-๑-
หลักสตู รสถานศึกษา
โรงเรียนบ้านท่าตมู ดงสระพงั
พุทธศักราช ๒๕๖๓
สานกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑
สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ
-i-
ประกาศโรงเรยี นบา้ นท่าตมู ดงสระพัง
เรือ่ ง ให้ใช้หลกั สตู รโรงเรียนบ้านทา่ ตูมดงสระพัง (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๓)
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑
……………………………….
ดว้ ยโรงเรยี นบา้ นท่าตมู ดงสระพงั ได้จดั ทาหลักสตู รสถานศึกษาตามแนวทางการดาเนินการ
ปรบั ปรุงหลักสตู รกล่มุ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และภมู ิศาสตร์ในกล่มุ สาระการเรยี นรู้
สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ัน
พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ตามท่ีกาหนดทกุ ประการ โดยดาเนนิ การเพ่อื ให้เป็นไปตามตามคาสัง่
กระทรวงศึกษาธิการ ที่ ๑๒๓๙/๖๐ และประกาศ สพฐ. ลงวันที่ ๗ มกราคม ๒๕๖๑ เรื่อง ใหใ้ ช้มาตรฐาน
การเรยี นรูแ้ ละตวั ชี้วดั กลุม่ สาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภมู ศิ าสตร์ ในกล่มุ สาระการ
เรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั
พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
ท้ังนีห้ ลกั สตู รโรงเรียนไดร้ บั ความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน เมอ่ื
วนั ที่ ๑๑ มถิ นุ ายน ๒๕๖๓ จงึ ประกาศให้ใช้หลักสตู รโรงเรียนต้ังแต่บัดน้ีเปน็ ต้นไป
ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๒ เดอื น มิถนุ ายน พ.ศ. ๒๕๖๓
ลงช่อื ลงชือ่
(นางไพเราะ พรหมเศรษฐา)
(นายนฤป สยื วงษา)
ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพ้นื ฐาน ผู้อานวยการโรงเรยี น
โรงเรียนบ้านทา่ ตมู ดงสระพัง โรงเรียนบ้านท่าตูมดงสระพัง
-ก-
คำนำ
กระทรวงศกึ ษาธกิ ารไดป้ ระกาศใชม้ าตรฐานการเรยี นรู้และตัวชวี้ ดั กลุ่มสาระการเรยี นรู้
คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และสาระภูมศิ าสตร์ในกลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านทา่ ตูมดงสระพงั พุทธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ตามคาสั่งกระทรวงศกึ ษาธกิ ารท่ี สพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๗ สงิ หาคม
๒๕๖๐ และคาสัง่ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน ท่ี ๓๐/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๑
ใหเ้ ปลย่ี นแปลงมาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตรแ์ ละวิทยาศาสตร์
หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นบ้านทา่ ตมู ดงสระพงั พุทธศักราช ๒๕๖๓ โดยให้โรงเรียนใช้หลักสูตรใน
ปกี ารศึกษา ๒๕๖๑ โดยให้สอนในชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๑ และ ๔ ในปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ ใหใ้ ช้ในช้ัน
ประถมศึกษาปีที่ ๑, ๒, ๔ และ ๕ และปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ ใหใ้ ชใ้ นทุกชน้ั ปี โดยกาหนดให้เป็นหลกั สตู ร
แกนกลางของประเทศ กาหนดจุดหมาย และมาตรฐานการเรยี นรเู้ ป็นเปา้ หมายและกรอบทิศทางในการ
พัฒนาคุณภาพผ้เู รียนให้มีพฒั นาการเต็มตามศักยภาพ ส่งเสริมทกั ษะวิชาการ ทักษะอาชพี และทักษะชวี ิต
มคี ณุ ภาพและมที กั ษะการเรียนรใู้ นศตวรรษที่ ๒๑
เพือ่ ใหส้ อดคล้องกับนโยบายและเป้าหมาย ของสานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน
โรงเรยี นโรงเรียนบา้ นท่าตูมดงสระพัง จึงไดท้ าหลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นบา้ นทา่ ตมู ดงสระพงั
พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ในกลุม่ สาระ
การเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และสาระภมู ิศาสตร์ในกลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และ
วัฒนธรรม เพือ่ นาไปใช้ประโยชน์และเป็นกรอบในการวางแผนและพฒั นาหลักสูตรของสถานศึกษา และ
ออกแบบการจัดการเรยี นการสอน โดยมเี ป้าหมายในการพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รียนใหม้ กี ระบวนการนาหลกั สูตร
ไปสกู่ ารปฏิบตั ิโดยมีการกาหนดวิสัยทศั น์ จดุ หมาย สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวชีว้ ดั โครงสร้างเวลาเรียน ตลอดจนเกณฑก์ ารวัดและประเมินผล ใหม้ ีความ
สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรยี นรู้ เปดิ โอกาสใหโ้ รงเรียนสามารถกาหนดทิศทางในการจดั ทาหลกั สูตร
การเรียนการสอนในแตล่ ะระดับตามความพรอ้ มและจดุ เน้น โดยมกี รอบแกนกลางเป็นแนวทางที่ชดั เจน
เพื่อตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ ๔.๐ มคี วามพร้อมในการก้าวส่สู ังคมคุณภาพ มีความรอู้ ย่างแทจ้ ริง และ
มีทักษะในศตวรรษท่ี ๒๑
มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชี้วัดทก่ี าหนดไวใ้ นเอกสารนี้ ช่วยทาให้หน่วยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ งในทุก
ระดบั เห็นผลคาดหวังท่ีต้องการพฒั นาการเรยี นรขู้ องผู้เรียนทีช่ ดั เจนตลอดแนว ซึ่งจะสามารถชว่ ยให้
หนว่ ยงานทเี่ กยี่ วข้องในระดับท้องถิน่ และสถานศึกษารว่ มกนั พัฒนาหลักสูตรไดอ้ ย่างม่ันใจ ทาใหก้ ารจดั ทา
หลักสูตรในระดบั สถานศกึ ษามีคุณภาพและมคี วามเปน็ เอกภาพย่งิ ขน้ึ อกี ทัง้ ยงั ช่วยใหเ้ กิดความชดั เจนเรอื่ ง
การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ช่วยแก้ปญั หาการเทียบโอนระหวา่ งสถานศกึ ษา ดงั น้ันในการพัฒนา
หลกั สตู รในทุกระดบั ตั้งแตร่ ะดบั ชาติจนกระทั่งถงึ ระดบั สถานศึกษา จะต้องสะท้อนคณุ ภาพตามมาตรฐาน
การเรียนร้แู ละตวั ช้ีวัดท่กี าหนดไว้ในหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน รวมทั้งเปน็ กรอบทศิ ทางใน
การจัดการศกึ ษาทุกรปู แบบ และครอบคลมุ ผู้เรยี นทกุ กล่มุ เป้าหมายในระดับการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน
-ข-
การจดั หลักสตู รการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน จะประสบความสาเรจ็ ตามเป้าหมายที่คาดหวังได้ ทุกฝ่าย
ทีเ่ กี่ยวข้องทั้งระดับชาติ ชุมชน ครอบครวั และทุกคนต้องรว่ มกนั รบั ผิดชอบ โดยร่วมกันทางานอยา่ งเปน็
ระบบ และต่อเนอื่ ง วางแผนดาเนินการ สง่ เสรมิ สนับสนุน ตรวจสอบ ตลอดจนปรับปรุงแก้ไข เพอ่ื พัฒนา
เยาวชนของชาติ ไปสคู่ ุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ทก่ี าหนดไว้
(นายนฤป สืบวงษา)
ผู้อานวยการโรงเรียนบ้านทา่ ตมู ดงสระพัง
-ค-
สารบญั
คานา..................................................................................................................................... หน้า
สารบัญ.................................................................................................................................. ก
ความนา................................................................................................................................. ข
ความสาคัญ............................................................................................................................ ๑
วสิ ยั ทัศน์ ............................................................................................................................... ๑
สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น ................................................................................................... ๓
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค.์ ..................................................................................................... ๔
สาระและมาตรฐานการเรียน ๕
โครงสรา้ งเวลาเรียน………………………….................................................................................. ๖
โครงสรา้ งหลกั สูตร................................................................................................................
โครงสรา้ งกลุ่มสาระการเรยี นร้/ู คาอธบิ ายรายวิชา................................................................. ๑๒
๑๓
คาอธิบายรายวิชากลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย…………………………………………………….. ๑๙
คาอธบิ ายรายวิชากลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์………………………………………………….. ๒๐
คาอธิบายรายวชิ ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี……………………………. ๒๘
คาอธบิ ายรายวชิ ากลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม…………………… ๓๖
คาอธบิ ายรายวชิ ากลุ่มสาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา………………………………….. ๔๔
คาอธบิ ายรายวชิ ากล่มุ สาระการเรียนรู้ศิลปะ……………………………………..…….…………….. ๕๙
คาอธิบายรายวิชากลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี …………………………………………….… ๖๗
คาอธบิ ายรายวิชากลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ…………………………………………. ๗๕
กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน............................................................................................................. ๘๓
โครงสรา้ งและเวลาการจัดกิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น…………………………………………………….. ๙๖
กิจกรรมแนะแนว…………………………………………………………………………………………………. ๑๐๑
กจิ กรรมนกั เรยี น(ลกู เสอื -เนตรนารี-ยุวกาชาด)………………………..……………………………… ๑๐๒
กิจกรรมเพือ่ สังคมและสาธารณประโยชน์……………………………………………………………….. ๑๐๔
กิจกรรมชมุ นุม……………………………………………………………………………………………………. ๑๐๙
คาอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน ๑๑๑
เกณฑ์การวัดผลประเมนิ ผลการเรยี นร.ู้ .................................................................................. ๑๑๒
เกณฑก์ ารจบหลักสตู รการศกึ ษา............................................................................................ ๑๓๑
บรรณานุกรม.......................................................................................................................... ๑๓๔
๑๓๕
-ง-
ภาคผนวก............................................................................................................................... ๑๓๗
๑๓๘
ประกาศสานกั งานเขตพ้ืนที่การศกึ ษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๑ เรื่อง แตง่ ตง้ั ๑๔๑
คณะกรรมการบรหิ ารหลักสูตรและวิชาการของสถานศึกษาข้นั พน้ื ฐาน................................ ๑๔๓
๑๔๕
คาสั่ง แต่งตั้งคณะกรรมการบรหิ ารหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านท่าตูมดงสระพัง...... ๑๔๖
๑๔๗
คาสั่งแตง่ ตั้งคณะอนกุ รรมการกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ (กลุ่มวชิ า) และกจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี น
๑๔๘
คาส่งั แตง่ ต้งั คณะกรรมการประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงคข์ องสถานศึกษา………….….
คาสงั่ แตง่ ตง้ั คณะกรรมการดาเนินการประเมินการอา่ น คิด วิเคราะห์ และเขียน………..…
คาส่งั แตง่ ตง้ั คณะกรรมการเทยี บโอนผลการเรยี น…………………..……………………………..…..
คาสั่งแตง่ ต้งั คณะกรรมการจดั ทาหลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นทาตมู ดงสระพัง
พุทธศักราช ๒๕๖๑ตามหลกั สูตรแกนกางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑
(ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)……………..………………………………………………………………………………
-๑-
หลักสตู รโรงเรียนบา้ นท่าตูมดงสระพงั
พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
ความนา
กระทรวงศึกษาธิการไดป้ ระกาศใช้มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชีว้ ัด กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และสาระภมู ิศาสตร์ในกลมุ่ สาระการเรียนรูส้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
ตามคาสง่ั กระทรวงศกึ ษาธิการ ท่ี สพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๐ และคาสง่ั สานกั งาน
คณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน ท่ี ๓๐/๒๕๖๑ ลงวนั ที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๑ ให้เปลย่ี นแปลงมาตรฐาน
การเรียนรู้และตวั ชีว้ ัด กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์และวทิ ยาศาสตร์ โดยใหโ้ รงเรยี นใช้หลักสูตรใน
ปกี ารศึกษา ๒๕๖๑ โดยใหส้ อนในชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ และ ๔ ในปีการศึกษา ๒๕๖๑ ปกี ารศกึ ษา
