The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

น้ำมันงาสกัดเย็น

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ebookrayong, 2021-01-28 09:37:18

น้ำมันงาสกัดเย็น

น้ำมันงาสกัดเย็น

น้ามันงาสกัดเย็น

ใส่ภาพ

ผ้จู ดั ท้า นางสาวออมฤทยั มั่นนชุ หนว่ ยงาน วทิ ยาลยั ชุมชนแมฮ่ อ่ งสอน
นายมงคล ภาคสวุ รรณ

สานักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้
69/18-19 อาคารชุดมวิ บิลดงิ้ ชัน้ 18-19 ถ.วิภาวดรี ังสิต แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400

น้ามันงาสกัดเย็นด้วยพลงั งานนา้
บ้านสบสอย

สานักงานบริหารและพฒั นาองค์ความรู้
69/18-19 อาคารชุดมวิ บลิ ดงิ้ ชนั้ 18-19 ถ.วภิ าวดีรังสิต แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400

“นา้ มนั งาสกัดเยน็ ดว้ ยพลงั งานน้า
บา้ นสบสอย”

บทนา้

“งา” เป็นพืชน้ามันท่ีส้าคัญทางเศรษฐกิจชนิดหน่ึงของประเทศ และมีแนวโน้มที่จะทวี
ความส้าคัญข้ึนทุกปี เพราะเป็นพืชท่ีมีศักยภาพในการผลิตและการตลาดสูง สามารถปลูกขึ้นง่าย ลงทุน
นอ้ ย ทนตอ่ สภาพความแห้งแลง้ ไดด้ ี เกษตรกรนิยมปลูกงาก่อนและหลังการท้านา หรือหลังจากเก็บเกี่ยว
พชื หลกั การปลูกงาทา้ ไดท้ ้งั ในพน้ื ท่ที ี่เป็นไรห่ รอื เปน็ นาขึ้นอยู่กบั สภาพพื้นท่ีของแต่ละท้องถน่ิ

เมล็ดงา และน้ามันงามีคุณค่าทางโภชนาการสูง ประกอบด้วยน้ามัน โปรตีน คาร์โบไฮเดรต
วติ ามนิ และแรธ่ าตตุ ่าง ๆ ท่จี า้ เป็นหลายชนิด มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง จึงเหมาะที่จะน้ามาใช้บริโภคเพราะ
ชว่ ยรักษาระดบั โคเลสเตอรอลในร่างกาย ป้องกันไม่ให้เกิดหลอดเลือดแข็งตัวหรือเส้นเลือดอุดตัน ซ่ึงเป็น
สาเหตหุ นึง่ ของโรคหวั ใจขาดเลือด

ในปัจจุบันประชากรทั่วโลกเริ่มตื่นตัวและเอาใจใส่ในเรื่องเพื่อสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะชาวจีน
เกาหลี ญ่ีปุ่น และประเทศในแถบตะวันออก เป็นต้น ในเมล็ดงาและผลิตภัณฑ์จากงา เป็นผลิตภัณฑ์ชนิด
หนึ่งที่ผู้บริโภคอาหารเพื่อสุขภาพให้ความสนใจอย่างมาก ท้าให้มีผู้ท้าการผลิตน้ามันงาเพ่ิมขึ้น ซึ่งการ
ผลิตน้ามันงาสามารถท้าได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการผลิตโดยใช้เคร่ืองจักร หรือการผลิตแบบ
ธรรมชาติ และแบบประยุกต์ซึ่งเป็นการสกัดน้ามันงาหรือบีบน้ามันงาไว้ใช้เอง โดยประยุกต์วิธีดั้งเดิม
ไดแ้ ก่ การต้าหรือบดเมล็ดงาในครกดินเผาและสากหิน การสกัดน้ามันงาโดยใช้เครื่องหีบน้ามันขนาดเล็ก
การสกัดน้ามันงาแบบพ้ืนบ้านของชาวไทยใหญ่ โดยใช้ครกไม้และใช้วัวในการบดอัดน้ามัน การสกัด
น้ามนั งาโดยใชค้ รกไมแ้ ละกงั หันน้า การสกดั น้ามนั งาโดยใชค้ รกประยกุ ต์และใช้ไฟฟา้

สา้ หรับการผลติ น้ามันงาในจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีท้ังการผลิตแบบโรงงานและแบบธรรมชาติ และ
จากการที่มีผู้บริโภคอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้นและนิยมบริโภคผลิตภัณฑ์จากงา อีกทั้งการผลิตน้ามันงา
แบบธรรมชาตเิ ป็นการชว่ ยส่งเสรมิ รายไดใ้ ห้แก่ชาวบ้านในทอ้ งถิ่นน้ัน ๆ ผู้จดั ทา้ จึงได้สนใจท่ีจะศึกษาการ
ผลิตน้ามันงาในรูปแบบต่าง ๆ เพ่ือเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการลงทุนผลิตน้ามันงา และเป็น
แนวทางในการพฒั นาการผลติ นา้ มนั งาให้มคี ณุ ภาพดยี ิ่งขึ้นและพร้อมเข้าส่ตู ลาดโลก

น้ามนั งาสกดั เย็น

วัตถปุ ระสงค์

1. เพ่ือเปน็ การสง่ เสรมิ และอนุรกั ษภ์ ูมปิ ญั ญาด้ังเดมิ ของทอ้ งถน่ิ
2. เพือ่ สง่ เสรมิ การมีรายได้จากการท้าน้ามันงาสกดั เย็นของ

ชาวบ้านในชมุ ชน
3. เพือ่ เปน็ แหลง่ ทอ่ งเที่ยวและเรียนรใู้ นการกระบวนผลิต

น้ามนั งาโดยภมู ปิ ญั ญาพ้ืนบา้ น

น้ามนั งาสกดั เย็น

ประโยชนท์ ี่คาดวา่ จะไดร้ บั

 ชาวบา้ นในชมุ ชนมีคณุ ภาพชวี ิตที่ดขี น้ึ
 เป็นฐานความรู้ และแหล่งเรยี นร้ใู นการผลิตน้ามันงาสกัด

เยน็ แบบครบวงจร

น้ามนั งาสกัดเยน็

กลุ่มเป้าหมาย
 กล่มุ แมบ่ ้าน
 กล่มุ เกษตรกรทป่ี ลกู งา
 ผ้ทู ี่สนใจ

น้ามนั งาสกัดเยน็

ขั้นตอนการจดั ท้าชดุ ความรทู้ ้ามาหากิน

 กา้ หนดชอ่ื เรื่อง
 วิเคราะห์แหลง่ ความรู้ และเนอ้ื หา
 ศึกษาขอ้ มูลของงา และแหลง่ ผลติ น้ามนั งา
 ศึกษาวิธีการและขน้ั ตอนการสกัดนา้ มนั งาแต่ละวธิ ี
 เกบ็ รวบรวมข้อมลู จากการสัมภาษณเ์ จ้าของความรู้ และค้นควา้

เพิ่มเติม
 เรียบเรียงเน้ือหาเพื่อจดั ท้าชุดความรู้
 เผยแพรช่ ดุ ความรผู้ ่านช่องทาง Social Network และอื่น ๆ

Mind Map

กลุม่ วิสาหกิจชุมชนต้นบุญ สกดั ร้อน
กลุ่มแปรรูปผลิตภณั ฑ์เกษตรปลอดสารเคมปี างหมู

ร้านขายของโชห่วย สถานท่ีจา้ หน่าย

นา้ มนั ขัดเงา

ผมคือ “sesame oil” เกดิ จากงาดา้ งาขาว งาแดง และงามอ้ น
โดยการหีบงาแบบเยน็ ครับผม...

