6181112027 แผนการสอนวิชาพละศึกษา ป๔ นายฉัตรมงคล มาลา เสร็จ

๑๙๕

*ดรู ายละเอียดในเอกสาร/ความร้เู สริมสำหรบั ครู

• ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)

วธิ กี ารวดั และประเมินผล เคร่ืองมอื วัดและประเมินผล เกณฑ์การวัดและประเมินผล

• สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม • ผ่านเกณฑเ์ ฉล่ยี

ของนักเรยี น คา่ นิยม และคุณลักษณะอนั พงึ ระดับคณุ ภาพ 2 ข้นึ ไป

ประสงค*์

*ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสำหรับครู

• ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)

วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล เครื่องมือวดั และประเมินผล เกณฑ์การวัดและประเมินผล

• สงั เกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมนิ ทกั ษะ/กระบวนการ* • ผ่านเกณฑ์เฉลี่ย

ของนกั เรียน ระดับคุณภาพ 2 ขึน้ ไป

*ดรู ายละเอียดในเอกสาร/ความรเู้ สริมสำหรับครู

5. สาระการเรยี นรู้

5. กฬี าแฮนดบ์ อล
– การแขง่ ขันกฬี าแฮนดบ์ อล

6. แนวทางบรู ณาการ

ภาษาไทย พูดคุยแสดงความคดิ เห็นหรือสรปุ เกยี่ วกบั ความสำคัญของการฝกึ

ทักษะกีฬาแฮนดบ์ อล

การงานอาชพี ฯ ออกแบบและตกแต่งแผนผงั ภาพประกอบ และเขยี นผงั กา้ งปลา

เกี่ยวกับสาเหตทุ ่ีทำใหป้ ระสบความสำเร็จในการแขง่ ขนั กีฬาแฮนดบ์ อล

7. กระบวนการจดั การเรียนรู้

ขน้ั ที่ 1: นำเขา้ สูบ่ ทเรียน

1. ให้นักเรียนเข้าแถวตามกลุ่มที่ได้แบ่งไว้และให้แต่ละกลุ่มสำรวจความพร้อมของสมาชิกภายใน
กลมุ่
2. นักเรียนอาสาสมัครนำเพื่อนในชั้นเรียนอบอุ่นร่างกาย (warm-up) โดยใช้ท่ากายบริหารด้วย
การยดื เหยียดกลา้ มเน้ือ เพือ่ เป็นการเตรยี มความพรอ้ มในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม
3. ครใู ห้รายละเอียดของลำดบั การเรยี นรู้ท่ีนักเรียนจะไดเ้ รียนรู้และปฏบิ ัตกิ ิจกรรมในครัง้ นี้
ให้นกั เรยี นทราบ

๑๙๖

4. คัดเลือกกลุ่มนักเรียนอาสาสมัคร 1 กลุ่ม ออกมานำเสนอผลการปฏิบัติกิจกรรมการฝึกทักษะ
รับ–ส่ง

ลูกบอล ทไี่ ดร้ ับมอบหมายจากการเรียนคร้ังท่ีผ่านมา แล้วให้เพอื่ นร่วมแสดงความคดิ เห็น

ข้นั ที่ 2: กิจกรรมการเรียนรู้

1. ครูอธิบายเร่ือง มารยาทที่ดีในการเป็นผู้เลน่ และผ้ชู มกีฬา
2.นักเรียนรว่ มกันปฏิบัติกิจกรรมแผนท่ีความคดิ เรอ่ื ง ช่วยกันคิดช่วยกันคุยเกี่ยวกับกตกิ ารวมเพื่อน
มาแข่งขันกีฬาแฮนด์บอลและตอบคำถามในประเด็นที่กำหนด ดังรายละเอียดในใบกิจกรรมที่ครู
แจกให้หรือในแบบฝึกทักษะ รายวิชาพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 4 โดยใช้เวลาตามท่ี
กำหนด
3. ครูสุ่มนักเรยี น 2–3 คนออกมานำเสนอผลการปฏบิ ตั ิกิจกรรม โดยครใู หข้ อ้ เสนอแนะ และแนว
คำตอบทถี่ กู ตอ้ ง ให้นกั เรียนทราบ

ขั้นที่ 3: ฝกึ ฝนทกั ษะและประสบการณ์
1. นักเรยี นแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 7 คน ร่วมปฏิบัติกจิ กรรมการแข่งขันกีฬาแฮนด์บอล โดยครเู ปน็
กรรมการตดั สนิ
2. แตล่ ะกลุ่มชว่ ยกนั ระดมความคิดช่วยกนั วางแผนในการแข่งขัน และสง่ ตัวแทนจบั ฉลากเพ่ือทำ
การแข่งขนั
3. แตล่ ะกลมุ่ เรม่ิ ทำการแขง่ ขนั ใชเ้ วลาในการแขง่ ขนั โดยแบง่ เป็นคร่งึ แรก 10 นาที คร่งึ หลัง 10
นาที และพักคร่ึง 5 นาที การแข่งขันจะเปน็ การแขง่ ขนั แบบแพค้ ดั ออก

ขน้ั ที่ 4: การนำไปใช้
• นักเรยี นร่วมกันฝกึ ฝนการเล่นกีฬาแฮนดบ์ อลเปน็ ทีม นอกเวลาเรยี น โดยขอความร้เู พม่ิ เตมิ จาก
ครผู สู้ อน

ขั้นท่ี 5: สรุปความรู้
1. นักเรียนรว่ มกันคลายกลา้ มเน้อื (cool-down ) ตามครู โดยใชท้ ่ายดื เหยยี ดกลา้ มเนอ้ื
2. นักเรียนทำความสะอาดร่างกายและดูแลความเรียบร้อยของการแตง่ กาย
3. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรปุ ความรแู้ ละผลท่ีได้จากการปฏบิ ัตริ ่วมกัน แล้วใหน้ กั เรยี น
บันทกึ ความรโู้ ดยสังเขปลงในสมดุ
4. มอบหมายให้นักเรยี นฝึกปฏิบัติทบทวนทกั ษะกฬี าแฮนดบ์ อล เพอื่ นำมาเข้ารว่ มแขง่ ขันในการ
เรยี นครั้งตอ่ ไป

8. กิจกรรมเสนอแนะ

• นกั เรยี นควรชกั ชวนเพอื่ นร่วมเล่นกิจกรรมกีฬาแฮนด์บอลเพม่ิ เติมหรือนำไปเล่นในช่วงเวลาการจัด
กิจกรรม ลดเวลาเรียน เพมิ่ เวลารู้ ตามที่สถานศึกษากำหนด เพื่อสรา้ งเสรมิ สุขภาพกายสขุ ภาพจติ และ
สร้างความสามคั คีในหมู่คณะตอ่ ไป

๑๙๗

9. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้

1. ลานอเนกประสงคห์ รือโรงพลศึกษา
2. ลูกแฮนด์บอล
3. หนังสอื เรยี น รายวิชาพืน้ ฐาน สขุ ศึกษาและพลศึกษา ป. 4 บริษัท สำนกั พิมพว์ ฒั นาพานชิ จำกดั
4. แบบฝกึ ทักษะ รายวิชาพนื้ ฐาน สุขศึกษาและพลศกึ ษา ป. 4 บริษทั สำนักพมิ พว์ ฒั นาพานชิ จำกัด
5. คมู่ ือการสอน สขุ ศึกษาและพลศึกษา ป. 4 บรษิ ทั สำนักพมิ พว์ ัฒนาพานิช จำกัด
6. ส่ือการเรียนรู้ PowerPoint สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ป. 4 บรษิ ัท สำนกั พิมพว์ ัฒนาพานชิ จำกดั

10. บันทกึ หลังการจดั การเรยี นรู้

1. ความสำเร็จในการจดั การเรียนรู้ (ผู้สอน)
แนวทางในการพฒั นา

2. ปญั หา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้
แนวทางแกไ้ ข

3. สิ่งท่ีไม่ได้ปฏบิ ตั ิตามแผน
เหตผุ ล

4. การปรับปรงุ แผนการจดั การเรียนรู้

(ลงช่อื )

๑๙๘

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๓๙
กจิ กรรมกฬี าแฮนดบ์ อล
(ต่อ)

๑๙๙

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๓9 เวลา 1 ชว่ั โมง
กจิ กรรมกีฬาแฮนดบ์ อล (ตอ่ )

สาระการเรียนร้ทู ่ี 3: การเคลอื่ นไหว การออกกำลงั กาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกฬี าสากล
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 3 เพมิ่ พนู ทักษะการเคล่ือนไหว
เร่ือง การแข่งขันกีฬาแฮนด์บอล (ต่อ)

1. สาระสำคญั

การแขง่ ขันกีฬาแฮนด์บอล เปน็ การนำทกั ษะพน้ื ฐานการเลน่ กฬี าแฮนดบ์ อลทไ่ี ด้ฝกึ ฝนมา
ประยุกตใ์ ช้ใหเ้ ข้ากบั เกมการแข่งขนั และฝึกการมนี ้ำใจเปน็ นักกีฬา รแู้ พ้ รู้ชนะ รู้อภัย

2. ตัวชว้ี ัดชน้ั ปี

1. เลน่ กีฬาพน้ื ฐานได้อย่างนอ้ ย 1 ชนดิ (พ 3.1 ป. 4/1)
2. ออกกำลังกาย เล่นเกมและกฬี าที่ตนเองชอบ และมีความสามารถในการวิเคราะห์ผลการพฒั นาการ
ของตนเองตามตัวอยา่ งและแบบปฏบิ ตั ิของผู้อน่ื (พ 3.2 ป. 4/1)
3. ปฏบิ ัติตามกฎ กติกาการเล่นกีฬาพื้นฐานตามชนดิ กีฬาที่เลน่ (พ 3.2 ป. 4/2)

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1. อธบิ ายกติกาและวธิ กี ารเล่นท่ีใช้ในการแขง่ ขนั กีฬาแฮนดบ์ อลอยา่ งถกู ต้องได้ (K)
2. สนใจเข้าร่วมเรียนรู้เกย่ี วกับการแขง่ ขนั กฬี าแฮนดบ์ อลดว้ ยมารยาทท่ีดีกับผู้อนื่ (A)
3. สามารถใชท้ กั ษะกระบวนการปฏบิ ัติทักษะพนื้ ฐานการเลน่ กฬี าแฮนดบ์ อลเปน็ ทมี ในการแขง่ ขันด้วย
ความปลอดภยั ได้ (P)

4. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้

• ดา้ นความรู้ (K) เคร่ืองมือวดั และประเมินผล เกณฑก์ ารวัดและประเมินผล
วิธกี ารวัดและประเมนิ ผล

• ซักถามความรเู้ ก่ยี วกบั กติกาและ • แบบประเมนิ ผลการนำเสนอ • ผ่านเกณฑ์เฉลีย่

วิธกี ารเล่นกีฬาแฮนดบ์ อล ข้อมูล/การอภิปราย/การสรา้ งแผน ระดบั คณุ ภาพ 2 ข้ึนไป

ทคี่ วามคิด*

• ซักถามและสอบถามเก่ียวกับการ • แบบประเมนิ ผลการนำเสนอ • ผ่านเกณฑ์เฉล่ยี

นำมารยาทท่ีดใี นการเป็นผ้เู ลน่ ขอ้ มูล/การอภิปราย/การสรา้ งแผน ระดบั คุณภาพ 2 ขึ้นไป

และผชู้ มกฬี ามาใช้ในการแข่งขนั ทคี่ วามคิด*

กีฬาแฮนดบ์ อล

๒๐๐

• ตรวจสอบความถูกต้องของ • แบบทดสอบหลงั เรียน • รอ้ ยละ 80 ข้นึ ไป
การทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เพ่มิ พูน
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 เพมิ่ พูน ทักษะการเคลอ่ื นไหว**
ทกั ษะการเคลื่อนไหว

* ดรู ายละเอยี ดในเอกสาร/ความรู้เสริมสาหรับครู

**ดรู ายละเอียดในสอื่ การเรียนรู้ PowerPoint สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ป. 4 บริษัท สานกั พิมพ์วฒั นาพานชิ จากดั

• ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (A)

วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครื่องมือวดั และประเมินผล เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล

• สังเกตพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม • ผา่ นเกณฑ์เฉลยี่
ระดบั คณุ ภาพ 2 ข้นึ ไป
ของนักเรยี น ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ

ประสงค์*

*ดูรายละเอยี ดในเอกสาร/ความรู้เสริมสำหรบั ครู

• ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)

วิธีการวัดและประเมนิ ผล เคร่ืองมือวัดและประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวดั และประเมินผล

• สงั เกตพฤตกิ รรมการแสดงออก • แบบประเมนิ ทักษะ/กระบวนการ* • ผ่านเกณฑเ์ ฉลย่ี

ของนกั เรยี น ระดับคณุ ภาพ 2 ขึน้ ไป

*ดรู ายละเอียดในเอกสาร/ความรู้เสริมสำหรับครู

5. สาระการเรยี นรู้

5. กิจกรรมกฬี าแฮนดบ์ อล

– การแข่งขนั กฬี าแฮนด์บอล (ตอ่ )

6. แนวทางบูรณาการ พดู คุยแสดงความคดิ เห็นหรือสรุปเก่ียวกบั ความสำคัญของการฝกึ
ทักษะกีฬาแฮนดบ์ อล
ภาษาไทย พดู คุยเกี่ยวกบั ค่านยิ มในกีฬาแฮนดบ์ อลจากชนชาตใิ นภูมิภาคตา่ ง ๆ

สงั คมศกึ ษาฯ

๒๐๑

7. กระบวนการจัดการเรียนรู้

ขน้ั ที่ 1: ข้นั นำเขา้ สบู่ ทเรียน
1. ให้นักเรียนเขา้ แถวตามกลุ่มท่ไี ดแ้ บ่งไว้และใหแ้ ต่ละกลมุ่ สำรวจความพร้อมของสมาชิกภายใน
กลมุ่
2. นักเรียนอาสาสมคั รนำเพ่อื นในชั้นเรียนอบอุ่นรา่ งกาย (warm-up) โดยใช้ทา่ กายบรหิ ารดว้ ย
การยดื เหยียดกลา้ มเนอื้ เพื่อเปน็ การเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติกจิ กรรม

ขัน้ ที่ 2: กิจกรรมการเรยี นรู้
• นักเรยี นแขง่ ขนั กฬี าแฮนด์บอลต่อจากการเรยี นครั้งท่ีผา่ นมา

ขั้นที่ 3: ฝกึ ฝนทกั ษะและประสบการณ์
• แตล่ ะกลมุ่ เข้าร่วมทำการแขง่ ขนั ตอ่ จากการเรียนคร้งั ท่ีผา่ นมา

ขนั้ ที่ 4: การนำไปใช้
• นักเรยี นควรหาโอกาสในการเขา้ ร่วมชมการแข่งขันกฬี าแฮนดบ์ อลจากส่อื โทรทศั น์หรือ
อนิ เทอรเ์ น็ตแล้ววเิ คราะห์ถงึ วธิ กี ารเลน่ ลงในใบงาน

ใบงาน

 ชื่อ ________________________________________________________________

 วิธีการเลน่ ท่ชี ื่นชอบ __________________________________________________

 ลกั ษณะการเล่น
____________________________________________________

_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________

 ข้อบกพร่องท่ีพบและวธิ ีแก้ไข _________________________________________

_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________
_______________________________________________________________________

2. ครูแจกแบบทดสอบความร้หู ลังเรยี น หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 3 เพมิ่ พูนทกั ษะการเคล่อื นไหว
ให้นักเรยี นทุกคนไดท้ ำการทดสอบเม่ือเรยี นจบหน่วยการเรยี นนี้ โดยใชเ้ วลาตามทค่ี รูกำหนด
เสรจ็ แลว้ ให้ครูและนักเรียนร่วมกนั เฉลยคำตอบทถี่ ูกต้องของแบบทดสอบทลี ะข้อร่วมกัน

๒๐๒

ข้นั ที่ 5: สรปุ ความรู้

1. นักเรียนร่วมกันคลายกล้ามเนอื้ (cool-down ) ตามครู โดยใช้ทา่ ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
2. นักเรยี นทำความสะอาดรา่ งกายและดูแลความเรยี บรอ้ ยของการแตง่ กาย
3. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรุปความรูแ้ ละผลท่ีได้จากการปฏิบตั ริ ่วมกัน แล้วให้นักเรียน
บันทกึ ความรโู้ ดยสงั เขปลงในสมุด
4. มอบหมายให้นักเรยี นไปอ่านทบทวนความรทู้ ่ีได้ศึกษาในหน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 3 หวั ข้อที่ 3.2
กิจกรรมแบบผลัด เร่ืองท่ี 4. กจิ กรรมยดื หย่นุ และ เร่ืองท่ี 5 กิจกรรมกีฬาแฮนด์บอล หวั ข้อที่ 5.1
กติกา และวิธีการเลน่ กฬี าแฮนด์บอล หัวขอ้ ท่ี 5.2 การฝึกทักษะพน้ื ฐานการเล่นกฬี าแฮนดบ์ อล
เปน็ ทีม โดยขอคำแนะนำจากผปู้ กครองเพ่ือเตรยี มตัวเข้ารับการทดสอบปลายปีรายวชิ าพนื้ ฐาน พล
ศกึ ษา ป. 4 ในการเรียนครงั้ ต่อไป

8. กิจกรรมเสนอแนะ

• นกั เรียนควรชกั ชวนเพอื่ นร่วมเลน่ กจิ กรรมกฬี าแฮนดบ์ อลเพิ่มเติมหรอื นำไปเลน่ ในช่วงเวลาการจัดกิจกรรม
ลดเวลาเรียน เพ่มิ เวลารู้ ตามที่สถานศกึ ษากำหนด เพอ่ื สร้างเสรมิ สุขภาพกายสขุ ภาพจติ และสรา้ งความ
สามคั คีในหมู่คณะตอ่ ไป

9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้

1. ลานอเนกประสงคห์ รือโรงพลศึกษา
2.แบบทดสอบหลงั เรยี นหน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เพ่มิ พนู ทกั ษะการเคล่อื นไหว
3. หนังสอื เรียน รายวิชาพนื้ ฐาน สขุ ศึกษาและพลศึกษา ป. 4 บรษิ ทั สำนักพมิ พว์ ฒั นาพานชิ จำกดั
4. แบบฝึกทักษะ รายวิชาพ้ืนฐาน สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ป. 4 บริษัท สำนักพิมพว์ ฒั นาพานชิ จำกดั
5. คู่มือการสอน สุขศึกษาและพลศกึ ษา ป. 4 บริษทั สำนกั พมิ พ์วฒั นาพานิช จำกัด
6. ส่ือการเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 4 บริษัท สำนักพมิ พว์ ฒั นาพานชิ จำกัด

10. บันทกึ หลังการจัดการเรียนรู้

1. ความสำเรจ็ ในการจดั การเรยี นรู้

แนวทางในการพัฒนา

2. ปญั หา/อปุ สรรคในการจัดการเรียนรู้

แนวทางแกไ้ ข

3. สง่ิ ทไ่ี มไ่ ดป้ ฏบิ ตั ิตามแผน

เหตุผล

4. การปรับปรงุ แผนการจัดการเรียนรู้

(ลงชื่อ) (ผู้สอน)

๒๐๓

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๔๐
การทดสอบปลายปี รายวิชาพน้ื ฐาน พลศึกษา

๒๐๔

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๔0 การทดสอบปลายปี รายวิชาพ้นื ฐาน พลศกึ ษา

สาระการเรียนรู้ที่ 3: การเคล่ือนไหว การออกกำลังกาย การเลน่ เกม กฬี าไทยและกฬี าสากล เวลา 1 ชั่วโมง
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 เพ่ิมพนู ทักษะการเคลือ่ นไหว
เรื่อง การทดสอบปลายปี รายวิชาพนื้ ฐาน พลศึกษา

1. สาระสำคญั

การสอบปลายปี เป็นกระบวนการวัดและประเมินผลเพื่อสรุปผลการเรียนรู้ (Summative
Assessment ) ที่นักเรียนได้รบั จากองค์ความรู้ที่กำหนดไว้ในขอบขา่ ยของตัวชี้วัดในโครงสร้างของหลักสตู ร
และการสอบปลายปี ยงั เปน็ การนำข้อมลู ของค่าคะแนนทไ่ี ด้นำมาใชเ้ ปน็ สว่ นสำคญั ในการวดั และประเมินผล
เพื่อตัดสินผลการเรียนหรือให้ระดับผลการเรียน ตลอดจนให้การรับรองความรู้ความสามารถของผู้เรียนว่า
ผา่ นรายวิชาหรอื ไม่ ควรได้รับการเล่อื นชน้ั หรือไม่ หรอื สามารถจบหลกั สูตรหรือไม่