๒๕๖๒ ใหใ้ ช้ในชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑, ๒, ๔ และ ๕ และปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ ใหใ้ ช้ในทกุ ช้นั ปี โดย
กาหนดใหเ้ ปน็ หลกั สูตรแกนกลางของประเทศ กาหนดจดุ หมาย และมาตรฐานการเรยี นรเู้ ป็นเป้าหมาย
และกรอบทศิ ทางในการพฒั นาคุณภาพผเู้ รียนให้มพี ฒั นาการเต็มตามศักยภาพ ส่งเสริมทกั ษะวชิ าการ
ทกั ษะอาชีพ และทักษะชีวิต มีคุณภาพและมีทักษะการเรยี นรใู้ นศตวรรษที่ ๒๑
เพอ่ื ใหส้ อดคล้องกับนโยบายและเป้าหมาย ของสานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน
โรงเรยี นบ้านทา่ ตูมดงสระพงั ไดด้ าเนินการพฒั นาหลกั สูตรตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน
พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ ๒๕๖๐) ในกลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระ
ภมู ศิ าสตร์ในกลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เพอ่ื นาไปใช้ประโยชน์และเป็นกรอบ
ในการวางแผนและพัฒนาหลักสูตรของสถานศึกษา และออกแบบการจัดการเรยี นการสอน โดยมีเป้าหมาย
ในการพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี น ใหม้ กี ระบวนการนาหลกั สตู รไปสู่การปฏิบตั ิ โดยมีการกาหนดวิสยั ทัศน์
จดุ หมาย สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชวี้ ดั
โครงสร้างเวลาเรียน ตลอดจนเกณฑ์การวดั และประเมินผล ใหม้ คี วามสอดคล้องกบั มาตรฐานการเรียนรู้
เปดิ โอกาสให้โรงเรยี นสามารถกาหนดทิศทางในการจดั ทาหลักสูตรการเรียนการสอน ในแตล่ ะระดบั ตาม
ความพร้อมและจดุ เนน้ โดยมีกรอบแกนกลางเปน็ แนวทางท่ีชัดเจน เพอ่ื ตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ ๔.๐
มีความพร้อมในการก้าวสู่สงั คมคุณภาพ มคี วามรู้อย่างแทจ้ รงิ และมีทักษะในศตวรรษท่ี ๒๑
ความสาคญั
หลักสตู รโรงเรยี นบา้ นท่าตมู ดงสระพงั พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษา
ข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ มีความสาคัญในการพัฒนาผู้เรียนใหม้ ีคุณภาพตามมาตรฐานการเรยี นรู้
ตวั ชี้วัดและคุณลักษณะอนั พึงประสงคต์ ามทีก่ าหนดไว้เปน็ แนวทางใหผ้ ูบ้ รหิ ารสถานศึกษา ครู อาจารย์
ตลอดจนผู้เกี่ยวขอ้ งกับการจดั การศึกษาของสถานศึกษา ในการจดั มวลประสบการณ์ให้แกผ่ ู้เรยี นไดพ้ ัฒนา
ให้บรรลถุ ึงคุณภาพตามมาตรฐานในการพฒั นาเยาวชนของชาติ นอกเหนอื จากการใช้เปน็ แนวทาง หรอื
ขอ้ กาหนดในการจัดการศึกษาของสถานศึกษาให้บรรลตุ ามจดุ หมายของการจัดการศกึ ษาแล้ว หลักสตู ร
-๒-
โรงเรยี นบา้ นท่าตมู ดงสระพัง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช
๒๕๕๑ ท่พี ัฒนาขึ้นยังเปน็ หลักสตู รทม่ี จี ุดมงุ่ หมายใหค้ รอบครัว ชุมชน องคก์ รในท้องถ่นิ ทง้ั ภาครัฐและ
เอกชนเขา้ ร่วมจัดการศึกษาของสถานศกึ ษา โดยมแี นวทางสาคญั ทสี่ ถานศึกษากาหนดไว้ในหลกั สตู ร
สถานศกึ ษา ดังนี้
๑. หลักสูตรโรงเรยี นบา้ นท่าตมู ดงสระพัง ๒๕๖๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน
พุทธศักราช ๒๕๕๑ มุง่ พฒั นาให้ผู้เรียนเกดิ ความสนกุ สนาน และความเพลิดเพลินในการเรยี นรู้เปรียบ
เสมอื นเป็นวิธสี ร้างกาลังใจ และเรา้ ให้เกิดความก้าวหน้าแก่ผู้เรยี นให้มากท่ีสุด มีความรสู้ งู สุด ผูเ้ รยี นทุกคน
มคี วามเขม้ แขง็ ความสนใจ มีประสบการณ์ และความม่นั ใจ เรียนและทางานอยา่ งเป็นอิสระและรว่ มใจกัน
มีทักษะในการอา่ นออกเขยี นได้ คดิ เลขเป็น รู้ข้อมูลสารสนเทศ และเทคโนโลยสี ่อื สารสง่ เสรมิ จิตใจทอ่ี ยากรู้
อยากเห็นและมีกระบวนการคิดอย่างมเี หตผุ ล
๒. หลักสตู รโรงเรียนบ้านท่าตมู ดงสระพงั พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษา
ขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ สง่ เสริมการพัฒนาดา้ นจิตวญิ ญาณ จรยิ ธรรม สังคม และวฒั นธรรม
พฒั นาหลกั การในการจาแนกระหวา่ งถูกและผิด เข้าใจและศรัทธาในความเชื่อของตน ความเชือ่ และ
วัฒนธรรมท่แี ตกต่างกนั พฒั นาหลกั คุณธรรมและความอสิ ระของผเู้ รียน และช่วยให้เป็นพลเมอื งท่ีมีความ
รบั ผดิ ชอบ สามารถชว่ ยพัฒนาสังคมให้เป็นธรรมข้ึน มคี วามเสมอภาค พฒั นาความตระหนกั เขา้ ใจ และ
ยอมรับสภาพแวดล้อมทีต่ นดารงชีวิตอยู่ ยึดมั่นในขอ้ ตกลงรว่ มกันตอ่ การพฒั นาทีย่ ่ังยนื ทงั้ ในระดบั ส่วนตน
ระดับทอ้ งถน่ิ ระดบั ชาติ และระดบั โลก สรา้ งใหผ้ เู้ รียนมคี วามพร้อมในการเปน็ ผู้บรโิ ภคท่ีตัดสนิ ใจแบบ
มขี อ้ มลู เปน็ อสิ ระ และมคี วามรบั ผิดชอบ
หลกั สตู รโรงเรยี นบา้ นท่าตูมดงสระพัง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ เปน็ หลักสตู รเฉพาะของโรงเรยี น
บ้านท่าตมู ดงสระพัง จัดการศึกษาตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน ในระดับชั้นประถมศกึ ษา
ปีท่ี ๑ – ๖ ดงั นี้
๒.๑ มีสาระการเรียนรู้ทสี่ ถานศกึ ษาใชเ้ ปน็ หลักเพื่อสรา้ งพืน้ ฐานการคิด การเรียนรู้ และ
การแก้ปัญหา ประกอบดว้ ย ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี และสังคมศึกษาศาสนา
และวัฒนธรรม
๒.๒ มสี าระการเรยี นรู้ทีเ่ สรมิ สร้างความเปน็ มนุษย์ ศักยภาพการคิดและการทางาน
ประกอบด้วย สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ศิลปะ การงานอาชพี และภาษาองั กฤษ
๒.๓ มีกจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน เพ่อื พฒั นาผู้เรยี นทงั้ ดา้ นรา่ งกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์
และ สังคม เสรมิ สร้างการเรียนรนู้ อกจากสาระการเรียนรู้ ๘ กลุ่ม และการพัฒนาตนตามศกั ยภาพ
๒.๔ มีการกาหนดมาตรฐานของสถานศกึ ษาที่สอดคล้องกบั มาตรฐานระดับตา่ ง ๆ เพ่ือเปน็
เปา้ หมายของการพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาของสถานศึกษา จัดทารายละเอยี ดสาระการเรยี นรู้ และจัด
กระบวนการเรยี นรู้ใหส้ อดคล้องกบั สภาพในชมุ ชน สังคม และภูมิปญั ญาท้องถ่ิน
๓. มีมาตรฐานการเรยี นรเู้ ปน็ เปา้ หมายสาคัญของการพัฒนาคณุ ภาพผ้เู รยี น หลกั สูตรโรงเรยี น
บ้านท่าตมู ดงสระพัง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช
๒๕๕๑ เปน็ หลักสตู รท่มี ีมาตรฐานเปน็ ตัวกาหนดเก่ยี วกบั คุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงคข์ องผู้เรียน เพอ่ื เป็น
แนวทางในการประกันคุณภาพการศึกษา โดยมีการกาหนดมาตรฐานไว้ดงั น้ี
-๓-
๓.๑ มาตรฐานหลกั สตู ร เป็นมาตรฐานดา้ นผู้เรยี นหรอื ผลผลติ ของหลักสูตรสถานศกึ ษา
อันเกดิ จากการไดร้ ับการอบรมสง่ั สอนตามโครงสร้างของหลกั สูตรทง้ั หมดใชเ้ ป็นแนวทางในการตรวจสอบ
คณุ ภาพโดยรวมของการจัดการศกึ ษาตามหลักสูตรในทกุ ระดบั และสถานศึกษาต้องใช้สาหรับการประเมนิ
ตนเองเพ่ือจดั ทารายงานประจาปีตามบทบัญญตั ิในพระราชบัญญตั ิการศกึ ษา นอกจากน้ยี งั เปน็ แนวทาง
ในการกาหนดแนวปฏิบัตใิ นการสง่ เสรมิ กากับ ติดตาม ดูแล และปรับปรุงคณุ ภาพ เพือ่ ให้ได้ตามมาตรฐาน
ที่กาหนด
๓.๒ มตี วั ชี้วัดชนั้ ปีเป็นเปา้ หมายระบุสงิ่ ที่นักเรียนพงึ รู้ และปฏิบัตไิ ด้ รวมทั้งคณุ ลกั ษณะ
ของผเู้ รยี นในแตล่ ะระดับชน้ั ซงึ่ สะทอ้ นถึงมาตรฐานการเรียนรู้ นาไปใช้ในการกาหนดเนือ้ หา จัดทาหนว่ ย
การเรยี นรู้ จัดการเรียนการสอน และเปน็ เกณฑ์สาคญั สาหรบั การวดั ประเมนิ ผลเพอ่ื ตรวจสอบคณุ ภาพผูเ้ รยี น
ตรวจสอบพัฒนาการผูเ้ รยี น ความรู้ ทักษะ กระบวนการ คณุ ธรรม จริยธรรมและคา่ นิยมอันพงึ ประสงค์
และเป็นหลักในการเทยี บโอนความรู้และประสบการณจ์ ากการศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศยั
๓.๓ มีความเปน็ สากล ความเป็นสากลของหลักสูตรสถานศึกษา คอื มุ่งให้ผู้เรยี นมีความรู้
ความสามารถในเร่อื งเทคโนโลยีสารสนเทศ ภาษาอังกฤษ การจัดการสงิ่ แวดล้อม ภมู ิปญั ญาท้องถิน่
มคี ุณลักษณะที่จาเป็นในการอยูใ่ นสังคมได้แก่ ความซ่ือสัตย์ ความรับผิดชอบ การตรงตอ่ เวลา การเสยี สละ
การเอือ้ เฟ้ือ โดยอยู่บนพื้นฐานของความพอดรี ะหว่างการเป็นผนู้ าและผตู้ ามการทางานเปน็ ทีม และ
การทางานตามลาพังการแขง่ ขัน การรู้จกั พอ และการร่วมมอื กันเพ่อื สังคม วทิ ยาการสมัยใหม่ และภมู ิ
ปญั ญาทอ้ งถน่ิ การรบั วฒั นธรรมต่างประเทศ และการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมไทยการฝึกฝนทกั ษะเฉพาะทาง
และการบูรณาการในลักษณะทีเ่ ปน็ องค์รวม
๔. มคี วามยืดหยุ่น หลากหลาย หลักสตู รโรงเรียนบา้ นท่าตมู ดงสระพงั เปน็ หลกั สูตรท่ี
สถานศกึ ษาจัดทารายละเอียดต่าง ๆ ขนึ้ เอง โดยยึดโครงสรา้ งหลกั ท่กี าหนดไวใ้ นหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ เป็นขอบขา่ ยในการจดั ทา จึงทาใหห้ ลกั สูตรของสถานศึกษา
มคี วามยืดหย่นุ หลากหลาย สอดคลอ้ งกบั สภาพปญั หา และความต้องการของทอ้ งถิ่น โดยเฉพาะอย่างย่งิ
มีความเหมาะสมกับตัวผเู้ รียน
๕. การวดั และประเมินผลเน้นหลกั การพนื้ ฐานสองประการคือการประเมนิ เพ่ือพัฒนาผเู้ รียนและ
เพอื่ ตัดสนิ ผลการเรยี น โดยผู้เรียนตอ้ งไดร้ บั การพฒั นาและประเมนิ ตามตวั ชีว้ ัดเพ่ือให้บรรลตุ ามมาตรฐาน
การเรยี นรู้ สะท้อนสมรรถนะสาคัญ และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ของผ้เู รยี นเป็นเปา้ หมายหลกั ในการวดั
และประเมนิ ผลการเรยี นรู้
ในทุกระดบั ไม่วา่ จะเป็นระดับชน้ั เรียน ระดบั สถานศกึ ษา ระดับเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษา และระดับชาติ
การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ เปน็ กระบวนการพฒั นาคุณภาพผเู้ รียน และใช้ผลการประเมนิ เปน็ ข้อมูล
และสารสนเทศทแ่ี สดงพฒั นาการ ความก้าวหนา้ และความสาเรจ็ ทางการเรยี นของผู้เรยี น ตลอดจนข้อมลู
ท่เี ปน็ ประโยชน์ตอ่ การส่งเสรมิ ให้ผูเ้ รยี นเกิดการพัฒนาและเรยี นรูอ้ ยา่ งเต็มตามศักยภาพ
วิสยั ทัศน์
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นท่าตูมดงสระพัง พุทธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นมนุษย์ที่มีสมบูรณ์ มีความสมดุลทั้งด้าน
ร่างกาย ความรู้ คุณธรรม ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ภูมิใจในท้องถิ่น มีสานึกความเป็นพลเมือง
-๔-
ไทยและพลโลก ยึดมั่นในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความรู้
และทักษะที่จาเป็นในศตวรรษท่ี ๒๑ โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญบนพ้ืนฐานความเช่ือว่าทุกคนสามารถ
เรียนรู้และพัฒนาตนเองได้เตม็ ตามศักยภาพ
สมรรถนะสาคัญและคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงคข์ องผู้เรียน
ในการพัฒนาผเู้ รยี นตามหลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านท่าตูมดงสระพัง พุทธศักราช ๒๕๖๓
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตาม
มาตรฐานที่กาหนด ซงึ่ จะชว่ ยใหผ้ ูเ้ รยี นเกิดสมรรถนะสาคญั และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ดงั น้ี
สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน
หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนบ้านท่าตูมดงสระพังพุทธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ มงุ่ ใหผ้ เู้ รียนเกิดสมรรถนะสาคญั ๕ ประการ ดังนี้
๑. ความสามารถในการสือ่ สาร
เป็นความสามารถในการรับและสง่ สาร มวี ฒั นธรรมในการใช้ภาษาถ่ายทอดความคดิ ความรู้
ความเขา้ ใจ ความรสู้ ึก และทศั นะของตนเองเพ่ือแลกเปลีย่ นข้อมูลขา่ วสารและประสบการณอ์ ันจะเป็น
ประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสงั คม รวมทง้ั การเจรจาต่อรองเพอ่ื ขจัดและลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ
การเลอื กรบั หรือไมร่ บั ข้อมูลข่าวสารดว้ ยหลกั เหตุผลและความถูกตอ้ ง ตลอดจนการเลือกใชว้ ิธีการสื่อสาร ที่
มีประสทิ ธิภาพโดยคานึงถงึ ผลกระทบท่มี ีต่อตนเองและสังคม
๒. ความสามารถในการคิด
เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสงั เคราะห์ การคิดอย่างสรา้ งสรรค์ การคดิ อยา่ ง
มวี ิจารณญาณ และการคดิ เปน็ ระบบ เพื่อนาไปสู่การสร้างองค์ความรหู้ รือสารสนเทศเพอื่ การตัดสินใจ
เก่ยี วกับตน เองและสงั คมได้อยา่ งเหมาะสม
๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอปุ สรรคต่าง ๆ ทเี่ ผชญิ ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งเหมาะสมบน
พื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสมั พันธ์และการเปลีย่ นแปลงของ
เหตกุ ารณ์ต่าง ๆ ในสงั คม แสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามรมู้ าใช้ในการปอ้ งกนั และแก้ไขปญั หา และมีการ
ตดั สินใจทีม่ ปี ระสิทธิภาพโดยคานงึ ถงึ ผลกระทบท่ีเกดิ ข้ึนต่อตนเอง สงั คมและสิง่ แวดลอ้ ม
๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
