The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รวมแผนการสอนรายวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปี64

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pasanamo.angkana, 2022-09-01 10:42:05

รวมแผนการสอนรายวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปี64

รวมแผนการสอนรายวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปี64

(1) นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ นาเสนอผลการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมหนา้ หอ้ งเรยี น
(2) ครแู ละนกั เรียนร่วมกันอภิปรายผลจากการปฏิบตั กิ จิ กรรม โดยใช้แนวคาถาม เช่น

– เม่ือกรดทาปฏิกิริยาเคมีกับโลหะจะได้ผลิตภัณฑ์เป็นสารใด (แนวคาตอบ เกลือของโลหะและ
แก๊สไฮโดรเจน)

– เม่ือกรดทาปฏกิ ิรยิ าเคมีกับเบสจะได้ผลิตภัณฑ์เป็นสารใด (แนวคาตอบ เกลือของโลหะและน้า
หรอื อาจไดเ้ พียงเกลอื ของโลหะ)

– เมื่อเบสทาปฏิกิริยาเคมีกับโลหะบางชนิดจะได้ผลิตภัณฑ์เป็นสารใด (แนวคาตอบ เกลือของ
เบสและแก๊สไฮโดรเจน)

(3) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลจากการปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า กรด
เกิดปฏิกริ ิยาเคมีกับโลหะและเบส สว่ นเบสเกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมีกับโลหะบางชนิด

4) ขัน้ ขยายความรู้ (Elaboration)
ครูอธิบายเพิ่มเติมเกย่ี วกับปฏิกิริยาเคมีในชวี ติ ประจาวนั ให้นกั เรียนเข้าใจวา่
– กรดทาปฏิกิริยากบั โลหะได้หลายชนิด ไดผ้ ลติ ภณั ฑเ์ ปน็ เกลอื ของโลหะและแกส๊ ไฮโดรเจน

เขยี นแสดงดว้ ยสมการขอ้ ความ คือ

โลหะ + กรด  เกลือของโลหะ + แก๊สไฮโดรเจน
– กรดทาปฏกิ ิริยากบั เบส ได้ผลิตภัณฑเ์ ปน็ เกลือของโลหะและนา้ หรืออาจได้เพียงเกลอื ของ
โลหะ เขยี นแสดงด้วยสมการขอ้ ความ คอื

กรด + เบส  เกลอื ของโลหะ + นา้ (หรอื ได้เพยี งเกลือของโลหะ)
– เบสทาปฏิกิรยิ ากบั โลหะบางชนดิ ได้ผลิตภัณฑ์เปน็ เกลือของเบสและแก๊สไฮโดรเจน เขยี น
แสดงดว้ ยสมการข้อความ คือ

เบส + โลหะ  เกลอื ของเบส + แกส๊ ไฮโดรเจน
5) ข้นั ประเมิน (Evaluation)

(1) ครใู หน้ กั เรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหวั ขอ้ ทเี่ รยี นมาและการปฏิบัติกิจกรรม มีจุดใดบ้างท่ียังไม่
เขา้ ใจหรือยังมีขอ้ สงสัย ถ้ามี ครูชว่ ยอธบิ ายเพิ่มเตมิ ให้นกั เรียนเขา้ ใจ

(2) นักเรียนร่วมกันประเมินการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคใด และได้มีการแก้ไข
อย่างไรบา้ ง

(3) ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับประโยชน์ท่ีได้รับจากการปฏิบัติกิจกรรม และ
การนาความรูท้ ไี่ ด้ไปใช้ประโยชน์

(4) ครทู ดสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นโดยการให้ตอบคาถาม เชน่
– ถ้าล้างน้ายาล้างห้องน้าไม่สะอาดจะส่งผลเสียต่อเคร่ืองสุขภัณฑ์ท่ีมีเหล็กเป็นส่วนประกอบ

เพราะอะไร (แนวคาตอบ เพราะน้ายาล้างห้องน้ามีส่วนผสมของกรด ซ่ึงกรดทาปฏิกิริยากับโลหะ จึงทาให้
เหล็กทีเ่ ป็นสว่ นประกอบของเครื่องสุขภณั ฑ์กรอ่ น)

– ในห้องทดลองท่ีต้องใช้โซเดียมไฮดรอกไซด์ไม่ควรใช้ภาชนะท่ีทาจากอะลูมิเนียมเพราะอะไร
(แนวคาตอบ เพราะโซเดยี มไฮดรอกไซด์ทาปฏิกิริยากับอะลูมิเนียมทาให้ได้ผลิตภัณฑ์ (โซเดียมอะลูมิเนต) ที่ไม่
ตอ้ งการในการทดลอง)

ข้นั สรุป
ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุปเก่ียวกบั การเกิดปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจาวัน โดยร่วมกันเขียนเป็นแผนท่ี

ความคดิ หรอื ผังมโนทัศน์

สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สอื วารสาร สารานุกรมวิทยาศาสตร์ สารานกุ รมไทยสาหรับเยาวชน หรอื อนิ เทอร์เนต็
2. คมู่ ือการสอน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 เล่ม 2
3. สือ่ การเรียนรู้ PowerPoint หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 8 เร่อื ง ปฏิกริ ิยาเคมี

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 37

รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ (พนื้ ฐาน) รหสั วิชา ว23102 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2564

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 9 ปฏิกริ ิยาเคมี เรื่องการเกิดปฏิกิรยิ าเคมีในชีวิตประจาวัน (3) เวลา 1 ช่ัวโมง/คาบ

วนั ท่ี …………………….………………………… ครูผสู้ อน นางสาวอังคณา ปาสานะโม

สาระสาคัญ
กรดทาปฏิกริ ยิ ากบั สารประกอบคาร์บอเนตไดผ้ ลติ ภัณฑ์เป็นแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ เกลอื ของโลหะ

และนา้

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบตั ขิ องสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสมบัติของสสาร
กับโครงสร้างและแรงยดึ เหนีย่ วระหว่างอนภุ าค หลกั และธรรมชาติของการเปล่ยี นแปลงสถานะของสสาร การ
เกิดสารละลาย และการเกิดปฏกิ ริ ิยาเคม

ตวั ชวี้ ัด
ว 2.1 ม. 3/6 อธิบายปฏิกิริยาการเกิดสนิมของเหล็ก ปฏิกิริยาของกรดกับโลหะ ปฏิกิริยาของกรด

กับเบส และปฏิกิริยาของเบสกับโลหะ โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ และอธิบายปฏิกิริยาการเผาไหม้ การเกิด

ฝนกรด การสังเคราะห์ด้วยแสง โดยใช้สารสนเทศ รวมท้งั เขยนสมการขอ้ ความแสดงปฏกิ ริ ิยาดังกล่าว

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคต์ ามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551

 รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  ซื่อสัตยส์ ุจริต  มีวินัย  ใฝเ่ รยี นรู้

 อยอู่ ยา่ งพอเพียง  มุ่งมั่นในการทางาน  รักความเป็นไทย  มจี ิตสาธารณะ

............................................................................................................................. .............................................

ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน

 ความสามารถในการส่ือสาร :………………………………………………………..

 ความสามารถในการคิด :………………………………………………………..

 ความสามารถในการแกป้ ัญหา :………………………………………………………..

 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ :………………………………………………………..

 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี :………………………………………………………..

ดา้ นการอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขียน

 การอ่าน :…………………………………………………………………………..

 การคิดวิเคราะห์ :…………………………………………………………………………..

 การเขยี น :…………………………………………………………………………..

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. อธิบายการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมีของกรดกบั สารประกอบคาร์บอเนตและเขียนแสดงด้วยสมการข้อความ

ได้ (K)
2. นกั เรยี นสามารถแสดงทกั ษะการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ได้ (P)
3. นักเรียนสามารถแสดงความมุง่ มน่ั ในการทางานได้ (A)

การวัดและการประเมินผลการเรยี นรู้
ผูป้ ระเมนิ  ครูผู้สอน  นักเรยี น  เพื่อน  ผู้ปกครอง

ช้นิ งาน/ภาระงาน /รอ่ งรอย/หลักฐานการเรียนรู้

สิง่ ท่ตี ้องการวัด/ประเมิน วธิ ีการวดั เครือ่ งมือการวดั เกณฑ์การใหค้ ะแนน

ระดับคณุ ภาพ

(Rubric Score)

1. นักเรียนสามารถอธิบายการเกิดปฏิกิริยา - ตรวจใบงาน ชิ้นงาน - ใบงาน ช้ินงานหรือ - นักเรยี นผา่ นเกณฑ์

เคมีของกรดกับโลหะและเบสและเขียนแสดง หรอื ภาระงาน ภาระงาน รอ้ ยละ 70 ขนึ้ ไป

ด้วยสมการขอ้ ความได้ (K)

2. นักเรียนสามารถแสดงทักษะการเก็บ - ประเมินจากการ -แบบประเมนิ ทกั ษะ - ระดบั คณุ ภาพ ดี

รวบรวมขอ้ มลู ได้ (P) สงั เกตพฤติกรรม -แบบประเมินการ ขึ้นไป

สังเกตพฤติกรรมการ

ทางานกล่มุ

3. นักเรียนสามารถแสดงความมุ่งม่ันในการ - ป ร ะ เ มิ น จ า ก ก า ร -แ บ บ สั ง เ ก ต - ระดับคณุ ภาพ ดี

ทางานได้ (A) สงั เกตพฤติกรรม พฤติกรรม ขึ้นไป

สาระการเรยี นรู้
- ปฏกิ ิริยาเคมีในชวี ิตประจาวัน

กจิ กรรมการเรียนรู้ (กจิ กรรม Active Learning)
ขั้นนาเข้าสบู่ ทเรียน

1) ครูให้นกั เรียนทบทวนความรเู้ ดมิ ที่ได้เรียนร้มู าแล้ว โดยใช้คาถามต่อไปน้ี
– เมอื่ กรดและเบสทาปฏิกิริยากับโลหะจะได้ผลติ ภณั ฑ์ใดเหมอื นกัน (แนวคาตอบ แกส๊ ไฮโดรเจน)
– ปฏกิ ริ ิยาสะเทินเปน็ ปฏิกิริยาเคมรี ะหวา่ งสารตั้งต้นชนิดใด (แนวคาตอบ กรดและเบส)

2) นกั เรยี นรว่ มกนั ตอบคาถามและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคาตอบ เพ่ือเชอ่ื มโยงไปสู่การเรยี นรู้
เรอื่ ง การเกิดปฏิกิรยิ าเคมีในชวี ติ ประจาวนั

ขนั้ จดั กิจกรรมการเรยี นรู้
จัดกิจกรรมการเรียนรูโ้ ดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ซ่ึงมีขั้นตอนดงั นี้

1) ขน้ั สรา้ งความสนใจ (Engagement)
(1) ครถู ามคาถามนกั เรยี นเพ่ือกระตนุ้ ความสนใจ เช่น
– น้ายาล้างห้องน้ามีสมบัติเป็นกรดหรือเบส เพราะอะไร (แนวคาตอบ เป็นกรด เพราะมีส่วนผสมของ
กรดไฮโดรคลอริก)
– ขณะล้างพื้นห้องน้าด้วยน้ายาล้างห้องน้า นักเรียนควรปฏิบัติตนอย่างไร (แนวคาตอบ สวมถุงมือและ
รองเท้าเพ่อื ปอ้ งกันไม่ใหน้ ้ายาล้างห้องนา้ ทม่ี สี มบตั ิเปน็ กรดถูกร่างกาย)
(2) นักเรียนรว่ มกันอภปิ รายหาคาตอบเกยี่ วกับคาถามตามความคิดเห็นของแตล่ ะคน
2) ข้นั สารวจและค้นหา (Exploration)

(1) ครูให้นักเรียนศึกษาเร่ืองการเกิดปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจาวันจากใบความรู้หรือในหนังสือเรียน
โดยครชู ว่ ยอธบิ ายใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจว่า

– กรดทาปฏิกิริยากับสารประกอบคาร์บอเนตได้ผลิตภัณฑ์เป็นแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ เกลือ
ของโลหะ และนา้ เขียนแสดงด้วยสมการข้อความ คือ

กรด + สารประกอบคารบ์ อเนต  แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ + เกลอื ของโลหะ + นา้
(2) ครูแบ่งนกั เรยี นกลุ่มละ 5–6 คน ปฏิบตั ิกิจกรรม สังเกตปฏิกิริยาเคมีระหว่างกรดกับสารบางชนิด
ตามขั้นตอน ดงั น้ี

