The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรสถานศึกษา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by bandonyanang3, 2021-11-09 01:41:30

หลักสูตรสถานศึกษา

หลักสูตรสถานศึกษา

Keywords: ูหลักสูตรสถานศึกษา

๙๕

คำอธิบำยรำยวิชำพื้นฐำน

รำยวิชำศลิ ปะ รหัสวชิ ำ ศ๑๕๑๐๑ กลมุ่ สำระกำรเรียนรูศ้ ลิ ปะ

ช้ันประถมศกึ ษำปท่ี ๕ เวลำ ๘๐ ช่ัวโมง/ปี

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยาย อภิปราย บอก มีทักษะ สร้าง วาดภาพ ระบุ ท่อง เล่า เลียนแบบ แสดง จําแนก

เปรียบเทียบ เคาะ ร้องเพลง เก่ียวกับเก่ียวกับจังหวะ ตําแหน่งของ ส่ิงต่าง ๆ ท่ีปรากฏในสิ่งแวดล้อม และ

งานทัศนศิลป์ความแตกต่างระหว่างงานทัศนศิลป์ ท่ีสร้างสรรค์ด้วยวัสดุอุปกรณ์และวิธีการท่ีต่างกัน เทคนิค

ของแสงเงา น้ําหนัก และวรรณะสี การวาดภาพภูมิศาสตร์ของสถานที่ท่องเท่ียวและประเพณีวัฒนธรรม งาน

ปั้นจาก ดินนํ้ามันหรือดินเหนียวโดยเน้นการถ่ายทอดจินตนาการ งานพิมพ์ภาพ โดยเน้นการจัดวางตําแหน่ง

ของสิ่งต่าง ๆ ในภาพ ปัญหาในการจัดองค์ประกอบศิลป์ และการสื่อความหมายในงานทัศนศิลป์ของตนเอง

และบอกวิธีการปรับปรุงงานให้ดีข้ึน ประโยชน์และคุณค่าของงานทัศนศิลป์ท่ีมีผลต่อชีวิตของคน ในสังคม

เกี่ยวกับลักษณะรูปแบบของงานทัศนศิลป์ในแหล่งเรียนรู้หรือนิทรรศการศิลปะ งานทัศนศิลป์ท่ีสะท้อน

วฒั นธรรมและภมู ิปญั ญาในท้องถิ่น องค์ประกอบดนตรใี นเพลงที่ใช้ในการสอ่ื อารมณ์ ลักษณะของเสียงขับรอ้ ง

และเครอ่ื งดนตรีท่อี ยู่ในวงดนตรีประเภทต่าง ๆ โนต้ ดนตรีไทยและสากล ๕ ระดับเสียง เครื่องดนตรีทาํ จงั หวะ

และทํานอง เพลงไทยหรือเพลงสากล หรือเพลงไทยสากลที่เหมาะสมกับวัย ประโยคเพลงแบบถามตอบใช้

ดนตรีร่วมกับกิจกรรมในการแสดงออกตามจินตนาการความสัมพันธ์ระหว่างดนตรีกับประเพณีในวัฒนธรรม

ต่าง ๆ คุณค่าของดนตรีที่มาจากวัฒนธรรมที่ต่างกัน องค์ประกอบนาฏศิลป์ ท่าทางประกอบเพลงหรือ

เรื่องราวตามความคิดของตน แสดงนาฏศิลป์ โดยเน้นการใช้ภาษาท่าและนาฏยศัพท์ในการส่ือความหมายและ

การแสดงออกการรํารองเง็ง เลียนแบบการเคลอื่ นไหวของธรรมชาติ การเขยี นเค้าโครงเร่ืองหรือบทละครส้ัน

ๆ การแสดงนาฏศิลป์ชุดต่าง ๆประโยชน์ที่ได้รบั จากการชมการแสดง การแสดงประเภทต่าง ๆ ของไทย ในแต่

ละทอ้ งถ่นิ แสดงนาฏศิลป์ นาฏศลิ ปพ์ ืน้ บา้ น ที่สะท้อนถึงวฒั นธรรมและประเพณี

รู้ เข้าใจ เห็นคุณค่า ช่ืนชม เก่ียวกับจังหวะ ตําแหน่งของ สิ่งต่าง ๆ ที่ปรากฏในส่ิงแวดล้อม และงาน

ทัศนศิลป์ ความแตกต่างระหว่างงานทัศนศิลป์ ที่สร้างสรรค์ด้วยวัสดอุ ุปกรณ์และวิธีการทต่ี ่างกัน เทคนคิ ของ

แสงเงา นํ้าหนัก และวรรณะสี การวาดภาพภูมิศาสตร์ของสถานท่ีท่องเที่ยวและประเพณีวัฒนธรรม งานป้ัน

จาก ดินนา้ํ มันหรือดนิ เหนยี วโดยเน้นการถา่ ยทอดจินตนาการงานพิมพ์ภาพ โดยเน้นการจดั วางตําแหน่งของสิ่ง

ตา่ ง ๆ ในภาพ ปัญหาในการจดั องค์ประกอบศิลป์ และการส่อื ความหมายในงานทศั นศิลป์ของตนเอง และบอก

วิธีการปรับปรุงงานให้ดีข้ึน ประโยชน์และคุณค่าของงานทัศนศิลป์ที่มีผลต่อชีวิตของคนในสังคม เก่ียวกับ

ลักษณะรูปแบบของงานทัศนศิลป์ในแหล่งเรียนรู้หรือนิทรรศการศิลปะ งานทัศนศลิ ปท์ ่ีสะท้อนวัฒนธรรมและ

ภูมิปัญญาในท้องถิ่น องค์ประกอบดนตรีในเพลงท่ีใช้ในการส่ืออารมณ์ ลักษณะของเสียงขับร้องและเคร่ือง

ดนตรีที่อยู่ในวงดนตรีประเภทต่าง ๆ โน้ตดนตรีไทยและสากล ๕ ระดับเสียง เครื่องดนตรีทําจังหวะและ

ทาํ นอง เพลงไทยหรือเพลงสากล หรือเพลงไทยสากลที่เหมาะสมกับวยั ประโยคเพลงแบบถามตอบใช้ดนตรี

ร่วมกับกิจกรรมในการแสดงออกตามจินตนาการความสัมพันธ์ระหว่างดนตรีกับประเพณีในวัฒนธรรมต่าง ๆ

คุณค่าของดนตรีท่ีมาจากวัฒนธรรมที่ต่างกัน องค์ประกอบนาฏศิลป์ ท่าทางประกอบเพลงหรือเร่ืองราวตาม

ความคิดของตน แสดงนาฏศิลป์ โดยเน้นการใช้ภาษาท่าและนาฏยศัพท์ในการสื่อความหมายและการ

๙๖

แสดงออกการรํา เลยี นแบบการเคล่ือนไหวของธรรมชาติทมี่ ีในจงั หวัดอุบลราชธานี การเขียนเค้าโครงเร่ืองหรือ
บทละครส้ัน ๆ การแสดงนาฏศิลป์ชุดต่าง ๆ ประโยชน์ท่ีได้รับจากการชมการแสดง การแสดงประเภทต่าง ๆ
ของไทย ในแต่ละท้องถิ่น แสดงนาฏศิลป์ นาฏศิลป์พื้นบ้าน ท่ีสะท้อนถึงวัฒนธรรมและประเพณีรักและมุ่งมั่น
ในการทํางาน สามารถนําความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถ
นําไปประยกุ ต์ใชก้ บั ชวี ติ ประจําวันไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม

มำตรฐำนกำรเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวดั
ศ ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗
ศ ๑.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒
ศ ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗
ศ ๒.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒
ศ ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖
ศ ๓.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒

รวม ๖ มำตรฐำน ๒๖ ตัวชว้ี ัด

๙๗

คำอธิบำยรำยวิชำพื้นฐำน

รำยวิชำศลิ ปะ รหสั วิชำ ศ๑๖๑๐๑ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ศิลปะ

ชน้ั ประถมศกึ ษำปที่ ๖ เวลำ ๘๐ ชัว่ โมง/ปี

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยาย อภิปราย บอก มีทักษะ สร้าง อ่าน เขียน วาดภาพ ระบุ ท่อง เล่า เลียนแบบ แสดงจําแนก

เปรียบเทียบ เคาะ ร้องเพลง เกี่ยวกับ สีคู่ตรงข้าม และอภิปรายเกี่ยวกับการใช้ สีคู่ตรงข้าม ในการถ่ายทอด

ความคิดและอารมณ์ หลกั การจัดขนาดสัดส่วนความสมดุลในการสรา้ งงานทัศนศิลป์ งานทัศนศิลป์จากรูปแบบ

๒ มิติ เป็น ๓ มิติ โดยใช้หลักการของแสงเงาและนํ้าหนักงานป้ันโดยใช้หลักการเพ่ิมและลด ปั้นแผนผังของ

โรงเรียน งานทัศนศิลป์ โดยใช้หลักการของรูปและพ้ืนที่ว่างใช้สีคู่ตรงข้ามหลักการจัดขนาดสัดส่วน และความ

สมดุล วาดภาพสถาปัตยกรรม ทัศนศิลป์เป็นแผนภาพ แผนผัง และภาพประกอบ เพ่ือถ่ายทอดความคิด หรือ

เร่ืองราวเก่ียวกับเหตุการณ์ต่าง ๆ บทบาทของงานทัศนศิลป์ที่สะท้อนชีวิตและสังคม เกี่ยวกับอิทธิพลของ

ความเชื่อความศรัทธาในศาสนาที่มีผลต่องานทัศนศิลป์ในท้องถ่ิน อิทธิพลทางวัฒนธรรมในท้องถ่ินท่ีมีผลต่อ

การสร้างงานทัศนศิลป์ของบุคคล เพลงที่ฟัง โดยอาศัยองค์ประกอบดนตรี และศัพท์สังคีต ประเภทและ

บทบาทหน้าท่ีเครื่องดนตรีไทยและเครื่องดนตรีที่มาจากวัฒนธรรมต่าง ๆ โน้ตไทย และโน้ตสากลทํานองง่าย

ๆ ใช้เคร่ืองดนตรีบรรเลงประกอบการร้องเพลงด้นสดท่ีมีจังหวะและทํานองง่าย ๆ ความรู้สึกที่มีต่อดนตรี

ทํานอง จังหวะ การประสานเสียง และคุณภาพเสียงของเพลงท่ีฟัง เรื่องราวของดนตรีไทยในประวัติศาสตร์

ดนตรีท่ีมาจากยุคสมัยที่ต่างกัน อิทธิพลของวัฒนธรรมต่อดนตรีในท้องถ่ิน การเคลื่อนไหวและการแสดงโดย

เน้นการถ่ายทอดลีลาหรืออารมณ์ เคร่ืองแต่งกาย หรืออุปกรณ์ประกอบการ แสดงนาฏศิลป์และการละคร

อย่างง่าย ๆ ความรู้สึกของตนเองท่ีมตี ่องานนาฏศิลป์และการละครอย่างสรา้ งสรรค์ การแสดงความคิดเห็นใน

การชมการแสดงความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์และการละครกับส่ิงท่ีประสบในชีวิตประจําวันส่ิงท่ีมี

ความสําคัญต่อการแสดงนาฏศิลป์และละคร ประโยชน์ท่ีได้รับจากการแสดงหรือการชมการแสดงนาฏศิลป์

และละคร

รู้ เข้าใจ เห็นคุณค่า ชื่นชม เกี่ยวกับสีคู่ตรงข้าม และอภิปรายเกี่ยวกับการใช้ สีคู่ตรงข้าม ในการ

ถ่ายทอดความคิดและอารมณ์ หลักการจัดขนาดสัดส่วนความสมดุลในการสร้างงานทัศนศิลป์ งานทัศนศิลป์

จากรูปแบบ ๒ มิติ เป็น ๓ มิติ โดยใช้หลักการของแสงเงาและนํ้าหนักงานป้ันโดยใช้หลักการเพิ่มและลด ป้ัน

แผนผังของโรงเรียน งานทัศนศิลป์ โดยใช้หลักการของรูปและพื้นท่ีว่างใช้สีคู่ตรงข้ามหลักการจัดขนาดสัดส่วน

และความสมดุล วาดภาพสถาปัตยกรรม ทัศนศิลป์เป็นแผนภาพ แผนผัง และภาพประกอบ เพ่ือถ่ายทอด

ความคิด หรือเร่ืองราวเก่ียวกับเหตุการณ์ต่าง ๆ บทบาทของงานทัศนศิลป์ที่สะท้อนชวี ิตและสังคม เก่ียวกับ

อิทธิพลของความเชอื่ ความศรัทธาในศาสนาท่มี ีผลต่องานทศั นศลิ ป์ในท้องถิ่น อิทธิพลทางวฒั นธรรมในท้องถิ่น

ทมี่ ีผลต่อการสร้างงานทัศนศิลป์ของบุคคล เพลงท่ีฟงั โดยอาศยั องคป์ ระกอบดนตรี และศัพท์สังคีต ประเภท

และบทบาทหน้าที่เครื่องดนตรีไทยและเครื่องดนตรีท่ีมาจากวัฒนธรรมต่าง ๆ โน้ตไทย และโน้ตสากลทํานอง

งา่ ย ๆ ใช้เคร่ืองดนตรีบรรเลงประกอบการร้องเพลงด้นสดท่ีมีจังหวะและทํานองงา่ ย ๆ ความรู้สกึ ที่มีต่อดนตรี

ทํานอง จังหวะ การประสานเสียง และคุณภาพเสียงของเพลงท่ีฟัง เรื่องราวของดนตรีไทยในประวัติศาสตร์

ดนตรีที่มาจากยุคสมัยท่ีต่างกัน อิทธิพลของวัฒนธรรมต่อดนตรีในท้องถิ่น การเคลื่อนไหวและการแสดงโดย

๙๘

เน้นการถ่ายทอดลีลาหรืออารมณ์ เคร่ืองแต่งกาย หรืออุปกรณ์ประกอบการ แสดงนาฏศิลป์และการละคร
อย่างง่าย ๆ ความรู้สึกของตนเองที่มีต่องานนาฏศิลป์และการละครอย่างสร้างสรรค์ การแสดงความคิดเห็นใน
การชมการแสดงความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์และการละครกับสิ่งที่ประสบในชีวิตประจําวันส่ิงท่ีมี
ความสําคัญต่อการแสดงนาฏศิลป์และละคร ประโยชน์ที่ได้รับจากการแสดงหรือการชมการแสดงนาฏศิลป์
และละคร รักและมุ่งมัน่ ในการทาํ งาน สามารถนําความรู้ไปใชใ้ ห้เกิดประโยชนโ์ ดยใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียงและสามารถนาํ ไปประยุกต์ใชก้ บั ชีวิตประจําวนั ได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม

มำตรฐำนกำรเรยี นรู/้ ตวั ชี้วัด
ศ ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗
ศ ๑.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓
ศ ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖
ศ ๒.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓
ศ ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖
ศ ๓.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒

