The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนเก่งคณิต คิดเลขเป็น ป.3 เล่ม 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2022-05-16 07:27:26

แผนเก่งคณิต คิดเลขเป็น ป.3 เล่ม 1

แผนเก่งคณิต คิดเลขเป็น ป.3 เล่ม 1

ใบงานประกอบแผนการจดั การเรยี นรู้ บทท่ี 3 (2) :

สรุปการลบมกี ารกระจาย

ตัดใบงานตามรอยประ หาผลลบ แล้วเตมิ ขั้นตอนการลบใหส้ มบูรณ์ และระบายสปี ระเมนิ ความเข้าใจ
เรือ่ งการลบ เสรจ็ แล้วติดใบงานในสมดุ

การหาผลลบโดยการตั้งลบ การหาผลลบโดยการต้ังลบ

4 3 6 1 − 4 3 6 1 −
2 9 5 8 2 9 5 8

8 7 0 4 2 − 8 7 0 4 2 −
3 2 4 7 5 3 2 4 7 5

➊ เกรอ่ ิม่ นลบจำ�นวนในหลัก------------ ➊ เกร่อ่มิ นลบจำ�นวนในหลกั ------------
➋ ถ้าตวั ตัง้ น้อยกว่าตวั ลบ ให้ ➋ ถา้ ตวั ตั้งนอ้ ยกว่าตัวลบ ให้

มกราเะพจ่ิมายจากหลกั ทาง----------มอื กมราเะพจมิ่ายจากหลกั ทาง----------มอื

มคี วามเขา้ ใจเรอ่ื งการลบแคไ่ หน? มีความเขา้ ใจเรอื่ งการลบแค่ไหน?

บริษทั ธารปัญญา จำ�กดั สงวนลขิ สทิ ธ์ิ © 2564 101

ใบงานประกอบแผนการจดั การเรยี นรู้ บทท่ี 3 (2) :1 หมายเลขลับของมอนสเตอร์คืออะไร?2 หมายเลขลับของมอนสเตอร์คืออะไร?
➊ ไมใ่ ช่ 1,200 − 500 ➊ ไมใ่ ช่ 19,290 − 153
ไขรหสั ฉันคือหมายเลขใด➋ ไม่ใช่ 6,000 − 2,400➋ ไม่ใช่ 44,211 − 13,600

ต ดั ใบงานตามรอยประ หาค�ำ ตอบจากโจทยท์ ี่ก�ำ หนดให้ในแต่ละขอ้ แลว้ ดวู า่ หมายเลขลับคอื อะไร4,600 700 3,60030,611 19,137 21,511
และระบายสีในช่องสี่เหล่ียม

บรษิ ทั ธารปญั ญา จำ�กัด สงวนลิขสทิ ธ์ิ © 2564 102
3 หมายเลขลบั ของมอนสเตอร์คืออะไร? 4 หมายเลขลบั ของมอนสเตอร์คอื อะไร?
➊ ไมใ่ ช่ 21,845 − 14,361 ➊ ไมใ่ ช่ 24,551 − 13,466
➋ ไม่ใช่ 51,200 − 40,320 ➋ ไมใ่ ช่ 30,550 − 14,030

10,880 8,784 7,484 16,520 15,450 11,085

ใบงานประกอบแผนการจดั การเรยี นรู้ บทท่ี 3 (2) :

ไขรหสั ฉันคือหมายเลขใด

ตดั ใบงานตามรอยประ หาคำ�ตอบจากโจทยท์ ่กี ำ�หนดใหใ้ นแตล่ ะข้อ แลว้ ดูวา่ หมายเลขลบั คอื อะไร
และระบายสใี นชอ่ งสเ่ี หลี่ยม

5 หมายเลขลับของมอนสเตอรค์ อื อะไร?
➊ ไม่ใช่ 15,450 − 6,329
➋ ไม่ใช่ 41,908 − 2,461

29,591 9,121 39,447

6 หมายเลขลบั ของมอนสเตอรค์ อื อะไร?
➊ ไม่ใช่ 63,550 − 8,148
➋ ไม่ใช่ 93,260 − 41,660

55,402 51,600 52,500

บริษทั ธารปญั ญา จำ�กดั สงวนลขิ สทิ ธ์ิ © 2564 103

แผนการจดั การเรยี นรู้
หน่วยการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์
กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3

บทท่ี 3 การลบจำ�นวนนบั ทม่ี ีตวั ต้ังไมเ่ กิน 100,000 (3) จำ�นวน 2 ช่วั โมง

มาตรฐานการเรยี นรู้

1. มาตรฐาน
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจ�ำ นวน ระบบจ�ำ นวน การดำ�เนนิ การของจ�ำ นวน
ผลท่ีเกดิ ข้นึ จากการดำ�เนินการ สมบัตขิ องการด�ำ เนินการ และน�ำ ไปใช้

2. ตวั ช้วี ดั
มาตรฐาน ค 1.1 ป.3/5 ห าคา่ ของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการบวกและประโยคสญั ลกั ษณ์
แสดงการลบของจ�ำ นวนนับไม่เกนิ 100,000 และ 0

สาระสำ�คญั

ความสัมพันธ์ของการบวกและการลบเม่ือจำ�นวนสองจำ�นวนบวกกัน ผลบวกที่ได้ลบด้วยจำ�นวนใดจำ�นวน
หน่ึงในสองจำ�นวนนน้ั ผลลบจะเทา่ กบั อีกจ�ำ นวนหนึ่งเสมอ

จุดประสงค์การเรยี นรู้

1. สามารถอธบิ ายวธิ ีหาผลลบโดยใช้ความสัมพันธข์ องการบวกและการลบได้
2. สามารถแสดงข้ันตอนการหาผลลบโดยใชค้ วามสัมพันธข์ องการบวกและการลบได้

สาระการเรียนรู้แกนกลาง

การบวกและการลบ

กระบวนการจัดการเรียนรู้

1. ข้นั นำ�เข้าสูบ่ ทเรยี น
1. แ บ่งกลุ่มนักเรยี น 4-5 กลมุ่ หรอื ตามความเหมาะสม คณุ ครตู ดิ
บัตรตัวเลขบนกระดานเตรียมไว้เพื่อนำ�มาสร้างจำ�นวนตามที่
กำ�หนดให้ (ดังภาพ)
2. กน รักะเรดียานนใเนทกา่ นลุ่มน้ั ชก่วยลกมุ่ ันไหคนิดคสิดรา้ไดงจว้ ำ�่งิ อนอวนกมตาาเมขทยี ่คีนณุ บนครกกูรำ�ะหดนานดใหกลบ้ ่มุนทกอี่ระอดกามนาทโหีดลยงัตหอ้ ้างมใชเข้จียำ�นนซวน�้ำ ทเตี่ปิดลบี่ยนน
กันออกมาเขยี นคำ�ตอบ จนกวา่ จะหมดเวลาท่ีคณุ ครกู �ำ หนด (สามารถใช้ได้ท้งั วธิ ีการบวกและการลบ)
3. กลุม่ ไหนออกมาเขียนมากท่สี ดุ และถูกต้อง เป็นผู้ชนะ

2. ขัน้ น�ำ เสนอความรู้ 104
1. ค ณุ ครสู อนเรอ่ื ง “ความสมั พนั ธข์ องการบวกและการลบ”
โดยติดบัตรภาพ บัตรตัวเลข เชน่ ภาพแอปเปลิ แดงและ
แอปเปิลเขียว แล้วสนทนากับนักเรียนว่า พ่อค้ารับซ้ือ
แอปเปลิ แดงมา 300 ลูก รบั ซอ้ื แอปเปิลเขียวอกี 220 ลูก
พ่อคา้ ซอ้ื แอปเปิลมาทง้ั หมดก่ลี กู จากนนั้ ตดิ บตั รตวั เลข
แสดงความสมั พนั ธ์และแถบประโยคสัญลกั ษณ์ 300 + 220 = 520 บนกระดาน (ดงั ภาพ)
บริษทั ธารปญั ญา จำ�กัด สงวนลขิ สทิ ธิ์ © 2564

2. ค ุณครูหยิบบัตรตัวเลขแสดงจำ�นวนแอปเปิลเขียวออก แล้วถามนักเรียนว่า ถ้าพ่อค้าซื้อแอปเปิลมา
ทัง้ หมด 520 ลกู เป็นแอปเปิลแดง 300 ลูก จะเปน็ แอปเปลิ เขียวกีล่ กู เราสามารถหาคำ�ตอบไดโ้ ดย
วธิ ไี หน

3. อธิบายว่าเราสามารถหาจำ�นวนแอปเปิลเขียวจากการนำ�จำ�นวนแอปเปิลท้ังหมดลบจำ�นวนแอปเปิล
แดง กจ็ ะรวู้ า่ มแี อปเปลิ เขยี ว 220 ลกู ตดิ แถบประโยคสญั ลกั ษณ์ 520 - 300 = 220 และตดิ บตั รตวั เลข
แสดงจ�ำ นวนแอปเปิลเขียวไว้ท่เี ดมิ

4. ล องเปล่ียนคำ�ถามโดยให้หาจำ�นวนแอปเปิลแดง สอน
โดยกระบวนการเดียวกัน และให้นักเรียนสังเกตว่า
ตัวเลขสามจำ�นวนน้ีมีความสัมพันธ์กัน คือ ผลบวก
จ�ำ นวนสองจำ�นวน เช่น 300 + 220 = 520 เมื่อลบออก
ด้วยจ�ำ นวนใดจ�ำ นวนหนึ่ง เช่น 520 - 300 = 220 หรือ
520 - 220 = 300 ก็จะได้ผลลบเท่ากับอีกจำ�นวนหนึ่ง
เสมอ (ดังภาพ) ซ่ึงเรียกว่า ความสัมพันธ์ของการบวก
และการลบ

5. เ ปล่ยี นตัวเลขแสดงความสมั พนั ธต์ ามตวั อยา่ งทใ่ี หใ้ นหนังสือเก่งคณติ คดิ เลขเปน็ เล่ม 1 หนา้ 116
อาจกำ�หนดชุดตัวเลขเพิ่มเติม 3-5 ข้อตามความเหมาะสม เพื่อให้นักเรียนออกมาเขียนแสดงความ
สัมพนั ธ์ของจ�ำ นวนชดุ นั้นดู

3. ขน้ั ลงมือเรียนรู้
1. ใ ห้นักเรียนจับคู่ทำ�กิจกรรม “ความสัมพันธ์
ของการบวกและการลบ” (ใบงานท้ายแผนฯ)
ตดั ใบงานเตรียมไว้
2. ห ยิบการ์ดความสัมพันธ์ของจำ�นวนมาคร้ังละ
1 ใบ เขยี นแสดงความสมั พนั ธข์ องการบวกและ
การลบ ลงในช่องว่างให้ถูกต้อง ทำ�จนครบทุก
ใบ (ดงั ภาพ)
3. ท ำ�แบบฝึกหัดในหนังสือเก่งคณิต คิดเลขเป็น
เล่ม 1 หน้า 117

4. ขั้นสรุปความรู้
1. คณุ ครใู ชบ้ ตั รตวั เลข (จากใบงานขน้ั ลงมอื เรยี นร)ู้ ตดิ บนกระดาน และใหน้ กั เรยี นตวั แทนออกมา 6 คน
หรือตามความเหมาะสม เขยี นแสดงความสัมพันธ์ของการบวกและการลบจากชดุ จ�ำ นวนทกี่ ำ�หนดให้
2. เ ม่ือเขียนเสร็จ นักเรียนในห้องช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากน้ัน คุณครูให้นักเรียนสังเกตชุด
จำ�นวนแต่ละข้อพร้อมสรุปร่วมกันว่า ความสัมพันธ์น้ีเราใช้ตัวเลขเพียงสามจำ�นวน และผลบวกของ
จำ�นวนสองจ�ำ นวนเม่อื ลบออกดว้ ยจำ�นวนใดจ�ำ นวนหนง่ึ กจ็ ะได้ผลลบเทา่ กับอีกจำ�นวนหนึ่งเสมอ

5. ขนั้ ประยกุ ต์ใชค้ วามรู้
1. น ักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 3 คน คุณครแู จกใบ
งาน “บ้านแสดงความสัมพันธ์การบวกและ
การลบ” (ใบงานทา้ ยแผนฯ) ตัดใบงานเตรยี มไว้
แจกกระดาษโพสต์อิทและกระดาษขนาด A3
ให้นักเรยี นแต่ละกลุ่ม
2. น ักเรียนเขียนแสดงความสัมพันธ์ของการบวก
และการลบลงในกระดาษโพสตอ์ ทิ ตดิ ลงในบา้ น
แลว้ ติดลงภาพบา้ นลงในกระดาษขนาด A3 อกี
ครงั้ จากนน้ั ชว่ ยกนั วาดถนน ตกแต่งใหเ้ ป็นเมือง (ดังภาพ)

บริษทั ธารปญั ญา จำ�กดั สงวนลิขสทิ ธิ์ © 2564 105

เครอ่ื งมือ - สอื่ การเรียนรู้

1. บตั รภาพ บัตรตัวเลข
2. แถบประโยคสญั ลกั ษณ์
3. ใบงาน “ความสมั พันธ์ของการบวกและการลบ” (ใบงานท้ายแผนการจดั การเรียนร)ู้
4. ใบงาน “บา้ นแสดงความสัมพันธก์ ารบวกและการลบ” (ใบงานท้ายแผนการจดั การเรียนร้)ู
5. กระดาษโพสต์อิท
6. กระดาษ A3
7. หนงั สือชดุ เกง่ คณติ คิดเลขเปน็ ป.3 เล่ม 1

