The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by maewja1, 2019-06-27 18:33:30

หลักสูตรชุมชนวัดราษฎร์นิยม 2562

หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

ประกาศโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม
เรื่อง ให้ใช้หลักสูตรโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม พุทธศักราช ๒๕๖๒
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐)

.....................................

ตามที่โรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยมได้ประกาศใช้หลักสูตรโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม
พุทธศักราช ๒๕๖๒ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.

๒๕๖๐) โดยเริ่มใช้หลักสูตรดังกล่าวกับนักเรียนทุกระดับชั้นในปีการศึกษา ๒๕๕๓ โรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์
นิยม ได้เพิ่มรายวิชาเพิ่มเติมเพื่อให้สอดคล้องรับกับนโยบายเร่งด่วนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะกระบวนการคิด วิเคราะห์ มีเวลาในการท ากิจกรรมเพื่อพัฒนาความรู้ ความสามารถ

และทักษะ การปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม การสร้างวินัย การมีจิตส านึกรับผิดชอบต่อสังคม ยึดมั่น ในสถาบัน
ชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ และมีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย ตลอดจนการเรียนการสอนในวิชา
ประวัติศาสตร์ และหน้าที่พลเมือง โรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม ได้ด าเนินการจัดท าหลักสูตรโรงเรียนชุมชน
วัดราษฎร์นิยม พุทธศักราช ๒๕๖๒ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับ
ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) สอดคล้องตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การบริหารจัดการเวลาเรียน และ

ปรับมาตรฐานและตัวชี้วัด สอดคล้องกับ ค าสั่งสพฐ. ที่ ๑๒๓๙/๖๐ และประกาศ สพฐ.ลงวันที่ ๘ มกราคม
๒๕๖๑ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้หลักสูตรโรงเรียนได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เมื่อวันที่
๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ จึงประกาศให้ใช้หลักสูตรโรงเรียนตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป


ประกาศ ณ วันที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๒





ลงชื่อ ลงชื่อ
(นายสุวิชา จอประยูร) (นายสิทธิพงศ์ บุญเมือง)

ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้อ านวยการโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม

















หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

ค ำน ำ


กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง
พ.ศ.๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ตามค าสั่งกระทรวงศึกษาธิการ
ที่ สพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๐ และค าสั่งส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ที่ ๓๐/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๑ ให้เปลี่ยนแปลงมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการ
เรียนรู้คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) โดยมีค าสั่งให้โรงเรียนด าเนินการใช้หลักสูตร
ในปีการศึกษา ๒๕๖๑ โดยให้ใช้ในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ และ ๔ ตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๖๑ เป็นต้นมา ให้เป็น
หลักสูตรแกนกลางของประเทศ โดยก าหนดจุดหมาย และมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมายและกรอบทิศทาง

ในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนมีพัฒนาการเต็มตามศักยภาพ มีคุณภาพและมีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑
เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายและเป้าหมายของส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัด
ราษฎร์นิยม จึงได้ท าการปรับปรุงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง
พุทธศักราช ๒๕๖๐ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการ

เรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เพื่อน าไปใช้ประโยชน์และเป็นกรอบในการวางแผนและพัฒนา
หลักสูตรของสถานศึกษาและจัดการเรียนการสอน โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ให้มี
กระบวนการน าหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติ โดยมีการก าหนดวิสัยทัศน์ จุดหมาย สมรรถนะส าคัญของผู้เรียน

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด โครงสร้างเวลาเรียน ตลอดจนเกณฑ์การวัด
ประเมินผลให้มีความสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ เปิดโอกาสให้โรงเรียนสามารถก าหนดทิศทางในการ
จัดท าหลักสูตรการเรียนการสอนในแต่ละระดับตามความพร้อมและจุดเน้น โดยมีกรอบแกนกลางเป็นแนวทาง
ที่ชัดเจนเพื่อตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ ๔.๐ มีความพร้อมในการก้าวสู่สังคมคุณภาพ มีความรู้อย่างแท้จริง

และมีทักษะในศตวรรษที่ ๒๑ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดที่ก าหนดไว้ในเอกสารนี้ ช่วยท าให้หน่วยงานที่
เกี่ยวข้อง ในทุกระดับ เห็นผลคาดหวังที่ต้องการในการพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนที่ชัดเจนตลอดแนว ซึ่งจะ
สามารถช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับท้องถิ่นและสถานศึกษาร่วมกันพัฒนาหลักสูตรได้อย่างมั่นใจ ท า
ให้การจัดท าหลักสูตรในระดับสถานศึกษามีคุณภาพและมีความเป็นเอกภาพยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้เกิดความ

ชัดเจนเรื่องการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ และช่วยแก้ปัญหาการเทียบโอนระหว่างสถานศึกษา ดังนั้นใน
การพัฒนาหลักสูตรในทุกระดับตั้งแต่ระดับชาติจนกระทั่งถึงสถานศึกษา จะต้องสะท้อนคุณภาพตามมาตรฐาน
การเรียนรู้และตัวชี้วัดที่ก าหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน รวมทั้งเป็นกรอบทิศทางในการ
จัดการศึกษาทุกรูปแบบ และครอบคลุมผู้เรียนทุกกลุ่มเป้าหมายในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานการจัดหลักสูตร

การศึกษาขั้นพื้นฐานจะประสบความส าเร็จตามเป้าหมายที่คาดหวังได้ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งระดับชาติ ชุมชน
ครอบครัวและบุคคลต้องร่วมรับผิดชอบ โดยร่วมกันท างานอย่างเป็นระบบต่อเนื่อง ในการวางแผน ด าเนินการ
ส่งเสริมสนับสนุน ตรวจสอบ ตลอดจนปรับปรุงแก้ไข เพื่อพัฒนาเยาวชนของชาติไปสู่คุณภาพตามมาตรฐาน

การเรียนรู้ที่ก าหนดไว้



นายสิทธิพงศ์ บุญเมือง

ผู้อ านวยการโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม





หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

สำรบัญ



หน้ำ

ประกาศโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม เรื่อง ให้ใช้หลักสูตรโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม ก
พุทธศักราช ๒๕๖๒ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
ค าน า ข
สารบัญ ค

ความน า ๑
วิสัยทัศน์ /หลักการ /จุดหมาย ๒
สมรรถนะผู้เรียน/คุณลักษณะที่พึงประสงค์ ๓

คุณภาพผู้เรียน ๔
การจัดการเรียนรู้ ๕
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ๗
เอกสาร/หลักฐานทางการศึกษา ๑๑
การเทียบโนผลการเรียน ๑๒

การบริหารจัดการหลักสูตร ๑๒
โครงสร้างเวลาเรียน ๑๓
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ๑๕

ค ำอธิบำยรำยวิชำ ระดับประถมศึกษำปีที่ ๑-๖
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ๒๐
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ๒๑
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ๒๘

กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ๔๒
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ๖๔
กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ๗๑
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๘๓

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ๙๖
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ๑๐๓
การวัดและประเมินผลคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑๐๔
การวัดและประเมินผลการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ๑๑๐

ภำคผนวก ๑๑๑
ค าสั่งโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารหลักสูตร
และงานวิชาการสถานศึกษา

ค าสังโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการปรับปรุงหลักสูตร
สถานศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๒
คณะผู้จัดท ำ










หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

ควำมน ำ


พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๔๒ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ พร้อม

กฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง และพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. ๒๕๔๕ มุ่งเน้นให้การปฏิรูประบบ
บริหารและการจัดการทางการศึกษาให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยให้มีเอกภาพทางนโยบายและมี
ความหลากหลายในทางปฏิบัติ มีการกระจายอ านาจไปสู่เขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษาและองค์กรปกครอง

ส่วนท้องถิ่น และกระทรวงศึกษาธิการได้มีค าสั่งให้ใช้มาตรฐานแลละตัวชี้วัดหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น
พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐) โรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยมจึงได้มีการปรับหลักสูตร
สถานศึกษาให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง
๒๕๖๐) ความต้องการของท้องถิ่น และความต้องการของผู้เรียนในสถานศึกษาแต่ละแห่ง ส านักงานเขตพื้นที่
การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต ๒ ได้ก าหนดทิศทางการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ไว้ดังนี้

๑. นักเรียนทุกคนมีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานของหลักสูตรฯ และสู่อาเซียน
๒. นักเรียนเป็นคนดี มีคุณธรรม จริยธรรม
๓. นักเรียนด าเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข

๔. ครูจัดการเรียนการสอนได้ตามมาตรฐานการศึกษา
โรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นนทบุรี เขต ๒ ได้
ด าเนินการจัดท าหลักสูตรสถานศึกษา พุทธศักราช ๒๕๖๒ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐) เพื่อใช้เป็นกรอบและทิศทางในการจัดการเรียนการสอนของ
โรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม และเพื่อให้กระบวนการน าหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้ง

ร่วมกันรับผิดชอบและท างานร่วมกันอย่างเป็นระบบ โดยจัดท าและพัฒนาหลักสูตรตามแนวคิดหลักสูตรอิง
มาตรฐาน คือ ก าหนดมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียน เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณภาพตาม
มาตรฐานการเรียนรู้ที่ก าหนดในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคนให้มีความ

สมดุลทั้งด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตส านึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดมั่นในการปกครอง
ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความรู้และทักษะพื้นฐาน รวมทั้งเจตคติที่
จ าเป็นต่อการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวิต โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นส าคัญบนพื้นฐาน
ความเชื่อว่า ทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้เต็มตามศักยภาพ

หลักสูตรโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม พุทธศักราช ๒๕๖๒ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น
พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐) ประกอบด้วยสาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้
ท้องถิ่น และสาระการเรียนรู้ที่โรงเรียนพัฒนาเพิ่มเติม โดยจัดเป็นสาระการเรียนรู้รายวิชาพื้นฐานตาม

มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด และสาระการเรียนรู้รายวิชาเพิ่มเติม จัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเป็นรายปีใน
ระดับประถมศึกษา และก าหนดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ในการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้
ตัวชี้วัด และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่ก าหนดไว้ เป็นแนวทางให้ผู้บริหารสถานศึกษา ครู อาจารย์
ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาของโรงเรียน ในการจัดมวลประสบการณ์ให้แก่ผู้เรียนได้พัฒนาให้

บรรลุถึงคุณภาพตามมาตรฐานในการพัฒนาเยาวชนของชาติ















หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

วิสัยทัศน์โรงเรียน


โรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม เป็นสถานศึกษาที่จัดการศึกษาแบบมีส่วนร่วม ให้ผู้เรียนมีคุณภาพตาม

มาตรฐานสู่สากล มีคุณธรรมจริยธรรม มีทักษะการเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ มีจิตส านึกในการอนุรักษ์
วัฒนธรรม และธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

พันธกิจ


๑. จัด ส่งเสริม และสนับสนุน การจัดการศึกษาอย่างทั่วถึง เสมอภาค และมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาชาติ
๒. จัด ส่งเสริมและสนับสนุน ให้ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรมตามหลักสูตรและค่านิยมหลักของคนไทย ๑๒

ประการ และมีจิตส านึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรม ธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
๓. ส่งเสริมและพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ได้ตามมาตรฐานวิชาชีพ
๔. พัฒนาระบบการบริหารจัดการสถานศึกษาให้เข้มแข็งตามหลักธรรมาภิบาล โดยเน้นการบริหารแบบมีส่วนร่วม

ทุกภาคส่วน

หลักกำร

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีหลักการที่ส าคัญ ดังนี้

๑. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อความเป็นเอกภาพของชาติ มีจุดหมายและมาตรฐานการเรียนรู้
เป็นเป้าหมายส าหรับพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติ และคุณธรรมบนพื้นฐาน
ของความเป็นไทยควบคู่กับความเป็นสากล
๒. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อปวงชน ที่ประชาชนทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาอย่างเสมอภาค และมี

คุณภาพ
๓.เป็นหลักสูตรการศึกษาที่สนองการกระจายอ านาจ ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา ให้สอดคล้องกับ
สภาพและความต้องการของท้องถิ่น

๔. เป็นหลักสูตรการศึกษาที่มีโครงสร้างยืดหยุ่นทั้งด้านสาระการเรียนรู้ เวลาและการจัดการเรียนรู้
๕. เป็นหลักสูตรการศึกษาที่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ
๖. เป็นหลักสูตรการศึกษาส าหรับการศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย ครอบคลุมทุก
กลุ่มเป้าหมาย สามารถเทียบโอนผลการเรียนรู้ และประสบการณ์

จุดหมำย

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข
มีศักยภาพในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ จึงก าหนดเป็นจุดหมายเพื่อให้เกิดกับผู้เรียน เมื่อจบ

การศึกษาขั้นพื้นฐาน ดังนี้
๑. ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรมและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตรและสอดคล้องกับค่านิยมหลัก ๑๒
ประการ เหมาะสมตามช่วงวัย และมีจิตส านึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรม ธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ตามหลัก

ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
๒. มีความรู้ ความสามารถในการสื่อสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้เทคโนโลยี และมีทักษะชีวิต
๓. มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี มีสุขนิสัย และรักการออกก าลังกาย
๔. มีความรักชาติ มีจิตส านึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดมั่นในวิถีชีวิตและการปกครองตาม
ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข





หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

๕. มีจิตส านึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย การอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม มีจิต

สาธารณะที่มุ่งท าประโยชน์และสร้างสิ่งที่ดีงามในสังคม และอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข
๖. ผู้เรียนมีการพัฒนาการเหมาะสมตามช่วงวัยและมีคุณภาพตามมาตรฐานและทักษะการเรียนรู้สู่ศตวรรษที่
๒๑



สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน


หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะส าคัญ ๕ ประการ ดังนี้
๑. ควำมสำมำรถในกำรสื่อสำร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา
ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและ
ประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลด

ปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการ
เลือกใช้วิธีการสื่อสาร ที่มีประสิทธิภาพโดยค านึงถึงผลกระทบที่มีต่อตนเองและสังคม
๒. ควำมสำมำรถในกำรคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด อย่าง
สร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อน าไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศ

เพื่อการตัดสินใจเกี่ยวกับตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม
๓. ควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำ เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญได้
อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และการ

เปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไข
ปัญหา และมีการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพโดยค านึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อตนเอง สังคมและสิ่งแวดล้อม
๔. ควำมสำมำรถในกำรใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการน ากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการ
ด าเนินชีวิตประจ าวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การท างาน และการอยู่ร่วมกันในสังคม
ด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม

การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึง
ประสงค์ที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น
๕. ควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ

และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร
การท างาน การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ถูกต้อง เหมาะสม และมีคุณธรรม



























หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

คุณลักษณะอันพึงประสงค์

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อให้
สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข ในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ดังนี้
๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์

๒. ซื่อสัตย์สุจริต
๓. มีวินัย
๔. ใฝ่เรียนรู้
๕. อยู่อย่างพอเพียง

๖. มุ่งมั่นในการท างาน
๗. รักความเป็นไทย
๘. มีจิตสาธารณะ


คุณภำพผู้เรียน

จบชั้นประถมศึกษำปีที่ ๓
 อ่านออกเสียงค า ค าคล้องจอง ข้อความ เรื่องสั้นๆ และบทร้อยกรองง่ายๆ ได้ถูกต้องคล่องแคล่ว

เข้าใจความหมายของค าและข้อความที่อ่าน ตั้งค าถามเชิงเหตุผล ล าดับเหตุการณ์ คาดคะเนเหตุการณ์ สรุป
ความรู้ข้อคิดจากเรื่องที่อ่าน ปฏิบัติตามค าสั่ง ค าอธิบายจากเรื่องที่อ่านได้ เข้าใจความหมายของข้อมูลจาก
แผนภาพ แผนที่ และแผนภูมิ อ่านหนังสืออย่างสม่ าเสมอ และ มีมารยาทในการอ่าน

 มีทักษะในการคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัด เขียนบรรยาย บันทึกประจ าวัน เขียนจดหมายลา
ครู เขียนเรื่องเกี่ยวกับประสบการณ์ เขียนเรื่องตามจินตนาการและมีมารยาทในการเขียน
 เล่ารายละเอียดและบอกสาระส าคัญ ตั้งค าถาม ตอบค าถาม รวมทั้งพูดแสดงความคิดความรู้สึก
เกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและดู พูดสื่อสารเล่าประสบการณ์และพูดแนะน า หรือพูดเชิญชวนให้ผู้อื่นปฏิบัติตาม และมี

มารยาทในการฟัง ดู และพูด
 สะกดค าและเข้าใจความหมายของค า ความแตกต่างของค าและพยางค์ หน้าที่ของค า ในประโยค
มีทักษะการใช้พจนานุกรมในการค้นหาความหมายของค า แต่งประโยคง่ายๆ แต่ง ค าคล้องจอง แต่งค าขวัญ

และเลือกใช้ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่นได้เหมาะสมกับกาลเทศะ
 เข้าใจและสามารถสรุปข้อคิดที่ได้จากการอ่านวรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อน าไปใช้ใน
ชีวิตประจ าวัน แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดีที่อ่าน รู้จักเพลงพื้นบ้าน เพลงกล่อมเด็ก ซึ่งเป็นวัฒนธรรมของ
ท้องถิ่น ร้องบทร้องเล่นส าหรับเด็กในท้องถิ่น ท่องจ าบทอาขยานและบทร้อยกรอง ที่มีคุณค่าตามความสนใจได้


จบชั้นประถมศึกษำปีที่ ๖
 อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองเป็นท านองเสนาะได้ถูกต้อง อธิบายความหมาย
โดยตรงและความหมายโดยนัยของค า ประโยค ข้อความ ส านวนโวหาร จากเรื่องที่อ่าน เข้าใจค าแนะน า

