คู่มือชุดที่ 1-6 RD-สุปัน สายสินธุ์ 4-5-65

51

11. ยอมรบั ในความแตกต่าง (Accept differences)
เป็นเรื่องปกติของทุกองค์กรที่ย่อมมีความคิดเห็นที่แตกต่าง ที่อาจนาไปสู่ความคับข้องใจ ความไม่
เห็นด้วย และอาจจะถึงข้ันขัดแย้ง แต่ในทางกลับกัน คุณสามารถใช้ประโยชน์จากความแตกต่าง ทาให้เกิด
ขึ้นกับโครงการหรือผลิตภัณฑ์ได้ จากมุมมองและแรงจูงใจท่ีเป็นเอกลักษณ์ของบุคคล ซึ่งความแตกต่างจะ
อยูใ่ นทุกวธิ ีการของคุณ หากต้องการให้ทีมอยู่ร่วมกัน ใหพ้ ิจารณาเคล็ดลับท่ีมีประโยชน์เหล่านี้ เชน่ ยอมรับ
ความขัดแย้ง สิ่งเหล่านี้เป็นโอกาสในการเรียนรู้ ความคิดเห็นที่ตรงกันข้ามควรถูกจัดการ ด้วยความเคารพ
และระมัดระวังเพอ่ื ใหแ้ น่ใจวา่ ทกุ คนมีความสุขและเกดิ การเปล่ยี นแปลงขน้ั สงู สดุ
12. ฉลอง (Celebrate)
การฉลองไม่จาเป็นต้องจัดใหญ่โต แต่ควรจัดบ่อย ๆ การทาเช่นนี้ เป็นการผสานเข้ากับ
วัฒนธรรมของทีม ซึ่งจะเกิดประโยชน์ถาวรและมีผลกระทบในทางที่ดี ย้าสมาชิกถึงความสาเร็จที่
พวกเขาได้พิชิตเป้าหมายของทีม ซ่ึงคุ้มค่าท่ีจะมุ่งมั่นต่อไปตลอดจนสร้างแรงจูงใจให้สูงขึ้น

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจแนวทางการพัฒนาทักษะทีมงานที่มี
ประสิทธิผล ตามทศั นะของ Price ว่าอยา่ งไร ? ..............................................................
........................................................................................................................................
........................................................................................................................................

4. แนวทางการพัฒนาทักษะทีมงานท่ีมปี ระสทิ ธิผล ตามทศั นะของ Heathfield
Heathfield (2020) ซ่ึงเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ในปัจจุบัน และท่ีปรึกษา
การพัฒนาองค์กร รวมถึงหุ้นส่วนบรษิ ัทซอฟต์แวร์ TechSmith Corporation กล่าวว่า ระดับความสาเรจ็ ท่ี
แตกต่างกันในการทางาน การจัดสภาพแวดล้อมภายในทีม เพ่ือให้การทางานประสบความสาเร็จ ถือเป็น
รากฐานที่สาคัญสาหรับการสร้างทีมที่ทางานและมีส่วนร่วม การเป็นทีมที่ทางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประสบความสาเรจ็ สงู สดุ กลา่ วถงึ แนวทางการพฒั นาทกั ษะทมี งานทีม่ ปี ระสิทธิผล มเี คลด็ ลบั 10 ข้อ ดงั นี้
1. ทีมงานมีความชัดเจนเกี่ยวกับภารกิจและเป้าหมาย (The Team Is Clear About Its
Mission and Goals) ทีมงานเข้าใจเป้าหมายและมุ่งมั่นในการบรรลุเป้าหมาย ทิศทางและข้อตกลงที่
ชัดเจนเกี่ยวกับภารกิจและจุดประสงค์ มีความสาคัญต่อการทางานเป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพ สมาชิกใน
ทมี ต้องมีภารกิจรวมที่ตกลงกนั ไว้ และให้อุปกรณ์ป้องกันสาหรับทุกสิ่งที่ทีมพยายามทา ความชัดเจนของทีม
จะเพม่ิ ขน้ึ เม่อื องคก์ รมีความคาดหวงั ทช่ี ัดเจนเก่ียวกับงาน เป้าหมาย ความรบั ผดิ ชอบ และผลลัพธ์ของทีม
2. สภาพแวดล้อมของทีมส่งเสริมความเส่ียงท่ีสมเหตุสมผล (The Team Environment
Encourages Reasonable Risks)
การท่ีทีมสร้างสภาพแวดล้อมท่ีสบายใจในการรับความเสี่ยง ที่เหมาะสมในการส่ือสาร การ
สนับสนุนตาแหน่ง และการดาเนินการ สมาชิกในทีมไว้วางใจซ่ึงกันและกันได้โดยไม่มีการเอาผิดหากไม่เหน็
ดว้ ย ความเหน็ ต่างถูกคาดหวงั และเป็นท่ียอมรับได้

52

3. การส่ือสารดว้ ยความเคารพเป็นบรรทัดฐาน (Respectful Communication Is the Norm)
การสอื่ สารคือการเปิดกว้าง ซ่ือสตั ย์ และให้เกียรติ สมาชกิ สามารถแสดงความคิดเหน็ และแนวทาง
แก้ไขปัญหาที่อาจเกิดข้ึนได้ สมาชิกรู้สึกได้ยินและได้ในฟังการพยายามทาความเข้าใจจากสมาชิกคนอื่น ๆ
ในทมี สมาชิกมกี ารกาหนดคาถามเพอ่ื ให้เขา้ ใจในมุมมองของเพ่ือนร่วมทมี อยา่ งลึกซ้งึ ยง่ิ ข้นึ
ถามคาถามเพ่ือขอความกระจ่างและใช้เวลาคิดอย่างถี่ถ้วนในขณะรับฟัง แทนที่การโต้แย้งใน
ระหว่างที่ สมาชิกคนอ่ืนกาลงั พูดอยู่
4. สานกึ ท่ีแขง็ แกรง่ ของความมงุ่ มัน่ ในทมี (Strong Sense of Group Commitment)
สมาชิกมีความรู้สึกได้เป็นส่วนหน่ึงของทีม มีการตัดสินใจและการกระทาอย่างมุ่งม่ันตั้งใจ
เมื่อทีมใช้เวลาในการพัฒนาแนวทางท่ีเป็นมาตรฐานและความสัมพันธ์ในทีมร่วมกันแล้ว ความรู้สึกเป็น
เจา้ ของน้จี ะไดร้ ับการปรับปรงุ และเปน็ แรงเสรมิ
5. สมาชิกในทีมถูกมองว่าเป็นคนพิเศษ (Team Members Are Viewed As Unique
People) สมาชิกในทีมถูกมองว่าเป็นคนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยประสบการณ์ มุมมอง ความรู้ และ
ความคิดเห็นท่ีมีส่วนช่วยทีม ท้ายที่สุด จุดประสงค์ของการสร้างทีมคือการใช้ประโยชน์จากความแตกต่าง
ของสมาชิก ทีมสามารถนาเสนอมุมมองท่ีแตกต่างอย่างมีความรอบคอบ และมีข้อเท็จจริงสนับสนุนความ
คิดเหน็ ให้ดยี ่ิงขึน้
6. ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมเป็นมาตรฐาน (Creativity and Innovation Are the
Norms) ความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และมุมมองที่แตกต่างกันถูกคาดหวังและให้การสนับสนุน
ความคิดเห็นเช่น "เราลองแล้วและไม่ได้ผล" และ "ช่างเป็นความคิดที่โง่เขลา" เป็นการไม่อนุญาตหรือ
ไม่สนับสนุน จุดแข็งของทีม คือสมาชิกทุกคนนาความหลากหลายมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหา ปรับปรุง
กระบวนการ บรรลุเปา้ หมาย หรือสรา้ งส่ิงใหมท่ ี่น่าต่นื เต้น
7. ทีมสามารถตรวจสอบตัวเองได้อย่างต่อเน่ืองและปรับปรุงกระบวนการ (Engages in
Continuous Improvement) แนวทางปฏิบัติ และปฏิสัมพันธ์ของสมาชิกในทีม ร่วมอภิปรายถึง
มาตรฐานของทีมและส่ิงที่อาจเปน็ อปุ สรรคต่อความก้าวหนา้ ความพยายามทเ่ี พิ่มมากข้ึน ความสามารถ และ
กลยทุ ธ์ของการทางานได้อย่างเปิดเผย มกี ารประชุมเพ่อื ประเมินกระบวนการและความคบื หนา้ ในการบรรลุ
เป้าหมาย มคี วามเข้าใจทช่ี ัดเจนเกยี่ วกับการพัฒนาทีมใหป้ ระสบความสาเรจ็
8. แก้ปัญหาการทางานเป็นทีมและความขัดแย้ง (Solves Teamwork Problems and Conflicts)
ทีมตกลงกนั ในขน้ั ตอนการวินิจฉัย วเิ คราะห์ แกไ้ ขปัญหาการทางานและข้อขัดแย้งไม่สนับสนุน ความขดั แย้งและ
การปะทะกันของสมาชิก ไมเ่ ลือกข้างแต่ทางานเพื่อแก้ไขปญั หาความขัดแยง้ รวมกัน
9. ฝึกความเป็นผู้นาแบบมีส่วนร่วม (Practices Participative Leadership) ผู้นาแบบมีส่วนร่วม
ได้รับการฝึกฝนจากการประชุมผู้นา การมอบหมายงาน การตัดสินใจ ภาระผูกพัน และการประเมินความ

53

คืบหนา้ ถือว่าสมาชิกในทมี รบั ผิดชอบร่วมกัน และมที ิศทางสาหรับทีม ซึ่งหมายความว่า สมาชกิ ทุกคนในทีม
ต้องมีสว่ นรว่ มอย่างแขง็ ขันในการนาทีมไปสคู่ วามสาเร็จ

10. ตัดสินใจอยา่ งมคี ุณภาพในฐานะทมี (Makes High-Quality Decisions As a Team)
สมาชิกได้รับการสนับสนุนและความมุ่งมั่นจากผู้นาระดับสูง โดยการสาธิตความจาเป็นในการ
ทางานเป็นทีมทั้งสิบข้อนี้ทุก ๆ วัน ทีมได้รับการสะท้อนผลท่ีมีประสิทธิภาพ และเป็นตัวแบบอย่างสาหรับ
ทีมอ่นื ๆ ในความสาเร็จของทมี

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจแนวทางการพัฒนาทักษะทีมงานท่ีมี
ประสิทธิผล ตามทัศนะของ Heathfield ว่าอย่างไร ? .........................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................

5. แนวทางการพัฒนาทักษะทีมงานที่มีประสทิ ธิผล ตามทศั นะของ Pope
Pope (2019) เป็น Amara writes ของ TimeDoctor.com ซ่ึงเป็นซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพ่ือ
ติดตามช่ัวโมงและเพิ่มประสิทธิภาพการทางานสาหรับทางไกลได้กล่าวถึง 10 เคล็ดลับที่เป็นท่ียอมรับเพื่อ
ปรับปรุงการทางานเป็นทีม และการทางานเป็นทีมที่ดีช่วยสร้างขวัญกาลังใจในที่ทางาน ช่วยให้สมาชิกมี
ประสิทธิผลมากข้ึน องค์กรท่ีการทางานเป็นทีมยอดเยี่ยม จะแก้ไขปัญหาได้ง่ายขึ้น เพราะสมาชิกที่มีทักษะ
และความรู้ท่ีแตกต่างจะทางานร่วมกันเพื่อผลลพั ธ์ที่สร้างสรรค์ กล่าวถึง แนวทางการพัฒนาทักษะทีมงานที่
มีประสทิ ธิผล ในการปรับปรงุ การทางานเปน็ ทมี ภายในองคก์ ร 10 ขอ้ ดงั น้ี
1. ส่งเสรมิ กจิ กรรมทางสังคมที่ไม่เป็นทางการ (Encourage Informal Social Events)
การบังคับให้คนเข้าร่วมในกิจกรรมการสร้างทีมนั้น ส่งผลเสียต่อการทางานเป็นทีมท่ีดี หากให้ทีม
เกิดข้ึนเองตามธรรมชาติจะมีประสิทธิภาพมากกว่า ในสภาพแวดล้อมท่ีมีความกดดันต่าและไม่เป็นทางการ
สมาชกิ ในทีมสามารถทาความรจู้ ักและสรา้ งความผูกพันซึง่ จะส่งต่อไปยังสานักงาน แทนทีจ่ ะจัดงบประมาณ
สาหรับกิจกรรมการสรา้ งทีมให้ซบั ซ้อน คุณสามารถจัดงบประมาณสาหรบั การทากิจกรรมร่วมกันแบบเรยี บ
ง่าย วธิ ีนช้ี ว่ ยใหป้ ระหยดั เงินได้มากและใหผ้ ลลัพธ์ที่ดขี ึน้ ในแง่ของการทางาน เป็นทีมและขวัญกาลังใจ
2. ชี้แจงบทบาท (Clarify Roles)
หากมีความคลุมเครือเก่ียวกับบทบาทและความรับผิดชอบ การทางานร่วมกันจะไม่มีประสิทธิภาพ
ที่แย่ไปกว่าน้ัน อาจจบด้วยการมอบหมายงานให้ผู้อื่นอย่างไม่เหมาะสม ซ่ึงสร้างความขุ่นเคืองใจ แม้ว่า
พนักงานไม่จาเป็นต้องรู้หน้าท่ีรับผิดชอบแท้จริงของทุกคนในองค์กร แต่สาหรับเพ่ือนร่วมทีมของตนแล้ว
พวกเขาต้องรู้จักหน้าที่และความรับผิดชอบ ดังน้ันองค์กรควร สร้างคู่มือสาหรับแต่ละทีม

54

ในองค์กร โดยมีรายละเอียดวัตถุประสงค์ บทบาท และโครงการ สาหรับงานท่ัวไปที่เก่ียวข้องกับสมาชิกในทีม
ผังปฏบิ ตั ิงานจะช่วยอธบิ ายอย่างชดั เจน วา่ แต่ละคนควรมสี ่วนรว่ มอยา่ งไรและเม่ือใด

3. ระบุเปา้ หมาย (Specify Goals)
เมื่อคุณมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการทางาน การสื่อสารจะคล่องตัวและการทางานเป็นทีมจะ
กลายเป็นเป้าหมายทาใหท้ กุ คนกา้ วไปในทศิ ทางเดียวกนั
4. ใหร้ างวัลการทางานเปน็ ทมี ท่ยี อดเยย่ี ม (Reward Excellent Teamwork)
หนึ่งในวิธีท่ีดีที่สุดในการสร้างความสนิทสนมกันในที่ทางาน คือการให้ยอมรับความสาเร็จของ
พนักงาน ขอบคุณพฤติกรรมท่ีเห็นแก่ผู้อ่ืนเป็นวิธีที่ดีในการสร้างวัฒนธรรมที่เป็นมิตรและดีเย่ียม
หากที่ทางานมีคนได้รับรางวัลจากการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน การทางานเป็นทีมจะค่อยๆดีขึ้นเอง
ตามธรรมชาติ และยกย่องความสาเรจ็ ในการทางานเป็นทีมไดอ้ ยา่ งยอดเยีย่ ม
5. อย่าบริหารงานแบบจจู้ ้ีจุกจิก (Don’t Micro-manage)
เพ่ือให้การทางานเป็นทีมเติบโต จาเป็นต้องมีความเคารพซึ่งกันและกันสิ่งสาคัญคือต้องกาหนด
เป้าหมาย กาหนดเส้นตาย และให้เครื่องมือท่ีจาเป็นกับพนักงาน เพ่ือให้ทางานได้อย่างเต็มความสามารถ
หากคุณบริหารงานแบบจู้จ้ีจุกจิก ประสิทธิภาพการทางานของพนักงานมีแนวโน้มลดลง และพวกเขาจะทา
สิ่งที่ถูกใจมากขึ้น แม้ว่าพนักงานจะมีความมุ่งม่ันอย่างเต็มที่ต่อองค์กร แต่พวกเขาจะไม่แสดงความสามารถ
อยา่ งเตม็ ที่หากมีการติดตามหรือเฝ้าดูอย่างใกลช้ ิด ควรสร้างวฒั นธรรมแห่งความไวว้ างใจ ความเคารพ และ
ความซอ่ื สัตย์ หากคณุ สร้างวฒั นธรรมท่ดี ีเยย่ี ม การทางานเป็นทมี ก็จะเติบโตอย่างเป็นธรรมชาติ
6. สร้างการสือ่ สารทีม่ ปี ระสิทธภิ าพ (Establish Effective Communications)
การฝึกการส่ือสารที่ดีเป็นส่ิงสาคัญ คุณสามารถปรับปรุงการสอ่ื สารในที่ทางาน โดยให้นโยบายการ
ส่ือสารอย่างเป็นทางการและแนะนาพนักงานใหม่ให้รู้จักในระหว่างการปฐมนิเทศ นโยบายน้ีควรกล่าวถึง
ชอ่ งทางการสื่อสารสาหรบั สถานการณ์เฉพาะ วธิ สี ือ่ สารกับผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา เหตุใดคณุ จึงควรหลกี เลี่ยง
ศพั ท์ทางเทคนคิ และอ่ืน ๆ ทมี ผู้บรหิ ารควรเปน็ แบบอย่างและแสดงการสือ่ สารที่ดใี ห้เห็น เชน่ การสนับสนุน
ใหผ้ ู้จัดการรับฟังผูใ้ ตบ้ ังคบั บัญชาอย่างรอบคอบ และขอความคดิ เห็นอยา่ งตรงไปตรงมา
7. ฉลองความเป็นตัวของตวั เอง (Celebrate Individuality)
คาว่า Team เมื่อทางานเป็นทีม ให้เอาทีมมาก่อน เอาตัวเองไว้ทีหลัง ปรัชญานี้จะเหมาะสมในยุค
อุตสาหกรรมเมื่อสมาชิกถูกแทนท่ีได้ด้วยเทคโนโลยี และเคร่ืองจักรกลเข้ามามีบทบาทแทนมนุษย์ หากคุณ
และสมาชิกมีทักษะเฉพาะด้าน สมาชิกในทีมสามารทางานร่วมกับการใช้เทคโนโลยีได้ และประสบ
ความสาเร็จมากกวา่ เปา้ หมายทตี่ ัง้ ไว้ สมาชิกในทีมจงึ เกิดความภาคภมู ใิ จในตนเอง
8. ใชเ้ ครือ่ งมอื การจดั การโครงการ (Use Project Management Tools)
การยอมรับแนวทางปฏิบัติในการทางานที่ยืดหยุ่นสามารถปรับปรุงการทางานเป็นทีมได้อย่างมาก
แต่เมอ่ื คณุ ใช้เครอื่ งมอื ที่เหมาะสม การสื่อสารและทางานร่วมกนั โดยการโตต้ อบแบบไม่ตอ้ งเห็นหน้ากัน

55

เช่น การใช้อีเมลและข้อความตอบกลับจะดี ทาให้เข้าใจตรงกัน แต่คุณอาจต้องจัดประชุมทางวิดีโอ
ทกุ สัปดาหเ์ พอ่ื ใหส้ มาชกิ ในทีมสามารถส่อื สารผ่านช่องทางทใี่ กล้ชดิ ย่ิงข้นึ

9. รบั คาติชมจากทุกคน (Get Feedback From Everyone)
การขอความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทุกบทบาทภายในองค์กร ตั้งแต่พนักงานต้อนรับไปจนถึง
ประธานบริหารเป็นส่ิงดีที่ หากทุกคนในองค์กรสามารถให้ข้อเสนอแนะที่มีความหมาย ผ่านช่องทางท่ีพวก
เขาต้องการ และหากฝ่ายบริหารให้ความสาคัญกับความคิดเห็นน้ีอย่างจริงจังและมีการเปล่ียนแปลงท่ี
เหมาะสม จะสามารถ สร้างวัฒนธรรมการทางานที่ดีเย่ียมทาให้ทุกคนเห็นคุณค่าในตนเองเมื่อผู้คนรู้สึกมี
คณุ ค่า พวกเขาทางานร่วมกนั อยา่ งมีประสิทธิภาพมากขึ้น
10. จ้างงานอยา่ งชาญฉลาด (Hire Wisely)
องค์กรส่วนใหญ่จะปรับปรุงกระบวนการจ้างงานของตนอย่างสมบูรณ์ การปรับปรุงท่ีเพิ่มขึ้นอย่าง
หนึ่ง คือการมีส่วนร่วมกับสมาชิกในทีมมากข้ึน ซึ่งพนักงานใหม่จะได้รับมอบหมายให้ทางานด้วย หากมีการ
ทาเคร่ืองหมายทุกช่องในเรื่องของทักษะและวัฒนธรรม นั่นอาจทาให้ส่งผลเสียมากกว่าผลดีเมื่อพนักงาน
ใหมม่ าทางาน

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจแนวทางการพัฒนาทักษะทีมงานท่ีมี
ประสทิ ธผิ ล ตามทศั นะของ Pope วา่ อย่างไร ? ................................................................
.........................................................................................................................................
.........................................................................................................................................

