The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ

ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ 143 วัดและความหวังใหม่ : นพรุจ ศาสตร์แย้ม ความประทับใจกับเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำ ให้ซิดนีย์เริ่มเปลี่ยนแปลง ตัวเองมากขึ้น และคงจะหาโอกาสที่จะได้ตอบแทนคุณพ่อคุณแม่ เช่นเดียวกับที่ เด็ก ๆ เหล่านี้ได้ตอบแทนทั้งกับบุพการีและพระมหากษัตริย์ไทย ทั้งได้สืบทอด พระศาสนาไปในขณะเดียวกัน... การใช้กระบวนการทางศาสนา เป็นอีกหนทางในการกล่อมเกลา ความคิด และพฤติกรรมได้อย่างเหมาะสม สนุกปากจากเรื่องคนอื่น : นาราภัทร หมื่นสัน เรื่องนี้ทำ ให้กลายเป็นตราบาปในใจหลิวตลอดไป เพื่อนที่ทำ งาน ก็ไม่มีใครคุยกับเธอเลยสักคน เธอจึงเข้าใจหัวอกของแจนแล้ว แม้จะสายเกินไป ที่จะขอโทษ แต่เธอก็รู้สึกผิดและสำ นึกมาโดยตลอด... การขอโทษ เมื่อได้สำ นึกในการกระทำอย่างที่ไม่เหมาะสม เป็นสิ่งที่ ต้องตระหนักและให้ความสำคัญยิ่ง


รางวัลชมเชย ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)


ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ 145 คำว่ามารยาท : วัชรพงษ์ศรีวิชัยนวน พวกเรานั่นแหละที่ไม่มีมารยาท ครูพูดกับรินรดาอยู่ พูดแทรกทำ ไม แล้วก็ไม่ต้องไปหัวเราะเพื่อนนะ เพื่อนเขาทำถูกแล้วที่ไปเตือนครูมณี แต่แค่เพื่อน อาจจะใช้วิธีที่มันไม่น่ารักเท่านั้นเอง เมื่อแรกกระทำ ไปด้วยความเข้าใจผิด หลังจากรู้ความจริง ไม่เสียหาย ที่จะกล่าวคำว่า “ขอโทษ” คืนประหลาดของรตี : พิรฎา อุตตโมทย์ รอยยิ้มที่แจ่มใสราวดวงตะวันยังคงตราตรึงในใจหล่อน ท่าทีสุภาพ ไม่ลามปามหยาบคาย หรือนํ้าใจอันใสสะอาดก็ดี เหล่านี้ล้วนหล่อหลอม ให้เกิดความอบอุ่นในหัวอกของหล่อน ชนิดที่ว่ายากจะลืมเลือนและไม่มีสิ่งใด มาทดแทนได้ ความผูกพันแม้ชั่วข้ามคืน ด้วยความสุภาพ คือความติดตรึงใจชั่วนิรันดร์


146 ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ แค่กาบกล้วย : พงศธร แสงทอง มารยาท คือ ลำ ต้นอันแข็งแกร่ง หรือแก่นแท้ภายในต้นไม้ที่จะ ประคับประคอง กาย วาจา ใจ ให้มนุษย์อยู่ร่วมกันได้สงบสุข เราคนเดียวเป็นต้นไม้ ต้นหนึ่งที่ต้องพึ่งพาอาศัยกัน หากมีมารยาทต่อกันในผืนป่าใหญ่ ได้ออกผลผลิต ที่ดีงาม มีความแบ่งสันปันสุขกัน ไม่ว่าจะเป็นคนหรือต้นไม้ ก็จะไม่มีวันทะเลาะ เบาะแว้งกันในสังคม เพราะต่างเคารพให้เกียรติซึ่งกันและกันอยู่เสมอนั่นเอง ฉันชื่อปูนา : ภวิตรา พัฒนกิจจารักษ์ ชีวิตฉันมีความสุขขึ้นมาก ฉันไม่ต้องกินข้าวคนเดียวอีกต่อไปแล้ว ฉันมีเพื่อนมากขึ้น และมีเพื่อนสนิท คือ ปลาบู่ เธอเป็นคนมีมารยาท พูดจา ไพเราะ ทำ ให้มีแต่คนรัก และฉันดีใจที่ได้เป็นเพื่อนกับเธอ...มันคุ้มค่าที่ได้ เปลี่ยนแปลงตนเองให้กลายเป็นคนที่ดีขึ้น การอยู่ร่วมกันในสังคม ควรคำ นึงถึงพฤติกรรมที่มีมารยาทต่อผู้อื่น


ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ 147 ดวงมณีพัชระ : อรญา เรืองจุติโพธิ์พาน คนเราทุกคนต้องทักทายด้วยรอยยิ้มและอัธยาศัยไมตรี รู้จักวางตน ให้สง่าอยู่ตลอด มิโอ้อวดผู้ใด และไม่ตีตนเสมอผู้ใหญ่ แลต้องรู้จักประมาณตน คือ ไม่กระทำ ให้ตนเองเด่นเกินไป มีธรรมของคนดี ๗ ประการ นอกจากนี้ ผู้ที่ มีกิริยาดีจะมิพึงพูดจาให้ผู้อื่นอับอายแลส่งเสียงดัง ยักคิ้วเล่นหูเล่นตากับผู้อื่น มันไม่งาม รู้จักควบคุมตนเองมิให้กำ เริบ นี่คือสิ่งสำคัญ กิริยาต้องสำรวม รู้จัก ควบคุมอิริยาบถ คำสั่งสอนฝึกหัดมารยาทกุลสตรีไทยจากผู้ใหญ่ แม้ข้ามภพ ข้ามชาติ แต่ยังสามารถปรับใช้ได้เสมอ ตัวตนที่เปลี่ยนไป : ปณิดา ฮกเหล่า หนูไม่ผิดหรอกแอม เพียงแต่วิถีชีวิตของเราที่นี่กับที่นั่นมันแตกต่างกัน การที่หนูจะอยู่ที่นี่แล้วใช้ชีวิตให้มีความสุขได้ หนูต้องมีมารยาททางสังคม คือ ต้องรู้จักวางตน ประมาณตน ควบคุมอารมณ์ และอิริยาบถของตนเองให้ได้ สำรวมกิริยามารยาท มีนํ้าใจ และรู้จักช่วยเหลือผู้อื่น... เมื่อวัยรุ่นผู้หนึ่งต้องเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมและสังคมของตัวเอง กะทันหัน จากสังคมตะวันตกสู่สังคมไทย


148 ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ ปีใหม่ที่แล้ว : นันท์นภัส ธนกัญญา เมื่อถึงโรงเรียน ฉันรีบลงรถและเดินเข้าไปกอดคุณครู พร้อมกับ ก้มลงกราบ และมอบพวงมาลัยให้กับครู ครูโน้มตัวพยุงฉันขึ้นมาก่อนจะกอด และลูบหัวฉันเบา ๆ “ครูดีใจที่หนูไม่ลืมครูนะ ต่อจากนี้ ก็ขอให้หนูรักท่านทั้งสอง ให้มาก ๆ เป็นคนดีของสังคม และเป็นเด็กที่กตัญญูแบบนี้ตลอดไป เมื่อเด็กคนหนึ่งได้รู้ความจริงว่าตนไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของพ่อแม่ เธอยัง คงตั้งมั่นอยู่บนพื้นฐานของความกตัญญูรู้คุณ กิริยามารยาทที่นอบน้อม ต่อผู้มีพระคุณ เธอจึงเป็นที่เอ็นดูรักใคร่ของคนทั่วไป ผ้าขาวที่เปื้อนความสวยงาม : พิมพ์ตมิสา แผ่นสัมฤทธิ์ เด็กก็เหมือนผ้าขาว ครูลองเติมแต่งความสวยงามและสิ่งที่ครูเป็น ให้พวกเขาดู เริ่มสอนให้พวกเขารู้จักการปฏิบัติตัวที่ดี และเข้าใจถึงความสำคัญ ของการศึกษาหาความรู้ และเรียนรู้การปฏิบัติตนอย่างมีมารยาทที่ดี ครูเชื่อว่า วันหนึ่งเด็ก ๆ ที่นี่จะน่ารักและเป็นคนที่ดีขึ้น... เด็ก ๆ พวกนี้อาจจะเห็นถึง ความสำคัญของการศึกษา และเข้าใจว่าการอยู่ในสังคมในอนาคตต้องเริ่มจาก การฝึกฝนตัวเองตั้งแต่ตอนนี้ ฉันยิ้มให้แม่ครู ในใจเต็มไปด้วยคำขอบคุณที่ยัง เชื่อในตัวฉัน ปณิธานที่มุ่งมั่นของคุณครูที่จะปลูกฝังความรู้คุณธรรม และมารยาท ทางสังคมให้กับลูกศิษย์ของตน


ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ 149 ยายสายบัว : ธณชล วิมลสัจจารักษ์ กลุ่มนักปั่นพนมมือ ก้มศีรษะขอโทษคุณยายเล็กน้อย “พวกเราขอเข้าไปหาลูกตาลนะครับคุณยาย อยู่ในครัวใช่มั้ยครับ” “ไปสิ...ลูกตาลเขานั่งหั่นสายบัวอยู่ จะไปช่วยเขาทำ หรือจะชวนออก ไปเล่นก็ได้ ยายไม่ว่าหรอก” “ขอบคุณครับ/ค่ะ คุณยาย” เด็ก ๆ ในกลุ่มทำ บัวตูมน้อย ๆ แล้วจึง จับแฮนด์รถกึ่งวิ่งกึ่งลากพาหนะสองล้อบนทางซีเมนต์แคบ เพื่อไปตามเพื่อนรัก ที่หมกตัวอยู่ในครัว วิถีชีวิตเด็ก ๆ ในชนบทที่ได้รับการขัดเกลาจากครอบครัว ใกล้ชิดธรรมชาติเติบโตตามวัย และวิถีที่เหมาะสม หาย : ปรียากรณ์บางโม มันผิดที่เด็กพวกนั้นด้วยแหละที่รังแกเจ้า แต่จะเปลี่ยนที่ตัวเจ้าเองมันก็ ง่ายกว่าใช่ไหมล่ะ - อย่าเพิ่งเถียงข้า - ลองบอกพวกเขาไปตรง ๆ ว่าเจ้าต้องการ สิ่งใด ว่าเจ้าทุกข์ใจอย่างไร อย่าใส่คำ หยาบ อย่าใส่คำด่า แค่บอกกับพ่อกับแม่ กับใครก็ตาม การสื่อสารเป็นเรื่องสำคัญแต่ให้บอกแบบสุภาพชน การเปลี่ยนแปลงตัวเอง ให้มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ยอมในสิ่งที่ ไม่เหลือบ่ากว่าแรง สื่อสารในสิ่งที่ตนคิดและรู้สึกอย่างสุภาพ ย่อมสร้างสังคม ที่สันติได้


