แผนผังการเรยี นรู้ ศูนยเ์ รียนรู้
สัมมาชพี ชมุ ชน ตำ� บลคลองหก
อำ� เภอคลองหลวง
จงั หวัดปทมุ ธานี
(นายอดุลย์ วิเชียรชัย)
๔.๓.๒ ตัวแปรส�ำคญั ๕ ประการ
ไฟ (ทิศทางของแสง) ส�ำรวจทิศเหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตก และทิศทางการขึ้นของ
ดวงอาทติ ย์
ลม การออกแบบบา้ นใหม้ ที ศิ ทางของชอ่ งลมสอดรบั กบั ลมทพ่ี ดั มาในแตล่ ะฤดกู าล จะชว่ ยลด
การใชพ้ ลงั งานในบา้ นและเพอ่ื ใหบ้ า้ นเยน็ อยสู่ บาย โดยตามหลกั ปกติ ลมฝนจะพดั มาทางทศิ ตะวนั ตก
เฉยี งใต้ และลมหนาวหรอื ลมขา้ วเบาจะพดั มาทางทศิ ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ทง้ั นค้ี วรวางตำ� แหนง่ อาคาร
บ้านเรอื น ลานตากขา้ ว และลานนวดขา้ ว ไม่ใหข้ วางทิศทางลมหนาว
ดิน วางแผนการขุดหนองน้�ำและการปรับปรุงสภาพดินให้เหมาะสม โดยน�ำดินที่ขุดหนอง
มาทำ� โคก ให้โคกอย่ทู างทศิ ตะวันตก เม่อื ต้นไม้สูงใหญ่จะช่วยบังแดดและใหร้ ่มเงา
น�ำ้ ขดุ หนองนำ้� โดยดทู างไหลของน้�ำเข้าและออกจากพื้นที่ วางตำ� แหนง่ หนองน�้ำในทศิ ทใี่ ห้
ลมรอ้ นพดั ผา่ น จะทำ� ใหบ้ า้ นรม่ เยน็ ขดุ หนองใหม้ ขี อบคดโคง้ เพอ่ื เพม่ิ พน้ื ทเ่ี พาะปลกู และทำ� ตะพกั ให้
97
ลดหลนั่ ตามระดบั ความสงู โดยชนั้ แรกควรมคี วามสงู เทา่ กบั ระดบั ของ
แสงแดดทส่ี อ่ งลงไปถงึ ปลกู ไมน้ ำ้� หรอื พชื นำ�้ เพอื่ ใหป้ ลาสามารถวางไข่
อนุบาลสตั ว์นำ�้ ได้ และเป็นที่อยูอ่ าศัย
คน ออกแบบให้เหมาะสมกับความต้องการ ฐานะ และก�ำลงั
ของเจา้ ของทด่ี นิ และตอ้ งผา่ นการฝกึ อบรมใหม้ คี วามรลู้ กึ ซง้ึ ถงึ วธิ กี าร
ต่างๆ นอกจากความรู้แลว้ ยังต้องฝกึ เร่อื งความเพียร ความอ่อนน้อม
ถอ่ มตน
อยา่ งไรกต็ าม “โคก หนอง นา” อาจตอ้ งปรับใช้ใหเ้ หมาะสม
กับสภาพพื้นท่ี ในกรณีที่พื้นที่มีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบสูง
หรือภูเขา
การสร้างหลุมขนมครกจะถูกน�ำไปใช้ในกรณีที่ต้องการฟื้นฟู
พ้ืนท่ีเขาที่เป็นลักษณะเขาหัวโล้น สภาพพ้ืนที่ป่าบนภูเขาท่ีถูกรุกล้�ำ
ทำ� ลาย แหง้ แลง้ ขาดความอดุ มสมบรู ณ์ ซงึ่ สง่ ผลกระทบตอ่ ระบบนเิ วศ
และเปน็ เหตใุ ห้เกิดภัยธรรมชาติต่างๆ อาทิ น�ำ้ หลาก ดนิ ถลม่ ภัยแล้ง
รวมไปถงึ ไฟปา่ ซง่ึ สง่ ผลกระทบตอ่ สงิ่ มชี วี ติ ในระบบนเิ วศ จำ� เปน็ ตอ้ ง
มกี ารฟน้ื ฟูพน้ื ที่ป่าท่เี ส่ือมสภาพให้กลบั มาอดุ มสมบรู ณ์
การน�ำ “โคก หนอง นา” มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับพ้ืนท่ี
ในลกั ษณะน้ี ตอ้ งทำ� ให้สอดคลอ้ งกบั ภมู ิสงั คม เพราะภูเขามีลกั ษณะ
เป็นโคกตามธรรมชาติ จงึ ไมจ่ �ำเปน็ ตอ้ งสรา้ งโคก
เน้นการปลกู ป่า ๓ อย่าง ประโยชน์ ๔ อย่าง เพือ่ สรา้ งสมดุล
ให้แก่ระบบนิเวศ แต่เนื่องจากพ้ืนที่ขาดความชุ่มชื้น จึงต้องเพ่ิม
ความชมุ่ ชน้ื โดยการสบู นำ้� จากรอ่ งเขามาทบี่ อ่ เกบ็ นำ้� และกระจายผา่ น
คลองไส้ไกใ่ หท้ ัว่ พืน้ ท่ี
หนอง เกิดจากการก้ันฝายในรอ่ งเขา เพ่อื เกบ็ นำ้� ไว้ สรา้ งบอ่
เก็บน�ำ้ ไว้บนพน้ื ทสี่ งู โดยสูบน�ำ้ จากฝายขึ้นมาเก็บในบ่อเกบ็ น�้ำ ด้วย
พลังงานทดแทน และปล่อยน�้ำผ่านคลองไส้ไก่ซ่ึงขุดไล่ตามระดับช้ัน
ความสูงของพื้นท่ี เพอ่ื กระจายความชมุ่ ช้ืน ปลูกแฝกเพอื่ ป้องกนั การ
พังทลายของดนิ
นา ทำ� นาในรปู แบบขน้ั บนั ได ยกหวั คนั นาใหส้ งู และกวา้ ง เพอ่ื
กักเก็บน้�ำฝนในท้องนา และปลูกแฝก ท�ำนาน้�ำลึก เป็นนาอินทรีย์
โดยการใช้น้�ำควบคุมวัชพืชและเร่งผลผลิต หากเป็นพ้ืนท่ีชุ่มน้�ำแบบ
ภาคใต้ ก็จะมวี ิธกี ารทแี่ ตกต่างกันออกไปในรายละเอียด
สวนกลว้ ยและความหลากหลายของพืชพนั ธุ์
ศูนยก์ สิกรรมธรรมชาติ อ�ำเภอรัตนบรุ ี จังหวัดสรุ ินทร์
(พระอาจารยส์ ังคม ธนปัญโญ)
98
99
๕
โครงการฟารม์ ตวั อยา่ งฯ
ตา้ นภยั โควดิ -๑๙
102
พระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู ัว โดยเสดจ็ สมเด็จพระนางเจ้าสริ กิ ิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพนั ปหี ลวง ไปทรงเปดิ โครงการหมู่บ้านเศรษฐกจิ
พอเพียงและฟารม์ ตวั อยา่ ง ตามพระราชด�ำริ ณ บา้ นรอตันบาตู ตำ� บลกะลุวอ อ�ำเภอเมอื งนราธิวาส จงั หวดั นราธวิ าส เม่ือวันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๗