6. แนวทางการพัฒนาทกั ษะทมี งานท่ีมีประสิทธผิ ล ตามทัศนะของ SmashVC Website
SmashVC Website (2019) กล่าวถึง แนวทางการพัฒนาทักษะทีมงานที่มปี ระสิทธิผล 20 กลยุทธ์
ที่ธุรกิจ startups สามารถใช้ปรับปรุงการทางานเป็นทีมในองค์กรได้ ดังน้ี การทางานเป็นทีมคือส่วนสาคัญ
ของทุกบริษัท สาหรับธุรกิจ startups เมื่อสภาพแวดล้อมการทางานและวัฒนธรรมอยู่ในรูปแบบท่ีทุกคน
ต้องให้ความช่วยเหลือร่วมกันอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา การทางานเป็นทีมต้องอาศัยความร่วมมือและกา ร
ส่ือสาร เพราะหากไมม่ สี ง่ิ น้ี ธุรกจิ อาจประสบปัญหาได้อยา่ งแนน่ อน
20 กลยทุ ธก์ ารทางานเป็นทีม (20 Teamwork Strategies)
1. แบบอย่างจากผูน้ า (Lead by example)
หากคุณต้องการให้ทีมสื่อสารถึงกัน ทางานหนัก สร้างผลลัพธ์ท่ีแข็งแกร่ง และทาให้ธุรกิจ
กา้ วไปขา้ งหนา้ คณุ ต้องเปน็ ผนู้ าในแบบอยา่ งที่อยากให้เกิดขน้ึ กับทีม ปฏิบัตหิ น้าท่ี บทบาทความรบั ผิดชอบ
และความสมั พันธ์กบั เพอ่ื นรว่ มงานในแบบเดียวกับทีค่ ุณอยากให้คนอื่นทา

56

2. สรา้ งความไวว้ างใจและความเคารพ (Build up trust and respect)
หากไม่มีความไว้วางใจและความเคารพซึ่งกันและกัน ระหว่างพนักงานและฝ่ายบรหิ าร บริษัทย่อม
ไม่ประสบความสาเร็จ สมาชิกในทีมต้องไว้วางใจซึง่ กนั และกันในการทาสว่ นของตนเอง และไวว้ างใจผู้นาใน
การชีน้ าไปในทิศทางท่ีถูกตอ้ ง
3.ส่งเสริมการพบปะและเข้าสังคม (Encourage socializing)
จัดสรรเวลาให้สมาชิกในทีมได้รู้จักกันมากยิ่งขึ้น เพ่ือเพิ่มความไว้วางใจ ความเคารพ และความ
เข้าใจ ซึ่งกนั และกัน เป็นส่งิ ทส่ี ามารถทาได้ง่าย ๆ เช่น การไปหาอะไรดื่มหลังเลิกงานหรือจดั งานเล้ียงแบบ
สบายๆในทีท่ างาน เป็นกิจกรรมง่ายๆที่ทาให้เกดิ การพูดคยุ
4. ปลกู ฝงั การส่อื สารทเี่ ปดิ กว้าง (Cultivate open communication)
ส่งเสริมให้สมาชิกในทีมพูดอย่างเปิดเผย แบ่งปันความคิด เสนอแนะ และแสดงความคิดเห็นในทุก
แง่มุมของธุรกิจ การส่ือสารควรเกิดจากทั้งสองทาง และพนักงานควรรู้สึกว่าสามารถสนทนาเพ่ิมเติมท้ังกับ
หวั หนา้ และเพ่ือนรว่ มงาน
5. ร่างบทบาทและความรบั ผดิ ชอบอยา่ งชัดเจน (Clearly outline roles and responsibilities)
ทุกคนในทีมควรมีความเข้าใจที่ชัดเจนว่าบทบาทและความรับผิดชอบภายในกลุ่มของตนคืออะไร
วิธีนี้จะช่วยลดความสับสนหรือเวลาท่ีใช้ในการจัดรูปแบบและมอบหมายงาน เพื่อให้สามารถ
มุง่ ความสนใจไปยงั งานทที่ าอยู่
6. จดั ระเบียบกระบวนการของทมี (Organize team processes)
นอกจากการกาหนดบทบาทท่ีชดั เจนแลว้ ควรมีการกาหนดกระบวนการของทีมสาหรับการทางาน
ในโครงการ การแบ่งปันความลม้ เหลว การสอื่ สารระหวา่ งกัน และการใหข้ ้อเสนอแนะ
7. กาหนดเป้าหมาย (Set defined goals)
แต่ละทมี ควรทราบอย่างแน่ชดั วา่ กาลังทาอะไรอยู่ รวมถงึ เวลาและเปา้ หมายที่วดั ผลไดภ้ ายในกรอบ
เวลาที่กาหนด ซ่ึงสมาชิกสามารถวัดได้ท้ังแบบรายบุคคล และแบบทีมด้วยตนเอง การรู้ว่าตนเองอยู่จุดไหน
เม่อื เทียบกบั เกณฑ์มาตรฐานจะช่วยเพม่ิ แรงจงู ใจและแรงจูงใจในการทางานร่วมกัน
8. รับร้ถู งึ การทางานที่ดี (Recognize good work)
การชื่นชมและยกย่องงานท่ีทาออกมาได้ดีจะช่วยเพ่ิมความมั่นใจและขวัญกาลังใจ ส่งเสริมให้ทีม
และสมาชิกทางานใหด้ ตี ่อไป
9. ประนีประนอมความขัดแย้งอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ (Mediate conflict quickly
and efficiently)
เป็นเร่ืองปกติท่ีความขัดแย้งจะเกิดขึ้นในการจัดต้ังทีม อาจขัดข้องในการส่ือสารในบางจุดหรือ
ปญั หาส่วนตัว วธิ จี ัดการความขัดแย้งควรมีความชดั เจนภายใต้กระบวนการของทีม ถ้าสมาชกิ ในทีมมีปัญหา

57

จะรับมืออย่างไร พวกเขาควรจะพูดกับใครเป็นคนแรก สร้างแนวปฏิบัติและความคาดหวังให้ชัดเจนต้ังแต่
เริ่มต้น จากน้ันจัดการกับสถานการณ์อย่างรวดเร็วเพื่อช่วยให้ทีมเดินหน้าต่อไปและรักษาสภาพแวดลอ้ มใน
การทางานที่ดใี หค้ งไว้

10. ให้สมาชิกในทีมมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ (Allow team members to actively take
part in decision-making)

การมีความรสู้ ึกมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสนิ ใจ ช่วยกระชบั ความสมั พนั ธแ์ ละตาแหน่งในทีมช่วย
ทาใหร้ ูส้ ึกวา่ พวกเขาเป็นส่วนสาคัญมากกว่าเปน็ เพียงแค่ชนิ้ สว่ นใดชิน้ สว่ นหนึง่

11. ใช้ซอฟต์แวรเ์ พอื่ เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการทางาน (Use a task management software)
รวบรวมและปรับปรุงงานของทีม ความคืบหน้า วันครบกาหนด และใช้ซอฟต์แวร์เพ่ือเพิ่ม
ประสิทธิภาพการทางาน ทุกคนตอบรับการใช้งานการออกแบบสินค้าและบริการ (UI designs) และสิ่งท่ี
แสดงเส้นทางของผู้ใช้ในแอปพลิเคชัน (UX flows) ในรูปแบบท่ีแตกต่างกัน วิธีท่ีดีที่สุดคือการทดลองใช้
รปู แบบท่หี ลากหลาย เพ่อื ดูวา่ ชอบรูปแบบใดมากทส่ี ดุ
12. รักษาความสมดุลของงาน (Maintain the balance of work)
เป็นเร่ืองปกติของสมาชิกในทีมที่มีความแตกต่างย่อมทางานออกมาในรูปแบบที่แตกต่างกัน แต่
พยายามให้แน่ใจว่าทุกคนมีภาระงานในปริมาณท่ีใกล้เคียงกัน ไม่ควรมีคนใดคนหน่ึงท่ีแบกภาระหนักของงาน
จดุ มุ่งหมายของการอยูใ่ นทมี คอื การทางานรว่ มกนั เพอ่ื แบง่ ปันภาระและทาสง่ิ ท่ไี ม่สามารถทาไดด้ ว้ ยตนเอง
13. พบกันเปน็ ประจาและมีความผสมผสาน (Meet regularly… and mix it up)
ทีมควรประชุมกัน เป็นประจาเพื่อพบปะพูดคุย ตรวจสอบความคืบหน้าและเป้าหมาย กระจาย
ความคดิ ไปรอบ ๆ รบั รสู้ ิ่งท่สี มาชกิ แตล่ ะคนกาลงั ทาอยู่ วางแผนการประชุมเปน็ ประจาเพ่ือเริ่มการเชอ่ื ม แต่
ต้องแน่ใจว่าใช้เวลได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ลองเปลี่ยนเป็นการประชุมแบบเดินไปคุยไปหรือ
เปล่ียนสถานท่ีการประชุม เช่น ร้านกาแฟ การออกไปนอกที่ทางาน ทาให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นและการสื่อสาร
เปน็ ไปอย่างเปน็ ธรรมชาตมิ ากข้นึ
14. ไมบ่ รหิ ารแบบจู้จจี้ กุ จิก (Don’t micromanage)
แม้ว่าทีมควรประชุมร่วมกันเป็นประจาและกับหัวหน้างาน แต่การไม่จู้จ้ีจุกจิกก็ยังมีความสาคัญอยู่
ใหเ้ วลา พ้นื ที่ และความเป็นอิสระแก่ทมี ในสรา้ งงานดว้ ยตนเอง โดยไมร่ ู้สึกเหมือนจับตามองอยเู่ สมอ
15. ให้พน้ื ที่ (Create space)
ให้พ้นื ที่ทง้ั ทางร่างกายและจิตใจแก่ทีม เพ่ือให้ทางานอยา่ งมีความสุข อาจหมายถงึ การกาหนดเวลา
เฉพาะให้สมาชกิ ไดท้ างานคนเดียว หรอื ไมอ่ นญุ าตให้สง่ หรอื ตรวจสอบอเี มล
ส่ิงต่าง ๆ สามารถสาเร็จได้เร็วขึ้นเม่ือทางานเป็นทีม อย่างไรก็ตาม สมาชิกยังคงต้องการเวลา
ส่วนตัว เพ่อื ทางานสว่ นตัว

58

16. สร้างวฒั นธรรมองคก์ ร (Start team traditions)
เป็นสิ่งที่ต้องลงมือทาในบริษัททันที โดยให้สมาชิกร่วมสร้างวัฒนธรรมองค์กรท่ีเป็นอันหน่ึงอัน
เดียวกันอาจเป็นสิง่ ท่ีน่าขบขันหรือเรียบง่าย เช่น มุกตลกท่ีไม่ฮา หรืออาจเพ่ิมความจริงจังและซับซ้อน ด้วย
การเสนอส่ิงจูงใจเม่ือทีมบรรลเุ ปา้ หมาย หาวธิ ใี หท้ ีมประสานกนั ในอกี ระดับท่ีไม่ใช่แค่เรื่องเกยี่ วกับงาน
17. ใช้ขนาดของทมี ใหเ้ กิดประโยชน์ (Use size to your advantage)
ท้ังทีมใหญ่และทีมย่อยต่างมีความได้เปรียบของตัวเอง ทีมท่ีใหญ่มีกาลังคนมากกว่า แต่ทีมย่อย
มีการมอบหมายงานและความรับผดิ ชอบส่วนบคุ คลในการทางานใหส้ าเร็จมากกวา่ ไม่ว่าทีมจะมีขนาดใด ให้
พิจารณาว่าความตอ้ งการของทมี คืออะไร เพอื่ ให้ไดง้ านที่ดีท่สี ดุ และใชข้ นาดของทีมใหเ้ กดิ ประโยชน์
18. ให้สมาชิกในทมี มสี ่วนช่วยเลอื กสมาชิกใหม่ (Make hiring a team responsibility)
เม่อื มกี ารเพ่มิ สมาชิกใหม่ในบริษทั หรือทีม ใหส้ มาชิกในทมี พจิ ารณาตดั สินใจรว่ ม โดยเฉพาะในกลุ่ม
ย่อยเพราะทักษะ ทัศนคติ และจรรยาบรรณในการทางานของคนหนงึ่ คน ส่งผลตอ่ การเปล่ียนแปลงโดยรวม
ของทีม หากมีการเพ่ิมสมาชกิ ใหม่ สมาชกิ ในทมี สามารถช่วยเลือกคนท่เี หมาะสมท่สี ุดได้
19. ใหข้ ้อเสนอแนะเปน็ ประจา (Give frequent feedback)
ทีมควรได้รับข้อเสนอแนะเป็นประจาจากผู้นาและสมาชิกด้วยกัน อาจจะเป็นความคิดเห็นเก่ียวกับ
งาน ทเี่ สรจ็ แลว้ รวมถึงการแบ่งปันคาถาม ขอ้ มูลเชงิ ลกึ คาชม หรอื ปญั หาทที่ ีมอาจพบรว่ มกนั
20. ใหเ้ วลาในการฉลอง (Take time to celebrate)
ขอบคุณและให้รางวัลทีมท่ีประสบความสาเร็จ ด้วยการฉลองไม่เพียงแต่ให้ความสนุกสนาน แต่ยัง
ตระหนักถึงความต้ังใจของทีมท่ีได้ทางานหนักร่วมกัน เพ่ือบริษัท รวมถึงแสดงออกว่าบริษัทเห็นคุณค่าและ
ซาบซ้ึงกบั ความพยายามของสมาชิก

โปรดทบทวนตัวเอง แลว้ ตอบในใจว่าทา่ นเขา้ ใจแนวทางการพฒั นาของทักษะทมี งานท่ีมี
ประสทิ ธผิ ล ตามทัศนะของ SmashVC Website วา่ อยา่ งไร ? .........................................
..........................................................................................................................................
.................................................................................. ..................................................... ...

59

แบบประเมนิ ตนเอง
1) ท่านเข้าใจแนวทางการพัฒนาทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล ตามทัศนะของ Iyer& Madan

ชดั เจนดแี ลว้ หรอื ไม่
[ ] ชัดเจนดีแลว้ [ ] ยงั ไมช่ ดั เจนดีพอ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกคร้ัง แล้วตอบคาถามในใจว่า Iyer& Madan
กลา่ วถึงแนวทางการพฒั นาทกั ษะทีมงานท่ีมีประสทิ ธิผลวา่ อยา่ งไร?
2) ท่านเข้าใจแนวทางการพัฒนาทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล ตามทัศนะของ Wigston
ชดั เจนดีแล้วหรือไม่
[ ] ชดั เจนดีแล้ว [ ] ยังไมช่ ดั เจนดีพอ
หากยังไม่ชัดเจนดพี อ โปรดกลับไปศึกษาใหมอ่ ีกคร้ัง แล้วตอบคาถามในใจวา่ Wigston กล่าวถึง
แนวทางการพัฒนาทักษะทมี งานท่ีมีประสิทธิผล ว่าอย่างไร?
3) ท่านเข้าใจแนวทางการพัฒนาทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล ตามทัศนะของ Price
ชดั เจนดีแลว้ หรือไม่
[ ] ชัดเจนดแี ล้ว [ ] ยงั ไมช่ ัดเจนดีพอ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกครั้ง แล้วตอบคาถามในใจว่า Price กล่าวถึง
แนวทางการพัฒนาทกั ษะทมี งานที่มปี ระสิทธผิ ล วา่ อยา่ งไร?
4) ท่านเข้าใจแนวทางการพัฒนาทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล ตามทัศนะของ Heathfield
ชดั เจนดแี ลว้ หรอื ไม่
[ ] ชัดเจนดีแลว้ [ ] ยังไมช่ ัดเจนดีพอ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกคร้ัง แล้วตอบคาถามในใจว่า Heathfield
กลา่ วถึงแนวทางการพฒั นาทักษะทมี งานทีม่ ปี ระสิทธผิ ล วา่ อย่างไร?
5) ท่านเข้าใจแนวทางการพัฒนา ทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล ตามทัศนะของ Pope
ชดั เจนดีแล้วหรือไม่
[ ] ชดั เจนดแี ลว้ [ ] ยงั ไม่ชดั เจนดีพอ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกครั้ง แล้วตอบคาถามในใจว่า Pope กล่าวถึง
แนวทางการพัฒนาทักษะทีมงานท่มี ีประสทิ ธิผล วา่ อย่างไร?
6) ท่านเข้าใจแนวทางการพัฒนาทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล ตามทัศนะของ SmashVC Website
ชดั เจนดีแล้วหรือไม่
[ ] ชัดเจนดแี ล้ว [ ] ยังไม่ชัดเจนดพี อ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกคร้ัง แล้วตอบคาถามในใจว่า SmashVC Website
กลา่ วถงึ แนวทางการพฒั นาทักษะทีมงานท่มี ปี ระสิทธิผล ว่าอยา่ งไร?

