The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรโรงเรียนบ้านท่าตูมดงสระพัง (ฉบับปรับปรุง ปี 2563)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by academic.thatum190, 2021-11-30 08:16:38

หลักสูตรโรงเรียนบ้านท่าตูมดงสระพัง (ฉบับปรับปรุง ปี 2563)

หลักสูตรโรงเรียนบ้านท่าตูมดงสระพัง (ฉบับปรับปรุง ปี 2563)

-๔๕-

คาอธิบายรายวชิ า

ส๑๑๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม

ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง/ปี

ศึกษาค้นคว้า รวบรวมข้อมูล อภิปราย ความหมาย ความสาคัญ องคป์ ระกอบเบอื้ งตน้ ของ
ศาสนา ประโยชน์ ประวัติ ศาสดาของศาสนา สรปุ ใจความสาคัญของคมั ภรี ์ ความคดิ หลักของศาสนา

สรปุ หลกั จริยธรรม การบาเพญ็ ประโยชน์ วธิ ปี ฏิบัติ การใช้ภาษาเกีย่ วกบั ศาสนพธิ ี พิธีกรรมในวนั สาคัญ
ฝกึ ปฏบิ ัติการบรหิ ารจิต การเจรญิ ปญั ญาเบื้องต้น เปรยี บเทียบ การทาความดี ปฏิบตั ิตนตามคาแนะนา

รวบรวมข้นั ตอน ของศาสนพิธี คณุ ลักษณะของการเปน็ พลเมอื งดใี นสงั คมประชาธปิ ไตยมคี วามรับผิดชอบ
ความซ่อื สัตย์ ความกลา้ หาญ ความเสียสละ การเคารพสทิ ธิและหน้าที่ วฒั นธรรม ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ
การแกป้ ญั หาความขัดแย้งในครอบครวั กฎ กติกา ความหมาย ความสาคญั ของรัฐธรรมนญู ประโยชน์

ของรายรบั -รายจ่าย ตน้ ทนุ ผลประโยชน์ท่ไี ดร้ บั ทรพั ยากรในท้องถน่ิ ระบบเศรษฐกจิ พอเพียง อาชีพของ
ครอบครัวและชมุ ชน การซอ้ื ขายแลกเปล่ยี นสนิ ค้าและบริการ ในชวี ติ ประจาวนั ศึกษาสิ่งแวดลอ้ มรอบตวั

ท่ีเกิดขน้ึ เองตามธรรมชาติและทีม่ นุษย์สร้างขนึ้ ความสมั พันธข์ องตาแหนง่ ระยะ ทิศของส่ิงต่าง ๆ ใช้
แผนผงั แสดงตาแหนง่ ของสิ่งตา่ งๆ ในห้องเรยี น และการเปล่ียนแปลงของสภาพอากาศในรอบวนั
สง่ิ แวดลอ้ มที่เกดิ ตามธรรมชาติท่สี ่งผลตอ่ ความเป็นอยู่ของมนุษย์ การเปล่ียนแปลงของส่ิงแวดล้อมเพื่อ

การปฏบิ ัตติ นอยา่ งเหมาะสมและการมีส่วนร่วมในการดูแลสิง่ แวดลอ้ มทีบ่ า้ นและห้องเรยี น
โดยใช้กระบวนการทางสังคม กระบวนการสืบคน้ กระบวนการทางภูมิศาสตร์ กระบวนการกลุ่ม

และกระบวนการแก้ปญั หา
เพื่อให้ มีคุณธรรม จรยิ ธรรม มคี ุณลักษณะอันพึงประสงค์ในดา้ นรกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซอื่ สัตย์

มวี ินัย ใฝเ่ รยี นรู้ รกั ความเป็นไทย มีจติ สาธารณะ สามารถดาเนนิ ชีวติ อยา่ งสันติสขุ ในสงั คมไทย และสังคม

โลก สามารถนาความรู้ไปใชใ้ ห้เกิดประโยชน์โดยใชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและสามารถนาไป
ประยุกต์ใช้กบั ชวี ติ ประจาวนั ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม

มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ส ๑.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓ , ป.๑/๔
ส ๑.๒ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓
ส ๒.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒
ส ๒.๒ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓
ส ๓.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓
ส ๓.๒ ป.๑/๑
ส ๕.๑ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ป.๑/๓ ป.๑/๔

ส ๕.๒ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ป.๑/๓

รวม ๒๓ ตวั ชีว้ ัด

-๔๖-

คาอธิบายรายวชิ า

ส๑๒๑๐๑ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ปี

ศึกษาคน้ คว้า รวบรวมขอ้ มูล อภิปราย ความหมาย ความสาคัญ องค์ประกอบเบอ้ื งตน้ ของ

ศาสนา ประวตั ิศาสนา ศาสดาของศาสนา คัมภีร์ และการใช้ภาษาของศาสนา รวบรวมหลกั จรยิ ธรรม
การบาเพ็ญประโยชน์ตอ่ ครอบครัว โรงเรยี น และชุมชน หลักปฏิบตั ิการอยู่ร่วมกนั อยา่ งเปน็ สุข ศาสนพิธี
และพิธกี รรมในวนั สาคญั ของศาสนา การบริหารจติ การเจรญิ ปัญญาเบอ้ื งต้น การทาความดขี องบุคคลใน

ครอบครัว และโรงเรยี น การปฏิบัตติ นตามคาแนะนาเกีย่ วกบั ศลี ธรรม จริยธรรม คา่ นิยมทีด่ ีงาม การเป็น
พลเมืองดี ในสงั คมประชาธิปไตย การยอมรบั การเคารพสทิ ธิ และหนา้ ทขี่ องตนเอง เปน็ สมาชกิ ที่ดี

ของครอบครัว สิทธิของบคุ คลที่พงึ ได้รบั การคมุ้ ครอง การขัดเกลาของสังคม คา่ นิยม ความเชื่อ ประเพณี
วฒั นธรรม และภมู ิปัญญาของท้องถิ่น ความสัมพันธ์ของสมาชกิ ในครอบครัว บทบาทหน้าทข่ี องตนเอง
การแก้ปญั หาความขัดแยง้ ข้อตกลง กฎ กติกา ระเบยี บในโรงเรียน ความหมาย และความสาคัญของ

รฐั ธรรมนูญ ประโยชนข์ องรายรับ–รายจา่ ยของครอบครวั ตดั สนิ ใจเลอื กอยา่ งเหมาะสม เศรษฐกจิ พอเพียง
อาชพี ของชุมชน การซอื้ ขาย แลกเปล่ยี นสินคา้ และบริการ ประโยชน์ของธนาคาร ภาษที ี่เกี่ยวข้องใน

ชวี ิตประจาวัน ศึกษาความสาคญั ของสิง่ ต่างๆ ที่เปน็ ธรรมชาติและที่มนษุ ยส์ ร้างขึ้นซงึ่ ปรากฏระหวา่ ง
โรงเรยี นกบั บา้ น ตาแหนง่ และลกั ษณะทางกายภาพอย่างง่ายของส่งิ ต่างๆ ทีป่ รากฏในลกู โลก แผนท่ี แผนผัง
และภาพถ่าย และความสมั พันธ์ระหว่างโลก ดวงอาทติ ย์และดวงจนั ทรท์ ่ีทาให้เกดิ ปรากฏการณ์ และใช้

ทรัพยากรธรรมชาติ ที่ใชแ้ ลว้ ไมห่ มดไป ที่ใช้แลว้ หมดไป และสรา้ งทดแทนข้ึนใหม่ไดอ้ ย่างคุม้ ค่า ความ
สมั พนั ธ์ระหว่างฤดกู าลกับการดาเนนิ ชวี ติ ของมนุษย์ และมีส่วนรว่ มในการจัดการสิ่งแวดล้อมในโรงเรยี น

โดยใช้กระบวนการทางสงั คม กระบวนการสบื ค้น กระบวนการทางภมู ศิ าสตร์ กระบวนการกลุ่ม
และกระบวนการแก้ปัญหา

เพอ่ื ให้ มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์

มวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้ รกั ความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ สามารถดาเนินชีวิตอย่างสันติสุขในสังคมไทย และสังคม
โลก สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถนาไป

ประยุกต์ใชก้ ับชวี ติ ประจาวันไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม

มาตรฐาน/ตวั ชีว้ ดั
ส ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗
ส ๑.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒
ส ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔
ส ๒.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒
ส ๓.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔
ส ๓.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒
ส ๕.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓
ส ๕.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔

รวม ๒๘ ตวั ชวี้ ดั

-๔๗-

คาอธบิ ายรายวชิ า

ส๑๓๑๐๑ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม

ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๓ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ปี

ศึกษาคน้ คว้า รวบรวมข้อมูล อภปิ ราย แสดงความคดิ เหน็ สรปุ ใจความสาคญั ความหมาย
ความสาคญั องคป์ ระกอบของศาสนา ประโยชน์ ประวัตศิ าสดาของศาสนา ภาษา ท่ใี ชใ้ นคมั ภีร์ของศาสนา
ทตี่ นนบั ถอื หลกั จรยิ ธรรมในการพฒั นาตน การบาเพญ็ ประโยชนต์ ่อครอบครวั โรงเรียน วธิ ปี ฏิบตั ิ

เกย่ี วกบั ศาสนพิธี พธิ กี รรมในวนั สาคญั ของศาสนา การบรหิ ารจติ การเจริญปญั ญา สติ สมั ปชัญญะ ความ
ราลึกได้ ความรู้ตวั ชืน่ ชมการทาความดขี องบุคคลในครอบครัว และโรงเรียน ศีลธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม

ทด่ี งี าม การเปน็ พลเมอื งดใี นสงั คม ประชาธิปไตย การเคารพสทิ ธิและหน้าที่ของ ตนเอง บทบาทสิทธิ
เสรีภาพ หนา้ ที่ สถานภาพ สิทธิของบุคคลท่พี ึงไดร้ บั การคมุ้ ครอง การขัดเกลาของสังคม ค่านยิ ม ความเช่ือ
ประเพณี การอนุรกั ษ์วฒั นธรรม และภมู ปิ ญั ญา ของทอ้ งถนิ่ การสร้างความดี การแก้ปัญหาความขัดแยง้

กฎ กตกิ า ระเบียบในชุมชน ความสาคญั ของกฎหมายรฐั ธรรมนญู รายรับ–รายจ่าย ผลประโยชน์ที่
ผู้บริโภคได้รบั การตดั สินใจเลือกอย่างเหมาะสม ระบบเศรษฐกจิ พอเพยี ง อาชพี ในชมุ ชน การแลกเปลี่ยน

สินคา้ และบริการความสาคญั ของธนาคาร ภาษีท่เี กีย่ วข้องในชวี ติ ประจาวัน ศึกษาความ สาคัญของข้อมูล
ทางภูมศิ าสตร์โดยใช้แผนผงั แผนที่ และรปู ถา่ ยเพ่ือแสดงความสัมพันธข์ องตาแหนง่ ระยะทศิ ทาง ตาแหนง่
ที่ตัง้ ของสถานทีส่ าคญั สงิ่ แวดลอ้ มของชุมชนในอดีตกับปัจจุบัน และประโยชนจ์ ากส่ิงแวดล้อมและ

ทรัพยากรธรรมชาติ การเกดิ มลพษิ ลักษณะเมืองและชนบท ลกั ษณะทางกายภาพกับการดาเนินชีวติ
และการจดั การสงิ่ แวดลอ้ ม

โดยใชก้ ระบวนการทางสังคม กระบวนการสบื ค้น กระบวนการทางภูมิศาสตร์ กระบวนการกลุ่ม
และกระบวนการแกป้ ัญหา

เพอ่ื ให้ มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์

มีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ รกั ความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ สามารถดาเนินชีวิตอย่างสันติสุขในสังคมไทย และสังคม
โลก สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถนาไป

ประยุกตใ์ ช้กับชวี ิตประจาวนั ได้อยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม

มาตรฐาน/ตวั ชวี้ ดั
ส ๑.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔ , ป.๓/๕ , ป.๓/๖ , ป.๓/๗
ส ๑.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓

ส ๒.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔
ส ๒.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓
ส ๓.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓
ส ๓.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓
ส ๕.๑ ป.๓/๑,ป.๓/๒
ส ๕.๒ ป.๓/๑,ป.๓/๒,ป.๓/๓,ป.๓/๔,ป.๓/๕,ป.๓/๖

รวม ๓๑ ตวั ชี้วดั

-๔๘-

คาอธบิ ายรายวชิ า

ส๑๔๑๐๑ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม กลุม่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม

ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ เวลา ๘๐ ชั่วโมง/ปี

ศกึ ษาคน้ คว้า อภิปราย ซกั ถาม แสดงความคิดเห็น รวบรวมขอ้ มลู สบื คน้ ข้อมูลสรปุ ใจความ

สาคญั เกยี่ วกบั ความสาคัญทางศาสนา และศาสดาของศาสนาพุทธ คมั ภีร์ทางศาสนาที่ตนนบั ถือ หลักธรรม

ของศาสนา การบริหารจิตและเจรญิ ปญั ญา ช่นื ชมการทาความดีของบุคลากรในสังคม แปลความหมายใน

คมั ภรี ์ ศาสนาท่ตี นนบั ถอื เสนอแนวทางการกระทาของตนเองและผอู้ ืน่ ในฐานะพลเมอื งดีของสงั คม สทิ ธิ

เดก็ เพ่ือป้องกนั ตวั เองและสงั คม เปรยี บเทยี บความแตกต่างของวัฒนธรรมในทอ้ งถ่นิ การยอมรบั คณุ คา่

ของกันและกัน การรวมกลมุ่ ทั้งภาครัฐและเอกชน ชน่ื ชมการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหา

กษัตริย์เปน็ ประมุข การรวมกลมุ่ ภาครฐั และเอกชนเพ่อื พฒั นาทอ้ งถิ่น อานาจอธิปไตย ปฏิบตั ติ ามกฎหมาย

ในชีวิตประจาวนั วเิ คราะห์ ผู้ผลิต ผู้บริโภค วิธีการของเศรษฐกจิ การหารายได้ การออม การลงทุน ผลผลิต

ทางด้านเศรษฐกิจ การตลาด การธนาคาร สถาบันการเงินอนื่ ๆ ภาษที ี่เก่ยี วขอ้ งในชวี ิตประจาวัน การพึง่ พา

การแขง่ ขันทางด้านเศรษฐกิจ ศึกษาการใช้แผนที่ รูปถ่าย ลกั ษณะสาคัญทางกายภาพ แหลง่ ทรพั ยากร

สถานท่สี าคัญ ลักษณะส่ิงแวดล้อมทางกายภาพที่ส่งผลตอ่ การดาเนินชวี ติ และผลที่เกดิ จากเปลย่ี นแปลง

เพ่อื เปน็ แนวทางในการจัดการส่งิ แวดล้อมในจังหวัดของตนเอง

โดยใชก้ ระบวนการทางสังคม กระบวนการสบื ค้น กระบวนการทางภูมศิ าสตร์ กระบวนการกลมุ่
และกระบวนการแก้ปญั หา

เพื่อให้ มีคุณธรรม จรยิ ธรรม มคี ุณลักษณะอันพึงประสงค์ในด้านรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซือ่ สัตย์
มวี นิ ัย ใฝ่เรียนรู้ รักความเปน็ ไทย มจี ติ สาธารณะ สามารถดาเนินชีวติ อย่างสันตสิ ุขในสงั คมไทย และสงั คม
โลก สามารถนาความรู้ไปใชใ้ ห้เกิดประโยชนโ์ ดยใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและสามารถนาไป
ประยกุ ตใ์ ชก้ บั ชีวิตประจาวันได้อย่างถูกต้องเหมาะสม

มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด
ส ๑.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป.๔/๔ , ป.๔/๕ , ป.๔/๖ , ป.๔/๗, ป.๔/๘
ส ๑.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓

ส ๒.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป.๔/๔ , ป.๔/๕
ส ๒.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓

ส ๓.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓
ส ๓.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒
ส ๕.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓

ส ๕.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓

รวม ๓๐ ตัวชีว้ ดั

-๔๙-

คาอธิบายรายวชิ า

ส๑๕๑๐๑ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม

ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๕ เวลา ๘๐ ชั่วโมง/ปี

ศึกษาค้นควา้ วิเคราะห์ อภิปราย สนทนาซกั ถาม แสดงความคิดเห็น รวบรวมขอ้ มลู สืบค้นข้อมลู สรุป

ใจความสาคญั เกีย่ วกบั เรอ่ื งราวพ้นื ฐานเก่ียวกบั ประวัติศาสตร์ความสาคญั ของศาสนาศาสดา และคัมภีรท์ างศาสนา
ทตี่ นนับถือ หลักธรรมของศาสนาทตี่ นนับถอื เพอื่ เขา้ ใจในการพฒั นาตนและสงั คม ความหมาย การบริหารจิต และ

เจรญิ ปัญญา ช่นื ชมการทาความดีของตนเองและบคุ คลในสังคม และแนวปฏิบัตใิ นการช่นื ชม การทาความดขี อง
บคุ คลสาคัญกล่มุ เพอ่ื น ประโยชน์ของการบริหารจิตและเจรญิ ปญั ญาของศาสนาทตี่ นนบั ถือ กระบวนการ
ประชาธปิ ไตยในการทางานรว่ มกันในครอบครวั โรงเรยี น ชมุ ชน การปฏบิ ตั ิตน ตามสทิ ธิ หนา้ ที่ เสรีภาพในฐานะ

พลเมอื งดขี องประเทศ การดาเนินชีวติ ความแตกตา่ งของวัฒนธรรมในกล่มุ คนในภมู ภิ าค การปกครองในระบอบ
ประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษตั รยิ ์ เป็นประมุขโครงสรา้ งการปกครองประเทศ ซึง่ มที ง้ั สว่ นกลาง สว่ นภมู ภิ าค

และสว่ นท้องถ่นิ เพอ่ื เชือ่ มโยงความสัมพนั ธร์ ะหวา่ ง คนกับการปกครองประเทศ ความสาคญั ในกฎหมายใน
ชวี ติ ประจาวัน หน้าท่ขี องผผู้ ลติ และผูบ้ ริโภค ความหมายของระบบสนิ เชือ่ ผลดีผลเสียตอ่ ภาวะ การเงิน การเลอื ก

ของผูบ้ ริโภค ผลกระทบต่อทรพั ยากรทีม่ ีอยู่ ระบบสหกรณ์ การบริหารทางด้านเศรษฐกจิ บทบาทการใช้เงนิ ใน
ท้องถ่ินการบรกิ ารต่างๆ ของธนาคารและสถาบนั การเงินในต่างประเทศ ผ้บู ริโภค ผยู้ ืมและนักธุรกจิ การจดั หา

แหลง่ รายได้ของรฐั ความเช่ียวชาญ ชานาญดา้ นจานวนปริมาณสินค้ารวมทัง้ ท่ผี ลิตการซือ้ มาทางเศรษฐกิจ
ศกึ ษาการใช้แผนที่ รูปถา่ ย ลกั ษณะกายทางภาพทสี่ ง่ ผลตอ่ แหลง่ ทรัพยากร สถานทส่ี าคัญ ส่งิ แวดล้อมทาง

