The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

2 หลักสูตรรายวิชา คณิต ป.2 - 64

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by beepraphatson, 2022-09-06 07:44:42

2 หลักสูตรรายวิชา คณิต ป.2 - 64

2 หลักสูตรรายวิชา คณิต ป.2 - 64

เกณฑก์ ารผ่าน ตั้งแต่ระดบั พอใชข้ ึ้นไป

เกณฑก์ ารประเมนิ ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์

ประเด็นการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ 1 2
0

การส่ือสารและการสื่ ไม่นำเสนอ ใช้รปู แบบของการส่ือสาร ใช้รูปแบบของการส่ือสาร

อความหมายทางคณิ และไมม่ กี ารบันทกึ ผลงาน การส่อื ความหมายและกา การสอ่ื ความหมายและนำ

ตศาสตร์ รนำเสนอดว้ ยวิธีการทเ่ี หม เสนอดว้ ยวธิ กี ารเหมาะสม

าะสมได้เพยี งบางส่วน ชดั เจน

และบันทึกผลงานทุกขัน้ ต รวมทง้ั บนั ทึกผลงานในทกุ

อนอย่างสมเหตุสมผล ขั้นตอนอย่างสมเหตุสมผล

การเชอ่ื มโยง ไมม่ ีการเชอ่ื มโยงความรคู้ มกี ารเช่อื มโยงความรู้คณติ มกี ารเชอ่ื มโยงความรคู้ ณิต

ณติ ศาสตร์ ศาสตร์ เน้ือหา ศาสตร์ เนื้อหา หลกั การ

หลกั การและวธิ กี ารทางค และวิธกี ารทางคณิตศาสต

ณิตศาสตร์ เพื่อชว่ ย ร์

เพือ่ ช่วยในการแก้ปญั หา

หรอื ประยุกตใ์ ชไ้ ด้อยา่ งเห

มาะสม

การให้เหตผุ ล ไมม่ ีการอ้างองิ มีการอ้างอิงท่ถี ูกต้องสมส่ มกี ารอ้างอิง

หรือแนวคดิ ประกอบการตั วนและเสนอแนวคดิ ประก เสนอแนวคดิ ประกอบการ

ดสนิ ใจ อบการตัดสินใจ ตดั สินใจอยา่ งถูกต้องและ

สมเหตุสมผล

เกณฑ์การประเมนิ

คะแนน 6 หมายถงึ ดมี าก คะแนน 5 หมายถงึ ดี

คะแนน 4 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 0 – 3 หมายถึง ปรับปรงุ

เกณฑก์ ารผ่าน ตง้ั แต่ระดบั พอใช้ข้ึนไป

เกณฑ์การประเมนิ คณุ ลักษณะ(A)
ประเด็นการปร ระดบั คณุ ภาพ
ะเมนิ 0 1 2 3

หลกั สตู รกล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหม่หนองบวั

ความรับผดิ ชอ ไมท่ ำงานท่ีได้รบั มอ ทำงานตามท่ไี ด้รบั ม ทำงานตามท่ีได้รับม ทำงานที่ได้รบั มอบห
บ บหมาย
อบหมายแต่ไม่สำเรจ็ อบหมายสำเร็จแต่ต้ มายสำเรจ็ อย่างเตม็
ตรงต่อเวลา เขา้ เรยี นสายและไม่
สง่ งาน องมีผูค้ วบคุม ที่ดว้ ยตนเอง

เขา้ เรียนสายและสง่ ง เข้าเรียนตรงเวลาแต่ เขา้ เรียนตรงเวลาแล
านช้ากวา่ กำหนด 1 สง่ งานช้ากว่ากำหนด ะสง่ งานตามกำหนด
– 2 วนั 1 – 2 วัน

เกณฑก์ ารประเมิน คะแนน 5 หมายถึง ดี
คะแนน 6 หมายถึง ดมี าก คะแนน 0 – 3 หมายถงึ ปรับปรุง
คะแนน 4 หมายถงึ พอใช้

เกณฑก์ ารผา่ น ตง้ั แต่ระดับพอใช้ขน้ึ ไป

เกณฑ์การประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น (ระดับชัน้ ป.1 – ป.6)

พฤตกิ รรมบ่งช้ี ระดับคุณภาพ 1 2 3
0

สมรรถนะท่ี 2 ความสามารถในการคิด

ตัวชี้วัดท่ี 1 คดิ พนื้ ฐาน (การคิดวิเคราะห)์

1. มีพฤติกรรมบง่ ชี้ 1 มพี ฤติกรรมบ่งช้ี 2 มพี ฤติกรรมบง่ ชี้ 3 มพี ฤติกรรมบ่งช้ี

จำแนกข้อมูล พฤติกรรม พฤติกรรม พฤติกรรม ดงั นี้
จัดหมวดหมู่ หรือไม่มเี ลย 1. จำแนกข้อมูลได้
จัดลำดับ 2.

ความสำคัญของ จัดหมวดหมู่ขอ้ มลู ได้
ข้อมูลและเปรยี 3.
บเทยี บข้อมูล จัดลำดับความสำคัญ

ในบรบิ ทท่ีเป็น ของข้อมูลได้
สิง่ ใกล้ตัว 4.

เปรียบเทียบข้อมลู ได้

2. เชื่อโยงความสมั พนั ธ์ เชื่อโยงความสัมพนั ธ์ เชื่อโยงความสมั พันธ์ เช่อื โยงความสัมพนั ธ์

เช่ือมโยงความสั ของข้อมูลตา่ งๆกับเ ของข้อมลู ตา่ งๆกับเ ของขอ้ มูลตา่ งๆกับเ ของขอ้ มูลต่างๆกับเ
มพนั ธข์ อง หตุการณท์ ่ีพบเหน็ ใน หตกุ ารณท์ ่ีพบเห็นใน หตุการณท์ ่ีพบเหน็ ใน หตกุ ารณท์ ่ีพบเหน็ ชี
ข้อมูลท่ีพบเห็น ชีวิตประจำวันได้ต่ำก ชีวติ ประจำวันได้ร้อย ชวี ิตประจำวนั ไดร้ ้อย วิตประจำวันไดอ้ ย่าง

หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหมห่ นองบวั

ใน บริบททเี่ ป็น ว่ารอ้ ยละ 40 ละ 40 – 59 ละ 60 – 79 ถกู ต้องรอ้ ยละ 80
ส่งิ ใกลต้ วั ของจำนวนครั้งท่ีปฏิ ของจำนวนคร้ังท่ปี ฏิ ของจำนวนครง้ั ทป่ี ฏิ ขน้ึ ไปของจำนวนคร้ัง
บัติ บัติ ทปี่ ฏิบัติ
บัติ
3. ระบรุ ายละเอียด ระบุรายละเอยี ด ระบรุ ายละเอียด ระบุรายละเอียด
ระบุรายละเอยี คณุ ลกั ษณะและควา คุณลักษณะและควา คณุ ลกั ษณะและควา คณุ ลกั ษณะและควา
ด มคดิ รวบยอดของข้อ มคดิ รวบยอดของข้อ มคดิ รวบยอดของข้อ มคดิ รวบยอดของข้อ
คุณลักษณะแล มูลต่างๆท่ีพบเหน็ ใน มูลตา่ งๆท่ีพบเห็นใน มูลตา่ งๆท่ีพบเหน็ ใน มูลตา่ งๆที่พบเหน็ ใน
ะความคดิ รวบย ชวี ิตประจำวันไม่ได้ ชวี ติ ประจำวันได้ถูก ชีวติ ประจำวันได้ถูก ชวี ติ ประจำวันไดถ้ ูก
อดของข้อมูลต่า ตอ้ งเปน็ บางส่วนและ ต้องแต่ไม่ครบถ้วน ตอ้ งและครบถว้ น
งๆทพ่ี บเหน็ ใน ไม่ครบถว้ น
บรบิ ทที่เป็นส่งิ ใ
กล้ตวั

เกณฑ์การประเมิน

คะแนน 8 - 9 หมายถึง ดีมาก คะแนน 7 หมายถึง ดี

คะแนน 5 - 6 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 0 – 4 หมายถึง ปรับปรุง

เกณฑ์การผา่ น ต้งั แต่ระดบั พอใชข้ ้ึนไป

เกณฑ์การประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (ระดบั ชนั้ ป.1 – ป.3)

ประเดน็ การปร ระดับคุณภาพ

ะเมนิ 0 1 2 3

ขอ้ ที่ 3 มวี นิ ัย

ตวั ชว้ี ดั ท่ี 3.1 ไมป่ ฏิบตั ติ นตามข้อต ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง ปฏิบัตติ ามข้อตกลง ปฏิบตั ติ ามข้อตกลง

ปฏิบัตติ ามข้อต กลง กฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์ ระเบียบ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบียบ

กลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคับ ขอ้ บังคบั ข้อบังคบั ของครอบค ข้อบงั คับของครอบค

ระเบยี บ ของครอบครัวและโร ของครอบครวั และโร รวั และโรงเรียนโดยต้ รวั และโรงเรยี นได้ด้ว

ข้อบงั คบั ของคร งเรียน งเรียน องมีการเตือนเปน็ บา ยตนเอง

อบครวั งครั้ง

โรงเรยี นและสัง

คม

เกณฑ์การประเมิน

หลกั สตู รกล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหม่หนองบวั

คะแนน 3 หมายถงึ ดีมาก คะแนน 2 หมายถงึ ดี

คะแนน 1 หมายถึง พอใช้ คะแนน 0 หมายถงึ ปรบั ปรงุ

เกณฑก์ ารผา่ น ต้งั แตร่ ะดับพอใช้ขึ้นไป

กิจกรรมการเรยี นรู้
อธบิ าย ทำกจิ กรรม และ ทำแบบฝกึ หัด
- การนบั ทีละ 2 ทีละ 5 ทีละ 10 และทลี ะ 100
- การอ่านและการเขยี นตวั เลขฮนิ ดอู ารบิก ตวั เลขไทย และตัวหนังสือแสดงจำนวน
- จำนวนคู่ จำนวนคี่
- หลกั ค่าของเลขโดดในแตล่ ะหลัก และการเขยี นตวั เลขแสดงจำนวนในรปู กระจาย
- การเปรยี บเทยี บและเรียงลำดับจำนวน
- แบบรปู ของจำนวนทเ่ี พ่ิมขึ้นหรือลดลงทีละ 2 ทลี ะ 5 และทีละ 100
ทดสอบประจำหน่วย

สื่อการเรียนรู้
- แบบฝึกหัด
- ใบกจิ กรรม
- บตั รภาพ
- สอ่ื ของจรงิ ประกอบการจดั กิจกรรม
- แผน่ ตารางรอย
- แผ่นตารางสบิ
- แผนตารางหนว่ ย
- แถบจำนวน
- สื่อวีดที ัศนค์ า่ ของเลขโดด
- แบบทดสอบประจำหน่วย

หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหม่หนองบวั

แบบบนั ทกึ หน่วยการเรยี นรู้

ค 12101 คณิตศาสตร์ 2 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 2 เรื่องการบวกและการลบจำนวนนับ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 2 เวลา 29 ช่ัวโมง

ไมเ่ กนิ 1,000

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

มาตรฐาน ค 1.1

เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน

การดำเนินการของจำนวนผลทีเ่ กดิ ข้นึ จากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนนิ การ และนำไปใช้

ตัวช้วี ดั
ค 1.1 ป.2/4

หาคา่ ของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการบวกและประโยคสัญลักษณ์แสดงการลบของจ
ำนวนนบั ไม่เกิน 1,000 และ 0

สาระสำคัญ

- การบวกจำนวนสองจำนวนอาจหาผลบวกไดโ้ ดยใชเ้ สน้ จำนวน หรอื แผน่ ตารางรอ้ ย
แผนตารางสบิ และแผ่นตารางหน่วย

- การหาผลบวกโดยการตง้ั บวก ตอ้ งเขยี นเลขโดดในหลักเดียวกนั ให้ตรงกัน
แล้วจึงนำจำนวนทอ่ี ยู่ในหลกั เดียวกันมาบวกกนั โดยเร่มิ จากหลกั หนว่ ย
หลักสิบและหลกั ร้อย ตามลำดับ ถ้าผลบวกในหลักหน่วยเป็น 1 สบิ หรือมากกวา่ 1 สบิ
ตอ้ งทด 1 สิบ ไปรวมกบั จำนวนในหลักสบิ หรือถ้าผลบวกในหลักสบิ เปน็ 1
รอ้ ยหรือมากกวา่ 1 ร้อย ตอ้ งทด 1 รอ้ ยไปรวมกับจำนวนในหลักร้อย

- การบวกจำนวนสองจำนวนสามารถสลับท่ีไดผ้ ลบวกยังคงเท่าเดิม

- การบวกจำนวนสามจำนวน จะบวกจำนวนสองจำนวนใดก่อนก็ได้
แล้วบวกจำนวนท่เี หลือผลบกเท่ากัน

หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหมห่ นองบวั

หาผลบวกโดยการต้ังบวกทำไดโ้ ดยนำจนวนในหลักเดยี วกนั มาบวกกนั
ถ้าผลบวกในหลักใดเปน็ จำนวนสองหลกั ใหท้ ดจำนวนในหลกั สบิ ไปรวมกับจำนวนในหลัก
ถดั ไปทางซ้าย
- การลบจำนวนสองจำนวนอาจหาผลลบไดโ้ ยใชเ้ ส้นจำนวนหรอื แผน่ ตารางร้อย
แผน่ ตารางสบิ และแผ่นตารางหน่วย
- ผลลบบวกตวั ลบเทา่ กบั ตวั ตั้ง
- การหาผลลบของจำนวนสองจำนวนโดยการตง้ั ลบ
ต้องเขยี นเลขโดดในหลกั เดยี วกันให้ตรงกนั
แล้วจึงนำจำนวนที่อย่ใู นหลกั เดียวกันมาลบกนั โดยเร่ิมจากหลกั หนว่ ย หลกั สบิ
และหลกั รอ้ ย ตามลำดบั
● ถา้ เลขโดดในหลักหนว่ ยของตัวตั้งมีค่านอ้ ยกวา่ เลขโดดในหลักหน่วยของตวั ลบ

ตอ้ งกระจายจำนวนจากหลักสิบไปหลักหน่วย
● ถา้ เลขโดดในหลักสิบของตัวตั้งมคี า่ น้อยกวา่ เลขโดดในหลักสบิ ของตวั ลบ

ตอ้ งกระจายจำนวนจากหลักรอ้ ยไปหลักสิบ
- การหาผลลบของจำนวนสามจำนวนโดยการต้ังลบ

ให้นำจำนวนสองจำนวนมาลบกนั ก่อนแลว้ นำผลลบไปลบกับจำนวนท่ีเหลอื
- ความสัมพันธ์ของการบวกและการลบเมื่อจำนวนสองจำนวนบวกกัน

ผลบวกที่ไดล้ บดว้ ยจำนวนใดจำนวนหนึง่ ในสองจำนวนนนั้
ผลลบคือจำนวนอกี จำนวนหน่งึ
- การหาคา่ ของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสัญลักษณก์ ารบวกและประโยคสญั ลักษณ์การลบ
สามารถใชค้ วามสัมพนั ธ์ของการบวกและการลบ
- การแกโ้ จทยป์ ญั หาทำไดโ้ ดย อา่ นทำความเขา้ ใจปญั หา วางแผนแกป้ ัญหา
หาคำตอบและตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคำตอบ
- การสรา้ งโจทยป์ ัญหา ตอ้ งมที ้ังส่วนทโี่ จทยบ์ อกและส่วนท่โี จทยถ์ าม
และโจทยป์ ญั หาทีส่ ร้างต้องมีความเปน็ ไปได้