60

หมายเหตุ
หากต้องการศึกษารายละเอียดของแต่ละทัศนะจากต้นฉบับท่ีเป็นภาษาอังกฤษ โปรด “Ctrl & Click”
เวบ็ ไซตข์ องแตล่ ะแหลง่ ได้ ดังนี้

1) Iyer & Madan : https://blog.vantagecircle.com/effective-team/
2) Wigston : https://www.eaglesflight.com/resource/7-ways-to-improve-teamwork-in-the-

workplace/
3) Price : https://blog.jostle.me/blog/12-easy-ways-to-improve-workplace-teamwork
4) Heathfield : https://www.thebalancecareers.com/tips-for-better-teamwork-1919225
5) Pope : https://biz30.timedoctor.com/teamwork-in-the-workplace/
6) Smash VC Website : 20 Strategies Startups Can Use To Improve Teamwork (smash.vc)

เอกสารอ้างอิง
Iyer, P., & Madan, S. (2020). 7 Ways to build an effective team. Retrieved August 18, 2020,

from https://rb.gy/777inl
Wigston, S. (2017). 7 Ways to improve teamwork in the workplace. Retrieved August 20,

2020, from https://rb.gy/ioih7t
Price, H. (2019). 12 Easy ways to improve workplace teamwork. Retrieved August 23, 2020,

from https://rb.gy/6oy8ne
Heathfield, S.M. (2020). 10 Tips for better teamwork. Retrieved August 15, 2020, from

https://rb.gy/8z3c53
Pope, A. (2019). 10 Surefire tips to improve teamwork in the workplace. Retrieved August

20, 2020, from https://rb.gy/xw8rjs
Smash VC Website. (2019). 20 Strategies startups can use to improve teamwork. Retrieved

August 20, 2020, from https://rb.gy/lhlrts

61

คมู่ อื ชดุ ที่ 5

ทศั นะเก่ยี วกบั ขั้นตอนการพัฒนาทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล

นายสปุ นั สายสนิ ธ์ุ

62

คูม่ อื ชุดที่ 5
ทศั นะเกย่ี วกับขน้ั ตอนการพัฒนาทกั ษะทมี งานทม่ี ปี ระสิทธผิ ล

วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรียนรู้

หลังจากการศึกษาคู่มือชุดนี้แล้ว ท่านมีพัฒนาการด้านพุทธิพิสัย (Cognitive Domain) ซ่ึงเป็น
จุดมุ่งหมายทางการศึกษาที่เก่ียวข้องกับสมรรถภาพทางสมองหรือสติปัญญาตามแนวคิดของ Benjamin S.
Bloom โดยจาแนกพฤติกรรมในขอบเขตน้ีออกเป็น 6 ระดับ เรียงจากพฤติกรรมท่ีสลับซับซ้อนน้อยไปหามาก
หรือจากทักษะการคิดข้ันต่ากว่าไปหาทักษะการคิดขั้นสูงกว่า ดังน้ี คือ ความจา ( Remembering)
ความเข้าใจ (Understanding) การประยุกต์ใช้ (Applying) การวิเคราะห์ (Analyzing) การประเมิน
(Evaluating) และการสรา้ งสรรค์ (Creating) ดงั นี้

1. บอกคณุ สมบตั ิ จับคู่ เขยี นลาดบั อธิบาย บรรยาย ขีดเสน้ ใต้ จาแนก หรือระบุขัน้ ตอนการพัฒนา
ทักษะทีมงานทมี่ ีประสิทธิผลได้

2. แปลความหมาย อธิบาย ขยายความ สรุปความ ยกตัวอย่าง บอกความแตกต่าง หรือเรียบเรียง
ขัน้ ตอนการพฒั นาทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผลได้

3. แกป้ ัญหา สาธิต ทานาย เช่อื มโยง ความสมั พันธ์ เปล่ยี นแปลง คานวณ หรือปรบั ปรุงขั้นตอนการ
พัฒนาทกั ษะทีมงานทม่ี ีประสิทธิผลได้

4. แยกแยะ จัดประเภท จาแนกให้เห็นความแตกต่าง หรือบอกเหตุผลข้ันตอนการพัฒนาทักษะ
ทมี งานทีม่ ปี ระสิทธิผลได้

5. วัดผล เปรียบเทยี บ ตีค่า ลงความเห็น วจิ ารณ์ขัน้ ตอนการพัฒนาทกั ษะทมี งานทมี่ ีประสิทธิผลได้
6. รวบรวม ออกแบบ จดั ระเบียบ สรา้ ง ประดษิ ฐ์ หรือวางหลกั การข้ันตอนการพัฒนาทักษะทีมงาน

ทีม่ ปี ระสิทธผิ ลได้

หลังจากการศึกษาทัศนะเก่ียวกับข้ันตอนการพัฒนาทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล ในคู่มือชุดนี้แล้ว
ท่านสามารถอธิบายได้ถึงขั้นตอนการพัฒนาทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล จากทัศนะท่ีนามากล่าวถึงแต่ละ
ทัศนะ ดงั นี้

1. ขน้ั ตอนการพฒั นา ทักษะทีมงานที่มีประสทิ ธิผล ตามทัศนะของ Chatterton
2. ขนั้ ตอนการพัฒนา ทกั ษะทีมงานที่มปี ระสทิ ธผิ ล ตามทศั นะของ Cardinal
3. ขัน้ ตอนการพฒั นา ทกั ษะทีมงานท่มี ปี ระสิทธผิ ล ตามทัศนะของ Maloney
4. ข้ันตอนการพัฒนา ทักษะทีมงานที่มีประสิทธผิ ล ตามทัศนะของ Eigen
5. ขั้นตอนการพฒั นา ทักษะทีมงานท่ีมปี ระสิทธิผล ตามทัศนะของ Indeed Website

63

คาชี้แจง
1) โปรดศึกษาเน้ือหาเก่ียวกับข้ันตอนการพัฒนาทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล จากทัศนะท่ีนามา
กล่าวถึงแต่ละทัศนะ โดยแต่ละทัศนะท่านจะต้องทาความเข้าใจท่ีสามารถอธิบายกับตัวเองไดว้ ่า
เขากลา่ วถึงขั้นตอนการพัฒนาว่าอย่างไร
2) หลังจากการศึกษาเน้ือหาแต่ละทัศนะแล้ว โปรดทบทวนความรู้ความเข้าใจของท่านอีกคร้ังจาก
แบบประเมินผลตนเองในตอนทา้ ยของค่มู ือ
3) เน้ือหาเก่ียวกับขั้นตอนการพัฒนาทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล จากทัศนะท่ีนามากล่าวถึงแต่ละ
ทัศนะมีแหล่งอ้างอิงตามที่แสดงไว้ในตอนท้ายหลังแบบประเมินผลตนเอง หากท่านต้องการ
ศึกษารายละเอียดของทัศนะเหล่านั้น ซึ่งต้นฉบับเป็นบทความภาษาอังกฤษ ท่านสามารถจะ
สบื ค้นต่อไดจ้ ากเวบ็ ไซต์ทีร่ ะบไุ วใ้ นแหลง่ อา้ งองิ นน้ั ๆ

ทัศนะเก่ียวกับขนั้ ตอนการพัฒนาทกั ษะทีมงานที่มีประสิทธผิ ล
1. ข้นั ตอนการพัฒนาทกั ษะทมี งานที่มีประสิทธิผล ตามทศั นะของ Chatterton
Chatterton (2019) ก ล่ า ว ถึ ง ข้ั น ต อ น ก า ร พั ฒ น า ทั ก ษ ะ ที ม ง า น ท่ี มี ป ร ะ สิ ท ธิ ผ ล

ที่มนุษย์ได้รับแรงจูงใจท่ีสูงและแท้จริงจากการทางานเป็นทีม เป็นแรงจูงใจท่ีลึกซึ้งที่สุดที่ทาให้งานมีความ
สนุกและคุ้มค่าอย่างท่ีคุณทราบ มีเหตุผลหลายประการช่วยทาให้ม่ันใจว่าการทางานเป็นทีมของคุณมี
ประสิทธิภาพ แต่คุณอาจไม่รู้ว่าการทางานเป็นทีมที่ยอดเย่ียมไม่ได้เกิดขึ้นเพราะบุคลิก พฤติกรรม หรือ
ทัศนคติ แตเ่ ป็นเงือ่ นไขท่ีถกู นามาใช้ในทีม นน่ั คอื เปา้ หมายทีน่ ่าสนใจ โครงสรา้ งทีแ่ ข็งแกรง่ สภาพแวดล้อม
ท่ีสนับสนุน และความเข้าใจร่วมกัน เงื่อนไขท่ีถูกนามาใช้ในทีม เคล็ดลับการทางานเปน็ ทีมท่ีมีประสทิ ธิภาพ
4 ประการ ดังนี้

1. ส่งเสริมเปา้ หมายและวตั ถปุ ระสงค์ (Promote a Goal and a Purpose)
อธิบายให้สมาชิกในทีมทราบว่าเป้าหมายคืออะไร ทางานเพ่ืออะไร ซ่ึงเป้าหมายของต้อง

ใหญพ่ อในการจงู ใจไม่ให้รูส้ กึ มากจนเกินไป และตรวจสอบวา่ สมาชกิ ในทีมเขา้ ใจในประโยชน์จากเป้าหมายท่ี
พวกเขาจะได้รับ ซึ่งรางวัลไม่จาเป็นต้องเป็นโบนัสก้อนโตหรือเป็นตัวเงิน แต่เป็นการช่วยให้สมาชิกในทีม
พัฒนาการทางานอย่างมืออาชีพซ่ึงพัฒนาแบบใด เกิดการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆแล้วคุณจะมีสมาชิกในทีมที่มี
แรงจูงใจและมปี ระสทิ ธภิ าพมากขนึ้ ในทันที

2. ทีมของคุณต้องการโครงสร้างที่แข็งแกร่ง (ซ่ึงไม่ใช่สิ่งท่ีคุณคิด) (Your Team Needs a
Strong Structure (It’s Not What You Think))

ทีมท่ีมีโครงสร้างดีนั้นมีทักษะและบุคลากรที่แตกต่างกัน เป็นผลมาจากภูมิหลัง ตัวอย่างเช่น
บางคนมีทักษะทางเทคนิค บางคนมีความคิดสร้างสรรค์ หรือบางคนมีทักษะทางสังคมที่ดี มีมุมมอง
ภูมิหลังทางเศรษฐกิจและสังคมหรือวฒั นธรรม อายุ เช้ือชาติ เพศ แตกต่างกนั กล่าวอกี นัยหน่งึ คือเป็นทีมที่
มคี วามหลากหลายมกั ทางานไม่สะดดุ (จะมีคนที่รู้ทางออกเสมอ) และมแี นวโนม้ คดิ แบบเปน็ กลุ่ม

64

3. วิธีตรวจสอบให้แนใ่ จว่าสมาชิกในทมี ของคุณสือ่ สารกนั ไดด้ ีข้ึน (How to Make Sure Your
Team Members Communicate Better)

การสร้างความเข้าใจร่วมกัน สื่อสารกันบ่อยๆ ไม่ควรเก็บข้อมูลไว้กับตัวเอง ให้จัดต้ังระบบเพื่อ
แบ่งปันข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพแทน สมาชิกในทีมทุกคน พวกเขาล้วนต้องการเหตุผล มั่นใจว่าคุณเปิด
โอกาสให้สมาชิกทุกคนได้แสดงความคิดเห็น หากปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่าน้ี จะมั่นใจได้ว่าข้อมูลจะไม่สูญ
หาย แม้จะเกิดปัญหาทางดิจิทลั หรือเกดิ การสอื่ สารที่ผิดพลาด

4. ทาไมคุณต้องสร้างองค์กรให้สนับสนุนสมาชิกในทีม (Why You Need to Create an
Organization That Supports Team Members)

องค์กรของคุณต้องสนับสนุนบุคลากรให้ทางานได้อย่างราบร่ืนท่ีสุด ตัวอย่างเช่น สร้างโฟลเดอร์หรือ
แพลตฟอร์มสาหรับการส่ือสารกันภายในทีม ทางานร่วมกันในวาระการประชุม รายงานการประชุมการ
เข้าถึงข้อมูลทจี่ าเปน็ สาหรับงานและเอกสารที่ช่วยให้พวกเขาทางาน การฝึกอบรม ทีช่ ว่ ยใหพ้ วกเขาเกิดการ
พัฒนา และผลงานท่ีดีควรได้รับการตอบแทน ดังน้ัน ขั้นตอนการดาเนินงาน ท่ีจะบอกในสิ่งที่คุณต้องทา
เมือ่ ไร และอย่างไร แสดงเป็นภาพรวมท้ังหมด ของโครงการ

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจขั้นตอนการพัฒนาทักษะทีมงานที่มี
ประสิทธิผล ตามทัศนะของ Chatterton ว่าอย่างไร ? .............................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................

2. ขั้นตอนการพฒั นาทักษะทมี งานท่ีมีประสทิ ธิผล ตามทัศนะของ Cardinal
Cardinal (2015) กล่าวถึง ขั้นตอนการพัฒนาทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล ผู้นามักจะนึกถึงคือ
ประสิทธิภาพและความสัมพันธ์ในทีม ตัวบ่งช้ีประสิทธิภาพแสดงให้เห็นวา่ ทีมที่มีประสิทธภิ าพมักจะทางาน
ได้ดีกว่าคนที่ทางานแบบเดี่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่มีความกดดันสูงหรือเม่ือจาเป็นต้องใช้
ทักษะที่หลากหลาย หากมีการส่งเสริมที่ถูกวิธี คุณจะสามารถรวมทีมของคุณให้มีเป้าหมายร่วมกันซ่ึงจะ
ส่งผลให้คณุ ภาพเพิ่มข้นึ 5 ขั้นตอนในการสร้างทมี ท่ีมปี ระสิทธภิ าพและประสิทธิผล ดังน้ี
ขัน้ ตอนท่ี 1 สร้างความเปน็ ผู้นา (Establish leadership)
หากพนักงานเช่ือม่ันในการตัดสินใจของคุณ พวกเขาจะทางานได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้ในเวลาที่
คุณ ไม่อยู่ ก่อนท่ีคุณจะเร่ิมสร้างทีมได้ คุณต้องพัฒนาทักษะความเป็นผู้นาที่เหมาะสมเสียก่อน ไม่ได้
หมายถึง เรื่องอานาจ แต่เป็นการพยายามส่งเสริมความไว้วางใจผ่านความซื่อสัตย์แล ะความโปร่งใส
โดยเฉพาะอย่างย่ิงในองค์กรขนาดใหญ่ ผู้นาไม่สามารถอยู่ได้ทุกที่ในเวลาเดียวกัน แต่ถ้าพนักงานเชื่อในการ
ตดั สนิ ใจของคณุ พวกเขาจะทางานได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพแม้ในขณะทีค่ ุณไม่ได้อยู่ในบรเิ วณใกล้ ๆ

65

ขัน้ ตอนท่ี 2 สรา้ งความสัมพันธ์กับพนักงานรายบุคคล (Establish relationships with each
of your employees)

พยายามเรียนรู้เพ่ิมเติมเก่ียวกับสมาชิกแต่ละคนในทีม ทักษะ แรงจูงใจที่พวกเขาชอบและไม่ชอบ
เป็นข้อมูลท่ีประเมินค่าไม่ได้ พยายามรวมพนักงานไว้ในกระบวนการตัดสินใจหากเป็นไปได้ แทนที่จะ
มอบหมายงานแบบบังคับ ให้มอบหมายงานแบบปลายเปิดเพื่อให้พนักงานหาวิธีการท่ีดีท่ีสุด ซ่ึงจะเป็นการ
กระตุ้นความร่วมมือและพัฒนาทักษะการแก้ปัญหา รวมทั้งช่วยให้วางตาแหน่งให้เหมาะสมกับความ
เช่ียวชาญและความสามารถของพนักงานแต่ละคนได้ ซึ่งจะช่วยเพ่ิมประสิทธิภาพและความพึงพอใจในการ
ทางาน

ข้ันตอนท่ี 3 สร้างความสัมพันธ์ระหว่างพนักงาน (Build relationships between your
employees)

เมื่อทีมเริ่มให้ความร่วมมือมากขึ้น หาวิธีที่ทาให้ทีมทางานร่วมกันตามขั้นตอนต่างๆ เพ่ือปรับปรุง
การส่ือสาร ความร่วมมือ และความไว้วางใจซึ่งกันและกัน หากมีข้อขัดแย้งใดๆ ให้พยายามแก้ไขอย่างเป็น
กันเอง รับฟังกันทั้งสองฝ่ายและเป็นกลาง อีกหนึ่งวิธีคือการระดมความคิดในการแก้ปัญหา ซ่ึงช่วยให้
พนักงานของคณุ มีศกั ยภาพ และอาจนาไปสู่แนวทางแก้ไขปญั หาใหมๆ่

ขั้นตอนท่ี 4 สง่ เสริมการทางานเป็นทมี (Foster teamwork)
ช่วยให้พวกเขาทางานร่วมกันอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ สนับสนุนให้ทีมแบ่งปนั ข้อมูล ทั้งระหว่างกันเอง
และภายในองค์กร พยายามสือ่ สารกับทีมให้มากข้ึน ซงึ่ มากกวา่ แค่การจัดประชุม รวมถงึ สิ่งต่าง ๆ เช่น การ
เปิดรับข้อเสนอแนะและข้อกังวล การติดตามงานกับสมาชิกในทีม ให้ความช่วยเหลือในกรณีท่ีจาเป็น และ
ทาทุกอยา่ งทีส่ ามารถทาได้เพื่อสอื่ สารกบั ทีมอย่างชดั เจนและตรงไปตรงมา
ข้ันตอนที่ 5 ตั้งกฎพน้ื ฐานสาหรับทมี (Set ground rules for the team)
คุณสามารถเรมิ่ ตน้ สร้างทีมอยา่ งเปน็ ทางการโดยการสร้างค่านิยมและเป้าหมายของทมี ตลอดจน
ประเมนิ ประสทิ ธภิ าพของทีมควบคู่ไปกบั ประสิทธิภาพรายบุคคล อย่าลืมใหท้ มี อยูใ่ นขน้ั ตอนเพื่อรบั ทราบ
ความจาเป็นและเห็นด้วยกับกฎนน้ั ๆ การสรา้ งทมี จงึ เปน็ หนง่ึ ในความรบั ผิดชอบทีส่ าคัญท่ีสุด เป็น
กระบวนการทตี่ อ้ งอานวยความสะดวกและใหค้ าแนะนา เม่ือกระบวนการนคี้ ลี่คลาย สมาชกิ ในทมี ของคณุ
จะเร่มิ ไว้วางใจและสนบั สนนุ ซึง่ กนั และกัน และแบง่ ปันชุดทกั ษะและความพยายามของพวกเขาเพื่อใหบ้ รรลุ
เปา้ หมายขององค์กรของคุณอยา่ งมีประสทิ ธิภาพมากขน้ึ

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจข้ันตอนการพัฒนาทักษะทีมงานท่ีมี
ประสิทธผิ ล ตามทัศนะของ Cardinal ว่าอยา่ งไร ? ..........................................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................