– ลา้ งหนิ ออ่ นท่เี ตรียมไวใ้ หส้ ะอาดแลว้ นาไปใสใ่ นหลอดทดลองขนาดกลาง
– เติมสารละลายกรดไฮโดรคลอริกเข้มข้น 1 โมลต่อลิตร จานวน 5 ลูกบาศก์เซนติเมตร ลงใน
หลอดทดลอง แลว้ ปดิ ดว้ ยจกุ ยางที่มีหลอดนาแก๊สเสียบอยทู่ นั ที
– จุ่มหลอดนาแก๊สอีกด้านลงในน้าปูนใสท่ีอยู่ในหลอดทดลองขนาดกลางอีกหลอดหน่ึง สังเกต
การเปลยี่ นแปลงที่เกดิ ข้ึน
(3) ครแู ละนักเรียนรว่ มกันตรวจสอบความถูกตอ้ งของข้อมลู ท่ีไดจ้ ากการปฏิบตั ิกิจกรรม
(4) ครคู อยแนะนาชว่ ยเหลือนักเรียนขณะปฏิบัตกิ จิ กรรม โดยครเู ดินดูรอบๆ ห้องเรียนและเปิดโอกาส
ให้นกั เรียนทุกคนซักถามเมอ่ื มปี ญั หา
3) ขัน้ อธบิ ายและลงข้อสรุป (Explanation)
(1) นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ นาเสนอผลการปฏบิ ัติกจิ กรรมหนา้ หอ้ งเรียน
(2) ครแู ละนักเรียนรว่ มกันอภิปรายผลจากการปฏิบัตกิ ิจกรรม โดยใช้แนวคาถาม เช่น
– เมื่อใส่สารละลายกรดไฮโดรคลอริกลงในหลอดทดลองที่มีหินอ่อนอยู่จะเกิดการเปลี่ยนแปลง
ลกั ษณะใด (แนวคาตอบ มีฟองแก๊สเกิดข้ึน)
– น้าปูนใสเกิดการเปล่ียนแปลงลักษณะใด (แนวคาตอบ เม่ือแก๊สท่ีเกิดข้ึนในหลอดทดลองผ่าน
ลงในนา้ ปนู ใส พบวา่ น้าปูนใสขุ่น)

– สิ่งท่ีทาให้น้าปูนใสเกิดการเปลี่ยนแปลงคืออะไร และนักเรียนคิดว่าเป็นเพราะอะไร (แนว
คาตอบ ส่ิงทท่ี าให้น้าปูนใสขุ่น คือ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ เพราะเมื่อหินอ่อนเกิดปฏิกิริยาเคมีกับสารละลาย
กรดไฮโดรคลอรกิ ไดผ้ ลิตภณั ฑเ์ ปน็ แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ท่ีมีสมบัติทาใหน้ ้าปูนใสขุ่น)

(3) ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรุปผลจากการปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า สารละลาย
กรดเมอื่ เกดิ ปฏิกิริยาเคมกี ับหนิ อ่อนจะได้แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ เกลอื ของโลหะทลี่ ะลายน้าได้ และนา้

4) ข้นั ขยายความรู้ (Elaboration)
นักเรียนค้นคว้าคาศัพท์ภาษาต่างประเทศเก่ียวกับการเกิดปฏิกิริยาเคมีของกรดกับสารบางชนิดจาก

หนังสือเรยี นภาษาต่างประเทศหรอื อนิ เทอรเ์ นต็ และนาเสนอใหเ้ พ่อื นฟงั คัดคาศัพท์พร้อมทั้งคาแปลลงสมุดส่ง
ครู

5) ข้นั ประเมนิ (Evaluation)
(1) ครใู ห้นกั เรียนแต่ละคนพจิ ารณาวา่ จากหวั ขอ้ ท่ีเรยี นมาและการปฏิบัติกิจกรรม มีจุดใดบ้างท่ียังไม่

เขา้ ใจหรือยงั มขี อ้ สงสัย ถ้ามี ครูช่วยอธบิ ายเพ่ิมเตมิ ใหน้ กั เรียนเขา้ ใจ
(2) นักเรียนร่วมกันประเมินการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคใด และได้มีการแก้ไข

อยา่ งไรบ้าง
(3) ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับประโยชน์ท่ีได้รับจากการปฏิบัติกิจกรรม และ

การนาความรู้ทไี่ ด้ไปใชป้ ระโยชน์
(4) ครูทดสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นโดยการให้ตอบคาถาม เช่น
– เม่ือกรดเกิดปฏิกิริยาเคมีกับสารประกอบคาร์บอเนตจะได้ผลิตภัณฑ์เป็นสารใด (แนวคาตอบ

แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ เกลอื ของโลหะ และนา้ )
– เพราะเหตุใดการใช้น้ายาล้างห้องน้าท่ีมีส่วนประกอบของกรดไฮโดรคลอริกจึงต้องล้างน้ายา

ล้างห้องน้าให้สะอาด (แนวคาตอบ เพราะกรดไฮโดรคลอริกในน้ายาล้างห้องน้าจะเกิดปฏิกิริยาเคมีกับพื้น
ห้องน้าท่ีเปน็ กระเบือ้ ง ทาให้พนื้ กระเบ้อื งกรอ่ น)

ข้ันสรปุ

ครแู ละนกั เรยนรว่ มกนั สรปุ เก่ยวกับการเกิดปฏิกิริยาเคมในชวิตประจาวัน โดยร่วมกันเขยนเป็นแผนท่

ความคิดหรอื ผงั มโนทัศน์

ส่อื และแหล่งการเรียนรู้
1. ใบกิจกรรม สงั เกตปฏิกริ ยิ าเคมีระหวา่ งกรดกับสารบางชนดิ
2. หนังสอื วารสาร สารานกุ รมวิทยาศาสตร์ สารานุกรมไทยสาหรับเยาวชน หรอื อินเทอร์เน็ต
3. คูม่ ือการสอน วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 3 เล่ม 2
4. สือ่ การเรยี นรู้ PowerPoint หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 8 เรื่อง ปฏิกิริยาเคมี

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 38

รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ (พื้นฐาน) รหัสวชิ า ว23102 กล่มุ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 9 ปฏิกริ ิยาเคมี เร่ืองการเกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมีในชวี ติ ประจาวนั (4) เวลา 2 ชัว่ โมง/คาบ

วันที่ …………………….………………………… ครูผสู้ อน นางสาวองั คณา ปาสานะโม

สาระสาคญั
– การเกดิ ฝนกรดเป็นผลจากการเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมรี ะหว่างนา้ ฝนกบั ออกไซดข์ องไนโตรเจน หรือ

