื้นฟูอย่างถูกสุขลักษณะ รวมทั้งจัดสภาพแวดล้อมให้การอยู่อาศัย ให้เป็นไปอย่างเหมาะสม ส าหรับนโยบายระยะยาวที่มีขอบเขตของระยะเวลา 5 ปี หรือ 10 ปี ควรมุ่งเน้นนโยบายด้าน การเตรียมความพร้อมให้กับวัยผู้ใหญ่ที่ก าลังจะเข้าสู่วัยสูงอายุซึ่งจะมีจ านวนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อ สร้างสังคมสูงวัยที่มีคุณภาพ โดยมีนโยบายและแผนงานเพื่อส่งเสริมการเตรียมความพร้อมในทุกมิติ ทั้งด้าน เศรษฐกิจเกี่ยวกับการบริหารจัดการทางด้านการเงิน การออม และการวางแผนการใช้จ่ายภายใต้บริบทของ สังคมที่ค่าครองชีพมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ตลอดจนการเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ และสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป หน่วยงานที่ควรมีบทบาทส าคัญในการให้ค าแนะน าปรึกษาเกี่ยวกับการวางแผนใน การด าเนินชีวิต การเตรียมความพร้อมภายใต้บริบททางสังคมที่เปลี่ยนแปลง และการปรับเพิ่มเบี้ยยังชีพ ผู้สูงอายุคือ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มิติด้านสุขภาพ การด าเนินงานในเชิงรุกควร ให้ความส าคัญกับนโยบายด้านการส่งเสริมสุขภาวะที่ดี ป้องกันปัญหาการเจ็บป่วยติดเตียง เพื่อให้มีความสามารถ ในการพึ่งพาตนเองได้ และสิ่งที่ควรเฝ้าระวังคือปัญหาการเสื่อมสภาพทางสมองที่พบเพิ่มมากขึ้นในกลุ่ม ผู้สูงอายุ ซึ่งการด าเนินงานตามแนวทางของนโยบายดังกล่าวจ าเป็นต้องมีงบประมาณสนับสนุนอย่างเพียงพอ โดยหน่วยงานที่ควรมีบทบาทส าคัญในการขับเคลื่อนนโยบายด้านสุขภาพส าหรับผู้สูงอายุคือ กระทรวง สาธารณสุข นอกจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงสาธารณสุขแล้ว กระทรวงอื่นๆ ควรเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนนโยบายด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ เช่นเดียวกัน เนื่องจากจ านวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงมีความจ าเป็นที่ทุกหน่วยงานต้องประสาน ความร่วมมือในการด าเนินงานเพื่อให้ประเทศไทยเป็นสังคมสูงวัยที่มีคุณภาพ โดยบทบาทการมีส่วนร่วมของ กระทรวงที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการที่ควรมีนโยบายรองรับสังคมสูงวัยในมิติด้านการศึกษา เพื่อ เป็นการพัฒนาทักษะและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต มิติด้านรายได้และการจ้างงานโดยบทบาทของ กระทรวงแรงงานที่ควรมีการก าหนดนโยบายในการสร้างอาชีพและสร้างรายได้ให้กับผู้สูงอายุที่ยังมีศักยภาพ/มี ทักษะความรู้/ความสามารถ/มีความพร้อมทางด้านร่างกายและจิตใจส าหรับการท างานต่อเนื่องในวัยสูงอายุ รวมทั้งส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทักษะอาชีพสมัยใหม่ที่ไม่ยากเกินความสามารถในการเรียนรู้ของผู้สูงอายุ เพื่อให้มีการปรับตัวอย่างรู้เท่าทันต่อสถานการณ์ สิ่งที่ควรค านึงถึงและเพิ่มเติมในการก าหนดนโยบายของหน่วยงานภาครัฐ คือการจัดสวัสดิการ หรือระบบการคุ้มครองทางสังคมให้กับแรงงานนอกระบบสูงอายุที่ไม่ได้รับการคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ใดๆ จากหน่วยงานภาครัฐ โดยควรมีการก าหนดนโยบายด้านการส่งเสริมสวัสดิการและการจัดระบบการคุ้มครองทาง สังคมให้กับผู้สูงอายุที่เป็นแรงงานนอกระบบซึ่งมีการขึ้นทะเบียนและทราบประวัติ ทั้งนี้ควรมีการ ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับวิธีการและช่องทางในการลงทะเบียนเพื่อการเข้าถึงสวัสดิการและระบบการคุ้มครอง ทางสังคมของหน่วยงานภาครัฐ
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 109 108 5) การมีส่วนร่วมของหน่วยงานภาคเอกชนในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ หน่วยงานภาคเอกชนควรให้ความส าคัญกับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยเฉพาะ ผู้ที่เกษียณอายุจากหน่วยงาน ซึ่งมีอายุเกษียณที่เร็วกว่าเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานภาครัฐ ในการจัดระบบการให้ ความช่วยเหลือในรูปแบบ CSR เพื่อสะท้อนถึงความรับผิดชอบและการช่วยเหลือดูแลพนักงานในลักษณะ เกื้อกูลโดยไม่ทอดทิ้งกัน หน่วยงานภาคเอกชนส่วนใหญ่จะมีการจัดสรรทุนเพื่อเป็นการคืนก าไรหรือท า ประโยชน์ต่อสังคม ซึ่งการใช้ระบบ CSR ที่เป็นการสร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในการด าเนินงานเพื่อ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุนับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการสร้างประโยชน์เพื่อสังคมของหน่วยงาน ภาคเอกชน โดยสามารถด าเนินการทั้งในรูปแบบของการให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับการด าเนินชีวิตประจ าวัน รวมถึงการจ้างงานที่มีความเฉพาะเจาะจงส าหรับกลุ่มผู้สูงอายุที่ยังมีศักยภาพ มีความพร้อม และความต้องการ ในการท างาน เพื่อลดปัญหาการแข่งขันด้านอาชีพกับคนช่วงวัยอื่น โดยมีลักษณะงานที่ยืดหยุ่นและเหมาะสม ส าหรับกลุ่มผู้สูงอายุ นอกจากนี้หน่วยงานภาคเอกชนยังสามารถใช้ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีที่มีมากกว่า หน่วยงานภาครัฐในการช่วยเหลือดูแล และส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 4.3.10 กำรสังเครำะห์ข้อมูลในภำพรวมจำกกำรเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภำพโดยวิธีกำรสนทนำ กลุ่มและกำรสัมภำษณ์เชิงลึก ประเด็น รำยละเอียด มิติของคุณภำพชีวิต ลักษณะความ เป็นอยู่และ ความสัมพันธ์ ระหว่างผู้สูงอายุ กับสมาชิกต่างช่วง วัยในครอบครัว และชุมชน ในภาพรวมจะเห็นได้ว่า ผู้สูงอายุในชุมชนท้องถิ่นตามบริบทของพื้นที่ที่ ด าเนินการศึกษาทั้งในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่และ ขนาดเล็กได้รับการดูแลเอาใจใส่ทั้งจากคนในครอบครัว รวมถึงคนใน ชุมชนท้องถิ่น ลักษณะของสังคมยังมีความเอื้ออาทรและเกื้อกูลซึ่งกัน และกัน แต่จุดเด่นประการหนึ่งของพื้นที่ขนาดเล็กคือการที่บุตรหลาน ส่วนใหญ่ยังคงประกอบอาชีพและอาศัยอยู่ในพื้นที่ ท าให้ความสัมพันธ์ เป็นไปในลักษณะผูกพันสามารถดูแลกันและกันได้อย่างใกล้ชิด มิติด้านจิตใจ และ มิติด้านสังคม สภาพปัญหาของ ผู้สูงอายุ ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพปัญหาของผู้สูงอายุสะท้อนให้เห็นถึงปัญหา ส าคัญคือ - ปัญหาด้านสุขภาพจากโรคประจ าตัวที่เป็นไปตามวัยซึ่งไม่แตกต่าง กันทั้งในพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่และขนาดเล็ก แต่มีความแตกต่างในส่วนของการเกิดโรคอัลไซเมอร์ที่มีแนวโน้มเพิ่ม สูงขึ้นอันมีสาเหตุมาจากอายุและความเครียด - ปัญหาการมีรายได้ไม่เพียงพอในส่วนของผู้สูงอายุพิการในเขตพื้นที่ ขนาดใหญ่ซึ่งจ าเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือแม้จะเป็นจ านวนที่น้อย ในขณะที่ผู้สูงอายุในพื้นที่ขนาดเล็กจะมีประเด็นปัญหาเพิ่มเติมใน เรื่องของหนี้สินจากการกู้ยืมเงินให้กับบุตร ซึ่งแสดงถึงรายได้ที่ไม่ เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวของบุตร ท าให้ผู้สูงอายุต้อง ช่วยเหลือโดยการกู้ยืมเงินท าให้มีหนี้สิน มิติด้านสุขภาพ มิติด้านรายได้และ เศรษฐกิจ 108 5) การมีส่วนร่วมของหน่วยงานภาคเอกชนในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ หน่วยงานภาคเอกชนควรให้ความส าคัญกับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยเฉพาะ ผู้ที่เกษียณอายุจากหน่วยงาน ซึ่งมีอายุเกษียณที่เร็วกว่าเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานภาครัฐ ในการจัดระบบการให้ ความช่วยเหลือในรูปแบบ CSR เพื่อสะท้อนถึงความรับผิดชอบและการช่วยเหลือดูแลพนักงานในลักษณะ เกื้อกูลโดยไม่ทอดทิ้งกัน หน่วยงานภาคเอกชนส่วนใหญ่จะมีการจัดสรรทุนเพื่อเป็นการคืนก าไรหรือท า ประโยชน์ต่อสังคม ซึ่งการใช้ระบบ CSR ที่เป็นการสร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในการด าเนินงานเพื่อ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุนับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการสร้างประโยชน์เพื่อสังคมของหน่วยงาน ภาคเอกชน โดยสามารถด าเนินการทั้งในรูปแบบของการให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับการด าเนินชีวิตประจ าวัน รวมถึงการจ้างงานที่มีความเฉพาะเจาะจงส าหรับกลุ่มผู้สูงอายุที่ยังมีศักยภาพ มีความพร้อม และความต้องการ ในการท างาน เพื่อลดปัญหาการแข่งขันด้านอาชีพกับคนช่วงวัยอื่น โดยมีลักษณะงานที่ยืดหยุ่นและเหมาะสม ส าหรับกลุ่มผู้สูงอายุ นอกจากนี้หน่วยงานภาคเอกชนยังสามารถใช้ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีที่มีมากกว่า หน่วยงานภาครัฐในการช่วยเหลือดูแล และส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 4.3.10 กำรสังเครำะห์ข้อมูลในภำพรวมจำกกำรเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภำพโดยวิธีกำรสนทนำ กลุ่มและกำรสัมภำษณ์เชิงลึก ประเด็น รำยละเอียด มิติของคุณภำพชีวิต ลักษณะความ เป็นอยู่และ ความสัมพันธ์ ระหว่างผู้สูงอายุ กับสมาชิกต่างช่วง วัยในครอบครัว และชุมชน ในภาพรวมจะเห็นได้ว่า ผู้สูงอายุในชุมชนท้องถิ่นตามบริบทของพื้นที่ที่ ด าเนินการศึกษาทั้งในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่และ ขนาดเล็กได้รับการดูแลเอาใจใส่ทั้งจากคนในครอบครัว รวมถึงคนใน ชุมชนท้องถิ่น ลักษณะของสังคมยังมีความเอื้ออาทรและเกื้อกูลซึ่งกัน และกัน แต่จุดเด่นประการหนึ่งของพื้นที่ขนาดเล็กคือการที่บุตรหลาน ส่วนใหญ่ยังคงประกอบอาชีพและอาศัยอยู่ในพื้นที่ ท าให้ความสัมพันธ์ เป็นไปในลักษณะผูกพันสามารถดูแลกันและกันได้อย่างใกล้ชิด มิติด้านจิตใจ และ มิติด้านสังคม สภาพปัญหาของ ผู้สูงอายุ ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพปัญหาของผู้สูงอายุสะท้อนให้เห็นถึงปัญหา ส าคัญคือ - ปัญหาด้านสุขภาพจากโรคประจ าตัวที่เป็นไปตามวัยซึ่งไม่แตกต่าง กันทั้งในพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่และขนาดเล็ก แต่มีความแตกต่างในส่วนของการเกิดโรคอัลไซเมอร์ที่มีแนวโน้มเพิ่ม สูงขึ้นอันมีสาเหตุมาจากอายุและความเครียด - ปัญหาการมีรายได้ไม่เพียงพอในส่วนของผู้สูงอายุพิการในเขตพื้นที่ ขนาดใหญ่ซึ่งจ าเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือแม้จะเป็นจ านวนที่น้อย ในขณะที่ผู้สูงอายุในพื้นที่ขนาดเล็กจะมีประเด็นปัญหาเพิ่มเติมใน เรื่องของหนี้สินจากการกู้ยืมเงินให้กับบุตร ซึ่งแสดงถึงรายได้ที่ไม่ เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวของบุตร ท าให้ผู้สูงอายุต้อง ช่วยเหลือโดยการกู้ยืมเงินท าให้มีหนี้สิน มิติด้านสุขภาพ มิติด้านรายได้และ เศรษฐกิจ