66

3. ขนั้ ตอนการพัฒนาทกั ษะทมี งานที่มปี ระสิทธิผล ตามทศั นะของ Maloney
Maloney (2019) กล่าวถึง ขั้นตอนการพัฒนาทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล 5 ขั้นตอนสาคัญเพ่ือ
การทางานเป็นทีมท่ีมีประสิทธิภาพ ในโลกธุรกิจปัจจุบัน องค์กรจะประสบความสาเร็จหรือล้มเหลว ขึ้นอยู่
กับความสามารถและประสิทธภิ าพของทีม จึงเปน็ ส่ิงทา้ ทายในการสร้างทีมทางานที่ดี ดังนี้
1. จา้ งสมาชิกทมี่ ี “ความเหมาะสม” (Hire team members who are a good “people fit”)
ทีมที่ยอดเย่ียมเร่ิมต้นด้วยการจัดหาและการคัดเลือกท่ีแข็งแกร่ง และคุณภาพของทีมไม่ได้ถูก
กาหนดโดยคุณภาพของคนภายในเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคนท่ีเหมาะสมด้วย ลักษณะของผู้สมัครในอุดมคติ
ของแต่ละทีม สามารถใช้เวลาทาความเข้าใจในการสร้างทีมจากองค์ประกอบท่ีมีอยู่แล้ว บางคนอาจทางาน
อิสระได้อย่างดีเย่ียม แต่พวกเขาจะเหมาะสมกับการทางานเป็นทีมหรือไม่ ให้สมาชิกมีส่วนในการสรรหา
และจ้างบุคลากร
2. ปลูกฝงั ความไวว้ างใจและความรบั ผิดชอบ (Cultivate trust and accountability)
การดแู ลทมี อยา่ งระมดั ระวงั หมายความว่า คุณรจู้ กั ความสามารถในการทางานร่วมกนั ของแต่ละคน
ในทีม แต่ทีมจะทางานอย่างมีประสิทธิภาพก็ต่อเม่ือมีความสัมพันธ์ที่เติบโตและแข็งแกร่งขึ้น โดยพ้ืนฐาน
แล้ว สมาชิกในทีมต้องรู้จักกันดีพอจนม่ันใจในความสามารถของเพ่ือนร่วมทีม ในขณะเดียวกันก็ต้องมีส่วน
รบั ผดิ ชอบในแตล่ ะโครงการดว้ ย ซ่ึงวฒั นธรรมเหลา่ นั้นควรเรมิ่ ตน้ มาจากผู้นา
3. ใช้เวลาดาดิ่งสู่การฝึกทีมจากรูปแบบกิจกรรมที่หลากหลาย (Take the time to dive into
team-building exercises)
เพื่อปลูกฝังการทางานเป็นทีมท่ีมีประสิทธิภาพอย่างครอบคลุม ผู้บริหารมีความคาดหวังผู้นา
ในการนาทีมให้ยอมรับและไว้วางใจซ่ึงกันและกัน ในหนังสือ The Five Dysfunctions of a Team
(กับดักห้าประการของการสร้างทีม) Lencioni ได้แนะนาให้หัวหน้าทีมลองเริ่มด้วย "แบบฝึกหัดประวัติ
ส่วนตวั " ซึ่งสมาชกิ ในทีมตอบคาถามสามข้อ ดงั นี้

• คณุ โตทไ่ี หน
• คณุ มลี ูกกี่คน
• อะไรคอื ความท้าทายทยี่ ากหรอื สาคัญท่สี ุดในวัยเด็ก
แบบฝึกหัดการสร้างทีมอ่ืนๆ ได้แก่ แนวทาง "Just Like Me" และ "Anxiety Party" ท่ี Google
ได้พัฒนาขึ้น กิจกรรมเหล่าน้ีช่วยให้สมาชิกในทีมเปิดใจในเรื่องส่วนตัวมากขึ้น ทาให้เกิดมีมนุษยธรรมต่อ
เพื่อนร่วมงาน มีแนวโน้มท่ีสร้างความร่วมมือ เอาใจใส่ และการทางานเป็นทีมท่ีมีประสิทธิภาพในระยะยาว
จากนนั้ เน้นยา้ ถงึ การใหเ้ วลาในการสรา้ งความไวว้ างใจและความโปรง่ ใส
4. แบง่ ปันขอ้ มูลซง่ึ กันและกนั (Share the (informational) wealth)
วิธีรักษาการทางานเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพ คือไว้วางใจซึ่งกันและกัน สมาชิกควรมีสิทธ์ิเข้าถึง
ข้อมลู ท้ังหมดท่ีต้องการ ประสทิ ธิภาพมคี วามสมั พันธโ์ ดยตรงกับความโปร่งใส สมาชิกทกุ คนในทีมควรเข้าใจ

67

ในปัญหาท้ังหมดท่ีพยายามแก้ไข ทีมจะมีประสิทธิภาพสูงสุด เม่ือมีการมุ่งเน้นอย่างไม่ลดละ
ในเปา้ หมายรว่ มกัน หากไมส่ ามารถมองเหน็ ภาพรวมทง้ั หมดได้กเ็ ปน็ เรอ่ื งยากในการบรรลุเป้าหมาย
เช่น การรักษาความโปร่งใสและใช้ระบบที่เป็นเหมือนตัวช่วยในกระบวนการจัดการเอกสาร เช่น Google
Drive และ HelloSign แพลตฟอร์มการจัดการโครงการ เช่น Asana หรือ Trello และระบบเครือข่าย
คอมพิวเตอร์ภายในองค์กร

5. ส่งเสริมวัฒนธรรมท่ีดีต่อสุขภาพที่ยอมรับความขัดแย้งเชิงสร้างสรรค์ (Foster a healthy
culture that welcomes (constructive) conflict)

ส่ิงที่คุณต้องการคือความสามัคคีท่ีสมบูรณ์แบบในองค์กร แต่ความขัดแย้งได้หลอมรวมเข้ากับ
วัฒนธรรมของบริษัท เม่ือทีมเต็มไปด้วยคนที่มีความสามารถและคุณเชื่อใจเพ่ือนร่วมทีม การฝึกฝน "ความ
ซอ่ื สตั ยท์ ่ีมีแหล่งอา้ งอิง" (โดยคาดหวงั วา่ สมาชิกจะสนบั สนุนความคิดเหน็ ด้วยข้อเทจ็ จรงิ ) เป็นวธิ เี ดยี วทาให้
เกดิ การทางานเปน็ ทมี ท่ีมปี ระสิทธภิ าพ ในตอนทา้ ยหากยง่ิ สรา้ งบรรยากาศของความปลอดภยั ทางจิตใจมาก
เท่าใด สมาชิกยิ่งจะเช่ือว่าความคิดและความสงสัยมีคุณค่า สบายใจที่จะทาและยอมรับข้อผิดพลาด ย่ิง
ความคดิ ที่เปน็ จรงิ และเปน็ ผลสาเรจ็ ยง่ิ ถูกนามาใช้ประโยชนม์ ากเทา่ นนั้

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจขั้นตอนการพัฒนาทักษะทีมงานท่ีมี
ประสทิ ธผิ ล ตามทศั นะของ Maloney วา่ อย่างไร ? .........................................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................

4. ข้นั ตอนการพัฒนาทักษะทมี งานที่มีประสิทธผิ ล ตามทศั นะของ Eigen
Eigen (2019) ซึ่งเป็นผูเ้ ขยี น ผลิต และจัดการโปรแกรมการส่ือสารสาหรบั องค์กรระดบั โลกรัฐบาล
มหาวิทยาลัย และองค์กรไม่แสวงหาผลกาไรต้ังแต่ปี 1980 Eigen ได้สอนการสื่อสารทางธุรกิจระดับ
บัณฑิตศกึ ษาและเป็นผู้อานวยความสะดวกท่ีผ่านการรับรองในด้านความหลากหลายของแรงงาน ความเป็น
ผู้นา การสร้างทีม และการนาเสนอที่มีประสิทธิภาพ เธอสาเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านการส่ือสาร
และศิลปศาสตรบัณฑิตสาขาสังคมวิทยาจาก University of Wisconsin-Milwaukee ได้กล่าวถึงขั้นตอน
การพัฒนาทักษะทมี งานท่มี ปี ระสทิ ธผิ ล 7 ข้นั ตอน เพอื่ เพมิ่ ประสทิ ธิภาพของทมี ดังนี้
1. อบรมการจดั การความหลากหลาย (Conduct Diversity Training)
การอบรมการจัดการความหลากหลายช่วยให้สมาชิกเข้าใจคุณค่าของการมีส่วนร่วมของแต่ละ
บุคคลเพ่ือให้บรรลุเป้าหมายร่วมกัน อธิบายว่าภูมิหลัง ทักษะ และมุมมองที่หลากหลายสามารถช่วยค้นหา
วิธีแก้ปัญหาทสี่ รา้ งสรรคม์ ากกวา่ กลุ่มบคุ คลทม่ี ีภูมิหลงั และประสบการณค์ ล้ายกนั ได้อย่างไร

68

2. ค้นหาวธิ ีแก้ไขความขดั แยง้ (Find Ways to Resolve Conflict)
แสดงบทบาทในฐานะหัวหน้าทีมด้วยการหาวิธีแก้ไขความขัดแย้ง ย้าเตือนทีมถึงคุณค่าของการ
ทางานเพ่ือบรรลุเป้าหมายร่วมกัน แสดงความขอบคุณสาหรับการมีส่วนร่วม สร้างความสัมพันธ์ให้สมาชิก
ไว้วางใจ และส่งเสรมิ สมาชกิ ในส่งิ เดยี วกนั
3. อานวยความสะดวกในการสื่อสารของทีม (Facilitate Team Communication)
อานวยความสะดวกในการสื่อสารเป็นทีมและระหว่างบุคคล เป็นตัวอย่างในการรับข้อเสนอแนะท่ี
นา่ กงั วลและอ่อนไหวต่อความร้สู ึก สอื่ สารอยา่ งชดั เจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความคาดหวังและคาแนะนา
สง่ เสรมิ การแบ่งปันขอ้ มูล รบั ฟงั อยา่ งกระตอื รอื รน้ และระดมความคดิ รว่ มกนั
4. ตง้ั วัตถปุ ระสงค์และความคาดหวงั ที่ชัดเจน (Set Clear Objectives and Expectations)
กาหนดเป้าหมายการทางาน กรอบเวลา และความคาดหวังท่ีชัดเจน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกคน
เข้าใจบทบาทและความรับผิดชอบของตนและเพื่อนร่วมทีม สร้างค่านิยมและเป้าหมายของทีม ประเมินผล
การปฏิบัติงานของทีมและความคืบหน้าไปสู่เป้าหมาย ฉลองความสาเร็จพร้อมกับนาเสนอส่ิงท่ียังต้องทาให้
บรรลเุ ปา้ หมายและสงิ่ ท่ีอปุ สรรคอย่างชัดเจน
5. ตั้งกฎพ้ืนฐาน (Set Ground Rules)
ตั้งกฎพื้นฐานกับทีมเพ่ือการปฏิบัติงานและวัดประเมินผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างบางสว่ น
ได้แก่ สมาชิกทุกคนเสนอข้อคิดเห็นเมื่อระดมสมองและหลีกเลยี่ งการตัดสนิ ผอู้ ่ืน ตรงต่อเวลาในการประชุม
ปฏบิ ตั ิตามกาหนดเวลาของโครงการ โดยเป็นกฎพื้นฐานท่ีทกุ คนเห็นด้วย
6. สรา้ งวธิ ีการท่ีเปน็ เอกฉันท์ (Create a Method for Reaching Consensus)
สรา้ งวธิ ีการที่เป็นเอกฉนั ท์และรบั การตดั สนิ ใจจากสมาชิกทุกคน สร้างบรรยากาศของความร่วมมือ
และการแก้ปัญหาร่วมกัน ในการตัดสินใจ มั่นใจว่าสมาชิกทุกคนได้รับแจ้งความคืบหน้าของทีม ทุกคนมี
โอกาสถามคาถามและแสดงความคดิ เหน็ รวมถงึ ไม่เห็นด้วย
7. ฉลองความสาเร็จและผลงาน (Celebrate Accomplishments and Contributions)
ฉลองความสาเร็จและยกย่องการมีส่วนร่วมและความพยายามของทีม ให้รางวัลด้วยการฉลองและ
แจ้งผู้บริหาร ประชาสัมพันธ์ความสาเร็จของในสิ่งพิมพ์ของบริษัท และยกย่องทีมท่ีประสบความสาเร็จให้
เป็นแบบอยา่ งของการทางานรว่ มกนั

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจข้ันตอนการพัฒนาทักษะทีมงานที่มี
ประสทิ ธิผล ตามทัศนะของ Eigen วา่ อย่างไร ? ...............................................................
.........................................................................................................................................
.........................................................................................................................................

69

5. ขั้นตอนการพฒั นาทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล ตามทัศนะของ Indeed Website
Indeed Website (2020) กล่าวถึง ขั้นตอนการพัฒนาทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล
ในการสร้างทีมที่ประสบความสาเร็จ คือ ทีมที่ประสบความสาเร็จจะสนับสนุนให้สมาชิกแบ่งปันความคิด
พิจารณาแนวทางแก้ไข และแก้ปัญหาร่วมกัน ทีมท่ีดีจะเป็นประโยชน์ตอ่ สมาชกิ ในการสนับสนุนเพิ่มโอกาส
ในการพัฒนาทมี ท่ปี ระสบความสาเรจ็ มักมีลักษณะ 8 ประการ ดังนี้
1. ตั้งเปา้ หมายทช่ี าญฉลาด (Set SMART goals)
ทีมของคุณสามารถจัดลาดับความสาคัญของเป้าหมายที่ชาญฉลาด โดยเลือกวัตถุประสงค์
ท่ีเฉพาะเจาะจง ซ่ึงวดั และบรรลุเป้าหมายได้ ตัวอย่างเชน่ ตง้ั เป้าหมายเพ่ิม ร้อยละ 10 ภายในสิ้นไตรมาสที่
สอง หลังจากดาเนินการตามวัตถุประสงค์เหล่าน้ีแล้ว ให้ติดตามความคืบหน้าอย่างสม่าเสมอ เนื่องจาก
สมาชกิ ทุกคนแบ่งปันตัวช้ีวดั เฉพาะของทีม สามารถตรวจสอบความกา้ วหนา้ และฉลองความสาเร็จได้การวัด
ความคบื หนา้ ดว้ ยตวั ชว้ี ดั ท่ีเป็นมาตรฐานเดยี วกนั ชว่ ยใหส้ มาชิกเข้าใจความก้าวหน้าของตนได้แมน่ ยาย่ิงข้ึน
2. ทาหน้าทข่ี องตนให้ดที ีส่ ุด (Perform well-defined roles)
ทีมมักจะทางานได้ดีท่ีสุดเมื่อสมาชิกแต่ละคนมีหน้าที่รับผิดชอบเฉพาะ เมื่อมีบทบาทท่ีกาหนดไว้
อย่างชัดเจน สมาชิกสามารถมุ่งทางานส่วนบุคคลให้สาเร็จและติดตามลาดับในการดาเนินงานตั้งแต่ต้น
จนจบ แทนที่จะทุ่มเทเพื่อระบุตาแหน่งของตน เช่น คุณมอบหมายให้สมาชิกในทีมบางส่วนดูแลโครงการ
ประเภทต่าง ๆ ในขณะที่คนอ่ืน ๆ อาจทาการวิจัย วิเคราะห์ หรือแนะนาวิธีแก้ปัญหา และในบางกรณี
ทีมอาจประสบความสาเร็จมากยิ่งขึ้น เม่ือสมาชิกมีส่วนร่วมและก้าวหน้าในบทบาท ใหม่ ๆ
เพือ่ ให้การเปลยี่ นแปลงเหล่านมี้ ีประสทิ ธภิ าพมากทีส่ ดุ ให้ลองมอบหมายหน้าที่ใหม่ ๆใหก้ ับสมาชิก
3. ทดลองเป็นประจา (Experiment regularly)
แม้ว่าทีมมักจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อมีบทบาทท่ีชัดเจน แต่เม่ือมีการทดลองกับความคิดใหม่
ไปเรื่อย ๆ ทีมสามารถรองรับและเรียนรู้ความเสีย่ งท่ีอาจเกิดขึ้น ทาให้มีศักยภาพในการสร้างผลลัพธ์ที่ดีขนึ้
ระหว่างการทดลองในลาดับการดาเนินงานต้ังแต่ต้นจนจบท่ีเป็นมาตรฐาน ให้หาเวลาระดมความคิดเห็น
ก่อนเร่ิมโครงการ ในระหว่างนี้ สมาชิกสามารถเสนอแนวคิดในการทาวิจัย จัดโครงสร้างโครงการ หรือ
รวบรวมและวเิ คราะห์ผลลพั ธ์
4. เปดิ รับความหลากหลาย (Embrace diversity)
ทีมที่มีประสิทธิภาพสูงสุดมีทักษะ ระดับของประสบการณ์ และภูมิหลังทางวิชาชีพที่แตกต่างกัน
รวบรวมสมาชิกท่ีมีความคิดเห็นไม่ตรงกันและสนับสนุนวิธีคิดในรูปแบบที่ต่างกัน การยอมรับมุมมอง
ที่หลากหลายทาใหท้ มี บรรลเุ ปา้ หมายในวิธีการทีห่ ลากหลายเช่นกัน

70

5. แบ่งปันวฒั นธรรมร่วมกัน (Share a common culture)
แม้จะมีความแตกตา่ ง ทีมทีป่ ระสบความสาเรจ็ มักวัฒนธรรมร่วมกัน เชน่ วฒั นธรรมทส่ี ร้างและเห็น
ด้วยโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากสะท้อนรูปแบบการทางานหรือการส่ือสารท่ีต้องการได้ อย่างไรก็ตามทีมจะมี
ประสิทธิภาพมากข้ึนเม่ือมีแนวทางปฏิบัติ ในฐานะผู้นา คุณควรรวบรวมข้อมูลจากสมาชิกเพื่อสร้างกรอบ
คา่ นยิ มทางวฒั นธรรม
6. รบั ผิดชอบต่อทีม (Be accountable to the team)
ในการสร้างทีมท่ีประสบความสาเร็จ สมาชิกควรมีความรับผิดชอบ งานมักจะออกมาได้ดีที่สุด
สามารถสร้างความรับผิดชอบได้ด้วยการเป็นแบบอย่างที่ดี ส่งเสริมให้สมาชิกอภิปราย วิธีการปรับปรุงและ
ดาเนินการตามข้อเสนอแนะ สง่ เสรมิ ความรบั ผิดชอบของกลมุ่ และเปดิ โอกาสให้สมาชกิ รสู้ กึ เปน็ เจ้าของร่วม
ในจุดประสงค์
7. ส่อื สารอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ (Communicate effectively)
ในการทางานร่วมกันอย่างราบร่ืน ทีมจาเป็นต้องมีแนวทางการส่ือสารที่ชัดเจน เพ่ือเพ่ิมความ
คล่องตัวในการสื่อสาร คุณควรชี้แจงบทบาทและความรับผิดชอบของสมาชิกแต่ละคน เพ่ือให้รู้ว่าใครมี
หน้าที่รับผิดชอบส่วนไหนและหาวิธีรับมือเมื่อเกิดปัญหาขึ้นหรือต้องแก้ไขปัญหา พร้อมการรายงานความ
คบื หนา้ ของโครงการอย่างไร อเี มล สง่ ข้อความ หรอื แอปพลิเคชันการจดั การโครงการ
8. ตอ้ นรบั ผูน้ าทแี่ ขง็ แกรง่ (Welcome strong leadership)
เพ่ือให้แน่ใจว่าทีมบรรลุเป้าหมาย ทางานร่วมกันได้ราบร่ืนและดีที่สุด พวกเขาต้องการความเป็น
ผู้นาท่ีแข็งแกร่ง คุณสามารถแสดงให้เห็นด้วยความมุ่งม่ัน รับผิดชอบ ต่องานของตน ควรปลูกฝัง
ความสามารถในการปรบั ตัว ยนิ ดีรับคาติชม และกระตุ้นใหส้ มาชิกในทีมทางานใหด้ ที ส่ี ุด

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจขั้นตอนการพัฒนาทักษะทีมงานที่มี
ประสิทธิผล ตามทัศนะของ Indeed Website วา่ อย่างไร ? ...........................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................

