หลกั สูตรสถานศกึ ษาการศึกษาปฐมวัย ๔๖
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ่(นนททิวากรราษฎรบ์ ำรุง)
มาตรฐานท่ี ๑๐ มีความสามารถในการคดิ ท่ีเป็นพื้นฐานในการเรยี นรู้ (ต่อ)
สภาพทพี่ งึ ประสงค์ ตัวอยา่ งสาระการเรยี นรู้รายปี
ตัวบ่งช้ี ชัน้ อ. ๑ ชัน้ อ.๒ ซัน้ อ.๓ ประสบการณ์ สาระทค่ี วรเรียนรู้
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี ) สาํ คัญ
๑๐.๒ มีความ ๑๐.๒.๒ คาดเดา ๑๐.๒.๒ คาดเดา ๑๐.๒.๒ คาดคะเนสิง่ ๑.๔.๒ การคิด ๑.การฟังและร่วม
สามารถ หรือคาดคะเนสง่ิ ที่ หรอื คาดคะเนส่งิ ที่ ทีอ่ าจจะเกดิ ขึน้ และมี รวบยอด การคิด สนทนาเร่อื งราว
ในการคิด อาจจะเกดิ ขน้ึ อาจจะเกิดขึน้ หรอื สว่ นรว่ มในการลง เชิงเหตผุ ล การ ๒.การคาดคะเน
เชงิ เหตผุ ล มสี ่วนรว่ มในการ ความเหน็ จากขอ้ มลู ตดั สินใจและ เหตุการณท์ ่จี ะเกิดขึน้
ลงความเหน็ จาก อย่างมเี หตผุ ล แก้ปญั หา ๓.การตั้งสมมติฐาน
ขอ้ มูล (๑๗) การคาดเดา ๔.การมสี ่วนรว่ มใน
หรือการคาดคะเน การคน้ คว้าหาขอ้ มลู
ส่ิงท่อี าจจะเกดิ ขึน้
อยา่ งมีเหตผุ ล
๑๐.๓ มีความ ๑๐.๓.๑ ตดั สนิ ใน ๑๐.๓.๑ ตัดสนิ ใน ๑๐.๓.๑ ตัดสนิ ในเรอ่ื ง ๑.๔.๒ การคิด ๑.การตดั สินใจและ
สามารถ เร่อื งงา่ ยๆ เรอื่ งง่ายๆ และ ง่ายๆ และยอมรบั ผล รวบยอด การคิด เลือกวิธกี ารในการ
ในการคิด เร่มิ เรียนร้ผู ลท่ี ท่เี กดิ ขึ้น เชงิ เหตุผล การ แกป้ ัญหา
แกป้ ัญหา เกดิ ขึ้น ตัดสนิ ใจและ ๒.การวางแผนและลง
และตัดสินใจ แก้ปัญหา มอื แก้ปัญหาร่วมกบั
(๑๙) การตัดสินใจ เพ่ือนและครู
และการมสี ่วนร่วม
ในกระบวนการ
แก้ปัญหา
๑๐.๓.๒ แก้ปัญหา ๑๐.๓.๒ ระบุ ๑๐.๓.๒ ระบุปญั หา ๑.๓.๖ การ ๑.การตดั สินใจและ
โดยลองผิดลองถกู ปญั หา แกป้ ัญหา สรา้ งทางเลือกและ แก้ปัญหาความ เลือกวธิ ีการในการ
โดยลองผิดลองถูก เลอื กวิธีแก้ปัญหา ขัดแย้ง แก้ปัญหา
(๑) การมสี ่วนรว่ ม ๒.การวางแผนและลง
ในการเลือกวิธีการ มือแก้ปัญหาร่วมกับ
แก้ปญั หา เพอ่ื นและครู
(๑๙) การตดั สนิ ใจ ๓.การทดลองหา
และการมสี ่วนร่วม เหตุผล คำตอบ
ในกระบวนการ เกีย่ วกับสิ่งทสี่ นใจ
แก้ปัญหา
หลกั สตู รสถานศกึ ษาการศึกษาปฐมวัย ๔๗
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ(่ นนททิวากรราษฎรบ์ ำรุง)
มาตรฐานท่ี ๑๑ มจี ินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ตวั อยา่ งสาระการเรยี นรู้รายปี
ตวั บ่งชี้ ช้นั อ. ๑ ชน้ั อ.๒ ซน้ั อ.๓ ประสบการณ์ สาระทค่ี วรเรียนรู้
สาํ คญั
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี )
๑๑.๑ ทาํ งาน ๑๑.๑.๑ สรา้ ง ๑๑.๑.๑ สรา้ ง ๑๑.๑.๑ สรา้ งผลงาน ๑.๑.๒ การใช้ วิธกี ารใชเ้ ครือ่ งมอื
กลา้ มเนอื้ มดั เล็ก เครื่องใชใ้ นการทาํ งาน
ศิลปะตาม ผลงานศลิ ปะเพื่อ ผลงานศลิ ปะเพือ่ ศลิ ปะเพอ่ื สื่อสาร (๒) การเขยี นและ ศิลปะ อยา่ งถกู วธิ ีและ
จนิ ตนาการและ สื่อสารความคดิ สือ่ สารความคดิ ความคดิ ความรสู้ ึก การเลน่ กบั สี
ความคิด ความรสู้ กึ ของ ความรสู้ กึ ของ ของตนเองโดยมกี าร (๓) การปัน้ ปลอดภัย เชน่ กรรไกร
สรา้ งสรรค์ ตนเอง ตนเองโดยมกี าร ดดั แปลงและแปลก (๔) การประดษิ ฐ์ส่งิ
ดดั แปลงและ ใหม่จากเดมิ และมี ตา่ งๆ ด้วยเศษวสั ดุ
แปลกใหม่จากเดมิ รายละเอยี ดเพิ่มขึน้ (๕) การหยิบจบั
หรือมีรายละเอียด การใชก้ รรไกร การ
เพิ่มขึน้ ฉกี การตัด การปะ
และ การรอ้ ยวสั ดุ
๑.๓.๒ การดูแล
รักษาธรรมชาติ
และส่ิงแวดลอ้ ม
(๓) การทํางาน
ศลิ ปะที่นําวัสดุ
หรือสิ่งของ
เคร่อื งใชท้ ใี่ ชแ้ ลว้ มา
ใชซ้ ำ้ หรอื แปรรูป
แลว้ นํากลับมาใช้
ใหม่
๑.๔.๓ จินตนาการ
และความคิด
สรา้ งสรรค์
(๒) การแสดง
ความคิดสรา้ งสรรค์
ผ่านศลิ ปะ
(๓) การสร้างสรรค์
ชิ้นงานโดยใช้รูปร่าง
รปู ทรงจากวัสดุที่
หลากหลาย
หลกั สตู รสถานศกึ ษาการศกึ ษาปฐมวัย ๔๘
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่(นนททวิ ากรราษฎร์บำรุง)
มาตรฐานท่ี ๑๑ มีจินตนาการและความคดิ สรา้ งสรรค์ (ตอ่ )
สภาพที่พงึ ประสงค์ ตวั อย่างสาระการเรยี นรู้รายปี
ตัวบ่งช้ี ช้ัน อ. ๑ ช้ัน อ.๒ ซนั้ อ.๓ ประสบการณ์ สาระทค่ี วรเรยี นรู้
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี ) สาํ คัญ
๑๑.๒ แสดง ๑๑.๒.๑ ๑๑.๒.๑ ๑๑.๒.๑ เคลื่อนไหว ๑.๑.๑ การใช้ ๑. การเคลื่อนไหว
ท่าทาง/ เคล่ือนไหว ท่าทาง เคลอ่ื นไหว ท่าทาง ท่าทางเพ่ือส่ือสาร กลา้ มเนอ้ื มัดใหญ่ ร่างกายทิศทางระดบั
เคล่อื นไหวตาม เพื่อส่อื สาร เพ่อื สื่อสาร ความคิด ความรู้สึก (๑) การ และพ้ืนที่
จนิ ตนาการอยา่ ง ความคิด ความคิด ของตนเองอย่าง เคลอ่ื นไหวอยูก่ บั ที่ ๒. การแสดงทา่ ทาง
สรา้ งสรรค์ ความรสู้ กึ ความรสู้ กึ ของ หลากหลายและแปลก (๒) การ ต่าง ๆ ตามความคิด
ตนเองอยา่ ง ใหม่ เคลอ่ื นไหว ของตนเอง
หลากหลายหรอื เคล่ือนท่ี
แปลกใหม่ (๓) การ
เคลอ่ื นไหวพรอ้ ม
วัสดุ อุปกรณ์
๑.๑.๕ การ
ตระหนกั รู้
เกย่ี วกับร่างกาย
ของตนเอง
(๑) เคลื่อนไหว
โดยควบคมุ ตนเอง
ไปในทิศทางระดับ
และพื้นที่
๑.๒.๑
สนุ ทรยี ภาพ /
ดนตรี
(๑) การฟงั เพลง
การร้องเพลงและ
การแสดงปฏกิ ิรยิ า
โตต้ อบ
เสยี งดนตรี
(๓) การ
เคลื่อนไหวตาม
เสียงเพลง/ดนตรี
หลกั สูตรสถานศึกษาการศกึ ษาปฐมวัย ๔๙
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่(นนททิวากรราษฎร์บำรุง)
มาตรฐานท่ี ๑๒ มเี จตคตทิ ่ีดตี ่อการเรยี นรู้ และมีความสามารถในการแสวงหาความรู้ไดเ้ หมาะสมตามวยั
สภาพทพี่ งึ ประสงค์ ตัวอยา่ งสาระการเรียนรู้รายปี
ตวั บง่ ชี้ ชัน้ อ. ๑ ชน้ั อ.๒ ซนั้ อ.๓ ประสบการณ์ สาระท่ีควรเรยี นรู้
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี ) สาํ คัญ
๑๒.๑ มเี จตคตทิ ่ี ๑๒.๑.๑ สนใจฟงั ๑๒.๑.๑ สนใจ ๑๒.๑.๑ สนใจหยิบ ๑.๔.๒ การใช้ ๑.การสำรวจ สงั เกต
ดี ตอ่ การเรยี นรู้ หรอื อา่ นหนังสือ ซกั ถามเกี่ยวกับ หนังสอื มาอา่ นและ ภาษา และบนั ทกึ ข้อมลู
ดว้ ยตนเอง สัญลักษณห์ รอื เขยี นส่อื ความคิดด้วย (๓) การฟงั นิทาน ๒.การอา่ นภาพ คำ
ตวั หนังสือทพ่ี บ ตนเองเปน็ ประจำ เพลง คำคล้องจอง คลอ้ งจอ้ ง เพลง
เหน็ อยา่ งต่อเนอ่ื ง บทรอ้ ยกรอง หรือ ๓.การฟัง การพูด การ
เรอื่ งราวต่างๆ สนทนาเกย่ี วกับเร่อื งที่
(๑๐) การอ่าน สนใจ
หนังสือภาพ
นทิ านหลากหลาย
ประเภท/รูปแบบ
๑.๔.๔ เจตคติท่ีดี
ตอ่ การเรยี นรู้และ
การแสวงหา
ความรู้
(๑) การสำรวจส่งิ
ตา่ งๆ และแหล่ง
เรยี นรรู้ อบตัว
๑๒.๑.๒ ๑๒.๑.๒ ๑๒.๑.๒ กระตือรอื ร้น ๑.๒.๒ การเล่น ๑.การเขา้ รว่ มกจิ กรรม
กระตอื รือร้นใน กระตือรอื ร้นใน ในการเขา้ ร่วม (๑) การเลน่ อสิ ระ ด้วยความเตม็ ใจทั้ง
การเข้ารว่ ม การเข้ารว่ ม กิจกรรมตงั้ แตต่ น้ จน (๒) การเลน่ รายบคุ คล ราย่อย
กิจกรรม กิจกรรม จบ รายบุคคล กลมุ่ รายกลมุ่ ใหญ่
ย่อย กลุ่มใหญ่ ๒.การรว่ มกิจกรรมทงั้
๑.๓.๔ การมี ในและนอกหอ้ งเรยี น
ปฏสิ ัมพนั ธ์ มี
วินัย มสี ่วนร่วม
และบทบาท
สมาชกิ ของสงั คม
(๑) การใหค้ วาม
ร่วมมอื ในการ
ปฏบิ ัตกิ จิ กรรม
ต่างๆ
หลักสูตรสถานศกึ ษาการศึกษาปฐมวัย ๕๐
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ่(นนททวิ ากรราษฎร์บำรุง)
มาตรฐานที่ ๑๒ มีเจตคติทีด่ ตี ่อการเรียนรู้ และมีความสามารถในการแสวงหาความรูไ้ ดเ้ หมาะสมตามวยั (ตอ่ )
สภาพท่พี งึ ประสงค์ ตัวอย่างสาระการเรียนรู้รายปี
ตวั บ่งชี้ ช้นั อ. ๑ ชั้น อ.๒ ซั้น อ.๓ ประสบการณ์ สาระท่คี วรเรยี นรู้
(๓ - ๔ ปี ) (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี ) สําคญั
๑๒.๑ มเี จตคตทิ ี่ ๑.๔.๔ เจตคติท่ีดี
ดี ตอ่ การเรยี นรู้ ต่อการเรยี นรูแ้ ละ
(ต่อ) การแสวงหา
ความรู้
(๑) การสำรวจส่ิง
ต่างๆ และแหลง่
เรยี นรรู้ อบตวั
๑๒.๒ มีความ ๑๒.๒.๑ ค้นหา ๑๒.๒.๑ ใช้ ๑๒.๒.๑ ใชป้ ระโยค ๑.๔.๔ เจตคติทด่ี ี ๑.การสำรวจ สงั เกต
สามารถในการ คำตอบของข้อ ประโยคคำถามวา่ คำถามวา่ “เมื่อไร” ตอ่ การเรียนรู้และ และบันทกึ ข้อมลู
แสวงหาความรู้ สงสยั ตา่ ง ๆ ตาม “ทีไ่ หน” “ทำไม” “อย่างไร” ในการ การแสวงหา ๒.การตัง้ คำถาม
วธิ ีการเม่ือมผี ู้ ในการคน้ หา คน้ หาคำตอบ ความรู้ ลกั ษณะของคำถาม
ชแี้ นะ คำตอบ (๑) การสำรวจสิง่ ๓.วิธกี ารต้ังคำถาม
ต่างๆ และแหลง่ ๔.การหาคำตอบดว้ ย
เรยี นรรู้ อบตวั การตั้งตำถาม
หลักสูตรสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย ๕๑
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ(่ นนททิวากรราษฎรบ์ ำรงุ )
หน่วยการจัดประสบการณ์ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้ันอนุบาลปีที่ ๑-๓
สัปดาห์ที่ ชอื่ หน่วย สาระท่คี วรเรียนรู้
๑
หนนู ้อยปลอดภยั อนบุ าลปีท่ี ๑ อนุบาลปีที่ ๒ อนบุ าลปีที่ ๓
ห่างไกลโควิด-19
Safe from 1. รู้จักโรคโควดิ - 19 1. ร้จู ักโรคโควดิ - 19 1. รู้จักโรคโควดิ - 19
Covid – 19
2. การแพร่ระบาดของ 2. การแพรร่ ะบาดของ 2. การแพรร่ ะบาดของ
3. การดูแลและการ 3. การดแู ลและการ 3. การดแู ลและการ
ปอ้ งกนั ตนเองให้ ป้องกันตนเองให้ ปอ้ งกนั ตนเองให้
หา่ งไกลจากโรคโควิด- หา่ งไกลจากโรคโควิด- หา่ งไกลจากโรคโควดิ -
19 19 19
๔. การปฏบิ ตั ติ นใน ๔. การปฏบิ ตั ติ นใน ๔. การปฏิบตั ิตนใน
สถานการณ์การแพร่ สถานการณ์การแพร่ สถานการณ์การแพร่
ระบาดของโรคโควดิ - ระบาดของโรคโควดิ - ระบาดของโรคโควิด-
19 19 19
5. ชีวติ วถิ ใี หม่ New 5. ชีวติ วถิ ีใหม่ New 5. ชีวิตวิถใี หม่ New
Normal Normal Normal
๒ ปฐมนเิ ทศ ๑. ชอื่ ครูและชอื่ พ่ีเลย้ี ง ๑. การปฏิบตั ติ นใน ๑. การปฏบิ ตั ิตนใน
Orientation
๒. ชอื่ ตนเอง การรับประทานอาหาร การรับประทานอาหาร
๓. สัญลักษณ์ ๒. การปฏบิ ตั ิกจิ วตั ร ๒. การปฏิบตั กิ จิ วตั ร
ประจําตัวและของใช้ ประจําวัน ประจาํ วนั
ส่วนตัวของเดก็ ๓. การเลน่ และทาํ ๓. การเลน่ และทาํ
๔. การปฏบิ ตั ิกิจวตั ร กจิ กรรมดว้ ยตนเอง กจิ กรรมด้วยตนเอง
ประจําวัน และกับผู้อนื่ ได้อยา่ ง และกับผู้อ่นื
๕.การเลน่ อยา่ ง ปลอดภยั ไดอ้ ย่างปลอดภัย
ปลอดภัย ๔. การพูดแนะนําช่ือ ๔. การพูดแนะนําช่ือ
ของตนเอง เด็กชอ่ื ครูชื่อพี่เลี้ยง
๕. ชื่อครปู ระจําชนั้ ชื่อ และชื่อเพื่อน
ครูพ่ีเลย้ี ง ๕. การแนะนํา
๖. การแนะนํา สัญลักษณ์ประจําตวั
สญั ลกั ษณป์ ระจาํ ตัว ของเด็กและ
ของเด็กและของใช้ ของใชส้ ว่ นตัว
ส่วนตวั ๖. การแนะนําและ
๗. การแนะนํา และ สาํ รวจสถานท่ตี ่างๆใน
สํารวจสถานทีต่ า่ งๆ โรงเรยี น
เกย่ี วข้องกบั ตนเอง ๗. การปฏิบตั ิตนตาม
๘. การปฏิบตั ติ นตาม ข้อตกลงของห้องเรยี น
มารยาทไทย ๘. การปฏิบตั ิตนตาม
- การสวัสดี มารยาทไทย
หลักสูตรสถานศกึ ษาการศึกษาปฐมวัย ๕๒
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่(นนททิวากรราษฎรบ์ ำรงุ )
สัปดาหท์ ี่ ช่ือหน่วย สาระท่คี วรเรยี นรู้
๓ โรงเรยี นของเรา อนุบาลปีท่ี ๑ อนุบาลปที ี่ ๒ อนบุ าลปที ่ี ๓
My School /
our school ๑. การทาํ ความเข้าใจ – การขอบคณุ - การสวสั ดี
ข้อตกลงในห้องเรยี น
๔ ตัวเรา ๒. ชอ่ื ครูประจาํ ชั้น - การขอโทษ - การขอบคณุ
Myself ๓. ช่ือโรงเรยี น
๔. การจบั คู่ ๙. การพดู แสดง - การขอบใจ
ภาพเหมือน
ความคิดความร้สู กึ - การขอโทษ
๑. การดแู ลสขุ ภาพ
อนามัย ๒. ชื่อและ และความต้องการ ๙. การพดู เลา่ เรื่องราว
ความสาํ คัญอวัยวะ
ภายนอกของร่างกาย ๑๐. การบอกลกั ษณะ ทีเ่ กี่ยวกับตนเอง
๓. การใช้ประสาท
สมั ผสั ท้งั ๕ ของสงิ่ ตา่ งๆจากการ ๑๐. การบอกลักษณะ
๔. การดแู ลรกั ษาและ
ปอ้ งกนั อนั ตราย สงั เกตโดยใช้ประสาท ของส่ิงต่างๆจากการ
สมั ผัส สังเกตโดยใชป้ ระสาท
สัมผัส
๑. พัฒนาการทาง ๑. พัฒนาการทาง
ภาษาและการรู้หนงั สือ ภาษาและการรู้หนังสอื
นิทานเรื่อง โรงเรยี น นทิ านเรื่อง หมีน้อยจะ
แสนสนุก ไปโรงเรยี น
๒. ชื่อโรงเรยี นและ ๒. สถานทตี่ ่างๆใน
สถานท่ีในโรงเรียน โรงเรียน
๓. สํารวจอาคารต่างๆ ๓. ทาํ แผนผังใน
ในโรงเรียน โรงเรยี น
๔. บคุ ลากรในโรงเรยี น ๔. บคุ คลในโรงเรยี น
๕. มารยาทในโรงเรยี น และบทบาทหนา้ ทขี่ อง
๖. สร้างขอ้ ตกลงและ บุคคล
การปฏบิ ัตขิ อง ๕. ทาํ แผนทก่ี าร
ห้องเรยี น เดินทางมาโรงเรียน
๗. การจับคู่ ๖. สร้างขอ้ ตกลงและ
ภาพเหมอื น การจับคู่ การปฏิบตั ขิ อง
ภาพกับจาํ นวน หอ้ งเรยี นและโรงเรยี น
การต่อภาพให้สมบรู ณ์
๑. การดแู ลสุขภาพ ๑. การดูแลสขุ ภาพ
อนามัย อนามัย การปฏบิ ตั ิตน
๒. ความแตกตา่ งของ ใหม้ พี ลานามัยท่ีดี โดย
เพศชาย เพศหญิง ใชภ้ าพ สุขบญั ญตั ิ ๑๐
๓. หน้าทแ่ี ละ ประการ
ความสําคัญของอวัยวะ ๒. การดแู ลรกั ษา
ตา่ งๆ ตนเองในการแปรงฟนั
๔. การใชป้ ระสาท อย่างถูกวธิ ี
สมั ผสั ท้ัง ๕
หลกั สตู รสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย ๕๓
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ่(นนททิวากรราษฎรบ์ ำรงุ )
สปั ดาห์ท่ี ชื่อหน่วย อนุบาลปีท่ี ๑ สาระทีค่ วรเรียนรู้ อนุบาลปีท่ี ๓
๓. การดูแลรกั ษาและ
๕ หนูทำได้ ๕. การรกั ษาความ อนุบาลปที ี่ ๒ ปอ้ งกนั อันตรายของ
I can do it! สะอาดร่างกาย อวยั วะ
การแปรงฟนั ๕. การดูแลรกั ษาและ ๔. ชือ่ อวยั วะและ
๖ ฝน ปอ้ งกันอันตราย ความสําคัญของอวยั วะ
Rain ๖. การรักษาความ น้นั
สะอาดร่างกาย ๕. หน้าที่ของอวยั วะ
การแปรงฟัน ของรา่ งกาย
๗. การปฏิบตั ติ นใหม้ ี ๖. การปฐมพยาบาล
รา่ งกายสมบูรณ์ เบือ้ งตน้
แข็งแรง ๙. การเรยี งลําดับภาพ
เหตกุ ารณ์กจิ วตั ร
๑. การระวงั รกั ษา ๑. ระวงั รักษาความ ประจาํ วัน
๑. วิธรี ะวงั รักษา
ความสะอาดของ สะอาดของร่างกาย ร่างกายให้สะอาดมี
สขุ อนามัยทีด่ ี
ร่างกาย และการมสี ุขอนามยั ที่ ๒. การช่วยเหลือ
ตนเองในกจิ วัตร
๒. การช่วยเหลอื ตวั เอง ดี ประจาํ วัน
- การแต่งกาย
ในกจิ วัตร ๒. การช่วยเหลือ - การลา้ งมือท่ีถกู วธิ ี
- การรับประทาน
ประจาํ วัน ตนเองในกจิ วัตร อาหาร
- การใช้หอ้ งนำ้ หอ้ ง
- การล้างมือ ประจาํ วนั สว้ ม
- การเก็บของใช้
- การแปรงฟนั - การล้างมอื ส่วนตัว
- การปูและเก็บเครื่อง
- การรบั ประทาน - การแตง่ กาย นอน
อาหาร - การรบั ประทาน ๑. ปรากฏการณ์
ธรรมชาติ
- การใชห้ ้องน้ำหอ้ ง อาหาร - วฏั จกั รของน้ำ
๒. การปฏบิ ตั ิตนอย่าง
ส้วม - การใชห้ อ้ งน้ำหอ้ ง เหมาะสมเม่ือฝนตก
สว้ ม
- การเกบ็ ของใช้
สว่ นตวั
- การปูและเก็บเคร่ือง
นอน
๑. ปรากฏการณ์ ๑. ปรากฏการณ์
ธรรมชาติ ธรรมชาติ
- ฝนตก ฟา้ แลบ ฟ้า - สมบตั ขิ องน้ำ
รอ้ ง ฟา้ ผา่ ๒. การปฏบิ ัติตนอย่าง
- รงุ้ กินนำ้ เหมาะสมเม่ือฝนตก