การศึกษารายวิชาพื้นฐาน พลศึกษา เป็นอีกหนึง่ รายวิชาที่นำกระบวนการวัดและประเมนิ ผลมาใช้
เพ่ือสรุปผลการเรียนรู้ของผู้เรียน โดยใช้แบบทดสอบท้งั ในข้อคำถามท่ีเน้นกระบวนการการคิดวิเคราะห์เพ่ือ
ตัดสินข้อคำตอบ ในรูปแบบอัตนัยและรูปแบบปรนัย ครอบคลุมองค์ความรู้และตัวชี้วัดชั้นปีในหน่วยการ
เรียนรู้ที่ 3

2. ตวั ชวี้ ัดชนั้ ปี

1. ควบคมุ ตนเองเมื่อใชท้ กั ษะการเคลอ่ื นไหวในลักษณะผสมผสานได้ท้งั แบบอยกู่ บั ท่ี เคลือ่ นที่ และใช้
อปุ กรณป์ ระกอบ (พ 3.1 ป. 4/1)
2. ฝึกกายบริหารทา่ มือเปลา่ ประกอบจงั หวะ (พ 3.1 ป.4/2)
3. เลน่ เกมเลียนแบบและกิจกรรมแบบผลัด (พ 3.1 ป.4/3)
4. เลน่ กีฬาพืน้ ฐานได้อย่างน้อย 1 ชนิด (พ 3.1 ป.4/4)
5. ออกกำลงั กาย เลน่ เกม และกีฬาที่ตนเองชอบ และมคี วามสามารถในการวเิ คราะห์ผลการพัฒนาการของ
ตนเองตามตัวอย่างและแบบปฏบิ ัตขิ องผ้อู ื่น (พ 3.2 ป. 4/1)
6. ปฏบิ ตั ติ ามกฎ กติกาการเล่นกีฬาพน้ื ฐานตามชนิดกฬี าทีเ่ ลน่ (พ 3.1 ป.4/2)

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1. อธิบายเก่ยี วกับระเบยี บและขอ้ ตกลงในการทดสอบปลายปี รายวิชาพน้ื ฐาน พลศึกษา ป. 4 ได้อยา่ ง
ถกู ต้อง (K)
2. ระบุวธิ ีการทำแบบทดสอบปลายปี รายวชิ าพนื้ ฐาน พลศึกษา ป. 4 ได้ (P)
3. เข้ารบั การทดสอบกบั ผู้อืน่ ดว้ ยความเตม็ ใจและกระตือรือรน้ (A)

๒๐๕

4. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้

• ด้านความรู้ (K)

วิธกี ารวดั และประเมนิ ผล เครอ่ื งมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวดั และประเมินผล

• ซักถามเก่ยี วกับความเขา้ ใจใน • แบบประเมนิ ผลการนำเสนอข้อมูล/ • ผา่ นเกณฑ์เฉลย่ี

เน้อื หาในหน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 การอภปิ ราย/การเขียนแผนที่ ระดับคุณภาพ 2 ขนึ้ ไป

หวั ขอ้ 3. เกมเลียนแบบและ ความคดิ *
กจิ กรรมแบบผลดั 4. กิจกรรม
ยดื หยุ่น และ5. กจิ กรรมกฬี า
แฮนด์บอล

• ตรวจสอบความถกู ต้องของ • แบบทดสอบปลายปี รายวชิ าพื้นฐาน • รอ้ ยละ 80 ขึ้นไป

การทดสอบปลายปี รายวชิ าพ้ืนฐาน พลศึกษา ป. 4**

พลศึกษา

*ดูรายละเอยี ดในเอกสาร/ความรเู้ สริมสำหรับครู
**ดรู ายละเอียดในสอ่ื การเรียนรู้ PowerPoint สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 4 บรษิ ัท สำนกั พิมพ์วัฒนาพานชิ จำกัด

• ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)

วิธีการวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมอื วัดและประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมินผล

• สงั เกตจากพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม • ผ่านเกณฑ์เฉลี่ย
ระดบั คุณภาพ 2 ขนึ้ ไป
ของนกั เรียน ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั

พึงประสงค์*

*ดูรายละเอยี ดในเอกสาร/ความรู้เสริมสำหรบั ครู

• ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)

วธิ กี ารวดั และประเมินผล เคร่อื งมือวดั และประเมินผล เกณฑ์การวัดและประเมินผล

• สงั เกตจากพฤติกรรมการแสดงออก • แบบประเมนิ ทกั ษะ/กระบวนการ* • ผ่านเกณฑเ์ ฉลย่ี
ของนักเรียน ระดับคณุ ภาพ 2 ขน้ึ ไป

*ดูรายละเอียดในเอกสาร/ความรูเ้ สรมิ สำหรับครู

๒๐๖

5. สาระการเรียนรู้

3. เกมเลียนแบบและกิจกรรมแบบผลัด (ต่อ)
3.2 กิจกรรมแบบผลดั

4. กิจกรรมยืดหย่นุ
5. กิจกรรมกฬี าแฮนดบ์ อล

6. แนวทางบูรณาการ

–

7. กระบวนการจัดการเรยี นรู้

ขั้นที่ 1: ข้นั นำเข้าสบู่ ทเรยี น
• ให้นักเรียนอาสาสมคั ร 2–3 คน รายงานผลการทบทวนความร้ใู นหนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 3 หวั ข้อ
3. เกมเลียนแบบและกิจกรรมแบบผลัด 4. กิจกรรมยืดหยุ่น และ5. กิจกรรมกีฬาแฮนดบ์ อล ท่ีขอ
คำแนะนำจากผู้ปกครอง เพื่อเตรียมตัวทดสอบปลายปี รายวิชาพื้นฐาน พลศึกษา ป.4 จากการ
มอบหมายงานในการเรยี นครั้งท่ีผา่ นมา

ขน้ั ที่ 2: กิจกรรมการเรียนรู้

1. ครูอธิบายระเบียบและข้อตกลงในการทดสอบปลายปี รายวิชาพ้ืนฐาน พลศึกษา ป. 4ให้
นักเรียนไดเ้ ข้าใจและสอบถามข้อสงสยั
2. ใหน้ ักเรยี นทุกคนทำแบบทดสอบปลายปี รายวิชาพืน้ ฐาน พลศกึ ษา ป. 4 ตามเวลาทีก่ ำหนดให้
ขน้ั ท่ี 3: ฝกึ ฝนทักษะและประสบการณ์
• หลังจากที่นักเรียนทำแบบทดสอบเสร็จแล้ว ครูให้นักเรียนช่วยกันเฉลยคำตอบของแบบทดสอบ
ปลายปีรายวิชาพื้นฐาน พลศกึ ษา ป. 4 ทลี ะขอ้ ร่วมกัน แล้วครอู ธิบายและชีแ้ นะคำตอบทีถ่ ูกตอ้ ง
ข้ันที่ 4: การนำไปใช้

– นักเรียนจดบันทึกความร้ทู ่ไี ดจ้ ากการเฉลยคำตอบของแบบทดสอบปลายปี ลงในสมดุ บนั ทึก

ขน้ั ที่ 5: สรุปความรู้
1. ครถู ามคำถามเชื่อมโยงส่บู ทเรยี นตอ่ ไป เพอ่ื ใหน้ กั เรียนไปค้นหาคำตอบจากบทเรยี นมาล่วงหนา้
ดงั น้ี
– สิ่งแวดลอ้ มในความคดิ ของนกั เรยี นมีอะไรบา้ ง (ตอบไดโ้ ดยอสิ ระ)
– นกั เรยี นคดิ ว่าอารมณ์กับสุขภาพเกีย่ วขอ้ งกันอย่างไร(ตอบได้โดยอิสระ)
– หากนักเรยี นมอี ารมณ์เครียดนกั เรยี นจะมวี ธิ ีการแก้ไขปัญหานีอ้ ย่างไร
(ตอบได้โดยอิสระ)
2. มอบหมายให้นักเรียนไปอ่านเนอ้ื หาในหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 ใส่ใจสขุ ภาพ เร่อื งท่ี 1 สิง่ แวดลอ้ ม
กบั สุขภาพหัวขอ้ ท่ี 1.1 ความหมายและความสำคัญของสิ่งแวดลอ้ ม ดงั รายละเอยี ดในหนงั สือเรียน
รายวิชาพน้ื ฐานสุขศึกษาและพลศึกษา ป. 4 มาลว่ งหนา้ แล้วนำมาพูดคุยในการเรยี นคร้งั ต่อไป

๒๐๗

8. กจิ กรรมเสนอแนะ

• นกั เรยี นควรนำทกั ษะกีฬาทไี่ ดจ้ ากการศกึ ษาที่ผา่ นมานำไปใชใ้ นการเล่นกฬี าและพฒั นาฝมี อื ของตนเองให้
ดีย่งิ ขนึ้

9. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้

1. แบบทดสอบปลายปี รายวชิ าพืน้ ฐาน พลศกึ ษา ป. 4
2. หนังสอื เรยี น รายวิชาพ้นื ฐาน สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ป. 4 บรษิ ัท สำนกั พิมพ์วฒั นาพานิช จำกดั
3. แบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพื้นฐาน สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ป. 4 บริษัท สำนักพมิ พว์ ฒั นาพานชิ จำกดั
4. คูม่ ือการสอน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 4 บริษทั สำนักพมิ พ์วฒั นาพานิช จำกัด
5. สอ่ื การเรยี นรู้ PowerPoint สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ป. 4 บรษิ ทั สำนักพิมพ์วัฒนาพานชิ จำกดั

10. บันทกึ หลังการจดั การเรยี นรู้

1. ความสำเร็จในการจดั การเรียนรู้ (ผสู้ อน)
แนวทางในการพฒั นา

2. ปญั หา/อุปสรรคในการจดั การเรยี นรู้
แนวทางในการแกไ้ ข

3. ส่งิ ที่ไม่ได้ปฏบิ ตั ิตามแผน
เหตุผล

4. การปรบั ปรุงแผนการจดั การเรียนรู้

ลงชื่อ

๒๐๘

เอกสาร/ความร้เู สรมิ สำหรับครู
กลุม่ สาระการเรยี นรู้สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา

๒๐๙

แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 3 เพิ่มพนู ทกั ษะการเคล่ือนไหว

คำชีแ้ จง: เขียนเคร่ืองหมาย ลอ้ มรอบหน้าคำตอบท่ถี ูกตอ้ ง

1. การกระทำในขอ้ ใดไมจ่ ดั เปน็ ทกั ษะการ 5. จากภาพ จังหวะใดทเี่ ปน็ การเคลื่อนไหวร่างกาย
ขณะอยู่กับท่ี
เคลื่อนไหวรา่ งกายแบบผสมผสาน
ก จนุ วิง่ เข้าเตะลูกบอลด้วยเท้าส่งไปให้เพอ่ื น ก วางลกู เทเบลิ เทนนิสบนไม้
ข ตมุ้ กระโดดตบลกู บอลเพอ่ื ให้ข้ามตาข่าย ข เดินไปขา้ งหนา้ ขณะเดาะลูก
ค โต เลีย้ งลกู บอลกบั พนื้ แลว้ เดนิ ไปยงั ทศิ ทาง ค เดินไปดา้ นขา้ งขณะเดาะลูก
ง การเคลอ่ื นทข่ี องขอ้ มือในการยกไม้ขน้ึ –ลง
ต่าง ๆ 6. กิจกรรมใดช่วยฝกึ การเคลอ่ื นไหว
ง เติบ กระโดดลอยตัวขนึ้ ลงในแนวตรง ก เตน้ รำ
ข ฟงั เพลง
2. ขนั้ ตอนใดของการเดาะลกู บอลจัดเป็นการ ค อา่ นหนังสือ
เคลื่อนไหวร่างกายขณะอยกู่ ับที่ ง ดภู าพยนตร์
ก การเดนิ เดาะลกู บอลไปดา้ นหนา้
ข การเดนิ เดาะลกู บอลไปดา้ นขา้ ง 7. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ข้อดีของการฝึกการเคลอ่ื นไหว
ค การเคล่อื นไหวของเทา้ ขณะท่ยี ืนนิง่ เดาะลกู
บอลขึ้น–ลง ก ส่งเสริมบุคลกิ ภาพที่ดี
ง การเดนิ เดาะลูกบอลอ้อมหลกั ข ทำให้เราถือของหนัก ๆ ได้
ค ลดอบุ ตั เิ หตุจากการเคลอ่ื นไหว
3. หลกั สำคญั ในการฝกึ กายบริหารประกอบดนตรี ง ช่วยแกไ้ ขความบกพรอ่ งของร่างกาย
คืออะไร
ก การเคล่ือนไหวรา่ งกายทสี่ วยงาม 8. พฤติกรรมของใครสนบั สนนุ การฝึกการ
ข จงั หวะดนตรีทเ่ี ร้าใจสนุกสนาน
ค ท่ากายบริหารทชี่ ่วยใหก้ ล้ามเน้ือแข็งแรง เคลอื่ นไหว
ง การประสานสัมพันธร์ ะหว่างดนตรกี ับท่ากาย ก โอม ชอบเต้นแอโรบิก
บรหิ าร ข ก้อย ชอบน่งั อย่เู ฉย ๆ
ค หมวย ชอบนอนพกั ผ่อน
4. ทุกขอ้ คำตอบจดั เปน็ ผลดจี ากการฝึกกายบรหิ าร ง เดี่ยว ขน้ึ ลฟิ ต์แทนการข้ึนบนั ได

ประกอบดนตรีบอ่ ย ๆ ยกเว้น ขอ้ ใด
ก ทำให้อารมณ์ดี
ข ทำใหร้ า่ งกายแข็งแรง
ค ประสาทกลา้ มเนื้อมคี วามสัมพันธก์ นั
ง ทำใหช้ อบฟังการบรรเลงดนตรเี พิ่มขน้ึ

๒๑๐

9. ทุกขอ้ คำตอบจดั เปน็ ทกั ษะการเคล่ือนไหวที่ตอ้ ง 10. ทกุ ขอ้ คำตอบจัดเป็นความสำคัญของ

ใชใ้ นการกระโดดขา้ มสงิ่ กดี ขวาง ยกเว้นข้อใด การเคลือ่ นไหวยกเว้น ข้อใด
ก ทักษะการวิ่ง ก ทำให้เรามคี วามคลอ่ งตวั
ข ทักษะการกระโดด ข ทำใหเ้ ป็นที่รักของเพือ่ น ๆ
ค ทักษะการประสานสมั พนั ธ์ ค ทำใหเ้ ราทำกจิ กรรมตา่ ง ๆ ได้
ง ทกั ษะในการขว้าง ง ทำให้อวัยวะและกลา้ มเน้ือมกี าร
พฒั นาเพอื่ รองรับการใชง้ านท่ดี ขี ึน้

๒๑๑

คะแนนที่ได้ คะแนนที่ไดร้ ับจากการทดสอบความรู้
ร้อยละของคะแนน

_____________________ ครผู ้สู อน

หมายเหต:ุ แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 คร/ู ผสู้ อนสามารถคัดสำเนาแบบทดสอบได้จากสือ่
การเรยี นรู้ PowerPoint สขุ ศึกษาและพลศึกษา ป. 4 ของบรษิ ทั สำนกั พมิ พว์ ฒั นาพานชิ จำกัด

๒๑๒

เกณฑ์การตัดสนิ ผลการเรียนรพู้ ลศกึ ษา คะแนนปลายภาค รวม
15
๑. คะแนนคิดเปน็ สัดส่วน 70:30 แบ่งเปน็ 20
รายการที่เก็บคะแนน คะแนนระหว่างภาค 25
25
1. ความรู้ 10 5 15
2. คณุ ธรรมและจริยธรรม 10 10
3. ทักษะ (ปฏิบัต)ิ 20 5 100
4. สมรรถภาพทางกาย 20 5
5. ค่านยิ มและคุณลักษณะ 10 5

อันพงึ ประสงค์ 70 30

รวม

คะแนนสมรรถภาพทางกาย หมายถงึ คะแนนทไี่ ด้จากการใช้แบบทดสอบในการวดั สมรรถภาพทางกาย
คะแนนค่านิยมและคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ หมายถงึ คะแนนทไ่ี ด้จากการประเมินผลดา้ นคา่ นิยม และ
คุณลกั ษณะต่าง ๆ ที่สถานศกึ ษาหรอื ผสู้ อนไดต้ งั้ ไว้

2. การคิดอตั ราเวลาเรียนกับการมีสิทธเิ ข้ารับการประเมิน

– นักเรยี นทม่ี ีสิทธใิ นการเขา้ รบั การประเมนิ ผลปลายภาคเรียนต้องมเี วลาเรยี นตงั้ แต่ 80% ข้ึนไป โดยคิดจาก

1) ภาคเรียนที่ 1 ใชเ้ วลาประมาณ 20 ชวั่ โมง/ภาคเรยี น

ร้อยละ 80 ของเวลา ~ 16 ช่ัวโมง/ภาคเรยี น

2) ภาคเรียนท่ี 2 ใชเ้ วลาประมาณ 20 ชั่วโมง/ภาคเรียน

ร้อยละ 80 ของเวลา ~ 16 ชั่วโมง/ภาคเรยี น

๒๑๓

แบบประเมินพฤติกรรมของผู้เรียนในกลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ุขศึกษาและพลศกึ ษา

แบบประเมนิ พฤติกรรมการทางาน
กลุ่ม

การแบง่ หน้าท่ี การฟงั ความ การแสดงความ บรรยากาศ หมายเหตุ
ทำงาน คิดเห็น คดิ เห็น ในการทำงาน
พฤตกิ รรม
ใช้ได้ ยังตอ้ ง ใช้ได้ ยังตอ้ ง ใช้ได้ ยังต้อง ใช้ ยังตอ้ ง
รายช่อื สมาชกิ ปรับปรงุ ปรับปรงุ ปรับปรงุ ได้ ปรบั ปรุง
กลุ่ม

เกณฑก์ ารวัด ใช้ได้ หมายถงึ รว่ มปฏบิ ัตงิ าน
ยงั ตอ้ งปรบั ปรุง หมายถงึ ร่วมบา้ งแตไ่ ม่อยู่ในเกณฑ์

๒๑๔

แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล

ลำดับที/่ ความสนใจ การแสดงความ การตอบคำถาม การยอมรบั ฟัง ทำงานตามทไี่ ดร้ บั
ชือ่ –สกลุ คิดเห็น คนอน่ื มอบหมาย

4 3 2 10 4 3 2 1 0 4 3 2 1 0 432104 3 2 1 0

เกณฑก์ ารวัด ใหค้ ะแนนระดบั คณุ ภาพของแตล่ ะพฤตกิ รรมดงั น้ี

ระดบั คณุ ภาพ เย่ยี ม ดี ปานกลาง พอใช้ ควรปรับปรงุ
คะแนน 4 32 10

หมายเหต:ุ สาหรับครูผ้สู อนหรือสถานศกึ ษาอาจมีการปรับปรุงหรือปรับ
เกณฑ์ท่ใี ห้ไว้เบือ้ งต้นได้ตามความเหมาะสมกบั สภาพการจดั การ
เรียนการสอนของสถานศึกษา

๒๑๕

มาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ช้ีวดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง
กลุม่ สาระการเรียนรูส้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา ป. 5

ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551

สาระท่ี 3: การเคลือ่ นไหว การออกกำลงั กาย การเลน่ เกม กฬี าไทย และกฬี าสากล
มาตรฐาน พ 3.1: เขา้ ใจ มีทกั ษะในการเคลื่อนไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกีฬา

ตวั ชว้ี ัดชัน้ ปี สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
1. ควบคุมตนเองเมือ่ ใช้ทักษะการเคลอ่ื นไหวใน
 การเคลอ่ื นไหวรา่ งกายแบบผสมผสานทั้งแบบอยกู่ บั ท่ี
ลกั ษณะผสมผสานไดท้ ง้ั แบบอยกู่ ับที่ เคลือ่ นที่ เช่น กระโดดหมนุ ตัว กระโดดเหยียดตวั แบบเคลื่อนที่
และใชอ้ ุปกรณ์ประกอบ เชน่ ซกิ แซก็ วงิ่ เปลี่ยนทศิ ทาง ควบมา้ และแบบใช้
อุปกรณป์ ระกอบ เช่น บอล เชอื ก
2. ฝกึ กายบริหารท่ามือเปลา่ ประกอบจังหวะ
3. เลน่ เกมเลยี นแบบและกิจกรรมแบบผลดั  กายบรหิ ารท่ามือเปลา่ ประกอบจังหวะ
4. เลน่ กฬี าพ้ืนฐานได้อยา่ งน้อย 1 ชนิด
 เกมเลยี นแบบและกจิ กรรมแบบผลัด