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 110 109 4.3.10 กำรสังเครำะห์ข้อมูลในภำพรวมจำกกำรเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภำพ (ต่อ) ประเด็น รำยละเอียด มิติของคุณภำพชีวิต ความสามารถใน การพึ่งพาตนเอง และการมี ภาวะพฤฒพลัง ของผู้สูงอายุ ข้อมูลจากการศึกษาสะท้อนให้เห็นว่า บริบทของพื้นที่ที่มีความ แตกต่างกันส่งผลต่อวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุ ตลอดจน ความหลากหลายของกิจกรรมและโอกาสของการมีส่วนร่วมใน กิจกรรมของผู้สูงอายุ โดยพื้นที่ขนาดใหญ่ที่ระบบเศรษฐกิจค่อนข้างดี ผู้สูงอายุมีความพร้อมทั้งในด้านฐานะความเป็นอยู่และสุขภาพจึงมี โอกาสเข้าร่วมในกิจกรรมซึ่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก าหนดไว้ อย่างหลากหลาย ขณะที่ในพื้นที่ขนาดเล็กความพร้อมในด้านของ ฐานะความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุจะมีน้อยกว่า และยังมีภาระความ รับผิดชอบในครอบครัว โอกาสในการเข้าร่วมกิจกรรมจึงน้อยกว่า ผู้สูงอายุในพื้นที่ขนาดใหญ่ และกิจกรรมในพื้นที่อาจมีความ หลากหลายน้อยกว่าซึ่งเป็นไปตามงบประมาณขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น มิติด้านรายได้และ เศรษฐกิจ มิติด้านสุขภาพ มิติด้านสังคม การด าเนินงานโดย กลไกภาคี เครือข่าย และ หน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง บทบาทการด าเนินงานของ อสม.ในพื้นที่แสดงถึงความใกล้ชิด ความ เข้าใจและการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุ การให้ความช่วยเหลือใน เบื้องต้นในส่วนที่สามารถช่วยเหลือได้ มีการคิดและลงมือปฏิบัติโดย การระดมความร่วมมือกันเพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุตามสภาพปัญหาที่ พบในลักษณะที่ไม่เกินก าลังและความสามารถในการให้ความ ช่วยเหลือ ตลอดจนการท าหน้าที่เป็นกลไกส าคัญในการประสานงาน กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีการขับเคลื่อนการด าเนินงานเพื่อ ช่วยเหลือ แก้ไขปัญหา และพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ มิติด้านสังคม การส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุภายใต้สังคมสูงวัยในปัจจุบัน ไม่ เพียงแต่เป็นการให้ความช่วยเหลือสนับสนุน แต่ยังมีการส่งเสริมให้ ผู้สูงอายุมีศักยภาพและความสามารถในการช่วยเหลือตนเองผ่านการ ด าเนินกิจกรรมต่างๆ โดยกลุ่มของผู้สูงอายุที่ยังมีความเป็น Active Aging และส าหรับในพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่การ ส่งเสริมศักยภาพของผู้สูงวัยยังมีความหลากหลาย ทั้งการเตรียม ความพร้อมของวัยผู้ใหญ่ที่ก าลังจะเข้าสู่วัยสูงอายุโดยส่งเสริมให้เข้า ร่วมกิจกรรมในโรงเรียนผู้สูงอายุ เพื่อเรียนรู้และพัฒนาทักษะพร้อม ทั้งมีส่วนร่วมในการดูแลผู้สูงอายุไปในขณะเดียวกัน การมีบทบาท ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในการท าประโยชน์เพื่อสังคมโดยจัดตั้ง กองทุนเพื่อให้การสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาความ เดือดร้อนในการด ารงชีวิต ซึ่งเป็นลักษณะของการช่วยเหลือคนใน ชุมชนโดยบทบาทของชุมชน อันสามารถพัฒนาไปสู่การเป็นชุมชน พึ่งตนเองได้ แต่ทั้งนี้อาจจะต้องอยู่บนพื้นฐานของการสนับสนุนโดย หน่วยงานภาครัฐและภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องหรือมีความพร้อมใน การส่งเสริมและสนับสนุน นอกจากนี้การส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้รับการ มิติด้านสุขภาพ มิติด้านสังคม มิติด้านการเรียนรู้และ พัฒนา
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 111 110 4.3.10 กำรสังเครำะห์ข้อมูลในภำพรวมจำกกำรเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภำพ (ต่อ) ประเด็น รำยละเอียด มิติของคุณภำพชีวิต พัฒนาทักษะความรู้ มีการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร เป็นการเสริม ความสามารถในการปรับตัวเพื่อให้ด ารงชีวิตได้อย่างมีคุณภาพและมี ความสามารถในการพึ่งพาตนเองภายใต้สังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงได้ อย่างยั่งยืน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นกลไกหลักในการด าเนินงานด้านการ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในชุมชนท้องถิ่น โดยมีกระบวนการ ในการส ารวจสภาพปัญหา/ความต้องการ การจัดท าแผนงาน/ โครงการเพื่อช่วยเหลือ แก้ไขปัญหา และพัฒนา ซึ่งจากข้อมูลข้างต้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีการด าเนินงานทั้งในเชิงรุกและเชิงรับ ทั้งมิติเชิงป้องกันและพัฒนา โดยการให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิ สวัสดิการ การดูแลสุขภาพและพัฒนาทักษะความรู้ และการ ด าเนินงานเชิงรับในมิติของการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการ ด าเนินชีวิตของผู้สูงอายุในด้านต่างๆ ซึ่งโครงการที่น่าสนใจในพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่คือ การจัดท าฐานข้อมูลในการ ให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาความยากล าบากในการ ด าเนินชีวิตเพื่อเป็นการติดตามดูแลและจัดสรรความช่วยเหลือเพื่อ บรรเทาความทุกข์ยากของผู้สูงอายุถึงแม้ว่ากลุ่มดังกล่าวจะมีจ านวน ไม่มากนัก การจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อให้มีการระดมทุนจัดหา อุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ รวมทั้งการปรับสภาพห้องน้ าให้ถูก สุขลักษณะและการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมโดย มีรถรับส่งตามบ้าน ซึ่งเป็นมิติในเชิงป้องกันทั้งด้านสุขภาพร่างกาย และจิตใจ โครงการ/กิจกรรมเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการดูแลแบบ ทั่วถึงครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายโดยไม่ทอดทิ้งกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง มิติด้านการเรียนรู้และ พัฒนา มิติด้านสังคม มิติด้านสภาพแวดล้อม การด าเนินงานของหน่วยงานภาครัฐเป็นไปตามบทบาทภารกิจของ หน่วยงาน โดยมีทั้งรูปแบบของการสงเคราะห์ช่วยเหลือตามสภาพ ปัญหา เช่น การมอบเงินสงเคราะห์ในรูปแบบเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และ การสนับสนุนงบประมาณในการซ่อมแซมบ้านผู้สูงอายุที่มีสภาพไม่ เหมาะสม โดยบทบาทของส านักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของ มนุษย์ การสนับสนุนงบประมาณในการจัดสรรอุปกรณ์ที่จ าเป็น ส าหรับการช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาโดยส านักงาน หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) การพัฒนาเพื่อให้มีคุณภาพ ชีวิตที่ดีขึ้น รวมทั้งมีช่องทางในการเปิดรับการขอสนับสนุน งบประมาณเพื่อช่วยเหลือแก้ไขปัญหา เช่น การสนับสนุนงบประมาณ ของส านักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ตามที่ชุมชน ท้องถิ่นมีการจัดท าโครงการและขอรับการสนับสนุนงบประมาณ ตลอดจนส่งเสริมการด าเนินโครงการ/กิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อ มิติด้านรายได้และ เศรษฐกิจ มิติด้านสภาพแวดล้อม มิติด้านสุขภาพ
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 112 111 4.3.10 กำรสังเครำะห์ข้อมูลในภำพรวมจำกกำรเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภำพ (ต่อ) ประเด็น รำยละเอียด มิติของคุณภำพชีวิต การพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ เช่น การให้ความรู้เกี่ยวกับการ ดูแลสุขภาพและพัฒนาทักษะด้านอาชีพโดยส านักงานส่งเสริม การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) เป็นต้น มิติด้านการเรียนรู้และ พัฒนา หน่วยงานภาคเอกชนโดยส่วนใหญ่จะมีการจัดสรรทุนส าหรับ ช่วยเหลือสนับสนุนกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อสังคม การสร้าง ความร่วมมือหรือขอรับการช่วยเหลือสนับสนุนจ าเป็นต้องอาศัยการ ประสานงานที่ดี และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์ที่ กลุ่มเป้าหมายจะได้รับจากการสนับสนุนของภาคเอกชน โดยกลไก เครือข่ายภายในชุมชนท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม/องค์กร/ภาคี เครือข่ายในชุมชน หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นกลไกส าคัญ ในการประสานความร่วมมือเพื่อสร้างการตระหนักถึงความส าคัญและ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือแก้ไขปัญหา และสนับสนุนการ ด าเนินงานเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ มิติด้านสังคม ปัจจัยหนุนเสริม การด าเนินงาน ด้านการส่งเสริม คุณภาพชีวิตของ ผู้สูงอายุ - การด าเนินงานอย่างประสานเชื่อมโยงกันของกลไกทุกภาคส่วน ตั้งแต่ในระดับพื้นที่ โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นหน่วยงานที่มี บทบาทส าคัญซึ่งมีการด าเนินงานทั้งในเชิงรับและเชิงรุก ในมิติของ การช่วยเหลือแก้ไขปัญหาจากการส ารวจ จัดท าฐานข้อมูล จัดล าดับ ความส าคัญ/ความเร่งด่วนของปัญหา และให้ความช่วยเหลือรวมทั้ง ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การสนับสนุน ในมิติของการพัฒนาจากการให้ข้อมูลข่าวสารและพัฒนาทักษะ ความรู้ที่จ าเป็นส าหรับผู้สูงอายุ - อาสาสมัครสาธารณสุขประจ าหมู่บ้าน (อสม.) ท าหน้าที่ส ารวจและ ระบุกลุ่มเป้าหมายที่ต้องได้รับความช่วยเหลือ พร้อมทั้งเป็นกลไกใน การประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนมีส่วนร่วม ในการขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆ - กลุ่ม/ชมรม/องค์กรชุมชนเป็นกลไกในการเสริมพลัง สร้างสรรค์ กิจกรรมที่เป็นการสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้สูงอายุ - การด าเนินงานของหน่วยงานภาครัฐตามหน้าที่ภารกิจ และพร้อม ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนเมื่อได้รับการประสานงานจากชุมชน ท้องถิ่น โดยเป็นความช่วยเหลือทั้งในลักษณะของงบประมาณเพื่อ การช่วยเหลือแก้ไขปัญหา และการสนับสนุนองค์ความรู้เพื่อเสริม ภูมิคุ้มกันด้านทักษะการใช้ชีวิต - การสนับสนุนโดยหน่วยงานภาคเอกชนตามที่ได้มีการประสานงาน และขอรับการช่วยเหลือสนับสนุนจากชุมชนท้องถิ่น - งบประมาณในการขับเคลื่อนการด าเนินงาน ไม่ว่าจะเป็นในส่วน ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง มิติด้านสังคม มิติด้านการเรียนรู้และ พัฒนา
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 113 112 4.3.10 กำรสังเครำะห์ข้อมูลในภำพรวมจำกกำรเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภำพ (ต่อ) ประเด็น รำยละเอียด มิติของคุณภำพชีวิต ตลอดจนหน่วยงานภาคเอกชนที่ให้การสนับสนุน ทั้งในรูปแบบของ โครงการเพื่อช่วยเหลือแก้ไขปัญหา โครงการด้านการส่งเสริมและ พัฒนาศักยภาพ รวมทั้งการสนับสนุนสิ่งของเครื่องใช้เพื่อการอุปโภค บริโภคส าหรับผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาความเดือดร้อน มิติด้านรายได้และ เศรษฐกิจ ปัจจัยที่เป็น อุปสรรค/ข้อจ ากัด ในการด าเนินงาน ด้านการส่งเสริม คุณภาพชีวิตของ ผู้สูงอายุ - การขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะความรู้ความเชี่ยวชาญท าหน้าที่ใน การช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านสุขภาพจนไม่สามารถ ช่วยเหลือตนเองได้ และจ าเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี หรือจ านวนบุคลากรที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อจ านวนผู้สูงอายุที่ประสบ ปัญหา - กระบวนการภายในของหน่วยงานที่ท าหน้าที่ด้านการส่งเสริม สุขภาพของผู้สูงอายุยังขาดการบูรณาการอย่างชัดเจนและเป็นระบบ ส่งผลต่อการด าเนินงานของผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่เกี่ยวกับการตัดสินใจ การให้ความช่วยเหลือ หรือการประสานส่งต่อ ข้อจ ากัด/อุปสรรคส าคัญที่สะท้อนจากพื้นที่เป็นประเด็นปัญหา เกี่ยวกับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตด้านสุขภาพของผู้สูงอายุเป็นหลัก เนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพเป็นปัญหาส าคัญในกลุ่มผู้สูงอายุซึ่งมี สภาพร่างกายที่เสื่อมถอยตามวัย จ าเป็นต้องอาศัยการดูแลจากผู้ที่มี ทักษะความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการให้ความ ช่วยเหลืออย่างเหมาะสม รวมทั้งมีระบบบริการด้านสุขภาพที่เอื้อต่อ ช่วยเหลือและดูแลรักษาอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ มิติด้านสุขภาพ ข้อเสนอแนะ แนวทางเพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพใน การส่งเสริม คุณภาพชีวิตของ ผู้สูงอายุโดยการมี ส่วนร่วมของคน ทุกช่วงวัยใน ครอบครัวและ ชุมชนท้องถิ่น ตลอดจนทุกภาค ส่วนที่เกี่ยวข้อง - การส่งเสริมในส่วนของผู้สูงอายุกลุ่มที่ไม่มีความพร้อมด้าน ปัจจัยพื้นฐานในการด ารงชีวิตให้ได้รับสวัสดิการที่เหมาะสมสอดคล้อง กับสภาพปัญหา ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้มีความสามารถในการพึ่งพา ตนเองได้ในระดับหนึ่ง ผู้สูงอายุกลุ่มนี้อาจเรียกได้ว่ายังอยู่ในภาวะ “พึ่งพา” ภายใต้กรอบของสังคมวัฒนธรรมที่เป็นไปในลักษณะของการ พึ่งพาอาศัย การส่งเสริมความสามารถในการพึ่งพาตนเองให้เป็นไป อย่างต่อเนื่องและยั่งยืนจะต้องมีการปรับกระบวนความคิด เสริมสร้าง ความตระหนักถึงความส าคัญในการพึ่งพาตนเองของผู้สูงอายุในยุค ปัจจุบันที่อาจพึ่งพาบุตรหลานได้น้อยลง และมีแนวโน้มว่าจะน้อยลง อย่างต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งเป็นเป้าหมายระยะยาวและต้องใช้เวลาใน การปรับเปลี่ยนกระบวนความคิดดังกล่าว ส่วนในกลุ่มของผู้สูงอายุที่มี ความพร้อมในด้านของปัจจัยพื้นฐานควรส่งเสริมความตระหนักถึง คุณค่าและการมีทัศนคติที่ดีต่อตนเอง ตลอดจนส่งเสริมการมีส่วนร่วม ในกิจกรรมทางสังคม เช่น กิจกรรมของชมรมผู้สูงอายุ หรือโรงเรียน ผู้สูงอายุส าหรับผู้สูงอายุที่มีความสามารถเฉพาะด้าน โดยมีทักษะ ความรู้/ภูมิปัญญาท้องถิ่น สามารถส่งเสริมให้ผู้สูงอายุกลุ่มนี้มีบทบาท มิติด้านรายได้และ เศรษฐกิจ มิติด้านสังคม