 รกั ษาภมู ิปัญญาท้องถนิ่ ให้คงอยู่
 พัฒนาเป็นแหลง่ เรียนรู้กันในการสกัดนา้ มันงา
 ใช้วตั ถุดิบที่มอี ยู่ในท้องถน่ิ
 ชาวบ้านในชมุ ชนมรี ายไดแ้ ละมคี ุณภาพชวี ิตดขี ้นึ

งาม่อน งาด้า กังหันพลังงานน้า
พลงั งานจากสัตว์ (ววั /ควาย)
งาท่นี ยิ ม

งาแดง

พลังงานมอเตอร์ไฟฟา้

เคร่อื งจักรแบบไฮโดรลกิ
และสครเู พรส

โฟมลา้ งหน้า
น้ามนั งา

โลชน่ั บ้ารงุ ผวิ น้ามันงา สบนู่ ้ามันงา ยาหม่องน้ามันงา

ใช้ในด้านสขุ ภาพ - ใช้ทา้ ขนมตา่ ง ๆ เชน่ คกุ ก้ี ขนมปัง เมด็ ขนนุ ขนม
ใชป้ ระกอบอาหาร หมอ้ แกง ขนมลูกชุบ ใส้ขนมเปี้ย ใส้ขนมโมจิ ใส้
ใชใ้ นดา้ นความงาม กระหร่ีปบ้ั ฯลฯ
ใชใ้ นอตุ สาหกรรม - ใช้ท้าอาหารเสรมิ
- กากงาด้า น้าไปสกดั sesamin เปน็ แคปซูล
เป็นพลงั งานทางเลอื ก - ใชเ้ ล้ยี งสัตว์
- ใช้ทา้ ปยุ๋

ข้อควรระวัง
อย่ากนิ งามากเกินไปเพราะอาจทา้ ใหท้ ้องรว่ งได้ ( กินมากกวา่ 4 ชอ้ นโต๊ะ )

น้ามนั งาสกดั เยน็

น้ามนั งาสกดั เยน็

น้ามนั งาสกดั เยน็

น้ามนั งาสกดั เยน็

น้ามนั งาสกดั เยน็

น้ามนั งาสกดั เยน็

น้ามนั งาสกดั เยน็

น้ามนั งาสกดั เยน็

น้ามนั งาสกดั เยน็

ชนิดของงา

จ้าแนกโดยแบง่ ตามสขี องเปลือกเมล็ดเป็นเกณฑ์ มี 4 ชนดิ ไดแ้ ก่ งาขาว งาดา้ งาแดง และงาม้อน

1. งาด้า ที่ใช้ปลกู กนั ทัว่ ไปมี 4 พนั ธ์ุ คือ งาดา้ บุรีรมั ย์ งาดา้ นครสวรรค์ สองพนั ธน์ุ ้เี ปน็ พนั ธ์พุ ื้นเมอื ง ส่วน
อีกสองพันธุ์เปน็ พันธทุ์ ี่ได้รับการปรบั ปรงุ คืองาด้า มก.18 และงาด้า มข.2
2. งามอ้ น หรืองาข้ีมอ้ น เปน็ งาพ้นื เมอื งซงึ่ มกี ลิน่ เฉพาะตัว เปน็ พชื สมุนไพรทป่ี ลูกในประเทศไทยกนั มา
นานในพ้นื ท่ีภาคเหนือหลายจังหวดั เช่น จังหวัดเชยี งใหม่ เชียงราย น่าน พะเยา แม่ฮ่องสอน ใหผ้ ลผลิตมาก
ในชว่ งตน้ ฤดูหนาว งาม้อนมที ้ังหมด 130 สายพันธุ์ มีความแตกตา่ งทั้งขนาดเมลด็ ใหญ่ เลก็ ไม่เท่ากัน สจี ะ
ต่างกันตง้ั แตน่ ้าตาลอ่อนจนถงึ น้าตาลไหม้ สีเทาเขม้ เทาออ่ นจนถงึ สีขาว
3. งาขาว พนั ธ์พุ ้นื เมืองได้แก่ พันธุ์เมืองเลย เปน็ พนั ธุ์ทตี่ ลาดตอ้ งการ เพราะน้าไปสกดั น้ามันได้น้ามันที่มี
กล่ินหอม พันธเ์ุ ชยี งใหม่ ปลูกมากในเชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน พนั ธ์ุชัยบาดาล หรอื สมอทอด เปน็ พันธุ์ทหี่ า
ยาก อีกสามพนั ธ์ุเป็นพันธปุ์ รบั ปรุง ได้แก่ พนั ธ์รุ อ้ ยเอด็ 1 พันธุ์ มข.1 และพันธ์มุ หาสารคาม 60
4. งาแดง หรือเรยี กกนั ท่ัวไปวา่ งาเกษตร ที่ปลกู กนั มี 3 พันธุค์ ือ พันธ์พุ ้ืนเมืองพิษณโุ ลก และพันธุ์พ้นื เมอื ง
สโุ ขทยั พนั ธุ์ท่ปี รับปรุง ได้แก่ พันธง์ุ าแดงอุบลราชธานี 1 และงาแดงพนั ธุ์ มข.3

ประโยชน์ของงาในด้านสขุ ภาพ

• ปัสสาวะ อุจจาระขัด ใชเ้ มลด็ งา 20-25 กรมั แช่ในน้าเดือด หรือตม้ รับประทานขณะทอ้ งว่าง
• ความดนั โลหติ สงู ให้ใช้ เมล็ดงา นา้ สม้ ซอี ๊ิวและนา้ ผ้งึ อย่างละ 30 กรัม ผสมกบั ไขข่ าว 1 ฟอง คน
ให้เขา้ กนั แลว้ ต้มดว้ ยไฟออ่ น ๆ จนสุก รับประทานวนั ละ 3 ครง้ั เป็นประจ้า
• ไอแห้ง ไม่มีเสมหะ ให้น้าเมล็ดงา 250 กรมั นา้ ตาลทรายแดง 50 กรัม บดรวมกันรบั ประทาน
ครัง้ ละ 15-20 กรัม จากน้ันนา้ ผงทีไ่ ด้เติมน้าเดือดไวส้ กั 2-3 นาที ดมื่ ขณะยังอนุ่ ๆ วันละ 2 ครง้ั
เชา้ และเยน็
• แผลแตกไหม้จากน้ารอ้ นลวก ใช้งาบดผสมน้าและน้ามะนาม นา้ มาทาบรเิ วณที่เปน็ แผล
• บรรเทาอาการปวดท้องประจ้าเดือน ใชเ้ มล็ดงาบด 1 ชอ้ นชา ชงกบั น้า ทานวนั ละ 2 คร้ัง ก่อน
ประจ้าเดอื นมา 2 วัน
• ลดการหมักหมมในชอ่ งทอ้ ง ให้ทานน้ามันงาดิบ 1-2 ช้อนโตะ๊ ขณะท้องว่าง
• บรรเทาอาการปวดเม่ือย ใชน้ า้ มนั งาใส่ขิงสดขูดละเอียด ใชผ้ า้ ฝา้ ยจุ่มและน้าไปถนู วดบริเวณท่ี
ปวดเมอ่ื ย
• รักษาโรคผิวหนัง ใช้น้ามันงาผสมกระเทยี มสับนา้ มาทาบริเวณกลาก เกล้อื น เรอ้ื นกวาง และ
สะเก็ดเงิน
• นา้ ร้อนลวก น้ามนั งาผสมน้าปนู ใส ช่วยบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนจากน้ารอ้ นลวกได้เปน็
อยา่ งดี ใชน้ า้ มนั งา 1 สว่ น นา้ ปูนใส 1 สว่ น ตีให้เขา้ กนั จนเป็นครีมขาว เอาผา้ ขาวบางท่ีสะอาดจุ่ม
แล้วแปะไว้บริเวณทเี่ ป็นแผล

ประโยชนข์ องงาในดา้ นสขุ ภาพ

 แก้ปัญหาผมร่วง ใชน้ ้ามันงาเคย่ี ว ทิง้ ไวใ้ หเ้ ย็น แล้วนา้ มาทาบริเวณท่ผี มร่วง วนั ละหลาย ๆ
คร้ัง จนกระทั่งผมเรม่ิ ขึน้ นวดทาบริเวณทม่ี อี าการปวดและ รกั ษาเส้นเอน็ ท่บี าดเจ็บ
 ใชน้ วดบรรเทาอาการช้าบวม ใหท้ านา้ มันงาแลว้ นวดเบา ๆ รอบ ๆ บรเิ วณ จะท้าใหต้ รงทช่ี ้า
บวมหายเรว็ ขนึ้
 เปน็ หวดั แพ้อากาศ ให้รบั ประทานงาเปน็ ประจ้า (ทานชว่ งเช้า ประมาณ 2 ชอ้ นโตะ๊ ) จะทา้
ให้หายใจโล่ง อาการดีขึ้น
 ช่วยลดอาการอกั เสบของหัวริดสดี วง ช่วยหา้ มเลอื ดจากหัวริดสีดวง และนา้ มนั งายังใช้ทาหัว
รดิ สีดวง แกร้ ดิ สีดวงอกั เสบได้ด้วย
 สา้ หรับผูท้ ีเ่ ปน็ ไซนัส ใช้มนั งาดบิ หยอดจมูก 1-2 หยด จะไดผ้ ลดี
 ใชน้ ้ามันงาประกอบอาหารรบั ประทานเปน็ ประจ้า จะช่วยป้องกันโรคหลอดเลอื ดแขง็ ตวั
หลอดเลือดหวั ใจตบี ตัน และอาการทอ้ งผกู
 ทานน้ามนั งา 1 ช้อนโต๊ะก่อนอาหารเชา้ ชว่ ยใหข้ บั ถา่ ยสะดวก ระบายท้อง
 รักษาฝี นา้ เมลด็ งามาคว่ั จนไหม้แล้วปน่ ใหเ้ ปน็ ผง ทาบนฝีขณะทยี่ ังมีความร้อน
 ชว่ ยเพ่ิมฮอรโ์ มนเอสโตรเจน ส้าหรบั สภุ าพสตรีในวยั หมดประจา้ เดอื น