ค าอธิบายในคู่มือต่าง ๆ แยกแยะข้อคิดเห็นและข้อเท็จจริง รวมทั้งจับใจความส าคัญของเรื่องที่อ่านและน า
ความรู้ความคิดจากเรื่องที่อ่านไปตัดสินใจแก้ปัญหาในการด าเนินชีวิตได้ มีมารยาทและมีนิสัยรักการอ่าน
และเห็นคุณค่าสิ่งที่อ่าน
 มีทักษะในการคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดและครึ่งบรรทัด เขียนสะกดค า แต่งประโยคและ

เขียนข้อความ ตลอดจนเขียนสื่อสารโดยใช้ถ้อยค าชัดเจนเหมาะสม ใช้แผนภาพ โครงเรื่องและแผนภาพ
ความคิดเพื่อพัฒนางานเขียน เขียนเรียงความ ย่อความ จดหมายส่วนตัว กรอกแบบรายการต่าง ๆ เขียนแสดง
ความรู้สึกและความคิดเห็น เขียนเรื่องตามจินตนาการอย่างสร้างสรรค์ และมีมารยาทในการเขียน


หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

 พูดแสดงความรู้ ความคิดเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและดู เล่าเรื่องย่อหรือสรุปจากเรื่องที่ฟังและดู ตั้ง
ค าถาม ตอบค าถามจากเรื่องที่ฟังและดู รวมทั้งประเมินความน่าเชื่อถือจากการฟังและดูโฆษณาอย่างมีเหตุผล
พูดตามล าดับขั้นตอนเรื่องต่างๆ อย่างชัดเจน พูดรายงานหรือประเด็นค้นคว้าจาก การฟัง การดู การสนทนา
และพูดโน้มน้าวได้อย่างมีเหตุผล รวมทั้งมีมารยาทในการดูและพูด

 สะกดค าและเข้าใจความหมายของค า ส านวน ค าพังเพยและสุภาษิต รู้และเข้าใจ ชนิดและหน้าที่
ของค าในประโยค ชนิดของประโยค และค าภาษาต่างประเทศในภาษาไทย ใช้ ค าราชาศัพท์และค าสุภาพได้
อย่างเหมาะสม แต่งประโยค แต่งบทร้อยกรองประเภทกลอนสี่ กลอนสุภาพ และกาพย์ยานี ๑๑
 เข้าใจและเห็นคุณค่าวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน เล่านิทานพื้นบ้าน ร้องเพลงพื้นบ้านของ

ท้องถิ่น น าข้อคิดเห็นจากเรื่องที่อ่านไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง และท่องจ าบทอาขยานตามที่ก าหนดได้

กำรจัดกำรเรียนรู้

การจัดการเรียนรู้เป็นกระบวนการส าคัญในการน าหลักสูตรสู่การปฏิบัติ หลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน เป็นหลักสูตรที่มีมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะส าคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน
เป็นเป้าหมายส าหรับพัฒนาเด็กและเยาวชนในการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณสมบัติตามเป้าหมายหลักสูตร ผู้สอน
พยายามคัดสรรกระบวนการเรียนรู้ จัดการเรียนรู้โดยช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ผ่านสาระที่ก าหนดไว้ในหลักสูตร ๘

กลุ่มสาระการเรียนรู้ รวมทั้งปลูกฝังเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ พัฒนาทักษะต่างๆ อันเป็นสมรรถนะ
ส าคัญให้ผู้เรียนบรรลุตามเป้าหมาย
๑. หลักกำรจัดกำรเรียนรู้
การจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะส าคัญ และ

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่ก าหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยยึดหลักว่า ผู้เรียนมี
ความส าคัญที่สุด เชื่อว่าทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ ยึดประโยชน์ที่เกิดกับผู้เรียน
กระบวนการจัดการเรียนรู้ต้องส่งเสริมให้ผู้เรียน สามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ ค านึงถึง
ความแตกต่างระหว่างบุคคลและพัฒนาการทางสมองเน้นให้ความส าคัญทั้งความรู้ และคุณธรรม

๒. กระบวนกำรเรียนรู้
การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ ผู้เรียนจะต้องอาศัยกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลาย เป็น
เครื่องมือที่จะน าพาตนเองไปสู่เป้าหมายของหลักสูตร กระบวนการเรียนรู้ที่จ าเป็นส าหรับผู้เรียน อาทิ

กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ กระบวนการสร้างความรู้ กระบวนการคิด กระบวนการทางสังคม
กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแก้ปัญหา กระบวนการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง กระบวนการปฏิบัติ ลง
มือท าจริง กระบวนการวิจัย กระบวนการเรียนรู้การเรียนรู้ของตนเอง กระบวนการพัฒนาลักษณะนิสัย
กระบวนการเหล่านี้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนควรได้รับการฝึกฝน พัฒนา เพราะจะ
สามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี บรรลุเป้าหมายของหลักสูตร ดังนั้น ผู้สอน จึงจ าเป็นต้องศึกษาท า

ความเข้าใจในกระบวนการเรียนรู้ต่าง ๆ เพื่อให้สามารถเลือกใช้ในการจัดกระบวนการเรียนรู้ได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ
๓. กำรออกแบบกำรจัดกำรเรียนรู้

ผู้สอนต้องศึกษาหลักสูตรสถานศึกษาให้เข้าใจถึงมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด สมรรถนะส าคัญของ
ผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสาระการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียน แล้วจึงพิจารณาออกแบบการ
จัดการเรียนรู้โดยเลือกใช้วิธีสอนและเทคนิคการสอน สื่อ/แหล่งเรียนรู้ การวัดและประเมินผล เพื่อให้ผู้เรียน
ได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพและบรรลุตามเป้าหมายที่ก าหนด


๔. บทบำทของผู้สอนและผู้เรียน
การจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามเป้าหมายของหลักสูตร ทั้งผู้สอนและผู้เรียนควรมีบทบาท ดังนี้


หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

๔.๑ บทบำทของผู้สอน

๑) ศึกษาวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล แล้วน าข้อมูลมาใช้ในการวางแผนการจัดการเรียนรู้
ที่ท้าทความสามารถของผู้เรียน
๒) ก าหนดเป้าหมายที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน ด้านความรู้และทักษะกระบวนการ ที่

เป็นความคิดรวบยอด หลักการ และความสัมพันธ์ รวมทั้งคุณลักษณะอันพึงประสงค์
๓) ออกแบบการเรียนรู้และจัดการเรียนรู้ที่ตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคลและ
พัฒนาการทางสมอง เพื่อน าผู้เรียนไปสู่เป้าหมาย
๔) จัดบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ และดูแลช่วยเหลือผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้

๕) จัดเตรียมและเลือกใช้สื่อให้เหมาะสมกับกิจกรรม น าภูมิปัญญาท้องถิ่น เทคโนโลยีที่
เหมาะสมมาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอน
๖) ประเมินความก้าวหน้าของผู้เรียนด้วยวิธีการที่หลากหลาย เหมาะสมกับธรรมชาติของ
วิชาและระดับพัฒนาการของผู้เรียน

๗) วิเคราะห์ผลการประเมินมาใช้ในการซ่อมเสริมและพัฒนาผู้เรียน รวมทั้งปรับปรุงการ
จัดการเรียนการสอนของตนเอง
๔.๒ บทบำทของผู้เรียน
๑) ก าหนดเป้าหมาย วางแผน และรับผิดชอบการเรียนรู้ของตนเอง

๒) เสาะแสวงหาความรู้ เข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อความรู้ ตั้งค าถาม
คิดหา ค าตอบหรือหาแนวทางแก้ปัญหาด้วยวิธีการต่างnๆ
๓) ลงมือปฏิบัติจริง สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ด้วยตนเอง และน าความรู้ไปประยุกต์ใช้ใน

สถานการณ์ต่าง ๆ
๔) มีปฏิสัมพันธ์ ท างาน ท ากิจกรรมร่วมกับกลุ่มและครู
๕) ประเมินและพัฒนากระบวนการเรียนรู้ของตนเองอย่างต่อเนื่อง

สื่อกำรเรียนรู้

สื่อการเรียนรู้เป็นเครื่องมือส่งเสริมสนับสนุนการจัดการกระบวนการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนเข้าถึงความรู้
ทักษะกระบวนการ และคุณลักษณะตามมาตรฐานของหลักสูตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ สื่อการเรียนรู้มี
หลากหลายประเภท ทั้งสื่อธรรมชาติ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อเทคโนโลยี และเครือข่าย การเรียนรู้ต่าง ๆ ที่มีในท้องถิ่น

การเลือกใช้สื่อควรเลือกให้มีความเหมาะสมกับระดับพัฒนาการ และลีลาการเรียนรู้ที่หลากหลายของผู้เรียน
การจัดหาสื่อการเรียนรู้ ผู้เรียนและผู้สอนสามารถจัดท าและพัฒนาขึ้นเอง หรือปรับปรุงเลือกใช้อย่าง
มีคุณภาพจากสื่อต่าง ๆ ที่มีอยู่รอบตัวเพื่อนน ามาใช้ประกอบในการจัดการเรียนรู้ที่สามารถส่งเสริมและสื่อสาร
ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ โดยสถานศึกษาควรจัดให้มีอย่างพอเพียง เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียน เกิดการเรียนรู้อย่าง

แท้จริง สถานศึกษา เขตพื้นที่การศึกษา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้มีหน้าที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ควรด าเนินการดังนี้
๑. จัดให้มีแหล่งการเรียนรู้ ศูนย์สื่อการเรียนรู้ ระบบสารสนเทศการเรียนรู้ และเครือข่าย
การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพทั้งในสถานศึกษาและในชุมชน เพื่อการศึกษาค้นคว้าและการแลกเปลี่ยน

ประสบการณ์การเรียนรู้ ระหว่างสถานศึกษา ท้องถิ่น ชุมชน สังคมโลก
๒. จัดท าและจัดหาสื่อการเรียนรู้ส าหรับการศึกษาค้นคว้าของผู้เรียน เสริมความรู้ให้ผู้สอน รวมทั้ง
จัดหาสิ่งที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้เป็นสื่อการเรียนรู้
๓. เลือกและใช้สื่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ มีความเหมาะสม มีความหลากหลาย สอดคล้อง กับวิธีการ

เรียนรู้ ธรรมชาติของสาระการเรียนรู้ และความแตกต่างระหว่างบุคคลของผู้เรียน
๔. ประเมินคุณภาพของสื่อการเรียนรู้ที่เลือกใช้อย่างเป็นระบบ


หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

๕. ศึกษาค้นคว้า วิจัย เพื่อพัฒนาสื่อการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียน

๖. จัดให้มีการก ากับ ติดตาม ประเมินคุณภาพและประสิทธิภาพเกี่ยวกับสื่อและการใช้สื่อ
การเรียนรู้เป็นระยะ ๆ และสม่ าเสมอในการจัดท า การเลือกใช้ และการประเมินคุณภาพสื่อการเรียนรู้ที่ใช้ใน
สถานศึกษา ควรค านึงถึงหลักการส าคัญของสื่อการเรียนรู้ เช่น ความสอดคล้องกับหลักสูตร วัตถุประสงค์การ

เรียนรู้ การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ การจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียน เนื้อหามีความถูกต้องและทันสมัย ไม่
กระทบความมั่นคงของชาติ ไม่ขัดต่อศีลธรรม มีการใช้ภาษาที่ถูกต้อง รูปแบบการน าเสนอที่เข้าใจง่าย และ
น่าสนใจ


กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนต้องอยู่บนหลักการพื้นฐานสองประการ คือ การประเมิน
เพื่อพัฒนาผู้เรียนและเพื่อตัดสินผลการเรียน ในการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้ประสบผลส าเร็จ
นั้น ผู้เรียนจะต้องได้รับการพัฒนาและประเมินตามตัวชี้วัดเพื่อให้บรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้ สะท้อน

สมรรถนะส าคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการวัดและประเมินผลการ
เรียนรู้ในทุกระดับไม่ว่าจะเป็นระดับชั้นเรียน ระดับสถานศึกษา ระดับเขตพื้นที่การศึกษา และระดับชาติ
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เป็นกระบวนการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโดยใช้ผลการประเมินเป็นข้อมูลและ
สารสนเทศที่แสดงพัฒนาการ ความก้าวหน้า และความส าเร็จทางการเรียนของผู้เรียน ตลอดจนข้อมูลที่เป็น

ประโยชน์ต่อการส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิด การพัฒนาและเรียนรู้อย่างเต็มตามศักยภาพ
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ แบ่งออกเป็น ๔ ระดับ ได้แก่ ระดับชั้นเรียน ระดับสถานศึกษา
ระดับเขตพื้นที่การศึกษา และระดับชาติ มีรายละเอียด ดังนี้

๑. กำรประเมินระดับชั้นเรียน เป็นการวัดและประเมินผลที่อยู่ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ ผู้สอน
ด าเนินการเป็นปกติและสม่ าเสมอ ในการจัดการเรียนการสอน ใช้เทคนิคการประเมินอย่างหลากหลาย เช่น
การซักถาม การสังเกต การตรวจการบ้าน การประเมินโครงงาน การประเมินชิ้นงาน/ ภาระงาน แฟ้มสะสม
งาน การใช้แบบทดสอบ ฯลฯ โดยผู้สอนเป็นผู้ประเมินเองหรือเปิดโอกาสให้ผู้เรียนประเมินตนเอง เพื่อน
ประเมินเพื่อน ผู้ปกครองร่วมประเมิน ในกรณีที่ไม่ผ่านตัวชี้วัดให้มีการสอนซ่อมเสริม

การประเมินระดับชั้นเรียนเป็นการตรวจสอบว่า ผู้เรียนมีพัฒนาการความก้าวหน้าในการเรียนรู้
อันเป็นผลมาจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด มีสิ่งที่จะต้องได้รับการพัฒนา
ปรับปรุงและส่งเสริมในด้านใด นอกจากนี้ยังเป็นข้อมูลให้ผู้สอนใช้ปรับปรุงการเรียนการสอนของตนด้วย ทั้งนี้

โดยสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด
๒. กำรประเมินระดับสถำนศึกษำ เป็นการประเมินที่สถานศึกษาด าเนินการเพื่อตัดสินผล การเรียน
ของผู้เรียนเป็นรายปี/รายภาค ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์
และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน นอกจากนี้เพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการศึกษา ของสถานศึกษา ว่าส่งผลต่อ

การเรียนรู้ของผู้เรียนตามเป้าหมายหรือไม่ ผู้เรียนมีจุดพัฒนาในด้านใด รวมทั้งสามารถน าผลการเรียนของ
ผู้เรียนในสถานศึกษาเปรียบเทียบกับเกณฑ์ระดับชาติ ผลการประเมินระดับสถานศึกษาจะเป็นข้อมูลและ
สารสนเทศเพื่อการปรับปรุงนโยบาย หลักสูตร โครงการ หรือวิธีการจัดการเรียนการสอน ตลอดจนเพื่อการ
จัดท าแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ตามแนวทางการประกันคุณภาพการศึกษาและการ

รายงานผลการจัดการศึกษาต่อคณะกรรมการสถานศึกษา ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา ส านักงาน
คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองและชุมชน
๓. กำรประเมินระดับเขตพื้นที่กำรศึกษำ เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับเขตพื้นที่
การศึกษาตามมาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการ

พัฒนาคุณภาพการศึกษาของเขตพื้นที่การศึกษา ตามภาระความรับผิดชอบ สามารถด าเนินการโดยประเมิน
คุณภาพผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนด้วยข้อสอบมาตรฐานที่จัดท าและด าเนินการโดยเขตพื้นที่การศึกษา หรือด้วย


หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

ความร่วมมือกับหน่วยงานต้นสังกัด ในการด าเนินการจัดสอบ นอกจากนี้ยังได้จากการตรวจสอบทบทวนข้อมูล

จากการประเมินระดับสถานศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษา
๔. กำรประเมินระดับชำติ เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับชาติตามมาตรฐานการเรียนรู้ตาม
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน สถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียนทุกคนที่เรียน ในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ เข้ารับการประเมิน ผลจากการประเมินใช้เป็นข้อมูลในการเทียบเคียงคุณภาพ
การศึกษาในระดับต่าง ๆ เพื่อน าไปใช้ในการวางแผนยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษา ตลอดจนเป็นข้อมูล
สนับสนุนการตัดสินใจในระดับนโยบายของประเทศ
ข้อมูลการประเมินในระดับต่าง ๆ ข้างต้น เป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษาในการตรวจสอบทบทวน

พัฒนาคุณภาพผู้เรียน ถือเป็นภาระความรับผิดชอบของสถานศึกษาที่จะต้องจัดระบบดูแลช่วยเหลือ ปรับปรุง
แก้ไข ส่งเสริมสนับสนุนเพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพบนพื้นฐานความแตกต่างระหว่างบุคคลที่
จ าแนกตามสภาพปัญหาและความต้องการ ได้แก่ กลุ่มผู้เรียนทั่วไป กลุ่มผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษ กลุ่ม
ผู้เรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ า กลุ่มผู้เรียนที่มีปัญหาด้านวินัยและพฤติกรรม กลุ่มผู้เรียนที่ปฏิเสธ

โรงเรียน กลุ่มผู้เรียนที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มพิการทางร่างกายและสติปัญญา เป็นต้น ข้อมูล
จากการประเมินจึงเป็นหัวใจของสถานศึกษาในการด าเนินการช่วยเหลือผู้เรียนได้ทันท่วงที ปิดโอกาสให้
ผู้เรียนได้รับการพัฒนาและประสบความส าเร็จในการเรียน
สถานศึกษาในฐานะผู้รับผิดชอบจัดการศึกษา จะต้องจัดท าระเบียบว่าด้วยการวัดและประเมินผลการ

เรียนของสถานศึกษาให้สอดคล้องและเป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติที่เป็นข้อก าหนดของหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายถือปฏิบัติร่วมกัน


เกณฑ์กำรวัดและประเมินผลกำรเรียน
๑. กำรตัดสิน กำรให้ระดับและกำรรำยงำนผลกำรเรียน
๑.๑ กำรตัดสินผลกำรเรียน
ในการตัดสินผลการเรียนของกลุ่มสาระการเรียนรู้ การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนนั้น ผู้สอนต้องค านึงถึงการพัฒนาผู้เรียนแต่ละคนเป็น

