The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

4 หลักสูตร วิชา วิทยาศาสตร์ โรงเรียนอนุบาลพระสมุทรเจดีย์ 2561

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Thaninrat Kritchanthat Sirivisalsuwan, 2020-02-14 01:21:56

4 หลักสูตร วิชา วิทยาศาสตร์ โรงเรียนอนุบาลพระสมุทรเจดีย์ 2561

4 หลักสูตร วิชา วิทยาศาสตร์ โรงเรียนอนุบาลพระสมุทรเจดีย์ 2561

มาตรฐาน ว 2.2 เขา้ ใจธรรมชาติของแรงในชวี ติ ประจาวนั ผลของแรงทก่ี ระทาต่อวตั ถุ ลักษณะ
การเคลอ่ื นท่ีแบบตา่ งๆ ของวัตถุ รวมท้ังนาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์

ตัวชว้ี ดั สาระการเรยี นรู้
1. ระบผุ ลของแรงโน้มถ่วงท่มี ีต่อวัตถุ
จากหลักฐานเชิงประจักษ์ • แรงโนม้ ถ่วงของโลกเปน็ แรงดึงดูดทโี่ ลกกระทาต่อ
วัตถุ มที ศิ ทางเขา้ สู่ศนู ย์กลางโลก และเป็นแรงไมส่ ัมผัส
2. ใชเ้ ครอื่ งชัง่ สปริงในการวดั น้าหนัก แรงดงึ ดดู ที่โลกกระทากบั วัตถุหนึ่ง ๆ ทาให้วตั ถุตกลง
ของวตั ถุ สู่พ้ืนโลก และทาใหว้ ตั ถุมนี ้าหนกั วัดน้าหนกั ของวัตถุ
ได้จากเครอ่ื งช่ังสปรงิ น้าหนักของวตั ถุขึน้ กบั มวลของวตั ถุ
โดยวตั ถทุ ม่ี ีมวลมากจะมนี า้ หนักมาก วัตถุทม่ี ีมวลน้อยจะมี
น้าหนักนอ้ ย

3. บรรยายมวลของวตั ถุทม่ี ผี ลต่อการ • มวล คอื ปรมิ าณเน้ือของสารทั้งหมดทป่ี ระกอบกัน

เปลี่ยนแปลงการเคล่ือนทข่ี องวตั ถจุ าก เป็นวตั ถุ ซง่ึ มีผลตอ่ ความยากงา่ ยในการเปลีย่ นแปลง

หลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ การเคลื่อนท่ีของวัตถุ วตั ถุทม่ี ีมวลมากจะเปลย่ี นแปลง

การเคลอ่ื นทไ่ี ดย้ ากกว่าวตั ถทุ ี่มีมวลนอ้ ย ดงั นั้น

มวลของวัตถนุ อกจากจะหมายถึงเนื้อท้ังหมดของวัตถุ

น้นั แล้วยังหมายถึงการต้านการเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนทข่ี อง

วัตถนุ ัน้ ดว้ ย

มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลงั งานปฏสิ ัมพนั ธ์
ระหว่างสสารและพลงั งาน พลังงานในชีวิตประจาวัน ธรรมชาติของคล่ืน
ปรากฏการณ์ท่ีเกยี่ วข้องกับเสียง แสง และคลืน่ แม่เหล็กไฟฟ้า รวมทั้งนาความรไู้ ปใช้
ประโยชน์

ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนรู้

1. จาแนกวตั ถุเป็นตวั กลางโปรง่ ใส • เมอื่ มองสิ่งตา่ ง ๆ โดยมีวัตถตุ ่างชนิดกันมากน้ั แสง
ตวั กลางโปรง่ แสง และวัตถุทึบแสง จะทาใหล้ ักษณะการมองเหน็ ส่ิงนนั้ ๆ ชัดเจนต่างกัน
จากลกั ษณะการมองเห็นสงิ่ ต่างๆ จึงจาแนกวัตถุที่มากน้ั ออกเป็นตวั กลางโปรง่ ใส
ผ่านวตั ถุน้ันเป็นเกณฑ์ โดยใช้ ซึง่ ทาใหม้ องเหน็ สง่ิ ต่าง ๆ ได้ชดั เจน ตัวกลางโปร่ง
หลกั ฐานเชิงประจักษ์ แสงทาให้มองเหน็ สง่ิ ต่าง ๆ ไดไ้ ม่ชดั เจน และ
วตั ถุทบึ แสงทาให้มองไม่เห็นสิ่งตา่ ง ๆ น้ัน

หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนุบาลพระสมุทรเจดีย์ พุทธศกั ราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 หนา้ 45

สาระท่ี 3 วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ
มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองคป์ ระกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และววิ ัฒนาการของเอกภพ กาแลก็ ซี

ดาวฤกษ์ และระบบสรุ ิยะ รวมท้งั ปฏิสมั พันธภ์ ายในระบบสุริยะท่สี ่งผลตอ่ สง่ิ มชี ีวิต
และการประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยีอวกาศ

ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรู้

1. อธบิ ายแบบรปู เส้นทางการข้นึ และ • ดวงจนั ทร์เป็นบรวิ ารของโลก โดยดวงจันทร์

ตกของดวงจนั ทร์ โดยใชห้ ลกั ฐานเชงิ หมุนรอบตวั เองขณะโคจรรอบโลก ขณะทโ่ี ลกก็หมุน

ประจักษ์ รอบตวั เองด้วยเช่นกนั การหมุนรอบตวั เองของโลก

จากทิศตะวันตกไปทิศตะวนั ออกในทศิ ทางทวนเข็ม

นาฬกิ าเมอ่ื มองจากข้วั โลกเหนือ ทาใหม้ องเหน็

ดวงจนั ทรป์ รากฏข้ึนทางดา้ นทศิ ตะวันออกและตก

ทางด้านทิศตะวันตกหมุนเวยี นเปน็ แบบรปู ซ้า ๆ -

2. สรา้ งแบบจาลองทอ่ี ธบิ ายแบบรปู • ดวงจนั ทร์เปน็ วัตถุทีเ่ ป็นทรงกลม แต่รูปรา่ งของ

การเปล่ยี นแปลงรปู รา่ งปรากฏของ ดวงจนั ทรท์ ม่ี องเห็นหรือรปู รา่ งปรากฏของดวงจนั ทร์

ดวงจนั ทร์และพยากรณร์ ูปร่างปรากฏ บนท้องฟา้ แตกต่างกันไปในแต่ละวนั โดยในแต่ละวนั

ของดวงจนั ทร์ ดวงจนั ทร์จะมีรปู รา่ งปรากฏเป็นเสย้ี วท่ีมีขนาด

เพิ่มข้ึนอยา่ งต่อเนื่องจนเต็มดวง จากนัน้ รปู ร่าง

ปรากฏของดวงจันทร์จะแหว่งและมขี นาดลดลง

อยา่ งต่อเนอื่ งจนมองไมเ่ หน็ ดวงจันทร์ จากน้นั รปู ร่าง

ปรากฏของดวงจนั ทร์จะเปน็ เส้ียวใหญ่ขนึ้ จนเตม็ ดวง

อีกครั้ง การเปลย่ี นแปลงเชน่ นี้เปน็ แบบรูปซา้ กันทุกเดือน

3. สรา้ งแบบจาลองแสดง • ระบบสุรยิ ะเปน็ ระบบที่มดี วงอาทติ ยเ์ ป็นศนู ย์กลาง

องค์ประกอบของระบบสุริยะ และ และมีบรวิ ารประกอบดว้ ย ดาวเคราะหแ์ ปดดวงและ

อธบิ ายเปรยี บเทียบคาบ บรวิ าร ซึ่งดาวเคราะหแ์ ต่ละดวงมีขนาดและระยะหา่ ง

การโคจรของดาวเคราะหต์ ่างๆ จาก จากดวงอาทิตยแ์ ตกต่างกัน และยงั ประกอบดว้ ย

แบบจาลอง ดาวเคราะห์แคระ ดาวเคราะหน์ ้อย ดาวหาง และ

วตั ถขุ นาดเลก็ อ่นื ๆ โคจรอยูร่ อบดวงอาทิตย์ วัตถุ

ขนาดเลก็ อ่ืน ๆ เมือ่ เขา้ มาในชนั้ บรรยากาศเน่อื งจาก

แรงโน้มถ่วงของโลก ทาให้เกิดเปน็ ดาวตกหรอื ผีพ่งุ ไต้

และอุกกาบาต

มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองคป์ ระกอบ และความสมั พันธข์ องระบบโลก กระบวนการเปลยี่ นแปลง
ภายในโลก และบนผิวโลก ธรณีพบิ ตั ภิ ัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟา้ อากาศและ
ภมู ิอากาศโลก รวมท้งั ผลต่อสิ่งมีชวี ิตและสงิ่ แวดล้อม

ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรู้
- -

หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนอนุบาลพระสมุทรเจดยี ์ พุทธศกั ราช 2561 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 หน้า 46

สาระท่ี 4 เทคโนโลยี เข้าใจแนวคดิ หลักของเทคโนโลยีเพ่ือการดารงชวี ิตในสังคมทม่ี ีการเปลี่ยนแปลง
มาตรฐาน ว 4.1 อย่างรวดเร็ว ใช้ความรแู้ ละทักษะทางดา้ นวทิ ยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์และศาสตร์อ่ืน
เพอื่ แก้ปญั หา หรือ พฒั นางานอยา่ งมีความคิดสรา้ งสรรคด์ ้วยกระบวนการออกแบบ
เชงิ วิศวกรรม เลือกใช้ เทคโนโลยอี ย่างเหมาะสมโดยคานึงถึงผลกระทบต่อชีวติ
สงั คม และสงิ่ แวดล้อม

ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรู้
- -

มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นข้ันตอน
และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทางาน
และการแกป้ ัญหาไดอ้ ย่างมี ประสทิ ธิภาพ รู้เท่าทนั และมจี รยิ ธรรม

ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรู้
1. ใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแก้
ปัญหา การอธิบายการทางาน  การใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะเป็นการนากฎเกณฑ์ หรือ เง่ือนไข
การคาดการณ์ผลลัพธ์ จากปัญหา ท่ีครอบคลมุ ทุกกรณีมาใช้พจิ ารณาในการแกป้ ญั หา การ
อยา่ งง่าย อธบิ ายการทางาน หรอื การคาดการณ์ ผลลัพธ์

2. ออกแบบ และเขยี นโปรแกรม  สถานะเริ่มตน้ ของการทางานท่ีแตกต่างกนั จะใหผ้ ลลัพธ์ท่ี
อย่างงา่ ย โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือส่อื แตกตา่ งกนั
และตรวจหา ข้อผิดพลาดและแก้ไข
 ตวั อย่างปัญหา เช่น เกม OX, โปรแกรมที่มี การคานวณ,
โปรแกรมทม่ี ตี ัวละครหลายตัวและมกี ารสง่ั งานทแี่ ตกต่าง
หรอื มีการส่ือสารระหวา่ งกัน การเดนิ ทางไปโรงเรยี นโดย
วิธีการตา่ ง ๆ

การออกแบบโปรแกรมอยา่ งงา่ ย เช่น การออกแบบโดยใช้
storyboard หรอื การออกแบบ อัลกอริทึม

 การเขียนโปรแกรมเปน็ การสรา้ งลาดับของคาสั่ง
ให้คอมพิวเตอร์ทางาน เพื่อให้ไดผ้ ลลัพธต์ าม ความต้องการ
หากมขี ้อผดิ พลาดให้ตรวจสอบ การทางานทีละคาสง่ั
เมอ่ื พบจดุ ที่ทาให้ผลลัพธ์ ไม่ถูกตอ้ ง ให้ทาการแก้ไขจนกว่า
จะได้ผลลพั ธท์ ี่ถูกต้อง

 ตัวอยา่ งโปรแกรมทมี่ เี รื่องราว เช่น นิทานทม่ี ี การตอบโต้
กบั ผูใ้ ช้ การ์ตูนสนั้ เลา่ กิจวัตรประจาวนั ภาพเคลือ่ นไหว

 การฝึกตรวจหาข้อผิดพลาดจากโปรแกรมของผู้อน่ื
จะช่วยพัฒนาทกั ษะการหาสาเหตุของปัญหาได้ดยี ิ่งขึน้
● ซอฟต์แวร์ทใี่ ช้ในการเขียนโปรแกรม เช่น Scratch, logo

หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นอนุบาลพระสมุทรเจดีย์ พุทธศักราช 2561 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 หนา้ 47

ตวั ช้วี ัด สาระการเรยี นรู้

3.ใชอ้ นิ เทอร์เนต็ คน้ หาความรู้  การใชค้ าคน้ ท่ตี รงประเด็น กระชบั จะทาให้ได้ผล
และประเมนิ ความน่าเชื่อถือของขอ้ มูล ลพั ธ์ท่ีรวดเร็วและตรงตามความตอ้ งการ

 การประเมนิ ความนา่ เช่ือถือของข้อมลู เช่น
พจิ ารณาประเภทของเวบ็ ไซต์ (หนว่ ยงานราชการ
สานักข่าว องคก์ ร) ผู้เขียน วนั ทีเ่ ผยแพร่ข้อมูล การ
อา้ งองิ

 เมอ่ื ได้ข้อมลู ทต่ี ้องการจากเวบ็ ไซตต์ ่างๆ จะต้องนา
เนอ้ื หามาพจิ ารณา เปรียบเทียบ แล้วเลอื กข้อมูล ทม่ี ี
ความสอดคล้องและสัมพนั ธก์ ัน
● การทารายงานหรือการนาเสนอข้อมลู จะต้องนา
ข้อมูลมาเรียบเรียง สรปุ เปน็ ภาษาของตนเองท่ี
เหมาะสมกบั กลมุ่ เป้าหมายและวธิ ีการนาเสนอ
(บรู ณาการกบั วชิ าภาษาไทย)

๔. ใช้เทคโนโลยีในการสรา้ ง จัดเก็บ เรียกใช้ ขอ้ มูล  การใชง้ านอปุ กรณ์เทคโนโลยเี บอ้ื งตน้ เชน่ การใช้
ตามวัตถุประสงค์ เมาส์ คยี บ์ อร์ด จอสัมผสั การเปดิ -ปดิ อุปกรณ์
เทคโนโลยี
๕. ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั เข้าใจสิทธิ ● การใชง้ านซอฟตแ์ วร์เบอ้ื งตน้ เชน่ การเข้าและ
และหน้าท่ขี องตน เคารพในสิทธิ ของผู้อ่นื ออกจากโปรแกรม การสร้างไฟล์ การจัดเก็บ การ
แจ้งผเู้ กีย่ วขอ้ งเมื่อพบข้อมลู เรียกใช้ไฟล์ ทาได้ในโปรแกรม เชน่ โปรแกรม
หรือบคุ คลท่ีไมเ่ หมาสม ประมวลคา โปรแกรมกราฟิก โปรแกรมนาเสนอ
● การสร้างและจัดเกบ็ ไฟล์อยา่ งเป็นระบบจะทาให้
เรียกใช้ คน้ หาข้อมลู ไดง้ ่ายและรวดเรว็

 การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย เข้าใจ
สิทธิและหนา้ ที่ของตน เคารพในสทิ ธขิ องผู้อ่ืน เช่น ไม่
สร้างขอ้ ความเท็จและส่งให้ผู้อื่น ไมส่ รา้ ง ความ
เดอื ดร้อนต่อผู้อื่นโดยการส่งสแปม ขอ้ ความ ลูกโซ่ สง่
ต่อโพสตท์ ่ีมีข้อมูลสว่ นตัวของผู้อน่ื สง่ คาเชญิ เล่นเกม
ไม่เขา้ ถงึ ข้อมลู ส่วนตัวหรือการบา้ นของบุคคลอนื่ โดย
ไม่ไดร้ บั อนุญาต
ไมใ่ ช้เคร่ืองคอมพิวเตอร์/ ชือ่ บญั ชขี องผู้อ่ืน

 การส่ือสารอยา่ งมีมารยาทและรู้กาลเทศะ
● การปกป้องข้อมูลส่วนตัว เชน่ การออกจากระบบ
เมอ่ื เลิกใชง้ าน ไม่บอกรหสั ผา่ น ไม่บอกเลขประจาตัว
ประชาชน

หลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนอนบุ าลพระสมุทรเจดยี ์ พทุ ธศกั ราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 หน้า 48

ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5

สาระที่ 1 สงิ่ มีชีวิตกบั กระบวนการดารงชีวติ
มาตรฐาน ว 1.1 เขา้ ใจหน่วยพน้ื ฐานของสิง่ มชี ีวติ ความสมั พนั ธข์ องโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบ

ต่าง ๆ ของส่งิ มชี ีวิตท่ที างานสัมพันธก์ นั มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สื่อสาร
ส่ิงท่ีเรยี นรู้และนาความรู้ไปใช้ในการดารงชีวิตของตนเองและดูแลส่ิงมีชวี ติ

ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้

1. สงั เกตและระบสุ ว่ นประกอบของ  ดอกโดยท่ัวไป ประกอบด้วย กลบี เล้ยี ง กลีบดอก

ดอกและโครงสรา้ งทเี่ กยี่ วข้องกับ เกสรเพศผู้ และเกสรเพศเมีย

การสืบพนั ธุ์ของพชื ดอก  ส่วนประกอบของดอกท่ีทาหน้าทีเ่ ก่ียวข้องกับการ

สืบพนั ธ์ุ ได้แก่ เกสรเพศเมีย ประกอบด้วย รังไข่ ออวลุ

และเกสรเพศผู้ ประกอบด้วย อับเรณแู ละละอองเรณู

2. อธบิ ายการสบื พันธุ์ของพชื ดอก  พืชดอกมีการสืบพันธุท์ ้ังแบบอาศยั เพศและการสืบพันธุ์

การขยายพนั ธ์พุ ชื และนาความรู้ แบบไมอ่ าศยั เพศ

ไปใช้ประโยชน์  การขยายพนั ธุ์พชื เพ่ือเพิ่มปรมิ าณและคุณภาพของพืช ทา

ได้หลายวธิ ี โดยการเพาะเมล็ด การปกั ชา การตอนกิ่ง

การตดิ ตา การทาบกงิ่ การเสียบยอด และการเพาะเลยี้ ง

เนอ้ื เย่ือ

3. อธิบายวัฎจกั รชวี ิตของพชื ดอกบาง  พชื ดอกเมื่อเจรญิ เติบโตเต็มที่จะออกดอก ดอกไดร้ ับการ

ชนดิ ผสมพนั ธ์ุกลายเปน็ ผล ผลมีเมล็ด ซงึ่ สามารถงอกเป็นตน้

ใหม่หมุนเวยี นเปน็ วัฏจกั ร

4. อธบิ ายการสบื พนั ธ์แุ ละการ  สตั ว์มีการสืบพนั ธุ์แบบอาศัยเพศและการสบื พนั ธุ์แบบไม่

ขยายพันธ์ุของสตั ว์ อาศยั เพศ

 การขยายพันธ์สุ ตั ว์โดยวธิ ีการคัดเลอื กพันธแ์ุ ละการผสม

เทียมทาใหม้ นุษยไ์ ดส้ ัตว์ที่มีปรมิ าณและคุณภาพตามที่

ตอ้ งการ

หลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนอนบุ าลพระสมทุ รเจดีย์ พทุ ธศักราช 2561 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 หน้า 49

มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจหน่วยพน้ื ฐานของส่งิ มีชีวติ ความสัมพนั ธ์ของโครงสร้าง และหนา้ ที่ของระบบ
ต่าง ๆ ของสง่ิ มีชวี ติ ท่ีทางานสัมพันธ์กนั มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สือ่ สาร
สิ่งที่เรยี นรแู้ ละนาความรู้ไปใช้ในการดารงชีวติ ของตนเองและดูแลส่งิ มชี ีวิต