รวม ๖ มำตรฐำน ๒๗ ตัวชี้วดั

๙๙

รายวิชาพ้ืนฐานระดับประถมศกึ ษา
กลุ่มสาระการเรยี นร้กู ารงานอาชีพ

รำยวชิ ำพนื้ ฐำน การงานอาชีพ จาํ นวน ๔๐ ชั่วโมง
ง๑๑๑๐๑ การงานอาชีพ จาํ นวน ๔๐ ชั่วโมง
ง๑๒๑๐๑ การงานอาชพี จาํ นวน ๔๐ ช่ัวโมง
ง๑๓๑๐๑ การงานอาชีพ จํานวน ๔๐ ชว่ั โมง
ง๑๔๑๐๑ การงานอาชีพ จาํ นวน ๔๐ ชั่วโมง
ง๑๕๑๐๑
การงานอาชพี จํานวน ๔๐ ช่ัวโมง
ง๑๖๑๐๑

๑๐๐

คำอธิบำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน

ง ๑๑๑๐๑ กำรงำนอำชีพ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรกู้ ำรงำนอำชพี
ชนั้ ประถมศกึ ษำปีที่ ๑ เวลำ ๔๐ ชั่วโมง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศึกษาวิธกี ารทํางานเพอื่ ชว่ ยเหลอื ตนเองในเรือ่ งการแต่งกาย การเกบ็ ของใช้ การหยบิ จับและใชช้ อง

ใชส้ ่วนตัว การจดั โตะ๊ ตู้ ชน้ั รู้จกั ใช้วัสดอุ ุปกรณเ์ ครื่องมอื งา่ ยๆ ในการทํางานอย่างปลอดภยั เช่น การทาํ

ความคนุ้ เคยกับการใชเ้ ครื่องมอื การรดน้ําตน้ ไม้ การถอนและเก็บวชั พืช การพับกระดาษเป็นของเลน่

ศึกษาขอ้ มลู สิ่งทสี่ นใจเกยี่ วกับบคุ คล สัตว์ สง่ิ ของ เรือ่ งราวและเหตกุ ารณ์ตา่ งๆ ศึกษาแหล่งข้อมูลที่อยู่

ใกลต้ วั เชน่ บ้าน หอ้ งสมุด ผู้ปกครอง ครู หนงั สือพมิ พ์ รายการโทรทัศน์ เปน็ ต้น

โดยฝึกทักษะวิธีการชว่ ยเหลือตนเองและทกั ษะกระบวนการทํางานร่วมกนั ฝึกใช้วสั ดุอุปกรณ์และ

เครอื่ งมอื ตา่ งๆในการทาํ งานอยา่ งปลอดภัย บอกขอ้ มูลของสิ่งที่สนใจและแหล่งข้อมูลทอ่ี ยใู่ กล้ตวั

มีความกระตือรอื รน้ และ ความตรงต่อเวลาเปน็ ลักษณะนสิ ยั ในการทาํ งาน

มำตรฐำนกำรเรียนรู้ /ตวั ชี้วัด
ง ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓

รวม ๑ มำตรฐำน ๓ ตัวชี้วัด

๑๐๑

คำอธิบำยรำยวิชำพื้นฐำน

ง ๑๒๑๐๑ กำรงำนอำชีพ กลุ่มสำระกำรเรยี นรกู้ ำรงำนอำชีพ
ชน้ั ประถมศึกษำปีท่ี ๒ เวลำ ๔๐ ชัว่ โมง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บอกวิธีการทํางานและประโยชน์ของการทํางานเพื่อช่วยเหลือตนเองและครอบครัวในแต่ละสัปดาห์
เลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเคร่ืองมือท่ีเหมาะสมกับงานและประหยัด นําความรู้เรื่องการทํางานเพ่ือช่วยเหลือ
ตนเองและครอบครัวไปใชไ้ ด้อยา่ งปลอดภยั

โดยใชท้ ักษะกระบวนการทํางาน ทกั ษะการจัดการ ทักษะกระบวนการแกป้ ญั หา
ทกั ษะการทํางานร่วมกนั และทกั ษะการแสวงหาความรู้ มคี ุณธรรม และลกั ษณะนสิ ยั ในการทาํ งาน
มีจิตสาํ นึกในการใชพ้ ลังงาน ทรัพยากร และส่งิ แวดลอ้ ม เพอ่ื การดาํ รงชวี ติ และครอบครัว

เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ใฝ่เรียนรู้ มีวินัย ส่ือสัตย์สุจริต มีความคิดสร้างสรรค์ ความรับผิดชอบ
ขยัน อดทน อยู่อย่างพอเพียง มีมารยาท มุ่งม่ันในการทํางาน และทํางานอย่างมีประสิทธิภาพ เห็นคุณค่าการ
นําความรู้ไปใช้ในชวี ติ ประจําวัน และมเี จตคติที่ดีต่อวชิ าการงานอาชพี

รหัสตัวช้ีวัด
ง ๑.๑ ป. ๒/๑ , ป. ๒/๒ , ป. ๒/๓

รวมทั้งหมด ๓ ตัวชี้วัด

๑๐๒

คำอธิบำยรำยวชิ ำพ้ืนฐำน

ง ๑๓๑๐๑ กำรงำนอำชีพ กลุ่มสำระกำรเรียนรกู้ ำรงำนอำชีพ
ช้นั ประถมศึกษำปีท่ี ๓ เวลำ ๔๐ ชั่วโมง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศกึ ษาความสาํ คัญของการทํางานเพ่ือชว่ ยเหลือตนเอง ครอบครัว และสว่ นรวมกระบวนการทํางาน

เพือ่ ช่วยเหลือ การจดั เตรียมอปุ กรณ์การเรียน และการทําความสะอาดกระเป๋านักเรียนตนเอง ครอบครัว

และสว่ นรวมการทาํ ความสะอาดรองเท้านกั เรียน การปัด กวาด เชด็ ถู บา้ นเรอื นการกรอกนํ้าใส่ขวด การทาํ

ความสะอาดหอ้ งเรียน การเลือกใช้เส้อื ผา้ ความหมาย ประโยชน์ของการซอ่ มแซมเสือ้ ผา้ และวสั ดุอุปกรณ์

ทใี่ ชใ้ นการซ่อมแซมเส้ือผา้ อย่างง่าย การเนาผ้า การปลูกผกั สวนครัว การดูแลรักษาผักสวนครัวและประโยชน์

ของการปลูกผักสวนครัว ของเล่นและของใช้สว่ นตัว การประดษิ ฐข์ องใช้ในโอกาสตา่ งๆโดยใช้วัสดใุ นท้องถ่นิ

หลกั การเลือกใช้สิ่งของเครื่องใชใ้ นชวี ิตประจาํ วันอย่างสรา้ งสรรค์ การจดั การสิง่ ของเคร่ืองใชด้ ้วยการนํา

กลับมาใช้ซา้ํ ประโยชน์ของการนําส่ิงของเครื่องใช้กลบั มาใชซ้ าํ้

สามารถบอกอาชพี หลักในทอ้ งถิ่นของกลุม่ ประเทศอาเซีย ทําให้เกิดความคดิ ริเริ่มสรา้ งสรรคใ์ นการ

ทาํ งาน ดแู ลรกั ษาส่ิงแวดล้อมในท้องถ่ินของตนเองและดาํ รงชีวติ อย่ใู นสงั คมอย่างมคี วามสุข

เพื่อใหเ้ ห็นคุณคา่ ของการนําความรู้ไปใช้ในชวี ิตประจําวัน มคี ณุ ธรรม มีจติ สาํ นกึ มีค่านยิ ม

ที่เหมาะสมต่อชวี ิตและสงิ่ แวดลอ้ ม เพ่ือการดํารงชีวติ และครอบครวั ของตนเอง

มำตรฐำนกำรเรียนรู้ /ตวั ชีว้ ัด
ง ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓

รวม ๑ มำตรฐำน ๓ ตวั ชวี้ ัด

๑๐๓

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพนื้ ฐำน

ง ๑๔๑๐๑ กำรงำนอำชีพ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชพี
ชนั้ ประถมศึกษำปีที่ ๔ เวลำ ๔๐ ชั่วโมง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศึกษาวิธีการทํางานให้บรรลุตามเป้าหมายเป็นการทํางานตามลําดับ อย่างเป็น ขั้นตอนตาม

กระบวนการทํางาน ในเรื่องการดูแลรักษาของใช้ส่วนตัว การจัดตู้เสื้อผ้า โต๊ะเขียนหนังสือ และกระเป๋า

นักเรียน การปลูกไม้ดอกหรือไม้ประดับประจําชาติอาเซียน การซ่อมแซมอุปกรณ์เครื่องมือและเคร่ืองใช้

การประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากใบตองและกระดาษ การจัดเกบ็ เอกสารส่วนตัว มารยาทในการปฏบิ ัติตน

เช่น การต้อนรับบิดามารดาหรือผู้ปกครองในโอกาสต่างๆ การรับประทานอาหาร การใช้ห้องเรียน ห้องน้ํา

และหอ้ งส้วม การใชพ้ ลังงานและทรพั ยากรอยา่ งประหยัดและคมุ้ ค่า

โดยอธบิ ายเหตุผลในการทํางานให้บรรลเุ ป้าหมาย บอกคุณธรรมในการทํางานได้ปฏบิ ตั ติ น

อย่างมีมารยาทในโอกาสต่างๆ ใช้พลังงานและทรัพยากรในการทํางานอย่างประหยัดและคุ้มค่า ความสําคัญ

ของอาชพี

เพื่อใหน้ ักเรยี นมวี นิ ัย มีความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ มนี ิสยั ใฝเ่ รียนรู้ ม่งุ มัน่ ในการทาํ งานและอยอู่ ย่างพอเพียง

มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ /ตัวชี้วัด
ง ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔ /๔
ง ๒.๑ ป.๔/๑

รวม ๒ มำตรฐำน ๕ ตัวชีว้ ัด

๑๐๔

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพื้นฐำน

ง ๑๕๑๐๑ กำรงำนอำชีพ กลุ่มสำระกำรเรียนรกู้ ำรงำนอำชพี
ชน้ั ประถมศึกษำปที ี่ ๕ เวลำ ๔๐ ช่วั โมง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศึกษาขนั้ ตอนการทาํ งานตามลาํ ดบั ขั้นตอน ซ่งึ เปน็ ส่วนหน่ึงของการปฏิบตั ิงานตามกระบวนการ ในเรื่องการ

ซอ่ มแซม ซัก ตาก เก็บ รดี และพับเส้ือผ้า การแตง่ กายของแต่ละชาตใิ นกลุ่มอาเซียน การปลูกพืช การทาํ บัญชี

ครัวเรือน จัดการระบบงานและระบบคนเพื่อให้ทํางานสําเร็จตามเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพในเรื่องการจัดโต๊ะ

อาหาร ตู้เย็น ห้องครัว การทําความสะอาดห้องนํ้าห้องส้วม การซ่อมแซมอุปกรณ์ของใช้ภายในบ้าน การประดิษฐ์

ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุเหลือใช้ที่มีอยู่ในท้องถิ่น การจัดเอกสารสําคัญ การดูแลรักษาและชองใช้ส่วนตัว

มารยาทในการทํางานกับสมาชิกในครอบครัว ศึกษาอาชีพต่างๆในชุมชน เช่น ค้าขาย เกษตรกรรม รับจ้าง

ข้าราชการ พนักงานของรัฐ และอาชีพอิสระ ศึกษาความแตกต่างของอาชีพในเร่ือง รายได้ ลักษณะงาน ประเภท

กิจการ การทาํ งานไมเ่ ป็นเวลา การยอมรับนบั ถือจากสังคม ตลอดจนความเสี่ยงตอ่ ชีวิต

เพื่อให้เห็นคุณค่าของการนําความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจําวัน มีจิตสํานึกในการใช้พลังงาน

ทรัพยากรอย่างประหยัดและคุ้มค่ามีการแปรรูปและนํากลับมาใช้ใหม่ เลือกใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ต่อชีวิตและ

สังคม

มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ /ตวั ช้ีวัด
ง ๑.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓ , ป.๕ /๔
ง ๒.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒

รวม ๒ มำตรฐำน ๖ ตัวชวี้ ัด

๑๐๕

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพ้ืนฐำน

ง ๑๖๑๐๑ กำรงำนอำชีพ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพ
ช้นั ประถมศกึ ษำปที ี่ ๖ เวลำ ๔๐ ชวั่ โมง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศึกษาแนวทางในการทํางานและปรับปรุงงานการทํางานแต่ละข้ันตอนตามลําดับที่วางแผนไว้ คือ ก่อนการ

ทํางาน ขณะทํางานและเม่ือทํางานเสร็จแล้ว ในเรื่องการดูแลรักษาของใช้ภายในบ้าน การปลูกไม้ดอกหรือไม้ประดับ

หรือปลูกผกั หรือเล้ียงปลาสวยงาม การบันทกึ รายรับ-รายจ่าย การจดั เก็บเอกสารการเงนิ การจัดการในการทาํ งาน

ในเรอื่ งการเตรยี มประกอบจดั อาหาร และอาหารประชาติของของสมาชิกกลุม่ อาเซยี น การตดิ ตงั้ ประกอบ

ของใชใ้ นบา้ น การประดษิ ฐข์ องใช้ของตกแต่งใหส้ มาชกิ ในครอบครวั หรือเพือ่ นๆ ในโอกาส

เพื่อมีมารยาทในการทํางานกับครอบครัว ส่วนรวม ทํางานในชวี ติ ประจาํ วนั อยา่ งมจี ิตสํานกึ รบั ผิดชอบ และ

มคี ณุ ธรรมการประกอบอาชีพ

มำตรฐำนกำรเรียนรู/้ ตัวชีว้ ดั
ง ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓
ง ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒

รวม ๒ มำตรฐำน ๖ ตวั ช้ีวดั

๑๐๖

รายวิชาพนื้ ฐานระดบั ประถมศกึ ษา

กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ
: ภาษาอังกฤษ

รำยวชิ ำพ้นื ฐำน ภาษาตา่ งประเทศ จํานวน ๑๖๐ ช่วั โมง
อ๑๑๑๐๑ ภาษาตา่ งประเทศ จาํ นวน ๑๖๐ ชวั่ โมง
อ๑๒๑๐๑ ภาษาตา่ งประเทศ จาํ นวน ๑๖๐ ช่ัวโมง
อ๑๓๑๐๑ ภาษาต่างประเทศ จาํ นวน ๘๐ ช่ัวโมง
อ๑๔๑๐๑ ภาษาต่างประเทศ จํานวน ๘๐ ชั่วโมง
อ๑๕๑๐๑
ภาษาต่างประเทศ จํานวน ๘๐ ชัว่ โมง
อ๑๖๑๐๑

๑๐๗

คำอธิบำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน

อ๑๑๑๐๑ ภำษำองั กฤษ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำต่ำงประเทศ
ชั้นประถมศกึ ษำปีท่ี ๑ เวลำ ๑๖๐ ชัว่ โมง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ฝึกอ่านออกเสียง ตัวอักษร สระ และคํา สะกดคาง่าย ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน เลือกภาพและบอก

ความหมายของคา กลุ่มคํา บทอ่านท่ีเก่ียวกับเรื่องใกล้ตัว อาหาร เคร่ืองด่ืม นันทนาการ และนิทานท่ีมี

ภาพประกอบ ภายในวงคาศัพท์ ประมาณ ๑๕๐-๒๐๐ คํา พูดโต้ตอบโดยใช้คําส้ัน ๆ บทสนทนางา่ ย ๆ ใช้และ

ปฏิบัติตามคําสั่งง่าย ๆ บอกความต้องการ พูดขอให้ข้อมูลเก่ียวกับตนเอง และตอบคําถามจากการฟังเร่ืองใกล้

