The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เกษราพร ว30222 หน่วยที่ 4 โมลและสูตรเคมี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

เกษราพร ว30222 หน่วยที่ 4 โมลและสูตรเคมี

เกษราพร ว30222 หน่วยที่ 4 โมลและสูตรเคมี

2.1 NH3 1 โมล ประกอบด้วย H ก่ีโมล (3 โมล) และประกอบดว้ ย N กี่โมล (1 โมล)
2.2 NH3 2 โมล ประกอบดว้ ย H กโี่ มล (6 โมล) และประกอบดว้ ย N ก่ีโมล (2 โมล)
2.3 นกั เรียนพิจารณาจากสิง่ ใด เพอ่ื ระบุโมลของธาตุชนิดต่างๆในสารประกอบนั้นๆ
(พิจารณาจากสูตรเคมี)
3. นกั เรยี นกบั ครรู ว่ มกนั อภปิ รายว่า คารบ์ อน-12 1 โมล มีมวลเทา่ ใด จากนัน้ ร่วมกนั
คำนวณ ซ่ึงคำตอบที่ควรได้คือ 12 กรมั

ข้ันสอน
1. ครอู ธบิ ายความหมายของมวลตอ่ โมล
2. ครูให้นักเรียนพจิ ารณาตัวอย่างการหามวลต่อโมลของธาตุบางชนดิ เพือ่ ใหอ้ ภิปรายร่วมกัน

วา่ ธาตุ 1 โมล มีมวลเทา่ ใดในหน่วยกรมั ซึง่ ควรไดข้ ้อสรุปว่า มวลของธาตุ 1 โมล ในหน่วยกรัม (หรือ
มวลตอ่ โมล) มคี ่าเปน็ ตวั เลขเทา่ กับมวลอะตอมของธาตุนัน้

3. ครูอธิบายเกย่ี วกับวธิ คี ำนวณมวลโมเลกุลและมวลสูตรของสาร ซงึ่ หาได้จากผลรวมของ
มวลอะตอมของธาตุองค์ประกอบตามสตู รเคมี จากนนั้ ครูอธิบายการคำนวณโดยยกตัวอย่าง ดงั นี้
ตัวอย่างท่ี 1 แอมโมเนยี (NH3) มีมวลต่อโมลเท่าไร

มวลโมเลกลุ ของ NH3 = (14.01 x 1) + (1.01 x 3)
= 17.04

NH3 มมี วลโมเลกุลเป็น 17.04 ดังนั้น มวลต่อโมลเทา่ กับ 17.04 กรัมต่อโมล

ตวั อยา่ งที่ 2 จงหามวลต่อโมลของแคลเซยี มซลั เฟต (CaSO4)
มวลสูตรของ CaSO4 = (40.08 x 1) + (16.00 x 4)
= 136.14

CaSO4 มีมวลสตู รเปน็ 136.14 ดงั น้นั จึงมีมวลตอ่ โมลเท่ากับ 136.14 กรมั ตอ่ โมล

ตัวอย่างท่ี 3 จงหามวลตอ่ โมลของ O
มวลอะตอมของ O = 16.00

O มมี วลอะตอมเปน็ 16.00 ดังนั้น จงึ มีมวลตอ่ โมลเท่ากับ 16.00 กรัมต่อโมล

4. ครูใหน้ ักเรียนตอบคำถามเพอ่ื ตรวจสอบความเข้าใจ

5. ครแู สดงตวั อย่างการคำนวณปรมิ าณสารจากความสมั พนั ธโ์ มลกับมวลของสาร ดงั น้ี

ตัวอยา่ งที่ 1 Zn 128.02 กรมั คิดเป็นกี่โมล

จำนวนโมลของ Zn = 1 mol
128.02 g x 65.38 g

= 1.958 mol

ตัวอย่างท่ี 2 แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) 3.50 โมล คิดเป็นก่กี รัม
44.01 g
มวลของ CO2 = 3.50 mol x 1 mol

= 154 g
6. ครูอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างโมล จำนวนอนุภาคและมวลของสาร ว่าจากการศึกษาทีผ่ ่านมาทำ
ให้ทราบว่าสาร 1 โมลมีจำนวนอนุภาคเท่ากับ 6.02 x 1023 อนุภาค ซึ่งมีมวลเท่ากับมวลต่อโมลของ
สารนนั้ จากความสมั พนั ธส์ ามารถใช้คำนวณปรมิ าณสารในหนว่ ยตา่ งๆได้

7. ครยู กตัวอยา่ งและแสดงการคำนวณหาปริมาณสารจากความสัมพันธ์โมล มวลและจำนวน

อนภุ าค ดังน้ี

ตัวอย่างที่ 1 เฮกเซน (C6H14) 43.0 กรมั มจี ำนวนอนุภาคเท่าใด

1 mol 6.02 × 1023 โมเลกลุ
จำนวนโมเลกุลของ C6H14 = 43.0 g x 86.2 g x
1 mol

= 3.00 x 1023 โมเลกลุ

ตวั อยา่ งที่ 2 แอมโมเนีย (NH3) 2.41 x 1024 โมเลกลุ มมี วลกก่ี รัม
1 mol 17.04 g

มวลของ NH3 (g NH3) = 2.41 x 1024 โมเลกุล x 6.02 × 1023 โมเลกุล x 1 mol

= 68.2 กรมั

ข้ันสรุป
1. ครูและนักเรยี นรว่ มกันอภปิ รายข้อสงสยั เกยี่ วกบั โมลกับมวลของสาร
2. ครใู ห้นกั เรยี นทำแบบฝกึ หดั ท่ี 4.3 ในหนังสอื เรยี น จากนัน้ ครแู ละนักเรียนร่วมกัน