ออกไซดข์ องซัลเฟอร์ ท้าใหน้ ้าฝนมสี มบตั ิเปน็ กรด
– การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงของพืชเปน็ การเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมีระหว่างแก๊สคาร์บอนไดออกไซดก์ ับนา้ โดยมี

แสงชว่ ยในการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี ไดผ้ ลิตภณั ฑ์เปน็ น้าตาลกลูโคสและแก๊สออกซเิ จน

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบัตขิ องสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสมั พันธ์ระหว่างสมบัตขิ องสสาร
กบั โครงสร้างและแรงยึดเหน่ยี วระหวา่ งอนุภาค หลกั และธรรมชาตขิ องการเปล่ียนแปลงสถานะของสสาร การ
เกิดสารละลาย และการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี

ตัวชว้ี ดั
ว 2.1 ม. 3/6 อธิบายปฏิกิริยาการเกิดสนิมของเหล็ก ปฏิกิริยาของกรดกับโลหะ ปฏิกิริยาของกรด

กับเบส และปฏิกิริยาของเบสกับโลหะ โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ และอธิบายปฏิกิริยาการเผาไหม้ การเกิด

ฝนกรด การสงั เคราะห์ดว้ ยแสง โดยใช้สารสนเทศ รวมทัง้ เขยี นสมการข้อความแสดงปฏิกิริยาดงั กล่าว

คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551

 รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์  ซื่อสัตยส์ ุจรติ  มีวนิ ยั  ใฝ่เรียนรู้

 อยูอ่ ย่างพอเพียง  มุ่งมน่ั ในการทางาน  รกั ความเปน็ ไทย  มจี ิตสาธารณะ

............................................................................................................................. .............................................

ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น

 ความสามารถในการสอื่ สาร :………………………………………………………..

 ความสามารถในการคิด :………………………………………………………..

 ความสามารถในการแก้ปัญหา :………………………………………………………..

 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต :………………………………………………………..

 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี :………………………………………………………..

ด้านการอ่าน คิด วเิ คราะห์ และเขียน

 การอ่าน :…………………………………………………………………………..

 การคดิ วิเคราะห์ :…………………………………………………………………………..

 การเขยี น :…………………………………………………………………………..

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. นักเรยี นสามารถอธบิ ายปฏกิ ริ ิยาการเกดิ ฝนกรดและเขยี นแสดงด้วยสมการข้อความได้ (K)
2. นกั เรยี นสามารถอธิบายปฏิกิริยาการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืชและเขียนแสดงด้วยสมการข้อความ

ได้ (K)
3. นักเรียนสามารถแสดงทกั ษะการเก็บรวบรวมขอ้ มลู ได้ (P)
4. นักเรยี นสามารถแสดงความมุง่ มัน่ ในการทางานได้ (A)

การวัดและการประเมินผลการเรยี นรู้
ผู้ประเมนิ  ครผู ูส้ อน  นักเรียน  เพื่อน  ผู้ปกครอง

ช้ินงาน/ภาระงาน /ร่องรอย/หลกั ฐานการเรยี นรู้

ส่ิงท่ตี ้องการวัด/ประเมิน วิธกี ารวดั เครือ่ งมือการวัด เกณฑก์ ารให้คะแนน

ระดับคุณภาพ

(Rubric Score)

1. นักเรียนสามารถอธิบายปฏิกิริยาการเกิด - ตรวจใบงาน ชิ้นงาน - ใบงาน ช้ินงานหรือ - นกั เรียนผา่ นเกณฑ์

ฝนกรดและเขียนแสดงด้วยสมการข้อความได้ หรือภาระงาน ภาระงาน ร้อยละ 70 ข้ึนไป

(K)

2. นักเรียนสามารถอธิบายปฏิกิริยาการ - ตรวจใบงาน ชิ้นงาน - ใบงาน ช้ินงานหรือ - นักเรยี นผ่านเกณฑ์

สังเคราะห์ด้วยแสงของพืชและเขียนแสดง หรอื ภาระงาน ภาระงาน ร้อยละ 70 ขึน้ ไป

ด้วยสมการขอ้ ความได้ (K)

3. นักเรียนสามารถแสดงทักษะการเก็บ - ประเมินจากการ -แบบประเมนิ ทกั ษะ - ระดับคณุ ภาพ ดี

รวบรวมข้อมลู ได้ (P) สงั เกตพฤติกรรม -แบบประเมินการ ข้ึนไป

สังเกตพฤติกรรมการ

ทางานกลุ่ม

3. นักเรียนสามารถแสดงความมุ่งม่ันในการ - ป ร ะ เ มิ น จ า ก ก า ร -แ บ บ สั ง เ ก ต - ระดับคณุ ภาพ ดี

ทางานได้ (A) สังเกตพฤตกิ รรม พฤตกิ รรม ขึ้นไป

สาระการเรียนรู้
- ปฏกิ ริ ิยาเคมีในชีวิตประจาวนั

กิจกรรมการเรยี นรู้ (กิจกรรม Active Learning)
ขนั้ นาเขา้ สู่บทเรียน

1) ครใู ห้นกั เรยี นทบทวนความรเู้ ดิมทีไ่ ด้เรียนร้มู าแล้ว โดยใชค้ าถามต่อไปนี้
– กรดทาปฏิกิรยิ ากับสารใดบ้าง (แนวคาตอบ โลหะ เบส และสารประกอบคาร์บอเนต)
– ถ้าน้าฝนมีสมบัติเป็นกรดจะส่งผลอย่างไร (แนวคาตอบ ทาให้โลหะหรือสารประกอบ

คาร์บอเนตท่สี มั ผสั กบั นา้ ฝนที่มสี มบัตเิ ปน็ กรดเกดิ การผหุ รอื กร่อนได)้
2) นักเรียนร่วมกันตอบคาถามและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคาตอบ เพื่อเช่ือมโยงไปสู่การเรียนรู้

เร่ือง การเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมีในชวี ิตประจาวัน

ขนั้ จดั กจิ กรรมการเรียนรู้
จดั กจิ กรรมการเรยี นรูโ้ ดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ซึง่ มีข้ันตอนดังน้ี

1) ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement)
(1) ครูถามคาถามนกั เรยี นเพือ่ กระตุ้นความสนใจ เชน่
– ปฏกิ ริ ยิ าเคมีใดทสี่ ่งผลกระทบต่อสิง่ แวดลอ้ ม (แนวคาตอบ การเกดิ ฝนกรด)
– นักเรียนมีวิธีลดการเกิดปฏิกิริยาเคมีดังกล่าวได้อย่างไร (แนวคาตอบ ลดกิจกรรมที่ก่อให้เกิด