ตัวชี้วดั สาระการเรียนรู้

5. อภปิ รายวัฎจักรชวี ติ ของสัตว์  สตั วบ์ างชนิด เช่น ผเี สอ้ื ยุง กบ เม่ือไข่ไดร้ บั การผสม
บางชนิด และนาความรู้ไปใช้ พนั ธจ์ุ ะเจรญิ เปน็ ตัวอ่อน และตัวออ่ นเจริญเติบโตเปน็ ตัว
ประโยชน์ เต็มวยั จนกระท่ังสามารถสืบพนั ธุ์ได้ หมุนเวยี นเปน็
วฎั จกั ร

 มนษุ ยน์ าความรู้เกี่ยวกับวัฎจักรชวี ติ ของสัตวม์ าใช้
ประโยชนม์ ากมายทงั้ ทางด้านการเกษตร การ
อตุ สาหกรรม และการดแู ลรกั ษาสงิ่ แวดลอ้ ม

มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจกระบวนการและความสาคญั ของการถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรม
ววิ ฒั นาการของสงิ่ มีชีวติ ความหลากหลายทางชีวภาพ การใชเ้ ทคโนโลยีชีวภาพท่มี ี
ผลกระทบต่อมนุษยแ์ ละสิ่งแวดล้อม มีกระบวนการสบื เสาะหาความร้แู ละจติ วทิ ยา
ศาสตร์ ส่ือสารสิ่งที่เรยี นรู้และนาความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตัวชีว้ ัด สาระการเรยี นรู้

1. สารวจ เปรียบเทยี บ และระบุ  ลักษณะของตนเองจะคล้ายคลึงกับคนในครอบครัว

ลักษณะของตนเองกับคนใน

ครอบครวั

2. อธิบายการถา่ ยทอดลักษณะทาง  การถา่ ยทอดลักษณะทางพันธกุ รรมเป็นการถ่ายทอด

พันธุกรรมของสิ่งมชี วี ติ ในแต่ ลกั ษณะบางลักษณะจากบรรพบรุ ษุ สู่ลูกหลาน ซึ่งบาง

ละรนุ่ ลกั ษณะจะเหมือนพ่อหรอื เหมอื นแม่ หรืออาจมลี กั ษณะ

เหมือนปู่ ย่า ตา ยาย

3. จาแนกพชื ออกเปน็ พชื ดอกและพืช  พืชแบ่งออกเป็นสองประเภท คือ พืชดอกกับพืชไม่มีดอก

ไม่มดี อก

4. ระบลุ กั ษณะของพืชดอกที่เป็นพชื  พชื ดอกแบ่งออกเป็น พชื ใบเลยี้ งเดย่ี วกบั พชื ใบเลย้ี งคู่

ใบเลยี้ งเดี่ยวและพชื ใบเลย้ี งคู่ โดย โดยสังเกตจากราก ลาต้น และใบ

ใช้ลักษณะภายนอกเปน็ เกณฑ์  ความเป็นมาของต้นโพทะเล พชื ประจาจังหวดั

สมุทรปราการ

หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนอนุบาลพระสมุทรเจดีย์ พุทธศกั ราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 หน้า 50

มาตรฐาน ว 1.2 เขา้ ใจกระบวนการและความสาคญั ของการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม
ววิ ัฒนาการของสิ่งมชี ีวิต ความหลากหลายทางชวี ภาพ การใช้เทคโนโลยีชีวภาพทมี่ ี
ผลกระทบต่อมนุษย์และสิง่ แวดล้อม มกี ระบวนการสืบเสาะหาความร้แู ละจิตวทิ ยา
ศาสตร์ สื่อสารสง่ิ ท่เี รยี นรู้และนาความรไู้ ปใช้ประโยชน์

ตัวชี้วดั สาระการเรยี นรู้

5. จาแนกสตั วอ์ อกเปน็ กลมุ่ โดยใช้  การจาแนกสตั ว์เป็นกลุม่ โดยใช้ลกั ษณะภายนอกและ
ลกั ษณะภายในบางลักษณะและ ลักษณะภายใน บางลักษณะเปน็ เกณฑ์ แบ่งออกไดเ้ ปน็
ลกั ษณะภายนอกเป็นเกณฑ์ สตั ว์มีกระดูกสนั หลงั และสัตว์ไม่มกี ระดูกสนั หลัง

 สัตวม์ กี ระดูกสนั หลงั แบง่ เป็นกลุ่มปลา
สตั วค์ ร่งึ น้าครง่ึ บก สตั ว์เล้อื ยคลาน สตั วป์ ีก และสตั ว์เลยี้ ง
ลกู ด้วยนา้ นม

สาระที่ 2 สง่ิ มชี ีวิตกับกระบวนการดารงชีวติ
มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสงิ่ แวดล้อมในท้องถ่ิน ความสัมพันธ์ระหว่างส่งิ แวดล้อมกับสิง่ มีชีวติ

ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสิง่ มีชีวติ ตา่ ง ๆ ในระบบนิเวศ มีกระบวนการสบื เสาะหาความรู้
และจติ วิทยาศาสตร์ สื่อสารส่งิ ทเ่ี รยี นรู้และนาความรไู้ ปใช้ประโยชน์

ตัวชวี้ ดั สาระการเรียนรู้
- -

มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจความสาคญั ของทรัพยากรธรรมชาติ การใช้ทรพั ยากรธรรมชาติในระดบั
ทอ้ งถิน่ ประเทศ และโลก นาความร้ไู ปใช้ในการจดั การทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ
ส่ิงแวดล้อมในท้องถิน่ อยา่ งยงั่ ยนื

ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนรู้
- -

หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนอนุบาลพระสมทุ รเจดีย์ พทุ ธศักราช 2561 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 หน้า 51

สาระที่ 3 สารและสมบัตขิ องสาร
มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจสมบตั ิของสาร ความสมั พันธร์ ะหว่างสมบตั ิของสารกับโครงสร้างและแรง

ยึดเหน่ยี วระหว่างอนุภาค มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจติ วิทยาศาสตร์
ส่ือสารสิง่ ทีเ่ รยี นรูแ้ ละนาความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์

ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้
 ความยืดหยนุ่ ความแขง็ ความเหนยี ว การนาความร้อน
1. ทดลองและอธบิ ายสมบัติของวสั ดุ
ชนดิ ตา่ ง ๆ เก่ียวกับความยดื หยุ่น การนาไฟฟา้ และความหนาแนน่ เปน็ สมบัตติ ่าง ๆ ของ
ความแขง็ ความเหนียว การนา วสั ดุ ซ่งึ วัสดุตา่ งชนดิ กนั จะมีสมบตั บิ างประการ
ความร้อน การนาไฟฟา้ และ แตกต่างกัน
ความหนาแน่น
 ในชีวิตประจาวันมกี ารนาวสั ดตุ า่ ง ๆ มาใชท้ าสิง่ ของ
2. สืบค้นข้อมูลและอภปิ รายการนา เครอื่ งใชต้ ามสมบัติของวัสดนุ ัน้ ๆ
วัสดุไปใช้ในชีวติ ประจาวัน

มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจความสาคญั ของทรัพยากรธรรมชาติ การใชท้ รัพยากรธรรมชาตใิ นระดับ
ท้องถนิ่ ประเทศ และโลก นาความรู้ไปใช้ในการจดั การทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ
สงิ่ แวดลอ้ มในท้องถิ่นอยา่ งยั่งยืน

ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรู้
- -

สาระที่ 4 แรงและการเคลอ่ื นท่ี
มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจธรรมชาตขิ องแรงแมเ่ หล็กไฟฟา้ แรงโนม้ ถ่วง และแรงนิวเคลียร์

มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สือ่ สารสง่ิ ที่เรยี นร้แู ละนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
อยา่ งถูกต้องและมคี ุณธรรม

ตัวช้ีวดั สาระการเรยี นรู้

1. ทดลองและอธบิ ายการหาแรงลัพธ์  แรงลพั ธข์ องแรงสองแรงท่ีกระทาตอ่ วตั ถุ โดยแรงทั้งสอง

ของแรงสองแรง ซึ่งอย่ใู นแนว อยใู่ นแนวเดยี วกันเท่ากบั ผลรวมของแรงท้ังสองนั้น

เดยี วกนั ทก่ี ระทาตอ่ วตั ถุ

หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรยี นอนบุ าลพระสมทุ รเจดีย์ พุทธศกั ราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 หน้า 52

มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจธรรมชาติของแรงแม่เหล็กไฟฟา้ แรงโนม้ ถว่ ง และแรงนวิ เคลียร์
มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สอื่ สารส่งิ ทเ่ี รียนรแู้ ละนาความรูไ้ ปใช้ประโยชน์
อยา่ งถูกต้องและมคี ุณธรรม

ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้

2. ทดลองและอธบิ ายความดันอากาศ  อากาศมแี รงกระทาต่อวตั ถุ แรงที่อากาศกระทาตง้ั ฉาก

ต่อหนึ่งหนว่ ยพนื้ ทีเ่ รยี กวา่ ความดนั อากาศ

3. ทดลองและอธบิ ายความดันของ  ของเหลวมแี รงกระทาตอ่ วัตถุทกุ ทศิ ทาง แรงที่ของเหลว

ของเหลว กระทาตง้ั ฉากต่อหนง่ึ หน่วยพนื้ ที่ เรยี กว่า ความดนั ของ

ของเหลว ซึง่ มคี วามสัมพนั ธ์กับความลึก

4. ทดลองและอธบิ ายแรงพยุงของ  ของเหลวมีแรงพยุงกระทาต่อวตั ถทุ ่ีลอยหรือจมใน

ของเหลว การลอยตัว และการจม ของเหลว การจมหรอื การลอยตวั ของวตั ถุข้ึนอยู่กับ

ของวตั ถุ นา้ หนกั ของวัตถุและแรงพยุงของของเหลวนั้น

มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจลกั ษณะการเคลอ่ื นท่ีแบบต่าง ๆ ของวัตถใุ นธรรมชาติ มกี ระบวนการสืบ
เสาะหาความรแู้ ละจิตวทิ ยาศาสตร์ สื่อสารสง่ิ ที่เรียนรู้และนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนรู้

1. ทดลองและอธบิ ายแรงเสยี ดทาน  แรงเสียดทานเปน็ แรงต้านการเคลอื่ นท่ีของวัตถุ
และนาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ แรงเสียดทานมีประโยชน์ เชน่ ในการเดนิ ตอ้ งอาศยั
แรงเสยี ดทาน

สาระที่ 5 พลังงาน เข้าใจความสัมพันธร์ ะหว่างพลังงานกบั การดารงชีวิต การเปล่ยี นรปู พลังงาน
มาตรฐาน ว 5.1 ปฏิสัมพนั ธ์ระหวา่ งสารและพลังงาน ผลของการใชพ้ ลังงานตอ่ ชวี ิตและส่ิงแวดลอ้ ม มี
กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สื่อสารสง่ิ ที่เรียนรู้และนาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์

ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรู้

1. ทดลองและอธิบายการเกดิ เสียง  เสียงเกดิ จากการสัน่ ของแหลง่ กาเนดิ เสยี งและเสยี ง
และการเคลือ่ นท่ขี องเสียง เคลื่อนที่จากแหล่งกาเนิดเสยี งทกุ ทิศทางโดยอาศัย
ตัวกลาง

หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนอนบุ าลพระสมทุ รเจดยี ์ พทุ ธศักราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 หนา้ 53

มาตรฐาน ว 5.1 เขา้ ใจความสัมพันธร์ ะหว่างพลงั งานกับการดารงชวี ิต การเปลย่ี นรปู พลังงาน
ปฏิสมั พันธร์ ะหวา่ งสารและพลังงาน ผลของการใช้พลังงานต่อชวี ติ และสง่ิ แวดลอ้ ม มี
กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สื่อสารสิ่งทีเ่ รยี นรู้และนาความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์

ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรู้

2. ทดลองและอธบิ ายการเกดิ เสยี งสงู  แหล่งกาเนินเสยี งสั่นด้วยความถต่ี ่าจะเกิดเสยี งต่า แต่ถา้

เสียงต่า สน่ั ดว้ ยความถ่ีสูงจะเกดิ เสียงสูง

3. ทดลองและอธิบายเสียงดงั  แหล่งกาเนิดเสยี งส่นั ดว้ ยพลงั งานมากจะทาให้เกดิ เสียงดัง

เสยี งคอ่ ย แต่ถา้ แหลง่ กาเนนิ เสียงสัน่ ด้วยพลังงานน้อยจะเกิด

เสียงคอ่ ย

4. สารวจและอภปิ รายอันตรายท่ี  เสียงดงั มาก ๆ จะเป็นอันตรายตอ่ การไดย้ ิน และเสยี งที่

เกดิ ขึ้นเม่อื ฟังเสียงดังมาก ๆ กอ่ ใหเ้ กดิ ความราคาญ เรียกว่า มลพิษทางเสียง เชน่

ทีส่ นามบนิ สวุ รรณภมู ิ

สาระที่ 6 กระบวนการเปล่ียนแปลงของโลก
มาตรฐาน ว 6.1 เขา้ ใจกระบวนการต่าง ๆ ท่ีเกิดข้ึนบนผิวโลกและภายในโลก ความสัมพนั ธ์ของ

กระบวนการต่าง ๆ ทม่ี ีผลต่อการเปลยี่ นแปลงภูมอิ ากาศ ภมู ปิ ระเทศ และสณั ฐาน
ของโลก มีกระบวนการสบื เสาะหาความรู้และจิตวทิ ยาศาสตร์ ส่ือสารส่งิ ทเี่ รียนรแู้ ละ
นาความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้
1. สารวจ ทดลอง และอธบิ าย การ
 ไอน้าในอากาศท่ีควบแนน่ เป็นละอองน้าเลก็ ๆ ทาให้เกิด
เกิดเมฆ หมอก น้าค้าง ฝน และ หมอกและเมฆ ละอองน้าเลก็ ๆ ทรี่ วมกนั เป็นหยดน้าจะ
ลูกเห็บ ทาใหเ้ กิดนา้ คา้ งและฝน

2. ทดลองและอธบิ ายการเกิดวฏั จักร  หยดนา้ ท่กี ลายเป็นน้าแขง็ แลว้ ถกู พายุพดั วนในเมฆ
น้า ระดบั สูงจนเปน็ ก้อนน้าแขง็ ขนาดใหญ่ขึน้ แลว้ ตกลงมา
ทาให้เกิดลูกเหบ็

 วฏั จักรน้าเกดิ จากการหมุนเวยี นอยา่ งต่อเน่ือง ระหว่างน้า
บรเิ วณผวิ โลกกบั น้าในบรรยากาศ

หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนุบาลพระสมทุ รเจดยี ์ พุทธศักราช 2561 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 หน้า 54

มาตรฐาน ว 6.1 เข้าใจกระบวนการต่าง ๆ ทเ่ี กิดขึ้นบนผวิ โลกและภายในโลก ความสัมพนั ธข์ อง
กระบวนการต่าง ๆ ท่มี ีผลต่อการเปลย่ี นแปลงภมู อิ ากาศ ภมู ิประเทศ และสัณฐาน
ของโลก มีกระบวนการสบื เสาะหาความร้แู ละจติ วทิ ยาศาสตร์ สือ่ สารส่ิงที่เรียนรแู้ ละ
นาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์

ตวั ชวี้ ดั สาระการเรียนรู้
 อุณหภูมิ ความชน้ื ความกดอากาศ มีการเปล่ยี นแปลง ซง่ึ
3. ออกแบบและสรา้ งเคร่ืองมืออยา่ ง
ง่ายในการวัดอณุ หภูมิความชื้น สามารถตรวจสอบโดยใชเ้ ครื่องมืออย่างงา่ ยได้
และความกดอากาศ
 การเกิดลมเกิดจากการเคล่ือนท่ีของอากาศตามแนว
4. ทดลองและอธบิ ายการเกดิ ลมและ พน้ื ราบ อากาศบรเิ วณท่ีมอี ุณหภูมสิ งู มวลอากาศจะ
นาความรไู้ ปใช้ประโยชนใ์ น ขยายตวั ลอยตัวสูงขนึ้ สว่ นอากาศบรเิ วณท่ีมอี ุณหภูมิตา่
ชีวติ ประจาวัน มวลอากาศจะจมตวั ลงและเคลื่อนท่ีไปแทนที่

 พลงั งานจากลมนาไปใช้ประโยชนไ์ ดม้ ากมายในด้าน
การผลติ กระแสไฟฟ้าและการทากงั หนั ลม

 สภาวะน้าทะเลยกตัวขึน้ สูง (Storm Surgc)

สาระท่ี 7 ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ
มาตรฐาน ว 7.1 เข้าใจววิ ัฒนาการของระบบสุรยิ ะ กาแลก็ ซแี ละเอกภพ การปฏสิ ัมพันธ์ภายในระบบ

สรุ ยิ ะและผลตอ่ ส่ิงมชี วี ติ บนโลก มกี ระบวนการสืบเสาะหาความรแู้ ละ
จติ วทิ ยาศาสตร์ สอ่ื สารส่ิงที่เรียนรแู้ ละนาความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตวั ช้ีวดั สาระการเรยี นรู้

1. สงั เกตและอธบิ ายการเกดิ ทศิ และ  การทโี่ ลกหมุนรอบตวั เองนี้ทาให้เกิดการกาหนดทิศ โดย
ปรากฏการณ์การขึน้ -ตกของ โลกหมุนรอบตัวเองทวนเข็มนาฬกิ าจากทิศตะวนั ตกไปยัง
ดวงดาวโดยใชแ้ ผนที่ดาว ทศิ ตะวนั ออก เมื่อสังเกตจากขั้วเหนือจึงปรากฏใหเ้ ห็น
ดวงอาทิตยแ์ ละดวงดาวตา่ ง ๆ ขน้ึ ทางทิศตะวนั ออกและ
ตกทางทิศตะวันตก

-แผนท่ีดาวชว่ ยในการสังเกตตาแหนง่ ดาวบนท้องฟ้า

มาตรฐาน ว 7.2 เขา้ ใจความสาคญั ของเทคโนโลยอี วกาศท่นี ามาใช้ในการสารวจอวกาศและ
ทรพั ยากรธรรมชาติ ด้านการเกษตรและการส่ือสาร มกี ระบวนการสบื เสาะหาความรู้
และจติ วิทยาศาสตร์ สื่อสารส่งิ ท่เี รยี นร้แู ละนาความรูไ้ ปใช้ประโยชนอ์ ย่างมีคณุ ธรรม
ต่อชวี ติ และสิ่งแวดล้อม

ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรู้
- -

หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนอนุบาลพระสมุทรเจดีย์ พุทธศักราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 หน้า 55

สาระท่ี 8 ธรรมชาติของวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 8.1 ใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละจิตวิทยาศาสตรใ์ นการสืบเสาะหาความรู้

การแกป้ ัญหา รู้วา่ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติท่ีเกดิ ข้ึนส่วนใหญ่มรี ูปแบบท่ีแน่นอน
สามารถอธิบายและตรวจสอบได้ภายใตข้ ้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในชว่ งเวลาน้ัน ๆ
เขา้ ใจวา่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สงั คม และสง่ิ แวดลอ้ ม มีความเกี่ยวข้องสมั พนั ธ์

ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนรู้
-
1. ตง้ั คาถามเกีย่ วกับประเดน็ หรือ
เรื่องหรือสถานการณท์ จ่ี ะศึกษา -
ตามทก่ี าหนดให้และตาม
ความสนใจ -
-
2. วางแผนการสังเกต เสนอวิธีสารวจ
ตรวจสอบ หรือศึกษาคน้ ควา้ และ
คาดการณ์สิ่งที่จะพบจากการ
สารวจตรวจสอบ

3. เลอื กอปุ กรณท์ ถ่ี ูกต้องเหมาะสม
ในการสารวจตรวจสอบให้ได้
ข้อมูลท่ีเชื่อถือได้

