(2)
ผูป้ ่ วยท่ีสูญเสียความรู้สึก
ตวั ออกกาบงั กายหรือนวดบริเวณที่เสียค
เปบี่ยนแปบงของผวิ หนงั บริเวณน้ันดว้ ย
ด้านการรับรู้
กของผิวหนัง อาจทา้ห้เกิดแผบกดทบั ไดง้ ่าย จึงควรพบิก
ความรู้สึกบ่อยๆ โดยญาติหรือผูด้ ูแบตอ้ งหมนั่ สังเกตการ
ผ
ท
ม
ก
ค
้น
ผ
ก
(3) ด้านสตปิ ัญญา
ผปู้ ่ วยที่ไดร้ ับอนั ตราย ของสมอง อมั พาตคร่ึงซีกแบะ
ผสู้ ูงอายุ มกั จะตอ้ งเผชิญกบั ปัญหาเหบ่าน้ี
ก. การสูญเสียความทรงจา จะตอ้ งฟ้ื นฟูดว้ ยการ้ห้รับรู้
ที่บะอยา่ ง ทบทวนแบว้ จึงคอ่ ยๆ เพ่ิมเรื่องราว ซ่ึงญาติหรือผดู้ ูแบจะตอ้ ง
มีส่วน้นการฟ้ื นฟเู ป็นอยา่ งมาก
ข. การขาดแรงจูงใจในการทากิจกรรม ควรเบือก
กิจกรรมที่้ชร้ ะยะเวบาส้ันๆ การทางานง่ายๆ หรือกิจกรรมที่ทาแบว้ มี
ความสนุกสนาน เพื่อ้หเ้ กิดความสาเร็จจะ้ห้้ห้เกิดแรงกระตุน้ ที่จะทา
นส่ิงอื่นตอ่ ไป นกั สาธารณสุข ญาติหรือผดู้ ูแบจะตอ้ งเสริมพบงั เพ่ือ้ห้
ผปู้ ่ วยเกิดภาพฝัง (Imagine) ท่ีชดั เจน เพื่อ้ห้เกิดความมุ่งมน่ั อดทน้น
การที่จะทา้หภ้ าพฝังน้นั เกิดข้ึนจริงต่อไป
3. การใช้กายอุปกรณ์ กายอุปกรณเ์ ป็นอุปกรณท์ ่ี้
อาจจะชวั่ คราวหรือถาวร กายอุปกรณม์ ี 2 ประเภท คือ
(1) กายอปุ กรณ์เสริม (Orthosis) เป็
ภายนอกที่เกี่ยวกบั การเคบื่อนไหว ต้งั แตศ่ รี ษะจนถึงปบายมือปบ
ก. ไม้คา้ ยัน (Crutches
ก่อนท่จี ะ้ชไ้ มค้ ้ายนั ผปู้ ่ วยจะตอ้ งไดร้ ับการส่งเสริมสมรรถนะขอ
แขง็ แรงโดยการออกกาบงั กายแบะตอ้ งเบือกไมค้ ้ายนั ทม่ี ีขนาดพอ
้ชห้ รือช่วย ชดเชยอวยั วะทีส่ ูญเสียไป
ปนอุปกรณ์ท้่ี ช้้ นการเสริมหรือพยงุ อวยั วะ
บายเทา้ เช่น
s) เป็นเคร่ืองช่วยเดินสาหรับผปู้ ่ วยหรือผทู้ ี่มีความพกิ าร
องกบา้ มเน้ือขา กน้ แบะกบา้ มเน้ือแขน ไหบ่ ้ห้มีความ
อดีกบั ตวั ผปู้ ่ วย
ข. ไม้เท้า (Cane) เป็ นเครื่องช่วยเดินที่ง่ายที่ส
ทรงตวั ช่วย้หผ้ ปู้ ่ วยเดินดว้ ยความมน่ั คง มีหบายรูปแบบ
การถือไมเ้ ทา้ ้ห้ถือไมเ้ ทา้ ดว้ ยมือท่ีอยตู่ รงขา้
ทเี่ สียแบะเบ่ือนไมเ้ ทา้ ไปขา้ งหนา้ พร้อมกบั ขาขา้ งทเี่ สีย
สาหรับการเดินข้ึนบนั ได้ห้กา้ วขาขา้ งที่ดีข้
เทา้ พร้อมขาขา้ งที่เสียตามไป
ส่วนการบงบนั ได้หเ้ บ่ือนไมเ้ ทา้ พร้อมขาท่ีเส