สาระการเรียนรู้

ความรู้ (K)
- การบวกและการลบ
- การแก้โจทยป์ ัญหาและการสร้างโจทย์ปัญหา พรอ้ มทั้งหาคำตอบ

หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหม่หนองบวั

ทกั ษะ/กระบวนการ (P)
- การแกป้ ัญหา
- การสื่อสารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์
- การเชื่อมโยง
- การใหเ้ หตผุ ล
- ความคิดสรา้ งสรรค์

คุณลกั ษณะ (A)
- ความตง้ั ใจและกระตือรือรน้ ในการเรียน
- ทำงานอย่างเป็นระบบและมรี ะเบียบ

สมรรถนะสำคัญ
- สมรรถนะท่ี 3 ความสามารถในการแกป้ ัญหา
ตัวชี้วัดท่ี 1 ใช้กระบวนการแกป้ ัญหาโดยวิเคราะหป์ ญั หา วางแผนในการแก้ปญั หา
ดำเนนิ การแก้ปัญหา ตรวจสอบและสรปุ ผล
ตัวช้ีวดั ท่ี 2 ผลลัพธ์ของการแกป้ ัญหา

คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
- ข้อที่ 6 มุ่งมนั่ ในการทำงาน

ชิน้ งานหรอื ภาระงาน
- ใบกจิ กรรม การบวกและการลบจำนวนนับไมเ่ กนิ 1,000
- แบบฝึกหัด

การประเมนิ ผล

เกณฑ์การประเมินการทำใบกจิ กรรมและแบบฝึกหัด

ประเด็นการประเมิ ระดบั คณุ ภาพ

น 01 2 3 4
ทำใบกิจกรรม ทำใบกจิ กรรม ทำใบกจิ กรรม
การทำใบกจิ กรรมแ ไมท่ ำหรือไมส่ ่ ทำใบกจิ กรรม และแบบฝกึ หั และแบบฝกึ หั และแบบฝกึ หั

ละแบบฝกึ หัด ง และแบบฝึกหั

หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหมห่ นองบวั

ดได้ถูกตอ้ งน้อ ดไดถ้ ูกต้องร้อ ดได้ถูกตอ้ งรอ้ ดได้ถูกตอ้ งรอ้
ยละ 80 ขน้ึ ไป
ยกวา่ ร้อยละ ยละ 50 - 64 ยละ 65 - 79

50

เกณฑก์ ารประเมนิ

คะแนน 4 หมายถึง ดีมาก คะแนน 3 หมายถงึ ดี

คะแนน 2 หมายถึง พอใช้ คะแนน 0 – 1 หมายถึง ปรบั ปรงุ

เกณฑก์ ารผ่าน ต้งั แตร่ ะดบั พอใช้ขึน้ ไป

เกณฑก์ ารประเมินทักษะกระบวนการทางคณติ ศาสตร์

ประเดน็ การประเมิน ระดบั คณุ ภาพ 1(พอใช้) 2(ด)ี
0(ปรบั ปรงุ )

การแกป้ ัญหา ไมม่ ีร่องรอยการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใช้วธิ ี ความสามารถในการใชว้ ิธี

หรอื ทำไม่ได้ ดำเนนิ การแก้ปัญหา ดำเนินการแกป้ ญั หา

และการอธิบายถึงเหตผุ ลใ และการอธิบายถงึ เหตุผลใ

นการใช้วิธีการดงั กล่าวได้เ นการใชว้ ธิ กี ารดงั กลา่ วได้เ

พียงบางส่วน ข้าใจและชัดแจน

การส่ือสารและการสื่ ไม่นำเสนอ ใช้รูปแบบของการส่ือสาร ใชร้ ปู แบบของการสื่อสาร

อความหมายทางคณิ และไมม่ ีการบนั ทึกผลงาน การสอื่ ความหมายและกา การสือ่ ความหมายและนำ

ตศาสตร์ รนำเสนอดว้ ยวธิ กี ารท่เี หม เสนอดว้ ยวธิ กี ารเหมาะสม

าะสมได้เพยี งบางส่วน ชัดเจน

และบันทึกผลงานทุกขน้ั ต รวมทัง้ บันทกึ ผลงานในทุก

อนอย่างสมเหตุสมผล ขั้นตอนอย่างสมเหตุสมผล

การเชอ่ื มโยง ไม่มีการเชื่อมโยงความรคู้ มีการเชื่อมโยงความรคู้ ณติ มีการเช่ือมโยงความร้คู ณติ

ณติ ศาสตร์ ศาสตร์ เนอ้ื หา ศาสตร์ เนอื้ หา หลกั การ

หลกั การและวธิ ีการทางค และวธิ ีการทางคณิตศาสต

ณิตศาสตร์ เพื่อช่วย ร์

เพ่อื ช่วยในการแก้ปญั หา

หรอื ประยุกต์ใช้ได้อยา่ งเห

มาะสม

การให้เหตุผล ไมม่ ีการอ้างอิง มกี ารอ้างอิงทถี่ ูกต้องสมส่ มกี ารอ้างอิง

หรือแนวคิดประกอบการตั วนและเสนอแนวคิดประก เสนอแนวคิดประกอบการ

ดสนิ ใจ อบการตดั สินใจ

หลกั สตู รกล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหม่หนองบวั

ความคดิ สรา้ งสรรค์ ไม่มผี ลงาน มีแนวคดิ / ตัดสนิ ใจอย่างถกู ต้องและ
วิธีการทไ่ี มแ่ ปลกใหม่ สมเหตุสมผล
แต่สามารถนำไปปฏิบัติได้
ถูกต้อง มแี นวคิด /
วิธีการทีแ่ ปลกใหมส่ ามาร
ถนำไปปฏบิ ัติได้ถูกต้องสม
บูรณ์

เกณฑ์การประเมิน

คะแนน 9 – 10 หมายถงึ ดมี าก คะแนน 7 – 8 หมายถึง ดี

คะแนน 5 – 6 หมายถึง พอใช้ คะแนน 0 – 4 หมายถึง ปรับปรงุ

เกณฑก์ ารผา่ น ต้งั แต่ระดบั พอใชข้ น้ึ ไป

เกณฑก์ ารประเมินคุณลกั ษณะ(A)

ประเด็นการประ ระดับคณุ ภาพ

เมนิ 0 1 2 3

ความต้ังใจและก ไมส่ นใจซักถามปัญห ต้ังใจและกระตือรือร้ ตัง้ ใจและกระตือรือร้ ตงั้ ใจและกระตือรือร้

ระตอื รือร้นในกา าขอ้ สงสยั เลย นในการเรียน นในการเรียน นในการเรียน

รเรยี น สนใจซกั ถามปัญหาข้ สนใจซกั ถามปญั หาข้ สนใจซกั ถามปญั หาข้

อสงสยั อย่บู ้างเป็นบา อสงสยั เป็นส่วนใหญ่ อสงสัยอยเู่ สมอ

งครง้ั

ทำงานอย่างเปน็ ทำงานโดยไม่มกี ารว ทำงานโดยวางแผนบ้ วางแผนในการทำงา มกี ารวางแผนแลว้ ป
ระบบและมีระเบี างแผนและทำงานไม่ างเลก็ นอ้ ยและทำงา นแต่ทำงานไมเ่ รียบร้ ฏบิ ตั ิตามอย่างเป็นร
ยบ เรียบรอ้ ย นไมเ่ รยี บร้อยเท่าท่ีค อยเท่าที่ควร ะบบและทำงานเปน็
วร ระเบียบเรียบรอ้ ย

เกณฑก์ ารประเมนิ

คะแนน 6 หมายถงึ ดีมาก คะแนน 5 หมายถึง ดี

คะแนน 4 หมายถึง พอใช้ คะแนน 0 – 3 หมายถงึ ปรับปรุง

เกณฑ์การผ่าน ต้งั แต่ระดบั พอใช้ขน้ึ ไป

หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหมห่ นองบวั

เกณฑ์การประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน (ระดับชน้ั ป.1 – ป.6)

พฤตกิ รรมบ่งช้ี ระดบั คุณภาพ 1 2 3
0

สมรรถนะท่ี 3 ความสามารถในการแกป้ ญั หา

ตวั ชี้วดั ท่ี 1 ใช้กระบวนการแก้ปญั หาโดยวเิ คราะหป์ ัญหา วางแผนในการแกป้ ญั หา ดำเนนิ การแก้ปัญหา

ตรวจสอบและสรุปผล

1.

วเิ คราะหป์ ญั หา

1.1 ระบปุ ัญหาตา่ งๆท่ีเกิ ระบปุ ัญหาต่างๆทเี่ กิ ระบปุ ญั หาต่างๆท่เี กิ ระบุปัญหาต่างๆทเี่ กิ

ระบปุ ญั หาทเ่ี กดิ ดขน้ึ กบั ตนเองไมไ่ ด้ห ดข้นึ กับตนเองที่ตรง ดข้นึ กับตนเองท่ีตรง ดขึ้นกับตนเองที่ตรง

ขึ้นกับตนเอง รอื ระบุไดแ้ ต่ไมต่ รงส กับสภาพปัญหา 1 กบั สภาพปญั หา 2 กับสภาพปัญหามาก

ภาพปญั หา ปญั หา ปญั หา กว่า 2 ปญั หา

1.2 ระบุปญั หาต่างๆที่เกิ ระบปุ ัญหาตา่ งๆทเี่ กิ ระบปุ ัญหาตา่ งๆทีเ่ กิ ระบุปัญหาต่างๆทีเ่ กิ

ระบุปญั หาทีเ่ กดิ ดข้นึ กบั บุคคลใกลต้ วั ดขน้ึ กับบุคคลใกล้ตัว ดขน้ึ กับบุคคลใกลต้ ัว ดขึ้นกบั บุคคลใกล้ตวั

ขึ้นกับบุคคลใกล้ ไมไ่ ดห้ รอื ระบุได้แตไ่ ที่ตรงกับสภาพปัญห ท่ีตรงกับสภาพปัญห ท่ตี รงกบั สภาพปัญห

ตวั ม่ตรงสภาพปญั หา า 1 ปญั หา า 2 ปญั หา ามากกว่า 2 ปญั หา

1.3 ระบุสาเหตุของปญั ห ระบุสาเหตุของปญั ห ระบสุ าเหตุของปัญห ระบสุ าเหตุของปญั ห

ระบสุ าเหตุของปั าต่างๆท่ีเกิดได้สอดค าตา่ งๆทเ่ี กดิ ได้สอดค าตา่ งๆทเี่ กดิ ไดส้ อดค าต่างๆทเี่ กดิ ได้สอดค

ญหา ลอ้ งกบั ปัญหาไม่ไดห้ ล้องกับปัญหา 1 ล้องกับปญั หา 2 ล้องกบั ปัญหามากกว่

รอื ระบสุ าเหตุได้แต่ไ สาเหตุ สาเหตุ า 2 สาเหตุ

มส่ อดคล้องกับปัญห



1.4

จดั ระบบข้อมูล

- การจำแจก - - - -

จำแนกและจัดหมวด จำแนกและจัดหมวด จำแนกและจัดหมวด จำแนกและจัดหมวด

หมสู่ าเหตขุ องปัญหา หมสู่ าเหตขุ องปญั หา หมสู่ าเหตุของปญั หา หมสู่ าเหตขุ องปญั หา

ไม่ได้หรอื ไม่มีการจัด ไดถ้ ูกต้อง 1 ใน 3 ได้ถูกตอ้ ง 2 ใน 3 ไดถ้ ูกตอ้ งทกุ สาเหตุ

- การจดั ลำดับ หมวดหมู่ สาเหตุ สาเหตุ -

- - - มกี ารจดั ลำดบั ความ

ไม่มีการจดั ลำดบั ควา มกี ารจัดลำดบั ความ มีการจัดลำดบั ความ สำคัญสาเหตขุ องปัญ

หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหมห่ นองบวั

มสำคัญสาเหตขุ องปั สำคัญสาเหตุของปญั สำคัญสาเหตขุ องปญั หาได้อย่างสมเหตุสม

ญหาหรือจัดได้ไมส่ มเ หาได้อย่างสมเหตุสม หาไดอ้ ยา่ งสมเหตุสม ผลทุกสาเหตุ

- การเชือ่ มโยง หตสุ มผล ผล 1 ใน 3 สาเหตุ ผล 2 ใน 3 สาเหตุ -

- - แสดงการเชื่อมโยงค

- แสดงการเช่อื มโยงค แสดงการเชื่อมโยงค วามสัมพันธ์ระหว่าง

ไม่มีการแสดงการเชื่ วามสมั พันธร์ ะหว่าง วามสัมพันธร์ ะหว่าง สาเหตุของปัญหาแล

อมโยงความสมั พนั ธ์ สาเหตขุ องปัญหาแล สาเหตุของปัญหาแล ะผลที่จะเกิดขึ้นได้โด

ระหวา่ งสาเหตขุ องปั ะผลท่จี ะเกิดขึ้นได้โด ะผลท่ีจะเกิดข้นึ ไดโ้ ด ยมขี ้อสนบั สนนุ อย่าง

ญหาและผลทจี่ ะเกดิ ยมขี อ้ สนับสนุนอยา่ ง ยมขี ้อสนบั สนนุ อยา่ ง สมเหตุสมผลทุกสาเ

ขนึ้ สมเหตุสมผล 1 ใน 3 สมเหตุสมผล 2 ใน 3 หตุ

สาเหตุ สาเหตุ

1.5 กำหนดทางเลือกในก กำหนดทางเลือกในก กำหนดทางเลือกในก กำหนดทางเลือกในก

กำหนดทางเลือก ารแก้ปญั หาไม่ไดห้ รื ารแกป้ ัญหาที่มีความ ารแก้ปญั หาท่ีมคี วาม ารแกป้ ัญหาที่มคี วาม

อไม่มคี วามเป็นไปได้ เป็นไปได้มากกวา่ 1 เป็นไปได้ 2 วธิ ี เป็นไปได้มากกว่า 2

วธิ ี วิธี

1.6 ตัดสินใจเลอื กวธิ กี าร ตัดสินใจเลือกวธิ ีการ ตัดสนิ ใจเลือกวิธกี าร ตัดสนิ ใจเลือกวธิ กี าร

การตดั สนิ ใจเลอื แกป้ ญั หาโดยไม่พจิ า แก้ปัญหาโดยพิจาร แกป้ ัญหาโดยพจิ าร แกป้ ัญหาโดยพจิ าร

กวธิ กี าร รณาขอ้ ดีและข้อจำกั ณาข้อดีและข้อจำกัด ณาข้อดีและขอ้ จำกดั ณาข้อดแี ละขอ้ จำกัด

ดทำใหเ้ กดิ ผลกระท แตม่ ีผลกระทบในทา แต่มีผลกระทบในทา ซึ่งไมเ่ กดิ ผลกระทบใ

บในทางลบแก่ตนเอง งลบแกต่ นเองและผู้ งลบแก่ตนเองและผู้ นทางลบแก่ตนเองแ

และผู้อนื่ มากกว่า 2 อ่นื 2 ประเดน็ อ่ืน 1 ประเดน็ ละผอู้ นื่

ประเด็น

2. ไมม่ ีการวางแผนในก มกี ารวางแผนในการ มกี ารวางแผนในการ มีการวางแผนในการ

การวางแผนในก ารแกป้ ญั หา แกป้ ัญหาโดยใชข้ ้อมู แก้ปัญหาโดยใชข้ ้อมู แกป้ ัญหาโดยใชข้ ้อมู

