รายการประเมิน 21 22 23 2
ดา้ นความมีวนิ ัย
1. นักเรยี นสามารถปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คับ
ของห้องเรยี น
2. นักเรียนตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม
3. นกั เรยี นมคี วามรบั ผิดชอบในการทางาน
ด้านความมุง่ มนั่ ในการทางาน
4. นกั เรียนมีความตัง้ ใจและรับผดิ ชอบในหนา้ ทท่ี ่ีไดร้ ับมอบหมาย
5. นกั เรยี นทางานด้วยเพียรพยายามและอดทนเพื่อให้สาเร็จตาม
เปา้ หมาย
6. นกั เรยี นมสี ่วนร่วมในการแสดงความคิดเหน็
ดา้ นความใฝเ่ รยี นใฝร่ ู้
7. นักเรยี นมคี วามต้งั ใจในการเรียน และเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรียนรู้
8. นักเรียนมกี ารจดบันทึกความรู้ ในระหว่างการเรยี น
9. นกั เรียนมีการซักถามข้อสงสยั ระหวา่ งการเรยี น
เลขที่
24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40
แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
โรงเรียนชานาญสามคั ควี ิทยา
กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ รายวิชา ค31107 คณิตศาสตร์พ้ืนฐาน 3 ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 4
ภาคเรียน/ปีการศึกษา 1/2564 ช่ือ-สกลุ นางสาวอุมาพร เชี่ยวณรงค์กร
หน่วยการเรยี นรู้ ตรรกศาสตร์เบอื้ งต้น เรือ่ ง การเชอื่ มประพจนด์ ว้ ยตัวเช่อื ม “ถ้า … แลว้ …” เวลา 50 นาที
------------------------------------------------------ -------------------------------------------------------------------------
1. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวนจรงิ การดาเนนิ การของจานวน
ผลทีเ่ กดิ ข้ึนจากการดาเนินการ สมบัติของการดาเนินการ และนาไปใช้
2. ตัวชี้วัด
มฐ ค 1.1 ม.4/1 เขา้ ใจและใชค้ วามร้เู ก่ียวกบั เซตและตรรกศาสตร์เบื้องต้น ในการสอ่ื สารและสือ่ ความหมาย
ทางคณติ ศาสตร์
3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
เมือ่ เรียนจบบทเรยี น
ดา้ นความรู้ (Knowledge)
3.1 นักเรยี นสามารถเขียนประพจน์ท่ีมตี วั เชื่อม “ถา้ … แล้ว …” ในรูปสัญลกั ษณไ์ ดอ้ ย่างถูกต้อง
3.2 นกั เรียนสามารถหาคา่ ความจริงของประพจน์ท่เี ชื่อมด้วย “ถ้า … แลว้ …” ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง
ดา้ นทักษะกระบวนการ (Process)
3.3 นักเรยี นสามารถใหเ้ หตผุ ลประกอบการตดั สนิ ใจได้อย่างเหมาะสม
3.4 นักเรียนสามารถใช้ภาษาและสญั ลักษณท์ างคณิตศาสตร์ได้อย่างเหมาะสม
3.5 นักเรยี นสามารถเชอ่ื มโยงความรทู้ างคณิตศาสตรไ์ ด้อยา่ งเหมาะสม
ด้านคณุ ลกั ษณะ (Attribute)
3.6 นักเรียนมีวินยั
3.7 นกั เรียนมีความมุ่งมั่นในการทางาน
3.8 นกั เรยี นมคี วามใฝ่เรยี นใฝร่ ู้
4. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
ถ้า p และ q เปน็ ประพจนใ์ ดๆ แลว้ การเชื่อมประพจน์ p และประพจน์ q ดว้ ยตัวเชื่อม “ถ้า … แล้ว …”
(if… then… ) เขียนแทนด้วยสัญลกั ษณ์ pq โดยคา่ ความจรงิ ของประพจนท์ ่ีเชื่อมดว้ ย “ถ้า … แลว้ …”
เป็นเท็จ เม่ือประพจน์ p มคี า่ ความจรงิ เป็นจริง และ q มคี ่าความจรงิ เป็นเท็จ กรณีอน่ื ๆ เปน็ จริงทุกกรณี
5. สาระการเรยี นรู้
การเขยี นประพจน์ท่มี ีตวั เชือ่ ม “ถ้า … แล้ว …” ในรปู สญั ลักษณ์
การหาคา่ ความจริงของประพจน์ท่ีเช่อื มดว้ ย “ถา้ … แล้ว …”
6. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น
ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา
ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
7. คุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์
รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสตั ย์สจุ ริต มวี ินัย ใฝเ่ รยี นรู้
อย่อู ย่างพอเพียง ม่งุ มนั่ ในการทางาน รักความเป็นไทย มจี ิตสาธารณะ
8. ช้ินงาน/ภาระงาน
8.1 การตอบคาถามระหวา่ งรว่ มกจิ กรรม
8.2 ใบงาน เร่อื ง การเชอื่ มประพจนด์ ้วยตวั เชอื่ ม “ถ้า … แล้ว …”
9. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้
รายการ วธิ กี าร เครอ่ื งมอื ทใ่ี ช้ เกณฑ์การประเมินผล
ประเมินผล ประเมนิ ผล
ดา้ นความรู้ (Knowledge)
1. การเขียนประพจน์ท่ีมี - การตอบคาถาม - ข้อคาถามใน - นกั เรียนสามารถตอบคาถามและ
ตัวเชอ่ื ม “ถา้ … แล้ว …” ในช้ันเรียน ชนั้ เรียน ทาใบงานได้ถูกต้องอยา่ งน้อย
ในรปู สญั ลักษณ์ได้อย่างถูกต้อง - การตรวจใบงาน - เฉลยใบงาน รอ้ ยละ 60
2. การหาค่าความจรงิ ของ - การตอบคาถาม - ขอ้ คาถามใน - นกั เรยี นสามารถตอบคาถามและ
ประพจน์ที่เชื่อมดว้ ย ในช้ันเรียน ช้ันเรยี น ทาใบงานไดถ้ ูกต้องอย่างน้อย
“ถา้ …แลว้ …” ไดอ้ ย่าง - การตรวจใบงาน - เฉลยใบงาน รอ้ ยละ 60
ถูกต้อง
ด้านทกั ษะกระบวนการ (Process)
3. การให้เหตผุ ลประกอบ - การสังเกต - แบบประเมินทักษะ - นักเรียนมีผลการประเมนิ อยู่ใน
การตดั สินใจได้อย่างเหมาะสม พฤติกรรม และกระบวนการทาง ระดบั ปานกลางขึ้นไป
คณติ ศาสตร์
4. การใชภ้ าษาและสัญลักษณ์ - การสังเกต - แบบประเมินทักษะ - นักเรยี นมีผลการประเมนิ อยู่ใน
ทางคณิตศาสตร์ได้อย่าง พฤติกรรม และกระบวนการทาง ระดบั ปานกลางขน้ึ ไป
เหมาะสม - การสังเกต คณติ ศาสตร์
5. การเชอื่ มโยงความรู้ทาง พฤติกรรม - แบบประเมินทักษะ - นกั เรยี นมีผลการประเมนิ อยู่ใน
คณิตศาสตร์ได้อย่างเหมาะสม และกระบวนการทาง ระดับปานกลางขน้ึ ไป
คณิตศาสตร์
ด้านคุณลักษณะ (Attribute)
6. ความมีวินยั - การสงั เกต - แบบสงั เกต - นักเรียนมีผลการประเมินอยู่ใน
7. ความใฝเ่ รยี นใฝร่ ู้ พฤติกรรม พฤติกรรม ระดบั ปานกลางข้นึ ไป
8. ความมุ่งมน่ั ในการทางาน - การสังเกต - แบบสงั เกต - นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ อยู่ใน
พฤติกรรม พฤติกรรม ระดับปานกลางข้ึนไป
- การสงั เกต - แบบสงั เกต - นักเรยี นมผี ลการประเมินอยู่ใน
พฤติกรรม พฤติกรรม ระดับปานกลางข้ึนไป
10. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ (รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5E)
ข้นั กระต้นุ ความสนใจ (Engage)
10.1 ครใู หน้ กั เรยี นทดสอบก่อนเรยี น โดยใหห้ าคา่ ความจริงของประพจน์ทเ่ี ชื่อมด้วยตัวเชอื่ ม
“ถา้ … แลว้ …” จานวน 3 ข้อ
10.2 ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สนทนาเก่ยี วกับการเชอ่ื มประพจน์ด้วยตวั เชือ่ ม “ถา้ … แลว้ …” โดยใช้คาถาม
ถาม – ตอบ กระต้นุ ความคิดและสร้างทักษะการเช่อื มโยงของนักเรียน ดังน้ี
- “หนง่ึ กโิ ลเมตรเปน็ หนึ่งพนั เมตร” เปน็ ประพจนห์ รอื ไม่
( แนวตอบ เป็นประพจน์ )
- “สองกโิ ลเมตรเปน็ สองพันเมตร” เปน็ ประพจน์หรอื ไม่
( แนวตอบ เปน็ ประพจน์ )
- “ถ้าหน่งึ กิโลเมตรเปน็ หนงึ่ พันเมตรแล้วสองกโิ ลเมตรเป็นสองพันเมตร” เปน็ ประพจน์หรือไม่
( แนวตอบ เป็นประพจน์ )
- “ถ้าหน่งึ กโิ ลเมตรเป็นหนงึ่ พนั เมตรแลว้ สองกิโลเมตรเปน็ สองพนั เมตร” จากประพจน์ดังกลา่ ว
มคี าใดเปน็ ตวั เชอ่ื ม
( แนวตอบ มีคาว่า “ถา้ … แล้ว …” เป็นตัวเชอื่ ม)
ขนั้ สารวจค้นหา (Explore)
10.3 ครอู ธิบายว่า ถ้า p และ q เป็นประพจน์ใดๆ แล้ว ถ้า p แลว้ q เขียนแทนดว้ ยสญั ลักษณ์ “pq ”
จากนน้ั ครูยกตวั อยา่ งการเช่ือมประพจน์ด้วยตัวเชื่อม “ถา้ … แลว้ …” จานวน 3 ตวั อยา่ ง
10.4 ครใู หน้ ักเรียนจะพจิ ารณาการหาค่าความจริงของประพจนท์ ่ีมีตัวเช่ือม “ถา้ … แล้ว …”
จากสถานการณต์ ่อไปน้ี
แม่ : ถ้าบนี สอบได้ที่ 1 แลว้ แมจ่ ะซ้ือ iPhone ใหเ้ ปน็ รางวัล
บีน : ครับ
ให้ p แทนข้อความ “บีนสอบได้ท่ี 1”
q แทนข้อความ “แมซ่ อ้ื iPhone ให้เปน็ รางวัล ”
จะได้ว่า pq แทนขอ้ ความ “ถา้ บนี สอบไดท้ ี่ 1 แล้วแม่ซ้ือ iPhone ให้เปน็ รางวัล”
ตารางค่าความจริงของ pq
บีนสอบได้ท่ี 1 (p) แมซ่ ือ้ iPhone ถ้าบนี สอบไดท้ ี่ 1 แลว้ แม่
ใหเ้ ปน็ รางวลั (q) ซอ้ื iPhone ให้เป็นรางวลั
( p q )
TT T
TF F
FT T
FF T
ข้นั อธบิ ายความรู้ (Explain)
10.5 ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรปุ ตารางค่าความจรงิ และใช้คาถาม ถาม – ตอบ กระต้นุ ความคิดและ
สร้างทักษะการเช่ือมโยงของนกั เรยี น ดงั นี้
- จากตารางประพจนท์ ีเ่ ชื่อมด้วย “ถ้า … แล้ว …” มคี ่าความจรงิ เป็นจรงิ ก่ีกรณี
( แนวตอบ 3 กรณี )
- จากตารางประพจน์ท่ีเชือ่ มดว้ ย “ถา้ … แลว้ …” มีค่าความจรงิ เป็นเท็จกี่กรณี
( แนวตอบ 1 กรณี )
10.6 ครยู กตวั อย่างการเขียนประพจน์ท่ีมตี ัวเชอ่ื ม “ถ้า … แลว้ …” ในรปู สญั ลกั ษณ์และหาคา่ ความจรงิ
ของประพจน์ 3 – 4 ตัวอยา่ ง เช่น
ตวั อย่าง ถา้ 4 หารดว้ ย 2 ลงตัว แล้ว 4 เป็นจานวนคู่
วธิ ีทา ให้ p แทนข้อความ “4 หารดว้ ย 2 ลงตวั ”
q แทนข้อความ “4 เป็นจานวนคู่”
ประพจน์ทก่ี าหนดอยใู่ นรูป pq
จะได้วา่ pq T T T
ดงั นน้ั ประพจนท์ ่ีกาหนดมคี ่าความจริงเปน็ จรงิ
