The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

E-book นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pongsatorn.sgot, 2021-11-11 13:07:03

E-book นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา

E-book นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา

11

ภาพที่ 21 รายช่อื ผเู้ รยี น
ในการลงทะเบียนเขา้ เรยี นนัน้ ผู้เรยี นสามารถลงทะเบยี นเข้าเรียนผ่าน classroom login และ at
home login ซ่งึ หมายถึงสามารถเขา้ เรียนผ่านทบี่ า้ นได้ และในหนา้ ต่างเมนจะมเี มนูคาสัง่ ปรากฏ เมนู Info
Students Families skills teacher และ setting

เมนู Info จะแสดงรายละเอยี ดของชอ่ื วชิ าและระดบั ชนั้ เรยี น ดงั ภาพท่ี 22

ภาพท่ี 22 แสดงช่อื ชนั้ เรยี น
เมนู Student จะแสดงรายชอ่ื ผเู้ รยี น ซ่งึ ผเู้ รยี นสามารถจะ login ในหอ้ งหรอื ทบ่ี า้ นกไ็ ด้

ภาพท่ี 23 รายช่อื ผเู้ รยี น

12
เมนู Families เป็นการเชญิ ผปู้ กครองเข้าร่วมชนั้ เรียนเพ่อื การให้ผูป้ กครองไดม้ สี ่วนร่วมในการ
เรยี นของผเู้ รยี น ดงั ภาพท่ี 24

ภาพท่ี 24 แสดงการเชญิ ผปู้ กครองเขา้ รว่ มชนั้ เรยี น
เมนู Skill จะเป็นการเสรมิ แรงใหก้ บั ผู้เรียนหรอื ช่วยกระตุ้นผู้เรยี นใหส้ นใจในการเรียนมากขน้ึ
ดงั ภาพท่ี 25

ภาพที่ 25 การเสรมิ แรงใหแ้ ก่ผเู้ รยี น
เมนู Teacher เป็นส่วนของผสู้ อน ซ่งึ สามารถเพม่ิ ผสู้ อนได้ โดยป้อนอเี มลล์ของผสู้ อน ดงั ภาพท่ี
26

13

ภาพท่ี 26 การเพมิ่ ผสู้ อน
เมนู Setting เป็นการตงั้ คา่ ของหอ้ งเรยี น

ภาพท่ี 27 การตงั้ ค่าใหก้ บั หอ้ งเรยี น
จากภาพท่ี 27 เป็นการตงั้ คา่ ใหก้ บั หอ้ งเรยี น ดงั น้ี
o Enter comments ใหผ้ ูส้ อนสามารถป้อน หรอื แสดงความคดิ เหน็ ได้
o Parents ใหผ้ ปู้ กครองสามารถแสดงความคดิ เหน็ ได้
o Co-teachers ใหผ้ สู้ อนร่วมสามารถแสดงความคดิ เหน็ ได้
o Students ใหผ้ เู้ รยี นสามารถแสดงความคดิ เหน็ ได้

14

ซ่งึ ในป่มุ ดา้ นล่างของหน้าจอจะมคี าสงั่ การใชง้ านในกล่มุ ตา่ ง ๆ ดงั น้ี

ภาพท่ี 28 กล่มุ คาสงั่ สาหรบั ใชง้ านในการจดั กจิ กรรมในชนั้ เรยี น
กลมุ่ คาสงั่ Toolkit เป็นกลุ่มคาสงั่ ทใ่ี ชใ้ นการจดั กจิ กรรมในหอ้ งเรยี น ดงั ภาพท่ี 29

ภาพท่ี 29 กล่มุ คาสงั่ Toolkit
1. คาสงั่ Time ใชส้ าหรบั ตงั้ เวลาในการทากจิ กรรมมในชนั้ เรยี น ดงั ภาพท่ี 30

ภาพที่ 30 เวลาทากจิ กรรมในชนั้ เรยี น
2. คาสงั่ Random ใชส้ าหรบั สุ่มผเู้ รยี นในการตอบคาถามหรอื ในการทากจิ กรรม

15

ภาพท่ี 31 คาสงั่ Random
3. คาสงั่ Group Maker ใชส้ าหรบั สรา้ งกลมุ่ หรอื จดั กลมุ่ ผเู้ รยี นในการทากจิ กรรมกลุม่ รว่ มกนั

ภาพท่ี 32 คาสงั่ Maker Group
4. คาสงั่ Noise Meter ใชส้ าหรนั ในการเปิดเสยี งในการทากจิ กรรม

ภาพที่ 33 คาสงั่ Noise Meter
5. คาสงั่ Think Pair share ใชใ้ นการแลกเปลย่ี นเรยี นรูร้ ะหว่างผเู้ รยี นกบั ผสู้ อน

16

ภาพท่ี 34 คาสงั่ Think Pair share
6. คาสงั่ Today ใชส้ าหรบั การประกาศจดั กจิ กรรมร่วมกนั ในชนั้ เรยี นดงั ภาพที่ 35

ภาพท่ี 35 คาสงั่ Today
7. คาสงั่ Music สามารถเลอื กเปิดช่องทวี เี พ่อื ฟังเพลงหรอื ดู Youtube

ภาพท่ี 36 คาสงั่ Music
คาสงั่ Attendances เพอ่ื ใชส้ าหรบั เชค็ ชอ่ิ ผเู้ รยี นในการเขา้ ชนั้ เรยี น

17

ภาพท่ี 37 การเชค็ ชอ่ื เขา้ ชนั้ เรยี น
จากภาพที่ 37 เม่อื ต้องการเชค็ การเขา้ เรยี นของผเู้ รยี นใหค้ ลกิ ท่ี Mask all presents
แตถ่ ้าขาดเรยี น ใหค้ ลกิ ท่ี Mask all absent
คาสงั่ Random ใชส้ าหรบั เสรมิ แรงใหก้ บั ผเู้ รยี น ดงั ภาพท่ี 38

ภาพที่ 38 การเสรมิ แรง

18

Helping others -- คลกิ เสรมิ แรงสาหรบั ผเู้ รยี นทม่ี นี ้าใจชอบชว่ ยเหลอื ผอู้ ่นื
On task –-คลกิ เสรมิ แรงสาหรบั ผเู้ รยี นทขี่ ยนั ตงั้ ใจทางาน
Participating --คลกิ เสรมิ แรงสาหรบั ผเู้ รยี นทมี่ สี ว่ นรว่ ม

Persistence—คลกิ เสรมิ แรงสาหรบั ผเู้ รยี นทม่ี คี วามอดทน
Teamwork—คลกิ เสรมิ แรงสาหรบั การทางานเป็นทมี
Working hard – คลกิ เสรมิ แรงสาหรบั ผเู้ รยี นทที่ างานหนัก

สรปุ การใช้งานห้องเรียน Class Dojo

หอ้ งเรยี น Classdojo เป็นหอ้ งเรยี นออนไลน์ทส่ี ่งเสรมิ การเรยี นรูข้ องผู้เรยี นได้ทงั้ การเสรมิ แรง การ
จดั กลุ่ม การเรียนแบบร่วมมอื รวมถงึ ทาใหผ้ ู้เรียนสนุกกบั การเรยี น เน่ืองจากมี Monsters ท่ีทาใหผ้ ูเ้ รยี น
สนุกกบั การเลอื ก และมกี ารเสรมิ แรงในทางบวก ช่วยใหผ้ เู้ รยี นมคี วามสนุก สนาน และทส่ี าคญั เป็นหอ้ งเรยี น
ออนไลน์ทส่ี ามารถใชง้ านไดฟ้ รี

เนื้อหา No.4

การเรียนรู้แบบผสมผสาน

(BLENDED LEARNING)

การเรยี นรูแ้ บบผสมผสาน (Blended Learning)

1.ความหมายของ Blended Learning
การเรยี นร้แู บบผสมผสาน (Blended Learning) มผี ู้ใหค้ วามหมายไวด้ ังนี้

สมาคมสโลน (Allen and Seaman 2005) ให้คาจากัดความของการเรียนแบบผสมผสานว่ามี
สัดส่วนของเนื้อหาท่ีนาเสนอออนไลน์ระหว่างร้อยละ 30 ต่อร้อยละ 79 คาอธิบายของการเรียนแบบ
ผสมผสาน คือ การเรียนท่ีผสมการเรียนออนไลน์และการเรียนในช้ันเรียน โดยที่เนื้อหาส่วนใหญ่ส่งผ่าน
ระบบออนไลน์ ใช้การอภิปรายออนไลน์และมีการพบปะกันในชั้นเรียนบ้าง และมีส่วนที่น่าสนใจว่าการ
อภิปรายออนไลน์ถือเป็นการส่งผ่านเน้ือหาออนไลน์ เช่นกัน สาหรับการเรียนในรูปอ่ืนๆ อย่างเช่น การ
เรียนแบบปกติจะไม่มีการส่งผ่านเนื้อหาออนไลน์ การเรียนแบบใช้เว็บช่วยสอนจะมีการส่งผ่านเนื้อหา
ออนไลน์รอ้ ยละ 1 – 29 และการเรยี นออนไลนม์ กี ารสง่ ผ่านเน้อื หารอ้ ยละ 80 – 100