ารแก้ปญั หา ลและรายละเอยี ด ลและรายละเอียด ลและรายละเอยี ด

ประกอบการวางแผ ประกอบการวางแผ ประกอบการวางแผ

น นมขี น้ั ตอนของแผนง นมขี น้ั ตอนของแผนง

าน านอยา่ งชัดเจน

และมีข้อมลู เพยี งพอ

3. การดำเนนิ การในการแกป้ ัญหา

หลกั สตู รกล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหม่หนองบวั

3.1 ไมม่ ีการปฏบิ ตั ิตามแ ปฏิบตั ิตามแผนการแ ปฏบิ ตั ิตามแผนการแ ปฏบิ ตั ติ ามแผนการแ
การปฏบิ ตั ิตามแ ผนการแก้ปัญหาท่วี า กป้ ัญหาที่กำหนดไว้
ผน งไว้ 1 ใน 3 ก้ปญั หาที่กำหนดไว้ กป้ ญั หาท่ีกำหนดไว้
ของขัน้ ตอนและมีขอ้
3.2 ไม่มีการตรวจสอบท มลู สนบั สนนุ สมบรู ณ์ 2 ใน 3 ทุกขนั้ ตอนมีขอ้ มลู ส
การตรวจสอบท บทวน มกี ารตรวจสอบทบท
บทวนแผน วนแผน ของข้นั ตอนและมีขอ้ นับสนนุ
ไมม่ ีการบันทึกผลกา
3.3 รปฏบิ ัตงิ าน มีการบันทึกผลการป มลู สนบั สนนุ สมบูรณ์ ครบถว้ นสมบูรณ์
การบนั ทกึ ผลกา ฏบิ ัติงานไมค่ รบทกุ ขั้
รปฏิบตั ิ นตอน มกี ารตรวจสอบทบท มีการตรวจสอบทบท

วนแผนและมกี ารแก้ วนแผนและมีการปรั

ไขข้อบกพร่องแต่ไม่ บปรงุ แก้ไขข้อบกพร่

สมบรู ณ์ อง ครบถว้ นสมบูรณ์

บนั ทึกผลการปฏบิ ัตงิ บันทึกผลการปฏิบตั ิง

านทกุ ขนั้ ตอน านทุกขน้ั ตอน

แตไ่ ม่ค่อยชัดเจน และมคี วามชัดเจน

4. ไมม่ ีการสรปุ และราย มกี ารสรุปผลการดำเ มกี ารสรปุ ผลและจัด มกี ารสรปุ ผลและจัด

สรุปผลและรายง งานผล นินงานแต่ไมไ่ ด้จัดทำ ทำรายงาน ทำรายงานอย่างถูกต้

าน รายงาน อง สมบูรณ์ ชัดเจน

ตวั ช้วี ดั ที่ 2 ผลลัพธข์ องการแกป้ ัญหา

1. ผลงาน/ชนิ้ งานที่เกดิ ผลงาน/ชน้ิ งานท่เี กดิ ผลงาน/ชิ้นงานทเ่ี กดิ ผลงาน/ชิ้นงานทีเ่ กิด

ผลลัพธข์ องการแ จากการแกป้ ญั หามคี จากการแกป้ ัญหามคี จากการแกป้ ัญหามีค จากการแกป้ ัญหามคี

ก้ปญั หา วามถูกต้องเหมาะสม วามถูกต้องเหมาะสม วามถกู ต้องเหมาะสม วามถูกต้อง

บนพนื้ ฐานของหลักเ บนพ้นื ฐานของหลกั เ บนพนื้ ฐานของหลักเ เหมาะสมบนพน้ื ฐาน

หตุผลและคุณธรรมต่ หตุผลและคุณธรรมอ หตผุ ลและคณุ ธรรมอ ของหลกั เหตุผลและ

ำกว่ารอ้ ยละ 50 ย่างนอ้ ยร้อยละ 50 ยา่ งนอ้ ยรอ้ ยละ 70 คณุ ธรรมอย่างนอ้ ยร้

ของปัญหาท่แี กไ้ ข – 69 – 79 อยละ 80 ขัน้ ไป

ของปัญหาที่แกไ้ ข ของปญั หาท่แี กไ้ ข ของปญั หาที่แก้ไข

เกณฑ์การประเมิน

คะแนน 31 - 36 หมายถงึ ดีมาก คะแนน 25 - 30 หมายถงึ ดี

คะแนน 19 - 24 หมายถึง พอใช้ คะแนน 0 - 18 หมายถงึ ปรบั ปรุง

เกณฑก์ ารผา่ น ตง้ั แตร่ ะดบั พอใชข้ ้นึ ไป

หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหม่หนองบวั

เกณฑ์การประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (ระดับชัน้ ป.1 – ป.3)

ประเดน็ การปร ระดบั คุณภาพ

ะเมิน 0 1 2 3

ขอ้ ที่ 6 มงุ่ มน่ั ในการทำงาน

ตวั ชี้วดั ท่ี 6.1 ไม่ตงั้ ใจปฏิบตั หิ นา้ ที่ เอาใจใส่ต่อการปฏบิ ั ตงั้ ใจและรับผดิ ชอบใ ตั้งใจและรับผดิ ชอบใ

ตงั้ ใจและรับผดิ การงาน ติหน้าที่ทีไ่ ด้รบั มอบ นการปฏิบัตหิ น้าทที่ ี่ไ นการปฏบิ ตั ิหน้าที่ท่ีไ

ชอบในการปฏิ หมาย ด้รับมอบหมายให้สำ ด้รับมอบหมายใหส้ ำ

บัติหนา้ ที่การงา เรจ็ เรจ็

น มกี ารปรบั ปรุงทำงาน

ใหด้ ีขึ้น

ตัวชีว้ ัดท่ี 6.2 ไม่ขยนั อดทน ทำงานด้วยความขยั ทำงานด้วยความขยั ทำงานด้วยความขยั

ทำงานดว้ ยควา ในการทำงาน น น น อดทน

มเพยี รพยายาม เพอ่ื ให้งานเสร็จตาม พยายามให้งานสำเร็ พยายามให้งานสำเร็

และอดทนเพื่อใ ที่ได้รับมอบหมาย จตามเป้าหมาย จตามเป้าหมาย

หง้ านสำเรจ็ ตา ช่นื ชมผลงานด้วยคว

มเปา้ หมาย ามภาคภูมิใจ

เกณฑ์การประเมิน คะแนน 5 หมายถงึ ดี
คะแนน 6 หมายถงึ ดีมาก คะแนน 0 – 3 หมายถงึ ปรบั ปรุง
คะแนน 4 หมายถงึ พอใช้

เกณฑก์ ารผา่ น ตั้งแต่ระดับพอใชข้ ึน้ ไป

หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหม่หนองบวั

กจิ กรรมการเรียนรู้
อธิบาย ทำกจิ กรรม และ ทำแบบฝึกหดั
- การบวกและการลบ
- การแกโ้ จทย์ปัญหาและการสร้างโจทย์ปญั หา พร้อมทั้งหาคำตอบ
ทดสอบประจำหนว่ ย

ส่อื การเรยี นรู้
- แบบฝกึ หดั
- ใบกิจกรรม
- บัตรภาพ
- เส้นจำนวน
- บตั รตวั เลข /เครื่องหมาย / สญั ลกั ษณ์ทางคณิตศาสตร์
- Bar Model
- แผ่นตารางรอย
- แผน่ ตารางสบิ
- แผนตารางหนว่ ย
- แถบจำนวน
- สื่อวีดที ัศน์ การบวก / การลบ
- แบบทดสอบประจำหนว่ ย

หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหม่หนองบวั

แบบบันทกึ หน่วยการเรยี นรู้

ค 12101 คณิตศาสตร์ 2 กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 เรอื่ ง การวัดความยาว ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 2 เวลา 17 ชั่วโมง

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

มาตรฐาน ค 2.1

เขา้ ใจพืน้ ฐานเกย่ี วกบั การวัด วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงที่ตอ้ งการวดั และนำไปใช้

ตัวชวี้ ัด
ค 2.1 ป.2/2 แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวก

การลบเกย่ี วกับความยาวทีม่ หี น่วยเปน็ เมตรและเซนตเิ มตร

หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหมห่ นองบวั

ค 2.1 ป.2/3 แสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปญั หาการบวก การลบ
เกยี่ วกบั ความยาวที่มหี นว่ ยเป็นเมตรและเซนติเมตร

สาระสำคัญ
- การวดั ความยาวหรอื ความสงู ของส่ิงตา่ งๆเป็นเซนติเมตร อาจวางเครอ่ื งมือวดั เร่ิมที่ 0
หรอื ไมเ่ ร่ิมที่ 0 ก็ได้
- การวัดระยะทางระหวา่ งตำแหนง่ สองตำแหนง่ ทำไดโ้ ดยวดั ความยาวตามเสน้ ทางที่กำหน
ดจากตำแหน่งหน่ึงไปอกี ตำแหน่งหนงึ่ ถา้ เสน้ ทางเป็นแนวเสน้ ตรง
ความยาวท่ีวัดได้อาจเรียกว่าระยะหา่ งระหวา่ งตำแหน่งสองตำแหนง่ น้ัน
- การบอกความยาวหรือความสูงของสงิ่ ตา่ งๆอาจบอกเป็นเมตร เปน็ เซนตเิ มตรหรอื
เปน็ เมตรและเซนติเมตร
- 1 เมตร เท่ากับ 100 เซนติเมตร
- การคาดคะเนความยาวหรอื ความสูงเป็นเมตรเป็นการบอกความยาวหรือความสูงเป็นเม
ตรให้ใกล้เคยี งกบั ความยาวหรือความสูงจรงิ อาจเทียบกับความยาวหรอื ความสงู 1
เมตรโดยไม่ใช้เครื่องมอื วัด
- การเปรยี บเทียบความยาวเป็นเมตรและเซนตเิ มตรของส่งิ ต่างๆสองสงิ่
ส่งิ ท่มี คี วามยาวเปน็ เมตรมากกว่าจะยาวกว่า ถา้ ความยาวเปน็ เมตรเทา่ กนั
สง่ิ ทมี่ คี วามยาวเปน็ เซนติเมตรมากกว่าจะยาวกว่า
- การเปรียบเทยี บความยาวทีม่ ีหน่วยตา่ งกัน
ต้องเปลีย่ นหนว่ ยให้เป็นหนว่ ยเดียวกันก่อนแล้วนำมาเปรียบเทยี บกนั
- การหาผลบวกหรือผลลบเกยี่ วกบั ความยาวเป็นเมตรและเซนติเมตร
ทำได้โดยนำความยาวท่เี ป็นหนว่ ยเดียวกันมาบวกหรอื ลบกัน
- การแก้โจทย์ปัญหาทำได้โดยอ่านทำความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแก้ปญั หา หาคำตอบ
และตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคำตอบ

สาระการเรยี นรู้
ความรู้ (K)

หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหมห่ นองบวั

- การวัดความยาวเป็นเมตรและเซนติเมตร
- การคาดคะเนความยาวเป็นเมตร
- การเปรยี บเทยี บความยาวโดยใช้ความสมั พันธ์ระหว่างเมตรกบั เซนติเมตร
- การแกโ้ จทยป์ ัญหาเกย่ี วกบั ความยาวทีม่ หี น่วยเปน็ เมตรและเซนติเมตร
ทักษะ/กระบวนการ (P)
- การแกป้ ัญหา
- การสอื่ สารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์
- การเช่อื มโยง
- การให้เหตผุ ล
คณุ ลักษณะ (A)
- ความต้งั ใจและกระตือรือร้นในการเรียน
- ความรบั ผิดชอบ
สมรรถนะสำคัญ
- สมรรถนะท่ี 4 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต

ตวั ชี้วัดที่ 1 นำกระบวนการเรียนรู้ทห่ี ลากหลายไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั

คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

- ขอ้ ที่ 6 มุ่งมนั่ ในการทำงาน

ชน้ิ งานหรือภาระงาน

- ใบกิจกรรม การวัดความยาว

- แบบฝึกหัด

การประเมินผล

เกณฑก์ ารประเมนิ การทำใบกิจกรรมและแบบฝึกหัด

ประเด็นการประเมิ ระดบั คณุ ภาพ

น 01 2 3 4
ทำใบกจิ กรรม ทำใบกิจกรรม ทำใบกิจกรรม
การทำใบกิจกรรมแ ไมท่ ำหรือไม่ส่ ทำใบกิจกรรม และแบบฝกึ หั และแบบฝึกหั และแบบฝึกหั
ดได้ถูกตอ้ งรอ้ ดได้ถูกตอ้ งร้อ ดไดถ้ ูกต้องรอ้
ละแบบฝึกหัด ง และแบบฝกึ หั ยละ 50 - 64 ยละ 65 - 79 ยละ 80 ขึน้ ไป

ดได้ถูกต้องน้อ

หลกั สตู รกล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหมห่ นองบวั

ยกวา่ ร้อยละ

50

เกณฑก์ ารประเมนิ

คะแนน 4 หมายถึง ดีมาก คะแนน 3 หมายถงึ ดี

คะแนน 2 หมายถึง พอใช้ คะแนน 0 – 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ

เกณฑก์ ารผ่าน ตงั้ แตร่ ะดับพอใช้ขึ้นไป

เกณฑ์การประเมินทกั ษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์

ประเด็นการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ 1(พอใช)้ 2(ด)ี
0(ปรบั ปรุง)

การแกป้ ัญหา ไม่มีร่องรอยการแก้ปญั หา ความสามารถในการใช้วิธี ความสามารถในการใช้วิธี

หรือทำไมไ่ ด้ ดำเนนิ การแกป้ ญั หา ดำเนินการแก้ปญั หา

และการอธิบายถงึ เหตุผลใ และการอธิบายถงึ เหตุผลใ

นการใชว้ ธิ ีการดังกลา่ วได้เ นการใชว้ ธิ ีการดงั กลา่ วได้เ

พียงบางสว่ น ข้าใจและชัดแจน

การสื่อสารและการส่ื ไม่นำเสนอ ใชร้ ปู แบบของการส่ือสาร ใชร้ ปู แบบของการส่ือสาร

อความหมายทางคณิ และไมม่ กี ารบนั ทกึ ผลงาน การสือ่ ความหมายและกา การส่ือความหมายและนำ

ตศาสตร์ รนำเสนอด้วยวธิ กี ารทเ่ี หม เสนอดว้ ยวิธีการเหมาะสม

าะสมได้เพียงบางส่วน ชดั เจน

และบนั ทึกผลงานทุกขั้นต รวมท้งั บันทกึ ผลงานในทกุ

อนอยา่ งสมเหตสุ มผล ข้ันตอนอยา่ งสมเหตุสมผล

การเช่อื มโยง ไมม่ ีการเช่อื มโยงความรูค้ มกี ารเช่อื มโยงความรูค้ ณติ มกี ารเชือ่ มโยงความรู้คณติ