กายภาพท่ีมีอทิ ธพิ ลต่อลกั ษณะการตงั้ ถ่นิ ฐาน การย้ายถน่ิ ฐานของประชากร อทิ ธิพลของสงิ่ แวดล้อมทางธรรมชาติ
ที่กอ่ ใหเ้ กดิ วิถีการดาเนินชีวติ ผลจากการรกั ษาและทาลายส่ิงแวดล้อม แนวทางการจดั การสงิ่ แวดลอ้ มในภูมภิ าค
ของตน

โดยใชก้ ระบวนการทางสงั คม กระบวนการสบื ค้น กระบวนการทางภูมศิ าสตร์ กระบวนการกลมุ่ และ
กระบวน การแก้ปญั หา

เพอ่ื ให้ มคี ุณธรรม จริยธรรม มีคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ในดา้ นรกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซือ่ สัตย์ มวี ินยั
ใฝเ่ รยี นรู้ รกั ความเป็นไทย มีจติ สาธารณะ สามารถดาเนนิ ชีวิตอย่างสันติสุขในสังคมไทย และสงั คมโลก สามารถ
นาความรไู้ ปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์โดยใชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและสามารถนาไปประยุกต์ใช้กับ
ชวี ิตประจาวันได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม

มาตรฐาน/ตวั ชวี้ ัด

ส ๑.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓ , ป.๕/๔ , ป.๕/๕ , ป.๕/๖ , ป.๕/๗
ส ๑.๒ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓
ส ๒.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓ , ป. ๕/๔
ส ๒.๒ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓
ส.๓.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓
ส ๓.๒ ป.๕/๑ , ป.๕/๒

ส ๕.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒
ส ๕.๒ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓
รวม ๒๗ ตัวชว้ี ดั

-๕๐-

คาอธิบายรายวชิ า

ส๑๖๑๐๑ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม กล่มุ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม

ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ เวลา ๘๐ ช่วั โมง/ปี

ศกึ ษาค้นคว้า วิเคราะห์ อภิปราย สนทนา ซกั ถาม แสดงความคิดเห็น รวบรวมข้อมลู สบื ค้น ขอ้ มลู

ความสาคญั หลักธรรมพระรัตนตรัย ไตรสกิ ขา หลกั ธรรมโอวาท ๓ การทาความดขี องบุคคลในประเทศ การสวด
มนต์ แผ่เมตตาของศาสนาทีต่ นนับถอื สรุปใจความสาคญั เกีย่ วกับพุทธประวตั ิตั้งแต่ปลงอายสุ งั ขารจนถงึ สงั เวช-
นียสถาน ประวตั ิศาสดา ข้อคิดจากประวตั สิ าวก ชาดก เร่อื งเลา่ ศาสนกิ ชนตัวอยา่ ง ศาสนพธิ ี สถานท่ีในศาสน

สถาน ศาสนกิ ชนทีด่ ี ประโยชน์ของการเขา้ รว่ มในศาสนพธิ ี พธิ กี รรม กจิ กรรมในวันสาคัญทางศาสนา การบริหาร
จิตและเจริญปัญญาวันสาคัญทางศาสนา การกระทาทีแ่ สดงถึงคุณลักษณะ ของการเป็นพลเมืองดใี นสังคม

ประชาธปิ ไตย สทิ ธเิ ด็กท่ีพงึ ไดร้ บั การค้มุ ครองตามสิทธมิ นุษยชน บทบาทหน้าทคี่ วามรับผดิ ชอบของตนเอง
บรรทดั ฐานทางสังคมและวฒั นธรรม สญั ลกั ษณ์ เอกลกั ษณ์ คา่ นยิ ม ประเพณี วฒั นธรรมในทอ้ งถ่ิน อานาจ

อธปิ ไตยและการมสี ่วนรว่ มในการปกครองระบอบประชาธิปไตย กฎหมายในชีวติ ประจาวัน การเลือกใชท้ รัพยากร
ท่ีมีผลกระทบ ต่อสงิ่ แวดลอ้ ม การเพิม่ รายได้เงนิ ออมจากการลงทุน สทิ ธิและการคมุ้ ครองผบู้ ริโภค เศรษฐกจิ

พอเพยี ง ระบบสหกรณ์ การบรหิ าร ด้านการผลิต และการพ่งึ พาทางเศรษฐกจิ บทบาทการใช้เงนิ และการบรกิ าร
ดา้ นการเงนิ ต่างประเทศ การจัดเก็บภาษี การกยู้ มื เงินจากตา่ งประเทศ ศกึ ษาการใช้เคร่อื งมือทางภูมิศาสตร์

(แผนที่ รปู ถา่ ยทางอากาศ ภาพถา่ ยจากดาวเทยี ม) ทีแ่ สดงลักษณะทางกายภาพ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งลกั ษณะ
ทางกายภาพกบั ภัยพิบตั ิ เพือ่ เตรียมพร้อมรบั มอื ภยั พิบัติการปฏสิ มั พนั ธ์ระหวา่ ง สิ่งแวดลอ้ มทางกายภาพ กบั
ลักษณะกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ สงั คมและการเปลยี่ นแปลงทางกายภาพของประเทศไทยในอดตี กับปัจจบุ ัน ผลท่ี

เกิดขนึ้ จากการเปลีย่ นแปลงการรกั ษาและทาลายทรัพยากร ส่งิ แวดลอ้ ม เพอื่ เปน็ แนวทางในการจัดการทรัพยากร
สิ่งแวดล้อมทยี่ ั่งยนื ของประเทศไทย

โดยใชก้ ระบวนการทางสังคม กระบวนการสืบค้น กระบวนการทางภมู ศิ าสตร์ กระบวนการกลุ่มและ

กระบวนการแก้ปัญหา
เพือ่ ให้ มีคณุ ธรรม จริยธรรม มีคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ในด้านรกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซอื่ สตั ย์ มวี ินัย

ใฝเ่ รยี นรู้ รกั ความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ สามารถดาเนนิ ชีวิตอย่างสันติสุขในสังคมไทย และสงั คมโลก สามารถ
นาความร้ไู ปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชก้ ับ
ชวี ิตประจาวันไดอ้ ยา่ งถูกต้องเหมาะสม

มาตรฐาน/ตัวชวี้ ัด
ส ๑.๑ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓ , ป.๖/๔ , ป.๖/๕ , ป.๖/๖ , ป.๖/๗ , ป.๖/๘ , ป.๖/๙
ส ๑.๒ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓ , ป.๖/๔
ส ๒.๑ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓ , ป.๖/๔ , ป.๖/๕
ส ๒.๒ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓
ส ๓.๑ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓
ส ๓.๒ ป.๖/๑ , ป.๖/๒
ส ๕.๑ ป.๖/๑ , ป.๖/๒
ส ๕.๒ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓

รวม ๓๑ ตวั ชีว้ ดั

-๕๑-

คาอธบิ ายรายวชิ า

ส๑๑๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง/ปี

ศึกษาวิเคราะห์ชื่อ วัน เดอื น ปี ตามระบบสุรยิ คติ ทีป่ รากฏในปฏทิ ิน ช่ือ วนั เดือน ปี ตาม
ระบบจนั ทรคตใิ นปฏทิ ิน ชว่ งเวลาท่ใี ช้ในชวี ติ ประจาวนั การเรียงลาดับเหตุการณใ์ นชวี ติ ประจาวันตามวัน

เวลาทีเ่ กิดขนึ้ การสืบค้นประวัตคิ วามเปน็ มาของตนเองและครอบครัวอย่างง่าย ๆ การเลา่ ประวัติความ
เปน็ มาของตนเองและครอบครัวอย่างสนั้ ๆ การเปล่ียนแปลงของสภาพแวดลอ้ ม สิ่งของ เครอื่ งใช้ หรือ
การดาเนินชีวติ ของตนเองกบั สมยั ของพ่อแม่ ป่ยู ่า ตายาย เหตุการณส์ าคัญทีเ่ กิดขน้ึ ในครอบครัว

ความหมายและความสาคญั ของสัญลกั ษณ์ท่ีสาคัญของชาตไิ ทย ไดแ้ ก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
การเคารพธงชาติ การรอ้ งเพลงชาติ และเพลงสรรเสริญพระบารมี เคารพ ศาสนวัตถุ ศาสนสถาน

เอกลกั ษณ์อนื่ ๆ เช่น แผนที่ประเทศไทย ประเพณีไทย อาหารไทยที่มีความภาคภูมิใจ และมีส่วนร่วมทีจ่ ะ
อนรุ กั ษ์ไว้ ตัวอยา่ งของแหลง่ วัฒนธรรมในชุมชนท่ใี กล้ตัวนกั เรียน เชน่ วัด ตลาด พิพิธภณั ฑ์ มสั ยิด โบสถ์
ครสิ ต์ โบราณสถาน โบราณวัตถุ คณุ คา่ และความสาคัญของแหลง่ วัฒนธรรมในชุมชนในดา้ นต่างๆ เช่น

เป็นแหล่งทอ่ งเทีย่ วเป็นแหลง่ เรียนรู้ ตวั อยา่ งสิ่งทีเ่ ปน็ ความภาคภมู ใิ จในท้องถ่นิ คุณคา่ และประโยชน์
ของสิ่งตา่ งๆเหลา่ นน้ั

โดยใชท้ ักษะการสืบค้นการสังเกต การอ่าน การรวบรวมข้อมลู การวเิ คราะห์ การใช้เหตุผล
การอธิบาย และการนาเสนอ

เพ่ือก่อให้เกดิ ความรักและความภาคภมู ิใจในความเป็นไทยท้องถิ่น และประเทศชาติ ภูมใิ จ

ในสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษตั รยิ ์ตระหนกั และเหน็ คุณค่าที่จะธารงรักษาสบื ทอดตอ่ ไป

มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั
ส ๔.๑ ป ๑/๑ , ป ๑/๒ , ป ๑/๓
ส ๔.๒ ป ๑/๑ , ป ๑/๒
ส ๔.๓ ป ๑/๑ , ป ๑/๒ , ป ๑/๓

รวม ๘ ตวั ชว้ี ัด

-๕๒-

คาอธิบายรายวิชา

ส๑๒๑๐๒ ประวัติศาสตร์ กลุม่ สาระการเรียนรูส้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๒ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง/ปี

ศกึ ษาวเิ คราะหค์ าท่ีแสดงช่วงเวลาในอดีต ปจั จุบนั และอนาคต วนั สาคญั ท่ปี รากฏในปฏทิ ินที่

แสดงเหตุการณ์สาคญั ในอดตี และปจั จบุ นั การใช้คาบอกชว่ งเวลา อดตี ปัจจุบัน อนาคต วธิ ีการ สืบคน้

เหตุการณ์ท่ีผ่านมาแล้วท่ีเกดิ ข้ึนกบั ตนเองและครอบครัวโดยใชห้ ลกั ฐานท่ีเกี่ยวข้อง สตู บิ ัตร ทะเบยี นบ้าน

การใช้คาที่บอกชว่ งเวลาแสดงเหตุการณ์ทีเ่ กิดข้นึ ในครอบครวั หรือในชวี ิตตนเอง การใชเ้ ส้นเวลา

(Time Line) การเปลีย่ นแปลงในวิถชี ีวติ ประจาวันของคนในชุมชนของตนจากอดตี ถึงปัจจุบัน ผลกระทบ

ของการเปลย่ี นแปลง ท่มี ีต่อวิถีชีวติ ของคนในชมุ ชน บุคคลที่ทาประโยชนต์ อ่ ทอ้ งถ่ินหรือประเทศชาติ

ยกตวั อย่างวัฒนธรรม ประเพณี และภมู ิปัญญาไทยท่ภี าคภมู ใิ จและควรอนรุ กั ษ์ไว้
โดยใชท้ ักษะการสืบค้นการสังเกต การอา่ น การรวบรวมขอ้ มูล การวิเคราะห์ การใช้เหตผุ ล

การอธบิ าย และการนาเสนอ
เพอ่ื ให้เห็นคณุ คา่ และแบบอยา่ งการกระทาความดีของบรรพบุรษุ ที่ได้สร้างประโยชนใ์ ห้ท้องถน่ิ

และประเทศ เกิดความรัก และความภาคภมู ใิ จในความเปน็ ไทย วัฒนธรรมไทย ภูมิปัญญาไทย และธารง
สืบทอดความเปน็ ไทย

มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด
ส ๔.๑ ป.๒/๑ ,ป.๒/๒
ส ๔.๒ ป.๒/๑ ,ป.๒/๒
ส ๔.๓ ป.๒/๑ ,ป.๒/๒

รวม ๖ ตัวชว้ี ัด

-๕๓-

คาอธิบายรายวิชา

ส๑๓๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ กลุม่ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี

ศกึ ษาวเิ คราะห์ทมี่ าของศักราชท่ีปรากฏในปฏทิ นิ วธิ ีการเทยี บ พ.ศ. เปน็ ค.ศ. หรือ ค.ศ.

เป็น พ.ศ. การเทียบศักราช ในเหตุการณ์ท่เี กี่ยวข้องกับนกั เรยี น การสบื ค้นเหตุการณ์สาคญั ของโรงเรียน

และชมุ ชนโดยใชห้ ลักฐาน และแหล่งข้อมลู ท่ีเกี่ยวข้อง ใช้เสน้ เวลา (Time Line) ลาดบั เหตุ การณ์ ท่ี

เกดิ ขน้ึ ในโรงเรยี นและชุมชน ปจั จยั ท่มี ีอิทธพิ ลต่อการตั้งถน่ิ ฐานและพัฒนาการของชมุ ชน ลักษณะที่

สาคญั ของขนบธรรมเนียมประเพณี และวฒั นธรรมของชมุ ชน ความเหมือนและความต่างทางวฒั นธรรม

ของชุมชนตนเองกับชุมชนอ่นื ๆ พระราชประวตั ิ พระราชกรณยี กจิ ของพ่อขนุ ศรีอินทราทติ ย์ สมเดจ็ พระ

รามาธบิ ดที ี่ ๑ (พระเจ้าอทู่ อง) สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และพระบาท สมเด็จพระพทุ ธยอดฟา้

จุฬาโลกมหาราช ผู้สถาปนาอาณาจกั รไทย สโุ ขทัย อยธุ ยา ธนบรุ ี และรตั นโกสินทร์ อาณาจักรไทย

อืน่ ๆ ทผ่ี นวกรวมเขา้ เปน็ ส่วนหนงึ่ ของชาติไทย พระราชประวตั ิและพระราชกรณยี กจิ ของพระบาท สมเด็จ

พระเจ้าอย่หู ัวภูมพิ ลอดุลยเดช และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ วรี กรรมของบรรพบรุ ษุ ไทยทีม่ ีส่วน ปกปอ้ ง

ประเทศชาติ
โดยใชท้ ักษะการเปรยี บเทยี บ การคานวณ การเชือ่ มโยง การอธบิ าย การสารวจ การสังเกต

การสอบถาม การอ่าน การฟงั การเล่าเรอื่ ง การสรุปความ เพอ่ื ฝึกทักษะพ้นื ฐานของวธิ ีการทาง
ประวตั ศิ าสตร์ในการสบื คน้ เรอื่ งราวรอบตัวอย่างงา่ ย ๆ

เพ่ือให้เกิดความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ รักความเป็นไทยและร่วมกันอนุรักษ์สืบสาน
ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมไทย

มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ส ๔.๑ ป.๓/๑ ,ป.๓/๒
ส ๔.๒ ป.๓/๑ ,ป.๓/๒ ,ป.๓/๓
ส ๔.๓ ป.๓/๑ ,ป.๓/๒ ,ป.๓/๓

รวม ๘ ตวั ช้ีวดั

-๕๔-

คาอธิบายรายวชิ า

ส๑๔๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี๔ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง/ปี

ศึกษาวิเคราะหค์ วามหมายและชว่ งเวลาของทศวรรษ ศตวรรษ และสหัสวรรษ การใช้ทศวรรษ

ศตวรรษ และสหัสวรรษเพอ่ื ทาความเขา้ ใจช่วงเวลาในเอกสาร การแบ่งยคุ สมยั ในการศกึ ษาประวตั ิ
ศาสตร์ท่ีแบ่งเป็นยุคกอ่ นประวตั ศิ าสตร์และยุคประวตั ศิ าสตร์ ยคุ สมัยทีใ่ ช้ในการศกึ ษาประวตั ิ ศาสตรไ์ ทย
เช่นสมัยก่อนสุโขทัย สมัยสุโขทยั สมยั อยธุ ยา สมยั ธนบรุ ี และสมยั รัตนโกสินทร์ประเภทของหลักฐาน

ทางประวัตศิ าสตร์ ทแี่ บ่งเปน็ หลกั ฐานช้นั ต้น และหลกั ฐานชนั้ รอง หลกั ฐานทใี่ ช้ในการศกึ ษาความเปน็ มา
ของท้องถิ่นของตน การจาแนกหลกั ฐานของท้องถน่ิ เปน็ หลกั ฐานช้ันต้นและหลักฐานชนั้ รอง พฒั นาการ

ของมนุษย์ยคุ กอ่ นประวตั ิศาสตร์และยุคประวัตศิ าสตร์ในดนิ แดนไทย หลักฐานการตั้งหลักแหลง่ ของ
มนษุ ยย์ คุ ก่อนประวตั ศิ าสตรใ์ นดินแดนไทย หลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ท่ีพบในท้องถน่ิ ทแี่ สดงพัฒนาการ
ของมนุษยชาตใิ นดินแดนไทยการสถาปนาอาณาจักรสโุ ขทัย พัฒนาการของอาณาจักรสโุ ขทยั ทางด้าน

การเมืองการปกครอง และเศรษฐกจิ ประวัติ และผลงานของบคุ คลสาคัญสมัยสุโขทยั เช่น พอ่ ขนุ ศรี
อินทราทติ ย์ พ่อขนุ รามคาแหงมหาราช พระมหาธรรมราชาท่ี ๑ (พระยาลไิ ทย) ภูมิปัญญาไทยที่สาคัญ

สมยั สโุ ขทัยทน่ี า่ ภาคภมู ใิ จ และควรคา่ แก่การอนรุ ักษ์
โดยใชท้ ักษะการอ่าน การสารวจ การวเิ คราะห์ การคานวณ การวิเคราะห์ การตคี วาม และ

การนาเสนอ

เพอ่ื เขา้ ใจความเปน็ มาของชาตไิ ทยในสมัยสุโขทยั รวมทัง้ วัฒนธรรมไทย ภมู ิปัญญาไทย และ
บุคคลสาคัญในสมัยสโุ ขทัย เพอ่ื ใหเ้ กิดความรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ รกั ความเป็นไทยและร่วมกัน

อนรุ ักษส์ ืบสานขนบธรรมเนียมประเพณี และวฒั นธรรมไทย

มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ส ๔.๑ ป.๔/๑ ,ป.๔/๒ ,ป.๔/๓
ส ๔.๒ ป.๔/๑ ,ป.๔/๒
ส ๔.๓ ป.๔/๑ ,ป.๔/๒ ,ป.๔/๓