เฉลยและแสดงวธิ ที ำพร้อมกัน

สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้
สื่อการเรียนรู้
1. หนังสือเรียนรายวิชาเพ่มิ เติมวิทยาศาสตร์ (เคมี) ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 เล่ม 2
(ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.2560)
2. แบบฝกึ หดั ที่ 4.3
3. ส่ือ PowerPoint
แหลง่ เรยี นรู้
1. เวบ็ ไซต์ https://proj14.ipst.ac.th/m4-6-chem/m4-chem-book2/
2. เว็บไซต์ https://www.scimath.org/ebook-chemistry

แบบฝกึ หดั 4.3













สรปุ ผลการจัดการเรียนรู้

ด้านความรู้ ช่วงคะแนน จำนวน (คน) คดิ เป็นรอ้ ยละ
กล่มุ ผู้เรยี น
ดี
ปานกลาง
ปรบั ปรุง

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ จำนวน (คน) คดิ เป็นร้อยละ
กลุ่มผเู้ รยี น ชว่ งคะแนน
ดี
ปานกลาง
ปรบั ปรงุ

ดา้ นคุณลกั ษะอันพงึ ประสงค์

กลมุ่ ผเู้ รียน ชว่ งระดับคุณภาพ จำนวน (คน) คิดเปน็ รอ้ ยละ

ดี 3

ปานกลาง 2

ปรบั ปรงุ 0-1

บันทึกหลังการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

ด้านการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………….....…
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ปญั หาที่พบระหว่างหรือหลังจดั กจิ กรรม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………........

ข้อเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่ือ..........................................................ผู้สอน
(นางสาวเกษราพร บริพันธ์)
............/........................../.............

การตรวจสอบและความคิดเหน็ ของหัวหนา้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้
 สอดคลอ้ งกับมาตรฐานและตัวช้วี ัดของหลักสูตรฯ
 กิจกรรมการเรียนรเู้ น้นผเู้ รียนเปน็ สำคญั
 มีการวัดและประเมินผลตามสภาพจรงิ มคี วามหลากหลายเหมาะสมกบั ผู้เรียน
 ใชส้ อื่ หรือแหลง่ เรยี นรู้ท่ีทนั สมยั และส่งเสริมการเรียนรไู้ ด้อย่างมีประสิทธิภาพ
 สอดคลอ้ งตามจดุ เนน้ ของกระทรวงศกึ ษาธิการ สพฐ. และจุดเนน้ ของโรงเรยี น
 ส่งเสรมิ ทักษะ 3Rs x 8Cs x 2Ls  ส่งเสริมเบญจวิถกี าญจนา

………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ..............................................................
(นางสาวทิพวลั ย์ ช่อสวุ รรณ)

หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

การตรวจสอบและความคิดเหน็ ของหัวหน้ากลมุ่ บรหิ ารวิชาการ

 ถูกต้องตามรูปแบบของโรงเรียน

 ผ่านการนเิ ทศตรวจสอบจากหวั หน้ากลุม่ สาระการเรียนรู้/กรรมการนเิ ทศ

 กอ่ นใช้สอน  หลงั ใชส้ อน

 มีบันทกึ หลงั จดั กิจกรรมการเรียนรู้

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………........

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ..............................................................
(นายธนพันธ์ เพ็งสวสั ดิ์)
หวั หน้ากลุ่มบริหารวชิ าการ

ความคดิ เหน็ ของรองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………........

ลงชื่อ....................................................................
(นางกัญจนช์ ญาณทั วงศจ์ ิระศกั ด์ิ)

รองผูอ้ ำนวยการโรงเรยี น กลมุ่ บริหารงานวชิ าการ

แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์
รายวิชา เคมี2 รหัสวชิ า ว30222 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4
เรอ่ื ง

เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมค่อนขา้ งบ่อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน
ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมน้อยคร้ัง

ซื่อสัตย์ ุสจริต
ีม ิวนัย
ใ ่ฝเรียนรู้
ุ่มง ัมนในการงาน
ีม ิจตสาธารณะ

รวม
เลขที่ ผลการประเมนิ

4 4 4 4 4 20 ผ่าน ไมผ่ า่ น
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16

ซื่อ ัสตย์ ุสจริต
ีม ิวนัย
ใ ่ฝเรียนรู้
ุ่มง ัมนในการงาน
ีม ิจตสาธารณะ

รวม
เลขท่ี ผลการประเมิน

4 4 4 4 4 20 ผ่าน ไมผ่ ่าน
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30

ลงชอ่ื ......................................... ผู้ประเมนิ
(..............................................)

เกณฑ์การประเมนิ ( ชว่ งคะแนน 16 – 20 )
ระดบั คุณภาพ 4 = ดีมาก ( ช่วงคะแนน 11 – 15 )
ระดับคุณภาพ 3 = ดี ( ช่วงคะแนน 6 – 10 )
ระดับคุณภาพ 2 = ปานกลาง ( ช่วงคะแนน 1 – 5 )
ระดับคุณภาพ 1 = ปรับปรุง

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 5

รายวชิ า เคมี 2 รหัสวชิ า ว30222 ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 4

กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 4 โมลและสตู รเคมี เวลา 17 ชั่วโมง

เรอ่ื ง ความสัมพันธร์ ะหว่างโมลกบั ปริมาตรของแกส๊ เวลา 2 ช่วั โมง

ผ้สู อน นางสาวเกษราพร บริพนั ธ์ โรงเรยี นกาญจนาภเิ ษกวิทยาลยั สรุ าษฎรธ์ านี

แนวคดิ สำคัญ (สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด)
สารทีม่ ีสถานะแก๊ส 1 โมล จะมีปริมาตรเทา่ กบั 22.4 ลูกบาศก์เดซเิ มตรที่ STP

มาตรฐานการเรียนรู้
สาระเคมี3. เข้าใจหลกั การทำปฏิบัตกิ ารเคมี การวดั ปรมิ าณสาร หน่วยวัดและการเปลยี่ น

หนว่ ย การคํานวณปริมาณของสาร ความเข้มข้นของสารละลาย รวมทง้ั การบรู ณาการความร้แู ละ
ทกั ษะในการอธิบายปรากฏการณ์ในชวี ิตประจำวันและการแก้ปัญหาทางเคมี