10.7 ครูให้นกั เรียนทาใบงาน เร่ือง การเช่อื มประพจน์ด้วยตวั เชื่อม “ถ้า … แลว้ …” จากนั้นครแู ละนกั เรยี น
ร่วมกันเฉลยใบงาน
ขั้นขยายความเข้าใจ (Expand)
10.8 ครใู หน้ ักเรยี นรว่ มกันยกตวั อย่างข้อความในชวี ติ ประจาวันทเ่ี ป็นประพจน์ทเี่ ชือ่ มด้วยตวั เช่อื ม
“ถา้ … แล้ว ….” พร้อมท้ังรว่ มกนั หาค่าความจริง
ข้นั ตรวจสอบผล (Evaluate)
10.9 ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรปุ ความคิดรวบยอด เรื่อง การเช่อื มประพจน์ด้วยตัวเช่ือม “ถ้า … แลว้ …”
11. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้
11.1 ส่อื การเรียนรู้
1) PowerPoint เรือ่ ง การเชอ่ื มประพจน์ดว้ ยตัวเช่ือม “ถ้า … แล้ว …”
2) หนงั สอื เรียนรายวิชาพื้นฐาน คณติ ศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4 ของสถาบนั สง่ เสริมการสอน
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
3) ใบงาน เรื่อง การเชอื่ มประพจน์ด้วยตัวเชอื่ ม “ถา้ … แล้ว …”
11.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องสมดุ โรงเรียน
12. บันทึกหลงั จัดกิจกรรมการเรยี นรู้
สรุปผลการจัดการเรยี นรู้
............................................................................................................................. ................................................
.................................................................................. ........................................................................... ................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................. ................................................................................................ ................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
..................................................... .................................................................................................. ......................
ปญั หา / อุปสรรค
....................................................................................................................... ......................................................
............................................................................................................................. ................................................
....................................................................................................................................................... ......................
.............................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................. ................................................
................................................................................................................................................ .............................
..................................................................................................... ........................................................................
............................................................................................................................. ................................................
ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
ลงชอื่ ............................................................
(นางสาวอมุ าพร เชีย่ วณรงคก์ ร)
ครผู ้สู อน
............. / ............. / ..............
13. การตรวจสอบแผนการจัดการเรียนรู้
ข้อท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1
5432
1 แผนการจดั การเรียนรสู้ อดคล้องสมั พนั ธ์กับหน่วยการเรยี นรทู้ กี่ าหนดไว้
2 แผนการจัดการเรียนรู้มีองคป์ ระกอบสาคัญครบถว้ น
3 จุดประสงค์การเรยี นรู้มคี วามชัดเจนครอบคลมุ เนื้อหาสาระ
4 กิจกรรมการเรียนรสู้ อดคล้องกับจุดประสงคแ์ ละเนื้อหาสาระ
5 กิจกรรมการเรยี นรู้มคี วามหลากหลายและสามารถปฏบิ ัตไิ ดจ้ ริง
6 กจิ กรรมการเรียนรเู้ ปน็ กิจกรรมท่ีส่งเสริมกระบวนการคิดของนกั เรยี น
7 กิจกรรมการเรียนรสู้ อดแทรกคุณธรรมและคา่ นยิ มทด่ี ีงาม
8 กิจกรรมการเรยี นรูม้ กี ารสอดแทรกการนาความรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวัน
9 สื่อและแหล่งเรยี นรู้มคี วามหลากหลาย และเหมาะสมกบั เนื้อหาสาระ
10 การวดั และประเมินผลที่สอดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์การเรยี นรู้
ระดบั คณุ ภาพของแผนการจดั การเรียนรู้
5 หมายถึง คณุ ภาพในระดับดเี ยีย่ ม 4 หมายถงึ คณุ ภาพในระดับดีมาก
3 หมายถงึ คุณภาพในระดบั ดี 2 หมายถงึ คณุ ภาพในระดับพอใช้
1 หมายถึง คุณภาพในระดบั ปรบั ปรุง
ความคิดเหน็ เพมิ่ เติมของหวั หน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้
............................................................................................................................. ................................................
...................................................... ....................................................................................................... ................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
ลงช่อื .................................................... ผู้ประเมนิ
(นางสาวปัทมา ภู่ระหงษ์)
หัวหนา้ กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
............. / ............. / ..............
ความคิดเหน็ รองผู้อานวยการฝา่ ยบริหารวชิ าการ
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................................................. ................
...................................................................................................................... .......................................................
............................................................................................................................. ................................................
ลงชอื่ ....................................................
(นางวรรวมิ ล รัตนคุณ)
รองผ้อู านวยการฝา่ ยบรหิ ารวิชาการ
............. / ............. / ..............
ความคิดเหน็ ผ้อู านวยการสถานศึกษาในโรงเรียน
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
ลงชอื่ ....................................................
(นายสมนกึ คฤคราช)
ผอู้ านวยการสถานศึกษาในโรงเรียน
............. / ............. / ..............
แบบประเมนิ ทกั ษะและกระบ
กล่มุ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ รายวชิ า ค 31107
ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2562 หน่วยการเรียนรู้ ตรรกศาสตร์เบื้องต้น เรอื่ ง ก
-------------------------------------------------------------------------------------------------
คาชแื้ จง : กรุณาใส่คะแนนที่แสดงระดบั ของพฤติกรรมนักเรยี นลงในช่องว่าง โดยทร่ี ะ
5 = พฤติกรรมอยู่ในระดบั ดีมาก 4 = พฤติกรรมอย่ใู นระดับดี 3 = พฤติกรรมอยใู่ นร
รายการประเมิน 123
ด้านการใหเ้ หตผุ ล
1. นกั เรยี นสามารถให้เหตุผลไดอ้ ยา่ งถูกต้อง
2. นักเรยี นสามารถเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม
3. นกั เรยี นคานึงถึงความสมเหตุสมผลของคาตอบ
ด้านความสามารถในการส่อื สาร
4. นักเรยี นสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจของ
ตนเอง โดยใช้ภาษาอยา่ งเหมาะสม
5. นกั เรียนสามารถเขียนสัญลักษณ์ทางคณติ ศาสตร์ได้อยา่ งถูกต้อง
6. นักเรียนสามารถอธิบายโดยใชภ้ าษาและสัญลกั ษณท์ างคณติ ศาสตร์
ไดอ้ ย่างชดั เจน
ด้านความเช่ือมโยง
7. นกั เรยี นสามารถนาข้อมลู ท่ีกาหนดให้มาเชือ่ มโยงกบั ความรใู้ นสาระ
คณติ ศาสตร์ได้อยา่ งสอดคลอ้ งและเหมาะสม
8. นักเรยี นสามารถอธบิ ายความสัมพนั ธข์ องความรูห้ รอื หลักการทน่ี ามา
เชอ่ื มโยงกนั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
9. นกั เรยี นสามารถนาความรู้หรือหลักการท่ีได้นาไปใช้ในการแกป้ ญั หา
หรือไปประยกุ ต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม
บวนการทางคณิตศาสตร์
คณติ ศาสตร์พ้นื ฐาน 3 ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี ……….......
