การฟื้ นฟูสภาพทางด้านอาชีพ
(Vocational Rehabilitation)
เป็ นการฟ้ื นฟูสภาพที่ต่อเน่ืองแบะต้องอาศัย
ความร่ วมมือของผู้ป่ วย้นการฝึ กหัดอาชีพของตนเอง
้ห้สามารถกบับไปทางาน้นอาชีพเดิมได้ตามปกติหรื อ
ประกอบอาชีพ้หม่ได้ ข้ึนอยกู่ บั สมรรถภาพทางดา้ นร่างกาย
ของผปู้ ่ วย
การฟื้ นฟูสภาพด้านการศึกษา
(Educational Rehabilitation)
เป็ นการฟ้ื นฟูสภาพท่ีทา้ห้ผู้ป่ วยศึกษาหา
ความรู้้นการท่ีจะช่วยเหบือตนเอง้ห้สามารถดาเนินชีวิตได้
อยา่ งปกติสุข เชน่ การศึกษาภาษามือสาหรับผหู้ ูหนวก เป็น้บ้
การเตรีนมทกั ษะเฉพาะเพ่ือ้ห้ผปู้ ่ วยกบบั ไปเรียน้นระบบได้
มาตรฐานบริการฟื้ นฟูสมรร
เป็นการ้หบ้ ริการท่ีต่อเน่ืองต้งั แตร่ ะยะเฉ
ขณะท่ีผปู้ ่ วยยงั ตอ้ งไดร้ ับการรักษาโรค (rehabilita
phase) โดยมีเป้าหมายเพ่อื ยกระดบั ความสามารถ
ภาวะแทรกซอ้ นท่ีอาจจะเกิดจากโรคหรือการนอน
เป็ นเวบานาน
รถภาพ
ฉียบพบนั ้น
ation in acute
แบะป้องกนั
นโรงพยาบาบ
มาตรฐานส่วนระบบสนับสนนุ การให้บร
1. ด้านทรัพยากรบุคคล มีการวเิ คราะห์ความตอ้ งก
เพ่ือกาหนดประเภทแบะจานวนบคุ คบากรท่ีจาเป็ นตอ้ งมี้หเ้ พ
2. ด้านสถานท่สี ิ่งแวดล้อมทางกายภาพ โครงสร้า
เป็ นไปตามกฎกระทรวงกาหนดสิ่งอานวยความสะดวก้นอา
พ.ศ. 2548
3. การบริหารจัดการความเสี่ยง จะตอ้ งมีแนวทาง
ริการ ประกอบด้วย 3 ด้าน คือ
งการบริการฟ้ื นฟูสมรรถภาพ้นแตบ่ ะพ้ืนที่
พียงพอต่อการ้ห้บริการ
าง สถานทข่ี องอาคารรวมท้งั สิ่งแวดบอ้ มจะตอ้ ง
าคารสาหรับผพู้ กิ ารหรือทพุ พบภาพแบะคนชรา
งการวเิ คราะห์แบะป้องกนั ความเสี่ยง
มาต
ตรฐานการให้บริการผู้ป่ วย
1. การเข้าถึงบริการและเข้าบริการ
ผปู้ ่ วยสามารถเขา้ ถึงบริการฟ้ื นฟูสมรรถภาพ
ท่ีเหมาะสมกบั สภาวะทางร่างกายแบะจิต้จไดอ้ ยา่ งปบอดภยั
แบะสะดวก้นระยะเวบาทีเ่ หมาะสม
2. การประเมนิ
โดยมีการประเมินแรกรับแบะประเมินซ้ า
ทีค่ รอบคบุมเพื่อ้หส้ ามารถระบรุ ะดบั ความสามารถที่
คาดหวงั หบงั ทาการฟ้ื นฟูสมรรถภาพ แบะระยะเวบาท่ี
ควรทาการฟ้ื นฟูรวมถึงแผนการฟ้ื นฟูท่ีจาเป็น
3. การวางแผนการฟื้ นฟูสมรรถภาพ