รวม ๘ ตวั ชวี้ ัด

-๕๕-

คาอธบิ ายรายวชิ า

ส๑๕๑๐๒ ประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี

ศึกษาวเิ คราะห์วิธีการสบื ค้นความเปน็ มาของท้องถน่ิ หลักฐานทางประวัติศาสตร์ท่มี ีอยใู่ น

ทอ้ งถ่นิ ทเ่ี กดิ ขึ้นตามช่วงเวลาต่างๆ การนา เสนอความเปน็ มาของทอ้ งถิ่นโดยอา้ งองิ หลกั ฐานท่หี ลากหลาย
ด้วยวธิ ีการต่าง ๆ การต้ังคาถามทางประวตั ิศาสตรเ์ กยี่ วกบั ความเป็นมาของท้องถิน่ แหล่งข้อมูลและ
หลักฐานทางประวตั ิศาสตร์ในท้องถ่ิน เช่น เอกสาร เรอ่ื งเล่า ตานานท้องถิ่น โบราณสถาน โบราณวัตถุ ฯลฯ

การใช้ข้อมูลที่พบเพื่อตอบคาถามไดอ้ ยา่ งมเี หตุผล ตัวเรอ่ื งราวจากเอกสารต่างๆ ทส่ี ามารถแสดงนยั ของ
ความคดิ เห็นกบั ข้อมูล เชน่ หนงั สือพิมพ์ บทความจากเอกสารต่าง ๆตัวอยา่ งข้อมลู จากหลกั ฐานทาง

ประวตั ิศาสตร์ ในทอ้ งถ่นิ ท่แี สดงความจรงิ กับข้อเทจ็ จริง การสรุปประเดน็ สาคัญเกยี่ วกบั ขอ้ มลู ในท้องถน่ิ
การเขา้ มาของอารยธรรมอนิ เดยี และจีนในดนิ แดนไทยและภูมิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ อิทธพิ ลของ
อารยธรรมอินเดยี และจนี ท่ีมตี อ่ ไทย และคนในภมู ิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เชน่ ศาสนาและความเชือ่

ภาษา การแตง่ กาย อาหาร อิทธิพลของวัฒนธรรมต่างชาตทิ ม่ี ตี อ่ สังคมไทยปจั จบุ ัน การสถาปนาอาณา
จกั รอยธุ ยา ปจั จยั ท่ีสง่ เสรมิ ความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกจิ และการปกครองของอาณาจกั รอยธุ ยา

พฒั นาการของอาณาจกั รอยธุ ยาการด้านการเมอื ง การปกครอง และเศรษฐกิจ ผลงานของบุคคลสาคัญ
ในสมยั อยุธยา เชน่ สมเด็จพระรามาธบิ ดที ่ี ๑ สมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถ สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ชาวบา้ นบางระจนั ภมู ปิ ญั ญาไทยสมัยอยธุ ยาโดยสงั เขป เชน่ ศิลปกรรม

การคา้ วรรณกรรม การกอบกู้เอกราชและการสถาปนาอาณาจกั รธนบรุ ี พระราชประวัติ และผลงาน
ของพระเจ้าตากสินมหาราช ภมู ปิ ัญญาไทยสมัยธนบุรเี ชน่ ศิลปกรรม การค้า วรรณกรรม

โดยใชท้ กั ษะการสงั เกต การสอบถาม การสารวจ การเปรียบเทยี บ การวิเคราะห์ การเชือ่ มโยง
และการสงั เคราะห์อยา่ งง่าย ๆ

เพอื่ ให้เกดิ ความรกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ รกั ความเป็นไทย และร่วมกันอนุรักษส์ บื สาน

ขนบธรรมเนยี มประเพณี และวัฒนธรรมไทย

มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด
ส๔.๑ ป.๕/๑,ป.๕/๒, ป.๕/๓
ส๔.๒ ป.๕/๑,ป.๕/๒

ส๔.๓ ป.๕/๑,ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔

รวม ๙ ตัวช้วี ดั

-๕๖-

คาอธบิ ายรายวชิ า

ส๑๖๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง/ปี

ศกึ ษาวเิ คราะหค์ วามสาคญั ของวธิ ีการทางประวตั ศิ าสตร์ในการศกึ ษาเรอื่ งราวทางประวัตศิ าสตร์

อยา่ งงา่ ย ๆ หลักฐานท่เี หมาะสมกับนกั เรยี นที่นามาใช้ในการศกึ ษาเหตุการณ์สาคญั ในประวตั ิศาสตรไ์ ทย
สมัยรตั นโกสนิ ทร์ เช่น พระราชหัตถเลขาของรัชกาลที่ ๔ หรอื รชั กาลที่ ๕ กฎหมายสาคญั การสรปุ

ข้อมูลท่ีได้จากหลกั ฐานทั้งความจริงและขอ้ เท็จจริง การนาเสนอขอ้ มูลที่ได้จากหลักฐานทางประวัตศิ าสตร์
ดว้ ยวธิ ีการตา่ ง ๆ การใชแ้ ผนทแ่ี สดงที่ตง้ั และอาณาเขตของประเทศต่าง ๆ ในภูมภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี ง
ใต้ สภาพสงั คม เศรษฐกิจและการเมืองของประเทศเพื่อนบา้ นของไทย ตวั อยา่ งความเหมือนและ ความ

ตา่ งระหวา่ งไทยกบั ประเทศเพอ่ื นบา้ น ความเปน็ มาของกลุ่มอาเซียน สมาชกิ ของอาเซยี นในปจั จุบัน
ความสัมพนั ธข์ องกลุ่มอาเซยี นทางเศรษฐกิจ และสังคมในปจั จุบนั การสถาปนาอาณาจักรรัตนโกสนิ ทร์

ปัจจัยท่ีส่งเสรมิ ความเจริญรงุ่ เรืองทางเศรษฐกิจและการปกครองของไทยในสมัยรัตนโกสินทร์ พฒั นาการ
ของไทยสมยั รตั นโกสินทรต์ ามช่วงเวลาต่างๆ เช่น สมยั รตั นโกสินทรต์ อนต้น สมัยปฏริ ปู ประเทศ และสมัย
ประชาธปิ ไตย ผลงานของบุคคลสาคญั ทางด้านต่างๆ ในสมยั รตั นโกสินทร์ เช่น พระบาทสมเด็จพระพุทธ

ยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสรุ สิงหนาท พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้า
เจ้าอยหู่ วั ฯลฯ ภูมปิ ญั ญาไทยสมัยรตั นโกสินทร์ เช่น ศิลปกรรม วรรณกรรม

โดยใช้ทักษะการการอ่าน การสืบค้น การสารวจ การวิเคราะห์ การสังเคราะห์ การอธิบาย
การเขยี นเรยี งความ การจัดทาโครงงานและการจดั นทิ รรศการ

เพือ่ ให้เกดิ ความรกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ รักความเป็นไทยและรว่ มกนั อนรุ กั ษส์ ืบสาน

ขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมไทย

มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั
ส๔.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒
ส๔.๒ ป.๖/๑,ป.๖/๒
ส๔.๓ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓,ป.๖/๔

รวม ๘ ตวั ช้วี ดั

-๕๗-

ส๑๐๒๐๒ การปอ้ งกันการทุจริต คาอธบิ ายรายวิชา
ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๑-๖
กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
เวลา ๔๐ ชัว่ โมง/ปี

ศกึ ษาเก่ียวกบั การแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตนกบั ผลประโยชน์ส่วนรวม ความละอาย
และความ ไมท่ นตอ่ การทจุ ริต STRONG / จติ พอเพียงตอ่ ต้านการทจุ รติ รู้หนา้ ที่ของพลเมอื งและรับผดิ ชอบ
ตอ่ สังคมในการต่อตา้ นการทุจริต

โดยใช้กระบวนการคดิ วิเคราะห์ จาแนก แยกแยะ การฝึกปฏบิ ัตจิ ริง การทาโครงงาน
กระบวนการ เรียนรู้๕ ขน้ั ตอน (๕ STEPS) การอภิปราย การสบื สอบ การแก้ปญั หา ทกั ษะการอ่านและการ
เขียน

เพอ่ื ใหม้ ีความตระหนักและเห็นความสาคญั ของการต่อตา้ นและการปอ้ งกนั การทุจริต

ผลการเรียนรู้
๑. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตน กบั ผลประโยชน์ส่วนรวม
๒. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกับความละอายและความไมท่ นตอ่ การทจุ ริต

๓. มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกบั STRONG / จิตพอเพียงตอ่ ตา้ นการทุจรติ
๔. มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับพลเมอื งและมคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม

๕. สามารถคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตน กับผลประโยชน์ส่วนรวมได้
๖. ปฏิบตั ติ นเป็นผู้ละอายและไม่ทนต่อการทุจรติ ทกุ รปู แบบ
๗. ปฏิบตั ิตนเป็นผู้ท่ี STRONG / จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต

๘. ปฏบิ ตั ิตนตามหน้าทพ่ี ลเมืองและมคี วามรบั ผดิ ชอบต่อสังคม
๙. ตระหนักและเห็นความสาคญั ของการต่อตา้ นและป้องกนั การทุจริต

รวมท้ังหมด ๙ ผลการเรียนรู้

-๕๘-

โครงสรา้ งกลุม่ สาระการเรยี นรู้
กลมุ่ สาระการเรียนร้สู ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา

รายวิชาพ้ืนฐาน

ลาดบั ที่ รหสั วิชา ชอ่ื วิชา จานวนช่วั โมง/ปี

๑ พ๑๑๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ๔๐

๒ พ๑๒๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ๔๐

๓ พ๑๓๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ๔๐

๔ พ๑๔๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ๘๐

๕ พ๑๕๑๐๑ สุขศึกษาและพลศกึ ษา ๘๐

๖ พ๑๖๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๘๐

-๕๙-

คาอธิบายรายวิชา
กลุ่มสาระการเรียนร้สู ุขศึกษา

และพลศึกษา

-๖๐-

คาอธิบายรายวิชา

พ๑๑๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา กลุม่ สาระการเรียนร้สู ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา
ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๑ เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี

ศกึ ษาวิเคราะหล์ ักษณะและหน้าที่ของอวยั วะภายนอกทม่ี ีการเจริญเตบิ โตและพัฒนาการตามวัย
การดแู ลรักษาอวัยวะภายนอก สมาชิกในครอบครัวและความรักความผูกพันของสมาชกิ ทมี่ ีตอ่ กนั ส่ิงที่ชื่น
ชอบและความภาคภมู ใิ จในตนเอง ลกั ษณะความแตกต่างของเพศชาย เพศหญิง ธรรมชาตขิ องการ
เคลอ่ื นไหวร่างกายในชวี ติ ประจาวนั กิจกรรมทางกายท่ใี ช้ในการเคล่อื นไหวตามธรรมชาติ การออกกาลังกาย
และการเลน่ เกมเบ็ดเตล็ด กฎ กตกิ า ข้อตกลงในการเล่นเกมเบด็ เตลด็ การปฏบิ ตั ติ นตามหลักสุขบญั ญัติ
แหง่ ชาติ โรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควดิ ๑๙) ลกั ษณะอาการเจบ็ ป่วยทเ่ี กิดขน้ึ กบั ตนเอง ส่งิ ทท่ี าให้
เกดิ อันตรายทีบ่ ้าน โรงเรยี น และการปอ้ งกนั สาเหตุและการปอ้ งกันอันตรายทเ่ี กดิ จากการเล่น การขอ
ความชว่ ยเหลือเมือ่ เกิดเหตรุ ้ายท่ีบ้านและโรงเรียน

โดยใชท้ กั ษะการเคลือ่ นไหวข้ันพืน้ ฐานและมีส่วนรว่ มในกิจกรรมทางกาย กิจกรรมสร้างเสรมิ
สมรรถภาพทางกายเพื่อสขุ ภาพ และเกม ไดอ้ ยา่ งสนุกสนาน และปลอดภยั มีทกั ษะในการเลอื กบรโิ ภค
อาหาร ของเลน่ ของใชท้ ม่ี ีผลดตี อ่ สุขภาพ หลีกเลี่ยงและป้องกนั ตนเองจากอุบัตเิ หตุได้

เหน็ คณุ ค่าของตนเอง ครอบครวั เพศศึกษา มีทักษะในการดาเนนิ ชีวิต รกั การออกกาลังกาย
การเล่นเกม กฬี า มีวินยั เคารพสิทธิ กฎ กติกา มนี ้าใจเปน็ นักกีฬา มีจิตวญิ ญาณในการแข่งขนั ชื่นชม
ในสนุ ทรยี ภาพของการกีฬา และการสร้างเสรมิ สุขภาพและการดารงสุขภาพอยา่ งยงั่ ยืน

มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด
พ๑.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒
พ๒.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒ ,ป.๑/๓
พ๓.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒
พ๓.๒ ป.๑/๑,ป.๑/๒
พ๔.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒ ,ป.๑/๓
พ๕.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒ ,ป.๑/๓

รวม ๑๕ ตัวชว้ี ัด

-๖๑-

คาอธิบายรายวชิ า

พ๑๒๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศึกษา กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู ุขศึกษาและพลศกึ ษา
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ เวลา ๔๐ ช่วั โมง/ปี

ศึกษาวิเคราะห์ลกั ษณะ และหน้าทข่ี องอวัยวะภายในท่ีมีการเจริญเตบิ โตและพัฒนาการไป
ตามวยั การดูแลรกั ษาอวยั วะภายใน บทบาทหน้าท่ขี องสมาชิกในครอบครัว ความสาคัญของเพื่อน
พฤตกิ รรมทเ่ี หมาะสมกับเพศ ความภาคภมู ิใจในเพศหญิงหรือเพศชาย การเคล่อื นไหวร่างกาย ขณะอย่กู บั ท่ี

เคลอ่ื นที่ และใช้อุปกรณป์ ระกอบการเล่นเกมเบ็ดเตล็ด และเขา้ รว่ มกจิ กรรมทางกายทวี่ ธิ ีเล่นอาศัยการ
เคล่ือนไหวเบือ้ งต้นทั้งแบบอยกู่ บั ที่ เคลือ่ นท่ี และใช้อุปกรณ์ประกอบการออกกาลังกาย และเลน่ เกม

เบด็ เตล็ด ประโยชนข์ องการออกกาลังกายและการเล่นเกม กฎ กตกิ า ขอ้ ตกลงในการเลน่ เกมเปน็ กลุ่ม
ลักษณะของการมีสุขภาพดี อาหารท่มี ีประโยชน์และไม่มปี ระโยชน์ โรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด
๑๙) อาการและวธิ ปี ้องกนั การเจบ็ ป่วย การบาดเจบ็ ทอ่ี าจเกิดขน้ึ วิธปี ฏบิ ัติตนเมอ่ื เจ็บป่วยและบาดเจ็บ

อบุ ตั เิ หตุทางนา้ และทางบก ยาสามญั ประจาบา้ น สารเสพติดและสารอันตรายใกลต้ วั สญั ลกั ษณ์และ
ปา้ ยเตอื นของสง่ิ ของหรอื สถานที่ที่เปน็ อันตราย อคั คภี ยั

โดยใช้มที ักษะ การเคล่อื นไหวข้ันพืน้ ฐานและมีสว่ นรว่ มในกิจกรรมทางกาย กิจกรรมสร้างเสริม
สมรรถภาพทางกายเพ่ือสุขภาพ และเกม ได้อย่างสนุกสนาน และปลอดภัย มีทักษะในการเลือกบริโภค
อาหาร ของเลน่ ของใช้ท่มี ีผลดตี ่อสขุ ภาพ หลีกเล่ียงและป้องกันตนเองจากอบุ ตั ิเหตไุ ด้

เห็นคุณค่าของการมีวินัย เคารพสทิ ธิ กฎ กตกิ า มีน้าใจเปน็ นักกีฬา มจี ิตวญิ ญาณใน การแขง่ ขัน
และช่นื ชมในสนุ ทรียภาพของการกฬี า และการสร้างเสริมสขุ ภาพและการดารงสุขภาพอยา่ งยัง่ ยนื

มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด
พ๑.๑ ป.๒/๑,ป.๒/๒ ,ป.๒/๓
พ๒.๑ ป.๒/๑,ป.๒/๒ ,ป.๒/๓ ,ป.๒/๔

พ๓.๑ ป.๒/๑,ป.๒/๒
พ๓.๒ ป.๒/๑,ป.๒/๒

พ๔.๑ ป.๒/๑,ป.๒/๒ ,ป.๒/๓ ,ป.๒/๔,ป.๒/๕
พ๕.๑ ป.๒/๑,ป.๒/๒ ,ป.๒/๓ ,ป.๒/๔,ป.๒/๕

รวม ๒๑ ตวั ชี้วัด

-๖๒-

คาอธิบายรายวิชา

พ๑๓๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศึกษา กล่มุ สาระการเรยี นรู้สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา
ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี

ศึกษาวเิ คราะหล์ ักษณะการเจริญเติบโตของร่างกายมนษุ ย์ ท่ีมคี วามแตกต่างกนั ในแตล่ ะบุคคล

เกณฑม์ าตรฐานการเจริญเตบิ โตของเดก็ ไทย ปจั จัยทม่ี ผี ลตอ่ การเจรญิ เตบิ โต ความสาคญั ของครอบครวั
ความแตกตา่ งของแต่ละครอบครัว วธิ ีการสรา้ งสมั พนั ธภาพในครอบครัวและกลมุ่ เพือ่ น พฤตกิ รรมที่
นาไปสู่การล่วงละเมิดทางเพศ วิธีหลกี เลยี่ งพฤติกรรมท่ีนาไปสู่การลว่ งละเมิดทางเพศ การเคล่ือนไหว

ร่างกาย ขณะอยู่กบั ท่ี เคลือ่ นที่และใช้อุปกรณ์ประกอบอยา่ งมที ิศทาง กิจกรรมทางกายท่ีใช้ทักษะการ
เคลื่อนไหวแบบบงั คับทิศทาง ในการเล่นเกมเบ็ดเตลด็ แนวทางการเลือกออกกาลงั กาย การละเลน่ พื้นเมือง

และเล่นเกมทีเ่ หมาะสมกับจุดเดน่ จุดด้อยและข้อจากดั ของแตล่ ะบุคคล กฎ กตกิ าและข้อตกลงของการ
ออกกาลังกาย การเล่นเกม การละเล่นพ้ืนเมือง โรคติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด ๑๙) การตดิ ตอ่
และวธิ ีการป้องกนั การแพรก่ ระจายของโรค อาหารหลกั ๕ หมู่ การเลอื กกนิ อาหารทเ่ี หมาะสม การ

แปรงฟนั ให้สะอาดอยา่ งถูกวิธี การสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพทางกายเพอื่ สขุ ภาพ วธิ ปี ฏิบตั ิตนเพ่ือความ
ปลอดภัยจากอบุ ัติเหตใุ นบ้าน โรงเรียนและ การเดินทาง การขอความชว่ ยเหลอื จากบุคคลและแหล่ง