การเชอื่ มประพจน์ดว้ ยตวั เช่อื ม “ถ้า … แล้ว …” วนั /เดอื น/ปี ………………………………
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
ะดับของพฤติกรรมนักเรยี นแบง่ เป็น 5 ระดบั ดังนี้
ระดับปานกลาง 2 = พฤตกิ รรมอยูใ่ นระดบั นอ้ ย 1 = พฤติกรรมอย่ใู นระดับควรปรับปรุง
เลขที่
4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
รายการประเมนิ 21 22 23 2
ดา้ นการใหเ้ หตุผล
1. นักเรยี นสามารถให้เหตุผลไดอ้ ย่างถูกต้อง
2. นักเรยี นสามารถเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสนิ ใจได้อย่าง
เหมาะสม
3. นกั เรยี นคานึงถงึ ความสมเหตสุ มผลของคาตอบ
ดา้ นความสามารถในการสอื่ สาร
4. นักเรียนสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ
ของตนเอง โดยใช้ภาษาอย่างเหมาะสม
5. นักเรยี นสามารถเขียนสญั ลักษณ์ทางคณติ ศาสตร์ได้อยา่ ง
ถูกต้อง
6. นักเรยี นสามารถอธิบายโดยใชภ้ าษาและสญั ลักษณท์ าง
คณิตศาสตร์ได้อยา่ งชดั เจน
ด้านความเชื่อมโยง
7. นักเรียนสามารถนาข้อมลู ที่กาหนดให้มาเชอื่ มโยงกับความรู้
ในสาระคณิตศาสตร์ไดอ้ ย่างสอดคล้องและเหมาะสม
8. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายความสัมพันธข์ องความรูห้ รือหลักการ
ที่นามาเช่อื มโยงกนั ได้อยา่ งเหมาะสม
9. นกั เรียนสามารถนาความรู้หรอื หลกั การทไ่ี ด้นาไปใชใ้ นการ
แกป้ ญั หาหรือไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม
เลขที่
24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40
แบบสงั เกตพฤ
กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ รายวชิ า ค 31107
ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2562 หน่วยการเรียนรู้ ตรรกศาสตรเ์ บ้ืองตน้ เร
-------------------------------------------------------------------------------------------------
คาชแ้ื จง : กรุณาใส่คะแนนท่ีแสดงระดับของพฤตกิ รรมนักเรยี นลงในช่องวา่ ง โดยท่ีระ
5 = พฤติกรรมอยใู่ นระดบั ดีมาก 4 = พฤตกิ รรมอยู่ในระดับดี 3 = พฤติกรรมอย่ใู นร
รายการประเมนิ 12
ด้านความมวี ินัย
1. นกั เรียนสามารถปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คับ
ของห้องเรยี น
2. นกั เรียนตรงต่อเวลาในการปฏิบัตกิ ิจกรรม
3. นกั เรียนมีความรับผิดชอบในการทางาน
ดา้ นความม่งุ ม่ันในการทางาน
4. นกั เรยี นมีความต้ังใจและรับผิดชอบในหน้าท่ที ่ีไดร้ บั มอบหมาย
5. นักเรียนทางานด้วยเพียรพยายามและอดทนเพื่อใหส้ าเร็จตาม
เปา้ หมาย
6. นกั เรียนมสี ่วนรว่ มในการแสดงความคดิ เหน็
ด้านความใฝ่เรยี นใฝ่รู้
7. นักเรยี นมีความตงั้ ใจในการเรยี น และเข้าร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้
8. นักเรียนมีการจดบันทึกความรู้ ในระหวา่ งการเรียน
9. นกั เรยี นมีการซักถามข้อสงสัยระหวา่ งการเรยี น
ฤตกิ รรมนกั เรยี น
คณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน 3 ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ……….......
รื่อง การเช่ือมประพจนด์ ว้ ยตวั เช่ือม “ถ้า … แลว้ …” วัน/เดือน/ปี ………………………………
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
ะดับของพฤติกรรมนกั เรียนแบ่งเป็น 5 ระดับ ดังน้ี
ระดับปานกลาง 2 = พฤตกิ รรมอยใู่ นระดับนอ้ ย 1 = พฤติกรรมอยใู่ นระดบั ควรปรับปรุง
เลขท่ี
3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
รายการประเมิน 21 22 23 2
ดา้ นความมีวนิ ัย
1. นักเรยี นสามารถปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คับ
ของห้องเรยี น
2. นักเรียนตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม
3. นกั เรยี นมคี วามรบั ผิดชอบในการทางาน
ด้านความมุง่ มนั่ ในการทางาน
4. นกั เรียนมีความตัง้ ใจและรับผดิ ชอบในหนา้ ทท่ี ่ีไดร้ ับมอบหมาย
5. นกั เรยี นทางานด้วยเพียรพยายามและอดทนเพื่อให้สาเร็จตาม
เปา้ หมาย
6. นกั เรยี นมสี ่วนร่วมในการแสดงความคิดเหน็
ดา้ นความใฝเ่ รยี นใฝร่ ู้
7. นักเรยี นมคี วามต้งั ใจในการเรียน และเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรียนรู้
8. นักเรียนมกี ารจดบันทึกความรู้ ในระหว่างการเรยี น
9. นกั เรียนมีการซักถามข้อสงสยั ระหวา่ งการเรยี น
เลขที่
24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40
แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
โรงเรยี นชานาญสามคั คีวิทยา
กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ รายวิชา ค31107 คณิตศาสตร์พ้นื ฐาน 3 ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4
ภาคเรยี น/ปกี ารศกึ ษา 1/2564 ชื่อ-สกลุ นางสาวอุมาพร เชีย่ วณรงค์กร
หน่วยการเรียนรู้ ตรรกศาสตรเ์ บ้อื งตน้ เร่ือง การเช่อื มประพจนด์ ว้ ยตวั เชอื่ ม “ก็ต่อเมอื่ ” เวลา 50 นาที
------------------------------------------------------ -------------------------------------------------------------------------
1. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวนจรงิ การดาเนินการของจานวน
ผลทเ่ี กิดขน้ึ จากการดาเนินการ สมบัติของการดาเนนิ การ และนาไปใช้
2. ตัวช้ีวัด
มฐ ค 1.1 ม.4/1 เข้าใจและใชค้ วามรเู้ กีย่ วกับเซตและตรรกศาสตรเ์ บื้องตน้ ในการสอ่ื สารและส่ือความหมาย
ทางคณติ ศาสตร์
3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
เมอื่ เรียนจบบทเรยี น
ดา้ นความรู้ (Knowledge)
3.1 นกั เรยี นสามารถเขยี นประพจน์ที่มีตัวเชอ่ื ม “กต็ ่อเมื่อ” ในรูปสญั ลกั ษณ์ได้อย่างถูกต้อง
3.2 นักเรียนสามารถหาค่าความจริงของประพจน์ทีเ่ ชือ่ มดว้ ย “ก็ต่อเมอ่ื ” ได้อย่างถูกต้อง
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (Process)
3.3 นักเรียนสามารถให้เหตผุ ลประกอบการตัดสนิ ใจได้อยา่ งเหมาะสม
3.4 นกั เรยี นสามารถใช้ภาษาและสัญลักษณท์ างคณิตศาสตร์ได้อย่างเหมาะสม
3.5 นกั เรียนสามารถเชือ่ มโยงความรทู้ างคณิตศาสตรไ์ ด้อย่างเหมาะสม
ดา้ นคณุ ลักษณะ (Attribute)
3.6 นักเรยี นมวี ินัย
3.7 นกั เรียนมีความมุ่งมน่ั ในการทางาน
3.8 นกั เรยี นมคี วามใฝ่เรยี นใฝ่รู้
4. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
ถา้ p และ q เป็นประพจน์ใดๆ แล้ว การเช่อื มประพจน์ p และประพจน์ q ดว้ ยตวั เชื่อม “กต็ ่อเม่ือ”
(if and only if) เขียนแทนด้วยสัญลกั ษณ์ pq โดยคา่ ความจรงิ ของประพจนท์ ี่เช่ือมด้วย “ก็ต่อเมื่อ”
เป็นจรงิ เมื่อประพจน์ p และ q มีค่าความจริงเปน็ จริงท้งั คหู่ รือเปน็ เทจ็ ทัง้ คเู่ ทา่ น้นั กรณอี ่ืนๆ เปน็ เทจ็ เสมอ
5. สาระการเรียนรู้
การเขียนประพจน์ทมี่ ีตวั เช่อื ม “กต็ ่อเมื่อ” ในรปู สัญลกั ษณ์
การหาคา่ ความจริงของประพจนท์ เี่ ชื่อมด้วย “ก็ตอ่ เมื่อ”
6. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น
ความสามารถในการสือ่ สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา
ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
7. คณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงค์
รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสตั ย์สุจรติ มวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้
อยอู่ ย่างพอเพียง มุ่งมน่ั ในการทางาน รักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ
8. ชิ้นงาน/ภาระงาน
8.1 การตอบคาถามระหว่างร่วมกิจกรรม
8.2 ใบงาน เรื่อง การเช่อื มประพจน์ดว้ ยตวั เช่ือม “ก็ต่อเมื่อ”
9. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้
รายการ วิธกี าร เคร่อื งมอื ทีใ่ ช้ เกณฑ์การประเมินผล
ประเมินผล ประเมินผล
ด้านความรู้ (Knowledge)