โดยการนาขอ้ มูบจากการประเมินผปู้ ่ วยมา
วางแผนกบั ทีมสหวิชาชีพการฟ้ื นฟูสมรรถภาพท่ีเป็ น
องคร์ วม รวมถึงแผนการส่งต่อ การจาหน่ายแบะแผน
ส่งกบับชุมชน การ้ห้ครอบครัวผูป้ ่ วยมีส่วนร่วม้น
ก า ร ว า ง แ ผ น แ บ ะ รั บ ท ร า บ ข้อ มู บ อ ย่า ง ถู ก ต้อ ง แ บ ะ
เหมาะสม
4. การให้บริการฟื้ นฟูสมรรถภาพ
โดยทีมสหวิชาชีพ้ห้บริการฟ้ื นฟูสมรรถภาพ
ตามปัญหาแบะความต้องการของผูป้ ่ วยอย่างมีคุณภาพแบะ
ปบอดภัย บนพ้ืนฐานของหบักวิชาการแบะการส่ือสารที่มี
ประสิทธิภาพ เพอื่ ้หผ้ ปู้ ่ วยสามารถฟ้ื นตวั ไดอ้ ยา่ งเต็มศกั ยภาพ
โดยผปู้ ่ วยแบะครอบครัวมีส่วนร่วม้นทุกข้นั ตอนของการดูแบ
5. การให้ข้อมูลและการเสริมพลงั
แก่ผู้ป่ วยและครอบครัว
ผปู้ ่ วยแบะครอบครัวไดร้ ับขอ้ มูบที่
เพียงพอสาหรับการตดั สิน้จเกี่ยวกบั การดูแบตนเอง
ไดร้ ับการเสริมความรู้แบะทกั ษะท่ีจาเป็น เพอ่ื ้ห้
ความสามารถดูแบตนเองไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ
6. การดูแลต่อเนื่อง
มีระบบนัดหมายติดตามอาการตามขอ้ บ่งช้ี
ท่ีจาเป็ น มีเครือข่ายหรือระบบการส่งต่อ ช่วยเหบือ้ห้
ผูป้ ่ วยเขา้ ถึงแหบ่งทรัพยากร้นชุมชน เพื่อการฟ้ื นฟู
สมรรถภาพอยา่ งต่อเน่ือง มีการทางานร่วมกับชุมชน
แบะพฒั นาการจดั บริการฟ้ื นฟูสมรรถภาพโดยชุมชน
(Community-based rehabilitation)
2. การฟื้ นฟูสภาพ
2. การฟื้ นฟูสภาพ
2.1 การฟื้ นฟูสภาพมกี ระบวนการและข้ันตอนดงั
2.1.1 การประเมินและการวนิ ิจฉัย โ
หอ้ งปฏบิ ตั ิการต่างๆ ซ่ึง้นทางเวชศาสตร์ฟ้ื นฟูจะคานึงถึง
1. ความสามารถทางก
2. การทากจิ วัตรประจ
3. พฤติกรรมทางสังค
4. บุคลกิ ภาพและสภา
5. การส่ือความหมาย
งนี้ ( เฟื่ องฟ้า ฤทธาคานี คุณาดร, 2552)
โดยการซักประวตั ิ ตรวจร่างกาย แบะการตรวจทาง
กายทเ่ี หลืออยู่ (Physical capabilities)
จาวัน (Activities of daily living)
คม (Social behavior)
าพจิตใจ (Personality and psychology)
(Communication)
2.1.2 การแก้ไขปัญหา (Problem Solv
ขอ้ จากดั ้นการทากิจกรรมต่างๆ ของผปู้ ่ วยดว้ ยการวเิ คราะห์แยก
