The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by plancdd, 2022-05-17 06:22:03

anaual-report 64

anaual-report 64

Keywords: รายงานประจำปี

กรมการพฒั นาชุมชน

Annual Report 2021



คำนำ

กรมกำรพัฒนำชุมชนเป็นส่วนรำชกำรในสังกัดกระทรวงมหำดไทย มีภำรกิจสำคัญในกำร
ปรบั ปรุงคุณภำพชวี ติ ของประชำชนในชนบท โดยกำรมีส่วนรว่ มของประชำชนและกำรพัฒนำตนเอง
ซงึ่ มีพัฒนำกรเปน็ กลไกกำรทำงำนรว่ มกับประชำชน โดยยึดปรชั ญำกำรพัฒนำชุมชน ใชห้ ลักกำรพัฒนำ
ชุมชนและกระบวนกำรพัฒนำชุมชนเป็นเครอ่ ื งมือในกำรทำงำนส่งเสรมิ และพัฒนำเศรษฐกิจฐำนรำก
ให้มีควำมมั่นคงและมีเสถียรภำพ เพื่อให้ชุมชนเข้มแข็ง โดยมีผู้นำ อำสำสมัคร กลุ่ม/องค์กร เครอื ข่ำย
และประชำรฐั เป็นกลไกกำรพัฒนำกำรบรหิ ำรจดั กำรชุมชนและเศรษฐกิจฐำนรำกอย่ำงเป็นระบบและ
มีประสิทธภิ ำพ ภำยใต้ประเด็นกำรพัฒนำ ๔ ประเด็น เพื่อให้บรรลุวสิ ัยทัศน์ “เศรษฐกิจฐำนรำกม่ันคง
และชุมชนพึ่งตนเองได้ ภำยในปี ๒๕๖๕”

รำยงำนประจำปี ๒๕๖๔ กรมกำรพัฒนำชุมชน (Annual Report 2021) เป็นกำรประมวลผล
กำรดำเนินงำนท่ีกรมกำรพัฒนำชุมชนขับเคล่ือนองค์กำรเช่ือมโยงกับเป้ำหมำยยุทธศำสตรช์ ำติ
แผนแม่บทภำยใต้ยุทธศำสตรช์ ำติ แผนปฏิรูปประเทศ นโยบำยรฐั บำล และสถำนกำรณ์กำรแพรร่ ะบำด
ของโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนำ ๒๐๑๙ (COVID-19) ภำยใต้ ๔ ประเด็นกำรพัฒนำ โดยได้น้อมนำ
แนวพระรำชดำรสิ ู่กำรปฏิบัติ อำทิ (๑) โครงกำรรวมพลังจิตอำสำปลูกป่ำเฉลิมพระเกียรติ เน่ืองใน
โอกำสมหำมงคล วันฉัตรมงคล วันท่ี ๔ พฤษภำคม ๒๕๖๔ และเนื่องในโอกำสวนั เฉลิมพระชนมพรรษำ
สมเด็จพระนำงเจ้ำสุทิดำ พัชรสุธำพิมลลักษณ พระบรมรำชินี ณ เขำขยำย อำเภอเมืองชัยนำท
จังหวัดชัยนำท (๒) โครงกำรสนองพระรำชดำรโิ ครงกำรอนุรกั ษ์พันธุกรรมพืชอันเน่ืองมำจำก
พระรำชดำร ิ สมเด็จพระเทพรตั นรำชสุดำฯ สยำมบรมรำชกุมำร ี (อพ.สธ.) เป็นต้น และเกิดสัมฤทธผิ ล
จำกกำรดำเนินงำนตำมประเด็นกำรพัฒนำของกรมกำรพัฒนำชุมชน อำทิ (๑) โครงกำรสรำ้ งควำมมั่นคง
ด้ำนอำชพี และรำยได้ตำมหลักปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียง (๒) กำรพัฒนำหมู่บำ้ นเศรษฐกิจพอเพียง
(๓) โครงกำรพัฒนำศักยภำพผู้ประกอบกำรสู่ยุค 4.0 (๔) โครงกำรเสรมิ สรำ้ งควำมเข้มแข็งกองทุน
ชุมชนตำมหลักธรรมำภิบำลและกำรเข้ำถึงแหล่งทุน (๕) กำรพัฒนำบุคลำกรหลักสูตรต่ำง ๆ ตลอดทั้ง
มีผลงำนเป็นท่ีประจักษ์จำกรำงวัลแห่งควำมภำคภูมิใจ จำนวน 9 รำงวัล ท่ีกรมกำรพัฒนำชุมชนได้รบั
ซง่ึ รำยงำนประจำปี ๒๕๖๔ กรมกำรพัฒนำชุมชน แบ่งเป็น ๕ ส่วน ได้แก่ ส่วนท่ี ๑ รูจ้ กั กรมกำรพัฒนำ
ชุมชน ส่วนที่ ๒ ผลกำรดำเนินงำนน้อมนำแนวพระรำชดำรสิ ู่กำรปฏิบัติ ส่วนที่ ๓ ผลกำรดำเนินงำน
ตำมแผนปฏิบัติรำชกำรกรมกำรพัฒนำชุมชน ตำมประเด็นกำรพัฒนำ ส่วนที่ ๔ รำยงำนกำรเงนิ และ
ส่วนที่ ๕ รำงวัลแห่งควำมภำคภูมิใจ

กรมกำรพัฒนำชุมชน หวังเป็นอย่ำงย่ิงว่ำเอกสำรเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ในกำรนำไปเป็น
แนวทำงกำรปฏิบัติงำนและประยุกต์ใช้เพื่อกำรขับเคลื่อนงำนกับทุกท่ำน และขอขอบคุณบุคลำกร
กรมกำรพัฒนำชุมชน ภำคีเครอื ข่ำยภำคส่วนต่ำง ๆ ทั้ง ๗ ภำคี ได้แก่ ภำครฐั ภำควชิ ำกำร ภำคศำสนำ
ภำคประชำชน ภำคเอกชน ภำคประชำสังคม และภำคส่ือมวลชน ท่ีได้รว่ มขับเคล่ือนกำรพัฒนำประเทศ
ให้เข้มแข็งอย่ำงมั่นคง ม่ังค่ัง และย่ังยนื ตลอดไป

กรมกำรพัฒนำชุมชน
พฤศจกิ ำยน ๒๕๖๔

ปี กรมการพฒั นาชุมชน
สรา้ งสรรค์ชมุ ชุม สรา้ งคน สรา้ งชาติ



สำรบญั

คำนำ หน้ำ
สำรบัญ ก
ผู้บรหิ ำรกรมกำรพัฒนำชุมชน ข
บทสรุปผู้บรหิ ำร ค

ส่วนที่ ๑ รจู้ กั กรมกำรพัฒนำชุมชน
ส่วนที่ ๒ ผลกำรดำเนินงำนน้อมนำแนวพระรำชดำรสิ ู่กำรปฏิบัติ ๑
ส่วนที่ ๓ ผลกำรดำเนินงำนตำมแผนปฏิบตั ิรำชกำรกรมกำรพัฒนำชุมชน ๑3

ประเด็นกำรพัฒนำที่ ๑ สรำ้ งสรรค์ชุมชนพึ่งตนเองได้ 32
ประเด็นกำรพัฒนำที่ ๒ ส่งเสรมิ เศรษฐกิจฐำนรำกให้ขยำยตัวอย่ำงสมดุล 47
ประเด็นกำรพัฒนำที่ ๓ เสรมิ สรำ้ งทนุ ชุมชนให้มีธรรมำภิบำล 61
ประเด็นกำรพัฒนำท่ี ๔ เสรมิ สรำ้ งองคก์ รให้มขี ีดสมรรถนะ 72
ส่วนที่ ๔ รำยงำนกำรเงนิ 105
ส่วนท่ี ๕ รำงวัลแห่งควำมภำคภูมิใจ 125
สรปุ ปัญหำ อุปสรรค และข้อเสนอแนะ 145
รำยชอ่ื คณะทำงำน 152

ปี กรมการพัฒนาชุมชน
สร้างสรรค์ชมุ ชมุ สรา้ งคน สร้างชาติ



ผู้บรหิ ำรกรมกำรพฒั นำชุมชน
(1 ตุลำคม 2563 – 30 กันยำยน 2564)

ปี กรมการพฒั นาชุมชน
สร้างสรรค์ชมุ ชมุ สร้างคน สร้างชาติ



บทสรปุ ผบู้ รหิ ำร

กรมกำรพัฒนำชุมชน กระทรวงมหำดไทย มีภำรกิจกำรดำเนินงำนปรบั ปรุงคุณภำพชีวติ
ของประชำชนในชนบท โดยกำรมีส่วนรว่ มของประชำชนและกำรพัฒนำตนเอง ซงึ่ มีพัฒนำกร เป็นกลไก
กำรทำงำนรว่ มกับประชำชน โดยยึดปรชั ญำกำรพัฒนำชุมชนเป็นสรณะ ใชห้ ลักกำรพัฒนำชุมชนและ
กระบวนกำรพัฒนำชุมชนเป็นเครอ่ ื งมือในกำรทำงำน เพ่ือมุ่งสู่วสิ ัยทัศน์ เศรษฐกิจฐำนรำกม่ันคงและ
ชุมชนพึ่งตนเองได้ ภำยในปี ๒๕๖๕

กรมกำรพัฒนำชุมชน กระทรวงมหำดไทย แบ่งโครงสรำ้ งของหน่วยงำน เป็นรำชกำรบรหิ ำร
ส่วนกลำง ๑๕ หน่วยงำน และรำชกำรบรหิ ำรส่วนภูมิภำคระดับจังหวัด ๗๖ แห่ง ระดับอำเภอ
๘๗๘ แห่ง มีบุคลำกร รวม ๖,๓๖๘ คน เป็นชำย ๒,๑๓๒ คน เป็นหญิง ๔,๒๓๖ คน มีค่ำนิยม ABC DEF
SP ขับเคล่ือนองค์กำร เช่ือมโยงกับเป้ำหมำยยุทธศำสตรช์ ำติ แผนแม่บทภำยใต้ยุทธศำสตรช์ ำติ
แผนปฏิรูปประเทศ นโยบำยรฐั บำลและสถำนกำรณ์กำรแพรร่ ะบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนำ ๒๐๑๙
(COVID-19) โดยมีประเด็นกำรพัฒนำ ๔ ประเด็น ได้แก่ ประเด็นกำรพัฒนำที่ ๑ สรำ้ งสรรค์ชุมชน
พึ่งตนเองได้ ประเด็นกำรพัฒนำท่ี ๒ ส่งเสรมิ เศรษฐกิจฐำนรำกให้ขยำยตัวอย่ำงสมดุล ประเด็น
กำรพัฒนำที่ ๓ เสรมิ สรำ้ งทุนชุมชนให้มีธรรมำภิบำลและประเด็นกำรพัฒนำที่ ๔ เสรมิ สรำ้ งองค์กร
ให้มีขีดสมรรถนะสูง นอกจำกนี้ ในปี ๒๕๖๔ กรมกำรพัฒนำชุมชน ได้น้อมนำแนวพระรำชดำรสิ ู่กำร
ปฏิบัติและผลกำรดำเนินงำนตำมประเด็นกำรพัฒนำของกรมกำรพัฒนำชุมชน ตลอดท้ังรำงวัล
แห่งควำมภำคภูมิใจท่ีกรมกำรพัฒนำชุมชน และบุคลำกรในสังกัดได้รบั อยำ่ งภำคภูมิใจ

ผ ล ก ำ ร ด ำ เ นิ น ง ำ น น้ อ ม น ำ แ น ว พ ร ะ ร ำ ช ด ำ ร สิ ู่ ก ำ ร ป ฏิ บั ติ ใ น โ ค ร ง ก ำ ร ส ำ คั ญ ดั ง นี้
๑) โครงกำรรวมพลังจิตอำสำปลูกป่ำเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกำสมหำมงคล วันฉัตรมงคล วันท่ี
๔ พฤษภำคม ๒๕๖๔ ณ เขำขยำย อำเภอเมืองชัยนำท จังหวัดชัยนำท โดยรว่ มกันปลูกต้นยำงนำ
910 ต้น เพ่ือให้เป็นแหล่งกำเนิดอำหำร ท้ังยำงนำและตำลโตนด เป็นต้นไม้ที่อำยุยืนยำวกว่ำ 100 ปี
910 ต้น รวม 1,820 ต้น ๒) โครงกำรปลูกป่ำเฉลิมพระเกียรติ เน่ืองในโอกำสวันเฉลิมพระชนมพรรษำ
สมเด็จพระนำงเจ้ำสุทิดำ พัชรสุธำพิมลลักษณ พระบรมรำชินี ณ เขำขยำย อำเภอเมืองชัยนำท
จังหวัดชัยนำท ปลูกต้นไม้ทดแทนต้นไม้ดอกสีม่วง ท่ีปลูกเมื่อปี 2563 เพิ่มเติม 244 ต้น จำกเดิม
จ ำ น ว น 1 , 0 4 4 ต้ น ซ่ึ ง มี ค ว ำ ม ห ม ำ ย ใ น ก ำ ร ป ลู ก คื อ เ ล ข 1 0 ห ม ำ ย ถึ ง พ ร ะ บ ำ ท ส ม เ ด็ จ
พระปรเมนทรรำมำธิบดีศรสี ินทร มหำวชิรำลงกรณพระวชิรเกล้ำเจ้ำอยู่หัว และเลขข้ำงหลัง 44
หมำยถึงพระชนมพรรษำของสมเด็จพระนำงเจำ้ สุทิดำ พัชรสุธำพิมลลักษณพระบรมรำชนิ ี บวกอีกหน่ึง
และต้นกล้วยจำนวน 144 ต้น ๓) โครงกำรพัฒนำทักษะอำชพี ผู้ผ่ำนกำรอบรมโครงกำร“โคกหนองนำ
แห่งน้ำใจและควำมหวัง” ในพ้ืนท่ีต้นแบบกำรพัฒนำคุณภำพชีวติ ตำมหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่
“โคก หนอง นำ โมเดล” กรมกำรพัฒนำชุมชนรว่ มกับ กรมรำชทัณฑ์ สนองโครงกำรพระรำชทำน
ในพระบำทสมเด็จพระวชริ เกล้ำเจำ้ อยูห่ ัว “โคก หนอง นำ แห่งน้ำใจและควำมหวัง” ให้กับผู้พ้นโทษ โดย
กำรจ้ำงงำนในพ้ืนที่ต้นแบบกำรพัฒนำคุณภำพชีวติ ตำมหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นำ
โมเดล”รอบศูนย์ศึกษำและพัฒนำชุมชน ๑๑ แห่ง,วทิ ยำลัยกำรพัฒนำชุมชน 1 แห่ง และในพ้ืนที่
เป้ำหมำยศูนย์ฝึกอำชีพ จำนวน ๖ แห่ง รวม ๑๘ แห่ง ๆละ ๒ คน รวมจำนวน ๓๖ คน โดยจ้ำงเป็น
รำยเดือน ๆ ละ ๙,๐๐๐ บำท จำนวน ๕ เดือน ๔) โครงกำรสนองพระรำชดำรโิ ครงกำรอนุรกั ษ์พันธุกรรม

ปี กรมการพฒั นาชุมชน
สรา้ งสรรค์ชุมชมุ สร้างคน สรา้ งชาติ



พืชอันเน่ืองมำจำกพระรำชดำร ิ สมเด็จพระเทพรัตนรำชสุดำฯ สยำมบรมรำชกุมำร ี (อพ.สธ.)
เป็นกำรอนุรกั ษ์และใช้ประโยชน์ทรพั ยำกรท้องถิ่น ให้กับประชำชนผ่ำนหลักสูตร “รกั ษ์ปฐพี คืนชีว ี
ที่หลำกหลำยในผืนดิน” โดยดำเนินกำรในพ้ืนท่ี ๗ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุบลรำชธำนี ศรสี ะเกษ
กำฬสินธุ์ สุโขทัย กำญจนบุร ี กระบี่ และจังหวัดสุรนิ ทร์และจัดทำข้อมูลสำรสนเทศด้ำนกำรอนุรกั ษ์
พันธุกรรมพืชและภูมิปัญญำท้องถิ่น เพ่ือเชื่อมโยงกับฐำนข้อมูล อพ.สธ. ๕) โครงกำรพัฒนำพ้ืนท่ี
ต้นแบบกำรพัฒนำคุณภำพชวี ติ ตำมหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นำ โมเดล” เกิดแกนนำ
กำรพัฒนำ เป็นครูกระบวนกำร ครูกสิกรรม ครูประจำฐำนเรยี นรูก้ ำรพ่ึงพำตนเอง และครูพำทำ จำนวน
34,367 คน, มีพ้ืนที่เรยี นรูช้ ุมชนต้น (Community Lab Model for quality of life : CLM) ระดับ
ตำบล จำนวน 337 ตำบล และระดับครวั เรอื น (Household Lab Model for quality of life : HLM
) จำนวน 24,842 ครวั เรอื น, เกิดกำรจำ้ งงำนในพ้ืนท่ี จำนวน 9,188 คน และพ้ืนท่ีครวั เรอื นที่เข้ำรว่ ม
โครงกำร จะลดปัญหำจำกภัยแล้งได้ 50% ของพื้นที่ดำเนินกำรภำยใน 3 ปี ๖) โครงกำร ๙;๑๐ ปฏิบัติ
บูชำ “สืบสำน รกั ษำ ต่อยอด” เพื่อพัฒนำชุมชน เป็นกำรประเมินและจดั ระดับหมู่บ้ำนต้นแบบกำรน้อม
นำแนวพระรำชดำรไิ ปประยุกต์ใช้ในหมู่บ้ำนรอบศูนย์ศึกษำกำรพัฒนำอันเน่ืองมำจำกพระรำชดำร ิ
๖ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดจันทบุร ี ฉะเชิงเทรำ เพชรบุร ี นรำธิวำส เชียงใหม่ และจังหวัดสกลนคร
รวม ๑๔๕ หมู่บ้ำน และหมู่บ้ำนต้นแบบฯ จะได้รบั รำงวัลหมู่บ้ำนละ 150,000 บำท ๗) โครงกำรส่งเสรมิ
และพัฒนำหมู่บ้ำนกองทุนแม่ของแผ่นดิน โดยคณะกรรมกำรเครอื ข่ำยกองทุนแม่ของแผ่นดินระดับอำเภอ
๘๗๘ อำเภอ จำนวน ๘,๗๘๐ คน ได้รบั กำรพัฒนำศักยภำพ และหมู่บ้ำนต้นกล้ำกองทุนแม่ของแผ่นดิน
มีแผนปฏิบัติกำรและกิจกรรมขับเคลื่อนกองทุนแม่ของแผ่นดิน ไม่น้อยกว่ำ ๔,๓๙๐ กิจกรรม ๘) โครงกำร
พัฒนำหมู่บ้ำนเศรษฐกิจพอเพียง : กิจกรรม กำรพัฒนำและต่อยอดผลิตภัณฑ์กลุ่มอำชพี ในหมู่บ้ำน
ที่ได้รบั ผลกระทบจำกชำ้ งป่ำ โดยผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ของกลุ่มอำชพี ท่ีได้รบั กำรพัฒนำ จำนวน 45
ผลิตภัณฑ์ ๙) โครงกำรกำรดำเนินงำนโครงกำรสำนฝัน ปันสุ ขเพ่ือน้อง กองทุนพัฒนำเด็กชนบท
ในพระรำชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนรำชสุดำ ฯ สยำมบรมรำชกุมำร ี (CDF share happiness)
โดยมอบทุนอุปกำระเด็กฯ และมอบทุนปันรกั ปันสุข กองทุนฯ รวมกว่ำ ๔,๐๐๐ ทุนและ ๑๐) โครงกำร
น้อมนำแนวพระรำชดำรขิ องสมเด็จพระกนิษฐำธริ ำชเจำ้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นรำชสุดำ ฯ สยำมบรม
รำชกุมำร ี สรำ้ งควำมมั่นคงทำงอำหำรสู่ปฏิบัติกำร 90 วัน ปลูกผักสวนครวั เพ่ือสรำ้ งควำมมั่นคง
ทำงอำหำร รอบ 2 โดยมีครวั เรอ่ ื งทเ่ี ข้ำรว่ มโครงกำรฯ จำนวน 12.9 ล้ำนครวั เรอื น