4. บนั ทกึ ขอ้ มลู ในเชิงปริมาณและ
คุณภาพ และตรวจสอบผลกับสงิ่ ที่
คาดการณไ์ ว้ นาเสนอผล และ
สรปุ ผล

มาตรฐาน ว 8.1 ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจติ วิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้
การแกป้ ัญหา รู้วา่ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติทเี่ กิดขึ้นสว่ นใหญ่มีรปู แบบท่ีแนน่ อน
สามารถอธบิ ายและตรวจสอบไดภ้ ายใต้ข้อมลู และเคร่ืองมือทีม่ ีอยู่ในชว่ งเวลานนั้ ๆ
เขา้ ใจวา่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสงิ่ แวดล้อม มีความเก่ยี วข้องสมั พันธ์

ตวั ชว้ี ดั สาระการเรียนรู้
-
5. สร้างคาถามใหมเ่ พ่ือการสารวจ -
ตรวจสอบตอ่ ไป -

6. แสดงความคิดเหน็ อย่างอิสระ -
อธบิ ายและสรปุ สงิ่ ท่ไี ดเ้ รยี นรู้

7. บันทึกและอธบิ ายผลการสารวจ
ตรวจสอบตามความเป็นจริงมี
การอ้างอิง

8. นาเสนอ จดั แสดงผลงาน โดย
อธบิ ายด้วยวาจา และเขียนอธบิ าย
แสดงกระบวนการและผลของ
งานใหผ้ อู้ นื่ เขา้ ใจ

หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนอนบุ าลพระสมุทรเจดีย์ พทุ ธศักราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 หน้า 56

ช้ันประถมศึกษาปีที่ 6

สาระที่ 1 ส่ิงมชี ีวติ กบั กระบวนการดารงชีวติ
มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจหน่วยพืน้ ฐานของสิ่งมีชีวิต ความสมั พันธข์ องโครงสร้าง และหน้าท่ีของระบบ

ต่าง ๆ ของสิง่ มีชีวติ ท่ีทางานสัมพนั ธก์ ัน มีกระบวนการสบื เสาะหาความรู้ สอื่ สาร
สิง่ ที่เรยี นร้แู ละนาความรไู้ ปใช้ในการดารงชีวิตของตนเองและดแู ลสงิ่ มีชวี ติ

ตัวช้ีวัด สาระการเรียนรู้
 มนษุ ยม์ กี ารเจรญิ เติบโตและมกี ารเปล่ยี นแปลงทางด้าน
1. อธบิ ายการเจรญิ เตบิ โตของมนษุ ย์
จากวัยแรกเกิดจนถงึ ผู้ใหญ่ รา่ งกายตงั้ แต่แรกเกิดจนเป็นผใู้ หญ่
 ระบบย่อยอาหาร ทาหนา้ ที่ย่อยอาหารให้เป็นสารอาหาร
2. อธิบายการทางานทสี่ ัมพันธก์ ัน
ของระบบย่อยอาหาร ระบบ ขนาดเลก็ แล้วจะถูกดดู ซึมเข้าสรู่ ะบบหมนุ เวียนเลือด แก๊ส
ออกซิเจนทไี่ ด้จากระบบหายใจ จะทาใหส้ ารอาหารเกิด
หายใจ การเปลย่ี นแปลงจนกลายเป็นพลังงานท่รี ่างกายนาไปใชไ้ ด้
และระบบหมนุ เวียนเลอื ดของ
มนษุ ย์  สารอาหาร ไดแ้ ก่ โปรตีน คารโ์ บไฮเดรต ไขมัน แรธ่ าตุ
วิตามนิ และนา้ มคี วามจาเป็นต่อร่างกาย มนุษย์
3. วิเคราะห์สารอาหารและอภปิ ราย
ความจาเป็นทีร่ า่ งกายต้องไดร้ ับ จาเปน็ ตอ้ ง
สารอาหารในสัดส่วนท่ีเหมาะสม ได้รับสารอาหารในสดั สว่ นทีเ่ หมาะสมกับเพศและวัย เพื่อ
กบั เพศและวัย การเจริญเติบโตและการดารงชวี ิต

มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจกระบวนการและความสาคญั ของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
ววิ ฒั นาการของสิ่งมชี ีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพ การใช้เทคโนโลยชี ีวภาพท่ีมี
ผลกระทบต่อมนุษย์และสิง่ แวดลอ้ ม มกี ระบวนการสืบเสาะหาความรแู้ ละจิตวิทยา
ศาสตร์ ส่ือสารสง่ิ ทเ่ี รียนรู้และนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ตวั ช้วี ดั สาระการเรยี นรู้
- -

หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรยี นอนุบาลพระสมทุ รเจดยี ์ พุทธศกั ราช 2561 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 หนา้ 57

สาระท่ี 2 ส่ิงมชี ีวติ กับกระบวนการดารงชีวิต
มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจส่งิ แวดล้อมในท้องถิน่ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสิง่ แวดล้อมกับสงิ่ มีชวี ิต

ความสมั พันธ์ระหว่างสง่ิ มีชวี ิตตา่ ง ๆ ในระบบนิเวศ มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้
และจิตวิทยาศาสตร์ สื่อสารสงิ่ ทเ่ี รียนรแู้ ละนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นรู้

1. สารวจและอภปิ รายความสัมพันธ์  กล่มุ สิง่ มชี ีวติ ในแหล่งทอี่ ยู่ต่าง ๆ มีความสมั พนั ธ์กัน และ
ของกลุ่มส่ิงมชี วี ิตในแหลง่ ทอ่ี ยู่ มีความสัมพันธก์ ับแหล่งทีอ่ ยู่ในลักษณะของแหล่งอาหาร
ตา่ ง ๆ แหล่งที่อยู่อาศยั แหลง่ สบื พนั ธุ์ และแหล่งเล้ยี งดลู ูกอ่อน

2. อธบิ ายความสมั พันธข์ องสิ่งมีชีวิต  ความสมั พนั ธข์ องสง่ิ มีชีวิตกับสิง่ มีชีวติ ในรูปของโซ่
กบั สง่ิ มชี ีวิตในรปู ของโซอ่ าหาร อาหารและสายใยอาหาร ทาใหเ้ กิดการถ่ายทอดพลงั งาน
และสายใยอาหาร จากผูผ้ ลติ สูผ่ ู้บรโิ ภค

3. สบื คน้ ขอ้ มูลและอธบิ าย  สง่ิ มีชีวิตท่ีอาศยั อยู่ในแตล่ ะแหลง่ ที่อยู่จะมีโครงสรา้ งที่
ความสมั พนั ธร์ ะหว่างการดารง เหมาะสมต่อการดารงชวี ิตในแหล่งท่อี ยูน่ ั้น และสามารถ
ชวี ิตของสง่ิ มีชีวิตกบั สภาพ ปรับตัวใหเ้ ข้ากบั สภาพแวดล้อมเพื่อหาอาหารและมชี ีวิต
แวดลอ้ มในทอ้ งถ่ิน อย่รู อด

 ความสมั พันธข์ องส่ิงมีชวี ิตบริเวณป่าชายเลนเกาะผีเส้ือ-
สมุทร อาเภอพระสมุทรเจดยี ์ จงั หวัดสมุทรปราการ

 โครงสรา้ งทีเ่ หมาะสมต่อการดารงชวี ิตและการปรับตัว
ของสงิ่ มีชีวติ ในปา่ ชายเลนเกาะผีเสือ้ สมุทร

มาตรฐาน ว 2.2 เขา้ ใจความสาคัญของทรัพยากรธรรมชาติ การใช้ทรพั ยากรธรรมชาตใิ นระดับ
ท้องถ่ิน ประเทศ และโลก นาความรู้ไปใชใ้ นการจดั การทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ
ส่ิงแวดลอ้ มในท้องถน่ิ อยา่ งยงั่ ยนื

ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นรู้

1. สืบค้นข้อมูลและอภิปราย  ทรพั ยากรธรรมชาตติ ่าง ๆ ในแต่ละท้องถิน่ มีประโยชน์
ทรพั ยากรธรรมชาตใิ นแต่ละ ต่อการดารงชวี ิตของสง่ิ มชี ีวิต
ทอ้ งถน่ิ
 ประโยชน์ของป่าชายเลน
 พชื ในปา่ ชายเลน
 สตั วท์ ่ีอาศัยในปา่ ชายเลน

หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นอนุบาลพระสมทุ รเจดีย์ พุทธศักราช 2561 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 หน้า 58

มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจความสาคญั ของทรัพยากรธรรมชาติ การใช้ทรัพยากรธรรมชาตใิ นระดบั
ทอ้ งถ่ิน ประเทศ และโลก นาความรไู้ ปใช้ในการจัดการทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ
สง่ิ แวดลอ้ มในท้องถิ่นอยา่ งยง่ั ยืน

ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้
2. วเิ คราะหผ์ ลของการเพ่ิมข้ึนของ
 การเพิ่มขน้ึ ของประชากรมนษุ ยท์ าให้ทรัพยากรธรรมชาติ
ประชากรมนุษย์ต่อการใช้ ถูกใชม้ ากขึน้ เปน็ ผลทาให้ทรพั ยากรธรรมชาติลดน้อยลง
ทรัพยากรธรรมชาติ และสิง่ แวดล้อมเปลย่ี นแปลงไป
3. อภิปรายผลตอ่ ส่ิงมีชวี ิตจากการ
เปลีย่ นแปลงส่ิงแวดลอ้ มท้ังโดย  ภยั พบิ ตั จิ ากธรรมชาตแิ ละการกระทาของมนุษย์ ทาให้
ธรรมชาติและโดยมนษุ ย์ ส่งิ แวดลอ้ มเปลีย่ นแปลงเป็นผลทาให้พืชและสตั วป์ ่าบาง
4. อภปิ รายแนวทางในการดูแลรักษา ชนดิ สญู พันธ์ุ
ทรัพยากรธรรมชาติและ
สงิ่ แวดล้อม  การสรา้ งจติ สานกึ ในการอนรุ ักษเ์ ฝ้าระวัง ทรัพยากร
ธรรมชาติ ตลอดจนการปลกู ต้นไม้เพ่ิมข้ึน เพื่อเปน็
5. มสี ่วนร่วมในการดแู ลรกั ษา แนวทางหน่ึงในการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ
สิ่งแวดลอ้ มในทอ้ งถนิ่ สงิ่ แวดล้อม

 ร่วมจัดทาโครงการเฝา้ ระวังรักษาคุณภาพของสงิ่ แวดล้อม
ในท้องถ่นิ อย่างยัง่ ยืน

 การแยกขยะ
 การทาเกษตรตามแนวทฤษฎีใหม่
 การอนุรักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและการใชพ้ ลังงานอย่าง

ประหยัด
 การบาบดั นา้ เสยี และบ่อดักไขมัน

หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนอนุบาลพระสมุทรเจดยี ์ พุทธศักราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 หนา้ 59

สาระท่ี 3 สารและสมบตั ิของสาร
มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจสมบตั ิของสาร ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสมบตั ิของสารกับโครงสร้างและแรง

ยึดเหน่ยี วระหว่างอนภุ าค มีกระบวนการสบื เสาะหาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์
สื่อสารส่งิ ท่เี รียนร้แู ละนาความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้
1. ทดลองและอธบิ ายสมบัตขิ อง
 สารอาจปรากฏในสถานะของแข็ง ของเหลว หรอื แกส๊
ของแข็ง ของเหลว และแกส๊ สารทั้งสามสถานะมสี มบตั ิบางประการเหมือนกนั และ
บางประการแตกตา่ งกนั
2. จาแนกสารเป็นกลุ่มโดยใช้สถานะ
หรอื เกณฑ์อน่ื ท่ีกาหนดเอง  การจาแนกสารอาจจาแนกโดยใชส้ ถานการณน์ าไฟฟ้า
การนาความร้อน หรอื สมบัติอ่นื เปน็ เกณฑ์ได้
3. ทดลองและอธบิ ายวธิ กี ารแยกสาร
บางชนิดท่ผี สมกัน โดยการรอ่ น  ในการแยกสารบางชนดิ ท่ีผสมกนั ออกจากกัน ต้องใช้
การตกตะกอน การกรอง วิธีการตา่ ง ๆ ทเ่ี หมาะสม ซึง่ อาจจะทาไดโ้ ดยการร่อน
การระเหดิ และระเหยแห้ง การตกตะกอน การกรอง การระเหดิ การระเหยแห้ง ท้ังนี้
ขน้ึ อย่กู ับสมบตั ิของสารทเี่ ปน็ ส่วนผสมในการผสมนน้ั ๆ
4. สารวจและจาแนกประเภทของ
สารตา่ ง ๆ ทใ่ี ช้ในชวี ิตประจาวัน  จาแนกประเภทของสารตา่ ง ๆ ท่ใี ชใ้ นชวี ิตประจาวนั ตาม
โดยใช้สมบตั แิ ละการใชป้ ระโยชน์ การใชป้ ระโยชน์ แบ่งได้เป็นสารปรุงรสอาหาร สารแต่งสี
ของสารเปน็ เกณฑ์ อาหาร สารทาความสะอาด สารกาจดั แมลงและศัตรูพชื
ซง่ึ สารแต่ละประเภทมคี วามเปน็ กรด-เบสแตกต่างกนั
5. อภปิ รายการเลือกใช้สารแต่ละ
ประเภทได้อยา่ งถูกต้องและ  การใช้สารตา่ ง ๆ ในชวี ิตประจาวันต้องเลือกใชใ้ ห้ถกู ต้อง
ปลอดภัย ตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน ปลอดภัยต่อส่ิงมชี ีวิต
และสง่ิ แวดล้อม

มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจความสาคัญของทรัพยากรธรรมชาติ การใช้ทรัพยากรธรรมชาติในระดบั
ท้องถ่นิ ประเทศ และโลก นาความรู้ไปใช้ในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและ
สง่ิ แวดลอ้ มในท้องถ่ินอยา่ งยั่งยนื

ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรู้
 เม่ือสารเกิดการเปลี่ยนแปลงเปน็ สารละลายหรือเปลยี่ น
1. ทดลองและอธิบายสมบัตขิ องสาร
เมอ่ื สารเกดิ การละลายและ สถานะ สารแต่ละชนดิ ยงั คงแสดงสมบตั ิของสารเดิม

เปล่ยี น  การเปล่ียนแปลงทางเคมี หรือการเกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมี ทาให้
สถานะ มีสารใหมเ่ กิดข้ึนและสมบตั ิของสารจะเปลยี่ นแปลงไป
จากเดมิ
2. วิเคราะหแ์ ละอธบิ ายการ
เปลี่ยนแปลงท่ที าให้เกดิ สารใหม่  การเปลย่ี นแปลงของสารท้ังการละลาย การเปลยี่ น
และมสี มบัตเิ ปลย่ี นแปลงไป สถานะและการเกดิ สารใหมต่ า่ งก็มผี ลตอ่ ส่งิ มชี ีวติ และ
สิ่งแวดลอ้ ม
3. อภิปรายการเปลีย่ นแปลงของสาร
ทก่ี ่อให้เกดิ ผลต่อส่งิ มีชวี ติ และ
สิ่งแวดล้อม

หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนุบาลพระสมทุ รเจดยี ์ พุทธศกั ราช 2561 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 หนา้ 60

สาระท่ี 4 แรงและการเคลอ่ื นที่
มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจธรรมชาตขิ องแรงแมเ่ หลก็ ไฟฟา้ แรงโนม้ ถว่ ง และแรงนิวเคลยี ร์

มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สอ่ื สารสง่ิ ทเี่ รยี นรู้และนาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์
อย่างถูกต้องและมคี ุณธรรม

ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้
- -

มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจลักษณะการเคลือ่ นท่ีแบบตา่ ง ๆ ของวัตถุในธรรมชาติ มกี ระบวนการสบื
เสาะหาความรแู้ ละจิตวิทยาศาสตร์ สือ่ สารส่งิ ทเี่ รียนร้แู ละนาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์

ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรู้
- -

สาระท่ี 5 พลังงาน เขา้ ใจความสมั พันธ์ระหวา่ งพลังงานกับการดารงชีวติ การเปลย่ี นรปู พลังงาน
มาตรฐาน ว 5.1 ปฏสิ ัมพันธร์ ะหว่างสารและพลงั งาน ผลของการใชพ้ ลงั งานต่อชวี ิตและสง่ิ แวดลอ้ ม มี
กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ ส่อื สารส่งิ ท่ีเรยี นรู้และนาความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์

ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรู้
1. ทดลองและอธิบายต่อวงจรไฟฟา้
 วงจรไฟฟา้ อย่างงา่ ย ประกอบดว้ ยแหล่งกาเนินไฟฟา้
อยา่ งงา่ ย อุปกรณไ์ ฟฟ้า
2. ทดลองและอธบิ ายตัวนาไฟฟา้
 วัสดุที่กระแสไฟฟา้ ผ่านไดเ้ ปน็ ตวั นาไฟฟ้า ถ้ากระแส
และฉนวนไฟฟ้า ไฟฟ้าผ่านไม่ไดเ้ ป็นฉนวนไฟฟ้า
3. ทดลองและอธิบายการต่อ
 เซลลไ์ ฟฟ้าหลายเซลลต์ ่อเรียงกัน โดยข้ันบวกของเซลล์
แบบอนกุ รมและนาความรู้ไปใช้ ไฟฟ้าเซลลห์ นงึ่ ต่อกับขวั้ ลบของอีกเซลลห์ นง่ึ เป็นการต่อ
ประโยชน์ แบบอนุกรม ทาให้มีกระแสไฟฟ้าผ่านอปุ กรณ์ไฟฟา้ ใน
วงจรเพมิ่ ขน้ึ
4. ทดลองและอธบิ ายการต่อหลอด
ไฟฟา้ ทั้งแบบอนุกรม แบบขนาน  การตอ่ หลอดไฟฟา้ แบบอนุกรมจะมีกระแสไฟฟ้าปริมาณ
และนาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ เดยี วกนั ผ่านหลอดไฟฟ้าแต่ละหลอด

5. ทดลองและอธิบายการเกิด  การต่อหลอดไฟฟา้ แบบขนานกระแสไฟฟา้ จะแยกผา่ น
สนามแม่เหล็กรอบสายไฟที่มี หลอดไฟฟา้ แตล่ ะหลอด สามารถนาไปใช้ประโยชน์ เชน่
กระแสไฟฟา้ ผ่าน และนาความรู้ การตอ่ หลอดไฟฟา้ หลายดวงในบา้ น
ไปใช้ประโยชน์
 สายไฟฟา้ ทม่ี ีกระแสไฟฟา้ ผ่านจะเกิดสนามแม่เหล็กรอบ
สายไฟ สามารถนาไปใชป้ ระโยชน์ เช่น การทา
แมเ่ หล็กไฟฟา้

หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนอนบุ าลพระสมทุ รเจดยี ์ พุทธศักราช 2561 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 หน้า 61

สาระที่ 6 กระบวนการเปล่ียนแปลงของโลก
มาตรฐาน ว 6.1 เขา้ ใจกระบวนการตา่ ง ๆ ทเ่ี กิดขน้ึ บนผวิ โลกและภายในโลก ความสมั พนั ธ์ของ

กระบวนการต่าง ๆ ทีม่ ีผลต่อการเปลี่ยนแปลงภมู อิ ากาศ ภมู ปิ ระเทศ และสัณฐาน
ของโลก มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจติ วิทยาศาสตร์ สอื่ สารสิง่ ท่เี รยี นร้แู ละ
นาความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตัวชี้วัด าระการเรียนรู้