Charles R. Graham ( Graham , 2012 ) มหาวิทยาลยั Brigham Young University ประเทศ
สหรัฐอเมริกาให้ความหมายวา่ เป็นระบบการเรียนการสอนที่ผสมผสานระหว่างการเรียนแบบเผชิญหน้า
กับการสอนผ่านระบบเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์

Michael B. Horn and Heather Staker ( Horn and Staker , 2011 ) แห่ง Innosight
Institute ไดน้ ิยามเกีย่ วกับการเรยี นแบบผสมผสานของผเู้ รยี นในระดับ K-12 หมายถงึ การเรียนรู้ที่ผู้เรียน
ได้รับมวลประสบการณ์ทางการเรียนรู้อย่างเป็นอิสระผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์โดยนักเรียน
สามารถควบคมุ ตวั แปรทางการเรยี นรู้ดว้ ยตนเองท้งั ในดา้ นเวลา สถานที่ แนวทางการเรียนรู้และอัตราการ
เรยี นรู้ของตนเอง

Radames Bernath ( Bernath , 2012 ) สรุปว่า การเรียนแบบผสมผสานหรือ Blended
Learning หมายถึง โปรแกรมทางการเรยี นรทู้ ีใ่ ช้วธิ กี ารผสมผสานระหว่างการเรียนร้จู ากส่ืออิเล็กทรอนิกส์
หรอื E-learning กับการสอนในชนั้ เรียน

เวบ็ วิกิพเี ดยี Wikipedia 2007) ให้ความหมายของการเรียนแบบผสมผสานว่า เป็นการรวมการ
เรียนรู้หลายรูปแบบ การเรียนแบบผสมผสานจะสมบูรณ์ได้ด้วยการใช้การผสมผสานระหว่างทรัพยากร
การเรียนรทู้ ี่เปน็ สอื่ เสมอื นจริง และทรพั ยากรทางกายภาพ เช่น การรวมเอาส่ือที่ต้องใช้เทคโนโลยีกับการ
เรียนในหอ้ งเรียนเขา้ ด้วยกนั เพ่อื ให้ผู้เรยี นเกดิ การเรียนรู้

จากนิยามข้างต้นอาจสรุปได้ว่า Blended leaning หมายถึง กระบวนการเรียนรู้ ที่ผสมผสาน
รูปแบบการเรียนรู้ทหี่ ลากหลาย ไมว่ า่ จะเป็นการเรียนรู้ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในห้องเรียน ผสมผสานกับการเรียนรู้นอก

ห้องเรียนท่ีผู้เรียนผู้สอนไม่เผชิญหน้ากัน หรือการใช้แหล่งเรียนรู้ท่ีมีอยู่หลากหลาย กระบวนการเรียนรู้
และกิจกรรมเกิดข้ึนจากยุทธวิธี การเรียนการสอนที่หลากรูปแบบ เป้าหมายอยู่ท่ีการให้ผู้เรียนบรรลุ
เปา้ หมายการเรยี นรเู้ ปน็ สาคญั การสอนดว้ ยวิธีการเรยี นรูแ้ บบผสมผสานนั้น ผู้สอน สามารถใช้วิธีการสอน
สองวิธหี รอื มากกวา่ ในการเรียนการสอน เช่น ผู้สอนนาเสนอเน้ือหาบทเรียนผ่านเทคโนโลยีผนวกกับการ
สอนแบบเผชิญหน้า แต่หลังจากนั้นผู้สอนนาเน้ือหาบทความแขวนไว้บนเว็บ จากนั้นติดตามการดาเนิน
กิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้อีเลริ ์นนงิ่ ดว้ ยระบบแอลเอ็มเอส (Learning Management System)
ดว้ ยเครื่องคอมพิวเตอร์ในห้องแล็ป หลังจากน้ันสรุปบทเรียน ด้วยการอภิปรายร่วมกับอาจารย์ผู้สอนใน
ห้องเรียน

การเรียนแบบผสมผสาน สามารถนามาสรุปได้เป็น 3 มิติ ตาม Graham, Allen and Ure
(2003) กล่าวไวค้ อื การผสมผสานการสอนผ่านสื่อการสอน การผสมผสานวิธีการเรียนการสอน และการ
ผสมผสานระหว่างการสอนแบบเผชญิ หนา้ กับการสอนออนไลน์

2. ลกั ษณะของการเรียนรแู้ บบผสมผสาน ( Types and Models )
Blended Learning เป็นการบูรณาการ online learning และ face-to-face meetings เข้า

ดว้ ยกนั ข้อสมมตขิ องชมุ ชนการเรียนรใู้ นลักษณะนี้ คือ
1) ผู้เรยี นจะมีปฏสิ มั พันธ์ และรว่ มมอื กันท่ลี กึ ซ้ึงข้ึน
2) ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งผู้เรยี นดว้ ยกัน
เกิดจากการมีปฏิสัมพันธ์กันในกลุ่มที่มีการจัดวางการทางานกลุ่มเป็นอย่างดี ด้วยการนา

เทคโนโลยเี ขา้ มาช่วย ก่อน และ/หรือหลังจากมี face-to-face learning แล้ว ก็ได้ ซึ่งอาจจะรวมถึง pre-
event activities เพ่ือ warm-up ก่อนมีการประชุมเป้าหมายก็เพื่อการสร้างมนุษย์สัมพันธ์ในระหว่าง
ผู้เรยี น สร้างความรู้สกึ การเป็นทมี รว่ มกนั ซงึ่ จะสง่ ผลต่อประสิทธภิ าพ และความรวดเร็วในการทางานกลุ่ม
อาจมีการปฐมนิเทศ แนะนา ชี้แจง ก่อนเรียนทางWeb conferences, online discussions, และ
conference ซ่ึงจะทาให้มีการเปิดใจกว้าง ท่ีจะเรียนรู้ร่วมกันแลกเปลี่ยนการเรียนรู้กัน ถ้าหากสุดท้าย
ผเู้ รยี นจะตอ้ งมาพบกนั ในช้ันเรียนแบบเดมิ หรือในอกี กรณีตัวอยา่ งหนง่ึ คือการให้มี Follow-up learning
community หลังจาก มี face-to-face eventแลว้ ชุมชนการเรียนรู้ในลักษณะนี้ อาจด้วยการให้ผู้เรียน
ทา group projects, discussing research findings, และ mentoring peers เป็นต้น หรือลักษณะ
end-to-end communities ที่รวมทั้ง pre-event และ follow-up learning activities ด้วย ผู้เรียน
บางคนอาจชอบ end-to-end community มากกวา่ เพราะ face-to-face meeting แบบปกติ มักเป็น

เรอื่ งปฏสิ ัมพันธ์ระหว่างกลุ่ม ท่ีจะมาร่วมมือกนั ทางาน ตวั อยา่ งเช่น ครูอาจใช้ ice-breaker community
สาหรบั prework และแนะนา เร่ืองตา่ ง ๆ ให้กับผู้เรียน ใช้ face-to-face experiential workshop ใน
การให้ความชัดเจนเร่ืองจุดประสงค์การเรียนของแต่ละคน และใช้ follow-up community ในการ
coaching และ mentoring เพอ่ื ใหผ้ ูเ้ รียนไดบ้ รรลจุ ุดประสงคท์ ว่ี างไว้

การเรียนแบบผสมผสาน ( Blended Learning ) ตามมโนทัศน์ ( Concepts ) ท่ีกาหนดน้ันจะ
เปน็ ลกั ษณะของการผสมผสานการเรยี นรใู้ น 4 ลักษณะดงั ตอ่ ไปนี้ ( Oliver and Trigwell ,2005 )

1. การผสมผสานเทคโนโลยกี ารเรยี นการสอนจากการเรียนผ่านเว็บ (Web-Based Instruction)
ให้เป็นไปตามจุดมุ่งหมายหรอื วัตถุประสงค์ที่กาหนดไว้

2. การผสมผสานในรูปแบบหรือวิธีการท่ีเน้นเชิงวิชาการในการสร้างผลผลิตทางการเรียนรู้ให้
สูงขนึ้ โดยปราศจากเทคโนโลยเี พื่อการสอนอน่ื ๆ เขา้ มาช่วย

3. การผสมผสานรูปแบบวิธีการทางเทคโนโลยีทางการสอนผ่านหลักสูตรเฉพาะและ / หรือการ
ฝกึ อบรม

4. การผสมผสานเทคโนโลยีการสอนเข้ากับงานปกติ หรือการเรียนตามปกติท่ีกระทาอยู่ใน
ขณะเดียวกันกบั ท่ี Horn and Staker ( 2011 ) ไดจ้ าแนกถงึ คุณลักษณะในการจัดการเรียนการสอนแบบ
ผสมผสานหรือ Bended Learning สาหรับผู้เรียนในระดับ K-12 ไว้ว่าการการสอนรูปแบบดังกล่าว
สามารถจาแนกออกเป็น 6 รูปแบบ ดังน้ี