71

แบบประเมนิ ตนเอง
1) ท่านเข้าใจขั้นตอนการพัฒนาทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล ตามทัศนะของ Chatterton

ชัดเจนดแี ล้วหรอื ไม่
[ ] ชัดเจนดแี ล้ว [ ] ยังไม่ชัดเจนดพี อ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกครั้ง แล้วตอบคาถามในใจว่า Chatterton
กลา่ วถงึ ข้ันตอนการพัฒนาทกั ษะทีมงานทีม่ ีประสิทธิผลว่าอยา่ งไร?
2) ท่านเข้าใจขั้นตอนการพัฒนาทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล ตามทัศนะของ Cardinal
ชดั เจนดแี ลว้ หรอื ไม่
[ ] ชดั เจนดแี ลว้ [ ] ยังไมช่ ัดเจนดีพอ
หากยังไม่ชัดเจนดพี อ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกครั้ง แล้วตอบคาถามในใจว่า Cardinal กล่าวถึง
ขัน้ ตอนการพัฒนาทกั ษะทมี งานท่ีมปี ระสิทธิผล ว่าอย่างไร?
3) ท่านเข้าใจข้ันตอนการพัฒนาทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล ตามทัศนะของ Maloney
ชัดเจนดแี ลว้ หรือไม่
[ ] ชัดเจนดแี ลว้ [ ] ยงั ไมช่ ัดเจนดีพอ
หากยังไมช่ ดั เจนดพี อ โปรดกลบั ไปศึกษาใหมอ่ กี คร้งั แล้วตอบคาถามในใจวา่ Maloney กล่าวถึง
ข้นั ตอนการพัฒนาทกั ษะทมี งานที่มปี ระสิทธผิ ล ว่าอย่างไร?
4) ท่านเข้าใจข้ันตอนการพัฒนาทักษะทีมงาน ที่มีประสิทธิผล ตามทัศนะของ Eigen
ชดั เจนดีแลว้ หรือไม่
[ ] ชัดเจนดแี ลว้ [ ] ยงั ไม่ชัดเจนดพี อ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกคร้ัง แล้วตอบคาถามในใจว่า Eigen กล่าวถึง
ขั้นตอนการพัฒนาทักษะทมี งานที่มปี ระสิทธิผล ว่าอย่างไร?
5) ท่านเข้าใจขั้นตอนการพัฒนาทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล ตามทัศนะของ Indeed Website
ชดั เจนดแี ล้วหรือไม่
[ ] ชดั เจนดีแลว้ [ ] ยังไมช่ ัดเจนดพี อ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกครั้ง แล้วตอบคาถามในใจว่า Indeed Website
กล่าวถึงข้ันตอนการพัฒนาทักษะทมี งานที่มีประสทิ ธิผล วา่ อย่างไร?

72

หมายเหตุ
หากต้องการศึกษารายละเอียดของแต่ละทัศนะจากต้นฉบับท่ีเป็นภาษาอังกฤษ โปรด “Ctrl & Click”
เวบ็ ไซต์ของแตล่ ะแหล่งได้ ดังนี้

1) Chatterton : https://www.getminute.com/effective-teamwork/
2) Cardinal : https://www.huffpost.com/author/shapingchangeworldwide-251
3) Maloney : https://slack.com/blog/collaboration/essential-steps-effective-teamwork
4) Eigen : https://smallbusiness.chron.com/7-steps-enhance-team-performance-

50596.html
5) Indeed Website : https://www.indeed.com/career-advice/career-development/steps-
to-building-a-successful-team

เอกสารอา้ งองิ
Chatterton, L. (2020). 4 Proven steps to effective teamwork in 2019. Retrieved August 21,

2020, from https://rb.gy/wlifhl
Cardinal, R. (2015). 5 Steps to building an effective team. Retrieved August 21, 2020, from

https://rb.gy/2zir8l
Maloney, D. (2019). 5 Essential steps to effective teamwork. Retrieved August 16, 2020,

from https://rb.gy/amw57m
Eigen, D. (2019). 7 Steps to enhance team performance. Retrieved August 21, 2020, from

https://rb.gy/cvueeb
Indeed Website. (2020). 8 Steps to building a successful team. Retrieved August 20, 2020,

from https://rb.gy/zmkswt

73

คู่มือชดุ ที่ 6
ทศั นะเก่ยี วกบั การประเมินผลของทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล

นายสปุ นั สายสนิ ธ์ุ

74

ค่มู ือชุดท่ี 6
ทัศนะเกยี่ วกบั การประเมนิ ผลของทักษะทมี งานทีม่ ปี ระสิทธิผล

วัตถปุ ระสงค์การเรยี นรู้

หลังจากการศึกษาคู่มือชุดนี้แล้ว ท่านมีพัฒนาการด้านพุทธิพิสัย (Cognitive Domain) ซึ่งเป็น
จุดมุ่งหมายทางการศึกษาที่เก่ียวข้องกับสมรรถภาพทางสมองหรือสติปัญญาตามแนวคิดของ Benjamin S.
Bloom โดยจาแนกพฤติกรรมในขอบเขตนี้ออกเป็น 6 ระดับ เรียงจากพฤติกรรมที่สลับซับซ้อนน้อยไปหามาก
หรือจากทักษะการคิดข้ันต่ากว่าไปหาทักษะการคิดข้ันสูงกว่า ดังนี้ คือ ความจา (Remembering)
ความเข้าใจ (Understanding) การประยุกต์ใช้ (Applying) การวิเคราะห์ (Analyzing) การประเมิน (Evaluating)
และการสรา้ งสรรค์ (Creating) ดังน้ี

1. บอกคุณสมบัติ จับคู่ เขียนลาดับ อธิบาย บรรยาย ขีดเส้นใต้ จาแนก หรือระบุการประเมินผล
ของทกั ษะทีมงานท่ีมปี ระสิทธผิ ลได้

2. แปลความหมาย อธิบาย ขยายความ สรุปความ ยกตัวอย่าง บอกความแตกต่าง หรือเรียบเรียง
การประเมินผลของทักษะทมี งานที่มปี ระสิทธิผลได้

3. แก้ปัญหา สาธิต ทานาย เช่ือมโยง ความสัมพันธ์ เปลี่ยนแปลง คานวณ หรือปรับปรุง การ
ประเมนิ ผลของทักษะทมี งานท่มี ปี ระสิทธิผลได้

4. แยกแยะ จัดประเภท จาแนกให้เห็นความแตกต่าง หรือบอกเหตุผลการประเมินผลของทักษะ
ทีมงานท่มี ปี ระสิทธผิ ลได้

5. วัดผล เปรียบเทียบ ตีคา่ ลงความเห็น วจิ ารณ์การประเมินผลของทกั ษะทมี งานท่มี ปี ระสทิ ธิผลได้
6. รวบรวม ออกแบบ จัดระเบียบ สร้าง ประดิษฐ์ หรือวางหลักการการประเมินผลของทักษะ

ทมี งานทม่ี ปี ระสิทธิผลได้

หลังจากการศึกษาทศั นะเกย่ี วกับการประเมินผลของทักษะทีมงานที่มปี ระสิทธผิ ล ในคูม่ ือชุดนแี้ ลว้ ท่าน
สามารถอธบิ ายได้ถงึ การประเมนิ ผลของทักษะทมี งานทมี่ ปี ระสทิ ธิผล จากทศั นะทีน่ ามากล่าวถงึ แตล่ ะทัศนะ ดังนี้

1. การประเมินผลของ ทักษะทีมงานที่มีประสิทธผิ ล ตามทศั นะของ Mind Tools Website
2. การประเมนิ ผลของ ทักษะทีมงานที่มปี ระสทิ ธิผล ตามทศั นะของ Idros, Sulsiman, Mahbob,

& Hassan
3. การประเมนิ ผลของ ทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล ตามทัศนะของ Questiun Pro Website
4. การประเมินผลของ ทกั ษะทีมงานที่มปี ระสิทธผิ ล ตามทศั นะของ Birmingham Website
5. การประเมนิ ผลของ ทักษะทีมงานท่มี ปี ระสทิ ธิผล ตามทศั นะของ Bright HUB Education Website
6. การประเมนิ ผลของ ทกั ษะทีมงานทมี่ ีประสทิ ธผิ ล ตามทัศนะของ Mugavin

75

7. การประเมนิ ผลของ ทกั ษะทีมงานทีม่ ีประสิทธิผล ตามทศั นะของ Fammed Archives Website
8. การประเมนิ ผลของ ทักษะทีมงานท่มี ีประสทิ ธผิ ล ตามทศั นะของ So Go Survey Website
คาช้ีแจง
1) โปรดศึกษาเน้ือหาเกี่ยวกับการประเมินผลของทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล จากทัศนะท่ีนามา

กล่าวถึงแต่ละทัศนะ โดยแต่ละทัศนะท่านจะต้องทาความเข้าใจที่สามารถอธิบายกับตัวเองไดว้ ่า
เขากลา่ วถงึ การประเมินผลว่าอยา่ งไร
2) หลังจากการศึกษาเน้ือหาแต่ละทัศนะแล้ว โปรดทบทวนความรู้ความเข้าใจของท่านอีกครั้งจาก
แบบประเมนิ ผลตนเองในตอนทา้ ยของค่มู ือ
3) เน้ือหาเก่ยี วกบั การประเมินผลของทักษะทีมงานที่มปี ระสิทธิผล จากทัศนะที่นามากล่าวถึงแต่ละ
ทัศนะมีแหล่งอ้างอิงตามที่แสดงไว้ในตอนท้ายหลังแบบประเมินผลตนเอง หากท่านต้องการ
ศึกษารายละเอียดของทัศนะเหล่าน้ัน ซ่ึงต้นฉบับเป็นบทความภาษาอังกฤษ ท่านสามารถจะ
สบื ค้นต่อไดจ้ ากเว็บไซต์ท่รี ะบุไว้ในแหล่งอ้างองิ นน้ั ๆ

ทศั นะเก่ยี วกับการประเมนิ ผลของทักษะทีมงานท่ีมปี ระสิทธิผล
1. การประเมนิ ผลของทกั ษะทมี งานท่ีมปี ระสทิ ธผิ ล ตามทศั นะของ Mind Tools Website
Mind Tools Website (2021) กล่าวถงึ การประเมนิ ผลของทักษะทีมงานท่ีมปี ระสิทธิผล ดงั น้ี
1. ทีมของฉันมีคว ามรู้ว่ามีหลากหลายขั้นตอนที่ทีมพัฒนาจะพบเจอ ( My team is

knowledgeable about the stages of development teams can be expected to go through)
2. สมาชกิ ของทีมได้รับข้อเสนอแนะมากมายเกีย่ วกับสมรรถนะการทางาน (Team members are

provided with a great deal of feedback regarding their performance)
3. สมาชิกของทีมได้รับการกระตุ้นให้ทางานเพ่ือประโยชน์ส่วนรวมขององค์กร (Team members

are encouraged to work for the common good of the organization)
4. มีข้อร้องเรียนมากมายทาให้ทีมขาดกาลังใจ (There are many complaints, and morale is

low on my team)
5. สมาชิกในทีมไม่เข้าใจหรือไม่เห็นด้วยในการตัดสินใจ (Team members don't understand

the decisions that are made, or don't agree with them)
6. ผู้คนได้รับการกระตุ้นให้เป็นสมาชิกที่ดีของทีมและสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ( People are

encouraged to be good team members, and build good relationships)
7. สมาชิกในทมี ไดร้ ับโอกาสในการพัฒนา (Team members are provided with development

opportunities)

76

8. มีการประชุมไม่เพียงพอและยังมีหลายบทบาทท่ีทับซ้อน (Meetings are inefficient and
there is a lot of role overlap)

9. สมาชิกในทีมได้รับการสนับสนุนให้ปฏิบัติตามวิสัยทัศน์ของทีมและผู้นาจะช่วยให้พวกเขาเข้าใจ
ว่าบทบาทของพวกเขาเหมาะสมกับภาพรวมของทีมอย่างไร (Team members are encouraged to
commit to the team vision, and leaders help them understand how their role fits into the
big picture)

10. สมาชิกในทีมมักจะได้รับโอกาสในการทางานที่น่าสนใจและเพ่ิมพูนความรู้และความสามารถ
( Team members are often given a chance to work on interesting tasks and stretch their
knowledge and capabilities)

11. ทีมเข้าใจส่ิงท่ีต้องทาให้สาเร็จและมีทรัพยากรท่ีจาเป็นในการดาเนินการเพ่ือประสบ
ค ว า ม ส า เ ร็ จ ( The team understands what it needs to accomplish and has the resources
needed to be successful)

12. ความขัดแย้งและความเป็นปรปักษ์ระหว่างสมาชิกเป็นปญั หาท่ีกระจายไปทุกสว่ นและดูเหมือน
จะไม่ดีข้ึน(Conflict and hostility between members is a pervasive issue that doesn't seem to
get better)

13. ผู้คนรู้สึกว่าการทางานท่ีดีไม่ได้รับรางวัลตอบแทนและพวกเขาไม่แน่ใจว่าจะคาดหวังอะไรจาก
งานท่ที า (People feel that good work is not rewarded and they are not sure what is expected
of them)

14. สมาชิกในทีมสร้างสมดุลระหว่างความต้องการของแต่ละบุคคลในการทางานอย่างอิสระกับ
ผลประโยชน์ของการพ่ึงพาซึ่งกันและกัน (Team members balance their individual needs for
autonomy with the benefits of mutual interdependence)

15. ความสัมพันธ์ในการทางานข้ามหน่วยงานหรือข้ามบทบาทหน้าท่ีไม่ดีและขาดการประสานงาน
กัน (Working relationships across units or functions is poor, and there is a lack of coordination)

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าทา่ นเขา้ ใจการประเมินผลของทักษะทมี งานทมี่ ี
ประสิทธิผล ตามทัศนะของ Mind Tools Website วา่ อย่างไร ? ..................................
............................................................................................................................. ............
.........................................................................................................................................

77

2. การประเมนิ ผลของทกั ษะทีมงานที่มีประสทิ ธผิ ล ตามทศั นะของ Idros, Sulsiman,
Mahbob, & Hassan

Idros, Sulsiman, Mahbob, & Hassan (2012) กล่าวถึง การประเมินผลของทักษะทีมงานที่มี
ประสิทธผิ ล ดงั น้ี

1. หน้าท่ีหลักของการสร้างทีมคือการแก้ปัญหาในสถานท่ีทางาน (The main function of team
building is to solve problems at the work place)

2. การสร้างทีมทาให้เกิดปัญหามากกว่าการแก้ปัญหา (Team building brings about more
problems than solutions)

3. การสร้างทีมช่วยกระตุ้นความคิดท่ีจะหาทางแก้ไขปัญหาท่ีเกี่ยวข้องกับงานของฉัน (Team
building stimulates my thought to seek solutions to my work related problems)

4. สามารถรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานได้จากการเป็นสมาชิกในทีม (More work related
information can be gained by becoming a team member)

5. กระบวนการค้นหาข้อมูลง่ายขึ้นเมื่อไม่มีบุคคลอ่ืนเข้ามาเกี่ยวข้อง (The process of seeking
information is easier when other people are not involved)

6. ฉันไมม่ ีนสิ ยั ชอบหาข้อมลู ในท่ที างาน (I do not have the habit of seeking for information
at work)

7. ฉันแบ่งปันความคิดเห็นที่แท้จริงของฉันแก่ทีมงานของฉัน (I share my true opinions in my
work team)

8. เราแทบจะไม่ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในที่ทางานเพราะทุกคนมักจะยุ่ง (We hardly
exchange our ideas at work because everyone is always busy)

9. การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันในองค์กรเป็นสิ่งที่ดี (Exchanging opinions with
each other in the organization is a good thing)

10. ทีมงานสามารถสร้างการกระทาและพฤติกรรมเชิงบวกในองค์กร (A work team can
generate positive action and behavior in the organization)

11. ฉันเป็นสมาชิกที่กระตือรือร้นของทีมงานของฉันในองค์กร (I am active member of my
work team in the organization)

12. การสร้างทีมสามารถส่งเสริมค่านิยมและความตระหนักที่ดีเกี่ยวกับงานและความรับผิดชอบ
ข อ ง ฉั น ( Team building can promote good values and awareness about my work and
responsibilities)

78

13. ปัญหาและความขดั แยง้ สว่ นใหญไ่ ด้รับการแก้ไขร่วมกัน (Most problems and conflicts are
resolved together)

14. ความขัดแย้งในทีมงานเกิดข้ึนเป็นประจาในองค์กร (Conflict in a work team happens
regularly in an organization)

15. ฉันไม่เช่ือว่าทุกประเด็นหรือปัญหาสามารถเพิ่มค่านิยมและความตระหนักที่ดีเก่ียวกับงานและ
ความรับผิดชอบของฉันได้ (I do not believe that every issue or problem can increase good
values and awareness about my work and responsibilities)

16. ในทีท่ างานฉนั เปน็ ผู้ใหแ้ ละผู้รับเสมอ (I always give and take at the work place)
17. การสร้างทีมในองค์กรช่วยปรับปรุงความสามัคคีและความอดทนอดกล้ันให้ดีย่ิงข้ึน (Team
building in an organization helps to improve harmony and tolerance)
18. การอดทนอดกลั้นมากเกินไปทาให้ฉันรู้สึกเสแสร้งต่องานและความรับผิดชอบของฉัน (Being
over-tolerant makes me feel hypocritical towards my work and responsibilities)
19. ฉันมักจะได้รับการสนับสนุนให้แสดงความคิดเห็นเก่ียวกับการสร้างทีม (I am always
encouraged to give my opinion on team building)
20. ฉนั ไม่ไดร้ บั อนุญาตใหช้ ่วยกัน (I am not allowed to help each other)
21. ฉันมักจะสับสนเม่ือฉันทางานและหน้าท่ีของฉัน (I am often confused when I am doing
my work and duties)
22. หัวหนา้ ทีมของฉันไม่มีแรงจูงใจ (My team leader is not motivated)
23. ฉนั ทะเลาะกับเพื่อนร่วมงานบ่อยคร้ัง (I often argue with my colleagues)
24. เพอ่ื นร่วมทีมของฉันมักจะขอบคุณฉันหลังจากเสร็จส้ินงานทุกอย่าง (My team mates often
thank me after the completion of every task)
25. ทีมงานไม่ปฏิบัติตามวัฒนธรรมการทางานเป็นทีมเพราะทุกคนเห็นแก่ตัว (The work team
does not practice team work culture because everyone is selfish)
26. ความมุ่งมั่นในการทางานเป็นทีมต่าเมื่อปฏิบัติงานและความรับผิดชอบ (The team work
commitment is not high when performing its task and responsibilities)
27. สมาชิกในทีมทางานไม่มีความชานาญและไม่เหมาะสมกับทีม 1.0 (Members in a work
team are unskilled and misfits 1.0)
28. ทมี งานมักแบ่งปันทรัพยากร ผลติ ภณั ฑ์ และรางวลั หลังจากเสร็จสนิ้ ภารกิจ (The work team
always share its resources, products and rewards after completing the task)

79

29. สมาชิกไม่ได้มุ่งเน้นไปท่ีขอบเขตงานของตนอย่างเต็มท่ีเม่ือปฏิบัติงาน (Members are not
fully focused on their scope of work when performing their task)

30. ลาดับชั้นของตาแหน่งงานเป็นการจากัดการปฏิบัติงานของทีมงาน (Hierarchical level is
limiting work team from performing its task)

31. ไม่มีการกระจายข้อมูลที่ได้รับมาสู่สมาชิกในทีม ( Information received is not
disseminated to team members)

32. การสร้างทีมช่วยให้สมาชิกส่งเสริมคุณสมบัติความเป็นผู้นา ( Team building helps
members foster their leadership qualities)

33. ไม่มีการควบคุมดูแลสมาชิกที่ปฏิบัติงานในระหว่างการสร้างทีม (There is no supervision
on members performing their task during team building)

34. สมาชกิ ไม่ได้รับภาระงานพิเศษ (Members are not given extra work load)
35. การสร้างทีมข้ึนอยู่กับกระบวนการและข้ันตอนขององค์กร (Team building is based on
the process and procedure of the organization)
36. จะมีการประเมินตนเองหลังจากบรรลุวัตถุประสงค์การสร้างทีม ( Self-evaluation is
performed after team building achieves its objectives)

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจการประเมินผลของทักษะทีมงานที่มี
ประสทิ ธิผล ตามทศั นะของ Idros, Sulsiman, Mahbob, & Hassan วา่ อยา่ งไร ? .........
..........................................................................................................................................
.......................................................................................................................................

