The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือชุดที่ 1-6 RD-สุปัน สายสินธุ์ 4-5-65

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by teeraphan632, 2022-06-09 05:16:39

คู่มือชุดที่ 1-6 RD-สุปัน สายสินธุ์ 4-5-65

คู่มือชุดที่ 1-6 RD-สุปัน สายสินธุ์ 4-5-65

1

โปรแกรมอบรมออนไลน์ดว้ ยตนเองเพอ่ื พฒั นาครู
สูก่ ารเสริมสร้างทกั ษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผลของนักเรียน

นายสปุ ัน สายสนิ ธ์ุ

คานา

โปรแกรมอบรมออนไลน์ด้วยตนเองเพื่อพัฒนาครูสู่การพัฒนาทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล
ของนกั เรยี นนี้ เป็นนวตั กรรมทางการศึกษาท่ีพัฒนาขน้ึ โดยกระบวนการวจิ ัยและพัฒนา (Research and
Development: R&D) ซ่ึงมีจุดมุ่งหมายเพื่อนาไปใช้พัฒนาบุคลากรสู่การพัฒนาคุณภาพของงาน
อันสืบเน่ืองมาจากการกาหนดความคาดหวังใหม่ที่ท้าทายของหน่วยงาน หรือเกิดการเปลี่ยนแปลง
ในกระบวนทัศน์การทางานจากเก่าสู่ใหม่ และในปัจจุบันมีหลักการ แนวคิด ทฤษฎีท่ีถือเป็นนวัตกรรม
ใหม่ทางการศึกษาเกิดข้ึนมากมาย ท่ีคาดหวังว่าหากบุคลากรทางการศึกษามีความรู้ (Knowledge)
แล้วนาความรู้เหล่านี้สู่การปฏิบัติ (Action) ก็จะก่อให้เกิดพลัง (Power) ให้การปฏิบัติงานในหน้าที่
เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลย่ิงขึ้น ตามแนวคิด “Knowledge + Action = Power”
หรอื ตามคากลา่ วท่ีวา่ “Make Them Know What To Do, Then Encourage Them Do What They
Know” หรือ “Link To On-The-Job Application”

จากหลักการของการวิจัยและพัฒนาดังกล่าว ทาให้ได้โปรแกรมอบรมออนไลน์ด้วยตนเอง
เพื่อพัฒนาครูสู่การพัฒนาทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผลของนักเรียนที่ประกอบด้วยสองโครงการ คือ
1) โครงการพัฒนาการเรียนรู้ของครูเก่ียวกับการพัฒนาทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผลของนักเรียน
2) โครงการครูนาผลการเรียนรู้สู่การพัฒนาทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล โดยมีคู่มือประกอบ
แต่ละโครงการ ในส่วนของโครงการพัฒนาเพื่อการเรียนรู้ของครู ประกอบด้วยหลักการ แนวคิด และ
ทฤษฎี ใน 6 ประเด็น คือ 1) นิยาม 2) ความสาคัญ 3) ลักษณะ 4) แนวทางการพัฒนา 5) ข้ันตอนการ
พัฒนา และ 6) การประเมินผล ซ่ึงแต่ละประเด็น ได้นามาสร้างเป็นคู่มือเพื่อการเรียนรู้ของครู
ที่เน้นการเรียนรู้ด้วยตนเอง (Self-Learning) จานวน 6 ชุด ที่คาดหวังให้ครูเกิดความรู้ความเข้าใจ และ
นาไปเป็นแนวทางการพัฒนาให้แก่นักเรียนต่อไปตามโครงการครูนาผลการเรียนรู้สู่การพัฒนาทักษะ
ทีมงานทมี่ ีประสทิ ธิผล ซึง่ จะมคี ู่มือเชงิ ปฏิบัติการประกอบดว้ ยอีก 1 ชุด

โปรแกรมอบรมออนไลน์ด้วยตนเองเพ่ือพัฒนาครูสู่การพัฒนาทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล
ของนักเรียนดังกล่าวข้างต้น พัฒนาขึ้นตามหลักการพัฒนาครูท่ีว่า “การพัฒนาครูเรื่องใดๆจะต้อง
คานึงถึงความมีประโยชน์ต่อนักเรียนซ่ึงเป็นเป้าหมายสูงสุด (Ultimate Goal) ของการศึกษาและ
การบริหารการศึกษา” และตามมาตรฐานการปฏิบัติงานที่คุรุสภากาหนดว่า “ปฏิบัติกิจกรรม โดย
คานึงถึงผลที่จะเกิดขึ้นกับการพัฒนาของบุคลากร ผู้เรียน และชุมชน มุ่งม่ันพัฒนาผู้ร่วมงานให้สามารถ
ปฏิบัติงานได้เต็มศักยภาพ พัฒนาและใช้นวัตกรรมการบริหารจนเกิดผลงานที่มีคุณภาพสูงขึ้นเป็นลาดับ
และสร้างโอกาสในการพฒั นาได้ทกุ สถานการณ์” ดงั นน้ั จึงคาดหวังว่า หลงั จากท่านศึกษาเพื่อการเรียนรู้
จากคู่มอื แตล่ ะชดุ แล้ว จะไดน้ าความรไู้ ปพฒั นานกั เรยี นไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพและประสิทธิผลต่อไป

นายสปุ นั สายสินธ์ุ

สารบญั หน้า
6
1. คู่มอื ประกอบโครงการพัฒนาเพอ่ื การเรยี นรู้ของครู 12
1.1 คู่ มื อ ชุ ด ท่ี 1 ทั ศ น ะ เ กี่ ย ว กั บ นิ ย า ม ข อ ง ทั ก ษ ะ ที ม ง า น 19
ที่มีประสิทธิผล มีองค์ประกอบ คือ วัตถุประสงค์การเรียนรู้ 44
คาช้ีแจง ทัศนะเก่ียวกับนิยาม แบบประเมินตนเอง และ 62
เอกสารอา้ งอิง................................................................................. 74
1.2 คู่มือชุดท่ี 2 ทัศนะเกี่ยวกับความสาคัญของ ทักษะทีมงาน 96
ท่ีมีประสิทธิผล มีองค์ประกอบ คือ วัตถุประสงค์การเรียนรู้
คาชี้แจง ทัศนะเกี่ยวกับความสาคัญ แบบประเมินตนเอง
และอกสารอา้ งอิง………………………………………………………………….
1.3 คู่มือชุดที่ 3 ทัศนะเก่ียวกับลักษณะของ ทักษะทีมงาน
ท่ีมีประสิทธิผล มีองค์ประกอบ คือ วัตถุประสงค์การเรียนรู้
คาช้ีแจง ทัศนะเกี่ยว กับลั ก ษ ณ ะ แบบประเมิ นต น เ อ ง
และเอกสารอา้ งอิง……………………………………………………………..…
1.4 คู่มือชุดที่ 4 ทัศนะเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนา ทักษะทีมงาน
ที่มีประสิทธิผล มีองค์ประกอบ คือ วัตถุประสงค์การเรียนรู้
คาช้ีแจง ทัศนะเก่ียวกับแนวทางการพัฒนา แบบประเมินตนเอง
และเอกสารอา้ งองิ ...........................................................................
1.5 คู่มือชุดที่ 5 ทัศนะเกี่ยวกับข้ันตอนการพัฒนา ทักษะทีมงาน
ที่มีประสิทธิผล มีองค์ประกอบ คือ วัตถุประสงค์การเรียนรู้
คาช้ีแจง ทัศนะเกี่ยวกับขั้นตอนการพัฒนา แบบประเมินตนเอง
และเอกสารอ้างองิ ………………………………………………………………….
1.6 คู่มือชุดที่ 6 ทัศนะเกี่ยวกับการประเมินผล ทักษะทีมงาน
ที่มีประสิทธิผล มีองค์ประกอบ คือ วัตถุประสงค์การเรียนรู้
คาช้ีแจง ทัศนะเกี่ยวกับการประเมินผล แบบประเมินตนเอง
และเอกสารอ้างอิง………………………………………………………………….

2. คู่มือประกอบโครงการครนู าผลการเรียนรสู้ กู่ ารพฒั นานกั เรยี น
2 . 1 คู่ มื อ เ พ่ื อ ก า ร ป ฏิ บั ติ ก า ร ใ น ก า ร พั ฒ น า ทั ก ษ ะ ที ม ง า น
ที่มีประสิทธิผลของนักเรียน มีองค์ประกอบ คือ วัตถุประสงค์
เพ่ือ การปฏิบัตแิ ละแนวปฏบิ ัติ.......................................................

4

คู่มือประกอบโครงการพฒั นาเพอื่ การเรยี นรู้ของครู

นายสปุ นั สายสนิ ธุ์

5

คู่มอื ชดุ ที่ 1
ทศั นะเกี่ยวกบั นยิ ามของทกั ษะทมี งานท่มี ปี ระสิทธผิ ล

นายสุปัน สายสนิ ธุ์

6

คมู่ ือชดุ ที่ 1
ทศั นะเกยี่ วกับนิยามของทักษะทมี งานทมี่ ปี ระสทิ ธผิ ล

วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรียนรู้

หลังจากการศึกษาคู่มือชุดน้ีแล้ว ท่านมีพัฒนาการด้านพุทธิพิสัย (Cognitive Domain) ซ่ึงเป็น
จุดมุ่งหมายทางการศึกษาท่ีเกี่ยวข้องกับสมรรถภาพทางสมองหรือสติปัญญาตามแนวคิดของ Benjamin
S. Bloom โดยจาแนกพฤติกรรมในขอบเขตนี้ออกเป็น 6 ระดับ เรียงจากพฤติกรรมท่ีสลับซับซ้อนน้อย
ไปหามาก หรือจากทักษะการคดิ ขน้ั ต่ากว่าไปหาทักษะการคิดขน้ั สูงกว่า ดังน้ี คือ ความจา (Remembering)
ความเข้าใจ (Understanding) การประยุกต์ใช้ (Applying) การวิเคราะห์ (Analyzing) การประเมิน
(Evaluating) และการสรา้ งสรรค์ (Creating) ดังนี้

1. บอกคุณสมบัติ จับคู่ เขียนลาดับ อธิบาย บรรยาย ขีดเส้นใต้ จาแนก หรือระบุนิยามของทักษะ
ทีมงานทม่ี ปี ระสิทธผิ ลได้

2. แปลความหมาย อธิบาย ขยายความ สรุปความ ยกตัวอย่าง บอกความแตกต่าง หรือเรียบเรียง
นยิ ามของทกั ษะทมี งานที่มปี ระสทิ ธผิ ลได้

3. แก้ปัญหา สาธิต ทานาย เช่ือมโยง ความสัมพันธ์ เปลี่ยนแปลง คานวณ หรือปรับปรุงนิยาม
ของทักษะทีมงานทมี่ ปี ระสิทธิผลได้

4. แยกแยะ จัดประเภท จาแนกให้เห็นความแตกต่าง หรือบอกเหตุผลนิยามของทักษะทีมงานท่ีมี
ประสิทธผิ ลได้

5. วดั ผล เปรยี บเทยี บ ตคี ่า ลงความเห็น วิจารณ์นยิ ามของทกั ษะทีมงานท่ีมีประสิทธผิ ลได้
6. รวบรวม ออกแบบ จัดระเบียบ สร้าง ประดิษฐ์ หรือวางหลักการนิยามของทักษะทีมงาน

ทม่ี ปี ระสิทธผิ ลได้

โดยมีทัศนะเกีย่ วกับนิยามของทกั ษะทมี งานท่ีมีประสทิ ธิผลของแหลง่ อ้างองิ ทางวิชาการตา่ ง ๆ ดงั นี้
1. นิยามของ ทกั ษะทมี งานทีม่ ปี ระสิทธผิ ล ตามทศั นะของ iEdu Note Website
2. นยิ ามของ ทักษะทีมงานทม่ี ปี ระสิทธิผล ตามทศั นะของ Sinha
3. นิยามของ ทักษะทีมงานทม่ี ีประสิทธิผล ตามทัศนะของ Lumen Website
4. นิยามของ ทกั ษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล ตามทัศนะของ Happy Manager Website

7

คาชแ้ี จง
1. โปรดศึกษาเนื้อหาเกี่ยวกับนิยามของ ทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผลจากทัศนะที่นามา
กล่าวถึงแต่ละทัศนะ โดยแต่ละทัศนะท่านจะต้องทาความเข้าใจท่ีสามารถอธิบายกับตัวเองได้ว่า
เขาให้นยิ ามวา่ อย่างไร
2. หลังจากการศึกษาเน้ือหาแต่ละทัศนะ โปรดทบทวนความรู้ความเข้าใจของท่านอีกคร้ัง
จากแบบประเมนิ ผลตนเองในตอนท้ายของค่มู ือ
3. เนื้อหาเก่ียวกับนิยามของทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล จากทัศนะท่ีนามากล่าวถึง
แต่ละทัศนะมีแหล่งอ้างอิงตามที่แสดงไว้ในตอนท้ายหลัง ของแบบประเมินผลตนเอง
หากท่านต้องการศึกษารายละเอียดของทัศนะเหล่าน้ัน ซ่ึงต้นฉบับเป็นบทความภาษาอังกฤษ
ท่านสามารถจะสบื ค้นตอ่ ได้จากเว็บไซตท์ ี่ระบุไวใ้ นแหล่งอา้ งอิงน้นั ๆ

ทศั นะเกย่ี วกับนิยามของทักษะทีมงานที่มปี ระสิทธผิ ล
1. นยิ ามของทักษะทีมงานท่ีมปี ระสิทธผิ ล ตามทศั นะของ iEdu Note Website
iEdu Note Website (n.d.)ใหน้ ิยามของทักษะทีมงานที่มีประสิทธผิ ล ว่าหมายถงึ การทางานที่มี

คนสองคนข้ึนไปทางานร่วมกัน มีความรู้สึกผูกพันกัน จนทาให้เกิดการทางานเพื่อบรรลุเป้าหมายตาม
วัตถุประสงค์ร่วมกัน จึงสร้างประสิทธิภาพ ของงานได้ มากกว่าผลรวมของประสิทธิภาพ
การปฏิบัติงานของสมาชิกแต่ละคน ทีมงานท่ีมีประสิทธิภาพสามารถนาไปสู่การเพ่ิมแรงจูงใจของพนักงาน
และประสิทธผิ ลทางธุรกิจ

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจนิยามของทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล
ตามทัศนะของ iEdu Note Website วา่ อย่างไร ? .........................................................
........................................................................................................................................
.........................................................................................................................................

2. นิยามของทกั ษะทีมงานท่ีมปี ระสิทธิผล ตามทศั นะของ Sinha
Sinha (n.d.) ให้นิยามของทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล ว่าหมายถึง ทีมงานคือคนจานวนน้อยที่มี
ทักษะเสริม ม่งุ ม่ันในจุดมุ่งหมายและแนวทางที่ได้รับผิดชอบรว่ มกัน กลมุ่ และทีมมีความแตกต่างกัน กลุ่มจึง
ไมใ่ ชท่ ีม ซงึ่ มคี าจากดั ความแตกต่างระหว่างคาศัพท์ทง้ั สองคา ดังนี้
กลุ่มงาน คือ บุคคลจานวนหน่ึงที่ปฏิบัติงานและต้องรายงานต่อผู้บังคับบัญชา มีปฏิสัมพันธ์แบบเห็น
หนา้ กนั มีการพึง่ พาระหวา่ งกนั ปฏิบัตงิ านเพอ่ื บรรลุเปา้ หมายขององค์กรเหมือนกัน

8

ทีม คือ บุคคลจานวนหน่ึงท่ีปฏิบัติงานร่วมกัน เป็นทั้งผลงานส่วนบุคคลและผลงานโดยรวม
ทีมจึงเป็นรูปแบบหน่ึงของกลุ่ม แต่มีลักษณะการทางานบางอย่างในระดับท่ีสูงกว่ากลุ่ม รวมถึงความมุ่งมั่น
ต่อเป้าหมายของกลุ่ม มีระดบั การพ่งึ พาซึง่ กันและกัน รวมท้งั ปฏิสมั พันธท์ ส่ี ูงกว่า

โปรดทบทวนตวั เอง แล้วตอบในใจวา่ ทา่ นเข้าใจนยิ ามของทกั ษะทีมงานที่มปี ระสิทธิผล
ตามทศั นะของ Sinha วา่ อย่างไร ? ……….…………..................................………………..……
…………………………………………………………................................………………………………….
.......................................................................................................................................

3. นิยามของทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธผิ ล ตามทศั นะของ Lumen Website
Lumen Website (n.d.) ให้นิยามของทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล ว่าหมายถึง กลุ่มคนท่ีทางาน
ร่วมกันเพื่อเป้าหมายเดียวกัน ทีมในสถานที่ทางานและทีมกีฬาจึงเป็นตัวอย่างท่ีดีในการทางานเป็นทีม เช่น
ทีมบาสเก็ตบอลผู้เล่นแต่ละคนมีส่วนร่วมในการทาให้ชนะในเกม โดยทั่วไปองค์กรจะมีหลายทีมและแต่ละ
คนมักเป็นสมาชิกของทีมมากกว่าหน่ึงทีม ซ่ึงในทานองเดียวกันในการจัดต้ังธุรกิจงานส่วนใหญ่จะทาได้โดย
ทีมงานของบุคคลท่ีทางานร่วมกันในกิจกรรมท่ีมีผลลัพธ์ที่กาหนดไว้ เน่ืองจากทีมเป็นท่ีแพร่หลายในองค์กร
ธรุ กจิ จงึ เปน็ สิ่งสาคญั ที่พนักงานจะต้องมที ักษะท่จี าเป็นในการทางานรว่ มกับผู้อ่ืนอย่างมีประสทิ ธิภาพ

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจนิยามของทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล
ตามทัศนะของ Lumen Website ว่าอย่างไร ? …………..........................…………………………
……………………………………………………..….............................................................................
..............................................................................................................................................

4. นิยามของทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล ตามทศั นะของ Happy Manager Website
Happy Manager Website (n.d.) ใ ห้ นิ ย า ม ข อ ง ทั ก ษ ะ ที ม ง า น ที่ มี ป ร ะ สิ ท ธิ ผ ล ว่ า
หมายถึง การทางานเป็นทีมเป็นความต้ังใจของกลุ่มคนที่จะทางานร่วมกันเพ่ือบรรลุจุดมุ่งหมายร่วมกัน
ซึ่งการทางานเป็นทีมอาจเป็นการทางานร่วมกันแบบสุ่ม สมาชิกในทีมมีทักษะและจุดแข็งของแต่ละคน
มุ่งเน้นไปที่เป้าหมายและความสาเร็จของผลงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ไม่ต้อง
ทางานรว่ มกนั ตลอด
การทางานเป็นทีมแสดงให้เห็นว่าผู้คนทางานในบรรยากาศแห่งการสนับสนุนและความไว้วางใจซึ่ง
กันและกัน ทางานร่วมกันอย่างมีส่วนร่วมด้วยความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกลุ่ม จุดแข็งของแต่ละคนมีค่า

9

นอกจากนี้ควรส่งเสริมให้มีวุฒิภาวะของความสัมพันธ์ท่ีเพิ่มมากข้ึนโดยท่ีผู้คนมีอิสระที่จะไม่เห็นด้วยอย่าง
สรา้ งสรรคแ์ ละทั้งการสนบั สนุนและความท้าทายเปน็ สว่ นหนงึ่ ในการชว่ ยใหท้ มี ทางานได้

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจนิยามของทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล
ตามทศั นะของ Happy Manager Website ว่าอยา่ งไร ? .…………..............................………
………………………….....………………………………………………......................................................
..............................................................................................................................................

แบบประเมินตนเอง
โปรดทบทวนความรคู้ วามเข้าใจของท่านอกี คร้งั จากแบบประเมนิ ผลตนเองนี้

1) ท่านเข้าใจนิยามของทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล ตามทัศนะของ iEdu Note Website ชัดเจน
ดแี ล้วหรือไม่
[ ] ชัดเจนดแี ล้ว [ ] ยังไม่ชัดเจนดีพอ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกครั้ง แล้วตอบคาถามในใจว่า iEdu Note
Website กลา่ วถึงนิยามของทักษะทีมงานท่ีมปี ระสิทธผิ ลว่าอยา่ งไร?