ตวั

ฝึกพูดและทําท่าทางประกอบตามวัฒนธรรม บอกช่ือคําศัพท์เก่ียวกับเทศกาล เข้าร่วมกิจกรรมทาง

ภาษาและวัฒนธรรม ทีเ่ หมาะสมกบั วยั ระบตุ วั อักษรและเสียงตวั อักษรของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย

บอกคําศัพท์ท่ีเก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ฟังและพูดในสถานการณ์ง่าย ๆ ที่เกิดขึ้น ใช้

ภาษาต่างประเทศเพื่อรวบรวมคาศพั ท์ที่เก่ยี วขอ้ งใกลต้ ัว

โดยใช้กระบวนการทักษะสัมพันธ์ทางภาษา การฟัง พูด อ่าน เขียน เพื่อให้เกิดความรู้ และทักษะ

สามารถนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจําวันตามวัฒนธรรมที่เหมาะสมกับวัยโดยการนําหลักปรัชญาของ

เศรษฐกิจพอเพยี งเข้ามา มีส่วนร่วมในการปฏบิ ตั ิ

รหสั /ตวั ช้ีวดั
อ ๑.๑ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ป.๑/๓ ป.๑/๔
อ ๑.๒ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ป.๑/๓ ป.๑/๔
อ ๑.๓ ป.๑/๑
อ ๒.๑ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ป.๑/๓
อ ๒.๒ ป.๑/๑
อ ๓.๑ ป.๑/๑
อ ๔.๑ ป.๑/๑
อ ๔.๑ ป.๑/๑

รวมท้ังหมด ๑๖ ตัวชวี้ ดั

๑๐๘

คำอธิบำยรำยวชิ ำพื้นฐำน

อ๑๒๑๐๑ ภำษำอังกฤษ กลมุ่ สำระกำรเรียนรูภ้ ำษำตำ่ งประเทศ
ชนั้ ประถมศกึ ษำปที ี่ ๒ เวลำ ๑๖๐ ช่วั โมง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ฝึกอ่านออกเสียง ตัวอักษร สระ และคา สะกดคํา และประโยคง่าย ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน เลือก

ภาพและบอกความหมายของคา กลุ่มคาและประโยคท่ีฟัง บทอ่านท่ีเก่ียวกับเร่ืองตนเองครอบครัวโรงเรียน

สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว อาหาร เครื่องด่ืม นันทนาการ และนิทานท่ีมีภาพประกอบ ภายในวงคําศัพท์ ประมาณ

๒๕๐-๓๐๐ คํา พูดโต้ตอบโดยใช้คาส้ันๆ บทสนทนาง่าย ๆ ใช้และปฏิบัติตามคําส่ังง่าย ๆ บอกความต้องการ

พดู ขอใหข้ อ้ มูลเกีย่ วกับตนเอง และตอบคาถามจากการฟังประโยคบทสนทนาหรอื นิทานง่ายๆท่ีมีภาพประกอบ

ฝึกพูดและทาท่าทางประกอบตามวัฒนธรรม บอกชื่อคําศัพท์เก่ียวกับเทศกาล เข้าร่วมกิจกรรมทาง

ภาษาและวัฒนธรรม ทีเ่ หมาะสมกับวยั ระบตุ ัวอกั ษรและเสียงตวั อักษรของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย

บอกคําศัพท์ที่เก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน ฟังและพูดในสถานการณ์ง่าย ๆ ที่เกิดขึ้น ใช้

ภาษาต่างประเทศเพื่อรวบรวมคําศัพทท์ ี่เกย่ี วขอ้ งใกล้ตัว

โดยใช้กระบวนการทักษะสัมพันธ์ทางภาษา การฟัง พูด อ่าน เขียน เพ่ือให้เกิดความรู้ และทักษะ

สามารถนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจําวันตามวัฒนธรรมท่ีเหมาะสมกับวัยโดยการนําหลักปรัชญาของ

เศรษฐกิจพอเพยี งเข้ามา มีส่วนร่วมในการปฏิบตั ิ

รหัส/ตัวช้ีวดั
อ ๑.๑ ป.๒/๑ ป.๒/๒ ป.๒/๓ ป.๒/๔
อ ๑.๒ ป.๒/๑ ป.๒/๒ ป.๒/๓ ป.๒/๔
อ ๑.๓ ป.๒/๑
อ ๒.๑ ป.๒/๑ ป.๒/๒ ป.๑/๓
อ ๒.๒ ป.๒/๑
อ ๓.๑ ป.๒/๑
อ ๔.๑ ป.๒/๑
อ ๔.๒ ป.๒/๑

รวมท้ังหมด ๑๖ ตัวช้วี ดั

๑๐๙

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพ้ืนฐำน

อ๑๓๑๐๑ ภำษำอังกฤษ กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำตำ่ งประเทศ
ช้ันประถมศกึ ษำปที ่ี ๓ เวลำ ๑๖๐ ช่วั โมง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ฝึกอ่านออกเสียง ตัวอักษร สระ และคํา สะกดคํา และประโยคง่าย ๆ บทพูดเข้าจังหวะ ถูกต้องตาม

หลกั การอา่ น เลือกภาพหรือสัญลักษณแ์ ละบอกความหมาย ความแตกตา่ งของคํา กลมุ่ คําและประโยคท่ีฟัง บท

อา่ นท่ีเกยี่ วกับเรื่อง ตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว อาหาร เครื่องด่ืม นันทนาการ และนทิ านท่ี

มภี าพประกอบ ภายในวงคาศัพท์ ประมาณ ๓๕๐-๔๕๐ คํา พูดโต้ตอบโดยใชค้ ําส้ันๆ บทสนทนาง่าย ๆ ใช้และ

ปฏิบัติตามคําส่ังง่าย ๆ บอกความต้องการ พูด บอกความรู้สึก เกี่ยวกับสิ่งต่างๆ และให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง

และตอบคําถามจากการฟังประโยคบทสนทนาหรือนิทานง่ายๆ จัดหมวดหมู่คาตามประเภทของบุคคล สัตว์

และสงิ่ ของ

ฝึกพูดและทาท่าทางประกอบตามวัฒนธรรม บอกชื่อคาศัพท์เกี่ยวกับเทศกาล วันสําคัญ งานฉลอง

และชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าของภาษา เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมที่เหมาะสมกับวัย ของ

ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

บอกคําศัพท์ท่ีเกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ฟังและพูดในสถานการณ์ง่าย ๆ ท่ีเกิดขึ้น ใช้

ภาษาตา่ งประเทศเพ่ือรวบรวมคาศัพทท์ เ่ี กี่ยวขอ้ งใกล้ตวั

โดยใช้กระบวนการทักษะสัมพันธ์ทางภาษา การฟัง พูด อ่าน เขียน เพื่อให้เกิดความรู้ และทักษะ

สามารถนําไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจําวันตามวัฒนธรรมท่ีเหมาะสมกับวัยโดยการนําหลักปรัชญาของ

เศรษฐกิจพอเพียงเข้ามา มีสว่ นรว่ มในการปฏบิ ตั ิ

รหัส/ตวั ช้ีวดั
อ ๑.๑ ป.๓/๑ ป.๓/๒ ป.๓/๓ ป.๓/๔
อ ๑.๒ ป.๓/๑ ป.๓/๒ ป.๓/๓ ป.๓/๔
อ ๑.๓ ป.๓/๑ ป.๓/๒
อ ๒.๑ ป.๓/๑ ป.๓/๒ ป.๓/๓
อ ๒.๒ ป.๓/๑
อ ๓.๑ ป.๓/๑
อ ๓.๒ ป.๓/๑
อ ๔.๑ ป.๓/๑
อ ๔.๒ ป.๓/๑

รวมทั้งหมด ๑๘ ตัวชวี้ ัด

๑๑๐

คำอธิบำยรำยวชิ ำพนื้ ฐำน

อ๑๔๑๐๑ ภำษำอังกฤษ กล่มุ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำต่ำงประเทศ
ชน้ั ประถมศึกษำปีที่ ๔ เวลำ ๘๐ ชวั่ โมง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ฝึกอ่านออกเสียง ตัวอักษร สระ และคํา สะกดคํา และประโยคง่ายๆ บทพูดเข้าจังหวะ ถูกต้องตาม

หลักการอา่ น เลอื กภาพหรอื สัญลกั ษณแ์ ละบอกความหมายของคํา กลุ่มคําและประโยคท่ฟี ัง บทอา่ นทเ่ี กี่ยวกับ

เรื่อง ตนเอง ครอบครวั โรงเรียน สิ่งแวดลอ้ มใกล้ตัว อาหาร เคร่ืองดื่ม นันทนาการ และนทิ านท่มี ภี าพประกอบ

ภายในวงคําศัพท์ ประมาณ ๔๕๐-๗๐๐ คํา พูดโต้ตอบโดยใช้คําสั้น ๆ บทสนทนาง่าย ๆ ใช้และปฏิบัติตาม

คาํ ส่ัง คําขอร้อง คาํ แนะนา และคําขออนุญาตง่าย ๆ บอกความต้องการ พูดแสดงความคิดเห็น และเขียน เพื่อ

ขอ และให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองเพื่อนและครอบครัว และตอบคาถามจากการฟัง อ่านประโยคบทสนทนาหรือ

นิทานงา่ ย ๆ วาดภาพแสดงความสมั พนั ธต์ อ่ สง่ิ ตา่ ง ๆ ใกล้ตัว

ฝึกพูดและทาท่าทางประกอบตามวัฒนธรรม ตอบคําถามบอกความเหมือนความแตกต่างเก่ียวกับ

เทศกาล วันสําคัญงานฉลองและชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าของภาษา เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม

ที่เหมาะสมกับวัย และบอกความแตกต่างของเสียงตัวอักษร คํา กลุ่มคําประโยคและข้อความของ

ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย

ค้นคว้ารวบรวมคําศพั ท์ท่ีเกยี่ วข้องกับกลุม่ สาระการเรียนรู้อ่ืน นาเสนอดว้ ยการพดู การเขยี น

ฟังและพูดในห้องเรยี นและสถานศกึ ษาใช้ภาษาต่างประเทศในการ สืบคน้ และรวบรวมข้อมลู ตา่ ง ๆ

โดยใช้กระบวนการทักษะสัมพันธ์ทางภาษา การฟัง พูด อ่าน เขียน เพ่ือให้เกิดความรู้ และทักษะ

สามารถนําไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจําวันตามวัฒนธรรมที่เหมาะสมกับวัยโดยการนําหลักปรัชญาของ

เศรษฐกจิ พอเพียงเขา้ มา มีส่วนรว่ มในการปฏบิ ตั ิ

รหัส/ตวั ชี้วัด
อ ๑.๑ ป.๔/๑ ป.๔/๒ ป.๔/๓ ป.๔/๔
อ ๑.๒ ป.๔/๑ ป.๔/๒ ป.๔/๓ ป.๔/๔ ป.๔/๕
อ ๑.๓ ป.๔/๑ ป.๔/๒ ป.๔/๓
อ ๒.๑ ป.๔/๑ ป.๔/๒ ป.๔/๓
อ ๒.๒ ป.๔/๑ ป.๔/๒
อ ๓.๑ ป.๔/๑
อ ๔.๑ ป.๔/๑
อ ๔.๒ ป.๔/๑

รวมท้ังหมด ๒๐ ตัวชวี้ ดั

๑๑๑

คำอธิบำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน

อ๑๕๑๐๑ ภำษำอังกฤษ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ
ช้นั ประถมศึกษำปที ี่ ๕ เวลำ ๘๐ ชัว่ โมง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

อ่านออกเสียง ประโยค ข้อความ และบทกลอนส้ันๆ ถกู ตอ้ งตามหลักการอ่าน วาดภาพหรอื สัญลักษณ์

และบอกความหมายท่ีอ่าน บทอ่านท่ีเก่ียวกับเร่ืองตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิ่งแวดล้อม อาหาร เคร่ืองด่ืม

เวลาว่าง นันทนาการ สุขภาพและสวัสดกิ าร การซอื้ ขาย ลมฟ้าอากาศ ภายในวงคําศัพท์ ประมาณ ๗๕๐-๙๕๐

คํา พูดโต้ตอบโดยใช้คําสั้น ๆ บทสนทนาง่าย ๆ ใช้และปฏิบัติตามคําสั่ง คําขอร้อง คําแนะนา และคําขอ

อนุญาตง่าย ๆ พูดเขียนแสดงความต้องการ ขอความช่วยเหลือ ตอบรับและ ปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือใน

สถานการณ์ง่าย ๆ เพื่อขอ และให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง และเขียนภาพแผนผังและแผนภูมิ แสดงข้อมูลต่าง ๆ

ตามท่ฟี ังหรืออ่าน แสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกับเรื่องตา่ ง ๆ ใกลต้ วั

ฝึกพูดและทาท่าทางประกอบตามวัฒนธรรม ตอบคําถามบอกความเหมือนความแตกต่างเกี่ยวกับ

เทศกาล วันสําคัญงานฉลองและชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าของภาษา เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม

ที่เหมาะสมกับวัย และบอกความแตกต่างของเสียงประโยค ชนิดต่าง ๆ การใช้เครื่องหมาย วรรคตอนและลา

ดับคาํ และข้อความของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย

ค้นควา้ รวบรวมคําศัพท์ที่เกยี่ วข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น นาเสนอด้วยการฟัง พูด อ่านและเขียน

ในสถานการณ์ท่ีเกิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศึกษา ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้นและรวบรวมข้อมูลต่าง

ๆ โดยใช้กระบวนการทักษะสัมพันธ์ทางภาษา การฟัง พูด อ่าน เขียน เพ่ือให้เกิดความรู้ และทักษะ สามารถ

นําไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจําวันตามวัฒนธรรมท่ีเหมาะสมกับวัยโดยการนําหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ

พอเพยี งเข้ามา มสี ่วนร่วมในการปฏิบตั ิ

รหสั /ตัวชี้วดั
อ ๑.๑ ป.๕๑ ป.๕/๒ ป.๕/๓ ป.๕/๔
อ ๑.๒ ป.๕๑ ป.๕/๒ ป.๕/๓ ป.๕/๔ ป.๕/๕
อ ๑.๓ ป.๕๑ ป.๕/๒ ป.๕/๓
อ ๒.๑ ป.๕๑ ป.๕/๒ ป.๕/๓
อ ๒.๒ ป.๕/๑ ป.๕/๒
อ ๓.๑ ป.๕/๑
อ ๔.๑ ป.๕/๑
อ ๔.๒ ป.๕๑

รวมท้ังหมด ๒๐ ตัวช้ีวัด

๑๑๒

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

อ๑๖๑๐๑ ภำษำอังกฤษ กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำตำ่ งประเทศ
ชัน้ ประถมศกึ ษำปที ่ี ๖ เวลำ ๘๐ ชวั่ โมง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

อ่านออกเสียง ประโยค ข้อความ และบทกลอนสั้นๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน เลือกหรือระบุประโยค

ตรงตามภาพสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายที่อ่าน บทอ่านท่ีเกี่ยวกับเรื่อง ตนเอง ครอบครัวโรงเรียน สิ่งแวดล้อม

อาหาร เคร่ืองดื่ม เวลาว่าง และนันทนาการ สุขภาพและสวัสดิการ การซ้ือขาย และลมฟ้าอากาศ ภายในวง