3. การประเมนิ ผลของทกั ษะทีมงานที่มปี ระสิทธิผล ตามทศั นะของ Questiun Pro Website
Questiun Pro Website (2020) กลา่ วถงึ การประเมนิ ผลของทักษะทีมงานที่มปี ระสิทธิผล ดังนี้
1. สมาชกิ ในทีมมีความชัดเจนอย่างแท้จริงเก่ยี วกับบทบาทของตนในทมี (Team members have
absolute clarity about their role in the team)
2. มีกลไกที่มีประสิทธิภาพภายในทีมสาหรับการแก้ไขความขัดแย้ง (There is an effective
mechanism within the team for conflict resolution)
3. แผนกของฉนั สง่ เสริมการทางานเปน็ ทมี (My department encourages teamwork)
4. สมาชิกในทีมต้องรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของพวกเขา (Team members are held
accountable for the decisions they make)

80

5. มกี ารกระจายงานทไี่ ดร้ ับมอบหมายอยา่ งเป็นธรรม (Work assigned is distributed fairly)
6. มีความพยายามอย่างเพียงพอที่จะรับฟังความคิดเห็นและแนวคิดของพนักงาน (Sufficient
effort is made to get the opinions and ideas of employees)
7. มีการจัดตาแหน่งของพระเจ้าระหว่างแผนกของฉันและคนอื่น ๆ ที่ฉันต้องประสานงาน (There
is good alignment between my department and others with whom I need to coordinate)
8. แผนกของฉันรู้เพียงพอเก่ียวกับแผนกอื่น ๆ ภายในองค์กร ( My department knows
sufficiently about other departments within the organization)
9. การทางานในทีมเป็นแรงบันดาลใจให้ฉันทาให้ดีท่ีสดุ (Working in the team inspires me to
do my best)
10. เม่ือมีการเปลี่ยนแปลงบทบาทภายในทีมจะมีการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ (When the
role within the team changes it is communicated effectively)
11. สมาชิกในทีมสนับสนุนบทบาทของกันและกัน (Team members are supportive of each
other's role)
12. การสอ่ื สารภายในทมี มคี วามโปรง่ ใส (Communication within the team is transparent)
13. สมาชิกในทีมให้ข้อเสนอแนะซึ่งกันและกันอย่างทันท่วงที (Team members give timely
feedback to each other)
14. เราตรวจสอบให้แนใ่ จวา่ งานของเราชว่ ยให้องค์กรบรรลุเปา้ หมาย (We make sure our work
helps the organization achieve its goals)

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจการประเมินผลของทักษะทีมงานท่ีมี
ประสทิ ธิผล ตามทัศนะของ Questiun Pro Website วา่ อยา่ งไร ? ..................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................

4. การประเมินผลของทักษะทมี งานที่มปี ระสทิ ธิผล ตามทัศนะของ Birmingham Website
Birmingham Website (2021) กล่าวถงึ การประเมินผลของทกั ษะทมี งานท่ีมีประสิทธผิ ล ดงั น้ี
1. ฉนั พยายามอย่างหนกั เพือ่ ใหก้ าลงั ใจคนในกลมุ่ (I go out of my way to encourage people
in the group)
2. ฉันมีแนวโน้มที่จะไม่อดทนกับคนท่ี 'อ้อมค้อม' (I am inclined to get impatient with
people who 'beat about the bush')

81

3. ฉันขอให้กลุ่มปฏิบัติตามแผนและตารางเวลาและทางานให้เสร็จตรงตามกาหนดเวลา
(I urge the group to stick to plans and schedules and meet deadlines)

4. เมอื่ มคี วามคิดเห็นที่แตกตา่ งกันในกล่มุ ฉนั ขอแนะนาให้ทุกคนพูดถึงความแตกต่างของตนเพ่ือทา
ฉั น ท า ม ติ ( When there are different opinions within the group, I encourage people to talk
their differences through to a consensus)

5. ฉนั สามารถมีแนวคิดเปน็ ของตวั เอง (I can be counted on to contribute original ideas)
6. ฉันใช้อารมณ์ขันเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดและรักษาความสัมพันธ์ท่ีดี (I use humour to
ease tensions and maintain good relationships)
7. ฉันต้องการความเข้าใจร่วมกันก่อนที่จะตัดสินใจ (I seek common understanding prior to
making decisions)
8. ฉนั ตั้งใจฟงั สงิ่ ท่ีคนอ่ืนพูด (I listen carefully to what others have to say)
9. ฉันหลีกเลี่ยงการมีส่วนในความขัดแย้ง (I avoid getting involved with conflicts)
10. ฉันสามารถมองเห็นว่ามีอะไรผิดปกติกับแนวคิดท่ีไม่น่าเชื่อถือท่ีคนอื่นหยิบยกมา (I can
quickly see what is wrong with unsound ideas put forward by others)
11. ฉันส่ือสารว่าทาไมและสาเหตุของสถานการณ์อย่างเปิดเผย (I openly communicate the
whys and wherefores of a situation)
12. ฉันพร้อมเสมอที่จะให้ข้อเสนอแนะท่ีดีเพื่อประโยชน์ส่วนรวม (I am always ready to back
a good suggestion in the common interest)
13. ฉนั มกั จะเสนอความคดิ มากมาย (I tend to put forward lots of ideas)
14. ฉันกระตุ้นผู้คนให้พูดเมื่อใดก็ตามท่ีฉันรู้สึกว่าพวกเขามีบางอย่างที่อยากแบ่งปัน (I draw
people out whenever I sense they have something to contribute)
15. เมอ่ื ส่งิ ต่าง ๆ ไม่คบื หน้าฉันจะผลักดนั และทางานใหล้ ุลว่ ง (When things aren't progressing
well I push ahead and get the job done)
16. ฉันพัฒนาความคิดของคนอ่ืนเพ่ือปรบั ปรุง (I develop other people's ideas so that they
are improved)
17. ฉันมักจะเปลี่ยนใจหลังจากฟังมุมมองของคนอื่น (I tend to change my mind after
listening to other people's points of view)
18. ฉันมักจะขอความเห็นชอบและการสนับสนุนจากผู้อื่น (I tend to seek approval and
support from others)
19. ฉันไม่ว่าหากจะไม่เป็นที่รู้จักถ้ามันทาให้งานสาเร็จ (I don't mind being unpopular if it
gets the job done)

82

20. แสวงหาแนวคิดและความคิดเห็นจากผู้อ่ืนอย่างกระตือรือร้น (l actively seek ideas and
opinions from other people)

21. ฉันเป็นคนอัธยาศัยดีและสามารถสร้างสัมพันธไมตรีกับคนอ่ืนได้อย่างดาย (I am a friendly
person and find it easy to establish a good rapport with others)

22. ฉันระวงั ท่ีจะไมด่ ่วนสรุปเรว็ เกินไป (I am careful not to jump to conclusions too quickly)
23. ฉนั เกง่ ในการสงั เกตเมือ่ มีใครบางคนในกลมุ่ รสู้ ึกเศร้าและอารมณ์เสีย (I am good at noticing
when someone in the group is feeling aggrieved and upset)
24. ฉันสนุกกบั การวเิ คราะห์สถานการณแ์ ละทางเลือกต่าง ๆ (I enjoy analysing situations and
weighing up alternatives)
25. ฉันสามารถทางานได้ดีกับผู้คนหลากหลายแนว (I can work well with a very wide range
of people)
26. ฉันมีชื่อเสียงในเรื่องการพูดตรง ๆ (I have a reputation for having a no-nonsense 'call
a spade a spade' style)
27. ฉันมีชอบรู้สึกว่าฉันบ่มเพาะความสัมพันธ์ในการทางานที่ดี (I like to feel I'm fostering
good working relationships)
28. ฉันมีแนวโน้มที่จะมพี ลงั และ เต็มไปดว้ ยพลงั ความคิดสร้างสรรค์ (I tend to be forceful and
dynamic)
29. ฉันชอบท่ีจะคาดการณ์ความยากลาบากที่อาจเกิดขึ้นและเตรียมพร้อมเพื่อรับมือ (I like to
anticipate probable difficulties and be prepared for them)
30. ฉันผลักดันอย่างแน่วแน่เพ่ือดาเนินการโดยให้แน่ใจว่าผู้คนจะไม่เสียเวลาหรือวนไปวนมา (I
press for action to make sure people don't waste time or go round in circles)
31. ฉันมักจะทาให้คนเห็นด้วยกับแนวทางปฏิบัติ (I can usually get people to agree on a
course of action)
32. เมื่อผู้คนเร่ิมคิดทบทวนฉันขอให้พวกเขามุ่งมั่นกับงานท่ีมีในมือ (When people have
second thoughts, I urge them to press on with the task in hand)
33. ฉนั ชอบไตร่ตรองทางเลอื กอนื่ กอ่ นตัดสินใจ (I like to ponder alternatives before making
up my mind)
34. ฉนั มกั จะเปดิ เผยเกี่ยวกับความรสู้ ึกของฉนั (I tend to be open about how I am feeling)
35. บางครั้งผู้คนคิดว่าฉันเป็นคนช่างวิเคราะห์และระมัดระวังมากเกินไป (People sometimes
think I'm being too analytical and cautious)

83

36. ในการสนทนาฉนั ชอบทจี่ ะตรงประเดน็ (In discussions I like to get straight to the point)
37. แม้ว่าฉันจะสนใจทุกมุมมอง แต่ฉันก็ไม่ลังเลที่จะตัดสินใจเมื่อต้องตัดสินใจ (While I'm
interested in all views I do not hesitate to make up my mind when a decision has to be taken)
38. คนข้ีประจบที่ไม่เอาจริงเอาจังมากพอจะทาให้ฉันราคาญ (Flippant people who don't
take things seriously enough irritate me)
39. ฉันสามารถมีอิทธิพลต่อผู้คนโดยไม่กดดันพวกเขา (I am able to influence people
without pressurising them)
40. ฉันชอบที่จะคิดส่ิงต่าง ๆ ให้ดีก่อนที่จะทาอะไรบางอย่าง (I like to think things through before
doing something)

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจการประเมินผลของทักษะทีมงานที่มี
ประสทิ ธผิ ล ตามทศั นะของ Birmingham Website ว่าอยา่ งไร ? ..................................
.........................................................................................................................................
........................................................................................ ................................................

5. การประเมินผลของทกั ษะทีมงานท่ีมีประสิทธผิ ล ตามทัศนะของ Bright HUB Education
Website

Bright HUB Education Website (2020) กล่าวถึง การประเมินผลของทักษะทีมงานท่ีมี
ประสิทธผิ ล ดังนี้

1. คุณสามารถทางานได้ดีในฐานะสมาชิกกลุ่มหรือทีมเล็กหรือไม่ (Are you able to work well
as a member of a small group or team?)

2. คุณสามารถทางานได้ดีในฐานะสมาชิกของกลุ่มหรือทีมขนาดใหญ่หรือไม่ (Are you able to
work well as a member of a large group or team?)

3. คณุ สามารถใหค้ าแนะนาคนอ่ืนได้หรือไม่ (Can you give instructions to other people?)
4. คุณสามารถยอมรับและปฏิบัติตามคาแนะนาของคนอ่ืนได้หรือไม่ (Can you accept and
follow instructions given by someone else?)
5. คุณสามารถพูดในส่ิงที่คุณต้องการจะสื่ออย่างชัดเจนและทาให้คนอ่ืนเข้าใจได้หรือไม่
(Can you say clearly what you mean, and have others understand you?)
6. คุณสามารถถามคาถามเพื่อตรวจสอบส่ิงท่ีคนอื่นต้องการจะส่ือเมื่อพวกเขาให้ข้อมูลแก่คุณ
ไดห้ รอื ไม่ (Can you ask questions to check what someone means when they give you information?)

84

7.คุณสามารถจดจาในสิ่งท่ีคนอื่นบอกคุณได้ในทุกวัน (Can you remember what you have
been told from one day to the next?)

8. คุณสามารถจัดการใหต้ วั เองทาภาระหน้าท่ีให้สาเร็จ (Can you organize yourself to finish a task?)
9. คณุ สามารถชว่ ยใหผ้ ้อู ่นื จัดการตวั เอง (Can you help other people organize themselves?)
10. คุณสามารถกระตุ้นใครบางคนให้ทาบางสิ่งที่พวกเขาไม่ได้ต้องการทาจริงๆ ( Can you
encourage someone to do something they do not really want to do?)
11. คุณสามารถทาให้ตัวเองทางานจนเสร็จแม้ว่าตอนน้ันคุณต้องการจะทาอย่างอ่ืนมากกว่า
(Can you make yourself get a job done, even when you would rather be doing something else?)
12. คุณสามารถควบคุมอารมณ์ของคุณได้หรือไม่? (Can you keep your temper under
control?)
13. คุณกล้าลุกขึ้นพูดหรือไม่หากรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้อง? (Can you speak up when
you feel something is wrong?)
14. คุณสามารถปฏิบัติตามขั้นตอนและระเบียบการได้หรือไม่? (Can you follow procedures
and protocols?)
15. คุณสามารถต้านทานการลอ่ ใจให้ทาสิ่งท่ผี ิดได้หรือไม่? ยกตัวอย่างเชน่ หยุดพักนานกว่าที่ควร
หรือแกล้งทาเปน็ ว่าคุณทาบางอยา่ งเสร็จท้ังที่คุณยังทาไม่เสร็จ? (Can you resist the temptation to do
the wrong thing? For example, to take a longer break than you should, or pretend you have
finished something you haven’t?)
16. คุณสามารถตัง้ เป้าหมายให้ส่งิ ทคี่ ุณต้องการประสบความสาเร็จได้หรือไม่ (Can you set goals
for what you want to achieve?)
17. คุณสามารถรับฟงั คาวิจารณจ์ ากคนอืน่ ไดห้ รอื ไม่ (Can you accept criticism from others?)
18. คณุ ยงั คงสามารถทาตวั สภุ าพและคิดบวกได้หรือไมห่ ากหลายๆ สงิ่ ไม่เปน็ ไปตามท่ีคุณคิด (Can
you be gracious and positive even when things don’t turn outright?)
19. พนกั งานขโมยของหรอื ผบู้ ังคบั บัญชาให้ข้อคิดทไ่ี ม่เหมาะสม (Employee is stealing, or when
your direct supervisor make in appropriate remarks)

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจการประเมินผลของทักษะทีมงานที่มี
ประสิทธิผล ตามทศั นะของ Bright HUB Education Website ว่าอยา่ งไร ? .....................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................

85

6. การประเมนิ ผลของทกั ษะทีมงานที่มปี ระสทิ ธผิ ล ตามทศั นะของ Mugavin
Mugavin (2020) กล่าวถึง การประเมินผลของทกั ษะทมี งานที่มีประสิทธิผล ดังน้ี
1. ใหผ้ ลการทางานที่ยอดเยยี่ มในขณะทท่ี าใหส้ มาชิกในทีมแตล่ ะคนมโี อกาสท่จี ะเจริญเตบิ โตทั้งใน
ด้านส่วนบุคคลและด้านอาชีพ (Deliver excellent results while providing each member of the
team the opportunity to grow personally and professionally)
2. เปน็ ส่วนหนึ่งและมุ่งมนั่ ทจี่ ะแบ่งปันเปา้ หมายหรอื วสิ ยั ทัศน์หรืออะไรก็ตามที่ยิง่ ใหญ่กว่าแค่ตัวเอง
และเปน็ สิ่งที่แสดงถึงความท้าทายทมี่ ีความหมายสาคัญ (Become a part of, and commit to a shared goal
or vision—one that is larger than themselves and that presents a meaningful challenge)
3. มีทักษะท่ีจาเป็นที่จะทาให้งานสาเร็จและเคารพส่ิงท่ีแต่ละคนนาเสนอมาสู่ทีม (Have the
complementary skills necessary to get the job done and respect what each person brings
to the team)
4. มีความมุ่งมั่นที่จะทางานร่วมกันโดยตระหนักว่าพวกเขาขึ้นอยู่กับความพยายามของกันและกัน
( Are committed to working with one another, recognizing that they depend upon one
another's efforts)
5. พยายามจัดวาง บูรณาการ และซิงค์ข้อมูลทุกอย่าง ( Seek to align, integrate, and
synchronize everything)
6. รับผิดชอบร่วมกันในผลลัพธ์ของการทางานพวกเขามองว่าพวกเขารับผิดชอบร่วมกันเป็นกลุ่ม
( Hold themselves jointly accountable for outcomes (they see themselves as being in it
together)
7. สร้างความไว้วางใจและความมุ่งมั่นในระดับสูงและทางานร่วมกันได้เป็นอย่างดีตลอดจนมี
ความสุขในการทางานน้ัน (Build a high level of trust and commitment, work well together, and
enjoy doing so)
8. ได้รับแรงผลักดันให้พยายามให้ถึงที่สุดเพ่ือปฏิบัติหน้าที่ท่ีได้รับมอบหมาย (Are motivated to
put out their best effort to perform the tasks assigned to them)
9. มอบคุณค่าให้แก่ลูกค้า/ผู้สนับสนุนและสร้างความเขียวข้องกับลูกค้า (Provide value to
customers/constituencies and are relevant to their customers)
10. ได้รับการยอมรับในด้านการบรกิ าร (Achieve recognition for the services they provide)

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจการประเมินผลของทักษะทีมงานท่ีมี
ประสิทธผิ ล ตามทัศนะของ Mugavin วา่ อยา่ งไร ? ...........................................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................