๖. โครงการฟารม์ ตวั อยา่ งฯ ตา้ นภยั โควดิ -๑๙
ภาพหนา้ ซา้ ยบน-ลา่ ง ด้วยพระราชปณิธาน “สืบสาน รักษา ต่อยอด” ท่ีพระบาทสมเด็จ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู วั โดยเสด็จ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงมตี อ่ พระราชกรณยี กจิ ในพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร
สมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชินีนาถ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ
พระบรมราชชนนพี ันปีหลวง ไปทรงเยยี่ ม พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จึงได้พระราชทาน
โครงการหลวงหนองหอย กบั ทรงเยยี่ มราษฎร พระบรมราชานุญาตให้น�ำที่ดินในโครงการฟาร์มตัวอย่าง จ�ำนวน ๓๐ ฟาร์ม
บ้านหนองหอย ตำ� บลแม่แรม อ�ำเภอแม่ริม จากจำ� นวน ๖๑ ฟารม์ ทวั่ ประเทศ ใชเ้ ปน็ แหลง่ เรยี นรู้ แหลง่ สรา้ งอาหารทปี่ ลอดภยั
จงั หวดั เชียงใหม่ เม่ือวนั ท่ี ๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๔ สรา้ งรายได้ และสร้างอาชพี อย่างย่ังยนื ใหก้ บั ราษฎร ผ่านการสนับสนุนจา้ งงาน
ราษฎรท่ีได้รับผลกระทบให้กลับมามีรายได้อีกคร้ัง ควบคู่กับการได้เรียนรู้
ทฤษฎใี หม่ โดยมหี ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งเปน็ พน้ื ฐาน เพอื่ ใหพ้ งึ่ ตนเอง
และสามารถอยอู่ าศยั ในบ้านเกิดได้อย่างมคี วามสุข
ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ศูนย์อ�ำนวยการใหญ่จิตอาสา
พระราชทาน ร่วมกับกระทรวงแรงงาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวง
ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธกิ าร
กระทรวงกลาโหมกองบญั ชาการกองทพั ไทยกองทพั บกกองทพั เรอื กองทพั อากาศ
ส�ำนักงานต�ำรวจแห่งชาติ ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง และภาคีเครือข่าย
ดำ� เนินงานภายใต้ “โครงการฟารม์ ตวั อย่างฯ ต้านภัยโควิด-๑๙”
103
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเสด็จสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมด้วย
สมเดจ็ พระเจา้ นอ้ งนางเธอ เจา้ ฟา้ จฬุ าภรณวลยั ลกั ษณ์ อคั รราชกมุ ารี กรมพระศรสี วางควฒั น วรขตั ตยิ ราชนารี ไปทรงเยย่ี มราษฎร
และทอดพระเนตรโครงการธนาคารอาหารชมุ ชน ตามพระราชดำ� ริ บา้ นนาปา่ แปก หมทู่ ่ี ๔ ตำ� บลหมอกจำ� แป่ อำ� เภอเมอื งแมฮ่ อ่ งสอน
จงั หวัดแมฮ่ ่องสอน
104
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเสด็จสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไปทรงเย่ียม
ราษฎรและทอดพระเนตรกิจกรรมของศูนย์บริการและพัฒนาเกษตรท่ีสูงปางตองตามพระราชด�ำริ ต�ำบลหมอกจ�ำแป่
อ�ำเภอเมอื งแม่ฮ่องสอน จงั หวัดแมฮ่ อ่ งสอน เมื่อวันที่ ๑๗ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๔๓
พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั โดยเสดจ็ สมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชนิ นี าถ พระบรมราชชนนพี นั ปหี ลวง ไปทอดพระเนตร
หนองบัว (อ่างเก็บน้�ำใกล้บ้าน) เก่ียวกับการศึกษาอนุรักษ์และขยายพันธุ์บัว ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจาก
พระราชดำ� ริ ต�ำบลกะลวุ อเหนอื อำ� เภอเมืองนราธวิ าส จังหวัดนราธวิ าส เมื่อวนั ท่ี ๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๔
105
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
และสมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ิ์ พระบรมราชนิ นี าถ พระบรมราชชนนพี นั ปหี ลวง ไปยงั บรเิ วณโรงเรยี นรม่ เกลา้ ณ ศนู ยบ์ รกิ ารและ
พัฒนาท่ีสูงปางตองตามพระราชด�ำริ ต�ำบลหมอกจ�ำแป่ อ�ำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อวันท่ี ๑๘ มีนาคม
พ.ศ. ๒๕๓๔
106
การดำ� เนนิ งานแบง่ เปน็ ๓ ระยะ คอื ระยะที่ ๑ วางแผน
ออกแบบปรับปรุงพื้นท่ี เพื่อให้ราษฎรที่จ้างงานได้รับองค์ความรู้
การจดั การพน้ื ทตี่ ามแนวทางทฤษฎใี หม่ใชเ้ วลา๒เดอื นคอื พฤษภาคม