Model 1 : Face to Face Driver เป็นรูปแบบการเรียนการสอนแบบปกติท่ีมีการเรียนแบบ
เผชิญหน้าระหว่างผเู้ รยี นกบั ผสู้ อนในช้นั เรียนโดยการเรียนรู้แบบออนไลนใ์ นแตล่ ะเร่ืองหรือแต่ละประเด็น
ทกี่ าหนดในหลักสูตรของการเรยี นรูแ้ ตล่ ะคร้ัง

Model 2 : Rotation เป็นรูปแบบการเรียนรู้แบบหมุนเวียนตามหลักสูตรเน้ือหาในตารางท่ี
กาหนดของการสอนปกตใิ นชน้ั เรยี นภายใต้สถานการณ์ท่มี คี วามหลากหลายและเปน็ ไปตามอัตราการเรียน
ของแตล่ ะบุคคลเป็นสาคญั

Model 3 : Flex เป็นลักษณะการเรียนแบบผสมผสานที่มีความยืดหยุ่นในการปรับใช้ภายใต้
สถานการณ์ที่ต่างกันที่ครูสามารถจัดให้กับผู้เรียนในการเรียนรู้หลายรูปแบบท้ังการเรียนแบบ tutoring
หรือการเรยี นแบบกลมุ่ เล็กตามกล่มุ สนใจ เป็นต้น

Model 4 : Online Lab เป็นรูปแบบการเรียนรู้แบบผสมผสานที่เน้นการเรียนในห้องเรียน
ออนไลน์ภายใต้สภาพการณ์ของการใช้ห้องปฏิบัติการทางเทคโนโลยีสารสนเทศเต็มรูปแบบโดยครูและ
ผู้เชย่ี วชาญเป็นผคู้ อยควบคมุ ให้ความช่วยเหลอื ทางการเรียนรแู้ ก่ผูเ้ รียน

Model 5 : Self Blended เป็นรูปแบบของการเรียนแบบผสมผสานด้วยตัวของผู้เรียนเองตาม
ประเด็นหรือหลักสูตรกาหนด ลักษณะดังกล่าวนี้ส่วนใหญ่เป็นการเรียนรู้ในระดับอุดมศึกษาหรือ
มหาวิทยาลยั ทีม่ ีการเชื่อมโยงข้อมูลทางการเรียนระหว่างกันหรือระหว่างสถาบัน ลักษณะดังกล่าวนี้จะมี
โปรแกรมควบคมุ หลักอยทู่ ห่ี ้องปฏบิ ตั กิ ารตาม Model 4 ท่จี ะคอยควบคุมและอานวยความสะดวกในการ
เรียนในการเรยี นร้แู บบผสมผสานด้วยตนเอง

Model 6 : Online Driver เป็นลักษณะการเรียนแบบผสมผสานที่เต็มรูปแบบโดยมีการเรียน
แบบออนไลน์ทั้งผู้เรียนและผู้สอนจากหลักสูตรที่กาหนด เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และสารสนเทศจะมี
บทบาทคอ่ นขา้ งสงู ต่อกระบวนการขับเคลอื่ นในรูปแบบดงั กลา่ ว

จากรูปแบบของการเรียนแบบผสมผสานข้างต้น เห็นได้ว่าการนาเอากระบวนการเรียนแบบ
ผสมผสานมาใช้ในการเรียนการสอนนั้น ประเด็นสาคัญคงต้องคานึงถึงความพร้อมและความเป็นไปได้
หลายประการท่ีจะเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาปรับใช้การเรียนรู้ในลักษณะนี้ให้เหมาะสมกับสภาพการณ์
บรบิ ทและความพรอ้ มทุกดา้ นเพ่ือเกดิ ผลและประสทิ ธิภาพสงู สดุ ของการประยกุ ตใ์ ช้

• องคป์ ระกอบของการเรียนแบบผสมผสาน ( 5 Keys Ingredients ) ภายใต้สถานการณ์ของการ
เรียนแบบผสมผสานนน้ั จะประกอบไปด้วยสิ่งบ่งชี้สาคญั 5 ประการ ต่อไปน้ีที่บ่งบอกถึงสภาพการณ์ของ
การเรียนแบบ Blended Learning ได้แก่ (Carman , 2005 )

1. เหตกุ ารณ์หรอื ปรากฏการณท์ ่เี กิดขึ้นเปน็ ปจั จบุ ัน ( Live Events ) เป็นลักษณะของการเรียนรู้
ที่เรียกว่า “การเรียนแบบประสานเวลา (Synchronous)” จากเหตุการณ์จริงหรือสถานการณ์จาลองท่ี
สรา้ งข้ึนเพ่ือให้ผเู้ รยี นมสี ่วนร่วมในการเรียนในช่วงเวลาเดียวกัน เช่นเหตุการณ์ในการเรียนรู้ในช้ันเรียนท่ี
เรยี กว่า “หอ้ งเรียนเสมือน ( Virtual Classroom )” เปน็ ตน้

2. การเรียนเน้ือหาแบบออนไลน์ (Online Content) เป็นลักษณะการเรียนที่ผู้เรียนสามารถ
เรียนรูไ้ ดด้ ว้ ยตนเองตามสภาพความพร้อมหรืออัตราการเรียนรู้ของแต่ละคน ( Self-paced Learning )
รูปแบบการเรียนเช่นการเรียนแบบส่ือปฏิสัมพันธ์ ( Interactive ) การเรียนจากการสืบค้น ( Internet-
Based ) หรือการฝึกอบรมจากสือ่ CD-ROM เป็นตน้

3. การมสี ว่ นรว่ มในการเรียนรู้ (Collaboration) เปน็ สภาพการณท์ างการเรียนรู้ที่ผู้เรียนสามารถ
สอ่ื สารข้อมลู ร่วมกันกบั ผ้อู นื่ จากระบบส่อื ออนไลน์ เชน่ e-Mail ,Chat , Blogs เป็นตน้

4. การวัดและประเมินผล (Assessment) การเรียนลักษณะดังกล่าวต้องมีการประเมินผล
ความก้าวหนา้ ทางการเรยี นรขู้ องผ้เู รยี นทกุ ระยะนับตั้งแต่การประเมินผลก่อนเรียน (Pre-assessment )

การประเมินผลระหว่างเรียน ( self-paced evaluation ) และการประเมินผลหลังเรียน (Post-
assessment) เพอ่ื นาไปสูก่ ารปรับปรุงพัฒนาการเรยี นรู้ใหด้ ีขนึ้ ต่อไป

5. วัสดุประกอบการอ้างอิง (Reference Materials) การเรียนหรือการสร้างงานในการเรียนรู้
แบบผสมผสานน้ันต้องมีการเรียนรู้และสร้างประสบการณ์จากการศึกษาค้นคว้า และอ้างอิงจาก
หลากหลายแหล่งขอ้ มลู เพ่อื เพ่มิ คณุ ภาพทางการเรียนให้สงู ขึ้น ลกั ษณะดงั กลา่ วน้ีอาจเป็นลักษณะของการ
สืบคน้ ขอ้ มูลในระบบ Search Engine จาก PDA , PDF Downloads เหลา่ นี้เปน็ ตน้

• ข้อควรคานงึ ถึงในการผสมผสานวิธสี อนแบบตา่ ง ๆ
1.ผสู้ อนควรคานึงถงึ จุดประสงค์การสอนเป็นหลักสาคัญ อย่าผสมผสานจนบ่อยเกินไป และอย่า
ผสมผสานเพียงเพ่ือใหม้ ีการสอนหลาย ๆ แบบเท่านัน้
2.ผู้สอนต้องคานงึ ถึงความพร้อมของผเู้ รยี น และของผ้สู อนเองดว้ ย ผู้สอนต้องเข้าใจและมองเห็น
ภาพการผสมผสานวา่ สามารถดาเนินการได้ดีเหมาะสมเพียงไร ส่วนผู้เรียนมีความพร้อมท่ีจะเรียนโดยวิธี
เหลา่ นนั้ มากน้อยเพียงใด
3.สถานที่และอุปกรณ์ ก็เป็นส่ิงท่ีต้องคานึงถึง เพราะการเปล่ียนวิธีสอนหมายถึงการเปลี่ยน
บรรยากาศ เปลยี่ นกจิ กรรม อุปกรณ์และสถานท่อี าจเปลย่ี นตามไปดว้ ย

3. แนวคิดและทฤษฎกี ารเรียนร้ทู ่ีเกี่ยวขอ้ ง
แนวคิดของการเรยี นแบบผสมผสาน สามารถแบ่งออกเปน็ 4 แนวคิดด้วยกนั ได้แก่
1) แนวคิดผสมผสานเทคโนโลยีการเรียนการสอนบนเว็บกับการเรียนในช้ันเรียนแบบดั้งเดิม (to

combine or mix modes of web-based technology) เช่น การเรียนในห้องเรียนเสมือนแบบการ
เรยี นดว้ ยตนเอง การเรียนร้รู ว่ มกนั วดิ ีโอสตรีมม่งิ เสียง และข้อความ เป็นต้น เพ่ือให้บรรลุตามเป้าหมาย
ของการจัดการศึกษา ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของ Singh ท่ีให้นิยามของการเรียนแบบผสมผสานไว้ว่า
เป็นเรียนโดยใช้การผสมผสานวิธีสอนท่ีหลากหลายเข้าด้วยกันเพื่อให้ผู้เรียนเกิดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
สงู สดุ

