The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรสถานศึกษากันทรอมชั้นมต้น

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by สลิตา วงศ์เจริญ, 2023-03-26 06:03:26

หลักสูตรสถานศึกษาระดับชั้นม.ต้น

หลักสูตรสถานศึกษากันทรอมชั้นมต้น

1 หนังสือเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษา เรื่อง ให้ใช้หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนกันทรอมวิทยาคม พุทธศักราช 2564 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) --------------------------------------- กระทรวงศึกษาธิการได้มีคำสั่งที่ สพฐ 293/2551ให้ใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 แทนหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 เพื่อให้การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน สอดคล้องกับสภาพความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจสังคมและความเจริญ ก้าวหน้าทางวิทยาการ เป็นไปตาม เจตนารมณ์มาตรา 80 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 และพระราชบัญญัติการศึกษา แห่งชาติ พ.ศ. 2552 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 โดยให้เริ่มใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในปีการศึกษา 2552 สำหรับโรงเรียนนำร่องและโรงเรียนพร้อมใช้ และ ในปีการศึกษา 2553 สำหรับโรงเรียนทุกแห่งทั่วประเทศ โรงเรียนกันทรอมวิทยาคม มีหน้าที่สำคัญในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาของตนเอง เพื่อพัฒนา ผู้เรียนโดยได้นำสาระการเรียนรู้แกนกลาง กรอบสาระท้องถิ่น จุดเน้นของสถานศึกษา ความต้องการของผู้เรียน ผู้ปกครอง ชุมชนและยุทธศาสตร์การพัฒนาท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อจัดทำหลักสูตร โรงเรียนกันทรอมวิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด ศรีสะเกษ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ทั้งรายวิชาพื้นฐาน รายวิชาเพิ่มเติมและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนทุกภาคเรียน เพื่อให้ ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์และสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและเพื่อสนองตอบต่อการเปลี่ยนแปลงทาง สังคมเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติของการศึกษา บัดนี้การจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนกันทรอมวิทยาคม พุทธศักราช 2564 ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) ได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยและให้เริ่มใช้ ในหลักสูตรดังกล่าวในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในปีการศึกษา 2564 และชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 4 ในปีการศึกษา 2564 ทั้งนี้ หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนกันทรอมวิทยาคม พุทธศักราช 2564 ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้น พื้นฐานโรงเรียนกันทรอมวิทยาคม เมื่อวันที่ 20 เดือน เมษายน พ.ศ. 2564 (นายไพบูลย์ สมรัตน์) ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน


2 ประกาศโรงเรียนกันทรอมวิทยาคม เรื่อง ให้ใช้หลักสูตรสถานโรงเรียนกันทรอมวิทยาคม พุทธศักราช 2564 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) --------------------------------------- กระทรวงศึกษาธิการได้มีคำสั่งที่ สพฐ 293/2551 ให้ใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 แทนหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 เพื่อให้การจัดการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สอดคล้องกับสภาพความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจสังคมและความเจริญ ก้าวหน้าทางวิทยาการ เป็นไปตาม เจตนารมณ์มาตรา 80 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 และพระราชบัญญัติการศึกษา แห่งชาติ พ.ศ. 2552 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 โดยให้เริ่มใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในปีการศึกษา2552 สำหรับโรงเรียนนำร่องและโรงเรียนพร้อมใช้ และ ในปีการศึกษา 2553 สำหรับโรงเรียนทุกแห่งทั่วประเทศ ต่อมากระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศให้ใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับ ปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ตามคำสั่ง กระทรวงศึกษาธิการที่ สพฐ.1239/2560 ลงวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2560 และคำสั่งสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่ 30/2561 ลงวันที่ 5 มกราคม 2561 เรื่อง ให้เปลี่ยนแปลงมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ทั้งนี้ให้โรงเรียนใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดที่ปรับปรุงตั้งแต่ศึกษา 2561 ใน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และ 4 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 4 ตั้งแต่ปีการศึกษา 2561 เป็นต้นไป ส่วนปี การศึกษา 2562 ให้ใช้ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1, 2, 4 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1, 2, 4 และ 5 และใช้ทุกชั้นปี ตั้งแต่ปีการศึกษา 2563 ในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนกันทรอมวิทยาคม พุทธศักราช 2564 ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ปรับปรุงพุทธศักราช 2560) ได้ดำเนินการจัดทำหลักสูตรให้สอดคล้อง คำสั่งหน่วยงานต้นสังกัดโดยวิเคราะห์สภาพปัจจุบัน ปัญหา บริบทของโรงเรียน และจัดทำโครงสร้างหลักสูตร กำหนดรายวิชาพื้นฐาน และรายวิชาเพิ่มเติมในแต่ละระดับชั้นให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดที่ กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กำหนดเกณฑ์การจบการศึกษาของ โรงเรียน เพื่อพัฒนาผู้เรียนซึ่งได้นำสาระการเรียนรู้ท้องถิ่น จุดเน้นของสถานศึกษา ความต้องการของผู้เรียน ผู้ปกครอง ชุมชนและยุทธศาสตร์การพัฒนาท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อให้ผู้เรียนมี คุณลักษณะอันพึงประสงค์และสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนอย่างเต็มตามศักยภาพ ตลอดจนเพื่อสนองตอบต่อการ เปลี่ยนแปลงทางสังคมเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติของการศึกษา มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี คนเก่งและอยู่ร่วมในสังคมอย่างมีความสุข มีศักยภาพในการศึกษาต่อโดยมุ่งหวังให้มีความสมบูรณ์ทั้งด้านร่างกาย จิตใจและสติปัญญา อีกทั้งมีความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต มีทักษะในการติดต่อสื่อสาร การ


3 ถ่ายทอดความคิด ความรู้ ความเข้าใจ การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์ในการพัฒนาตนเองและ สังคม มีคุณภาพได้มาตรฐานสากลในฐานะพลเมืองไทยและพลโลก บัดนี้การจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนกันทรอมวิทยาคม พุทธศักราช 2564 ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) ได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว และให้ เริ่มใช้ในหลักสูตรดังกล่าวในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในปีการศึกษา 2563 ทั้งนี้ หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนกันทรอมวิทยาคม พุทธศักราช 2564 ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551(ฉบับปรับปรุง 2560) ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน โรงเรียนกันทรอมวิทยาคม เมื่อวันที่ 20 เดือน เมษายน พ.ศ. 2564 จึงประกาศให้ใช้หลักสูตร สถานศึกษาโรงเรียนกันทรอมวิทยาคม พุทธศักราช 2564 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551(ปรับปรุง พุทธศักราช 2560) ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 24 เดือน เมษายน พ.ศ. 2564 (นายเอกชัย ตองอบ) ผู้อำนวยการโรงเรียนกันทรอมวิทยาคม


4 สารบัญ เรื่อง หน้า 1. ส่วนนำ ...................................................................................................... ความนำ ....................................................................................... 1 วิสัยทัศน์โรงเรียน ......................................................................... 4 สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ........................................................ 6 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ .......................................................... 7 มาตรฐานการเรียนรู้ …………………………………………………………….. 7 สาระและมาตรฐานการเรีนรู้ …………………………………………………… 11 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ……………………………………………………………. 16 การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ …………………………………………… 20 เกณฑ์การวัดและประเมินผลการเรียน ……………………………………. 22 เกณฑ์การจบการศึกษา ………………………………………………………….. 23 เอกสารหลักฐานการศึกษา …………………………………………………… 24 2. โครงสร้างหลักสูตร ................................................................................... 27 โครงสร้างเวลาเรียน .................................................................... 27 โครงสร้างวิชา ............................................................................. 31 3. คำอธิบายรายวิชา ...................................................................................... 33 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ................................................... 33 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ................................................ 41 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ........................ 53 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ............. 74 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ................................. 102 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ .......................................................... 122 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ................................................... 130 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ........................................ 139


5 หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนกันทรอมวิทยาคม พุทธศักราช 2564 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) ความนำ กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 ให้เป็นหลักสูตร แกนกลางของประเทศ โดยกำหนดจุดหมาย และมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมายและกรอบทิศทางในการพัฒนา คุณภาพผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีขีดความ สามารถในการแข่งขันในเวทีระดับโลก (กระทรวงศึกษาธิการ, 2544) พร้อมกันนี้ได้ปรับกระบวนการพัฒนาหลักสูตรให้มีความสอดคล้องกับเจตนารมณ์ แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และ ที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 ที่มุ่งเน้นการ กระจายอำนาจทางการศึกษาให้ท้องถิ่นและสถานศึกษาได้มีบทบาทและมีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตร เพื่อให้ สอดคล้องกับสภาพ และความต้องการของท้องถิ่น (สำนักนายกรัฐมนตรี, 2542) นอกจากนั้นแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 ( พ.ศ. 2550 – 2554) ได้ชี้ให้เห็นถึง ความจำเป็นในการปรับเปลี่ยนจุดเน้นในการพัฒนาคุณภาพคนในสังคมไทยให้มีคุณธรรมและมีความรอบรู้อย่าง เท่าทัน ให้มีความพร้อมทั้งด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์และศีลธรรม สามารถก้าวทันการเปลี่ยนแปลงเพื่อ นำไปสู่สังคมฐานความรู้ได้อย่างมั่นคง แนวการพัฒนาคนดังกล่าว มุ่งเตรียมเด็กและเยาวชนให้มีพื้นฐานจิตใจที่ดี งาม มีจิตสาธารณะ พร้อมทั้งมีสมรรถนะ ทักษะและความรู้พื้นฐานที่จำเป็นในการดำรงชีวิต อันจะส่งผลต่อการ พัฒนาประเทศแบบยั่งยืน (สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ,2549) ซึ่งแนวทางดังกล่าวสอดคล้องกับ นโยบายของกระทรวงศึกษาธิการในการพัฒนาเยาวชนของชาติเข้าสู่โลกยุคศตวรรษที่ 21 โดยมุ่งส่งเสริมผู้เรียน มีคุณธรรมรักความเป็นไทย ให้มีทักษะการคิดวิเคราะห์ สร้างสรรค์ มีทักษะด้านเทคโนโลยี สามารถทำงาน ร่วมกับผู้อื่นและสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมโลกได้อย่างสันติ (กระทรวงศึกษาธิการ, 2551) จากข้อค้นพบในการศึกษาวิจัยและติดตามผลการใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2544 ที่ ผ่านมา ประกอบกับข้อมูลจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 เกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาคน ในสังคมไทยและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการในการพัฒนาเยาวชนสู่ศตวรรษที่ 21 จึงเกิดการทบทวนหลักสูตร การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 เพื่อนำไปสู่การพัฒนาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ที่มีความเหมาะสมชัดเจนทั้งเป้าหมายของหลักสูตรในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และ กระบวนการนำหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติในระดับเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา โดยได้มีการกำหนดวิสัยทัศน์ จุดหมาย สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดที่ชัดเจน เพื่อใช้ เป็นทิศทางในการจัดทำหลักสูตร การเรียนการสอนในแต่ละระดับ นอกจากนั้นได้กำหนดโครงสร้างเวลาเรียนขั้น ต่ำของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ในแต่ละชั้นปีไว้ในหลักสูตรแกนกลาง และเปิดโอกาสให้สถานศึกษาเพิ่มเติมเวลา เรียนได้ตามความพร้อมและจุดเน้น อีกทั้งได้ปรับกระบวนการวัดและประเมินผลผู้เรียน เกณฑ์การจบการศึกษาแต่ ละระดับและเอกสารแสดงหลักฐานทางการศึกษาให้มีความสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ และมีความชัดเจน ต่อการนำไปปฏิบัติ กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ให้เป็น หลักสูตรแกนกลางของประเทศ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2551 เริ่มใช้ในโรงเรียนต้นแบบการใช้หลักสูตรและโรงเรียน


6 ที่มีความพร้อม ในปีการศึกษา 2552 และเริ่มใช้ในโรงเรียนทั่วไปในปีการศึกษา 2553 สำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา ได้ดำเนินการติดตามผลการนาหลักสูตรไปสู่การ ปฏิบัติอย่างต่อเนื่องในหลายรูปแบบ ทั้งการประชุมรับฟังความคิดเห็น การนิเทศติดตามผลการใช้หลักสูตรของ โรงเรียน การรับฟังความคิดเห็นผ่านเว็บไซต์ของสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา รายงานผลการวิจัยของ หน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตร และการใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ผลการศึกษา พบว่า หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 มีข้อดีในหลายประการ เช่น กำหนด เป้าหมายการพัฒนาไว้ชัดเจน มีความยืดหยุ่นเพียงพอให้สถานศึกษาบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษาได้ และ จัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชนไทยทุกคนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานให้มีคุณภาพด้านความรู้ และทักษะที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง และแสวงหาความรู้เพื่อพัฒนาตนเองอย่าง ต่อเนื่องตลอดชีวิต ส่วนปัญหาที่พบส่วนใหญ่เกิดจากการนำหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สู่การปฏิบัติในสถานศึกษาและในห้องเรียน นอกจากนี้การศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับทิศทาง กรอบยุทธศาสตร์ แผนแม่บท และกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับการ พัฒนาประเทศ พบว่า ประเด็นสำคัญในการแปลงแผนสู่การปฏิบัติให้เกิดผลสัมฤทธิ์ได้ อย่างแท้จริง คือ การ เตรียมพร้อมด้านกำลังคนและการเสริมสร้างศักยภาพของประชากรในทุกช่วงวัย มุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพทุน มนุษย์ของประเทศ โดยพัฒนาคนให้เหมาะสมตามช่วงวัย เพื่อให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ การพัฒนาทักษะที่สอดคล้อง กับความต้องการในตลาดแรงงานและทักษะที่จำเป็น ต่อการดำรงชีวิตในศตวรรษที่ 21 ของคนในแต่ละช่วงวัยตาม ความเหมาะสม การเตรียมความพร้อมของกำลังคนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงในอนาคต ตลอดจน การยกระดับคุณภาพการศึกษาสู่ความเป็นเลิศเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ และเตรียมความพร้อมคนให้สามารถ ปรับตัวรองรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงได้อย่างเหมาะสม กระทรวงศึกษาธิการจึงกำหนดเป็นนโยบายสำคัญ และเร่งด่วนให้มีการปรับปรุงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมรวมทั้ง สาระ เทคโนโลยี โดยมอบหมายให้สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ดำเนินการปรับปรุง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และสาระเทคโนโลยีและมอบหมายให้สำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานดำเนินการปรับปรุง สาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ต่อมากระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศให้ใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ตามคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการที่ สพฐ. 1239/2560 ลงวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2560 และคำสั่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่ 30/2561 ลง วันที่ 5 มกราคม 2561 เรื่อง ให้เปลี่ยนแปลงมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์และ วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ทั้งนี้ให้ โรงเรียนใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดที่ปรับปรุงตั้งแต่ศึกษา 2561 ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และ 4 และชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 4 ตั้งแต่ปีการศึกษา 2561 เป็นต้นไป ส่วนปีการศึกษา 2562 ให้ใช้ในระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1, 2, 4 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1, 2, 4 และ 5 และใช้ทุกชั้นปีตั้งแต่ปีการศึกษา 2563 กรอบในการปรับปรุงหลักสูตรครั้งนี้ คือ ให้มีองค์ความรู้ที่เป็นสากลเทียบเท่านานาชาติ ปรับ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดให้มีความชัดเจน ลดความซ้ำซ้อน สอดคล้อง และเชื่อมโยงกันภายในกลุ่มสาระ


7 การเรียนรู้และระหว่างกลุ่มสาระการเรียนรู้ ตลอดจนเชื่อมโยงองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ เทคโนโลยีเข้าด้วยกัน จัดเรียงลำดับความยากง่ายของเนื้อหาในแต่ละระดับชั้นตามพัฒนาการแต่ละช่วงวัย ให้มี ความเชื่อมโยงความรู้และกระบวนการเรียนรู้ โดยให้เรียนรู้ผ่านการปฏิบัติที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาความคิด วิเคราะห์ คิดสร้างสรรค์และคิดอย่างมีวิจารณญาณ สาระสำคัญของการปรับปรุงหลักสูตร มีดังนี้ 1. กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ 1.1 จัดกลุ่มความรู้ใหม่และนำทักษะกระบวนการไปบูรณาการกับตัวชี้วัด เน้นให้ผู้เรียน เกิดการคิดวิเคราะห์ คิดแก้ปัญหา และมีทักษะในศตวรรษที่ 21 1.2 กำหนดมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด สำหรับผู้เรียนทุกคนที่เป็นพื้นฐาน ที่เกี่ยวข้อง กับชีวิตประจำวัน และเป็นพื้นฐานสำคัญในการศึกษาต่อระดับที่สูงขึ้น 1.3 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4–6 กำหนดตัวชี้วัดเป็นรายปี เพื่อเป็นแนวทางให้สถานศึกษา จัดตามลำดับการเรียนรู้ โดยสถานศึกษาสามารถพิจารณาปรับเลื่อนไหลระหว่างปีได้ตามความเหมาะสม 2. กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ได้เพิ่มสาระเทคโนโลยี ซึ่งประกอบด้วยการออกแบบและ เทคโนโลยี และวิทยาการคำนวณ ทั้งนี้เพื่อเอื้อต่อการจัดการเรียนรู้บูรณาการสาระทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี กับกระบวนการเชิงวิศวกรรมตามแนวคิดสะเต็มศึกษา 3. สาระภูมิศาสตร์ ซึ่งเป็นสาระหนึ่งในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ได้ปรับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดให้มีความชัดเจนสอดคล้องกับพัฒนาการตามช่วงวัย มีองค์ความรู้ที่เป็น สากล เพิ่มความสามารถทักษะและกระบวนการทางภูมิศาสตร์ ที่ชัดเจนขึ้น หลักสูตรโรงเรียนกันทรอมวิทยาคมได้กำหนดมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดที่ช่วยทำให้หน่วยงานที่ เกี่ยวข้องในทุกระดับเห็นผลคาดหวังที่ต้องการในการพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนที่ชัดเจนตลอดแนว ซึ่งจะ สามารถช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับท้องถิ่นและสถานศึกษาร่วมกันพัฒนาหลักสูตรได้อย่างมั่นใจ ทำให้ การจัดทำหลักสูตรในระดับสถานศึกษามีคุณภาพและมีความเป็นเอกภาพยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้เกิดความชัดเจน เรื่องการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ และช่วยแก้ปัญหาการเทียบโอนระหว่างสถานศึกษา ซึ่งการดำเนินการ พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาครั้งนี้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่คาดหวังได้ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งระดับ หน่วยงานต้นสังกัด โรงเรียน ชุมชน ครอบครัว และบุคคลต้องร่วมรับผิดชอบ ได้ร่วมกันทำงานอย่างเป็นระบบและ ต่อเนื่อง ในการวางแผน ดำเนินการ ส่งเสริมสนับสนุน ตรวจสอบ ตลอดจนปรับปรุงแก้ไข เพื่อพัฒนาเยาวชนของ ชาติไปสู่คุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ที่กำหนดไว้ ความสำคัญ หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนกันทรอมวิทยาคม พุทธศักราช 2564 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) มีความสำคัญในการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการ เรียนรู้ ตัวชี้วัดและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่กำหนดไว้เป็นแนวทางให้ผู้บริหารสถานศึกษา ครู ตลอดจน ผู้เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาของโรงเรียน ในการจัดมวลประสบการณ์ให้แก่ผู้เรียนได้พัฒนาให้บรรลุถึงคุณภาพ ตามมาตรฐานในการพัฒนาเยาวชนของชาติ นอกเหนือจากการใช้เป็นแนวทางหรือข้อกำหนดในการจัดการศึกษา ของสถานศึกษาให้บรรลุตามจุดหมายของการจัดการศึกษาแล้ว หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนกันทรอมวิทยาคม พุทธศักราช 2564 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) ที่