หลกั สตู รสถานศกึ ษาการศกึ ษาปฐมวัย ๕๔
โรงเรียนวดั ไทรใหญ(่ นนททิวากรราษฎรบ์ ำรุง)
สัปดาห์ที่ ช่ือหน่วย สาระทค่ี วรเรียนรู้
๗ ครอบครัวมีสุข อนุบาลปีที่ ๑ อนบุ าลปีที่ ๒ อนบุ าลปที ่ี ๓
Happy Family
๒. การปฏบิ ัตติ นอย่าง - หลบฝน และไม่ไปใน - หลบฝน และไมไ่ ปใน
เหมาะสมเมอื่ ฝนตก ท่โี ล่งแจง้ ทโ่ี ลง่ แจง้
- หลบฝนหรือใช้ - ใชอ้ ปุ กรณก์ นั ฝน - ใชอ้ ุปกรณก์ นั ฝน
อปุ กรณ์กนั ฝน ๓. การปฏิบตั ติ นอย่าง และการแก้ปญั หาเมือ่
๓. การปฏิบตั ิตนอยา่ ง เหมาะสมเม่ือเจ็บป่วย ไม่มีอุปกรณ์กนั ฝน
เหมาะสมเมื่อเจบ็ ป่วย - พกั ผ่อน ทําร่างกาย ๓. โรคท่พี บบอ่ ยในฤดู
- พักผอ่ น ทํารา่ งกาย ใหอ้ บอนุ่ ด่ืมนํ้าให้ ฝน และการป้องกัน
ให้อบอุ่น ดื่มนำ้ ให้ เพยี งพอ และปฏิบัติ ๔. เหตุการณท์ ่สี มั พนั ธ์
เพียงพอ และปฏบิ ัติตน ตนอย่างเหมาะสม กับการเกดิ ฝน
อยา่ งเหมาะสม เพื่อป้องกันการแพร่ - โครงการตาม
เพ่อื ป้องกนั การแพร่ เช้ือ พระราชดํารฯิ โครงการ
เชอ้ื - การบอกอาการเม่ือ แก้มลงิ
๔. เหตกุ ารณ์ทส่ี ัมพนั ธ์ เจบ็ ป่วย - โครงการตาม
กบั การเกดิ ฝน ๔. เหตุการณท์ ่ีสมั พนั ธ์ พระราชดําริฯโครงการ
- ตน้ ไมเ้ จรญิ งอกงาม กับการเกดิ ฝน ฝนหลวง
- คนและสตั วม์ นี ้ำกิน - เกดิ แหลง่ นำ้
นำ้ ใช้ - คนและสตั วม์ นี ำ้ กนิ
- นำ้ ท่วม นำ้ ใช้
- พชื ผลทางการเกษตร
เจรญิ งอกงาม
- โครงการตาม
พระราชดาํ ริฯโครงการ
ฝายชะลอนำ้
๑. สมาชิกในครอบครัว ๑. สมาชิกใน ๑. ประวัตคิ วามเปน็ มา
๒. การปฏบิ ัติตนเป็น ครอบครัว (เครือญาต)ิ ของตนเองและ
สมาชิกท่ีดีของ ๒. จาํ นวนสมาชกิ ใน ครอบครวั
ครอบครัว ครอบครัว ๒. การปฏบิ ัติตนเปน็
๓. บทบาทหนา้ ที่ สมาชิกที่ดขี อง
สมาชกิ ในครอบครัว ครอบครัว
๔. การปฏบิ ตั ติ นต่อ ๓. บทบาทหนา้ ที่ของ
บุคคลในครอบครวั บคุ คลในครอบครัว
๕. อาชีพของบุคคลใน ๔. อาชีพของบคุ คลใน
ครอบครัว ครอบครัว
หลกั สูตรสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย ๕๕
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่(นนททิวากรราษฎร์บำรุง)
สัปดาห์ท่ี ชอื่ หน่วย อนบุ าลปีที่ ๑ สาระทีค่ วรเรยี นรู้ อนุบาลปที ี่ ๓
๘ อาหารดีมีประโยชน์ ๑. ชอื่ ของอาหาร และ ๑. อาหารหลัก ๕ หมู่
Healthy food ส่วนประกอบของ อนบุ าลปีที่ ๒ ๒. อาหารท่ีมปี ระโยชน์
๙ อาหาร และอาหารท่ไี ม่มี
ขา้ ว ๒. อาหารทีค่ วร ๑. อาหารหลัก ๕ หมู่ ประโยชน์
Rice รับประทานและอาหาร ๒. อาหารแตล่ ะชนดิ มี ๓. ประโยชน์ของ
ทไี่ ม่ควรรบั ประทาน รสชาตทิ แ่ี ตกต่าง อาหาร
๓. อุปกรณ์ในการ กนั เชน่ ขม หวาน ๔. อาหารประจาํ ภาค
รบั ประทานอาหาร เปรี้ยว เค็ม เผ็ด ทงั้ ๔ ภาค คอื
๔. มารยาทในการ ๓. สุขนสิ ัยและ ภาคเหนอื ภาคกลาง
รับประทานอาหาร มารยาทท่ีดีในการ ภาคอสี าน และ
๕. เวลาในการ รับประทานอาหาร ภาคใต้
รบั ประทานอาหาร ๔. ประโยชนข์ อง ๕. การประกอบอาหาร
๖. ประโยชนข์ อง อาหาร ไทย ประเภท
อาหาร ๕. วิธกี ารประกอบ ส้มตาํ ไทย
๗. การประกอบอาหาร อาหาร เชน่ ต้ม ผดั ๖. การจําแนกและจดั
ไข่เจยี วหมสู บั แกง ทอด กลุ่มอ้วน – ผอม
๖. การประกอบอาหาร ๗. การจําแนกและจดั
๑. ชนดิ ของขา้ ว เช่น ต้มจดื เตา้ หู้หมูสับ กลุ่มภาพกับสัญลักษณ์
ขา้ วเจ้า ข้าวเหนียว ๗. การจําแนกและจดั
๒. ลกั ษณะของ กลุ่มอาหารแตล่ ะ ๑. ขา้ วชนดิ ต่าง ๆ เช่น
ขา้ วเปลอื ก และ ชนดิ ออกเป็นหมู่ ขา้ วเจา้ ข้าวเหนยี ว
ขา้ วสาร ๘. การเรียงลาํ ดับ ๒. ขน้ั ตอนการทาํ นา
๓. การทํานาและ ส่ิงของหรือเหตุการณ์ ๓. ประเพณีทีเ่ ก่ยี ว
อาชพี ของชาวนา กบั ข้าว เชน่ พระราช
๔. สัตวท์ ่ใี ช้ในการทํา ๑. ขา้ วชนดิ ตา่ ง ๆ เช่น พิธจี รดพระนังคัลแรก
นา ข้าวเปลอื ก ข้าวสาร นาขวญั
๕. ประโยชนข์ องข้าว ข้าวสุก อาหารหรือขนมใน
๖. อาหารที่ทาํ มาจาก ๒. ลักษณะของต้นขา้ ว เทศกาลต่างๆ
ขา้ ว ๓. การนบั ปากเปล่า ๔. ประโยชนข์ องข้าว
๗. ประกอบอาหารท่ี จํานวน ๑- ๑๐ ๕. อาหารทีท่ ํามาจาก
ทาํ มาจากขา้ ว ๔. ขั้นตอนการทาํ นา ขา้ ว ทําขนมบวั ลอย
แซนดว์ ชิ ไสก้ รอก ๕. ประเพณีทเ่ี กีย่ ว ๖. การตวงอยา่ ง
กบั ข้าว เชน่ คาดคะเน
พระราชพิธจี รดพระ ๗. เปรยี บเทยี บ
นงั คัลแรกนาขวญั ปริมาณมากนอ้ ย
ประเพณีวันสารทไทย
๖. อาหารท่ที ํามาจาก
ขา้ ว
๗. ทาํ อาหารขนม
แพนเค้ก
หลักสูตรสถานศึกษาการศกึ ษาปฐมวัย ๕๖
โรงเรียนวดั ไทรใหญ(่ นนททวิ ากรราษฎร์บำรุง)
สปั ดาห์ท่ี ชอ่ื หน่วย สาระท่คี วรเรยี นรู้
๑๐ ปลอดภัยไวก้ ่อน
Safety First อนบุ าลปีที่ ๑ อนุบาลปีที่ ๒ อนบุ าลปที ่ี ๓
๑๑ ๑. การรักษาความ
รักเมืองไทย ๑. การรกั ษาความ ๑. การรกั ษาความ ปลอดภยั ของตนเอง
๑๒ I love Thailand และผ้อู ่ืน
ปลอดภยั ของตนเองใน ปลอดภยั ของตนเอง ในกิจวัตรประจาํ วัน
วันเฉลิมฯ ๒. ความปลอดภยั จาก
King Birthday การเลน่ และกจิ วตั ร และผูอ้ ่นื ในกจิ วัตร การเล่นของเลน่ และ
การเลน่ ในสนามเด็ก
ประจาํ วัน ประจาํ วนั เลน่
๓. การระวงั ภยั จาก
๒. การระวังภยั จาก ๒. ความปลอดภยั จาก สถานทเ่ี สี่ยงอนั ตราย
ของมคี ม สัตวม์ ีพิษและ
สถานท่ีและอปุ กรณ์ การเลน่ ของเล่นและ คนแปลกหน้า
เสย่ี งอันตรายและคน การเลน่ ในสนามเด็ก ๑. พระมหากษัตริย์
ไทย
แปลกหน้า เล่น ๒. วันสำคญั ตาม
ประเพณีไทย
๓. การระวังภัยจาก ๓. บ้านไทย
๔. หน้าทข่ี องเด็กใน
สถานทแี่ ละอุปกรณ์ การเป็นพลเมืองดี
๕. ผลไมเ้ มืองไทย
เสย่ี งอนั ตราย ของมี
๑. พระราชประวัติ
คม สัตว์มีพษิ และ - พระปรมาภิไธย
- ตราประจำพระองค์
คนแปลกหน้า - วันพระราชสมภพ/สี
ประจำวันพระราช
๑. เพลงชาตแิ ละธง ๑. ประเทศไทยสภ่ี าค สมภพ
- พระบรมราชชนก /
ชาติไทย ๒. ดอกไมป้ ระจำชาติ พระบรมราชชนนี
๒. พระผู้ทรงเปน็
๒. พระมหากษตั รยิ ์ ไทย ต้นแบบของความวริ ิยะ
อตุ สาหะ
๓. สตั วป์ ระจำชาตไิ ทย ๓. ภาษาและ - พระปรชี าสามารถ
ด้านการบิน
๔. การละเลน่ พื้นบา้ น พยญั ชนะไทย
ของไทย ๔. สถานท่สี ำคัญใน
๕. การทักทายและการ ทอ้ งถิ่น
ไหวแ้ บบไทย ๕. ของหวาน ขนมไทย
๖. มารยาทไทย การ
อย่รู ่วมกนั กับผูอ้ ่ืน
๑. พระราชประวัติ ๑. พระราชประวัติ
- พระปรมาภิไธย - พระปรมาภิไธย
- วันพระราชสมภพ - วนั พระราชสมภพ/สี
- พระบรมราชชนก/ ประจำวนั พระราช
พระบรมราชชนนี สมภพ
๒. พระผทู้ รงเป็น - พรรณไมป้ ระจำ
แบบอย่างด้านความ รชั กาล
กตญั ญู - พระบรมราชชนก/
- การดแู ลพระบรมราช พระบรมราชชนนี
ชนนี ๒. พระผู้ทรงเป็นจอม
- กจิ กรรมปั่นเพื่อแม่ ทพั ไทย
- กิจกรรมป่นั เพื่อพ่อ - พระราชประวตั ดิ า้ น
การทหาร
หลักสตู รสถานศกึ ษาการศึกษาปฐมวัย ๕๗
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ่(นนททวิ ากรราษฎรบ์ ำรงุ )
สปั ดาห์ท่ี ชื่อหน่วย สาระทค่ี วรเรยี นรู้
๑๓ วันแม่
Mother Day อนบุ าลปีท่ี ๑ อนุบาลปที ่ี ๒ อนุบาลปีท่ี ๓
๓. พระผทู้ รงเป็น - ความมีระเบยี บวินยั - ความวริ ยิ ะอุตสาหะ
แบบอยา่ งด้านความ และความกล้าหาญ ๓. พระผ้ทู รงปลกุ
เมตตา ๓. พระผทู้ รงปลกุ จิตสำนึกในการทำ
- สุนขั ทรงเลยี้ ง จติ สำนึกในการทำ ความดี
- พระเมตตาตอ่ สัตว์ ความดี - โครงการจติ อาสา
เลี้ยง - โครงการจิตอาสา “เราทำความดีดว้ ย
๔. การแสดงความ “เราทำความดีดว้ ย หัวใจ”
จงรักภักดี หวั ใจ” ๔. การแสดงความ
- เพลงสรรเสริญพระ ๔. การแสดงความ จงรกั ภักดี
บารมี จงรักภักดี - การลงนามถวายพระ
- การหยดุ ยนื เมอ่ื ได้ยิน - การถวายความ พร
เพลงสรรเสริญ เคารพ - เพลงสรรเสริญพระ
พระบารมี - เพลงสรรเสรญิ พระ บารมี
๕. พระผูท้ รงปลุกจติ ส บารมี ๕. พระราชกรณียกิจ
านึกในการทำความดี ๕. การแสดงความ
ด้วยหวั ใจ จงรักภักดี
- ทำความดเี พ่ือส่วน
รว่ ม
๑. อ่านภาพกับคำ ๑. พฒั นาการทาง ๑. พฒั นาการทาง
ภาษาและการรูห้ นงั สือ ภาษาและการร้หู นงั สือ
๒. สนทนาเรือ่ ง จาก จากหนังสอื เรื่อง นม
ความสำคญั ของวันแม่ หนังสือเร่อื งแมจ่ า๋ จากเตา้
๓. วันแมแ่ หง่ ชาติ ๑๒ ๒ . ความสำคญั ของวัน ๒. พระราชประวตั ิและ
สิงหาคม แมแ่ ห่งชาติ พระราชกรณียกจิ
๔. สัญลักษณ์วันแม่ ๓.. สัญลกั ษณ์ของวัน สมเดจ็ พระนางเจ้า
๕. การปฏบิ ตั ิตนเปน็ แมแ่ ห่งชาติ สริ กิ ติ ิ์
ลกู ท่ีดีของแม่ ๔. การปฏบิ ตั ิตนต่อแม่ พระบรมราชนิ ีนาถ
๖. จับคภู่ าพเหมอื น แห่งชาติและแม่ของ ในรัชกาลที่ ๙
เรา ๓. ความสำคญั ของวนั
๕. การท าบตั รอวยพร แมแ่ ห่งชาติ
วนั แม่ ๔. สัญลักษณข์ องวนั
๖. การร้อยกำไล กราบ แม่แหง่ ชาติ ดอกไม้
แม่ และธง
๕. การทำความเคารพ
และการปฏบิ ัติตนที่
ถูกต้อง
หลักสูตรสถานศกึ ษาการศกึ ษาปฐมวัย ๕๘
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่(นนททวิ ากรราษฎร์บำรุง)
สัปดาหท์ ่ี ชอ่ื หน่วย สาระที่ควรเรยี นรู้
๑๔ ของเลน่ ของใช้ อนุบาลปที ี่ ๑ อนุบาลปที ่ี ๒ อนุบาลปีท่ี ๓
Toy and
Utensil ตอ่ แม่
๑๕ ชุมชนของเรา ๖. การทำบัตรอวยพร
Our
Community วันแม่
๗. การรอ้ ยกำไล กราบ
แม่
๑. ของใช้ในหอ้ งเรยี น ๑. การแยกของใช้ ๑. การร้จู ักของเลน่
๒. ของเลน่ ใน ส่วนตวั และสว่ นรวม ของใช้
ห้องเรียน ๒. ลกั ษณะของเล่น ๒. การรจู้ กั ของเล่น
๓. การเล่นของเลน่ ของใช้ ของใช้
อยา่ งถูกวธิ ี ๓. การเก็บของเลน่ - การจำแนกและจดั
๔. การเกบ็ ของเลน่ เข้า ของใช้ กล่มุ ของเล่นของ
ท่ี ๔. การปฏบิ ตั ติ นใน ใช้ตามรูปทรง
การเล่น เรขาคณิต
๕. การใชว้ ัสดแุ ละของ ๓. อนั ตรายทเ่ี กิดจาก
เลน่ ของใช้อยา่ ง ของเล่นและวธิ ี
คุม้ คา่ ป้องกันอนั ตราย
๔. อันตรายทเี่ กิดจาก
ของใชแ้ ละวิธี
ป้องกันอันตราย
๕. การเกบ็ รักษาของ
เลน่ ของใช้
๑. ชื่อชุมชนของฉัน ๑. ชอื่ ชมุ ชน/สถานท่ี ๑. ช่ือชมุ ชน
๒. คำขวญั อำเภอไทร สำคัญในชุมชน ๒. คำขวัญอำเภอไทร
น้อย ๒. สถานทที่ ่องเที่ยวใน น้อย
๓. สถานท่ใี นชุมชน ชุมชน ๓. สถานที่ในชมุ ชน
-ตลาดน้ำไทรนอ้ ย -ตลาดนำ้ ไทรน้อย -ตลาดนำ้ ไทรน้อย
-วัดไทรใหญ,่ -วัดไทรใหญ,่ -วดั ไทรใหญ่,
- วัดไทรนอ้ ย - วดั ไทรน้อย - วดั ไทรน้อย
๔ .ประโยชนข์ อง ๓. การปฏิบตั ติ นเป็น - โรงเรยี น
สถานที่ในชุมชนและวธิ ี สมาชกิ ทีด่ ใี นชุมชน - สถานีตำรวจ
ดแู ลรกั ษาความสะอาด ๔. การคดั แยกขยะ - โรงพยาบาลไทรน้อย
๕. การละเลน่ ไทย ๕. อาชพี ในชมุ ชน ๔. ตัวอย่างคนในชุมชน
๖. การเลน่ และทำ ๖. การเลน่ และทำ (ทา่ นกำนันสรุ สีห์ ศรี
กิจกรรมอย่างปลอดภัย กิจกรรมด้วยตนเอง อินทร์สุทธ์ิ)
และกบั ผู้อืน่ ได้อย่าง ๕. การละเลน่ ไทย
ปลอดภัย
หลักสูตรสถานศกึ ษาการศึกษาปฐมวัย ๕๙
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ่(นนททวิ ากรราษฎรบ์ ำรุง)
สปั ดาห์ที่ ชอ่ื หน่วย สาระทค่ี วรเรียนรู้
อนุบาลปีที่ ๒
อนบุ าลปที ่ี ๑ อนบุ าลปีท่ี ๓
๖. อาชพี ของคนใน
ชมุ ชน
- คา้ ขาย
- ประมง
- ท่องเทยี่ ว
๗. การคดั แยกขยะ
๑๖ ตน้ ไม้ที่รัก ๑. สว่ นประกอบของ ๑. ชื่อและ ๑. ชื่อและลกั ษณะของ
Dear plants ตน้ ไม้ สว่ นประกอบของ ตน้ ไม้
๒. ลกั ษณะ ตน้ ไม้ ๒. การจำแนกประเภท
สว่ นประกอบของตน้ ไม้ ๒. รูปรา่ งและลกั ษณะ ของตน้ ไม้
๓. การเจรญิ เตบิ โต ของใบไม้ (ไมด้ อก ไม้ผล ไม้ใบ)
ของตน้ ไม้ ๓. การปลูกต้นไม้ การ ๓. การทดลองการดดู
๔. ประโยชนข์ องต้นไม้ ดูแลตน้ ไม้ นำ้ ของราก
๕. การดูแลต้นไม้ ๔. ประโยชน์ของต้นไม้ และหนา้ ท่ีของราก
๕. การประกอบอาหาร ๔. การบำรงุ ดแู ลรกั ษา
จากพชื ต้นไม้
๕. โทษของการทำลาย
ป่า
๑๗ สตั ว์นา่ รัก สัตว์ปีก สัตว์น้ำ สัตวเ์ ลย้ี ง
Lovely Animals ๑. ลักษณะของสัตว์ปกี ๑. ลักษณะของสตั วน์ ้ำ ๑. ลักษณะของสัตว์
๒. สัตวป์ ีกและแมลงที่ ๒. ประเภทของสตั ว์ เลี้ยง
พบบอ่ ย สตั ว์แต่ละชนิดมรี ูปร่าง ๒. ประเภทของสัตว์
๒.๑ ไก่ ลักษณะ สตั วแ์ ต่ละชนิดมีรูปร่าง
๒.๒ นก และขนาดแตกต่างกนั ลกั ษณะ และขนาด
๒.๓ ผเี สือ้ ๓. สตั ว์แต่ละชนิดมี แตกต่างกนั
๒.๔ แมลงปอ ธรรมชาตคิ วามเป็นอยู่ ๓. อาหาร ท่อี ยขู่ อง
๓. การจับคู่ ทแ่ี ตกตา่ งกนั สัตว์และชว่ งอํายุของ
ภาพเหมือน ๔. การปอ้ งกนั สตั ว์
อันตรายและความ ๔. การปอ้ งกันอนั ตราย
ปลอดภัยจากสตั ว์ และความปลอดภยั
๕. ความเมตตากรุณา จากสัตว์
ต่อสตั ว์จัดกลมุ่ สตั ว์ ๕. ประโยชนข์ องสัตว์
ต่อมนุษย์
๖. ความเมตตากรณุ า
ตอ่ สัตว์
หลักสูตรสถานศกึ ษาการศกึ ษาปฐมวัย ๖๐
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ(่ นนททิวากรราษฎรบ์ ำรุง)
สปั ดาห์ท่ี ช่อื หน่วย อนุบาลปีท่ี ๑ สาระท่ีควรเรียนรู้ อนุบาลปที ่ี ๓
๑๘
หิน ดนิ ทราย ๑. การใช้สง่ิ ของ อนบุ าลปีที่ ๒ ๑. สังเกตลักษณะ ดิน
Soil stone sand เครื่องใช้อยา่ งประหยดั หิน ทรายจากของจริง
และพอเพยี ง ๑. การใชส้ ง่ิ ของ ๒. บนั ทกึ ข้อมูล
๒. การมสี ่วนรว่ มดแู ล เครอื่ งใช้อยา่ งประหยัด ลกั ษณะของดนิ หิน
รกั ษาธรรมชาติและ และพอเพียง ทราย โดยการวาดภาพ
สง่ิ แวดลอ้ ม ๒. การมสี ่วนรว่ มดูแล ๓. เปรียบเทยี บความ
๓. การบอกชื่อ ดนิ หิน รักษาธรรมชาติ แตกตา่ งของ ดนิ หิน
ทราย ๓. สิ่งมีชีวติ และ ทราย(ขนาด สี
๔. ลักษณะ ดิน หนิ สิง่ ไม่มีชีวติ อยดู่ ิน หิน ผิวสัมผัส กลิน่ )
ทรายความเหมือน ทราย ๔. การคดั แยก การจัด
ความแตกต่างของดิน ๔. ประโยชน์ของดิน กลุม่ และการจำแนก
หิน ทราย หนิ ทราย ดนิ หนิ ทราย
๕. เม่ือเทน้ำท่ีขุน่ ลงใน ๕.การปฏบิ ัตติ นในการ ๕. สิง่ มชี ีวติ ทีอ่ ยใู่ นดนิ
เครอ่ื งกรองน้ำจาก หนิ ดแู ลรกั ษาธรรมชาติ หนิ ทราย
ทรายน้ำจะใสขนึ้ รอบตวั เห็นคุณค่าดนิ ๖. สงิ่ ไมม่ ีชีวิตทีอ่ ย่ใู น
๖. ประโยชน์ของดิน หนิ ทรายอยูไ่ ด้ ดิน หิน ทราย
หนิ ทราย นาน ๆ ๗. ประโยชนข์ องดนิ
๗. สง่ิ มีชวี ิตทีอ่ ยู่ในดนิ ๖. ลักษณะ หนิ ทราย
หิน ทราย สว่ นประกอบ ดิน หนิ ๘. เคร่อื งใชท้ ่ที ำจาก
๘. การดูแลรกั ษาดิน ทราย ดนิ หนิ ทราย
หิน ทราย ๙. ปฏบิ ตั ิจริงการใชด้ นิ
หินทรายในการกรอง
น้ำ
๑๐. การดแู ลรกั ษา
ธรรมชาติรอบตวั เห็น
คุณคา่ ดิน หนิ ทรายอยู่
ไดน้ าน ๆ
หลักสตู รสถานศกึ ษาการศกึ ษาปฐมวัย ๖๑
โรงเรียนวดั ไทรใหญ(่ นนททวิ ากรราษฎร์บำรงุ )
หน่วยการจัดประสบการณ์ ภาคเรียนท่ี ๒
สปั ดาห์ท่ี ชือ่ หน่วย สาระที่ควรเรยี นรู้
๑
อนุบาลปที ี่ ๑ อนบุ าลปีท่ี ๒ อนุบาลปที ี่ ๓
๒
รูร้ อบปลอดภัย ๑. การระมดั ระวัง ๑. การระมัดระวัง ๑. การประเมนิ ภัย
Know how to อนั ตรายในโรงเรยี น อันตรายท่ีอาจเกิด รอบตัวเม่ืออยใู่ น
ข้นึ กบั ตวั เองเมื่ออยู่ใน สถานทแี่ ละ
be safe ๒. สิง่ ของเครื่องใชม้ ี โรงเรยี นและบ้านของ สถานการณ์ต่าง ๆ
ประโยชน์มากมาย เรา ๒. ภยั พบิ ตั ติ ่างๆ ไดแ้ ก่