ผลกำรดำเนินงำนตำมประเด็นกำรพัฒนำ ภำยใต้ ๔ ประเด็นกำรพัฒนำ ดังนี้

ประเด็นกำรพัฒนำ เรอ่ ื งท่ี ๑ สร้ำงสรรค์ชุมชนพ่ึงตนเองได้ มีโครงกำรสำคัญ
คือ โครงกำรสรำ้ งควำมมั่นคงด้ำนอำชพี และรำยได้ตำมหลักปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียง ครวั เรอื น
ท่ีได้รบั กำรฝึกอบรมอำชีพ ตำมแนวทำงกำรสรำ้ งสัมมำชีพชุมชน จำนวน 120,000 คน กำรพัฒนำ
หมู่บ้ำนเศรษฐกิจพอเพียง มีหมู่บ้ำนท่ีได้รบั กำรพัฒนำหมู่บ้ำนเศรษฐกิจพอเพียง 11,414 หมู่บ้ำน
กำรประชุมเชงิ ปฏิบัติกำรคณะกรรมกำรพัฒนำสตรภี ำค (กพสภ.) เพ่ือสนับสนุนกำรคัดเลือกครวั เรอื น
สัมมำชพี ชุมชนตัวอย่ำงระดับจงั หวัด จำนวน 76 ครวั เรอื น กำรจัดทำแผนและประสำนแผนพัฒนำ
ตำบล จำนวน 7,036 ตำบล โครงกำรวัด ประชำ รฐั สรำ้ งสุข มีชุมชนที่เข้ำรว่ มสืบสำนประเพณีและ
วัฒนธรรมรุน่ สู่รุน่ ตำมประเพณีแต่ละท้องถ่ิน จำนวน 41,406 ชุมชน กำรบรหิ ำรกำรจัดเก็บและ

ปี กรมการพัฒนาชมุ ชน
สรา้ งสรรค์ชมุ ชุม สร้างคน สร้างชาติ



ใ ช้ป ร ะ โ ย ช น์ ข้ อ มู ล เ พ่ื อ ก ำ ร พั ฒ น ำ ชุ ม ช น มี ก ำ ร จัด เ ก็ บ ข้ อ มู ล ค ว ำ ม จ ำ เ ป็ น พ้ื น ฐ ำ น ( จ ป ฐ . )

จำนวน 12,๘๑๗,๙๐๓ ครัวเรอื น กำรจัดทำสำรสนเทศตำบลต้นแบบเพ่ือพัฒนำคุณภำพชีวติ
มีสำรสนเทศตำบลต้นแบบ จำนวน 76 ตำบล และกำรส่งเสรมิ กำรพัฒนำกลไกและโครงสรำ้ งดูดซบั
มูลค่ำทำงเศรษฐกิจและกำรกระจำยรำยได้กลับสู่ท้องถ่ิน กิจกรรมหลักพัฒนำเศรษฐกิจฐำนรำก
ด้วยภำคีเครอื ข่ำย มีกลไกขับเคล่ือนกำรพัฒนำเศรษฐกิจฐำนรำกที่ได้รับกำรพัฒนำศักยภำพ
76 จงั หวัดและกลุ่มเปำ้ หมำยกำรพัฒนำเศรษฐกิจฐำนรำก 3 กลุ่มงำน ได้แก่ ด้ำนเกษตร ด้ำนกำรแปรรูป
และด้ำนกำรท่องเที่ยวโดยชุมชน ในพื้นท่ี 76 จงั หวัด ๆ ละ ๑๐ กลุ่ม รวมทั้งส้ิน 760 กลุ่ม (เป้ำหมำย
1,520 คน)

ประเด็นกำรพัฒนำ เรอ่ ื งท่ี ๒ ส่งเสรมิ เศรษฐกิจฐำนรำกให้ขยำยตัวอย่ำงสมดุล มีกำร
พัฒนำใน ๕ ด้ำน ดังน้ี ๑) ด้ำนส่งเสรมิ ผู้ประกอบกำร กิจกรรมท่ีสำคัญ คือ กำรพัฒนำศักยภำพ
ผู้ประกอบกำรสู่ยุค 4.0 มีผู้ผลิต ผู้ประกอบกำร OTOP จำนวน 3,800 รำย มีช่องทำงกำรจำหน่ำย
สินค้ำ OTOP ผ่ำนระบบตลำดออนไลน์ ๒) ด้ำนผลิตภัณฑ์ ได้แก่ โครงกำรส่งเสรมิ กระบวนกำรเครอื ข่ำย
องค์ควำมรู้ (Knowledge - Based OTOP : KBO) จำนวน ๑,๕๒๐ ผลิตภัณฑ์ ได้รบั กำรพัฒนำและ
มี มู ล ค่ ำ เ พิ่ ม ขึ้ น แ ล ะ ก ำ ร พั ฒน ำ ผลิ ต ภั ณ ฑ์ OTOP ก ลุ่ ม ป รับ ตั ว สู่ กำ ร พั ฒ น ำ ( Quadrant D)
ให้มีคุณภำพมำตรฐำน จำนวน 1,900 ผลิตภัณฑ์ ได้รบั กำรพัฒนำยกระดับมำตรฐำนผลิตภัณฑ์
๓) ด้ำนส่งเสรมิ กำรตลำด ได้แก่ งำน OTOP City 2020 มียอดจำหน่ำย จำนวน 701,830,702 ล้ำนบำท
งำนตลำดนัด คนไทยยิ้มได้ มีกำรจัดตลำดนัดคนไทยย้ิมได้ จำนวน 64,000 ครงั้ ส่งเสรมิ ช่องทำง
กำรตลำดภำยใต้งำน มหกรรมอำหำรจำนเด็ด Food Fest 2020 มียอดกำรจำหน่ำย รวมท้งั ส้ิน 602,085 บำท
๔) ด้ำนส่งเสรมิ ภูมิปัญญำ คือ จดั แสดงและจำหน่ำยภูมิปัญญำ OTOP เชงิ บูรณำกำร “สืบสำน รกั ษำ
และต่อยอด” มีผู้ผลิตผู้ประกอบกำร OTOP เข้ำรว่ มจำหน่ำยสินค้ำ 111 รำย/กลุ่ม และมียอดจำหน่ำย
ไม่น้อยกว่ำ 1 ล้ำนบำทต่อจุด กำรส่งเสรมิ ภูมิปัญญำและพัฒนำศักยภำพผ้ำไทย มีผ้ำไทยได้รับ
กำรส่ งเสรมิ และพัฒนำศั กยภำพ จำนวน 3 ๕0 ผลิตภัณฑ์ มำตรกำรส่ ง เสรมิ และ สนั บสนุน
กำรใช้และสวมใส่ผ้ำไทย ตำมมติคณะรฐั มนตร ี 9 มิถุนำยน 2563 สำมำรถสรำ้ งรำยได้ให้ผู้ผลิต
ประกอบกำร OTOP ประเภทผ้ำ เคร่อื งแต่งกำย ทั้งประเทศ จำนวน 12,828,953,711 บำท
กำรจดั แสดงและจำหน่ำยผลิตภัณฑ์ภูมิปญั ญำ OTOP ภำคตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้ประกอบกำร OTOP
20 จงั หวัดภำคตะวันออกเฉียงเหนือท่ีเข้ำรว่ มงำนจำนวน 42 รำย กำรสืบสำน อนุรกั ษ์ศิลปผ์ ้ำถิ่นไทย
ดำรงไว้ในแผ่นดิน มีกำรลงนำมบันทึกข้อตกลงควำมรว่ มมือกับจังหวัด/หน่วยงำนภำคี จำนวน 3
หน่วยงำน 77 จงั หวัด ๕) ด้ำนชุมชนท่องเท่ียวนวัตวถิ ี คือ ชุมชนท่องเท่ียว OTOP นวัตวถิ ี โปรแกรม
ทอ่ งเทยี่ วเชงิ สรำ้ งสรรค์ (Champ) 100 ชุมชน รวมทั้งส้ิน 1,000 คน

ประเด็นกำรพัฒนำ เรอ่ ื งท่ี ๓ เสรมิ สรำ้ งทุนชุมชนให้มีธรรมำภิบำล มีโครงกำรสำคัญ
คือ โครงกำรเสรมิ สรำ้ งควำมเข้มแข็งกองทุนชุมชนตำมหลักธรรมำภิบำลและกำรเข้ำถึงแหล่งทุน
โครงกำรเสรมิ สรำ้ งควำมเข้มแข็งกองทุนชุมชนตำมหลักธรรมำภิบำลและกำรเข้ำถึงแหล่งทุน มีกองทุน
ชุมชนให้มีกำรบรหิ ำรจัดกำรตำมหลักธรรมำภิบำล จำนวน ๙,๐๐๐ กองทุน ประกอบด้วย กลุ่มออมทรพั ย์

เพื่อกำรผลปิตี กจรมำกนาวรนพฒั ๔น,๕าช๐มุ ๐ชนกองทุน โครงกำรแก้ไขปัญหำควำมยำกจน จำนวน ๔,๕๐๐ กองทุน
สร้างสรรค์ชมุ ชุม สรา้ งคน สร้างชาติ



ปัจจุบันมีกลุ่มออมทรพั ย์เพ่ือกำรผลิต 19,222 กลุ่ม สมำชิกจำนวน 5,187,466 คน จำนวนเงนิ
สั จจะสะสม 34,940,535,543 บำท สำมำรถสนับสนุนเงนิ ทุนให้ สมำชิกกู้ไปประกอบ อำชีพ
จำนวน 1,178,962 คน เป็นเงนิ จำนวน 24,337,966,705 บำท และปจั จุบนั มีหมู่บ้ำนโครงกำรแก้ไข
ปัญหำควำมยำกจน (กข.คจ.) จำนวน 29,231 หมู่บ้ำน เงนิ ทุนจำนวน 8,990,664,522.30 บำท
จำนวนครวั เรอื น ท่ีได้รบั เงนิ ยืม 1,155,692 ครวั เรอื น เป็นเงนิ 7,672,013,840 บำท จำนวนเงนิ ทุน
ฝำกธนำคำร 891,346,519.30 บำท เงนิ ทุนท่ีอยู่ระหว่ำงกำรเรง่ รดั ติดตำมกำรชำระเงนิ ยืม จำนวน
2,656 หมู่บ้ำน รวมเป็นเงนิ 427,304,163 โครงกำรแก้ปัญหำหน้ีสินภำคครวั เรอื นของประชำชน
โดยศูนย์จัดกำรกองทุนชุมชน มีรอ้ ยละ 80 ของครวั เรอื นเป้ำหมำยได้รบั กำรแก้ไขปัญหำหนี้สิน
(จำนวน 5,136 ครวั เรอื น) กำรผลิตส่ือประชำสัมพันธ์กำรดำเนินงำนกองทุนพัฒนำบทบำทสตร ี
มีส่ือเผยแพรก่ ำรดำเนินงำนขับเคลื่อนกองทุนพัฒนำบทบำทสตร ี อย่ำงน้อย 2 ช่องทำง กำร เพิ่ม
ประสิทธภิ ำพกำรปฏิบัติงำนกองทุนพัฒนำบทบำทสตรแี ก่กลไกกำรขับเคล่ือนกองทุนพัฒนำบทบำทสตร ี
มีคณะทำงำนขับเคลื่อนกองทุนพัฒนำบทบำทสตรตี ำบล/อำสำสมัครผู้ประสำนงำนกองทุนพัฒนำ
บทบำทสตรหี มู่บ้ำน/ชุมชน จำนวน 878 อำเภอ ๆ ละ 30 คน รวมทั้งสิ้น 26,340 คน กำรพัฒนำทักษะ
อำชพี แก่สมำชกิ กองทุนพัฒนำบทบำทสตร ีมีสมำชกิ กองทนุ พัฒนำบทบำทสตร ีจำนวน 3,800 คน มีทกั ษะ
อำชพี สำมำรถนำไปประกอบอำชพี ได้ กำรส่งเสรมิ เยำวสตรสี ู่ผู้นำรนุ่ ใหม่ระดับจงั หวดั เยำวชนเป็นสมำชกิ
กองทุนพัฒนำบทบำทสตร ี จำนวน 1,810 คน ที่เข้ำรว่ มโครงกำรฯ พัฒนำศักยภำพสู่กำรเป็นผู้นำสตร ี
รุน่ ใหม่ระดับจังหวัด และกำรส่งเสรมิ ช่องทำงกำรตลำดผลิตภัณฑ์กลุ่มอำชีพสมำชิกกองทุนพัฒนำ
บทบำทสตร ี ทำให้กลุ่มอำชีพสมำชิกกองทุนพัฒนำบทบำทสตร ี ได้รบั กำรส่งเสรมิ ช่องทำงกำรตลำด
ผลิตภัณฑ์ รวม 1,725 กลุ่ม

ประเด็นกำรพัฒนำ เรอ่ ื งท่ี ๔ เสรมิ สรำ้ งองค์กรให้มีขีดสมรรถนะสูง มีกำรพัฒนำ
องค์กรใน ๓ ด้ำน ดังน้ี ๑) ด้ำนกำรบรหิ ำรงำนบุคคล ได้แก่ กำรฝึกอบรมเสรมิ สรำ้ งคุณธรรม จรยิ ธรรม
แก่ข้ำรำชกำรกรมกำรพัฒนำชุมชน มีข้ำรำชกำรกรมกำรพัฒนำชุมชนที่เข้ำรว่ มอบรม จำนวน 90 คน
ประพฤติตนและปฏิบัติหน้ำที่รำชกำรเป็นไปตำมคุณธรรม จรยิ ธรรม ข้ำรำชกำรต้นแบบด้ำนจรยิ ธรรม
(The Icon) มีข้ำรำชกำรต้นแบบด้ำนจรยิ ธรรมท่ีเป็นแบบอย่ำง ได้แก่ นำยธนศักดิ์ นำเลิศ พัฒนำกำร
อำเภอเมืองอ่ำงทอง จังหวัดอ่ำงทอง พัฒนำข้ำรำชกำรที่อยู่ระหว่ำงทดลองปฏิบัติรำชกำร หลักสูตร
พัฒนำกรก่อนประจำกำร (รนุ่ ๑๑๓ – ๑๑๗) มีจำนวน ๓๖๔ คน กำรฝึกอบรมพัฒนำกรระหวำ่ งประจำกำร
ด้ำนบรหิ ำรกำรเปลี่ยนแปลง เป็นกำรพัฒนำสมรรถนะให้สำมำรถปฏิบัติงำนภำยใต้สถำนกำรณ์
ควำมเปล่ียนแปลงได้อย่ำงมีประสิทธภิ ำพ จำนวน 3,640 คน กำรฝึกอบรมบุคลำกรกรมกำรพัฒนำ
ชุมชน เพ่ือขับเคลื่อนแผนพัฒนำในระดับพ้ืนท่ี หลักสูตรเสรมิ สมรรถนะพัฒนำกำรอำเภอ มีพัฒนำกำร
อำเภอ ๘๗๘ คน ใน ๗๖ จงั หวัด ได้รบั กำรพัฒนำสมรรถนะ กำรฝกึ อบรมหลักสูตรนักบรหิ ำรงำนพัฒนำ
ชุมชนระดับสูง (นพส.) เพื่อเป็นกำรเตรยี มควำมพรอ้ มก่อนเข้ำสู่ตำแหน่งหัวหน้ำหน่วยงำนระดับจงั หวัด
จ ำ น ว น ๑ ๓ ๕ ค น ก ำ ร จัด ฝึ ก อ บร ม นำ น ำ ชำติ ออ น ไ ลน์ หลั กสู ตร Sustainable Community
Development Applying Sufficiency Economy Philosophy from Theory to Practice

ปี กรมการพัฒนาชุมชน
สร้างสรรค์ชมุ ชมุ สร้างคน สรา้ งชาติ



เป็นกำรให้ควำมรูใ้ นหลักสูตรแนวคิดหลักกำรปรชั ญำของเศรษฐกิจ ของกรมกำรพัฒนำชุมชน ให้กับ