1. อธิบาย จาแนกประเภทของหิน  หินแต่ละชนดิ มีลกั ษณะแตกตา่ งกัน จาแนกตามลักษณะที่

โดยใช้ลักษณะของหนิ สมบัติของ สังเกตได้เป็นเกณฑ์ เชน่ สี เน้อื หนิ ความแขง็

หินเป็นเกณฑ์ และนาความรู้ไปใช้ ความหนาแนน่

ประโยชน์  นกั ธรณีวทิ ยา จาแนกหนิ ตามลักษณะการเกิดได้

3 ประเภท คือหนิ อัคนี หนิ ตะกอน และหนิ แปร

 ลกั ษณะหินและสมบตั ิของหนิ ที่แตกต่างกันนามาใชใ้ ห้

เหมาะกับงานท้ังในดา้ นก่อสร้าง ดา้ นอุตสาหกรรมและ

ดา้ นอื่น ๆ

2. สารวจและอธิบายการเปลีย่ น  การเปลีย่ นแปลงของหินในธรรมชาติโดยการผุพังอยู่

แปลงของหนิ กับที่ การกร่อนทาให้หินมีขนาดเลก็ ลง จนเป็น

สว่ นประกอบของดิน

3. สืบค้นและอธบิ ายธรณพี ิบัติภัยท่มี ี  มนษุ ยค์ วรเรียนรแู้ ละปฏิบัตติ นใหป้ ลอดภยั จากธรณีพบิ ัติ

ผลต่อมนษุ ย์และสภาพแวดล้อมใน ทอ่ี าจเกิดขน้ึ ในท้องถ่นิ ได้แก่ น้าปา่ ไหลหลาก นา้ ทว่ ม

ท้องถน่ิ แผน่ ดินถล่ม แผน่ ดนิ ไหว สนึ ามิ และอน่ื ๆ

 การเกดิ แผน่ ดนิ ไหว อุทักภัย วาตภัย และไฟไหม้ป่า

 การเกดิ ดนิ ถล่มหรอื โคลนถล่ม

 การเกดิ สึนามิ

 การเกิดนา้ กัดเซาะผนื แผ่นดนิ บรเิ วณบ้านขุนสมทุ รจีน

หมู่บ้านสาขลา ตาบลนาเกลอื อาเภอพระสมทุ รเจดีย์

จงั หวัดสมุทรปราการ

 สภาวะนา้ ทะเลยกตัวขนึ้ สูง (Storm Surgc)

หลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนอนบุ าลพระสมทุ รเจดยี ์ พทุ ธศกั ราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 หนา้ 62

สาระท่ี 7 ดาราศาสตร์และอวกาศ
มาตรฐาน ว 7.1 เข้าใจวิวัฒนาการของระบบสรุ ยิ ะ กาแลก็ ซีและเอกภพ การปฏสิ มั พันธ์ภายในระบบ

สรุ ยิ ะและผลตอ่ ส่งิ มชี วี ติ บนโลก มีกระบวนการสบื เสาะหาความรู้และ
จิตวทิ ยาศาสตร์ สื่อสารส่งิ ที่เรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรู้

1. สรา้ งแบบจาลองและอธบิ ายการ  การทโ่ี ลกโคจรรอบดวงอาทติ ย์ในเวลา 1 ปี ในลกั ษณะที่
เกิดฤดู ขา้ งขน้ึ ข้างแรม แกนโลกเอยี งกบั แนวตัง้ ฉากของระนาบทางโคจร ทาให้
สรุ ยิ ปุ ราคา จนั ทรุปราคา และนา บรเิ วณส่วนตา่ ง ๆ ของโลกรบั พลงั งานจากดวงอาทิตย์
ความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ แตกตา่ งกันเปน็ ผลใหเ้ กดิ ฤดูต่าง ๆ

 ดวงจันทรไ์ ม่มแี สงสวา่ งในตวั เอง แสงสวา่ งท่ีเหน็ เกิดจาก
แสงอาทติ ยต์ กกระทบดวงจนั ทร์แลว้ สะท้อนมายงั โลก
การทด่ี วงจันทร์โคจรรอบโลก ขณะทโ่ี ลกโคจรรอบดวง
อาทติ ย์ ดวงจันทร์จงึ เปลย่ี นตาแหนง่ ไปทาให้มองเห็นแสง
สะทอ้ นจากดวงจนั ทรแ์ ตกต่างกนั ในแตล่ ะคนื ซ่ึงเรียกวา่
ขา้ งขึ้น ขา้ งแรก

 การท่โี ลก ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์อยูใ่ นแนวเส้นตรง
เดยี วกนั ทาใหด้ วงจนั ทรเ์ คลอ่ื นทเ่ี ข้าไปอยใู่ นเงาของโลก
เกดิ จนั ทรุปราคา

มาตรฐาน ว 7.2 เขา้ ใจความสาคัญของเทคโนโลยอี วกาศท่ีนามาใช้ในการสารวจอวกาศและ
ทรัพยากรธรรมชาติ ด้านการเกษตรและการส่ือสาร มกี ระบวนการสืบเสาะหาความรู้
และจิตวิทยาศาสตร์ สื่อสารสิง่ ท่เี รยี นรู้และนาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์อยา่ งมีคณุ ธรรม
ต่อชวี ติ และสงิ่ แวดล้อม

ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนรู้

1. สืบค้น อภิปรายความก้าวหน้าและ  ความก้าวหนา้ ของจรวด ดาวเทียมและยานอวกาศ

ประโยชนข์ องเทคโนโลยอี วกาศ  ความกา้ วหน้าของเทคโนโลยอี วกาศไดน้ ามาใชใ้ นการ

สารวจขอ้ มลู ของวัตถุท้องฟ้า ทาให้ไดเ้ รยี นร้เู กี่ยวกบั

ระบบสรุ ยิ ะทง้ั ในและนอกระบบสุรยิ ะเพม่ิ ขึ้นอีกมากมาย

และยงั มปี ระโยชน์ในการพัฒนาเทคโนโลยใี นด้านการ

สารวจทรพั ยากรธรรมชาติ การสื่อสาร

หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนบุ าลพระสมุทรเจดยี ์ พทุ ธศกั ราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 หนา้ 63

สาระท่ี 8 ธรรมชาติของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 8.1 ใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละจติ วิทยาศาสตรใ์ นการสบื เสาะหาความรู้

การแกป้ ัญหา รูว้ ่าปรากฏการณท์ างธรรมชาติทีเ่ กดิ ขึ้นสว่ นใหญ่มีรปู แบบท่ีแน่นอน
สามารถอธบิ ายและตรวจสอบไดภ้ ายใตข้ ้อมูลและเคร่ืองมือที่มีอยใู่ นชว่ งเวลานั้น ๆ
เข้าใจวา่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสงิ่ แวดลอ้ ม มีความเกย่ี วข้องสมั พันธ์

ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรู้
-
1. ตั้งคาถามเกยี่ วกับประเด็นหรอื
เร่ืองหรือสถานการณ์ท่จี ะศึกษา -
ตามทก่ี าหนดให้และตาม
ความสนใจ -
-
2. วางแผนการสังเกต เสนอวิธสี ารวจ
ตรวจสอบ หรอื ศึกษาค้นคว้า และ -
คาดการณส์ ิง่ ที่จะพบจากการ -
สารวจตรวจสอบ

3. เลอื กอปุ กรณท์ ถ่ี ูกต้องเหมาะสม
ในการสารวจตรวจสอบให้ได้
ข้อมลู ทีเ่ ช่อื ถือได้

4. บนั ทกึ ข้อมูลในเชิงปรมิ าณและ
คณุ ภาพ และตรวจสอบผลกบั สิง่ ที่
คาดการณ์ไว้ นาเสนอผลและ
สรปุ ผล

5. สรา้ งคาถามใหม่เพ่ือการสารวจ
ตรวจสอบตอ่ ไป

6. แสดงความคดิ เห็นอย่างอิสระ
อธบิ ายและสรุปสิ่งท่ไี ด้เรียนรู้

หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนบุ าลพระสมุทรเจดยี ์ พุทธศักราช 2561 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 หน้า 64

มาตรฐาน ว 8.1 ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจติ วทิ ยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้
การแกป้ ัญหา รวู้ า่ ปรากฏการณท์ างธรรมชาติทีเ่ กดิ ขน้ึ ส่วนใหญม่ ีรปู แบบที่แน่นอน
สามารถอธบิ ายและตรวจสอบไดภ้ ายใตข้ ้อมูลและเคร่ืองมือทมี่ ีอย่ใู นชว่ งเวลาน้ัน ๆ
เขา้ ใจวา่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสง่ิ แวดลอ้ ม มีความเกีย่ วข้องสัมพนั ธ์

ตัวชีว้ ดั สาระการเรยี นรู้
-
7. บันทกึ และอธบิ ายผลการสารวจ
ตรวจสอบตามความเปน็ จริงมี -
การอ้างอิง

8. นาเสนอ จดั แสดงผลงาน โดย
อธิบายด้วยวาจา และเขียนอธิบาย
แสดงกระบวนการและผลของ
งานใหผ้ อู้ ื่นเขา้ ใจ

หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรียนอนบุ าลพระสมทุ รเจดีย์ พทุ ธศักราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 หน้า 65

วเิ คราะห์ตวั ชี้วัด
กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

หลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนบุ าลพระสมุทรเจดีย์ พทุ ธศกั ราช 2561 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 หนา้ 66

ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1

สาระที่ 1 วิทยาศาสตรช์ วี ภาพ

มาตรฐาน ว 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพนั ธ์ระหว่างสง่ิ ไม่มีชวี ิตกับสิ่งมชี วี ติ

และความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสิง่ มีชีวิตกบั สงิ่ มชี วี ิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอด

พลงั งาน การเปล่ียนแปลงแทนท่ใี นระบบนิเวศ ความหมายของประชากร ปัญหา

และผลกระทบทมี่ ีตอ่ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม แนวทางในการอนรุ ักษ์

ทรัพยากรธรรมชาติและการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมรวมท้ังนาความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์

ตัวช้ีวัด ความรู้ ส่งิ ท่ปี ฏบิ ัตไิ ด้ คณุ ลักษณะ สมรรถนะ สาระการเรียนรู้
(ทักษะ/ ท่พี งึ ประสงค์ ทอ้ งถนิ่

กระบวนการ)

1. ระบชุ ือ่ พชื และสตั ว์ท่ี - บรเิ วณต่าง ๆ ในท้องถ่ิน - การสงั เกต - ใฝเ่ รียนรู้ - ความสามารถ - บรเิ วณต่างๆ

อาศัยอยู่บริเวณต่าง ๆ เชน่ สนามหญา้ ใตต้ ้นไม้ - การจาแนก - มุ่งมัน่ ในการ ในการสื่อสาร ในโรงเรียน

จากข้อมูลท่รี วบรวมได้ สวนหย่อม แหล่งน้า อาจ ขอ้ มลู ทางาน - ความสามารถ ไดแ้ ก่ สนาม

พบพชื และสตั ว์หลายชนิด - การลงความ ในการคดิ หญา้ ใตต้ ้นไม้

อาศยั อยู่ คดิ เหน็ จากข้อมลู สวนหยอ่ ม

แหลง่ น้า

2. บอกสภาพแวดลอ้ มท่ี - บรเิ วณทีแ่ ตกต่างกนั อาจ - การสังเกต - ใฝ่เรยี นรู้ - ความสามารถ - บริเวณตา่ งๆ

เหมาะสมกับการ พบพืชและสัตวแ์ ตกตา่ งกนั - การจาแนก - มุ่งม่ันในการ ในการสอื่ สาร ในโรงเรียน

ดารงชีวติ ของสตั ว์ใน เพราะสภาพแวดลอ้ มของ ข้อมลู ทางาน - ความสามารถ ได้แก่ สนาม

บรเิ วณท่อี าศยั อยู่ แตล่ ะบริเวณจะมี - การลงความ ในการคิด หญา้ ใตต้ น้ ไม้

ความเหมาะสมตอ่ การ คิดเห็นจากข้อมลู สวนหยอ่ ม

ดารงชวี ิตของพชื และสัตวท์ ี่ แหล่งนา้

อาศยั อยู่ในแตล่ ะบรเิ วณ

เชน่ สระนา้ มีนา้ เปน็ ที่อยู่

อาศยั ของหอย ปลา

สาหร่าย เป็นที่หลบภัย

และมี แหล่งอาหารของ

หอยและปลา บรเิ วณต้น

มะมว่ งมีตน้ มะม่วงเปน็

แหลง่ ที่อยู่ และมอี าหาร

สาหรบั กระรอกและมด

- ถา้ สภาพแวดลอ้ มใน

บรเิ วณท่พี ชื และสตั ว์อาศัย

อยู่มกี ารเปลยี่ นแปลง จะมี

ผลตอ่ การดารงชีวิตของพืช

และสตั ว์

หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนบุ าลพระสมทุ รเจดยี ์ พทุ ธศักราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 หน้า 67

สาระท่ี 1 วิทยาศาสตรช์ วี ภาพ

มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิง่ มชี ีวิต หนว่ ยพื้นฐานของส่ิงมีชีวิต การลาเลียงสารผา่ นเซลล์

ความสมั พันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบตา่ ง ๆ ของสตั วแ์ ละมนุษย์ท่ที างาน

สัมพันธ์กัน ความสัมพันธข์ องโครงสร้าง และหนา้ ท่ีของอวยั วะตา่ ง ๆ ของพชื ท่ี

ทางานสมั พนั ธก์ ันรวมท้ังนาความรู้ไปใช้ประโยชน์

ส่งิ ท่ปี ฏบิ ตั ไิ ด้ คณุ ลกั ษณะ สาระการเรียนรู้
ท่พี งึ ประสงค์ ทอ้ งถนิ่
ตัวช้วี ดั ความรู้ (ทกั ษะ/ สมรรถนะ
- มีวนิ ัย - ส่ิงมชี ีวิตใน
กระบวนการ) - ใฝเ่ รียนรู้ - ความสามารถ ทอ้ งถน่ิ ได้แก่
- มงุ่ ม่นั ในการ ในการสื่อสาร คน สัตว์ชนิด
1. ระบชุ อ่ื บรรยาย - มนษุ ยม์ สี ่วนตา่ ง ๆ ท่มี ี - การจาแนกขอ้ มลู ทางาน - ความสามารถ ตา่ งๆ และพืช
ในการคิด ชนิดตา่ งๆ
ลักษณะและบอกหนา้ ที่ ลกั ษณะและหนา้ ที่แตกตา่ ง - การลงความ - ความสามารถ
ของส่วนต่าง ๆ ของ กนั เพอ่ื ใหเ้ หมาะสมในการ คิดเห็นจากข้อมลู ในการใช้ทกั ษะ
ดารงชีวติ เช่น ตามีหน้าท่ี - การจดั ทาและส่ือ ชีวติ
รา่ งกายมนษุ ย์ สัตว์ และ ไวม้ องดู โดยมีหนังตาและ ความหมายข้อมลู
พชื รวมท้ังบรรยายการ ขนตาเพือ่ ปอ้ งกันอนั ตราย

ทาหน้าทรี่ ่วมกนั ของ ให้กับตา หมู ี หน้าทรี่ บั ฟงั
สว่ นตา่ ง ๆของร่างกาย เสยี ง โดยมใี บหแู ละรูหู เพ่ือ

มนษุ ยใ์ นการทากจิ กรรม เปน็ ทางผา่ นของเสียง ปาก
มหี น้าทพี่ ดู กินอาหาร มี
ตา่ ง ๆ จากข้อมลู ที่
รวบรวมได้ ชอ่ งปากและมรี มิ ฝีปากบน
ลา่ ง แขนและมือมหี น้าทีย่ ก

หยิบ จับ มที ่อนแขนและนิ้ว

มอื ที่ขยบั ได้ สมอง มหี น้าที่

ควบคมุ การทางานของสว่ น

ต่าง ๆ ของร่างกาย เปน็

กอ้ นอยใู่ นกะโหลกศรี ษะ

โดยสว่ นต่าง ๆ ของรา่ งกาย

จะทาหนา้ ทีร่ ว่ มกันในการ

ทากจิ กรรม ใน

ชวี ติ ประจาวนั

- สตั ว์มีหลายชนดิ แต่ละ

ชนิดมีสว่ นตา่ ง ๆ ท่มี ี

ลักษณะและหนา้ ทแี่ ตกต่าง

กัน เพื่อให้เหมาะสม ในการ

ดารงชวี ติ เชน่ ปลามีครีบ

เปน็ แผน่ ส่วนกบ เต่า แมว

มขี า ๔ ขาและมเี ท้า

สาหรับใช้ในการเคล่ือนท่ี

หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นอนบุ าลพระสมทุ รเจดยี ์ พทุ ธศกั ราช 2561 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 หนา้ 68

ตัวชวี้ ดั ความรู้ สิ่งทีป่ ฏิบตั ไิ ด้ คุณลักษณะ สมรรถนะ สาระการเรียนรู้
(ทกั ษะ/ ทพี่ งึ ประสงค์ ทอ้ งถ่นิ
2. ตระหนักถงึ - พืชมีส่วนตา่ ง ๆ ทม่ี ี - ความสามารถ
ความสาคญั ของส่วนต่าง ลกั ษณะและหนา้ ท่ีแตกตา่ ง กระบวนการ) - มวี ินยั ในการคดิ - ส่งิ มชี วี ิตใน
ๆ ของรา่ งกายตนเอง กัน เพ่อื ให้เหมาะสมในการ - ใฝ่เรียนรู้ ความสามารถ ทอ้ งถ่ิน ไดแ้ ก่ คน
โดยการดแู ลสว่ นตา่ ง ๆ ดารงชีวิตโดยท่ัวไป รากมี - การตคี วามหมาย ในการแก้ปญั หา สัตว์ชนิดต่างๆ
อยา่ งถกู ตอ้ ง ให้ ลกั ษณะเรยี วยาว และแตก และลงข้อสรปุ - ความสามารถ และพชื ชนดิ ต่างๆ
ปลอดภัย และรักษา แขนงเป็นรากเล็ก ๆ ทา ในการใชท้ ักษะ
ความสะอาดอยเู่ สมอ หนา้ ที่ดดู น้า ลาต้นมี ชีวติ
ลกั ษณะเปน็ ทรงกระบอก
ตงั้ ตรงและมีกงิ่ ก้าน ทา
หนา้ ท่ชี ูก่งิ ก้าน ใบ และ
ดอก ใบมีลกั ษณะเปน็ แผ่น
แบน ทาหนา้ ทสี่ ร้างอาหาร
นอกจากนพ้ี ืชหลายชนดิ
อาจมดี อกท่ีมสี ี รปู ร่างตา่ ง
ๆ ทาหนา้ ที่สบื พนั ธ์ุ รวมท้งั
มผี ลทมี่ เี ปลือก มเี นื้อห่อหุ้ม
เมลด็ และมเี มลด็ ซึง่
สามารถงอกเปน็ ตน้ ใหมไ่ ด้
- มนุษยใ์ ช้ส่วนตา่ ง ๆ ของ
ร่างกายในการทากจิ กรรม
ตา่ ง ๆ เพอ่ื การดารงชีวิต
มนุษย์จึงควรใชส้ ่วนตา่ ง ๆ
ของรา่ งกายอยา่ งถกู ต้อง
ปลอดภยั และรกั ษา ความ
สะอาดอยเู่ สมอ เช่น ใช้ตา
มองตวั หนังสือในที่ ๆ มแี สง
สวา่ งเพียงพอ ดแู ลตาให้
ปลอดภยั จากอนั ตราย และ
รักษาความสะอาดตาอยู่
เสมอ

หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนอนบุ าลพระสมทุ รเจดยี ์ พุทธศกั ราช 2561 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 หนา้ 69

สาระที่ 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ

มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสมบตั ขิ องสสาร

กบั โครงสร้างและแรงยดึ เหนี่ยวระหวา่ งอนุภาค หลกั และธรรมชาตขิ องการ

เปลีย่ นแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏกิ ิริยาเคมี

ตวั ช้วี ัด ความรู้ ส่งิ ทป่ี ฏิบัตไิ ด้ คุณลักษณะ สมรรถนะ สาระการเรยี นรู้
(ทกั ษะ/ ท่พี ึงประสงค์ ทอ้ งถนิ่

