145 จุดประสงค์การเรียนรู้ที่วัด 10. นักเรียนสามารถเติมสนทนาภาษาจีนที่เกี่ยวกับการถามตอบอายุบุคคลได้ (P) ข้อสอบที่สอดคล้องกับจุดประสงค์ที่วัด 43. A: 你 n ǐ 和 h é 我 w ǒ 谁 shuí 大 d à ? B: ------------------------------。 A. 你 n ǐ 是 shì 谁 shuí B. 姐 jiě 姐 jiě 大 d à 。 C. 我 w ǒ 比 b ǐ 你 n ǐ 大 d à 。 D. 姐 jiě 姐 jiě 是 shì 谁 shuí เฉลย C ระดับของข้อสอบที่วัด จำ เข้าใจ นำไปใช้ คิดขั้นสูง (วิเคราะห์-สังเคราะห์-ประเมินค่า-สร้างสรรค์) ผลการตรวจสอบคุณภาพด้านความตรงเชิงเนื้อหา จากความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิ วัดได้สอดคล้องกับจุดประสงค์และถูกต้อง (+1) ไม่แน่ใจ (0) วัดไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์และไม่ถูกต้อง (-1) ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ผู้ทรงคุณวุฒิ ผลการตรวจสอบคุณภาพด้านความ ตรงเชิงเนื้อหาจากความคิดเห็นของ ผู้ทรงคุณวุฒิ ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 1 +1 ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 2 +1 ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่3 +1 ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 4 +1 ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 5 +1 รวม 5 เฉลี่ย 1.0 ความหมาย ใช้ได้
146 จุดประสงค์การเรียนรู้ที่วัด 11. นักเรียนสามารถใช้ภาษาจีนเปรียบเทียบอายุบุคคลได้ (P) ข้อสอบที่สอดคล้องกับจุดประสงค์ที่วัด 44. 妈妈 m ā m ā 三十八 s ā nsh í b ā 岁 suì ,爸爸 b à b a 四十 s ì s h í 岁 suì ,爸爸 b à b a 比 b ǐ 妈妈 m ā m ā 大 d à 几 j ǐ 岁 suì ? A. 三十八 s ā nsh í b ā 岁 suì B. 二 è r 年 nián C. 四十 s ì s h í 岁 suì D. 两 liǎng 岁 suì เฉลย D ระดับของข้อสอบที่วัด จำ เข้าใจ นำไปใช้ คิดขั้นสูง (วิเคราะห์-สังเคราะห์-ประเมินค่า-สร้างสรรค์) ผลการตรวจสอบคุณภาพด้านความตรงเชิงเนื้อหา จากความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิ วัดได้สอดคล้องกับจุดประสงค์และถูกต้อง (+1) ไม่แน่ใจ (0) วัดไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์และไม่ถูกต้อง (-1) ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ผู้ทรงคุณวุฒิ ผลการตรวจสอบคุณภาพด้านความ ตรงเชิงเนื้อหาจากความคิดเห็นของ ผู้ทรงคุณวุฒิ ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 1 +1 ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 2 +1 ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่3 +1 ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 4 +1 ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 5 +1 รวม 5 เฉลี่ย 1.0 ความหมาย ใช้ได้
147 จุดประสงค์การเรียนรู้ที่วัด 11. นักเรียนสามารถใช้ภาษาจีนเปรียบเทียบอายุบุคคลได้ (P) ข้อสอบที่สอดคล้องกับจุดประสงค์ที่วัด 45. 哥哥 g ē g e 二十 è rsh í 岁 suì ,姐姐 jiěj iě 比 b ǐ 哥哥 g ē g e 大 d à 一岁 y í s u ì ,姐姐 jiěj iě 有 yǒu 几岁 j ǐ s u ì ? A. 十九 shíj iǔ 岁 suì B. 二十一 è rsh í y ī 岁 suì C. 二十 è rsh í 岁 suì D. 一 y ī 岁 suì เฉลย B ระดับของข้อสอบที่วัด จำ เข้าใจ นำไปใช้ คิดขั้นสูง (วิเคราะห์-สังเคราะห์-ประเมินค่า-สร้างสรรค์) ผลการตรวจสอบคุณภาพด้านความตรงเชิงเนื้อหา จากความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิ วัดได้สอดคล้องกับจุดประสงค์และถูกต้อง (+1) ไม่แน่ใจ (0) วัดไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์และไม่ถูกต้อง (-1) ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ผู้ทรงคุณวุฒิ ผลการตรวจสอบคุณภาพด้านความ ตรงเชิงเนื้อหาจากความคิดเห็นของ ผู้ทรงคุณวุฒิ ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 1 +1 ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 2 +1 ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่3 +1 ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 4 +1 ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 5 +1 รวม 5 เฉลี่ย 1.0 ความหมาย ใช้ได้
148 จุดประสงค์การเรียนรู้ที่วัด 11. นักเรียนสามารถใช้ภาษาจีนเปรียบเทียบอายุบุคคลได้ (P) ข้อสอบที่สอดคล้องกับจุดประสงค์ที่วัด 46. 我 w ǒ 今年 jīnnián 十三 shísān 岁 suì ,弟弟 d ì d i 比 b ǐ 我 w ǒ 小 xiǎo 三岁 sānsuì ,弟弟 d ì d i 今年 jīnnián 几岁 j ǐ s u ì ? A. 三 sān 岁 suì 。 B. 十三 shísān 岁 suì C. 十 shí 岁 suì 。 D. 十六 shíl iù 岁 suì เฉลย C ระดับของข้อสอบที่วัด จำ เข้าใจ นำไปใช้ คิดขั้นสูง (วิเคราะห์-สังเคราะห์-ประเมินค่า-สร้างสรรค์) ผลการตรวจสอบคุณภาพด้านความตรงเชิงเนื้อหา จากความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิ วัดได้สอดคล้องกับจุดประสงค์และถูกต้อง (+1) ไม่แน่ใจ (0) วัดไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์และไม่ถูกต้อง (-1) ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ผู้ทรงคุณวุฒิ ผลการตรวจสอบคุณภาพด้านความ ตรงเชิงเนื้อหาจากความคิดเห็นของ ผู้ทรงคุณวุฒิ ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 1 +1 ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 2 +1 ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่3 +1 ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 4 +1 ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 5 +1 รวม 5 เฉลี่ย 1.0 ความหมาย ใช้ได้
149 จุดประสงค์การเรียนรู้ที่วัด 12. นักเรียนสามารถอ่านบทความจีนที่แนะนำอายุสมาชิกครอบครัวแล้วตอบคำถามได้อย่างถูกต้อง(P) ข้อสอบที่สอดคล้องกับจุดประสงค์ที่วัด 我家 w ǒ j i ā 有 yǒu 四 s ì 口 kǒu 人 rén ,爸爸 b à b a 今年 jīnnián 四十五 s ì s h í w ǔ 岁 suì ,妈妈 m ā m ā 比 b ǐ 爸爸 b à b a 小 xiǎo 三岁 sānsuì 。我 w ǒ 的 d e 姐姐 jiěj iě 今年 jīnnián 十八 s h í b ā 岁 suì ,今天 jīntiān 是 shì 我 w ǒ 十三 shísān 岁 suì 生日 shēngrì 。 47. 妈 m ā 妈 m ā 几 j ǐ 岁 suì ? A. 三 sān 岁 suì 。 B. 四 s ì 十 shí 五 w ǔ 岁 suì 。 C. 四 s ì 十 shí 二 è r 岁 suì 。 D. 四 s ì 十 shí 八 b ā 岁 suì 。 เฉลย C ระดับของข้อสอบที่วัด จำ เข้าใจ นำไปใช้ คิดขั้นสูง (วิเคราะห์-สังเคราะห์-ประเมินค่า-สร้างสรรค์) ผลการตรวจสอบคุณภาพด้านความตรงเชิงเนื้อหา จากความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิ วัดได้สอดคล้องกับจุดประสงค์และถูกต้อง (+1) ไม่แน่ใจ (0) วัดไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์และไม่ถูกต้อง (-1) ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ผู้ทรงคุณวุฒิ ผลการตรวจสอบคุณภาพด้านความ ตรงเชิงเนื้อหาจากความคิดเห็นของ ผู้ทรงคุณวุฒิ ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 1 +1 ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 2 +1 ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่3 +1 ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 4 +1 ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 5 +1 รวม 5 เฉลี่ย 1.0 ความหมาย ใช้ได้
150 จุดประสงค์การเรียนรู้ที่วัด 12. นักเรียนสามารถอ่านบทความจีนที่แนะนำอายุสมาชิกครอบครัวแล้วตอบคำถามได้อย่างถูกต้อง(P) ข้อสอบที่สอดคล้องกับจุดประสงค์ที่วัด 我家 w ǒ j i ā 有 yǒu 四 s ì 口 kǒu 人 rén ,爸爸 b à b a 今年 jīnnián 四十五 s ì s h í w ǔ 岁 suì ,妈妈 m ā m ā 比 b ǐ 爸爸 b à b a 小 xiǎo 三岁 sānsuì 。我 w ǒ 的 d e 姐姐 jiěj iě 今年 jīnnián 十八 s h í b ā 岁 suì ,今天 jīntiān 是 shì 我 w ǒ 十三 shísān 岁 suì 生日 shēngrì 。 48. 妈妈 māmā 比 b ǐ 姐姐 jiějiě 大 d à 几岁 jǐsuì ? A. 二十四 è rsh í s ì 岁 suì 。 B. 十八 s h í b ā 岁 suì 。 C. 四 s ì 十 shí 二 è r 岁 suì 。 D. 二十一 è rsh í y ī 岁 suì 。 เฉลย A ระดับของข้อสอบที่วัด จำ เข้าใจ นำไปใช้ คิดขั้นสูง (วิเคราะห์-สังเคราะห์-ประเมินค่า-สร้างสรรค์) ผลการตรวจสอบคุณภาพด้านความตรงเชิงเนื้อหา จากความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิ วัดได้สอดคล้องกับจุดประสงค์และถูกต้อง (+1) ไม่แน่ใจ (0) วัดไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์และไม่ถูกต้อง (-1) ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ผู้ทรงคุณวุฒิ ผลการตรวจสอบคุณภาพด้านความ ตรงเชิงเนื้อหาจากความคิดเห็นของ ผู้ทรงคุณวุฒิ ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 1 +1 ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 2 +1 ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่3 +1 ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 4 +1 ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 5 +1 รวม 5 เฉลี่ย 1.0 ความหมาย ใช้ได้
151 จุดประสงค์การเรียนรู้ที่วัด 12. นักเรียนสามารถอ่านบทความจีนที่แนะนำอายุสมาชิกครอบครัวแล้วตอบคำถามได้อย่างถูกต้อง(P) ข้อสอบที่สอดคล้องกับจุดประสงค์ที่วัด 我家 w ǒ j i ā 有 yǒu 四 s ì 口 kǒu 人 rén ,爸爸 b à b a 今年 jīnnián 四十五 s ì s h í w ǔ 岁 suì ,妈妈 m ā m ā 比 b ǐ 爸爸 b à b a 小 xiǎo 三岁 sānsuì 。我 w ǒ 的 d e 姐姐 jiěj iě 今年 jīnnián 十八 s h í b ā 岁 suì ,今天 jīntiān 是 shì 我 w ǒ 十三 shísān 岁 suì 生日 shēngrì 。 49. “我 w ǒ ”今 jīn 年 nián 几 j ǐ 岁 suì ? A. 十 shí 三 sān 岁 suì 。 B. 三 sān 岁 suì 。 C. 十 shí 八 b ā 岁 suì 。 D. 五 w ǔ 岁 suì 。 เฉลย A ระดับของข้อสอบที่วัด จำ เข้าใจ นำไปใช้ คิดขั้นสูง (วิเคราะห์-สังเคราะห์-ประเมินค่า-สร้างสรรค์) ผลการตรวจสอบคุณภาพด้านความตรงเชิงเนื้อหา จากความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิ วัดได้สอดคล้องกับจุดประสงค์และถูกต้อง (+1) ไม่แน่ใจ (0) วัดไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์และไม่ถูกต้อง (-1) ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ผู้ทรงคุณวุฒิ ผลการตรวจสอบคุณภาพด้านความ ตรงเชิงเนื้อหาจากความคิดเห็นของ ผู้ทรงคุณวุฒิ ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 1 +1 ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 2 +1 ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่3 +1 ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 4 +1 ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 5 +1 รวม 5 เฉลี่ย 1.0 ความหมาย ใช้ได้