หลัก และต้องเก็บข้อมูลของผู้เรียนทุกด้านอย่างสม่ าเสมอและต่อเนื่องในแต่ละภาคเรียน รวมทั้งสอนซ่อมเสริม
ผู้เรียนให้พัฒนาจนเต็มตามศักยภาพ
ระดับประถมศึกษำ

(๑) ผู้เรียนต้องมีเวลาเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนทั้งหมด
(๒) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินทุกตัวชี้วัด และผ่านตามเกณฑ์ที่สถานศึกษาก าหนด
(๓) ผู้เรียนต้องได้รับการตัดสินผลการเรียนทุกรายวิชา
(๔) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมิน และมีผลการประเมินผ่านตามเกณฑ์ที่สถานศึกษาก าหนด

ในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
การพิจารณาเลื่อนชั้น ถ้าผู้เรียนมีข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อย และสถานศึกษาพิจารณาเห็นว่า
สามารถพัฒนาและสอนซ่อมเสริมได้ ให้อยู่ในดุลพินิจของสถานศึกษาที่จะผ่อนผันให้เลื่อนชั้นได้ แต่หากผู้เรียน
ไม่ผ่านรายวิชาจ านวนมาก และมีแนวโน้มว่าจะเป็นปัญหาต่อการเรียนในระดับชั้นที่สูงขึ้น สถานศึกษาอาจตั้ง

คณะกรรมการพิจารณาให้เรียนซ้ าชั้นได้ ทั้งนี้ให้ค านึงถึงวุฒิภาวะและความรู้ความสามารถของผู้เรียนเป็น
ส าคัญ
๑.๒ กำรให้ระดับผลกำรเรียน
๑.๒.๑ระดับประถมศึกษา ในการตัดสินเพื่อให้ระดับผลการเรียนรายวิชา โดยใช้ระดับผล

การเรียนหรือระดับคุณภาพการปฏิบัติของผู้เรียน เป็นระบบตัวเลข การตัดสินผลการเรียนรายวิชาของกลุ่ม
สาระการเรียนรู้ สถานศึกษาสามารถให้ระดับผลการเรียน ๘ ระดับ


หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

ระบบตัวเลข
ระบบผลการเรียน ความหมาย ช่วงคะแนนเป็นร้อยละ

๔ ดีเยี่ยม ๘๐ - ๑๐๐
๓.๕ ดีมาก ๗๕-๗๙

๓ ดี ๗๐-๗๔
๒.๕ ค่อนข้างดี ๖๕-๖๙
๒ ปานกลาง ๖๐-๖๔

๑.๕ พอใช้ ๕๕-๕๙
๑ ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ า ๕๐-๕๔
๐ ต่ ากว่าเกณฑ์ ๐-๔๙

การตัดสินผลการเรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานใช้ระบบผ่าน และไม่ผ่าน โดยก าหนด
เกณฑ์การตัดสินผ่านแต่ละวิชาที่ร้อยละ ๕๐ จากนั้นจึงให้ระดับผลการเรียนที่ผ่านเป็นระบบต่าง ๆตามที่
สถานศึกษาก าหนด ได้แก่ ระบบตัวเลข ตามตารางข้างต้น ผู้เรียนต้องมีผลการเรียนผ่านเกณฑ์ขั้นต่ าที่ก าหนด
( ระดับ ๑ ) ประเมินผลการเรียนกลุ่มสาระเป็นรายปี กรณีผู้เรียนมีผลการเรียนต่ ากว่าเกณฑ์ที่ก าหนด ให้

ผู้สอนด าเนินการซ่อมเสริม ปรับปรุงแก้ไขผู้เรียนในสาระการเรียนรู้รายปี โดยด าเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง กับ
ผลการเรียนรู้ที่ผู้เรียนไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินด้วยวิธีการที่มีประสิทธิภาพจนผู้เรียนผ่านเกณฑ์การประเมิน
การเรียนรู้และให้ระดับผลการเรียนไม่เกิน “ ๑ ”

๑.๒.๒ กำรประเมินผลตัวชี้วัด ให้ด าเนินการประเมินเป็น ๒ ขั้นตอน ดังนี้
การประเมินและการตัดสินตัวชี้วัด เป็นรายข้อ โดยประเมินจากค่าคะแนนการประเมินผลการเรียนรู้
ที่คาดหวังเป็นรายข้อ แล้วน ามาเปรียบเทียบเป็นผลประเมิน ดังนี้
ผลกำรประเมินรำยข้อ ควำมหมำย

ผ่าน สูงกว่าเกณฑ์ที่ก าหนด
ไม่ผ่าน ต่ ากว่าเกณฑ์ที่ก าหนด


๑.๒.๓ กำรประเมินเวลำเรียน ผู้เรียนต้องมีเวลาเรียนตลอดปีไม่น้อยกว่า ร้อยละ ๘๐ ของ
เวลาเรียนทั้งหมด
เวลำเรียน ผลกำรตัดสินเวลำเรียน ควำมหมำย
ตั้งแต่ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ผ่าน สูงกว่าเกณฑ์ที่ก าหนด

ต่ ากว่าร้อยละ ๘๐ ไม่ผ่าน ต่ ากว่าเกณฑ์ขั้นต่ า

การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์นั้น ให้ระดับผล

การประเมินเป็น ดีเยี่ยม ดี และผ่าน
การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จะต้องพิจารณาทั้งเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติ
กิจกรรมและผลงานของผู้เรียน ตามเกณฑ์ที่สถานศึกษาก าหนด และให้ผลการเข้าร่วมกิจกรรมเป็นผ่าน และ
ไม่ผ่าน

๑.๓ กำรรำยงำนผลกำรเรียน
การรายงานผลการเรียนเป็นการสื่อสารให้ผู้ปกครองและผู้เรียนทราบความก้าวหน้าในการ
เรียนรู้ของผู้เรียน ซึ่งสถานศึกษาต้องสรุปผลการประเมินและจัดท าเอกสารรายงานให้ผู้ปกครองทราบเป็น

ระยะ หรืออย่างน้อยปีการศึกษาละ ๑ ครั้ง



หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

การรายงานผลการเรียนสามารถรายงานเป็นระดับคุณภาพการปฏิบัติของผู้เรียนที่สะท้อน

มาตรฐานการเรียนรู้ ซึ่งในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ – ๖ เพื่อสรุปความส าเร็จของผู้เรียน ที่จะน าข้อมูลที่
ได้ไปศึกษาในระดับขั้นที่สูงขึ้น ให้รายงานผลการเรียนเป็น ๘ ระดับ เป็นระบบตัวเลข ๐ - ๔


๒. เกณฑ์กำรจบกำรศึกษำระดับประถมศึกษำ
๒.๑ ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐาน จ านวน ๑๐๔๐/๑๐๔๐ ชั่วโมง และรายวิชาเพิ่มเติม
จ านวน ๘๐/๘๐ ชั่วโมง ตามโครงสร้างเวลาเรียนที่หลักสูตรโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม พุทธศักราช ๒๕๖๒
ก าหนด

๒.๒ ผู้เรียนต้องมีผลการประเมินรายวิชาพื้นฐานผ่านเกณฑ์การประเมินของระเบียบโรงเรียน
ชุมชนวัดราษฎร์นิยมว่าด้วยการวัดผลประเมินผลการเรียนระดับประถมศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
๒.๓ ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ในระดับ ผ่าน ขึ้นไป

๒.๔ ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในระดับ ผ่าน ขึ้นไป
๒.๕ ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน และมีผลการประเมินในระดับ ผ่าน ทุกกิจกรรม






























































หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

ในกรณีที่ผู้เรียนขาดคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้ ให้ผู้สอนวินิจฉัยบันทึกรายงานน าเสนอ

คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวิชาการของโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม พิจารณาเลื่อนชั้นได้เป็นรายๆ
ไป ดังนี้
๑) ผู้เรียนมีผลการประเมินรายวิชาพื้นฐาน ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ า ให้ผู้สอนด าเนินการสอน

ซ่อมเสริม ปรับปรุงแก้ไขผู้เรียนที่ไม่ผ่านมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ให้เกิดการพัฒนาการตามสาระและ
มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ที่ก าหนดให้ครบถ้วน ถ้าผู้เรียนยังไม่ผ่านเกณฑ์ และเกินระยะเวลา ๓๐ วัน
ให้ผู้สอนขยายเวลาสอนซ่อมเสริมออกไปได้ไม่เกิน ๑ ภาคเรียน
๒) ผู้เรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินการเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ผู้เรียนจะต้องเข้า

ร่วมกิจกรรมเสริมตามที่สถานศึกษาจัดเสริม ถ้าผู้เรียนยังไม่ผ่านเกณฑ และเกินระยะเวลา ๓๐ วัน ตามที่
สถานศึกษาก าหนด ให้ผู้สอนขยายเวลาสอนซ่อมเสริมออกไปได้ไม่เกิน ๑ ภาคเรียน
๓) ผู้เรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ครูผู้สอนต้องสอบซ่อม
เสริม หาวิธีการปรับปรุงแก้ไข หรือปฏิบัติกิจกรรมความดีชดเชยจนกว่าจะผ่านเกณฑ์ที่สถานศึกษาก าหนดจึง

จะเลื่อนชั้น ถ้าผู้เรียนยังไม่ผ่านเกณฑ์ และเกินระยะเวลา ๓๐ วัน ตามที่สถานศึกษาก าหนด ให้ผู้สอน
ขยายวลาสอนซ่อมเสริมออกไปได้ไม่เกิน ๑ ภาคเรียน
๔) ผู้เรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ให้ผู้สอนด าเนินการ
สอนซ่อมเสริม ปรับปรุงแก้ไขจนกว่าผู้เรียนจะผ่านเกณฑ์ ถ้าผู้เรียนยังไม่ผ่านเกณฑ์ และเกินระยะเวลา ๓๐

วัน ตามที่สถานศึกษาก าหนด ให้ผู้สอนขยายวลาสอนซ่อมเสริมออกไปได้ไม่เกิน ๑ ภาคเรียน
๕) ผู้เรียนมีเวลาเรียนไม่ถึงร้อยละ ๘๐ อันเนื่องมาจากเหตุสุดวิสัย แต่ลักษณะอื่น ๆ
ครบถ้วน ให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการบริหารหลักสูตรพิจารณาเป็นกรณีไป

คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวิชาการเป็นผู้ตัดสินผลการเลื่อนชั้น และการจบหลักสูตร
ระดับประถมศึกษา แล้วแจ้งให้ผู้อ านวยการโรงเรียนให้ความเห็นชอบ

เอกสำรหลักฐำนกำรศึกษำ
เอกสารหลักฐานการศึกษา เป็นเอกสารส าคัญที่บันทึกผลการเรียน ข้อมูลและสารสนเทศที่เกี่ยวข้อง

กับพัฒนาการของผู้เรียนในด้านต่าง ๆ แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท ดังนี้
๑. เอกสำรหลักฐำนกำรศึกษำที่กระทรวงศึกษำธิกำรก ำหนด
๑.๑ ระเบียนแสดงผลการเรียน เป็นเอกสารแสดงผลการเรียนและรับรองผลการเรียนของ

ผู้เรียนตามรายวิชา ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์
ของสถานศึกษา และผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน สถานศึกษาจะต้องบันทึกข้อมูลและออกเอกสารนี้
ให้ผู้เรียนเป็นรายบุคคล เมื่อผู้เรียนจบการศึกษาระดับประถมศึกษา (ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖)
๑.๒ แบบรายงานผู้ส าเร็จการศึกษา เป็นเอกสารอนุมัติการจบหลักสูตรโดยบันทึกรายชื่อ

และข้อมูลของผู้จบการศึกษาระดับประถมศึกษา (ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖)
๒. เอกสำรหลักฐำนกำรศึกษำที่สถำนศึกษำก ำหนด
เป็นเอกสารที่สถานศึกษาจัดท าขึ้นเพื่อบันทึกพัฒนาการ ผลการเรียนรู้ และข้อมูลส าคัญ เกี่ยวกับ
ผู้เรียน เช่น แบบรายงานประจ าตัวนักเรียน แบบบันทึกผลการเรียนประจ ารายวิชา ระเบียนสะสม ใบรับรอง

ผลการเรียน และ เอกสารอื่นๆ ตามวัตถุประสงค์ของการน าเอกสารไปใช้











หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

กำรเทียบโอนผลกำรเรียน

สถานศึกษาสามารถเทียบโอนผลการเรียนของผู้เรียนในกรณีต่าง ๆ ได้แก่ การย้ายสถานศึกษา การ
เปลี่ยนรูปแบบการศึกษา การย้ายหลักสูตร การออกกลางคันและขอกลับเข้ารับการศึกษาต่อ การศึกษาจาก
ต่างประเทศและขอเข้าศึกษาต่อในประเทศ นอกจากนี้ ยังสามารถเทียบโอนความรู้ ทักษะ ประสบการณ์จาก

แหล่งการเรียนรู้อื่น ๆ เช่น สถานประกอบการ สถาบันศาสนา สถาบันการฝึกอบรมอาชีพ การจัดการศึกษา
โดยครอบครัว
การเทียบโอนผลการเรียนควรด าเนินการในช่วงก่อนเปิดภาคเรียนแรก หรือต้นภาคเรียนแรก ที่
สถานศึกษารับผู้ขอเทียบโอนเป็นผู้เรียน ทั้งนี้ ผู้เรียนที่ได้รับการเทียบโอนผลการเรียนต้องศึกษาต่อเนื่องใน

สถานศึกษาที่รับเทียบโอนอย่างน้อย ๑ ภาคเรียน โดยสถานศึกษาที่รับผู้เรียนจากการเทียบโอนควรก าหนด
รายวิชา/จ านวนหน่วยกิตที่จะรับเทียบโอนตามความเหมาะสม
การพิจารณาการเทียบโอน สามารถด าเนินการได้ ดังนี้
๑. พิจารณาจากหลักฐานการศึกษา และเอกสารอื่น ๆ ที่ให้ข้อมูลแสดงความรู้ ความสามารถของ

ผู้เรียน
๒. พิจารณาจากความรู้ ความสามารถของผู้เรียนโดยการทดสอบด้วยวิธีการต่างๆ ทั้งภาคความรู้
และภาคปฏิบัติ
๓. พิจารณาจากความสามารถและการปฏิบัติในสภาพจริง การเทียบโอนผลการเรียนให้เป็นไปตาม

ประกาศ หรือ แนวปฏิบัติ ของกระทรวงศึกษาธิการ

กำรบริหำรจัดกำรหลักสูตร

ในระบบการศึกษาที่มีการกระจายอ านาจให้ท้องถิ่นและสถานศึกษามีบทบาทในการพัฒนาหลักสูตร
นั้น หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในแต่ละระดับ ตั้งแต่ระดับชาติ ระดับท้องถิ่น จนถึงระดับสถานศึกษา มี
บทบาทหน้าที่ และความรับผิดชอบในการพัฒนา สนับสนุน ส่งเสริม การใช้และพัฒนาหลักสูตรให้เป็นไปอย่าง
มีประสิทธิภาพ เพื่อให้การด าเนินการจัดท าหลักสูตรสถานศึกษาและการจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษา
มีประสิทธิภาพสูงสุด อันจะส่งผลให้การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนบรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้ที่ก าหนดไว้ใน

ระดับชาติ
ระดับท้องถิ่น ได้แก่ ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา หน่วยงานต้นสังกัดอื่น ๆ เป็นหน่วยงานที่มีบทบาท
ในการขับเคลื่อนคุณภาพการจัดการศึกษา เป็นตัวกลางที่จะเชื่อมโยงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ที่ก าหนดในระดับชาติให้สอดคล้องกับสภาพและความต้องการของท้องถิ่น เพื่อน าไปสู่การจัดท าหลักสูตรของ
สถานศึกษา ส่งเสริมการใช้และพัฒนาหลักสูตรในระดับสถานศึกษา ให้ประสบความส าเร็จ โดยมีภารกิจ
ส คัญ คือ ก าหนดเป้าหมายและจุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ในระดับท้องถิ่นโดยพิจารณาให้สอดคล้อง
กับสิ่งที่เป็นความต้องการในระดับชาติ พัฒนาสาระ การเรียนรู้ท้องถิ่น ประเมินคุณภาพการศึกษาในระดับ

ท้องถิ่น รวมทั้งเพิ่มพูนคุณภาพการใช้หลักสูตรด้วยการวิจัยและพัฒนา การพัฒนาบุคลากร สนับสนุน ส่งเสริม
ติดตามผล ประเมินผล วิเคราะห์ และรายงานผลคุณภาพของผู้เรียน
สถานศึกษามีหน้าที่ส าคัญในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา การวางแผนและด าเนินการใช้หลักสูตร
การเพิ่มพูนคุณภาพการใช้หลักสูตรด้วยการวิจัยและพัฒนา การปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรจัดท าระเบียบ

การวัดและประเมินผล ในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาต้องพิจารณาให้สอดคล้อง กับหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพื้นฐาน และรายละเอียดที่เขตพื้นที่การศึกษา หรือหน่วยงาน สังกัดอื่น ๆ ในระดับท้องถิ่นได้
จัดท าเพิ่มเติม รวมทั้ง สถานศึกษาสามารถเพิ่มเติมในส่วนที่เกี่ยวกับสภาพปัญหาในชุมชนและสังคม ภูมิปัญญา
ท้องถิ่น และความต้องการของผู้เรียน โดยทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา






หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

โครงสร้ำงเวลำเรียน

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม ก าหนดกรอบโครงสร้างเวลาเรียน ดังนี้

เวลำเรียน/ชม.