ณิตศาสตร์ ศาสตร์ เนอื้ หา ศาสตร์ เนื้อหา หลักการ

หลกั การและวิธีการทางค และวธิ ีการทางคณติ ศาสต

ณติ ศาสตร์ เพื่อชว่ ย ร์

เพอ่ื ช่วยในการแกป้ ัญหา

หรอื ประยุกต์ใช้ได้อยา่ งเห

มาะสม

การให้เหตุผล ไมม่ ีการอ้างอิง มกี ารอ้างอิงทถี่ ูกต้องสมส่ มกี ารอ้างอิง

หรอื แนวคดิ ประกอบการตั วนและเสนอแนวคิดประก เสนอแนวคิดประกอบการ

ดสนิ ใจ อบการตัดสนิ ใจ ตัดสินใจอย่างถูกต้องและ

สมเหตสุ มผล

เกณฑ์การประเมนิ

หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหม่หนองบวั

คะแนน 8 หมายถึง ดีมาก คะแนน 7 หมายถงึ ดี

คะแนน 5 – 6 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 0 – 4 หมายถึง ปรับปรุง

เกณฑ์การผ่าน ต้งั แต่ระดบั พอใชข้ ้ึนไป

เกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ลักษณะ(A)

ประเด็นการประ ระดบั คณุ ภาพ

เมิน 0 1 2 3

ความต้งั ใจและก ไม่สนใจซักถามปัญห ตง้ั ใจและกระตือรือร้ ตงั้ ใจและกระตือรือร้ ตง้ั ใจและกระตือรือร้

ระตือรือรน้ ในกา าขอ้ สงสยั เลย นในการเรยี น นในการเรยี น นในการเรียน

รเรยี น สนใจซักถามปัญหาข้ สนใจซักถามปญั หาข้ สนใจซกั ถามปญั หาข้

อสงสัยอยบู่ า้ งเป็นบา อสงสยั เป็นสว่ นใหญ่ อสงสยั อยเู่ สมอ

งครั้ง

ความรบั ผิดชอบ ไม่ทำงานท่ีไดร้ ับมอ ทำงานตามท่ีไดร้ บั ม ทำงานตามที่ได้รับม ทำงานท่ีได้รับมอบห

บหมาย อบหมายแต่ไม่สำเรจ็ อบหมายสำเรจ็ แต่ต้ มายสำเร็จอยา่ งเตม็

องมีผูค้ วบคุม ที่ด้วยตนเอง

เกณฑ์การประเมนิ

คะแนน 6 หมายถึง ดีมาก คะแนน 5 หมายถึง ดี

คะแนน 4 หมายถึง พอใช้ คะแนน 0 – 3 หมายถึง ปรับปรงุ

เกณฑก์ ารผ่าน ตง้ั แต่ระดบั พอใช้ขนึ้ ไป

เกณฑ์การประเมนิ สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น (ระดับชั้น ป.1 – ป.6)

พฤติกรรมบ่งช้ี ระดบั คณุ ภาพ 1 2 3
0

สมรรถนะท่ี 4 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ

ตัวชี้วัดท่ี 1 นำกระบวนการเรียนรู้ท่ีหลากหลายไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั

หลกั สตู รกลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหม่หนองบวั

1. นำความรู้ ช้ินงาน/สง่ิ ของ/เครื่อ ชิน้ งาน/สิง่ ของ/เครอ่ื ชิ้นงาน/สิ่งของ/เคร่อื ชิน้ งาน/สิ่งของ/เครอื่

ทักษะ งใชท้ ่สี รา้ งไม่สามารถ งใช้ท่ีสรา้ งนำมาใชแ้ งใช้ที่สรา้ งสะท้อนถึง งใช้ทส่ี รา้ งสะท้อนถึง

และกระบวนการ นำมาใช้แกป้ ัญหาใน กป้ ญั หาในการดำเนิ การนำหลักการ การนำหลกั การ

ทห่ี ลากหลายมา การดำเนินชวี ติ ประจ นชวี ติ ประจำวนั ไดแ้ ความรู้ ความรู้

สร้างช้นิ งาน/ส่ิง ำวันได้ ต่ไม่สะท้อนถึงการน ทักษะกระบวนการที่ ทกั ษะกระบวนการที่

ของ/เครือ่ งใชแ้ ล ำกระบวนการความรู้ หลากหลายสามารถ หลากหลายสามารถ

ะสามารถนำมาแ ทหี่ ลากหลายมาใช้ นำมาใชแ้ ก้ปัญหาใน นำมาใชแ้ กป้ ัญหาใน

ก้ปัญหาในการด การดำเนนิ ชีวติ ประจ การดำเนินชวี ติ ประจ

ำเนินชวี ิตประจำ ำวนั ไดเ้ หมาะสม ำวนั ไดเ้ หมาะสมและ

วันไดอ้ ย่างเหมา มคี ณุ ภาพ

ะสม

เกณฑ์การประเมิน

คะแนน 3 หมายถึง ดมี าก คะแนน 2 หมายถึง ดี

คะแนน 1 หมายถึง พอใช้ คะแนน 0 หมายถึง ปรบั ปรุง

เกณฑก์ ารผา่ น ตัง้ แตร่ ะดบั พอใชข้ ้นึ ไป

เกณฑก์ ารประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (ระดบั ช้นั ป.1 – ป.3)

ประเดน็ การประ ระดับคุณภาพ

เมิน 0 1 2 3

ข้อท่ี 6 มุ่งมน่ั ในการทำงาน

ตวั ชวี้ ดั ที่ 6.1 ไมต่ งั้ ใจปฏิบัติหนา้ ท่ี เอาใจใส่ต่อการปฏิบั ตัง้ ใจและรับผิดชอบใ ตั้งใจและรับผิดชอบใ

ต้งั ใจและรบั ผิดช การงาน ติหน้าที่ทไี่ ด้รับมอบ นการปฏบิ ัตหิ นา้ ทีท่ ี่ไ นการปฏิบัตหิ น้าท่ีที่ไ

อบในการปฏิบตั ิ หมาย ด้รับมอบหมายใหส้ ำ ด้รับมอบหมายใหส้ ำ

หน้าทก่ี ารงาน เร็จ เรจ็

มีการปรับปรงุ ทำงาน

ให้ดีขึ้น

ตัวชี้วดั ที่ 6.2 ไมข่ ยัน อดทน ทำงานด้วยความขยั ทำงานด้วยความขยั ทำงานด้วยความขยั

ทำงานด้วยความ ในการทำงาน น น น อดทน

เพยี รพยายามแล เพ่ือให้งานเสรจ็ ตาม พยายามให้งานสำเร็ พยายามให้งานสำเร็

ะอดทนเพ่ือให้งา ทไี่ ด้รบั มอบหมาย จตามเปา้ หมาย จตามเป้าหมาย

นสำเรจ็ ตามเปา้ ชืน่ ชมผลงานดว้ ยคว

หมาย ามภาคภูมใิ จ

หลกั สตู รกลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหมห่ นองบวั

เกณฑก์ ารประเมนิ

คะแนน 6 หมายถงึ ดีมาก คะแนน 5 หมายถงึ ดี

คะแนน 4 หมายถึง พอใช้ คะแนน 0 – 3 หมายถงึ ปรับปรงุ

เกณฑก์ ารผา่ น ต้ังแต่ระดับพอใช้ขนึ้ ไป

กิจกรรมการเรียนรู้
อธิบาย ทำกิจกรรม และ ทำแบบฝกึ หัด
- การวัดความยาวเป็นเมตรและเซนติเมตร

- การคาดคะเนความยาวเปน็ เมตร

- การเปรยี บเทยี บความยาวโดยใชค้ วามสมั พนั ธร์ ะหว่างเมตรกบั เซนตเิ มตร

- การแก้โจทยป์ ญั หาเกยี่ วกับความยาวทม่ี หี นว่ ยเป็นเมตรและเซนตเิ มตร
ทดสอบประจำหนว่ ย

สือ่ การเรียนรู้
- แบบฝึกหดั
- ใบกจิ กรรม
- บัตรภาพ
- เครื่องมือวดั ความยาว เชน่ ไม้เมตร ไมบ้ รรทัด สายวดั
- เชอื ก
- สอื่ ของจริง
- อุปกรณ์สำหรบั กำหนดเสน้ ทาง
- แบบทดสอบประจำหนว่ ย

หลกั สตู รกลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหมห่ นองบวั

แบบบนั ทกึ หน่วยการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์
ค 12101 คณิตศาสตร์ 2
หลกั สตู รกลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหม่หนองบวั

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เร่ือง การวัดนำ้ หนัก ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 2 เวลา 19 ช่ัวโมง

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

มาตรฐาน ค 2.1

เข้าใจพื้นฐานเก่ยี วกับการวัด วดั และคาดคะเนขนาดของสิ่งท่ตี อ้ งการวัดและนำไปใช้

ตัวช้ีวัด
ค 2.1 ป.2/4 วดั และเปรยี บเทียบน้ำหนกั เปน็ กิโลกรัมและกรัม กิโลกรัมและขดี
ค 2.1 ป.2/5 แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หาการบวก

การลบเกยี่ วกับนำ้ หนักทม่ี ีหน่วยเป็นกโิ ลกรัมและกรมั กิโลกรมั และขดี

สาระสำคัญ

- การบอกน้ำหนักของสิ่งต่างๆ อาจบอกน้ำหนักเป็นกรัม เป็นกิโลกรัมและขีด
เป็นกิโลกรมั และกรัม

- ความสมั พันธข์ องหน่วยนำ้ หนัก
1 ก.ก. เท่ากับ 10 ขดี
1 ขดี เทา่ กับ 100 ก.
1 ก.ก. เท่ากบั 1,000 ก.

- การเปรยี บเทยี บนำ้ หนักเป็นกิโลกรมั และกรัม หรือกิโลกรมั และขีด
ส่งิ ท่ีมนี ้ำหนกั กโิ ลกรัมมากกว่าจะหนักกว่า ถ้านำ้ หนักเปน็ กิโลกรมั เท่ากนั
สิ่งทม่ี นี ้ำหนกั เปน็ กรมั หรือเป็นขดี มากว่าจะมนี ำ้ หนักมากกวา่

- การเปรยี บเทียบน้ำหนักท่ีมหี นว่ ยตา่ งกันตอ้ งเปล่ียนหนว่ ยใหเ้ ปน็ หนว่ ยเดียวกนั

- การหาผลบวกหรือผลลบเก่ียวกบั น้ำหนักเป็นกิโลกรัมและขีด หรอื กโิ ลกรมั และกรัม
ทำไดโ้ ดยนำนำ้ หนักทเี่ ปน็ หน่วยเดียวกนั มาบวกหรอื ลบกัน

- การแกโ้ จทยป์ ัญหาทำได้โดย อ่านทำความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแก้ปัญหา
หาคำตอบและตรวจสอบความสมเหตุสมผล

สาระการเรียนรู้
ความรู้ (K)
- การวดั น้ำหนักเปน็ กโิ ลกรมั และกรมั กโิ ลกรัมและขีด
- การคาดคะเนน้ำหนักเป็นกิโลกรัม
- การเปรยี บเทียบน้ำหนักโดยใชค้ วามสมั พันธร์ ะหว่างกโิ ลกรัมกบั กรัม กโิ ลกรมั กับขดี

หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหมห่ นองบวั

- การแกโ้ จทย์ปัญหาเก่ียวกบั น้ำหนกั ทม่ี หี น่วยเปน็ กิโลกรัมและกรัม กิโลกรมั และขีด

ทกั ษะ/กระบวนการ (P)
- การแก้ปัญหา
- การสื่อสารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์
- การเชอื่ มโยง
- การให้เหตุผล

คุณลกั ษณะ (A)
- ความรับผดิ ชอบ
- ตรงตอ่ เวลา

สมรรถนะสำคญั

- สมรรถนะที่ 4 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
ตัวชวี้ ัดท่ี 2 เรียนรดู้ ว้ ยตนเองและเรียนรู้อยา่ งตอ่ เน่ือง

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

- ข้อที่ 4 ใฝ่เรียนรู้

ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน

- ใบกิจกรรม การวดั น้ำหนกั

- แบบฝึกหัด

การประเมินผล

เกณฑก์ ารประเมินการทำใบกิจกรรมและแบบฝึกหดั

ประเด็นการประเมิ ระดับคณุ ภาพ

น 01 2 3 4
ทำใบกจิ กรรม ทำใบกิจกรรม ทำใบกจิ กรรม
การทำใบกจิ กรรมแ ไมท่ ำหรือไม่ส่ ทำใบกจิ กรรม และแบบฝึกหั และแบบฝึกหั และแบบฝึกหั

ละแบบฝึกหัด ง และแบบฝกึ หั

หลกั สตู รกล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหมห่ นองบวั

ดได้ถูกต้องน้อ ดไดถ้ ูกต้องร้อ ดได้ถูกต้องร้อ ดไดถ้ ูกต้องรอ้
ยกวา่ ร้อยละ ยละ 50 - 64 ยละ 65 - 79 ยละ 80 ขน้ึ ไป
50

เกณฑก์ ารประเมนิ คะแนน 3 หมายถึง ดี
คะแนน 4 หมายถงึ ดีมาก คะแนน 0 – 1 หมายถงึ ปรบั ปรุง
คะแนน 2 หมายถงึ พอใช้

เกณฑก์ ารผา่ น ตง้ั แตร่ ะดับพอใชข้ ้ึนไป

เกณฑก์ ารประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางคณติ ศาสตร์

ประเดน็ การประเมนิ ระดับคณุ ภาพ 1(พอใช้) 2(ดี)
0(ปรับปรุง)

การแกป้ ัญหา ไม่มีร่องรอยการแกป้ ญั หา ความสามารถในการใชว้ ิธี ความสามารถในการใชว้ ิธี

หรือทำไมไ่ ด้ ดำเนินการแก้ปญั หา ดำเนนิ การแก้ปญั หา

และการอธิบายถึงเหตผุ ลใ และการอธบิ ายถงึ เหตุผลใ

นการใช้วธิ ีการดังกล่าวได้เ นการใชว้ ธิ ีการดังกลา่ วได้เ

พียงบางสว่ น ขา้ ใจและชัดแจน

การสอ่ื สารและการสื่ ไม่นำเสนอ ใช้รูปแบบของการสื่อสาร ใชร้ ปู แบบของการสื่อสาร

อความหมายทางคณิ และไมม่ กี ารบันทกึ ผลงาน การส่ือความหมายและกา การส่ือความหมายและนำ

ตศาสตร์ รนำเสนอดว้ ยวิธีการทีเ่ หม เสนอดว้ ยวิธกี ารเหมาะสม

าะสมไดเ้ พียงบางส่วน ชัดเจน

และบนั ทึกผลงานทกุ ขนั้ ต รวมทั้งบนั ทกึ ผลงานในทุก

อนอย่างสมเหตุสมผล ขน้ั ตอนอย่างสมเหตุสมผล

การเชือ่ มโยง ไม่มีการเช่อื มโยงความรู้ค มกี ารเช่อื มโยงความรูค้ ณิต มีการเชอ่ื มโยงความรคู้ ณติ

ณิตศาสตร์ ศาสตร์ เนอื้ หา ศาสตร์ เนือ้ หา หลักการ

หลักการและวิธีการทางค และวธิ ีการทางคณติ ศาสต

ณิตศาสตร์ เพ่ือช่วย ร์

เพ่อื ชว่ ยในการแกป้ ญั หา

หรอื ประยุกตใ์ ช้ได้อยา่ งเห

มาะสม

หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหม่หนองบวั

การให้เหตผุ ล ไม่มีการอ้างองิ มีการอ้างอิงท่ีถูกต้องสมส่ มีการอ้างอิง

หรือแนวคดิ ประกอบการตั วนและเสนอแนวคิดประก เสนอแนวคิดประกอบการ

ดสนิ ใจ อบการตัดสนิ ใจ ตดั สนิ ใจอยา่ งถูกต้องและ

สมเหตสุ มผล

เกณฑ์การประเมิน คะแนน 7 หมายถึง ดี
คะแนน 8 หมายถึง ดมี าก คะแนน 0 – 4 หมายถงึ ปรบั ปรุง
คะแนน 5 – 6 หมายถงึ พอใช้