152 จุดประสงค์การเรียนรู้ที่วัด 12. นักเรียนสามารถอ่านบทความจีนที่แนะนำอายุสมาชิกครอบครัวแล้วตอบคำถามได้อย่างถูกต้อง(P) ข้อสอบที่สอดคล้องกับจุดประสงค์ที่วัด 我家 w ǒ j i ā 有 yǒu 四 s ì 口 kǒu 人 rén ,爸爸 b à b a 今年 jīnnián 四十五 s ì s h í w ǔ 岁 suì ,妈妈 m ā m ā 比 b ǐ 爸爸 b à b a 小 xiǎo 三岁 sānsuì 。我 w ǒ 的 d e 姐姐 jiěj iě 今年 jīnnián 十八 s h í b ā 岁 suì ,今天 jīntiān 是 shì 我 w ǒ 十三 shísān 岁 suì 生日 shēngrì 。 50. 今 jīn 天 tiān 是 shì 谁 shuí 的 d e 生 shēng 日 r ì ? A. 爸 b à 爸 b a 。 B. 我 w ǒ 。 C. 妈 m ā 妈 m ā 。 D. 姐 jiě 姐 jiě 。 เฉลย B ระดับของข้อสอบที่วัด จำ เข้าใจ นำไปใช้ คิดขั้นสูง (วิเคราะห์-สังเคราะห์-ประเมินค่า-สร้างสรรค์) ผลการตรวจสอบคุณภาพด้านความตรงเชิงเนื้อหา จากความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิ วัดได้สอดคล้องกับจุดประสงค์และถูกต้อง (+1) ไม่แน่ใจ (0) วัดไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์และไม่ถูกต้อง (-1) ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ผู้ทรงคุณวุฒิ ผลการตรวจสอบคุณภาพด้านความ ตรงเชิงเนื้อหาจากความคิดเห็นของ ผู้ทรงคุณวุฒิ ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 1 +1 ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 2 +1 ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่3 +1 ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 4 +1 ความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 5 +1 รวม 5 เฉลี่ย 1.0 ความหมาย ใช้ได้
153 รายการที่ 2 ผลการตรวจสอบคุณภาพของแบบทดสอบทั้งฉบับ ข้อที่ p r ประเมินคุณภาพข้อสอบจากค่า P และ r เหตุผล 1 0.40 0.13 เป็นข้อสอบที่ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ ความยากได้ แต่จำแนกไม่ได้ 2 0.57 0.07 เป็นข้อสอบที่ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ ความยากได้ แต่จำแนกไม่ได้ 3 0.63 0.47 เป็นข้อสอบที่ง่าย พอใช้ได้ พอใช้ได้ จำแนกได้ 4 0.5 0.07 เป็นข้อสอบที่ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ ความยากได้ แต่จำแนกไม่ได้ 5 0.63 0.47 เป็นข้อสอบที่ง่าย พอใช้ได้ พอใช้ได้ จำแนกได้ 6 0.63 0.33 เป็นข้อสอบที่ง่าย พอใช้ได้ พอใช้ได้ จำแนกได้ 7 0.53 0.13 เป็นข้อสอบที่ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ ความยากได้ แต่จำแนกไม่ได้ 8 0.53 0.27 เป็นข้อสอบที่ดีนำไปใช้ได้ ใช้ได้ จำแนกได้ 9 0.57 0.33 เป็นข้อสอบที่ดีนำไปใช้ได้ ใช้ได้ จำแนกได้ 10 0.6 0 เป็นข้อสอบที่ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ ความยากได้ แต่จำแนกไม่ได้ 11 0.43 0.2 เป็นข้อสอบที่ดีนำไปใช้ได้ ใช้ได้ จำแนกได้ 12 0.57 0.47 เป็นข้อสอบที่ดีนำไปใช้ได้ ใช้ได้ จำแนกได้ 13 0.53 0.4 เป็นข้อสอบที่ดีนำไปใช้ได้ ใช้ได้ จำแนกได้ 14 0.57 0.07 เป็นข้อสอบที่ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ ความยากได้ แต่จำแนกไม่ได้ 15 0.5 0.6 เป็นข้อสอบที่ดีนำไปใช้ได้ ใช้ได้ จำแนกได้ 16 0.63 0.47 เป็นข้อสอบที่ง่าย พอใช้ได้ พอใช้ได้ จำแนกได้ 17 0.57 0.2 เป็นข้อสอบที่ดีนำไปใช้ได้ ใช้ได้ จำแนกได้ 18 0.53 0.13 เป็นข้อสอบที่ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ ความยากได้ แต่จำแนกไม่ได้ 19 0.53 0.67 เป็นข้อสอบที่ดีนำไปใช้ได้ ใช้ได้ จำแนกได้ 20 0.53 0.27 เป็นข้อสอบที่ดีนำไปใช้ได้ ใช้ได้ จำแนกได้ 21 0.53 0 เป็นข้อสอบที่ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ ความยากได้ แต่จำแนกไม่ได้ 22 0.57 0.6 เป็นข้อสอบที่ดีนำไปใช้ได้ ใช้ได้ จำแนกได้ 23 0.47 0.4 เป็นข้อสอบที่ดีนำไปใช้ได้ ใช้ได้ จำแนกได้ 24 0.57 0.47 เป็นข้อสอบที่ดีนำไปใช้ได้ ใช้ได้ จำแนกได้ 25 0.67 0.4 เป็นข้อสอบที่ง่าย นำไปใช้ได้ พอใช้ได้ จำแนกได้ 26 0.5 -0.07 เป็นข้อสอบที่ง่าย ไม่ควรนำไปใช้ ระดับความยากได้ แต่จำแนกกลับ
154 27 0.53 0 เป็นข้อสอบที่ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ ความยากได้ แต่จำแนกไม่ได้ 28 0.47 0.27 เป็นข้อสอบที่ดีนำไปใช้ได้ ใช้ได้ จำแนกได้ 29 0.47 0.27 เป็นข้อสอบที่ดีนำไปใช้ได้ ใช้ได้ จำแนกได้ 30 0.53 0.13 เป็นข้อสอบที่ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ ความยากได้ แต่จำแนกไม่ได้ 31 0.53 0.27 เป็นข้อสอบที่ดีนำไปใช้ได้ ใช้ได้ จำแนกได้ 32 0.57 0.33 เป็นข้อสอบที่ดีนำไปใช้ได้ ใช้ได้ จำแนกได้ 33 0.57 0.33 เป็นข้อสอบที่ดีนำไปใช้ได้ ใช้ได้ จำแนกได้ 34 0.53 0.07 เป็นข้อสอบที่ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ ความยากได้ แต่จำแนกไม่ได้ 35 0.5 0.2 เป็นข้อสอบที่ดีนำไปใช้ได้ ใช้ได้ จำแนกได้ 36 0.23 0.2 เป็นข้อสอบที่ยาก พอใช้ได้ พอใช้ได้ จำแนกได้ 37 0.43 0.2 เป็นข้อสอบที่ดีนำไปใช้ได้ ใช้ได้ จำแนกได้ 38 0.53 0.53 เป็นข้อสอบที่ดีนำไปใช้ได้ ใช้ได้ จำแนกได้ 39 0.47 0.27 เป็นข้อสอบที่ดีนำไปใช้ได้ ใช้ได้ จำแนกได้ 40 0.5 -0.07 เป็นข้อสอบที่ง่าย ไม่ควรนำไปใช้ ระดับความยากได้ แต่จำแนกกลับ 41 0.53 0.13 เป็นข้อสอบที่ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ ความยากได้ แต่จำแนกไม่ได้ 42 0.5 0.2 เป็นข้อสอบที่ดีนำไปใช้ได้ ใช้ได้ จำแนกได้ 43 0.5 0.2 เป็นข้อสอบที่ดีนำไปใช้ได้ ใช้ได้ จำแนกได้ 44 0.43 0.2 เป็นข้อสอบที่ดีนำไปใช้ได้ ใช้ได้ จำแนกได้ 45 0.53 0 เป็นข้อสอบที่ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ ความยากได้ แต่จำแนกไม่ได้ 46 0.53 0.2 เป็นข้อสอบที่ดีนำไปใช้ได้ ใช้ได้ จำแนกได้ 47 0.43 0.2 เป็นข้อสอบที่ดีนำไปใช้ได้ ใช้ได้ จำแนกได้ 48 0.43 0.07 เป็นข้อสอบที่ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ ความยากได้ แต่จำแนกไม่ได้ 49 0.43 0.2 เป็นข้อสอบที่ดีนำไปใช้ได้ ใช้ได้ จำแนกได้ 50 0.4 0.13 เป็นข้อสอบที่ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ ความยากได้ แต่จำแนกไม่ได้
155 ผลการตรวจสอบคุณภาพของแบบทดสอบทั้งฉบับ (ค่าความเชื่อมั่น) KR-20 Reliability 0.957906 ค่า P ระดับความยาก การพิจารณา 0 - .19 ยากมาก ควรปรับปรุงหรือตัดทิ้ง .20 - .39 ค่อนข้างยาก พอใช้ได้ .40 - .60 ยากง่ายปานกลาง ใช้ได้ .61 - .80 ค่อนข้างง่าย พอใช้ได้ .81 - 1.00 ง่ายมาก ควรปรับปรุงหรือตัดทิ้ง ค่า r อำนาจจำแนก ความหมาย คุณภาพ คนเก่ง คนอ่อน เป็น บวก ( + ) จำแนกได้ ตอบถูก ตอบผิด เป็นข้อสอบที่ดีนำไปใช้ได้ เป็น ลบ ( - ) จำแนกกลับ ตอบผิด ตอบถูก ไม่ควรนำไปใช้ เป็นศูนย์ ( 0 ) หรือใกล้ศูนย์ ไม่มีอานาจจำแนก ถูกหรือผิด ถูกหรือผิด ควรปรับปรุงก่อนนาไปใช้ ค่า r ความหมาย .20ถึง 1.00 จ ำแนกได้ -.19ถึง +.19 จ ำแนกไม่ได้ -.20ถึง -1.00 จ ำแนกกลับ
156 ตอนที่ 4 การพัฒนาเครื่องมือประเมินทักษะปฏิบัติ
157 การกำหนดนิยามเชิงทฤษฎีและนิยามเชิงปฏิบัติการของการวัด นิยามเชิงทฤษฏี ทักษะการฟัง(Listening Skills) ทักษะการฟัง(Listening Skills) หมายถึง กระบวนการของการได้ยินเสียงโดยผู้ฟังจะต้อง สนใจและตั้งใจฟังเสียงนั้นแล้วใช้สมองแปลความหมายของเสียงจนเกิดความเข้าใจ และมีปฏิกิริยา ตอบสนองต่อเสียงนั้นได้การฟัง เป็นการสื่อสารที่ใช้มาก และสำคัญที่สุดในชีวิตประจำวันของมนุษย์ เป็นทักษะทางภาษาที่ต้องใช้มากกว่าทักษะอื่น ๆ ในแต่ละวัน เป็นทักษะที่มีความสำคัญยิ่ง การฟังที่ดี มีหลักดังนี้ คือ 1.ฟังอย่างมีมรรยาท 2.ฟังอย่างมีวิจารญาณ 3.ฟังให้ได้สารประโยชน์ 4.ฟังให้ได้คุณค่าทางจิตใจ กระบวนการฟัง แบ่งได้เป็น 2 กระบวนการ คือ 1.กระบวนการฟังเพื่อวิเคราะห์ 2.กระบวนการฟังเพื่อวิจารณ์ (http://www.digitalschool.club/digitalschool/health4-6/health6_1/b2/item6.php) ทักษะการฟัง (Listening Skills) หมายถึง การได้รับสารที่ส่งมาและทำความเข้าใจ ความหมายของสารที่รับมา ได้อย่างเข้าใจตรงกัน มีความสำคัญดังต่อไปนี้ - ช่วยให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน - ช่วยพัฒนาความรู้ - ช่วยให้สบายใจ - ช่วยระบายความรู้สึก - ช่วยให้พูดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความแตกต่างของ “การได้ยิน” กับ “การฟัง” การได้ยิน (Hearing) เป็นการรับแบบนิ่งเฉย (Passive Listening) ไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก การฟัง (Listening) เป็นการตั้งใจ (Active Listening) ต้องใช้สมาธิ ทักษะและการฝึกฝน