8 พัฒนาขึ้น ยังเป็นหลักสูตรที่มีจุดมุ่งหมายให้ครอบครัว ชุมชน องค์กรในท้องถิ่น ทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมจัด การศึกษาของโรงเรียน มีแนวทางสำคัญที่กำหนดไว้ในหลักสูตรโรงเรียน ดังนี้ 1. หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนกันทรอมวิทยาคม พุทธศักราช 2564 ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) มุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดความสนุกสนานและความ เพลิดเพลินในการเรียนรู้ เปรียบเสมือนเป็นวิธีสร้างกำลังใจและเร้าให้เกิดความก้าวหน้าแก่ผู้เรียนให้มากที่สุด มี ความรู้สูงสุด ผู้เรียนทุกคนมีความเข้มแข็ง ความสนใจ มีประสบการณ์ และความมั่นใจ เรียนและทำงานอย่างเป็น อิสระและร่วมใจกัน มีทักษะในการอ่านออกเขียนได้ คิดเลขเป็น รู้ข้อมูลสารสนเทศและเทคโนโลยีสื่อสาร ส่งเสริม จิตใจที่ใฝ่รู้ฝ่เรียน และส่งเสริมกระบวนการคิดวิเคราะห์ คิดแก้ปัญหา คิดสร้างสรรค์ และคิดอย่างมีวิจารณญาน 2. หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนกันทรอมวิทยาคม พุทธศักราช 2564 ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) ส่งเสริมการพัฒนาด้านร่างกาย จิตใจ จริยธรรม สังคม และวัฒนธรรม พัฒนาหลักการในการจำแนกระหว่างถูกและผิด เข้าใจและศรัทธาในความเชื่อของตนเอง ความเชื่อและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน พัฒนาหลักคุณธรรมและความอิสระของผู้เรียนและช่วยให้เป็นพลเมืองที่มี ความรับผิดชอบ สามารถช่วยพัฒนาสังคมให้เป็นธรรมขึ้น มีความเสมอภาค พัฒนาความตระหนัก เข้าใจ และ ยอมรับสภาพแวดล้อมที่ตนอยู่ ยึดมั่นในข้อตกลงร่วมกันต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งในระดับส่วนตน ระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับโลก สร้างให้ผู้เรียนมีความพร้อมในการเป็นผู้บริโภคที่ตัดสินใจแบบมีข้อมูล เป็นอิสระ และมี ความรับผิดชอบ 3. หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนกันทรอมวิทยาคม พุทธศักราช 2564 ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีทักษะที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ 21 เตรียมผู้เรียนให้มีความพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ พร้อมที่จะประกอบอาชีพเมื่อจบการศึกษา หรือสามารถศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น สามารถแข่งขันและอยู่ร่วมกับประชาคมโลกได้ วิสัยทัศน์โรงเรียนกันทรอมวิทยาคม โรงเรียนกันทรอมวิทยาคม ยึดหลักธรรมภิบาลในการบริหาร โดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ในการพัฒนา ท้องถิ่น พัฒนาผู้เรียนตามแนวทางการสอนคิด ส่งเสริมทักษะชีวิตในการจัดการศึกษา ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง พันธกิจโรงเรียนกันทรอมวิทยาคม 1. พัฒนาคุณภาพผู้เรียนสู่ความเป็นเลิศตามแนวทางการสอนคิด 2. ส่งเสริมการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานในการพัฒนาท้องถิ่น 3. ส่งเสริมทักษะชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ยุทธศาสตร์โรงเรียนกันทรอมวิทยาคม 1. ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนสู่ความเป็นเลิศ


9 2. ยุทธศาสตร์การพัฒนา และส่งเสริมคุณภาพการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางการสอนคิด 3. ยุทธศาสตร์การพัฒนาและส่งเสริมการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานเพื่อพัฒนาท้องถิ่น(SBMLD) 4. ยุทธศาสตร์การพัฒนาส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง กลยุทธ์โรงเรียนกันทรอมวิทยาคม 1. ส่งเสริมและพัฒนาทักษะความรู้สู่ความเป็นเลิศ 2. ส่งเสริมทักษะการแสวงหาความรู้และพัฒนาผู้เรียนตามแนวทางการสอนคิด 3. ส่งเสริมและพัฒนาครูและบุคคลากรทางการศึกษาให้มีคุณภาพตามมาตรฐานวิชาชีพ 4. ส่งเสริมและพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา กระบวนการเรียนรู้ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนอย่างรอบด้าน 5. พัฒนาคุณภาพปัจจัยที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาเต็มศักยภาพ 6. พัฒนาคุณภาพการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วม 7. พัฒนาการจัดการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 8. พัฒนาระบบการบริหารจัดการโดยยึดหลักธรรมาภิบาล เป้าประสงค์ 1. ผู้เรียนมีความรู้สู่ความเป็นเลิศตามแนวทางการสอนคิด 2. ครูมีคุณภาพ 3. สถานศึกษามีการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น 4. สถานศึกษามีการจัดการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 5. สถานศึกษามีการบริหารตามหลักธรรมาภิบาล หลักการสำคัญของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีดังนี้ 1. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อความเป็นเอกภาพของชาติ มีจุดหมายและมาตรฐานการเรียนรู้เป็น เป้าหมายสำหรับพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติ และคุณธรรมบนพื้นฐานของความเป็นไทย ควบคู่กับความเป็นสากล 2. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อปวงชน ที่ประชาชนทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาอย่างเสมอภาค และมี คุณภาพ 3. เป็นหลักสูตรการศึกษาที่สนองการกระจายอำนาจ ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา ให้สอดคล้องกับสภาพและความต้องการของท้องถิ่น 4. เป็นหลักสูตรการศึกษาที่มีโครงสร้างยืดหยุ่นทั้งด้านสาระการเรียนรู้ เวลา และการจัดการเรียนรู้ 5. เป็นหลักสูตรการศึกษาที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ 6. เป็นหลักสูตรการศึกษาสำหรับการศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย ครอบคลุมทุก กลุ่มเป้าหมาย สามารถเทียบโอนผลการเรียนรู้ และประสบการณ์


10 จุดหมายของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข มีศักยภาพ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ จึงกำหนดจุดหมายเพื่อให้เกิดกับผู้เรียนเมื่อจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดังนี้ 1. มีคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมที่พึงประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง มีวินัยและปฏิบัติตนตาม หลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรือ ศาสนาที่ตนนับถือ ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 2. มีความรู้ ความสามารถในการสื่อสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้เทคโนโลยีและมีทักษะชีวิต 3. มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี มีสุขนิสัย และรักการออกกำลังกาย 4. มีความรักชาติ มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดมั่นในวิถีชีวิตและการปกครองตาม ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 5. มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย การอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม มีจิต สาธารณะที่มุ่งทำประโยชน์และสร้างสิ่งที่ดีงามในสังคม และอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในการพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตาม มาตรฐานที่กำหนด ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ดังนี้ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสำคัญ 5 ประการ ดังนี้ 1. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและ ประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลดปัญหา ความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้ วิธีการสื่อสาร ที่มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อตนเองและสังคม 2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด อย่าง สร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศเพื่อ การตัดสินใจเกี่ยวกับตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญได้ อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และการ เปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหา และมีการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อตนเอง สังคมและสิ่งแวดล้อม 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการดำเนิน ชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทำงาน และการอยู่ร่วมกันในสังคมด้วยการ สร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบ ต่อตนเองและผู้อื่น


11 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และมี ทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทำงาน การ แก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ถูกต้อง เหมาะสม และมีคุณธรรม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อให้สามารถอยู่ ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุขในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ดังนี้ 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2. ซื่อสัตย์สุจริต 3. มีวินัย 4. ใฝ่เรียนรู้ 5. อยู่อย่างพอเพียง 6. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. รักความเป็นไทย 8. มีจิตสาธารณะ มาตรฐานการเรียนรู้ การพัฒนาผู้เรียนให้เกิดความสมดุล ต้องคำนึงถึงหลักพัฒนาการทางสมองและพหุปัญญา หลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงกำหนดให้ผู้เรียนเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ดังนี้ 1. ภาษาไทย 2. คณิตศาสตร์ 3. วิทยาศาสตร์ 4. สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 5. สุขศึกษาและพลศึกษา 6. ศิลปะ 7. การงานอาชีพและเทคโนโลยี 8. ภาษาต่างประเทศ ในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ได้กำหนดมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมายสำคัญของการพัฒนาคุณภาพ ผู้เรียน มาตรฐานการเรียนรู้ระบุสิ่งที่ผู้เรียนพึงรู้ ปฏิบัติได้ มีคุณธรรมจริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์เมื่อจบ การศึกษาขั้นพื้นฐาน นอกจากนั้นมาตรฐานการเรียนรู้ยังเป็นกลไกสำคัญ ในการขับเคลื่อนพัฒนาการศึกษาทั้ง ระบบ เพราะมาตรฐานการเรียนรู้จะสะท้อนให้ทราบว่าต้องการอะไร จะสอนอย่างไร และประเมินอย่างไร รวมทั้ง เป็นเครื่องมือในการตรวจสอบเพื่อการประกันคุณภาพการศึกษาโดยใช้ระบบการประเมินคุณภาพภายในและการ ประเมินคุณภาพภายนอก ซึ่งรวมถึงการทดสอบระดับเขตพื้นที่การศึกษา และการทดสอบระดับชาติ ระบบการ ตรวจสอบเพื่อประกันคุณภาพดังกล่าวเป็นสิ่งสำคัญ ที่ช่วยสะท้อนภาพการจัดการศึกษาว่าสามารถพัฒนาผู้เรียนให้ มีคุณภาพตามที่มาตรฐานการเรียนรู้กำหนดเพียงใด ตัวชี้วัด


12 ตัวชี้วัดระบุสิ่งที่นักเรียนพึงรู้และปฏิบัติได้ รวมทั้งคุณลักษณะของผู้เรียนในแต่ละระดับชั้น ซึ่งสะท้อนถึง มาตรฐานการเรียนรู้ มีความเฉพาะเจาะจงและมีความเป็นรูปธรรม นำไปใช้ในการกำหนด เนื้อหา จัดทำหน่วยการเรียนรู้ จัดการเรียนการสอน และเป็นเกณฑ์สำคัญสำหรับการวัดประเมินผล เพื่อตรวจสอบ คุณภาพผู้เรียน 1. ตัวชี้วัดชั้นปี เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนแต่ละชั้นปีในระดับการศึกษาภาคบังคับ (ประถมศึกษาปีที่ 1– มัธยมศึกษาปีที่ 3) 2. ตัวชี้วัดช่วงชั้น เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย(มัธยมศึกษาปีที่ 4- 6) หลักสูตรได้มีการกำหนดรหัสกำกับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด เพื่อความเข้าใจและให้สื่อสารตรงกัน ดังนี้ ว 1.1 ป. 1/2 ป.1/2 ตัวชี้วัดชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ข้อที่ 2 1.1 สาระที่ 1 มาตรฐานข้อที่ 1 ว กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ต 2.2 ม.4-6/ 3 ม.4-6/3 ตัวชี้วัดชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ข้อที่ 3 2.3 สาระที่ 2 มาตรฐานข้อที่ 2 ต กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ


13 สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ ประกอบด้วย องค์ความรู้ ทักษะหรือกระบวนการเรียนรู้ และคุณลักษณะ อัน พึงประสงค์ ซึ่งกำหนดให้ผู้เรียนทุกคนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานจำเป็นต้องเรียนรู้ โดยแบ่ง เป็น 8 กลุ่มสาระ การเรียนรู้ ดังนี้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี : การนำความรู้และกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ไปใช้ใน การศึกษา ค้นคว้าหาความรู้ และ แก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ การคิด อย่างเป็นเหตุเป็นผล คิด วิเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ และจิต วิทยาศาสตร์และการใช้เทคโนโลยี สังคมศึกษา ศาสนาและ วัฒนธรรม : การอยู่ร่วมกันในสังคมไทยและ สังคมโลกอย่างสันติสุข การเป็นพลเมืองดี ศรัทธาใน หลักธรรมของศาสนา การเห็นคุณค่าของทรัพยากร และสิ่งแวดล้อม ความรักชาติ และภูมิใจในความเป็นไทย ศิลปะ : ความรู้และทักษะในการคิด ริเริ่ม จินตนาการ สร้างสรรค์ งานศิลปะ สุนทรียภาพและ การเห็นคุณค่าทางศิลปะ ภาษาไทย : ความรู้ ทักษะ และวัฒนธรรมการใช้ภาษา เพื่อการสื่อสาร ความชื่นชม การเห็นคุณค่าภูมิปัญญา ไทย และภูมิใจในภาษาประจำชาติ ภาษาต่างประเทศ : ความรู้ทักษะ เจตคติ และ วัฒนธรรม การใช้ภาษา ต่างประเทศในการสื่อสาร การแสวงหาความรู้ และการประกอบอาชีพ การงานอาชีพ : ความรู้ ทักษะ และเจตคติ ในการทำงาน การจัดการ การดำรงชีวิต การประกอบ อาชีพ สุขศึกษาและพลศึกษา : ความรู้ ทักษะและเจตคติในการ สร้าง เสริมสุขภาพพลานามัยของ ตนเองและผู้อื่น การป้องกันและ ปฏิบัติต่อสิ่งต่าง ๆ ที่มีผลต่อสุขภาพ อย่างถูกวิธีและทักษะในการดำเนินชีวิต คณิตศาสตร์ : การนำความรู้ทักษะและ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ไป ใช้ในการแก้ปัญหา การ ดำเนินชีวิต และศึกษาต่อ การ มีเหตุมีผล มีเจตคติที่ดีต่อ คณิตศาสตร์ พัฒนาการคิด อย่างเป็นระบบและสร้างสรรค์ องค์ความรู้ ทักษะสำคัญ และคุณลักษณะ ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน


14 มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ 1. ภาษาไทย 2. คณิตศาสตร์ 3. วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 4. สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 5. สุขศึกษาและพลศึกษา 6. ศิลปะ 7. การงานอาชีพ 8. ภาษาต่างประเทศ คุณภาพของผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน วิสัยทัศน์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคน ซึ่งเป็นกำลังของชาติให้เป็นมนุษย์ที่มีความสมดุลทั้งด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและเป็นพลโลก ยึดมั่นในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความรู้และทักษะพื้นฐาน รวมทั้ง เจตคติที่จำเป็นต่อการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวิต โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญบนพื้นฐานความเชื่อว่าทุกคนสามารถ เรียนรู้และพัฒนาตนเองได้เต็มตามศักยภาพ จุดหมาย 1. มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง มีวินัยและปฏิบัติตนตาม หลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนับถือ ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 2. มีความรู้อันเป็นสากลและมีความสามารถในการสื่อสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้เทคโนโลยี และมี ทักษะชีวิต 3. มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี มีสุขนิสัย และรักการออกกำลังกาย 4. มีความรักชาติ มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดมั่นในวิถีชีวิตและการปกครอง ใน ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 5. มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย การอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อมมีจิตสาธารณะ ที่มุ่งทำประโยชน์และสร้างสิ่งที่ดีงามในสังคม และอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2. ซื่อสัตย์สุจริต 3. มีวินัย 4. ใฝ่เรียนรู้ 5. อยู่อย่างพอเพียง 6. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. รักความเป็นไทย 8. มีจิตสาธารณะ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 1.กิจกรรมแนะแนว 2.กิจกรรมนักเรียน 3. กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์


15 สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนดมาตรฐานการเรียนรู้ใน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ จำนวน 67 มาตรฐาน ดังนี้ ภาษาไทย สาระที่ 1 การอ่าน มาตรฐาน ท1.1 ใช้กระบวนการอ่านวรรณกรรมไทยและวรรณกรรมท้องถิ่น สร้างความรู้ และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิตและมีนิสัย รักการ อ่าน สาระที่ 2 การเขียน มาตรฐาน ท2.1 ใช้กระบวนการเขียน เขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวใน รูปแบบต่างๆ เขียนบรรยายประวัติชุมชนในท้องถิ่น เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและ รายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ สาระที่ 3 การฟัง การดู และการพูด มาตรฐาน ท3.1 สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณและพูดแสดงความรู้ ความคิด ความรู้สึกในโอกาสต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับท้องถิ่น อย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์ สาระที่ 4 หลักการใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของ ภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทย ภาษาท้องถิ่นไว้เป็นสมบัติของชาติ สาระที่ 5 วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดี และวรรณกรรมไทย วรรณกรรมท้องถิ่น อย่างเห็นคุณค่าและนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง คณิตศาสตร์ สาระที่ 1 จำนวนและพีชคณิต มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของจำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการ และนำไปใช้ มาตรฐาน ค 1.2 เข้าใจและวิเคราะห์แบบรูป ความสัมพันธ์ ฟังก์ชัน ลำดับและอนุกรม และนำไปใช้ มาตรฐาน ค 1.3 ใช้นิพจน์ สมการ และอสมการ อธิบายความสัมพันธ์ หรือช่วยแก้ปัญหา ที่กำหนดให้ สาระที่ 2 การาวัดและเรขาคณิต มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งที่ต้องการวัดและนำไปใช้ มาตรฐาน ค 2.2 เข้าใจและวิเคราะห์รูปเรขาคณิต สมบัติของรูปเรขาคณิต ความสัมพันธ์ระหว่างรูป เรขาคณิต และทฤษฎีบททางเรขาคณิต และนำไปใช้