ประโยชน์ของงาดา้ นความงาม

งาดา้ เป็นอาหารทมี่ ีประโยชน์ต่อการชะลอความแกเ่ พ่ิมความอ่อนเยาว์ให้กับผิวได้อย่างน่าทึ่ง เพราะ
มันมีสารอาหารที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระอยู่เป็นจ้านวนมาก แล้วยังช่วยดูแลเรื่องผิวพรรณ วิตามินซี
ช่วยสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นส่วนประกอบของช้ันผิวหนังแท้ และวิตามินอีในงาด้ายังช่วย
ซอ่ มแซมผวิ และยงั สรา้ งภมู ิคุ้มกนั ให้กับผวิ

1. ใช้หมักผม จะท้าให้เส้นผมดกด้า ไม่หลุดร่างง่าย ผมไม่แห้งแตกปลาย ใช้น้ามันงาหมักผมไว้
ประมาณ 30 นาทกี ่อนสระออก

2. ใชบ้ า้ รงุ ผิวหน้า ผวิ กาย นวดตัว คลายกล้ามเน้ือ กระตุ้นการไหลเวียนของระบบน้าเหลือง ช่วยให้
หลอดเลือดขยาย

3. อมฆ่าเช้ือ และลดกลิ่นปาก ลดคราบบุรี ชากาแฟ อมแล้วกลวั้ คอประมาณวันละ 5 นาที หลังแปรง
ฟนั แลว้ บ้วนท้ิง

4. ใช้ท้าความสะอาดเคร่ืองส้าอางค์

ประโยชนข์ องงาในงานครัว

- ใช้ประกอบอาหารได้ทุกประเภทเน่ืองจากอุณหภูมิในการ ประกอบอาหารประมาณ 100 องศา
เซ็นเซียนส ไม่ได้ท้าลายคุณค่าทางโภชนาการของน้ามัน (หากใช้แล้วไม่ควรน้ากลับมาใช้ซ้า) ดังน้ัน ท้ัง
ผัด ทอด หมกั หมู หมักเนอ้ื ทา้ น้าจิม้ สกุ ้ี

- ดับกล่ินคาวปลาและอาหารทะเล ด้วยการหมักเน้ือปลาหรืออาหารทะเลกับน้ามันงาก่อนน้าไป
ปรุงอาหาร

- ส้าหรับทอดที่ใช้เวลาไม่นานมาก หรือเจียวไข่ ตั้งน้ามันงาให้ร้อนรอจนฟองหมด แล้วทอดจะท้า
ให้อาหารท่ีทอดกรอบนอกนุ่มใน ไม่อมน้ามัน อาหารมีรสชาดอร่อยข้ึน โดยไม่มีกลิ่นน้ามันตกค้างใน
รสชาดอาหารเลย

- ผัดผกั กบั น้า เหยาะเกลือปน่ เลก็ นอ้ ย ใส่นา้ มันงา 1 ช้อนชา ผกั จะหอมและกรอบอร่อย
- ผสมในน้าจิม้ สุก้ี น้าสลดั เพื่อสขุ ภาพ
- ใสใ่ นหมอ้ หุงข้าว 1 ช้อนโตะ๊ กอ่ นกดปมุ่ จะช่วยให้ขา้ วหอมนุ่ม อรอ่ ย ไม่บูด ไม่เสยี งา่ ย
- ใชห้ มกั เน้อื หมู ท้าให้เน้อื นมุ่

การน้างามาใชป้ ระโยชนด์ ้านอุตสาหกรรม

 อตุ สาหกรรมยาฆา่ แมลง ใชผ้ สมกบั ดอกไพเรทรมั เปน็ ยาฆา่ แมลง เช่นยากันยุง
 อตุ สาหกรรมเคร่อื งส้าอาง ในเครอ่ื งส้าอางเกือบทกุ ประเภท เช่น ครีมลา้ งหน้า ครมี
บา้ รงุ ผวิ น้ามนั บา้ รงุ ผม แชมพสู ระผม น้าอบ น้าหอม มนี ้ามันงาเป็นสว่ นประกอบ
 อุตสาหกรรมยา น้ามันงาเปน็ ส่วนผสมอยา่ งหนึ่งในการเตรยี มยาแขวนตะกอน เพอื่ ช่วย
ยดื อายุของยาให้นานขนึ้ และยังเป็นสว่ นผสมในยาช่วยลดโคเรสเตอรอล(เนือ่ งจากมีเลซิธนิ )
 อตุ สาหกรรมน้ามัน ใชน้ า้ มันงาเติมลงในนา้ มนั เชอ้ื เพลิงจะชว่ ยเพม่ิ ก้าลังรถยนต์ และ
ชว่ ยประหยดั น้ามนั
 อตุ สาหกรรมทา้ ช๊อคโกแลต สามารถใช้น้ามนั งาแทนโกโกบ้ ัตเตอรใ์ นการทา้ ชอ๊ คโกแล
ตแข็ง
 นอกจากน้ียงั ใชใ้ นอตุ สาหกรรมเนย เนยเทียม กระดาษน้ามันสลัด สนี ้ามัน นา้ มันขดั
เงา หนงั เทียม กระดาษนา้ มัน พรมน้ามัน และหมกึ พมิ พ์

ประโยชน์ของงาในดา้ นพลงั งานทดแทน

 ใชแ้ ทนนา้ มันตะเกียง
 ผลิตไบโอดเี ซล

ประโยชนข์ องกากงา

กากงาท่ีได้หลังจากการสกัดน้ามันสามารถน้ามาใช้ประโยชน์ต่าง ๆ ได้อีก โดยคุณภาพของกากงา
ขึ้นอยูก่ ับกรรมวธิ ขี องการสกัดนา้ มัน ซงึ่ คุณภาพของกากงาดา้ ดกี ว่ากากงาขาว

1. ใช้ท้าขนมต่าง ๆ เช่น คุกก้ี ขนมปัง เม็ดขนุน ขนมหม้อแกง ขนมลูกชุบ ไส้ขนมเปี้ย ไส้ขนมโมจิ
ไส้กะหร่ีปั๊บ ไส้ซาลาเปาทอด ไส้ขนมโก๋ ขนมถั่วกวน ถ่ัวตัด ถั่วเหลืองป่นคั่วหอมๆโรยคลุกขนมญี่ปุ่น
ไอศครีม

2. ใช้ทา้ อาหารเสริม
3. กากงาด้า น้าไปสกดั sesamin เปน็ แคปซูล
4. ใช้เลยี้ งสัตว์
5. ใชท้ า้ ป๋ยุ
6. ใช้ขัดผิว เพราะกากของเมล็ดงาสามารถท้าให้เกิดการหลุดลอกของเซลล์ และมีสารต่อต่านอนุมูล
อิสระ ท้าใหผ้ ิวมีความกระจา่ งใส เรียบเนียน เพม่ิ ความชุ่มชื้นให้ผิว