158 การฟังแบบลึกซึ้ง 1. เงียบ เพื่อ…เปิดใจรับฟัง 2. แสดงการรับรู้ เพื่อ…บอกว่าฟังอยู่ 3. สังเกต เพื่อ…ทราบความรู้สึก 4. สอบถาม เพื่อ…ความกระจ่าง 5. ทบทวน/สรุป เพื่อ…ความเข้าใจตรงกัน (https://thaiforcommunication.weebly.com/36073633358536253632358536343619361 536333591.html) ทักษะการฟัง (Listening Skills) หมายถึง การฟังเป็นกระบวนการรับสารเช่นเดียวกีบ กระบวนการอ่าน คือ การอ่านเป็นการแปลความหมายของตัวอักษร ส่วนการฟังเป็นการแปล ความหมายของค าพูด ดังที่ ประทีป วาทิกทินกร (๒๕๒๕ : ๓๖) กล่าวว่าการอ่านกับการฟังเป็น กระบวนการที่คล้ายคลึงกัน คือ การรับรู้เรื่องราวเพื่อจะได้เกิดความจ า ความเข้าใจและความคิด การอ่านเป็นความหมายของการแปลตัวอักษร ส่วนการฟังเป็นการแปลความหมายของการพูด ลำดับขั้นของการฟัง คณาจารย์มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย กล่าวถึงล าดับขั้นของการฟังไว้ดังนี้ 1. ขั้นได้ยิน 2. ขั้นแยก 3 ขั้นยอมรับ 4. ขั้นตีความ 5. ขั้นเข้าใจ 6. ขั้นเชื่อ จุดมุ่งหมายของการฟัง 1. การฟังเพื่อความเพลิดเพลิน 2. การฟังเพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจ 3. การฟังเพื่อหาข่าวสาร 4. การฟังเพื่อความรู้เป็นการฟังเพื่อพัฒนาสติปัญญา 5. การฟังเพื่อประเมินผลและวิจารณ์ ประเภทของการฟัง 1. การฟังเพื่อจับใจความ 2. การฟังเพื่อประเทืองปัญญา 3. การฟังเพื่อประเทืองอารมณ การพัฒนาทักษะการฟัง 1. สนใจฟัง 2. ช่างสังเกต 3. เปิ ดใจกว้าง 4. หมนั่ฝึกฝน 5. จดบันทึก (บทที่-๓-การพัฒนาทักษะการฟัง มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ลิงค์ที่นำมาจากอินเทอร์เนต http://ge.vru.ac.th/gevru/wpcontent/uploads/2020/07/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0% B9%88-%E0%B9%93- %E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B 8%99%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B0% E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%87.pdf)
159 ทักษะการพูด(Speaking Skills) การพูด หมายความว่า การส่งสารโดยใช้วัจนภาษาและอวัจนภาษาเพื่อให้ผู้ฟังได้รับสาร แล้วเกิด ความเข้าใจในสารนั้นๆ ความสำคัญ - ช่วยให้ข้อมูล - ช่วยโน้มน้าว - ช่วยสร้างความบันเทิง - ช่วยสร้างสรรค์ - ช่วยให้รู้สึกดี ลักษณะของวัจนภาษาและอวัจนภาษา วัจนภาษา (มีน้ำหนัก 7%) อวัจภาษา (มีน้ำหนัก 93%) - เป็นคำพูดเพื่อให้เห็นภาพ - สีหน้า - เป็นคำพูดที่ชัดเจน - น้ำเสียง (38%) - เป็นภาษาง่ายๆ - สายตา - เป็นคำคล้องจอง - การใช้มือ - เป็นคำคม - เสื้อผ้า การแต่งกาย บุคลิก ลักษณะการพูดที่ดี 1. เข้าใจจุดมุ่งหมายในการพูดเพื่อติดต่อสื่อสาร 2. เลือกช่องทางที่เหมาะสมในการพูดติดต่อสื่อสารแบบสองทาง เช่น เจอหน้า, โทรศัพท์ 3. เน้นที่ผู้รับสาร (Receiver) มากกว่าผู้ส่งสาร 4. รู้เทคนิคในการพูดติดต่อสื่อสาร เช่น ถ้ากรณีเร่งด่วน ใช้โทรศัพท์, วาระสำคัญ ควรจะประชุม 5. สร้างบรรยากาศที่ดี เช่น เริ่มต้นด้วยการทักทาย สนทนากันก่อน 6. รับฟังอย่างตั้งใจและใส่ใจ (Active & Reflective) 7. สังเกตความสอดคล้องของวัจนภาษาและอวัจนภาษา 8. สอบถามเมื่อจำเป็น (Questioning) 9. ทบทวน (Paraphrasing) เพื่อให้เข้าใจตรงกัน “การนำเสนอ” การนำเสนอ คือ รูปแบบหนึ่งของการสื่อสารทางการพูด โดยผู้พูดต้องการที่จะ… - แจ้งให้ทราบ - ถ่ายทอดความรู้ - แลกเปลี่ยนความคิดเห็น - บอกความต้องการ - ขออนุมัติ - รายงานผล - โน้มน้าว (https://thaiforcommunication.weebly.com/3607363335853625363235853634361936143641360 4.html)
160 ความหมายการพูด การพูดมีว่า เป็นการติดต่อสื่อสารระหว่างมนุษย์ด้วยการใช้เสียง ภาษาและท่าทางเพื่อ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดและเข้าใจจากผู้พูดไปสู่ผู้ฟัง เป็นกระบวนการที่ไม่ได้ดำเนินไปตาม ระเบียบแบบแผนที่กำหนดไว้ หรืออาจกล่าวได้ว่าการพูดเป็นกระบวนการใส่ความหมายเกิดขึ้นควบคู่ กับการฟังซึ่งเป็นกระบวนการแปลความหมาย (สุภัทรา อักษรานุเคราะห์, 2532, :53) การพูดเป็นทักษะที่สำคัญในการสื่อสารและเป็นทักษะพื้นฐานของการเรียนรู้ทักษะอื่น เช่นเดียวกับการฟัง เป็นการกล่าวออกเสียงเป็นถ้อยคํา วลี หรือประโยค รวมถึงการใช้กิริยาท่าทาง เพื่อถ่ายทอดความคิด ความเข้าใจ ความรู้สึกและความต้องการของผู้พูดให้ผู้ฟังได้รับรู้และเกิดการ ตอบสนอง (สุมิตรา อังวัฒนกูล, 2540 : 167) รูปแบบของกิจกรรมการฝึกทักษะการพูด แสงระวี ดอนแก้วบัว (2558, หน้า 153-154) ได้กล่าวถึง กิจกรรมการฝึกทักษะการพูด 3 รูปแบบ ดังนี้ 1.การฝึกพูดระดับกลไก (Mechanical Drills) เป็นการฝึกตามตัวแบบที่กําหนดให้ในหลาย ลักษณะ 2. การฝึกพูดอย่างมีความหมาย ( Meaningful Drills) เป็นการฝึกตามตัวแบบที่เน้น ความหมายมากขึ้นมีหลายลักษณะ 3. การฝึกพูดเพื่อการสื่อสาร (Communicative Drills) เป็นการฝึกเพื่อมุ่งเน้นการสื่อสาร เปิดโอกาสให้ผู้เรียนสร้างคําตอบตามจินตนาการ การประเมินความสามารถด้านการพูด การประเมินความสามารถด้านการพูดเพื่อการสื่อสารนั้น คือการวัดความสามารถโดยรวม ของผู้เรียนในการนําภาษาไปใช้เพื่อการสื่อสาร เน้นที่ความสามารถของผู้เรียนที่จะสื่อสารใน สถานการณ์เฉพาะ การจะวัดความสามารถมิใช่ดูจากความถูกต้องเกี่ยวกับภาษา แต่ควรวัด ความสามารถผู้เรียนที่จะพูดหรือเขียนหรือเข้าใจข้อความได้ สามารถทําได้หลายวิธี เช่น การ สัมภาษณ์ การเล่าเรื่อง หรือการแสดงบทบาทสมมติจากสถานการณ์ต่างๆ ที่กําหนดไว้ สอดคล้องกับ อัจฉรา วงศ์โสธร (2544, ม.ป.ป.) กล่าวว่าการวัดผลและประเมินผลทักษะการฟังและการพูดอาจวัด รวมกันได้ในบางสถานการณ์ (แนวทางการพัฒนาทักษะการพูดภาษาจีนเพื่อการสื่อสารเบื้องต้น อัญชลิการ์ ขันติ, สมเกียรติ อินทสิงห์และสุนทรี คนเที่ยง CMU Journal of Education,Vol. 3No. 12019 ศึกษาศาสตร์สาร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปีที่ 3ฉบับที่ 12562 ลิงค์ที่นำมาจากอินเทอร์เนต https://so01.tci-thaijo.org/index.php/cmujedu/article/view/186726/131244 )
161 การพูดหมายถึงพฤติกรรมในการสื่อความหมายของมนุษย์ โดยการเปล่งเสียงเป็นถ้อยคา (วัจ นภาษา) ขณะเดียวกันก็มีการใช้ภาษาที่ไม่ใช้ถ้อยคา (อวัจนภาษา) ประกอบ วิชาที่เกี่ยวกับการพูด อาจเรียกต่าง ๆ กันไป เช่น การพูด ศิลปะการพูด วาทการ และวาทวิทยา เป็นต้น ประเภทของการพูด 1. การพูดอย่างไม่เป็นทางการ 2. การพูดอย่างเป็นทางการ รูปแบบของการพูด 1. การพูดบอกเล่าหรือบรรยาย 2. การพูดจูงใจหรือโน้มน้าวใจ 3. การพูดจรรโลงใจหรือการพูดเพื่อความบันเทิง วิธีการพูด 1. พูดแบบฉับพลัน หรือพูดแบบกะทันหัน 2. พูดแบบอ่านจากร่างหรือต้นฉบับ 3. การพูดแบบท่องจำ 4. พูดจากความเข้าใจโดยมีการเตรียมตัวล่วงหน้า องค์ประกอบของการพูด 1. ผู้พูด คือ ผู้ส่งสาร (sender) 2. เรื่องที่พูด คือ สาร หรือเนื้อหาสาระ (message) 3. ภาษา คือสื่อ(media) หรือเครื่องมือที่ถ่ายทอดสาร 4. ผู้ฟัง คือ ผู้รับสาร (receiver) 5. ผล (effect) การประเมินการพูด 1. การปรากฏตัวและการปฏิสันถารผู้ฟัง 2. การนำเรื่องหรืออารัมภบท 3. เนื้อหาและการดำเนินเรื่อง 4. การใช้ถ้อยคำสำนวนภาษา 5. การออกเสียง ระดับเสียง และจังหวะการพูด 6. การใช้สายตาท่าทาง ผู้ 7. การลงท้าย 8. คุณค่าของเรื่อง 9. บุคลิกภาพทั่วไป 10. ความสนใจของผู้ฟัง ( คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา 27 เมษายน พ.ศ. 2557 ลิงค์ที่นำมาจากอินเทอร์เน็ต https://thaiedu2104.blogspot.com/p/2.html )
162 การประเมินภาคปฏิบัติ เรื่อง หมายเลขภาษาจีนและการใช้หมายเลขภาษาจีน ทักษะที่ประเมิน การฟังและการพูด จุดประสงค์การเรียนรู้ที่วัด ทักษะการฟัง 1. นักเรียนสามารถบอกความหมายไทยได้ถูกต้องโดยหลังจากฟังหมายเลขภาษาจีน 2. นักเรียนสามารถตอบคำถามเกี่ยวกับอายุได้หลังจากฟังสนทนาภาษาจีนเกี่ยวกับอายุ 3. นักเรียนสามารถเขียนความหมายไทยได้ถูกต้องหลังจากฟังประโยคการบอกราคา ทักษะการพูด 1. นักเรียนสามารถพูดหมายเลขภาษาจีน1-20ได้ 2. นักเรียนสามารถพูดอายุของสมาชิกครอบครัวเป็นภาษาจีนได้ 3. นักเรียนสามารถพูดราคาของสิ่งของต่างๆเป็นภาษาจีนได้ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. นักเรียนมีความรับผิดชอบการงานที่ได้รับมอบหมาย อุปกรณ์ประกอบการสอบ/ประเมินการปฏิบัติ 1.อุปกรณ์หรือวัสดุที่ครูจัดเตรียม 1.1 แบบประเมิน 1.2 รูปภาพเกี่ยวกับหมายเลข 1.3 รูปภาพเกี่ยวกับอายุ 1.4 รูปภาพเกี่ยวกับราคา 2.อุปกรณ์หรือวัสดุที่นักเรียนจัดเตรียม 1.1 ปากกา เวลาในการทดสอบ หลังการจัดการเรียนการสอนของหน่วยหมายเลข ขั้นตอนหรือกิจกรรมการทดสอบ/ประเมินการปฏิบัติ 1. ครูชี้แจง รายละเอียดกิจกรรมการประเมินการปฏิบัติตนในเรื่องหมายเลขภาษาจีน 1.1 ให้นักเรียนพิจารณาพฤติกรรมของตนเองว่าปฏิบัติตน หรือมีความสามารถในแต่ละเรื่อง ที่กำหนดไว้ มากน้อยเพียงใด 1.2 ให้นักเรียนตอบข้อมูลตามความเป็นจริงของการปฏิบัติ ลงในแบบประเมินที่ครูจัดให้ 1.3 ใช้เวลาในการตอบ 30 นาที 2. ครูนัดสัมภาษณ์นักเรียน ทีละคน เกี่ยวกับ การปฏิบัติตนในเรื่องหมายเลขภาษาจีน เพื่อ ยืนยันผลการประเมินการปฏิบัติ แล้วบันทึกผลการประเมินลงในแบบประเมิน 3. ครูแนะนำ วิธีการแก้ไขปรับปรุงผลการปฏิบัติตนของนักเรียน
163 แบบประเมินทักษะการปฏิบัติ 2 เกณฑ์ (ปฏิบัติ/ไม่ปฏิบัติ) แบบตรวจสอบรายการสำหรับการประเมินทักษะการฟัง พูดภาษาจีน ชื่อนักเรียน....................................................... ชั้น........................................................... วันที่ประเมิน................................................ สถานที่ในการประเมิน.................................... คำชี้แจง พิจารณาพฤติกรรมของนักเรียนในเรื่องต่อไปนี้ว่าปฏิบัติตนในเรื่องดังกล่าวได้ถูกต้องเหมาะสม มากน้อยเพียงใด โดยเขียนเครื่องหมาย ✓ลงในช่องผลการประเมินให้ตรงกับพฤติกรรมที่นักเรียน ปฏิบัติ โดยพิจารณาเกณฑ์การประเมิน(รูบริคการประเมิน) ประกอบด้วย รายการประเมินพฤติกรรรม เรื่อง ทักษะฟังพูดหมายเลขและการใช้หมายเลขภาษาจีน การปฏิบัติ ปฏิบัติ ไม่ปฏิบัติ ทักษะการฟัง 1.1 ฟังแล้วแปลจีนเป็นไทยได้ 1.2 ฟังแล้วตอบคำถามภาษาจีนได้ 1.3 ฟังแล้วทำตามคำสั่งในการฟังได้ 1.4 ฟังแล้วจดบันทึกตามได้ ทักษะการพูด 1.1 พูดได้ถูกต้อง ชัดเจน 1.2 พูดได้ถูกต้อง ชัดเจน คล่องแคล่ว 1.3 การแสดงท่าทาง/ น้ำเสียงประกอบ การพูด 1.4 พูดเป็นบทความภาษาจีนแบบสมบูรณ์แบบหลังได้จากการดูรูปภาพ จิตพิสัยหรือคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ที่สามารถสังเกตได้จากการปฏิบัติ) ส่งงานตรงต่อเวลาที่กำหนด ส่งงานครบ ลงชื่อ………………………………………………………………………….ผู้ประเมิน (……………………………………………………………….)