กบั ทมี ผรู้ ักษาแบะตวั ผปู้ ่ วยแบะญาติ โดยพิจารณาจดั บาดบั ความ
พยากรณโ์ รค การทางานเป็นทีมถือเป็นส่ิงทมี่ ีความสาคญั ของกา
ประกอบดว้ ยผู้้ ห้บริการแต่จะรวมถึงผูด้ ูแบผปู้ ่ วย ผปู้ ่ วย แบะคร
ving) จะมุ่งเนน้ การการแกไ้ ขปัญหา
กแยะปัญหา กาหนดเป้าหมายร่วมกนั
มเร่งด่วนตามสภาวะของโรคหรือ
ารฟ้ื นฟูสภาพ ซ่ึงทมี ไม่เพยี ง
รอบครัว
2.1.3 การส่งต่อ ผปู้ ่ วยทีม่ ีภาวะความเส
เพ่อื รับการรักษาฟ้ื นฟู้นโรงพยาบาบท่้ี ห้บริการรักษาพยาบาบค
ฟ้ื นตวั ดีข้ึนกส็ ามารถส่งกบบั ไปรับบริการฟ้ื นฟู้นสถานบริการ้
สี่ยงตอ่ ความพกิ าร ควรไดร้ ับการส่งต่อ
ครบถว้ น แบะเม่ือพน้ สภาวะเส่ียงหรือ
้กบบ้ า้ นได้
2.2 ประเภทและวิธีการฟื้ นฟูสภาพ
2.2.1 การฟื้ นฟูสภาพทางกาย มี 3 วธิ
แบะการ้ชก้ ายอุปกรณ์
1. การบาบัดทางกาย เป็นวธิ ีการ
ดึง การประคบ การนวด การออกกาบงั กายเพื่อการป้องกนั การจ
ประเมินสภาวะของผปู้ ่ วย แบะเบือกวธิ ีการท่ีสอดคบอ้ งต่อไป
ความ
เปบ่ีย
การบ
ธี ไดแ้ ก่ การบาบดั ทางกาย กิจกรรมบาบดั
รโดย้ชห้ บกั การทางกายบาบดั ไดแ้ ก่ การดดั การ
จะเบือก้ชว้ ธิ ีการบาบดั ทางกายแบบ้ดจะตอ้ ง
การใช้ความร้อน เป็นการ้ชเ้ คร่ืองมือหรืออุปกรณท์ ่ีจะทา้ห้
มร้อนผา่ นเขา้ สู่ร่างกายตามอวยั วะที่บาบดั ทา้ห้เกิดการ
ยนแปบงของเน้ือเยอื่ หบอดเบือดขยายตวั ส่งผบ้หอ้ วยั วะที่ไดร้ ับ
บาบดั ดีข้นึ เช่น บรรเทาปวด บดบวมการไหบเวยี นของเบือดดีข้นึ
การใช้ความเย็น เพื่อการห้ามเบือด ป้องกนั การบวม บ
การเกร็งของกบา้ มเน้ือ บดการยดึ ติดของกบา้ มเน้ือ บดภาวการณเ์
เบือดชว่ั คราว เช่น การประคบดว้ ยผา้ เยน็ กระเป๋ าน้าแขง็ ถุงเจบ
น้าแขง็
บดการบวม บดความเจบ็ ปวดทีเ่ กดิ จาก
เกิดเน้ือตาย้นส่วนของร่างกายที่ขาด
บบ่ีแช่เยน็ การแช่น้าเยน็ หรือการถูดว้ ย
การออกกาลงั กาย ดว้ ยวธิ ีต่างๆ จะทา้ห้ร่างกายเก
การยดื หยนุ่ ดี การเคบื่อนไหวของขอ้ ต่างๆ กระตนุ้ อวยั วะภาย้น
เบือดดีข้นึ ช่วยป้องกนั ภาวะแทรกซ้อนจากการไม่ได้้ ชง้ านของ
โดยการออกกาบงั กายเพ่ือฟ้ื นฟูสภาพมี 4 ประเภท คือ