การวดั และประเมนิ ผล

1. สังเกตพฤตกิ รรมการเรียนร้ขู องนักเรยี น
2. ประเมนิ ผลจากคะแนนการทำ�แบบฝึกหัด /ใบงาน ของนกั เรยี น
( การวดั และการประเมนิ ผล คณุ ครสู ามารถปรบั เปลย่ี นไดต้ ามความเหมาะสม บางชนั้ เรยี นอาจมแี บบทดสอบ
กอ่ นเรยี น - หลังเรียน แบบประเมนิ การทำ�กิจกรรมกลุ่ม ฯลฯ)

บรษิ ทั ธารปัญญา จ�ำ กดั สงวนลิขสิทธ์ิ © 2564 106

ใบงานประกอบแผนการจัดการเรียนรู้ บทท่ี 3 (3) :

ความสัมพนั ธข์ องการบวกและการลบ

ต ัดใบงานตามรอยประ แล้วเขียนแสดงความสมั พนั ธข์ องการบวกและการลบ

1 21

2,000 5,500
1,500 500 3,500 2,000

31 41

13,450 32,670
7,230 6,220 12,425 20,245

51 61

50,000 78,319
23,500 26,500 52,116 26,203

บริษัทธารปัญญา จำ�กัด สงวนลิขสิทธ์ิ © 2564 107

ใบงานประกอบแผนการจดั การเรียนรู้ บทที่ 3 (3) :

ความสัมพันธข์ องการบวกและการลบ

ตดั ใบงานตามรอยประ แลว้ เขียนแสดงความสมั พนั ธข์ องการบวกและการลบ โดยดชู ดุ จำ�นวนใน
การ์ดภาพปอ๊ ปคอร์น

v1 2

____________ + ____________ = ____________ ____________ + ____________ = ____________
____________ + ____________ = ____________ ____________ + ____________ = ____________

____________ — ____________ = ____________ ____________ — ____________ = ____________

____________ — ____________ = ____________ ____________ — ____________ = ____________

34

____________ + ____________ = ____________ ____________ + ____________ = ____________
____________ + ____________ = ____________ ____________ + ____________ = ____________

____________ — ____________ = ____________ ____________ — ____________ = ____________

____________ — ____________ = ____________ ____________ — ____________ = ____________

56

____________ + ____________ = ____________ ____________ + ____________ = ____________
____________ + ____________ = ____________ ____________ + ____________ = ____________

____________ — ____________ = ____________ ____________ — ____________ = ____________

____________ — ____________ = ____________ ____________ — ____________ = ____________

บรษิ ัทธารปัญญา จ�ำ กัด สงวนลิขสทิ ธิ์ © 2564 108

ใบงานประกอบแผนการจดั การเรียนรู้ บทที่ 3 (3) :

บา้ นแสดงความสัมพันธก์ ารบวกและการลบ

ตัดใบงาน แล้วดชู ดุ ตวั เลขท่กี �ำ หนดให้ แลว้ เขยี นแสดงความสัมพันธข์ องการบวกและการลบลงใน
กระดาษโพสต์อิทติดลงในบ้าน

5,450

3,150 2,300

บรษิ ัทธารปญั ญา จำ�กัด สงวนลขิ สทิ ธิ์ © 2564 109

2,800 34,860

1,500 1,300 12,410 22,450

บรษิ ัทธารปัญญา จ�ำ กดั สงวนลิขสทิ ธิ์ © 2564 110

แผนการจดั การเรยี นรู้
หน่วยการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์
กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 3

บทท่ี 3 การลบจ�ำ นวนนับที่มตี วั ตงั้ ไมเ่ กิน 100,000 (4) จำ�นวน 2 ชวั่ โมง

มาตรฐานการเรียนรู้

1. มาตรฐาน
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำ�นวน ระบบจ�ำ นวน การด�ำ เนินการของจ�ำ นวน
ผลทเ่ี กิดขึน้ จากการดำ�เนินการ สมบัตขิ องการด�ำ เนินการ และน�ำ ไปใช้

2. ตัวช้ีวดั
มาตรฐาน ค 1.1 ป.3/5 ห าคา่ ของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการบวกและประโยคสญั ลกั ษณ์
แสดงการลบของจำ�นวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0

สาระส�ำ คัญ

การหาคา่ ของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณก์ ารบวกและการลบ สามารถใชค้ วามสมั พนั ธข์ องการบวก
และการลบ

จุดประสงค์การเรยี นรู้

1. ส ามารถอธิบายวิธกี ารหาตวั ไม่ทราบคา่ ในประโยคสัญลักษณ์ได้
2. สามารถแสดงขัน้ ตอนการหาตวั ไมท่ ราบค่าในประโยคสัญลักษณ์ได้

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

การบวกและการลบ

กระบวนการจัดการเรียนรู้

1. ขนั้ นำ�เขา้ สู่บทเรียน
1. ล คูุกณคคิดรูตหิดรบือัตภราตพัวตเลาขมหครวือามบเัตหรมภาาะพสม(อ) าตจิดเปค็วน่ำ�ภหานพ้าแเผรีย่นงจกำ�ันนบวนน
กระดาน (ดงั ภาพ) แบง่ นกั เรยี นเปน็ 2 กลมุ่ เพอื่ เลน่ เกมจบั คใู่ หถ้ กู
2. นักเรียนกลุ่มที่ 1 สุ่มเปิดบัตรจำ�นวนสองใบ ถ้าเปิดมาแล้วเป็น
บัตรตวั เลขหรือบัตรภาพทต่ี รงกนั ใหเ้ ก็บบตั รนนั้ ไว้ท่กี ลุ่มตวั เอง แตถ่ ้าเปิดมาแลว้ ไม่ตรงกนั คว่�ำ หนา้
บตั รไว้เหมอื นเดมิ ให้อีกกล่มุ สุม่ เปิดเลน่ ต่อ จนบัตรท่ตี ิดบนกระดานหมด กลุ่มทจ่ี ับคู่บัตรได้มากทสี่ ุด
เปน็ ฝ่ายชนะ

2. ขั้นนำ�เสนอความรู้
1. ค ุณครูทบทวนเรื่อง ความสัมพันธ์ของการบวกและการลบบนกระดานร่วมกันกับนักเรียนอีกครั้ง
โดยการนําบตั รตัวเลขและแถบประโยคสัญลกั ษณข์ องชวั่ โมงก่อนมาตดิ บนกระดาน
2. คุณครูใช้ส่ือของจริง (ท่ีน่าสนใจ) มาสอนเรื่อง การหาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์
หกานรา้ บถวงุ กแ(ลอะาลจกู เรอ่มิ มจราสกนจ�ำ้ �ำ ผนง้ึ วผนสนม้อกยล ่นิๆเลกมอ่ อนน) โดยเตรียมลูกอมรสมะนาว 170 เม็ด ติดจ�ำ นวน 170 ไว้
30 เมด็ ติดสัญลักษณ์ ? ไวห้ นา้ ถงุ นำ�ถุงลูกอมและบัตร
แสดงความสัมพันธ์ของการบวกและการลบติดบนกระดาน สนทนากับนักเรียนว่า คุณครูมีลูกอมรส
บริษทั ธารปญั ญา จ�ำ กัด สงวนลขิ สิทธ์ิ © 2564 111

มะนาว 170 เม็ด ส่วนลูกอมรสน้ำ�ผึ้งผสมกล่ินเลมอนคุณครู
จ20ำ�0ไมเม่ไดด็ ้วน่ากั มเีกรยี่ีเมน็ดคดิ รวู้า่แคตณุ ่ว่าคเรมมู ื่อลี รกู วอมมกรสันนแ�ำ้ ลผ้วง้ึ มผีลสูมกกอลมนิ่ ทเ้ังลหมมอนด
กี่เมด็ จะหาค�ำ ตอบไดย้ งั ไง ถ้าไมใ่ ชว้ ิธกี ารนบั ลูกอม หยิบบัตร
3. ปอ ธรบิะโายยควสา่ เญั ราลสกั าษมณาร์ 1ถ7ห0าจ+�ำ นวน=ล2กู 0อ0มตรสดิ นบ�ำ้นผกง้ึ รผะสดมากนล(น่ิ ดเงัลภมาอพน)
ได้โดยใช้ความสัมพันธ์ของการบวกและการลบที่เรียนไปแล้ว
คอื น�ำ จ�ำ นวนลกู อมทงั้ หมดลบจ�ำ นวนลกู อมรสมะนาว ตดิ แถบ
ประโยคสัญลักษณ์ 200 - 170 = 30 แสดงขัน้ ตอน (ดงั ภาพ)
ดังนั้นมีลูกอมรสมะนาว 30 เม็ด และให้นักเรียนช่วยกันลอง
นบั ลูกอมในถงุ ว่าตรงกบั จำ�นวนทีค่ ิดได้หรอื ไม่
4. เปลยี่ นโจทยแ์ ละอธบิ ายการหาคา่ ของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณก์ ารบวกอนื่  ๆ ในหนงั สอื เกง่
คณติ คิดเลขเปน็ หน้า 118 เพื่อใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจมากยิง่ ขึน้
5. ค ณุ ครูสอนเรอ่ื ง การหาค่าของตวั ไมท่ ราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณ์การลบ ในหนังสอื เรียนหน้า 122
สนทนากับนักเรยี นว่า พ่อมเี งิน 18,500 บาท หลังจา่ ยค่าเทอมน้องปอนดแ์ ล้วเหลอื เงนิ 7,300 บาท
พ่อจ่ายค่าเทอมน้องปอนด์ไปเท่าไหร่ ติดแถบประโยคสัญลักษณ์บนกระดาน หรือแสดงบนจอ แล้ว
ถามนกั เรยี นว่าเราจะหาว่าพอ่ จ่ายคา่ เทอมไปกบี่ าท สามารถหาได้โดยใชว้ ธิ ไี หน
6. อธิบายว่าเราสามารถหาได้โดยใช้ความสัมพันธ์ของการบวก
และการลบท่ีเรียนไป คือ นำ�เงินท่ีพ่อมีลบกับจำ�นวนเงินที่
เหลอื ติดแถบประโยคสัญลักษณ์ 18,500 - 7,300 = 11,200
แสดงขั้นตอน (ดงั ภาพ) ดงั นั้นตัวไมท่ ราบค่าคือ 11,200 พ่อ
จ่ายค่าเทอมไป 11,200 บาท
7. คุณครูเปล่ียนแถบประโยคสัญลักษณ์โดยใช้ตัวอย่างท่ี 2 ใน
หนงั สอื เกง่ คณติ คดิ เลขเป็น หน้า 122 อธิบายวา่ เราสามารถ
หาค่าของตวั ไม่ทราบคา่ ได้โดยใชค้ วามสมั พนั ธข์ องการบวกและการลบเหมือนกัน
8. ยกตวั อยา่ งและอธบิ ายการหาค่าของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณก์ ารลบอน่ื  ๆ 3-5 ขอ้ เพือ่ ให้
นักเรียนเขา้ ใจมากยิ่งขึ้น
3. ข้นั ลงมือเรยี นรู้
1. ค ณุ ครแู จกใบงาน “ภาพอะไร” (ใบงานทา้ ยแผนฯ) ให้นักเรยี น
ตดั ใบงานเตรียมไว้
2. น ักเรียนดูประโยคสัญลักษณ์ท่ีกำ�หนดให้ในใบงาน แล้วหาค่า
ของตัวไม่ทราบค่า ได้คำ�ตอบแล้ว ให้หาการ์ดที่เป็นคำ�ตอบมา
วางในชอ่ งของแตล่ ะข้อ เพอ่ื ดูวา่ เม่อื นำ�มาวางตอ่ กนั จนครบทุก
ชอ่ งจะเป็นภาพอะไร
3. ท ำ�แบบฝึกหัดในหนังสือเก่งคณิต คิดเลขเป็น เล่ม 1 หน้า
119-121 และ 123-125
4. ขัน้ สรปุ ความรู้
1. ค ุณครูติดแถบประโยคสัญลักษณ์การหาค่าของตัวไม่ทราบ
ค่า การบวกและการลบบนกระดาน (ใช้ประโยคสัญลักษณ์ใน
หนังสือหรือใช้ส่อื ขนั้ นำ�เสนอความรู้)
2. เลอื กนกั เรยี นออกมาหาคา่ ของตวั ไมท่ ราบคา่ บนกระดาน ชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากนน้ั สรปุ
ร่วมกันว่า เราสามารถหาค่าของตวั ไม่ทราบค่าโดยใช้ความสมั พนั ธ์ของการบวกและการลบ

บริษัทธารปัญญา จ�ำ กัด สงวนลขิ สิทธ์ิ © 2564 112

5. ขัน้ ประยุกต์ใช้ความรู้
1. ใหน้ กั เรยี นจบั คกู่ นั แจกใบงาน “การด์ ตวั ไม่
ทราบคา่ ” (ใบงานทา้ ยแผนฯ) และตดั ใบงาน
เป็นการด์ เตรียมไว้
2. น ักเรียนแต่ละคู่ช่วยกันหาคำ�ตอบว่าภาพ
แต่ละภาพนั้นมีจำ�นวนเท่าไร เขียนคำ�ตอบ
ลงในการด์ (ดงั ภาพ)
3. เสร็จแล้ว นักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง แสดงความคิด
เห็นรว่ มกัน

เครอ่ื งมือ - สอ่ื การเรยี นรู้

1. บัตรภาพ บัตรตัวเลข
2. แถบประโยคสัญลกั ษณ์
3. ใบงาน “ภาพอะไร” (ใบงานทา้ ยแผนการจัดการเรยี นรู)้
4. ใบงาน “การ์ดตัวไมท่ ราบคา่ ” (ใบงานท้ายแผนการจดั การเรยี นรู้)
5. สือ่ จรงิ เชน่ ลกู อม
6. หนงั สอื ชุด เกง่ คณติ คิดเลขเปน็ ป.3 เล่ม 1