 กีฬาพนื้ ฐาน เชน่ แชรบ์ อล แฮนดบ์ อล ห่วงข้าม

ตาข่าย

๒๑๖

มาตรฐาน พ 3.2: รักการออกกำลงั กาย การเลน่ เกม และการเล่นกฬี า ปฏบิ ัติเปน็ ประจำอยา่ งสม่ำเสมอ มีวินัย
เคารพสทิ ธิ กฎ กติกา มีนำ้ ใจนกั กีฬา มจี ติ วิญญาณในการแข่งขัน และชน่ื ชมในสุนทรยี ภาพของการ
กีฬา

ตวั ชี้วดั ชน้ั ปี สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
1. ออกกำลงั กาย เลน่ เกม และกีฬาท่ตี นเองชอบ  การออกกำลงั กาย เลน่ เกม ตามความชอบของ

และมีความสามารถในการวเิ คราะห์ผลพัฒนาการ ตนเอง และเลน่ กฬี าพนื้ ฐานรว่ มกบั ผู้อ่นื
ของตนเองตามตวั อย่างและแบบปฏบิ ัติของผู้อื่น  การวิเคราะหผ์ ลพัฒนาการของตนเองในการออก

2. ปฏบิ ัติตนตามกฎ กติกาการเล่นกีฬาพน้ื ฐาน ตาม กำลงั กาย เลน่ เกม และเล่นกฬี า ตามตวั อย่างและ
ชนดิ กีฬาทเี่ ล่น แบบปฏบิ ัตขิ องผู้อืน่
 คุณค่าของการออกกำลังกาย เลน่ เกม และเล่น
กีฬาทมี่ ตี อ่ สุขภาพ
 การปฏบิ ตั ติ ามกฎ กตกิ า การเลน่ กีฬาพืน้ ฐาน
ตามชนดิ กีฬาที่เลน่

๒๑๗

ความสำคัญของการจัดการเรยี นรู้ในกลมุ่ สาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษา

• ทำไมตอ้ งเรียนสุขศกึ ษาและพลศกึ ษา
สุขภาพ ห รือสุขภาวะ หมายถึง ภาวะของมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งทางกาย ทางจิต ทางสังคม และทาง

ปัญญาหรือจิตวิญญาณ สุขภาพหรือสุขภาวะจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเกี่ยวโยงกบั ทุกมิตขิ องชีวิต ซึ่งทุกคนควร
จะได้เรียนรู้เรื่องสุขภาพ เพื่อจะได้มีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง มีเจตคติ คุณธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม
รวมท้ังมีทกั ษะปฏบิ ตั ิดา้ นสุขภาพเป็นกจิ นสิ ยั อันจะสง่ ผลใหส้ งั คมโดยรวมมคี ุณภาพ

• เรยี นรู้อะไรในสุขศึกษาและพลศึกษา

สุขศึกษาและพลศึกษาเป็นการศึกษาด้านสุขภาพท่ีมีเป้าหมายเพื่อการดำรงสุขภาพ การสร้างเสริม
สขุ ภาพและการพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ของบคุ คล ครอบครวั และชมุ ชนให้ยัง่ ยนื

สุขศึกษา มุ่งเน้นให้นักเรียนพัฒนาพฤติกรรมด้านความรู้ เจตคติ คุณธรรม ค่านิยม และการปฏิบัติ
เกย่ี วกบั สุขภาพควบคไู่ ปดว้ ยกัน

พลศึกษา มุ่งเน้นให้นักเรียนใช้กิจกรรมการเคลื่อนไหว การออกกำลังกาย การเล่นเกมและกีฬา เป็น
เครื่องมือในการพัฒนาโดยรวมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม สติปัญญา รวมทั้งสมรรถภาพเพื่อสุขภาพ
และกฬี า

สาระที่เป็นกรอบเนื้อหาหรือขอบข่ายองค์ความรู้ของกลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา
ประกอบด้วย

• การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ นักเรียนได้เรียนรู้เรื่อง ธรรมชาติของการ
เจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโต ความสัมพันธ์เชื่อมโยงในการ
ทำงานของระบบต่าง ๆ ของรา่ งกาย รวมถึงวิธีปฏิบัตติ นเพ่อื ใหเ้ จรญิ เติบโตและมพี ัฒนาการท่ีสมวยั

• ชีวิตและครอบครัว นักเรียนจะได้เรียนรู้เรื่อง คุณค่าของตนเองและครอบครัว การปรับตวั
ต่อการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ ความรู้สึกทางเพศ การสร้างและรักษาสัมพันธภาพกับ
ผู้อ่ืน สุขปฏบิ ัติทางเพศ และทักษะในการดำเนินชวี ิต

• การเคลอื่ นไหว การออกกำลงั กาย การเล่นกฬี าไทย และกีฬาสากล นักเรยี นไดเ้ รียนรู้เรื่อง
การเคลื่อนไหวร่างกายในรูปแบบต่าง ๆ การเข้าร่วมกิจกรรมทางกายและกีฬา ทั้งประเภทบุคคลและ
ประเภททีมอย่างหลากหลายทั้งไทยและสากล การปฏิบัติตามกฎ กติกา ระเบียบ และข้อตกลงในการ
เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางกายและกฬี า และความมีน้ำใจนักกฬี า

๒๑๘

กิจกรรมการเรยี นร้สู ขุ ศึกษาและพลศึกษา ป. 4

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 เพิ่มพนู ทักษะการเคล่อื นไหว
กิจกรรมที่ 15 วเิ คราะห์รูปแบบการเคลอื่ นไหว

ตำแหน่งใดเป็นการเคล่ือนไหวทเ่ี คยศกึ ษา
• จำแนกภาพโดยระบวุ า่ ภาพใดเป็นภาพการเคลื่อนไหวแบบอยู่กบั ที่ ขณะเคล่อื นที่ ประกอบอปุ กรณ์ และ

แบบผสมผสาน โดยเขยี นระบุในชอ่ งวา่ งท่อี ย่ใู นภาพ

แบบผสม ผสาน
แบบผสมผสาน

ขณะเคลอื่ นที่

ขณะอยกู่ บั ที่

ขณะอยกู่ บั ที่

ขณะอย่กู บั ที่

๒๑๙
กจิ กรรมที่ 16 ลองชว่ ยมาค้นหาภาพกีฬา

วิเคราะห์วา่ เป็นการเคลอ่ื นไหวรูปแบบใด
1. หาภาพการเลน่ กฬี ามา 1 ภาพจากหนังสือพิมพ์ วารสาร หรือนติ ยสาร ตดิ ภาพลงในกรอบภาพที่กำหนด
2. เขียนวิเคราะหก์ ารเคล่ือนไหวจากภาพวา่ เปน็ การเคลื่อนไหวแบบรูปแบบใด และเปน็ เชน่ นนั้ ได้อยา่ งไร

ภาพกฬี า

วเิ คราะห์ลกั ษณะการเคล่อื นไหว

ตดิ ภาพ

๒๒๐

กิจกรรมที่ 17 เขียนทา่ กายบริหารทศ่ี ึกษา ใหต้ รงกบั เน้อื เพลง
ให้ตรงตามเนือ้ หาจังหวะเพลง

• พิจารณาภาพทา่ กายบรหิ ารเหลา่ นี้ แล้วนำหมายเลขใต้ภาพมาเขียนลง

จงั หวะ จังหวะ 1 จงั หวะ 2 จงั หวะ 3 จงั หวะ 4

ต้งึ ตงึ้ ตึง้ หยุด

ทา่ ท่ี 1 2 3 2 1
ปลิว ไสว
ไตรรงค์ ธงไทย
2 1
ท่าท่ี 2 2 3 - -
สวยงาม สงา่
4 1
ท่าที่ 3 4 5 - สีขาว

สีแดง คือชาติ 4 1
- -
ท่าที่ 4 4 5
ศาส ส-นา 6 1
พระ มหา
ท่าท่ี 5 6 7
6 1
นำ้ เงนิ หมายว่า - -

ทา่ ท่ี 6 6 8
กษัตรยิ ์ ไทย

๒๒๑

กิจกรรมที่ 18 ฝกึ ปฏิบัตเิ ก่ยี วกบั ทักษะ
ทง้ั จงั หวะการเคลือ่ นไหวประกอบดนตรี

1. แบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 4–5 คน ร่วมกนั ระดมสมองวางแผนการเคล่ือนไหวทา่ ทางประกอบเพลงไตรรงค์ หรือเพลง
รักเมอื งไทยขึ้นใหม่
2. ปฏิบตั ริ ่วมกนั พร้อมวิเคราะหข์ อ้ บกพรอ่ งในการปฏิบัติและวธิ แี กไ้ ขลงในแบบบนั ทึกผลการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม

แบบบนั ทึกผลการปฏิบัติกิจกรรม
* ช่ือกลมุ่
______________________________________________________________
* สมาชกิ กล่มุ

1. ______________________ 4. ______________________
2. ______________________ 5. ______________________
3. ______________________ 6. ______________________

* ขน้ั ตอนการฝกึ เคลือ่ นไหวประกอบเพลงโดยสรปุ
1.
________________________________________________________________
2.
________________________________________________________________
3.
________________________________________________________________
4.
________________________________________________________________
5.
________________________________________________________________

* ขอ้ บกพรอ่ งที่
พบ_______________________________________________________

__________________________________________________________________
__

๒๒๒

3. ตอบคำถามตามประเด็นทีก่ ำหนด
1) นกั เรียนชอบการเคล่อื นไหวประกอบดนตรีของกลุ่มใดมากท่สี ุด เพราะอะไร
(พิจารณาจากคาตอบของนกั เรียน)

2) การเคล่อื นไหวประกอบดนตรใี หป้ ระโยชน์อยา่ งไรบ้าง
แนวคาตอบ
1. ทาให้มีสมาธิจากการฟังจงั หวะเพลง
2. ทาให้มีบคุ ลิกภาพดี
3. ทาใหเ้ กิดความคิดสร้างสรรค์