2) ท่ า น เ ข้ า ใ จ นิ ย า ม ข อ ง ทั ก ษ ะ ที ม ง า น ที่ มี ป ร ะ สิ ท ธิ ผ ล ต า ม ทั ศ น ะ ข อ ง Sinha
ชดั เจนดแี ล้วหรอื ไม่
[ ] ชดั เจนดแี ลว้ [ ] ยังไมช่ ัดเจนดีพอ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกคร้ัง แล้วตอบคาถามในใจว่า Sinha กล่าวถึง
นยิ ามของทักษะทีมงานทม่ี ปี ระสทิ ธผิ ล วา่ อยา่ งไร?

3) ท่านเข้าใจนิยามของทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล ตามทัศนะของ Lumen Website
ชดั เจนดีแล้วหรือไม่
[ ] ชดั เจนดีแลว้ [ ] ยงั ไม่ชดั เจนดีพอ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลบั ไปศึกษาใหม่อีกครั้ง แลว้ ตอบคาถามในใจว่า Lumen Website
กล่าวถึงนยิ ามของทักษะทีมงานที่มีประสิทธผิ ล ว่าอย่างไร?

4) ท่านเข้าใจนิยามของทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล ตามทัศนะของ Happy Manager Website
ชัดเจนดแี ลว้ หรือไม่
[ ] ชัดเจนดีแล้ว [ ] ยังไมช่ ดั เจนดพี อ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกคร้ัง แล้วตอบคาถามในใจว่า Happy Manager
Website กลา่ วถึงนยิ ามของทักษะทมี งานท่ีมปี ระสิทธิผล วา่ อยา่ งไร?

10

หมายเหตุ
หากต้องการศึกษารายละเอียดของแต่ละทัศนะจากต้นฉบับที่เป็นภาษาอังกฤษ โปรด “Ctrl & Click”
เวบ็ ไซต์ของแต่ละแหลง่ ได้ ดังนี้

1) Sinha: https://www.yourarticlelibrary.com/organization/team-development/effective-
team-meaning-characteristics-and-importance-explained/63930

2) iEdu Note website: https://www.iedunote.com/team
3) Happy Manager website: https://the-happy-manager.com/article/define-teamwork/
4) Lumen website: https://courses.lumenlearning.com/boundless-

management/chapter/defining-teams-and-teamwork/

เอกสารอ้างอิง

Sinha, K. ( n.d.) . Effective team: Meaning, characteristics and importance – explained !.
Retrieved September 20, 2020, from https://rb.gy/53meek

iEdu Note website. (n.d.). Team: Definition, characteristics, types and ingredients of
effective team. Retrieved October 20, 2020, from https://www.iedunote.com/team

The Happy Manager website. (n.d.). Define teamwork. Retrieved October 20, 2020, from
https://rb.gy/7zgvpt

Lumen website. (n.d.). Defining teams and teamwork. Retrieved September 20, 2020, from
https://rb.gy/e55lv8

11

คมู่ อื ชดุ ท่ี 2
ทศั นะเกี่ยวกบั ความสาคญั ของทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล

นายสุปนั สายสินธุ์

12

คู่มือชดุ ท่ี 2

ทัศนะเกีย่ วกบั ความสาคัญของทักษะทมี งานท่ีมปี ระสิทธผิ ล

วัตถุประสงค์การเรยี นรู้

หลังจากการศึกษาคู่มือชุดนี้แล้ว ท่านมีพัฒนาการ ด้านพุทธิพิสัย (Cognitive Domain)
ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายทางการศึกษาท่ีเกี่ยวข้องกับสมรรถภาพทางสมองหรือสติปัญญาตามแนวคิดของ
Benjamin S. Bloom โดยจาแนกพฤติกรรมในขอบเขตน้ีออกเป็น 6 ระดับ เรียงจากพฤติกรรม
ท่ีสลับซับซ้อนน้อยไปหามาก หรือจากทักษะการคิดข้ันต่ากว่าไปหาทักษะการคิดข้ันสูงกว่า ดังนี้ คือ
ความจา (Remembering) ความเข้าใจ (Understanding) การประยุกต์ใช้ (Applying) การวิเคราะห์ (Analyzing)
การประเมิน (Evaluating) และการสร้างสรรค์ (Creating) ดังน้ี

1. บอกคุณสมบัติ จับคู่ เขียนลาดับ อธิบาย บรรยาย ขีดเส้นใต้ จาแนก หรือระบุความสาคัญของ
ทกั ษะทีมงานที่มปี ระสิทธผิ ลได้

2. แปลความหมาย อธิบาย ขยายความ สรุปความ ยกตัวอย่าง บอกความแตกต่าง หรือเรียบ
เรียงความสาคญั ของทกั ษะทมี งานท่ีมปี ระสิทธิผลได้

3. แกป้ ญั หา สาธิต ทานาย เชื่อมโยง ความสัมพนั ธ์ เปลยี่ นแปลง คานวณ หรอื ปรับปรุงความสาคัญ
ของทกั ษะทมี งานทมี่ ปี ระสิทธิผลได้

4. แยกแยะ จัดประเภท จาแนกใหเ้ หน็ ความแตกต่าง หรอื บอกเหตุผลความสาคัญของทักษะทีมงาน
ทมี่ ปี ระสิทธผิ ลได้

5. วดั ผล เปรียบเทยี บ ตีค่า ลงความเห็น วิจารณ์ความสาคญั ของทักษะทมี งานที่มีประสทิ ธผิ ลได้
6. รวบรวม ออกแบบ จัดระเบียบ สร้าง ประดิษฐ์ หรือวางหลักการความสาคัญของทักษะทีมงานที่

มปี ระสทิ ธผิ ลได้

หลังจากการศกึ ษาทัศนะเก่ยี วกับความสาคญั ของ ทกั ษะทีมงานท่มี ีประสทิ ธิผล ในคู่มอื ชดุ น้แี ลว้ ท่าน
สามารถอธบิ ายไดถ้ ึงความสาคัญของ ทักษะทมี งานท่ีมปี ระสิทธิผล จากทศั นะทน่ี ามากล่าวถึงแต่ละทศั นะ ดงั น้ี

1. ความสาคญั ของ ทักษะทีมงานทีม่ ีประสทิ ธผิ ล ตามทัศนะของ Sinha
2. ความสาคัญของ ทักษะทีมงานที่มปี ระสิทธิผล ตามทัศนะของ Doyle
3. ความสาคญั ของ ทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล ตามทัศนะของ LMA Website
4. ความสาคัญของ ทักษะทีมงานที่มปี ระสทิ ธิผล ตามทัศนะของ Quain

13

คาชี้แจง
1) โปรดศึกษาเน้ือหาเกี่ยวกับความสาคัญของทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล จากทัศนะท่ีนามา
กล่าวถึงแต่ละทัศนะ โดยแต่ละทัศนะท่านจะต้องทาความเข้าใจที่สามารถอธิบายกับตัวเองไดว้ ่า
เขากลา่ วถึงความสาคญั วา่ อย่างไร
2) หลังจากการศึกษาเนื้อหาแต่ละทัศนะแล้ว โปรดทบทวนความรู้ความเข้าใจของท่านอีกครั้งจาก
แบบประเมินผลตนเองในตอนทา้ ยของคมู่ ือ
3) เนื้อหาเก่ียวกับความสาคัญของทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล จากทัศนะที่นามากล่าวถึงแต่ละ
ทัศนะมีแหล่งอ้างอิงตามที่แสดงไว้ในตอนท้ายหลังแบบประเมินผลตนเอง หากท่านต้องการ
ศึกษารายละเอียดของทัศนะเหล่านั้น ซึ่งต้นฉบับเป็นบทความภาษาอังกฤษ ท่านสามารถจะ
สืบคน้ ต่อไดจ้ ากเวบ็ ไซตท์ ร่ี ะบไุ วใ้ นแหลง่ อา้ งองิ น้นั ๆ

ทศั นะเก่ยี วกับความสาคญั ของทักษะทีมงานทีม่ ีประสิทธิผล
1. ความสาคัญของทักษะทีมงานทมี่ ีประสทิ ธิผล ตามทศั นะของ Sinha
Sinha (n.d.) กล่าวถึง ความสาคัญของทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล ว่าการทางานเป็นทีม

จะมีประสิทธิภาพดีกว่าการทางานคนเดียว เมื่องานที่ทาน้ันต้องใช้ทักษะและประสบการณ์หลายอย่าง
ในการตัดสินใจ ทีมจึงเป็นวิธีการทางานที่มีประสิทธิภาพสาหรับผู้บริหารในการทาให้องค์กร
เปน็ ประชาธปิ ไตยและเพิ่มแรงจูงใจของพนักงาน ดังนี้

1. แรงจูงใจของพนักงานทีด่ ีข้ึน (Improved Employee Motivation) : ทมี งานสนบั สนุนและ
เพ่ิมแรงจูงใจให้พนักงานมสี ่วนร่วม เพ่ือตอบสนองความต้องการทางสังคมของพนักงาน พนักงานมีแนวโนม้
ในการทางานได้ดขี ึ้นเมื่อพวกเขาทางานต่อหน้าคนอื่น แต่ละคนจะทางานหนักขึน้ และใช้ความพยายามเป็นพิเศษ
เพ่อื ใหท้ มี พึงพอใจ

2. การประสานกาลังในเชิงบวก (Positive Synergy) : ทีมมีศักยภาพในการสร้างผลผลิต
ในระดับสูงเน่ืองจากการประสานกาลังในเชิงบวกที่สร้างขึ้นโดยพวกเขาเอง ผลลัพธ์ในรูปแบบของผลผลิต
จากการปฏบิ ัติงานมากกว่าผลรวมของปจั จัยการผลติ ทีอ่ ยใู่ นรูปแบบของความพยายามของพนักงาน

แต่มีข้อเสียเปรียบของการประสานกาลังในเชิงบวกอยู่ เน่ืองจากบางคร้ังฝ่ายบริหารใช้วิธีลดจานวน
พนกั งาน เพอ่ื ใชก้ ารประสานกาลังในเชงิ บวกเพื่อให้ไดผ้ ลลัพธ์ทเ่ี ท่ากันหรือมากข้ึนจากการใชจ้ านวนคนทีน่ ้อยลง

3. ความพึงพอใจของความต้องการทางสังคม (Satisfaction of Social Needs) : มนุษย์เป็น
สัตว์สังคม มีต้องการความร่วมมือ ทีมสามารถตอบสนองความต้องการนี้ข องพนักงานได้
โดยการเพ่ิมปฏิสัมพันธ์กับผู้ปฏิบัติงาน สร้างความรู้สึกเป็นพ่ีน้องและมิตรภาพระหว่างสมาชิกในทีม
พนักงานเหล่านี้จะมีความสามารถในการรบั มือกับความเครยี ดและสนุกกับงานของพวกเขามากข้นึ

14

4. ความมุ่งม่ันต่อเป้าหมายของทีม (Commitment to Team Goals) : ทีมมีจุดมุ่งหมาย
ในการพัฒนาและสร้างข้อตกลงจากแรงกดดันทางสังคม สมาชิกแต่ละคนกลั่นกรองเป้าหมายของตน
เพอ่ื นามาเป็นเปา้ หมายร่วมกันของทมี สง่ ผลให้มคี วามมงุ่ มน่ั ตอ่ เป้าหมายของทมี ร่วมกนั

5. การสื่อสารในองค์กรที่ดีข้ึน (Improved Organisational Communication) : ทีมท่ีมี
การจัดการตนเองจะสร้างการพ่ึงพากันระหว่างบุคคล ซึ่งทาให้สมาชิกมีปฏิสัมพันธ์มากกว่าการทางาน
เพียงลาพัง และทีมงานที่มีการทางานข้ามสายงานสามารถสร้างการพ่ึงพาระหว่างสายงานและเพ่ิมการ
ส่อื สารทวั่ ทั้งองค์กร การทางานเป็นทีมจงึ เป็นการสง่ เสริมให้มปี ฏสิ ัมพันธ์ นาไปสกู่ ารสอ่ื สารในองค์กรท่ดี ีข้ึน

6. ประโยชน์ของการฝึกอบรมแบบขยายงาน (Benefits of Expanded Job Training) :
การทางานเป็นทีมจะนาไปสู่การฝึกอบรมแบบขยายงาน พนักงานผ่านการฝึกอบรมแล้วจะสามารถ
สรา้ งทกั ษะด้านเทคนคิ การตดั สนิ ใจและความสัมพนั ธ์ระหวา่ งบุคคลได้

7. ความยืดหยุ่นขององค์กร (Organizational Flexibility) : การทางานเป็นทีมมีความยืดหยุ่น
แ ล ะ ต อ บ ส น อ ง ต่ อ เ ห ตุ ก า ร ณ์ ท่ี เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ไ ด้ ดี ก ว่ า ก า ร จั ด แ ผ น ก ห รื อ ก า ร จั ด ก ลุ่ ม แ บ บ ถ า ว ร
ทีมมีความสามารถในการรวบรวม ปรับใช้ ปรับโฟกัส ได้อย่างรวดเร็ว เพราะทีมมุ่งเน้นไปท่ีกระบวนการ
มากกว่าหน้าที่ รวมท้ังสนับสนุนการฝึกอบรมข้ามสายงานเพ่ือให้สมาชิกสามารถทางานแทนกันและกัน
เพม่ิ พนู และขยายทกั ษะเพ่ือเพิ่มความยืดหยนุ่ ให้กบั องค์กรได้

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจความสาคัญของทักษะทีมงานที่มี
ประสทิ ธผิ ล ตามทศั นะของ Sinha ว่าอย่างไร ? ..............................................................
........................................................ .............................................................................
.........................................................................................................................................

2. ความสาคญั ของทักษะทมี งานที่มีประสิทธผิ ล ตามทศั นะของ Doyle
Doyle (2019) กล่าวถงึ ความสาคญั ของทกั ษะทมี งานทีม่ ีประสิทธิผล ดงั น้ี
1. ผู้บริหารต้องการบุคลากรหรือพนักงานที่มีทักษะในการทางานเป็นทีมที่แข็งแกร่งด้วยเหตุผล
หลายประการ เชน่ ความเปน็ ผนู้ า ความมีทักษะ ความรอบรู้ และความสามารถในการทางานร่วมกัน
2. ทักษะในการส่ือสารท่ีดีและชัดเจนเป็นสิ่งสาคัญในการเพิ่มศักยภาพของการทางานเป็นทีม
ทาให้สมาชิกในทีมมีความมุ่งม่ัน สามัคคี ให้ความร่วมมือ ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน มีเป้าหมายและความ
รับผดิ ชอบร่วมกัน

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจความสาคัญของทักษะทีมงานที่มี
ประสทิ ธผิ ล ตามทศั นะของ Doyle ว่าอยา่ งไร ? ...........................................................
.........................................................................................................................................
.........................................................................................................................................

15

3. ความสาคัญของทกั ษะทีมงานที่มปี ระสิทธิผล ตามทศั นะของ LMA Website
LMA Website (n.d.) กลา่ วถึง ความสาคัญของทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล การทางานเป็นทีมท่ี
มีประสิทธิผลเป็นส่ิงสาคัญของความสาเร็จขององค์กร (Effective Teamwork is an Important Aspect
of any Organization’s Success) และทีมที่มีประสิทธิภาพคือทีมที่มีความร่วมมือกัน และสมาชิกในทีม
จาเป็นต้องแสดงทกั ษะ ดงั นี้
1. การเปิดกว้าง (Openness) – สมาชิกในทีมต้องเต็มใจท่ีจะทาความรู้จักซ่ึงกันและกัน
และเปิดใจคุยกันเก่ียวกับเร่ืองของตัวเอง พวกเขาจึงจะได้เข้าใจว่าพวกเขาทุกคนมีภูมิหลังและความสนใจ
ทห่ี ลากหลาย และเป็นส่ิงทชี่ ่วยให้พวกเขาเปดิ รับแนวคิดใหมๆ่ และมุมมองท่แี ตกตา่ งกนั มากข้ึน
2. ความไว้วางใจ (Trust) - สมาชิกในทีมต้องไว้วางใจซึ่งกันและกันมากพอท่ีจะแบ่งปันความคิด
และความรู้สึกได้อย่างสบายใจ เมื่อสร้างความไว้วางใจขึ้นมา สมาชิกในทีมก็เรียนรู้ท่ีจะเข้าหากัน
อย่างตรงไปตรงมาและใหเ้ กียรติกันและกัน
3. ความเคารพ (Respect) –ทีมที่จะไม่ให้ความสาคัญกับการตาหนิผู้ใด เม่ือมีส่ิงผิดพลาดเกิดข้ึน
แต่จะต้องหาวิธีแก้ไขและเรียนรู้จากความผิดพลาด เกิดข้อเสนอแนะที่สร้างสรรค์ และความเคารพ
ซ่งึ กนั และกันมากกวา่ การตาหนิ ซง่ึ จะชว่ ยใหท้ มี บรรลุผลไดเ้ รว็ มากขนึ้

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจความสาคัญของทักษะทีมงานที่มี
ประสทิ ธผิ ล ตามทัศนะของ LMA Website วา่ อย่างไร ?..............................................
.......................................................................................................................................
.......................................................................................................................................

4. ความสาคญั ของทักษะทีมงานทีม่ ีประสิทธิผล ตามทัศนะของ Quain
Quain (2 0 1 9 ) ก ล่ า ว ถึ ง ค ว า ม ส า คั ญ ข อ ง ทั ก ษ ะ ที ม ง า น ที่ มี ป ร ะ สิ ท ธิ ผ ล
ทีมท่ีมีประสิทธิผล ถือเป็นรากฐานขององค์กรท่ีประสบความสาเร็จทุกแห่ง (Effective Teams are the
Foundation of Every Successful Organization) การรับฟังและเปิดโอกาสให้สมาชิกในทีมแสดงความ
คิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ รว่ มคดิ ร่วมแก้ปญั หา มีเป้าหมายและความรับผดิ ชอบร่วมกัน มรี ะบบการทางานท่ี
เหมาะสมและชัดเจน มีเป้าหมายเดียวกัน รับผดิ ชอบหน้าทป่ี ฏิบัตภิ ารกิจอย่างเต็มศักยภาพ สร้างผลงานที่มี
คณุ ภาพร่วมกัน นาไปสู่ความสาเรจ็ โดยรวมของทีม หากองค์กรใดขาดการพัฒนาและขาดการทางานร่วมกัน
ของทีมมักจะประสบปัญหาในการดาเนินงาน เพ่ือส่งเสริมให้ทีมประสบความสาเร็จ องค์กรจึงมีความ
จาเป็นตอ้ งพฒั นาสมาชกิ ในทมี ให้มที กั ษะเฉพาะทีเ่ หมาะสมกับภารกจิ น้นั ๆ

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจความสาคัญของทักษะทีมงานท่ีมี
ประสิทธิผล ตามทศั นะของ Quain วา่ อย่างไร ? ..............................................................
.........................................................................................................................................
.........................................................................................................................................