รางวัลชมเชย ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และอุดมศึกษา


ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ 151 กค ๔๕๑๕ : สุกัญญา ศรีลาศักดิ์ “ไม่เข้าใจกับการที่รถพยาบาลวิ่งมา แล้วคุณขับรถเบี่ยงขวาไม่ให้ผ่าน จิตใจทำด้วยอะไร ใช่สิ! คนที่นอนพะงาบ ๆ ในรถไม่ใช่พ่อแม่พี่น้องคุณนี่ เลยไม่ ต้องแคร์ว่าเค้าจะเป็นจะตายยังไง...” มารยาทบนท้องถนน นํ้าใจเพียงเล็กน้อยที่หยิบยื่นต่อกัน ไม่เห็นเพียง ความจำ เป็นของตนเองเป็นสำคัญ ช่วยลดปัญหาใหญ่ที่จะตามมา บันทึกถึงลัยลา : วะยุห์คงอ่อน ธนา หัวโจกของห้อง มันเดินชนฉันแทบจะตัวปลิว ครูเฉลียวให้ธนา กล่าวขอโทษครับ แล้วให้ฉันกล่าวตอบว่า ไม่เป็นไรครับ ...มันเจ็บปวดแค่ไหน เจ็บที่เดินชนยังพอทนได้ แต่เจ็บที่ต้องบอกว่าไม่เป็นไรครับ มันเหลือทนจริง ๆ... ความสวยงามของการอยู่ร่วมกันในสังคม ความงดงามของมารยาท ที่บุคคลพึงกระทำ ล้วนสร้างสรรค์สังคมให้น่าอยู่


152 ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ มารยาทไทยของฉัน : ชลธิชา อินมาเมือง มารยาทดีมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับการฝึกอบรมของแต่ละครอบครัว บุคลิกภาพของแต่ละคนจะบอกให้รู้ว่า คนคนนั้นมีความสุภาพ อ่อนน้อม มีสัมมาคารวะ และมีระเบียบวินัยเพียงใด เมื่อถึงยาม...กล้วยไม้งามสะพรั่ง : ทนงเกียรติไขทา ผมไม่ได้ตั้งใจจะก้าวร้าวหรือทำตัวไม่มีมารยาท แต่มันไม่มีเหตุผลที่จะ ต้องทำ เช่นนั้น ไม่มีความจำ เป็นที่จะต้องขอบคุณในสิ่งที่เราไม่ได้ร้องขอ ถ้าหากเราเป็นคนขอแล้วเขามอบให้ด้วยความเต็มใจ ผมก็ยินดีที่จะพูดขอบคุณ โดยไม่มีข้อแม้แต่อย่างใด... ทำ ไมเราต้องไหว้ผู้ใหญ่ที่เราไม่รู้จัก... คำ สั่งสอนของผู้ใหญ่ที่อยู่บนพื้นฐานของความปรารถนาดีเป็นวิถี ที่เด็กจะได้เรียนรู้ปฏิบัติ


ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ 153 รถญี่ปุ่น : ดวงใจ ใจสูง การแสดงความเคารพไม่ใช่การเสียเกียรติแต่อย่างใด เพราะความรู้ และความดีที่เราจะได้จากการมีความเคารพ และแสดงความเคารพออกมานั้น มากมายนัก... ถ้าไม่มีความเคารพแล้ว ใจจะกระด้าง พอกระด้างแล้วจะรับ ความดีจากคนอื่นไม่ได้... รถ (รส) ชีวิต : วรางคณา สุพรรณชนะบุรี หญิงสาวรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เธอผิดเองที่ไม่สังเกตเขาให้ดี เธอผิดเองที่คิดเกลียดเขา ทำ ไมนะทำ ไม ทำ ไมฉันไม่เลือกถามเขาสักคำ ว่า เขาเป็นอะไร ไม่สะดวกตรงไหนหรือเปล่า ทำ ไมฉันคิดแต่เรื่องฉันเอง ฉันมันคน เห็นแก่ตัวที่สุด ... เกลียดจริง ๆ คนนิสัยแบบนี้ ฉันเกลียดตัวฉันเอง ฉันขอโทษ


154 ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ ร้านขนมของคนใจสลาย : สุทธิลักษณ์เสียงวัฒนะ ผมอยากจะขอโทษทุกคนกับสิ่งที่ผมได้ทำ และปฏิบัติต่อทุกคน อย่างไร้มารยาท ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของคำ พูด หรือการกระทำต่าง ๆ ผมอาจจะ สร้างความกดดัน และไม่พอใจให้กับพวกคุณ แต่อยากให้รู้ว่า ผมซาบซึ้งในนํ้าใจ อันงดงามของพวกคุณ และผมสำ นึกผิดจริง ๆ ขอบคุณทุกคนที่ร่วมทุกข์และสุขกัน มากถึงเพียงนี้ โอกาสที่หลายคนจะได้กล่าวคำขอโทษและยอมรับผิด ไม่ได้เกิดขึ้น ได้กับทุกคนเสมอไป วันศุกร์ สิบนาฬิกา บนรถโดยสารสายสอง : ธีรภัทร์คำตุ้ย ก่อนกลับ เธอกล่าวขอบคุณฉันอีกครั้ง แล้วยิ้มให้ด้วยความอ่อนโยน น่าแปลกที่แค่คำขอบคุณสั้น ๆ กลับทำ ให้ฉันรู้สึกเต็มตื้นในใจขนาดนี้ ความช่วยเหลือเล็กน้อยบางอย่างอาจกลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต โดยไม่รู้ตัว


ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ 155 สงสัยในมารยาท : กนกวรรณ เชียงตันติ์ ไม่ว่าจะเรื่องมารยาทหรือเรื่องใด เราก็ควรที่จะหาจุดกึ่งกลางในแต่ละ เรื่อง อยู่นอกกรอบแต่ไม่จำ เป็นต้องอยู่เหนือกฎเกณฑ์ และหัดตั้งคำถามกับ สิ่งเหล่านั้นบ้าง พวกเราทำ ไปเพียงแค่เขาทำตามกันมา มันจะเกิดประโยชน์ ต่อเรามากที่สุดจริง ๆ หรือ อยู่กับยาย : ราม แสงมณี “ถ้าอยากให้คนอื่นแสดงกิริยามารยาทกับเราแบบไหน เราก็ต้องแสดง กิริยามารยาทแบบนั้นกับเขาก่อน แม้เราจะเป็นผู้ใหญ่ที่คนอื่นนับหน้าถือตา แต่การแสดงกิริยามารยาทที่อ่อนน้อมกับผู้อื่นก่อน จะยิ่งทำ ให้คนอื่นเคารพและ ศรัทธาในตัวเรามากยิ่งขึ้น”


รางวัลชมเชย ระดับประชาชนทั่วไป


ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ 157 กุลสตรีศรีไทย : ณัฐฤทัย พลอยหิรัญ “นั่งครับน้อง” เพี้ยนบอกเด็กนักเรียนชายที่ยืนตรงหน้า เขายิ้มอาย ๆ เอียงคอผงกหัวเหมือนเด็กญี่ปุ่น ไร้เดียงสา พร้อมบอกเธอว่า “ขอบคุณค่ะ” ...เมื่อลงจากรถประจำ ทาง เด็กนักเรียนชายที่เพี้ยนลุกให้นั่ง โบกมือ ยิ้มให้ เพี้ยนกับมดพยักหน้ายิ้มรับ การปลูกฝังมารยาทที่งดงามให้กับเยาวชน เป็นเรื่องที่ควรภาคภูมิ ทั้งยังเป็นบ่อเกิดมิตรภาพที่งดงามกับผู้อื่นได้เสมอ คิดถึงย่า : เสาวรีเอี่ยมละออ “แม่ไม่ได้สอนเลยหรือ” ย่าพูด “เอาเถิด ทั้งหมดนี้ย่าจะถือว่า แม่แก ไม่ได้สั่งไม่ได้สอน ลูกถึงได้มีความคิดที่อุบาทว์ ดูถูกวิถีของบรรพบุรุษได้ขนาดนี้ ย่าพูดแค่เรื่องมารยาท การรู้กาลเทศะ การเคารพผู้ใหญ่ ถ้าไม่เห็นด้วยก็แล้วไปเถิด” คำสอนของผู้ใหญ่ที่ต้องประสบกับตัวเองจึงจะเข้าใจวิถีปฏิบัติที่งดงาม


158 ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ คุณกำลังคิดอะไรอยู่ : วิชุดา ราชพิทักษ์ “สังคมไทยของเราให้ความสำคัญกับเรื่องมารยาท การเคารพผู้อื่น ให้เกียรติผู้อื่น เรามีวัฒนธรรม ไปลามาไหว้ มีคำสอนต่าง ๆ มากมาย และหัวใจ ของคำสอนเหล่านั้นคือ การเคารพคนอื่น” ความคึกคะนอง การไม่เคารพสิทธิผู้อื่น การใช้สื่อสังคมออนไลน์ ในทางที่ผิด อาจเป็นต้นเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมา ตรอกฮาเบอร์ : วิศิษฐ์ปรียานนท์ หลายวันก่อนตอนเรือเข้า เลี้ยบหิ้วปลาโอมาฝากด้วยความคิดถึง แม้พูดกันไม่รู้เรื่อง แต่ภาษาบางชนิด ยังเชื่อมทั้งคู่ไว้ด้วยกัน นํ้าใจ มิตรภาพ กาลเทศะ และมารยาท เป็นสื่อประสานมิตรภาพ ให้งอกเงยและงดงามเสมอ


ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ 159 โต๊ะจีน : กิติศักดิ์โลกนิยม “สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้คุณป้าเจ้าหนี้ ทักทายอย่างสุภาพ หวังเรียก ความเห็นใจได้บ้าง... ความนอบน้อม การมีสัมมาคารวะของเด็กที่มีต่อผู้ใหญ่ย่อมยังให้เกิด ความเมตตา พร้อมที่จะให้อภัย และให้โอกาสเสมอ ป้ายสี : กิติศักดิ์ศรีแก้วบวร แม่สอนฉันเสมอว่า การอยู่ร่วมกันในสังคมต้องยึดหลัก “นํ้าขุ่นไว้ข้างใน นํ้าใสไว้ข้างนอก” ด้วยต้องเห็นหน้ากันไปอีกนาน ตราบใดที่ไม่มีใครย้ายหรือ ล้มหายตายจากไปเสียก่อน การเคารพสิทธิผู้อื่นการหยิบยื่นนํ้าใจให้กันในหมู่เพื่อนบ้านเป็นพื้นฐาน ของความสงบสุขที่เกิดขึ้นในชุมขน


160 ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ ผลการประเมินโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา : สันติพล ยวงใย ความพยายามสั่งสอนและปลูกฝังให้เด็ก ๆ ในชั้นรู้จักมารยาทไทย ด้วยการกล่าวสวัสดียามเช้า หรือการกล่าวขอบคุณเมื่อมีคนให้ของ...นั่นไม่ใช่ สิ่งที่ควรสอนกันในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา...เพราะเป็นเรื่องไร้สาระ เด็ก ๆ มีวิธีการทักทายแบบมุสลิม... การเตรียมความพร้อม และปลูกฝังวิถีปฏิบัติของสังคม เป็นสิ่งที่ละเลย ไม่ได้สำ หรับเยาวชน เพื่อเรียนรู้จักการเข้าสังคมวงกว้างได้อย่างเหมาะสม ฝรั่งข้างบ้าน : คารม ธรรมชยาธร แม้ค่อนข้างแปลกใจกับสิ่งที่เขาขอ แต่ผมมีนํ้าใจเสมอ...แม้ในใจรู้สึก ตะขิดตะขวงอยู่บ้าง แต่ถือว่าการมีเพื่อนบ้านเป็นมิตร น่าจะเป็นเรื่องที่ดี... การเคารพในนํ้าใจที่เพื่อนบ้านหยิบยื่นให้ควรรู้จักขอบเขตและ ความเหมาะควร ทั้งยังต้องคำ นึงถึงผลกระทบต่อสาธารณะเป็นสำคัญ


ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ 161 เราต่างบกพร่อง : ขนิษฐา วชิราพรพฤฒ มารยาททางสังคมที่ดีจะเป็นเครื่องบ่งชี้ได้ว่าบุคคลผู้นั้นรู้จักเคารพ ผู้อื่น การมีมารยาททั้งต่อหน้าและลับหลังผู้อื่น ควรกระทำ ให้เป็นปกติวิสัย ไม่เคลือบแฝง หรือฉาบหน้าเฉพาะเวลาหนึ่งเวลาใด สาวเตียงบนกับชายผู้มีมารยาท : ถนอม ขุนเพ็ชร์ ต้องขอโทษทุกคนนะครับ ดีแล้วที่ไม่มีใครกระทืบผมเมื่อคืน ปล่อยผมกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ ...เสียงหัวเราะตามมาด้วยเสียงปรบมือ เขายืนคุยอย่างเป็นกันเอง ชั่วข้ามคืน เขาเปลี่ยนมาดขี้เมานักเลง มาเป็น สุภาพบุรุษผู้น่าสงสาร... ในพื้นที่โลกเสมือน หรือโลกแห่งความจริง “กาลเทศะ” เป็นเรื่องที่ ต้องคำ นึงถึง ท่ามกลางคนแปลกหน้า มิตรภาพจะเกิดขึ้นบนความพอเหมาะ แห่งเวลาและสถานการณ์


ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ 163 มารยาทวิถีใหม่ พลวัตของสิ่งที่เรียกว่ามารยาท จรูญพร ปรปักษ์ประลัย ถ้ามารยาทเป็นสิ่งมีชีวิต หลายคนคงนึกถึงบรรดาสายพันธุ์ดึกดำ บรรพ์ ซึ่งดำ รงชีพอยู่เป็นร้อย ๆ ปีโดยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ในความเป็นจริง มารยาทเป็นสิ่งที่แน่นิ่งไร้วิวัฒนาการอย่างนั้นจริงหรือ เมื่อเอ่ยถึงมารยาท สิ่งแรก ๆ ที่แวบเข้ามาในหัวผมคือ หนังสือ สมบัติของผู้ดีซึ่งเจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี(หม่อมราชวงศ์เปีย มาลากุล) เรียบเรียงไว้เมื่อปีพ.ศ. ๒๔๕๕ กว่าร้อยปีจากวันนั้นถึงวันนี้ หลายคนยังถือเอาหนังสือเล่มนี้เป็นตำ ราแม่บท ในหนังและละครไทยเวลา จะด่ากันก็ยังไล่อีกฝ่ายให้ไปอ่าน สมบัติของผู้ดี ในสายตาคนส่วนใหญ่ ตำ ราเล่มนี้ก็ไม่ต่างจากเครื่องกรองนํ้าชั้นดี ที่เปลี่ยนนํ้าเสียให้กลายเป็นนํ้าใสสะอาด เมื่อปฏิบัติตามคำ สอนในหนังสือ เราจะสามารถยกฐานะตัวเอง ไม่ว่าจากระดับไหน ๆขึ้นเป็นผู้ดีได้โดยถ้วนหน้า พูดได้อีกอย่างว่า มารยาททางกาย วาจา ใจ ที่ครบครัน คือ เขตแนวรั้วซึ่งแบ่งแยกคนสองกลุ่มออกจากกัน ระหว่างคนที่เป็นผู้ดีกับคนที่ ไม่ใช่ผู้ดี น่าสังเกตว่า สมบัติของผู้ดีเป็นตำ ราซึ่งเขียนก่อนยุคประชาธิปไตย จึงไม่แปลกหากคนสมัยนั้นจะมองสังคมไทยโดยแบ่งคนออกเป็นชั้น ๆ ความเป็นผู้ดีเป็นหนึ่งองค์ประกอบในการเลื่อนฐานะของผู้คนขึ้นไป อีกทั้งยังเป็น คู่มือในการเข้าสังคมชั้นสูงอย่างไม่เคอะเขิน ไม่ถูกติฉินว่าทำอะไรไม่ถูกไม่ควร หรือไม่เป็นผู้ดี ความคาดหวังการยอมรับจากสังคมทำ ให้สมบัติของผู้ดีกลายเป็น หนังสือขายดีอย่างฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๔ เมื่อปีพ.ศ. ๒๔๙๘ ซึ่งมีจำ นวนพิมพ์ ปรากฏบนหน้าปกว่ามากถึง ๒๐๐,๐๐๐ เล่ม ราคาขายเล่มละ ๕๐ สตางค์


164 ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ คำ นวณง่าย ๆ ว่าได้เงินแสนจากการพิมพ์เพียงครั้งเดียว หนึ่งแสนของปีนั้น มากขนาดไหน ลองเทียบกับราคาทองราคาก๋วยเตี๋ยว หรือราคาอะไรๆดูก็รู้ได้ ไม่ยาก ผมไม่แน่ใจนักว่า สมบัติของผู้ดี พิมพ์ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน แล้วกี่ครั้งไม่นับที่พิมพ์แจกในงานศพและโอกาสอื่น ๆอีกนับครั้งไม่ถ้วน แต่เชื่อว่า หากจัดอันดับหนังสือขายดีตลอดกาลของไทย สมบัติของผู้ดี ต้องติดอยู่ ลำดับต้น ๆ แน่ ไม่เพียงจำ นวนอันมหาศาล สมบัติของผู้ดี ยังส่งอิทธิพลต่อสังคมไทย อย่างมาก ไม่อย่างนั้นละครยุคนี้คงเลิกเอ่ยถึงตำ ราเล่มนี้กันไปหมดแล้ว ด้วยอิทธิพลนี้เอง คนส่วนใหญ่จึงเชื่อว่า แนวคิดเกี่ยวกับมารยาทในสังคมไทย ไม่เคยขับเคลื่อนไปไหนเลย ตำ ราเมื่อร้อยกว่าปีก่อนถึงยังใช้ได้อย่างสมบูรณ์ ในปีพ.ศ. นี้ คำถามคือ มันเป็นอย่างนั้นจริงหรือ ขณะทุกสิ่งกำลังเคลื่อนที่ไปด้วย อัตราเร็วแบบดิจิทัล สิ่งที่เรียกว่ามารยาทกลับไม่เคยขยับไปไหนแม้องคุลีเดียว มันเป็นอย่างนั้นไปได้อย่างไร เงาสะท้อนของมารยาทใน “ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ” หนึ่งในความน่าสนใจของรวมเรื่องสั้น ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ อยู่ตรงทั้งหมดเป็นผลพวงจากการประกวดซึ่งแบ่งเป็น ๔ ระดับ ได้แก่ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และประกาศนียบัตร วิชาชีพ (ปวช.) ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และอุดมศึกษา ระดับประชาชนทั่วไป การแบ่งแบบนี้เปิดโอกาสให้เห็นมุมมองของคนหลายรุ่นหลายวัย ซึ่งมีต่อสิ่งที่เรียกว่ามารยาทไทย และมารยาทในสังคม ตามหัวข้อการประกวด เมื่อเปิดตาและเปิดใจอ่าน ผมพบว่าถึงแม้ระเบียบวิธีส่วนใหญ่ของมารยาท


ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ 165 อาจไม่เปลี่ยนไปมากนัก แต่แนวคิดที่มีต่อมารยาทกลับไม่เหมือนเมื่อร้อย กว่าปีก่อนอีกแล้ว มารยาทไม่ใช่เครื่องมือยกระดับชั้น หรืออุปกรณ์ชี้วัดคัดกรองคน ออกจากกัน ตรงกันข้าม มารยาทในทุกวันนี้กลับมุ่งหมายการอยู่ร่วมกัน บนระนาบเดียวกัน ไม่มีใครสูงตํ่ากว่ากัน นี่คือสิ่งที่ปรากฏในทุกระดับการประกวด อย่าง “แผลเป็นคำ พูด” เรื่องสั้นชนะเลิศระดับมัธยมต้น ซึ่งสะท้อนปัญหาการบูลลี่กันในโรงเรียน “ปาก” เรื่องสั้นรองชนะเลิศอันดับ ๒ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และอุดมศึกษาซึ่งแสดงให้เห็นพิษของถ้อยคำผ่านการนินทาว่าร้ายซึ่งดูเหมือน เป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำ วัน “ช่างทาสีจากพระตะบอง” เรื่องสั้นชนะเลิศ ระดับประชาชนทั่วไป ซึ่งนำ เสนอมิติของชาติพันธุ์และการปะทะทางวัฒนธรรม ในยุคที่การเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามประเทศเกิดขึ้นตลอดเวลา เรื่องสั้นทั้งหมดยังสะท้อนการอยู่ร่วมกันซึ่งซับซ้อนมากขึ้น ไม่ใช่ชุมชน ครอบครัวแบบทุกคนเป็นญาติพี่น้องกันหมดเหมือนในอดีต ผู้คนต่างสังคม ต่างเชื้อชาติต่างศาสนาต่างการศึกษาต่างอาชีพ ต่างฐานะต่างวัฒนธรรม ฯลฯ มาอยู่รวมกัน ความแตกต่างก็เช่นเดียวกับแว่นคนละสีเมื่อสวมแว่นต่างกัน ก็ย่อมมองเห็นอะไรไม่เหมือนกัน ประกายของปัญหามักเริ่มต้นจากจุดนี้ สุดท้ายเรื่องสั้นเหล่านี้ก็ชี้ให้เห็นว่า มารยาทไม่ได้เป็นเรื่องของ พิธีการใดๆแต่เป็นเรื่องของการคิดถึงผู้อื่น ไม่ว่าจะพูดเขียน ทำ ก้าวล่วงเข้าไป ในพื้นที่ของใคร หรือเมื่อต้องใช้สถานที่ต่าง ๆ ร่วมกัน แต่ถึงโดยรวมจะเหมือนกัน ในความเหมือนก็ยังมีความต่าง คนแต่ละช่วงวัยมีวิธีมองสิ่งที่เรียกว่ามารยาทต่างกัน ในกลุ่มเด็กและเยาวชน (สามระดับแรก) มุมมองที่มีต่อมารยาทดูเป็นเรื่องง่ายๆตรงไปตรงมาในทำ นอง ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว คนที่มีมารยาทจะได้รับผลดีกลับมาเสมอ เช่นเดียวกัน คนไม่มีมารยาท ซึ่งจะได้รับบทลงโทษในรูปแบบต่างๆตั้งแต่ระดับถูกโต้กลับแบบ


166 ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ ตาต่อตาฟันต่อฟัน อย่างในเรื่อง “แผลเป็นคำ พูด” ที่มนุษย์ป้าซึ่งพูดจาไม่ดีกับ เด็ก โดนกระแทกกลับไปแรง ๆ “...การดูถูกคนอื่นมันไม่ได้ทำ ให้คุณดูสูงขึ้น ในทางกลับกันมันกลับเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่า กำ พืดของคุณเป็นแบบไหน...” เช่นเดียวกับเรื่อง “ปาก” ที่สุดท้ายความอดทนของพนักงานสาวก็มาถึงขีดสุด เธอจึงประจันหน้าด่ากลับมนุษย์ป้า (อีกคน) แบบไม่ยั้ง “...เหม็นปากพี่ต้อย ไงคะ เหม็นยิ่งกว่าส้วมตันอีกค่ะพี่ เม้น เหม็น ว่างๆก็ไปตรวจสุขภาพช่องปาก บ้างก็ได้นะคะ เรื่องของคนอื่นรู้ดีไปเสียหมด นี่ละค่ะที่เขาบอกว่า ปากเหม็น เหมือนส้วมตัน...” ผลกรรมยังมาในรูปแบบอื่น ๆ อย่างการวิพากษ์วิจารณ์ผ่านสื่อ ออนไลน์ในเรื่อง “จังหวะสำคัญ” หลังจากคลิปเด็กหนุ่มทะเลาะกับนักดนตรี เปิดหมวกถูกโพสต์ลงไป จนทำ ให้เด็กหนุ่มได้คิดทบทวน และย้อนกลับไปกล่าว คำขอโทษ ที่หนักหนาที่สุดคือ ชายชราในเรื่อง “หลานปู่” ซึ่งเพิ่งสำ นึกได้เมื่อ สายเกินไปแล้วว่า เพราะการเป็นคนไร้มารยาท ทำ ให้ทั้งชีวิตตัวเองต้องพังลง อย่างน่าเสียดาย ในทางตรงกันข้าม คนที่มีมารยาทก็จะได้รับผลดีแบบฉับพลันทันที อย่างเด็กหนุ่มใน “ประทับใจแรกพบ” ซึ่งการทำ งานวันแรกทำ ให้เขาเป็นที่ ชื่นชมของใครต่อใคร ขณะที่ตัวเขาเองก็รู้สึกดีอย่างมากต่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ต่างจากเด็กหญิงใน “ชมพอกับพ่อ” ที่การทำตามคำสอนเรื่องมารยาท ทำ ให้ เธอเป็นที่รักของทุกคน เรื่องสั้นเรื่องนี้จบลงง่าย ๆ ด้วยการที่เด็กหญิงได้กิน ทุเรียนแสนอร่อย เป็นเสมือนรางวัลที่เด็กดีสมควรได้รับ สาวน้อยใน “นางสาวหยาดนํ้าตา” ก็เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของ ตัวเอง หลังจากอ่านตำรามารยาทไทยและนำ ไปปฏิบัติดังที่เธอเล่าผ่านจดหมาย ถึงเพื่อนสนิท “...การมีมารยาททำ ให้ฉันเป็นเด็กน่ารักได้ทันตาเห็น...” ทั้งหมดสะท้อนถึงการมองโลกอย่างไม่เคลือบแคลงสงสัย ผิดกับ เรื่องสั้นระดับผู้ใหญ่ซึ่งเปิดมุมอื่น ๆของมารยาทว่า บางครั้งก็ไม่ง่ายที่จะตัดสิน


ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ 167 ชี้ถูกชี้ผิด หลายเรื่องคำว่า‘มารยาท’ซ่อนตัวแนบสนิทอยู่ในเรื่องราวของตัวละคร ไม่มีผลโดยตรงทั้งในทางดีทางร้าย แต่เป็นโครงครอบความสงบสุขของผู้คน เอาไว้ บางเรื่องตั้งคำ ถามต่อสิ่งที่อยู่เหนือกว่าความสัมพันธ์ระหว่าง คนกับคน อย่าง“ผลประเมินโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา”ซึ่งกระตุกให้ได้คิดว่า ข้อปฏิบัติต่างๆไม่อาจใช้ได้กับทุกคน อำ นาจที่ไม่ได้มาพร้อมความเข้าใจแทนที่ จะส่งผลดีกลับกลายเป็นเหมือนศรที่พุ่งแทงทุกคนที่เกี่ยวข้อง มารยาทในเรื่องนี้ผูกติดกับอำ นาจในระบบ ซึ่งชี้นิ้วสั่งผู้คนใต้การบังคับ ให้เชื่อฟังและปฏิบัติตามมารยาท ไม่ใช่เรื่องของจิตใจ ขึ้นอยู่กับว่าใครมีอำ นาจ และใครผู้นั้นประกาศกับคนอื่น ๆ ว่าต้องทำอย่างไรถึงจะถูกต้อง สิ่งที่เรียกว่า มารยาท ยังมีเส้นบาง ๆ ของความรู้สึกเป็นตัวกำ หนด อย่างในเรื่อง “สาวเตียงบนกับชายผู้มีมารยาท” ซึ่งมารยาทหาได้เป็นสิ่งที่มี ขอบเขตแน่นอนตายตัวไม่ชัดเจนว่าอะไรคือสิ่งที่ทำ ได้และอะไรคือสิ่งที่ไม่ควรทำ เงื่อนไขอยู่ที่ระดับความสัมพันธ์และความรู้สึกที่แต่ละคนมีต่อกัน บางเรื่องยังตีแผ่ธาตุแท้ของมนุษย์การรู้อะไรถูกอะไรผิดเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การกระทำกลับเป็นอีกเรื่องหนึ่ง การสำ นึกผิด การกล่าวคำขอโทษ ซึ่งเกิด ขึ้นง่าย ๆ ในเรื่องสั้นระดับเด็กและเยาวชน กลับกลายเป็นสิ่งที่ชั่วชีวิตก็ไม่เกิด ในเรื่องสั้นของผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะในเรื่อง “ช่างทาสีจากพระตะบอง” ซึ่งถึงในที่สุด เราจะรู้ว่าใครคือต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดแต่เราก็ไม่เคยได้ยินคำขอโทษจากปาก ของเขา ในทำ นองเดียวกับ “ไม่เป็นไร” ที่ความชิงชังอันไร้เหตุผลไม่ได้ลงเอย ด้วยการสำ นึกผิด แม้เมื่อความตายมาฉุดกระชากชีวิตไป เราก็ยังไม่เห็นความ เปลี่ยนแปลงใด ๆ อีกหนึ่งความจริงที่เจ็บแสบยิ่งกว่านั้นก็คือ สิ่งที่ตัวละคร กระทำต่อกัน หาได้ส่งผลดีร้ายอย่างชัดเจน ความดีความเลวไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับการเป็นโรคเบาหวาน จนฝ่ายหนึ่งต้องตายจากโลกนี้ไปเลยสักนิด