2) แนวคดิ การผสมผสานวิธีสอนที่หลากหลายเข้าด้วยกัน (to combine various pedagogical
approaches) เช่น แนวคิดสร้างสรรค์นิยม (constructivism) แนวคิดพฤติกรรมนิยม (behaviorism)
และแนวคิดพทุ ธินยิ ม (cognitivism) เพอื่ ใหไ้ ดผ้ ลลพั ธจ์ ากการเรยี นที่ดที ี่สดุ ซง่ึ อาจใช้หรือไม่ใช้เทคโนโลยี
เทคโนโลยีการสอน (instructional technology) ก็ได้ ซึ่งสอดคลอ้ งกบั แนวคิดของ Bonk and Graham
ที่กล่าววา่ การเรยี นแบบผสมผสานเป็นการผสมผสานระบบการเรียน (learning systems) ท่ีหลากหลาย

เข้าด้วยกันเพื่อเป็นการแก้ปัญหาที่หลากหลายในการเรียน และสอดคล้องกับแนวคิดของ Carman ท่ี
กล่าวว่าการเรียนแบบผสมผสานเป็นการผสมผสานทฤษฎีการเรียนรู้เข้าด้วยกันเพื่อให้บรรลุผลตาม
วตั ถปุ ระสงคข์ องการจัดการเรยี นรู้

ภาพท่ี 1 การผสมผสานทฤษฎกี ารเรยี นรู้ตามแนวคดิ ของ Carman
3) แนวคิดการผสมผสานเทคโนโลยกี ารเรียนการสอนทุกรปู แบบกับการเรียนการสอนในช้ันเรียน
แบบดั้งเดิมที่มีการเผชิญหน้าระหว่างผู้เรียนกับผู้สอน (to combine any form of instructional
technology with face-to-face instructor-led training) ซ่ึงเป็นมุมมองท่ีมีผู้ยอมรับกันอย่าง
แพร่หลายมากที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับ Uwes [12] ท่ีกล่าวว่าการเรียนแบบผสมผสานเป็นการบูรณาการ
การเรียนแบบเผชญิ หนา้ การเรียนดว้ ยตนเอง และการเรียนแบบรว่ มมอื แบบออนไลน์เขา้ ด้วยกัน

ภาพที่ 2 การเรียนแบบผสมผสาน ตามแนวคดิ ของ Uwes
4) แนวคดิ การผสมผสานเทคโนโลยีการเรียนการสอนกับการทางานจริง (to mix or combine
instructional technology with actual job tasks in order to create a harmonious effect of
learning and working) ซ่ึงสอดคล้องกับ Bersin ท่ีกล่าวว่าการเรียนแบบผสมผสานเป็นส่วนหนึ่งของ

การฝึกอบรมในองค์กร เป็นการผสมผสานการเรียนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์และส่ืออื่นๆ ในการส่งผ่าน
ความรใู้ นการเรยี นและการฝกึ อบรม

จากแนวคิดการจัดการเรียนการสอนบนเว็บแบบผสมผสานที่กล่าวมาข้างต้นสามารถสรุปได้ว่า
การเรียนแบบผสมผสาน เป็นรูปแบบการเรียนที่มุ่งเน้นการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยการสร้าง
สงิ่ แวดล้อมและบรรยากาศในการเรยี นรู้ วธิ ีการสอนของผสู้ อน รปู แบบการเรยี นรผู้ ้เู รียน สื่อการเรียนการ
สอน ช่องทางการส่ือสาร และรูปแบบปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้สอน ผู้เรียนกับผู้เรียน ผู้เรียนกับ
เน้ือหาผู้เรยี นกบั บริบทในการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย และจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นความยืดหยุ่น
เพื่อตอบสนองต่อความแตกตา่ งระหวา่ งบุคคลของผเู้ รียนเพ่อื ใหผ้ ู้เรียนแต่ละคนได้ผลลัพธ์ท่ีดีที่สุดจากการ
เรียนการสอน

• รปู แบบการเรียนการสอน
ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 หมวด 4 แนวการจัดการศึกษา มาตรา 22
การจดั การศกึ ษาต้องยดึ หลกั ว่า ผเู้ รียนทกุ คนมคี วามสามารถเรยี นรู้และพัฒนาตนเองได้และถือว่าผู้เรียน
มคี วามสาคญั ทส่ี ดุ กระบวนการจัดการศกึ ษา ต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็ม
ตามศกั ยภาพ การจัดรปู แบบการสอนต้องมีแบบแผนการดาเนินการสอนท่ีจัดไว้อย่างเป็นระบบสอดคล้อง
กบั หลกั การเรยี นร้ชู ่วยให้ผูเ้ รียนเกิดการเรียนรู้ตามจดุ มุ่งหมาย โดยท่ัวไปรูปแบบการสอนมีหลากหลายวิธี
เชน่ สอนโดยการบรรยายสอนโดยการสาธติ สอนโดยการทดลอง สอนโดยการนิรนัยและการอุปนัย สอน
โดย การอภิปรายกลุม่ ยอ่ ย สอนโดยใช้การแสดงบทบาทสมมติ สอนโดยใชโ้ ครงงาน หรือโครงการลักษณะ
ของการจัดช้ันเรียนมี 2 แบบคือ ข้ึนอยู่กับผู้สอน และยึดผู้เรียนเป็นหลัก ซึ่งมีลักษณะการจัดชั้นเรียนท่ี
แตกตา่ งกนั ดงั น้ี

ขน้ึ อยกู่ ับผู้สอน (Teacher-directed) ยึดผเู้ รียนเปน็ หลัก (Learmer-centered)
สอน แลกเปลีย่ นเรียนรู้
ความรู้ ทกั ษะ
เนอื้ หา กระบวนการ
ช่วงเวลา ตามความต้องการ
ทกั ษะพื้นฐาน ทักษะประยุกต์
เหมือนกนั ทง้ั สองห้อง เหมาะสมรายบคุ คล
แขง่ ขนั ร่วมมือ
ห้องเรยี น ชุมชนทวั่ ไป

ตามตารา ใช้เว็บ
สอบความรู้ ทดสอบการเรียนรู้
เรียนเพอื่ โรงเรียน เรยี นเพื่อชวี ิต
ขอ้ ความจริงและหลักการ คาถามและปญั หา
ทฤษฏี ปฏิบัติ
หลกั สตู ร โครงการ

รูปแบบของการจัดการเรียนการสอนในปัจจุบันเน้นการจัดการช้ันเรียน โดยยึดผู้เรียนเป็นหลัก
ตามการศึกษาแห่งชาติ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนจึงมีหลากหลายรูปแบบที่เน้นตัวผู้เรียน จาก
ผลการวิจยั ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด แสดงให้เห็นถึงกิจกรรมท่ีต่างกันแต่ละอย่างจะทาให้เราจดจาส่ิงท่ี
ได้การเรยี นรูต้ า่ งกันคดิ เปน็ ร้อยละ ดังนี้

- การเรียนในห้องเรยี น (Lecture) เชน่ นงั่ ฟังบรรยาย จะจาไดเ้ พียง 5%
- การอา่ นด้วยตวั เอง (Reading) เช่น จะจาไดเ้ พม่ิ ขึ้นเปน็ 10%
- การฟงั และได้เห็น (Audiovisual) เช่น การดูโทรทศั น์ ฟังวทิ ยุ จาได้ 20%
- การได้เห็นตัวอย่าง (Demonstration) เช่น จะช่วยให้จาได้ 30%
- การไดแ้ ลกเปลี่ยนพดู คยุ กนั (Discussion) เชน่ การพดู คยุ แลกเปลยี่ นความรู้กันในกลมุ่
จะช่วยให้จาได้ถึง 50%
- การไดท้ ดลองปฏบิ ัติเอง (Practice doing) จะจาไดถ้ งึ 75%
- การได้สอนผ้อู ื่น (Teaching) เช่น การติว หรอื การสอน จะชว่ ยให้จาได้ถงึ 90%
รปู แบบการเรยี นนอ้ี าจแบ่งได้เปน็ 2 กลุ่ม ไดแ้ กก่ ลมุ่ ซึง่ ประกอบด้วยการบรรยาย การอ่าน การได้
ดูและได้ยินเสียง การสาธติ ทาให้ดกู ลุ่มแรกเป็นการเรยี นรู้ท่ีเริม่ จากคนอ่ืน แล้วนามาให้เราแบบ outside-
in หรือเป็นวิธีที่คนเข้าใจเรื่องนี้นาความรู้เรื่องนั้นเอามาถ่ายทอดให้เรา ส่วนกลุ่มท่ี 2 ประกอบด้วยการ
พูดคุยกันในกลุ่มย่อย การลงมือปฏิบัติ และการได้ถ่ายทอดสิ่งท่ีทาได้ให้คนอื่นเป็นการเรียนรู้ท่ีต้องทา
ความเข้าใจด้วยตนเอง แล้วสะท้อนออกมาด้วยการปฏิบัติเป็นการเรียนแบบเข้าใจข้างในตัวเราเองก่อน
แลว้ ถึงจะถ่ายทอดให้คนอื่น กลุ่มหลังน้ีได้ข้อสรุปว่า มีประสิทธิภาพของการเรียนรู้ดีกว่า หมายถึงระดับ
ความลกึ ของการเข้าใจในเร่ืองใดเร่ืองหน่ึงในระดับท่ีลึกกว่า การศึกษาของไทยส่วนใหญ่ใช้วิธีการในกลุ่ม
แรกมากกว่าอาจจะเป็นเพราะว่าง่ายกว่า วิธีการเรียนรู้ในกลุ่มที่สองนั้นต้องมีความสามารถในการออก
แบบมากกว่า ต้องใช้เวลามากกว่า ต้องใช้ความอดทนเพ่ือดูการเปล่ียนแปลงมากกว่า เลยทาให้คนส่ว น