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 114 113 4.3.10 กำรสังเครำะห์ข้อมูลในภำพรวมจำกกำรเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภำพ (ต่อ) ประเด็น รำยละเอียด มิติของคุณภำพชีวิต เป็นแกนน า หรือวิทยากรในการถ่ายทอดองค์ความรู้/ภูมิปัญญาให้กับ บุคคลในช่วงวัยอื่น/ถ่ายทอดสู่สาธารณะ ส่วนในกรณีของผู้สูงอายุที่มี ทักษะความรู้/ภูมิปัญญาท้องถิ่น แต่ไม่มีทักษะในการถ่ายทอดความรู้/ ไม่มีความมั่นใจ/ไม่กล้าแสดงออก สามารถใช้วิธีการถอดบทเรียนองค์ ความรู้จากภายในตัวคน (Tacit Knowledge) เพื่อน ามาถ่ายทอดและ อาจมีการพัฒนาต่อยอดโดยส่งเสริมให้คนที่ได้รับการถ่ายทอดความรู้ ท าหน้าที่เป็นวิทยากรในการถ่ายทอดองค์ความรู้/ภูมิปัญญาเพื่อเป็น การขยายผลต่อไป นอกจากนี้องค์ความรู้/ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีอยู่ใน ตัวของผู้สูงอายุสามารถพัฒนาต่อยอดเป็นอาชีพผ่านการรวมกลุ่ม อาชีพ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้กับครอบครัวของผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่ เพียงพอ - การส่งเสริมให้ผู้สูงอายุเข้าถึงข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ และการพัฒนาทักษะความรู้ที่จ าเป็นในการด าเนินชีวิตเพื่อส่งเสริม การเรียนรู้และการปรับตัวอย่างรู้เท่าทันต่อสถานการณ์ผ่านช่อง ทางการให้ข้อมูลข่าวสารที่มีความน่าเชื่อถือ มิติด้านการเรียนรู้และ พัฒนา มิติด้านรายได้และ เศรษฐกิจ มิติด้านการเรียนรู้และ พัฒนา - การส่งเสริมให้สมาชิกครอบครัวในวัยเยาวชนตระหนักถึง ความส าคัญของผู้สูงอายุในครอบครัว ร่วมช่วยเหลือดูแลและถ่ายทอด ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ส าหรับผู้สูงอายุ ตลอดจนให้ความ ช่วยเหลือผู้สูงอายุในชุมชนท้องถิ่นที่ขาดผู้ดูแล มิติด้านจิตใจ มิติด้านสังคม - การส่งเสริมให้สมาชิกครอบครัวในวัยแรงงานให้ความส าคัญกับการ ดูแลสุขภาพของตนเองเพื่อให้มีความพร้อมส าหรับการท างานสร้าง รายได้เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการด าเนินชีวิตให้กับผู้สูงอายุ รวมทั้ง มีการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่วัยสูงอายุเพื่อให้เป็นผู้สูงวัยที่มี คุณภาพ มิติด้านสุขภาพ มิติด้านรายได้และ เศรษฐกิจ - ผู้น าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น/ผู้น าชุมชน ควรมีการก าหนด นโยบาย/มาตรการในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุให้เป็นไป อย่างชัดเจน มีแนวทางในการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม และส่งเสริมให้มี การขับเคลื่อนในพื้นที่โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนทั้ง ครอบครัว กลุ่ม/ชมรม/องค์กร และอาสาสมัครในชุมชนท้องถิ่น รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีการก ากับติดตามประเมินผลการ ด าเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการด าเนินงานโครงการ/กิจกรรม ที่เป็นลักษณะของการจัดสิ่งอ านวยความสะดวกรองรับผู้สูงอายุ กิจกรรมที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมระหว่างผู้สูงอายุกับคนในช่วงวัยอื่นๆ กิจกรรมที่ส่งเสริมการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและบริการต่างๆ ตลอดจน การมีบทบาทในการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง/ หน่วยงานภายนอก เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมอย่างเป็นวงกว้าง มีการ มิติด้านสังคม มิติด้านสภาพแวดล้อม มิติด้านจิตใจ มิติด้านการเรียนรู้และ พัฒนา
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 115 114 4.3.10 กำรสังเครำะห์ข้อมูลในภำพรวมจำกกำรเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภำพ (ต่อ) ประเด็น รำยละเอียด มิติของคุณภำพชีวิต ขยายผลต่อยอดเพื่อให้การส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุเป็นไป อย่างสมบูรณ์มากขึ้น - องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรมีการจัดตั้งหน่วยงานกลางท าหน้าที่ ในการให้ค าแนะน าปรึกษา ให้ข้อมูลข่าวสาร รวมทั้งรับข้อมูลเกี่ยวกับ สภาพปัญหาและความต้องการของผู้สูงอายุเพื่อประสานการ ด าเนินงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง - องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรมีการพัฒนาระบบการดูแลผู้สูงอายุ ระยะยาว (Long Term Care) เพื่อดูแลผู้สูงอายุในชุมชนท้องถิ่นที่จะ เพิ่มจ านวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องมีการส่งผู้สูงอายุออกไป อยู่นอกพื้นที่ มิติด้านสังคม มิติด้านสุขภาพ มิติด้านสังคม มิติด้านจิตใจ - การพัฒนากลไกในระดับพื้นที่ ในระดับปัจเจกบุคคลซึ่งเป็น Key Person ที่ได้รับการยอมรับจากคนในชุมชน และสามารถสร้างการมี ส่วนร่วมให้เกิดขึ้นในพื้นที่ได้ โดยเป็นการพัฒนาศักยภาพเพื่อให้ท า หน้าที่เป็นแกนน าในการด าเนินงานด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของ ผู้สูงอายุ มิติด้านการเรียนรู้และ พัฒนา - การพัฒนากลไกที่มีการรวมตัวกันในรูปแบบของกลุ่ม/ชมรม/องค์กร/ ภาคีเครือข่ายในชุมชน โดยการพัฒนาศักยภาพและส่งเสริมการมีส่วน ร่วมในการด าเนินงานเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุภายใต้การ สนับสนุนงบประมาณจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกลุ่ม/ ชมรม/องค์กร/ภาคีเครือข่ายในชุมชนที่ได้รับการพัฒนาจนมีความ เข้มแข็งสามารถเป็นก าลังส าคัญในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับ หน่วยงานภายนอกเพื่อให้มีการด าเนินงานด้านการส่งเสริมคุณภาพ ชีวิตของผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นการสร้างประโยชน์เพื่อสังคม (Social Enterprise) อันเป็นภาพลักษณ์ที่ดีส าหรับหน่วยงานภายนอก หรือ เป็นการด าเนินงานในลักษณะของการได้รับประโยชน์ร่วมกัน (winwin situation) มิติด้านการเรียนรู้และ พัฒนา มิติด้านสังคม - การสร้างอาชีพและสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนท้องถิ่น เมื่อคนใน ชุมชนท้องถิ่นมีความพร้อมด้านอาชีพและรายได้จนสามารถพึ่งพา ตนเองได้ในระดับหนึ่ง โอกาสที่จะแบ่งปันหรือจัดสรรรายได้ส่วนหนึ่ง เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมซึ่งรวมถึงผู้สูงอายุในชุมชน ท้องถิ่นจะเป็นไปได้มากขึ้น ชุมชนท้องถิ่นก็จะมีความสามารถในการ พึ่งพาตนเองได้มากขึ้น - ภาครัฐควรมีการจัดสรรงบประมาณเป็นเงินอุดหนุนเยียวยา ครอบครัวที่ต้องดูแลผู้สูงอายุพิการ/ป่วยติดเตียง/ไม่สามารถ ช่วยเหลือตนเองได้ซึ่งเป็นการชดเชยการสูญเสียโอกาส เวลา และ รายได้ที่จะได้จากการท างานของสมาชิกในครอบครัวที่ต้องท าหน้าที่ มิติด้านรายได้และ เศรษฐกิจ มิติด้านสังคม มิติด้านรายได้และ เศรษฐกิจ
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 116 115 4.3.10 กำรสังเครำะห์ข้อมูลในภำพรวมจำกกำรเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภำพ (ต่อ) ประเด็น รำยละเอียด มิติของคุณภำพชีวิต ดูแลผู้สูงอายุ หรือเป็นการช่วยเหลือสนับสนุนค่าใช้จ่ายส าหรับ ครอบครัวที่ไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุได้เองและจ าเป็นต้องจ้างผู้ดูแล ผู้สูงอายุรวมทั้งมีการลดหย่อนค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอยู่ในภาวะพึ่งพา - ภาครัฐควรจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมส าหรับการให้บริการด้าน สาธารณสุขทั้งในส่วนของระบบ/ช่องทางการให้บริการที่มีความ สะดวก รวดเร็ว และผู้สูงอายุสามารถเข้าถึงได้ รวมทั้งการจัดสรรยา รักษาโรคหรือเวชภัณฑ์ที่มีคุณภาพเพื่อให้บริการแก่ผู้สูงอายุ - ภาครัฐควรมีการจัดสรรงบประมาณในการจัดตั้งศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ระดับอ าเภอเพื่อกระจายการช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุสู่ระดับพื้นที่ รวมทั้งมีการจัดตั้งศูนย์ Day Care ในระดับชุมชนท้องถิ่น เพื่อดูแล ผู้สูงอายุในช่วงเวลากลางที่บุตรหลานต้องไปท างาน โดยในศูนย์ ดังกล่าวมีผู้ท าหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุซึ่งมีทักษะความรู้ความเชี่ยวชาญใน การดูแลผู้สูงอายุอย่างเหมาะสมและถูกวิธี - ภาครัฐควรมีการก าหนดนโยบาย/มาตรการในการรองรับผู้สูงอายุที่ ต้องอาศัยอยู่ตามล าพัง ขาดผู้ดูแล และไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มมากขึ้นจากการที่คนมีบุตรลดน้อยลง โดยมี การจัดสถานที่รองรับพร้อมกับผู้ดูแลที่มีทักษะความรู้ความเข้าใจใน การดูแลผู้สูงอายุอย่างเหมาะสม รวมทั้งมีงบประมาณรองรับการ ด าเนินงาน มิติด้านสุขภาพ มิติด้านสังคม มิติด้านสุขภาพ มิติด้านจิตใจ มิติด้านจิตใจ มิติด้านสุขภาพ มิติด้านสภาพแวดล้อม ลักษณะของการมี ส่วนร่วมในการ ส่งเสริมคุณภาพ ชีวิตของผู้สูงอายุ - การมีส่วนร่วมของกลไกทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องตั้งแต่การระดมความ คิดเห็นเพื่อวิเคราะห์ถึงสภาพปัญหาและความต้องการของผู้สูงอายุ ตามสถานการณ์ความเป็นจริงในปัจจุบัน วิเคราะห์ถึงสาเหตุตลอดจน แนวทางการช่วยเหลือ แก้ไขปัญหา พัฒนา ที่สอดคล้องกับสภาพ ปัญหาที่แท้จริง โดยอาจมีการก าหนดนโยบาย หรือบัญญัติเป็น ธรรมนูญ เพื่อให้มีทิศทางในการด าเนินงานเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิต ของผู้สูงอายุให้เป็นไปอย่างเหมาะสม มีการขับเคลื่อนการด าเนินงาน ตามทิศทางที่ก าหนดโดยอาศัยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนที่มีการ ก าหนดบทบาทหน้าที่ไว้อย่างชัดเจน ตลอดจนมีการติดตามผลส าเร็จ ตามเป้าหมายของการด าเนินงานและถ่ายทอดให้เป็นที่รับทราบโดย ทั่วถึงกัน มิติด้านสังคม ทิศทางการก าหนด นโยบายของรัฐบาล ด้านผู้สูงอายุใน ระยะเวลา 3 ปี 5 ปี และ 10 ปี - การก าหนดนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของ ผู้สูงอายุจะต้องประเมินจากสถานการณ์ในภาพรวมที่เป็นข้อมูล Big data ซึ่งประมวลจากข้อมูลในระดับพื้นที่ ระดับจังหวัด ระดับเขต หรือเรียกว่าเป็นการก าหนดนโยบายตามสถานการณ์จริงในปัจจุบัน แบบ bottom-up แล้วมีการน าข้อมูลมาวิเคราะห์และจัดล าดับ
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 117 116 4.3.10 กำรสังเครำะห์ข้อมูลในภำพรวมจำกกำรเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภำพ (ต่อ) ประเด็น รำยละเอียด มิติของคุณภำพชีวิต ความส าคัญตามความเหมาะสมของสถานการณ์ซึ่งนโยบายที่รัฐบาล ควรให้ความส าคัญในระยะเวลา 3 ปี 5 ปี และ 10 ปี มีรายละเอียด ดังนี้ 1) นโยบายระยะ 3 ปี ควรให้ความส าคัญกับการด าเนินงานเชิงรุก ด้านการส่งเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุ โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลและ จ าแนกประเภทของผู้สูงอายุตามคุณลักษณะและความสามารถในการ พึ่งพาตนเอง ซึ่งจ าแนกได้เป็นผู้สูงอายุติดเตียง ติดบ้าน ติดสังคม ใน กลุ่มที่ติดสังคมควรมีมาตรการในการป้องกันไม่ให้กลายเป็นผู้สูงอายุ ติดบ้าน ติดเตียง โดยการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารและ ช่องทางในการเข้าถึงสิทธิและบริการต่างๆ รวมทั้งมีสวัสดิการด้าน การตรวจสุขภาพประจ าปีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายส าหรับผู้สูงอายุ เพื่อ ประเมินสุขภาพในเบื้องต้น ป้องกันการเกิดโรคที่ส่งผลกระทบอย่าง รุนแรงต่อสุขภาพของผู้สูงอายุ กลุ่มผู้สูงอายุติดบ้านควรมีมาตรการใน การส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคมเพื่อป้องกันปัญหาการ เป็นโรคซึมเศร้าหรือกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ส่วนกลุ่มผู้สูงอายุติด เตียงควรมีมาตรการในการดูแลรักษาและฟื้นฟูอย่างถูกสุขลักษณะ รวมทั้งจัดสภาพแวดล้อมให้มีความเหมาะสม 2) นโยบายระยะ 5 ปี หรือ 10 ปี รัฐบาลควรให้ความส าคัญกับการ เตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่วัยสูงอายุในกลุ่มผู้ใหญ่ที่ก าลังจะเข้าสู่วัย สูงอายุเพื่อส่งเสริมให้เป็นผู้สูงวัยที่มีคุณภาพ โดยมีนโยบาย/มาตรการ ด้านการเตรียมความพร้อมในทุกมิติ ทั้งมิติด้านเศรษฐกิจเกี่ยวกับการ บริหารจัดการ การวางแผนทางการเงิน และการออม รวมทั้งการเพิ่ม เบี้ยยังชีพให้มีความเหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์มิติด้าน สุขภาพ เป็นการเตรียมความพร้อมด้านการส่งเสริมสุขภาวะ เพื่อให้ ผู้สูงอายุยังมีสุขภาพแข็งแรงแม้อายุล่วงเลยกลายเป็นกลุ่มผู้สูงวัย มี ความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้โดยเป็นการก าหนดมาตรการใน เชิงป้องกันและเฝ้าระวังไม่ให้ผู้สูงอายุประสบปัญหาป่วยติดเตียงและ การเกิดโรคอัลไซเมอร์ซึ่งพบมากขึ้นในกลุ่มผู้สูงอายุ มิติด้านการศึกษา โดยส่งเสริมการพัฒนาทักษะและการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างเป็นระบบ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและการปรับตัวอย่างรู้เท่าทันต่อสถานการณ์ มิติด้านรายได้และการจ้างงานซึ่งมีความจ าเป็นในสังคมสูงวัยที่ ผู้สูงอายุต้องพึ่งพาตนเองมากขึ้น โดยควรมีการก าหนดนโยบาย/ มาตรการส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุ การพัฒนาทักษะความรู้ เกี่ยวกับการประกอบอาชีพในยุคใหม่ที่ผู้สูงอายุสามารถเรียนรู้ได้ ซึ่ง ในการด าเนินงานตามนโยบายต่างๆ เหล่านี้รัฐบาลต้องมีการสนับสนุน งบประมาณอย่างเพียงพอเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนในทางปฏิบัติได้ มิติด้านสุขภาพ มิติด้านสังคม มิติด้านสภาพแวดล้อม มิติด้านรายได้และ เศรษฐกิจ มิติด้านสุขภาพ มิติด้านการเรียนรู้และ พัฒนา มิติด้านรายได้และ เศรษฐกิจ
