หลกั สตู รสถานศกึ ษา
ระดับปฐมวยั
โรงเรยี นวัดไทรใหญ่
(นนททวิ ากรราษฎร์บารุง)
พทุ ธศักราช 2565
ตามหลกั สูตรการศึกษาปฐมวัย
พทุ ธศกั ราช 2560
สานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษานนทบุรี เขต 2
สานกั คณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน
กระทรวงศึกษาธกิ าร
หลักสตู รสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย ๑
โรงเรียนวดั ไทรใหญ(่ นนททวิ ากรราษฎร์บำรงุ )
หลักสูตรสถานศกึ ษาปฐมวยั
โรงเรียนวัดไทรใหญ่ (นนททวิ ากรราษฎร์บำรงุ )
(ฉบับปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖5)
ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พทุ ธศักราช ๒๕๖๐
สำนักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษานนทบุรี เขต ๒
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
หลักสตู รสถานศกึ ษาการศึกษาปฐมวัย ๒
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ่(นนททิวากรราษฎรบ์ ำรงุ )
คำนำ
กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศให้สถานศึกษาหรือสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยทุกสังกัด ใช้หลักสูตร
การศึกษาปฐมวยั ตามคำส่ังกระทรวงศกึ ษาธิการ ท่ี สพฐ. ๑๒๒๓/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๓ สงิ หาคม ๒๕๖๐ เรือ่ ง
ให้ใช้หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ โดยนำหลักสูตรนีไ้ ปใช้ และปรับปรุงให้เหมาะสมกับเด็ก
และสภาพท้องถน่ิ
โรงเรียนไทรใหญ่(นนททิวากรราษฎร์บำรุง) จึงได้ปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรปฐมวัย พุทธศักราช
๒๕๖5 ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย (พุทธศักราช ๒๕๖๐) โดยใช้หลักสูตรเป็นแกนหลักเพื่อกำหนดการ
จัดทำโครงสรา้ งและสาระหลักสูตรสถานศึกษาให้สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา และสอดคล้องกับสภาพ
การเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน ซึ่งในการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาครั้งนี้ เป็นการสร้างหลักสูตรที่อาศัยก ารมี
ส่วนร่วมของนักเรียน คณะครู ผู้ปกครองและชุมชน ทั้งนี้เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนไปสู่การจัดการ
ประสบการณ์ ที่ส่งผลให้ผู้เรียนมีคุณภาพครบทุกด้าน เพื่อสร้างรากฐานคุณภาพชีวิตให้เด็กปฐมวัยพัฒนาไปสู่
ความเป็นมนษุ ยท์ ่ีสมบูรณ์ เกดิ คุณค่าต่อตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน สังคมและประเทศชาติสบื ไป
ขอขอบคณุ ผมู้ ีสว่ นเกีย่ วข้องทกุ ภาคส่วนทใ่ี ห้ความรว่ มมือและมีสว่ นร่วมในการพฒั นาหลักสูตรฉบับนี้
ให้มีความสมบูรณ์และเหมาะสมตามบริบทต่อการจัดการศึกษาในโรงเรียนไทรใหญ่(นนททิวากรราษฎร์บำรงุ )
ตัง้ แต่ภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖5 เป็นตน้ ไป
(ลงชื่อ)
(นายวิมล บรรณะทอง)
ผอู้ ำนวยการโรงเรียนไทรใหญ่(นนททิวากรราษฎร์บำรงุ )
๑3 พฤษภาคม ๒๕๖5
สารสบาัญรบัญ หลกั สตู รสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย ๓
คำนำ โรงเรียนวดั ไทรใหญ่(นนททิวากรราษฎรบ์ ำรงุ )
ปรัชญาการศกึ ษาปฐมวัย
วสิ ัยทศั น์ หน้า
พันธกิจ
เป้าหมาย ๑
หลกั การ ๑
จดุ หมาย ๑
มาตรฐานคุณลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ 1
โครงสรา้ งหลักสตู รสถานศึกษาปฐมวัย 2
2
- ระยะเวลาเรยี น 3
- สาระการเรียนรูร้ ายปี 12
- ประสบการณส์ ำคญั 12
- สาระที่ควรเรียนรู้ 12
สาระการเรยี นร้รู ายปี 13
- พัฒนาการดา้ นร่างกาย 18
- พัฒนาการดา้ นอารมณ์ จิตใจ 19
- พฒั นาการดา้ นสังคม 19
- พฒั นาการด้านสติปญั ญา 25
หนว่ ยการจัดประสบการณ์ 31
- ภาคเรียนที่ 1 39
- ภาคเรยี นที่ ๒ 51
การจัดประสบการณ์ 51
61
กิจกรรมหลัก ๖ กจิ กรรม
70
- กจิ กรรมเคลอ่ื นไหวและจังหวะ 72
72
- กิจกรรมเสรมิ ประสบการณ์ 73
74
- กิจกรรมศลิ ปะสรา้ งสรรค์ 75
75
- กจิ กรรมการเล่นตามมุม 76
- กิจกรรมการเล่นกลางแจง้
- เกมการศกึ ษา
หลักสูตรสถานศึกษาการศกึ ษาปฐมวัย ๔
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่(นนททวิ ากรราษฎรบ์ ำรงุ )
สารบัญ(ตอ่ ) หนา้
77
การจดั การเรยี นร้โู ดยโครงงาน (Project Approach) 77
การจดั การเรยี นรูโ้ ดยใชก้ ระบวนการแบบสบื เสาะหาความรู้ 78
การจดั การเรียนการสอนแบบมอนเตสเซอร่ี 79
การจัดการเรยี นรู้แบบบรู ณาการหอ้ งเรียนภาษาองั กฤษ PIEPN2 79
ตารางกจิ กรรมประจำวนั ระดับปฐมวยั 80
สื่อและแหลง่ การเรยี นรู้ 84
โครงสรา้ งหลกั สูตร “การป้องกนั การทุจริต”ระดบั ปฐมวัย 85
กจิ กรรมการทดลองบ้านนกั วิทยาศาสตรน์ ้อย ประเทศไทย 88
การจัดสภาพแวดล้อม สื่อแหล่งเรยี นรู้ 90
การประเมินพัฒนาการ 92
การบรหิ ารจัดการหลกั สูตรสถานศึกษาปฐมวัย 97
การเชื่อมต่อของการศึกษาระดับปฐมวัยกบั ระดบั ชน้ั ประถมปีท่ี ๑ 99
ภาคผนวก
- คำสงั่ แต่งต้งั
- บันทกึ ข้อความรายงานการปรับปรงุ หลกั สตู รสถานศกึ ษา
- ความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการสถานศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน
- ประกาศให้ใช้หลกั สูตรสถานศึกษา
หลกั สตู รสถานศึกษาการศกึ ษาปฐมวัย ๑
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่(นนททิวากรราษฎร์บำรงุ )
ปรัชญาการศกึ ษาปฐมวัย
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ่ (นนททิวากรราษฎรบ์ ำรงุ ) จัดการพัฒนาเดก็ อายุ ๓ - ๖ ปีบรบิ ูรณ์ อยา่ งเป็นองค์
รวม บนพน้ื ฐานการอบรมเลย้ี งดแู ละการสง่ เสรมิ กระบวนการเรียนรู้ท่สี นองต่อธรรมชาติและพัฒนาการตามวัย
ของเด็กแต่ละคนให้เตม็ ตามศกั ยภาพภายใตบ้ ริบทสงั คมและวัฒนธรรมท่ีเด็กอาศัยอยู่ ด้วยความรัก ความเอ้ือ
อาทรและความเข้าใจของทกุ คน เพ่ือสรา้ งรากฐานคุณภาพชวี ติ ให้เดก็ พัฒนาไปสู่ความเป็นมนุษยท์ ส่ี มบูรณ์เกิด
คณุ ค่าตอ่ ตนเอง ครอบครัว สงั คมและประเทศชาติ
วิสัยทศั น์
โรงเรียนวัดไทรใหญ่(นนททวิ ากรราษฎรบ์ ำรงุ ) มุ่งพัฒนาเด็กอายุ ๓ - ๖ ปี ให้มีพัฒนาการด้านรา่ งกาย
อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา มีทักษะทางภาษาที่เหมาะสมตามวัย อย่างมีคุณภาพและต่อเน่ือง ได้รับ
การจัดประสบการณ์การเรียนรู้อย่างมีความสุขและเหมาะสมตามวัย มีทักษะชีวิตและปฏิบัติตนตามหลัก
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นคนดี มีวินัย และสำนึกความเป็นไทย โดยความร่วมมือระหว่างสถานศึกษา
พ่อแม่ ครอบครวั ชุมชนและทุกฝา่ ยท่ีเก่ยี วข้องกบั การพัฒนาเด็ก
พนั ธกิจ
๑. พัฒนาเด็กปฐมวัยให้มีพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน ส่งเสริมทักษะทางภาษา กระบวนการคิดอย่างมี
คณุ ภาพและต่อเน่ืองจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ผ่านการเลน่ และการลงมือปฏิบัติอย่างมีความสุข
และเหมาะสมตามวยั
๒. พฒั นาทักษะชีวิตมีทักษะชวี ติ และปฏิบตั ิตนตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง มีคุณธรรม
จรยิ ธรรม และอยรู่ ่วมกบั ผู้อืน่ ได้อยา่ งมคี วามสุข สอดคล้องกับพฒั นาการเดก็
๓. นาํ สือ่ เทคโนโลยสี ารสนเทศและสือ่ เพ่ือการเรียนร้เู พ่ือสนบั สนุนการจดั ประสบการณ์
๔. จดั สภาพแวดลอ้ มและสอื่ เพ่ือการเรียนรู้ อย่างปลอดภัย และเพียงพอ
๕. เปดิ โอกาสใหผ้ ูเ้ กีย่ วขอ้ งทกุ ฝ่ายมสี ่วนรว่ มในการพัฒนาเด็กปฐมวยั
เปา้ หมาย
๑. เด็กปฐมวยั ทกุ คน มพี ัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คมและสตปิ ัญญา มีทักษะทางภาษา
และกระบวนการการคิดทีเ่ หมาะสมตามวัยและเตม็ ศกั ยภาพ มเี จตคตทิ ่ดี ตี ่อทอ้ งถ่นิ สนใจใฝร่ ู้ และเรยี นร้อู ย่าง
มคี วามสขุ
๒. เด็กทุกคนมีคุณธรรม จริยธรรม สามารถคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตน และ
ผลประโยชน์ส่วนรวมมีความละอาย และความไม่ทนต่อการทุจริต มีจิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต และเป็น
พลเมืองทมี่ คี วามรับผดิ ชอบต่อสังคม
หลักสูตรสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย ๒
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ(่ นนททิวากรราษฎรบ์ ำรุง)
๒. ครูทุกคนมีความรู้ความเข้าใจและสามารถจัดประสบการณ์การเรียนรู้ผ่านการเล่นและ การลงมือ
ปฏบิ ตั ทิ ห่ี ลากหลาย สอดคลอ้ งกับพัฒนาการเดก็
๓. ครูทุกคนน้อมนําหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการจัดประสบการณ์ปฐมวัย อย่าง
เหมาะสมกับวัยและบริบทของสถานศึกษา
๔. สถานศึกษามีสภาพแวดล้อม ส่ือ เทคโนโลยี แหล่งเรยี นรทู้ ีเ่ หมาะสมกับพัฒนาการเด็ก
๕. มีเครือข่ายพ่อแม่ ผู้ปกครองและชุมชนให้ความร่วมมือในการพัฒนาคุณภาพเด็กปฐมวัย ด้วย
วิธีการทหี่ ลากหลายและมคี วามต่อเน่ืองในทศิ ทางเดยี วกับสถานศึกษา
หลกั การ
เด็กปฐมวัยทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับการอบรมเลี้ยงดูและได้รับการส่งเสริมพัฒนาการ ตลอดจนการ
เรียนรู้อย่างเหมาะสม ด้วยปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเด็กกับพ่อแม่ เด็กกับครู เด็กกับผู้เลี้ยงดูหรือบุคลากรที่มี
ความรู้ความสามารถในการอบรมเลย้ี งดแู ละใหก้ ารศึกษาแก่เด็กปฐมวยั เพอื่ ให้เดก็ มีโอกาสพฒั นาตนเองตาม
ลำดับขน้ั ของพัฒนาการทุกด้าน อย่างสมดลุ และเต็มตามศักยภาพโดยมหี ลกั การดังนี้
๑. สง่ เสริมกระบวนการเรียนร้แู ละพัฒนาการท่ีครอบคลมุ เดก็ ปฐมวัยทุกคน
๒. ยึดหลักการอบรมเลี้ยงดูและให้การศึกษาที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ โดยคำนึงถึงความแตกต่าง
ระหว่างบคุ คล และวิถีชีวติ ของเดก็ ตามบริบทของชุมชน สังคม และวัฒนธรรมไทย
๓. ยึดพัฒนาการและการพฒั นาเด็กโดยองค์รวมผา่ นการเล่นและกจิ กรรมทีห่ ลากหลาย เหมาะกบั วัย
๔. จัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้เด็กสามารถดำรงชีวิตประจำวันตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียงอยา่ งมคี ณุ ภาพและมีความสุข
๕. สร้างความรู้ ความเข้าใจและประสานความร่วมมือในการพัฒนาเด็ก ระหว่างสถานศึกษากับพ่อแม่
ครอบครวั และชุมชนทกุ ฝ่ายทเี่ กยี่ วข้องกบั การพัฒนาเดก็ ปฐมวยั
จุดหมาย
หลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย โรงเรียนวัดไทรใหญ่ (นนททิวากรราษฎร์บำรุง) มุ่งให้เด็กมี
พัฒนาการตามวัยเต็มตามศักยภาพ และมคี วามพรอ้ มในการเรียนรูต้ ่อไป จึงกำหนดจดุ หมายเพื่อใหเ้ กิดกับเด็ก
เมือ่ จบการศกึ ษาระดบั ปฐมวยั ดังน้ี
๑. รา่ งกายเจรญิ เติบโตตามวัย แข็งแรง และมสี ขุ นิสยั ที่ดี
๒. สขุ ภาพจิตดี มสี นุ ทรียภาพ มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และจติ ใจทด่ี ีงาม
๓. มที กั ษะชีวติ และปฏิบตั ิตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง มีวินยั และอยู่ร่วมกับ
ผอู้ ืน่ ได้อยา่ งมคี วามสขุ
๔. มที ักษะการคิด การใช้ภาษาส่อื สาร และการแสวงหาความรไู้ ดเ้ หมาะสมกับวัย
หลักสตู รสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย ๓
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ(่ นนททิวากรราษฎรบ์ ำรุง)
มาตรฐานคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยโรงเรียนวัดไทรใหญ่ (นนททิวากรราษฎร์บำรุง)กำหนดมาตรฐาน
คุณลักษณะที่พึงประสงค์จำนวน ๑๒ ข้อ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด โดยครอบคลุมพัฒนาการด้าน
ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา มาตรฐานคุณลักษณะที่พงึ ประสงค์เปน็ คณุ ภาพคุณลักษณะที่พึง
ประสงค์ที่ต้องการให้เกิดข้ึนในตัวเด็กเม่ือจบหลักสูตรการศึกษาปฐมวยั มาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ใน
แตล่ ะพัฒนาการ ประกอบดว้ ย
๑. พฒั นาการด้านร่างกาย ประกอบด้วย ๒ มาตรฐาน คอื
