The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

กถาพัฒนากร ปี 2562 Developer Matter ชื่อเสียง เกียรติคุณ การยอมรับ ความสำเร็จของกรมการพัฒนาชุมชน ล้วนเกิดจากตัวเรา พัฒนากร

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kmdivision.2564, 2021-06-25 15:36:55

กถาพัฒนากร เล่ม 3

กถาพัฒนากร ปี 2562 Developer Matter ชื่อเสียง เกียรติคุณ การยอมรับ ความสำเร็จของกรมการพัฒนาชุมชน ล้วนเกิดจากตัวเรา พัฒนากร

๓กถาวิธีกพาฒัรทนา�ำชงมุ าชนน

พัฒนากรตอ้ งออกไปทำ� งานกับคนหลายลักษณะหลายคุณภาพ
ตอ้ งไปทำ� งานในท้องท่ีซ่งึ สภาพแวดลอ้ มไม่เหมอื นกัน เปยี กบา้ งแห้งบ้าง
จงึ ตอ้ งใชไ้ หวพรบิ คอื ความรมู้ าใชใ้ หต้ รงกบั เหตกุ ารณแ์ ละสภาพแวดลอ้ ม

พฒั นากรตอ้ งรอบรู้จึงจะท�ำงานได้ส�ำเรจ็ ...

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธเิ บศร
มหาภมู พิ ลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

เน่ืองในวโรกาสทท่ี รงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ให้ขา้ ราชการและคณะนักศึกษาพัฒนากร
เข้าเฝ้า ณ ทป่ี ระทบั บริเวณศนู ย์พัฒนาชุมชนเขต 9 จังหวัดยะลา
เมื่อ 11 มีนาคม 2511

50 | กถา พฒั นากร

๓วธิ กี ารทำ� งานพฒั นากชมุ ถชาน
ในยคุ ทอี่ นิ เทอรเ์ นต็ แทรกซมึ เขา้ มาในชวี ติ ประจำ� วนั มากขน้ึ ทเ่ี รยี กวา่
อนิ เทอรเ์ นต็ ของสรรพสง่ิ (Internet of Things - IoT) มกี ารใชป้ ญั ญาประดษิ ฐ์
(Artificial Intelligent - AI) มากข้ึน บางอาชีพอาจตกงาน ในขณะเดียวกัน
อาจมอี าชีพใหมๆ่ เกิดขน้ึ เปน็ สังคมผสู้ งู อายุ สังคมดิจิทลั เกดิ ความต้องการ
ที่หลากหลายของคนแต่ละวยั มกี ารเปลยี่ นแปลงทรี่ วดเรว็ พฒั นากรยคุ 5G
จงึ ตอ้ งพรอ้ มตอ่ การเปลย่ี นแปลงเสมอ พฒั นาตนเองและปรบั ตวั ใหท้ นั เรยี นรู้
สง่ิ ใหมๆ่ อยา่ งมภี มู คิ มุ้ กนั โดยยงั คงทำ� งานกบั คน ใกลช้ ดิ ชมุ ชน ผา่ นผนู้ ำ� กลมุ่
องค์กร และเครือขา่ ยองค์กร สามารถท�ำงานไดท้ ุกท่ี ทกุ เวลา อยา่ งรวดเรว็
ครบถ้วน ถูกต้อง ประหยัดเวลา คุ้มค่า และมีประสิทธิภาพ โดยมีวิธีการ
ปฏิบัตงิ าน ดังน้ี

3.1 พัฒนากรกบั การวางแผนการทำ� งาน
3.2 พัฒนากรกับงานงบประมาณ
3.3 พฒั นากรกับงานข้อมูลและสารสนเทศ
3.4 พัฒนากรกับการรายงานผลการปฏบิ ัตงิ าน
3.5 พัฒนากรกับการประสานงาน
3.6 พัฒนากรกับงานช่วยการบริหารของพฒั นาการอ�ำเภอ
3.7 พัฒนากรกับงานทีไ่ ด้รบั มอบหมาย

กถา พฒั นากร | 51

๓.๑การวางแผพนกฒั านราทก�ำรงกาับน

ไมว่ ่าพฒั นากรจะทำ� อะไรกต็ าม พัฒนากรจะต้องมีแผน เพราะ
แผนเปน็ เคร่อื งมอื ในการทำ� งาน

ท่ีเปรียบเสมอื นลายแทงบอกทางสู่ขมุ ทรัพย์
ดงั นน้ั เพอื่ ใหง้ านบรรลเุ ปา้ หมายอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ พฒั นากรจงึ ตอ้ ง
มีแผนในการท�ำงาน
แผนการท�ำงานท่พี ัฒนากรจะตอ้ งจัดท�ำ คอื

1. แผนปฏิบตั งิ านประจ�ำปี
2. แผนปฏบิ ตั งิ านประจ�ำเดือน

แผนปฏิบัตงิ านประจำ� ปีของพฒั นากร คืออะไร

แผนปฏิบัติงานประจ�ำปีของพัฒนากร คือ แผนที่พัฒนากรก�ำหนด
เป้าหมายการท�ำงานว่า ภายในหนึ่งปีพัฒนากรจะสร้างสรรค์งานพัฒนา
ชุมชน โครงการ/กิจกรรมพัฒนาชุมชนอะไรบา้ ง ให้เกดิ ขึน้ ในหมบู่ า้ นตำ� บล
ทรี่ บั ผดิ ชอบ โดยกำ� หนดงานหรอื กจิ กรรมกวา้ งๆ วา่ ในแตล่ ะเดอื นจะทำ� อะไร
เช่น จัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต พัฒนาหมู่บ้านให้เป็นหมู่บ้าน
เศรษฐกจิ พอเพยี ง การพฒั นาสนิ ค้า OTOP เป็นตน้

52 | กถา พฒั นากร

ขนั้ ตอนในการจัดทำ� แผนปฏิบัติงานประจำ� ปี
1 ศึกษาขอ้ มูล ประกอบดว้ ย
ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ

แผนการปฏริ ปู ประเทศ และนโยบายรฐั บาล
นโยบาย แผนปฏิบัติราชการ และเป้าหมายของ

กรมการพฒั นาชุมชน แผนพฒั นาจังหวัดและอำ� เภอ
แผนปฏิบัติราชการของกรมการพัฒนาชุมชนประจ�ำปี เช่น

การประชุมผู้น�ำ อช. รายไตรมาส ช่วงเวลาการจัดสรรงบประมาณ
ตามแผนปฏบิ ัตริ าชการกรมฯ เป็นตน้

แผนพัฒนาต�ำบล แผนชุมชน แผนพัฒนาหมบู่ า้ น
ข้อมูลหมู่บ้านต�ำบลที่รับผิดชอบ ปัญหาความต้องการ
ของประชาชน การจดั ทำ� กจิ กรรมการผลติ (ปฏทิ นิ ฤดกู าล) ของครวั เรอื น/
ชมุ ชนในรอบปี
2 กำ� หนดเปา้ หมายทต่ี อ้ งการบรรลใุ หช้ ดั เจน วดั ได้ และสอดคลอ้ ง
กับเป้าหมายของทีม และจดั ลำ� ดับความสำ� คญั ของเปา้ หมาย
3 ก�ำหนดขั้นตอน หรืองาน/กิจกรรม ท่ีจะท�ำให้เป้าหมายแต่ละ
เป้าหมายบรรลุ
4 ก�ำหนดวันท่ีปฏิบัติ วันที่แล้วเสร็จ และสถานท่ีด�ำเนินการ
ใหเ้ หมาะสม
5 กรอกข้อมูลในแบบฟอร์มแผนปฏิบัตงิ านประจำ� ปี
6 เสนอพฒั นาการอำ� เภอใหค้ วามเหน็ ชอบทกุ ตน้ ปกี ารปฏบิ ตั งิ าน
(ภายในเดอื นตุลาคม)

กถา พัฒนากร | 53

แผนปฏิบัติงานประจำ� เดือนของพฒั นากร คอื อะไร

แผนปฏบิ ตั งิ านประจำ� เดอื นของพฒั นากร คอื แผนทพี่ ฒั นากรกำ� หนด
กจิ กรรมปฏบิ ตั ิต่างๆ ในแต่ละเดือนว่า จะทำ� อะไร เพอ่ื อะไร ท่ไี หน เมือ่ ใด
ในหมบู่ า้ นตำ� บลทรี่ ับผดิ ชอบ โดยตอ้ งสอดคล้องกับแผนปฏิบัติงานประจำ� ปี
โดยพิจารณาว่าส่ิงไหนต้องท�ำเป็นอันดับแรก และสิ่งไหนต้องท�ำเป็นล�ำดับ
ตอ่ ไป

ข้ันตอนในการจดั ท�ำแผนปฏิบัติงานประจำ� เดือน
1 ศกึ ษาแผนปฏิบัติงานประจ�ำปขี องพัฒนากร
2 ศกึ ษาขอ้ มูล ประกอบด้วย
ขอ้ มูลเกย่ี วกับงานเร่งด่วนที่ไดร้ ับนโยบายจากจงั หวัดและ

อำ� เภอ
ขอ้ มลู หมบู่ ้านตำ� บลท่ีรับผิดชอบ
ข้อมูลเก่ียวกับแผนปฏิบัติงานของเพื่อนร่วมงานและ

ผู้เก่ียวขอ้ ง
3 กำ� หนดงาน/กจิ กรรมทจ่ี ะปฏบิ ตั ิ โดยบรู ณาการเปา้ หมาย งาน/

กจิ กรรม ตามแผนปฏิบตั งิ านประจำ� ปแี ละงานเร่งดว่ น
4 จดั ลำ� ดบั ความส�ำคัญของงาน/กิจกรรม
5 ก�ำหนดวัน เวลา สถานท่ีให้เหมาะสม
6 กรอกขอ้ มลู ในแบบฟอร์มแผนปฏบิ ัตงิ านประจ�ำเดือน
7 เสนอพัฒนาการอ�ำเภอใหค้ วามเห็นชอบทกุ วนั ตน้ เดือน

54 | กถา พฒั นากร

๓.๒กับงานงบพปฒัระนมาากณร

งานงบประมาณทีพ่ ัฒนากรมสี ว่ นเก่ียวขอ้ งทสี่ �ำคญั ได้แก่ การจัดซ้อื
จดั จา้ งโครงการ/กจิ กรรมตามยทุ ธศาสตรก์ รมการพฒั นาชมุ ชน งบประมาณ
ตามแผนพฒั นาจังหวดั ทไี่ ด้รับมอบหมาย

พัฒนากรทำ� อะไรบ้าง

1 ศึกษาระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐ
พ.ศ. 2560 แนวทางการเบิกจา่ ยงบประมาณของกรมการพฒั นาชมุ ชน

2 ศึกษารายละเอียดโครงการ/กิจกรรมที่จะด�ำเนินการ
วงเงนิ งบประมาณ

3 กำ� หนดแผนปฏบิ ตั กิ าร กำ� หนดสถานท่ี วนั ดำ� เนนิ การ (ควรกำ� หนด
วันท่ีเพื่อน�ำไปปฏิบัติได้จริงและง่ายต่อการควบคุมงาน) ให้สอดคล้องกับ
ระยะเวลาท่กี ำ� หนด

4 ภารกิจที่พฒั นากรได้รบั มอบหมาย
4.1 พฒั นากร 1 คน จะถกู แตง่ ตง้ั เปน็ เจา้ หนา้ ทรี่ บั ผดิ ชอบงานพสั ดุ

และพัฒนาการอำ� เภอ เปน็ หัวหนา้ เจ้าหน้าทด่ี �ำเนินการจัดซ้ือจัดจ้าง
4.2 พฒั นากรอาจเปน็ ผรู้ บั ผดิ ชอบตำ� บล หรอื ผรู้ บั ผดิ ชอบงาน หรอื