คําศัพท์ ประมาณ ๑๐๕๐-๑๒๐๐ คํา พูดโต้ตอบโดยใช้คาส้ันๆ บทสนทนาง่ายๆ ใช้และปฏิบัติตามคําส่ัง คํา

ขอร้อง คําแนะนา และคําขออนุญาตง่ายๆ พูดเขยี นแสดงความต้องการขอความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธ

การให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ง่ายๆ เพื่อขอ และให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง และ เขียนภาพแผนผังและ

แผนภูมิ แสดงข้อมูลตา่ งๆตามท่ฟี งั หรอื อ่าน แสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกับเร่ืองต่างๆ ใกลต้ วั

ฝึกพูดและทาท่าทางประกอบตามวัฒนธรรม ตอบคําถาม บอกความเหมือนความแตกต่างเก่ียวกับ

เทศกาล วนั สําคญั งานฉลองและชีวิตความเป็นอยขู่ องเจ้าของภาษา เข้ารว่ มกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมที่

เหมาะสมกบั วัย และบอกความแตกต่างของเสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้เครอื่ งหมายวรรคตอน และลาดับคํา

และขอ้ ความของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

คน้ ควา้ รวบรวมคาํ ศัพท์ทีเ่ กยี่ วขอ้ งกับกลุ่มสาระการเรยี นรู้อ่นื จากแหล่งการเรียนรู้และนาํ เสนอด้วยการพดู และ

เขียนในสถานการณ์ที่เกิดข้ึนในห้องเรยี นและสถานศึกษา ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้นและรวบรวมข้อมูล

ต่างๆ

โดยใช้กระบวนการทักษะสัมพันธ์ทางภาษา การฟัง พูด อ่าน เขียน เพื่อให้เกิดความรู้ และทักษะ

สามารถนําไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจําวันตามวัฒนธรรมท่ีเหมาะสมกับวัยโดยการนําหลักปรัชญาของ

เศรษฐกจิ พอเพียงเขา้ มา มสี ว่ นรว่ มในการปฏิบัติ

รหสั /ตวั ชี้วดั
อ ๑.๑ ป.๖/๑ ป.๖/๒ ป.๖/๓ ป.๖/๔
อ ๑.๒ ป.๖/๑ ป.๖/๒ ป.๖/๓ ป.๖/๔ ป.๖/๕
อ ๑.๓ ป.๖/๑ ป.๖/๒ ป.๖/๓
อ ๒.๑ ป.๖/๑ ป.๖/๒ ป.๖/๓
อ ๒.๒ ป.๖/๑ ป.๖/๒
อ ๓.๑ ป.๖/๑
อ ๔.๑ ป.๖/๑
อ ๔.๒ ป.๖/๑

รวมท้ังหมด ๒๐ ตัวชี้วัด

๑๑๓

รายวชิ าเพมิ่ เตมิ ระดบั ประถมศกึ ษา
กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ

: ภาษาองั กฤษเพ่อื การสื่อสาร

รำยวิชำพนื้ ฐำน ภาษาต่างประเทศ จํานวน ๔๐ ชว่ั โมง
อ๑๑๒๐๑ ภาษาตา่ งประเทศ จํานวน ๔๐ ชว่ั โมง
อ๑๒๒๐๑ ภาษาต่างประเทศ จํานวน ๔๐ ชั่วโมง
อ๑๓๒๐๑ ภาษาตา่ งประเทศ จาํ นวน ๔๐ ชั่วโมง
อ๑๔๒๐๑ ภาษาตา่ งประเทศ จาํ นวน ๔๐ ชวั่ โมง
อ๑๕๒๐๑
ภาษาตา่ งประเทศ จํานวน ๔๐ ชั่วโมง
อ๑๖๒๐๑

๑๑๔

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำเพ่มิ เติม

อ๑๑๒๐๑ ภำษำองั กฤษเพ่ือกำรสือ่ สำร ๑ กลุ่มสำระกำรเรยี นรูภ้ ำษำต่ำงประเทศ

ช้นั ประถมศึกษำปที ี่ ๑ เวลำ ๔๐ ชว่ั โมง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ

อ่านและเขยี นตวั อักษรภาษาอังกฤษ เขา้ ใจและใช้ประโยคคําส่ังท่ใี ชใ้ นห้องเรยี น การอา่ นออกเสยี งคํา
กลมุ่ คํา ประโยค ข้อความ บทอา่ น บทสนทนา การพูดให้ข้อมลู เกยี่ วกับตนเองและเรอ่ื งใกล้ตัว การขอบคุณ
ขอโทษ และการ ใช้ภาษาท่าทาง การใชภ้ าษาในการฟัง พูด ในสถานการณท์ เ่ี กิดข้ึนในห้องเรยี นโดยใช้
กระบวนการเรียนร้เู พื่อการ สื่อสาร ฝึกการใชภ้ าษา เพือ่ ให้มีความรู้ เขา้ ใจวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา มที ักษะ
ทางภาษา เห็นประโยชน์ในการ เรียนรภู้ าษาอังกฤษ และนําไปใช้ในชีวิตประจําวนั ได้อย่างเหมาะสม

ผลกำรเรียนรู้
๑. อา่ นและเขยี นตวั อกั ษรภาษาองั กฤษ ออกเสยี งคาํ ศัพท์ได้ถูกต้อง
๒. ใชค้ ําทักทาย ขอบคุณ ขอโทษ รวมถงึ คําสั่งง่าย ๆ เป็นภาษาอังกฤษได้ถูกต้อง
๓. ใชภ้ าษาองั กฤษส่อื สารและให้ข้อมลู เกี่ยวกบั เรือ่ งใกล้ตวั ได้อย่างเหมาะสม
๔. ใช้ภาษาสอื่ สารได้ตามวัยอย่างมัน่ ใจ และกล้าแสดงออก
๕. ใชภ้ าษาไดต้ ามมารยาททางสงั คมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
รวมท้ังหมด ๕ ผลการเรียนรู้

๑๑๕

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำเพิ่มเติม

อ๑๒๒๐๑ ภำษำอังกฤษเพ่ือกำรสือ่ สำร ๑ กลุ่มสำระกำรเรยี นร้ภู ำษำต่ำงประเทศ

ช้ันประถมศึกษำปที ี่ ๒ เวลำ ๔๐ ชว่ั โมง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

คำอธบิ ำยรำยวิชำ

เขา้ ใจและใช้ประโยคคําสัง่ ง่าย ๆ ในห้องเรยี น คาํ ขอร้อง อ่านและเขยี นตวั อกั ษรภาษาอังกฤษ คําศัพท์
สั้น ๆ ง่าย ๆ เข้าใจความหมายคาํ กลมุ่ คาํ และประโยคสนั้ ๆ ท่ีมคี วามหมายสมั พันธ์กับสง่ิ ตา่ ง ๆ ใกลต้ วั เขา้ ใจ
บทอ่าน บท สนทนางา่ ย ๆ และนิทานที่มภี าพประกอบ ให้ขอ้ มูลและความตอ้ งการเกีย่ วกับตนเองส้ัน ๆ เชน่
การพดู แนะนํา ตนเอง ขอบคุณ ขอโทษ เรยี นรคู้ ําศัพท์เกีย่ วกบั เทศกาล ขนบธรรมเนยี ม ประเพณี เทศกาล
งานฉลอง โดยใช้กระบวนการ เรยี นรู้เพอื่ การสอื่ สาร ฝกึ การใช้ภาษาเพื่อใหม้ ีความรูค้ วามเขา้ ใจวฒั นธรรมของ
เจ้าของภาษา เหน็ ประโยชนใ์ นการเรยี นรู้ ภาษาอังกฤษ และนําไปใชใ้ นชีวิตประจาํ วนั ได้อย่างเหมาะสม

ผลกำรเรยี นรู้
๑. อ่านและเขยี นตัวอักษรภาษาองั กฤษ และคําศัพท์งา่ ย ๆ ไดถ้ กู ต้อง
๒. ใชภ้ าษาอังกฤษในการแนะนาํ ตนเอง ขอบคุณ ขอโทษ ขอและใหข้ อ้ มูลเก่ียวกับตนเอง และเรื่อง

ใกลต้ วั ได้อย่าง เหมาะสม
๓. บอกความหมายของคํา กลมุ่ คํา และประโยคสัน้ ๆ ได้ถูกตอ้ ง
๔. ตอบคาํ ถามจากการฟังหรืออ่านเร่ืองง่าย ๆ หรือนิทานทมี่ ีภาพประกอบได้ถกู ต้อง
๕. ใช้ภาษาองั กฤษได้ตามมารยาททางสังคมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
รวมทง้ั หมด ๕ ผลการเรยี นรู้

๑๑๖

คำอธิบำยรำยวิชำเพิ่มเติม

อ๑๓๒๐๑ ภำษำอังกฤษเพื่อกำรสือ่ สำร ๑ กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำต่ำงประเทศ

ชนั้ ประถมศึกษำปที ี่ ๓ เวลำ ๔๐ ช่วั โมง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

คำอธิบำยรำยวิชำ

อ่านออกเสียงคาํ และประโยคง่าย ๆ ท่ีเก่ยี วกบั เรื่องใกลต้ วั บอกความหมายของคํา ตอบคาํ ถามจาก
การฟงั หรืออ่านได้ สามารถใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารระหวา่ งบุคคลได้เหมาะสมตามวัย ใช้ภาษาในการพูด
และทาํ ท่าประกอบตาม มารยาทสงั คม วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา ใช้บทสนทนา การทักทายไดถ้ ูกต้องตาม
เวลาและถูกกาลเทศะ แนะนํา ตนเองได้ ให้ข้อมลู เก่ียวกับตนเอง บอกลกั ษณะของบคุ คลรอบตวั พูดประโยค
บอกความชอบและไมช่ อบ บอก ความตอ้ งการของตนเองเก่ยี วกับเรอ่ื งกฬี า งานอดเิ รก บอกสถานท่ตี ่าง ๆ
รอบตวั และตาํ แหน่งของสถานทตี่ ่าง ๆ โดย ใช้กระบวนการเรียนรู้เพ่ือการส่อื สาร ฝึกการใชภ้ าษาเพอ่ื ให้มี
ความรู้ เขา้ ใจวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา มีทักษะทาง ภาษา เห็นประโยชนใ์ นการเรยี นรูภ้ าษาองั กฤษ และ
นําไปใชใ้ นชวี ติ ประจาํ วันได้อยา่ งเหมาะสม

ผลกำรเรยี นรู้
๑. อา่ นออกเสียงคําและประโยคงา่ ย ๆ ท่เี กย่ี วกับเรอ่ื งใกล้ตวั
๒. บอกความหมายของคําและตอบคําถามจากการฟังหรืออา่ นได้
๓. ใชภ้ าษาองั กฤษในการสื่อสาร สนทนา ทักทายและแนะนําตนเอง และใช้ภาษาทา่ ทางประกอบการ

พดู ได้ เหมาะสม
๔. ให้ข้อมูลเก่ยี วกับตนเอง และอธบิ ายเก่ยี วกับสิ่งต่าง ๆ ใกลต้ ัว โดยใช้ภาษาอังกฤษอย่างงา่ ยได้
๕. ใช้ภาษาอังกฤษไดต้ ามมารยาททางสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
รวมทั้งหมด ๕ ผลการเรียนรู้

๑๑๗

คำอธบิ ำยรำยวิชำเพ่ิมเติม

อ๑๔๒๐๑ ภำษำอังกฤษเพื่อกำรส่ือสำร ๑ กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำต่ำงประเทศ

ชั้นประถมศึกษำปีท่ี ๔ เวลำ ๔๐ ชั่วโมง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

คำอธบิ ำยรำยวิชำ

เขา้ ใจคําส่งั คําขอร้อง คําแนะนําเรอ่ื งราว บทสนทนา นิทาน สามารถถา่ ยโอนเป็นภาพหรือสัญลักษณ์
อา่ นออก เสียงคํา กลมุ่ คํา ประโยค ขอ้ ความ บทอ่านได้ถูกตอ้ งตามหลกั การออกเสียง และใช้ถ้อยคาํ ํน้าเสียง
ได้เหมาะสม ใช้ ภาษาอังกฤษในการสื่อสารระหว่างบคุ คล ใชค้ าํ สง่ั คาํ ขอร้อง และให้คําแนะนาํ แสดงความ
ตอ้ งการ แสดงความร้สู ึก แสดงความช่วยเหลอื ตอบรับและปฏเิ สธ ในสถานการณ์ง่าย ๆ พูดและเขียนเพือ่ ขอ
และใหข้ ้อมลู เกีย่ วกับตนเอง เพอื่ น ครอบครัว และเรือ่ งใกล้ตัวซึง่ อยูใ่ นท้องถิน่ ของตน โดยใช้กระบวนการ
เรยี นรู้เพื่อการสื่อสาร ฝึกการใชภ้ าษา เพอ่ื ให้มคี วามรู้ความเขา้ ใจวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เหน็ ประโยชนใ์ น
การเรียนร้ภู าษาอังกฤษและนําไปใชใ้ น ชีวติ ประจาํ วนั ได้อย่างเหมาะสม

ผลกำรเรยี นรู้
๑. ปฏิบตั ิตามคาํ สง่ั คาํ ขอรอ้ ง และคําแนะนาํ ง่าย ๆ ตามท่ีฟังและอา่ นได้ถูกต้อง
๒. เข้าใจเรอ่ื งราว บทสนทนา นทิ าน สามารถถา่ ยโอนเป็นภาพหรอื สญั ลักษณ์ได้
๓. พดู /อ่านออกเสียงคาํ วลี ประโยค ขอ้ ความสน้ั ๆ บทสนทนาได้ถูกต้องตามหลักการออกเสยี ง
๔. ใชภ้ าษาอังกฤษในการสือ่ สารระหว่างบุคคล ให้คาํ แนะนํา แสดงความรู้สกึ ตอบรับและปฏเิ สธใน

สถานการณง์ ่าย ๆ ขอ และให้ขอ้ มูลเกี่ยวกับตนเองและเรอื่ งใกล้ตวั
๕. ใชภ้ าษาองั กฤษไดต้ ามมารยาททางสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
รวมท้งั หมด ๕ ผลการเรียนรู้

๑๑๘

คำอธบิ ำยรำยวิชำเพ่ิมเติม

อ๑๕๒๐๑ ภำษำองั กฤษเพ่ือกำรส่ือสำร ๑ กล่มุ สำระกำรเรยี นรูภ้ ำษำตำ่ งประเทศ

ชนั้ ประถมศึกษำปที ่ี ๕ เวลำ ๔๐ ช่ัวโมง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