ผู้เข้ำรว่ มหลักสูตร จำนวน 42 คน จำก 19 ประเทศ กำรส่งเสรมิ ควำมเป็นผู้ประกอบกำรชุมชน
ตำมแนวทำง D – HOPE ให้กับชุมชน จำนวน ๑๐๐ ชุมชน ตลำดนัดควำมรู้งำนพัฒนำชุมชน
(KM Market) เป็นกำรส่งเสรมิ เพ่ิมทักษะกำรจดั กำรควำมรกู้ ำรพัฒนำพื้นท่ีต้นแบบกำรพัฒนำคุณภำพ
ชีวติ ตำมหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นำ โมเดล” ให้กับบุคลำกร กำรศึกษำวจิ ัยงำนพัฒนำ
ชุมชน : ปัจจยั ท่ีมีผลต่อกำรส่งเสรมิ กำรเรยี นรูต้ ำมหลักปรชั ญำเศรษฐกิจพอเพียงของศูนย์กำรเรยี นรู้
ระดับตำบลตำมหลักบวร กรณีศึกษำจงั หวัดอุบลรำชธำนี ในพัฒนำพ้ืนที่ต้นแบบกำรพัฒนำคุณภำพชวี ติ
ตำมหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นำ โมเดล” เพ่ือถอดบทเรยี นและจัดทำรำยงำนผลกำรวจิ ัย
ได้รบั กำรนำเสนอและเผยแพรใ่ นระดับประเทศ และได้รบั กำรยอมรบั จำนวน ๑ ฉบับ ๒) ด้ำนกำรบรหิ ำร
จัดกำรองค์กร (โครงสรำ้ ง ระบบ เทคโนโลยี กำรตรวจสอบ) ได้แก่ กำรตรวจสอบภำยใน ดำเนินกำร
ใน ๒ ส่วน คือ ส่วนงำนบรกิ ำรให้ควำมเชื่อม่ัน และส่วนงำนบรกิ ำรให้คำปรกึ ษำ ระบบ Big Data
กรมกำรพัฒนำชุมชน มีฐำนข้อมูลงำนพัฒนำชุมชน จำนวน 8 ฐำน ระบบสำรสนเทศภูมิศำสตร์ (GIS)
เพ่ือส่งเสรมิ กำรท่องเท่ียวในรูปแบบ Community Based Tourism) เพ่ือส่งเสรมิ กำรท่องเท่ียว
ในรูปแบบ Community Based Tourism 1 ระบบ กำรพัฒนำบุคลำกรด้ำนเทคโนโลยีดิจิทัล
โดยกำรพัฒนำบุคลำกรสำหรบั กำรวเิ ครำะห์ข้อมูล (Data Analytic) ๕ หลักสูตร จำนวน 60 คน
กำรเพิ่มประสิทธภิ ำพกำรตรวจรำชกำร มีหน่วยรบั ตรวจ 76 จังหวัด ในพื้นท่ี 18 เขตตรวจรำชกำร
มีกำรแลกเปล่ียนเรยี นรู้ ประสบกำรณ์และผลสำเร็จในกำรขับเคล่ือนงำนตำมนโยบำยรฐั บำล
กระทรวงมหำดไทย และโครงกำรสำคัญของกรมกำรพัฒนำชุมชน ๓) ด้ำนกำรเสรมิ สรำ้ งภำพลักษณ์
องค์กร มีโครงกำร ดังน้ี กำรยกระดับภำพลักษณ์องค์กร (ดำเนินกำรสรำ้ งภำพลักษณ์กรมกำรพัฒนำชุมชน
ผ่ำนชอ่ งทำงส่ือต่ำง ๆ /โครงกำรพัฒนำศักยภำพบุคลำกรด้ำนกำรเขียนข่ำว เพื่อเสรมิ สรำ้ งภำพลักษณ์
กรมกำรพัฒนำชุมชน /กำรสรำ้ งภำพลักษณ์กรมกำรพัฒนำชุมชนด้วยกำรประชำสัมพันธผ์ ่ำนสื่อวทิ ยุ)
และกำรดำเนินงำนภำยใต้ควำมร่วมมือ (MOU) ระหว่ำงกรมกำรพัฒนำชุมชนกับหน่วยงำนอื่น
จำนวน 88 หน่วยงำน รวม 38 ฉบับ ใน 5 ด้ำน

รำยงำนกำรเงนิ ของกรมกำรพัฒนำชุมชน กรอบวงเงนิ งบประมำณรำยจ่ำยประจำปี
งบประมำณ พ.ศ. 2564 กรมกำรพัฒนำชุมชน จำนวนทั้งสิ้น 6,247,158,200 บำท ลดลง 0.63 %
(39,498,900 บำท) โดยจำแนกงบประมำณตำมงบรำยจ่ำย เป็นงบบุคลำกร 2,655,326,000 บำท
งบดำเนินงำน 2,637,746,200 บำท งบลงทุน 865,035,800 บำท และงบรำยจำ่ ยอื่น คือกองทุน
พัฒนำบทบำทสตร ี89,050,200 บำท

นอกจำกนี้ กรมกำรพัฒนำชุมชน ได้รบั รำงวัลแห่งควำมภำคภูมิใจทั้งสิ้น ๙ รำงวัล
ประกอบด้วย ๑) รำงวลั เลิศรฐั สำขำคุณภำพกำรบรหิ ำรจดั กำรภำครฐั (รำยหมวด) หมวด 6 ด้ำนกระบวนกำร
คุณภำพและนวัตกรรม (เป็นหน่วยงำนแรกและหน่วยงำนเดียวของกระทรวงมหำดไทยและเป็นหน่วยงำน
ลำดับท่ี 4 ของประเทศ ที่คว้ำรำงวัล PMQA ครบทุกรำยหมวด) ๒) รำงวัลเลิศรฐั สำขำบรกิ ำรภำครฐั
ระดับดี ประเภทพัฒนำกำรบรกิ ำร ผลงำน กำรแก้ไขปัญหำหนี้สินภำคครวั เรอื นโดยศูนย์จดั กำรกองทุนชุมชน

เสนอผลงำปนี โกดรมยกสาำรนพักฒั พนัาฒชนุมชำนทุนและองค์กรกำรเงนิ ชุมชน ๓) รำงวัลเลิศรฐั สำขำกำรบรหิ ำรรำชกำร
สร้างสรรค์ชุมชุม สรา้ งคน สร้างชาติ



แบบมีส่วนรว่ มระดับดี ประเภทรำงวัลเปิดใจใกล้ชิดประชำชน (Open Governance) เสนอผลงำนโดย
กลุ่มพัฒนำระบบบรหิ ำร ๔) รำงวัลเลิศรฐั สำขำกำรบรหิ ำรรำชกำรแบบมีส่วนรว่ ม ระดับดี ประเภท
รำงวัลสัมฤทธิผลประชำชนมีส่วนรว่ ม (Effective Change) ผลงำน โครงกำรพัฒนำเส้นใยกล้วย
เป็นผลิตภัณฑ์เครอ่ ื งแต่งกำยและเคหะสิ่งทอ เสนอผลงำนโดยสำนักงำนพัฒนำชุมชนจงั หวัดปทมุ ธำนี
๕) รำงวัลเลิศรฐั สำขำกำรบรหิ ำรรำชกำรแบบมีส่วนรว่ ม ระดับดี ประเภทรำงวัลสัมฤทธผิ ลประชำชน
มีส่วนรว่ ม (Effective Change) ผลงำน โครงกำรส่งเสรมิ ควำมเป็นผู้ประกอบกำรชุมชน เสนอผลงำน
โดยกองแผนงำน ๖) รำงวัลเลิศรฐั สำขำกำรบรหิ ำรรำชกำรแบบมีส่วนรว่ ม ระดับดี สัมฤทธผิ ลประชำชน
มีส่วนร่วม (Effective Change) ผลงำน สำรชั ไรซ์ แบรนด์ ขับเคลื่อนสู่บุรรี มั ย์โมเดล เสนอผลงำน
โดยสำนักงำนพัฒนำชุมชนจงั หวัดบุรรี มั ย์ ๗) ผลกำรประเมินผลกำรประเมินคุณธรรมและควำมโปรง่ ใส
กำรดำเนินงำนของหน่วยงำนภำครฐั (ITA) ของกรมกำรพัฒนำชุมชน ปีงบประมำณ พ.ศ. 2564 มีผล
กำรประเมินท่ี 97.05 ระดับ AA เป็นลำดับที่ 10 ของหน่วยงำนส่วนรำชกำรระดับกรมหรอื เทียบเท่ำ
จำกท้ังหมด 146 หน่วยงำน ๘) รำงวัลองค์กรต้นแบบด้ำนสิทธมิ นุษยชน และ ๙) รำงวัลรฐั บำลดิจิทัล
ประจำปี 2564 (Digital Government Awards 2021) เป็นหน่วยงำนดีเด่นด้ำนกำรเปิดเผยข้อมูล
ผ่ำนศูนย์กลำงข้อมูลเปิดภำครฐั (Data.go.th) กรมพัฒนำชุมชนได้มอบรำงวัลเพื่อเชดิ ชูเกียรติให้กับ
เครอื ข่ำย หน่วยงำน และบุคคลท่ีมีผลงำนดีเด่น เป็นแบบอย่ำงกำรขับเคลื่อนกำรพัฒนำชุมชน
อย่ำงเป็นรูปธรรมอีกหลำยรำงวัล อันเป็นหนทำงนำควำมเจรญิ และควำมสุขไปสู่ประชำชนให้รว่ มกัน
ขับเคลื่อนภำรกิจกรมกำรพัฒนำชุมชน ไปสู่วสิ ัยทัศน์ เศรษฐกิจฐำนรำกม่ันคงและชุมชนพึ่งตนเองได้
ภำยในปี ๒๕๖๕

ปี กรมการพัฒนาชมุ ชน
สร้างสรรค์ชมุ ชมุ สร้างคน สร้างชาติ



ส่วนท่ี 1 รจู้ กั กรมการพัฒนาชุมชน

กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ก่อตั้งข้ึนเมื่อวนั ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2505 พระราชบญั ญัติ
ปรบั ปรงุ กระทรวง ทบวง กรม ฉบับท่ี 10 พ.ศ. 2505 แยกจากกรมมหาดไทยเดิม เป็นกรมการพัฒนาชุมชน

ภารกิจของกรมการพัฒนาชุมชน คือ ปรบั ปรงุ คุณภาพชวี ติ ของประชาชนในชนบท โดยการมีส่วนรว่ ม
ของประชาชนและการพัฒนาตนเอง หลักการทางานของบุคลากรกรมการพัฒนาชุมชนจงึ เป็นการทางาน
รว่ มกับประชาชน มิใชท่ าให้ประชาชน

๑. ปรชั ญาการพัฒนาชุมชน

ปรชั ญาการพัฒนาชุมชน เป็นหลักความเป็นจรงิ แห่งชีวติ ท่ีนักพัฒนาชุมชนยึดถือเป็นสรณะคือ
“ความเชื่อม่ันและศรทั ธาในมนุษยชาติ ” ว่ามนุษย์ทุกชีวติ มีคุณค่า และมีความหมาย มีศักด์ิศร ี และ
มีศักยภาพ มีฐานะแห่งความเป็นมนุษย์ที่ไม่ควรได้รบั การเหยียบย่า ดูหม่ิน เหยียดหยาม จากมนุษย์
ด้วยกันเอง มีความสามารถจากการเปน็ มนุษย์ท่ีควรได้รบั การยอมรบั และทาให้ปรากฏเป็นจรงิ ในทางปฏิบัติ
จากเพื่อนมนษุ ย์ด้วยกันเอง โดยมนุษย์ทกุ คนสามารถพัฒนาได้ถ้าได้รบั โอกาส

๒. หลักการพัฒนาชุมชน

หลักการพัฒนาชุมชนทีแ่ ทจ้ รงิ คือ หลักประชาชน

๒.๑ เรม่ ิ ต้นที่ประชาชน ยืนจุดเดียวกับประชาชน มองโลก มองชีวติ มองปัญหา จากทัศนะของ
ประชาชน เพ่ือให้เข้าใจปัญหา ความต้องการของประชาชน เพ่ือให้เข้าถึงชวี ติ จติ ใจของประชาชน

๒.๒ ทางานรว่ มกับประชาชน (ไม่ใช่ทางานให้แก่ประชาชน เพราะจะทาให้เกิดความคิดมาทวง
บุญคุณจากประชาชนในภายหลัง) การท่ีจะทาให้ประชาชนเข้าใจปัญหาของตนเอง และมีกาลังใจลุกข้ึนต่อสู้
กับปัญหา ชว่ ยกันคิด ชว่ ยกันแก้ไขปัญหาน้ัน ย่อมมีหนทางที่จะกระทาได้โดยไม่ยาก หากเข้าใจปัญหาและ
เข้าถึงจติ ใจประชาชน

๒.๓ ยึดประชาชนเป็นพระเอก ประชาชนต้องเป็นผู้กระทาการพัฒนาด้วยตนเอง ไม่ใช่เป็น
ผู้ถูกกระทา หรอื เป็นฝ่ายรองรบั ข้างเดียว เพราะผลของการกระทาการพัฒนาน้ัน ตกอยู่ที่ประชาชนโดยตรง
ประชาชนเป็นผู้รบั โชคหรอื เคราะห์จากการพัฒนาน้ัน

๓. ภารกิจและอานาจหน้าท่กี รมการพัฒนาชุมชน

กรมการพัฒนาชุมชนมีบทบาท หน้าท่ีตามกฎกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2552
ดังน้ี

๓.๑ กาหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ มาตรการ และแนวทางในการพัฒนาชุมชนระดับชาติ เพื่อให้
หน่วยงานของรฐั เอกชน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องด้านการพัฒนาชุมชนได้ใชเ้ ป็นกรอบแนวทางในการดาเนินงาน
เพื่อเสรมิ สรา้ งความสามารถและความเข้มแข็งของชุมชน

ปี กรมการพัฒนาชมุ ชน
สรา้ งสรรค์ชมุ ชมุ สร้างคน สรา้ งชาติ



๓.๒ จัดทาและพัฒนาระบบมาตรฐานการพัฒนาชุมชน เพื่อใช้เป็นเคร่อื งมือสาหรบั ประเมิน
ความก้าวหน้าและมาตรฐานการพัฒนาของชุมชน

๓.๓ พัฒนาระบบและกลไกในการส่งเสรมิ กระบวนการเรยี นรู้ การจดั การความรู้ การอาชพี การออม
และการบรหิ ารจัดการเงนิ ทุนของชุมชน เพ่ือเสรมิ สรา้ งขีดความสามารถของประชาชน ชุมชน ผู้นาชุมชน
องค์การชุมชน และเครอื ข่ายองค์การชุมชน

๓.๔ สนับสนุนและพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศชุมชน ส่งเสรมิ การใช้ประโยชน์และการให้บรกิ าร
ข้อมูลสารสนเทศชุมชน เพื่อใชใ้ นการวางแผนบรหิ ารการพัฒนาได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ

๓.๕ ศึกษา วเิ คราะห์ วจิ ัย พัฒนาและสรา้ งองค์ความรูเ้ พื่อใชใ้ นงานพัฒนาชุมชน และการจัดทา
ยุทธศาสตรช์ ุมชน

๓.๖ ฝึกอบรมและพัฒนาข้าราชการ เจ้าหน้าที่ที่เก่ียวข้อง ผู้นาชุมชน องค์การชุมชน และเครอื ข่าย
องค์การชุมชน ให้มีความรู้ ทักษะ ทัศนคติ และสมรรถนะในการทางาน รวมทั้งให้ความรว่ มมือทางวชิ าการ
ด้านการพัฒนาชุมชนแก่หน่วยงานท้ังในประเทศและต่างประเทศ

๓.๗ ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกาหนดให้เป็นอานาจหน้าที่ของกรม หรอื ต ามที่กระทรวง
หรอื คณะรฐั มนตรมี อบหมาย

๔. โครงสรา้ งกรมการพัฒนาชุมชน

กรมการพัฒนาชุมชนแบ่งโครงสรา้ งของหน่วยงาน เปน็ ราชการบรหิ ารส่วนกลาง และราชการบรหิ าร
ส่วนภูมิภาค

4.1 ราชการบรหิ ารส่วนกลาง

๔.๑.๑ สานกั ตรวจราชการ ๔.๑.๘ กองคลัง
๔.๑.๒ สานกั เสรมิ สรา้ งความเข้มแข็งชุมชน ๔.๑.๙ กองการเจา้ หน้าที่
๔.๑.๓ สานักส่งเสรมิ ภูมิปญั ญาทอ้ งถ่ินและ ๔.๑.๑๐ กองแผนงาน
วสิ าหกิจชุมชน ๔.๑.๑๑ สานักงานเลขานกุ ารกรม
๔.๑.๔ สานักพฒั นาทนุ และองค์กรการเงนิ ชุมชน ๔.๑.๑๒ กองนิติการ
๔.๑.๕ สานักงานกองทนุ พัฒนาบทบาทสตร ี ๔.๑.๑๓ กลุ่มพฒั นาระบบบรหิ าร
๔.๑.๖ สถาบนั การพัฒนาชุมชน ๔.๑.๑๔ กลุ่มตรวจสอบภายใน
๔.๑.๗ ศูนย์สารสนเทศเพ่ือการพัฒนาชุมชน ๔.๑.๑๕ กลุ่มงานค้มุ ครองจรยิ ธรรมข้าราชการ

ปี กรมการพัฒนาชมุ ชน
สรา้ งสรรค์ชมุ ชมุ สร้างคน สร้างชาติ



4.2 ราชการบรหิ ารส่วนภูมิภาค
๔.๒.๑ สานกั งานพัฒนาชุมชนจงั หวัด 76 จงั หวดั
๔.๒.๒ สานักงานพฒั นาชุมชนอาเภอ 878 อาเภอ

ปี กรมการพฒั นาชมุ ชน
สรา้ งสรรค์ชมุ ชมุ สร้างคน สรา้ งชาติ



๕. ข้าราชการและบุคลากรกรมการพัฒนาชุมชน

5.1 จาแนกข้าราชการและบุคลากรตามประเภทและระดับตาแหน่ง

ประเภท ระดับตาแหน่ง ชาย (คน) หญิง (คน) รวม (คน)

บรหิ าร สูง 10 1

ต้น 21 3

อานวยการ สูง 64 29 93

ต้น 21 3

วชิ าการ เชย่ี วชาญ 2 1 3

ชานาญการพิเศษ 355 449 804

ชานาญการ 1,037 2,322 3,359

ปฏิบัติการ 548 855 1,403

ทั่วไป ชานาญงาน 76 345 421
ปฏิบัติงาน 45 233 278
รวม 2,132 4,236 6,368

ปี กรมการพัฒนาชุมชน
สร้างสรรค์ชุมชุม สรา้ งคน สร้างชาติ



5.2 จาแนกข้าราชการและบุคลากรตามระดับการศึกษา

ระดับการศึกษา ชาย (คน) หญิง (คน) รวม (คน)
25
ปรญิ ญาเอก 10 15 2,383
3,762
ปรญิ ญาโท 767 1,616 198
6,368
ปรญิ ญาตร ี 1,304 2,458

ตา่ กวา่ ปรญิ ญาตร ี 51 147

รวม 2,132 4,236

๖. ค่านิยมองค์การ

A: Appreciation ชนื่ ชม
B:
C: Bravery กล้าหาญ
D:
E: Creativity สรา้ งสรรค์
F:
S: Discovery ใฝ่รู้
P:
Empathy เข้าใจ

Facilitation เอื้ออานวย

Simplify ทาให้งา่ ย

Practical ปฏิบตั ิได้จรงิ

ปี กรมการพฒั นาชมุ ชน
สรา้ งสรรค์ชมุ ชุม สร้างคน สร้างชาติ



๗. จรยิ ธรรมและจรรยาข้าราชการกรมการพัฒนาชุมชน
๗.๑ ยึดม่ันการปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมุข
๗.๒ ยึดม่ันในความเป็นตัวแทนของกรมการพัฒนาชุมชน ศรทั ธาเชื่อมั่นต่อองค์กรและ

ประชาชน โดยคานึงถึงหลักการมีส่วนรว่ มของทุกภาคส่วน รบั ฟังความคิดเห็นของผู้อ่ืน เคารพในสิทธิ
เสรภี าพ ยึดหลักความเสมอภาคให้เกียรติและมีมนุษยสัมพันธต์ ่อประชาชน

๗.๓ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรวดเรว็ มีความซ่ือสัตย์สุจรติ และมีความรบั ผิดชอบ โปรง่ ใส
ตรวจสอบได้ โดยยึดถือประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน และไม่มีผลประโยชน์
ทับซอ้ น

๗.๔ เน้นหนักในการพัฒนาคนให้มีระเบียบวนิ ัย พ่ึงตนเอง ซื่อสัตย์สุจรติ ต่อกัน รูร้ กั สามัคคี
มีจติ สาธารณะ และปลูกฝงั ให้ใชห้ ลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการดาเนินชวี ติ