164 พฤติกรรมที่ประเมิน 4 3 2 1 น้ำหนัก คะแนน รวม ทักษะการฟัง 1. นักเรียนสามารถ ฟังแล้วแปลจีนเป็น ไทยได้ รู้ความหมายคำศัพท์ ทั้งหมด แปลได้ ชัดเจนทั้งหมด รู้ความหมาย คำศัพท์โดยส่วน ใหญ่และแปลได้ดี รู้ความหมาย คำศัพท์ปานกลาง และแปลได้กลาง รู้ความหมาย คำศัพท์เล็กน้อย แปลได้ไม่สมบูรณ์ 1 4 2. นักเรียนสามารถ ฟังแล้วตอบคำถาม ภาษาจีนได้ สามารถตอบคำถาม ได้ทั้งหมดหลังจากฟัง สามารถตอบ คำถามหลังจากที่ ฟังได้เป็นส่วนใหญ่ สามารถตอบ คำถามหลังจากที่ ฟังได้เล็กน้อย สามารถตอบ คำถามหลังจากที่ ฟังได้น้อยมาก 1 4 3. นักเรียนสามารถ ฟังแล้วทำตามคำสั่ง ในการฟังได้ ปฏิบัติตามคำสั่งได้ ถูกต้องและ คล่องแคล่ว ปฏิบัติตามคำสั่งได้ ถูกต้องแต่ค่อนข้าง ช้า ปฏิบัติตามคำสั่ง ไม่ค่อยถูกต้อง และค่อนข้างช้า ปฏิบัติตามคำสั่ง ได้ถูกต้องน้อยมาก 2 8 4. นักเรียนสามารถ ฟังแล้วจดบันทึกตาม ได้ จับใจความสำคัญของ เนื้อหาได้ทั้งหมด จับใจความสำคัญ ของเนื้อหาได้เกือบ ทั้งหมด จับใจความสำคัญ ของเนื้อหาได้ เล็กน้อย จับใจความสำคัญ ของเนื้อหาได้ น้อยมาก 1 4 รวม 5 20 ทักษะการพูด 1.นักเรียนสามารถ พูดได้ถูกต้อง ชัดเจน ออกเสียงคำศัพท์และ ประโยคได้ถูกต้อง ตามหลากการออก เสียง ออกเสียง เน้นหนักในคำ/ ประโยคอย่าง สมบูรณ ออกเสียงคำศัพท์ และ ประโยคได้ ถูกต้องตาหลักการ ออกเสียง มีเสียง เน้นหนักในคำ/ ประโยคเป็นส่วน ใหญ่ ออกเสียงคำศัพท์ และประโยคได้ ถูกต้องเป็นส่วน ใหญ่ขาดการ ออกเสียง เน้นหนัก ออกเสียงคำศัพท์/ ประโยคผิด หลักการออก เสียงท าให้ สื่อสารไม่ได้ 1 4 2. นักเรียนสามารถ พูดได้ถูกต้อง ชัดเจน คล่องแคล่ว พูดต่อเนื่องไม่ติดขัด พูดชัดเจน ทำให้ สื่อสารได้ พูดตะกุกตะกักบ้าง แต่ยังพอสื่อสาร ได้ พูดเป็นคำๆ หยุดเป็นช่วงๆ ทำให้สื่อสารได้ไม่ ชัดเจน พูดได้บางคำทำให้ สื่อความหมาย ไม่ได้ 1 4
165 เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ คะแนน 16-20 คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพ ดีมาก คะแนน 11-15 คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพ ดี คะแนน 6-10 คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพ พอใช้ คะแนน 1-5 คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพ ปรับปรุง เกณฑ์การประเมินทักษะการฟังและทักษะการพูด ได้ระดับ ดีขึ้นไปถือว่าผ่านเกณฑ์ คะแนน 6-8 คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพ ดีมาก คะแนน 4-5 คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพ ดี คะแนน 1-3 คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพ พอใช้ เกณฑ์การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ได้ระดับ ดีขึ้นไปถือว่าผ่านเกณฑ์ พฤติกรรมที่ประเมิน 4 3 2 1 น้ำหนัก คะแนน รวม 3. นักเรียนสามารถ การแสดงท่าทาง/ น้ำเสียงประกอบ การพูด แสดงท่าทางและพูด ด้วยนำเสียเหมาะสม กับบทบรรยาย พูดด้วยน้ำเสียง เหมาะสมกับบท บรรยายแต่ไม่มี ท่าทางประกอบ พูดเหมือนอ่าน ไม่เป็นธรรมชาติ ขาดความ น่าสนใจ พูดได้น้อยมาก 1 4 4. นักเรียนสามารถ พูดเป็นบทความ ภาษาจีนสมบูรณ์ แบบหลังได้จากการดู รูปภาพ พูดได้สมบูรณ์ คล่องแคล่ว ธรรมชาติ ตรงตาม รูปภาพ บทความยาว ถึงสามนาที พูดได้สมบูรณ์ คล่องแคล่ว ตรง ตามรูปภาพ บทความยาวถึงสอง นาที พูดได้สมบูรณ์ ตรงตามรูปภาพ บทความยาวถึง หนึ่งนาที พูดได้น้อย ตรงตาม รูปภาพ บทความ ยาวไม่ถึงหนึ่งนาที 2 8 รวม 5 20 จิตพิสัยหรือคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ที่สามารถสังเกตได้จากการปฏิบัติ) นักเรียนส่งงานตรง ต่อเวลา นักเรียนส่งงานตรง ต่อเวลาที่กำหนดได้ ทั้งหมด นักเรียนส่งงานตรง ต่อเวลาที่กำหนดได้ มากกว่าครึ่งหนึ่ง นักเรียนส่งงาน ตรงต่อเวลาที่ กำหนดได้ ครึ่งหนึ่ง นักเรียนส่งงานตรง ต่อเวลาที่กำหนดได้ น้อยกว่าครึ่งหนึ่ง 1 4 นักเรียนส่งงานครบ ทุกงาน นักเรียนส่งงานครบ ทั้งหกงาน นักเรียนส่งงานครบ ห้างาน นักเรียนส่งงาน ครบสี่งาน นักเรียนส่งงานครบ สามงาน 1 4
166 แบบระเมินทักษะการปฏิบัติ 4 เกณฑ์ แบบประเมินทักษะการฟังและการพูด วิชา ภาษาจีน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชื่อนักเรียน.................................................................... ชั้น........................................ วันที่ประเมิน......................................... สถานที่ในการประเมิน..................................... คำชี้แจง พิจารณาพฤติกรรมการปฏิบัติของนักเรียนในเรื่องต่อไปนี้ว่าปฏิบัติตนในเรื่องดังกล่าวได้ถูกต้อง เหมาะสม มากน้อยเพียงใด โดยเขียนเครื่องหมาย ✓ลงในช่องผลการประเมินให้ตรงกับพฤติกรรมที่ นักเรียนปฏิบัติ โดยพิจารณาเกณฑ์การประเมิน (รูบริคการประเมิน) ประกอบด้วย รายการประเมินทักษะการฟัง ผลการประเมิน การปฏิบัติ 4 3 2 1 ทักษะการฟัง 1. ความเข้าใจในการฟัง 1.1 ความเข้าใจในคำศัพท์ที่ฟัง 1.2 ความเข้าใจในประโยคที่ฟัง 2.การปฏิบัติตามคำสั่งของการฟัง 2.1 พูดตามคำศัพท์ที่ได้ฟัง 2.2 พูดตามประโยคที่ได้ฟัง 2.3 ทำท่าทางตามเนื้อหาที่ได้ฟัง 3.การจดบันทึกตามเนื้อเรื่องการฟัง 3.1 จดคำศัพท์ตามที่ได้ฟัง 3.2 จดประโยคตามที่ได้ฟัง รวม 4.ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีความมั่นใจกับตัวเอง กล้าแสดงออก รวม
167 เกณฑ์การประเมินการปฏิบัติ (รูบริคการประเมิน) พฤติกรรมที่ประเมิน 4 3 2 1 1. ความเข้าใจในการฟัง 1.1 ความเข้าใจใน คำศัพท์ที่ฟัง แปลคำศัพท์ที่ได้ ฟังครบทุกคำ และถูกต้องทุกคำ แปลคำศัพท์ที่ได้ ฟังครบทุกคำ และถูกต้องเป็น ส่วนใหญ่ แปลคำศัพท์ได้ไม่ ครบ และถูกต้อง ได้ครึ่งหนึ่ง แปลคำศัพท์ได้ไม่ ครบ และถูกต้อง ไม่ถึงครึ่ง 1.2 ความเข้าใจใน ประโยคที่ฟัง แปลประโยคที่ได้ ฟังได้ครบและ ถูกต้องทุกข้อ แปลประโยคที่ได้ ฟังครบทุก ประโยคและ ถูกต้องเป็นส่วน ใหญ่ แปลประโยคได้ ไม่ครบ และ ถูกต้องได้ ครึ่งหนึ่ง แปลประโยคได้ ไม่ครบ และ ถูกต้องไม่ถึงครึ่ง 2. การปฏิบัติตามคำสั่งของการฟัง 2.1 พูดตามคำศัพท์ ที่ได้ฟัง พูดตามคำศัพท์ที่ ได้ฟังอย่าง ถูกต้อง ครบทุก คำ และออกเสียง ชัดเจน รวดเร็ว พูดตามคำศัพท์ที่ ได้ฟังอย่าง ถูกต้องไม่ครบแต่ มากกว่าครึ่งหนึ่ง พูดออกมามี ความติดขาด พูดตามคำศัพท์ที่ ได้ฟังถูกต้องเป็น ส่วนใหญ่ พูดได้ ไม่หมด ประมาณ ครึ่งหนึ่ง เวลาพูด มีความติดขาด พูดตามคำศัพท์ที่ ได้ฟังถูกต้องเป็น ส่วนใหญ่ พูดได้ ไม่หมด น้อยกว่า ครึ่งหนึ่ง เวลาพูด ใช้เวลาคิดนาน 2.2 พูดตามประโยค ที่ได้ฟัง พูดประโยคที่ได้ ฟังอย่างถูกต้อง สมบูรณ์ทุก ประโยค พูดประโยคที่ได้ ฟังอย่างถูกต้อง ครบทุกประโยค แต่มีคำศัพท์ขาด เป็นบางคำ พูดประโยคที่ได้ ฟังอย่างถูกต้อง มากกว่าครึ่งหนึ่ง มีคำศัพท์ขาด ไวยากรณ์ผิดเป็น บางจุด พูดประโยคที่ได้ ฟังอย่างถูกต้อง ไม่ถึงครึ่งหนึ่ง มี คำศัพท์ขาดเป็น จำนวนมาก ไวยากรณ์ผิด 2.3 ทำท่าทางตาม เนื้อหาที่ได้ฟัง ทำท่าทางตาม เนื้อหาที่ได้ฟัง ครบทุกคำทุก ประโยค แสดงให้ เห็นถึงความ ละเอียดครบถ้วน ทำท่าทางตาม เนื้อหาที่ได้ฟัง ขาดไปบางคำ บางประโยค ความละเอียดไม่ ชัดเจน ทำท่าทางตาม เนื้อหาที่ได้ฟัง ขาดไปครึ่งหนึ่ง แสดงความ ละเอียดให้เห็นได้ น้อย ทำท่าทางตาม เนื้อหาที่ได้ฟังได้ เป็นบางส่วนบาง ประโยค ไม่ได้ แสดงให้เห็นถึง ความละเอียด
168 3. การจดบันทึกคำศัพท์ตามเนื้อเรื่องการฟัง จดบันทึกคำศัพท์ ตามเนื้อเรื่องการฟัง จดบันทึกคำศัพท์ ได้อย่างถูกต้อง สวยงามทุกคำ จดบันทึกคำศัพท์ ตามเนื้อหาที่ได้ ฟังได้อย่าง ถูกต้องเป็นส่วน ใหญ่ จดบันทึกคำศัพท์ ตามเนื้อหาที่ได้ ฟังได้อย่าง ถูกต้องประมาณ ครึ่งหนึ่ง จดบันทึกตาม เนื้อหาที่ได้ฟังได้ อย่างถูกต้อง จำนวนน้อย จดประโยคตามที่ได้ ฟัง จดบันทึกตาม เนื้อหาที่ได้ฟังได้ อย่างถูกต้อง สมบูรณ์ทุกข้อ จดบันทึกตาม เนื้อหาที่ได้ฟังได้ อย่างถูกต้องเป็น ส่วนใหญ่ ขาด ความสมบูรณ์ เป็นบางข้อ จดบันทึกตาม เนื้อหาที่ได้ฟังได้ อย่างถูกต้อง ประมาณ ครึ่งหนึ่ง ประโยค ไม่ค่อยสมบูรณ์ จดบันทึกตาม เนื้อหาที่ได้ฟังได้ อย่างถูกต้อง จำนวนน้อย ประโยคขาด ความสมบูรณ์ 4.ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีความมั่นใจกับ ตัวเอง กล้า แสดงออก เป็นคนมั่นใจมาก กล้าแสดงออก เป็นคนมั่นใจ เวลาแสดงท่าทาง ตามที่ได้ฟังมี ความอายนิดหนึ่ง เป็นคนมั่นใจ กลางๆ ไม่ค่อย กล้าแสดงออก เป็นคนขาดความ มั่นใจ ไม่กลา แสดงออก เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ คะแนน 16-20 คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพ ดีมาก คะแนน 11-15 คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพ ดี คะแนน 6-10 คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพ พอใช้ คะแนน 1-5 คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพ ปรับปรุง เกณฑ์การประเมิน ได้ระดับ ดี ขึ้นไปถือว่าผ่านเกณฑ์