16

แบบประเมินตนเอง
1) ท่านเข้าใจ คว ามสาคัญ ของทักษะทีมงาน ท่ีมีประสิทธิผล ตามทัศนะของ Sinha

ชัดเจนดแี ล้วหรือไม่
[ ] ชดั เจนดแี ลว้ [ ] ยงั ไม่ชัดเจนดพี อ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกครั้ง แล้วตอบคาถามในใจว่า Sinha กล่าวถึง
ความสาคญั ของทักษะทีมงานท่ีมปี ระสิทธผิ ลวา่ อย่างไร?
2) ท่านเข้าใจ คว ามสาคัญ ของทักษะทีมงาน ที่มีประสิทธิผล ตามทัศนะของ Doyle
ชดั เจนดแี ล้วหรอื ไม่
[ ] ชดั เจนดแี ล้ว [ ] ยังไม่ชัดเจนดีพอ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกครั้ง แล้วตอบคาถามในใจว่า Doyle กล่าวถึง
ความสาคญั ของทกั ษะทมี งานที่มีประสิทธผิ ล ว่าอย่างไร?
3) ท่านเข้าใจความสาคัญของทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล ตามทัศนะของ LMA Website
ชดั เจนดีแลว้ หรือไม่
[ ] ชัดเจนดีแลว้ [ ] ยังไม่ชัดเจนดีพอ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกครั้ง แล้วตอบคาถามในใจว่า LMA Website
กล่าวถงึ ความสาคญั ของทกั ษะทมี งานท่มี ีประสทิ ธผิ ล วา่ อยา่ งไร?
4) ท่านเข้าใจ คว ามสาคัญ ของทักษะทีมงาน ที่มีประสิทธิผล ตามทัศนะของ Quain
ชดั เจนดีแลว้ หรือไม่
[ ] ชัดเจนดีแล้ว [ ] ยงั ไมช่ ัดเจนดพี อ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกคร้ัง แล้วตอบคาถามในใจว่า Quain กล่าวถึง
ความสาคัญของทกั ษะทีมงานท่ีมปี ระสิทธผิ ล ว่าอยา่ งไร?

หมายเหตุ
หากต้องการศึกษารายละเอียดของแต่ละทัศนะจากต้นฉบับท่ีเป็นภาษาอังกฤษ โปรด “Ctrl & Click”
เว็บไซตข์ องแตล่ ะแหล่งได้ ดงั น้ี

1) Sinha : https://www.yourarticlelibrary.com/organization/team-development/effective-
team-meaning-characteristics-and-importance-explained/63930

2) Doyle : https://www.thebalancecareers.com/list-of-teamwork-skills-2063773
3) LMA Website : https://leadershipmanagement.com.au/effective-teamwork-the-key-to-

success/
4) Quain : https://smallbusiness.chron.com/effective-team-organization-22984.html

17

เอกสารอ้างอิง

Sinha, K. ( n.d.) . Effective team: Meaning, characteristics and importance – explained !.
Retrieved September 20, 2020, from https://rb.gy/53meek

Doyle, A. (2019). Important teamwork skills that employers value. Retrieved October
20,2020, from https://rb.gy/sca82r

LMA Website. (n.d.). Effective teamwork: the key to success. Retrieved October 20, 2020,
from https://rb.gy/j0jkcx

Quain, S. (2019). What is an effective team in an organization?. Retrieved October 20,
2020, from https://smallbusiness.chron.com/effective-team-organization-22984.html

18

คู่มอื ชดุ ท่ี 3
ทัศนะเกี่ยวกบั ลกั ษณะของทักษะทีมงานท่มี ีประสทิ ธิผล

นายสปุ นั สายสนิ ธ์ุ

19

คูม่ ือชุดท่ี 3
ทัศนะเกี่ยวกบั ลกั ษณะของทักษะทมี งานทม่ี ปี ระสทิ ธผิ ล

วัตถุประสงคก์ ารเรยี นรู้

หลังจากการศึกษาคู่มือชุดน้ีแล้ว ท่านมีพัฒนาการด้านพุทธิพิสัย (Cognitive Domain) ซ่ึงเป็น
จุดมุ่งหมายทางการศึกษาที่เก่ียวข้องกับสมรรถภาพทางสมองหรือสติปัญญาตามแนวคิดของ Benjamin S.
Bloom โดยจาแนกพฤติกรรมในขอบเขตน้ีออกเป็น 6 ระดับ เรียงจากพฤติกรรมที่สลับซับซ้อนน้อยไปหามาก
หรือจากทักษะการคิดขั้นต่ากว่าไปหาทักษะการคิดข้ันสูงกว่า ดังน้ี คือ ความจา (Remembering) ความ
เข้าใจ (Understanding) การประยุกตใ์ ช้ (Applying) การวเิ คราะห์ (Analyzing) การประเมนิ (Evaluating)
และการสรา้ งสรรค์ (Creating) ดงั นี้

1. บอกคุณสมบัติ จับคู่ เขียนลาดับ อธิบาย บรรยาย ขีดเส้นใต้ จาแนก หรือระบุ ลักษณะ
ของทกั ษะทมี งานทม่ี ปี ระสทิ ธิผลได้
2. แปลความหมาย อธิบาย ขยายความ สรุปความ ยกตัวอย่าง บอกความแตกต่าง หรือเรียบเรียง
ลกั ษณะของทักษะทมี งานที่มปี ระสทิ ธิผลได้
3. แก้ปัญหา สาธิต ทานาย เชื่อมโยง ความสัมพันธ์ เปล่ียนแปลง คานวณ หรือปรับปรุงลักษณะ
ของทักษะทมี งานทีม่ ปี ระสทิ ธผิ ลได้
4. แยกแยะ จัดประเภท จาแนกให้เห็นความแตกต่าง หรือบอกเหตุผลลักษณะของทักษะทีมงาน
ทีม่ ปี ระสิทธผิ ลได้
5. วัดผล เปรยี บเทียบ ตีคา่ ลงความเหน็ วิจารณ์ลกั ษณะของทักษะทีมงานทีม่ ีประสทิ ธผิ ลได้
6. รวบรวม ออกแบบ จัดระเบียบ สร้าง ประดิษฐ์ หรือวางหลักการลักษณะของทักษะทีมงาน
ทมี่ ีประสทิ ธผิ ลได้

หลังจากการศึกษาทัศนะเก่ียวกับลักษณะของทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล ในคู่มือชุดน้ีแล้ว ท่าน
สามารถอธิบายได้ถงึ ลกั ษณะของ ทักษะทีมงานทีม่ ปี ระสิทธิผล จากทัศนะทน่ี ามากล่าวถึงแต่ละทัศนะ ดงั นี้

1. ลกั ษณะของ ทักษะทีมงานท่ีมปี ระสิทธิผล ตามทัศนะของ Bridgeman
2. ลกั ษณะของ ทกั ษะทีมงานที่มปี ระสทิ ธิผล ตามทัศนะของ Rose
3. ลักษณะของ ทักษะทีมงานที่มปี ระสทิ ธผิ ล ตามทัศนะของ Wroblewski
4. ลักษณะของ ทกั ษะทีมงานที่มีประสิทธผิ ล ตามทัศนะของ The Pitcher Website

20

5. ลกั ษณะของ ทกั ษะทีมงานที่มีประสทิ ธิผล ตามทัศนะของ Center for Management &
Organization Effectiveness Website : CMOE

6. ลกั ษณะของ ทักษะทมี งานที่มีประสทิ ธิผล ตามทัศนะของ DeBattiste
7. ลักษณะของ ทักษะทีมงานที่มีประสิทธผิ ล ตามทัศนะของ Pole
8. ลกั ษณะของ ทกั ษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล ตามทัศนะของ Pope
9. ลักษณะของ ทักษะทมี งานที่มปี ระสทิ ธผิ ล ตามทัศนะของ Kalesi
10. ลกั ษณะของ ทกั ษะทมี งานท่ีมีประสทิ ธิผล ตามทัศนะของ Deering
11. ลกั ษณะของ ทักษะทมี งานท่ีมีประสิทธผิ ล ตามทัศนะของ Brounstein
12. ลักษณะของ ทักษะทมี งานที่มีประสทิ ธผิ ล ตามทัศนะของ Cameron

21

คาชีแ้ จง
1) โปรดศึกษาเนื้อหาเก่ียวกับลักษณะของทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล จากทัศนะที่นามากล่าวถึง
แต่ละทัศนะ โดยแต่ละทัศนะท่านจะต้องทาความเข้าใจที่สามารถอธิบายกับตัวเองได้ว่า
เขากลา่ วถึงลักษณะว่าอยา่ งไร
2) หลังจากการศึกษาเน้ือหาแต่ละทัศนะแล้ว โปรดทบทวนความรู้ความเข้าใจของท่านอีกครั้ง
จากแบบประเมินผลตนเองในตอนท้ายของคมู่ ือ
3) เนื้อหาเก่ียวกับลักษณะของทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล จากทัศนะท่ีนามากล่าวถึงแต่ละทัศนะ
มีแหล่งอ้างอิงตามที่แสดงไว้ในตอนท้ายหลังแบบประเมินผลตนเอง หากท่านต้องการศึกษา
รายละเอียดของทัศนะเหล่าน้ัน ซ่ึงต้นฉบับเป็นบทความภาษาอังกฤษ ท่านสามารถจะสืบค้นต่อ
ไดจ้ ากเวบ็ ไซตท์ ีร่ ะบไุ ว้ในแหล่งอ้างอิงนน้ั ๆ

ทัศนะเก่ียวกับลกั ษณะของทักษะทีมงานท่ีมปี ระสิทธผิ ล
1. ลักษณะของทกั ษะทีมงานท่ีมปี ระสทิ ธผิ ล ตามทัศนะของ Bridgeman
Bridgeman (2018) กลา่ วถงึ ลกั ษณะของทักษะทีมงานท่ีมปี ระสิทธผิ ล 6 ประการ ดังนี้
1. เป้าหมายร่วมกัน (A Common Goal) การทางานเป็นทีมที่ประสบความสาเร็จคือ

ความสามารถในการทางานร่วมกนั มีเป้าหมายรว่ มกัน เพื่อมงุ่ ไปสู่วิสยั ทัศนร์ ว่ มกัน
2. การสื่อสารแบบเปิด (Open Communication) การสื่อสารท่ีดีเกี่ยวข้องกับการกระจายข้อมูล

และความรู้อย่างถูกต้อง สมาชิกในทีมสามารถแสดงความคิดของตนได้อย่างอิสระ หากมีการส่ือสารที่ไม่ดี
เป้าหมายอาจบรรลุวัตถุประสงค์ได้ในที่สุด แต่กระบวนการทางานอาจจะเกิดความซ้าซ้อน เกิดความยุ่งยาก
มีความสับสน และมีงานที่ไม่จาเป็นเพิ่มข้ึน การส่ือสารท่ีดีควรมีความชัดเจนและใช้ร่วมกัน
กับสมาชิกในทมี ทุกคน

3. บทบาทของทีม (Team Roles) การกาหนดบทบาทของทีมเป็นส่วนสาคัญของการทางาน
ทมี่ ีประสิทธภิ าพ ทมี สามารถแบ่งออกเป็น 3 บทบาท ได้แก่ ผ้นู า นักยุทธศาสตร์ และคนงาน อย่างไรก็ตาม
สมาชกิ ในทีมแตล่ ะคนอาจมีคณุ สมบัตมิ ากกว่าหนึ่งบทบาท

4. การบริหารเวลา (Time Management) ทีมท่ีมีประสิทธิภาพใช้เวลาอันมีค่าเท่าที่มีอยู่
เพื่อกาหนดภารกิจแล้วมุ่งเน้นไปท่ีงานน้ันจนกว่าจะเสร็จส้ิน การตัดสินใจเก่ียวกับความจาเป็นของงาน
เป็นหนา้ ทข่ี องผนู้ าทีต่ ดั สนิ ใจอย่างรวดเรว็ และชดั เจน

5. การแ ก้ปัญหาใน ทางปฏิบัติ ( Practical Problem Solving) ทีมท่ีมีประสิทธิภ าพ
ยอมรับปัญหาที่เกิดข้ึน เพราะปัญหาไม่ใช่สิ่งท่ีจะละเลยและปัญหาใหม่จะถูกมองว่าเป็นโอกาสใหม่
ที่จะก้าวหน้าต่อไปตามเส้นทางไปสู่เป้าหมายร่วมกัน ทีมงานที่มีประสิทธิภาพจะระบุปัญหาเหล่านี้
เพื่อให้เกิดการแก้ไขได้จริง ซึ่งพวกเขาเข้าใจดีว่าความพยายามส่วนใหญ่ในการแก้ปัญหาคือการระบุปัญหา
ท่แี ท้จริงอย่างถกู ต้อง เม่ือระบถุ ูกต้องแลว้ การแกไ้ ขปญั หาจะง่ายขนึ้ อย่างทวีคณู

22

6. ความผูกพัน (Bonding) ทีมที่มีประสิทธิภาพ สมาชิกในทีมจะต้องไว้วางใจซ่ึงกันและกัน
ในการปฏิบัติงานและให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันเมื่อพวกเขาล้มเหลว ทีมจะเติบโตด้วยความคิด
ของความสาเรจ็ ร่วมกันและความพ่ายแพ้ร่วมกัน การชนะคอื การชนะของทีมการสญู เสียคอื การสญู เสยี ทีม

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจ ลักษณะของทักษะทีมงาน
ท่ีมปี ระสทิ ธิผล ตามทัศนะของ Bridgeman ว่าอยา่ งไร ? ................................................
.........................................................................................................................................
.........................................................................................................................................

2. ลักษณะของทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล ตามทัศนะของ Rose
Rose (2019) กลา่ วถงึ ลกั ษณะของทักษะทมี งานที่มปี ระสิทธิผล ทมี เป็นส่วนประกอบท่ีสาคัญของ
องคก์ รทุกคนจึงต้องทางานร่วมกันให้ประสบความสาเร็จ การทางานเปน็ ทีมท่มี ีประสิทธภิ าพไมไ่ ด้เกดิ ขึ้นเอง
แต่ต้องใช้ทักษะในการแก้ปัญหา การตัดสินใจ การส่ือสาร และทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลท่ีดี
ประกอบดว้ ยคณุ ลักษณะท้งั 8 ประการ ดงั นี้
1. คนท่ีอยู่ในทีมรู้ว่าพวกเขาพ่ึงพาซึ่งกันและกัน (People Who are on a Team Know They are
Dependent on Each Other) พวกเขาเข้าใจดีว่าเป้าหมายส่วนตัวและเป้าหมายของทีมมีความสาคัญ เม่ือ
ตระหนกั ถึงสิ่งน้ีเวลาและความพยายามจะไม่สูญเสียไปกับการทะเลาะและการได้มาซง่ึ ผลประโยชน์ส่วนตัวโดย
ทผี่ ูอ้ ่นื ตอ้ งเสียประโยชน์
2. เม่ือแต่ละคนทางานเป็นส่วนหนึ่งของทีมพวกเขาทางานในบรรยากาศแห่งความไว้วางใจและได้รับ
การสนับสนุนให้แสดงออกอย่างเปิดเผย (When individuals work as part of a team, they work in an
atmosphere of trust and are encouraged to express themselves openly) สภาพแวดล้อมประเภทน้ี
กระตนุ้ ใหส้ มาชกิ ในทีมต้ังคาถามและมีความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหามากข้ึน
3. สมาชิกในทีมรู้สึกเป็นเจ้าของงานและทีมของพวกเขาเพราะพวกเขาลงทุนลงแรงในทีม(Members
of a team feel a sense of ownership for their jobs and team because they have made a personal
investment into the team) พวกเขามุ่งเน้นไปที่การประสบความสาเร็จเพ่ือประโยชน์ของทีมมากกว่าการ
เป็นส่วนหน่งึ ของกลมุ่ สมาชิกในกลุ่มมกั จะเข้าหางานราวกับไดร้ บั การวา่ จ้างใหช้ ่วยเหลอื
4. ทีมสนับสนุนให้สมาชิกแต่ละคนนาความสามารถและความรู้ส่วนบุคคลไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ของ
ที ม (Teams encourage individual members to apply their individual talent and knowledge to
team objectives) ดังนนั้ สมาชกิ จึงมีส่วนชว่ ยใหอ้ งค์กรประสบความสาเร็จ

23

5. สมาชิกในทีมทุกคนฝึกฝนการสื่อสารแบบเปิดกว้างซึ่งกันและกัน (All team members practice
open communication with each other) พวกเขามั่นใจว่าพวกเขาเข้าใจซ่ึงกันและกัน สิ่งน้ีช่วยส่งเสริม
บรรยากาศแหง่ ความไวว้ างใจในหมูส่ มาชกิ ในทมี

6. ทีมที่ยอดเย่ียมส่งเสริมให้สมาชิกเรียนรู้เก่ียวกับงานและพัฒนาทักษะใหม่ ๆ (Great teams
encourage members to learn on the job and develop new skills) ที ม ส นั บ ส นุ น ส ม า ชิ ก
ที่ตอ้ งการเรียนรเู้ พ่ือใหม้ ีประสิทธิภาพมากขน้ึ สิ่งนี้สง่ ผลโดยตรงตอ่ ประสิทธิภาพโดยรวมและเป็นการทาให้เกิด
ความสาเรจ็ และถอนห่างจากความล้มเหลว

7. มีการตัดสินใจร่วมกันทั้งทีม (Decision-making involves the entire team) อย่างไรก็ตาม
พวกเขาเข้าใจดีว่าหัวหนา้ ทีมจะตัดสนิ ใจขนั้ สดุ ทา้ ยหากไม่สามารถหาทางออกได้

8. ทีมที่ดีแก้ไขความขัดแย้งได้อย่างรวดเร็วและสร้างสรรค์ (Good teams resolve conflicts
quickly and constructively) สมาชิกในทีมสบายใจท่ีจะเปิดใจซ่งึ กันและกนั และสื่อสารกนั ได้อย่างอสิ ระ

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจ ลักษณะของทักษะทีมงาน
ที่มปี ระสทิ ธิผล ตามทัศนะของ Rose ว่าอยา่ งไร ? ...........................................................
.........................................................................................................................................
.........................................................................................................................................

3. ลกั ษณะของทักษะทีมงานทม่ี ีประสทิ ธผิ ล ตามทศั นะของ Wroblewski
Wroblewski (2019) ซ่ึงเป็นนักข่าวและบรรณาธิการในห้องข่าวของ Chicago สองท่ี เชี่ยวชาญ"
ทุกอย่างเร่ืองการตลาด" (All Things Marketing) ต้ังแต่การร่างแผนการตลาดและการคัดลอกเว็บไซต์ไป
จนถึงการสร้างแผนการโฆษณาและการสร้างแคมเปญอีเมล Mary เขียนเก่ียวกับปัญหาทางธุรกิจขนาดเล็ก
และโดยเฉพาะอย่างย่ิง “ทุกอย่างเรื่องการตลาด” อย่างครอบคลุม ได้กล่าวถึง ลักษณะของการทางานเป็น
ทมี ทมี่ ีประสทิ ธผิ ล (Characteristics of Effective Teamwork) ดงั นี้
1. สมาชกิ ในทีมที่มีประสิทธภิ าพปฏิบตั ิต่อกันด้วยความเคารพ (Effective Team Members
Treat Each Other Respectfully) การทางานเป็นทีมจะต้อง “ไม่มีคาว่า "ฉัน" ในการทางานเป็นทีม
ควรใช้คาว่า "เรา" ในการทางานเป็นทมี ”
2. สมาชกิ ในทีมทม่ี ปี ระสิทธผิ ลทางานอย่างจรงิ จงั (Effective Team Members Take Their
Work Seriously) การให้ความสาคัญกับเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของทีม ตรวจสอบประสิทธิภาพและ
หาวธิ ีการปรับปรุงอย่างตอ่ เนอื่ ง

24

3. สมาชิกในทีมท่ีมีประสิทธิผลจะผูกพันกับค่านิยมท่ีคล้ายคลึงกัน ( Effective Team
Members are Bound by Similar Values) บุคลิกท่ีแตกต่างกัน เป็นคุณสมบัติท่ีดีของ มนุ ษย์
ท่ีช่วยให้สมาชิกมีความสุขในการทางานและประสบความสาเร็จร่วมกัน ความรู้สึกภาคภูมิใจ
ทไ่ี ดเ้ ปน็ ส่วนหน่ึงของทีมและความเชอ่ื อยา่ งแทจ้ ริงว่าทีมทางานรว่ มกนั ไดด้ ีกว่าทางานเปน็ รายบุคคล

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจลักษณะของทักษะทีมงานที่มี
ประสิทธิผล ตามทศั นะของ Wroblewski วา่ อย่างไร ? ..................................................
.........................................................................................................................................
.........................................................................................................................................