*** ราคาของกากงา กิโลกรัมละ 10-15 บาท

กากงาดา้ ท่ไี ดจ้ ากการใช้ครกอดี งา

กากงาด้าทีไ่ ด้จากการใชเ้ ครอ่ื งจักร เมล็ดจะ
ลีบแบน น้าหนกั เบา

การเก็บรกั ษาน้ามนั งา

 ควรปดิ ฝานา้ มันหลังใช้แล้วให้สนทิ เพอ่ื ป้องกนั กล่ินเหม็นหืน
 หลังใชน้ ้ามัน ไม่ควรเก็บไวใ้ นภาชนะท่ีเป็นเหลก็ ทองแดง ทองเหลือง เพราะจะท้าให้คณุ ภาพ
ของน้ามนั ดอ้ ยลง
 ควรเกบ็ นา้ มันไวใ้ นที่เย็นและไม่โดนแสงสวา่ ง เพอ่ื เป็นการช่วยยดื อายกุ ารใช้งานของนา้ มันงาให้
ยาวนานข้ึน

คุณคา่ ของ “งาด้า”

แคลเซียมมากกว่านมวัว 6 เท่า ธาตุเหล็ก, ซิลิเนียม, โซเดียม, ฟอสฟอรัส,สังกะสี, โพแทสเซียม,
แมกนเี ซยี ม, แมงกานสี , ทองแดง, โปรตนี สงู , ไขมนั , วิตามิน A, E, B1, B2, B3, B6, B9, มกี รดไขมนั ไม่
อ่ิมตัว, โอเมก้า-3, โอเมก้า-6 เลซิตินสารเบตาแคโรทีน, กรดไลโนเลอิก ,กรดอะมิโน 2 ชนิด คือ เมทธีน
โอนีน และทรปิ โตเฟน
• ชว่ ยในการเผาผลาญ สลายไขมัน ลดความอ้วนเสริมสรา้ งกลา้ มเนือ้
• ลดการดูดซึมและการสงั เคราะห์โคเลสเตอรอล
• ท้าให้ระดับไขมนั อยใู่ นสดั ส่วนปกติ
• ช่วยการท้างานของวติ ามนิ อี
• ชว่ ยป้องกันการเสอื่ มของเซลล์ในระบบประสาท
• ลดปฏกิ ริ ยิ าความเครยี ด
• ต้านอนุมลู อิสระ เปน็ สารแอนตอิ อกซิแดนท์
• ต้านการอักเสบ
• บ้ารุงผิวพรรณใหช้ มุ่ ชื้น เปลง่ ปลั่ง ชะลอการเกดิ ร้ิวรอย
• บา้ รุงรากผมให้แข็งแรง
• บ้ารงุ โลหิต ป้องกันโรคหัวใจ และหลอดเลือดตีบตนั
• เอานา้ มนั งาไปทาๆ บริเวณที่กระดกู หักหรอื แตก ทา้ ใหก้ ระดูกผสานกนั เรียกกันว่าน้ามนั ตอ่ กระดกู
ผสานกระดกู
• ชว่ ยในการฟน้ื ฟขู องตบั เนื่องจากสารเซซามินสามารถทา้ ใหเ้ ซลล์ตบั ท้างานไดด้ ขี น้ึ

คณุ ค่าของ “งาขาว”

สรรพคุณใกล้เคียงกับงาด้า เพราะมีท้ังกรดไขมันโอเมก้า 3 ,6 และ 9 แต่จุดเด่นของงาขาว คือมี
วิตามนิ อีปรมิ าณสงู
• กระต้นุ การเจรญิ ของเซลระบบผวิ หนังใหเ้ จรญิ และชว่ ยหล่อเล้ียงให้ มคี วามชุ่มชืน่
• ชะลอความแกโ่ ดยเสริมสรา้ งการพัฒนาการของเซลใหม่ซอ่ มแซมที่สึกหรอ
• ท้าใหเ้ ซลลใ์ นร่างกายสมบูรณแขง็ แรง บา้ รงุ กระดกู เพิ่มความยืดหย่นุ กล้ามเนือ้ และไขข้อ
• ลดริว้ รอยและปญั หาผวิ เหยี่ วย่น ด้วยการชว่ ยชะลอการเส่อื มสภาพของเซลล์
• ทา้ ใหเ้ ลือดไหลเวียนดีขน้ึ หัวใจท้างานน้อยลง
• ตา้ นอนุมูลอสิ ระ
• ชว่ ยใหผ้ วิ ของคุณผชู้ ายสขุ ภาพดีขนึ้ ได้ เพราะวิตามนิ E และ B ทม่ี อี ยู่มากจะท้าให้ผวิ แข็งแรง ชุม่ ชืน้ ขึ้น
• ชว่ ยลดระดับความเครยี ดของคณุ ได้ และยังช่วยผ่อนคลายความเหน่อื ยล้า
• มสี ารแอนต้ีออกซิแดนท์ ท่ีรา่ งกายต้องการ เม่อื บริโภคเข้าไปร่างกายคุณจึงสามารถตอ่ สู้กับแบคทีเรยี
และไวรัสไดด้ ขี ้นึ
• นา้ มนั งาขาวใช้ร่วมกบั อาหารท่ีมีโซเดยี ม ทัง้ สองตวั นี้จะชว่ ยกนั ลดความดันในเสน้ เลือดได้

ฯลฯ

คุณคา่ ของ “งามอ่ น”

อุดมด้วยวิตามินบีและแคลเซียมมากกว่าพืชผักท่ัวไปถึง 40 เท่า และฟอสฟอรัสในปริมาณสูง
มากกว่าพืชผักทั่วไป 20 เท่า และ ในงาม้อนเป็นพืชชนิดเดียวท่ีมีโอเมก้า 3 ,6 และ 9 ซึ่งมีมากกว่า
น้ามันปลา 2 เท่า งาม่อนไม่ใช่งา ไม่ได้อยู่ในตระกูลงา แต่อยู่ในตระกูลใกล้เคียงกับเม็ดเเมงลัก
แต่ด้วยรสมันๆกรุบๆ ท่สี มั ผัสคล้ายงา ทา้ ใหค้ นเรยี กวา่ งาข้ีม่อน

• สามารถชว่ ยปอ้ งกันโรคมะเร็งหลายชนดิ และยงั ชว่ ยให้ร่างกายแก่ช้าลงอีกด้วย
• มคี วามส้าคญั อยา่ งยงิ่ ต่อการบ้ารุงสมอง ช่วยการพัฒนาการและเสริมความแขง็ แรงของเซลสมอง
• ชว่ ยการพัฒนาการ และชว่ ยเสรมิ ความแข็งแรงของเซลของสมอง
• ชว่ ยลดความเครยี ดในสมอง บรโิ ภคเป็นประจ้าจะทา้ ให้นอนหลบั สบาย
• ช่วยลดความเส่ียงการเป็นอลั ไซเมอร์
• ชว่ ยลดโคเลสเตอรอส
• ต้านแบคทีเรีย ตา้ นเช้อื รา ไวรสั เปน็ ยาระบาย ลดบวม ลดอณุ หภมู ริ ่างกาย
• ปอ้ งกันไม่ใหห้ ลอดเลอื ดแขง็ ตวั ป้องกนั โรคหวั ใจ
• แกอ้ าการไม่สบายทีเ่ กิดจากระบบประสาท เช่น นอนไมห่ ลบั อ่อนเพลีย เป็นเหนบ็ ชา ปวดเสน้
ตามตัว เบื่ออาหาร ทอ้ งผกู เมือ่ ยสายตา
• ป้องกันการเกิดภาวะกระดกู พรนุ และยับยัง้ การขบั แคลเซียมทางปัสสาวะ
• ชว่ ยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน และลดความรนุ แรง ของการเกิดภมู ิแพ้ชนดิ เฉยี บพลนั
• น้ามันหอมระเหยจากใบ ใช้เป็นสารแต่งกล่ินอาหาร และแกเ้ คล็ดขดั ยอก ลดร้ิวรอยบนใบหนา้
บา้ รงุ ผวิ หน้า
• มสี าร rosmarinic acid และ tuteolin ซง่ึ มีฤทธิ์ต้านการแพ้ และอกั เสบได้ดี

คณุ คา่ ของ “งาแดง”

มีสารต้านอนุมูลอสิ ระสูง มปี ระโยชน์
มากกวา่ น้านมววั ถึง 60 เท่า มีสารต้าน
มะเรง็ สูง