เปน็ ความสามารถในการนากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการดาเนนิ ชีวิตประจาวนั การเรยี นรู้
ด้วยตนเอง การเรยี นรอู้ ยา่ งต่อเน่อื ง การทางาน และการอยู่รว่ มกนั ในสงั คมด้วยการสรา้ งเสรมิ ความสมั พันธ์
อันดรี ะหว่างบุคคล การจัดการปญั หาและความขัดแย้งตา่ ง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตวั ให้ทันกับการ
เปล่ียนแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ ม และการร้จู ักหลีกเลยี่ งพฤติกรรมไมพ่ งึ ประสงค์ที่สง่ ผลกระทบตอ่
ตนเองและผูอ้ ืน่
-๕-
๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
เปน็ ความสามารถในการเลอื ก และใช้ เทคโนโลยีดา้ นต่าง ๆ และมีทกั ษะกระบวนการทาง
เทคโนโลยี เพ่อื การพฒั นาตนเองและสงั คม ในดา้ นการเรยี นรู้ การสื่อสาร การทางาน การแก้ปัญหาอยา่ ง
สร้างสรรค์ ถูกตอ้ ง เหมาะสม และมคี ณุ ธรรม
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นท่าตูมดงสระพัง พุทธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ มุง่ พัฒนาผเู้ รียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพ่ือให้สามารถ
อยูร่ ่วมกับผอู้ ื่นในสังคมได้อยา่ งมคี วามสุข ในฐานะเป็นพลเมอื งไทยและพลโลก ดังน้ี
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
๒. ซ่อื สัตยส์ จุ ริต
๓. มวี ินยั
๔. ใฝ่เรยี นรู้
๕. อยู่อย่างพอเพียง
๖. มุ่งม่นั ในการทางาน
๗. รกั ความเปน็ ไทย
๘. มจี ิตสาธารณะ
-๖-
สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้
หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน พ.ศ. ๒๕๕๑ (ปรับปรุงล่าสุด๒๕๖๓)กาหนดมาตรฐาน
การเรียนรใู้ น ๘ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ จานวน ๓๐ สาระ ๕๕ มาตรฐาน ดังนี้
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย (๕ สาระ ๕ มาตรฐาน)
สาระท่ี ๑ การอ่าน
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนาไปใช้ แก้ปัญหาใน
การดาเนินชวี ิตและมนี ิสยั รกั การอ่าน
สาระท่ี ๒ การเขียน
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียน เขยี นสอ่ื สาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขียน
เรอื่ งราวในรูปแบบต่างๆ เขยี นรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้าอย่างมีประสิทธิภาพ
สาระที่ ๓ การฟงั การดู และการพูด
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟงั และดอู ยา่ งมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด
ความรู้สกึ ในโอกาสตา่ งๆ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ และสร้างสรรค์
สาระที่ ๔ หลักการใชภ้ าษาไทย
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและ
พลงั ของภาษา ภูมปิ ญั ญาทางภาษา และรักษา ภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ิ ของชาติ
สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม
มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดี และวรรณกรรมไทยอย่าง
เหน็ คุณคา่ และนามาประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตจริง
กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ (๓ สาระการเรยี นรู้ ๗ มาตรฐานการเรียนร)ู้
สาระที่ ๑ จานวนและพีชคณิต
มาตรฐาน ค ๑.๑ เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการ
ของจานวน ผลทเ่ี กดิ ข้ึนจากการดาเนินการ สมบตั ขิ องการดาเนนิ การ และนาไปใช้
มาตรฐาน ค ๑.๒ เขา้ ใจและวเิ คราะห์แบบรูป ความสัมพันธ์ ฟังก์ชัน ลาดับและอนุกรม และ
นาไปใช้
มาตรฐาน ค ๑.๓ ใช้นิพจน์ สมการ อสมการ และเมทริกซ์ อธิบายความสัมพันธ์หรือช่วย
แก้ปญั หา ทกี่ าหนดให้
สาระท่ี ๒ การวดั และเรขาคณิต
มาตรฐาน ค ๒.๑ เข้าใจพื้นฐานเก่ียวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งท่ีต้องการวัด
และนาไปใช้
มาตรฐาน ค ๒.๒ เข้าใจและวิเคราะห์รูปเรขาคณิต สมบัติของรูปเรขาคณิต ความสัมพันธ์
ระหวา่ งรูปเรขาคณติ และทฤษฎบี ททางเรขาคณิต และนาไปใช้
-๗-
สาระท่ี ๓ สถิติและความนา่ จะเปน็
มาตรฐาน ค ๓.๑ เขา้ ใจกระบวนการทางสถติ ิ และใชค้ วามรทู้ างสถิติในการแกป้ ญั หา
มาตรฐาน ค ๓.๒ เข้าใจหลักการนับเบ้อื งตน้ ความนา่ จะเปน็ และนาไปใช้
กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (๔ สาระ ๑๐ มาตรฐาน)
สาระท่ี ๑ วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ
มาตรฐาน ว ๑.๑ เขา้ ใจความหลากหลายของระบบนเิ วศ ความสัมพันธ์ระหว่างส่งิ ไมม่ ชี วี ิตกบั
ส่ิงมีชวี ติ และความสัมพันธร์ ะหว่างสงิ่ มีชีวิตกับส่งิ มชี วี ิตตา่ งๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลงั งาน
การเปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของประชากร ปัญหาและผลกระทบที่มีตอ่
ทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการแก้ไขปัญหา
สิ่งแวดลอ้ ม รวมทั้งนาความรไู้ ปใช้ประโยชน์
มาตรฐาน ว ๑.๒ เข้าใจสมบัติของสิ่งมชี ีวิต หนว่ ยพืน้ ฐานของสิง่ มีชีวิต การลาเลียงสารเข้า
และออกจากเซลล์ ความสมั พนั ธ์ของโครงสรา้ ง และหนา้ ทีข่ องระบบตา่ งๆ ของสัตว์และมนุษยท์ ีท่ างาน
สมั พันธ์กัน ความสมั พันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของอวัยวะตา่ งๆ ของพชื ที่ทางานสัมพันธ์กนั รวมทง้ั
นาความรไู้ ปใช้ประโยชน์
มาตรฐาน ว ๑.๓ เข้าใจกระบวนการและความสาคญั ของการถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม
สารพันธกุ รรม การเปล่ยี นแปลงทางพนั ธุกรรมท่มี ผี ลต่อสิ่งมชี ีวิต ความหลากหลายทางชวี ภาพและ
ววิ ัฒนาการของส่งิ มชี ีวิต รวมทัง้ นาความรไู้ ปใช้ประโยชน์
สาระที่ ๒ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ
มาตรฐาน ว ๒.๑ เขา้ ใจสมบัติของสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสมั พันธ์ระหวา่ งสมบตั ิ
ของสสารกับโครงสร้างและแรงยดึ เหนีย่ วระหว่างอนภุ าค หลกั และธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะ
ของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกิริยาเคมี
มาตรฐาน ว ๒.๒ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องแรงในชีวติ ประจาวัน ผลของแรงทก่ี ระทาต่อวตั ถุ
ลักษณะการเคลือ่ นท่ีแบบต่างๆ ของวัตถุ รวมทั้งนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
มาตรฐาน ว ๒.๓ เข้าใจความหมายของพลงั งาน การเปลย่ี นแปลงและการถา่ ยโอนพลังงาน
ปฏิสมั พันธ์ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานในชีวติ ประจาวัน ธรรมชาตขิ องคล่ืน ปรากฏการณท์ ี่
เกยี่ วขอ้ งกับเสียง แสง และคล่นื แม่เหล็กไฟฟ้า รวมทงั้ นาความรู้ไปใช้ประโยชน์
สาระที่ ๓ วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ
มาตรฐาน ว ๓.๑ เขา้ ใจองคป์ ระกอบ ลักษณะ กระบวนการเกดิ และวิวฒั นาการของ เอกภพ
กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุรยิ ะ รวมทั้งปฏสิ ัมพันธภ์ ายในระบบสุรยิ ะทสี่ ง่ ผลตอ่ สง่ิ มีชวี ติ และการ
ประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยอี วกาศ
มาตรฐาน ว ๓.๒ เขา้ ใจองค์ประกอบและความสมั พันธข์ องระบบโลก กระบวนการ
เปลย่ี นแปลงภายในโลก และบนผิวโลก ธรณพี ิบัติภัย กระบวนการเปล่ียนแปลงลม ฟ้า อากาศ และ
ภมู อิ ากาศโลก รวมทงั้ ผลตอ่ ส่งิ มชี ีวิตและสง่ิ แวดล้อม
-๘-
สาระท่ี ๔ เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว ๔.๑ เข้าใจแนวคดิ หลกั ของเทคโนโลยีเพ่ือการดารงชีวติ ในสงั คมทมี่ ี
การเปล่ียนแปลงอยา่ งรวดเรว็ ใช้ความรู้และทักษะทางดา้ นวทิ ยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และศาสตรอ์ ื่นๆ เพื่อ
แก้ปัญหาหรอื พัฒนางานอย่างมคี วามคิดสรา้ งสรรคด์ ้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลอื กใช้
เทคโนโลยีอยา่ งเหมาะสมโดยคานึงถงึ ผลกระทบต่อชวี ิต สงั คม และสิ่งแวดลอ้ ม
มาตรฐาน ว ๔.๒ เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชีวิตจรงิ อยา่ งเปน็
ขน้ั ตอนและเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทางาน และการแกป้ ัญหา
ได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ รเู้ ท่าทัน และมีจริยธรรม
กล่มุ สาระการเรยี นรูส้ งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม (๕ สาระ ๑๑ มาตรฐาน)
สาระที่ ๑ ศาสนา ศลี ธรรม จริยธรรม
มาตรฐาน ส ๑.๑ รู้ และเข้าใจประวตั ิ ความสาคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนา
หรือศาสนาที่ตนนับถือและศาสนาอื่น มีศรทั ธาที่ถูกต้อง ยดึ ม่นั และปฏิบัตติ ามหลักธรรม เพอื่ อยรู่ ่วมกนั
อย่างสันติสุข
มาตรฐาน ส๑.๒ เข้าใจ ตระหนกั และปฏิบัติตนเปน็ ศาสนิกชนทีด่ ี และธารงรกั ษา
พระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาท่ีตนนบั ถอื
สาระท่ี ๒ หน้าท่ีพลเมอื ง วัฒนธรรม และการดาเนนิ ชีวิตในสังคม
มาตรฐาน ส ๒.๑ เขา้ ใจและปฏิบัตติ นตามหนา้ ทขี่ องการเป็นพลเมอื งดี มีค่านิยมที่ดงี าม
และธารงรกั ษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดารงชีวิตอยรู่ ่วมกันในสังคมไทย และ สงั คมโลกอย่างสันติสุข
มาตรฐาน ส ๒.๒ เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสงั คมปัจจบุ นั ยึดม่ัน ศรัทธา และ
ธารงรกั ษาไวซ้ ึ่งการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมุข
สาระท่ี ๓ เศรษฐศาสตร์
มาตรฐาน ส ๓.๑ เขา้ ใจและสามารถบริหารจัดการทรพั ยากรในการผลติ และการบรโิ ภค
การใชท้ รัพยากรท่ีมอี ยูจ่ ากัดไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพและค้มุ คา่ รวมทง้ั เขา้ ใจหลักการของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
เพ่ือการดารงชีวิตอย่างมดี ุลยภาพ
มาตรฐาน ส ๓.๒ เขา้ ใจระบบ และสถาบันทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสัมพนั ธ์ทางเศรษฐกจิ
และความจาเป็นของการร่วมมอื กันทางเศรษฐกิจในสงั คมโลก
สาระที่ ๔ ประวัติศาสตร์
มาตรฐาน ส ๔.๑ เข้าใจความหมาย ความสาคญั ของเวลาและยุคสมยั ทางประวัตศิ าสตร์
สามารถใช้วธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณต์ ่างๆ อย่างเป็นระบบ
มาตรฐาน ส ๔.๒ เขา้ ใจพัฒนาการของมนษุ ยชาติจากอดตี จนถึงปจั จบุ นั ในด้าน
ความสัมพันธ์และการเปลีย่ นแปลงของเหตุการณ์อยา่ งตอ่ เน่อื ง ตระหนกั ถงึ ความสาคญั และสามารถ
วิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดขึน้
มาตรฐาน ส ๔.๓ เขา้ ใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภมู ปิ ญั ญาไทย มีความรัก
ความภมู ใิ จและธารงความเป็นไทย
-๙-
สาระท่ี ๕ ภูมศิ าสตร์
มาตรฐาน ส ๕.๑ เข้าใจลกั ษณะทางกายภาพของโลกและความสมั พันธ์ของสรรพสงิ่ ซงึ่ มี
ผลต่อกนั ใชแ้ ผนที่และเครือ่ งมอื ทางภูมศิ าสตร์ในการค้นหา วเิ คราะห์ และสรุปข้อมูล ตามกระบวนการทาง
ภมู ิศาสตร์ ตลอดจนใชภ้ ูมิสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
มาตรฐาน ส ๕.๒ เข้าใจปฏิสมั พันธร์ ะหวา่ งมนุษยก์ ับสงิ่ แวดลอ้ มทางกายภาพท่กี อ่ ให้เกดิ
การสร้างสรรค์วิถีการดาเนนิ ชวี ิต มีจิตสานึกและมสี ่วนรว่ มในการจัดการทรัพยากร และสงิ่ แวดลอ้ มเพื่อ
การพฒั นาทย่ี งั่ ยนื
กลุม่ สาระการเรยี นรู้สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา (๕ สาระ ๖ มาตรฐาน)
สาระท่ี ๑ การเจรญิ เตบิ โตและพัฒนาการของมนุษย์
มาตรฐาน พ ๑.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องการเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์
สาระท่ี ๒ ชีวิตและครอบครัว
มาตรฐาน พ ๒.๑ เขา้ ใจและเห็นคณุ ค่าตนเอง ครอบครัว เพศศึกษา และมที ักษะใน
การดาเนินชีวติ
สาระที่ ๓ การเคลอื่ นไหว การออกกาลงั กาย การเลน่ เกม กฬี าไทย และกีฬาสากล
มาตรฐาน พ ๓.๑ เข้าใจ มีทกั ษะในการเคล่ือนไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกฬี า
มาตรฐาน พ ๓.๒ รกั การออกกาลงั กาย การเลน่ เกม และการเลน่ กฬี า ปฏบิ ัติเป็นประจา
อยา่ งสม่าเสมอ มวี นิ ัย เคารพสทิ ธิ กฎ กตกิ า มีน้าใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณในการแขง่ ขัน และช่นื ชมใน
สุนทรยี ภาพของการกีฬา
สาระท่ี ๔ การสรา้ งเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกนั โรค
มาตรฐาน พ ๔.๑ เห็นคุณค่าและมีทกั ษะในการสร้างเสรมิ สุขภาพ การดารงสุขภาพ
การป้องกนั โรคและการสร้างเสรมิ สมรรถภาพเพอ่ื สุขภาพ
สาระท่ี ๕ ความปลอดภัยในชีวติ
มาตรฐาน พ ๕.๑ ป้องกันและหลีกเลยี่ งปัจจยั เส่ียง พฤตกิ รรมเสี่ยงตอ่ สุขภาพ อบุ ัติเหตุ
การใช้ยาสารเสพติด และความรุนแรง
สาระการเรยี นรู้ศิลปะ (๓ สาระ ๖ มาตรฐาน)
สาระที่ ๑ ทศั นศลิ ป์