4. ลกั ษณะของทักษะทีมงานทม่ี ีประสิทธิผล ตามทัศนะของ The Pitcher Website
The Pitcher Website (2018) กล่าวถึง ลักษณะของทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผลความสาเร็จ
โดยรวมในการสร้างทมี ทแี่ ขง็ แกร่งและมีประสทิ ธิภาพ โดยมีลักษณะ 4 ประการ ดงั น้ี
1. การส่ือสารท่ีตรงไปตรงมา (Honest Communication) การสื่อสารที่เปิดเผยและ
ตรงไปตรงมาเป็นส่ิงสาคัญ สมาชิกในทีมต้องสบายใจในการแบ่งปันความคิดเห็น แม้ว่าจะไม่เห็นด้วยกับ
สมาชิกท่ีเหลอื แต่มกี ระบวนการให้และรับข้อเสนอแนะอยา่ งสร้างสรรค์
2. ความน่าเชื่อถือ (Trust) ความไว้วางใจ คือสิ่งท่ีทาให้ทีมมีประสิทธิภาพ ควรช่วยเหลือซึ่งกัน
และกันเมื่อส่ิงต่าง ๆ เกิดความยากลาบาก ความไว้วางใจ ซึ่งกันและกันทาให้เกิดสภาพแวดล้อมการทางาน
ท่ีปลอดภัยซึ่งสง่ เสรมิ ความคดิ สรา้ งสรรค์และนวตั กรรม
3. มุ่งเน้นไปที่เป้าหมายร่วมกัน (Focus on the Common Goal) สมาชิกในทีมแต่ละคนต้อง
ตระหนักถึงเป้าหมายรว่ มกนั รู้บทบาทหนา้ ทขี่ องตนเองเพื่อให้การทางานรว่ มกันบรรลุเป้าหมายร่วมกัน
4. ความเข้าใจและความอดทน (Understanding and Tolerance) ทีมที่ยอดเย่ียมสร้างข้ึน
จากความสัมพนั ธส์ ่วนตวั ท่ียอดเยี่ยม สมาชกิ ในทมี มีความรสู้ ึกสบายใจทีจ่ ะเป็นตัวของตัวเอง ส่งเสรมิ รบั ฟัง
เปิดกวา้ ง เขา้ ใจ อดทน เห็นอกเห็นใจกนั และกนั

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจลักษณะของทักษะทีมงานท่ีมี
ประสิทธผิ ล ตามทัศนะของ The Pitcher Website วา่ อยา่ งไร ?.....................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................

25

5. ลักษณะของทักษะทีมงานที่มีประสทิ ธผิ ล ตามทศั นะของ Center for Management &
Organization Effectiveness Website : CMOE

Center for Management & Organization Effectiveness Website : CMOE (n.d.)
กล่าวถึง ลักษณะของทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล ทีมออกแบบของ CMOE ประกอบด้วย
บุคคลที่มีจุดแข็ง มีความสามารถทางการศึกษาและประสบการณ์ที่หลากหลาย เช่น การจัดการธุรกิจ
จิตวิทยาการสื่อสาร การจัดการทรัพยากรมนุษย์ การพัฒนาองค์กร และสังคมวิทยา การทางานเป็นทีมนั้น
เปน็ ความรบั ผิดชอบของทกุ คนในทีมและสมาชกิ ในทมี ทย่ี อดเยี่ยมจะมลี กั ษณะสาคัญ 7 ประการ ดงั น้ี

1. พวกเขาเข้าใจบทบาทของตน (They Understand Their Role) สมาชิกในทีมที่ มี
ประสทิ ธิภาพสงู มักจะมคี วามชัดเจนมากเกีย่ วกับความคาดหวังเฉพาะที่เก่ยี วข้องกบั บทบาทของตน ไม่ว่าแต่
ละคนจะมงี านประเภทใด พวกเขาได้รบั ความคาดหวงั วา่ จะมีส่วนร่วมในฐานะสมาชิกทสี่ าคัญของทีม

2. พวกเขายอมรับการทางานร่วมกัน (They Embrace Collaboration) สมาชิกในทีม ยอมรับ
ความสามารถ การตัดสินใจ การมีส่วนร่วม การเสนอแนวคิดใหม่ๆ การสื่อสารกับผู้อื่น การสนับสนุนด้าน
ความคิด การสร้างความสัมพันธ์แบบร่วมมือกันท่ัวท้ังองค์กรเพ่ือให้ประสบความสาเร็จตามเป้าหมาย
อยา่ งมีประสิทธภิ าพ

3. พวกเขามีความรับผิดชอบในตัวเอง (They Hold Themselves Accountable) ทุกคน
ในทีมมีผลต่อพลวัตของทีมและประสิทธิภาพของทีม และบุคคลจะต้องรับผิดชอบในการตัดสินใจ ไม่ว่าทีม
จะทางานผิดพลาด ทางานได้ดหี รอื มีประสิทธภิ าพสงู

4. พวกเขามีความมุ่งม่ันในทีม (They are Committed to Their Team) ทุกทีมต้องการคนที่มี
ความสามารถและมีความมุ่งมั่น ผู้นาต้องเตรียมพร้อมท่ีจะระบุและจัดการกับอุปสรรคอื่นใด ที่เกี่ยวข้องกับ
ทักษะหรือความมุ่งม่ันของสมาชิกในทีม ผ่านการฝึกอบรม การฝึกสอน การจัดการประสิทธิภาพ หรือ
ระเบยี บวนิ ัยในการแก้ไข

5. มีความยืดหยุ่น (They Are Flexible) สมาชิกในทีมต้องมีความยืดหยุ่นและร่วมมือกัน ความ
ขัดแย้งบางอย่างอาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ เม่ือบุคคลท่ีมีความสามารถซ่ึงมีแนวทางความคิด และทักษะท่ี
แตกต่างกันถูกนามารวมกันในทีม ทีมท่ีมีประสิทธิภาพสูงสุดจะมีสมาชิกที่กระตือรือร้นในการตัดสินใจ
ท่ีสาคัญและแก้ไขปญั หาอย่างสร้างสรรค์รว่ มกบั คนอืน่ ๆ พวกเขาเข้าใจดวี ่าการมคี วามคิดเห็นที่หลากหลาย
นาไปส่กู ารแกป้ ญั หาทดี่ ีทส่ี ดุ

6. มองโ ลกใน แ ง่ดีแ ล ะ มุ่ง เน้น อน าค ต (They are Optimistic and Future-Focused)
ทีมทางานในระดับสูงมักมองอนาคตในแง่ดี มีการกาหนดบทบาท กล้าได้กล้าเสีย มีกลยุทธ์ มีนวัตกรรม
พร้อมรับมือการเปลย่ี นแปลงทุกสภาวะการณ์

26

7 . ผ ลั ก ดั น ใ ห้ ไ ป ถึ ง เ ป้ า ห ม า ย ด้ ว ย ก า ร ก ร ะ ท า ( They Back up Goals with Action)
การเป็นสมาชิกในทีมที่มีประสิทธิผลจาเป็นต้องให้บุคคลมีกรอบความคิดท่ีถูกต้องได้รับการสนับสนุน
โดยการกระทาที่สอดคล้องกัน บ่งบอกถึงความคิดและความรู้สึกเกี่ยวกับบทบาทและการกระทา
เพือ่ สนับสนนุ เป้าหมายของทีม

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจลักษณะของทักษะทีมงานท่ีมี
ป ร ะ สิ ท ธิ ผ ล ต า ม ทั ศ น ะ ข อ ง Center for Management & Organization
Effectiveness Website : CMOE วา่ อยา่ งไร ?................................................................
..............................................................................................................................................
................................................................................................................ ..............................

6. ลกั ษณะของทักษะทมี งานที่มปี ระสิทธิผล ตามทศั นะของ DeBattiste
DeBattiste (2015) ซ่ึงเป็นผู้ฝึกสอน นักพัฒนาโปรแกรม และนักเขียนท่ีเช่ียวชาญในการเปน็ ผนู้ า
การสร้างทีมทกั ษะ การสือ่ สาร ความหลากหลาย และหวั ข้อการจดั การ Anna ดารงตาแหนง่ ด้านการบรหิ าร
ทรัพยากรบุคคล การจัดการ การปฏิบัติการ และการฝึกอบรมในองค์กรหลัก ๆ เช่น Coors Brewing
Company และ MeriStar Hotels & Resorts, Inc. ได้กล่าวถึง ลักษณะของทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล
12 ประการ ดังนี้
1. ทีมท่ีมีประสิทธิภาพมีช่ือและพันธกิจท่ีแบ่งปันและเผยแพร่ ทีมท่ีมีประสิทธิภาพ
มีความรู้สึกของตัวตนร่วมกัน (An effective team has a name, and a shared and published
mission statement. An effective team has a sense of shared identity)
2. ทีมงานท่ีมีประสิทธิภาพมีท้ังค่านิยม (ความเช่ือหลักพ้ืนฐาน) และบรรทัดฐาน (มาตรฐานของ
พฤติกรรม) ท่ีสมาชิกในทีมทุกคนทราบและตกลงกัน บรรทัดฐานมีความชัดเจนและอิงตามค่านิยม
( An effective team has both values (underlying core beliefs) and norms (standards of
behavior) that are known by and agreed to by all team members. Norms are explicit and
based on values)
3. ทีมงานท่ีมีประสิทธิภาพมีสมาชิกท่ีเคารพและไว้วางใจซึ่งกันและกัน สมาชิกรั บฟังอย่าง
กระตือรือร้นและเอาใจใส่ซ่ึงกันและกันโดยแสวงหาความเข้าใจก่อน (An effective team has members
who respect and trust each other. Members listen actively and empathetically to each
other, seeking first to understand)

27

4. ทีมงานที่มีประสิทธิภาพมีวิธีการแก้ปัญหาที่พยายามและเป็นจริง ความขัดแย้งไม่ได้เป็นความ
ขัดแย้งระหว่างบุคคล ถือว่าเป็นแรงเสียดทานระหว่างความคิดไม่ใช่คน (An effective team has a tried
and true method of problem solving. Conflict is not personalized; it is treated as the friction
between ideas, not people)

5. ทีมงานที่มีประสิทธิภาพเห็นด้วยในบทบาทของสมาชิกแต่ละคนภายในทีมและเข้าใจว่าบทบาท
เหลา่ น้ันมสี ว่ นชว่ ยในภารกจิ หรอื เป้าหมายของทีม บทบาทเหมาะกบั ประเภท บคุ ลิกภาพ และชดุ ทักษะของ
สมาชิก (An effective team agrees on each member’s roles within the team, and how those
roles contribute to the mission or goal of the team. Roles are suited to member’s personality
types and skill sets)

6. สมาชิกของทีมท่ีมีประสิทธิภาพมีชุดทักษะเสริมและรู้วิธีใช้ประโยชน์จากจุดแข็งและชดเชย
จุดอ่อนของพวกเขา (Members of an effective team have complementary skill sets, and know
how to leverage their strengths and compensate for their weaknesses

7. สมาชิกของทีมท่ีมีประสิทธิภาพเฉลิมฉลองความสาเร็จร่วมกันและแบ่งปันท้ังคาชมและคาตาหนิ
(Members of an effective team celebrate successes together, and share both praise and blame)

8. สมาชิกของทีมที่มีประสิทธิภาพแสวงหาและให้ความสาคัญกับความหลากหลายในทีมและใช้
ความหลากหลายเพื่อสรา้ งความคิดสร้างสรรค์ พวกเขาไม่กลัวที่จะแสดงความคิดที่แตกต่าง (Members of
an effective team seek out and value diversity on the team, and use their diversity to
engender creative thinking. They are not afraid to express different ideas)

9. สมาชิกของทีมที่มีประสิทธิภาพจะมุ่งเน้นไปท่ีผู้อื่นมากกว่าที่จะมุ่งเน้นไปที่ตนเอง พวกเขาให้
ความสาคัญกับความสัมพันธ์ท้ังกับลูกค้าและกับเพ่ือนร่วมทีมและพยายามปรับปรุงและเสริมสร้าง
ความสัมพันธ์เหล่าน้ันอยา่ งต่อเนื่อง พวกเขาตีกรอบประเด็นจากมุมมองของทีมมากกว่าผลประโยชน์ตัวเอง
ทีมที่มีประสิทธิภาพมีความครอบคลุม (Members of an effective team are others-oriented, rather
than self-oriented. They focus on their relationships, both with customers and with
teammates, and they continually seek to improve and strengthen those relationships. They
frame issues from the perspective of the team rather than from self-interest. Effective teams
are inclusive)

10. สมาชิกของทีมท่ีมีประสิทธิผลมีความรู้สึกเป็นเจ้าของและมีความรู้สึกสะท้อนใจเกี่ยวกับ
ประสบการณ์ในทีมของตน พวกเขามีความรู้สึกร่วมกันและมีความภาคภูมิใจเกี่ยวกับการเป็นสมาชิกในทีม
( Members of an effective team have a sense of belonging and a sense of resonance
about their team experience. They have a feeling of cohesion and a sense of pride about
their membership on the team)

28

11. สมาชิกของทีมที่มีประสิทธิภาพคาดหวังและรับผิดชอบร่วมกันเพ่ือประสิทธิภาพในระดับสูง
ทีมงานท่ีมีประสิทธิภาพตรวจสอบและประเมินประสิทธิผลอย่างต่อเนื่อง (Members of an effective
team expect and hold themselves mutually accountable for a high level of performance.
Effective teams continually review and assess their effectiveness)

12. ทีมท่ีมีประสทิ ธภิ าพยอมรับการเปล่ียนแปลงหากจาเป็น (Effective teams embrace change
when they need to)

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจลักษณะของทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล
ตามทัศนะของ DeBattiste ว่าอย่างไร ? .............................................................................
..............................................................................................................................................
..............................................................................................................................................

7. ลักษณะของทกั ษะทมี งานท่มี ปี ระสทิ ธิผล ตามทัศนะของ Pole
Pole (2017) กล่าวถึง ลักษณะของทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล ทุกองค์กรต้องอาศัยทีมงานที่ดี
การทางานเป็นทีมอย่างมีประสิทธิผลในท่ีทางานช่วยขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความสาเร็จ ท่ีสามารถทาให้
สมาชกิ ในทีมมคี วามโดดเด่นในท่ที างาน มคี ณุ สมบตั ิ 10 ประการ ดังน้ี

1. แ ส ด ง ค ว า ม มุ่ ง มั่ น อ ย่ า ง แ ท้ จ ริ ง ( Show Genuine Commitment) ส ม า ชิ ก ใ น ทีม
มีความม่งุ ม่ันอยา่ งแทจ้ ริงต่อเป้าหมายของทีม ใชเ้ วลาให้ค้มุ คา่ และมีสว่ นร่วมใหม้ ากทส่ี ุด และพวกเขามุ่งม่ัน
เพอื่ ความเปน็ เลิศ

2. มีความยืดหยุ่น (Be Flexible) สมาชิกในทีมมีส่วนร่วมรับมือกับความท้าทาย มีความยืดหยุ่น
ต่อสถานการณท์ ี่เกิดขน้ึ โดยไม่แสดงอาการเครียดหรอื กดดันมากเกนิ ไป

3. อย่าอยู่ในเงามืด (Don’t Stay in the Shadows) การทางานเป็นทีม ไม่ใช่การน่ังทางานเงียบๆ
คนเดียว แต่ต้องอาศัยการส่ือสาร การพูดคุย การแสดงความคิดเห็น การมีส่วนร่วมกับผู้อื่น เพื่อให้งานน้ัน
ประสบผลสาเรจ็ ตามเป้าหมาย

4. มีความน่าเช่ือถือและมีความรับผิดชอบ (Be Reliable and Responsible) สมาชิกในทีม
ท่ียอดเย่ียมจะมีความน่าเช่ือถือและมีความรับผิดชอบ พวกเขาจะมุ่งม่ันในการทางานให้เสร็จตามลาดับ
ความสาคัญและไม่จาเป็นตอ้ งเปน็ ไปตามลาดบั ทีไ่ ด้รบั มอบหมาย

29

5. ต้ังใจฟัง (Actively listen) การฟังและพิจารณามุมมองความคิดของผู้อ่ืนด้วยความเคารพ
เมื่อคุณได้ยินใครบางคนพูดในสิ่งท่ีคุณไม่เห็นด้วยในตอนแรกอย่าขัดจังหวะและอย่าปล่อยให้จิตใจของคุณ
เตรียมคาพูดตอบโต้ใด ๆ เพียงแค่รับฟังและพิจารณาว่าอะไรคือส่ิงท่ีพวกเขากาลังพูดและที่สาคัญกว่านั้น
คอื ทาไมพวกเขาถึงเชือ่ เชน่ นนั้

6. แจ้งข้อมูลให้ทีมของคุณทราบเสมอ (Keep your Team Informed) แจ้งข้อมูลท่ีเป็น
ประโยชน์และแสดงความคดิ เหน็ ใหส้ มาชิกในทีมทราบ เพื่อวางแผนการดาเนนิ งานให้ประสบความสาเร็จ

7. พร้อมให้ความช่วยเหลือเสมอ (Always be Ready to Help) มีน้าใจพร้อมให้คาชี้แนะ
หรือคาแนะนาเพ่ือช่วยเหลือสมาชิกในทีม แม้นจะไม่เกี่ยวกับงานของคุณ เช่น ให้คาแนะนาสมาชิกในทีม
ทป่ี ระสบปัญหาในการใชเ้ ทคโนโลยี

8. สนับสนุนและเคารพผู้อ่ืน (Support and Respect Others) ไม่คัดใครออกจากทีม หรือ
หัวเราะเยาะความคิดของผู้อ่ืน ส่ิงสาคัญคือต้องระวังตนเองมากขึ้นว่าคุณปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างไร จาไว้ว่าคุณ
จะได้รับความเคารพต่อเม่ือคุณให้ความเคารพผู้อื่น ทีมในอุดมคติรู้วิธีท่ีจะสนุกสนาน แต่เขาจะไม่ทา
โดยทาให้คนอ่ืนเสียหาย

9. เป็นผู้แก้ปัญหา (Be a Problem-Solver) เม่ือเกิดปัญหาหัวหน้าทีมของคุณอาจกาลัง
แก้ปัญหาอยู่ คุณสามารถเสนอวิธีแก้ปัญหาและร่วมแก้ปัญหาในทีมได้ เพื่อนร่วมทีมของคุณจะชื่นชม
ทกั ษะของคุณและสิ่งนอ้ี าจให้ผลตอบแทนในภายหลังเมอ่ื ผจู้ ดั การของคุณพจิ ารณาให้คุณเลอ่ื นตาแหน่ง

10. ยอมรับเมื่อคุณทาผิด (Recognize when You are Wrong) เม่ือทีมของคุณทาผิดพลาด
คุณไม่ดื้อร้ันไปต่อในส่ิงท่ีไม่ใช่เส้นทางที่ถูกต้องและสามารถหาวิธีกลับมาที่ต้นเหตุของปัญหา ในเวลา
ทเี่ หมาะสมได้

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจลักษณะของทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล
ตามทัศนะของ Pole วา่ อย่างไร ? ........................................................................................
..............................................................................................................................................
..............................................................................................................................................

