The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ตรรกศาสตร์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by yimna_36, 2021-09-13 03:58:23

แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ตรรกศาสตร์

แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ตรรกศาสตร์

แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
รายวิชา คณติ ศาสตร์พนื้ ฐาน 3 (ค31107)

ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4

ของ
นางสาวอุมาพร เช่ียวณรงค์กร
ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์
โรงเรยี นชานาญสามัคคีวทิ ยา
สานกั งานเขตพื้นที่การศึกษามธั ยมศึกษาชลบุรี ระยอง

หนงั สอื สาคัญรับรองการอนมุ ัตใิ ชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้
โรงเรียนชานาญสามัคควี ิทยา อาเภอแกลง จังหวัดระยอง

………………………………………………………………
หนังสือฉบับน้ีขอรับรองว่า แผนการจัดการเรียนรู้ของครูและบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียน
ชานาญสามัคคีวิทยา อาเภอแกลง จังหวัดระยอง สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษาเขต 18
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ มีประสิทธิภาพและสามารถใช้ดาเนิน
การสอนให้เกิดประสิทธิผล เกิดประโยชน์ต่อนักเรียน สอดคล้องกับนโยบายพัฒนาคุณภาพการศึกษา
การจัดโครงการนิเทศการสอนและมาตรการส่งเสริมครูมืออาชีพ เป็นไปตามมติทางโรงเรียนท่ีให้ครูและ
บุคล า กร ท างก าร ศึ กษา จั ดท าแผ น กา ร จั ด การ เรี ย น รู้ ใ ห้ เส ร็ จ สิ้ น ก่อ น ดา เนิ น การ ส อน ใน แ ต่ล ะ ภ าค เรี ย น
ทางโรงเรยี นชานาญสามคั คีวทิ ยาจงึ ออกหนงั สืออนมุ ตั ิการใช้แผนการจัดการเรยี นรู้ ดังนี้
ข้าพเจ้าขอรบั รองวา่ แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชา คณติ ศาสตรพ์ น้ื ฐาน 3 (ค31107) ระดบั ช้นั
มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 กล่มุ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ มคี ุณภาพถูกต้องตามหลกั วิชาการใช้สอนได้

ลงชอ่ื …………………………………………………..
(นางสาวอมุ าพร เชยี่ วณรงคก์ ร)
ครูผ้สู อน

บันทกึ การอนมุ ัตจิ ากหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่ือ …………………………………………………..
(นางนติ ยา อภญิ )

หวั หนา้ กลุม่ สาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์

บันทกึ การอนุมัติจากรองผูอ้ านวยการกลมุ่ บริหารวิชาการ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่อื …………………………………………………..
(นางสาวเขมจริ ัฎฐ์ ภัทร์จโิ รจนก์ ุล)
รองผ้อู านวยการกลมุ่ บรหิ ารวชิ าการ

บนั ทึกการอนมุ ัตจิ ากผอู้ านวยการโรงเรยี นชานาญสามัคคีวทิ ยา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชื่อ …………………………………………………..
(นายสนั ติ มุกดาสนิท)

ผ้อู านวยการโรงเรยี นชานาญสามคั คีวทิ ยา

ค31107 คณติ ศาสตร์พ้นื ฐาน 3 คาอธิบายรายวชิ าพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์

ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เซต
ศกึ ษาและค้นควา้ เกี่ยวกบั ความรพู้ ้ืนฐานและสญั ลักษณเ์ กี่ยวกบั เซต การดาเนินการระหวา่ งเซต
การการแก้ปญั หาโดยใช้เซต
ตรรกศาสตร์เบอ้ื งต้น
การศกึ ษาเกีย่ วกับประพจน์ นเิ สธของประพจน์ การเช่อื มประพจน์ดว้ ยตัวเช่อื ม “และ”, “หรอื ”,“ถ้า
… แล้ว …” และ “กต็ อ่ เมอ่ื ” การหาค่าความจริงของประพจน์
โดยการจดั ประสบการณ์ใหผ้ เู้ รียนได้ศกึ ษาคน้ คว้า มกี ารใช้ทักษะการคดิ รวบยอด ฝกึ ทกั ษะการคดิ
คานวณ และฝกึ การแกป้ ัญหา เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ความคิดรวบยอดและพัฒนาทักษะกระบวนการ
ในการคิดคานวณ มีความสามารถแกป้ ญั หาด้วยวธิ หี ลากหลาย ส่ือสารและสือ่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์
สามารถเชือ่ มโยงความรูต้ ่างๆ ทางคณติ ศาสตร์กบั ศาสตร์อ่ืนๆ สามารถให้เหตุผล และมีความคดิ รเิ ร่มิ
สร้างสรรค์
เพือ่ ให้เห็นคณุ คา่ และมเี จตคติทีด่ ีตอ่ คณิตศาสตร์ สามารถทางานได้อยา่ งเป็นระบบ มีระเบยี บ มคี วาม

รบั ผิดชอบ มีวิจารณญาณ มีความคดิ ริเริ่มสรา้ งสรรคแ์ ละมีความเชื่อมัน่ ในตนเอง

รหสั ตวั ช้ีวดั

ค 1.1 ม.4/1 เข้าใจและใชค้ วามร้เู กี่ยวกับเซตและตรรกศาสตรเ์ บื้องตน้ ในการสื่อสารและส่อื ความหมายทาง

คณิตศาสตร์

รวม 1 ตัวชี้วดั

ค31107 คณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน 3 โครงสร้างรายวิชา กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 40 ชัว่ โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ
*********************************************************************************************

ท่ี ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ ตวั ชีว้ ดั สาระการเรยี นรู้ เวลา นา้ หนัก
(ชว่ั โมง) คะแนน

1 เซต ค 1.1 ม.4/1  การเขียนแสดงเซต (1)
 การเปน็ สมาชกิ ของเซต (1)
 จานวนสมาชกิ ของเซต (1)
 เซตจากดั และเซตอนนั ต์ (1)
 เอกภพสัมพัทธ์ (1)
 เซตท่เี ทา่ กนั (1)
 สับเซต (1) 19 20

 เพาเวอรเ์ ซต (1)
 แผนภาพเวนน์ (2)
 การดาเนนิ การระหวา่ งเซต (5)
 การแก้ปัญหาโดยใชเ้ ซต (3)
 ทดสอบรายจุดประสงค์ (1)

กลางภาค 1 20

2 ตรรกศาสตร์เบือ้ งต้น ค 1.1 ม.4/1  ประพจน์ (1)
 การเชอ่ื มประพจน์ (1)
 นเิ สธของประพจน์ (1) 19 15
 การเชื่อมประพจน์ดว้ ยตัวเชอื่ ม

“และ” (1)
 การเชือ่ มประพจนด์ ้วยตัวเชอื่ ม

“หรอื ” (1)
 การเชอื่ มประพจน์ดว้ ยตัวเช่ือม

“ถา้ … แลว้ …” (1)
 การเช่ือมประพจน์ด้วยตัวเชอ่ื ม

“กต็ อ่ เมื่อ” (1)
 การหาคา่ ความจริงของประพจน์(5)
 การสร้างตารางค่าความจริง (2)
 ประพจน์ที่สมมลู กนั (4)
 ทดสอบรายจดุ ประสงค์ (1)

รวมระหวา่ งปี 39 80

ปลายภาค 1 20

รวม 40 100

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
โรงเรยี นชานาญสามคั ควี ิทยา
กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ รายวิชา ค31107 คณิตศาสตร์พื้นฐาน 3 ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4
ภาคเรียน/ปีการศกึ ษา 1/2564 ชอ่ื -สกลุ นางสาวอุมาพร เช่ยี วณรงค์กร
หน่วยการเรยี นรู้ ตรรกศาสตรเ์ บื้องตน้ เรื่อง การหาคา่ ความจรงิ ของประพจน์ (4) เวลา 50 นาที
------------------------------------------------------ -------------------------------------------------------------------------

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวนจริง การดาเนนิ การของจานวน
ผลท่ีเกดิ ข้นึ จากการดาเนินการ สมบัติของการดาเนินการ และนาไปใช้
2. ตวั ชี้วดั
มฐ ค 1.1 ม.4/1 เข้าใจและใช้ความร้เู กีย่ วกับเซตและตรรกศาสตร์เบ้ืองตน้ ในการสอื่ สารและส่อื ความหมาย
ทางคณิตศาสตร์
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
เมื่อเรยี นจบบทเรยี น
ด้านความรู้ (Knowledge)
3.1 นกั เรียนสามารถอธบิ ายความคิดรวบยอดเกี่ยวกับหลักการหาคา่ ความจริงของประพจน์ได้อยา่ ง
ถกู ต้อง
3.2 นกั เรยี นสามารถหาคา่ ความจริงของประพจน์ไดอ้ ย่างถูกต้อง
ดา้ นทักษะกระบวนการ (Process)
3.3 นกั เรียนสามารถให้เหตผุ ลประกอบการตดั สนิ ใจได้อยา่ งเหมาะสม
3.4 นักเรยี นสามารถใชภ้ าษาและสญั ลกั ษณท์ างคณิตศาสตรไ์ ด้อย่างเหมาะสม
3.5 นกั เรยี นสามารถเช่อื มโยงความรทู้ างคณิตศาสตร์ได้อยา่ งเหมาะสม
ดา้ นคุณลกั ษณะ (Attribute)
3.6 นกั เรียนมีวนิ ัย
3.7 นกั เรียนมคี วามมุ่งม่ันในการทางาน
3.8 นกั เรยี นมีความใฝ่เรียนใฝร่ ู้
4. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การหาคา่ ความจรงิ ของประพจน์เชงิ ประกอบที่มีตวั เชื่อมตั้งแต่สองตัวขึ้นไป จะต้องหาค่าความจริงของ
ประพจน์เชิงประกอบในวงเล็บกอ่ น แต่ถา้ ประพจนน์ ั้นไมไ่ ด้ใส่วงเล็บให้หาคา่ ความจรงิ ของตวั เช่ือม “ ” กอ่ น
แล้วจงึ หาค่าความจรงิ ของตัวเชอื่ ม “ ” , “ ” จากนน้ั จงึ หาค่าความจริงของตวั เชอ่ื ม “ ” และลาดบั
สดุ ทา้ ยเป็นการหาค่าความจริงของตัวเช่อื ม “  ”
5. สาระการเรียนรู้
 หาค่าความจริงของประพจนเ์ ชงิ ประกอบ
6. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน
 ความสามารถในการส่ือสาร  ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการแก้ปัญหา
 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

7. คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์
 รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  ซอื่ สัตย์สจุ รติ  มวี ินัย  ใฝ่เรียนรู้
 อยู่อยา่ งพอเพียง  มงุ่ มัน่ ในการทางาน  รกั ความเป็นไทย  มจี ิตสาธารณะ
8. ชนิ้ งาน/ภาระงาน
8.1 การตอบคาถามระหว่างรว่ มกิจกรรม
8.2 ใบงาน เรือ่ ง การหาคา่ ความจริงของประพจน์ (4)
9. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

รายการ วิธีการ เครือ่ งมอื ท่ใี ช้ เกณฑ์การประเมนิ ผล
ประเมนิ ผล ประเมนิ ผล
ด้านความรู้ (Knowledge) - นกั เรียนสามารถตอบคาถามและ
ทาใบงานไดถ้ ูกตอ้ งอย่างน้อย
1. การอธิบายความคดิ - การตอบคาถาม - ข้อคาถามใน ร้อยละ 60
รวบยอดเกย่ี วกบั หลกั การ ในช้นั เรยี น ช้ันเรียน - นักเรยี นสามารถตอบคาถามและ
หาค่าความจรงิ ของประพจนไ์ ด้ - การตรวจใบงาน - เฉลยใบงาน ทาใบงานไดถ้ ูกตอ้ งอยา่ งน้อย
อยา่ งถูกต้อง รอ้ ยละ 60
2. การหาค่าความจรงิ ของ - การตอบคาถาม - ข้อคาถามใน
ประพจน์ได้อย่างถูกต้อง ในช้ันเรยี น ชัน้ เรยี น
- การตรวจใบงาน - เฉลยใบงาน

ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (Process)

3. การให้เหตผุ ลประกอบ - การสงั เกต - แบบประเมินทักษะ - นักเรียนมผี ลการประเมินอยู่ใน
การตดั สนิ ใจได้อยา่ งเหมาะสม พฤติกรรม และกระบวนการทาง ระดบั ปานกลางข้ึนไป
คณิตศาสตร์
4. การใชภ้ าษาและสญั ลักษณ์ - การสงั เกต - แบบประเมินทักษะ - นักเรียนมีผลการประเมินอยู่ใน
ทางคณิตศาสตร์ได้อยา่ ง พฤติกรรม และกระบวนการทาง ระดบั ปานกลางข้นึ ไป
เหมาะสม - การสังเกต คณิตศาสตร์
5. การเชื่อมโยงความรู้ทาง พฤติกรรม - แบบประเมนิ ทักษะ - นกั เรียนมผี ลการประเมนิ อยู่ใน
คณติ ศาสตร์ได้อยา่ งเหมาะสม และกระบวนการทาง ระดับปานกลางขึ้นไป
คณิตศาสตร์

ดา้ นคณุ ลกั ษณะ (Attribute)

6. ความมีวินัย - การสังเกต - แบบสงั เกต - นกั เรยี นมีผลการประเมินอยู่ใน
7. ความใฝ่เรียนใฝ่รู้ พฤติกรรม พฤติกรรม ระดบั ปานกลางขึ้นไป
8. ความมุ่งม่ันในการทางาน - การสงั เกต - แบบสงั เกต - นกั เรยี นมีผลการประเมินอยู่ใน
พฤติกรรม พฤติกรรม ระดบั ปานกลางขน้ึ ไป
- การสังเกต - แบบสงั เกต - นักเรียนมีผลการประเมินอยู่ใน
พฤติกรรม พฤติกรรม ระดบั ปานกลางขึ้นไป

10. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (รปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5E)
ขัน้ กระตุ้นความสนใจ (Engage)
10.1 ครูและนักเรยี นรว่ มกันสนทนาเก่ยี วกับการหาค่าความจรงิ ของประพจน์ โดยใช้คาถาม ถาม – ตอบ
กระตนุ้ ความคิดและสรา้ งทักษะการเชอื่ มโยงของนักเรียน ดังน้ี
- “มา้ เป็นสตั วส์ ่ีขา” มคี ่าความจริงเปน็ จรงิ หรอื เท็จ
( แนวตอบ จรงิ )
- “ลาเปน็ สัตวส์ ขี่ า” มคี า่ ความจริงเปน็ จริงหรือเทจ็
( แนวตอบ จริง )
- “ไกเ่ ป็นสัตวส์ ขี่ า” มคี ่าความจริงเปน็ จริงหรอื เท็จ
( แนวตอบ เทจ็ )
10.2 ครูให้นกั เรยี นพจิ ารณา

ข้ันสารวจค้นหา (Explore)
10.2 ครใู หน้ กั เรยี นแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 3 – 4 คน จากนน้ั แจกกระดานและปากกาไวท์บอร์ดใหน้ ักเรียน
แต่ละกลุม่ พรอ้ มท้งั ใหน้ ักเรยี นหาคา่ ความจริงของประพจน์เชงิ ประกอบท่มี ีตัวเชือ่ มตัง้ แตส่ องตัวขึ้นไป
ดงั นี้

กาหนดให้ p, q และ r เปน็ ประพจนท์ ่ีมคี า่ ความจริงเปน็ จรงิ จริง และเทจ็ ตามลาดบั
จงหาคา่ ความจรงิ ของประพจน์ (p q)(pr)
10.3 ครสู ่มุ ตวั แทนกลุม่ ออกมาอธิบายขน้ั ตอนการหาคา่ ความจริงของประพจน์ข้อดังกล่าวหนา้ ชัน้ เรยี น
โดยใหน้ ักเรียนในชน้ั เรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง
ขัน้ อธิบายความรู้ (Explain)
10.4 ครอู ธิบายการหาคา่ ความจริงของประพจนเ์ ชงิ ประกอบท่มี ตี ัวเช่อื มต้ังแต่สองตัวขน้ึ ไป โดยยกตัวอยา่ ง
ดงั น้ี

ตวั อยา่ งท่ี 1 กาหนดให้ p, q และ r เป็นประพจนท์ ีม่ ีคา่ ความจรงิ เปน็ จริง จรงิ และเท็จ ตามลาดบั
จงหาค่าความจรงิ ของประพจน์ (p q)(pr)
วธิ ที า สามารถหาค่าความจรงิ ของประพจน์ (p q)(pr) โดยใช้แผนภาพ ดงั นี้

(p  q)  (p  r)

TT TF

TF

F
ดังนั้น ประพจน์ (p q)(pr) มีค่าความจรงิ เปน็ เท็จ

ตัวอยา่ งที่ 2 กาหนดให้ p, q และ r เปน็ ประพจน์ท่ีมีคา่ ความจรงิ เป็นจริง จรงิ และเท็จ ตามลาดบั
จงหาคา่ ความจรงิ ของประพจน์ (p  q)(pr)
วธิ ีทา สามารถหาค่าความจรงิ ของประพจน์ (p  q)(pr) โดยใช้แผนภาพ ดังนี้

(p  q)  (p  r)
TT TF

TT

T
ดังน้ัน ประพจน์ (p q)(pr) มีค่าความจรงิ เป็นจรงิ
ขนั้ ขยายความเขา้ ใจ (Expand)
10.5 ครใู ห้นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ เล่นเกม “จรงิ หรอื เท็จ” โดยนกั เรียนแต่ละกลมุ่ หาค่าความจรงิ ของ
ประพจน์เชิงประกอบท่ีมีตวั เช่ือมตั้งแตส่ องตวั ขึน้ ไปโดยแสดงวธิ ีทาบนกระดานขนาดเล็กทแี่ จกให้
ถ้ากลุ่มใดเสรจ็ ก่อนและถกู ต้องจะได้รับคะแนน
ขนั้ ตรวจสอบผล (Evaluate)
10.6 ครมู อบหมายให้นกั เรยี นทาใบงาน เรอ่ื ง การหาค่าความจริงของประพจน์ (3)
11. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้
11.1 สอ่ื การเรียนรู้
1) PowerPoint เรือ่ ง การหาคา่ ความจริงของประพจน์
2) หนงั สือเรียนรายวชิ าพน้ื ฐาน คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ของสถาบนั สง่ เสริมการสอน
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
3) กระดานขนาดเลก็ และปากกาไวทบ์ อร์ด
4) ใบงาน เรื่อง การหาคา่ ความจรงิ ของประพจน์ (3)
11.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) ห้องสมดุ โรงเรียน

12. บนั ทกึ หลงั จดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
สรุปผลการจัดการเรียนรู้
............................................................................................................................. ................................................
.................................................................................. ........................................................................... ................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................