มาตรฐาน ศ ๑.๑ สร้างสรรค์งานทศั นศลิ ป์ตามจินตนาการ และความคิดสรา้ งสรรค์
วเิ คราะห์ วิพากษ์ วจิ ารณ์คุณคา่ งานทศั นศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดตอ่ งานศิลปะอยา่ งอิสระ
ชื่นชม และประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจาวัน
มาตรฐาน ศ ๑.๒ เข้าใจความสัมพนั ธร์ ะหว่างทศั นศลิ ป์ ประวตั ิศาสตร์ และวฒั นธรรม
เหน็ คุณค่างานทัศนศลิ ปท์ เ่ี ปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภมู ปิ ัญญาท้องถิ่น ภูมปิ ัญญาไทยและสากล
-๑๐-
สาระที่ ๒ ดนตรี
มาตรฐาน ศ ๒.๑ เข้าใจและแสดงออกทางดนตรอี ยา่ งสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วพิ ากษว์ จิ ารณ์
คุณค่าดนตรี ถา่ ยทอดความรู้สึก ความคิดต่อดนตรีอยา่ งอิสระ ช่นื ชม และประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจาวัน
มาตรฐาน ศ ๒.๒ เข้าใจความสมั พันธ์ระหว่างดนตรี ประวตั ิศาสตร์ และวัฒนธรรม เหน็
คณุ ค่าของดนตรที ี่เป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถิ่น ภมู ิปญั ญาไทยและสากล
สาระท่ี ๓ นาฏศลิ ป์
มาตรฐาน ศ ๓.๑ เข้าใจ และแสดงออกทางนาฏศลิ ป์อยา่ งสรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วิพากษ์
วจิ ารณค์ ุณค่านาฏศลิ ป์ ถ่ายทอดความร้สู ึก ความคิดอยา่ งอสิ ระ ช่ืนชม และประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั
มาตรฐาน ศ ๓.๒ เข้าใจความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งนาฏศิลป์ ประวตั ศิ าสตร์และวัฒนธรรม เหน็ คณุ ค่า
ของนาฏศลิ ปท์ เ่ี ป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น ภมู ิปัญญาไทยและสากล
กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชพี (๒ สาระ ๒ มาตรฐาน)
สาระท่ี ๑ การดารงชวี ติ และครอบครวั
มาตรฐาน ง ๑.๑ เข้าใจการทางาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทางาน
ทกั ษะการจดั การ ทักษะกระบวนการแกป้ ญั หา ทกั ษะการทางานร่วมกนั และทกั ษะการแสวงหาความรู้
มคี ุณธรรม และลกั ษณะนิสยั ในการทางาน มีจิตสานึกในการใช้พลงั งาน ทรัพยากร และส่งิ แวดล้อม
เพือ่ การดารงชวี ติ และครอบครวั
สาระท่ี ๒ การอาชีพ
มาตรฐาน ง ๒.๑ เข้าใจ มีทกั ษะท่จี าเป็น มีประสบการณ์ เหน็ แนวทางในงานอาชีพ
ใชเ้ ทคโนโลยีเพื่อพฒั นาอาชพี มีคุณธรรม และมเี จตคติทดี่ ีต่ออาชีพ
สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ (๔ สาระ ๘ มาตรฐาน)
สาระท่ี ๑ ภาษาเพ่ือการสอื่ สาร
มาตรฐาน ต ๑.๑ เขา้ ใจและตคี วามเรอ่ื งท่ีฟงั และอา่ นจากสือ่ ประเภทต่างๆ และแสดงความ
คิดเห็นอย่างมีเหตุผล
มาตรฐาน ต ๑.๒ มที กั ษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นข้อมลู ข่าวสาร แสดง
ความร้สู ึกและความคิดเห็นอยา่ งมีประสิทธิภาพ
มาตรฐาน ต ๑.๓ นาเสนอข้อมูลขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องต่าง ๆ
โดยการพดู และการเขยี น
สาระท่ี ๒ ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต ๒.๑ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และ
นาไปใช้ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
มาตรฐาน ต ๒.๒ เข้าใจความเหมอื นและความแตกตา่ งระหวา่ งภาษาและวฒั นธรรมของ
เจา้ ของภาษากับภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้อยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
-๑๑-
สาระท่ี ๓ ภาษากับความสมั พันธ์กับกลมุ่ สาระการเรียนรอู้ ื่น
มาตรฐาน ต ๓.๑ ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกลมุ่ สาระการเรียนร้อู ื่น และเปน็
พน้ื ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศนข์ องตน
สาระที่ ๔ ภาษากับความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต ๔.๑ ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณต์ า่ ง ๆ ทงั้ ในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และ
สงั คม
มาตรฐาน ต ๔.๒ ใชภ้ าษาต่างประเทศเปน็ เครื่องมือพน้ื ฐานในการศกึ ษาตอ่ การประกอบ
อาชพี และการแลกเปล่ียนเรยี นร้กู ับสังคมโลก
-๑๒-
โครงสรา้ งเวลาเรยี นของโรงเรียนบา้ นท่าตมู ดงสระพัง
ระดับประถมศึกษา
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ไดก้ าหนดกรอบโครงสรา้ งเวลาเรยี นขน้ั ตา่ สาหรับกลมุ่ สาระ
การเรยี นรู้ ๘ กลุม่ สาระ และกิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน ซ่ึงโรงเรียนสามารถเพิ่มเติมได้ตามความพร้อมและ
จุดเน้น โดยสามารถปรับให้เหมาะสมตามบรบิ ทของโรงเรยี นและสภาพของผูเ้ รยี น ดังนี้
กลุ่มสาระการเรยี นรู้/กิจกรรม เวลาเรียน (ช่ัวโมง / ปี )
ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ป.๖
กล่มุ สาระการเรยี นรู้
ภาษาไทย ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐
คณิตศาสตร์ ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐
สงั คมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐
๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
-ประวัตศิ าสตร์
- ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐
-หนา้ ท่พี ลเมือง วฒั นธรรมและการดาเนนิ
ชวี ิตในสังคม
- เศรษฐศาสตร์
-ภูมิศาสตร์
สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐
ศลิ ปะ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐
การงานอาชพี ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
ภาษาต่างประเทศ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐
๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐
รวมเวลาเรียน(พนื้ ฐาน)
๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐
รายวชิ า/กจิ กรรมท่จี ดั เพ่ิมเตมิ
๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
ภาษาองั กฤษเพมิ่ เติม ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
การปอ้ งกนั การทจุ รติ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐
๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐
- กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
- กจิ กรรมนักเรยี น (ลูกเสือ/เนตรนาร/ี ยุวกาชาด ) ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐
- ชุมชุม ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐
- กิจกรรมเพื่อสังคมและสารธารณประโยชน์ ๑,๐๔๐ ๑,๐๔๐ ๑,๐๔๐ ๑,๐๔๐ ๑,๐๔๐ ๑,๐๔๐
รวมเวลา กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รยี น
รวมเวลาท้ังหมด
-๑๓-
โครงสร้างหลกั สตู รของโรงเรยี นบ้านทา่ ตูมดงสระพัง
โครงสรา้ งหลกั สตู รชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๑
รายวิชา/กจิ กรรม เวลาเรียน (ชั่วโมง/ป)ี
รายวิชาพื้นฐาน ๘๔๐
ท๑๑๑๐๑ ภาษาไทย
ค๑๑๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๒๐๐
ว๑๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๒๐๐
ส๑๑๑๐๑ สังคมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม ๘๐
ส๑๑๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๔๐
พ๑๑๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ๔๐
ศ๑๑๑๐๑ ศลิ ปะ ๔๐
ง๑๑๑๐๑ การงานอาชีพ ๔๐
อ๑๑๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๔๐
๑๖๐
รายวชิ าเพ่ิมเติม/กิจกรรม ๘๐
อ๑๑๒๐๑ ภาษาองั กฤษอา่ น เขียน ๑ ๔๐
ส๑๑๒๐๒ การป้องกันการทุจริต ๔๐
๑๒๐
กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น ๔๐
กิจกรรมแนะแนว
กิจกรรมนกั เรียน ๓๐
๔๐
- ลกู เสอื /เนตรนาร/ี ยุวกาชาด ๑๐
๑,๐๔๐
- ชมุ นุม
กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์
รวมเวลาเรียนทั้งสน้ิ
-๑๔-
โครงสรา้ งหลกั สตู รช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๒
รายวชิ า/กิจกรรม เวลาเรยี น (ช่วั โมง/ป)ี
รายวิชาพนื้ ฐาน ๘๔๐
ท๑๒๑๐๑ ภาษาไทย
ค๑๒๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๒๐๐
ว๑๒๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๒๐๐
ส๑๒๑๐๑ สังคมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม ๘๐
ส๑๒๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๔๐
พ๑๒๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ๔๐
ศ๑๒๑๐๑ ศลิ ปะ ๔๐
ง๑๒๑๐๑ การงานอาชีพ ๔๐
อ๑๒๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๔๐
๑๖๐
รายวชิ าเพมิ่ เตมิ /กจิ กรรม ๘๐
อ๑๒๒๐๑ ภาษาองั กฤษอา่ น เขียน ๒ ๔๐
ส๑๒๒๐๒ การป้องกนั การทจุ รติ ๔๐
๑๒๐
กิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน ๔๐
กิจกรรมแนะแนว
กจิ กรรมนักเรียน ๓๐
๔๐
- ลกู เสอื /เนตรนาร/ี ยวุ กาชาด ๑๐
๑,๐๔๐
- ชมุ นมุ
กจิ กรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชน์
รวมเวลาเรียนทั้งส้ิน
-๑๕-
โครงสรา้ งหลกั สูตรช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๓
รายวิชา/กิจกรรม เวลาเรยี น (ช่วั โมง/ป)ี
รายวชิ าพืน้ ฐาน ๘๔๐
ท๑๓๑๐๑ ภาษาไทย
ค๑๓๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๒๐๐
ว๑๓๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๒๐๐
ส๑๓๑๐๑ สงั คมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม ๘๐
ส๑๓๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๔๐
พ๑๓๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ๔๐
ศ๑๓๑๐๑ ศิลปะ ๔๐
ง๑๓๑๐๑ การงานอาชพี ๔๐
อ๑๓๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๔๐
๑๖๐
รายวชิ าเพ่ิมเตมิ /กิจกรรม ๘๐
อ๑๓๒๐๑ ภาษาอังกฤษอา่ น เขยี น ๓ ๔๐
ส๑๓๒๐๒ การปอ้ งกนั การทุจริต ๔๐
๑๒๐
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ๔๐
กจิ กรรมแนะแนว
กิจกรรมนกั เรยี น ๓๐
๔๐
- ลูกเสอื /เนตรนาร/ี ยุวกาชาด ๑๐
๑,๐๔๐
- ชุมนุม
กิจกรรมเพือ่ สังคมและสาธารณประโยชน์
รวมเวลาเรียนทัง้ สนิ้
-๑๖-
โครงสรา้ งหลักสตู รชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔
รายวชิ า/กิจกรรม เวลาเรยี น (ช่วั โมง/ป)ี
รายวิชาพ้นื ฐาน ๘๔๐
ท๑๔๑๐๑ ภาษาไทย
ค๑๔๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑๖๐
ว๑๔๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๑๖๐
ส๑๔๑๐๑ สังคมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม ๑๒๐
ส๑๔๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๘๐
พ๑๔๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๔๐
ศ๑๔๑๐๑ ศิลปะ ๘๐
ง๑๔๑๐๑ การงานอาชพี ๘๐
อ๑๔๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๔๐
๘๐
รายวชิ าเพิ่มเติม/กจิ กรรม ๘๐
อ๑๔๒๐๑ องั กฤษเพอื่ การส่อื สาร ๑ ๔๐
ส๑๔๒๐๒ การป้องกนั การทจุ รติ ๔๐
๑๒๐
กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น ๔๐
กิจกรรมแนะแนว
กจิ กรรมนกั เรียน ๓๐
๔๐
- ลูกเสอื /เนตรนาร/ี ยวุ กาชาด ๑๐
๑,๐๔๐
- ชุมนมุ
กิจกรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชน์
รวมเวลาเรียนทง้ั สน้ิ
-๑๗-
โครงสรา้ งหลักสตู รชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๕
รายวชิ า/กิจกรรม เวลาเรยี น (ช่วั โมง/ป)ี
รายวิชาพ้นื ฐาน ๘๔๐
ท๑๕๑๐๑ ภาษาไทย
ค๑๕๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑๖๐
ว๑๕๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๑๖๐
ส๑๕๑๐๑ สังคมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม ๑๒๐
ส๑๕๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๘๐
พ๑๕๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๔๐
ศ๑๕๑๐๑ ศิลปะ ๘๐
ง๑๕๑๐๑ การงานอาชพี ๘๐
อ๑๕๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๔๐
๘๐
รายวชิ าเพ่ิมเติม/กจิ กรรม ๘๐
อ๑๕๒๐๑ องั กฤษเพอื่ การส่อื สาร ๒ ๔๐
ส๑๔๒๐๒ การป้องกนั การทจุ รติ ๔๐
๑๒๐
กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น ๔๐
กิจกรรมแนะแนว
กจิ กรรมนกั เรียน ๓๐
๔๐
- ลูกเสอื /เนตรนาร/ี ยุวกาชาด ๑๐
๑,๐๔๐
- ชุมนมุ
กิจกรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชน์
รวมเวลาเรียนทง้ั สน้ิ
-๑๘-
โครงสรา้ งหลักสตู รช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖
รายวชิ า/กิจกรรม เวลาเรียน (ช่วั โมง/ป)ี
รายวิชาพ้นื ฐาน ๘๔๐
ท๑๖๑๐๑ ภาษาไทย
ค๑๖๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑๖๐
ว๑๖๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๑๖๐
ส๑๖๑๐๑ สังคมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม ๑๒๐
ส๑๖๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๘๐
พ๑๖๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๔๐
ศ๑๖๑๐๑ ศิลปะ ๘๐
ง๑๖๑๐๑ การงานอาชีพ ๘๐
อ๑๖๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๔๐
๘๐
รายวชิ าเพ่ิมเติม/กจิ กรรม ๘๐
อ๑๖๒๐๑ องั กฤษเพอื่ การส่อื สาร ๓ ๔๐