ใหญ่หันไปใช้วิธีเรียนรู้แบบเดิมและทามานานจนกลายเป็นการปลูกฝังวัฒนธรรมการเรียนรู้และได้มี
ผลการวิจัยเปรียบการเรียนในชั้นเรียน กับการเรียนแบบ Blended Learning ของสถาบันวิจัยของ
ประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่าผู้เรียนที่เรียนแบบ Blended Learning มีความรู้สูงขึ้นกว่า การเรียนในช้ัน
เรยี นอย่างมนี ัยสาคัญทางสถิติ และมีความร้ทู ค่ี งทนกวา่ ถึงรอ้ ยละ 110

• การเรียนรขู้ องคนในศตวรรษที่ 21
ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นปัจจัยท่ีสาคัญท่ีทาให้การเข้าถึง
แหล่งเรียนรู้ได้สะดวก ง่าย หลากหลายช่องทาง สามารถรับรู้ได้ด้วยการอ่าน ฟัง ดู มีการนาเสนอใน
รูปแบบอักษรภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว รวมถึงการสร้างสถานการณ์เสมือนจริง (Virtual Situation)
รวมท้งั การปฏสิ มั พันธ์ (Interaction) และสร้างเครือขา่ ยให้สามารถติดต่อส่ือสารได้อย่างไร้ขอบเขตทาให้
การเรียนร้แู ละสมรรถนะของคนในยุคศตวรรษท่ี 21 เปลยี่ นไป การเรียนรูไ้ ม่ได้มีลกั ษณะเรยี งเปน็ แถวจาก
ความรู้ (knowledge) ไปสู่ความเข้าใจ(comprehension) การประยุกต์ใช้(application) การวิเคราะห์
(analysis) การสังเคราะห์(synthesis) และการประเมิน(evaluation)ตามลาดับ แต่การเรียนรู้เป็น
กระบวนการเรียนรู้เนื้อหาไปสู่ความเข้าใจแท้จริงในระดับท่ีนาไปใช้ได้ในสถานการณ์จริง เรียนรู้เน้ือหา
พรอ้ มๆ กบั การใชป้ ระโยชน์ในสถานการณ์จรงิ ผลการเรียนรู้คือจาได้(remember) เข้าใจ(understand)
ประยุกต์ใช้(apply) วิเคราะห์(analyze) ประเมิน(evaluate) และสร้างสรรค์(create) โดยที่ขั้นตอน
เหล่าน้ีเกิดพร้อมๆ กันได้หรืออะไรเกิดก่อนเกิดหลังได้ท้ังส้ิน รวมท้ังเรียงลาดับจากหลังไปหน้าก็ได้ โดย
สมรรถนะท่ีสาคัญของผู้เรียนมี 5 ด้านได้แก่ ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด
ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศ

4. การพัฒนา Blended Learning
• ความเปน็ มาและพฒั นาการเรยี นร้เู ชงิ ผสมผสาน
การเรยี นรู้แบบผสมผสาน ( Blended Learning ) เป็นกระบวนการเรียนการสอนท่ีมีพัฒนาการ

มาอย่างต่อเน่อื งจากการเรยี นการสอนแบบเดิมท่ีใช้วิธีการเรียนรู้แบบเผชิญหน้าท่ีผู้เรียนและผู้สอนต่างมี
ปฏสิ ัมพันธ์และไดร้ ับประสบการณ์ตรงซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะอย่างย่ิงการเรียนรู้ในระบบชั้นเรียนปกติ
เป็นสภาพแวดล้อมทางการเรียนรู้ท่ีเรียกว่า The traditional face-to-face learning environment
จวบจนก้าวยา่ งสู่ยคุ การเรยี นรู้แบบทางไกล ( Distance Learning )ผ่านส่ือการเรียนรู้ทางไกลท่ีถูกจัดขึ้น
ในการเสริมประสบการณ์ทางการเรียน ซึ่งลักษณะดังกล่าวนี้จะทาให้รูปแบบและลักษณะการเรียนการ

สอนแบบเผชิญหน้าจะลดบทบาทลงไปค่อนข้างมาก ผู้เรียนและผู้สอนไม่จาเป็นต้องจัดประสบการณ์
ทางการเรียนรรู้ ่วมกันในชัน้ เรยี นปกติอกี ต่อไป แตส่ ามารถที่จะเกิดการเรียนรู้ได้ทุกแห่งทั้งในและนอกชั้น
เรียน จนกระท่ังวิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์ในโลกแห่งการเรียนรู้ปัจจุบันท่ีเรียกว่ายุค Web.2 ท่ีได้มี
อิทธิพลตอ่ การศึกษาคอ่ นข้างมาก ประสิทธิภาพของส่ือคอมพิวเตอรท์ ี่เกิดพฒั นาการทางการเรียนจากการ
เรียนการสอนบนเวบ็ ไซต์ ( Web -based Instruction ) ไดก้ ่อให้เกดิ การเปลยี่ นแปลงครงั้ ใหญ่ในกระบวน
ทศั น์ของการเรียนการสอน นามาซ่ึง

• การทางานของ Blended Learning
ส่ือแต่ละประเภทมีทั้งจุดเด่นและจุดด้อยอยู่ในตัว การที่จะทาให้ Blended Learning น้ันมี
ความสามารถทมี่ ากข้ึนเต็มความสามารถของการผสมผสานน้ัน อาจจะเรม่ิ ตน้ ท่จี ะมองหาส่อื ตา่ งๆ ทั้งหมด
ไมว่ ่าจะเป็น การฝึกอบรมในชั้นเรยี น ,การฝึกอบรมผ่านทางเครือข่าย ,การสัมมนาผ่านทางเครือข่าย, ชุด
การเรียนการสอนด้วย CD-ROM หรือแบบจาลองสถานการณ์การเรียนรู้ต่างๆ สื่อต่างๆน้ันคือความน่า
ตืน่ เต้นเล็กน้อย แต่ทีส่ าคัญจะตอ้ งรวม หนงั สือ เอกสารตา่ งๆ
• การวางแผนการจดั การเรยี นการสอนแบบ Blended Learning ควรคานึงถึงสิง่ ต่างๆ ดังนี้

1. จะใช้ computer และ internet ในการสอนอย่างไร
2. จะวางแผนการสอนอย่างไร
3. จะควบคมุ สง่ิ ตา่ งๆที่เกิดขึ้นจากการเรยี นรู้แบบนี้อยา่ งไร
4. จะใชแ้ หล่งเรียนรู้ online ให้เกิดประสิทธิผลอยา่ งไร
5. จะใช้แรงจูงใจและชว่ ยเหลือสนับสนุนผเู้ รยี นอย่างไรบา้ ง
6. จะใหผ้ เู้ รียนทางานกลุม่ อยา่ งไร
7. จะสรา้ งองค์ประกอบของการสอนแบบ fact-to-face ไดอ้ ย่างไร
8. จะเสรมิ การเรยี นรแู้ บบออนไลน์ได้อย่างไร
• การออกแบบการจัดการเรยี นการสอนแบบ Blended Learning
ในการออกแบบการเรียนการสอนแบบผสมผสานให้ประสบผลสาเร็จในการจัดการเรียนรู้น้ัน นัก
ออกแบบการเรียนการสอน (instructional designer) ต้องคานึงถึงจุดประสงค์ของการเรียนท่ีกาหนดไว้
ระยะเวลาในการเรียน รวมถงึ ความแตกต่างของรูปแบบการเรียนรู้ และรูปแบบการคิดของผู้เรียนเพื่อใช้
เปน็ ขอ้ มูลพื้นฐานในการออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอน การออกแบบบทเรียน และการประเมินผล
การเรียน