16 สารที่ 3 สถิติและความน่าจะเป็น มาตรฐาน 3.1 เข้าใจกระบวนการทางสถิติ และใช้ความรู้ทางสถิติในการแก้ปัญหา มาตรฐาน 3.2 เข้าใจหลักการนับเบื้องต้น ความน่าจะเป็น และนำไปใช้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิตกับสิ่งมีชีวิต และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอด พลังงาน การเปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของประชากร ปัญหาและ ผลกระทบที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แนวทางในการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารเข้าและออกจาก เซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ ทำงานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชที่ ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สาร พันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่มีผลต่อสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายทาง ชีวภาพและวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ สาระที่ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับ โครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคหลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลง สถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกิริยาเคมี มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจำวัน ผลของแรงที่กระทำต่อวัตถุ ลักษณะการ เคลื่อนที่แบบต่าง ๆ ของวัตถุ รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจำวัน ธรรมชาติ ของคลื่น ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเสียง แสง และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า รวมทั้งนำ ความรู้ไปใช้ประโยชน์ สาระที่ 3 วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะ ที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิต และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยน แปลงภายใน โลกและบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศ โลก รวมทั้งผลต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม


17 สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่าง รวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อ แก้ปัญหาหรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิง วิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคม และ สิ่งแวดล้อม มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและ เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการ แก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม มาตรฐาน ส 1.1 รู้ และเข้าใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตน นับถือและศาสนาอื่น มีศรัทธาที่ถูกต้อง ยึดมั่น และปฏิบัติตามหลักธรรม เพื่ออยู่ร่วมกัน อย่างสันติสุข มาตรฐาน ส 1.2 เข้าใจ ตระหนัก และปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดีและธำรงรักษาพระพุทธศาสนาหรือ ศาสนาที่ตนนับถือ สาระที่ 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม มาตรฐาน ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมที่ดีงาม และ ธำรงรักษาประเพณีและวัฒนธรรมไทยตามกฎระเบียบของชุมชนโดยดำรง ชีวิตอยู่ ร่วมกันในสังคมไทย และ สังคมโลกอย่างสันติสุข มาตรฐาน ส 2.2 เข้าใจระบบการเมืองการปกครองทั้งในท้องถิ่นและในสังคมปัจจุบัน ยึดมั่น ศรัทธา และธำรงรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข สาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์ มาตรฐาน ส 3.1 เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภค การใช้ทรัพยากร ที่มีอยู่จำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมทั้งเข้าใจหลักการของเศรษฐกิจ พอเพียง เพื่อการดำรงชีวิตอย่างมีดุลยภาพ มาตรฐาน ส 3.2 เข้าใจระบบเศรษฐกิจ และสถาบันทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ และความจำเป็นของการร่วมมือกันทางเศรษฐกิจทั้งในชุมชนและในสังคมโลก สาระที่ 4 ประวัติศาสตร์ มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจความหมาย ความสำคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ท้องถิ่น โดย สามารถใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ อย่างเป็นระบบ มาตรฐาน ส 4.2 เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบันในด้านความสัมพันธ์และการ เปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ย่างต่อเนื่อง ตระหนักถึงความสำคัญ และสามารถวิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดขึ้น


18 มาตรฐาน ส 4.3 เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย ท้องถิ่นในด้าน วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความภูมิใจในท้องถิ่นและธำรงความเป็นไทย สาระที่ 5 ภูมิศาสตร์ มาตรฐาน ส 5.1 เข้าใจลักษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งซึ่งมีผลต่อกันและ กัน ใช้แผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ ในการค้นหา วิเคราะห์ สรุปทางภูมิศาสตร์ ตลอดจนใช้ภูมิสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ส 5.2 เข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อมทางกายภาพที่ก่อให้เกิดการสร้างสรรค์วิถี การดำเนินชีวิต จิตสำนึกในการจัดการทรัพยากรทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อการ พัฒนาที่ยั่งยืน สุขศึกษาและพลศึกษา สาระที่ 1 การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ มาตรฐาน พ 1.1 เข้าใจธรรมชาติของการเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ สาระที่ 2 ชีวิตและครอบครัว มาตรฐาน พ 2.1 เข้าใจและเห็นคุณค่าตนเอง ครอบครัว เพศศึกษา และมีทักษะในการดำเนินชีวิตและ ประกอบอาชีพในชุมชนของตนเอง เช่น การกรีดยางพารา การปลูกมันสำปะหลัง การ ทำนา สาระที่ 3 การเคลื่อนไหว การออกกำลังกาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกีฬาสากล มาตรฐาน พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา มาตรฐาน พ 3.2 รักการออกกำลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา การแข่งขันกีฬาประเพณีในชุมชน ปฏิบัติเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้ำใจนักกีฬา มีจิต วิญญาณในการแข่งขัน และชื่นชมในสุนทรียภาพของการกีฬา สาระที่ 4 การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค มาตรฐาน พ 4.1 เห็นคุณค่าและมีทักษะในการสร้างเสริมสุขภาพ การดำรงสุขภาพ การป้องกันโรค และการสร้างเสริมสมรรถภาพเพื่อสุขภาพ เห็นคุณค่าในการนำอาหาร ผักผลไม้ปลอด จากสารพิษ ที่เป็นผลผลิตในชุมชนมาบริโภค จำหน่าย สาระที่ 5 ความปลอดภัยในชีวิต มาตรฐาน พ 5.1 ป้องกันและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ อุบัติเหตุ การใช้ยาสาร เสพติด และความรุนแรง ศิลปะ สาระที่ 1 ทัศนศิลป์


19 มาตรฐาน ศ 1.1 สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึกความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน มาตรฐาน ศ 1.2 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างทัศนศิลป์ ประวัติศาสตร์งานจิตรกรรม ประติมากรรมที่มี สถาปัตยกรรม ในท้องถิ่นและสถานที่ใกล้คียง รวมทั้งวัฒนธรรมท้องถิ่น เห็นคุณค่างาน ทัศนศิลป์ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทยและสากล สาระที่ 2 ดนตรี มาตรฐาน ศ 2.1 เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่าดนตรี ถ่ายทอดความรู้สึกความคิดต่อดนตรีอย่างอิสระ ดนตรีพื้นบ้านที่มีในท้องถิ่น ชื่นชม และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน มาตรฐาน ศ 2.2 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างดนตรี ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของดนตรีที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทยและสากล สาระที่ 3 นาฏศิลป์ มาตรฐาน ศ 3.1 เข้าใจ และแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่า นาฏศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดอย่างอิสระ ชื่นชม ศึกษาประวัติความเป็นมาของ นาฏศิลป์ท้องถิ่นชน 4 เผ่าจังหวัดศรีสะเกษ นำเสนอและประชาสัมพันธ์ มาตรฐาน ศ 3.2 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของนาฏศิลป์ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทยและสากล การงานอาชีพ สาระที่ 1 การดำรงชีวิตและครอบครัว มาตรฐาน ง 1.1 เข้าใจการทำงาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทำงาน ทักษะการจัดการ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการทำงานร่วมกัน และ ทักษะการแสวงหาความรู้ มีคุณธรรม และลักษณะนิสัยในการทำงาน มีจิตสำนึกในการ ใช้พลังงานทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เพื่อการดำรงชีวิต และครอบครัว นำหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจำวัน สาระที่ 2 การอาชีพ มาตรฐาน ง 2.1 เข้าใจ มีทักษะที่จำเป็น มีประสบการณ์ เห็นแนวทางในงาน อาชีพและศึกษาอาชีพในชุมชน ใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาอาชีพ มีคุณธรรม และมีเจตคติที่ดีต่ออาชีพ ภาษาต่างประเทศ สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร


20 มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความ คิดเห็นอย่างมีเหตุผล มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอประวัติ ความเป็นมาของชุมชนตนเอง ข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบ ยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูดและการเขียน สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ ได้อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ ภาษากับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม สาระที่ 3 ภาษากับความสัมพันธ์กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น เรียนรู้ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเป็นพื้นฐานในการพัฒนา แสวงหา ความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน มุ่งให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองตามศักยภาพ พัฒนาอย่างรอบด้านเพื่อความเป็น มนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม เสริมสร้างให้เป็นผู้มีศีลธรรม จริยธรรม มีระเบียบวินัย ปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกของการทำประโยชน์เพื่อสังคม สามารถจัดการตนเองได้ และอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมี ความสุข กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน แบ่งเป็น 3 ลักษณะ ดังนี้ 1. กิจกรรมแนะแนว เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้รู้จักตนเอง รู้รักษ์สิ่งแวดล้อม สามารถ คิดตัดสินใจ คิดแก้ปัญหา กำหนดเป้าหมาย วางแผนชีวิตทั้งด้านการเรียน และอาชีพ สามารถปรับตนได้อย่าง เหมาะสม นอกจากนี้ยังช่วยให้ครูรู้จักและเข้าใจผู้เรียน ทั้งยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยเหลือและให้คำปรึกษาแก่ ผู้ปกครองในการมีส่วนร่วมพัฒนาผู้เรียน 2. กิจกรรมนักเรียน เป็นกิจกรรมที่มุ่งพัฒนาความมีระเบียบวินัย ความเป็นผู้นำผู้ตามที่ดี ความรับผิดชอบ การทำงานร่วมกัน การรู้จักแก้ปัญหา การตัดสินใจที่เหมาะสม ความมีเหตุผล การช่วยเหลือแบ่งปันกันเอื้อ อาทรและสมานฉันท์ โดยจัดให้สอดคล้องกับความสามารถ ความถนัด และความสนใจของผู้เรียน ให้ได้ปฏิบัติด้วย ตนเองในทุกขั้นตอน ได้แก่ การศึกษาวิเคราะห์วางแผน ปฏิบัติตามแผน ประเมินและปรับปรุงการทำงาน เน้นการ ทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม ตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับวุฒิภาวะของผู้เรียน บริบทของสถานศึกษาและ ท้องถิ่น กิจกรรมนักเรียนประกอบด้วย 2.1 กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด ผู้บำเพ็ญประโยชน์ และนักศึกษาวิชาทหาร


21 2.2 กิจกรรมชุมนุม ชมรม 3. กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนบำเพ็ญตนให้เป็น ประโยชน์ต่อสังคม ชุมชน และท้องถิ่นตามความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบ ความดี งาม ความเสียสละต่อสังคม มีจิตสาธารณะ เช่น กิจกรรมอาสาพัฒนาต่าง ๆ กิจกรรมสร้างสรรค์สังคม ระดับการศึกษา หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน จัดระดับการศึกษาเป็น 3 ระดับ ดังนี้ 1. ระดับประถมศึกษา (ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6) การศึกษาระดับนี้เป็นช่วงแรกของการศึกษาภาค บังคับ มุ่งเน้นทักษะพื้นฐานด้านการอ่าน การเขียน การคิดคำนวณ ทักษะการคิดพื้นฐาน การติดต่อสื่อสาร กระบวนการเรียนรู้ทางสังคม และพื้นฐานความเป็นมนุษย์ การพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างสมบูรณ์และสมดุลทั้งใน ด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ สังคม และวัฒนธรรม โดยเน้นจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ 2. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3) เป็นช่วงสุดท้ายของการศึกษาภาคบังคับ มุ่งเน้น ให้ผู้เรียนได้สำรวจความถนัดและความสนใจของตนเอง ส่งเสริมการพัฒนาบุคลิกภาพส่วนตน มีทักษะในการคิด วิจารณญาณ คิดสร้างสรรค์ และคิดแก้ปัญหา มีทักษะในการดำเนินชีวิต มีทักษะการใช้เทคโนโลยีเพื่อเป็น เครื่องมือในการเรียนรู้ มีความรับผิดชอบต่อสังคม มีความสมดุล ทั้งด้านความรู้ ความคิด ความดีงาม และมี ความภูมิใจในความเป็นไทย ตลอดจนใช้เป็นพื้นฐานในการประกอบอาชีพหรือการศึกษาต่อ 3. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 – 6) การศึกษาระดับนี้เน้นการเพิ่มพูนความรู้และ ทักษะเฉพาะด้าน สนองตอบความสามารถ ความถนัด และความสนใจของผู้เรียนแต่ละคนทั้งด้านวิชาการและวิชาชีพ มีทักษะในการใช้วิทยาการและเทคโนโลยี ทักษะกระบวนการคิดขั้นสูง สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ให้เกิด ประโยชน์ในการศึกษาต่อและการประกอบอาชีพ มุ่งพัฒนาตนและประเทศตามบทบาทของตน สามารถเป็นผู้นำ และ ผู้ให้บริการชุมชนในด้านต่าง ๆ การจัดเวลาเรียน หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้กำหนดกรอบโครงสร้างเวลาเรียนขั้นต่ำสำหรับกลุ่มสาระการ เรียนรู้ 8 กลุ่ม และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ซึ่งสถานศึกษาสามารถเพิ่มเติมได้ตามความพร้อมและจุดเน้น โดยสามารถ ปรับให้เหมาะสมตามบริบทของสถานศึกษาและสภาพของผู้เรียน ดังนี้ 1. ระดับชั้นประถมศึกษา (ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6) ให้จัดเวลาเรียนเป็นรายปี โดยมีเวลาเรียนวันละ ไม่เกิน 5 ชั่วโมง 2. ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3) ให้จัดเวลาเรียนเป็นรายภาค มีเวลาเรียนวันละไม่ เกิน 6 ชั่วโมง คิดน้ำหนักของรายวิชาที่เรียนเป็นหน่วยกิต ใช้เกณฑ์ 40 ชั่วโมงต่อภาคเรียน มีค่าน้ำหนัก วิชา เท่ากับ 1 หน่วยกิต (นก.) 3. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 - 6) ให้จัดเวลาเรียนเป็นรายภาค มีเวลาเรียน วันละไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง คิดน้ำหนักของรายวิชาที่เรียนเป็นหน่วยกิต ใช้เกณฑ์ 40 ชั่วโมงต่อภาคเรียน มีค่า น้ำหนักวิชา เท่ากับ 1 หน่วยกิต (นก.) การจัดการศึกษาสำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ


22 การจัดการศึกษาบางประเภทสำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น การศึกษาเฉพาะทาง การศึกษาสำหรับผู้มี ความสามารถพิเศษ การศึกษาทางเลือก การศึกษาสำหรับผู้ด้อยโอกาส การศึกษาตามอัธยาศัย สามารถนำ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานไปปรับใช้ได้ตามความเหมาะสม กับสภาพและบริบทของแต่ละ กลุ่มเป้าหมาย โดยให้มีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด ทั้งนี้ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ กระทรวงศึกษาธิการกำหนด การจัดการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้เป็นกระบวนการสำคัญในการนำหลักสูตรสู่การปฏิบัติ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐาน เป็นหลักสูตรที่มีมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน เป็น เป้าหมายสำหรับพัฒนาเด็กและเยาวชน ในการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณสมบัติตามเป้าหมายหลักสูตร ผู้สอน พยายามคัดสรรกระบวนการเรียนรู้ จัดการเรียนรู้โดยช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ผ่านสาระที่กำหนดไว้ในหลักสูตร 8 กลุ่ม สาระการเรียนรู้ รวมทั้งปลูกฝังเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ พัฒนาทักษะต่างๆ อันเป็นสมรรถนะสำคัญ ให้ผู้เรียนบรรลุตามเป้าหมาย 1. หลักการจัดการเรียนรู้การจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสำคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยยึด หลักว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด เชื่อว่าทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ ยึดประโยชน์ที่เกิดกับ ผู้เรียน กระบวนการจัดการเรียนรู้ต้องส่งเสริมให้ผู้เรียน สามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ คำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลและพัฒนาการทางสมอง เน้นให้ความสำคัญทั้งความรู้ และคุณธรรม 2. กระบวนการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ผู้เรียนจะต้องอาศัยกระบวนการเรียนรู้ที่ หลากหลาย เป็นเครื่องมือที่จะนำพาตนเองไปสู่เป้าหมายของหลักสูตร กระบวนการเรียนรู้ที่จำเป็นสำหรับผู้เรียน อาทิ กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ กระบวนการสร้างความรู้ กระบวนการคิด กระบวนการทางสังคม กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแก้ปัญหา กระบวนการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง กระบวนการปฏิบัติ ลงมือ ทำจริง กระบวนการจัดการ กระบวนการวิจัย กระบวนการเรียนรู้การเรียนรู้ของตนเอง กระบวนการพัฒนา ลักษณะนิสัย กระบวนการเหล่านี้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนควรได้รับการฝึกฝน พัฒนา เพราะจะ สามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดีบรรลุเป้าหมายของหลักสูตร ดังนั้นผู้สอน จึงจำเป็นต้อง ศึกษาทำความเข้าใจในกระบวนการเรียนรู้ต่าง ๆ เพื่อให้สามารถเลือกใช้ในการจัดกระบวนการเรียนรู้ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ 3. การออกแบบการจัดการเรียนรู้ ผู้สอนต้องศึกษาหลักสูตรสถานศึกษาให้เข้าใจถึงมาตรฐานการ เรียนรู้ ตัวชี้วัด สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสาระการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียน แล้วจึงพิจารณาออกแบบการจัดการเรียนรู้โดยเลือกใช้วิธีสอนและเทคนิคการสอน สื่อ/แหล่งเรียนรู้ การวัดและ ประเมินผล เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพและบรรลุตามเป้าหมายที่กำหนด 4. บทบาทของผู้สอนและผู้เรียน การจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามเป้าหมายของหลักสูตร ทั้งผู้สอนและผู้เรียนควรมีบทบาท ดังนี้ 4.1 บทบาทของผู้สอน 1) ศึกษาวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล แล้วนำข้อมูลมาใช้ในการวางแผน การจัดการเรียนรู้ ที่ท้าทายความสามารถของผู้เรียน