แบ่งความรับผดิ ชอบเป็นทมี ขน้ึ อยกู่ บั ความยากง่ายของงาน เพอ่ื ขบั เคลือ่ น
งานตามโครงการจนแล้วเสร็จ และเก็บรวบรวมหลักฐานให้เจ้าหน้าที่
ตรวจสอบและน�ำสง่ /เบิกจ่ายจากจังหวัดตอ่ ไป

กถา พฒั นากร | 55

5 การเบกิ จ่ายเงินงบประมาณ เงนิ งบประมาณจะมี 2 ลกั ษณะคอื
5.1 ท�ำเร่ืองขอยืมเงินจากจังหวัดเพ่ือเป็นค่าใช้จ่ายตามโครงการ

เป็นค่าใช้จ่ายประเภทค่าอาหาร ค่าอาหารพร้อมเครื่องดื่ม ค่าพาหนะ
คา่ ท่ีพัก คา่ ตอบแทนวิทยากร คา่ ใชส้ อย เปน็ ตน้

5.2 ด�ำเนินการแล้วเสรจ็ มีการสง่ มอบงาน ตรวจรับงานเรยี บร้อย
เจา้ หนา้ ท่ี จงึ ดำ� เนนิ การเบกิ จา่ ยใหผ้ ขู้ ายหรอื ผรู้ บั จา้ ง เชน่ การซอ้ื วสั ดอุ บรม
วัสดสุ าธติ การจา้ งเหมายานพาหนะ

พฒั นากรผรู้ บั ผดิ ชอบการตรวจรบั พสั ดจุ ะตอ้ งดคู วามถกู ตอ้ งครบถว้ น
ของเน้ืองานตามรายการโครงการ ก่อนท่ีจะลงนามในเอกสารการตรวจรับ
ทง้ั นีก้ ารดำ� เนนิ งานโครงการตอ้ งเปน็ ไปตามระเบียบของทางราชการ

6 ตดิ ตามประเมินผลการด�ำเนินงาน
7 สรุป ถอดบทเรียน รายงานผล

56 | กถา พฒั นากร

๓.๓งานข้อมูลแลพะสฒั านราสกนรเทกบัศ

งานข้อมูลและสารสนเทศท่ีพัฒนากรมีส่วนเกี่ยวข้องที่สำ� คัญ ได้แก่
ข้อมูลความจ�ำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ข้อมูลพ้ืนฐานระดับหมู่บ้าน (กชช. 2ค)
และข้อมูลการดำ� เนนิ งานพัฒนาชุมชนในระบบศนู ยข์ ้อมลู กลาง

พัฒนากรทำ� อะไรบา้ ง

พัฒนากรประสานการจดั เกบ็ ขอ้ มูล จปฐ.
1 ประสานการจดั เกบ็ ขอ้ มลู จปฐ. ประสานขอรายชอื่ ผจู้ ดั เกบ็ ขอ้ มลู
จปฐ. และผบู้ นั ทึกขอ้ มลู ตามจ�ำนวนทีส่ �ำนกั งานพฒั นาชมุ ชนอ�ำเภอก�ำหนด
เพื่อใหส้ ำ� นกั งานพัฒนาชุมชนอำ� เภอจัดท�ำคำ� สงั่ แต่งตัง้ ผู้จดั เก็บขอ้ มูล จปฐ.
ระดับอำ� เภอ
2 ประชุมชี้แจงกระบวนการขั้นตอนการจัดเก็บข้อมูล จปฐ. ระดับ
อ�ำเภอ แก่ ผจู้ ัดเก็บข้อมลู คณะทำ� งานบรหิ ารการจดั เกบ็ ขอ้ มลู จปฐ. ระดับ
ต�ำบล และองคก์ รปกครองสว่ นท้องถิ่น
3 สง่ มอบแบบสอบถาม จปฐ. แก่ผจู้ ัดเก็บขอ้ มลู จปฐ.
4 ตดิ ตามการจดั เก็บข้อมลู จปฐ. และประสานกับสำ� นักงานพฒั นา
ชุมชนจังหวดั กรณที ่ีมขี อ้ ขดั ขอ้ งในการจัดเก็บข้อมูล
5 รวบรวมแบบสอบถามการจัดเกบ็ ข้อมลู จปฐ. เพื่อรว่ มตรวจสอบ
ความถกู ต้องของข้อมลู รว่ มกบั ผู้จดั เกบ็

กถา พฒั นากร | 57

6 สง่ มอบแบบสอบถาม ใหก้ ับผู้บนั ทึกข้อมลู เพอ่ื ดำ� เนนิ การบนั ทกึ
7 ตรวจสอบผลการบันทกึ ข้อมลู หากมกี รณีตอ้ งแก้ไขๆ ให้ถูกตอ้ ง
8 จดั เวทเี พือ่ รบั รองความถกู ต้องของขอ้ มูลระดับตำ� บล
9 ส่งผลการจัดเก็บข้อมูล จปฐ.ระดับต�ำบล ให้ส�ำนักงานพัฒนา
ชมุ ชนอ�ำเภอ
10 สง่ หลกั ฐานเพ่อื ดำ� เนนิ การเบิกคา่ จดั เกบ็ และค่าบันทกึ ข้อมลู
พฒั นากรประสานการจัดเก็บข้อมูล กชช. 2ค
1 ประสานการจัดเกบ็ ข้อมูล กชช. 2ค และขอรายช่ือผู้บันทกึ ข้อมลู
2 ประชุมช้ีแจงกระบวนการ ขั้นตอนการจัดเก็บ กชช. 2ค
แก่คณะท�ำงานบริหารการจัดเก็บขอ้ มลู กชช. 2ค ระดบั ต�ำบล
3 นัดหมายเจ้าหน้าที่ท่ีเกี่ยวข้องเพ่ือให้ข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ
งานในความรับผดิ ชอบ ในข้นั ตอนการจดั เกบ็ ขอ้ มลู กชช. 2ค
4 ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของขอ้ มลู กอ่ นสง่ มอบใหแ้ กผ่ บู้ นั ทกึ ขอ้ มลู
5 ตรวจสอบผลการบันทกึ ข้อมูล หากมีกรณีตอ้ งแกไ้ ขๆ ให้ถูกตอ้ ง
6 จัดเวทีเพื่อรองรับความถูกตอ้ งของข้อมูลระดบั ต�ำบล
7 สง่ ผลการจดั เกบ็ ขอ้ มลู กชช. 2ค ระดบั ต�ำบล ให้สำ� นกั งานพัฒนา
ชุมชนอ�ำเภอ
8 ส่งหลกั ฐานเพอื่ ด�ำเนินการเบิกจ่ายคา่ บนั ทึกขอ้ มลู

58 | กถา พฒั นากร

พัฒนากรกบั การวเิ คราะหข์ อ้ มูล
การวิเคราะห์ขอ้ มลู ด้วย CIA
CIA: Community Information Radar Analysis Diagram
เป็นเครอ่ื งมอื ท่ใี ชใ้ นการวเิ คราะห์ข้อมูลทจี่ ดั เกบ็ ไดท้ ัง้ หมดของชมุ ชน ได้แก่
ขอ้ มลู ความจำ� เปน็ พน้ื ฐาน (จปฐ.) ขอ้ มลู พนื้ ฐานระดบั หมบู่ า้ น (กชช. 2ค) และ
ข้อมลู อื่นๆ ในชุมชน

เพื่อจดั ท�ำสารสนเทศเพ่ือการพัฒนาคณุ ภาพชีวติ 5 ด้าน ได้แก่
1 สารสนเทศเพอ่ื การพัฒนาอาชีพ
2 สารสนเทศเพือ่ การจดั การทนุ ชุมชน
3 สารสนเทศเพ่ือจัดการความเสี่ยงชมุ ชน
4 สารสนเทศเพื่อแกป้ ญั หาความยากจน
5 สารสนเทศเพือ่ บรหิ ารจัดการชมุ ชน

วธิ ีการวเิ คราะหด์ ้วย CIA เรม่ิ ด้วยการ เปดิ โปรแกรม CIA

1 คลิกเลอื ก Community Data
แล้วคีย์ข้อมูลชุมชน 3 ส่วน คือ ข้อมูล จปฐ. (เฉพาะค่าร้อยละ
ท่ีไม่ผา่ นเกณฑ)์ ขอ้ มลู กชช. 2ค (เฉพาะค่าคะแนนระดบั ปญั หา) และข้อมลู
ชมุ ชนอนื่ ๆ (เฉพาะระดบั ปญั หา 1 มาก 2 ปานกลาง 3 นอ้ ย ตามการวเิ คราะห์
5 ด้าน) โดยใส่คา่ คะแนนตามเกณฑข์ ้อมลู ชุมชนทคี่ มู่ ือกำ� หนด

กถา พัฒนากร | 59

2 คลกิ เลอื ก Radar Diagram
โปรแกรมจะแสดงผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ชมุ ชน (จากขอ้ 1) ออกมาเปน็
ผังเรดาร์ บ่งชี้ปัญหาและประเด็นของการพัฒนาคุณภาพชีวิตแต่ละด้าน
แตกตา่ งกนั ตามสภาพของแตล่ ะหมบู่ ้าน

Community Radar Diagram
ผลการวเิ คราะหส์ ภาพปญั หาคณุ ภาพชีวิต

การพฒั นาด้านอาชีพ 3
3.0 2.88
3
2.5
การบริหาร 2.0 การจัดการ
จดั การชมุ ชน 1.5 ทนุ ชมุ ชน
1.0
3 0.5 3
2.86 2.64
3 0 2.75

การแก้ปญั หา การจดั การ
ความยากจน ความเสี่ยงชมุ ชน 3
3
2.89 2.75
3 3

ขอ้ มลู จปฐ. ข้อมลู กชช 2ค ขอ้ มลู อนื่ ๆ

60 | กถา พฒั นากร

3 คลกิ เลือก Community Radar Analysis
โปรแกรมจะแสดงผลการวเิ คราะห์ (จากขอ้ 2) เปน็ ผงั เรดารภ์ าพรวม
ทส่ี รปุ ผลการวเิ คราะห์เปน็ สารสนเทศเพอ่ื การพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ 5ดา้ นนำ� ไปใช้
ประโยชน์ เพือ่ การวางแผนพัฒนาคุณภาพชีวติ ชมุ ชนในดา้ นต่างๆ ตอ่ ไป

Community Radar Analysis
ผลการวเิ คราะห์ระดับคุณภาพชีวิต

การบรหิ าร การพฒั นาด้านอาชพี การจดั การ
จดั การชุมชน 3.0 ทุนชุมชน

2.5
2.0
1.5
1.0
0.5

0

การแก้ปญั หา การจัดการ
ความยากจน ความเสี่ยงชุมชน

CIA เป็นเครื่องมือในการประมวลผลข้อมูลในการจัดเก็บข้อมูลต่างๆ
แบบง่าย ในการก�ำหนดทิศทางการพัฒนาได้ตรงสภาพ และความต้องการ
ของชมุ ชน ทพ่ี ฒั นากรสามารถใชเ้ ปน็ เครอ่ื งมอื ในการวเิ คราะหจ์ ดั ทำ� แผนพฒั นา
บรู ณาการเชิงพื้นทีร่ ะดบั ตำ� บล และแผนพัฒนาอำ� เภอ