๗.๕ อานวยความสะดวกและพรอ้ มที่จะให้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชนอย่างครบถ้วน ถูกต้อง
และไม่บิดเบือนข้อเทจ็ จรงิ

๗.๖ เป็นท่ีพ่ึงของผู้ใต้บงั คับบัญชา ประชาชน และองค์กรชุมชน ด้วยความเปน็ ธรรม เป็นกลาง
ไม่เลือกปฏิบตั ิ และถูกต้องตามกฎหมาย

๗.๗ ดาเนินชีวติ โดยยึดหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข
ทกุ ประเภท และต้องไม่ประพฤติผิดศีลธรรม

๗.๘ ผู้บงั คับบัญชาทุกระดับต้องรกั ษาจรยิ ธรรม และจรรยาข้าราชการตามข้อบงั คับนี้ พรอ้ มท้งั
เสรมิ สรา้ งให้ข้าราชการกรมการพัฒนาชุมชนต้องปฏิบัติตามข้อบังคับน้ี

ปี กรมการพฒั นาชมุ ชน
สร้างสรรค์ชมุ ชมุ สร้างคน สรา้ งชาติ



๘. แผนปฏิบัติราชการระยะ 3 ปี (พ.ศ. 2563 - 2565) ของกรมการพัฒนาชุมชน

วสิ ัยทศั น์ “เศรษฐกิจฐานรากมั่นคงและชุมชนพึ่งตนเองได้ ภายในปี 2565”

เป้าหมาย 1. หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ม่ันคง มง่ั คั่ง ย่ังยนื มีอาชพี มีรายได้ และ
พนั ธกจิ มีความสุขเพ่ิมข้ึน 44,835 หมู่บ้าน
2. รายได้จากการจาหน่ายผลติ ภัณฑ์ชุมชน เพิ่มขึ้นรอ้ ยละ 10 ต่อปี
3. กองทุนชุมชนมีธรรมาภิบาล เพม่ิ ข้ึน จานวน 27,000 กลุ่ม/หมู่บา้ น

1. พัฒนาระบบกลไกการมีส่วนรว่ มและการเรยี นรกู้ ารพึ่งตนเอง
2. พัฒนาการบรหิ ารจดั การชุมชนให้พ่งึ ตนเองได้ตามหลักปรชั ญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง
3. ส่งเสรมิ และพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้ขยายตัว
4. ส่งเสรมิ และพัฒนาการบรหิ ารจดั การกองทุนชุมชนให้มีธรรมาภิบาล
5. พัฒนาองค์กรให้มีขีดสมรรถนะสูง บุคลากรมีอุดมการณ์ในงานพัฒนา
ชุมชน และเชยี่ วชาญการทางานเชงิ บูรณาการ

ปี กรมการพฒั นาชุมชน
สร้างสรรค์ชุมชมุ สรา้ งคน สร้างชาติ



แผนปฏิบตั ิราชการ แนวทางการพัฒนา

เรอ่ ื งท่ี ๑ สรา้ งสรรค์ชุมชนให้พ่ึงตนเองได้ ๑.๑ บรหิ ารจดั การข้อมลู สารสนเทศและเทคโนโลยี
เพ่ือการพัฒนา

๑.๒ สรา้ งพลังผู้นาในการพฒั นาชุมชน

๑.๓ ส่งเสรมิ การบรหิ ารจดั การชุมชนตามหลักปรชั ญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง

เรอ่ ื งท่ี ๒ ส่งเสรมิ เศรษฐกิจฐานราก ๒.๑ พฒั นาผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP สู่สากล
ให้ขยายตัวอยา่ งสมดุล ๒.๒ พัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยองค์ความรแู้ ละนวตั กรรม

๒.๓ พฒั นาการบรหิ ารจดั การและกิจกรรมชุมชนทอ่ งเท่ียว
OTOP นวตั วถิ ี

๒.๔ ส่งเสรมิ ชอ่ งทางการตลาด

เรอ่ ื งที่ ๓ เสรมิ สรา้ งทนุ ชุมชนให้มี ๓.๑ พฒั นาระบบการบรหิ ารและการเข้าถงึ แหล่งทนุ
ธรรมาภิบาล ๓.๒ พัฒนาทนุ ชุมชนเพื่อการพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ

เรอ่ ื งที่ ๔ เสรมิ สรา้ งองค์กรให้มี ๔.๑ เสรมิ สรา้ งศักยภาพองค์กรเพ่ือยกระดับงานพัฒนา
ขีดสมรรถนะสูง ชุมชน

๔.๒ พฒั นาบุคลากรให้มีคุณภาพ

๔.๓ ยกระดับภาพลักษณ์องค์กรสู่สากล

ปี กรมการพฒั นาชมุ ชน
สรา้ งสรรค์ชมุ ชมุ สร้างคน สรา้ งชาติ



๙. พันธมิตรการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชน
เครอื ข่ายภาคประชาชน ประกอบด้วย 1๒ องค์กร ได้แก่ 1) ปราชญ์ชุมชน 2) อาสาพัฒนา

ชุมชน (อช.)/ผู้นาอาสาพัฒนาชุมชน (ผู้นา อช.) 3 อาสาสมัครผู้ประสานงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตร ี
4) คณะกรรมการพัฒนาสตร ี 5) คณะทางานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตร ี 6) คณะกรรม
การศู นย์ประสานงานองค์การชุมชน (ศอช.) 7) คณะกรรมการกลุ่มออมทรัพย์เพ่ือการผลิต
8) คณะกรรมการโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน (กข.คจ.) 9) คณะกรรมการศูนยก์ ารจดั การกองทุน
ชุมชน 1๐) คณะกรรมการเครอื ข่ายหน่ึงตาบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ๑๑) บรษิ ัท โอทอปอินเตอร์
เทรดเดอร์ จากัด และ 1๒) บรษิ ัท ประชารฐั รกั สามัคคี (วสิ าหกิจเพื่อสังคม) จากัด

ปี กรมการพฒั นาชุมชน
สรา้ งสรรค์ชุมชุม สรา้ งคน สรา้ งชาติ

๑๐

ปราชญ์ชุมชน จานวน 23,589 คน
อาสาพัฒนาชุมชน (อช.)/
ผนู้ าอาสาพัฒนาชุมชน (ผู้นา อช.) สมาคมผู้นาอาสาพัฒนาชุมชนไทย 1 คณะ 36 คน
195 คน
อาสาสมัครผูป้ ระสานงาน สมาคมผูน้ าอาสาพัฒนาชุมชนจงั หวัด 36 คณะ 1,607 คน
กองทนุ พัฒนาบทบาทสตร ี 11,05 คน
ชมรมผู้นาอาสาพัฒนาชุมชนจงั หวัด 68 คณะ
คณะกรรมการพัฒนาสตร ี
ชมรมผ้นู าอาสาพัฒนาชุมชนอาเภอ 810 คณะ

ผู้นาอาสาพัฒนาชุมชน (ผนู้ า อช.) 13,376 คน

อาสาพัฒนาชุมชน (อช.) 289,580 คน

ระดับหม่บู า้ น 70,384 คน
ระดับชุมชน 18,702 คน

สมาคมผู้นาสตรพี ัฒนาชุมชนไทย 1 คณะ 36 คน

คณะกรรมการพัฒนาสตรภี าค 4 คณะ 160 คน

สมาคมผูน้ าสตรพี ัฒนาชุมชนจงั หวัด 34 คณะ 1,513 คน

คณะกรรมการพัฒนาสตรจี งั หวัด 76 คณะ 2,740 คน

คณะกรรมการพัฒนาสตรอี าเภอ 878 คณะ 20,090 คน

คณะกรรมการพัฒนาสตรตี าบล 7,124 คณะ 134,284 คน

คณะกรรมการพัฒนาสตรหี ม่บู า้ น 74,780 คณะ 928,510 คน

คณะทางานขับเคลอ่ื น ระดับจงั หวัด ๗๗ คณะ
กองทนุ พัฒนาบทบาทสตร ี คน
ระดับตาบล/เทศบาล 66,660 คน
คน
ระดับกรุงเทพมหานคร 14

ระดับเขต 585

คณะกรรมการศูนย์ ระดับจงั หวัด 76 คณะ
ประสานงานองค์การชุมชน ระดับอาเภอ 878 คณะ
ระดับตาบล 6,809 คณะ
(ศอช.)

คณะกรรมการ จานวน 19,646 คณะ แต่ละคณะแบ่งออกเปน็ 4 ฝ่าย ๆ ละ
กลุ่มออมทรพั ยเ์ พ่อื การผลติ 3 - 5 คน

คณะกรรมการโครงการแก้ไข จานวน 29,231 คณะ ๆ ละ 7 - 9 คน
ปัญหาความยากจน (กข.คจ.)

ปี กรมการพัฒนาชมุ ชน
สร้างสรรค์ชุมชุม สรา้ งคน สร้างชาติ

๑๑

คณะกรรมการ จานวน 924 คณะ ประกอบด้วย ตัวแทนจากกลุม่ /กองทนุ ในหมบู่ า้ น/
ศูนยจ์ ดั การกองทุนชุมชน ชุมชนทเี่ ปน็ สมาชกิ ของศูนยจ์ ดั การกองทุนชุมชน ผ้นู าชุมชน และ
ผทู้ รงคุณวฒุ ิ
คณะกรรมการเครอื ขา่ ย
หนงึ่ ตาบล หนึ่งผลติ ภัณฑ์ ระดับประเทศ 1 เครอื ข่าย
ระดับจงั หวัด 76 เครอื ข่าย
(OTOP) ระดับอาเภอ 878 เครอื ข่าย

บรษิ ัท โอทอปอินเตอร์ บรษิ ัท โอทอปอินเตอรเ์ ทรดเดอร์ (ประเทศไทย) จากัด 1 บรษิ ัท
เทรดเดอร์ จากัด บรษิ ัท โอทอปอินเตอรเ์ ทรดเดอร์ จากัด ระดับจงั หวัด 59 บรษิ ัท

บรษิ ัท ประชารฐั รกั สามัคคี บรษิ ัท ประชารฐั รกั สามัคคี (ประเทศไทย) จากัด 1 บรษิ ัท
(วสิ าหกิจเพ่อื สังคม) จากัด บรษิ ัท ประชารฐั รกั สามัคคีจงั หวัด (วสิ าหกิจเพอื่ สังคม) จากัด
76 จงั หวัด

๑๐. กฎหมายท่เี ก่ียวข้องกับงานพัฒนาชุมชน

กรมการพัฒนาชุมชน มีกฎหมายที่อยู่ในความรบั ผิดชอบของกรมการพัฒนาชุมชน จานวน ๑๒
ฉบบั ดังนี้

๑๐.๑ ข้อบังคับคณะกรรมการบรหิ ารกองทุนพัฒนาบทบาทสตรวี ่าด้ วยการบรหิ ารกองทุน
พัฒนาบทบาทสตร ีพ.ศ. ๒๕๕๙

๑๐.๒ ระเบียบกรมการพัฒนาชุมชนว่าด้วยการส่งเสรมิ การดาเนินงานกลุ่มออมทรพั ย์เพ่ือ
การผลิต พ.ศ. ๒๕๕๕

๑๐.๓ ระเบียบกรมการพัฒนาชุมชนว่าด้วยการบรหิ ารอาคารและสถานท่ีของวทิ ยาลัย
การพัฒนาชุมชน ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน พ.ศ. ๒๕๕๔

๑๐.๔ ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการบรหิ ารและการใชจ้ ่ายเงนิ โครงการแก้ไขปัญหา
ความยากจน พ.ศ. ๒๕๕๓

๑๐.๕ ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการดาเนินงานศูนย์ประสานงานองค์การชุมชน
พ.ศ. ๒๕๕๑

๑๐.๖ ระเบียบกรมการพัฒนาชุมชนว่าด้วยการใชเ้ งนิ ทุนหมุนเวยี นจากโครงการพัฒนาองค์กร
ประชาชน พ.ศ. ๒๕๔๗

ปี กรมการพฒั นาชมุ ชน
สรา้ งสรรค์ชุมชมุ สรา้ งคน สรา้ งชาติ

๑๒

๑๐.๗ ระเบียบกรมการพัฒนาชุมชนว่าด้วยกองทุนส่งเสรมิ การพัฒนาศักยภาพชุมชน
พ.ศ. ๒๕๔๘ แก้ไขเพ่ิมเติมโดย ระเบยี บกรมการพัฒนาชุมชนวา่ ด้วยกองทนุ ส่งเสรมิ การพัฒนาศักยภาพ
ชุมชน (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๒

๑๐.๘ ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการอาสาพัฒนาชุมชน พ.ศ. ๒๕๔๗ แก้ไขเพ่ิมเติม
โดยระเบียบกระทรวงมหาดไทย วา่ ด้วยการอาสาพัฒนาชุมชน (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๒

๑๐.๙ ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยกองทุนพัฒนาเด็กชนบทในพระราชูปถัมภ์สมเด็จ
พระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมาร ี พ.ศ. ๒๕๔๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบกระทรวงมหาดไทย
ว่าด้วยกองทุนพัฒนาเด็กชนบท ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมาร ี
(ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔

๑๐.๑๐ ระเบยี บกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยอาสาพัฒนา พ.ศ. ๒๕๔๐
๑๐.๑๑ ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยคณะกรรมการพัฒนาสตร ี พ .ศ. ๒๕๓๘ แก้ไข
เพิ่มเติมโดยระเบยี บกระทรวงมหาดไทยวา่ ด้วยคณะกรรมการพัฒนาสตร ี(ฉบบั ที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๕
๑๐.๑๒ ระเบียบกรมการพัฒนาชุมชนว่าด้วยการส่งเสรมิ การดาเนินงาน โอทอปเทรดเดอร์
พ.ศ. ๒๕๖๑
1๑. ชอ่ งทางการติดตามข่าวสารภารกิจของ กรมการพัฒนาชุมชน ผ่านส่ือ Social Media

ปี กรมการพัฒนาชมุ ชน
สรา้ งสรรค์ชุมชุม สร้างคน สร้างชาติ

๑๓

ส่วนท่ี ๒
การดาเนินงานน้อมนาแนวพระราชดารสิ ู่การปฏิบตั ิ

๑. โครงการรวมพลังจิตอาสาปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ เน่ืองในโอกาสมหามงคล วันฉัตรมงคล วันที่ ๔
พฤษภาคม ๒๕๖๔ ณ เขาขยาย อาเภอเมืองชยั นาท จงั หวัดชยั นาท

เนื่องในวันคล้ายวันมหามงคลพระราชพิธบี รมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปรเมนทร
รามาธบิ ดีศรสี ินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เม่ือวันที่ 4 พฤษภาคม พุทธศักราช 2562
และมีพระปฐมบรมราชโองการพระราชทานแก่ประชาชนชาวไทยความว่า “เราจะสืบสาน รกั ษา และต่อยอด
และครองแผ่นดินโดยธรรม เพ่ือประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป ” ทรงแสดงพระราชประสงค์
ท่ีจะประกอบพระราชกรณียกิจ เพื่อช่วยเหลือและพัฒนาคุณภาพชีวติ ประชาชนให้ดีข้ึน ตามรอยเบ้ือง
พระยุคลบาทของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนา ถบพิตร
ซงึ่ พระองค์ท่านทรงนาเมล็ดพันธยุ์ างนาไปเพาะปลูกท่ีวังสวนจติ รลดา และถือว่าวันนี้เป็นวันครบรอบ 60 ปี
ท่ีพระองค์ท่านทรงเสด็จเก็บเมล็ดพันธุย์ างนา ที่อาเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุร ี ทรงพยายามปกปักรกั ษา
ต้นยางนา

กรมการพัฒนาชุมชน จึงน้อมนามาปฏิบัติบูชาเน่ืองในโอกาสวันฉัตรมงคล 4 พฤษภาคม
2564 โดยรว่ มกันปลูกต้นยางนา เพื่อให้เป็นแหล่งกาเนิดอาหาร ทั้งยางนาและตาลโตนด เป็นต้นไม้ที่อายุ
ยืนยาวกว่า 100 ปี

ผลการดาเนินงาน
- เชงิ ปรมิ าณ

1. ผู้เข้ารว่ มโครงการได้แสดงออกถึงความจงรกั ภักดีและสานึกในพระมหากรุณาธคิ ุณ
โดยการรว่ มทากิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคล วันฉัตรมงคล
4 พฤษภาคม 2564 จานวน 70 คน

2. เกิดการรวมพลังจติ อาสาปลูกป่าเพื่อสรา้ งความม่ันคงทางอาหาร โดยการปลูกตาลโตนด
จานวน 910 เมล็ด และต้นยางนา 910 ต้น รวม 1,820 ต้น

- เชิงคุณภาพ เป็นการเสรมิ สรา้ งจติ สานึก และปลูกยางนา เพ่ือให้เป็นแหล่งกาเนิดอาหาร
เพราะโคนยางนามีเชอ้ื เห็ดเกิดขึ้น เป็นแหล่งอาหาร ก่อให้เกิดความสมบูรณ์ มีอายุยาวนาน ชว่ ยรกั ษาสมดุล
ธรรมชาติ ให้เกิดความรม่ เย็น น้ายาง จากต้นยางนาก็ยังสามารถเป็นเชอ้ื เพลิง ทาข้ีไต้ จุดไฟส่องแสงสว่าง
นาทางได้ และปลูกต้นตาลโตนด พืชอาหารคู่บ้านคู่เมือง และยังเป็นการสรา้ งความมั่นคงทางอาหาร
ลดภาวะโลกรอ้ น เพื่อพลิกฟ้ ืนผืนดินของเขาขยาย ให้กลับคืนสภาพป่าท่ีอุดมสมบูรณ์ เป็นรากฐานในการ
พัฒนาคุณภาพชีวติ ของพี่น้องประชาชนตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง สามารถพ่ึงพาตนเองได้
อย่างย่ังยนื

ปี กรมการพฒั นาชุมชน
สร้างสรรค์ชมุ ชุม สร้างคน สรา้ งชาติ

๑๔

๒. .โครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ เน่ืองในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา
พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชนิ ี ณ เขาขยาย อาเภอเมืองชยั นาท จงั หวัดชยั นาท

นับจากวันที่พระบาทสมเด็จพระวชริ เกล้าเจา้ อยู่หัว ทรงสถาปนาสมเด็จพระนางเจา้ สุทดิ าฯ
เป็นสมเด็จพระราชนิ ี เม่ือวันท่ี 1 พฤษภาคม 2562 และต่อมาได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
สถาปนาพระอิสรยิ ยศข้ึนเป็นสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เม่ือวันท่ี 4
พฤษภาคม 2562 พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ เคียงข้างพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัวอยู่เสมอ

ปี กรมการพัฒนาชมุ ชน
สรา้ งสรรค์ชุมชมุ สร้างคน สรา้ งชาติ

๑๕

ทั้งในงานพระราชพิธี ตลอดจนพระราชกรณียกิจส่งเสรมิ สนับสนุนบทบาทของสตรไี ทย และมีพระราชหฤทยั
ต้ังม่ันในการสืบสาน รกั ษาและต่อยอดพระราชปณิธานแห่งสมเด็จพระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี
พันปีหลวง