คำอธบิ ำยรำยวิชำ

เข้าใจคาํ สง่ั คําขอร้อง คําแนะนาํ เข้าใจความหมายของคํา กลุม่ คํา และประโยค รปู ประโยคและ
โครงสร้างประโยค โดยสามารถตอบคําถามจากการฟังหรอื อ่านข้อความ บทสนทนา เรอ่ื งสัน้ เรอื่ งเล่า นทิ าน
บทกลอนสนั้ ๆ อ่าน ออกเสียงคํา กลมุ่ คาํ ประโยค ข้อความ บทอ่านไดถ้ ูกต้องตามหลักการออกเสียง และการ
ใช้ถ้อยคํา ํน้าเสียง การ พดู และเขียนโต้ตอบในการสื่อสารระหวา่ งบคุ คล ใช้คําส่งั คําขอรอ้ ง และให้คําแนะนํา
แสดงความต้องการ แสดง ความรู้สึก ขอความช่วยเหลอื ตอบรับและปฏิเสธ ในสถานการณง์ ่าย ๆ พดู และ
เขยี นเพื่อขอและให้ข้อมลู เกีย่ วกบั ตนเอง เพ่ือน ครอบครัว และเรือ่ งใกลต้ ัวซ่งึ อย่ใู นท้องถิ่นของตน โดยใช้
กระบวนการเรยี นรู้ เพื่อการสื่อสาร ฝึกการใช้ ภาษาเพอื่ ให้มีความรู้ เข้าใจวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา มที ักษะ
ทางภาษา เห็นประโยชน์ในการเรยี นรู้ ภาษาองั กฤษ และนําไปใช้ในชีวติ ประจาํ วันได้อยา่ งเหมาะสม

ผลกำรเรยี นรู้
๑. ปฏิบัตติ ามคําสั่ง คําขอรอ้ ง และคําแนะนาํ ง่าย ๆ ตามท่ีฟงั และอา่ นได้ถูกต้อง
๒. พดู /อา่ นออกเสยี งคํา วลี ประโยค ขอ้ ความสั้น ๆ บทสนทนา บทอา่ น ไดถ้ ูกต้องตามหลกั การอ่าน

ออกเสียง
๓. ใชป้ ระโยคภาษาองั กฤษในการส่อื สารระหว่างบุคคล และแลกเปล่ียนข้อมลู ต่าง ๆ ได้ถูกต้อง
๔. ตอบคําถามจากการฟงั หรืออ่านขอ้ ความ บทสนทนา เรื่องสั้น เรือ่ งเลา่ นทิ าน บทกลอนส้นั ๆ ได้

ถูกต้อง
๕. ใชภ้ าษาองั กฤษไดต้ ามมารยาททางสงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
รวมทง้ั หมด ๕ ผลการเรียนรู้

๑๑๙

คำอธบิ ำยรำยวิชำเพิม่ เติม

อ๑๖๒๐๑ ภำษำอังกฤษเพ่ือกำรสื่อสำร ๑ กลมุ่ สำระกำรเรียนร้ภู ำษำตำ่ งประเทศ

ชน้ั ประถมศกึ ษำปีที่ ๖ เวลำ ๔๐ ชวั่ โมง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

คำอธิบำยรำยวชิ ำ

เขา้ ใจคาํ สง่ั คําขอรอ้ ง รปู ประโยคและโครงสรา้ งประโยค คํา กลุ่มคํา และประโยค วิเคราะหแ์ ละสรปุ
เรอื่ งราว บทอ่าน บทสนทนา เร่อื งส้นั เรื่องเลา่ นทิ าน บทกลอนสน้ั ๆ สํานวนทใ่ี ชใ้ นเทศกาล การพูดและการ
เขียนโตต้ อบในการ ส่ือสารระหวา่ งบคุ คล ใชค้ าํ สง่ั คาํ ขอร้อง และให้คาํ แนะนาํ แสดงความตอ้ งการ แสดง
ความร้สู ึก ขอความชว่ ยเหลือ ตอบ รับและปฏเิ สธ ในสถานการณต์ า่ ง ๆ ขอและให้ขอ้ มูลเกย่ี วกับตนเอง เพ่ือน
ครอบครัว และเร่อื งใกลต้ วั ซงึ่ อยใู่ นท้องถน่ิ ของตน โดยใชก้ ระบวนการเรยี นรู้เพื่อการส่ือสาร ฝึกการใชภ้ าษา
เพื่อให้มคี วามรู้ เข้าใจวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา มี ทักษะทางภาษา เห็นประโยชน์ในการเรียนรูภ้ าษาอังกฤษ
และนําไปใชใ้ นชวี ิตประจําวันไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

ผลกำรเรยี นรู้
๑. วเิ คราะหเ์ ร่ืองและสรปุ ความเรื่องท่ีฟงั และอ่านได้
๒. ใชป้ ระโยคคาํ ส่งั คําขอร้อง การขออนุญาต ประโยคบอกเลา่ ประโยคคําถาม ประโยคปฏเิ สธ ตาม

โครงสร้างประโยคได้
๓. ใช้ภาษาองั กฤษในการขอและให้ข้อมลู เกย่ี วกับตนเอง เพื่อน ครอบครวั และเรื่องใกลต้ ัวซง่ึ อยใู่ น

ทอ้ งถน่ิ ของตนได้
๔. ใช้ภาษาองั กฤษในการพดู และเขยี นโต้ตอบและส่ือสารตามสถานการณต์ ่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
๕. ใชภ้ าษาไดต้ ามมารยาททางสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
รวมทั้งหมด ๕ ผลการเรยี นรู้

๑๒๐

สว่ นที่ 4

กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รียน

๑๒๑

กจิ กรรมแนะแนว

หลักสูตรต้านทจุ ริตศึกษาบูรณาการรว่ มกับกิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น
ในกจิ กรรมแนะแนว

ก๑๑๙๐๑ ต้านทจุ รติ ศกึ ษา๑ จาํ นวน ๔๐ ชั่วโมง
ก๑๒๙๐๑ ตา้ นทุจรติ ศกึ ษา๒ จาํ นวน ๔๐ ชัว่ โมง
ก๑๓๙๐๑ ต้านทจุ ริตศึกษา๓ จํานวน ๔๐ ชั่วโมง
ก๑๔๙๐๑ ตา้ นทจุ ริตศึกษา๔ จํานวน ๔๐ ชว่ั โมง
ก๑๕๙๐๑ ต้านทจุ ริตศึกษา๕ จาํ นวน ๔๐ ช่วั โมง
ก๑๖๙๐๑ ตา้ นทจุ รติ ศกึ ษา๖ จาํ นวน ๔๐ ชว่ั โมง

๑๒๒

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำกิจกรรมแนะแนว
ส ๑๑๙๐๑ ต้ำนทจุ ริตศึกษำ๑ กลุ่มสำระกำรเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษำศำสนำและวัฒนธรรม

ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๑ เวลำ ๔๐ ชั่วโมง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศึกษาเก่ยี วกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชนส์ ว่ นรวม ความละอายและ

ความไม่ทนต่อการทุจริต STRONG / จติ พอเพียงต่อต้านการทุจรติ รหู้ นา้ ท่ขี องพลเมืองและรบั ผิดชอบต่อ

สงั คมในการตอ่ ต้านการทุจรติ

โดยใชก้ ระบวนการคิด วเิ คราะห์ จําแนก แยกแยะ การฝกึ ปฏบิ ตั ิจริง การทําโครงงานกระบวนการ

เรียนรู้ ๕ ขนั้ ตอน (๕ STEPs) การอภิปราย การสบื สอบ การแก้ปัญหา ทักษะการอา่ นและการเขยี น เพื่อให้มี

ความตระหนักและเห็นความสาํ คัญของการต่อตา้ นและการป้องกันการทจุ ริต

ผลกำรเรยี นรู้
๑. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกบั การแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตน กับผลประโยชนส์ ว่ นรวม
๒. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกบั ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต
๓. มคี วามรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกับ STRONG / จติ พอเพียงต่อตา้ นการทจุ ริต
๔. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับพลเมืองและมีความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม
๕. สามารถคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตน กบั ผลประโยชน์สว่ นรวมได้
๖. ปฏิบตั ติ นเป็นผู้ละอายและไม่ทนต่อการทุจริตทุกรปู แบบ
๗. ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผู้ที่ STRONG / จติ พอเพียงต่อตา้ นการทุจริต
๘. ปฏบิ ตั ิตนตามหนา้ ที่พลเมืองและมคี วามรับผิดชอบต่อสังคม
๙. ตระหนกั และเหน็ ความสาํ คัญของการต่อตา้ นและป้องกันการทุจริต

รวมท้ังหมด ๙ ผลกำรเรยี นรู้

๑๒๓

คำอธิบำยรำยวชิ ำกจิ กรรมแนะแนว
ส ๑๒๙๐๑ ตำ้ นทุจรติ ศกึ ษำ๒ กลุ่มสำระกำรเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษำศำสนำและวัฒนธรรม

ชั้นประถมศกึ ษำปีที่ ๒ เวลำ ๔๐ ชว่ั โมง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศกึ ษาเกย่ี วกับการแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนกับผลประโยชน์สว่ นรวม ความละอายและ

ความไม่ทนต่อการทุจรติ STRONG / จติ พอเพียงต่อตา้ นการทุจริต รหู้ นา้ ท่ขี องพลเมืองและรับผิดชอบต่อ

สงั คมในการตอ่ ต้านการทจุ รติ

โดยใช้กระบวนการคิด วเิ คราะห์ จําแนก แยกแยะ การฝกึ ปฏบิ ตั ิจริง การทาํ โครงงานกระบวนการ

เรียนรู้ ๕ ขนั้ ตอน (๕ STEPs) การอภิปราย การสืบสอบ การแกป้ ัญหา ทักษะการอา่ นและการเขียน เพื่อให้มี

ความตระหนักและเหน็ ความสําคญั ของการต่อต้านและการป้องกันการทจุ ริต

ผลกำรเรียนรู้
๑. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตน กับผลประโยชน์ส่วนรวม
๒. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต
๓. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั STRONG / จติ พอเพยี งต่อตา้ นการทุจรติ
๔. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั พลเมืองและมีความรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม
๕. สามารถคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตน กบั ผลประโยชน์สว่ นรวมได้
๖. ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผู้ละอายและไมท่ นต่อการทจุ ริตทุกรปู แบบ
๗. ปฏบิ ตั ิตนเป็นผทู้ ี่ STRONG / จติ พอเพียงต่อต้านการทุจริต
๘. ปฏบิ ัตติ นตามหนา้ ท่ีพลเมืองและมคี วามรับผิดชอบต่อสังคม
๙. ตระหนกั และเห็นความสําคญั ของการต่อตา้ นและป้องกันการทจุ ริต

รวมท้ังหมด ๙ ผลกำรเรยี นรู้

๑๒๔

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำกจิ กรรมแนะแนว
ส ๑๓๙๐๑ ตำ้ นทุจรติ ศกึ ษำ๓ กลมุ่ สำระกำรเรยี นร้สู งั คมศกึ ษำศำสนำและวัฒนธรรม

ชั้นประถมศกึ ษำปีที่ ๓ เวลำ ๔๐ ชว่ั โมง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศกึ ษาเกย่ี วกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตนกับผลประโยชนส์ ่วนรวม ความละอายและ

ความไม่ทนต่อการทุจรติ STRONG / จติ พอเพียงต่อต้านการทุจริต รหู้ นา้ ท่ขี องพลเมืองและรับผิดชอบต่อ

สงั คมในการตอ่ ต้านการทจุ รติ

โดยใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์ จําแนก แยกแยะ การฝกึ ปฏบิ ตั ิจริง การทําโครงงานกระบวนการ

เรียนรู้ ๕ ขนั้ ตอน (๕ STEPs) การอภปิ ราย การสืบสอบ การแกป้ ัญหา ทักษะการอา่ นและการเขียน เพื่อใหม้ ี

ความตระหนักและเหน็ ความสําคญั ของการต่อต้านและการป้องกันการทจุ ริต

ผลกำรเรียนรู้
๑. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตน กับผลประโยชนส์ ่วนรวม
๒. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต
๓. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกับ STRONG / จติ พอเพยี งต่อตา้ นการทุจริต
๔. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกีย่ วกบั พลเมืองและมีความรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม
๕. สามารถคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตน กบั ผลประโยชน์สว่ นรวมได้
๖. ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผลู้ ะอายและไม่ทนต่อการทุจริตทุกรปู แบบ
๗. ปฏบิ ตั ิตนเป็นผทู้ ี่ STRONG / จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต
๘. ปฏบิ ัตติ นตามหนา้ ท่ีพลเมืองและมีความรับผิดชอบต่อสังคม
๙. ตระหนกั และเห็นความสําคญั ของการต่อตา้ นและป้องกันการทจุ ริต

รวมท้ังหมด ๙ ผลกำรเรยี นรู้

๑๒๕

คำอธิบำยรำยวชิ ำกิจกรรมแนะแนว
ส ๑๔๙๐๑ ตำ้ นทุจรติ ศกึ ษำ๔ กลุ่มสำระกำรเรียนรสู้ งั คมศกึ ษำศำสนำและวัฒนธรรม

ชั้นประถมศกึ ษำปีที่ ๔ เวลำ ๔๐ ชว่ั โมง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศกึ ษาเกย่ี วกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตนกับผลประโยชนส์ ว่ นรวม ความละอายและ

ความไม่ทนต่อการทุจรติ STRONG / จติ พอเพียงต่อต้านการทจุ รติ รหู้ นา้ ทขี่ องพลเมืองและรับผิดชอบต่อ

สงั คมในการตอ่ ต้านการทจุ รติ

โดยใช้กระบวนการคิด วเิ คราะห์ จําแนก แยกแยะ การฝึกปฏบิ ตั ิจริง การทาํ โครงงานกระบวนการ

เรียนรู้ ๕ ขนั้ ตอน (๕ STEPs) การอภิปราย การสืบสอบ การแก้ปญั หา ทักษะการอา่ นและการเขียน เพื่อให้มี

ความตระหนักและเหน็ ความสําคัญของการต่อต้านและการป้องกันการทจุ ริต

ผลกำรเรียนรู้
๑. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนตน กับผลประโยชนส์ ่วนรวม
๒. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกับความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ ริต
๓. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกบั STRONG / จติ พอเพยี งต่อตา้ นการทุจรติ
๔. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั พลเมืองและมีความรับผดิ ชอบต่อสังคม
๕. สามารถคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตน กบั ผลประโยชน์สว่ นรวมได้
๖. ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผลู้ ะอายและไมท่ นต่อการทุจริตทุกรูปแบบ
๗. ปฏบิ ตั ิตนเป็นผทู้ ี่ STRONG / จิตพอเพียงต่อตา้ นการทุจรติ
๘. ปฏบิ ัตติ นตามหนา้ ท่ีพลเมืองและมคี วามรับผิดชอบตอ่ สังคม
๙. ตระหนกั และเห็นความสาํ คญั ของการต่อต้านและป้องกันการทุจรติ

รวมท้ังหมด ๙ ผลกำรเรยี นรู้

๑๒๖

คำอธิบำยรำยวชิ ำกจิ กรรมแนะแนว
ส ๑๕๙๐๑ ต้ำนทุจรติ ศกึ ษำ๕ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้สงั คมศกึ ษำศำสนำและวัฒนธรรม

ชั้นประถมศึกษำปีท่ี ๕ เวลำ ๔๐ ชว่ั โมง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศกึ ษาเก่ียวกับการแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตนกับผลประโยชนส์ ว่ นรวม ความละอายและ

ความไม่ทนตอ่ การทุจรติ STRONG / จติ พอเพียงต่อต้านการทุจริต รหู้ นา้ ท่ขี องพลเมืองและรับผิดชอบต่อ

สงั คมในการต่อต้านการทจุ รติ

โดยใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์ จาํ แนก แยกแยะ การฝกึ ปฏบิ ตั ิจริง การทาํ โครงงานกระบวนการ