กถา พัฒนากร | 61

พฒั นากรกบั การใชส้ ารสนเทศ
หมบู่ า้ นสารสนเทศเพอ่ื การพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ และ สารสนเทศตำ� บล
ต้นแบบเพอื่ การพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ
เมอ่ื พฒั นากรจดั เกบ็ ขอ้ มลู วเิ คราะหข์ อ้ มลู ดว้ ยวธิ แี ละโปรแกรมตา่ งๆ
แลว้ ไดส้ ารสนเทศเพอื่ การพัฒนาของแต่ละหม่บู า้ น การดำ� เนินงานหม่บู ้าน
สารสนเทศเพือ่ การพัฒนาคณุ ภาพชวี ิตจะตามมา
กรมการพฒั นาชมุ ชนกำ� หนดใหท้ กุ อำ� เภอบรู ณาการดำ� เนนิ งานกบั หมบู่ า้ น
เศรษฐกจิ พอเพยี ง และสำ� นกั งานพฒั นาชมุ ชนจงั หวดั สนบั สนนุ การขบั เคลอื่ น
การดำ� เนนิ งานฯ และคดั เลอื กเปน็ ตวั แทนหมบู่ า้ นสารสนเทศเพอื่ การพฒั นา
คุณภาพชวี ติ ระดับจงั หวัด
ส�ำหรับการด�ำเนินงานสารสนเทศต�ำบลต้นแบบเพื่อการพัฒนา
คุณภาพชีวิต มสี �ำนกั งานพฒั นาชุมชนจังหวดั สำ� นักงานพัฒนาชมุ ชนอำ� เภอ
รว่ มกบั องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ คดั เลอื กตำ� บลเพอ่ื ดำ� เนนิ การสารสนเทศ
ตำ� บลตน้ แบบเพอื่ การพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ตามแนวทางทก่ี รมการพฒั นาชมุ ชน
ก�ำหนด

62 | กถา พฒั นากร

การบนั ทึกข้อมูลในระบบศูนยข์ อ้ มลู กลางฯ
พัฒนากร มีหน้าท่ีในการจัดเก็บและบันทึกข้อมูลผลการด�ำเนินงาน
พัฒนาชุมชนตามประเด็นยุทธศาสตร์ และผลการด�ำเนินงานตามนโยบาย
รัฐบาล จ�ำนวน 11 ฐานขอ้ มูล ตามรอบรายงานทกี่ รมฯ ก�ำหนดไดแ้ ก่
1 การด�ำเนนิ งานพฒั นาผ้นู ำ� อาสาพัฒนาชุมชน
2 การด�ำเนินงานตามระบบมาตรฐานการพัฒนาชุมชน
3 การดำ� เนินงานผนู้ ำ�
4 ผลการประเมินผ้นู ำ� อช.
5 การดำ� เนนิ งานกลุม่ องค์กร เครอื ขา่ ยและชมุ ชน
6 การด�ำเนินงานกลมุ่ ออมทรพั ย์เพ่ือการผลิต
7 การด�ำเนินงานโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน
8 ข้อมลู ศูนย์จัดการเงนิ ทุนชุมชน
9 การด�ำเนนิ งานเครอื ขา่ ยกองทุนชุมชน
10 ยอดจำ� หน่ายสนิ คา้ OTOP ประจ�ำเดอื น
11 ผลการตรวจสุขภาพกองทนุ แม่ของแผน่ ดิน
ระบบบันทึกออนไลน์ของศูนย์ข้อมลู กลางเพ่อื การบรหิ ารจดั เกบ็ และ
ใชป้ ระโยชน์ http://logi.cdd.go.th/cddcenter/

กถา พฒั นากร | 63

๓.๔พฒั นากผรลกกบั ากรปารฏรบิ าัตยงิงาานน

การรายงานผลการปฏบิ ตั งิ าน เปน็ สว่ นหนงึ่ ของกระบวนการตดิ ตามผล
ในงานพัฒนาชุมชน โดยก�ำหนดให้เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนรายงาน
ส่ิงท่ีตนได้ปฏิบัติให้ผู้เก่ียวข้องทราบว่าผลการปฏิบัติงานไปถึงข้ันใดแล้ว
มีปัญหาอุปสรรคอย่างใดหรือไม่

การรายงานผลการปฏบิ ตั งิ านในหนา้ ทข่ี องพฒั นากร อาจจำ� แนกเปน็
2 ลักษณะ คอื

1 การรายงานผลการปฏบิ ตั งิ านตามแบบปกติ
2 การรายงานผลการพัฒนาหมบู่ ้านประจำ� ปี

การรายงานผลการปฏิบตั งิ านตามแบบปกติ

การรายงานผลการปฏิบัติงานตามแบบปกติ หมายถึงการรายงาน
ผลการปฏิบัติงานที่พัฒนากรต้องจัดท�ำเป็นประจ�ำตามแบบรายงานของ
กรมการพฒั นาชุมชน ตามบทบาทหนา้ ทข่ี องพัฒนากร มดี งั ต่อไปน้ี

1 บนั ทึกการปฏบิ ตั ิงานประจ�ำวันของพัฒนากร
2 รายงานการปฏบิ ตั งิ านของพัฒนากรประจ�ำเดือน
3 การรายงานตามแบบสมดุ เยย่ี มและตรวจงานของผบู้ งั คบั บญั ชา(พช.6)
4 การรายงานผลการปฏิบตั ิงานตามคำ� รบั รองการปฏิบัตริ าชการ
5 การรายงานตามนโยบายรัฐบาล/กระทรวงมหาดไทย/
กรมการพฒั นาชมุ ชน เชน่ การสง่ เสรมิ ผลติ ภณั ฑช์ มุ ชนและทอ้ งถนิ่ การแกป้ ญั หา
ยาเสพตดิ ปฏบิ ัติการแก้จนแบบเข้าถงึ ทุกครัวเรอื น การสง่ เสริมปรชั ญาของ
เศรษฐกจิ พอเพียงให้เปน็ รากฐานชวี ิตของประชาชนในหมู่บา้ น เปน็ ต้น

64 | กถา พฒั นากร

สาระส�ำคญั ของแบบรายงานต่างๆ

1. บันทกึ การปฏบิ ัตงิ านประจ�ำวนั ของพัฒนากร
เป็นสมุดบันทึกรายการปฏิบัติงานประจ�ำวัน ท่ีพัฒนากรจัดท�ำไว้
ในแตล่ ะวนั วา่ มเี หตกุ ารณป์ ระจำ� วนั และผลงานทไ่ี ดป้ ฏบิ ตั อิ ะไรบา้ ง มปี ระโยชน์
ในการช่วยจ�ำส�ำหรับเป็นข้อมูลรายงานผลการปฏิบัติงานประจ�ำเดือน
นอกจากนจ้ี ะเปน็ ประโยชนใ์ นการขอเบกิ คา่ ใชจ้ า่ ยในการเดนิ ทางไปราชการ
ในพน้ื ที่
สมุดบันทึกนี้ เป็นสมุดประจ�ำตัวพัฒนากร เก็บไว้กับพัฒนากร
พร้อมท่ีจะให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบได้ ในกรณีท่ีพัฒนากรรับผิดชอบ
มากกว่า 1 ต�ำบล ให้มีสมุดบันทกึ การปฏบิ ัติงาน ตำ� บลละ 1 เล่ม

2. รายงานการปฏิบัติงานของพฒั นากรประจำ� เดอื น
เปน็ แบบรายงานผลงานทไ่ี ดป้ ฏบิ ตั ใิ นรอบเดอื นของตำ� บลทร่ี บั ผดิ ชอบ
ซึ่งพัฒนากรจะต้องจัดท�ำเสนอต่อพัฒนาการอ�ำเภอทุกต้นเดือน เพ่ือสรุป
รายงานจังหวดั ต่อไป
เนื้อหาสาระของรายงานนี้ ประกอบด้วยแผนงาน/กิจกรรม
ทไ่ี ดป้ ฏบิ ตั ิ สถานทป่ี ฏบิ ตั ิ จำ� นวนวนั ทป่ี ฏบิ ตั ิ ปญั หาอปุ สรรค และวธิ กี ารแกไ้ ข
3. การรายงานตามแบบสมดุ เย่ยี ม
และตรวจงานของผ้บู งั คับบญั ชา (พช. 6)
เปน็ สมดุ ทจี่ ดั ไวส้ ำ� หรบั ผบู้ งั คบั บญั ชาทไี่ ปตรวจเยยี่ มบนั ทกึ ขอ้ คดิ เหน็
หรือส่ังการและก�ำหนดให้นักวิชาการพัฒนาชุมชนท่ีไปติดตามผลงาน
หรือให้ความรู้ทางด้านวิชาการในพ้ืนที่ต้องบันทึกผลการติดตาม ค�ำแนะน�ำ
หรอื ข้อคดิ เห็น หรือสงั่ การในแบบ พช. 6 ทกุ ครงั้

กถา พฒั นากร | 65

เม่ือมีผู้บันทึกสั่งการหรือให้ค�ำแนะน�ำไว้ใน พช. 6 พัฒนากรจะต้อง
ด�ำเนินการตามท่ีส่ังการหรือค�ำแนะน�ำท่ีให้ไว้ โดยบันทึกผลการปฏิบัติ
ลงในช่อง “ไดป้ ฏบิ ตั ิแล้วอย่างไร”

เมอ่ื ผลการปฏิบัติตามขอ้ คิดเห็น ขอ้ สั่งการ ได้ดำ� เนนิ การแลว้ อย่างไร
ให้พัฒนากรน�ำเสนอพัฒนาการอ�ำเภอเพ่ือน�ำเสนอให้นายอ�ำเภอทราบ
หรอื สง่ั การ แลว้ สำ� เนาสง่ ใหจ้ งั หวดั จำ� นวน 2 ชดุ เพอื่ ใชเ้ ปน็ ขอ้ มลู ในการตดิ ตาม
งานและรายงาน พช. 6 ประจำ� เดือน ของจงั หวดั ต่อไป

การเกบ็ รักษา พช. 6 ให้เกบ็ ไวท้ อ่ี ำ� เภอ หากมีการโยกยา้ ยสับเปลย่ี น
พฒั นากรให้ส่งมอบ พช. 6 ให้กับพฒั นากรคนใหมร่ ับผดิ ชอบ ในกรณียังไมม่ ี
ผรู้ บั ผดิ ชอบ ใหส้ ง่ มอบกบั พฒั นาการอำ� เภอ เพอ่ื มอบกบั พฒั นากรผรู้ บั ผดิ ชอบ
ตำ� บลคนใหมต่ อ่ ไป

4. การรายงานผลการปฏิบัตงิ านตามคำ� รับรองปฏบิ ัตริ าชการ
เปน็ แบบรายงานผลงานทไี่ ดป้ ฏบิ ตั ติ ามเปา้ หมายของตวั ชว้ี ดั คำ� รบั รอง
ปฏิบัติราชการ ซ่ึงพัฒนากรเกี่ยวข้องกับการรายงานผลการปฏิบัติงาน
ตามค�ำรบั รองการปฏิบัตริ าชการ 2 ระดับ คอื
1 การปฏิบัติงานตามค�ำรับรองการปฏิบัติราชการของ
กรมการพฒั นาชมุ ชน
2 การปฏบิ ัติงานตามคำ� รับรองการปฏบิ ัติราชการของจังหวัด
แบบรายงาน (KPI T emplate) ประกอบดว้ ยเปา้ หมายผลการดำ� เนนิ งาน
(ผลผลิตที่เกิดข้ึน) กิจกรรม/โครงการหรือปัจจัยที่สนับสนุนการด�ำเนินงาน
ปัญหาอปุ สรรค