การออกกาลงั กายโดยอาศัยแรงจากภายนอก (passive
เป็นการออกกาบงั กาย้นผปู้ ่ วยที่กบา้ มเน้ืออ่อนกาบงั ไม่สามารถเค
อวยั วะส่วนน้นั ๆ ของร่างกายได้ การออกกาบงั กายประเภทน้ีเพื่อ
การเคบื่อนไหวของขอ้ ต่อมากท่ีสุดเทา่ ทีจ่ ะเป็นได้ แบะป้องกนั กา
ของกบา้ มเน้ือแบะเอน็
กิดการเคบื่อนไหว กบา้ มเน้ือแขง็ แรง
นร่างกาย้ห้ทางานดีข้ึน การไหบเวยี น
งกบา้ มเน้ือแบะขอ้ ต่างๆ ขณะเจบ็ ป่ วย
e exercise)
คบ่ือนไหว
อคงไวซ้ ่ึง
ารหดบีบ
การออกกาลังกายทใ่ี ช้แรงของกล้ามเนื้อกบั แรงจากภา
exercise) เป็นการออกกาบงั กายทผ่ี ปู้ ่ วย้ชก้ าบงั กบา้ มเน้ือของตน
ช่วยเหบือจากผอู้ ื่น เช่น นกั กายภาพ พยาบาบ นกั สาธารณสุขหรือ
มีกบา้ มเน้ืออ่อนแรง ไม่มีแรงพอ้นการเคบื่อนไหวขอ้ หรืออวยั วะ
กบบั มาทางานไดต้ ามปกติ
ายนอกร่วมกัน (assisted active
นเองช่วย้นการออกกาบงั ร่วมกบั การ
อญาตทิ ่ีดูแบผปู้ ่ วย วธิ ีน้ีจะ้ชก้ บั ผปู้ ่ วยท่ี
ะน้นั ได้ เพอ่ื ส่งเสริม้หก้ บา้ มเน้ือต่างๆ
การออกกาลงั กายทใ่ี ช้แรงของกล้ามเนื้อตนเองท้งั หม
กายทผ่ี ปู้ ่ วย้ชก้ าบงั กบา้ มเน้ือของตนเอง้นการเคบื่อนไหวโดยไม
แขง็ แกร่งของกบา้ มเน้ือ ผปู้ ่ วยสามารถเบือกวธิ ีการออกกาบงั กายไ
การวง่ิ การเดิน การเตน้ ประกอบเพบง การวา่ ยน้า การปั่นจกั รยาน
มด (active exercise) เป็นการออกกาบงั
ม่มีแรงตา้ นจากภายนอก เพ่ือเพม่ิ ความ
ไดต้ ามความชื่นชอบของตนเอง เช่น
น ฯบฯ
การออกกาลงั กายที่ใช้แรงของกล้ามเนื้อตนเองต้านกบั
exercise) เป็นการออกกาบงั กายทีผ่ ปู้ ่ วย้ชก้ าบงั กบา้ มเน้ือของตน
กายภาพบาบดั พยาบาบ นกั สาธารณสุข ญาตผิ ปู้ ่ วยหรืออุปกรณ์ช
ทราย ยางยดื บวดสปริง ฯบฯ เพอื่ ้หก้ บา้ มเน้ือมีกาบงั เพม่ิ ข้นึ แบะ
ประสานงานของระบบประสาทกบา้ มเน้ือดีข้ึน
บแรงภายนอก (active resistive
นเองตา้ นกบั แรงภายนอก อาจเป็นนกั
ช่วยตา้ นแรง เช่น บูกตุม้ น้าหนกั ถุง
ะมีความทนทาน้นการทางาน รวมท้งั
2. กจิ กรรมบาบัด (Occupational therapy) เป็ นวิธ
รวมองค์ประกอบระหว่างบุคคลกับสิ่งแวดล้อมที่จ