มาตรฐานที่ ๑ รา่ งกายเจรญิ เติบโตตามวัยและมสี ุขนสิ ยั ท่ดี ี
มาตรฐานท่ี ๒ กลา้ มเน้อื ใหญแ่ ละกลา้ มเนื้อเลก็ แขง็ แรง ใช้ได้อยา่ งคล่องแคลว่ และประสาน
สัมพนั ธ์กนั
๒. พัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ ประกอบดว้ ย ๓ มาตรฐาน คอื
มาตรฐานท่ี ๓ มสี ขุ ภาพจิตดีและมีความสุข
มาตรฐานที่ ๔ ชื่นชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี และการเคล่อื นไหว
มาตรฐานที่ ๕ มีคุณธรรม จริยธรรม และมีจิตใจทีด่ ีงาม
๓. พัฒนาการดา้ นสังคม ประกอบด้วย ๓ มาตรฐาน คอื
มาตรฐานที่ ๖ มที ักษะในการดำเนินชีวิต
มาตรฐานที่ ๗ รักธรรมชาติ สิ่งแวดลอ้ ม วฒั นธรรม และความเปน็ ไทย
มาตรฐานท่ี ๘ อยู่ร่วมกบั ผู้อื่นได้อยา่ งมคี วามสขุ และปฏบิ ัติตนเป็นสมาชกิ ทีด่ ีของ สังคม
ในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมขุ
๔. พัฒนาการดา้ นสตปิ ัญญา ประกอบดว้ ย ๔ มาตรฐาน คือ
มาตรฐานที่ ๙ ใชภ้ าษาสอื่ สารได้เหมาะสมกบั วยั
มาตรฐานท่ี ๑๐ มคี วามสามารถในการคดิ ที่เปน็ พ้นื ฐานในการเรียนรู้
มาตรฐานที่ ๑๑ มีจนิ ตนาการและความคิดสร้างสรรค์
มาตรฐานท่ี ๑๒ มเี จตคตทิ ดี่ ีตอ่ การเรยี นรู้และมีความสามารถในการแสวงหาความรู้ได้
เหมาะสมกบั วัย
ท้งั น้ี แตล่ ะมาตรฐานจะมีรายละเอยี ดท่ปี ระกอบดว้ ย ตวั บง่ ชี้ และสภาพทพี่ งึ ประสงค์ มีลักษณะดังน้ี
ตัวบ่งช้ี เป็นเป้าหมายในการพัฒนาเด็กที่มีความสัมพันธ์สอดคล้องกับมาตรฐานคุณลักษณะที่พึง
ประสงคส์ ภาพทพ่ี งึ ประสงค์
สภาพที่พึงประสงค์ เป็นพฤติกรรม หรือความสามารถตามวัยที่คาดหวังให้เด็กเกิด บนพื้นฐาน
พัฒนาการตามวัย หรือความสามารถตามธรรมชาติในแต่ละระดับอายุ เพื่อนําไปใช้ในการกําหนดสาระการ
เรียนรู้ ในการจัดประสบการณ์ และประเมินพัฒนาการเด็ก โดยมีรายละเอียดของมาตรฐาน คุณลักษณะที่พึง
ประสงค์ ตวั บง่ ช้ี และสภาพทพ่ี ึงประสงค์ ดังนี้
หลักสตู รสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย ๔
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ่(นนททิวากรราษฎรบ์ ำรุง)
มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ ตวั บง่ ชี้ และสภาพทีพ่ ึงประสงค์
มาตรฐานท่ี ๑ รา่ งกายเจรญิ เติบโตตามวยั และมสี ขุ นิสยั ที่ดี
ตวั บ่งช้ี อายุ ๓ - ๔ ปี สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ อายุ ๕ – ๖ ปี
๑.๑ นำ้ หนกั และส่วนสูง ๑.๑.๑ น้ำหนักและสว่ นสูง อายุ ๔ - ๕ ปี
ตามเกณฑ์ของกรมอนามัย ๑.๑.๑ น้ำหนกั และสว่ นสูง
ตามเกณฑ์ ๑.๑.๒ ยอมรับประทาน ๑.๑.๑ น้ำหนกั และส่วนสงู ตามเกณฑ์ของกรมอนามยั
๑.๒ มสี ขุ ภาพอนามัยสขุ อาหารทม่ี ปี ระโยชน์และด่ืม ตามเกณฑ์ของกรมอนามยั
นำ้ สะอาดเม่ือมผี ู้ชแี้ นะ ๑.๑.๒ รบั ประทานอาหารท่ี ๑.๑.๒ รบั ประทานอาหารท่ี
นิสัยทีด่ ี มีประโยชน์และดม่ื น้ำ มีประโยชนไ์ ด้หลายชนิด
๑.๒.๒ ลา้ งมือก่อน สะอาดได้ด้วยตนเอง และดื่มนำ้ ทส่ี ะอาดเปน็ ผู้
๑.๓ รักษาความปลอดภยั รบั ประทานอาหาร และ ดว้ ยตนเอง
ของตนเองและผู้อน่ื หลงั จากใช้ห้องนำ้ ห้องสว้ ม ๑.๒.๒ ล้างมอื ก่อน
เมอ่ื มีผู้ช้แี นะ รับประทานอาหาร และ ๑.๒.๒ ล้างมอื ก่อน
๑.๒.๓ นอนพักผ่อนเปน็ หลังจากใช้หอ้ งน้ำห้องสว้ ม รับประทานอาหาร และ
เวลา ด้วยตนเอง หลังจากใชห้ ้องน้ำห้องส้วม
๑.๒.๔ ออกกำลังกายเปน็ ๑.๒.๓ นอนพักผอ่ นเปน็ ดว้ ยตนเอง
เวลา เวลา
๑.๓.๑ เล่นและทำกิจกรรม ๑.๒.๔ ออกกำลงั กายเป็น ๑.๒.๓ นอนพกั ผ่อนเปน็
อย่างปลอดภยั เมื่อมีผชู้ ้ีแนะ เวลา เวลา
๑.๓.๑ เล่นและทำกิจกรรม
อย่างปลอดภัยด้วยตนเอง ๑.๒.๔ ออกกำลังกายเปน็
เวลา
๑.๓.๑ เลน่ และทำกิจกรรม
และปฏิบตั ติ อ่ ผู้อื่นอย่าง
ปลอดภัย
หลกั สูตรสถานศกึ ษาการศกึ ษาปฐมวัย ๕
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่(นนททิวากรราษฎรบ์ ำรุง)
มาตรฐานที่ ๒ กลา้ มเน้ือใหญแ่ ละกล้ามเนอื้ เล็กแขง็ แรง ใชไ้ ด้อยา่ งคล่องแคล่วและประสาน
สัมพันธ์กนั
ตวั บง่ ช้ี อายุ ๓ - ๔ ปี สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ อายุ ๕ – ๖ ปี
๒.๑ เคลอ่ื นไหวรา่ งกาย ๒.๑.๑ เดินตามแนวท่ี อายุ ๔ - ๕ ปี ๒.๑.๑ เดินตอ่ เท้าถอยหลัง
อยา่ งคล่องแคลว่ ประสาน เป็นเสน้ ตรงได้โดยไม่ตอ้ ง
สมั พนั ธแ์ ละทรงตวั ได้ ๒.๑.๒ กระโดดสองขาข้นึ ลง ๒.๑.๑ เดินตอ่ เท้าไป กางแขน
อยกู่ บั ท่ีได้ ขา้ งหนา้ เป็นเส้นตรงไดโ้ ดย ๒.๑.๒ กระโดดขาเดียวอยู่
๒.๒ ใชม้ อื ตาประสาน ไมต่ ้องกางแขน กับทีไ่ ดอ้ ย่างตอ่ เน่ือง โดยไม่
สัมพันธ์กัน ๒.๑.๓ วิงแล้วหยดุ ได้ ๒.๑.๒ กระโดดขาเดียวอยู่ เสยี การทรงตัว
กับทไ่ี ด้โดยไมเ่ สียการทรงตัว ๒.๑.๓ วิง่ หลบหลกี สิ่งกีด
๒.๑.๔ รับลูกบอลโดยใช้มือ ขวาง ได้อย่างคล่องแคล่ว
และลำตัวช่วย ๒.๑.๓ วงิ่ หลบหลกี สิ่งกดี ๒.๑.๔ รบั ลกู บอลท่กี ระดอน
๒.๒.๑ ใชก้ รรไกรตดั ขวางได้ ขนึ้ จากพืน้ ได้
กระดาษขาดจากกนั ไดโ้ ดย ๒.๑.๔ รบั ลกู บอลโดยใชม้ อื ๒.๒.๑ ใช้กรรไกรตดั
ใชม้ ือเดียว ท้งั ๒ ข้าง กระดาษตามแนวเส้นโคง้ ได้
๒.๒.๒ เขยี นรูปวงกลมตาม ๒.๒.๑ ใช้กรรไกรตดั
แบบได้ กระดาษตามแนวเสน้ ตรงได้ ๒.๒.๒ เขียนรูปสามเหลย่ี ม
ตามแบบไดอ้ ยา่ งมีมุม
๒.๒.๓ ร้อยวัสดทุ ม่ี ีรขู นาด ๒.๒.๒ เขยี นรูปสี่เหลยี่ ม ชัดเจน
เส้นผา่ นศูนย์กลาง ตามแบบได้ ๒.๒.๓ รอ้ ยวัสดุทม่ี ีรขู นาด
๑ เซนตเิ มตรได้ เส้นผ่านศนู ย์กลาง
๒.๒.๓ รอ้ ยวสั ดทุ ี่มีรูขนาด ๐.๒๕ เซนตเิ มตรได้
เสน้ ผา่ นศูนยก์ ลาง
๐.๕เซนติเมตรได้
มาตรฐานที่ ๓ มสี ขุ ภาพดี และมคี วามสุข สภาพท่ีพงึ ประสงค์ อายุ ๕ – ๖ ปี
ตวั บง่ ชี้ อายุ ๔ - ๕ ปี ๓.๑.๑ แสดงอารมณ์
อายุ ๓ - ๔ ปี ความรสู้ กึ ได้สอดคล้องกับ
๓.๑.๑ แสดงอารมณ์ สถานการณ์อย่างเหมาะสม
๓.๑ แสดงออกทาง ๓.๑.๑ แสดงอารมณ์ ความรสู้ ึกได้ตาม
อารมณ์ ได้อย่างเหมาะสม ความรู้สกึ ได้เหมาะสมกับ สถานการณ์ ๓.๒.๑ กล้าพูดกล้า
แสดงออกอย่างเหมาะสม
บางสถานการณ์ ๓.๒.๑ กลา้ พดู กล้า ตามสถานการณ์
๓.๒ มคี วามรู้สกึ ท่ีดตี ่อ ๓.๒.๑ กล้าพูดกล้า แสดงออกอยา่ งเหมาะสม
บางสถานการณ์ ๓.๒.๒ แสดงความพอใจใน
ตนเองและผู้อ่นื แสดงออก ผลงานและความสามารถ
๓.๒.๒ แสดงความพอใจใน ของตนเองและผู้อ่ืน
๓.๒.๒ แสดงความพอใจใน ผลงานและความสามารถ
ผลงานตนเอง ของตนเอง
หลักสูตรสถานศกึ ษาการศกึ ษาปฐมวัย ๖
โรงเรียนวดั ไทรใหญ(่ นนททิวากรราษฎร์บำรุง)
มาตรฐานที่ ๔ ช่นื ชมและแสดงออกทางศลิ ปะ ดนตรี และการเคล่อื นไหว
ตวั บ่งชี้ สภาพท่ีพงึ ประสงค์
อายุ ๓ - ๔ ปี อายุ ๔ - ๕ ปี อายุ ๕ – ๖ ปี
๔.๑ สนใจ มคี วามสขุ ๔.๑.๑ สนใจ มคี วามสขุ ๔.๑.๑ สนใจ มีความสุข ๔.๑.๑ สนใจ มคี วามสุข
และแสดงออกผ่านงาน
และ แสดงออกผ่านงาน และแสดงออกผ่านงาน และแสดงออกผา่ นงาน ศลิ ปะ
ศลิ ปะ ดนตรี และการ ศลิ ปะ ศิลปะ ๔.๑.๒ สนใจ มีความสุข
และแสดงออกผา่ น
เคลือ่ นไหว ๔.๑.๒ สนใจ มคี วามสุข ๔.๑.๒ สนใจ มคี วามสขุ เสยี งเพลง ดนตรี
และแสดงออกผ่าน และแสดงออกผ่าน ๔.๑.๓ สนใจ มีความสขุ
และแสดงท่าทาง /
เสยี งเพลง ดนตรี เสียงเพลง ดนตรี เคลื่อนไหว ประกอบเพลง
จงั หวะ และ ดนตรี
๔.๑.๓ สนใจ มคี วามสขุ ๔.๑.๓ สนใจ มีความสุข
และแสดงท่าทาง / และแสดงท่าทาง /
เคลื่อนไหว ประกอบเพลง เคลอ่ื นไหว ประกอบเพลง
จงั หวะ และ ดนตรี จังหวะ และ ดนตรี
มาตรฐานท่ี ๕ มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม และมจี ติ ใจทดี่ งี าม
ตัวบ่งช้ี สภาพที่พงึ ประสงค์
อายุ ๓ - ๔ ปี อายุ ๔ - ๕ ปี อายุ ๕ – ๖ ปี
๕.๑ ซ่อื สัตย์สจุ ริต ๕.๑.๑ บอกหรือชไ้ี ด้ว่าสงิ่ ใด ๕.๑.๑ ขออนุญาตหรือรอ ๕.๑.๑ ขออนุญาตหรือรอ
เป็นของตนเองและส่ิงใดเป็น คอย เม่ือต้องการสง่ิ ของของ คอย เมื่อต้องการสิ่งของของ
ของผู้อน่ื ผูอ้ ืน่ เมอื่ มีผูช้ ้ีแนะ ผอู้ ่ืน ด้วยตนเอง
๕.๒ มีความเมตตา กรณุ า ๕.๒.๑ แสดงความรักเพ่อื น ๕.๒.๑ แสดงความรักเพ่ือน ๕.๒.๑ แสดงความรักเพอื่ น
มีน้ำใจ และชว่ ยเหลอื และมเี มตตาสัตว์เล้ียง และมีเมตตาสัตว์เลี้ยง และมีเมตตาสตั ว์เลี้ยง
แบง่ ปนั ๕.๒.๓ แบ่งปนั ผู้อ่นื ได้ เมอื่ มี ๕.๒.๓ ชว่ ยเหลอื และ ๕.๒.๓ ชว่ ยเหลอื และ
ผชู้ ้แี นะ แบง่ ปนั ผ้อู ่ืนได้ เมื่อมผี ู้ชแี้ นะ แบ่งปนั ผอู้ น่ื ได้ด้วยตนเอง
๕.๓ มคี วามเหน็ อกเหน็ ใจ ๕.๓.๑ แสดงสีหนา้ และ ๕.๓.๑ แสดงสีหน้าและ ๕.๓.๑ แสดงสหี นา้ ทา่ ทาง
ผูอ้ ื่น ท่าทางรับรคู้ วามรู้สกึ ผูอ้ ่ืน ทา่ ทางรับร้คู วามรูส้ ึกผ้อู ื่น รับรคู้ วามรสู้ ึกผอู้ ่นื อย่าง
สอดคล้องกับสถานการณ์
๕.๔ มีความรบั ผิดชอบ ๕.๔.๓ ทาํ งานที่ไดร้ บั ๕.๔.๓ ทาํ งานท่ีไดร้ ับ
มอบหมายจนสาํ เร็จ เมื่อมี มอบหมายจนสาํ เรจ็ เม่ือมีผู้ ๕.๔.๓ ทาํ งานท่ไี ดร้ บั
ผ้ชู ่วยเหลอื ช้ีแนะ มอบหมายจนสําเรจ็ ด้วย
ตนเอง
หลกั สูตรสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย ๗
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่(นนททวิ ากรราษฎร์บำรงุ )
มาตรฐานที่ ๖ มที กั ษะชวี ติ และปฏิบัตติ นตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ตัวบง่ ชี้ อายุ ๓ - ๔ ปี สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ อายุ ๕ – ๖ ปี
๖.๑ ช่วยเหลือตนเองใน ๖.๑.๑ แตง่ ตวั โดยมีผู้ อายุ ๔ - ๕ ปี
ช่วยเหลอื ๖.๑.๑ แต่งตัวดว้ ยตัวเองได้
การปฏบิ ตั ิกจิ วตั ร ๖.๑.๒ รบั ประทานอาหาร ๖.๑.๑ แต่งตัวด้วยตัวเอง อยา่ งคล่องแคลว่
ประจำวนั ด้วยตนเอง
๖.๑.๓ ใชห้ อ้ งนำ้ ห้องส้วม ๖.๑.๒ รบั ประทานอาหาร ๖.๑.๒ รบั ประทานอาหาร
๖.๒ มวี ินยั ในตนเอง โดยมผี ูช้ ่วยเหลือ ด้วยตนเอง ดว้ ยตนเองอย่างถูกวิธี
๖.๑.๓ ใชห้ อ้ งน้ำหอ้ งส้วม
๖.๓ ประหยัดและ ๖.๒.๑ เก็บของเลน่ ของใช้ ดว้ ยตนเอง ๖.๑.๓ ใชแ้ ละทำความ
พอเพยี ง เข้าทเ่ี มื่อมผี ู้ชีน้ ำ สะอาดหลงั ใช้ห้องนำ้ ห้อง
๖.๒.๑ เกบ็ ของเลน่ ของใช้ สว้ ม ด้วยตนเอง
๖.๒.๒ เข้าแถวตามลำดับ เขา้ ทด่ี ว้ ยตนเอง
กอ่ นหลังได้เมื่อมผี ูช้ แ้ี นะ ๖.๒.๑ เก็บของเลน่ ของใช้
๖.๓.๑ ใชส้ ิ่งของเครื่องใช้ ๖.๒.๒ เข้าแถวตามลำดบั เข้าท่ีอยา่ งเรียบร้อยด้วย
อยา่ งประหยดั และพอเพียง ก่อนหลังไดด้ ้วยตนเอง ตนเอง
เมอื่ มีผู้ช้ีแนะ ๖.๓.๑ ใชส้ ง่ิ ของเคร่ืองใช้
อย่างประหยัดและพอเพียง ๖.๒.๒ เข้าแถวตามลำดบั
เมอ่ื มีผู้ช้แี นะ ก่อนหลงั ได้ด้วยตนเอง
๖.๓.๑ ใชส้ ง่ิ ของเคร่ืองใช้
อยา่ งประหยัดและพอเพยี ง
ดว้ ยตนเอง
มาตรฐานที่ ๗ รักธรรมชาติ สง่ิ แวดลอ้ ม วฒั นธรรม และความเป็นไทย
ตัวบ่งช้ี สภาพท่พี ึงประสงค์
อายุ ๓ - ๔ ปี อายุ ๔ - ๕ ปี อายุ ๕ – ๖ ปี
๗.๑ ดูแลรักษาธรรมชาติ ๗.๑.๑ มสี ว่ นร่วมดูแลรักษา ๗.๑.๑ มีสว่ นร่วมดแู ลรักษา ๗.๑.๑ ดแู ลรกั ษาธรรมชาติ
และส่งิ แวดลอ้ ม ธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม และสิ่งแวดลอ้ มดว้ ยตนเอง
เมอื่ มผี ชู้ ี้แนะ เมือ่ มีผูช้ ้ีแนะ
๗.๑.๒ ทงิ้ ขยะไดถ้ ูกท่ี ๗.๑.๒ ทง้ิ ขยะไดถ้ ูกท่ี ๗.๑.๒ ทง้ิ ขยะได้ถูกที่
๗.๒ มมี ารยาทตาม ๗.๒.๑ ปฏิบัติตนตาม ๗.๒.๑ ปฏิบัติตนตาม ๗.๒.๑ ปฏบิ ตั ิตนตาม
วฒั นธรรมไทยและรกั มารยาทไทยไดเ้ มอ่ื มีผชู้ ้ีแนะ มารยาทไทยได้ด้วยตนเอง มารยาทไทยได้ด้วยตนเอง
ความเป็นไทย ๗.๒.๒ กลา่ วคำขอบคุณและ ๗.๒.๒ กลา่ วคำขอบคุณและ ๗.๒.๒ กล่าวคำขอบคณุ และ
ขอโทษเมอื่ มีผ้ชู แี้ นะ ขอโทษด้วยตนเอง ขอโทษด้วยตนเอง
๗.๒.๓ หยุดยืนเม่อื ไดย้ ืน ๗.๒.๓ ยนื ตรงเมือ่ ไดย้ นื ๗.๒.๓ ยนื ตรงและร่วมรอ้ ง
เพลงชาติไทยและเพลง เพลงชาติไทยและเพลง เมอื่ ไดย้ นื เพลงชาติไทยและ
สรรเสริญพระบารมี สรรเสรญิ พระบารมี เพลงสรรเสรญิ พระบารมี
หลักสูตรสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย ๘
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ่(นนททวิ ากรราษฎร์บำรุง)
มาตรฐานที่ ๘ อยู่รว่ มกบั ผูอ้ ่นื ได้อย่างมีความสุขและปฏบิ ตั ิตนเปน็ สมาชิกทดี่ ี
ของสังคมในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ
ตวั บง่ ชี้ สภาพทพี่ งึ ประสงค์