............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................

.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
ปัญหา / อุปสรรค
............................................................................................................................................................. ................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................

............................................................................................................................................................. ................
..................................................................................................................... ........................................................
............................................................................................................................. ................................................
...................................................................................................................................................... .......................

............................................................................................................ .................................................................
ข้อเสนอแนะ / แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................

.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................

......................................................... .................................................................................................... ................
............................................................................................................................. ................................................

ลงชอื่ ............................................................
(นางสาวอุมาพร เช่ียวณรงค์กร)
ครผู ู้สอน
............. / ............. / ..............

13. การตรวจสอบแผนการจัดการเรยี นรู้

ข้อที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 1
5432
1 แผนการจดั การเรยี นรู้สอดคล้องสมั พันธ์กับหนว่ ยการเรยี นรทู้ ก่ี าหนดไว้
2 แผนการจดั การเรยี นรู้มอี งคป์ ระกอบสาคัญครบถว้ น
3 จุดประสงค์การเรยี นรู้มีความชดั เจนครอบคลมุ เน้ือหาสาระ
4 กิจกรรมการเรียนรูส้ อดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์และเน้ือหาสาระ
5 กิจกรรมการเรยี นรมู้ คี วามหลากหลายและสามารถปฏบิ ัติได้จริง
6 กิจกรรมการเรยี นร้เู ป็นกิจกรรมท่สี ่งเสรมิ กระบวนการคิดของนกั เรยี น
7 กิจกรรมการเรยี นร้สู อดแทรกคุณธรรมและค่านยิ มที่ดีงาม
8 กิจกรรมการเรยี นรมู้ ีการสอดแทรกการนาความรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั
9 ส่อื และแหลง่ เรียนรู้มคี วามหลากหลาย และเหมาะสมกับเนื้อหาสาระ
10 การวัดและประเมนิ ผลท่ีสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้
ระดบั คุณภาพของแผนการจัดการเรยี นรู้
5 หมายถงึ คณุ ภาพในระดบั ดีเยย่ี ม 4 หมายถึง คุณภาพในระดบั ดีมาก
3 หมายถงึ คุณภาพในระดับดี 2 หมายถงึ คณุ ภาพในระดบั พอใช้
1 หมายถึง คุณภาพในระดับปรับปรุง

ความคดิ เหน็ เพิม่ เติมของหวั หน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้
............................................................................................................................. ................................................

...................................................... ....................................................................................................... ................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................

ลงชอื่ .................................................... ผปู้ ระเมนิ
(นางสาวปัทมา ภู่ระหงษ์)

หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์
............. / ............. / ..............

ความคดิ เห็นรองผู้อานวยการฝา่ ยบริหารวชิ าการ
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................................................. ................
...................................................................................................................... .......................................................
............................................................................................................................. ................................................

ลงชื่อ ....................................................
(นางวรรวิมล รัตนคณุ )

รองผู้อานวยการฝา่ ยบรหิ ารวชิ าการ
............. / ............. / ..............

ความคิดเห็นผูอ้ านวยการสถานศึกษาในโรงเรียน
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................

ลงช่อื ....................................................
(นายสมนึก คฤคราช)

ผูอ้ านวยการสถานศึกษาในโรงเรียน
............. / ............. / ............



แบบประเมินทกั ษะและกระบ

กลุม่ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ รายวิชา ค 31107
ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2562 หน่วยการเรยี นรู้ ตรรกศาสตรเ์ บื้องตน้
-------------------------------------------------------------------------------------------------

คาชืแ้ จง : กรุณาใส่คะแนนที่แสดงระดบั ของพฤตกิ รรมนักเรียนลงในชอ่ งวา่ ง โดยที่ระ
5 = พฤตกิ รรมอยู่ในระดบั ดีมาก 4 = พฤตกิ รรมอยใู่ นระดับดี 3 = พฤติกรรมอยูใ่ นร

รายการประเมิน 12

ด้านการให้เหตผุ ล
1. นกั เรียนสามารถใหเ้ หตผุ ลไดอ้ ย่างถูกต้อง
2. นักเรียนสามารถเสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจได้อยา่ งเหมาะสม
3. นักเรียนคานึงถึงความสมเหตสุ มผลของคาตอบ
ดา้ นความสามารถในการสื่อสาร
4. นกั เรยี นสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจของ
ตนเอง โดยใช้ภาษาอย่างเหมาะสม
5. นกั เรยี นสามารถเขยี นสญั ลักษณ์ทางคณติ ศาสตร์ได้อย่างถูกต้อง
6. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายโดยใช้ภาษาและสัญลกั ษณท์ างคณติ ศาสตร์
ไดอ้ ยา่ งชัดเจน
ดา้ นความเชือ่ มโยง
7. นักเรยี นสามารถนาข้อมูลทีก่ าหนดให้มาเช่ือมโยงกบั ความรู้ในสาระ
คณติ ศาสตร์ได้อยา่ งสอดคล้องและเหมาะสม
8. นักเรียนสามารถอธิบายความสมั พันธข์ องความร้หู รือหลักการทนี่ ามา
เชอื่ มโยงกันไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
9. นักเรยี นสามารถนาความรู้หรือหลักการที่ไดน้ าไปใช้ในการแก้ปัญหา
หรอื ไปประยกุ ต์ใชไ้ ด้อยา่ งเหมาะสม

บวนการทางคณิตศาสตร์

คณิตศาสตร์พนื้ ฐาน 3 ระดับชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ……….......
เรอ่ื ง การหาคา่ ความจรงิ ของประพจน์ (3) วนั /เดือน/ปี ………………………………
-------------------------------------------------------------------------------------------------------

ะดับของพฤติกรรมนกั เรยี นแบง่ เป็น 5 ระดับ ดงั นี้
ระดบั ปานกลาง 2 = พฤตกิ รรมอยูใ่ นระดบั นอ้ ย 1 = พฤติกรรมอย่ใู นระดับควรปรับปรุง

เลขท่ี
3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

รายการประเมนิ 21 22 23 2

ดา้ นการใหเ้ หตุผล
1. นักเรยี นสามารถให้เหตุผลไดอ้ ย่างถูกต้อง
2. นักเรยี นสามารถเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสนิ ใจได้อย่าง
เหมาะสม
3. นกั เรยี นคานึงถงึ ความสมเหตสุ มผลของคาตอบ
ดา้ นความสามารถในการสอื่ สาร
4. นักเรียนสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ
ของตนเอง โดยใช้ภาษาอย่างเหมาะสม
5. นักเรยี นสามารถเขียนสญั ลักษณ์ทางคณติ ศาสตร์ได้อยา่ ง
ถูกต้อง
6. นักเรยี นสามารถอธิบายโดยใชภ้ าษาและสญั ลักษณท์ าง
คณิตศาสตร์ได้อยา่ งชดั เจน
ด้านความเชื่อมโยง
7. นักเรียนสามารถนาข้อมลู ที่กาหนดให้มาเชอื่ มโยงกับความรู้
ในสาระคณิตศาสตร์ไดอ้ ย่างสอดคล้องและเหมาะสม
8. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายความสัมพันธข์ องความรูห้ รือหลักการ
ที่นามาเช่อื มโยงกนั ได้อยา่ งเหมาะสม
9. นกั เรียนสามารถนาความรู้หรอื หลกั การทไ่ี ด้นาไปใชใ้ นการ
แกป้ ญั หาหรือไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม

เลขที่
24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40

แบบสังเกตพฤ

กลุม่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ รายวิชา ค 31107
ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2562 หนว่ ยการเรียนรู้ ตรรกศาสตร์เบ้ืองต้น
-------------------------------------------------------------------------------------------------

คาชแ้ื จง : กรุณาใส่คะแนนท่ีแสดงระดบั ของพฤติกรรมนักเรยี นลงในชอ่ งว่าง โดยที่ระ
5 = พฤตกิ รรมอยใู่ นระดับดีมาก 4 = พฤตกิ รรมอยใู่ นระดับดี 3 = พฤติกรรมอยใู่ นร

รายการประเมิน 12
ด้านความมวี ินัย
1. นกั เรียนสามารถปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คับ
ของห้องเรียน
2. นกั เรียนตรงตอ่ เวลาในการปฏิบตั กิ ิจกรรม
3. นกั เรียนมีความรบั ผดิ ชอบในการทางาน
ดา้ นความมุ่งม่นั ในการทางาน
4. นกั เรยี นมคี วามตั้งใจและรับผิดชอบในหนา้ ทท่ี ี่ไดร้ บั มอบหมาย
5. นักเรียนทางานด้วยเพียรพยายามและอดทนเพื่อให้สาเร็จตาม
เปา้ หมาย
6. นกั เรียนมีส่วนรว่ มในการแสดงความคิดเห็น
ด้านความใฝ่เรยี นใฝร่ ู้
7. นักเรียนมีความตง้ั ใจในการเรยี น และเข้ารว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้
8. นักเรยี นมกี ารจดบันทึกความรู้ ในระหว่างการเรยี น
9. นกั เรยี นมกี ารซักถามข้อสงสัยระหว่างการเรยี น