3) นกั เรียนมีความมัน่ ใจในการเคลอ่ื นไหวเพม่ิ ขึ้นหรือไม่ อย่างไร
(พิจารณาจากคาตอบของนกั เรียน)

๒๒๓
กิจกรรมท่ี 19 ลกั ษณะการเคลอื่ นไหวของ

สายลม ลองผสมจนิ ตนาการทผี่ า่ นมา
1. แบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 4–5 คน รว่ มกันระดมสมองวางแผนการเลียนแบบการเคลอื่ นไหวของลมจาก

วธิ ีการเล่นเกมทกี่ ำหนดให้

การเลยี นแบบการเคล่ือนไหวของลม
1. นกั เรยี นพดู คุยเกีย่ วกบั การเคล่อื นไหวของส่ิงของเมอ่ื ถูกลมพัด เชน่

ใบไม้ กระดาษ ขนนก ผม
2. นักเรยี นแสดงเป็นสง่ิ ของท่ีถกู ลมพดั ดงั นี้

– เปน็ ใบไมท้ ่คี ่อย ๆ ปลวิ ลงสู่พื้นอย่างชา้ ๆ
– เปน็ ใบไม้ที่ถกู แรงลมพดั ข้ามสนามหญ้าอยา่ งรวดเร็ว
– เป็นเมด็ ฝนทต่ี กลงสู่พ้นื
– เปน็ ขนนกท่ีถูกแรงลมพัดปลวิ
– เปน็ เส้นผมท่ีถูกลมพดั
หมายเหตุ: อาจคิดทา่ การเคลื่อนไหวอ่ืน ๆ เพ่ิมเติมได้

๒๒๔

2. แตล่ ะกลุ่มเลน่ เกมตามแผนทว่ี างไว้ และรายงานผลการเล่นเกมตามแบบบนั ทึกผลการปฏิบตั ิกจิ กรรม

แบบบนั ทึกผลการปฏบิ ัติกจิ กรรม
* ชื่อกลุม่
______________________________________________________________
* สมาชิกในกลมุ่

1.
________________________________________________________________
2.
________________________________________________________________
3.
________________________________________________________________
4.
________________________________________________________________
5.
________________________________________________________________

* แผนการปฏิบัติกจิ กรรม
__________________________________________________________________
__
__________________________________________________________________
__
__________________________________________________________________
__
__________________________________________________________________
__
__________________________________________________________________
__
__________________________________________________________________
__

๒๒๕

3. ตอบคำถามตามประเดน็ ทก่ี ำหนด
1) นกั เรียนรูส้ ึกอยา่ งไรขณะเลน่ เกม
___________________________________________________________________
___(_พ_ิจ_าร_ณ__าจ_า_ก_ค_า_ต_อ_บ_ข_อง_น_กั _เ_รีย_น_)___________________________________________
___________________________________________________________________
___________________________________________________________________
___________________________________________________________________
___________________________________________________________________
___________________________________________________________________

2) กิจกรรมนที้ ำใหน้ ักเรียนมกี ารเคลอ่ื นไหวทีค่ ล่องแคล่วข้นึ หรือไมอ่ ยา่ งไร
___________________________________________________________________
___(_พ_ิจ_าร_ณ__าจ_า_ก_ค_า_ต_อ_บ_ข_อง_น_กั _เ_รีย_น_)___________________________________________
___________________________________________________________________
___________________________________________________________________
___________________________________________________________________
___________________________________________________________________

3) นกั เรียนจะนำเกมนไ้ี ปฝึกเลน่ เพ่มิ เตมิ หรอื ไม่ เพราะอะไร
___________________________________________________________________
___(_พ_ิจ_าร_ณ__าจ_า_ก_ค_า_ต_อ_บ_ข_อง_น_กั _เ_รีย_น_)___________________________________________
___________________________________________________________________
___________________________________________________________________
___________________________________________________________________
___________________________________________________________________

๒๒๖

กิจกรรมที่ 20 กิจกรรมแบบผลัด ร่วมกันจดั ปฏบิ ตั ใิ หห้ รรษา

1. แบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 6–8 คน ศกึ ษาเนอ้ื หากิจกรรมแบบผลดั

1) ตอ้ นหมไู ปตลาด 2) หมุน–หมุน–หมุน

3) กระโดดขา้ มไม้ 4) วงิ่ ขา้ มสงิ่ กีดขวาง

2. แต่ละกลุม่ รว่ มกนั ระดมสมอง วางแผนการทำกจิ กรรมแบบผลดั และฝกึ ทำกิจกรรมแบบผลดั ตามแผนทว่ี างไว้
พรอ้ มหาขอ้ บกพร่องและวิธกี ารแก้ไข

3. แต่ละกลุม่ นำเสนอผลการเลน่ หนา้ ช้นั เรียน และร่วมกันอภิปราย

แบบบันทกึ ผลการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม
* ช่ือกลุ่ม ______________________________________________________________
* ช่ือกจิ กรรม __________________________________________________________
* สมาชกิ กลุ่ม

1. ______________________ 5. ______________________
2. ______________________ 6. ______________________
3. ______________________ 7. ______________________
4. ______________________ 8. ______________________
* แผนการปฏิบตั ิกิจกรรม
____________________________________________________________________
____________________________________________________________________
____________________________________________________________________
* ผลการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม
____________________________________________________________________
____________________________________________________________________
____________________________________________________________________
* ขอ้ บกพรอ่ งที่พบ
____________________________________________________________________
____________________________________________________________________
____________________________________________________________________
* วธิ ีการแกไ้ ข __________________________________________________________
____________________________________________________________________
____________________________________________________________________

๒๒๗

4. ตอบคำถามตามประเดน็ ท่ีกำหนด
1) นักเรียนรูส้ ึกอย่างไรบา้ งหลงั จากปฏิบตั กิ จิ กรรมนี้
___________________________________________________________________
___(_พ_ิจ_าร_ณ__าจ_า_ก_ค_า_ต_อ_บ_ข_อง_น_กั _เ_รีย_น_)___________________________________________
___________________________________________________________________
___________________________________________________________________
___________________________________________________________________
___________________________________________________________________

2) นักเรยี นต้องใชท้ ักษะอะไรบา้ งในการปฏบิ ตั ิกิจกรรมแตล่ ะกจิ กรรม
___________________________________________________________________
___(_พ_ิจ_าร_ณ__าจ_า_ก_ค_า_ต_อ_บ_ข_อง_น_กั _เ_รีย_น_)___________________________________________
___________________________________________________________________
___________________________________________________________________
___________________________________________________________________
___________________________________________________________________

3) นกั เรยี นเคยปฏิบตั กิ จิ กรรมแบบผลดั อนื่ อีกหรอื ไม่ อะไรบ้าง
___________________________________________________________________
___(_พ_ิจ_าร_ณ__าจ_า_ก_ค_า_ต_อ_บ_ข_อง_น_กั _เ_รีย_น_)___________________________________________
___________________________________________________________________

___________________________________________________________________
___________________________________________________________________
___________________________________________________________________
___________________________________________________________________

๒๒๘

กิจกรรมท่ี 21 เรยี งลำดบั กจิ กรรมยดื หยนุ่ ลองมาลนุ้ ว่าจะ
ถกู ต้องหรือไม่
• พจิ ารณาภาพเหลา่ นีด้ ูสิวา่ ภาพหมายเลขใดเป็นทา่ ทางการฝกึ ของทา่ มว้ นหน้าขาแยก และหกสามเสา้
จากท่าเตะเทา้ เรียงลำดบั ใหถ้ กู ต้อง

ม้วนหน้าขาแยก 2734
หกสามเส้าจากทา่ เตะเทา้ 158

๒๒๙

กิจกรรมท่ี 22 รว่ มกนั ฝกึ ทักษะยืดหยนุ่ หน่อย

แลว้ คอ่ ย ๆ เรยี นรูอ้ ย่าผลีผลาม

1. แบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 5 คน ระดมสมองวางแผนฝกึ ทักษะกิจกรรมยืดหยุ่นท่ีศึกษาผา่ นมา

2. ฝกึ ทักษะกิจกรรมยืดหยุ่นตามแผนทวี่ างไว้ พร้อมวิเคราะห์ขอ้ บกพรอ่ งและแนวทางการแกไ้ ข แลว้ บันทกึ ผล
ลงในแบบบนั ทึกผลการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม

แบบบันทกึ ผลการปฏิบัตกิ จิ กรรม
* ชือ่ กลุ่ม
______________________________________________________________
* สมาชกิ กลมุ่

1. ______________________ 4. ______________________
2. ______________________ 5. ______________________
3. ______________________ 6. ______________________

* ขน้ั ตอนวิธีการฝกึ ปฏิบตั กิ จิ จรรม
1. _______________________________________________________________
2. _______________________________________________________________
3. _______________________________________________________________
4._______________________________________________________________

* ข้อบกพรอ่ งที่
พบ________________________________________________________________
__________________________________________________________________
__________________________________________________________________
__________________________________________________________________
* วธิ ีการแก้ไข
__________________________________________________________________
__________________________________________________________________

๒๓๐

กิจกรรมท่ี 23 ฝกึ ทกั ษะรับ–สง่ ลูกบอล ครูเคยสอนยังจำไดไ้ หม
1. วาดภาพระบายสที กั ษะรบั –สง่ ลูกบอล 1 ทกั ษะลงในพื้นทที่ กี่ ำหนด

2. แบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 8–10 คน รว่ มกันระดมสมองวางแผนเพื่อฝึกทักษะรบั –สง่ ลกู บอล ดงั ต่อไปนี้
1) รบั –ส่งลูกบอลสองมือระดับหนา้ อก
2) รบั –สง่ ลกู บอลสองมือเหนอื ศีรษะ
3) รบั –ส่งลูกกระดอน
4) รบั –สง่ ลกู บอลมือเดียวเหนือไหล่
5) รบั –ส่งลูกบอลมือเดยี วด้านข้าง

3. แต่ละกลุ่มฝึกทักษะรับ–สง่ ลกู บอลตามแผนท่วี างไว้ พรอ้ มคน้ หาขอ้ บกพร่องและวิธกี ารแกไ้ ข แลว้ บันทกึ ลงใน
แบบบนั ทึกผลการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม

๒๓๑

กจิ กรรมที่ 24 ช่วยกนั คดิ ชว่ ยกันคยุ เกี่ยวกบั กติกา
รวมเพือ่ นมาแข่งขันกฬี าแฮนดบ์ อล

1. รว่ มกนั ศกึ ษาวิธีการเล่นกฬี าแฮนดบ์ อล บทบาท หนา้ ท่ีของแตล่ ะตำแหน่ง กลวธิ ีในการเล่น กตกิ าต่าง ๆ สรปุ สง่ิ ที่
ได้ศกึ ษาลงในกรอบทกี่ ำหนดใหแ้ ลว้ อภิปรายรว่ มกนั

________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________
________________________________________________________________________

2. แบง่ กลมุ่ กลุม่ ละ 7 คน โดยให้แต่ละกลุ่มต้งั ช่ือทีมสง่ ผแู้ ทนจบั สลากประกบคู่แข่งขัน กำหนดวันแข่งขัน
แบ่งห_น__้า_ท_่ีก_ัน_ภ__าย__ใน__ก_ล_ุ่ม__เช_่น__ห_ัว_ห__น_้า_ท_ีม__ผ_ู้เ_ล_่น__แ_ล_ะ_ผ_บู้ _ร_ิห_า_ร__แ_ล_ะ_เข_ีย_น__แ_ผ_น_ผ_ัง_ก_า_ร_แ_ข_่ง_ข_นั _________

____3_._ท_ำ_ก_า_ร_แ_ข_่ง_ข_ัน__แ_ล_ะ_ด_ำ_เน_นิ__ก_า_ร_แ_ข_ง่ _ข_นั _แ_บ_บ_แ_พ__้ค_ัด_อ_อ_ก_____________________________
4. บนั ทกึ ผลการปฏิบตั ลิ งในแบบบันทกึ ผลการปฏิบตั ิกิจกรรม

๒๓๒

แบบบนั ทึกผลการปฏบิ ัติกจิ กรรม
* ชอ่ื กลมุ่ ______________________________________________________________
* สมาชกิ กลุ่ม

1. ________________________________________________________________
2. ________________________________________________________________
3. ________________________________________________________________
4. ________________________________________________________________
5. ________________________________________________________________

* แผนการแขง่ ขนั การเลน่ กีฬาแฮนดบ์ อลของกลุ่ม
____________________________________________________________________
____________________________________________________________________
____________________________________________________________________
____________________________________________________________________
____________________________________________________________________
____________________________________________________________________

* ข้อบกพรอ่ งทพ่ี บ_______________________________________________________
____________________________________________________________________
____________________________________________________________________
____________________________________________________________________

* วธิ ีการแกไ้ ข __________________________________________________________
____________________________________________________________________
____________________________________________________________________
____________________________________________________________________

๒๓๓

5. ตอบคำถามตามประเด็นทก่ี ำหนด

1) การแขง่ ขนั กีฬาแฮนดบ์ อลจะต้องใช้ทักษะอะไรบ้าง

ทกั ษะการเลี้ยงลกู บอล ทกั ษะการรบั –สง่ ลูกบอล

ทกั ษะการรกั ษาประตู ทกั ษะการยิงประตู

2) ขณะที่เล่นกฬี าแฮนด์บอล นกั เรยี นมคี วามรูส้ ึกอยา่ งไร
(พิจารณาจากคาตอบของนกั เรียน)

3) ในขณะเล่นกีฬาแฮนด์บอลควรปฏิบัตอิ ย่างไร จงึ จะเกดิ ความปลอดภัย
ปฏิบตั ิตามกติกาการเลน่ อยา่ งเคร่งครดั และมีความมน่ั ใจในการเลน่

4) การเลน่ กฬี าแฮนดบ์ อลช่วยพฒั นาจติ ใจอยา่ งไรบ้าง
แนวคาตอบ

ทาใหเ้ ป็นผูร้ ู้จกั ให้อภยั มีน้าใจนกั กีฬา และรักความสามคั คี

๒๓๔

แบบประเมนิ และเกณฑ์การประเมนิ ผล

แบบประเมนิ และเกณฑ์การประเมนิ ผลการเรียนร้ดู า้ นทักษะ/กระบวนการ

สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นเป็นรายบคุ คลในขณะทำงานตามกิจกรรม หรอื ตามที่กำหนดใหใ้ นใบกจิ กรรมประกอบการพิจารณา

รายการประเมิน พฤติกรรมการแสดงออก ระดบั การปฏบิ ัติ
321

1. ทกั ษะการเรยี นรู้ 1. รักการอา่ น การเขยี น การฟัง และรจู้ ักต้งั คำถามเพอ่ื หาเหตผุ ล
2. รู้จกั แสวงหาความร้จู ากแหล่งต่าง ๆ รอบตัว การใช้ห้องสมุด และการสบื ค้น
2. ทกั ษะกระบวนการคดิ
แหล่งความรจู้ ากสื่อตา่ ง ๆ ได้ท้งั ในและนอกสถานท่ี
3. ทักษะการตดั สินใจ การ 3. มวี ธิ กี ารเรียนร้ขู องตนเอง เรียนรู้รว่ มกับผอู้ ่นื ไดด้ ี สนกุ กับการเรยี นรู้
ปฏเิ สธ และการแก้ไข 1. สามารถวิเคราะห์ สงั เคราะห์ สรุปเปน็ ความคดิ รวบยอด
ปญั หา 2. มีการคิดอยา่ งเปน็ ระบบ และคิดแบบองคร์ วม
3. มคี วามคิดรเิ ริ่มสร้างสรรค์ มองโลกในแงด่ ี และมจี นิ ตนาการ
4. ทักษะการจัดการและ 1. มคี วามสามารถในการคาดการณ์ กำหนดเป้าหมาย และแนวทางการตดั สินใจ
สร้างเสรมิ สุขภาพ 2. สามารถประเมนิ และเลอื กแนวทางการตัดสนิ ใจ และแก้ปัญหาอยา่ งมสี ติ
3. รู้จกั ปฏเิ สธสถานการณ์เสีย่ งทีส่ ่งผลเสยี ต่อสขุ ภาพ
5. ทักษะกระบวนการกลมุ่ 1. มีสุขนสิ ัยในการดแู ลสุขภาพ และออกกำลังกายอย่างสมำ่ เสมอ
และการปฏิบตั กิ จิ กรรม 2. มนี ้ำหนกั ส่วนสงู และมสี มรรถภาพทางกายตามเกณฑ์
รว่ มกันเป็นทมี 3. ชนื่ ชมและร่วมกจิ กรรมในกิจกรรมกฬี าและนนั ทนาการ
1. มีทักษะในการจัดการ และการทำงานให้สำเร็จ
2. แสดงออกถึงการทำงานอย่างมีความสขุ พัฒนางาน และภมู ิใจในผลงานของ

ตนเอง
3. ทำงานรว่ มกบั ผ้อู น่ื ได้ดี

คะแนนทไ่ี ด้

คะแนนรวม

คะแนนเฉลี่ย

หมายเหตุ การคิดคะแนนเฉลย่ี คดิ ได้จากการนาคะแนนรวมในแตล่ ะชอ่ งรายการปฏบิ ตั ิมารวมกนั แล้วหารด้วยจานวนข้อ จากนนั้ นาคะแนน
เฉล่ยี ที่ได้มาเทียบกบั เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพและสรุปผลการประเมิน

๒๓๕

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนนเฉลย่ี 2.34–3.00 1.67–2.33 1.00–1.66

ระดบั คณุ ภาพ 3 21
ดเี ยย่ี ม ดี ควรปรับปรุง

สรุประดบั คณุ ภาพดา้ นทักษะ/กระบวนการ (เขียนเครอ่ื งหมายลงใน )
 ดีเยย่ี ม  ดี  ควรปรบั ปรงุ

๒๓๖

แบบประเมินและเกณฑก์ ารประเมินผลการเรยี นรู้
ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

สาหรับ สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนเปน็ รายบุคคลในขณะทำงานตามกจิ กรรม หรอื ตามกำหนดให้ในใบงานประกอบการพจิ ารณา
ครู

รายการประเมนิ พฤติกรรมการแสดงออก ระดบั การ
ปฏบิ ตั ิ

321

1. ความอดทนและมี 1. แสดงออกถงึ การหมน่ั ฝึกปฏบิ ตั ิ และตรวจสอบภาวะสุขภาพและสมรรถภาพทางกายของตนเองเป็น
ระเบยี บวินยั ประจำ

2. ปฏิบตั กิ ิจกรรมต่าง ๆ ด้วยความรับผดิ ชอบ

3. มีความอดทนตอ่ การทำกิจกรรมทีเ่ หน็ดเหน่อื ยและมีอปุ สรรคจนบรรลุผลสำเรจ็

1. มคี วามสนใจในการตดิ ตามข่าวสารและความรู้เกยี่ วกับการสรา้ งเสรมิ สุขภาพ การออกกำลงั กาย การ
เลน่ กีฬา และสมรรถภาพทางกายอย่างสมำ่ เสมอ

2. ความใฝร่ ู้ ใฝ่เรยี น 2. เข้ารว่ มกิจกรรมทเ่ี กีย่ วขอ้ งกบั การสร้างเสริมสุขภาพ การออกกำลงั กาย การเลน่ กฬี า นนั ทนาการ
และสมรรถภาพทางกายอยา่ งสมำ่ เสมอ

3. หม่ันแสวงหาความรู้และเลือกใชข้ อ้ มลู สารสนเทศ เพือ่ ให้เกดิ การเปลีย่ นแปลงพฤตกิ รรมสุขภาพใน
แนวทางทดี่ ี

3. ความซื่อสตั ยส์ จุ รติ 1. มีการนำเสนอขอ้ มลู ทางดา้ นสขุ ภาพของตนเองตามความเปน็ จรงิ
2. เคารพกฎ กตกิ า และข้อตกลงในการปฏิบตั ิกิจกรรม

4. ความเป็นอย่อู ยา่ ง 1. แสดงออกถึงความเขา้ ใจในตนเองและดำเนินชีวติ ตามแนวทางการปฏบิ ัติด้านสขุ ภาพทด่ี ี
พอเพียง 2. แสดงออกถงึ ความประหยดั และการใช้ทรัพยากรอยา่ งคมุ้ ค่า