ด้วยสานึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ กรมการพัฒนาชุมชนจึงได้ดาเนิน
กิจกรรมปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ เน่ืองในโอกาสวนั เฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจา้ สุทิดา พัชรสุธา
พิมลลักษณพระบรมราชนิ ี 3 มิถุนายน 2564 เพ่ือเป็นการปรบั ภูมิทัศน์ให้สวยงาม เปน็ การสรา้ งความสมดุล
ของทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม เพ่ิมพ้ืนท่ีสีเขียวให้ชุมชน ลดปรมิ าณฝุ่นละอองในอากาศ รวมถึง
เป็นการช่วยเสรมิ สรา้ งจิตสานึก และตระหนักถึงความสาคัญในการอนุรกั ษ์ทรพั ยากร ธรรมชาติและ
ส่ิงแวดล้อม ให้คงอยูแ่ ละพัฒนาอย่างยงั่ ยนื

ผลการดาเนินงาน
- เชงิ ปรมิ าณ
1. จติ อาสาพระราชทาน ประชาชน เครอื ข่ายเข้ารว่ มกิจกรรมจานวน 100 คน
2. มีต้นไม้ทดแทนต้นไม้ดอกสีม่วง ที่ปลูกเมื่อปี 2563 เพิ่มเติม 244 ต้น จากเดิมจานวน
1,044 ต้น ซึ่งมีความหมายในการปลูก คือ เลข 10 หมายถึง พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธบิ ดี
ศรสี ินทร มหาวชริ าลงกรณพระวชริ เกล้าเจา้ อยู่หัว และเลขข้างหลัง 44 หมายถึงพระชนมพรรษาของสมเด็จ
พระนางเจา้ สุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชนิ ี บวกอีกหนึ่ง และต้นกล้วยจานวน 144 ต้น
- เชงิ คุณภาพ มีการปรบั ภูมิทัศน์ให้สวยงาม สรา้ งความสมดุลของทรพั ยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อม เพ่ิมพ้ืนทสี่ ีเขียวให้ชุมชน ลดปรมิ าณฝุ่นละอองในอากาศ รวมถึงเป็นการชว่ ยเสรมิ สรา้ งจติ สานึก
และตระหนักถึงความสาคัญ ในการอนุรกั ษ์ทรพั ยากร ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ให้คงอยู่และพัฒนา
อยา่ งยง่ั ยนื

๓. โครงการพัฒนาทักษะอาชพี ผู้ผ่านการอบรมโครงการ “โคกหนองนาแห่งน้าใจและความหวัง” ในพ้ืนท่ี
ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวติ ตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” กรมการพัฒนา
ชุมชน

กรมการพัฒนาชุมชน รว่ มกับ กรมราชทัณฑ์ สนองโครงการพระราชทานในพระบาทสมเด็จ
พระวชริ เกล้าเจา้ อยู่หัว “โคกหนองนาแห่งน้าใจและความหวัง” ให้กับผู้พ้นโทษตามโครงการฯ ในการพัฒนา
ทักษะอาชีพ เพ่ือสร้างงาน สร้างรายได้ โดยการจ้างงานในพ้ืนท่ีต้ นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวติ
ตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล”รอบศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน ๑๑ แห่ง, วทิ ยาลัย
การพัฒนาชุมชน 1 แห่ง และในพื้นที่เป้าหมายศูนย์ฝึกอาชีพ จานวน ๖ แห่ง รวม ๑๘ แห่ง ๆ ละ ๒ คน
รวมจานวน ๓๖ คน โดยจ้างเป็นรายเดือน ๆ ละ ๙,๐๐๐ บาท จานวน ๕ เดือน ทาให้ผู้พ้นโทษมีความรู้
ด้านการบรหิ ารจดั การพื้นที่ในรูปแบบประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” และเป็นวทิ ยากรฐานเรยี นรูไ้ ด้
สาหรบั ผู้ท่ีไม่มีที่ทากินสามารถนาความรูท้ ี่ได้รบั จากการอบรมนาไปประยุกต์ใช้ในชุมชน สามารถสรา้ งงาน
สรา้ งรายได้ ลดรายจา่ ย ให้มีคุณภาพชวี ติ ที่ดี และสามารถพ่ึงพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ส่วนผู้ที่มีท่ีดินทากิน

ปี กรมการพัฒนาชมุ ชน
สร้างสรรค์ชุมชมุ สรา้ งคน สรา้ งชาติ

๑๖

ขนาด 1 - 3 ไร่ ได้รบั โอกาสในการเข้าถึงแหล่งทนุ ในการประกอบอาชพี ได้ ทาให้สามารถปรบั ตัวอยู่ในสังคม
ได้อยา่ งมีความสุขตามอัตภาพ

สาหรบั พื้นที่รอบศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน ๑๑ แห่ง (ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนลาปาง
พิษณโุ ลก เพชรบุร ีสระบุร ีนครนายก นครราชสีมา อุดรธานี อุบลราชธานี นครศรธี รรมราช ยะลา และชลบุร)ี
วทิ ยาลัยการพัฒนาชุมชน 1 แห่ง และในพ้ืนที่เป้าหมายศูนย์ฝึกอาชีพ จานวน ๖ แห่ง (ศูนย์พัฒนาอาชีพ
ซาผักแพว จงั หวัดสระบุร ีศูนย์สารภีท่าชา้ ง จงั หวัดอุบลราชธานี ศูนย์ฝึกอาชพี บ้านฝ่ ังแดง จงั หวัดสกลนคร
ศูนย์สารภีขัวมุง จงั หวัดเชยี งใหม่ ศูนย์พัฒนาอาชพี หนองบัว จงั หวัดกาญจนบุร ี และศูนย์สารภีละงู จงั หวัด
สตูล) นั้น ได้รบั การพัฒนาปรบั ปรุงพื้นท่ีและสภาพแวดล้อมเป็นพ้ืนที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวติ
ตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ให้มีศักยภาพในการรองรบั การฝึกอบรม มีการถ่ายทอด
ความรู้ จากฐานเรยี นรภู้ ายในศูนย์และสนับสนุนกิจกรรมการพัฒนาหมู่บา้ นเศรษฐกิจพอเพยี ง และเกิดการสรา้ ง
เครอื ข่ายผู้นาการพัฒนาของกรมการพัฒนาชุมชน เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนตามหลักปรชั ญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง รวมท้ัง มีการบูรณาการความรว่ มมือ และสืบสานพระราชปณิธานและน้อมสานึกในพระมหา
กรุณาธคิ ุณของพระบาทสมเด็จพระวชริ เกล้าเจา้ อยู่หัว รชั กาลที่ 10 ท่ีมุ่งสืบสาน รกั ษา ต่อยอด และพัฒนา
ประเทศตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง รว่ มกับแนวคิดการพัฒนาพ้ืนท่ีและการออกแบบ
เชงิ ภูมิสังคมไทยเพ่ือสรา้ งการพ่ึงตนเองและรองรบั ภัยพิบัติ ในรูปแบบ “โคก หนอง นา โมเดล” สรา้ งการ
มีส่วนรว่ มของประชาชน มีภูมิค้มุ กัน ให้ชุมชนสามารถพึ่งตนเองได้

ผลการดาเนินงาน
- เชิงปรมิ าณ ผู้พ้นโทษตามโครงการพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระวชริ เกล้าเจา้ อยู่หัว
“โคกหนองนาแห่งน้าใจและความหวงั ” สามารถพัฒนาเปน็ นักพัฒนาพ้ืนท่ตี ้นแบบ (นพต.) ณ ศูนยศ์ ึกษาและ
พัฒนาชุมชน 7 แห่ง และศูนย์ขยายผล 3 แห่ง ทาให้มีงานทาเพ่ิมเติมในระยะสั้นเพ่ิมขึ้นอีก ๕ เดือน
จานวน 15 คน
- เชงิ คุณภาพ ผู้พ้นโทษตามโครงการพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระวชริ เกล้าเจา้ อยู่หัว
“โคกหนองนาแห่งน้าใจและความหวงั ” มีความรดู้ ้านการบรหิ ารจดั การพื้นท่ีในรูปแบบประยุกต์สู่ “โคก หนอง
นา โมเดล” และเป็นวทิ ยากรฐานเรยี นรไู้ ด้

ปี กรมการพัฒนาชุมชน
สร้างสรรค์ชมุ ชุม สรา้ งคน สร้างชาติ

๑๗

๔. โครงการสนองพระราชดารโิ ครงการอนุรกั ษ์พันธุกรรมพืชอันเน่ืองมาจากพระราชดาร ิ สมเด็จพระเทพ
รตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมาร ี (อพ.สธ.)

โครงการอนุรกั ษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดาร ิสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมาร ี (อพ.สธ.) กรมการพัฒนาชุมชน ได้สนองพระราชดารใิ นการสรา้ งความรูค้ วามเข้าใจ
ด้านการอนุรกั ษ์ และใช้ประโยชน์ทรพั ยากรท้องถ่ิน ให้กับประชาชนผ่านหลักสูตร “รกั ษ์ปฐพี คืนชีว ี
ที่หลากหลายในผืนดิน” โดยดาเนินการในพ้ืนที่ ๗ จงั หวัด ได้แก่ จงั หวัดอุบลราชธานี ศรสี ะเกษ กาฬสินธุ์
สุโขทัย กาญจนบุร ี กระบี่ และจงั หวัดสุรนิ ทร์ (รวม ๕๖ อาเภอ) ซง่ึ อยู่ในพื้นท่ีศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน
จานวน ๖ แห่ง ได้แก่ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุบลราชธานี อุดรธานี พิษณุโลก เพชรบุร ีนครศรธี รรมราช
และ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครราชสีมา ซง่ึ การสรา้ งมีความรูค้ วามเข้าใจกับพื้นที่เป้าหมาย เป็นการ
ป ร ะ ชุ ม อ อ น ไ ล น์ ผ่ า น ร ะ บ บ Zoom Cloud Meeting ณ ส า นั ก ง า น พั ฒ น า ชุ ม ช น จัง ห วั ด / อ า เ ภ อ
และศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน ๖ แห่ง

กรมการพัฒนาชุมชน ได้ จัดทาข้อมูลสารสนเทศด้านการอนุรกั ษ์พันธุกรรมพืชและ
ภูมิปัญญาท้องถ่ิน เพื่อเช่อื มโยงกับฐานข้อมูล อพ.สธ. ในการจัดเก็บข้อมูลนั้น กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย
ผู้นาชุมชนในพ้ืนท่ีเรยี นรูช้ ุมชนต้นแบบพัฒนาคุณภาพชวี ติ และครวั เรอื นต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชวี ติ
จานวน ๗ จังหวัด ๆ ละ ๘ อาเภอ ๆ ละ ๓ คน รวมจานวน ๑๖๘ คน และเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนอาเภอ
ท่ีรับผิดชอบงานพ้ืนท่ีเรยี นรู้ชุมชนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวติ ระดับอาเภอจานวน ๗ จังหวัด ๆ
ละ ๘ อาเภอ ๆ ละ๑ คนรวมจานวน ๕๖ คน เพ่ือจดั เก็บและรวบรวมข้อมูลทรพั ยากรท้องถิ่นในโปรแกรม
การจดั เก็บข้อมูล

ผลการดาเนินงาน
- เชิงปรมิ าณ ร้อยละ ๘๐ ของประชาชนท่ีผ่านการฝึกอบรม มีความรู้ ความเข้าใจ
แนวทางการดาเนินงานโครงการอนุรกั ษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดารสิ มเด็จพระเทพ
รตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมาร ี(อพ.สธ) ในระดับมาก และกรมการพัฒนาชุมชนมีฐานข้อมูลทรพั ยากร
ทอ้ งถ่ินทเ่ี ชอื่ มโยงกับฐานข้อมูล อพ.สธ.
- เชิงคุณภาพ ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับการอนุรักษ์ และใช้ประโยชน์
จากทรพั ยากรท้องถิ่น

ปี กรมการพฒั นาชมุ ชน
สร้างสรรค์ชมุ ชุม สร้างคน สรา้ งชาติ

๑๘

๕. โครงการพัฒนาพื้นท่ีต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชวี ติ ตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา
โมเดล”

กรมการพัฒนาชุมชน รว่ มกับมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า
เจา้ คณุ ทหารลาดกระบงั และภาคีเครอื ข่ายภาคส่วนต่าง ๆ ทัง้ 7 ภาคี น้อมนาปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ลงสู่
การปฏิบัติอย่างเป็นขั้นตอนตามกลไกการขับเคลื่อนสืบสานศาสตรพ์ ระราชา เพื่อการปฏิรูปประเทศ โดยใช้
หมู่บ้านเป็นฐานของการพัฒนา มุ่งสรา้ งภูมิคุ้มกันให้ทุกครวั เรอื น และพัฒนาคนให้มีความรูแ้ ละปรบั ตัว
ให้สามารถดาเนินชีวติ อย่างมีความสุข มีอาชีพ สรา้ งรายได้ ท่ามกลาง วกิ ฤตโลกที่มีการเปลี่ยนแปลง
อย่างรวดเรว็ ด้วยการจัดทาโครงการที่ประยุกต์การใช้ศาสตรพ์ ระราชาและน้อมนาเอาแนวคิดและทฤษฎี
การพัฒนาอันเน่ืองมาจากพระราชดารกิ ว่า 40 ทฤษฎี ท่ีทรงพระราชทานไว้ให้ในการแก้ไขปัญหา
ด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมมาประยุกต์กับแนวคิดการพัฒนาพื้นท่ีและการออกแบบเชิง
ภูมิสังคมไทยเพ่ือการพึ่งตนเองและรองรบั ภัยพิบัติในรปู แบบ “โคก หนอง นา โมเดล” สรา้ งการพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ
ให้เหมาะสมกับหมู่บ้านในภูมิสังคมต่าง ๆ ผ่านการทางานในรูปแบบการจา้ งงานและการรว่ มกันลงแรงด้วยการ
สนับสนุนวัสดุพื้นฐานและงบประมาณและบูรณาการการทางานจากภาคีภาคส่วนต่าง ๆ เพ่ือสรา้ งงาน
สรา้ งรายได้ให้กับครวั เรอื นและชุมชน ผ่านโครงการพัฒนาพื้นท่ีต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชวี ติ ตามหลักทฤษฎี
ใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” งบประมาณ ๔,๗๖๒,๙๑๖,๔๐๐ บาท ดาเนินการในพื้นที่ ๗๓ จังหวัด
๕๗5 อาเภอ ๓,๒๔๖ ตาบล ๒๕,๑๗๙ ครวั เรอื น มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสรมิ การเรยี นรูก้ ารน้อมนาหลักปรชั ญา
ของเศรษฐกิจพอเพียงประยุกต์สู่การปฏิบัติรูปแบบ โคก หนอง นา โมเดล ด้วยการพัฒนาพ้ืนท่ีเรยี นรูช้ ุมชน
ต้นแบบ“โคก หนอง นา โมเดล” ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงระดับตาบล และระดับครวั เรอื น
เพื่อฟ้ ืนฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชนผ่านการสรา้ งงานสรา้ งรายได้ให้แก่เกษตรกร แรงงานและบัณฑิต
จบใหม่ กลุ่มแรงงานที่อพยพกลับท้องถิ่น และชุมชนที่ได้รบั ผลกระทบจากสถานการณ์ในช่วงวกิ ฤตการณ์
แพรร่ ะบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) มีการดาเนินการผ่านกิจกรรม จานวน 7 กิจกรรม
ดังนี้

ปี กรมการพัฒนาชุมชน
สรา้ งสรรค์ชมุ ชมุ สรา้ งคน สร้างชาติ

๑๙

๕.๑ กิจกรรมที่ 1 ฝึกอบรมเพ่ิมทักษะระยะส้ันการพัฒนากสิกรรมสู่ระบบเศรษฐกิจพอเพียง
รูปแบบ โคก หนอง นา โมเดล อบรมกลุ่มเปา้ หมายในหลักสูตรการพัฒนากสิกรรมสู่ระบบเศรษฐกิจพอเพียง
รปู แบบ โคก หนอง นา โมเดล จานวน 5 วัน 4 คืน เป้าหมายดาเนินการ จานวน 3๖๓ รนุ่ 3๗,๘๕๓ คน

๕.๒ กิจกรรมที่ 2 สรา้ งพื้นท่ีเรยี นรูช้ ุมชนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชวี ติ ระดับตาบลและ
พัฒนาพื้นที่ครวั เรอื นต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชวี ติ ระดับครวั เรอื น

๕.๒.๑ สรา้ งพื้นที่เรยี นรูช้ ุมชนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวติ (Community Lab
Model for Quality of life : CLM) ระดับตาบล จานวน 337 แปลง ( 10 ไร่ 23 แปลง 15 ไร่ 314 แปลง)
และพัฒนาพื้นทคี่ รวั เรอื นต้นแบบการพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ (Household Lab Model for Quality of life :
HLM) ระดับครวั เรอื น จานวน 24,842 แปลง (1 ไร่ 9,925 แปลง 3 ไร่ 14,917 แปลง )

๕.๒.๒ ส่วนกลางจดั สรรงบประมาณ และมอบอานาจให้จงั หวดั /อาเภอดาเนินการเปน็ รายแปลง

ปี กรมการพัฒนาชมุ ชน
สรา้ งสรรค์ชุมชมุ สร้างคน สร้างชาติ

๒๐

๕.๓ กิจกรรมท่ี 3 สรา้ งงานสรา้ งรายได้รายเดือน ให้แก่เกษตรกร แรงงานและบัณฑิต
จบใหม่ กลุ่มแรงงานที่อพยพกลับท้องถ่ินและชุมชน จา้ งงานเกษตรกร บัณฑิตจบใหม่ กลุ่มแรงงานท่ีอพยพ
กลับท้องถิ่นและชุมชนในพ้ืนท่ี CLM 337 ตาบล ๆ ละ 10 คน และในพ้ืนที่ HLM 2,909 ตาบล ๆ ละ 2 คน
รวมทง้ั ส้ิน 9,188 คน

๕.๔ กิจกรรมท่ี 4 กระตุ้นการบรโิ ภคภาคครวั เรอื นและเอกชนผ่านกิจกรรมเอาม้ือสามัคคี
และสนับสนุนพื้นท่ีครวั เรอื นต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวติ ระดับครวั เรอื น สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ สาหรบั
ฝึกปฏิบัติรว่ มกันในแปลงของครวั เรอื น เพ่ือการเรยี นรูก้ ิจกรรมโคก หนอง นา จานวน 24,842 พื้นที่ ๆ ละ
3 ครงั้ ๆ ละ 20 คน