อายุ ๓ - ๔ ปี อายุ ๔ - ๕ ปี อายุ ๕ – ๖ ปี
๘.๑ ยอมรบั ความเหมือน ๘.๑.๑ เลน่ และทาํ กิจกรรม ๘.๑.๑ เล่นและทาํ กจิ กรรม ๘.๑.๑ เล่นและทํากจิ กรรม
และความแตกต่าง ร่วมกับเดก็ ที่ แตกตา่ งไป รว่ มกบั เด็กท่ี แตกต่างไป รว่ มกับเด็กท่ี แตกตา่ งไป
ระหว่างบคุ คล ไปจากตน ไปจากตน ไปจากตน
๘.๒ มปี ฏิสัมพนั ธ์ท่ีดีกับ ๘.๒.๑ เล่นรว่ มกบั เพื่อน ๘.๒.๑ เล่นหรอื ทํางาน ๘.๒.๑ เล่นหรอื ทํางาน
ผอู้ ่ืน รว่ มกบั เพ่ือนเป็นกลุ่ม รว่ มกับเพื่อนเปน็ กลุ่มอย่าง
มีเปา้ หมาย
๘.๒.๒ ยมิ้ หรือทกั ทาย ๘.๒.๒ ย้ิม ทักทาย หรือ ๘.๒.๒ ยมิ้ ทกั ทาย หรอื
ผูใ้ หญแ่ ละบุคคลท่คี นุ้ เคยได้ พดู คยุ ผ้ใู หญ่และบุคคลท่ี พูดคยุ ผใู้ หญ่และบุคคลท่ี
เม่ือมผี ูช้ แ้ี นะ ค้นุ เคยไดด้ ว้ ยตนเอง คุน้ เคยไดเ้ หมาะสมกบั
สถานการณ์
๘.๓ ปฏิบัติตนเบ้อื งตน้ ใน ๘.๓.๑ ปฏบิ ัติตามข้อตกลง ๘.๓.๑ มสี ว่ นร่วมสร้าง ๘.๓.๑ มสี ว่ นร่วมสร้าง
การเป็นสมาชิกที่ดีของ เมอื่ มผี ้ชู ้แี นะ ข้อตกลงและปฏิบตั ติ ามข้อ ข้อตกลงและปฏิบัติตามข้อ
สังคม ขอ้ ตกลงเม่ือมผี ู้ช้ีแนะ ขอ้ ตกลงดว้ ยตนเอง
๘.๓.๒ ปฏบิ ัติตนเปน็ ผูน้ าํ ๘.๓.๒ ปฏบิ ตั ติ นเป็นผู้นาํ ๘.๓.๒ ปฏิบตั ติ นเปน็ ผนู้ าํ
และผ้ตู ามเม่ือมีผชู้ แี้ นะ และผตู้ ามเมื่อด้วยตนเอง และผู้ตามได้เหมาะสมกับ
สถานการณ์
๘.๓.๓ ยอมรบั การ ๘.๓.๓ ประนีประนอมแกไ้ ข ๘.๓.๓ ประนปี ระนอมแก้ไข
ประนีประนอมแกไ้ ขปัญหา ปัญหาปัญหาโดยปราศจาก ปัญหาปัญหาโดยปราศจาก
เมื่อมผี ู้ชแี้ นะ การใช้ความรนุ แรงเมอื่ มผี ู้ การใช้ความรนุ แรงด้วย
ชีแ้ นะ ตนเอง
หลักสูตรสถานศกึ ษาการศกึ ษาปฐมวัย ๙
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ่(นนททวิ ากรราษฎรบ์ ำรงุ )
มาตรฐานที่ ๙ ใช้ภาษาส่อื สารไดเ้ หมาะสมกบั วยั
ตัวบ่งช้ี สภาพท่พี งึ ประสงค์
อายุ ๓ - ๔ ปี อายุ ๔ - ๕ ปี อายุ ๕ – ๖ ปี
๙.๑ สนทนาโต้ตอบและ ๙.๑ ฟงั ผู้อน่ื พูดจนจบและ ๙.๑ ฟงั ผู้อ่ืนพดู จนจบและ ๙.๑ ฟงั ผูอ้ ่ืนพดู จนจบและ
เล่าเรือ่ งใหผ้ ู้อ่ืนเขา้ ใจ พดู โตต้ อบเกย่ี วกับเรื่องท่ีฟงั สนทนาโตต้ อบสอดคล้องกบั สนทนาโตต้ อบอย่างต่อเนือ่ ง
เร่อื งท่ีฟงั เชื่อมโยงกบั เรื่องที่ฟงั
๙.๑.๒ เล่าเร่อื งดว้ ยประโยค ๙.๑.๒ เลา่ เรอ่ื งเปน็ ประโยค ๙.๓.๒ เลา่ เป็นเรอ่ื งราว
สน้ั ๆ อยา่ งต่อเนื่อง ต่อเน่ืองได้
๙.๒ เขียนภาพและ ๙.๒.๑ อา่ นภาพและพดู ๙.๒.๑ อา่ นภาพ สัญลักษณ์ ๙.๒.๑ อ่านภาพ สญั ลักษณ์
สัญลกั ษณ์ได้ ขอ้ ความดว้ ยภาษาของ คำ พรอ้ มทง้ั ชีห้ รือกวาดตา คำ ด้วยการช้หี รือกวาดตา
ตนเอง มองขอ้ ความตามบรรทดั จดุ เร่ิมต้นและจุดจบของ
ขอ้ ความ
๙.๒.๒ เขียนขดี เขีย่ อยา่ งมี ๙.๒.๒ เขยี นคลา้ ยตัวอักษร ๙.๒.๒ เขยี นชอื่ ของตนเอง
ทศิ ทาง ตามแบบ เขยี นข้อความดว้ ย
วิธคี ดิ ขึ้นเอง
มาตรฐานที่ ๑๐ มีความสามารถในการคิดทเ่ี ปน็ พ้ืนฐานในการเรียนรู้
ตัวบ่งช้ี สภาพทพ่ี ึงประสงค์
อายุ ๓ - ๔ ปี อายุ ๔ - ๕ ปี อายุ ๕ – ๖ ปี
๑๐.๑ มคี วามสามารถใน ๑๐.๑.๑ บอกลกั ษณะของ ๑๐.๑.๑ บอกลักษณะและ ๑๐.๑.๑ บอกลักษณะ
ความคิดรวบยอด สงิ่ ต่าง ๆ จากการสงั เกตโดย ส่วนประกอบของสิ่งตา่ ง ๆ สว่ นประกอบ เปลยี่ นแปลง
ใช้ประสาทสัมผสั จากการสงั เกตโดยใช้ หรอื ความสมั พนั ธ์ของสง่ิ
ประสาทสัมผสั ต่าง ๆ จากการสังเกตโดยใช้
ประสาทสมั ผสั
๑๐.๑.๒ จบั คหู่ รอื ๑๐.๑.๒ จบั คแู่ ละ ๑๐.๑.๒ จับคูแ่ ละ
เปรียบเทยี บส่งิ ต่าง ๆ โดย เปรยี บเทียบความแตกตา่ ง เปรียบเทยี บความแตกต่าง
ใช้ลกั ษณะหรือหน้าทกี่ ารใช้ หรือความเหมือนของส่ิง หรือความเหมือนของส่งิ
งานเพยี งลักษณะเดยี ว ตา่ งๆ โดยใชล้ กั ษณะที่ ต่างๆ โดยใชล้ ักษณะที่
สังเกตพบเพยี งลักษณะเดยี ว สังเกตพบ ๒ ลักษณะข้นึ ไป
๑๐.๑.๓ คัดแยกสิ่งต่าง ๆ ๑๐.๑.๓ จําแนกและจดั กลุ่ม ๑๐.๑.๓ จําแนกและจดั กลุ่ม
ตามลักษณะหรือหนา้ ที่การ ตามลักษณะ โดยใช้อย่าง ตามลกั ษณะ โดยใช้ ๒
ใชง้ าน น้อย ๑ ลกั ษณะเป็นเกณฑ์ ลกั ษณะเป็นเกณฑ์
๑๐.๑.๔ เรียงลําดับสิง่ ของ ๑๐.๑.๔ เรียงลําดับสิง่ ของ ๑๐.๑.๔ เรยี งลาํ ดับสง่ิ ของ
หรือเหตุการณอ์ ย่างนอ้ ย ๓ หรอื เหตกุ ารณ์อยา่ งน้อย ๔ หรือเหตุการณอ์ ยา่ งน้อย ๕
ลำดบั ลำดับ ลำดบั
หลกั สูตรสถานศกึ ษาการศกึ ษาปฐมวัย ๑๐
โรงเรียนวดั ไทรใหญ(่ นนททิวากรราษฎรบ์ ำรุง)
ตัวบ่งชี้ อายุ ๓ - ๔ ปี สภาพท่ีพึงประสงค์ อายุ ๕ – ๖ ปี
๑๐.๒ มีความสามารถใน ๑๐.๒.๑ ระบผุ ลทเ่ี กดิ ข้ึนใน อายุ ๔ - ๕ ปี
เหตุการณห์ รือการกระทํา ๑๐.๒.๑ อธิบายเชอื่ มโยง
การคดิ เชงิ เหตุผล เมอ่ื มีผูช้ ีแ้ นะ ๑๐.๒.๑ ระบสุ าเหตหุ รือผล สาเหตุและผลทเ่ี กดิ ขึน้ ใน
ทีเ่ กิดข้ึนในเหตุการณ์หรือ เหตุการณ์หรือการกระทํา
๑๐.๓ มคี วามสามารถใน ๑๐.๒.๒ คาดเดาหรือ การกระทาํ เมื่อมีผชู้ ้ีแนะ ดว้ ยตนเอง
การคดิ แก้ปัญหาและ คาดคะเนสงิ่ ที่อาจจะเกดิ ขน้ึ
๑๐.๒.๒ คาดเดาหรอื ๑๐.๒.๒ คาดคะเนส่ิงท่ี
ตัดสินใจ ๑๐.๓.๑ ตดั สนิ ในเร่ืองงา่ ยๆ คาดคะเนสิง่ ที่อาจจะเกิดขึน้ อาจจะเกดิ ข้นึ และมสี ว่ น
หรือมสี ว่ นรว่ มในการลง รว่ มในการลงความเหน็ จาก
๑๐.๓.๑ แกป้ ัญหาโดยลอง ความเหน็ จากข้อมลู ข้อมลู อยา่ งมเี หตุผล
ผดิ ลองถกู ๑๐.๓.๑ ตดั สินในเรื่องงา่ ยๆ
และเริ่มเรยี นรผู้ ลท่ีเกิดขึ้น ๑๐.๓.๑ ตดั สนิ ในเรอื่ งงา่ ยๆ
๑๐.๓.๒ ระบปุ ัญหา และยอมรับผลทเ่ี กิดขึ้น
แก้ปญั หาโดยลองผิดลองถูก
๑๐.๓.๒ ระบปุ ัญหา สร้าง
ทางเลอื กและเลือกวิธี
แกป้ ัญหา
มาตรฐานท่ี ๑๑ มจี นิ ตนาการและความคิดสร้างสรรค์
ตัวบ่งชี้ สภาพท่พี ึงประสงค์
อายุ ๓ - ๔ ปี อายุ ๔ - ๕ ปี อายุ ๕ – ๖ ปี
๑๑.๑ ทำงานศิลปะตาม ๑๑.๑.๑ สร้างผลงานศิลปะ ๑๑.๑.๑ สรา้ งผลงานศลิ ปะ ๑๑.๑.๑ สรา้ งผลงานศลิ ปะ
เพือ่ ส่ือสารความคิด
จนิ ตนาการและความคิด เพื่อสื่อสารความคิด เพื่อส่ือสารความคดิ ความรู้สึกของตนเอง โดยมี
การดัดแปลงแปลกใหม่จาก
สรา้ งสรรค์ ความรู้สึก ของตนเอง ความรู้สกึ ของตนเอง โดยมี เดมิ หรือมีรายละเอยี ด
เพิม่ เติม
การดัดแปลงแปลกใหม่จาก
๑๑.๒.๑ เคลอื่ นไหวทา่ ทาง
เดมิ หรอื มีรายละเอยี ด เพอื่ สื่อสารความคิด
ความรู้สกึ ของตนเองอยา่ ง
เพมิ่ เติม หลากหลายและแปลกใหม่
๑๑.๒ แสดงท่าทาง/ ๑๑.๒.๑ เคลอื่ นไหวทา่ ทาง ๑๑.๒.๑ เคลอื่ นไหวท่าทาง
เคล่ือนไหว จนิ ตนาการ เพือ่ สื่อสารความคิด เพื่อสื่อสารความคิด
อยา่ งสรา้ งสรรค์ ความรสู้ ึกของตนเอง ความร้สู ึกของตนเองอยา่ ง
หลากหลายหรอื แปลกใหม่
หลกั สตู รสถานศกึ ษาการศกึ ษาปฐมวัย ๑๑
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่(นนททวิ ากรราษฎร์บำรงุ )
มาตรฐานที่ ๑๒ มเี จตคติทีด่ ีตอ่ การเรยี นรู้ และมคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้
ได้เหมาะสมตามวยั
ตวั บง่ ชี้ สภาพที่พึงประสงค์
อายุ ๓ - ๔ ปี อายุ ๔ - ๕ ปี อายุ ๕ – ๖ ปี
๑๒.๑ มีเจตคตทิ ี่ดตี ่อการ ๑๒.๑.๑ สนใจฟงั หรอื อ่าน ๑๒.๑.๑ สนใจซักถาม ๑๒.๑.๑ สนใจหยบิ หนังสือ
เรียนรู้ หนังสอื ดว้ ยตนเอง เกี่ยวกับสัญลกั ษณ์หรือ มาอ่านและเขยี นสื่อ
ตวั หนงั สอื ทีพ่ บเห็น ความคดิ ดว้ ยตนเองเป็น
ประจำอยา่ งตอ่ เน่ือง
๑๒.๑.๒ กระตือรือรน้ ใน ๑๒.๑.๒ กระตอื รือร้นใน ๑๒.๑.๒ กระตือรือรน้ ใน
การเข้าร่วมกจิ กรรม การเข้ารว่ มกจิ กรรม การเข้ารว่ มกิจกรรมต้ังแต่
ตน้ จนจบ
๑๒.๒ มคี วามสามารถใน ๑๒.๒.๑ คน้ หาคำตอบของ ๑๒.๒.๑ ใช้ประโยคคำถาม ๑๒.๒.๑ ใชป้ ระโยคคำถาม
การแสวงหาความรู้ ขอ้ สงสัยตา่ ง ๆ ตามวธิ กี าร วา่ “ท่ไี หน” “ทำไม” ใน วา่ “เมอื่ ไร” “อย่างไร” ใน
เมอื่ มีผชู้ ีแนะ การคน้ หาคำตอบ การค้นหาคำตอบ
หลกั สตู รสถานศกึ ษาการศกึ ษาปฐมวัย ๑๒
โรงเรียนวดั ไทรใหญ(่ นนททวิ ากรราษฎรบ์ ำรุง)
โครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวยั
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ่ (นนททวิ ากรราษฎร์บำรุง)
โรงเรยี นวัดไทรใหญ่ (นนททิวากรราษฎรบ์ ำรุง) ได้กำหนดโครงสร้างของหลกั สตู รสถานศึกษา
ปฐมวัย และสาระการเรียนรูร้ ายปี เพื่อให้การจัดการศึกษาเปน็ ไปตามหลักการและจดุ หมายทีก่ ำหนดไว้ ดังนี้
ชว่ งอายุ อายุ ๓-6 ปี
สาระการเรยี นรู้
ระยะเวลาเรียน ประสบการณ์สำคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้
-ดา้ นรา่ งกาย -เรือ่ งราวเก่ยี วกับตัวเด็ก
-ด้านอารมณ์และจติ ใจ -เรื่องราวเกย่ี วกับบุคคลและ
-ดา้ นสังคม สภาพแวดลอ้ มเด็ก
-ด้านสตปิ ญั ญา -ธรรมชาตริ อบตวั
-ส่งิ ต่างๆรอบตวั เด็ก
๓ ปีการศกึ ษา (ระดับชัน้ ละ ๑ ปีการศกึ ษา)
ระยะเวลาเรยี น และสาระการเรยี นรู้รายปี
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่ (นนททิวากรราษฎร์บำรุง) ได้กำหนดโครงสร้างของหลกั สูตรสถานศึกษาปฐมวัย
และสาระการเรียนร้รู ายปี เพือ่ ใหก้ ารจดั การศึกษาเปน็ ไปตามหลกั การและจุดหมายทีก่ ำหนดไว้ ดังน้ี
ระยะเวลาเรยี น
โรงเรียนวัดไทรใหญ่ (นนททิวากรราษฎร์บำรุง) กําหนดกรอบโครงสร้างเวลาในการจัดประสบการณ์
ให้กับเด็ก ๓ ปีการศึกษา โดยมีเวลาเรียนไม่น้อยกว่า ๑๘๐ วัน ต่อปีการศึกษา ในแต่ละวันจะใช้เวลาไม่น้อย
กวา่ ๕ ช่ัวโมง
สาระการเรียนรู้
การกำหนดสาระการเรียนรู้รายปี ในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้กับเด็ก เพอื่ ส่งเสริมพัฒนาการ
เดก็ ทุกด้านให้เป็นไปตามจดุ หมายของหลักสตู รที่กำหนด ประกอบดว้ ย ประสบการณ์ทสี่ ำคัญ และสาระท่ีควร
รู้ ดังนี้
๑. ประสบการณ์สําคญั
ประสบการณ์สาํ คัญเปน็ แนวทางสําหรับผสู้ อนนําไปใช้ในการออกแบบ การจัดประสบการณ์ให้เด็ก
ปฐมวยั เรยี นรู้ ลงมือปฏิบัติ และไดร้ ับการส่งเสริมพัฒนาการครอบคลมุ ทุกด้าน ดังน้ี
หลกั สูตรสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย ๑๓
โรงเรียนวดั ไทรใหญ(่ นนททวิ ากรราษฎรบ์ ำรงุ )
๑.๑ ประสบการณ์สําคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย เป็นการสนับสนุนให้เด็กได้มีโอกาส
พัฒนาการใช้กลา้ มเนือ้ ใหญ่ กล้ามเนือ้ เล็ก และการประสานสมั พันธ์ระหวา่ งกล้ามเนื้อและระบบ ประสาท ใน
การทํากิจวัตรประจําวันหรือทํากิจกรรมต่างๆ และสนับสนุนให้เด็กมีโอกาสดูแลสุขภาพและ สุขอนามัย สุข
นสิ ยั และการรักษาความปลอดภัย ดงั น้ี
ด้านร่างกาย ประสบการณ์สาํ คัญ
๑.๑.๑ การใช้กล้ามเนื้อใหญ่ (๑) การเคล่ือนไหวอยู่กบั ท่ี
(๒) การเคล่ือนไหวเคล่ือนที่
(๓) การเคลื่อนไหวพร้อมวสั ดุอุปกรณ์
(๔) การเคล่ือนไหวที่ใชก้ ารประสานสมั พนั ธข์ องการใชก้ ล้ามเนือ้ ใหญ่ ใน
การขว้าง การจบั การโยน การเตะ
(๕) การเลน่ เครื่องเล่นสนามอย่างอสิ ระ
๑.๑.๒ การใชก้ ล้ามเนือ้ เล็ก (๑) การเล่นเคร่ืองเลน่ สมั ผสั และการสร้างจากแท่งไม้ บล็อก
(๒) การเขยี นภาพและการเล่นกบั สี
(๓) การป้ัน
(๔) การประดิษฐ์สิ่งต่างๆ ด้วย เศษวสั ดุ
(๕) การหยิบจบั การใชก้ รรไกร การฉีก การตัด การปะ และการร้อยวัสดุ
๑.๑.๓ การรักษาสุขภาพ อนามัย (๑) การปฏิบตั ิตนตามสขุ อนามัย สขุ นสิ ัยที่ดีในกจิ วตั รประจําวนั
ส่วนตน
๑.๑.๔ การรักษาความปลอดภยั (๑) การปฏบิ ตั ติ นให้ปลอดภยั ในกิจวัตรประจาํ วนั
(๒) การฟังนทิ าน เร่ืองราว เหตุการณ์ เกย่ี วกับการป้องกนั และรกั ษาความ
ปลอดภยั
(๓) การเลน่ เคร่ืองเล่นอย่างปลอดภยั
(๔) การเลน่ บทบาทสมมตเิ หตุการณ์ต่าง ๆ
๑.๑.๕ การตระหนักรู้ เกย่ี วกับ (๑) การเคลื่อนไหวโดยควบคุมตนไปในทิศทาง ระดบั และพน้ื ท่ี
ร่างกาย (๒) การเคล่ือนไหวข้ามสิง่ กดี ขวางตนเอง
หลกั สูตรสถานศึกษาการศกึ ษาปฐมวัย ๑๔
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่(นนททวิ ากรราษฎร์บำรุง)
๑.๒ ประสบการณ์สําคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ เป็นการสนับสนุนให้เด็กได้
แสดงออกทางอารมณ์และความรู้สึกของตนเองที่เหมาะสมกับวัย ตระหนักถึงลักษณะพิเศษเฉพาะที่เป็นอัต
ลักษณ์ ความเป็นตัวของตัวเอง มีความสุข ร่าเริงแจ่มใส การเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ได้พัฒนาคุณธรรมจริยธรรม