เกณฑก์ ารผา่ น ต้งั แต่ระดบั พอใชข้ น้ึ ไป

เกณฑ์การประเมนิ คณุ ลักษณะ(A) 12 3
ประเดน็ การประ ระดบั คุณภาพ ทำงานตามทไ่ี ด้รบั ม ทำงานตามทีไ่ ด้รบั ม ทำงานท่ีได้รบั มอบห
เมนิ 0 อบหมายแต่ไม่สำเร็จ อบหมายสำเรจ็ แต่ต้ มายสำเรจ็ อยา่ งเตม็
ความรบั ผดิ ชอบ ไม่ทำงานท่ีได้รับมอ ที่ดว้ ยตนเอง
องมผี คู้ วบคุม
บหมาย

ตรงต่อเวลา เข้าเรยี นสายและไม่ เข้าเรียนสายและสง่ ง เขา้ เรียนตรงเวลาแต่ เขา้ เรียนตรงเวลาแล
สง่ งาน านช้ากว่ากำหนด 1 ส่งงานชา้ กวา่ กำหนด ะสง่ งานตามกำหนด

– 2 วนั 1 – 2 วัน

เกณฑ์การประเมนิ

คะแนน 6 หมายถงึ ดมี าก คะแนน 5 หมายถงึ ดี

คะแนน 4 หมายถึง พอใช้ คะแนน 0 – 3 หมายถึง ปรับปรงุ

เกณฑ์การผ่าน ตง้ั แตร่ ะดับพอใชข้ นึ้ ไป

เกณฑ์การประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น (ระดับชั้น ป.1 – ป.6)
พฤตกิ รรมบ่งชี้ ระดับคณุ ภาพ

หลกั สตู รกลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหมห่ นองบวั

01 2 3

สมรรถนะท่ี 4 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ

ตวั ช้ีวัดท่ี 2 เรยี นรูด้ ้วยตนเองและเรียนรอู้ ย่างตอ่ เนื่อง

1. คัดลอกผลงานของ สบื ค้นความรู้ ข้อมูล สบื คน้ ความรู้ ข้อมูล สบื คน้ ความรู้

มีทักษะในการแสวง ผู้อ่นื หรอื ไม่มีข้อมู ขา่ วสารจากแหลง่ เรี ข่าวสารจากแหลง่ เรีย ขอ้ มลู

หาความรู้ ขอ้ มลู ลจากการสบื คน้ ขอ้ ยนรู้ต่างๆและไดข้ ้อ นรตู้ ่างๆและไดข้ ้อมลู ขา่ วสารจากแหล่งเ

ขา่ วสาร มูล มูลอ้างอิงจากแหลง่ อ้างองิ จากแหลง่ เรีย รียนรู้ตา่ งๆ

ขา่ วสารจากแหล่งเ เรยี นรูม้ ากกวา่ 1 นรู้มากกวา่ 2 และได้ขอ้ มูลอา้ งองิ

รยี นรู้ รายการ รายการ จากแหลง่ เรียนรมู้ า

ภายในเวลาทีก่ ำหน ภายในเวลาท่ีกำหนด กกวา่ 3 รายการ

ด ภายในเวลาทีก่ ำหน



2. เชือ่ มโยงความรู้ คัดลอกความรู้ มกี ารจัดกลุ่มความรู้ มีการจัดกลุ่มความรู้ มกี ารจัดกลุ่มความรู้

ขอ้ มูล ขา่ วสาร ขอ้ มลู ข้อมลู ขา่ วสาร ขอ้ มลู

ที่ไม่แตกตา่ งจากต้ ข่าวสารที่ไดจ้ ากกา ท่ไี ดจ้ ากการสืบคน้ ขา่ วสารทไี่ ด้จากกา

นฉบับ รสืบค้นหรอื มกี ารน จำแนกเปน็ ประเด็นที่ รสืบค้นจำแนกเป็น

ำเสนอประเด็นที่เป็ เปน็ ความรู้ใหม่ ประเด็นความรเู้ ดิม

นสาระสำคัญของค หรือนำเสนอประเด็น กับประเด็นทเี่ ปน็ ค

วามร้ขู ้อมูลข่าวสาร ทเ่ี ป็นสาระสำคัญได้อ วามรู้ใหมห่ รือนำเส

แตไ่ ม่มีการจำแนกป ยา่ งสอดคล้องนา่ เชอ่ื นอประเด็นที่เป็นสา

ระเดน็ ความรู้เดิมกั ถอื ในบางประเด็น ระสำคญั ได้อย่างสอ

บประเดน็ ทเ่ี ปน็ ควา ดคล้องนา่ เชื่อถือทุ

มรใู้ หม่ กประเด็น

เกณฑ์การประเมิน

คะแนน 6 หมายถึง ดมี าก คะแนน 5 หมายถึง ดี

คะแนน 4 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 0 – 3 หมายถงึ ปรบั ปรงุ

เกณฑ์การผ่าน ตัง้ แตร่ ะดบั พอใชข้ นึ้ ไป

เกณฑ์การประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (ระดับช้ัน ป.1 – ป.3)

หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหม่หนองบวั

ประเดน็ การประ ระดบั คณุ ภาพ 1 2 3
เมิน 0
ขอ้ ที่ 4 ใฝเ่ รียนรู้ ตง้ั ใจ ตง้ั ใจเรยี น ต้ังใจเรียน
ตัวชว้ี ัดท่ี 4.1 ไมต่ งั้ ใจเรียน เอาใจใส่ในการเรียน เอาใจใสแ่ ละมคี วามเ เอาใจใส่และมคี วามเ
ต้ังใจ พียรพยายามในการเ พยี รพยายามในการเ
เพียรพยายามสน ศึกษาคน้ ควา้ หาควา รียน รียนรู้
การเรียนและเข้า มรู้จากหนังสอื เขา้ รว่ มกจิ กรรมการเ
ร่วมกจิ กรรมการ เอกสาร ส่งิ พิมพ์ ศกึ ษาคน้ ควา้ หาควา รยี นรู้ตา่ งๆ
เรยี นรู้ สือ่ เทคโนโลยีหรือจา มร้จู ากหนังสือ ศกึ ษาค้นคว้าหาควา
ตัวชว้ี ัดท่ี 4.2 ไมศ่ ึกษาหาค้นควา้ ห กแหลง่ เรียนรอู้ นื่ เอกสาร สง่ิ พิมพ์ มรูจ้ ากหนงั สอื
แสวงหาความร้จู าความรู้ สื่อเทคโนโลยี เอกสาร ส่ิงพิมพ์
ากแหลง่ เรียนรตู้ ่ แหล่งเรยี นรอู้ ืน่ สื่อเทคโนโลยี
างๆ มกี ารบนั ทึกความรู้ แหล่งเรียนรอู้ ืน่
ทงั้ ภายในและภา มีการบนั ทึกความรู้
ยนอกโรงเรียนด้ แลกเปลีย่ นความรกู้ ั
วยการเลอื กใชส้ ่ื บผูอ้ ่ืน
ออย่างเหมาะสม
บนั ทกึ ความรู้
วเิ คราะห์
สรปุ เป็นองค์ควา
มรู้
และสามารถนำไ
ปใช้ในชวี ิตประจ
ำวนั ได้
เกณฑก์ ารประเมิน

คะแนน 6 หมายถึง ดมี าก คะแนน 5 หมายถงึ ดี

คะแนน 4 หมายถึง พอใช้ คะแนน 0 – 3 หมายถงึ ปรับปรงุ

เกณฑ์การผ่าน ต้งั แต่ระดับพอใชข้ น้ึ ไป

กิจกรรมการเรยี นรู้
อธบิ าย ทำกจิ กรรม และ ทำแบบฝกึ หดั

หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหมห่ นองบวั

- การวัดน้ำหนกั เป็นกิโลกรมั และกรัม กิโลกรัมและขดี
- การคาดคะเนน้ำหนักเป็นกิโลกรมั
- การเปรยี บเทียบน้ำหนักโดยใชค้ วามสัมพนั ธร์ ะหวา่ งกิโลกรัมกับกรัม กโิ ลกรัมกับขดี
- การแกโ้ จทย์ปัญหาเก่ยี วกับน้ำหนักทม่ี ีหน่วยเป็นกโิ ลกรัมและกรัม กิโลกรัมและขีด
ทดสอบประจำหนว่ ย

สอ่ื การเรยี นรู้
- แบบฝึกหดั
- ใบกิจกรรม
- บัตรภาพ
- เครือ่ งมือวัดนำ้ หนัก เช่น เครอ่ื งชัง่ สปรงิ / เครื่องชงั่ แบบเข็ม/ เครื่องช่ังแบบตวั เลข
- ส่อื ของจรงิ
- สื่อวดี ที ัศนเ์ ร่ือง กโิ ลกรมั และขดี
- แบบทดสอบประจำหน่วย

แบบบันทกึ หน่วยการเรียนรู้

หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหม่หนองบวั

ค 12101 คณิตศาสตร์ 2 กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 เรอ่ื ง การคณู ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 เวลา 23 ช่ัวโมง

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

มาตรฐาน ค 1.1

เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวนระบบจำนวน การดำเนนิ การของจำนวน

ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบตั ิของการดำเนนิ การและนำไปใช้

ตวั ชวี้ ดั ค 1.1 ป.2/5 หาคา่ ของตัวไมท่ ราบค่าในประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการคูณของจำนวน 1 หลัก

กับจำนวนไมเ่ กนิ 2 หลกั

สาระสำคญั

- สงิ่ ต่างๆที่จดั เปน็ กลุ่มหรอื เปน็ แถวที่แต่ละกลมุ่ หรือแต่ละแถวมีจำนวนสมาชกิ เทา่ กนั
สามารถเขียนในรูปการคูณของจำนวนสองจำนวน คือ
จำนวนกลุ่มหรือจำนวนแถวคูณกบั จำนวนสมาชิกในแตล่ ะกล่มุ หรอื จำนวนสมาชกิ ในแต่
ละแถว ผลคูณของจำนวนสองจำนวนนั้น คือสมาชิกทงั้ หมด

- จำนวนใดคูณกับ 1 ผลคูณเท่ากบั จำนวนนน้ั และจำนวนใดคูณกับ 0 ผลคูณเท่ากับ 0

- การคูณจำนวน 1 หลักกบั จำนวน 1 หลกั หาผลคุณโดยใช้สูตรคณู แม่ 2 แม3่ แม่4 แม่ 5
แม6่ แม่7 แม่8 หรือ แม่9

- จำนวน 1 หลัก คูณกบั 10 20 30 40 50 60 70 80 90 หาผลคูณโดยนำจำนวน 1
หลักนน้ั คณู กลั ป์ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 ตามลำดับ แลว้ เติม 0 ตอ่ ท้าย

- การหาผลคณู ของจำนวน 1 หลกั กับจำนวน 2 หลักโดยการตั้งคูณ
ตอ้ งคูณในหลกั หนว่ ยก่อน แล้วคูณในหลกั สิบ ถ้าผลคูณในหลกั ใดครบสิบ
หรือมากกว่าสิบ ให้ทดจำนาวนทรี่ บสิบไปหลกั ถัดไปทางซา้ ย

- ความรู้สกึ เชิงจำนวนเกยี่ วกับการคูณเปน็ การบอกว่าผลคูณของจำนวนสองจำนวนใดมคี ่า
มากกวา่ กัน น้อยกวา่ กัน หรอื เท่ากนั โดยไม่ต้องหาผลคูณของสองจำนวนนน้ั

- การหาคา่ ของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์การคูณ อาจใชส้ ตู รคณู

- การแกโ้ จทยป์ ัญหาทำไดโ้ ย อา่ นทำความเข้าใจปญั หา วางแผนแก้ปญั หา
หาคำตอบและตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบ

- การสรา้ งโจทยป์ ัญหาต้องมที ั้งส่วนทโ่ี จทยบ์ อกและสว่ นทโ่ี จทยถ์ าม
นอกจากน้ีโจทยป์ ัญหาท่สี ร้างต้องมีความเปน็ ไปได้

หลกั สตู รกลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหม่หนองบวั

สาระการเรยี นรู้
ความรู้ (K)
- การวัดความหมายของการคูณ ความหมายของการหาร การหาผลคณู
การหาผลหารและเศษ และความสมั พนั ธข์ องการคูณและการหาร
- การแก้โจทยป์ ัญหาและการสร้างโจทยป์ ญั หา พร้อมทั้งหาคำตอบ

ทักษะ/กระบวนการ (P)
- การแก้ปัญหา
- การส่อื สารและการส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์
- การเชอื่ มโยง
- การใหเ้ หตุผล
- ความคดิ สร้างสรรค์

คุณลักษณะ (A)
- ความต้งั ใจและกระตือรือรน้ ในการเรยี น
- ทำงานอย่างเป็นระบบและมีระเบียบ

สมรรถนะสำคัญ
- สมรรถนะท่ี 2 ความสามารถในการคดิ
ตัวชีว้ ดั ที่ 1 คดิ พน้ื ฐาน(การคดิ วิเคราะห์)

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
- ข้อท่ี 6 มุ่งม่นั ในการทำงาน

ชิ้นงานหรือภาระงาน
- ใบกจิ กรรม การคูณ
- แบบฝึกหดั

การประเมินผล
เกณฑ์การประเมินการทำใบกิจกรรมและแบบฝึกหัด

หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหมห่ นองบวั

ประเดน็ การประเมิ ระดบั คุณภาพ

น 0123 4
ทำใบกิจกรรม
การทำใบกิจกรรมแ ไม่ทำหรือไมส่ ่ ทำใบกิจกรรม ทำใบกจิ กรรม ทำใบกจิ กรรม และแบบฝึกหั
ดได้ถูกตอ้ งรอ้
ละแบบฝกึ หดั ง และแบบฝกึ หั และแบบฝกึ หั และแบบฝึกหั ยละ 80 ข้นึ ไป

ดไดถ้ ูกตอ้ งน้อ ดได้ถูกตอ้ งรอ้ ดไดถ้ ูกต้องร้อ

ยกว่ารอ้ ยละ ยละ 50 - 64 ยละ 65 - 79

50

เกณฑ์การประเมิน

คะแนน 4 หมายถงึ ดมี าก คะแนน 3 หมายถึง ดี

คะแนน 2 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 0 – 1 หมายถงึ ปรับปรงุ

เกณฑก์ ารผ่าน ต้งั แตร่ ะดับพอใช้ข้ึนไป

เกณฑ์การประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางคณติ ศาสตร์

ประเด็นการประเมิน ระดับคุณภาพ 1(พอใช)้ 2(ดี)
0(ปรับปรงุ )

การแกป้ ัญหา ไม่มีร่องรอยการแก้ปญั หา ความสามารถในการใช้วธิ ี ความสามารถในการใช้วิธี