กระบวนการ)

1. อธิบายสมบัตทิ สี่ ังเกตได้ - วัสดทุ ใ่ี ชท้ าวตั ถทุ เ่ี ป็น - การสังเกต - ซ่อื สัตย์ - ความสามารถ - วสั ดุตา่ งๆ ใน

ของวัสดทุ ใ่ี ช้ทาวตั ถุซง่ึ ทา ของเล่น ของใช้ มหี ลาย - การจาแนก - มวี ินัย ในการสื่อสาร ท้องถ่นิ ไดแ้ ก่
จากวัสดชุ นิดเดยี ว หรือ ชนิด เชน่ ผ้า แกว้ ประเภท - ใฝเ่ รียนรู้ - ความสามารถ ผา้ แก้ว
หลายชนิดประกอบกนั โดย พลาสติก ยาง ไม้ อิฐ หิน - การจดั ทาและส่ือ - มงุ่ มัน่ ในการ ในการคิด พลาสตกิ ยาง
ใชห้ ลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ กระดาษ โลหะ วสั ดุแต่ ความหมายขอ้ มลู ทางาน - ความสามารถ ไม้ อฐิ หิน
ละชนิดมสี มบตั ิท่สี ังเกต - การลงความ ในการแก้ปญั หา กระดาษ โลหะ

ได้ต่าง ๆ เชน่ สี นุ่ม แข็ง คิดเหน็ จากขอ้ มลู

ขรขุ ระ เรียบ ใส ขนุ่ ยืด

หดได้ บดิ งอได้

2. ระบชุ นิดของวสั ดุและ - สมบตั ทิ ่สี งั เกตได้ของ - การจาแนก - ซือ่ สตั ย์ - ความสามารถ - วัสดตุ ่างๆ ใน

จดั กลุ่มวสั ดตุ ามสมบัตทิ ี่ วสั ดุแต่ชนดิ อาจ ประเภท - มวี นิ ัย ในการสือ่ สาร ท้องถนิ ได้แก่

สังเกตได้ เหมอื นกนั ซง่ึ สามารถนา - การหา - ใฝเ่ รยี นรู้ - ความสามารถ ผา้ แกว้

มาใชเ้ ป็นเกณฑ์ในการจัด ความสัมพันธ์ - มงุ่ มน่ั ในการ ในการคดิ พลาสติก ยาง

กลมุ่ วสั ดไุ ด้ ระหวา่ งสเปส ทางาน - ความสามารถ ไม้ อิฐ หิน

- วัสดบุ างอย่างสามารถ กับสเปสและสเปส ในการแกป้ ญั หา กระดาษ โลหะ

นามาประกอบกนั เพ่ือทา กับเวลา

เป็นวัตถตุ ่าง ๆ เช่น ผ้า

และกระดุม ใช้ทาเสอื้ ไม้

และโลหะ ใชท้ ากระทะ

หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนอนุบาลพระสมุทรเจดีย์ พทุ ธศักราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 หน้า 70

สาระท่ี 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ

มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจความหมายของพลงั งาน การเปลย่ี นแปลงและการถ่ายโอนพลงั งาน

ปฏสิ ัมพนั ธ์ ระหวา่ งสสารและพลังงาน พลังงานในชีวติ ประจาวัน ธรรมชาตขิ องคล่นื

ปรากฏการณ์ ท่เี กย่ี วข้องกบั เสียง แสง และคล่นื แม่เหล็กไฟฟา้ รวมท้ังนาความรู้ไป

ใชป้ ระโยชน์

ตวั ช้ีวดั ความรู้ ส่งิ ที่ปฏิบัตไิ ด้ คุณลกั ษณะ สมรรถนะ สาระการเรยี นรู้
ท่ีพงึ ประสงค์ ท้องถน่ิ
1. บรรยายการเกิดเสยี ง (ทักษะ/กระบวนการ) - ความสามารถ
และทศิ ทาง การเคล่ือนที่ - มวี นิ ยั ในการสือ่ สาร - แหลง่ กาเนิด
ของเสียงจากหลกั ฐานเชงิ - เสียงเกดิ จากการส่นั - การจดั ทาและสื่อ - ใฝเ่ รียนรู้ - ความสามารถ เสยี งในทอ้ งถ่ิน
ประจกั ษ - มุ่งมน่ั ในการ ในการคิด ได้แก่ ส้อมเสยี ง
ของวตั ถุ วัตถทุ ท่ี าใหเ้ กิด ความหมายขอ้ มลู ทางาน - ความสามารถ
ในการแก้ปญั หา
เสียงเปน็ แหล่งกาเนิด - การลงความ

เสียงซง่ึ มที ้ังแหล่งกาเนดิ คดิ เหน็ จากขอ้ มลู

เสยี งตามธรรมชาติและ

แหลง่ กาเนิดเสยี งที่มนษุ ย์

สร้างขน้ึ เสยี งเคล่อื นท่ี

ออกจากแหล่งกาเนิด

เสียงทกุ ทศิ ทาง

สาระท่ี 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ

มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจองค์ประกอบ ลกั ษณะ กระบวนการเกดิ และววิ ัฒนาการของเอกภพ กาแลก็ ซี

ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมท้งั ปฏิสมั พันธ์ภายในระบบสุริยะท่ีส่งผลตอ่ ส่ิงมชี วี ิต

และการประยกุ ต์ใชเ้ ทคโนโลยอี วกาศ

ตวั ชวี้ ดั ความรู้ สง่ิ ทปี่ ฏิบตั ไิ ด้ คุณลกั ษณะ สมรรถนะ สาระการเรยี นรู้
(ทกั ษะ/กระบวนการ) ท่พี งึ ประสงค์ ท้องถ่ิน

1. ระบุดาวทป่ี รากฏบน - บนท้องฟา้ มดี วงอาทิตย์ - การจดั ทาและสอ่ื - มวี ินยั - ความสามารถ - ลกู โลกจาลอง

ทอ้ งฟ้าในเวลากลางวัน ดวงจันทร์ และดาว ซ่ึงใน ความหมายขอ้ มลู - ใฝ่เรียนรู้ ในการสอ่ื สาร - แผนท่ีดดู าวใท้

และกลางคืนจากข้อมลู ท่ี เวลากลางวันจะมองเห็น - การลงความ - มุ่งมน่ั ในการ - ความสามารถ องถิน่

รวบรวมได้ ดวงอาทติ ยแ์ ละอาจ คิดเหน็ จากข้อมลู ทางาน ในการคิด

มองเห็นดวงจันทรบ์ าง - ความสามารถ

เวลาในบางวัน แต่ไม่ ในการแกป้ ญั หา

สามารถมองเห็นดาว

2. อธิบายสาเหตุทม่ี องไม่ - ในเวลากลางวนั มองไม่ - การจดั ทาและสอ่ื - มวี นิ ัย - ความสามารถ - ลกู โลกจาลอง

เหน็ ดาวสว่ นใหญ่ ในเวลา เหน็ ดาวส่วนใหญ่ ความหมายข้อมลู - ใฝ่เรยี นรู้ ในการสื่อสาร - แผนที่ดูดาวใน

กลางวนั จากหลักฐานเชงิ เน่ืองจากแสงอาทิตย์ - การลงความ - มงุ่ มน่ั ในการ - ความสามารถ ท้องถนิ่

ประจกั ษ์ สวา่ งกวา่ จงึ กลบแสงของ คดิ เหน็ จากขอ้ มลู ทางาน ในการคดิ

ดาว สว่ นในเวลากลางคนื - ความสามารถ

จะมองเหน็ ดาวและ ในการแก้ปัญหา

มองเหน็ ดวงจนั ทร์ เกอื บ

ทกุ คนื

หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนอนุบาลพระสมุทรเจดีย์ พุทธศักราช 2561 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 หนา้ 71

สาระท่ี 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ

มาตรฐาน ว .2 เขา้ ใจองคป์ ระกอบ และความสมั พันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปล่ยี นแปลง

ภายในโลก และบนผิวโลก ธรณพี บิ ัติภยั กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟา้ อากาศและ

ภูมิอากาศโลก รวมทง้ั ผลต่อส่ิงมชี ีวิตและสิง่ แวดล้อม

ตัวช้ีวัด ความรู้ สง่ิ ทีป่ ฏิบตั ไิ ด้ คุณลกั ษณะ สมรรถนะ สาระการเรียนรู้
(ทกั ษะ/ ที่พึงประสงค์ ทอ้ งถน่ิ

กระบวนการ)

1. อธิบายลักษณะ - หินท่ีอยใู่ นธรรมชาตมิ ี - การสงั เกต - มวี ินยั - ความสามารถ - ตวั อยา่ งหิน

ภายนอกของหิน จาก ลกั ษณะภายนอก - การจดั ทาและสือ่ - ใฝเ่ รยี นรู้ ในการสอ่ื สาร - แผนภาพวัฏ

ลักษณะเฉพาะตวั ทส่ี งั เกต เฉพาะตวั ทส่ี งั เกตได้ ความหมายขอ้ มลู - มงุ่ ม่นั ในการ - ความสามารถ จกั รหนิ

ได้ เช่น สี ลวดลาย นา้ หนกั - การลงความ ทางาน ในการคดิ

ความแข็ง และเนอื้ หิน คิดเห็นจากขอ้ มลู - ความสามารถ

- การตคี วามหมาย ในการแกป้ ัญหา

ของขอ้ มลู และการ

ลงสรุป

สาระท่ี 4 เทคโนโลยี เข้าใจและใชแ้ นวคดิ เชิงคานวณในการแกป้ ญั หาทพ่ี บในชวี ติ จริงอย่างเป็นข้ันตอน
มาตรฐาน ว 4.2 และเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรยี นรู้ การทางาน
และการแกป้ ญั หาได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ รูเ้ ทา่ ทนั และมจี รยิ ธรรม

ตัวชว้ี ัด สิง่ ทีป่ ฏบิ ตั ไิ ด้ คุณลักษณะ สมรรถนะ สาระการเรยี นรู้
ความรู้ (ทกั ษะ/ ทพ่ี งึ ประสงค์ ท้องถน่ิ
1. แกป้ ญั หาอย่างงา่ ยโดย - ความสามารถ
ใชก้ ารลองผดิ ลองถกู การ กระบวนการ) - ใฝ่เรยี นรู้ ในการคิด - เกมตา่ งๆ
เปรยี บเทยี บ - มงุ่ ม่นั ในการ - ความสามารถ ไดแ้ ก่ เกมเขา
- การแก้ปญั หาให้ประสบ - การสงั เกต ทางาน ในกาแก้ปญั หา วงกต เกมหาจุด
- มีจติ สาธารณะ - ความสามารถ แตกตา่ งของ
ความสาเรจ็ ทาไดโ้ ดยใช้ - การคานวณ - รกั ความเปน็ ในการใชท้ กั ษะ ภาพ
ข้นั ตอนการแกป้ ัญหา - การพยากรณ์ ไทย ชวี ิต
- ปัญหาอยา่ งง่าย เช่น - การตง้ั สมมติฐาน - ความสามารถ - เกมต่างๆ
- การทดลอง - ใฝ่เรียนรู้ ในการใช้ ได้แก่ เกมเขา
เกมเขาวงกต เกมหาจดุ - ม่งุ มน่ั ในการ เทคโนโลยี วงกต เกมหาจุด
ทางาน - ความสามารถ แตกต่างของ
แตกตา่ งของภาพ การจัด - มีจิตสาธารณะ ในการคิด ภาพ
- รักความเป็น - ความสามารถ
หนงั สือใส่กระเปา๋ ไทย ในกาแกป้ ัญหา
- ความสามารถ
2. แสดงลาดบั ขัน้ ตอนการ - การแสดงขั้นตอนการ - การสังเกต ในการใช้ทกั ษะ
ทางาน หรือ การแก้ปญั หา แกป้ ญั หาทาไดโ้ ดยการ - การคานวณ ชีวติ
อยา่ งงา่ ยโดยใช้ภาพ เขียน บอกเล่า วาดภาพ - การพยากรณ์ - ความสามารถ
สัญลักษณ์ หรือข้อความ หรอื ใชส้ ญั ลักษณ์ - การตั้งสมมติฐาน ในการใช้
- ปัญหาอยา่ งง่าย เชน่ - การทดลอง เทคโนโลยี

เกมเขาวงกต เกมหาจดุ

แตกตา่ งของภาพ การจดั

หนังสือใส่กระเปา๋

หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนอนุบาลพระสมุทรเจดีย์ พุทธศกั ราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 หนา้ 72

ส่ิงทปี่ ฏบิ ตั ไิ ด้ คณุ ลักษณะ สาระการเรียนรู้
ที่พึงประสงค์ ท้องถน่ิ
ตัวชว้ี ัด ความรู้ (ทักษะ/ สมรรถนะ
- โปรแกรม
กระบวนการ) คอมพวิ เตอร์

3. เขียนโปรแกรมอยา่ ง - การเขยี นโปรแกรมเป็น - การจดั ทาและสอ่ื - ใฝเ่ รยี นรู้ - ความสามารถ - โปรแกรม
- มงุ่ มั่นในการ ในการคดิ คอมพิวเตอร์
ง่าย โดยใช้ซอฟต์แวรห์ รอื การสรา้ งลาดับของคาส่งั ความหมายขอ้ มลู ทางาน - ความสามารถ
- มจี ิตสาธารณะ ในกาแก้ปัญหา - โปรแกรม
สอ่ื ให้คอมพิวเตอรท์ างาน - การตคี วามหมาย - รกั ความเป็น - ความสามารถ คอมพวิ เตอร์
ไทย ในการใชท้ กั ษะ
- ตัวอยา่ งโปรแกรม เช่น ของข้อมลู และการ ชีวิต
- ความสามารถ
เขียนโปรแกรมสงั่ ให้ ตัว ลงสรุป ในการใช้
เทคโนโลยี
ละครยา้ ยตาแหนง่ ย่อ

ขยายขนาด เปล่ยี นรูปรา่ ง

- ซอฟต์แวร์ หรอื สื่อทีใ่ ช้

ในการเขียนโปรแกรม เช่น

ใช้บตั รคาส่ังแสดงการ

เขยี นโปรแกรม,

Code.org

4. ใช้เทคโนโลยใี นการ - การใชง้ านอุปกรณ์ - การจดั ทาและส่ือ - ใฝเ่ รียนรู้ - ความสามารถ
- ม่งุ มัน่ ในการ ในการคดิ
สรา้ ง จดั เกบ็ เรยี กใช้ เทคโนโลยีเบือ้ งต้น เช่น ความหมายขอ้ มลู ทางาน - ความสามารถ
- มจี ิตสาธารณะ ในกาแก้ปัญหา
ขอ้ มลู ตามวตั ถปุ ระสงค์ การใช้เมาส์ คีย์บอร์ด จอ - การตีความหมาย - รักความเปน็ - ความสามารถ
ไทย ในการใชท้ กั ษะ
สมั ผสั การเปดิ -ปดิ ของขอ้ มลู และการ ชีวิต
- ความสามารถ
อปุ กรณเ์ ทคโนโลยี ลงสรปุ ในการใช้
เทคโนโลยี
- การใช้งานซอฟต์แวร์

เบ้ืองตน้ เช่น การเข้าและ

ออกจากโปรแกรม การ

สร้างไฟล์ การจดั เกบ็ การ

เรียกใชไ้ ฟล์ ทาได้ใน

โปรแกรม เช่น โปรแกรม

ประมวลคา โปรแกรม

กราฟกิ โปรแกรมนาเสนอ

- การสร้างและจัดเก็บไฟล์

อยา่ งเปน็ ระบบจะทาให้

เรียกใช้ คน้ หาข้อมูลได้

ง่ายและรวดเร็ว

5. ใชเ้ ทคโนโลยี - การใชเ้ ทคโนโลยี - การจัดทาและสื่อ - ใฝ่เรียนรู้ - ความสามารถ
- มงุ่ ม่นั ในการ ในการคดิ
สารสนเทศอยา่ งปลอดภัย สารสนเทศอย่างปลอดภัย ความหมายขอ้ มลู ทางาน - ความสามารถ
- มีจิตสาธารณะ ในกาแก้ปญั หา
ปฏิบัติตามขอ้ ตกลงในการ เช่น ร้จู กั ขอ้ มูลสว่ นตวั - การตีความหมาย - รกั ความเปน็ - ความสามารถ
ไทย ในการใช้ทกั ษะ
ใชค้ อมพวิ เตอร์รว่ มกนั อนั ตรายจากการเผยแพร่ ของขอ้ มูลและการ ชีวิต
- ความสามารถ
ดูแลรกั ษาอุปกรณเ์ บ้อื งตน้ ขอ้ มูลสว่ นตัว และไม่บอก ลงสรปุ ในการใช้
เทคโนโลยี
ใช้งานอย่างเหมาะสม ขอ้ มลู สว่ นตวั กบั บคุ คลอ่ืน

ยกเวน้ ผปู้ กครอง หรอื ครู

แจ้งผ้เู กยี่ วข้องเมื่อ

ตอ้ งการ ความช่วยเหลือ

เกี่ยวกบั การใช้งาน

หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนอนบุ าลพระสมทุ รเจดยี ์ พุทธศกั ราช 2561 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 หนา้ 73

ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 2

สาระท่ี 1 สง่ิ มีชีวิตกบั กระบวนการดารงชวี ติ
มาตรฐาน ว1.1 เขา้ ใจหนว่ ยพืน้ ฐานของส่งิ มีชีวติ ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าท่ีของระบบ

ตา่ งๆ ของส่งิ มชี วี ิตท่ที างานสมั พนั ธก์ ัน มกี ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ ส่ือสารสิง่

ทีเ่ รียนรแู้ ละนาความรู้ไปใช้ในการดารงชีวติ ของตนเองและดูแลสิ่งมีชวี ิต

ตัวช้วี ัด ความรู้ สง่ิ ที่ปฏบิ ัตไิ ด้ คณุ ลักษณะ สมรรถนะ
ทีพ่ งึ ประสงค์
1.ทดลองและอธิบาย นา้ - พชื ตอ้ งการนา้ และแสง (ทักษะ/กระบวนการ) - ความสามารถ
แสง เปน็ ปัจจยั ท่ีจาเปน็ ในการเจรญิ เตบิ โตและ - มีวินยั ในการสอ่ื สาร
ตอ่ การดารงชวี ติ ของพืช การดารงชวี ิต - ทักษากรสังเกต - ใฝ่เรียนรู้ - ความสามารถ
- ทักษะการวดั - อยู่อยา่ ง ในการคดิ
2. อธิบายอาหาร นา้ - พชื และสัตว์ตอ้ งการ - ทักษะการจาแนก พอเพยี ง - ความสามารถ
อากาศ เปน็ ปัจจยั ท่ี อาหาร นา้ อากาศ เพอื่ - ทกั ษะสอ่ื - มงุ่ ม่ันในการ ในการแก้ปญั หา
จาเป็นต่อการดารงชีวติ การดารงชีวติ และการ ความหมายข้อมลู ทางาน - ความสามารถ
และการเจรญิ เตบิ โต เจริญเตบิ โต - ทักษะการ - มีจติ สาธารณะ ในการใช้ทักษะ
ของพืชและสัตว์ และ - นาความรู้ไปใช้ พยากรณ์ ชีวติ
นาความรไู้ ปใช้ ประโยชนใ์ นการดูแลพชื - ทักษะการลง - ความสามารถ
ประโยชน์ และสตั วเ์ พอื่ ให้ ความเหน็ ขอ้ มลู ในการใช้
เจริญเตบิ โตได้ดี - ทักษะการควบคุม เทคโนโลยี
3. สารวจและอธบิ าย พชื ตัวแปร
และสัตวส์ ามารถ - พืชและสตั ว์มกี าร - ทกั ษะการต้ัง
ตอบสนองตอ่ แสง ตอบสนองตอ่ แสง สมมตุ ฐิ าน
อุณหภมู ิ และการสมั ผัส อณุ หภูมิ และการสมั ผสั - ทกั ษะการกาหนด
นิยามเชงิ ปฏิบตั ิการ
4.ทดลองและอธบิ าย - ร่างกายมนษุ ย์สามารถ - ทักษะการทดลอง
- ทกั ษะการ
ร่างกายของมนุษย์สามารถ ตอบสนองต่อแสง ตคี วามหมายขอ้ มลู
และการลงข้อสรุป