ออกไซด์ของไนโตรเจนและออกไซด์ของซลั เฟอร์ เช่น ลดการเผาไหม้เชือ้ เพลงิ จากซากดกึ ดาบรรพ)์
(2) นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายหาคาตอบเกี่ยวกับคาถามตามความคดิ เห็นของแต่ละคน

2) ขน้ั สารวจและค้นหา (Exploration)
(1) ครแู บ่งนักเรยี นกลุ่มละ 5–6 คน สบื ค้นข้อมูลเกี่ยวกับการเกดิ ฝนกรดตามข้นั ตอนดังน้ี
– แต่ละกลุ่มวางแผนการสืบค้นข้อมูล โดยแบ่งหัวข้อย่อยให้เพ่ือนสมาชิกช่วยกันสืบค้นตามที่

สมาชกิ กลุ่มช่วยกันกาหนดหัวขอ้ ยอ่ ย เชน่ ปฏกิ ริ ิยาเคมีของฝนกรดและผลกระทบจากฝนกรด
– สมาชิกกลุ่มแต่ละคนหรือกลุ่มย่อยช่วยกันสืบค้นข้อมูลตามหัวข้อย่อยที่ตนเองรับผิดชอบ โดย

การสืบคน้ จากหนงั สือ วารสาร สารานุกรมวิทยาศาสตร์ สารานกุ รมไทยสาหรับเยาวชน หรืออินเทอรเ์ น็ต
– สมาชกิ กลุม่ นาข้อมลู ที่สบื ค้นไดม้ ารายงานใหเ้ พื่อนๆ สมาชิกในกลุ่มฟัง รวมท้ังร่วมกันอภิปราย

ซักถามจนคาดว่าสมาชิกทุกคนมคี วามร้คู วามเขา้ ใจทต่ี รงกนั
– สมาชิกกลุ่มช่วยกันสรุปความรู้ท่ีได้ท้ังหมดเป็นผลงานของกลุ่ม และช่วยกันจัดทารายงาน

การศกึ ษาค้นควา้ เกีย่ วกับการเกิดฝนกรด
(2) ครแู ละนักเรียนรว่ มกันตรวจสอบความถูกตอ้ งของข้อมลู ท่ีได้จากการปฏิบตั กิ ิจกรรม
(3) ครคู อยแนะนาช่วยเหลือนกั เรียนขณะปฏิบตั ิกจิ กรรม โดยครูเดินดูรอบๆ ห้องเรียนและเปิดโอกาส

ให้นกั เรยี นทุกคนซกั ถามเมื่อมปี ญั หา
3) ขัน้ อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (Explanation)
(1) นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ นาเสนอผลการปฏิบตั ิกจิ กรรมหนา้ หอ้ งเรยี น
(2) ครูและนกั เรียนร่วมกันอภิปรายผลจากการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม โดยใช้แนวคาถาม เช่น
– แก๊สชนดิ ใดทีท่ าใหเ้ กิดฝนกรด (แนวคาตอบ ไนโตรเจนไดออกไซด์และซลั เฟอรไ์ ดออกไซด์)
– สมการเคมีของปฏกิ ิริยาเคมีการเกิดฝนกรดเขียนไดว้ ่าอะไร (แนวคาตอบ

ไนโตรเจนไดออกไซด์ + นา้  กรดไนตรกิ

ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ + น้า  กรดซัลฟิวรกิ )

– ฝนกรดส่งผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อมอย่างไร (แนวคาตอบ ทาลายสิ่งก่อสร้างที่มีโลหะและ
สารประกอบคาร์บอเนต เช่น หินปูน เป็นองค์ประกอบ)

(3) ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สรปุ ผลจากการปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า เมื่อฝนกรด
มสี มบัตเิ ปน็ กรดจงึ ทาปฏิกริ ยิ ากบั โลหะและสารประกอบคาร์บอเนตได้

4) ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration)
(1) ครูอธิบายเพ่มิ เติมเก่ยี วกับการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมีในชวี ิตประจาวันให้นักเรียนเขา้ ใจวา่
– การเกิดฝนกรดเป็นผลจากการเกิดปฏิกิริยาเคมีระหว่างน้าฝนกับออกไซด์ของไนโตรเจน หรือ

ออกไซด์ของซัลเฟอร์ ทาใหน้ า้ ฝนมีสมบัติเป็นกรด เขียนแสดงความสัมพนั ธ์ด้วยสมการขอ้ ความ คือ

ไนโตรเจนไดออกไซด์ + น้า  กรดไนตรกิ

ซลั เฟอร์ไดออกไซด์ + น้า  กรดซลั ฟวิ รกิ
– การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงของพืช เป็นการเกิดปฏิกิริยาเคมรี ะหว่างแกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์กับน้า
โดยมีแสงช่วยในการเกิดปฏิกิริยาเคมี ได้ผลิตภัณฑ์เป็นน้าตาลกลูโคสและแก๊สออกซิเจน เขียนแสดงด้วย
สมการขอ้ ความ คอื

แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ + น้า แสง, คลอโรฟลิ ล์ นา้ ตาลกลูโคส + แก๊สออกซิเจน
(2) ครูแบ่งนักเรียนกลุ่มละ 3–4 คน เล่นเกมค้นหาคาศัพท์ โดยครูให้นักเรียนหาคาศัพท์ 5 คาท่ี
เกี่ยวข้องกบั ปฏิกิริยาเคมี กลมุ่ ใดตอบถกู ตอ้ งมากทีส่ ดุ เป็นฝ่ายชนะ
5) ขั้นประเมนิ (Evaluation)
(1) ครใู หน้ กั เรยี นแตล่ ะคนพิจารณาวา่ จากหวั ข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรม มีจุดใดบ้างท่ียังไม่
เข้าใจหรือยงั มขี ้อสงสยั ถ้ามี ครชู ่วยอธิบายเพ่มิ เติมใหน้ ักเรียนเข้าใจ
(2) นักเรียนร่วมกันประเมินการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคใด และได้มีการแก้ไข
อยา่ งไรบ้าง
(3) ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ท่ีได้รับจากการปฏิบัติกิจกรรม และ
การนาความร้ทู ีไ่ ด้ไปใชป้ ระโยชน์
(4) ครูทดสอบความเขา้ ใจของนกั เรียนโดยการให้ตอบคาถาม เช่น