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 118 117 4.3.10 กำรสังเครำะห์ข้อมูลในภำพรวมจำกกำรเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภำพ (ต่อ) ประเด็น รำยละเอียด มิติของคุณภำพชีวิต อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล 3) นโยบายที่ควรมีการเพิ่มเติมนอกเหนือจากนโยบายที่เป็นข้อเสนอ ข้างต้นคือ การจัดสวัสดิการหรือระบบการคุ้มครองทางสังคมให้กับ แรงงานนอกระบบที่เป็นผู้สูงอายุ ซึ่งแรงงานนอกระบบกลุ่มนี้มีอยู่ จ านวนไม่น้อยและไม่ได้รับสิทธิ/การคุ้มครองใดๆ โดยควรมีช่องทางใน การประชาสัมพันธ์ให้แรงงานกลุ่มนี้มีการลงทะเบียนเพื่อให้มีประวัติ ข้อมูล และหน่วยงานภาครัฐสามารถให้การช่วยเหลือดูแลโดยการจัด สวัสดิการและระบบการคุ้มครองดูแลให้เป็นไปอย่างทั่วถึงครอบคลุม กลุ่มเป้าหมาย มิติด้านรายได้และ เศรษฐกิจ มิติด้านสังคม การมีส่วนร่วมของ หน่วยงาน ภาคเอกชนในการ ส่งเสริมคุณภาพ ชีวิตของผู้สูงอายุ การใช้ระบบ CSR ในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในการ ด าเนินกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม โดยเฉพาะระบบการ ช่วยเหลือดูแลพนักงานของภาคเอกชนภายหลังการเกษียณอายุจาก การท างานซึ่งเร็วกว่าเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งแสดงถึงความ รับผิดชอบในการช่วยเหลือดูแลแบบเกื้อกูลโดยไม่ทอดทิ้งกันแม้เป็น พนักงานอาวุโสที่เกษียณอายุไปแล้ว ทั้งนี้ระบบ CSR สามารถสร้าง ความร่วมมือในการด าเนินงานทั้งในรูปแบบของการให้ความช่วยเหลือ เกี่ยวกับการด าเนินชีวิตประจ าวัน การใช้เทคโนโลยีที่ก้าวล้ าของ หน่วยงานภาคเอกชนมาประยุกต์ใช้ในการช่วยเหลือดูแล และส่งเสริม ให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมทั้งก าหนดอาชีพที่มีความ เฉพาะเจาะจงและสงวนไว้ส าหรับผู้สูงอายุที่ยังมีศักยภาพ ความรู้ ความสามารถ ความพร้อม และความต้องการในการท างาน เพื่อไม่ให้ เกิดการแก่งแย่งแข่งขันกับคนในช่วงวัยอื่น มิติด้านสังคม มิติด้านรายได้และ เศรษฐกิจ
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 119 บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 120 119 บทที่ 5 สรุป อภิปรำยผล และข้อเสนอแนะ การเข้าสู่สังคมสูงวัยของประเทศไทยแสดงถึงสัดส่วนโครงสร้างของประชากรไทยที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมีประชากรวัยสูงอายุเพิ่มมากขึ้นและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ประชากรวัยแรงงานและ ประชากรวัยเด็กมีแนวโน้มที่ลดน้อยลง จากสถิติการเกิดและการนิยมมีบุตรลดน้อยลง การเปลี่ยนแปลง โครงสร้างของประชากรดังกล่าวแสดงถึงภาวะพึ่งพิงของประชากรวัยสูงอายุที่มีต่อวัยแรงงานเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ การเข้าสู่วัยสูงอายุยังท าให้กลุ่มผู้สูงวัยประสบปัญหาด้านสุขภาพที่เสื่อมถอย การมีโรคประจ าตัว หรืออาจรุนแรงจนถึงขั้นป่วยติดเตียงหรือไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ปัญหาด้านรายได้ที่อาจไม่เพียงพอ เนื่องจากไม่สามารถท างานหารายได้เองได้ ขาดทักษะความรู้/ก าลังในการท างานเพื่อให้มีรายได้เพียงพอ และ เบี้ยยังชีพที่ได้จากภาครัฐอาจยังไม่เพียงพอส าหรับการใช้จ่ายในครัวเรือน อย่างไรก็ตามการที่ประเทศไทยเข้าสู่ สังคมสูงอายุมาแล้วช่วงระยะเวลาหนึ่งท าให้มีการก าหนดนโยบาย โครงการ/กิจกรรมในการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุ มีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งส่งผลให้ผู้สูงอายุส่วนหนึ่งยังคงมีก าลังความสามารถในการพึ่งพาตนเอง รวมทั้งมีส่วนร่วม ในกิจกรรมทางสังคม แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีผู้สูงอายุอีกจ านวนไม่น้อยที่ประสบปัญหาในการใช้ชีวิตซึ่งจ าเป็นต้อง ได้รับการช่วยเหลือ เยียวยา แก้ไขปัญหา และพัฒนา เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุไม่ได้เป็นบทบาทหน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง แต่ควรเป็นการส่งเสริมสนับสนุนจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ครอบครัวที่มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้สูงอายุ และชุมชนท้องถิ่นซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยรวมทั้งเป็นสภาพแวดล้อมใน การด ารงชีวิตของผู้สูงอายุ ควรเป็นกลุ่มที่มีบทบาทส าคัญในการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีทั้ง ทางด้านร่างกายและจิตใจ รู้สึกมีคุณค่าและศักดิ์ศรี ได้รับการพัฒนาอย่างเหมาะสมตามความพร้อม/ความ ต้องการ/ศักยภาพ ตลอดจนได้รับการยอมรับทางสังคม โดยอาศัยการสนับสนุนจากหน่วยงาน/องค์กรทุกภาค ส่วนที่มีภารกิจเกี่ยวข้อง/มีก าลัง/ทรัพยากรในการสนับสนุน การศึกษาวิจัยเรื่อง “การส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโดยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยใน ครอบครัวและชุมชน” เป็นการศึกษาเพื่อวิเคราะห์แนวทาง/รูปแบบในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมจากคนในครอบครัวและชุมชนท้องถิ่นเป็นหลัก ภายใต้การสนับสนุนของหน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง วัตถุประสงค์ส าคัญของการศึกษาวิจัยคือ เพื่อเสริมสร้างความตระหนักในคุณค่า ความส าคัญ และ การมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ เพื่อส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิต ที่ดีทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ สามารถพึ่งพาตนเองได้มากขึ้น รวมทั้งเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ภายใน ครอบครัว/ชุมชนระหว่างคนทุกช่วงวัย และมีการพัฒนาระบบกลไกในการคุ้มครองดูแลผู้สูงอายุ ภายใต้ รูปแบบ/แนวทางที่ก าหนด การศึกษาวิจัยใช้วิธีการวิจัยแบบผสมผสาน (Mix Methodology) ระหว่างวิธีการ วิจัยเชิงปริมาณ และวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพซึ่งประกอบด้วยการสนทนากลุ่ม (Focus Group Discussion) และการสัมภาษณ์เชิงลึก (Indept Interview) กลุ่มตัวอย่างส าหรับการวิจัยเชิงปริมาณจ าแนกเป็น 2 กลุ่มคือ ผู้สูงอายุที่มีตั้งแต่อายุ 60 ปีขึ้นไป และสมาชิกในครอบครัวที่มีอายุระหว่าง 10 – 59 ปี ส่วนการสนทนากลุ่ม จัดขึ้น 2 ครั้งกับกลุ่มเป้าหมาย 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกเป็นตัวแทนของผู้สูงอายุและสมาชิกในครอบครัว กลุ่มที่ สองเป็นตัวแทนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการด าเนินงานด้านผู้สูงอายุในพื้นที่ ได้แก่ องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น ชมรม/สมาคม/องค์กรด้านผู้สูงอายุ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับต าบล (รพสต.) ส านักงาน
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 121 120 ส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) เป็นต้น การสัมภาษณ์เชิงลึก กลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้เชี่ยวชาญ/นักวิชาการที่ท างานเกี่ยวข้อง/มีประสบการณ์ท างานด้านผู้สูงอายุจ านวน 3 คน 5.1 สรุปผลกำรศึกษำวิจัยเชิงปริมำณ 5.1.1 ข้อมูลทั่วไป 1) ลักษณะของกลุ่มตัวอย่ำง ข้อมูลจากการศึกษาวิจัยในพื้นที่ที่มีการเก็บรวบรวมจากกลุ่ม ตัวอย่างที่เป็นผู้สูงอายุและสมาชิกในครอบครัว จ านวนรวม 1,000 คน จ าแนกเป็นผู้สูงอายุ 400 คน และ สมาชิกในครอบครัว 600 คน การคัดเลือกกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่มดังกล่าว เพื่อเป็นการเปรียบเทียบความแตกต่าง ทางด้านความคิดเห็นเกี่ยวกับการประเมินคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุระหว่างตัวของผู้สูงอายุเอง กับสมาชิกช่วง วัยอื่นในครอบครัวและชุมชน 2) ข้อมูลพื้นฐำนของกลุ่มตัวอย่ำงผู้สูงอำยุกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้สูงอายุจ านวน 400 คน จ าแนก เป็นเพศชาย 119 คน และเพศหญิง 281 คน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 29.80 และร้อยละ 70.20 ตามล าดับ กลุ่ม ตัวอย่างที่เป็นผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 60 – 70 ปี โดยมีจ านวนเท่ากับ 216 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 54.00 เมื่อจ าแนกกลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุตามระดับการศึกษาพบว่าผู้สูงอายุส่วนใหญ่เรียนจบระดับ ประถมศึกษาและไม่ได้เรียนหนังสือ โดยมีจ านวนรวม 310 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 77.50 ในส่วนของการ ประกอบอาชีพ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ไม่ได้ประกอบอาชีพและประกอบอาชีพเกษตรกรรมในจ านวนที่เท่ากัน โดยมีจ านวนรวม 300 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 75.00 ในส่วนของรายได้กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาท โดยมีจ านวน 342 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 85.50 แหล่งรายได้หลักของกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ มาจากเบี้ยยังชีพที่ได้รับจากภาครัฐ โดยมีจ านวนเท่ากับ 309 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 77.30 การมีเงินเก็บออม กลุ่มตัวอย่างจ านวน 218 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 54.50 ซึ่งเกินครึ่งของจ านวนกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดเล็กน้อยมี การเก็บออมเงิน ในส่วนของจ านวนสมาชิกทั้งหมดในครอบครัว พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่อยู่ในครอบครัวที่ มีสมาชิกรวมระหว่าง 2 – 5 คน โดยมีจ านวนเท่ากับ 329 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 82.25 และมีผู้สูงอายุที่ อาศัยอยู่ตามล าพังจ านวน 16 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 4.00 3) ข้อมูลพื้นฐำนของกลุ่มตัวอย่ำงที่เป็นสมำชิกช่วงวัยอื่นในครอบครัว กลุ่มตัวอย่างที่เป็น สมาชิกช่วงวัยอื่นในครอบครัวจ านวน 600 คน จ าแนกเป็นเพศชาย 190 คน และเพศหญิง 410 คน ซึ่งคิดเป็น ร้อยละ 31.70 และร้อยละ 68.30 ตามล าดับ กลุ่มตัวอย่างที่เป็นสมาชิกช่วงวัยอื่นในครอบครัวส่วนใหญ่อยู่ ในช่วงอายุระหว่าง 41 – 59 ปี เรียกได้ว่าเป็นวัยผู้ใหญ่และวัยที่ก าลังจะเข้าสู่วัยสูงอายุ โดยมีจ านวนรวม เท่ากับ 369 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 61.50 เมื่อจ าแนกกลุ่มตัวอย่างสมาชิกในครอบครัวตามระดับการศึกษา พบว่าสมาชิกส่วนใหญ่เรียนจบระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยมี จ านวนรวม 384 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 64.00 ในส่วนของการประกอบอาชีพ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ประกอบ อาชีพรับจ้างทั่วไปและอาชีพเกษตรกรรมซึ่งเป็นอาชีพที่มีงานและรายได้ไม่แน่นอน โดยมีจ านวนรวม 330 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 55.00 ในส่วนของรายได้กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีรายได้อยู่ระหว่าง 10,001 - 200,000 บาท โดยมีจ านวน 431 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 71.80 แหล่งรายได้หลักของกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มาจากการ ประกอบอาชีพ โดยมีจ านวนเท่ากับ 506 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 84.30 การมีเงินเก็บออม กลุ่มตัวอย่าง จ านวน 319 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 53.20 ซึ่งเกินครึ่งของจ านวนกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดเล็กน้อยมีการเก็บออม