8. ลักษณะของทักษะทีมงานท่ีมปี ระสทิ ธิผล ตามทศั นะของ Pope
Pope (2017) เป็นนักเขียนที่ TimeDoctor.com ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ท่ีออกแบบมาสาหรับ
การติดตามชั่วโมงและเพิ่มประสิทธิภาพการทางานสาหรับผู้ปฏิบัติงานระยะไกลและทีมงานระยะไกล
กลา่ วถงึ ลกั ษณะของทักษะทีมงานทมี่ ีประสิทธผิ ล 15 ประการ ดังน้ี

30

1. ตระหนักรู้ในตนเอง (Self-Aware) ทีมจะได้รับประโยชน์เมื่อสมาชิกแต่ละคนตระหนักดีถึง
จุดแข็งและจุดอ่อนของตน แต่ส่ิงสาคัญอย่างย่ิงคือผู้นาต้องเข้าใจคุณลักษณะหลักของผู้ใต้บังคับบัญชา
ผนู้ าทดี่ ีรู้วธิ ีมอบหมายงานอย่างมีประสทิ ธภิ าพในขณะที่ผนู้ าที่ไมด่ ีมอบงานท่ีไม่เหมาะสมแก่คนงาน

2. มุ่งม่ันที่จะเช่ียวชาญ (Committed to Mastery) ระยะเวลาท่ีนาไปสู่ความเช่ียวชาญนั้น
ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของการโฟกัสของเรา สมาชิกในทีมที่ยอดเย่ียมใช้เวลาในตารางงานประจาสัปดาห์
เพ่อื ปรบั แตง่ ความสามารถและเพิม่ ทักษะใหมใ่ ห้กบั ทีมของพวกเขาอยา่ งสรา้ งสรรค์

3. แรงจูงใจจากภายใน (Intrinsically Motivated) พนักงานส่วนใหญ่มีแรงจูงใจอย่างมาก
จากเพ่ือนร่วมงาน เปา้ หมายของงาน นายจา้ ง ผลประโยชน์ทางการเงิน ชอื่ เสียง และการยกยอ่ ง

4. เช่ือถือได้ (Reliable) ความน่าเช่ือถือสามารถปรับปรุงได้โดยใช้แนวทางปฏิบัติในการทางาน
ที่ยืดหยุ่น มีส่วนร่วมเคารพในความเป็นตัวของพนักงานและจะช่วยให้คุณสามารถทางานในรูปแบบ
ทเี่ พ่ิมศกั ยภาพของคุณไดส้ งู สุด

5. ซ่ือสัตย์ (Honest) สมาชิกในทีมควรมีความซ่ือสัตย์เพราะเป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการป้องกัน
ไม่ให้ความผิดพลาดจนกลายเป็นความล้มเหลวเก่ียวกับความสาเร็จตลอดจนข้อบกพร่องของตน
ทกุ คนทาผิดเปน็ ครง้ั คราว แตเ่ มอ่ื ผู้คนพยายามโทษอย่างอนื่ และเล่าเรอื่ งเท็จก็อาจเกิดความเสยี หายได้

6. คิดบวก (Positive) ความคดิ บวกไมไ่ ดเ้ กีย่ วกบั ว่าคณุ เป็นคนยิม้ งา่ ยและชา่ งพดู แต่เปน็ ความคิด
ท่ีคุณสามารถมองโลกในแง่บวก มองปัญหาว่าเป็นโอกาสในการพัฒนาตนเอง ได้เรียนรู้และหาวิธีแก้ไขปัญหา
แทนการไปตาหนิคนอน่ื ซง่ึ การมองโลกในแง่บวกจะทาให้คุณและเพื่อนร่วมงานมีความสุขในการทางานมากขน้ึ

7. ใส่ใจ (Empathic) การปฏิบัติต่อผู้คนในแบบท่ีคุณต้องการได้รับการปฏิบัติ ด้วยการเอาใจใส่
รับฟัง รับรู้ว่าคนอื่นรู้สึกอย่างไร เม่ือคุณเคารพขอบเขตของผู้คนและยอมรับความเป็นตัวตนของพวกเขา
(แม้วา่ คุณจะไม่เหน็ ดว้ ยกบั พวกเขาก็ตาม) ผคู้ นก็จะสนกุ กับการทางานร่วมกบั คณุ

8. ผู้สื่อสารท่ีดี (Good Communicator) ทักษะการสื่อสารที่สาคัญท่ีสุดคือการรู้วิธีวิจารณ์
อยา่ งมชี น้ั เชงิ และสรา้ งสรรค์ คณุ อาจวจิ ารณเ์ พื่อจุดประสงค์ในการขบั เคลื่อนทีมไปขา้ งหนา้ และแก้ไขปัญหา
การแสดงความชืน่ ชมในสง่ิ ที่คนๆ นน้ั ทาได้ดีจะสร้างกรอบคาวิจารณเ์ ชิงบวกและจะนาไปสู่ความสาเร็จของทีม

9. มั่นใจ (Confident) เม่ือคุณมีภาพลักษณ์ในเชิงบวกคุณจะไม่ค่อยพฤติกรรมก้าวร้าว เชิงรุก
และการนินทา คนที่มีความม่ันใจชอบชมเชยให้ผู้อ่ืนรู้สึกดีมากกว่าการใส่ร้ายเพื่อนร่วมงาน นอกจากน้ี
คนท่ีมีความมั่นใจจะไม่แสดงอารมณ์ต่อความล้มเหลวและคาวิจารณ์ ในขณะท่ีคนท่ีขาดความมั่นใจ
อาจมองว่าการวิจารณ์เชิงสร้างสรรค์เป็นการโจมตี แต่คนท่ีมีความมั่นใจจะมองว่าเป็นเหมือนคาติชมที่พวก
เขาสามารถใช้เพ่ือปรับปรุงตนเอง

10. สามารถทางานหลายอย่างพร้อมกนั ได้ (Able to Multitask) ในยคุ ปัจจบุ ันพนักงานไม่ค่อย
มโี อกาสจดจ่อกับโครงการทีละโครงการ ในสถานการณ์สว่ นใหญ่พนักงานจะตอ้ งจดั สรรการทางาน 2-3 งาน

31

ในขณะที่ต้องทาตามกาหนดเวลาส่งงานอย่างเคร่งครัด ด้วยเหตุน้ีการทางานหลายอย่างพร้อมกันจึงเป็น
ลักษณะทวั่ ไปอยา่ งหนึง่ ทน่ี ายจ้างคดั กรองผู้สมัครในการสมั ภาษณง์ าน

11. ใส่ใจรายละเอียด (Detail-Oriented) คุณให้ความสาคัญกับสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ใส่ใจใน
รายละเอียดอย่างใกล้ชิด รู้สิ่งท่ีคนอื่นอาจลืมเลือนไป และส่ิงนี้มีประโยชน์มากในแง่ของการแก้ปัญหา
โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งหากต้องใช้วิธีการแกป้ ัญหาทีส่ ร้างสรรค์

12. อิสระ (Autonomous) คุณให้ความสาคัญกับความรู้สึกของพนักงานที่มองหาการทางานท่ี
เป็นอิสระ มีผจู้ ดั การทด่ี มี ีความเมตตากรุณา มีการบริหารจัดการแบบไมจ่ ู้จ้ีจุกจิก มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
เชื่อถือได้ สามารถมอบหมายงาน พร้อมท้ังเช่ือใจว่าพนักงานจะสามารถทางานให้เสร็จส้ินตามกาหนดเวลา
และสร้างผลลัพธท์ ่ดี ที ่สี ุดให้กบั องค์กร

13. ปรับตัวได้ (Adaptable) ความสามารถในการปรับตัวหมายถึงความยืดหยุ่นต่อนิสัยการ
ทางานและบุคลิกของเพื่อนรว่ มงาน หากคุณเป็นคนชอบเข้าสงั คมและเป็นคนช่างพูดคุณอาจต้องปรับตวั ให้
เข้ากับเพื่อนร่วมงานท่ีชอบเก็บตัวซึ่งต้องการสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบเพ่ือให้ได้ประสิทธิผลในการทางาน
หากคุณเป็นคนเก็บตัวให้ใช้คาถามท่ีเป็นมิตรสักสองสามคาถามเพราะจะช่วยสร้างสายสัมพันธ์กับเพ่ือน
รว่ มงานทีช่ อบพดู คุย

14. เข้าใจอุตสาหกรรม (Understands the Industry) ความสามารถทางเทคนิคทาใหค้ ุณเปน็
ทรัพย์สินท่ีมีค่าสาหรับทีม แต่ความเข้าใจในอุตสาหกรรมท่ีกว้างขึ้นทาให้ไม่สามารถหาใครแทนที่คุณได้ การ
ติดตามแนวโน้มอุตสาหกรรมไม่ควรเป็นเพียงความรับผิดชอบสาหรับทีมผู้นา แต่ทุกคนควรมีความสนใจ
เก่ียวกับแนวโน้มของตลาด

15. ยืนหยัด (Persistent) การรักษาทัศนคติท่ีดีและความเพียรพยายามอย่างจริงจัง แม้ว่า
บางครั้งสงิ่ ตา่ ง ๆ จะไมเ่ ปน็ ไปตามทีค่ ณุ ตอ้ งการ

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจลักษณะของทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล
ตามทัศนะของ Pope วา่ อย่างไร ? ........................................................................................
............................................................................................................................. .............
..............................................................................................................................................

9. ลักษณะของทักษะทมี งานทีม่ ปี ระสิทธผิ ล ตามทัศนะของ Kalesi
Kalesi (2019) ซึ่งเป็นนักเขียนท่ีทุ่มเทและมีประสบการณ์ในหัวข้อต่าง ๆ มากมายโดยเฉพาะ
เน้นด้านเทคโนโลยี ทัศนศิลป์ ส่ือ และการตลาดเชิงเนื้อหา (Content Marketing) ได้กล่าวถึง ลักษณะ
ของทกั ษะทีมงานที่มีประสิทธิผล 10 ประการ ดังน้ี
1. มีความมั่นใจ ไม่หยิ่งผยอง (Be Confident. not Arrogant) การมีมุมมองท่ีชัดเจน
มีเพื่อนร่วมทีมท่ีม่ันใจในตัวเอง เขาจะแสดงตัวตนที่ดีท่ีสุดของทุกคนออกมา พวกเขาทาให้ความแตกต่าง

32

ราบลื่นตลอดจนมีข้อเสนอแนะท่ีสร้างสรรค์ ในทางตรงกันข้ามเพ่ือนร่วมงานที่หย่ิงผยองทาให้เกิดปัญหา
ในการสื่อสารภายในทีม พวกเขาตอบสนองเชิงลบต่อคาวิจารณ์และลดประสิทธิภาพการทางาน และ
ความคิดเชิงบวกจะปูทางไปสู่การทางานเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพเสมอ เป็นการส่งเสริมความสามัคคี
การมองโลกในแงด่ ี และนาไปสปู่ ระสทิ ธิภาพและผลกาไรในทสี่ ดุ

2. ช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานของคุณ (Help your Colleagues) คุณลักษณะแบบทีมท่ีมี คือ
ความเห็นอกเห็นใจและความเข้าใจผู้อื่น สมาชิกในทีมที่ดีจะพยายามช่วยเหลือและแบ่งปันภาระงาน และ
ข้อกงั วลของทมี การทางานเป็นทีมทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพจะทาได้ก็ต่อเมือ่ คณุ เรยี นรู้ทจ่ี ะชนะและแพ้เปน็ ทมี

3. ทาตัวเป็นมนุษย์ ไม่ใช่หุ่นยนต์เฉพาะทาง (Be a Human Being. Not a Specialized
Robot) การทางานเพื่อพัฒนาทักษะจนกลายเป็นมืออาชพี ท่ีมีความเชยี่ วชาญเฉพาะทาง อาจเป็นเรื่องยาก
ท่ีเพ่ือนร่วมทีมไม่สามารถทางานหลายอย่างพร้อมกันได้ เน่ืองจากพวกเขาเช่ียวชาญเฉพาะในสาขาของตนจริงๆ
ยกตัวอย่างเช่น นักการตลาดและนายหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคลมักพูดเก่งกว่าโปรแกรมเมอร์ และ
นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล สองคนแรกได้รับการฝึกฝนให้ส่ือสารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพ่ือหาเล้ียงชีพ
ในขณะทผี่ เู้ ชี่ยวชาญด้านเทคนคิ พดู ผา่ นงานของพวกเขา

4. เก็บลูกบอลจานวนมากในอากาศ (Keep many balls in the air) เป็นที่ยอมรับกันว่า
ในโลกที่เร่งรบี ของพวกเรา การทางานหลายอยา่ งเป็นสิ่งจาเป็น ผู้นาต้องการสมาชิกท่ีมีทักษะที่หลากหลาย
เพือ่ วางแผนปรมิ าณงาน วางแผนงบประมาณหลายๆโครงการในเวลาเดียวกนั

5. เป็นก้ิงก่ามืออาชีพ (Be a professional Chameleon) ตลาดธุรกิจมีการเปล่ียนแปลง และ
พัฒนาตลอดเวลา จึงตอ้ งมีทักษะวธิ กี ารทางานที่ทันสมัย มคี ณุ ภาพการทางาน สมาชิกในทีมกา้ วไปพรอ้ มกับ
การเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานตลอดจนปรับตัวเข้ากับความเป็นจริงใหม่ ๆ การเป็นก้ิงก่า
แบบมืออาชีพยังให้ความสาคัญกับการรวมตัวทางสังคมของผู้มาใหม่และรับมือกับบุคลิกที่ซับซ้อน
ในทีมของพวกเขาอย่างระมัดระวัง เป้าหมายสูงสุดของพวกเขาคือการตรวจสอบ "สถิติทางสุขภาพ"
ของทมี อยูเ่ สมอ เพือ่ ไม่ให้ไมม่ ีสงิ่ ใดสามารถทาลายสว่ นสาคญั ของทีมของพวกเขาได้

6. เปน็ เจา้ ของงานและคาพดู ของคณุ เอง (Take Ownership of your Work and Words)
การยืนอยู่เบื้องหลังงานของคุณจะสร้างความเชือ่ มั่นในทีมของคุณ สมาชิกในทีมที่ดีและเหมาะสม
จะตอ้ งรบั ผดิ ชอบต่อความผดิ พลาด จดุ ออ่ น และไดร้ ับส่วนแบง่ ความสาเรจ็ อยา่ งยตุ ิธรรม
7. เป็นผู้แก้ไขปัญหา (Be a Troubleshooter) การแก้ปัญหาไม่ใช่เร่ืองง่ายที่จะทาหรือเป็น
คุณสมบัติติดตัวต้ังแต่เกิด การแก้ไขปัญหาต้องใช้ความรู้มากมาย ความคิดสร้างสรรค์และความรู้สึกที่ดี
ในการควบคุม เหนือส่ิงอ่ืนใด ผู้แก้ปัญหาจะต้องเป็นผู้รวบรวมและมีทักษะการป้องกันไม่ให้ทีมต่ืนตระหนก
เม่ือส่ิงต่างๆ พังทลายเป็นความสามารถที่หาได้ยาก และจะชื่นชมการทางานของเพื่อนร่วมทีม ตลอดจน
เขา้ ใจวิธกี ารทางานเป็นทีมทปี่ ระสบความสาเรจ็

33

8. มุ่งมั่นในงานอย่างแท้จริง (Truly Commit to the Job) การมุ่งม่ันกับบางสิ่งอย่างเต็มที่
คุณต้องพิสูจน์ให้เห็นถึงความทุ่มเทให้กับมัน การทางานหนักไม่ใช่แค่เพราะเรื่องเงินและช่ือเสียงเท่าน้ัน
มันเกี่ยวกับการทาในส่ิงที่เติมเต็มความฝันของคุณ สมาชิกในทีมที่ยอดเยี่ยมจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งย่ิงขึ้น
กบั งานและเช่อื มั่นในความสาคญั ของการทางานเป็นทีม คนทม่ี ีแรงบนั ดาลใจอย่างแท้จริงจะพยายามพัฒนา
ความสัมพนั ธท์ ่แี น่นแฟ้นกับเพื่อนร่วมงานอย่างมืออาชีพและพร้อมใหบ้ รกิ ารเมอ่ื จาเปน็

9. ตรงไปตรงมา ไม่หยาบคาย (Be Direct. Not Rude) การพูดความในใจถือเป็นสิทธิ และ
เป็นลักษณะของทีมที่ประสบความสาเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในท่ีทางานซ่ึงเป็นสถานที่ที่เรามักจะใช้เวลา
หน่ึงในสามของชีวิตของเราเป็นเรื่องสาคัญที่คุณต้องพูด ด้วยความจริงใจและต้องสุภาพ เน่ืองจากทีมมี
โครงสร้างคล้ายกับครอบครวั ความผกู พนั ในทมี เป็นงานหนกั แตท่ ้ายท่ีสุดแล้วจะนาไปสูก่ ารทางานเป็นทีมที่
มีประสทิ ธิภาพ

10. พึ่งตนเองได้ (Be Autonomous) การทางานเป็นทีมไม่ได้หมายความว่าแต่ละคนต้องพ่ึงพา
คนอ่ืนตลอดเวลา สมาชิกในทีมสามารถรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนได้อย่างเต็มที่และดาเนินการต่อไป ได้
พวกเขาควรใช้ความคิดริเร่ิมท่ีถูกต้อง จัดเวลา และกาหนดเวลาข้ันตอนที่จะนาพวกเขาไปสู่ผลงาน
ที่ได้รับมอบหมายอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจลักษณะของทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล
ตามทศั นะของ Kalesi ว่าอยา่ งไร ? ......................................................................................
............................................................................................................................. .............
..............................................................................................................................................

10. ลกั ษณะของทักษะทมี งานที่มีประสิทธิผล ตามทศั นะของ Deering
Deering (2020) กล่าวถึง ลักษณะของทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล ทีมงานท่ีแข็งแกร่งเป็น
รากฐานของธุรกิจท่ีมีประสิทธิภาพสูงและจรรยาบรรณของทีมที่ดีสามารถทาให้องค์กรประสบความสาเร็จ
และดาเนนิ งานราบรนื่ คณุ สมบตั ทิ ีมท่ีประสบความสาเร็จ 8 ประการ ดังนี้
1) พวกเขาสื่อสารกันได้ดี They Communicate Well with Each Other) สมาชิกในทีมมี
การสื่อสารกันอย่างเปิดเผย แบ่งปันความรู้ ความคิดเห็น และแนวคิดกับสมาชิกในทีม การส่ือสารเป็นส่ิง
สาคัญในการตดิ ตามความคืบหน้าและทางานร่วมกนั อยา่ งมีประสิทธภิ าพ การส่อื สารท่ไี ม่ดีอาจนาไปสู่ความ
สับสน ซง่ึ งานอาจถูกปล่อยท้ิงไว้ไมส่ มบูรณ/์ ไม่ถูกต้องหรอื อาจเกิดความขัดแยง้ ขนึ้ ได้
2) พวกเขามุ่งเน้นไปที่เป้าหมายและผลลัพธ์ (They Focus on Goals and Results) สมาชกิ
ในทีมเห็นด้วยและกาหนดเป้าหมายของทีมโดยพิจารณาจากผลลัพธ์ไม่ใช่แค่ปริมาณงานที่ทา จากนั้นจึง

34

สามารถกาหนดแผนท่ีชัดเจนเก่ียวกับวธิ ีท่ีพวกเขาจะบรรลุวัตถุประสงค์เหลา่ น้ีในฐานะกลุ่ม ตลอดจนการมี
สว่ นร่วมของแตล่ ะคน สิ่งนท้ี าให้พวกเขามีทศิ ทางที่ชัดเจนและทาให้พวกเขามีจุดมุ่งหมายเพ่ือสว่ นรวม

3) ทุกคนมสี ่วนร่วมอย่างยุตธิ รรม (Everyone Contributes their Fair Share) สมาชกิ แต่ละ
คนในทีมมีส่วนแบ่งภาระงานอย่างยุติธรรมและเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าความรับผิดชอบของตนคืออะไรและ
เหมาะสมกับการดาเนินธุรกิจอย่างไร พวกเขารู้สึกถึงความเป็นส่วนหน่ึงของทีมมีความมุ่งมั่น
ในการทางาน และใส่ใจในความสาเร็จขององค์กร

4) พวกเขาใหก้ ารสนับสนนุ ซงึ่ กนั และกัน (They Offer Each Other Support) สมาชกิ ในทีม
ยินดีช่วยเหลือผู้อื่นเสมอเมื่อมีใครต้องการความช่วยเหลือในการทางาน ทีมมักจะมีประสิทธิผลมากข้ึนเมื่อ
พวกเขาได้รบั การสนับสนนุ จากองค์กรและไดเ้ ข้าถึงทรัพยากรที่จาเปน็