สำระกำรเรียนรู้/กิจกรรม ระดับประถมศึกษำ
ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ป.๖
รำยวิชำพื้นฐำน

ภาษาไทย ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐
คณิตศาสตร์ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐
วิทยาศาสตร์ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐

วิทยาการค านวณ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
สังคมศึกษา ฯ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐
ประวัติศาสตร์ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
สุขศึกษาและพลศึกษา ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐

ศิลปะ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐

ภาษาต่างประเทศ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐
รวมเวลำเรียนพื้นฐำน ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐
รำยวิชำเพิ่มเติม
หน้าที่พลเมือง ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

คอมพิวเตอร์ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
รวมรำยวิชำเพิ่มเติม ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐

กิจกรรมพัฒนำผู้เรียน
กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
กิจกรรมลูกเสือ / เนตรนารี ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐
กิจกรรมชุมนุม ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

กิจกรรมเพื่อสังคมและ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐
สาธารณประโยชน์
รวมเวลำกิจกรรมพัฒนำผู้เรียน ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐

รวมเวลำเรียน / ปี ๑,๐๔๐ ๑,๐๔๐ ๑,๐๔๐ ๑,๐๔๐ ๑,๐๔๐ ๑,๐๔๐

หมายเหตุ ๑. ชั้น ป.๑-๓ ซ่อมเสริมภาษาไทย ๑ ชั่วโมง, คณิตศาสตร์ ๑ ชั่วโมง, ศิลปะ ๑ ชั่วโมง
และภาษาอังกฤษ ๑ ชั่วโมง

๒. ชั้น ป.๔-๖ ซ่อมเสริมคณิตศาสตร์ ๑ ชั่วโมง, ศิลปะ ๑ ชั่วโมง และภาษาอังกฤษ ๒ ชั่วโมง















หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

จ ำนวนชั่วโมงเรียนเฉลี่ยต่อสัปดำห์ตำมหลักสูตรสถำนศึกษำโรงเรียนชุมชนวัดรำษฎร์นิยม


เวลำเรียน

สำระกำรเรียนรู้/กิจกรรม ประถมศึกษำ
ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ป.๖
ภาษาไทย ๔ ๔ ๔ ๔ ๔ ๔
คณิตศาสตร์ ๔ ๔ ๔ ๔ ๔ ๔

วิทยาศาสตร์ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓

สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๒
ประวัติศาสตร์ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑
สุขศึกษาและพลศึกษา ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๒

ศิลปะ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑
การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๑ ๑ ๑ ๒ ๒ ๒
ภาษาต่างประเทศ ๓ ๓ ๓ ๒ ๒ ๒

รวมเวลำเรียน (พื้นฐำน) ๒๑ ๒๑ ๒๑ ๒๑ ๒๑ ๒๑
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓
รายวิชา / กิจกรรมเพิ่มเติม ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๒

รวมเวลำเรียนทั้งหมด ๒๖ ๒๖ ๒๖ ๒๖ ๒๖ ๒๖


















































หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

มำตรฐำนกำรเรียนรู้

การพัฒนาผู้เรียนให้เกิดความสมดุล ต้องค านึงถึงหลักพัฒนาการทางสมองและพหุปัญญา หลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงก าหนดให้ผู้เรียนเรียนรู้ ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ดังนี้
๑. ภาษาไทย

๒. คณิตศาสตร์
๓. วิทยาศาสตร์
๔. สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
๕. สุขศึกษาและพลศึกษา

๖. ศิลปะ
๗. การงานอาชีพและเทคโนโลยี
๘. ภาษาต่างประเทศ
ในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ได้ก าหนดมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมายส าคัญของการพัฒนา

คุณภาพผู้เรียน มาตรฐานการเรียนรู้ระบุสิ่งที่ผู้เรียนพึงรู้ ปฏิบัติได้ มีคุณธรรมจริยธรรม และค่านิยมที่พึง
ประสงค์เมื่อจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน นอกจากนั้นมาตรฐานการเรียนรู้ยังเป็นกลไกส าคัญ ในการขับเคลื่อน
พัฒนาการศึกษาทั้งระบบ เพราะมาตรฐานการเรียนรู้จะสะท้อนให้ทราบว่าต้องการอะไร จะสอนอย่างไร
และประเมินอย่างไร รวมทั้งเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบเพื่อการประกันคุณภาพการศึกษาโดยใช้ระบบ

การประเมินคุณภาพภายในและการประเมินคุณภาพภายนอก ซึ่งรวมถึง การทดสอบระดับเขตพื้นที่การศึกษา
และการทดสอบระดับชาติ ระบบการตรวจสอบเพื่อประกันคุณภาพดังกล่าวเป็นสิ่งส าคัญที่ช่วยสะท้อนภาพ
การจัดการศึกษาว่าสามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามที่มาตรฐานการเรียนรู้ก าหนดเพียงใด


สำระและมำตรฐำนกำรเรียนรู้
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานก าหนดมาตรฐานการเรียนรู้ใน ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ จ านวน ๖๗
มาตรฐาน ดังนี้


ภำษำไทย
สำระที่ ๑ กำรอ่ำน
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อน าไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหา ใน

การด าเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน
สำระที่ ๒ กำรเขียน
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียน เขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวใน
รูปแบบต่าง ๆเขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมี

ประสิทธิภาพ
สำระที่ ๓ กำรฟัง กำรดู และกำรพูด
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด
ความรู้สึกในโอกาสต่างๆ อย่างมีวิจารณญาณ และสร้างสรรค์

สำระที่ ๔ หลักกำรใช้ภำษำไทย
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลัง
ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษา ภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ








หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

สำระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม

มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดี และวรรณกรรมไทยอย่าง
เห็นคุณค่าและน ามาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง


คณิตศำสตร์
สำระที่ ๑ จ ำนวนและพีชคณิต
มาตรฐาน ค ๑.๑ เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจ านวน ระบบจ านวน การด าเนินการ
ของจ านวน ผลที่เกิดขึ้นจากการด าเนินการ สมบัติของการด าเนินการ และน าไปใช้

มาตรฐาน ค ๑.๒ เข้าใจและวิเคราะห์แบบรูป ความสัมพันธ์ ฟงก์ชัน ล าดับและอนุกรม และน าไปใช้
สำระที่ ๒ กำรวัดและเรขำคณิต
มาตรฐาน ค ๒.๑ เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งที่ต้องการวัด และ
น าไปใช้

มาตรฐาน ค ๒.๒ เข้าใจและวิเคราะห์รูปเรขาคณิต สมบัติของรูปเรขาคณิต ความสัมพันธ์ระหว่าง
รูปเรขาคณิต และทฤษฎีบททางเรขาคณิต และน าไปใช้
สำระที่ ๓ สถิติและควำมน่ำจะเปน
มาตรฐาน ค ๓.๑ เข้าใจกระบวนการทางสถิติ และใช้ความรู้ทางสถิติในการแก้ปญหา


วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี
สำระที่ ๑ วิทยำศำสตร์ชีวภำพ

มาตรฐาน ว ๑.๑ เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิต
กับสิ่งมีชีวิต และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่างๆ ในระบบนิเวศ
การถ่ายทอดพลังงาน การเปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของ
ประชากร ปัญหาและผลกระทบที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม

รวมทั้งน าความรู้ไปใช้ประโยชน์
มาตรฐาน ว ๑.๒ เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การล าเลียงสารเข้า
และออกจากเซลล์ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบต่าง ๆ

ของสัตว์และมนุษย์ที่ท างานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่
ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชที่ท างานสัมพันธ์กัน รวมทั้งน าความรู้ไปใช้ประโยชน์
มาตรฐาน ว ๑.๓ เข้าใจกระบวนการและความส าคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
สารพันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่มีผลต่อสิ่งมีชีวิต ความหลากหลาย

ทางชีวภาพและวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต รวมทั้งน าความรู้ไปใช้ประโยชน์
สำระที่ ๒ วิทยำศำสตร์กำยภำพ
มาตรฐาน ว ๒.๑ เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของ
สสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติ

ของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิด
ปฏิกิริยาเคมี
มาตรฐาน ว ๒.๒ เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจ าวัน ผลของแรงที่กระท าต่อวัตถุ ลักษณะ
การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ ของวัตถุรวมทั้งน าความรู้ไปใช้ประโยชน์

มาตรฐาน ว ๒.๓ เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน




หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจ าวัน ธรรมชาติของคลื่น

ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเสียง แสง และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า รวมทั้งน าความรู้ไป
ใช้ประโยชน์
สำระที่ ๓ วิทยำศำสตร์โลก และอวกำศ

มาตรฐาน ว ๓.๑ เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ
กาแล็กซีดาวฤกษ์และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะ
ที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิต และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศ
มาตรฐาน ว ๓.๒ เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลง

ภายในโลก และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้า
อากาศและภูมิอากาศโลก รวมทั้งผลต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม
สำระที่ ๔ เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว ๔.๒ เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงค านวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็น

ขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้
การท างาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม

สังคมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม

สำระที่ ๑ ศำสนำ ศีลธรรม จริยธรรม
มาตรฐาน ส ๑.๑ รู้ และเข้าใจประวัติ ความส าคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนา
ที่ตนนับถือและศาสนาอื่น มีศรัทธาที่ถูกต้อง ยึดมั่น และปฏิบัติตามหลักธรรม เพื่อ

อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
มาตรฐาน ส ๑.๒ เข้าใจ ตระหนักและปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี และธ ารงรักษาพระพุทธศาสนา
หรือศาสนาที่ตนนับถือ
สำระที่ ๒ หน้ำที่พลเมือง วัฒนธรรม และกำรด ำเนินชีวิตในสังคม
มาตรฐาน ส ๒.๑ เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมที่ดีงาม และธ ารง

รักษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย ด ารงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทย และ สังคมโลก
อย่างสันติสุข
มาตรฐาน ส ๒.๒ เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบัน ยึดมั่น ศรัทธา และธ ารงรักษา

ไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
สำระที่ ๓ เศรษฐศำสตร์
มาตรฐาน ส ๓.๑ เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภค การใช้
ทรัพยากรที่มีอยู่จ ากัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมทั้งเข้าใจหลักการของ

เศรษฐกิจพอเพียง เพื่อการด ารงชีวิตอย่างมีดุลยภาพ
มาตรฐาน ส ๓.๒ เข้าใจระบบ และสถาบันทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ และ
ความจ าเป็นของการร่วมมือกันทางเศรษฐกิจในสังคมโลก
สำระที่ ๔ ประวัติศำสตร์

มาตรฐาน ส ๔.๑ เข้าใจความหมาย ความส าคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ สามารถใช้
วิธีการทางประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ อย่างเป็นระบบ
มาตรฐาน ส ๔.๒ เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ในด้านความสัมพันธ์และ
การเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง ตระหนักถึงความส าคัญและสามารถ

วิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดขึ้น




หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

มาตรฐาน ส ๔.๓ เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความภูมิใจ

และธ ารงความเป็นไทย
สำระที่ ๕ ภูมิศำสตร์
มาตรฐาน ส ๕.๑ เขาใจลักษณะทางกายภาพของโลกและความสัมพันธของสรรพสิ่งซึ่งมีผลตอกัน ใช

แผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตรในการคนหา วิเคราะห และสรุปขอมูล ตาม
กระบวนการทางภูมิศาสตรตลอดจนใชภูมิสารสนเทศอยางมีประสิทธิภาพ
มาตรฐาน ส ๕.๒ เขาใจปฏิสัมพันธระหวางมนุษยกับสิ่งแวดลอมทางกายภาพที่กอใหเกิดการสราง
สรรควิถีการด าเนินชีวิต มีจิตส านึกและมีสวนรวมในการจัดการทรัพยากรและสิ่ง

แวดลอมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

สุขศึกษำและพลศึกษำ
สำระที่ ๑ กำรเจริญเติบโตและพัฒนำกำรของมนุษย์

มาตรฐาน พ ๑.๑ เข้าใจธรรมชาติของการเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์
สำระที่ ๒ ชีวิตและครอบครัว
มาตรฐาน พ ๒.๑ เข้าใจและเห็นคุณค่าตนเอง ครอบครัว เพศศึกษา และมีทักษะในการด าเนินชีวิต
สำระที่ ๓ กำรเคลื่อนไหว กำรออกก ำลังกำย กำรเล่นเกม กีฬำไทย และกีฬำสำกล

มาตรฐาน พ ๓.๑ เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา
มาตรฐาน พ ๓.๒ รักการออกก าลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจ าอย่าง
สม่ าเสมอ มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้ าใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณในการ

แข่งขัน และชื่นชมในสุนทรียภาพของการกีฬา
สำระที่ ๔ กำรสร้ำงเสริมสุขภำพ สมรรถภำพและกำรป้องกันโรค
มาตรฐาน พ ๔.๑ เห็นคุณค่าและมีทักษะในการสร้างเสริมสุขภาพ การด ารงสุขภาพ การป้องกันโรค
และการสร้างเสริมสมรรถภาพเพื่อสุขภาพ
สำระที่ ๕ ควำมปลอดภัยในชีวิต

มาตรฐาน พ ๕.๑ ป้องกันและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ อุบัติเหตุ การใช้ยาสาร
เสพติด และความรุนแรง


ศิลปะ
สำระที่ ๑ ทัศนศิลป์
มาตรฐาน ศ ๑.๑ สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์
วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระ

ชื่นชม และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ าวัน
มาตรฐาน ศ ๑.๒ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างทัศนศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่างาน
ทัศนศิลป์ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทยและสากล


สำระที่ ๒ ดนตรี
มาตรฐาน ศ ๒.๑ เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่า
ดนตรี ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่อดนตรีอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ ใช้ใน
ชีวิตประจ าวัน

มาตรฐาน ศ ๒.๒ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างดนตรี ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของ
ดนตรีที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทยและสากล


หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

สำระที่ ๓ นำฏศิลป์

มาตรฐาน ศ ๓.๑ เข้าใจ และแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่า
นาฏศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ใน
ชีวิตประจ าวัน

มาตรฐาน ศ ๓.๒ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เห็นคุณค่า
ของนาฏศิลป์ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทยและสากล

กำรงำนอำชีพ

สำระที่ ๑ กำรด ำรงชีวิตและครอบครัว
มาตรฐาน ง ๑.๑ เข้าใจการท างาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการท างาน ทักษะ
การจัดการ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการท างานร่วมกัน และทักษะ
การแสวงหาความรู้ มีคุณธรรม และลักษณะนิสัยในการท างาน มีจิตส านึก

ในการใช้พลังงาน ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อม เพื่อการด ารงชีวิตและครอบครัว
สำระที่ ๒ กำรอำชีพ
มาตรฐาน ง ๒.๑ เข้าใจ มีทักษะที่จ าเป็น มีประสบการณ์ เห็นแนวทางในงานอาชีพ ใช้เทคโนโลยี
เพื่อพัฒนาอาชีพ มีคุณธรรม และมีเจตคติที่ดีต่ออาชีพ


ภำษำต่ำงประเทศ
สำระที่ ๑ ภำษำเพื่อกำรสื่อสำร

มาตรฐาน ต ๑.๑ เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมีเหตุผล
มาตรฐาน ต ๑.๒ มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ
มาตรฐาน ต ๑.๓ น าเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ

โดยการพูดและการเขียน
สำระที่ ๒ ภำษำและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต ๒.๑ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และน าไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
มาตรฐาน ต ๒.๒ เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และน ามาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
สำระที่ ๓ ภำษำกับควำมสัมพันธ์กับกลุ่มสำระกำรเรียนรู้อื่น

มาตรฐาน ต ๓.๑ ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และเป็น
พื้นฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน
สำระที่ ๔ ภำษำกับควำมสัมพันธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต ๔.๑ ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

มาตรฐาน ต ๔.๒ ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ
และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก








หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

ค าอธิบายรายวิชา ระดับประถมศึกษาปีที่ ๑-๖



























































หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

ระดับประถมศึกษา

รายวิชาพื้นฐาน

ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย จ านวน ๑๖๐ ชั่วโมง
ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย จ านวน ๑๖๐ ชั่วโมง
ท ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย จ านวน ๑๖๐ ชั่วโมง
ท ๑๔๑๐๑ ภาษาไทย จ านวน ๑๖๐ ชั่วโมง

ท ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย จ านวน ๑๖๐ ชั่วโมง
ท ๑๖๑๐๑ ภาษาไทย จ านวน ๑๖๐ ชั่วโมง


















































หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

ค าอธิบายรายวิชาพื้นฐาน

ท๑๑๑๐๑ ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๑ เวลา ๑๖๐ ชั่วโมง


อ่านออกเสียงค า ค าคล้องจอง และข้อความสั้นๆ สามารถบอกความหมายของค า และข้อความที่
อ่านตอบค าถามเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน เล่าเรื่องย่อจากเรื่องที่อ่าน คาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องที่อ่านอ่าน
หนังสือตามความสนใจอย่างสม่ าเสมอและน าเสนอเรื่องที่อ่าน บอกความหมายของเครื่องหมายหรือ
สัญลักษณ์ส าคัญที่มักพบเห็นในชีวิตประจ าวัน มีมารยาท ในการอ่าน คัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัด เขียน

สื่อสารด้วยค าและประโยคง่ายๆ มีมารยาทในการเขียน ฟังค าแนะน า ค าสั่งง่ายๆ และปฏิบัติตามตอบ
ค าถามและเล่าเรื่องที่ฟังและดู ทั้งที่เป็นความรู้และความบันเทิง พูดแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกจาก
เรื่องที่ฟังและดู พูดสื่อสารได้ตามวัตถุประสงค์ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด บอกและเขียน
พยัญชนะ สระ วรรณยุกต์และ เลขไทย เขียนสะกดค าและบอกความหมายของค า เรียบเรียงค าเป็น

ประโยคง่าย ๆ ต่อค าคล้องจองง่ายๆ บอกข้อคิดที่ได้จากการอ่านหรือการฟังวรรณกรรม ร้อยแก้ว และร้อย
กรองส าหรับเด็ก ท่องจ าบทอาขยานตามที่ก าหนดและบทร้อยกรองตามความสนใจ
โดยใช้กระบวนการฟัง กระบวนการพูด กระบวนการอ่านออกเสียง อ่านในใจ กระบวนการเขียน
กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิด และกระบวนการเรียนการสอนแบบมุ่งประสบการณ์ภาษา

เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในการอ่าน การเขียน การคิด สามารถน าความรู้ไปใช้ในสาระต่างๆ
และน าไปใช้ในชีวิตประจ าวันได้


มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ท ๑.๑ ป๑ / ๑, ป๑ /๒, ป๑ /๓, ป๑ /๔, ป๑ /๕, ป๑ /๖, ป๑ /๗, ป๑ /๘
ท ๒.๑ ป ๑ / ๑, ป๑ /๒, ป๑ /๓
ท ๓.๑ ป ๑ /๑, ป๑ /๒ , ป๑ /๓, ป๑ /๔, ป๑ /๕
ท ๔.๑ ป ๑ /๑ , ป๑ /๒, ป๑ /๓, ป๑ /๔, ป๑ /๕

ท ๕.๑ ป ๑ /๑ , ป๑ /๒

รวมทั้งหมด ๒๓ ตัวชี้วัด































หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

ค าอธิบายรายวิชาพื้นฐาน

ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ เวลา ๑๖๐ ชั่วโมง


อ่านออกเสียงค า ค าคล้องจอง ข้อความ และบทร้อยกรองง่าย ๆ ได้ถูกต้อง อธิบายความหมาย
ของค า และข้อความที่อ่าน ตั้งค าถาม ตอบค าถาม ระบุใจความส าคัญ แสดงความคิดเห็น คาดคะเน
เหตุการณ์จากเรื่องที่อ่าน อ่านหนังสือตามความสนใจ อ่านข้อเขียนเชิงอธิบาย ปฏิบัติตามค าสั่งหรือ
ข้อแนะน า และมีมารยาทในการอ่าน คัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัด เขียนเรื่องสั้น ๆ เกี่ยวกับ

ประสบการณ์ จินตนาการ และมีมารยาทในการเขียน ฟังค าแนะน า ค าสั่งที่ซับซ้อนและปฏิบัติตาม เล่า
เรื่องที่ฟังและดูทั้งที่เป็นความรู้และความบันเทิง บอกสาระส าคัญของเรื่องที่ฟังและดู ตั้งค าถามและตอบ
ค าถามจากเรื่องที่ฟังและดู พูดแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกจากเรื่องที่ฟังและดู พูดสื่อสารได้ชัดเจนตรง
ตามวัตถุประสงค์และมีมารยาทในการฟัง ดูและพูด บอก เขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์และเลขไทย

เขียนสะกดค า และบอกความหมายของค า เรียบเรียงค าเป็นประโยคได้ตรงตามเจตนาของการสื่อสาร บอก
ลักษณะค าคล้องจอง เลือกใช้ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่นได้เหมาะสมกับกาลเทศะ ระบุข้อคิดที่ได้จาก
การอ่านหรือการฟังวรรณกรรมส าหรับเด็ก
โดยใช้ทักษะกระบวนการอ่านออกเสียง อ่านในใจ อ่านจับใจความ ทักษะการคัดลายมือ ทักษะ

การเขียนเรื่อง ทักษะการเขียนสื่อสาร ทักษะการฟัง การพูด การเล่าเรื่อง การแสดงความคิดเห็น ทักษะ
การพูดสื่อสาร ทักษะการเขียนสะกดค า ทักษะการแต่งประโยค ทักษะการท่องอาขยาน บทร้อยกรอง
และบทร้องเล่นในท้องถิ่น

เพื่อน าไปใช้ในชีวิตประจ าวัน ร้องบทร้องเล่นส าหรับเด็กในท้องถิ่น ท่องจ าบทอาขยานตามที่ก าหนดและบท
ร้อยกรองที่มีคุณค่าตามความสนใจสามารถน าความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจ าวัน มีคุณธรรม จริยธรรม
และมีค่านิยมที่เหมาะสม

มาตรฐาน/ตัวชี้วัด

ท ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗, ป.๒/๘
ท ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/, ป.๒/๔
ท ๓.๑ ป. ๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕ , ป.๒/๖, ป.๒/๗

ท ๔.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕
ท ๕.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒ , ป.๒/๓

รวมทั้งหมด ๒๗ ตัวชี้วัด























หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

ค าอธิบายรายวิชาพื้นฐาน

ท๑๓๑๐๑ ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ เวลา ๑๖๐ ชั่วโมง


การอ่านออกเสียงค าข้อความ เรื่องสั้นๆ และบทร้อยกรองง่ายๆ ได้ถูกต้อง คล่องแคล่ว การอธิบาย
ความหมายของค าและข้อความที่อ่าน การตั้งค าถามและตอบค าถามเชิงเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน ล าดับ
เหตุการณ์และคาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องที่อ่านโดยระบุเหตุผลประกอบ สรุปความรู้และข้อคิดจากข่าวและ
เหตุการณ์ การอ่านหนังสือตามความสนใจอย่างสม่ าเสมอ การอ่านข้อเขียนเชิงอธิบายและปฏิบัติตามค าสั่ง

หรือข้อแนะน า การอธิบายความหมายของข้อมูลจากแผนภาพ แผนที่ และแผนภูมิ มีมารยาทในการอ่าน
การคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัด การเขียนบรรยายเกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ได้อย่างชัดเจน การเขียนบันทึก
ประจ าวัน การเขียนจดหมายลาครู การเขียนเรื่องตามจินตนาการ และมีมารยาทในการเขียน การเล่า
รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและดูทั้งที่เป็นความรู้และความบันเทิง บอกสาระส าคัญจากการฟังและการดูตั้ง

ค าถามและตอบค าถามเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและดู พูดแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกจากเรื่องที่ฟังและดู พูด
สื่อสารได้ชัดเจนตรงตามวัตถุประสงค์ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด เขียนสะกดค าและบอก
ความหมาย ระบุชนิดและหน้าที่ของค าในประโยค ใช้พจนานุกรมค้นหาความหมายของค า แต่งประโยค
แต่งค าคล้องจองและค าขวัญ เลือกใช้ภาษาไทยมาตรฐานและ ภาษาถิ่นได้เหมาะสมกับกาลเทศะ ระบุ

ข้อคิดที่ได้จากการอ่านวรรณกรรม
โดยใช้กระบวนการอ่านออกเสียง อ่านจับใจความ กระบวนการเขียนโดยเขียนตามรูปแบบใน
ลักษณะการเขียนบรรยาย เขียนบันทึก เขียนจดหมาย การเขียนเรื่องตามจินตนาการ กระบวนการพูด

สามารถพูดแสดงความคิดเห็น แสดงความรู้สึกและสามารถเล่าเรื่อง รายการที่ดู ฟังจากข่าวและ
เหตุการณ์ในชีวิตประจ าวัน ตลอดจนมีมารยาทในการเขียน ฟัง ดูและพูด
เพื่อน าไปใช้ในชีวิตประจ าวัน รู้จักเพลงพื้นบ้านและเพลงกล่อมเด็ก และปลูกฝังความชื่นชม
วัฒนธรรมท้องถิ่น แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวรรณคดี ที่อ่าน ท่องจ าบทอาขยานตามที่ก าหนดและบทร้อย
กรองที่มีคุณค่าตามความสนใจ


มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ท ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔ , ป.๓/๕, ป.๓/๖ , ป.๓/๗ , ป.๓/๘ , ป.๓/๙

ท ๒. ๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖
ท ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕ , ป.๓/๖
ท๔.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔ ป.๓/๕ , ป.๓/๖
ท ๕.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒, ป.๓/๓ , ป.๓/๔


รวมทั้งหมด ๓๑ ตัวชี้วัด



















หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

ค าอธิบายรายวิชาพื้นฐาน

ท๑๔๑๐๑ ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ เวลา ๑๖๐ ชั่วโมง


อ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว บทร้อยกรอง อธิบายความหมายของค า ประโยคและส านวน อ่าน
เรื่องสั้น ตอบค าถามจากเรื่อง แยกแยะข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น คาดคะเนเหตุการณ์ ระบุเหตุผล สรุป
ความรู้และข้อคิด อ่านหนังสือที่มีคุณค่า แสดงความคิดเห็น คัดลายมือ เขียนสื่อสาร เขียนแผนภาพ
โครงเรื่องและแผนภาพความคิด เขียนย่อความ เขียนจดหมาย เขียนบันทึกและเขียนรายงานจาก

การศึกษาค้นคว้า เขียนเรื่องตามจินตนาการ มารยาทในการเขียน จ าแนกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจา
การฟังและดู พูดสรุปความจากการฟังและดู พูดแสดงความรู้ ความคิดเห็นและ ความรู้สึก ตั้งค าถาม
และตอบค าถามเชิงเหตุผล รายงานเรื่องหรือประเด็นที่ศึกษาค้นคว้า มารยาทในการฟัง การดูและการพูด
สะกดค าและบอกความหมายของค า ระบุชนิดและหน้าที่ของค าในประโยค ใช้พจนานุกรมค้นหา

ความหมายของค า แต่งประโยคได้ถูกต้องตามหลักภาษา แต่งบทร้อยกรองและค าขวัญ บอกบอก
ความหมายของส านวน เปรียบเทียบภาษาไทยมาตรฐานกับภาษาถิ่น ระบุข้อคิดจากนิทานพื้นบ้านหรือ
นิทานคติธรรม อธิบายข้อคิดจากการอ่านเพื่อน าไปใช้ในชีวิตจริง ร้องเพลงพื้นบ้าน ท่องจ าบทอาขยาน
ตามที่ก าหนดและบทร้อยกรองที่มีคุณค่า

โดยใช้หลักการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง ทักษะการอ่านจับใจความ แปลความ
ตีความ อธิบาย วิเคราะห์ความและสรุปความ ทักษะการฟัง การพูด การเล่าเรื่อง การแสดงความ
คิดเห็น การพูดรายงาน หลักการคัดลายมือ หลักการเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ เขียนย่อความ

เขียนจดหมายและจดบันทึก
เพื่อให้รักการเรียนรู้ภาษาไทย ภูมิใจในความเป็นไทย สามารถใช้ภาษาไทยได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
กับกาลเทศะ เห็นคุณค่าของการอนุรักษ์ภาษาไทย ตัวเลขไทย ภูมิปัญญาวัฒนธรรมไทย วัฒนธรรมท้องถิ่น
สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีทัศนคติต่อการเรียนภาษาไทย มีสุนทรียภาพในการใช้ภาษา
และสามารถน าภาษามาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ าวัน


มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ท๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒ , ป.๔/๓, ป.๔/๔

ท๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ , ป.๔/๔, ป.๔/๕ , ป.๔/๖ ป.๔/๗ ป.๔/๘
ท๓.๑ ป๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔ , ป.๔/๕ , ป.๔/๖
ท๔.๑ ป๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔ , ป.๔/๕, ป.๔/๕ , ป.๔/๖
ท๕.๑ ป๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ , ป.๔/๔


รวมทั้งหมด ๒๘ ตัวชี้วัด


















หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

ค าอธิบายรายวิชาพื้นฐาน

ท ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ เวลา ๑๖๐ ชั่วโมง


อ่านออกเสียงบทร้อยกรองและร้อยแก้วได้ถูกต้อง อ่านเรื่องสั้น อ่านงานเขียนเชิงอธิบาย ค าสั่ง
ข้อแนะน า และอ่านหนังสือตามความสนใจ อธิบายความหมายของค า ประโยคและข้อความที่เป็นโวหาร
ความคิดจากเรื่องที่อ่าน ความหมายของข้อมูล แผนที่ แผนภูมิ และกราฟ แยกข้อเท็จจริงและ
ข้อคิดเห็นจากเรื่องที่อ่าน มีมารยาทในการอ่าน คัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดและครึ่งบรรทัด เขียน

สื่อสารโดยใช้ค าได้ถูกต้องชัดเจนและเหมาะสม เขียนแผนภาพโครงเรื่อง แผนภาพความคิดเพื่อใช้พัฒนา
งานเขียนเขียนเรียงความ ย่อความ จดหมายส่วนตัว กรอกแบบรายการต่างๆ เขียนเรื่องจาก
จินตนาการและสร้างสรรค์ มีมารยาทในการเขียน พูดแสดงความรู้ ความเข้าใจตามจุดประสงค์ของเรื่อง
ที่ฟังและดูตั้งค าถามและตอบค าถาม วิเคราะห์ความจากการฟังและดูสื่อโฆษณาอย่างมีเหตุผล พูด

รายงานเรื่องหรือประเด็นที่ศึกษาค้นคว้า พูดโน้มน้าวอย่างมีเหตุผลและน่าเชื่อถือ มีมารยาทในการฟัง ดู
พูด วิเคราะห์ชนิดและหน้าที่ของค าในประโยค ใช้ค าได้เหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคล รวบรวมและ
บอกความหมายของค าภาษาต่างประเทศในภาษาไทย ระบุลักษณะของประโยค แต่งบทร้อยกรอง
วิเคราะห์และเปรียบเทียบส านวนที่เป็นค าพังเพยและสุภาษิต แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดีหรือ

วรรณกรรมที่อ่าน เล่านิทานพื้นบ้าน อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านและน าไปประยุกต์ใช้
ในชีวิตจริง ท่องจ าบทอาขยานที่ก าหนด
โดยใช้หลักการอ่านออกเสียงร้อยแก้วและบทร้อยกรอง ทักษะการอ่านจับใจความ แปลความ

ตีความ อธิบาย วิเคราะห์ความและสรุปความ ทักษะการฟัง การพูด การเล่าเรื่อง การแสดง
ความคิดเห็น การพูดรายงาน หลักการคัดลายมือ หลักการเขียนสื่อสาร ได้แก่ การเขียนเรียงความ
ย่อความเขียนจดหมายและจดบันทึก cเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในการอ่าน การเขียน สามารถน าความรู้
ไปใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจและใช้ในชีวิตประจ าวัน มีจิตสาธารณะ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมและ
คุณลักษณะที่พึงประสงค์


มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ท ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗ , ป.๕/๘ ป.๕/๙

ท ๒.๑ ป.๕/ ๑, ป.๕/๒ , ป.๕/๓, ป.๕/๔ , ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗ , ป.๕/๘ ป.๕/๙
ท ๓.๑ ป.๕ /๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖
ท ๔.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖
ท ๕.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒ , ป.๕/๓, ป.๕/๔


รวมทั้งหมด ๓๔ ตัวชี้วัด














หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

ค าอธิบายรายวิชาพื้นฐาน


ท ๑๖๑๐๑ ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ เวลา ๑๖๐ ชั่วโมง

อ่านออกเสียงบทร้อยกรองและร้อยแก้ว อ่านเรื่องสั้น อ่านงานเขียนเชิงอธิบาย ค าสั่ง ข้อแนะน า

และอ่านหนังสือตามความสนใจได้ถูกต้อง อธิบายความหมายของค า ประโยคและข้อความที่เป็นโวหาร
จากเรื่องที่อ่าน ความหมายของข้อมูล แผนที่ แผนภูมิ และกราฟ อธิบายคุณค่าที่ได้รับ แยก
ข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากเรื่องที่อ่าน ไปตัดสินใจในการแก้ปัญหาการด าเนินชีวิต ประจ าวัน คัดลายมือ
ตัวบรรจงเต็มบรรทัดและครึ่งบรรทัด เขียนสื่อสารโดยใช้ค าได้ถูกต้องชัดเจนและเหมาะสม เขียน
แผนภาพโครงเรื่อง แผนภาพความคิดเพื่อใช้พัฒนางานเขียนเขียนเรียงความ ย่อความ จดหมายส่วนตัว

กรอกแบบรายการต่างๆ เขียนเรื่องจากจินตนาการและสร้างสรรค์ พูดแสดงความรู้ ความเข้าใจตาม
จุดประสงค์ของเรื่องที่ฟังและดูตั้งค าถามและตอบค าถาม วิเคราะห์ความจากการฟังและดูสื่อโฆษณาอย่างมี
เหตุผล พูดรายงานเรื่องหรือประเด็นที่ศึกษาค้นคว้า พูดโน้มน้าวอย่างมีเหตุผลและน่าเชื่อถือ ดู พูด

วิเคราะห์ชนิดและหน้าที่ของค าในประโยค ใช้ค าได้เหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคล รวบรวมและบอก
ความหมายของค าภาษาต่างประเทศในภาษาไทย ระบุลักษณะของประโยค แต่งบทร้อยกรอง วิเคราะห์
และเปรียบเทียบส านวนที่เป็นค าพังเพยและสุภาษิต แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดีหรือวรรณกรรมที่
อ่าน เล่านิทานพื้นบ้านของท้องถิ่นตนเองและท้องถิ่นอื่น อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน
และน าไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง

โดยใช้หลักการอ่านออกเสียงร้อยแก้วและบทร้อยกรอง ทักษะการอ่านจับใจความ แปลความ
ตีความ อธิบาย วิเคราะห์ความและสรุปความ ทักษะการฟัง การพูด การเล่าเรื่อง การแสดง
ความคิดเห็น การพูดรายงาน หลักการคัดลายมือ หลักการเขียนสื่อสาร

พื่อให้เกิดความรู้ด้าน การเขียนเรียงความ ย่อความ เขียนจดหมายและจดบันทึก
สามารถน าความรู้ไปใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจและใช้ในชีวิตประจ าวัน มีจิตสาธารณะ คุณธรรม จริยธรรม
ค่านิยมและคุณลักษณะที่พึงประสงค์


มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ท ๑.๑ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓, ป.๖/๔ , ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗ , ป.๖/๘ , ป.๖/๙
ท๒.๑ ป.๖/ ๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔ , ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗ , ป.๖/๘, ป.๖/๙

ท ๓.๑ ป.๖ /๑, ป.๖/๒ , ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖
ท ๔.๑ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓, ป.๖/๔ , ป.๖/๕ , ป.๖/๖,
ท ๕.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔

รวมทั้งหมด ๓๔ ตัวชี้วัด
















หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

ระดับประถมศึกษา

รายวิชาพื้นฐาน

ค ๑๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ จ านวน ๑๖๐ ชั่วโมง
ค ๑๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ จ านวน ๑๖๐ ชั่วโมง
ค ๑๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ จ านวน ๑๖๐ ชั่วโมง
ค ๑๔๑๐๑ คณิตศาสตร์ จ านวน ๑๖๐ ชั่วโมง