ส๑๔๒๐๒ การป้องกนั การทจุ รติ ๔๐
๑๒๐
กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น ๔๐
กิจกรรมแนะแนว
กจิ กรรมนกั เรียน ๓๐
๔๐
- ลูกเสอื /เนตรนาร/ี ยุวกาชาด ๑๐
๑,๐๔๐
- ชุมนมุ
กิจกรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชน์
รวมเวลาเรียนทง้ั สน้ิ
-๑๙-
โครงสร้างกลมุ่ สาระการเรยี นรู้
กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
รายวชิ าพ้นื ฐาน รหสั วชิ า ชื่อวชิ า จานวนช่วั โมง/ปี
ลาดบั ที่ ท๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๒๐๐
๑ ท๑๒๑๐๑ ภาษาไทย ๒๐๐
๒ ท๑๓๑๐๑ ภาษาไทย ๒๐๐
๓ ท๑๔๑๐๑ ภาษาไทย ๑๖๐
๔ ท๑๕๑๐๑ ภาษาไทย ๑๖๐
๕ ท๑๖๑๐๑ ภาษาไทย ๑๖๐
๖
-๒๐-
คาอธบิ ายรายวิชา
กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย
-๒๑-
คาอธบิ ายรายวิชา
ท๑๑๑๐๑ ภาษาไทย กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ เวลา ๒๐๐ ช่วั โมง/ปี
ศกึ ษาวิเคราะหก์ ารอา่ นออกเสยี งและความหมายของคา คาคล้องจอง และข้อความท่ีประกอบ
ด้วยคาพ้นื ฐาน คือ คาทใ่ี ช้ในชีวติ ประจาวนั ไม่น้อยกวา่ ๖๐๐ คา รวมทงั้ คาท่ีใชเ้ รียนรู้ในกลุ่มสาระการ
เรียนรอู้ ืน่ การอา่ นจบั ใจความจากสอ่ื ตา่ ง ๆ การอา่ นหนงั สอื ตามความสนใจ การอา่ นเครื่องหมายหรือ
สญั ลักษณ์ มารยาทในการอ่าน การคดั ลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทดั ตามรปู แบบการเขยี นตัวอกั ษรไทย
เขยี นสื่อสารด้วยคาและประโยคงา่ ย ๆ มารยาทในการเขียน การฟังและปฏิบตั ิตามคาแนะนาคาสง่ั งา่ ย ๆ
การจบั ใจความและพดู แสดงความคิดเห็น ความรู้สึกจากเรือ่ งทฟี่ ังและดู ท้งั ท่เี ปน็ ความรู้และความบันเทงิ
การพดู สื่อสารในชวี ิตประจาวนั มารยาทในการฟงั มารยาทในการดู มารยาทในการพดู พยญั ชนะ
สระ และวรรณยกุ ต์ เลขไทย การสะกดคา การแจกลกู และการอ่านเป็นคามาตราตวั สะกดท่ีตรงตาม
มาตราและไมต่ รงตามมาตรา การผนั คา ความหมายของคา การแต่งประโยค คาคลอ้ งจอง
โดยใชท้ กั ษะการฟัง พูด อ่าน เขยี น กระบวนการคิด ทักษะการสอื่ สาร การสรปุ การวิเคราะห์
ข้อมลู จากเรื่องและส่อื ต่าง ๆ เพ่อื ให้เกิดความรู้ ความเข้าใจสามารถสอ่ื สารสง่ิ ที่เรยี นรู้ สรุปขอ้ คิดทีไ่ ด้
จากการอา่ นวรรณคดีและวรรณกรรมเพ่อื นาไปใช้ในชวี ิตประจาวัน
เพ่อื เห็นคุณค่าของความเปน็ ไทย ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่อื สัตย์ มวี ินยั ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ ม่ันใน
การทางาน
มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั
ท๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ , ป.๑/๓, ป.๑/๔ , ป.๑/๕ , ป.๑/๖ , ป.๑/๗, ป.๑/๘
ท๒.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒, ป.๑/๓
ท๓.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓ , ป.๑/๔,ป.๑/๕
ท๔.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ ,ป.๑/๓, ป.๑/๔
ท๕.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒
รวม ๒๒ ตวั ชว้ี ดั
-๒๒-
คาอธบิ ายรายวชิ า
ท๑๒๑๐๑ ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๒ เวลา ๒๐๐ ช่ัวโมง/ปี
ศกึ ษาวิเคราะหก์ ารอ่านออกเสียงและการบอกวามหมายของคา คาคล้องจอง ขอ้ ความ และ
บทร้อยกรองงา่ ย ๆ ท่ีประกอบดว้ ยคาพ้นื ฐานเพ่ิมจาก ป. ๑ ไมน่ อ้ ยกว่า ๘๐๐ คา รวมท้งั คาที่ใช้เรียนรู้
ในกลุม่ สาระการเรยี นรู้อน่ื การอ่านจบั ใจความจากส่ือตา่ งๆ การอ่านหนังสือตามความสนใจ การอา่ น
ขอ้ เขียนเชิงอธิบาย และปฏิบัตติ ามคาสง่ั หรือขอ้ แนะนา มารยาทในการอ่าน การคดั ลายมอื ตัวบรรจง
เต็มบรรทัดตามรูปแบบการเขยี นตัวอักษรไทย การเขยี นเร่อื งส้ัน ๆ เก่ียวกบั ประสบการณ์ เขียนเร่อื งสั้น ๆ
ตามจินตนาการ มารยาทในการเขียน ฟังคาแนะนาคาสงั่ ท่ีซบั ซ้อนและปฏิบัติตาม เลา่ เรื่องทฟ่ี ังและดทู ั้ง
ทเ่ี ป็นความรู้และความบนั เทิง บอกสาระสาคญั ของเรอ่ื งท่ฟี ังและดู ตงั้ คาถามและตอบคาถามเก่ยี วกบั
เรื่องทฟี่ ังและดู พดู แสดงความคิดเหน็ และความรู้สึกจากเร่ืองที่ฟงั และดู พูดสอื่ สารได้ชดั เจนตรงตาม
วตั ถปุ ระสงค์ มีมารยาทในการฟงั การดู การพูด และเขียนพยญั ชนะ สระ วรรณยุกต์และเลขไทย เขียน
สะกดคาและความหมายของคา เรยี บเรยี งคาเป็นประโยคตรงตามเจตนาของการสอ่ื สาร การบอกลกั ษณะ
คาคล้องจอง เลือกใช้ภาษาไทยมาตรฐาน และภาษาถิ่นไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะ ข้อคิดท่ไี ด้จากการอ่าน
หรอื การฟังวรรณกรรมสาหรับเด็ก เพ่ือนาไปใช้ในชีวิตประจาวนั รอ้ งบทร้อยกรองเล่นสาหรับเดก็ ในทอ้ งถ่ิน
ทอ่ งจาบทอาขยานตามท่กี าหนดและบทรอ้ ยกรองทม่ี ีคุณคา่ ตามความสนใจ
โดยใชท้ ักษะการฟงั พดู อ่าน เขียน กระบวนการคิด ทกั ษะการสอื่ สาร การสรุป การวิเคราะห์
ขอ้ มูลจากเรื่องและสื่อตา่ ง ๆ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจสามารถส่อื สารสง่ิ ที่เรยี นรู้ สรปุ ข้อคิดทไ่ี ด้
จากการอา่ นวรรณคดีและวรรณกรรมเพ่อื นาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน
เพ่ือเห็นคุณค่าของความเป็นไทย ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์ มวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มัน่
ในการทางาน
มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั
ท๑.๑ ป.๒/๑ , ป.๒/๒ , ป.๒/๓ , ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗ , ป.๒/๘
ท๒.๑ ป.๒/๑ ,ป.๒/๒ , ป.๒/๓ , ป.๒/๔
ท๓.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒ , ป.๒/๓ , ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗
ท๔.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒ , ป.๒/๓ , ป.๒/๔, ป.๒/๕
ท๕.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒ , ป.๒/๓
รวม ๒๗ ตวั ชี้วดั
-๒๓-
คาอธบิ ายรายวิชา
ท๑๓๑๐๑ ภาษาไทย กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๓ เวลา ๒๐๐ ช่วั โมง/ปี
ศกึ ษาวเิ คราะหก์ ารอ่านออกเสยี งและการบอกความหมายของคา คาคล้องจอง ข้อความ และ
บทรอ้ ยกรองงา่ ยๆ ท่ปี ระกอบดว้ ยคาพ้นื ฐานเพ่มิ จาก ป.๒ไม่นอ้ ยกวา่ ๑,๒๐๐ คา รวมท้งั คาท่ีเรียนรูใ้ น
กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ ื่น การอ่านจบั ใจความจากส่ือตา่ ง ๆ การอา่ นหนังสอื ตามความสนใจ การอ่าน
ข้อเขยี นเชิงอธบิ าย และปฏบิ ตั ติ ามคาส่ังหรอื ข้อแนะนา การอ่านขอ้ มูลจากแผนภาพ แผนที่ และแผนภมู ิ
มารยาทในการอ่าน การคดั ลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดตามรปู แบบการเขียน ตัวอกั ษรไทย การเขยี น
บรรยายเก่ียวกับลกั ษณะของ คน สัตว์ ส่งิ ของ สถานท่ี การเขียนบันทึกประจาวนั การเขียนจดหมายลาครู
การเขยี นเร่ืองตามจินตนาการจากคา ภาพ และหวั ขอ้ ทก่ี าหนด มารยาทในการเขียน การเล่าราย
ละเอียดเกี่ยวกับเรอื่ งทีฟ่ งั และดูท้ังท่เี ป็นความรู้และบนั เทิง สาระสาคญั จากการฟัง การดู การตั้งคาถาม
และตอบคาถามเกยี่ วกบั เร่อื งที่ฟังและดู การพดู แสดงความคิดเหน็ และความรู้สึกจากเร่อื งทีฟ่ ังและดูพดู
ส่อื สารได้ชดั เจนตรงตามวตั ถปุ ระสงค์ มารยาทในการฟงั การดู การพูด การเขยี นสะกดคาและความ
หมายของคา ชนดิ และหนา้ ท่ขี องคาในประโยค การใช้พจนานุกรมค้นหาความหมายของคา แตง่ ประโยค
ง่าย ๆ การแตง่ คาคลอ้ งจองและคาขวญั การเลอื กใช้ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถน่ิ ไดเ้ หมาะสมกบั
กาลเทศะ ข้อคดิ ทไ่ี ด้จากการอ่านฟงั วรรณกรรม เพื่อนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั รจู้ กั เพลงพ้นื บ้านและเพลง
กลอ่ มเด็กเพื่อปลกู ฝังความช่นื ชมวฒั นธรรมทอ้ งถ่นิ การแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกับวรรณคดีทอ่ี า่ น
การทอ่ งจาบทอาขยานตามทีก่ าหนดและบทรอ้ ยกรองทีม่ คี ณุ คา่ ตามความสนใจ
โดยใชท้ กั ษะการฟงั พดู อ่าน เขยี น กระบวนการคิด ทกั ษะการสอื่ สาร การสรุป การวิเคราะห์
ข้อมูลจากเร่ืองและส่ือต่าง ๆ เพือ่ ใหเ้ กิดความรู้ ความเข้าใจสามารถสอ่ื สารสิ่งที่เรยี นรู้ สรปุ ข้อคดิ ท่ไี ด้
จากการอ่านวรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวัน
เพ่ือเหน็ คุณค่าของความเป็นไทย ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซือ่ สัตย์ มีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมนั่
ในการทางาน
มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั
ท๑.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒, ป.๓/๓ ,ป.๓/๔, ป.๓/๕ , ป.๓/๖ , ป.๓/๗ , ป.๓/๘ , ป.๓/๙
ท๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓ ,ป.๓/๔, ป.๓/๕ , ป.๓/๖
ท๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓ ,ป.๓/๔, ป.๓/๕ , ป.๓/๖
ท๔.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓ ,ป.๓/๔, ป.๓/๕ , ป.๓/๖ , ป.๓/๗
ท๕.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓ ,ป.๓/๔
รวม ๓๒ ตวั ชี้วัด
-๒๔-
คาอธิบายรายวชิ า
ท๑๔๑๐๑ ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ เวลา ๑๖๐ ชั่วโมง/ปี
ศึกษาวเิ คราะหก์ ารอา่ นออกเสียงและการบอกความหมายของบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรอง
การอา่ นจบั ใจความจากส่อื ต่างๆ การอ่านหนังสอื ตามความสนใจ มารยาทในการอ่าน มารยาทในการอ่าน
การคดั ลายมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทัดและคร่ึงบรรทัดตามรปู แบบการเขยี นตัวอกั ษรไทย การเขยี นส่ือสาร
การนาแผนภาพโครงเรอื่ งและแผนภาพความคดิ ไปพฒั นางานเขยี น การเขียนย่อความจากสื่อตา่ ง ๆ เชน่
นิทาน ความเรียงประเภทตา่ ง ๆ ประกาศ จดหมาย คาสอน การเขยี นจดหมายถงึ เพื่อนและบิดา
มารดา การเขยี นบันทึกและเขียนรายงานจากการศึกษาค้นคว้า การเขยี นเรื่องตามจินตนาการ มารยาท
ในการเขียน แยกขอ้ เทจ็ จรงิ และขอ้ คิดเห็นจากเรื่องทอี่ า่ น ฟังและดู พดู สรุปความ ต้งั คาถามและตอบ
คาถามเชิงเหตุผลจากเรือ่ งทฟี่ ังและดู รายงานเรื่องหรอื ประเด็นท่ีศกึ ษาคน้ ควา้ จากการฟงั การดูและการ
สนทนามมี ารยาทในการฟงั การดู และการพูด สะกดคาและบอกความหมายของคาในบรบิ ทต่าง ๆ ระบุ
ชนดิ และหนา้ ท่ีของคาในประโยคใชพ้ จนานุกรมค้นหาความหมายของคา แตง่ ประโยคได้ถูกต้องตามหลัก
ภาษาแตง่ บทรอ้ ยกรองและคาขวัญบอกความหมายของสานวนเปรยี บเทยี บภาษาไทยมาตรฐานกับภาษาถ่นิ
ข้อคดิ จากนทิ านพน้ื บา้ นหรอื นทิ าน คติธรรม อธบิ ายข้อคดิ จากการอา่ นเพื่อนาไปใช้ในชีวติ จริง รอ้ งเพลง
พน้ื บา้ นทอ่ งจาบทอาขยานตามที่กาหนด และบทร้อยกรองทม่ี ีคณุ คา่ ตามความสนใจ
โดยใชท้ กั ษะการฟงั พูด อา่ น เขยี น กระบวนการคดิ ทกั ษะการสอื่ สาร การสรุป การวเิ คราะห์
ข้อมลู จากเร่ืองและสือ่ ต่าง ๆ เพอ่ื ให้เกิดความรู้ ความเข้าใจสามารถสือ่ สารส่ิงที่เรยี นรู้ มคี วามสามารถใน
การแยกแยะ ตดั สนิ ใจนาไปใช้ชวี ติ ประจาวนั
เพื่อเหน็ คณุ ค่าของความเป็นไทย ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่อื สัตยม์ ีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมุง่ มน่ั
ในการทางาน
มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ท๑.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ ,ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖ , ป.๔/๗ ,ป.๔/๘
ท๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒ , ป.๔/๓ ,ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖ , ป.๔/๗ ,ป.๔/๘
ท๓.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒ , ป.๔/๓ ,ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖
ท๔.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒ , ป.๔/๓ ,ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖ , ป.๔/๗
ท๕.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒ , ป.๔/๓ ,ป.๔/๔
รวม ๓๓ ตวั ช้ีวดั
-๒๕-
คาอธบิ ายรายวชิ า
ท๑๕๑๐๑ ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ เวลา ๑๖๐ ช่วั โมง/ปี
ศกึ ษาวเิ คราะหก์ ารอา่ นออกเสยี งและการบอกความหมายของบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรอง
การอา่ นบทรอ้ ยกรองเป็นทานองเสนาะ การอ่านจับใจความจากสอื่ ตา่ งๆ การอ่านงานเขียนเชิงอธบิ าย
คาส่งั ขอ้ แนะนา และปฏิบัติตาม การอ่านหนังสอื ตามความสนใจ มารยาทในการอ่าน คดั ลายมอื ตวั
บรรจงเต็มบรรทัดและครึ่งบรรทัดตามรปู แบบการเขยี นตัวอักษรไทย เขยี นส่ือสารโดยใชค้ าไดถ้ กู ต้อง
ชัดเจนและเหมาะสม เขยี นแผนภาพโครงเร่ือง และแผนภาพความคิดเพือ่ ใช้พัฒนางานเขยี น เขียนย่อ
ความจากเรอื่ งท่อี ่าน เขียนจดหมายถงึ ผ้ปู กครองและญาติ เขียนแสดงความรูส้ กึ และความคิดเหน็ ได้ตรง