แต่ถ้าเราใช้ผิดวธิ ีและ ๒. ไฟฟ้ามีประโยชน์ อคั คภี ยั วาตภัย
มากมายแตม่ ีอนั ตราย อุทกภัย
ไมร่ ะมัดระวงั กอ็ าจเกิด มากเช่นกัน ๓. การระวงั ภัยอัคคีภัย
อนั ตรายได้ ๓. การปฏิบัตติ วั เม่ือได้ การดูแลช่วยเหลอื
๓. เสยี งสัญญาณ ยินสญั ญาเตือนภัย ตนเองเม่ือมีเหตุไฟไหม้
การช่วยเหลือตนเอง ๔. การสำรวจจดุ
นกหวีด และการ เมื่อเกดิ เหตรุ ้าย อันตรายในโรงเรียน
ปฏบิ ตั ติ าม ๔. การสังเกต และสถานท่ีอน่ื ๆ ท่ี
สัญญาณ สงิ่ แวดลอ้ มรอบตัวที่ เด็กอาศัยอยู่ และการ
เป็นสัญญาเตอื นภยั ปฏิบัติตวั เพ่อื ให้พน้ ภัย
๔. เสยี งสัญญาณเตือน เช่น กลิ่นเหม็นไหม้ ๕. การปฏบิ ัตติ นเพอื่
ภัย เสยี งกระจกแตกเสยี ง ป้องกนั ภยั ท่ีอาจเกดิ ขนึ้
๕. การรจู้ กั สงั เกตส่งิ ดังทีด่ งั มากๆ เป็นตน้ กบั เดก็ เม่อื อยู่ใน
ผดิ ปกติรอบตวั ทำให้ ๕. การปฏิบตั ิตนและ สถานที่สาธารณะ
เราพ้นภัยอนั ตราย ปอ้ งกันภยั ที่อาจ ๖. การสังเกตคนแปลก
๖. การระวังตวั เมือ่ อยู่ เกิดขน้ึ กบั เดก็ เมื่ออยู่ หน้า การดูแลตัวเอง
ในท่ีสาธารณะ ในสถานทส่ี าธารณะ เม่ืออย่หู า่ งผูป้ กครอง
การชว่ ยเหลือตนเอง
๑. ความเป็นมาและ ๑. ความเป็นมาและ
เมอ่ื พลัดหลงกับพ่อแม่ ความสำคัญของวนั ความสำคัญของ
ลอยกระทง ประเพณลี อยกระทง
วันลอยกระทง ๑. ความเป็นมาและ ๒. กจิ กรรมในวนั ลอย ๒. กลบี และฐานกระทง
Loy Krathong ความสำคญั ของ กระทง ๓. การจม - ลอยโดย
ประเพณีลอยกระทง ๓.การดูแลรกั ษา การทดลองหาจำนวน
๒. การดูแลรกั ษา สงิ่ แวดล้อมในแม่น้ำ กลีบกระทงที่มากทส่ี ุด
สง่ิ แวดล้อมในแมน่ ำ้ ๔.ส่วนประกอบของ ทกี่ ระทงไม่จม
๓. วัตถบุ างชนิดลอย กระทง ๔. การดูแลรักษา
นำ้ ได้และบางชนิด ๕. ลกั ษณะรูปร่างฐาน ธรรมชาติและ
จมน้ำ กระทง สิ่งแวดลอ้ มในแม่น้ำ
๔. วสั ดทุ ี่ใช้ทำฐาน
กระทงให้ลอยนำ้ ได้
หลกั สูตรสถานศกึ ษาการศกึ ษาปฐมวัย ๖๒
โรงเรียนวดั ไทรใหญ(่ นนททิวากรราษฎร์บำรุง)
สัปดาหท์ ่ี ช่ือหน่วย สาระทค่ี วรเรียนรู้
๓ กลางวัน กลางคืน
Day & night อนุบาลปที ี่ ๑ อนบุ าลปีท่ี ๒ อนบุ าลปที ่ี ๓
๔ ค่านยิ มไทย ๖. รปู รา่ ง ขนาด พ้นื ที่
Thai values
ของฐานกระทงทีม่ ผี ล
ต่อการจมการลอย
๑. ความแตกตา่ ง ๑. ลกั ษณะของดวง ๑. ความแตกตา่ งของ
ระหวา่ งกลางวัน อาทิตย์ เวลากลางวนั -กลางคืน
กลางคนื ๒. ลกั ษณะของดวง ๒. ลักษณะของดวง
๒. ลกั ษณะของดวง จนั ทร์ อาทิตย์ ดวงจันทร์
อาทติ ย์ ๓. ความแตกต่าง ดวงดาว
๓. ลกั ษณะของดวง ระหวา่ งกลางวนั และ ๓. การปฏบิ ัติกจิ วตั ร
จันทร์ กลางคืน ประจำวันตามหน้าที่
๔. การปฏบิ ัติกจิ วตั ร ๔. การปฏิบัตกิ จิ วัตร ความรบั ผดิ ชอบ
ประจำวัน ประจำวันในเวลา ๔. ความสัมพนั ธ์ของ
๕. สัตวท์ ่ีหากนิ ในเวลา กลางวนั และกลางคนื คน พืช สัตว์ และ
กลางวันและกลางคนื ๕. สตั ว์ทอี่ อกหากนิ ใน การเจรญิ เตบิ โตของพชื
เวลากลางวนั และ ๕. สัตวท์ ี่ออกหากินใน
กลางคนื เวลากลางคนื และสัตว์
มีพิษ
๑. ฉันเป็นคนไทย ๑. ฉนั เป็นคนไทย ๑. ฉนั เปน็ คนไทย
๒. ฉนั ภูมใิ จในความ ๒. ฉันภมู ใิ จในความ ๒. ฉันภมู ใิ จในความ
เป็นไทยที่มวี ันสำคญั เปน็ ไทยที่มีวนั สำคญั เป็นไทยที่มวี ันสำคญั
ของชาติ ศาสนาและ ของชาติ ศาสนาและ ของชาติ
พระมหากษัตรยิ ์ พระมหากษัตริย์ ศาสนาและ
๓. คนไทยใช้ภาษาไทย ๓. คนไทยใชภ้ าษาไทย พระมหากษัตรยิ ์
๔. คนไทยมีมารยาทดี เป็นภาษาประจำชาติ ๓. คนไทยใช้ภาษาไทย
๕. คนไทยมีความ มีวัฒนธรรมประเพณี เป็นภาษาประจำชาติ
กตญั ญู ประจำชาตแิ ละทอ้ งถนิ่ มีวัฒนธรรมประเพณี
๔. คนไทยมีมารยาทดี ประจำชาติและทอ้ งถนิ่
มคี วามซื่อสตั ย์ มวี นิ ยั ๔. คนไทยมมี ารยาทดี
มีความกตัญญู มคี วามซ่ือสตั ย์ / มี
นำ้ ใจ /มีวินยั มีความ
กตัญญู
๕. คนไทยสว่ นมากนับ
ถอื ศาสนาพุทธ
พระมหากษัตรยิ ไ์ ทย
ทรงอปุ ถัมภท์ ุกศาสนา
ในประเทศไทย ศาสนา
หลักสตู รสถานศกึ ษาการศกึ ษาปฐมวัย ๖๓
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ่(นนททวิ ากรราษฎร์บำรงุ )
สปั ดาหท์ ่ี ชอ่ื หน่วย สาระทคี่ วรเรียนรู้
๕ วนั ชาติ
National Day อนบุ าลปที ี่ ๑ อนบุ าลปที ่ี ๒ อนุบาลปที ่ี ๓
๖ เศรษฐกิจพอเพียง ทกุ ศาสนาสอนใหท้ ุก
Sufficiency
economy คนเปน็ คนดี
๑. วันชาตขิ องประเทศ ๑. วันชาติของประเทศ ๑. วนั ชาตขิ องประเทศ
ไทยตรงกบั วันที่ ๕ ไทยตรงกบั วันที่ ๕ ไทยตรงกบั วนั ที่ ๕
ธนั วาคมของทกุ ปีซึง่ ธนั วาคมของทกุ ปีซึง่ ธนั วาคมของทกุ ปีซง่ึ
เป็นวันพระบรมราช เป็นวันพระบรมราช เป็นวันพระบรมราช
สมภพ(วันเกดิ )ของ สมภพ(วนั เกดิ )ของ สมภพ(วนั เกิด)ของ
พระบาทสมเด็จพระ พระบาทสมเดจ็ พระ พระบาทสมเดจ็ พระ
เจ้าอยหู่ ัวรชั กาลท่ี ๙ เจา้ อยู่หัวรชั กาลที่ ๙ เจ้าอยหู่ วั รัชกาลท่ี ๙
๒. วนั ท่ี ๕ ธนั วาคมถอื ๒. วันที่ ๕ ธนั วาคมถอื ๒. วันท่ี ๕ ธันวาคมถือ
เปน็ วันพ่อแหง่ ชาติ เป็นวนั พอ่ แหง่ ชาติ เปน็ วนั พ่อแห่งชาติ
เน่อื งจาก เนือ่ งจาก เนื่องจาก
พระบาทสมเดจ็ พระ พระบาทสมเดจ็ พระ พระบาทสมเดจ็ พระ
เจ้าอยหู่ วั เจา้ อยหู่ วั เจา้ อยู่หัว
รัชกาลที่ ๙ ทรงเปน็ ผู้ รัชกาลท่ี ๙ ทรงเป็นผู้ รชั กาลที่ ๙ ทรงเป็นผูม้ ี
มพี ระคณุ แกช่ าติ มีพระคณุ แกช่ าติ พระคุณแก่ชาติ
เปรยี บเสมอื นพ่อของ เปรียบเสมอื นพ่อของ เปรยี บเสมอื นพ่อของ
ชาวไทยทกุ คน ชาวไทยทุกคน ชาวไทยทกุ คน
๓. ความสำคัญของวนั ๓. ความสำคัญของวัน
ชาติและพระคุณพ่อ ชาติและพระคุณพ่อ
๔. ความกตัญญตู ่อผมู้ ี ๔. ความกตญั ญตู ่อผมู้ ี
พระคุณ พระคุณ
๕. การรกั ษา ๕. พระราชกรณียกิจที่
สิ่งแวดลอ้ มในชมุ ชน สำคญั
๖. การรักษา
สิ่งแวดลอ้ มในชุมชน
๑. ความร้เู ร่ืองหลกั ๑. ความรเู้ ร่อื งหลกั ๑. ความรเู้ รอ่ื งหลกั
ปรชั ญาของเศรษฐกจิ ปรชั ญาของเศรษฐกจิ ปรชั ญาของเศรษฐกจิ
พอเพยี งระดับปฐมวยั พอเพยี งระดบั ปฐมวัย พอเพยี งระดับปฐมวยั
๒. การปฏบิ ัตติ ามหลกั ๒. การปฏิบัตติ ามหลัก ๒. การปฏบิ ัติตามหลกั
ปรชั ญาของ ปรัชญาของเศรษฐกจิ ปรัชญาของเศรษฐกิจ
เศรษฐกจิ พอเพียงท่ี พอเพยี งทเ่ี หมาะสมกับ พอเพียงที่เหมาะสมกบั
เหมาะสมกบั เดก็ เด็กปฐมวยั เดก็ ปฐมวยั
ปฐมวยั - การประหยัดอดออม - การประหยัดอดออม
- การประหยัดอดออม - การใชส้ ิง่ ของ - การใชส้ ิ่งของ
เคร่อื งใช้ น้ำ/ไฟ เครือ่ งใช้ นำ้ /ไฟ
หลักสตู รสถานศึกษาการศกึ ษาปฐมวัย ๖๔
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่(นนททวิ ากรราษฎร์บำรงุ )
สปั ดาหท์ ่ี ช่อื หน่วย อนุบาลปที ่ี ๑ สาระท่คี วรเรียนรู้ อนุบาลปที ่ี ๓
- การใชส้ งิ่ ของ อนบุ าลปีท่ี ๒
๗ การคมนาคม เครือ่ งใช้ นำ้ /ไฟ อย่างประหยัด
๘ อยา่ งประหยดั อยา่ งประหยดั - การแต่งตวั ด้วย
เทคโนโลยแี ละการ - การแต่งตวั ด้วย - การแตง่ ตัวดว้ ย ตนเอง
ส่อื สาร ตนเอง ตนเอง - การรับประทาน
Technology - การรับประทาน - การรบั ประทาน อาหารและดื่มนม
and อาหารและดืม่ นม อาหารและดื่มนม ใหห้ มดไม่เหลือท้งิ
communication ใหห้ มดไม่เหลือทิ้ง ให้หมดไม่เหลอื ทงิ้ ๓. การเก็บของเลน่ ของ
๓. การเก็บของเลน่ ๓. การเก็บของเลน่ ใช้เขา้ ท่ีด้วยตนเอง
ของใช้เขา้ ท่ดี ้วยตนเอง ของใชเ้ ขา้ ท่ีด้วยตนเอง ๔. การเขา้ แถว
๔. การเขา้ แถว ๔. การเข้าแถวตามล้า ตามลำดบั ก่อนหลงั
ดบั กอ่ นหลงั ๕. การรู้จกั เลือกอยา่ ง
๑. ความหมายของการ ๕. การรู้จักเลือกอย่าง มเี หตผุ ล
คมนาคม มเี หตผุ ล - การปลกู ผกั รัก
๒. การเดินทางทางบก - การปลกู ผักรกั สขุ ภาพ
๓. การเดนิ ทางทางน้ำ สุขภาพ - การเลอื กซ้ืออาหารที่
๔. การเดนิ ทางทาง มีประโยชน์
อากาศ ๑. ความสำคัญของ
๕. ข้อควรปฎิบตั ิตนใน ยานพาหนะ ๑. ความหมายและ
การข้ามถนน ๒. ยานพาหนะทางบก ประโยชนข์ อง
๓. ยานพาหนะทางน้ำ ยานพาหนะ
๑. การสอ่ื สารโดยใช้ ๔. ยานพาหนะทาง ๒. การปฏิบัตติ นเม่อื
การพดู และการฟัง อากาศ เดนิ ทางด้วยรถและ
๒. การสอ่ื สารโดยใช้ ๕. การปฎิบตั ติ นตาม รถไฟ
โทรโขง่ กฎจราจร ๓. การปฏบิ ตั ิตนเมื่อ
๓. หน้าทข่ี องโทรโขง่ เดนิ ทางทางนำ้
๔. การทดสอบความ ๑. การสือ่ สารทาง ๔. การปฎิบัติตนเมอื่
ดังของโทรโข่ง โทรศัพท์ ขึ้นสะพานลอย
ประดิษฐ์จากกระดาษ ๒. การเดินทางของ ๕. การปฎิบตั ิตนเมอื่
เสียงผา่ นโทรศพั ท์ ข้ามทางม้าลาย
๓. การประดิษฐ์
โทรศัพท์ตามวิธีการ ๑.ชนิดของจดหมาย
ข้อสงสยั ของตนเอง ๒. ลกั ษณะของ
จดหมาย
๓. หน้าทขี่ องบรุ ษุ
ไปรษณยี ์
๔. การเดินทางของ
จดหมาย
หลกั สูตรสถานศกึ ษาการศกึ ษาปฐมวัย ๖๕
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่(นนททิวากรราษฎร์บำรุง)
สปั ดาหท์ ่ี ชอื่ หน่วย สาระทค่ี วรเรียนรู้
๙ วันข้ึนปใี หม่ อนบุ าลปที ี่ ๑ อนุบาลปีที่ ๒ อนบุ าลปที ี่ ๓
New Year Day
โดยเปรียบเทียบ ขนาด เพอื่ หาคำตอบจากวัสดุ ๕. ข้ันตอนการส่ง
๑๐ วันเด็ก-วันครู
ความยาว ทีก่ ำหนดให้ จดหมาย
Children Day
and Teacher ๕. การทำงานของโทร ๔. การทดสอบการได้ ๖. การส่ือสารทางอื่นๆ
Day
โข่ง ยินเสยี งของโทรศัพท์ ไดแ้ ก่ วทิ ยุ โทรทัศน์
๑๑ สนกุ กบั ตวั เลข
๖. เครอื่ งมือสื่อสาร กระดาษที่ประดษิ ฐ์
ชนิดต่างๆ จากกรวยทมี่ ีขนาด,
รปู ร่าง,ความยาวของ
เชือกต่างกัน
๕. การส่อื สารทางอ่ืนๆ
ได้แก่ วทิ ยุ โทรทัศน์
๑. ประวัตคิ วามเป็นมา ๑. ประวตั ิความเป็นมา ๑. ประวัตคิ วามเป็นมา
ของวันขึน้ ปีใหม่ ของวนั ขึน้ ปีใหม่ ของวนั ขึน้ ปีใหม่
๒. ประเพณีในวันขึ้นปี ๒. ประเพณีในวนั ขึ้นปี ๒. ประเพณใี นวนั ขึน้ ปี
ใหม่ ใหม่ ใหม่
๓. การปฏิบัติตนในวัน ๓. การปฏบิ ัตติ นในวนั ๓. ความสำคัญของการ
ข้ึนปีใหม่ ขน้ึ ปใี หม่ อวยพรให้ผอู้ ่ืน
๔. ความสำคญั ของการ ๔. ความสำคญั ของ ๔. กจิ กรรมที่มีในงาน
อวยพรใหผ้ ู้อื่น การอวยพรให้ผู้อ่ืน เลยี้ งปใี หม่
๕. ขอ้ ควรปฏบิ ตั ใิ น ๕. ข้อควรปฏบิ ตั ิใน ๕. การปฏบิ ัตติ นในวนั
การจัดงานวนั ขน้ึ ปใี หม่ การจัดงานวนั ข้ึนปใี หม่ ข้ึนปีใหม่
๖. ข้อควรปฏบิ ัตใิ นงาน
เลี้ยงปใี หม่
๑. ความสำคัญของวัน ๑. ความสำคัญของวนั ๑. ความสำคญั ของวัน
เด็ก เด็ก เด็ก
๒. หนา้ ทข่ี องเด็ก ๒. หน้าท่ขี องเด็ก ๒. คำขวัญวันเดก็
๓. วันเสาร์ท่ี ๒ ของ ๓. วนั เสาร์ท่ี ๒ ของ ประจำปี
เดือนมกราคมของทกุ ปี เดอื นมกราคมของทุกปี ๓. หนา้ ท่ีของเด็ก
ถือเป็นวนั เดก็ แหง่ ชาติ ถอื เปน็ วนั เดก็ แห่งชาติ ๔. ความสำคัญของวนั
๔. ความสำคัญของวัน ๔. ความสำคัญของวนั ครู
ครู ครู ๕. ความกตัญญูต่อผู้มี
๕. หนา้ ทข่ี องเด็กที่ ๕. หน้าท่ีของเด็กท่ี พระคณุ การปฏิบัติตอ่
ปฏิบัตติ อ่ ครู ปฏิบัตติ อ่ ครู ครูและผู้ใหญ่อย่างมี
สมั มาคารวะ
๑.การนบั จำนวน ๑.การนบั จำนวน ๑.การนบั จำนวน
๒.รูจ้ ักตัวเลขและแสดง ๒.การรวมส่งิ ตา่ งๆสอง ๒.การรวมสงิ่ ตา่ งๆสอง
จำนวนสิ่งของ กล่มุ กล่มุ
หลกั สตู รสถานศกึ ษาการศึกษาปฐมวัย ๖๖
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ่(นนททวิ ากรราษฎรบ์ ำรุง)
สัปดาห์ท่ี ชือ่ หน่วย สาระทค่ี วรเรียนรู้
อนบุ าลปีท่ี ๑ อนบุ าลปที ี่ ๒ อนุบาลปที ี่ ๓
Fun with the ๓.การเปรยี บเทียบ ๓.การแยกกลุม่ ย่อย ๓.การแยกกลมุ่ ย่อย
numbers จำนวนของสงิ่ ตา่ งๆ ๔.การเปรยี บเทยี บ ๔.การเปรียบเทียบ
๔.การรวมสิง่ ตา่ งๆสอง จำนวน จำนวน
กลุ่ม ๕.การเรยี งลำดบั ดบั ๕.การเรยี งลำดับดับ
๕.การแยกกลุ่มย่อย
๑๒ ขนาด รปู รา่ ง ๑. ลกั ษณะวสั ดทุ รง ๑. ลักษณะวสั ดุทรง ๑. ลักษณะวัสดุทรง
กลม สี่เหล่ียม สามเหลย่ี ม
รูปทรง ๒. วัสดุทรงกลม
๒. วสั ดทุ รงสี่เหลยี่ ม ๒. วสั ดุทรงสามเหล่ยี ม
รอบตวั เรา รอบตัวเรา รอบตวั เรา
๓. เปรยี บเทยี บขนาด ๓. เปรียบเทยี บความ ๓. เปรียบเทียบความ
ของวัสดุทรงกลม เหมือน ความต่าง เหมอื น ความต่าง
๔. จำแนกวสั ดุทรง ของวัสดุทรงกลมและ ของวสั ดทุ รงกลม ทรง
กลมกับวสั ดวุ งกลม ทรงสี่เหลี่ยม ส่เี หลี่ยมและทรง
๕. ประโยชน์ของ ๔. จำแนกวัสดทุ รง สามเหลีย่ ม
รูปทรงกลมและรปู กลม ทรงส่ีเหลี่ยม ๔. จำแนกวสั ดทุ รง
วงกลม และรูปวงกลม รปู กลม ทรงสีเ่ หลย่ี ม
สเี่ หลย่ี ม ทรงสามเหลีย่ ม และ
๕. ประโยชน์ของทรง รูปวงกลมรูปสเี่ หลย่ี ม
สเ่ี หลี่ยม รปู สามเหลย่ี ม
๕. ประโยชน์ของทรง
สามเหลยี่ ม
๑๓ โลกสวยดว้ ยสสี นั ๑. สีธรรมชาตริ อบตัว ๑. ประเภทของสี ๑. แม่สแี ละการผสมสี
Beautiful world ๒. สธี รรมชาติมาจาก - สีจากธรรมชาติ จากแมส่ ี
ไหน - สที ม่ี นษุ ย์สรา้ งข้นึ ๒. สีผสมขัน้ ที่ ๓
with color ๓. สที ีม่ นุษยส์ ร้างขนึ้ ๒. แม่สี และการผสมสี ๓. ความลับของสดี ำ
(แมส่ ี ๓ ส)ี ๓. สีแทนสัญลกั ษณ์ (สี ๔. การทำสีผสมอาหาร
๔. ประโยชนข์ องสี ของธงชาติไทย) จากพชื
๕. การทา้ น้ำใบเตย ๔. สที ไี่ ดจ้ ากพืชผัก ๕. การทำหวานเย็น
ผลไม้ จากสีธรรมชาติ
๕. การทำวุน้ สีจากสี
ธรรมชาติ
๑๔ ฤดหู นาว ๑. ฤดกู าลต่าง ๆ ใน ๑. ฤดูกาล ๓ ฤดู ฤดู ๑. ฤดูกาล ๓ ฤดู ฤดู
Winter ประเทศไทย ๓ ฤดู ร้อน ฤดฝู น ฤดหู นาว ร้อน ฤดฝู น ฤดหู นาว
ฤดรู อ้ น ฤดูฝน ฤดู ลกั ษณะทวั่ ไปของฤดู ช่วงเดอื นท่เี กิดฤดูกาล
หนาว หนาว ตา่ ง ๆ ในรอบปี การ
เกดิ ฤดูกาล
หลักสูตรสถานศกึ ษาการศกึ ษาปฐมวัย ๖๗
โรงเรียนวดั ไทรใหญ(่ นนททิวากรราษฎร์บำรุง)
สปั ดาหท์ ี่ ช่อื หน่วย อนบุ าลปีที่ ๑ สาระที่ควรเรียนรู้ อนบุ าลปที ่ี ๓
๑๕ ๒. สภาพอากาศในฤดู อนบุ าลปีท่ี ๒
แรงและพลงั งาน หนาว การปอ้ งกนั ๒. สภาพอากาศในต่าง
ในชีวติ ประจำวัน อากาศหนาวเย็น ๒. สภาพอากาศในฤดู ๆ และปรากฏการณ์ท่ี
๓. สภาพภูมิอากาศใน หนาว ลมหนาว การ เกดิ ข้ึนในฤดูหนาว
Force and ฤดหู นาวแห้ง ลมแรง เกดิ ลม ๓. แรงลมและการ
Energy การทดลอง ไฟฟา้ สถิต ๓. อากาศร้อน อากาศ เคลอ่ื นท่ีของลม
๔. การดูแลสุขภาพ เย็น การเคล่อื นตัวของ กระแสลม
ร่างกายในฤดูหนาว อากาศ ๔. การรกั ษาสขุ ภาพ
๕. ความแตกตา่ งของ ๔. การรักษาสุขภาพ ของตนเองในฤดหู นาว
ฤดูหนาวในแต่ละ ของตนเองในฤดหู นาว วธิ ีการทำใหร้ ่างกาย
ภมู ิภาคของประเทศ ๕. การเปลีย่ นแปลง อบอุ่นในฤดหู นาว
ไทย ของสภาพแวดล้อมใน ๕. สภาพแวดล้อม
ฤดหู นาว พืช ผัก ผลไม้ รอบตัวในภมู ิภาคต่างๆ
๑. เม่อื ฉนั ออกแรง ในฤดหู นาว ของประเทศเรา และ
กระท ำต่อสงิ่ ของดว้ ย ของโลก
วิธีต่าง ๆ เชน่ ผลัก ๑. ในชีวิตประจำวันมี
ดึง/บีบ ทุบ ต/ี เป่า การออกแรงกระทำส่ิง ๑. แรงมีผลทำให้สง่ิ
เขยา่ ดดี สิ่งของจะมี ตำ่ ง ๆ ด้วยวิธีการที่ ตา่ งๆเปลีย่ นแปลง
การเปลย่ี นแปลง หากหาย รปู รา่ งและการ
รูปร่างการเคลื่อนที่ ๒. แรงมีผลทำใหส้ ง่ิ เคลือ่ นท่ี
และการเกดิ เสยี งแบบ ตา่ ง ๆเปล่ียนแปลง ๒ น้ำมนั แก๊ส