- มถิ นุ ายน ระยะท่ี ๒ เสรมิ สรา้ งพชื ผลและการเรยี นรทู้ จ่ี ำ� เปน็ รวมถงึ
การแบง่ ผลผลติ ทเี่ หลอื ในฟารม์ ใหค้ นในชมุ ชนทไี่ มไ่ ดม้ โี อกาสเขา้ รว่ ม
ใชเ้ วลา ๒ เดอื น คอื กรกฎาคม - สงิ หาคม และระยะที่ ๓ เรยี นรกู้ ารขาย
ผลผลติ ทเี่ หลอื จากการใหแ้ ละแปรรปู ใชเ้ วลา ๑ เดอื น คอื กนั ยายน
โดยมกี ารจา้ งแรงงานรวมประมาณ ๑,๑๐๐ คน คา่ จา้ ง ๓๐๐ บาทตอ่ วนั
ทำ� งานวนั จนั ทร์ - วนั เสาร์
สำ� หรบั ภาคกลางไดฟ้ ารม์ ตวั อยา่ งฯ สบี วั ทอง อำ� เภอแสวงหา
จงั หวดั อา่ งทอง เปน็ ฟารม์ นำ� รอ่ ง แบง่ พน้ื ท่ี ๑๕ ไร่ จากจำ� นวน ๗๒๐ ไร่
มาดำ� เนนิ การตามโครงการนี้ ถงึ แมจ้ งั หวดั อา่ งทองจะไมพ่ บผตู้ ดิ เชอื้
โควิด ๑๙ แต่มีผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อยู่จ�ำนวนหนึ่ง
มรี าษฎรใหค้ วามสนใจสมคั รเขา้ รว่ มหลายรอ้ ยคน จงึ ไดค้ ดั เลอื กดว้ ย
การสมั ภาษณ์ รบั คนทไ่ี ดร้ บั ผลกระทบจรงิ ๆ เชน่ คนหนมุ่ สาวโรงงาน
ทต่ี กงาน หรอื พอ่ คา้ แมค่ า้ ทค่ี า้ ขายไมไ่ ด้ นบั เปน็ กลมุ่ แรกทค่ี ดั เลอื ก
เขา้ มาจำ� นวน ๕๐ คน มนี ายบญุ ลอ้ ม เตา้ แกว้ ครกู สกิ รรมธรรมชาติ
ชว่ ยออกแบบการเรยี นรใู้ หเ้ กดิ กระบวนการมสี ว่ นรว่ ม ผเู้ ขา้ โครงการ
จะไดเ้ รยี นรทู้ ฤษฎตี า่ งๆ ไดค้ ดิ และลงมอื ทำ� ในฐานะเจา้ ของแปลง ไมใ่ ช่
ลกู จา้ งดว้ ยตระหนกั วา่ เราไมอ่ าจจา้ งพวกเขาไปไดต้ ลอดชวี ติ จงึ เสมอื น
จา้ งมาเรยี นมากกวา่ ทำ� งาน
นางประยรู โพธทิ์ องคำ� อายุ ๕๓ ปี ชาวบา้ นสเี ยน็ กลา่ ววา่
การไดเ้ ขา้ รว่ มโครงการทำ� ใหเ้ ขา้ ใจการทำ� เกษตรกรรมไดอ้ ยา่ งลกึ ซง้ึ
และรสู้ กึ มหศั จรรยใ์ นการปลกู พชื อนิ ทรยี ด์ ว้ ยกระบวนการชวี ภาพ
นางสายหยดุ ชน่ื กลนิ่ อายุ ๕๑ ปี ชาวบา้ นรวมใจ เผยวา่
จะนำ� เอาความรทู้ ไี่ ดไ้ ปใชก้ บั ทด่ี นิ ของตนจำ� นวน ๓ ไร่ สว่ นนางจำ�
แรง ชน่ื เอยี่ ม อายุ ๔๑ ปี ชาวบา้ นปนั สขุ ไดแ้ สดงความรสู้ กึ สำ� นกึ ใน
พระมหากรณุ าธคิ ณุ เปน็ ลน้ พน้ และกลา่ ววา่ ตนเองจะนำ� เอาความรู้
เรอ่ื งทฤษฎใี หมท่ ไี่ ดจ้ ากโครงการไปเผยแพรต่ อ่ ใหค้ นในชมุ ชนของตน
จงึ กลา่ วไดว้ า่ พระมหากรณุ าธคิ ณุ ในครงั้ นไ้ี ดท้ ำ� ใหผ้ ทู้ เ่ี ขา้ รว่ ม
โครงการไดก้ ลบั มามคี วามสขุ อกี ครง้ั และสามารถพงึ่ ตนเองไดไ้ มต่ อ้ ง
เดอื ดรอ้ น โดยมแี หลง่ อาหารเปน็ ของตวั เอง และสามารถแบง่ ปนั ความ
รแู้ ละผลผลติ ใหก้ ลบั สชู่ มุ ชนไดอ้ ยา่ งยงั่ ยนื แมจ้ ะตอ้ งเผชญิ สถานการณ์
วกิ ฤตตา่ งๆ
107
โครงการพระราชทาน
โคก หนอง นา
แหง่ นำ้� ใจและความหวงั
กรมราชทณั ฑ์
110
โคก หนอง นา แห่งน้�ำใจและความหวงั
กรมราชทัณฑ์
ตามโบราณราชประเพณี เมื่อมีพระราชพิธีส�ำคัญของพระมหากษัตริย์ เช่น พระราชพิธี
เถลงิ ศกมหาสงกรานต์ พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก พระราชพธิ เี ฉลมิ พระชนมพรรษา จะทรงพระกรณุ า
โปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีทรงบําเพ็ญพระราชกุศล และในห้วงที่สุดแห่งพระราชพิธี
จะมีการพระราชทานอภยั โทษแก่ผูต้ ้องราชทณั ฑ์
ในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พุทธศักราช ๒๕๖๓ ทรงพระราชด�ำริเห็นว่าเป็น
อภลิ กั ขติ กาลสำ� คญั เพอ่ื เปน็ การแสดงพระมหากรณุ าธคิ ณุ ในสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั สมควรพระราชทาน
อภยั โทษแกผ่ ตู้ อ้ งราชทณั ฑ์ เพอ่ื ใหโ้ อกาสแกบ่ คุ คลเหลา่ นนั้ กลบั ประพฤตติ นเปน็ พลเมอื งดี อนั จะเปน็
คุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชกฤษฎีกาพระราชทาน
อภัยโทษ พ.ศ. ๒๕๖๓ พระราชทานอภยั โทษแก่ผูต้ อ้ งราชทัณฑ์ จ�ำนวน ๓๙,๐๘๑ คน
ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระปริวิตกต่อนักโทษที่ได้รับพระราชทาน
อภยั โทษ เมอ่ื จะตอ้ งออกไปสสู่ งั คมภายนอก จะหาลทู่ างในการดำ� รงชวี ติ ไดย้ ากลำ� บากกวา่ บคุ คลทวั่ ไป
จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ มใหม้ กี ารฝกึ โครงการพระราชทาน โคก หนอง นา แหง่ นำ้� ใจ
และความหวงั ซงึ่ เปน็ การประยกุ ตใ์ ชท้ ฤษฎใี หมแ่ บบชาวบา้ น ปน้ั โคก ขดุ หนอง ทำ� นา เพอ่ื สรา้ งตน้ แบบ