แรงบงไปก่อนแบว้ จงึ เบ่ือนขาขา้ งท่ีดีตามบงมา
สุด้ช้้ นการ
ามกบั ขาขา้ ง
ขึนแบว้ ยกไม้
สียหรืออ่อน
ค. เครื่องช่วยเดนิ (Walker)
เคร่ืองช่วยเดินจะมีฐานที่กวา้ งมนั่ คง
ทา้หป้ บอดภยั ตอ่ การบม้ ผปู้ ่ วยทีเ่ ป็นผสู้ ูงอายุ
ควร้ชเ้ ครื่องช่วยเดินจะปบอดภยั กวา่ ไมค้ ้ายนั
ง. เก้าอี้ล้อเข็น ้ช้้ นผปู้ ่ วยท่ีอยู้่ นสภาวะที่ไม่
สามารถเดินได้ โดยมีการกาหนด้ห้เหมาะสมกับสภาพ
ร่างกายของผูป้ ่ วยแต่บะรายซ่ึงตอ้ งคานึงถึงอายุ รูปร่างของ
ผูป้ ่ วย สภาวะการเจ็บป่ วย สิ่งแวดบอ้ มที่อยู่อาศยั ราคาแบะ
ความคงทน ปัจจุบนั มีท้งั แบบธรรมดาแบะแบบที่ควบคุมดว้ ย
ระบบไฟฟ้าที่สามารถปรับ้ห้หมุนไดร้ อบ แบะปรับ้ห้อยทู่ ่า
ยนื ได้
(2) กายอุปกรณ์เทยี ม (Prostheses) เป็นอุปกรณท์
ท้งั ้นแง่ความสวยงามแบะการทางานของอวยั วะน้นั โดยเฉพาะ
ตดั สิน้จจะ้ส่อวยั วะเทียมจะตอ้ งมีการเตรียมตวั เพ่อื ้ห้สามารถ
ไดแ้ ก่
ก. การจัดท่าให้ถูกต้องตามคาแนะนา
แขนทเ่ี หบือจากการถูกตดั ถา้ มีส่วนขอ้ เหบืออยไู่ ม่ควรงอ้นระย
ข. ให้ผ้าพนั ยดึ (Stump bandaging)
ไม่บวม
ค. ออกกาลงั กาย เพ่อื ้หก้ บา้ มเน้ือบ
ร่วมกบั ระบบขอ้ ต่างๆ
ที่ช่วยทดแทนส่วนท่ีผปู้ ่ วยขาดหายไป
ะขาเทยี ม กายอุปกรณเ์ ทยี ม ผปู้ ่ วยท่ี
ถ้ชก้ ายอุปกรณเ์ ทียมไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพสูงสุด
า โดยไม่งอตอ (Stump) ซ่ึงเป็นส่วนของขาหรือ
ยะแรก
) ไวต้ บอดเพอื่ ช่วย้ห้บริเวณทต่ี ดั หดตวั บงโดยเร็ว
บริเวณทถี่ ูกตดั มีกาบงั แบะควรฝึกการทางาน
2.2.2 การฟื้ นฟูสภาพทางจิตและสังคม
1. การฟื้ นฟูสภาพทางจิต มีความสาค
มีไดห้ บายแนวทางตามสภาวะของโรคแบะผปู้ ่ วย ซ่ึงบุคบากรทา
มีส่วนร่วม้นการสนบั สนุน้ห้ผปู้ ่ วยไดฟ้ ้ื นฟูสภาพทางจิต ดงั น
(1) การปรับตัว โดยผปู้ ่ วยตอ้ งยอ
การปรับตวั ้หส้ ามารถพ่งึ ตนเอง การปรับตวั ดา้ นสัมพนั ธภาพก
ต่อความพิการ
ครอบ
แบะ
บุคค
คญั ต่อความเขม้ แขง็ ทางจติ ้จของผูป้ ่ วย
างการแพทย์ นกั สาธารณสุข ญาติแบะชุมชนตอ้ ง
น้ี
อมรับแบะปรับบทบาท้นหบายๆ ดา้ น เช่น
กบั ผอู้ ื่น การปรับตวั ต่อการเจบ็ ป่ วยแบะเผชิญ
(2) การดูแลตนเอง เป็ นกระบวนการท่ีผู้ป่ วยแบะ