66 | กถา พฒั นากร

นอกจากน้ี พัฒนากรจะต้องจัดท�ำหลักฐานเชิงประจักษ์ท่ีได้ด�ำเนิน
กิจกรรม/โครงการเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เช่น บันทึกการประชุม ทะเบียน
รายชอ่ื ผเู้ ขา้ รบั การฝกึ อบรม ภาพถา่ ย คำ� สง่ั รายงานผลการประเมนิ เปน็ ตน้
โดยรวบรวมส่งแบบรายงาน (KPI Template) และหลักฐานเชิงประจักษ์
ให้จังหวัดตามระยะเวลาที่ก�ำหนด ประมาณปีละ 3 คร้ัง (ส้ินเดือนมีนาคม
มถิ นุ ายน กนั ยายน) และใหเ้ กบ็ ไวท้ สี่ ำ� นกั งานพฒั นาชมุ ชนอำ� เภอ จำ� นวน 1 ชดุ
เพ่อื รอรบั การตรวจติดตามของคณะกรรมการประเมนิ

5. การรายงานตามนโยบายรัฐบาล/กระทรวงมหาดไทย
/กรมการพฒั นาชุมชน
เป็นแบบรายงานผลงานที่แต่ละหน่วยงานผู้รับผิดชอบนโยบายเป็น
ผูก้ ำ� หนดเนอ้ื หาสาระในการรายงาน รวมท้งั ระยะเวลารายงาน ซ่ึงพฒั นากร
จะต้องด�ำเนินการตามหนังสือส่ังการ แบ่งเป็นการรายงานเป็นเอกสาร
ตามแบบฟอรม์ และการรายงานระบบ online ซง่ึ การรายงานระบบ online
จะเป็นขอ้ มลู Real Time ได้แก่ รายงาน BPM, PA, IPA, IDP, GVH, หมบู่ า้ น
OTOP นวตั วถิ ,ี รายงานฐานขอ้ มลู , ขอ้ มลู จปฐ., ขอ้ มลู กชช.2ค, กลมุ่ ออมทรพั ย์
เพ่อื การผลติ และรายไดจ้ ากการจำ� หน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP เป็นตน้

กถา พัฒนากร | 67

การรายงานผลการพัฒนาหมูบ่ ้านประจ�ำปี

การรายงานการพฒั นาหมบู่ า้ น (Village Development Report
: VDR) เป็นรายงานประจ�ำปี (annual report) ของการวิเคราะห์ผล
การดำ� เนนิ งาน โครงการ/กจิ กรรม การพฒั นาของหมบู่ า้ น ในรอบปที ผ่ี า่ นมา
ว่าได้แก้ปัญหา ได้ตอบสนองความต้องการ ได้สร้างสรรค์และพัฒนา
เพื่อเพ่ิมคุณภาพชีวิตของประชาชนในหมู่บ้าน อะไรบ้าง มากน้อยแค่ไหน
เพยี งไร

VDR ต่างจาก ข้อ 3.3 งานข้อมูลและสารสนเทศ ทีพ่ ฒั นากรจดั เกบ็
วิเคราะห์ และน�ำมาใช้วางแผนด�ำเนินการโครงการและกิจกรรมพัฒนา
ซ่ึงท�ำให้บงั เกิด ผลการดำ� เนนิ งาน เป็นรายหมูบ่ ้านท่ี VDR นำ� มาวเิ คราะห์
สรุปภาพการพัฒนาเปน็ รายหมบู่ ้าน

VDR จึงเป็นการวิเคราะห์และประเมินสถานะการพัฒนาหมู่บ้าน
เพ่อื รายงานอ�ำเภอและสว่ นราชการอำ� เภอ จงั หวัดและส่วนราชการจงั หวัด
ท่ีเก่ียวข้อง และรายงานกรมการพัฒนาชุมชน เพื่อให้เห็นภาพสถานะ
การพฒั นาหมู่บ้าน เปน็ รายหมบู่ า้ น

VDR เปน็ รายงานทกี่ รมการพฒั นาชมุ ชน จงั หวดั และอำ� เภอ ตลอดจน
สว่ นราชการทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั การพฒั นาหมบู่ า้ น จะไดต้ ระหนกั ในผลการพฒั นา
จากการด�ำเนินโครงการหรือกิจกรรมการพฒั นาเป็นรายหมบู่ า้ น

68 | กถา พฒั นากร

ประโยชน์
รัฐบาล กระทรวง และกรมการพฒั นาชมุ ชน เห็นภาพผลการพฒั นา
หมบู่ ้านได้ชดั เจนถงึ ระดบั รายหมู่บ้าน
จังหวัดและอ�ำเภอ ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน สามารถ
เน้นการแก้ไขปัญหาของหมู่บ้านเป็นรายหมู่บ้านได้ถูกต้อง โดยไม่เหวี่ยงแห
การพัฒนาท่ีจะไปตกท่ีหมู่บ้านที่แก้ไขแล้ว พัฒนาแล้ว หรือไม่ต้องการ
ท�ำให้การพฒั นาไม่ตรงจดุ ผดิ ทผ่ี ดิ ทาง
พฒั นากร ภมู ใิ จทเ่ี หน็ ผลการแกไ้ ขปญั หาการพฒั นาหมบู่ า้ นไดช้ ดั เจน
เปน็ รายหมู่บา้ น
ผูน้ ำ� หมู่บ้านและชมุ ชน ตระหนักและซาบซึง้ ในอานสิ งส์ของโครงการ
กจิ กรรมการพฒั นา ทพี่ ฒั นากรและสว่ นราชการตลอดจนภาคอนื่ ๆ นำ� มาให้
พฒั นากรสามารถจดั ท�ำรายงานการพฒั นาหมู่บ้านประจ�ำปี ได้ง่ายๆ
โดย... รวบรวมและวิเคราะห์ โครงการ/กิจกรรมการพัฒนาต่างๆ ทั้งหมด
ท่ีเกิดข้ึนในหมู่บ้านในรอบปีท่ีผ่านมา ร่วมกับ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้น�ำ กลุ่มต่างๆ
ปราชญ์ และอาสาสมคั ร
รว่ มกนั เขยี นรายงานแบบงา่ ยๆ วา่ ในรอบปที ผ่ี า่ นมาโครงการ กจิ กรรม
ดงั กลา่ วทเี่ กดิ ขนึ้ ในหมบู่ า้ น ไดแ้ กป้ ญั หาอะไร ตอบสนองความตอ้ งการอะไร
ของชาวบา้ น และยังหลงเหลอื ปญั หาอะไรที่ตอ้ งเรง่ แก้ไขในปตี อ่ ไป ฯลฯ
พัฒนากรสามารถก�ำหนดรูปแบบเน้ือหาวิธีการน�ำเสนอได้ตาม
ความเหมาะสม โดยตอ้ งจดั ทำ� ใหแ้ ลว้ เสรจ็ ภายในวนั ท่ี 30 กนั ยายนของทกุ ปี

กถา พฒั นากร | 69

๓.๕กบั การประพสัฒานนงาากนร

การดำ� เนนิ การพฒั นาชมุ ชน จำ� เปน็ ตอ้ งประสานกบั หนว่ ยตา่ งๆ ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง
ตั้งแต่ระดบั ชาติลงไปถึงต�ำบล หมบู่ า้ น

เจ้าหน้าท่ีพัฒนาชุมชนทุกระดับ โดยเฉพาะพัฒนากร จ�ำต้องเป็น
ผมู้ คี วามสามารถในการประสานงานกบั ผเู้ กยี่ วขอ้ ง ไมเ่ ชน่ นนั้ แลว้ งานพฒั นา
ชมุ ชนจะไมบ่ รรลุผลเทา่ ที่ควร

การประสานงานในส�ำนักงานมีความส�ำคัญและจ�ำเป็นต่อพัฒนากร
เพราะจะน�ำไปสู่ความส�ำเร็จในการท�ำงานอื่นๆ รวมท้ังงานในพ้ืนท่ีท่ีตน
รับผดิ ชอบด้วย

พัฒนากรควรประสานงานกับใครบ้าง

พัฒนากรควรประสานงานกับบุคคลและกลุ่มต่างๆ ดังนี้
1 นายอ�ำเภอ (โดยเฉพาะพัฒนากรที่เข้ารับต�ำแหน่งใหม่ ต้องเข้า
รายงานตวั ตอ่ นายอ�ำเภอกอ่ น)
2 หวั หนา้ สว่ นราชการทกุ สว่ นในอำ� เภอ เชน่ ทอ้ งถนิ่ อำ� เภอ ผอู้ ำ� นวยการ
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย (กศน.) เกษตรอ�ำเภอ
สาธารณสุขอ�ำเภอ ปลัดอำ� เภอ เป็นตน้
3 ส่วนราชการ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา ภาคประชาสังคม
ที่เขา้ มาท�ำงานในตำ� บล หมบู่ า้ น ท่พี ฒั นากรรบั ผดิ ชอบ
4 เพ่อื นพฒั นากรดว้ ยกัน
5 นายกอบต./นายกเทศมนตรีปลดั อบต./เทศบาลสมาชกิ สภาอบต./
เทศบาล
6 คณะกรรมการหมบู่ ้าน (กม.) กำ� นัน ผู้ใหญบ่ ้าน
7 ผู้นำ� กลุ่ม องค์กร เครือข่ายภาคประชาชน ฯลฯ

70 | กถา พฒั นากร

พัฒนากรมีวิธีการประสานงานอยา่ งไร

วิธกี ารประสานงาน
1 แนะน�ำตัวด้วยความภาคภูมิใจว่าเป็น “พัฒนากร” สังกัด
กรมการพฒั นาชมุ ชน
2 ทำ� ความรจู้ กั กบั ผเู้ กยี่ วขอ้ งและสรา้ งความสนทิ สนมเปน็ การสว่ นตวั
3 เขา้ ร่วมกิจกรรมตา่ งๆ ในโอกาสอันควร
4 จัดประชุมเพื่อปรึกษาหารอื ในเร่อื งต่างๆ
5 รายงานผลการปฏบิ ัตงิ านใหผ้ ู้เกี่ยวข้องรบั ทราบ
6 จดั ท�ำแผนปฏิบัติงานร่วมกนั กับผู้อ่ืน ฯลฯ

พัฒนากรมีหลักในการประสานงานกบั ผูเ้ กี่ยวข้องอย่างไร

หลกั ในการประสานงาน
1 มีความเข้าใจชดั เจนในเร่ืองทจ่ี ะประสาน
2 คำ� นงึ ถึงจงั หวะและเวลาให้สอดคลอ้ งกัน
3 เชอ่ื มนั่ ในความร้คู วามสามารถของผอู้ ่นื
4 สร้างผลประโยชน์รว่ มใหเ้ กดิ ข้นึ

ฯลฯ

กถา พฒั นากร | 71

พัฒนากรมีวธิ ีการประสานงาน
กับองคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่ิน อยา่ งไร

การทำ� งานในตำ� บลหมบู่ า้ นนนั้ หนว่ ยงานทพี่ ฒั นากรตอ้ งประสานงาน
เพอ่ื ขบั เคลอ่ื นกจิ กรรมพฒั นาชมุ ชน คอื องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ (อปท.)
เชน่ อบต. เทศบาล เปน็ ตน้ พฒั นากรมวี ธิ กี ารประสานงานและทำ� งานรว่ มกบั
องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น ดังนี้

1 ติดตอ่ ประสานงานกบั อปท. อยา่ งสม�่ำเสมอ
2 ชว่ ยเหลอื งาน อปท. ในการดำ� เนินกิจกรรมพฒั นาชมุ ชน
3 เปน็ ทป่ี รกึ ษาให้คำ� แนะน�ำ เร่อื งข้อมูลเพื่อการพัฒนาชนบท
4 น�ำปญั หาอุปสรรคทพี่ บเหน็ เข้าปรกึ ษาหารอื กบั ทมี งานบรหิ าร