• งาแดงเปน็ งาทถ่ี กู น้าไปใช้ในอุตสาหกรรมนา้ มนั คอ่ นขา้ งมาก โดยผ่านกระบวนการเอาเปลอื กหมุ้
เมล็ดออกท้าเปน็ งาขดั เพ่อื ใหเ้ มลด็ เป็นสขี าวทดแทนงาขาวท่มี ผี ลผลิตไม่เพยี งพอกับความตอ้ งการ
• นา้ มนั งาแดงใช้ในการบ้ารงุ ผวิ พรรณ เพ่มิ ความชุม่ ชืน่ และชว่ ยตา้ นรังสยี วู ี
• น้ามนั งาแดงมีประโยชนส์ ูงกว่าน้านมวัวถึง 60 เท่า เปน็ อกี ทางเลือกหน่ึงนอกเหนือจากนา้ มันงา
ดา้ บริสทุ ธ์ิ ซ่งึ น้ามันงาแดงอาจมกี ลน่ิ หอมนอ้ ยกวา่

“นา้ มนั งาสกดั เยน็ ด้วยพลังงานน้า
บา้ นสบสอย”

ข้อควรระวัง
ไม่ควรทานงามากเกินไปเพราะอาจท้าให้ท้องร่วงได้ ( กินมากกว่า 4 ช้อนโต๊ะ ) และผู้ที่ไม่ควร

รับประทานงา ไดแ้ ก่ ผทู้ อ้ งเสีย เน่ืองจากงาดา้ มีฤทธ์ิเป็นยาระบาย อาจจะท้าให้ท้องเสียมากขึ้นไปอีก ผู้
ทมี่ ีหลอดเลือดหินปูนเกาะ เพราะงามีแคลเซียมมากกว่านมถึง 6 เท่า มีสิทธ์ิท่ีจะไปเพ่ิมพูนหินปูนได้อีก
ผู้มีปัญหานิ่วในท่อปัสสาวะ เพราะงามีแคลเซียมชนิด “ออกซาเลต” สูง ซ่ึงจะไปตกผนึกน่ิว ผู้ท่ีกิน
วิตามินอีอยู่แล้วอย่ารบั ประทานงามากเกนิ ไป เพราะงาอดุ มไปด้วยวติ ามนิ อีอยแู่ ล้ว

ชนดิ ของน้ามันงา

1 น้ามันงาท่ีผ่านกระบวนการบีบเย็น คือ น้ามันงาที่บริสุทธ์ิไม่ผ่านการฟอกสี และการต้มกลั่น
แต่จะน้าเมล็ดงาดิบมาบีบค้ันที่อุณหภูมิต่้ากว่า 45 องศาเซลเซียส จึงคงคุณค่าสารอาหารไว้
ครบถว้ น จะมีสเี หลืองใส หรอื สเี หลืองใสปนเขยี ว มกี ลน่ิ หอมออ่ นๆ ถ้าเป็นงาขาว สจี ะออ่ นกว่างา
แดงและงาด้า เหมาะสา้ หรบั การปรุงอาหารทไี่ มต่ ้องใช้ความร้อน หรือใส่ในอาหารที่ปรุงเสร็จแล้ว
นิยมน้ามาประกอบอาหาร เป็นส่วนผสมในเคร่ืองส้าอาง ใช้ทาผิวบ้ารุงผิว นวดผ่อนคลาย
กล้ามเนื้อ

2 น้ามันงาที่ผ่านกระบวนการบีบร้อน คือ การค้ันน้ามันงาจากเมล็ดด้วยการ
บดหรือหีบ เพ่ือให้ได้น้ามันงาออกมา แต่จะต้องน้าเมล็ดงาไปค่ัวให้ได้ท่ีก่อน
แล้วจึงน้ามาบดหรือหีบ น้ามันที่ได้จะมีสีเหลืองเข้มปนด้า หรือ สีน้าตาล
แดงใส มีกล่ินหอม แต่อาจจะเสียคุณค่าสารอาหารบางชนิดไป จาก
กระบวนการผ่านความร้อน เหมาะส้าหรับการใช้ปรุงอาหารท่ีต้องผ่านความ
ร้อน ซึ่งจะช่วยให้อาหารมีกล่ินหอม จึงเป็นที่นิยมโดยเฉพาะอาหารจีนและ
ญ่ปี ุ่น สามารถเก็บไว้ได้นาน ไม่เหม็นหืนง่าย นิยมน้าไปประกอบอาหารท้ังคาว
หวาน มีราคาแพง

วิธีการผลติ น้ามนั งาสกัดเยน็

การสกัดนา้ มนั งาด้วยครกไม้ และใชแ้ รงงานจากววั หรือควาย

การสกัดน้ามันงาด้วยครกไม้ และใชพ้ ลงั งานจากกงั หันน้า

วธิ ีการผลิตน้ามันงาสกัดเย็น

การสกัดน้ามนั งาโดยใชค้ รกไม้ และใช้พลังงานไฟฟ้า

การสกดั น้ามนั งาโดยใช้เครอื่ งจกั รขนาดเล็ก

เครอื่ งบบี อัดสครเู พรส เคร่ืองบีบอดั ไฮโดรลิก

ประวตั ชิ ุมชนบา้ นสบสอย

จากการสอบถามผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านได้เล่าว่า บ้านสบสอยแต่เดิมประมาณ 100 ปีที่ผ่านมา
และได้มีชาวบ้านมาถางปา่ เพ่อื ท้าไรท่ ้านาพรอ้ มกับตั้งบา้ นเรือนขึ้นจา้ นวน 2 หลงั ต่อมามชี าวบ้านอพยพ
มาจากหม่บู ้านต่างๆ และหมู่บ้านทุ่งโหล่ง หรือบ้านทุ่งกองมูในปัจจุบัน ซ่ึงอยู่อีกฟากหนึ่งของแม่น้าปาย
เข้ามาบุกเบิกท้าการเกษตร และต้ังบ้านเรือนอย่างถาวร เมื่อ พ.ศ. 2498 และได้สร้างวัดขึ้น 1 วัด
เรียกว่า วดั บา้ นสบสอย คา้ ว่า “สบ” เป็นภาษาไทใหญ่ หมายถึง ปาก “สอย” หมายถึง แม่น้าสอย เม่ือ
น้ามารวมความกันแล้ว “สบสอย” หมายถึง บริเวณที่แม่น้าปายและแม่น้าสอยไหลมาบรรจบกัน ต่อมา
ทางราชการได้แตง่ ตงั้ เป็นหมู่บา้ นสบสอย มผี ้ใู หญ่บา้ นคนแรก คอื นายหน่มุ ปนั เจริญ

ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ท้านา ท้าสวน ท้าไร่ พืชท่ีนิยมปลูกคือ งา ถั่ว
เหลอื ง ถ่ัวเขยี ว ถ่ัวลิสง ข้าว กระเทียว ถ่ัวหลวง การท้าเกษตรเป็นแบบไม่ใช้สารเคมี ส้าหรับการปลูกงา
ชาวบ้านจะปลกู ไวเ้ พือ่ บรโิ ภคภายในครัวเรอื นทัง้ ในรูปแบบเมล็ดและน้ามนั งา บ้านไหนที่มีครกอีดงาก็จะ
ผลิตไปขายในตัวเมือง พันธ์ุงาท่ีนิยมปลูก คือ งาพันธุ์พื้นเมือง เป็นงาที่มีกลิ่นหอมเมื่อน้ามาค่ัวหรือท้า
น้ามนั งา

ต่อมามีผู้พันธ์ุงาใหม่เข้ามา คือ งาแดง หรือ งาแดงคง ซ่ึงน้ามาจากบริเวณท่ีปลูกแถบลุ่มน้า
สาละวิน เป็นพันธ์ุท่ีทนทานต่อโรค และเมล็ดโต ให้ผลผลิตดี ชาวบ้านจึงน้ามาปลูกแทนงาขาวท่ีลด
จ้านวนการปลูกลดลง ในเวลาต่อมามีชาวไทใหญ่น้างาพันธุ์ใหม่จากประเทศพม่าเข้ามาปลูก คือ งาด้า
พันธ์ุพ้ืนเมือง จุดเด่นคือ มีเมล็ดโต ต้านทานโรคและแมลงศัตรูงาได้ดี จากน้ันชาวบ้านก็ปลูกงากันมา
เรือ่ ย ๆ เนือ่ งจากได้ราคาดี