สนุ ทรียภาพ ความรู้สกึ ท่ดี ตี ่อตนเอง และความเชอื่ มนั่ ในตนเองขณะปฏบิ ตั ิกจิ กรรมต่าง ๆ ดังน้ี
ด้านอารมณ์ จิตใจ ประสบการณส์ ําคัญ
๑.๒.๑ สุนทรยี ภาพ ดนตรี (๑) การฟังเพลง การร้องเพลง และการแสดงปฏิกริ ยิ าโต้ตอบเสียงดนตรี
(๒) การเลน่ เครื่องดนตรีประกอบจงั หวะ
(๓) การเคล่ือนไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี
(๔) การเลน่ บทบาทสมมติ
(๕) การทาํ กิจกรรมศลิ ปะต่าง ๆ
(๖) การสรา้ งสรรคส์ ิ่งสวยงาม
๑.๒.๒ การเล่น (๑) การเลน่ อสิ ระ
(๒) การเลน่ รายบุคคล กลุ่มย่อย กล่มุ ใหญ่
(๓) การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์
(๔) การเล่นนอกหอ้ งเรยี น
๑.๒.๓ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม (๑) การปฏบิ ตั ิตนตามหลกั ศาสนาท่ีนบั ถือ
(๒) การฟังนทิ านเกยี่ วกบั คุณธรรม จริยธรรม
(๓) การรว่ มสนทนาและแลกเปลี่ยนความคดิ เหน็ เชิงจริยธรรม
๑.๒.๔ การแสดงออกทางอารมณ์ (๑) การพูดสะท้อนความรสู้ ึกของตนเองและผูอ้ น่ื
(๒) การเลน่ บทบาทสมมติ
(๓) การเคล่ือนไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี
(๔) การรอ้ งเพลง
(๕) การทํางานศลิ ปะ
๑.๒.๕ การมอี ัตลักษณ์เฉพาะตน (๑) การปฏิบตั กิ ิจกรรมต่าง ๆ ตามความสามารถของตนเอง
และเชอื่ ว่าตนเองมคี วามสามารถ
๑.๒.๖ การเหน็ อกเห็นใจผูอ้ ่นื (๑) การแสดงความยนิ ดีเม่ือผู้อืน่ มีความสุข เหน็ ใจเมื่อผู้อ่ืนเศร้าหรอื เสียใจ
และการช่วยเหลือปลอบโยนเมอื่ ผอู้ ่นื ไดร้ บั บาดเจบ็
หลกั สูตรสถานศกึ ษาการศกึ ษาปฐมวัย ๑๕
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ(่ นนททิวากรราษฎรบ์ ำรงุ )
๑.๓ ประสบการณ์สําคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคม เป็นการสนับสนุนให้เด็กได้ มีโอกาส
ปฏสิ มั พนั ธก์ ับบคุ คลและส่ิงแวดล้อมต่างๆ รอบตัวจากการปฏิบตั ิกจิ กรรมตา่ งๆ ผ่านการเรยี นรู้ทาง สังคม เช่น
การเลน่ การทาํ งานกบั ผ้อู น่ื การปฏบิ ัตกิ ิจวัตรประจาํ วนั การแกป้ ญั หาขอ้ ขดั แยง้ ต่าง ๆดา้ นสงั คม
ดา้ นสังคม ประสบการณส์ ําคญั
๑.๓.๑ การปฏิบัติกจิ วตั ร (๑) การช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจาํ วนั
ประจําวนั (๒) การปฏิบตั ิตนตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
๑.๓.๒ การดูแลรักษาธรรมชาติ (๑) การมีส่วนร่วมรับผดิ ชอบดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมท้ังภายในและภายนอก
และส่ิงแวดล้อม ห้องเรียน
(๒) การใช้วัสดุและสิ่งของเคร่ืองใช้อย่างคุ้มคา่
(๓) การทํางานศลิ ปะท่นี าํ วสั ดหุ รือส่งิ ของเครื่องใช้ที่ใช้แลว้ มาใช้ซ้ำหรอื แปร
รปู แล้วนํากลับมาใชใ้ หม่
(๔) การเพาะปลูกและดูแลต้นไม้
(๕) การเลยี้ งสตั ว์
(๖) การสนทนาข่าวและเหตุการณท์ ่ีเกยี่ วกับธรรมชาติและสิง่ แวดล้อมใน
ชีวติ ประจาํ วัน
๑.๓.๓ การปฏบิ ัติตาม (๑) การเลน่ บทบาทสมมติการปฏบิ ัตติ นในความเป็นคนไทย
วฒั นธรรม ท้องถน่ิ และความ (๒) การปฏบิ ตั ิตนตามวฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ ที่อาศยั และประเพณีไทย
เปน็ ไทย (๓) การประกอบอาหารไทย
(๔) การศึกษานอกสถานท่ี
(๕) การละเลน่ พน้ื บา้ นของไทย
๑.๓.๔ การมีปฏสิ มั พันธ์ มีวินยั (๑) การร่วมกําหนดข้อตกลงของห้องเรียน
มสี ว่ นร่วม และบทบาทสมาชกิ (๒) การปฏิบตั ิตนเปน็ สมาชิกทดี่ ีของห้องเรยี น
ของสังคม (๓) การให้ความรว่ มมือในการปฏิบัตกิ จิ กรรมต่าง ๆ
(๔) การดแู ลห้องเรียนรว่ มกัน
(๕) การรว่ มกิจกรรมวนั สาํ คัญ
๑.๓.๕ การเล่น และทํางาน (๑) การร่วมสนทนาและแลกเปล่ยี นความคิดเห็น
แบบรว่ มมือร่วมใจ (๒) การเลน่ และทํางานรว่ มกับผู้อน่ื
(๓) การทาํ ศลิ ปะแบบรว่ มมือ
๑.๓.๖ การแกป้ ญั หาความ (๑) การมสี ว่ นร่วมในการเลือกวธิ กี ารแก้ปญั หา
ขัดแยง้ (๒) การมสี ว่ นรว่ มในการแก้ปัญหาความขดั แยง้
๑.๓.๗ การยอมรบั ในความ (๑) การเลน่ หรอื ทาํ กิจกรรมร่วมกับกล่มุ เพ่อื น
เหมอื น และความแตกต่าง
ระหวา่ งบคุ คล
หลักสูตรสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย ๑๖
โรงเรียนวดั ไทรใหญ(่ นนททวิ ากรราษฎร์บำรุง)
๑.๔ ประสบการณ์สําคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา เป็นการสนับสนุนให้เด็ก ได้รับรู้และ
เรียนรู้สิ่งต่างๆรอบตัวผ่านการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม บุคคลและสื่อต่าง ๆ ด้วยกระบวนการ เรียนรู้ที่
หลากหลาย เพือ่ เปดิ โอกาสให้เดก็ พฒั นาการใช้ภาษา จินตนาการความคดิ สรา้ งสรรค์ การแก้ปัญหา การคดิ เชงิ
เหตุผล และการคิดรวบยอดเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัวและมีความคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์ ที่เป็นพื้นฐาน
ของการเรยี นรใู้ นระดับท่สี ูงขน้ึ ต่อไป
ด้านสติปญั ญา ประสบการณส์ ําคญั
๑.๔.๑ การใชภ้ าษา (๑) การฟังเสียงตา่ ง ๆ ในสิ่งแวดล้อม
(๒) การฟังและปฏบิ ตั ิตามคําแนะนาํ
(๓) การฟังเพลง นิทาน คาํ คล้องจอง บทร้อยกรอง หรอื เรอ่ื งราวตา่ ง ๆ
(๔) การพูดแสดงความคดิ ความรูส้ กึ และความตอ้ งการ
(๕) การพูดกบั ผู้อ่ืนเก่ียวกับประสบการณ์ของตนเอง หรอื พูดเล่าเร่อื งราว
เก่ยี วกับตนเอง
(๖) การพูดอธิบายเกย่ี วกบั ส่งิ ของ เหตุการณ์ และความสมั พันธ์ของสิง่ ตา่ ง ๆ
๑.๔.๑ การใชภ้ าษา (๗) การพูดอยา่ งสร้างสรรค์ในการเลน่ และการกระทาํ ต่าง ๆ
(๘) การรอจังหวะท่เี หมาะสมในการพูด
(๙) การพูดเรียงลาํ ดับคําเพ่ือใช้ในการส่ือสาร
(๑๐) การอา่ นหนังสอื ภาพ นิทาน หลากหลายประเภท/รปู แบบ
(๑๑) การอ่านอย่างอสิ ระตามลําพัง การอ่านรว่ มกนั การอ่านโดยมผี ้ชู ้ีแนะ
(๑๒) การเหน็ แบบอย่างของการอา่ นท่ีถูกต้อง
(๑๓) การสังเกตทศิ ทางการอ่านตัวอกั ษร คาํ และขอ้ ความ
(๑๔) การอา่ นและช้ขี ้อความ โดยกวาดสายตาตามบรรทัดจาก
ซา้ ยไปขวา จากบนลงล่าง
(๑๕) การสงั เกตตัวอกั ษรในช่ือของตน หรอื คําคุน้ เคย
(๑๖) การสังเกตตวั อักษรทปี่ ระกอบเปน็ คําผา่ นการอา่ นหรือเขียนของผ้ใู หญ่
(๑๗) การคาดเดาคาํ วลี หรือประโยค ที่มโี ครงสรา้ งซ้ำ ๆ กัน จากนทิ าน
เพลง คาํ
คล้องจอง
(๑๘) การเล่นเกมทางภาษา
(๑๙) การเห็นแบบอย่างของการเขยี นที่ถูกตอ้ ง
(๒๐) การเขียนรว่ มกนั ตามโอกาส และการเขยี นอิสระ
(๒๑) การเขยี นคําท่มี ีความหมายกบั ตัวเดก็ /คําคุ้นเคย
(๒๒) การคดิ สะกดคาํ และเขียนเพ่อื สื่อความหมายด้วยตนเองอย่างอิสระ
๑.๔.๒ การคดิ รวบยอด การ (๑) การสงั เกตลกั ษณะ ส่วนประกอบ การเปลย่ี นแปลง และความสัมพันธ์ของ
คดิ เชิงเหตผุ ล การตดั สินใจ สิ่งตา่ ง ๆ โดยใช้ประสาทสัมผัสอย่างเหมาะสม
และแก้ปญั หา (๒) การสงั เกตสงิ่ ตา่ ง ๆ และสถานที่จากมมุ มองที่ตา่ งกัน
(๓) การบอกและแสดงตาํ แหนง่ ทศิ ทาง และระยะทางของสิ่งต่าง ๆ ดว้ ยการ
กระทาํ ภาพวาด ภาพถ่าย และรูปภาพ
หลักสูตรสถานศกึ ษาการศึกษาปฐมวัย ๑๗
โรงเรียนวดั ไทรใหญ(่ นนททิวากรราษฎร์บำรุง)
ด้านสตปิ ญั ญา ประสบการณส์ ําคญั
๑.๔.๓ จินตนาการและ (๔) การเล่นกับสื่อตา่ ง ๆ ท่ีเป็นทรงกลม ทรงสีเ่ หลย่ี มมมุ ฉาก ทรงกระบอก
ความคดิ สรา้ งสรรค์ กรวย
๑.๔.๔ เจตคติทด่ี ตี อ่ การ (๕) การคัดแยก การจัดกลมุ่ และการจาํ แนกสิ่งต่าง ๆ ตามลกั ษณะและ
เรยี นรแู้ ละการ แสวงหา รูปร่าง รูปทรง
ความรู้ (๖) การต่อของชนิ้ เลก็ เติมในช้นิ ใหญใ่ หส้ มบูรณ์ และการแยกชิน้ ส่วน
(๗) การทําซ้ำ การต่อเตมิ และการสรา้ งแบบรปู
(๘) การนบั และแสดงจํานวนของส่ิงตา่ ง ๆ ในชวี ิตประจาํ วัน
(๙) การเปรียบเทยี บและเรียงลําดบั จํานวนของสงิ่ ตา่ ง ๆ
(๑๐) การรวมและการแยกสง่ิ ต่าง ๆ
(๑๑) การบอกและแสดงอันดับท่ีของสงิ่ ตา่ ง ๆ
(๑๒) การช่ัง ตวง วัดสิ่งตา่ งๆ โดยใช้เครือ่ งมือและหน่วยทไี่ มใ่ ช่หน่วย
มาตรฐาน
(๑๓) การจับคู่ การเปรยี บเทียบ และการเรยี งลาํ ดับ สงิ่ ต่างๆ ตามลกั ษณะ
ความยาว/ความสงู น้ำหนัก ปริมาตร
(๑๔) การบอกและเรียงลําดบั กจิ กรรมหรือเหตกุ ารณต์ ามช่วงเวลา
(๑๕) การใช้ภาษาทางคณิตศาสตรก์ บั เหตุการณ์ในชวี ติ ประจําวนั
(๑๖) การอธบิ ายเช่ือมโยงสาเหตแุ ละผลท่เี กิดขนึ้ ในเหตุการณ์หรอื การกระทํา
(๑๗) การคาดเดาหรอื การคาดคะเนส่งิ ทีอ่ าจจะเกิดข้ึนอย่างมีเหตุผล
(๑๘) การมสี ่วนร่วมในการลงความเห็นจากข้อมลู อยา่ งมีเหตผุ ล
(๑๙) การตัดสินใจและมีส่วนรว่ มในกระบวนการแก้ปัญหา
(๑) การรับรู้ และแสดงความคดิ ความรู้สกึ ผา่ นสื่อ วสั ดุ ของเล่น และชนิ้ งาน
(๒) การแสดงความคิดสร้างสรรค์ผ่านภาษา ทา่ ทาง การเคลื่อนไหว และ
ศลิ ปะ
(๓) การสร้างสรรค์ชิ้นงานโดยใช้รปู รา่ งรูปทรงจากวัสดทุ หี่ ลากหลาย
(๑) การสํารวจสง่ิ ตา่ งๆ และแหลง่ เรยี นร้รู อบตวั
(๒) การต้งั คําถามในเร่ืองท่ีสนใจ
(๓) การสบื เสาะหาความรูเ้ พ่ือคน้ หาคําตอบของข้อสงสยั ต่าง ๆ
(๔) การมสี ่วนรว่ มในการรวบรวมขอ้ มูลและนําเสนอขอ้ มูลจากการสืบเสาะหา
ความรใู้ นรปู แบบต่าง ๆ และแผนภมู อิ ยา่ งงา่ ย
หลกั สูตรสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย ๑๘
โรงเรียนวดั ไทรใหญ(่ นนททิวากรราษฎรบ์ ำรงุ )
๒. สาระทคี่ วรเรยี นรู้
สาระท่ีควรเรยี นรู้ เปน็ เร่ืองราวรอบตวั เด็กท่ีนํามาเป็นสอ่ื กลางในการจัดกจิ กรรมใหเ้ ด็กเกิดแนวคิด
หลังจากนําสาระที่ควรรู้นั้น ๆ มาจัดประสบการณ์ให้เด็ก เพื่อให้บรรลุจุดหมายที่กําหนดไว้ ทั้งนี้ ไม่เน้นการ
ทอ่ งจาํ เนอ้ื หา ผู้สอนสามารถกําหนดรายละเอียดขึ้นเองให้สอดคล้องกับวยั ความตอ้ งการ และความสนใจของ
เด็ก โดยให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์สําคัญ ทั้งนี้ อาจยืดหยุ่นเนื้อหาได้ โดยคํานึงถึงประสบการณ์ และ
สงิ่ แวดล้อมในชีวิตจริงของเด็ก ดังน้ี
๒.๑ เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเด็ก เด็กควรเรียนรู้ชื่อ นามสกุล รูปร่างหน้าตา อวัยวะต่าง ๆ วิธีระวัง
รักษาร่างกายให้สะอาดและมีสุขภาพอนามัยที่ดี รู้จักวิธีการป้องกันตนเอง เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
โรคไวรัสโคโรนา 2019 และเรียนรู้การใช้ชีวิตวิถีใหม่ New Normal การรับประทานอาหารที่เป็น
ประโยชน์ การระมัดระวังความ ปลอดภัยของตนเองจากผู้อื่นและภัยใกล้ตัว รวมทั้งการปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่าง
ปลอดภัย การรู้จักประวัติความ เป็นมาของตนเองและครอบครัว การปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัว
และโรงเรียน การเคารพสิทธิของ ตนเองและผู้อื่น การรู้จักแสดงความคิดเห็นของตนเองและรับฟังความ
คิดเห็นของผู้อื่น การกํากับตนเอง การ เล่นและทําสิง่ ต่าง ๆ ด้วยตนเองตามลําพังหรือกับผูอ้ ื่น การตระหนักรู้
เกี่ยวกับตนเอง ความภาคภูมิใจ ในตนเอง การสะท้อนการรบั รูอ้ ารมณ์และความรูส้ กึ ของตนเองและผูอ้ ื่น การ
แสดงออกทางอารมณ์และ ความรู้สกึ อยา่ งเหมาะสม การแสดงมารยาทท่ีดี การมีคุณธรรมจริยธรรม
๒.๒ เรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลและสถานที่แวดล้อมเด็ก เด็กควรเรียนรู้เกี่ยวกับครอบครัว
สถานศกึ ษา ชุมชน และบคุ คลตา่ ง ๆ ทเ่ี ดก็ ต้องเกีย่ วข้องหรือใกล้ชดิ และมปี ฏสิ มั พนั ธใ์ นชีวิตประจําวนั สถานที่
สําคัญ วันสําคัญ อาชีพของคนในชุมชน ศาสนา แหล่งวัฒนธรรมในชุมชน สัญลักษณ์สําคัญของชาติไทย และ
การปฏิบัตติ ามวฒั นธรรมท้องถิ่นและความเป็นไทย หรอื แหลง่ เรยี นรจู้ ากภูมิปัญญาท้องถน่ิ อืน่ ๆ
๒.๓ ธรรมชาติรอบตัว เด็กควรเรียนรู้เกี่ยวกับชื่อ ลักษณะ ส่วนประกอบ การเปลี่ยนแปลงและ
ความสัมพันธ์ของมนุษย์ สัตว์ พืช ตลอดจนการรู้จักเก่ียวกับดิน น้ำ ท้องฟ้า สภาพอากาศ ภัยธรรมชาติ แรง
และพลังงานในชีวติ ประจาํ วนั ทแ่ี วดลอ้ มเดก็ รวมทั้งการอนุรักษ์ส่ิงแวดล้อมและการรกั ษาสาธารณสมบตั ิ