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 122 121 เงิน ในส่วนของจ านวนสมาชิกทั้งหมดในครอบครัว พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่อยู่ในครอบครัวที่มีสมาชิกรวม ระหว่าง 3 – 5 คน โดยมีจ านวนเท่ากับ 416 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 69.30 5.1.2 กำรประเมินคุณภำพชีวิตของผู้สูงอำยุ 1) กำรประเมินคุณภำพชีวิตของผู้สูงอำยุโดยกลุ่มตัวอย่ำงผู้สูงอำยุ การประเมินคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุตามประเด็นการประเมินในแต่ละองค์ประกอบ ทั้ง องค์ประกอบทางด้านร่างกาย องค์ประกอบด้านจิตใจ องค์ประกอบด้านสัมพันธภาพทางสังคม องค์ประกอบ ด้านสิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตโดยรวม พบว่า ทุกองค์ประกอบมีคะแนนการประเมินอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อจ าแนกองค์ประกอบเป็นรายประเด็นพบว่ามีบางประเด็นที่มีคะแนนการประเมินอยู่ในระดับมาก ประกอบด้วย ความรู้สึกว่าชีวิตมีความหมาย, ความพอใจกับสภาพบ้านเรือนที่อยู่อาศัยปัจจุบัน, ความพอใจต่อ ความสัมพันธ์ที่มีกับคนรอบข้าง, ความรู้สึกถึงความมั่นคงปลอดภัยในในการด าเนินชีวิตประจ าวัน, ความคิดเห็น ว่าสภาพแวดล้อมดีต่อสุขภาพ, ความสามารถในการไปไหนมาไหนด้วยตนเอง, การมีคุณภาพชีวิตชีวิตที่ดีและ ความรู้สึกพอใจในตนเอง รวมทั้งการมีความรู้สึกไม่ดี เช่น รู้สึกเหงา เศร้า หดหู่ สิ้นหวัง วิตกกังวล บ่อยครั้ง โดย คิดเป็นร้อยละ 55.00, 53.50, 51.80, 50.00, 45.30, 45.30, 45.30, 42.50, และ 40.50 ตามล าดับ และประเด็น ที่น่าสนใจคือ การประเมินองค์ประกอบในภาพรวมแต่ละด้านแม้ว่าระดับคะแนนส่วนใหญ่จะแสดงถึงการมี คุณภาพชีวิตระดับกลางๆ แต่มีองค์ประกอบด้านจิตใจที่มีคะแนนการประเมินคุณภาพชีวิตที่ดีสูงกว่า องค์ประกอบด้านอื่นๆ โดยมีอัตราเท่ากับร้อยละ 28.20 ส่วนองค์ประกอบด้านสิ่งแวดล้อมมีคะแนนการ ประเมินคุณภาพชีวิตที่ไม่ดีสูงกว่าองค์ประกอบด้านอื่นๆ โดยมีอัตราเท่ากับร้อยละ 18.50 ข้อมูลดังกล่าวแสดง ให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุมีองค์ประกอบทางด้านจิตใจที่ดี/มีสภาพจิตใจดี โดยมีความรู้สึกพึงพอใจใน ชีวิตของตนเองและรู้สึกว่าชีวิตมีความหมาย แต่สิ่งที่ควรมีการปรับปรุงเพื่อให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นคือ การปรับปรุงสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยและสิ่งอ านวยความสะดวกที่เอื้อต่อการด าเนินชีวิตของผู้สูงอายุ 2) กำรประเมินคุณภำพชีวิตของผู้สูงอำยุโดยกลุ่มตัวอย่ำงสมำชิกในครอบครัวของผู้สูงอำยุ การประเมินคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโดยสมาชิกช่วงวัยอื่นในครอบครัวตามประเด็นการประเมิน ในแต่ละองค์ประกอบ ทั้งองค์ประกอบทางด้านร่างกาย องค์ประกอบด้านจิตใจ องค์ประกอบด้านสัมพันธภาพ ทางสังคม องค์ประกอบด้านสิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตโดยรวม พบว่า ทุกองค์ประกอบมีคะแนนการ ประเมินอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อจ าแนกองค์ประกอบเป็นรายประเด็นพบว่ามีบางประเด็นที่มีคะแนนการ ประเมินอยู่ในระดับมาก ประกอบด้วย ความคิดเห็นว่าผู้อายุรู้สึกว่าชีวิตมีความหมาย, ความคิดเห็นว่าสภาพ บ้านเรือนที่อยู่อาศัยปัจจุบันมีความเหมาะสมกับผู้สูงอายุ, ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพอใจกับความช่วยเหลือ ที่ได้รับจากคนในครอบครัวและคนในชุมชน รวมทั้งความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพอใจต่อความสัมพันธ์ที่มีกับคน รอบข้าง โดยคิดเป็นร้อยละ 47.30, 46.00, 45.50, และ 43.70 ตามล าดับ และประเด็นที่น่าสนใจคือ การ ประเมินองค์ประกอบในภาพรวมแต่ละด้านแม้ว่าระดับคะแนนส่วนใหญ่จะแสดงถึงความคิดเห็นเกี่ยวกับ คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุที่อยู่ในระดับกลางๆ แต่มีองค์ประกอบด้านจิตใจที่มีคะแนนการประเมินคุณภาพชีวิต ที่ดีสูงกว่าองค์ประกอบด้านอื่นๆ โดยมีอัตราเท่ากับร้อยละ 20.20 ส่วนองค์ประกอบด้านสิ่งแวดล้อมมีคะแนน การประเมินคุณภาพชีวิตที่ไม่ดีสูงกว่าองค์ประกอบด้านอื่นๆ โดยมีอัตราเท่ากับร้อยละ 21.30 ข้อมูลดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างสมาชิกช่วงวัยอื่นในครอบครัวผู้สูงอายุมีความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุมีองค์ประกอบ ทางด้านจิตใจที่ดี/มีสภาพจิตใจดี โดยมีความรู้สึกพึงพอใจในชีวิตของตนเองและรู้สึกว่าชีวิตมีความหมาย แต่สิ่ง
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 123 122 ที่ควรมีการปรับปรุงเพื่อให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นคือการปรับปรุงสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยและสิ่ง อ านวยความสะดวกที่เอื้อต่อการด าเนินชีวิตของผู้สูงอายุ 3) กำรเปรียบเทียบระหว่ำงกำรประเมินคุณภำพชีวิตของผู้สูงอำยุโดยผู้สูงอำยุกับกำรประเมิน โดยสมำชิกช่วงวัยอื่นในครอบครัว ผลการประเมินคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุจากการประเมินโดยกลุ่มผู้สูงอายุเองกับการประเมินโดย สมาชิกช่วงวัยอื่นในครอบครัวมีความสอดคล้องเป็นไปในทิศทางเดียวกันคือ การมีคุณภาพชีวิตในระดับกลางๆ ทั้งองค์ประกอบทางด้านร่างกาย องค์ประกอบด้านจิตใจ องค์ประกอบด้านสัมพันธภาพทางสังคม องค์ประกอบด้านสิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตโดยรวม ตลอดจนมีระดับคะแนนการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของ องค์ประกอบทางด้านจิตใจสูงกว่าองค์ประกอบด้านอื่นๆ และมีคะแนนคุณภาพชีวิตที่ไม่ดีขององค์ประกอบ ด้านสิ่งแวดล้อมสูงกว่าองค์ประกอบด้านอื่นๆ เช่นเดียวกัน เมื่อเปรียบเทียบระดับคุณภาพชีวิตตามความ คิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างทั้ง 2 กลุ่ม พบว่า ผู้สูงอำยุมีกำรประเมินคุณภำพชีวิตของตนเองไปในทำงที่ดี มำกกว่ำสมำชิกช่วงวัยอื่น โดยมีอัตราการประเมินระดับคุณภาพชีวิตที่ไม่ดีต่ ากว่าการประเมินของสมาชิก และมีอัตราการประเมินระดับคุณภาพชีวิตที่ดีสูงกว่าการประเมินของสมาชิก นอกจากนี้ในการประเมินราย ประเด็นยังพบว่า ผู้สูงอายุมีคะแนนการประเมินระดับมากจ านวน 9 ประเด็น ส่วนสมาชิกช่วงวัยอื่นใน ครอบครัวมีคะแนนการประเมินระดับมากจ านวน 4 ประเด็น โดยประเด็นที่มีคะแนนประเมินระดับมากตรงกัน ทั้ง 2 กลุ่มตัวอย่างคือ ความคิดเห็น/ความรู้สึกว่าชีวิตมีความหมาย ความคิดเห็นว่าสภาพที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน มีความเหมาะสม ความคิดเห็น/ความรู้สึกพอใจต่อความสัมพันธ์ที่มีกับคนรอบข้าง ส่วนอีกหนึ่งประเด็นที่ สมาชิกให้คะแนนการประเมินในระดับมาก ต่างจากผู้สูงอายุที่ให้คะแนนการประเมินในระดับปานกลางคือ ความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุรู้สึกพอใจกับความช่วยเหลือที่ได้รับจากคนในครอบครัวและคนในชุมชน ในส่วนของ ประเด็นเพิ่มเติมที่ผู้สูงอายุให้คะแนนระดับมากในขณะที่สมาชิกช่วงวัยอื่นให้คะแนนในระดับปานกลาง ได้แก่ ความรู้สึกถึงความมั่นคงปลอดภัยในในการด าเนินชีวิตประจ าวัน, ความคิดเห็นว่าสภาพแวดล้อมดีต่อสุขภาพ, ความสามารถในการไปไหนมาไหนด้วยตนเอง, การมีคุณภาพชีวิตชีวิตที่ดีและความรู้สึกพอใจในตนเอง รวมทั้งการ มีความรู้สึกไม่ดี เช่น รู้สึกเหงา เศร้า หดหู่สิ้นหวัง วิตกกังวล บ่อยครั้ง ข้อมูลจากการศึกษาวิจัยเชิงปริมาณสะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึก/ความคิดเห็นของผู้สูงอายุเกี่ยวกับ คุณภาพชีวิตของตนเอง รวมทั้งมุมมองความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุจากการประเมินของสมาชิก ในครอบครัว ซึ่งได้ให้ความคิดเห็นในทิศทางที่สอดคล้องกันว่าคุณภาพชีวิตโดยรวมของผู้สูงอายุอยู่ในระดับกลางๆ นั่นหมายถึงว่า จ าเป็นต้องมีการด าเนินงานเพื่อช่วยเหลือ แก้ไขปัญหา ตลอดจนพัฒนาเพื่อให้ทั้งตัวของผู้สูงอายุ เองและสมาชิกในครอบครัวมีความคิดเห็นว่าผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างเพียงพอในทุกๆ มิติ ทั้งนี้ในการ พัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุจะต้องทราบถึงสถานการณ์ของผู้สูงอายุในปัจจุบัน การให้ความช่วยเหลือ สนับสนุนโดยหน่วยงานและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รูปแบบ/แนวทางในการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีโดย การมีส่วนร่วมของครอบครัวและชุมชน ภายใต้การสนับสนุนของหน่วยงานแต่ละภาคส่วนต่างๆ โดยข้อมูลในส่วน ดังกล่าวนี้มาจากการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ ซึ่งจะมีการน าเสนอในส่วนต่อไป
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 124 123 5.2 สรุปผลกำรศึกษำวิจัยเชิงคุณภำพ 5.2.1 สถำนกำรณ์เกี่ยวกับชีวิตควำมเป็นอยู่และสภำพปัญหำของผู้สูงอำยุในปัจจุบัน การเก็บรวบรวมข้อมูลโดยวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพจากการสนทนากลุ่มสะท้อนถึงลักษณะความ เป็นอยู่ของผู้สูงอายุส่วนใหญ่ที่ยังคงอาศัยอยู่ร่วมกับสมาชิกในครอบครัว หรือมีบ้านที่พักอาศัยอยู่ในบริเวณ ใกล้เคียงกับบ้านของบุตรหลาน ลักษณะความสัมพันธ์เป็นไปอย่างผูกพันใกล้ชิด มีการดูแลซึ่งกันและกันโดย แบ่งหน้าที่ภายในครอบครัว ผู้สูงอายุได้รับการดูแลทั้งทางด้านร่างกายเกี่ยวกับการใช้ชีวิตประจ าวัน และการ ดูแลสภาพจิตใจ ผู้สูงอายุที่ไม่ได้อาศัยอยู่ร่วมกับบุตรหลาน จะได้รับการช่วยเหลือดูแลโดยญาติ/เพื่อนบ้าน ไม่ มีปัญหาผู้สูงอายุถูกทอดทิ้งโดยไม่ได้รับการดูแล สิ่งที่สะท้อนถึงความแตกต่างระหว่างผู้สูงอายุที่อาศัยในพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดเล็กคือฐานะความเป็นอยู่และ บทบาทการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม โดยผู้สูงอายุในพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่จะมี ฐานะความเป็นอยู่ค่อนข้างดีจากการประกอบอาชีพที่เป็นเจ้าของธุรกิจ หรือได้รับการดูแลจากบุตรหลานที่มี ฐานะดี ประกอบกับยังคงมีความพร้อมและความรู้ความสามารถในการเป็นก าลังส าคัญที่จะมีส่วนร่วมใน กิจกรรมทางสังคมต่างๆ ขณะที่ผู้สูงอายุในพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดเล็กส่วนใหญ่มีฐานะปาน กลางโดยมีรายได้หลักจากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และรายได้เล็กๆ น้อยๆ จากการประกอบอาชีพที่พอมีก าลัง สามารถท าได้ เช่น ท าสวนยางพารา ปลูกพืชผักสวนครัว เป็นต้น รวมทั้งมีหน้าที่ส าคัญในการเลี้ยงดูหลาน ในช่วงที่บุตรไปท างาน โอกาสในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคมจึงค่อนข้างน้อย สภาพปัญหาหลักของผู้สูงอายุในปัจจุบันเกี่ยวข้องกับสุขภาพจากการเสื่อมสภาพของร่างกายที่เป็นไป ตามวัย ท าให้ส่วนใหญ่มีโรคประจ าตัว เช่น โรคเบาหวาน ความดัน ไขมัน และปัญหาด้านสุขภาพที่ส าคัญซึ่ง ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษคือ ผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาป่วยติดเตียง/พิการ/ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ถึงแม้ว่าจะมีจ านวนน้อย แต่ผู้สูงอายุกลุ่มดังกล่าวจะประสบปัญหาต่อเนื่องเกี่ยวกับการมีรายได้ไม่เพียงพอต่อ ค่าใช้จ่าย ซึ่งชุมชนท้องถิ่นไม่สามารถช่วยเหลือดูแลได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังพบว่า สถิติการเจ็บป่วยด้วย