169 รายการประเมินทักษะการพูด ผลการประเมิน การปฏิบัติ 4 3 2 1 ทักษะการพูด 1. ความถูกต้อง 1.1 พูดออกเสียงคำศัพท์ได้ถูกต้อง 1.2 พูดออกเสียงประโยคได้ถูกต้อง 2. ความคล่องแคล่ว 2.1 คล่องแคล่วในการพูดประโยค 2.2 คล่องแคล่วในการพูดบทความ 3.การแสดงท่าทาง/น้ำเสียง ประกอบการพูด 3.1 แสดงท่าทาง ประกอบการพูด 3.2 แสดงน้ำเสียง ประกอบในการพูด รวม 4.ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีความเชื่อมั่นในตัวเอง มีความกล้าหาญในการพูด รวม
170 เกณฑ์การประเมินการปฏิบัติ (รูบริคการประเมิน) พฤติกรรมที่ประเมิน 4 3 2 1 1. ความถูกต้อง 1.1 พูดออกเสียง คำศัพท์ได้ถูกต้อง ออกเสียงคำ ศัพท์ได้ถูกต้อง ตามหลักการออก เสียง ออกเสียง เน้นหนักในคำ ออกเสียงคำศัพท์ ได้ถูกต้องตาม หลักการออก เสียง ออกเสียง เน้นหนักในคำ บางกลาง ออกเสียงคำศัพท์ ได้ถูกต้องตาม หลักการออก เสียงเป็นส่วน ใหญ่ขาดการออก เสียง ออกเสียงคำศัพท์ ไม่ถูกต้องสื่อสาร ไม่ได้ 1.2 พูดออกเสียง ประโยคได้ถูกต้อง ออกเสียงประ โยคได้ถูกต้อง ตามหลักการออก เสียง ออกเสียง ประโยคอย่าง สมบูรณ์ ออกเสียงประ โยคได้ถูกต้อง ตามหลักการออก เสียงออกเสียง ประโยคสมบูรณ์ เป็นส่วนใหญ่ ออกเสียงประ โยคได้ถูกต้อง ตามหลักการออก เสียงเป็นส่วน ใหญ่ขาดการ ออกเสียเน้นหนัก ออกเสียง ประโยคไม่ ถูกต้องสื่อสาร ไม่ได้ 2. ความคล่องแคล่ว 2.1 คล่องแคล่วใน การพูดประโยค พูดประโยคได้ ต่อเนื่องไม่ติดขัด พูดชัดเจน ทำให้ สื่อสารได้ พูดประโยค ตะกุกตะกักบ้าง แต่ยังพอ สื่อสารได้ พูดเป็นวลีคำหยุด เป็นช่วง ๆ ทำให้ สื่อสารไม่ชัดเจน พูดได้เป็นคำ ทำให้สื่อความ หมายไม่ได้ 2.2 คล่องแคล่วใน การพูดบทความ พูดบทความ อย่างต่อเนื่องไม่ ติดขัด พูดชัดเจน ทำให้สื่อสารได้ พูดบทความ ตะกุกตะกักบ้าง แต่ยังพอ สื่อสารได้ พูดเป็นประโยค สั้นๆ หยุดเป็น ช่วง ๆ ทำให้ สื่อสารไม่ชัดเจน พูดได้บางประ โยค ทำให้สื่อ ความหมายไม่ได้ 3. การแสดงท่าทาง/น้ำเสียง ประกอบการพูด 3.1 แสดงท่าทาง ประกอบการพูด แสดงท่าทาง เหมาะสมกับ บทพูด แสดงท่าทาง ประกอบถูกต้อง เป็นส่วนใหญ่ แสดงท่าทางน้อย มาก ขาดความ น่าสนใจ ไม่มีทางทาง พูด ได้น้อยมาก
171 3.2 แสดงน้ำเสียง ประกอบในการพูด พูดด้วยนน้าํ เสียง เหมาะสมกับ บทความ ขาดนำเสียง เหมาะสมกับ บทพูดเป็นบ้าง ขาดอารมณ์ใน การพูด พูดเหมือนอ่าน ไม่เป็นธรรมชาติ ขาดความ น่าสนใจ พูดได้น้อยมาก 4.ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีความเชื่อมั่นใน ตัวเอง มีความกล้า หาญในการพูด เป็นคนมั่นใจมาก กล้าแสดงออก กล้าพูด เป็นคนขาดมั่นใจ เล็กน้อย เวลาพูด ไม่ค่อยธรรมชาติ เป็นคนไม่ค่อยมี มั่นใจ ไม่ค่อย กล้าพูด เป็นคนขาดความ มั่นใจ พูดได้ไม่ดี เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ คะแนน 16-20 คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพ ดีมาก คะแนน 11-15 คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพ ดี คะแนน 6-10 คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพ พอใช้ คะแนน 1-5 คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพ ปรับปรุง เกณฑ์การประเมิน ได้ระดับ ดี ขึ้นไปถือว่าผ่านเกณฑ์
172 ตอนที่ 5 การพัฒนาเครื่องมือประเมินการเรียนรู้ ด้านจิตพิสัย และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน
173 แบบวัดเจตคติต่อการเรียนวิชาภาษาจีน คำชี้แจง ให้นักเรียนประเมินตนเอง ในพฤติกรรมตามรายการประเมินต่อไปนี้ แล้วเขียนเครื่องหมาย ✓ลงในช่องผลการประเมินให้ตรงกับระดับความรู้สึกของนักเรียน รายการประเมิน เจตคติต่อวิชาภาษาจีน ระดับความรู้สึก รวม เห็นด้วย อย่างยิ่ง เห็นด้วย ไม่เห็น ด้วย ไม่เห็น ด้วย วิชาภาษาจีนฟังพูดเป็นวิชาที่ อย่างยิ่ง 1.ฉันมักจะรอคอยเวลาให้ได้เรียนวิชานี้ 2.ฉันรู้สึกว่ากิจกรรมที่เรียนทำให้เครียด วิตกกังวล 3.ฉันรู้สึกสนุกกับกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้ทำในวิชานี้ 4. ฉันนรู้สึกว่ากิจกรรมเรียนรู้ภาษาจีนมีการส่งเสริมความรู้ได้ดี 5.การเรียนภาษาจีนได้มีการฝึกพัฒนาทักษะสมองมากขึ้น 6.ฉันอยากเรียนรู้ธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมจีนให้มากขึ้น 7.วิชาภาษาจีนเป็นวิชาที่พัฒนาไปสู่สังคมโลกได้ 8.ฉันมีความรู้เกี่ยวกับคำศัพท์เพิ่มมากขึ้นจากเดิม 9. วิชาภาษาจีนเป็นวิชาที่ทำให้เป็นคนกล้าแสดงออก 10 การเรียนวิชาจีนไม่ช่วยให้ชีวิตมีความก้าวหน้า 11.ฉันรู้สึกว่าประหม่าทุกครั้งเมื่อมีโอกาสได้สื่อสารเป็นภาษาจีน 12. วิชาภาษาจีนเป็นวิชาที่เรียนรู้ได้ยากมาก 13. วิชาภาษาจีนทำให้เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ 14. ภาษาจีนมีส่วนช่วยในการประกอบอาชีพในอนาคตได้ 15. ฉันมีความสุขมากเมื่อได้เรียนวิชาภาษาจีน
174 แบบบันทึกสรุปผลการวัดเจตคติต่อการเรียนวิชาภาษาจีน คำชี้แจง สังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนหรือให้นักเรียนได้ประเมินตนเอง ในพฤติกรรมตามรายการ ประเมินต่อไปนี้ แล้วบันทึกผลการประเมินนักเรียนแต่ละคนลงในช่องผลการประเมิน 4 หมายถึง ระดับความรู้สึกของนักเรียนที่มีต่อวิชาภาษาจีน ในระดับเห็นด้วยอย่างยิ่ง 3 หมายถึง ระดับความรู้สึกของนักเรียนที่มีต่อวิชาภาษาจีน ในระดับเห็นด้วย 2 หมายถึง ระดับความรู้สึกของนักเรียนที่มีต่อวิชาภาษาจีน ในระดับไม่เห็นด้วย 1 หมายถึง ระดับความรู้สึกของนักเรียนที่มีต่อวิชาภาษาจีน ในระดับไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง รายการประเมิน ผลการประเมินของนักเรียนเลขที่... 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 1.ฉันมักจะรอคอยเวลาให้ได้เรียนวิชานี้ .. ... .. 2.ฉันรู้สึกว่ากิจกรรมที่เรียนทำให้เครียด วิตกกังวล 3.ฉันรู้สึกสนุกกับกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้ทำในวิชานี้ 4. ฉันนรู้สึกว่ากิจกรรมเรียนรู้ภาษาจีนมีการส่งเสริมความรู้ได้ดี 5.การเรียนภาษาจีนได้มีการฝึกพัฒนาทักษะสมองมากขึ้น 6.ฉันอยากเรียนรู้ธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมจีนให้มากขึ้น 7.วิชาภาษาจีนเป็นวิชาที่พัฒนาไปสู่สังคมโลกได้ 8.ฉันมีความรู้เกี่ยวกับคำศัพท์เพิ่มมากขึ้นจากเดิม 9. วิชาภาษาจีนเป็นวิชาที่ทำให้เป็นคนกล้าแสดงออก 10 การเรียนวิชาจีนไม่ช่วยให้ชีวิตมีความก้าวหน้า 11.ฉันรู้สึกว่าประหม่าทุกครั้งเมื่อมีโอกาสได้สื่อสารเป็นภาษาจีน 12. วิชาภาษาจีนเป็นวิชาที่เรียนรู้ได้ยากมาก 13. วิชาภาษาจีนทำให้เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ 14. ภาษาจีนมีส่วนช่วยในการประกอบอาชีพในอนาคตได้ 15. ฉันมีความสุขมากเมื่อได้เรียนวิชาภาษาจีน รวมคะแนน ผลการประเมิน
175 รายการประเมิน ผลการประเมินของนักเรียนเลขที่... 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 1.ฉันมักจะรอคอยเวลาให้ได้เรียนวิชานี้ 2.ฉันรู้สึกว่ากิจกรรมที่เรียนทำให้เครียด วิตกกังวล 3.ฉันรู้สึกสนุกกับกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้ทำในวิชานี้ 4. ฉันนรู้สึกว่ากิจกรรมเรียนรู้ภาษาจีนมีการส่งเสริมความรู้ได้ดี 5.การเรียนภาษาจีนได้มีการฝึกพัฒนาทักษะสมองมากขึ้น 6.ฉันอยากเรียนรู้ธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมจีนให้มากขึ้น 7.วิชาภาษาจีนเป็นวิชาที่พัฒนาไปสู่สังคมโลกได้ 8.ฉันมีความรู้เกี่ยวกับคำศัพท์เพิ่มมากขึ้นจากเดิม 9. วิชาภาษาจีนเป็นวิชาที่ทำให้เป็นคนกล้าแสดงออก 10 การเรียนวิชาจีนไม่ช่วยให้ชีวิตมีความก้าวหน้า 11.ฉันรู้สึกว่าประหม่าทุกครั้งเมื่อมีโอกาสได้สื่อสารเป็นภาษาจีน 12. วิชาภาษาจีนเป็นวิชาที่เรียนรู้ได้ยากมาก 13. วิชาภาษาจีนทำให้เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ 14. ภาษาจีนมีส่วนช่วยในการประกอบอาชีพในอนาคตได้ 15. ฉันมีความสุขมากเมื่อได้เรียนวิชาภาษาจีน รวมคะแนน ผลการประเมิน เกณฑ์การประเมิน ระดับดีมาก หมายถึง มีคะแนนผลประเมิน 48-60 คะแนน ระดับดี หมายถึง มีคะแนนผลประเมิน 37-47 คะแนน ระดับปานกลาง หมายถึง มีคะแนนผลประเมิน 26-36 คะแนน ระดับปรับปรุง หมายถึง มีคะแนนผลการประเมิน 15-25 คะแนน