บครัวจะแสดงศกั ยภาพ้นความสามารถที่จะช่วยเหบือตนเอง
รับผิดชอบกนั เองดา้ นสุขภาพอนามัย ที่จะส่งเสริมการพฒั นา
คบ้ห้ดีที่สุดตามสรรถภาพทเ่ี หบืออยู่
การฟื้ นฟสู ภาพ
(3) การขอคาปรึกษา
โดยผปู้ ่ วยแบะญาติขอรับคาปรึกษาจากบุคคบที่มี
ความเชี่ยวชาญ หรือบุคคบที่้ห้ความเคารพศรัทธา เช่น
แพทย์ พยาบาบ นกั สาธารณสุข นักบจิตวิทยา นกั บวช
ผนู้ าทางศาสนา เพ่ือน ฯบฯ
พทางจิต (ต่อ)
(4) การใช้กล่มุ ช่วยเหลือตนเอง
บักษณะกบุ่มจะอาศัยแนวคิ ด้นเร่ื องแรง
สนบั สนุนทางสงั คม ผปู้ ่ วยสามารถเบือกเขา้ อยู่้นกบุ่มท่ี
มีปัญหาคบา้ ยคบึงกนั หรือเขา้ ร่วมกบั กบุ่มบุคคบที่ปกติก็
ไดต้ ามความสน้จ เช่น กบมุ่ ที่เนน้ การฟ้ื นฟสู ภาพ กบุ่มที่
เนน้ การปรับเปบ่ียนพฤติกรรมกบุม่ โรคเร้ือรัง
การฟื้ นฟสู ภาพ
(5) การสร้างพลังทางจิต
ผปู้ ่ วยที่มีความทอ้ แท้ ขาดแรง้จ้นการท่ีจะปรับ
ฟ้ื นฟูสภาพสามารถสร้างเสริมพบงั จิต้หส้ ามรถบุกข้ึนมา
ต่อสู้ด้วยวิธีการที่หบากหบาย เช่น การฝึ กทาสมาธิ
การฝึกผอ่ นคบายกบา้ มเน้ือ หรือหางานอดิเรกที่ชอบทา
พทางจติ (ต่อ)
(6) การบาบัดทางจิตใจ
เป็ นวิธีสุดทา้ ยท่ีเม่ือผูป้ ่ วยไม่สามารถตอบสนอง
กบั การดาเนินการอ่ืนได้ ซ่ึงต้องทาการส่งต่อ้ห้กบั นกั
จิตแพทย์ หรือนกั จิตวิทยาเป็ นผปู้ ระเมินแบะเข้ารับการ
บาบดั ตอ่ ไป
2. การฟื้ นฟูสภาพโดยสังคม สังคมมีส่วนช่วย้นกา
(1) การฟ้ื นฟสู ภาพโดยครอบครัว การ
้นการฟ้ื นฟูสภาพของบุคคบ้นครอบครัวทม่ี ีความเจบ็ ป่ วย เช่น
ความรู้แบะแหบ่งท่ีจะช่วยเหบือ
(2) การฟ้ื นฟสู ภาพโดยสถาบันทางกา
อยา่ งยงิ่ ทจ่ี ะตอ้ งฟ้ื นฟูสภาพทางการศึกษา เพื่อเป็นส่ือสาคญั ้นก
เป็ นแ
แห่ง
คาปร
ารฟ้ื นฟูสภาพผปู้ ่ วย เช่น
รวางตนที่ดีของครอบครัวจะมีส่วนช่วย
น การไม่สงสารผปู้ ่ วยจนเกินไป การแสวงหา
รศึกษา เดก็ พกิ ารมีความจาเป็นแบะความสาคญั
การพฒั นาตนเอง
(3) การฟ้ื นฟูสภาพโดยสถาบันศาสนา สถาบนั ศาสนา
แหบ่งยดึ เหยยี่ วจิต้จ ซ่ึงบางสถาบนั จดั การฟ้ื นฟูโดยตรงแต่บาง
งจดั โดยทางออ้ ม เช่น การฟ้ื นฟูสภาพจิต้จคนตาบอด การ้ห้
รึกษาทางโทรศพั ท์ ฯบฯ
(4) การฟ้ื นฟูสภาพโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถ่นิ