– รูปป้ันหินปูนที่อยู่กลางแจ้งมักกร่อนมากกว่ารูปปั้นหินปูนที่อยู่ในร่มเพราะอะไร (แนวคาตอบ
เพราะรูปป้ันหินปูนท่ีอยู่กลางแจ้งมีโอกาสสัมผัสกับฝนกรดมากกว่า ซึ่งฝนกรดเกิดปฏิกิริยาเคมีกับหินปูนท่ีมี
สว่ นประกอบของแคลเซยี มคารบ์ อเนต ทาให้รปู ป้ันหนิ ปนู กรอ่ น)

– การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืชได้ผลิตภัณฑ์เป็นสารใด และผลิตภัณฑ์ท่ีเกิดมีประโยชน์ต่อ
สิ่งมีชีวิตอย่างไร (แนวคาตอบ ผลิตภัณฑ์ คือ น้าตาลกลูโคสและแก๊สออกซิเจน โดยน้าตาลกลูโคสใช้ในการ
เจริญเติบโตของพชื ส่วนแก๊สออกซิเจนใชใ้ นการหายใจของส่ิงมีชีวติ )

ขั้นสรปุ

ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุปเก่ียวกบั การเกิดปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจ้าวัน โดยร่วมกันเขียนเป็นแผนที่

ความคดิ หรอื ผังมโนทัศน์

ส่ือ และแหลง่ การเรยี นรู้
1. หนังสือ วารสาร สารานุกรมวิทยาศาสตร์ สารานุกรมไทยสาหรบั เยาวชน หรอื อินเทอร์เน็ต
2. คมู่ ือการสอน วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 2
3. ส่อื การเรยี นรู้ PowerPoint หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 8 เรอื่ ง ปฏกิ ิรยิ าเคมี

แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 39

รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ (พ้ืนฐาน) รหสั วิชา ว23102 กลุม่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 9 ปฏิกิริยาเคมี เร่อื งผลของปฏกิ ิริยาเคมีตอ่ ส่ิงมชี วี ิตและสิง่ แวดลอ้ ม เวลา 1 ชั่วโมง/คาบ

วนั ท่ี …………………….………………………… ครูผู้สอน นางสาวอังคณา ปาสานะโม

สาระสาคัญ
ปฏิกิริยาเคมที ี่พบในชวี ติ ประจาวนั มที งั้ ประโยชนแ์ ละโทษตอ่ สง่ิ มชี ีวติ และส่ิงแวดลอ้ ม ดังน้นั เราตอ้ ง

ระมัดระวังผลจากปฏกิ ริ ยิ าเคมี ตลอดจนรจู้ ักวิธปี ้องกนั และแกป้ ัญหาท่เี กดิ จากปฏกิ ิริยาเคมีท่ีพบใชวี ติ ประจา
วัน

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัตขิ องสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสัมพันธร์ ะหว่างสมบตั ิของสสาร
กบั โครงสรา้ งและแรงยึดเหนยี่ วระหว่างอนุภาค หลกั และธรรมชาตขิ องการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การ
เกิดสารละลาย และการเกดิ ปฏกิ ิริยาเคมี

ตวั ชวี้ ดั
ว 2.1 ม. 3/7 ระบุประโยชน์และโทษของปฏิกิริยาเคมีที่มีต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม และ

ยกตวั อย่างวิธกี ารปอ้ งกนั และแก้ปญั หาท่ีเกิดจากปฏิกริ ยิ าเคมีที่พบในชวี ิตประจาวนั จากการสืบค้นข้อมลู

คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551

 รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์  ซ่ือสัตย์สุจรติ  มวี ินัย  ใฝ่เรยี นรู้

 อยอู่ ย่างพอเพียง  มงุ่ มั่นในการทางาน  รักความเป็นไทย  มีจติ สาธารณะ

............................................................................................................................. .............................................

ด้านสมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน

 ความสามารถในการสื่อสาร :………………………………………………………..

 ความสามารถในการคดิ :………………………………………………………..

 ความสามารถในการแกป้ ัญหา :………………………………………………………..

 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ :………………………………………………………..

 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี :………………………………………………………..

ด้านการอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขียน

 การอา่ น :…………………………………………………………………………..

 การคดิ วเิ คราะห์ :…………………………………………………………………………..

 การเขียน :…………………………………………………………………………..

จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. นักเรียนสามารถระบุประโยชน์และโทษของปฏกิ ริ ิยาเคมีที่มตี ่อสงิ่ มชี ีวติ และส่ิงแวดลอ้ มได้ (K)
2. นกั เรียนสามารถเสนอแนะวิธีการป้องกนั และแก้ปญั หาที่เกิดจากปฏิกิริยาเคมีท่ีพบในชีวิตประจาวัน

ได้ (K)
3. นกั เรียนสามารถแสดงทกั ษะการเก็บรวบรวมข้อมลู ได้ (P)
4. นักเรยี นสามารถแสดงความมุ่งมัน่ ในการทางานได้ (A)

การวัดและการประเมนิ ผลการเรยี นรู้
ผู้ประเมนิ  ครูผสู้ อน  นกั เรยี น  เพ่ือน  ผ้ปู กครอง

ช้ินงาน/ภาระงาน /รอ่ งรอย/หลกั ฐานการเรียนรู้

สิ่งทตี่ ้องการวัด/ประเมนิ วธิ ีการวัด เคร่ืองมอื การวัด เกณฑก์ ารให้คะแนน

ระดับคณุ ภาพ

(Rubric Score)

1. นักเรียนสามารถระบุประโยชน์และโทษ - ตรวจใบงาน ชิ้นงาน - ใบงาน ช้ินงานหรือ - นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์

ข อ ง ป ฏิ กิ ริ ย า เ ค มี ที่ มี ต่ อ สิ่ ง มี ชี วิ ต แ ล ะ หรอื ภาระงาน ภาระงาน รอ้ ยละ 70 ข้นึ ไป

สง่ิ แวดล้อมได้ (K)

2. นักเรียนสามารถเสนอแนะวิธีการป้องกัน - ตรวจใบงาน ช้ินงาน - ใบงาน ชิ้นงานหรือ - นักเรยี นผา่ นเกณฑ์

และแก้ปัญหาที่เกิดจากปฏิกิริยาเคมีท่ีพบใน หรอื ภาระงาน ภาระงาน ร้อยละ 70 ข้นึ ไป

ชวี ิตประจาวนั ได้ (K)