ค ๑๕๑๐๑ คณิตศาสตร์ จ านวน ๑๖๐ ชั่วโมง
ค ๑๖๑๐๑ คณิตศาสตร์ จ านวน ๑๖๐ ชั่วโมง


















































หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

ค าอธิบายรายวิชาพื้นฐาน

ค ๑๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ เวลา ๑๖๐ ชั่วโมง


ศึกษา ฝึกทักษะการคิดค านวณและฝึกแก้ปัญหา จ านวนนับ ๑ ถึง ๑๐๐ และ ๐ บอกและแสดง
จ านวนสิ่งต่าง ๆ ตามจ านวนที่ก าหนด อ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย การบอกอันดับที่หลัก
ค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก และเขียนแสดงจ านวนในรูปกระจาย เปรียบเทียบจ านวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐
โดยใช้เครื่องหมาย = ≠ > < เรียงล าดับจ านวนตั้งแต่ ๓ ถึง ๕ จ านวน และหาค่าของตัวไม่ทราบค่าใน

ประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวก การลบ การแก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบ ของจ านวนนับไม่เกิน ๑๐๐
และ ๐ ความยาวและน้ าหนัก สร้างโจทย์ปัญหาพร้อมทั้งแสดงวิธีหาค าตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การ
ลบ ของจ านวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ ระบุจ านวนที่หายไปในแบบรูปของจ านวนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงทีละ๑
ทีละ ๑๐ รูปที่หายไปในแบบรูปซ้ าของรูปเรขาคณิตและรูปอื่น ๆ ที่สมาชิกใน แต่ละชุดที่ซ้ ามี ๒ รูป วัดและ

เปรียบเทียบความยาวเป็นเซนติเมตร เป็นเมตร น้ าหนักเป็นกิโลกรัมเป็นขีด และใช้หน่วยที่ไม่ใช่หน่วย
มาตรฐาน จ าแนกรูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยม วงกลม วงรี ทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก และ
กรวย ใช้ข้อมูลจากแผนภูมิรูปภาพในการหาค าตอบของโจทย์ปัญหา เมื่อก าหนดรูป ๑ รูปแทน ๑ หน่วย


มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ค ๑.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓ , ป.๑/๔ , ป.๑/๕
ค ๑.๒ ป.๑/๑

ค ๒.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒
ค ๒.๒ ป.๑/๑
ค ๓.๑ ป.๑/๑

รวมทั้งหมด ๑๐ ตัวชี้วัด

































หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

ค าอธิบายรายวิชาพื้นฐาน

ค ๑๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ เวลา ๑๖๐ ชั่วโมง


ศึกษา ฝึกทักษะการคิดค านวณและฝึกแก้ปัญหา จ านวนนับ ๑ ถึง ๑,๐๐๐ และ ๐ บอกและแสดง
จ านวนสิ่งต่าง ๆ ตามจ านวนที่ก าหนด อ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย การบอกอันดับที่หลัก
ค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก และเขียนแสดงจ านวนในรูปกระจาย เปรียบเทียบจ านวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ
๐ โดยใช้เครื่องหมาย = ≠ > < เรียงล าดับจ านวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ ตั้งแต่ ๓ ถึง ๕ จ านวน และ

หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวก การลบ การแก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบของ
จ านวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการคูณของจ านวน ๑
หลักกับจ านวนไม่เกิน ๒ หลัก และประโยคสัญลักษณ์แสดงการหารที่ตัวตั้งไม่เกิน ๒ หลัก ตัวหาร ๑ หลัก โดย
ที่ผลหารมี ๑ หลัก ทั้งหารลงตัวและหารไม่ลงตัว หาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคนของจ านวนนับไม่เกิน

๑,๐๐๐ และ ๐ แสดงวิธีหาค าตอบของโจทย์ปัญหา ๒ ขั้นตอนของจ านวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ แสดงวิธี
หาค าตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเวลาที่มีหน่วยเดี่ยวและเป็นหน่วยเดียว วัดและเปรียบเทียบความยาวเป็น
เมตรและเซนติเมตร พร้อมทั้งแสดงวิธีการหาค าตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบความยาวที่มีหน่วยเป็น
เมตรและเซนติเมตร วัดและเปรียบเทียบน้ าหนักเป็นกิโลกรัมและกรัม กิโลกรัมและขีด พร้อมทั้งแสดงวิธีการ

หาค าตอบของโจทย์ปัญหาการบวกการลบเกี่ยวกับน้ าหนักที่มีหน่วยเป็นกิโลกรัมและกรัม กิโลกรัมและขีด วัด
และเปรียบเทียบปริมาตรและความจุเป็นลิตร จ าแนกและบอกลักษณะของรูปหลายเหลี่ยมและวงกลม ใช้
ข้อมูลจากแผนภูมิรูปภาพในการหาค าตอบของโจทย์ปัญหา เมื่อก าหนดรูป ๑ รูปแทน ๒ หน่วย ๕ หน่วยหรือ

๑๐ หน่วย

มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ค ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗, ป.๒/๘
ค ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖

ค ๒.๒ ป.๒/๑
ค ๓.๑ ป.๒/๑


รวม ๑๖ ตัวชี้วัด
























หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

ค าอธิบายรายวิชาพื้นฐาน

ค ๑๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ เวลา ๑๖๐ ชั่วโมง


อ่านและเขียน ตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจ านวนนับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐
และ ๐ เปรียบเทียบและเรียงล าดับจ านวนนับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ จากสถานการณ์ต่าง ๆ บอก อ่าน
และเขียนเศษส่วนที่แสดงปริมาณสิ่งต่าง ๆ และแสดงสิ่งต่าง ๆ ตามเศษส่วนที่ก าหนด เปรียบเทียบเศษส่วนที่
ตัวเศษเท่ากัน โดยที่ตัวเศษน้อยกว่าหรือเท่ากับตัวส่วน หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการ

บวกและการลบของจ านวนนับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดง
การคูณของจ านวน ๑ หลักกับจ านวนไม่เกิน ๔ หลักและจ านวน ๒ หลักกับจ านวน ๒ หลัก หาค่าของตัวไม่
ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการหารที่ตัวตั้งไม่เกิน ๔ หลัก ตัวหาร ๑ หลัก และหาผลลัพธ์การบวก ลบ
คูณ หารระคนและแสดงวิธีการหาค าตอบของโจทย์ปัญหา ๒ ขั้นตอนของจ านวนนับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐

หาผลบวกและแสดงวิธีหาค าตอบของโจทย์ปัญหาการบวกของเศษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ากันและผลบวกไม่เกิน ๑
และหาผลลบพร้อมทั้งแสดงวิธีหาค าตอบของโจทย์ปัญหารการลบของเสษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ากัน ระบุจ านวนที่
หายไปในแบบรูปของจ านวนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงทีละเท่า ๆ กัน แสดงวิธีหาค าตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเงิน
เวลาและระยะเวลา เลือกใช้เครื่องมือความยาวที่เหมาะสม วัดและบอกความยาวของสิ่งต่าง ๆ เป็นเซนติเมตร

และมิลลิเมตร เมตรและเซนติเมตร คาดคะเนความยาวเป็นเมตรและเป็นเซนติเมตร เปรียบเทียบความยาว
และแสดงวิธีหาค าตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับระหว่างเซนติเมตรกับมิลลิเมตร เมตรกับเซนติเมตร กิโลเมตร
กับเมตร จากสถานการณ์ต่าง ๆ เลือกใช้เครื่องชั่งที่เหมาะสม วัดและบอกน้ าหนักเป็นกิโลกรัมและขีด กิโลกรัม

และกรัม คาดคะเนน้ าหนักเป็นกิโลกรัมและเป็นขีด เปรียบเทียบน้ าหนักและแสดงวิธีหาค าตอบของโจทย์
ปัญหาเกี่ยวกับน้ าหนักที่มีหน่วยเป็นกิโลกรัมกับกรัม เมตริกตันกับกิโลกรัม จากสถานการณ์ต่าง ๆ เลือกใช้
เครื่องตวงที่เหมาะสม วัดและเปรียบเทียบปริมาตร ความจุเป็นลิตรและมิลลิลิตร คาดคะเนและแสดงวิธีหา
ค าตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับปริมาตรและความจุเป็นลิตรและมิลลิเมตร ระบุรูปเรขาคณิตสองมิติที่มีแกน
สมมาตรและจ านวนแกนสมมาตร เขียนแผนภูมิรูปภาพและใช้ข้อมูลจากแผนภูมิรูปภาพในการหาค าตอบของ

โจทย์ปัญหา เขียนตารางทางเดียวจากข้อมูลที่เป็นจ านวนนับและใช้ข้อมูลจากตารางทางเดียวในการหาค าตอบ
ของโจทย์ปัญหา


มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ค ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙, ป.๓/๑๐ , ป.๓/๑๑
ค ๑.๒ ป.๓/๑
ค ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙, ป.๓/๑๐, ป.๓/๑๑,

ป.๓/๑๒, ป.๓/๑๓
ค ๒.๒ ป.๓/๑
ค ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒


รวม ๒๘ ตัวชี้วัด





ค าอธิบายรายวิชาพื้นฐาน


หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

ค ๑๔๑๐๑ คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ เวลา ๑๖๐ ชั่วโมง

ศึกษา ฝึกทักษะการอ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจ านวนนับที่

มากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ พร้อมทั้งเปรียบเทียบและเรียงล าดับจ านวนนับที่มากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ จากสถานการณ์
ต่าง ๆ บอก อ่านและเขียนเศษส่วน จ านวนคละแสดงปริมาณสิ่งต่าง ๆ และแสดงสิ่งต่าง ๆ ตามเศษส่วน
จ านวนคละที่ก าหนด เปรียบเทียบ เรียงล าดับเศษส่วนและจ านวนคละที่ตัวส่วนตัวหนึ่งเป็นพหูคูณของอีกตัว
หนึ่ง อ่านและเขียนทศนิยมไม่เกิน ๓ ต าแหน่ง แสดงปริมาณของสิ่งต่าง ๆ ตามทศนิยมที่ก าหนด เปรียบเทียบ

และเรียงล าดับทศนิยมไม่เกิน ๓ ต าแหน่ง และประมาณผลลัพธ์ของการบวก การลบการคูณ การหาร จาก
สถานการณ์ต่าง ๆ อย่างสมเหตุสมผล หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์ แสดงการบวก การลบ
ของจ านวนนับที่มากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ แสดงการคูณของจ านวนหลายหลัก ๒ จ านวน ที่มีผลคูณไม่เกิน
๖ หลัก และแสดงการหารที่ตัวตั้งไม่เกิน ๖ หลัก ตัวหารไม่เกิน ๒ หลัก หาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคน

ของจ านวนนับ และ ๐ แสดงวิธีหาค าตอบของโจทย์ปัญหา ๒ ขั้นตอนของจ านวนนับที่มากกว่า ๑๐๐,๐๐๐
และ ๐ สร้างโจทย์ปัญหา ๒ ขั้นตอนของจ านวนนับ และ ๐ พร้อมทั้งหาค าตอบ หาค าตอบและแสดงวิธีหา
ค าตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบของเศษส่วนและจ านวนคละที่ตัวส่วนตัวหนึ่งเป็นพหูคูณของอีกตัว
หนึ่ง หาผลบวก ผลลบของทศนิยมไม่เกิน ๓ ต าแหน่ง และแสดงวิธีหาค าตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบ

๒ ขั้นตอนของทศนิยมไม่เกิน ๓ ต าแหน่ง
แสดงวิธีหาค าตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเวลา วัดและสร้างมุมโดยใช้โพรแทรกเตอร์ แสดงวิธีหา
ค าตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับความยาวรอบรูปและพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก จ าแนกชนิดของมุม บอกชื่อ

มุม ส่วนประกอบของมุมและเขียนสัญลักษณ์แสดงมุม สร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากเมื่อก าหนดความยาวของด้าน
และใช้ข้อมูลจากแผนภูมิแท่ง ตารางสองทางในการหาค าตอบของโจทย์ปัญหา

มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ค ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘, ป.๔/๙, ป.๔/๑๐, ป.๔/๑๑,

ป.๔/๑๒, ป.๔/๑๓, ป.๔/๑๔, ป.๔/๑๕, ป.๔/๑๖
ค ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓
ค ๒.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒

ค ๓.๑ ป.๔/๑

รวม ๒๒ ตัวชี้วัด























หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

ค าอธิบายรายวิชาพื้นฐาน

ค ๑๕๑๐๑ คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ เวลา ๑๖๐ ชั่วโมง


เขียนเศษส่วนที่มีตัวส่วนเป็นตัวประกอบของ ๑๐ หรือ ๑๐๐ หรือ ๑,๐๐๐ ในรูปทศนิยม แสดงวิธีหา
ค าตอบของโจทย์ปัญหาโดยใช้บัญญัติไตรยางศ์ หาผลบวก ผลลบ ผลคูณ ผลหารของเศษส่วนและจ านวนคละ
แสดงวิธีหาค าตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน ๒ ขั้นตอน หาผลคูณของ
ทศนิยม ที่ผลคูณเป็นทศนิยมไม่เกิน ๓ ต าแหน่ง หาผลหารที่ตัวตั้งเป็นจ านวนนับหรือทศนิยมไม่เกิน ๓

ต าแหน่ง และตัวหารเป็นจ านวนนับ ผลหารเป็นทศนิยมไม่เกิน ๓ ต าแหน่ง แสดงวิธีหาค าตอบของโจทย์ปัญหา
การบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม ๒ ขั้นตอน และแสดงวิธีหาค าตอบของโจทย์ปัญหาร้อยละไม่เกิน ๒
ขั้นตอน
แสดงวิธีหาค าตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับความยาว น้ าหนัก ที่มีการเปลี่ยนหน่วยและเขียนในรูป

ทศนิยม แสดงวิธีหาค าตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับปริมาตรของทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากและความจุของภาชนะ
ทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ความยาวรอบรูปของรูปสี่เหลี่ยมและพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมด้านขนานและรูปสี่เหลี่ยมขนม
เปียกปูน สร้างเส้นตรงหรือส่วนของเส้นตรงให้ขนานกับเส้นตรงหรือส่วนของเส้นตรงที่ก าหนดให้ จ าแนกรูป
สี่เหลี่ยมโดยพิจารณาจากสมบัติของรูป สร้างรูปสี่เหลี่ยมชนิดต่าง ๆ เมื่อก าหนดความยาวของด้านและขนาด

ของมุมหรือเมื่อก าหนดความยาวของเส้นทแยงมุม และบอกลักษณะของปริซึม
ใช้ข้อมูลจากกราฟเส้นในการหาค าตอบของโจทย์ปัญหา และเขียนแผนภูมิแท่งจากข้อมูลที่เป็น
จ านวนนับ


มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ค ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ , ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗, ป.๕/๘, ป.๕/๙
ค ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
ค ๒.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔

ค ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒

รวม ๑๙ ตัวชี้วัด



























หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

ค าอธิบายรายวิชาพื้นฐาน

ค ๑๖๑๐๑ คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ เวลา ๑๖๐ ชั่วโมง


เปรียบเทียบ เรียงล าดับ เศษส่วนและจ านวนคละจากสถานการณ์ต่าง ๆ เขียนอัตราส่วนแสดงการ
เปรียบเทียบปริมาณ ๒ ปริมาณจากข้อความหรือสถานการณ์ โดยที่ปริมาณแต่ละปริมาณเป็นจ านวนนับ หา
อัตราส่วนที่เท่ากับอัตราส่วนที่ก าหนดให้ หา ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ของจ านวนนับไม่เกิน ๓ จ านวน แสดงวิธีหา
ค าตอบของโจทย์ปัญหาโดยใช้ความรู้เกี่ยวกับ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. หาผลลัพธ์ของการบวก ลบ คูณ หารระคน

ของเศษส่วนและจ านวนคละ แสดงวิธีหาค าตอบของโจทย์ปัญหาเศษส่วนและจ านวนคละ ๒ – ๓ ขั้นตอน หา
ผลหารของทศนิยมที่ตัวหารและผลหารเป็นทศนิยมไม่เกิน ๓ ต าแหน่ง แสดงวิธีหาค าตอบของโจทย์ปัญหาการ
บวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม ๓ ขั้นตอน แสดงวิธีหาค าตอบของโจทย์ปัญหาอัตราส่วน ปัญหาร้อยละ
๒ – ๓ ขั้นตอน แสดงวิธีคิดและหาค าตอบของปัญหาเกี่ยวกับแบบรูป

แสดงวิธีหาค าตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับปริมาตรของรูปเรขาคณิตสามมิติที่ประกอบด้วยทรง
สี่เหลี่ยมมุมฉาก และแสดงวิธีหาค าตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับความยาวรอบรูปและพื้นที่ของรูปหลาย
เหลี่ยม ความยาวรอบรูปและพื้นที่ของวงกลม จ าแนกรูปสามเหลี่ยมโดยพิจารณาจากสมบัติของรูป สร้างรูป
สามเหลี่ยมเมื่อก าหนดความยาวของด้านและขนาดของมุม บอกลักษณะของรูปเรขาคณิตสามมิติชนิดต่าง ๆ

ระบุรูปเรขาคณิตสามมิติที่ประกอบจากรูปคลี่และระบุรูปคลี่ของรูปเรขาคณิตสามมิติ
ใช้ข้อมูลจากแผนภูมิรูปวงกลมในการหาค าตอบของโจทย์ปัญหา


มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ค ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙, ป.๖/๑๐,
ป.๖/๑๑, ป.๖/๑๒
ค ๑.๒ ป.๖/๑
ค ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓

ค ๒.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔
ค ๓.๑ ป.๖/๑


รวม ๒๑ ตัวชี้วัด

























หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ระดับประถมศึกษา

รายวิชาพื้นฐาน

ว ๑๑๑๐๑ วิทยาศาสตร์ จ านวน ๑๒๐ ชั่วโมง
ว ๑๒๑๐๑ วิทยาศาสตร์ จ านวน ๑๒๐ ชั่วโมง
ว ๑๓๑๐๑ วิทยาศาสตร์ จ านวน ๑๒๐ ชั่วโมง
ว ๑๔๑๐๑ วิทยาศาสตร์ จ านวน ๑๒๐ ชั่วโมง