ปกครองส่วนทอ้ งถิ่นเป็นผนู้ า้นการสร้างเครือข่าย
ร่วมของคน้นชุมชน ผปู้ ่ วยแบะภาคส่วนตา่ งๆ ้นก
ร่วมกนั บรู ณาการภาคส่วนตา่ งๆเพื่อ้ห้เกิดความร่ว
สร้างเครือข่ายการทางาน
นักสาธารณสุข จะเป็นผอู้ านวยการดูแบแบะบริหารจดั การตาม
เป้าหมายสาคญั คือ ฟ้ื นฟู้หผ้ ปู้ ่ วยสามารถปฏิบตั ิกิจวตั รประจาวนั ได้หรือฟ้ื นฟู้
ป้องกนั ไม้่ หเ้ กิดสภาวะแทรกซอ้ น
น โดยมีองคก์ ร
โดยการมีส่วน
การที่จะเรียนรู้
วมมือ แบะการ
มระดบั สภาวะการเจ็บป่ วย
้หก้ บบั มาอยู้่ นสภาวะปกติ แบะ
การรับและส่งต่อผู้ป่ วย
วิทยาลัยสหเวชศาสตร์ สาขาวชิ าสาธารณสุขศาสตร์
มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สวนสุนันทา
ความหมาย
การรับและการส่งต่อผู้ป่ วย หมายถงึ การเคบ่อื นยา้ ยผปู้ ่ วยจากสถ
อีกแห่งหน่ึง โดยสถานบริการสุขภาพเป็นผนู้ าส่งแบะตอ้ งมกี ารสื่อสาร ประสานงา
บว่ งหนา้ พร้อมขอ้ มูบแบะเอกสารท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ผปู้ ่ วยตบอดจนขอ้ มูบทางการแพท
1. การประสานเช่ือมโยงกบั ระบบสุขภาพใน
ภาพรวม เช่น เครือข่ายของระบบบริการสุขภาพ
หบกั การ้นการส่งต่อ ยานพาหนะ การส่ือสาร
แบะทรัพยากรต่างๆ
3. ความพร้อมในการส่ง เช่น การรับผปู้ ่ วยแบะ
เอกสารการนาส่ง การดูแบผปู้ ่ วย การวางแผน
การฟ้ื นฟสู ภาพ การส่งกบบั คาแนะนา้นการ
ส่งกบบั เพือ่ การดูแบต่อ
ถานบริการสุขภาพหน่ึงไปรับการรักษาต่อ
านแจง้ สถานบริการสุขภาพท่ีจะรับไว้
ทยท์ ่ีจาเป็น (กระทรวงสาธารณสุข, 2545)
2. ความพร้อมในการส่งต่อจากต้นทาง เช่น สภาวะของ
ผปู้ ่ วย หบกั การดูแบ การตดั สิน้จ้นการส่งต่อ เอกสารท่ี
เกี่ยวขอ้ ง้นการส่งต่อ
4. องค์กรในการนิเทศ เช่น การกากบั การส่งต่อ
การส่งกบบั การ้หค้ าแนะนาแบะฝึกฝน
บุคคบากร
ระบบการรับและส่งต่อผู้ป่ วยระ
ระบบการรับแบะส่งต่อผปู้ ่ วยระหว่างสถานพยาบาบ มี 4 บกั ษณะ ไ
1. การส่งต่อ (Refer Out) หมายถึง การส่งต่อผปู้
หรือสถานพยาบาบท่ีมีศกั ยภาพ้นการดูแบรักษา
ขาดเครื่องมอื ทางการแพทย์ขาดผเู้ ช่ียวชาญ โด
กรณไี ม่ฉุกเฉิน (OPD case)
2. การรับหรือส่งต่อ (Refer In) หมายถงึ สถาน
รับส่งต่อ เช่น สถานพยาบาบตน้ ทางขาดศกั ยภา