หรอื ปลัด อบต./เทศบาล
5 เข้าร่วมในการประชุม เพ่ือรับทราบข้อขัดข้องในการท�ำงาน

พฒั นาชุมชน
6 เชื่อมโยงแผนชุมชน แผนพัฒนาหมู่บ้าน กับ ข้อบัญญตั ทิ อ้ งถ่นิ
7 ประสานงาน ระหวา่ ง อบต./เทศบาล กบั กล่มุ /องคก์ ร เครอื ขา่ ย

ภาคประชาชน
8 เยย่ี มเยยี นและเปน็ ทป่ี รกึ ษาใหก้ บั นกั พฒั นา ของ อบต./เทศบาล
9 ช่วยเหลือ อบต./เทศบาล ในการจัดเวทีประชาคม
10 รว่ มวิเคราะห์ขอ้ มูลศักยภาพชมุ ชน
11 แจ้ง/ประสานโครงการ/กจิ กรรม

72 | กถา พฒั นากร

อน่ึง พัฒนากรสามารถน�ำวิธีการประสานงานข้างต้นไปประยุกต์
กับการท�ำงานกับภาคีการพัฒนา ภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา
ภาคประชาสังคมท่มี ีเป้าหมายเชิงพืน้ ที่หรอื เชิงงานได้

งานใครงานมนั
ตา่ งคนต่างทำ�
ตวั ใครตวั มนั

แต่หาก
รว่ มมอื รว่ มใจ
ทุกฝา่ ยพอใจ
ตา่ งได้ผลงาน

กถา พัฒนากร | 73

งานชว่ ยกาพรบฒั รนหิ าากรรขกอบั ง

๓.๖พฒั นาการอ�ำเภอ

ท�ำไมพฒั นากรจงึ ตอ้ งช่วยงานบรหิ ารของ
พัฒนาการอำ� เภอ

การบริหารส�ำนักงานพัฒนาชุมชนอ�ำเภอ เป็นหน้าที่ของพัฒนาการ
อ�ำเภอ ด้วยภารกิจของพัฒนาการอ�ำเภอมีมาก ดังนั้น พัฒนาการอ�ำเภอ
จะมอบหมายให้พัฒนากรเป็นผู้ช่วยจัดท�ำเพ่ือให้งานเสร็จเรียบร้อย
ตามก�ำหนด และเป็นการฝึกพัฒนากรให้สามารถก้าวข้ึนสู่การปฏิบัติงาน
ในต�ำแหน่งพฒั นาการอ�ำเภอไดใ้ นอนาคตดว้ ย

งานทพ่ี ัฒนากรจะช่วยพฒั นาการอ�ำเภอ
ในการบรหิ ารมอี ะไรบา้ ง

งานทีพ่ ัฒนากรจะชว่ ยพัฒนาการอำ� เภอทส่ี ำ� คัญมดี งั ตอ่ ไปน้ี
1 งานสารบรรณ ไดแ้ ก่ งานทป่ี ฏบิ ตั เิ กยี่ วกบั หนงั สอื ราชการ นบั ตง้ั แต่
ร่าง พมิ พ์ ท�ำสำ� เนา เสนอเร่อื ง เก็บเรื่อง ฯลฯ เป็นตน้
2 งานรายงานต่างๆ ได้แก่ รายงานตามหน้าท่ีท่ีพัฒนาการอ�ำเภอ
รบั ผิดชอบ เช่น

รายงานการประชมุ ประจำ� เดือน
รายงานผลการปฏิบตั งิ าน
รายงานปญั หาอปุ สรรคในการท�ำงาน
ฯลฯ

74 | กถา พฒั นากร

3 งานปรบั ปรงุ สำ� นกั งาน เชน่ การจดั เกบ็ เอกสาร การรกั ษาความสะอาด
ความเปน็ ระเบยี บ การตกแตง่ สถานทท่ี ำ� งาน การจดั ทำ� ปา้ ยสถติ ขิ อ้ มลู ตา่ งๆ
ของอ�ำเภอ เป็นตน้

4 งานตดิ ต่อประสานงานกบั ผูเ้ กีย่ วขอ้ ง สว่ นใหญ่จะเปน็ การติดตอ่
กบั หนว่ ยงานขา้ งเคยี งเพอื่ ใหค้ วามรว่ มมอื หรอื ขอความรว่ มมอื ในการทำ� งาน
พัฒนาการอ�ำเภออาจมอบให้พัฒนากรเป็นผู้ทำ� การแทนได้

5 งานอ�ำนวยความสะดวก และให้บริการแก่ประชาชนผู้มาติดต่อ
เมื่อมีประชาชนหรือหน่วยงานต่างๆ มาติดต่องานในส�ำนักงาน พัฒนากร
จะตอ้ งใหก้ ารตอ้ นรบั โดยเสมอภาค เพอื่ สรา้ งความประทบั ใจและสรา้ งศรทั ธา
ให้เกดิ กบั ผู้มาตดิ ตอ่

6 งานอน่ื ๆ ที่พัฒนาการอำ� เภอมอบหมายใหท้ �ำการแทน
ฯลฯ

กถา พัฒนากร | 75

๓.๗งานท่ีไดร้ พับฒัมอนบากหรมกาับย

งานทไี่ ดร้ ับมอบหมายคอื อะไร

งานท่ีได้รับมอบหมายในท่ีนี้ หมายถึง งานพิเศษนอกเหนือไปจาก
งานประจ�ำท่ีพัฒนากรต้องปฏิบัติ ซึ่งนายอ�ำเภอมอบหมายให้ปฏิบัติงาน
เป็นคร้ังคราว อาจจะเป็นงานท่ีได้รับมอบเป็นลายลักษณ์อักษร
หรอื ดว้ ยวาจากไ็ ด้ โดยปกตนิ ายอำ� เภอจะตอ้ งมอบหมายผา่ นทางพฒั นาการ
อำ� เภอ ตามระเบยี บแบบแผนของทางราชการ แตใ่ นบางครง้ั อาจจะมอบงาน
ใหท้ �ำโดยตรง ในกรณนี ้พี ัฒนากรจะตอ้ งปฏบิ ัตแิ ละแจง้ ใหพ้ ฒั นาการอ�ำเภอ
ทราบด้วย

งานท่ไี ด้รับมอบหมายมีอะไรบ้าง

งานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย นอกเหนอื จากงานประจำ� ของพฒั นากร โดยทวั่ ไป
มกั จะมงี านดงั ต่อไปนี้

1 การช่วยเหลือในพิธีการต่างๆ ของอ�ำเภอ เช่น วันขึ้นปีใหม่
วนั สงกรานต์ วนั เฉลมิ พระชนมพรรษา วันปยิ มหาราช เป็นตน้

2 งานต้อนรับบุคคล เช่น ในกรณีที่มีผู้บังคับบัญชาระดับสูง
มาประชุมหารือ ตรวจเยี่ยมอ�ำเภอ หรือต้อนรับกลุ่มคนที่มาศึกษาดูงาน
ท่ีอ�ำเภอ เป็นตน้

3 งานนโยบายที่จังหวัดและอ�ำเภอมอบหมาย เช่น โครงการ
พระราชดำ� ริ เปน็ วทิ ยากรโครงการรเิ ริม่ ของจงั หวัด อ�ำเภอ

76 | กถา พฒั นากร

4 งานเลอื กตงั้ ระดับตา่ งๆ เช่น ก�ำนัน/ผูใ้ หญ่บ้าน เปน็ ตน้
5 งานสงเคราะหช์ ว่ ยเหลอื ประชาชนทไี่ ดร้ ับความเดือดรอ้ น เช่น

การสงเคราะหค์ นยากจน
การช่วยเหลอื ผู้ประสบวาตภัย อคั คภี ัย หรอื อุทกภยั
ฯลฯ
6 การอยเู่ วรยามรกั ษาสถานทร่ี าชการ ไดแ้ ก่ การอยเู่ วรทวี่ า่ การอำ� เภอ
ตามก�ำหนดวันที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งจะมีค�ำส่ังออกมาให้ปฏิบัติ
อย่างเป็นทางการเป็นประจ�ำทุกเดือน และพัฒนากรต้องปฏิบัติตามค�ำสั่ง
การอยเู่ วรยามโดยเครง่ ครดั

กถา พัฒนากร | 77



กถา๔กับงานพพัฒัฒนนาชาุมกชรน

องคร์ วม (Holistic)

วธิ คี ดิ อยา่ งองคร์ วม (Holistic) มองสง่ิ ตา่ งๆ ทเ่ี กดิ อยา่ งเปน็ ระบบ
ครบวงจร มองทกุ ส่งิ เป็นพลวตั ท่ีทุกมติ เิ ชื่อมต่อกนั

โครงการหน่ึงนั้น จะทรงมองเหตุการณ์ท่ีจะเกิดข้ึนและแนวทาง
แก้ไขอย่างเช่ือมโยงดังเช่นกรณีของ “ทฤษฎีใหม่” ที่พระราชทานเป็น
แนวทางด�ำเนินชีวิตแก่ปวงชนชาวไทย อันเป็นแนวทางในการประกอบ
อาชีพซ่ึงพระองค์ทรงมองอย่างเปน็ องคร์ วม ตัง้ แตก่ ารถอื ครองทด่ี ินโดย
เฉลยี่ ของประชาชนคนไทย ประมาณ 10 - 15 ไร่ การบรหิ ารจดั การทดี่ นิ
และแหลง่ นำ้� อนั เปน็ ปจั จยั พน้ื ฐานทส่ี ำ� คญั ในการประกอบอาชพี เมอ่ื มนี ำ้�
ในการท�ำการเกษตรแล้วจะส่งผลให้ผลผลิตดีขึ้น และหากมีผลผลิต
เพ่ิมมากข้ึน เกษตรกรจะต้องรู้จักวิธีการจัดการและการตลาด รวมถึง
การรวมกลุ่มรวมพลังชุมชนให้มีความเข้มแข็ง เพื่อพร้อมท่ีจะออกสู่
การเปลี่ยนแปลงของสังคมภายนอกได้อย่างครบวงจรน้ันคือแนวทาง
การด�ำเนินงานทฤษฎีใหมข่ ้นั ที่ 1 2 และ 3 อย่างองคร์ วม

หลักการทรงงานของ
พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร

มหาภูมพิ ลอดุลยเดชมหาราช
บรมนาถบพติ ร

80 | กถา พฒั นากร

กถา

๔พฒั นากรกบั งานพฒั นาชมุ ชน
งานพฒั นาชมุ ชนหมายถงึ การกระทำ� ใดๆ กต็ ามทเ่ี กดิ จากความคดิ รเิ รมิ่
ของประชาชน จากปญั หา/ความต้องการของประชาชน โดยการชว่ ยกนั คิด
ร่วมกันตัดสินใจ ช่วยกันวางแผน และร่วมกันด�ำเนินการของประชาชน
เพอ่ื แกป้ ญั หาและสนองความตอ้ งการของประชาชนทง้ั ชมุ ชน หรอื ของประชาชน
สว่ นหนง่ึ หรอื กลมุ่ หนง่ึ โดยมพี ฒั นากรเปน็ ผเู้ ออ้ื อำ� นวยใหป้ ระชาชนเปน็ ผรู้ เิ รม่ิ
หรอื เปน็ เจา้ ของโครงการ (ดว้ ยกระบวนการพฒั นาชมุ ชน ดงั ทปี่ รากฏในกถา 2)
เพ่ือเป็นการช่วยให้พัฒนากรมองภาพงานพัฒนาชุมชนได้ชัดเจนขึ้น
จากกถา 2 พฒั นากรได้รู้และเขา้ ใจการพัฒนาชุมชน จากแนวคดิ สูแ่ นวทาง
ไดม้ มี มุ มองทเี่ ห็นการพฒั นาชมุ ชนทง้ั ระบบ ได้เนน้ ไปทก่ี ระบวนการท�ำงาน
กับประชาชนแล้ว พฒั นากรจะพบว่า
พ้นื ทก่ี ารท�ำงาน คือ หม่บู า้ น
เปา้ หมายการท�ำงาน คอื การท�ำงานกับประชาชน
เพราะฉะนนั้ พฒั นากรจะมองหมบู่ า้ นทงั้ หมบู่ า้ น และชาวบา้ นทงั้ หมบู่ า้ น
อยา่ งเปน็ ระบบ ทป่ี ระกอบไปดว้ ย โครงสรา้ ง สถาบนั องคป์ ระกอบ ความสมั พนั ธ์
และกระบวนการ ฯลฯ ทสี่ ่งผลตอ่ กนั