โรคอัลไซเมอร์มีแนวโน้มสูงขึ้นในผู้สูงอายุโดยยังไม่มีระบบการคัดกรองที่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ปัญหาด้าน สุขภาพที่มีความซับซ้อนข้างต้นนอกเหนือโรคประจ าตัวจะพบในกลุ่มผู้สูงอายุที่อาศัยในเขตองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่ ขณะที่ผู้สูงอายุในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดเล็กพบเพียงการเจ็บป่วยด้วย โรคประจ าตัวเป็นส่วนใหญ่ แต่สิ่งที่เป็นปัญหาอีกประการหนึ่งส าหรับผู้สูงอายุในเขตองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นขนาดเล็กคือ ปัญหาด้านการมีหนี้สินที่มาจากการกู้ยืมเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้กับบุตร 5.2.2 กำรด ำเนินงำนโดยภำคส่วนต่ำงๆ และหน่วยงำนที่เกี่ยวข้องในกำรส่งเสริมคุณภำพชีวิตของผู้สูงอำยุ 1) อาสาสมัครสาธารณสุขประจ าหมู่บ้าน (อสม.) เป็นกลไกส าคัญในการประสานงานและเข้าถึง กลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุ โดยท าหน้าที่ในการลงพื้นที่เพื่อส ารวจสภาพปัญหาและให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น ตามลักษณะปัญหาที่สามารถช่วยเหลือได้ รวมทั้งมีการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความ ช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาที่สอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการของผู้สูงอายุ ตัวอย่างของกิจกรรม ส าคัญที่ด าเนินการโดย อสม. ได้แก่ การระดมความร่วมมือในการจัดการท าความสะอาดและจัดสภาพบ้านให้ถูก สุขลักษณะเหมาะส าหรับการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุที่ไม่มีก าลังความสามารถในการจัดการได้เอง ซึ่งเป็นกิจกรรม ของ อสม. ในพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่ ส่วนกิจกรรมเด่นๆ ของ อสม. ในพื้นที่เขตองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดเล็ก ได้แก่ การลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับต าบล
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 125 124 (รพสต.) เพื่อเยี่ยมผู้สูงอายุป่วยติดเตียงซึ่งยังมีบุตรหลานคอยดูแล และการมีส่วนร่วมกับชมรมผู้สูงอายุในการ เขียนโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากส านักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) 2) ชมรม/โรงเรียนผู้สูงอายุ/กลุ่ม/องค์กรชุมชน ชมรมผู้สูงอายุขับเคลื่อนโดยสมาชิกผู้สูงอายุภายใต้ การสนับสนุนจากชุมชนท้องถิ่นเพื่อให้เกิดกิจกรรมที่เป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ เช่น การอบรม ให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การท่องเที่ยวและกีฬา การส่งเสริมให้ผู้สูงอายุที่มีศักยภาพท าหน้าที่ ช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ต้องการความช่วยเหลือในลักษณะ “เพื่อนช่วยเพื่อน” การด าเนินกิจกรรมของชมรม ผู้สูงอายุที่เปิดรับสมาชิกที่มีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่วัยสูงอายุ พร้อมทั้ง ท าหน้าที่ของ “พี่เลี้ยง” ในการช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนซึ่งได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก กองทุน SME ของรัฐบาล มีการจัดสรรเงินปันผลในการจัดตั้ง “กองทุนแม่ของแผ่นดิน” เพื่อร่วมสนับสนุนเงิน สงเคราะห์ช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนในชุมชนท้องถิ่นเป็นบางครั้งคราว 3) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีกระบวนการจัดท าแผนงาน/โครงการในการช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมาย ผู้สูงอายุโดยเริ่มต้นจากการจัดท าเวทีประชาคมเพื่อส ารวจสภาพปัญหา/ความต้องการของผู้สูงอายุ พร้อมทั้งให้ ข้อมูลข่าวสารและสิทธิประโยชน์ต่างๆ การขับเคลื่อนโครงการ/กิจกรรมจะเป็นไปในลักษณะของการส่งเสริม สุขภาพโดยการอบรมให้ความรู้ กิจกรรมการออกก าลังกาย โครงการพัฒนาทักษะความรู้ด้านอาชีพ เป็นต้น ซึ่งมี ลักษณะคล้ายคลึงกันทั้งในพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดเล็กและขนาดใหญ่ แต่ในพื้นที่องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่จะมีกิจกรรมเพิ่มเติมที่มีความหลากหลายมากกว่าซึ่งอาจเป็นไปตามบริบทของพื้นที่ โดย นอกเหนือจากกิจกรรมในลักษณะของการส่งเสริมและพัฒนาทักษะความรู้ ยังมีการด าเนินการในลักษณะของการ ช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาเฉพาะและไม่มีความสามารถในการช่วยเหลือตนเอง โดยการจัดท าฐานข้อมูล เพื่อประโยชน์ในการติดตามและให้ความช่วยเหลืออย่างเหมาะสม การจัดตั้งกลุ่มสัจจะออมทรัพย์เพื่อให้มีทุนใน การจัดซื้ออุปกรณ์ที่จ าเป็นส าหรับผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาสุขภาพและครอบครัวอยู่ในภาวะยากล าบากไม่ สามารถจัดซื้อได้เอง การปรับสภาพห้องน้ าให้ถูกสุขลักษณะเหมาะสมกับความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุ รวมทั้งการจัด รถรับส่งผู้สูงอายุเพื่อให้เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม ป้องกันไม่ให้กลายเป็นผู้สูงอายุติดบ้าน 4) หน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ ส านักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) ที่มีการ จัดสรรงบประมาณเป็นเงินอุดหนุนซ่อมแซมบ้านให้กับผู้สูงอายุที่มีสภาพที่อยู่อาศัยไม่เหมาะสม และการ ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมในชุมชน หน่วยงานด้านสาธารณสุขจะมีการตรวจสุขภาพ ให้กับผู้สูงอายุและออกบัตรรับรองให้กับผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาความพิการเพื่อให้มีสิทธิรับเบี้ยยังชีพคน พิการ รวมทั้งมีกลุ่ม CG และบริบาลท าหน้าที่ดูแลด้านสุขลักษณะให้กับผู้สูงอายุที่ป่วยติดเตียง ส านักงาน ส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) มีการจัดกิจกรรมเพื่อเสริมทักษะและพัฒนา คุณภาพชีวิตให้กับผู้สูงอายุ ในลักษณะของการให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมตามวัย และการ พัฒนาทักษะทางด้านอาชีพระยะสั้นที่ผู้สูงอายุสามารถท าได้เพื่อสร้างรายได้เสริมให้แก่ครอบครัว ส านักงาน หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีการสนับสนุนงบประมาณในการด าเนินงานด้านการส่งเสริมสุขภาพ ของผู้สูงอายุที่คนในชุมชนท้องถิ่นร่วมกันเขียนโครงการเพื่อเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณ รวมทั้ง สนับสนุนการจัดหาแว่นตาส าหรับผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาทางสายตา
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 126 125 5) หน่วยงานภาคเอกชน มูลนิธิ Lion ที่ให้ความร่วมมือในการสนับสนุนเกี่ยวกับสิ่งของเครื่องใช้ที่จ าเป็นในชีวิตประจ าวัน รวมทั้งสิ่งของเครื่องใช้ส าหรับผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาความพิการ เช่น ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ กายอุปกรณ์ เป็นต้น ใน พื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่ 5.2.3 ปัจจัยหนุนเสริมกำรด ำเนินงำนด้ำนกำรส่งเสริมคุณภำพชีวิตของผู้สูงอำยุในชุมชนท้องถิ่น 1) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีบทบาทส าคัญในการขับเคลื่อนการด าเนินงานเพื่อช่วยเหลือ ดูแล พัฒนาทักษะ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้สูงอายุ รวมทั้งท าหน้าที่เป็นกลไกในการประสานงานกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งมีภารกิจโดยตรงและมีทรัพยากรในการสนับสนุน 2) อาสาสมัครสาธารณสุขประจ าหมู่บ้าน (อสม.) ซึ่งเป็นกลไกส าคัญที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย สามารถระดมความร่วมมือเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุ และท าหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานเพื่อให้การ ดูแลช่วยเหลือมีความสอดคล้องกับสภาพปัญหา/ความต้องการของผู้สูงอายุ 3) กลุ่ม/ชมรม/องค์กรชุมชน เป็นส่วนส าคัญในการส่งเสริมองค์ความรู้ ทักษะ และพัฒนาศักยภาพ ของผู้สูงอายุ รวมทั้งมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสนับสนุนผู้สูงอายุ 4) หน่วยงานภาครัฐที่มีการด าเนินงานตามภารกิจในการช่วยเหลือและสนับสนุนให้ผู้สูงอายุมี คุณภาพชีวิตที่ดีอย่างเต็มก าลังความสามารถ ทั้งการสนับสนุนด้านงบประมาณ องค์ความรู้ และอุปกรณ์ที่ จ าเป็นต่างๆ 5) หน่วยงานภาคเอกชนที่พร้อมให้ความร่วมมือในการสนับสนุนสิ่งของเครื่องใช้ที่จ าเป็นส าหรับ ผู้สูงอายุ 5.2.4 ปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อกำรด ำเนินงำนด้ำนกำรส่งเสริมคุณภำพชีวิตของผู้สูงอำยุในชุมชน ท้องถิ่น 1) การขาดแคลนบุคลากรด้านสาธารณสุขที่มีทักษะความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการดูแลผู้สูงอายุ ที่ประสบปัญหาด้านสุขภาพ/มีจ านวนบุคลากรไม่เพียงพอ 2) กระบวนการด าเนินงานด้านการช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาด้านสุขภาพยังขาดการบูรณา การอย่างชัดเจนและเป็นระบบ ส่งผลต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในระดับปฏิบัติ 5.2.5 ข้อเสนอแนะเพื่อกำรพัฒนำรูปแบบ/แนวทำงในกำรส่งเสริมคุณภำพชีวิตของผู้สูงอำยุ 1) ควรสนับสนุนให้มีการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนท้องถิ่น เพื่อให้มีความสามารถใน การพึ่งตนเอง และแบ่งปันความช่วยเหลือในรูปแบบของการสนับสนุนทุนให้กับกองทุนสงเคราะห์ช่วยเหลือ ผู้สูงอายุและผู้ประสบปัญหาทางสังคมในชุมชนท้องถิ่น 2) การสนับสนุนงบประมาณของหน่วยงานภาครัฐในการช่วยเหลือครอบครัวที่สมาชิกต้องดูแล ผู้สูงอายุประสบปัญหาป่วยติดเตียง/ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ โดยเป็นการชดเชยค่าสูญเสียเวลา โอกาส และรายได้จากการท างาน หรือสนับสนุนค่าใช้จ่ายส าหรับครอบครัวที่ต้องมีการจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุ 3) การจัดสวัสดิการด้านยารักษาโรคที่มีคุณภาพ และมีระบบบริการด้านสุขภาพที่เอื้อต่อการเข้าถึง บริการของผู้สูงอายุ 4) ภาครัฐควรมีการจัดสรรงบประมาณเพื่อจัดตั้งศูนย์ดูแลผู้สูงอายุระดับอ าเภอๆ ละ 1 แห่ง พร้อมทั้ง จัดตั้งศูนย์ดูแลผู้สูงอายุช่วงเวลากลางวัน (Day Care) ในระดับชุมชน โดยมีผู้ดูแลที่มีทักษะความรู้ประจ าศูนย์ฯ
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 127 126 5) ภาครัฐควรมีมาตรการรองรับผู้สูงอายุที่ต้องอยู่ตามล าพัง/ขาดผู้ดูแล/ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ โดยการเตรียมความพร้อมทั้งในด้านสถานที่ เจ้าหน้าที่ที่มีทักษะความรู้ และงบประมาณ 5.2.6 แนวทำงในกำรส่งเสริมให้ผู้สูงอำยุมีคุณภำพชีวิตที่ดี โดยอำศัยกำรมีส่วนร่วมของครอบครัวและ ชุมชนท้องถิ่น การเก็บรวบรวมข้อมูลโดยวิธีการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้เชี่ยวชาญได้สะท้อนถึงแนวทางในการส่งเสริม คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุทั้งในเชิงนโยบาย และการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่น โดยในระดับชุมชนท้องถิ่นมี ข้อเสนอแนะ ดังนี้ 9) การส่งเสริมตัวของผู้สูงอายุให้มีความสามารถในการพึ่งพาตนเอง ทั้งในกลุ่มที่ไม่มีความพร้อม ด้านปัจจัยพื้นฐานให้มีโอกาสในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร สวัสดิการ และบริการต่างๆ มากขึ้น ส่วนกลุ่มที่มี ความพร้อมด้านปัจจัยพื้นฐานควรส่งเสริมความตระหนักถึงคุณค่าของตนเอง รวมทั้งการเป็น Active Aging อีกหนึ่งก าลังส าคัญที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม 10) การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเยาวชนในการช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวทั้งในด้าน ของการด าเนินกิจวัตรประจ าวัน และเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดข้อมูลข่าวสารที่จ าเป็น รวมทั้งให้ความ ช่วยเหลือผู้สูงอายุในชุมชนท้องถิ่นที่ขาดผู้ดูแลแม้ไม่ใช่คนในครอบครัว 11) การมีส่วนร่วมของวัยแรงงานเกี่ยวกับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการดูแลผู้สูงอายุให้มีสุขภาพ ดี พร้อมทั้งดูแลสุขภาพของตนเอง เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่วัยสูงอายุ 12) ชุมชนท้องถิ่นโดยเฉพาะผู้น