เรียนรู้ ๕ ขน้ั ตอน (๕ STEPs) การอภปิ ราย การสืบสอบ การแกป้ ัญหา ทักษะการอา่ นและการเขียน เพื่อให้มี

ความตระหนักและเหน็ ความสาํ คัญของการต่อต้านและการปอ้ งกนั การทจุ ริต

ผลกำรเรียนรู้
๑. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั การแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตน กับผลประโยชน์ส่วนรวม
๒. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต
๓. มีความรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกับ STRONG / จติ พอเพยี งต่อตา้ นการทุจรติ
๔. มีความรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกบั พลเมืองและมีความรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม
๕. สามารถคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตน กับผลประโยชน์สว่ นรวมได้
๖. ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผู้ละอายและไม่ทนต่อการทุจริตทุกรปู แบบ
๗. ปฏิบตั ิตนเป็นผู้ท่ี STRONG / จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต
๘. ปฏบิ ัติตนตามหนา้ ที่พลเมืองและมีความรับผดิ ชอบตอ่ สังคม
๙. ตระหนกั และเหน็ ความสาํ คัญของการต่อตา้ นและป้องกันการทจุ ริต

รวมท้ังหมด ๙ ผลกำรเรยี นรู้

๑๒๗

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำกจิ กรรมแนะแนว
ส ๑๖๙๐๑ ตำ้ นทุจรติ ศกึ ษำ๖ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษำศำสนำและวัฒนธรรม

ชั้นประถมศกึ ษำปีที่ ๖ เวลำ ๔๐ ชว่ั โมง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศกึ ษาเกย่ี วกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตนกับผลประโยชนส์ ว่ นรวม ความละอายและ

ความไม่ทนต่อการทุจรติ STRONG / จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต รหู้ นา้ ท่ขี องพลเมืองและรับผิดชอบต่อ

สงั คมในการตอ่ ต้านการทจุ รติ

โดยใช้กระบวนการคิด วเิ คราะห์ จําแนก แยกแยะ การฝึกปฏบิ ตั ิจริง การทาํ โครงงานกระบวนการ

เรียนรู้ ๕ ขนั้ ตอน (๕ STEPs) การอภิปราย การสืบสอบ การแกป้ ัญหา ทักษะการอา่ นและการเขียน เพื่อให้มี

ความตระหนักและเหน็ ความสําคญั ของการต่อต้านและการป้องกันการทจุ ริต

ผลกำรเรียนรู้
๑. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั การแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตน กับผลประโยชน์ส่วนรวม
๒. มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกับความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต
๓. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั STRONG / จติ พอเพยี งต่อตา้ นการทจุ รติ
๔. มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั พลเมืองและมีความรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม
๕. สามารถคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตน กบั ผลประโยชน์ส่วนรวมได้
๖. ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผลู้ ะอายและไม่ทนต่อการทุจริตทุกรปู แบบ
๗. ปฏบิ ตั ิตนเป็นผทู้ ี่ STRONG / จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต
๘. ปฏบิ ัตติ นตามหนา้ ท่ีพลเมืองและมีความรับผิดชอบต่อสังคม
๙. ตระหนกั และเห็นความสาํ คญั ของการต่อตา้ นและป้องกันการทจุ ริต

รวมท้ังหมด ๙ ผลกำรเรยี นรู้

๑๒๘

กจิ กรรมนักเรยี น

๑๒๙

คำอธิบำยรำยวชิ ำกิจกรรมพัฒนำผู้เรียน

ก๑๑๙๐๒ เตรยี มลกู เสือสำรองและลกู เสือสำรอง (ดำวดวงท่ี ๑) กิจกรรมนกั เรยี น
ชนั้ ประถมศึกษำปีท่ี ๑ เวลำ ๔๐ ช่ัวโมง

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ

เปิดประชุมกอง ดําเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์
วางแผนปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติกิจกรรมตามคําปฏิญาณและกฎของ
ลูกเสือสํารอง เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง ใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสํารองที่มีความเป็นเอกลักษณ์
รว่ มกัน ศึกษาธรรมชาตใิ นชุมชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ ตามวิถเี ศรษฐกจิ พอเพียง สรปุ ผลการปฏบิ ัติกิจกรรม ปิด
ประชมุ กอง ในเรือ่ งตอ่ ไปนี้

๑. เตรียมลูกเสือสํารอง นิยายเมาคลี ประวัติการเริ่มกิจการลูกเสือ การทําความเคารพหมู่ (แกรนด์
ฮาวล์) การทําความเคารพเป็นรายบุคคล การจับมือซ้าย ระเบียบแถวเบ้ืองต้น คําปฏิญาณ กฎและคติพจน์ของ
ลกู เสือสาํ รอง

๒. ลูกเสือสํารองดาวดวงที่ ๑ อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การสํารวจ การค้นหาธรรมชาติ ความ
ปลอดภัย บริการ ธงและประเทศต่าง ๆ การฝีมือ กิจกรรมกลางแจ้ง การบันเทิง การผูกเง่ือน คําปฏิญาณและ
กฎของลูกเสอื สาํ รอง

เพ่อื ใหม้ ีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลกู เสอื สาํ รองดาวดวงที่ ๑ สามารถปฏิบตั ิตามคําปฏญิ าณ กฎ
และคติพจน์ของลูกเสือสํารอง มีนิสัยในการสังเกต จดจํา เชื่อฟัง และพ่ึงตนเอง มีความซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบ
วินัย และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น รู้จักบําเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ รู้จักทําการฝีมือและฝึกฝนทํา
กจิ กรรมตา่ ง ๆ ตามความเหมาะสม รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม และความม่ันคงของชาติ และ
สามารถประยกุ ตใ์ ช้ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

ผลกำรเรียนรู้

๑. มนี สิ ยั ในการสงั เกต จดจํา เช่อื ฟังและพึ่งพาตนเองได้
๒. มคี วามซื่อสตั ย์ สจุ รติ มีระเบียบวนิ ยั และเหน็ อกเห็นใจผูอ้ ่ืน
๓. บาํ เพญ็ ตนเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์
๔. ทําการฝมี ือและฝึกฝนการทํากจิ กรรมตา่ ง ๆ ตามความเหมาะสม
๕. รักษาและส่งเสรมิ จารีตประเพณี วัฒนธรรม ภมู ิปัญญาท้องถน่ิ และความมน่ั คงของชาติ

๑๓๐

๖. อนรุ กั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม ลดภาวะโลกร้อน และสามารถประยุกต์ใชป้ รชั ญา
ของเศรษฐกจิ พอเพยี งได้

รวมท้ังหมด ๖ ผลกำรเรียนรู้

๑๓๑

คำอธิบำยรำยวชิ ำกิจกรรมพัฒนำผเู้ รยี น

ก๑๒๙๐๒ ลกู เสือสำรอง (ดำวดวงที่ ๒) กจิ กรรมนักเรยี น
ช้นั ประถมศกึ ษำปีท่ี ๒ เวลำ ๔๐ ชัว่ โมง

คำอธบิ ำยรำยวิชำ

เปดิ ประชุมกอง ดําเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน
ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติตามคําปฏิญาณ คติพจน์ และกฎของลูกเสือ
สํารอง เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง ใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสํารองที่มีความเป็นเอกลักษณ์ร่วมกัน
ศกึ ษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง สรุปผลและปฏิบัตกิ ิจกรรม ปิดประชุม
กอง ในเรื่องตอ่ ไปนี้

ลูกเสือสํารองดาวดวงท่ี ๒ นิยายเมาคลี ประวัติการเริ่มกิจการลูกเสือ การทําความเคารพหมู่ (แกรน
ฮาวล์) การทําความเคารพเป็นรายบุคคล การจับมือซ้าย ระเบียบแถว คําปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของลูกเสือ
สํารอง อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การสํารวจ การค้นหาธรรมชาติ การอนุรักษ์ทรัพยากรในชุมชนท้องถิ่น
ความปลอดภัย บริการ การผูกเงื่อน ธงและประเทศต่าง ๆ การฝีมือที่ใช้วัสดุเหลือใช้ในท้องถ่ิน กิจกรรมกลางแจ้ง
การบันเทิงท่ีส่งเสริมสุขภาพกาย สุขภาพจิต และอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
สง่ิ แวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน

เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสํารองดาวดวงท่ี ๒ สามารถปฏิบตั ิตามคําปฏญิ าณ กฎ
และคติพจน์ของลูกเสือสํารอง มีนิสัยในการสังเกต จดจํา เช่ือฟัง และพ่ึงตนเอง มีความซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบ
วินัย และเห็นอกเห็นใจ รจู้ ักบําเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ รู้จกั ทําการฝีมือและฝึกฝนทํากิจกรรม
ต่าง ๆ ตามความเหมาะสม รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม ภูมิ ปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์
ทรพั ยากรธรรมชาตสิ งิ่ แวดลอ้ ม ความมัน่ คงของชาติ และสามารถประยกุ ต์ใช้ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

ผลกำรเรยี นรู้

๑. มนี ิสยั ในการสังเกต จดจํา เชอื่ ฟังและพงึ่ พาตนเองได้
๒. มคี วามซื่อสตั ย์ สุจรติ มรี ะเบียบวินัยและเหน็ อกเหน็ ใจผู้อื่น
๓. บําเพ็ญตนเพือ่ สังคมและสาธารณะประโยชน์
๔. ทําการฝมี ือและฝึกฝนการทํากิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม
๕. รกั ษาและสง่ เสรมิ จารตี ประเพณี วัฒนธรรม ภมู ิปญั ญาท้องถิน่ และความมนั่ คงของชาติ
๖. อนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม ลดภาวะโลกร้อน และสามารถประยุกตใ์ ช้ปรชั ญาของ

เศรษฐกจิ พอเพียงได้
รวมท้ังหมด ๖ ผลกำรเรยี นรู้

๑๓๒

คำอธบิ ำยรำยวิชำกจิ กรรมพัฒนำผูเ้ รยี น

ก๑๓๙๐๒ ลกู เสอื สำรอง (ดำวดวงที่ ๓) กิจกรรมนกั เรยี น
ชน้ั ประถมศึกษำปีท่ี ๓ เวลำ ๔๐ ช่ัวโมง

คำอธบิ ำยรำยวิชำ

เปิดประชุมกอง ดําเนินการตามกระบวนการของลูกเสอื และจัดกิจกรรมให้ศกึ ษา วเิ คราะห์ วางแผน
ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติตามคําปฏิญาณ คติพจน์ และกฎของลูกเสือ
สํารอง เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง ใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสํารองท่ีมีความเป็นเอกลักษณ์ร่วมกัน
ศกึ ษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ ตามวิถเี ศรษฐกิจพอเพียง สรุปผลและปฏิบัติกิจกรรม ปิดประชุม
กอง ในเร่ืองต่อไปนี้

ลูกเสือสํารองดาวดวงท่ี ๓ นิยายเมาคลี ประวัติการเริ่มกิจการลูกเสือ การทําความเคารพหมู่ (แกรน
ฮาวล์) การทําความเคารพเป็นรายบุคคล การจับมือซ้าย ระเบียบแถว คําปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของลูกเสือ
สํารอง อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การสํารวจ การค้นหาธรรมชาติ การอนุรักษ์ทรัพยากรในชุมชนท้องถ่ิน
ความปลอดภัย บริการ การผูกเง่ือน ธงและประเทศต่าง ๆ การฝีมือท่ีใช้วัสดุเหลือใช้ในท้องถิ่น กิจกรรมกลางแจ้ง
การบันเทิงท่ีส่งเสริมสุขภาพกาย สุขภาพจิต และอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
ส่งิ แวดล้อม ลดภาวะโลกรอ้ น

เพื่อใหม้ ีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสํารองดาวดวงที่ ๓ สามารถปฏิบตั ิตามคาํ ปฏญิ าณ กฎ
และคติพจน์ของลูกเสือสํารอง มีนิสัยในการสังเกต จดจํา เชื่อฟัง และพ่ึงตนเอง มีความซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบ
วินัย และเห็นอกเห็นใจ รจู้ ักบําเพ็ญตนเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ รู้จกั ทําการฝีมือและฝึกฝนทํากิจกรรม
ต่าง ๆ ตามความเหมาะสม รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์
ทรพั ยากรธรรมชาติส่ิงแวดล้อม ความม่ันคงของชาติ และสามารถประยุกต์ใช้ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

ผลกำรเรยี นรู้

๑. มนี ิสยั ในการสงั เกต จดจาํ เชื่อฟังและพึง่ พาตนเองได้
๒. มีความซ่ือสตั ย์ สจุ ริต มีระเบียบวินัยและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
๓. บําเพญ็ ตนเพอ่ื สังคมและสาธารณะประโยชน์
๔. ทาํ การฝมี ือและฝึกฝนการทํากิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม
๕. รกั ษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วฒั นธรรม ภูมปิ ัญญาท้องถ่ิน และความม่นั คงของชาติ
๖. อนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน และสามารถประยุกต์ใช้ปรัชญาของ

เศรษฐกจิ พอเพียงได้
รวมท้ังหมด ๖ ผลกำรเรยี นรู้

๑๓๓

คำอธิบำยรำยวิชำกจิ กรรมพัฒนำผเู้ รียน

ก๑๔๙๐๒ ลกู เสอื สำมัญ (ลกู เสอื ตรี) กิจกรรมนักเรยี น
ชน้ั ประถมศึกษำปีท่ี ๔ เวลำ ๔๐ ช่ัวโมง

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ

เปิดประชุมกอง ดําเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์
วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัตกิ ิจกรรมตามคําปฏิญาณ คติพจน์ และกฎของ
ลูกเสือสามัญ เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัตจิ ริง ใช้สญั ลกั ษณ์สมาชกิ ลกู เสือสามญั ที่มคี วามเป็นเอกลักษณร์ ่วมกัน
ศกึ ษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง สรุปผลและปฏิบัตกิ ิจกรรม ปิดประชุม
กอง ในเร่อื งตอ่ ไปนี้

ความรู้เก่ียวกับกระบวนการลูกเสือ ประวัติของลอร์ด เบเดน โพเอลล์ (Load Baden Powell ;
B.P.) พระราชประวัติสังเขปของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว วิวัฒนาการของกระบวนการลูกเสือ
ไทยและลูกเสือโลก การทําความเคารพ การแสดงรหัส การจับมือซ้าย กิจกรรมกลางแจ้ง ระเบียบแถว ท่ามือ
เปล่า ท่าถือไม้พลอง การใช้สัญญาณมือและนกหวีด การตั้งแถวและการเรียกแถว การใช้ทักษะในทางวิชา
ลูกเสือ การรู้จักดูแลตนเอง การช่วยเหลือผู้อื่น การเดินทางไปยังสถานท่ีต่าง ๆ การทํางานอดิเรกและเรื่องท่ี
สนใจ

เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัติตามคําปฏิญาณ กฎ และคติพจน์
ของลูกเสือสามัญ มีนิสัยในการสังเกต จดจํา เชื่อฟังและพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบวินัย และเห็น
อกเห็นใจผู้อ่ืน บําเพ็ญตนเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ ทําการฝีมือและฝึกฝนการทํากิจกรรมต่าง ๆ ตาม
ความเหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมและความม่ันคงของ
ชาติ และสามารถประยุกตใ์ ชป้ รชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