กถา พัฒนากร | 81

การคดิ งานพฒั นาชมุ ชน จงึ ตอ้ งตง้ั อยู่ บนฐาน “คดิ แบบองคร์ วม” คอื
คดิ ครอบคลุมทุกคน ทกุ สรรพสงิ่ วา่ มีผลกระทบกนั เฉกเช่น “มองเหน็ ปา่ ”
(ไมใ่ ชเ่ หน็ ตน้ ไม้ ตน้ ใดตน้ หนงึ่ ) แลว้ จงึ ตดั สนิ ใจเลอื กจากปญั หาและความตอ้ งการ
ของประชาชนท่ีส�ำคัญเร่งด่วนและประชาชนเห็นชอบ เพ่ือช่วยประชาชน
สรา้ งโครงการหรอื กจิ กรรมทส่ี ามารถ “ทำ� แบบบรู ณาการ” ใหเ้ กดิ การพฒั นา
ที่เกี่ยวก้อย สอดประสาน ให้เกิดประโยชน์สูงสุด หลายด้าน ในลักษณะ
“ทำ� หนง่ึ ได้หลาย” เชน่

มองหมู่บ้าน เห็นชาวบ้าน เห็นปราชญ์ เห็นผู้น�ำ เห็นอาสาสมัคร
เหน็ การฝกึ อบรม การถา่ ยทอด การเรยี นรู้ การสรา้ งสรรค์ การตงั้ กลมุ่ การผลติ
การพฒั นาผลติ ผลและผลติ ภณั ฑ์ เกดิ การสง่ เสรมิ สมั มาชพี นำ� ไปสู่ การพฒั นา
OTOP OVC นวตั วถิ ี กา้ วตอ่ ไปเปน็ การพฒั นาหมบู่ า้ นเศรษฐกจิ พอเพยี ง ฯลฯ

พฒั นากร สามารถ “ทำ� หน่ึง ไดห้ ลาย” จากการ “ท�ำแบบบรู ณาการ
บนฐาน คดิ แบบองค์รวม”

82 | กถา พฒั นากร

ต้นไม้ พัฒนาชมุ ชน - พฒั นาหมู่บ้าน
“ทำ� อยา่ งบรู ณาการ” บนฐาน “คิดแบบองค์รวม”

เศรษฐกิจ ผลิตภัณฑ์ OTOP
พอเพยี ง ผลติ ผล นวัตวิถี
หมู่บา้ น กลมุ่ ฯลฯ
OVC อาสา ฯลฯ OTOP
ผนู้ �ำ ฯลฯ พฒั นา
สัมมาชีพ ปราชญ์
กองทนุ ผู้น�ำ/อาสา
แผนชมุ ชน ผใู้ หญ่บ้าน ทุนชมุ ชน
ฯลฯ ชาวบา้ น

หมูบ่ า้ น

เศรษฐกิจ - เงินทนุ การเมอื ง - การปกครอง

สังคม - วัฒนธรรม

กถา พฒั นากร | 83

งานพฒั นาชุมชนทพ่ี ฒั นากรดำ� เนนิ การในพื้นท่หี มูบ่ ้าน ตำ� บล มีดงั นี้
1 พัฒนากรกบั งานพื้นฐาน

พฒั นากรกบั การเปน็ ทป่ี รกึ ษากลมุ่ /องคก์ ร/เครอื ขา่ ยประชาชน
พฒั นากรกับงานสรา้ งผ้นู ำ� และอาสาสมคั รชมุ ชน
2 พฒั นากรกับการพฒั นาชุมชนให้พ่งึ ตนเองได้
กระบวนการจัดท�ำแผนพัฒนาหมู่บ้านและแผนพฒั นาต�ำบล
การสรา้ งสมั มาชพี ชุมชน
การแกไ้ ขปญั หาครัวเรอื นยากจน
การพฒั นาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพยี ง
3 พฒั นากรกบั การพัฒนาเศรษฐกจิ ฐานราก
โครงการหน่งึ ต�ำบล หนึง่ ผลิตภัณฑ์ (OTOP)
ชมุ ชนท่องเที่ยว OTOP นวตั วิถี
4 พฒั นากรกับการเสรมิ สร้างทุนชุมชน
โครงการแกไ้ ขปัญหาความยากจน (กข.คจ.)
กองทนุ แม่ของแผน่ ดนิ
กลมุ่ ออมทรัพยเ์ พ่อื การผลติ
กองทนุ พฒั นาบทบาทสตรี
ศูนย์จดั การกองทนุ ชุมชน

84 | กถา พัฒนากร

๔.๑พฒั นากรกบั งานพน้ื ฐาน

1 พฒั นากรกบั การเปน็ ทปี่ รกึ ษากลมุ่ /องคก์ ร/เครอื ขา่ ยประชาชน

กลุ่ม/องค์กร/เครือข่ายประชาชนในหมู่บ้าน เป็นขุมพลังส�ำคัญ
ทจี่ ะบนั ดาลใหง้ านพฒั นาชมุ ชนเคลอื่ นไหวสคู่ วามสำ� เรจ็ เสมอ ผอู้ ยเู่ บอื้ งหลงั
แห่งความส�ำเร็จเหล่านั้น ได้แก่ เจ้าหน้าท่ีรัฐที่ออกไปท�ำงานคลุกคลี
อยกู่ บั ชาวบา้ น พฒั นากรเปน็ เจา้ หนา้ ทคี่ นหนง่ึ ซง่ึ มหี นา้ ทเ่ี ออื้ อำ� นวยประชาชน
ใหร้ วมกลุม่ จดั ตั้งกลุ่ม และพฒั นากลมุ่ ให้เจรญิ กา้ วหนา้ และเปน็ ที่ปรึกษา
กลุ่ม/องค์กร/เครือข่ายประชาชน ทั้งโดยระเบียบ ข้อก�ำหนดท่ีก�ำหนดไว้
และโดยความสำ� นกึ แหง่ ความเปน็ ขา้ ราชการทดี่ ี

ในหมบู่ ้านตำ� บลมีกล่มุ /องคก์ ร/เครือข่าย อะไรบา้ ง
โดยปกติ กลมุ่ /องคก์ ร/เครอื ขา่ ยประชาชน ในหม่บู ้านต�ำบล มอี ยู่ 2
ประเภท คอื
1 กลมุ่ /องคก์ ร/เครอื ขา่ ยประชาชน ตามธรรมชาติ หรอื ไมเ่ ปน็ ทางการ
เกดิ จากกลมุ่ บคุ คลทมี่ คี วามสนใจเหมอื นกนั หรอื คลา้ ยคลงึ กนั ตามเชอื้ ชาติ
ลกั ษณะภมู นิ เิ วศน์ หรอื มลี กั ษณะอาชพี ทท่ี ำ� อยเู่ หมอื นกนั เชน่ ทำ� นา ทำ� สวน
ทำ� ไร่ เลยี้ งสตั ว์ ทอผา้ และทำ� การเกษตรอื่นๆ เป็นกล่มุ ท่ีมอี ยู่โดยธรรมชาติ
ในชมุ ชน ไมม่ รี ะเบยี บปฏบิ ตั ขิ องกลมุ่ /เครอื ขา่ ย และไมม่ วี ตั ถปุ ระสงคร์ ว่ มกนั
ของกลุ่ม/เครือขา่ ยชดั เจน

กถา พัฒนากร | 85

2 กลุ่ม/องค์กร/เครือข่ายประชาชน ที่เป็นทางการ พัฒนามาจาก
กลุ่มธรรมชาติ โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือเอกชนเข้าไปกระตุ้นให้ชาวบ้าน
ท่ีมีลักษณะอาชีพเหมือนกัน หรือคล้ายคลึงกันและมีความสนใจร่วมกัน
รวมตัวเป็นกลุ่มข้ึนเพื่อประโยชน์ในการพัฒนา มีคณะกรรมการบริหาร
มรี ะเบยี บปฏบิ ตั ิ และมวี ตั ถปุ ระสงคร์ ว่ มกนั ชดั เจน

กลุ่ม/องค์กร/เครือข่ายประชาชนท่ีเป็นทางการ แบ่งได้เป็น 2
ลักษณะ คือ

กลุ่ม/องค์กร/เครือข่าย ท่ีชาวบ้านรวมตัวกันจัดตั้งขึ้น
โดยมีระเบียบร่วมกันชัดเจน มีวัตถุประสงค์ร่วมกัน และมีกิจกรรมร่วมกัน
เชน่ กลุ่มสตรี กลมุ่ เยาวชน กล่มุ ออมทรพั ยเ์ พ่อื การผลิต ศูนยป์ ระสานงาน
องคก์ รชุมชน (ศอช.) เป็นตน้

กลุ่ม/องค์กร/เครือข่าย ท่ีมีกฎหมายหรือระเบียบของ
ทางราชการรองรบั เชน่ คณะกรรมการหมบู่ า้ น (กม.) คณะกรรมการกองทนุ
หมู่บา้ นและชุมชนเมือง (กทบ.) เป็นต้น

พฒั นากรมีหน้าทใ่ี หค้ ำ� ปรึกษากลมุ่ /องค์กร/เครอื ข่าย
ประชาชนอยา่ งไรบ้าง
1 ทปี่ รกึ ษากลมุ่ /องคก์ ร/เครอื ขา่ ยประชาชน ทเี่ ปน็ ทางการ ทำ� ไดโ้ ดย

1.1 เสนอความคิดเห็น ให้ข้อมูลข้อเท็จจริงเก่ียวกับการพัฒนา
หมู่บ้าน ต�ำบล

1.2 ให้ค�ำแนะน�ำเก่ียวกับการวางแผน/โครงการ ในการพัฒนา
หมูบ่ า้ น ตำ� บล

1.3 ให้คำ� ปรกึ ษาเก่ียวกับการแก้ปญั หา ดา้ นการพัฒนาต่างๆ

86 | กถา พฒั นากร

1.4 ใหค้ วามรเู้ กยี่ วกบั การพฒั นาอาชพี และการปรบั ปรงุ คณุ ภาพ
ชวี ติ ของชาวบา้ นให้ดีขึน้

1.5 ใหข้ อ้ คดิ เหน็ ขอ้ เสนอแนะ คำ� แนะนำ� และใหค้ ำ� ปรกึ ษาหารอื
เรอ่ื งๆ ตามที่ กลมุ่ องคก์ ร เครอื ขา่ ยประชาชน ขอความเหน็ และปรกึ ษาหารอื

2 ท่ีปรึกษากลุ่ม/องค์กร/เครือข่ายประชาชน ทไ่ี มเ่ ป็นทางการ
กลมุ่ /องคก์ ร/เครอื ขา่ ยประชาชนทไี่ มเ่ ปน็ ทางการ เปน็ กลมุ่ ทมี่ อี ยู่