ตา่ งๆ รปู ร่าง และการ ธรรมชาติ ลม ไฟฟ้า
๒.แสง และไฟฟ้าได้ เคลื่อนท่ี คนหรือสตั ว์ ทำให้
จำกแหลง่ พลังงำน เช่น ๓. แสงและไฟฟ้าไดม้ า ยานพาหนะต่าง ๆ
ดวงอาทติ ย์ ลม นำ้ จากแหลง่ พลังงาน เชน่ เคล่ือนท่ีได้
เชือ้ เพลงิ ดวงอาทติ ย์ ลม น้ำ ๓. ไฟฟ้าทำให้สงิ่ ของ
เชือ้ เพลงิ เครอ่ื งใชบ้ างอย่าง
๔. แสงช่วยใหเ้ รา ทำงาน ได้ ช่วยอำนวย
มองเห็น เมื่อมีสง่ิ ต่างๆ ความสะดวกใน
ไปบัง แสงจะเกิดเงา ชวี ติ ประจำวัน
๕. ไฟฟ้าทำใหส้ ่ิงของ ๔ สงิ่ ของเคร่ืองใช้ที่ใช้
เครือ่ งใชบ้ างอย่าง พลงั งานไฟฟ้าแตล่ ะ
ทำงาน ได้ ชนิด มีวธิ ีการใช้
แตกต่างกนั ต้องใชใ้ ห้
ถูกวธิ ีเพอ่ื ไมใ่ หเ้ กิด
อนั ตรายและเปน็ การ
ประหยัด พลังงาน
หลักสตู รสถานศึกษาการศกึ ษาปฐมวัย ๖๘
โรงเรียนวดั ไทรใหญ(่ นนททิวากรราษฎร์บำรุง)
สปั ดาหท์ ่ี ชอ่ื หน่วย สาระทีค่ วรเรยี นรู้
๑๖ เสียงรอบตวั อนบุ าลปีท่ี ๑ อนุบาลปที ี่ ๒ อนุบาลปที ี่ ๓
๑. เสียงเกิดจากการสั่น
Voice around ๑. เสียงเกดิ จากการสนั่ ๑. เสียงเกดิ จากการ ของสง่ิ ตา่ ง ๆ
us ๒. เสยี งทเ่ี กิดจาก
ของสิ่งต่าง ๆ สั่นของส่งิ ต่าง ๆ แหลง่ ทมี่ าของเสยี ง
๑๗ ปริมาตรนำ้ หนกั แตกตา่ งกนั จะไม่
๒. เสยี งที่เกดิ จาก ๒. เสียงท่เี กดิ จาก เหมอื นกนั
Weight ๓. การมสี มาธิในการ
แหลง่ ทม่ี าของเสียง แหล่งที่มาของเสยี ง ฟังเสียง
- จำแนกทิศทางของ
แตกต่างกัน เสยี งจะไม่ แตกต่างกนั จะไม่ เสยี ง
- เสียงจากเครือ่ งดนตรี
เหมอื นกนั เหมือนกัน และจากเคร่ืองมอื
ตา่ ง ๆ
๓. เสยี งรอบตวั ทเี่ กิด ๓. การมสี มาธใิ นการ ๔. การสำรวจเสยี งจาก
วตั ถุต่าง ๆ (กระดาษ
จากธรรมชาติ ฟังเสียง แกว้ ไม้ โลหะ)
๕. การดูแลรกั ษาหู
๔. เสียงที่ไมไ่ ด้เกิดตาม - การแยกเสียงดงั - การปอ้ งกนั อนั ตราย
จากเสยี งดงั
ธรรมชาติ เสยี งเบา - มารยาทในการใช้
เสียง
๕. หู เปน็ อวัยวะรับ - วัตถุตา่ งกนั ท าให้
๑. ปริมาตรของที่อยู่ใน
เสียง เกิดเสียงต่างกัน ภาชนะตา่ งกนั
๒. การตวงโดยใช้
- การดแู ลรักษา ๔. เสยี งสื่อสัญญาณ เครื่องมอื และหนว่ ยท่ี
ไมใ่ ช่หนว่ ยมาตรฐาน
- การป้องกันอันตราย สำคญั ต่าง ๆ เช่น ๓. การคาดคะเน
น้ำหนักของสิง่ ของ
จากเสยี งดงั เสยี งไซเรนของ ๔. น้ำหนกั ของสง่ิ ของ
ทใ่ี สใ่ นน้ำมี
รถพยาบาล เสยี ง ความสมั พันธก์ ับ
ปริมาตรของน้ำที่ล้น
นาฬกิ าปลุก ออกมา
เสียงกร่ิงประตู
๕. การดูแลรกั ษาหู
- การปอ้ งกนั อันตราย
จากเสยี งดัง
- มารยาทในการใช้
เสียง
๑. ปริมาตรของน้ำ ๑. ปริมาตรของสง่ิ
๒. การเปรียบเทียบ ต่างๆ
ปริมาตรของน้ำ ๒. การเปรียบเทยี บ
ในภาชนะทข่ี นาด ปรมิ าตรของส่งิ ต่างๆ
เท่ากัน ในภาชนะที่ขนาด
๓. เสียงทเ่ี กดิ จากขวด แตกต่างกัน
น้ำท่มี ี ปริมาตร ๓. เสียงที่เกดิ จากขวด
แตกต่าง น้ำท่ีมีปริมาตร
๔. การคาดคะเน แตกต่างกนั
นำ้ หนกั ของสงิ่ ต่างๆ ๔. การเรยี นรู้เร่อื ง
ดว้ ยมอื นำ้ หนกั
๕. การเปรียบเทยี บ ๕. การเปรียบเทยี บ
น้ำหนกั ส่งิ ของตา่ งๆ นำ้ หนักของส่ิงต่างๆ
หลักสตู รสถานศกึ ษาการศกึ ษาปฐมวัย ๖๙
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่(นนททวิ ากรราษฎร์บำรุง)
สปั ดาห์ที่ ช่อื หน่วย อนุบาลปที ่ี ๑ สาระทคี่ วรเรียนรู้ อนบุ าลปีท่ี ๓
โดยใชค้ ำวา่ หนกั กวา่ อนุบาลปที ่ี ๒
๑๘ รักการอา่ น เบากว่าเท่ากนั ๕. การช่ังโดยใช้
๑. ความร้พู ื้นฐาน เครอ่ื งมอื และหนว่ ยท่ี
Love Reading ๑. ความรู้พ้ืนฐาน เกย่ี วกบั หนังสอื และ ไม่ใช่หนว่ ยมาตรฐาน
เก่ียวกับหนงั สือและ ตวั หนังสือ จากหนงั สอื
ตัวหนังสือ ภาพ ๑. ความรพู้ ้ืนฐานเก่ียว
๒. หนงั สอื เปน็ สอื่ ๒. การอ่านหนังสือ หนงั สือและตวั หนังสือ
สำหรบั เล่าเรอ่ื งราว นทิ านโดยใช้การอา่ น จากหนงั สอื นทิ าน
ตา่ งๆ ร่วมกัน ๒. การอ่านหนังสือ
๓. การอา่ นทำให้ไดร้ ู้ ๓. การอ่านแบบชี้แนะ นทิ านโดยใช้การอา่ น
เร่ืองตา่ งๆ และเกิด ๔. การอ่านอิสระ ร่วมกนั
ความ ๕. การทำหนังสือ ๓. การอา่ นแบบช้ีแนะ
สนุกสนาน นิทาน ๔ ช่อง ๔. การอ่านอสิ ระ
๔. การเลา่ ข่าวและ ๕. การเล่นเกมทาง
เหตกุ ารณป์ ระจำวัน ภาษาและกิจกรรมรัก
๕. การเล่าเร่ือง การอา่ น
ยอ้ นกลับจากหนังสือท่ี ๖. การทำหนงั สอื เลม่
อ่านรว่ มกัน เลก็
หลกั สตู รสถานศึกษาการศกึ ษาปฐมวัย ๗๐
โรงเรียนวดั ไทรใหญ(่ นนททวิ ากรราษฎรบ์ ำรุง)
กากราจรัดจดัปปรระะสสบบกการาณร์ ณ์
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่ (นนททิวากรราฎร์บำรงุ ) จัดประสบการณ์สำหรับเดก็ ปฐมวัยอายุ 3 – 6 ปี เป็น
การจัดกจิ กรรมในลักษณะการบูรณาการผ่านการเลน่ การลงมอื ทำจากประสบการณ์ตรงอยา่ งหลากหลาย เกิด
ความรู้ ทักษะ คุณธรรม จริยธรรม รวมทั้งเกิดการพัฒนาทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใต สังคม และสติปัญญา
ไมจ่ ดั เปน็ รายวชิ าโดยมีหลกั การและแนวทางกาจดั ประสบการณ์ ดังนี้
1. หลักการจัดประสบการณ์
1.1 จัดประสบการณ์การเล่นและการเรียนรู้หลากหลายลักษณะ เพื่อพัฒนาเด็กโดยองค์รวมอย่าง
ต่อเนือ่ ง
1.2 เน้นเด็กเป็นสำคัญ สนองความต้องการ ความสนใจ ความแตกต่างระหวา่ งบคุ คลและบริบทของ
สงั คมทเ่ี ดก็ อาศัยอยู่
1.3 จัดให้เด็กได้รับการพัฒนา โดยให้ความสำคัญทั้งด้านกระบวนการเรียนรู้และผลผลิตของการ
เรียนรู้
1.4 ให้พ่อแม่ ครอบครัว ชุมชนและทุกฝ่ายทเี่ กี่ยวข้องมีสว่ นร่วมในการพฒั นาเดก็
2. แนวทางจดั ประสบการณ์
๑. จัดประสบการณ์การเล่นและการเรียนรู้หลากหลายลักษณะ เพื่อพัฒนาเด็กโดยองค์รวมอย่าง
ตอ่ เนื่อง
๒. เน้นเด็กเป็นสำคัญ สนองความต้องการ ความสนใจ ความแตกต่างระหว่างบุคคลและบริบทของ
สงั คมท่เี ด็กอาศัยอยู่
๓. จดั ให้เดก็ ไดร้ ับการพฒั นา โดยให้ความสำคัญทัง้ ด้านกระบวนการเรียนรู้และผลผลิตของการเรยี นรู้
๔. จัดการประเมินพัฒนาการให้เป็นกระบวนการอย่างต่อเนื่อง และเป็นส่วนหนึ่งของการจัด
ประสบการณ์ พร้อมทงั้ นำผลการประเมินมาพฒั นาเดก็ อย่างต่อเนื่อง
๕. ให้ผปู้ กครองและชมุ ชนมีส่วนร่วมในการพฒั นาเด็ก
ในการจัดประสบการณ์สำหรับเดก็ ปฐมวัย โรงเรียนวัดไทรใหญ่ (นนททิวากรราษฎร์บำรุง)มีแนวทาง
ดำเนินการจดั ประสบการณ์ดงั น้ี
๑. จัดประสบการณ์ให้สอดคล้องกับจติ วิทยาพฒั นาการและการทำงานของสมองทเ่ี หมาะสมกับอายุ
วุฒภิ าวะและระดบั พฒั นาการ เพ่ือใหเ้ ด็กทกุ คนไดพ้ ฒั นาเตม็ ตามศักยภาพ
๒. จัดประสบการณ์ให้สอดคล้องกับแบบการเรียนรู้ของเด็ก โดยเด็กได้ลงมือกระทำ เรียนรู้ผ่าน
ประสาทสมั ผสั ท้ังห้า ได้เคลอ่ื นไหว สำรวจ เล่น สงั เกต สืบค้น ทดลอง และคดิ แก้ปญั หาด้วยตนเอง
๓. จัดประสบการณ์แบบบูรณาการ โดยบูรณาการทั้งกิจกรรม ทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษที่เหมาะสม
กบั วัย และสาระการเรยี นรู้
๔. จดั ประสบการณ์ให้เด็กได้ริเร่ิมคิด วางแผน ตัดสนิ ใจลงมือกระทำและนำเสนอความคิดโดยครูหรือผู้
จดั ประสบการณ์เป็นผู้สนับสนนุ อำนวยความสะดวก และเรยี นรรู้ ่วมกบั เดก็
หลักสตู รสถานศึกษาการศกึ ษาปฐมวัย ๗๑
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่(นนททวิ ากรราษฎร์บำรงุ )
๕. จัดประสบการณ์ให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับเด็กอื่นกับผู้ใหญ่ ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้
ในบรรยากาศท่ีอบอุ่นมคี วามสุขและเรียนรู้การทำกจิ กรรมแบบร่วมมือในลกั ษณะต่างๆกนั
๖. จัดประสบการณ์ให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับสื่อและแหล่งการเรียนรู้ที่หลากหลายและอยู่ในวิถีชีวิต
ของเด็ก
๗. จัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมลักษณะนิสัยที่ดีและทักษะการใช้ชีวิตประจำวันตลอดจนสอดแทรก
คุณธรรมจริยธรรมใหเ้ ป็นส่วนหน่ึงของการจัดประสบการณ์การเรียนรู้อยา่ งต่อเนื่อง
๘. จัดประสบการณท์ งั้ ในลักษณะท่ีมีการวางแผนไวล้ ่วงหนา้ และแผนทเี่ กดิ ขึ้นในสภาพจรงิ โดยไม่ได้
คาดการณไ์ ว้
9. การจัดประสบการณ์ในแต่ละวัน ให้มีการสอดแทรกการใช้ภาษาอังกฤษทั้งในกิจวัตรประจำวัน
และกจิ กรรมหลัก 6 กิจกรรมแบบบูรณาการโดยไมจ่ ดั เปน็ รายวิชา
๙. จัดทำสารนิทัศน์ดว้ ยการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพัฒนาการและการเรียนรูข้ องเด็กเป็นรายบุคคล
นำมาไตรต่ รองและใชใ้ หเ้ ป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเดก็ และการวิจัยในชนั้ เรียน
๑๐. จดั ประสบการณ์โดยใหผ้ ปู้ กครองและชุมชนมสี ว่ นร่วมทง้ั การวางแผนการสนับสนุนสื่อแหล่ง
เรียนรู้ การเขา้ รว่ มกิจกรรม และการประเมนิ พัฒนาการ
ทั้งนี้ โรงเรียนวัดไทรใหญ่ (นนททิวากรราษฎร์บำรุง)บูรณาการการเรียนรู้โดยคำนึงถึงตัวเด็กเป็น
สำคัญ เด็กแต่ละคนมีความสนใจแตกต่างกัน จึงมีกิจกรรมที่หลากหลาย หลากประเภท มีทั้งกิจกรรมที่ให้เด็ก
ทำเป็นรายบุคคล กลุ่มย่อยและกลุ่มใหญ่ กิจกรรมสงบและกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหว เปิดโอกาสให้เด็กริเร่ิม
กิจกรรม ได้มีโอกาสเลือกด้วยตนเองตามความเหมาะสมกับวัยตรงกับความสนใจและความต้องการของเด็ก
ระยะเวลาจัดกิจกรรมเหมาะสมกับวัย ยดื หยนุ่ ได้ เน้นให้มีสอ่ื ของจริง ใหเ้ ด็กได้มีโอกาสสังเกต สำรวจ ค้นคว้า
ทดลอง แก้ปัญหาด้วยตนเอง มีโอกาสปฏสิ มั พันธ์กับเด็กอื่นๆ และผู้ใหญ่ โดยบูรณาการการเรียนรู้ผ่านการจัด
ประสบการณ์ท่สี ำคญั ดงั นี้
๑. การจัดกจิ กรรมหลัก ๖ กจิ กรรม
๒. การจัดการเรยี นรู้โดยโครงงาน (Project Approach)
๓. การจดั การเรียนรโู้ ดยใช้กระบวนการสบื เสาะหาความรู้
๔. การจัดการเรยี นการสอนแบบมอนเตสซอรี่
5. การจดั การเรยี นรแู้ บบบูรณาการห้องเรยี นภาษาอังกฤษ PIEPN2
หลกั สูตรสถานศกึ ษาการศกึ ษาปฐมวัย ๗๒
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ่(นนททิวากรราษฎรบ์ ำรงุ )
กจิ กรรมหลัก ๖ กิจกรรม
การจัดประสบการณ์สำหรับเด็กปฐมวัย โรงเรียนวัดไทรใหญ่ (นนททิวากรราษฎร์บำรุง) จัดกิจกรรม
บูรณาการการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมหลัก ๖ กิจกรรม เพื่อให้เด็กได้รับการพัฒนาอย่างสมดุลทั้ง ๔ ด้าน คือ
ร่างกาย อารมณ-์ จติ ใจ สงั คมและสติปญั ญา ประกอบดว้ ย
๑. กิจกรรมเคลอ่ื นไหวและจังหวะ
๒. กจิ กรรมเสริมประสบการณ์
๓. กจิ กรรมการเล่นตามมุม
๔. กจิ กรรมศลิ ปะสร้างสรรค์
๕. กจิ กรรมการเล่นกลางแจ้ง
๖. เกมการศกึ ษา
กิจกกจิ รกรรมรเมคเคลลอ่ื ่อื นนไไหหววแแลละะจจังงั หหววะะ
กจิ กรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ เป็นกจิ กรรมท่จี ดั ใหเ้ ด็กเคล่ือนไหวสว่ นต่างๆ ของร่างกาย ตามจังหวะ
อย่างอิสระ โดยใช้เสียงเพลง คำคล้องจอง เครื่องเคาะจังหวะ และอุปกรณ์อื่นๆ ประกอบการเคลื่อนไหว เพื่อ
ส่งเสรมิ ใหเ้ ด็กเกดิ จินตนาการ ความคดิ สร้างสรรค์ รู้จงั หวะและควบคุมการเคลอื่ นไหวของตนเองได้
จุดประสงค์
๑. พัฒนาอวัยวะทุกส่วนใหม้ คี วามสมั พนั ธก์ นั ในขณะเคลอ่ื นไหว
๒. เกดิ ความสนกุ สนานเพลิดเพลิน
๓. กลา้ แสดงออกและมคี วามคดิ รเิ รมิ่ สร้างสรรค์
๔. ฝึกทักษะในการฟงั ดนตรี หรอื จังหวะต่างๆ
๕. รจู้ ักปรับตวั ในการทำกิจกรรมและความร่วมมอื ในกล่มุ
๖. ฝึกการเปน็ ผ้นู ำและผู้ตามทดี่ ี
๗. พฒั นาภาษา ฝกึ ฟงั คำสั่ง ขอ้ ตกลงและปฏบิ ตั ติ ามได้
วสั ดอุ ุปกรณ์
๑. เครื่องประกอบจังหวะ เช่น รำมะนา กลอง กรบั ฉ่ิง ฯลฯ
๒. แถบบันทกึ เสยี งเพลง เครอ่ื งเล่นเทป
๓. อุปกรณ์ประกอบการเคล่ือนไหว เช่น หว่ งยาง แถบผ้า ฯลฯ
แนวการจัดกจิ กรรม
๑. รอ้ งเพลง ท่องคำกลอน / คำคล้องจอง และเคลือ่ นไหวตามบทเพลง คำกลอน คำคล้องจอง
๒. เคลื่อนไหวพ้นื ฐาน โดยแบ่งเปน็ ๒ ประเภท คอื เคลื่อนไหวอยกู่ บั ที่ และเคล่อื นไหวเคล่ือนท่ี
๓. เล่นเครื่องเล่นดนตรีง่ายๆ ประเภท เคาะ เช่น กรับ รำมะนา กลอง ฯลฯ และเคลื่อนไหว
ประกอบ
๔. การฝึกจังหวะ โดยการใชส้ ่วนตา่ งๆ ของรา่ งกาย การทำจังหวะด้วยเปล่งเสยี ง
๕. ใหเ้ ด็กเคลื่อนไหวตามความคดิ สร้างสรรค์ โดยใช้อปุ กรณป์ ระกอบในการเคล่ือนไหว เชน่ หว่ ง
แถบผา้ ฯลฯ
หลักสตู รสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย ๗๓
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ(่ นนททวิ ากรราษฎรบ์ ำรุง)
ข้อควรปฏบิ ตั สิ ถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019
๑. การจัดกิจกรรมเคลอื่ นไหวและจงั หวะให้คำนงึ ถึงการเว้นระยะห่าง ไม่ใหเ้ ด็กมกี ารใกล้ชิดและ
สัมผัสกนั
๒. จัดเตรียมอุปกรณ์ที่ใช้เป็นรายบุคคลและมีการฆ่าเช้ือทำความสะอาดทุกครั้งเมื่อทำกิจกรรม
เสรจ็
๓. ล้างมอื ดว้ ยสบหู่ รือเจลแอลกอฮอล์ทกุ ครง้ั เมื่อเร่ิมทำกิจกรรมและหลงั จากทำกิจกรรม
กกิจิจกกรรรรมมเสเสรรมิ มิปประรสะบสกบากรณาร์ ณ์
กจิ กรรมเสรมิ ประสบการณ์ เปน็ กจิ กรรมที่มุ่งเนน้ ให้เดก็ ได้พัฒนาทักษะการเรียนรู้ ฝึกการทำงาน
และอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มทั้งกลุ่มย่อยและกลุ่มใหญ่ เน้นให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรงและมีโอกาสค้นพบด้วย
ตนเองให้มากทส่ี ุด ใชค้ ำถามปลายเปิดทีช่ วนให้เด็กคดิ ช่วงระยะเวลาท่จี ัดกจิ กรรมยืดหยุ่นตามความเหมาะสม
ทั้งนค้ี ำนึงถึงความสนใจของเดก็ และความเหมาะสมของกิจกรรม
จดุ ประสงค์
๑. เพ่ือให้เด็กเข้าใจเน้อื หาและเร่อื งราวแผนการจดั ประสบการณ์
๒. ส่งเสริมการใช้ภาษาในการฟัง พูด และการถ่ายทอดเรื่องราว
๓. ฝกึ ความมีระเบยี บวนิ ยั มารยาทในการฟัง พดู และลักษณะนิสยั ท่ดี ี
๔. กล้าแสดงความคิดเหน็ และรับฟงั ความคิดเหน็ ของผ้อู ่ืน
แนวการจดั กิจกรรม
๑. การสนทนา อภิปราย เป็นการสง่ เสรมิ พฒั นาการทางภาษาในการพูด การฟงั รจู้ ักแสดงความ
คดิ เห็นและยอมรบั ฟงั ความคิดเห็นของผู้อนื่
๒. การเล่านิทาน เป็นการเล่าเรื่องราวต่างๆ ส่วนมากจะเป็นเรื่องราวที่เน้นการปลูกฝังให้เกิด
คณุ ธรรม จรยิ ธรรม
๓. การสาธติ เป็นการจดั กิจกรรมทีต่ ้องการให้เด็กไดส้ ังเกตและเรียนรู้ตามข้ันตอน
๔. การทดลอง / ปฏบิ ตั ิ เปน็ กจิ กรรมท่จี ัดใหเ้ ด็กไดร้ ับประสบการณ์ตรง เพราะได้ทดลองปฏิบัติ
ดว้ ยตนเอง ได้สงั เกตการณ์เปลยี่ นแปลง ฝึกการสังเกต การคิดแก้ปัญหา
๕. การศกึ ษานอกสถานท่ี เปน็ การจดั กจิ กรรมท่ที ำให้เดก็ ไดร้ บั ประสบการณ์ตรง ด้วยการพาเด็ก
ไปทศั นศกึ ษาสิง่ ตา่ งๆ รอบตัว
๖. การเลน่ บทบาทสมมุติ เปน็ การให้เดก็ เลน่ สมมุติตนเอง เปน็ ตัวละครต่างๆ ตามเนื้อเรอื่ ง
๗. การร้องเพลง เล่นเกม ท่องคำคล้องจอง เป็นการจัดให้เด็กได้แสดงออกเพื่อความสนุกสนาน