176 แนวทางการวัดและประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน นิยามหรือความหมาย การทำงานเป็นทีม หมายถึง การทำงานเป็นกลุ่มบุคคล (work team) คือการทำงานโดย บุคคลหลายคน ที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน และมีการแบ่งสรรหน้าที่กัน แล้วแต่ละคนมีความพึงพอใจใน หน้าที่ของตน การทำงานเป็นทีม (team work) คือ กลุ่มบุคคลที่มีการทำงานร่วมกัน มีปฏิสัมพันธ์กัน ระหว่างสมาชิกในกลุ่ม เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเดียวกัน อย่างมีประสิทธิภาพ (https://www.excise.go.th/cs/idcplg?IdcService=GET_FILE&dID=179833&dDocName=W EBPORTAL16200087743&allowInterrupt=1) การทำงานเป็นทีม หมายถึง การร่วมกันทำงานของสมาชิกที่มากกว่า 1 คน โดยที่สมาชิกทุกคนนั้น จะต้องมีเป้าหมายเดียวกันจะทำอะไรแล้วทุกคนต้องยอมรับร่วมกัน มีการวางแผนการทำงานร่วมกัน (http://www.local.moi.go.th/team.html) การทำงานเป็นทีม หมายถึง การร่วมกันทำงานของสมาชิกที่มากกว่า 1 คน โดยทุกคนมีเป้าหมาย เดียวกันว่าจะทำอะไรแล้วทุกคนต้องยอมรับร่วมกัน มีการวางแผนการทำงานร่วมกันการทำงานเป็น ทีมมีความสำคัญในทุกองค์กรการทำงานเป็นทีมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพและ ประสิทธิผลของการบริหารงานการทำงานเป็น ทีมมีบทบาทสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จของงานที่ ต้องอาศัยความร่วมมือของกลุ่มสมาชิกเป็นอย่างดี ( http://www.acn.ac.th/articles/mod/forum/discuss.php?d=413 ) ผู้ที่ทำงานเป็นทีม คือ มีเป้าหมายที่ชัดเจนเป็นเป้าหมายเดียวกัน รู้หน้าที่และมีระบบที่ชัดเจน รู้จักทีม สร้างความสัมพันธ์ เป็นพลังให้กันและกัน เสริมพลังแห่ง Teamwork ด้วย 3 คำ “สนับสนุน สามัคคี แบ่งปัน” ล้มไปด้วยกันก็ก้าวไปด้วยกัน ชื่นชมความสำเร็จและร่วมภาคภูมิใจพร้อมกัน สมรรถนะและพฤติกรรมบ่งชี้ สมรรถนะ พฤติกรรมบ่งชี้ 1. รับฟังความคิดเห็นของทีมและให้ ข้อมูลต่างๆ แก่สมาชิกในทีม 1.1 รับฟังความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับทีม 1.2 ให้ข้อมูลรายละเอียดต่างๆอย่างครบถ้วนตามที่สมาชิกในทีมร้องขอ 1.3 ทำงานให้สำเร็จและเป็นไปตามเป้าหมายที่ทีมกำหนดขึ้น 2.แสดงสมรรถนะระดับที่ 1 และให้ คำแนะนำ นำเสนอแนวทางเลือก และช่วยเหลือทีม 2.1 ให้คำปรึกษาแนะนำแก่สมาชิกในทีมในการทำงานให้บรรลุเป้าหมายของทีม 2.2 นำเสนอแนวทางเลือกในการทำงานให้บรรลุเป้าหมายของทีม 2.3 ช่วยเหลือสมาชิกในทีมในการทำงานให้บรรลุเป้าหมายที่ทีมกำหนดขึ้น
177 3. แสดงสมรรถนะระดับที่ 2 และ กระตุ้น สร้างสัมพันธภาพ และแก้ไข ข้อขัดแย้งของทีม 3.1 กระตุ้นให้สมาชิกมีส่วนร่วมในการตัดสินใจของทีม 3.2 สร้างสัมพันธภาพในการทำงานกับสมาชิกในทีมเพื่อสนับสนุนเป้าหมายของทีม 3.3 แก้ไขความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในการทำงานของสมาชิกในทีม 4. แสดงสมรรถนะระดับที่ 3 และ กำหนดบทบาท เสนอปรับปรุง ติดตามตรวจสอบการทำงานของทีม 4.1 วางแผนกำหนดบทบาทและหน้าที่ของสมาชิกในทีม 4.2 วิเคราะห์ขั้นตอนการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพและเสนอแนะวิธีการปรับปรุง การทำงานของทีม 4.3 ติดตามตรวจสอบผลการดำเนินงานและความสำเร็จของทีม 5. แสดงสมรรถนะระดับที่ 4 และ กำหนดกลยุทธ์ โครงการ และ กระตุ้นให้เกิดการทำงานเป็นทีม 5.1 กำหนดกลยุทธ์และทิศทางการทำงานของทีม โดยเชื่อมโยงกับเป้าหมายของ มหาวิทยาลัย 5.2 กำหนดโครงการเพื่อให้บุคลากรในมหาวิทยาลัยมีส่วนร่วมและทำงานร่วมกัน เป็นทีม 5.3 กระตุ้นให้สมาชิกในทีมตระหนักถึงความสำคัญของการทำงานเป็นทีม และ สามารถทำงานร่วมกันเป็นทีมได้ ( https://hr.rmutr.ac.th/wpcontent/uploads/2016/09/rmutr_hr_w1_assessment_Oct59_08.11.doc) สมรรถนะและพฤติกรรมบ่งชี้( ระดับ5 ) cbethailand.com สมรรถนะ พฤติกรรมบ่งชี้ 1. ด้านการเป็นสมาชิกที่ดี และมีภาวะผู้นำ o ใช้จุดเด่นของตนเองและสมาชิกในการทำงานเป็นทีมในภาระงานที่แตกต่าง โดยพร้อมที่จะ ปรับเปลี่ยนหน้าที่และบทบาท ชักจูงให้สมาชิกทีมทำงานให้สำเร็จเพื่อให้งานบรรลุเป้าหมาย o กล้าแสดงความคิดเห็นของตนเอง และรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น 2.ด้านกระบวนการทำงาน แบบร่วมมือร่วมพลัง o ร่วมกำหนดเป้าหมายของทีม รับรู้ รับผิดชอบเป้าหมายนั้น และเห็นความเชื่อมโยงของ หน้าที่ตนเองกับเป้าหมายของทีม o ร่วมวางแผนขั้นตอนในการทำงานไปสู่เป้าหมาย การแบ่งบทบาทหน้าที่ และการ ตัดสินใจ ร่วมกันในทีมได้ 3. ด้านการสร้างความสัมพันธ์ และจัดการความขัดแย้ง o เข้าใจและยอมรับความสามารถของสมาชิกทีมที่แตกต่างกัน o มีทักษะพื้นฐานการแก้ไขความขัดแย้ง เช่น การสร้างความเข้าใจปัญหา ปฏิเสธการใช้ความ รุนแรง มุ่งเน้นประเด็นปัญหามากกว่าตัวบุคคล ไม่มุ่งเอาชนะกันแต่สร้างความร่วมมือกัน การเข้าใจผู้อื่น เป็นต้น
178 4. ด้านการตรวจสอบและ ประเมินผล o มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นกับผลการตรวจสอบ o การรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น o มีความสามัคคีในการตรวจสอบและประเมินผล ตรงไปตรงมา แบบสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน เรื่อง การทำงานเป็นทีม (ระดับที่5) สถานการณ์/ชิ้นงานที่สามารถสังเกตพฤติกรรมได้ คือ การทำคู่มือการถามตอบราคาเป็นภาษาจีน ชื่อผู้ถูกสังเกต................................................................................................................... รายการพฤติกรรมที่ประเมิน ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 มาก ที่สุด มาก ปาน กลาง น้อย น้อย ที่สุด มาก ที่สุด มาก ปาน กลาง น้อย น้อย ที่สุด 1. ด้านการเป็นสมาชิกที่ดี และมีภาวะผู้นำ 1.1 รับรู้ว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ต้อง ทำงานร่วมกันให้สำเร็จ 1.2 รู้บทบาทและหน้าที่ของตนเอง ปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมายให้บรรลุผล สำเร็จได้โดยได้รับการชี้แนะ 1.3 รู้ความสามารถของตน และใช้จุดเด่นของ ตน ในการทำงาน รับผิดชอบตามหน้าที่และ บทบาทที่ได้รับมอบหมายได้ 1.4 กล้าแสดงความคิดเห็นของตนเอง และ รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น 2.ด้านกระบวนการทำงานแบบร่วมมือร่วม พลัง 2.1 ปฏิบัติตามคำแนะนำ ข้อตกลง กฎ กติกา ในการทำงานเป็นทีมหรือทำกิจกรรท ร่วมกับ ทีมได้ 2.2 รู้เป้าหมายของทีม และช่วยเหลือ สนับสนุนทีมในการทำกิจกรรมเพื่อให้บรรลุ ตามเป้าหมาย
179 2.3 เป็นสมาชิกที่มีส่วนร่วมทำงานกับผู้อื่น สนับสนุนและรับผิดชอบต่อการตัดสินใจ ร่วมกัน 2.4 ร่วมตัดสินใจแก้ปัญหากับทีมได้ 2.5 ร่วมวางแผนขั้นตอนในการทำงานไปสู่ เป้าหมาย การแบ่งบทบาทหน้าที่ และการ ตัดสินใจร่วมกันในทีมได้ 3.ด้านการสร้างความสัมพันธ์ และจัดการ ความขัดแย้ง 3.1แนะนำตนเองกับเพื่อนได้ บอกสิ่งที่ตนเอง ทำได้ดี และสิ่งที่จะช่วยเพื่อน ในทีมได้ 3.2 รับรู้ความรู้สึกของตนเองและผู้อื่น 3.3 ทักทายและพูดคุยทำความรู้จักเพื่อนใน ทีม 3.4 แสดงความสนใจ ใส่ใจ และห่วงใย เพื่อน ในทีม 3.5 พูดหรือแสดงต่อผู้อื่นในเชิงบวก 3.6 แก้ไขความขัดแย้งเชิงบวก โดยใช้ เหตุ และผล 4. ด้านการตรวจสอบและประเมินผล 4.1 มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นกับ ผลการตรวจสอบ 4.2 การรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น 4.3 มีความสามัคคีในการตรวจสอบและ ประเมินผล ตรงไปตรงมา ชื่อผู้สังเกต........................................................ วันที่สังเกต........................................................