ปี กรมการพัฒนาชุมชน
สรา้ งสรรค์ชมุ ชมุ สรา้ งคน สร้างชาติ

๒๑

๕.๕ กิจกรรมที่ 5 บูรณาการรว่ มพัฒนาพื้นท่ีระดับตาบล เพ่ือสร้างฐานเรยี นรูเ้ พื่อการ
พ่ึงตนเอง จานวน 9 ฐานเรยี นรู้ ประกอบด้วย ฐานกสิกรรมธรรมชาติ ฐานคนรกั ษ์น้า ฐานคนรกั ษ์แม่ธรณี
ฐานคนรกั ษ์แม่โพสพ ฐานคนติดดิน ฐานคนมีไฟ ฐานคนเอาถ่าน ฐานหัวคันนาทองคา ฐานคนหัวเห็ด เชอื่ มโยง
กับพ้ืนที่ครวั เรอื นต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชวี ติ (Household Lab Model for quality of life : HLM)
ระดับครวั เรอื น ทีอ่ ยูโ่ ดยรอบเพื่อเปน็ ฐานการเรยี นรู้ ฐานการผลิตวัสดุพื้นฐานที่ต้องการใชใ้ นการพัฒนาพื้นที่
และฐานการแปรรูปผลผลิตรวมไปถึงนวตั กรรมต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับการพัฒนาและสรา้ งมาตรฐานให้ผลผลิต
จากพื้นที่ สรา้ งรูปแบบการทางานรว่ มกันแบบบูรณาการ เพื่อแก้ปัญหาวกิ ฤตของประเทศ ในรูปแบบพหุภาคี
ในพ้ืนที่ 337 ตาบล

๕.๖ กิจกรรมท่ี 6 พัฒนาการสรา้ งมาตรฐานผลผลิต การแปรรูปและการตลาด ตามมาตรฐาน
อินทรยี ์วถิ ีไทย ฝึกอบรมการสรา้ งมาตรฐานผลผลิต การแปรรูป และการตลาดมาตรฐานอินทรยี ์วถิ ีไทย
รว่ มกับภาคเอกชน เชน่ มูลนิธริ กั ษ์ดิน รกั ษ์น้า (Earth Safe) ในพื้นที่ CLM จุดละ 2 คน จานวน 674 คน

ปี กรมการพัฒนาชมุ ชน
สรา้ งสรรค์ชมุ ชุม สรา้ งคน สรา้ งชาติ

๒๒

๕.๗ กิจกรรมท่ี 7 พัฒนาระบบ Digital รองรบั Local Economy ด้วยการสรา้ งระบบ
โปรแกรมและระบบฐานข้อมูล

๕.7.1 การจัดซอื้ /จดั หาภาพถ่ายดาวเทียมความละเอียดสูง เพื่อแสดงให้เห็นภาพ
พื้นที่ก่อนดาเนินการและหลังดาเนินการ จานวน 24,842 แปลง

๕.7.2 การสารวจเก็บข้อมูลและจัดทาแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียมและถ่ายทางอากาศ
ด้วยอากาศยานไรค้ นขับ เพื่อแสดงให้เห็นภาพพื้นท่ีก่อนดาเนินการและหลังดาเนินการ จานวน 337 แปลง

๕.7.3 พัฒนา Platform เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ เพ่ือวัดผลสัมฤทธคิ์ ุณภาพชวี ติ
ในบรบิ ท โคก หนอง นา โมเดล ประกอบด้วย Web Application เพ่ือใช้จัดเก็บข้อมูล แสดงผลและ
ประเมินผลการดาเนินงาน

๕.7.4 การฝึกอบรมพัฒนาศักยภาพของบุคลากร จานวน 2,420 คน เพื่อสรา้ ง
ความเข้าใจ ในกลไก เครอ่ ื งมือ เทคโนโลยีที่สามารถสนับสนุน การบูรณาการ เชื่อมโยง แลกเปล่ียนข้อมูล
เพ่ือการบรหิ ารจัดการพื้นที่ ประกอบด้วย การประยุกต์ใช้ข้อมูลแผนที่ และภาพถ่ายดาวเทียม และการใช้
เครอ่ ื งมือภูมิสารสนเทศเบือ้ งต้น

๕.7.5 การเพ่ิมศักยภาพศูนย์ศึกษาการพัฒนาตามศาสตรพ์ ระราชา โดยดาเนินการ
จ้างเหมาบุคลากรประจาโครงการ จานวน 33 คน แบ่งเป็น ประจาศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน 22 คน
ประจาส่วนกลาง 11 คน

๕.7.6 การศึกษาและวเิ คราะห์ปัจจัยข้อมูลด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
เพื่อวัดผลสัมฤทธคิ์ ุณภาพชวี ติ ในบรบิ ทโคก หนอง นา โมเดล จานวน 1 การวจิ ยั

๕.7.7 การจัดหาพื้นที่ในรูปแบบ Cloud Server สาหรบั การจัดเก็บ ประมวลผล
ข้อมูลทางภูมิสารสนเทศ (Infrastructure Software) รองรบั การเชื่อมโยงฐานข้อมูลและให้บรกิ ารแผนที่
ออนไลน์ จานวน 1 ระบบ

ปี กรมการพัฒนาชุมชน
สร้างสรรค์ชุมชุม สรา้ งคน สรา้ งชาติ

๒๓

ผลการดาเนินงาน
- เชงิ ปรมิ าณ

1) เกิดแกนนาการพัฒนา เป็นครูกระบวนการ ครูกสิกรรม ครูประจาฐานเรยี นรูก้ ารพึ่งพา
ตนเอง และครูพาทา จานวน 34,367 คน

2) เกิดพื้นที่เรยี นรู้ชุมชนต้นแบบ (Community Lab Model for quality of life :
CLM) ระดับตาบล จานวน 337 ตาบล และระดับครวั เรอื น (Household Lab Model for quality of life
: HLM) จานวน 24,842 ครวั เรอื น

3) เกิดการจา้ งงานในพื้นท่ี จานวน 9,188 คน
4) กลุ่มเปา้ หมายที่เข้ารว่ มโครงการมีรายได้เฉลี่ยเพ่ิมข้ึน 3 เทา่ จากเดิม ภายใน 2 ปี
5) พ้ืนทค่ี รวั เรอื นทเ่ี ข้ารว่ มโครงการ จะลดปัญหาจากภัยแล้งได้ 50% ของพื้นที่ดาเนินการ
ภายใน 3 ปี
- เชงิ คณุ ภาพ
1) พ้ืนที่เป้าหมายเรยี นรูก้ ารน้อมนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงประยุกต์สู่
การปฏิบัติในรูปแบบ “โคก หนอง นา โมเดล” จนสามารถพัฒนาพ้ืนท่ีเรยี นรูช้ ุมชนต้นแบบ “โคก หนอง นา
โมเดล” ระดับตาบลและระดับครวั เรอื น และส่งเสรมิ ให้ประชาชนทวั่ ไปทีส่ นใจเข้ามาเรยี นร/ู้ ฝกึ ปฏิบตั ิในพ้ืนที่
เรยี นรู้
2) เศรษฐกิจท้องถ่ินชุมชนฟ้ ืนฟูผ่านการสรา้ งรายได้ ให้แก่กลุ่มท่ีได้รบั ผลกระทบจาก
สถานการณ์การแพรร่ ะบาดของเชอ้ื ไวรสั COVID-19 (การจา้ งงานในทอ้ งถ่ินชุมชน)

๖. โครงการ ๙;๑๐ ปฏิบตั ิบูชา “สืบสาน รกั ษา ต่อยอด” เพอ่ื พัฒนาชุมชน

กรมการพัฒนาชุมชน ร่วมกั บ สานักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการ
อันเนื่องมาจากพระราชดาร ิ(สานักงาน กปร.) สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจา้ คุณทหารลาดกระบังและ
ภาคี ดาเนินการจัดทาเกณฑ์การประเมินและจัดระดับหมู่บ้านต้นแบบการน้อมนาแนวพระราชดาร ิ
ไปประยุกต์ใช้ ในหมู่บ้านรอบศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดาร ิ ๖ จังหวัด ได้แก่ จงั หวัด
จนั ทบุร ี ฉะเชงิ เทรา เพชรบุร ีนราธวิ าส เชียงใหม่ และจงั หวัดสกลนคร จานวน ๑๔๕ หมู่บ้าน เพ่ือคัดเลือก
หมู่บ้านต้นแบบการน้อมนาแนวพระราชดารไิ ปประยุกต์ใช้ จานวน ๑๘ หมู่บ้าน จาแนกตามความโดดเด่น ๓ ด้าน
ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ ๖ หมู่บ้าน ด้านสังคม ๖ หมู่บ้าน และด้านส่ิงแวดล้อม ๖ หมู่บ้าน และถอดบทเรยี น
องค์ความรูห้ มู่บ้านต้นแบบการน้อมนาแนวพระราชดารไิ ปประยุกต์ใช้ จานวน ๑๘ องค์ความรู้ รวมทั้ง
จดั ระดับหมู่บา้ นรอบศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดาร ิ ทง้ั ๑๔๕ หมู่บ้าน โดยใชก้ ลไกรปู แบบ
คณะกรรมการ ท้ังในระดับส่วนกลาง ระดับจังหวัด และระดับอาเภอ โดยหมู่บ้านต้นแบบฯ จะได้รบั รางวัล
หมู่บ้านละ 150,000 บาท (หน่ึงแสนห้าหม่ืนบาทถ้วน) พรอ้ มโล่รางวัล เพื่อนาไปดาเนินงานตามโครงการท่ีเสนอ
ต่อคณะกรรมการ และเผยแพรย่ กยอ่ งเชดิ ชูเกียรติต่อไป

ปี กรมการพฒั นาชมุ ชน
สรา้ งสรรค์ชมุ ชุม สรา้ งคน สรา้ งชาติ

๒๔

ผลการดาเนินงาน
- เชงิ ปรมิ าณ

๑) มีหมู่บา้ นต้นแบบการน้อมนาแนวพระราชดารไิ ปประยุกต์ใช้ จานวน 18 หมู่บา้ น
๒) มีองค์ความรู้ ผลสาเรจ็ การพัฒนาหมู่บ้านตามแนวพระราชดารพิ ระบาทสมเด็จ
พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จานวน 18 องค์ความรู้

ปี กรมการพัฒนาชมุ ชน
สรา้ งสรรค์ชุมชมุ สรา้ งคน สร้างชาติ

๒๕

- เชงิ คุณภาพ
๑) พระมหากรุณาธคิ ุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธเิ บศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช

บรมนาถบพิตร ได้ รับการเทิดพระเกี ยรติ โดยการประกาศผลสาเร็จของหมู่บ้านในการพัฒนาตาม
แนวพระราชดารฯิ

๒) กรมการพัฒนาชุมชนได้ส่งเสรมิ สนับสนุน กระบวนการวจิ ยั พัฒนาชุมชนอย่างมีส่วนรว่ ม
โดยเจา้ หน้าท่ีพัฒนาชุมชนรว่ มกับชุมชน โดยใชศ้ าสตรพ์ ระราชาเป็นกลไกการพัฒนาชุมชนผ่านกระบวนการ
เรยี นรูก้ ารวเิ คราะห์ การน้อมนาแนวพระราชดารใิ นการพัฒนาหมู่บ้าน รวมทั้งได้พัฒนาศักยภาพชุมชนและ
ขยายแนวทางการทางาน

๓) กรมการพัฒนาชุมชน สามารถต่อยอดโครงการโดยการส่งเสรมิ สนับสนุนการพัฒนา
ชุมชนในหมู่บ้านต้นแบบ ให้มีความต่อเน่ือง และผลักดันให้เป็นต้นแบบในการขยายผลศาสตรพ์ ระราชา
ในระดับพื้นที่ ท้องถ่ิน อีกท้ังหนุนเสรมิ สรา้ งเครอื ข่ายชุมชนพัฒนาตามแนวพระราชดารฯิ (ศาสตรพ์ ระราชา)
ซงึ่ เปน็ การเสรมิ พลังการพัฒนาท่ยี ั่งยืน

๗. โครงการส่งเสรมิ และพัฒนาหมู่บ้านกองทนุ แม่ของแผน่ ดิน

กระทรวงมหาดไทย มอบหมายภารกิจให้กรมการพัฒนาชุมชนรบั ผิดชอบการดาเนินงาน
เสรมิ สรา้ งความเข้มแข็งกองทุนแม่ของแผ่นดิน ตั้งแต่เดือนธนั วาคม ๒๕๕๔ เป็นต้นมา ซงึ่ เป็นยุทธศาสตร์
พระราชทานของสมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ิต์ิ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ท่ีทรงห่วงใย
ต่อวกิ ฤติมหันตภัยจากปัญหายาเสพติด โดยมีเป้าหมายในการขจดั ปัญหายาเสพติด ด้วยพลังสามัคคีของ
ชาวบ้านให้พึ่งพาตนเองบนพ้ืนฐานของทุนทางสังคมท่ีมีอยู่ และต่อยอดไปสู่การแก้ไขปัญหาที่ย่ังยืน
ด้วยหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยปัจจุบันกรมการพัฒนาชุมชนมีหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน
ที่อยู่ในความรบั ผิดชอบจานวน ๒๒,๘๘๗ กองทุน

กรมการพัฒนาชุมชน ได้ดาเนินการส่งเสรมิ และพัฒนาหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน
ทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ดังน้ี

ส่วนกลางดาเนินการ จัดทาโปสเตอร์
ส่ือสารสรา้ งการรบั รูแ้ ละสรา้ งความตระหนักในกระบวนการ
ป้องกันและแก้ไขปญั หายาเสพติด เพ่ือให้ทัง้ ๗๖ จงั หวัด
๘๗๘ อาเภอ หมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน ศูนย์เรยี นรู้
กองทุนแม่ของแผ่นดิน รวมถึงภาคีเครอื ข่ายที่ดาเนินงาน
ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดได้นาไปเผยแพร่

ส่ ว น ภู มิ ภ า ค ด า เ นิ น ก า ร ไ ด้ แ ก่ ๑ )
เสรมิ สรา้ งความเข้มแข็งหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน
โดยเพิ่มศักยภาพคณะกรรมการเครอื ข่ายกองทุนแม่ของ
แผ่นดิ นระดั บจังหวัด อาเภอ และสนับสนุนกิจกรรม
ศูนย์เรยี นรูต้ ้นแบบหนุนเสรมิ สัมมาชีพชุมชนแก่เยาวชน
กลุ่มเสี่ยงทผ่ี ่านการบาบัด และ ๒) การพัฒนาหมู่บา้ นต้นกล้า

ปี กรมการพฒั นาชมุ ชน
สรา้ งสรรค์ชุมชุม สรา้ งคน สรา้ งชาติ

๒๖

กองทุนแม่ของแผ่นดินโดยประชุมเชิงปฏิบัติการคณะกรรมการหมู่บ้านต้นกล้ากองทุนแม่ของแผ่นดินและ
สนับสนุนกิจกรรมหมู่บ้านต้นกล้ากองทนุ แม่ของแผ่นดิน

เพ่ือเพ่ิมศักยภาพให้กับคณะกรรมการศูนย์เรยี นรูก้ องทุนแม่ของแผ่นดิน ในการบรหิ ารจัดการ
ข้อมูลข่าวสารความรูข้ องชุมชน ในการเชื่อมโยงสู่การใช้พลังชุมชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด
อย่างยั่งยืน และเสรมิ สรา้ งโอกาสให้กับคณะกรรมการศูนย์เรยี นรูก้ องทุนแม่ของแผ่นดินในการเรยี นรู้ การถ่ายทอด
แลกเปลี่ยนประสบการณ์ การสืบทอดภูมิปัญญา เผยแพรน่ วัตกรรมและแหล่งบรกิ ารชุมชนในการจัดกิจกรรม
เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และเชื่อมโยงสู่การเรยี นรูเ้ พ่ือพัฒนาคุณภาพชีวติ ของประชาชน
และเป็นแกนนาหลักในการดูแลช่วยเหลือเยาวชนกลุ่มเส่ียงและผู้ผ่านการบาบัด รวมทั้ง เยาวชนกลุ่มเสี่ยง
และผู้ผ่านการบาบัด ได้รบั การฝึกอาชีพตามความต้องการและความถนัด มีอาชีพที่สรา้ งรายได้ให้กับครอบครวั
และห่างไกลจากยาเสพติด

ผลการดาเนินงาน
- เชงิ ปรมิ าณ

๑) คณะกรรมการเครอื ข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินระดับอาเภอ ๘๗๘ อาเภอ จานวน ๘,๗๘๐ คน
ได้รบั การพัฒนาศักยภาพ

๒) คณะกรรมการศูนย์เรยี นรูก้ องทุนแม่ของแผ่นดินระดับจงั หวัด จานวน ๑,๑๔๐ คน ได้รบั
การพัฒนาศักยภาพและมีหลักธรรมาภิบาลในการบรหิ ารจดั การกองทนุ แม่ของแผ่นดิน

๓) เยาวชนกลุ่มเส่ียงหรอื ผู้ผ่านการบาบัดมีอาชพี และมีรายได้ จานวน ๑ ,๑๒๕ คน
๔) มีการพัฒนาและขยายผลหม่บู า้ นต้นกล้ากองทนุ แมข่ องแผ่นดิน จานวน ๘๗๘ หมู่บ้าน
๕) หมู่บ้านต้นกล้ากองทุนแม่ของแผ่นดิน มีแผนปฏิบัติการและกิจกรรมขับเคล่ือนกองทุนแม่
ของแผ่นดิน ไม่น้อยกวา่ ๔,๓๙๐ กิจกรรม
- เชงิ คุณภาพ
๑) คณะกรรมการกองทุนแม่ของแผ่นดิน มีความรู้ ความเข้าใจ และมีการแลกเปลี่ยน
เรยี นรกู้ ารดาเนินงานกองทนุ แม่ของแผ่นดินในการปอ้ งกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด
๒) คณะกรรมการกองทุนแม่ของแผ่นดิน สามารถบรหิ ารจัดการกองทุนแม่ของแผ่นดิน
ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ให้หมู่บ้าน/ชุมชนปลอดภัยจากยาเสพติด ยึดหลักธรรมาภิบาล และมีการ
ประชาสัมพันธก์ ารดาเนินงานกองทุนแม่ของแผ่นดินอยา่ งต่อเนื่อง
๓) จงั หวดั /อาเภอมีเครอื ข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดิน คณะกรรมการศูนย์เรยี นรกู้ องทุนแม่
ของแผ่นดิน เป็นกลไกและพลังสาคัญในการป้องกันและแก้ไขปญั หายาเสพติดควบค่กู ับภาครฐั
๔) คณะกรรมการเครอื ข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินระดับอาเภอ สามารถบรหิ ารจัดการ
กองทุนแม่ของแผ่นดินให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ให้หมู่บ้าน/ชุมชนปลอดภัยจากยาเสพติด ดาเนินกิจกรรม
อย่างน้อยหมู่บ้านละ ๕ กิจกรรม และมีการประชาสัมพันธ์การดาเนินงานกองทุนแม่ของแผ่นดิน
อย่างต่อเน่ือง
๕) เยาวชนกลุ่มเส่ียงและผู้ผ่านการบาบัดได้รบั การสนับสนุนให้มีอาชีพ มีรายได้หรอื
มีงานทา