ผลการเรียนรู้
2. อธิบายและคำนวณปริมาณใดปรมิ าณหนง่ึ จากความสัมพันธ์ของโมล จำนวนอนุภาค มวล

และปริมาตรของแก๊สที่ STP

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. อธบิ ายความสัมพันธ์ของโมลกับปรมิ าตรของแกส๊
2. คำนวณปริมาณสารจากความสมั พนั ธข์ องโมลกบั ปริมาตรของแก๊ส

สาระการเรียนรู้

ดา้ นความรู้ (K)

1. ความสมั พันธ์ระหว่างโมลกับปรมิ าตรของแกส๊

ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)

1. อธบิ ายความสัมพันธร์ ะหว่างโมลกบั ปรมิ าตรของแกส๊

2. คำนวณปริมาณสารจากความสมั พันธ์ของโมลกบั ปริมาตรของแกส๊

ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A)

 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  5. อยู่อยา่ งพอเพียง

 2. ซื่อสัตยส์ จุ รติ  6. ม่งุ มน่ั ในการทำงาน

 3. มวี ินยั  7. รกั ความเป็นไทย

 4. ใฝ่เรียนรู้  8. มีจิตสาธารณะ

เบญจวิถีกาญจนา
 1. เทิดทูนสถาบัน
 2. กตญั ญู
 3. บุคลิกดี
 4. มีวนิ ัย
 5. ใหเ้ กียรติ

สมรรถนะทส่ี ำคัญของผู้เรียน
 1. ความสามารถในการสือ่ สาร
 2. ความสามารถในการคิด
 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

จุดเนน้ สูก่ ารพฒั นาผู้เรยี น
ความสามารถและทกั ษะทีจ่ ำเป็นในการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls)

 R1– Reading (อา่ นออก)  R2– (W)Riting (เขยี นได้)  R3 – (A)Rithmetics (คดิ

เลขเป็น)
 C1 - Critical Thinking and Problem Solving ( ทักษะด้านการคิดอย่างมี

วิจารณญาณและทักษะในการแก้ปญั หา)

 C2 - Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรคแ์ ละนวัตกรรม)
 C3 - Cross-cultural Understanding (ทักษะดา้ นความเขา้ ใจตา่ งวฒั นธรรมตา่ ง

กระบวนทศั น์)

 C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทกั ษะด้านความรว่ มมือ การ
ทำงานเป็นทีมและภาวะผ้นู ำ)

 C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทกั ษะด้านการสื่อสาร

สารสนเทศและรู้เท่าทนั ส่ือ)
 C6 - Computing and ICT Literacy (ทักษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยี

สารสนเทศและการสอ่ื สาร)
 C7 - Career and Learning Skills (ทกั ษะอาชพี และทักษะการเรียนรู้)
 C8 – Compassion (ความมเี มตตากรณุ า วนิ ยั คุณธรรม จริยธรรม)
 L1 – Learning (ทักษะการเรยี นรู้)  L2 – Leadership (ทกั ษะความเปน็ ผนู้ ำ)

การวัดและประเมินผล

ด้านความรู้

ภาระงาน/ วธิ ีการวัด เคร่ืองมอื เกณฑ์ทีใ่ ช้
ช้นิ งาน ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
แบบประเมนิ
ตอบ ตรวจคำตอบของคำถาม การตอบ ผ่านเกณฑ์คะแนนไมน่ ้อยกว่าร้อย
คำถาม ละ 50
คำถาม สะท้อนความคิด ดังนี้ สะท้อน
ความคิด
สะทอ้ น 1. ความถูกต้องครอบคลุมสง่ิ ท่ี
แบบฝกึ หดั
ความคดิ ได้เรยี นรู้ 4.4

2. ความสมเหตสุ มผล

3. การต้งั คำถามที่อยากรู้

แบบฝึกหัด ตรวจแบบฝกึ หัด 4.4

4.4

ด้านทักษะ/กระบวนการ

ภาระงาน/ วิธกี ารวัด เคร่ืองมือ เกณฑ์ท่ใี ช้
ชนิ้ งาน
แบบฝกึ หัด ผา่ นเกณฑ์คะแนนไม่น้อยกว่ารอ้ ย
แบบฝึกหัด วดั ความถูกต้องของแบบฝึกหัด 4.4 ละ 50

4.4 4.4

ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์

ภาระงาน/ วธิ กี ารวัด เครือ่ งมอื เกณฑ์ทใี่ ช้
ช้นิ งาน

- การทำ สงั เกตการทำแบบฝกึ หัด แบบสงั เกต ระดบั 4 ดเี ยี่ยม 4 คะแนน
แบบฝกึ หัด รายบุคคลตามตวั ชี้วัดตอ่ ไปนี้ พฤติกรรม = ทำไดท้ ุกตัวชีว้ ัด
รายบุคคล - ความซอื่ สัตย์ ระดบั 3 ดี 3 คะแนน
- พฤติกรรม - ความมวี นิ ยั = ทำได้มาก
ระหว่างเรียน - ความมีเหตุผล ระดบั 2 พอใช้ 2 คะแนน
= ทำไดน้ อ้ ย
- การร่วมแสดงความคิดเห็น ระดบั 1 ต้องปรับปรงุ
- ยอมรบั ฟงั ความคดิ เห็นของ 1 คะแนน
ผอู้ ืน่ = ทำไมไ่ ดถ้ ึงทำไดน้ ้อยมาก
- การทำงานร่วมกบั ผู้อืน่ ได้
อยา่ งสร้างสรรค์

กจิ กรรมการเรยี นรู้
ใช้กระบวนการจัดกจิ กรรมการเรียนรูแ้ บบสบื สอบ (Inquiry method)

ข้นั นำ

1. ครูใช้คำถามต่อไปน้ี
1.1 นักเรยี นรจู้ ักแก๊สอะไรบา้ ง (คำตอบขึ้นอยูก่ ับนักเรยี น)
1.2 การวดั ปริมาณของแก๊ส เรานิยมวัดในหน่วยใด เพราะเหตุใด (นิยมวดั ในหน่วย