180 ตอนที่ 6 การจำแนกระดับการเรียนรู้ และการให้ระดับคะแนน(ระดับผลการเรียน)
181 การให้ระดับคะแนนนักเรียน ตารางที่ .4.คะแนนผลการเรียนรู้ของนักเรียนวิชา..ภาษาจีนฟังพูด1...ชั้น.....ม.1/7............ เลข ที่ ชื่อ-ชื่อสกุล คะแนนระหว่างเรียน ( 70 คะแนน) คะแนน ปลาย ภาค (50ข้อ) รวม ทั้งหมด (คะแนน เต็ม100 คะแนน) ท่องคำศัพท์บทที่1-4แบบฝึกหัดบทที่1-4อ่านpinyin แผนที่เอเชีย วีดีโอแนะนำตัว จิตพิสัย กิจกรรมกลุ่ม กลางภาค ท่องคำศัพท์บทที่5-8แบบฝึกหัดบทที่5-8 สื่อการสอนหมายเลขจีน คู่มือประโยคการถามตอบราคาภาษาจีน แผนภูมิข้อมูลอายุ นำเสนอสีต่างๆที่อยู่รอบตัว นำเสนอหัวข้อ“สีที่ชอบของเพื่อน” จิตพิสัย กิจกรรมกลุ่ม 4 4 2 2 4 2 2 20 4 4 4 4 4 3 3 2 2 30 คะแนน 100 1 เด็กชายคณินทร์ 4 4 2 2 4 2 2 13 3 3 2 2 2 2 1 2 1 19 70 2 เด็กชายจิรเดช 4 4 2 2 4 2 2 16 4 4 4 4 4 3 3 2 2 19 85 3 เด็กชายธงชัย 4 4 2 2 4 2 2 15 3 3 3 2 2 2 2 2 2 25 84 4 เด็กชายธาราเทพ 4 4 2 2 4 2 2 17 4 4 4 4 4 3 3 2 2 23 90 5 เด็กชายธีธัชกร 4 4 2 2 4 2 2 16 3 2 2 1 1 1 1 1 1 21 70 6 เด็กชายปิเตอร์ 4 4 2 2 4 2 2 15 4 4 4 4 4 3 3 2 2 17 82 7 เด็กชายพงศวัชร์ 4 4 2 2 4 2 2 15 2 2 1 1 1 1 1 1 1 16 62 8 เด็กชายภัทรพล 4 4 2 2 4 2 2 17 4 4 4 4 4 3 3 2 2 24 91 9 เด็กชายภัทรวิน 4 4 2 2 4 2 2 10 3 3 3 3 2 2 2 2 1 9 60 10 เด็กชายภานุพงศ์ 4 4 2 2 4 2 2 14 4 4 4 4 4 3 3 2 2 24 88 11 เด็กชายภานุพงค์ 4 4 2 2 4 2 2 14 4 3 3 3 3 3 3 2 2 27 87 12 เด็กชายรัฐโรจน์ 4 4 2 2 4 2 2 16 2 2 2 2 2 2 2 1 1 23 75 13 เด็กชายวรริชญ์ 4 4 2 2 4 2 2 16 2 2 2 2 2 2 2 1 1 23 75 14 เด็กชายสิริวัชร 4 4 2 2 4 2 2 5 4 4 4 4 4 3 3 2 2 12 67 15 เด็กชายสุวิจักขณ์ 4 4 2 2 4 2 2 15 4 4 4 4 4 3 3 2 2 24 89 16 เด็กหญิงกฤตภัค 4 4 2 2 4 2 2 16 4 4 4 4 4 3 3 2 2 24 90 17 เด็กหญิงกันตาภา 4 4 2 2 4 2 2 18 4 4 4 4 4 3 3 2 2 23 91 18 เด็กหญิงกานต์ 4 4 2 2 4 2 2 18 2 2 2 2 2 2 2 1 1 21 75 19 เด็กหญิงกิตตินัน 4 4 2 2 4 2 2 13 4 4 4 4 4 3 3 2 2 20 83 20 เด็กหญิงจิดาภา 4 4 2 2 4 2 2 19 4 4 4 4 4 3 3 2 2 27 96
182 21 เด็กหญิงจิตงาม 4 4 2 2 4 2 2 18 4 4 4 4 4 3 3 2 2 27 95 22 เด็กหญิงชนาภา 4 4 2 2 4 2 2 13 3 3 3 3 3 1 1 1 1 13 65 23 เด็กหญิงฐิตวันต์ 4 3 2 2 3 2 2 12 2 2 2 2 2 2 1 1 1 15 60 24 เด็กหญิงณัฐชยา 4 4 2 2 4 2 2 15 4 4 4 4 4 3 3 2 2 24 89 25 เด็กหญิงณิชา 4 4 2 2 4 2 2 18 4 4 4 4 4 3 3 2 2 26 94 26 เด็กหญิงเดียน่า 4 4 2 2 4 2 2 13 4 4 4 4 4 3 3 2 2 21 84 27 เด็กหญิงธาราทิพ 4 4 2 2 4 2 2 19 4 4 4 4 4 3 3 2 2 28 97 28 เด็กหญิงนภาพร 4 4 2 2 4 2 2 12 4 4 4 4 4 3 3 2 2 13 75 29 เด็กหญิงปุณยวีร์ 4 4 2 2 4 2 2 19 4 4 4 4 4 3 3 2 2 28 97 30 เด็กหญิงเปมิกา 4 4 2 2 4 2 2 17 4 4 4 4 4 3 3 2 2 27 94
183 แบบที่ 1 ตัดสินระดับคะแนนแบบอิงเกณฑ์ วิธีที่ 1 ตัดสินระดับคะแนนแบบอิงเกณฑ์จากค่าร้อยละของคะแนน เกรด เกณฑ์ระดับคะแนน 4 ร้อยละ.....80..........ขึ้นไป 3.5 ร้อยละ75 ---- 79 3 ร้อยละ70 ---- 74 2.5 ร้อยละ 65 ---- 69 2 ร้อยละ 60 ---- 64 1.5 ร้อยละ55 ---- 59 1 ร้อยละ50 ---- 54 0 ร้อยละ0 ---- 49 ผลการตัดสินระดับคะแนนแบบอิงเกณฑ์จากค่าร้อยละของคะแนน มีดังนี้ ตารางที่ ..2... สรุปผลระดับคะแนนของนักเรียน วิชาภาษาจีนฟังพูด ชั้น.....ม1/7.......... ลำดับที่ ชื่อนักเรียน (ชื่อสมมติ) คะแนนรวม (เต็ม.100 คะแนน) ร้อยละของคะแนน (%) ระดับคะแนน 1 เด็กชายคณินทร์ 70 (70/100)*100 70 3 2 เด็กชายจิรเดช 85 (85/100)*100 85 4 3 เด็กชายธงชัย 84 (84/100)*100 84 4 4 เด็กชายธาราเทพ 90 (90/100)*100 90 4 5 เด็กชายธีธัชกร 70 (70/100)*100 70 3 6 เด็กชายปิเตอร์ 82 (82/100)*100 82 4 7 เด็กชายพงศวัชร์ 62 (62/100)*100 62 2
184 ลำดับที่ ชื่อนักเรียน (ชื่อสมมติ) คะแนนรวม (เต็ม.100 คะแนน) ร้อยละของคะแนน (%) ระดับคะแนน 8 เด็กชายภัทรพล 91 (91/100)*100 91 4 9 เด็กชายภัทรวิน 60 (60/100)*100 60 2 10 เด็กชายภานุพงศ์ 88 (88/100)*100 88 4 11 เด็กชายภานุพงค์ 87 (87/100)*100 87 4 12 เด็กชายรัฐโรจน์ 75 (75/100)*100 75 3.5 13 เด็กชายวรริชญ์ 75 (75/100)*100 75 3.5 14 เด็กชายสิริวัชร 67 (67/100)*100 67 2.5 15 เด็กชายสุวิจักขณ์ 89 (89/100)*100 89 4 16 เด็กหญิงกฤตภัค 90 (90/100)*100 90 4 17 เด็กหญิงกันตาภา 91 (91/100)*100 91 4 18 เด็กหญิงกานต์ 75 (75/100)*100 75 3.5 19 เด็กหญิงกิตตินัน 83 (83/100)*100 83 4 20 เด็กหญิงจิดาภา 96 (96/100)*100 96 4 21 เด็กหญิงจิตงาม 95 (95/100)*100 95 4 22 เด็กหญิงชนาภา 65 (65/100)*100 65 2.5
185 ลำดับที่ ชื่อนักเรียน (ชื่อสมมติ) คะแนนรวม (เต็ม.100 คะแนน) ร้อยละของคะแนน (%) ระดับคะแนน 23 เด็กหญิงฐิตวันต์ 60 (60/100)*100 60 2 24 เด็กหญิงณัฐชยา 89 (89/100)*100 89 4 25 เด็กหญิงณิชา 94 (94/100)*100 94 4 26 เด็กหญิงเดียน่า 84 (84/100)*100 84 4 27 เด็กหญิงธาราทิพ 97 (97/100)*100 97 4 28 เด็กหญิงนภาพร 75 (75/100)*100 75 3.5 29 เด็กหญิงปุณยวีร์ 97 (97/100)*100 97 4 30 เด็กหญิงเปมิกา 94 (94/100)*100 94 4
186 วิธีที่ 2 ตัดสินระดับคะแนนแบบอิงกลุ่มจากคะแนนมาตรฐาน เกรด ระดับคะแนน 4 คะแนน T 59 ขึ้นไป 3.5 คะแนน T 55 ---- 58 3 คะแนน T 51 ---- 54 2.5 คะแนน T 47 ---- 50 2 คะแนน T 43 ---- 46 1.5 คะแนน T 39 ---- 42 1 คะแนน T 35 ---- 38 0 คะแนน T 0 ---- 34 ผลการตัดสินระดับคะแนนแบบอิงกลุ่มจากคะแนนมาตรฐาน มีดังนี้ ตารางที่ 5 สรุปผลระดับคะแนนของนักเรียน วิชา ภาษาจีนฟังพูด1 ชั้น...ม.1/7.... (นำคะแนนมาตรฐานที จากการวิเคราะห์ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์) ลำดับที่ ชื่อนักเรียน (ชื่อสมมติ) คะแนนรวม (เต็ม100คะแนน) Z -Score Z=(X-mean)/SD T-Score T=50+10Z ระดับคะแนน 1 เด็กชายคณินทร์ 70 -1.05 40 1.5 2 เด็กชายจิรเดช 85 0.26 53 3 3 เด็กชายธงชัย 84 0.17 52 3 4 เด็กชายธาราเทพ 90 0.70 57 3.5 5 เด็กชายธีธัชกร 70 -1.05 40 1.5 6 เด็กชายปิเตอร์ 82 0.00 50 2.5 7 เด็กชายพงศวัชร์ 62 -1.75 33 0 8 เด็กชายภัทรพล 91 0.79 58 3.5 9 เด็กชายภัทรวิน 60 -1.92 31 0 10 เด็กชายภานุพงศ์ 88 0.52 55 3.5 11 เด็กชายภานุพงค์ 87 0.44 54 3 12 เด็กชายรัฐโรจน์ 75 -0.61 44 2 13 เด็กชายวรริชญ์ 75 -0.61 44 2 14 เด็กชายสิริวัชร 67 -1.31 37 1
187 15 เด็กชายสุวิจักขณ์ 89 0.61 56 3.5 16 เด็กหญิงกฤตภัค 90 0.70 57 3.5 17 เด็กหญิงกันตาภา 91 0.79 58 3.5 18 เด็กหญิงกานต์ 75 -0.61 44 2 19 เด็กหญิงกิตตินัน 83 0.09 51 2.5 20 เด็กหญิงจิดาภา 96 1.22 62 4 21 เด็กหญิงจิตงาม 95 1.13 61 4 22 เด็กหญิงชนาภา 65 -1.48 35 1 23 เด็กหญิงฐิตวันต์ 60 -1.92 31 0 24 เด็กหญิงณัฐชยา 89 0.61 56 3.5 25 เด็กหญิงณิชา 94 1.05 60 4 26 เด็กหญิงเดียน่า 84 0.17 52 3 27 เด็กหญิงธาราทิพ 97 1.31 63 4 28 เด็กหญิงนภาพร 75 -0.61 44 2 29 เด็กหญิงปุณยวีร์ 97 1.31 63 4 30 เด็กหญิงเปมิกา 94 1.05 60 4