หรอื ทำไมไ่ ด้ ดำเนนิ การแก้ปัญหา ดำเนินการแก้ปัญหา

และการอธิบายถึงเหตผุ ลใ และการอธิบายถึงเหตผุ ลใ

นการใช้วิธีการดังกลา่ วได้เ นการใชว้ ิธกี ารดงั กลา่ วได้เ

พยี งบางส่วน ข้าใจและชัดแจน

การสื่อสารและการสื่ ไม่นำเสนอ ใช้รปู แบบของการสื่อสาร ใช้รปู แบบของการสื่อสาร

อความหมายทางคณิ และไม่มีการบันทกึ ผลงาน การสือ่ ความหมายและกา การสือ่ ความหมายและนำ

ตศาสตร์ รนำเสนอด้วยวธิ ีการทีเ่ หม เสนอดว้ ยวธิ ีการเหมาะสม

าะสมได้เพียงบางส่วน ชดั เจน

และบันทึกผลงานทกุ ขนั้ ต รวมทงั้ บันทกึ ผลงานในทกุ

อนอยา่ งสมเหตสุ มผล ขน้ั ตอนอยา่ งสมเหตุสมผล

การเชอ่ื มโยง ไมม่ ีการเชื่อมโยงความรคู้ มีการเชื่อมโยงความรคู้ ณติ มีการเชื่อมโยงความรู้คณติ

ณิตศาสตร์ ศาสตร์ เนื้อหา ศาสตร์ เนอื้ หา หลักการ

หลกั การและวิธกี ารทางค และวธิ กี ารทางคณิตศาสต

ณิตศาสตร์ เพ่ือช่วย ร์

หลกั สตู รกลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหม่หนองบวั

เพ่อื ช่วยในการแกป้ ญั หา

หรือประยุกต์ใชไ้ ด้อยา่ งเห

มาะสม

การให้เหตผุ ล ไมม่ ีการอ้างอิง มีการอ้างอิงทถี่ ูกต้องสมส่ มีการอ้างอิง
ความคิดสร้างสรรค์
หรอื แนวคดิ ประกอบการตั วนและเสนอแนวคดิ ประก เสนอแนวคดิ ประกอบการ

ดสนิ ใจ อบการตัดสินใจ ตดั สนิ ใจอยา่ งถกู ต้องและ

สมเหตสุ มผล

ไม่มผี ลงาน มีแนวคิด / มแี นวคดิ /

วิธีการทีไ่ มแ่ ปลกใหม่ วิธีการทีแ่ ปลกใหมส่ ามาร

แตส่ ามารถนำไปปฏบิ ตั ไิ ด้ ถนำไปปฏบิ ตั ิได้ถูกตอ้ งสม

ถกู ต้อง บูรณ์

เกณฑก์ ารประเมิน

คะแนน 9 – 10 หมายถึง ดีมาก คะแนน 7 – 8 หมายถงึ ดี

คะแนน 5 – 6 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 0 – 4 หมายถงึ ปรบั ปรงุ

เกณฑ์การผา่ น ตัง้ แต่ระดบั พอใช้ขึน้ ไป

เกณฑ์การประเมนิ คุณลักษณะ(A)

ประเด็นการประ ระดับคณุ ภาพ

เมิน 0 1 2 3

ความต้งั ใจและก ไมส่ นใจซักถามปัญห ตงั้ ใจและกระตือรือร้ ตง้ั ใจและกระตือรือร้ ตั้งใจและกระตือรือร้

ระตอื รือรน้ ในกา าข้อสงสัยเลย นในการเรียน นในการเรียน นในการเรียน

รเรียน สนใจซักถามปัญหาข้ สนใจซักถามปัญหาข้ สนใจซกั ถามปญั หาข้

อสงสยั อยู่บา้ งเปน็ บา อสงสยั เปน็ ส่วนใหญ่ อสงสยั อยู่เสมอ

งครั้ง

ทำงานอย่างเป็น ทำงานโดยไม่มกี ารว ทำงานโดยวางแผนบ้ วางแผนในการทำงา มกี ารวางแผนแลว้ ป
ระบบและมีระเบี างแผนและทำงานไม่ างเล็กนอ้ ยและทำงา นแต่ทำงานไม่เรียบร้ ฏบิ ัติตามอย่างเป็นร
ยบ เรียบร้อย นไม่เรยี บรอ้ ยเทา่ ท่ีค อยเทา่ ท่ีควร ะบบและทำงานเปน็
วร ระเบียบเรยี บร้อย

หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหม่หนองบวั

เกณฑก์ ารประเมนิ คะแนน 5 หมายถงึ ดี
คะแนน 6 หมายถงึ ดีมาก คะแนน 0 – 3 หมายถงึ ปรับปรงุ
คะแนน 4 หมายถงึ พอใช้

เกณฑก์ ารผา่ น ต้งั แตร่ ะดับพอใชข้ ้นึ ไป

เกณฑ์การประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน (ระดับชัน้ ป.1 – ป.6)

พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคณุ ภาพ 1 2 3
0

สมรรถนะท่ี 2 ความสามารถในการคิด

ตัวชว้ี ัดท่ี 1 คิดพื้นฐาน (การคิดวเิ คราะห์)

1. จำแนกข้อมูล มพี ฤติกรรมบ่งชี้ 1 มพี ฤติกรรมบ่งชี้ 2 มีพฤติกรรมบง่ ช้ี 3 มีพฤติกรรมบง่ ชี้

จดั หมวดหมู่ พฤติกรรม พฤติกรรม พฤติกรรม ดังนี้

จดั ลำดับ หรอื ไม่มีเลย 1. จำแนกข้อมลู ได้

ความสำคญั ของ 2.

ข้อมลู และเปรยี จดั หมวดหม่ขู อ้ มูลได้

บเทยี บข้อมูล 3.

ในบรบิ ทที่เปน็ สิ่ จดั ลำดับความสำคัญ

งใกลต้ ัว ของข้อมลู ได้

4.

เปรยี บเทียบข้อมลู ได้

2. เช่ือโยงความสัมพันธ์ เช่ือโยงความสัมพนั ธ์ เชือ่ โยงความสมั พนั ธ์ เชื่อโยงความสัมพันธ์

เชื่อมโยงความสั ของขอ้ มลู ตา่ งๆกับเ ของข้อมูลต่างๆกับเ ของข้อมูลตา่ งๆกับเ ของข้อมูลต่างๆกับเ

มพนั ธข์ อง หตกุ ารณ์ท่ีพบเหน็ ใน หตุการณท์ ่ีพบเห็นใน หตุการณ์ที่พบเห็นใน หตุการณท์ ่ีพบเหน็ ชี

ข้อมลู ท่ีพบเหน็ ใ ชวี ิตประจำวนั ได้ตำ่ ก ชวี ติ ประจำวนั ได้ร้อย ชวี ติ ประจำวันได้ร้อย วิตประจำวนั ไดอ้ ย่าง

น บริบทท่เี ป็น ว่ารอ้ ยละ 40 ละ 40 – 59 ละ 60 – 79 ถกู ต้องรอ้ ยละ 80

ส่งิ ใกลต้ วั ของจำนวนคร้งั ที่ปฏิ ของจำนวนคร้งั ทป่ี ฏิ ของจำนวนคร้งั ทีป่ ฏิ ขึน้ ไปของจำนวนครั้ง

บัติ บัติ บัติ ท่ีปฏิบัติ

3. ระบรุ ายละเอียด ระบุรายละเอียด ระบุรายละเอียด ระบุรายละเอียด

ระบุรายละเอยี ด คณุ ลกั ษณะและควา คณุ ลักษณะและควา คณุ ลกั ษณะและควา คณุ ลกั ษณะและควา

คณุ ลักษณะและ มคดิ รวบยอดของข้อ มคดิ รวบยอดของข้อ มคดิ รวบยอดของข้อ มคดิ รวบยอดของข้อ

หลกั สตู รกล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหม่หนองบวั

ความคิดรวบยอ มูลตา่ งๆท่ีพบเหน็ ใน มลู ต่างๆท่ีพบเห็นใน มลู ต่างๆที่พบเห็นใน มูลต่างๆที่พบเหน็ ใน
ชวี ิตประจำวันได้ถกู
ดของขอ้ มลู ตา่ งๆ ชีวิตประจำวันไมไ่ ด้ ชวี ติ ประจำวนั ไดถ้ กู ชีวิตประจำวันได้ถกู ตอ้ งและครบถ้วน

ท่พี บเห็นในบรบิ ต้องเปน็ บางสว่ นและ ตอ้ งแต่ไม่ครบถว้ น

ททเ่ี ปน็ สิง่ ใกล้ตัว ไม่ครบถ้วน

เกณฑก์ ารประเมนิ

คะแนน 8 -9 หมายถึง ดมี าก คะแนน 6 - 7 หมายถึง ดี

คะแนน 4 - 5 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 0 – 3 หมายถึง ปรบั ปรุง

เกณฑก์ ารผา่ น ตัง้ แต่ระดับพอใชข้ ้ึนไป

เกณฑ์การประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (ระดบั ชั้น ป.1 – ป.3)

ประเด็นการประ ระดับคณุ ภาพ

เมนิ 0 1 2 3

ขอ้ ท่ี 6 มุ่งมัน่ ในการทำงาน

ตวั ชี้วดั ที่ 6.1 ไม่ต้งั ใจปฏบิ ตั หิ น้าที่ เอาใจใสต่ ่อการปฏิบั ตงั้ ใจและรบั ผิดชอบใ ตั้งใจและรบั ผิดชอบใ

ตั้งใจและรบั ผดิ ช การงาน ตหิ นา้ ทท่ี ไ่ี ดร้ ับมอบ นการปฏบิ ัติหน้าทท่ี ี่ไ นการปฏิบัติหน้าทที่ ี่ไ

อบในการปฏบิ ตั ิ หมาย ดร้ บั มอบหมายให้สำ ด้รบั มอบหมายให้สำ

หน้าท่กี ารงาน เรจ็ เรจ็

มีการปรบั ปรุงทำงาน

ใหด้ ีขึ้น

ตวั ช้ีวัดท่ี 6.2 ไม่ขยัน อดทน ทำงานดว้ ยความขยั ทำงานด้วยความขยั ทำงานดว้ ยความขยั

ทำงานด้วยความ ในการทำงาน น น น อดทน

เพยี รพยายามแล เพ่อื ให้งานเสร็จตาม พยายามให้งานสำเร็ พยายามให้งานสำเร็

ะอดทนเพ่ือใหง้ า ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย จตามเป้าหมาย จตามเปา้ หมาย

นสำเร็จตามเปา้ ชน่ื ชมผลงานด้วยคว

หมาย ามภาคภมู ิใจ

เกณฑ์การประเมนิ

คะแนน 6 หมายถงึ ดมี าก คะแนน 5 หมายถึง ดี

คะแนน 4 หมายถึง พอใช้ คะแนน 0 – 3 หมายถงึ ปรบั ปรงุ

เกณฑ์การผ่าน ตงั้ แตร่ ะดบั พอใชข้ นึ้ ไป

กิจกรรมการเรยี นรู้

หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหม่หนองบวั

อธบิ าย ทำกิจกรรม และ ทำแบบฝกึ หดั
- ความหมายของการคูณ ความหมายของการหาร การหาผลคณู

การหาผลหารและเศษ และความสัมพนั ธ์ของการคูณและการหาร
- การแก้โจทย์ปัญหาและการสรา้ งโจทยป์ ัญหา พรอ้ มทั้งหาคำตอบ
ทดสอบประจำหน่วย

สื่อการเรียนรู้
- แบบฝกึ หดั
- ใบกจิ กรรม
- บัตรภาพ
- ส่อื ของจริง
- กระดาษจดุ
- แผ่นตารางสบิ แผ่นตารางหน่วย
- ตารางสูตรคณู
- กระดานบิงโก
- เบ้ีย 2 สี
- สื่อวีดีทัศนเ์ รื่อง แถวแนวนอนและแถวแนวต้งั
- แบบทดสอบประจำหน่วย

หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหมห่ นองบวั

แบบบนั ทึกหน่วยการเรยี นรู้

ค 12101 คณติ ศาสตร์ 2 กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 6 เรอื่ ง การหาร ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 เวลา 22 ชั่วโมง

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

มาตรฐาน ค 1.1

เข้าใจความหลากหลายจองการแสดงจำนวนระบบจำนวน การดำเนินการของจำนวน

ผลทเี่ กดิ ขนึ้ จากการดำเนินการ สมบัตขิ องการดำเนินการและนำไปใช้

ตวั ช้วี ัด ค 1.1 ป.2/6 หาค่าของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสัญลักษณ์แสดงการหารท่ีตัวตั้งไม่เกนิ 2

หลกั ตวั หาร 1 หลกั โดยท่ผี ลหารมี 1 หลกั ทงั้ หารลงตัวและหารไม่ลงตวั

สาระสำคัญ

- สงิ่ การจัดสง่ิ ตา่ งๆ เป็นกลุม่ แต่ละกลุ่มมีจำนวนสมาชิกเท่ากนั
ถ้ากำหนดจำนวนสมาชกิ ในแต่ละกล่มุ ให้
สามารถเขยี นประโยคสัญลกั ษณก์ ารการหารแสดงจำนวนกลุม่ ท่ีจัดได้
หรอื ถ้ากำหนดจำนวนกลมุ่ ให้
สามารถเขยี นประโยคสญั ลักษณก์ ารหารแสดงจำนวนสมาชิกในแต่ละกลมุ่ ได้

- จำนวนสองจำนวนคูณกนั ผลคณู ท่ีได้หารด้วยจำนวนใดจำนวนหนึ่งในสองจำนวนนั้น
ผลหารคือจำนวนอกี จำนวนหน่ึง

- การหารทม่ี เี ศษ เป็นการหารไม่ลงตวั และเศษนอ้ ยกวา่ ตวั หาร
การหารที่ไม่มีเศษหรอื เศษเป็น 0 เป็นการหารลงตัว

- การหาผลหารโดยใชค้ วามสัมพนั ธข์ องการคูณและการหาร
ทำไดโ้ ยหาจำนวนที่นำมาคูณกบั ตัวหารแล้วไดผ้ ลคณู เทา่ กับตวั ต้ังหรอื ใกลเ้ คยี งกบั ตัวตงั้
มากท่สี ุดแตน่ ้อยกว่าตัวตัง้

- การหารจำนวนสองจำนวนที่ตวั ต้ังเป็นจำนวนเดยี วกนั ถา้ ตัวหารน้อยกว่า
ผลหารจะมากกว่าถา้ ตัวหารมากกว่า ผลหารจะนอ้ ยกวา่

- การหารจำนวนสองจำนวนท่ีตวั หารเปน็ จำนวนเดยี วกัน ถ้าตวั ตงั้ มากกวา่
ผลหารจะมากกวา่ ถ้าตัวต้ังน้อยกว่า ผลหารจะนอ้ ยกว่า

- การหาคา่ ของตัวไมท่ ราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณก์ ารหาร
อาจทำได้โดยใชค้ วามสัมพนั ธ์ของการคูณและการหาร

หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหม่หนองบวั

- การแกโ้ จทย์ปัญหาทำไดโ้ ดยอ่านทำความเขา้ ใจ วางแผนแก้ปัญหา หาคำตอบ
และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบ

- การสร้างโจทยป์ ัญหาต้องมที ั้งส่วนทโี่ จทยบ์ อกและสว่ นที่โจทย์ถาม
นอกจากนโ้ี จทยป์ ญั หาทสี่ รา้ งตอ้ งมีความเป็นไปได้