ปรมิ าตร เนอื่ งจากแก๊สไม่สามารถจบั ต้องได้ และไมส่ ามารถนำมาชั่งหามวลได้)
1.3 นกั เรียนคดิ ว่าแกส๊ แตล่ ะชนดิ 1 โมลจะมีปริมาตรเท่ากันหรือไม่ (แก๊สใดๆ 1

โมลจะมปี ริมาตรเท่ากัน ทสี่ ภาวะอณุ หภมู ิและความดนั มาตรฐาน)
2. ครกู ลา่ วว่า ในวนั นเ้ี ราจะศึกษาความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งโมลกบั ปริมาตรของแก๊ส

ขั้นสอน
1. ครูอธิบายเกี่ยวกับการวัดปริมาณของสารที่มีสถานะแก๊สซึ่งนิยมวัดในหน่วยปริมาตร ซ่ึง

ตอ้ งระบุอณุ หภมู แิ ละความดนั ที่ภาวะมาตรฐานของแก๊ส หรือท่ี STP
2. ครใู ชค้ ำถามวา่ อณุ หภูมแิ ละความดนั ท่ีภาวะมาตรฐานของแกส๊ หรือท่ี STP นัน้ คอื เท่าไร

(อุณหภมู ิเท่ากับ 0 องศาเซลเซียสหรือ 273 เคลวนิ และความดันคอื 1 บรรยากาศ)
3. ครูให้นักเรียนพิจารณาตาราง 4.4 ที่แสดงมวลของแก๊สบางชนิดปริมาตร 1 ลิตร ที่ STP

และครูแสดงการคำนวณหาปริมาตรของแก๊สฮีเลียม (He)1 โมล ซึ่งมีมวล 0.179 กรัมประกอบ
คำอธิบาย

แกส๊ มวล มวลของแกส๊ 1L

ต่อโมล (g)

He 4.00 0.179

CH4 16.05 0.716

H2O 18.02 0.804

N2 28.02 1.251

O2 32.00 1.430

ตาราง 4.4 ทีแ่ สดงมวลของแกส๊ บางชนิดปรมิ าตร 1 ลิตร ท่ี STP

4. นกั เรียนตอบคำถามต่อไปน้ี

4.1 แก๊ส 1 โมลมีปริมาตรเท่าใดท่ี STP (แก๊ส 1 โมลมปี ริมาตร 22.4 dm3 หรือ 22.4 ลิตร)

4.2 แกส๊ ฮเี ลยี มจำนวน 2 โมล จะมีปริมาตรกี่ลติ รท่ี STP (44.8 ลติ ร ที่ STP)

4.3 แกส๊ ไนโตรเจนจำนวน 1 โมล และแกส๊ ออกซิเจนจำนวน 1 โมล จะมปี ริมาตรที่

STP เทา่ กันหรือไม่ (มปี ริมาตรเท่ากนั เพราะแกส๊ ใด ๆ จำนวน 1 โมล จะมปี รมิ าตรเท่ากับ 22.4

ลูกบาศก์เดซิเมตร ท่ี STP)

5. ครูยกตัวอย่างและแสดงการคำนวณหาปริมาณสารจากความสัมพันธ์โมลกับปริมาตรของ

แกส๊ ดงั นี้

ตวั อย่างที่ 1 แก๊สฮีเลียม (He) 3.36 dm3 ท่ี STP คิดเปน็ ก่ีโมล

mol He = 1 mol
3.36 dm3 x 22.4 dm3

= 0.150 mol

ตวั อยา่ งท่ี 2 Cl2 4.00 โมล มีปริมาตรเทา่ ไรทอี่ ุณหภูมิและความดันมาตรฐาน

ปริมาตรของแกส๊ Cl2 22.4 dm3
= 4.00 mol x 1 mol
= 89.6 dm3

ตวั อยา่ งท่ี 3 แกส๊ ไข่เน่า (H2S) 1.50 โมล มีปรมิ าตรกล่ี ูกบาศก์เซนติเมตรที่ STP

ปริมาตรของแกส๊ H2S = 1.50 mol x 22400 cm3
1 mol
= 33,600 cm3

ขน้ั สรปุ
1. ครูและนักเรียนร่วมกนั อภปิ รายขอ้ สงสัยเก่ียวกับโมลกับปริมาตรของแก๊ส
2. ครใู หน้ กั เรยี นทำแบบฝกึ หัดที่ 4.4 ในหนงั สือเรยี น จากนั้นครแู ละนกั เรยี นร่วมกัน

เฉลยและแสดงวธิ ที ำพร้อมกนั

สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้
สอ่ื การเรียนรู้
1. หนังสือเรยี นรายวิชาเพิม่ เติมวทิ ยาศาสตร์ (เคมี) ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4 เลม่ 2
(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.2560)
2. แบบฝกึ หดั ท่ี 4.4
3. สือ่ PowerPoint
แหลง่ เรียนรู้
1. เวบ็ ไซต์ https://proj14.ipst.ac.th/m4-6-chem/m4-chem-book2/
2. เวบ็ ไซต์ https://www.scimath.org/ebook-chemistry

แบบฝกึ หดั 4.4



สรปุ ผลการจัดการเรียนรู้

ด้านความรู้ ช่วงคะแนน จำนวน (คน) คดิ เป็นรอ้ ยละ
กล่มุ ผู้เรยี น
ดี
ปานกลาง
ปรบั ปรุง

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ จำนวน (คน) คดิ เป็นร้อยละ
กลุ่มผเู้ รยี น ชว่ งคะแนน
ดี
ปานกลาง
ปรบั ปรงุ

ดา้ นคุณลกั ษะอันพงึ ประสงค์

กลมุ่ ผเู้ รียน ชว่ งระดับคุณภาพ จำนวน (คน) คิดเปน็ รอ้ ยละ

ดี 3

ปานกลาง 2

ปรบั ปรงุ 0-1

บันทึกหลังการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

ด้านการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………….....…
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ปญั หาที่พบระหว่างหรือหลังจดั กิจกรรม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………........