เพลดิ เพลินและเรียนรูเ้ ก่ียวกบั ภาษาและจงั หวะ
ข้อควรปฏิบตั สิ ถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนา 2019
๑. การจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์มีการนั่งโดยการเว้นระยะห่าง ไม่ให้เด็กมีการใกล้ชิดและ
สมั ผัสกัน
๒. จัดเตรียมอุปกรณ์ที่ใช้เป็นรายบุคคลและมีการฆ่าเช้ือทำความสะอาดทุกครั้งเมื่อทำกิจกรรม
เสร็จ
๓. ลา้ งมอื ดว้ ยสบ่หู รอื เจลแอลกอฮอล์ทุกครัง้ เม่ือเรม่ิ ทำกิจกรรมและหลงั จากทำกิจกรรม
หลักสตู รสถานศกึ ษาการศึกษาปฐมวัย ๗๔
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ(่ นนททวิ ากรราษฎรบ์ ำรงุ )
กจิ กรรมศกิลจิ ปกระรสมสรรา้ า้ งงสสรรรรคค์ ์
กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ เปน็ กิจกรรมที่ช่วยให้เด็กได้แสดงออกทางอารมณ์ ความรสู้ กึ ความคิดริเร่ิม
สร้างสรรคแ์ ละจนิ ตนาการ โดยใชศ้ ลิ ปะ เชน่ การวาดภาพระบายสี การป้ัน การฉีก ตัด ปะ การพมิ พภ์ าพ หรือ
วธิ ีการอนื่ ๆ ทเ่ี ด็กได้ คิดสรา้ งสรรค์และเหมาะสมกับพฒั นาการ เช่น การเลน่ พลาสตกิ สรา้ งสรรค์
จดุ ประสงค์
๑. สง่ เสรมิ ความคิดริเร่มิ สร้างสรรคแ์ ละจนิ ตนาการ
๒. ให้เกิดความสนกุ สนาน เพลดิ เพลนิ ผอ่ นคลายความเครียด
๓. สง่ เสริมการใชก้ ล้ามเนอ้ื มือ และพัฒนาประสาทสัมพนั ธ์ระหว่างมือและตา
๔. ส่งเสรมิ การปรับตวั ในการทำงานร่วมกับผู้อน่ื
๕. สง่ เสรมิ คุณธรรมในด้านความอดทน การรอคอย ความรับผดิ ชอบ และความมวี นิ ยั ในตนเอง
๖. ส่งเสรมิ พัฒนาการทางภาษา
๗. ฝกึ ทักษะการสงั เกต การคิดและการแก้ปัญหา
แนวการจัดกจิ กรรม
๑. จัดโตะ๊ และวสั ดุอปุ กรณใ์ หพ้ รอ้ ม อปุ กรณต์ า่ งๆนำวัสดุทอ้ งถ่นิ มาใช้กอ่ นเปน็ อนั ดบั แรก
๒. สรา้ งบรรยากาศในการทำกจิ กรรมใหม้ ีความสดช่นื แจ่มใส ก่อนให้เด็กทำกจิ กรรมตอ้ ง
อธิบายวธิ ีใช้วัสดุทีถ่ กู ต้อง พรอ้ มทง้ั สาธิตให้ดู
๓. ใหเ้ ดก็ เลือกทำกจิ กรรมอยา่ งอิสระ ตามความสนใจของตน หากเดก็ คนใดสนใจทำ
กิจกรรมอยา่ งเดียว ตลอดเวลา กระตุ้นเรา้ และจูงใจใหเ้ ด็กเปลยี่ นทำกจิ กรรมอื่น
๔. สร้างขอ้ ตกลงในการเปล่ียนหมุนเวียนทำกจิ กรรม
๕. แนะนำอุปกรณ์วิธใี ช้ และคอยดูแลให้คำปรกึ ษาในการทำกิจกรรม
๖. เมือ่ ทำงานเสร็จตอ้ งให้เดก็ เกบ็ วัสดุ เครื่องมอื เคร่อื งใช้ และนำเสนอผลงานของตน
๗. เก็บผลงานทีแ่ สดงความก้าวหนา้ ของเด็กเปน็ รายบคุ คลเพื่อเปน็ ข้อมูลสังเกต พฒั นาการ
ของเดก็
ขอ้ ควรปฏิบัตสิ ถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนา 2019
๑. การจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ให้คำนึงถึงการเว้นระยะห่าง ไม่ให้เด็กมีการใกล้ชิดและ
สมั ผัสกัน
๒. จัดเตรียมอุปกรณ์ที่ใช้เป็นรายบุคคลและมีการฆ่าเชื้อทำความสะอาดทุกครั้งเมื่อทำกิจกรรม
เสร็จ
๓. ลา้ งมอื ดว้ ยสบหู่ รือเจลแอลกอฮอล์ทกุ ครง้ั เม่ือเริ่มทำกจิ กรรมและหลงั จากทำกิจกรรม
หลกั สตู รสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย ๗๕
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ(่ นนททวิ ากรราษฎรบ์ ำรงุ )
กกจิ จิ กกรรรรมมเสกราี /รเเลลน่น่ ตตาามมมมมุ มุ
กิจกรรมการเล่นตามมุม เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้เด็กเล่นอิสระตามมุมประสบการณ์ที่จัดไว้ เช่น
มุมบล็อก มมุ หนงั สอื มุมรา้ นค้า มมุ บ้าน มุมวทิ ยาศาสตร์ เปน็ ต้น มุมประสบการณ์ต่างๆ เหลา่ น้ีเด็กมีโอกาส
เลือกเล่น ได้อย่างเสรี ตามความสนใจ และความตอ้ งการของเด็กทงั้ เปน็ รายบุคคล ให้เด็กมโี อกาสคิดแก้ปัญหา
ด้วยตนเอง การจดั กิจกรรมใหเ้ ดก็ เลอื กทำกจิ กรรมอยา่ งอสิ ระ โดยเลือกทำกิจกรรมสร้างสรรค์อย่างนอ้ ย ๑ –๒
อยา่ ง ในแต่ละวัน สังเกตพฤติกรรมของเด็กและดูแลอย่างใกล้ชดิ ขณะเด็กเล่น สบั เปลีย่ นหรือเพ่มิ เตมิ สื่อเคร่ือง
เล่นในแตล่ ะมุมประสบการณเ์ ป็นระยะ
จดุ ประสงค์
๑. สง่ เสริมพัฒนาการกล้ามเนอื้ ใหญ่ กลา้ มเน้อื เลก็ และการประสานสมั พันธร์ ะหว่างมอื
และตา
๒. ส่งเสรมิ ใหเ้ ดก็ พฒั นาความคดิ สรา้ งสรรคแ์ ละจนิ ตนาการ
๓. ส่งเสรมิ ใหเ้ ด็กรู้จกั ปรบั ตวั อยู่รว่ มกบั ผ้อู ื่น รจู้ ักรอคอย เอ้อื เฟ้ือเผือ่ แผ่
๔. สง่ เสรมิ ให้เด็กรจู้ ักคิด วางแผนและตัดสนิ ใจในการทำกิจกรรม
๕. ส่งเสรมิ พฒั นาการทางภาษา
แนวการจัดกิจกรรม
๑. แนะนำมุมประสบการณใ์ หม่ให้เดก็ ร้จู กั และเสนอแนะวิธใี ช้ เล่นเครื่องเลน่ บางชนิด เชน่
แว่นขยาย เครือ่ งชั่ง ฯลฯ
๒. สร้างข้อตกลงในการเล่นรว่ มกัน
๓. เปิดโอกาสให้เด็กคิดวางแผนตัดสินใจ เลือกเล่นอย่างอิสระ โดยมีครูคอยสังเกตพฤติกรรม
การเล่นพร้อมท้ัง ให้คำชี้แนะและชว่ ยเหลอื เดก็ ในการเลน่
ขอ้ ควรปฏิบตั สิ ถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019
๑. การจดั กิจกรรมการเล่นตามมุมให้คำนงึ ถึงการเว้นระยะห่าง ไมใ่ หเ้ ดก็ มีการใกล้ชิดและสัมผัส
กนั
๒. จัดเตรียมอุปกรณ์ตามมุมแยกออกเป็นตะกร้าย่อย เด็กๆเล่นเป็นรายบุคคลและมีการฆ่าเช้ือ
ทำความสะอาดทุกครงั้ เมือ่ ทำกิจกรรมเสร็จ
๓. ล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ทกุ ครั้งเมื่อเริม่ ทำกิจกรรมและหลงั จากทำกจิ กรรม
กกจิ จิกกรรรมรกมลกาางรแเจล้ง่นกลางแจง้
กิจกรรมการเล่นกลางแจ้ง เปน็ กจิ กรรมทจี่ ัดให้เด็กมโี อกาสออกไปนอกห้อง เพือ่ ออกกำลังเคลื่อนไหว
ร่างกาย และแสดงออกอย่างอิสระ โดยยึดความสนใจและความสามารถของเด็กแต่ละคนเป็นหลัก เป็น
กิจกรรมทีไ่ ม่มีการใกลช้ ดิ หรอื สัมผสั กนั โดยครคู อยดแู ลอย่างใกล้ชดิ
กจิ กรรมการเลน่ กลางแจ้งที่จดั ให้เดก็ ในแตล่ ะวัน ได้แก่
๑. การเล่นเครอ่ื งเล่นสนาม
๒. การเลน่ ทราย
๓. การเลน่ นำ้
๔. การเลน่ สมมตุ ใิ นบ้านจำลอง
๕. การเล่นในศูนย์ช่างไม้
หลกั สูตรสถานศกึ ษาการศึกษาปฐมวัย ๗๖
โรงเรียนวดั ไทรใหญ(่ นนททวิ ากรราษฎรบ์ ำรงุ )
๖. การเล่นกับอุปกรณก์ ฬี า
๗. การเล่นเกมการละเลน่
จดุ ประสงค์
๑. พฒั นากล้ามเนอ้ื ใหญ่ กลา้ มเนือ้ เลก็ และการประสานสมั พันธข์ องอวัยวะตา่ งๆ
๒. สง่ เสริมใหร้ ่างกายแขง็ แรงสุขภาพดี
๓. ส่งเสริมใหเ้ กิดความสนกุ สนาน ผ่อนคลายความเครียด
๔. รูจ้ ักปรับตวั เล่นและทำงานรว่ มกับผอู้ ่ืน
๕. เรยี นรกู้ ารระวังรักษาความปลอดภยั ทงั่ ตนเองและผอู้ น่ื
๖. รจู้ ักการตดั สินใจและแก้ปัญหาด้วยตนเอง
แนวการจัดกิจกรรม
๑. เด็กและครูรว่ มสร้างขอ้ ตกลง ในกติกาในการเล่น
๒. จดั เตรียมวัสดอุ ุปกรณ์ประกอบการเลน่ ใหพ้ รอ้ ม
๓. การสาธิตการเล่นเคร่ืองเล่นสนามบางชนดิ
๔. ใหเ้ ดก็ เลือกเล่นอสิ ระตามความสนใจ
๕. ขณะเดก็ เล่นครคู อยดูแลความปลอดภยั และสังเกตพฤตกิ รรมการเลน่
๖. เม่อื หมดเวลาให้เด็กช่วยเก็บของเข้าทีแ่ ละทำความสะอาดรา่ งกาย
ข้อควรปฏบิ ตั สิ ถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคตดิ เชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019
๑. การจดั กจิ กรรมกลางแจ้งใหค้ ำนึงถึงการเว้นระยะหา่ ง ไม่ใหเ้ ด็กมกี ารใกลช้ ิดและสมั ผัสกัน
๒. จัดเตรียมอุปกรณ์ที่ใช้เป็นรายบุคคลและมีการฆ่าเช้ือทำความสะอาดทุกครั้งเมื่อทำกิจกรรม
เสร็จ
๓. ล้างมือด้วยสบูห่ รือเจลแอลกฮอลก์ ทุกครง้ั เมื่อเรมิ่ ทำกจิ กรรมและหลังจากทำกจิ กรรม
เเกกมมกกาารรศศกึ กึษษา า
เกมการศึกษา เป็นเกมการเล่นที่ช่วยพัฒนาสติปัญญา มีกฎเกณฑ์กติกาง่ายๆ สามารถเล่นคนเดียว
หรือเล่นเป็นกลุ่มได้ ช่วยให้เด็กรู้จักสังเกต คิดหาเหตุผลและเกิดความคิดรวบยอดเกี่ยวกับสี รูปร่าง จำนวน
ฯลฯ การเล่นเกมการศึกษาในระยะแรกเริ่มใช้ของจริง การเล่นเกมในแต่ละวันให้เด็กได้เลน่ ทั้งเกมชุดใหม่และ
ชดุ เกา่ จดั ให้เดก็ หมนุ เวยี นเลน่ เกมตามความเหมาะสม การเล่นเกมเมอ่ื เลิกเล่นแลว้ จัดเกบ็ รวมไวเ้ ปน็ ชดุ ๆ
จุดประสงค์
๑. สง่ เสริมการสงั เกต เปรยี บเทียบ
๒. สง่ เสรมิ การประสานสัมพนั ธร์ ะหว่างมือและตา
๓. ส่งเสริมการคดิ หาเหตุผลและตดั สินใจแกป้ ญั หา
๔. ปลกู ฝงั ให้มีคณุ ธรรมต่างๆ เช่น ความรับผดิ ชอบ
แนวการจัดกจิ กรรม
๑. ในกรณีท่ีเป็นเกมใหม่ ครแู นะนำ สาธติ อธิบายวิธกี ารเลน่ เกมให้เด็กทราบ
๒. ให้เด็กหมนุ เวียนเข้ามาเล่นเปน็ กล่มุ หรอื รายบคุ คลตามความเหมาะสม
๓. ขณะเดก็ เล่น ครมู ีหน้าทเ่ี พยี งผแู้ นะนำ
๔. เม่อื เล่นเกมแต่ละชุดเสร็จแลว้ ฝกึ ใหเ้ ด็กเกบ็ ให้เรียบร้อย
หลักสตู รสถานศึกษาการศกึ ษาปฐมวัย ๗๗
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ่(นนททวิ ากรราษฎรบ์ ำรุง)
ข้อควรปฏิบตั ิสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019
๑. การจัดกิจกรรมเกมการศึกษาให้คำนึงถึงการเว้นระยะห่าง ไม่ให้เด็กมีการใกล้ชิดและสัมผัส
กนั
๒. จัดเตรียมอุปกรณ์ที่ใช้เป็นรายบุคคลและมีการฆ่าเช้ือทำความสะอาดทุกครั้งเมื่อทำกิจกรรม
เสรจ็
๓. ล้างมือด้วยสบู่หรอื เจลแอลกฮอลก์ ทกุ ครง้ั เมื่อเร่มิ ทำกจิ กรรมและหลังจากทำกจิ กรรม
กากราจรดั จกัดากราเรรียเรนยี รนูโ้ รดู้โยดโยคโรคงรงงางนาน(P(rPorjoecjetcAt pApprporaocahc)h)
โรงเรียนวัดไทรใหญ่ (นนททิวากรราษฎร์บำรุง)จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยนำรูปแบบการจัก
ประสบการณ์การเรียนรู้โดยโครงการ (Project Approach) เพื่อส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยเรียนรู้เรื่องราวต่างๆที่
สนใจ ใหโ้ อกาสเด็กได้ค้นพบ และเรยี นรจู้ ากประสบการณ์ตรงกับเร่ืองราว สงิ่ ของ บคุ คล สถานท่ีหรือชุมชนท่ี
แวดล้อมตัวเด็ก ตามวิธีการของตนเอง กล้าคิด กล้าแสดงออก โดยครูเป็นผู้สนบั สนนุ ช่วยเหลือและจัดเตรียม
สภาพแวดล้อมรวมทั้งสื่อ วัสดุอุปกรณ์ ทั้งนี้กำหนดให้ครูผู้สอนชั้นอนุบาลปีที่ ๑ และ ๒ จัดการเรียนรู้โดย
โครงการ ปีการศกึ ษาละ ๑ โครงการ โดยมกี ระบวนการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้โดยโครงการ ๓ ระยะ ดงั น้ี
ระยะท่ี ๑ ทบทวนความร้แู ละความสนใจ
ระยะที่ ๒ ค้นควา้ และมปี ระสบการณ์ใหม่
ระยะท่ี ๓ ประเมนิ สะทอ้ งกลับ และแลกเปล่ียนงานโครงการ
กากราจรดั จกัดากราเรรียเรนียรน้โู รดู้โยดใยชใ้กชรก้ ะรบะวบนวกนากราสรบื สเืบสเาสะาหะาหคาวคาวมารมู้ รู้
โรงเรียนวัดไทรใหญ่ (นนททิวากรราษฎร์บำรุง)ได้ใช้รูปแบบการจัดประสบการณก์ ารเรียนรูโ้ ดยใช้
กระบวนการสืบเสาะหาความรู้เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้สังเกต สำรวจ ค้นคว้า ทดลอง และแก้ปัญหาด้วยตนเอง
รู้จักคิด มีความคิดสร้างสรรค์ ให้โอกาสเด็กได้ใช้ความคิดของตนเองได้มากที่สุด ผ่านกิจกรรมการทดลอง
วิทยาศาสตร์ในโครงการ “บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย” ซึ่งกระบวนการสืบเสาะหาความรู้
ประกอบด้วย ๖ ขัน้ ตอน (Inquiry Cycle Method)
๑) การตั้งคาํ ถามเกี่ยวกับธรรมชาต:ิ ครูกระต้นุ ให้เด็กต้งั คําถามเกย่ี วกับส่ิงท่เี ด็กได้สังเกตพบระหว่าง
การสาํ รวจโดยเปน็ คาํ ถามเด็กสนใจอย่างเจาะจงและอยากจะสาํ รวจตรวจสอบอยา่ งละเอยี ด
๒) การรวบรวมความคิดและข้อสันนิษฐาน: ครูอภิปรายกับเด็กถึงสิ่งที่เด็กรู้อยู่แล้วเกี่ยวกับคําถาม
หรือหวั ข้อนั้นและความคดิ หรือขอ้ สันนษิ ฐานที่เด็กมี รวมถึงให้เดก็ คิดวธิ กี ารในการหาคําตอบของคาํ ถามน้นั
๓) ปฏิบัติและลงมือสืบเสาะ: ให้เด็กมีส่วนร่วมในการวางแผนในการสืบเสาะหรือหาวิธีการในการ
ตรวจสอบว่าสิ่งที่เด็กคิดไว้นั้นใช่หรือไม่ โดยให้เด็กร่วมพิจารณาว่าจะสํารวจตรวจสอบอะไร เด็กมีความคิด
เกี่ยวกับสิ่งนั้นอย่างไร มีวัสดุอุปกรณ์อะไรที่สามารถนํามาใช้ได้ ให้เวลาเด็กในการลองทําตามความคิดของ
ตนเองและทาํ การสบื เสาะดว้ ยตนเองซ้ำๆ ตามความตอ้ งการของเด็ก
๔) การสังเกตและบรรยาย: กระตุ้นให้เด็กสังเกตกระบวนการอย่างละเอียด และบรรยายอย่าง
เที่ยงตรงตามความเป็นจริงว่าเกิดอะไรขึ้นหรือสิ่งต่าง ๆ แสดงออกมาเป็นอย่างไร เพื่อให้เด็กตระหนักว่าเด็ก
กําลังสํารวจตรวจสอบอะไรและสิ่งที่กําลังสํารวจตรวจสอบแสดงออกมาเป็นอย่างไร ครูควรให้ความสนใจใน
หลกั สูตรสถานศึกษาการศกึ ษาปฐมวัย ๗๘
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ(่ นนททวิ ากรราษฎรบ์ ำรุง)
การฟังสิ่งที่เด็กพูดเพื่อจะทราบความคิดของเด็ก และครูอาจถามคําถามหรือชี้แนะให้เด็กสังเกตบางอย่างเพอื่
กระตุ้นให้เด็กทาํ การสงั เกตและคน้ พบลักษณะเฉพาะอนื่ ๆ
๕) การบันทึกผล: ใหเ้ ดก็ ร่วมบันทึกผลในลกั ษณะตา่ งๆ เช่น การวาดภาพ การถ่ายภาพ การจดบนั ทึก
การทําตารางหรือการเขียนอนุทิน จะช่วยเด็กในการทบทบวนประสบการณ์และสะท้อนกระบวนการเรียนรู้
ของตนเอง
๖) การอภิปรายผล: กระตนุ้ ใหเ้ ด็กอภิปรายว่าได้รับประสบการณ์อะไรและได้ค้นพบอะไร โดยให้เด็ก
ได้ฝึกฝนการพยายามสร้างคําอธิบายด้วยตนเอง โดยครูนําเด็กสนทนาเกี่ยวกับผลของการสืบเสาะ และ
เชื่อมโยงผลที่ได้กับคําถามตั้งต้นและความรู้เดิมของเด็ก โดยอาจใช้คําถาม เช่น ก่อนหน้านี้เด็กๆ คิดว่าอะไร
เด็กๆ ต้องการจะรอู้ ะไรเด็กๆ ไดพ้ บอะไรจากการสบื เสาะ รวมถงึ พดู คยุ เกยี่ วกบั วธิ ีการที่เด็กใช้ในการค้นพบส่ิง
ต่าง ๆ เช่น เด็ก ๆ ได้ทําอะไรและทําไมจึงทําเช่นนั้น เด็ก ๆ เอาชนะปัญหาอุปสรรคได้อย่างไร นอกจากน้ีครู
ควรร่วมกับเด็กในการตคี วามหมายของสิ่งที่เด็กได้สังเกตพบโดยพยายามหลีกเลี่ยงการใช้ภาษาหรือคําอธิบาย
ทางวทิ ยาศาสตรท์ ่ซี ับซ้อน เมื่อเดก็ ถามคําถามเพมิ่ เติม ครูควรตอบสนองด้วยการถามย้อนกลับไปว่า เดก็ ๆ คิด
ว่าทาํ ไมมนั จึงเป็นเชน่ นนั้ ซึง่ จะนาํ ไปสกู่ ารเริ่มต้นการสืบเสาะหาความรู้ในรอบต่อไป
ครูสามารถใช้วัฎจักรการสืบเสาะเป็นแนวทางในการนาํ เด็กทําการสืบเสาะหาความรู้แบบปลายเปิดได้
อย่างเปน็ ลําดบั ขน้ั ตอนแต่ไมจ่ ําเปน็ ต้องยึดตามขน้ั ตอนเหลา่ น้ีตายตัวสามารถลัดขนั้ ตอนหรือย้อนกลับขั้นตอน
ได้ตามความเหมาะสม
กากราจรดั จกดั ากราเรรียเรนียกนากราสรอสนอแนบแบบมบอมนอเตนสเซตอสรซ่ี อร่ี
โรงเรียนวัดไทรใหญ่ (นนททิวากรราษฎร์บำรุง) ได้ใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ
บูรณาการ การจัดประสบการณ์หมวดกิจกรรมชวี ติ ประจำวนั ตามแนวมอนเตสซอร่ี เป็นกจิ กรรมที่พฒั นาทักษะ
พื้นฐานต่อการดำรงชีวิตประจำวันของตนเองและสังคม ที่เน้นการปฏิบัติที่เป็นกระบวนการ มีระบบระเบียบ
ขั้นตอน มีจุดประสงค์หลัก คือ การควบคุมการเคลื่อนไหว ความมีสมาธิมุ่งมั่นในการทำงาน และการพึ่งพา
ตนเองได้โดยมีวิธีการสอน ๓ ขั้นตอน ( The Three-Period Lesson ) เป็นวิธีการที่ใช้สำหรับสอนความคิด