การรักษา หรือเป็นความประสงคข์ องผปู้ ่ วยหรื
3. การส่งกลบั (Refer Back or Refer Out Ret
ทางหบงั จากไดร้ ับการดูแบรักษา / วินิจฉยั เรียบ
4. การรับกลบั (Refer Receive or Refer In Re
หบงั จากไดร้ ับการดูแบรักษา / วนิ ิจฉยั เรียบร้อ
ะหว่างสถานพยาบาล
ไดแ้ ก่
ป่ วยไปยงั สถานพยาบาบท่ีมศี กั ยภาพสูงกวา่
า ดว้ ยเหตุผบ้นการส่งต่อ เช่น เกินศกั ยภาพ
ดยแบ่งเป็น 2 กรณี กรณฉี ุกเฉิน (Emergency)
นพยาบาบแห่งหน่ึงรับส่งต่อผปู้ ่ วยดว้ ยเหตุผบ้นการ
าพ ไมส่ ามารถตรวจวินิจฉยั /รักษา รับส่งต่อตามสิทธ์ิ
รอญาติ เป็นตน้
turn) หมายถงึ การส่งกบบั ผปู้ ่ วยไปยงั สถานพยาบาบตน้
บร้อยแบว้
eturn) หมายถงึ สถานพยาบาบแห่งหน่ึงรับผปู้ ่ วยกบบั
อยแบว้
มาตรฐานการรับและก
การส่งต่อผ้ปู ่ วย
1. ความหมาย
สถานพยาบาล หมายความว่า สถานพยาบาบประเภททร่ี ับผปู้ ่ วยไวค้ า้ งคนื
การส่งต่อผู้ป่ วย หมายความว่า การเคบอื่ นยา้ ยผปู้ ่ วยจากสถานทีห่ น่ึงเพ่ือไปรักษาต่อยงั อกี
สถานที่หน่ึงโดยสถานพยาบาบเป็นผนู้ าส่ง
ยานพาหนะ หมายความว่า ยานพาหนะท่ีสถานพยาบาบวา่ จา้ งหรือจดั หา้นการขนส่ง
ผูป้ ่ วยไม่วา่ จะเป็นทางบก ทางน้า หรือทางอากาศ
2. การส่งต่อผ้ปู ่ วยด้วยยานพาหนะ จะตอ้ งมคี วามปบอดภยั เหมาะสมโดยคานึงถึง
โรค อาการแบะความรุนแรงของโรค
3. การส่งต่อผ้ปู ่ วยต้องมกี ารส่ือสาร ประสานงานระหว่างโรงพยาบาบท่จี ะรับ
ไวบ้ ่วงหนา้ พร้อมขอ้ มบู แบะเอกสารที่เกยี่ วขอ้ งกบั ผปู้ ่ วยตบอดจนขอ้ มูบทาง
การแพทยท์ ่จี าเป็น
มาตรฐานการรับและการส่งต่อผ้ปู ่ วย
4
4. การส่งต่อผ้ปู ่ วยท่ียงั มภี าวะอาการของโรค
ตอ้ งอยู้่ นความดูแบของผูป้ ระกอบวิชาชีพจากโรงพยาบาบ
5
5. ต้องมกี ารจดั ให้ผ้ปู ระกอบวชิ าชีพหรือบุคคลากรท่ีมคี วามสามารถใน
การดูแลผู้ป่ วยที่เหมาะสมกบั โรคและความรุนแรงของโรคไปพร้อมกบั
ผู้ป่ วย เพื่อให้ผ้ปู ่ วยมคี วามปลอดภยั ในระหว่างการนาส่ง
ย (ต่อ)
6
6. ยานพาหนะในการนาส่งต้องมมี าตรฐานตามท่กี าหนด คือ
6.1 มเี ปบนงั่ แบะนอนสาหรับ้ชเ้ คบอ่ื นยา้ ยผปู้ ่ วย
6.2 มอี ปุ กรณ์ช่วยชีพที่จาเป็น เชน่ ชดุ ้ส่ทอ่ หาย้จ ชุด้หส้ ารสะบาย
ทางโบหิต ชดุ ชว่ ยหาย้จ ฯบฯ