ฤตกิ รรมนักเรยี น

คณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน 3 ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ……….......
เร่ือง การหาค่าความจริงของประพจน์ (3) วัน/เดอื น/ปี ………………………………
-------------------------------------------------------------------------------------------------------

ะดับของพฤติกรรมนกั เรยี นแบง่ เป็น 5 ระดบั ดงั น้ี
ระดับปานกลาง 2 = พฤติกรรมอยใู่ นระดบั น้อย 1 = พฤติกรรมอยูใ่ นระดับควรปรบั ปรุง

เลขที่
3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

รายการประเมิน 21 22 23 2

ดา้ นความมีวนิ ัย
1. นักเรยี นสามารถปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คับ
ของห้องเรยี น
2. นักเรียนตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม
3. นกั เรยี นมคี วามรบั ผิดชอบในการทางาน
ด้านความมุง่ มนั่ ในการทางาน
4. นกั เรียนมีความตัง้ ใจและรับผดิ ชอบในหนา้ ทท่ี ่ีไดร้ ับมอบหมาย
5. นกั เรยี นทางานด้วยเพียรพยายามและอดทนเพื่อให้สาเร็จตาม
เปา้ หมาย
6. นกั เรยี นมสี ่วนร่วมในการแสดงความคิดเหน็
ดา้ นความใฝเ่ รยี นใฝร่ ู้
7. นักเรยี นมคี วามต้งั ใจในการเรียน และเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรียนรู้
8. นักเรียนมกี ารจดบันทึกความรู้ ในระหว่างการเรยี น
9. นกั เรียนมีการซักถามข้อสงสยั ระหวา่ งการเรยี น

เลขที่
24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40

แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
โรงเรยี นชานาญสามัคควี ิทยา
กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ รายวิชา ค31107 คณิตศาสตร์พนื้ ฐาน 3 ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 4
ภาคเรียน/ปีการศึกษา 1/2564 ช่ือ-สกลุ นางสาวอมุ าพร เชยี่ วณรงค์กร
หน่วยการเรยี นรู้ ตรรกศาสตรเ์ บือ้ งตน้ เรื่อง ประพจน์ เวลา 50 นาที
------------------------------------------------------ -------------------------------------------------------------------------

1. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวนจรงิ การดาเนินการของจานวน
ผลที่เกิดข้ึนจากการดาเนนิ การ สมบัติของการดาเนินการ และนาไปใช้
2. ตัวชี้วัด
มฐ ค 1.1 ม.4/1 เขา้ ใจและใชค้ วามรูเ้ กย่ี วกบั เซตและตรรกศาสตรเ์ บ้ืองตน้ ในการสอ่ื สารและสอ่ื ความหมาย
ทางคณติ ศาสตร์
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
เม่ือเรียนจบบทเรียน
ด้านความรู้ (Knowledge)
3.1 นักเรียนสามารถบอกความหมายของประพจน์ได้อย่างถูกต้อง
3.2 นกั เรยี นสามารถบอกได้วา่ ข้อความใดเปน็ ประพจน์ได้อยา่ งถูกต้อง
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (Process)
3.3 นักเรยี นสามารถให้เหตผุ ลประกอบการตดั สนิ ใจไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
3.4 นกั เรียนสามารถใชภ้ าษาและสัญลกั ษณท์ างคณิตศาสตร์ได้อยา่ งเหมาะสม
3.5 นกั เรยี นสามารถเช่ือมโยงความรทู้ างคณิตศาสตร์ได้อยา่ งเหมาะสม
ดา้ นคุณลักษณะ (Attribute)
3.6 นกั เรยี นมวี ินัย
3.7 นักเรยี นมคี วามมุ่งมัน่ ในการทางาน
3.8 นักเรยี นมคี วามใฝ่เรยี นใฝ่รู้
4. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
ประพจน์ (statement) คอื ประโยคหรือข้อความทเี่ ปน็ จริงหรอื เทจ็ อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านนั้ ซ่งึ ประโยค
หรือข้อความดังกล่าวจะอยูใ่ นรปู บอกเลา่ หรือปฏเิ สธก็ได้ โดยในทางตรรกศาสตร์เรยี กการเป็น จริง (True) หรอื
เท็จ (False) ของแต่ละประพจนว์ า่ ค่าความจริง (truth value)
5. สาระการเรียนรู้
 ความหมายของประพจน์
 การหาคา่ ความจริงของประพจน์
6. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน
 ความสามารถในการสือ่ สาร  ความสามารถในการคดิ  ความสามารถในการแก้ปัญหา
 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
7. คณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์
 รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  ซอ่ื สตั ย์สุจรติ  มวี ินยั  ใฝเ่ รียนรู้
 อยู่อยา่ งพอเพยี ง  มุ่งมนั่ ในการทางาน  รกั ความเป็นไทย  มจี ิตสาธารณะ

8. ชนิ้ งาน/ภาระงาน
8.1 การตอบคาถามระหวา่ งรว่ มกิจกรรม
8.2 ใบงาน เรื่อง ประพจน์

9. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

รายการ วธิ กี าร เครอ่ื งมอื ทใ่ี ช้ เกณฑ์การประเมินผล
ด้านความรู้ (Knowledge) ประเมนิ ผล ประเมนิ ผล - นักเรียนสามารถตอบคาถามและ
1. การบอกความหมายของ ทาใบงานได้ถูกตอ้ งอย่างนอ้ ย
ประพจน์ไดอ้ ย่างถูกต้อง - การตอบคาถาม - ขอ้ คาถามใน รอ้ ยละ 60
ในช้นั เรียน ช้นั เรยี น - นกั เรียนสามารถตอบคาถามและ
2. การบอกว่าขอ้ ความใดเปน็ - การตรวจใบงาน - เฉลยใบงาน ทาใบงานไดถ้ ูกต้องอยา่ งนอ้ ย
ประพจน์ได้อย่างถูกตอ้ ง - การตอบคาถาม - ขอ้ คาถามใน รอ้ ยละ 60
ในช้ันเรียน ช้นั เรียน
- การตรวจใบงาน - เฉลยใบงาน

ด้านทักษะกระบวนการ (Process)

3. การใหเ้ หตุผลประกอบ - การสังเกต - แบบประเมินทักษะ - นักเรียนมผี ลการประเมนิ อยู่ใน
การตัดสนิ ใจได้อยา่ งเหมาะสม พฤติกรรม และกระบวนการทาง ระดับปานกลางขน้ึ ไป
คณติ ศาสตร์
4. การใชภ้ าษาและสัญลกั ษณ์ - การสังเกต - แบบประเมินทักษะ - นกั เรียนมีผลการประเมนิ อยู่ใน
ทางคณิตศาสตร์ได้อยา่ ง พฤติกรรม และกระบวนการทาง ระดบั ปานกลางขน้ึ ไป
เหมาะสม - การสงั เกต คณติ ศาสตร์
5. การเชอ่ื มโยงความรู้ทาง พฤติกรรม - แบบประเมนิ ทักษะ - นกั เรียนมีผลการประเมนิ อยู่ใน
คณิตศาสตร์ได้อยา่ งเหมาะสม และกระบวนการทาง ระดับปานกลางข้นึ ไป
คณติ ศาสตร์

ดา้ นคุณลักษณะ (Attribute)

6. ความมีวนิ ัย - การสังเกต - แบบสงั เกต - นกั เรยี นมผี ลการประเมินอยู่ใน
7. ความใฝเ่ รยี นใฝ่รู้ พฤติกรรม พฤติกรรม ระดบั ปานกลางขน้ึ ไป
8. ความม่งุ มัน่ ในการทางาน - การสงั เกต - แบบสงั เกต - นกั เรียนมผี ลการประเมินอยู่ใน
พฤติกรรม พฤติกรรม ระดับปานกลางขน้ึ ไป
- การสงั เกต - แบบสงั เกต - นกั เรียนมีผลการประเมินอยู่ใน
พฤติกรรม พฤติกรรม ระดบั ปานกลางขน้ึ ไป

10. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (รปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5E)
ข้นั กระตนุ้ ความสนใจ (Engage)
10.1 ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สนทนาเก่ียวกับประพจน์ โดยใช้คาถาม ถาม – ตอบ กระตุ้นความคดิ และ
สร้างทกั ษะการเช่ือมโยงของนักเรียน ดังน้ี
- “ลิงเป็นสตั วเ์ ลีย้ งลกู ดว้ ยนม” ขอ้ ความดังกลา่ วเปน็ จริงหรือเท็จ
( แนวตอบ จริง )
- “เชยี งใหม่อยทู่ างภาคใต้ของประเทศไทย” ข้อความดงั กล่าวเป็นจรงิ หรอื เท็จ
( แนวตอบ เท็จ )
- “2 เปน็ จานวนคู่” ข้อความดังกล่าวเปน็ จรงิ หรือเท็จ
( แนวตอบ จริง )
- “หนง่ึ สปั ดาหม์ ี 5 วนั ” ข้อความดงั กลา่ วเป็นจริงหรอื เท็จ
( แนวตอบ เท็จ )
ข้ันสารวจค้นหา (Explore)
10.2 ครอู ธบิ ายว่า ประโยคหรือข้อความทเี่ ปน็ จริงหรือเท็จอย่างใดอยา่ งหนง่ึ เรียกว่า ประพจน์
10.3 ครใู ห้นกั เรยี นร่วมกนั ยกตัวอยา่ ง ประโยคหรือข้อความท่เี ป็นประพจน์มา จากน้นั ให้นักเรียน
ในชั้นเรียนรว่ มกนั ตอบว่าข้อความดังกลา่ วเป็นจรงิ หรือเท็จ
10.4 ครใู หน้ ักเรยี นพจิ ารณาข้อความต่อไปนี้
1) อย่าเดินลดั สนาม 2) นา้ แกว้ น้ีราคาเท่าไหร่ 3) สบายดีไหม
จากนัน้ ใหน้ กั เรียนร่วมกันตอบคาถามต่อไปนี้
- ขอ้ ความดังกล่าวสามารถบอกไดห้ รือไมว่ า่ เป็นจริงหรือเทจ็
( แนวตอบ ไม่สามารถตอบได้วา่ เป็นจรงิ หรือเทจ็ )
- นกั เรียนคดิ ว่า ข้อความดังกลา่ วเป็นประพจน์หรือไม่ เพราะเหตุใด
( แนวตอบ ข้อความดังกล่าวไมเ่ ปน็ ประพจน์ เพราะ ไมส่ ามารถบอกได้วา่ ขอ้ ความน้นั เป็นจรงิ หรือ
เป็นเทจ็ )
ขั้นอธิบายความรู้ (Explain)
10.5 ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั บอกลักษณะของข้อความหรอื ประโยคทไ่ี มเ่ ป็นประพจน์ พรอ้ มยกตัวอยา่ ง
ลกั ษณะของข้อความหรือประโยคทไี่ ม่เปน็ ประพจน์ มีดังนี้
1) ประโยคคาสัง่ เช่น หา้ มเขา้
2) ประโยคขอรอ้ ง เชน่ กรุณาถอดรองเทา้
3) ประโยคทีแ่ สดงความความรู้สึก เช่น อยากรอ้ งเพลงจงั เลย
4) ประโยคคาถาม เชน่ วันนีท้ านอะไรกนั ดี
5) คาอทุ าน เชน่ อนิจจา !
6) ขอ้ ความทมี่ ตี วั ไมท่ ราบคา่ เช่น เขาเปน็ นกั เรียนช้ัน ม.4/5
10.6 ครอู ธบิ ายว่า ในทางตรรกศาสตรเ์ รยี กการเป็น จริง (True) หรือเท็จ (False) ของแตล่ ะประพจนว์ ่า
ค่าความจรงิ (truth value)

ข้นั ขยายความเขา้ ใจ (Expand)
10.7 ครใู ห้นกั เรียนพิจารณาข้อความ 4 – 5 ตัวอย่าง จากนั้นใหน้ ักเรียนร่วมกนั พิจารณาว่า
ข้อความดังกล่าวเปน็ ประพจน์หรือไม่ ถา้ เปน็ ประพจน์ให้ค่าความจรงิ ตัวอยา่ งเช่น
ตัวอย่างที่ 1 เดือนสิงหาคมมี 30 วัน
ตอบ เปน็ ประพจน์ มีค่าความจริงเปน็ เท็จ
ตัวอยา่ งที่ 2 จงตอบคาถามต่อไปน้ี
ตอบ ไมเ่ ป็นประพจน์
ตวั อยา่ งท่ี 3 x + 2 = 5 ตอบ ไมเ่ ป็นประพจน์
ตัวอยา่ งที่ 4 8 + 2 = 2 + 8
ตอบ เปน็ ประพจน์ มคี า่ ความจริงเปน็ จริง

ขั้นตรวจสอบผล (Evaluate)
10.8 ครมู อบหมายให้นกั เรยี นทาใบงาน เรื่อง ประพจน์
11. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
11.1 สื่อการเรียนรู้

1) PowerPoint เร่ือง ประพจน์
2) หนงั สอื เรียนรายวิชาพืน้ ฐาน คณิตศาสตร์ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 ของสถาบนั สง่ เสริมการสอน
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
3) ใบงาน เรื่อง ประพจน์
11.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) ห้องสมดุ โรงเรยี น

12. บันทกึ หลังจดั กิจกรรมการเรียนรู้
สรุปผลการจัดการเรียนรู้
............................................................................................................................. ................................................
....................................................................................................................................................... ......................
............................................................................................................. ................................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................................... ..............................
.................................................................................................... ......................................................... ................
............................................................................................................................. ................................................
...................................................................................................................................... .......................................
............................................................................................ ........................................................... ......................
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................. ...............................................
ปัญหา / อุปสรรค
............................................................................................................................. ................................................
.................................................................................. ........................................................................... ................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข
.......................................................................................................................... ...................................................
............................................................................................................................. ................................................
....................................................................................................................................................... ......................
................................................................................................................. ............................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................

ลงชื่อ ............................................................
(นางสาวอมุ าพร เชยี่ วณรงคก์ ร)
ครูผสู้ อน
............. / ............. / ..............

13. การตรวจสอบแผนการจัดการเรียนรู้

ข้อท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1
5432
1 แผนการจัดการเรยี นรสู้ อดคล้องสมั พันธก์ ับหน่วยการเรยี นรู้ทก่ี าหนดไว้
2 แผนการจัดการเรียนรู้มอี งคป์ ระกอบสาคัญครบถว้ น
3 จุดประสงค์การเรียนรู้มีความชัดเจนครอบคลุมเนื้อหาสาระ
4 กจิ กรรมการเรยี นรสู้ อดคล้องกบั จดุ ประสงคแ์ ละเน้ือหาสาระ
5 กิจกรรมการเรียนรู้มีความหลากหลายและสามารถปฏิบัติได้จริง
6 กิจกรรมการเรียนรู้เป็นกิจกรรมท่ีส่งเสรมิ กระบวนการคิดของนักเรียน
7 กจิ กรรมการเรียนรู้สอดแทรกคุณธรรมและคา่ นยิ มท่ดี ีงาม
8 กิจกรรมการเรยี นร้มู กี ารสอดแทรกการนาความรู้ไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั
9 สือ่ และแหล่งเรียนรู้มีความหลากหลาย และเหมาะสมกบั เนื้อหาสาระ
10 การวัดและประเมนิ ผลที่สอดคล้องกับจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
ระดบั คณุ ภาพของแผนการจัดการเรยี นรู้
5 หมายถงึ คณุ ภาพในระดบั ดีเยี่ยม 4 หมายถึง คณุ ภาพในระดบั ดีมาก
3 หมายถงึ คณุ ภาพในระดับดี 2 หมายถึง คณุ ภาพในระดับพอใช้
1 หมายถงึ คณุ ภาพในระดบั ปรบั ปรุง

ความคดิ เห็นเพิ่มเติมของหวั หนา้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................

.............................................................................................................................................................................

ลงชื่อ .................................................... ผู้ประเมิน
(นางสาวปัทมา ภู่ระหงษ์)

หัวหน้ากลุม่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์
............. / ............. / ..............

ความคิดเห็นรองผู้อานวยการฝ่ายบริหารวิชาการ
.................................................................................... ......................................................................... ................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................

ลงช่ือ ....................................................
(นางวรรวมิ ล รัตนคุณ)

รองผู้อานวยการฝา่ ยบริหารวิชาการ
............. / ............. / ..............

ความคิดเห็นผอู้ านวยการสถานศกึ ษาในโรงเรยี น
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................

ลงชือ่ ....................................................
(นายสมนกึ คฤคราช)

ผู้อานวยการสถานศกึ ษาในโรงเรียน
............. / ............. / ..............

แบบประเมนิ ทกั ษะและกระบ

กลุม่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ รายวชิ า ค 31107
ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2562 หนว่ ยการเรยี นรู้ ตรรกศาส
-------------------------------------------------------------------------------------------------

คาชื้แจง : กรุณาใส่คะแนนที่แสดงระดับของพฤตกิ รรมนักเรียนลงในช่องว่าง โดยท่ีระ
5 = พฤติกรรมอยู่ในระดบั ดีมาก 4 = พฤติกรรมอยูใ่ นระดับดี 3 = พฤติกรรมอยใู่ นร

รายการประเมนิ 123

ด้านการให้เหตผุ ล
1. นักเรยี นสามารถใหเ้ หตุผลได้อยา่ งถูกต้อง
2. นกั เรียนสามารถเสนอแนวคดิ ประกอบการตดั สนิ ใจไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
3. นกั เรยี นคานงึ ถึงความสมเหตสุ มผลของคาตอบ
ด้านความสามารถในการสือ่ สาร
4. นกั เรียนสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคิด ความเข้าใจของ
ตนเอง โดยใชภ้ าษาอยา่ งเหมาะสม
5. นักเรียนสามารถเขยี นสัญลักษณ์ทางคณติ ศาสตร์ได้อยา่ งถกู ต้อง
6. นักเรียนสามารถอธิบายโดยใชภ้ าษาและสัญลักษณ์ทางคณติ ศาสตร์
ได้อย่างชดั เจน
ดา้ นความเชื่อมโยง
7. นกั เรียนสามารถนาข้อมลู ท่ีกาหนดให้มาเชอื่ มโยงกับความรใู้ นสาระ
คณติ ศาสตร์ได้อยา่ งสอดคลอ้ งและเหมาะสม
8. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายความสัมพนั ธข์ องความรู้หรือหลักการทน่ี ามา
เชอื่ มโยงกนั ได้อยา่ งเหมาะสม
9. นักเรยี นสามารถนาความรู้หรอื หลักการที่ไดน้ าไปใชใ้ นการแกป้ ญั หา
หรอื ไปประยกุ ต์ใช้ได้อยา่ งเหมาะสม