ว ๑๕๑๐๑ วิทยาศาสตร์ จ านวน ๑๒๐ ชั่วโมง
ว ๑๖๑๐๑ วิทยาศาสตร์ จ านวน ๑๒๐ ชั่วโมง






















































หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

ค าอธิบายรายวิชาพื้นฐาน

ว ๑๑๑๐๑ วิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ เวลา ๑๒๐ ชั่วโมง


ศึกษาการเรียนรูแบบนักวิทยาศาสตร ลักษณะ หนาที่และการดูแลรักษาสวนตางๆ ของรางกายมนุษย
ลักษณะและหนาที่ของสวนตาง ๆ ของสัตวและพืชรอบตัว และสภาพแวดลอมในบริเวณที่สัตวและพืชอาศัยอยู
ชนิดและสมบัติของวัสดุที่ใชท าวัตถุรอบตัว การเกิดเสียงและทิศทางการเคลื่อนที่ของเสียง ลักษณะของหิน
และการมองเห็นดาวบนทองฟาในเวลากลางวันและกลางคืน การแกปญหาโดยการลองผิดลองถูก การ

เปรียบเทียบ การเขียนโปรแกรมอยางงายโดยใชซอฟตแวรหรือสื่อ การใชงานอุปกรณเทคโนโลยีเบื้องตน การ
ใชงานซอฟตแวรเบื้องตน
ใชการสืบเสาะหาความรู สังเกต ส ารวจตรวจสอบโดยใชเครื่องมืออยางงาย รวบรวมขอมูล บันทึก
และอธิบายผลการส ารวจตรวจสอบ เพื่อใหเกิดความรูความเขาใจ มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรขั้น

พื้นฐานและมีทักษะการเรียนรูในศตวรรษที่ ๒๑ ในดานการใชเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเบื้องตน
สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู มีความคิดสรางสรรค สามารถท างานรวมกับผูอื่น แสดงขั้นตอนการแกปญหาอยาง
งาย เขียนโปรแกรมโดยใชสื่อ สราง จัดเก็บและเรียกใชไฟลตามวัตถุประสงค
ตระหนักถึงประโยชนของการใชความรูและกระบวนการทางวิทยาศาสตรในการด ารงชีวิต

ใชเทคโนโลยีสารสนเทศอยางปลอดภัย ปฏิบัติตามขอตกลงในการใชงาน ดูแลรักษาอุปกรณและใชงาน
เทคโนโลยีสารสนเทศอยางเหมาะสม มีจิตวิทยาศาสตร จริยธรรม คุณธรรม และคานิยมที่เหมาะสม


มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ว ๑.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒
ว ๑.๒ ป.๑/๑ , ป.๑/๒
ว ๒.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒
ว ๒.๓ ป.๑/๑

ว ๓.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒
ว ๓.๑ ป.๑/๑
ว ๔.๒ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓ , ป.๑/๔ , ป.๑/๕


รวม ๑๕ ตัวชี้วัด










หมำยเหตุ จ านวน ๑๒๐ ชั่วโมง หมายถึง สาระที่ ๑-๓ ใชเวลา ๘๐ ชั่วโมง รวมกับสาระที่ ๔ ใชเวลา ๔๐ ชั่วโมง







หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

ค าอธิบายรายวิชาพื้นฐาน


ว ๑๒๑๐๑ วิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ เวลา ๑๒๐ ชั่วโมง

ศึกษาการเรียนรูแบบนักวิทยาศาสตร ลักษณะของสิ่งมีชีวิตและสิ่งไมมีชีวิต ความจ าเปนของแสง

และน้ าตอการเจริญเติบโตของพืช วัฏจักรชีวิตของพืชดอก สมบัติการดูดซับน้ าของวัสดุและการน าไปใช
ประโยชน สมบัติของวัสดุที่เกิดจากการน าวัสดุมาผสมกัน การเลือกวัสดุมาใชท าวัตถุตามสมบัติของวัสดุ
การน าวัสดุที่ใชแลวกลับมาใชใหม การเคลื่อนที่ของแสง การมองเห็นวัตถุ การปองกันอันตรายจากการ
มองวัตถุในบริเวณที่มีแสงสวางไมเหมาะสม สวนประกอบและการจ าแนกชนิดของดิน การใชประโยชนจากดิน
การแสดงขั้นตอนการแกปญหา การตรวจหาขอผิดพลาดของโปรแกรม การใชงานซอฟตแวรเบื้องตน

การจัดการไฟลและโฟลเดอร การใชงานและดูแลรักษาอุปกรณคอมพิวเตอร เทคโนโลยีในชีวิตประจ าวัน
การใชเทคโนโลยีสารสนเทศอยางปลอดภัย
ใชการสืบเสาะหาความรู สังเกต จ าแนกประเภท รวบรวมขอมูล บันทึก และอธิบายผลการส ารวจ

ตรวจสอบ เพื่อใหเกิดความรูความเขาใจ มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรขั้นพื้นฐานและมีทักษะ
การเรียนรูในศตวรรษที่ ๒๑ ในดานการใชเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเบื้องตน สามารถสื่อสารสิ่งที่
เรียนรู มีความคิดสรางสรรค สามารถท างานรวมกับผูอื่น แสดงขั้นตอนการแกปญหาอยางงาย เขียนโปรแกรม
แบบมีเงื่อนไขโดยใชบัตรค าสั่งและตรวจหาขอผิดพลาด ใชงานซอฟตแวร สราง จัดหมวดหมูไฟลและโฟลเดอร
ตระหนักถึงประโยชนของการใชความรูและกระบวนการทางวิทยาศาสตรในการด ารงชีวิต ตระหนัก

ถึงความส าคัญของการปกปองขอมูลสวนตัว ใชเทคโนโลยีสารสนเทศอยางปลอดภัย ดูแลรักษาอุปกรณ
คอมพิวเตอร มีจิตวิทยาศาสตร จริยธรรม คุณธรรม และคานิยมที่เหมาะสม


มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ว ๑.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒ , ป.๒/๓
ว ๑.๓ ป.๒/๑
ว ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒ , ป.๒/๓ , ป.๒/๔

ว ๒.๓ ป.๒/๑ , ป.๒/๒
ว ๓.๒ ป.๒/๑ , ป.๒/๒
ว ๔.๒ ป.๒/๑ , ป.๒/๒ , ป.๒/๓ , ป.๒/๔


รวม ๑๖ ตัวชี้วัด











หมายเหตุ จ านวน ๑๒๐ ชั่วโมง หมายถึง สาระที่ ๑-๓ ใชเวลา ๘๐ ชั่วโมง รวมกับสาระที่ ๔ ใชเวลา ๔๐ ชั่วโมง






หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

ค าอธิบายรายวิชาพื้นฐาน

ว ๑๓๑๐๑ วิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ เวลา ๑๒๐ ชั่วโมง


ศึกษาการเรียนรูแบบนักวิทยาศาสตร์ การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การด ารงพันธุ์ของ
สิ่งมีชีวิต และสิ่งมีชีวิตบางชนิดที่สูญพันธุ์ ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต
ที่อาศัยอยู่ร่วมกันในสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่าง
คุ้มค่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับวัสดุ ประโยชน์และอันตรายที่เกิดขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของวัสดุที่

เป็นของเล่น ของใช้ การออกแบบและการประดิษฐ์ของเล่นของใช้จากวัสดุในท้องถิ่น แรงมีผลต่อการ
เปลี่ยนแปลงและการเคลื่อนที่ของวัตถุ แรงดึงดูดของโลกที่ท าให้วัตถุมีน้ าหนัก แหล่งพลังงานไฟฟ้าตาม
ธรรมชาติ การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างถูกต้องปลอดภัยและการประหยัดพลังงานไฟฟ้า แหล่งน้ าและประโยชน์
จากแหล่งน้ าในท้องถิ่น สมบัติบางประการของน้ า คุณภาพของน้ า ความจ าเป็นของน้ าต่อสิ่งมีชีวิตและการ

ประหยัดน้ าในชีวิตประจ าวัน อุณหภูมิของอากาศในสถานที่และเวลาต่าง ๆ การเคลื่อนที่ของอากาศ โลก
หมุนรอบตัวเองท าให้เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติ การขึ้น ตกของดวงอาทิตย์ การเกิดกลางวัน กลางคืน ดู
ดวงอาทิตย์แล้วก าหนดทิศต่าง ๆ ได้
ใชการสืบเสาะหาความรู สังเกต จ าแนกประเภท รวบรวมขอมูล บันทึก และอธิบายผลการส ารวจ

ตรวจสอบ เพื่อใหเกิดความรูความเขาใจ มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรขั้นพื้นฐานและมีทักษะ
การเรียนรูในศตวรรษที่ ๒๑ ในดานการใชเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเบื้องตน สามารถสื่อสารสิ่งที่
เรียนรู มีความคิดสรางสรรค มีความสามารถในการตัดสินใจ น าความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจ าวัน

สามารถท างานรวมกับผูอื่น แสดงขั้นตอนการแกปญหาอยางงาย เขียนโปรแกรม
แบบมีเงื่อนไขโดยใชบัตรค าสั่งและตรวจหาขอผิดพลาด ใชงานซอฟตแวร สราง จัดหมวดหมูไฟลและโฟลเดอร
ตระหนักถึงประโยชนของการใชความรูและกระบวนการทางวิทยาศาสตรในการด ารงชีวิต ตระหนัก
ถึงความส าคัญของการปกปองขอมูลสวนตัว ใชเทคโนโลยีสารสนเทศอยางปลอดภัย ดูแลรักษาอุปกรณ
คอมพิวเตอร มีจิตวิทยาศาสตร จริยธรรม คุณธรรม และคานิยมที่เหมาะสม


มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ว ๑.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔

ว ๒.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒
ว ๒.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓, ป.๓/๔
ว ๒.๓ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓
ว ๓.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓

ว ๓.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒, ป.๓/๓ , ป.๓/๔
ว ๔.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒, ป.๓/๓ , ป.๓/๔, ป๓/๕

รวม ๒๕ ตัวชี้วัด





หมำยเหตุ จ านวน ๑๒๐ ชั่วโมง หมายถึง สาระที่ ๑-๓ ใชเวลา ๘๐ ชั่วโมง รวมกับสาระที่ ๔ ใชเวลา ๔๐ ชั่วโมง







หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

ค าอธิบายรายวิชาพื้นฐาน


ว ๑๔๑๐๑ วิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ เวลา ๑๒๐ ชั่วโมง

ศึกษาการเรียนรูแบบนักวิทยาศาสตร การจ าแนกสิ่งมีชีวิตเปนกลุมพืช กลุมสัตว และกลุมที่ไมใชพืช

และสัตว การจ าแนกพืชออกเปนพืชดอกและพืชไมมีดอก การจ าแนกสัตวออกเปนสัตวมีกระดูกสันหลังและ
สัตวไมมีกระดูกสันหลัง ลักษณะเฉพาะของสัตวมีกระดูกสันหลังในกลุมปลากลุมสัตวสะเทินน้ าสะเทินบก
กลุมสัตวเลื้อยคลาน กลุมนก และกลุมสัตวเลี้ยงลูกดวยน้ านม หนาที่ของราก ล าตน ใบและดอกของพืชดอก
สมบัติทางกายภาพ ดานความแข็ง สภาพยืดหยุน การน าความรอนและการน าไฟฟาของวัสดุ การน าสมบัติทาง
กายภาพของวัสดุไปใชในชีวิตประจ าวัน สมบัติของสสารทั้ง ๓ สถานะ ผลของแรงโนมถวงที่มีตอวัตถุการวัด

น้ าหนักของวัตถุ มวลของวัตถุที่มีผลตอการเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่ของวัตถุ และตัวกลางของแสง การขึ้น
และตกและรูปรางดวงจันทรและองคประกอบของระบบสุริยะ การใชเหตุผลเชิงตรรกะในการแกปญหา การ
ออกแบบและเขียนโปรแกรมอยางงาย การตรวจหาขอผิดพลาดในโปรแกรม การคนหาขอมูลในอินเทอรเน็ต

และการใชค าคน การประเมินความนาเชื่อถือของขอมูล การรวบรวม น าเสนอขอมูลและสารสนเทศ
ใชการสืบเสาะหาความรู ตั้งค าถาม คาดคะเนค าตอบหรือสรางสมมติฐาน วางแผนและส ารวจ
ตรวจสอบโดยใชเครื่องมืออุปกรณและเทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสม ประเมินความนาเชื่อถือของขอมูล
รวมรวมขอมูล ประมวลผลอยางงาย วิเคราะหขอมูล วิเคราะหผลและสรางทางเลือกน าเสนอขอมูล ลงความ
คิดเห็นและสรุปผลการส ารวจตรวจสอบ เพื่อใหเกิดความรูความเขาใจ มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร

และมีทักษะการเรียนรูในศตวรรษที่ ๒๑ ในดานการใชเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเบื้องตน มี
ความคิดสรางสรรค สามารถท างานรวมกับผูอื่น ใชเหตุผลเชิงตรรกะในการแกปญหา และอธิบายการท างาน
หรือคาดการผลลัพธจากปญหาอยางงาย ออกแบบและเขียนโปรแกรม ตรวจหาขอผิดพลาดจากโปรแกรมของ

ตนเองและผูอื่น
ตระหนักถึงคุณคาของความรูทางวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี และใชความรูและกระบวนการ
ทางวิทยาศาสตรในการด ารงชีวิต สามารถสื่อสารอยางมีมารยาทและรูกาลเทศะ รูจักการปกปองขอมูล
สวนตัว มีจิตวิทยาศาสตร จริยธรรม คุณธรรม และคานิยมที่เหมาะสม


มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ว ๑.๒ ป.๔/๑

ว ๑.๓ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป. ๔/๔
ว ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป. ๔/๔
ว ๒.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓
ว ๒.๓ ป.๔/๑
ว ๓.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓

ว ๔.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป. ๔/๔, ป. ๔/๕

รวม ๒๑ ตัวชี้วัด


หมายเหตุ จ านวน ๑๒๐ ชั่วโมง หมายถึง สาระที่ ๑-๓ ใชเวลา ๘๐ ชั่วโมง รวมกับสาระที่ ๔ ใชเวลา ๔๐ ชั่วโมง







หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

ค าอธิบายรายวิชาพื้นฐาน

ว ๑๕๑๐๑ วิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ เวลา ๑๒๐ ชั่วโมง


ศึกษาการเรียนรูแบบนักวิทยาศาสตร โครงสรางและลักษณะของสิ่งมีชีวิตที่เหมาะสมในแตละ
แหลงที่อยู ความสัมพันธระหวางสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตและความสัมพันธระหวางสิ่งมีชีวิตกับสิ่งไมมีชีวิต
การถายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของพืช สัตว และมนุษยการเปลี่ยนสถานะของสสาร การละลายของสาร
ในน้ า การเปลี่ยนแปลงทางเคมี การเปลี่ยนแปลงที่ผันกลับไดและผันกลับไมได แรงลัพธ แรงเสียดทาน

การไดยินเสียงผานตัวกลาง ลักษณะและการเกิดเสียงสูง เสียงต่ า เสียงดัง และเสียงคอย ระดับเสียงและมลพิษ
ทางเสียง ความแตกตางของดาวเคราะหและดาวฤกษ การใชแผนที่ดาว แบบรูปเสนทางการขึ้นและตก
ของกลุมดาวฤกษบนทองฟาในรอบปปริมาณน้ าในแตละแหลง ปริมาณน้ าที่มนุษยสามารถน ามาใชได้ การใช
น้ าอยางประหยัดและการอนุรักษน้ า วัฏจักรน้ า กระบวนการเกิดเมฆ หมอก น้ าคาง และน้ าคางแข็ง

กระบวนการเกิดฝน หิมะ และลูกเห็บ การใชเหตุผลเชิงตรรกะในการแกปญหา การเขียนรหัสล าลองเพื่อแสดง
วิธีแกปญหา การออกแบบ และการเขียนโปรแกรมแบบมีเงื่อนไขและการท างานแบบวนซ้ า การใชซอฟตแวร
ประมวลผลขอมูล การติดตอสื่อสารผานอินเทอรเน็ต การใชอินเทอรเน็ตคนหาขอมูลและการประเมิน
ความนาเชื่อถือของขอมูล อันตรายจากการใชงานและอาชญากรรมทางอินเทอรเน็ต

ใชการสืบเสาะหาความรู สังเกต รวบรวมขอมูล จัดกระท าและสื่อความหมายขอมูล สรางแบบจ าลอง
และอธิบายผลการส ารวจตรวจสอบ เพื่อใหเกิดความรูความเขาใจ มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร
ขั้นพื้นฐานและทักษะการเรียนรูในศตวรรษที่ ๒๑ ในดานการใชเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเบื้องตน

สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู มีความคิดสรางสรรค สามารถท างานรวมกับผูอื่น แสดงวิธีแกปญหาโดยใชเหตุผล
เชิงตรรกะ ใชรหัสล าลองแสดงวิธีการแกปญหาอยางเปนขั้นตอน ตรวจหาขอผิดพลาดของโปรแกรม ใชซอฟต
แวรชวยในการแกปญหา ใชอินเทอรเน็ตติดตอสื่อสารและคนหาขอมูล แยกแยะขอเท็จจริงกับขอคิดเห็น
ประเมินความนาเชื่อถือของขอมูล
ตระหนักถึงคุณคาของความรูทางวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี และใชความรูและกระบวนการ

ทางวิทยาศาสตรในการด ารงชีวิต ใชเทคโนโลยีสารสนเทศอยางปลอดภัยและมีมารยาท มีจิตวิทยาศาสตร
จริยธรรม คุณธรรม และคานิยมที่เหมาะสม


มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ว ๑.๑ ป๕/๑, ป๕/๒, ป๕/๓, ป๕/๔
ว ๑.๓ ป๕/๑, ป๕/๒
ว ๒.๑ ป๕/๑, ป๕/๒, ป๕/๓, ป๕/๔