3. นักเรียนสามารถแสดงทักษะการเก็บ - ป ร ะ เ มิ น จ า ก ก า ร -แ บ บ สั ง เ ก ต - ระดบั คณุ ภาพ ดี

รวบรวมข้อมลู ได้ (P) สังเกตพฤตกิ รรม พฤติกรรม ข้นึ ไป

4. นักเรียนสามารถแสดงความมุ่งมั่นในการ - ป ร ะ เ มิ น จ า ก ก า ร -แ บ บ สั ง เ ก ต - ระดบั คุณภาพ ดี

ทางานได้ (A) สงั เกตพฤตกิ รรม พฤตกิ รรม ขนึ้ ไป

สาระการเรียนรู้
- ผลของปฏกิ ริ ยิ าเคมีตอ่ ส่งิ มีชวี ิตและสงิ่ แวดลอ้ ม

กจิ กรรมการเรยี นรู้ (กจิ กรรม Active Learning)
ขัน้ นาเข้าสู่บทเรยี น

1) ครูนาเขา้ สูบ่ ทเรยี นโดยใช้คาถาม เช่น
– ยกตัวอย่างปฏิกิริยาเคมีที่มีประโยชน์มา 2 ปฏิกิริยา (แนวคาตอบ การเผาไหม้และการ

สงั เคราะหด์ ว้ ยแสงของพืช)
– ยกตัวอย่างปฏิกิริยาเคมีท่ีเกิดผลเสียมา 2 ปฏิกิริยา (แนวคาตอบ การเกิดสนิมของเหล็กและ

การเกิดฝนกรด)
2) นักเรียนร่วมกันตอบคาถามและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคาตอบ เพ่ือเช่ือมโยงไปสู่การเรียนรู้

เรือ่ ง ผลของปฏิกริ ยิ าเคมตี ่อส่ิงมชี วี ติ และส่งิ แวดลอ้ ม

ข้ันจัดกิจกรรมการเรียนรู้
จัดกจิ กรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Process) ร่วมกับแบบกลับด้าน

ช้นั เรียน (flipped classroom) ซง่ึ มีขั้นตอนดงั น้ี
1) ข้นั สร้างความสนใจ (Engagement)
(1) ครถู ามคาถามนักเรยี นเพอ่ื กระตนุ้ ความสนใจ เชน่
– มปี ฏกิ ิริยาเคมีใดทก่ี อ่ ให้เกดิ ทงั้ ประโยชน์และโทษหรือไม่ (แนวคาตอบ มี)
– ปฏิกิริยาเคมีดังกล่าวก่อให้เกิดประโยชน์และโทษอย่างไร (แนวคาตอบ การเผาไหม้ทาให้ได้

พลงั งานมาใช้ประโยชน์ แตถ่ า้ การเผาไหมไ้ ม่สมบูรณ์จะเกดิ ควนั พิษและฝนกรดได้)
(2) นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายหาคาตอบเกย่ี วกับคาถามตามความคดิ เห็นของแต่ละคน
2) ข้นั สารวจและคน้ หา (Exploration)
(1) ครูให้นักเรียนศึกษาเรื่องผลของปฏิกิริยาเคมีต่อส่ิงมีชีวิตและส่ิงแวดล้อมจากใบความรู้หรือใน

หนงั สอื เรียน โดยครชู ่วยอธบิ ายใหน้ ักเรียนเขา้ ใจว่า ปฏิกิริยาเคมีที่พบในชีวิตประจาวันมีท้ังประโยชน์และโทษ
ต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม ดังนั้นเราต้องระมัดระวังผลจากปฏิกิริยาเคมี ตลอดจนรู้จักวิธีป้องกันและ
แก้ปัญหาที่เกดิ จากปฏิกิริยาเคมที ี่พบในชวี ิตประจาวนั

(2) ครูแบ่งนักเรียนกลุ่มละ 5–6 คน สืบค้นข้อมูลเก่ียวกับผลของปฏิกิริยาเคมีต่อสิ่งมีชีวิตและ
ส่ิงแวดลอ้ มตามขน้ั ตอนดังนี้

– แต่ละกลุ่มวางแผนการสืบค้นข้อมูล โดยแบ่งหัวข้อย่อยให้เพ่ือนสมาชิกช่วยกันสืบค้นตามที่
สมาชิกกลุ่มช่วยกันกาหนดหัวข้อย่อย เช่น ปฏิกิริยาเคมีที่ก่อให้เกิดประโยชน์ ปฏิกิริยาเคมีท่ีก่อให้เกิดโทษ
และการปอ้ งกนั และแกไ้ ขปฏกิ ริ ิยาเคมที ่ีกอ่ ใหเ้ กิดโทษ

– สมาชิกกลุ่มแต่ละคนหรือกลุ่มย่อยช่วยกันสืบค้นข้อมูลตามหัวข้อย่อยที่ตนเองรับผิดชอบ โดย
การสบื ค้นจากหนังสอื วารสาร สารานกุ รมวิทยาศาสตร์ สารานุกรมไทยสาหรับเยาวชน หรอื อนิ เทอร์เน็ต

– สมาชิกกลุ่มนาข้อมูลที่สืบค้นได้มารายงานให้เพื่อน ๆ สมาชิกในกลุ่มฟัง รวมท้ังร่วมกัน
อภปิ รายซักถามจนคาดวา่ สมาชิกทกุ คนมคี วามร้คู วามเขา้ ใจทต่ี รงกัน

– สมาชิกกลุ่มช่วยกันสรุปความรู้ที่ได้ท้ังหมดเป็นผลงานของกลุ่ม และช่วยกันจัดทารายงาน
การศึกษาค้นคว้าเก่ยี วกบั ผลของปฏกิ ริ ยิ าเคมีต่อสงิ่ มีชีวิตและส่ิงแวดล้อม

(3) ครูและนกั เรียนร่วมกันตรวจสอบความถกู ตอ้ งของข้อมลู ท่ีไดจ้ ากการปฏิบัตกิ จิ กรรม

(4) ครูคอยแนะนาช่วยเหลือนกั เรยี นขณะปฏิบตั ิกจิ กรรม โดยครเู ดินดูรอบๆ ห้องเรียนและเปิดโอกาส
ให้นักเรียนทุกคนซักถามเม่ือมีปัญหา