ตามเจตนา กรอกแบบรายการต่าง ๆ เขยี นเร่ืองตามจนิ ตนาการ และมีมารยาทในการเขียนพูดแสดง
ความรู้ ความคดิ เห็นและความรสู้ กึ ตัง้ คาถามและคาตอบเชิงเหตุผลจากเร่ืองท่ฟี ังและดู วิเคราะห์
ความน่าเช่ือถือจากเรื่องท่ฟี ังและดอู ยา่ งมีเหตุผล พูดรายงานเรอื่ งหรอื ประเดน็ ที่ศกึ ษาค้นควา้ จากการฟัง
การดู และการสนทนา มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด ชนดิ และหนา้ ท่ีของคาในประโยค
สว่ นประกอบของประโยค เปรยี บเทยี บภาษาไทยมาตรฐานกบั ภาษาถน่ิ ใช้คาราชาศพั ทบ์ อกคา
ภาษาต่างประเทศในภาษาไทย แตง่ บทร้อยกรอง ใช้สานวนได้ถูกตอ้ ง สรปุ เรอ่ื งจากวรรณคดีหรือ
วรรณกรรมทอี่ า่ น ความรู้และขอ้ คดิ จากการอ่านวรรณคดี และวรรณกรรมท่ีสามารถนาไปใช้ในชวี ติ
จริง คุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรม ทอ่ งจาบทอาขยานตามท่กี าหนดและบทรอ้ ยกรองทมี่ คี ุณคา่
ตามความสนใจ
โดยใชท้ ักษะการฟงั พูด อา่ น เขยี น กระบวนการคิด ทักษะการสอ่ื สาร การสรุป การวเิ คราะห์
ข้อมูลจากเรอื่ งและสื่อตา่ ง ๆ เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจสามารถสื่อสารสง่ิ ท่ีเรียนรู้ มีความสามารถ
ในการแยกแยะ ตดั สินใจนาไปใช้ชวี ิตประจาวนั
เพือ่ เห็นคณุ ค่าของความเปน็ ไทย ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซือ่ สัตย์มีวนิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ และม่งุ มั่นใน
การทางาน
มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั
ท๑.๑ ป.๕/๑ ,ป.๕/๒,ป.๕/๓,ป.๕/๔, ป.๕/๕,ป.๕/๖,ป.๕/๗ ,ป.๕/๘
ท๒.๑ ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓,ป.๕/๔, ป.๕/๕,ป.๕/๖,ป.๕/๗ ,ป.๕/๘ ,ป.๕/๙
ท๓.๑ ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓,ป.๕/๔, ป.๕/๕
ท๔.๑ ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓,ป.๕/๔, ป.๕/๕,ป.๕/๖,ป.๕/๗
ท๕.๑ ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓,ป.๕/๔
รวม ๓๓ ตัวชว้ี ัด
-๒๖-
คาอธิบายรายวชิ า
ท๑๖๑๐๑ ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ เวลา ๑๖๐ ช่ัวโมง/ปี
ศกึ ษาวเิ คราะหก์ ารอ่านออกเสียงและการบอกความหมายของบทรอ้ ยแก้ว และบทรอ้ ยกรอง
การอ่านบทรอ้ ยกรองเป็นทานองเสนาะ การอ่านจบั ใจความจากสอื่ ต่างๆ การอา่ นเรว็ การอ่านงาน
เขยี นเชงิ อธบิ าย คาสงั่ ขอ้ แนะนา และปฏบิ ัติตาม การอ่านข้อมูลจากแผนผงั แผนท่ี แผนภูมิ และกราฟ
การอ่านหนังสือตามความสนใจ มารยาทในการอา่ น การคดั ลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทัดและคร่งึ บรรทดั
เขยี นสื่อสาร เขยี นแผนภาพโครงเรอ่ื ง เขยี นเรยี งความ เขียนยอ่ ความ เขยี นจดหมายสว่ นตัว กรอกแบบ
รายการตา่ ง ๆ เขียนตามจินตนาการและมารยาทในการเขียน พูดแสดงความรู้ ความเข้าใจ ตัง้ คาถาม
ถามตอบเชงิ เหตุผล วิเคราะห์ความน่าเชือ่ ถอื พดู รายงานประเด็นที่ศกึ ษาจากเรอื่ งท่ฟี งั ดู และพดู พูดโนม้
น้าวอยา่ งมเี หตผุ ลและนา่ เช่ือถือ มารยาทในการฟัง ดูและพูด ชนิดและหนา้ ที่ของคา ใชค้ าได้เหมาะสมกบั
กาลเทศะ คาราชาศพั ทร์ ะดบั ภาษา ภาษาถิ่นรวบรวม ความหมายของคาภาษาต่างประเทศที่ใช้ใน
ภาษาไทย ลักษณะของประโยค แต่งบทรอ้ ยกรอง สานวน สุภาษิต คาพังเพย แสดงความคิดเหน็ จาก
วรรณคดี วรรณกรรม เล่านิทานพนื้ บา้ น มาประยกุ ต์ใช้ในชีวิตจรงิ ท่องจาบทอาขยานและบทร้อยกรอง
ได้อย่างมคี ณุ ค่า
โดยใชท้ กั ษะการฟัง พดู อา่ น เขยี น กระบวนการคิด ทกั ษะการสือ่ สาร การสรปุ การวเิ คราะห์
ข้อมูลจากเรอื่ งและสอ่ื ต่าง ๆ เพือ่ ให้เกดิ ความรู้ ความเขา้ ใจสามารถสื่อสารสิ่งที่เรยี นรู้ มคี วามสามารถใน
การแยกแยะ ตัดสินใจนาไปใชช้ ีวิตประจาวัน
เพ่ือเห็นคณุ ค่าของความเปน็ ไทย ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์มีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มัน่
ในการทางาน
มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด
ท ๑.๑ ป๖/๑ ,ป๖/๒ ,ป๖/๓ ,ป๖/๔ ,ป๖/๕ ,ป๖/๖ ,ป๖/๗ ,ป๖/๘, ป๖/๙
ท ๒.๑ ป.๖/๑,ป๖/๒ ,ป๖/๓ ,ป๖/๔ ,ป๖/๕ ,ป๖/๖ ,ป๖/๗ ,ป๖/๘, ป๖/๙
ท ๓.๑ ป.๖/๑,ป๖/๒ ,ป๖/๓ ,ป๖/๔ ,ป๖/๕ ,ป๖/๖
ท ๔.๑ ป. ๖/๑,ป๖/๒ ,ป๖/๓ ,ป๖/๔ ,ป๖/๕ ,ป๖/๖
ท ๕.๑ ป.๖/๑,ป๖/๒ ,ป๖/๓ ,ป๖/๔
รวม ๓๔ ตวั ชว้ี ดั
-๒๗-
โครงสรา้ งกลุม่ สาระการเรยี นรู้
กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์
รายวชิ าพื้นฐาน รหัสวิชา ชอื่ วชิ า จานวนชว่ั โมง/ปี
ลาดบั ที่ ค๑๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๒๐๐
๑ ค๑๒๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๒๐๐
๒ ค๑๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๒๐๐
๓ ค๑๔๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๑๖๐
๔ ค๑๕๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑๖๐
๕ ค๑๖๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๑๖๐
๖
-๒๘-
คาอธบิ ายรายวิชา
กล่มุ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์
-๒๙-
คาอธบิ ายรายวชิ า
ค๑๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์
ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ เวลา ๒๐๐ ชั่วโมง/ปี
ฝึกทกั ษะการคดิ คานวณและฝกึ แกป้ ญั หาเรือ่ ง จานวนของสงิ่ ตา่ งๆ ตามจานวนที่กาหนด อา่ น
และตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย แสดงจานวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ โดยใช้เครือ่ งหมาย =, ≠, > ,<
ตวั ไม่ทราบคา่ ในประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการบวกและประโยคสญั ลักษณ์แสดงการลบของ จานวนไมเ่ กิน
๑๐๐ และ ๐ การหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาการบวกและการลบของจานวนไมเ่ กิน ๑๐๐ และ ๐ ตวั ไม่
ทราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณ์ แสดงวธิ ีการหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวกและการลบของจานวนไม่
เกิน ๑๐๐ และ ๐ จานวนทีห่ ายไปในรูปแบบของจานวนที่เพม่ิ ขึ้นหรอื ลดลงทลี ะ ๑ หรอื ทีละ ๑๐ และระบุ
รูปที่หายไปในรูปแบบซา้ ของรูปเรขาคณิตและรปู อ่ืน ๆ ท่ีสมาชกิ ในแต่ละชุดทซ่ี ้ามี ๒ รูป ความยาวเป็น
เซนติเมตร เปน็ เมตร น้าหนกั เป็นกิโลกรัม เป็นขดี รูปสามเหลี่ยม รูปสเี่ หลีย่ ม วงกลม วงรี ทรงสี่เหลี่ยมมมุ
ฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก และกรวย แผนภูมิรูปภาพในการหาคาตอบของโจทย์ปญั หา เมอื่ กาหนดรปู
๑ รปู แทน ๑ หน่วย
โดยใชก้ ระบวนการ บอก เปรียบเทียบ เรียงลาดบั หาคา่ แสดง ระบุ วัดและเปรียบเทยี บ
จาแนก และใช้ข้อมลู
เพอ่ื ให้ผู้เรียนเป็นคนมีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ ม่ันในการทางานและมคี วามซอ่ื สตั ย์
มาตรฐาน/ตัวชี้วดั
ค ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕
ค ๑.๒ ป.๑/๑
ค ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒
ค ๒.๒ ป.๑/๑
ค ๓.๑ ป.๑/๑
รวม ๑๐ ตวั ชี้วัด
-๓๐-
คาอธิบายรายวิชา
ค๑๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๒ เวลา ๒๐๐ ชัว่ โมง/ปี
ศกึ ษาตัวเลขฮินดอู ารบิก ตัวเลขไทย ตัวหนงั สือจานวนของสงิ่ ต่างๆ จานวนนบั ไม่เกนิ ๑,๐๐๐
และ ๐ เคร่ืองหมาย=, ≠, > ,< ตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณ์ของการบวกการลบของจานวนนบั
ไม่เกนิ ๑,๐๐๐ และ ๐ ของการคูณจานวน๑ หลกั กับจานวนไม่เกนิ ๒ หลัก และของการหารทต่ี ัวตง้ั ไม่เกิน
๒ หลกั ตัวหาร ๑ หลกั โดยที่ผลหารมี ๑ หลกั ท้งั หารลงตัวและหารไม่ลงตวั การบวก ลบ คูณ หารระคน
และโจทย์ปัญหา ๒ ขั้นตอนของจานวนนบั ไมเ่ กิน ๑,๐๐๐ และ ๐ โจทย์ปญั หาเกี่ยวกบั เวลาที่มีหน่วยเด่ียว
และเป็นหน่วยเดยี วกันความยาวและโจทย์ปญั หาการบวกการลบความยาวทม่ี ีหนว่ ยเปน็ เมตรและ
เซนตเิ มตรนา้ หนักและโจทยป์ ัญหาการบวกการลบนา้ หนักทมี่ หี นว่ ยเปน็ กิโลกรัมและกรัม กโิ ลกรมั และขดี
ปริมาตรและความจุเป็นลิตร รปู หลายเหลย่ี มและวงกลมแผนภูมริ ูปภาพ เมือ่ กาหนดรปู ๑ รปู แทน ๒
หนว่ ย ๕ หนว่ ย หรอื ๑๐ หน่วย
โดยวิธีการท่ีหลากหลายแก้ปญั หา การใช้ความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ในการแก้ปัญหา
ในสถานการณต์ ่าง ๆ ใช้การจาแนกและบอก การอ่านเขียน วัดและเปรียบเทียบ เรยี งลาดบั การหาคา่ ของตวั ไม่ทราบคา่
เพอ่ื หาผลลัพธ์ การแสดงวธิ ีหาคาตอบ ระบุจานวนทหี่ ายไปในแบบรูป
เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ความเข้าใจเก่ียวกบั จานวนนับไมเ่ กนิ ๑,๐๐๐ และ ๐ การดาเนินการของ
จานวนการแก้ปัญหาเก่ยี วกับคา่ ของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสญั ลักษณ์ การบวก ลบ คูณ หารระคน
ความยาว ระยะทาง น้าหนกั ปริมาตร ความจุ เวลา รูปหลายเหลีย่ มและวงกลม แผนภมู ิรปู ภาพ
และแบบรปู มวี นิ ยั และความรบั ผิดชอบ ความซื่อสตั ย์ มุ่งมนั่ ในการทางาน ทางานเปน็ ทีมและใฝเ่ รยี นรู้
มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด
ค ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗, ป.๒/๘
ค ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖
ค ๒.๒ ป.๒/๑
ค ๓.๑ ป.๒/๑
รวม ๑๖ ตัวช้วี ดั
-๓๑-
คาอธิบายรายวชิ า
ค๑๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์
ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๓ เวลา ๒๐๐ ชั่วโมง /ปี
ศึกษาวิเคราะห์การเขียนตัวเลขฮินดูอารบกิ ตัวเลขไทย และตัวหนงั สอื แสดงจานวนการอา่ นตัวเลข
ฮินดอู ารบกิ ตัวเลขไทยการนบั เพมิ่ ทลี ะ ๓ ทลี ะ ๔ ทลี ะ ๒๕ และ ทีละ ๕๐ หลกั และค่าของเลขโดดในแตล่ ะ
หลัก และการใช้ ๐ เพือ่ ยึดตาแหนง่ ของหลัก การเขียนตัวเลขแสดงจานวนในรปู กระจาย การเปรยี บเทยี บ
จานวน และการใช้เครอ่ื งหมาย = , ≠, < , > การเรียงลาดับจานวนไมเ่ กินหา้ จานวน การบวก การลบ
การคูณจานวนหน่งึ หลกั กับจานวนไมเ่ กินส่หี ลกั การคณู จานวนสองหลกั กับจานวนสองหลัก การหารที่ตัวต้งั ไม่เกิน
สหี่ ลักและตวั หารมีหนง่ึ หลกั การบวก ลบ คณู หารระคน โจทยป์ ญั หาการบวก, การลบ, การคูณ, การหาร
โจทยป์ ัญหาการบวก, ลบ, คูณ, หารระคนการสรา้ งโจทยป์ ญั หาการบวก การลบ การคณู การหาร การวดั ความ
ยาว การเลือกเครอื่ งมือวัดความยาวที่เหมาะสม การเปรียบเทยี บความยาว การคาดคะเนความยาว การชงั่ การ
เลือกเครื่องชัง่ ที่เหมาะสม การเปรียบเทียบน้าหนกั การคาดคะเนนา้ หนัก การตวง การเลอื กเครื่องตวง การเปรียบ
เทียบปริมาตรของส่งิ ของและความจขุ องภาชนะ การคาดคะเนปริมาตรของสิง่ ของและความจุของภาชนะ การบอก
เวลา การเขียนบอกเวลา โดยใชจ้ ุดและการอา่ น ความสมั พันธ์ของหน่วยความยาว ความสัมพันธ์ของหนว่ ยการช่ัง
ความสมั พันธ์ของหน่วยเวลา การเขียนจานวนเงินโดยใชจ้ ดุ และการอ่าน โจทย์ปัญหาเกย่ี วกับการวัดความยาว ,
การช่งั , ปริมาตร และความจุ โจทยป์ ญั หาเกีย่ วกบั เงนิ โจทยป์ ญั หาเกีย่ วกับเวลา การอ่านและเขียนบันทึกรายรบั
รายจ่าย การอา่ นและเขยี นบันทึกกิจกรรมหรอื เหตุการณท์ ี่ระบเุ วลา รูปวงกลม รูปวงรี รูปสาม เหล่ยี ม
รปู ส่ีเหลี่ยมรปู ห้าเหล่ียม รูปหกเหล่ียม รูปแปดเหลย่ี ม รปู ทีม่ แี กนสมมาตร จดุ เสน้ ตรง รังสี สว่ นของเสน้ ตรง
จดุ ตัด มุม และสญั ลกั ษณ์ การเขยี นรูปเรขาคณิตสองมติ ิ รปู เรขาคณติ สองมิติ แบบรูปของจานวนทีเ่ พิ่มขน้ึ ที
ละ ๓ ทลี ะ ๔ ทลี ะ ๒๕ ทลี ะ ๕๐แบบรูปของจานวนทล่ี ดลงทีละ ๓ ทลี ะ ๔ ทลี ะ ๕ ทีละ ๒๕ ทีละ ๕๐
แบบรูปซา้ แบบรปู ของรูปทีม่ ีรูปร่าง ขนาด หรอื สีทีส่ ัมพนั ธก์ ันสองลักษณะ การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลและ
การจาแนกขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองและส่งิ แวดลอ้ มใกลต้ วั การอา่ นแผนภมู ิรูปภาพและแผนภูมแิ ท่ง
โดยใช้ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ การทดลอง สรุป รายงาน ทักษะการคิดคานวณ การแก้
ปญั หา การใหเ้ หตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนาไปใช้ในชวี ิตประจาวนั อย่างสร้างสรรค์
เพื่อใหเ้ หน็ คุณค่าของการทางานอย่างเป็นระบบ มงุ่ มัน่ ในการทางาน มคี วามละเอยี ดรอบคอบ
และความรบั ผิดชอบในการทางานจนสาเร็จ และมีเจตคตทิ ดี่ ีตอ่ วิชาคณิตศาสตร์
มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด
ค ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙, ป.๓/๑๐,ป.๓/๑๑
ค ๑.๒ ป.๓/๑
ค ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙, ป.๓/๑๐,
ป.๓/๑๑,ป.๓/๑๒, ป.๓/๑๓
ค ๒.๒ ป.๓/๑
ค ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒
รวม ๒๘ ตัวชี้วัด
-๓๒-
คาอธิบายรายวชิ า
ค๑๔๑๐๑ คณิตศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์
ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ เวลา ๑๖๐ ช่วั โมง/ปี