ข้อเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ..........................................................ผสู้ อน
(นางสาวเกษราพร บรพิ ันธ์)
............/........................../.............

การตรวจสอบและความคิดเหน็ ของหัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
 สอดคลอ้ งกับมาตรฐานและตัวช้วี ัดของหลักสูตรฯ
 กิจกรรมการเรียนรเู้ นน้ ผูเ้ รียนเปน็ สำคญั
 มีการวัดและประเมินผลตามสภาพจรงิ มคี วามหลากหลายเหมาะสมกบั ผู้เรียน
 ใชส้ อื่ หรือแหลง่ เรยี นรูท้ ่ีทนั สมัยและส่งเสริมการเรียนรไู้ ด้อย่างมีประสิทธิภาพ
 สอดคลอ้ งตามจดุ เนน้ ของกระทรวงศกึ ษาธิการ สพฐ. และจุดเนน้ ของโรงเรยี น
 ส่งเสรมิ ทักษะ 3Rs x 8Cs x 2Ls  ส่งเสริมเบญจวิถกี าญจนา

………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ..............................................................
(นางสาวทิพวลั ย์ ช่อสวุ รรณ)

หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

การตรวจสอบและความคิดเหน็ ของหัวหน้ากลมุ่ บรหิ ารวิชาการ

 ถูกต้องตามรูปแบบของโรงเรียน

 ผ่านการนเิ ทศตรวจสอบจากหวั หน้ากลุม่ สาระการเรียนรู้/กรรมการนเิ ทศ

 กอ่ นใช้สอน  หลงั ใชส้ อน

 มีบันทกึ หลงั จดั กิจกรรมการเรียนรู้

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………........

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ..............................................................
(นายธนพันธ์ เพ็งสวสั ดิ์)
หวั หน้ากลุ่มบริหารวชิ าการ

ความคดิ เหน็ ของรองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………........

ลงชื่อ....................................................................
(นางกัญจนช์ ญาณทั วงศจ์ ิระศกั ด์ิ)

รองผูอ้ ำนวยการโรงเรยี น กลมุ่ บริหารงานวชิ าการ

แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์
รายวิชา เคมี2 รหัสวชิ า ว30222 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4
เรอ่ื ง

เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมค่อนขา้ งบ่อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน
ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมน้อยคร้ัง

ซื่อสัตย์ ุสจริต
ีม ิวนัย
ใ ่ฝเรียนรู้
ุ่มง ัมนในการงาน
ีม ิจตสาธารณะ

รวม
เลขที่ ผลการประเมนิ

4 4 4 4 4 20 ผ่าน ไมผ่ า่ น
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16

ซื่อ ัสตย์ ุสจริต
ีม ิวนัย
ใ ่ฝเรียนรู้
ุ่มง ัมนในการงาน
ีม ิจตสาธารณะ

รวม
เลขท่ี ผลการประเมิน

4 4 4 4 4 20 ผ่าน ไมผ่ ่าน
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30

ลงชอ่ื ......................................... ผู้ประเมนิ
(..............................................)

เกณฑ์การประเมนิ ( ชว่ งคะแนน 16 – 20 )
ระดบั คุณภาพ 4 = ดีมาก ( ช่วงคะแนน 11 – 15 )
ระดับคุณภาพ 3 = ดี ( ช่วงคะแนน 6 – 10 )
ระดับคุณภาพ 2 = ปานกลาง ( ช่วงคะแนน 1 – 5 )
ระดับคุณภาพ 1 = ปรับปรุง

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 6

รายวิชา เคมี 2 รหสั วิชา ว30222 ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4

กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 โมลและสูตรเคมี เวลา 17 ช่ัวโมง

เร่อื ง ความสมั พันธ์ระหวา่ งโมล มวลและปริมาตรของแก๊ส เวลา 2 ช่วั โมง

ผูส้ อน นางสาวเกษราพร บรพิ นั ธ์ โรงเรยี นกาญจนาภเิ ษกวทิ ยาลยั สรุ าษฎร์ธานี

แนวคิดสำคญั (สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด)
โมลเปน็ ปริมาณสารท่ีมีจำนวนอนุภาคเทา่ กับเลขอาโวกาโดร คอื 6.02 × 1023 อนภุ าค มวล

ของสาร 1 โมล ทม่ี หี น่วยเปน็ กรัม เรยี กวา่ มวลต่อโมล ซ่งึ มีค่าตวั เลขเท่ากับมวลอะตอม มวลโมเลกุล
หรือมวลสูตรของสารนั้น สำหรับสารที่มีสถานะแก๊ส 1 โมล จะมีปริมาตรเท่ากับ 22.4 ลูกบาศก์
เดซเิ มตรที่ STP

มาตรฐานการเรียนรู้
สาระเคมี3. เข้าใจหลกั การทำปฏิบัติการเคมี การวดั ปริมาณสาร หน่วยวดั และการเปลีย่ น

หน่วย การคาํ นวณปริมาณของสาร ความเขม้ ข้นของสารละลาย รวมทง้ั การบูรณาการความรแู้ ละ
ทักษะในการอธบิ ายปรากฏการณใ์ นชวี ิตประจำวันและการแกป้ ัญหาทางเคมี

ผลการเรยี นรู้
2. อธบิ ายและคำนวณปริมาณใดปริมาณหนง่ึ จากความสมั พันธ์ของโมล จำนวนอนภุ าค มวล

และปรมิ าตรของแก๊สท่ี STP

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายความสมั พันธ์ระหว่างโมล มวลและปรมิ าตรของแก๊ส
2. คำนวณปริมาณสารจากความสัมพันธ์ระหว่างโมล มวลและปรมิ าตรของแกส๊

สาระการเรียนรู้

ดา้ นความรู้ (K)