รวบยอดใหม่ด้วยการทำซ้ำ เพื่อช่วยให้เด็กเข้าใจในแบบฝึกหัดที่ครูสาธิตให้ดูได้ดีขึ้น การสอนนี้ยังช่วยให้ครู
สงั เกตเห็นว่าเด็กสามารถเขา้ ใจ และซมึ ซาบสิ่งท่ีสาธิตใหเ้ ด็กดูไดว้ ่องไวแค่ไหน วธิ ีการสอนสามข้ันตอนนี้ใช้กับ
การสาธิตข้ันตอน เมื่อเดก็ ไม่เข้าใจข้ันตอนใดข้นั ตอนหนึ่งจะต้องเรมิ่ สาธติ ให้ดูใหม่ครตู ้องแน่ใจวา่ เด็กเข้าใจใน
ส่งิ ที่ทำใหด้ ูแลว้ จึงจะดำเนินข้ันต่อไป ดงั นี้
ขั้นแรก สังเกตเห็นลักษณะเฉพาะของสิ่งนั้น ( Recognition of Identity ) ทำให้เชื่อมโยงสิ่งที่ครู
สาธิตใหด้ ูกับชือ่ ของส่งิ นัน้ ได้ “ นี่ คือ …”
ขั้นสอง สังเกตเห็นความแตกตา่ ง ( Recognition of Contrasts ) มั่นใจว่า เด็กเข้าใจเมื่อบอกเดก็ วา่
“ หยบิ …”
ขั้นสาม เห็นความแตกต่างระหว่างสิ่งของที่มีความคล้ายคลึงกัน ( Discrimination Between
Similar Objects ) ขั้นตอนนี้เพื่อที่จะได้ทราบว่าเด็กจำชื่อสิ่งต่างๆ ที่ครูสาธิตให้ดูได้หรือเปล่า เช่น ชี้ที่ของ
หลายๆ สง่ิ แลว้ ถามว่า “ อนั ไหน คอื …”
หลกั สูตรสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย ๗๙
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ่(นนททิวากรราษฎร์บำรุง)
กากราจรัดจกัดากราเรรยีเรนียกนารรูแ้สบอบนแบบรู ณบมาอกนารเตหสอ้ ซงอเรรยี่ี นภาษาอังกฤษ PIEPN2
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่(นนททิวากราษฎรบ์ ำรงุ ) ได้ดำเนนิ การการบรู ณาการจดั การเรยี นการสอน
หลกั สูตร PIEPN 2 ดังน้ี
1. มีการจดั ทำหลักสตู ร PIEPN 2 ต้งั แต่ระดบั ช้นั อนุบาลปีท่ี 1 – 3
2. มกี ารสอนรปู แบบบรู ณาการตามหนว่ ยการเรียนรูแ้ ละการใชบ้ ทสนทนาพ้ืนฐานในชวี ติ ประจำวนั ตง้ั แต่
ระดับชัน้ อนบุ าลปที ี่ 1 – 3 ตามหลกั สตู รบรู ณาการของแต่ละระดับชนั้
3. มกี ารจดั การเรยี นการสอนเพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษสำหรบั เดก็ ปฐมวัยจากครตู ่างชาตทิ ี่สอน
เฉพาะเด็กปฐมวยั ห้องเรียนละ 2 ครั้งตอ่ สปั ดาห์ และ สอนพน้ื ฐานคำศัพท์ การออกเสียงโฟนิคส์ และ
บทสนทนาพื้นฐาน จากครผู ู้สอนวชิ าภาษาองั กฤษ ห้องเรียนละ 1 สปั ดาห์
4. เด็กๆทบทวนคำศัพท์จากหนงั สือคำศัพทโ์ ดยการฝกึ อ่านจากหนังสืออย่างน้อย 3 คร้งั ต่อสปั ดาห์
5. ครจู ดั ทำสื่อการเรียนการสอนเพอ่ื พฒั นาทักษะพ้ืนฐานภาษาองั กฤษให้นักเรียนเกิดความสนใจและ
สนุกกบั การเรียนรู้
6. สง่ เสรมิ และฝกึ ทักษะโดยการทำใบงานสำหรับ Onhand เพือ่ พัฒนาทักษะอยา่ งต่อเนื่องทัง้ ทบี่ ้านและ
ท่ีโรงเรยี น
ตาตราารงากงกจิ ิจกกรรรรมมปปรระะจจำำววนั ัน รระดะับดปบั ฐปมฐวมยั วยั
เวลา รายการกจิ กรรม
๐๗.๐๐ น. – ๐๗.๔๕ น. รับเดก็
๐๗.๔๕ น. – ๐๘.๐๐ น. เขา้ แถวเคารพธงชาติ สวดมนต์ กายบรหิ าร
๐๘.๐๐ น. – ๐๘.๓๐ น. ตรวจสขุ ภาพ ไปห้องน้ำ
๐๘.๓๐ น. – ๐๙.๐๐ น. กิจกรรมเคลื่อนไหวและจงั หวะ
๐๙.๐๐ น. – ๐๙.๓๐ น. กจิ กรรมเสริมประสบการณ์
๐๙.๓๐ น. – ๑๐.๐๐ น. กิจกรรมศลิ ปะสร้างสรรค์และการเล่นตามมุม
๑๐.๐๐ น. – ๑๐.๓๐ น. กจิ กรรมกลางแจ้ง
๑๐.๓๐ น. – ๑๑.๐๐ น. พัก(รับประทานอาหารกลางวนั )
๑๑.๐๐ น. – ๑๑.๓๐ น. แปรงฟัน/ไปหอ้ งน้ำ
๑๑.๓๐ น. – ๑๒.๐๐ น. สวดมนต์ ทำสมาธิ
๑๒.๐๐ น. – ๑๔.๐๐ น. นอนพักผอ่ น
๑๔.๐๐ น. – ๑๔.๓๐ น. พัก (รับประทานอาหารวา่ ง) ด่มื นม
๑๔.๓๐ น. - ๑๕.๐๐ น. กจิ กรรมเกมการศึกษา
๑๕.๐๐ น. - เปน็ ตน้ ไป เตรยี มตวั กลับบา้ น
หลกั สูตรสถานศึกษาการศกึ ษาปฐมวัย ๘๐
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่(นนททิวากรราษฎร์บำรงุ )
สือ่ สพอื่ ัฒพนัฒานกาากราเรยีเรนียรนู้ รู้
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่ (นนททวิ ากรราษฎร์บำรุง)จัดให้มีส่ือเพื่อสนับสนุนและสง่ เสริมการเรยี นรู้ของเด็ก
สื่อประกอบการจัดกิจกรรม เพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัยทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา
โดยจัดให้มีสื่อทั้งที่เป็นประเภท ๒ มิติ และ ๓ มิติ ที่เป็นสื่อของจริง สื่อธรรมชาติ สื่อที่อยู่ใกล้ตัวเด็ก ส่ือ
สะท้อนวัฒนธรรม สื่อที่ปลอดภัยต่อตัวเด็ก สื่อเพื่อพัฒนาเด็กในด้านต่างๆให้ครบทุกด้าน สื่อที่เอื้อให้เด็ก
เรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า โดยการจัดการใช้สื่อเริ่มต้นจาก สื่อของจริง ภาพถ่าย ภาพโครงร่าง และ
สัญลกั ษณ์ ใชส้ ่อื เหมาะสมกับวัย วุฒิภาวะ ความแตกตา่ งระหว่างบุคคล ความสนใจและความต้องการของเด็ก
ที่หลากหลาย โรงเรียนวัดไทรใหญ่(นนททิวากรราษฎร์บำรุง)มุ่งเน้นให้เด็กๆได้เรียนรู้จากสื่อที่มีความ
หลากหลายและได้เรียนรู้ทั้งในและนอกห้องเรียนและในชุมชน เพอ่ื เน้นใหเ้ ดก็ สร้างองค์ความรู้ที่เกิดจากการได้
ลงมือปฏบิ ัติจรงิ ท้งั น้ี โรงเรียนไดจ้ ัดสอื่ สำหรับเดก็ ปฐมวัย ดงั นี้
๑. ส่ือทไ่ี ดจ้ ากการจดั ซอื้ จดั หา เชน่ หนงั สือนทิ าน เกมการศกึ ษา ของเลน่ เครอ่ื งดนตรี เครือ่ งกฬี า
๒. สื่อประเภทที่ครผู ูส้ อนจัดทำ เชน่ สื่อประจำหน่วยการเรียนรู้
๓. สอ่ื ที่ได้รบั การบรจิ าคจากผปู้ กครอง เช่น ตุ๊กตา เคร่อื งมอื เครอื่ งใช้ เสือ้ ผ้า ท่เี ปน็ ของจรงิ
๔. สื่อวัสดธุ รรมชาตจิ ากชมุ ชน
๕. สื่อประเภทเทคโนโลยี อาทิ เครื่องเล่นเทป วีดทิ ศั นค์ อมพิวเตอร์
๖. สือ่ ที่เป็นภูมิปญั ญาทอ้ งถิน่
7. สื่อทจี่ ัดทำข้นึ โดยครผู ู้สอนในการส่งเสรมิ ทักษะทางภาษาท้งั ภาษาไทย และ ภาษาองั กฤษ
ในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย โรงเรียนวัดไทรใหญ่ (นนททิวากรราษฎร์บำรุง)
กำหนดใหม้ กี ารใชส้ ื่อในกจิ กรรมและมุมประสบการณต์ า่ งๆดงั นี้
กิจกรรมเคลือ่ นไหวและจังหวะ ส่ือมีดงั นี้
๑. เครื่องเคาะจังหวะ เชน่ ฉ่ิง เหลก็ สามเหลีย่ ม กรบั รำ มะนา กลอง ฯลฯ
๒. อปุ กรณป์ ระกอบการเคลื่อนไหว เช่น หนังสอื พมิ พ์ รบิ บิน้ แถบผา้ ห่วง หวายถงุ ทราย ฯลฯ
กจิ กรรมเสรมิ ประสบการณ์ /กจิ กรรมในวงกลม สอื่ มดี งั นี้
๑. สื่อของจรงิ ท่ีอยู่ใกล้ตัวและส่ือจากธรรมชาติหรือวัสดุท้องถนิ่ เช่น ต้นไม้ ใบไม้ เปลือกหอย เสื้อผ้า
เปน็ ตน้
๒. สอ่ื ทจี่ ำ ลองข้ึน เช่น ลูกโลก ตกุ๊ ตาสตั ว์ ฯลฯ
๓. สอ่ื ประเภทภาพ เชน่ ภาพพลกิ ภาพโปสเตอร์ หนงั สอื ภาพ ฯลฯ
๔. สื่อเทคโนโลยี เชน่ วทิ ยุ เครื่องบนั ทกึ เสยี ง เคร่อื งขยายเสยี ง โทรศัพท์ ฯลฯ
หลกั สตู รสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย ๘๑
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ่(นนททวิ ากรราษฎร์บำรุง)
กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ มีวัสดุ อปุ กรณ์ ดังน้ี
๑. การวาดภาพและระบายสี
- สีเทียนแทง่ ใหญ่ สีไม้ สีชอล์ก สนี ํ้า
- พกู่ ันขนาดใหญ่ (ประมาณเบอร์ ๑๒)
- กระดาษ
- เสอ้ื คลมุ หรอื ผ้ากันเป้อื น
๒.การเล่นกบั สี
- การเปา่ สี มี กระดาษ หลอดกาแฟ สีนา้ํ
- การหยดสี มี กระดาษ หลอดกาแฟ พู่กนั สนี ้ํา
- การพับสี มี กระดาษ สนี ํ้า พู่กัน
- การเทสี มี กระดาษ สนี ํ้า
- การละเลงสี มี กระดาษ สนี ํ้า แป้งเปียก
๓. การพิมพ์ภาพ
- แมพ่ มิ พ์ต่าง ๆ จากของจริง เชน่ น้วิ มือ ใบไม้ ก้านกล้วย ฯลฯ
- แมพ่ มิ พจ์ ากวสั ดอุ ืน่ ๆ เช่น เชอื ก เสน้ ดา้ ย ตรายาง ฯลฯ
- กระดาษ ผา้ เช็ดมอื สีโปสเตอร์ (สีน้ํา สีฝุ่น ฯลฯ)
๔. การปน้ั เชน่ ดินนํา้ มัน ดินเหนยี ว แป้งโดว์ แผน่ รองปน้ั แมพ่ มิ พ์รูปต่าง ๆ ไมน้ วดแป้ง ฯลฯ
๕. การพับ ฉีก ตัดปะ เช่น กระดาษ หรือวัสดุอื่นๆที่จะใช้พับ ฉีก ตัด ปะ กรรไกรขนาดเล็กปลายมน
กาวนํ้าหรอื แปง้ เปียก ผ้าเช็ดมอื ฯลฯ
๖. การประดิษฐ์เศษวัสดุ เช่น เศษวัสดุต่าง ๆ มีกล่องกระดาษ แกนกระดาษ เศษผ้า เศษไหม กาว
กรรไกร สี ผ้าเช็ดมอื ฯลฯ
๗. การรอ้ ย เชน่ ลูกปัด หลอดกาแฟ หลอดด้าย ฯลฯ
๘. การสาน เช่น กระดาษ ใบตอง ใบมะพรา้ ว ฯลฯ
๙. การเล่นพลาสติกสร้างสรรค์ พลาสติกช้ินเล็ก ๆ รูปทรงต่าง ๆ สามารถนำมาต่อเป็นรูปแบบตา่ ง ๆ
ตามความต้องการ
๑๐. การสร้างรูป เช่น จากกระดานปักหมุด จากแป้นตะปูที่ใช้หนังยางหรือเชือกผูกดึงให้เป็นรูปร่าง
ตา่ ง ๆ
กจิ กรรมการเลน่ กลางแจง้ ส่อื มีดังนี้
๑. เครอื่ งเล่นสนาม เช่น เครอื่ งเลน่ สำ หรับปนี ปา่ ย เครื่องเลน่ ประเภทล้อเลอ่ื น ฯลฯ
๒. ทเ่ี ลน่ ทราย มที รายละเอียด เครอื่ งเลน่ ทราย เครอ่ื งตวง ฯลฯ
๓. ที่เล่นนํ้า มีภาชนะใส่นํ้าหรืออ่างนํ้าวางบนขาตั้งที่มั่นคง ความสูงพอที่เด็กจะยืนได้พอดี เสื้อคลุม
หรอื ผ้ากนั เปือ้ นพลาสติก อุปกรณเ์ ล่นนํ้า เช่น ถว้ ยตวง ขวดต่างๆสายยาง กรวยกรอกนาํ้ ต๊กุ ตายาง ฯลฯ
หลกั สตู รสถานศกึ ษาการศึกษาปฐมวัย ๘๒
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่(นนททิวากรราษฎรบ์ ำรงุ )
เกมการศึกษา สอื่ ประเภทเกมการศกึ ษามีดังนี้
๑. เกมจับคู่
- จบั คูร่ ูปรา่ งท่ีเหมอื นกัน - จับคภู่ าพเงา
- จบั คูภ่ าพทซี่ อ่ นอยใู่ นภาพหลกั - จับคู่สิ่งทม่ี ีความสัมพนั ธก์ ัน สิ่งท่ีใช้คู่กนั
- จับคภู่ าพส่วนเต็มกับสว่ นย่อย - จบั คู่ภาพกบั โครงรา่ ง
- จบั คู่ภาพชิ้นสว่ นทห่ี ายไป - จับคภู าพท่ีเป็นประเภทเดยี วกนั
- จับคภู่ าพทซี่ อ่ นกัน - จบั คู่ภาพสัมพันธแ์ บบตรงกนั ขา้ ม
- จับคภู่ าพท่ีสมมาตรกนั - จับค่แู บบอปุ มาอุปไมย
- จบั คู่แบบอนกุ รม
๒. เกมภาพตัดต่อ
- ภาพตดั ตอ่ ท่สี มั พันธก์ ับหนว่ ยการเรียนตา่ ง ๆ เชน่ ผลไม้ ผัก ฯลฯ
๓. เกมจัดหมวดหมู่
- ภาพสง่ิ ตา่ ง ๆ ทีน่ ำมาจดั เปน็ พวก ๆ
- ภาพเกี่ยวกบั ประเภทของใช้ในชีวิตประจำวัน
- ภาพจดั หมวดหมตู่ ามรูปร่าง สี ขนาด รปู ทรงเรขาคณติ
๔. เกมวางภาพต่อปลาย (โดมโิ น)
- โดมิโนภาพเหมือน
- โดมิโนภาพสัมพนั ธ์
๕. เกมเรียงลำดับ
- เรียงลำดับภาพเหตุการณ์ต่อเนอ่ื ง
- เรยี งลำดับขนาด
๖. เกมศกึ ษารายละเอียดของภาพ (ลอตโต)
๗. เกมจบั คูแ่ บบตารางสัมพนั ธ์ (เมตรกิ เกม)
๘. เกมพนื้ ฐานการบวก
กิจกรรมการเล่นตามมุม มสี อื่ ประกอบการเรียนรู้ในมมุ ประสบการณ์ ประกอบดว้ ย
๑. มมุ บทบาทสมมติ จดั เปน็ มุมเล่น ดังน้ี
๑.๑ มุมบา้ น
- ของเล่นเครื่องใชใ้ นครัวขนาดเล็ก หรอื ของจำ ลอง เช่น เตา กะทะ ครก กานา้ํ
เขียง มีดพลาสติก หม้อ จาน ชอ้ น ถ้วยชาม กะละมัง ฯลฯ
- เคร่อื งเล่นตุ๊กตา เส้อื ผ้าตุ๊กตา เตยี ง เปลเดก็ ตกุ๊ ตา
- เครื่องแตง่ บ้านจำลอง เชน่ ชดุ รบั แขก โต๊ะเครอ่ื งแปง้ หมอนองิ กระจกขนาดเห็นเต็มตวั
หวี ตลับแป้ง ฯลฯ
- เคร่อื งแตง่ กายบคุ คลอาชพี ตา่ ง ๆ ท่ใี ช้แลว้ เชน่ ชุดเครือ่ งแบบทหาร ตำรวจ
ชุดเส้ือผ้าผู้ใหญ่ชายและหญงิ รองเทา้ กระเป๋าถอื ทไี่ มใ่ ชแ้ ลว้ ฯลฯ
- โทรศพั ท์ เตารดี จำลอง ทร่ี ดี ผ้าจำลอง
๑.๒ มุมหมอ
- เคร่ืองเล่นจำลองแบบเครือ่ งมือแพทย์และอุปกรณ์การรักษาผู้ปว่ ย เชน่ หูฟัง
หลกั สูตรสถานศกึ ษาการศึกษาปฐมวัย ๘๓
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่(นนททวิ ากรราษฎรบ์ ำรงุ )
เสอ้ื คลุมหมอ ฯลฯ
- อุปกรณ์สำหรบั เลียนแบบการบันทกึ ขอ้ มูลผู้ปว่ ย เช่น กระดาษ ดินสอ ฯลฯ
๑.๓ มมุ ร้านค้า
- กลอ่ งและขวดผลิตภัณฑต์ า่ งๆทีใ่ ช้แลว้
- อปุ กรณป์ ระกอบการเลน่ เช่น เครื่องคิดเลข ลกู คิด ธนบัตรจำลอง ฯลฯ
๒. มุมบลอ็ ก
- ไม้บลอ็ กหรอื แท่งไม้ทม่ี ขี นาดและรปู ทรงตา่ งๆกัน จำ นวนตั้งแต่ ๕๐ ช้ินข้ึนไป
- ของเล่นจำ ลอง เช่น รถยนต์ เคร่ืองบนิ รถไฟ คน สัตว์ ตน้ ไม้ ฯลฯ
-ทจี่ ัดเก็บไมบ้ ลอ็ กหรือแทง่ ไม้อาจเป็นช้นั ลังไมห้ รอื พลาสติก แยกตามรูปทรง ขนาด
๓. มุมหนงั สอื
- หนงั สอื ภาพนิทาน สมดุ ภาพ หนังสอื ภาพท่ีมีคำ และประโยคสน้ั ๆพรอ้ มภาพ
- ชั้นหรอื ท่ีวางหนังสือและอปุ กรณส์ ำหรับการเขยี น
- อุปกรณ์ต่าง ๆ ท่ใี ช้ในการสร้างบรรยากาศการอ่าน เช่น เสื่อ พรม หมอน ฯลฯ
- อุปกรณเ์ สริม เชน่ เครอ่ื งเล่นเทป ตลับเทปนิทานพรอ้ มหนงั สอื นทิ าน หฟู ัง ฯลฯ
๔. มุมวทิ ยาศาสตร์ หรอื มุมธรรมชาติศกึ ษา
- วัสดุตา่ ง ๆ จากธรรมชาติ เชน่ เมล็ดพชื ต่าง ๆ เปลือกหอย ดนิ หิน แร่ ฯลฯ
- เคร่ืองมอื เครื่องใชใ้ นการสำรวจ สงั เกต ทดลอง เช่น แว่นขยาย แมเ่ หล็ก เขม็ ทศิ
เคร่ืองช่ัง ฯลฯ
ทั้งนี้ โรงเรียนวัดไทรใหญ่ (นนททิวากรราษฎร์บำรุง) ได้กำหนดให้นำสาระที่ควรรู้ และประสบการณ์
สำคัญมาวิเคราะห์จัดทำเป็นหน่วยการเรียนสำหรับจัดประสบการณ์ใหแ้ ก่เด็กปฐมวัย ตามหลักสูตรการศึกษา
ปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ โดยได้บูรณาการหลักสูตร “การป้องกันการทุจริต” ระดับการศึกษาปฐมวัย ของ
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ รวมท้ังกิจกรรมการทดลองบ้าน
นกั วทิ ยาศาสตรน์ ้อยประเทศไทย ในหนว่ ยการเรยี นรู้ ดงั รายละเอียดตอ่ ไปนี้
หลกั สตู รสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย ๘๔
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่(นนททิวากรราษฎรบ์ ำรงุ )
โคโครงรสงสรา้รงา้ หงหลลกั กัสสตู ตูรร““กการาปรป้อ้องกงกนั นักการาทรทุจจุริตรติ””ระรดะดับับกการาศรศึกึกษษาปาปฐฐมมววัยัย
ลำดบั หน่วยการเรยี นรู้ เร่ือง ชวั่ โมง
๑๔
๑ การคิดแยกแยะระหว่าง - การคดิ แยกแยะ - ระบบคิดฐาน ๒
๑๒
ผลประโยชน์สว่ นตน และ - ของเลน่ - การเข้าแถว ๙
ผลประโยชน์สว่ นรวม - การรับประทานอาหาร - การเกบ็ ของใช้สว่ นตัว ๕
- การทำงานทไี่ ดร้ ับมอบหมาย
- การแบง่ ปนั - การแต่งกาย
- การทำกิจวตั รประจำวัน (การใชน้ ำ้ ไฟฟา้ การทง้ิ ขยะ)
๒ ความละอาย และความไม่ทน - ของเลน่ - การเข้าแถว
ตอ่ การทจุ ริต - การรบั ประทานอาหาร - การเกบ็ ของใชส้ ่วนตัว
- การทำงานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย - การแบง่ ปนั
- การแตง่ กาย - การทำกจิ วตั รประจำวนั
๓ STRONG/ จิตพอเพียง - ความพอเพียง - ความโปรง่ ใส
ตอ่ ตา้ นการทจุ ริต - ความตน่ื ร้/ู ความรู้ - การต้านทุจริต
- การมุ่งไปขา้ งหน้า - ความเออื้ อาทร
- การรบั ประทานอาหาร - การชว่ ยเหลือเพอื่ น
- การใช้กระดาษ
๔ พลเมอื งกบั ความรบั ผิดชอบ - ความรับผดิ ชอบต่อตนเองและอผอู้ ่ืน
ตอ่ สังคม - การตรงตอ่ เวลา
- การทำความสะอาดหอ้ งเรยี น
- การชว่ ยเหลือตนเอง
ท่มี า: คดั ลอกจากเอกสาร โครงสร้างหลกั สูตร “รายวิชาเพ่ิมเติมการป้องกนั การทจุ รติ ” โดย สพฐ. ร่วมกบั
สำนกั งาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจรติ แหง่ ชาติ จดั ทำเพอื่ ใช้ประกอบการประชุม
เชงิ ปฏบิ ัตกิ าร “การปลูกฝังวธิ ีคิด แยกแยะผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวม..”