ศึกษา ฝกึ ทกั ษะการอ่านและเขียนตวั เลขฮินดอู ารบกิ ตวั เลขไทย และตัวหนังสือแสดงจานวนนับ
ที่มากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ พร้อมท้ังเปรียบเทียบและเรียงลาดับจานวนนับท่ีมากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ จาก
สถานการณต์ ่าง ๆ บอก อา่ นและเขียนเศษสว่ น จานวนคละแสดงปริมาณสิ่งต่าง ๆ และแสดงสงิ่ ต่าง ๆ
ตามเศษส่วน จานวนคละที่กาหนด เปรยี บเทียบ เรยี งลาดับเศษส่วนและจานวนคละทต่ี ัวสว่ นตวั หนึ่งเปน็
พหคู ูณของอกี ตัวหนงึ่ อ่านและเขยี นทศนยิ มไม่เกนิ ๓ ตาแหนง่ แสดงปรมิ าณของส่งิ ตา่ ง ๆ ตามทศนิยม
ทก่ี าหนด เปรียบเทียบและเรียงลาดับทศนิยมไม่เกนิ ๓ ตาแหน่ง และประมาณผลลพั ธ์ของการบวก การลบ
การคูณ การหาร จากสถานการณต์ ่าง ๆ อยา่ งสมเหตุสมผล หาค่าของตัวไมท่ ราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณ์
แสดงการบวก การลบของจานวนนับทมี่ ากกวา่ ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ แสดงการคณู ของจานวนหลายหลัก ๒
จานวน ท่ีมผี ลคณู ไมเ่ กนิ ๖ หลกั และแสดงการหารทต่ี วั ต้ังไม่เกนิ ๖ หลกั ตัวหารไมเ่ กิน ๒ หลกั หาผลลัพธ์
การบวก ลบ คูณ หารระคนของจานวนนบั และ ๐ แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทย์ปญั หา ๒ ข้ันตอนของ
จานวนนับที่มากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ สรา้ งโจทย์ปญั หา ๒ ขัน้ ตอนของจานวนนบั และ ๐ พร้อมท้ังหา
คาตอบ หาคาตอบและแสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปญั หาการบวก การลบของเศษสว่ นและจานวนคละท่ี
ตวั ส่วนตวั หนงึ่ เป็นพหคู ูณของอีกตวั หนึง่ หาผลบวก ผลลบของทศนิยมไม่เกิน ๓ ตาแหน่ง และแสดงวธิ ีหา
คาตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบ ๒ ข้ันตอนของทศนยิ มไม่เกนิ ๓ ตาแหน่ง
แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเวลา วัดและสร้างมุมโดยใช้โพรแทรกเตอร์ แสดงวิธี
หาคาตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับความยาวรอบรูปและพ้ืนท่ีของรูปส่ีเหลี่ยมมุมฉาก จาแนกชนิดของมุม
บอกช่ือมมุ ส่วนประกอบของมมุ และเขยี นสญั ลกั ษณ์แสดงมุม สร้างรูปสเ่ี หลี่ยมมมุ ฉากเมอ่ื กาหนดความยาว
ของดา้ น ใชข้ อ้ มลู จากแผนภูมแิ ทง่ ตารางสองทางในการหาคาตอบของโจทยป์ ัญหา
เพ่ือใหเ้ ห็นคณุ คา่ ของการทางานอย่างเปน็ ระบบ มงุ่ มน่ั ในการทางาน มคี วามละเอยี ดรอบคอบ
และความรับผิดชอบในการทางานจนสาเร็จ และมเี จตคติทด่ี ีตอ่ วิชาคณติ ศาสตร์
มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั
ค ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘, ป.๔/๙, ป.๔/๑๐,
ป.๔/๑๑, ป.๔/๑๒, ป.๔/๑๓, ป.๔/๑๔, ป.๔/๑๕, ป.๔/๑๖
ค ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓
ค ๒.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒
ค ๓.๑ ป.๔/๑
รวม ๒๒ ตัวชี้วัด
-๓๓-
คาอธบิ ายรายวิชา
ค๑๕๑๐๑ คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ เวลา ๑๖๐ ชวั่ โมง/ปี
เขียนเศษส่วนที่มตี วั สว่ นเป็นตวั ประกอบของ ๑๐ หรือ ๑๐๐ หรือ ๑,๐๐๐ ในรปู ทศนยิ ม
แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาโดยใช้บญั ญัตไิ ตรยางศ์ หาผลบวก ผลลบ ผลคูณ ผลหารของเศษสว่ น
และจานวนคละ แสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ญั หาการบวก การลบ การคูณ การหารเศษสว่ น ๒ ขั้นตอน
หาผลคูณของทศนยิ ม ท่ีผลคูณเป็นทศนิยมไมเ่ กิน ๓ ตาแหน่ง หาผลหารที่ตวั ตง้ั เปน็ จานวนนับหรอื ทศนยิ ม
ไม่เกนิ ๓ ตาแหน่ง และตวั หารเปน็ จานวนนบั ผลหารเป็นทศนิยมไม่เกิน ๓ ตาแหน่ง แสดงวิธหี าคาตอบ
ของโจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารทศนยิ ม ๒ ขน้ั ตอน และแสดงวธิ หี าคาตอบของโจทย์
ปัญหาร้อยละไม่เกนิ ๒ ขัน้ ตอน
แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทยป์ ัญหาเกย่ี วกบั ความยาว น้าหนัก ท่มี ีการเปลย่ี นหน่วยและเขียนใน
รูปทศนยิ ม แสดงวิธหี าคาตอบของโจทยป์ ญั หาเกี่ยวกับปรมิ าตรของทรงสเ่ี หลย่ี มมุมฉากและความจุของ
ภาชนะทรงส่เี หลี่ยมมมุ ฉาก ความยาวรอบรูปของรูปสเ่ี หลยี่ มและพื้นทข่ี องรูปส่เี หล่ียมดา้ นขนานและรปู
สีเ่ หล่ยี มขนมเปียกปูน สร้างเสน้ ตรงหรอื ส่วนของเส้นตรงใหข้ นานกับเส้นตรงหรอื สว่ นของเส้นตรงที่
กาหนดให้ จาแนกรูปสเ่ี หลยี่ มโดยพจิ ารณาจากสมบัติของรูป สร้างรปู ส่ีเหลย่ี มชนดิ ต่าง ๆ เม่ือกาหนดความ
ยาวของดา้ นและขนาดของมุมหรอื เมือ่ กาหนดความยาวของเสน้ ทแยงมมุ และบอกลักษณะของปรซิ มึ ใช้
ขอ้ มลู จากกราฟเส้นในการหาคาตอบของโจทยป์ ัญหา และเขยี นแผนภูมแิ ท่งจากขอ้ มลู ท่ีเปน็ จานวนนบั
เพอ่ื ให้เหน็ คุณค่าของการทางานอย่างเป็นระบบ ม่งุ มั่นในการทางาน มีความละเอยี ดรอบคอบ
และความรับผิดชอบในการทางานจนสาเรจ็ และมเี จตคตทิ ีด่ ีตอ่ วชิ าคณิตศาสตร์
มาตรฐาน/ตัวชี้วดั
ค ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ , ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗, ป.๕/๘, ป.๕/๙
ค ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
ค ๒.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
ค ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒
รวม ๑๙ ตวั ชี้วัด
-๓๔-
คาอธบิ ายรายวิชา
ค๑๖๑๐๑ คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ เวลา ๑๖๐ ช่วั โมง/ปี
เปรียบเทยี บ เรียงลาดบั เศษสว่ นและจานวนคละจากสถานการณต์ า่ ง ๆ เขียนอัตราส่วนแสดง
การเปรยี บเทียบปรมิ าณ ๒ ปรมิ าณจากขอ้ ความหรือสถานการณ์ โดยทีป่ รมิ าณแตล่ ะปริมาณเป็นจานวน
นบั หาอตั ราส่วนทเ่ี ท่ากบั อัตราส่วนทีก่ าหนดให้ หา ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ของจานวนนบั ไมเ่ กนิ ๓ จานวน
แสดงวิธหี าคาตอบของโจทย์ปัญหาโดยใช้ความรู้เกยี่ วกับ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. หาผลลพั ธ์ของการบวก ลบ
คณู หารระคนของเศษสว่ นและจานวนคละ แสดงวิธหี าคาตอบของโจทย์ปญั หาเศษสว่ นและจานวนคละ
๒ – ๓ ขั้นตอน หาผลหารของทศนยิ มท่ีตัวหารและผลหารเป็นทศนยิ มไมเ่ กนิ ๓ ตาแหน่ง แสดงวธิ หี า
คาตอบของโจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคูณ การหารทศนยิ ม ๓ ขั้นตอน แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทย์
ปัญหาอตั ราส่วน ปญั หาร้อยละ ๒ – ๓ ข้นั ตอน
แสดงวธิ ีคดิ และหาคาตอบของปัญหาเกีย่ วกับแบบรปู โจทย์ปัญหาเกย่ี วกับปรมิ าตรของ
รปู เรขาคณิตสามมิตทิ ป่ี ระกอบดว้ ยทรงส่ีเหลี่ยมมุมฉาก และแสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทย์ปญั หาเก่ียวกบั
ความยาวรอบรูปและพ้ืนท่ีของรปู หลายเหล่ยี ม ความยาวรอบรปู และพน้ื ที่ของวงกลม จาแนกรปู สามเหลี่ยม
โดยพิจารณาจากสมบัติของรูป สร้างรปู สามเหลี่ยมเมือ่ กาหนดความยาวของดา้ นและขนาดของมมุ
บอกลักษณะของรูปเรขาคณติ สามมติ ชิ นดิ ต่าง ๆ ระบุรูปเรขาคณติ สามมิติท่ีประกอบจากรปู คล่ีและระบุ
รูปคลี่ของรปู เรขาคณิตสามมติ ิใช้ขอ้ มูลจากแผนภูมริ ูปวงกลมในการหาคาตอบของโจทย์ปัญหา
เพอ่ื ให้เหน็ คุณค่าของการทางานอย่างเป็นระบบ มงุ่ ม่ันในการทางาน มคี วามละเอยี ดรอบคอบ
และความรับผิดชอบในการทางานจนสาเรจ็ และมีเจตคติท่ีดตี อ่ วิชาคณิตศาสตร์
มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั
ค ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙, ป.๖/๑๐,ป.๖/๑๑
ป.๖/๑๒
ค ๑.๒ ป.๖/๑
ค ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓
ค ๒.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔
ค ๓.๑ ป.๖/๑
รวม ๒๑ ตัวช้วี ัด
-๓๕-
โครงสร้างกลมุ่ สาระการเรยี นรู้
กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
รายวิชาพื้นฐาน
ลาดับท่ี รหสั วชิ า ช่อื วิชา จานวนชวั่ โมง/ปี
๑ ว๑๑๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๘๐
๒ ว๑๒๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๘๐
๓ ว๑๓๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๘๐
๔ ว๑๔๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๑๒๐
๕ ว๑๕๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๑๒๐
๖ ว๑๖๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๑๒๐
-๓๖-
คาอธบิ ายรายวิชา
กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี
-๓๗-
คาอธิบายรายวชิ า
ว๑๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ เวลา ๘๐ ชัว่ โมง/ปี
ศกึ ษาการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์ หน้าท่ีและการ ส่วนต่าง ๆ ของรา่ งกาย
มนุษย์ และหน้าท่ขี องส่วนตา่ ง ๆ ของสัตว์ และพชื อ และสภ พแวดลอ้ ม สัตว์
และพชื อ อยู่ และส ของ ส ใช้ อ การเกดิ ทิศทางการ อ ของ ส ง
ของ และการมองเห็นดาวบนทอ้ งฟา้ ง และ ง การแก้ปัญหาโ การ อง
อง การ ปรยี บเทียบ การเขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ยโ ใช้ซอฟตแ์ วร์ รือการใชง้ านอปุ กรณ์ โ โ
เบ้อื งต้น การใชง้ านซอฟต์แวร์เบ้ืองต้น
โดยใชก้ ารสืบเสาะ หาความรู้สง ส ตรวจสอบ โ ใช้ อง ออย่างง่าย ขอ้ มูล
และอธิบายผลการสารวจตรวจสอบ เพื่อให้ ความรู้ความเข้าใจ ทักษะกระบวนการ ง
วทิ ยาศาสตร์ข พ านและ ทกั ษะการเรยี นรู้ ๒๑ ดา้ นการใช้ โ โ ส ส และ
การส่อื ส เบือ้ งตน้ สา สอ่ื ส สง เรียนรู้ ความคิดสร้างสรรค์ ส งานรว่ มกบั ผ้อู ่นื
ส งข อ การแกป้ ัญหาอยา่ งงา่ ย ข โ โ ใช้ สือ่ สร้างจดั เกบ็ และเรยี กใชไ้ ฟล์ ประสงค์
เพือ่ ง โ ของการใชค้ วามรู้และ ระบวนการ งวทิ ยาศาสตร์ การ ง
ใช้ โ โ ส ส อย่าง อ ภ ขอ้ ตกลง การใชง้ าน อุปกรณ์และใช้งาน
โ โ ส ส อย่าง ส วทิ ยาศาสตร์ และค่านยิ ม ส
มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด
ว ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒
ว ๑.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒
ว ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒
ว ๒.๓ ป.๑/๑
ว ๓.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒
ว ๓.๒ ป.๑/๑
ว ๔.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕
รวม ๑๕ ตัวช้ีวัด
-๓๘-
คาอธิบายรายวชิ า
ว๑๒๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๒ เวลา ๘๐ ช่ัวโมง/ปี
ศกึ ษาการเรยี นรูแบบนักวิทยาศาสตร ลักษณะของสิง่ มีชีวิตและสิง่ ไมมชี วี ิต ความจาเปนของแสง
และน้าตอการเจรญิ เติบโตของพชื วัฏจกั รชีวติ ของพชื ดอก สมบัติการดดู ซบั ํน้าของวสั ดุและการนาไปใช
ประโยชน สมบัติของวสั ดุท่ีเกิดจากการนาวัสดุมาผสมกัน การเลือกวัสดุมาใชทาวัตถตุ ามสมบัตขิ องวัสดุ
การนาวสั ดุท่ใี ชแลวกลับมาใชใหม การเคลอ่ื นท่ีของแสง การมองเหน็ วัตถุ การปองกนั อนั ตรายจากการ
มองวัตถุในบริเวณที่มีแสงสวางไมเหมาะสม สวนประกอบและการจาแนกชนดิ ของดิน การใชประโยชนจาก
ดนิ การแสดงขั้นตอนการแกปญหา การตรวจหาขอผิดพลาดของโปรแกรม การใชงานซอฟตแวรเบือ้ งตน
การจดั การไฟลและโฟลเดอร การใชงานและดูแลรักษาอุปกรณคอมพิวเตอร เทคโนโลยใี นชวี ิตประจาวัน
การใชเทคโนโลยสี ารสนเทศอยางปลอดภัย
โดยใชการสืบเสาะหาความรู สงั เกต จาแนกประเภท รวบรวมขอมลู บนั ทกึ และอธบิ ายผลการ
สารวจ ตรวจสอบ เพอ่ื ใหเกดิ ความรูความเขาใจ มีทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรขั้นพน้ื ฐานและมี
ทกั ษะ การเรยี นรูในศตวรรษท่ี ๒๑ ในดานการใชเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สารเบื้องตน สามารถ
ส่ือสารสิ่งท่ี เรียนรู มคี วามคดิ สรางสรรค สามารถทางานรวมกับผอู น่ื แสดงข้นั ตอนการแกปญหาอยางงาย
เขยี นโปรแกรม แบบมีเงอ่ื นไขโดยใชบตั รคาสงั่ และตรวจหาขอผิดพลาด ใชงานซอฟตแวร สราง จัดหมวด
หมไู ฟลและโฟลเดอร
เพอื่ ตระหนกั ถึงประโยชนของการใชความรูและกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรในการดารงชีวติ
ตระหนัก ถึงความสาคญั ของการปกปองขอมลู สวนตวั ใชเทคโนโลยสี ารสนเทศอยางปลอดภยั ดแู ลรกั ษา
อุปกรณ คอมพวิ เตอร มจี ติ วิทยาศาสตร จรยิ ธรรม คุณธรรม และคานิยมทเ่ี หมาะสม
มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด
ว ๑.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓
ว ๑.๓ ป.๒/๑
ว ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔
ว ๒.๓ ป.๒/๑, ป.๒/๒
ว ๓.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒
ว ๔.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔
รวม ๑๖ ตวั ชี้วัด
-๓๙-
คาอธิบายรายวชิ า
ว๑๓๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ เวลา ๘๐ ชวั่ โมง/ปี
ศกึ ษา วิเคราะห์สิ่งที่จาเปน็ ต่อการดารงชวี ิต การ เจรญิ เตบิ โตของมนษุ ย์และสัตว์ ประโยชนข์ อง