3) ขั้นอธิบายและลงขอ้ สรุป (Explanation)
(1) นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ นาเสนอผลการปฏิบัติกจิ กรรมหน้าหอ้ งเรียน
(2) ครูและนักเรยี นร่วมกนั อภิปรายผลจากการปฏิบัติกิจกรรม โดยใชแ้ นวคาถาม เช่น
– ปฏิกิริยาเคมีที่ก่อให้เกิดประโยชน์มีอะไรบ้าง (แนวคาตอบ การเผาไหม้เช้ือเพลิงทาให้ได้

พลงั งานไปใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมและการเดินทาง)
– ปฏกิ ิริยาเคมีท่ีก่อให้เกิดโทษมีอะไรบ้าง (แนวคาตอบ การเผาไหม้เช้ือเพลิงซากดึกดาบรรพ์ทา

ให้เกดิ แก๊สไนโตรเจนไดออกไซด์และซัลเฟอรไ์ ดออกไซด์ทเ่ี ป็นสารตั้งตน้ ของฝนกรด)
– การป้องกันและแก้ไขปฏิกิริยาเคมีที่ก่อให้เกิดโทษทาได้อย่างไร (แนวคาตอบ ลดการใช้

เช้ือเพลงิ ซากดกึ ดาบรรพ์หรอื เลอื กใช้พลังงานทดแทน)
(3) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลจากการปฏิบัติกิจกรรม โดยครูเน้นให้นักเรียนเข้าใจว่า ปฏิกิริยา

เคมีก่อให้เกิดทั้งประโยชน์และโทษ ดังน้ันเราควรใช้ปฏิกิริยาเคมีให้เหมาะสมกับการใช้ประโยชน์และป้องกัน
โทษที่อาจเกดิ ขึ้นด้วย

4) ขั้นขยายความรู้ (Elaboration)
(1) ครูอธิบายเรอื่ งน่ารู้ เรอ่ื งการปฐมพยาบาลเบ้ืองต้นเมื่อได้รับอันตรายจากสารเคมีให้นักเรียนเข้าใจ
ว่า เมอ่ื เกิดอุบัตเิ หตจุ ากการใชส้ ารเคมเี ราสามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้ เช่น

– ไฟลวกหรือโดนของร้อน ปฐมพยาบาลด้วยการล้างน้าสะอาด ไม่ล้างด้วยสารละลายโซเดียม
ไฮโดรเจนคาร์บอเนต (NaHCO3) ปดิ ดว้ ยผ้าพันแผลท่แี ห้งและสะอาด สดุ ท้ายใหน้ าสง่ แพทย์

– สารเคมีถกู ผวิ หนงั ปฐมพยาบาลด้วยการล้างนา้ สะอาด แล้วนาส่งแพทย์พร้อมกับแจ้งชนิดของ
สารเคมที ่ีถูกผิวหนงั

– สารเคมีเขา้ ตา ปฐมพยาบาลด้วยการล้างตาด้วยน้าสะอาดประมาณ 15 นาที แล้วนาสง่ แพทย์
(2) ครูเช่ือมโยงความรู้เข้ากับบูรณาการอาเซียน โดยครูอธิบายเก่ียวกับความร่วมมือในการลดการ
ปล่อยแก๊สเรือนกระจกในอาเซียน ให้นักเรียนเข้าใจว่า ประเทศสมาชิกอาเซียนแต่ละประเทศมีการกาหนด
นโยบายเพื่อลดแก๊สเรือนกระจก โดยเฉพาะแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการเผาไหม้ให้ได้ภายใน พ.ศ.
2563 เช่น อินโดนีเซียต้ังเป้าหมายที่ร้อยละ 26 มาเลเซียต้ังเป้าหมายท่ีร้อยละ 40 สิงคโปร์ต้ังเป้าหมายที่
ร้อยละ 16 ส่วนประเทศไทยต้งั เปา้ หมายทร่ี ้อยละ 7–20
5) ขั้นประเมนิ (Evaluation)
(1) ครใู หน้ กั เรียนแตล่ ะคนพจิ ารณาวา่ จากหัวข้อทเ่ี รียนมาและการปฏิบัติกิจกรรม มีจุดใดบ้างท่ียังไม่
เข้าใจหรือยังมขี ้อสงสัย ถ้ามี ครชู ว่ ยอธบิ ายเพม่ิ เติมให้นกั เรียนเข้าใจ
(2) นักเรียนร่วมกันประเมินการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคใด และได้มีการแก้ไข
อยา่ งไรบ้าง
(3) ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติกิจกรรม และ
การนาความรทู้ ่ไี ด้ไปใชป้ ระโยชน์
(4) ครูทดสอบความเขา้ ใจของนักเรยี นโดยการใหต้ อบคาถาม เช่น

– การเผาไหม้มีทั้งประโยชน์และโทษเพราะอะไร (แนวคาตอบ เพราะการเผาไหม้ทาให้เราได้
พลังงานไปใช้ในกิจกรรมต่างๆ แต่การเผาไหม้ก็ก่อให้เกิดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ท่ีเป็นแก๊สเรือนกระจก ถ้า
เกิดมากจะทาให้เกิดภาวะโลกรอ้ น)

– ภายนอกอาคารที่มีโลหะเป็นส่วนประกอบควรทาสีหรือเคลือบสารกันสนิมเพราะอะไร (แนว
คาตอบ เพราะการทาสีหรือเคลือบสารกันสนิมช่วยป้องกันไม่ให้โลหะสัมผัสไอน้าและแก๊สออกซิเจนในอากาศ
ท่เี ปน็ สาเหตขุ องการเกิดสนิมของเหล็ก และปอ้ งกันไม่ใหส้ มั ผัสฝนกรดท่เี ป็นสาเหตขุ องการกร่อน)

ขน้ั สรุป
ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเก่ียวกับผลของปฏิกิริยาเคมีต่อส่ิงมีชีวิตและส่ิงแวดล้อม โดยร่วมกันเขียน

เปน็ แผนท่คี วามคิดหรือผังมโนทัศน์

สื่อ และแหล่งการเรยี นรู้
1. หนงั สือ วารสาร สารานุกรมวิทยาศาสตร์ สารานุกรมไทยสาหรับเยาวชน หรืออินเทอรเ์ น็ต
2. คู่มอื การสอน วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 เลม่ 2
3. สือ่ การเรยี นรู้ PowerPoint หน่วยการเรยี นรู้ที่ 8 เร่อื ง ปฏิกริ ิยาเคมี

จัดทำโดย
นางสาวอังคณา ปาสานะโม


Click to View FlipBook Version