การวัดและประเมินผล

1. สงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ของนักเรียน
2. ประเมนิ ผลจากคะแนนการท�ำ แบบฝึกหัด /ใบงาน ของนักเรียน
(การวดั และการประเมนิ ผล คณุ ครสู ามารถปรบั เปลย่ี นไดต้ ามความเหมาะสม บางชน้ั เรยี นอาจมแี บบทดสอบ
กอ่ นเรยี น - หลังเรียน แบบประเมนิ การท�ำ กจิ กรรมกลุ่ม ฯลฯ)

บรษิ ทั ธารปัญญา จำ�กัด สงวนลิขสิทธ์ิ © 2564 113

ใบงานประกอบแผนการจดั การเรยี นรู้ บทท่ี 3 (4) :

ภาพอะไร

ตัดใบงานตามรอยประ แล้วหาคา่ ของตวั ไมท่ ราบค่า จากนน้ั น�ำ การ์ดคำ�ตอบมาวางในชอ่ ง เพอื่ ดูว่าเมื่อนำ�
มาวางตอ่ กนั จนครบทกุ ช่องจะเปน็ ภาพอะไร

500 + = 10,000
32,000 + = 55,300
15,300 − = 10,000
100,000 − = 5,000

− 20,500 = 59,500
− 1,500 = 2,500
+ 362 = 3,467

บรษิ ัทธารปญั ญา จ�ำ กัด สงวนลขิ สิทธ์ิ © 2564 114

ใบงานประกอบแผนการจดั การเรยี นรู้ บทที่ 3 (4) :

ภาพอะไร

ต ัดใบงานตามรอยประ แล้วน�ำ การด์ ค�ำ ตอบไปวางในชอ่ ง ท่ีทำ�ใหป้ ระโยคสัญลกั ษณเ์ ป็นจรงิ เพอื่ ดูว่าเมอื่ น�ำ
มาวางตอ่ กนั จนครบทุกชอ่ งจะเป็นภาพอะไร

23,300
4,000
5,300
3,105
95,000
80,000
9,500

บรษิ ัทธารปญั ญา จ�ำ กัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2564 115

ใบงานประกอบแผนการจดั การเรยี นรู้ บทที่ 3 (4) :

การ์ดตัวไม่ทราบค่า

ตดั ใบงานตามรอยประ แลว้ หาค�ำ ตอบวา่ ภาพแตล่ ะภาพนั้นมจี ำ�นวนเทา่ ไร เขียนคำ�ตอบลงในการ์ด

1 = 200
= 450
+ = 1,000
++

= ----------------------- = -----------------------

2 = 500
= 2,000
− = 100
−−

= ----------------------- = -----------------------

บรษิ ัทธารปัญญา จำ�กดั สงวนลิขสทิ ธ์ิ © 2564 116

ใบงานประกอบแผนการจดั การเรียนรู้ บทที่ 3 (4) :

การ์ดตวั ไมท่ ราบค่า

ตัดใบงานตามรอยประ แล้วหาค�ำ ตอบว่าภาพแตล่ ะภาพน้นั มจี �ำ นวนเท่าไร เขียนค�ำ ตอบลงในการ์ด

3 + = 10,000
+ = 11,550
+ + = 12,000

= ------------- = ------------- = -------------

4 + = 4,000
+ = 15,000
+ + = 14,350
+

= ------------- = ------------- = -------------

บรษิ ทั ธารปญั ญา จ�ำ กัด สงวนลขิ สทิ ธ์ิ © 2564 117

แผนการจดั การเรียนรู้
หนว่ ยการเรียนรู้ คณิตศาสตร์
กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 3

บทท่ี 3 การลบจำ�นวนนบั ท่ีมีตวั ต้ังไมเ่ กนิ 100,000 (5) จำ�นวน 3 ช่ัวโมง

มาตรฐานการเรยี นรู้

1. มาตรฐาน
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจ�ำ นวน ระบบจำ�นวน การด�ำ เนินการของจ�ำ นวน
ผลที่เกิดขึน้ จากการดำ�เนนิ การ สมบัตขิ องการดำ�เนินการ และน�ำ ไปใช้

2. ตวั ชี้วัด
มาตรฐาน ค 1.1 ป.3/9 แสดงวิธหี าค�ำ ตอบของโจทยป์ ัญหา 2 ขน้ั ตอน ของจำ�นวนนับไมเ่ กิน 100,000
และ 0

สาระสำ�คัญ

การแก้โจทย์ปัญหาทําได้โดยการอ่าน ทําความเข้าใจปัญหา วางแผนแก้ปัญหา หาคําตอบ และตรวจสอบ
ความสมเหตสุ มผลของคาํ ตอบ

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. ส ามารถวเิ คราะห์โจทย์ปญั หาการลบท่กี ำ�หนดให้ได้
2. สามารถเขียนแสดงวิธีทำ�ของโจทยป์ ญั หาการลบได้
3. สามารถหาคาํ ตอบของโจทย์ปัญหาการลบได้

สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง

การแกโ้ จทยป์ ญั หาและการสรา้ งโจทยป์ ญั หา พรอ้ มทั้งหาค�ำ ตอบ

กระบวนการจัดการเรียนรู้

1. ข้นั น�ำ เข้าสู่บทเรยี น
1. แบ่งกลุ่มนกั เรยี นออกเป็น 2 กลุ่ม เพอื่ เล่มเกม “Back 2 Back”
2. ให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมายืนหันหลังชนกันหน้ากระดาน จากน้ัน
คณุ ครพู ดู คำ�ถาม เชน่ เขยี นจ�ำ นวนท่มี ากกว่า 240 หรือ 3,000-1,000 เทา่ กบั อะไร (ดังภาพ) ใหร้ ีบ
เขยี นค�ำ ตอบบนกระดาน ถา้ ตอบไมไ่ ดส้ ามารถวงิ่ ไปหาเพอ่ื นในกลมุ่ เปลย่ี นใหเ้ พอ่ื นคนอน่ื ออกมาแทน
ได้ 1 คน กลมุ่ ไหนเขยี นค�ำ ตอบไดเ้ รว็ และถกู ตอ้ งจะไดค้ ะแนนไป

2. ขน้ั น�ำ เสนอความรู้
1. คุณครูสอนเรื่อง โจทย์ปัญหาการลบ โดยติดบัตรภาพแยมส้ม
เพื่อสร้างสถานการณ์สนทนากับนักเรียนว่า ร้านเจนมีแยมส้ม
2,846 ขวด ขายไปแล้ว 1,018 ขวด ร้านเจนจะเหลือแยมส้ม
กขี่ วด จากนนั้ ตดิ แถบโจทยป์ ญั หาการลบไวบ้ นกระดาน ใชโ้ จทย์
ปัญหาตัวอย่างจากในหนังสือเก่งคณิต คิดเลขเป็น หน้า 126
นักเรียนอ่านโจทย์ปัญหาทั้งหมดพร้อมกัน ถามนักเรียนว่า โจทย์นี้บอกอะไรนักเรียนบ้าง (สิ่งท่ีโจทย์
บอก) โจทย์ถามอะไร (สิง่ ท่โี จทยถ์ าม)
บริษัทธารปญั ญา จำ�กดั สงวนลขิ สิทธ์ิ © 2564 118

2. เม่ือนักเรียนบอกได้ว่าสิ่งที่โจทย์บอกคืออะไรบ้าง และส่วนท่ีโจทย์ถามคือตรงไหน คุณครูหยิบแถบ
ประโยคน้ันออกมาติดไวบ้ นกระดาน แล้วเขยี นกํากบั ไวว้ ่าส่วนไหนคอื สง่ิ ที่โจทยบ์ อก และสิง่ ทีโ่ จทย์
ถาม (ดังภาพ) จากน้ัน คุณครูถามนักเรียนว่า เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ร้านเจนจะเหลือแยมส้มก่ีขวด
ตอ้ งน�ำ จ�ำ นวนสองจ�ำ นวนมาท�ำ ไมกนั มวี ธิ คี ดิ อยา่ งไร อาจใหน้ กั เรยี นตวั แทนออกมาวาดรปู บารโ์ มเดล
(ถา้ นกั เรยี นยงั วาดไมไ่ ดค้ ณุ ครอู าจวาดหรอื แสดงใหด้ กู อ่ น)

3. ติดแถบประโยคสัญลักษณ์ท่ีได้คือ 2,846 - 1,018 = 
บนกระดาน ร่วมกันหาผลลบโดยการต้ังลบ โดยใช้
กระบวนการท่ีเรียนไปในช่ัวโมงก่อน นั่นคือลบในหลัก
หนว่ ยก่อน จากน้นั ลบในหลักสบิ หลกั ร้อย และหลกั พนั
ตามล�ำ ดบั แตถ่ า้ ตวั ตงั้ ในหลกั ใดนอ้ ยกวา่ ตวั ลบใหก้ ระจาย
หลักทางซา้ ยมือมาเพมิ่

4. คุณครูเพ่ิมการหาผลลบโดยให้แสดงวิธีทำ� (ใช้โจทย์เดิม)
แตเ่ พม่ิ ขน้ั ตอนในการหาค�ำ ตอบโดยเขยี นแสดงวธิ ที �ำ และ
หาค�ำ ตอบ (ดงั ภาพ)

5. คุณครูสอนเรื่อง โจทย์ปัญหาการลบและแสดงวิธีทําบน
กระดาน ใช้โจทย์ปัญหาตามตัวอย่างในหนังสือเรียนหน้า
129-130 สอนดว้ ยกระบวนการเดยี วกนั และอาจยกตวั อยา่ งเพม่ิ เตมิ ใหน้ กั เรยี นดตู ามความเหมาะสม

3. ขน้ั ลงมือเรียนรู้
1. ใ หน้ กั เรยี นท�ำ กจิ กรรม “bar model แกโ้ จทยป์ ญั หาการลบ”
ในหนังสือเก่งคณิต คดิ เลขเป็น เล่ม 1 หน้า 131 (ดาวนโ์ หลด
ใบงานจาก QR code) (ดังภาพ)
2. ทำ�แบบฝึกหัดในหนังสือเก่งคณิต คิดเลขเป็น เล่ม 1 หน้า
127-128 และ 132-136

4. ขั้นสรุปความรู้
1. ค ุณครูแจกใบงาน “สรุปโจทย์ปัญหาการลบ” (ใบงานท้าย
แผนฯ) ให้นักเรียนเขียนโจทย์ปัญหาการลบในใบงานช่องบน
สดุ โดยเลือกโจทย์ในหนงั สอื เกง่ คณติ คิดเลขเป็น เลม่ 1 หน้า
127 คนละ 1 ข้อ (ไม่จาํ เป็นต้องเหมอื นกัน)
2. นักเรยี นไฮไลต์สงิ่ ทโี่ จทยบ์ อกและสงิ่ ทีโ่ จทยถ์ าม (ใชป้ ากกา 2
ส)ี จากนนั้ เขยี นแสดงวธิ แี กโ้ จทยป์ ญั หาการลบไปทลี ะขนั้ ตาม
หัวข้อในใบงาน (ดงั ภาพ)
3. เม่ือทำ�เสร็จแล้ว จับคู่กับเพื่อนช่วยกันตรวจสอบความถูก
ตอ้ ง คณุ ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ เรอื่ ง โจทย์ปัญหาการลบ
และติดใบงานลงในสมุด

5. ขน้ั ประยุกตใ์ ชค้ วามรู้
1. น กั เรยี นจบั คู่ แจกใบงาน “โจทยป์ ญั หาการบวกหรอื การลบ”
(ใบงานทา้ ยแผนฯ) ให้นกั เรียนตดั เตรียมไว้
2. น ักเรียนอ่านโจทย์แล้วช่วยกันคิดว่า โจทย์ท่ีอ่านน้ันเป็น
โจทย์ปัญหาการลบหรือการบวก จากนั้นแยกวางในช่อง
ใหถ้ ูกต้อง (ดงั ภาพ)
3. ต รวจสอบความถกู ตอ้ งรว่ มกนั โดยใหต้ วั แทนนกั เรยี นอา่ น
โจทย์ปัญหาการลบและการบวกให้เพ่ือนฟัง แล้วแสดง
ความคดิ เหน็ รว่ มกนั วา่ คิดเหมือนหรอื ต่างกันอย่างไร

บริษัทธารปญั ญา จำ�กัด สงวนลขิ สทิ ธิ์ © 2564 119

4. ติดใบงานโจทย์ปัญหาการลบลงในสมุด (ให้แต่ละคู่แบ่งโจทย์ปัญหาให้กัน) เขียนประโยคสัญลักษณ์
พรอ้ มหาคําตอบในสมดุ

เครื่องมือ - สอื่ การเรยี นรู้

1. แถบโจทย์ปัญหาการลบ
2. ใบงาน “bar model แก้โจทย์ปัญหาการลบ” (ดาวน์โหลดใบงานจาก QR code ในหนงั สอื )
3. ใบงาน “สรุปโจทย์ปญั หาการลบ” (ใบงานท้ายแผนการจดั การเรยี นร)ู้
4. ใบงาน “โจทย์ปัญหาการบวกหรอื การลบ” (ใบงานท้ายแผนการจัดการเรยี นรู้)
5. หนังสอื ชุด เก่งคณิต คดิ เลขเป็น ป.3 เล่ม 1