ว ๒.๒ ป๕/๑, ป๕/๒, ป๕/๓, ป๕/๔, ป๕/๕
ว ๒.๓ ป๕/๑, ป๕/๒, ป๕/๓, ป๕/๔
ว ๓.๑ ป๕/๑, ป๕/๒
ว ๓.๒ ป๕/๑, ป๕/๒, ป๕/๓, ป๕/๔, ป๕/๕

ว ๔.๒ ป๕/๑, ป๕/๒, ป๕/๓, ป๕/๔, ป๕/๕

รวม ๓๑ ตัวชี้วัด
หมายเหตุ จ านวน ๑๒๐ ชั่วโมง หมายถึง สาระที่ ๑-๓ ใชเวลา ๘๐ ชั่วโมง รวมกับสาระที่ ๔ ใชเวลา ๔๐ ชั่วโมง







หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

ค าอธิบายรายวิชาพื้นฐาน

ว ๑๖๑๐๑ วิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ เวลา ๑๒๐ ชั่วโมง


ศึกษาการเรียนรูแบบนักวิทยาศาสตร การเจริญเติบโตของมนุษย์ ระบบอวัยวะในระบบร่างกาย
มนุษย์ เกี่ยวข้องกับการย่อยอาหาร การหายใจ และการหมุนเวียนเลือด สารอาหาร และการรับประทาน
อาหารที่ได้สัดส่วน ที่เหมาะสมกับเพศและวัย ความสัมพันธ์ของกลุ่มสิ่งมีชีวิตในแหล่งที่อยู่ต่าง ๆ โซ่อาหาร
สายใยอาหาร ความสัมพันธ์ระหว่างการด ารงชีวิตของสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตในรูปของโซ่อาหารและสายใย

อาหาร ความสัมพันธ์ระหว่างการด ารงชีวิตของสิ่งมีชีวิตกับสภาพแวดล้อมในท้องถิ่น การดูแลรักษา
ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น สารในชีวิตประจ าวัน สมบัติของสารในสถานะต่าง ๆ การแยกสารด้วยวิธีต่าง
ๆ สารที่ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจ าวัน การเปลี่ยนแปลงของสารที่มีผลต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม
วงจรไฟฟ้ากับการใช้ประโยชน์ วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย สมบัติของตัวน าและฉนวนไฟฟ้า แม่เหล็กไฟฟ้าและการ

ใช้ประโยชน์ ประเภทของหิน การเปลี่ยนแปลงของหิน ปรากฏการณ์ของโลกและเทคโนโลยีอวกาศ ข้างขึ้น
ข้างแรม ฤดูกาล สุริยุปราคาและจันทรุปราคา ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอวกาศ ใช้เหตุผลเชิงตรรกะใน
การอธิบายและออกแบบวิธีการแก้ปัญหา การออกแบบและการเขียนโปรแกรมอย่างง่าย
ใชการสืบเสาะหาความรู สังเกต รวบรวมขอมูล จัดกระท าและสื่อความหมายขอมูล สรางแบบจ าลอง

และอธิบายผลการส ารวจตรวจสอบ เพื่อใหเกิดความรูความเขาใจ มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร
ขั้นพื้นฐานและทักษะการเรียนรูในศตวรรษที่ ๒๑ ในดานการใชเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเบื้องตน
สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู มีความคิดสรางสรรค สามารถท างานรวมกับผูอื่น แสดงวิธีแกปญหาโดยใชเหตุผล

เชิงตรรกะ ใชรหัสล าลองแสดงวิธีการแกปญหาอยางเปนขั้นตอน ตรวจหาขอผิดพลาดของโปรแกรมและแก้ไข
ใชซอฟตแวรชวยในการแกปญหา ใชอินเทอรเน็ตติดตอสื่อสารและคนหาขอมูลอย่างมีประสิทธิภาพ แยกแยะ
ขอเท็จจริงกับขอคิดเห็น ประเมินความนาเชื่อถือของขอมูล
ตระหนักถึงคุณคาของความรูทางวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี และใชความรูและกระบวนการ
ทางวิทยาศาสตรในการด ารงชีวิต ใชเทคโนโลยีสารสนเทศอยางปลอดภัยและมีมารยาท เข้าใจสิทธิและหน้าที่

ของตน เคารพในสิทธิของผู้อื่น แจ้งผู้เกี่ยวข้องเมื่อพบข้อมูลหรือบุคคลที่ไม่เหมาะสม มีจิตวิทยาศาสตร
จริยธรรม คุณธรรม และคานิยมที่เหมาะสม


มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ว ๑.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕
ว ๒.๑ ป.๖/๑
ว ๒.๒ ป.๖/๑

ว ๒.๓ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓ , ป.๖/๔ , ป.๖/๕ , ป.๖/๖ , ป.๖/๗ , ป.๖/๘
ว ๓.๑ ป.๖/๑ , ป.๖/๒
ว ๓.๒ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓ , ป.๖/๔ , ป’๖/๕ , ป.๖/๖ , ป.๖/๗ , ป.๖/๘ , ป.๖/๙
ว ๔.๒ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓, ป.๖/๔


รวม ๓๐ ตัวชี้วัด

หมายเหตุ จ านวน ๑๒๐ ชั่วโมง หมายถึง สาระที่ ๑-๓ ใชเวลา ๘๐ ชั่วโมง รวมกับสาระที่ ๔ ใชเวลา ๔๐ ชั่วโมง







หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

รายวิชาพื้นฐานและเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม

ระดับประถมศึกษา



รายวิชาพื้นฐาน


ส ๑๑๑๐๑ สังคมศึกษา จ านวน ๘๐ ชั่วโมง
ส ๑๑๑๐๒ ประวัติศาสตร์ จ านวน ๔๐ ชั่วโมง
ส ๑๒๑๐๑ สังคมศึกษา จ านวน ๘๐ ชั่วโมง

ส ๑๒๑๐๒ ประวัติศาสตร์ จ านวน ๔๐ ชั่วโมง
ส ๑๓๑๐๑ สังคมศึกษา จ านวน ๘๐ ชั่วโมง
ส ๑๓๑๐๒ ประวัติศาสตร์ จ านวน ๔๐ ชั่วโมง
ส ๑๔๑๐๑ สังคมศึกษา จ านวน ๘๐ ชั่วโมง

ส ๑๔๑๐๒ ประวัติศาสตร์ จ านวน ๔๐ ชั่วโมง
ส ๑๕๑๐๑ สังคมศึกษา จ านวน ๘๐ ชั่วโมง
ส ๑๕๑๐๒ ประวัติศาสตร์ จ านวน ๔๐ ชั่วโมง
ส ๑๖๑๐๑ สังคมศึกษา จ านวน ๘๐ ชั่วโมง

ส ๑๖๑๐๒ ประวัติศาสตร์ จ านวน ๔๐ ชั่วโมง

สาระเพิ่มเติม
ส ๑๑๒๓๑ หน้าที่พลเมือง จ านวน ๔๐ ชั่วโมง

ส ๑๒๑๒๓๒ หน้าที่พลเมือง จ านวน ๔๐ ชั่วโมง
ส ๑๓๒๓๓ หน้าที่พลเมือง จ านวน ๔๐ ชั่วโมง
ส ๑๔๒๓๔ หน้าที่พลเมือง จ านวน ๔๐ ชั่วโมง

ส ๑๕๒๓๕ หน้าที่พลเมือง จ านวน ๔๐ ชั่วโมง
ส ๑๖๒๓๖ หน้าที่พลเมือง จ านวน ๔๐ ชั่วโมง




































หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

ค าอธิบายรายวิชาพื้นฐาน

ส ๑๑๑๐๑ สังคมศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ เวลา ๘๐ ชั่วโมง


ศึกษา เกี่ยวกับประวัติความเป็นมา ความส าคัญ ศาสนา หลักธรรมของพุทธศาสนา พุทธประวัติ
พระรัตนตรัย พุทธศาสนาสุภาษิต วันส าคัญ ประวัติสาวก ชาดก ฝึกสวดมนต์ แผ่เมตตา การปฏิบัติตนเป็น
ของศาสนิกชนและศาสนาอื่น บุคคลตัวอย่างในท้องถิ่น ประเทศ ปฏิบัติตนตามหลักธรรม เพื่ออยู่ร่วมกันอย่าง
สันติสุขปฏิบัติตน เป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัว ยกตัวอย่างความดีของตนเองและผู้อื่น โครงสร้างบทบาท

หน้าที่ของสมาชิก มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
ศึกษา ส ารวจ เปรียบเทียบ สินค้าและบริการที่ใช้อยู่ในชีวิตประจ าวัน เช่น ดินสอ สมุด กระดาษ
เสื้อผ้า การได้มาโดยใช้เงินซื้อ หรือได้มาโดยการบริจาค หรือได้มาโดยการแลกเปลี่ยนสิ้นค้าหรือบริการ การ
ใช้ประโยชน์จากสินค้าและบริการให้คุ้มค่า มีการวางแผนการใช้เงิน การประหยัดเก็บออม การท างานอย่าง

สุจริต เพื่อให้ครอบครัวและสังคมอยู่ได้อย่างเป็นสุข
ศึกษา ส ารวจ สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และที่มนุษย์สร้างขึ้น ระบุความสัมพันธ์
ต าแหน่ง ระยะทิศทางของที่ตั้ง แผนผังสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวในห้องเรียน สังเกตการณ์เปลี่ยนแปลงสภาพ
อากาศ บอกสิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติที่ส่งผลต่อมนุษย์ เปรียบเทียบความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม

ที่อยู่รอบตัว ที่อยู่อาศัย อาหาร เครื่องแต่งกาย และมีส่วนร่วมในการจัดระเบียบสางแวดล้อมที่บ้านและชั้น
เรียน
โดยใช้กระบวนการสืบค้น กระบวนการขัดเกลาทางสังคม กระบวนการทางจริยธรรม

กระบวนการพัฒนาค่านิยม กระบวนการประชาธิปไตย กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการคิดวิเคราะห์
กระบวนการทางภูมิศาสตร์
เพื่อให้เกิดความรู้ ความความเข้าใจ ความคิด และปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดี น าหลักธรรมทางศาสนา
และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงประยุกต์ใช้ในการ ด ารงชีวิต อยู่ในสังคมร่วมกันอย่างสันติสุข เคารพใน
สิทธิของความเป็นมนุษย์ เห็นคุณค่า ชื่นชม วัฒนธรรมประเพณีไทย อนุรักษ์ สืบสานภูมิปัญญาไทย ภูมิ

ปัญญาท้องถิ่น

มาตรฐาน/ตัวชี้วัด

ส ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔
ส ๑.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓
ส ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒
ส ๒.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓

ส ๓.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓
ส ๓.๒ ป.๑/๑
ส ๕.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕
ส ๕.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓


รวม ๒๔ ตัวชี้วัด










หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

ค าอธิบายรายวิชาพื้นฐาน

ส ๑๑๑๐๒ ประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ เวลา ๔๐ ชั่วโมง


ศึกษา ความส าคัญของช่วงเวลาตามปฏิทินและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความสัมพันธ์และความส าคัญของ
อดีตที่มีต่ออนาคตตามยุคสมัย ประวัติศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ต่าง ๆ ศึกษาเรื่องราวของ
ประวัติศาสตร์ ไทยที่มีอยู่ในท้องถิ่น ความหมายความส าคัญของชาติไทย ศาสนา พระมหากษัตริย์ และแหล่ง
เรียนรู้ต่าง ๆ ในท้องถิ่นของตน

โดยใช้กระบวนการสืบค้น กระบวนการขัดเกลาทางสังคม กระบวนการทางจริยธรรม
กระบวนการพัฒนาค่านิยม กระบวนการประชาธิปไตย กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการคิดวิเคราะห์
วิธีการทางประวัติศาสตร์
เพื่อให้เกิดความรู้ ความความเข้าใจ ความคิด ภาคภูมิใจในความเป็นไทย เห็นคุณค่า ชื่นชม

วัฒนธรรมประเพณีไทย อนุรักษ์ สืบสานภูมิปัญญาไทย ภูมิปัญญาท้องถิ่น

มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ส ๔.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒,ป.๑/๓

ส ๔.๒ ป.๑/๑,ป.๑/๒
ส ๔.๓ ป.๑/,ป.๑/๒,ป.๑/๓


รวม ๘ ตัวชี้วัด
















































หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

ค าอธิบายรายวิชาพื้นฐาน

ส๑๒๑๐๑ สังคมศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ เวลา ๘๐ ชั่วโมง


ศึกษา ประวัติและความส าคัญของพระพุทธศาสนา พุทธประวัติ ประสูติ ประวัติพุทธสาวก พุทธ
สาลิกา และชาดก ศึกษาข้อมูลเดี่ยวกับพระไตรปิฎก และหลักธรรมโอวาท ๓ พุทธศาสนสุภาษิตและ
บุคคลตัวอย่างในการท าความดี ฝึกปฏิบัติมารยาทของชาวพุทธ การเข้าร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับศาสนพิธี
พิธีกรรม วันส าคัญทางศาสนา เรื่องการบูชาพระรัตนตรัย ฝึกบริหารจิต เพื่อให้การด าเนินชีวิตของมนุษย์

การอยู่ร่วมกันในสังคม การปรับตัวตามสภาพแวดล้อม น าหลักธรรมค าสอนไปปฏิบัติในการพัฒนาตนเองเป็น
พลเมืองดีมีความรับผิดชอบ มีคุณธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม เกิดความภาคภูมิใจในการกระท าความดีของ
ตนเองและผู้อื่น
ศึกษา สังเกต ความเป็นพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตยของตนเองและผู้อื่นในสังคมปัจจุบัน การ

ยอมรับกฎกติกา กฎระเบียบ หน้าที่ความแตกต่างและความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรม ค่านิยม ความ
เชื่อปลูกฝังค่านิยม สิทธิ หน้าที่ เสรีภาพการด าเนินชีวิตอย่างสันติสุขในสังคมไทย และการช่วยเหลือการเข้า
ร่วมกิจกรรมของชุมชน
ศึกษา อภิปราย บริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าทั้งที่บ้านและโรงเรียนให้

เกิดประโยชน์สูงสุด รายรับจ่ายของตนเองการท างานที่ก่อให้เกิดรายได้ ในการผลิตการชื้อขายสินค้า
วิเคราะห์อภิปรายและจ าแนกข้อดีข้อเสียการใช้จ่ายการชื้อขายแลกเปลี่ยน และการบริโภคสินค้าและการ
บริการ อย่างมีประสิทธิภาพ ในการด าเนินชีวิตอย่างมีดุลภาพ และการน าหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ใน

ชีวิตประจ าวัน
ศึกษาค้นคว้า อภิปราย สรุป สิ่งต่าง ๆที่เป็นธรรมชาติกับที่มนุษย์สร้างขึ้น ซึ่งปรากฏระหว่าง
โรงเรียนกับบ้าน ลักษณะของโลกทางกายภาพ การใช้แผนที่ แผนผังและภาพถ่าย เช่นภูเขา ที่ราบ แม่น้ า
ต้นไม้ อากาศ และทะเล ความสัมพันธ์ของปรากฏการณ์ระหว่างโลก ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์
โดยใช้กระบวนการสืบค้น กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการแก้ปัญหา วิธีการทาง

ประวัติศาสตร์ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการทางภูมิศาสตร์ กระบวนการประชาธิปไตย
เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ เป็นพลเมืองดีของสังคม รู้ข่าวเหตุการณ์ส าคัญของชุมชน
ภาคภูมิใจในความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ อยู่ร่วมกันในสังคมอย่างเป็นสุข


มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ส๑.๑ ป.๒/๑,ป.๒/๒,ป.๒/๓,ป.๒/๔,ป.๒/๕,ป.๒/๖,ป.๒/๗
ส๑.๒ ป.๒/๑,ป.๒/๒

ส๒.๑ ป.๒/๑,ป.๒/๒,ป.๒/๓,ป.๒/๔,
ส๒.๒ ป.๒/๒,ป.๒/๒
ส๓.๑ ป.๒/๑,ป.๒/๒,ป.๒/๓,ป.๒/๔
ส๓.๒ ป.๒/๑,ป.๒/๒

ส๕.๑ ป.๒/๑,ป.๒/๒,ป.๒/๓
ส๕.๒ ป.๒/๑,ป.๒/๒,ป.๒/๓,ป.๒/๔,ป.๒/๑๕

รวม ๒๙ ตัวชี้วัด







หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐

ค าอธิบายรายวิชาพื้นฐาน


ส๑๒๑๐๒ ประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาวัฒนธรรม

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ เวลา ๔๐ ชั่วโมง

ศึกษา สืบค้น ช่วงเวลาในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต วันส าคัญ เหตุการณ์ส าคัญในอดีตและ

ปัจจุบัน เหตุการณ์ที่ผ่านมาที่เกิดขึ้นกับตนเองและครอบครัว ช่วงเวลาที่เกิดการล าดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดย
ใช้หลักฐานที่เกี่ยวข้องหรือการสอบถามผู้รู้ ศึกษาวิถีชีวิตของคนในชุมชนในเรื่องการประกอบอาชีพ การแต่ง
กาย การสื่อสาร ประเพณีกับการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ประเพณีวัฒนธรรมล้านนาสาเหตุ
การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนในชุมชน และผลกระทบของการเปลี่ยนแปลง
โดยใช้กระบวนการสืบค้น กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการแก้ปัญหา วิธีการทางประวัติศาสตร์

กระบวนการกลุ่ม
เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ในชาติไทย เหตุการณ์ส าคัญของชุมชน ภาคภูมิใจในความเป็นไทย
อยู่ร่วมกันในสังคมอย่างเป็นสุข


มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ส ๔.๑ ป.๒/๑,ป.๒/๒
ส ๔.๒ ป.๒/๒,ป.๒/๒
ส ๔.๓ ป.๒/๑,ป.๒/๒,ป.๒/๓


รวม ๗ ตัวชี้วัด





































หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนวัดราษฎร์นิยม (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐


Click to View FlipBook Version