บวนการทางคณิตศาสตร์

คณติ ศาสตร์พ้ืนฐาน 3 ระดับช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ……….......
สตร์เบอ้ื งตน้ เร่อื ง ประพจน์ วนั /เดอื น/ปี ………………………………
-------------------------------------------------------------------------------------------------------

ะดบั ของพฤติกรรมนักเรยี นแบ่งเป็น 5 ระดบั ดงั น้ี
ระดับปานกลาง 2 = พฤตกิ รรมอยใู่ นระดบั นอ้ ย 1 = พฤติกรรมอยู่ในระดบั ควรปรับปรุง

เลขที่
4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

รายการประเมนิ 21 22 23 2

ดา้ นการใหเ้ หตุผล
1. นักเรยี นสามารถให้เหตุผลไดอ้ ย่างถูกต้อง
2. นักเรยี นสามารถเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสนิ ใจได้อย่าง
เหมาะสม
3. นกั เรยี นคานึงถงึ ความสมเหตสุ มผลของคาตอบ
ดา้ นความสามารถในการสอื่ สาร
4. นักเรียนสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ
ของตนเอง โดยใช้ภาษาอย่างเหมาะสม
5. นักเรยี นสามารถเขียนสญั ลักษณ์ทางคณติ ศาสตร์ได้อยา่ ง
ถูกต้อง
6. นักเรยี นสามารถอธิบายโดยใชภ้ าษาและสญั ลักษณท์ าง
คณิตศาสตร์ได้อยา่ งชดั เจน
ด้านความเชื่อมโยง
7. นักเรียนสามารถนาข้อมลู ที่กาหนดให้มาเชอื่ มโยงกับความรู้
ในสาระคณิตศาสตร์ไดอ้ ย่างสอดคล้องและเหมาะสม
8. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายความสัมพันธข์ องความรูห้ รือหลักการ
ที่นามาเช่อื มโยงกนั ได้อยา่ งเหมาะสม
9. นกั เรียนสามารถนาความรู้หรอื หลกั การทไ่ี ด้นาไปใชใ้ นการ
แกป้ ญั หาหรือไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม

เลขที่
24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40

แบบสงั เกตพฤ

กลุม่ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ รายวิชา ค 31107
ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2562 หนว่ ยการเรียนรู้ ตรรกศาสต
-------------------------------------------------------------------------------------------------

คาชแ้ื จง : กรุณาใส่คะแนนท่ีแสดงระดบั ของพฤตกิ รรมนักเรยี นลงในชอ่ งว่าง โดยท่รี ะ
5 = พฤติกรรมอยู่ในระดบั ดีมาก 4 = พฤตกิ รรมอยู่ในระดับดี 3 = พฤติกรรมอยู่ในร

รายการประเมิน 12
ด้านความมวี นิ ัย
1. นักเรยี นสามารถปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคับ
ของห้องเรยี น
2. นักเรยี นตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัตกิ ิจกรรม
3. นักเรียนมคี วามรับผิดชอบในการทางาน
ดา้ นความมุง่ มั่นในการทางาน
4. นกั เรียนมีความตั้งใจและรับผิดชอบในหนา้ ทท่ี ี่ไดร้ บั มอบหมาย
5. นักเรียนทางานด้วยเพียรพยายามและอดทนเพื่อให้สาเร็จตาม
เป้าหมาย
6. นักเรยี นมีส่วนรว่ มในการแสดงความคิดเหน็
ดา้ นความใฝ่เรียนใฝ่รู้
7. นักเรียนมีความต้ังใจในการเรียน และเข้ารว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้
8. นกั เรียนมกี ารจดบันทึกความรู้ ในระหวา่ งการเรียน
9. นกั เรยี นมีการซักถามข้อสงสยั ระหวา่ งการเรียน

ฤตกิ รรมนกั เรียน

คณติ ศาสตร์พนื้ ฐาน 3 ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ……….......
ตรเ์ บ้ืองต้น เร่ือง ประพจน์ วัน/เดือน/ปี ………………………………
-------------------------------------------------------------------------------------------------------

ะดบั ของพฤติกรรมนักเรยี นแบ่งเป็น 5 ระดบั ดังนี้
ระดับปานกลาง 2 = พฤติกรรมอยใู่ นระดับน้อย 1 = พฤติกรรมอย่ใู นระดับควรปรบั ปรุง

เลขที่
3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

รายการประเมิน 21 22 23 2

ดา้ นความมีวนิ ัย
1. นักเรยี นสามารถปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คับ
ของห้องเรยี น
2. นักเรียนตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม
3. นกั เรยี นมคี วามรบั ผิดชอบในการทางาน
ด้านความมุง่ มนั่ ในการทางาน
4. นกั เรียนมีความตัง้ ใจและรับผดิ ชอบในหนา้ ทท่ี ่ีไดร้ ับมอบหมาย
5. นกั เรยี นทางานด้วยเพียรพยายามและอดทนเพื่อให้สาเร็จตาม
เปา้ หมาย
6. นกั เรยี นมสี ่วนร่วมในการแสดงความคิดเหน็
ดา้ นความใฝเ่ รยี นใฝร่ ู้
7. นักเรยี นมคี วามต้งั ใจในการเรียน และเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรียนรู้
8. นักเรียนมกี ารจดบันทึกความรู้ ในระหว่างการเรยี น
9. นกั เรียนมีการซักถามข้อสงสยั ระหวา่ งการเรยี น

เลขที่
24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40

แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
โรงเรียนชานาญสามคั ควี ิทยา
กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ รายวชิ า ค31107 คณิตศาสตร์พ้ืนฐาน 3 ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4
ภาคเรยี น/ปกี ารศึกษา 1/2564 ชื่อ-สกลุ นางสาวอุมาพร เชยี่ วณรงค์กร
หน่วยการเรียนรู้ ตรรกศาสตร์เบ้อื งตน้ เรื่อง การเช่อื มประพจน์ เวลา 50 นาที
------------------------------------------------------ -------------------------------------------------------------------------

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวนจริง การดาเนนิ การของจานวน
ผลท่ีเกิดขน้ึ จากการดาเนินการ สมบัติของการดาเนนิ การ และนาไปใช้
2. ตวั ช้ีวดั
มฐ ค 1.1 ม.4/1 เข้าใจและใช้ความรเู้ กีย่ วกบั เซตและตรรกศาสตร์เบ้ืองตน้ ในการส่ือสารและส่ือความหมาย
ทางคณิตศาสตร์
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
เม่ือเรยี นจบบทเรยี น
ดา้ นความรู้ (Knowledge)
3.1 นกั เรียนสามารถยกตัวอย่างข้อความท่เี ป็นประพจน์เชงิ เดียวไดอ้ ย่างถกู ต้อง
3.2 นกั เรียนสามารถยกตัวอย่างขอ้ ความท่ีเป็นประพจนเ์ ชิงประกอบได้อยา่ งถูกต้อง
ดา้ นทักษะกระบวนการ (Process)
3.3 นกั เรยี นสามารถให้เหตผุ ลประกอบการตดั สนิ ใจไดอ้ ย่างเหมาะสม
3.4 นักเรยี นสามารถใชภ้ าษาและสัญลกั ษณท์ างคณิตศาสตร์ได้อย่างเหมาะสม
3.5 นักเรียนสามารถเชือ่ มโยงความรู้ทางคณิตศาสตรไ์ ด้อยา่ งเหมาะสม
ดา้ นคณุ ลักษณะ (Attribute)
3.6 นักเรยี นมวี นิ ัย
3.7 นักเรียนมคี วามมุ่งมัน่ ในการทางาน
3.8 นกั เรยี นมคี วามใฝ่เรียนใฝ่รู้
4. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
ในทางคณติ ศาสตร์เรียกคาว่า “ไม่” “และ” “หรอื ” “ถา้ … แลว้ …” และ “ก็ต่อเมื่อ” วา่ ตวั เชอื่ ม
(connective) โดยประพจน์ทไ่ี ม่มีตัวเชอ่ื มดังกลา่ ว เรยี กวา่ ประพจน์เชงิ เดียว (simple statement) ซง่ึ นยิ ม
ใช้อกั ษรภาษาอังกฤษตัวพิมพ์เล็ก เช่น p, q, r, s แทนประพจน์ โดยประพจนเ์ ชงิ เดียวสามารถนามาสรา้ งประพจน์
ทีซ่ ับซ้อนขนึ้ โดยอาศัยตัวเช่ือมดังกลา่ ว เรยี กว่า ประพจน์เชิงประกอบ (compound statement) ประพจน์ที่มี
ค่าความจริงเปน็ จริง (True) แทนด้วยสญั ลักษณ์ T และ ประพจน์ที่มีคา่ ความจรงิ เปน็ เท็จ (False) แทนด้วย
สญั ลักษณ์ F
5. สาระการเรยี นรู้
 ประพจนเ์ ชิงเดยี วและประพจนเ์ ชงิ ประกอบ
6. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน
 ความสามารถในการสอ่ื สาร  ความสามารถในการคดิ  ความสามารถในการแกป้ ัญหา
 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

7. คุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์  ซอ่ื สัตย์สุจรติ  มวี ินัย
 รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  ใฝ่เรียนรู้
 อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง  มงุ่ มน่ั ในการทางาน  รกั ความเปน็ ไทย  มีจติ สาธารณะ
8. ชน้ิ งาน/ภาระงาน
8.1 การตอบคาถามระหวา่ งรว่ มกิจกรรม
8.2 แผนผังความคิด เรอื่ ง การเชือ่ มประพจน์
9. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้

รายการ วิธกี าร เครื่องมือท่ีใช้ เกณฑ์การประเมินผล
ประเมนิ ผล ประเมนิ ผล
ด้านความรู้ (Knowledge)

1. การยกตัวอย่างข้อความท่ี - การตอบคาถาม - ขอ้ คาถามใน - นกั เรยี นสามารถตอบคาถามและ
เป็นประพจนเ์ ชงิ เดียวไดอ้ ย่าง ในชัน้ เรยี น ช้ันเรยี น เขียนแผนผงั ความคิดได้คะแนน
ถกู ต้อง - การตรวจ - แบบประเมนิ อยา่ งน้อยร้อยละ 60
2. การยกตัวอยา่ งขอ้ ความท่ี แผนผังความคดิ แผนผงั ความคิด - นกั เรยี นสามารถตอบคาถามและ
เปน็ ประพจน์เชิงประกอบได้ - การตอบคาถาม - ขอ้ คาถามใน เขยี นแผนผังความคดิ ได้คะแนน
อยา่ งถูกต้อง ในช้นั เรียน ชัน้ เรียน อยา่ งน้อยรอ้ ยละ 60
- การตรวจ - แบบประเมนิ
แผนผังความคดิ แผนผงั ความคิด

ดา้ นทักษะกระบวนการ (Process)

3. การให้เหตุผลประกอบ - การสังเกต - แบบประเมนิ ทักษะ - นักเรียนมผี ลการประเมนิ อยู่ใน
การตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม พฤติกรรม และกระบวนการทาง ระดับปานกลางขึ้นไป
คณติ ศาสตร์
4. การใช้ภาษาและสัญลักษณ์ - การสังเกต - แบบประเมินทักษะ - นกั เรียนมีผลการประเมินอยู่ใน
ทางคณิตศาสตร์ไดอ้ ยา่ ง พฤติกรรม และกระบวนการทาง ระดบั ปานกลางขนึ้ ไป
เหมาะสม - การสังเกต คณิตศาสตร์
5. การเชอื่ มโยงความรู้ทาง พฤติกรรม - แบบประเมนิ ทักษะ - นักเรียนมีผลการประเมินอยู่ใน
คณติ ศาสตร์ได้อยา่ งเหมาะสม และกระบวนการทาง ระดบั ปานกลางข้นึ ไป
คณิตศาสตร์

ดา้ นคุณลักษณะ (Attribute)

6. ความมีวินัย - การสังเกต - แบบสังเกต - นักเรยี นมีผลการประเมินอยู่ใน
7. ความใฝ่เรียนใฝ่รู้ พฤติกรรม พฤติกรรม ระดบั ปานกลางขึ้นไป
8. ความม่งุ มนั่ ในการทางาน - การสังเกต - แบบสังเกต - นกั เรยี นมผี ลการประเมินอยู่ใน
พฤติกรรม พฤติกรรม ระดับปานกลางขึ้นไป
- การสงั เกต - แบบสังเกต - นกั เรยี นมีผลการประเมินอยู่ใน
พฤติกรรม พฤติกรรม ระดบั ปานกลางขน้ึ ไป

10. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (รูปแบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5E)
ข้ันกระตุ้นความสนใจ (Engage)
10.1 ครใู หน้ กั เรยี นเล่นเกมเพ่ือเป็นการทบทวนความรูเ้ รื่อง ประพจน์ โดยใชโ้ ปรแกรม Kahoot
10.2 ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สนทนาเก่ียวกับ การเชอ่ื มประพจน์ โดยใชค้ าถาม ถาม – ตอบ กระต้นุ
ความคิดและสร้างทักษะการเชอ่ื มโยงของนกั เรียน ดงั น้ี
- นกั เรียนคิดว่า “3 เป็นจานวนค่ี” เป็นประพจน์หรือไม่ เพราะเหตใุ ด
( แนวตอบ เปน็ ประพจน์ เพราะมีค่าความจรงิ เป็นจริง )
- นกั เรยี นคดิ วา่ “5 เป็นจานวนค่ี” เป็นประพจนห์ รือไม่ เพราะเหตุใด
( แนวตอบ เปน็ ประพจน์ เพราะมีคา่ ความจรงิ เปน็ จริง )
- นักเรียนคดิ ว่า “3 เปน็ จานวนคี่และ 5 เปน็ จานวนค่ี เปน็ ประพจนห์ รือไม่ เพราะเหตุใด
( แนวตอบ เป็นประพจน์ เพราะมีคา่ ความจรงิ เป็นจรงิ )
- นักเรยี นคิดว่า “3 เป็นจานวนคแ่ี ละ 5 เปน็ จานวนค”่ี เกดิ จากประพจน์จานวนก่ีประพจน์
( แนวตอบ 2 ประพจน์ )
ขั้นสารวจคน้ หา (Explore)
10.3 ครอู ธบิ ายว่า “3 เปน็ จานวนคี่และ 5 เป็นจานวนคี่” ประกอบดว้ ยประพจน์ 2 ประพจน์ คือ
“3 เปน็ จานวนคี่” และ “5 เปน็ จานวนค่ี” ซึง่ เชอื่ มกันด้วยตวั เชอื่ ม “และ” โดยประพจนด์ ังกลา่ ว
เรียกวา่ ประพจนเ์ ชิงเดยี ว (simple statement)
10.4 ครใู หน้ ักเรียนพจิ ารณาข้อความต่อไปน้ี
1) 4 หารด้วย 2 ลงตัว และ 6 หารดว้ ย 3 ลงตวั
2) จังหวดั ระยองอยู่ทางภาคตะวนั ออกหรือจงั หวัดตราดอยทู่ างภาคใต้
3) ถา้ สุนัขเปน็ สตั ว์ทอี่ อกลกู เปน็ ตัว แลว้ สนุ ขั เปน็ สัตว์เลย้ี งลกู ด้วยนม
4) 5 เป็นจานวนเฉพาะ ก็ต่อเมื่อ 5 มีตัวประกอบ 2 ตัว คือ 1 และ 5
จากน้ันให้นักเรียนร่วมกนั ตอบคาถามตอ่ ไปนี้
- ประพจน์ในแต่ละข้อมีคาใดเป็นตวั เชอื่ มบา้ ง
( แนวตอบ และ หรอื ถา้ … แลว้ กต็ อ่ เม่ือ )
- ประพจน์ในแตล่ ะข้อเกิดจากประพจน์เชิงเดยี วจานวนกี่ประพจน์มาเชอ่ื มกนั
( แนวตอบ 2 ประพจน์ )
ขน้ั อธิบายความรู้ (Explain)
10.5 ครอู ธบิ ายว่า เราสามารถสรา้ งประพจนท์ ซี่ บั ซ้อนขนึ้ โดยนาประพจนเ์ ชงิ เดียวมาเช่ือมดว้ ยตวั เชือ่ ม
ทางคณิตศาสตร์ ไดแ้ ก่ “และ” “หรอื ” “ถ้า … แลว้ …” และ “ก็ต่อเม่ือ” ซึ่งประพจน์ทส่ี ร้างขนึ้ เรียกว่า
ประพจน์เชิงประกอบ (compound statement)
ข้ันขยายความเขา้ ใจ (Expand)
10.6 ครใู หน้ กั เรยี นแต่ละคนยกตัวอย่างประพจน์เชงิ ประกอบจานวน 3 ตวั อย่าง จากนัน้ สมุ่ ตวั แทน
นักเรียนออกมาเขียนบนกระดานหน้าช้ันเรียน
10.7 ครูอธบิ ายวา่ นยิ มใช้อักษรภาษาองั กฤษตัวพิมพเ์ ลก็ เช่น p, q, r, s แทนประพจนท์ ่ีนามาเช่ือมกนั
โดยคา่ ความจริงของแตล่ ะประพจน์เป็นไปได้ 2 กรณี คือ จริง (true) ซึง่ แทนด้วยสญั ลักษณ์ T หรอื
เทจ็ (false) ซึ่งแทนดว้ ยสัญลักษณ์ F

ขั้นตรวจสอบผล (Evaluate)
10.8 ครมู อบหมายให้นักเรียนเขยี นแผนผังความคดิ เร่อื ง การเช่ือมประพจน์ พร้อมตกแต่งให้สวยงาม
11. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
11.1 สื่อการเรียนรู้

1) PowerPoint เรือ่ ง การเช่อื มประพจน์
2) หนังสอื เรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน คณิตศาสตร์ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ของสถาบนั สง่ เสรมิ การสอน
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
3) เกม เรื่อง การเชอ่ื มประพจน์ โดยใชโ้ ปรแกรม Kahoot
11.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) หอ้ งสมดุ โรงเรียน

12. บันทึกหลังจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
สรปุ ผลการจดั การเรียนรู้
............................................................................................................................. ................................................
.......................................................... ................................................................................................... ................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
....................................................................................................................................................... ......................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................................................. ................
............................................................................................................................ .................................................
............................................................................................................................. ................................................
....................................................................................................................................................... ......................
ปัญหา / อุปสรรค
............................................................................................................................. ................................................
.................................................................................. ........................................................................... ................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข
............................................................................................................................................................. ................
............................................................................................................................ .................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................................................. ................
.................................................................................................................... .........................................................
............................................................................................................................. ................................................
...................................................................................................................................................... .......................