๒.๔ สิ่งต่าง ๆ รอบตัวเด็ก เด็กควรเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ภาษาเพื่อสื่อความหมายใน
ชีวิตประจําวนั ความรพู้ ้นื ฐานเกี่ยวกับการใชห้ นงั สือและตวั หนังสือ รูจ้ กั ชอ่ื ลักษณะ สี ผวิ สมั ผัส ขนาด รูปร่าง
รปู ทรง ปริมาตร นำ้ หนกั จํานวน สว่ นประกอบ การเปลย่ี นแปลงและความสมั พันธ์ของสิ่งตา่ ง ๆ รอบตัว เวลา
เงิน ประโยชน์ การใช้งาน และการเลือกใช้สิ่งของเครื่องใช้ ยานพาหนะ การคมนาคม เทคโนโลยีและการ
สอ่ื สาร ต่าง ๆ ท่ใี ชอ้ ยใู่ นชวี ิตประจาํ วนั อยา่ งประหยัด ปลอดภยั และรกั ษาสงิ่ แวดลอ้ ม
ทงั้ น้ี โรงเรียนวดั ไทรใหญ่(นนททวิ ากรราษฎร์บำรุง)ได้ดำเนินการวิเคราะหส์ าระการเรยี นรู้รายปีใน
รูปแบบของตารางการวเิ คราะห์ความสอดคล้องของทุกองค์ประกอบ เพื่อกำหนดสาระการเรียนรรู้ ายปี ดงั นี้
หลกั สตู รสถานศึกษาการศกึ ษาปฐมวัย ๑๙
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่(นนททวิ ากรราษฎรบ์ ำรุง)
การวิเคราะห์สาระการเรียนรู้รายปี
๑.พฒั นาการดา้ นร่างกาย
มาตรฐานท่ี ๑ ร่างกายเจรญิ เตบิ โตตามวยั
สภาพท่พี งึ ประสงค์ ตวั อยา่ งสาระการเรยี นรู้รายปี
ตวั บง่ ช้ี ช้ัน อ. ๑ ชัน้ อ.๒ ซ้นั อ.๓ ประสบการณ์ สาระทีค่ วรเรียนรู้
(๕ – ๖ ปี ) สําคัญ
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี ) ๑.๑.๑ น้ำหนกั
และสว่ นสูงตาม
๑.๑ น้ำหนกั และ ๑.๑.๑ น้ำหนักและ ๑.๑.๑ น้ำหนกั และ เกณฑข์ องกรม ๑.๑.๓ การกั ษา ๑. อาหารที่ช่วยให้
อนามยั
สว่ นสงู สว่ นสงู ตามเกณฑ์ สว่ นสูงตามเกณฑ์ สขุ ภาพอนามัย ร่างกายเจริญเตบิ โต
๑.๒.๑
ตามเกณฑ์ ของกรมอนามยั ของกรมอนามัย รับประทานอาหาร ส่วนตน
ท่ีมปี ระโยชนไ์ ด้
หลายชนิดและดม่ื (๑) การปฏบิ ตั ติ น
นำ้ สะอาดไดด้ ้วย
ตนเอง ตามสุขอนามัย
สุขนิสยั ทีด่ ีใน
กจิ วัตรประจาํ วนั
๑.๒ มสี ุขภาพ ๑.๒.๑ ยอม ๑.๒.๑ รบั ประทาน ๑.๑.๓ การักษา ๑. อาหารทีม่ ีประโยชน์
อนามัยและ รับประทานอาหาร อาหารที่มปี ระโยชน์
สุขนิสัยที่ดี ที่มปี ระโยชนแ์ ละ และดม่ื นำ้ สะอาดได้ สุขภาพอนามยั และไมม่ ีประโยชน์
ดมื่ นำ้ สะอาดเม่อื มีผู้ ด้วยตนเอง
ชีแ้ นะ ส่วนตน ๒. อาหารหลกั ๕ หมู่
(๑) การปฏิบตั ติ น ๓. การมเี จตคตทิ ี่ดตี ่อ
ตามสุขอนามยั การรบั ประทานอาหารท่ี
สขุ นิสัยที่ดีใน มปี ระโยชน์
กิจวตั รประจาํ วัน ๔. มารยาทในการ
๑.๓.๓ การปฏิบัติ รบั ประทานอาหารได้
ตามวัฒนธรรม ด้วยตนเอง
ทอ้ งถ่นิ และความ ๕.การดแู ลและการ
เป็นไทย ป้องกันตนเองให้
(๓) การประกอบ ห่างไกลจากโรคโควิด-
อาหารไทย 19
หลักสูตรสถานศกึ ษาการศึกษาปฐมวัย ๒๐
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ(่ นนททวิ ากรราษฎรบ์ ำรุง)
มาตรฐานท่ี ๑ ร่างกายเจรญิ เติบโตตามวยั (ตอ่ )
สภาพที่พงึ ประสงค์ ตัวอยา่ งสาระการเรยี นรู้รายปี
ตวั บ่งช้ี ชั้น อ. ๑ ชัน้ อ.๒ ซ้ัน อ.๓ ประสบการณ์ สาระท่ีควรเรียนรู้
(๕ – ๖ ปี ) สาํ คัญ
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี )
๑.๒.๒ ลา้ งมอื
๑.๒ มสี ุขภาพ ๑.๒.๒ ลา้ งมือก่อน ๑.๒.๒ ลา้ งมอื กอ่ น กอ่ นรบั ประทาน ๑.๑.๓ การกั ษา ๑. อวัยวะต่างๆ ของ
อาหารและ
อนามยั และ รบั ประทานอาหาร รบั ประทานอาหาร หลงั จากใช้ สขุ ภาพอนามยั ร่างกายและการรกั ษา
ห้องนำ้ ห้องส้วม
สขุ นิสัยท่ีด(ี ตอ่ ) และหลังจากใช้ และหลงั จากใช้ ด้วยตนเอง สว่ นตน ความปลอดภยั
หอ้ งน้ำห้องสว้ มเมื่อ ห้องน้ำห้องส้วมด้วย (๑) การปฏิบตั ิตน ๒. วิธีระวังรกั ษารา่ งกาย
มผี ชู้ แี้ นะ ตนเอง ตามสุขอนามยั ให้สะอาดและ
สขุ นสิ ยั ทด่ี ีใน มีสขุ ภาพอนามยั ท่ีดี
กิจวัตรประจาํ วัน ๓. การดูแลและการ
๑.๓.๑ การปฏบิ ตั ิ ปอ้ งกันตนเองให้
กจิ วัตรประจำวนั หา่ งไกลจากโรคโควิด-
(๑) การชว่ ยเหลอื 19
ตนเองในกจิ วตั ร
ประจําวนั
๑.๑.๔ การรกั ษา
ความปลอดภยั
(๑) การปฏิบตั ติ น
ให้ปลอดภัยใน
กจิ วตั รประจาํ วัน
(๒) การฟังนิทาน
เรือ่ งราวเกย่ี วกับ
สขุ นิสัยทด่ี ี
หลักสตู รสถานศกึ ษาการศกึ ษาปฐมวัย ๒๑
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ(่ นนททวิ ากรราษฎร์บำรงุ )
มาตรฐานที่ ๑ ร่างกายเจริญเติบโตตามวยั (ตอ่ )
สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ ตัวอย่างสาระการเรยี นรู้รายปี
ตวั บ่งช้ี ชน้ั อ. ๑ ชน้ั อ.๒ ซั้น อ.๓ ประสบการณ์ สาระท่ีควรเรยี นรู้
(๕ – ๖ ปี ) สาํ คัญ
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี )
๑.๒.๓ นอน
๑.๒ มีสขุ ภาพ ๑.๒.๓ นอน ๑.๒.๓ นอนพกั ผ่อน พกั ผอ่ น ๑.๑.๓ การกั ษา ประโยชนข์ องการนอน
เป็นเวลา
อนามยั และ พกั ผ่อน เปน็ เวลา สขุ ภาพอนามัย หลับพักผอ่ น
สขุ นิสยั ทด่ี ี เป็นเวลา สว่ นตน
(ตอ่ ) (๑) การปฏบิ ตั ิตน
ตามสุขอนามัย
สุขนิสัยที่ดใี น
กจิ วตั รประจําวัน
๑.๒.๔ ออกกําลัง ๑.๒.๔ ออกกําลัง ๑.๒.๔ ออกกาํ ลงั ๑.๑.๑ การใช้ ๑.ประโยชน์ของการ
กายเปน็ เวลา กายเปน็ เวลา กายเป็นเวลา กล้ามเน้อื มดั ใหญ่ ออกกาํ ลังกาย
(๕) การเลน่ เครอ่ื ง ๒.การเล่นเครือ่ งเล่น
เลน่ สนามอย่าง สนามอย่างถกู วิธี
อิสระ
๑.๒.๒ การเลน่
(๑) การเล่นอสิ ระ
(๔) การเล่นนอก
ห้องเรียน
๑.๑.๔ การรักษา
ความปลอดภัย
(๓) การเล่นเคร่อื ง
เล่นอย่างปลอดภัย
๑.๑.๕ การ
ตระหนักรู้
เกี่ยวกับรา่ งกาย
ตนเอง
(๒)การเคลือ่ นไหว
ข้ามสิง่ กดี ขวาง
๑.๓.๓ การปฏบิ ัติ
ตนวัฒนธรรม
ทอ้ งถิน่ และความ
เป็นไทย
(๕) การละเลน่
พนื้ บ้านไทย
หลักสูตรสถานศึกษาการศกึ ษาปฐมวัย ๒๒
โรงเรียนวดั ไทรใหญ(่ นนททวิ ากรราษฎร์บำรงุ )
มาตรฐานที่ ๑ ร่างกายเจริญเติบโตตามวยั (ต่อ)
สภาพที่พงึ ประสงค์ ตวั อยา่ งสาระการเรียนรู้รายปี
ตวั บ่งช้ี ชั้น อ. ๑ ชั้น อ.๒ ซน้ั อ.๓ ประสบการณ์ สาระท่คี วรเรียนรู้
(๕ – ๖ ปี ) สาํ คัญ
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี )
๑.๓.๑ เล่น ทํา
๑.๓ รักษาความ ๑.๓.๑ เลน่ และทาํ ๑.๓.๑ เล่นและทํา กจิ กรรมและ ๑.๑.๔ การรกั ษา ๑. การรกั ษาความ
ปฎบิ ตั ติ อ่ ผู้อื่น
ปลอดภัยของ กิจกรรมอยา่ ง กจิ กรรมอยา่ ง อย่างปลอดภยั ความปลอดภัย ปลอดภยั ของตนเองและ
ตนเองและผู้อ่ืน ปลอดภัยเมอื่ มผี ู้ ปลอดภยั ดว้ ยตนเอง (๑) การปฏิบตั ติ น การปฏิบตั ติ อ่ ผอู้ น่ื อยา่ ง
ช้ีแนะ ใหป้ ลอดภัยใน ปลอดภยั ใน
กิจวัตรประจําวนั ชวี ิตประจําวัน
(๒) การฟงั นิทาน ๒. การปฏิบัตติ นอยา่ ง
เร่ืองราวเหตกุ ารณ์ เหมาะสมเมอื่ เจ็บปว่ ย
เกี่ยวกบั การ ๓. การระวังภัยจากคน
ป้องกัน และรักษา แปลกหนา้ และอบุ ตั ภิ ัย
ความปลอดภยั ต่างๆ
(๓) การเล่นเครอ่ื ง
เล่นอยา่ งปลอดภัย
(๔) การเล่น
บทบาทสมมติ
เหตุการณ์ตา่ งๆ
๑.๔.๑ การใช้
ภาษา
(๕) การพดู กับ
ผอู้ ่ืนเกี่ยวกับ
ประสบการณ์
ของตนเองหรือพดู
เลา่ เรื่องราว
เกี่ยวกบั ตนเอง
๑.๓.๕ การเล่น
และทำงานแบบ
รว่ มมือรว่ มใจ
(๒) การเลน่ และ
ทาํ งานร่วมกับ
ผู้อ่นื
หลักสูตรสถานศึกษาการศกึ ษาปฐมวัย ๒๓
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ่(นนททิวากรราษฎร์บำรงุ )
มาตรฐานที่ ๒ กลา้ มเน้ือใหญ่และกล้ามเนอ้ื เล็กแข็งแรง ใชไ้ ด้อย่างคลอ่ งแคลว่ และประสานสมั พนั ธ์กนั
สภาพที่พงึ ประสงค์ ตัวอย่างสาระการเรียนรู้รายปี
ตัวบง่ ชี้ ชน้ั อ. ๑ ช้นั อ.๒ ซั้น อ.๓ ประสบการณ์ สาระทคี่ วรเรียนรู้
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี ) สาํ คญั
๒.๑ เคล่ือนไหว ๒.๑.๑ เดินตาม ๒.๑.๑ เดินต่อเท้าไป ๒.๑.๑ เดินต่อเท้า ๑.๑.๑ การใช้ ๑.การเคล่ือนท่ไี ป
ร่างกาย แนวทก่ี ำหนดได้ ข้างหน้า เป็น ถอยหลังเป็น กล้ามเน้อื มัดใหญ่ ขา้ งหนา้ – ขา้ งหลัง
อย่าง เสน้ ตรงไดโ้ ดยไม่ เส้นตรงไดโ้ ดย (๑) การ ๒.การเดินต่อปลายเท้า
คลอ่ งแคลว่ ตอ้ งกางแขน ไมต่ อ้ งกางแขน เคลอื่ นไหว ๓.การเดนิ ถอยหลงั
ประสาน เคลอ่ื นท่ี
สัมพันธ์
และทรงตวั ได้ ๒.๑.๒ กระโดด ๒.๑.๒ กระโดดขา ๒.๑.๒ กระโดดขา ๑.๑.๑ การใช้ ๑.การกระโดดขาเดยี ว
สองขาขน้ึ ลง เดียวอยู่กบั ที่ได้โดย เดยี วอยู่กับที่ได้ กลา้ มเนอ้ื มัดใหญ่ อยู่กบั ท่ี
อย่กู ับที่ได้ ไมเ่ สยี การทรงตวั อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง โดย การเคลือ่ นไหวอยู่ ๒.การทรงตวั
ไมเ่ สยี การทรงตวั กับที่
๒.๑.๓ ว่ิงแลว้ หยดุ ๒.๑.๓ ว่ิงหลบหลีก ๒.๑.๓ ว่ิงหลบ ๑.๑.๑ การใช้ ๑.การว่งิ
ได้ ส่งิ กีดขวางได้ หลีกส่ิงกีดขวาง กลา้ มเนอ้ื มดั ใหญ่ ๒.การเล่นกจิ กรรม
ไดอ้ ย่าง (๑) การ กลางแจ้ง
คลอ่ งแคลว่ เคลื่อนไหว ๓.การเลน่ อยา่ งอิสระ
เคลอื่ นที่ ๔.การเล่นเครอ่ื งเล่น
(๔) การ สนาม เลน่ ปีนป่าย โหน
เคลื่อนไหวท่ีใช้ มดุ เครื่องเล่น
การประสาน ๕.การเคลอ่ื นไหวไปใน
สัมพนั ธข์ องการใช้ ทิศทางต่างๆ และการ
กล้ามเนอ้ื ใหญ่ ใน เคลือ่ นไหวรา่ งกายเพือ่
การขวา้ ง การจบั หลบหลีกสิ่งกดี ขวาง
การโยน การเตะ
(๕) การเล่นเครื่อง
เลน่ สนามอย่าง
อิสระ
๑.๑.๕ การ
ตระหนักรู้
เกยี่ วกบั ร่างกาย
ของตนเอง
(๒) การ
เคลื่อนไหวขา้ มสิ่ง
กีดขวางตนเอง
หลักสตู รสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย ๒๔
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ(่ นนททิวากรราษฎรบ์ ำรุง)
มาตรฐานท่ี ๒ กล้ามเน้อื ใหญแ่ ละกลา้ มเนื้อเลก็ แขง็ แรง ใชไ้ ดอ้ ย่างคลอ่ งแคล่วและประสานสมั พันธ์กนั (ต่อ)
สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ตัวอยา่ งสาระการเรียนรู้รายปี
ตัวบง่ ช้ี ช้ัน อ. ๑ ช้ัน อ.๒ ซั้น อ.๓ ประสบการณ์ สาระท่คี วรเรยี นรู้
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี ) สําคัญ
๒.๑.๔ รบั ลกู บอล ๒.๑.๔ รบั ลกู บอล ๒.๑.๔ รับลกู บอล ๑.๑.๑ การใช้ ๑.การเคลอ่ื นไหว
โดยใช้มอื และ โดยใชม้ อื ทง้ั ๒ ข้าง ท่กี ระดอนขนึ้ จาก กลา้ มเนอ้ื มัดใหญ่ รา่ งกายไปในทศิ ทาง
ลำตวั ชว่ ย พื้นได้ (๓) การ ตา่ งๆได้อยา่ ง
เคล่ือนไหวพรอ้ ม คลอ่ งแคล่ว
วัสดอุ ุปกรณ์ ๒.การเคลือ่ นไหว
ขวา้ ง การจบั การ รา่ งกายทหี่ ลากหลาย
โยน การเตะ ๓.การร่วมเล่นกิจกรรม
๑.๑.๕ การ กลางแจง้
ตระหนกั รู้
เกย่ี วกบั รา่ งกาย
ของตนเอง
(๑) การ
เคลื่อนไหวโดย
ควบคุมตนไปใน
ทิศทาง ระดบั และ
พืน้ ท่ี
๒.๒ ใช้มอื ตา ๒.๒.๑ ใช้กรรไกร ๒.๒.๑ ใชก้ รรไกรตดั ๒.๒.๑ ใชก้ รรไกร ๑.๑.๒ การใช้ ๑.การสร้างชิน้ งานจาก
ประสาน ตัดกระดาษขาด กล้ามเนือ้ มัดเล็ก เศษวสั ดุหรอื ของเหลอื
สัมพันธก์ ัน จากกันไดโ้ ดยใช้ กระดาษตามแนว ตัดกระดาษตาม (๔) การประดษิ ฐ์ ใช้
มอื เดียว สิง่ ตา่ งๆ ด้วย เศษ ๒.การใชม้ ือหยบิ จบั การ
เสน้ ตรงได้ แนวเสน้ โค้งได้ วสั ดุ ใช้กรรไกร ไดอ้ ย่างถกู วธิ ี
๒.๒.๒ เขียนรูป (๕) การหยบิ จบั
วงกลมตามแบบได้ ๒.๒.๒ เขยี นรปู ๒.๒.๒ เขยี นรปู การใชก้ รรไกร ๑.การเขยี นภาพดว้ ยสี
ส่เี หลี่ยม ตามแบบ สามเหลย่ี มตาม การฉกี การตดั เทยี น สไี ม้
ได้ แบบไดอ้ ยา่ งมมี ุม การปะ และการ ๒.การสรา้ งสรรค์ผลงาน
ชดั เจน รอ้ ยวสั ดุ ศลิ ปะ
๓.การวาดภาพ
๑.๑.๒ การใช้
กล้ามเนอ้ื มดั เลก็
(๒) การเขียนภาพ
และการเล่นกับสี
หลกั สูตรสถานศกึ ษาการศึกษาปฐมวัย ๒๕
โรงเรียนวดั ไทรใหญ(่ นนททิวากรราษฎร์บำรงุ )
มาตรฐานท่ี ๒ กล้ามเนือ้ ใหญแ่ ละกล้ามเน้อื เล็กแขง็ แรง ใชไ้ ด้อยา่ งคล่องแคล่วและประสานสมั พันธ์กนั (ต่อ)
สภาพที่พงึ ประสงค์ ตวั อย่างสาระการเรียนรู้รายปี
ตัวบ่งช้ี ชนั้ อ. ๑ ชนั้ อ.๒ ซัน้ อ.๓ ประสบการณ์ สาระท่ีควรเรียนรู้
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี ) สําคัญ
๒.๒ ใชม้ ือตา ๒.๒.๓ ร้อยวสั ดุท่ี ๒.๒.๓ รอ้ ยวสั ดุทมี่ รี ู ๒.๒.๓ ร้อยวสั ดุที่ ๑.๑.๒ การใช้ ๑.การใชม้ อื หยบิ จบั
ประสาน มีรูขนาดเสน้ ผา่ น ขนาดเสน้ ผา่ น มรี ูขนาดเส้นผา่ น กล้ามเน้อื มดั เล็ก วัสดุอปุ กรณ์ในการ
สัมพันธ์กัน ศูนยก์ ลาง ๑ ศูนย์กลาง ๐.๕ ศนู ยก์ ลาง ๐.๒๕ (๕) การหยิบจบั ร้อย
(ตอ่ ) เซนติเมตรได้ เซนติเมตรได้ เซนติเมตรได้ การใช้กรรไกร ๒.การใช้กลา้ มเนอื้ และ
การฉีก การตดั ตาใหม้ ีความประสาน