การวัดและประเมนิ ผล

1. สังเกตพฤติกรรมการเรียนร้ขู องนกั เรียน
2. ประเมนิ ผลจากคะแนนการท�ำ แบบฝึกหดั /ใบงาน ของนักเรยี น
( การวดั และการประเมนิ ผล คณุ ครสู ามารถปรบั เปลยี่ นไดต้ ามความเหมาะสม บางชนั้ เรยี นอาจมแี บบทดสอบ
กอ่ นเรยี น - หลงั เรยี น แบบประเมนิ การท�ำ กิจกรรมกลุ่ม ฯลฯ)

บริษัทธารปญั ญา จำ�กัด สงวนลิขสทิ ธ์ิ © 2564 120

ใบงานประกอบแผนการจัดการเรยี นรู้ บทที่ 3 (5) :

สรปุ โจทย์ปัญหาการลบ

ตดั ใบงานตามรอยประ เขยี นโจทยป์ ัญหาการลบ พรอ้ มไฮไลตส์ งิ่ ท่ีโจทย์บอกและสง่ิ ทโ่ี จทยถ์ าม (ใชป้ ากกา
2 สี) แล้วเขียนแสดงวธิ ีการแกโ้ จทย์ปัญหาการลบทลี ะขั้นตอนลงในใบงาน เสร็จแล้วติดลงในสมุด

โจทยป์ ัญหา

สง่ิ ท่ีโจทยบ์ อก

สง่ิ ที่โจทยถ์ าม

ประโยคสญั ลกั ษณ์

แสดงวิธีทำ�

ตอบ

บรษิ ทั ธารปัญญา จำ�กดั สงวนลิขสทิ ธ์ิ © 2564 121

ใบงานประกอบแผนการจดั การเรียนรู้ บทท่ี 3 (5) :

โจทยป์ ัญหาการบวกหรอื การลบ

ต ัดใบงานตามรอยประ แลว้ แยกการ์ดโจทยป์ ญั หาการลบหรอื การบวกวางในชอ่ งใหถ้ ูกตอ้ ง

โจทยป์ ญั หาการบวก

บริษัทธารปัญญา จ�ำ กัด สงวนลขิ สทิ ธิ์ © 2564 122

ใบงานประกอบแผนการจดั การเรียนรู้ บทท่ี 3 (5) :

โจทย์ปญั หาการบวกหรือการลบ

ตัดใบงานตามรอยประ แล้วแยกการ์ดโจทย์ปญั หาการลบหรือการบวกวางในชอ่ งให้ถูกตอ้ ง

โจทยป์ ัญหาการลบ

บริษทั ธารปญั ญา จ�ำ กดั สงวนลขิ สิทธ์ิ © 2564 123

ใบงานประกอบแผนการจัดการเรยี นรู้ บทที่ 3 (5) :

โจทย์ปัญหาการบวกหรอื การลบ

ตดั ใบงานตามรอยประ อ่านโจทยป์ ัญหาแลว้ แยกว่าโจทย์ไหนเป็นการบวก โจทย์ไหนเปน็ การลบ
แยกวางให้ถกู ต้อง

1แนนขายกระเปา๋ ออนไลน์ไดเ้ งนิ 2 รองเทา้ ผ้าใบราคา 3,450 บาท
8,529 บาท จา่ ยคา่ โทรศพั ท์ไป ร้านค้าลดราคาให้ 200 บาท
790 บาท แนนจะ ถ้าลกู คา้ ซอื้
เหลอื เงนิ กบ่ี าท ตอ้ งจา่ ยเงนิ กีบ่ าท

เ3ดอื นทีแ่ ลว้ โรงงานแยมมผ่ี ลติ 4
แยม 34,850 ขวด เดือนนผี้ ลติ อีก
14,850 ขวด รวมสองเดอื น ปงิ ปองมีเงนิ ฝากในธนาคาร
โรงงานผลิตแยมกี่ขวด 30,346 บาท น�ำ เงนิ ไปฝากเพิ่ม
8,200 บาท ปิงปองมีเงินฝาก
ในธนาคารทัง้ หมดก่ีบาท

5 ชาวสวนเกบ็ ส้มได้ 2,318 6รา้ นปา้ ฟ้าท�ำ ขา้ วกล่องแจก มี
กิโลกรัม ขายไปแล้วเหลือสม้ กะเพรา 2,435 กลอ่ ง ขา้ วผัด
374 กโิ ลกรัม ชาวสวนขายส้ม  3,167 กล่อง รา้ นป้าฟา้ ท�ำ ขา้ ว
ไปกี่กิโลกรมั กลอ่ งแจกทงั้ หมดกกี่ ล่อง

7 ฟาร์มน้าอิงอรเกบ็ ไขเ่ ป็ดและไข่ 8
ไก่ได้ท้งั หมด 13,807 ฟอง
เป็นไข่เป็ด 3,420 ฟอง โทรทศั นร์ าคา 22,990 บาท
เป็นไข่ไก่กฟ่ี อง เครอ่ื งซกั ผา้ ราคา
19,900 บาท เคร่อื งซกั ผ้า
ราคานอ้ ยกวา่ โทรทศั นก์ ีบ่ าท

บริษัทธารปญั ญา จ�ำ กดั สงวนลิขสิทธ์ิ © 2564 124

แผนการจดั การเรียนรู้
หนว่ ยการเรียนรู้ คณิตศาสตร์
กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3

บทท่ี 3 การลบจ�ำ นวนนบั ที่มีตัวต้งั ไมเ่ กนิ 100,000 (6) จ�ำ นวน 2 ชว่ั โมง

มาตรฐานการเรียนรู้

1. มาตรฐาน
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจ�ำ นวน ระบบจ�ำ นวน การดำ�เนนิ การของจ�ำ นวน
ผลทเ่ี กิดขนึ้ จากการด�ำ เนินการ สมบัติของการด�ำ เนนิ การ และน�ำ ไปใช้

2. ตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน ค 1.1 ป.3/9 แสดงวธิ หี าคำ�ตอบของโจทยป์ ัญหา 2 ขนั้ ตอน ของจ�ำ นวนนบั ไม่เกนิ 100,000
และ 0

สาระส�ำ คญั

การสร้างโจทย์ปัญหาต้องมีท้ังส่วนที่โจทย์บอกและส่วนท่ีโจทย์ถาม นอกจากนี้ โจทย์ปัญหาท่ีสร้างต้องมี
ความเปน็ ไปได้และสมเหตุสมผล

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1. ส ามารถบอกสว่ นต่าง ๆ ของโจทยป์ ัญหาการลบได้
2. สามารถเขยี นแสดงวธิ ีท�ำ ของโจทย์ปัญหาการลบได้
3. สามารถหาคําตอบของโจทยป์ ญั หาการลบได้
4. สามารถสร้างโจทยป์ ัญหาการลบได้

สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง

การแกโ้ จทย์ปญั หาและการสรา้ งโจทย์ปญั หา พรอ้ มทั้งหาค�ำ ตอบ

กระบวนการจัดการเรียนรู้

1. ขั้นน�ำ เข้าสูบ่ ทเรียน
1. ค ณุ ครูให้นกั เรยี นเล่นเกม “คณิตคิดเรว็ ” แบ่งกลุ่มนกั เรียน
แจกการ์ดให้นักเรียนกลุ่มละ 3 ใบ (ใบงานท้ายแผนฯ ตัด
เตรยี มไวใ้ หเ้ รยี บรอ้ ย)
2. แ ตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกนั วงกลมลอ้ มรอบจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนทบ่ี วก
หรอื ลบกนั แลว้ มผี ลลพั ธเ์ ทา่ กบั จ�ำ นวนทก่ี �ำ หนดให้ (ดงั ภาพ)
3. คุณครูให้สัญญาณเร่ิมทำ�ไปทีละใบ โดยกลุ่มไหนได้คําตอบ
แล้วรีบยกมือข้ึน แล้วบอกคำ�ตอบท่ีได้ ตอบถูกทุกข้อจะ
ได้รับคะแนน 6 คะแนน แต่ถ้าตอบถูกไม่ครบทุกข้อจะได้
คะแนนข้อละ 1 คะแนน และให้กลุ่มท่ียกมือได้เป็นลำ�ดับ
ท่ี 2 ตอบแทน
4. เมือ่ เลน่ เกมจนครบทกุ ใบแลว้ ดวู า่ คะแนนของกลุม่ ใดได้มากท่ีสุด กลุม่ นัน้ เปน็ ฝ่ายชนะ

บริษทั ธารปญั ญา จำ�กดั สงวนลิขสทิ ธิ์ © 2564 125

2. ขน้ั น�ำ เสนอความรู้
1. ค ณุ ครูทบทวนเร่อื ง สว่ นประกอบของโจทยป์ ัญหาการ
ลบบนกระดานร่วมกันกับนักเรียนอีกคร้ังหน่ึง โดยนํา
แถบประโยคโจทย์ปัญหาการลบของช่ัวโมงก่อนมาติด
บนกระดาน
2. คุณครูสอนเร่ือง การสร้างโจทย์ปัญหาการลบจาก
ประโยคสัญลักษณ์ ติดแถบประโยคสัญลักษณ์การ
ลบบนกระดาน ใช้ตัวอย่างท่ีอยู่ในหนังสือเก่งคณิต
คดิ เลขเปน็ เลม่ 1 หนา้ 137 คือ 35,990 - 22,450= 
และตดิ แถบประโยคโจทยป์ ญั หาการลบท่ถี กู ต้อง และ
ไม่ถกู ตอ้ ง (ดงั ภาพ)
3. ให้นักเรียนอ่านโจทย์บนกระดานพร้อมกัน ถามนักเรียนว่าโจทย์ปัญหาในข้อใดตรงกับประโยค
สญั ลกั ษณน์ ้ี ทำ�ไมถึงคดิ วา่ เปน็ โจทย์ข้อน้ี
4. ค ณุ ครพู ดู ทบทวนใหน้ กั เรยี นฟงั วา่ โจทยป์ ญั หาตอ้ งมสี ว่ น 2 สว่ น คอื สงิ่ ทโ่ี จทยบ์ อก และสงิ่ ทโ่ี จทยถ์ าม
และโจทยป์ ัญหาท่สี ร้างต้องมคี วามสมเหตุสมผล จากนั้นใหน้ ักเรยี นจบั ค่กู บั เพอ่ื นขา้ ง ๆ ชว่ ยกันสรา้ ง
โจทยป์ ญั หาการลบจากประโยคสญั ลกั ษณเ์ ดมิ บนกระดาน แลว้ ใหต้ วั แทนนกั เรยี น 2-3 คู่ ออกมาเขยี น
โจทยป์ ญั หาการลบของตวั เองบนกระดาน ดวู า่ โจทยป์ ญั หาทแี่ ตล่ ะคนสรา้ งมคี วามสมเหตสุ มผลหรอื ไม่
5. ใ ชต้ วั อยา่ งประโยคสญั ลกั ษณใ์ นหนงั สอื เกง่ คณติ คดิ เลขเปน็ เลม่ 1 หนา้ 138 มาสอนดว้ ยกระบวนการ
เดมิ เพื่อใหน้ ักเรียนเข้าใจมากขึ้น

3. ขน้ั ลงมือเรยี นรู้
1. ค ุณครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มทำ�กิจกรรมโดยแจกใบงาน
“สรา้ งโจทยป์ ญั หาการลบ” (ใบงานทา้ ยแผนฯ) และไม้
ไอศกรมี กลมุ่ ละ 15 ไม้ และนกั เรยี นชว่ ยกนั ตดั ประโยค
สญั ลกั ษณ์ ส่ิงที่โจทยบ์ อก และส่งิ ทโ่ี จทย์ถามติดในไม้
ไอศกรมี (ควรให้นกั เรียนท�ำ ในเวลาวา่ งเตรียมไว)้
2. ใ ห้นักเรียนแยกส่วนที่เป็นประโยคสัญลักษณ์ สิ่งท่ี
โจทยบ์ อก ส่งิ ท่โี จทย์ถาม แยกเปน็ กอง ๆ แลว้ เลอื กไม้
ไอศกรีมประโยคสญั ลกั ษณม์ าครง้ั ละ 1 ไม้ จากนน้ั หา
ไมไ้ อศกรีมสงิ่ ที่โจทยบ์ อกและส่งิ ทโี่ จทยถ์ ามมาวางต่อกนั ลงมา (ดงั ภาพ) ทำ�จนครบทกุ ข้อ
3. ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง โดยให้ตวั แทนออกมาอ่านประโยคสัญลกั ษณแ์ ละโจทย์ปญั หาแตล่ ะข้อ ถา้ มี
ใครต่างกบั ของเพ่ือนพดู คยุ แสดงความคิดเหน็ ร่วมกัน
4. ท ำ�แบบฝกึ หัดในหนงั สือเก่งคณิต คิดเลขเป็น เล่ม 1 หนา้ 139-141

4. ขนั้ สรปุ ความรู้
1. คณุ ครแู จกใบงาน “สรปุ การสรา้ งโจทยป์ ญั หาการลบ” (ใบ
งานทา้ ยแผนฯ) ใหน้ กั เรยี นทกุ คน ตดั ตามรอยประ แลว้ ทา
กาวชอ่ งดา้ นบนตดิ ลงในสมดุ
2. ใ หน้ กั เรยี นเขยี นประโยคสัญลักษณก์ ารลบ (ไม่จ�ำ เปน็ ต้อง
เหมือนกัน) ในช่องด้านบน แล้วสร้างโจทย์ปัญหาการลบ
ใหต้ รงกบั ประโยคสญั ลกั ษณท์ เ่ี ขยี นไวใ้ นสมดุ ชอ่ งดา้ นซา้ ย
พร้อมไฮไลต์สง่ิ ท่โี จทย์บอก สง่ิ ท่ีโจทยถ์ าม (ปากกาไฮไลต์
2 สี) และเขียนค�ำ ตอบในช่องด้านขวา (ดงั ภาพ)
3. จับคู่กับเพ่ือนอ่านโจทย์ให้เพื่อนฟังให้เพื่อนทายว่าโจทย์
ปัญหาท่ีเราสร้าง เขียนประโยคสัญลักษณ์ได้อย่างไร เพื่อนตอบตรงกับเราหรือไม่ พูดคุยแสดงความ
คิดเห็นรว่ มกัน พร้อมพูดถึงเร่อื งความสมเหตุสมผลของโจทย์ปัญหาการลบ
บริษทั ธารปัญญา จ�ำ กัด สงวนลขิ สิทธิ์ © 2564 126