จากจุดเด่นของการเรียนการสอนแบบผสมผสานที่ทาให้ความสัมพันธ์และปฏิสัม พันธ์ระหว่าง
ผู้เรียนกับผู้สอนและเพื่อนผู้เรียนคนอ่ืนๆ ทาให้ผู้เรียนและผู้สอนใกล้ชิดกันมากขึ้นทาให้ผู้เรียนสามารถ
แลกเปลย่ี นประสบการณร์ ะหว่างกันไดโ้ ดยสะดวก สามารถเข้าใจเพ่ือนร่วมช้ันเรียนและเคารพเพ่ือนร่วม
ช้ันเรยี นมากข้ึน ส่งผลใหผ้ เู้ รยี นมีความม่ันใจในตนเองมากข้ึน นอกจากนี้ผู้เรียนยังได้รับผลป้อนกลับจาก
การเรยี นได้โดยทนั ที ซึง่ เปน็ การส่งเสรมิ พัฒนาการในการเรียนของผู้เรียนแต่ละคนให้เต็มตามศักยภาพที่
ผู้เรียนแต่ละคนมี มีผู้เสนอแนวทางในการออกแบบบทเรียนบนเว็บแบบผสมผสาน ดังน้ี The Training
Place เสนอแนวทางในการพฒั นารูป แบบการจดั การเรียนการสอนบนเว็บแบบผสมผสาน โดยพัฒนาจาก
รูปแบบการออกแบบระบบการเรียนการสอนADDIE ประกอบดว้ ย 5 ขน้ั ตอน ดงั น้ี

ขั้นท่ี 1 การวเิ คราะหแ์ ละการวางแผน (Analysis and Planning)
ขน้ั ที่ 2 การออกแบบ (Design Solutions)
ขน้ั ที่ 3 การพัฒนา (Development)
ข้นั ที่ 4 การนาไปใช้ (Implementation)
ข้ันท่ี 5 การประเมินผล (Evaluation)
1. ขั้นวเิ คราะห์และการวางแผน ประกอบด้วย
1.1. การวิเคราะห์ผู้เรียน การปฏิบัติการ องค์กรรูปแบบการเรียน และความต้องการของระบบ
เพ่อื ใช้ในการพัฒนาหลกั สตู ร
1.2. วเิ คราะหท์ รพั ยากรที่สนับสนุนต่อการจดั กจิ กรรมการเรยี น
1.3. วิเคราะห์ความต้องการของผู้เรียน การวางแผน การนาไปใช้ การทดสอบ และการ
ประเมนิ ผล
1.4. การวิเคราะห์แผนงาน กระบวนการทางานการนาไปใช้ในภาพรวม เพ่ือนาไปสู่การสสร้าง
วงจรในการพัฒนาและปรบั ปรุงรูปแบบกระบวนการทางานทว่ี างไว้
1.5. การวเิ คราะหค์ วามตอ้ งการขององค์กร
2. ขน้ั การออกแบบ ประกอบดว้ ย
2.1 กาหนดจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (objectives)
2.2 การออกแบบให้ตอบสนองต่อความแตกต่างระหว่างบคุ คลของผู้เรยี น (personalization)
2.3 การออกแบบประเภทของการเรยี นรู้ (taxonomy)
2.4 การออกแบบบรบิ ททเ่ี กย่ี วข้อง (local context ) ไดแ้ ก่ บา้ น การทางาน (on-the-job) การ
ฝกึ ปฏบิ ตั ิ (practicum) หอ้ งเรยี น / หอ้ งปฏิบัติการ แ ละการเรยี นรู้รว่ ม กนั (collaboration)

2.5 การออกแบบผู้เรียน (Audience) ได้แก่ การเรียนด้วยการนาตนเอง (self-directed) การ
เรียนแบบเพื่อนช่วยเพื่อน (peer-to-peer) การเรียนแบบผู้ฝึกสอนและผู้เรียน (trainer-learner) และ
การเรยี นแบบผ้ใู ห้คาปรึกษากับผ้เู รียน(mentor-learner)
3. ขน้ั การพฒั นาการพัฒนาการเรียนแบบผสมผสาน ประกอบดว้ ย 3 องคป์ ระกอบ ดังนี้

3.1 องคป์ ระกอบแบบไม่ผสานเวลา (asynchronous) ได้แก่ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ กระดาน
ข้อความ เวทีเสวนาและการสนทนาแบบปฏิสัมพันธ์ เคร่ือง มือท่ีใช้องค์ความรู้เป็นฐาน ระบบ
อิเล็กทรอนิกส์เพื่อสนับสนุนการเรียน (EPSS) ระบบบริหารจัดการเนื้อหาเรียนรู้ ระบบบริหารจัดการ
เรียนรู้ เครอ่ื งมือนิพนธเ์ ว็บ บราวเซอร์ ระบบตดิ ตามความก้าวหน้าของผเู้ รยี น บทความ เวบ็ ฝึกอบรม การ
ติดตามงานทีม่ อบหมาย การทดสอบ การทดสอบกอ่ นเรียนการสารวจ การชแ้ี นะแบบมสี ว่ นร่วม เคร่ืองมือ
อานวยความสะดวกในการเรยี นรู้ และการประชุมทม่ี ีการบนั ทึกเสียงและฟังซา้ ได้

3.2 องคป์ ระกอบแบบผสานเวลา (synchronous) ไดแ้ ก่ การประชุมผ่านเสียง การประชุมผ่านวี
ดีทัศน์ การประชุมผ่านดาวเทียม ห้องปฏิบัติการแบบออนไลน์ ห้องเรียนเสมือน การประชุมผ่านระบบ
ออนไลน์ และการอภิปรายออนไลน์

3.3 องค์ประกอบแบบเผชิญหน้า (Face-to-Face) ได้แก่ ห้องเรียนแบบดั้งเดิม ห้องปฏิบัติการ
การเผชิญหน้าการประชุม การเรียนแบบเพื่อนช่วยเพ่ือน มหาวิทยาลัย ที่ปรึกษา กลุ่มผู้เช่ียวชาญ ทีม
สนับสนนุ และการแนะนาในการเรียน
4. ขน้ั การนาไปใช้

ในการนาระบบการเรียนการสอนบนเว็บแบบผสมสานไปใช้ ต้องกาหนดประเด็นแนวทางการ
นาไปใช้ การวางแผนการนาไปใช้ การวางแผนการใช้เทคโนโลยี และการวางแผนในประเด็นอ่ืนๆ ท่ีอาจ
เกย่ี วข้องใหช้ ดั เจน เพอ่ื ใหผ้ ู้ทีเ่ กย่ี วข้องกับการนาระบบการเรยี นการสอนบนเว็บแบบผสมสานไปใช้ ได้แก่
ผู้เรียน เพ่ือนร่วมเรียน ผู้สอน และสถาบันการศึกษา เกิดการยอมรับและมีความเข้าใจท่ีถูกต้อง เพ่ือให้
การจดั การเรยี นการสอนบนเว็บแบบผสมผสานบรรลเุ ปา้ หมายทก่ี าหนดไว้
5. ขั้นประเมินผล

การวัดและการประเมินผลสาหรับการจัดการเรียนการสอนบนเว็บแบบผสมสาน ทาโดยการ
ประเมินผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี น (achieve objectives) ของผู้เรียนโดยเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน รวมถึง
การประเมนิ งบประมาณคา่ ใชจ้ ่ายในการพฒั นาระบบการเรียนการสอน
6. ปัจจยั สาคญั ในการออกแบบระบบการเรยี นการสอนบนเว็บแบบผสมผสาน ปัจจัยสาคัญที่ควรคานึงถึง
ในการออกแบบระบบการเรยี นการสอนแบบผสมผสานใหป้ ระสบผลสาเรจ็ ประกอบดว้ ย 4 ปจั จยั คอื

6.1 ปัจจัยด้านผู้เรียน (audience) เนื่องจากความแตกต่างระหว่างบุคคลของของผู้เรียนนัก
ออกแบบการเรียนการสอนควรออกแบบบทเรียนให้มีรูปแบบยืดหยุ่น และมีความหลากหลาย เพื่อให้ให้
สอดคล้องกับวิธกี ารเรยี น รูปแบบการเรียนรู้ รูปแบบการคิด ความสามารถในการเรียนรู้ และบุคลิกภาพ
ของผู้เรียนแต่ละคน เพื่อให้ผู้เรียนที่มีความแตกต่างกันเกิดการเรียนรู้ได้อย่างเท่าเทียมกันตามศักยภาพ
ของตนเอง

6.2 ปจั จัยด้านเนอ้ื หา (content) เนือ่ งจากเนื้อหาท่ีใชใ้ นการเรียนการสอนมีความความแตกต่าง
กนั ดังนั้นนักออกแบบการเรียนการสอนควรออกแบบกิจกรรมการเรียนให้สอดคล้องกับลักษณะเนื้อหา
เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดีที่สุดเน้ือหาที่เหมาะสมกับการเรียนแบบออนไลน์ คือ เน้ือหาท่ีมีระดับ
ความยากไมม่ ากนกั และเนอื้ หาที่เหมาะสมกบั การเรยี นในห้องเรียน คือ เนื้อหาที่มีความซับซ้อน ต้องการ
คาอธิบายเพ่อื ความกระจา่ งในการเรยี นจากผู้สอน และการฝึกปฏิบตั กิ าร