การปะ และการ สัมพนั ธ์กันในการทำ
รอ้ ยวัสดุ กจิ กรรม
๒.พัฒนาการด้านอารมณ์ จติ ใจ
มาตรฐานท่ี ๓ มีสุขภาพจิตดีและมคี วามสขุ
สภาพทพี่ งึ ประสงค์ ตวั อย่างสาระการเรยี นรู้รายปี
ตัวบ่งชี้ ชนั้ อ. ๑ ชน้ั อ.๒ ซัน้ อ.๓ ประสบการณ์ สาระทค่ี วรเรยี นรู้
สําคัญ
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี )
๓.๑ แสดงออก ๓.๑.๑ แสดง ๓.๑.๑ แสดงอารมณ์ ๓.๑.๑ แสดง ๑.๒.๔ การ ๑.การรู้จกั อารมณ์
ทางอารมณ์ อารมณค์ วามรสู้ กึ ความรสู้ กึ ไดต้ าม อารมณ์ ความ แสดงออกทาง ความรสู้ กึ
ได้อย่างเหมาะสม ได้เหมาะสม สถานการณ์ รูส้ ึกได้สอดคล้อง อารมณ์ ๒.การแสดงความรู้สึก
กับบาง กบั สถานการณ์ (๑) การพูด หลงั การทำกจิ กรรม
สถานการณ์ อย่างเหมาะสม สะท้อนความรู้สึก ศลิ ปะ
ของตนเองและ ๓.การแสดงออกทาง
ผูอ้ ืน่ อารมณไ์ ด้อยา่ ง
(๒) การเล่น เหมาะสม
บทบาทสมมติ
๓.๒ มีความรสู้ กึ ๓.๒.๑ กล้าพดู ๓.๒.๑ กลา้ พดู ๓.๒.๑ กลา้ พดู ๑.๒.๔ การ ๑.การพดู การบอกเลา่
ทด่ี ีต่อตนเอง กล้าแสดงออก
และผู้อน่ื กล้าแสดงออก อย่าง กลา้ แสดงออก แสดงออกทาง ถงึ สถานการณต์ ่างๆ
เหมาะสมบาง อย่างเหมาะสม อารมณ์ ๒.การเล่นและทำ
สถานการณ์ ตามสถานการณ์ (๒) การเลน่ กจิ กรรมการเรยี นรู้
บทบาทสมมติ ๓.การทำงานศลิ ปะ
(๓) การ
เคลื่อนไหวตาม
เสยี งเพลง/ดนตรี
(๔) การร้องเพลง
หลักสตู รสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย ๒๖
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ(่ นนททวิ ากรราษฎรบ์ ำรงุ )
มาตรฐานที่ ๓ มีสขุ ภาพจิตดแี ละมคี วามสขุ (ตอ่ )
สภาพที่พึงประสงค์ ตวั อยา่ งสาระการเรียนรู้รายปี
ตวั บง่ ช้ี ชน้ั อ. ๑ ช้ัน อ.๒ ซ้นั อ.๓ ประสบการณ์ สาระทีค่ วรเรียนรู้
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี ) สาํ คัญ
(๕) การทำงาน
ศิลปะ
๓.๒ มีความรสู้ กึ ๓.๒.๒ แสดงความ ๓.๒.๒ แสดงความ ๓.๒.๒ แสดงความ ๑.๒.๕ การมีอัต ๑.การเล่น และกจิ กรรม
ท่ีดตี ่อตนเอง พอใจ พอใจในผลงาน และ พอใจในผลงาน ลักษณ์เฉพาะตน ตามความถนดั ของ
และผ้อู ่ืน ในผลงานตนเอง ความสามารถ ของ และความสามารถ และเชื่อวา่ ตนเอง ตนเอง
ตนเอง ของตนเองและ มคี วามสามารถ ๒.การแสดงความรู้สกึ
ผูอ้ ่ืน (๑) การปฏิบตั ิ ยนิ ดี เศรา้ เสยี ใจได้
กจิ กรรมต่างๆตาม เหมาะสมกบั วยั
ความสามารถของ ๓.การพึงพอใจในผลงาน
ตนเอง ของตนเองและผลงาน
๑.๒.๖ การเหน็ ของผอู้ ่ืน
อกเห็นใจผู้อ่นื
(๑) การแสดง
ความยนิ ดเี มือ่
ผ้อู ื่นมีความสขุ
เห็นใจเมอ่ื ผอู้ น่ื
เศรา้ หรอื เสยี ใจ
และการช่วยเหลือ
ปลอบโยนเม่อื
ผอู้ ื่นไดร้ บั บาดเจบ็
หลกั สูตรสถานศกึ ษาการศึกษาปฐมวัย ๒๗
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ(่ นนททิวากรราษฎรบ์ ำรุง)
มาตรฐานท่ี ๔ ช่นื ชมและแสดงออกทางศลิ ปะ ดนตรี และการเคลื่อนไหว
สภาพทพี่ ึงประสงค์ ตัวอย่างสาระการเรยี นรู้รายปี
ตวั บ่งช้ี ชน้ั อ. ๑ ชัน้ อ.๒ ซ้นั อ.๓ ประสบการณ์ สาระที่ควรเรยี นรู้
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี ) สาํ คัญ
๔.๑ สนใจ มี ๔.๑.๑ สนใจ มี ๔.๑.๑ สนใจ มี ๔.๑.๑ สนใจ มี ๑.๒.๔ การ ๑.การพดู แสดง
ความสขุ และ ความสุข และ ความสุข และ ความสขุ และ แสดงออกทาง ความรสู้ กึ หลังทำ
แสดงออก แสดงออกผ่านงาน แสดงออกผา่ นงาน แสดงออกผา่ นงาน อารมณ์ กจิ กรรม
ผา่ นงานศลิ ปะ ศลิ ปะ ศลิ ปะ ศลิ ปะ (๑) การพดู ๒.การเล่นและทำงาน
ดนตรี และการ สะทอ้ นความร้สู กึ รว่ มกับผู้อน่ื
เคล่อื นไหว ของตนเองและ ๔.การทำกิจกรรมศิลปะ
ผู้อ่นื วาดภาพ ระบายสี และ
(๒) การเลน่ ประดิษฐ์ช้นิ งาน
บทบาทสมมติ
(๓) การ
เคลื่อนไหวตาม
เสยี งเพลง/ดนตรี
(๕) การทำงาน
ศลิ ปะ
๔.๑.๒ สนใจ มี ๔.๑.๒ สนใจ มี ๔.๑.๒ สนใจ มี ๑.๒.๑ ๑.การรอ้ งเพลงตาม
ความสุข และ ความสขุ และ ความสขุ และ สนุ ทรียภาพ หน่วยการเรยี นรู้
แสดงออกผ่าน แสดงออกผ่าน แสดงออกผ่าน ดนตรี ๒.การเคล่ือนไหว
เสยี งเพลง ดนตรี เสียงเพลง ดนตรี เสียงเพลง ดนตรี (๑) การฟงั เพลง ร่างกายประกอบ
การรอ้ งเพลง และ เสยี งเพลง ดนตรี อยา่ ง
การแสดงปฏกิ ริ ิยา สนุกสนาน
โต้ตอบดนตรี
๑.๒.๔ การ
แสดงออกทาง
อารมณ์
(๔) การร้องเพลง
(๓) การ
เคลือ่ นไหวตาม
เสียงเพลง/ดนตรี
หลักสูตรสถานศกึ ษาการศกึ ษาปฐมวัย ๒๘
โรงเรียนวดั ไทรใหญ(่ นนททวิ ากรราษฎรบ์ ำรุง)
มาตรฐานที่ ๔ ชน่ื ชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี และการเคล่อื นไหว (ตอ่ )
สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ ตัวอย่างสาระการเรียนรู้รายปี
ตวั บ่งช้ี ช้นั อ. ๑ ชั้น อ.๒ ซน้ั อ.๓ ประสบการณ์ สาระทค่ี วรเรยี นรู้
สําคญั
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี )
๔.๑ สนใจ มี ๔.๑.๓ สนใจ มี ๔.๑.๓ สนใจ มี ๔.๑.๓ สนใจ มี ๑.๒.๑ ๑.การแสดงทา่ ทาง
ความสุข และ ความสุข และ ความสุข และแสดง ความสุข และ สุนทรียภาพ เคลื่อนไหวร่างกาย
แสดงออก แสดงท่าทาง / ท่าทาง /เคลื่อนไหว แสดงท่าทาง / ดนตรี ประกอบเพลง ดนตรี
ผา่ นงานศิลปะ เคล่ือนไหว ประกอบเพลง เคล่อื นไหว (๒) การเล่นเครอื่ ง ตามจังหวะ
ดนตรี และการ ประกอบเพลง จังหวะ และ ดนตรี ประกอบเพลง ดนตรีประกอบ
เคลอ่ื นไหว(ต่อ) จงั หวะ และ จงั หวะ และ จังหวะ
ดนตรี ดนตรี ๑.๒.๔ การ
แสดงออกทาง
อารมณ์
(๓) การ
เคลื่อนไหวตาม
เสียงเพลง/ดนตรี
มาตรฐานท่ี ๕ มีคุณธรรม จริยธรรม และมีจิตใจทดี่ ีงาม
สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ตัวอย่างสาระการเรียนรู้รายปี
ตวั บ่งช้ี ชนั้ อ. ๑ ชนั้ อ.๒ ซน้ั อ.๓ ประสบการณ์ สาระทคี่ วรเรียนรู้
(๕ – ๖ ปี ) สาํ คญั
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี )
๕.๑.๑ ขออนญุ าต
๕.๑ ซอ่ื สตั ย์ ๕.๑.๑ บอกหรือชี้ ๕.๑.๑ ขออนญุ าต หรอื รอคอย เมื่อ ๑.๒.๓ คณุ ธรรม ๑.การฟังนิทาน
ต้องการส่งิ ของ
สุจรติ ได้ว่าส่ิงใดเปน็ ของ หรอื รอคอย เมือ่ ของผ้อู ื่น ด้วย จรยิ ธรรม เรอื่ งราว เกยี่ วกับ
ตนเอง
ตนเอง และสง่ิ ใด ตอ้ งการสงิ่ ของของ (๒) การฟังนิทาน คุณธรรม
เปน็ ของผู้อ่ืน ผ้อู น่ื เม่ือมผี ู้ช้ีแนะ เก่ียวกับคุณธรรม ๒.การเคารพสิทธขิ อง
จรยิ ธรรม ตนเองและผอู้ ื่น
(๓) การร่วม ๓.การอดทน รอคอย
สนทนาและการ ๔.การมีระเบียบวินยั
แลกเปลย่ี นความ
คดิ เห็นเชงิ
คณุ ธรรม
หลกั สตู รสถานศกึ ษาการศกึ ษาปฐมวัย ๒๙
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่(นนททิวากรราษฎร์บำรุง)
มาตรฐานท่ี ๕ มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และมจี ติ ใจทดี่ งี าม (ต่อ)
สภาพทพี่ งึ ประสงค์ ตวั อยา่ งสาระการเรียนรู้รายปี
ตัวบง่ ช้ี ชนั้ อ. ๑ ชน้ั อ.๒ ซ้นั อ.๓ ประสบการณ์ สาระทีค่ วรเรียนรู้
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี ) สาํ คญั
๕.๒ มีความ ๕.๒.๑ แสดงความ ๕.๒.๑ แสดงความ ๕.๒.๑ แสดงความ ๑.๒.๓ คุณธรรม ๑.การแสดงความรัก
เมตตา กรณุ า รักเพ่ือน และมี รกั เพอื่ น และมี รกั เพื่อน และมี จริยธรรม และเมตตากรุณาต่อ
มีน้ำใจ และ เมตตาสตั วเ์ ลย้ี ง เมตตาสัตวเ์ ลยี้ ง เมตตาสตั วเ์ ล้ยี ง (๒) การฟงั นิทาน เพื่อน และสตั ว์
ชว่ ยเหลอื เกีย่ วกับคณุ ธรรม ๒.การแสดงออกถงึ
แบง่ ปัน จริยธรรม ความเหน็ อกเหน็ ใจผอู้ ื่น
(๓) การร่วม
สนทนาและการ
แลกเปลย่ี นความ
คิดเห็นเชิง
คุณธรรม
๕.๒.๓ แบง่ ปัน ๕.๒.๓ ช่วยเหลือ ๕.๒.๓ ชว่ ยเหลือ ๑.๒.๓ คณุ ธรรม ๑.การร่วมฟังนทิ านและ
ผอู้ ่ืนได้ เม่อื มีผู้ และแบง่ ปันผู้อนื่ ได้ และแบง่ ปนั ผูอ้ ่ืน จรยิ ธรรม แสดงความคดิ เห็น
ชแ้ี นะ เมอ่ื มผี ชู้ ้ีแนะ ไดด้ ว้ ยตนเอง (๒) การฟงั นิทาน เกย่ี วกับการแบ่งปนั
เก่ียวกับคุณธรรม ๒.การแสดงความมีนำ้ ใจ
จริยธรรม ชว่ ยเหลือผูอ้ นื่
(๓) การรว่ ม
สนทนาและการ
แลกเปลย่ี นความ
คดิ เห็นเชงิ
คุณธรรม
๕.๓ มีความเหน็ ๕.๓.๑ แสดงสี ๕.๓.๑ แสดงสีหน้า ๕.๓.๑ แสดงสี ๑.๒.๔ การ ๑. คุณธรรมจริยธรรม
อกเหน็ ใจผอู้ ืน่ หนา้ หรือทา่ ทาง หรือทา่ ทางรบั รู้ หนา้ หรอื ทา่ ทาง แสดงออกทาง - ความเห็นอกเหน็ ใจ
รบั ร้คู วามรสู้ กึ ผู้อ่นื ความรสู้ ึกผู้อื่น รบั รูค้ วามรสู้ ึกผู้อนื่ อารมณ์ ผู้อ่นื
อยา่ ง สอดคล้อง (๒) การเลน่
กับสถานการณ์ บทบาทสมมติ
๑.๓.๕ การเลน่
และทำงานแบบ
ร่วมมอื ร่วมใจ
(๒) การเลน่ และ
ทํางานรว่ มกับ
ผูอ้ น่ื
หลักสูตรสถานศึกษาการศกึ ษาปฐมวัย ๓๐
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่(นนททวิ ากรราษฎร์บำรุง)
มาตรฐานที่ ๕ มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และมจี ติ ใจทีด่ ีงาม (ต่อ)
สภาพทพ่ี ึงประสงค์ ตวั อยา่ งสาระการเรยี นรู้รายปี
ตัวบง่ ช้ี ชั้น อ. ๑ ชัน้ อ.๒ ซน้ั อ.๓ ประสบการณ์ สาระทีค่ วรเรียนรู้
(๕ – ๖ ปี ) สําคญั
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี )
๕.๔.๑ ทาํ งานท่ี
๕.๔ มคี วาม ๕.๔.๑ ทํางานท่ี ๕.๔.๑ ทาํ งานท่ี ได้รับ มอบหมาย ๑.๒.๔ การ ๑. คุณธรรมจรยิ ธรรม
จนสาํ เรจ็ ดว้ ย
รับผิดชอบ ไดร้ บั มอบหมาย ไดร้ ับ มอบหมายจน ตนเอง แสดงออกทาง - ความรับผดิ ชอบ
จนสาํ เร็จ เมอื่ มี สําเรจ็ เมอ่ื มผี ้ชู แ้ี นะ อารมณ์ - ความอดทน มุง่ มั่น
ผู้ชว่ ยเหลอื (๕) การทํา - ความเพยี ร
กิจกรรมศลิ ปะ
ต่างๆ
๑.๓.๔ การมี
ปฏิสมั พนั ธ์ มี
วินัย มีสว่ นร่วม
และบทบาท
สมาชกิ ของสังคม
(๑) การรว่ ม
กําหนดข้อตกลง
ของหอ้ งเรยี น
(๔) การดูแล
ห้องเรียนร่วมกัน
หลกั สตู รสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย ๓๑
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ(่ นนททวิ ากรราษฎร์บำรุง)
๓.พัฒนาการดา้ นสังคม
มาตรฐานท่ี ๖ มที ักษะชีวิตและปฏบิ ตั ิตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
สภาพทีพ่ ึงประสงค์ ตวั อยา่ งสาระการเรยี นรู้รายปี
ตัวบง่ ชี้ ชั้น อ. ๑ ชนั้ อ.๒ ซัน้ อ.๓ ประสบการณ์ สาระท่คี วรเรยี นรู้
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี ) สําคัญ
๖.๑ ชว่ ยเหลอื ๖.๑.๑ แต่งตัวโดย ๖.๑.๑ แตง่ ตวั ดว้ ย ๖.๑.๑ แตง่ ตวั ดว้ ย ๑.๓.๑ การปฏิบัติ ๑.การปฏบิ ตั กิ ิจวตั ร
ตนเองในการ มีผู้ชว่ ยเหลือ ตวั เอง ตวั เองไดอ้ ยา่ ง กจิ วัตรประจำวนั ประจำวันไดด้ ว้ ยตนเอง
ปฏิบตั ิกิจวัตร คลอ่ งแคลว่ (๑) การช่วยเหลอื ๒.การแต่งกายที่
ประจำวัน ตนเองในกิจวัตร เหมาะสม
ประจำวัน
๖.๑.๒ ๖.๑.๒ รับประทาน ๖.๑.๒ ๑.๓.๑ การปฏบิ ัติ ๑.การรบั ประทาน
รับประทานอาหาร อาหารด้วยตนเอง รับประทานอาหาร กจิ วัตรประจำวนั อาหารดว้ ยตนเอง
ด้วยตนเอง ด้วยตนเองอยา่ ง (๑) การช่วยเหลือ ๒.การใชอ้ ุปกรณใ์ นการ
ถกู วธิ ี ตนเองในกิจวัตร รับประทานอาหารได้
ประจำวัน อย่างถูกวธิ ี
๓.มารยาทในการ
รับประทานอาหาร
๖.๑.๓ ใชห้ ้องน้ำ ๖.๑.๓ ใช้หอ้ งน้ำ ๖.๑.๓ ใชแ้ ละทำ ๑.๓.๑ การปฏบิ ัติ ๑.รจู้ ักวธิ ีการใช้หอ้ งน้ำ
หอ้ งส้วม โดยมีผู้ หอ้ งสว้ ม ด้วยตนเอง ความสะอาดหลงั กจิ วตั รประจำวนั ๒.การดแู ลรักษาความ
ชว่ ยเหลอื ใช้หอ้ งน้ำหอ้ งสว้ ม (๑) การช่วยเหลือ สะอาดห้องนำ้
ด้วยตนเอง ตนเองในกจิ วตั ร
ประจำวนั
๖.๒ มวี นิ ยั ๖.๒.๑ เกบ็ ของ ๖.๒.๑ เกบ็ ของเล่น ๖.๒.๑ เก็บของ ๑.๓.๔ การมี ๑.การปฏบิ ัตติ าม
ในตนเอง เลน่ ของใชเ้ ขา้ ท่ี ของใช้เขา้ ทีด่ ว้ ย เล่นของใชเ้ ข้าที่ ปฏสิ มั พนั ธ์ มี ขอ้ ตกลงในหอ้ งเรียน
เมอื่ มผี ูช้ น้ี ำ ตนเอง อย่างเรยี บร้อย วนิ ัย มีสว่ นร่วม ๒.การเก็บของเล่น ของ
ดว้ ยตนเอง และบทบาท ใชเ้ ข้าท่ี
สมาชกิ ของสังคม ๓.การร่วมกำหนด
(๑) การร่วม ข้อตกลงในหอ้ งเรยี น
กำหนดขอ้ ตกลง
ของห้องเรียน
(๒) การปฏบิ ตั ิตน
เป็นสมาชกิ ท่ดี ขี อง
ห้องเรยี น
(๔) การดแู ล
ห้องเรยี นร่วมกนั
หลกั สตู รสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย ๓๒
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่(นนททวิ ากรราษฎรบ์ ำรุง)