5) สมาชิกในทีมมีความหลากหลาย (Team Members are Diverse) ทุกคนมีเอกลักษณ์
เฉพาะตัวและสามารถนาเสนอประสบการณ์และความรู้ของตนเองที่คนอื่นอาจไม่มี ความหลากหลายเป็น
ส่ิงจาเป็น สมาชิกแต่ละคนในทีมมีทักษะที่จาเป็นที่แตกต่าง ทาให้ทีมมีทักษะที่ครอบคลุมทั้งหมด ทีมมี จุด
แข็งและทักษะ ความหลากหลายของบุคลิก กลุ่ม อายุ วัฒนธรรม ฯลฯ สามารถนาความคิดสร้างสรรค์และ
ความคดิ ทห่ี ลากหลายมาสู่มท่ี างานได้

6) มีความเป็นผู้นาท่ีดี (Good Leadership) ทีมที่แข็งแกร่งมักจะมีผู้นาที่พวกเขาไว้วางใจและ
เคารพ บุคคลน้ีทางานเป็นดั่งกาวที่ยึดทีมไว้ด้วยกันและควรรับผิดชอบในการกาหนดจังหวะให้กาลังใจและ
แรงจงู ใจและคอยอพั เดทสมาชิกทกุ คนในทีม

7) มีการจัดระเบียบ (They’re Organized) การจัดระเบียบเป็นส่ิงสาคัญสาหรับการดาเนินงาน
ให้ราบรนื่ หากไมม่ สี ง่ิ น้ีสถานท่ีทางานอาจวุ่นวายและอาจจะไม่บรรลุเปา้ หมายตามท่ีกาหนด แม้วา่ แต่ละคน
จะรับผิดชอบในการจัดระเบียบภาระงานของตนเอง แต่ฝ่ายบริหารควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกอย่าง
ดาเนินไปตามแผนและสมาชิกแต่ละคนในทีมทางานได้อย่างมีประสิทธิภาพการจัดการประชุมเป็นประจา
สามารถชว่ ยใหแ้ นใ่ จว่าทกุ คนเขา้ ใจงานในระดบั เดยี วกนั และเปน็ ไปตามกาหนดเวลา

8) พวกเขาสนกุ (They Have Fun) เป็นเรือ่ งสาคญั ท่ีจะตอ้ งเติมความสุขใหก้ ับชวี ิตการ
ทางาน ทีมท่ีทางานร่วมกันได้ดีเป็นพิเศษจะสนุกไปด้วยกันและพบปะกันนอกสานักงานเป็นคร้ังคราว
เพื่อสังสรรค์และสนุกสนาน การสร้างความสัมพันธ์เชิงบวกกับเพื่อนร่วมงานสามารถสร้างสภาพแวดล้อมท่ี
ผอ่ นคลายมากขึ้นและลดความขดั แยง้ ได้

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจลักษณะของทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล
ตามทศั นะของ Deering ว่าอยา่ งไร ? ....................................................................................
............................................................................................................................. .............
..............................................................................................................................................

35

11. ลกั ษณะของทักษะทมี งานท่มี ีประสิทธิผล ตามทศั นะของ Brounstein
Brounstein (n.d. ) กล่าวถึง ลักษณะของทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล ทีมต้องการสมาชิก
ท่ีแขง็ แกร่งเพ่ือทาผลงานให้ดีที่สุด โดยมีเคลด็ ลบั ในการรวมสมาชิกในทมี เข้าดว้ ยกัน 10 ประการ ดังนี้
1. แสดงให้เห็นถึงความน่าเช่ือถือ (Demonstrates Reliability) คุณสามารถวางใจให้สมาชิก
ในทมี พยายามทางานในส่ิงที่ได้รับมอบหมายและรบั ผิดชอบงานในสว่ นของตนเองให้บรรลุเปา้ หมายได้
2. ส่ือสารอย่างสร้างสรรค์ ( Communicates Constructively) ทีมต้องการคนท่ีพูด
แสดงความคดิ อยา่ งชัดเจน ตรงไปตรงมาในลักษณะเชงิ บวก มน่ั ใจ และใหเ้ กียรติ ดว้ ยความเคารพตอ่ ผู้อ่นื
3. ฟังอย่างกระตือรือร้น (Listens Actively) ส่ิงสาคัญท่ีสุดสาหรับการสื่อสารและการแก้ปัญหา
ท่ีมีประสิทธิภาพ คือสมาชิกในทีมซึมซับ เข้าใจ พิจารณาแนวคิดและมุมมองจากผู้อ่ืนโดยไม่ต้องโต้เถียงทุก
ประเด็น สามารถรับคาวิจารณ์ได้โดยไม่ต้องตอบโต้ และจาเป็นต้องมีวินัยในการฟังก่อน ค่อยพูด การเป็น
ผฟู้ งั ท่ดี จี ึงเปน็ สง่ิ สาคัญสาหรับทมี ในการทางานให้มีประสิทธิภาพ
4. ทาหน้าท่ีในฐานะผู้มีส่วนร่วมอย่างกระตือรือร้น (Functions as an Active Participant)
สมาชิกในทีมที่ทาหน้าท่ีเป็นผู้มีส่วนร่วม อาสาทางานท่ีได้รับมอบหมายอย่างกระตือรือร้น ริเริ่มที่จะช่วยให้
ส่ิงต่าง ๆ ให้ทมี ประสบความสาเรจ็
5. แบ่งปันอย่างเปิดเผยและเต็มใจ (Shares Openly and Willingly) ผู้เล่นในทีมท่ีดีรู้จัก
แบ่งปนั พวกเขายินดที จี่ ะแบ่งปนั ข้อมลู ความรู้ และประสบการณ์ พวกเขาริเรมิ่ ทจี่ ะแจ้งให้สมาชิกในทีมคน
อื่น ๆ ทราบ
6. ร่วมมือและเสนอความช่วยเหลือ (Cooperates and Pitches in to Help) ความร่วมมือ
คอื การทางานร่วมกับผอู้ นื่ และร่วมกันทาเพอื่ ใหง้ านสาเร็จ สมาชกิ ในทีมทม่ี ีประสิทธิภาพ มีสไตล์และมุมมอง
ที่ต่างกัน แต่ก็หาวิธีทางานร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาและทางานให้ลุล่วง พวกเขาตอบสนองต่อคาร้อง ขอความ
ชว่ ยเหลือ และให้ความชว่ ยเหลือ
7. แสดงถึงความยืดหย่นุ (Exhibits Flexibility) สมาชิกในทีมทีย่ ดื หย่นุ สามารถพจิ ารณามุมมอง
ที่แตกต่างกันและประนีประนอมเม่ือจาเป็น เขาหรือเธอไม่ยึดมั่นในมุมมองของตนเอง และไม่โต้แย้งอย่าง
เอาเปน็ เอาตาย
8. แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นต่อทีม (Shows Commitment to the Team) สมาชิกในทีมท่ี
แข็งแกร่ง ใส่ใจในการทางานและผลงานของทีม พวกเขามาทางานทุกวนั ด้วยความเอาใจใสแ่ ละความม่งุ มั่น
พวกเขาตอ้ งการท่มุ เทอยา่ งเตม็ ทแี่ ละต้องการให้สมาชกิ ในทีมคนอนื่ ๆ ทาเชน่ เดยี วกัน
9. ทางานเปน็ ผแู้ ก้ปญั หา (Works as a Problem-Solver) สมาชกิ ในทมี ท่ีดยี นิ ดที จี่ ะจดั การกับ
ปัญหาทุกประเภท โดยการมุ่งเน้นการแก้ปัญหา พวกเขาเป็นผู้แก้ปัญหาไม่ใช่ผู้อยู่กับปัญหา ผู้โยนปัญหา

36

หรือผู้หลีกเลี่ยงปัญหา พวกเขาไม่กล่าวโทษผู้อื่น อีกทั้งไม่ละท้ิงการจัดการกับปัญหา นาปัญหาออกมาเพ่ือ
เปดิ โอกาสให้มีการพูดคุยและร่วมมือกับผู้อน่ื เพื่อหาแนวทางแก้ไขและจดั ทาแผนปฏิบตั ิการ

10. ปฏิบัติต่อผู้อ่ืนด้วยความเคารพและให้การสนับสนุน (Treats Others in a Respectful
and Supportive Manner) สมาชิกในทีมปฏิบัติต่อเพื่อนร่วมทีมด้วยความสุภาพสม่าเสมอ แสดงความ
เขา้ ใจและการสนับสนุนทเ่ี หมาะสมต่อสมาชิกในทีมคนอื่น ๆ มีความมงุ่ ม่ันมองขา้ มผลงานของตนเองและใส่
ใจในผลงานโดยรวมของทีมท่ีประสบความสาเร็จและพวกเขามีส่วนในความสาเร็จน้ี การชนะเป็นทีม
จงึ เปน็ หนึง่ ในแรงจงู ใจที่ดีในการปฏิบตั ิงานของพนกั งาน

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจลักษณะของทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล
ตามทศั นะของ Brounstein วา่ อย่างไร ? .............................................................................
..............................................................................................................................................
..............................................................................................................................................

12. ลกั ษณะของทักษะทมี งานทม่ี ีประสิทธผิ ล ตามทัศนะของ Cameron
Cameron (2020) กล่าวถงึ ลักษณะของทักษะทีมงานท่ีมปี ระสิทธผิ ล การมีประสทิ ธิภาพในทมี หรือ
การนาทีมที่มีประสิทธิผลเป็นเส้นทางสู่ความสาเร็จ สาหรับคนท่ีเก่งในการทางานเป็นทีมมักเป็นคนที่
สามารถเป็นผูน้ าท่ีย่ิงใหญ่ได้ การมคี วามฉลาดทางอารมณส์ ูงและการทางานโดยใช้ทักษะต่าง ๆ เช่น การฟัง
การสอื่ สาร และการแกไ้ ขปญั หาเป็นส่ิงสาคัญสาหรับผู้ทต่ี อ้ งการทางานเป็นทีมที่ยอดเยยี่ ม ดังนี้
1. อะไรทาให้เกดิ การทางานเปน็ ทมี ทยี่ อดเยี่ยม (What Makes Great Teamwork?)
เม่ือไม่นานมาน้ีบริษัทต่าง ๆ ได้ตระหนักว่า ทีมเวิร์ค (Teamwork) น้ันดีกว่าการมีทีมที่เต็มไปด้วย
คนเก่ง ๆ และมคี วามเข้าใจใหม่เก่ยี วกับส่ิงทท่ี าใหเ้ กิดทีมเวิร์คที่ยอดเย่ียมและความสนิทสนมกันในท่ีทางาน
บางคนมีพลังในการทางานเป็นทีมมากจนทาให้ทุกคนรอบ ตัวพัฒนาไปในทางที่ดีข้ึนเพราะพวกเขารู้วิธี
ช่วยเหลอื ในหลาย ๆ ด้าน คนเหลา่ นีค้ ือคนท่ีฟังได้ดี ส่อื สารไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพทางานร่วมกันโดยไม่มีอี
โก้ (Ego) ใด ๆ และอื่น ๆ อกี มากมายเข้ามาเก่ียวขอ้ ง
2. กุญแจส่วนตัวสู่การทางานเป็นทีมท่ีประสบความสาเร็จ (Personal Keys to Successful
Teamwork)
มีความฉลาดทางอารมณ์ มพี ฤติกรรมทีเ่ รียนรไู้ ด้จากการฝึกฝน มที กั ษะ และมีความสามารถในการ
ทางานท่ีชว่ ยให้ประสบความสาเร็จ

1) การฟังอย่างกระตือรือร้น (Active Listening) : ในการฟังอย่างกระตือรือร้น ให้เน้นไปท่ี
คนที่กาลังพูด สบตาพยักหน้าและย้ิมถ้าคุณเข้าใจหรือรู้สึกเก่ียวข้องกับสิ่งท่ีเขาพูด เมื่อผู้คนรู้สึกว่ามีคนรับ
ฟงั พวกเขาก็จะเปลี่ยนความสัมพันธใ์ หด้ ขี ้นึ

37

2) การส่ือสาร : ทาให้คนอ่ืนรู้ว่าคุณเข้าใจส่ิงท่ีพวกเขาพูด ลองอธิบายกลับไปเช่น “คุณ
หมายถงึ ” เพ่อื ให้คณุ รวู้ า่ คุณเข้าใจจริง ๆ หากคุณไม่แนใ่ จให้ถามว่า "คุณหมายถึงอะไร" เปน็ วธิ ีทีด่ ใี นการทา
ให้พวกเขาอธิบายได้ดีขึ้น ในทางกลับกันควรมีความชัดเจนในสิ่งที่คุณกาลังพูดและสะท้อนเป็นลายลักษณ์
อักษรติดตามผลหากคณุ ต้องการม่นั ใจว่าทุกคนเข้าใจ

3) เอาใจใส่ (Empathy) : การเอาใจใส่อาจหมายถึงการได้ยินสิ่งท่ีคนอ่ืนพูดและเรียนรู้ท่ีจะ
เข้าใจพวกเขา สามารถช่วยยุติความขัดแย้งและกระตุ้นความสัมพันธ์ท่ีดีข้ึนได้เช่นกัน นอกจากนี้การเอาใจใส่
อาจหมายถงึ การสรา้ งผลติ ภัณฑ์หรือบรกิ ารท่ดี ีขน้ึ เม่ือคุณเก่ียวข้องกบั ความท้าทายท่ผี อู้ ื่นอาจได้รับมากขึ้น

4) ความซ่ือสัตย์ (Honesty) : การเป็นคนดที ซี่ ือ่ สัตยห์ มายถึงการพฒั นาทกั ษะการแสดงความ
คิดเห็นที่แข็งแกร่ง การพูดในมุมมองที่สาคัญที่ทีมงานอาจมองข้ามไป เป็นความกล้าหาญและกล้าท่ีจะ
เปลี่ยนแปลงในระดับบคุ คล แตค่ วามโปร่งใสก็ทาให้หน่วยทมี แข็งแกร่งขน้ึ เช่นกนั

5) การรับรู้ (Awareness) : พลวัตของทีมจะไม่เกิดหากสมาชิกในทีมไม่ทราบเมื่อมีบางอย่าง
ไม่สมดุล หากคน ๆ เดียวกาลังผลักดันการสร้างไอเดียและการจัดงานน่ันไม่ใช่การทางานเป็นทีม คุณควร
สนบั สนุนให้ทุกคนมีส่วนร่วมละตรวจสอบให้แนใ่ จว่าพวกเขามเี วลาและพนื้ ทีใ่ นการมีสว่ นรว่ มอยา่ งเต็มท่ี

3. ทกั ษะการทางานเปน็ ทีมในที่ทางาน (Teamwork Skills in the Workplace)
1) การแก้ปัญหา (Problem Solving) : การแก้ปัญหามีหลายวิธี อาจอยู่ในรูปแบบของการ

แก้ไขความขัดแย้ง ความผิดพลาดในการดาเนินการหรือการเข้ากับเพ่ือนร่วมงานไม่ได้ ปัญหาจาเป็นต้องมี
การฟัง ความเข้าใจ และการปรับตัว ผู้ท่ีหาทางเพื่อให้ผ่านปัญหาน้ันไปได้คือคนที่ทาให้ทีมประสบ
ความสาเร็จ

2) การกาหนดกรอบปัญหา (Problem Framing) : บางครั้งผู้คนอาจมองโลกในแง่ลบและ
มองเห็นเพียงข้อเสียของสถานการณ์เท่าน้ัน ซึ่งแตกต่างจากการกาหนดกรอบปัญหาซ่ึงเราจะสามารถ
มองเห็นปัญหาและเข้าใจได้จากทุกมุม ท่ีดีไปกว่านั้นคือเมื่อพวกเขาสามารถช่วยให้ผู้อ่ืนเข้าใจปัญหา
เหล่านั้นได้ เพราะสิ่งน้ีไม่ได้หมายถึงแค่การแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าหรือธุรกิจเท่าน้ัน แต่ยังอาจหลีกเล่ียง
ปญั หาเหล่านไ้ี วล้ ่วงหน้ากอ่ นท่จี ะมีการเปดิ ตัวโครงการ ผลติ ภณั ฑ์ หรือบรกิ ารซ่ึงอาจมคี า่ สาหรับบริษัท

3) การทางานร่วมกัน (Collaboration) : การทางานร่วมกันอย่างดีหมายถึงการเข้าใจจุด
แข็งและจุดอ่อนของกันและกัน สมาชิกท่ีมีทักษะท่ีหลากหลายมาอยูรวมกันทาให้ทีมเป็นทีมท่ีทรงพลังใน
การทาส่ิงต่างๆใหส้ าเร็จ แตจ่ ะไดผ้ ลก็ต่อเม่ือสมาชิกในทีมมีความอ่อนน้อมถ่อมตนและเคารพความสามารถ
ของกันและกันในการทางานร่วมกนั

4) วิธีปรับปรุงทักษะการทางานเป็นทีมของคุณ (How to Improve Your Teamwork
Skills) การทางานเป็นทีมได้ดี ให้มองที่คนรอบข้างเพื่อดูว่าใครเก่งในการดึงส่ิงท่ีดีท่ีสุดของคนอื่นออกมา
ทาให้ผูอ้ ่นื รสู้ ึกมีคุณค่า รู้สกึ มผี ูร้ ับฟังและมีประสิทธิผลอย่างไร การเลียนแบบวิธที ่ีพวกเขามสี ว่ นรว่ มกับผู้อ่ืน
และวิธีการส่ือสารและกระตุ้นการมีส่วนร่วมถือเป็นการเริ่มต้นท่ีดี ชื่นชมวิธีท่ีการสร้างทีมของพวกเขาและ

38

ขอความคิดเห็นท่ีตรงไปตรงมาว่าอะไรที่คุณต้องปรับปรุงและจะทาให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นได้อย่าง ไร และมี
คาแนะนาเพิ่มเตมิ สาหรบั การสร้างแรงบันดาลใจในการทางานเป็นทีมทย่ี อดเยยี่ ม

5) การทางานเป็นทีม: ตัวอย่างที่หลาย ๆ คนช่ืนชอบ (Teamwork: A Fan-Favorite
Example) Herb Brooks เลือกผ้เู ล่นท่ีเขาเช่อื มัน่ ในการทางานเป็นทีมและเลือกคนท่ีจะเสรมิ ทักษะของกัน
และกนั ได้ ด้วยการสนบั สนุนซึ่งกันและกัน เขา้ ใจบทบาทของตน ร้จู ักใชซ้ ึ่งกันและกนั ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ซ่ือสัตย์ต่อความกลัวและเห็นอกเห็นใจต่อความต้องการของกันและกัน ความมหัศจรรย์ของการทางานเป็น
ทีมคือการนาบุคคลท่ีมีทักษะท่ีแตกต่างกันมารวมกันและนาความสามารถสูงสุดของพวกเขาออกมาและให้
พวกเขาทางานร่วมกันเปน็ หนว่ ยเดยี ว

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจลักษณะของทักษะทีมงานที่มี
ประสิทธิผล ตามทศั นะของ Cameron ว่าอย่างไร ? .........................................................
............................................................................................................................. ..........
...................................................................................................... ....................................