168 ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ เรื่องสั้นอย่าง “ไม่เป็นไร” แทนที่จะให้คุณสมบัติของมารยาท อย่างตรงไปตรงมากลับแสดงให้เห็นคุณธรรมที่สูงกว่า นั่นคือการให้อภัยต่อกัน แม้อีกฝ่ายจะร้ายต่อเราสักแค่ไหน ถ้าเราไม่ถือโทษโกรธเคืองเสียแล้ว สังคม ก็ดำ เนินต่อไปได้อย่างสงบสุข ความไม่ง่ายในโลกของผู้ใหญ่ยังปรากฏแม้กระทั่งเรื่องสั้นซึ่งมีตัวละคร เป็นเด็กสาววัยใสอย่าง “ไอซ์พิงก์” ความผิดใจกันระหว่างเพื่อน แม้ทำ ให้ ความสัมพันธ์ต้องสะดุดแต่สุดท้ายทั้งคู่ก็กลับมาคุยกันดังเดิม โดยไม่จำ เป็นต้อง เอ่ยคำขอโทษ หัวใจสำคัญอยู่ตรงความเป็นเพื่อน ซึ่งมีนํ้าหนักใหญ่หลวงกว่าสิ่งใด เรื่องสั้นในระดับผู้ใหญ่ ทำ ให้เห็นว่า มารยาทไม่ใช่สิ่งที่แยกตัวอยู่เดี่ยวๆ มันยัง เกาะเกี่ยวกับสิ่งอื่น ๆ อย่างแยกไม่ออก ไม่ว่าจะเป็นอำ นาจในสังคม ระดับ ความสัมพันธ์รวมไปถึงคุณธรรมต่างๆซึ่งประคองสังคมไม่ให้ร่วงหล่นแตกสลาย เพียงเพราะขาดพร่องสิ่งหนึ่งสิ่งใดไป ระหว่างบรรทัดเรื่องสั้นมารยาทไทยและมารยาทในสังคม ถึงแม้เรื่องสั้นชุดนี้จะตั้งต้นด้วยเรื่องมารยาท แต่สิ่งที่ปรากฏกลับ มากกว่านั้น เรื่องสั้นทั้งหมดใน ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ เป็นเสมือนจิกซอว์ ที่ประกอบกันเป็นภาพจำลองสังคมไทยซึ่งซับซ้อนกว่าเมื่อร้อยกว่าปีก่อนตอนที่ เจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดีเขียน สมบัติของผู้ดีหลายเท่าตัว รายละเอียดในเรื่องสั้นเหล่านี้สะท้อนถึงสังคมซึ่งผสมแต่ไม่ผสาน การบูลลี่เป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดกับคนทุกระดับ ความแตกต่างกลายเป็นปม อันยากจะแก้ทั้งในเรื่องรูปลักษณ์อย่างแผลเป็นบนใบหน้าใน “แผลเป็นคำ พูด” การเป็นชนกลุ่มน้อยใน “อยู่ในนิทรา” แรงงานต่างด้าวใน “ช่างทาสีแห่ง พระตะบอง” รวมไปถึงครอบครัวที่แตกสลายใน “ชมพอกับพ่อ” หลายเรื่องยังแสดงให้เห็นการอยู่ร่วมกันของผู้คนที่แตกต่าง ไม่ว่า จะเป็นคนต่างศาสนาใน “ผลการประเมินโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา”คนต่างชาติ ใน “ฝรั่งข้างบ้าน” หรือผู้พิการใน “รถ (รส) ชีวิต”


ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ 169 หนึ่งในเรื่องสั้นซึ่งประกาศแนวคิดของคนปัจจุบันได้เป็นอย่างดี คือ “เคารพเขา” ที่ไม่ได้มองมารยาทเป็นแค่เรื่องของมนุษย์กระแสอนุรักษ์ ธรรมชาติที่เข้มข้นนับจากปลายศตวรรษที่๒๐ เป็นที่มาของแนวคิดในการอยู่ร่วม กับธรรมชาติโดยไม่มองว่ามนุษย์เป็นผู้กำ หนดความเป็นไปของสรรพสิ่ง ไม่เพียงจำ นวนคนที่เพิ่มมากขึ้น การติดต่อสื่อสารยังมีช่องทางใหม่ๆ ให้เราได้พูดคุยกันตลอดเวลา เรื่องสั้นอย่าง “จังหวะสำคัญ” ทำ ให้เราเห็นว่า สื่อสมัยใหม่มีอิทธิพลต่อเราเพียงใด มันไม่เพียงนำ เสนอข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ ความคิดเห็น และอารมณ์ความรู้สึก แต่ยังมีบทบาทเป็นผู้ควบคุมการกระทำ ของเรา ผ่านการวิพากษ์วิจารณ์และตัดสินโดยผู้คนทั้งที่เรารู้จักและไม่เคยรู้จัก ขณะที่เรื่องสั้นอย่าง “ไอซ์พิงก์” เปิดให้เราได้เห็นพื้นที่ส่วนตัวใหม่ๆ นอกเหนือจากพื้นที่แบบเดิม นั่นก็คือ พื้นที่ของการสร้างสรรค์ซึ่งผู้สร้างมีสิทธิ ร้อยเปอร์เซ็นต์ที่จะเปิดให้ใครเข้ามาดูหรือปิดกั้นไว้อย่างไรก็ได้เรื่องสั้นเรื่องนี้ ยังทำ ให้เราตระหนักถึงพื้นที่ซึ่งไม่ใช่แค่สถานที่แต่ยังรวมถึงพื้นที่ชีวิตเรื่องราว ในชีวิตแต่ละคน ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวยิ่งกว่าพื้นที่ใด ๆ โฉมหน้าของมารยาท จึงไม่ได้เป็นแค่เรื่องของข้อปฏิบัติและ การแสดงออกความหมายลึกๆของสิ่งนี้อยู่ที่การเคารพผู้อื่น เคารพความเป็น ส่วนตัวเคารพความแตกต่างและเคารพในการอยู่ร่วมกัน ไม่ว่าระหว่างคนกับคน หรือระหว่างคนกับสิ่งอื่นใดก็ตาม ทั้งหมดรวมกันเป็นโลกปัจจุบันซึ่งซับซ้อนขึ้นในทุกมิติและด้วยความ เปลี่ยนแปลงนี้เอง จึงเป็นไปไม่ได้ที่เรื่องของมารยาทจะดำ รงอยู่ในสถานะเดิม ทั้งในแง่แนวคิด คุณสมบัติและวิถีปฏิบัติซึ่งถ้าใครอยากรู้ว่าเป็นอย่างไร เรื่องสั้นชุดนี้นับเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจยิ่ง ผมมั่นใจว่า ถ้าเราถอดบทเรียนจากเรื่องสั้นทั้งหมดใน ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะออกมาอย่างละเอียดทุกแง่ทุกมุม เราจะเข้าใจที่อยู่ที่ยืนของมารยาท ได้มากขึ้นว่า ทุกวันนี้ผู้คนมองมารยาทแบบไหน และมันเคลื่อนไปกับสังคม ปัจจุบันอย่างไร


170 ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ มารยาทในศตวรรษที่ ๒๑ หากย้อนกลับไปอ่าน สมบัติของผู้ดีสิ่งที่เราจะได้รับคือ คำ สอน กว่าร้อยข้อ ซึ่งกำ หนดทุกการกระทำของเราให้เป็นผู้ดีมีมารยาทอันงดงาม แน่นอน คำ สอนทั้งหมดเป็นพื้นฐานที่ยังใช้ได้แต่ด้วยความเปลี่ยนแปลง ของยุคสมัย คงยากที่ใครจะทำ ทั้งหมดได้โดยไม่รู้สึกอึดอัด เพราะดูเหมือนว่า สมบัติของผู้ดี มุ่งสร้างคนให้เป็นมนุษย์สมบูรณ์แบบ หาใช่ปุถุชนซึ่งย่อมมี บางอย่างพร่องไปบ้างเป็นธรรมดา เมื่อพลิกอ่านเรื่องสั้นทั้งหมดใน ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ ผมพบว่า สังคมไม่ได้ปรารถนามนุษย์สมบูรณ์แบบอย่างนั้นอีกแล้ว เราแค่ต้องการคน ซึ่งสามารถอยู่ร่วมกันได้อาจไม่เป๊ะทุกกระเบียดนิ้ว แต่ก็ไม่ถึงกับหาดีไม่ได้เลย มารยาทในทุกวันนี้จึงได้ปรับลดแบบแผนอันเคร่งครัดลง เหลือไว้เพียงสิ่งที่เป็น แก่นแท้ของมันจริง ๆ แก่นแท้ที่ว่าก็คือการคิดถึงผู้อื่นก่อนตัวเองเสมอเพราะเมื่อคิดถึงผู้อื่น เราจะไม่พูดอะไรให้ใครระคายหู ไม่ทำอะไรให้ใครขัดเคืองใจ และไม่คิดอะไร ให้ใจตัวเองต้องร้อนรุ่ม หรือคันจนต้องหาทางเกาให้หาย นี่คือพลวัตของมารยาท ซึ่งไม่เคยหยุดนิ่งเหมือนที่หลายคนคิด มันยัง ขับเคลื่อนไปพร้อมความเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัย การปรับเปลี่ยนอันเป็นธรรมชาตินี่เอง ที่ทำ ให้มารยาทยังคงอยู่ ยังมี ความหมาย และยังมีคุณค่า ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปสักแค่ไหนก็ตาม


ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการประกวดเรื่องสั้น และสังเขปประวัตินักเขียน


172 ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ ศึกษาโครงสร้างของเรื่องสั้นให้แม่นยำก่อนลงมือ เขียน อะไรที่ต้องการบอกผู้อ่าน รู้จักตัวละคร ทุกตัวว่าเขาคิดอะไร ปรารถนาอะไรอ่านเรื่องสั้น ดีๆ สมํ่าเสมอและฝึกเขียน ลอกเลียนเขามามัน น่าอับอาย ไม่ซื่อสัตย์ต่อตัวเอง นายจำลอง ฝั่งชลจิตร ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำ ปีพุทธศักราช ๒๕๖๑ เรื่องสั้นเป็นเรื่องเล่าคุณจะเล่าอย่างไรให้ได้เรื่อง และได้รส รองศาสตราจารย์ธัญญา สังขพันธานนท์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำ ปีพุทธศักราช ๒๕๕๙ อ่านเขียน เรียนรู้ อยู่ร่วมสังคมอย่างสันติวิธี นายจตุพล บุญพรัด บรรณาธิการอิสระ


ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ 173 มารยาทที่ดีมาจากจิตใจอันดีงาม เมื่อจิตใจดีงาม เราจะคิดถึงผู้อื่น เมื่อคิดถึงผู้อื่น เราจะไม่ แสดงออกอย่างไร้มารยาท ไม่ว่ากับใคร ที่ไหน ในสถานการณ์ใดก็ตาม นายจรูญพร ปรปักษ์ประลัย นักเขียน นักวิจารณ์วรรณกรรม และกรรมการตัดสินรางวัลด้านวรรณกรรม เป็นใครก็ต้องมีมารยาท นักเขียนก็ต้องมีมารยาท งานเขียนคืองานสร้างสรรค์ คำ ว่าสร้างสรรค์ มีความหมายชัดเจนอยู่แล้ว คงไม่ต้องอธิบาย เรื่องมารยาทข้อแรกของนักเขียน นายกิตติศักดิ์ มีสมสืบ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำ ปีพุทธศักราช ๒๕๕๙ รางวัลเสมือนมือที่แตะไหล่ ให้คุณก้าวต่อไป เพื่อรับเสียงปรบมือ นายพิบูลศักดิ์ ลครพล ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำ ปีพุทธศักราช ๒๕๖๐