ต่างๆ เม่ือเกดิ เหตุรา้ ยหรอื อุบัตเิ หตุ การบาดเจ็บจากการเลน่
โดยใชม้ ที ักษะ การเคล่อื นไหวข้ันพืน้ ฐานและมีสว่ นร่วมในกิจกรรมทางกาย กิจกรรมสรา้ งเสริม

สมรรถภาพทางกายเพ่อื สุขภาพ และเกม ได้อย่างสนุกสนาน และปลอดภัย มีทกั ษะในการเลือกบริโภค

อาหาร ของเลน่ ของใชท้ ีม่ ีผลดตี ่อสุขภาพ หลีกเลี่ยงและปอ้ งกันตนเองจากอุบตั ิเหตุได้
เห็นคณุ ค่าของตนเอง ครอบครัว เพศศึกษา มที ักษะในการดาเนนิ ชีวิต รักการออกกาลงั กาย

การเล่นเกม กีฬา มีวนิ ัย เคารพสิทธิ กฎ กตกิ า มีน้าใจเปน็ นกั กีฬา มีจิตวิญญาณในการแขง่ ขนั ช่ืนชม
ในสุนทรยี ภาพของการกฬี า และการสรา้ งเสริมสุขภาพและการดารงสุขภาพอยา่ งย่งั ยนื

มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั
พ๑.๑ ป.๓/๑,ป.๓/๒ ,ป.๓/๓
พ๒.๑ ป.๓/๑,ป.๓/๒ ,ป.๓/๓
พ๓.๑ ป.๓/๑,ป.๓/๒
พ๓.๒ ป.๓/๑,ป.๓/๒
พ๔.๑ ป.๓/๑,ป.๓/๒ ,ป.๓/๓ ,ป.๓/๔,ป.๓/๕
พ๕.๑ ป.๓/๑,ป.๓/๒ ,ป.๓/๓

รวม ๑๘ ตัวชว้ี ดั

-๖๓-

คาอธิบายรายวชิ า

พ๑๔๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ เวลา ๘๐ ชั่วโมง/ปี

ศกึ ษาวิเคราะหก์ ารเจรญิ เติบโตและพัฒนาการของร่างกายและจิตใจตามวยั ความสาคัญของ

กลา้ มเนือ้ กระดกู และข้อที่มีผลต่อสขุ ภาพ การเจรญิ เตบิ โตและพัฒนาการ วิธีดแู ลรกั ษากล้ามเนือ้ กระดูก
และขอ้ ใหท้ างานอย่างมีประสิทธภิ าพ คุณลกั ษณะของความเปน็ เพ่อื นและสมาชกิ ทดี่ ขี องครอบครวั
พฤติกรรมที่เหมาะสมกับเพศของตนตามวฒั นธรรมไทย การปฏเิ สธการกระทาทีเ่ ป็นอนั ตรายและไม่

เหมาะสมในเรอื่ งเพศ การเคลือ่ นไหวในลักษณะผสมผสานไดท้ ั้งแบบอย่กู ับท่ีเคลอ่ื นท่ี และใชอ้ ปุ กรณ์
ประกอบ กายบริหารท่ามือเปล่าประกอบจงั หวะจงั หวะ เกมเลียนแบบและกจิ กรรมแบบผลัด กฬี าพ้ืนฐาน

การออกกาลังกาย เล่นเกม และกฬี าทีต่ นเองชอบ มคี วามสามารถในการวเิ คราะห์ผลพฒั นาการของ
ตนเองตามตวั อย่างและแบบปฏบิ ัติของผู้อ่นื การปฏบิ ตั ติ ามกฎ กตกิ า การเลน่ กฬี าพนื้ ฐาน ตามชนิด
กฬี าท่ีเล่น ความ สัมพันธร์ ะหวา่ งส่ิงแวดล้อมกบั สุขภาพ การจัดสิง่ แวดลอ้ มทถ่ี ูกสุขลักษณะและเออ้ื ตอ่

สุขภาพ สภาวะอารมณ์ ความรู้สึกทม่ี ีผลต่อสขุ ภาพ การวิเคราะห์ข้อมูลบนฉลากอาหารและผลิตภัณฑ์
สุขภาพ การทด สอบสมรรถภาพทางกาย การปรับปรงุ สมรรถภาพทางกายตามผลการทดสอบ

สมรรถภาพทางกาย ความสาคัญของการใช้ยา หลักการใช้ยา วิธีปฐมพยาบาล ผลเสยี ของการสบู บุหร่ี
การด่ืมสรุ า โรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด ๑๙) และการป้องกัน

โดยใชท้ กั ษะกระบวนการในการดาเนินชีวิต ทกั ษะการเคลือ่ นไหว ทกั ษะในการเสริมสร้าง

สุขภาพการป้องกันโรค การเปรยี บเทยี บ การระบุ การจาแนก การอธบิ าย การเล่นเกม การเลน่ กฬี า
และมีทกั ษะในการแสวงหาความรู้ ข้อมูลข่าวสารเพ่ือใชส้ ร้างเสริมสุขภาพ

เหน็ คุณค่าของตนเอง ครอบครวั เพศศกึ ษา มที ักษะในการดาเนินชีวิต รักการออกกาลังกาย
การเล่นเกม กฬี า มวี ินยั เคารพสทิ ธิ กฎ กติกา มีนา้ ใจเปน็ นกั กฬี า มีจิตวิญญาณในการแขง่ ขัน ชนื่ ชมใน
สนุ ทรยี ภาพของการกฬี า และการสร้างเสริมสุขภาพและการดารงสขุ ภาพอยา่ งยัง่ ยืน

มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด
พ๑.๑ ป.๔/๑,ป.๔/๒ ,ป.๔/๓
พ๒.๑ ป.๔/๑,ป.๔/๒ ,ป.๔/๓
พ๓.๑ ป.๔/๑,ป.๔/๒ ,ป.๔/๓,ป.๔/๔
พ๓.๒ ป.๔/๑,ป.๔/๒
พ๔.๑ ป.๔/๑,ป.๔/๒ ,ป.๔/๓,ป.๔/๔
พ๕.๑ ป.๔/๑,ป.๔/๒ ,ป.๔/๓

รวม ๑๙ ตัวช้ีวัด

-๖๔-

คาอธิบายรายวิชา

พ๑๕๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา กลมุ่ สาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ เวลา ๘๐ ช่วั โมง/ปี

ศกึ ษาวเิ คราะห์ความสาคญั ของระบบย่อยอาหาร ระบบขับถา่ ยท่ีมีผลตอ่ สุขภาพ การเจริญ
เตบิ โต และพฒั นาการ การดูแลรกั ษาระบบย่อยอาหาร ระบบขับถา่ ยให้ทางานตามปกติ การเปล่ียน
แปลงทางเพศ และปฏบิ ัติตนได้เหมาะสม ความสาคญั ของการมคี รอบครัวท่อี บอุ่นตามวัฒนธรรมไทย
พฤตกิ รรมทพ่ี ึงประสงค์และไม่พงึ ประสงคใ์ นการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในครอบครัว การเคลื่อนไหว
แบบผสมผสาน และควบคมุ ตนเองเม่อื ใช้ทกั ษะการเคลอื่ นไหวตามแบบท่ีกาหนดเกมนาไปสกู่ ีฬาท่เี ลือกและ
กจิ กรรมการเคลื่อนไหวแบบผลัดการเคลอื่ นไหวในเรื่องการรบั แรง การใชแ้ รงและความสมดุล ทักษะกลไกที่
ส่งผลต่อการปฏิบตั กิ จิ กรรมทางกายและเลน่ กฬี า (ทักษะกลไกทสี่ ง่ ผลตอ่ การปฏบิ ัติกจิ กรรมและเล่นกีฬา
พน้ื บา้ น) กีฬาไทย และกฬี าสากลประเภทบุคคลและประเภททีม หลกั การและกิจกรรมนนั ทนาการ
หลักการและรปู แบบการออกกาลงั กาย การออกกาลงั กาย และการเล่นเกม การเล่นกีฬาไทย และกฬี า
สากลประเภทบคุ คลและทมี ทีเ่ หมาะสมกบั วัยอย่างสมา่ เสมอ การสรา้ งทางเลอื กในวิธปี ฏบิ ตั ใิ นการเลน่
กีฬาอยา่ งหลากหลาย และมนี ้าใจนักกีฬา กฎ กตกิ า การเลน่ เกม กฬี าไทย และกีฬาสากล ตามชนดิ
กีฬาทเ่ี ลน่ สิทธิของตนเองและผอู้ ืน่ ในการเลน่ เกมและกฬี า ความแตกต่างระหวา่ งบุคคลในการเล่นเกม
และกีฬา ความสาคญั ของการปฏิบตั ติ นตามสุขบัญญตั ิแห่งชาติ โรคติดเชอื้ ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด ๑๙)
ข้อมูลขา่ วสารเพ่ือใช้สร้างเสรมิ สขุ ภาพ การตัดสินใจเลอื กซอ้ื อาหารและผลิตภัณฑ์สุขภาพ การปฏบิ ัติตน
ในการปอ้ งกนั โรคท่ีพบบอ่ ยในชีวิต ประจาวัน การทดสอบสมรรถภาพทางกาย การปรบั ปรงุ สมรรถภาพ
ทางกายตามผลการทดสอบสมรรถภาพทางกาย ปจั จัยที่มีอิทธพิ ลตอ่ การใชส้ ารเสพติด ผลกระทบของการ
ใช้ยา และสารเสพตดิ ท่มี ีต่อรา่ งกาย จิตใจ อารมณ์ สงั คม และสติปญั ญา การปฏิบัตติ นเพ่อื ความ
ปลอดภยั จากการใช้ยาและหลีกเลย่ี งสารเสพติด อทิ ธิพลของสอื่ ทีม่ ตี อ่ พฤติกรรม สุขภาพ การปฏิบัตเิ พ่ือ
ป้องกันอันตรายจากการเล่นกีฬา

โดยใชท้ ักษะกระบวนการในการดาเนนิ ชีวิต ทกั ษะการเคลอื่ นไหว ทกั ษะในการเสริมสรา้ งสขุ ภาพ
การป้องกันโรค การเปรียบเทียบ การระบุ การจาแนก การอธิบาย การเลน่ เกม การเลน่ กฬี า และมี
ทักษะในการแสวงหาความรู้ ขอ้ มูลขา่ วสารเพื่อใชส้ รา้ งเสรมิ สุขภาพ

เหน็ คณุ ค่าของตนเอง ครอบครัว เพศศกึ ษา มีทักษะในการดาเนนิ ชีวิต รักการออกกาลงั กาย
การเลน่ เกม กฬี า มีวินยั เคารพสิทธิ กฎ กตกิ า มีน้าใจเป็นนักกฬี า มีจิตวิญญาณในการแข่งขัน ชืน่ ชม
ในสุนทรยี ภาพของการกฬี า และการสร้างเสริมสุขภาพและการดารงสขุ ภาพอย่างย่งั ยนื

มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด
พ๑.๑ ป.๕/๑,ป.๕/๒
พ๒.๑ ป.๕/๑,ป.๕/๒ ,ป.๕/๓
พ๓.๑ ป.๕/๑,ป.๕/๒ ,ป.๕/๓,ป.๕/๔,ป.๕/๕,ป.๕/๖
พ๓.๒ ป.๕/๑,ป.๕/๒ ,ป.๕/๓,ป.๕/๔
พ๔.๑ ป.๕/๑,ป.๕/๒ ,ป.๕/๓,ป.๕/๔,ป.๕/๕
พ๕.๑ ป.๕/๑,ป.๕/๒ ,ป.๕/๓,ป.๕/๔,ป.๕/๕

รวม ๒๕ ตัวช้ีวัด

-๖๕-

คาอธิบายรายวชิ า

พ๑๖๑๐๑ สุขศึกษาและพลศกึ ษา กล่มุ สาระการเรียนรู้สุขศกึ ษาและพลศึกษา
ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๖ เวลา ๘๐ ชัว่ โมง/ปี

ศกึ ษาวเิ คราะห์ความสาคัญของระบบสืบพนั ธุ์ ระบบไหลเวยี นโลหติ ระบบหายใจทีม่ ีผลตอ่
สขุ ภาพ การเจริญเติบโตและพฒั นาการ วธิ ีดูแลรกั ษาระบบสืบพันธุ์ ระบบไหลเวียนโลหิต ระบบหายใจ
ใหท้ างานตามปกติ ความสาคญั ของการสรา้ งและรกั ษาสัมพันธภาพกบั ผ้อู ืน่ ปจั จยั ท่ีชว่ ยให้การทางาน
กลุ่มประสบความ สาเร็จ พฤติกรรมเส่ยี งท่ีอาจนาไปสู่การมีเพศสมั พนั ธ์ การติดเชอื้ เอดส์ และการตงั้ ครรภ์
กอ่ นวัยอนั ควร การเคลื่อนไหวร่วมกับผอู้ น่ื ในลกั ษณะแบบผลดั และแบบผสมผสานได้ท้งั แบบอยูก่ ับที่
เคลือ่ นที่ และใชอ้ ุปกรณป์ ระกอบ และการเคลื่อนไหวประกอบเพลง การเคลอ่ื นไหวในเร่อื งการ รบั แรง
การใช้แรง และความสมดุลกับการพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหว ในการเล่นเกมและกีฬา การเคลอื่ นไหว
ในเรอ่ื งการรบั แรงการใชแ้ รง และความสมดุลกับการพัฒนาทักษะการเคลอ่ื นไหวในการเลน่ เกมและกีฬา
การใชข้ อ้ มูลดา้ นทักษะกลไกเพอ่ื ปรบั ปรงุ และเพิม่ พูนความสามารถในการปฏิบัตกิ ิจกรรมทางกาย และเลน่ กีฬา
การนาความรู้และหลกั การของกิจกรรมนันทนาการไปใช้เป็นฐานการศึกษาหาความรู้ ประโยชน์และหลักการ
ออกกาลังกายเพ่ือสุขภาพ สมรรถภาพทางกายและการสร้างเสริมบุคลกิ ภาพ การเล่นเกมทใ่ี ช้ทักษะ
การวางแผน การเพ่ิมพนู ทักษะการออกกาลังกายและการเคลอ่ื น ไหวอยา่ งเป็นระบบ การเลน่ กีฬา
ประเภทบคุ คลและประเภททมี ที่ช่ืนชอบ การประเมินทกั ษะการเลน่ กฬี าของตน กฎ กตกิ าในการเล่นกฬี า
ไทย กฬี าสากลตามชนิดกฬี าทีเ่ ลน่ กลวิธีการรกุ การป้องกนั ในการเลน่ กีฬา การสร้างความสามัคคีและ
ความมนี ้าใจนักกีฬาในการเลน่ เกมและกฬี า ความสาคัญของการปอ้ งกันและแก้ไขปัญหาส่งิ แวดล้อมทมี่ ผี ล
ตอ่ สุขภาพ โรคติดต่อสาคญั ทีร่ ะบาดในปัจจุบัน โรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด ๑๙) ผลกระทบท่ี
เกิดจากการระบาดของโรค การป้องกนั การระบาดของโรค พฤติกรรมท่ีแสดงออกถงึ ความรับผิดชอบ
ต่อสขุ ภาพของส่วนรวม วธิ ีทดสอบสมรรถภาพทางกาย การสร้างเสรมิ และปรบั ปรงุ สมรรถภาพทางกาย
ตามผลการทดสอบสมรรถภาพ ทางกาย ภยั ธรรมชาติ การปฏิบตั ติ นเพ่อื ความปลอดภยั จากภยั
ธรรมชาติ สาเหตุของการติดสารเสพติด ทักษะการสอ่ื สารใหผ้ ้อู ่นื หลกี เลย่ี งสารเสพติด

โดยใช้ทักษะกระบวนการในการดาเนินชีวิต ทักษะการเคล่ือนไหว ทักษะในการเสริมสร้าง
สุขภาพการป้องกันโรค การเปรียบเทียบ การระบุ การจาแนก การอธิบาย การเล่นเกม การเล่นกีฬา
และมที ักษะในการแสวงหาความรู้ ขอ้ มูลขา่ วสารเพ่ือใชส้ ร้างเสริมสุขภาพ

เห็นคุณค่าของตนเอง ครอบครวั เพศศกึ ษา มีทักษะในการดาเนนิ ชีวิต รักการออกกาลงั กาย
การเลน่ เกม กฬี า มีวนิ ัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีนา้ ใจเป็นนักกฬี า มีจติ วญิ ญาณในการแข่งขัน ช่นื ชม
ในสุนทรยี ภาพของการกฬี า และการสร้างเสรมิ สุขภาพและการดารงสุขภาพอยา่ งยั่งยนื

มาตรฐาน/ตัวชวี้ ดั
พ๑.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒
พ๒.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒
พ๓.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒ ,ป.๖/๓,ป.๖/๔,ป.๖/๕
พ๓.๒ ป.๖/๑,ป.๖/๒ ,ป.๖/๓,ป.๖/๔,ป.๖/๕,ป.๖/๖
พ๔.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒ ,ป.๖/๓,ป.๖/๔
พ๕.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒ ,ป.๖/๓

รวม ๒๒ ตัวชวี้ ดั

-๖๖-

โครงสร้างกลมุ่ สาระการเรยี นรู้

กลมุ่ สาระการเรียนรูศ้ ลิ ปะ

รายวิชาพืน้ ฐาน รหัสวชิ า ชอื่ วชิ า จานวนช่ัวโมง/ปี

ลาดบั ท่ี ศ๑๑๑๐๑ ศิลปะ ๔๐
๑ ศ๑๒๑๐๑ ศิลปะ ๔๐
๒ ศ๑๓๑๐๑ ศิลปะ ๔๐
๓ ศ๑๔๑๐๑ ศิลปะ ๘๐
๔ ศ๑๕๑๐๑ ศิลปะ ๘๐
๕ ศ๑๖๑๐๑ ศลิ ปะ ๘๐


-๖๗-

คาอธิบายรายวิชา
กลุม่ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ

-๖๘-

คาอธบิ ายรายวชิ า

ศ๑๑๑๐๑ ศิลปะ กลมุ่ สาระการเรียนร้ศู ลิ ปะ
ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง/ปี

อภปิ ราย บอก มีทกั ษะ สร้าง วาดภาพ ระบุ ทอ่ ง เลา่ เลียนแบบ แสดง เก่ยี วกับรปู ร่าง

ลกั ษณะ และขนาดของส่งิ ตา่ ง ๆ รอบตวั ในธรรมชาติ และสิง่ ที่มนษุ ย์สรา้ งขน้ึ ความรสู้ กึ ที่มีต่อธรรมชาติ
และสงิ่ แวดลอ้ มรอบตวั สงิ่ แวดลอ้ มในหมบู่ ้าน มีพน้ื ฐานในการใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์สรา้ งงานทศั นศลิ ป์โดย