ปี กรมการพัฒนาชุมชน
สร้างสรรค์ชมุ ชุม สร้างคน สร้างชาติ

๒๗

๖) คณะกรรมการหมู่บ้านต้นกล้ากองทุนแม่ของแผ่นดินมีความรู้ ความเข้าใจแนวทาง
การดาเนินงานกองทุนแม่ของแผ่นดินและการสรา้ งกลไกขับเคล่ือนการดาเนินงานกองทุนแม่ของแผ่นดิน
ในการปอ้ งกันและแก้ไขปญั หายาเสพติด

ปี กรมการพัฒนาชุมชน
สรา้ งสรรค์ชมุ ชมุ สรา้ งคน สรา้ งชาติ

๒๘

๘. โครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง : กิจกรรม การพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์กลุ่มอาชีพ
ในหมู่บ้านที่ได้รบั ผลกระทบจากชา้ งป่า

กรมการพัฒนาชุมชน มีนโยบายสนับสนุนการดาเนินงาน “หมู่บ้านคชานุรกั ษ์” ด้วยการ
เสรมิ สรา้ งองค์ความรูก้ ารอยู่รว่ มกันอย่างสมดุลระหว่างคนและช้าง ภายใต้ชือ่ หมู่บ้านคนรกั ษ์ช้าง โดยใช้
แนวคิด “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” มีกลยุทธใ์ นการดาเนินงาน 4 กลยุทธ์ ได้แก่ คนรูจ้ กั ชา้ ง คนเข้าใจชา้ ง คนรกั
ชา้ งและคนอยู่รว่ มกับชา้ ง เพ่ือเปา้ หมายคนทารา้ ยชา้ งลดลง และชา้ งรุกรานคนลดลง และเพื่อการขับเคลื่อน
กิจกรรมสนับสนุน “หมู่บ้านคชานุรกั ษ์” ในปี 2564 ได้ดาเนินงานขับเคล่ือนกิจกรรมในพื้นที่หมู่บ้านที่ได้รบั
ผลกระทบจากชา้ งป่า ในพ้ืนท่ีป่ารอยต่อ 5 จงั หวัดภาคตะวันออก (จงั หวัดจนั ทบุร ีฉะเชงิ เทรา ชลบุร ีระยอง
และจังหวัดสระแก้ว) จานวน 45 ตาบล 18 อาเภอ ซง่ึ ดาเนินการภายใต้โครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจ
พอเพียง : กิจกรรม การพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์กลุ่มอาชีพ ในหมู่บ้านท่ีได้รบั ผลกระทบจากชา้ งป่า
เพ่ือพัฒนาผลิตภัณฑ์ของกลุ่มอาชีพ โดยจัดทาฐานข้อมูลกลุ่มอาชีพในพ้ืนที่เป้าหมาย เพื่อวเิ คราะห์ข้อมูล
กลุ่มอาชพี และจัดทาแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ของกลุ่มอาชพี โดยใชห้ ลักการมีส่วนรว่ มของสมาชกิ กลุ่ม รวมถึง
ภาคีการพัฒนาในพ้ืนที่ และสรา้ งการเรยี นรูด้ ้านการพัฒนากลุ่มอาชีพการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของกลุ่มอาชพี
เพื่อจาหน่ายในระบบออนไลน์ และชอ่ งทางการตลาดอื่น ๆ ได้

ผลการดาเนินงาน
- เชงิ ปรมิ าณ

1) กลุ่มอาชพี ได้รบั การพัฒนาผลิตภัณฑ์ จานวน 45 กลุ่มอาชพี
2) มีผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ที่ได้รบั การพัฒนา จานวน 45 ผลิตภัณฑ์
- เชิงคุณภาพ ผลิตภัณฑ์กลุ่มอาชีพได้รบั การพัฒนาให้มีคุณภาพ บรรจุภัณฑ์สวยงาม
มีอัตลักษณ์ มีการจาหน่ายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ และชอ่ งทางการตลาดอ่ืน ๆ

ปี กรมการพฒั นาชุมชน
สรา้ งสรรค์ชมุ ชมุ สร้างคน สรา้ งชาติ

๒๙

๙. โครงการ การดาเนินงานโครงการสานฝัน ปันสุข เพื่อน้อง กองทุนพัฒนาเด็กชนบทในพระราชูปถัมภ์
สมเด็จพระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมาร ี (CDF share happiness)

เน่ืองในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระกนิษฐาธริ าชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพ

รตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมาร ี ในวนั ศุกรท์ ่ี ๒ เมษายน ๒๕๖๔ กรมการพัฒนาชุมชน โดยกองทุนพัฒนา

เด็กชนบทในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมาร ี ได้ดาเนินงานช่วยเหลือ

สนับสนุน ให้กับเด็กที่อยู่ในครวั เรอื นยากจนและด้อยโอกาส หรอื เด็กในครวั เรอื นของผู้ได้รบั ผลกระทบจาก

การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชอื้ ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ ( ) ให้ได้รบั การพัฒนาอย่างเหมาะสมตามวัย

ในพ้ืนท่ี ๗๖ จังหวัด โดยมอบทุนอุปการะเด็กของกองทุนพัฒนาเด็กชนบทในพระราชูปถัมภ์ฯ และ

จัดกิจกรรมปันรกั ปันสุข กองทุนพัฒนาเด็กชนบทในพระราชูปถัมภ์ฯ (CDF Care & Share) เป็นค่าทุน

อุปการะเด็ก รวมท้งั กิจกรรมกองทุนพัฒนาเด็กชนบทเคลื่อนท่ี (Children Development Fund Mobile

: CDF Mobile)

ผลการดาเนินงาน

- เชงิ ปรมิ าณ

๑) มอบทุนอุปการะเด็กฯ ๗๖ จงั หวัด จานวน ๒,๐๐๐ ทุน

๒) มอบทนุ ปันรกั ปนั สุข กองทุนฯ จานวน ๒,๐๐๐ ทุน

๓) มอบทนุ กองทนุ พัฒนาเด็กเคล่ือนที่ก่อนวยั เรยี น จานวน ๑๐๐ ทนุ

- เชิงคุณภาพ เด็กที่อยู่ในครวั เรอื นยากจนและด้อยโอกาส และเด็กในครอบครวั ผู้ได้รบั

ผลกระทบจากการแพรร่ ะบาดของโรคติดเชอื้ ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ ได้รบั การพัฒนาอยา่ งเหมาะสมตามวัย

ปี กรมการพฒั นาชุมชน
สรา้ งสรรค์ชมุ ชมุ สรา้ งคน สรา้ งชาติ

๓๐

๑๐. โครงการน้อมนาแนวพระราชดารขิ องสมเด็จพระกนิษฐาธริ าชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดา ฯ
สยามบรมราชกุมาร ีสรา้ งความม่ันคงทางอาหารสู่ปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผัก สวนครวั เพ่ือสรา้ งความม่ันคง
ทางอาหาร รอบ 2

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมน าถบพิตร

ทรงพระราชทานแนวทางการสรา้ งพื้นฐานความพอมี พอกิน พอใช้ ของประชาชน เพ่ือให้พ่ึงตนเองได้ ซงึ่ จะเป็น

ทางออก สาหรบั วกิ ฤตโรคระบาดและปัญหาภัยแล้งท่ีประเทศไทยกาลังเผชญิ อยู่ พระบาทสมเด็จพระวชริ เกล้า

เจา้ อยู่หัว ทรงเจรญิ รอยตามเบ้ืองพระยุคลบาทในการ “สืบสาน รกั ษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม

เพ่ือประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป”

ด้วยสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 ( ) กลายเป็น

โรคระบาดครง้ั ใหญ่ของโลก ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ รวมท้ังประเทศไทยต้องชะงักงัน

การทอ่ งเทีย่ วทเี่ ปน็ เส้นเลือดสาคัญถูกกระทบ ธรุ กิจโรงแรมและการทอ่ งเท่ียวต้องปิดตัว

กรมการพัฒนาชุมชน จงึ ได้น้อมนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติในระดับ

ครวั เรอื น พรอ้ มท้ัง น้อมนาแนวพระราชดารขิ องสมเด็จพระกนิษฐาธริ าชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดา ฯ

สยามบรมราชกุมาร ี สู่แผนปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครวั เพ่ือสรา้ งความมั่นคงทางอาหาร โดยรณรงค์

ให้มีการปลูกผักสวนครัวทุกครัวเรอื นท่ัวประเทศ เพ่ือให้รอดพ้นจากว กิ ฤตในครั้งน้ี โดยครั้งท่ี 1

เรม่ ิ ดาเนินการต้ังแต่วันที่ 1 เมษายน ถึง 30 มิถนุ ายน 2563 และได้มีการขยายผลสรา้ งวัฒนธรรม ครง้ั ที่ ๒

ระหวา่ งวันท่ี 1 กรกฎาคม ถึง 5 ธนั วาคม 2563

เพ่ือเป็นการต่อยอดและขยายผลการดาเนินงานโครงการปลูกผักสวนครวั สรา้ งความมั่นคง

ทางอาหาร ในระดับหมู่บ้าน/ชุมชน ให้มีความยั่งยืน กรมการพัฒนาชุมชน รว่ มมือกับ "องค์กรปกครอง

ส่วนทอ้ งถิ่น" ผ่านอาสาสมัครท้องถ่ินรกั ษ์โลก (อถล.) ในการขับเคล่ือนการดาเนินงาน “น้อมนาแนวพระราชดาร ิ

ของสมเด็จพระกนิษฐาธริ าชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมาร ีสร้างความม่ันคง

ทางอาหาร สู่ปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครวั เพื่อสรา้ งความม่ันคงทางอาหาร” รอบ 2 ระยะเวลาดาเนิน

การระหว่างวนั ท่ี 1 กุมภาพันธ์ - 31 พฤษภาคม 2564 โดยมีกิจกรรม ดังน้ี 1) กิจกรรมผู้นาต้นแบบตัวอยา่ ง

ท่ีเห็นจรงิ /ผู้นาต้องทาก่อน 2) นักพัฒนา 3 ประสาน กลไกการขับเคลื่อนระดับ ตาบล 3) กิจกรรม

ทุกครวั เรอื น คือ คลังอาหาร ทุกหมู่บ้านคือ ศูนย์แบ่งปัน รณรงค์ให้ทุกครวั เรอื นปลูกผักสวนครวั โดยมี

ครวั เรอื นที่ปลูกผักอย่างน้อย 10 ชนิด เลี้ยงสัตว์/ประมง 4) ทักษะชวี ติ วถิ ีใหม่ เยาวชนไทยสรา้ งอาหารเปน็

มีการส่งเสรมิ แหล่งเรยี นรูใ้ นการสรา้ งความมั่นคงทางอาหาร อาทิ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรยี น วัด มัสยิด

โบสถ์ และอ่ืนๆ

ทั้งน้ี ได้มีการรณรงค์สรา้ งกระแสการปลูกผักสวนครวั โดยเปิดโอกาสให้ผู้เข้ารว่ มโครงการ

ทุกกลุ่มเป้าหมายได้นาเสนอและแชรภ์ าพประสบการณ์การลงมือปฏิบัติปลูกผักสวนครัว เพ่ือสรา้ ง

ความม่ันคงทางอาหาร ผ่านช่องทาง Facebook Group “ปลูกพืช ปลูกผัก ปลูกรกั กับ พช.” ปัจจุบัน

มีสมาชกิ กวา่ 50,632 คน

ปี กรมการพฒั นาชุมชน
สรา้ งสรรค์ชุมชุม สรา้ งคน สรา้ งชาติ

๓๑

ผลการดาเนินงาน
- เชงิ ปรมิ าณ

1) กิจกรรมผู้นาต้นแบบตัวอย่างที่เห็นจรงิ /ผู้นาต้องทาก่อน ดาเนินการแล้ว 76 จงั หวัด
812 อาเภอ 4,941 ตาบล 41,336 หมู่บา้ น มีผู้นาท่ีเข้ารว่ มทัง้ ส้ิน 77,545 คน

๒) กิจกรรมนักพัฒนา 3 ประสาน กลไกการขับเคล่ือน ประกอบด้วยนักพัฒนาชุมชนท้องถ่ิน
พัฒนากร และนักพัฒนาพ้ืนที่ต้นแบบ (นพต.) และนักพัฒนาภาคประชาชน (อถล. อช. กพสม. ฯลฯ) โดยมีผู้นาเข้ารว่ ม
3 ประสานแล้ว จานวน 66,588 คน และมีกิจกรรม 3 ประสานกวา่ 82,465 กิจกรรม

๓) กิจกรรมทุกครวั เรอื น คือ คลังอาหาร ทุกหมู่บ้าน คือ ศูนย์แบ่งปัน รณรงค์ให้
ทุกครวั เรอื นปลูกผักสวนครวั โดยมีครวั เรอื นทป่ี ลูกผักอย่างน้อย 10 ชนิด 6,439,330 ครวั เรอื น เลี้ยงสัตว/์
ประมง 3,000,803 ครวั เรอื น มีการเรยี นรูจ้ ากพื้นท่ีต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวติ CLM และ HLM
1,619,126ครวั เรอื น คัดแยกขยะ 4,102,088 ครวั เรอื น ทาถังขยะเปียกลดโลกรอ้ น 3,259,159 และ
ครวั เรอื น ทาปุ๋ยหมัก/นา้ หมักชวี ภาพ 1,853,442 ครวั เรอื น

๔) ทักษะชวี ติ วถิ ีใหม่ เยาวชนไทยสรา้ งอาหารเป็น มีการส่งเสรมิ แหล่งเรยี นรูใ้ นการสรา้ ง
ความมั่นคงทางอาหาร อาธิ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 10,725 แห่ง โรงเรยี น 13,988 แห่ง วัด 14,610 แห่ง
มัสยิด 978 แห่ง โบสถ์ 831 แห่ง และอ่ืน ๆ 1,800 แห่ง โดยมีครวั เรอื นเข้ารว่ มกิจกรรมตามสถานที่
ดังกล่าว ประกอบด้วย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 379,981 ครวั เรอื น โรงเรยี น 552,645 ครวั เรอื น วัด 676,046
ครวั เรอื น มัสยิด 36,669 ครวั เรอื น โบสถ์ 36,924 ครวั เรอื น และอ่ืน ๆ 177,120 ครวั เรอื น

- เชงิ คุณภาพ
1) ประชาชนมีองค์ความรู้ พึ่งตนเอง สรา้ งความมั่นคงทางอาหารได้
2) ประชาชนมีอาชพี มีรายได้
3) มีสวสั ดิการชุมชน สังคมเก้ือกลู
4) มีส่ิงแวดล้อมและสุขภาวะท่ีดีในชุมชน

ปี กรมการพัฒนาชุมชน
สร้างสรรค์ชมุ ชุม สร้างคน สรา้ งชาติ

๓๒

ส่วนที่ ๓
ผลการดาเนินงานตามแผนปฏิบัติราชการกรมการพัฒนาชุมชน

กรมการพัฒนาชุมชน มีภารกิจเกี่ยวกับการส่งเสรมิ กระบวนการเรยี นรูแ้ ละการมีส่วนรว่ ม
ของประชาชน ส่งเสรมิ และพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนฐานรากให้มีความม่ันคง และมีเสถียรภาพโดยสนับสนุน
ให้มีการจดั ทาและใชป้ ระโยชน์จากข้อมูลสารสนเทศ ศึกษา วเิ คราะห์วจิ ยั จดั ทายุทธศาสตรช์ ุมชน ตลอดจน
การฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรท่ีเก่ียวข้องในการพัฒนาชุมชน เพ่ือให้เป็นชุมชนเข้มแข็งอย่างย่ั งยืน
โดยกรมการพัฒนาชุมชนได้นาสถานการณ์ปัจจุบัน และสภาพแวดล้อมของการบรหิ ารประเทศ นามาใชเ้ ปน็
ข้อมูลในการจดั ทาแผนยุทธศาสตรใ์ ห้สอดคล้องกับสถานการณ์ในชว่ งอนาคตทก่ี ่อเกิดการเปล่ียนแปลงของ
ประเทศ ชุมชน ในด้านท่ีมีผลต่อการปฏิบัติงานพัฒนาชุมชน ให้มุ่งไปสู่เป้าหมาย สูงสุด ภายใต้วสิ ัยทัศน์
“เศรษฐกิจฐานรากมั่นคงและชุมชนพ่ึงตนเองได้ ภายในปี 2565” โดยได้กาหนดประเด็นการพัฒนา 4
ประเด็น ดังนี้

ประเด็นการพัฒนา เรอ่ ื งที่ 1 สรา้ งสรรค์ชุมชนพ่ึงตนเองได้
ประเด็นการพัฒนา เรอ่ ื งท่ี 2 ส่งเสรมิ เศรษฐกิจฐานรากให้ขยายตัวอย่างสมดุล
ประเด็นการพัฒนา เรอ่ ื งท่ี 3 เสรมิ สรา้ งทุนชุมชนให้มีธรรมาภิบาล
ประเด็นการพัฒนา เรอ่ ื งที่ 4 เสรมิ สรา้ งองค์กรให้มีขีดสมรรถนะสูง

๑. ประเด็นการพัฒนา เรอ่ ื งท่ี 1 สรา้ งสรรค์ชุมชนพ่ึงตนเองได้

๑.๑ โครงการสรา้ งความม่ันคงด้านอาชพี และรายได้ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2564) ได้กาหนด
ยุทธศาสตรก์ ารสรา้ งความเป็นธรรมลดความเหล่ือมล้าในสังคมเป็น 1 ใน 10 ยุทธศาสตรก์ ารพัฒนา
ตามแผนฯ และรฐั บาลได้กาหนดนโยบายการบรหิ ารราชการแผ่นดิน จานวน 11 ด้าน ซึ่งมีนโยบาย
ลดความเหลื่อมล้าของสังคมและการสรา้ งโอกาส เข้าถึงบรกิ ารของรฐั เป็นหน่ึงในนโยบายสาคัญโดยมี
แผนงานสาคัญ คือ แผนงานพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและชุมชน เข้มแข็ง กรมการพัฒนาชุมชนจงึ มีแนวคิด
สรา้ งอาชีพสรา้ งรายได้ โดยให้ "ชาวบ้านสอนชาวบ้าน" คือ สอนในสิ่งที่เขา อยากทา โดยฝึกปฏิบัติจรงิ
ให้สามารถนาไปเป็นอาชพี ได้ และมีกระบวนการ ดังน้ี
1) ค้นหาปราชญ์ชุมชนทมี่ ีความเชย่ี วชาญด้านอาชพี
2) คัดเลือกผู้แทนครวั เรอื นท่ีมีความต้องการฝึกอบรมอาชีพ (ผู้ที่มีรายได้ต่ากว่าเกณฑ์
จปฐ./ ผู้มีรายได้น้อย/ ผู้สนใจ)
๓) สรา้ งสัมมาชพี ชุมชนในระดับหมู่บ้าน โดยใชว้ ทิ ยากรสัมมาชพี ชุมชน
๔) สนับสนนุ ให้ผู้แทนครวั เรอื นรวมตัวจดั ต้ังและพัฒนาเป็นกลุ่มอาชพี