มาตรฐานที่ ๖ มีทกั ษะชวี ิตและปฏิบัตติ นตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง (ต่อ)
สภาพทพี่ ึงประสงค์ ตวั อยา่ งสาระการเรยี นรู้รายปี
ตัวบง่ ชี้ ช้นั อ. ๑ ชน้ั อ.๒ ซน้ั อ.๓ ประสบการณ์ สาระทค่ี วรเรยี นรู้
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี ) สําคัญ
๖.๒ มวี นิ ยั ๖.๒.๒ เข้าแถว ๖.๒.๒ เข้าแถว ๖.๒.๒ เขา้ แถว ๑.๓.๔ การมี ๑.การเขา้ แถว
ในตนเอง ตามลำดับ ตามลำดับกอ่ นหลัง ตามลำดบั ปฏิสัมพนั ธ์ มี ๒.การปฏิบัตติ าม
ก่อนหลังได้เมอื่ มผี ู้ ได้ด้วยตนเอง กอ่ นหลงั ไดด้ ้วย วนิ ยั มสี ่วนรว่ ม ข้อตกลงในหอ้ งเรยี น
ชแ้ี นะ ตนเอง และบทบาท
สมาชกิ ของสังคม
(๒) การปฏิบตั ติ น
เป็นสมาชิกท่ดี ขี อง
ห้องเรยี น
๖.๓ ประหยดั ๖.๓.๑ ใชส้ งิ่ ของ ๖.๓.๑ ใช้สงิ่ ของ ๖.๓.๑ ใช้สงิ่ ของ ๑.๓.๑ การปฏิบตั ิ ๑.การใช้ส่งิ ของเครอื่ งใช้
และพอเพยี ง เครอื่ งใช้อย่าง เครื่องใชอ้ ย่าง เคร่ืองใชอ้ ย่าง กิจวตั รประจำวนั อย่างคุ้มคา่ ประหยัด
ประหยดั และ ประหยดั และ ประหยดั และ (๑) การปฏิบตั ิตน ๒.การใช้นำ้ ใชไ้ ฟ และ
พอเพยี ง เม่อื มีผู้ พอเพียง เมอื่ มีผู้ พอเพียง ดว้ ย ตามแนวทางของ พลังงานอา่ นอย่าง
ชแี้ นะ ชีแ้ นะ ตนเอง หลักปรัชญา ประหยดั
เศรษฐกิจพอเพียง ๓.การนำเศษวสั ดุหรอื
๑.๓.๒ การดแู ล ส่งิ ของที่ใชแ้ ลว้ มาแปร
รกั ษาธรรมชาติ รปู และนำกลับมาใชใ้ หม่
และสง่ิ แวดล้อม
(๑) การมสี ว่ นรว่ ม
รับผดิ ชอบดูแล
รักษาสิง่ แวดลอ้ ม
ท้ังภายในและ
ภายนอกห้องเรยี น
(๒) การใช้วสั ดุ
และสงิ่ ของ
เครือ่ งใชอ้ ย่าง
ค้มุ ค่า
หลกั สตู รสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย ๓๓
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่(นนททวิ ากรราษฎรบ์ ำรุง)
มาตรฐานท่ี ๗ รักธรรมชาติ ส่งิ แวดลอ้ ม วัฒนธรรม และความเป็นไทย
สภาพท่พี งึ ประสงค์ ตวั อยา่ งสาระการเรียนรู้รายปี
ตวั บ่งชี้ ชนั้ อ. ๑ ชัน้ อ.๒ ซนั้ อ.๓ ประสบการณ์ สาระทค่ี วรเรยี นรู้
สาํ คญั
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี )
๗.๑ ดูแลรกั ษา ๓.๑.๑ มสี ว่ นร่วม ๓.๑.๑ มสี ว่ นรว่ ม ๓.๑.๑ มสี ่วนรว่ มใน ๑.๓.๒ การดูแล ๑. สิง่ แวดลอ้ มใน
ธรรมชาติและ ในการดแู ลรักษา ในการดูแลรกั ษา การดูแลรักษา รกั ษาธรรมชาติ โรงเรียน และการ
ส่ิงแวดลอ้ ม ธรรมชาตแิ ละ ธรรมชาติและ ธรรมชาตแิ ละ และส่งิ แวดล้อม ดูแลรักษา
สิ่งแวดลอ้ มเมอื่ มี สงิ่ แวดล้อมเมือ่ มผี ู้ สงิ่ แวดลอ้ มด้วย (๑) การมีสว่ นรว่ ม ๒. สงิ่ แวดลอ้ มตาม
ผ้ชู ีแ้ นะ ช้ีแนะ ตนเอง ในการดแู ลรักษา ธรรมชาติและการ
สิ่งแวดล้อมทงั้ อนุรักษ์ สิง่ แวดลอ้ ม
ภายในและ ๓. การรกั ษาสาธารณ
ภายนอกโรงเรียน สมบตั ิในหอ้ งเรยี น
(๔) การเพาะปลูก
และดูแลตน้ ไม้
(๖ )การสนทนา
ขา่ วและเหตุการณ์
ที่เกีย่ วกับ
ธรรมชาติและ
สิง่ แวดล้อมใน
ชวี ิตประจําวัน
๑.๔.๒ การคิด
รวบยอด การคิด
เชงิ เหตผุ ล การ
ตดั สินใจและการ
แกป้ ญั หา
(๑๖) การอธบิ าย
เชอื่ มโยงสาเหตุ
และผลทีเ่ กดิ ขนึ้ ใน
เหตกุ ารณ์หรอื การ
กระทาํ
(๑๙) การตัดสินใจ
และมสี ว่ นร่วมใน
กระบวนการ
แก้ปญั หา
หลกั สตู รสถานศกึ ษาการศกึ ษาปฐมวัย ๓๔
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่(นนททิวากรราษฎร์บำรุง)
มาตรฐานท่ี ๗ รักธรรมชาติ สิง่ แวดล้อม วฒั นธรรม และความเปน็ ไทย (ต่อ)
สภาพที่พึงประสงค์ ตัวอยา่ งสาระการเรยี นรู้รายปี
ตัวบง่ ชี้ ชน้ั อ. ๑ ช้ัน อ.๒ ซ้นั อ.๓ ประสบการณ์ สาระที่ควรเรยี นรู้
สําคญั
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี )
๗.๑ ดแู ลรกั ษา ๗.๑.๒ ทิ้งขยะได้ ๗.๑.๒ ทิ้งขยะได้ ๗.๑.๒ ทง้ิ ขยะได้ถกู ๑.๔.๒ การคิด ๑.ขยะและการคดั
ธรรมชาตแิ ละ ถูกท่ี ถกู ที่ ที่ รวบยอด การคิด แยกขยะ
สิ่งแวดล้อม(ตอ่ ) เชิงเหตุผล การ ๒. การดแู ลรกั ษา
ตดั สินใจและการ สงิ่ แวดลอ้ ม
แก้ปัญหา
(๕) การคดั แยก
การจัดกล่มุ และ
จาํ แนกสิ่งตา่ งๆ
ตามลกั ษณะ และ
รูปรา่ ง รูปทรง
๑.๓.๒ การดูแล
รักษาธรรมชาติ
และสงิ่ แวดลอ้ ม
(๒) การใช้วัสดแุ ละ
ส่ิงของเคร่ืองใช้
อย่างคมุ้ ค่า
(๓) การทํางาน
ศิลปะที่นําวสั ดุ
หรือสิง่ ของ
เคร่อื งใช้ทใี่ ช้แลว้
มาใช้ซำ้ หรือแปร
รูปแลว้ นํากลบั มา
ใชใ้ หม่
๑.๔.๓
จนิ ตนาการและ
ความคดิ
สร้างสรรค์
(๓) การสร้างสรรค์
ชิน้ งานโดยใช้
รูปรา่ ง รปู ทรงจาก
วสั ดุที่หลากหลาย
หลกั สตู รสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย ๓๕
โรงเรียนวดั ไทรใหญ(่ นนททวิ ากรราษฎรบ์ ำรุง)
มาตรฐานที่ ๗ รกั ธรรมชาติ ส่งิ แวดล้อม วัฒนธรรม และความเป็นไทย (ตอ่ )
สภาพทพี่ ึงประสงค์ ตวั อย่างสาระการเรียนรู้รายปี
ตวั บ่งชี้ ช้ัน อ. ๑ ชน้ั อ.๒ ซัน้ อ.๓ ประสบการณ์ สาระที่ควรเรียนรู้
สําคญั
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี )
๗.๒ มมี ารยาท ๗.๒.๑ ปฏิบตั ิตน ๗.๒.๑ ปฏิบตั ิตน ๗.๒.๑ ปฏบิ ตั ติ นตาม ๑.๓.๓ การปฏบิ ตั ิ ๑. การปฏบิ ตั ิตนตาม
ตามวฒั นธรรม ตามมารยาทไทย ตามมารยาทไทย มารยาทไทยได้ตาม ตามวฒั นธรรม มารยาทและ
ไทยและรักความ เมื่อมผี ชู้ แี้ นะ ดว้ ยตนเอง กาลเทศะ ท้องถิ่นและความ วัฒนธรรมไทย
เป็นไทย เปน็ ไทย - การแสดงความ
(๑) การเลน่ เคารพ
บทบาทสมมติการ - การพูดสุภาพ
ปฏบิ ตั ิตนในความ - การกลา่ วคํา
เป็นคนไทย ขอบคณุ และขอโทษ
(๒) การปฏิบัตติ น
ตามวฒั นธรรม
ทอ้ งถน่ิ ทอ่ี าศยั
และประเพณไี ทย
๗.๒ มีมารยาท ๗.๒.๒ กล่าวคํา ๗.๒.๒ กลา่ วคาํ ๗.๒.๒ กล่าวคํา ๑.๓.๓ การปฏบิ ัติ ๑. การปฏิบัติตนตาม
ตามวฒั นธรรม ขอบคุณและขอ ขอบคุณและขอ ขอบคุณและขอโทษ
ไทยและรักความ โทษ เมอื่ มผี ชู้ ีแ้ นะ โทษ ด้วยตนเอง ด้วยตนเอง ตามวัฒนธรรม มารยาทและ
เป็นไทย
ท้องถิ่นและความ วัฒนธรรมไทย
เปน็ ไทย - การพูดสภุ าพ
(๑) การเลน่ - การกลา่ วคํา
บทบาทสมมตกิ าร ขอบคณุ และขอโทษ
ปฏิบตั ิตนในความ
เปน็ คนไทย
(๒) การปฏบิ ตั ติ น
ตามวฒั นธรรม
ท้องถน่ิ ท่อี าศยั
และประเพณีไทย
๑.๒.๔ การ
แสดงออกทาง
อารมณ์
(๑) การพดู
สะทอ้ นความรูส้ กึ
ของตนเองและ
ผู้อน่ื
หลกั สตู รสถานศกึ ษาการศึกษาปฐมวัย ๓๖
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ่(นนททวิ ากรราษฎรบ์ ำรุง)
มาตรฐานท่ี ๗ รักธรรมชาติ สงิ่ แวดลอ้ ม วฒั นธรรม และความเปน็ ไทย (ตอ่ )
สภาพทพี่ งึ ประสงค์ ตัวอยา่ งสาระการเรียนรู้รายปี
ตวั บง่ ช้ี ชน้ั อ. ๑ ชนั้ อ.๒ ซน้ั อ.๓ ประสบการณ์ สาระท่คี วรเรียนรู้
(๕ – ๖ ปี ) สาํ คัญ
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี )
๗.๒.๓ หยดุ ยนื ๗.๒.๓ ยนื ตรงเมอ่ื ๗.๒.๓ ยืนตรงและ ๑.๓.๔ การมี ๑.วนั สําคญั ของชาติ
เมอ่ื ได้ยนิ เพลง ได้ยินเพลงชาตไิ ทย รว่ มรอ้ งเพลงชาติ ไทย ปฏสิ ัมพนั ธ์ มี ศาสนา
๗.๒ มมี ารยาท ชาติไทย และ และเพลงสรรเสรญิ และเพลงสรรเสรญิ วนิ ยั มีส่วนรว่ ม พระมหากษตั ริย์
ตามวัฒนธรรม เพลงสรรเสรญิ พระบารมี พระบารมี และบทบาท ๒. สญั ลักษณ์สาํ คญั
ไทยและรักความ พระบารมี สมาชกิ ของสังคม ของชาตไิ ทย
เป็นไทย (๕) การร่วม ๓. การแสดงความ
(ตอ่ ) กิจกรรมวนั สําคัญ จงรกั ภักดตี อ่ ชาติ
ศาสนา
พระมหากษตั ริย์
มาตรฐานที่ ๘ อยรู่ ่วมกบั ผอู้ ่ืนได้อยา่ งมีความสุขและปฏบิ ตั ติ นเปน็ สมาชกิ ท่ดี ี ของสงั คมในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มี
พระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมุข
สภาพทพี่ ึงประสงค์ ตัวอยา่ งสาระการเรยี นรู้รายปี
ตัวบ่งชี้ ชั้น อ. ๑ ชั้น อ.๒ ซน้ั อ.๓ ประสบการณ์ สาระทีค่ วรเรียนรู้
(๕ – ๖ ปี ) สําคญั
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี )
๘.๑ ยอมรับ ๘.๑.๑ เลน่ และ ๘.๑.๑ เลน่ และทาํ ๘.๑.๑ เลน่ และทาํ ๑.๓.๕ การเลน่ ๑.การเล่น และทำ
ความเหมอื น ทํากิจกรรม กจิ กรรม รว่ มกบั เดก็ กจิ กรรม ร่วมกับเดก็ ที่ และทำงาน กจิ กรรมรว่ มกับเพ่ือน
และ ร่วมกบั เดก็ ท่ี ท่ี แตกตา่ งไป แตกต่างไป รว่ มกบั เพ่อื นแบบ ๒.การยอมรับความ
ความแตกต่าง แตกต่างไป ไปจากตน ไปจากตน รว่ มมอื ร่วมใจ แตกตา่ งระหวา่ งบุคคล
ระหว่างบุคคล ไปจากตน (๑) การรว่ ม ๓.การรับฟงั และ
สนทนาและ ยอมรับความคิดเหน็
แลกเปลย่ี นความ ของผอู้ ื่น
คดิ เหน็ ๔.การสนทนา
๑.๓.๗ การ แลกเปลยี่ นความ
ยอมรับในความ คิดเหน็ ถึงสถานการณ์
เหมอื นและความ และเรอื่ งราวต่างๆ
แตกตา่ งระหวา่ ง
บคุ คล
(๑) การเล่นหรอื
ทำกิจกรรม
ร่วมกบั กลมุ่ เพอ่ื น
หลกั สตู รสถานศึกษาการศกึ ษาปฐมวัย ๓๗
โรงเรียนวดั ไทรใหญ(่ นนททวิ ากรราษฎร์บำรุง)
มาตรฐานท่ี ๘ อยรู่ ่วมกบั ผ้อู น่ื ได้อย่างมคี วามสขุ และปฏบิ ัตติ นเปน็ สมาชกิ ท่ีดี ของสังคมในระบอบประชาธิปไตยอนั มี
พระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมุข (ตอ่ )
สภาพที่พงึ ประสงค์ ตวั อย่างสาระการเรยี นรู้รายปี
ตัวบง่ ชี้ ช้ัน อ. ๑ ช้นั อ.๒ ซน้ั อ.๓ ประสบการณ์ สาระที่ควรเรยี นรู้
(๕ – ๖ ปี ) สําคัญ
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี )
๘.๒ มปี ฏสิ มั พนั ธ์ ๘.๒.๑ เล่น ๘.๒.๑ เล่นหรือ ๘.๒.๑ เลน่ หรอื ทาํ งาน ๑.๒.๒ การเลน่ ๑.การเล่นทั้ง
ที่ดีกบั ผอู้ ่นื ร่วมกับเพือ่ น ทํางาน ร่วมกับเพ่ือนเปน็ กลมุ่ (๑) การเลน่ รายบคุ คล รายกล่มุ
รว่ มกับเพอ่ื นเปน็ อย่างมีเป้าหมาย รายบุคคล กล่มุ ย่อย และรายกลมุ่
กลุ่ม ย่อย กลมุ่ ใหญ่ ใหญ่
๑.๓.๔ การมี ๒.การทำงานรว่ มกับ
ปฏิสัมพนั ธ์ มี เพอื่ น
วินัย มสี ว่ นรว่ ม ๓.การเข้าร่วมกิจกรรม
และบทบาท ด้วยความเตม็ ใจ
สมาชกิ ของสงั คม ๔.กาทำงานกลมุ่ อย่าง
(๓) การใหค้ วาม มจี ุดหมาย
ร่วมมอื ในการ ๕.การรว่ มกัน
ปฏิบัตกิ ิจกรรม สร้างสรรคผ์ ลงาน
ต่างๆ ศิลปะ
๑.๓.๕ การเล่น
และทำงาน
รว่ มกบั เพื่อนแบบ
รว่ มมอื รว่ มใจ
(๑) การเลน่ และ
ทำงานร่วมกบั
ผู้อื่น
(๓) การทำศลิ ปะ
แบบร่วมมมอื
หลกั สูตรสถานศึกษาการศกึ ษาปฐมวัย ๓๘
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ(่ นนททวิ ากรราษฎร์บำรุง)
มาตรฐานที่ ๘ อยรู่ ว่ มกับผ้อู น่ื ได้อย่างมคี วามสุขและปฏิบัตติ นเปน็ สมาชกิ ทีด่ ี ของสงั คมในระบอบประชาธิปไตยอนั มี
พระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ (ตอ่ )
สภาพท่พี ึงประสงค์ ตัวอย่างสาระการเรยี นรู้รายปี
ตัวบง่ ชี้ ชนั้ อ. ๑ ชั้น อ.๒ ซนั้ อ.๓ ประสบการณ์ สาระทคี่ วรเรยี นรู้
(๕ – ๖ ปี ) สําคัญ
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี )
๘.๒ มปี ฏสิ มั พันธ์ ๘.๒.๒ ย้มิ หรือ ๘.๒.๒ ย้ิม ทกั ทาย ๘.๒.๒ ยิ้ม ทกั ทาย ๑.๓.๓ การปฏิบตั ิ ๑.การไหว้ การ
ทดี่ กี ับผู้อนื่ (ต่อ) ทกั ทายผู้ใหญ่ หรอื พดู คุยผูใ้ หญ่ หรือพูดคุยผใู้ หญแ่ ละ ตามวฒั นธรรม ทักทาย
และบคุ คลที่ และบุคคลที่คนุ้ เคย บคุ คลที่ค้นุ เคยได้ ท้องถน่ิ และความ ๒.การปฏบิ ตั ทิ ี่
คนุ้ เคยได้ เมอื่ มี ไดด้ ว้ ยตนเอง เหมาะสมกับ เปน็ ไทย เหมาะสมตามความ
ผ้ชู แ้ี นะ สถานการณ์ (๑) การเล่น เปน็ ไทย
บทบาทสมมติ ๓.การปฏิบตั ติ นตาม
การปฏิบัตติ นใน มารยาทและ
ความเปน็ คนไทย วฒั นธรรมไทย
๘.๓ ปฏบิ ตั ิตน ๘.๓.๑ ปฏบิ ตั ิ ๘.๓.๑ มสี ว่ นรว่ ม ๘.๓.๑ มสี ่วนรว่ มสรา้ ง ๑.๓.๔ การมี ๘.๓ ปฏบิ ัตติ น
เบอ้ื งตน้ ในการ ตามข้อตกลง สร้างข้อตกลงและ ข้อตกลงและปฏิบัติ ปฏสิ มั พนั ธ์ มี เบอ้ื งต้นในการ
เปน็ สมาชกิ ท่ดี ี เมอ่ื มผี ูช้ ้แี นะ ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตามข้อขอ้ ตกลงดว้ ย วนิ ยั มสี ่วนรว่ ม เปน็ สมาชิกทดี่ ี
ของสังคม ขอ้ ตกลงเม่อื มผี ู้ ตนเอง และบทบาท ของสงั คม
ช้ีแนะ สมาชกิ ของสังคม
(๑) การรว่ ม
กำหนดขอ้ ตกลง
ของห้องเรียน
(๒) การให้ความ
รว่ มมือในการ
ปฏบิ ตั ิกิจกรรม
ต่างๆ
๘.๓.๒ ปฏิบตั ิ ๘.๓.๒ ปฏบิ ตั ติ น ๘.๓.๒ ปฏิบตั ิตนเปน็ ๑.๓.๔ การมี ๑.การปฏบิ ตั ติ นเป็น
ตนเปน็ ผ้นู าํ และ เป็นผนู้ าํ และผ้ตู าม ผนู้ าํ และผตู้ ามได้ ปฏิสัมพนั ธ์ มี ผ้นู ำ และผตู้ ามที่ดี