โดยธรรมชาติ ตามลักษณะอาชีพ และความสนใจของชาวบ้านที่มีอยู่
เป็นกลุ่มท่ีไม่มีระเบียบ ข้อบังคับของกลุ่ม และไม่มีวัตถุประสงค์ชัดเจน
การเป็นที่ปรึกษากลุ่ม/องค์กร/เครือข่ายประชาชน ที่ไม่เป็นทางการ
พัฒนากรสามารถกระทำ� ไดห้ ลายวธิ ี เช่น

2.1 เขา้ ไปพบปะใหค้ ำ� ปรกึ ษา แนะนำ� เปน็ รายบคุ คล หรอื รายกลมุ่
เก่ียวกับปัญหาความต้องการในการประกอบอาชีพ สิ่งแวดล้อม สุขภาพ
อนามยั การศึกษา วฒั นธรรม

2.2 พูดคยุ สนทนา กบั กลุ่ม องคก์ ร เครือขา่ ย
2.3 เสนอความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั แนวทางในการพฒั นาอาชพี ปรบั ปรงุ
สภาพความเป็นอยูแ่ ละสภาพแวดลอ้ มในชุมชน
2.4 ใหค้ ำ� ปรกึ ษา แนะนำ� เกย่ี วกบั การพฒั นาดา้ นตา่ งๆ ตามปญั หา
ความต้องการของ กลุ่ม องคก์ ร เครอื ขา่ ยประชาชน

กถา พฒั นากร | 87

2 พัฒนากรกับงานสร้างผู้นำ� และอาสาสมัครชุมชน

การสร้างผู้น�ำและอาสาสมัครชุมชน เป็นอีกภารกิจหน่ึงที่พัฒนากร
จะตอ้ งทำ� เพราะการสรา้ งหรอื พฒั นาผนู้ ำ� และอาสาสมคั รชมุ ชนนนั้ เปน็ การสรา้ ง
ตวั แทนของพัฒนากรใหส้ ามารถปฏบิ ตั งิ านพฒั นาชุมชนแทนได้

ณ ชุมชนใดท่ีพัฒนากรสามารถสร้างผู้น�ำและอาสาสมัครชุมชนที่ดี
ได้เป็นผลส�ำเร็จ ท่ีนั่น...งานพัฒนาชุมชนก็จะด�ำเนินไปได้โดยสะดวกและ
มปี ระสทิ ธิผล

การสรา้ งผูน้ ำ� ชุมชน

ผ้นู �ำชมุ ชน คอื ใคร

ผนู้ �ำชมุ ชน ได้แก่ บคุ คลท่ชี าวบา้ นในชมุ ชนนัน้ ๆ ยอมรับ
นบั ถือ เคารพ เชอ่ื ฟงั เม่ือชาวบา้ นมปี ัญหาเดอื ดร้อนเร่อื งอะไร
มกั จะไปปรกึ ษา ขอคำ� แนะนำ� สว่ นมากจะเปน็ ผมู้ ปี ระสบการณ์
ไดร้ ไู้ ดเ้ หน็ สงิ่ ตา่ งๆ มามาก เปน็ คนทมี่ คี วามคดิ กวา้ งไกลกวา่ ชาวบา้ น
โดยทวั่ ไป หรอื มคี วามสามารถเฉพาะดา้ น

88 | กถา พัฒนากร

ผู้น�ำชมุ ชน ม ี 2 ลกั ษณะ คอื
1 ผู้น�ำชุมชนท่ีเป็นทางการ คือ ผู้น�ำชุมชนที่ได้รับการแต่งตั้งจาก
ทางราชการให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นตัวแทนของทางราชการในการพัฒนา
ตามบทบาทหนา้ ท่ี เชน่ ก�ำนนั ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อบต./เทศบาล ครูใหญ่
เจา้ อาวาส เปน็ ต้น
2 ผู้น�ำชุมชนที่ไม่เป็นทางการ คือ บุคคลท่ีชาวบ้านให้การยอมรับ
เคารพนับถือแต่มิได้มีต�ำแหน่งหน้าท่ีในทางราชการ ส่วนมากจะเป็น
ผมู้ คี วามสามารถพเิ ศษเฉพาะตวั เชน่ หมอดู หมอผ ี หมอยา ชา่ งประจำ� หมบู่ า้ น
ผมู้ ีอาวุโสในหมบู่ า้ น เปน็ ตน้
ผนู้ ำ� เหลา่ นจี้ ะเปน็ แกนนำ� สำ� คญั ในการทำ� กจิ กรรมตา่ งๆ ของหมบู่ า้ น
ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมทางศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี กิจกรรมการพัฒนา
ตลอดท้ังกิจกรรมทางสังคมอื่นๆ เขาเป็นนักพัฒนาโดยธรรมชาติอยู่แล้ว
ในระดับหน่งึ
พัฒนากรจะมีวิธีการอย่างไรที่จะสร้างผู้น�ำเหล่านี้ให้มีความรู้
ความสามารถเพิ่มมากขึ้น พร้อมที่จะปฏิบัติงานพัฒนาชุมชนแทนพัฒนากร
ไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ

พฒั นากรจะสรา้ งผู้น�ำชุมชนได้อย่างไร
การสรา้ งผนู้ ำ� ชมุ ชน สามารถกระทำ� ไดห้ ลายวธิ ตี ามขนั้ ตอนตอ่ ไปนี้ คอื
1. เข้าใจ (ศึกษาภูมหิ ลัง)
การศึกษาภูมิหลัง หมายถึง การศึกษาให้รู้ว่าผู้น�ำคนน้ีมีจุดเด่นหรือ
จุดด้อยในเรื่องใดบ้าง ชอบและไม่ชอบอะไร มีประวัติความเป็นมาอย่างไร
มวี ิธกี ารท�ำงานอย่างไร นสิ ัยใจคอเปน็ อย่างไร

กถา พฒั นากร | 89

ขอ้ มลู ทีค่ วรรูเ้ กย่ี วกับผู้นำ� แต่ละคน ควรมี ดังนี้
อาย/ุ การศกึ ษา/อาชพี หลกั /อาชพี รอง/สถานภาพ/ฐานะทางเศรษฐกจิ
/คนที่เขานับถือเช่ือฟัง/ทัศนคติของชาวบ้านท่ีมีต่อเขา/ความสามารถ
พิเศษ(จุดเด่น)/ข้อบกพร่อง/สิ่งท่ีชอบ/ส่ิงที่ไม่ชอบ/คนในครอบครัว/ญาติ
พีน่ ้อง/เพือ่ นสนิท/ประวตั คิ วามเปน็ มาก่อนท่จี ะมาอยู่ในหมู่บ้านน้ี ฯลฯ
จัดทำ� ทะเบยี นประวตั ิ
ทะเบยี นประวตั ิ จะชว่ ยใหพ้ ฒั นากรมขี อ้ มลู เกยี่ วกบั ผนู้ ำ� ทต่ี อ้ งทำ� งาน
เก่ียวข้องด้วย ทุกแง่ทุกมุม ท�ำให้เราสามารถท่ีจะวินิจฉัยหรือตัดสินใจ
ท�ำอะไรกับบุคคลเหล่านั้นได้ด้วยความม่ันใจและถูกต้อง ทะเบียนประวัติ
ควรประกอบดว้ ย ชอ่ื - สกลุ หมายเลขประจำ� ตวั ประชาชน ทอ่ี ยู่ เบอรโ์ ทรศพั ท์
และข้อมูลภูมิหลังของผู้น�ำ (ตัวอย่างทะเบียนประวัติผู้น�ำชุมชนศึกษา
รายละเอยี ดได้จากกถาวัตถ)ุ
2. เข้าถึง (เปน็ ทย่ี อมรับ)
การเข้าถงึ ในทน่ี ้ีหมายถงึ การเขา้ ถึงชีวิตจิตใจของคนหรอื การชนะใจ
คนอ่ืน โดยท�ำให้เกดิ การยอมรับ เช่ีอถอื ทำ� ไดห้ ลายวธิ ี เชน่
- การใหส้ ่ิงของหรือนำ�้ ใจ
- การพูดจาไพเราะเหมาะสม
- การท�ำตนใหเ้ ป็นประโยชน์แก่คนอ่นื (โดยไมห่ วงั ผลตอบแทน)
- วางตนเหมาะสม เป็นกนั เอง
- เย่ียมเยียนสมำ่� เสมอ
- พบปะเป็นครัง้ คราว
- กลา้ ไดก้ ล้าเสีย (เม่ือคราวที่ควรได้ควรเสีย)
- ใหเ้ กยี รติ ยกยอ่ ง ชมเชย

90 | กถา พฒั นากร

3. พัฒนา (สรา้ งสรรค)์
สงิ่ สำ� คญั ประการหนง่ึ ในหลกั การเรยี นรขู้ องผใู้ หญค่ อื ผใู้ หญจ่ ะเรยี นรู้
ต่อเม่ือเขาต้องการจะเรียน โดยเห็นว่า ส่ิงนั้นจ�ำเป็นส�ำหรับเขา และผู้ใหญ่
ไม่ตอ้ งการใหใ้ ครสอน การพัฒนาผูน้ ำ� ชมุ ชน จงึ ต้องคำ� นงึ ถึงหลกั การเหลา่ นี้
ไว้เสมอ วิธกี ารพฒั นาสามารถท�ำได้หลายวิธี เชน่
- สนทนาวสิ าสะ
- ฝกึ อบรม/สมั มนา
- ศกึ ษาดงู านนอกสถานท่ี
- เปน็ เพอื่ นคูค่ ิด มิตรคู่งาน
- ประชุมช้ีแจง
- มอบหมายงานใหท้ ำ�

กถา พัฒนากร | 91

การสรา้ งอาสาสมคั รชมุ ชน
อาสาสมคั รชมุ ชนคือใคร

อาสาสมัครชุมชน คือ บุคคลท่ีอาศัยอยู่ในชุมชนนั้น
และสมคั รใจเขา้ มาทำ� งานพฒั นาชมุ ชนโดยไมห่ วงั ผลตอบแทน
เป็นผูม้ ีใจศรัทธาท่จี ะท�ำงาน มีเวลาทจ่ี ะคิดทีจ่ ะทำ� งาน และ
มคี วามพร้อมท่จี ะทำ� งานเพื่อชุมชน

พัฒนากรมวี ิธกี ารสร้างอาสาสมคั รชุมชนอย่างไร
การสร้างอาสาสมัครชุมชน สามารถกระท�ำได้หลายวิธีตามข้ันตอน
ตอ่ ไปนี้
1. ขนั้ เตรยี มการ

คน้ หาผเู้ สยี สละและศรทั ธาทจี่ ะทำ� งาน โดยการสอบถามผนู้ ำ� ชมุ ชน
หรือชาวบ้าน เมื่อได้ข้อมูลเก่ียวกับตัวบุคคลแล้ว เข้าไปพบปะเย่ียมเยียน
สมั ภาษณ์ความคดิ เห็น

แพร่ความคิด โดยการพูดคุย กระตุ้นให้เห็นความส�ำคัญของงาน
พัฒนาชมุ ชน เพอ่ื ให้เกดิ ความพร้อมท่จี ะท�ำงาน

92 | กถา พฒั นากร

2. ขัน้ คดั เลือก
จั ด เ ว ที ป ร ะ ช า ค ม คั ด เ ลื อ ก ผู ้ เ สี ย ส ล ะ ศ รั ท ธ า ท่ี จ ะ ท� ำ ง า น

โดยการเปดิ โอกาสใหผ้ ทู้ ม่ี คี วามพรอ้ มมากทสี่ ดุ ไดอ้ าสามาทำ� งานเพอ่ื สว่ นรวม
ด้วยตนเองกอ่ น