1. การเขยี นประพจนท์ ่ีมี - การตอบคาถาม - ขอ้ คาถามใน - นกั เรยี นสามารถตอบคาถามและ
ตวั เชื่อม “กต็ ่อเม่ือ” ในรูป ในชัน้ เรยี น ชั้นเรยี น ทาใบงานได้ถูกต้องอยา่ งนอ้ ย
สญั ลกั ษณ์ได้อย่างถูกต้อง - การตรวจใบงาน - เฉลยใบงาน ร้อยละ 60
2. การหาคา่ ความจรงิ ของ - การตอบคาถาม - ข้อคาถามใน - นักเรยี นสามารถตอบคาถามและ
ประพจนท์ ี่เชื่อมด้วย ในช้นั เรยี น ชนั้ เรียน ทาใบงานได้ถูกต้องอย่างน้อย
“กต็ ่อเมื่อ” ได้อยา่ งถูกต้อง - การตรวจใบงาน - เฉลยใบงาน รอ้ ยละ 60
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (Process)
3. การใหเ้ หตผุ ลประกอบ - การสงั เกต - แบบประเมนิ ทักษะ - นักเรียนมีผลการประเมินอยู่ใน
การตดั สินใจได้อยา่ งเหมาะสม พฤติกรรม และกระบวนการทาง ระดบั ปานกลางขนึ้ ไป
คณติ ศาสตร์
4. การใช้ภาษาและสญั ลักษณ์ - การสงั เกต - แบบประเมนิ ทักษะ - นกั เรียนมผี ลการประเมินอยู่ใน
ทางคณิตศาสตร์ไดอ้ ย่าง พฤติกรรม และกระบวนการทาง ระดับปานกลางข้นึ ไป
เหมาะสม - การสงั เกต คณติ ศาสตร์
5. การเชื่อมโยงความรู้ทาง พฤติกรรม - แบบประเมนิ ทักษะ - นักเรียนมีผลการประเมินอยู่ใน
คณติ ศาสตร์ได้อย่างเหมาะสม และกระบวนการทาง ระดับปานกลางข้นึ ไป
คณติ ศาสตร์
ด้านคณุ ลักษณะ (Attribute)
6. ความมวี ินยั - การสงั เกต - แบบสงั เกต - นกั เรยี นมีผลการประเมินอยู่ใน
7. ความใฝ่เรียนใฝร่ ู้ พฤติกรรม พฤติกรรม ระดบั ปานกลางขนึ้ ไป
8. ความมงุ่ มน่ั ในการทางาน - การสงั เกต - แบบสังเกต - นกั เรียนมผี ลการประเมนิ อยู่ใน
พฤติกรรม พฤติกรรม ระดับปานกลางขึ้นไป
- การสงั เกต - แบบสังเกต - นักเรียนมีผลการประเมินอยู่ใน
พฤติกรรม พฤติกรรม ระดับปานกลางข้นึ ไป
10. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (รปู แบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5E)
ขนั้ กระตนุ้ ความสนใจ (Engage)
10.1 ครใู หน้ ักเรียนทดสอบก่อนเรยี น โดยให้หาค่าความจริงของประพจน์ท่เี ชือ่ มด้วยตัวเช่อื ม “กต็ ่อเม่ือ”
จานวน 3 ขอ้
10.2 ครูและนักเรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั การเช่ือมประพจนด์ ้วยตัวเชอื่ ม “กต็ ่อเม่ือ” โดยใช้คาถาม
ถาม – ตอบ กระตุ้นความคดิ และสรา้ งทักษะการเชอื่ มโยงของนักเรยี น ดังนี้
- “7 มตี ัวประกอบ 2 ตัว คอื 1 และ 7” เป็นประพจนห์ รอื ไม่
( แนวตอบ เปน็ ประพจน์ )
- “7 เป็นจานวนเฉพาะ” เป็นประพจน์หรือไม่
( แนวตอบ เป็นประพจน์ )
- “7 มีตวั ประกอบ 2 ตัว คอื 1 และ 7 ก็ตอ่ เมอ่ื 7 เปน็ จานวนเฉพาะ” เป็นประพจน์หรือไม่
( แนวตอบ เปน็ ประพจน์ )
- “7 มีตัวประกอบ 2 ตัว คือ 1 และ 7 ก็ต่อเมอื่ 7 เป็นจานวนเฉพาะ” จากประพจน์ดงั กลา่ ว
มีคาใดเปน็ ตวั เชอื่ ม
( แนวตอบ มีคาวา่ “ก็ต่อเม่ือ” เปน็ ตวั เชอ่ื ม)
ข้ันสารวจคน้ หา (Explore)
10.3 ครอู ธิบายว่า ถ้า p และ q เปน็ ประพจน์ใดๆ แลว้ p ก็ตอ่ เมอื่ q เขียนแทนดว้ ยสญั ลักษณ์ “pq”
จากน้ันครูยกตวั อยา่ งการเช่อื มประพจน์ดว้ ยตวั เช่ือม “ก็ต่อเม่ือ” จานวน 3 ตวั อย่าง
10.4 ครใู ห้นกั เรียนจะพจิ ารณาการหาค่าความจรงิ ของประพจนท์ ่ีมีตวั เชื่อม “กต็ ่อเมื่อ” จากสถานการณ์
ตอ่ ไปนี้
ครู : นนุ่ จะไดเ้ กรด 4 วิชาคณิตศาสตร์ ก็ต่อเม่ือ นนุ่ ไดค้ ะแนนตั้งแต่ 80% ของคะแนนทง้ั หมด
นุ่น : คะ่
ให้ p แทนข้อความ “น่นุ จะได้เกรด 4 วิชาคณิตศาสตร์”
q แทนข้อความ “นุ่นได้คะแนนต้ังแต่ 80% ของคะแนนทงั้ หมด”
จะไดว้ า่ pq แทนขอ้ ความ “นุน่ จะไดเ้ กรด 4 วิชาคณติ ศาสตร์ กต็ ่อเมื่อ นุน่ ไดค้ ะแนนตงั้ แต่ 80%
ของคะแนนท้งั หมด”
ตารางค่าความจริงของ pq
นุ่นจะได้เกรด 4 นุน่ ไดค้ ะแนนตั้งแต่ 80% นุ่นจะไดเ้ กรด 4 วชิ าคณติ ศาสตร์
วชิ าคณิตศาสตร์ (p) ของคะแนนทั้งหมด (q) ก็ตอ่ เม่ือ นุ่นไดค้ ะแนนตงั้ แต่ 80%
ของคะแนนทัง้ หมด (pq)
T T
T F T
F T
F F F
F
T
ขัน้ อธิบายความรู้ (Explain)
10.5 ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรุปตารางค่าความจรงิ และใช้คาถาม ถาม – ตอบ กระตุ้นความคดิ และ
สรา้ งทักษะการเชื่อมโยงของนักเรียน ดังน้ี
- จากตาราง ประพจน์ที่เชอ่ื มด้วย “กต็ อ่ เม่ือ” มคี า่ ความจรงิ เป็นจริงกี่กรณี
( แนวตอบ 2 กรณี )
- จากตาราง ประพจน์ทเ่ี ชอ่ื มดว้ ย “ก็ตอ่ เมอื่ ” มีค่าความจริงเป็นเทจ็ ก่ีกรณี
( แนวตอบ 2 กรณี )
10.6 ครยู กตวั อย่างการเขยี นประพจนท์ ่ีมตี ัวเช่ือม “กต็ ่อเมื่อ” ในรปู สัญลักษณ์และหาคา่ ความจริง
ของประพจน์ 3 – 4 ตวั อย่าง เช่น
ตัวอย่าง -7 เปน็ จานวนนับ กต็ อ่ เม่ือ -7 เป็นจานวนเต็ม
วธิ ีทา ให้ p แทนข้อความ “-7 เปน็ จานวนนับ”
q แทนข้อความ “-7 เปน็ จานวนเตม็ ”
ประพจน์ที่กาหนดอยใู่ นรปู pq
จะไดว้ ่า pq F T F
ดังนนั้ ประพจนท์ ่ีกาหนดมคี ่าความจริงเปน็ เทจ็
10.7 ครใู หน้ กั เรยี นทาใบงาน เร่ือง การเชอ่ื มประพจน์ด้วยตวั เชื่อม “กต็ ่อเมื่อ” จากนั้นครูและนักเรียน
รว่ มกันเฉลยใบงาน
ขนั้ ขยายความเข้าใจ (Expand)
10.8 ครใู หน้ ักเรยี นรว่ มกนั ยกตวั อยา่ งข้อความในชวี ติ ประจาวันทีเ่ ปน็ ประพจน์ทเี่ ชอ่ื มดว้ ยตัวเชอ่ื ม
“ก็ต่อเม่ือ” พร้อมทง้ั ร่วมกันหาค่าความจริง
ขัน้ ตรวจสอบผล (Evaluate)
10.9 ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรปุ ความคิดรวบยอด เร่อื ง การเชอ่ื มประพจน์ดว้ ยตัวเช่อื ม “กต็ ่อเม่ือ”
11. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
11.1 ส่ือการเรยี นรู้
1) PowerPoint เรื่อง การเชื่อมประพจนด์ ว้ ยตัวเชอื่ ม “กต็ ่อเมื่อ”
2) หนงั สอื เรียนรายวิชาพ้ืนฐาน คณติ ศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 4 ของสถาบันสง่ เสรมิ การสอน
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
3) ใบงาน เรื่อง การเช่อื มประพจน์ด้วยตัวเช่ือม “กต็ ่อเม่ือ”
11.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) ห้องสมุดโรงเรียน
12. บันทกึ หลังจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
สรุปผลการจัดการเรยี นรู้
............................................................................................................................. ................................................
.................................................................................. ........................................................................... ................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
ปญั หา / อุปสรรค
.......................................................... ................................................................................................... ................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
................................................. ............................................................................................................ ................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................................................. ................
........................................................................................................................... ..................................................
ข้อเสนอแนะ / แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
ลงชอ่ื ............................................................
(นางสาวอมุ าพร เช่ยี วณรงค์กร)
ครผู สู้ อน
............. / ............. / ..............