6.3 มีอุปกรณ์สื่อสารกบั สถานพยาบาบระหว่างการเดินทาง
6.4 มีขนาดพ้ืนทเี่ พียงพอสาหรับผูป้ ่ วยแบะบุคคบากรที่จะทาหตั ถการ
ไดโ้ ดยสะดวกพอ
6.5 ยานพาหนะจะตอ้ งมบี กั ษณะแบะไดร้ ับอนุญาตตามประกาศแบะ
ขอ้ กาหนดของสานกั งานตารวจแห่งชาติ
6.6 ยานพาหนะตอ้ งมีความมนั่ คงแขง็ แรง แบะมีความสะดวกสบายต่อ
ผูป้ ่ วย้นการเดินทางไม่ทา้หเ้ กิดโรคหรืออาการรุนแรงมากข้ึน
6.7 ยานพาหนะไดร้ ับการบารุงรักษาเหมาะสมกบั การ้ชง้ านไดอ้ ยา่ ง
ปบอดภยั แบะมกี ารควบคุมการติดเช้ือ
มาตรฐานการรับและการส่
7. ผู้ป่ วยหรือญาตมิ สี ิทธเิ ลือกโรงพยาบาลทจี่ ะไป
รวมท้งั วธิ ีการนาส่ง เวน้ แตเ่ ป็นการเกินขีดความสามารถ
ของโรงพยาบาบทจี่ ะนาส่งหรืออาจเป็นอนั ตรายต่อผปู้ ่ วย
9. ผ้ปู ่ วยหรือญาตมิ สี ิทธเิ ลือกสถานพยาบาลหรือ
สถานทที่ ่ตี ้องการให้พยาบาลนาส่งรวมท้ังวธิ ีการ
นาส่ง เวน้ แตเ่ ป็นการเกิดขีดความสามารถของ
สถานพยาบาบทน่ี าส่งหรือการนาส่งของสถานพยาบาบ
น้นั อาจเป็นอนั ตรายตอ่ ผปู้ ่ วย ้หส้ ถานพยาบาบผสู้ ่ง
สามารถเบอื กสถานทีอ่ ืน่ รวมท้งั วธิ ีการนาส่งทีเ่ หมาะสม
สงต่อผู้ป่ วย (ต่อ)
8. ในการรับผ้ปู ่ วยท่ีมภี าวะฉุกเฉิน สถานพยาบาบตอ้ งมีการ
จดั ้หม้ ีผปู้ ระกอบวชิ าชพี มาดแู บผปู้ ่ วยโดยทนั ที แบะตอ้ งไดร้ ับ
การรักษาทเ่ี หมาะสมโดยเร็ว จะปฏเิ สธการรับผปู้ ่ วยมิได้
10. สถานพยาบาลต้องจดั ให้มกี ารให้ข้อมูล
แกผ่ ปู้ ่ วยหรือญาตเิ ก่ียวกบั เหตุผบแบะความจาเป็น้น
การส่งต่อ
กระบวนการหลกั ใน
ระบบการส่งต่อผปู้ ่ วยเป็นหน่ึง้นระบบรักษาพยาบาบฉุกเฉิน ประกอบดว้
ระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน
(EMS)
12
ระบบการรักษาพยาบาลฉุกเฉิน
ในโรงพยาบาล
(Hospital-Based Emergency Department)
นการส่งต่อผ้ปู ่ วย
วย 4 ระบบหบกั ไดแ้ ก่
ระบบส่ งต่อ
(Referral System)
34
ระบบการจดั การสาธารณภยั ด้านการแพทย์
และสาธารณสุข
(Disaster)
หลกั การสาคญั ในการส่งต
1. การรับแจ้งเหตุและส่ังการระบบการแพทย์ฉุกเฉิน (Dispa
แจง้ เหตุการณ์เจ็บป่ วยฉุกเฉิน แบะสงั่ การช่วยเหบือท่ีเหมาะสม แบ
ปฏิบตั ิการฉุกเฉินนอกสถานพยาบาบอยา่ งมีประสิทธิภาพ ซ่ึงมีบท
การแพทยท์ ่ีเหมาะสมกบั ความเร่งด่วน การ้ห้คาแนะนา โดยมีการ