การทดลองใช้สี ด้วยเทคนิคงา่ ย ๆวาดภาพระบายสภี าพธรรมชาติตามความรูส้ ึกของตนเองงานทศั นศลิ ป์ใน
ชวี ิตประจาวนั สิ่งต่าง ๆสามารถกอ่ กาเนดิ เสียง ทแ่ี ตกต่างกัน ลกั ษณะของเสียงดงั -เบา และความช้า- เร็ว
ของจงั หวะ บทกลอน ร้องเพลงงา่ ย ๆ มีส่วนร่วมใน กิจกรรมดนตรีอย่างสนกุ สนานความเก่ยี วข้องของเพลง

ทใ่ี ช้ในชีวิตประจาวนั เพลงในทอ้ งถ่นิ สิง่ ทช่ี ืน่ ชอบในดนตรที อ้ งถน่ิ เครื่องดนตรีจากพืชและสตั วใ์ นหมู่บา้ น
การเคล่ือนไหว ท่าทางง่าย ๆ เพือ่ ส่ือความหมาย แทนคาพดู สิง่ ท่ีตนเองชอบ จากการดหู รือร่วมการแสดง

เล่นการละเลน่ ของเดก็ ไทย รู้ เข้าใจ เหน็ คุณคา่ ช่ืนชม เกย่ี วกับรปู ร่าง ลักษณะ และขนาดของสง่ิ ตา่ ง ๆ
รอบตวั ในธรรมชาติ และส่งิ ท่มี นุษยส์ ร้างขน้ึ ความรูส้ กึ ทม่ี ีต่อธรรมชาติ และส่งิ แวดลอ้ มรอบตวั
ส่งิ แวดล้อมในหมบู่ ้าน มพี นื้ ฐานในการใชว้ สั ดุ อุปกรณส์ รา้ งงานทศั นศิลปโ์ ดยการทดลองใชส้ ี ดว้ ยเทคนิค

งา่ ย ๆวาดภาพระบายสีภาพธรรมชาติตามความรู้สกึ ของตนเองงานทัศนศลิ ปใ์ นชวี ติ ประจาวนั สิง่ ตา่ ง ๆ
สามารถก่อกาเนิดเสยี ง ทแี่ ตกต่างกัน ลกั ษณะของเสียงดัง-เบา และความชา้ -เร็ว ของจงั หวะ บทกลอน

รอ้ งเพลงง่าย ๆ มสี ว่ นรว่ มใน กจิ กรรมดนตรีอยา่ งสนกุ สนานความเกย่ี วข้องของเพลงที่ใชใ้ นชีวิตประจาวนั
เพลงในทอ้ งถ่นิ เครอ่ื งดนตรจี ากพืชและสัตวใ์ นหมู่บา้ น สงิ่ ทชี่ นื่ ชอบในดนตรที อ้ งถิน่ การเคลื่อนไหว
ท่าทางง่าย ๆเพอ่ื สื่อความหมาย แทนคาพูด สง่ิ ท่ตี นเองชอบ จากการดหู รือรว่ มการแสดง เล่นการละเล่น

ของเด็กไทย รักและมุง่ มั่นในการทางาน สามารถนาความรไู้ ปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนโ์ ดยใช้หลักปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพียงและสามารถนาไปประยุกตใ์ ชก้ ับชวี ิตประจาวนั ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม

โดยใช้กระบวนการวิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่างานทัศนศลิ ป์ วิธีการสรา้ งงานทศั นศลิ ป์
ท่องบทกลอน รอ้ งเพลง เคาะจังหวะ เคลือ่ นไหวร่างกายให้สอดคล้องกบั บทเพลง อ่าน เขียน และใช้
สญั ลักษณแ์ ทนเสยี งและเคาะจังหวะแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกบั ดนตรี และถ่ายทอดสิ่งทร่ี บั รู้เป็นศลิ ป์

เห็นคุณค่างานทัศนศลิ ป์ ดนตรี นาฏศิลป์ท่เี ป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถิ่น ภูมิปญั ญา
ไทย และรักความเป็นไทย

มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั
ศ ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕

ศ ๑.๒ ป.๑/๑
ศ ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕

ศ ๒.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒
ศ ๓.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓
ศ ๓.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒

รวม ๑๘ ตวั ช้วี ัด

-๖๙-

คาอธิบายรายวชิ า

ศ๑๒๑๐๑ ศลิ ปะ กลุ่มสาระการเรียนรูศ้ ลิ ปะ
ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ปี

ศึกษาวเิ คราะห์รปู ร่าง รปู ทรงในธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม เส้นสี รปู ร่าง รปู ทรงในส่ิงแวดล้อม

และงานทศั นศลิ ป์ประเภทตา่ ง ๆ เสน้ รูปร่างในงานทัศนศลิ ป์ประเภทต่าง ๆ การใชว้ สั ดุ อุปกรณ์ สรา้ งงาน
ทัศนศลิ ป์ ๓ มิติ ภาพปะตดิ จากกระดาษ การวาดภาพถ่ายทอดเรอื่ งราว เน้อื หาเร่ือง ราวในงาน
ทัศนศลิ ป์ งานโครงสรา้ งเคลอื่ นไหว ความสาคัญของงานทศั นศิลป์ในชวี ติ ประจาวัน สสี ันของเสียงเคร่อื ง

ดนตรี สีสันของเสียงมนษุ ย์ การฝกึ โสตประสาท การจาแนกเสียง สงู -ตา่ ดัง-เบา ยาว-สน้ั การเคลอ่ื นไหว
ประกอบเนื้อหาในบทเพลง การเลน่ เครอ่ื งดนตรปี ระกอบเพลง การขบั ร้อง ความหมายและความสาคญั ของ

เพลงทไ่ี ดย้ นิ กิจกรรมดนตรใี นโอกาสพเิ ศษ การเคล่อื นไหวอย่างมรี ูปแบบ การประดษิ ฐ์ท่าจากการเคล่อื น
ไหวอยา่ งมีรูปแบบ เพลงที่เกย่ี ว กับสิ่งแวดล้อม หลกั และวธิ ีการปฏบิ ัตินาฏศิลป์ การใช้ภาษาทา่ และ
นาฏยศัพทป์ ระกอบจงั หวะ มารยาทในการชมการแสดง การเข้าชมหรอื มีส่วนรว่ ม การละเลน่ พน้ื บา้ น

ทม่ี าของการละเล่นพ้ืนบ้าน สิ่งทช่ี น่ื ชอบและภาคภูมิใจในการละเลน่ พ้นื บา้ น
โดยใชท้ กั ษะการสังเกต การใช้ประสาทสมั ผัสท้ัง 5 กระบวนการวเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์

คณุ ค่างานทศั นศิลป์ วธิ ีการสร้างงานทศั นศิลป์ ทอ่ งบทกลอน รอ้ งเพลง เคาะจงั หวะ เคลื่อนไหว
ร่างกายให้สอดคล้องกบั บทเพลง อา่ น เขียน และใช้สญั ลักษณแ์ ทนเสยี งและเคาะจงั หวะแสดงความคดิ เห็น
เก่ียวกบั ดนตรี และถ่ายทอดสงิ่ ทร่ี บั รูเ้ ป็นศิลป์

เห็นคุณค่างานทัศนศิลป์ ดนตรี นาฏศลิ ป์ทเี่ ป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภมู ิปญั ญาทอ้ งถิน่
ภมู ปิ ญั ญาไทย และรกั ความเปน็ ไทย

มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ศ๑.๑ ป๒/๑,ป๒/๒,ป๒/๓,ป๒/๔,ป๒/๕,ป๒/๖,ป๒/๗,ป๒/๘

ศ๑.๒ ป๒/๑,ป๒/๒
ศ๒.๑ ป๒/๑,ป๒/๒,ป๒/๓,ป๒/๔ป๒/๕

ศ๒.๒ ป๒/๑,ป๒/๒
ศ๓.๑ ป๒/๑,ป๒/๒,ป๒/๓,ป๒/๔,ป๒/๕
ศ๓.๒ ป๒/๑,ป๒/๒,ป๒/๓

รวมทงั้ หมด ๒๕ ตัวชีว้ ดั

-๗๐-

คาอธบิ ายรายวชิ า

ศ๑๓๑๐๑ ศลิ ปะ กลุ่มสาระการเรียนร้ศู ลิ ปะ
ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๓ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง/ปี

ศกึ ษาวเิ คราะหร์ ูปร่าง รูปทรงในธรรมชาติสง่ิ แวดลอ้ มและงานทศั นศิลป์ วสั ดุอปุ กรณ์ที่ใช้สร้าง

งานทศั นศลิ ป์ประเภทงานวาด งานป้นั งานพมิ พภ์ าพ เสน้ สี รูปรา่ ง รปู ทรง พน้ื ผิว ในธรรมชาติส่ิงแวดลอ้ ม
และงานทัศนศิลป์ การวาดภาพระบายสี สง่ิ ของรอบตวั ด้วยสีเทียน ดินสอสี และสโี ปสเตอร์ การใช้วสั ดุ
อุปกรณ์ในงานป้ัน การใชเ้ สน้ รปู ร่าง รปู ทรง สี และพ้ืนผวิ วาดภาพถ่ายทอดความคิดความรู้สึก วัสดุ

อุปกรณ์ เทคนิควิธีการในการสร้างงานทัศนศลิ ป์ การแสดงความคิดเห็นในงานทศั นศิลป์ของตนเอง การจดั
กลมุ่ ของภาพตามทัศนธาตุ รูปรา่ ง รปู ทรง ในงานออกแบบ ท่ีมาของงานทศั นศิลปใ์ นทอ้ งถน่ิ วัสดุ

อปุ กรณ์ และวธิ ีการสร้างงานทศั นศิลป์ในท้องถ่ิน รูปรา่ งลักษณะของเคร่อื งดนตรี เสยี งของเครื่องดนตรี
สัญลกั ษณ์แทนคุณสมบัติของเสยี ง (สูง-ตา่ ดงั -เบา ยาว-สัน้ ) สญั ลักษณแ์ ทนรูปแบบจังหวะ บทบาทหนา้ ที่
ของบทเพลงสาคญั การขบั ร้องและบรรเลงดนตรปี ระกอบเพลง การเคล่อื นไหวตามอารมณข์ องบทเพลง

การแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกบั เสยี งร้องและเสียงดนตรีการใชด้ นตรใี นโอกาสพิเศษ เอกลกั ษณ์ของดนตรี
ในท้องถิ่น ดนตรีกบั การดาเนินชวี ติ ในทอ้ งถ่ิน หลกั และวธิ ีการปฏบิ ัตินาฏศิลป์ หลักในการชมการแสดง

การบรู ณาการนาฏศลิ ปก์ ับสาระ การเรยี นรู้อื่น ๆ
โดยใชท้ ักษะการสงั เกต การใช้ประสาทสัมผัสทงั้ 5 กระบวนการวเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์

คณุ ค่างานทัศนศลิ ป์ วิธีการสร้างงานทศั นศิลป์ ท่องบทกลอน ร้องเพลง เคาะจังหวะ เคล่อื นไหวร่างกาย

ให้สอดคลอ้ งกับบทเพลง อา่ น เขียน และใช้สัญลักษณแ์ ทนเสียงและเคาะจังหวะแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับ
ดนตรี และถ่ายทอดสิง่ ท่ีรับร้เู ป็นศิลป์

เห็นคณุ ค่างานทศั นศลิ ป์ ดนตรี นาฏศลิ ปท์ เ่ี ป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภมู ิปญั ญาท้องถ่ิน ภูมิปัญญา
ไทย และรกั ความเป็นไทย

มาตรฐาน/ตัวชีว้ ดั
ศ๑.๑ ป๓/๑,ป๓/๒,ป๓/๓,ป๓/๔,ป๓/๕,ป๓/๖,ป๓/๗,ป๓/๘ ,ป๓/๙,ป๓/๑๐
ศ๑.๒ ป๓/๑,ป๓/๒

ศ๒.๑ ป๓/๑,ป๓/๒,ป๓/๓,ป๓/๔,ป๓/๕,ป๓/๖,ป๓/๗
ศ๒.๒ ป๓/๑,ป๓/๒
ศ๓.๑ ป๓/๑,ป๓/๒,ป๓/๓,ป๓/๔,ป๓/๕

ศ๓.๒ ป๓/๑,ป๓/๒,ป๓/๓

รวม ๒๙ ตวั ชี้วดั

-๗๑-

คาอธบิ ายรายวิชา

ศ๑๔๑๐๑ ศลิ ปะ กลมุ่ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ
ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๔ เวลา ๘๐ ชัว่ โมง/ปี

ศกึ ษาวเิ คราะห์รูปร่าง รูปทรง ในธรรมชาติ สงิ่ แวดล้อมและงานทศั นศลิ ป์ อทิ ธิพลของสี วรรณะอุ่น

และวรรณะเยน็ เสน้ สี รปู ร่าง รปู ทรง พน้ื ผวิ และพน้ื ทีว่ ่างในธรรมชาตสิ ่ิงแวดลอ้ มและงานทัศนศิลป์ การใช้

วสั ดุ อุปกรณ์สรา้ งงานพมิ พ์ภาพ การใช้วัสดุ อุปกรณใ์ นการวาดภาพระบายสี การจัดระยะความลกึ น้าหนัก

และแสงเงาในการวาดภาพ การใช้สีวรรณะอุ่นและใช้สีวรรณะเย็น วาดภาพถา่ ยทอดความรูส้ ึกและจินตนาการ

ความเหมือนและความแตกตา่ งในงานทัศนศลิ ปค์ วามคิดความรสู้ ึกท่ถี ่ายทอดในงานทศั นศิลป์ การเลือกใช้วรรณะ

สีเพื่อถา่ ยทอดอารมณ์ ความรสู้ ึก งานทัศนศิลปใ์ นวัฒนธรรมทอ้ งถิ่น งานทศั นศลิ ปจ์ ากวัฒนธรรมต่าง ๆ ประเภท

ของเคร่อื งดนตรี เสียงของเครื่องดนตรแี ตล่ ะประเภท การเคลือ่ น ท่ีขึ้น ลงของทานอง รปู แบบจงั หวะของทานอง

จงั หวะ รปู แบบจงั หวะ ความช้า – เรว็ ของจงั หวะ เครอ่ื งหมายและสัญลักษณท์ างดนตรี โครงสร้างโน้ตเพลงไทย

การขบั รอ้ งเพลงในบันไดเสียงท่เี หมาะสมกบั ตนเอง การใช้และการดแู ลรักษาเคร่อื งดนตรีของตน ความหมาย

ของเนื้อ หาในบทเพลง ความสมั พันธ์ของวถิ ีชีวิตกับผลงานดนตรี การอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมทางดนตรี หลักและ

วธิ กี ารปฏบิ ัตินาฏศิลป์ การใชภ้ าษาท่าและนาฏยศพั ทป์ ระกอบเพลงปลกุ ใจและเพลงพระราชนิพนธ์ การใช้

ศพั ทท์ างการละครในการถ่ายทอดเรอ่ื งราว การประดิษฐ์ท่าทางหรือท่าราประกอบจังหวะพ้ืนเมอื ง การแสดง

นาฏศลิ ป์ ประเภทคู่และหมู่ การเลา่ เรื่องความเป็นมาของนาฏศิลป์ ทีม่ าของชุดการแสดง การชมการแสดง

ความเปน็ มาของนาฏศลิ ป์
โดยใช้ทักษะการสงั เกต การใช้ประสาทสมั ผัสทงั้ 5 ทกั ษะพน้ื ฐานในการใชว้ สั ดุอุปกรณ์ เปรยี บเทยี บ

ความแตกต่างระหวา่ งงานทัศนศิลปท์ สี่ รา้ งสรรคด์ ว้ ยวัสดุอุปกรณ์และวธิ ีการท่ีแตกต่างกันการสงั เกต การอธิบาย
การบรรยาย การคดิ วเิ คราะห์ การวิจารณ์ ระบุผลงานที่อยู่รอบ ๆ ตวั และถ่ายทอดสงิ่ ที่รับร้เู ป็นศลิ ป์

เห็นคุณคา่ งานทัศนศลิ ป์ ดนตรี นาฏศลิ ป์ทเ่ี ป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภมู ิปญั ญาท้องถ่ิน ภมู ปิ ญั ญาไทย
และรกั ความเป็นไทย

มาตรฐาน/ตัวชี้วดั
ศ๑.๑ ป๔/๑,ป๔/๒,ป๔/๓,ป๔/๔,ป๔/๕,ป๔/๖,ป๔/๗,ป๔/๘,ป๔/๙
ศ๑.๒ ป๔/๑,ป๔/๒
ศ๒.๑ ป๔/๑,ป๔/๒,ป๔/๓,ป๔/๔,ป๔/๕,ป๔/๖,ป๔/๗

ศ๒.๒ ป๔/๑,ป๔/๒
ศ๓.๑ ป๔/๑,ป๔/๒,ป๔/๓,ป๔/๔,ป๔/๕
ศ๓.๒ ป๔/๑,ป๔/๒,ป๔/๓,ป๔/๔

รวม ๒๙ ตัวช้ีวัด

-๗๒-

คาอธิบายรายวชิ า

ศ๑๕๑๐๑ ศลิ ปะ กลมุ่ สาระการเรียนร้ศู ลิ ปะ
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ เวลา ๘๐ ชัว่ โมง/ปี

ศึกษาวิเคราะหจ์ ังหวะ ตาแหน่งของสิง่ ต่าง ๆ ในส่งิ แวดลอ้ มและงานทศั นศิลป์ ความแตกต่าง

ระหว่างงานทัศนศลิ ป์ แสงเงา น้าหนกั และวรรณะสี การสรา้ งงานป้ันเพ่อื ถ่ายทอดจนิ ตนาการด้วยการ

ใชด้ ินน้ามนั หรือดินเหนียว การจัดภาพในงานพิมพภ์ าพ การจดั องคป์ ระกอบศลิ ป์และการสอ่ื ความหมาย

ในงานทศั นศลิ ป์ ประโยชน์และคุณค่าของงานทัศนศลิ ป์ ลกั ษณะรูปแบบของงานทัศนศิลป์ งานทัศน-

ศิลป์ที่สะท้อนวฒั นธรรมและภูมปิ ัญญาในท้องถิ่น การสือ่ อารมณข์ องบทเพลงด้วยองค์ประกอบดนตรี

ลกั ษณะของเสยี งขบั ร้องและเครอ่ื งดนตรีที่อยู่ในวงดนตรปี ระเภทต่าง ๆ เครือ่ งหมายและสัญลกั ษณ์ทาง

ดนตรี การใช้เคร่อื งดนตรบี รรเลงจังหวะ และทานอง การรอ้ งเพลงไทยในอัตราจังหวะสองช้นั การร้อง

เพลงสากล หรือไทยสากล การร้องเพลงประสานเสียงแบบ Canon Round การสรา้ ง สรรคป์ ระโยคเพลง

ถาม-ตอบ การบรรเลงดนตรีประกอบกจิ กรรมนาฏศิลป์ การสรา้ งสรรคเ์ สยี งประ กอบการเลา่ เรอ่ื ง ดนตรี

กับงานประเพณี คณุ คา่ ของดนตรีจากแหลง่ วัฒนธรรม องคป์ ระกอบของนาฏศิลป์ การประดิษฐ์ท่าทาง