13. การตรวจสอบแผนการจัดการเรียนรู้
ข้อท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1
5432
1 แผนการจดั การเรียนรู้สอดคล้องสมั พนั ธ์กับหน่วยการเรยี นรทู้ กี่ าหนดไว้
2 แผนการจัดการเรียนรู้มีองค์ประกอบสาคญั ครบถว้ น
3 จดุ ประสงค์การเรียนรู้มคี วามชัดเจนครอบคลมุ เนื้อหาสาระ
4 กจิ กรรมการเรยี นรู้สอดคล้องกบั จดุ ประสงค์และเนื้อหาสาระ
5 กิจกรรมการเรยี นรมู้ คี วามหลากหลายและสามารถปฏิบัตไิ ด้จริง
6 กิจกรรมการเรียนรเู้ ป็นกจิ กรรมท่ีส่งเสริมกระบวนการคิดของนกั เรยี น
7 กิจกรรมการเรยี นรู้สอดแทรกคุณธรรมและค่านิยมที่ดงี าม
8 กจิ กรรมการเรยี นรมู้ กี ารสอดแทรกการนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน
9 สื่อและแหล่งเรียนรู้มีความหลากหลาย และเหมาะสมกบั เน้ือหาสาระ
10 การวัดและประเมินผลที่สอดคล้องกับจดุ ประสงค์การเรียนรู้
ระดับคณุ ภาพของแผนการจัดการเรยี นรู้
5 หมายถึง คณุ ภาพในระดบั ดีเย่ียม 4 หมายถงึ คณุ ภาพในระดบั ดีมาก
3 หมายถึง คุณภาพในระดับดี 2 หมายถงึ คณุ ภาพในระดบั พอใช้
1 หมายถึง คณุ ภาพในระดับปรบั ปรุง
ความคดิ เหน็ เพ่ิมเตมิ ของหัวหน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้
............................................................................................................................................................. ................
..................................................................................................................... ........................................................
............................................................................................................................. ................................................
....................................................................................................................................................... ......................
ลงชือ่ .................................................... ผู้ประเมิน
(นางสาวปัทมา ภู่ระหงษ์)
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์
............. / ............. / ..............
ความคดิ เห็นรองผู้อานวยการฝ่ายบรหิ ารวชิ าการ
............................................................................................................................. ................................................
.................................................................................. ........................................................................... ................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
ลงชื่อ ....................................................
(นางวรรวิมล รัตนคุณ)
รองผู้อานวยการฝ่ายบรหิ ารวิชาการ
............. / ............. / ..............
ความคดิ เห็นผู้อานวยการสถานศกึ ษาในโรงเรียน
............................................................................................................................. ................................................
.................................................................................. ........................................................................... ................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
ลงชอ่ื ....................................................
(นายสมนกึ คฤคราช)
ผู้อานวยการสถานศึกษาในโรงเรยี น
............. / ............. / ..............
แบบประเมินทักษะและกระบ
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ รายวิชา ค 31107
ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2562 หนว่ ยการเรยี นรู้ ตรรกศาสตร์เบื้องต้น เร
-------------------------------------------------------------------------------------------------
คาชแื้ จง : กรณุ าใส่คะแนนที่แสดงระดบั ของพฤติกรรมนักเรียนลงในช่องวา่ ง โดยทรี่ ะ
5 = พฤติกรรมอยูใ่ นระดับดีมาก 4 = พฤติกรรมอยใู่ นระดับดี 3 = พฤติกรรมอยใู่ นร
รายการประเมนิ 123
ดา้ นการให้เหตผุ ล
1. นกั เรยี นสามารถให้เหตผุ ลได้อย่างถูกต้อง
2. นกั เรียนสามารถเสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม
3. นักเรยี นคานึงถึงความสมเหตุสมผลของคาตอบ
ดา้ นความสามารถในการส่ือสาร
4. นักเรยี นสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจของ
ตนเอง โดยใช้ภาษาอยา่ งเหมาะสม
5. นกั เรียนสามารถเขียนสัญลักษณ์ทางคณติ ศาสตร์ได้อยา่ งถกู ต้อง
6. นักเรยี นสามารถอธบิ ายโดยใชภ้ าษาและสัญลกั ษณท์ างคณติ ศาสตร์
ไดอ้ ย่างชัดเจน
ดา้ นความเชอ่ื มโยง
7. นักเรยี นสามารถนาข้อมลู ทก่ี าหนดให้มาเช่ือมโยงกับความร้ใู นสาระ
คณติ ศาสตร์ได้อยา่ งสอดคล้องและเหมาะสม
8. นกั เรียนสามารถอธบิ ายความสัมพันธ์ของความร้หู รือหลักการทนี่ ามา
เชื่อมโยงกนั ได้อยา่ งเหมาะสม
9. นกั เรียนสามารถนาความรู้หรอื หลกั การทไี่ ดน้ าไปใช้ในการแกป้ ัญหา
หรือไปประยุกต์ใช้ได้อยา่ งเหมาะสม
บวนการทางคณิตศาสตร์
คณติ ศาสตร์พ้ืนฐาน 3 ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี ……….......
รื่อง การเช่อื มประพจนด์ ้วยตวั เชื่อม “ก็ต่อเมอื่ ” วนั /เดือน/ปี ………………………………
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
ะดบั ของพฤติกรรมนักเรยี นแบ่งเป็น 5 ระดับ ดังน้ี
ระดับปานกลาง 2 = พฤติกรรมอย่ใู นระดับน้อย 1 = พฤติกรรมอย่ใู นระดบั ควรปรบั ปรุง
เลขที่
4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
รายการประเมนิ 21 22 23 2
ดา้ นการใหเ้ หตุผล
1. นักเรยี นสามารถให้เหตุผลไดอ้ ย่างถูกต้อง
2. นักเรยี นสามารถเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสนิ ใจได้อย่าง
เหมาะสม
3. นกั เรยี นคานึงถงึ ความสมเหตสุ มผลของคาตอบ
ดา้ นความสามารถในการสอื่ สาร
4. นักเรียนสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ
ของตนเอง โดยใช้ภาษาอย่างเหมาะสม
5. นักเรยี นสามารถเขียนสญั ลักษณ์ทางคณติ ศาสตร์ได้อยา่ ง
ถูกต้อง
6. นักเรยี นสามารถอธิบายโดยใชภ้ าษาและสญั ลักษณท์ าง
คณิตศาสตร์ได้อยา่ งชดั เจน
ด้านความเชื่อมโยง
7. นักเรียนสามารถนาข้อมลู ที่กาหนดให้มาเชอื่ มโยงกับความรู้
ในสาระคณิตศาสตร์ไดอ้ ย่างสอดคล้องและเหมาะสม
8. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายความสัมพันธข์ องความรูห้ รือหลักการ
ที่นามาเช่อื มโยงกนั ได้อยา่ งเหมาะสม
9. นกั เรียนสามารถนาความรู้หรอื หลกั การทไ่ี ด้นาไปใชใ้ นการ
แกป้ ญั หาหรือไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม
เลขที่
24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40
แบบสงั เกตพฤ
กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ รายวชิ า ค 31107
ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2562 หน่วยการเรียนรู้ ตรรกศาสตรเ์ บ้ืองตน้ เร
-------------------------------------------------------------------------------------------------
คาชืแ้ จง : กรุณาใส่คะแนนท่ีแสดงระดับของพฤตกิ รรมนักเรยี นลงในช่องวา่ ง โดยท่ีระ
5 = พฤติกรรมอยใู่ นระดบั ดีมาก 4 = พฤตกิ รรมอยู่ในระดับดี 3 = พฤติกรรมอย่ใู นร
รายการประเมนิ 12
ดา้ นความมวี ินัย
1. นกั เรียนสามารถปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คับ
ของห้องเรยี น
2. นกั เรียนตรงต่อเวลาในการปฏิบัตกิ ิจกรรม
3. นกั เรียนมีความรับผิดชอบในการทางาน
ดา้ นความม่งุ ม่ันในการทางาน
4. นกั เรยี นมีความต้ังใจและรับผิดชอบในหน้าท่ที ่ีไดร้ บั มอบหมาย
5. นักเรียนทางานด้วยเพียรพยายามและอดทนเพื่อใหส้ าเร็จตาม
เปา้ หมาย
6. นกั เรียนมสี ่วนรว่ มในการแสดงความคดิ เหน็
ด้านความใฝ่เรยี นใฝ่รู้
7. นักเรยี นมีความตงั้ ใจในการเรยี น และเข้าร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้
8. นกั เรียนมีการจดบันทึกความรู้ ในระหวา่ งการเรียน
9. นกั เรยี นมีการซักถามข้อสงสัยระหวา่ งการเรยี น
ฤตกิ รรมนกั เรยี น
คณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน 3 ระดับชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ……….......