ทฤษฎใี หมใ่ นพนื้ ทข่ี นาดเลก็ โดยสามารถดำ� เนนิ การไดใ้ นทกุ เรอื่ ง และมงุ่ เนน้ การปรบั เปลย่ี นพนื้ ฐาน
ความคดิ การฝกึ วนิ ยั การลงมอื ปฏบิ ตั ิ ตลอดจนการแกป้ ญั หาในสถานการณจ์ รงิ เพอ่ื ใหผ้ ตู้ อ้ งขงั สามารถ
พงึ่ พาตนเอง และชว่ ยเหลือผูอ้ ่นื ท่ีได้รบั ความเดือดร้อนเมือ่ พน้ โทษออกไปภายนอก
111
นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพร้อมด้วย
เจา้ คณุ พระสนิ นี าฏ พลิ าสกลั ยาณี เยยี่ มชมพนื้ ทก่ี ารจดั การฝกึ อบรมและ โคก หนอง นา ในบรเิ วณเรอื นจำ�
โดยในวันท่ี ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๓ เสด็จพระราชด�ำเนินตรวจเย่ียมและให้ก�ำลังใจเจ้าหน้าท่ี
ครูพาท�ำและผูต้ ้องขัง ที่ทัณฑสถานหญงิ กลาง และในวนั ที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ท่เี รือนจำ� กลาง
คลองเปรม ผลแหง่ ความสำ� เรจ็ และความรว่ มมอื รว่ มใจของทกุ คนทกุ ฝา่ ยทม่ี าจากนำ้� พระราชหฤทยั และ
ยังไดท้ รงตดิ ตามการดำ� เนินงานดว้ ยพระองคเ์ อง ยงั ความปล้ืมปติ แิ ละซาบซง้ึ ในพระมหากรุณาธคิ ุณ
หาอย่างท่สี ุดมไิ ด้ ซง่ึ จะเป็นกำ� ลังใจให้ทุกคนมงุ่ มัน่ ทจ่ี ะสานตอ่ ความหวงั ต่อไป
ตามท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทาน
โครงการพระราชทาน โคก หนอง นา แหง่ นำ้� ใจและความหวงั กรมราชทณั ฑ์ โดยการประยกุ ตท์ ฤษฎใี หม่
แบบชาวบ้าน ปั้นโคก ขุดหนอง ท�ำนา เป็นการสร้างต้นแบบเกษตรทฤษฎีใหม่ในพื้นท่ีขนาดเล็ก
สามารถดำ� เนินการได้ในทกุ เง่ือนไขของพื้นที่ ในระหว่างด�ำเนนิ การจะม่งุ เน้น การปรบั เปล่ียนพ้นื ฐาน
แนวความคดิ ฝึกวินยั ลงมือปฎิบตั ิ แกป้ ญั หาจรงิ เพ่อื ใหก้ บั ผู้เข้ารับการอบรมสามารถพ่งึ พาตนเอง
ให้ด�ำรงชีวิตได้อย่างพออยู่พอกิน สามารถประกอบอาชีพเล้ียงตนเองและครอบครัวได้ เมื่อออกไป
ภายนอกและช่วยเหลอื ผ้อู ืน่ ทไี่ ดร้ บั ความเดือดร้อน
112
113
114
115
116
ดอกผลแห่งความส�ำเร็จน้ี มีจุดเร่ิมต้นโดยเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ได้รับและ
นอ้ มนำ� พระบรมราโชบายของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั สานตอ่ พระราชปณธิ านดว้ ยการลงมอื ทำ�
โคก หนอง นา แห่งน้�ำใจและความหวัง โดยเริ่มทดลองท�ำท่ีทัณฑสถานหญิงกลางเป็นแห่งแรก
เพอ่ื ท�ำให้เหน็ ว่า แมใ้ นบริเวณท่มี พี ้ืนทเ่ี ลก็ ๆ กส็ ามารถท�ำได้ เพื่อเป็นแนวทางให้ทอ่ี ืน่ ๆ น�ำไปปฎบิ ัติ
ด้วยตัวเองต่อไป อีกทั้งยังเป็นแนวพระบรมราโชบายท่ีทรงห่วงใยในเร่ืองการเตรียมความพร้อม
กอ่ นปลอ่ ย เพอ่ื เสรมิ ความเชอ่ื มนั่ เพม่ิ พนู ทกั ษะและความรทู้ ถี่ กู ตอ้ ง เปน็ ทงั้ องคค์ วามรแู้ ละภมู คิ มุ้ กนั
ท่ีผู้ต้องขังจะน�ำไปใช้ได้ในชีวิตประจ�ำวันหลังพ้นโทษต่อไป ด้วยทรงน้อมน�ำหลักแนวพระราชด�ำริ
ของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งในพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช
บรมนาถบพิตร สกู่ ารปฏิบตั ิเพอ่ื ความสุขของทุกคนทุกฝ่ายรว่ มกนั
โคก หนอง นา คือ การประยกุ ต์ทฤษฎใี หม่กวา่ ๑๕ ทฤษฎี มาลงสกู่ ารปฏบิ ัตทิ ่ีเป็นรปู ธรรม
ซง่ึ ใชไ้ ดใ้ นพื้นทข่ี นาดเลก็ เพอ่ื เปา้ หมายของความสุข ความสบายใจ ท่ไี ด้ร่วมกันสรา้ งพ้ืนทเ่ี ล็กๆ ให้
กลายเปน็ พ้นื ท่แี หลง่ อาหาร พ้นื ท่ีท�ำงาน ร่วมแรง รว่ มใจ พ้ืนทแี่ ห่งความสามัคคี
วันน้ีมีผู้ต้องขัง ๓๙,๐๘๑ คน จากเรือนจ�ำ ๑๓๗ แห่ง ท่ีได้รับพระราชทานอภัยโทษ
พ.ศ. ๒๕๖๓ และผ่านการอบรมโครงการ โคก หนอง นา แห่งน้�ำใจและความหวัง พร้อมท่ีสืบสาน
พระราชปณิธาน ด�ำรงชีวิตอยา่ งพออยพู่ อกนิ ประกอบอาชพี สุจริต กลบั สสู่ งั คมอยา่ งมคี ณุ ภาพ
117
118
จากผลการด�ำเนินงานที่ผ่านมา ผู้เข้ารับการฝึกอบรมสามารถพึ่งพาตนเองตามแนวทาง
เศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ ท้ังสามารถช่วยเหลือประชาชน ท�ำประโยชน์เพ่ือส่วนรวมได้
อนั เปน็ การสบื สานพระราชปณธิ านของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ในการสบื สาน รกั ษา และตอ่ ยอด
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล-
อดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร และช่วยกนั พฒั นาประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไป
ปัจจุบัน กรมราชทัณฑ์ได้น้อมนำ� แนวพระราชด�ำริ โคก หนอง นา แห่งน�้ำใจและความหวัง
เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาปล่อยนักโทษทุกคน และในการน้ี กรมราชทัณฑ์ได้ลงนามข้อตกลง
ความร่วมมือกับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เมื่อวันท่ี ๑๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๓
เพ่ือทจ่ี ะชว่ ยเหลอื ผพู้ น้ โทษและผ่านการอบรมจากโครงการ โคก หนอง นา แหง่ นำ้� ใจและความหวงั
โดยในเบ้ืองต้นนั้น ได้อนุมัติเงินกู้ของปีงบประมาณ ๒๕๖๓ ให้ผู้พ้นโทษซ่ึงมีท่ีดินเป็นของตนเอง
จ�ำนวน ๑๕ ราย เขา้ รว่ มโครงการพฒั นาพนื้ ทต่ี น้ แบบ การพัฒนาคณุ ภาพชีวติ ตามหลกั ทฤษฎีใหม่
ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา แห่งน�้ำใจและความหวัง และมีผู้พันโทษท่ีผ่านการฝึกอบรมสมัครเข้ารับ
การจ้างงานเป็นนักพัฒนาพ้ืนท่ีต้นแบบ (นพต.) จ�ำนวน ๕๐ ราย ต่อมาในปีงบประมาณ ๒๕๖๔
กรมการพฒั นาชมุ ชน ไดจ้ า้ งเหมาผพู้ น้ โทษ ซง่ึ ผา่ นการฝกึ อบรมจากโครงการ โคก หนอง นา แหง่ นำ�้ ใจ
และความหวงั จำ� นวน ๑๕ ราย ใหเ้ ปน็ นกั พฒั นาพน้ื ทตี่ น้ แบบ (นพต.) ประจำ� ศนู ยศ์ กึ ษาและพฒั นาชมุ ชน
๗ แหง่ และศูนย์ขยายผล ๓ แห่ง
119
๗
ผลสมั ฤทธข์ิ องการทำ� งาน
อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง : สไู้ มถ่ อย ไมม่ ที อ้
122
ผลสมั ฤทธขิ์ องการท�ำ งาน
อยา่ งตอ่ เน่อื ง :
สไู้ มถ่ อย ไมม่ ีทอ้
๕.๑ ศูนยภ์ ูมิรกั ษธ์ รรมชาติ จังหวัด
นครนายก
ตั้งอยู่บ้านท่าด่าน ต�ำบลหินตั้ง อ�ำเภอเมือง
จงั หวัดนครนายก มีเนื้อท่ี ๑๔ ไร่ ๒ งาน ๑๘ ตารางวา
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล
อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีรับสั่งให้ซื้อ
เมอื่ วันที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๒
ทรงมีพระราชด�ำริในขณะน้ันว่าอยากมีท่ีดิน
แถวน้ีเพราะถึงแม้ว่าจะไม่เจริญก็ตาม แต่เนื่องจาก
บรเิ วณนเี้ ตม็ ไปดว้ ยนำ�้ ตกและปา่ เขาใหญ่ ในอนาคตจะ
ถกู พฒั นาเปน็ แหลง่ ทอ่ งเทยี่ ว ถนนหนทาง รา้ นอาหาร
โรงแรม รสี อรท์ ตลอดจนสนามกอลฟ์ จะเขา้ มาในพน้ื ท่ี
เมอ่ื เจรญิ ขนึ้ นกั ทอ่ งเทย่ี วจะเขา้ มากนั จำ� นวนมาก อาจ
จะส่งผลกระทบต่อสภาพธรรมชาติท่ีเป็นอยู่ จึงอยาก
มีท่ีดินแถวนี้สักผืนหนึ่ง เพ่ือใช้เป็นศูนย์แสดงแนว
พระราชด�ำริของพระองค์เก่ียวกับธรรมชาติเพ่ือที่
นกั ทอ่ งเทยี่ วจะไดเ้ กดิ สำ� นกึ รกั ธรรมชาติ เมอื่ ไดเ้ ขา้ มา
ทศี่ นู ยแ์ หง่ น้ี
ท่ีดินแปลงนี้เดิมเป็นทุ่งนาร้าง คร้ันถึง
พ.ศ.๒๕๔๕ อาจารย์สุเมธ ตนั ติเวชกุล รว่ มกับสมาคม
นักเรียนเก่าโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัยอาสาที่จะมา
พฒั นาทีด่ ินแปลงน้ี โดยขออนุญาตตอ่ มูลนธิ ชิ ยั พัฒนา
โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพ
รัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทาน
ช่ือโครงการวา่ “ศูนยภ์ ูมริ ักษ์ธรรมชาติ” เมือ่ วันท่ี ๑๔
ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๕
สวนป่า ศูนย์ภมู ริ กั ษ์ธรรมชาติ จงั หวัดนครนายก
123
อาจารย์ปัญญา ปุลิเวคินทร์ ผู้อ�ำนวยการศูนย์ฯ เล่าว่าเดิมท่ีดินแปลงนี้เป็นท่ีนาร้าง อยู่ใน
สภาพดนิ เสยี และแห้งแลง้ กนั ดาร เม่อื แรกมาเรม่ิ งานยงั ไมม่ ถี นน ต้องเดนิ เท้าเขา้ มา ในขณะนั้นก�ำลัง
มีก่อสรา้ งเขือ่ นขนุ ดา่ นปราการชล จึงไดข้ อหินท่ีขุดจากการทำ� เขอ่ื นและจะต้องทิ้งมาพนู เป็นโคก และ
เดนิ ตามหลกั ทฤษฎใี หมอ่ ยา่ งคอ่ ยเปน็ คอ่ ยไป เรมิ่ ทจี่ ะเหน็ เปน็ รปู เปน็ รา่ งเมอื่ ปที ี่ ๖ ตอ่ จากนน้ั กร็ าบรน่ื
มาโดยตลอด
ปัจจุบันมีคนช่วยงานอยู่ ๗ คน นับว่าศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติค่อยข้างสมบูรณ์
สามารถด�ำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงได้ ศูนย์ฯ เปิดให้คนเข้ามาศึกษาแนวพระราชด�ำริ
ของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั แบบง่ายๆ โดยแบง่ พื้นทอ่ี อกเปน็ ๒ ส่วน คือ
124
ภาพบนหน้าซ้าย - ขวา ส่วนทีห่ นง่ึ ในรปู แบบของพิพธิ ภัณฑ์ระบบแสง สี เสียง ซงึ่ บรรจุไวด้ ้วย
อาจารย์ปญั ญา ปุลเิ วคนิ ทร์ เนอ้ื หาเปน็ วีดิทศั น์ ความร้เู รอ่ื งดนิ นำ้� ป่า คน เกย่ี วกบั เศรษฐกจิ พอเพียงและ
ผูอ้ ำ� นวยการศนู ย์ภมู ิรกั ษธ์ รรมชาติ ฝนหลวง
จังหวดั นครนายก สว่ นทสี่ อง เปน็ พพิ ธิ ภณั ฑธ์ รรมชาตทิ ม่ี ชี วี ติ จดั พนื้ ทอี่ อกเปน็ ภาคเหนอื
ภาพล่างหน้าซ้าย - ขวา ภาคกลาง ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื และภาคใต้ ไดอ้ อกแบบพน้ื ทต่ี ามหลกั ทฤษฎี
กจิ กรรมศูนย์ภมู ริ ักษธ์ รรมชาติ ใหมข่ องรชั กาลที่ ๙ บวกกบั ภมู ปิ ญั ญาไทย ซง่ึ สามารถนำ� ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ หมาะ
สมกบั สภาพภูมศิ าสตร์และสงั คมศาสตรข์ องแตล่ ะพน้ื ที่
จงั หวัดนครนายก
125
126
กิจกรรมและฐานการเรยี นรทู้ ฤษฎีใหม่ของ
พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู ิพลอดุลยเดชมหาราช
บรมนาถบพติ ร ในศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ จงั หวัดนครนายก
127
128
การหม่ ดนิ
ในการเสดจ็ ฯ เยย่ี มเพอ่ื ทรงงานในศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นาหว้ ยทรายฯ พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร
มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร ทรงมรี บั สงั่ ถงึ วธิ กี ารอนรุ กั ษด์ นิ ในพนื้ ทโ่ี ครงการ โดยไมไ่ ถหนา้ ดนิ
กอ่ นการปลูกพืช ดงั นี้
ในแต่ละพื้นที่ซึ่งมักจะเปิดหน้าดิน (ปอกเปลือก) ดิน แล้วท�ำการเกษตร
ซ่ึงยังถือว่าเป็นวิธีการผิดธรรมชาติจะเกิดปัญหาในอนาคต ให้ศูนย์ศึกษาการพัฒนา
หว้ ยทรายฯ ท�ำการเกษตรอยา่ งไมท่ ำ� ลายธรรมชาติ เช่น การไมไ่ ถพรวนเปิดหน้าดิน
(ปอกเปลอื ก)เปลอื ยดนิ เปน็ ตน้ โดยใหท้ กุ โครงการในศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นาหว้ ยทรายฯ
ทำ� เปน็ ตวั อย่าง แลว้ หาทางแนะน�ำใหร้ าษฎรทำ� ตอ่ ไป
ดงั นน้ั จงึ มกี ารหม่ ดินในรูปแบบตา่ งๆ ตามหลกั ทฤษฎใี หม่ ควรห่มดนิ ให้หนาประมาณ ๕๐ เซนตเิ มตร
และเว้นระยะห่างจากโคนต้นไม้ เพราะการห่มดินชิดต้นไม้เกินไปจะท�ำให้หนอนเจาะต้นไม้ได้ วัสดุที่ใช้ในการ
หม่ ดนิ เปน็ วสั ดอุ ะไรกไ็ ดท้ มี่ อี ยทู่ อ้ งถน่ิ เชน่ ภาคเหนอื เปน็ ซงั ขา้ วโพด ภาคใตเ้ ปน็ กากกาแฟ ใบปาลม์ ภาคกลาง
เป็นฟางข้าว ซึง่ วัตถุดบิ ในแต่ละภาคแตกต่างกันไปตามภมู ิสังคมของแตล่ ะพื้นที่
ประโยชนข์ องการห่มดนิ ประโยชนข์ องจุลินทรยี ์
๑. เป็นท่ีอยู่อาศัยของจุลินทรีย์ เนื่องจาก ๑. ตรึงไนโตรเจนในอากาศ ซึ่งในอากาศมี
ปลายรากพืชเปน็ ท่ีอยขู่ องจุลินทรีย์ ซงึ่ มีหน้าทใี่ นการ ไนโตรเจนเปน็ สว่ นประกอบอยปู่ ระมาณ ๗๘% หรือ
ย่อยอาหารให้เป็นของเหลวแล้วป้อนสู่ระบบรากพืช คิดเป็นประมาณ ๓ ใน ๔ ของอากาศทัง้ หมด ซงึ่ เป็น
จุลินทรีย์จะแบ่งเป็น ๒ กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ ราและ ธาตอุ าหารทเี่ ปน็ สว่ นสำ� คญั ในการสรา้ งการเจรญิ เตบิ โต
แบคทีเรีย เม่ือดินมีความร้อนช้ืน จะเป็นท่ีอยู่อาศัย ของพชื
ของจลุ ินทรยี ์
๒. ชว่ ยยอ่ ยสลายเศษซากพชื ซากสตั ว์
๒. เกบ็ ความชนื้ และปอ้ งกนั การระเหยของน้�ำ ๓. ชว่ ยย่อยแรธ่ าตจุ ากหิน ลกู รัง ทราย เช่น
ในดนิ ยง่ิ ห่มหนา แสงแดดเขา้ มาไมถ่ งึ จะยิ่งทำ� ใหด้ นิ เหลก็ สงั กะสี แมงกานสี แคลเซยี ม ฟอสฟอรสั เปน็ ตน้
มคี วามชนื้ ตลอดเวลา และในขณะเดยี วกนั กจ็ ะปอ้ งกนั ซ่งึ จะกลายเปน็ ธาตุอาหารของพชื ต่อไป
การระเหยของน้�ำในดนิ ไดด้ ว้ ย ๔. ช่วยสร้างฮอรโ์ มนให้พืช เช่น ไซโตไคนนิ
จบิ เบอรลิ นิ ออกซนิ เปน็ ตน้ ซง่ึ ชว่ ยเรง่ การเจรญิ เตบิ โต
๓. เมอ่ื สงิ่ ทห่ี ม่ ดนิ เนา่ เปอ่ื ยจะกลายเปน็ อาหาร ของพชื
ของสัตว์ทีอ่ าศยั อย่บู ริเวณหนา้ ดนิ ซง่ึ นอกจากจะช่วย ๕. สร้างสารป้องกันโรคพืช เพราะราและ
พรวนดินแล้ว มูลของสัตว์เหล่าน้ียังเป็นปุ๋ยให้แก่พืช แบคทีเรียกลุ่มนี้เป็นราขาว ถ้าสภาพดินเป็นกลาง