4. ทําใบงาน Math Review ในหนงั สือเรียนเกง่ คณิต คิดเลขเป็น หนา้ 142-143 เพอื่ ทบทวนและสรุป
ความเขา้ ใจ เรื่อง การลบจ�ำ นวนนบั ทม่ี ีตัวตง้ั ไม่เกิน 100,000

5. ขัน้ ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้
1. คุณครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม 3-4 กลุ่มหรือตาม
ความเหมาะสม แจกกระดาษโพสต์อิทให้แต่ละกลุ่ม
(โพสตอ์ ทิ สตี า่ งกนั ) และคณุ ครเู ขยี นหรอื ตดิ บตั รตวั เลข
บนกระดาน เช่น 2,000 จากน้ัน ให้นักเรียนแต่ละ
กลุ่มช่วยกันหาจำ�นวนสองจำ�นวนที่ลบกันแล้วมีผล
ลบเท่ากับจำ�นวนท่ีคุณครูกำ�หนด แต่ละกลุ่มออกมา
เขียนประโยคสัญลักษณ์การลบบนกระดาน (ไม่ต้อง
เขียนเหมือนกนั ) (ดังภาพ)
2. ใ ห้นักเรียนในกลุ่มช่วยกันสร้างโจทย์ปัญหาการลบจากประโยคสัญลักษณ์ที่แต่ละกลุ่มได้คิดไว้บน
กระดาน (เช่น มีท้ังหมด 3 กล่มุ แตล่ ะกลมุ่ สร้างโจทยป์ ญั หาของกลุ่มตวั เองและกล่มุ ของเพอื่ น) เขยี น
ลงในกระดาษโพสตอ์ ิทแล้วน�ำ มาตดิ บนกระดาน (ดังภาพ)
3. เสร็จแล้ว ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง โดยให้ตวั แทนแต่ละกลมุ่ อา่ นโจทย์ปญั หาที่กลุม่ ของตัวเองสร้างขึ้น
เพอ่ื นในห้องแสดงความคดิ เหน็ พูดคยุ วา่ โจทยถ์ ูกต้อง สมเหตุสมผล มีความเป็นไปไดห้ รอื ไม่

เครื่องมือ - ส่ือการเรียนรู้

1. บตั รภาพ บตั รตวั เลข
2. แถบประโยคสัญลักษณ์
3. ใบงาน “สร้างโจทยป์ ญั หาการลบ” (ใบงานทา้ ยแผนการจัดการเรยี นรู้)
4. ใบงาน “สรุปการสรา้ งโจทย์ปญั หาการลบ” (ใบงานท้ายแผนการจัดการเรียนรู้)
5. ไม้ไอศกรีม
6. กระดาษโพสต์อิท
7. หนังสอื ชดุ เกง่ คณิต คิดเลขเป็น ป.3 เลม่ 1

การวัดและประเมินผล

1. สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรขู้ องนักเรียน
2. ประเมินผลจากคะแนนการท�ำ แบบฝกึ หัด /ใบงาน ของนักเรยี น
( การวดั และการประเมนิ ผล คณุ ครสู ามารถปรบั เปลยี่ นไดต้ ามความเหมาะสม บางชน้ั เรยี นอาจมแี บบทดสอบ
ก่อนเรียน - หลงั เรียน แบบประเมินการทำ�กจิ กรรมกลุ่ม ฯลฯ)

บรษิ ทั ธารปัญญา จำ�กัด สงวนลขิ สิทธิ์ © 2564 127

ใบงานประกอบแผนการจัดการเรยี นรู้ บทที่ 3 (6) :

คณิตคิดเร็ว

ตดั ใบงานตามรอยประ วงกลมล้อมรอบจำ�นวนสองจ�ำ นวนที่บวกกนั แลว้ มีผลลัพธ์เทา่ กับจำ�นวนที่กำ�หนดให้

10วงกลมตัวเลขทม่ี ีผลรวม เทา่ กับ

1 226 10--------------- + --------------- =
60 7 4 10--------------- + --------------- =
5829 10--------------- + --------------- =

54 10 10--------------- + --------------- =

25วงกลมตัวเลขท่ีมีผลรวม เท่ากับ

18 25 18 12 25--------------- + --------------- =
15 9 7 4 25--------------- + --------------- =
6 10 5 20 25--------------- + --------------- =

11 22 13 12 25--------------- + --------------- =
100วงกลมตัวเลขที่มีผลรวม เท่ากับ

24 76 28 37 100--------------- + --------------- =
30 71 82 18 100--------------- + --------------- =
51 60 39 49 100--------------- + --------------- =
49 50 40 31 100--------------- + --------------- =

บรษิ ัทธารปัญญา จ�ำ กดั สงวนลขิ สทิ ธ์ิ © 2564 128

ใบงานประกอบแผนการจดั การเรยี นรู้ บทที่ 3 (6) :

สร้างโจทย์ปัญหาการลบ

ตัดรูปและใบงานตามรอยประ แล้วน�ำ ไปตดิ ในไมไ้ อศกรมี (โดยรูปภาพน�ำ ไปติดไมไ้ อศกรมี ท่ปี ระโยคสญั ลษั ณ)์

บริษัทเอว่ผี ลิตรองเท้าแตะ 35,427 คู่ รองเทา้ ผ้าใบ 10,550 คู่
บริษทั เอวี่ผลิตรองเทา้ แตะมากกว่ารองเท้าผ้าใบกค่ี ู่
พมิ มเี งินฝาก 21,736 บาท แอนมีเงนิ ฝากน้อยกว่าพมิ 4,305 บาท
แอนมีเงินฝากกบี่ าท
ลุงจรัญขายมะม่วงไดเ้ งิน 17,420 บาท จา่ ยค่าปุ๋ยไป 2,350 บาท
ลงุ จรญั จะเหลอื เงินกี่บาท
น้าโอปอมเี งนิ 67,821 บาท ซอื้ โทรศพั ทม์ อื ถอื ราคา 12,950 บาท
นา้ โอปอจะเหลือเงินอยู่กี่บาท
ชาวสวนเกบ็ ฟักทองได้ 1,530 กิโลกรัม พ่อค้ามารบั ซอ้ื ไป 930 กโิ ลกรมั
ชาวสวนเหลือฟักทองกกี่ ิโลกรมั
➊ 1,530 − 930 =
➋ 21,736 − 4,305 =
➌ 17,420 − 2,350 =
➍ 67,821 − 12,950 =
➎ 35,427 − 10,550 =

บริษัทธารปญั ญา จ�ำ กัด สงวนลขิ สทิ ธิ์ © 2564 129

ใบงานประกอบแผนการจัดการเรยี นรู้ บทที่ 3 (6) :

สรุปการสร้างโจทย์ปญั หาการลบ

ตัดใบงานตามรอยประ เขียนประโยคสญั ลกั ษณ์ ตดิ ลงในสมุด แลว้ สร้างโจทยป์ ญั หาการลบให้ตรงกับประโยค
สัญลกั ษณ์ และหาคำ�ตอบ

ประโยคสญั ลกั ษณ์

ดทา้ านกหาลวงั

โจทยป์ ัญหา คำ�ตอบ

บรษิ ัทธารปญั ญา จ�ำ กดั สงวนลขิ สทิ ธ์ิ © 2564 130

แผนการจัดการเรียนรู้
หนว่ ยการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์
กลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 3

บทที่ 4 รปู เรขาคณิต (1) จ�ำ นวน 2 ชัว่ โมง

มาตรฐานการเรยี นรู้

1. มาตรฐาน
มาตรฐาน ค 2.2 เ ข้าใจและวิเคราะห์รูปเรขาคณิต สมบัติของรูปเรขาคณิต ความสัมพันธ์ระหว่างรูป
เรขาคณติ และทฤษฎบี ททางเรขาคณติ และน�ำ ไปใช้

2. ตวั ชีว้ ัด
มาตรฐาน ค 2.2 ป.3/1 ร ะบุรูปเรขาคณิตสองมติ ทิ ่มี ีแกนสมมาตรและจำ�นวนแกนสมมาตร

สาระส�ำ คญั

การพบั กระดาษรปู เรขาคณติ สองมติ ติ ามแนวตา่ ง ๆ หากทงั้ สองขา้ งของรอยพบั ทบั กนั สนทิ พอดี แสดงวา่ รปู
นน้ั เป็นรปู ทมี่ แี กนสมมาตร และรอยพับน้นั คอื แกนสมมาตร

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. ส ามารถระบรุ ปู เรขาคณติ สองมติ ทิ ม่ี แี กนสมมาตรได้
2. สามารถบอกลกั ษณะของรูปเรขาคณติ ทมี่ ีแกนสมมาตรได้
3. สรุปความร้เู กย่ี วกบั รูปเรขาคณติ ท่มี แี กนสมมาตรและไม่มีแกนสมมาตรได้

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

รปู ทม่ี ีแกนสมมาตร

กระบวนการจดั การเรยี นรู้

1. ขัน้ นำ�เขา้ สู่บทเรียน
ค ุณครูให้นักเรียนทำ�กิจกรรมฝึกสมาธิเตรียมความพร้อมก่อน
เรยี น โดยแสดงภาพเกม “ดูสไี มอ่ า่ นคำ�” บนจอ (ดงั ภาพ) แล้ว
ให้นักเรยี นบอกชอ่ื สที อ่ี ยู่ในตัวอักษร โดยไมอ่ า่ นคำ�ศัพท์

2. ข้นั นำ�เสนอความรู้
1. คณุ ครสู อน เรื่อง รปู เรขาคณติ (รูปที่มีแกนสมมาตร) โดยให้นกั เรียนแบ่งกลมุ่ กล่มุ ละ 3-4 คน แล้ว
แจกใบงาน “แกนสมมาตร” (ดาวน์โหลดใบงานจาก QR code ในหนงั สอื เก่งคณิต คดิ เลขเป็น เลม่ 1
หน้า 147) จากนัน้ ตัดรูปเรขาคณติ ในใบงาน โดยตดั ตามรปู ร่างของรูปเรขาคณติ จ�ำ นวน 20 รปู (ควร
ให้นักเรยี นตดั ในเวลาว่าง) และแจกกระดาษขนาด A3 กล่มุ ละ 1 แผ่น
2. ให้นกั เรยี นทุกกลมุ่ หยิบรูปเรขาคณิตขึน้ มา 1 รปู เชน่ รูปหวั ใจ และให้แต่ละกลุ่มลองพับครง่ึ จากด้าน
บนมาดา้ นลา่ งและลองพบั ครง่ึ จากดา้ นซา้ ยมาดา้ นขวา รว่ มกนั สงั เกตวา่ เมอื่ พบั รปู เรขาคณติ แตล่ ะแบบ
แลว้ จะมลี กั ษณะอยา่ งไร เมอื่ พบั แลว้ ทบั กนั สนทิ หรอื ไม่ คณุ ครอู ธบิ ายวา่ รปู ทเี่ มอ่ื พบั แลว้ สองขา้ งทบั
กนั สนทิ นนั้ เรยี กวา่ รปู ทม่ี แี กนสมมาตร จากนน้ั คณุ ครใู หแ้ ตล่ ะกลมุ่ ขดี เสน้ ประตรงรอยพบั ทที่ �ำ ใหร้ ปู
ทับกนั ได้สนิท แลว้ อธบิ ายเพิม่ เติมว่า รอยพับหรือเส้นประนี้ เรียกวา่ แกนสมมาตร

บริษัทธารปญั ญา จำ�กดั สงวนลิขสิทธ์ิ © 2564 131

3. ใ ห้นักเรียนแต่ละกลุ่มหยิบรูปท่ีไม่มีแกนสมมาตร เช่น รูปใบไม้ ให้นักเรียนลองพับคร่ึงในลักษณะ
ต่าง ๆ เช่น พับจากด้านบนมาลา่ ง ด้านซา้ ยมาด้านขวา แนวทแยง ปรากฎวา่ ในการพับทุกรปู แบบ ก็
ไม่สามารถพับให้สองข้างของรอยพับทับกันสนิทได้ จากนั้นอธิบายว่ารูปลักษณะดังกล่าว คือ รูปที่
ไม่มแี กนสมมาตร

4. ใหน้ กั เรยี นแบง่ กระดาษ A3 ทคี่ ณุ ครแู จกใหเ้ ปน็ สองฝง่ั แลว้ เขยี น
บนกระดาษฝ่งั ซา้ ยว่า “มแี กนสมมาตร” ฝั่งขวาเขียนว่า “ไมม่ ี
แกนสมมาตร” แลว้ ใหน้ ักเรียนลองพับรปู ท่ีเหลือ พิจารณาร่วม
กันว่ารูปใดมีแกนสมมาตรหรือไม่มีแกนสมมาตร แล้วแยกติด
ลงในกระดาษ A3 ใหถ้ ูกตอ้ ง (ดงั ภาพ)