6.3 ปัจจัยด้านระบบโครงข่ายพ้ืนฐาน (infrastructure) เน่ืองจากความสามารถในเข้าถึงระบบ
การจัดการเรียนรู้บนเว็บแบบผสมผสานท่ีแตกต่างกัน นักออกแบบการเรียนการสอนควรออกแบบ
บทเรยี นโดยคานึงถึงความสามารถของระบบโครงข่ายพื้นฐาน ประกอบด้วย ความเสถียรของระบบการ
เช่ือมตอ่ กบั ระบบเครือขา่ ย ความเรว็ ในการส่งผา่ น รับและส่งขอ้ มูล รปู แบบของสอ่ื สาหรบั บทเรียนบนเว็บ
เปน็ ต้น

5. การประยุกต์ใช้สื่อเพ่ือการจดั กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ
ในอดตี การจัดสภาพแวดลอ้ มทางการเรยี นรู้ การจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนในชัน้ เรียนและการ

เรียนการสอนภายนอกชั้นเรียนโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อมีความแตกต่างกันท้ังการใช้ส่ือ วิธีการสอน
ลักษณะของกลุ่มผู้เรียนท่ีแตกต่างกัน โดยการเรียนในช้ันเรียนแบบเผชิญหน้าจะมีครูเป็นผู้ดูแลและ
ควบคุมส่ิงแวดล้อมทางการเรียนการสอนให้แก่กลุ่มผู้เรียน มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมระหว่างบุคคลในชั้น
เรียน โดยกิจกรรมท่ีเกิดข้ึนเป็นแบบประสานเวลา ส่วนการจัดสภาพแวดล้อมทางการเรียนรู้โด ยใช้
คอมพิวเตอร์เป็นสื่อนั้นคือลักษณะของการเรียนการสอนทางไกลโดยเน้นการนาคอมพิวเตอร์มาช่วย
สนบั สนุนการเรยี นรเู้ พ่อื ตอบสนองอตั ราการเรยี นร้ขู องผูเ้ รียนทแ่ี ตกตา่ งกัน

ปจั จุบนั เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสาคัญเพือ่ ประยกุ ตใ์ ช้ในการเรียนการสอน และส่งผลต่อการ
เปล่ยี นแปลงด้านสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้ของผเู้ รียน เพ่ือให้ผเู้ รียนสามารถเข้าถึงเนื้อหาของบทเรียนได้
แม้ว่าอยู่ภายนอกชั้นเรียนโดยไร้ข้อจากัดทางด้านเวลาและสถานท่ี นอกจากน้ียังสามารถติดต่อหรือมี
ปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมชั้นเรียน และครูผู้สอนได้ โดยใช้ คอมพิวเตอร์และเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็น

สื่อกลางเข้าถึงการเรียนรู้ นอกเหนือจากการเรียนรู้ภายในช้ันเรียนเพียง อย่างเดียว โดยเครือข่าย
อินเทอร์เนต็ ยังสามารถสนับสนนุ ใหเ้ กิดการสรา้ งการเรียนรู้ในรูปแบบสังคมเสมือน, การสนับสนุนให้เกิด
การเรียนรแู้ บบรว่ มมือ, การสนบั สนุนให้เกิดการโต้ตอบ รับข้อมูลข่าวสารจากหลากหลายช่องทาง ทั้งการ
สนทนาผ่านเครือข่าย (Chat) การใช้กระดานสนทนา (Web board) การสนทนาเฉพาะกลุ่ม
(Newsgroup) การส่งข้อความ (E-mail) เป็นต้น ดังน้ันการจัดการเรียนรู้แบบผสมผสานจึงเป็นรูปแบบ
การจัดการเรียนทนี่ า่ สนใจ และมบี ทบาทสาคัญเพอ่ื พัฒนาผู้เรยี นท้ังการเรยี นภายในชนั้ เรียนและการเรียน
นอกชั้นเรยี น

แนวโน้มในอนาคตการศึกษาคน้ ควา้ วจิ ยั เกี่ยวกบั รปู แบบท่เี หมาะสมในการนาเทคโนโลยีเข้ามาใช้
ในการศึกษา ยังพัฒนาไปอย่างไม่หยุดย้ังพร้อมกับลักษณะของการเรียนท่ีเป็นระบบการเรี ยนรู้แบบ
ผสมผสานเป็นสว่ นใหญ่ การประยกุ ต์ใช้ประโยชน์จากเครือข่าย อุปกรณ์ เครื่องมือ และคอมพิวเตอร์ ท้ัง
ทางดา้ นซอฟตแ์ วร์และฮารด์ แวร์ มาเติมเต็มท้ังทางด้านความรู้และสังคมเพื่อให้มนุษย์มีปฏิสัมพันธ์กันได้
คล้ายคลึงกบั การเรียนการสอนแบบเผชิญหน้า แต่สามารถเรียนจากส่ือที่มีความหลากหลายโดยไม่จากัด
สถานท่ี โดยใช้รูปแบบการผสมผสานกันอย่างเหมาะสมกับ เนื้อหาวิชา ลักษณะผู้เรียน และกิจกรรมการ
เรยี น

บรรณานุกรม

บญุ มา หลมิ ลายอง. (ม.ป.ป). Blended learning. สบื คน้ 8 กนั ยายน 2564. จาก
http://bunmamint10.blogspot.com/การเรียนรแู้ บบผสมผสาน.

องค์ประกอบของการเรยี นแบบผสมผสาน (5 Keys Ingredients). สืบค้น 8 กนั ยายน 2564. จาก
http://pirun.ku.ac.th

ปณติ า วรรณพิรณุ . (2554). การเรยี นแบบผสมผสาน จากแนวคดิ สูการปฏบิ ัติ. สืบคน้ เมอื่ 8 กันยายน
2564. จาก http://ojs.kmutnb.ac.th

เนื้อหา No.5

นวัตกรรมการเรียนการสอน

สำหรับครูยุคดิจิทัล

8'69 &%%-&.%5%:;8&.%*3
*<=%9,2%;> ?2$0@0AB9 ))

!"#$%#&%'%%()*,+ *-
*./.'10 .23-4'0 563%7)

38
)

C%D5EA/3F8'96&%%-$

8'96&%%-C%D5EA
!B60 E(9 H)7 =%3+ )*I0FC%D$J0 K7

§ 1?$&.%5%:;8L1?$&.%*38L1?$&.%
5%:;8&.%*38
§ M,,NO&A&9 JDL1$? &.%N&O L1$? N&O
A9&JD&.%5%;: 8%>G
§ ,A5%;: 8*<5%P@%>CM,,*I3+ !*-L
,A5%:;8QC%M&%-
§ 5&-
§ &.%768>
§ 80A.8
25 %

§ 53&*.%C%D&3,&.%5%:;8%>G
§ 53&*.%C%D&3,&.%5%:;8&.%*38

$.G 8&.%5%;: 8&.%*38

8'96&%%-C%D5EA%C> M,,L
5A2802L'R0 :*38

§ '0R:*38&.%20$
§ 'R0 *: 38Q$;&.%@$9 &.%5%:;8%MG> ,,

%'I --3+
§ STUUV)WXYZ[
§ &.%@9$&.%5%;: 8%>GM,, \WV]
§ 'R0 *: 38M,,Q2%FF.8
§ 'R0 *: 38M,,,%> (.&.%
§ '0R*: 38M,,C9^=.5C8P K.8

&.%4_9 8.8'96&%%-$

&-.3%F%5=D,P8?CC^99^==..))`MUBaDX6b3G [FZ&c.%dM&2GC'.^9 9-=02.%$0 85G89=e8P =eCG8%&D.*%

&.%&<=8$@?$-?IF=-.;)`fbgZhijkZd 5-+3I &<=8
543I+ 49_8.8'96&%%-

&.%"O&J./G3@<&$9 6.I Fm `SXnoiapjniod !G4> 9_
C9^=.MBD/G3@<&$9 /3F8'69 &%%-

3

$.G 8&.%5%:;8&.%*38

%49_8.8'96&%%-889G )5%0I-@.&&.%
*,!B*<5%P@3;I.F-:2(? E.4
8$C9^=.MB'G &&P <=8$'96l?C%D*F27

_8.&.%5%:;86G3F"O&J./G3-B> /3F

3G.F3F0 @.&qA0"8.)M/--(:)`rs\tq\rud

&.%49_8.8'69 &%%-$

&.%C%D$J0 K27 0$28G 8'69 &%%-)`Tn9nX0k%pijXnd

&.%A$B3Fe1)G `vwxZajcZnipijXnd 5CP8&.%A
8'69 &%%--:C%D*0ARE0 .4-.&/G8O

&.%5!;M4%I)`yjooZcjnpijXnd 5-3I+ -89I e@'I.8
*.-.%l8<zC5!;M4%zI $G

3

$.G 8&.%5%:;8&.%*38

A$B3Fe1)G C%D5-08!BMBDC%,9 C%F? e=G
8'69 &%%-A*:I %.G F/8GO -C: %D*A0 R0E.4&P

3G.F30F@.&qA0"8.)M/--(:)`rs\tq\rud

=B9&&.%*<29^e8

{Zpanjn|)iX)}nX~

{Zpanjn|)iX)
[jkZ)iX|Zi•Za

8&.%@$9 &.%"&O J.