ผลกำรเรยี นรู้

๑. มนี ิสยั ในการสงั เกต จดจํา เชื่อฟงั และพ่ึงพาตนเองได้
๒. มคี วามซ่ือสตั ย์ สจุ ริต มีระเบียบวินยั และเหน็ อกเห็นใจผ้อู ่ืน
๓. บาํ เพ็ญตนเพอื่ สังคมและสาธารณะประโยชน์
๔. ทําการฝมี ือและฝึกฝนการทํากจิ กรรมตา่ ง ๆ ตามความเหมาะสม
๕. รกั ษาและส่งเสรมิ จารตี ประเพณี วฒั นธรรม ภมู ปิ ัญญาท้องถน่ิ และความมนั่ คงของชาติ
๖. อนุรกั ษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน และสามารถประยุกตใ์ ชป้ รชั ญา

ของเศรษฐกจิ พอเพยี งได้
รวมทั้งหมด ๖ ผลกำรเรียนรู้

๑๓๔

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำกจิ กรรมพัฒนำผ้เู รยี น

ก๑๕๙๐๒ ลูกเสือสำมัญ (ลกู เสอื โท) กจิ กรรมนักเรยี น
ช้นั ประถมศกึ ษำปีที่ ๕ เวลำ ๔๐ ชัว่ โมง

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ

เปิดประชุมกอง ดําเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์
วางแผน ปฏบิ ัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัตกิ ิจกรรมตามคําปฏญิ าณ คติพจน์ และกฎของ
ลกู เสือสามัญ เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัตจิ รงิ ใช้สัญลักษณส์ มาชิกลูกเสือสามญั ที่มคี วามเป็นเอกลักษณร์ ่วมกัน
ศกึ ษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ ตามวิถเี ศรษฐกิจพอเพียง สรุปผลและปฏิบัติกิจกรรม ปิดประชุม
กอง ในเรื่องต่อไปน้ี

ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการลูกเสือ ประวัติของลอร์ด เบเดน โพเอลล์ (Load Baden Powell ;
B.P.) พระราชประวัติสังเขปของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว วิวัฒนาการของกระบวนการลูกเสือ
ไทยและลูกเสือโลก การทําความเคารพ การแสดงรหัส การจับมือซ้าย กิจกรรมกลางแจ้ง ระเบียบแถว ท่ามือ
เปล่า ท่าถือไม้พลอง การใช้สัญญาณมือและนกหวีด การตั้งแถวและการเรียกแถว การใช้ทักษะในทางวิชา
ลูกเสือ การรู้จักดูแลตนเอง การช่วยเหลือผู้อื่น การเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ การทํางานอดิเรกและเรื่องท่ี
สนใจ

เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัติตามคําปฏิญาณ กฎ และคติพจน์
ของลูกเสือสามัญ มีนิสัยในการสังเกต จดจํา เช่ือฟังและพ่ึงตนเอง มีความซ่ือสัตย์สุจริต มีระเบียบวินัย และเห็น
อกเห็นใจผู้อื่น บําเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ทําการฝีมือและฝึกฝนการทํากิจกรรมต่าง ๆ ตาม
ความเหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมและความม่ันคงของ
ชาติ และสามารถประยกุ ตใ์ ชป้ รชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง

ผลกำรเรยี นรู้

๑. มนี ิสยั ในการสงั เกต จดจํา เช่ือฟังและพ่ึงพาตนเองได้
๒. มีความซ่ือสัตย์ สุจรติ มรี ะเบียบวนิ ัยและเห็นอกเหน็ ใจผอู้ ื่น
๓. บาํ เพญ็ ตนเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์
๔. ทาํ การฝมี ือและฝึกฝนการทํากจิ กรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม
๕. รกั ษาและสง่ เสรมิ จารีตประเพณี วฒั นธรรม ภมู ิปญั ญาท้องถนิ่ และความมัน่ คงของชาติ
๖. อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน และสามารถประยุกต์ใช้ปรชั ญาของ

เศรษฐกจิ พอเพียงได้
รวมทั้งหมด ๖ ผลกำรเรยี นรู้

๑๓๕

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำกจิ กรรมพัฒนำผู้เรยี น

ก๑๖๙๐๒ ลูกเสือสำมัญ (ลูกเสือเอก) กิจกรรมนักเรยี น
ชัน้ ประถมศึกษำปีที่ ๖ เวลำ ๔๐ ชั่วโมง

คำอธิบำยรำยวิชำ

เปิดประชุมกอง ดําเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์
วางแผน ปฏบิ ัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติกิจกรรมตามคําปฏิญาณ คติพจน์ และกฎของ
ลกู เสือสามัญ เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัตจิ รงิ ใช้สัญลกั ษณ์สมาชกิ ลูกเสือสามัญท่ีมคี วามเป็นเอกลกั ษณร์ ่วมกัน
ศึกษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ ตามวิถเี ศรษฐกิจพอเพียง สรุปผลและปฏิบัตกิ ิจกรรม ปิดประชุม
กอง ในเร่ืองตอ่ ไปนี้

ความรู้เก่ียวกับกระบวนการลูกเสือ ประวัติของลอร์ด เบเดน โพเอลล์ (Load Baden Powell ;
B.P.) พระราชประวัติสังเขปของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว วิวัฒนาการของกระบวนการลูกเสือ
ไทยและลูกเสือโลก การทําความเคารพ การแสดงรหัส การจับมือซ้าย กิจกรรมกลางแจ้ง ระเบียบแถว ท่ามือ
เปล่า ท่าถือไม้พลอง การใช้สัญญาณมือและนกหวีด การต้ังแถวและการเรียกแถว การใช้ทักษะในทางวิชา
ลูกเสือ การรู้จักดูแลตนเอง การช่วยเหลือผู้อ่ืน การเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ การทํางานอดิเรกและเร่ืองท่ี
สนใจ

เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัติตามคําปฏิญาณ กฎ และคติพจน์
ของลูกเสือสามัญ มีนิสัยในการสังเกต จดจํา เชื่อฟังและพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบวินัย และเห็น
อกเห็นใจผู้อ่ืน บําเพ็ญตนเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ ทําการฝีมือและฝึกฝนการทํากิจกรรมต่าง ๆ ตาม
ความเหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมและความมั่นคงของ
ชาติ และสามารถประยุกตใ์ ช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

ผลกำรเรยี นรู้

๑. มีนิสยั ในการสังเกต จดจาํ เช่อื ฟังและพ่ึงพาตนเองได้
๒. มคี วามซื่อสัตย์ สจุ ริต มีระเบียบวินยั และเหน็ อกเหน็ ใจผู้อ่ืน
๓. บาํ เพญ็ ตนเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์
๔. ทาํ การฝมี ือและฝึกฝนการทํากจิ กรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม
๕. รักษาและส่งเสรมิ จารีตประเพณี วฒั นธรรม ภูมปิ ญั ญาท้องถิน่ และความมน่ั คงของชาติ
๖. อนรุ ักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม ลดภาวะโลกร้อน และสามารถประยุกต์ใชป้ รัชญาของ

เศรษฐกจิ พอเพยี งได้
รวมทั้งหมด ๖ ผลกำรเรียนรู้

๑๓๖

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำกิจกรรมพัฒนำผ้เู รยี น

กิจกรรมชมุ นมุ กจิ กรรมนกั เรยี น

ช้ันประถมศกึ ษำปที ่ี ๑-๖ เวลำ ๓๐ ชัว่ โมง

คำอธิบำยรำยวิชำ

ปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจ ความถนัด และความต้องการ เพื่อพัฒนาความรู้ ความสามารถด้านการ
คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ให้เกิดประสบการณ์ท้ังด้านวิชาการและพ้ืนฐานอาชีพ ทักษะชีวิต และสังคม ตาม
ศักยภาพอย่างรอบด้าน เพ่ือความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ มีความสามารถในการส่ือสาร มีทักษะการคิด แก้ปัญหา
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี พัฒนาทกั ษะในการทํางานและการอยู่ร่วมกบั ผู้อ่ืนในสังคมได้อย่างมคี วามสุข
รักในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีความซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน ดํารงชีวิตอย่าง
พอเพียง มีความมุ่งม่ันในการทํางาน รกั ความเปน็ ไทย และมีจติ สาธารณะ

เพ่ือให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจ ความถนัด และความต้องการของตน ได้พัฒนา
ความรู้ ความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ให้เกิดประสบการณ์ ทง้ั ทกั ษะทางวิชาการ ทกั ษะอาชีพ
ทักษะชีวิตและสังคมตามศักยภาพ ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม คิดเป็น ทําได้ ทํางาน
ร่วมกบั ผู้อ่นื ได้ตามวิถีประชาธปิ ไตย และประยุกต์หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

โรงเรียนบ้านดอนยานาง ได้กําหนดกิจกรรมชุมนุมจํานวน ๓ ชุมนุม เพื่อให้นักเรียนเลือกเข้าตาม
ความถนัดและความสนใจ ได้แก่

๑. ชุมนมุ กีฬา
๒. ชมุ นุมคอมพวิ เตอร์
๓. ชมุ นุมห้องสมดุ

๑๓๗

ชมุ นมุ หอ้ งสมุด

หลักกำรและเหตผุ ล
อ่านและเข้าใจความหมายของคํา ประโยค ข้อความและจัดทําแบบฝึกเป็นรูปเล่ม จัดทําพจนานุกรม

ฉบับจ๋ิว ศึกษา ค้นคว้าเกี่ยวกับ ข่าว บทความจากสิ่งตีพิมพ์ประเภทต่างๆ และประดิษฐ์ที่ค่ันหนังสือประเภท
ตา่ งๆ

เพอื่ ให้มคี วามร้คู วามเขา้ ใจและเห็นคุณคา่ เก่ียวกับการจัดทาํ แบบฝึกเปน็ รปู เล่ม จัดทําพจนานกุ รมฉบับ
จว๋ิ และประดษิ ฐท์ ค่ี ัน่ หนังสือประเภทต่างๆ สามารถนาํ ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาํ วันได้

เพ่ือให้สมาชิกมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ รู้จักค้นคว้า และแก้ปัญหาในการทํางานอย่างมีระบบ
เพื่อให้สมาชิกเป็นผู้มีระเบียบวินัยเพ่ือให้สมาชิกมีความเข้าใจและเลื่อมใสการปกครองระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเพ่ือให้สมาชิกมีความรับผิดชอบต่อการปฏิบัติหน้าที่และสิทธิภายในขอบเขต
ของกฎหมายเพ่ือให้สมาชิกมคี วามสงบซาบซึ้งในคุณค่า ดํารงไว้และสง่ เสรมิ เอกลักษณ์วัฒนธรรมอันดีงามของ
ชาติไทยเพื่อให้สมาชิกเกิดความรักและสามัคคีในหมู่คณะเพ่ือให้สมาชิกได้รับการส่งเสริมการพัฒนาทาง
ร่างกาย จิตใจ และรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์เพ่ือให้สมาชิกรู้จักบําเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม และสร้าง
เสริมความม่ันคงของชาติเพื่อให้สมาชิกมีคุณธรรมและจริยธรรม เพ่ือให้สมาชิกพัฒนาตนเองตามวัตถุประสงค์
ของการจัดการศึกษา สามารถนําความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและ
สามารถนําไปประยุกตใ์ ชก้ บั ชีวิตประจาํ วันได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม

ผลกำรเรยี นรู้
๑. ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามความสนใจ ความถนัดและความต้องการของตน
๒. มีความรู้ ความสามารถด้านการคิดวเิ คราะห์ สังเคราะห์ใหเ้ กดิ ประสบการณ์ ทัง้ ทางวิชาการ
และวชิ าชีพตามศักยภาพ
๓. ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ตอ่ ตนเองและสว่ นรวม
๔. มงุ่ มนั่ ในการทาํ งานและทํางานร่วมกบั ผูอ้ ่นื ไดต้ ามวถิ ปี ระชาธิปไตย
๕. ประยุกต์ใชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งได้อย่างเหมาะสม

รวม ๕ ผลกำรเรยี นรู้

๑๓๘

ชมุ นุมกีฬำ

หลกั กำรและเหตผุ ล
การส่งเสริมการออกกําลังกายเพ่ือสุขภาพและกีฬา จะทําให้ร่างกายแข็งแรงจิตใจสดช่ืน ดังคํากล่าว

ที่ว่า “จติ ใจท่ีงดงาม ย่อมอยู่ในร่างกายที่แข็งแรง” น่ันแสดงว่าร่างกายกับจิตใจมีความสัมพันธ์กันอย่างแยกไม่
ออก ถ้าร่างกายแข็งแรง จิตใจก็จะเบิกบาน หรือในทางกลับกัน ถ้ามีจิตใจที่เข้มแข็ง จะเกิดพลังหรือกําลังใจ
ทาํ ให้รา่ งกายแขง็ แรงข้นึ

ทางกลุ่มสาระการเรยี นร้สู ุขศึกษาและพลศึกษา ตระหนกั ถึงความสาํ คัญดังกล่าว จงึ จัดต้ังชุมนุมกีฬา
ขึ้น เพื่อส่งเสริมกิจกรรมการออกกําลังกายและการเล่นกีฬาภายในโรงเรียน ท้ังยังเป็นการส่งเสริมสุขภาพกาย
และสุขภาพจิตให้สมบรู ณ์แข็งแรงอีกด้วย

ผลกำรเรียนรทู้ ค่ี ำดหวัง
๑. เพือ่ ใหน้ กั เรยี นมีสุขภาพกายและสขุ ภาพจิตทแ่ี ข็งแรงสมบูรณ์
๒. เพอื่ ใหน้ ักเรียนมนี า้ํ ใจนกั กีฬา รู้จักการให้อภัย และยอมรับในสง่ิ ทเี่ กิดข้ึน
๓. เพือ่ ฝึกใหน้ ักเรยี นเกดิ ทกั ษะในการเลน่ กฬี าชนดิ ต่าง ๆ
รวมท้ังหมด ๓ ผลกำรเรยี นรู้

๑๓๙

ชมุ นมุ คอมพวิ เตอร์

หลกั กำรและเหตผุ ล
ในปัจจุบัน เทคโนโลยคี อมพิวเตอร์ได้พฒั นาไปอย่างรวดเรว็ ในหลากหลายสาขาวิชาโดยเฉพาะอย่างย่ิง

การพัฒนาด้านการสื่อสารและด้านข้อมูล ดังน้ันจึงจําเป็นอย่างย่ิงท่ีสถานศึกษาให้ความสําคัญต่อการ
เปล่ียนแปลงของเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ เกิดความตระหนักและเท่าทันเทคโนโลยีในปัจจุบันเพื่อ
สนับสนุนให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ของผู้เรยี นในยุคศตวรรษท่ี ๒๑ ได้แก่ เป็นนักคดิ วิเคราะห์ เป็น
นักแก้ปัญหา เป็นนักสร้างสรรค์ เป็นนักประสานความร่วมมือ รู้จักใช้ข้อมูลและข่าวสาร เป็นผู้เรียนรู้ด้วย
ตนเอง เป็นนกั สือ่ สาร และตระหนักรบั รู้สภาวการณ์ของโลกปัจจุบนั และอนาคตกจิ กรรมชุมนุมคอมพวิ เตอร์ จึง
เป็นกิจกรรมกลุ่มเสริมทักษะด้านวิชาการ ในกลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยีเพ่ือพัฒนานักเรียนให้เต็ม
ศักยภาพ เพ่ือตอบสนองศักยภาพของนักเรียนได้หลากหลายวิชาสามารถตอบสนองความต้องการของสังคม
สรา้ งองค์ความรู้และเพ่ิมพูนทักษะคอมพิวเตอร์ให้แก่นักเรียนเป็นผู้มีความรคู้ วามสามารถ มีประสบการณ์ตรง
กับสภาพแวดล้อม และเทคโนโลยีใหม่ๆ และนาํ มาปรับใช้ในชวี ติ ประจาํ วนั ได้อย่างเหมาะสม