าควรให้ความส าคัญและมีการก าหนดนโยบายด้านการส่งเสริม คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุให้มีความชัดเจน มีการถ่ายทอดสู่แนวทางปฏิบัติ พร้อมก ากับติดตามประเมินผล อย่างใกล้ชิด รวมทั้งประสานงานกับหน่วยงานภายนอกเพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือ 13) การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของกลไกทุกภาคส่วนตั้งแต่การวิเคราะห์สภาพปัญหา/ความ ต้องการของผู้สูงอายุ การก าหนดแนวทาง/นโยบายในการช่วยเหลือ/แก้ไขปัญหา/พัฒนา มีการด าเนินงานตาม แนวทาง/นโยบาย/ข้อก าหนดที่เป็นมติจากการตกลงร่วมกัน โดยมีการก าหนดบทบาทหน้าที่ของกลไกแต่ละ ภาคส่วนให้มีความชัดเจน 5.2.7 กำรส่งเสริมควำมสำมำรถในกำรพึ่งพำตนเองของผู้สูงอำยุ 1) ผู้สูงอายุที่ยังติดกรอบวัฒนธรรมของค าว่า “พึ่งพา” อาจจะค่อยๆ ส่งเสริมความสามารถในการพึ่งพา ตนเอง พร้อมทั้งปรับกระบวนความคิดของคนในสังคมให้ตระหนักว่า ผู้สูงอายุยังมีความสามารถในการพึ่งพาตนเอง ได้หากมีการเตรียมความพร้อมอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะในอนาคตที่ผู้สูงอายุอาจต้องอยู่ตามล าพังมากขึ้น 2) ผู้สูงอายุที่มีลักษณะ “ติดสังคม” แต่ไม่ได้มีทักษะความรู้/ภูมิปัญญาท้องถิ่น สามารถส่งเสริม ทักษะความรู้ ข้อมูลข่าวสารผ่านมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคมและช่องทางสื่อต่างๆ เพื่อส่งเสริม ความสามารถในการปรับตัว 3) ผู้สูงอายุที่มีทักษะความรู้/ภูมิปัญญาท้องถิ่น/เป็นปราชญ์ชาวบ้าน ควรส่งเสริมให้มีบทบาทในการ เป็นแกนนน า/ผู้น า หรือวิทยากรในการถ่ายทอดความรู้/ประสบการณ์ ส าหรับในกลุ่มที่มีทักษะด้านการสื่อสาร และกล้าแสดงออก ส่วนกลุ่มที่มีทักษะความรู้แต่อาจขาดทักษะด้านการสื่อสาร ควรใช้วิธีการถอดบทเรียนเพื่อ น าองค์ความรู้มาถ่ายทอดและขยายผล นอกจากนี้องค์ความรู้ดังกล่าวอาจต่อยอดสู่การสร้างอาชีพเสริมเพิ่ม รายได้ให้กับคนในชุมชน
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 128 127 5.2.8 กำรพัฒนำกลไกที่มีบทบำทในกำรส่งเสริมคุณภำพชีวิตของผู้สูงอำยุ 1) ครอบครัวเป็นกลไกส าคัญที่จ าเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือสนับสนุน โดยเฉพาะครอบครัวที่สมาชิก ต้องดูแลผู้สูงอายุป่วยติดเตียง/ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ หรือจ าเป็นต้องจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุ โดยหน่วยงาน ภาครัฐควรมีการจัดสรรงบประมาณเยียวยาช่วยเหลือครอบครัวดังกล่าว รวมทั้งมีการลดหย่อนค่าสาธารณูปโภค เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัว 2) การคัดเลือกบุคคลส าคัญ (Key Person) ซึ่งเป็นที่ยอมรับและสามารถสร้างการมีส่วนร่วมให้ เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยมีการพัฒนาศักยภาพของบุคคลดังกล่าวเพื่อให้ท าหน้าที่เป็นแกนน า/มีบทบาทส าคัญในการ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ 3) การพัฒนาศักยภาพกลุ่ม/ชมรม/องค์กรชุมชนให้มีความเข้มแข็งโดยการสนับสนุนขององค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น และส่งเสริมให้เป็นก าลังส าคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ พร้อมทั้งขยาย ความร่วมมือไปยังเครือข่ายภายนอกในลักษณะของการเกิดผลประโยชน์ร่วม (win – win situation) 4) การจัดตั้งหน่วยงานกลางท าหน้าที่ให้ค าแนะน าปรึกษา และประสานการด าเนินงานด้านผู้สูงอายุ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 5) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรพัฒนาระบบการดูแลผู้สูงอายุระยะยาว (Long Term Care) เพื่อ รองรับจ านวนผู้สูงอายุในอนาคต 5.2.9 ทิศทำงกำรก ำหนดนโยบำยของรัฐบำลในกำรส่งเสริมคุณภำพชีวิตของผู้สูงอำยุระยะเวลำ 3 ปี 5 ปี และ 10 ปี 1) นโยบายในระยะ 3 ปี ควรให้ความส าคัญกับการส่งเสริมด้านสุขภาพของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการ ด าเนินงานเชิงรุกในการส ารวจข้อมูลและจ าแนกประเภทของผู้สูงอายุ ซึ่งสามารถจ าแนกตามคุณลักษณะและ ความสามารถในการช่วยเหลือตนเองได้เป็น ผู้สูงอายุติดเตียง ติดบ้าน ติดสังคม กลุ่มที่ติดสังคมจะต้องมี มาตรการเชิงรุกในการส่งเสริมการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร สิทธิ และสวัสดิการต่างๆ รวมทั้งมีบริการตรวจสุขภาพ ประจ าปีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพื่อเป็นการคัดกรองและป้องกันการเกิดโรคที่อาจส่งผลรุนแรงในเบื้องต้น ในกลุ่ม ผู้สูงอายุติดบ้านควรมีมาตรการในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคมเพื่อป้องกันไม่ให้กลายเป็น โรคซึมเศร้า/ผู้ป่วยติดเตียง ส าหรับผู้สูงอายุป่วยติดเตียงควรมีระบบการดูแลที่ถูกสุขลักษณะ และมี สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม 2) นโยบายในระยะ 5 ปี และ 10 ปี ควรให้ความส าคัญกับการเตรียมความพร้อมในวัยผู้ใหญ่ก่อน เข้าสู่วัยสูงอายุในทุกมิติ ทั้งมิติด้านเศรษฐกิจเกี่ยวกับการออม การบริหารจัดการ และการวางแผนทางการเงิน ภายใต้บริบทของสังคมที่มีค่าครองชีพสูง รวมทั้งการเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ มิติ ด้านสุขภาพ ควรมีนโยบายส่งเสริมการตระหนักถึงความส าคัญของสุขภาพ โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ เพื่อให้ยังคงมีความสามารถในการพึ่งพาตนเอง และไม่กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง รวมทั้งมีการเฝ้าระวังปัญหา การเกิดโรคที่มีสาเหตุจากการเสื่อมสภาพของสมอง ในมิติด้านการศึกษา ควรมีการพัฒนาทักษะและส่งเสริม การเรียนรู้ตลอดชีวิตให้กับผู้สูงอายุ มิติด้านรายได้และการจ้างงาน ควรมีการก าหนดนโยบายในการส่งเสริม อาชีพส าหรับกลุ่มผู้สูงอายุที่ยังมีศักยภาพ/ความพร้อม/ความต้องการในการท างาน รวมทั้งพัฒนาทักษะความรู้ เกี่ยวกับอาชีพสมัยใหม่ที่ผู้สูงอายุสามารถเรียนรู้ได้ นอกจากนี้ควรมีการจัดสวัสดิการหรือระบบการคุ้มครอง ทางสังคมที่ครอบคลุมการช่วยเหลือผู้สูงอายุที่เป็นแรงงานนอกระบบซึ่งไม่ได้รับสิทธิ/สวัสดิการ/การคุ้มครอง
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 129 128 ใดๆ โดยการประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมให้มีการขึ้นทะเบียนผ่านช่องทางต่างๆ ซึ่งจะท าให้มีข้อมูลเกี่ยวกับ ประวัติและการจัดสวัสดิการ/ระบบการคุ้มครองทางสังคมให้มีความเหมาะสม การส่งเสริมความร่วมมือกับภาคเอกชนเป็นอีกหนึ่งแนวทางส าคัญที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของ ผู้สูงอายุ เนื่องจากหน่วยงานภาคเอกชนมีการก าหนดอายุการเกษียณจากการท างานที่เร็วกว่าหน่วยงานภาครัฐ การให้การดูแลบุคลากรที่เกษียณอายุจากการท างานของหน่วยงานแสดงถึงระบบการท างานแบบเกื้อกูลโดยไม่ ทอดทิ้งกัน อีกทั้งเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับหน่วยงาน นอกจากนี้ หน่วยงานภาคเอกชนส่วนใหญ่จะมี การแบ่งปันผลก าไรส่วนหนึ่งเพื่อท าประโยชน์ให้กับสังคม ดังนั้นการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงาน ภาคเอกชนในลักษณะ CSR จะมีส่วนช่วยในการสนับสนุนให้ผู้สูงอายุได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งใน ด้านของการช่วยเหลือโดยตรงเกี่ยวกับการด าเนินชีวิตประจ าวันตามความเหมาะสมและจ าเป็น รวมทั้งการ ส่งเสริมความสามารถในการพึ่งพาตนเองผ่านการประกอบอาชีพที่ก าหนดไว้ส าหรับผู้สูงอายุที่ยังมีศักยภาพ ทักษะความรู้ความสามารถ มีความพร้อมและความต้องการในการท างานโดยเฉพาะ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการ แก่งแย่งแข่งขันด้านการประกอบอาชีพกับคนช่วงวัยอื่น และการที่หน่วยงานภาคเอกชนส่วนใหญ่มี ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีที่มากกว่าหน่วยงานภาครัฐ จึงสามารถน าเทคโนโลยีที่มีมาใช้ในการส่งเสริม และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับผู้สูงอายุได้ 5.3 อภิปรำยผลกำรศึกษำวิจัย 5.3.1 ควำมส ำคัญของกำรศึกษำวิจัย 1) การศึกษาวิจัยเรื่อง “การส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโดยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยใน ครอบครัวและชุมชน” มีจุดมุ่งหมายส าคัญในการก าหนดรูปแบบ/แนวทางในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของ ผู้สูงอายุโดยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยทั้งในระดับครอบครัวและชุมชนซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเกี่ยวข้อง ใกล้ชิดกับผู้สูงอายุมากที่สุด และการที่กลุ่มคนดังกล่าวตระหนักถึงคุณค่าและความส าคัญของผู้สูงอายุ ตลอดจนมีส่วนร่วมในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ จะท าให้การขับเคลื่อนการด าเนินงานด้านการ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุเป็นไปอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน 2) สิ่งที่ต้องการศึกษาคือ มุมมองความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตของตนเองของผู้สูงอายุใน ปัจจุบันทั้งโดยการประเมินของตัวผู้สูงอายุเอง และจากมุมมองความคิดเห็นของสมาชิกในครอบครัวของ ผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นการประเมินจาก 2 ทาง เพื่อป้องกันอคติ (Bias) ที่อาจเกิดขึ้นจากการประเมินโดยกลุ่มตัวอย่าง เพียงทางเดียว นอกจากนี้ยังมีการศึกษาเกี่ยวกับสถานการณ์เกี่ยวกับลักษณะความเป็นอยู่รวมถึงสภาพปัญหา ของผู้สูงอายุในปัจจุบัน การให้ความช่วยเหลือ ดูแล ส่งเสริม สนับสนุนโดยภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ปัจจัย ต่างๆ ที่เป็นตัวหนุนเสริมหรือปัญหาอุปสรรคในการด าเนินงานด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ตลอดจนข้อเสนอแนะแนวทางเพื่อให้การช่วยเหลือดูแล แก้ไขปัญหา และการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของ ผู้สูงอายุเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 3) ข้อมูลจากผลการศึกษาจะท าให้ทราบถึงสถานการณ์ด้านผู้สูงอายุในปัจจุบัน ความคิดเห็น/ความ พึงพอใจกับสภาพความเป็นอยู่/คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ การด าเนินงานของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และ สิ่งที่ควรมีการปรับปรุง/พัฒนาเพื่อส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งจะน าไปสู่การก าหนดรูปแบบ/ แนวทางในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโดยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน ภายใต้การสนับสนุนของหน่วยงานภาครัฐและภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 130 129 5.3.2 คุณภำพชีวิตของผู้สูงอำยุในปัจจุบันตำมมุมมองควำมคิดเห็นของผู้สูงอำยุและสมำชิกในครอบครัว 1) การประเมินคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุทั้งโดยตัวของผู้สูงอายุเอง และการประเมินโดยความ คิดเห็นของสมาชิกในครอบครัว พบว่าเป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกัน โดยมีคะแนนการประเมินคุณภาพชีวิต อยู่ในระดับกลางๆ ทั้งในส่วนขององค์ประกอบทางด้านร่างกาย องค์ประกอบด้านจิตใจ องค์ประกอบด้าน สัมพันธภาพทางสังคม องค์ประกอบด้านสิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตโดยรวม อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าคะแนน ส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับกลางๆ แต่เมื่อพิจารณาจากคะแนนการประเมินจะพบความน่าสนใจในประเด็นที่ว่า ผู้สูงอายุมีระดับคะแนนการประเมินในส่วนของการมีคุณภาพชีวิตที่ไม่ดีต่ ากว่าสมาชิกในครอบครัว ขณะที่มี คะแนนการประเมินคุณภาพชีวิตที่ดีสูงกว่าสมาชิกในครอบครัว ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่า ผู้สูงอายุมีมุมมอง/ความ คิดเห็น/ทัศนคติต่อคุณภาพชีวิตของตนเองดีกว่าสมาชิกในครอบครัว 2) การประเมินคุณภาพชีวิตในทุกองค์ประกอบถึงแม้ว่าจะมีคะแนนอยู่ในระดับกลางๆ แต่ข้อสังเกต จากการพิจารณารายองค์ประกอบจะเห็นได้ว่า องค์ประกอบด้านจิตใจมีคะแนนการประเมินคุณภาพชีวิตที่ดีสูง กว่าองค์ประกอบในด้านอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด ขณะที่องค์ประกอบด้านสิ่งแวดล้อมมีคะแนนการประเมิน