เป็ นสื่อของการทาหน้าทท่ี ไี่ ม่ดไี ปสู่การแสดงออกข
ได้มากทส่ี ุด โดยการฝึ กทกั ษะให้ผู้ป่ วยหรือผ้พู กิ าร
เช่น กิจกรรมในการดูแลชีวิตประจาวนั กจิ กรรมงา
สังคม โดยผ้ทู าหน้าทใ่ี นการฝึ กทักษะกจิ กรรมบาบ
ผู้ป่ วย และสามารถสนับสนุนให้เป็ นอาชีพได้
นักสาธารณสุข จะดาเนินการต่อเนื่องในฐาน
ช่วยสนับสนุนส่งเสริมให้ผ้ปู ่ วยทากิจกรรมอย่างต่อเนื่องเม
ธีการหรือแนวทางที่
จะช่วยป้องกันและ
ของการปรับตัวให้
รทากจิ กรรมต่างๆ
านบ้าน กจิ กรรม
บัดจะเป็ นผู้ประเมิน
นะทีมสุขภาพท่ีจะ
มื่ออยู่ทบี่ ้าน
ตวั อย่างกจิ กรรมบ
(1) ด้านร่างกาย
กล้ามเนื้อแขนหรือขาลีบไม่มีแรง ควรคงสภาพการ
เคบ่ือนไหวของข้อต่อต่างๆ แบะช่วยส่ งเสริ มระบบ
หมนุ เวียนโบหิต้นบริเวณน้นั ดว้ ยการดดั ขอ้ การเคบื่อนไหว
ขอ้ รวมท้งั การ้ส่เครื่องดามขอ้ ้หอ้ ยู้่ นท่าท่ีพร้อมจะทางาน
เพ่ือป้องกนั การผดิ รูปของมือแบะขา
กบา้ มเน้ืออ่อนแรง้นบางรายที่ไดร้ ับบาดเจ็บจาก
เส้นประสาทของแขนแบะขา หรือแขนขาไม่ไดอ้ อกแรงมา
เป็ นเวบานาน สามารถฟ้ื นฟูดา้ นการเสริมสร้างเพิ่มพูกาบงั
กบา้ มเน้ือโดยการออกแรงน้อยๆก่อน แบว้ เพ่ิมน้าหนกั ของ
วสั ดอุ ปุ กรณ์เพ่ือชว่ ย้นการออกแรงไดม้ ากข้ึน
บาบดั
ข้อตดิ หรือมมุ เคล่ือนไหวของข้อถูกจากัด เน่ืองจาก
แผบไฟไหม้ น้าร้อนบวก ขอ้ ติดเช้ือหรือขอ้ อยู่้นเฝื อก
เป็ นเวบานาน ้ห้เพิ่มมุมเคบ่ือนไหวโดยการดัดข้อ
การทากิจกรรมท่ีเพ่ิมความยาวของวัสดุ หรื อเพ่ิม
ระยะห่างของวสั ดุ เช่น การ้ชบ้ ูกบอบปาเป้าแบะค่อยๆ
เพิ่มระยะห่างออกไป
การใช้มือหรือสายตาไม่สัมพนั ธ์กนั
เนื่องจากพบั รอบมือหรือ้ห้วัสดุท่ีมี
น้าหนกั เช่น ชอ้ นดดั แปบงทาดว้ ยโบหะที่
มีน้าหนกั
มือเสียหน้าทใี่ นการทางาน กรณีเสียถาวรอาจตอ้ งฝึก
อุปกรณ์เทียม ผปู้ ่ วยจะตอ้ งไดร้ ับการฝึกการ้ชง้ าน้ห
กระทาดว้ ยตนเอง หรือ้ชอ้ ุปกรณ์ดดั แปบงอ่ืน โดยก
ความจาเป็นมากทสี่ ุด
กมือที่ดี้นการทางานต่างๆแทน หรือถา้ ้ชก้ าย
หเ้ กิดความมน่ั ้จ จากผทู้ ี่มีความรู้ก่อนที่จะ
การพจิ ารณา้ชต้ ามสภาวะของความเจ็บป่ วยหรือ