เม่ือยังไม่มีผู้เสนอตนเอง สามารถกระท�ำได้โดยให้ผู้อื่นเสนอช่ือ
ผมู้ ีคุณสมบตั ิ เชน่ เสียสละ และศรัทธาทจี่ ะท�ำงาน มเี วลาและความพรอ้ ม
ทจี่ ะท�ำงานใหท้ ป่ี ระชุมคัดเลือก

3. ขน้ั พัฒนา
แนะนำ� วธิ กี ารทำ� งาน โดยการชแี้ จง ทำ� ความเขา้ ใจ ใหผ้ ทู้ อ่ี าสาสมคั ร

หรอื ไดร้ บั การคดั เลอื กแลว้ รจู้ กั บทบาทหนา้ ทที่ จี่ ะตอ้ งปฏบิ ตั แิ ละมอบภารกจิ
ทเี่ หมาะสมใหท้ ำ�

จดั สมั มนาหรอื ฝกึ อบรมใหเ้ ขา้ ใจในบทบาทหนา้ ทเ่ี พอื่ เพม่ิ พนู ความรู้
ประสบการณ์ในการทำ� งาน

ศึกษาดูงานนอกพ้ืนที่ เพื่อขยายทัศนะให้กว้างไกล และน�ำมา
ปรบั ปรุงงานในชุมชนให้กา้ วหนา้ ยงิ่ ข้ึน

กถา พฒั นากร | 93

ชมุ ชนพงึ่ ตนเองได้

2 Project 3 Project 4 Project

สง่ เสรมิ ผนู้ ำ� แกไ้ ขปญั หา หมบู่ า้ นเศรษฐกจิ
สมั มาชพี ชว่ ยเหลอื ครวั เรอื นยากจน พอเพยี ง
สมั มาชพี ชมุ ชน
ชเี้ ปา้ ชวี ติ แผนทชี่ วี ติ บรหิ าร ความสขุ มวลรวมชมุ ชน
(มอี าชพี มรี ายได้ มงี านทำ� ) จดั การชวี ติ ดแู ลชวี ติ (Gross Village

พฒั นาครวั เรอื นให้ Happiness : GVH)
ชว่ ยเหลอื ตวั เองได้

1 แผนพฒั นาหมบู่ า้ น

/แผนพฒั นาตำ� บล
ขอ้ มลู จปฐ. / กชช. 2ค

94 | กถา พฒั นากร

๔.๒พฒั ชนมุ าชกนรใกหบัพ้ กงึ่ าตรนพเอัฒงนไดา้

1 กระบวนการจดั ทำ� แผนพฒั นาหมบู่ า้ นและแผนพฒั นาตำ� บล

กระบวนการจัดท�ำแผนชุมชน เป็นหัวใจในการเสริมสร้าง

ความเขม้ แขง็ ของชมุ ชน เพอื่ แกไ้ ขปญั หาของชมุ ชน ภายใตแ้ นวคดิ “การแกไ้ ข
ปัญหาของชุมชนโดยชมุ ชน” โดยมีความเช่อื วา่ คนมศี กั ยภาพพัฒนาตนเอง
และชมุ ชนของตนเองได้ ชมุ ชนมอี งคค์ วามรู้ และภมู ปิ ญั ญาทปี่ ระชาชนสามารถ
น�ำมาใช้ในการพัฒนาตนเอง และชุมชนของตนเองได้

วตั ถปุ ระสงค์
1 เพื่อพัฒนากระบวนการเรียนรู้ของชุมชนและพัฒนาขีด
ความสามารถของชุมชน ให้คนในชุมชนช่วยกันคิด ร่วมกันตัดสินใจ ช่วย
กันวางแผนและร่วมกันด�ำเนินการเพ่ือแก้ปัญหาและสนองความต้องการ
ของประชาชนทั้งชุมชน น�ำไปสู่ชุมชนเข้มแข็งพ่ึงตนเองและเอาชนะ
ความยากจน
2 เพื่อเชื่อมโยงความต้องการของชุมชนภายใต้แผนชุมชน
กบั แผนพฒั นาต�ำบล แผนพฒั นาอ�ำเภอ และแผนพฒั นาจงั หวัด

กถา พฒั นากร | 95

พัฒนากรมีวธิ กี ารสง่ เสรมิ กระบวนการจดั ท�ำแผน
พัฒนาหมบู่ า้ นและแผนชมุ ชนอย่างไร
1 ประชาสมั พนั ธแ์ ผนชมุ ชนเพอื่ กระตนุ้ ใหค้ นในชมุ ชนเกดิ ความสนใจ
และเขา้ มามสี ว่ นร่วมในกระบวนการจดั ท�ำแผนของชมุ ชน
2 ค้นหาผู้น�ำชุมชนเพ่ือเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนแผนพัฒนา
หมบู่ า้ นและแผนชมุ ชน และใหค้ วามรคู้ วามเขา้ ใจเกยี่ วกบั แผนพฒั นาหมบู่ า้ น
และแผนชุมชน และสรา้ งความมน่ั ใจใหแ้ กผ่ ูน้ �ำชมุ ชน
3 เตรียมข้อมูลการพัฒนาชุมชน เช่น ข้อมูลความจ�ำเป็นพื้นฐาน
(จปฐ.) ข้อมูลพ้ืนฐานระดับหมู่บ้าน (กชช.2ค) และข้อมูลอ่ืนๆ ที่เก่ียวข้อง
เพื่อประกอบกับข้อมูลที่ชุมชนจัดเก็บเองตามประเด็นการพูดคุยในเวที
ประชาคม
4 เป็นพี่เลี้ยงให้ค�ำแนะน�ำ และสนับสนุนการจัดเวทีประชาคม
ของชุมชน เช่น การเตรียมการจัดเวที เตรียมอุปกรณ์ วางแผนการจัดเวที
รวมทั้งประสานหน่วยงานต่างๆ ท่ีเก่ียวข้องให้เข้าร่วมเวทีเพื่อให้ข้อมูล
ส�ำหรับการเรียนรู้ตามประเด็นของการพูดคุยในเวที ตลอดจนท�ำหน้าที่
ผู้เออื้ อ�ำนวยกระบวนการในการจดั เวทปี ระชาคมคร้งั แรก
5 ประสานเจ้าหน้าท่ีของภาคีการพัฒนาในพ้ืนที่ เพื่อหาแนวทาง
การสนับสนุนกระบวนการจัดท�ำแผนพัฒนาหมู่บ้านและแผนชุมชน
และปฏิบตั งิ านในลกั ษณะของทีมสนบั สนุน
6 ตดิ ตามผลการดำ� เนนิ งานตามแผนพฒั นาหม่บู ้านและแผนชมุ ชน
ใหเ้ ป็นปัจจบุ ัน

96 | กถา พฒั นากร

พฒั นากรมีวิธีการส่งเสริมกระบวนการจัดทำ� แผน
พฒั นาตำ� บลอยา่ งไร
พัฒนากรผู้รับผิดชอบต�ำบลในฐานะกรรมการและเลขานุการ
ของคณะกรรมการบรหิ ารงานตำ� บลแบบบรู ณาการ หรอื (ก.บ.ต.) มบี ทบาท
หนา้ ทด่ี งั น้ี
1 รวบรวมข้อมูลองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน หรือกรมการพัฒนา
ชมุ ชน ไดแ้ ก่ ขอ้ มลู ความจำ� เปน็ พนื้ ฐาน (จปฐ.) ขอ้ มลู พน้ื ฐานระดบั หมบู่ า้ น
(กชช.2ค) และขอ้ มลู อน่ื ๆ เพอื่ ใชเ้ ปน็ ขอ้ มลู ในการจดั ทำ� แผนพฒั นาตำ� บล
2 รวบรวมแผนพฒั นาหมู่บา้ น แผนชุมชน และแผนพฒั นาทอ้ งถ่นิ
ในตำ� บล เพ่อื ใชป้ ระกอบการจัดท�ำแผนพัฒนาตำ� บล
3 จัดทำ� แผนพฒั นาต�ำบล โดยนำ� ขอ้ มูลจาก 1 และ 2 มาวเิ คราะห์
หรอื สงั เคราะห์ กลน่ั กรอง ประมวลผล เพื่อกำ� หนดทิศทางการพฒั นาต�ำบล
และล�ำดับความส�ำคัญของแผนงานหรือโครงการระดับต�ำบล รวมทั้งจัดท�ำ
แผนงานหรือโครงการในการแก้ไขปัญหาในพื้นท่ี ท่ีมีความคาบเก่ียวตั้งแต่
สองหมู่บ้านหรือสองชุมชนข้ึนไป เพ่ือรองรับการพัฒนาและตอบสนอง
นโยบายส�ำคัญเรง่ ด่วนในการแกไ้ ขปญั หาและพัฒนาในต�ำบล
4 จ�ำแนกแผนงานหรือโครงการระดับต�ำบลที่สอดคล้องกับทิศทาง
การพฒั นาองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ในพนื้ ทรี่ ะดบั ตำ� บล และทำ� บญั ชปี ระสาน
โครงการพัฒนา ส่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินพิจารณาบรรจุไว้ใน
แผนพฒั นาทอ้ งถนิ่
5 จดั สง่ แผนพฒั นาตำ� บลให้ ก.บ.อ. ใชป้ ระกอบการจดั ทำ� แผนพฒั นา
อำ� เภอ และแผนความตอ้ งการระดบั อำ� เภอ
6 ทบทวนการจัดท�ำแผนพัฒนาต�ำบลทุกปี เพ่ือให้แผนงานหรือ
โครงการระดบั ตำ� บลเปน็ ปจั จบุ นั ติดตามผลการด�ำเนินงานตามแผนพัฒนา
หมูบ่ า้ นและแผนชุมชนใหเ้ ป็นปัจจบุ ัน

กถา พัฒนากร | 97

2 การสรา้ งสมั มาชพี ชมุ ชน

สมั มาชีพชมุ ชน อาชพี ที่ไมเ่ บียดเบยี นตนเอง ไมเ่ บียดเบยี นผอู้ ่ืน

ไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม มีรายได้มากกว่ารายจ่าย ปรับจากการ “ท�ำมา
หากิน” เปน็ “ท�ำมาค้าขาย” โดยคำ� นึงถึงความเปน็ ธรรมทางสังคม

กระบวนการสร้างสัมมาชพี ชมุ ชน ใช้หลกั “ชาวบา้ นสอน

ชาวบ้าน” ในสิ่งที่เขาอยากท�ำตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
เร่ิมต้นด้วยการพัฒนาทักษะการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับปราชญ์ชุมชน
ดา้ นอาชพี จากนนั้ ปราชญช์ มุ ชนกลบั ไปสรา้ งทมี และจดั การฝกึ อบรมอาชพี
ให้กับครัวเรือนท่ีต้องการฝึกอาชีพในหมู่บ้าน ติดตาม และสนับสนุน
อยา่ งตอ่ เนอื่ งเพอ่ื ใหค้ รวั เรอื นทเ่ี ขา้ รบั การฝกึ อาชพี สามารถปฏบิ ตั อิ าชพี ไดจ้ รงิ
จนพฒั นาเป็นอาชีพท่สี ร้างรายได้ให้กับครัวเรอื นได้อย่างมนั่ คง

วัตถุประสงค์
เพื่อให้ประชาชนได้รับการพัฒนาอาชีพและมีรายได้ เศรษฐกิจ
ครวั เรอื นมคี วามมนั่ คง ประชาชนใชช้ วี ติ อยใู่ นชมุ ชนอยา่ งมคี วามสขุ สวู่ ถิ ชี วี ติ
ที่ย่ังยนื

98 | กถา พฒั นากร


Click to View FlipBook Version