1. ความสัมพนั ธร์ ะหว่างโมล มวลและปรมิ าตรของแก๊ส

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)

1. อธบิ ายความสมั พนั ธ์ระหว่างโมล มวลและปรมิ าตรของแกส๊

2. คำนวณปริมาณสารจากความสมั พันธ์ระหว่างโมล มวลและปริมาตรของแก๊ส

ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (A)

 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  5. อยู่อย่างพอเพียง

 2. ซ่อื สัตยส์ จุ รติ  6. ม่งุ มนั่ ในการทำงาน

 3. มวี นิ ัย  7. รกั ความเป็นไทย

 4. ใฝ่เรยี นรู้  8. มจี ิตสาธารณะ

เบญจวถิ ีกาญจนา
 1. เทดิ ทนู สถาบนั
 2. กตัญญู
 3. บคุ ลิกดี
 4. มวี นิ ัย
 5. ให้เกียรติ

สมรรถนะท่สี ำคัญของผ้เู รียน
 1. ความสามารถในการส่อื สาร
 2. ความสามารถในการคดิ
 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

จดุ เน้นสู่การพัฒนาผเู้ รยี น
ความสามารถและทกั ษะท่ีจำเป็นในการเรยี นรใู้ นศตวรรษท่ี 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls)

 R1– Reading (อา่ นออก)  R2– (W)Riting (เขียนได้)  R3 – (A)Rithmetics (คิด

เลขเปน็ )
 C1 - Critical Thinking and Problem Solving ( ทักษะด้านการคิดอย่างมี

วิจารณญาณและทกั ษะในการแก้ปญั หา)

 C2 - Creativity and Innovation (ทกั ษะด้านการสร้างสรรค์และนวตั กรรม)
 C3 - Cross-cultural Understanding (ทักษะดา้ นความเข้าใจต่างวฒั นธรรมตา่ ง

กระบวนทัศน์)

 C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทกั ษะด้านความรว่ มมือ การ
ทำงานเปน็ ทีมและภาวะผูน้ ำ)

 C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทักษะด้านการสื่อสาร

สารสนเทศและรูเ้ ทา่ ทนั สื่อ)
 C6 - Computing and ICT Literacy (ทกั ษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยี

สารสนเทศและการสือ่ สาร)
 C7 - Career and Learning Skills (ทกั ษะอาชีพและทกั ษะการเรียนรู้)
 C8 – Compassion (ความมีเมตตากรณุ า วนิ ยั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม)
 L1 – Learning (ทักษะการเรยี นร)ู้  L2 – Leadership (ทกั ษะความเป็นผูน้ ำ)

การวดั และประเมินผล

ดา้ นความรู้

ภาระงาน/ วธิ ีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์ทใี่ ช้
ชิน้ งาน รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
แบบประเมนิ
ตอบ ตรวจคำตอบของคำถาม การตอบ ผ่านเกณฑ์คะแนนไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ย
คำถาม ละ 50
คำถาม สะท้อนความคดิ ดังน้ี สะท้อน
ความคิด
สะทอ้ น 1. ความถกู ต้องครอบคลุมส่ิงที่
แบบฝกึ หดั
ความคิด ได้เรียนรู้ เรอ่ื งโมล

2. ความสมเหตสุ มผล

3. การต้ังคำถามที่อยากรู้

แบบฝกึ หดั ตรวจแบบฝกึ หัดเร่ืองโมล

เรื่องโมล

ด้านทกั ษะ/กระบวนการ

ภาระงาน/ วิธกี ารวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์ทีใ่ ช้
ชนิ้ งาน
แบบฝกึ หัด ผา่ นเกณฑ์คะแนนไม่น้อยกวา่ รอ้ ย
แบบฝกึ หดั วัดความถกู ต้องของแบบฝกึ หัด เรอ่ื ง โมล ละ 50

เร่ืองโมล เร่อื ง โมล

ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

ภาระงาน/ วธิ กี ารวดั เครอื่ งมือ เกณฑ์ท่ใี ช้
ช้ินงาน

- การทำ สังเกตการทำแบบฝกึ หดั แบบสังเกต ระดับ 4 ดเี ยย่ี ม 4 คะแนน
แบบฝึกหดั รายบคุ คลตามตวั ชว้ี ดั ตอ่ ไปน้ี พฤติกรรม = ทำไดท้ ุกตัวชวี้ ดั
รายบุคคล - ความซ่ือสัตย์ ระดับ 3 ดี 3 คะแนน
- พฤติกรรม - ความมีวินยั = ทำไดม้ าก
ระหวา่ งเรียน - ความมีเหตุผล ระดับ 2 พอใช้ 2 คะแนน
= ทำไดน้ อ้ ย
- การร่วมแสดงความคิดเหน็ ระดับ 1 ตอ้ งปรับปรุง
- ยอมรบั ฟงั ความคิดเห็นของ 1 คะแนน
ผ้อู น่ื = ทำไมไ่ ดถ้ งึ ทำได้น้อยมาก
- การทำงานรว่ มกับผู้อื่นได้
อยา่ งสรา้ งสรรค์

กิจกรรมการเรียนรู้
ใชก้ ระบวนการจดั กิจกรรมการเรยี นรแู้ บบสืบสอบ (Inquiry method)

ขัน้ นำ

1. ครูใชค้ ำถามต่อไปน้ี
1.1 หนว่ ยโมลสัมพนั ธ์กบั ปริมาณใดบ้าง (อนุภาค มวลตอ่ โมลและปริมาตรแกส๊ ที่ STP)
1.2 หน่วยโมลสามารถใชใ้ นการบอกจำนวนอนภุ าคอะไรได้บา้ ง

(อะตอม โมเลกลุ ไอออน และหน่วยสูตร)
1.3 สาร 1 โมลมีอนุภาคจำนวนเทา่ กับเท่าไร (6.02 x 1023 อนุภาค)
1.4 สาร 1 โมลมีมวลเทา่ ไร ( สาร 1 โมลมมี วลเทา่ กับมวลโมเลกลุ หรอื