86

7. การประเมนิ ผลของทักษะทมี งานท่ีมปี ระสทิ ธผิ ล ตามทศั นะของ Fammed Archives
Website

Fammed Archives Website (2020) กล่าวถงึ การประเมินผลของทกั ษะทีมงานทีม่ ีประสิทธิผล
ดังน้ี

1. ผู้คนในทีมน้ีเชื่อว่าทีมน้ีจะให้ความใส่ใจในเร่ืองความอ่อนไหวทางวัฒนธรรม (People in this
team believe this team provides culturally sensitive care)

2. คนในทีมน้ีสนทนาเกี่ยวกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในทีมอย่างเปิดเผย (People in this team
openly discuss errors that happen in the team)

3. ทุกคนในทมี นีส้ ามารถเข้าถงึ ข้อมลู ที่พวกเขาจาเปน็ ตอ้ งมีสาหรับการดูแลผปู้ ่วยและงานของพวก
เขาเมื่อพวกเขาจาเป็นต้องใช้ (Everyone in this team has access to the information they need
for patient care and their work when they need it)

4. ทีมนีแ้ ละแพทย์เล็งเห็นความสาคัญทีว่ า่ ผู้ปว่ ยรู้สึกว่าพวกเขาต้องการสุขภาพทางจิตใจและความ
เ ป็ น อ ยู่ ท่ี ดี ( This team and its clinicians give the attention that patients feel they need for
spiritual health and wellbeing)

5. ทีมนม้ี ีวสิ ยั ทัศนท์ ่ชี ดั เจนและอธิบายได้ (This team has a clear, expressible vision)
6. มีการสื่อสารที่ดีบ่อย ๆ ระหว่างทีมเกี่ยวกับการริเร่ิมการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ว่าเป็นไปอย่างไร
( There is frequent and good communication throughout the team about how the different
change initiatives are going)
7. ทุกคนในทีมรู้สึกว่าสามารถดาเนินการให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของทีมได้ (Everyone in the
team feels able to act on the team vision)
8. ทีมน้ีดูเหมือนว่าจะปล่อยให้อุปสรรคและปัญหาหยุดความพยายามในการเปลี่ยนแปลง (The
team appears to let setbacks and problems stop its change efforts)
9. เมื่อทีมน้ีเร่ิมบังคับใช้ความเปล่ียนแปลงความเปลี่ยนแปลงน้ันมีแนวโน้มท่ีจะคงอยู่ไปตลอด (Once this
team implements a change, the change tends to stick)

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจการประเมินผลของทักษะทีมงานที่มี
ประสทิ ธิผล ตามทัศนะของ Fammed Archives Website วา่ อยา่ งไร ? ........................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................

87

8. การประเมนิ ผลของทักษะทมี งานท่ีมปี ระสิทธผิ ล ตามทศั นะของ So Go Survey Website

So Go Survey Website (2020) กล่าวถงึ การประเมินผลของทกั ษะทมี งานที่มีประสทิ ธผิ ล ดงั นี้
1. ทีมของเรามีจุดประสงค์ท่ีมีความหมายสาคัญร่วมกัน (Our team has a meaningful, shared
purpose)
2. สมาชิกในทีมเข้าใจบทบาทของพวกเขาอย่าง แจ่มแจ้ง ( Team members clearly
understand their roles)
3. การแก้ปัญหาของทีมเป็นผลทาให้เกิดแนวทางการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิผล (Team problem
solving results in effective solutions)
4. สมาชิกในทีมเพิ่งพอใจในความสามารถท่ีเป็นเอกลักษณ์ของคนอ่ืนในทีม (Team members
appreciate one another’s unique capabilities)
5. เรามีความสามารถที่จะแก้ไขปัญหาความขัดแย้งกับทีมอ่ืน ๆ ร่วมกัน (We are able to
resolve conflicts with other teams collaboratively)
6. สมาชิกของทีมมคี วามรับผดิ ชอบส่วนบคุ คลต่อผลสาเรจ็ ของทีมของเรา (Team members take
personal responsibility for the effectiveness of our team)
7. การทางานเพ่ือทีมของเราสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนให้พยายามเต็มความสามารถของตน
(Working on our team inspires people to do their best
8. เรามีทักษะท่ีจาเป็นเพ่ือปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิผล (We have the skills we need to do
our jobs effectively)
9. เรามุ่งม่ันอย่างหนักแน่นต่อภารกิจร่วมกัน (We are strongly committed to a shared
mission)
10. เมื่อบทบาทของบุคคลเปล่ียนไปก็จะมีความพยายามโดยเจตนาเพื่อทาให้เกิดความชัดเจนใน
บทบาทต่อทุกคนในทีม (When an individual’s role changes, an intentional effort is made to
clarify it for everyone on the team)
11. เราระบแุ ละแก้ไขปญั หาอยา่ งรวดเร็ว (We address and resolve issues quickly)
12. สมาชิกในทมี เป็นผฟู้ งั ทีม่ ีประสิทธิผล (Team members are effective listeners)
13. เรามุ่งท่ีจะจัดลาดับความสาคัญเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มงานอื่น (We seek to
arrange our priorities to meet the needs of other work groups)
14. สมาชิกในทีมยังคงรักษาวิถีปฏิบัติแบบท่ีเชื่อว่าตนทาได้เมื่อพวกเขาเผชิญกับสถานการณ์ท่ีน่า
ผิ ด ห วั ง ( Team members maintain a can-do approach when they encounter frustrating
situations)

88

15. ทีมของฉันมีความรู้สึกอันแรงกล้าต่อความสาเร็จท่ีเกี่ยวกับงานของเรา (My team has a
strong sense of accomplishment relative to our work)

16. เราถามตัวเราเองเสมอว่า “เราจะทาส่ิงที่เราทาไปแล้วในวันนี้ให้ดีขึ้นได้อย่างไรในวันพรุ่งน้ี”
(We always ask ourselves, “How can we do better tomorrow what we did today?”)

17. เรามุ่งเน้นไปท่ีปัญหาทางกลยุทธ์โดยรวมเช่นเดียวกับกิจกรรมประจาวัน (We focus on big-
picture strategic issues as much as on day-to-day activities)

18. สมาชิกของทีมเข้าใจบทบาทของสมาชิกท่านอื่น (Team members understand one
another’s roles)

19. ผู้คนในทีมของฉันได้รับรางวัลจากการเป็นสมาชิกในทีม ( People on my team are
rewarded for being team players)

20. Communication in our group is open and honest.
21. เราสื่อสารอย่าง มีประสิทธิผลกับกลุ่มอื่น ๆ (We communicate effectively with other
groups)
22. สมาชิกของทีมริเร่ิมท่ีจะแก้ไขปัญหาด้วยตัวพวกเขาเองโดยปราศจากผู้นาของทีม (Team
members take initiative to resolve issues between themselves without involving the team
leader)
23. ผ้คู นภมู ิใจทเี่ ปน็ สว่ นหนึ่งของทีม (People are proud to be part of our team)
24. เราทางานในฐานะทีมอย่างต่อเนื่องเพ่ือปรับปรุงเวลาของแต่ละกระบวนการทางาน, ความเร็ง
ในการตอบสนอง การตอบสนองความต้องการลูกค้า หรอื ผลการดาเนินงานท่สี าคัญอืน่ ๆ (As a team, we
are continually working to improve cycle time, speed to market, customer responsiveness,
or other key performance)
25. เราตงั้ เป้าหมายท่ีทา้ ทายและไปให้ถึงเปา้ หมายนัน้ ) We set and meet challenging goals.
26. ทุกคนให้คุณค่าส่ิงที่สมาชิกในกลุ่มแต่ละคนมอบให้ทีม (Everyone values what each
member contributes to the team)
27. การประชุมของกลมุ่ นนั้ มีประสทิ ธผิ ลท่ดี มี าก (Group meetings are very productive)
28. สมาชิกในทมี ของเราไวว้ างใจซ่ึงกนั และกัน (Members of our team trust each other)
29. ทีมของเราได้สร้างความสัมพันธ์ท่ีไว้วางใจและสนับสนุนกับทีมอ่ืน ( Our team has
established trusting and supportive relationships with other teams)
30. เราใช้เวลาส่วนน้อยบ่นเก่ียวกับสิ่งท่ีเราควบคุมไม่ได้ ( We spend very little time
complaining about things we cannot control)

89

31. บ่อยครั้งสมาชิกของเราทาในส่ิงที่มากกว่าสงิ่ ที่ต้องทาและไมล่ ังเลทจ่ี ะริเรม่ิ (Team members
frequently go beyond what is required and do not hesitate to take initiative)

32. เราเห็นทุกอย่างแม้กระทั่งความผิดพลาดเป็นโอกาสสาหรับการเรียนรู้และเติบโต (We view
everything, even mistakes, as opportunities for learning and growth)

33. เราสร้างผลงานท่ีแข็งแกร่งและวัดได้อย่างต่อเน่ือง (We consistently produce strong,
measurable results)

34. สมาชิกของทีมหลีกเลี่ยงการพยายามท่ีซ้าซ้อนและทาให้แน่ใจและชัดเจนว่าใครทาหนา้ ท่ีอะไร
(Team members avoid duplication of effort and make sure they are clear about who is doing
what)

35. ทีมของเรามีกลไกในการเฝ้าติดตามผลงาน (Our team has mechanisms in place to
monitor its results)

36. สมาชกิ ในทีมของเราชว่ ยสมาชกิ คนอืน่ ในการจัดการหรือแก้ไขปัญหา (Team members help
one another deal with problems or resolve issues)

37. เราทางานเพ่ือมุ่งบูรณาการแผนของเรากับแผนของกลุ่มงานอื่น ( We work toward
integrating our plans with those of other work groups)

38. สมาชิกในทีมแสวงหาและให้ข้อเสนอแนะท่ีสร้างสรรค์แก่กันและกัน (Team members seek
and give each other constructive feedback)

39. ในฐานะทีมเราทางานเพ่ือดึงดูดและคงไวซ้ ่ึงผู้ทีป่ ฏิบัตงิ านไดย้ อดเยย่ี ม (As a team, we work
to attract and retain top performers)

40. เราใช้รูปแบบการฝึกที่หลากหลายเพื่อทาให้ทักษะมีความทันสมัยอยู่เสมอ (We use various
forms of training to keep our skills up-to-date)

41. เราตรวจสอบให้แน่ใจว่างานของเราช่วยให้องค์กรบรรลุวัตถุประสงค์ (We make sure our
work helps the organization achieve its goals)

42. เม่ือบทบาทของสมาชิกในทีมมีการเปลี่ยนแปลง ก็จะมีการใช้แผนที่พิเศษเฉพาะ เพ่ือช่วยให้
พวกเขารับมือความรับผิดชอบใหม่ (When team members’ roles change, specific plans are
implemented to help them assume their new responsibilities)

43. ทมี ของเราทางานด้วยความยดื หยุ่นมากเพ่ือท่จี ะปรับตวั เขา้ กับความต้องการที่เปล่ียนแปลงอยู่
ตลอดเวลา (Our team works with a great deal of flexibility so that we can adapt to changing
needs)

44. เราสามารถท่ีจะทางานภายใต้ความคิดเห็นที่แตกต่างโดยปราศจากการทาลายความสัมพันธ์
(We are able to work through differences of opinion without damaging relationships)

90

45. ความร่วมมือของเรากับทีมอื่นๆมีประสิทธิผลคุ้มค่าและให้ผลท่ีดี (Our collaborations with
other teams are productive, worthwhile, and yield good results)

46. สมาชิกในทีมม่ันใจเกี่ยวกับสิ่งท่ีพวกเขาได้รับความคาดหวังและมีความภาคภูมิใจในงานท่ีทา
สาเรจ็ เปน็ อยา่ งดี (Team members are sure about what is expected of them and take pride in
a job well done)

47. ทีมของเราตื่นเต้นเก่ียวกับการมีส่วนร่วมในการสร้างความสามารถในการแข่งขันขององค์กร
(Our team is excited about the contribution it is making to the organization's competitive viability)

48. สมาชิกในทีมยอมรับว่าการปรับปรุงอย่างต่อเน่ืองเป็นเสมือนวิถีชีวิต (Team members
embrace continuous improvement as a way of life)

49. ภารกิจและเป้าหมายของทีมมีการจัดวางให้เข้ากับภารกิจและเป้าหมายขององค์กร (The
mission and goals of my team are well aligned with the organization's mission and goals)

50. หน้าท่ีและความรับผอดชอบที่ทาร่วมกันหรือซ้าซ้อนไม่สร้างปัญหาให้กับสมาชิกในทีม
(Overlapping or shared tasks and responsibilities do not create problems for team members)

51. เมื่อเราได้เลือกการตัดสินใจแบบฉันทามติเราก็ทาอย่างมีประสิทธิผล (When we choose
consensus decision-making, we do it effectively)

52. สมาชิกในทีมแสดงถึงการให้ความร่วมมือและการสนับสนุนร่วมกันในระดับสูง (Team
members display high levels of cooperation and mutual support)

53. เป้าหมายของกลุ่มเราสนับสนุนเป้าหมายของกลุ่มอ่ืน (The goals of our group support
those of other groups)

54. สมาชิกในทีมพิจารณาว่าการกระทาของพวกเขาจะกระทบคนอื่นอย่างไหร่หากจะทา (Team
members consider how their actions will impact others when deciding what to do)

55. ทีมของฉันภูมิใจในความสาเร็จและคิดบวกเกี่ยวกับอนาคต (My team is proud of its
accomplishments and optimistic about the future)
56. สมาชิกในทีมทางานเพือ่ สร้างความมั่นใจว่าเราจะใชว้ ธิ กี ารปฏิบัติงานท่ีดีทสี่ ุด (Team members work
to ensure we are using best practice methods)

โปรดทบทวนตัวเอง แล้วตอบในใจว่าท่านเข้าใจการประเมินผลของทักษะทีมงานท่ีมี
ประสิทธิผล ตามทัศนะของ So Go Survey Website ว่าอย่างไร ? ......................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................

91

แบบประเมนิ ตนเอง
1) ท่านเข้าใจการประเมินผลของทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล ตามทัศนะของ Mind Tools

Website ชดั เจนดีแลว้ หรือไม่
[ ] ชัดเจนดีแลว้ [ ] ยงั ไม่ชดั เจนดีพอ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกครั้ง แล้วตอบคาถามในใจว่า Mind Tools
Website กลา่ วถึงการประเมนิ ผลของทกั ษะทมี งานที่มปี ระสทิ ธิผลว่าอย่างไร?
2) ท่านเข้าใจการประเมินผลของทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล ตามทัศนะของ Idros, Sulsiman,
Mahbob, & Hassan ชัดเจนดแี ลว้ หรอื ไม่
[ ] ชัดเจนดแี ล้ว [ ] ยงั ไม่ชดั เจนดพี อ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกคร้ัง แล้วตอบคาถามในใจว่า Idros, Sulsiman,
Mahbob, & Hassan กลา่ วถึงการประเมินผลของทกั ษะทีมงานท่ีมีประสิทธผิ ล ว่าอย่างไร?
3) ท่านเข้าใจการประเมินผลของทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล ตามทัศนะของ Questiun Pro Website
ชดั เจนดีแล้วหรอื ไม่
[ ] ชัดเจนดแี ล้ว [ ] ยงั ไม่ชดั เจนดพี อ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกคร้ัง แล้วตอบคาถามในใจว่า Questiun Pro
Website กล่าวถึงการประเมนิ ผลของทักษะทีมงานท่ีมีประสทิ ธผิ ล ว่าอยา่ งไร?
4) ท่านเข้าใจการประเมินผลของทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล ตามทัศนะของ Birmingham Website
ชดั เจนดีแล้วหรอื ไม่
[ ] ชัดเจนดีแลว้ [ ] ยังไม่ชัดเจนดีพอ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกคร้ัง แล้วตอบคาถามในใจว่า Birmingham
Website กลา่ วถงึ การประเมินผลของทกั ษะทีมงานท่ีมีประสิทธผิ ล วา่ อย่างไร?
5) ท่านเข้าใจการประเมินผลของทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล ตามทัศนะของ Bright HUB
Education Website ชดั เจนดแี ล้วหรือไม่
[ ] ชดั เจนดีแลว้ [ ] ยงั ไม่ชัดเจนดพี อ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกคร้ัง แล้วตอบคาถามในใจว่า Bright HUB
Education Website กลา่ วถึงการประเมนิ ผลของทักษะทีมงานทม่ี ีประสิทธผิ ล วา่ อย่างไร?
6) ท่านเข้าใจการประเมินผลของทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผล ตามทัศนะของ Mugavin ชัดเจนดี
แลว้ หรือไม่
[ ] ชดั เจนดีแลว้ [ ] ยงั ไมช่ ัดเจนดีพอ
หากยงั ไมช่ ัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกครั้ง แล้วตอบคาถามในใจวา่ Mugavin กลา่ วถึง
การประเมนิ ผลของทักษะทมี งานที่มปี ระสิทธผิ ล วา่ อยา่ งไร?

92

7) ท่านเข้าใจการประเมินผลของทักษะทีมงานท่ีมีประสทิ ธผิ ล ตามทัศนะของ Fammed Archives
Website ชัดเจนดีแลว้ หรอื ไม่
[ ] ชดั เจนดีแล้ว [ ] ยงั ไม่ชดั เจนดีพอ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกคร้ัง แล้วตอบคาถามในใจว่า Fammed
Archives Website กลา่ วถงึ การประเมินผลของทักษะทีมงานทีม่ ีประสิทธผิ ล วา่ อย่างไร?

8) ท่านเข้าใจการประเมินผลของทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล ตามทัศนะของ So Go Survey
Website ชดั เจนดีแลว้ หรอื ไม่
[ ] ชดั เจนดแี ล้ว [ ] ยังไม่ชดั เจนดีพอ
หากยังไม่ชัดเจนดีพอ โปรดกลับไปศึกษาใหม่อีกครั้ง แล้วตอบคาถามในใจว่า So Go Survey
Website กล่าวถึงการประเมินผลของทักษะทีมงานที่มปี ระสทิ ธผิ ล ว่าอย่างไร?