ระบบการแพทยฉ์ ุกเฉินระดบั จงั หวดั ดงั น้ี
1.1 สถานพยาบาบท่ีเป็นสถานพยาบาบระดบั จงั หวดั ต
การแพทยฉ์ ุกเฉิน
1.2 ข้ึนอยกู่ บั สานกั งานสาธารณสุขจงั หวดั หรือองคก์ ร
1.3 องคป์ ระกอบศนู ยร์ ับแจง้ เหตุแบะสงั่ การฯ ที่มีประ
คาปรึกษาตบอด 24 ชว่ั โมง มีบคุ บากรท่ีมีความรู้แบะทกั ษะ้นการร
ระบบส่ือสารท่ีมีประสิทธิภาพ มีระบบสารสนเทศ มีแนวปฏิบตั ิ้น
คุณภาพ
ต่อผ้ปู ่ วย
atch Center) เป็นการดาเนินการของศูนยท์ ี่มีหนา้ ท่ีรับ
บะประสานงานกบั หน่วยงานต่างๆ โดยมีเป้าหมายเพ่ือ
ทบาท้นการรับแจง้ เหตุ สง่ั การการช่วยเหบือดา้ น
รกาหนด้ห้้นทุกจงั หวดั มีศนู ยร์ ับแจง้ เหตแุ บะสง่ั การ
ตอ้ งมีการจดั ต้งั ศนู ยร์ ับแจง้ เหตุ แบะสงั่ การระบบ
รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน
ะสิทธิภาพ ควรประกอบดว้ ย แพทยอ์ านวยการ้ห้
รับแจง้ เหตุแบะสงั่ การ รวมถึงประสานงานตา่ งๆ มี
นการรับแจง้ เหตสุ งั่ การที่ชดั เจน แบะมีกระบวนการพฒั นา
หลกั การสาคญั ในการส่งต่อ
2. การประสานการส่งต่อ สถานพยาบาบทกุ ระดบั แบะโรงพยาบ
ประสานการส่งต่อ โดยรูปแบบการบริหารศูนยป์ ระสานการส่งตอ่
ระดบั รวมท้งั การออกแบบการบริหารจดั การเฉพาะ้นแตบ่ ะพ้ืนท
รูปแบบการบริหารศนู ยป์ ระสานการส่งตอ่ อาจบริหาร
องคป์ ระกอบ้นการดาเนินการ ดงั น้ี
2.1 มีแพทยอ์ านวยการ้ห้คาปรึกษาตบอด 24 ชว่ั โมง
2.2 มีพยาบาบวิชาชีพท่ีมีบทบาท้นการบริหารจดั การ
2.3 มีแนวปฏิบตั ิ้นการส่งต่อท้งั ส่งไปแบะส่งกบบั ระ
2.4 มีการ้ชร้ ะบบเทคโนโบยีสารสนเทศ้นการส่งต่อ
2.5 มีการรวบรวมขอ้ มบู ศูนยค์ วามเชี่ยวชาญ้นโรคหร
2.6 มีกระบวนการพฒั นาคุณภาพระบบการส่งต่อ้นเค
อผ้ปู ่ วย (ต่อ)
บาบส่งเสริมสุขภาพระดบั ตาบบตอ้ งมีการจดั ต้งั ศูนย์
อมีหบายรูปแบบ ข้ึนอยกู่ บั บริบทของหน่วยงาน้นแตบ่ ะ
ท่ี
รจดั การร่วมกบั หอ้ งฉุกเฉินหรือแยกหอ้ งฉุกเฉิน ควรมี
รแบะประสานการส่งตอ่
ะหว่างเครือข่ายทีช่ ดั เจน
อขอ้ มบู ผปู้ ่ วย
รือภาวะตา่ งๆ
ครือขา่ ย
Thanks
CREDITS: This presentation templa
by Slidesgo, including icons by Fla
infographics & images by Freepik
s
ate was created
aticon and