มวลตอ่ โมลของสารนนั้ )

1.5 แกส๊ 1 โมลมีปรมิ าตรเท่าใดท่ี STP (แกส๊ 1 โมลมีปริมาตร 22.4 dm3 หรือ
22.4 ลิตร)

2. ครูกลา่ ววา่ โมล จำนวนอนุภาค มวลและปริมาตรของแก๊สมีความสมั พนั ธ์กนั หากทราบ
ปริมาณหนง่ึ กจ็ ะสามารถคำนวณหาปริมาณหน่ึงได้ ซ่งึ นักเรียนจะได้ศกึ ษากนั ในวันน้ี

ข้นั สอน
1.ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดเรื่องโมล ซึ่งเป็นการคำนวณหาปริมาณสารจากความสัมพันธ์

ระหว่างโมล มวลและปรมิ าตรของแก๊ส
2. ครแู ละนักเรียนร่วมกันเฉลยและอภปิ รายแบบฝกึ หดั พร้อมกัน โดยครูใหน้ ักเรียนแต่ละคน

เฉลยแบบฝึกหัดทลี ะขอ้ และครอู ธิบายเพ่ิมเติม

ข้นั สรปุ
ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายขอ้ สงสัยเกี่ยวกบั ความสัมพันธ์ระหว่างโมล มวลและ

ปริมาตรของแก๊ส

สอ่ื /แหล่งเรียนรู้
สอ่ื การเรยี นรู้
1. หนงั สือเรยี นรายวิชาเพมิ่ เติมวิทยาศาสตร์ (เคมี) ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 เล่ม 2
(ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.2560)
2. แบบฝกึ หดั เรอื่ งโมล
3. ส่ือ PowerPoint
แหลง่ เรียนรู้
1. เวบ็ ไซต์ https://proj14.ipst.ac.th/m4-6-chem/m4-chem-book2/
2. เวบ็ ไซต์ https://www.scimath.org/ebook-chemistry

แบบฝึกหดั เร่อื งโมล











สรปุ ผลการจัดการเรียนรู้

ด้านความรู้ ช่วงคะแนน จำนวน (คน) คดิ เป็นรอ้ ยละ
กล่มุ ผู้เรยี น
ดี
ปานกลาง
ปรบั ปรุง

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ จำนวน (คน) คดิ เป็นร้อยละ
กลุ่มผเู้ รยี น ชว่ งคะแนน
ดี
ปานกลาง
ปรบั ปรงุ

ดา้ นคุณลกั ษะอันพงึ ประสงค์

กลมุ่ ผเู้ รียน ชว่ งระดับคุณภาพ จำนวน (คน) คิดเปน็ รอ้ ยละ

ดี 3

ปานกลาง 2

ปรบั ปรงุ 0-1

บันทึกหลังการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

ด้านการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………….....…
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ปญั หาที่พบระหว่างหรือหลังจดั กิจกรรม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………........

ข้อเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ..........................................................ผสู้ อน
(นางสาวเกษราพร บรพิ ันธ์)
............/........................../.............

การตรวจสอบและความคิดเหน็ ของหัวหนา้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้
 สอดคลอ้ งกับมาตรฐานและตัวช้วี ัดของหลักสูตรฯ
 กิจกรรมการเรียนรเู้ น้นผเู้ รียนเปน็ สำคญั
 มีการวัดและประเมินผลตามสภาพจรงิ มคี วามหลากหลายเหมาะสมกบั ผเู้ รียน
 ใชส้ อื่ หรือแหลง่ เรยี นรู้ท่ีทนั สมยั และส่งเสริมการเรียนรไู้ ด้อย่างมีประสิทธิภาพ
 สอดคลอ้ งตามจดุ เนน้ ของกระทรวงศกึ ษาธิการ สพฐ. และจุดเนน้ ของโรงเรียน
 ส่งเสรมิ ทักษะ 3Rs x 8Cs x 2Ls  ส่งเสรมิ เบญจวิถีกาญจนา

………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ..............................................................
(นางสาวทิพวัลย์ ช่อสวุ รรณ)

หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

การตรวจสอบและความคิดเหน็ ของหัวหน้ากลมุ่ บรหิ ารวิชาการ

 ถูกต้องตามรูปแบบของโรงเรียน

 ผ่านการนเิ ทศตรวจสอบจากหวั หน้ากลุม่ สาระการเรียนรู้/กรรมการนเิ ทศ

 กอ่ นใช้สอน  หลงั ใชส้ อน

 มีบันทกึ หลงั จดั กิจกรรมการเรียนรู้

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………........

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ..............................................................
(นายธนพันธ์ เพง็ สวสั ดิ์)
หวั หน้ากลุ่มบริหารวชิ าการ

ความคดิ เหน็ ของรองผ้อู ำนวยการฝ่ายวิชาการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………........

ลงชื่อ....................................................................
(นางกัญจนช์ ญาณทั วงศจ์ ิระศกั ด์ิ)

รองผูอ้ ำนวยการโรงเรยี น กลมุ่ บริหารงานวชิ าการ

แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์
รายวิชา เคมี2 รหัสวชิ า ว30222 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4
เรอ่ื ง

เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมค่อนขา้ งบ่อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน
ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมน้อยคร้ัง

ซื่อสัตย์ ุสจริต
ีม ิวนัย
ใ ่ฝเรียนรู้
ุ่มง ัมนในการงาน
ีม ิจตสาธารณะ

รวม
เลขที่ ผลการประเมนิ

4 4 4 4 4 20 ผ่าน ไมผ่ า่ น
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16

ซื่อ ัสตย์ ุสจริต
ีม ิวนัย
ใ ่ฝเรียนรู้
ุ่มง ัมนในการงาน
ีม ิจตสาธารณะ

รวม
เลขท่ี ผลการประเมิน

4 4 4 4 4 20 ผ่าน ไมผ่ ่าน
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30

ลงชอ่ื ......................................... ผู้ประเมนิ
(..............................................)