หมายเหตุ
หากต้องการศึกษารายละเอียดของแต่ละทัศนะจากต้นฉบับที่เป็นภาษาอังกฤษ โปรด “Ctrl & Click”
เวบ็ ไซต์ของแต่ละแหล่งได้ ดังนี้

1) Mind Tools Website :
https://www.mindtools.com/pages/article/newTMM_84.htm?fbclid=IwAR2qZqU_XnX
aHQhnOygsHf-gc7wB9UKpoefs1tLc_jAh9B0J9-CBHo9nMCE

2) Idros, W., Sulsiman, W., Mahbob, H.M., & Hassan, B. :
https://www.researchgate.net/publication/267383700_An_Analysis_on_the_Effectiven
ess_of_Team_Building_The_Impact_on_Human_Resources

3) Questiun Pro Website : https://www.questionpro.com/survey-templates/teamwork/
4) Birmingham Website : https://birmingham.instructure.com› download TEAMWORK

QUESTIONNAIRE
5) Bright HUB Education Website : https://www.brighthubeducation.com/high-school-

teaching-tips/7520-teamwork-self-assessment-checklist-for-high-schoolers/
6) Mugavin : https://www.flashpointleadership.com/blog/checklist-for-assessing-team-

effectiveness
7) Fammed Archives Website : https://rb.gy/vvgsgd
8) So Go Survey Website :

https://www.sogosurvey.com/survey-templates/employee/team-evaluation-survey/

93

เอกสารอา้ งอิง

Mind Tools Website. (2021). Team effectiveness assessment how good is your team?.
Retrieved January 21, 2021, from https://rb.gy/o6ovrw

Idros, W., Sulsiman, W., Mahbob, H.M., & Hassan, B. (2012). An analysis on the effectiveness
of team building: the impact on human resources. Retrieved February 10, 2021, from
https://rb.gy/wqnvnm

Questiun Pro Website. (2021). Top 15 teamwork survey questions + sample questionnaire
template. Retrieved February 10, 2021, from https://rb.gy/5wg4un

Birmingham Website. (2021). Teamwork questionnaire. Retrieved January 21, 2021, from
https://rb.gy/xescwu

Bright HUB Education Website. (2020). This teamwork skills checklist assesses high school
students work readiness. Retrieved January 21, 2021, from https://rb.gy/kzhfp6

Mugavin, B. (2020). Checklist for assessing team effectiveness: 10 characteristics. Retrieved
January 21, 2021, from https://rb.gy/xjlynn

Fammed Archives Website. (2020). Assessing teamwork: a reliable five-question survey.
Retrieved January 21, 2021, from https://rb.gy/vvgsgd

So Go Survey Website. (2020). Team effectiveness questionnaire. Retrieved January 21, 2021,
from https://rb.gy/kayl4p

94

คู่มอื ประกอบโครงการครูนาผลการเรยี นรสู้ กู่ ารพัฒนานักเรยี น

95

คู่มอื เชิงปฏิบัตกิ ารเพอื่ พฒั นาทักษะทีมงานท่ีมีประสทิ ธิผล
ใหแ้ ก่นกั เรยี น

96

คูม่ อื ประกอบโครงการครูนาผลการเรยี นรสู้ กู่ ารพฒั นานักเรยี น

วตั ถุประสงค์เพอ่ื การปฏบิ ัติ

คู่มือเชิงปฏิบัติการประกอบโครงการครูนาผลการเรียนรู้สู่การพัฒนานักเรียนนี้ จัดทาขึ้นเป็นให้ท่าน
ได้ทราบถึงประเด็นต่างๆ ที่จะช่วยให้ท่านนาความรู้ท่ีท่านได้รับจากโครงการแรก คือ โครงการพัฒนา
เพ่ือการเรียนรู้ของครูเกี่ยวกับการพัฒนาทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผลของนักเรียน ไปสู่การปฏิบัติ
คอื การพัฒนานักเรียน ได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพและประสิทธิผล ดังนี้

1) ทบทวนถึงคุณลักษณะหรือทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผลของนักเรียน ที่คาดหวังให้เกิดข้ึนกับ
นักเรียน หลังจากได้รับการพัฒนาจากท่านตามโครงการครูนาผลการเรยี นรู้สูก่ ารพัฒนานักเรยี น
ในระยะ 2-3 เดอื นหลงั จากนี้

2) ทบทวนถึงหลักการ / แนวคิด / เทคนิค / วิธีการ / กิจกรรมท่ีเป็นทางเลือกท่ีหลากหลายเพื่อ

การพัฒนาทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธิผลของนักเรียนจากทัศนะของนักวิชาการหรือหน่วยงานท่ี
ท่านได้ศึกษามาจากคู่มือประกอบโครงการแรก คือ โครงการพัฒนาเพื่อการเรียนรู้ของครู
เกย่ี วกับการพัฒนาทักษะทมี งานทมี่ ีประสิทธิผลของนักเรียน เพ่อื ใช้เปน็ แนวทางการพัฒนาของ
ท่าน ซงึ่ หากมมี ากมาย อาจเลือกใช้แนวทางการพฒั นาท่ีทา่ นเห็นว่าสาคญั
3) ทบทวนถงึ ขน้ั ตอนการพัฒนาทักษะทมี งานท่ีมปี ระสิทธผิ ลของนักเรียนจากทศั นะของนักวชิ าการ
หรือหน่วยงานท่ีท่านได้ศึกษามาจากคู่มือประกอบโครงการแรก คือ โครงการพัฒนาเพ่ือการ
เรียนรู้ของครูเก่ียวกับการพัฒนาทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผลของนักเรียน เพ่ือใช้เป็นแนว
ทางการพัฒนาของท่านเอง ซ่ึงอาจจะยึดถือตามทัศนะใดทัศนะหน่ึง หรือบูรณาการข้ึนใหม่จาก
หลายๆ ทศั นะ
4) ระบุถึงหลักการ / แนวคิด / เทคนิค / วิธีการ / กิจกรรมที่เป็นทางเลือกท่ีหลากหลายเพ่ือการ
พัฒนา และขั้นตอนการพฒั นาท่ที า่ นนาไปใชใ้ นการพัฒนานักเรียน
5) ให้ข้อสังเกตถึงปัจจัยท่ีส่งผลในทางบวก และปัญหาหรืออุปสรรคต่อการปฏิบัติงานของท่านใน
การพฒั นาทักษะทีมงานทม่ี ปี ระสทิ ธิผล แกน่ กั เรียน
6) ระบุถึงวิธีการท่ีท่านนามาใช้เพ่ือแก้ไขปัญหาหรืออุปสรรคต่อการปฏิบัติงานของท่านในการ
พฒั นาทกั ษะทีมงานที่มปี ระสิทธิผล แกน่ ักเรยี น
7) ระบุถงึ บทเรยี นสาคญั ท่ีได้จากการการพัฒนาทักษะทีมงานท่ีมีประสิทธผิ ล แก่นักเรียน
8) ระบุถึงข้อเสนอแนะสาคัญเพ่ือให้การพัฒนาทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล แก่นักเรียนประสบ
ผลสาเรจ็ ในโอกาสต่อไป

97

ทบทวนผลการเรยี นรจู้ ากโครงการพฒั นาเพอื่ การเรียนร้ขู องครู

1) ทบทวนคณุ ลักษณะหรือทกั ษะทมี งานท่ีมีประสิทธิผล ทีค่ าดหวงั ใหเ้ กิดขนึ้ กับนักเรยี น
1.1 ความคาดหวังคุณลักษณะของนักเรียนท่ีมีทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล จากนานาทัศนะทาง
วชิ าการ
Bridgeman (2018) ให้ทศั นะวา่ คนทม่ี ีทกั ษะทีมงานที่มีประสิทธิผล เป็นคนที่มีคณุ ลักษณะ ดังนี้
1. เป้าหมายรว่ มกนั (A Common Goal
2. การส่ือสารแบบเปิด (Open Communication
3. บทบาทของทมี (Team Roles)
4. การบริหารเวลา (Time Management)
5. การแก้ปญั หาในทางปฏิบัติ (Practical Problem Solving)
6. ความผกู พนั (Bonding)

Rose (2019) ให้ทศั นะว่า คนท่มี ีทกั ษะทมี งานท่ีมีประสทิ ธผิ ล เป็นคนทีม่ ีคณุ ลักษณะ ดังนี้
1. คนท่ีอยู่ในทีมรู้ว่าพวกเขาพึ่งพาซึ่งกันและกัน (People Who are on a Team Know

They are Dependent on Each Other)
2. เมื่อแต่ละคนทางานเป็นส่วนหน่ึงของทีมพวกเขาทางานในบรรยากาศแห่งความไว้วางใจ

และได้รับการสนับสนุนให้แสดงออกอย่างเปิดเผย(When individuals work as part of a team,
they work in an atmosphere of trust and are encouraged to express themselves openly)

3. สมาชิกในทีมรู้สึกเป็นเจ้าของงานและทีมของพวกเขาเพราะพวกเขาลงทุนลงแรงในทีม
(Members of a team feel a sense of ownership for their jobs and team because they
have made a personal investment into the team)

4. ทีมสนับสนุนให้สมาชิกแต่ละคนนาความสามารถและความรู้ส่วนบุคคลไปใช้เพ่ือ
วัตถุประสงค์ของทีม( Teams encourage individual members to apply their individual
talent and knowledge to team objectives)

5. สมาชิกในทีมทุกคนฝึกฝนการสื่อสารแบบเปิดกว้างซ่ึงกันและกัน (All team members
practice open communication with each other)

6. ทีมที่ยอดเยี่ยมส่งเสริมให้สมาชิกเรียนรู้เก่ียวกับงานและพัฒนาทักษะใหม่ ๆ (Great
teams encourage members to learn on the job and develop new skills)

7. มีการตดั สนิ ใจร่วมกันทัง้ ทมี (Decision-making involves the entire team)
8. ทีมท่ีดีแก้ไขความขัดแย้งได้อย่างรวดเร็วและสร้างสรรค์ ( Good teams resolve
conflicts quickly and constructively)

98

Wroblewski (2019) ใหท้ ศั นะว่า คนท่มี ีทักษะทีมงานทีม่ ีประสิทธผิ ล เปน็ คนท่มี ีคณุ ลักษณะ ดงั นี้
1. สมาชิกในทมี ท่มี ปี ระสิทธิภาพปฏิบัตติ ่อกันด้วยความเคารพ (Effective Team Members
Treat Each Other Respectfully)
2. สมาชิกในทีมที่มีประสิทธิผลทางานอย่างจริงจัง (Effective Team Members Take
Their Work Seriously)
3. สมาชิกในทีมที่มีประสิทธิผลจะผูกพันกับค่านิยมที่คล้ายคลึงกัน (Effective Team
Members are Bound by Similar Values)

The Pitcher Website (2018) ให้ทัศนะว่า คนที่มีทักษะทีมงานที่มีประสิทธิผล เป็นคนที่มี
คุณลักษณะ ดังนี้

1. การสื่อสารท่ตี รงไปตรงมา (Honest Communication)
2. ความนา่ เช่ือถือ (Trust)
3. ม่งุ เน้นไปท่ีเป้าหมายร่วมกนั (Focus on the Common Goal)
4. ความเข้าใจและความอดทน (Understanding and Tolerance)
Center for Management & Organization Effectiveness Website : CMOE (n.d.)
ให้ทศั นะว่า คนทม่ี ีทกั ษะทีมงานทม่ี ีประสทิ ธิผล เปน็ คนที่มีคณุ ลกั ษณะ ดังนี้
1. พวกเขาเขา้ ใจบทบาทของตน (They Understand Their Role)
2. พวกเขายอมรบั การทางานรว่ มกัน (They Embrace Collaboration)
3. พวกเขามคี วามรับผิดชอบในตวั เอง (They Hold Themselves Accountable)
4. พวกเขามคี วามมงุ่ ม่นั ในทมี (They are Committed to Their Team)
5. มคี วามยดื หยนุ่ (They Are Flexible)
6. พวกเขามองโลกในแงด่ ีและมุ่งเนน้ อนาคต (They are Optimistic and Future-Focused)
7. พวกเขาผลักดันใหไ้ ปถงึ เปา้ หมายดว้ ยการกระทา (They Back up Goals with Action)
DeBattiste (2015) ให้ทศั นะวา่ คนทีม่ ีทักษะทีมงานที่มปี ระสิทธผิ ล เปน็ คนทีม่ ีคณุ ลกั ษณะ ดังนี้
1. ทีมท่ีมีประสิทธิภาพมีชื่อและพันธกิจที่แบ่งปันและเผยแพร่ ทีมที่มีประสิทธิภาพมี
คว ามรู้สึกของตัว ตนร่ว มกัน ( An effective team has a name, and a shared and
published mission statement. An effective team has a sense of shared identity)
2. ทีมงานท่ีมีประสิทธิภาพมีท้ังค่านิยม (ความเช่ือหลักพ้ืนฐาน) และบรรทัดฐาน (มาตรฐาน
ของพฤตกิ รรม) ทส่ี มาชิกในทมี ทุกคนทราบและตกลงกนั บรรทดั ฐานมีความชัดเจนและอิงตาม
ค่ า นิ ย ม ( An effective team has both values (underlying core beliefs) and norms
(standards of behavior) that are known by and agreed to by all team members.
Norms are explicit and based on values)

99

3. ทีมงานที่มีประสิทธิภาพมีสมาชิกที่เคารพและไว้วางใจซ่ึงกันและกัน สมาชิกรับฟังอย่าง
กระตอื รือร้นและเอาใจใส่ซึ่งกันและกนั โดยแสวงหาความเข้าใจก่อน(An effective team has
members who respect and trust each other. Members listen actively and
empathetically to each other, seeking first to understand)
4. ทีมงานที่มีประสิทธิภาพมีวิธีการแก้ปัญหาท่ีพยายามและเป็นจริง ความขัดแย้งไม่ได้เป็น
ความขัดแย้งระหว่างบุคคล ถือว่าเป็นแรงเสียดทานระหว่างความคิดไม่ใช่คน (An effective
team has a tried and true method of problem solving. Conflict is not
personalized; it is treated as the friction between ideas, not people)
5. ทีมงานที่มีประสิทธิภาพเห็นด้วยในบทบาทของสมาชิกแต่ละคนภายในทีมและเข้าใจว่า
บทบาทเหล่านั้นมีส่วนช่วยในภารกิจหรือเป้าหมายของทีม บทบาทเหมาะกับประเภท
บุคลิกภาพ และชุดทักษะของสมาชิก(An effective team agrees on each member’s
roles within the team, and how those roles contribute to the mission or goal of
the team. Roles are suited to member’s personality types and skill sets)
6. สมาชิกของทีมท่ีมีประสิทธิภาพมีชุดทักษะเสริมและรู้วิธีใช้ประโยชน์จากจุดแข็งและ
ชดเชยจดุ อ่อนของพวกเขา(Members of an effective team have complementary skill
sets, and know how to leverage their strengths and compensate for their
weaknesses)
7. สมาชิกของทีมที่มีประสิทธิภาพเฉลิมฉลองความสาเร็จร่วมกันและแบ่งปันท้ังคาชมและคา
ต า ห นิ ( Members of an effective team celebrate successes together, and share
both praise and blame)
8. สมาชกิ ของทีมที่มีประสิทธภิ าพแสวงหาและให้ความสาคัญกับความหลากหลายในทีมและ
ใชค้ วามหลากหลายเพื่อสร้างความคิดสรา้ งสรรค์ พวกเขาไมก่ ลวั ที่จะแสดงความคิดที่แตกต่าง
( Members of an effective team seek out and value diversity on the team, and
use their diversity to engender creative thinking. They are not afraid to express
different ideas)
9. สมาชกิ ของทีมท่ีมีประสทิ ธภิ าพจะมุ่งเน้นไปที่ผู้อน่ื มากกว่าที่จะม่งุ เน้นไปทต่ี นเอง พวกเขา
ให้ความสาคัญกับความสัมพันธ์ทั้งกับลูกค้าและกับเพื่อนร่วมทีมและพยายามปรับปรุงและ
เสริมสร้างความสัมพันธ์เหล่านั้นอย่างต่อเน่ือง พวกเขาตีกรอบประเด็นจากมุมมองของทีม
มากกว่าผลประโยชน์ตัวเอง ทีมท่ีมีประสิทธิภาพมีความครอบคลุม( Members of an
effective team are others-oriented, rather than self-oriented. They focus on their
relationships, both with customers and with teammates, and they continually

100

seek to improve and strengthen those relationships. They frame issues from the
perspective of the team rather than from self-interest. Effective teams are
inclusive)
10. สมาชิกของทีมท่ีมีประสิทธิผลมีความรู้สึกเป็นเจ้าของและมีความรู้สึกสะท้อนใจเกี่ยวกับ
ประสบการณ์ในทีมของตน พวกเขามีความรู้สึกร่วมกันและมีความภาคภูมิใจเกี่ยวกับการเป็น
สมาชิกในทีม(Members of an effective team have a sense of belonging and a sense
of resonance about their team experience. They have a feeling of cohesion and
a sense of pride about their membership on the team)
11. สมาชิกของทีมท่ีมีประสิทธิภาพคาดหวังและรับผิดชอบร่วมกันเพื่อประสิทธิภาพใน
ระดับสูง ทีมงานที่มีประสิทธิภาพตรวจสอบและประเมินประสิทธิผลอย่างต่อเน่ือง(Members
of an effective team expect and hold themselves mutually accountable for a
high level of performance. Effective teams continually review and assess their
effectiveness)
12. ทีมที่มีประสิทธิภาพยอมรับการเปล่ียนแปลงหากจาเป็น(Effective teams embrace
change when they need to)
Pole (2017) ใหท้ ศั นะว่า คนท่มี ีทักษะทีมงานทม่ี ปี ระสิทธิผล เป็นคนทม่ี ีคุณลักษณะ ดังน้ี
1. แสดงความมงุ่ มัน่ อยา่ งแท้จรงิ (Show Genuine Commitment)
2. มคี วามยืดหยนุ่ (Be Flexible)
3. อย่าอย่ใู นเงามดื (Don’t Stay in the Shadows)
4. มคี วามนา่ เช่อื ถอื และมคี วามรับผดิ ชอบ (Be Reliable and Responsible)
5. ตง้ั ใจฟัง (Actively listen)
6. แจง้ ข้อมูลให้ทมี ของคณุ ทราบเสมอ (Keep your Team Informed)
7. พรอ้ มใหค้ วามชว่ ยเหลอื เสมอ (Always be Ready to Help)
8. สนับสนนุ และเคารพผู้อืน่ (Support and Respect Others)
9. เป็นผูแ้ ก้ปญั หา (Be a Problem-Solver)
10. ยอมรบั เม่อื คณุ ทาผดิ (Recognize when You are Wrong)
Pope (2017) ใหท้ ัศนะว่า คนที่มีทักษะทีมงานทมี่ ีประสิทธผิ ล เป็นคนที่มีคณุ ลักษณะ ดงั น้ี
1. ตระหนกั รใู้ นตนเอง (Self-Aware)
2. มงุ่ มั่นท่จี ะเชยี่ วชาญ (Committed to Mastery)
3. แรงจูงใจจากภายใน (Intrinsically Motivated)
4. เชือ่ ถอื ได้ (Reliable)