ประกอบเพลงหรอื ท่าทางประกอบเรอ่ื งราว การแสดงนาฏศิลป์ องคป์ ระกอบของละคร ที่มาของการแสดง

นาฏศลิ ป์ชุดต่าง ๆ หลกั การชมการแสดง การถ่ายทอดความรู้สกึ และคุณคา่ ของการแสดง การแสดง

นาฏศลิ ป์ประเภทตา่ ง ๆ ของไทยในแต่ละทอ้ งถนิ่ นาฏศลิ ป์พ้ืนบ้านที่สะทอ้ นถึงวฒั นธรรมและประเพณี
โดยใช้ทักษะการสังเกต การใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ทักษะพ้ืนฐานในการใช้วัสดุอุปกรณ์

เปรยี บเทยี บความแตกต่างระหว่างงานทศั นศิลป์ท่ีสร้างสรรค์ด้วยวัสดุอุปกรณ์และวิธีการที่แตกต่างกันการ
สงั เกต การอธิบาย การบรรยาย การคดิ วิเคราะห์ การวิจารณ์ ระบุผลงานที่อยู่รอบ ๆ ตัว และถ่ายทอด
สิ่งทีร่ ับร้เู ปน็ ศิลป์

เหน็ คุณคา่ งานทัศนศิลป์ ดนตรี นาฏศิลป์ท่ีเปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภูมิปญั ญาท้องถ่ินภูมิปัญญา
ไทย และรกั ความเป็นไทย

มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด
ศ๑.๑ ป๕/๑,ป๕/๒,ป๕/๓,ป๕/๔,ป๕/๕,ป๕/๖,ป๕/๗
ศ๑.๒ ป๕/๑,ป๕/๒

ศ๒.๑ ป๔/๑,ป๔/๒,ป๔/๓,ป๔/๔,ป๔/๕,ป๔/๖,ป๔/๗
ศ๒.๒ ป๕/๑,ป๕/๒

ศ๓.๒ ป๕/๑,ป๕/๒

รวม ๒๖ ตัวช้ีวัด

-๗๓-

คาอธิบายรายวชิ า

ศ๑๖๑๐๑ ศิลปะ กล่มุ สาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ
ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖ เวลา ๘๐ ชั่วโมง/ปี

ศึกษาวิเคราะหว์ งสีธรรมชาติ และสคี ู่ตรงขา้ ม หลกั การจัดขนาด สดั สว่ น ความสมดุลในงาน
ทศั นศลิ ป์ งานทัศนศลิ ป์รปู แบบ ๒ มติ ิ และ ๓ มิติ การใช้หลกั การเพิม่ และลดในการสรา้ งสรรคง์ านปัน้

รปู และพน้ื ทว่ี า่ งในงานทัศนศลิ ป์ การสรา้ งสรรคง์ านทัศนศลิ ปโ์ ดยใช้สคี ู่ตรงขา้ ม หลักการจดั ขนาด สัดส่วน
และความสมดุล การสรา้ งงานทัศนศิลป์เป็นแผนภาพ แผนผัง และภาพประกอบ บทบาทของงาน
ทศั นศิลป์ในชีวติ และสังคม อทิ ธิพลของศาสนาทม่ี ีตอ่ งานทศั นศลิ ป์ในทอ้ งถ่นิ อิทธิพลทางวัฒนธรรมใน

ท้องถ่นิ ทมี่ ีผล ต่อการสรา้ งงานทศั นศลิ ป์ องคป์ ระกอบดนตรีและศพั ท์สงั คีต เคร่อื งดนตรไี ทยแตล่ ะภาค
บทบาทและหนา้ ที่ของเคร่อื งดนตรี ประเภทของเคร่อื งดนตรสี ากล เครือ่ งหมายและสญั ลักษณ์ทางดนตรี

โน้ตบทเพลงไทย อตั ราจังหวะสองชนั้ โนต้ บทเพลงสากลในบนั ไดเสยี ง C Major การร้องเพลงประกอบ
ดนตรี การสรา้ งสรรค์รูปแบบจังหวะและทานองดว้ ยเครื่องดนตรี การบรรยายความรสู้ กึ และแสดงความ
คิดเหน็ ท่ีมีตอ่ บทเพลง ดนตรีไทยในประวตั ิศาสตร์การประดษิ ฐท์ ่าทางประกอบเพลงปลกุ ใจหรือเพลง

พ้นื เมอื งหรอื ท้องถ่นิ เนน้ ลลี าหรืออารมณ์ ออกแบบเครอ่ื งแต่งกาย หรอื อุปกรณ์ประกอบการแสดงอย่าง
งา่ ย ๆ การแสดงนาฏศิลป์และการแสดงละคร บทบาทและหนา้ ที่ในงานนาฏศลิ ป์และการละคร

หลักการชมการแสดง องค์ประกอบทางนาฏศิลป์และการละคร ความหมาย ความเป็นมา ความสาคัญ
ของนาฏศลิ ป์และละคร การแสดงนาฏศลิ ป์และละคร ในวันสาคัญของโรงเรียน

โดยใชท้ กั ษะการสงั เกต การใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ทกั ษะพน้ื ฐานในการใช้วัสดอุ ุปกรณ์

เปรยี บเทียบความแตกต่างระหว่างงานทศั นศิลปท์ ี่สรา้ งสรรค์ดว้ ยวัสดอุ ปุ กรณ์และวิธีการทีแ่ ตกต่างกัน
การสงั เกต การอธบิ าย การบรรยาย การคดิ วเิ คราะห์ การวจิ ารณ์ ระบผุ ลงานทอี่ ยู่รอบ ๆ ตัว และ

ถ่ายทอดส่ิงทรี่ บั ร้เู ปน็ ศิลป์
เห็นคณุ ค่างานทัศนศิลป์ ดนตรี นาฏศิลป์ทเี่ ป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน

ภูมิปัญญาไทย และรกั ความเปน็ ไทย

มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด
ศ ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗
ศ ๑.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓
ศ ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖

ศ ๒.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓
ศ ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖
ศ ๓.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒

รวม ๒๗ ตวั ชีว้ ดั

-๗๔-

โครงสร้างกลุม่ สาระการเรยี นรู้

กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชพี

รายวิชาพืน้ ฐาน รหัสวชิ า ช่ือวชิ า จานวนช่วั โมง/ปี

ลาดับท่ี ง๑๑๑๐๑ การงานอาชพี ๔๐
๑ ง๑๒๑๐๑ การงานอาชพี ๔๐
๒ ง๑๓๑๐๑ การงานอาชีพ ๔๐
๓ ง๑๔๑๐๑ การงานอาชพี ๔๐
๔ ง๑๕๑๐๑ การงานอาชพี ๔๐
๕ ง๑๖๑๐๑ การงานอาชีพ ๔๐


-๗๕-

คาอธิบายรายวชิ า
กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชพี

-๗๖-

คาอธบิ ายรายวชิ า

ง๑๑๑๐๑ การงานอาชีพ กลุม่ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี

ศึกษาความเขา้ ใจการทางาน มีความคดิ สร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทางาน ทักษะการจัดการ
ทกั ษะกระบวนการแกป้ ญั หา ทกั ษะการทางานร่วมกันและทักษะการแสวงหาความร้มู คี ณุ ธรรมและมี

ลกั ษณะ นิสัยในการทางาน มีจติ สานกึ ในการใช้พลงั งาน ทรพั ยากรและสิ่งแวดลอ้ ม เพ่อื การดารงชีวิตและ
ครอบครวั บอก วธิ กี ารทางานเพ่ือช่วยเหลอื ตนเอง

โดยใชท้ ักษะการใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และเครื่องมอื ในการทางาน กระบวนการทางานกล่มุ นาเสนอ
งานใหผ้ ู้อนื่ เขา้ ใจ

เพ่ือให้เกดิ ความรู้ ความเข้าใจ ใฝ่เรียนรู้ มีความรับผดิ ชอบ กระตือรือร้น ตรงต่อเวลา มีวนิ ยั
ทางานอย่างปลอดภยั เห็นคุณค่าการนาความรูไ้ ปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั และมเี จตคติท่ีดีตอ่ วชิ าการงานอาชีพ

มาตรฐาน/ตัวช้วี ัด
ง ๑.๑ ป๑/๑, ป๑/๒, ป๑/๓

รวมท้งั หมด ๓ ตัวชว้ี ัด

-๗๗-

คาอธิบายรายวิชา

ง๑๒๑๐๑ การงานอาชีพ กลุม่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี
ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง/ปี

ศกึ ษาวิธีการและประโยชน์การทางานเพ่อื ชว่ ยเหลือตนเองและครอบครวั การใชว้ ัสดุ อุปกรณ์
และเครอ่ื งมอื ในการทางานทเี่ หมาะสมและประหยัด การทางานเพอื่ ชว่ ยเหลอื ตนเองและครอบครวั
อย่างปลอดภัย ประโยชนส์ ง่ิ ของเครอื่ งใช้ในชีวติ ประจาวนั การสรา้ งของเล่นของใชอ้ ยา่ งงา่ ย การรวบรวม
ขอ้ มลู ออกแบบ ถา่ ยทอดความคดิ เป็นภาพร่าง ๒ มิติ การลงมือสรา้ งและประเมินผล การใช้อุปกรณ์
เครอ่ื งมอื ทีถ่ กู วิธไี ปประยุกตใ์ ช้ในการสรา้ งของเล่นของใชอ้ ย่างง่าย การคดิ สรา้ งสรรค์ เพอื่ แก้ปัญหาหรอื
สนองความตอ้ งการ ประโยชน์ของขอ้ มลู และการรวบรวมขอ้ มลู ที่สนใจจากแหล่งข้อมลู ต่างๆ ท่ีเช่ือถอื ได้
ประโยชน์และการรกั ษาแหลง่ ข้อมลู

โดยใชท้ กั ษะการใชว้ สั ดุ อุปกรณ์ เครอ่ื งมือในการทางานสร้างของเล่นของใช้ เหมาะสมกบั งาน
และประหยดั ทางานเพ่ือชว่ ยเหลอื ตนเองและครอบครัวอยา่ งปลอดภยั

มคี ุณธรรมและมีลักษณะ นสิ ยั ในการทางาน มีจิตสานึกในการใชพ้ ลังงาน ทรัพยากรและ
สงิ่ แวดลอ้ ม เพอ่ื การดารงชวี ติ และครอบครัว และมีเจตคติท่ดี ีตอ่ วชิ าการงานอาชีพ

มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั
ง ๑.๑ ป๒/๑, ป๒/๒, ป๒/๓

รวมทงั้ หมด ๓ ตัวชวี้ ดั

-๗๘-

คาอธบิ ายรายวชิ า

ง๑๓๑๐๑ การงานอาชีพ กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี

ศึกษาวิธีการและประโยชน์การทางาน เพื่อช่วยเหลือตนเอง ครอบครัวและส่วนรวม การใช้วัสดุ
อุปกรณ์ และเคร่ืองมือตรงกบั ลกั ษณะงาน การทางานอยา่ งเปน็ ขั้นตอนตามกระบวนการทางานด้วยความ
สะอาด ความรอบคอบ และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การสร้างของเล่นของใช้อย่างง่าย การรวบรวมข้อมูล

ออกแบบ โดยถ่ายทอดความคิดเป็นภาพร่าง ๒ มิติ การลงมือสร้างและประเมินผล การเลือกใช้ส่ิงของ
เครอ่ื งใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั อย่างสรา้ งสรรค์ การจดั การส่งิ ของเครือ่ งใช้ดว้ ยการนากลบั มาใชซ้ ้า

โดยใชท้ กั ษะการใช้วัสดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมอื ในการทางานสร้างของเล่นของใช้ นาสง่ิ ของเครือ่ งใช้
กลบั มาใช้ซ้า กระบวนการทางาน สืบคน้ ขอ้ มลู รวบรวมข้อมลู ออกแบบ ประเมินผลงาน ดูแลรักษาอุปกรณ์

เพื่อใหเ้ กดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ ใฝ่เรียนรู้ มีวนิ ัย ส่อื สัตย์สุจรติ มีความคิดสร้างสรรค์ ความ

รับผิดชอบ อย่อู ยา่ งพอเพียง มีจิตสาธารณะ มุ่งม่นั ในการทางาน และทางานอย่างมีประสิทธิภาพ เห็น

คุณค่าการนาความรไู้ ปใช้ในชวี ิตประจาวัน และมีเจตคติท่ีดตี อ่ วิชาการงานอาชีพ

มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั
ง ๑.๑ ป๓/๑, ป๓/๒, ป๓/๓

รวมทง้ั หมด ๓ ตัวช้ีวัด

-๗๙-

คาอธบิ ายรายวชิ า

ง๑๔๑๐๑ การงานอาชีพ กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ
ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๔ เวลา ๘๐ ชัว่ โมง/ปี

ศึกษาถึงเหตุผลในการทางานให้บรรลุเป้าหมาย การทางานบรรลุเป้าหมายท่ีวางไว้ อย่างเป็น
ขั้นตอน การปฏิบัติตนอย่างมีมารยาทในการทางาน การใช้พลังงานและทรัพยากรในการทางานอย่าง
ประหยัด และคุม้ ค่า ความหมายและความสาคญั ของอาชพี

โดยใชท้ กั ษะการอธิบาย กระบวนการทางาน การใชพ้ ลงั งานและทรพั ยากร สบื ค้นขอ้ มูล การใช้
คอมพิวเตอร์ โปรแกรมกราฟิก ออกแบบ นาเสนอใหผ้ อู้ ่ืนเขา้ ใจ

เพอื่ ใหเ้ กดิ ความรู้ ความเข้าใจ ใฝเ่ รียนรู้ มวี ินัย สอ่ื สัตยส์ ุจริต มคี วามคดิ สร้างสรรค์ ความ
รับผิดชอบ ขยนั อดทน อยู่อยา่ งพอเพยี ง มมี ารยาท ม่งุ ม่นั ในการทางาน และทางานอย่างมีประสทิ ธิภาพ
เห็นคณุ ค่าการนาความรไู้ ปใช้ในชวี ิตประจาวนั และมีเจตคติทีด่ ีต่อวิชาการงานอาชพี

มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด
ง ๑.๑ ป๔/๑, ป๔/๒, ป๔/๓ ,ป๔/๔
ง ๒.๑ ป๔/๑

รวม ๕ ตวั ช้วี ัด

-๘๐-

คาอธบิ ายรายวชิ า

ง๑๕๑๐๑ การงานอาชีพ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี
ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ เวลา ๘๐ ชว่ั โมง/ปี

ศึกษาการทางานแต่ละขั้นตอนตามกระบวนการทางาน การจัดการในการทางาน อยา่ งเปน็ ระบบ

ประณีต และมีความคดิ สรา้ งสรรค์ การปฏิบัตติ นอย่างมีมารยาทใน การทางานกับสมาชกิ ในครอบครัว
การใช้พลงั งานและทรัพยากรอยา่ งประหยัดและคุ้มคา่ ความหมายและววิ ฒั นาการของเทคโนโลยี การสรา้ ง
ส่ิงของเครอื่ งใชต้ ามความสนใจ โดยกาหนดปญั หาหรือความตอ้ งการ การรวบรวมข้อมูล เลือกวิธีการ

ออกแบบโดยถ่ายทอดความคิดเปน็ ภาพร่าง ๓ มิติ การลงมือสร้าง และประเมินผล การประยุกตก์ ารสรา้ ง
ชิ้นงานในการสร้างสง่ิ ของเครอ่ื งใช้ ความคดิ สร้างสรรค์ในการแกป้ ัญหาหรอื สนองความต้องการ การเลอื ก

ใช้เทคโนโลยีในชีวติ ประจาวันอย่างสรา้ งสรรคต์ ่อชีวติ สงั คม และมีการจัดการสงิ่ ของเครอื่ งใช้ดว้ ยการ
แปรรูป แล้วนากลับมาใช้ใหม่ การสารวจขอ้ มูลทีเ่ กี่ยวกบั อาชีพต่างๆ ในชมุ ชน ความแตกต่างของอาชีพ

โดยใชท้ ักษะกระบวนการทางาน ทักษะการจัดการ ทกั ษะกระบวนการแกป้ ัญหา ทักษะการ
ทางานร่วมกนั และทักษะการแสวงหาความร

เพอื่ ให้เกดิ ความรู้ ความเข้าใจ ใฝ่เรยี นรู้ มวี นิ ัย ส่อื สัตย์สุจรติ มีความคิดสรา้ งสรรค์ ความ
รบั ผิดชอบ มจี ติ สาธารณะ อย่อู ย่างพอเพียง มีมารยาท มุ่งมน่ั ในการทางาน และทางานอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
เหน็ คุณค่าการนาความรูไ้ ปใช้ในชวี ติ ประจาวัน และมีเจตคติทดี่ ีตอ่ วิชาการงานอาชพี และเทคโนโลยี

มาตรฐาน/ตวั ชีว้ ดั
ง ๑.๑ ป๕/๑, ป๕/๒, ป๕/๓ , ป๕/๔
ง ๒.๑ ป๕/๑, ป๕/๒,

รวม ๖ ตัวชว้ี ัด

-๘๑-

คาอธิบายรายวชิ า

ง๑๖๑๐๑ การงานอาชีพ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ เวลา ๘๐ ช่ัวโมง/ปี

ศึกษาแนวทางในการทางานและการปรับปรุงการทางานแตล่ ะขัน้ ตอน การจัดการในการทางาน

และการทางานร่วมกนั การปฏบิ ัตติ นอยา่ งมีมารยาทในการทางานกบั ครอบครับและผอู้ ่นื การสรา้ งสงิ่ ของ
เครือ่ งใชต้ ามความสนใจ โดยกาหนดปญั หาหรอื ตามความต้องการ การรวบรวมขอ้ มูล เลอื กวธิ ีการ
ออกแบบโดยถ่ายทอดความคิดเป็นภาพรา่ ง ๓ มิติ หรอื แผนท่ีความคิด การประยกุ ต์การสร้างช้ินงานใน

การสรา้ งสง่ิ ของเครื่องใช้ การวางแผนในการเลือกอาชีพ ความรู้ ความสามารถ และคุณธรรมทส่ี ัมพันธก์ ับ
อาชพี ที่สนใจ

โดยใชท้ ักษะการใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และเคร่อื งมือ สร้างส่ิงของเครอ่ื งใช้ กระบวนการทางานกลมุ่

เพือ่ ใหเ้ กิดความรู้ ความเข้าใจ ใฝ่เรียนรู้ มีวนิ ยั ส่อื สัตย์สุจรติ มีความคิดสร้างสรรค์
ความรบั ผิดชอบ มมี ารยาท มีจติ สานึก ม่งุ มั่นในการทางาน และทางานอยา่ งมีประสิทธภิ าพ เห็นคุณคา่
การนาความรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั และมเี จตคติที่ดีต่อวชิ าการงานอาชพี

มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด
ง ๑.๑ ป๖/๑, ป๖/๒, ป๖/๓
ง ๒.๑ ป๖/๑, ป๖/๒