{Zpanjn|)iX)YX

{Zpanjn|)iX)bZ

&.%4_9 8.A&9 JD!

u•o ƒ# A&9 JD$
]•jn}
• 3.I 833&)`•ZpYjn|d
• 5/;: 8z$)G `‚d)•jiijn|d r# A9&JD$
• 2$0 5B/5C8P )`Vd•ji•cZijhod u# A&9 JD$

ˆnYZ
\# A9&JD$

]Zpc
s# A&9 JD$

jnŠXac
‹# A9&JD$

`hXc
Œ# A9&JD3
t# 2'.--

!5G> %;: 8e8;?2)\#€

8Cs

$.G 8&.%2$0 3;.I F-': @0 .%(^.(MBDA&9 JDe8&.%M&CG 9^=.)`Sajijhp[)
}jn|)pnY)UaXb[Zc)„X[kjn|d
$.G 8&.%*%G.F*%%27MBD8'69 &%%-)`SaZpijkji…)pnY)TnnXkpijXnd
$.G 82'.-5/.G [email protected]'9_8R%%- 6I.F&%D,'8A9"8)7 `SaXoo†h‡[i‡ap[)
ZaoipnYjn|d
$.G 82'.-%'I --+3)A<F.85CP8A-: MBDE.'D!>G8<)`SX[[pbXapijXn)
c~Xa})pnY)[ZpYZao•jxd
$.G 8&.%*I3+ *.%)*.%*85A"MBD%5G> AI.A89 *3+I )`SXcc‡njhpijXno‰)
cpijXn)pnY)cZYjp)[jiZaph…d
$.G 823-4'0 563%7MBD5A2Q8QB;:*.%*85A"MBD&.%*+I3*.%)
cx‡ijn|)pnY)TS])[jiZaph…d
3.14: )MBDA9&JD&.%5%:;8%?G `SpaZZa)pnY){Zpanjn|)„}j[[od
-5: -66.)&%?(.)'089;)2?(R%%-)@%0;R%%-)`SXcxpoojXnd

/G89 638&.%@$9 A<8'69 &%%-&.%5%:;

13+I 8'96&
"O&J.=B&9

='9 /3G 5%
&<=8$'69 l?C
&<=8$C%D5$8P )58+G3=.

&<=8$M,,

@9$A<8'69
&.%'.FM!8MBD8<

;8&.%*38C%D5EA*+I3L*0IFC%D$J0 K7

&%%-

&*>6% &.%5/:;8='9 /G3;I3;
%+I3F &.%5/:;8%.;BD53:;$/3,5/6583G+ =.
C%D*F27 M6BI D/9G8638

.*.%DMBDQ2%F%.I F &.%MA%&M,,NO&A9&JD&.%2$0
,A$*3, &@0 &%%-5*%-0 M%F=%3+ *%.G F
6&%%- ,%%;.&."&.%-*: 'I 8%'I -
<8'96&%%-zCe1G
&.%C%D5-80 8'96&%%-

&.%C%,9 C%F? MBD49_8.8'96&%%-

2'.-20$*%.G F*%%2)7 `SaZpijkZ)]•jn

&.%2$0 MFI,'&)`UXojijkZ)i•jn
2'.-2$0 AI-: :2'.--F?I =-.;54I+35

`5&%;: F"9&$7)0 5@%0^'F"7"9&$70‰rss‹d

2'.-*.-.%l%',%'-2'.-%G>)2'.-20$5$0-
&%3,z$)G -!: BF.8&.%20$)-:B9&J(D2'.-2
*%.G F*%%27*I0Fe=-Im)!BF.8&.%2$0 *%.G F*%%

&.%2$0 e8A.FAIA: <e=$G /: 8GO )=%+320$*%G.F*FI0
5C8P 2'.-2$0 6G8M,,A:eI 1Gz$@G %F0 z$!G B$:&'

n}jn|d &9,&.%49_8.8'69 &%%-

n}jn|d)&.%&%DA<A:Iz-IA<%G.;e2%)M6I5C8P
5*%-0 *%.G Fe=G$/: 8OG )`SXnoia‡hijkZ)i•jn}jn|d

-)MBG'*%.G F5C8P 2'.-%>G2'.-2$0 /3F6853F)*.-.%l20$83&
20$e8MF,I '&)2$0 e8A.FA:I$:)20$A:I5C8P C%DQ;18)7 z-IA<B.;BG.F)20$
%2)7 `C%D489 R7"0%0)*?5*.%@9 ‰rss‹d
Fe=-IA:I-:B9&J(De=-I)`nZ~d)M6&6I.FzC@.&5$-0 )MBD
'I.5$0-`A"0 8.)M/--(:‰rss\d

C%D5EA/3F&.%

&.%20$*%G.F*%%2C7 %D5EA2'.-
5CB;:I 8MCBF)`TnnXkpijXnd 23+ )M8'20$A:I

01 5&;I: '&9,&.%*%G.F*%%27*0IFe=-I/OG8)518I )&.%

C%D$J0 K7e=-)I A•JŽe: =-I

2'.-20$*%G.F*%%27C%D5EA63I 583+I F)
`vwiZnojXnd 5C8P &.%!*-!*.8&98

03 %D='I.F2'.-20$*%.G F*%%2C7 %D5EA

5CB;:I 8MCBF&9,2'.-2$0 *%G.F*%%27
C%D5EA*9F52%.D=7

%2$0 *%G.F*%%27

&.%20$*%.G F*%%2C7 %D5EA&.%*F9 52%.D=7)
`o…ni•Zojod 23+ )&.%!*-!*.8

02 M8'20$@.&M=BIF6.I F)m)5/.G $'G ;&98)MBG'

&3I e=5G &$0 M8'20$e=-I389 -2: ?(2I.

2'.-2$0 *%G.F*%%2C7 %D5EA&.%B3&
5B;: 8)`Y‡x[jhpijXnd 5CP8B&9 J(D
04 &.%@<B3F=%3+ B3&5B;: 8M,,@.&

2'.-*<5%@P 3I8+ )m)

&.%e1@G 0868.&.% 2?(B9&J(D/3F

&.%zCe=lG OF@$? =-.;

F&.%*%.G F*%%27

&.%5C8P /3Fe=-IAI: &.%6$9 *082?(2.I
5&0$/OG82%FG9 M%&

§ 2'.-5CP8C9@5@&18
§ 2'.-*9-498R7
§ C%D'69 "0 .*6%7

If you want to modify this graph,
click on it, follow the link, change the
data and replace it

/G89 638MBD6'9 ,FI 1

/G89 638&.%20$

ƒ# &<=8$5C.G =-.;e8&.%2$0 ƒ# *.-

r#C%D-'BLA,A'8)2'.-%>G=%+3/3G -B> AI:5&;I: '/3G F&9,5%+I3F r#)*.-
AI2: $0 )54I+363I ;3$*>I*FI0 e=-6I .-5C.G =-.;/3F&.%20$ =%+3*.-

u#e15G A2820 6.I Fm 1'I ;e8&.%/;.;/3,5/62'.-2$0 5$0-) u#)*.-
m)e=Gz$G2'.-2$0 AI:=B.&=B.; 2'.-2

\# C%D5-80 MBD29$5B+3&2'.-2$0 A=:I B.&=B.;54+I38<zC \#)*.-
4_9 8.63I

s#49_8.=%+3!*-!*.82'.-2$0 A:2I $9 5B+3&z'3G .";9 A&9 JD s# *.-
&.%20$)'052%.D=)7 *9F52%.D=)7 &.%20$z&B z$G!B$

‹# 8<5*83MBD3R0,.;*F0I e=-IA:I*%G.F/G8O '.I *.-.%le1G&.% ‹#*.-.
z$3G ;I.Fz%

1G:&.%2$0 *%.G F*%%27

6'9 ,IF1:G

-.%l&<=8$5CG.=-.;e8&.%20$*%.G F*%%27
-.%lC%D-'BLA,A'82'.-%>G=%3+ /3G -B> A:5I &;:I '/G3F&,9 5%I+3FA2:I 0$)
-.%l@0868.&.%2'.-2$0 e=-I
-.%le15G A2820 6.I Fm e8&.%/;.;/3,5/62'.-2$0 5$-0 @8z$G
20$=B.&=B.;A@:I D8<zCe1eG 8&.%*%G.F*0FI e=-I
-.%lC%D5-80 MBD29$5B3+ &2'.-20$543I+ 8<zCe1Ge8&.%*%.G F*IF0 e=-I

-.%l*%G.F*0IFe-=AI :5I C8P 2'.-2$0 6G8M,,*.-.%le1GF.8z$MG BD
$&: 'I.5$-0
.%l8<5*83MBD3R0,.;*I0Fe=-AI :*I %.G F/8OG

Social Media Strat

01
02
03

tegy Infographics

Manage Discover
04 It is the closest
Despite being red,
Mars is cold planet to the Sun

Measure Define
05 It is the biggest
Venus has a
beautiful name planet of them all

Deliver Develop
06 Saturn is the
Earth is the planet
where we all live on ringed one

Social Media Strat

25% 50%

New customers Sales-ready

Despite being red, It is the ringed
Mars is actually a planet. It is
cold place full of
composed of
iron oxide dust hydrogen and

helium


Click to View FlipBook Version