ผลกำรเรยี นรูท้ ี่คำดหวงั
๑. นักเรียนเกิดทักษะในการใชเ้ ทคโนโลยีในชีวิตประจาํ วนั
๒. นักเรียนมคี วามรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ นาํ มาใชใ้ นงานตา่ งๆ
๓. นกั เรยี นพัฒนาความรู้ความสามารถดา้ นการคิด วเิ คราะห์ สังเคราะห์
๔. นกั เรยี นมีคุณธรรม จรยิ ธรรมและค่านยิ มท่ีพงึ ประสงค์
๕. นักเรยี นมีมนุษยสัมพนั ธ์ในการทํากจิ กรรมร่วมกันกับผู้อ่ืน

รวมท้ังหมด ๕ ผลกำรเรยี นรู้

๑๔๐

กิจกรรมเพื่อสังคม

และสำธำรณประโยชน์

๑๔๑

คำอธิบำยรำยวิชำกิจกรรมพัฒนำผเู้ รยี น

กิจกรรมเพื่อสังคมและสำธำรณประโยชน์ กจิ กรรมพัฒนำผเู้ รยี น
ชน้ั ประถมศึกษำปีท่ี ๑-๖ เวลำ ๑๐ ชว่ั โมง

คำอธิบำยรำยวชิ ำ

ฝึกปฏิบัติกิจกรรมด้วยความสมัครใจผ่านกิจกรรมท่ีหลากหลาย ฝึกการทํางานที่สอดคล้องกับชีวิต
จริง ตลอดจนสะท้อนความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ สํารวจและใช้ข้อมูลประกอบการวางแผนอย่างเป็น
ระบบ เน้นทกั ษะการคิดวิเคราะห์ และใช้ความคิดสร้างสรรค์ การบริการด้านต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ตอ่ ตนเองและ
ส่วนรวม เสริมสร้างความมีน้ําใจ เอื้ออาทร ความเป็นพลเมืองดีและความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว
และสังคม คิดออกแบบกิจกรรมบําเพ็ญประโยชน์ในลักษณะอาสาสมัคร จิตอาสา เพื่อแสดงความ
รับผิดชอบต่อสังคมตามแนวทางวิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง

เพื่อให้ผู้เรียนบําเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อครอบครัว โรงเรียน ชุมชน สังคม และประเทศชาติ
สามารถออกแบบการจัดกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ ตามความถนัดและความ
สนใจ ในลักษณะอาสาสมัคร พัฒนาศักยภาพตนเองในการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ เพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ จนเกิดคุณธรรม จริยธรรม ตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์
มีจิตสาธารณะ และใช้เวลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์ และสามารถประยกุ ต์ใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้

ผลกำรเรยี นรู้

๑. บําเพญ็ ตนให้เป็นประโยชน์ตอ่ ครอบครวั โรงเรียน ชุมชน สังคม และประเทศชาติ
๒. ออกแบบการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ ตามความถนัดและความ

สนใจ ในลกั ษณะอาสาสมคั ร
๓. สามารถพัฒนาศักยภาพในการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ได้อย่างมี

ประสทิ ธิภาพ
๔. ปฏิบัติกิจการเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์จนเกิดคุณธรรม จริยธรรม ตามคุณลักษณะอันพึง

ประสงค์
๕. สามารถประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งได้
รวมทั้งหมด ๕ ผลกำรเรียนรู้

๑๔๒

ส่วนที่ ๔
เกณฑก์ ำรจบกำรศกึ ษำ

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านดอนยานาง (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓)ตามหลักสูตร
แกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ กําหนดเกณฑ์สําหรับการจบการศึกษา ไว้ดงั นี้

เกณฑก์ ารจบระดบั ประถมศกึ ษา

๑. ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐาน จํานวน ๘๔๐ ช่ัวโมง และรายวิชาเพิ่มเติมจํานวน ๘๐ ชั่วโมง และมี
ผลการประเมินรายวิชาพน้ื ฐานผ่านทกุ รายวชิ า

๒. ผเู้ รียนตอ้ งมผี ลการประเมนิ การอา่ น คิดวิเคราะห์ และเขียน ระดบั “ผ่าน” ขึ้นไป
๓. ผู้เรียนมผี ลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดบั “ผา่ น” ขน้ึ ไป
๔. ผู้เรียนตอ้ งเขา้ ร่วมกิจกรรมพัฒนาผ้เู รียนและได้รับการตัดสนิ ผลการเรียน “ผ่าน” ทกุ กจิ กรรม

การจดั การเรยี นรู้

การจัดการเรียนรู้เป็นกระบวนการสําคัญในการนําหลักสูตรสู่การปฏิบัติ หลักสูตรแกนกลาง
การศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน เป็นหลักสูตรท่ีมีมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสาํ คัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์
ของผู้เรียน เป็นเปา้ หมายสาํ หรบั พฒั นาเดก็ และเยาวชน

ในการพัฒนาผู้เรยี นให้มีคุณสมบัติตามเป้าหมายหลักสูตร ผู้สอนพยายามคัดสรรกระบวนการเรียนรู้
จดั การเรียนรู้โดยช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ผ่านสาระท่ีกําหนดไวใ้ นหลักสูตร ๘ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ รวมทั้งปลูกฝัง
เสริมสร้างคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ พัฒนาทกั ษะต่าง ๆ อันเป็นสมรรถนะสําคญั ใหผ้ ู้เรยี นบรรลุตามเปา้ หมาย

๑. หลักการจดั การเรียนรู้
การจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานการเรียนรู้สมรรถนะ

สําคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่กําหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยยึด
หลักว่า ผู้เรียนมีความสําคัญที่สุด เชื่อว่าทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ ยึดประโยชน์ท่ีเกิด
กับผู้เรียน กระบวนการจัดการเรียนรู้ต้องส่งเสริมให้ผู้เรียน สามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตาม
ศักยภาพ คํานึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลและพัฒนาการทางสมอง เน้นให้ความสําคัญทั้งความรู้ และ
คณุ ธรรม

๒. กระบวนการเรียนรู้
การจัดการเรียนรู้ท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสําคัญ ผู้เรียนจะต้องอาศัยกระบวนการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย

เป็นเคร่ืองมือที่จะนําพาตนเองไปสู่เป้าหมายของหลักสูตร โดยกระบวนการเรียนรู้ท่ีจําเป็นสําหรับผู้เรียน อาทิ
กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ กระบวนการสร้างความรู้ กระบวนการคิด กระบวนการทางสังคม

๑๔๓

กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแก้ปัญหา กระบวนการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง กระบวนการปฏิบัติ ลง
มือทําจริงกระบวนการจัดการ กระบวนการวิจัย กระบวนการเรียนรู้การเรียนรู้ของตนเอง กระบวนการพัฒนา
ลกั ษณะนสิ ัย

กระบวนการเหล่านี้ จัดเป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ท่ีผู้เรียนควรได้รับการฝึกฝนและพัฒนา
เพราะจะสามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี บรรลุเป้าหมายของหลักสูตร ดังนั้น ผู้สอนจึงจําเป็นต้อง
ศึกษาทําความเข้าใจในกระบวนการเรียนรู้ต่าง ๆ เพ่ือให้สามารถเลือกใช้ในการจัดกระบวนการเรียนรู้ได้อย่างมี
ประสทิ ธภิ าพ

๓. การออกแบบการจัดการเรยี นรู้
ผู้สอนต้องศึกษาหลักสูตรสถานศึกษาให้เข้าใจถึงมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด สมรรถนะสาํ คัญ

ของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสาระการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียน แล้วจึงจะพิจารณา
ออกแบบการจัดการเรียนรู้โดยเลือกใช้วิธีสอนและเทคนิคการสอน สื่อ/แหล่งเรียนรู้ การวัดและประเมินผล
เพ่ือให้ผู้เรียนได้พฒั นาเตม็ ตามศกั ยภาพ และบรรลตุ ามเปา้ หมายทีก่ าํ หนด

๔. บทบาทของผสู้ อนและผ้เู รยี น
การจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามเป้าหมายของหลักสูตร ท้ังผู้สอนและผู้เรียนควรมี

บทบาท ดงั น้ี
๔.๑ บทบาทของผสู้ อน
๑) ศึกษาวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล แล้วนําข้อมูลมาใช้ในการวางแผนการจัดการ

เรียนรู้ ท่ีทา้ ทายความสามารถของผเู้ รยี น
๒) กําหนดเป้าหมายท่ีต้องการให้เกิดข้ึนกับผู้เรียน ด้านความรู้และทักษะกระบวนการ ในท่ี

เปน็ ความคิดรวบยอด หลกั การ และความสัมพันธ์ รวมท้งั คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
๓) ออกแบบการเรียนรู้และจัดการเรียนรู้ท่ีตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคลและ

พฒั นาการทางสมอง เพ่อื นําผ้เู รียนไปสูเ่ ปา้ หมาย
๔) จัดบรรยากาศท่ีเออ้ื ตอ่ การเรยี นรู้ และดูแลชว่ ยเหลอื ผเู้ รยี นให้เกดิ การเรยี นรู้
๕) จัดเตรียมและเลือกใช้สื่อให้เหมาะสมกับกิจกรรม นําภูมิปัญญาท้องถิ่น เทคโนโลยีที่

เหมาะสมมาประยกุ ต์ใชใ้ นการจัดการเรียนการสอน
๖) ประเมนิ ความก้าวหน้าของผู้เรียนด้วยวิธกี ารท่หี ลากหลาย เหมาะสมกับธรรมชาติของวิชา

และระดบั พฒั นาการของผู้เรียน
๗) วิเคราะห์ผลการประเมินเพื่อนํามาใช้ในการซ่อมเสริมและพัฒนาผู้เรียน รวมทั้ง

ปรับปรุงการจดั การเรียนการสอนของตนเอง
๔.๒ บทบาทของผเู้ รียน
๑) กาํ หนดเป้าหมาย วางแผน และรบั ผิดชอบการเรียนรู้ของตนเอง
๒) เสาะแสวงหาความรู้ เข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ ข้อความรู้ ตั้ง

คาํ ถาม คดิ หาคําตอบหรือหาแนวทางแก้ปญั หาดว้ ยวธิ กี ารตา่ ง ๆ

๑๔๔

๓) ลงมือปฏิบัติจริง สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ด้วยตนเอง และนําความรู้ไปประยุกต์ใช้ใน
สถานการณต์ ่าง ๆ

๔) มปี ฏิสัมพันธ์ ทํางาน ทํากจิ กรรมร่วมกบั กล่มุ และครู
๕) ประเมนิ และพัฒนากระบวนการเรียนร้ขู องตนเองอยา่ งต่อเนื่อง

ส่ือกำรเรยี นรู้

ส่ือการเรียนรู้เป็นเครื่องมือส่งเสริมสนับสนุนการจัดการกระบวนการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนเข้าถึงความรู้
ทักษะกระบวนการ และคุณลักษณะตามมาตรฐานของหลักสูตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่ือการเรียนรู้มี
หลากหลายประเภท ท้ังส่ือธรรมชาติ ส่ือส่ิงพิมพ์ สื่อเทคโนโลยี และเครือข่ายการเรียนรู้ต่าง ๆ ที่มีในท้องถิ่น
การเลือกใชส้ ่ือควรเลือกใหม้ ีความเหมาะสมกบั ระดบั พฒั นาการ และลีลาการเรยี นรูท้ ่ีหลากหลายของผูเ้ รยี น

การจัดหาสื่อการเรยี นรู้ ผู้เรียนและผูส้ อนสามารถจดั ทําและพัฒนาขึ้นเอง หรือปรบั ปรงุ เลือกใช้อย่าง
มีคุณภาพจากสื่อต่าง ๆ ท่ีมีอยู่รอบตัว เพ่ือนํามาใช้ประกอบในการจัดการเรียนรู้ที่สามารถส่งเสริมและสื่อสาร
ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ โดยสถานศึกษาควรจัดให้มีอย่างพอเพียง เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่าง
แท้จริง สถานศึกษา เขตพื้นท่ีการศึกษา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้มีหน้าท่ีจัดการศึกษาข้ันพ้ืนฐานควร
ดาํ เนินการ ดังนี้

๑. จดั ให้มีแหล่งการเรียนรู้ ศนู ย์สื่อการเรยี นรู้ ระบบสารสนเทศการเรียนรู้และเครือข่ายการเรยี นรู้ท่ี
มีประสิทธิภาพ ท้ังในสถานศึกษาและในชุมชน เพ่ือการศึกษาค้นคว้าและการแลกเปล่ียนประสบการณ์การ
เรยี นรู้ ระหวา่ งสถานศึกษา ท้องถ่ิน ชมุ ชน สงั คมโลก

๒. จัดทําและจัดหาส่ือการเรียนรู้สําหรับการศึกษาค้นคว้าของผู้เรียน เสริมความรู้ให้ผู้สอน รวมท้ัง
จดั หาสิ่งท่มี อี ยู่ในทอ้ งถ่นิ มาประยกุ ตใ์ ชเ้ ป็นสอื่ การเรยี นรู้

๓. เลือกและใช้ส่ือการเรียนรู้ท่ีมีคุณภาพ มีความเหมาะสม มีความหลากหลาย สอดคล้องกับวิธีการ
เรยี นรู้ ธรรมชาติของสาระการเรยี นรู้ และความแตกต่างระหวา่ งบุคคลของผูเ้ รยี น

๔. ประเมินคุณภาพของส่ือการเรียนร้ทู เ่ี ลอื กใชอ้ ยา่ งเปน็ ระบบ
๕. ศกึ ษาค้นคว้า วิจยั เพอ่ื พัฒนาส่อื การเรียนรู้ใหส้ อดคลอ้ งกับกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียน
๖. จดั ให้มีการกํากับ ติดตาม ประเมนิ คุณภาพและประสิทธิภาพเกี่ยวกับส่อื และการใชส้ ื่อการเรยี นรู้
เปน็ ระยะ ๆ และสมํ่าเสมอ
ในการจัดทํา การเลือกใช้และการประเมินคุณภาพสื่อการเรียนรู้ที่ใช้ในสถานศึกษา ควรคํานึงถึง
หลักการสําคัญของสื่อการเรียนรู้ เช่น ความสอดคล้องกับหลักสูตร วัตถุประสงค์การเรียนรู้ การออกแบบกิจกรรม
การเรียนรู้ การจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียน เน้ือหามีความถูกต้องและทันสมัย ไม่กระทบความมัน่ คงของชาติ ไม่
ขดั ต่อศีลธรรมมกี ารใช้ภาษาทถี่ ูกตอ้ ง รปู แบบการนําเสนอทเ่ี ข้าใจงา่ ยและน่าสนใจ


Click to View FlipBook Version