เรอ่ื ง หลกั สตู รสถานศึกษาการศกึ ษาปฐมวัย ๘๕
คณิตศาสตร์ โรงเรยี นวดั ไทรใหญ่(นนททวิ ากรราษฎร์บำรุง)
แสง สี และการมองเหน็ กจิ กรรมการทดลองบา้ นนกั วิทยาศาสตรน์ ้อย ประเทศไทย
ก๊าซคาบอนไดออกไซด์ กจิ กรรมการทดลอง
๑. ปริมาณนำ้ ในแกว้ เทา่ กนั หรอื ไม่
๒. ดนิ นำ้ มันสยู่ อดปราสาท
๓. วาดด้วยวงเวยี น
๔. สชู่ ัยชนะด้วยมุมและดา้ น
๕. กระจกเงาทำได้ทกุ อย่าง
๖. ฟองสบูร่ ปู สเี่ หลย่ี มและวงกลม
๗. การจดั หมวดหมู่
๘. ท่วงทำนองของตวั เลข
๙. รจู้ กี กับสีเ่ หลีย่ มและมุม
๑๐ ภาพท่ซี ำ้ ไปมา
๑. สรา้ งอปุ กรณ์ขยายภาพด้วยตนเอง
๒. ลกู ข่างหลากสี
๓. แสงเลยี้ วเบน
๔. สอ่ งกระจก
๕. ภาพเคล่ือนไหวในแสงสแี ดงและสีเขยี ว
๖. ภาพเคลื่อนไหว
๗. กระจกกบั ภาพทีพ่ ศิ วง
๘. แสงและภาพ
๙. เงาของตุ๊กตาจะทอดยาวเมื่อไร
๑๐ แสงสขี าวกบั มงุ้
๑๑. โลกของสสี ัน และลวดลายพศิ วง
๑๒. การทำงานของดวงตา
๑. การเผาไหม้
๒. ลกู โปง่ พองโต
๓. ภเู ขาไฟระเบดิ
๔. เมลด็ พชื เต้นระบำ
๕. อินดิเคเตอร์จากพืช
๖. อดั ลมและพน่ ฟอง
๗. ผงลกึ ลับ
๘. กา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซดช์ ว่ ยดบั ไฟ
๙. เมลด็ พชื เต้นระบำ
๑๐. จรวดกลอ่ งฟลิ ์ม
๑๑. ผลติ ก๊าซฟองฟู่
๑๒. น้ำมะนาวโซดาแสนอร่อย
ไฟฟา้ หลกั สูตรสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย ๘๖
แม่เหล็ก
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ่(นนททิวากรราษฎร์บำรุง)
นำ้
๑. เปดิ ปดิ สวติ ซ์มหี น้าทอี่ ะไร
อากาศ ๒. การแยกเกลือและพริกไทย
๓. นำ หรอื ไมน่ ำไฟฟา้ กระแสไฟฟา้ ไหลผ่านอะไรไดบ้ ้าง
วัฏจักษส์ บื เสาะ ๔. สนกุ กบั ไฟฟา้ สถิต
(นำ้ ) ๕. หักเหน้ำ
๖. ตดิ หนบึ โดยไมต่ อ้ งใชก้ าว
๗. วงจรไฟฟ้า หลอดไฟสอ่ งสวา่ ง
๑. แมเ่ หล็กสามารถดดู ส่งิ ของอนื่ ๆได้
๒. แมเ่ หล็กจะดูดติวัสดุบางอย่างเทา่ นน้ั
๓. แมเ่ หลก็ สามารถดดู กนั โดยไม่ตอ้ งสมั ผสั กนั
๔. แมเ่ หก็ สามารถดดู สิง่ ของได้ แม้มวี ัสดอุ ื่นมาขวางกั้น
๕. แมเ่ หลก็ ไม่ดูดกันเท่านน้ั แต่ยังผลักกนั ไดด้ ว้ ย
๑. สนุกกับฟองสบู่
๒. หลอดดำนำ้
๓. หมุดลอยน้ำ
๔. การละลายของน้ำตาล
๕. ไหลแรงหรือคอ่ ย
๖. เนนิ นำ้
๗. ตัวทำละลาย
๘. น้ำ ทราย และนำ้ มัน
๙. ความลบั ของสดี ำ
๑. ทอร์นาโดในขวด
๒. ลมออ่ นๆ พัดผา่ นหอ้ ง
๓. ลูกโป่งพองโตและขวดบุบเองดว้ ย
๔. งเู ต้นระบำและจรวจถุงชา
๕. ระฆังดำน้ำจากขวดและเครอ่ื งเป่าฟองสบู่
๖. เรอื สะเท้นนำ้ สะเท้นบก และจรวจ
๗. สถานีเติมลม
๘. กกั น้ำไวไ้ ด้
๑. น้ำแขง็ ละลายในนำ้
๒. ทำน้ำใหเ้ ปน็ น้ำแขง็
๓. รู้จักนำ้ ด้วยประสาทสมั ผัส
๔. หยดน้ำ
๕. น้ำเป็นของเหลว
๖. น้ำตาลละลายในน้ำไดม้ ากทสี่ ดุ ก่กี อ้ น
๗. นำ้ เป็นตวั ทำละลาย
๘. การละเหยและการเป็นไอของนำ้
วฏั จกั ษส์ บื เสาะ หลกั สตู รสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย ๘๗
(อากาศ)
โรงเรียนวดั ไทรใหญ(่ นนททวิ ากรราษฎรบ์ ำรงุ )
วทิ ยาการคำนวน
๙. กรองน้ำใหใ้ ส
๑. อากาศรอ้ นและอากาศเย็น
๒. สรา้ งกระแสลม
๓. อากาศและนำ้
๔. อากาศมีตวั ตน
๕. อากาศมีแรงกระทำ
๖. รู้จกั อากาศดว้ ยประสาทสัมผัส
๗. มีอากาศอยใู่ นฟองสบเู่ ท่าใด
๘. ลมเดนิ ทางไปไหน
๙. สดู อากาศเขา้ ไปในปอด
1. คอมพิวเตอร์ลัอุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์
2. ภาพพกิ เซล
3. เป็นหุ่นยนตด์ สู กั คร้งั ในชวี ิต
4. ปราศจากข้อความ
5. สง่ิ ใดเกดิ ก่อนกัน
6. ตามหาทางลัด
7. ไขรหสั ลบั สดุ ยอด
หลกั สตู รสถานศึกษาการศกึ ษาปฐมวัย ๘๘
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ่(นนททิวากรราษฎร์บำรงุ )
๒๘. กากราจรจดั ดั สสภภาาพแววดดลลอ้ ้อมมสสอ่ื ่อืแลแะลแะหแลหง่ ลเร่งียเนรียรู้นรู้
โรงเรยี นวัดไทรใหญ่ (นนททวิ ากรราษฎร์บำรงุ ) จดั สภาพแวดล้อม โดยคํานึงถึง การสรา้ งบรรยากาศที่
ครอบคลุมด้านกายภาพ ที่สอดคล้องกับสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 ซ่ึง
ได้แก่ การจดั สภาพแวดล้อมทง้ั ภายใน และภายนอกหอ้ งเรียน โรงเรยี น เพอื่ สรา้ งบรรยากาศ การเรียนรูใ้ ห้เกิด
กับเด็ก โดยสามารถเขียนเปน็ แผนผังและคําอธิบายประกอบใหช้ ดั เจน สว่ นด้านจติ ภาพ สถานศึกษาหรือสถาน
พัฒนาเด็กปฐมวัยมีการกําหนดแนวทางอย่างไร ที่ทําให้ผู้สอนและผู้เกี่ยวข้องสร้าง บรรยากาศเพื่อให้เด็กมี
ความรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย มีการเว้นระยะห่าง กล้าแสดงออก มีความมั่นใจในตนเอง ได้แสดงออกทาง
ความคิดสร้างสรรค์ และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ รวมทั้งการสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับเด็ก รวมทั้งกําหนดส่ือ
และแหล่งเรียนรู้ที่จะใช้พัฒนาเด็กให้ สอดคล้องกับจุดหมาย ครอบคลุมมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ที่
กาํ หนดไว้ในหลักสูตรการศึกษาปฐมวยั พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ โดยคาํ นงึ ถึงวยั พัฒนาการ และความแตกต่างของ
เด็ก บรบิ ททางสงั คมและวฒั นธรรมที่ แวดลอ้ มเดก็
การจัดสภาพแวดล้อมและบรรยากาศการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย โรงเรียนวัดไทรใหญ่ (นนททิวากร
ราษฎร์บำรุง) คำนงึ ถงึ สิ่งตอ่ ไปน้ี
๑. ความสะอาด ความปลอดภัย
๒. ความมีอสิ ระอย่างมีขอบเขตในการเล่น
๓.ความสะดวกในการทำกจิ กรรม
๔.ความพร้อมของอาคารสถานที่ เชน่ หอ้ งเรียน หอ้ งนาํ้ หอ้ งสว้ ม สนามเดก็ เล่น ฯลฯ
๕.ความเพยี งพอเหมาะสมในเรื่องขนาด นา้ํ หนกั จำนวน สขี องส่อื และเคร่อื งเล่น
๖.บรรยากาศในการเรยี นรู้ การจดั ทีเ่ ลน่ และมุมประสบการณต์ า่ ง ๆ
๗.มกี ารทำความสะอาดฆ่าเชือ้ ของเล่นและจดุ สัมผสั สมำ่ เสมอ
โรงเรยี นวัดไทรใหญ่ (นนททวิ ากรราษฎร์บำรุง) จึงกำหนดหลักการจัดสภาพแวดล้อมและบรรยากาศ
การเรียนรภู้ ายในและภายนอกห้องเรียนไวด้ งั น้ี
สภาพแวดลอ้ มและบรรยากาศการเรียนร้ภู ายในหอ้ งเรียน
จัดบรรยากาศที่เนน้ ความเปน็ ระเบียบ สะอาด สวยงาม ปลอดภยั มีมุมประสบการณ์ต่างๆเพื่อให้เอ้ือ
ต่อการพฒั นาการและการจัดการเรียนรู้ของเดก็ จดั ให้มที ่ีวา่ งใหเ้ ด็กๆ สามารถทำกิจกรรมได้อย่างสะดวก เน้น
ให้ห้องเรียนมีแสงสว่างและสีสันสบายตา มีตู้สำหรับเก็บของใช้ส่วนตัวของเด็กแต่คนเพื่อปลูกฝังความมีวินัย
ความเป็นระเบียบ และการรู้จักเก็บรักษาของใช้ของตนเองมีการทำความสะอาดฆ่าเชื้อของเล่นและจุดสัมผัส
สมำ่ เสมอ ซ่งึ จดั แบ่งพ้นื ท่ีให้เหมาะสมกบั การประกอบกจิ กรรมตามหลกั สตู ร ดังนี้
๑. พน้ื ทอี่ ำนวยความสะดวกเพื่อเดก็ และผู้สอน
๑.๑ ทีแ่ สดงผลงานของเด็ก จัดเป็นแผ่นปา้ ย หรอื ทีแ่ ขวนผลงาน
๑.๒ ทเ่ี ก็บแฟ้มผลงานของเด็ก จัดทำเปน็ กลอ่ งหรือจัดใส่แฟม้ รายบคุ คล
๑.๓ ทีเ่ กบ็ เครื่องใช้สว่ นตวั ของเดก็ ทำเปน็ ชอ่ งตามจำนวนเดก็
๑.๔ ทเ่ี กบ็ เครอ่ื งใชข้ องผู้สอน เชน่ อปุ กรณ์การสอน ของสว่ นตัวผู้สอน ฯลฯ
๑.๕ ปา้ ยนิเทศตามหนว่ ยการสอนหรือส่ิงทีเ่ ดก็ สนใจ
หลกั สตู รสถานศกึ ษาการศึกษาปฐมวัย ๘๙
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ(่ นนททิวากรราษฎร์บำรุง)
๒. พน้ื ที่ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมและการเคลื่อนไหว
จัดพื้นที่ที่เด็กสามารถจะทำงานได้ด้วยตนเอง และทำกิจกรรมโดยการเว้นระยะห่างให้เด็กมีการ
สมั ผสั ใกลช้ ิดกนั เด็กสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระจากกิจกรรมหนงึ่ ไปยังกิจกรรมหนึ่งโดยไม่รบกวนผู้อืน่
๓. พ้นื ทจี่ ัดมุมเล่นหรือมุมประสบการณ์
จัดแยกสว่ นท่ีใชเ้ สยี งดังและเงียบออกจากกนั เช่น มมุ บล็อกอยู่หา่ งจากมุมหนงั สือ มุมบทบาท
สมมติอยู่ติดกับมุมบล็อก มุมวิทยาศาสตร์อยู่ใกล้มุมศิลปะ ฯลฯ จัดให้มีของเล่น วัสดุอุปกรณ์ในมุมอย่าง
เพียงพอต่อการเรียนรู้ของเดก็ แลกของเล่นออกเป็นตะกร้าย่อยๆเพื่อให้เดก็ ได้เรียนตามความสนใจและมีการ
เว้นระยะหา่ ง อย่างนอ้ ย ๑ เมตร มีการทำความสะอาดฆา่ เชือ้ ของเล่นและจุดสมั ผสั สมำ่ เสมอ
สภาพแวดล้อมและบรรยากาศการเรียนรู้ภายนอกหอ้ งเรียน
จดั สภาพภายนอกห้องเรียนตามแนวโรงเรยี นน่าดู น่าอยู่ นา่ มอง มีการจดั สวนหยอ่ มประเภทสวนผัก
สวนครัวเพื่อเป็นตัวอย่างแก่เด็กและชุมชน มีแปลงเกษตรพืชสมุนไพร มีต้นไม้การเรียนรู้ ฝาผนังพูดได้ มีมุม
บ้านหลงั นอ้ ย สนามเด็กเลน่ เพือ่ สนับสนุนให้เด็กเรียนรู้อยู่กลางธรรมชาติ เรียนร้อู ยา่ งมคี วามสุข สอดคล้องกับ
พัฒนาการตามวัย ซง่ึ จดั แบ่งพน้ื ที่ให้เหมาะสมกบั การประกอบกิจกรรมตามหลกั สูตร ดงั น้ี
๑. บริเวณสนามเด็กเล่น จัดพ้นื ผวิ ของสนามท่ีไม่เปน็ อันตรายต่อเดก็ มพี ้นื ที่สำหรบั เล่นของเล่นที่มีล้อ
รวมทั้งที่ร่ม ที่โล่งแจ้ง พื้นดินสำหรับขุด ที่เล่นนํ้า บ่อทรายพร้อมอุปกรณ์ประกอบการเล่น เครื่องเล่นสนาม
สำหรับปีนป่าย ทรงตัว ฯลฯ ทั้งนี้ไม่ติดกับบริเวณที่มีอันตราย และหมั่นตรวจตราเครื่องเล่นให้อยู่ในสภาพ
แข็งแรง ปลอดภัยอยเู่ สมอ และหม่ันดแู ลเรื่องความสะอาด
๒.ที่นั่งเล่นพักผ่อน จัดที่นั่งไว้ใต้ต้นไม้มีร่มเงา สำหรับใช้จัดกิจกรรมกลุ่มย่อย ๆ หรือกิจกรรมที่
ต้องการความสงบ หรือจดั เป็นลานนทิ รรศการให้ความรแู้ กเ่ ดก็ และผูป้ กครอง
๓.บริเวณธรรมชาติ ปลกู ไมด้ อก ไมป้ ระดบั และพืชผักสวนครวั
๔. แปลงการเรยี นรู้เศรษฐกิจพอเพียง การปลูกผักที่ใช้รับประทานอาหารภายในโรงเรยี น และการทำ
ปยุ๋ หมัก
หลกั สตู รสถานศกึ ษาการศกึ ษาปฐมวัย ๙๐
โรงเรียนวดั ไทรใหญ(่ นนททวิ ากรราษฎร์บำรงุ )
๙. การปกราะรเปมรินะเพมฒัินพนฒั ากนาากราร
โรงเรียนวัดไทรใหญ่ (นนททิวากรราษฎร์บำรุง) ได้จัดทําแนวปฏิบัติและเครื่องมือในการประเมิน
พฒั นาการของเด็กปฐมวัยให้ทุกฝ่ายท่ีเก่ยี วข้องได้ปฏิบตั ิให้สอดคล้องกับหลักการประเมินพัฒนาการท่ีกําหนด
ไว้ใน หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ โดยมีแนวทางการดําเนินการประเมินพัฒนาการให้มี
รายละเอยี ดชัดเจนและสามารถปฏิบัติได้ ประกอบดว้ ย
๙.๑ หลกั การประเมนิ พัฒนาการเดก็
๙.๒ ขอบเขตของการประเมนิ พัฒนาการ มรี ายละเอียดการดาํ เนนิ การ ดังนี้
๑) พฒั นาการด้านต่างๆ
๒) มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ ตวั บ่งชี้ สภาพท่ีพึงประสงค์
๓) วิธีการและเครื่องมือการประเมนิ พัฒนาการ
๔) เกณฑก์ ารประเมนิ พัฒนาการและระดบั คุณภาพ
๕) การสรปุ ผลการประเมนิ พฒั นาการ
๖) การรายงานผลการประเมินพัฒนาการ
ข้ันตอนการประเมนิ พฒั นาการ
การประเมนิ พัฒนาการเดก็ ปฐมวัย มีขนั้ ตอนต่างๆ ดังตอ่ ไปนี้
๑. ศึกษาและทำความเข้าใจพัฒนาการของเดก็ ในแตล่ ะช่วงอายุทุกด้าน ไดแ้ ก่ ดา้ นรา่ งกาย
อารมณ์ จติ ใจ สงั คม และ สตปิ ญั ญา
๒. วางแผนเลือกใช้วิธกี ารและเครอื่ งมอื ที่เหมาะสมสำหรบั ใช้บนั ทกึ และประเมินพฒั นาการ
๓. ดำเนนิ การประเมินและบนั ทกึ พฒั นาการ
๔. ประเมนิ และสรปุ
๕. รายงานผล
๖. ให้ผปู้ กครองมสี ่วนรว่ มในการประเมนิ
วิธีการประเมิน
จัดให้มีการประเมนิ พัฒนาการเดก็ ทกุ ด้านโดยใช้
๑. การสังเกตและบนั ทกึ พฤติกรรมของเด็ก
๒. การสัมภาษณ์ สนทนา ซักถามเดก็
๓. การสัมภาษณ์ สนทนา ซักถามผปู้ กครอง
๔. การตรวจผลงาน ประเมนิ ชิน้ งานอยา่ งต่อเนื่อง
๕. การรวบรวมผลงานท่แี สดงความกา้ วหน้าของเดก็ รายบุคคล (portfolio)
๖. การประเมนิ การเจรญิ เตบิ โต
หลักสตู รสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย ๙๑
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่(นนททิวากรราษฎร์บำรงุ )
เคร่อื งมอื ทใี่ ช้ในการประเมิน
๑. แบบสำรวจรายการพฤติกรรมของเดก็
๒. แบบบันทึกการเลอื กเล่นตามมมุ
๓. การบันทึกสขุ ภาพ
๔. แบบสมั ภาษณ์
๕. แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
๖. แบบบนั ทึกคำพดู
เกณฑ์การประเมนิ
ใช้เกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั คุณภาพ ๓ ระดับ ดังน้ี
ระดับ ๓ หมายถงึ พบพฤติกรรมทแ่ี สดงพัฒนาการได้บอ่ ย ปฏบิ ัติไดค้ ล่องแคล่ว รวดเร็ว หรือพัฒนา
ไปตามเกณฑ์มาตรฐาน
ระดับ ๒ หมายถงึ พบพฤตกิ รรมท่ีแสดงพฒั นาการเป็นบางคร้งั แตย่ ังไม่คล่องและไมส่ ม่ำเสมอ หรือ
ได้ใกล้เคียงตามเกณฑม์ าตรฐาน
ระดับ ๑ หมายถึง ยังไม่พบพฤติกรรมที่แสดงพัฒนาการ หรือยังไม่ชัดเจน ควรได้รับการเสริมสร้าง
พฒั นาการใหไ้ ดม้ าตรฐาน
ระยะเวลาประเมิน
โรงเรียนวัดไทรใหญ่ (นนททิวากรราษฎรบ์ ำรุง) กำหนดการประเมินพัฒนาการเด็กปฐมวยั ไวด้ งั นี้
๑.การประเมินระหว่างการเรยี นรู้ ใหค้ รูผ้สู อนประเมินพัฒนาการตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ของแต่ละ
หนว่ ยการเรียนรู้
๒. การประเมินรายภาคเรียน ให้ครูผู้สอนประเมินพัฒนาการตามมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์
ของหลักสูตรสถานศกึ ษาปฐมวยั ปีการศกึ ษาละ ๒ คร้งั และสรปุ ผล
๓. การประเมนิ เม่ือจบหลกั สตู รการศกึ ษาปฐมวยั
เอกสาร/หลักฐานแสดงผลการประเมนิ พัฒนาการ
๑. สมุดบันทึกพัฒนาการ (อบ.๑)
๒. สมุดบนั ทกึ พัฒนาการ (อบ.๒)
๓. แบบบันทกึ สุขภาพนักเรียน
หลกั สูตรสถานศกึ ษาการศึกษาปฐมวัย ๙๒
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ(่ นนททวิ ากรราษฎร์บำรงุ )
๑๐ก.ากราบรรบิหราิหราจรดั จกดั ากราหรลหกั ลสักตู สรูตสรถสาถนาศนึกศษึกาษปาฐปมฐวมยั วยั
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่ (นนททิวากรราษฎรบ์ ำรงุ ) มภี ารกิจหลักในการจัดการศึกษาให้เด็กปฐมวยั ได้รบั