รื่อง การเช่ือมประพจนด์ ้วยตวั เชอื่ ม “กต็ อ่ เมอื่ ” วนั /เดอื น/ปี ………………………………
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
ะดับของพฤติกรรมนักเรยี นแบ่งเป็น 5 ระดบั ดงั น้ี
ระดับปานกลาง 2 = พฤตกิ รรมอยใู่ นระดับน้อย 1 = พฤติกรรมอยใู่ นระดับควรปรบั ปรุง
เลขที่
3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
รายการประเมิน 21 22 23 2
ดา้ นความมีวนิ ัย
1. นักเรยี นสามารถปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คับ
ของห้องเรยี น
2. นักเรียนตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม
3. นกั เรยี นมคี วามรบั ผิดชอบในการทางาน
ด้านความมุง่ มนั่ ในการทางาน
4. นกั เรียนมีความตัง้ ใจและรับผดิ ชอบในหนา้ ทท่ี ่ีไดร้ ับมอบหมาย
5. นกั เรยี นทางานด้วยเพียรพยายามและอดทนเพื่อให้สาเร็จตาม
เปา้ หมาย
6. นกั เรยี นมสี ่วนร่วมในการแสดงความคิดเหน็
ดา้ นความใฝเ่ รยี นใฝร่ ู้
7. นักเรยี นมคี วามต้งั ใจในการเรียน และเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรียนรู้
8. นักเรียนมกี ารจดบันทึกความรู้ ในระหว่างการเรยี น
9. นกั เรียนมีการซักถามข้อสงสยั ระหวา่ งการเรยี น
เลขที่
24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40
แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
โรงเรยี นชานาญสามคั ควี ิทยา
กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ รายวิชา ค31107 คณิตศาสตร์พนื้ ฐาน 3 ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4
ภาคเรยี น/ปีการศกึ ษา 1/2564 ชือ่ -สกลุ นางสาวอมุ าพร เช่ยี วณรงค์กร
หน่วยการเรียนรู้ ตรรกศาสตรเ์ บ้อื งต้น เรอ่ื ง การหาคา่ ความจริงของประพจน์ (1) เวลา 50 นาที
------------------------------------------------------ -------------------------------------------------------------------------
1. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวนจรงิ การดาเนนิ การของจานวน
ผลที่เกิดข้นึ จากการดาเนินการ สมบัติของการดาเนินการ และนาไปใช้
2. ตัวช้ีวัด
มฐ ค 1.1 ม.4/1 เข้าใจและใช้ความรเู้ กย่ี วกบั เซตและตรรกศาสตรเ์ บื้องต้น ในการส่ือสารและส่ือความหมาย
ทางคณติ ศาสตร์
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
เมื่อเรยี นจบบทเรยี น
ด้านความรู้ (Knowledge)
3.1 นกั เรียนสามารถเขียนประพจน์ท่ีมตี วั เช่อื มในรูปสญั ลักษณ์ได้อย่างถกู ต้อง
3.2 นกั เรยี นสามารถหาค่าความจริงของประพจน์ได้อย่างถูกต้อง
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (Process)
3.3 นักเรียนสามารถใหเ้ หตผุ ลประกอบการตดั สินใจได้อย่างเหมาะสม
3.4 นกั เรียนสามารถใชภ้ าษาและสญั ลักษณ์ทางคณิตศาสตรไ์ ด้อย่างเหมาะสม
3.5 นกั เรียนสามารถเชอ่ื มโยงความรทู้ างคณิตศาสตรไ์ ด้อย่างเหมาะสม
ด้านคุณลักษณะ (Attribute)
3.6 นักเรียนมวี นิ ัย
3.7 นักเรยี นมคี วามมุ่งมน่ั ในการทางาน
3.8 นกั เรยี นมคี วามใฝ่เรียนใฝ่รู้
4. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
คา่ ความจรงิ ของประพจนท์ เ่ี ชอ่ื มด้วย “และ” เป็นจรงิ เมื่อประพจน์ทั้งสองมีคา่ ความจรงิ เปน็ จริงท้ังคู่
กรณอี ืน่ ๆ เป็นเท็จทุกกรณี ค่าความจรงิ ของประพจน์ท่ีเชอื่ มด้วย “หรอื ” เปน็ เทจ็ เมื่อประพจน์ทั้งสองมีค่า
ความจรงิ เปน็ เทจ็ ทั้งคู่ กรณีอื่นๆ เปน็ จริงทกุ กรณี คา่ ความจรงิ ของประพจน์ทเ่ี ช่ือมด้วย “ถ้า … แล้ว …”
เป็นเทจ็ เมือ่ ประพจนแ์ รกมีค่าความจริงเป็นจริง และประพจนท์ ่ีสองมีคา่ ความจรงิ เปน็ เท็จ กรณอี น่ื ๆ เป็นจรงิ
ทกุ กรณี และค่าความจริงของประพจน์ที่เช่ือมดว้ ย “กต็ อ่ เม่ือ” เปน็ จริง เมอื่ ประพจน์ท้ังสองมีคา่ ความจรงิ เป็น
จริงทง้ั คหู่ รือเป็นเทจ็ ทั้งคเู่ ทา่ นั้น กรณอี ื่นๆ เป็นเท็จเสมอ
5. สาระการเรยี นรู้
หาคา่ ความจรงิ ของประพจนเ์ ชงิ ประกอบ
6. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน
ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแกป้ ัญหา
ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
7. คุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ ซอ่ื สัตยส์ จุ ริต มวี ินัย
รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ใฝ่เรยี นรู้
อยอู่ ย่างพอเพยี ง มงุ่ มั่นในการทางาน รกั ความเป็นไทย มจี ิตสาธารณะ
8. ชิ้นงาน/ภาระงาน
8.1 การตอบคาถามระหว่างร่วมกจิ กรรม
8.2 ใบงาน เรอื่ ง การหาคา่ ความจรงิ ของประพจน์ (1)
9. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้
รายการ วธิ ีการ เครอื่ งมือทใ่ี ช้ เกณฑ์การประเมินผล
ประเมินผล ประเมินผล - นกั เรยี นสามารถตอบคาถามและ
ดา้ นความรู้ (Knowledge) ทาใบงานได้ถูกตอ้ งอยา่ งนอ้ ย
1. การเขยี นประพจน์ท่ีมี - การตอบคาถาม - ขอ้ คาถามใน รอ้ ยละ 60
ตวั เช่ือมในรูปสญั ลักษณไ์ ด้ ในชัน้ เรียน ชน้ั เรยี น - นกั เรยี นสามารถตอบคาถามและ
อย่างถูกต้อง - การตรวจใบงาน - เฉลยใบงาน ทาใบงานได้ถูกตอ้ งอยา่ งน้อย
2. การหาคา่ ความจริงของ - การตอบคาถาม - ข้อคาถามใน รอ้ ยละ 60
ประพจน์ไดอ้ ย่างถูกต้อง ในชั้นเรียน ช้ันเรียน
- การตรวจใบงาน - เฉลยใบงาน
ด้านทกั ษะกระบวนการ (Process)
3. การให้เหตผุ ลประกอบ - การสงั เกต - แบบประเมนิ ทักษะ - นักเรียนมผี ลการประเมนิ อยู่ใน
การตดั สนิ ใจได้อยา่ งเหมาะสม พฤติกรรม และกระบวนการทาง ระดับปานกลางข้นึ ไป
คณติ ศาสตร์
4. การใช้ภาษาและสญั ลกั ษณ์ - การสังเกต - แบบประเมนิ ทักษะ - นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ อยู่ใน
ทางคณิตศาสตร์ได้อยา่ ง พฤติกรรม และกระบวนการทาง ระดบั ปานกลางขึ้นไป
เหมาะสม - การสังเกต คณิตศาสตร์
5. การเชอื่ มโยงความรู้ทาง พฤติกรรม - แบบประเมนิ ทักษะ - นกั เรียนมีผลการประเมินอยู่ใน
คณิตศาสตร์ได้อยา่ งเหมาะสม และกระบวนการทาง ระดบั ปานกลางขึ้นไป
คณติ ศาสตร์
ด้านคณุ ลกั ษณะ (Attribute)
6. ความมวี ินัย - การสังเกต - แบบสังเกต - นกั เรยี นมีผลการประเมินอยู่ใน
7. ความใฝ่เรียนใฝร่ ู้ พฤติกรรม พฤติกรรม ระดบั ปานกลางขน้ึ ไป
8. ความมุ่งมัน่ ในการทางาน - การสังเกต - แบบสงั เกต - นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ อยู่ใน
พฤติกรรม พฤติกรรม ระดบั ปานกลางขน้ึ ไป
- การสงั เกต - แบบสงั เกต - นักเรยี นมผี ลการประเมินอยู่ใน
พฤติกรรม พฤติกรรม ระดับปานกลางขึ้นไป
10. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (รปู แบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5E)
ข้นั กระตนุ้ ความสนใจ (Engage)
10.1 ครูและนักเรยี นร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกับการหาคา่ ความจริงของประพจน์ท่มี ตี ัวเชือ่ ม โดยใช้คาถาม
ถาม – ตอบ กระตนุ้ ความคดิ และสรา้ งทักษะการเชือ่ มโยงของนักเรยี น ดังนี้
- ตัวเช่ือมทางตรรกศาสตร์มตี วั เชอื่ มใดบ้าง
( แนวตอบ “และ”, “หรอื ”, “ถา้ … แลว้ …” และ “ก็ต่อเม่ือ”)
- เราสามารถหาค่าความจรงิ ประพจนท์ ีเ่ ช่อื มดว้ ยตวั เช่ือม “และ” ได้อย่างไร
( แนวตอบ คา่ ความจริงของประพจน์ทีเ่ ช่ือมดว้ ย “และ” เป็นจริง เมื่อประพจน์ทัง้ สองมีค่า
ความจริงเปน็ จริงทงั้ คู่ กรณีอืน่ ๆ เปน็ เท็จทุกกรณี)
- เราสามารถหาค่าความจริงประพจน์ท่เี ชอื่ มด้วยตัวเช่ือม “หรอื ” ได้อยา่ งไร
( แนวตอบ ค่าความจรงิ ของประพจน์ที่เช่ือมดว้ ย “หรือ” เป็นเท็จ เมื่อประพจน์ทง้ั สองมีคา่
ความจรงิ เป็นเท็จทั้งคู่ กรณีอื่นๆ เปน็ จรงิ ทุกกรณี)
- เราสามารถหาคา่ ความจรงิ ประพจน์ท่เี ชือ่ มด้วยตวั เชอื่ ม “ถ้า … แลว้ …” ไดอ้ ย่างไร
( แนวตอบ คา่ ความจริงของประพจนท์ เ่ี ชื่อมด้วย “ถ้า … แล้ว …” เป็นเทจ็ เม่อื ประพจนแ์ รก
มคี า่ ความจรงิ เปน็ จริง และประพจน์ที่สองมีคา่ ความจรงิ เปน็ เทจ็ กรณีอนื่ ๆ เปน็ จรงิ ทกุ กรณี)
- เราสามารถหาคา่ ความจริงประพจน์ที่เช่ือมดว้ ยตวั เชื่อม “กต็ อ่ เม่ือ” ได้อย่างไร
( แนวตอบ คา่ ความจริงของประพจนท์ ี่เช่ือมด้วย “ก็ต่อเม่อื ” เป็นจริง เมื่อประพจนท์ ัง้ สองมีค่า
ความจรงิ เปน็ จริงทั้งคูห่ รอื เปน็ เทจ็ ท้ังค่เู ท่านนั้ กรณีอ่นื ๆ เป็นเทจ็ เสมอ)
ขนั้ สารวจค้นหา (Explore)
10.2 ครใู หน้ กั เรยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 - 4 คน จากน้นั ให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั เขียนประพจน์
ทกี่ าหนดให้ต่อไปนีใ้ นรูปสัญลักษณ์และหาค่าความจรงิ
1) ไกแ่ ละเป็ดเปน็ สัตว์เลยี้ งลกู ด้วยนม
2) จงั หวัดระยองหรอื จงั หวัดระนองอยใู่ นภาคตะวันออกของประเทศไทย
3) ถ้า 1 ชว่ั โมงเปน็ 60 นาที แลว้ 2 ช่ัวโมงเป็น 120 นาที
4) 3 + 2 = 2 + 3 ก็ตอ่ เม่ือ 4(3 + 2) = 4(2 + 3)
ขนั้ อธบิ ายความรู้ (Explain)
10.3 ครสู มุ่ ตวั แทนกลมุ่ ออกมาแสดงวธิ กี ารเขยี นประพจนด์ ังกลา่ วในรปู สัญลกั ษณ์ พร้อมทั้งหาค่าความจรงิ
โดยใหน้ กั เรียนในช้ันเรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง
ขน้ั ขยายความเข้าใจ (Expand)
10.4 ครใู ห้นกั เรยี นยกตัวอยา่ งประพจน์ทเ่ี ชอื่ มด้วยตัวเช่ือม “และ”, “หรือ”, “ถ้า … แล้ว …” และ
“ก็ต่อเมื่อ” มาอยา่ งละ 1 ประพจน์
ขั้นตรวจสอบผล (Evaluate)
10.5 ครมู อบหมายให้นกั เรยี นทาใบงาน เร่อื ง การหาค่าความจรงิ ของประพจน์ (1)
11. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้
11.1 ส่อื การเรยี นรู้
1) PowerPoint เร่อื ง การหาค่าความจรงิ ของประพจน์
2) หนงั สือเรียนรายวชิ าพ้นื ฐาน คณติ ศาสตร์ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 ของสถาบนั สง่ เสรมิ การสอน
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
3) ใบงาน เร่ือง การหาคา่ ความจริงของประพจน์ (1)
11.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องสมดุ โรงเรียน
12. บนั ทกึ หลงั จดั กิจกรรมการเรยี นรู้
สรุปผลการจดั การเรียนรู้
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
ปัญหา / อุปสรรค
............................................................................................................................................................. ................