รวม ๕ ตัวช้วี ัด

-๘๒-

โครงสร้างกลุ่มสาระการเรยี นรู้

กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ

รายวชิ าพนื้ ฐาน รหสั วชิ า ชอ่ื วิชา จานวนชัว่ โมง/ปี

ลาดับที่ อ๑๑๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๑๒๐
๑ อ๑๒๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๑๒๐
๒ อ๑๓๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๑๒๐
๓ อ๑๔๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๘๐
๔ อ๑๕๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๘๐
๕ อ๑๖๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๘๐


รายวิชาเพม่ิ เตมิ รหสั วชิ า ช่ือวชิ า จานวนชั่วโมง/ปี

ลาดบั ท่ี อ๑๑๒๐๑ ภาษาอังกฤษอา่ น เขยี น ๑ ๔๐
อ๑๒๒๐๑ ภาษาองั กฤษอา่ น เขยี น ๒ ๔๐
๑ อ๑๓๒๐๑ ภาษาองั กฤษอา่ น เขียน ๓ ๔๐
๒ อ๑๔๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพ่อื การสื่อสาร ๑ ๔๐
๓ อ๑๕๒๐๑ ภาษาอังกฤษเพื่อการส่อื สาร ๒ ๔๐
๔ อ๑๖๒๐๑ ภาษาอังกฤษเพอ่ื การสือ่ สาร ๓ ๔๐



-๘๓-

คาอธบิ ายรายวิชา
กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ

-๘๔-

คาอธบิ ายรายวิชา

อ๑๑๑๐๑ ภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ
ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ เวลา ๑๖๐ ชั่วโมง/ปี

ปฏบิ ัตติ าม คาส่ังง่ายๆ ที่ฟงั ตัวอกั ษรและเสียง และสะกดคางา่ ย ๆ ถูกต้องตามหลกั การอา่ น
ภาพตรงตามความหมายของคาและกล่มุ คาทฟี่ งั เรือ่ งใกลต้ วั คาสั้น ๆ ง่าย ๆ ในการส่ือสารระหวา่ งบคุ คล
ตามแบบท่ีฟงั คาสัง่ ง่าย ๆ ตามแบบทฟี่ ัง ความตอ้ งการงา่ ยๆของตนเองตามแบบท่ีฟงั การขอและให้

ขอ้ มลู งา่ ยๆ เกี่ยวกบั ตนเองตามแบบทฟ่ี งั ขอ้ มลู ง่ายๆ เก่ยี วกับตนเองและเรื่องใกลต้ วั ตามวัฒนธรรมของ
เจ้าของภาษา ช่อื และคาศพั ท์เก่ยี วกับเทศกาลสาคญั ของเจ้าของภาษา การเข้ารว่ มกจิ กรรมทางภาษาและ

วฒั นธรรมที่เหมาะสมกับวัย การระบุตวั อกั ษรและเสียงอกั ษรของภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ)และ
ภาษาไทย คาศพั ท์ทีเ่ ก่ยี วขอ้ งกับกลมุ่ สาระการเรียนรอู้ ่นื การฟงั /พดู ในสถานการณง์ ่ายๆทีเ่ กิดขึน้ ใน
หอ้ งเรียน การใช้ภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ)เพอ่ื รวบรวมคาศัพท์ท่ีเกีย่ วข้องใกลต้ ัว

โดยการระบุ อา่ นออกเสยี ง เลือก ตอบคาถาม พูดโต้ตอบ ใช้ บอก ทาทา่ ทาง เข้ารว่ มฟัง
เพื่อให้ผเู้ รียนมคี วามรู้ความเข้าใจและนาไปประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตประจาวัน เกดิ สมรรถนะตามความต้องการ

ของหลักสูตร มคี ุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ขึน้ ในตวั ของผูเ้ รยี น
สามารถอยรู่ ่วมกับผอู้ ื่นในสังคมได้อยา่ งมีความสขุ สามารถนาความร้ไู ปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้

หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและสามารถนาไปประยกุ ต์ใชก้ ับชวี ติ ประจาวันไดอ้ ย่างถูกตอ้ งเหมาะสม

มาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด
ต๑.๑ ป๑/๑,ป๑/๒,ป๑/๓,ป๑/๔
ต๑.๒ ป๑/๑,ป๑/๒,ป๑/๓,ป๑/๔
ต๑.๓ ป๑/๑
ต๒.๑ ป๑/๑,ป๑/๒,ป๑/๓
ต๒.๒ ป๑/๑
ต๓.๑ ป๑/๑
ต๔.๑ ป๑/๑
ต๔.๒ ป๑/๑

รวม ๑๖ ตัวช้ีวัด

-๘๕-

คาอธิบายรายวิชา

อ๑๒๑๐๑ ภาษาอังกฤษ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ
ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๒ เวลา ๑๖๐ ช่วั โมง/ปี

ปฏิบัตติ ามคาส่งั งา่ ยๆ และคาขอร้องง่ายๆ ทีฟ่ ัง ระบตุ ัวอกั ษรและเสียง อา่ นออกเสียงคา สะกด

คา และอ่านประโยคง่ายๆ ถกู ต้องตามหลกั การอ่าน เลอื กภาพตรงตามความหมายของคาและกลุ่มคาที่ฟงั
ตอบคาถามจากการฟังประโยค บทสนทนาหรือนทิ านง่าย ๆ ทม่ี ภี าพประกอบ พดู โต้ตอบดว้ ยคาส้ันๆ ง่าย
ๆในการสอ่ื สารระหวา่ งบุคคลตามแบบทีฟ่ งั ใช้คาส่งั และคาขอร้องงา่ ย ๆ ตามแบบทฟี่ ัง บอกความตอ้ งการ

ง่ายๆของตนเองตามแบบทฟี่ ัง พูดขอและให้ขอ้ มูลงา่ ยๆ เกยี่ วกับตนเองตามแบบทีฟ่ งั พดู ใหข้ ้อมูล เกยี่ วกับ
ตนเองและเร่ืองใกล้ตัว พดู และทาทา่ ทางประกอบตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา บอกชือ่ และคาศัพท์

เกีย่ วกับเทศกาลสาคญั ของเจ้าของภาษา การเขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมที่เหมาะสมกบั วยั
ระบุตวั อกั ษรและเสียงอกั ษรของภาษาตา่ งประเทศ(ภาษาอังกฤษ)และภาษาไทย บอกคาศัพท์ท่เี ก่ียวขอ้ ง
กับกลุ่มสาระการเรยี นรอู้ น่ื ฟงั /พูดในสถานการณ์งา่ ยๆท่เี กดิ ข้ึนในหอ้ งเรียน ใช้ภาษาต่างประเทศ

(ภาษาอังกฤษ)เพอื่ รวบรวมคาศพั ท์ทเี่ กีย่ วขอ้ งใกล้ตัว
โดยการระบุ อา่ นออกเสียง เลือก ตอบคาถาม พดู โต้ตอบ ใช้ บอก ทาทา่ ทาง เข้ารว่ มฟงั

เพื่อให้ผเู้ รยี นมีความร้คู วามเขา้ ใจและนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวนั เกดิ สมรรถนะตามความต้องการ
ของหลกั สูตร มคี ุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ขน้ึ ในตวั ของผ้เู รยี น

สามารถอยรู่ ว่ มกับผ้อู ื่นในสังคมได้อยา่ งมีความสุข สามารถนาความรูไ้ ปใช้ให้เกิดประโยชนโ์ ดยใช้

หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ช้กบั ชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งเหมาะสม

มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด
ต๑.๑ ป๒/๑,ป๒/๒,ป๒/๓,ป๒/๔
ต๑.๒ ป๒/๑,ป๒/๒,ป๒/๓,ป๒/๔

ต๑.๓ ป๒/๑
ต๒.๑ ป๒/๑,ป๒/๒,ป๒/๓

ต๒.๒ ป๒/๑
ต๓.๑ ป๒/๑
ต๔.๑ ป๒/๑

ต๔.๒ ป๒/๑

รวม ๑๖ ตัวชีว้ ัด

-๘๖-

คาอธิบายรายวชิ า

อ๑๓๑๐๑ ภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ
ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๓ เวลา ๑๖๐ ชวั่ โมง/ปี

ปฏบิ ัติตามคาส่งั และคาขอร้องท่ฟี ังหรอื อ่าน คา สะกดคา อา่ นกลุ่มคาประโยค และบทพูดเขา้

จังหวะ(chant)งา่ ย ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน ภาพหรือสญั ลกั ษณ์ตรงตามความหมายของคากลุ่มคาและ
ประโยคทีฟ่ ัง จากการฟังหรอื อ่านประโยค บทสนทนา หรือนทิ านง่ายๆ คาสน้ั ๆ งา่ ย ๆในการส่อื สาร

ระหวา่ งบคุ คลตามแบบทีฟ่ งั คาสงั่ และคาขอร้องง่าย ๆ ตามแบบทฟ่ี ัง ความตอ้ งการง่ายๆของตนเองตาม
แบบทีฟ่ งั ขอและใหข้ อ้ มูลง่ายๆ เกย่ี วกับตนเองและเพอ่ื นตามแบบท่ีฟงั ความรู้สึกของตนเองเก่ยี วกบั สิง่
ต่างๆ ใกล้ตัว หรือกิจกรรมตา่ งๆ ตามแบบทฟี่ งั ใหข้ อ้ มลู ง่ายๆ เกีย่ วกับตนเองและเร่ืองใกล้ตวั คาตาม

ประเภทของ บคุ คล สัตว์ และสง่ิ ของตามทีฟ่ ังหรืออ่าน มารยาทสงั คม/วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา ชอ่ื
และคาศพั ท์งา่ ยๆเก่ียวกับเทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลองและชีวติ ความเปน็ อย่ขู องเจ้าของภาษา กจิ กรรม

ทางภาษาและวัฒนธรรมท่เี หมาะสมกับวยั ความแตกต่างของเสยี งตัว อักษร คา กลมุ่ คา และประโยคงา่ ยๆ
ของภาษาตา่ งประเทศ(ภาษาอังกฤษ)และภาษาไทย คาศัพท์ทเี่ กยี่ วข้องกบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื
สถานการณ์งา่ ยๆทีเ่ กิดข้นึ ในหอ้ งเรียน ภาษาตา่ งประเทศ(ภาษาอังกฤษ)เพอ่ื รวบรวมคาศพั ทท์ ี่เกยี่ วข้อง

ใกล้ตวั
โดยการอา่ นออกเสยี ง สะกดคา ฟัง พูด เลือก/ระบุ ตอบคาถาม พูดโต้ตอบ ใช้ บอก จดั

หมวดหมู่ ทาท่าประกอบ เข้าร่วมกิจกรรม เพ่ือให้มคี วามรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สามารถนาความรูไ้ ป
ปฏบิ ตั ใิ ห้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคม

มีคณุ ธรรม จริยธรรม สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกดิ ประโยชน์โดยใช้หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจ

พอเพียงและสามารถนาไปประยุกต์ใช้กบั ชวี ติ ประจาวนั ได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม

มาตรฐาน/ตวั ชวี้ ดั
ต๑.๑ ป๓/๑,ป๓/๒,ป๓/๓,ป๓/๔
ต๑.๒ ป๓/๑,ป๓/๒,ป๓/๓,ป๓/๔,ป๓/๕

ต๑.๓ ป๓/๑,ป๓/๒
ต๒.๑ ป๓/๑,ป๓/๒,ป๓/๓

ต๒.๒ ป๓/๑
ต๓.๑ ป๓/๑
ต๔.๑ ป๓/๑

ต๔.๒ ป๓/๑

รวม ๑๘ ตวั ชี้วัด

-๘๗-

คาอธบิ ายรายวชิ า

อ๑๔๑๐๑ ภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ เวลา ๘๐ ชวั่ โมง/ปี

ปฏิบัติตามคาส่งั คาขอรอ้ ง และคาแนะนา ง่าย ๆที่ฟงั หรอื อา่ น อ่านออกเสยี งคา สะกดคา
อ่านกลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความงา่ ยๆ และบทพดู เข้าจงั หวะ ถกู ตอ้ งตามหลักการอ่าน เลือก/ระบุภาพหรอื
สญั ลกั ษณ์ หรือเครอื่ งหมายตรงตามความหมายของประโยคและข้อความสนั้ ๆท่ฟี งั หรอื อ่าน ตอบคาถาม
จากการฟังหรืออ่านประโยค บทสนทนา หรอื นทิ านง่ายๆ พูด/เขยี นโตต้ อบในการสื่อสารระหว่างบคุ คล
ใชค้ าสง่ั คาขอร้อง และคาขออนุญาตง่าย ๆ พูด/เขียนแสดงความตอ้ งการของตนเองตามและขอความ
ชว่ ยเหลือในสถานการณง์ ่ายๆ พดู /เขียนเพอื่ ขอและใหข้ อ้ มูล เกย่ี วกบั ตนเองเพื่อน และครอบครวั พดู
แสดงความร้สู ึกของตนเองเกยี่ วกบั เรือ่ งต่างๆ ใกล้ตวั หรอื กจิ กรรมตา่ งๆ ตามแบบทีฟ่ งั พูด/เขยี นใหข้ ้อมลู
งา่ ยๆ เก่ียวกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ วั พดู /วาดภาพแสดงความสมั พันธ์ของสิง่ ต่างๆใกล้ตัวท่ีฟงั หรืออา่ น พูด
แสดงความคิดเหน็ ง่ายๆ เกีย่ วกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ ัว พดู และทาท่าประกอบอยา่ งสภุ าพตามมารยาท
สงั คม/วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา ตอบคาถามเกยี่ วกับเทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลองและชวี ติ ความเป็นอยู่
ง่ายๆของเจา้ ของภาษา การเข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมทเี่ หมาะสมกับวัย บอกความ
แตกตา่ งของเสยี งตัว อักษร คา กลุ่มคา ประโยค และข้อความ ของภาษาต่างประเทศ(ภาษาองั กฤษ)และ
ภาษาไทย บอกความเหมอื น/ความแตกตา่ งระหวา่ งเทศกาลและงานฉลองตามวัฒนธรรม ของเจ้าของ
ภาษากับของไทย คน้ คว้ารวบรวม คาศัพท์ทเ่ี ก่ียวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนร้อู ่นื และนาเสนอด้วย
การพูด/การเขียน ฟงั /พดู ในสถานการณ์ทเ่ี กดิ ข้ึนในหอ้ งเรยี นและสถานศกึ ษา ใชภ้ าษาตา่ งประเทศ
(ภาษาองั กฤษ)ในการสืบคน้ และรวบรวมข้อมลู ต่างๆ

โดยการฟงั พูด อ่าน เขยี น ระบุ อา่ นออกเสยี ง เลือก ตอบคาถาม พูดโตต้ อบ ใช้ บอก ทาท่าทาง
เขา้ รว่ มกิจกรรม เพื่อให้ผู้เรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจและนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวัน เกิดสมรรถนะ
ตามความต้องการของหลักสูตร

มคี ุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ขึ้นในตัวของผู้เรียน และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนในสังคมได้อย่างมี
ความสุข สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และสามารถ
นาไปประยกุ ต์ใช้กับชวี ิตประจาวนั ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งเหมาะสม

มาตรฐาน/ตัวช้วี ัด
ต๑.๑ ป๔/๑,ป๔/๒,ป๔/๓,ป๔/๔
ต๑.๒ ป๔/๑,ป๔/๒,ป๔/๓,ป๔/๔,ป๔/๕
ต๑.๓ ป๔/๑,ป๔/๒,ป๔/๓
ต๒.๑ ป๔/๑,ป๔/๒,ป๔/๓
ต๒.๒ ป๔/๑,ป๔/๒
ต๓.๑ ป๔/๑
ต๔.๑ ป๔/๑
ต๔.๒ ป๔/๑

รวม ๒๐ ตวั ชว้ี ัด

-๘๘-

คาอธบิ ายรายวชิ า

อ๑๕๑๐๑ ภาษาอังกฤษ กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ
ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๕ เวลา ๘๐ ชว่ั โมง/ปี

ศกึ ษาวิเคราะหก์ ารปฏิบัติตามคาส่ัง คาขอร้องและคาแนะนางา่ ย ๆ ทฟี่ ัง และอ่าน อ่านออก
เสยี งประโยค ข้อความและบทกลอนสนั้ ๆ ถกู ต้องตามหลักการอา่ น วาดภาพ สญั ลักษณห์ รือเครอื่ งหมาย
ตรงตามความหมายของประโยคและข้อความสนั้ ๆ ทฟ่ี ังหรืออ่าน การบอกใจความสาคัญและการตอบ
คาถามจากการฟงั และอา่ น บทสนทนาและนิทานง่าย ๆ หรือเร่อื งส้นั ๆ การพูด เขียนโตต้ อบในการส่ือสาร
ระหว่างบุคคล ใช้คาสั่ง คาขอรอ้ ง คาขออนญุ าตและให้คาแนะนางา่ ย ๆ การพดู เขียนแสดงความต้องการ
ขอความชว่ ยเหลอื ตอบรบั และปฏเิ สธการให้ความช่วยเหลอื ในสถานการณ์ง่าย ๆ การพดู เขยี นเพื่อขอ
และให้ขอ้ มูลเกย่ี วกบั ตนเอง เพอื่ นครอบครัวและเรอ่ื งใกล้ตวั พูด เขียนแสดงความรสู้ กึ ของตนเองเกย่ี วกบั
เรอื่ งตา่ ง ๆ ใกล้ตัวและกิจกรรมต่าง ๆ พร้อมทงั้ ให้เหตุผลสน้ั ๆ ประกอบ การพดู เขยี นใหข้ ้อมลู เกยี่ วกบั
ตนเองและเร่อื งใกล้ตัว เขยี นภาพ แผนผังและแผนภมู แิ สดงข้อมลู ตา่ ง ๆ ตามท่ฟี งั หรอื อา่ น การพูดแสดง
ความคิดเห็นเกีย่ วกบั เร่อื งตา่ ง ๆ ใกลต้ วั ใช้ถ้อยคานา้ เสยี งและกรยิ าท่าทางอย่างสภุ าพตามมารยาทสงั คม
และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ตอบคาถาม การบอกความสาคัญของเทศกาลวนั สาคัญ งานฉลองและชีวติ
ความเปน็ อยู่ง่าย ๆของเจา้ ของภาษา เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ การบอก
ความเหมือนความแตกต่างระหว่างการออกเสียง ประโยคชนิดตา่ ง ๆ การใช้เคร่อื งหมายวรรคตอนและการ
ลาดับคาตามโครงสร้างประโยคของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย บอกความเหมอื น ความแตกต่าง
ระหวา่ งเทศกาลและงานฉลองของเจา้ ของภาษากับของไทย รวบรวมคาศัพทท์ ี่เกี่ยวข้องกับกล่มุ สาระการ
เรยี นรู้อ่นื และนาเสนอการพูด การเขยี น ฟัง พูด และอา่ น เขยี นในสถานการณ์ต่าง ๆ ทเี่ กดิ ขน้ึ ในห้องเรียน
และสถานศึกษา ใช้ภาษาต่างประเทศในการสบื ค้นและรวบรวมข้อมลู ต่าง ๆ