5. หลงั จากนนั้ รว่ มกนั เฉลย โดยคณุ ครบู อกชอ่ื รปู เชน่ รปู ดาว แลว้
ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั ตอบวา่ มแี กนสมมาตรหรอื ไมม่ แี กนสมมาตร

6. คณุ ครูให้นักเรียนเปดิ หนังสือเก่งคณิต คิดเลขเปน็ เลม่ 1 หนา้ 144 -146 โดยพจิ ารณารูปเรขาคณติ
ทก่ี �ำ หนดให้ ว่ารปู ใดทพี่ ับแล้วทง้ั สองด้านจะทับกนั พอดี รปู ใดบ้างเป็นรูปทมี่ แี กนสมมาตรและรูปใด
ทีไ่ ม่มีแกนสมมาตร

3. ขน้ั ลงมือเรียนรู้
1. คุณครใู หน้ ักเรียนท�ำ กจิ กรรมที่ 2 “ไม้ไอศกรมี หาค”ู่ ในหนงั สอื เก่งคณติ
คิดเลขเป็น เล่ม 1 หน้า 147 (ดาวนโ์ หลดใบงานจาก QR code)
2. ทำ�แบบฝกึ หัดในหนังสือเก่งคณิต คดิ เลขเป็น เล่ม 1 หน้า 148-150

4. ขน้ั สรุปความรู้
1. ค ณุ ครนู �ำ สอื่ จากกจิ กรรมขนั้ น�ำ เสนอความรตู้ ดิ บนกระดาน แลว้ ตงั้ ค�ำ ถาม
ทบทวนกับนักเรียนว่า เราจะรู้ได้อย่างไรว่ารูปใดบ้างเป็นรูปท่ีมีแกนสมมาตร และรูปใดบ้างเป็นรูป
ท่ีไม่มีแกนสมมาตร ซ่ึงสามารถสรุปร่วมกันได้ว่า รูปท่ีมีแกนสมมาตร คือ รูปท่ีพับตามเส้นประแล้ว
ทั้งสองด้านทับกันสนิทพอดี และรูปท่ีไม่มีแกนสมมาตร คือ รูปที่พับตามเส้นประแล้วท้ังสองด้านไม่
สามารถทับกนั ไดส้ นทิ พอดี
2. ส รุปร่วมกับนกั เรียนว่า รูปทมี่ ีแกนสมมาตร เมอ่ื พบั ตามเสน้ ประแล้วท้ังสองขา้ งทบั กนั สนทิ พอดี และ
รปู ทีไ่ ม่มีแกนสมมาตร เมื่อพับตามเสน้ ประแล้วทัง้ สองข้างทบั
กันไมส่ นทิ
3. จ ากน้ันคุณครูแจกใบงาน “รูปท่ีมีแกนสมมาตร” (ใบงาน
ท้ายแผนฯ) ให้นักเรียนตัดใบงานเตรียมไว้ แล้วเขียนสรุป
ความเขา้ ใจเรอื่ ง รปู เรขาคณติ สองมติ ิ (รปู ทม่ี แี กนสมมาตร) ลง
ในใบงาน พร้อมวาดรูป (ดงั ภาพ) เสรจ็ แล้วติดลงในสมดุ

5. ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้
1. ค ณุ ครแู จกใบงาน “วาดรปู ตอ่ ” (ใบงานทา้ ยแผนฯ) ใหน้ กั เรยี น
ตัดใบงานเตรียมไว้
2. นักเรียนวาดรปู ต่อจากเส้นท่ีก�ำ หนดให้ในใบงาน ใหเ้ ปน็ รูปท่ีมี
แกนสมมาตร โดยมเี สน้ ประเปน็ แกนสมมาตร (ดงั ภาพ) จนครบ
ทกุ ใบ จากน้นั ใหอ้ อกแบบรูปเอง โดยวาดรูปท่ีมแี กนสมมาตร
และมเี สน้ ประเป็นแกนสมมาตร ในใบงานที่เหลือ
3. เ ม่ือวาดเสร็จแล้ว ระบายสีให้สวยงาม พร้อมต้ังชื่อภาพ จาก
น้ันให้นักเรียนจับคู่กับเพ่ือนข้าง ๆ ถาม-ตอบกันว่ารูปท่ีได้น้ัน
เหมอื นกันหรอื ไม่ รว่ มกนั แลกเปลีย่ นความคดิ เหน็

บริษัทธารปัญญา จำ�กัด สงวนลิขสิทธ์ิ © 2564 132

เคร่อื งมือ - สอ่ื การเรียนรู้

1. ใบงาน “แกนสมมาตร” (ดาวนโ์ หลดใบงานจาก QR code ในหนังสอื )
2. ใบงาน “ไม้ไอศกรมี หาค”ู่ (ดาวนโ์ หลดใบงานจาก QR code ในหนงั สอื )
3. ใบงาน “รูปทมี่ แี กนสมมาตร” (ใบงานทา้ ยแผนการจดั การเรียนร)ู้
4. ใบงาน “วาดรูปตอ่ ” (ใบงานทา้ ยแผนการจดั การเรียนร)ู้
5. กระดาษ A3
6. หนงั สอื ชุด เก่งคณติ คดิ เลขเปน็ ป.3 เล่ม 1

การวดั และประเมนิ ผล

1. สังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรูข้ องนักเรียน
2. ประเมินผลจากคะแนนการทำ�แบบฝึกหัด /ใบงาน ของนกั เรยี น
(การวดั และการประเมนิ ผล คณุ ครสู ามารถปรบั เปลย่ี นไดต้ ามความเหมาะสม บางชนั้ เรยี นอาจมแี บบทดสอบ
กอ่ นเรียน - หลังเรียน แบบประเมนิ การท�ำ กจิ กรรมกล่มุ ฯลฯ)

บรษิ ทั ธารปญั ญา จำ�กดั สงวนลิขสิทธิ์ © 2564 133

รปู ท่มี ีแกนสมมาตรใบงานประกอบแผนการจดั การเรียนรู้ บทท่ี 4 (1) :
รปู ท่ีไม่มีแกนสมมาตร
รปู ท่มี แี กนสมมาตร

ตดั ใบงานตามรอยประ พับตามรอย แลว้ เขียนสรปุ ความเขา้ ใจเรอ่ื ง รูปเรขาคณิตสองมติ ิ พร้อมวาดภาพ

พับตามรอย

รปู เรขาคณิตสองมิติ

บริษัทธารปญั ญา จ�ำ กัด สงวนลิขสทิ ธิ์ © 2564 134

ใบงานประกอบแผนการจัดการเรยี นรู้ บทท่ี 4 (1) : ตัดตามรอย

วาดรูปต่อ

ต ัดใบงานตามรอยเส้นทึบ แลว้ ลากเสน้ ต่อจดุ ใหไ้ ดร้ ูปอีกด้านหน่ึงของเส้นประซงึ่ เป็นแกนสมมาตรของรูป

บรษิ ทั ธารปัญญา จ�ำ กัด สงวนลิขสทิ ธ์ิ © 2564 135

แผนการจดั การเรยี นรู้
หนว่ ยการเรียนรู้ คณิตศาสตร์
กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 3

บทที่ 4 รปู เรขาคณติ (2) จำ�นวน 2 ชวั่ โมง

มาตรฐานการเรียนรู้

1. มาตรฐาน
มาตรฐาน ค 2.2 เข้าใจและวิเคราะห์รูปเรขาคณิต สมบัติของรูปเรขาคณิต ความสัมพันธ์ระหว่างรูป
เรขาคณิต และทฤษฎบี ททางเรขาคณิต และน�ำ ไปใช้

2. ตัวชีว้ ดั
มาตรฐาน ค 2.2 ป.3/1 ร ะบุเรขาคณติ สองมติ ิทม่ี แี กนสมมาตรและจ�ำ นวนแกนสมมาตร

สาระสำ�คญั

การพบั กระดาษรปู เรขาคณติ สองมติ ติ ามแนวตา่ ง ๆ หากทงั้ สองขา้ งของรอยพบั ทบั กนั สนทิ พอดี แสดงวา่ รปู
นนั้ เปน็ รปู ทมี่ แี กนสมมาตร และรอยพบั นน้ั คอื แกนสมมาตร และรปู เรขาคณติ สองมติ บิ างรปู มแี กนสมมาตรมากกวา่
1 แกน

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1. สามารถระบุจ�ำ นวนแกนสมมาตรของรูปเรขาคณิตได้
2. อ ธบิ ายลกั ษณะของรปู เรขาคณติ ที่มแี กนสมมาตรมากกว่า 1 แกนได้

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง

รปู ทีม่ ีแกนสมมาตร

กระบวนการจดั การเรยี นรู้

1. ขน้ั น�ำ เข้าสู่บทเรยี น
1. คณุ ครใู หน้ ักเรียนเลน่ เกม โดยแจกใบงาน “ตารางบงิ โก 1-2” และ
ใบงาน “รปู เรขาคณิต” (ใบงานท้ายแผนฯ) ใหน้ กั เรียนทุกคน แต่ละคน
ตดั รูปภาพเรขาคณติ แล้วเลือกมาตดิ ในตารางบงิ โก (ดังภาพ) แต่ละคน
ไม่จ�ำ เป็นตอ้ งตดิ เหมือนกนั (ใหน้ กั เรยี นทำ�ในเวลาวา่ งเตรยี มไว้)
2. คณุ ครนู ำ�รปู เรขาคณติ ใส่แก้วหรือกล่อง จากน้ันใหน้ ักเรยี นสุ่มหยบิ ขนึ้ มาครั้งละ 1 ใบ พรอ้ มบอกว่า
ไดร้ ูปอะไร เชน่ วงกลม คุณครชู ภู าพทีถ่ กู ส่มุ ใหน้ ักเรียนทกุ คนดู หากตารางบิงโกของใครมีรปู ภาพ
น้ันให้กากบาททบั เล่นแบบนี้เช่นน้ีไปเรือ่ ย ๆ
3. เ มือ่ นกั เรยี นกากบาททบั รูปภาพไดค้ รบ 4 ชอ่ ง ในแนวทแยง แนวต้ัง หรอื แนวนอนท่อี ย่ใู นแถว
เดยี วกนั (อยา่ งใดอย่างหนึ่ง) ให้ตะโกนว่า บงิ โก! แลว้ เลน่ ต่อไปอีกประมาณ 2-3 รอบ หรอื จนกว่า
จะมคี นทบ่ี งิ โก คนตอ่ ไป

2. ขั้นน�ำ เสนอความรู้ 136
1. คณุ ครทู บทวนเรอ่ื ง รปู ทมี่ แี กนสมมาตร โดยใชส้ อ่ื จรงิ ไดแ้ ก่ ผา้ เชด็ หนา้ (รปู สเ่ี หลยี่ ม)
เปน็ ตน้ แลว้ รว่ มกนั อภปิ รายในประเดน็ ตอ่ ไปนี้ เชน่ ผา้ เชด็ หนา้ ผนื นม้ี ลี กั ษณะเหมอื น
รปู เรขาคณติ ชนดิ ใด นกั เรยี นคดิ วา่ รปู นเี้ ปน็ รปู ทม่ี แี กนสมมาตรหรอื ไม่ มวี ธิ คี ดิ อยา่ งไร
บริษัทธารปัญญา จ�ำ กัด สงวนลขิ สิทธิ์ © 2564

2. คุณครสู อน เรอ่ื ง รปู เรขาคณติ (รปู ทม่ี ีแกนสมมาตรหลายแกน)
โดยใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่ม กล่มุ ละ 4 คน แลว้ แจกใบงาน “รปู
ท่ีมีแกนสมมาตรหลายแกน” (ใบงานท้ายแผนฯ) แต่ละกลุ่ม
ตดั รูปเรขาคณติ ในใบงานท่ไี ดเ้ ตรยี มไว้ทงั้ หมด 20 รปู (ควรให้
นกั เรยี นตดั ในเวลาว่าง) และแจกกระดาษขนาด A3 กลมุ่ ละ 1
แผน่ (คณุ ครคู วรพรน้ิ ตใ์ บงานโดยใชก้ ระดาษ A3 เพอ่ื ใชส้ �ำ หรบั
สาธติ ใหน้ ักเรยี นดู แลว้ ตดิ บนกระดาน ดังภาพ)

3. คุณครูแบ่งกระดานเป็น 6 ส่วน เขยี นตวั เลข 1-6 กำ�กบั แตล่ ะ
สว่ น และใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ หยบิ รปู ขนึ้ มา 1 รปู เชน่ รปู ลกู ศร
ตง้ั ค�ำ ถามวา่ “นกั เรยี นคดิ วา่ รปู นเ้ี ปน็ รปู ทมี่ แี กนสมมาตรหรอื ไม่
ทราบไดอ้ ยา่ งไร” ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ พบั ครง่ึ รปู ในลกั ษณะตา่ ง ๆ เชน่ พบั จากดา้ นบนมาลา่ ง ดา้ นซา้ ยมาขวา
แนวทแยง เปน็ ตน้ หากเปน็ รูปทมี่ ีแกนสมมาตรให้เขยี นเสน้ ประแสดงแกนสมมาตรตรงรอยพบั โดย
คุณครูท�ำ ไปพรอ้ มกับนกั เรียน แล้วอธบิ ายเพ่ิมว่า รูปนี้สามารถพับให้สองขา้ งของรอยพบั ทบั กนั สนิท
ได้ 1 แบบ รูปนจี้ งึ มแี กนสมมาตร 1 แกน จากนัน้ น�ำ รูปไปติดบนกระดานในส่วนหมายเลข 1 (ดังภาพ)