........................................................................................................................... ..................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................................................. ................
................................................................................................................... ..........................................................
............................................................................................................................. ................................................
.................................................................................................................................................... .........................
.......................................................................................................... ...................................................................
ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
......................................................... .................................................................................................... ................
............................................................................................................................. ................................................
ลงช่อื ............................................................
(นางสาวอุมาพร เช่ียวณรงค์กร)
ครผู สู้ อน
............. / ............. / ..............
13. การตรวจสอบแผนการจัดการเรยี นรู้
ข้อท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1
5432
1 แผนการจัดการเรียนรู้สอดคล้องสมั พันธก์ บั หน่วยการเรยี นรู้ทกี่ าหนดไว้
2 แผนการจัดการเรียนรู้มอี งค์ประกอบสาคัญครบถว้ น
3 จุดประสงค์การเรยี นรูม้ ีความชัดเจนครอบคลุมเนื้อหาสาระ
4 กจิ กรรมการเรยี นรสู้ อดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์และเนื้อหาสาระ
5 กิจกรรมการเรียนรู้มีความหลากหลายและสามารถปฏบิ ัติไดจ้ ริง
6 กิจกรรมการเรียนรเู้ ปน็ กิจกรรมท่ีสง่ เสริมกระบวนการคิดของนกั เรียน
7 กจิ กรรมการเรยี นรสู้ อดแทรกคณุ ธรรมและค่านิยมทด่ี ีงาม
8 กิจกรรมการเรยี นรู้มกี ารสอดแทรกการนาความรู้ไปใชใ้ นชีวิตประจาวัน
9 สือ่ และแหล่งเรียนรู้มีความหลากหลาย และเหมาะสมกบั เนื้อหาสาระ
10 การวัดและประเมนิ ผลทส่ี อดคล้องกับจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
ระดบั คณุ ภาพของแผนการจัดการเรยี นรู้
5 หมายถงึ คุณภาพในระดบั ดีเยยี่ ม 4 หมายถึง คณุ ภาพในระดบั ดีมาก
3 หมายถงึ คณุ ภาพในระดบั ดี 2 หมายถึง คณุ ภาพในระดบั พอใช้
1 หมายถงึ คณุ ภาพในระดบั ปรับปรุง
ความคดิ เหน็ เพิ่มเตมิ ของหวั หนา้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
ลงชอื่ .................................................... ผู้ประเมิน
(นางสาวปัทมา ภู่ระหงษ์)
หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
............. / ............. / ..............
ความคิดเห็นรองผู้อานวยการฝ่ายบริหารวิชาการ
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
ลงชอื่ ....................................................
(นางวรรวิมล รตั นคณุ )
รองผู้อานวยการฝ่ายบริหารวิชาการ
............. / ............. / ..............
ความคิดเหน็ ผูอ้ านวยการสถานศึกษาในโรงเรยี น
............................................................................................................................. ................................................
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................
............................................................................................................................. ................................................
ลงช่อื ....................................................
(นายสมนึก คฤคราช)
ผ้อู านวยการสถานศกึ ษาในโรงเรยี น
............. / ............. / ............
แบบประเมินทกั ษะและกระบ
กลุม่ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ รายวิชา ค 31107
ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2562 หน่วยการเรยี นรู้ ตรรกศาสตรเ์ บื้องตน้
-------------------------------------------------------------------------------------------------
คาชืแ้ จง : กรุณาใส่คะแนนที่แสดงระดบั ของพฤตกิ รรมนักเรียนลงในชอ่ งวา่ ง โดยที่ระ
5 = พฤตกิ รรมอยู่ในระดบั ดีมาก 4 = พฤตกิ รรมอยใู่ นระดับดี 3 = พฤติกรรมอยูใ่ นร
รายการประเมิน 12
ด้านการให้เหตผุ ล
1. นกั เรียนสามารถใหเ้ หตผุ ลไดอ้ ย่างถูกต้อง
2. นักเรียนสามารถเสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจได้อยา่ งเหมาะสม
3. นักเรียนคานึงถึงความสมเหตสุ มผลของคาตอบ
ดา้ นความสามารถในการสื่อสาร
4. นกั เรยี นสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจของ
ตนเอง โดยใช้ภาษาอย่างเหมาะสม
5. นกั เรยี นสามารถเขยี นสญั ลักษณ์ทางคณติ ศาสตร์ได้อย่างถูกต้อง
6. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายโดยใช้ภาษาและสัญลกั ษณท์ างคณติ ศาสตร์
ไดอ้ ยา่ งชัดเจน
ดา้ นความเชือ่ มโยง
7. นักเรยี นสามารถนาข้อมูลทีก่ าหนดให้มาเช่ือมโยงกบั ความรู้ในสาระ
คณติ ศาสตร์ได้อยา่ งสอดคล้องและเหมาะสม
8. นักเรียนสามารถอธิบายความสมั พันธข์ องความร้หู รือหลักการทนี่ ามา
เชอื่ มโยงกันไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
9. นักเรยี นสามารถนาความรู้หรือหลักการที่ไดน้ าไปใช้ในการแก้ปัญหา
หรอื ไปประยกุ ต์ใชไ้ ด้อยา่ งเหมาะสม
บวนการทางคณิตศาสตร์
คณิตศาสตร์พนื้ ฐาน 3 ระดับชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ……….......
เรอ่ื ง การหาคา่ ความจรงิ ของประพจน์ (1) วนั /เดือน/ปี ………………………………
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
ะดับของพฤติกรรมนกั เรยี นแบง่ เป็น 5 ระดับ ดงั นี้
ระดบั ปานกลาง 2 = พฤตกิ รรมอยูใ่ นระดบั นอ้ ย 1 = พฤติกรรมอย่ใู นระดับควรปรับปรุง
เลขท่ี
3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
รายการประเมนิ 21 22 23 2
ดา้ นการใหเ้ หตุผล
1. นักเรยี นสามารถให้เหตุผลไดอ้ ย่างถูกต้อง
2. นักเรยี นสามารถเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสนิ ใจได้อย่าง
เหมาะสม
3. นกั เรยี นคานึงถงึ ความสมเหตสุ มผลของคาตอบ
ดา้ นความสามารถในการสอื่ สาร
4. นักเรียนสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ
ของตนเอง โดยใช้ภาษาอย่างเหมาะสม
5. นักเรยี นสามารถเขียนสญั ลักษณ์ทางคณติ ศาสตร์ได้อยา่ ง
ถูกต้อง
6. นักเรยี นสามารถอธิบายโดยใชภ้ าษาและสญั ลักษณท์ าง
คณิตศาสตร์ได้อยา่ งชดั เจน
ด้านความเชื่อมโยง
7. นักเรียนสามารถนาข้อมลู ที่กาหนดให้มาเชอื่ มโยงกับความรู้
ในสาระคณิตศาสตร์ไดอ้ ย่างสอดคล้องและเหมาะสม
8. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายความสัมพันธข์ องความรูห้ รือหลักการ
ที่นามาเช่อื มโยงกนั ได้อยา่ งเหมาะสม
9. นกั เรียนสามารถนาความรู้หรอื หลกั การทไ่ี ด้นาไปใชใ้ นการ
แกป้ ญั หาหรือไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม
เลขที่
24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40
แบบสังเกตพฤ
กลุม่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ รายวิชา ค 31107
ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2562 หนว่ ยการเรียนรู้ ตรรกศาสตร์เบ้ืองต้น
-------------------------------------------------------------------------------------------------
คาชแ้ื จง : กรุณาใส่คะแนนท่ีแสดงระดบั ของพฤติกรรมนักเรยี นลงในชอ่ งว่าง โดยที่ระ
5 = พฤตกิ รรมอยใู่ นระดับดีมาก 4 = พฤตกิ รรมอยใู่ นระดับดี 3 = พฤติกรรมอยใู่ นร
รายการประเมิน 12
ด้านความมวี ินัย
1. นกั เรียนสามารถปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คับ
ของห้องเรียน
2. นกั เรียนตรงตอ่ เวลาในการปฏิบตั กิ ิจกรรม
3. นกั เรียนมีความรบั ผดิ ชอบในการทางาน
ดา้ นความมุ่งม่นั ในการทางาน
4. นกั เรยี นมคี วามตั้งใจและรับผิดชอบในหนา้ ทท่ี ี่ไดร้ บั มอบหมาย
5. นักเรียนทางานด้วยเพียรพยายามและอดทนเพื่อให้สาเร็จตาม
เปา้ หมาย
6. นกั เรียนมีส่วนรว่ มในการแสดงความคิดเห็น
ด้านความใฝ่เรยี นใฝร่ ู้
7. นักเรียนมีความตง้ั ใจในการเรยี น และเข้ารว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้
8. นักเรยี นมกี ารจดบันทึกความรู้ ในระหว่างการเรยี น
9. นกั เรยี นมกี ารซักถามข้อสงสัยระหว่างการเรยี น
ฤตกิ รรมนักเรยี น
คณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน 3 ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ……….......