ในช่วงปี 2525 – 2530 มีการเปลี่ยนแปลงเก่ียวกับการท้าเกษตรเกิดข้ึน คือ เริ่มใช้สารเคมี
เคร่ืองจักร เช่น รถไถนา เข้าใช้ ชาวบ้านเริ่มขายวัวควาย และประกอบกับมีน้ามันพืชจากโรงงานเข้ามา
จ้าหน่ายถึงในหมู่บ้าน มีราคาถูกกว่าน้ามันงา มีผลท้าให้การอีดน้ามันงาแบบพื้นบ้านเร่ิมเลือนหาย
เนื่องจากชาวบ้านขายครกอีดงาเพื่อเป็นเคร่ืองประดับบ้านของคนเมืองในต่างจังหวัด หรือปล่อยให้ผุพัง
ไปตามกาลเวลา และวิถีการผลิตของชาวบ้านเร่ิมเปล่ียนเป็นผลิตเพื่อการค้ามากขึ้น และมีหน่วยงาน
ราชการเข้ามาส่งเสริมและสนบั สนนุ ในการใชส้ ารเคมเี พ่อื เพม่ิ ผลผลติ

“นา้ มนั งาสกดั เย็นด้วยพลงั งานน้า
บา้ นสบสอย”

อย่างไรกต็ าม ไดม้ กี ารจัดต้ังกลุ่มสหกรณอ์ อมทรพั ย์เพอื่ การผลิต ใช้เมล็ดงาปลอดสารเคมแี ละ
ผลิตนา้ มนั งาวิธแี บบพนื้ บ้านไทใหญ่ โดยผลิตนา้ มนั งาจากพลังงานกังหันน้า

N

.

การเดินทางไป กลุ่มสหกรณ์ออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านสบสอย เร่ิมจากออกจากตัวอ้าเภอ
เมือง แม่ฮ่องสอน ประมาณ 5 กิโลเมตร ถึงสามแยกถนนบ้านสบสอย เล้ียวไปตามทางหมายเลข 1285
ไปประมาณ 1-2 กิโลเมตร จะมีป้ายบ้านสบสอยด้านขวามือของถนน ให้เล้ียวซ้ายไปในหมู่บ้าน ตรงไป
เป็นสามแยก เล้ียวซ้ายเพื่อไปยังโรงอีดน้ามันงา เลี้ยวขวา ไปยังสถานท่ีประกอบการซ่ึงจะใช้บ้านของ
นางสาวเสาวลกั ษณ์ มงุ่ เจรญิ เป็นสถานที่ติดต่อ

“น้ามันงาสกัดเยน็ ดว้ ยพลงั งานกงั หันน้า”

เงนิ ลงทนุ 1,665,000 บาท

วตั ถดุ ิบ งาดา้ งาขาว งาม่อน งาแดง

เครือ่ งมอื /อปุ กรณ์ - ผ้าขาวบาง
- ตะแกรงรอ่ นงา - ปม้ั มอื
- ผา้ เตน๊ ท์ - ถงุ พลาสตกิ ขนาดใหญ่
- ชดุ ครกอดี งา - ถังนา้ 20 ลิตร
- กังหันน้า - แกว้ นา้
- กรวย - กระด้งฝัดงา
- กระสอบ - เตาแก๊ส
- พดั ลม - ตราช่ัง
- ถงั พลาสติก

สถานท่ี

- โรงเรือนผลติ - สถานทต่ี ากและเกบ็ งา
- โรงเก็บวตั ถดุ บิ - โรงบรรจุภณั ฑ์

การลงทุน

รายการวสั ดุ-อปุ กรณ์/เคร่ืองมอื /เคร่ืองจกั ร

ล้าดบั รายการ มูลคา่
1 โรงเรอื นผลติ 70,000
2 โรงเกบ็ วัตถุดบิ 25,000
3 โรงบรรจุภัณฑ์ 25,000
4 ชุดครกอีดงา พร้อมเฟืองและกงั หนั 300,000
5 วัสดุอุปกรณ์ 50,000 บาท/ปี
รวม 470,000

รายการวัตถดุ บิ ทใี่ ช้ในกระบวนการผลิต

ลา้ ดบั รายการ มลู ค่า / ถงั =12 กิโลกรม มลู ค่า/ปี
294,000
1 งาด้า 980 บาท x 300 288,000
288,000
2 งามอ่ น 960 บาท x 300 300,000
25,000
3 งาแดง 960 บาท x 300 1,195,000

4 งาขาว 1000 บาท x 300

5 ขวดบรรจนุ ้ามนั งา

รวม

**ราคาของเมล็ดงามกี ารเปลย่ี นแปลงทกุ ปี และการจดั ซอื้ แตล่ ะคร้งั จะไม่เทา่ กันในแต่ละปี
โดยจะซอื้ วัตถุดบิ ปีละ 1 ครงั้ แลว้ สตอ๊ คเก็บไว้
และจะทา้ การผลิตในช่วงฤดูทอ่ งเที่ยวและตามท่ีลกู ค้าสง่ั มา

การบริหารจัดการ

แผนการผลติ

กจิ กรรม แผนการผลติ ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค.
ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. จ้านวนการผลิตมาก
ซื้อวตั ถุดบิ
จ้านวนการผลติ จา้ นวนการผลิตนอ้ ย
ตากและ มาก
เก็บสต๊อค

ผลิต
นา้ มนั งา

หมายเหตุ กิจกรรมอาจเปล่ยี นแปลงตามความเหมาะสม การจดั การก้าลงั คน

เจา้ ของกิจการ

- ดแู ลการตลาด/การขาย /การประชาสมั พันธ์
- การเงิน
- จัดหาวตั ถดุ บิ

ลูกจ้าง

- ดแู ลการอดี งาแต่ครงั้ คา่ แรงคิดเปน็ จา้ นวนครก
- บรรจุน้ามันงาใสข่ วด
- ดแู ลความสะอาดในสถานประกอบการ

ส่วนประกอบของครกอีดงาด้วยพลังงานน้า

วอง ไมแ้ ป้นเอ่หลา่ ประตูกงั หัน

สากครก

ครกอดี

ชุดเฟือง กังหนั นา้

การผลติ นา้ มนั งาสกดั เย็นด้วยพลงั งานน้า

1. เกษตรกรจะคัดเลือกเมล็ดงาบริเวณโคนต้น ซ่ึงเป็นเมล็ดที่มีความสมบูรณ์ น้ามาท้าความสะอาด
โดยฝัดเมล็ดงา เพื่อให้เมล็ดงาไม่มีเศษของใบงา กิ่งก้านของงา หิน ดิน ทราย หรือใช้พัดลมเป่า โดยปูเสื่อ
แล้วเปิดพัดลม ตักงาจากกระสอบโดยใช้ถ้วยหรือกะละมังเล็ก ๆ ถือหรือจับถ้วยให้อยู่สูงจากพัดลม
ประมาณ 1 ฟุต แล้วค่อย ๆ เทงาลงจากถ้วยให้พัดลมเป่าเศษใบไม้ เศษหญ้า ก้านงาและทรายท่ีติดมากับ
เมล็ดงาออกไป อกี หนง่ึ วิธคี ือการลา้ งดว้ ยน้าสะอาด โดยนา้ กะละมังท่ีใหญ่ เติมน้า 2 ลิตรผสมเกลือ 1 ช้อน
โตะ๊ แลว้ ใช้ตะแกรงใส่งาดา้ ประมาณ 250 กรัม ลงไปล้างในน้า ยกตะแกรงขึ้น-ลงให้ฝุ่น ผง ทราย ร่วงหลุด
ลอดตาข่ายลงไป ใช้ทัพพีคนให้ทั่วอีกครั้ง แล้วรีบยกข้ึนสะเด็ดน้าให้แห้ง ล้างจนกว่าน้าจะเป็นสีใสขุ่น ๆ
จากน้นั ก็เทงาดา้ ใสถ่ าดไปตากแดดจนแห้งดี วธิ ีนไ้ี ม่ค่อยนยิ มกนั นัก