สาระการเรยี นรู้
ความรู้ (K)
- การวดั ความหมายของการคูณ ความหมายของการหาร การหาผลคูณ
การหาผลหารและเศษ และความสัมพันธข์ องการคูณและการหาร
- การแก้โจทยป์ ญั หาและการสร้างโจทย์ปญั หา พรอ้ มท้งั หาคำตอบ

ทักษะ/กระบวนการ (P)
- การแกป้ ัญหา
- การสื่อสารและการสือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์
- การเชอ่ื มโยง
- การใหเ้ หตุผล
- ความคดิ สร้างสรรค์

คุณลกั ษณะ (A)
- ความตัง้ ใจและกระตือรือรน้ ในการเรยี น
- ทำงานอย่างเป็นระบบและมีระเบยี บ

สมรรถนะสำคัญ
- สมรรถนะที่ 2 ความสามารถในการคดิ
ตวั ชีว้ ดั ท่ี 1 คิดพื้นฐาน(การคดิ วิเคราะห์)

หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหม่หนองบวั

คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
- ขอ้ ที่ 6 มุ่งมัน่ ในการทำงาน

ชน้ิ งานหรือภาระงาน
- ใบกจิ กรรม การหาร
- แบบฝกึ หัด

การประเมนิ ผล

เกณฑก์ ารประเมินการทำใบกจิ กรรมและแบบฝึกหดั

ประเดน็ การประเมิ ระดบั คณุ ภาพ

น 0123 4
ทำใบกิจกรรม
การทำใบกจิ กรรมแ ไมท่ ำหรือไม่ส่ ทำใบกิจกรรม ทำใบกิจกรรม ทำใบกิจกรรม และแบบฝึกหั
ดไดถ้ ูกต้องรอ้
ละแบบฝึกหัด ง และแบบฝึกหั และแบบฝึกหั และแบบฝกึ หั ยละ 80 ขึน้ ไป

ดไดถ้ ูกต้องน้อ ดไดถ้ ูกต้องร้อ ดได้ถูกตอ้ งรอ้

ยกว่ารอ้ ยละ ยละ 50 - 64 ยละ 65 - 79

50

เกณฑ์การประเมนิ

คะแนน 4 หมายถึง ดมี าก คะแนน 3 หมายถงึ ดี

คะแนน 2 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 0 – 1 หมายถึง ปรับปรงุ

เกณฑ์การผ่าน ตง้ั แตร่ ะดับพอใชข้ ้ึนไป

เกณฑก์ ารประเมินทกั ษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์

ประเด็นการประเมิน ระดบั คุณภาพ 1(พอใช)้ 2(ดี)
0(ปรับปรงุ )

การแกป้ ัญหา ไม่มรี ่องรอยการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้วิธี ความสามารถในการใชว้ ธิ ี

หรือทำไมไ่ ด้ ดำเนินการแกป้ ญั หา ดำเนนิ การแกป้ ญั หา

และการอธิบายถึงเหตุผลใ และการอธบิ ายถงึ เหตผุ ลใ

นการใช้วิธกี ารดงั กล่าวได้เ นการใช้วิธีการดังกล่าวได้เ

พียงบางส่วน ขา้ ใจและชัดแจน

หลกั สตู รกล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหมห่ นองบวั

การสื่อสารและการสื่ ไมน่ ำเสนอ ใชร้ ปู แบบของการสื่อสาร ใชร้ ปู แบบของการสื่อสาร
อความหมายทางคณิ และไมม่ กี ารบนั ทึกผลงาน การส่ือความหมายและกา การส่ือความหมายและนำ
ตศาสตร์ รนำเสนอดว้ ยวธิ ีการท่ีเหม เสนอด้วยวิธกี ารเหมาะสม
ไม่มีการเชอื่ มโยงความรูค้ าะสมได้เพยี งบางส่วน ชัดเจน
การเชือ่ มโยง ณติ ศาสตร์ และบนั ทึกผลงานทกุ ขน้ั ต รวมทงั้ บันทึกผลงานในทุก
อนอย่างสมเหตุสมผล ขน้ั ตอนอยา่ งสมเหตุสมผล
การให้เหตุผล ไมม่ ีการอา้ งองิ มีการเชื่อมโยงความรู้คณติ มีการเชื่อมโยงความรคู้ ณติ
หรือแนวคดิ ประกอบการตั ศาสตร์ เน้ือหา ศาสตร์ เนอื้ หา หลักการ
ความคิดสร้างสรรค์ ดสนิ ใจ หลกั การและวธิ กี ารทางค และวธิ กี ารทางคณิตศาสต
ไมม่ ีผลงาน ณิตศาสตร์ เพื่อช่วย ร์
เพ่อื ช่วยในการแกป้ ญั หา
มีการอ้างอิงทถี่ ูกต้องสมส่ หรอื ประยุกต์ใชไ้ ด้อยา่ งเห
วนและเสนอแนวคิดประก มาะสม
อบการตดั สินใจ มกี ารอ้างอิง
เสนอแนวคิดประกอบการ
มีแนวคิด / ตัดสินใจอยา่ งถูกต้องและ
วิธกี ารที่ไม่แปลกใหม่ สมเหตสุ มผล
แต่สามารถนำไปปฏบิ ตั ิได้ มแี นวคิด /
ถกู ต้อง วิธีการที่แปลกใหม่สามาร
ถนำไปปฏิบัติได้ถูกต้องสม
บรู ณ์

เกณฑก์ ารประเมนิ

คะแนน 9 – 10 หมายถงึ ดีมาก คะแนน 7 – 8 หมายถงึ ดี

คะแนน 5 – 6 หมายถึง พอใช้ คะแนน 0 – 4 หมายถึง ปรบั ปรงุ

เกณฑ์การผ่าน ตงั้ แตร่ ะดบั พอใชข้ น้ึ ไป

เกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ลกั ษณะ(A) 1 2 3
ประเดน็ การประ ระดับคุณภาพ ตง้ั ใจและกระตือรือร้ ตงั้ ใจและกระตือรือร้ ตง้ั ใจและกระตือรือร้
เมนิ 0 นในการเรยี น นในการเรยี น นในการเรียน
ความตงั้ ใจและก ไมส่ นใจซักถามปัญห สนใจซักถามปญั หาข้
ระตอื รือรน้ ในกา าข้อสงสัยเลย
รเรียน

หลกั สตู รกลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหมห่ นองบวั

อสงสยั อยบู่ า้ งเปน็ บา สนใจซกั ถามปัญหาข้ สนใจซักถามปญั หาข้
งคร้งั อสงสัยเป็นส่วนใหญ่ อสงสยั อยเู่ สมอ

ทำงานอย่างเป็น ทำงานโดยไม่มกี ารว ทำงานโดยวางแผนบ้ วางแผนในการทำงา มกี ารวางแผนแลว้ ป
ระบบและมรี ะเบี างแผนและทำงานไม่ างเล็กนอ้ ยและทำงา นแตท่ ำงานไม่เรยี บร้ ฏบิ ัตติ ามอย่างเปน็ ร
ยบ เรยี บรอ้ ย นไม่เรยี บร้อยเท่าที่ค อยเทา่ ที่ควร ะบบและทำงานเป็น
วร ระเบยี บเรียบร้อย

เกณฑ์การประเมิน

คะแนน 6 หมายถงึ ดมี าก คะแนน 5 หมายถึง ดี

คะแนน 4 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 0 – 3 หมายถึง ปรบั ปรงุ

เกณฑก์ ารผ่าน ต้ังแตร่ ะดบั พอใชข้ ้นึ ไป

เกณฑ์การประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น (ระดับชน้ั ป.1 – ป.6)

พฤติกรรมบ่งช้ี ระดบั คณุ ภาพ 1 2 3
0

สมรรถนะที่ 2 ความสามารถในการคดิ

ตวั ชีว้ ดั ที่ 1 คิดพ้ืนฐาน (การคิดวเิ คราะห)์

1. จำแนกขอ้ มลู มพี ฤติกรรมบ่งชี้ 1 มีพฤติกรรมบ่งช้ี 2 มีพฤติกรรมบง่ ช้ี 3 มีพฤติกรรมบ่งช้ี

จดั หมวดหมู่ พฤติกรรม พฤติกรรม พฤติกรรม ดงั น้ี

จดั ลำดับ หรอื ไม่มีเลย 1. จำแนกขอ้ มูลได้

ความสำคญั ของ 2.

ข้อมลู และเปรีย จัดหมวดหม่ขู อ้ มูลได้

บเทยี บข้อมลู 3.

ในบริบททเ่ี ป็นสิ่ จัดลำดับความสำคญั

งใกล้ตวั ของข้อมลู ได้

4.

เปรยี บเทียบข้อมลู ได้

2. เช่ือโยงความสัมพันธ์ เช่ือโยงความสัมพันธ์ เชอื่ โยงความสมั พันธ์ เชื่อโยงความสมั พันธ์

เช่ือมโยงความสั ของขอ้ มูลต่างๆกับเ ของขอ้ มลู ต่างๆกับเ ของข้อมูลตา่ งๆกับเ ของข้อมูลต่างๆกับเ

มพันธ์ของ หตุการณ์ที่พบเห็นใน หตกุ ารณท์ ่ีพบเห็นใน หตุการณ์ท่ีพบเหน็ ใน หตุการณท์ ี่พบเหน็ ชี

ขอ้ มลู ที่พบเห็นใ ชวี ิตประจำวนั ไดต้ ่ำก ชีวิตประจำวนั ไดร้ ้อย ชวี ิตประจำวนั ได้ร้อย วิตประจำวนั ได้อย่าง

วา่ รอ้ ยละ 40 ละ 40 – 59 ละ 60 – 79 ถกู ต้องรอ้ ยละ 80

หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหม่หนองบวั

น บรบิ ททเ่ี ป็น ของจำนวนครัง้ ทป่ี ฏิ ของจำนวนคร้ังทปี่ ฏิ ของจำนวนคร้ังทปี่ ฏิ ข้นึ ไปของจำนวนคร้ัง
บัติ บัติ ทป่ี ฏบิ ัติ
สิง่ ใกล้ตวั บัติ ระบรุ ายละเอียด ระบุรายละเอยี ด ระบรุ ายละเอียด
คุณลกั ษณะและควา คุณลกั ษณะและควา คณุ ลักษณะและควา
3. ระบรุ ายละเอยี ด มคดิ รวบยอดของข้อ มคิดรวบยอดของข้อ มคดิ รวบยอดของข้อ
มูลตา่ งๆที่พบเหน็ ใน มูลต่างๆท่ีพบเหน็ ใน มลู ต่างๆท่ีพบเห็นใน
ระบุรายละเอียด คณุ ลักษณะและควา ชวี ติ ประจำวนั ไดถ้ กู ชีวิตประจำวนั ได้ถูก ชวี ติ ประจำวันไดถ้ ูก
ตอ้ งเปน็ บางส่วนและ ตอ้ งแต่ไม่ครบถ้วน ต้องและครบถ้วน
คุณลกั ษณะและ มคิดรวบยอดของข้อ ไมค่ รบถว้ น

ความคิดรวบยอ มลู ต่างๆท่ีพบเหน็ ใน

ดของขอ้ มูลตา่ งๆ ชวี ิตประจำวันไม่ได้

ทพ่ี บเห็นในบริบ

ทท่เี ป็นส่ิงใกล้ตวั

เกณฑก์ ารประเมนิ

คะแนน 8 -9 หมายถึง ดีมาก คะแนน 6 - 7 หมายถึง ดี

คะแนน 4 - 5 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 0 – 3 หมายถึง ปรบั ปรุง

เกณฑก์ ารผา่ น ตงั้ แตร่ ะดบั พอใชข้ ึ้นไป

เกณฑก์ ารประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (ระดับช้นั ป.1 – ป.3)

ประเด็นการประ ระดบั คุณภาพ

เมิน 0 1 2 3

ขอ้ ท่ี 6 ม่งุ มั่นในการทำงาน

ตัวชว้ี ัดที่ 6.1 ไมต่ ้งั ใจปฏบิ ตั หิ น้าท่ี เอาใจใสต่ ่อการปฏิบั ตั้งใจและรบั ผิดชอบใ ตงั้ ใจและรับผิดชอบใ

ตงั้ ใจและรบั ผิดช การงาน ติหนา้ ท่ที ี่ไดร้ บั มอบ นการปฏิบตั ิหนา้ ทท่ี ี่ไ นการปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีที่ไ

อบในการปฏบิ ัติ หมาย ด้รับมอบหมายใหส้ ำ ดร้ ับมอบหมายใหส้ ำ

หนา้ ที่การงาน เรจ็ เร็จ

มกี ารปรับปรุงทำงาน

ใหด้ ขี ึน้

ตัวชีว้ ดั ที่ 6.2 ไม่ขยนั อดทน ทำงานด้วยความขยั ทำงานดว้ ยความขยั ทำงานดว้ ยความขยั

ทำงานด้วยความ ในการทำงาน น น น อดทน

เพียรพยายามแล เพือ่ ใหง้ านเสรจ็ ตาม พยายามให้งานสำเร็ พยายามให้งานสำเร็

ะอดทนเพื่อให้งา ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย จตามเป้าหมาย จตามเป้าหมาย

นสำเร็จตามเปา้ ชน่ื ชมผลงานด้วยคว

หมาย ามภาคภมู ิใจ

หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหม่หนองบวั

เกณฑก์ ารประเมิน

คะแนน 6 หมายถึง ดีมาก คะแนน 5 หมายถึง ดี

คะแนน 4 หมายถึง พอใช้ คะแนน 0 – 3 หมายถงึ ปรับปรุง

เกณฑ์การผา่ น ตง้ั แตร่ ะดับพอใชข้ ้ึนไป

กิจกรรมการเรียนรู้
อธบิ าย ทำกิจกรรม และ ทำแบบฝกึ หดั

- ความหมายของการคูณ ความหมายของการหาร การหาผลคณู
การหาผลหารและเศษ และความสมั พันธข์ องการคูณและการหาร

- การแก้โจทย์ปญั หาและการสรา้ งโจทย์ปัญหา พร้อมทงั้ หาคำตอบ
ทดสอบประจำหน่วย

สื่อการเรยี นรู้
- แบบฝึกหัด
- ใบกจิ กรรม
- บตั รภาพ
- สอ่ื ของจรงิ
- ตารางสตู รคณู
- สือ่ วีดีทัศน์เร่ือง จัดได้กีก่ ล่อง / จดั ไดก้ ่ีเม็ด / สัมพนั ธ์คณู หาร
- แบบทดสอบประจำหน่วย

หลกั สตู รกล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหมห่ นองบวั

แบบบนั ทึกหน่วยการเรยี นรู้

ค 12101 คณติ ศาสตร์ 2 กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 7 เรือ่ ง เวลา ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 เวลา 16 ช่ัวโมง

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

มาตรฐาน ค 2.1

เข้าใจพนื้ ฐานเก่ียวกบั การวัด วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงทีต่ อ้ งการวดั และนำไปใช้

ตัวชวี้ ดั ค 2.1 ป.2/1
แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ปัญหาเกีย่ วกบั เวลาท่มี ีหน่วยเดียวและเปน็ หนว่ ยเดียวกัน