ปี กรมการพัฒนาชุมชน
สรา้ งสรรคช์ ุมชมุ สร้างคน สรา้ งชาติ

๓๓

ผลการดาเนินงาน
- เชงิ ปรมิ าณ

1. มีครวั เรอื นที่ได้รบั การฝึกอบรมอาชีพ ตามแนวทางการสรา้ งสัมมาชพี ชุมชน จานวน
120,000 คน

2. กลุ่มอาชพี ได้รบั การพัฒนา จานวน 600 กลุ่ม
- เชิงคุณภาพ ครวั เรอื นเป้าหมายสามารถนาความรูท้ ่ีได้จากการฝึกอบรมอาชีพนาไป
ประกอบอาชพี เพ่ือสรา้ งรายได้ตามทต่ี นเองต้องการ

ปี กรมการพฒั นาชมุ ชน
สรา้ งสรรคช์ ุมชมุ สรา้ งคน สรา้ งชาติ

๓๔

๑.๒ โครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง

กรมการพัฒนาชุมชน กาหนดเป้าหมายการพัฒนาหมู่บ้าน ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจ
พอเพียงระดับครวั เรอื น เพื่อสรา้ งความเข้มแข็ง และพ่ึงตนเองได้ของชุมชน รวมทั้งสรา้ งเศรษฐกิจฐานราก
ให้มั่นคงภายในปี ๒๕๖๕ โดยเรม่ ิ ต้นจากการสรา้ งการพ่ึงตนเองของครวั เรอื น ทง้ั การบรหิ ารจดั การและระบบ
เศรษฐกิจในครวั เรอื น รวมถึงการรว่ มมือเกื้อหนุนเจอื จานระหว่างกันในชุมชน สรา้ งการทางานในรปู แบบกลุ่ม
การผลิต สรา้ งงาน สรา้ งอาชพี สรา้ งรายได้ และสรา้ งภูมิค้มุ กัน ท่ีเป็นสวสั ดิการของชุมชน การพัฒนาหมู่บ้าน
เศรษฐกิจพอเพียง โดยเน้นให้นาวธิ กี ารเรยี นรู้ ในรูปแบบ โคก หนอง นา โมเดล มาเป็นกิจกรรมย่อยในการ
จดั ทาศูนย์เรยี นรูเ้ ศรษฐกิจพอเพียง รูปแบบ โคก หนอง นา โมเดล จานวน 11,414 แปลง เป็นการบรหิ าร
จัดการทรพั ยากร/ชีวติ /ชุมชนในภาพรวม ดิน น้า ลม ไฟ โดยเฉพาะ คนและอาชีพ ท่ีประสบความสาเรจ็
ในการใช้พัฒนาครวั เรอื นและชุมชน ภายใต้หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่เป็นรูปธรรม เป็นโมเดล
แหล่งเรยี นรูว้ ถิ ีชวี ติ ท่ีลงมือฝึกปฏิบัติจรงิ รว่ มกับครอบครวั พัฒนา 30 ครวั เรอื น เป็นศูนย์เรยี นรูถ้ ่ายทอด
วธิ กี ารและองค์ความรใู้ ห้กับคนในชุมชน การดาเนินงานประกอบด้วยกิจกรรม ดังต่อไปนี้

๑.๒.๑ กิจกรรมที่ 1 สรา้ งและพัฒนากลไกขับเคลื่อนในระดับพื้นท่ี โดยการสรา้ งแกนนา
ขับเคล่ือนหมู่บา้ นเศรษฐกิจพอเพียง

๑.๒.๒ กิจกรรมที่ 2 เสรมิ สรา้ งกระบวนการบรหิ ารจดั การชุมชน
1) สัมมนาการเรยี นรวู้ ถิ ีชวี ติ เศรษฐกิจพอเพียง
2) จดั ทาแผนพัฒนาวถิ ีชวี ติ เศรษฐกิจพอเพียง
3) การขับเคล่ือนกิจกรรมพัฒนาวถิ ีชวี ติ เศรษฐกิจพอเพียง
4) การพัฒนาศูนยเ์ รยี นรทู้ ฤษฎีใหม่รูปแบบ “โคก หนอง นา โมเดล”

๑.๒.๓ กิจกรรมที่ 3 ประเมินผลการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
1) ประชุมเชิงปฏิบัติการถอดบทเรยี นและประเมินผลการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจ

พอเพียงระดับหมู่บา้ น
2) จดั ทาส่ือเผยแพรแ่ ละขยายผลการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง

ผลการดาเนินงาน
- เชงิ ปรมิ าณ

1) จานวนหมู่บ้านที่ได้รบั การพัฒนาหมู่บา้ นเศรษฐกิจพอเพียง 11,414 หมู่บา้ น
2) จานวนศูนยเ์ รยี นรเู้ ศรษฐกิจพอเพียง 11,414 แห่ง
- เชงิ คุณภาพ
1) รอ้ ยละ 85 ของหมู่บ้านท่ีได้รบั การพัฒนาตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
มีความสุขมวลรวมตามเกณฑ์ทก่ี าหนด
2) รอ้ ยละ 80 ของศูนย์เรยี นรเู้ ศรษฐกิจพอเพียง สามารถให้บรกิ ารประชาชนได้
- ผลลัพธ์
1) หมู่บ้านที่ได้รบั การพัฒนาตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงมีความสุขมวลรวม
เพิ่มข้ึน
2) ศูนยเ์ รยี นรเู้ ศรษฐกิจพอเพียงสามารถเป็นแหล่งเรยี นรรู้ ว่ มกันของคนในชุมชน

ปี กรมการพัฒนาชมุ ชน
สรา้ งสรรคช์ มุ ชมุ สร้างคน สรา้ งชาติ

๓๕

ปี กรมการพฒั นาชุมชน
สร้างสรรคช์ มุ ชมุ สรา้ งคน สรา้ งชาติ

๓๖

ปี กรมการพฒั นาชุมชน
สร้างสรรคช์ มุ ชมุ สรา้ งคน สรา้ งชาติ

๓๗

๑.๓ โครงการประชุมเชงิ ปฏิบัติการคณะกรรมการพัฒนาสตรภี าค (กพสภ.)
กรมการพัฒนาชุมชน จัดประชุมเชิงปฏิบัติการคณะกรรมการพัฒนาสตรภี าค (กพสภ.)
จานวน 4 ภาค จานวน 76 จงั หวัด ได้แก่ ภาคเหนือ (17 จงั หวัด) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (20 จงั หวัด)
ภาคกลาง (25 จงั หวัด) และภาคใต้ (14 จังหวัด) เพื่อศึกษา และสรา้ งความเข้าใจในแนวทางการดาเนิน
กิจกรรมตามยุทธศาสตรก์ รมการพัฒนาชุมชน และจดั ทาแผนปฏิบัติการของคณะกรรมการพัฒนาสตรภี าค
โดยเฉพาะในการสนับสนุนการขับเคลื่อนครวั เรอื นสัมมาชพี ชุมชนตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ในหมู่บ้านเป้าหมายสัมมาชพี ชุมชน และกาหนดเกณฑ์การคัดเลือกครวั เรอื นสัมมาชพี ชุมชนตัวอย่างระดับ
จังหวัดและระดับภาค เพ่ือเข้ารบั การเชิดชูเกียรติ ในปี ๒๕๖๔ อันเป็นการเตรยี มความพร้อมให้กับ
คณะกรรมการฯ ในการที่จะสนับสนุนให้ครวั เรอื นเป้าหมายสามารถพัฒนาตนเอง จนนาไปสู่ครวั เรอื น
สัมมาชพี ชุมชนตัวอย่างได้
ผลการดาเนินงาน
- เชงิ ปรมิ าณ

1) มีครวั เรอื นสัมมาชพี ชุมชนตัวอย่างระดับจงั หวัด จานวน 76 ครวั เรอื น
2) มีครวั เรอื นสัมมาชพี ชุมชนตัวอย่างระดับภาค จานวน 12 ครวั เรอื น
- เชงิ คุณภาพ
๑) ประชาชนทเ่ี ป็นครวั เรอื นเปา้ หมายได้รบั โอกาสในการพัฒนาอาชพี มีรายได้ ลดรายจา่ ย
ในครวั เรอื น
๒) ครวั เรอื นสัมมาชพี ชุมชน สามารถเป็นตัวอย่างและเป็นต้นแบบในการขับเคลื่อนงาน
สัมมาชพี ชุมชนตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้

ปี กรมการพัฒนาชมุ ชน
สรา้ งสรรคช์ มุ ชมุ สรา้ งคน สรา้ งชาติ

๓๘

๑.๔ โครงการจดั ทาแผนและประสานแผนพัฒนาตาบล
ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจดั ทาแผนและประสานแผนพัฒนาพื้นท่ีในระดับ
อาเภอและตาบล พ.ศ. 2562 (One Plan) กรมการพัฒนาชุมชน มีหน้าที่รบั ผิดชอบในการจดั ทาแผนและ
ประสานแผนในตาบล โดยมีคณะกรรมการบรหิ ารงานตาบลแบบบูรณาการ (ก.บ.ต.) มีหน้าที่รวบรวมข้อมูล
เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการจัดทาแผนพัฒนาตาบล โดยนามาวเิ คราะห์หรอื สังเคราะห์กลั่นกรอง ประมวลผล
เพ่ือกาหนดทศิ ทางการพัฒนาตาบล และจดั ลาดับความสาคัญของแผนงานหรอื โครงการระดับตาบล รวมทงั้
จัดทาแผนงาน หรอื โครงการที่สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และจดั ทา
บัญชปี ระสานโครงการพัฒนาส่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาบรรจุไว้ในแผนพัฒนาท้องถิ่น และ
จัดส่งแผนพัฒนาตาบล ให้คณะกรรมการบรหิ ารงานอาเภอแบบบูรณาการ (ก.บ.อ.) ใชป้ ระกอบการจัดทา
แผนพัฒนาอาเภอและแผนความต้องการระดับอาเภอ ทบทวนการจัดทาแผนพัฒนาตาบลทุกปี เพ่ือให้
แผนงานหรอื โครงการระดับตาบลเป็นปัจจุบันโดยกระบวนการจัดทาแผนและประสานแผนพัฒนาตาบล
เกิดจากการมีส่วนรว่ มในการคิดวเิ คราะห์ วางแผน ในการแก้ไขปัญหาของหมู่บ้าน ชุมชนรว่ มมือกันของผู้นา
ชุมชน กลุ่ม องค์กร และเครอื ข่ายต่าง ๆ
ผลการดาเนินงาน
- เชงิ ปรมิ าณ จานวนตาบลมีการบูรณาการแผนพัฒนาตาบล 7,036 ตาบล
- เชิงคุณภาพ รอ้ ยละ 85 ของตาบลท่ีมีการบูรณาการแผนพัฒนาตาบลสามารถนาไปใช้
ในการบรหิ ารจดั การชุมชน

ปี กรมการพฒั นาชุมชน
สร้างสรรคช์ มุ ชมุ สร้างคน สรา้ งชาติ

๓๙

๑.๕ โครงการวัด ประชา รฐั สรา้ งสุข
เป็นโครงการที่ส่งเสรมิ สนับสนุนให้ผู้นาชุมชน กลุ่ม องค์กร เครอื ข่ายและอาสาสมัครในงาน
พัฒนาชุมชน รวมท้งั เยาวชนในพ้ืนทเี่ ป้าหมาย เข้ามามีส่วนรว่ มในการอนุรกั ษ์ประเพณีวัฒนธรรมของท้องถิ่น
และส่งเสรมิ ให้จัดกิจกรรมในวันสาคัญเก่ียวกับชาติ ศาสนา และพระมหากษัตรยิ ์ไทย เพื่อถ่ายทอดให้กับ
คนรุน่ หลัง สืบสานไว้อย่างยั่งยืน โดยมีแนวทาง/กิจกรรมส่งเสรมิ การดาเนินงาน ประกอบด้วย ๑) แนวทาง
การปฏิบตั ิด้วยกระบวนการ 3 5 7 9 (3 พันธกิจ 5 ส(สะสาง, สะดวก, สะอาด, สรา้ งมาตรฐาน และสรา้ งวนิ ัย) 7 ขั้นตอน
9 แนวปฏิบัติในการพัฒนาพื้นท่ี) ของคณะกรรมการฝ่ายสาธารณูปการของมหาเถรสมาคม และกิจกรรม
“หน้าบ้านน่ามอง ในบ้านน่าอยู่ คนอยู่ในบ้านน่ารกั ล้อมรกั ด้วยผักสวนครวั สานพลังพัฒนาอย่างต่อเนื่องและ
ย่ังยืน” เป็นหลักการสาคัญในการเข้ามามีส่วนรว่ มในขับเคล่ือนโครงการวัด ประชา รฐั สรา้ งสุข ไปสู่เป้าหมาย
ในการพัฒนาชุมชนและวัดให้เป็นสถานที่สัปปายะ และฝึกเยาวชนให้รูจ้ กั การทาบุญตักบาตรตามประเพณี
วัฒนธรรมของท้องถ่ินเพื่อรกั ษาและต่อยอดให้อยู่คู่บ้านของชาติไทย รวมท้ัง ชุมชนยังมีผักนามาประกอบ
อาหารท่ีปลอดสารพิษ เหลือกินได้แบ่งปันเพ่ือนบ้านมีความรกั สามัคคีมากข้ึน ทาให้ลดรายจา่ ย เพ่ิมรายได้
แก่ครวั เรอื น และชุมชน
ผลการดาเนินงาน
- เชิงปรมิ าณ มีการปรบั สภาพแวดล้อมทาความสะอาด ปลูกผักสวนครวั ทารวั้ กินได้
ปรบั ภูมิทัศน์ สรา้ งแหล่งเรยี นรูท้ างวัฒนธรรมและศาสนา เป็นแหล่งสืบสานประเพณีและวัฒนธรรมจากรุน่
สู่รนุ่ สาหรบั ประชาชนท่วั ไปตามประเพณีแต่ละท้องถ่ิน จานวน 76 จงั หวัด 878 อาเภอ 41,406 ชุมชน
- เชิงคุณภาพ เป็นการสืบสาน รกั ษา ต่อยอด จารตี ประเพณีวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่น
ในการพัฒนาจติ ใจเปน็ ท่ียดึ เหน่ียวทางจติ ใจ ทาให้บา้ นเมืองน่าอยู่และสังคมสงบสุข

ปี กรมการพัฒนาชมุ ชน
สร้างสรรคช์ มุ ชมุ สรา้ งคน สรา้ งชาติ

๔๐

๑.๖ โครงการบรหิ ารการจดั เก็บและใชป้ ระโยชน์ข้อมูลเพื่อการพัฒนาชุมชน

คณะกรรมการพัฒนาชนบทแห่งชาติ (กชช.) มีมติเม่ือวนั ที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๓๒ มอบหมาย
ให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน จดั เก็บข้อมูลความจาเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) เป็นประจาทุกปี
ต้ังแต่ปี ๒๕๓๓ เป็นต้นไป และคณะรฐั มนตรยี ังมีมติ เมื่อวันท่ี 2๑ กันยายน ๒๕๓๖ ให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง
กับการพัฒนาชนบทใชข้ ้อมูลพ้ืนฐานระดับหมู่บ้าน (กชช. ๒ค) และข้อมูลความจาเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ในการ
กาหนดนโยบาย และแนวทางปฏิบัติงานพัฒนาชนบท วางแผนพัฒนา อนุมัติโครงการ และการติดตาม
การปฏิบัติงานโครงการการพัฒนาชนบท ซง่ึ กรมการพัฒนาชุมชน มีแนวทางในการบรหิ ารการจัดเก็บและ
ใชป้ ระโยชน์ข้อมูลเพื่อการพัฒนาชุมชน ดังนี้

๑.๖.๑ การบรหิ ารการจดั เก็บและใชป้ ระโยชน์ความจาเป็นพื้นฐาน (จปฐ.)

1) การเตรยี มความพรอ้ มการจดั เก็บข้อมูลเพื่อการพัฒนาชุมชน เป้าหมายจานวน
76 จงั หวดั และ 878 อาเภอ โดยมีการเพ่ิมประสิทธภิ าพระบบและเตรยี มความพรอ้ มในการจดั ทาฐานข้อมลู
เพื่อรบั รองการจดั เก็บข้อมูล จปฐ. และข้อมูล กชช. 2ค และเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ รณรงค์ เชญิ ชวนประชาชน
ชาวไทยรว่ มให้ข้อมูลความจาเป็นพ้ืนฐาน (จปฐ.) และข้อมูลพื้นฐานระดับหมู่บ้าน (กชช. 2ค) รวมทั้งการ
เสรมิ สร้างทักษะด้านการจัดเก็บข้อมูล ด้วยเครอ่ ื งมืออิเล็กทรอนิกส์แก่เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนและ
ผู้จดั เก็บข้อมูล

2) การบรหิ ารการจดั เก็บข้อมูลและรายงานผลการพัฒนาคุณภาพชวี ติ ประชาชน
เป้าหมายดาเนินการจัดเก็บข้อมูลความจาเป็นพ้ืนฐาน (จปฐ.) ด้วยเครอ่ ื งมืออิเล็กทรอนิกส์ จานวน
12,900,000 ครวั เรอื น

3) การตรวจสอบและรบั รองคณุ ภาพการจดั เก็บข้อมูลความจาเป็นพ้ืนฐาน (จปฐ.)
มีการนาเสนอผลการจดั เก็บและรบั รองคุณภาพข้อมูลความจาเป็นพ้ืนฐาน (จปฐ.) ท้ังระดับจงั หวัด และระดับ
องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่น (อบต./ทต./ทม./ทน./เมืองพัทยา)

๑.๖.๒ การบรหิ ารการจดั เก็บและใชป้ ระโยชน์ข้อมูลพ้ืนฐานระดับหมู่บ้าน (กชช. 2ค)
มีการบันทึกและประมวลผลข้อมูลฯ และนาเสนอผลการจัดเก็บและรบั รองคุณภาพ
ข้อมูลฯ รวมท้ัง จดั ทารายงานหมู่บา้ นชนบทไทยจากข้อมูลพื้นฐานระดับหมู่บา้ น (กชช. 2ค)
ผลการดาเนินงาน
- เชงิ ปรมิ าณ
๑)จานวนครวั เรอื นที่มีข้อมูลความจาเปน็ พ้ืนฐาน (จปฐ.) 12,๘๑๗,๙๐๓ ครวั เรอื น
๒)จานวนหมู่บา้ นท่มี ีข้อมูลพ้ืนฐานระดับหมู่บ้าน (กชช. 2ค) 70,440 หมู่บ้าน
- เชงิ คุณภาพ
๑)รอ้ ยละ 90 ของครวั เรอื นท่มี ีข้อมูลความจาเปน็ พ้ืนฐาน (จปฐ.) ทเ่ี ชอ่ื ถือได้
๒)รอ้ ยละ 90 ของหมู่บา้ นทม่ี ีข้อมูลพ้ืนฐานระดับหมู่บ้าน (กชช. 2ค) ทเ่ี ชอ่ื ถือได้

ปี กรมการพัฒนาชุมชน
สร้างสรรคช์ ุมชมุ สรา้ งคน สรา้ งชาติ


Click to View FlipBook Version