23 2) กำหนดเป้าหมายที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน ด้านความรู้และทักษะ กระบวนการที่เป็นความคิดรวบยอดหลักการและความสัมพันธ์ รวมทั้งคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 3) ออกแบบการเรียนรู้และจัดการเรียนรู้ที่ตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคลและ พัฒนาการทางสมอง เพื่อนำผู้เรียนไปสู่เป้าหมาย 4) จัดบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ และดูแลช่วยเหลือผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้ 5) จัดเตรียมและเลือกใช้สื่อให้เหมาะสมกับกิจกรรม นำภูมิปัญญาท้องถิ่น เทคโนโลยีที่เหมาะสมมาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอน 6) ประเมินความก้าวหน้าของผู้เรียนด้วยวิธีการที่หลากหลาย เหมาะสมกับธรรมชาติ ของวิชาและระดับพัฒนาการของผู้เรียน 7) วิเคราะห์ผลการประเมินมาใช้ในการซ่อมเสริมและพัฒนาผู้เรียน รวมทั้ง ปรับปรุงการจัดการเรียนการสอนของตนเอง 4.2 บทบาทของผู้เรียน 1) กำหนดเป้าหมาย วางแผน และรับผิดชอบการเรียนรู้ของตนเอง 2) เสาะแสวงหาความรู้ เข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อความรู้ ตั้งคำถาม คิดหาคำตอบหรือหาแนวทางแก้ปัญหาด้วยวิธีการต่างๆ 3) ลงมือปฏิบัติจริง สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ด้วยตนเอง และนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ ต่างๆ 4) มีปฏิสัมพันธ์ ทำงาน ทำกิจกรรมร่วมกับกลุ่มและครู 5) ประเมินและพัฒนากระบวนการเรียนรู้ของตนเองอย่างต่อเนื่อง สื่อการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้เป็นเครื่องมือส่งเสริมสนับสนุนการจัดการกระบวนการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนเข้าถึงความรู้ ทักษะ กระบวนการ และคุณลักษณะตามมาตรฐานของหลักสูตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ สื่อการเรียนรู้มี หลากหลายประเภท ทั้งสื่อธรรมชาติ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อเทคโนโลยี และเครือข่าย การเรียนรู้ต่าง ๆ ที่มี ในท้องถิ่น การเลือกใช้สื่อควรเลือกให้มีความเหมาะสมกับระดับพัฒนาการ และลีลาการเรียนรู้ที่หลากหลายของ ผู้เรียน การจัดหาสื่อการเรียนรู้ ผู้เรียนและผู้สอนสามารถจัดทำและพัฒนาขึ้นเองหรือปรับปรุงเลือกใช้อย่างมี คุณภาพจากสื่อต่างๆ ที่มีอยู่รอบตัวเพื่อนำมาใช้ประกอบในการจัดการเรียนรู้ที่สามารถส่งเสริมและสื่อสารให้ ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ โดยสถานศึกษาควรจัดให้มีอย่างพอเพียง เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริง สถานศึกษา เขตพื้นที่การศึกษา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้มีหน้าที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ควรดำเนินการดังนี้ 1. จัดให้มีแหล่งการเรียนรู้ ศูนย์สื่อการเรียนรู้ ระบบสารสนเทศการเรียนรู้ และเครือข่าย การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพทั้งในสถานศึกษาและในชุมชน เพื่อการศึกษาค้นคว้าและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การเรียนรู้ ระหว่างสถานศึกษา ท้องถิ่น ชุมชน สังคมโลก 2. จัดทำและจัดหาสื่อการเรียนรู้สำหรับการศึกษาค้นคว้าของผู้เรียน เสริมความรู้ให้ผู้สอน รวมทั้ง จัดหาสิ่งที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้เป็นสื่อการเรียนรู้ 3. เลือกและใช้สื่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ มีความเหมาะสม มีความหลากหลาย สอดคล้อง กับ วิธีการเรียนรู้ ธรรมชาติของสาระการเรียนรู้ และความแตกต่างระหว่างบุคคลของผู้เรียน


24 4. ประเมินคุณภาพของสื่อการเรียนรู้ที่เลือกใช้อย่างเป็นระบบ 5. ศึกษาค้นคว้า วิจัย เพื่อพัฒนาสื่อการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียน 6. จัดให้มีการกำกับ ติดตาม ประเมินคุณภาพและประสิทธิภาพเกี่ยวกับสื่อและการใช้สื่อ การเรียนรู้เป็นระยะๆ และสม่ำเสมอ ในการจัดทำ การเลือกใช้และการประเมินคุณภาพสื่อการเรียนรู้ที่ใช้ในสถานศึกษา ควร คำนึงถึงหลักการสำคัญของสื่อการเรียนรู้ เช่น ความสอดคล้องกับหลักสูตร วัตถุประสงค์การเรียนรู้ การออกแบบ กิจกรรมการเรียนรู้ การจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียน เนื้อหามีความถูกต้องและทันสมัย ไม่กระทบความมั่นคงของ ชาติ ไม่ขัดต่อศีลธรรม มีการใช้ภาษาที่ถูกต้อง รูปแบบการนำเสนอที่เข้าใจง่ายและน่าสนใจ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนต้องอยู่บนหลักการพื้นฐานสองประการคือ การประเมินเพื่อพัฒนาผู้เรียนและเพื่อตัดสินผลการเรียน ในการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้ ประสบผลสำเร็จนั้น ผู้เรียนจะต้องได้รับการพัฒนาและประเมินตามตัวชี้วัดเพื่อให้บรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้ สะท้อนสมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการวัดและประเมินผล การเรียนรู้ในทุกระดับไม่ว่าจะเป็นระดับชั้นเรียน ระดับสถานศึกษา ระดับเขตพื้นที่การศึกษา และ ระดับชาติ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เป็นกระบวนการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโดยใช้ผลการประเมินเป็น ข้อมูลและสารสนเทศที่แสดงพัฒนาการความก้าวหน้าและความสำเร็จทางการเรียนของผู้เรียน ตลอดจนข้อมูลที่ เป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาและเรียนรู้อย่างเต็มตามศักยภาพ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ แบ่งออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่ ระดับชั้นเรียน ระดับสถานศึกษา ระดับ เขตพื้นที่การศึกษา และระดับชาติ มีรายละเอียด ดังนี้ 1. การประเมินระดับชั้นเรียน เป็นการวัดและประเมินผลที่อยู่ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ ผู้สอน ดำเนินการเป็นปกติและสม่ำเสมอ ในการจัดการเรียนการสอน ใช้เทคนิคการประเมินอย่างหลากหลาย เช่น การ ซักถาม การสังเกต การตรวจการบ้าน การประเมินโครงงาน การประเมินชิ้นงาน/ ภาระงาน แฟ้มสะสมงาน การ ใช้แบบทดสอบ ฯลฯ โดยผู้สอนเป็นผู้ประเมินเองหรือเปิดโอกาสให้ผู้เรียนประเมินตนเอง เพื่อนประเมินเพื่อน ผู้ปกครองร่วมประเมิน ในกรณีที่ไม่ผ่านตัวชี้วัดให้มีการสอนซ่อมเสริม การประเมินระดับชั้นเรียนเป็นการ ตรวจสอบว่า ผู้เรียนมีพัฒนาการความก้าวหน้าในการเรียนรู้ อันเป็นผลมาจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน หรือไม่ และมากน้อยเพียงใด มีสิ่งที่จะต้องได้รับการพัฒนาปรับปรุงและส่งเสริมในด้านใด นอกจากนี้ยังเป็นข้อมูล ให้ผู้สอนใช้ปรับปรุงการเรียนการสอนของตนด้วย ทั้งนี้โดยสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด 2. การประเมินระดับสถานศึกษา เป็นการประเมินที่สถานศึกษาดำเนินการเพื่อตัดสินผล การเรียน ของผู้เรียนเป็นรายปี/รายภาค ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน นอกจากนี้เพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการศึกษา ของสถานศึกษา ว่าส่งผลต่อ การเรียนรู้ของผู้เรียนตามเป้าหมายหรือไม่ ผู้เรียนมีจุดพัฒนาในด้านใด รวมทั้งสามารถนำผลการเรียนของผู้เรียน ในสถานศึกษาเปรียบเทียบกับเกณฑ์ระดับชาติ ผลการประเมินระดับสถานศึกษาจะเป็นข้อมูลและสารสนเทศเพื่อ การปรับปรุงนโยบาย หลักสูตร โครงการ หรือวิธีการจัดการเรียนการสอน ตลอดจนเพื่อการจัดทำแผนพัฒนา คุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาตามแนวทางการประกันคุณภาพการศึกษาและการรายงานผลการจัดการศึกษา


25 ต่อคณะกรรมการสถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองและชุมชน 3. การประเมินระดับเขตพื้นที่การศึกษา เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับเขตพื้นที่การศึกษา ตามมาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนา คุณภาพการศึกษาของเขตพื้นที่การศึกษาตามภาระความรับผิดชอบ สามารถดำเนินการโดยประเมินคุณภาพ ผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนด้วยข้อสอบมาตรฐานที่จัดทำและดำเนินการโดยเขตพื้นที่การศึกษา หรือด้วยความร่วมมือกับ หน่วยงานต้นสังกัด ในการดำเนินการจัดสอบ นอกจากนี้ยังได้จากการตรวจสอบทบทวนข้อมูลจากการประเมิน ระดับสถานศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษา 4. การประเมินระดับชาติ เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับชาติตามมาตรฐาน การเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน สถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียนทุกคนที่เรียน ในชั้น ประถมศึกษาปีที่ 3 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เข้ารับการประเมิน ผลจากการประเมินใช้เป็นข้อมูลในการเทียบเคียงคุณภาพการศึกษาในระดับต่างๆ เพื่อนำไปใช้ในการวางแผน ยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษา ตลอดจนเป็นข้อมูลสนับสนุน การตัดสินใจในระดับนโยบายของประเทศ ข้อมูลการประเมินในระดับต่าง ๆ ข้างต้น เป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษาในการตรวจสอบทบทวนพัฒนา คุณภาพผู้เรียน ถือเป็นภาระความรับผิดชอบของสถานศึกษาที่จะต้องจัดระบบดูแลช่วยเหลือ ปรับปรุงแก้ไข ส่งเสริมสนับสนุนเพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพบนพื้นฐานความแตกต่างระหว่างบุคคลที่จำแนกตาม สภาพปัญหาและความต้องการ ได้แก่ กลุ่มผู้เรียนทั่วไป กลุ่มผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษ กลุ่มผู้เรียนที่มี ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ กลุ่มผู้เรียนที่มีปัญหาด้านวินัยและพฤติกรรม กลุ่มผู้เรียนที่ปฏิเสธโรงเรียน กลุ่มผู้เรียน ที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มพิการทางร่างกายและสติปัญญา เป็นต้น ข้อมูลจากการประเมินจึงเป็น หัวใจของสถานศึกษาในการดำเนินการช่วยเหลือผู้เรียนได้ทันท่วงที ปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาและ ประสบความสำเร็จในการเรียน สถานศึกษาในฐานะผู้รับผิดชอบจัดการศึกษา จะต้องจัดทำระเบียบว่าด้วยการ วัดและประเมินผลการเรียนของสถานศึกษาให้สอดคล้องและเป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติที่เป็น ข้อกำหนดของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายถือปฏิบัติร่วมกัน เกณฑ์การวัดและประเมินผลการเรียน 1. การตัดสิน การให้ระดับและการรายงานผลการเรียน 1.1 การตัดสินผลการเรียน ในการตัดสินผลการเรียนของกลุ่มสาระการเรียนรู้ การอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนนั้น ผู้สอนต้องคำนึงถึงการพัฒนาผู้เรียนแต่ละคน เป็นหลัก และต้องเก็บข้อมูลของผู้เรียนทุกด้านอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องในแต่ละภาคเรียน รวมทั้งสอนซ่อมเสริม ผู้เรียนให้พัฒนาจนเต็มตามศักยภาพ ระดับประถมศึกษา (1) ผู้เรียนต้องมีเวลาเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรียนทั้งหมด (2) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินทุกตัวชี้วัด และผ่านตามเกณฑ์ที่สถานศึกษา กำหนด (3) ผู้เรียนต้องได้รับการตัดสินผลการเรียนทุกรายวิชา (4) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมิน และมีผลการประเมินผ่านตามเกณฑ์ที่


26 สถานศึกษากำหนด ในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ระดับมัธยมศึกษา (1) ตัดสินผลการเรียนเป็นรายวิชา ผู้เรียนต้องมีเวลาเรียนตลอดภาคเรียน ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 80 ของเวลาเรียนทั้งหมดในรายวิชานั้นๆ (2) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินทุกตัวชี้วัด และผ่านตามเกณฑ์ที่สถานศึกษา กำหนด (3) ผู้เรียนต้องได้รับการตัดสินผลการเรียนทุกรายวิชา (4) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินและมีผลการประเมินผ่านตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด ในการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน การพิจารณาเลื่อนชั้นทั้งระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ถ้าผู้เรียนมีข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อย และสถานศึกษาพิจารณาเห็นว่าสามารถพัฒนาและสอนซ่อมเสริมได้ ให้อยู่ในดุลพินิจของสถานศึกษาที่จะผ่อนผัน ให้เลื่อนชั้นได้ แต่หากผู้เรียนไม่ผ่านรายวิชาจำนวนมาก และมีแนวโน้มว่าจะเป็นปัญหาต่อการเรียนในระดับชั้นที่ สูงขึ้น สถานศึกษาอาจตั้งคณะกรรมการพิจารณาให้เรียนซ้ำชั้นได้ ทั้งนี้ให้คำนึงถึงวุฒิภาวะและความรู้ ความสามารถของผู้เรียนเป็นสำคัญ 1.2 การให้ระดับผลการเรียน ระดับประถมศึกษา ในการตัดสินเพื่อให้ระดับผลการเรียนรายวิชา สถานศึกษาสามารถให้ ระดับผลการเรียนหรือระดับคุณภาพการปฏิบัติของผู้เรียน เป็นระบบตัวเลข ระบบตัวอักษร ระบบร้อยละ และ ระบบที่ใช้คำสำคัญสะท้อนมาตรฐาน การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์นั้น ให้ระดับผล การประเมินเป็น ดีเยี่ยม ดี และผ่าน การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จะต้องพิจารณาทั้งเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติ กิจกรรมและผลงานของผู้เรียน ตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด และให้ผลการเข้าร่วมกิจกรรมเป็นผ่าน และไม่ ผ่าน ระดับมัธยมศึกษา ในการตัดสินเพื่อให้ระดับผลการเรียนรายวิชา ให้ใช้ตัวเลขแสดงระดับผลการ เรียนเป็น 8 ระดับ การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์นั้น ให้ระดับผล การประเมินเป็น ดีเยี่ยม ดี และผ่าน การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนจะต้องพิจารณาทั้งเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติ กิจกรรมและผลงานของผู้เรียน ตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนดและให้ผลการเข้าร่วมกิจกรรมเป็น ผ่าน และ ไม่ ผ่าน 1.3 การรายงานผลการเรียน การรายงานผลการเรียนเป็นการสื่อสารให้ผู้ปกครองและผู้เรียนทราบ ความก้าวหน้าในการเรียนรู้ของผู้เรียน ซึ่งสถานศึกษาต้องสรุปผลการประเมินและจัดทำเอกสารรายงานให้ ผู้ปกครองทราบเป็นระยะๆ หรืออย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้ง


27 การรายงานผลการเรียนสามารถรายงานเป็นระดับคุณภาพการปฏิบัติของผู้เรียนที่สะท้อนมาตรฐาน การเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ 2. เกณฑ์การจบการศึกษา หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน กำหนดเกณฑ์กลางสำหรับการจบการศึกษาเป็น 3ระดับ คือ ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 2.1 เกณฑ์การจบระดับประถมศึกษา (1) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐาน และรายวิชา/กิจกรรมเพิ่มเติมตามโครงสร้างเวลาเรียนที่ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนด (2) ผู้เรียนต้องมีผลการประเมินรายวิชาพื้นฐาน ผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่สถานศึกษา กำหนด (3) ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนในระดับผ่านเกณฑ์ การประเมินตามที่สถานศึกษากำหนด (4) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่ สถานศึกษากำหนด (5) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่ สถานศึกษากำหนด 2.2 เกณฑ์การจบระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (1) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐานและเพิ่มเติม โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน 66 หน่วยกิต และ รายวิชาเพิ่มเติมตามที่สถานศึกษากำหนด (2) ผู้เรียนต้องได้หน่วยกิตตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า 77 หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน 61 หน่วยกิต และรายวิชาเพิ่มเติมไม่น้อยกว่า 11 หน่วยกิต (3) ผู้เรียนมีผลการประเมิน การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ในระดับ ผ่าน เกณฑ์การ ประเมินตามที่สถานศึกษากำหนด (4) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่ สถานศึกษากำหนด (5) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่ สถานศึกษากำหนด 2.3 เกณฑ์การจบระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (1) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐานและเพิ่มเติม โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน 41 หน่วยกิต และ รายวิชาเพิ่มเติมตามที่สถานศึกษากำหนด (2) ผู้เรียนต้องได้หน่วยกิตตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า 77 หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน 41 หน่วยกิต และรายวิชาเพิ่มเติม ไม่น้อยว่า 36 หน่วยกิต


28 (3) ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียน ในระดับผ่านเกณฑ์ การประเมินตามที่สถานศึกษากำหนด (4) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในระดับผ่านเกณฑ์ การประเมินตามที่ สถานศึกษากำหนด (5) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์ การประเมินตามที่ สถานศึกษากำหนด สำหรับการจบการศึกษาสำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น การศึกษาเฉพาะทาง การศึกษา สำหรับผู้มีความสามารถพิเศษ การศึกษาทางเลือก การศึกษาสำหรับผู้ด้อยโอกาส การศึกษาตามอัธยาศัย ให้ คณะกรรมการของสถานศึกษา เขตพื้นที่การศึกษาและผู้ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตาม หลักเกณฑ์ในแนวปฏิบัติการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานสำหรับ กลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เอกสารหลักฐานการศึกษา เอกสารหลักฐานการศึกษา เป็นเอกสารสำคัญที่บันทึกผลการเรียน ข้อมูลและสารสนเทศ ที่ เกี่ยวข้องกับพัฒนาการของผู้เรียนในด้านต่าง ๆ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้ 1. เอกสารหลักฐานการศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด 1.1 ระเบียนแสดงผลการเรียน เป็นเอกสารแสดงผลการเรียนและรับรองผลการเรียนของผู้เรียน ตามรายวิชา ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของ สถานศึกษา และผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน สถานศึกษาจะต้องบันทึกข้อมูลและออกเอกสารนี้ให้ผู้เรียน เป็นรายบุคคล เมื่อผู้เรียนจบการศึกษาระดับประถมศึกษา (ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6) จบการศึกษาภาคบังคับ (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3) จบการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6) หรือเมื่อลาออกจากสถานศึกษาในทุก กรณี 1.2 ประกาศนียบัตร เป็นเอกสารแสดงวุฒิการศึกษาเพื่อรับรองศักดิ์และสิทธิ์ของ ผู้จบ การศึกษาที่สถานศึกษาให้ไว้แก่ผู้จบการศึกษาภาคบังคับและผู้จบการศึกษาขั้นพื้นฐานตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน 1.3 แบบรายงานผู้สำเร็จการศึกษา เป็นเอกสารอนุมัติการจบหลักสูตรโดยบันทึกรายชื่อและ ข้อมูลของผู้จบการศึกษาระดับประถมศึกษา (ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6) ผู้จบการศึกษา ภาคบังคับ(ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3) และผู้จบการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6) 2. เอกสารหลักฐานการศึกษาที่สถานศึกษากำหนด เป็นเอกสารที่สถานศึกษาจัดทำขึ้นเพื่อบันทึก พัฒนาการ ผลการเรียนรู้ และข้อมูลสำคัญ เกี่ยวกับผู้เรียน เช่น แบบรายงานประจำตัวนักเรียน แบบบันทึกผล การเรียนประจำรายวิชา ระเบียนสะสม ใบรับรองผลการเรียน และ เอกสารอื่น ๆ ตามวัตถุประสงค์ของการนำ เอกสารไปใช้ การเทียบโอนผลการเรียน สถานศึกษาสามารถเทียบโอนผลการเรียนของผู้เรียนในกรณีต่างๆได้แก่ การย้ายสถานศึกษา การเปลี่ยน รูปแบบการศึกษา การย้ายหลักสูตร การออกกลางคันและขอกลับเข้ารับการศึกษาต่อ การศึกษาจากต่างประเทศ และขอเข้าศึกษาต่อในประเทศ นอกจากนี้ ยังสามารถเทียบโอนความรู้ ทักษะ ประสบการณ์จากแหล่งการเรียนรู้ อื่นๆ เช่น สถานประกอบการ สถาบันศาสนา สถาบันการฝึกอบรมอาชีพ การจัดการศึกษาโดยครอบครัว