188 แบบที่ 2 ตัดสินระดับคะแนนแบบอิงกลุ่ม ขั้นตอนการตัดสินระดับคะแนนมีดังนี้ 1. คำนวณค่าพิสัย จากการนำคะแนนสูงสุด ลบด้วยคะแนนต่ำสุด (พิจารณาคะแนนจาก ตารางที่รวบรวมได้) พิสัย = 63 -31=32 คะแนน 2. ต้องการตัดสินระดับคะแนน 8 ระดับคือ 4, 3.5,3, 2.5, 2,1.5,1,0 3. คำนวณช่วงคะแนน คือ พิสัย / จำนวนระดับคะแนนที่ต้องการ 32/8=4 4. กำหนดช่วงระดับคะแนนที่ต้องการดังตาราง เกรด ระดับคะแนน 4 คะแนน 59 ขึ้นไป 3.5 คะแนน 55 ---- 58 3 คะแนน 51 ---- 54 2.5 คะแนน 47 ---- 50 2 คะแนน 43 ---- 46 1.5 คะแนน 39 ---- 42 1 คะแนน 35 ---- 38 0 คะแนน 31 ---- 34 คะแนนต่ำสุดคือ 31 ช่วงคะแนนที่คำนวณได้คือ 4 สามารถสรุประดับคะแนนจากการตัดสินแบบอิงกลุ่มได้ดังตารางต่อไปนี้ ตารางที่ 2 สรุปผลระดับคะแนนของนักเรียน วิชาภาษาจีนฟังพูด1 ชั้น...ม.1/7...... ลำดับที่ ชื่อนักเรียน (ชื่อสมมติ) คะแนนรวม ระดับคะแนน 1 เด็กชายคณินทร์ 40 1.5 2 เด็กชายจิรเดช 53 3 3 เด็กชายธงชัย 52 3 4 เด็กชายธาราเทพ 57 3.5 5 เด็กชายธีธัชกร 40 1.5 6 เด็กชายปิเตอร์ 50 2.5
189 ลำดับที่ ชื่อนักเรียน (ชื่อสมมติ) คะแนนรวม ระดับคะแนน 7 เด็กชายพงศวัชร์ 33 0 8 เด็กชายภัทรพล 58 3.5 9 เด็กชายภัทรวิน 31 0 10 เด็กชายภานุพงศ์ 55 3.5 11 เด็กชายภานุพงค์ 54 3 12 เด็กชายรัฐโรจน์ 44 2 13 เด็กชายวรริชญ์ 44 2 14 เด็กชายสิริวัชร 37 1 15 เด็กชายสุวิจักขณ์ 56 3.5 16 เด็กหญิงกฤตภัค 57 3.5 17 เด็กหญิงกันตาภา 58 3.5 18 เด็กหญิงกานต์ 44 2 19 เด็กหญิงกิตตินัน 51 2.5 20 เด็กหญิงจิดาภา 62 4 21 เด็กหญิงจิตงาม 61 4 22 เด็กหญิงชนาภา 35 1 23 เด็กหญิงฐิตวันต์ 31 0 24 เด็กหญิงณัฐชยา 56 3.5 25 เด็กหญิงณิชา 60 4 26 เด็กหญิงเดียน่า 52 3 27 เด็กหญิงธาราทิพ 63 4 28 เด็กหญิงนภาพร 44 2 29 เด็กหญิงปุณยวีร์ 63 4 30 เด็กหญิงเปมิกา 60 4
ง บรรณานุกรม ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้ ภาษาจีนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ข้อสอบปลายภาคภาษาจีนม.1 โรงเรียนหัวหิน ทักษะการฟัง http://www.digitalschool.club/digitalschool/health4-6/health6_1/b2/item6.php https://thaiforcommunication.weebly.com/36073633358536253632358536343619361536333591. html http://ge.vru.ac.th/gevru/wpcontent/uploads/2020/07/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88- %E0%B9%93- %E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0 %B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8 %B2%E0%B8%A3%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%87.pdf ทักษะการพูด https://thaiforcommunication.weebly.com/36073633358536253632358536343619361436413604. html https://so01.tci-thaijo.org/index.php/cmujedu/article/view/186726/131244 คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา 27 เมษายน พ.ศ. 2557 ลิงค์ที่ นำมาจากอินเทอร์เน็ต https://thaiedu2104.blogspot.com/p/2.html การทำงานเป็นทีม https://www.excise.go.th/cs/idcplg?IdcService=GET_FILE&dID=179833&dDocName=WEBPORTAL1 6200087743&allowInterrupt=1 http://www.local.moi.go.th/team.html) http://www.acn.ac.th/articles/mod/forum/discuss.php?d=413 https://hr.rmutr.ac.th/wp-content/uploads/2016/09/rmutr_hr_w1_assessment_Oct59_08.11.doc
จ ภาคผนวก
ฉ การเขียนส่วนวัดและประเมินผลในแผนการจัดการเรียนรู้ คะแนนดิบของนักเรียนที่ใช้วิเคราะห์และหาคุณภาพ ชื่อ-ชื่อสกุล คะแนนระหว่างเรียน ( 70 คะแนน) คะแนน ปลาย ภาค (50ข้อ) รวม ทั้งหมด (คะแนน เต็ม100 คะแนน) ท่องคำศัพท์บทที่1-4แบบฝึกหัดบทที่1-4อ่านpinyin แผนที่เอเชีย วีดีโอแนะนำตัว จิตพิสัย กิจกรรมกลุ่ม กลางภาค ท่องคำศัพท์บทที่5-8แบบฝึกหัดบทที่5-8 สื่อการสอนหมายเลขจีน คู่มือประโยคการถามตอบราคาภาษาจีน แผนภูมิข้อมูลอายุ นำเสนอสีต่างๆที่อยู่รอบตัว นำเสนอหัวข้อ“สีที่ชอบของเพื่อน” จิตพิสัย กิจกรรมกลุ่ม 4 4 2 2 4 2 2 20 4 4 4 4 4 3 3 2 2 30 คะแนน 100 เด็กชายคณินทร์ 4 4 2 2 4 2 2 13 3 3 2 2 2 2 1 2 1 19 70 เด็กชายจิรเดช 4 4 2 2 4 2 2 16 4 4 4 4 4 3 3 2 2 19 85 เด็กชายธงชัย 4 4 2 2 4 2 2 15 3 3 3 2 2 2 2 2 2 25 84 เด็กชายธาราเทพ 4 4 2 2 4 2 2 17 4 4 4 4 4 3 3 2 2 23 90 เด็กชายธีธัชกร 4 4 2 2 4 2 2 16 3 2 2 1 1 1 1 1 1 21 70 เด็กชายปิเตอร์ 4 4 2 2 4 2 2 15 4 4 4 4 4 3 3 2 2 17 82 เด็กชายพงศวัชร์ 4 4 2 2 4 2 2 15 2 2 1 1 1 1 1 1 1 16 62 เด็กชายภัทรพล 4 4 2 2 4 2 2 17 4 4 4 4 4 3 3 2 2 24 91 เด็กชายภัทรวิน 4 4 2 2 4 2 2 10 3 3 3 3 2 2 2 2 1 9 60 เด็กชายภานุพงศ์ 4 4 2 2 4 2 2 14 4 4 4 4 4 3 3 2 2 24 88 เด็กชายภานุพงค์ 4 4 2 2 4 2 2 14 4 3 3 3 3 3 3 2 2 27 87 เด็กชายรัฐโรจน์ 4 4 2 2 4 2 2 16 2 2 2 2 2 2 2 1 1 23 75 เด็กชายวรริชญ์ 4 4 2 2 4 2 2 16 2 2 2 2 2 2 2 1 1 23 75 เด็กชายสิริวัชร 4 4 2 2 4 2 2 5 4 4 4 4 4 3 3 2 2 12 67 เด็กชายสุวิจักขณ์ 4 4 2 2 4 2 2 15 4 4 4 4 4 3 3 2 2 24 89 เด็กหญิงกฤตภัค 4 4 2 2 4 2 2 16 4 4 4 4 4 3 3 2 2 24 90 เด็กหญิงกันตาภา 4 4 2 2 4 2 2 18 4 4 4 4 4 3 3 2 2 23 91 เด็กหญิงกานต์ 4 4 2 2 4 2 2 18 2 2 2 2 2 2 2 1 1 21 75
ช เด็กหญิงกิตตินัน 4 4 2 2 4 2 2 13 4 4 4 4 4 3 3 2 2 20 83 เด็กหญิงจิดาภา 4 4 2 2 4 2 2 19 4 4 4 4 4 3 3 2 2 27 96 เด็กหญิงจิตงาม 4 4 2 2 4 2 2 18 4 4 4 4 4 3 3 2 2 27 95 เด็กหญิงชนาภา 4 4 2 2 4 2 2 13 3 3 3 3 3 1 1 1 1 13 65 เด็กหญิงฐิตวันต์ 4 3 2 2 3 2 2 12 2 2 2 2 2 2 1 1 1 15 60 เด็กหญิงณัฐชยา 4 4 2 2 4 2 2 15 4 4 4 4 4 3 3 2 2 24 89 เด็กหญิงณิชา 4 4 2 2 4 2 2 18 4 4 4 4 4 3 3 2 2 26 94 เด็กหญิงเดียน่า 4 4 2 2 4 2 2 13 4 4 4 4 4 3 3 2 2 21 84 เด็กหญิงธาราทิพ 4 4 2 2 4 2 2 19 4 4 4 4 4 3 3 2 2 28 97 เด็กหญิงนภาพร 4 4 2 2 4 2 2 12 4 4 4 4 4 3 3 2 2 13 75 เด็กหญิงปุณยวีร์ 4 4 2 2 4 2 2 19 4 4 4 4 4 3 3 2 2 28 97 เด็กหญิงเปมิกา 4 4 2 2 4 2 2 17 4 4 4 4 4 3 3 2 2 27 94
ซ การตัดเกรดแบบอิงเกณฑ์ 4 ร้อยละ.....80..........ข ้น ป 3.5 ร้อยละ75 ---- 79 3 ร้อยละ70 ---- 74 2.5 ร้อยละ 65 ---- 69 2 ร้อยละ 60 ---- 64 1.5 ร้อยละ55 ---- 59 1 ร้อยละ50 ---- 54 0 ร้อยละ0 ---- 49 คะแนนรวม 100 1 ็ ชาย ิท 70 3 2 ็ ชายจ ิ ช 85 4 3 ็ ชายธงช ย 84 4 4 ็ ชายธา า ทพ 90 4 5 ็ ชายธธี ช 70 3 6 ็ ชายปิ ตอ 82 4 7 ็ ชายพงศว ช 62 2 8 ็ ชายภท พล 91 4 9 ็ ชายภท ว ิ 60 2 10 ็ ชายภา ุพงศ 88 4 11 ็ ชายภา ุพง 87 4 12 ็ ชาย ฐโ จ 75 3.5 13 ็ ชายว ชิญ 75 3.5 14 ็ ชายส ิวิ ช 67 2.5 15 ็ ชายสวุจิ ข 89 4 16 ็ หญงิ ฤตภ 90 4 17 ็ หญงิ ตาภา 91 4 18 ็ หญงิ า ต 75 3.5 19 ็ หญงิ ติต ิ 83 4 20 ็ หญงิจ ิาภา 96 4 21 ็ หญงิจติงาม 95 4 22 ็ หญงิช าภา 65 2.5 23 ็ หญงิฐติว ต 60 2 24 ็ หญงิ ฐชยา 89 4 25 ็ หญงิ ชิา 94 4 26 ็ หญงิ ยี ่า 84 4 27 ็ หญงิธา าทพิ 97 4 28 ็ หญงิ ภาพ 75 3.5 29 ็ หญงิป ุยว ี 97 4 30 ็ หญงิ ปม ิา 94 4 ที่ชื่อ-สกุล ระดับผลการเรียน