174 ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ มีมารยาท มีสังคม มีวัฒนธรรม นางสรตี ปรีชาปัญญากุล ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ประจำ ภาควิชาภาษาไทย และภาษาตะวันออก คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปฏิบัติต่อผู้อื่นเช่นใด ย่อมได้การปฏิบัติเช่นนั้นตอบแทน นางสาวทัศชล เทพกำ ปนาท นักเขียนอิสระ และที่ปรึกษากรมส่งเสริมวัฒนธรรม


ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ 175 รางวัลระดับมัธยมศึกษาตอนต้น รางวัลชนะเลิศ เรื่อง แผลเป็นคำ พูด เติมศิริมีพร อายุ๑๕ ปี นักเรียนจากโรงเรียนสวายวิทยาคาร จังหวัดสุรินทร์ นี่คือโอกาสแรกที่ได้เขียนผลงานที่มีชื่อว่า แผลเป็นคำ พูด ซึ่งได้รับ แรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์ตรงในวัยเด็กของฉัน คาดไม่ถึงเลยว่า สิ่งที่ทำ ให้ฉันเกิดความทุกข์มันกำลังค่อยๆเติมเต็มความสุขให้กับฉันอยู่ เพราะ เรื่องราวในวันวานอาจเป็นแค่เพียงแบบทดสอบ ดังนั้นฉันจะใช้นามปากกาว่า เติมเต็ม เพียงเพราะหวังว่าผลงานของฉันจะเติมเต็มความสุขให้แก่ผู้อ่านด้วย เช่นกัน


176 ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ เรื่อง ชมพอกับพ่อ วชิรา ประลังการ ชื่อเล่น ชมพอ อายุ ๑๕ ปี ปัจจุบันศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓/๑ โรงเรียน น่านนคร เรื่องสั้น “ชมพอกับพ่อ” มาจากชีวิตจริง ซึ่งเห็น คุณพ่อผู้เป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิต คุณพ่อเลี้ยงดู ฉันมาตั้งแต่เล็ก ๆ เนื่องจากหย่าร้างกับคุณแม่ คุณพ่อสอนฉันในเรื่องการเรียน ความมีระเบียบวินัย คุณธรรมจริยธรรม มารยาท และการมีทัศนคติที่ดีจึงทำ ให้ฉันเป็นคนดีได้จนถึง ทุกวันนี้ถึงแม้จะไม่ได้มีคุณแม่ ฉันก็ไม่รู้สึกเสียใจหรือน้อยใจ เพราะคุณพ่อ เติมเต็มสิ่งที่ขาดไปได้เป็นอย่างดีฉันขอสัญญาว่าจะตั้งใจปฏิบัติตามคำสั่งสอน ของคุณพ่อโดยการตั้งใจเรียน และเป็นคนดีของสังคม รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๓ เรื่อง อยู่ในนิทรา วานุนามปากกา เด็กชายขอบ และสาววัยรุ่น ชาวกะเหรี่ยง กำ ลังศึกษาอยู่ชั้น ม.๓ โรงเรียน อุดมสิทธิศึกษา จังหวัดกาญจนบุรี เรื่องสั้น “อยู่ในนิทรา” มาจากการที่ นับอายุ ตัวเองเล่น ๆ ก็จวนจะเข้า ๑๐ ขวบแล้ว เด็กหญิง เชื้อสายกะเหรี่ยง เพิ่งมีโอกาสเข้าเรียน ป.๑ โรงเรียนลาซาล สังขละบุรีโดยที่ยังมิรู้ภาษาไทย สักตัว แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา มันเป็นความท้าทายในชีวิต ที่ฉันจะต้องดิ้นรน ฝึกอ่านเขียนให้ได้ด้วยความพยายามจากการเขียนเรียงความส่งครูครูท่านเห็น อะไรบางอย่างจึงส่งเข้าแข่งขันแต่งกาพย์และมาต่อยอดฝึกฝนเขียนเรื่องสั้น ดิฉันสอดแทรกวัฒนธรรม “กะเหรี่ยง” ของตนเอง ไว้ในผลงาน “อยู่ในนิทรา” ให้ผู้อ่านได้สัมผัสวิถีเด็กไร้สัญชาติที่ยังสามารถคงไว้ซึ่ง “มารยาทไทย และ มารยาทในสังคม” ได้อย่างเต็มเปี่ยม


ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ 177 รางวัลระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) รางวัลชนะเลิศ เรื่อง เคารพเขา ญดาวรรณ พืชพิสุทธิ์ ชื่อเล่น หนูดีศึกษาใน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนสตรีวัดอัปสรสวรรค์ แผนการเรียนรู้ศิลป์ภาษาญี่ปุ่น-อังกฤษ เวลาว่างชอบอยู่กับการอ่าน ทำ ให้คุณครูเห็นแววและพาเข้าร่วม การแข่งขันวรรณกรรมพิจารณ์ในการแข่งขันศิลปหัตถกรรม ทำ ให้รู้จักงานเขียน ลึกซึ้งมากขึ้น จนได้มีโอกาสส่งเรื่องสั้น เรื่อง “เคารพเขา” เข้าประกวด ด้วยแรงบันดาลใจว่า “พวกเราที่มีสองขาและสองมือ ควรได้รับความเคารพ ซึ่งกันและกัน แต่เราลืมให้ความเคารพพวกเขาอันสูงใหญ่ที่ให้ร่มเงาและอาวุโส กว่าเรามากไปได้อย่างไร”


178 ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ เรื่อง หลานปู่ พงศภัค พวงจันทร์อายุ ๑๗ ปีกำลังศึกษาอยู่ ในระดับชั้น ม.๖ โรงเรียนอรรถมิตร กรุงเทพมหานคร ชื่นชอบการเขียนตั้งแต่ชั้น ม.ต้น มีผลงานเรื่องสั้น สยองขวัญแฟนตาซีในเว็บไซต์อ่านนิยายต่าง ๆ ภายใต้ นามปากกา “พงศภัค” และเคยได้รับรางวัลดีเด่น โครงการ Young Thai Artist Award 2020 สาขา วรรณกรรม ยามว่างชอบจินตนาการถึงเรื่องราวเพ้อฝัน อันเป็นวัตถุดิบชั้นดีสำ หรับ งานอดิเรก เรื่องสั้น “หลานปู่” เองก็เกิดขึ้นขณะกำลังวิ่งออกกำลังกาย และ เห็นหลานปู่คู่หนึ่งเดินเคียงข้างพร้อมคุยกันอย่างสนิทสนม ประกอบกับ ความอยากเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับ “ความจริง”กับ “ความเพ้อฝัน”เป็นทุนเดิม รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ เรื่อง นางสาวหยาดนํ้าตา สุรัตนา ใจงาม ปัจจุบันอายุ ๑๘ ปีเจ้าของ ผลงานเรื่องสั้น “นางสาวหยาดนํ้าตา” ถือได้ว่าเป็น เรื่องสั้นเรื่องแรกที่เขียนขึ้นมาเนื่องจากอยากถ่ายทอด ความดีงามของมารยาทไทย ที่สอดแทรกอยู่ใน ชีวิตประจำ วันให้ดูเป็นสิ่งที่จับต้องได้มากขึ้น ซึ่งทำ ให้ได้รับรางวัลที่ยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนรางวัลอันทรงคุณค่า จึงตั้งใจว่าจะมุ่งมั่นพัฒนาฝีมือ มอบงานเขียนที่ดีมอบความสุขให้แก่ผู้อ่านสร้าง ประโยชน์และจรรโลงสังคมให้ได้มากที่สุด


ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ 179 รางวัลระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และระดับอุดมศึกษา รางวัลชนะเลิศ เรื่อง ประทับใจแรกพบ ทักษิณ ทุนเกิด มีภูมิลำ เนาอยู่ที่จังหวัดสตูล ปัจจุบันเป็นนิสิตชั้นปีที่ ๔ สาขาวิชาภาษาไทย คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ผลงาน ที่ผ่านมาได้รับรางวัลเหรียญทองประเภทเรื่องสั้น โครงการ ลายลักษณ์วรรณศิลป์ครั้งที่ ๕ ประจำ ปี๒๕๖๒ “ประทับใจแรกพบ” เป็นเรื่องสั้นที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก แมว คาเฟ่ และคนหนุ่มสาวในปัจจุบัน ที่ถูกหล่อหลอมด้วยสังคมสมัยใหม่ บอกเล่าเรื่องราวผ่านมุมมองของเด็กหนุ่มที่ต้องมีหน้าที่รับผิดชอบในตัวเอง การประกอบสร้างตัวตน การวางตัว การปรับตัว รวมไปถึงมารยาทต่าง ๆ ที่คนรุ่นใหม่หลงลืมไปในสภาพสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยมีความเรียบง่าย อบอุ่นสบายจากฉากและบรรยากาศ รวมไปถึงเหตุการณ์ ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในเรื่องซึ่งจะทำ ให้ผู้อ่านเกิดความเพลิดเพลินและสะท้อน คิดให้เห็นแง่มุมบางอย่าง…


180 ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ เรื่อง จังหวะสำ คัญ พงศ์ระพีจิตตรง บ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต สำ เร็จการศึกษาจากโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัยแผนการเรียน ศิลป์-คำ นวณ แล้วจึงเข้าศึกษาต่อในสาขานิเทศศาสตร์ เอกภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ก่อนหน้านี้ มีผลงานการเขียนเรื่องสั้นที่ผ่านการคัดสรรให้เผยแพร่ ในโครงการ “โควิดเปลี่ยนเรา เรื่องเล่าเปลี่ยนโลก” สำ หรับ “จังหวะสำคัญ”เกิดจากการพยายามตามหาความหมายของ คำ ว่า “มารยาท” และพบว่ามันมีความหลากหลาย และบางอย่างนั้นขึ้นอยู่ กับมุมมอง จึงทำ ให้ได้ข้อสรุปว่า อย่างน้อยแค่มีพื้นฐานของการไม่ทำ ให้ใคร เดือดร้อนก็พอแล้ว ซึ่งผลที่ได้รับก็เป็นกำลังใจสำ หรับการพัฒนาฝีมือต่อไป รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ เรื่อง ปาก ชนากานต์ โกมาสังข์ ปัจจุบันอายุ ๒๑ ปีกำ ลัง ศึกษาระดับปริญญาตรีชั้นปี๔ สาขาภาษาอังกฤษ เพื่อการสื่อสารสากล คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัย ราชมงคลสุวรรณภูมิ เรื่อง“ปาก”ดิฉันเขียนขึ้นมาตรงกับชีวิตของหลายๆคน อย่างแน่นอน ดิฉันเลยอยากที่จะเขียนเรื่องนี้เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้หลายคนได้คิดได้วิเคราะห์ และแก้ไขในสิ่งที่ตัวเองได้กระทำ ผิดพลาดลงไป สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ มารยาท ไม่ว่าจะเป็นกริยาหรือท่าทาง และที่สำ คัญที่สุดคือการมีมารยาท ทางสังคม เพราะการอยู่รวมกันในสังคม ซึ่งมาจากคนละทิศคนละทางเราควรที่จะมี ความเคารพซึ่งกันและกัน ไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของใครถ้าหากทุกคนในสังคม ร่วมกันปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยการมีมารยาท เพียงเท่านี้สังคมก็จะน่าอยู่มากขึ้น


ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ 181 รางวัล ระดับประชาชนทั่วไป รางวัลชนะเลิศ เรื่อง ช่างทาสีจากพระตะบอง รมณ กมลนาวิน มีเรื่องสั้นผ่านตีพิมพ์ ในนิตยสารและผลงานรวมเล่มหลายเล่ม ได้แก่ รวมเรื่องสั้น “พบกันในวันเงียบเหงา” สำ นักพิมพ์สำ เภา รวมเรื่องสั้น “หญิงเร่ร่อน กับหนึ่งข้อความที่ซ่อนอยู่ในมหาสมุทร” สำ นักพิมพ์คีรีคำ บุ๊กส์และหนังสือนิยาย “หากข้ามคืนนี้หัวใจไม่แหลกยับเยินเสียก่อน” แรงบันดาลใจในการเขียนเรื่อง “ช่างทาสีจากพระตะบอง” มาจาก ที่เคยพบเห็นคนจำ นวนไม่น้อย มีทัศนคติต่อแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน ค่อนข้างไปในทางลบ และถึงแม้จะอยู่ในความสัมพันธ์ที่ดีเช่นเพื่อนร่วมงาน ก็ยังมีให้เห็นถึงการเลือกปฏิบัติทั้งคำ พูดและการกระทำ ในทางกดขี่จึงนำจุดนี้ มาเขียนในหัวข้อมารยาททางสังคม เพื่อเน้นยํ้าให้เห็นถึงความเป็นพลเมือง ชั้นสองของพวกเขา


182 ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ เรื่อง ไอซ์พิงก์ ผมเป็นคนกรุงเทพฯ เกิดในยุคที่หาความบันเทิง ได้จากการอ่านเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะนิตยสาร ด้านวิทยาศาสตร์ทำ ให้ได้สัมผัสเรื่องสั้นไซไฟมาตั้งแต่เด็ก วิทยาศาสตร์และนิยายวิทยาศาสตร์เป็นส่วนหนึ่งที่พาผม สู่เส้นทางสายวิศวกรรม แต่กลับเริ่มงานในตำ แหน่ง ผู้ช่วยบรรณาธิการนิตยสาร ปัจจุบันเกษียณก่อนกำ หนด มีผลงานเขียนที่ได้รับรางวัล อาทิรางวัลชนะเลิศ รางวัลเปลื้อง วรรณศรีครั้งที่ ๖ รางวัลรองชนะเลิศ อันดับสองจากการประกวดเรื่องสั้นหัวข้อ “เศษซาก” โดยชมรมวรรณศิลป์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำ หรับเรื่อง ไอซ์พิงก์หยิบประสบการณ์จริงจากเรื่องเล่าในเว็บบอร์ด มาขยายต่อเป็นเรื่องสั้น หลายครั้งเราหวงพื้นที่ส่วนตัวโดยลืมว่าเคยก้าวล่วงเขต คนอื่นโดยไม่เอ่ยขอบ้างหรือไม่ เช่นเดียวกับตัวละครหลักในเรื่องนี้ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ เรื่อง ไม่เป็นไร พิณพิพัฒน ศรีทวี เกิดที่จังหวัดพัทลุง จบการศึกษาศิลปศาสตรบัณฑิตเกียรตินิยมอันดับ ๑ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต มีผลงานเรื่องสั้น บทกวีบทความ ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ และ ได้รับรางวัลจากสถาบันต่างๆ พอเป็นกำ ลังหัวใจ เช่น รางวัลสุภาว์ เทวกุลฯ รางวัลอินดี้อวอร์ด รางวัลวรรณศิลป์อุชเชนีฯลฯ ผลงานล่าสุดได้รับ ร าง วัลชมเชยจ ากก า รป ร ะก วด ว ร รณก ร รม พานแว่นฟ้าฯ ประเภทเรื่องสั้น ประจำ ปี๒๕๖๓ เรื่องสั้น “ไม่เป็นไร” ได้รับแรงบันดาลใจจากการเฝ้าสังเกต ความสัมพันธ์และความขัดแย้ง ในระดับสถาบันครอบครัว องค์กร และชุมชน พบว่า การรักษากฎ กติกา มารยาท เพื่อให้อยู่ร่วมกันต่อไปได้ตัวแปรตั้งต้น ส่วนหนึ่งมาจากถ้อยความง่าย ๆ เช่น คำว่า “ไม่เป็นไร”


ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ 183 ประกาศกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เรื่อง ผลการประกวดการเขียนเรื่องสั้น หัวข้อ “มารยาทไทย และมารยาทในสังคม” (รอบตัดสิน) ตามที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ประกาศผล การประกวดการเขียนเรื่องสั้น หัวข้อ “มารยาทไทย และมารยาทในสังคม” (รอบคัดเลือก) เมื่อวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๓ นั้น บัดนี้ผู้ทรงคุณวุฒิและคณะกรรมการประกวดการเขียนเรื่องสั้น “มารยาทไทย และมารยาทในสังคม” ดำ เนินการตัดสินผลงานเรื่องสั้น เรียบร้อยแล้ว กรมส่งเสริมวัฒนธรรม จึงขอประกาศผลการตัดสิน ดังนี้ ๑. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (มัธยมศึกษาปีที่ ๑ - ๓ หรือเทียบเท่า) รางวัล ชื่อผลงาน ผู้แต่ง รางวัลชนะเลิศ แผลเป็นคำ พูด เด็กหญิงเติมศิริมีพร รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ ชมพอกับพ่อ เด็กหญิงวชิรา ประลังการ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ อยู่ในนิทรา นางสาววานุ รางวัลชมเชย ขนมสอดไส้ของคุณยาย เด็กหญิงนภจิรา อยู่ศรีเจริญ ความทรงจำสีเทา นางสาวแต๋น ดาวบนดิน เด็กหญิงเปรมากร เถียรถาวร นิทรากัลปพฤกษ์ เด็กหญิงจุฑาภัทร อินต๊ะสงค์ ปั้นหยา นางสาวเกียรติญารัตน์เพชรรักษ์


184 ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ รางวัล ชื่อผลงาน ผู้แต่ง ผมในวันนั้นกับผม ในวันนี้ นายธีร์ธวัช รัตโนทัย ภูเขาและภูนํ้า เด็กหญิงศิวรัตน์บุญเป็ง เมื่อได้สัมผัส เด็กชายศวัส มีอภิวัฒน์ วัดและความหวังใหม่ เด็กชายนพรุจ ศาสตร์แย้ม สนุกปากจากเรื่องคนอื่น นางสาวนาราภัทร หมีนสัน ๒. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (มัธยมศึกษาปีที่ ๔ - ๖) หรือ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) รางวัล ชื่อผลงาน ผู้แต่ง รางวัลชนะเลิศ เคารพเขา นางสาวญดาวรรณ พืชพิสุทธิ์ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ หลานปู่ นายพงศภัค พวงจันทร์ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ นางสาวหยาดนํ้าตา นางสาวสุรัตนา ใจงาม รางวัลชมเชย คำว่ามารยาท นายวัชรพงษ์ศรีวิชัยนวน คืนประหลาดของรตี นางสาวพิรฎา อุตตโมทย์ แค่กาบกล้วย นายพงศธร แสงทอง ฉันชื่อปูนา นางสาวภวิตรา พัฒนกิจจารักษ์ ดวงมณีพัชระ นางสาวอรญา เรืองจุติโพธิ์พาน ตัวตนที่เปลี่ยนไป นางสาวปณิดา ฮกเหล่า ปีใหม่ที่แล้ว นางสาวนันท์นภัส ธนกัญญา ผ้าสีขาวที่เปื้อน ความสวยงาม นางสาวพิมพ์ตมิสา แผ่นสัมฤทธิ์ ยายสายบัว นายธณชล วิมลสัจจารักษ์ หาย นางสาวปรียากรณ์บางโม


ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ 185 ๓. ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรือระดับอุดมศึกษา รางวัล ชื่อผลงาน ผู้แต่ง รางวัลชนะเลิศ ประทับใจแรกพบ นายทักษิณ ทุนเกิด รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ จังหวะสำคัญ นายพงศ์ระพีจิตตรง รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ ปาก นางสาวชนากานต์โกมาสังข์ รางวัลชมเชย กค ๔๕๑๕ นางสาวสุกัญญา ศรีลาศักดิ์ บันทึกถึงลัยลา นายวะยุห์คงอ่อน มารยาทไทยของฉัน นางสาวชลธิชา อินมาเมือง เมื่อถึงยาม… กล้วยไม้งามสะพรั่ง นายทนงเกียรติไขทา รถญี่ปุ่น นางสาวดวงใจ ใจสูง รถ (รส) ชีวิต นางสาววรางคณาสุพรรณชนะบุรี ร้านขนมของคนใจสลาย นางสาวสุทธิลักษณ์เสียงวัฒนะ วันศุกร์สิบนาฬิกา บนรถโดยสารสายสอง นายธีรภัทร์คำตุ้ย สงสัยในมารยาท นางสาวกนกวรรณ เชียงตันติ์ อยู่กับยาย นายราม แสงมณี ๔. ระดับประชาชนทั่วไป รางวัล ชื่อผลงาน ผู้แต่ง รางวัลชนะเลิศ ช่างทาสีจากพระตะบอง นางสาวรมณ กมลนาวิน รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ ไอซ์พิงก์ นายไพรัตน์ยิ้มวิลัย รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ ไม่เป็นไร นายพิณพิพัฒน ศรีทวี รางวัลชมเชย กุลสตรีศรีไทย นางณัฐฤทัย พลอยหิรัญ คิดถึงย่า นางสาวเสาวรีเอี่ยมละออ คุณกำลังคิดอะไรอยู่ นางสาววิชุดา ราชพิทักษ์