ผู้ตามเมื่อมผี ู้ เมื่อดว้ ยตนเอง เหมาะสมกับ วินยั มีสว่ นร่วม
ชแี้ นะ สถานการณ์ และบทบาท
สมาชกิ ของสังคม
(๒) การปฏิบตั ติ น
เป็นสมาชกิ ท่ีดีของ
ห้องเรียน
หลักสตู รสถานศกึ ษาการศึกษาปฐมวัย ๓๙
โรงเรียนวดั ไทรใหญ(่ นนททิวากรราษฎร์บำรงุ )
มาตรฐานท่ี ๘ อยรู่ ่วมกับผ้อู ืน่ ได้อยา่ งมีความสุขและปฏบิ ตั ิตนเปน็ สมาชกิ ท่ดี ี ของสังคมในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มี
พระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมุข (ต่อ)
สภาพที่พงึ ประสงค์ ตวั อย่างสาระการเรยี นรู้รายปี
ตวั บ่งช้ี ชน้ั อ. ๑ ชั้น อ.๒ ซนั้ อ.๓ ประสบการณ์ สาระที่ควรเรยี นรู้
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี ) สําคญั
๘.๓ ปฏบิ ตั ติ น ๘.๓.๓ ยอมรบั ๘.๓.๓ ๘.๓.๓ ประนีประนอม ๑.๓.๖ การ ๑.การรว่ มแสดงความ
เบื้องตน้ ในการ การ ประนีประนอม แก้ไขปญั หาปญั หาโดย แก้ปญั หาความ คดิ เห็นและนำเสนอ
เป็นสมาชิกท่ีดี ประนีประนอม แก้ไขปัญหาปญั หา ปราศจากการใช้ความ ขัดแย้ง ความคิด
ของสงั คม(ตอ่ ) แก้ไขปญั หาเม่ือมี โดยปราศจากการ รนุ แรงด้วยตนเอง (๑) การมีส่วนรว่ ม ๒.การแก้ปญั หาโดยไม่
ผชู้ ีแ้ นะ ใชค้ วามรุนแรงเม่ือ ในการเลอื กวธิ กี าร ใชค้ วามรุนแรง
มีผชู้ แ้ี นะ ในการแกป้ ัญหา ๓.การเลือกวธิ ีในการ
(๒) การมีสว่ นรว่ ม แก้ปญั หาตาม
ในการแกป้ ัญหา สถานการณต์ า่ งๆ
ความขัดแยง้
๔.พัฒนาการด้านสตปิ ัญญา
มาตรฐานที่ ๙ ใชภ้ าษาสอื่ สารได้เหมาะสมกบั วัย
สภาพทพี่ งึ ประสงค์ ตัวอยา่ งสาระการเรยี นรู้รายปี
ตัวบ่งช้ี ชั้น อ. ๑ ช้นั อ.๒ ซนั้ อ.๓ ประสบการณ์ สาระทค่ี วรเรยี นรู้
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี ) สาํ คญั
๙.๑ สนทนา ๙.๑.๑ ฟังผู้อืน่ พดู ๙.๑.๑ ฟังผู้อ่นื พูด ๙.๑.๑ ฟังผู้อน่ื พูดจน ๑.๔.๒ การใช้ ๑.การฟงั เพลง นิทาน
โตต้ อบและเลา่ จนจบและพดู จนจบและสนทนา จบและสนทนาโตต้ อบ ภาษา คำคลอ้ งจอง บทร้อย
เร่อื งใหผ้ ้อู ืน่ โต้ตอบเกยี่ วกับ โตต้ อบสอดคล้อง อย่างต่อเน่อื งเช่ือมโยง (๓) การฟงั เพลง กรอง
เขา้ ใจ เร่อื งทฟ่ี ัง กบั เรื่องทฟี่ งั กับเรอื่ งทฟี่ ัง นทิ าน คำคล้อง ๒.การพดู คยุ สนทนา
จอง บทรอ้ ยกรอง โตต้ อบไดสอดคล้อง
หรอื เรื่องราวต่างๆ กบั เรอื่ งท่ีฟัง
(๔) การพูดแสดง ๓.การสนทนา การเล่า
ความคดิ เห็น เร่ือง
ความรสู้ กึ และ ๔.มารยาทในการพดู
ความต้องการ และการฟงั
(๕) การพูดคยุ กับ
ผู้อ่ืนเก่ยี วกบั
ประสบการณ์ของ
ตนเองหรอื พูดเล่า
หลักสูตรสถานศกึ ษาการศึกษาปฐมวัย ๔๐
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่(นนททวิ ากรราษฎรบ์ ำรุง)
มาตรฐานท่ี ๙ ใชภ้ าษาสอ่ื สารได้เหมาะสมกับวยั (ต่อ)
สภาพทีพ่ ึงประสงค์ ตวั อยา่ งสาระการเรียนรู้รายปี
ตัวบ่งชี้ ช้นั อ. ๑ ชั้น อ.๒ ซนั้ อ.๓ ประสบการณ์ สาระท่คี วรเรียนรู้
(๕ – ๖ ปี ) สําคัญ
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี )
๙.๑ สนทนา เร่ืองราวเกย่ี วกับ
โต้ตอบและเล่า ตนเอง
เรอ่ื งให้ผู้อื่น (๘) รอจังหวะที่
เขา้ ใจ เหมาะสมในการ
พูด
๑.๑.๔ เจคตทิ ่ีดี
ตอ่ การเรยี นร้แู ละ
การแสวงหา
ความรู้
(๔) การมสี ว่ นรว่ ม
ในการรวบรวม
ข้อมูลและนำเสนอ
ขอ้ มูล
๙.๑.๒ เลา่ เรอ่ื ง ๙.๑.๒ เล่าเรือ่ ง ๙.๓.๒ เล่าเปน็ ๑.๔.๒ การใช้ ๑.การเลา่ เร่อื ง
ด้วยประโยค เป็นประโยคอยา่ ง เร่ืองราวตอ่ เน่อื งได้
ภาษา ๒.การสนทนาโตต้ อบ
สั้น ๆ ตอ่ เนอื่ ง
(๓) การฟงั เพลง
นิทาน คำคลอ้ ง
จอง บทร้อยกรอง
หรือเรื่องราวต่างๆ
(๕) การพูดคุยกับ
ผู้อน่ื เก่ียวกับ
ประสบการณ์ของ
ตนเองหรอื พูดเล่า
เรอื่ งราวเก่ยี วกับ
ตนเอง
(๖) การพูดอธิบาย
เกยี่ วกบั สง่ิ ของ
เหตกุ ารณ์ และ
ความสัมพันธข์ อง
สิ่งต่างๆ
หลกั สูตรสถานศกึ ษาการศกึ ษาปฐมวัย ๔๑
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ่(นนททวิ ากรราษฎร์บำรงุ )
มาตรฐานที่ ๙ ใชภ้ าษาส่ือสารได้เหมาะสมกบั วัย (ตอ่ )
สภาพท่พี งึ ประสงค์ ตัวอยา่ งสาระการเรยี นรู้รายปี
ตัวบง่ ช้ี ชัน้ อ. ๑ ชน้ั อ.๒ ซนั้ อ.๓ ประสบการณ์ สาระทคี่ วรเรยี นรู้
สําคัญ
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี )
๙.๒ เขยี นภาพ ๙.๒.๑ อ่านภาพ ๙.๒.๑ อา่ นภาพ ๙.๒.๑ อา่ นภาพ ๑.๔.๑ การใช้ ๑.การรู้หนังสือ
และสญั ลกั ษณไ์ ด้ และพูดขอ้ ความ สญั ลักษณ์ คำ สัญลักษณ์ คำ ด้วย ภาษา เบ้ืองตน้ สำหรบั เด็ก
ด้วยภาษา ของ พร้อมทง้ั ช้ีหรอื การช้ีหรอื กวาดตา (๑๑) การอา่ น ๒.การอา่ นภาพ นิทาน
ตนเอง กวาดตามอง จุดเรม่ิ ต้นและจดุ จบ อยา่ งอิสระตาม ปา้ ยและสัญลกั ษณ์
ข้อความตาม ของข้อความ ลำพัง การอ่าน ต่างๆ
บรรทดั รว่ มกนั การอ่าน ๓.ความหมายของ
โดยมีครชู ี้แนะ สญั ลักษณ์ ภาพ
(๑๐) การอา่ น เครือ่ งหมาย และคำ
หนงั สอื ภาพ ตา่ งๆทพี่ บใน
นทิ านหลากหลาย ชีวิตประจำวนั
ประเภท/รูปแบบ
(๑๒) การเหน็
แบบอยา่ งของการ
อา่ นหนังสอื ท่ี
ถกู ต้อง
(๑๓) การสงั เกต
ทศิ ทาง การอา่ น
ตวั อักษร คำ และ
ขอ้ ความ
(๑๔) การอ่านและ
ช้ขี อ้ ความ โดย
การกวาดสายตา
ตามบรรทัดจาก
ว้ายไปขวา จาก
บนลงลา่ ง
หลกั สูตรสถานศกึ ษาการศึกษาปฐมวัย ๔๒
โรงเรียนวดั ไทรใหญ(่ นนททวิ ากรราษฎรบ์ ำรุง)
มาตรฐานท่ี ๙ ใชภ้ าษาสือ่ สารได้เหมาะสมกับวยั (ต่อ)
สภาพทพี่ ึงประสงค์ ตัวอย่างสาระการเรียนรู้รายปี
ตวั บง่ ช้ี ชน้ั อ. ๑ ชัน้ อ.๒ ซัน้ อ.๓ ประสบการณ์ สาระที่ควรเรยี นรู้
สําคญั
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี )
๙.๒.๒ เขียนขดี ๙.๒.๒ เขยี นคล้าย ๙.๒.๒ เขยี นช่อื ของ ๑.๔.๑ การใช้ ๑.การขดี เขยี น วาด
เขย่ี อยา่ งมที ิศทาง ตัวอกั ษร ตนเองตามแบบ เขยี น ภาษา ภาพ อย่างมีทศิ ทาง
ขอ้ ความด้วยวิธคี ิดขน้ึ (๑๖) การสังเกต ๒.การเขียนที่ถกู วธิ ี
เอง ตวั อักษรในช่ือของ ๓.การเขยี นชือ่ ตนเอง
ตนเองหรอื คำท่ี คำ/ขอ้ ความทีส่ นใจ
คุน้ เคย ๔.การเขยี นตามลำพงั
(๑๗) การสังเกต เขียนร่วมกบั ครู และ
ตัวอกั ษรท่ี การเขยี นลอกแบบ
ประกอบเป็นคำ ๕.การเขียนสญั ลักษณ์
ผา่ นการอา่ นหรอื จากการฟังนิทาน
เขยี นของผูใ้ หญ่ เพลง ปา้ ยสญั ลักษณ์
(๑๙) การเหน็
แบบอย่างการ
เขยี นที่ถกู ตอ้ ง
(๒๐) การเขียน
ร่วมกันตามโอกาส
และการเขยี น
อสิ ระ
(๒๑) การเขยี นคำ
ที่มีความหมายกบั
ตวั เดก็ /คำท่ี
คุ้นเคย
หลักสตู รสถานศึกษาการศกึ ษาปฐมวัย ๔๓
โรงเรียนวดั ไทรใหญ(่ นนททวิ ากรราษฎร์บำรงุ )
มาตรฐานที่ ๑๐ มีความสามารถในการคิดที่เปน็ พ้นื ฐานในการเรยี นรู้
สภาพท่ีพงึ ประสงค์ ตัวอย่างสาระการเรยี นรู้รายปี
ตัวบ่งช้ี ชัน้ อ. ๑ ช้ัน อ.๒ ซ้นั อ.๓ ประสบการณ์ สาระท่ีควรเรยี นรู้
สําคญั
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี )
๑๐.๑ มคี วาม ๑๐.๑.๑ บอก ๑๐.๑.๑ บอก ๑๐.๑.๑ บอกลกั ษณะ ๑.๑.๒ การใช้ ๑.การใชป้ ระสาท
สามารถใน ลักษณะของสิ่ง ลักษณะและ ส่วนประกอบ กลา้ มเนอ้ื มดั เลก็ สัมผสั ในการสงั เกต
ความคิด ตา่ ง ๆ จากการ ส่วนประกอบของ เปลย่ี นแปลง หรอื (๑) การเล่นเครอื่ ง บอกลักษณะ
รวบยอด สงั เกตโดยใช้ สง่ิ ต่างๆ จากการ ความสมั พันธข์ องสง่ิ เล่นสมั ผสั และการ สว่ นประกอบของส่ิง
ประสาทสัมผสั สังเกตโดยใช้ ตา่ ง ๆ จากการสงั เกต สร้างสงิ่ ตา่ งๆ จาก ตา่ ง
ประสาทสัมผัส โดยใช้ประสาทสมั ผสั แท่งไม้ บล็อก ๒.การสงั เกต สำรวจ
๑.๔.๑การใช้ สิง่ ตา่ งๆ
ภาษา
(๖) การพูดอธิบาย
เก่ยี วกับสิ่งของ
เหตกุ ารณ์ และ
ความสัมพันธข์ อง
สิง่ ตา่ งๆ
๑.๔.๒ การคิด
รวบยอด การคิด
เชงิ เหตผุ ล การ
ตัดสนิ ใจและ
แก้ปัญหา
(๑) การสงั เกต
ลักษณะ
ส่วนประกอบ การ
เปลีย่ นแปลง และ
ความสมั พันธข์ อง
สิ่งตา่ งๆ โดยใช้
ประสาทสัมผัส
อยา่ งเหมาะสม
หลักสตู รสถานศึกษาการศกึ ษาปฐมวัย ๔๔
โรงเรียนวดั ไทรใหญ(่ นนททิวากรราษฎรบ์ ำรงุ )
มาตรฐานที่ ๑๐ มคี วามสามารถในการคิดทเี่ ป็นพน้ื ฐานในการเรียนรู้ (ตอ่ )
สภาพทพี่ ึงประสงค์ ตัวอยา่ งสาระการเรียนรู้รายปี
ตัวบง่ ชี้ ช้ัน อ. ๑ ชัน้ อ.๒ ซัน้ อ.๓ ประสบการณ์ สาระท่ีควรเรียนรู้
สําคัญ
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี )
๑๐.๑ มคี วาม ๑๐.๑.๒ จับคหู่ รือ ๑๐.๑.๒ จับคูแ่ ละ ๑๐.๑.๒ จบั ค่แู ละ ๑.๔.๒ การคดิ รวบ ๑.การใช้ประสาท
ยอด การคิดเชิง สัมผสั ทง้ั ๕
สามารถใน เปรียบเทยี บส่งิ เปรยี บเทยี บความ เปรียบเทยี บความ เหตผุ ล การ
ตัดสินใจและ
ความคดิ ต่าง ๆ โดยใช้ แตกต่างหรือความ แตกตา่ งหรอื ความ แกป้ ัญหา ๒.การจับคู่
เปรยี บเทยี บ จำแนก
รวบยอด ลกั ษณะหรอื เหมอื นของสิ่ง เหมอื นของสง่ิ ต่างๆ (๑) การสงั เกต ความเหมอื น ความ
ลักษณะ ตา่ ง ตามลักษณะของ
หน้าท่กี ารใช้งาน ต่างๆ โดยใช้ โดยใชล้ กั ษณะที่ สว่ นประกอบ การ รูปร่าง รปู ทรง
เพียงลกั ษณะเดียว ลกั ษณะทสี่ งั เกต สังเกตพบ ๒ ลกั ษณะ
พบเพยี งลักษณะ ข้นึ ไป
เดียว เปล่ยี นแปลง และ
ความสมั พันธ์ของสิง่
ตา่ งๆ โดยใช้
ประสาทสัมผสั อย่าง
เหมาะสม
(๕) การคัดแยก
การจัดกลมุ่ และ
จำแนกสิง่ ตา่ งๆ
ตามลกั ษณะ รูปรา่ ง
รปู ทรง
๑๐.๑.๓ คดั แยก ๑๐.๑.๓ จําแนก ๑๐.๑.๓ จาํ แนกและ ๑.๔.๒ การคดิ รวบ ๑.จับคตู่ า่ งๆตาม
สง่ิ ตา่ ง ๆตาม ยอด การคดิ เชงิ
ลักษณะหรือ และจดั กลุ่ม จัดกลมุ่ เหตผุ ล การ ลกั ษณะทสี่ มั พันธ์กัน
หน้าท่กี ารใช้งาน ตัดสนิ ใจและ หรือตามท่ีกำหนด
ตามลักษณะ โดย ตามลักษณะ โดยใช้ ๒ แกป้ ญั หา ๒.การจับคู่สงิ่ ของท่ีใช้
(๕) การคดั แยก งานร่วมกัน
ใช้อยา่ งนอ้ ย ๑ ลกั ษณะเป็นเกณฑ์ การจัดกลมุ่ และ ๓.การจับคสู่ ่ิงของที่
จำแนกสงิ่ ตา่ งๆ เหมอื นกัน
ลกั ษณะเป็นเกณฑ์ ตามลักษณะ รูปรา่ ง ๔.การเปรยี บเทยี บ
รปู ทรง ส่งิ ของ ลักษณะ
(๑๓) การจับคู่ การ ๕.ปรมิ าตร จำนวน
เปรียบเทียบ และ
การเรยี งลำดบั ส่งิ
ตา่ งๆ ตามลักษณะ
ความยาว/ความสูง
น้ำหนกั ปริมาตร
หลกั สตู รสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย ๔๕
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่(นนททวิ ากรราษฎรบ์ ำรงุ )
มาตรฐานที่ ๑๐ มคี วามสามารถในการคดิ ที่เปน็ พ้นื ฐานในการเรียนรู้ (ต่อ)
สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ตวั อยา่ งสาระการเรียนรู้รายปี
ตวั บ่งชี้ ชน้ั อ. ๑ ชั้น อ.๒ ซ้นั อ.๓ ประสบการณ์ สาระท่คี วรเรยี นรู้
สาํ คัญ
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี )
๑๐.๑ มีความ ๑๐.๑.๔ ๑๐.๑.๔ ๑๐.๑.๔ เรยี งลาํ ดบั ๑.๔.๒ การคิด ๑.การเชือ่ มโยง
สามารถใน เรยี งลําดบั สิง่ ของ เรยี งลาํ ดบั สงิ่ ของ สงิ่ ของหรอื เหตุการณ์ รวบยอด การคิด ช่วงเวลา การกะทำ
ความคิด หรอื เหตุการณ์ หรือเหตกุ ารณ์ อยา่ งนอ้ ย ๕ ลำดับ เชิงเหตุผล การ เหตกุ ารณต์ า่ งๆ
รวบยอด อยา่ งนอ้ ย ๓ อย่างนอ้ ย ๔ ตัดสินใจและ ๒.การเรยี งลำดับ
(ตอ่ ) ลำดับ ลำดบั แก้ปญั หา กิจกรรมหรอื
(๑๓) การจบั คู่ เหตุการณ์ใน
การเปรยี บเทียบ ชวี ติ ประจำวนั
และการ
เรียงลำดับ สิง่
ต่างๆ ตาม
ลักษณะ ความ
ยาว/ความสูง
นำ้ หนัก ปริมาตร
(๑๔) การบอก
และเรียงลำดับ
กิจกรรมหรอื
เหตุการณ์ตาม
ช่วงเวลา
๑๐.๒ มคี วาม ๑๐.๒.๑ ระบผุ ลที่ ๑๐.๒.๑ ระบุ ๑๐.๒.๑ อธิบาย ๑.๔.๒ การคิด ๑.การแสดงความ
สามารถ
ในการคดิ เกดิ ขนึ้ ใน สาเหตุหรือผลท่ี เชอื่ มโยงสาเหตแุ ละ รวบยอด การคิด คดิ เหน็
เชิงเหตุผล
เหตกุ ารณ์หรือการ เกดิ ขนึ้ ใน ผลที่เกดิ ขนึ้ ใน เชิงเหตุผล การ ๒.การสงั เกต สำรวจ
กระทําเมอ่ื มผี ู้ เหตุการณห์ รือการ เหตุการณ์หรือการ ตัดสนิ ใจและ หรอื ทดลองเกยี่ วกับสิ่ง
ช้แี นะ กระทําเมือ่ มผี ู้ กระทําด้วยตนเอง แก้ปัญหา ต่างๆรอบตวั
ชีแ้ นะ (๑๖) การอธิบาย ๓.การสนทนาเกี่ยวกับ
เชือ่ มโยงสาเหตุที่ เหตุการณ์
เกิดขึน้ ใน สถานการณ์ท่ีเกดิ ข้ึน
เหตกุ ารณห์ รอื การ ถงึ สาเหตแุ ละผลท่ี
กระทำ เกิดข้นึ
(๑๗) การคาดเดา
หรอื การคาดคะเน
ส่งิ ที่อาจจะเกิดข้ึน
อยา่ งมเี หตผุ ล