สาระสำคัญ
- ปฏทิ ินเปน็ เครอื่ งมือทบ่ี อก วัน เดอื น ปี โดย 1 ปี มี 12 เดอื น
- เดือนทล่ี งท้ายด้วย คม มี 31 วนั เดือนที่ลงท้ายดว้ ย ยน มี 30 วัน เดือนกมุ ภาพันธม์ ี 28
วนั หรอื 29 วัน
- การเขยี นแสดงวนั เดือน ปี อาจเขียนชอ่ื เดือน โดยใชค้ ำย่อหรือใชล้ ำดบั ทขี่ องเดือน
และอาจเขียนแสดงวนั ท่ี ปีพุทธศักราช หรอื ครสิ ต์ศกั ราชเป็นตัวเลขสองหลกั
- พ.ศ. เป็นคำยอ่ ของพุทธศกั ราช และค.ศ. เปน็ คำย่อของคริสตศ์ ักราช
- นาฬิกาเปน็ เคร่อื งมือบอกเวลาอาจบอกโดยใช้เข็มหรือตวั เลข
- การบอกเวลาเปน็ นาฬิกา เมื่อเขม็ ยาวบนหน้าปัดนาฬกิ าช้ที ี่ตวั เลข 12
และเขม็ ส้นั ชี้ทต่ี ัวเลขใดจะบอกเวลาเป็นนาฬกิ าตามทเี่ ข็มสั้นช้ี
- เวลากลางวันเริม่ ตง้ั แต่ 6 นาฬกิ า ถึงก่อน 18 นาฬิกา
- เวลากลางคนื เรม่ิ ตง้ั แต่ 18 นาฬกิ าถึงก่อน 6 นาฬกิ า

หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหมห่ นองบวั

- 1 วันเท่ากับ 24 ชัว่ โมง และ 1 ช่ัวโมง เทา่ กบั 60 นาที

- การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาทใี นพิจารณาที่ตำแหน่งเข็มสั้นจะบอกเวลาเป็นนาฬิกาแ
ละเข็มยาวจะบอกเวลาเป็นนาที

- การบอกระยะเวลาอาจบอกเป็นชัว่ โมงหรือเป็นนาที โดยนบั จากเวลาเร่มิ ตน้
จนถึงเวลาสิ้นสดุ

- นาฬิกาแบบใชต้ ัวเลขใช้เคร่ืองหมาย :
คน่ั ระหว่างตวั เลขท่ีแสดงเวลาเปน็ นาฬกิ ากบั ตัวเลขท่ีแสดงเวลาเป็นนาที
โดยตัวเลขหนา้ เคร่ืองหมาย : แสดงเวลาเป็นนาฬิกา ตวั เลขหลงั เครอื่ งหมาย :
แสดงเวลาเป็นนาที

- การแกโ้ จทยป์ ญั หาทำไดโ้ ดยอ่านทำความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแกป้ ัญหาและหาคำตอบ

สาระการเรียนรู้

ความรู้ (K)
- การบอกเวลาเปน็ นาฬิกา และนาที(ช่วง 5 นาที)
- การบอกระยะเวลาเปน็ ชว่ั โมง เป็นนาที
- การอ่านปฏิทิน
- การแก้โจทยป์ ัญหาเกี่ยวกบั เวลา

ทักษะ/กระบวนการ (P)
- การแก้ปัญหา
- การส่ือสารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์
- การเชอื่ มโยง
- การให้เหตุผล

คุณลกั ษณะ (A)

หลกั สตู รกล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหม่หนองบวั

- ความรับผิดชอบ
- ตรงตอ่ เวลา

สมรรถนะสำคญั
- สมรรถนะที่ 4 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
ตวั ชีว้ ัดที่ 5 ปรบั ตัวตอ่ การเปลยี่ นแปลงทางสงั คมและสภาพแวดลอ้ ม

คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
- ขอ้ ที่ 2 มีวินัย

ช้นิ งานหรือภาระงาน
- ใบกิจกรรม เวลา
- แบบฝึกหดั

การประเมนิ ผล

เกณฑก์ ารประเมินการทำใบกิจกรรมและแบบฝึกหัด

ประเด็นการประเมิ ระดบั คุณภาพ

น 0123 4
ทำใบกจิ กรรม
การทำใบกิจกรรมแ ไม่ทำหรือไม่ส่ ทำใบกจิ กรรม ทำใบกิจกรรม ทำใบกจิ กรรม และแบบฝึกหั
ดได้ถูกต้องร้อ
ละแบบฝึกหัด ง และแบบฝึกหั และแบบฝึกหั และแบบฝึกหั ยละ 80 ขึน้ ไป

ดไดถ้ ูกตอ้ งนอ้ ดไดถ้ ูกต้องรอ้ ดไดถ้ ูกตอ้ งร้อ

ยกว่าร้อยละ ยละ 50 - 64 ยละ 65 - 79

50

เกณฑ์การประเมิน

คะแนน 4 หมายถงึ ดีมาก คะแนน 3 หมายถึง ดี

คะแนน 2 หมายถึง พอใช้ คะแนน 0 – 1 หมายถงึ ปรับปรุง

เกณฑ์การผ่าน ตัง้ แต่ระดบั พอใชข้ น้ึ ไป

เกณฑ์การประเมินทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์

ประเดน็ การประเมิน ระดบั คณุ ภาพ 1(พอใช้) 2(ด)ี
0(ปรับปรงุ )

หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหม่หนองบวั

การแก้ปัญหา ไม่มรี ่องรอยการแกป้ ญั หา ความสามารถในการใชว้ ิธี ความสามารถในการใช้วิธี
หรอื ทำไมไ่ ด้ ดำเนนิ การแกป้ ญั หา ดำเนินการแกป้ ญั หา
การสื่อสารและการสื่ และการอธบิ ายถงึ เหตุผลใ และการอธิบายถงึ เหตผุ ลใ
อความหมายทางคณิ ไมน่ ำเสนอ นการใชว้ ธิ กี ารดังกล่าวได้เ นการใชว้ ธิ กี ารดังกลา่ วได้เ
ตศาสตร์ และไม่มกี ารบนั ทึกผลงาน พียงบางส่วน ขา้ ใจและชดั แจน
การเชื่อมโยง ใช้รูปแบบของการสื่อสาร ใชร้ ูปแบบของการส่ือสาร
ไม่มีการเชื่อมโยงความร้คู การส่ือความหมายและกา การสอื่ ความหมายและนำ
การใหเ้ หตผุ ล ณิตศาสตร์ รนำเสนอดว้ ยวธิ กี ารที่เหม เสนอดว้ ยวิธีการเหมาะสม
าะสมไดเ้ พียงบางสว่ น ชดั เจน
ไม่มีการอา้ งองิ และบนั ทึกผลงานทกุ ขัน้ ต รวมท้ังบันทกึ ผลงานในทกุ
หรอื แนวคิดประกอบการตั อนอย่างสมเหตุสมผล ขั้นตอนอย่างสมเหตสุ มผล
ดสินใจ มีการเช่ือมโยงความรู้คณติ มีการเชอ่ื มโยงความรคู้ ณิต
ศาสตร์ เนือ้ หา ศาสตร์ เนื้อหา หลกั การ
หลักการและวธิ กี ารทางค และวิธกี ารทางคณติ ศาสต
ณิตศาสตร์ เพ่ือช่วย ร์
เพือ่ ช่วยในการแก้ปัญหา
มีการอ้างอิงท่ีถูกต้องสมส่ หรือประยุกตใ์ ชไ้ ด้อย่างเห
วนและเสนอแนวคิดประก มาะสม
อบการตดั สินใจ มกี ารอ้างอิง
เสนอแนวคิดประกอบการ
ตดั สนิ ใจอย่างถูกต้องและ
สมเหตุสมผล

เกณฑ์การประเมิน

คะแนน 8 หมายถงึ ดมี าก คะแนน 7 หมายถึง ดี

คะแนน 5 - 6 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 0 – 4 หมายถึง ปรบั ปรงุ

เกณฑ์การผา่ น ต้งั แต่ระดับพอใช้ขน้ึ ไป

เกณฑ์การประเมนิ คณุ ลักษณะ(A)
ประเด็นการประ ระดับคณุ ภาพ
เมิน 0 1 2 3

หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหมห่ นองบวั

ความรับผิดชอบ ไม่ทำงานท่ีไดร้ บั มอ ทำงานตามท่ีไดร้ บั ม ทำงานตามทไ่ี ดร้ ับม ทำงานท่ีได้รบั มอบห

บหมาย อบหมายแต่ไมส่ ำเรจ็ อบหมายสำเรจ็ แต่ต้ มายสำเร็จอย่างเต็ม

องมีผู้ควบคุม ที่ดว้ ยตนเอง

ตรงต่อเวลา เขา้ เรยี นสายและไม่ เขา้ เรยี นสายและสง่ ง เข้าเรียนตรงเวลาแต่ เข้าเรียนตรงเวลาแล
ส่งงาน านช้ากวา่ กำหนด 1 สง่ งานช้ากว่ากำหนด ะส่งงานตามกำหนด

– 2 วัน 1 – 2 วัน

เกณฑ์การประเมนิ

คะแนน 6 หมายถึง ดมี าก คะแนน 5 หมายถงึ ดี

คะแนน 4 หมายถึง พอใช้ คะแนน 0 – 3 หมายถงึ ปรบั ปรงุ

เกณฑก์ ารผ่าน ต้ังแตร่ ะดบั พอใช้ขึน้ ไป

เกณฑ์การประเมนิ สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น (ระดับชนั้ ป.1 – ป.6)

พฤตกิ รรมบ่งช้ี ระดับคุณภาพ 1 2 3
0

สมรรถนะที่ 4 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ

ตัวชีว้ ดั ท่ี 5 ปรบั ตัวตอ่ การเปลยี่ นแปลงทางสังคมและสภาพแวดลอ้ ม

1. ไม่สนใจในการติดตา ตดิ ตามข่าวสาร ติดตามข่าวสาร ตดิ ตามข่าวสาร

ตดิ ตามข่าวสาร มขอ้ มูลขา่ วสารเหตุก และเหตุการณ์จากส่ื ความเปล่ียนแปลงท ความเปลี่ยนแปลงท

เหตกุ ารณป์ จั จุ ารณป์ จั จุบนั ใดๆ อสงิ่ พิมพ์ างสงั คมและวทิ ยากา างสงั คมและวิทยากา

บนั ของสงั คม แลว้ นำเสนอให้เพ่ือน รใหมๆ่ ทเ่ี ป็นประโยช รใหมๆ่
ๆรับรู้ น์ต่อการเรียนจากสือ่ ทกุ ดา้ นจากสอื่ ทห่ี ลา
ตามที่ครูกำหนด แลว้ นำมาเสนอใหเ้ พ่ื กหลาย

อนๆรบั รูอ้ ยา่ งสม่ำเส แล้วนำมาเสนอ
มอ สนทนา

แลกเปลยี่ นความคิด

กบั บคุ คลอืน่ หรือผู้รู้
อยา่ งสมำ่ เสมอ

2. เขา้ ใจ ไมร่ ับร้คู วามเปลี่ยนแ รับรูค้ วามเปลยี่ นแป ยอมรบั ความเปลยี่ น เข้าใจ ยอมรบั
ยอมรับ
ปลงของสงั คมสภาพ ลงทางสงั คม แปลงทางสังคม และปรับตวั

และปรบั ตัวต่อ แวดลอ้ มหรอื ดำรงต สงิ่ แวดล้อม สิง่ แวดลอ้ ม ตอ่ การเปลยี่ นแปลง

การเปลี่ยนแปล นตามกระแสสังคมท่ี ดำรงตนอยู่กบั ผู้อื่น ดำรงตนอยู่ ทางสังคม

งทางสังคม เปลี่ยนแปลง ในสงั คมได้ รว่ มกบั ผ้อู ื่นในสังคม สงิ่ แวดลอ้ ม

สภาพแวดลอ้ ม ท่มี ีการ ดำรงตนอยรู่ ว่ มกบั
อย่างเหมาะสม เปลี่ยนแปลงอยา่ งเห ผูอ้ ืน่ ในสงั คม

หลกั สตู รกลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหม่หนองบวั

มาะสมกับ ที่มกี ารเปลีย่ นแปลง
วัฒนธรรมไทย อย่างเหมาะสมกับวั
ฒนธรรมไทย

เกณฑก์ ารประเมนิ

คะแนน 6 หมายถึง ดีมาก คะแนน 5 หมายถึง ดี

คะแนน 4 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 0 – 3 หมายถึง ปรับปรุง

เกณฑก์ ารผา่ น ตั้งแต่ระดับพอใช้ขึ้นไป

เกณฑก์ ารประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (ระดับชน้ั ป.1 – ป.3)

ประเด็นการปร ระดบั คณุ ภาพ

ะเมนิ 0 1 2 3

ขอ้ ที่ 6 มุ่งมน่ั ในการทำงาน

ตัวชี้วัดที่ 6.1 ไม่ต้ังใจปฏบิ ัตหิ นา้ ที่ เอาใจใส่ต่อการปฏิบั ตงั้ ใจและรบั ผิดชอบใ ตั้งใจและรบั ผดิ ชอบใ

ตั้งใจและรับผิด การงาน ตหิ นา้ ทที่ ไี่ ดร้ ับมอบ นการปฏิบตั หิ นา้ ทท่ี ่ีไ นการปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ที ่ีไ

ชอบในการปฏิ หมาย ด้รบั มอบหมายใหส้ ำ ด้รบั มอบหมายใหส้ ำ

บัติหน้าท่กี ารงา เรจ็ เรจ็

น มกี ารปรับปรุงทำงาน

ใหด้ ีขนึ้

ตัวช้ีวัดที่ 6.2 ไม่ขยนั อดทน ทำงานดว้ ยความขยั ทำงานด้วยความขยั ทำงานดว้ ยความขยั

ทำงานด้วยควา ในการทำงาน น น น อดทน

มเพยี รพยายาม เพอื่ ให้งานเสร็จตาม พยายามให้งานสำเร็ พยายามให้งานสำเร็

และอดทนเพ่ือใ ท่ไี ด้รบั มอบหมาย จตามเป้าหมาย จตามเปา้ หมาย

ห้งานสำเรจ็ ตา ชื่นชมผลงานด้วยคว

มเปา้ หมาย ามภาคภูมิใจ

เกณฑ์การประเมนิ

คะแนน 6 หมายถึง ดีมาก คะแนน 5 หมายถึง ดี

คะแนน 4 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 0 – 3 หมายถงึ ปรบั ปรุง

เกณฑก์ ารผ่าน ตง้ั แต่ระดับพอใชข้ ึ้นไป

หลกั สตู รกล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหม่หนองบวั

กิจกรรมการเรียนรู้
อธิบาย ทำกจิ กรรม และ ทำแบบฝกึ หดั
- ความหมายของการคูณ ความหมายของการหาร การหาผลคณู
การหาผลหารและเศษ และความสมั พันธ์ของการคูณและการหาร
- การแก้โจทย์ปัญหาและการสร้างโจทยป์ ญั หา พร้อมทั้งหาคำตอบ
ทดสอบประจำหนว่ ย

สอ่ื การเรยี นรู้
- แบบฝึกหัด
- ใบกิจกรรม
- บตั รภาพ
- สื่อของจริง
- ตารางสตู รคณู
- สอ่ื วีดที ัศนเ์ รื่อง จดั ได้กก่ี ล่อง / จัดได้ก่เี ม็ด / สมั พันธ์คูณหาร
- แบบทดสอบประจำหนว่ ย

หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ฝ่ายงานบรหิ ารงานวชิ าการ โรงเรยี นบา้ นใหม่หนองบวั


Click to View FlipBook Version