การ พฒั นาอย่างเต็มศกั ยภาพ ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา ผูส้ อน และผเู้ ก่ียวข้องทุกฝา่ ยจงึ มีบทบาทสาํ คญั ในการ
บริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวยั ใหม้ ีประสิทธิภาพ ดงั น้ี
๑๐.๑ การเตรยี มความพรอ้ มของสถานศกึ ษา การเตรียมความพร้อมของสถานศึกษาในการบริหาร
จัดการหลกั สูตรสถานศึกษา ไดแ้ ก่
๑๐.๑.๑ สร้างความตระหนักให้แก่บุคคล ซึ่งประกอบด้วยคณะกรรมการสถานศึกษา ผู้บริหาร
ครูผู้สอน ผู้ปกครอง ชุมชน นักเรียน ทั้งนี้เพื่อให้เห็นความสำคัญ ความจำเป็นที่ต้องร่วมมือกันบริหารจัดการ
หลักสตู รสถานศกึ ษาปฐมวยั ของสถานศึกษา โดยมีขอ้ มลู ท่ีแสดงความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับการจดั ทำหลักสูตร
สถานศึกษาปฐมวัยของบุคลากรที่เกี่ยวขอ้ ง มีเอกสารและหลกั ฐานเผยแพรค่ วามรู้เกี่ยวกับหลักสูตรการศึกษา
ปฐมวัย และบุคลากรที่เกี่ยวข้องมีความสนใจ และกระตือรือร้นที่จะหาความรู้เกี่ยวกับหลักสูตรการศึกษา
ปฐมวยั พุทธศกั ราช ๒๕๖๐
๑๐.๑.๒ พัฒนาบคุ ลากรของสถานศกึ ษาใหม้ ีความรู้ ความเข้าใจ เก่ยี วกบั การพัฒนาหลกั สตู ร
สถานศึกษา โดยมีคณะทำงานที่รับผิดชอบเอกสารหลักสูตร มีข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการพัฒนาความรู้
เกีย่ วกบั การศึกษาปฐมวัยของบุคลากรในสถานศึกษา และมีบัญชรี ายชอื่ สถานศกึ ษาและแหล่งเรยี นรู้
๑๐.๑.๓ ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการของสถานศึกษา ซึ่งประกอบด้วย คณะกรรมการ
บริหารหลักสูตรและงานวิชาการการศึกษาปฐมวัย และคณะกรรมการอื่น ๆ ตามความจำเป็น และชี้แจงให้
คณะกรรมการและคณะอนุกรรมการเข้าใจบทบาทหน้าทข่ี องตนเองสอดคล้องกบั นโยบายของสถานศกึ ษา
๑๐.๑.๔ จัดทำระบบสารสนเทศของสถานศึกษา มีการจัดทำข้อมูลพื้นฐานของโรงเรียนชุมชน
และข้อมูลการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ และมีข้อมูลเกี่ยวกับการจัดทำหลักสูตรทั้งในอดีต ปัจจุบัน และ
อนาคต และจะต้องเป็นข้อมูลสารสนเทศที่มีคุณภาพทั้งในด้านความถูกต้อง เชื่อถือได้มีความเป็นปัจจุบัน
สามารถตอบสนองผู้ใช้ไดท้ ันเหตุการณ์
๑๐.๑.๕ จัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาปฐมวัย โดยนำข้อมูลสารสนเทศของสถานศึกษา
ชุมชน มาใช้ในการจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่มีความสอดคล้องกับสภาพของสถานศึกษา เป็น
กระบวนการพัฒนาปรับปรุงการจัดการศึกษาของสถานศึกษาทั้งระบบทั่วทั้งองค์กร กำหนดเป็นแผนพัฒนา
อย่างต่อเนื่อง โดยทุกกิจกรรมที่เป็นองค์ประกอบหลักของระบบการจัดการศึกษา ได้แก่ หลักสูตร การจัด
ประสบการณ์การเรียนรู้ การประเมินพัฒนาการ การบริหารจัดการ การปกครอง การพัฒนาวิชาชีพ บุคลากร
การบริหารงบประมาณ และการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง ชุมชน จัดทำเป็นเอกสารให้ทุกคนรับทราบและ
ดำเนินการตามแผนพัฒนาท่กี ำหนดขึ้น
๑๐.๑.๖ เผยแพรป่ ระชาสัมพันธห์ ลกั สูตรให้กบั ผู้ปกครอง นักเรียน หนว่ ยงาน องค์กรในชุมชน
ทุกฝ่ายได้รับทราบด้วยวิธีการที่หลากหลาย และขอความร่วมมือ โดยมีการประชาสัมพันธ์หลักสูตร ความ
เคลื่อนไหวของหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยให้กับบุคลากรในสถานศึกษา ผู้ปกครอง ชุมชนทราบ และบุคลากร
ทุกฝา่ ยอาสาท่จี ะช่วยเผยแพรป่ ระชาสมั พันธ์
หลักสูตรสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย ๙๓
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ(่ นนททวิ ากรราษฎรบ์ ำรงุ )
๑๐.๒ การวางแผนดำเนนิ การใชห้ ลกั สูตร
๑๐.๒.๑ สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ บรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่ดีในโรงเรียน เช่น สะอาด
ปลอดภยั สะดวกสบาย และสง่ เสรมิ การใฝร่ ู้ สนองความสนใจทีจ่ ะเรยี นรู้ ค้นควา้ ทดลอง และสัมผัสของเด็ก
จัดเตรียมสิ่งแวดล้อมอย่างเหมาะสมกับความต้องการของเด็ก รวมถึงสอดคล้องกับสภาพและความต้องการ
ของหลักสตู ร เพอื่ สง่ ผลใหบ้ รรลจุ ดุ หมายในการพฒั นาเด็ก
๑๐.๒.๒ จัดหา เลือกใช้ ทำและพัฒนาสื่อ ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยพุทธศักราช ๒๕๖๐
และหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย มุ่งส่งเสรมิ ให้ผู้เรียนรู้ดว้ ยตนเอง พัฒนาเด็กปฐมวยั ทั้งดา้ นร่างกาย อารมณ์
จิตใจ สังคม และสติปญั ญา ใช้ส่อื อย่างเหมาะสมกบั วยั วุฒภิ าวะ ความแตกตา่ งระหว่างบุคคล ความสนใจและ
ความตอ้ งการของเด็กทีห่ ลากหลาย เป็นรายบุคคลและเว้นระยะห่าง โดยมีแนวทางดงั นี้
๑๐.๒.๓ จัดทำและจัดหาสือ่ ทีม่ ีอยูใ่ นทอ้ งถิ่นมาประยุกตใ์ ชเ้ ป็นส่ือการเรยี นรู้
๑๐.๒.๔ ศึกษา ค้นคว้า วิจัยเพื่อพัฒนาสื่อการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับกระบวนการเรียนรู้ของ
ผเู้ รยี น
๑๐.๒.๕ จัดทำและจัดหาสื่อ สำหรับการศึกษาค้นคว้าของผู้เรียน และสำหรับเสริมความรู้ของ
ผู้สอน
๑๐.๒.๖ ศึกษาวิธีการเลอื กและการใชส้ ่ือการเรียนรูอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพเหมาะสม หลากหลาย
และสอดคลอ้ งกบั วธิ กี ารเรยี นรู้ ความแตกตา่ งระหว่างบุคคล
๑๐.๒.๗ ศึกษาวิเคราะห์และประเมินคุณภาพมาตรฐานส่ือการเรียนรู้ท่ีจัดทำขึน้ เองและที่เลือก
นำมาใชป้ ระกอบการเรยี นรู้
๑๐.๒.๘ จัดหาและจดั ให้มแี หล่งการเรียนรู้ ศูนยก์ ารเรียนรู้ท่ปี ระสิทธิภาพในสถานศึกษาและใน
ชุมชน เพอื่ ศกึ ษาค้นคว้า แลกเปลย่ี นประสบการณก์ ารเรียนรู้
๑๐.๒.๙ จัดให้มีเครือข่ายการเรียนรู้ เพื่อเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ระหว่าง
สถานศกึ ษา ท้องถ่นิ ชมุ ชนและสังคมอื่น
๑๐.๒.๑๐ จัดให้มกี ารกบั ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานเก่ียวกบั สื่อ และการใช้ส่ือการ
เรยี นรู้เป็นระยะ ๆ
๑๐.๓ การดำเนนิ การบริหารหลกั สูตร (การใชห้ ลกั สูตร)
การดำเนินการบริหารหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย คือการใช้หลักสูตรตามทิศทางท่ี
สถานศึกษากำหนดให้บรรลุผลสำเร็จ จัดการเรียนการสอนและดำเนินกิจกรรมต่างๆตามแผนปฏิบัติการของ
สถานศกึ ษา การดำเนนิ การประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษาเปน็ วธิ ีการทีด่ สี ามารถใช้บริหารจัดการหลักสูตร
ไดป้ ระสบผลสำเรจ็
๑๐.๔. การกำกบั ติดตาม ประเมนิ ผลและรายงาน
๑๐.๔.๑ การนเิ ทศ กำกบั ตดิ ตามและประเมนิ ผลการบริหารจัดการหลกั สตู รและงานวิชาการ
ภายในสถานศกึ ษา โดยจัดระบบการกำกับ ติดตาม ประเมนิ ผลและรายงานคุณภาพการจดั การศกึ ษาท่ีมี
ประสทิ ธภิ าพ ใหท้ ุกฝ่ายที่มีส่วนรว่ มรบั ผดิ ชอบมองเห็นภาพความสำเร็จ ปญั หา อปุ สรรค ตลอดจนการให้
ความร่วมมอื ชว่ ยเหลือ สง่ เสรมิ สนบั สนุนการวางแผนการดำเนนิ งานจัดการศึกษาปฐมวัยใหม้ คี ุณภาพอย่าง
แทจ้ รงิ ดี
หลกั สตู รสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย ๙๔
โรงเรียนวดั ไทรใหญ(่ นนททวิ ากรราษฎรบ์ ำรุง)
๑๐.๕ บทบาทผู้เก่ียวขอ้ งกับการบรหิ ารจัดการหลกั สตู ร
โรงเรียนวัดไทรใหญ่ (นนททิวากรราษฎร์บำรุง) มีเป้าหมายจัดการศึกษาแก่เด็กปฐมวัยใน
สถานศึกษาใหเ้ กดิ ประสิทธผิ ลสูงสุด จึงกำหนดบทบาทของผ้บู ริหารสถานศกึ ษา ดังนี้
๑๐.๕.๑ บทบาทผูบ้ ริหารสถานศกึ ษา
๑) ศึกษา ทำความเข้าใจหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยและมีวิสัยทัศน์ด้านการจัด
การศกึ ษาปฐมวัย
๒) คัดเลือกบคุ ลากรท่ีทำงานกับเด็ก เชน่ ผู้สอน พเ่ี ล้ียง อย่างเหมาะสม
๓) ส่งเสริมการจัดบริการทางการศึกษาให้เด็กได้เข้าเรียนอย่างทั่วถึงและเสมอภาค
และปฏบิ ัตกิ ารรับเดก็ ตามเกณฑ์ทก่ี ำหนด
๔) ส่งเสริมใหค้ รูผสู้ อนและผู้ปฏิบตั ิงานกบั เด็กพฒั นาตนเองมคี วามรกู้ ้าวหน้าอยู่เสมอ
๕) เป็นผ้นู ำในการจดั ทำหลกั สตู รสถานศึกษาโดยร่วมใหค้ วามเหน็ ชอบกำหนดวิสัยทัศน์
และคณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ขอเด็กทุกชว่ งอายุ
๖) สรา้ งความรว่ มมือและประสานกบั บคุ ลากรทุกฝา่ ยในการจดั ทำหลักสตู รสถานศกึ ษา
๗) จัดให้มขี ้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับตวั เด็ก งานวิชาการหลักสูตรอย่างเป็นระบบและมี
การประชาสมั พนั ธห์ ลกั สูตรสถานศกึ ษา
๘) สนบั สนุนการจดั สภาพแวดล้อมตลอดจนสื่อ วสั ดุ อุปกรณ์ทเ่ี อื้ออำนวยต่อการเรียนรู้
๙) นิเทศ กำกบั ติดตามการใชห้ ลกั สตู ร โดยจดั ให้มีการนเิ ทศภายในอยา่ งมีระบบ
๑๐) กำกับ ติดตามให้มีการประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษาและนำผลจากการ
ประเมนิ ไปใชใ้ นการพฒั นาคุณภาพเดก็
๑๑) กำกบั ติดตาม ให้มีการประเมินการนำหลักสูตรไปใช้ เพ่อื นำผลจากการประเมินมา
ปรับปรุงและพัฒนาสาระของหลักสูตรสถานศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการของเด็ก บริบทสังคมและมี
ความทันสมัย
๑๐.๕.๒ บทบาทผู้สอนระดบั ปฐมวยั
การพัฒนาคุณภาพเด็กโดยถือว่าเด็กมีความสำคัญท่ีสุด กระบวนการจัดการศึกษาต้อง
ส่งเสริมให้เด็กสามารถพัฒนาตนตามธรรมชาติ สอดคล้องกับพัฒนาการและเต็มศักยภาพ ดังนั้น ผู้สอนจึงมี
บทบาทสำคัญยิ่งที่จะทำให้กระบวนการจัดการเรียนรู้ดังกล่าวบรรลุผลอย่างมีประสิทธิภาพ โรงเรียน
วดั ไทรใหญ่ (นนททิวากรราษฎรบ์ ำรงุ ) จึงกำหนดบทบาทและหน้าที่ของครูผู้สอนระดับปฐมวัย ดงั น้ี
๑) บทบาทในฐานะผเู้ สรมิ สร้างการเรียนรู้
๑. จัดประสบการณ์การเรียนรู้สำหรับเด็กที่เด็กกำหนดขึ้นด้วยตัวเด็กเอง และ
ผูส้ อนกำหนดร่วมกบั เด็ก โดยเสรมิ สรา้ งพัฒนาการให้ครบทกุ ด้าน
๒. ส่งเสริมให้เด็กใช้ข้อมูลแวดล้อม ศักยภาพของตัวเด็ก และหลักทางวิชาการใน
การผลิต กระทำ หรอื หาคำตอบในสงิ่ ท่เี ด็กเรยี นรอู้ ย่าวงมีเหตุผล
๓. กระตุ้นให้เด็กร่วมคิด แก้ปัญหา ค้นคว้าหาคำตอบด้วยตนเอง ด้วยวิธีการศึกษา
ท่ีนำไปสู่การใฝร่ ู้ และพฒั นาตนเอง
๔. จดั สภาพแวดล้อมและสร้างบรรยากาศการเรยี นที่สร่างเสริมใหเ้ ดก็ ทำกจิ กรรมได้
เตม็ ตามศักยภาพและความแตกต่างของเด็กแตล่ ะบคุ คล
๕. สอดแทรกการอบรมด้านจริยธรรมและค่านิยมที่พึงประสงค์ในการเรียนรู้ และ
กิจกรรมตา่ งๆอยา่ งสม่ำเสมอ
หลักสตู รสถานศกึ ษาการศึกษาปฐมวัย ๙๕
โรงเรยี นวดั ไทรใหญ(่ นนททิวากรราษฎรบ์ ำรุง)
๖. ใช้กจิ กรรมการเล่นเปน็ สือ่ การเรยี นรูส้ ำหรบั เด็กให้เปน็ ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
๗. ใช้ปฏสิ มั พันธท์ ี่ดกี ับเด็กในกิจกรรมการเรียนการสอนอย่างสม่ำเสมอ
๘. ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ตามสภาพจรงิ และนำผลมาปรับปรุงพัฒนาคุณภาพเด็ก
๒) บทบาทในฐานะผดู้ ูแลเด็ก
๑. สังเกตและส่งเสริมพัฒนาการเด็กทุกด้านทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ
สังคม และสติปญั ญา
๒. ฝึกให้เด็กชว่ ยเหลอื ตนเองในชีวิตประจำวนั
๓. ฝกึ ให้เด็กมีความเชื่อม่นั มีความภมู ิใจในตนเองและกลา้ แสดงออก
๔. ฝึกการเรยี นรู้หน้าท่ี ความมีวนิ ยั และการมีนิสัยที่ดี
๕. จำแนกพฤติกรรมเด็กและสรา้ งเสรมิ ลกั ษณะนสิ ัยและแกป้ ัญหาเฉพาะบุคคล
๖. ประสานความรว่ มมือระหว่างสถานศึกษา บา้ น และชุมชน เพอ่ื ใหเ้ ด็กได้พัฒนา
เตม็ ศกั ยภาพและมมี าตรฐานคณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์
๓) บทบาทในฐานะนกั พัฒนาเทคโนโลยกี ารสอน
๑. นำนวัตกรรม เทคโนโลยที างการสอนมาประยุกต์ใชใ้ หเ้ หมาะสมกับสภาพบริบท
สังคม ชุมชน และท้องถ่นิ
๒. ใช้เทคโนโลยแี ละแหล่งเรยี นรู้ในชุมชนในการเสรมิ สร้างการเรียนร้ใู หแ้ กเ่ ด็ก
๓. จัดทำวิจัยในชั้นเรียน เพื่อนำไปปรับปรุง พัฒนาหลักสูตร กระบวนการเรียนรู้
และพฒั นาสอ่ื การเรียนรู้
๔. พัฒนาตนเองให้เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ มีคุณลักษณะของผู้ใฝ่รู้ มีวิสัยทัศน์
และทันสมัยทันเหตกุ ารณ์ในยคุ ของข้อมลู ข่าวสาร
๔) บทบาทในฐานะผูบ้ ริหารหลกั สูตร
๑. ทำหน้าที่วางแผนกำหนดหลกั สตู ร หน่วยการเรียนรู้ การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
การประเมินผลการเรียนรู้
๒. จัดทำแผนการจดั ประสบการณ์ท่ีเนน้ เด็กเป็นสำคัญ ใหเ้ ด็กมีอิสระในการเรียนรู้
ทง้ั กายและใจ เปิดโอกาสใหเ้ ด็กเล่น/ทำงานและเรียนร้ทู ้ังรายบุคคลและเป็นกลมุ่
๓. ประเมินผลการใช้หลักสูตร เพื่อนำผลการประเมินมาปรับปรุง พัฒนาหลักสูตร
ใหท้ ันสมยั สอดคล้องกับความต้องการของผูเ้ รียน ชุมชน และท้องถิ่น
๑๐.๕.๓ บทบาทของพ่อแม่ หรอื ผปู้ กครองเดก็ ปฐมวัย
การศึกษาระดับปฐมวยั เป็นการศกึ ษาทีจ่ ัดใหแ้ ก่เด็กที่ผู้สอนและพ่อแม่หรือผูป้ กครอง
ตอ้ งส่อื สารกันตลอดเวลา เพ่ือความเขา้ ใจตรงกันและพรอ้ มร่วมมือกนั ในการจัดการศึกษาใหก้ ับเด็ก ดงั นัน้
โรงเรียนวดั ไทรใหญ่ (นนททวิ ากรราฎร์บำรุง) จงึ กำหนดบทบาทหนา้ ทขี่ องพ่อแมห่ รอื ผปู้ กครอง ดงั นี้
๑) มีส่วนร่วมในการกำหนดแผนพัฒนาสถานศึกษาและให้ความเห็นชอบกำหนด
แผนการเรยี นรู้ของเดก็ รว่ มกบั ผูส้ อน
๒) ส่งเสริม สนับสนุนกิจกรรมของสถานศึกษา และกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาเดก็
ตามศกั ยภาพ
๓) เปน็ เครือข่ายการเรยี นรู้ จดั บรรยากาศภายในบา้ นให้เอือ้ ต่อการเรยี นรู้
๔) สนบั สนนุ ทรัพยากรเพ่ือการศกึ ษาตามความเหมาะสมและจำเป็น