29 การเทียบโอนผลการเรียนควรดำเนินการในช่วงก่อนเปิดภาคเรียนแรก หรือต้นภาคเรียนแรก ที่สถานศึกษารับผู้ขอเทียบโอนเป็นผู้เรียน ทั้งนี้ ผู้เรียนที่ได้รับการเทียบโอนผลการเรียนต้องศึกษาต่อเนื่องใน สถานศึกษาที่รับเทียบโอนอย่างน้อย 1 ภาคเรียน โดยสถานศึกษาที่รับผู้เรียนจาก การเทียบโอนควรกำหนดรายวิชา/จำนวนหน่วยกิตที่จะรับเทียบโอนตามความเหมาะสม การพิจารณาการเทียบโอน สามารถดำเนินการได้ ดังนี้ 1. พิจารณาจากหลักฐานการศึกษา และเอกสารอื่น ๆ ที่ให้ข้อมูลแสดงความรู้ความสามารถ ของผู้เรียน 2. พิจารณาจากความรู้ความสามารถของผู้เรียนโดยการทดสอบด้วยวิธีการต่าง ๆ ทั้ง ภาค ความรู้และภาคปฏิบัติ 3. พิจารณาจากความสามารถและการปฏิบัติในสภาพจริง การเทียบโอนผลการเรียนให้เป็นไปตาม ประกาศ หรือ แนวปฏิบัติ ของกระทรวงศึกษาธิการ การบริหารจัดการหลักสูตร ในระบบการศึกษาที่มีการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นและสถานศึกษามีบทบาทในการพัฒนาหลักสูตร นั้น หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในแต่ละระดับ ตั้งแต่ระดับชาติ ระดับท้องถิ่น จนถึงระดับสถานศึกษา มีบทบาท หน้าที่และความรับผิดชอบในการพัฒนาสนับสนุนส่งเสริมการใช้และพัฒนาหลักสูตรให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การดำเนินการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาและการจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษามีประสิทธิภาพสูงสุด อันจะส่งผลให้การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนบรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้ที่กำหนดไว้ในระดับชาติ ระดับท้องถิ่น ได้แก่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หน่วยงานต้นสังกัดอื่น ๆ เป็นหน่วยงานที่มี บทบาทในการขับเคลื่อนคุณภาพการจัดการศึกษา เป็นตัวกลางที่จะเชื่อมโยงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐานที่กำหนดในระดับชาติให้สอดคล้องกับสภาพและความต้องการของท้องถิ่น เพื่อนำไปสู่การจัดทำหลักสูตร ของสถานศึกษา ส่งเสริมการใช้และพัฒนาหลักสูตรในระดับสถานศึกษา ให้ประสบความสำเร็จ โดยมีภารกิจ สำคัญ คือ กำหนดเป้าหมายและจุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนในระดับท้องถิ่นโดยพิจารณาให้สอดคล้องกับสิ่ง ที่เป็นความต้องการในระดับชาติ พัฒนาสาระการเรียนรู้ท้องถิ่น ประเมินคุณภาพการศึกษาในระดับท้องถิ่น รวมทั้ง เพิ่มพูนคุณภาพการใช้หลักสูตรด้วยการวิจัยและพัฒนา การพัฒนาบุคลากรสนับสนุนส่งเสริมติดตามผลประเมินผล วิเคราะห์และรายงานผลคุณภาพของผู้เรียน สถานศึกษามีหน้าที่สำคัญในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา การวางแผนและดำเนินการใช้หลักสูตร การ เพิ่มพูนคุณภาพการใช้หลักสูตรด้วยการวิจัยและพัฒนา การปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตร จัดทำระเบียบการวัด และประเมินผลในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาต้องพิจารณาให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐาน และรายละเอียดที่เขตพื้นที่การศึกษา หรือหน่วยงานต้นสังกัดอื่นๆ ในระดับท้องถิ่นได้จัดทำเพิ่มเติม รวมทั้ง สถานศึกษาสามารถเพิ่มเติมในส่วนที่เกี่ยวกับสภาพปัญหาในชุมชนและสังคม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และความ ต้องการของผู้เรียน โดยทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา


30 โครงสร้างเวลาเรียนหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน กำหนดกรอบโครงสร้างเวลาเรียน ดังนี้ กลุ่มสาระการเรียนรู้/ กิจกรรม เวลาเรียน ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6 ม.1 ม.2 ม.3 ม. 4 – 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย 200 200 200 160 160 160 120 (3นก.) 120 (3นก.) 120 (3นก.) 240 (6 นก.) คณิตศาสตร์ 200 200 200 160 160 160 120 (3 นก.) 120 (3นก.) 120 (3นก.) 240 (6 นก.) วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี 80 80 80 80 80 80 120 (3นก.) 40 (1นก) 120 (3นก.) 40 (1นก 120 (3นก.) 40 (1นก) 240 (6 นก.) 80 (2นก) สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม • ประวัติศาสตร์ • 4 สาระ 120 120 120 120 120 120 160 (4 นก.) 40 120 160 (4 นก.) 40 120 160 (4 นก.) 40 120 320 (8นก.) 80 (2 นก) 240 (6 นก.) สุขศึกษาและพลศึกษา 80 80 80 80 80 80 80 (2นก.) 80 (2นก.) 80 (2 นก.) 120 (3นก.) ศิลปะ 80 80 80 80 80 80 80 80 (2 80 120


31 (2นก.) นก.) (2 นก.) (3 นก.) การงานอาชีพและ เทคโนโลยี 40 40 40 80 80 80 40 (1นก.) 40 (1นก.) 40 (1นก.) 40 (1 นก.) ภาษาต่างประเทศ 40 40 40 80 80 80 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) 240 (6 นก.) รวมเวลาเรียน (พื้นฐาน) 840 840 840 840 840 840 880 (22 นก.) 880 (22 นก.) 880 (22 นก.) 1,640 (41 นก.) กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 120 120 120 120 120 120 120 120 120 360 รายวิชา / กิจกรรมที่ สถานศึกษาจัดเพิ่มเติมตาม ความพร้อมและจุดเน้น ปีละไม่น้อยกว่า 80 ชั่วโมง ปีละไม่น้อยกว่า 200 ชั่วโมง ไม่น้อยกว่า 1,600 ชั่วโมง รวมเวลาเรียนทั้งหมด ไม่น้อยกว่า 1,000 ชั่วโมง/ปี ไม่น้อยกว่า 1,200 ชั่วโมง/ปี รวม 3 ปี ไม่น้อยกว่า3,600 ชั่วโมง การกำหนดโครงสร้างเวลาเรียนพื้นฐาน และเพิ่มเติม สถานศึกษาสามารถดำเนินการ ดังนี้ ระดับประถมศึกษา สามารถปรับเวลาเรียนพื้นฐานของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ ได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ต้องมีเวลาเรียนรวมตามที่กำหนดไว้ในโครงสร้างเวลาเรียนพื้นฐานและผู้เรียนต้องมีคุณภาพตามมาตรฐานการ เรียนรู้และตัวชี้วัดที่กำหนด ระดับมัธยมศึกษา ต้องจัดโครงสร้างเวลาเรียนพื้นฐานให้เป็นไปตามที่กำหนดและสอดคล้องกับเกณฑ์การ จบหลักสูตร สำหรับเวลาเรียนเพิ่มเติม ทั้งในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาให้จัดเป็นรายวิชาเพิ่มเติม หรือ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน โดยพิจารณาให้สอดคล้องกับความพร้อมจุดเน้นของสถานศึกษาและเกณฑ์การจบหลักสูตร เฉพาะระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 สถานศึกษาอาจจัดให้เป็นเวลาสำหรับสาระการเรียนรู้พื้นฐานในกลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทยและกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนที่กำหนดไว้ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงปีที่ 3 ปีละ 120 ชั่วโมง และชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 4-6 จำนวน 360 ชั่วโมงนั้น เป็นเวลาสำหรับปฏิบัติกิจกรรมแนะแนวกิจกรรมนักเรียน และกิจกรรมเพื่อ สังคมและสาธารณประโยชน์ ในส่วนกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ให้สถานศึกษาจัดสรรเวลาให้ผู้เรียน ได้ปฏิบัติกิจกรรม ดังนี้ ระดับประถมศึกษา (ป.1-6) รวม 6 ปี จำนวน 60 ชั่วโมง


32 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.1-3) รวม 3 ปี จำนวน 45 ชั่วโมง ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4-6) รวม 3 ปี จำนวน 60 ชั่วโมง โครงสร้างเวลาเรียนโรงเรียนกันทรอมวิทยาคม พุทธศักราช 2564 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) โรงเรียนกันทรอมวิทยาคมได้กำหนดแผนการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา พุทธศักราช 2564 (ฉบับ ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ตามจุดเน้นของ สถานศึกษา เป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1. โครงสร้างหลักสูตรห้องเรียนทั่วไป 2. โครงสร้างหลักสูตรห้องเรียนเน้นวิทยาศาสตร์–คณิตศาสตร์ โครงสร้างเวลาเรียนหลักสูตรโรงเรียนกันทรอมวิทยาคม พุทธศักราช 2564 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น กลุ่มสาระการเรียนรู้/กิจกรรม เวลาเรียน (ชั่วโมง/หน่วยกิต) มัธยมศึกษาปีที่ 1 มัธยมศึกษาปีที่ 2 มัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียน 1 ภาคเรียน 2 ภาคเรียน 1 ภาคเรียน 2 ภาคเรียน 1 ภาคเรียน 2 1.รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย 60(1.5) 60(1.5) 60(1.5) 60(1.5) 60(1.5) 60(1.5) คณิตศาสตร์ 60(1.5) 60(1.5) 60(1.5) 60(1.5) 60(1.5) 60(1.5) วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี 60(1.5) 20(0.5) 60(1.5) 20(0.5) 60(1.5) 20(0.5) 60(1.5) 20(0.5) 60(1.5) 20(0.5) 60(1.5) 20(0.5) สังคมศึกษา ศาสนาฯ 60(1.5) 60(1.5) 60(1.5) 60(1.5) 60(1.5) 60(1.5) ประวัติศาสตร์ 20(0.5) 20(0.5) 20(0.5) 20(0.5) 20(0.5) 20(0.5)


33 สุขศึกษาและพลศึกษา 40(1.0) 40(1.0) 40(1.0) 40(1.0) 40(1.0) 40(1.0) ศิลปะ 40(1.0) 40(1.0) 40(1.0) 40(1.0) 40(1.0) 40(1.0) การงานอาชีพฯ 20(0.5) 20(0.5) 20(0.5) 20(0.5) 20(0.5) 20(0.5) ภาษาต่างประเทศ 60(1.5) 60(1.5) 60(1.5) 60(1.5) 60(1.5) 60(1.5) รวมเวลาเรียนวิชาพื้นฐาน 440(11.0) 440(11.0) 440(11.0) 440(11.0) 440(11.0) 440(11.0) 2.รายวิชาเพิ่มเติม ภาษาต่างประเทศ 40(1.0) 40(1.0) 40(1.0) 40(1.0) - 40(1.0) อาเซียนศึกษา การปกครองท้องถิ่น - - 40(1.0) - 40(1.0) - หน้าที่พลเมือง 20(0.5) 20(0.5) 20(0.5) 20(0.5) 20(0.5) 20(0.5) วิชาการป้องกันการทุจริต 20(0.5) 20(0.5) 20(0.5) 20(0.5) 20(0.5) 20(0.5) รายวิชาเพิ่มเติมสำหรับแผนการเรียนเน้นวิทยาศาสตร์ - คณิตศาสตร์ คณิตศาสตร์ - 40(1.0) 40(1.0) 40(1.0) 40(1.0) 40(1.0) วิทยาศาสตร์ 40(1.0) 20(0.5) - 40(1.0) 40(1.0) 40(1.0) รายวิชาเพิ่มเติมสำหรับแผนการเรียนทั่วไป ภาษาไทย - - 40(1.0) - 40(1.0) คณิตศาสตร์ - - - 40(1.0) 40(1.0) - วิทยาศาตร์ - - - - - 40(1.0) สุขศึกษาและพลศึกษา - 20(0.5) - 40(1.0) - - ศิลปะ 20(0.5) - - - - - การงานอาชีพและเทคโนโลยี 20(0.5) - - - 40(1.0) - รวมเวลาเรียนวิชาเพิ่มเติม 160 (4.0) 160 (4.0) 160 (4.0) 160 (4.0) 160 (4.0) 160 (4.0) ๓.กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมแนะแนว 20 20 20 20 20 20 กิจกรรมชุมนุม 20 20 20 20 20 20 กิจกรรมลูกเสือ-ยุวกาชาด 20 20 20 20 20 20 **กิจกรรมสาธารณประโยชน์ (45) - - - - - - รวมเวลากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 60 60 60 60 60 60 รวมเวลาเรียนทั้งหมด 660 660 660 660 660 660 รวมเวลาเรียนทั้งปี 1,320 1,320 1,320


โครงสร้างหลักสูตรชั้นปี /รายภาคเรียน หลักสูตรโรงเรียน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (แผนการ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรยีนที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรยีนที่ 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยีนที่ 1 ชั้นม เวลาเรยีน เวลาเรยีน เวลาเรยีน รายวิชาพื้นฐาน รหัสวิชา นก. /ชม. รายวิชาพื้นฐาน รหัสวิชา นก. /ชม. รายวิชาพื้นฐาน รหัสวิชา นก. /ชม. ราย ภาษาไทย 1 ท21101 1.5 (60) ภาษาไทย 2 ท21102 1.5 (60) ภาษาไทย 3 ท22101 1.5 (60) ภาษ คณติศาสตร์1 ค21101 1.5 (60) คณติศาสตร์2 ค21102 1.5 (60) คณติศาสตร์3 ค22101 1.5 (60) คณิ วิทยาศาสตร์1 ว21101 1.5 (60) วิทยาศาสตร์2 ว21103 1.5 (60) วิทยาศาสตร์3 ว22101 1.5 (60) วิทย สงัคมศึกษา 1 ส21101 1.5 (60) สงัคมศึกษา 2 ส21103 1.5 (60) สงัคมศึกษา 3 ส22101 1.5 (60) สงัค ประวัติศาสตร์1 ส21102 0.5 (20) ประวัติศาสตร์2 ส21104 0.5 (20) ประวัติศาสตร์3 ย 0.5 (20) ประ สขุศึกษา1 พ21101 0.5 (20) สขุศึกษา 2 พ21103 0.5 (20) สขุศึกษา 3 พ22101 0.5 (20) สขุศึ พลศึกษา 1 พ21102 0.5 (20) พลศึกษา 2 พ21104 0.5 (20) พลศึกษา 3 พ22102 0.5 (20) พล ศิลปะ 1 ศ21101 1.0 (40) ศิลปะ 2 ศ21102 1.0 (40) ศิลปะ 3 ศ22101 1.0 (40) ศิลป การงานอาชีพ 1 ง21101 0.5 (20) การงานอาชีพ 2 ง21102 0.5 (20) การงานอาชีพ 3 ง22101 0.5 (20) การ การออกแบบเทคโนโลยี และวิทยาการค านวน 1 ว21102 0.5 (20) การออกแบบเทคโนโลยี และวิทยาการค านวณ 2 ว21104 0.5 (20) การออกแบบเทคโนโลยีและ วิทยาการค านวน 3 ว22102 0.5 (20) การ และวิ ภาษาองักฤษ 1 อ21101 1.5 (60) ภาษาองักฤษ 2 อ21102 1.5 (60) ภาษาองักฤษ 3 อ22101 1.5 (60) ภาษ 11.0(440) 11.0(440) 11.0(440) รายวิชาเพิ่มเติม รายวิชาเพิ่มเติม รายวิชาเพิ่มเติม ราย ภาษาองักฤษน่ารู้1 อ20201 1.0(40) ภาษาองักฤษน่ารู้2 อ20202 1.0(40) ภาษาองักฤษฟัง-พูด อ20203 1.0(40) ภาษ หน้าที่พลเมือง 1 ส21231 0.5 (20) หน้าที่พลเมือง 2 ส21232 0.5 (20) อาเซียนศึกษา ส20201 1.0(40) หน้ การป้องกนัการทุจรติ1 ส21233 0.5 (20) การป้องกนัการทุจรติ2 ส21234 0.5 (20) หน้าที่พลเมือง 3 ส22233 0.5(20) การ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ว20201 1.0(40) เสรมิทักษะคณติศาสตร1์ค20201 1.0(40) การป้องกนัการทุจรติ3 ส22235 0.5(20) เสรมิ นาฎศิลป์พื้นเมือง ศ20201 0.5 (20) วิทยาศาสตรส์งิ่แวดลอ้ม ว20202 0.5 (20) เสรมิทักษะคณิตศาสตร์2 ค20202 1.0(40) สวน การปลกูผักทั่วไป ง21201 0.5 (20) ยกน้ าหนัก พ20218 0.5 (20) 4.0(160) 4.0(160) 4.0(160) 20 20 20 20 20 20 20 20 20 60 60 60 660 660 660 โครงสร้างหลักสูตรโรงเรียนกนัทรอมวิทยาคม พทุธศักราช 2564 ร รายวิชา/กจิกรรม รายวิชา/กจิกรรม รายวิชา/กจิกรรม ราย รวมหน่วยกติ/เวลาวิชาเพิ่มเติม รวมหน่วยกติ/เวลาวิชาเพิ่มเติม รวมหน่วยกติ/เวลาวิชาเพิ่มเติม รวมหน่วยกติ/เวลาวิชาพื้นฐาน รวมหน่วยกติ/เวลาวิชาพื้นฐาน รวมหน่วยกติ/เวลาวิชาพื้นฐาน รวม กจิกรรมแนะแนว กจิกรรมแนะแนว กจิกรรมแนะแนว กจิก กจิกรรมพัฒนาผู้เรยีน กจิกรรมพัฒนาผู้เรยีน กจิกรรมพัฒนาผู้เรยีน กจิก กิจกรรมเพื่อสงัคมและสาธารณะประโยชน์(8) กิจกรรมเพื่อสงัคมและสาธารณะประโยชน์(8) กิจกรรมเพื่อสงัคมและสาธารณะประโยชน์(8) กิจก กจิกรรมนักเรยีน กจิกรรมนักเรยีน กจิกรรมนักเรยีน กจิก 1. ลกูเสอื - ยุวกาชาด 2. ชมรม ชุมนุม 1. ลกูเสอื - ยุวกาชาด 2. ชมรม ชุมนุม 1. ลกูเสอื - ยุวกาชาด 2. ชมรม ชุมนุม รวมหน่วยเวลาเรยีนทั้งปี 1,320 รวมหน่วยเวลาเรยีนทั้งปี รวมเวลาเรยีนทั้งสนิ้รวมเวลาเรยีนทั้งสนิ้รวมเวลาเรยีนทั้งสนิ้รวม รวมเวลากจิกรรมพัฒนาผู้เรยีน รวมเวลากจิกรรมพัฒนาผู้เรยีน รวมเวลากจิกรรมพัฒนาผู้เรยีน รวม