เร่ือง การหาค่าความจริงของประพจน์ (1) วัน/เดอื น/ปี ………………………………
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
ะดับของพฤติกรรมนกั เรยี นแบง่ เป็น 5 ระดบั ดงั น้ี
ระดับปานกลาง 2 = พฤติกรรมอยใู่ นระดบั น้อย 1 = พฤติกรรมอยูใ่ นระดับควรปรบั ปรุง
เลขที่
3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
รายการประเมิน 21 22 23 2
ดา้ นความมีวนิ ัย
1. นักเรยี นสามารถปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คับ
ของห้องเรยี น
2. นักเรียนตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม
3. นกั เรยี นมคี วามรบั ผิดชอบในการทางาน
ด้านความมุง่ มนั่ ในการทางาน
4. นกั เรียนมีความตัง้ ใจและรับผดิ ชอบในหนา้ ทท่ี ่ีไดร้ ับมอบหมาย
5. นกั เรยี นทางานด้วยเพียรพยายามและอดทนเพื่อให้สาเร็จตาม
เปา้ หมาย
6. นกั เรยี นมสี ่วนร่วมในการแสดงความคิดเหน็
ดา้ นความใฝเ่ รยี นใฝร่ ู้
7. นักเรยี นมคี วามต้งั ใจในการเรียน และเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรียนรู้
8. นักเรียนมกี ารจดบันทึกความรู้ ในระหว่างการเรยี น
9. นกั เรียนมีการซักถามข้อสงสยั ระหวา่ งการเรยี น
เลขที่
24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
โรงเรยี นชานาญสามคั ควี ิทยา
กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ รายวิชา ค31107 คณิตศาสตร์พื้นฐาน 3 ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4
ภาคเรียน/ปีการศกึ ษา 1/2564 ชอ่ื -สกลุ นางสาวอุมาพร เช่ยี วณรงค์กร
หน่วยการเรยี นรู้ ตรรกศาสตรเ์ บื้องตน้ เรื่อง การหาคา่ ความจรงิ ของประพจน์ (2) เวลา 50 นาที
------------------------------------------------------ -------------------------------------------------------------------------
1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวนจริง การดาเนนิ การของจานวน
ผลท่ีเกดิ ข้นึ จากการดาเนินการ สมบัติของการดาเนินการ และนาไปใช้
2. ตวั ชี้วดั
มฐ ค 1.1 ม.4/1 เข้าใจและใช้ความร้เู กีย่ วกับเซตและตรรกศาสตร์เบ้ืองตน้ ในการสอื่ สารและส่อื ความหมาย
ทางคณิตศาสตร์
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
เมื่อเรยี นจบบทเรยี น
ด้านความรู้ (Knowledge)
3.1 นกั เรียนสามารถอธบิ ายความคิดรวบยอดเกี่ยวกับหลักการหาคา่ ความจริงของประพจน์ได้อยา่ ง
ถกู ต้อง
3.2 นกั เรยี นสามารถหาคา่ ความจริงของประพจน์ไดอ้ ย่างถูกต้อง
ดา้ นทักษะกระบวนการ (Process)
3.3 นกั เรียนสามารถให้เหตผุ ลประกอบการตดั สนิ ใจได้อยา่ งเหมาะสม
3.4 นักเรยี นสามารถใชภ้ าษาและสญั ลกั ษณท์ างคณิตศาสตรไ์ ด้อย่างเหมาะสม
3.5 นกั เรยี นสามารถเช่อื มโยงความรทู้ างคณิตศาสตร์ได้อยา่ งเหมาะสม
ดา้ นคุณลกั ษณะ (Attribute)
3.6 นกั เรียนมีวนิ ัย
3.7 นกั เรียนมคี วามมุ่งม่ันในการทางาน
3.8 นกั เรยี นมีความใฝ่เรียนใฝร่ ู้
4. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การหาคา่ ความจรงิ ของประพจน์เชงิ ประกอบที่มีตวั เชื่อมตั้งแต่สองตัวขึ้นไป จะต้องหาค่าความจริงของ
ประพจน์เชิงประกอบในวงเล็บกอ่ น แต่ถา้ ประพจนน์ ั้นไมไ่ ด้ใส่วงเล็บให้หาคา่ ความจรงิ ของตวั เช่ือม “ ” กอ่ น
แล้วจงึ หาค่าความจรงิ ของตัวเชอื่ ม “ ” , “ ” จากนน้ั จงึ หาค่าความจริงของตวั เชอ่ื ม “ ” และลาดบั
สดุ ทา้ ยเป็นการหาค่าความจริงของตัวเช่อื ม “ ”
5. สาระการเรียนรู้
หาค่าความจริงของประพจนเ์ ชงิ ประกอบ
6. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน
ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา
ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
7. คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์
รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซอื่ สัตย์สจุ รติ มวี ินัย ใฝ่เรียนรู้
อยู่อยา่ งพอเพียง มงุ่ มัน่ ในการทางาน รกั ความเป็นไทย มจี ิตสาธารณะ
8. ชนิ้ งาน/ภาระงาน
8.1 การตอบคาถามระหว่างรว่ มกิจกรรม
8.2 ใบงาน เรือ่ ง การหาคา่ ความจริงของประพจน์ (2)
9. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้
รายการ วิธีการ เครือ่ งมอื ท่ใี ช้ เกณฑ์การประเมนิ ผล
ประเมนิ ผล ประเมนิ ผล
ด้านความรู้ (Knowledge) - นกั เรียนสามารถตอบคาถามและ
ทาใบงานไดถ้ ูกตอ้ งอย่างน้อย
1. การอธิบายความคดิ - การตอบคาถาม - ข้อคาถามใน ร้อยละ 60
รวบยอดเกย่ี วกบั หลกั การ ในช้นั เรยี น ช้ันเรียน - นักเรยี นสามารถตอบคาถามและ
หาค่าความจรงิ ของประพจนไ์ ด้ - การตรวจใบงาน - เฉลยใบงาน ทาใบงานไดถ้ ูกตอ้ งอยา่ งน้อย
อยา่ งถูกต้อง รอ้ ยละ 60
2. การหาค่าความจรงิ ของ - การตอบคาถาม - ข้อคาถามใน
ประพจน์ได้อย่างถูกต้อง ในช้ันเรยี น ชัน้ เรยี น
- การตรวจใบงาน - เฉลยใบงาน
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (Process)
3. การให้เหตผุ ลประกอบ - การสงั เกต - แบบประเมินทักษะ - นักเรียนมผี ลการประเมินอยู่ใน
การตดั สนิ ใจได้อยา่ งเหมาะสม พฤติกรรม และกระบวนการทาง ระดบั ปานกลางข้ึนไป
คณิตศาสตร์
4. การใชภ้ าษาและสญั ลักษณ์ - การสงั เกต - แบบประเมินทักษะ - นักเรียนมีผลการประเมินอยู่ใน
ทางคณิตศาสตร์ได้อยา่ ง พฤติกรรม และกระบวนการทาง ระดบั ปานกลางข้นึ ไป
เหมาะสม - การสังเกต คณิตศาสตร์
5. การเชื่อมโยงความรู้ทาง พฤติกรรม - แบบประเมนิ ทักษะ - นกั เรียนมผี ลการประเมนิ อยู่ใน
คณติ ศาสตร์ได้อยา่ งเหมาะสม และกระบวนการทาง ระดับปานกลางขึ้นไป
คณิตศาสตร์
ดา้ นคณุ ลกั ษณะ (Attribute)
6. ความมีวินัย - การสังเกต - แบบสงั เกต - นกั เรยี นมีผลการประเมินอยู่ใน
7. ความใฝ่เรียนใฝ่รู้ พฤติกรรม พฤติกรรม ระดบั ปานกลางขึ้นไป
8. ความมุ่งม่ันในการทางาน - การสงั เกต - แบบสงั เกต - นกั เรยี นมีผลการประเมินอยู่ใน
พฤติกรรม พฤติกรรม ระดบั ปานกลางขน้ึ ไป
- การสังเกต - แบบสงั เกต - นักเรียนมีผลการประเมินอยู่ใน
พฤติกรรม พฤติกรรม ระดบั ปานกลางขึ้นไป