อาหาร นา้ และอากาศ วัฏจักรชวี ิตของสัตว์ วัฏจกั รชีวิตของสัตวบ์ างชนดิ วัฏจักรชวี ติ ของสัตว์ องค์ประกอบ
ของวตั ถุวสั ดเุ มอื่ ทาให้ รอ้ นข้ึนหรือทาใหเ้ ย็นลง แรงที่มีตอ่ การเปลย่ี นแปลง การเคลือ่ นทขี่ องวตั ถุ แรง
สัมผสั และ แรงไมส่ มั ผสั วัตถุโดยใช้การดงึ ดูดกับแม่เหลก็ ข้ัวแม่เหล็ก ,ผลที่เกิดขน้ึ ระหว่างขว้ั แมเ่ หลก็
การเปล่ียนพลังงานหนงึ่ ไปเป็นอกี พลงั งานหนงึ่ การทางานของเครอื่ งกาเนิดไฟฟ้าและแหล่งพลงั งานในการ
ผลติ ไฟฟา้ ประโยชน์และโทษของไฟฟ้า วิธีการใช้ไฟฟ้าอยา่ งประหยดั และปลอดภัย เส้นทางการขึน้ และตก
ของดวงอาทิตย์สาเหตุการเกดิ ปรากฏการณก์ ารข้ึน การเกดิ กลางวันกลางคนื และการกาหนดทศิ
ความสาคัญของดวงอาทิตย์โดยประโยชนข์ องดวงอาทิตยต์ อ่ ส่งิ มีชวี ิต ส่วนประกอบของอากาศความสาคญั
ของอากาศ และผลกระทบของมลพิษทางอากาศตอ่ สง่ิ มชี วี ิตแนวทางการปฏบิ ัตติ นในการลดการเกิดมลพิษ
ทางอากาศการเกดิ ลม ประโยชน์และโทษของลม
โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ และจิตวทิ ยาศาสตรใ์ นการสบื เสาะหาความรู้ การสารวจ
ตรวจสอบ การสืบค้นขอ้ มลู การแก้ปัญหา และการอภิปราย เพ่อื ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ
สามารถส่อื สารส่งิ ที่เรียนรู้ มีความสามารถตัดสินใจ และนาความรูไ้ ปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน
เพ่อื เห็นคณุ ค่าของการนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ในชวี ติ ประจาวัน ใฝ่เรยี นใฝ่รู้ มีความมงุ่ ม่นั
ในการทางาน มีความรับผดิ ชอบและคา่ นยิ มที่ดตี ่อวทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยีและสง่ิ แวดลอ้ ม วิทยา
ศาสตร์ และคา่ นิยม ส
รหัสตัวช้ีวัด
ว ๑.๒ ป.๓/๑ ป.๓/๒ ป.๓/๓ ป.๓/๔
ว ๒.๑ ป.๓/๑ ป.๓/๒
ว ๒.๒ ป.๓/๑ ป.๓/๒ ป.๓/๓ ป.๓/๔
ว ๒.๓ ป.๓/๑ ป.๓/๒ ป.๓/๓
ว ๓.๑ ป.๓/๑ ป.๓/๒ ป.๓/๓
ว ๓.๒ ป.๓/๑ ป.๓/๒ ป.๓/๓ ป.๓/๔
ว ๔.๒ ป.๓/๑ ป.๓/๒ ป.๓/๓ ป.๓/๔ ป.๓/๕
รวม ๒๕ ตวั ชีว้ ัด
-๔๐-
คาอธิบายรายวิชา
ว๑๔๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ เวลา ๑๒๐ ช่ัวโมง/ปี
ศึกษาการเรยี นรูแบบนักวทิ ยาศาสตร การจาแนกสิง่ มชี ีวิตเปนกลุมพืช กลุมสตั ว และกลุมที่ ไมใช
พชื และสัตว การจาแนกพืชออกเปนพชื ดอกและพืชไมมีดอก การจาแนกสตั วออกเปนสัตว มีกระดกู สนั หลงั
และสัตวไมมกี ระดกู สันหลัง ลกั ษณะเฉพาะของสัตวมกี ระดูกสนั หลังในกลุมปลา กลุมสัตวสะเทินน้าสะเทนิ
บก กลุมสตั วเลื้อยคลาน กลุมนก และกลมุ สตั วเลีย้ งลกู ดวยน้านม หนาทีข่ อง ราก ลาตน ใบและดอกของ
พืชดอก สมบัตทิ างกายภาพ ดานความแข็ง สภาพยดื หยุน การนาความรอน และการนาไฟฟาของวสั ดุ การ
นาสมบตั ิทางกายภาพของวสั ดไุ ปใชในชวี ิตประจาวนั สมบัติของสสาร ทงั้ ๓ สถานะ ผลของแรงโนมถวงที่
มตี อวัตถุการวัดน้าหนกั ของวัตถุ มวลของวตั ถุทม่ี ีผลตอการ เปล่ยี นแปลงการเคลือ่ นทขี่ องวัตถุ และตวั กลาง
ของแสง การขน้ึ และตกและรปู รางดวงจนั ทร และองคประกอบของระบบสรุ ิยะ การใชเหตุผลเชงิ ตรรกะใน
การแกปญหา การออกแบบและเขียน โปรแกรมอยางงาย การตรวจหาขอผดิ พลาดในโปรแกรม การคนหาข
อมลู ในอนิ เทอรเน็ตและการใช คาคน การประเมินความนาเช่อื ถือของขอมูล การรวบรวม นาเสนอขอมูล
และสารสนเทศ
โดยใชการสืบเสาะหาความรู ตัง้ คาถาม คาดคะเนคาตอบหรอื สรางสมมติฐาน วางแผนและ
สารวจ ตรวจสอบโดยใชเครือ่ งมืออุปกรณและเทคโนโลยีสารสนเทศทเี่ หมาะสม ประเมนิ ความนาเชอื่ ถอื
ของขอมูล รวมรวมขอมลู ประมวลผลอยางงาย วเิ คราะหขอมูล วิเคราะหผลและสรางทางเลอื ก นาเสนอข
อมูล ลงความคิดเหน็ และสรุปผลการสารวจตรวจสอบ เพ่อื ใหเกิดความรูความเขาใจ มีทกั ษะ กระบวนการ
ทางวทิ ยาศาสตรและมที กั ษะการเรียนรใู นศตวรรษท่ี ๒๑ ในดานการใชเทคโนโลยี สารสนเทศและการ
สือ่ สารเบอ้ื งตน มีความคดิ สรางสรรค สามารถทางานรวมกับผูอนื่ ใชเหตุผลเชงิ ตรรกะในการแกปญหา
และอธบิ ายการทางานหรอื คาดการผลลพั ธจากปญหาอยางงาย ออกแบบและ เขยี นโปรแกรม ตรวจหาข
อผิดพลาดจากโปรแกรมของตนเองและผอู ื่น
เพือ่ ตระหนักถึงคณุ คาของความรูทางวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี และใชความรูและกระบวนการ
ทางวทิ ยาศาสตรในการดารงชวี ติ สามารถสอ่ื สารอยางมมี ารยาทและรูกาลเทศะ รูจักการปกปองขอมูล
สวนตัว มีจิตวิทยาศาสตร จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และคานิยมท่ีเหมาะสม
มาตรฐาน/ตัวชี้วดั
ว ๑.๒ ป.๔/๑
ว ๑.๓ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔
ว ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔
ว ๒.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓
ว ๒.๓ ป.๔/๑
ว ๓.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓
ว ๔.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕
รวม ๒๑ ตวั ช้ีวัด
-๔๑-
คาอธิบายรายวิชา
ว๑๕๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ เวลา ๑๒๐ ชัว่ โมง/ปี
ศกึ ษาการเรียนรูแบบนักวทิ ยาศาสตร โครงสรางและลกั ษณะของสง่ิ มีชวี ิตทีเ่ หมาะสมในแตละ
แหลงที่อยู ความสมั พนั ธระหวางสง่ิ มชี ีวติ กับสิ่งมีชวี ิตและความสมั พันธระหวางสงิ่ มีชีวิตกับสง่ิ ไมมชี วี ติ
การถาย ทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของพชื สตั ว และมนุษยการเปลยี่ นสถานะของสสาร การละลายของ
สาร ในนา้ การเปล่ียนแปลงทางเคมี การเปลย่ี นแปลงทผ่ี ันกลับไดและผันกลับไมได แรงลัพธ แรงเสียดทาน
การไดยนิ เสียงผานตัวกลาง ลกั ษณะและการเกดิ เสยี งสงู เสยี งต่า เสยี งดัง และเสียงคอย ระดบั เสยี งและ
มลพษิ ทางเสียง ความแตกตางของดาวเคราะหและดาวฤกษ การใชแผนท่ดี าว แบบรูปเสนทางการข้ึน
และตก ของกลุมดาวฤกษบนทองฟาในรอบปปรมิ าณน้าในแตละแหลง ปรมิ าณนา้ ท่ีมนุษยสามารถนามาใช
ไดการใช น้าอยางประหยดั และการอนรุ กั ษนา้ วฏั จักรนา้ กระบวนการเกดิ เมฆ หมอก น้าคาง และนา้ คา
งแขง็ กระบวนการเกดิ ฝน หมิ ะ และลูกเหบ็ การใชเหตุผลเชิงตรรกะในการแกปญหา การเขยี นรหสั ลาลอง
เพอื่ แสดง วธิ ีแกปญหา การออกแบบ และการเขยี นโปรแกรมแบบมเี งื่อนไขและการทางานแบบวนซา้
การใชซอฟตแวร ประมวลผลขอมูล การติดตอส่ือสารผานอนิ เทอรเน็ต การใชอนิ เทอรเนต็ คนหาขอ
มลู และการประเมิน ความนาเชอื่ ถือของขอมลู อันตรายจากการใชงานและอาชญากรรมทางอนิ เทอรเน็ต
โดยใชการสืบเสาะหาความรู สังเกต รวบรวมขอมูล จัดกระทาและส่อื ความหมายขอมูล
สราง แบบจาลอง และอธิบายผลการสารวจตรวจสอบ เพือ่ ใหเกิดความรูความเขาใจ มีทักษะกระบวนการ
ทางวทิ ยาศาสตร ขั้นพืน้ ฐานและทกั ษะการเรยี นรใู นศตวรรษท่ี ๒๑ ในดานการใชเทคโนโลยสี ารสนเทศและ
การส่ือสารเบ้ืองตน สามารถสื่อสารสงิ่ ที่เรยี นรู มีความคดิ สรางสรรค สามารถทางานรวมกับผูอ่ืน แสดงวธิ ี
แกปญหาโดยใชเหตุผล เชงิ ตรรกะ ใชรหสั ลาลองแสดงวิธีการแกปญหาอยางเปนข้ันตอน ออกแบบ และ
เขียนโปรแกรมแบบมเี งือ่ นไข และการทางานแบบวนซา้ ตรวจหาขอผิดพลาดของโปรแกรม ใชซอฟตแวร์
ชวยในการแกปญหา ใชอนิ เทอรเนต็ ติดตอส่อื สารและคนหาขอมลู แยกแยะขอเท็จจริงกบั ขอคดิ เห็น
ประเมินความนาเช่ือถอื ของขอมูล
เพื่อตระหนกั ถึงคณุ คาของความรูทางวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี และใชความรูและกระบวนการ
ทาง วิทยาศาสตรในการดารงชีวติ ใชเทคโนโลยีสารสนเทศอยางปลอดภัยและมีมารยาท มจี ิตวิทยาศาสตร
จรยิ ธรรม คุณธรรม และคานยิ มท่เี หมาะสม
มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด
ว ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
ว ๑.๓ ป.๕/๑, ป.๕/๒
ว ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
ว ๒.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕
ว ๒.๓ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕
ว ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒
ว ๓.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕
ว ๔.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕
รวม ๓๒ ตัวชว้ี ัด
-๔๒-
คาอธิบายรายวชิ า
ว๑๖๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ เวลา ๑๒๐ ชัว่ โมง/ปี
ศึกษา วเิ คราะห์เกีย่ วกับสารอาหาร ประโยชนข์ องสารอาหาร การเลอื กรับประทาน
อาหาร สดั ส่วนท่เี หมาะสมกับเพศและวยั ความปลอดภัยต่อสุขภาพ ระบบยอ่ ยอาหาร หน้าทข่ี องระบบยอ่ ย
อาหาร การดูดซมึ สารอาหาร การดูและรักษาอวัยวะในระบบยอ่ ยอาหาร การแยกสารผสม และการแยก
สารทใ่ี ชใ้ นชีวิตประจาวัน แรงไฟฟา้ หนา้ ทแ่ี ละส่วนประกอบของวงจรไฟฟา้ การตอ่ เซลล์ไฟฟา้ และหลอด
ไฟฟา้ แบบอนุกรมและแบบขนาด ประโยชนข์ องการตอ่ เซลล์ไฟฟา้ แบบอนุกรมและแบบขนาน ประโยชน์
ข้อจากัด และการประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจาวัน การเกดิ เงามวั รงั สขี องแสงแสดงการเกดิ เงามดื เงามัว
ปรากฏการณส์ รุ ยิ ปุ ราคา และจนั ทรปุ ราคา พัฒนาการของเทคโนโลยอี วกาศ ตวั อยา่ งการนาเทคโนโลยมี า
ใช้ประโยชนใ์ นชีวติ ประจาวนั การเกดิ หนิ อัคนี หนิ ตะกอน และหนิ แปร วัฏจกั รหนิ ประโยชน์ของหนิ และแร่
ในชีวิตประจาวนั การเกดิ ซากดกึ ดาบรรพ์ คาดคะเนสภาพแวดลอ้ มในอดีตของซากดกึ ดาบรรพ์ การเกิดลม
บก ลมทะเล และมรสมุ ลมมตี ่อส่งิ มีชีวติ และส่งิ แวดลอ้ ม ผลของมรสมุ ต่อการเกิดฤดขู องประเทศไทย
ลักษณะและผลกระทบของนา้ ท่วม การกัดเซาะชายฝั่ง ดนิ ถล่ม แผ่นดนิ ไหว สนึ ามิ ผลกระทบของภัย
ธรรมชาติและธรณีพบิ ตั ิภัย การเฝ้าระวงและปฏบิ ัตติ นให้ปลอดภยั จากภยั ธรรมชาติและธรณพี ิบัติภัย การ
เกิดปรากฏการณเ์ รอื นกระจก แนวทางการปฏิบตั ิตนเพอื่ ลดกจิ กรรมที่ก่อให้เกิดแก๊สเรอื นกระจก มีความ
สามารถในการใช้เหตุผลเชิงตรรกะ ใช้อนิ เตอร์เน็ตค้นหาขอ้ มลู ออกแบบ และเขยี นโปรแกรม ใชเ้ ทคโนโลยี
สารสนเทศเพ่อื นามาใช้ในการแกไ้ ขปญั หาในชวี ิตประจาวัน
โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ ระบุ บอก ตระหนกั เขียนแผนภาพ
ออกแบบการทดลอง สรา้ งแบบจาลอง อธิบาย บรรยาย เปรยี บเทียบ เพอื่ แกป้ ัญหาต่าง ๆ พร้อม
ยกตัวอย่างและมคี วามกล้าแสดงออกในการนาเสนองาน ออกแบบการใชโ้ ปรแกรม และวธิ ีการแกป้ ัญหา
ในการใช้อินเตอรเ์ น็ตรว่ มกนั เข้าใจสิทธิและหน้าท่ีของตนในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ
เพอื่ ให้เกิดการเรียนรู้ ใฝ่เรยี นรู้ ม่งุ มน่ั ในการทางานและเข้าใจในวิทยาศาสตรจ์ นสามารถนาไปใช้
แก้ปญั หาในชวี ติ ประจาวนั มีคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ มที่เหมาะสม ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศรว่ มกัน
สง่ เสรมิ ให้เกดิ จิตวทิ ยาศาสตร์ และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวนั วิทยาศาสตร์
และค่านิยม ส
มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ว ๑.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕
ว ๒.๑ ป.๖/๑
ว ๒.๒ ป.๖/๑
ว ๒.๓ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๕, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘
ว ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒
ว ๓.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๕, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙
ว ๔.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔
รวม ๓๐ ตวั ช้วี ัด
-๔๓-
โครงสรา้ งกลมุ่ สาระการเรยี นรู้
กลุม่ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม
รายวชิ าพื้นฐาน รหสั วิชา ช่ือวิชา จานวนช่ัวโมง/ปี
ส๑๑๑๐๑
ลาดับที่ ส๑๒๑๐๑ สงั คมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ๘๐
ส๑๓๑๐๑ สงั คมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม ๘๐
๑ ส๑๔๑๐๑ สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ๘๐
๒ ส๑๕๑๐๑ สงั คมศกึ ษาศาสนาและวัฒนธรรม ๘๐
๓ ส๑๖๑๐๑ สงั คมศกึ ษาศาสนาและวัฒนธรรม ๘๐
๔ สังคมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม ๘๐
๕ รหัสวชิ า
๖ ส๑๑๑๐๒ ช่อื วชิ า จานวนชวั่ โมง/ปี
ส๑๒๑๐๒
ลาดับที่ ส๑๓๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๔๐
ส๑๔๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๔๐
๑ ส๑๕๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๔๐
๒ ส๑๖๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๔๐
๓ ประวัติศาสตร์ ๔๐
๔ รหสั วิชา ประวตั ศิ าสตร์ ๔๐
๕ ส๑๑๒๐๒
๖ ส๑๒๒๐๒ ช่ือวิชา จานวนชัว่ โมง/ปี
ส๑๓๒๐๒
รายวิชาเพมิ่ เตมิ ส๑๔๒๐๒ การป้องกนั การทจุ ริต ๔๐
ส๑๕๒๐๒ การปอ้ งกนั การทุจรติ ๔๐
ลาดบั ที่ ส๑๖๒๐๒ การปอ้ งกนั การทุจริต ๔๐
การป้องกนั การทจุ ริต ๔๐
๑ การปอ้ งกนั การทุจริต ๔๐
๒ การป้องกนั การทุจริต ๔๐
๓
๔
๕
๖
-๔๔-
คาอธบิ ายรายวชิ า
กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา
ศาสนาและวัฒนธรรม