เกณฑ์การประเมนิ ( ชว่ งคะแนน 16 – 20 )
ระดบั คุณภาพ 4 = ดีมาก ( ช่วงคะแนน 11 – 15 )
ระดับคุณภาพ 3 = ดี ( ช่วงคะแนน 6 – 10 )
ระดับคุณภาพ 2 = ปานกลาง ( ช่วงคะแนน 1 – 5 )
ระดับคุณภาพ 1 = ปรับปรุง

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 7

รายวชิ า เคมี 2 รหสั วชิ า ว30222 ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4

กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 โมลและสตู รเคมี เวลา 17 ช่วั โมง

เรอื่ ง สตู รเคมแี ละกฎสัดสว่ นคงที่ เวลา 2 ชว่ั โมง

ผ้สู อน นางสาวเกษราพร บรพิ นั ธ์ โรงเรยี นกาญจนาภเิ ษกวทิ ยาลัย สรุ าษฎรธ์ านี

แนวคิดสำคัญ (สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด)
สารประกอบเกิดจากธาตุตง้ั แต่ 2 ชนดิ ข้นึ ไปมารวมตัวกนั โดยมอี ัตราสว่ นโดยมวลตามกฎ

สดั สว่ นคงที่ สูตรเคมีสามารถแสดงได้ด้วยสตู รอย่างงา่ ย และสตู รโมเลกลุ

มาตรฐานการเรยี นรู้
สาระเคมี3. เขา้ ใจหลกั การทำปฏิบัติการเคมี การวดั ปริมาณสาร หนว่ ยวดั และการเปลีย่ น

หน่วย การคาํ นวณปรมิ าณของสาร ความเข้มขน้ ของสารละลาย รวมทั้งการบรู ณาการความรู้และ
ทกั ษะในการอธบิ ายปรากฏการณใ์ นชีวิตประจำวันและการแก้ปญั หาทางเคมี

ผลการเรียนรู้
3. คำนวณอัตราสว่ นโดยมวลของธาตุองคป์ ระกอบของสารประกอบตามกฎสดั ส่วนคงท่ี
4. คำนวณสูตรอย่างง่ายและสตู รโมเลกุลของสาร

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธบิ ายความหมายและยกตัวอยา่ งสตู รเคมีแต่ละประเภทได้
2. อธิบายกฎสัดส่วนคงท่ีได้
3. คำนวณอัตราส่วนโดยมวลของสารได้
4. คำนวณอตั ราส่วนโดยโมลของสารได้

สาระการเรยี นรู้

ดา้ นความรู้ (K)

1. สูตรเคมี

2. กฎสดั ส่วนคงที่

ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)

1. อธบิ ายความหมายของสูตรเคมีและกฎสดั ส่วนคงท่ี

2. คำนวณอัตราสว่ นโดยมวล

3. คำนวณอตั ราสว่ นโดยโมล

4. คำนวณปริมาณสารตามกฎสดั ส่วนคงที่

ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A)

 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์  5. อยู่อย่างพอเพยี ง

 2. ซ่อื สัตย์สจุ รติ  6. มุ่งมัน่ ในการทำงาน

 3. มีวินยั  7. รกั ความเป็นไทย

 4. ใฝ่เรยี นรู้  8. มีจติ สาธารณะ

เบญจวถิ ีกาญจนา
 1. เทิดทนู สถาบัน
 2. กตัญญู
 3. บคุ ลิกดี
 4. มีวนิ ัย
 5. ให้เกียรติ

สมรรถนะที่สำคญั ของผู้เรียน
 1. ความสามารถในการสอื่ สาร
 2. ความสามารถในการคดิ
 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
 4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

จุดเนน้ สูก่ ารพฒั นาผู้เรยี น
ความสามารถและทกั ษะทีจ่ ำเป็นในการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls)

 R1– Reading (อา่ นออก)  R2– (W)Riting (เขยี นได้)  R3 – (A)Rithmetics (คดิ

เลขเป็น)
 C1 - Critical Thinking and Problem Solving ( ทักษะด้านการคิดอย่างมี

วิจารณญาณและทักษะในการแก้ปญั หา)

 C2 - Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรคแ์ ละนวัตกรรม)
 C3 - Cross-cultural Understanding (ทักษะดา้ นความเขา้ ใจตา่ งวฒั นธรรมตา่ ง

กระบวนทศั น์)

 C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทกั ษะด้านความรว่ มมือ การ
ทำงานเป็นทีมและภาวะผ้นู ำ)

 C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทกั ษะด้านการสื่อสาร

สารสนเทศและรู้เท่าทนั ส่ือ)
 C6 - Computing and ICT Literacy (ทกั ษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยี

สารสนเทศและการสอ่ื สาร)
 C7 - Career and Learning Skills (ทักษะอาชพี และทักษะการเรียนรู้)
 C8 – Compassion (ความมเี มตตากรุณา วนิ ยั คุณธรรม จริยธรรม)
 L1 – Learning (ทักษะการเรยี นรู้)  L2 – Leadership (ทกั ษะความเปน็ ผนู้ ำ)

การวัดและประเมินผล

ด้านความรู้

ภาระงาน/ วธิ ีการวัด เครอื่ งมอื เกณฑ์ทีใ่ ช้
ช้นิ งาน ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
แบบประเมนิ
ตอบ ตรวจคำตอบของคำถาม การตอบ ผ่านเกณฑ์คะแนนไมน่ ้อยกว่าร้อย
คำถาม ละ 50
คำถาม สะท้อนความคิด ดังนี้ สะทอ้ น
ความคิด
สะทอ้ น 1. ความถูกต้องครอบคลุมสง่ิ ท่ี
แบบฝึกหดั
ความคดิ ได้เรยี นรู้ 4.5

2. ความสมเหตสุ มผล

3. การต้งั คำถามที่อยากรู้

แบบฝึกหัด ตรวจแบบฝกึ หัด 4.5

4.5


Click to View FlipBook Version