คุณภาพชีวิตที่ไม่ดีสูงกว่าองค์ประกอบด้านอื่นๆ อย่างชัดเจนเช่นเดียวกัน ซึ่งผลการประเมินดังกล่าว มีความ สอดคล้องกันทั้งในกลุ่มของผู้สูงอายุและสมาชิกในครอบครัว นั่นแสดงให้เห็นว่า ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ยังคงมี สภาพจิตใจ/มีความรู้สึกที่ดี/รู้สึกว่าชีวิตตนเองมีความหมาย แต่สภาพความเป็นอยู่/สิ่งแวดล้อมไม่เอื้อต่อการ ด าเนินชีวิตประจ าวันของผู้สูงอายุเท่าที่ควร ดังนั้นจึงควรให้ความส าคัญกับการปรับปรุงองค์ประกอบด้าน สิ่งแวดล้อมเพื่อให้ผู้สูงอายุและสมาชิกในครอบครัวมีความคิดเห็น/ความรู้สึกพึงพอใจต่อสภาพแวดล้อมที่เอื้อ ต่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีมากขึ้น 5.3.3 สถำนกำรณ์เกี่ยวกับควำมเป็นอยู่และสภำพปัญหำของผู้สูงอำยุในปัจจุบัน 1) ลักษณะความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุที่ส่วนใหญ่ยังคงอาศัยอยู่ร่วมกับสมาชิกในครอบครัว หรืออาศัย อยู่ในบ้านบริเวณใกล้เคียงกัน มีความผูกพันใกล้ชิดและได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี หรือในกรณีที่ไม่ได้ อยู่กับบุตรหลานก็จะมีญาติ หรือเพื่อนบ้านที่ให้การดูแลเอาใจใส่ ปัจจัยด้านความเป็นอยู่ดังกล่าวนี้อาจกล่าวได้ ว่ามีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับผลการศึกษาวิจัยเชิงปริมาณที่แสดงให้เห็นว่า ผู้สูงอายุมีการประเมิน องค์ประกอบด้านจิตใจในระดับคะแนนของคุณภาพชีวิตที่ดีสูงกว่าองค์ประกอบด้านอื่นๆ เนื่องจากการได้รับ การดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดจะส่งผลให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพจิตที่ดีและรู้สึกมีความสุข 2) สภาพปัญหาของผู้สูงอายุที่เป็นปัญหาหลักและส่งผลต่อการด าเนินชีวิตของผู้สูงอายุคือ ปัญหา ด้านสุขภาพจากการเจ็บป่วย/มีโรคประจ าตัว หรือที่รุนแรงกว่านั้นคือประสบปัญหาป่วยติดเตียง/พิการ/ไม่ สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาด้านสุขภาพในระดับรุนแรงดังกล่าวนี้พบในพื้นที่องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่ ถึงแม้ว่าจะมีจ านวนไม่มากนัก แต่ปัญหาต่อเนื่องที่ตามมาและส่งผลกระทบต่อ การด าเนินชีวิตของผู้สูงอายุกลุ่มนี้คือการมีรายได้ที่ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย ทั้งในส่วนของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับ การด าเนินชีวิตประจ าวันและค่าใช้จ่ายเพื่อการรักษาพยาบาล ซึ่งชุมชนท้องถิ่นไม่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ อย่างต่อเนื่อง/เต็มที่/ครบวงจร และโรคส าคัญอีกโรคหนึ่งที่พบมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในกลุ่มของผู้สูงอายุคือ โรคอัลไซเมอร์ที่ส่งผลต่อการด าเนินชีวิตของผู้สูงอายุเป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน ส าหรับในเขตองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นขนาดเล็กการประสบปัญหาด้านสุขภาพของผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับการมีโรคประจ าตัว การเกิดโรคที่ส่งผลต่อการด าเนินชีวิตอาจไม่มากเท่าในพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่ แต่ผู้สูงอายุ
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 131 130 จะประสบปัญหาส าคัญในเรื่องของการมีรายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายเช่นเดียวกัน เนื่องจากมีหนี้สินที่เป็นการ กู้ยืมเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้กับบุตร 3) ข้อมูลจากทั้งการศึกษาวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพเกี่ยวกับสถานการณ์ความเป็นอยู่ สภาพ ปัญหา รวมทั้งคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุตามความคิดเห็นของผู้สูงอายุและสมาชิกในครอบครัว แสดงให้เห็นว่า การให้คะแนนการมีคุณภาพชีวิตที่ดีในองค์ประกอบด้านจิตใจสูงกว่าด้านอื่นๆ เนื่องมาจาก ผู้สูงอายุรู้สึกมี ความสุข รู้สึกว่าชีวิตมีคุณค่าและมีความหมายจากการที่ได้อยู่ร่วมกัน/อยู่อย่างใกล้ชิดกับบุตรหลาน ญาติ หรือ เพื่อนบ้าน และได้รับการดูแลเอาใจใส่โดยไม่ถูกทอดทิ้ง ส่วนองค์ประกอบทางด้านร่างกายที่คะแนนการ ประเมินคุณภาพชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในระดับกลางๆ และมีคะแนนในส่วนนี้สูงที่สุดเมื่อเทียบกับองค์ประกอบด้าน อื่นๆ แสดงว่า ผู้สูงอายุและสมาชิกในครอบครัวยังมีความรู้สึก/ความคิดเห็นว่า จ าเป็นต้องมีการดูแลเอาใจใส่ และให้ความส าคัญกับการส่งเสริมสุขภาพร่างกายของผู้สูงอายุซึ่งเกี่ยวพันกับความสามารถในการช่วยเหลือ ตนเองในการด าเนินชีวิตประจ าวัน 5.3.4 กำรด ำเนินงำนด้ำนผู้สูงอำยุโดยภำคส่วนต่ำงๆ และหน่วยงำนที่เกี่ยวข้อง 1) กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจ าหมู่บ้าน (อสม.) เป็นภาคประชาชนที่มีบทบาทหน้าที่ความ รับผิดชอบในการช่วยเหลือดูแลกลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุ เป็นกลุ่มที่สามารถเข้าถึงและเข้าใจในสภาพปัญหา ตลอดจนความต้องการของผู้สูงอายุที่อยู่ในความรับผิดชอบดูแล อีกทั้งยังเป็นกลไกส าคัญที่สามารถท าหน้าที่ ในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุเป็นไปอย่างเหมาะสมสอดคล้อง กับสภาพปัญหา/ความต้องการ กลไกในส่วนนี้นับเป็นองค์ประกอบส าคัญที่สามารถบ่งชี้ถึงคุณลักษณะของ ผู้สูงอายุเพื่อสามารถเก็บรวบรวมเป็นฐานข้อมูลที่มีการจ าแนกประเภทของผู้สูงอายุและการก าหนดแนวทางใน การติดตามแก้ไขปัญหา/ให้ความช่วยเหลือ/ส่งเสริม/พัฒนาตามความเหมาะสม 2) กลุ่ม/ชมรม/สมาคม/โรงเรียนผู้สูงอายุ/องค์กรชุมชน เป็นกลไกภาคประชาชนที่เกิดจากการรวมตัว กันเพื่อร่วมด าเนินกิจกรรมในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง กลุ่ม/ชมรม/องค์กรชุมชนที่มีความเข้มแข็ง สามารถเป็น อีกหนึ่งก าลังส าคัญในการผลักดันให้การด าเนินงานด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุมีความชัดเจน และเป็นรูปธรรมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการด าเนินงานของชมรม/โรงเรียนผู้สูงอายุที่เป็นลักษณะของการส่งเสริม ให้ผู้สูงอายุที่ยังมีก าลังความสามารถ/ศักยภาพมีการด าเนินกิจกรรมต่างๆ อันเป็นการพัฒนาตัวของสมาชิกใน ชมรม/โรงเรียนผู้สูงอายุให้มีทักษะความรู้ มีการปรับตัวอย่างรู้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง และมีการเตรียม ความพร้อมในการเข้าสู่วัยสูงอายุภายใต้สถานการณ์ทางสังคมในปัจจุบันได้อย่างมีคุณภาพ รวมทั้งเป็นก าลัง ส าคัญในการช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาในชุมชนท้องถิ่นในลักษณะ “เพื่อนช่วยเพื่อน” นอกจากนี้ องค์กรในชุมชนที่มีการรวมตัวกันเพื่อประกอบกิจกรรมที่ก่อให้เกิดรายได้เป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนในด้านของ กองทุนที่มีการจัดตั้งขึ้นเพื่อให้การสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ประสบปัญหา 3) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีภารกิจและอ านาจหน้าที่ที่มีการบัญญัติไว้ให้มีการช่วยเหลือดูแล ประชาชนที่เป็นสมาชิกภายในชุมชนท้องถิ่นนั้นๆ การที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ความส าคัญกับการ ด าเนินงานด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุและมีการขับเคลื่อนอย่างจริงจังโดยการสนับสนุน งบประมาณผ่านการด าเนินกิจกรรมที่มีความหลากหลายและเหมาะสมกับคุณลักษณะของผู้สูงอายุ แสดงถึง การด าเนินงานที่ครอบคลุมทุกมิติทั้งในมิติของการช่วยเหลือแก้ไขปัญหา และมิติของการส่งเสริมพัฒนาอย่าง เหมาะสม โดยไม่เป็นการทอดทิ้งกลุ่มเป้าหมายกลุ่มในกลุ่มหนึ่งไว้ข้างหลัง
โครงการวิจัยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัยในครอบครัวและชุมชน 132 131 4) หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง มีการด าเนินงานตามบทบาทภารกิจและนโยบายที่สอดคล้องกับ สถานการณ์ปัจจุบันซึ่งประเทศไทยก าลังอยู่ภายใต้บริบทของสังคมสูงวัย รวมทั้งมีความพร้อมในการให้ความ ช่วยเหลือสนับสนุน ส่งเสริมและพัฒนา ตามสภาพปัญหาและความต้องการของผู้สูงอายุ โดยมีงบประมาณ สนับสนุนการด าเนินงานตามข้อมูลการประสานงานจากพื้นที่ 5) หน่วยงานภาคเอกชน มีการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการด าเนินงานของหน่วยงาน ภาครัฐและชุมชนท้องถิ่น ในลักษณะของ Social Enterprise โดยมีความพร้อมในด้านของงบประมาณส าหรับ การช่วยเหลือสนับสนุนเป็นครั้งคราวตามสภาพปัญหาที่ได้รับการประสานงานจากชุมชนท้องถิ่น ข้อมูลข้างต้นแสดงถึงบทบาทการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ ในการช่วยเหลือ แก้ไขปัญหา ส่งเสริม และพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ทั้งในลักษณะของการขับเคลื่อนโดยภาคส่วนนั้นๆ หรือการขับเคลื่อน ร่วมกันของแต่ละภาคส่วนเพื่อสนับสนุนให้ผู้สูงอายุในชุมชนท้องถิ่นมีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งการที่มีกลไกในแต่ละ ระดับจากทุกภาคส่วนร่วมกันขับเคลื่อนการด าเนินงานตามบทบาทหน้าที่และความพร้อมในการให้ความ ช่วยเหลือสนับสนุนดังกล่าวนับได้ว่า เป็นปัจจัยหนุนเสริมการด าเนินงานด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของ ผู้สูงอายุ แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่ยังนับว่าเป็นข้อจ ากัดหรือปัญหาอุปสรรคในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของ ผู้สูงอายุคือ ปัจจัยด้านสุขภาพของผู้สูงอายุเอง โดยเฉพาะในกลุ่มของผู้สูงอายุที่ป่วยติดเตียง/ไม่สามารถ ช่วยเหลือตนเองได้ จ าเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างถูกสุขลักษณะจากผู้ที่มีทักษะความรู้ประสบการณ์และความ เข้าใจที่ถูกต้องในการช่วยเหลือดูแล แต่ในปัจจุบันพบว่า บุคลากรที่มีทักษะความรู้ในด้านดังกล่าวและสามารถ ที่จะให้การดูแลช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาในชุมชนท้องถิ่นมีจ านวนไม่เพียงพอ หรือขาดแคลนบุคลากร ที่มีทักษะความรู้ความสามารถเพียงพอต่อการให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุ นอกจากนี้ขั้นตอนกระบวนการใน การรักษาพยาบาล/ช่วยเหลือดูแลด้านสุขภาพของผู้สูงอายุยังขาดการบูรณาการอย่างชัดเจนและเป็นระบบ ซึ่ง ส่งผลต่อการปฏิบัติงานของบุคลากรในระดับพื้นที่ 5.3.5 ข้อเสนอแนะแนวทำงกำรส่งเสริมคุณภำพชีวิตของผู้สูงอำยุที่สะท้อนจำกชุมชนท้องถิ่น ข้อเสนอแนะแนวทางในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุมีทั้งมุมมองความคิดเห็นในมิติของการ พึ่งตนเองของชุมชนท้องถิ่น และมิติการด าเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ดังนี้ 1) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในชุมชนท้องถิ่นควรมีการส่งเสริมอาชีพ ให้กับประชาชนเพื่อให้มีรายได้เพียงพอสามารถพึ่งพาตนเองได้ และแบ่งปันรายได้เพื่อสมทบเป็นกองทุน ส าหรับสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้สูงอายุ และผู้ที่ประสบปัญหาทางสังคมในชุมชนท้องถิ่น 2) หน่วยงานภาครัฐควรมีการสนับสนุนในด้านงบประมาณอย่างเพียงพอ ส าหรับการจัดสรรเป็นเงิน อุดหนุนเยียวยาครอบครัวที่ต้องดูแลผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาป่วยติดเตียง/พิการ/ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ โดยเป็นการชดเชยการสูญเสียรายได้และช่วยบรรเทาปัญหาการมีรายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในครอบครัว การมีงบประมาณส าหรับการจัดสวัสดิการด้านสุขภาพที่มีคุณภาพส าหรับผู้สูงอายุทั้งในด้านของยารักษาโรค และระบบการให้บริการที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีการจัดสรรงบประมาณในการจัดตั้งศูนย์ดูแลผู้สูงอายุระดับ อ าเภอๆ ละ 1 แห่ง และศูนย์ดูแลผู้สูงอายุช่วงเวลากลางวัน (Day Care) ในระดับชุมชนท้องถิ่น พร้อม เจ้าหน้าที่ผู้มีทักษะความรู้ประสบการณ์ท าหน้าที่ให้การช่วยเหลือดูแล นอกจากนี้ควรมีการเตรียมความพร้อม ด้านงบประมาณส าหรับการจัดสถานที่รองรับผู้สูงอายุที่ต้องอยู่ตามล าพัง/ขาดผู้ดูแล/ไม่สามารถช่วยเหลือ ตนเองได้ ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่ผู้มีทักษะความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์โดยตรง