แบบประเมนิ ตนเอง
1) ท่านเข้าใจ ลักษณะของทักษะทีมงาน ท่ีมีประสิทธิผล ตามทัศนะของ Bridgeman

ชัดเจนดีแลว้ หรอื ไม่
[ ] ชัดเจนดีแล้ว [ ] ยงั ไม่ชดั เจนดพี อ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกคร้ัง แล้วตอบคาถามในใจว่า Bridgeman
กลา่ วถึงลกั ษณะของทกั ษะทมี งานท่มี ีประสิทธิผลว่าอยา่ งไร?
2) ท่ า น เ ข้ า ใ จ ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง ทั ก ษ ะ ที ม ง า น ท่ี มี ป ร ะ สิ ท ธิ ผ ล ต า ม ทั ศ น ะ ข อ ง Rose
ชัดเจนดแี ลว้ หรือไม่
[ ] ชดั เจนดีแลว้ [ ] ยังไม่ชัดเจนดพี อ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกคร้ัง แล้วตอบคาถามในใจว่า Rose กล่าวถึง
ลักษณะของทกั ษะทมี งานท่มี ีประสทิ ธิผล วา่ อยา่ งไร?
3) ท่านเข้าใจ ลักษณะของทักษะทีมงาน ท่ีมีประสิทธิผล ตามทัศนะของ Wroblewski
ชดั เจนดแี ล้วหรือไม่
[ ] ชัดเจนดีแลว้ [ ] ยงั ไมช่ ดั เจนดพี อ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกคร้ัง แล้วตอบคาถามในใจว่า Wroblewski
กล่าวถึงลกั ษณะของทักษะทีมงานที่มปี ระสิทธผิ ล วา่ อย่างไร?

39

4) ท่านเข้าใจลักษณะของทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล ตามทัศนะของ The Pitcher Website
ชัดเจนดแี ลว้ หรือไม่
[ ] ชดั เจนดแี ลว้ [ ] ยังไม่ชัดเจนดีพอ
หากยงั ไมช่ ดั เจนดีพอ โปรดกลบั ไปศึกษาใหม่อีกคร้งั แล้วตอบคาถามในใจว่า The Pitcher Website
กลา่ วถึงลกั ษณะของทักษะทีมงานที่มปี ระสทิ ธผิ ล วา่ อยา่ งไร?

5) ท่านเข้าใจลักษณะของทักษะทีมงานท่ีมปี ระสิทธผิ ล ตามทัศนะของ Center for Management
& Organization Effectiveness Website : CMOE ชัดเจนดีแล้วหรอื ไม่
[ ] ชดั เจนดีแล้ว [ ] ยงั ไม่ชดั เจนดีพอ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกคร้ัง แล้วตอบคาถามในใจว่า Center for
Management & Organization Effectiveness Website : CMOE กล่าวถงึ ลักษณะของทักษะ
ทีมงานทีม่ ีประสทิ ธิผลวา่ อยา่ งไร?

6) ท่านเข้าใจลักษณะของ ทักษะทีมงาน ท่ีมีประสิทธิผล ตามทัศนะของ DeBattiste
ชดั เจนดีแลว้ หรือไม่
[ ] ชดั เจนดีแลว้ [ ] ยงั ไม่ชดั เจนดพี อ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกคร้ัง แล้วตอบคาถามในใจว่า DeBattiste
กล่าวถึงลกั ษณะของทกั ษะทมี งานท่ีมีประสทิ ธิผล วา่ อย่างไร?

7) ท่านเข้าใจลกั ษณะของทักษะทีมงานที่มีประสทิ ธผิ ล ตามทศั นะของ Pole ชดั เจนดีแล้วหรอื ไม่
[ ] ชดั เจนดแี ลว้ [ ] ยงั ไมช่ ัดเจนดีพอ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกครั้ง แล้วตอบคาถามในใจว่า Pole กล่าวถึง
ลักษณะของทักษะทมี งานทม่ี ปี ระสิทธผิ ล ว่าอยา่ งไร?

8) ทา่ นเขา้ ใจลักษณะของทักษะทีมงานท่ีมปี ระสิทธิผล ตามทศั นะของ Pope ชัดเจนดแี ล้วหรือไม่
[ ] ชัดเจนดีแล้ว [ ] ยังไม่ชดั เจนดพี อ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกคร้ัง แล้วตอบคาถามในใจว่า Pope กล่าวถึง
ลกั ษณะของทกั ษะทมี งานที่มปี ระสทิ ธผิ ล ว่าอยา่ งไร?

9) ทา่ นเขา้ ใจลกั ษณะของทักษะทีมงานที่มปี ระสทิ ธิผล ตามทัศนะของ Kalesi ชดั เจนดีแล้วหรือไม่
[ ] ชดั เจนดแี ล้ว [ ] ยงั ไม่ชดั เจนดพี อ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกครั้ง แล้วตอบคาถามในใจว่า Kalesi กล่าวถึง
ลกั ษณะของทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธผิ ลวา่ อย่างไร?

40

10) ท่ า น เ ข้ า ใ จ ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง ทั ก ษ ะ ที ม ง า น ท่ี มี ป ร ะ สิ ท ธิ ผ ล ต า ม ทั ศ น ะ ข อ ง Deering
ชัดเจนดแี ลว้ หรอื ไม่
[ ] ชัดเจนดแี ลว้ [ ] ยังไม่ชดั เจนดีพอ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกครั้ง แล้วตอบคาถามในใจว่า Deering กล่าวถึง
ลกั ษณะของทกั ษะทีมงานทีม่ ปี ระสิทธผิ ล ว่าอย่างไร?

11) ท่านเข้าใจลักษณะของ ทักษะทีมงาน ที่มีประสิทธิผล ตามทัศนะของ Brounstein
ชดั เจนดีแลว้ หรอื ไม่
[ ] ชดั เจนดแี ล้ว [ ] ยังไม่ชดั เจนดพี อ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกครั้ง แล้วตอบคาถามในใจว่า Brounstein
กล่าวถึงลกั ษณะของทักษะทมี งานท่ีมีประสิทธิผล วา่ อยา่ งไร?

12) ท่านเข้าใจลั ก ษ ณ ะ ข อ ง ทั ก ษ ะ ที ม งา น ท่ี มี ปร ะสิ ทธิ ผล ตามทัศนะ ข อ ง Cameron
ชัดเจนดแี ลว้ หรอื ไม่
[ ] ชัดเจนดีแล้ว [ ] ยังไมช่ ัดเจนดีพอ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกครั้ง แล้วตอบคาถามในใจว่า Cameron
กล่าวถึงลกั ษณะของทักษะทมี งานทมี่ ีประสทิ ธิผล วา่ อยา่ งไร?

หมายเหตุ

หากต้องการศึกษารายละเอียดของแต่ละทัศนะจากต้นฉบับที่เป็นภาษาอังกฤษ โปรด “Ctrl & Click”
เว็บไซต์ของแตล่ ะแหล่งได้ ดังน้ี

1) Bridgeman : https://medium.com/@davidbridgeman/the-6-characteristics-of-effective-
teams-as-revealed-through-escape-rooms-12fe515df53f

2) Rose : https://skillpath.com/blog/8-characteristics-of-an-effective-team-
3) Wroblewski : https://smallbusiness.chron.com/characteristics-effective-teamwork-

691.html
4) Pole : https://www.collegerecruiter.com/blog/2015/07/14/10-qualities-of-an-excellent-

team-player-at-any-workplace
5) Pope : https://biz30.timedoctor.com/team-member-qualities/
6) Kalesi : https://www.elorus.com/blog/star-qualities-effective-teamwork/
7) Deering : https://theundercoverrecruiter.com/qualities-successful-work-team/

41

8) Brounstein : https://www.dummies.com/business/human-resources/employee-
engagement/ten-qualities-of-an-effective-team-player/

9) The Pitcher Website : https://thepitcher.org/four-characteristics-effective-team-work/
10) Center for Management & Organization Effectiveness Website :

https://cmoe.com/blog/characteristics-great-team-player/
11) DeBattiste : https://alliancetac.com/team-building-training/articles-and-tips/the-12-

essential-characteristics-of-teamwork-article
12) Cameron : https://bizfluent.com/about-5377583-effective-teamwork-skills.html

เอกสารอ้างองิ
Bridgeman, D.F. (2018). The 6 characteristics of effective teams : As revealed through escape

rooms. Retrieved August 21,2020, from https://rb.gy/aqb3jr

Rose, D. (2019). 8 Characteristics of an effective team. Retrieved August 20,2020, from
https://rb.gy/lwjb4b

Wroblewski, M.T. (2019). Characteristics of effective teamwork. Retrieved August 21,2020,
from https://rb.gy/h8byzd

Pole, L. (2017). Teamwork in the workplace: 10 qualities of an excellent team player.
Retrieved August 15,2020, from https://rb.gy/bhxxuy

Pope, A. (2017). 15 Qualities of a great team member. Retrieved August 15,2020, from
https://rb.gy/zohnta

Kalesi, I. (2019). 10 Star qualities for effective teamwork. Retrieved August 15,2020, from
https://rb.gy/wqd1rh

Deering, S. (2020). Top 7 qualities of a successful team. Retrieved August 15,2020, from
https://rb.gy/xleino

42

Brounstein. (n.d.) Ten qualities of an effective team player. Retrieved August 15,2020, from
https://rb.gy/hrrrfa

The Pitcher Website. (2018). Four characteristics of effective team work. Retrieved August
15,2020, from https://rb.gy/vyimq8

Center for Management & Organization Effectiveness Website. (n.d.) The 7 characteristics of a
great team player. Retrieved August 15,2020, from https://rb.gy/nkfe5z

DeBattiste, A. (2015). The 12 essential characteristics of teamwork. Retrieved August 21,2020,
from https://rb.gy/0xtjlc

Cameron, S. (2019). Effective teamwork skills. Retrieved August 22,2020, from
https://rb.gy/bxpgnx

43

คูม่ ือชดุ ที่ 4

ทศั นะเก่ยี วกบั แนวทางการพฒั นาทกั ษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล

นายสุปนั สายสินธุ์

44

คมู่ อื ชุดท่ี 4
ทัศนะเกี่ยวกบั แนวทางการพัฒนาทกั ษะทมี งานท่มี ีประสทิ ธิผล

วัตถปุ ระสงค์การเรียนรู้

หลังจากการศึกษาคู่มือชุดนี้แล้ว ท่านมีพัฒนาการด้านพุทธิพิสัย (Cognitive Domain) ซ่ึงเป็น
จุดมุ่งหมายทางการศึกษาท่ีเกี่ยวข้องกับสมรรถภาพทางสมองหรือสติปัญญาตามแนวคิดของ Benjamin S.
Bloom โดยจาแนกพฤติกรรมในขอบเขตน้ีออกเป็น 6 ระดับ เรียงจากพฤติกรรมที่สลับซับซ้อนน้อยไปหามาก
หรือจากทักษะการคิดข้ันต่ากว่าไปหาทักษะการคิดขั้นสูงกว่า ดังน้ี คือ ความจา (Remembering) ความ
เขา้ ใจ (Understanding) การประยกุ ต์ใช้ (Applying) การวิเคราะห์ (Analyzing) การประเมิน (Evaluating)
และการสร้างสรรค์ (Creating) ดงั นี้

1. บอกคุณสมบตั ิ จับคู่ เขียนลาดบั อธบิ าย บรรยาย ขีดเสน้ ใต้ จาแนก หรือระบุแนวทางการพัฒนา
ทักษะทมี งานท่ีมปี ระสิทธิผลได้

2. แปลความหมาย อธิบาย ขยายความ สรุปความ ยกตัวอย่าง บอกความแตกต่าง หรือเรียบเรียง
แนวทางการพัฒนาทักษะทมี งานท่ีมปี ระสิทธผิ ลได้

3. แก้ปัญหา สาธิต ทานาย เช่ือมโยง ความสัมพันธ์ เปลี่ยนแปลง คานวณ หรือปรับปรุงแนว
ทางการพัฒนาทักษะทมี งานท่มี ปี ระสทิ ธผิ ลได้

4. แยกแยะ จัดประเภท จาแนกให้เห็นความแตกต่าง หรือบอกเหตุผลแนวทางการพัฒนาทักษะ
ทมี งานท่มี ปี ระสิทธิผลได้

5. วดั ผล เปรยี บเทียบ ตคี า่ ลงความเห็น วิจารณ์แนวทางการพฒั นาทกั ษะทมี งานท่ีมปี ระสิทธผิ ลได้
6. รวบรวม ออกแบบ จัดระเบียบ สร้าง ประดิษฐ์ หรือวางหลักการแนวทางการพัฒนาทักษะ

ทีมงานที่มปี ระสิทธผิ ลได้

หลังจากการศึกษาทัศนะเก่ียวกับแนวทางการพัฒนาทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล ในคู่มือชุดนี้แล้ว ท่าน
สามารถอธบิ ายได้ถงึ แนวทางการพัฒนาทักษะทีมงานที่มีประสทิ ธผิ ล จากทศั นะทน่ี ามากล่าวถึงแต่ละทัศนะ ดังนี้

1. แนวทางการพัฒนา ทกั ษะทีมงานทีม่ ปี ระสทิ ธิผล ตามทัศนะของ Iyer and Madan
2. แนวทางการพฒั นา ทักษะทมี งานที่มีประสทิ ธิผล ตามทัศนะของ Wigston
3. แนวทางการพฒั นา ทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล ตามทัศนะของ Price
4. แนวทางการพัฒนา ทกั ษะทมี งานที่มีประสทิ ธิผล ตามทศั นะของ Heathfield
5. แนวทางการพฒั นา ทกั ษะทีมงานที่มปี ระสิทธผิ ล ตามทศั นะของ Pope
6. แนวทางการพัฒนา ทักษะทีมงานท่ีมปี ระสิทธผิ ล ตามทัศนะของ SmashVC Website

45

คาช้แี จง
4) โปรดศึกษาเน้ือหาเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล จากทัศนะที่นามา
กล่าวถึงแต่ละทัศนะ โดยแต่ละทัศนะท่านจะต้องทาความเข้าใจท่ีสามารถอธิบายกับตัวเองได้วา่
เขากล่าวถงึ แนวทางการพัฒนาว่าอย่างไร
5) หลังจากการศึกษาเน้ือหาแต่ละทัศนะแล้ว โปรดทบทวนความรู้ความเข้าใจของท่านอีกคร้ัง
จากแบบประเมินผลตนเองในตอนทา้ ยของคมู่ ือ
6) เนื้อหาเก่ียวกับแนวทางการพัฒนาทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล จากทัศนะที่นามากล่าวถึง
แต่ละทัศนะมีแหล่งอ้างอิงตามที่แสดงไว้ในตอนท้ายหลังแบบประเมินผลตนเอง หากท่าน
ต้องการศึกษารายละเอียดของทัศนะเหล่านั้น ซ่ึงต้นฉบับเป็นบทความภาษาอังกฤษ ท่าน
สามารถจะสืบคน้ ตอ่ ได้จากเว็บไซตท์ ี่ระบุไว้ในแหล่งอ้างอิงน้ันๆ

ทศั นะเกยี่ วกับแนวทางการพัฒนาทักษะทีมงานที่มีประสิทธผิ ล
1. แนวทางการพัฒนาทักษะทีมงานทมี่ ีประสิทธิผล ตามทศั นะของ Iyer and Madan
Iyer& Madan (2020) ซึ่งเป็นโค้ชการใช้ชีวิตอย่างมีสติและหัวหน้าด้านสุขภาพที่ Mu Sigma

Business Solutions ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจ Startup ที่เกิดขึ้นภายในท้องถิ่นลาดับแรกของประเทศอินเดีย
เธอมีประสบการณ์มากกว่า 10 ปีในการปฏิบัติงาน ได้รับการฝึกฝนอย่างครอบคลุม ภายใต้การดูแล
ของผู้ทรงคุณวุฒิในด้านการใช้ชีวิตอย่างมีสติ เน้นการสอนเก่ียวกับการมีสติสัมปชัญญะให้กับทีมในบริษัท
กล่าวถึง แนวทางการพัฒนาทักษะทีมงานที่มีประสทิ ธผิ ลในการสรา้ งทมี ทม่ี ีประสิทธภิ าพ 7 ประการ ดังนี้

1. การพัฒนาการทางานเป็นทีม (Developing Teamwork)
การทางานเป็นทีมและการทางานร่วมกันของทุกคน ต้องใช้ความพยายามอย่างมีสติจากทุกคนในทีม
และผู้นาในการพัฒนาการทางานเป็นทีม ผู้นาต้องสามารถให้วัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ชัดเจนแก่ทุกคน
ในทีมได้ พวกเขาต้องเข้าใจว่าทุกคนในทีมจะสามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการพัฒนาอย่างมืออาชีพ
ได้อย่างไร เม่ือทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้พร้อมแล้ว พวกเขาจะมีภาพที่ชัดเจนข้ึนว่าทีมจาเป็นต้องอยู่ร่วมกัน
อย่างไร และวิธีการทีท่ มี จะช่วยสนบั สนุนวัตถุประสงคข์ ององค์กรในระยะยาว
2. การสือ่ สารทีด่ ี (Communicate Well)
การส่ือสารอย่างมีประสิทธิภาพต้องทาอย่างสม่าเสมอเพื่อให้ทุกคนสามารถแบ่งปันมุมมองและ
ความคิดเห็นได้ นอกจากน้ี พึงระลึกไว้เสมอว่าในการสื่อสารกับทีมให้ได้ผลดี ควรเลือกคาพูด
ที่เหมาะสมเพื่อเป็นการให้กาลังใจ หลีกเลี่ยงการใช้ถ้อยคาวิพากษ์วิจารณ์และคงไว้ซ่ึงน้าเสียงท่ีเป็นมิตร
เพื่อให้ขวัญกาลังใจของทีมอยู่ในระดับสูง จะช่วยเพ่ิมประสิทธิภาพของทีมรวมถึงทีมมีแรงจูงใจ ในการ
ทางานมากขนึ้

46

3. การสรา้ งความไวว้ างใจ (Establishing Trust)
เพ่ือให้ทีมของคุณมีประสิทธิผลมากข้ึน ให้เพิ่มความไว้วางใจในสมาชิกในทีม จุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด
ในการสรา้ งความไวว้ างใจคอื การเพมิ่ ความฉลาดทางอารมณ์ การตระหนักรู้ในตนเอง และขจัดอคติทีเ่ กิดขึ้น
โดยไมร่ ู้ตัว เมื่อทาไดส้ าเร็จ พนกั งานของคุณจะมีความรับผิดชอบมากขึ้นในสิง่ ท่ีพวกเขาทา ซ่ึงช่วยลดโอกาส
ของความขัดแย้ง
4. ประสานกบั สมาชกิ ในทมี (Connect with team members)
การทาความรู้จักสมาชิกในทีมเป็นรายบุคคลน้ันสาคัญ สมาชิกแต่ละคนในทีมของคุณมีลักษณะ
ทักษะ และความสนใจที่แตกต่างกัน เม่ือคุณติดต่อกับพวกเขา คุณจะสามารถวางสมาชิกแต่ละคน
ใหเ้ หมาะสมกบั งานได้ นอกจากน้ยี งั ไดร้ บั รูแ้ นวทางการเสรมิ สร้างและยกระดับความพงึ พอใจในการทางานช่วยลด
ปัจจยั เสี่ยงของสมาชกิ ที่ผดิ หวังกบั การทางาน และทาใหข้ น้ั ตอนการทางานภายในทมี ราบรื่นยง่ิ ขน้ึ อีกดว้ ย
5. สนบั สนนุ ผลงาน (Encourage Contributions)
ที ม ง า น จ ะ มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ ก็ ต่ อ เ มื่ อ พ นั ก ง า น ส า ม า ร ถ เ ส น อ ค ว า ม คิ ด ข อ ง ต น ใ น ท่ี ป ร ะ ชุ ม ไ ด้
โดยตอ้ งเริม่ จากคณุ ในฐานะผู้จัดการก่อน เมือ่ มตี วั อยา่ งและทุกคนพงึ พอใจ พวกเขากจ็ ะปฏิบัตติ าม และ
สมาชิกในทีมของคุณร่วมกันออกแบบ แผนและแนวคิดที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วม
จัดรูปแบบการระดมความคิดที่สามารถฝึกการแบ่งปันความคิดเห็นร่วมกันได้ เม่ือตัวคุณและทีมร่วมกัน
ทางาน การแก้ปัญหาจะกลายเป็นเรือ่ งธรรมชาติมากขน้ึ และประสิทธิภาพของทมี จะเพม่ิ ข้ึนอกี ด้วย
6. สะทอ้ นผลการปฏบิ ัติงาน (Practice Feedback)
ทีมจะทางานได้อย่างยอดเยี่ยมและมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อได้รับการสะท้อนผลที่ถูกต้องการ
สะท้อนผลการปฏิบัติงานไม่เพียงแต่มุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงรายบุคคล แต่ยังมุ่งเน้นที่การพัฒนาวัฒนธรรม
ขององคก์ รใหด้ ีข้ึนด้วย ทีมท่ีประสบความสาเร็จในการทางานจะรับฟังเสียงสะท้อนผลการปฏิบตั ิงานเพ่ือหา
วิธีการพัฒนาตนเอง เป็นการเพ่ิมประสิทธิภาพในการทางานและประสิทธผิ ลต่อไป
7. จดั ใหม้ สี ภาพแวดล้อมในการทางานท่ดี ี (Providing them a good work environment)
การจัดสภาพแวดล้อมการทางานท่ีทาให้ร้สู ึกสบายใจเป็นสิ่งจาเปน็ และจะชว่ ยเพิ่มประสิทธภิ าพใน
การทางาน ทีมงานจะสามารถหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนและจาเป็น เป็นวิธีการสร้างทีมท่ียอดเย่ียม
เนื่องจากสมาชิกทุกคนสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และสร้างความผูกพัน เป็นการเพ่ิมการมีส่วนร่วม
และขวญั กาลงั ใจทีด่ ี

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจแนวทางการพัฒนาทักษะทีมงานที่มี
ประสิทธิผล ตามทศั นะของ Iyer& Madan ว่าอยา่ งไร ? ..................................................
..........................................................................................................................................
.......................................................................................................... ................................