เชน่ ไสเ้ ดอื น แมลงแกลบ กงิ้ กือ เป็นต้น จุลินทรีย์จะเจริญเติบโตได้ดี ท�ำให้ราด�ำท่ีมีกล่ินและ
เป็นโทษกบั ระบบรากพืชเข้ามาในพ้ืนทีไ่ มไ่ ด้
๔. เมอื่ วัสดุทห่ี ่มยอ่ ยสลายจะกลายเป็นฮิวมัส
ซง่ึ เป็นปุย๋ ช้ันดใี หก้ บั ต้นไม้ 129
130 คลองไสไ้ ก่และหลมุ ขนมครก ศูนยก์ สกิ รรมธรรมชาต ิ อ�ำเภอรตั นบรุ ี จังหวดั สรุ นิ ทร์
131
๕.๒ศนู ยก์ สกิ รรมธรรมชาติอำ� เภอรตั นบรุ ีจงั หวดั สรุ นิ ทร์ คลองไสไ้ กแ่ ละหลมุ ขนมครก
(พระอาจารยส์ งั คม ธนปญั โญ) ศนู ยก์ สกิ รรมธรรมชาติ
อ�ำเภอรัตนบรุ ี จังหวัดสุรนิ ทร์
มีเน้ือท่ีทั้งหมด ๒๕ ไร่ ได้ลงมือท�ำการเกษตรแบบทฤษฎีใหม่ (พระอาจารยส์ งั คม ธนปญั โญ)
เมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๘ จ�ำนวน ๑๒ ไร่ โดยมีนางบุสดี ขุนศิริ น้องสาวของ
พระอาจารย์สังคมเป็นผ้ดู แู ล แบง่ เปน็ หนองน�ำ้ และคลองต่างๆ จ�ำนวน ๖ ไร่
พื้นนา ๓ ไร่ ที่เหลือจึงเป็นโคก ปลูกป่า และบ้านอาศัย โดยยืนอยู่บน
หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ขัน้ ตอนแรก คอื การขุดหนองนำ้� ซ่ึงตอ้ งลกึ มากกว่าปกติ เน่ืองจาก
พ้ืนดินทางภาคอีสานเป็นดินปนทราย ท�ำให้การกักเก็บน�้ำตลอดท้ังปี
ในระดับความลกึ ๓ - ๔ เมตร เป็นไปไมไ่ ด้ สำ� หรบั พ้ืนทข่ี องศูนยก์ สิกรรม
ธรรมชาติอำ� เภอรัตนบุรนี ี้ ต้องขุดหนองน�้ำลกึ ถงึ ๖ เมตร แต่ก็ไดป้ ระโยชน์
คอื ไดน้ ำ� ดนิ ทขี่ ดุ ไปพนู เปน็ โคกไดข้ นาดใหญ่ และไดท้ ำ� นา ปลกู พชื บนคนั นา
ขุดคลองไส้ไกแ่ ละหลมุ ขนมครกคดเคย้ี วไปมา เพือ่ สร้างความชุ่มชน้ื ใหม้ าก
ทส่ี ดุ จนถึง พ.ศ. ๒๕๖๒ จงึ ไดข้ ยายการทำ� โคก หนอง นา ไปอกี ๑๓ ไร่
132
กลว้ ย - พเี่ ลยี้ งไมใ้ หญ่
การปลูกไม้ใหญใ่ หไ้ ดอ้ ยู่รอด ไม่ตอ้ งพึ่งเทวดาฟ้าดิน แตอ่ าศัยพึ่งต้นกล้วย
วธิ กี ารคือ ปลกู ไมย้ ืนต้น เช่น ยางนา มะฮอกกานี ประดู่ สกั สะเดา ตะเคียน
ขเี้ หล็ก ฯลฯ รอบตนั กล้วยท้ังสมี่ มุ ต้นกลว้ ยจะนำ� พาความชุ่มชนื้ มาสูต่ ้นไม้
น้อยเหล่านนั้ โดยแทบจะไมต่ ้องรดน�ำ้ เลย ผ่านไป ๒ - ๓ ปี ไม้น้อยสามารถ
ยืนต้นเองได้ ก็ค่อยเอากล้วยออก ท�ำแบบนี้ไปเร่ือยๆ ทั่วทั้งบริเวณ ท�ำให้
พน้ื ดินท้งั แปลงเกดิ ความชุ่มชน้ื ขน้ึ มาอยา่ งเห็นได้ชัดเจน
กล้วย พเ่ี ล้ยี งไมใ้ หญ่ ศูนยก์ สกิ รรมธรรมชาติ อ�ำเภอรตั นบรุ ี จังหวัดสุรินทร์ (พระอาจารยส์ งั คม ธนปัญโญ) 133
กจิ กรรมและฐานการเรยี นรู้ ศนู ย์กสิกรรมธรรมชาติ อ�ำเภอรัตนบุรี จงั หวดั สุรนิ ทร์
(พระอาจารยส์ ังคม ธนปญั โญ)
134
พ ร ะ อ า จ า ร ย ์ สั ง ค ม เ ป ็ น อ ดี ต ช ่ า ง ภ า พ
หนังสือพิมพ์ เป็นนักจัดรายการวิทยุท้ังในและต่าง
ประเทศ มปี ระสบการณเ์ รยี นและทำ� งานในตา่ งประเทศ
๑๐ ปี และก่อนอุปสมบทได้เป็นหนง่ึ ในช่างภาพเฉพาะ
กิจของประธานาธิบดี จอรจ์ ดบั เบลิ ยู. บชุ เมอื่ คร้งั ด�ำรง
ต�ำแหน่งเป็นผวู้ ่าราชการรฐั เทกซัส
เมอื่ บวชแลว้ ไดเ้ นน้ งานอบรมธรรมะแกเ่ ยาวชน
แต่พระอาจารย์สังคมเล่าว่าท�ำไปช่วงหนึ่งก็เห็นว่า
ยังไม่ครอบคลุมถึงครอบครัวและชุมชน จึงได้คิดหา
วิธีใหม่ๆ จนได้มาศึกษาแนวพระราชด�ำริของในหลวง
รัชกาลท่ี ๙ เร่ืองปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและ
ทฤษฎใี หม่ ทา่ นจงึ เรมิ่ เข้าใจ
“ตัง้ แตน่ น้ั อาตมาไดเ้ ร่มิ เกบ็ ข้อมลู ของชาวบ้าน
และชุมชนจนรู้ว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นทุกข์เพราะ
มีหน้ีสินติดตัว จึงได้ไปติดต่อกับเครือข่ายเศรษฐกิจ
พอเพียง กระทัง่ มีโครงการต่างๆ ได้พยายามติดต่อเข้า
มาชว่ ยชาวบ้าน เชน่ โครงการมูลนิธิกสกิ รรมธรรมชาติ
โครงการไบโอดีเซล โครงการชีววิถีของการไฟฟ้า
ฝ่ายผลิตฯ โครงการสร้างฝายแฝกตามโครงการ
พระราชด�ำริ เป็นต้น ท�ำให้ชาวบ้านเริ่มมีความหวัง
ในชวี ติ ”
ท่านพยายามขยายแนวพระราชด�ำริเร่ือง
ดงั กลา่ วผา่ นการทำ� งานอยา่ งเอาจรงิ เอาจงั โดยการประสาน
กับศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ มาบเอ้ือง จังหวัดชลบุรี
ของอาจารย์ยักษ์ (นายวิวตั น์ ศลั ยกำ� ธร) อย่างใกลช้ ิด
หากมีผู้ท่ีสนใจในเร่ืองแบบน้ี ท่านก็จะส่งให้เข้ารับ
การอบรมดูงานที่ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ (มาบเอ้ือง)