จากนน้ั น้างาไปตากแดดเพื่อให้เมล็ดงาแหง้ สนิทดี โดยมีวธิ ีการตากดังนี้
- ถ้าแดดจดั ใชเ้ วลาตากงา 3 วนั เฉลย่ี วนั ละ 7 ชั่วโมง
- ถา้ แดดปานกลาง ใชเ้ วลาตากงา 4 วนั
- กรณีเมลด็ งายงั มคี วามช้ืนอยจู่ ะใช้วิธกี ารผึ่งลมไวใ้ นท่รี ่ม เพอ่ื ป้องกนั การเกิดเชื้อราแล้วนา้ ไปตากแดดต่อ
วิธที ดสอบวา่ เมลด็ งาแหง้ สนิทดีแลว้
- ใช้มือก้าเมล็ดงาแบบหลวม ๆ แล้วปล่อยให้เมล็ดงาไหลออกจากฝ่ามือ ถ้าเมล็ดงาแห้งสนิทดีจะหลุด
รว่ งจากฝา่ มอื อย่างงา่ ยดาย แต่ถ้ายังไมแ่ ห้งสนทิ จะจับตวั เป็นก้อนอยู่ทีบ่ รเิ วณองุ้ มอื
- ใช้วิธีเคี้ยวเมล็ดงา หากเมล็ดงาแห้งสนิทดี งาจะมีกล่ินหอมเหมือนกลิ่นงาที่ค่ัวใกล้สุกแล้ว ไม่มีกล่ิน
เหมน็ เขยี ว และงาจะกรอบเม่อื เค้ียวจะได้ยินเสยี งดงั ต่อบ ๆ

การผลติ น้ามันงาสกัดเยน็ ด้วยพลงั งานน้า

หลังจากเมล็ดงาแห้งสนิทดีแล้ว จะเก็บงาไว้ในกระสอบท่ีปิดปากกระสอบมิดชิด เพ่ือป้องกันแมลง
หนู สงิ่ สกปรกและความชนื้ และเกบ็ ไว้ในโกดังท่ีเป็นพ้ืนซีเมนต์ เพราะสามารถกันความชื้นได้ดีกว่าพ้ืนดิน
และใช้ไม้รองพ้ืนหรือยกพ้ืนให้สูงประมาณครึ่งเมตร แล้วน้ากระสอบงามาเรียงกันไว้ ซึ่งสามารถเก็บไว้ได้
นาน ถึง 1 ปี และก่อนน้าเมล็ดงามาอีดน้ามัน จะน้างามาตากแดดอีกครั้งประมาณ 3 ชั่วโมง – 1 วัน เพื่อ
ไลค่ วามชืน้ ของเมล็ดงาใหแ้ ห้งสนทิ ดี

การผลติ นา้ มันงาสกดั เย็นดว้ ยพลงั งานน้า

3. ต้มน้าให้เดอื ด ประมาณ 10 นาที และท้ิงไว้ให้เย็น จึงน้าน้ามาใช้อีดน้ามัน ถ้าใช้น้าอุ่นจะท้าให้มี
ตะกอนในน้ามนั มาก น้ามันจะขุ่น ไม่ใส และเหตุผลที่ไม่ใช้น้าท่ีไม่ได้ผ่านการต้มสุกเพราะจะท้าให้น้ามันงา
มีกลน่ิ เหม็นเนา่ เก็บไว้ไมไ่ ด้นาน

4. จากนั้นเตรยี มงา 1 ถึงหรอื ประมาณ 20 ลติ ร หรือประมาณ 12 กิโลกรัม ต่อการอดี งา 1 รอบ ซึง่
ใช้เวลาในการอดี งาประมาณ 3.40 ชั่วโมง

5. จดั เตรยี มครกน้ามันใหเ้ รียบร้อย เช่น ประกอบสากเข้ากับ
วองใสท่ ป่ี ดั งาบริเวณท่ปี ากครก ตรวจเช็คความเรยี บร้อยของ
ครกและอปุ กรณ์ทีใ่ ช้อดี น้ามัน

การผลิตน้ามันงาสกดั เย็นดว้ ยพลงั งานน้า

ตรวจสอบน้ามันหล่อล่ืนบริเวณตัวหมุนเฟือง โดยจะใช้ไขมันสัตว์เป็นหลัก ซ่ึงจะไม่ใช้จาระบี
เนื่องจากจาระบีจะกินเน้อื ไม้ และเชค็ สภาพของกังหนั ให้อยู่ในสภาพทพ่ี รอ้ มใชง้ าน

6. ใส่น้าท่ีต้มสุกลงก้นครกประมาณ 1½ กระป๋องนม หรือประมาณ 300 ซีซี ลงในครกเรียกว่า
น้ากน้ เพื่อเป็นตัวลอ่ ใหน้ ้ามนั งาออกมา จากนน้ั เทเมลด็ งาลงในครก

การผลติ นา้ มนั งาสกดั เย็นดว้ ยพลงั งานน้า

7. เปดิ ประตูน้าใหไ้ หลผ่านลงสูก่ งั หัน น้าไมป้ ดั งาวางเพื่อคอยปดั งาลงในครกอดี งา ตัวสากครกจะ
อย่กู บั ท่ี ตัวสากครกอดี งาจะหมุนเปน็ วงกลมโดยใชพ้ ลงั งานจากกังหนั น้าในการหมนุ เพลงและเฟือนทท่ี ้า
ดว้ ยไมอ้ ยดู่ ้านลา่ ง

ปล่อยท้ิงไว้ประมาณ 20-30 นาที สังเกตไม้แป้น จะลดต่้าลง ให้เติมน้าต้มสุกลงไปในครก (น้า
1 กระป๋องนมเท่ากับ 250 ซีซี ) การใส่น้าในครกช้ันบนเรียกว่าน้าหัว จะใส่ปริมาณเท่าไหร่นั้นข้ึนอยู่กับ
ชนิดของงา ลักษณะของเมล็ดงา ถ้าเป็นงาด้าจะใช้น้ามากประมาณ 4 -5 กระป๋อง งาขาวประมาณ
4 กระป๋อง และถ้างาแห้งสนิทดีมาก จะใช้น้าหัวประมาณ 5-7 กระป๋อง ถ้าแห้งไม่สนิทจะใช้น้า 3-4
กระปอ๋ ง เมือ่ เตมิ พอดีแลว้ ไม้แป้นที่อยู่ด้านขา้ งครกจะกระดกขึน้ ลงตามปรกติ

และใช้การสังเกตอีกอย่างคือสากครกจะมี
งาเกาะอยู่เม่ือใช้มือสัมผัสสากครกจะรู้สึกสาก ๆ
ถ้าน้าต้มสุกยังไม่พอสากครกจะล่ืน ซึ่งบางคร้ังใส่
น้าต้มสกุ มากไปก็จะทา้ ใหง้ ามีลักษณะเหลวและไม่
ยอมจับตวั แนบกบั ครก มวี ิธกี ารแก้ไขโดยใสก่ ากงา
ที่อีดเอาน้ามันออกแล้วมาผสมลงไป หรือใน
โบราณจะใช้ฟางข้าวสับให้ละเอียดผสมลงไป
เพราะกากงาหรอื ฟางขา้ วสับจะไปชว่ ยซับน้าที่เกิน
มา

การผลิตน้ามันงาสกัดเยน็ ดว้ ยพลงั งานน้า

8. อดี งาต่อไปเรื่อยๆ กากงาจะแน่นติดครก และน้ามันงาจะอยู่ตรงกลางครก วิธีการสังเกตท่ีอีดได้
ท่ีแล้วหรือ ให้สังเกตฟองของน้ามันจะเป็นฟองเล็ก ๆ และจะกลายเป็นฟองขนาดใหญ่ ประมาณ 1-2
เซนติเมตร จากน้ันก็ปิดประตูน้า แล้วตักน้ามันออกจากครกด้านบน เม่ือตักน้ามันด้านบนออกจากครก
หมดแล้ว จากนั้นถอดสากครกออกจากวอง ตักน้ามันก้นครก (งา 12 กิโลกรัม จะได้น้ามันประมาณ
4-5 กิโลกรัม และใช้เวลาในการอดี ประมาณ 3-4 ชว่ั โมง)

9. เมือ่ ตกั น้ามันออกจากครกจะกรองน้ามันก่อน 1 คร้ัง โดยการเมน้ามันลงไปบนกระชอนที่มีผ้าขาว
บางพับซ้อนกันหลายช้ันวางอยู่ เป็นการกรองเอาฟองน้ามันและตะกอนในน้ามันออก เพ่ือให้ได้น้ามันท่ีใส
แ ล ะ มี สี เ ห ลื อ ง ส ว ย ผู้ ตั ก น้ า มั น ต้ อ ง แ ต่ ง ตั ด มิ ด ชิ ด ล้ า ง มื อ ทุ ก ค ร้ั ง ก่ อ น ตั ก น้ า มั น ง า