4. ใ หแ้ ต่ละกลุ่มหยิบรปู สี่เหลยี่ มผืนผ้าขึน้ มา คณุ ครูถามวา่ รปู นเ้ี ป็นรปู ทีม่ ีแกนสมมาตรหรอื ไม่ ทราบได้
อย่างไร ให้แต่ละกลุ่มพับครึ่งในลักษณะต่าง ๆ ตามกระบวนการเดิม ซ่ึงนักเรียนจะสังเกตได้ว่ารูปนี้
สามารถพับให้สองข้างของรอยพับทับกันสนิทได้ 2 แบบ ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเขียนเส้นประแสดง
แกนสมมาตรตรงรอยพับทัง้ 2 รอย (คุณครอู าจเขยี นใหด้ กู อ่ น) และอธบิ ายว่ารูปเรขาคณิตทพ่ี บั แล้ว
สองขา้ งนน้ั ทบั กันไดส้ นิท 2 แบบ จะเรยี กว่ารูปทม่ี แี กนสมมาตร 2 แกน จากนั้นน�ำ ไปตดิ บนกระดาน
ในส่วนหมายเลข 2

5. ใ ห้นกั เรียนแบง่ กระดาษ A3 เปน็ 6 สว่ น แตล่ ะส่วนเขียนตัวเลข 1-6 ดา้ นบน แต่ละกลุม่ ช่วยกันพับรูป
เรขาคณติ ทเ่ี หลอื เพอ่ื พจิ ารณาวา่ แตล่ ะรปู มแี กนสมมาตรก่ี
แกน แล้วตดิ ลงบนกระดาษ A3 ท่เี ขยี นตวั เลขจ�ำ นวนแกน
สมมาตรไว้ (ดังภาพ)

6. จากนั้นร่วมกันเฉลย โดยคุณครูให้นักเรียนสังเกตว่ารูป
เรขาคณิตชนิดเดียวกัน (เช่น รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า สี่เหลี่ยม
จัตรุ ัส เป็นต้น) มีแกนสมมาตรเท่ากันหรือไม่ รูปเรขาคณิต
ชนิดใดบา้ งที่มแี กนสมมาตรเท่ากบั จำ�นวนด้าน ใหแ้ ยกรปู
น้ันออกมา

7. จ ากนน้ั คุณครใู ห้นักเรียนสังเกตรปู ทีแ่ ยกออกมา แลว้ อภปิ รายร่วมกนั ว่า รปู เรขาคณิตท่แี ยกออก
มานนั้ จะมคี วามยาวดา้ นเท่ากนั ทกุ ดา้ น เชน่ รูปสามเหลย่ี มท่มี คี วามยาวเท่ากนั ทุกดา้ น (หรอื เรยี ก
รูปสามเหลี่ยมด้านเทา่ ) รปู ส่ีเหลี่ยมท่มี คี วามยาวเทา่ กนั ทกุ ด้าน (หรือเรยี ก รปู ส่เี หลย่ี มด้านเทา่ )
เป็นต้น ซงึ่ แต่ละรูปน้นั มีแกนสมมาตรกแ่ี กน ให้นักเรยี นชว่ ยกันตอบ
(ตวั อยา่ งค�ำ ตอบ)
-รปู สามเหลยี่ มด้านเทา่ มแี กนสมมาตร 3 แกน
-รูปส่ีเหลีย่ มด้านเทา่ มแี กนสมมาตร 4 แกน เป็นตน้
คุณครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรุปว่ารูปเรขาคณิตทมี่ ีดา้ นเท่ากันทุกดา้ น จะมแี กนสมมาตรเทา่ กบั
จ�ำ นวนด้านที่เท่ากัน จากนน้ั สังเกตรปู ที่มีแกนสมมาตรและจำ�นวนแกนสมมาตรเพ่ิมเติมจากหนังสือ
เกง่ คณติ คดิ เลขเปน็ เลม่ 1 หนา้ 151-152

3. ขนั้ ลงมอื เรียนรู้
1. ค ุณครใู ห้นกั เรยี นท�ำ กิจกรรมรูปท่ีมแี กนสมมาตรหลายแกน โดย
ดาวนโ์ หลดใบงานจาก QR code ในหนังสอื เกง่ คณติ คดิ เลขเปน็
เล่ม 1 หนา้ 153 แจกใหน้ กั เรยี นทกุ คน โดยตดั รูปเรขาคณติ จาก
ใบงานเตรยี มไว้ จ�ำ นวน 12 รปู

บริษัทธารปัญญา จำ�กดั สงวนลิขสิทธ์ิ © 2564 137

2. นักเรียนพับรูปเรขาคณิตท่ีตัดไว้ แล้วพิจารณาว่าแต่ละรูปมีแกนสมมาตรกี่แกน พร้อมเขียนเส้นประ
แสดงแกนสมมาตรของรปู (ดังภาพ) ทำ�จนครบทุกรปู จากน้ันจบั คู่กบั เพ่ือนพูดคุยแสดงความคดิ เหน็
รว่ มกนั วา่ ของเรากบั ของเพอื่ นเหมอื นหรอื ตา่ งกันอย่างไร

3. ท�ำ แบบฝกึ หัดในหนังสือเก่งคณิต คิดเลขเป็น เลม่ 1 หน้า 153-155
4. ข้นั สรุปความรู้

1. ค ณุ ครแู จกใบงาน “สรปุ รูปท่ีมแี กนสมมาตร” (ใบงานท้ายแผนฯ) ใหน้ ักเรียนคนละ 1 แผน่
2. น ักเรียนเขียนสรุปเรื่อง รูปเรขาคณิตท่ีมีแกนสมมาตรและไม่มีแกนสมมาตร ตามเข้าความเข้าใจของ

ตนเอง เชน่ รปู ทมี่ แี กนสมมาตร เมอ่ื พบั ตามเสน้ ประแลว้ ทง้ั สอง
ขา้ งทบั กนั สนทิ พอดี และรปู ทไ่ี มม่ แี กนสมมาตร เมอ่ื พบั ตามเสน้
ประแลว้ ทง้ั สองขา้ งทับกันไม่สนทิ
3. จ ากนั้นแบง่ หวั ขอ้ ออกเปน็ 3 หวั ข้อ คอื รปู ท่ีมแี กนสมมาตร 1
แกน รปู ทม่ี แี กนสมมาตรหลายแกน และรปู ทไี่ มม่ แี กนสมมาตร
วาดภาพรูปเรขาคณิตหรือคุณครูถ่ายเอกสารรูปเรขาคณิตจาก
แบบฝกึ ในหนังสือ ให้นักเรยี นตัดรปู ติดกไ็ ด้ (ดังภาพ)
4. เมื่อทำ�เสร็จแล้ว นักเรียนทุกคนสรุปร่วมกันอีกคร้ัง และทํา
1M5a6thเพRอ่ื eทvบieทwวนในแหลนะงัเนส้นอื เยร้ำ�ยี คนวเากมง่ เคขณา้ ใติ จคเรดิ อื่ เลงขรเปู ปเน็รขเาลคม่ ณ1ิตหทนีม่า้ ี
แกนสมมาตรและไมม่ ีแกนสมมาตร
5. ขน้ั ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้
1. ค ุณครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3- 4 คน แล้วแจกใบงาน
“บนั ไดรปู เรขาคณติ ” (ใบงานทา้ ยแผนฯ) และลกู เตา๋ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่
กลุ่มละ 1 ชดุ
2. คนแรกโยนลูกเต๋า (คนละ 1 ครง้ั ) แล้วเดนิ ไปตามช่อง โดยดูจ�ำ นวน
แต้มบนลูกเต๋า หากตกช่องที่เป็นรูปเรขาคณิตนักเรียนต้องตอบให้
ได้วา่ รปู นน้ั เปน็ รูปท่มี ีแกนสมมาตรหรอื ไม่ ถา้ มีต้องระบุจ�ำ นวนแกน
สมมาตรด้วย ถ้าตอบผดิ หรอื ตอบไม่ไดใ้ ห้เดินถอยหลงั 3 ชอ่ ง
3. ใหผ้ เู้ ลน่ คนถดั ไปทอยลกู เตา๋ และเลน่ ไปเรอ่ื ย ๆ จนครบทกุ คน แลว้ เรม่ิ
ทผี่ เู้ ลน่ คนแรกใหม่ เลน่ ผลดั เปลย่ี นกนั ไปเรอื่ ย ๆ ตามล�ำ ดบั เหมอื นเดมิ
ตัวเดินของผู้เลน่ คนใดไปถึงจุดสิ้นสุดกอ่ นจะเปน็ ผชู้ นะ

เคร่อื งมือ - สื่อการเรียนรู้

1. ส่ือจรงิ เช่น ผา้ เชด็ หนา้
2. ใบงาน “ตารางบงิ โก 1-2” (ใบงานท้ายแผนการจดั การเรยี นรู้)
3. ใบงาน “รูปเรขาคณิต” (ใบงานทา้ ยแผนการจัดการเรยี นร)ู้
4. ใบงาน “รปู ที่มแี กนสมมาตรหลายแกน” (ใบงานทา้ ยแผนการจดั การเรยี นร้)ู
5. ใบงานจาก QR code ในหนงั สือเกง่ คณิต คดิ เลขเปน็ เล่ม 1
6. ใบงาน “บนั ไดรปู เรขาคณิต” (ใบงานท้ายแผนการจัดการเรยี นร)ู้
7. ใบงาน “สรุปรูปทม่ี ีแกนสมมาตร” (ใบงานท้ายแผนการจดั การเรียนรู้)
8. ลูกเตา๋
9. กระดาษ A3
10. หนังสอื ชดุ เก่งคณติ คิดเลขเปน็ ป.3 เล่ม 1

บริษทั ธารปัญญา จำ�กัด สงวนลขิ สทิ ธ์ิ © 2564 138

การวดั และประเมนิ ผล

1. สังเกตพฤติกรรมการเรียนรูข้ องนกั เรียน
2. ประเมินผลจากคะแนนการท�ำ แบบฝึกหัด /ใบงาน ของนกั เรยี น
(การวดั และการประเมนิ ผล คณุ ครสู ามารถปรบั เปลย่ี นไดต้ ามความเหมาะสม บางชนั้ เรยี นอาจมแี บบทดสอบ
ก่อนเรยี น - หลงั เรียน แบบประเมนิ การท�ำ กิจกรรมกลุม่ ฯลฯ)

บริษัทธารปญั ญา จำ�กัด สงวนลขิ สิทธิ์ © 2564 139

ใบงานประกอบแผนการจัดการเรยี นรู้ บทท่ี 4 (2) :

ตารางบงิ โก 1

ทน�ำีค่ รณุ ปู คเรรขูบาอคกณหิตรจอื าชกูใหใบด้ งู าใคนรตบางิ รโกางกบอ่ ิงนโเกป(็น2ผ)ู้ชมนาะวางในตารางบิงโก จากนัน้ เล่นเกมโดยกากบาททับรูปเรขาคณติ

BINGO

บริษทั ธารปญั ญา จ�ำ กดั สงวนลขิ สิทธิ์ © 2564 140

ใบงานประกอบแผนการจัดการเรยี นรู้ บทท่ี 4 (2) :

ตารางบงิ โก 2

ต ดั ใบงานตามรอยประ แล้วน�ำ รปู ภาพเรขาคณติ ไปตดิ ในช่องตารางบงิ โก

บริษัทธารปญั ญา จำ�กัด สงวนลขิ สทิ ธ์ิ © 2564 141

ใบงานประกอบแผนการจดั การเรียนรู้ บทท่ี 4 (2) :

รูปท่มี ีแกนสมมาตรหลายแกน

ตดั ใบงานตามรูปเรขาคณิต แลว้ พับกระดาษรปู เรขาคณิตในลกั ษณะตา่ ง ๆ (เชน่ พบั จากดา้ นบนมาด้านลา่ ง
ดา้ นซา้ ยมาดา้ นขวา แนวทแยง เปน็ ตน้ ) และขีดเส้นประตามรอยพับเพอ่ื แสดงแกนสมมาตร

บริษัทธารปญั ญา จำ�กดั สงวนลขิ สิทธ์ิ © 2564 142

ใบงานประกอบแผนการจดั การเรียนรู้ บทท่ี 4 (2) :

รูปท่มี ีแกนสมมาตรหลายแกน

ตดั ใบงานตามรูปเรขาคณิต แลว้ พับกระดาษรปู เรขาคณิตในลกั ษณะตา่ ง ๆ (เชน่ พบั จากดา้ นบนมาด้านลา่ ง
ดา้ นซา้ ยมาดา้ นขวา แนวทแยง เปน็ ตน้ ) และขีดเส้นประตามรอยพับเพอ่ื แสดงแกนสมมาตร

บริษัทธารปญั ญา จำ�กดั สงวนลขิ สิทธ์ิ © 2564 143

ใบงานประกอบแผนการจัดการเรียนรู้ บทท่ี 4 (2) :

สรุปรูปทมี่ ีแกนสมมาตรหลายแกน
เ ขยี นสรุปเรอื่ ง รปู ที่มีแกนสมมาตรและไม่มีแกนสมมาตรในชอ่ งดา้ นบน และวาดรูปตามหัวข้อทก่ี ำ�หนดในช่องวา่ ง
ดา้ นล่าง
รปู ทมี่ แี กนสมมาตร
รูปทมี่ แี กนสมมาตร

รปู ท่ีไม่มแี กนสมมาตร

รูปทม่ี ีแกนสมมาตร 1 แกน รปู ที่มแี กนสมมาตร 2 แกน

รูปมทากี่มกแี วก่าน2สมแมกานตร รูปที่ไมม่ ีแกนสมมาตร

บริษัทธารปัญญา จ�ำ กัด สงวนลขิ สทิ ธิ์ © 2564 144

ใบงานประกอบแผนการจดั การเรียนรู้ บทที่ 4 (2) :