1. แสดงถึงความภาคภูมิใจท่ีไดป้ ฏบิ ตั ิตามระเบยี บวนิ ยั กฎ กตกิ า ในการเข้ารว่ มกจิ กรรมสขุ ภาพ

5. ความภาคภูมใิ จ/ 2. แสดงออกถึงความพึงพอใจในประสบการณ์ทไ่ี ดร้ บั จากกจิ กรรมสขุ ภาพ และให้ความร่วมมอื อยา่ งสันติ
รกั ความเป็นไทย
3. แสดงออกถึงความชืน่ ชมในความงามของสุนทรียภาพของการเคลอ่ื นไหว การออกกำลังกาย การเลน่
กฬี า และกจิ กรรมนนั ทนาการ ทง้ั ในฐานะผปู้ ฏบิ ัตแิ ละผูช้ มที่แสดงออกถึงมารยาททีด่ ตี ามวัฒนธรรม
ไทย

1. กล้าแสดงออกในการปฏเิ สธเรื่องที่ไมเ่ หมาะสมอย่างมเี หตุผล

6. ความมวี ฒุ ิภาวะ 2. ควบคุมอารมณแ์ ละแสดงพฤตกิ รรมได้อยา่ งเหมาะสม

3. ยอมรับคำวจิ ารณ์ ข้อโตแ้ ยง้ หรอื ขอ้ คิดเห็นทีม่ เี หตผุ ลของผูอ้ นื่

7. การมีจติ สาธารณะ/ 1. แสดงถงึ ความเออ้ื อาทร เสยี สละ ใหค้ วามชว่ ยเหลือผอู้ นื่ และเข้าร่วมกิจกรรมเพ่ือสงั คมอยา่ ง
ใส่ใจส่วนรวม สมำ่ เสมอ

2. แสดงออกถงึ การเปน็ ผนู้ ำและแบบอย่างท่ีดีในการดำเนนิ ชวี ติ

๒๓๗

3. ปฏิบัตหิ นา้ ทีท่ ไ่ี ด้รับมอบหมายจากกลมุ่ ด้วยความเตม็ ใจและใหค้ วามร่วมมอื จนบรรลผุ ลสำเรจ็

คะแนนท่ไี ด้
คะแนนรวม
คะแนนเฉล่ยี

เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ

ชว่ งคะแนนเฉลย่ี 2.34–3.00 1.67–2.33 1.00–1.66
ระดบั คุณภาพ 3 2 1
ดี
ดีเย่ียม ควรปรบั ปรุง

สรปุ ระดบั คณุ ภาพด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (เขียนเคร่อื งหมายลงใน )
 ดีเยย่ี ม  ดี  ควรปรับปรงุ

หมายเหตุ การคิดคะแนนเฉลี่ยคิดได้จากการนาคะแนนรวมในแต่ละช่องรายการปฏิบตั ิมารวมกันแล้วหารด้วยจานวนข้อ จากนนั้ นา
คะแนนเฉลี่ยทีไ่ ด้มาเทยี บกบั เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพและสรุปผลการประเมนิ

๒๓๘

แบบประเมินและเกณฑก์ ารประเมนิ ผลการนำเสนอขอ้ มูล

รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
321

1. ความถกู ตอ้ งของขอ้ มูลท่นี ำเสนอ

2. ได้ใจความสำคญั และตรงกับวัตถปุ ระสงค์

3. การจัดเรยี งลำดับขอ้ มูลได้ถกู ตอ้ งและมีความสอดคลอ้ งกนั

4. ความถูกตอ้ งของการใช้ภาษาและการสอ่ื ความหมายในการนำเสนอขอ้ มลู

5. ความสมบูรณค์ รบถ้วนของประเด็นในการนำเสนอข้อมูล

6. การสรุปความสำคัญของการนำเสนอข้อมลู

คะแนนที่ได้

คะแนนรวม

คะแนนเฉลยี่

หมายเหตุ การคิดคะแนนเฉลีย่ คิดได้จากการนาคะแนนรวมในแตล่ ะชอ่ งรายการปฏิบตั ิมารวมกนั แล้วหารด้วยจานวนข้อ จากนนั้ นาคะแนน
เฉลีย่ ท่ีได้มาเทยี บกบั เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพและสรุปผลการประเมนิ

เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ

ชว่ งคะแนนเฉลยี่ 2.34–3.00 1.67–2.33 1.00–1.66
ระดับคุณภาพ 3 2 1
ดี
ดีเยี่ยม ควรปรับปรุง

สรปุ ระดบั คณุ ภาพการนำเสนอขอ้ มูล (เขียนเครื่องหมายลงใน )
 ดเี ยยี่ ม  ดี  ควรปรับปรงุ

๒๓๙

แบบประเมินและเกณฑ์การประเมินผลการอภิปราย

รายการประเมนิ ระดับคุณภาพ
321

1. ความมน่ั ใจในการแสดงความคดิ เห็น

2. การแสดงเหตผุ ลต่อการแสดงความคดิ เหน็ ของตนเองและความคิดเหน็ ของผู้อืน่

3. ความถูกตอ้ งของการใช้ภาษาในการสื่อสาร

4. การประยุกตใ์ ชค้ วามร้เู พ่ือเชอื่ มโยงสกู่ ารนำเสนอผลการอภิปราย

5. ความถูกตอ้ งสมบรู ณข์ องการสรปุ ผลการอภปิ ราย

คะแนนทไ่ี ด้

คะแนนรวม

คะแนนเฉล่ีย

หมายเหตุ การคิดคะแนนเฉล่ียคิดได้จากการนาคะแนนรวมในแต่ละช่องรายการปฏิบตั ิมารวมกันแล้วหารด้วยจานวนข้อ จากนนั้ นา
คะแนนเฉลีย่ ท่ีได้มาเทยี บกบั เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพและสรุปผลการประเมนิ

เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ

ชว่ งคะแนนเฉลย่ี 2.34–3.00 1.67–2.33 1.00–1.66
ระดับคุณภาพ 3 2 1
ดี
ดีเยี่ยม ควรปรับปรุง

สรุประดบั คณุ ภาพการอภปิ ราย (เขยี นเครื่องหมายลงใน )
 ดีเยยี่ ม  ดี  ควรปรับปรุง

๒๔๐

แบบประเมินและเกณฑ์การประเมนิ ผลการสรา้ งแผนทค่ี วามคดิ

รายการประเมิน ระดับคณุ ภาพ
321
1. ความถูกตอ้ งของข้อมูลท่นี ำเสนอ
2. ความครอบคลุมรายละเอยี ดสำคญั คะแนนท่ไี ด้
3. การใชภ้ าษาท่ถี กู ตอ้ งตามหลกั ภาษาไทย คะแนนรวม
4. การจัดเรยี งลำดับความเชื่อมโยงของขอ้ มลู คะแนนเฉลย่ี
5. จำนวนของขอ้ มูลท่นี ำเสนอ

หมายเหตุ การคิดคะแนนเฉลี่ยคิดได้จากการนาคะแนนรวมในแตล่ ะช่องรายการปฏิบตั มิ ารวมกนั แล้วหารด้วยจานวนข้อ จากนนั้ นา
คะแนนเฉลีย่ ทีไ่ ด้มาเทยี บกบั เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพและสรุปผลการประเมิน

เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ

ช่วงคะแนนเฉลยี่ 2.34–3.00 1.67–2.33 1.00–1.66
ระดับคณุ ภาพ 3 2 1
ดี
ดีเยี่ยม ควรปรับปรุง

สรุประดบั คุณภาพการสรา้ งแผนทค่ี วามคดิ (เขยี นเคร่อื งหมายลงใน  )
 ดีเยย่ี ม  ดี  ควรปรบั ปรงุ

๒๔๑

แบบบันทึกสรุปการประเมินผล

ตวั อยา่ งแบบบันทึกผลการประเมินการนำเสนอข้อมูล/การอภิปราย/การสร้างแผนที่ความคดิ เป็นรายบุคคล

สำหรับครู ตรวจสอบการบันทกึ ผลการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมของนักเรียนเป็นรายบคุ คล เพอ่ื ประเมินระดบั คุณภาพการเรยี นรู้
โดยใช้เกณฑ์การตดั สินคุณภาพที่กำหนด

เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ
1 หมายถึง นำเสนอขอ้ มูลไม่ชัดเจนและไม่ครอบคลุมรายละเอยี ดสำคญั
2 หมายถึง นำเสนอขอ้ มูลไดช้ ัดเจน แตไ่ ม่ครอบคลมุ รายละเอยี ดสำคัญ
3 หมายถงึ นำเสนอขอ้ มูลได้ชดั เจนและครอบคลมุ รายละเอียดสำคญั

รายช่ือนักเรียน ระดับคุณภาพ

1 23

1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.
13.
14.
15.
16.
17.
18.
19.
20.
21.

๒๔๒

22.

ตวั อยา่ งแบบบนั ทึกสรปุ การประเมนิ ผลการเรียนรขู้ องนักเรยี นหน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1–5

ระดบั คุณภาพ

รายชอ่ื นักเรยี น สรปุ ผลการประเมิน ด้านความรู้ ด้านทักษะ/ ดา้ นคณุ ธรรม
ผลการเรยี นร้หู นว่ ยท่ี กระบวนการ จรยิ ธรรม ค่านยิ ม
1. และคณุ ลักษณะอนั
2.
3. พงึ ประสงค์
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.
13.
14.
15.
16.
17.
18.
19.
20.

๒๔๓

บรรณานุกรม

หนงั สอื คู่มือแผนการจดั การเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ป.๔ ตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาพื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑/ผศ.เชาวลติ ภูมภิ าค,กัลยภฏั ร์ ศรีไพโรจน์,ทวิ าวลี บญุ ญดษิ ฐ์.
เนือ้ หาการสอนวชิ าพลศกึ ษา ระดับประถมศึกษาปีที่ ๔./สบื ค้น ๑ ธนั วาคม 63.

หนงั สอื เรยี นวิชาพืน้ ฐานพลศึกษา ป๔/ดร.ประกิต หงส์แสนยาธรรม กศ.บ., กศ.ม.,ปร.ด./ชน้ั
ประถมศกึ ษาปีที่๔/สืบคน้ ๒ ธนั วาคม 63./ จากเว็บไซต์ PDFไฟล์
http://academic.obec.go.th/textbook/web/images/book/1458376971_example.pdf

๒๑๑