34 นกันทรอมวิทยาคม พุทธศักราช 2564 (ปรับปรุง 2560) รเรียนเน้นวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์) มัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยีนที่ 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยีนที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยีนที่ 2 เวลาเรยีน เวลาเรยีน เวลาเรยีน ยวิชาพื้นฐาน รหัสวิชา นก. /ชม. รายวิชาพื้นฐาน รหัสวิชา นก. /ชม. รายวิชาพื้นฐาน รหัสวิชา นก. /ชม. ษาไทย 4 ท22102 1.5 (60) ภาษาไทย 5 ท23101 1.5 (60) ภาษาไทย 6 ท23102 1.5 (60) ณติศาสตร์4 ค22102 1.5 (60) คณติศาสตร์5 ค23101 1.5 (60) คณติศาสตร์6 ค23102 1.5 (60) ยาศาสตร์4 ว22103 1.5 (60) วิทยาศาสตร์5 ว23101 1.5 (60) วิทยาศาสตร์6 ว23103 1.5 (60) คมศึกษา 4 ส22103 1.5 (60) สงัคมศึกษา 5 ส23101 1.5 (60) สงัคมศึกษา6 ส23103 1.5 (60) ะวัติศาสตร์4 ส22104 0.5 (20) ประวัติศาสตร์5 ส23102 0.5 (20) ประวัติศาสตร์6 ส23104 0.5 (20) ศึกษา 4 พ22103 0.5 (20) สขุศึกษา 5 พ23101 0.5 (20) สขุศึกษา 6 พ23103 0.5 (20) ศึกษา 4 พ22104 0.5 (20) พลศึกษา 5 พ23102 0.5 (20) พลศึกษา 6 พ23104 0.5 (20) ปะ 4 ศ22102 1.0 (40) ศิลปะ 5 ศ23101 1.0 (40) ศิลปะ 6 ศ23102 1.0 (40) รงานอาชีพ 4 ง22102 0.5 (20) การงานอาชีพ 5 ง23101 0.5 (20) การงานอาชีพ 6 ง23102 0.5 (20) ออกแบบเทคโนโลยี วิทยาการค านวน 4 ว22104 0.5 (20) การออกแบบเทคโนโลยี และวิทยาการค านวน 5 ว23102 0.5 (20) การออกแบบเทคโนโลยี และวิทยาการค านวน 6 ว23104 0.5 (20) ษาองักฤษ 4 อ22102 1.5 (60) ภาษาองักฤษ 5 อ23101 1.5 (60) ภาษาองักฤษ 6 อ23102 1.5 (60) 11.0(440) 11.0(440) 11.0(440) ยวิชาเพิ่มเติม รายวิชาเพิ่มเติม รายวิชาเพิ่มเติม ษาองักฤษอา่น-เขียน อ20204 1.0(40) การปกครองท้องถนิ่ส20202 1.0(40) ภาษาอังกฤษในชวีิตประจ าวัน 1 อ20205 1.0(40) าที่พลเมือง 4 ส22234 0.5 (20) หน้าที่พลเมือง 5 ส23235 0.5 (20) หน้าที่พลเมือง 6 ส23236 0.5 (20) รป้องกนัการทุจรติ4 ส22236 0.5 (20) การป้องกนัการทุจรติ5 ส23237 0.5 (20) การป้องกนัการทุจรติ6 ส23238 0.5 (20) มทักษะคณติศาสตร3์ค20203 1.0(40) เสรมิทักษะคณติศาสตร4์ค20204 1.0(40) เสรมิทักษะคณติศาสตร5์ค20205 1.0(40) นพฤกษศาสตร์ว20203 1.0(40) สะเต็มศึกษา ว20204 1.0(40) วิทยาศาสตรก์บัความงาม ว20205 1.0(40) 4.0(160) 4.0(160) 4.0(160) 20 20 20 20 20 20 20 20 20 60 60 60 660 660 660 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (หอ้งเรียนเนน้วิทยาศาสตร์- คณิตศาสตร)์ ยวิชา/กจิกรรม รายวิชา/กจิกรรม รายวิชา/กจิกรรม รวมหน่วยกติ/เวลาวิชาพื้นฐาน รวมหน่วยกติ/เวลาวิชาเพิ่มเติม รวมหน่วยกติ/เวลาวิชาเพิ่มเติม รวมหน่วยกติ/เวลาวิชาเพิ่มเติม มหน่วยกติ/เวลาวิชาพื้นฐาน รวมหน่วยกติ/เวลาวิชาพื้นฐาน กจิกรรมพัฒนาผู้เรยีน กรรมแนะแนว กจิกรรมแนะแนว กจิกรรมแนะแนว กรรมพัฒนาผู้เรยีน กจิกรรมพัฒนาผู้เรยีน กจิกรรมนักเรยีน กรรมเพื่อสงัคมและสาธารณะประโยชน์(8) กิจกรรมเพื่อสงัคมและสาธารณะประโยชน์(8) กิจกรรมเพื่อสงัคมและสาธารณะประโยชน์(8) กรรมนักเรยีน กจิกรรมนักเรยีน 1. ลกูเสอื - ยุวกาชาด 2. ชมรม ชุมนุม 1. ลกูเสอื - ยุวกาชาด 2. ชมรม ชุมนุม 1. ลกูเสอื - ยุวกาชาด 2. ชมรม ชุมนุม 1,320 รวมหน่วยเวลาเรยีนทั้งปี 1,320 รวมเวลากจิกรรมพัฒนาผู้เรยีน มเวลาเรยีนทั้งสนิ้รวมเวลาเรยีนทั้งสนิ้รวมเวลาเรยีนทั้งสนิ้ มเวลากจิกรรมพัฒนาผู้เรยีน รวมเวลากจิกรรมพัฒนาผู้เรยีน


โครงสร้างหลักสูตรชั้นปี /รายภาคเรียน หลักสูตรโรงเรียน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรยีนที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรยีนที่ 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยีนที่ 1 ชั้นมัธ เวลาเรยีน เวลาเรยีน เวลาเรยีน รายวิชาพื้นฐาน รหัสวิชา นก. /ชม. รายวิชาพื้นฐาน รหัสวิชา นก. /ชม. รายวิชาพื้นฐาน รหัสวิชา นก. /ชม. รายวิช ภาษาไทย1 ท21101 1.5 (60) ภาษาไทย 2 ท21102 1.5 (60) ภาษาไทย 3 ท22101 1.5 (60) ภาษาไ คณติศาสตร1์ค21101 1.5 (60) คณติศาสตร์2 ค21102 1.5 (60) คณติศาสตร์3 ค22101 1.5 (60) คณติศ วิทยาศาสตร์1 ว21101 1.5 (60) วิทยาศาสตร์2 ว21103 1.5 (60) วิทยาศาสตร์3 ว22101 1.5 (60) วิทยาศ สงัคมศึกษา1 ส21101 1.5 (60) สงัคมศึกษา 2 ส21103 1.5 (60) สงัคมศึกษา 3 ส22101 1.5 (60) สงัคมศึ ประวัติศาสตร1์ส21102 0.5 (20) ประวัติศาสตร์2 ส21104 0.5 (20) ประวัติศาสตร์3 ส22102 0.5 (20) ประวัติ สขุศึกษา1 พ21101 0.5 (20) สขุศึกษา 2 พ21103 0.5 (20) สขุศึกษา 3 พ22101 0.5 (20) สขุศึก พลศึกษา 1 พ21102 0.5 (20) พลศึกษา 2 พ21104 0.5 (20) พลศึกษา 3 พ22102 0.5 (20) พลศึก ศิลปะ 1 ศ21101 1.0 (40) ศิลปะ 2 ศ21102 1.0 (40) ศิลปะ 3 ศ22101 1.0 (40) ศิลปะ การงานอาชีพ 1 ง21101 0.5 (20) การงานอาชีพ 2 ง21102 0.5 (20) การงานอาชีพ 3 ง22101 0.5 (20) การงา การออกแบบเทคโนโลยี และวิทยาการค านวน 1 ว21102 0.5 (20) การออกแบบเทคโนโลยี และวิทยาการค านวณ 2 ว21104 0.5 (20) การออกแบบเทคโนโลยีและ วิทยาการค านวน 3 ว22102 0.5 (20) การออ และวิท ภาษาองักฤษ 1 อ21101 1.5 (60) ภาษาองักฤษ 2 อ21102 1.5 (60) ภาษาองักฤษ 3 อ22101 1.5 (60) ภาษาอ 11.0(440) 11.0(440) 11.0(440) รายวิชาเพิ่มเติม รายวิชาเพิ่มเติม รายวิชาเพิ่มเติม รายวิช ภาษาองักฤษน่ารู้1 อ20201 1.0(40) ภาษาองักฤษน่ารู้2 อ20202 1.0(40) ภาษาองักฤษฟัง-พูด อ20203 1.0(40) ภาษาอ หน้าที่พลเมือง 1 ส21231 0.5 (20) หน้าที่พลเมือง 2 ส21232 0.5 (20) อาเซียนศึกษา ส20201 1.0(40) หน้าที่ การป้องกนัการทุจรติ1 ส21233 0.5 (20) การป้องกนัการทุจรติ2 ส21234 0.5 (20) หน้าที่พลเมือง 3 ส22233 0.5(20) การป้อ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ว20201 1.0(40) เสรมิทักษะคณติศาสตร1์ค20201 1.0(40) การป้องกนัการทุจรติ3 ส22235 0.5(20) เสรมิทั นาฎศิลป์พื้นเมือง ศ20201 0.5 (20) วิทยาศาสตรส์งิ่แวดลอ้ม ว20202 0.5 (20) การอา่น-การเขียน ท22201 1.0(40) ยกน้ าห การปลกูผักทั่วไป ง21201 0.5 (20) ยกน้ าหนัก1 พ20218 0.5 (20) 4.0(160) 4.0(160) 4.0(160) 20 20 20 20 20 20 20 20 20 60 60 60 660 660 660 โครงสร้างหลักสูตรโรงเรียนกนัทรอมวิทยาคม พทุธศักร รายวิชา/กจิกรรม รายวิชา/กจิกรรม รายวิชา/กจิกรรม รายวิช รวมหน รวมหน่วยกติ/เวลาวิชาเพิ่มเติม รวมหน่วยกติ/เวลาวิชาเพิ่มเติม รวมหน่วยกติ/เวลาวิชาเพิ่มเติม รวมหน รวมหน่วยกติ/เวลาวิชาพื้นฐาน รวมหน่วยกติ/เวลาวิชาพื้นฐาน รวมหน่วยกติ/เวลาวิชาพื้นฐาน กิจกรรมเพื่อสงัคมและสาธารณะประโยชน์(8) รวมเวลากจิกรรมพัฒนาผู้เรยีน รวมเวลาเรยีนทั้งสนิ้ กจิกรรมพัฒนาผู้เรยีน กจิกรรมแนะแนว กจิกรรมนักเรยีน กิจกรรมเพื่อสงัคมและสาธารณะประโยชน์(8) รวมเวลากจิกรรมพัฒนาผู้เรยีน รวมเวลาเรยีนทั้งสนิ้ กจิกรรมพัฒนาผู้เรยีน กจิกรรมแนะแนว กจิกรรมนักเรยีน 1. ลกูเสอื - ยุวกาชาด 2. ชมรม ชุมนุม 1. ลกูเสอื - ยุวกาชาด 2. ชมรม ชุมนุม กิจกรรมเพื่อสงัคมและสาธารณะประโยชน์(8) รวมเวลากจิกรรมพัฒนาผู้เรยีน รวมเวลาเรยีนทั้งสนิ้ กจิกรร กจิกรร กจิกรร กิจกรรม รวมเว รวมเว กจิกรรมพัฒนาผู้เรยีน กจิกรรมแนะแนว กจิกรรมนักเรยีน 1. ลกูเสอื - ยุวกาชาด 2. ชมรม ชุมนุม 1 2 รวมหน่วยเวลาเรยีนทั้งปี 1,320 รวมหน่วยเวลาเรยีนทั้งปี


35 นกันทรอมวิทยาคม พุทธศักราช 2564 (ปรับปรุง 2560) น (แผนการเรียนทั่วไป) ธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยีนที่ 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยีนที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยีนที่ 2 เวลาเรยีน เวลาเรยีน เวลาเรยีน ชาพื้นฐาน รหัสวิชา นก. /ชม. รายวิชาพื้นฐาน รหัสวิชา นก. /ชม. รายวิชาพื้นฐาน รหัสวิชา นก. /ชม. ไทย 4 ท22102 1.5 (60) ภาษาไทย 5 ท23101 1.5 (60) ภาษาไทย 6 ท23102 1.5 (60) ศาสตร์4 ค22102 1.5 (60) คณติศาสตร์5 ค23101 1.5 (60) คณติศาสตร์6 ค23102 1.5 (60) ศาสตร์4 ว22103 1.5 (60) วิทยาศาสตร์5 ว23101 1.5 (60) วิทยาศาสตร์6 ว23103 1.5 (60) ศึกษา 4 ส22103 1.5 (60) สงัคมศึกษา 5 ส23101 1.5 (60) สงัคมศึกษา6 ส23103 1.5 (60) ติศาสตร์4 ส22104 0.5 (20) ประวัติศาสตร์5 ส23102 0.5 (20) ประวัติศาสตร์6 ส23104 0.5 (20) ษา 4 พ22103 0.5 (20) สขุศึกษา 5 พ23101 0.5 (20) สขุศึกษา 6 พ23103 0.5 (20) กษา 4 พ22104 0.5 (20) พลศึกษา 5 พ23102 0.5 (20) พลศึกษา 6 พ23104 0.5 (20) 4 ศ22102 1.0 (40) ศิลปะ 5 ศ23101 1.0 (40) ศิลปะ 6 ศ23102 1.0 (40) นอาชีพ 4 ง22102 0.5 (20) การงานอาชีพ 5 ง23101 0.5 (20) การงานอาชีพ 6 ง23102 0.5 (20) อกแบบเทคโนโลยี ทยาการค านวน 4 ว22104 0.5 (20) การออกแบบเทคโนโลยี และวิทยาการค านวน 5 ว23102 0.5 (20) การออกแบบเทคโนโลยี และวิทยาการค านวน 6 ว23104 0.5 (20) องักฤษ 4 อ22102 1.5 (60) ภาษาองักฤษ 5 อ23101 1.5 (60) ภาษาองักฤษ 6 อ23102 1.5 (60) 11.0(440) 11.0(440) 11.0(440) ชาเพิ่มเติม รายวิชาเพิ่มเติม รายวิชาเพิ่มเติม องักฤษอา่น-เขียน อ20204 1.0(40) การปกครองท้องถนิ่ส20202 1.0(40) ภาษาอังกฤษในชวีิตประจ าวัน1 อ20205 1.0(40) พลเมือง 4 ส22234 0.5 (20) หน้าที่พลเมือง 5 ส23235 0.5 (20) หน้าที่พลเมือง 6 ส23236 0.5 (20) องกนัการทุจรติ4 ส22236 0.5 (20) การป้องกนัการทุจรติ5 ส23237 0.5 (20) การป้องกนัการทุจรติ6 ส23238 0.5 (20) ทักษะคณติศาสตร2์ค20202 1.0(40) เสรมิทักษะคณติศาสตร3์ค20203 1.0(40) หลกัภาษา ท23202 1.0(40) หนัก2 พ20220 1.0(40) งานธุรกจิง23282 1.0(40) วิทยาศาสตรก์บัความงาม ว20205 1.0(40) 4.0(160) 4.0(160) 4.0(200) 20 20 20 20 20 20 20 20 20 60 60 60 660 660 660 รายวิชา/กจิกรรม ราช 2564 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (หอ้งเรียนทั่วไป) ชา/กจิกรรม รายวิชา/กจิกรรม น่วยกติ/เวลาวิชาพื้นฐาน รวมหน่วยกติ/เวลาวิชาพื้นฐาน รวมหน่วยกติ/เวลาวิชาพื้นฐาน น่วยกติ/เวลาวิชาเพิ่มเติม รวมหน่วยกติ/เวลาวิชาเพิ่มเติม รวมหน่วยกติ/เวลาวิชาเพิ่มเติม รมพัฒนาผู้เรยีน รมแนะแนว รมนักเรยีน มเพื่อสงัคมและสาธารณะประโยชน์(8) วลากจิกรรมพัฒนาผู้เรยีน วลาเรยีนทั้งสนิ้ 1. ลกูเสอื - ยุวกาชาด 2. ชมรม ชุมนุม กิจกรรมเพื่อสงัคมและสาธารณะประโยชน์(8) รวมเวลากจิกรรมพัฒนาผู้เรยีน รวมเวลาเรยีนทั้งสนิ้ กจิกรรมพัฒนาผู้เรยีน กจิกรรมแนะแนว กจิกรรมนักเรยีน กิจกรรมเพื่อสงัคมและสาธารณะประโยชน์(8) รวมเวลากจิกรรมพัฒนาผู้เรยีน รวมเวลาเรยีนทั้งสนิ้ กจิกรรมพัฒนาผู้เรยีน กจิกรรมแนะแนว กจิกรรมนักเรยีน 1. ลกูเสอื - ยุวกาชาด 2. ชมรม ชุมนุม 1. ลกูเสอื - ยุวกาชาด 2. ชมรม ชุมนุม 1,320 รวมหน่วยเวลาเรยีนทั้งปี 1,320