10. การเก็บรักษาน้ามันงาให้มีคุณภาพดี ส่ิงท่ีส้าคัญท่ีสุด คือการพักตะกอนในน้ามันจนมีความใสมาก
ท่ีสุด และเก็บนา้ มันไว้ในถงั พลาสตกิ หรอื ถังแสตนเลสทส่ี ะอาด ปดิ ฝาให้มิดชิด เก็บไว้ในท่ีร่มที่มีการระบาย
อากาศไดท้ ี และเก็บให้พน้ จากแสงแดด โดยการพักตะกอนมวี ิธีการดังนี้

- ระยะที่ 1 ท้งิ น้ามันไวใ้ นถงั นาน 2 วัน แลว้ รินนา้ มันทีใ่ สออกไปใส่ถงั ใบใหม่
- ระยะท่ี 2 ทงิ้ น้ามันไว้ในถงั นาน 10 วัน แล้วรนิ น้ามันท่ีใสออกไปใส่ถังใบใหม่
- ระยะที่ 3 ท้งิ น้ามันไวใ้ นถงั อกี 10 วนั สังเกตในน้ามนั หากไมม่ ีตะกอนแลว้ จึงน้าไปบรรจุใสข่ วดพร้อม
จ้าหน่ายได้ โดยเฉลยี่ จะปล่อยให้นา้ มันตกตะกอนประมาณ 1 เดือน

การผลิตน้ามนั งาสกัดเย็นด้วยพลงั งานน้า

นา้ มันงาทผ่ี า่ นการพักตะกอน การบรรจนุ ้ามนั งาใส่ขวด

การซีลปากขวด

การดแู ลรกั ษาครกอดี น้ามัน

หลังจากอีดน้ามันเสร็จจะใช้น้าอุ่นล้างครกแล้วใช้ไดร์เป่าให้แห้ง และกางมุ้งปิดไว้ป้องกันไม่ให้
แมลงหรอื ฝุ่นละอองเข้าไปในครก แลว้ ปิดเครอ่ื งกังหนั นา้ ด้วย

การผลิตน้ามนั งาสกดั เย็นด้วยพลงั งานน้า

การอีดงาโดยใช้แรงงานจากกังหันน้า ในการอีดน้ามันงา และนิยมสร้างครกกระเดื่องต้าข้าว
เคร่ืองฝัดข้าว และเครื่องหีบอ้อยพ่วงเข้ากับคานรบั น้าหนักกงั หันน้าซ่งึ อยู่อีกดา้ นหนง่ึ ของกบั หนั น้า ขณะที่
อดี นา้ มันงาจะสามารถ ตา้ ขา้ ว ฝดั ข้าว หรอื หบี อ้อยไปพร้อม ๆ กนั ได้

ข้อดีของการอีดน้ามันงาโดยใช้กงั หนั น้า
การอดี นา้ มันงาโดยใชก้ ังหนั นา้ เมอื่ เอางาใส่ครกและใส่น้าเรียบรอ้ ยแลว้ ก็สามารถปลอ่ ยทง้ิ ไว้ได้เลย

โดยไมต่ ้องดแู ลใกลช้ ดิ มากนัก จะเหนื่อยกช็ ว่ งน้ามันออก เนอ่ื งจากต้องตักน้ามนั ออกจากครก ถอดสาก
ออกจากครก และแซะกากงาออกจากครก

การตลาด

พอ่ คา้ คนกลาง รา้ นค้าธรุ กจิ บรกิ าร
(ขายส่ง) สุขภาพ และสปา

ขายผ่าน ร้านสินค้า OTOP
อินเตอรเ์ น็ต
รา้ นขายของฝาก
รา้ นโชห่วย

การประชาสมั พันธ์

 Facebook Fanpage
 แผน่ พับ
 การออกร้านสินคา้

แนวทางในการพฒั นาอาชีพ และผลติ ภณั ฑ์

 แนบสตู รอาหารหรอื เคล็ดลับท่ใี ชน้ ้ามันงาเปน็ ส่วนประกอบไปกับขวดน้ามันงา

ด้านหนา้ ดา้ นหลงั

ไกผ่ ัดนา้ มนั งา วธิ ที า้
- ใสน่ ้ามันงาและน้ามันเมลด็ องุ่นลงใน
สว่ นประกอบ กะทะ พอร้อนใหใ้ ส่ขิงสบั ลงไปผัดจนมี
เนือ้ ไกส่ ับ ½ ตวั กล่นิ หอม
ขิงสบั 2 ชอ้ นโต๊ะ - ใส่เนือ้ ไก่สบั และผัดจนสุกประมาณ 5
น้ามันงา 2 ช้อนโตะ๊ นาที
นา้ มันเมลด็ องนุ่ 1 ชอ้ นโตะ๊ - ปรงุ รสดว้ ยซอี ิว๊ และนา้ ตาลทราย
ซอี วิ๊ ขาว 1 ช้อนชา ปิดฝาประมาณ 5 นาที
น้าตาลทรายแดง 1 ช้อนชา - เติมนา้ ส้มสายชูดา้ แล้วผดั ตอ่ อีก 5
น้าส้มสายชดู ้าหรอื คุโระสุ 1 ชอ้ นโต๊ะ นาที
- จดั ใสจ่ านเสริ ์ฟพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ

 พัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้การสกดั น้ามันงาแบบครบวงจร โดยแบง่ พนื้ ท่อี อกเป็นฐานการ
เรียนรู้ เชน่ ร้จู กั งา การสกัดน้ามนั การแปรรูปผลติ ภัณฑ์จากน้ามันงา ฯลฯ

แนวทางในการพฒั นาอาชีพ และผลติ ภัณฑ์

การคา้ นวณการลดการใช้คารบ์ อนในกระบวนการผลิตน้ามนั งา
"คารบ์ อนฟตุ พรนิ้ ท์" หมายถงึ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกท่ีปล่อย

ออกมาจากผลิตภัณฑ์แตล่ ะหน่วย ตลอดวฎั จักรชวี ิตของผลติ ภณั ฑ์
ตงั้ แตก่ ารไดม้ าซ่งึ วัตถดุ บิ การขนส่ง การประกอบชิ้นสว่ น การใชง้ าน
และการจดั การซากผลิตภัณฑห์ ลงั ใช้งาน โดยคา้ นวณออกมาในรปู ของ
คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

เคร่ืองหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ท่ีจะติดบนสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ นั้น เป็นการแสดง
ข้อมูลให้ผู้บริโภคได้ทราบว่า ตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์เหล่าน้ันมีการปลดปล่อยก๊าซเรือน
กระจกออกมาปริมาณเท่าไหร่ ต้ังแต่กระบวนการหาวัตถุดิบ การผลิต การขนส่ง การใช้งาน และการ
ก้าจัดเมื่อกลายเป็นของเสีย ซึ่งจะช่วยในการตัดสินใจชื้อของผู้บริโภค และกระตุ้นให้ผู้ประกอบการ
ปรับเปล่ยี นเทคโนโลยใี นการผลติ ให้เป็นมติ รกับสง่ิ แวดลอ้ มมากยง่ิ ข้ึน การใชค้ าร์บอนฟุตพริ้นท์ยังช่วย
เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกด้วย เนื่องจากขณะนี้ในหลายประเทศเร่ิมมีการน้า
คาร์บอนฟุตพริ้นท์มาใช้กันแล้ว ท้ังในอังกฤษ ฝรั่งเศส สวิสเซอร์แลนด์ แคนาดา ญี่ปุ่น และเกาหลี
เป็นต้น และมีการเรียกร้องให้สินค้าท่ีน้าเข้าจากประเทศไทยต้องติดเครื่องหมายคาร์บอนฟุตพร้ินท์
ด้วย นอกจากน้ัน หากประเทศไทยมีการด้าเนินโครงการและเก็บข้อมูลการลดการปล่อยก๊าซเรือน
กระจกท่ีชัดเจน จะช่วยให้เรามีอ้านาจในการต่อรองมากข้ึนในการประชุมระดับโลกเพ่ือก้าหนดแนว
ทางแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน

การเลือกซ้อื สินคา้ หรอื บริการท่ีมกี ารปลอ่ ยก๊าซเรือนกระจกน้อย จึงเป็นทางหนึ่งท่ีผู้บริโภค
จะมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก และยังเป็นกลไกทางการตลาดในการกระตุ้นให้
ผผู้ ลิตพัฒนาสนิ คา้ ท่ีลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามความตอ้ งการของผู้บรโิ ภคดว้ ย


Click to View FlipBook Version