โดยการฟงั พดู อ่าน เขยี น ระบุ อ่านออกเสยี ง เลือก ตอบคาถาม พูดโต้ตอบ ใช้ บอก ทาทา่ ทาง
เข้าร่วมกิจกรรม เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนมคี วามรูค้ วามเขา้ ใจและนาไปประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจาวัน เกิดสมรรถนะ
ตามความต้องการของหลกั สูตร

มคี ุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ข้นึ ในตัวของผู้เรียน และสามารถอยู่ร่วมกบั ผูอ้ ื่นในสงั คมได้อย่าง
มีความสุข สามารถนาความรูไ้ ปใชใ้ หเ้ กิดประโยชนโ์ ดยใชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและสามารถ
นาไปประยุกต์ใช้กบั ชวี ิตประจาวันได้อยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม

มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด
ต๑.๑ ป๕/๑,ป๕/๒,ป๕/๓,ป๕/๔
ต๑.๒ ป๕/๑,ป๕/๒,ป๕/๓,ป๕/๔,ป๕/๕
ต๑.๓ ป๕/๑,ป๕/๒,ป๕/๓
ต๒.๑ ป๕/๑,ป๕/๒,ป๕/๓
ต๒.๒ ป๕/๑,ป๕/๒
ต๓.๑ ป๕/๑
ต๔.๑ ป๕/๑
ต๔.๒ ป๕/๑

รวม ๒๐ ตวั ชวี้ ัด

-๘๙-

คาอธบิ ายรายวิชา

อ๑๖๑๐๑ ภาษาองั กฤษ กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ
ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ เวลา ๘๐ ช่ัวโมง/ปี

ปฏิบตั ิตามคาสัง่ คาขอรอ้ ง และคาแนะนา ท่ีฟังและอา่ น อา่ นออกเสียง ขอ้ ความ นทิ าน และ
บทกลอนส้นั ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน เลอื ก/ระบุประโยค หรอื ข้อความส้ัน ๆ ตรงตามภาพ สัญลักษณ์

หรือเคร่ืองหมายท่อี ่าน บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังหรืออ่าน บทสนทนา หรือนทิ าน
ง่ายๆและเร่ืองเล่า พดู /เขยี นโตต้ อบในการสือ่ สารระหว่างบคุ คล ใชค้ าส่ัง คาขอรอ้ ง และคาขออนุญาต
และให้คาแนะนา พูด/เขยี นแสดงความต้องการ ขอความช่วยเหลือ ตอบรบั และปฏเิ สธการใหค้ วาม

ชว่ ยเหลอื ในสถานการณ์งา่ ย ๆ พดู /เขยี นเพ่ือขอและให้ข้อมูล เกย่ี วกบั ตนเอง เพ่อื น ครอบครวั และเรอ่ื ง
ใกลต้ ัว พูด/เขียนแสดงความร้สู ึกของตนเองเกย่ี วกบั เรือ่ งต่างๆ ใกลต้ วั หรอื กจิ กรรมตา่ งๆ พรอ้ มทั้งให้

เหตุผลสน้ั ๆ ประกอบ พดู /เขียนให้ขอ้ มูล เกี่ยวกบั ตนเอง เพือ่ น และสงิ่ แวดลอ้ มใกล้ตวั เขยี นภาพ แผนผัง
และแผนภูมแิ สดงข้อมูลตา่ งๆตามทีฟ่ งั หรอื อ่าน พดู เขียนแสดงความคดิ เห็น เก่ียวกบั เรื่องตา่ ง ๆ ใกล้ตัว ใช้
ถอ้ ยคา น้าเสยี ง และกริ ิยาทา่ ทางอยา่ งสุภาพ เหมาะสมตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา

ให้ขอ้ มลู เกยี่ วกับเทศกาล/วนั สาคัญ/งานฉลอง/ชีวิตความเป็นอยขู่ องเจา้ ของภาษา การเข้ารว่ มกจิ กรรมทาง
ภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ บอกความเหมอื น/ความแตกตา่ งระหว่างการออกเสยี งประโยคชนดิ

ตา่ งๆ การใช้เครอ่ื งหมายวรรคตอน และการลาดับคา ตามโครงสร้าง ประโยค ของภาษาต่างประเทศ
(ภาษาอังกฤษ)และภาษาไทย เปรยี บเทยี บความเหมอื น/ความแตกต่างระหว่างเทศกาลงานฉลอง และ
ประเพณีของเจา้ ของภาษากับของไทย ค้นคว้ารวบรวม คาศพั ท์ที่เก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรอู้ นื่ จาก

แหลง่ การเรยี นรู้ และนาเสนอด้วยการพดู /การเขยี น ใชภ้ าษาส่อื สารในสถานการณต์ า่ งๆที่เกิดขึน้ ใน
ห้องเรยี นและสถานศึกษา ใช้ภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ)ในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลตา่ ง ๆ

โดยการฟัง พดู อา่ น เขยี น ระบุ อ่านออกเสยี ง เลอื ก ตอบคาถาม พูดโตต้ อบ เข้าร่วม
เปรียบเทียบ ค้นคว้า ใช้ บอก เพอ่ื ใหผ้ ้เู รยี นมีความร้คู วามเขา้ ใจและนาไปประยุกต์ใช้ในชวี ติ ประจาวนั
เกดิ สมรรถนะตามความตอ้ งการของหลกั สูตร

มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ข้ึนในตัวของผู้เรียน และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมี
ความสุข สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถ

นาไปประยกุ ต์ใช้กับชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ย่างถูกต้องเหมาะสม

มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ัด

ต๑.๑ ป๖/๑,ป๖/๒,ป๖/๓,ป๖/๔
ต๑.๒ ป๖/๑,ป๖/๒,ป๖/๓,ป๖/๔,ป๖/๕
ต๑.๓ ป๖/๑,ป๖/๒,ป๖/๓
ต๒.๑ ป๖/๑,ป๖/๒,ป๖/๓
ต๒.๒ ป๖/๑,ป๖/๒
ต๓.๑ ป๖/๑
ต๔.๑ ป๖/๑
ต๔.๒ ป๖/๑
รวม ๒๐ ตวั ชี้วัด

-๙๐-

คาอธบิ ายรายวชิ าเพม่ิ เตมิ

อ๑๑๒๐๑ ภาษาองั กฤษอา่ น เขียน ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี

ศึกษา วิเคราะห์ตัวอกั ษร เสยี งตวั อกั ษรและสระ การสะกดคา และประโยค หลกั การอ่านออก
เสยี งคา กลุม่ คา คาสั่งและคาขอรอ้ งทใ่ี ชใ้ นห้องเรียน บทสนทนา หรือนิทานทมี่ ภี าพประกอบ ประโยค

คาถามและคาตอบ บทสนทนา ข้อมลู เก่ียวกับตนเอง กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
คาศัพท์เกี่ยวกบั เทศกาลสาคัญของเจ้าของภาษา ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย คาศพั ท์ที่เกย่ี วข้องกบั
กลมุ่ สาระการเรียนรูอ้ นื่ การใช้ภาษาในการฟัง/พดู ในสถานการณ์งา่ ย ๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรียน การใชภ้ าษา

ต่างประเทศในการรวบรวมคาศพั ท์ท่ีเกี่ยวข้องใกล้ตวั จากสือ่ ต่าง ๆ
โดยใชก้ ระบวนการทางภาษานามาปฏบิ ตั ิ ไดแ้ ก่ การฟัง การพูดโต้ตอบและทาท่าประกอบ

การอา่ นออกเสียง การระบตุ ัวอักษร
เพอื่ ให้นกั เรียนมีความสามารถในการสื่อสาร การคิดการใช้เทคโนโลยี มวี ินัย ใฝ่เรียนรู้ ม่งุ มน่ั ใน

การทางาน มเี จคตทิ ด่ี ีต่อวชิ าภาษาองั กฤษ

ผลการเรยี นรู้
๑. นกั เรียนสามารถใช้คาทกั ทาย คาอาลา และใช้ท่าทางประกอบไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง
๒. นกั เรียนสามารถเขยี นและอ่านออกเสียงคาศพั ท์ที่กาหนดให้ได้

๓. นกั เรยี นเข้าใจและปฏบิ ัตติ ามคาสง่ั ง่ายๆ
๔. นักเรียนสามารถให้ข้อมูลเก่ียวกับตนเอง และขอ้ มูลของผูอ้ ื่นได้

๕. นักเรียนสามารถสะกดคาศัพท์ได้ถูกตอ้ ง
๖. นกั เรียนสามารถถาม-ตอบประโยคงา่ ยๆ

รวม ๖ ผลการเรยี นรู้

-๙๑-

คาอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ

อ๑๒๒๐๑ ภาษาองั กฤษอา่ น เขยี น ๒ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ
ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๒ เวลา ๔๐ ช่วั โมง/ปี

ศกึ ษา วิเคราะหต์ วั อักษร เสียงตวั อักษรและสระ การสะกดคาและประโยค หลกั การอ่านออก

เสียงคา กลุม่ คา คาสัง่ และคาขอรอ้ งทใี่ ช้ในห้องเรยี น บทสนทนา หรือนิทานที่มีภาพประกอบ ประโยค
คาถามและคาตอบ บทสนทนา ข้อมูลเกย่ี วกับตนเอง กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา

ศัพทเ์ ก่ยี วกับเทศกาลสาคญั ของเจา้ ของภาษา ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย คาศพั ท์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม
สาระการเรยี นรอู้ ื่น การใช้ภาษาในการฟัง/พดู ในสถานการณ์ง่าย ๆ ท่ีเกดิ ขึ้นในหอ้ งเรยี น การใช้ภาษา
ต่างประเทศในการรวบรวมคาศัพท์ท่ีเกยี่ วข้องใกล้ตัวจากสือ่ ต่าง ๆ

โดยใชก้ ระบวนการทางภาษานามาปฏบิ ัติ ไดแ้ ก่ การฟงั การพูดโตต้ อบและทาท่าประกอบ
การอา่ นออกเสยี ง การระบตุ ัวอักษร

เพื่อใหน้ ักเรียนมคี วามสามารถในการส่อื สาร การคิด การใช้เทคโนโลยี และ มีวินยั ใฝเ่ รียนรู้
มงุ่ มน่ั ในการทางาน และมีเจคตทิ ่ีดตี ่อวิชาภาษาอังกฤษ

ผลการเรียนรู้
๑. นักเรียนสามารถใชค้ าทักทาย คาอาลา และใช้ทา่ ทางประกอบไดอ้ ย่างถูกต้อง
๒. นักเรียนสามารถเขยี นและอ่านออกเสยี งคาศัพทท์ ่กี าหนดให้ได้
๓. นักเรยี นเข้าใจและปฏบิ ัติตามคาสั่งง่ายๆ
๔. นักเรยี นสามารถให้ข้อมูลเกย่ี วกบั ตนเอง และขอ้ มลู ของผู้อื่นได้
๕. นักเรียนสามารถสะกดคาศัพท์ได้ถกู ตอ้ ง
๖. นกั เรียนสามารถถาม-ตอบประโยคงา่ ยๆ

รวม ๖ ผลการเรียนรู้

-๙๒-

คาอธบิ ายรายวิชาเพมิ่ เติม

อ๑๓๒๐๑ ภาษาองั กฤษอา่ น เขียน ๓ กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ
ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง/ปี

ศึกษา วเิ คราะห์ คา กลุ่มคาประโยคคาส่งั คาขอร้อง บทพดู เขา้ จงั หวะตามหลกั การอา่ น ภาพ

และสญั ลกั ษณต์ รงตามความหมายของกล่มุ คาและประโยค ความต้องการของตนเองตามแบบทฟ่ี งั นทิ าน
คาถาม ประโยค บทสนทนา ข้อมลู เกยี่ วกับตนเองและเพื่อน ขอ้ มูลเกีย่ วกับตนเองและเรอื่ งใกล้ตวั

หมวดหมูค่ าตามประเภทของบุคคล สตั ว์ และสิง่ ของ มารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา ชือ่
และคาศพั ทเ์ กีย่ วกบั เทศกาลวนั สาคัญ งานฉลอง ชีวิตความเป็นอยขู่ องเจ้าของภาษา คา กลุม่ คาประโยค
ของภาษาตา่ งประเทศและของไทย กจิ กรรมทางภาษาวัฒนธรรมที่เหมาะกบั วัย ความแตกตา่ งของเสยี ง

ตัวอักษร คาศัพท์ท่เี ก่ยี วขอ้ งกับกลุ่มสาระการเรยี นรอู้ น่ื รวมทง้ั สถานการณท์ เี่ กดิ ข้ึนในหอ้ งเรยี นและ
คาศพั ท์ท่ีเกย่ี วข้องใกลต้ วั

โดยใช้กระบวนการทางภาษานามาปฏิบตั ิ ได้แก่ การฟงั การพูดโต้ตอบและทาท่าประกอบ
การอา่ นออกเสยี ง การระบุตัวอักษร

เพอื่ ให้นักเรียนมีความสามารถในการส่อื สาร การคิด การใช้เทคโนโลยี และ มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้

มุง่ ม่นั ในการทางาน และมีเจคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษ

ผลการเรียนรู้
๑. นกั เรยี นสามารถใช้คาทกั ทาย คาอาลา และใช้ทา่ ทางประกอบไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง
๒. นักเรียนสามารถเขยี นและอา่ นออกเสียงคาศพั ท์ท่ีกาหนดให้ได้

๓. นักเรยี นเข้าใจและปฏบิ ัตติ ามคาสง่ั ง่ายๆ
๔. นักเรยี นสามารถใหข้ อ้ มลู เกีย่ วกบั ตนเอง และขอ้ มลู ของผ้อู ่ืนได้

๖. นกั เรียนสามารถสะกดคาศพั ท์ได้ถกู ต้อง
๖. นักเรยี นสามารถถาม-ตอบประโยคง่ายๆ

รวม ๖ ผลการเรยี นรู้

-๙๓-

คาอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติม

อ๑๔๒๐๑ องั กฤษเพ่ือการส่ือสาร ๑ กล่มุ สาระการเรียนรูภ้ าษาต่างประเทศ
ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๔ เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี

การพฒั นาทกั ษะการฟงั และการพดู โดยฝึกปฏิบัติตามขั้นตอนและทักษะยอ่ ยของกระบวนการ
ฟงั กระบวนการพูด ใช้ภาษาส่ือสาร รบั และส่งสารในรปู แบบการสนทนาในสถานการณ์ท่หี ลากหลาย

โดยใช้คาศพั ท์ สานวน โครงสร้างภาษาไดถ้ ูกต้องตามวัตถปุ ระสงคข์ องการสอื่ สาร สรา้ งสรรค์และ
ดาเนนิ การสนทนากับชาวตา่ งชาติไดอ้ ย่างต่อเนือ่ ง เหมาะสมตามกาลเทศะและมารยาทสงั คม

โดยใชท้ กั ษะการสือ่ สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนขอ้ มลู ขา่ วสาร ความคิดรวบยอดและความ

คิดเห็นในเร่อื งต่างๆโดยผ่านการพูดและการเขยี น
ตระหนักถึงความสาคัญความหลากหลายทางวัฒนธรรมและมุมมองของโลก มนิ สิ ยั ใฝ่เรียนรู้

ผลการเรียนรู้
๑. ปฏิบัตติ ามขั้นตอนของกระบวนการฟงั ได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ มีทักษะในการฟัง โดยสามารถตีความ

วิเคราะหเ์ รื่องที่ฟงั น้าเสียง กรยิ าท่าทางและสรุปความ ถ่ายโอนเปน็ ภาษาพูดและเขยี นได้

๒. ปฏบิ ตั ิตามข้นั ตอนของกระบวนการพูดไดอ้ ย่างถกู ต้อง โดยสามารถพูดนาเสนอในท่ีชุมชน ในหัวข้อ
ต่างๆ ได้อย่างสรา้ งสรรค์

๓. สร้างสรรคภ์ าษาในการสนทนา แลกเปลย่ี นข้อมูลและสร้างความสัมพันธร์ ะหว่างบุคคล โดยใช้
คาศัพท์ สานวน โครงสรา้ งภาษาใหเ้ หมาะสมกบั สถานการณ์และมารยาทสังคม

๔. ใช้ภาษาองั กฤษในการสือ่ สารไดท้ ุกสถานการณ์

๕. มคี วามเชอ่ื มั่นในการใชภ้ าษาองั กฤษกบั ชาวต่างชาติ

รวม ๕ ผลการเรยี นรู้

-๙๔-

คาอธบิ ายรายวชิ าเพมิ่ เตมิ

อ๑๕๒๐๑ อังกฤษเพอื่ การสือ่ สาร ๒ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ
ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๕ เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี

การพัฒนาทกั ษะการฟงั และการพดู โดยฝกึ ปฏบิ ัตติ ามข้ันตอนและทกั ษะย่อยของกระบวน การ
ฟงั กระบวนการพูด ใชภ้ าษาสอ่ื สาร รบั และสง่ สารในรูปแบบการสนทนาในสถานการณ์ที่หลาก หลาย

โดยใชค้ าศพั ท์ สานวน โครงสรา้ งภาษาได้ถูกตอ้ งตามวัตถปุ ระสงค์ของการส่ือสาร สร้างสรรค์และ
ดาเนนิ การสนทนากับชาวตา่ งชาติได้อย่างตอ่ เนื่อง เหมาะสมตามกาลเทศะและมารยาทสังคม

โดยใชท้ กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอดและความ

คดิ เหน็ ในเร่อื งตา่ งๆโดยผา่ นการพูดและการเขียน
เห็นคณุ ค่าและตระหนกั ในความสาคัญของการใช้ภาษาสอื่ สารอยา่ งสรา้ งสรรค์

ผลการเรียนรู้
๑. ปฏิบัตติ ามขนั้ ตอนของกระบวนการฟงั ได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ มีทกั ษะในการฟัง โดยสามารถตีความ

วิเคราะหเ์ รือ่ งที่ฟัง น้าเสียง กริยาทา่ ทางและสรุปความ ถ่ายโอนเปน็ ภาษาพดู และเขยี นได้

๒. ปฏิบัตติ ามขัน้ ตอนของกระบวนการพูดไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง โดยสามารถพดู นาเสนอในที่ชมุ ชน ในหัวข้อ
ตา่ งๆ ไดอ้ ยา่ งสร้างสรรค์

๓. สรา้ งสรรคภ์ าษาในการสนทนา แลกเปลย่ี นข้อมูลและสรา้ งความสัมพันธ์ระหวา่ งบคุ คล โดยใช้
คาศัพท์ สานวน โครงสร้างภาษาให้เหมาะสมกบั สถานการณ์และมารยาทสงั คม

๔. ใช้ภาษาอังกฤษในการสือ่ สารไดท้ กุ สถานการณ์

๕. มีความเช่ือม่นั ในการใชภ้ าษาอังกฤษกับชาวต่างชาติ

รวม ๕ ผลการเรยี นรู้


Click to View FlipBook Version