บันไดรูปเรขาคณิต

START ท อยลกู เต๋า แลว้ ใชต้ วั เดิน เดินไปตามจำ�นวนบนหนา้ ลูกเตา๋ แลว้
ตอบให้ได้วา่ ในช่องท่ไี ดน้ ั้นมแี กนสมมาตรหรือไม่ มีจ�ำ นวนก่ีแกน
ผลดั กนั เลน่ จนมีผ้ชู นะ

กลบั ไปจดุ

START

เดนิ ถอย END
หลงั 4 ชอ่ ง

บรษิ ัทธารปญั ญา จำ�กัด สงวนลขิ สทิ ธ์ิ © 2564 145

แผนการจดั การเรียนรู้
หน่วยการเรียนรู้ คณิตศาสตร์
กลุม่ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3

บทท่ี 5 เศษสว่ น (1) จำ�นวน 3 ชว่ั โมง

มาตรฐานการเรยี นรู้

1. มาตรฐาน
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำ�นวน ระบบจ�ำ นวน การด�ำ เนนิ การของจ�ำ นวน
ผลท่ีเกิดขนึ้ จากการดำ�เนนิ การ สมบตั ขิ องการดำ�เนนิ การ และนำ�ไปใช้

2. ตวั ชวี้ ดั
มาตรฐาน ค 1.1 ป.3/3 บ อก อ่าน และเขียนเศษส่วนแสดงปริมาณส่ิงต่าง ๆ และแสดงส่ิงต่าง ๆ ตาม
เศษสว่ นทีก่ �ำ หนด

สาระสำ�คญั

เมอ่ื แบง่ รปู 1 รูปออกเป็นส่วนเทา่  ๆ กัน สามารถเขยี น เศษสว่ น โดยใช้ − เปน็ เสน้ คนั่ ระหว่างจ�ำ นวนสอง
จ�ำ นวน จำ�นวนท่ีเขยี นไว้บนเส้นคน่ั เรียกว่า ตวั เศษ และจำ�นวนทเ่ี ขียนไว้ดา้ นลา่ งเสน้ ค่ัน เรียกว่าตวั ส่วน

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1. สามารถบอกเศษส่วนท่ตี วั เศษนอ้ ยกวา่ หรือเทา่ กับตัวส่วนได้
2. สามารถอ่านและเขยี นเศษส่วนทีต่ ัวเศษนอ้ ยกวา่ หรือเทา่ กบั ตวั สว่ นได้

สาระการเรยี นร้แู กนกลาง

เศษสว่ นที่ตวั เศษนอ้ ยกว่า หรือเทา่ กับตวั ส่วน

กระบวนการจดั การเรยี นรู้ 146

1. ข้ันนำ�เขา้ ส่บู ทเรยี น
1. ค ุณครูให้นักเรียนจับคู่เล่นเกมโดยแจกใบงาน “คู่ฉันอยู่ไหน”
(ใบงานท้ายแผนฯ) ตดั เตรียมไว้ แลว้ วางคละไวบ้ นโตะ๊
2. นักเรียนแต่ละคู่ช่วยกันจับคู่รูป โดยนำ�มาต่อกันให้เป็นรูป
เรขาคณิตทสี่ มบูรณ์ (ดังภาพ) เสรจ็ แลว้ รีบยกมอื ข้ึน คู่ใดทีต่ ่อ
ภาพเสรจ็ กอ่ นจะเปน็ ผูช้ นะ

2. ข้นั น�ำ เสนอความรู้
1. คุณครูใช้สื่อของจริง เชน่ ขนมปงั บราวน่ี เปน็ ตน้ ประกอบการสอนเรอื่ ง เศษสว่ น (การแบง่ ออก
เป็นส่วน เท่า ๆ กัน) และการอา่ นและการเขยี นเศษสว่ น (1) โดยให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุม่ ละ 5 คน
แลว้ แจกบราวนใ่ี ห้แต่ละกลมุ่ กล่มุ ละ 3 กอ้ น จากน้นั คุณครถู ามนกั เรียนว่าหากคณุ ครตู อ้ งการแบ่ง
บราวนี่เป็นสองช้ิน (2 ส่วน) เทา่  ๆ กนั คุณครสู ามารถแบ่งแบบไหนไดบ้ า้ ง
2. ใ หแ้ ตล่ ะกล่มุ ช่วยกนั แบ่งบราวน่กี อ้ นแรกออกเป็น 2 ชน้ิ เทา่  ๆ กนั (ไม่จำ�เป็นต้องเหมอื นกัน) เมือ่
แบง่ เสร็จให้แตล่ ะกล่มุ น�ำ เสนอว่ากลุม่ ของตัวเองแบง่ แบบใด แต่ละกลมุ่ ร่วมกนั ตรวจสอบ แลว้
สนทนากบั นกั เรียนว่า เราสามารถแบ่งบราวนี่ 1 ก้อน ออกเป็น 2 ส่วนเทา่  ๆ กันไดห้ ลายแบบ
แต่ละแบบมสี ว่ นท่ีเทา่ กนั ทุกสว่ น
บรษิ ทั ธารปัญญา จำ�กดั สงวนลิขสิทธ์ิ © 2564

3. จ ากน้ันคุณครูติดบตั รภาพบราวนี่ที่แบง่ ออกเป็น 2 ช้ิน
บนกระดานหรอื แสดงบนจอ อธบิ ายเพิม่ ว่า บราวนี่ 1
กอ้ น แบ่งเปน็ 2 ช้ิน เทา่ ๆ กัน บราวนีแ่ ตล่ ะชนิ้ เปน็ 1
ใตบนดิราบ2วัตนขรี่แอเศตงบษ่ลรสะาชว่ วน้ินนเแป่ี 1ล็นะกออ้ 21ธนิบอเาขา่ยยีนอนวีกเา่ วศ่าเษศ1สษ่วคหนอืนแง่ึสตสดวั ่วงเนศจสษ�ำ อนแงวสนดพขงรออ้ งม
จ�ำ นวนชนิ้ ส่วนท่ีเราพดู ถึงหรือแยกออกมา จะเขยี นไวด้ ้าน
บนของเสน้ ค่นั และ 2 คือ ตวั สว่ นแสดงจ�ำ นวนของชน้ิ ส่วนที่เท่า ๆ กันทงั้ หมด เขียนไวด้ ้านลา่ งของ
เส้นคนั่ (ดงั ภาพ)

4. คณุ ครูก�ำ หนดใหน้ ักเรยี นแบ่งบราวนี่ท่เี หลืออกี 2 ก้อน ให้เท่า ๆ กนั สอนด้วยกระบวนการเดียวกบั
ขอ้ ท่ี 3 จากน้นั ให้นักเรียนเปดิ หนงั สอื เกง่ คณิต คดิ เลขเปน็ เล่ม 1 หนา้ 157 และ 159-160 โดย
พิจารณารปู แลว้ ชี้อา่ นพร้อมกัน

5. ค ณุ ครูสอน เร่อื ง เศษส่วน (การอา่ นและการเขยี นเศษสว่ น 2) ใชบ้ ตั รภาพพซิ ซ่าทีแ่ บ่งเปน็ 8 ส่วน
ติดบนกระดานหรอื แสดงภาพบนจอ ใหน้ ักเรยี นดูแลว้ ช่วยกนั นบั ว่าพิซซา่ ถาดนี้แบ่งออกเป็นกส่ี ว่ น
แตล่ ะส่วนเทา่ กันหรอื ไม่ สนทนากับนักเรียนวา่ พซิ ซ่า 1 ถาดนี้ แบง่ เป็น 8 สว่ น เทา่  ๆ กัน ซงึ่ ถา้
คณุ ครูกินไป 3 ชน้ิ (หรือ 3 สว่ น) นักเรียนคิดว่าจะเขยี นเศษส่วนแสดงจ�ำ นวนพซิ ซ่าชิ้นทกี่ นิ ไป หรอื
สว่ นทรี่ ะบายสไี ดอ้ ยา่ งไร

6. พเ อรธราิบอ้สามายมกวาัน่ารวมถา่ สีเขเว่ ศียนษนทสเ่รีปาะน็มบเสศา่วยษนสสแี ่ว3ปนดสไดว่ซ้คนง่ึ ือจ3าก83เปทน็ัง้ ใหตหมัว้นเดกัศเษ8รียส8น่วอเนป่าน็น
ตวั สว่ น และถามนกั เรยี นวา่ ตวั เศษและตัวสว่ นคืออะไร
(ตัวเศษ คือ จ�ำ นวนที่เราต้องการพูดถึง (ส่วนที่ระบายสี)
ตัวส่วนคือ จ�ำ นวนสว่ นท้งั หมด

7. เปลี่ยนโจทยเ์ พอื่ ยกตวั อย่างเพ่มิ เติมโดยตดิ บตั รภาพตา่ ง ๆ ตามหนังสือเกง่ คณิต คดิ เลขเป็น เลม่ 1
หนา้ 163-164 สอนดว้ ยกระบวนการเดยี วกนั กบั ข้อที่ 5-6 เพอื่ อธิบายให้นักเรียนเขา้ ใจมากข้นึ

8. เม่ือนกั เรยี นเร่มิ เขา้ ใจการอา่ นและการเขยี นเศษสว่ นแล้ว คุณครูอาจติดบัตรภาพบนกระดาน แลว้
สมุ่ ใหน้ กั เรียนออกมาเขียนเศษสว่ น หรอื คณุ ครตู ดิ บัตรเศษสว่ น ให้นักเรียนออกมาระบายสีแสดง
เศษสว่ น พร้อมระบุตวั เศษและตัวสว่ น

3. ขั้นลงมอื เรยี นรู้
1. ให้นักเรียนทำ�กิจกรรมที่ 1 “แบ่งถาดพิซซ่า” ในหนังสือเก่งคณิต
คิดเลขเป็น เล่ม 1 หนา้ 165 (ดาวน์โหลดใบงานจาก QR code)
2. ท �ำ แบบฝกึ หดั ในหนงั สอื เกง่ คณติ คดิ เลขเปน็ เลม่ 1 หนา้ 158, 161-162
และ 166-168

4. ขั้นสรุปความรู้
ใ ห้นักเรียนทำ�กิจกรรมที่ 2 “ใช่เศษส่วนหรือไม่” ในหนังสือเก่งคณิต
คิดเลขเปน็ เล่ม 1 หน้า 165 (ดาวน์โหลดใบงานจาก QR code)

5. ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้
1. ค ุณครูใหน้ กั เรยี นจบั คู่ แลว้ แจกใบงาน “ โดมโิ นเศษสว่ น” (ใบงานทา้ ย
แผนฯ) ให้คู่ละ 1 แผ่น
2. น ักเรียนตกลงกันว่าใครจะวางเป็นคนแรกและคนที่สอง โดยคนแรกดู
โดมิโนเศษส่วนที่วางก่อนหน้าแล้วเขียนเศษส่วนหรือวาดภาพพร้อม
ระบายสแี สดงเศษสว่ น (ดงั ภาพ) จากนน้ั ใหค้ นทส่ี องวาดตอ่  ๆ กนั จนเสรจ็
3. ใครตอบผดิ นอ้ ยที่สุดเป็นผชู้ นะ

บริษัทธารปัญญา จำ�กดั สงวนลิขสทิ ธ์ิ © 2564 147

เครือ่ งมอื - สอ่ื การเรียนรู้

1. ส่อื ของจริง เชน่ ขนมปงั บราวนี่ เป็นต้น
2. บตั รภาพ บัตรตวั เลข
3. ใบงาน “คูฉ่ ันอยู่ไหน” (ใบงานทา้ ยแผนการจดั การเรยี นรู)้
4. ใบงาน “แบ่งถาดพิซซ่า” (ดาวน์โหลดใบงานจาก QR code)
5. ใ บงาน “ใช่เศษส่วนหรือไม”่ (ดาวน์โหลดใบงานจาก QR cod)
6. ใบงาน “โดมโิ นเศษสว่ น” (ใบงานท้ายแผนการจดั การเรยี นรู้)
7. หนังสอื ชุด เก่งคณติ คิดเลขเปน็ ป.3 เล่ม 1

การวัดและประเมนิ ผล

1. สังเกตพฤติกรรมการเรยี นรขู้ องนกั เรยี น
2. ประเมินผลจากคะแนนการทำ�แบบฝกึ หดั /ใบงาน ของนักเรียน
(การวดั และการประเมนิ ผล คณุ ครสู ามารถปรบั เปลย่ี นไดต้ ามความเหมาะสม บางชน้ั เรยี นอาจมแี บบทดสอบ
กอ่ นเรยี น - หลงั เรยี น แบบประเมนิ การท�ำ กจิ กรรมกลมุ่ ฯลฯ)

บริษัทธารปญั ญา จำ�กดั สงวนลขิ สทิ ธิ์ © 2564 148

ใบงานประกอบแผนการจดั การเรยี นรู้ บทที่ 5 (1) :

คฉู่ นั อยู่ไหน

ตดั ใบงานตามรอยประ แล้วนำ�มาประกอบกนั ให้เป็นรปู เรขาคณติ ที่สมบรู ณ์

บรษิ ัทธารปัญญา จ�ำ กัด สงวนลิขสิทธิ์ © 2564 149

ใบงานประกอบแผนการจัดการเรยี นรู้ บทที่ 5 (1) : 2
6
โดมโิ นเศษส่วน
31
54

6
8
2
5

4
7

4
4

บริษัทธารปญั ญา จ�ำ กัด สงวนลขิ สิทธิ์ © 2564 150


Click to View FlipBook Version