186 ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ รางวัล ชื่อผลงาน ผู้แต่ง ตรอกฮาเบอร์ นายวิศิษฐ์ปรียานนท์ โต๊ะจีน นายกิติศักดิ์โลกนิยม ป้ายสี นายกิติศักดิ์ศรีแก้วบวร ผลการประเมินโรงเรียน เอกชนสอนศาสนา นายสันติพล ยวงใย ฝรั่งข้างบ้าน นายคารม ธรรมชยาธร เราต่างบกพร่อง นางสาวขนิษฐา วชิราพรพฤฒ สาวเตียงบนกับชายผู้มี มารยาท นายถนอม ขุนเพ็ชร์ ประกาศ ณ วันที่ ๑๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๓


ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ 187 คำสั่งกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ที่ ๖๙๑/๒๕๖๒ เรื่อง แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ และคณะกรรมการประกวดการเขียนเรื่องสั้น “มารยาทไทยและมารยาทในสังคม” ด้วยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กำ หนดดำ เนินกิจกรรมประกวดการเขียน เรื่องสั้น “มารยาทไทยและมารยาทในสังคม” ภายใต้โครงการส่งเสริม และเผยแพร่ค่านิยมและความเป็นไทย ประจำ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน และประชาชน เห็นคุณค่า และความสำคัญของมารยาทไทยและมารยาทในสังคม ตลอดจนสามารถนำ องค์ความรู้ดังกล่าว มาผสานกับทัศนคติประสบการณ์และจินตนาการถ่ายทอด ผลงานออกมาในรูปแบบบันเทิงคดีประเภท “เรื่องสั้น” ที่มีความเหมาะสมและ น่าสนใจ ทั้งนี้ เพื่อให้การดำ เนินโครงการดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และบรรลุผลสัมฤทธิ์อย่างมีประสิทธิภาพ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม จึงแต่งตั้ง ผู้ทรงคุณวุฒิและคณะกรรมการประกวดการเขียนเรื่องสั้น “มารยาทไทยและ มารยาทในสังคม” โดยมีองค์ประกอบและภารกิจหน้าที่ดังนี้ ๑. องค์ประกอบ ๑.๑ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ที่ปรึกษา ๑.๒ นายจำลอง ฝั่งชลจิตร ประธานคณะกรรมการ และผู้ทรงคุณวุฒิ ๑.๓ นายธัญญา สังขพันธานนท์ คณะกรรมการ และผู้ทรงคุณวุฒิ ๑.๔ นายกิตติศักดิ์มีสมสืบ คณะกรรมการ และผู้ทรงคุณวุฒิ


188 ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ ๑.๕ นางสาวทัศชล เทพกำ ปนาท คณะกรรมการ และผู้ทรงคุณวุฒิ ๑.๖ รองอธิบดีกรมส่งเสริม คณะกรรมการ วัฒนธรรมที่ได้รับมอบหมาย ๑.๗ ผู้อำ นวยการกลุ่มค่านิยมและ เลขานุการ ความเป็นไทย ๑.๘ นางสาววิภา พงษ์พรต ผู้ช่วยเลขานุการ ๑.๙ นายวรพัทธ์ภควงศ์ ผู้ช่วยเลขานุการ ๑.๑๐ นายสิทธิเดช ภาคสกุณี ผู้ช่วยเลขานุการ ๒. ภารกิจหน้าที่ ๒.๑ ให้คำ ปรึกษาและข้อเสนอแนะ ในการดำ เนินกิจกรรม ประกวดการเขียนเรื่องสั้น “มารยาทไทยและมารยาทในสังคม” ๒.๒ ร่วมกำ หนดรายละเอียด คุณสมบัติของผู้เข้าประกวด คุณลักษณะของผลงาน ตลอดจนหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประกวดฯ เพื่อให้การดำ เนินกิจกรรมเป็นไปด้วยความถูกต้อง เรียบร้อย และโปร่งใส ๒.๓ ประชาสัมพันธ์กิจกรรมประกวดการเขียนเรื่องสั้น “มารยาทไทยและมารยาทในสังคม” ผ่านสื่อช่องทางต่าง ๆ ๒.๔ พิจารณาคัดเลือกและตัดสินผลงานของผู้เข้าประกวด ในแต่ละประเภทตามหลักเกณฑ์ที่กำ หนดไว้ ๒.๕ ปฏิบัติภารกิจอื่น ๆ ตามที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ขอความอนุเคราะห์ ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๒


ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ 189 คำสั่งกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ที่ ๘๓๐/๒๕๖๒ เรื่อง แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ และคณะกรรมการประกวดการเขียนเรื่องสั้น “มารยาทไทยและมารยาทในสังคม” (เพิ่มเติม) อนุสนธิคำ สั่งกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ที่ ๖๙๑/๒๕๖๒ ลงวันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๒ ได้แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิและคณะกรรมการประกวดการ เขียนเรื่องสั้น “มารยาทไทยและมารยาทในสังคม” โดยมีอำ นาจหน้าที่ให้ คำ ปรึกษาและข้อเสนอแนะ ในการดำ เนินกิจกรรมประกวดการเขียนเรื่องสั้น “มารยาทไทยและมารยาทในสังคม” ร่วมกำ หนดรายละเอียด คุณสมบัติของ ผู้เข้าประกวด คุณลักษณะของผลงาน ตลอดจนหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง กับการประกวดฯเพื่อให้การดำ เนินกิจกรรมเป็นไปด้วยความถูกต้อง เรียบร้อย และโปร่งใส ประชาสัมพันธ์กิจกรรมประกวดการเขียนเรื่องสั้น “มารยาทไทย และมารยาทในสังคม”ผ่านสื่อช่องทางต่างๆและพิจารณาคัดเลือกและตัดสิน ผลงานของผู้เข้าประกวดในแต่ละประเภทตามหลักเกณฑ์ที่กำ หนดไว้ ในการนี้เพื่อให้การดำ เนินงานบรรลุวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเห็นควรแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิและคณะกรรมการประกวดการเขียนเรื่องสั้น “มารยาทไทยและมารยาทในสังคม” (เพิ่มเติม) จำ นวน ๕ ราย ดังนี้ ๑. นายพิบูลศักดิ์ลครพล คณะกรรมการ และผู้ทรงคุณวุฒิ ๒. นายจตุพล บุญพรัด คณะกรรมการ และผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. นายจรูญพร ปรปักษ์ประลัย คณะกรรมการ และผู้ทรงคุณวุฒิ


190 ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ ๔. นางสรตีปรีชาปัญญากุล และคณะกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. นางสาวธศร ยิ้มสงวน ผู้ช่วยเลขานุการ นอกนั้น ให้เป็นไปตามคำสั่งเดิมทุกประการ ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๒


ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ 191 คำสั่งกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ที่ ๖๙๑ /๒๕๖๓ เรื่อง แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิและคณะกรรมการออกแบบและจัดทำ หนังสือ “ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ” ตามที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ดำ เนินกิจกรรมประกวด การเขียนเรื่องสั้น “มารยาทไทยและมารยาทในสังคม” ภายใต้โครงการส่งเสริม และเผยแพร่ค่านิยมและความเป็นไทย ประจำ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน และประชาชน เห็นคุณค่า และความสำ คัญของมารยาทไทยและมารยาทในสังคม ตลอดจนสามารถ นำองค์ความรู้ดังกล่าว มาผสานกับทัศนคติประสบการณ์และจินตนาการ ถ่ายทอดผลงานออกมาในรูปแบบบันเทิงคดีประเภท “เรื่องสั้น” ที่มี ความเหมาะสมและน่าสนใจ ซึ่งดำ เนินการเสร็จสิ้นแล้ว นั้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเผยแพร่ผลงานเรื่องสั้นที่ชนะการประกวดทั้ง ๕๒ เรื่อง ให้เป็นที่ประจักษ์แพร่หลาย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม จึงเห็นควรแต่ง ตั้งผู้ทรงคุณวุฒิและคณะกรรมการออกแบบและจัดทำ หนังสือ “ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ” โดยมีองค์ประกอบและภารกิจหน้าที่ดังนี้ ๑. องค์ประกอบ ๑.๑ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ที่ปรึกษา ๑.๒ นายจำลอง ฝั่งชลจิตร ผู้ทรงคุณวุฒิและประธาน คณะกรรมการ ๑.๓ รองศาสตราจารย์ธัญญา ผู้ทรงคุณวุฒิ สังขพันธานนท์ และคณะกรรมการ


192 ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ ๑.๔ นายกิตติศักดิ์ มีสมสืบ ผู้ทรงคุณวุฒิ และคณะกรรมการ ๑.๕ นายพิบูลศักดิ์ ลครพล ผู้ทรงคุณวุฒิ และคณะกรรมการ ๑.๖ ผู้ช่วยศาสตรจารย์สรตี ผู้ทรงคุณวุฒิ ปรีชาปัญญากุล และคณะกรรมการ ๑.๗ นายจตุพล บุญพรัด ผู้ทรงคุณวุฒิ และคณะกรรมการ ๑.๘ นายจรูญพร ปรปักษ์ประลัย ผู้ทรงคุณวุฒิ และคณะกรรมการ ๑.๙ นางสาวทัศชล เทพกำ ปนาท ผู้ทรงคุณวุฒิ และคณะกรรมการ ๑.๑๐ รองอธิบดีกรมส่งเสริม คณะกรรมการ วัฒนธรรมที่ได้รับมอบหมาย ๑.๑๑ ผู้อำ นวยการกลุ่มค่านิยม เลขานุการ และความเป็นไทย ๑.๑๒ นางสาววิภา พงษ์พรต ผู้ช่วยเลขานุการ ๑.๑๓ นายวรพัทธ์ ภควงศ์ ผู้ช่วยเลขานุการ ๑.๑๔ นางสาวกฤติญา แก้วพิทักษ์ ผู้ช่วยเลขานุการ ๑.๑๕ นายสิทธิเดช ภาคสกุณี ผู้ช่วยเลขานุการ ๒. ภารกิจหน้าที่ ๒.๑ รวบรวมและเรียบเรียงเนื้อหาเรื่องสั้น “มารยาทไทย และมารยาทในสังคม”สำ หรับจัดทำต้นฉบับหนังสือ“ขอโทษครับ ขอบคุณค่ะ” ๒.๒ จัดทำคำ นิยม บทวิเคราะห์ภาพประกอบ องค์ประกอบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำ หนังสือ และจัดองค์ประกอบศิลป์ของหนังสือให้มี ความเหมาะสม


Click to View FlipBook Version