ตอบสนองตอ่ แสง อณุ หภูมิ และการสมั ผสั

อณุ หภมู ิ และการสมั ผสั

หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนุบาลพระสมทุ รเจดีย์ พทุ ธศักราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 หนา้ 74

สาระที่ 1 สง่ิ มชี ีวติ กับกระบวนการดารงชวี ิต

มาตรฐาน ว1.1 เข้าใจหนว่ ยพน้ื ฐานของสง่ิ มชี ีวิต ความสัมพนั ธ์ของโครงสร้าง และหน้าท่ีของระบบ

ต่างๆ ของสิง่ มีชีวติ ที่ทางานสัมพันธ์กนั มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สอ่ื สารสิง่

ที่เรยี นร้แู ละนาความรู้ไปใชใ้ นการดารงชวี ติ ของตนเองและดแู ลสิง่ มชี วี ิต

ตัวชว้ี ดั ความรู้ สิง่ ทป่ี ฏบิ ตั ไิ ด้ คุณลักษณะ สมรรถนะ
ทีพ่ ึงประสงค์
5. อธบิ ายปจั จัยทีจ่ าเปน็ - มนษุ ยต์ ้องการอาหาร (ทกั ษะ/กระบวนการ)
ต่อการดารงชีวติ และ น้า อากาศ เพื่อการ
การเจริญเตบิ โตของ ดารงชีวิตและการ
มนษุ ย์ เจรญิ เติบโต

สาระท่ี 1 ส่ิงมีชีวิตกบั กระบวนการดารงชวี ิต
มาตรฐาน ว1.2 เข้าใจกระบวนการและความสาคัญของการถา่ ยทอดลักษณะทางพันธกุ รรม

ววิ ฒั นาการของสิ่งมชี ีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพ การใช้เทคโนโลยชี ีวภาพทีม่ ี

ผลกระทบต่อมนุษย์และสิง่ แวดล้อม มกี ระบวนการสืบเสาะหาความรแู้ ละ

จิตวิทยาศาสตร์ สื่อสาร สงิ่ ท่ีเรยี นรู้ และนาความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตวั ช้ีวดั ความรู้ สิง่ ทป่ี ฏิบตั ไิ ด้ คุณลกั ษณะ สมรรถนะ
ที่พงึ ประสงค์
1. อธิบายประโยชน์ของ - พชื และสัตว์มีประโยชน์ (ทกั ษะ/กระบวนการ) - ความสามารถ
พืชและสัตว์ในท้องถ่นิ ตอ่ มนษุ ยใ์ นแง่ของปจั จยั - มีวินยั ในการส่อื สาร
ส่ี คือเป็นอาหาร ทอ่ี ยู่ - ทกั ษากรสังเกต - ใฝเ่ รียนรู้ - ความสามารถ
อาศยั เครื่องนงุ่ ห่ม และ - ทักษะการวัด - อยู่อยา่ ง ในการคดิ
ยารักษาโรค - ทกั ษะการจาแนก พอเพียง - ความสามารถ
- ทกั ษะสอ่ื - มุ่งมัน่ ในการ ในการแกป้ ญั หา
ความหมายขอ้ มลู ทางาน - ความสามารถ
- ทกั ษะการลง - มีจิตสาธารณะ ในการใช้ทกั ษะ
ความเหน็ ขอ้ มลู ชวี ติ
- ความสามารถ
ในการใช้
เทคโนโลยี

หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรียนอนบุ าลพระสมุทรเจดีย์ พุทธศักราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 หน้า 75

สาระท่ี 3 สารและสมบตั ิของสาร

มาตรฐาน ว3.1 เข้าใจสมบัติของสาร ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสมบตั ิของสารกบั โครงสร้างและแรง

ยดึ เหน่ยี วระหวา่ งอนภุ าค มีกระบวนการสืบเสาะ หาความรแู้ ละจติ วิทยาศาสตร์

ส่ือสารสิง่ ทเ่ี รยี นรู้ นาความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตัวชวี้ ัด ความรู้ สิง่ ทปี่ ฏิบตั ไิ ด้ คณุ ลกั ษณะ สมรรถนะ
ทพ่ี ึงประสงค์
1. ระบุชนิดและ - ของเลน่ ของใช้อาจทา (ทักษะ/กระบวนการ) - ความสามารถ
เปรียบเทยี บสมบัติของ จากวัสดตุ า่ งๆกัน เชน่ ไม้ - มวี ินยั ในการสอ่ื สาร
วสั ดทุ น่ี ามาทาของเล่น เหล็ก กระดาษ พลาสตกิ - ทักษากรสังเกต - ใฝเ่ รียนรู้ - ความสามารถ
ของใชใ้ น ยาง ซึง่ วัสดตุ า่ งชนดิ กนั - ทกั ษะการวดั - อยู่อย่าง ในการคิด
ชีวติ ประจาวนั จะมสี มบัตแิ ตกตา่ งกัน - ทักษะการจาแนก พอเพยี ง - ความสามารถ
- ทักษะสอื่ - มงุ่ มัน่ ในการ ในการแกป้ ัญหา
2. เลือกใชว้ สั ดุและ - การเลือกวสั ดุและ ความหมายข้อมลู ทางาน - ความสามารถ
สง่ิ ของตา่ งๆ ไดอ้ ย่าง สิ่งของตา่ งๆมาใช้งานใน - ทกั ษะการลง - มจี ิตสาธารณะ ในการใชท้ กั ษะ
เหมาะสมและปลอดภัย ชวี ิตประจาวนั เพื่อความ ความเหน็ ข้อมลู ชีวติ
เหมาะสมและปลอดภยั - ความสามารถ
ต้องพิจารณาจากสมบัติ ในการใช้
ของวสั ดุท่ใี ช้ทาสิง่ ของ เทคโนโลยี
นน้ั

หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนอนุบาลพระสมทุ รเจดยี ์ พทุ ธศักราช 2561 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 หนา้ 76

สาระที่ 4 แรงและการเคลื่อนที่

มาตรฐาน ว4.1 เข้าใจธรรมชาติของแรงแม่เหล็กไฟฟ้า แรงโนม้ ถว่ ง และแรงนวิ เคลียร์

มกี ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สือ่ สารสิ่งทเ่ี รยี นรูแ้ ละนาความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์

อย่างถูกต้องและมีคุณธรรม

ตวั ชวี้ ัด ความรู้ ส่งิ ทปี่ ฏบิ ัตไิ ด้ คุณลกั ษณะ สมรรถนะ
1. ทดลองและอธิบายแรง ท่พี งึ ประสงค์
- แม่เหลก็ มแี รงดึงดูด (ทักษะ/กระบวนการ) - ความสามารถ
ที่เกิดจากแม่เหลก็ หรือผลักระหวา่ งแท่ง - มวี นิ ัย ในการสอ่ื สาร
แมเ่ หล็ก รอบแท่ง - ทกั ษากรสังเกต - ใฝ่เรียนรู้ - ความสามารถ
2. อธิบายการนาแม่เหลก็ แม่เหล็ก และสามารถ - ทกั ษะการวัด - อยอู่ ยา่ ง ในการคดิ
มาใชป้ ระโยชน์ ดึงดูดวัตถทุ ที่ าด้วยสาร - ทกั ษะการจาแนก พอเพียง - ความสามารถ
แม่เหล็ก - ทักษะสื่อ - มงุ่ ม่นั ในการ ในการแกป้ ญั หา
3. ทดลองและอธบิ ายแรง - แมเ่ หลก็ มปี ระโยชนใ์ น ความหมายขอ้ มลู ทางาน - ความสามารถ
ไฟฟ้าท่เี กิดจากการถู การทาของเล่นของใช้ - ทกั ษะการ - มจี ิตสาธารณะ ในการใชท้ กั ษะ
วตั ถบุ างชนิด และนาไปแยกสาร พยากรณ์ ชีวติ
แม่เหล็กออกจากวตั ถุอ่นื - ทกั ษะการลง - ความสามารถ
ได้ ความเห็นข้อมลู ในการใช้
- เมอื่ ถวู ตั ถุบางชนิดแล้ว - ทักษะการควบคมุ เทคโนโลยี
นาเขา้ ใกล้กันจะดงึ ดูด ตัวแปร
หรือผลกั กนั ได้ แรงท่ี - ทกั ษะการตัง้
เกิดข้นึ น้เี รยี กวา่ แรง สมมตุ ิฐาน
ไฟฟ้า และวีตถุน้ันจะ - ทักษะการกาหนด
ดึงดดู วัตถเุ บาๆได้ นยิ ามเชิงปฏิบตั ิการ
- ทกั ษะการทดลอง
- ทกั ษะการ
ตคี วามหมายขอ้ มลู
และการลงข้อสรุป

หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นอนุบาลพระสมทุ รเจดีย์ พทุ ธศักราช 2561 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 หน้า 77

สาระที่ 5 พลังงาน เขา้ ใจความสมั พันธ์ระหวา่ งพลังงานกบั การดารงชีวิต การเปลี่ยนรปู พลังงาน
มาตรฐาน ว5.1
ปฏิสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสารและพลงั งาน ผลของการใชพ้ ลังงานตอ่ ชีวิตและ
ตัวชี้วดั
1. ทดลองและอธิบายได้ สิง่ แวดล้อม มีกระบวน การสืบเสาะหาความร้สู ื่อสารสงิ่ ทเี่ รียนรแู้ ละนาความรู้ไปใช้

วา่ ไฟฟ้าเป็นพลังงาน ประโยชน์

2. สารวจและยกตัวอย่าง ความรู้ สิ่งทีป่ ฏิบัตไิ ด้ คุณลักษณะ สมรรถนะ
เครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ ในบา้ น (ทกั ษะ/กระบวนการ) ทพ่ี ึงประสงค์
ท่เี ปลยี่ นพลงั งานไฟฟา้
เป็นพลงั งานอน่ื - ไฟฟา้ จากเซลล์ไฟฟ้า - ทักษากรสังเกต - มวี ินยั - ความสามารถ

หรือแบตเตอร่ี สามารถ - ทักษะการวดั - ใฝเ่ รียนรู้ ในการสอ่ื สาร

ทางานได้ ไฟฟ้าจงึ เปน็ - ทกั ษะการจาแนก - อยอู่ ย่าง - ความสามารถ

พลงั งาน - ทกั ษะส่ือ พอเพียง ในการคิด

- พลงั งานไฟฟ้า ความหมายข้อมลู - มุ่งมนั่ ในการ - ความสามารถ
เปลยี่ นเปน็ พลังงานอน่ื ได้ - ทกั ษะการ ทางาน ในการแกป้ ญั หา
ซ่งึ ตรวจสอบได้จาก พยากรณ์ - มจี ิตสาธารณะ - ความสามารถ
เครือ่ งใชไ้ ฟฟ้าในบา้ น - ทกั ษะการลง ในการใช้ทกั ษะ
เช่น พดั ลม หม้อหุงขา้ ว ความเหน็ ขอ้ มลู ชวี ติ
ไฟฟ้า - ทกั ษะการควบคมุ - ความสามารถ
ตัวแปร ในการใช้

- ทกั ษะการตัง้ เทคโนโลยี

สมมตุ ฐิ าน

- ทกั ษะการกาหนด

นิยามเชิงปฏิบตั กิ าร

- ทกั ษะการทดลอง

- ทกั ษะการ

ตคี วามหมายข้อมูล

และการลงขอ้ สรุป

หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นอนุบาลพระสมุทรเจดีย์ พุทธศักราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 หนา้ 78

สาระท่ี 6 กระบวนการเปลี่ยนแปลงของโลก
มาตรฐาน ว6.1 เขา้ ใจกระบวนการตา่ ง ๆ ที่เกิดขน้ึ บนผิวโลกและภายในโลก ความสมั พนั ธ์ของ

กระบวนการต่าง ๆ ท่ีมผี ลต่อการเปลี่ยนแปลงภมู อิ ากาศ ภูมิประเทศ และสณั ฐาน

ของโลก มีกระบวนการสืบเสาะหาความรแู้ ละจติ วิทยาศาสตร์ สอ่ื สารสง่ิ ทีเ่ รยี นรู้

และนาความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตวั ช้วี ัด ความรู้ สิง่ ทปี่ ฏบิ ตั ไิ ด้ คุณลักษณะ สมรรถนะ
ทพ่ี งึ ประสงค์
1. สารวจและจาแนก - ดินจาแนกออกเปน็ (ทกั ษะ/กระบวนการ) - ความสามารถ
ประเภทของดนิ โดยใช้ ประเภทใหญๆ่ ได้แก่ ดนิ - มีวินยั ในการสื่อสาร
สมบัตทิ างกายภาพเปน็ รว่ น ดนิ เหนยี ว และดิน - ทกั ษากรสงั เกต - ใฝ่เรยี นรู้ - ความสามารถ
เกณฑ์ และนาความรู้ ทราย ตามลักษณะท่ี - ทกั ษะการจาแนก - อยอู่ ย่าง ในการคิด
ไปใช้ประโยชน์ แตกต่างกนั ในดา้ นของสี - ทักษะส่ือ พอเพียง - ความสามารถ
เน้ือดนิ การอมุ้ น้า และ ความหมายขอ้ มลู - มุ่งมั่นในการ ในการแก้ปญั หา
การจับตวั ของดิน ซึ่ง - ทกั ษะการ ทางาน - ความสามารถ
นาไปใช้ประโยชนไ์ ด้ พยากรณ์ - มจี ติ สาธารณะ ในการใชท้ ักษะ
แตกตา่ งกันตามสมบตั ิ - ทักษะการลง ชีวติ
ของดิน ความเห็นขอ้ มลู - ความสามารถ
ในการใช้
เทคโนโลยี

สาระที่ 7 ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ
มาตรฐาน ว7.1 เขา้ ใจวิวัฒนาการของระบบสุรยิ ะ กาแลก็ ซีและเอกภพการปฏสิ ัมพนั ธ์ภายในระบบ

สุรยิ ะและผลตอ่ สง่ิ มชี วี ติ บนโลก มีกระบวนการสบื เสาะ หาความรแู้ ละ

จิตวิทยาศาสตร์ การสื่อสารสิ่งทเ่ี รยี นร้แู ละนาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์

ตวั ชว้ี ัด ความรู้ ส่งิ ทป่ี ฏบิ ตั ไิ ด้ คุณลกั ษณะ สมรรถนะ
ท่ีพึงประสงค์
1. สบื คน้ และอภิปราย - ดวงอาทิตย์เป็นแหลง่ (ทักษะ/กระบวนการ) - ความสามารถ
ความสาคญั ของดวง พลงั งานสาคญั ของโลก - มวี ินยั ในการสอื่ สาร
อาทิตย์ เพราะไดท้ ้งั พลงั งาน - ทกั ษากรสงั เกต - ใฝ่เรยี นรู้ - ความสามารถ
ความร้อนและพลงั งาน - ทกั ษะการจาแนก - อยู่อยา่ ง ในการคดิ
แสง ซง่ึ ชว่ ยในการ - ทกั ษะสอื่ พอเพยี ง - ความสามารถ
ดารงชวี ิตของส่ิงมชี ีวติ ความหมายข้อมลู - มงุ่ มน่ั ในการ ในการแกป้ ญั หา
- ทักษะการ ทางาน - ความสามารถ
พยากรณ์ - มจี ติ สาธารณะ ในการใช้ทักษะ
- ทกั ษะการลง ชีวิต
ความเหน็ ขอ้ มลู - ความสามารถ
ในการใช้
เทคโนโลยี

หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนอนุบาลพระสมุทรเจดยี ์ พุทธศักราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 หน้า 79

สาระท่ี 8 ธรรมชาติของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มาตรฐาน ว8.1 ใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละจติ วิทยาศาสตร์ในการสบื เสาะหาความรู้ การ

แก้ปญั หา รวู้ ่าปรากฏการณ์ทางธรรมชาตทิ ี่เกดิ ขน้ึ ส่วนใหญม่ รี ูปแบบท่ีแน่นอน

สามารถอธบิ ายและตรวจสอบได้ ภายใตข้ ้อมลู และเครื่องมือที่มอี ยู่ในช่วงเวลาน้ันๆ

เข้าใจว่า วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สงั คม และส่ิงแวดลอ้ ม มีความเกี่ยวข้องสัมพนั ธ์กัน

ตัวชี้วดั ความรู้ สง่ิ ท่ปี ฏิบตั ไิ ด้ คุณลกั ษณะ สมรรถนะ
(ทักษะ/กระบวนการ) ทีพ่ งึ ประสงค์

1. ต้งั คาถามเกี่ยวกับเรอื่ ง - - --

ทีจ่ ะศกึ ษาตามท่ี

กาหนดใหห้ รือตาม

ความสนใจ

2.วางแผนการสงั เกต - - --

สารวจตรวจสอบ

ศกึ ษาคน้ ควา้ โดยใช้

ความคดิ ของตนเอง

ของกลมุ่ และของครู

3. ใชว้ ัสดุอปุ กรณใ์ นการ - - --

สารวจตรวจสอบ และ

บนั ทกึ ข้อมูล

4. จดั กลมุ่ ข้อมลู ทีไ่ ดจ้ าก - - --

การสารวจตรวจสอบและ

นาเสนอผล

5. แสดงความคดิ เหน็ ใน - - --

การสารวจ ตรวจสอบ

6. แสดงความคดิ เหน็ เปน็ - - --

กลุ่มและรวบรวมเปน็

ความรู้

หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนบุ าลพระสมุทรเจดีย์ พทุ ธศักราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 หนา้ 80

สาระที่ 8 ธรรมชาตขิ องวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

มาตรฐาน ว8.1 ใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวทิ ยาศาสตร์ในการสบื เสาะหาความรู้ การ

แก้ปัญหา รวู้ ่าปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดข้นึ สว่ นใหญ่มีรปู แบบทแี่ นน่ อน

สามารถอธบิ ายและตรวจสอบได้ ภายใตข้ ้อมลู และเครื่องมอื ท่ีมีอย่ใู นชว่ งเวลาน้นั ๆ

เข้าใจว่า วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม มคี วามเกยี่ วข้องสมั พนั ธก์ ัน

ตัวชวี้ ัด ความรู้ ส่ิงทป่ี ฏิบัตไิ ด้ คณุ ลักษณะ สมรรถนะ
7. บนั ทกึ และอธบิ ายผล (ทกั ษะ/กระบวนการ) ที่พงึ ประสงค์

- - --

การสงั เกต สารวจ

ตรวจสอบ อยา่ ง

ตรงไปตรงมา โดยเขยี น

ภาพ แผนภาพหรอื

คาอธิบาย

8. นาเสนอผลงานดว้ ย - - --

วาจาให้ผูอ้ ืน่ เขา้ ใจ

กระบวนการและผล

ของงาน

หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นอนบุ าลพระสมุทรเจดยี ์ พทุ ธศกั ราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 หนา้ 81

ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3

สาระท่ี 1 ส่งิ มีชีวติ กบั กระบวนการดารงชีวิต
มาตรฐาน ว1.2 เขา้ ใจกระบวนการและความสาคญั ของการถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม

ววิ ัฒนาการของส่ิงมีชีวติ ความหลากหลายทางชวี ภาพ การใชเ้ ทคโนโลยชี ีวภาพทม่ี ี

ผลกระทบต่อมนุษยแ์ ละสง่ิ แวดล้อม มกี ระบวนการสืบเสาะหาความรู้และ

จติ วิทยาศาสตร์ ส่ือสาร สิ่งท่ีเรยี นรู้ และนาความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตัวชวี้ ัด ความรู้ สิ่งทป่ี ฏิบัตไิ ด้ คณุ ลักษณะ สมรรถนะ
ท่พี ึงประสงค์
1. อภปิ รายลักษณะตา่ งๆ - สง่ิ มชี ีวิตแตล่ ะชนดิ จะมี (ทักษะ/กระบวนการ) - ความสามารถ
ของสิ่งมชี ีวิตใกล้ตัว ลกั ษณะแตกต่างกัน - ใฝ่เรียนรู้ ในการส่อื สาร
- การอภิปราย - มุ่งมนั่ ในการ - ความสามารถ
ทางาน ในการคิด
- ความสามารถ
2. เปรยี บเทยี บและระบุ - ส่งิ มีชวี ติ แตล่ ะชนิดจะมี - การสงั เกต - ใฝ่เรยี นรู้ ในการสอ่ื สาร
- มงุ่ มัน่ ในการ - ความสามารถ
ลักษณะทคี่ ล้ายคลงึ กนั ลักษณะภายนอกที่ - การเปรยี บเทยี บ ทางาน ในการคิด
- ความสามารถ
ของพอ่ แมก่ ับลูก ปรากฏคล้ายคลึงกบั พ่อ - การระบุ - ใฝ่เรยี นรู้ ในการสือ่ สาร
- มุ่งมั่นในการ - ความสามารถ
แมข่ องสิง่ มชี วี ิตนัน้ ทางาน ในการคดิ
- ความสามารถ
3. อธิบายลกั ษณะท่ี - ลกั ษณะภายนอกที่ - การอธบิ าย ในการใชท้ ักษะ
ชีวติ
คล้ายคลึงกันของพ่อแม่ คล้ายคลงึ กันของพอ่ แม่ - การนาไปใช้
กับลกู เป็นการถ่ายทอด ประโยชน์
กับลกู วา่ เปน็ การ
ทางพันธุกรรม
ถ่ายทอดลักษณะทาง - มนษุ ย์นาความรู้ทไ่ี ด้
พันธกุ รรมและนา เกีย่ วกบั การถ่ายทอด

ความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมมา

ใชป้ ระโยชนใ์ นการ

พัฒนาสายพันธข์ุ องพืช

และสตั ว์

หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรียนอนบุ าลพระสมทุ รเจดีย์ พทุ ธศกั ราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 หน้า 82

สาระท่ี 1 ส่งิ มีชีวติ กับกระบวนการดารงชวี ิต
มาตรฐาน ว1.2 เข้าใจกระบวนการและความสาคญั ของการถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรม

วิวฒั นาการของส่งิ มชี วี ิต ความหลากหลายทางชวี ภาพ การใชเ้ ทคโนโลยชี วี ภาพทมี่ ี

ผลกระทบต่อมนุษยแ์ ละส่งิ แวดล้อม มกี ระบวนการสืบเสาะหาความรแู้ ละ

จิตวิทยาศาสตร์ สอื่ สาร ส่งิ ท่เี รียนรู้ และนาความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตวั ชีว้ ดั ความรู้ สงิ่ ทปี่ ฏิบัตไิ ด้ คุณลกั ษณะ สมรรถนะ
ทพี่ งึ ประสงค์
4. สืบคน้ ข้อมลู และ - สิ่งมีชีวติ ที่ไม่สามารถ (ทกั ษะ/กระบวนการ) - ความสามารถ
อภปิ รายเกี่ยวกบั ปรับตัวใหเ้ ขา้ กับ - มวี ินัย ในการสอื่ สาร
สิ่งมีชวี ิตบางชนดิ ทีส่ ญู สภาพแวดลอ้ มท่ี - การสบื คน้ ข้อมลู - ใฝเ่ รยี นรู้ - ความสามารถ
พันธุ์ไปแลว้ และทด่ี ารง เปล่ยี นแปลงไปได้ก็จะ - การอภปิ ราย - มุ่งม่ันในการ ในการคิด
พนั ธ์มุ าจนถงึ ปจั จบุ ัน สญู พันธไ์ุ ปในท่สี ดุ ทางาน - ความสามารถ
- สง่ิ มีชวี ติ ท่สี ามารถ ในการใช้
ปรับตัวขา้ กับ เทคโนโลยี
สภาพแวดล้อมที่
เปล่ียนแปลงไปไดจ้ ะ
สามารถอยรู่ อดและดารง
พันธ์ตุ ่อไป

สาระที่ 2 ชีวติ กับส่ิงแวดล้อม
มาตรฐาน ว2.1 เขา้ ใจส่งิ แวดลอ้ มในท้องถน่ิ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสิง่ แวดลอ้ มกับสง่ิ มีชีวติ

ความสัมพันธร์ ะหวา่ งสิ่งมีชวี ิตต่าง ๆ ในระบบนเิ วศ มีกระบวนการสบื เสาะ

หาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์ส่ือสารสง่ิ ทเ่ี รยี นรู้และนาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์

ตวั ชี้วดั ความรู้ สิ่งทป่ี ฏิบตั ไิ ด้ คุณลกั ษณะ สมรรถนะ
ทีพ่ ึงประสงค์
1. สารวจส่งิ แวดลอ้ มใน - สิง่ แวดลอ้ มหมายถึงส่ิง (ทกั ษะ/กระบวนการ) - ความสามารถ
ทอ้ งถิน่ ของตนและอธบิ าย ที่อยรู่ อบๆตวั เรา มีทั้งทม่ี ี - มวี นิ ัย ในการสอ่ื สาร
ความสมั พันธ์ของสงิ่ มชี ีวิต ชวี ิตและไม่มีชีวติ - การสารวจ - ใฝเ่ รียนรู้ - ความสามารถ
กบั สงิ่ แวดลอ้ ม สิง่ มีชีวิตมคี วามสมั พนั ธ์ - การอธบิ าย - มุ่งม่ันในการ ในการคิด
กบั สิ่งแวดล้อมทั้งกบั ทางาน - ความสามารถ
ส่ิงมีชีวติ ดว้ ยกนั และกบั ในการใช้
สิง่ ไม่มีชวี ติ เทคโนโลยี

หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นอนุบาลพระสมทุ รเจดีย์ พทุ ธศักราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 หน้า 83

สาระที่ 2 ชีวิตกับส่ิงแวดล้อม
มาตรฐาน ว2.2 เข้าใจความสาคัญของทรัพยากรธรรมชาติ การใช้ทรัพยากรธรรมชาติในระดับ

ท้องถ่ิน ประเทศ และโลก นาความรู้ไปใช้ในในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและ

ส่ิงแวดล้อมในทอ้ งถ่ินอย่างย่ังยนื

ตวั ช้ีวดั ความรู้ ส่ิงท่ปี ฏบิ ัตไิ ด้ คุณลกั ษณะ สมรรถนะ
ที่พงึ ประสงค์
1. สารวจ - ดิน หนิ น้า อากาศ ปา่ (ทักษะ/กระบวนการ) - ความสามารถ
ทรพั ยากรธรรมชาติ ไม้ สตั ว์ปา่ และแร่ - มวี ินยั ในการสอื่ สาร
และอภปิ รายการใช้ จดั เปน็ - การสารวจ - ใฝเ่ รยี นรู้ - ความสามารถ
ทรัพยากรธรรมชาตใิ น ทรพั ยากรธรรมชาติทม่ี ี - การอธบิ าย - มุ่งม่นั ในการ ในการคิด
ทอ้ งถิ่น ความสาคญั ทางาน - ความสามารถ
- มนุษยใ์ ชท้ รัพยากรใน ในการใช้ทกั ษะ
ทอ้ งถิ่นเพ่ือประโยชนต์ อ่ ชวี ติ
การดารงชีวิต - ความสามารถ
ในการใช้
2. ระบกุ ารใช้ - มนษุ ย์นา - การระบปุ ัญหา - ใฝเ่ รียนรู้ เทคโนโลยี
ทรัพยากรธรรมชาตทิ ่ี ทรพั ยากรธรรมชาตมิ าใช้ - ม่งุ ม่นั ในการ - ความสามารถ
กอ่ ให้เกิดปญั หา อยา่ งมากมายจงึ ส่งผล ทางาน ในการสือ่ สาร
สิ่งแวดล้อมในทอ้ งถ่ิน กระทบตอ่ สิ่งแวดล้อมใน - ความสามารถ
ทอ้ งถน่ิ ในการแกป้ ญั หา
- ความสามารถ
3. อภิปรายและนาเสนอ - มนษุ ย์ต้องช่วยกนดูแล - การอภิปราย - ใฝ่เรยี นรู้ ในการใช้ทักษะ
การใช้ และรจู้ ักใช้ - การนาเสนอ - มุ่งม่นั ในการ ชวี ติ
ทรัพยากรธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาตอิ ย่าง - การปฏบิ ัติ ทางาน - ความสามารถ
อยา่ งประหยดั คุม้ ค่า ประหยดั และคมุ้ คา่ กจิ กรรม ในการสื่อสาร
และมสี ว่ นรว่ มในการ เพ่อื ใหม้ ีการใช้ไดนาน - ความสามารถ
ปฏบิ ัติ และยั่งยืน ในการคดิ
- ความสามารถ
ในการใชท้ กั ษะ
ชวี ิต

หลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรยี นอนบุ าลพระสมุทรเจดีย์ พุทธศักราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 หนา้ 84

สาระที่ 3 สารและสมบัติของสาร

มาตรฐาน ว3.1 เขา้ ใจสมบตั ิของสาร ความสมั พันธร์ ะหว่างสมบัติของสารกบั โครงสร้างและแรง

ยดึ เหนีย่ วระหว่างอนภุ าค มีกระบวนการสืบเสาะ หาความร้แู ละจติ วทิ ยาศาสตร์

สอ่ื สารสง่ิ ท่เี รียนรู้ นาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ตวั ชี้วัด ความรู้ สิ่งท่ีปฏิบตั ไิ ด้ คณุ ลักษณะ สมรรถนะ
ท่ีพงึ ประสงค์
1. จาแนกชนดิ และสมบัติ - ของเล่น ของใช้ อาจมี (ทกั ษะ/กระบวนการ) - ความสามารถ
ของวัสดทุ ีเ่ ปน็ ส่วนประกอบหลายส่วน - มวี ินยั ในการสื่อสาร
สว่ นประกอบของของ และอาจทาจากวสั ดุ - การวเิ คราะห์ - ใฝเ่ รียนรู้ - ความสามารถ
เลน่ ของใช้ หลายชนดิ ซ่งึ มสี มบตั ิ - การจาแนก - มุ่งมัน่ ในการ ในการคิด
แตกต่างกัน ทางาน - ความสามารถ
ในการใชท้ กั ษะ
2. อธิบายการใช้ - วัสดแุ ต่ละชนิดมสี มบัติ - การอธบิ าย - มุ่งมน่ั ในการ ชีวติ
ประโยชน์ของวสั ดุ แตกต่างกนั จึงใช้ ทางาน - ความสามารถ
ในการใช้
เทคโนโลยี
- ความสามารถ
ในการสอ่ื สาร

แต่ละชนดิ ประโยชนไ์ ดต้ า่ งกนั

สาระท่ี 3 สารและสมบตั ขิ องสาร
มาตรฐาน ว3.2 เข้าใจหลกั การและธรรมชาตขิ องการเปลยี่ นแปลงสถานะของสาร การเกิดสารละลาย

การเกดิ ปฏกิ ริ ยิ า มกี ระบวนการสืบเสาะ หาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์ สอ่ื สารสงิ่ ท่ี

เรยี นรแู้ ละนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ตัวชี้วัด ความรู้ สิ่งทปี่ ฏบิ ตั ไิ ด้ คณุ ลกั ษณะ สมรรถนะ
1. ทดลองและอธบิ ายผล ท่พี ึงประสงค์
- เมอื่ แรงมากระทาเช่น (ทักษะ/กระบวนการ) - มีวินัย - ความสามารถ
การเปลย่ี นแปลงท่เี กดิ การบบี บดิ ทบุ ตดั ดึง - ใฝเ่ รยี นรู้ ในการสอื่ สาร
ขึ้นกบั วสั ดุเม่ือถูกแรง ตลอดจนการทาใหร้ ้อน - การทดลอง - มงุ่ มนั่ ในการ - ความสามารถ
กระทาหรอื ทาใหร้ อ้ น ข้ึนหรอื ทาใหเ้ ย็นลงจะทา - การอธิบายผล ทางาน ในการคดิ
ข้นึ หรอื ทาให้เย็นลง ใหว้ สั ดเุ กดิ การ - ความสามารถ
เปลีย่ นแปลงรปู รา่ ง - การอภปิ ราย - มวี นิ ยั ในการแกป้ ญั หา
2. อภปิ รายประโยชน์และ ลกั ษณะหรือมสี มบตั ิตา่ ง - มงุ่ ม่ันในการ
อนั ตรายทีอ่ าจเกดิ ข้ึน ไปจากเดมิ ทางาน - ความสามารถ
เนอ่ื งจากการ - การเปลี่ยนแปลงของ ในการสอ่ื สาร
เปล่ียนแปลงของวสั ดุ วัสดอุ าจนามาใช้ - ความสามารถ
ประโยชน์หรอื ทาให้เกิด ในการคิด
อันตรายได้ - ความสามารถ
ในการแก้ปัญหา

หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนอนุบาลพระสมุทรเจดยี ์ พุทธศกั ราช 2561 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 หนา้ 85

สาระที่ 4 แรงและการเคล่อื นที่

มาตรฐาน ว4.1 เข้าใจธรรมชาติของแรงแมเ่ หลก็ ไฟฟ้า แรงโน้มถว่ ง และแรงนิวเคลียร์

มีกระบวนการสบื เสาะหาความรู้ สื่อสารสิ่งทเี่ รียนรู้และนาความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์

อยา่ งถูกต้องและมคี ุณธรรม

ตัวช้ีวัด ความรู้ สิง่ ท่ีปฏบิ ัตไิ ด้ คุณลักษณะ สมรรถนะ
ท่ีพึงประสงค์
1. ทดลองและอธบิ ายผล - การออกแรงกระทาต่อ (ทกั ษะ/กระบวนการ) - ความสามารถ
ของการออกแรงท่ี วัตถุแลว้ ทาให้วัตถุ - มวี นิ ยั ในการสื่อสาร
กระทาต่อวตั ถุ เปลยี่ นแปลงการ - การทดลอง - ใฝ่เรียนรู้ - ความสามารถ
เคล่อื นทีโ่ ดยวัตถุที่หยุด - การอธิบายผล - มุ่งมัน่ ในการ ในการคดิ
นง่ิ จะเคล่ือนทีแ่ ละวัตถทุ ี่ ทางาน - ความสามารถ
กาลงั เคลื่อนที่จะ ในการแก้ปัญหา
เคลอ่ื นทีเ่ ร็วข้ึนหรือ - ความสามารถ
เคล่ือนทช่ี า้ ลงหรือหยุด ในการใช้ทักษะ
เคลือ่ นทีห่ รือเปลยี่ น ชีวติ
ทศิ ทาง - ความสามารถ
ในการใช้
2. ทดลองการตกของวตั ถุ - วัตถตุ กสพู่ ื้นโลกเสมอ - การทดลอง - มีวินยั เทคโนโลยี
สู่พน้ื โลกและอธบิ าย เน่ืองจากแรงโน้มถว่ ง - การอธบิ ายผล - ใฝ่เรียนรู้
แรงท่ีโลกดึงดูดวตั ถุ หรือแรงดงึ ดดู ของโลก - มงุ่ ม่ันในการ - ความสามารถ
กระทาต่อวตั ถุและแรงนี้ ทางาน ในการส่อื สาร
คอื นา้ หนกั ของวัตถุ - ความสามารถ
ในการคิด
- ความสามารถ
ในการแกป้ ัญหา
- ความสามารถ
ในการใช้ทักษะ
ชีวิต
- ความสามารถ
ในการใช้
เทคโนโลยี

หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรยี นอนบุ าลพระสมทุ รเจดยี ์ พทุ ธศักราช 2561 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 หนา้ 86

สาระที่ 5 พลังงาน

มาตรฐาน ว5.1 เข้าใจความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งพลังงานกบั การดารงชีวติ การเปลีย่ นรูปพลงั งาน

ปฏิสัมพันธ์ระหวา่ งสารและพลังงาน ผลของการใช้พลงั งานตอ่ ชวี ิตและ

สง่ิ แวดลอ้ ม มกี ระบวน การสืบเสาะหาความรู้สื่อสารส่ิงท่เี รียนรู้และนาความรู้ไปใช้

ประโยชน์

ตวั ชวี้ ดั ความรู้ ส่งิ ทป่ี ฏิบตั ไิ ด้ คุณลักษณะ สมรรถนะ
(ทกั ษะ/กระบวนการ) ทพี่ ึงประสงค์

1. บอกแหล่งพลังงาน - การผลติ ไฟฟา้ ใช้ - การพดู การบอก - ใฝ่เรยี นรู้ - ความสามารถ

ธรรมชาติทใ่ี ช้ผลิต พลงั งานจากแหลง่ - มงุ่ มั่นในการ ในการสอ่ื สาร

ไฟฟ้า พลังงานท่ีมจี ากดั เชน่ ทางาน

น้ามนั แกส๊ ธรรมชาติ

บางแหลง่ เป็นแหลง่

พลังงานทหี่ มนุ เวยี น เช่น

นา้ ลม

2. อธิบายความสาคญั ของ - พลังงานไฟฟ้ามี - การอธบิ าย - ใฝ่เรียนรู้ - ความสามารถ

พลงั งานไฟฟ้าและ ความสาคญั ตอ่ - การนาเสนอ - มุ่งมั่นในการ ในการส่อื สาร

เสนอวธิ ีการใช้ไฟฟ้า ชีวติ ประจาวัน เชน่ เป็น วิธีการ ทางาน - ความสามารถ

อย่างประหยดั และ แหลง่ กาเนดิ แสงสวา่ ง จงึ ในการแกป้ ญั หา

ปลอดภยั ตอ้ งใช้ไฟฟา้ อย่าง - ความสามารถ

ประหยดั เช่น ปดิ ไฟเม่ือ ในการใชท้ ักษะ

ไมใ่ ช้งาน รวมทั้งใชไ้ ฟฟ้า ชีวิต

อยา่ งปลอดภยั เช่น

เลอื กใชอ้ ปุ กรณ์ตา่ งๆที่มี

มาตรฐาน

หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนุบาลพระสมทุ รเจดยี ์ พทุ ธศกั ราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 หนา้ 87

สาระท่ี 6 กระบวนการเปล่ียนแปลงของโลก
มาตรฐาน ว6.1 เข้าใจกระบวนการต่าง ๆ ที่เกิดข้ึนบนผวิ โลกและภายในโลก ความสมั พนั ธข์ อง

กระบวนการต่าง ๆ ทมี่ ีผลต่อการเปล่ียนแปลงภูมิอากาศ ภมู ปิ ระเทศ และสณั ฐาน

ของโลก มีกระบวนการสบื เสาะหาความรู้และจติ วทิ ยาศาสตร์ สอ่ื สารสิ่งทเี่ รยี นรู้

และนาความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตัวชีว้ ัด ความรู้ สิ่งทปี่ ฏบิ ตั ไิ ด้ คณุ ลกั ษณะ สมรรถนะ
ทพ่ี ึงประสงค์
1. สารวจและอธิบาย - นา้ พบไดท้ ั้งทีเ่ ป็น (ทักษะ/กระบวนการ) - ความสามารถ
สมบัตทิ างกายภาพของ ของเหลว ของแข็ง และ - มวี นิ ัย ในการส่ือสาร
นา้ จากแหล่งน้าใน แก๊ส น้าละลายสาร - การสารวจ - ใฝเ่ รยี นรู้ - ความสามารถ
ทอ้ งถิ่น และนาความรู้ บางอย่างได้ นา้ - การอธิบาย - มงุ่ มน่ั ในการ ในการคดิ
ไปใช้ประโยชน์ เปล่ยี นแปลงรปู รา่ งตาม - การนาไปใช้ ทางาน - ความสามารถ
ภาชนะที่บรรจแุ ละรกั ษา ในการแกป้ ญั หา
ระดับในแนวราบ - ความสามารถ
- คณุ ภาพของน้า ในการใชท้ ักษะ
พิจารณาจากสี กล่นิ ชวี ิต
ความโปรง่ ใสของนา้ - ความสามารถ
- น้าเปน็ ในการใช้
ทรัพยากรธรรมชาตทิ มี่ ี เทคโนโลยี
ความจาเป็นต่อชวี ิตทั้งใน
การบริโภค อุปโภค จึง
ต้องใชอ้ ย่างประหยัด

หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรยี นอนุบาลพระสมุทรเจดีย์ พทุ ธศกั ราช 2561 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 หนา้ 88

สาระท่ี 6 กระบวนการเปลี่ยนแปลงของโลก
มาตรฐาน ว6.1 เข้าใจกระบวนการต่าง ๆ ทเี่ กิดขนึ้ บนผวิ โลกและภายในโลก ความสัมพนั ธ์ของ

กระบวนการต่าง ๆ ที่มผี ลต่อการเปล่ียนแปลงภูมอิ ากาศ ภมู ิประเทศ และสณั ฐาน

ของโลก มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจติ วิทยาศาสตร์ ส่อื สารสง่ิ ท่เี รียนรู้

และนาความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตวั ช้ีวดั ความรู้ สงิ่ ทป่ี ฏบิ ัตไิ ด้ คุณลักษณะ สมรรถนะ
ทพ่ี ึงประสงค์
2. สืบคน้ ขอ้ มลู และ - อากาศประกอบด้วย (ทักษะ/กระบวนการ) - ความสามารถ
อภิปรายส่วนประกอบ แกส๊ ไนโตรเจน แกส๊ - มีวินยั ในการส่อื สาร
ของอากาศและ คารบ์ อนไดออกไซด์ และ - การสืบคน้ ขอ้ มลู - ใฝ่เรยี นรู้ - ความสามารถ
ความสาคญั ของอากาศ แก๊สอน่ื ๆ รวมทง้ั ไอน้า - การอภิปราย - มงุ่ มน่ั ในการ ในการคิด
และฝุ่นละออง ทางาน - ความสามารถ
- อากาศมีความสาคญั ตอ่ ในการแก้ปญั หา
การดารงชีวติ ส่ิงมีชวี ติ - ความสามารถ
ทกุ ชนิดตอ้ งใชอ้ ากาศใน ในการใช้ทกั ษะ
การหายใจ และอากาศ ชีวติ
ยังมปี ระโยชน์ในดา้ น - ความสามารถ
อ่ืนๆอีกมากมาย ในการใช้
เทคโนโลยี
3. ทดลองและอธิบายการ - อากาศเคลอื่ นท่จี าก - การทดลอง - มีวินัย
เคลอ่ื นทีข่ องอากาศทีม่ ี บริเวณทม่ี อี ุณหภมู ติ ่าไป - การอธบิ าย - ใฝ่เรียนรู้ - ความสามารถ
ผลจากความแตกตา่ ง ยังบรเิ วณทีม่ ีอณุ หภูมสิ ูง - มงุ่ มั่นในการ ในการสอ่ื สาร
ของอณุ หภมู ิ กวา่ โดยอากาศที่ ทางาน - ความสามารถ
เคลือ่ นท่ใี นแนวราบทาให้ ในการคิด
เกิดลม - ความสามารถ
ในการแก้ปญั หา
- ความสามารถ
ในการใช้ทักษะ
ชวี ิต
- ความสามารถ
ในการใช้
เทคโนโลยี

หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนอนบุ าลพระสมทุ รเจดยี ์ พทุ ธศักราช 2561 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 หน้า 89

สาระที่ 7 ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ

มาตรฐาน ว7.1 เข้าใจววิ ฒั นาการของระบบสุรยิ ะ กาแลก็ ซแี ละเอกภพการปฏสิ ัมพันธ์ภายในระบบ

สรุ ิยะและผลต่อสง่ิ มีชวี ิตบนโลก มีกระบวนการสบื เสาะ หาความร้แู ละ

จิตวทิ ยาศาสตร์ การสอ่ื สารสิ่งท่ีเรยี นรแู้ ละนาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์

ตวั ชวี้ ดั ความรู้ สงิ่ ทป่ี ฏบิ ตั ไิ ด้ คุณลกั ษณะ สมรรถนะ
ทพ่ี ึงประสงค์
1. สืบค้นและอธบิ ายการ โลกหมนุ รอบตวั เองทาให้ (ทักษะ/กระบวนการ) - ความสามารถ
ขนึ้ ตกของดวงอาทติ ย์ เกดิ ปรากฏการณ์ดังตอ่ ไปน้ี - ใฝเ่ รียนรู้ ในการสื่อสาร
ดวงจนั ทร์ การเกดิ - ปรากฏการณ์ข้นึ -ตก ของ - การสงั เกต - มงุ่ ม่ันในการ - ความสามารถ
กลางวนั กลางคนื และ ดวงอาทิตย์และดวงจนั ทร์ - การอธิบาย ทางาน ในการคดิ
การกาหนดทิศ - เกดิ กลางวันและกลางคืน - ความสามารถ
โดยดา้ นท่ีหันรับ ในการแก้ปัญหา
แสงอาทิตยเ์ ป็นเวลา - ความสามารถ
กลางวนั และด้านตรงขา้ ม ในการใชท้ ักษะ
ทไี่ ม่ได้รับแสงอาทติ ยเ์ ป็น ชวี ติ
เวลากลางคนื - ความสามารถ
- กาหนดทศิ โดยสังเกตจาก ในการใช้
การขึน้ และตกของดวง เทคโนโลยี
อาทิตย์ ใหด้ ้านท่เี ห็นดวง
อาทติ ย์ขน้ึ เปน็ ทศิ
ตะวันออก และดา้ นท่เี หน็
ดวงอาทิตย์ตกเป็นทิศ
ตะวนั ตก เม่ือใช้ทศิ
ตะวันออกเปน็ หลักโดยให้
ด้านวามอื อยทู่ างด้านทศิ
ตะวันออก ด้านซา้ ยมืออยู่
ทางด้านทิศตะวันตก
ด้านหน้าเป็นทิศเหนอื และ
ด้านหลังเปน็ ทิศใต้

หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรียนอนุบาลพระสมทุ รเจดีย์ พุทธศักราช 2561 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 หน้า 90

สาระท่ี 8 ธรรมชาติของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

มาตรฐาน ว8.1 ใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละจิตวทิ ยาศาสตร์ในการสบื เสาะหาความรู้ การ

แกป้ ญั หา รวู้ า่ ปรากฏการณท์ างธรรมชาติที่เกดิ ขน้ึ สว่ นใหญ่มีรูปแบบทแ่ี นน่ อน

สามารถอธิบายและตรวจสอบได้ ภายใตข้ ้อมูลและเคร่ืองมอื ท่ีมอี ยู่ในช่วงเวลานน้ั ๆ

เข้าใจวา่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม มคี วามเกยี่ วข้องสมั พันธ์กัน

ตวั ชี้วัด ความรู้ สิง่ ทป่ี ฏิบัตไิ ด้ คณุ ลกั ษณะ สมรรถนะ
ท่พี ึงประสงค์
1. ต้ังคาถามเกี่ยวกบั เร่ือง - สรุปเนอ้ื หาแลว้ นาไปใช้ (ทกั ษะ/กระบวนการ) - ความสามารถ
ท่ีจะศกึ ษาตามท่ี ไดด้ ว้ ยการใชค้ าถามท่ี - ใฝเ่ รยี นรู้ ในการคดิ
กาหนดให้หรือตาม นาไปสู่ความร้จู ริง - การตงั้ คาถาม - ความสามารถ
ความสนใจ - การตอบคาถาม ในการแกป้ ัญหา

2.วางแผนการสังเกต - การทาโครงงานตาม - การสังเกต - มีวินัย - ความสามารถ
- การสารวจ - ใฝเ่ รียนรู้ ในการคิด
เสนอวธิ สี ารวจ รูปแบบ ตรวจสอบ - มงุ่ มนั่ ในการ - ความสามารถ
- การศกึ ษาค้นคว้า ทางาน ในการแก้ปัญหา
ตรวจสอบศกึ ษาค้นคว้า

โดยใช้ความคดิ ของ

ตนเอง ของกลมุ่ และ

คาดการณส์ ่งิ ทีจ่ ะพบ

จากการสารวจ

ตรวจสอบ

3. เลือกใช้วสั ดุอุปกรณ์ - บันทึกข้อมูล - การบนั ทกึ ข้อมลู - ใฝ่เรียนรู้ - ความสามารถ
เครอ่ื งมอื ทีเ่ หมาะสมใน - ซื่อสัตยส์ จุ รติ ในการคดิ
การสารวจตรวจสอบ - ความสามารถ
และบนั ทกึ ขอ้ มลู - ใฝเ่ รียนรู้ ในการใช้
- มุ่งมันในการ เทคโนโลยี
4. จดั กลมุ่ ข้อมลู - การรวบรวมและจดั เกบ็ - การนาเสนอ ทางาน
เปรยี บเทยี บกบั สงิ่ ที่ ขอ้ มูลเพอ่ื นาเสนอผลงาน ผลงาน - ความสามารถ
คาดการณไ์ ว้และ ในการคดิ
นาเสนอผล - ความสามารถ
ในการใช้
เทคโนโลยี

หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนอนบุ าลพระสมุทรเจดีย์ พทุ ธศักราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 หน้า 91

สาระที่ 8 ธรรมชาตขิ องวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มาตรฐาน ว8.1 ใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และจติ วิทยาศาสตร์ในการสบื เสาะหาความรู้ การ

แกป้ ัญหา รู้ว่าปรากฏการณ์ทางธรรมชาตทิ ่ีเกิดข้ึนสว่ นใหญม่ รี ปู แบบท่ีแนน่ อน

สามารถอธบิ ายและตรวจสอบได้ ภายใตข้ ้อมูลและเครื่องมือที่มอี ยใู่ นช่วงเวลาน้นั ๆ

เข้าใจวา่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สงั คม และส่ิงแวดล้อม มีความเกยี่ วข้องสมั พนั ธก์ ัน

ตวั ชี้วดั ความรู้ สิ่งท่ีปฏิบัตไิ ด้ คุณลกั ษณะ สมรรถนะ
(ทกั ษะ/กระบวนการ) ทีพ่ งึ ประสงค์

5. ต้ังคาถามใหม่จากการ

สารวจตรวจสอบ

6. แสดงความคิดเห็นและ - การแสดงความ
รวบรวมขอ้ มลู จากกลุ่ม คดิ เห็น

นาไปส่กู ารสร้างความรู้

7. บนั ทกึ และอธิบายผล - การบันทึกขอ้ มลู
การสังเกต สารวจ - การอธบิ าย
ตรวจสอบ ตรงความ - การสังเกต

เป็นจริง มีแผนภาพ

ประกอบคาอธบิ าย

8. นาเสนอจัดแสดงผล - การนาเสนอ
งานโดยอธิบายด้วย - การจดั การ
วาจาและเขียนแสดง แสดงผลงาน
กระบวนการและผล - การอธิบาย
ของงานใหผ้ ้อู ื่นเข้าใจ - การเขียนแสดงผล
งานกระบวนการ
- การแสดงผลงาน

หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนุบาลพระสมุทรเจดีย์ พุทธศักราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 หนา้ 92

ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 4

สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ

มาตรฐาน ว 1.2 เขา้ ใจสมบตั ิของส่ิงมีชวี ติ หน่วยพื้นฐานของส่ิงมชี ีวิต การลาเลยี งสารผ่านเซลล์

ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหนา้ ที่ของระบบตา่ ง ๆ ของสตั ว์และมนุษยท์ ่ี

ทางานสัมพนั ธ์กนั ความสัมพันธ์ของโครงสรา้ ง และหน้าที่ของอวัยวะต่างๆ ของพืชท่ี

ทางานสมั พนั ธก์ ัน รวมทงั้ นาความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตัวช้วี ัด ความรู้ ส่ิงที่ปฏบิ ัตไิ ด้ คณุ ลกั ษณะ สมรรถนะ สาระการเรยี นรู้
(ทกั ษะ/ ท่พี ึงประสงค์ ท้องถนิ่
1. บรรยายหนา้ ทข่ี องราก - ส่วนตา่ งๆ ของพชื ดอก
ลาตน้ ใบ และดอกของพืช ทาหนา้ ที่แตกต่างกนั กระบวนการ) - มวี นิ ัย - ความสามารถ - ดอกของพืช
ดอกโดยใช้ข้อมูลที่ - รากทาหน้าทด่ี ดู นา้ และ - ใฝ่เรยี นรู้ ในการสอ่ื สาร ดอกใทอ้ งถน่ิ
รวบรวมได้ แร่ธาตขุ นึ้ ไปยังลาตน้ - การสังเกต - มงุ่ มั่นในการ - ความสามารถ ได้แก่ ดอกชบา
- ลาตน้ ทาหนา้ ทล่ี าเลยี ง - การจัดทาและส่ือ ทางาน ในการคดิ
น้าต่อไปยงั ส่วนต่างๆ ความหมายข้อมลู
ของพชื - การลงความ
- ใบทาหนา้ ที่สรา้ ง คดิ เหน็ จากขอ้ มลู
อาหาร อาหารทพ่ี ืชสร้าง
ขนึ้ คอื น้าตาลซง่ึ จะ
เปล่ยี นเปน็ แปง้
- ดอกทาหน้าท่สี บื พนั ธุ์
ประกอบด้วส่วนประกอบ
ตา่ งๆ ไดแ้ ก่ กลบี เลยี้ ง
กลบี ดอก เกสรเพศผู้
และเกสรเพศเมยี ซง่ึ
สว่ นประกอบแต่ละส่วน
ของดอกทาหนา้ ที่
แตกตา่ งกนั

หลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นอนบุ าลพระสมทุ รเจดยี ์ พุทธศกั ราช 2561 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 หน้า 93

สาระที่ 1 วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ

มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสาคัญของการถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม

สารพนั ธุกรรม การเปล่ยี นแปลงทางพันธกุ รรมท่มี ผี ลต่อสิ่งมชี ีวติ ความหลากหลาย

ทางชีวภาพและวิวัฒนาการของสิ่งมชี วี ิต รวมท้ังนาความร้ไู ปใช้ประโยชน์

ตัวชว้ี ัด ความรู้ ส่งิ ทีป่ ฏิบัตไิ ด้ คุณลักษณะ สมรรถนะ สาระการเรยี นรู้
(ทักษะ/ ทพี่ งึ ประสงค์ ท้องถ่นิ

กระบวนการ)

1. จาแนกส่งิ มีชีวติ โดยใช้ • ส่ิงมีชวี ติ มีหลายชนดิ - สงั เกต - มีวินยั - ความสามารถ - ตวั อย่างพชื ใน
ความเหมือนและความ สามารถจัดกล่มุ ได้โดยใช้ - การจาแนก - ใฝเ่ รยี นรู้ ในการสื่อสาร ท้องถน่ิ

แตกตา่ งของลกั ษณะของ ความเหมือนและความ ประเภท - มุ่งมั่นในการ - ความสามารถ - ตวั อยา่ งสตั ว์

สงิ่ มชี วี ติ ออกเป็น แตกต่างของลักษณะต่างๆ - การหา ทางาน ในการคิด ในทอ้ งถนิ่

กลุ่มพืช กลุม่ สัตว์ และกลมุ่ เช่น กลุม่ พืชสร้างอาหารเอง ความสมั พนั ธ์ - ความสามารถ
ในการแกป้ ัญหา
ท่ไี มใ่ ชพ่ ืชและสตั ว์ ได้ และเคล่อื นท่ีด้วยตนเอง ระหว่างสเปส

ไมไ่ ด้ กลุ่มสัตว์กนิ สิง่ มีชวี ติ กบั สเปสและสเปส
อ่ืนเปน็ อาหารและเคล่ือนที่ กบั เวลา
ได้ กลมุ่ ท่ีไม่ใชพ่ ืชและสัตว์ - การ
เช่น เหด็ รา จลุ นิ ทรีย์ ตคี วามหมาย
ข้อมลู และลง
ข้อสรุป

2. จาแนกพืชออกเปน็ พชื • การจาแนกพชื สามารถใช้ - สังเกต - มีวินัย - ความสามารถ - ตัวอยา่ งพชื ใน
- ใฝ่เรยี นรู้ ในการส่อื สาร ท้องถ่นิ
ดอกและพืชไมม่ ีดอกโดยใช้ การมีดอกเป็นเกณฑ์ - การจาแนก

การมีดอกเป็นเกณฑ์ โดยใช้ ในการจาแนก ไดเ้ ปน็ พชื ประเภท - มงุ่ มน่ั ในการ - ความสามารถ - ตัวอยา่ งสัตว์
ข้อมลู ทร่ี วบรวมได้ ดอกและพชื ไมม่ ดี อก - การหา ทางาน
การจาแนกสตั ว์ สามารถใช้ ความสมั พันธ์ ในการคดิ ในทอ้ งถ่นิ
การมีกระดูกสันหลงั ระหว่างสเปส
เปน็ เกณฑ์ในการจาแนก ได้ กับสเปสและสเปส - ความสามารถ
เป็นสัตวม์ กี ระดกู สันหลงั กับเวลา
และสตั ว์ไมม่ กี ระดูกสันหลัง - การ ในการแกป้ ัญหา
ตคี วามหมาย
ข้อมลู และลง

ขอ้ สรุป

3. จาแนกสตั ว์ออกเป็นสตั ว์ • สัตวม์ ีกระดกู สนั หลงั มี - สังเกต - มีวินัย - ความสามารถ - ตัวอย่างพชื ใน
มกี ระดูกสนั หลงั และสตั วไ์ ม่ หลายกลุม่ ไดแ้ ก่ กลมุ่ ปลา - การจาแนก - ใฝ่เรียนรู้ ในการสื่อสาร ท้องถิ่น
มกี ระดกู สันหลัง โดยใชก้ าร กลมุ่ สตั ว์สะเทนิ น้าสะเทนิ ประเภท - มุ่งมัน่ ในการ - ความสามารถ - ตวั อย่างสัตว์
มีกระดูกสันหลงั เป็นเกณฑ์ บก กลุ่มสตั วเ์ ลอื้ ยคลาน - การหา ทางาน ในการคิด ในทอ้ งถิน่
โดยใช้ข้อมูลทีร่ วบรวมได้ กลุ่มนก และกลุ่มสตั วเ์ ลี้ยง ความสมั พนั ธ์ - ความสามารถ

4. บรรยายลักษณะเฉพาะท่ี ลกู ดว้ ยนา้ นม ซึง่ แต่ละกลมุ่ ระหวา่ งสเปส ในการแกป้ ัญหา
สังเกตไดข้ องสตั วม์ ีกระดกู จะมีลกั ษณะเฉพาะที่สังเกต กับสเปสและสเปส
สันหลังในกลมุ่ ปลา กลุ่ม ได้ กับเวลา
สัตว์สะเทนิ นา้ สะเทินบก - การ
กล่มุ สตั วเ์ ลอ้ื ยคลาน กลุ่ม ตคี วามหมาย
นก และกลมุ่ สัตวเ์ ลีย้ งลกู ขอ้ มลู และลง
ด้วยนา้ นม และยกตัวอยา่ ง ขอ้ สรปุ
สง่ิ มีชีวติ ในแตล่ ะกลมุ่

หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนอนุบาลพระสมุทรเจดีย์ พทุ ธศักราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 หนา้ 94


Click to View FlipBook Version