47

2. แนวทางการพัฒนาทักษะทมี งานท่มี ีประสิทธิผล ตามทศั นะของ Wigston
Wigston (2017) ซึ่งเป็นประธานเจ้าหน้าท่ีฝ่ายปฏิบัติการ จากประสบการณ์ความเป็นผู้นา
ระดับสูงและทักษะการนากระบวนการ ทาให้เธอเป็นหุ้นส่วนที่น่าเชื่อถือ และผู้เช่ียวชาญด้านการพัฒนา
องค์กร มีประวัติได้รับการพิสูจน์ว่าประสบความสาเร็จในการเป็นผู้นาด้านการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมใน
บริษัท ท่ีติดอันดับ Fortune 500 และได้สร้างช่ือเสียงให้กับตนเองในฐานะผู้มีอานาจ ในการฝึกอบรมและ
พัฒนา เธอมีประสบการณ์มากกว่า 20 ปีในการสร้างและส่งมอบวิธีการแก้ปัญหาท่ีออกแบบเองให้กับ
Eagle's Flight กล่าวถึง แนวทางการพัฒนาทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล 7 วิธี ในการปรับปรุงการทางาน
เป็นทีมในท่ีทางาน ดงั นี้
1. เข้าใจถึงความสาคัญของความเป็นผนู้ า (Understand the Importance of Leadership)
ทุกทีมต้องการผู้นาท่ีส่งเสริมความรับผิดชอบ เป็นต้นแบบในการสร้างพลัง อานวยความสะดวก
ในการตัดสินใจ และรักษาเสถียรภาพ ผู้นาที่เหมาะสมมักเป็นคนที่รู้จักรายละเอียดของงานมากท่ีสุด
ซึ่งหมายความว่าอาจจะไม่ได้มีประสบการณ์มากมายนักในการเป็นผู้นา หรือแม้แต่ไม่ใช่คนท่ีอาวุโสที่สุด
ในทีมด้วยซ้า บทบาทหน้าที่ของผู้นาจึงมากกว่าการประชุมและรวบรวมรายงานการดาเนินการในทุกๆวัน
แตต่ ้องตระหนักถึงความสาคัญของตนเอง เป็นต้นแบบในพฤติกรรมที่ถกู คาดหวัง และเข้าใจวธิ คี วบคุม และ
ใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของแต่ละบคุ คล เพอื่ ใหบ้ รรลเุ ป้าหมายทก่ี าหนดไว้
2. สร้างจุดสนใจที่เป็นอันหน่ึงอันเดียวกันในเป้าหมาย (Create Unanimous Focus on a
Common Goal)
เมื่อทีมเร่ิมไขว้เขวและหลงทางไปจากวัตถุประสงค์ที่กาหนดไว้ การทางานให้สาเร็จจะใช้เวลานาน
กว่าปกตหิ รือแย่กว่านั้นคือไมส่ าเร็จเลย แมง้ านในทีมจะเป็นงานง่าย ๆ แตส่ มาชิกยังต้องมองว่างานน้นั เปน็
งานของตนเอง และเพ่อื ให้งานนั้นออกมาดีท่สี ุด ทุกคนในทีมจะต้องมจี ุดมุ่งหมาย อย่างเปน็ อันหนึ่งอนั เดียว
รว่ มกนั
3. กาหนดบทบาทในกลมุ่ ยอ่ ยใหช้ ัดเจน (Clearly Define Roles in Subgroups)
แนวทางปฏิบัติท่ีดีท่ีสุดในการสร้างกลุ่มย่อยขึ้น เพ่ือทางานท่ีเฉพาะเจาะจง และยังคงสนับสนุน
เป้าหมายรวม ซ่ึงกลุ่มย่อยจะมีเป้าหมายท่ีเน้นหนักกวา่ เป้าหมายโดยรวมของทีม น่ันหมายความข้อมูลท่ีจะ
ได้รับจากสมาชิกทีมระดับสูง การมุ่งเน้นการมองแบบภาพรวมจะน้อยลง แต่ละกลุ่มย่อยต้องมีผู้นา การ
มุ่งเน้นในเป้าหมายอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวร่วมกัน ต้องอยู่ใต้การบังคับบัญชาของทีมท่ีใหญ่กว่า และ
สนับสนนุ เป้าหมายรวมของทีมอยู่เสมอ
4. ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรท่แี บ่งปันร่วมกนั (Tap into Your Shared Resources)
การจัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพนับเป็นความท้าทายขององ์กร หากมุ่งมั่นปรับปรุงการ
ทางานเป็นทีมต้องทาให้ชัดเจนว่าสมาชิกในทีมสามารถเข้าถึงทรัพยากรท่ีต้องการเพื่อใช้ในการบรรลุ
เป้าหมาย เช่น เคร่ืองมือ เงิน อุปกรณ์ เทคโนโลยี และอ่ืน ๆ อย่างไรก็ตาม ทรัพยากรภายใน

48

อาจมีความสาคัญพอ ๆ กันกับการตั้งใจทางานหรือเอาชนะอุปสรรคของโครงการเพียงคนเดียว หรือ
ทรัพยากรไม่ถูกกระจายอยา่ งเท่าเทยี มกันจะทาให้งานน้ันสาเร็จได้ยาก

5. ใช้การสื่อสารท่ีสมา่ เสมอและมีประสทิ ธิภาพ(Use Frequent and Effective
Communication)

ทุกคนในทีมต้องสามารถพูดได้ว่า "ฉันรู้ส่ิงที่ฉันจาเป็นต้องรู้" และ "ฉันเข้าใจทุกอย่าง" หากไม่แล้ว
มีความเป็นไปได้ที่ทีมจะล้มเหลว กุญแจสาคัญของการส่ือสารในทีม คือต้องถ่ีและมีประสิทธิภาพ การส่ือสาร
ท่ีมีประสิทธิภาพชว่ ยให้สมาชกิ ในทีมตระหนักร้วู า่ เกดิ อะไรข้ึน แตก่ ต็ ้องตีความในส่ิงที่เกิดข้ึนจริง ไดด้ ว้ ย

6. มอบความกระตือรอื รน้ สม่าเสมอ และความพยายามให้แก่กันและกนั (Offer Enthusiastic,
Consistent, and United Effort)

จุดหมายโดยรวมของการสร้างทีมคือการบรรลุเป้าหมาย ซ่ึงต้องใช้ความพยายามของทุกคน
และเม่ือคุณพยายามอย่างมากพอ คุณจะพบว่าตัวเองกาลังหมุนอยู่ในวงล้อเดียวกันของทีม
ทุกคนควรมีความพยายาม สามัคคี และกระตือรือร้นที่สม่าเสมอ แต่น่าเสียดายที่มันไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป
จงึ เปน็ เหตผุ ลที่ผ้นู าตอ้ งแสดงออกถงึ ระดบั ความมุ่งม่ันและกฎระเบียบท่ีสมาชกิ ในทมี คาดหวงั

7. ลดอัตตาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทางาน ( Employ Periodic and Temporary
Suppression of the Ego)

หลักการของการทางานเป็นทีมต้องม่ันใจว่าอัตตาจะไม่เข้าครอบงาเป้าหมายสาคัญ ขัดขวางการมี
ส่วนร่วมของสมาชิกในทีม หรือทาให้ประสิทธิภาพของทีมลดน้อยลง ทีมท่ีสมาชิกมีทัศนคติ ยดึ ความคิดของ
ตนเป็นหลักมันไม่ประสบความสาเร็จ เพราะทีมท่ีประสบความสาเร็จจะรับฟังทุกความคิดเห็นและ
ขอ้ เสนอแนะของสมาชิกในทีม การจะรักษาอตั ตาไว้ให้มีความเหมาะสมต้องมีความสมดลุ ท่ีละเอียดอ่อน ทกุ
คนในทีมต้องต้ังใจจัดการอัตตาของตนและเปลี่ยนโฟกัสจากวาระส่วนตัวไปสู่วัตถุประสงค์ของทีมเพ่ือ
บรรลุผลตามท่ตี อ้ งการอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ

โปรดทบทวนตวั เอง แล้วตอบในใจว่าทา่ นเข้าใจแนวทางการพัฒนาของทักษะทมี งานท่ีมี
ประสิทธิผล ตามทัศนะของ Wigston ว่าอย่างไร ? .........................................
..........................................................................................................................................
.........................................................................................................................................

3. แนวทางการพัฒนาทกั ษะทมี งานที่มปี ระสิทธิผล ตามทัศนะของ Price
Price (2019) ซึ่งเป็นนักการตลาดรับจ้างอิสระ บทความของเธอช่วยให้ผู้อ่านเกิดความ
เปล่ียนแปลง เชิงบวกในการทางานได้ ในช่วงที่เธอไม่ได้ทางาน เธอก็ด่ืมกาแฟดี ๆ และออกผจญภัย คุณ

49

สามารถติดต่อเธอ ได้โดยตรงผ่านทาง LinkedIn Price กล่าวถึง แนวทางการพัฒนาทักษะทีมงานที่มี
ประสิทธผิ ลในการปลูกฝังวัฒนธรรมการทางานเปน็ ทีมทด่ี ีในทที่ างาน 12 ประการ ดงั นี้

1. บทบาทของผ้นู า (The role of leaders)
สมาชิกในทีมกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้จากพฤติกรรมของผู้นา ยกตัวอย่าง เมื่อมีงานหรือโครงการ
บุคคลท่ีคนในองค์กรขอคาแนะนา ดังน้ันจึงควรสร้างการทางานเป็นทีมให้เป็นบรรทัดฐาน พฤติกรรมของ
พวกเขาจะไหลรินผ่านสมาชิกในทีมแต่ละระดับ ไปสู่สมาชิกทุกคนในทีม ในที่สุดท้ังองค์กรก็จะซึมซับ และ
คาดหวังการทางานในทีมผา่ นการมีผ้นู า
2. สอื่ สารได้ทกุ วนั ในทุกทาง (Communicate, every day, every way)
การสื่อสารที่ดีคือหัวใจหลักของการทางานเป็นทีม ซึ่งทีมที่ดีส่ือสารกันได้เป็นอย่างดีและบ่อยคร้ัง
สมาชิกในทีมยินดีที่จะแบ่งปันและระดมความคิดร่วมกัน มีการสะท้อนผล เห็นด้วยและโต้แย้งกันเพ่ือเสนอ
ข้อแตกต่าง การแก้ไขปัญหาที่ดีและเดินหน้าต่อไปเป็นทีมได้ การส่ือสารจึงเป็นสิ่งท่ีดี เกิดขึ้นจากเคร่ืองมือ
ในการทางานรว่ มกนั เชน่ ความชัดเจน การรบั ฟงั วิธกี ารเข้าถงึ เครื่องมือ การตดิ ต่อ พบปะ การแบง่ ปนั ข้อมูล
3. ฝึกฝนร่วมกนั (Exercise together)
ก่อนตัดสินใจเลือกรูปแบบกิจกรรมของทีม สิ่งสาคัญคือต้องประเมินความท้าทายเฉพาะที่เผชิญอยู่
ตัวอย่างเช่น ทีมต้องมีความคุ้นเคยท่ีมากข้ึน หรือต้องปราศจากการขัดแย้ง โดยอาจจะเลือกรูปแบบท่ี
แตกต่างกันตามแต่ละสถานการณ์ ควรพิจารณาในเร่ืองของความถ่ีเช่นเดียวกับการออกกาลังกาย เพราะ
หากฝึกทาบ่อยๆ จะมีประโยชน์และยืนยาวกว่า การทางานเป็นทีมก็คล้ายคลึงกัน หากต้องการบรรลุ
เป้าหมาย ปฏบิ ัติอย่างต่อเนื่องเปน็ รายสปั ดาห์หรอื รายเดอื น
4. กาหนดกฎของทมี (Establish team rules)
การต้ังกฎแต่เนิ่น ๆเป็นสิ่งที่ดีท่ีสดุ กฎไม่จาเป็นต้องเปน็ สิ่งที่ทาให้อึดอัด แต่มีไว้เพื่อให้ทุกคนอยู่ใน
แนวเดียวกัน กฎเกณฑ์มีอยู่ทุกท่ี ไม่ว่าจะเป็นในสนามกีฬา การมีโต้ตอบกันในชีวิตประจาวัน ซึ่งมีไว้เพื่อให้
ทุกคนปลอดภัยและอยู่ในระดับเดียวกัน เราจะก้าวไปข้างหน้าด้วยกันได้อย่างไรหากไม่รู้จุดยืน ซึ่งกฎเกณฑ์
จะปกป้องความสาเรจ็ และประสิทธิผลของทีม
5. ช้ีแจงวตั ถุประสงค์ (Clarify purpose)
หากทมี ไม่เขา้ ใจวตั ถปุ ระสงค์ของงาน ความสนใจและความกระตอื รอื รน้ จะลดลง เพราะฉะน้ัน ต้อง
มีความชัดเจนในสิ่งที่กาลังทาอยู่ ความชัดเจนคือกุญแจสาคัญในการสร้างแรงจูงใจ ดังนั้น ค้นหา
วัตถุประสงค์ของงานปัจจุบันหรือเป้าหมายสุดท้ายให้เจอ และเหตุใดจึงต้องทาตามขั้นตอนเพื่อบรรลุ
เป้าหมาย น่ีไม่เพียงจะทาให้ทุกคนมีแรงจูงใจท่ีสอดคล้องกันเท่านัน้ แต่ยังเป็นวิธีตรวจสอบกระบวนการทีด่ ี
เพ่ือใหแ้ น่ใจวา่ กาลงั ดาเนินการตามขั้นตอนที่ดีท่สี ุด เพือ่ ไปยงั เป้าหมายทีต่ อ้ งการ

50

6. รู้จักและมกี ารให้รางวลั (Recognize and reward)
หากต้องการให้สมาชิกในทีมมีความสุขและทีมแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ต้องมีการสารวจสมาชิกที่ปฏิบัติ
หน้าที่ ได้ดี การได้มีตัวตน เป็นที่รู้จัก ได้รับการยอมรับตลอดจนรางวัลจากหัวหน้าหรือผู้นา จะเป็นกุญแจ
สาคัญให้ทีมประสบความสาเร็จยิ่งขึ้น ซ่ึงรางวัลไม่ได้หมายถึงแค่ท่ีเป็นตัวเงิน เช่น ใช้อีเมลของบริษัทเพื่อ
ขอบคณุ ทงั้ ทีมหรือเป็นรายบุคคล ขอบคุณดว้ ยตนเอง สง่ เสริมในรปู แบบต่าง ๆ โบนัส และเพิ่มวนั หยุดพิเศษ
เป็นตน้
7. พ้นื ทข่ี องสานกั งาน (Office space)
การวจิ ยั จาก Herman Miller พบว่าจาเป็นต้องพฒั นาพ้นื ท่ีทางกายภาพของสานักงานเพ่ือรองรับ
การทางานเป็นทีม “ห้องโครงการที่ทีมสามารถใช้งานได้นานหลายเดือน ห้องประชุมท่ีติดต้ังเครื่องมือการ
ประชุมทางไกลและพื้นที่สาหรับนั่งทางานที่เหมาะสมกับงานที่ใช้ความคิดอย่างหนัก แต่ยังคงความง่ายใน
การปรึกษาหารือกัน เพ่ือตอบสนองความต้องการตา่ ง ๆ ทมี่ ีเม่อื ทางานรว่ มกัน”
8. หยดุ พกั (Take break)
การสร้างทีมสัมพันธ์ไม่จาเป็นต้องเกิดข้ึนในขณะกาลังทางานอย่างแข็งขัน ในความเป็นจริง
มีการพิสูจน์แล้วว่า การหยุดพักด้วยกันอาจส่งผลให้เกิดประสิทธิผลในระดับท่ีสูงขึ้น รวมถึงช่วยประเมิน
เป้าหมายใหม่ที่จาเป็นได้อีกด้วย เช่น การรวมทีมเพ่ือด่ืมกาแฟด้วยกัน หรือซื้อขนมฝากสมาชิกในทีม
ระหว่างทางไปทางาน พบปะพูดคุยกันในช่วงเช้า ซึ่งการพบปะในสภาพแวดล้อมท่ีไม่เป็นทางการ
จะส่งเสริมให้การสื่อสาร การแบ่งปนั และความผูกพนั ระหว่างสมาชิกในทีมดีข้ึน โดยอาจเร่มิ ต้นจากการนัด
ประชุมหลงั เลิกงาน นอกสถานที่ และเดินเทา้ ไปยงั สถานที่นั้นดว้ ยกัน
9. ใหค้ วามสนใจไปยงั จุดแข็ง (Focus on strengths)
คนทุกคนมคี วามแตกต่าง เรามจี ดุ แข็ง ความสนใจ และจดุ อ่อนที่แตกต่างกัน หนงึ่ ในหลกั สาคัญของ
ผู้นาทีมท่ีดี คือการพุ่งความสนใจไปยังจุดแข็งของแต่ละบุคคล และรวบรวมทีมท่ีมีทักษะความสามารถ
เฉพาะตัวเพ่ือให้งานบรรลุเป้าหมาย ตราบใดท่ีสมาชิกในทีมใช้จุดแข็งของตนมาพัฒนาทีม ก็ไม่มีความ
จาเป็นอะไรท่ีต้องไปสนใจในจุดอ่อนของพวกเขา เพราะการพุ่งความสนใจไปยังจุดอ่อนของสมาชิกในทีม
อาจส่งผลกระทบและทาใหป้ ระสทิ ธภิ าพการทางานของทีมลดลง
10. แสดงออกถงึ ความขอบคุณ (Show gratitude)
สมาชิกทุกคนต้องการไดร้ บั คาขอบคณุ เพราะรู้สึกดีกบั ตวั เองและจะทางานหนักขึ้นหากเจา้ นายของ
พวกเขาแสดงความขอบคุณ ขอบคุณทั้งในสิ่งท่ีเล็กและใหญ่ท่ีเพ่ือนร่วมงานปฏิบัติให้ในแต่ละวัน ขอบคุณ
อย่างจริงใจและในเวลาที่เหมาะสม คานึงถึงคุณภาพ ไม่ใช่ปริมาณ เพราะการแสดงออกถึงความขอบคุณ
ไดร้ บั การพิสูจน์แล้ววา่ สามารถทาให้บุคคลรูส้ ึกมีคุณค่าในตนเองและเกิดความไวว้ างใจทเ่ี พิ่มขน้ึ ในที่ทางาน
อกี ด้วย


Click to View FlipBook Version