เช่น กรณีของโคก หนอง นา ดารา ซ่ึงท่านได้
แนะน�ำให้นางสาวเขมนิจ จามิกรณ์ (แพนเค้ก) และ
นายพษิ ณุ นม่ิ สกลุ (บอย) เขา้ มาซอ้ื ทดี่ นิ ทอี่ ำ� เภอรตั นบรุ ี
จงั หวดั สรุ นิ ทร์ คนละ ๓ ไรเ่ ศษ และใหท้ �ำเป็นแปลงนา
โคก หนอง นา ตง้ั แต่ พ.ศ. ๒๕๕๙
135
136
137
138
ภาพหน้าซา้ ยบน ๕.๓ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ต�ำบลหนองโน
ฐานเรยี นรกู้ ารผลิตนำ้� หมักสมุนไพร อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั สระบรุ ี
ศูนยก์ ารเรยี นรเู้ ศรษฐกจิ
พอเพยี ง ตำ� บลหนองโน “มนี ำ�้ ไมม่ หี นี้ มที ไี่ มม่ จี น” เปน็ คำ� พดู ของอาจารยบ์ ญุ ลอื เตา้ แกว้ ผนู้ ำ� ของ
อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั สระบรุ ี ศนู ยก์ ารเรยี นร้เู ศรษฐกิจพอเพียง หรอื ปราชญช์ าวบ้านทที่ างรฐั เรยี กขานและได้
ภาพหนา้ ซ้ายลา่ ง พึง่ พงิ อาศัยในการเปน็ ศูนยก์ ารเรียนรทู้ ีท่ กุ คนทส่ี นใจจะตอ้ งมาผา่ นการอบรม
ฐานเรียนร้กู ารผลิตปุ๋ยหมกั
ศนู ย์การเรียนรเู้ ศรษฐกจิ อาจารยบ์ ญุ ลอื พฒั นาชวี ติ จากจากชาวนาทที่ ำ� นามาตลอดชวี ติ และมหี นสี้ นิ
พอเพียง ต�ำบลหนองโน พอกพูนเพิ่มข้ึนเร่ือยๆ ต้องต้ังค�ำถามกับตนเองว่า แล้วจะมีทางรอด ทางออก
อ�ำเภอเมอื ง จงั หวัดสระบุรี แบบไหน กระท่ังได้ไปศึกษาดูงานที่ศูนย์สาธิตการด�ำเนินเกษตรทฤษฎีใหม่
ภาพหนา้ ขวา วดั มงคลชัยพัฒนา อ�ำเภอเฉลมิ พระเกยี รติ จังหวดั สระบุรี เม่อื พ.ศ. ๒๕๓๖ จึง
แปลงปอเทือง ได้นำ� มาปฏิบตั ิ ทดลองใชใ้ นท่นี าของตนเอง จ�ำนวน ๒๐ ไร่ และก็เริ่มเห็นผลใน
ในศนู ยก์ ารเรยี นรเู้ ศรษฐกิจ พ.ศ. ๒๕๓๘
พอเพยี ง ตำ� บลหนองโน
อำ� เภอเมือง จังหวดั สระบรุ ี ผลผลติ ทางการเกษตรตามหลกั ทฤษฎใี หมเ่ รม่ิ ใหผ้ ลตอบแทนเปน็ มลู คา่
ทางเศรษฐกจิ จนถงึ พ.ศ. ๒๕๕๒ จงึ ไดร้ บั การยอมรบั และยกยอ่ งจากทางราชการ
(กระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร) ให้เป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง
ของจงั หวดั สระบรุ ี
139
ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ต�ำบลหนองโน
อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั สระบรุ ี ไดน้ ำ� เสนอหลกั การและหลกั สตู ร
การศกึ ษาเรยี นรู้ เปน็ ๓ ฐานการเรยี นรู้ ดงั นี้
ฐานทหี่ นง่ึ - ลดรายจา่ ย
๑. ผลิตจุลินทรีย์
๒. ทำ� ปุ๋ยหมัก
๓. สมนุ ไพรปอ้ งกนั โรคและแมลง
๔. ผลติ ปยุ๋ จากนำ�้ นมท่ีเสีย
ฐานทสี่ อง - เพมิ่ รายได้
๑. ได้เงนิ ภายใน ๓ วัน - ถั่วงอก
๒. ได้เงินภายใน ๘ วนั - เหด็ ฟางในตะกร้า
๓. ได้เงินภายใน ๑๕ วนั - ผกั บงุ้
๔. ได้เงินภายใน ๓๐ - ๖๐ วัน - ข้าวโพด
กะเพรา มะเขอื กลว้ ย ฯลฯ
ฐานทส่ี าม - เพมิ่ ความรู้
๑. ปศสุ ัตว์ - ไก่ เปด็ หมู
๒. ประมง - กบ ปลานลิ
140
บรรยากาศและฐานการเรยี นรูใ้ นศูนย์การเรยี นรู้
เศรษฐกิจพอเพยี ง ตำ� บลหนองโน อ�ำเภอเมือง จงั หวดั สระบรุ ี
141
นายบุญล้อม เต้าแก้ว สืบสานและต่อยอดจากอาจารย์บุญลือ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง
ตำ� บลหนองโน อ�ำเภอเมอื ง จงั หวดั สระบุรี
ศนู ยก์ ารเรยี นรเู้ ศรษฐกจิ พอเพยี งแหง่ นี้สบื สานและตอ่ ยอดโดยบตุ รชายทชี่ อ่ื นายบญุ ลอ้ มซง่ึ ทำ� งาน
เอกชนมาเปน็ เวลากวา่ สบิ ปี พรอ้ มทงั้ หนส้ี นิ กวา่ ๓๐๐,๐๐๐ บาท
นายบุญล้อมได้กลับมาเรียนรู้เร่ืองเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จ
พระเจา้ อยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ซ่งึ ต้องรบั ผดิ ชอบต่อจากบิดา นายบญุ ลอ้ มได้ไปศึกษาและอบรมต่อขยาย
ความคดิ ทีศ่ ูนย์กสกิ รรมธรรมชาติ (มาบเออ้ื ง) จังหวดั ชลบุรี เมอื่ พ.ศ. ๒๕๕๖ และได้นำ� มาปรับปรุง
การท�ำงาน จนบัดนี้ได้รับการยอมรับจากทุกภาคส่วน ทั้งราชการและเอกชน ให้เป็นผู้ทรงความรู้
ทางดา้ นเศรษฐกจิ พอเพียงและทฤษฎีใหม่
ภาพหนา้ ขวา
โคก หนอง นา ของนายภรู ทิ ตั และนางธณภร เพง็ จติ ร์
ซึง่ นายบญุ ลอ้ ม เตา้ แกว้ ไดเ้ ข้าไปชว่ ยให้คำ� ปรกึ ษา
142
143
144 คลองไสไ้ ก่ของนายภูรทิ ตั และนางธณภร เพ็งจติ ร์
145
146