ลงชอื่ ............................................................
(นางสาวอมุ าพร เชีย่ วณรงคก์ ร)
ครผู ู้สอน
............. / ............. / ..............

13. การตรวจสอบแผนการจัดการเรยี นรู้

ข้อท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1
5432
1 แผนการจัดการเรียนรู้สอดคล้องสมั พันธก์ บั หน่วยการเรยี นรู้ทกี่ าหนดไว้
2 แผนการจัดการเรียนรู้มอี งค์ประกอบสาคัญครบถว้ น
3 จุดประสงค์การเรยี นรูม้ ีความชัดเจนครอบคลุมเนื้อหาสาระ
4 กจิ กรรมการเรยี นรสู้ อดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์และเนื้อหาสาระ
5 กิจกรรมการเรียนรู้มีความหลากหลายและสามารถปฏบิ ัติไดจ้ ริง
6 กิจกรรมการเรียนรเู้ ปน็ กิจกรรมท่ีสง่ เสริมกระบวนการคิดของนกั เรียน
7 กจิ กรรมการเรยี นรสู้ อดแทรกคณุ ธรรมและค่านิยมทด่ี ีงาม
8 กิจกรรมการเรยี นรู้มกี ารสอดแทรกการนาความรู้ไปใชใ้ นชีวิตประจาวัน
9 สือ่ และแหล่งเรียนรู้มีความหลากหลาย และเหมาะสมกบั เนื้อหาสาระ
10 การวัดและประเมนิ ผลทส่ี อดคล้องกับจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
ระดบั คณุ ภาพของแผนการจัดการเรยี นรู้
5 หมายถงึ คุณภาพในระดบั ดีเยยี่ ม 4 หมายถึง คณุ ภาพในระดบั ดีมาก
3 หมายถงึ คณุ ภาพในระดบั ดี 2 หมายถึง คณุ ภาพในระดบั พอใช้
1 หมายถงึ คณุ ภาพในระดบั ปรับปรุง

ความคดิ เหน็ เพิ่มเตมิ ของหวั หนา้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................

............................................................................................................................. ................................................

ลงชอื่ .................................................... ผู้ประเมิน
(นางสาวปัทมา ภู่ระหงษ์)

หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
............. / ............. / ..............

ความคิดเห็นรองผู้อานวยการฝา่ ยบริหารวิชาการ
............................................................................................................................. ................................................
.................................................................................................................................................... .........................
.......................................................................................................... ...................................................................
............................................................................................................................. ................................................

ลงชื่อ ....................................................
(นางวรรวิมล รัตนคณุ )

รองผอู้ านวยการฝา่ ยบรหิ ารวิชาการ
............. / ............. / ..............

ความคิดเห็นผู้อานวยการสถานศึกษาในโรงเรยี น
....................................................................................................................................... ......................................
............................................................................................ ................................................................. ................
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................. ...............................................

ลงชือ่ ....................................................
(นายสมนกึ คฤคราช)

ผอู้ านวยการสถานศึกษาในโรงเรียน
............. / ............. / ..............



แบบประเมนิ แผน

กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ รายวิชา ค 31107
ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2562 หนว่ ยการเรียนรู้ ตรรกศา
-------------------------------------------------------------------------------------------------

คาช้ืแจง : กรุณาใส่คะแนนท่ีแสดงระดบั คุณภาพของช้นื งานลงในช่องว่าง โดยทร่ี ะดับ
4 = ระดบั ดีมาก 3 = ระดับดี

รายการประเมนิ 123
1. เนอ้ื หาสาระถูกต้องครบถ้วน 21 22 23
2. ความสมบูรณ์ของชิน้ งาน
3. ความถกู ต้องทางภาษา
4. ความคิดรเิ ริ่มสรา้ งสรรค์
5. ความสวยงามในการจดั รูปแบบ
6. ความตรงต่อเวลา
7. การนาไปใช้ประโยชนใ์ นชีวิตประจาวัน

รวม
รายการประเมนิ
1. เนอื้ หาสาระถูกต้องครบถว้ น
2. ความสมบูรณข์ องช้ินงาน
3. ความถกู ต้องทางภาษา
4. ความคิดริเริม่ สรา้ งสรรค์
5. ความสวยงามในการจดั รปู แบบ
6. ความตรงต่อเวลา
7. การนาไปใชป้ ระโยชน์ในชวี ิตประจาวัน

รวม

นผังความคิด

คณิตศาสตร์พื้นฐาน 3 ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ ……….......
าสตร์ เรื่อง การเช่อื มประพจน์ วนั /เดอื น/ปี ………………………………
-------------------------------------------------------------------------------------------------------

บคุณภาพของช้นิ งานแบ่งเป็น 4 ระดับ ดังนี้
2 = ระดบั พอใช้ 1 = ระดับควรปรบั ปรงุ

เลขที่
4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

เลขที่
24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40

แบบประเมินทักษะและกระบ

กลมุ่ สาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ รายวิชา ค 31107
ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2562 หน่วยการเรยี นรู้ ตรรกศาสตร์เ
-------------------------------------------------------------------------------------------------

คาชแ้ื จง : กรณุ าใส่คะแนนท่ีแสดงระดบั ของพฤติกรรมนักเรยี นลงในช่องว่าง โดยท่รี ะ
5 = พฤติกรรมอยู่ในระดับดีมาก 4 = พฤติกรรมอยใู่ นระดับดี 3 = พฤติกรรมอยู่ในร

รายการประเมนิ 123

ดา้ นการใหเ้ หตุผล
1. นักเรียนสามารถให้เหตุผลไดอ้ ยา่ งถูกต้อง
2. นักเรียนสามารถเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจไดอ้ ย่างเหมาะสม
3. นักเรียนคานงึ ถึงความสมเหตุสมผลของคาตอบ
ดา้ นความสามารถในการสือ่ สาร
4. นกั เรียนสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจของ
ตนเอง โดยใช้ภาษาอยา่ งเหมาะสม
5. นกั เรียนสามารถเขียนสญั ลักษณ์ทางคณติ ศาสตร์ได้อย่างถกู ต้อง
6. นักเรียนสามารถอธบิ ายโดยใชภ้ าษาและสัญลกั ษณท์ างคณิตศาสตร์
ได้อย่างชัดเจน
ด้านความเชอื่ มโยง
7. นกั เรียนสามารถนาข้อมูลทีก่ าหนดให้มาเชอื่ มโยงกับความรใู้ นสาระ
คณิตศาสตร์ได้อยา่ งสอดคลอ้ งและเหมาะสม
8. นกั เรียนสามารถอธิบายความสัมพันธ์ของความรู้หรอื หลักการท่ีนามา
เชื่อมโยงกันได้อยา่ งเหมาะสม
9. นกั เรียนสามารถนาความรู้หรอื หลกั การทีไ่ ดน้ าไปใชใ้ นการแก้ปัญหา
หรอื ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม

บวนการทางคณิตศาสตร์

คณติ ศาสตร์พ้ืนฐาน 3 ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ……….......
เบ้ืองตน้ เรอ่ื ง การเชื่อมประพจน์ วนั /เดอื น/ปี ………………………………
-------------------------------------------------------------------------------------------------------

ะดับของพฤติกรรมนักเรยี นแบ่งเป็น 5 ระดบั ดังน้ี
ระดับปานกลาง 2 = พฤติกรรมอยูใ่ นระดบั นอ้ ย 1 = พฤติกรรมอย่ใู นระดับควรปรับปรุง

เลขท่ี
4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

รายการประเมนิ 21 22 23 2

ดา้ นการใหเ้ หตุผล
1. นักเรยี นสามารถให้เหตุผลไดอ้ ย่างถูกต้อง
2. นักเรยี นสามารถเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสนิ ใจได้อย่าง
เหมาะสม
3. นกั เรยี นคานึงถงึ ความสมเหตสุ มผลของคาตอบ
ดา้ นความสามารถในการสอื่ สาร
4. นักเรียนสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ
ของตนเอง โดยใช้ภาษาอย่างเหมาะสม
5. นักเรยี นสามารถเขียนสญั ลักษณ์ทางคณติ ศาสตร์ได้อยา่ ง
ถูกต้อง
6. นักเรยี นสามารถอธิบายโดยใชภ้ าษาและสญั ลักษณท์ าง
คณิตศาสตร์ได้อยา่ งชดั เจน
ด้านความเชื่อมโยง
7. นักเรียนสามารถนาข้อมลู ที่กาหนดให้มาเชอื่ มโยงกับความรู้
ในสาระคณิตศาสตร์ไดอ้ ย่างสอดคล้องและเหมาะสม
8. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายความสัมพันธข์ องความรูห้ รือหลักการ
ที่นามาเช่อื มโยงกนั ได้อยา่ งเหมาะสม
9. นกั เรียนสามารถนาความรู้หรอื หลกั การทไ่ี ด้นาไปใชใ้ นการ
แกป้ ญั หาหรือไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม

เลขที่
24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40


Click to View FlipBook Version