130 รายวิชากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยที่เปิดสอน หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนกันทรอมวิทยาคม พุทธศักราช 2564 ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น สาระการเรียนรู้พื้นฐาน ลำดับที่ รหัสวิชา ชื่อวิชา จำนวนชั่วโมง จำนวนชั่วโมง/สัปดาห์ 1 ท21101 ภาษาไทย 1 60 ชั่วโมง 3 2 ท21102 ภาษาไทย 2 60 ชั่วโมง 3 3 ท22101 ภาษาไทย 3 60 ชั่วโมง 3 4 ท22102 ภาษาไทย 4 60 ชั่วโมง 3 5 ท23101 ภาษาไทย 5 60 ชั่วโมง 3 6 ท23102 ภาษาไทย 6 60 ชั่วโมง 3 สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม ลำดับที่ รหัสวิชา ชื่อวิชา จำนวนชั่วโมง จำนวนชั่วโมง/สัปดาห์ 1 ท22201 การอ่านการเขียน 40 ชั่วโมง 2 2 ท23202 หลักภาษาไทย 40 ชั่วโมง 2 คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน รายวิชา ภาษาไทย 1 รหัสวิชา ท21101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย


131 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 ภาคเรียนที่1 เวลา 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วที่เป็นบทบรรยายและบทร้อยกรอง ประเภท กลอนสุภาพ กลอนสักวา กาพย์ยานี 11 กาพย์ฉบัง 16 กาพย์สุรางคนางค์ 28 และโคลงสี่สุภาพได้ถูกต้องเหมาะสมกับเรื่องที่อ่านจับ ใจความสำคัญจากเรื่องที่อ่าน ระบุเหตุและผล และข้อเท็จจริงกับข้อคิดเห็นจากเรื่องที่อ่าน วิเคราะห์คุณค่าที่ ได้รับจากการอ่านงานเขียนอย่างหลากหลายเพื่อนำไปใช้แก้ปัญหาในชีวิต มีมารยาทในการอ่าน คัดลายมือตัว บรรจงครึ่งบรรทัดตามรูปแบบการเขียนตัวอักษรไทย เขียนบรรยายประสบการณ์ โดยระบุสาระสำคัญและ รายละเอียดสนับสนุน เขียนเรียงความ เขียนย่อความจากเรื่องที่อ่าน พูดสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่ฟังและดู เล่าเรื่องย่อจากเรื่องที่ฟังและดู อธิบายลักษณะของเสียงในภาษาไทย สร้างคำในภาษาไทย ได้แก่ คำประสม คำซ้ำ คำซ้อน คำพ้อง ได้ถูกต้อง วิเคราะห์ชนิดและหน้าที่ของคำในประโยค สรุปเนื้อหาวรรณคดีและ วรรณกรรมที่อ่าน อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิด ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม ทักษะ สารสนเทศ สื่อ เทคโนโลยี ทักษะชีวิตและอาชีพ เพื่อให้เป็นผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์รักชาติศาสน์กษัตริย์ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน รักความเป็นไทยและมีจิตสาธารณะ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างมี ประสิทธิภาพ ภาคภูมิใจในภาษาไทยอันเป็นสมบัติของชาติและสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการ ดำรงชีวิต ตัดสินใจแก้ปัญหาให้เกิดประโยชน์ในชีวิต อันเป็นประโยชน์ ต่อสังคม ประเทศชาติบ้านเมืองต่อไป รหัสตัวชี้วัด ท 1.1 ม.1/1 ท 1.1 ม.1/2 ท 1.1 ม.1/3 ท 1.1 ม.1/8 ท 1.1 ม.1/9 ท 2.1 ม.1/1 ท 2.1 ม.1/3 ท 2.1 ม.1/4 ท 2.1 ม.1/5 ท 3.1 ม.1/1 ท 3.1 ม.1/2 ท 3.1 ม.1/4 ท 4.1 ม.1/1 ท 4.1 ม.1/2 ท 4.1 ม.1/3 ท 5.1 ม.1/1 ท 5.1 ม.1/3 รวมทั้งหมด 17 ตัวชี้วัด คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน รายวิชา ภาษาไทย 2 รหัสวิชา ท21102 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 ภาคเรียนที่2 เวลา 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต


132 ระบุและอธิบายคำเปรียบเทียบและคำที่มีหลายความหมายในบริบทต่างๆ จากการอ่าน ตีความคำ ยากในเอกสารวิชาการ โดยพิจารณาจากบริบท ระบุข้อสังเกตและความสมเหตุสมผลของงานเขียนประเภทจูง ใจโน้มน้าวใจ ปฏิบัติตามคู่มือแนะนำวิธีการใช้งานของเครื่องมือหรือเครื่องใช้ในระดับที่ยากขึ้น เขียนสื่อสาร โดยใช้ถ้อยคำถูกต้อง ชัดเจนเหมาะสมและสละสลวย เขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสาระจากสื่อที่ได้รับ เขียนจดหมายส่วนตัวและจดหมายกิจธุระ เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าและโครงงาน มีมารยาทในการเขียน พูดแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์เกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและดู พูดรายงานเรื่องหรือประเด็นที่ศึกษาค้นคว้าจาก การฟัง การดูและการสนทนา มีมารยาทในการฟัง การดูและการพูด วิเคราะห์ความแตกต่างของภาษาพูดและ ภาษาเขียน แต่งบทร้อยกรอง ประเภท กาพย์ยานี 11 ได้ถูกต้อง จำแนกและใช้สำนวนที่เป็นคำพังเพยและ สุภาษิต วิเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านพร้อมยกเหตุผลประกอบ สรุปความรู้และข้อคิดจากการอ่าน เพื่อประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนดและบทร้อยกรองที่มีคุณค่าตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิด ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม ทักษะ สารสนเทศ สื่อ เทคโนโลยี ทักษะชีวิตและอาชีพ เพื่อให้เป็นผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์รักชาติศาสน์กษัตริย์ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน รักความเป็นไทยและมีจิตสาธารณะ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างมี ประสิทธิภาพ ภาคภูมิใจในภาษาไทยอันเป็นสมบัติของชาติและสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการ ดำรงชีวิต ตัดสินใจแก้ปัญหาให้เกิดประโยชน์ในชีวิต อันเป็นประโยชน์ ต่อสังคม ประเทศชาติบ้านเมืองต่อไป รหัสตัวชี้วัด ท 1.1 ม.1/4 ท 1.1 ม.1/5 ท 1.1 ม.1/6 ท 1.1 ม.1/7 ท 2.1 ม.1/2 ท 2.1 ม.1/6 ท 2.1 ม.1/7 ท 2.1 ม.1/8 ท 2.1 ม.1/9 ท 3.1 ม.1/3 ท 3.1 ม.1/5 ท 3.1 ม.1/6 ท 4.1 ม.1/4 ท 4.1 ม.1/5 ท 4.1 ม.1/6 ท 5.1 ม.1/2 ท 5.1 ม.1/4 ท 5.1 ม.1/5 รวมทั้งหมด 18 ตัวชี้วัด คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน รายวิชา ภาษาไทย 3 รหัสวิชา ท22101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่2 ภาคเรียนที่1 เวลา 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต


133 อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วที่เป็นบทบรรยายและบทพรรณนาและบทร้อยกรองประเภท กลอนบท ละคร กลอนเพลงยาวและกาพย์ห่อโคลงได้ถูกต้อง จับใจความสำคัญ สรุปความและอธิบายรายละเอียดจาก เรื่องที่อ่าน อธิบายแสดงความคิดเห็นและข้อโต้แย้งเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน วิเคราะห์และจำแนกข้อเท็จจริง ข้อมูล สนับสนุนและข้อคิดเห็นจากบทความที่อ่าน คัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัดตามรูปแบบการเขียนตัวอักษรไทย เขียนบรรยายและพรรณนา เขียนย่อความ มีมารยาทในการเขียน พูดสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่ฟังและดู วิเคราะห์ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็นและความน่าเชื่อถือของข่าวสารจากสื่อต่างๆ สร้างคำในภาษาไทย แต่งบทร้อย กรอง ประเภท กลอนสุภาพได้ถูกต้อง ใช้คำราชาศัพท์ได้ถูกต้อง สรุปเนื้อหาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านใน ระดับที่ยากขึ้น อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิด ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม ทักษะ สารสนเทศ สื่อ เทคโนโลยี ทักษะชีวิตและอาชีพ เพื่อให้เป็นผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์รักชาติศาสน์กษัตริย์ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน รักความเป็นไทยและมีจิตสาธารณะ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างมี ประสิทธิภาพ ภาคภูมิใจในภาษาไทยอันเป็นสมบัติของชาติและสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการ ดำรงชีวิต ตัดสินใจแก้ปัญหาให้เกิดประโยชน์ในชีวิต อันเป็นประโยชน์ ต่อสังคม ประเทศชาติบ้านเมืองต่อไป รหัสตัวชี้วัด ท 1.1 ม.2/1 ท 1.1 ม.2/2 ท 1.1 ม.2/4 ท 1.1 ม.2/5 ท 2.1 ม.2/1 ท 2.1 ม.2/2 ท 2.1 ม.2/4 ท 2.1 ม.2/8 ท 3.1 ม.2/1 ท 3.1 ม.2/2 ท 3.1 ม.2/6 ท 4.1 ม.2/1 ท 4.1 ม.2/3 ท 4.1 ม.2/4 ท 5.1 ม.2/1 ท 5.1 ม.2/3 รวมทั้งหมด 16 ตัวชี้วัด คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน รายวิชา ภาษาไทย 4 รหัสวิชา ท22102 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่2 ภาคเรียนที่2 เวลา 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต


134 เขียนผังความคิดเพื่อแสดงความเข้าใจในบทเรียนต่างๆที่อ่าน ระบุข้อสังเกต การชวนเชื่อ การโน้ม น้าวหรือความสมเหตุสมผลของงานเขียน อ่านหนังสือ บทความหรือคำประพันธ์อย่างหลากหลายและประเมิน คุณค่าหรือแนวคิดที่ได้จากการอ่าน เพื่อนำไปใช้แก้ปัญหาในชีวิต มีมารยาทในการอ่าน เขียนเรียงความ เขียน รายงานการศึกษาค้นคว้า เขียนจดหมายกิจธุระ เขียนวิเคราะห์ วิจารณ์และแสดงความรู้ ความคิดเห็นหรือ โต้แย้งในเรื่องที่อ่านอย่างมีเหตุผล วิเคราะห์และวิจารณ์เรื่องที่ฟังและดูอย่างมีเหตุผล เพื่อนำข้อคิดมา ประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต พูดในโอกาสต่างๆได้ตรงตามวัตถุประสงค์ พูดรายงานเรื่องหรือประเด็นที่ศึกษา ค้นคว้าจากการฟัง การดูและการสนทนา วิเคราะห์โครงสร้างประโยคสามัญ ประโยครวมและประโยคซ้อน รวบรวมและอธิบายความหมายของคำภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทย วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดี วรรณกรรมและวรรณกรรมท้องถิ่นที่อ่าน พร้อมยกเหตุผลประกอบ สรุปความรู้และข้อคิดจากการอ่านไป ท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนดและบทร้อยกรองที่มีคุณค่าตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิด ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม ทักษะ สารสนเทศ สื่อ เทคโนโลยี ทักษะชีวิตและอาชีพ เพื่อให้เป็นผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์รักชาติศาสน์กษัตริย์ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน รักความเป็นไทยและมีจิตสาธารณะ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างมี ประสิทธิภาพ ภาคภูมิใจในภาษาไทยอันเป็นสมบัติของชาติและสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการ ดำรงชีวิต ตัดสินใจแก้ปัญหาให้เกิดประโยชน์ในชีวิต อันเป็นประโยชน์ ต่อสังคม ประเทศชาติบ้านเมืองต่อไป รหัสตัวชี้วัด ท 1.1 ม.2/3 ท 1.1 ม.2/6 ท 1.1 ม.2/7 ท 1.1 ม.2/8 ท 2.1 ม.2/3 ท 2.1 ม.2/5 ท 2.1 ม.2/6 ท 2.1 ม.2/7 ท 3.1 ม.2/3 ท 3.1 ม.2/4 ท 3.1 ม.2/5 ท 4.1 ม.2/2 ท 4.1 ม.2/5 ท 5.1 ม.2/2 ท 5.1 ม.2/4 ท 5.1 ม.2/5 รวมทั้งหมด 16 ตัวชี้วัด คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน รายวิชา ภาษาไทย 5 รหัสวิชา ท23101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่3 ภาคเรียนที่1 เวลา 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต


135 อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วที่เป็นบทความทั่วไปและบทความปกิณกะและบทร้อยกรอง ประเภท กลอน บทละคร กลอนเสภา กาพย์ยานี 11 กาพย์ฉบัง 16 และโคลงสี่สุภาพได้ถูกต้องและเหมาะสมกับเรื่องที่อ่าน อ่านเรื่องต่างๆแล้วเขียนกรอบแนวคิด ผังความคิด บันทึกย่อความและรายงาน วิเคราะห์ วิจารณ์และประเมิน เรื่องที่อ่านโดยใช้กลวิธีการเปรียบเทียบ เพื่อให้ผู้อ่านเข้าได้ดีขึ้น วิเคราะห์เพื่อแสดงความคิดเห็นโต้แย้ง เกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน มีมารยาทในการอ่าน คัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัดตามรูปแบบการเขียนตัวอักษรไทย เขียนข้อความโดยใช้ได้คำได้ถูกต้องตามระดับภาษา เขียนย่อความ เขียนจดหมายกิจธุระ เขียนรายงาน การศึกษาค้นคว้าและโครงงาน แสดงความคิดเห็นและประเมินเรื่องจากการฟังและการดู วิเคราะห์และวิจารณ์ เรื่องที่ฟังและดู เพื่อนำข้อคิดมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต มีมารยาทในการฟัง การดูและการพูด จำแนก และใช้คำภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทย ใช้คำทับศัพท์และศัพท์บัญญัติ แต่งบทร้อยกรองประเภท โคลงสี่ สภาพได้ถูกต้อง สรุปเนื้อหาวรรณคดี วรรณกรรมและวรรณกรรมท้องถิ่นในระดับที่ยากขึ้น วิเคราะห์วิถีไทย และคุณค่าจากวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิด ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม ทักษะ สารสนเทศ สื่อ เทคโนโลยี ทักษะชีวิตและอาชีพ เพื่อให้เป็นผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์รักชาติศาสน์กษัตริย์ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน รักความเป็นไทยและมีจิตสาธารณะ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างมี ประสิทธิภาพ ภาคภูมิใจในภาษาไทยอันเป็นสมบัติของชาติและสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการ ดำรงชีวิต ตัดสินใจแก้ปัญหาให้เกิดประโยชน์ในชีวิต อันเป็นประโยชน์ ต่อสังคม ประเทศชาติบ้านเมืองต่อไป รหัสตัวชี้วัด ท 1.1 ม.3/1 ท 1.1 ม.3/4 ท 1.1 ม.3/5 ท 1.1 ม.3/8 ท 1.1 ม.3/10 ท 2.1 ม.3/1 ท 2.1 ม.3/2 ท 2.1 ม.3/4 ท 2.1 ม.3/5 ท 2.1 ม.3/9 ท 2.1 ม.3/10 ท 3.1 ม.3/1 ท 3.1 ม.3/2 ท 3.1 ม.3/6 ท 4.1 ม.3/1 ท 4.1 ม.3/4 ท 4.1 ม.3/6 ท 5.1 ม.3/1 ท 5.1 ม.3/2 รวมทั้งหมด 19 ตัวชี้วัด คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน รายวิชา ภาษาไทย 6 รหัสวิชา ท23102 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่3 ภาคเรียนที่2 เวลา 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต


136 ระบุความแตกต่างของคำที่มีความหมายโดยตรงและความหมายโดยนัย ระบุใจความสำคัญและ รายละเอียดของข้อมูลที่สนับสนุนจากเรื่องที่อ่าน ประเมินความถูกต้องของข้อมูลที่ใช้สนับสนุนในเรื่องที่อ่าน วิจารณ์ความสมเหตุสมผล การลำดับความและความเป็นไปได้ของเรื่อง เขียนชีวประวัติหรืออัตชีวประวัติ โดย เล่าเหตุการณ์ข้อคิดเห็นและทัศนคติในเรื่องต่างๆ เขียนอธิบายชี้แจงแสดงความคิดเห็นและโต้แย้งอย่างมี เหตุผล เขียนวิเคราะห์ วิจารณ์และแสดงความรู้ ความคิดเห็นหรือโต้แย้งในเรื่องต่างๆ กรอกแบบสมัครงาน พร้อมเขียนบรรยายเกี่ยวกับความรู้และทักษะของตนเองที่เหมาะสมกับงาน มีมารยาทในการเขียน พูดรายงาน เรื่องหรือประเด็นที่ศึกษาค้นคว้าจากการฟัง การดูและการสนทนา พูดในโอกาสต่างๆ ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ พูดโน้มน้าว โดยนำเสนอหลักฐานตามลำดับเนื้อหาอย่างมีเหตุผลและน่าเชื่อถือ วิเคราะห์โครงสร้างประโยค ซับซ้อน วิเคราะห์ระดับภาษา อธิบายความหมายคำศัพท์ทางวิชาการและวิชาชีพ สรุปความรู้และข้อคิดจาก การอ่านเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ท่องจำและบอกคุณค่าบทอาขยานตามที่กำหนดและบทร้อยกรองที่มี คุณค่าตามความสนใจและนำไปใช้อ้างอิง โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิด ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม ทักษะ สารสนเทศ สื่อ เทคโนโลยี ทักษะชีวิตและอาชีพ เพื่อให้เป็นผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์รักชาติศาสน์กษัตริย์ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน รักความเป็นไทยและมีจิตสาธารณะ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างมี ประสิทธิภาพ ภาคภูมิใจในภาษาไทยอันเป็นสมบัติของชาติและสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการ ดำรงชีวิต ตัดสินใจแก้ปัญหาให้เกิดประโยชน์ในชีวิต อันเป็นประโยชน์ ต่อสังคม ประเทศชาติบ้านเมืองต่อไป รหัสตัวชี้วัด ท 1.1 ม.3/2 ท 1.1 ม.3/3 ท 1.1 ม.3/6 ท 1.1 ม.3/7 ท 1.1 ม.3/9 ท 2.1 ม.3/3 ท 2.1 ม.3/6 ท 2.1 ม.3/7 ท 2.1 ม.3/8 ท 2.1 ม.3/10 ท 3.1 ม.3/3 ท 3.1 ม.3/4 ท 3.1 ม.3/5 ท 4.1 ม.3/2 ท 4.1 ม.3/3 ท 4.1 ม.3/5 ท 5.1 ม.3/3 ท 5.1 ม.3/4 รวมทั้งหมด 18 ตัวชี้วัด คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม รายวิชา การอ่านการเขียน รหัสวิชา ท22201 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่2 ภาคเรียนที่1 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต


137 อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทบทร้อยกรองได้ถูกต้องและเหมาะสมกับเรื่องที่อ่าน จับใจความ สำคัญและอธิบายรายละเอียดจากเรื่องที่อ่าน สามารถเขียนผังความคิดเพื่อแสดงความเข้าใจในบทเรียนต่างๆ ที่อ่านตามที่กำหนดหรือสิ่งที่มีความสนใจได้อภิปรายแสดงความคิดเห็นและข้อโต้แย้งเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน สามารถวิเคราะห์และจำแนกข้อเท็จจริง ข้อมูลสนับสนุนและข้อคิดเห็นจากบทความที่อ่าน ระบุข้อสังเกต การ ชวนเชื่อ การโน้มน้าวใจหรือความสมเหตุผลของงานเขียนได้ถูกต้อง อ่านหนังสือ เขียนเรียงความได้ถูกต้อง อย่างมีความคิดสร้างสรรค์บทความหรือคำประพันธ์อย่างหลากหลายและประเมินคุณค่าหรือแนวคิดที่ได้จาก การอ่าน เพื่อนำไปใช้แก้ปัญหาในชีวิต เขียนข้อความโดยใช้ถ้อยคำได้ถูกต้องตามระดับภาษา สามารถเขียน ชีวประวัติหรืออัตชีวประวัติโดยเล่าเหตุการณ์ข้อคิดเห็นและทัศนคติในเรื่องต่างๆ เขียนย่อความได้ถูกต้อง เขียนจดหมายกิจธุระได้ถูกต้อง เขียนอธิบายชี้แจง แสดงความคิดเห็นและโต้แย้งอย่างมีเหตุผล โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิด ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม ทักษะ สารสนเทศ สื่อ เทคโนโลยี ทักษะชีวิตและอาชีพ เพื่อให้เป็นผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์รักชาติศาสน์กษัตริย์ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน รักความเป็นไทยและมีจิตสาธารณะ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างมี ประสิทธิภาพ ภาคภูมิใจในภาษาไทยอันเป็นสมบัติของชาติและสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการ ดำรงชีวิต ตัดสินใจแก้ปัญหาให้เกิดประโยชน์ในชีวิต อันเป็นประโยชน์ ต่อสังคม ประเทศชาติบ้านเมืองต่อไป ผลการเรียนรู้ 1. อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทบทร้อยกรองได้ถูกต้องและเหมาะสมกับเรื่องที่อ่าน 2. จับใจความสำคัญและอธิบายรายละเอียดจากเรื่องที่อ่านได้ถูกต้อง 3. เขียนผังความคิดเพื่อแสดงความเข้าใจในบทเรียนต่างๆที่อ่านได้ถูกต้อง 4. อภิปรายแสดงความคิดเห็นและข้อโต้แย้งเกี่ยวกับเรื่องที่อ่านได้ถูกต้อง 5. วิเคราะห์และจำแนกข้อเท็จจริง ข้อมูลสนับสนุนและข้อคิดเห็นจากบทความที่อ่านได้ถูกต้อง 6. ระบุข้อสังเกต การชวนเชื่อ การโน้มน้าวใจหรือความสมเหตุผลของงานเขียนได้ถูกต้อง 7. อ่านหนังสือ บทความหรือคำประพันธ์อย่างหลากหลายและประเมินคุณค่าหรือแนวคิดที่ได้จากการ อ่าน เพื่อนำไปใช้แก้ปัญหาในชีวิต 8. เขียนเรียงความได้ถูกต้อง 9. เขียนข้อความโดยใช้ถ้อยคำได้ถูกต้องตามระดับภาษา 10. เขียนชีวประวัติหรืออัตชีวประวัติโดยเล่าเหตุการณ์ข้อคิดเห็นและทัศนคติในเรื่องต่างๆได้ถูกต้อง 11. เขียนย่อความได้ถูกต้อง 12. เขียนอธิบายชี้แจง แสดงความคิดเห็นและโต้แย้งได้ถูกต้องและมีเหตุผล รวมทั้งหมด 12 ผลการเรียนรู้ คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม รายวิชา หลักภาษาไทย รหัสวิชา ท23202 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่3 ภาคเรียนที่2 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต อธิบายธรรมชาติของภาษา พลังและลักษณะของเสียงในภาษาไทยได้ถูกต้อง สร้างคำในภาษาไทย


138 ได้แก่ คำประสม คำซ้ำ คำซ้อนได้ถูกต้อง วิเคราะห์ชนิดและหน้าที่ของคำในประโยคได้ถูกต้อง วิเคราะห์ความ ต่างของภาษาพูดและภาษาเขียนได้ถูกต้อง แต่งบทร้อยกรองได้ถูกต้อง จำแนกและใช้สำนวนไทยที่เป็นคำ พังเพยและสุภาษิตได้ถูกต้อง วิเคราะห์โครงสร้างประโยคสามัญ ประโยครวมและประโยคซ้อนได้ถูกต้อง ใช้คำ ราชาศัพท์ คำทับศัพท์และศัพท์บัญญัติได้ถูกต้องและเหมาะสม จำแนกและใช้คำที่มาจากภาษาต่างประเทศที่ ใช้ในภาษาไทยได้ถูกต้อง วิเคราะห์โครงสร้างประโยคซับซ้อนได้ถูกต้อง อธิบายความหมายของคำศัพท์ทาง วิชาการและวิชาชีพได้ถูกต้อง นำความรู้ที่ได้จากการศึกษาหลักภาษาไทย นำไปใช้ได้อย่างถูกต้องแก่โอกาส กาลเทศะและบุคคลอย่างเหมาะสม โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิด ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม ทักษะ สารสนเทศ สื่อ เทคโนโลยี ทักษะชีวิตและอาชีพ เพื่อให้เป็นผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์รักชาติศาสน์กษัตริย์ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน รักความเป็นไทยและมีจิตสาธารณะ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างมี ประสิทธิภาพ ภาคภูมิใจในภาษาไทยอันเป็นสมบัติของชาติและสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการ ดำรงชีวิต ตัดสินใจแก้ปัญหาให้เกิดประโยชน์ในชีวิต อันเป็นประโยชน์ ต่อสังคม ประเทศชาติบ้านเมืองต่อไป ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายธรรมชาติของภาษา พลังและลักษณะของเสียงในภาษาไทยได้ถูกต้อง 2. สร้างคำในภาษาไทย ได้แก่ คำประสม คำซ้ำ คำซ้อนได้ถูกต้อง 3. วิเคราะห์ชนิดและหน้าที่ของคำในประโยคได้ถูกต้อง 4. วิเคราะห์ความต่างของภาษาพูดและภาษาเขียนได้ถูกต้อง 5. แต่งบทร้อยกรองได้ถูกต้อง 6. จำแนกและใช้สำนวนไทยที่เป็นคำพังเพยและสุภาษิตได้ถูกต้อง 7. วิเคราะห์โครงสร้างประโยคสามัญ ประโยครวมและประโยคซ้อนได้ถูกต้อง 8. ใช้คำราชาศัพท์ คำทับศัพท์และศัพท์บัญญัติได้ถูกต้องและเหมาะสม 9. จำแนกและใช้คำภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทยได้ถูกต้อง 10. วิเคราะห์โครงสร้างประโยคซับซ้อนได้ถูกต้อง 11. อธิบายความหมายของคำศัพท์ทางวิชาการและวิชาชีพได้ถูกต้อง 12. นำความรู้ที่ได้จากการศึกษาหลักภาษาไทย นำไปใช้ได้อย่างถูกต้องแก่โอกาส กาลเทศะและบุคคล อย่างเหมาะสม รวมทั้งหมด 12 ผลการเรียนรู้ โครงสร้างหลักสูตรระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น รายวิชาพื้นฐานและเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โครงสร้างหลักสูตร หลักสูตรสถานศึกษากลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ กำหนดกรอบโครงสร้างหลักสูตร ระดับชั้น มัธยมศึกษาตอนต้น ดังนี้


139 สาระการเรียนรู้พื้นฐาน ระดับชั้น รหัสวิชา รายวิชา เวลาเรียน (ชั่วโมง) หน่วยกิต หมายเหตุ ม.1 ค21101 คณิตศาสตร์ 1 3 1.5 ภาคเรียนที่ 1 ค21102 คณิตศาสตร์ 2 3 1.5 ภาคเรียนที่ 2 ม.2 ค22101 คณิตศาสตร์ 3 3 1.5 ภาคเรียนที่ 1 ค22102 คณิตศาสตร์ 4 3 1.5 ภาคเรียนที่ 2 ม.3 ค23101 คณิตศาสตร์ 5 3 1.5 ภาคเรียนที่ 1 ค23102 คณิตศาสตร์ 6 3 1.5 ภาคเรียนที่ 2 สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม กลุ่มห้องเรียนเน้นวิทยาศาสตร์ – คณิตศาสตร์ ระดับชั้น รหัสวิชา รายวิชา เวลาเรียน (ชั่วโมง) หน่วยกิต หมายเหตุ ม.1 - - - - - ค20201 เสริมทักษะคณิตศาสตร์ 1 2 1.0 ภาคเรียนที่ 2 ม.2 ค20202 เสริมทักษะคณิตศาสตร์ 2 2 1.0 ภาคเรียนที่ 1 ค20203 เสริมทักษะคณิตศาสตร์ 3 2 1.0 ภาคเรียนที่ 2 ม.3 ค20204 เสริมทักษะคณิตศาสตร์ 4 2 1.0 ภาคเรียนที่ 1 ค20205 เสริมทักษะคณิตศาสตร์ 5 2 1.0 ภาคเรียนที่ 2 สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม กลุ่มห้องเรียนทั่วไป ระดับชั้น รหัสวิชา รายวิชา เวลาเรียน (ชั่วโมง) หน่วยกิต หมายเหตุ ม.1 - - - - - - - - - - ม.2 - - - - - ค20201 เสริมทักษะคณิตศาสตร์ 1 2 1.0 ภาคเรียนที่ 1 ม.3 ค20202 เสริมทักษะคณิตศาสตร์ 2 2 1.0 ภาคเรียนที่ 2 - - - - - คำอธิบายรายวิชา รายวิชา คณิตศาสตร์ 1 รหัสวิชา ค21101 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 3 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต ศึกษา ฝึกทักษะการคิดคำนวณและฝึกทักษะการแก้ปัญหาในสาระต่อไปนี้


140 จำนวนตรรกยะ จำนวนเต็ม สมบัติของจำนวนเต็ม ทศนิยมและเศษส่วน จำนวนตรรกยะและสมบัติ ของจำนวนตรรกยะ เลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก การนำความรู้เกี่ยวกับจำนวนเต็มจำนวน ตรรกยะและเลขยกกำลังไปใช้ในการแก้ปัญหา การสร้างทางเรขาคณิต การสร้างพื้นฐานทางเรขาคณิต การสร้างรูปเรขาคณิตสองมิติโดยใช้การสร้าง พื้นฐานทางเรขาคณิต การนำความรู้เกี่ยวกับการสร้างพื้นฐานทางเรขาคณิตไปใช้ในชีวิตจริง มิติสัมพันธ์ของรูปเรขาคณิต หน้าตัดของรูปเรขาคณิตสามมิติ ภาพที่ได้จากการมองด้านหน้า ด้านข้าง ด้านบนของรูปเรขาคณิตสามมิติที่ประกอบขึ้นจากลูกบาศก์ โดยใช้ความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ในการแก้ปัญหาสถานการณ์ต่างๆได้อย่าง เหมาะสม รู้จักวิธีการที่หลากหลายในการแก้ปัญหา ใช้เหตุผลประกอบการตัดสินใจและสรุปผลได้อย่าง เหมาะสม ใช้ภาษาและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการสื่อสาร สื่อความหมายและนำเสนอได้อย่างถูกต้อง และชัดเจน สามารถเชื่อมโยงความรู้ หลักการ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ไปใช้ในการเรียนรู้สิ่งต่างๆและใช้ ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้ผู้เรียนเห็นคุณค่าและเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีความมุ่งมั่นในการ ทำงาน มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์แก้ปัญหาและนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ตัวชี้วัด ค 1.1 ม.1/1 ค 1.1 ม.1/2 ค 2.2 ม.1/1 ค 2.2 ม.1/2 รวมทั้งหมด 4 ตัวชี้วัด คำอธิบายรายวิชา รายวิชา คณิตศาสตร์ 2 รหัสวิชา ค21102 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ จำนวน 1.5 หน่วยกิต ศึกษา ฝึกทักษะการคิดคำนวณและฝึกทักษะการแก้ปัญหาในสาระต่อไปนี้ อัตราส่วน อัตราส่วนของจำนวนหลายๆ จำนวน สัดส่วน การนำความรู้เกี่ยวกับอัตราส่วน สัดส่วน และร้อยละไปใช้ในการแก้ปัญหา


141 สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว การแก้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว การนำ ความรู้เกี่ยวกับการแก้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวไปใช้ในชีวิตจริง สมการเชิงเส้นสองตัวแปร กราฟของความสัมพันธ์เชิงเส้น สมการเชิงเส้นสองตัวแปร การนำความรู้ เกี่ยวกับสมการเชิงเส้นสองตัวแปรและกราฟของความสัมพันธ์เชิงเส้นไปใช้ในชีวิตจริง สถิติ การตั้งคำถามทางสถิติ การเก็บรวบรวมข้อมูล การนำเสนอข้อมูล (แผนภูมิรูปภาพ แผนภูมิแท่ง กราฟเส้น แผนภูมิรูปวงกลม) การแปลความหมายข้อมูล การนำสถิติไปใช้ในชีวิตจริง โดยใช้ความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ในการแก้ปัญหาสถานการณ์ต่างๆได้อย่าง เหมาะสม รู้จักวิธีการที่หลากหลายในการแก้ปัญหา ใช้เหตุผลประกอบการตัดสินใจและสรุปผลได้อย่าง เหมาะสม ใช้ภาษาและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการสื่อสาร สื่อความหมายและนำเสนอได้อย่างถูกต้อง และชัดเจน สามารถเชื่อมโยงความรู้ หลักการ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ไปใช้ในการเรียนรู้สิ่งต่างๆและใช้ ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้ผู้เรียนเห็นคุณค่าและเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีความมุ่งมั่นในการ ทำงาน มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์แก้ปัญหาและนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ รหัสตัวชี้วัด ค 1.1 ม.1/3 ค 1.3 ม.1/1 ค 1.3 ม.1/2 ค 1.3 ม.1/3 ค 3.1 ม.1/1 รวมทั้งหมด 5 ตัวชี้วัด คำอธิบายรายวิชา รายวิชา คณิตศาสตร์ 3 รหัสวิชา ค22101 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ จำนวน 1.5 หน่วยกิต ศึกษา ฝึกทักษะการคิดคำนวณและฝึกทักษะการแก้ปัญหาในสาระต่อไปนี้ ทฤษฎีบทพีทาโกรัส ทฤษฎีบทพีทาโกรัสและบทกลับ การนำความรู้เกี่ยวกับทฤษฎีบทพีทาโกรัสและ บทกลับไปใช้ในชีวิตจริง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจำนวนจริง จำนวนอตรรกยะ จำนวนจริง รากที่สองและรากที่สามของ จำนวนตรรกยะ การนำความรู้เกี่ยวกับจำนวนจริงไปใช้


142 ปริซึมและทรงกระบอก การหาพื้นที่ผิวของปริซึมและทรงกระบอก การนำความรู้เกี่ยวกับพื้นที่ผิว ของปริซึมและทรงกระบอกไปใช้ในการแก้ปัญหา การแปลงทางเรขาคณิต การเลื่อนขนาน การสะท้อน การหมุน การนำความรู้เกี่ยวกับการแปลงทาง เรขาคณิตไปใช้ในการแก้ปัญหา สมบัติของเลขยกกำลัง เลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็ม การนำความรู้เกี่ยวกับเลขยกกำลัง ไปใช้ในการแก้ปัญหา พหุนาม พหุนาม การบวก การลบ และการคูณของพหุนาม การหารพหุนามด้วยเอกนามที่มีผลหาร เป็นพหุนาม โดยใช้ความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ในการแก้ปัญหาสถานการณ์ต่างๆได้อย่าง เหมาะสม รู้จักวิธีการที่หลากหลายในการแก้ปัญหา ใช้เหตุผลประกอบการตัดสินใจและสรุปผลได้อย่าง เหมาะสม ใช้ภาษาและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการสื่อสาร สื่อความหมายและนำเสนอได้อย่างถูกต้อง และชัดเจน สามารถเชื่อมโยงความรู้ หลักการ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ไปใช้ในการเรียนรู้สิ่งต่างๆและใช้ ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้ผู้เรียนเห็นคุณค่าและเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีความมุ่งมั่นในการ ทำงาน มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์แก้ปัญหาและนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ตัวชี้วัด ค 1.1 ม. 2/1 ค 1.1 ม. 2/2 ค 1.2 2/1 ค 2.1 ม. 2/1 ค 2.1 ม. 2/2 ค 2.2 ม. 2/3 ค 2.2 ม. 2/5 ค 2.2 ม. 2/5 รวมทั้งหมด 8 ตัวชี้วัด คำอธิบายรายวิชา รายวิชา คณิตศาสตร์4 รหัสวิชา ค22102 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ จำนวน 1.5 หน่วยกิต ศึกษา ฝึกทักษะการคิดคำนวณและฝึกทักษะการแก้ปัญหาในสาระต่อไปนี้ สถิติการนำเสนอและวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ แผนภาพจุด แผนภาพต้น – ใบ ฮิทโทแกรมและค่ากลาง ของข้อมูล การแปลความหมายผลลัพธ์ การนำสถิติไปใช้ในชีวิตจริง ความเท่ากันทุกประการ ความเท่ากันทุกประการของรูปสามเหลี่ยม การนำความรู้เกี่ยวกับความ เท่ากันทุกประการไปใช้ในการแก้ปัญหา เส้นขนาน สมบัติเกี่ยวกับเส้นขนานและรูปสามเหลี่ยม


Click to View FlipBook Version